ถ้าเกิดเราทำเลวทรามไว้นี่เเก้กรรมได้หรือเปล่าครับ

หลักของกฎแห่งกรรม ให้ผลข้ามชาติ

คนทำดีคือไม่ก่อความชั่วกระทบกระเทือนเบียดเบียนกันตอนมีชีวิตอยู่และสร้างความดี
มีการให้ทาน รักษาศีล ภาวนา เป็นต้น .. เมื่อตายไปเขาย่อมได้ไปสู่ที่สุขคติอันไพบูลด้วยความสุขต่างตามผลกรรมที่เขาได้ทำ

คนเลวที่ทำความชั่ว คือทำให้คนอื่นเดือดร้อนทั้งต่อหน้าและลับหลัง
เมื่อตายไปเขาย่อมไปรับชดใช้ความชั่วที่เขาได้ทำไปไว้

หากมีคำถามว่าทำไมไม่เห็นผลในชาตินี้เลย สมมุติว่ามีโจรปล้นฆ่าอาระวาด
ถ้าหากไม่โชคดีมีเจ้าเมืองปราบปรามได้ ก็ไม่สามารถทำอะไรได้

หากพิจารณาจะเห็นได้ว่า บนโลกมนุษย์เป็นดินแดนที่ก่อได้ทั้งบุญและบาป
กรณี การที่เจ้าเมืองปราบโจรผู้ร้าย ก็คือ การดับเหตุปัจจุบัน บนโลก
การที่โจรโดนจับเข้าคุกเข้าตาราง ก็เป็นเหตุเป็นผลบนโลก
ส่วนการรับผลกรรมที่เต็มเม็ดเต็มหน่วยตามกฎธรรมชาติ โดยหลักก็คือ ปรโลก

และหากมองย้อนไปที่ศาสนาที่ผ่านมาที่สำคัญต่างๆ จะมีความเชื่อเรื่องโลกหลังความตายทั้งสิ้น
เช่น อิยิปก่อนศาสนาพุทธ ก็มีหนังสือแห่งความตาย ระบุการไม่ทำชั่วอะไรบ้าง
และการทำความดีจะได้ไปอยู่ในดินแดนอันไพบูลอันนิรันดร์,
ส่วนศาสนาคริสต์ก็มีสวรรค์ เป็นต้น

ท่านจึงกล่าวว่าหากเมื่อโลกไม่เชื่อเรื่อง บาปและบุญแล้ว เมื่อนั้น
โลกก็เข้าสู่ยุคมืดแล้ว อันมนุษย์จะไม่เห็นประโยชน์จากการทำความดี
และไม่เห็นโทษจากการทำชั่วเมื่อตนอยู่ในฐานะอันได้เปรียบกว่า

ส่วนถ้าจะลงลึกไปอีกว่าทำไมกฎจึงเป็นเช่นนี้ที่ไม่ให้เห็นผลในชาตินี้
อันนี้อธิบายยากสักหน่อย .. จะขออธิบายว่า การจะให้ผลกรรมต้องอาศัยปัจจัยนั้นเอง
ปัจจัยจะต้องรอให้มีเกิดพร้อมและก็ต้องให้การรับผลกรรมนั้นคงอยู่ได้นานตามวาระของกรรมด้วย
(ยกตัวอย่างเช่น แม้ใครจะทำบุญให้ได้เป็นพระจักรพรรดิ์ได้
ก็ไม่ใช่ว่าชาติหน้าจะสามารถเป็นได้เลย ..เขาจะต้องรอปัจจัยคือบริวาร
บารมีบริวารก็ต้องพร้อม เขตแดนสภาพธรรมชาติ สมบัติต่างๆที่จะบังเกิดก็ต้องพร้อม
และสามารถบังเกิดขึ้นได้พร้อมกัน
และจะเห็นว่า บนโลกมนุษย์ต่อรอปัจจัย แต่ปรโลกไม่จำเป็นต้องรอ
เพราะของต่างๆสามารถถูกเนรมิตขึ้นมาได้เลย)
แต่เนื่องจากบนโลกเป็นสถานที่ที่ก่อได้ทั้งบุญและบาป จึงทำให้
คนต่างๆ ยังสามารถสร้างกรรมใหม่ซ่อนกันต่อๆไปบนโลกนี้ได้อีก ซึ่ง
จะวนเป็นวัฏจักรไม่สิ้นสุด

 

เรียนคุณแสงเทียนคะ

เราต้องทำมาความเข้าใจในเรื่องของการเวียนว่ายตายเกิดก่อนอันดับแรกค่ะ โดยธรรมชาติการเวียนว่ายตายเกิดช่วงแรกๆ จิตของเรายังไม่มีบารมีพอที่จะทรงไว้ในความดีเช่น การรู้จักการให้ทาน การรักษาศีล การทรงฌาน และการละสังโยชน์(ที่ทำให้เป็นพระอริยเจ้า) จึงต้องค่อยๆสร้างบารมีให้เกิดกับจิตไปเรื่อยๆในแต่ละชาติ จนกว่าจิตใจจะเข้มแข็งจริงๆ และสามารถละวางทุกสิ่งทุกอย่างเป็นพระอริยเจ้าได้

ดังนั้นในช่วงแรกๆของการเวียนวายตายเกิดนั้น คนเราจึงสร้างอกุศลกรรมไว้มากมาย จึงมีบาปกรรมติดตัวอยู่เป็นจำนวนมาก เมื่อเวลาตาย จิตจึงเศร้าหมองและตกนรก ตกไปเป็นเปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานนับภพชาติไม่ถ้วน

ต่อมาเมื่อค่อยๆสั่งสมบารมีในการทำความดี เช่น รู้จักให้ทาน รู้จักรักษาศีล นั่งสมาธิ พิจารณาให้เห็นกิเลสเพื่อตัดความต้องการเวียนว่ายตายเกิด จนมีปัญญารู้เห็นแล้วว่าการต้องมานั่งเวียนว่ายตายเกิดนั้นเป็นทุกข์ขนาดไหน จึงรู้จักทำบุญกุศลมาเรื่อยๆ ส่งผลให้จิตมีกุศลจนสามารถไปเกิดในภพภูมิต่างๆที่ดีได้ เช่น สวรรค์ หรือพรหมเป็นต้น

ดังนั้นจิตจึงมีทั้งกุศลและอกุศลติดตามมา ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นอกุศลมากกว่า ทำให้เราต้องมานั่งรับทุกข์จากผลของกรรมในทุกวันนี้ แม้ว่าเราจะเป็นคนดีแล้วก็ตาม (คนดีก็คือ คนที่รู้จักให้ทาน รักษาศีล จิตใจมีความเมตตา และเห็นทุกข์ของการเกิดจึงไม่ต้องการเกิดอีก ซึ่งคนเหล่านี้จะไม่ยอมทำบาปต่างๆ จิตใจไม่มีความประมาทในการดำรงชีวิตค่ะ)

ดังนั้นสมมติตัวอย่างง่ายๆเลยก็คือ สมมติว่าจิตดวงหนึ่ง เคยทำอกุศลกรรมมามากมายในช่วงแรกๆ แต่เค้าก็ทำความดีไม่น้อยเลยเหมือนกัน เพราะคนเราใช่ว่าจะทำแต่ความเลวเสียทั้งหมด ความดีก็มีค่ะ และผลของกรรมดีและกรรมไม่ดีนั้น ก็ส่งผลหลายแบบ อาจให้ผลทันตา หรือให้ผลต่อมาในชาติหน้า ดังนั้นเมื่อจิตดวงนั้นซึ่งบารมียังไม่มากพอ ยังไม่มีความเข้มแข็งในการยึดมั่นในความดีจริงๆ มาเกิด ด้วยบุญกุศลที่เค้าเคยทำ จึงส่งผลให้มีทรัพย์สิน อำนาจ ฐานะความเป็นอยู่ต่างๆ แต่บารมี(หรือความดีในจิต)ยังไม่มากพอ และมีกรรมไม่ดีส่งผลเบียดเบียน จนต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่บีบบังคับ เช่น บริวารไม่ดี กระแสสังคมโลกพาไป หน้าที่การงานบางอย่างทำให้ต้องรักษาผลประโยชน์ตัวเองและวงศ์ตระกูล ฯลฯ ทำให้เค้าต้องก่อกรรมกับผู้อื่นเป็นจำนวนมากค่ะ

เรื่องแบบนี้พูดยากนะคะ บางทีเราไม่อยู่ในตำแหน่งสถานะเดียวกับเค้า เราไม่รู้หรอกค่ะว่าเค้ารู้สึกยังไง และภายนอกที่เราเห็นว่าชีวิตเค้าเพอร์เฟกต์นั้น จริงๆแล้วมันไม่มีหรอกค่ะ เพราะจิตคนเรา เวลาที่ไม่อยู่ในความดี ก็จะอยู่ในความชั่วที่สร้างความเร่าร้อนแก่จิตใจอยู่แล้ว เช่น จิตมีความวิตกกังวล ความเครียด จิตหลงมัวเมาอยู่กับความสุขสบาย โดยที่เค้าไม่เคยรู้เลยว่าความสุขจริงๆนั้นเป็นอย่างไร

และนอกเหนือจากจิตคนเราแล้ว เชื่อมั้ยค่ะว่า ด้วยเหตุที่คนเราทำบาปมากกว่าความดี ดังนั้นชีวิตจึงต้องรับผลของกรรมไม่ดีที่ทำไว้ตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ว่าจะเป็นเรื่องไหนนั้นก็อีกเรื่องหนึ่ง เช่น ชีวิตบางคนได้ดีเรื่องฐานะทรัพย์สิน แต่มีกรรมเรื่องคู่ครองหรือบุตรธิดา บางทีชีวิตมีความสุขเรื่องบุตรธิดา แต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ฯลฯ ดังนั้นส่วนตัวเคยบอกคุณแม่ว่า ชีวิตคนเราไม่มีใครสมบูรณ์แบบไปทุกด้านหรอก มันมีกรรมส่งผลอยู่เสมอๆ อยู่ที่ว่าใครจะเจออะไรเท่านั้นเอง เคยเห็นมั้ยค่ะว่าบางคนลูกไม่ตั้งใจเรียน เรียนแย่ เราก็กลุ้มจะแย่แล้ว แต่บางบ้านยิ่งกว่าเราอีก อาจติดยา ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทำร้ายชีวิตของคนอื่นด้วยเรื่องชู้สาว เป็นต้นค่ะ

สรุปแล้วชีวิตของคนเหล่านั้นก็ไม่ต่างจากเราค่ะ เพียงแต่กรรมส่งผลให้อยู่ในคนละสภาพแวดล้อม คนละมุมมอง คนละหน้าที่ ฯลฯ เท่านั้นเอง และคนเราต่างก็เคยอยู่ในสถานะต่างๆนั้นมาแล้วนับชาติไม่ถ้วน เช่น เป็นคนยากจนหรือเป็นคนรวย เป็นคนฉลาดหรือเป็นคนโง่ (ถ้าพูดให้ลึกลงไปอีกก็คือ บางเรื่องเราก็ฉลาด บางเรื่องเราก็โง่ค่ะ ไม่มีใครรู้ไปหมดทุกอย่าง) เป็นคนหน้าตาดีหรือเป็นคนหน้าตาอัปลักษณ์ เป็นคนมีชื่อเสียงหรือเป็นคนเสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นชนชั้นปกครองหรือชนชั้นถูกปกครอง เป็นหญิงหรือชาย บางทีก็เป็นหลายอย่างในชาตินั้นเลย ทั้งเคยรวย เคยจน เคยฉลาด เคยโง่ (อันนี้นับแค่ภพภูมิการเป็นมนุษย์นะคะ)

ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนร่วมกันสร้างความดีดีกว่าค่ะ ทำอย่างไรที่จะเข้าถึงจิตที่มีความดีจริงๆ อย่างที่พระพุทธเจ้าสอน ทำอย่างไรจึงจะนำความดีในจิตมาสอนแก่บุคคลอื่น ให้คนอื่นๆเจอกับความดีที่เราเจอแล้ว เพื่อให้คนเราเป็นคนดียิ่งขึ้นค่ะ

 

กรรมที่ฃับฃ้อน

ขออนุญาตครับ

ก็เขากำลังรับกรรมอยู่นี่ครับ
ข้อสำคัญ เราอย่าได้ไปเพิ่มกรรมให้ตนเองก็พอแล้ว
ปล่อยให้ผู้กล้าเขาทำหน้าที่ของเขาไป
อย่าได้สงสัยเลยครับ ถ้าเขาไม่ได้รับกรรมในชาตินี้
ชาติหน้ากรรมก็จะหนักกว่าเก่ามาก

ชาตินี้ อย่างมากก็ติดคุกตลอดชีวิต หรือเป็นโรคร้ายตาย
แต่ชาติหน้า ถ้าตกนรก มันจะทั้งทุกข์ ทั้งทรมาณ ทั้งยาวนานกลายกัป หลายกัลป์

แล้วเราก็อย่าไปเผลออธิฐานว่า "ชาตินี้ขอให้มันสุขสบาย มันจะได้ไปรับกรรมหนักๆในชาติหน้า" นะครับ

ต้องอด ต้องทน ครับ แค่หมั่นภานา แค่นั้นเอง

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ผู้หญิงคืออะไร?

ขออนุญาตครับ

พระพุทธองค์ได้ทรงสอนเรื่องผู้หญิงเอาไว้
ผมก็เคยผ่านตาแต่ พระอริยเวที(เขียน ฐิตสีโล) ที่องค์ท่านเป็นเพื่อนกับองค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน
ครูบาอาจารย์ท่านนี้ ท่านเป็นเพียงองค์เดียวที่กล้าหาญชาญชัย ถามองค์หลวงปู่มั่น ว่า

"ท่านอาจารย์ครับ ชาตินี้ผมจะสำเร็จ หรือเปล่า?"

และองค์หลวงปู่มั่นเมตตาตอบว่า

"สำเร็จแต่ต้องพยายามเอา"

ด้วยเหตุนี้ องค์ท่านจึงได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา
กลับมาอยู่วัดบ้านเกิดที่ วัดป่ารังสีปาลิวัน ต.บ้านโพน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์
และปฏิบัติอย่างเอาเป็นเอาตาย องค์ท่านเป็นพระมหาเปรียญ ๙ หนึ่งในน้อยองค์ ที่สำเร็จในชาตินี้

ในงานฌาปนกิจของท่าน ลุงมหาได้รับแจก หนังสือ และในหนังสือเล่มนั้น
องค์ท่านได้เขียนเรื่องผู้หญิง เอาไว้

เอาไว้ลุงมหาหาหนังสือเล่มนั้นเจอ ก่อน จะเขียนลงให้

จึงจะบอกเล่า จึงจะอธิบาย เรื่อง ผู้หญิงได้

ชาวพุทธจึงจะเข้าใจว่า ทำไมพระพุทธองค์ไม่ทรงเต็มใจให้มี ภิกษุณี

และวางพระวินัยให้ ภิกษุณี สูญพันธ์อย่างรวดเร็ว

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา

 

ขออนุญาตครับ
คำว่า"สูญพันธุ์"ไม่เหมาะเลยครับในกรณีนี้ ..:'(

ด้วยความเคารพครับ

ที่มา...

http://www.dhammathai.org/buddha/g34.php

 

ดูดวงซิ...จะได้รู้ปัญหาเกิดจากอะไร ใครทำให้เป็นแบบนี้ แก้อย่างไร ทำอย่างไร ให้ตรงจุด
ทุกอย่างที่ลำบากเกิดจากโรคเวรกรรมทั้งนั้น แนะนำได้แค่นี้ ถ้าผมบอกว่าสามารถคุยกับเจ้ากรรมนายเวรได้จะเชื่อไหม จะได้ตกลงกับเค้าว่าต้องการอะไร...แค่นี้ก็แก้ได้แล้วไม่ยาก

 

ทำได้ด้วยเหรอครับ .. ช่วยดูให้ผมหน่อยได้มั้ยครับ
เมื่อไรผมจะรวยสักที :'(

 

ทุกอย่างต้องมีค่าครู ตามที่ครูได้ตั้งไว้

 

ขนาดพระเถระผู้ใหญ่ยังไม่รอด

ขออนุญาตครับ

เห็นหมอดูเด่น เห็นหมอดูดัง แล้วสงสารครับ
ถ้าคนเหล่านั้นแน่จริง แค่เอาความรู้ที่เรียนมาๆคำนวณหวยใต้ดิน ก็สบายไปแล้ว
ขนาดผมเอาเวลาว่างไปแค่คำนวณเล่นๆ ยังบอกเลขท้ายสองตัว ถูกสามงวดติดกันได้

(เขียนให้เขา สามคู่ ออกเรียงงวด สามงวดติด คนซื้อๆงวดละตัว ถูกติดกันสามงวด)

ความจริงในแผ่นดวงนั้น ก็บอกวิธีแก้ไขเอาไว้ด้วยว่า เกิดเหตุอะไร จะแก้อย่างไร
แต่จุดนี้ไม่มีใครสอนใคร หรือ อาจจะไม่มีใครรู้ก็ได้

หมอดูเก่งๆที่ผมยอมรับนับถือ คือ ท่านอาจารย์ เศก ดุสิต ผู้เขียนนิยายดัง "อืนทรีแดง"

หนังสือของท่านมีขายที่ร้าน ซีเอ็ด อ่านง่าย เข้าใจง่าย ศึกษาได้ง่าย
แม้ในปัจจุบัน ผมก็ยัง ตามเก็บอยู่ตลอด แม้ว่าจะพิมพ์ซ้ำก็ตาม

ที่ท่านบอกว่าคุยกับเจ้ากรรมนายเวรได้ ท่านคงจะคุยจริงๆ อันนี้ผมเชื่อ

ที่จะถามคือว่า

ผู้คนเวียนว่ายตายเกิดนับภพนับชาติไม่ถ้วน
เกิดชาติไหน มีเจ้ากรรมนายเวรชาตินั้น
ชาติละหลายๆคน ชาติละหลายๆเคส

ท่านจะคุย ท่านจะเคลียร์ กับเจ้ากรรมนายเวรได้หมดหรือ?
แค่เจ้ากรรมนายเวรเคสหนักๆแค่เคสเดียว ถ้าเขาขอแค่

สร้างพระประธาน และ หรือ
สร้างโบสถ์ และ หรือ
สร้างศาลา และ หรือ
สร้างวัด

ยังมีใครพอจะมีปัญญาทำให้เขาได้บ้าง

จะแก้ได้หมดหรือ

ขนาดองค์พระหลวงตามหาบัว ท่านยังบอกออกมาว่า "กรรมแก้ไขไม่ได้"

ขนาดองค์หลวงพ่อจรัญ วัดอัพวันสิงห์บุรี คนไปวัด แน่นขนัด ท่านกลับบอกว่า

"ให้ไปกรรมฐานแก้กรรมเอาเอง"

ทั้งๆที่ท่านเขียนหนังสือบอกว่า ท่านพูด ท่านเคลียร์กับเจ้ากรรมนายเวรได้

ขนาดพระมหากัสป ที่องค์ท่าน เป็นผู้เป็นเลิศทางธุดงค์วัตร
พระพุทธองค์ยังบอกองค์ท่านว่า

"การดูเวร ดูกรรม ของผู้อื่น เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้น พระสงฆ์ไม่ควรทำ"

เพราะคนที่ดูเวร ดูกรรม ของผู้อื่นได้นั้น

ต้องเป็นสายพุทธภูมิชั้นสูงๆ สูงจนมีฤทธิ์โน่นล่ะ
และฤทธิ์นั้น ต้องไม่ใช่แค่ ฤทธิ์ทางใจ ที่ผู้อื่นพิสูจน์ไม่ได้

เพราะที่เห็น ผู้มีบุญบารมีที่ดูเวรดูกรรมของผู้อื่นได้นั้น

ท่านสร้างพระพุทธปฏิมาปูนปั้น ไปเป็น สามร้อยกว่าองค์แล้ว

นกน้อยทำรังแต่พอตัว ครับ

ขอโมทนา

ลุงมหา

 

ลุงมหาครับ ผมเห็นด้วยครับที่ว่า กรรมแก้ไขไม่ได้
แต่ที่หมอดูให้ทำกันคือ แก้จองเวรครับ ไม่ได้รวมถึงกรรมผล
บางทีบาปเคราะห์อาจจะเกิดจากเจ้ากรรมนายเวร
ถ้าเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ก็อาจจะผ่านเคราะห์นั้นไปได้
ส่วนบาปกรรมที่ทำไปก็คงแก้ไม่ได้หละครับ

 

ทำจิตให้สบาย ทำใจให้สะอาด ระลึกถึงในสิ่งที่ควรระลึก ในสิ่งที่จะบังเกิดผลเป็นกุศล

พยายามไม่นึกถึงอดีต กรรมเก่าที่ไม่ดี ในสิ่งที่ล่วงเลยผ่านมาแล้ว ซึ่งจะทำให้จิตหม่นหมอง

ผู้ใดประกอบด้วยความเพียรทั้ง4 (สัมมัปธาน) นั่นแหละ คือ เครื่องแก้กรรมในสิ่งไม่ดีทั้งหลาย

อยู่กับปัจจุบัน พยายามระลึกถึง พุทธานุสติ สังฆานุสติ

จาคานุสติ มรณานุสติ เหล่านี้เป็นต้น ทรงอารมณ์หนึ่ง ให้ได้

แม้ชั่วช้างกระดิกหู ย่อมเห็นหนทาง สว่าง แม้เปรียบเพียง ประกายแห่ง แสงเทียน

หลวงปู่มั่น ได้ให้ ข้ออรรถข้อธรรม เป็นธัมมานุสติ ให้ได้พิจารณา ไว้ว่า

"สิ่งที่ล่วงไปแล้ว ไม่ควรไปทำความผูกพัน

เพราะเป็นสิ่งของที่ล่วงไปแล้วอย่างแท้จริง แม้จะทำความผูกพัน
และมั่นใจในสิ่งนั้นกลับมาเป็นปัจจุบัน...ก็เป็นไปมิได้

ผู้ทำความสำคัญมั่นหมายนั้นเป็นทุกข์แต่ผู้เดียว โดยความไม่สมหวังตลอดไป
อนาคตที่ยังมาไม่ถึงก็เป็นสิ่งไม่ควรยึดเหนี่ยวเกี่ยวข้องเช่นกัน

อดีตควรปล่อยไว้ตามอดีต อนาคตก็ควรปล่อยไว้ตามกาลของมัน

ปัจจุบันเท่านั้นที่จะสำเร็จเป็นประโยชน์ได้
เพราะอยู่ในฐานะที่ควรทำได้ไม่สุดวิสัย"

 

เคยรับรู้เรื่องราว เพชฆาตเคราแดง ในสมัยพุทธกาล หรือป่าว นั่นคือ บุคคลาธิษฐาน ชิ้นหนึ่งของงานศาสนา

พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ท่านมีปัญญา สามารถชักนำกุศโลบาย จนสามารถล่วงพ้นอบายภูมิได้

แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย ของคนๆนั้น ด้วย

 

เข้ามาอ่านเฉยๆ เท่านั้น

 

อืมๆ เป็นตำรวจ

 

ขนาดพระเถระยังไม่รอด คำว่าไม่รอดนั้นผมขอหมายถึงโรคภัยไข้เจ็บที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรหรือโชคลาภหรือความผิดหวังคาดหวังต่างๆ เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งนั้น พระรูปใดก็ตามที่เกิดเจ็บป่วยนั้นเพราะเค้าปฏิบัติไม่ถึง เขียนง่ายๆยังปฏิบัติได้แย่มากกกกกกกก(ตามพระที่คุณกล่าวอ้างมาทั้งหลาย) ในทางตรงกันข้ามสิ่งเหล่านี้จะไม่สามารถทำร้ายเราได้ อย่างมากทำเราทางอ้อม เช่น คนรอบข้างซึ่งกรณีนี้ทำให้เราเดือนร้อน
...คุณคิดว่าการสร้างสิ่งต่างๆเหล่านี้
สร้างพระประธาน และ หรือ
สร้างโบสถ์ และ หรือ
สร้างศาลา และ หรือ
สร้างวัด
...มันได้บุญมากนักหรือ สิ่งที่ได้บุญมากต้องเป็นการนั่งสมาธิแน่นอน ไม่มีอย่างอื่น อย่าอ่านมากแล้วรู้มากตามหนังสือ ควรจะปฏิบัตินั่งสมาธิให้มากแล้วรู้มา นั่นแหละสิ่งสำคัญ ดูอย่างปัจจุบันนี้ซิมีพระรูปไหนดังเพราะการปฏิบัติ ไม่มี มีแต่ดังเพราะอ่านมาก รู้มากจากการอ่าน ดังเพราะพูดมาก พูดในสิ่งที่เราๆท่านๆรู้อยู่แล้ว เพียงแค่พูดให้ดูดีขึ้นเท่านั้น จริงๆแล้วมนุษย์เราทุกคนรู้อยู่แล้วว่าควรปฏิบัติตัวอย่างไรให้เหมาะสม

 

ถามหน่อยครับทำเเท้งนี่เเก้กรรมกันได้หรือครับ หรือทำให้กรรมเบาขึ้นได้ อันนี้ก็ทำได้ด้วยหรือครับ เผื่อหลายๆคนในบอร์ดนี้ไม่รู้ว่าสมัยนี้คนทำเเท้งในประเทศไทยเยอะมากๆ ผมเคยถามเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเรื่องทำเเท้งเค้าว่า ที่ไปทำเเท้งมาเเล้วติดเชื้อมีทุกวันเลยนี่เเค่โรงพยาบาลเดียวนะครับ อยากให้คนที่รู้จริง ช่วยให้ความกระจ่างหน่อยครับว่า มันเเก้กรรมเเละทำเวรกรรมเบาขึ้นได้จริงๆหรือครับ ทำเเท้งเนี่ย เพราะคนสมัยนี้ที่ทำเเท้งกันเค้าไม่กลัวบาปเพราะเเก้กรรมได้นั้นเอง

นี่ข่าวจาก ผู้จัดการ

อึ้ง! พบวัยรุ่นไทยอายุระหว่าง 10-19 ปี ตั้งท้อง 3 แสนคนต่อปี จำนวนนี้ครึ่งหนึ่งผ่านการทำแท้งในที่ผิด กม.และอีกครึ่งหนึ่งท้องไม่พร้อม ขณะที่ กรมสุขภาพจิต จัดมหกรรมทำดีรับปีใหม่ ชีวิตสดใสไปกับธรรมะ พร้อมชวนทุกจังหวัดร่วมสร้างภูมิคุ้มกันให้วัยรุ่น

นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า วัยรุ่นไทยโดยเฉพาะเพศหญิง พบว่า อายุ 10-19 ปี มีการตั้งครรภ์สูง 3 แสนคนต่อปี และยังพบว่าเด็กหญิงครึ่งหนึ่ง หรือจำนวน 1.5 แสนคน ผ่านประสบการณ์ทำแท้ง และส่วนใหญ่เป็นการทำแท้งในสถานที่ผิดกฎหมาย ส่วนอีกครึ่งท้องไม่พร้อมเป็นที่มาของการทอดทิ้งเด็ก กรมสุขภาพจิตจึงได้จัดกิจกรรม

มหกรรมทำดีรับปีใหม่ ชีวิตสดใสไปกับธรรมะ เรียกร้องให้ทุกจังหวัดจัดเวทีสร้างสรรค์ลานธรรมลานสุข สร้างภูมิคุ้มกันให้กับวัยรุ่น โดยกิจกรรมแรกเริ่มแล้วในวันนี้ เป็นกิจกรรมแบบอาสาเพื่อนช่วยเพื่อน เพื่อนำผู้มีจิตอาสาช่วยพัฒนาผู้บกพร่องทางสติปัญญา

ส่วนกิจกรรมที่ 2 พี่น้องคล้องแขนใส่บาตรฟังธรรม เตรียมจัดในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ เป็นพิธีทำบุญตักบาตร ที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก นำข้าวสารอาหารแห้งไปมอบให้ทหาร และพระสงฆ์ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และกิจกรรมที่ 3 มหกรรมทำดีรับปีใหม่ ชีวิตสดใสไปกับธรรมะ จัดขึ้นในวันที่ 31 ธันวาคม 2555 ถึง 1 มกราคม 2556 มีการเสวนาสร้างสุขกับดาราอารมณ์ดี และเสวนาธรรมะในหัวข้อ ธรรมะฉบับวัยรุ่น โดยพระอาจารย์สมพงษ์ รตนวํโส จากวัดสร้อยทอง และยังมีกิจกรรมต้นไม้ทำความดี เขียนความดีที่ตั้งใจจะทำในวันปีใหม่แขวนไว้ที่ต้นโพธิ์

สรุปเเล้ว วัยรุ่นไทยทำเเท้งปีละ 1.5 เเสนคนต่อปี

 

ผมจะยกตัวอย่างการทำแท้ง แต่ให้คุณพิจารณาเองว่าใช่การแก้กรรมไหม
.....มีเด็กหญิงคนหนึ่งทำแท้งมา แล้วมาวันหนึ่งเค้าเจอครูผม แล้วก็มีผีออกมาครอบร่างเด็กคนนี้แต่ผีตัวนี้เป็นเด็กบอกว่าหนูเป็นลูกแม่(เพศหญิง) แล้วก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ว่า ตั้งแต่ทำแท้งมาตามแม่ตลอด คอยดูแล คอยช่วยเสมอ แต่ช่วยไม่ได้มากเพราะฤทธิ์ไม่ค่อยมี แรงเลยน้อย ครูผมเลยทำผีเด็กตัวนี้ให้กุมาร(ซึ่งก็คือกุมารผี) ตั้งแต่นั้นมากุมารผีตัวนี้เวลามาหาครูผมก็จะครอบร่างเด็กคนนี้ออกมาหาเสมอ เล่าสั้นๆนะ รายละเอียดยังมี คนที่ทำแท้งมาใช่ว่าเด็กจะโกรธแม่เค้าทุกครั้งไป บางครั้งเค้าคอยช่วยเหลือเพื่อให้ฐานะแม่ดี เพื่อที่จะพร้อมที่เค้าจะได้กลับมาเกิดอีก

 

เรื่องกรรมละเอียดอ่อน ต้องศึกษา ต้องรับข้อมูลใหม่ๆไปพิจารณา

ขออนุญาตครับ

ท่านที่เข้ามาอ่านข้อเขียนของผม ควรพิจารณาให้ดีๆ นะครับ

เรื่องกรรมเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ก็ซับซ้อนจนพระพุทธองค์ได้ทรงตรัสว่า

"เป็นวิสัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้น"

นั่นก็เพราะว่า พระสงฆ์ พระอรหันต์นั้น ท่านต่างก็มีภาระที่ต้อง ทั้งเผยแผ่ ทั้งทนุบำรุงพระพุทธศาสนา
และยังต้องอบรมสั่งสอนประชาชน อีกต่างหาก

แค่นี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว

อย่างองค์หลวงตามหาบัวนั้น องค์ท่านเป็นเคสพิเศษ
เพราะองค์ท่านสามารถสงเคราะห์ปวงประชา สงเคราะห์ชาติบ้านเมืองได้ด้วย

ครูบาอาจารย์ฝ่ายธรรมยุติบางท่าน ถึงกับกล่าวว่า

"ท่านไม่ใช่ องค์ ร.๕ มาเกิดหรือ? เพราะประวัติศาสตร์ชาติไทย ไม่เคยมีใครได้รับการสงเคราะห์ ได้รับความรัก ได้รับความเคารพ เท่าทั้งสององค์ท่าน"

ที่จะชี้แจงก็คือว่า ผมไม่เคยบอกด้วยตัวผมเองว่า "กรรมแก้ไขไม่ได้"

ผมเพียงแต่ยกคำสอนของครูบาอาจารย์มาให้ดูเท่านั้น
เพราะถ้ากรรมแก้ไขไม่ได้จริงๆ
ก็ยังมีวิธีแก้ไข ผ่อนผัน ได้อีกมากมายหลายวิธี เช่น

๑ การขออโหสิกรรมเอาดื้อๆ

๒ การสร้างกุศลผลบุญ แล้วอุทิศให้จนเจ้ากรรมนายเวรพอใจ

๓ การสร้างกุศลผลบุญ จนชีวิตไม่มีวันตกต่ำ จนเจ้ากรรมนายเวรไม่มีโอกาสทำอะไรได้

๔ การสร้างกุศลผลบุญ จนได้ไปเกิดเป็นเทพ เป็นเทวดา แล้วเจ้ากรรมนายเวร ไม่มีปัญญามาทวงหนี้กรรม หนี้เวรได้

๕ ไปเป็นศิษย์รับใช้ ครูบาอาจารย์ผู้เก่งกาจ จนเจ้ากรรมนายเวรต้องหลีกลี้หนีหน้า

๖ สร้างกุศลผลบุญมากๆ มากจน ผลบุญมีคิวให้ผลยาวเหยียด สร้างไปเรื่อยๆ มากขึ้นๆ จนคิวของเจ้ากรรมนายเวรเลื่อนออกไปๆ
จนเจ้ากรรมนายเวร เบื่อที่จะรอ หรือ จนเจ้ากรรมนายเวร ไปเกิดเป็นเทพ ไปเกิดเป็นเทวดาแล้ว
เขาสุข เขาสบาย เขาก็ไม่มาทวงหนี้เวร หนี้กรรมอีก
กว่าเขาจะทุกข์ จะยาก จะลำบากอีกก็นานแสนนาน เขาจึงจะกลับมา ทวงหนีเวร ทวงหนีกรรมใหม่

๗ อย่าได้ไปสร้างความขัดแย้ง อย่าได้ไปสร้างความแค้นเคือง ให้ฝ่ายไสย์เวทย์มนต์ดำ
เพราะพวกเหล่านี้ มีฤทธิ์ มีเดช สามารถเรียก เจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลาย
มาร่วมรุมสะกรัมเราได้

๘ เสาะหา เครื่องราง ของขลัง พระเครื่อง อะไรก็ได้ ที่สามารถแก้คุณไสย์ยาสั่งได้ เอาไว้ป้องกันตัวเอง

๙ ถ้าท่านสามารถหาครูบาอาจารย์ผู้เก่งกาจได้ ก็ทำพิธีปิดกรรมไปเลย

๑๐ หาเหล็กไหลได้ อำนาจของท่านจะปกป้องครอบจักรวาลได้
เพียงแต่ว่า ต่อให้หาเหล็กไหลมาได้ จะรู้ได้อย่างไรว่า เหล็กไหลนั้น
มีธาตุ มีบุญบารมี เหมาะสมกับตน

ดีไม่ดี เดี๋ยวอยู่ เดี๋ยวไม่อยู่ ไม่รู้ว่าหายไปไหน

จนบางท่านปล่อยปะละเลย ๕ ปี ๑๐ ปี ไม่เคยถวายน้ำผึ้งเลยก็มี

เดือดร้อนผมต้องหาน้ำผึ้งเดือน๕ ไปเผื่อแผ่แทนก็มี

๑๑ หาอาชีพที่เจ้ากรรมนายเวร ไม่อยากมาทวงหนี้ทำ เช่น พระ นักบวช ผู้ปฏิบัติธรรม หมอ ครู ผู้พิพากษา มรรคทายกวัด ,๙ล๙

มันก็แปลกอยู่อย่าง เวลาพิจารณาเรื่องเวร เรื่องกรรม ไม่เห็นว่าผมต้อง
ปวดเศรียรเวียนเกล้า อ่อนล้า ไร้เรื่ยวแรง เหมือนท่านอื่นๆ

บอกให้ก็ได้ ที่ผมแพ้คือ การคำนาณหวย ทั้งๆที่ทำก็ทำแค่ง่ายๆ ทำแล้วก็ไม่ได้เอาไปทำอะไร

เขียนเอาไว้ดูเพื่อเปรียบเทียบ ทำสถิติเท่านั้น

แต่ทำไมมันอ่อนล้าเหลือเกิน หรือว่า กิเลสมันออกมาเพ่นพ่าน จนเราอ่อนล้าก็ไม่รู้

สรุป ถ้ากรรมแก้ไม่ได้ ชาวพุทธต้องเจอศึกหนักในการรักษาพระศาสนาแน่ๆ
แค่ ๒๕๕๖ ปี ยังเป็นอย่างนี้
แล้วอีก ๒๔๔๔ ปี จะขนาดไหน

ต่อให้กรรมแก้ไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าเราสามารถ เลื่อนกรรมนั้นๆไปหลายภพ หลายชาติได้

อย่างน้อยก็สามารถกล่าวได้ว่า

"ในชาตินี้ หรือ แม้แต่ในชาติหน้า เราแก้กรรมได้ ในช่วงเวลาหนึ่งๆ"

เพราะ ภพภูมิต่างนั้น มีเวลาแตกต่างกันมาก ภพมนุษย์อยู่กลางๆ
ดังนั้น ถ้าเอาภพของมนุษย์เป็นพื้นฐาน

เทียบกับภพของ เทวดา พรหม เปรต อสุรกาย เวลาเหล่านี้จะยาวนานกว่ามาก

ดังนั้น เราทำความดี สร้างกุศลผลบุญ อุทิศให้เจ้า่กรรมนายเวรไป ขอขมากรรมไป
เผลอแป็บเดียว เราได้ไปเกิดภพภูมิใหม่แล้ว
แล้วเจ้ากรรม นายเวร เขาก็มี ผู้ที่สร้างเวรสร้างกรรม ให้เขาอีกมากมายมหาศาล
เขาไม่ได้มีเวรมีกรรมกับเราคนเดียวซะที่ไหน

การพิจารณาเรื่องธรรม เรื่องกรรม ต้องพิจารณาให้ครบถ้วน
เพราะพระพุทธศาสนานั้น มุ่งสอนคนส่วนใหญ่ คำสอนต่างๆจึงเหมาะกับคนส่วนใหญ่

ถ้าบอกว่า กรรมแก้ไขได้ คนส่วนใหญ่ มิพากันทำความชั่วมากๆ
แล้วค่อยไปแก้กรรม เอาทีหลัง กันหรือ?

และถ้าทำคว่ามชั่วมากๆ จะทำบุญ สร้างกุศล เป็นหรือ?
และถ้าทำคว่ามชั่วมากๆ จะอุทิศกุศลผลบุญ เป็นหรือ?
และถ้าทำคว่ามชั่วมากๆ จะขอขมาเจ้ากรรม นายเวร ได้หรือ?

ถ้าบอกว่ากรรมแก้ไขไม่ได้ ด้วยภัยพิบัติที่ดาหน้ากันมามากมาย
ยังจะเหลือพระพุทธศาสนาไปอีก ๒๔๔๔ ปีได้หรือ?

เห็นใจคณะสงฆ์เถิดครับ แค่การดูแลพระด้วยกันยังทำไม่ได้ครบถ้วนเลย

แค่สอนให้คนรู้จักความดี รู้จักสร้างกุศลผลบุญ ก็หนักหนาสาหัสแล้ว?

ยังจะให้ท่านมาช่วย คนที่เคยทำกรรมชั่ว มาช่วยหาเจ้ากรรม นายเวร ให้อีกหรือ?
ยังจะให้ท่านมาช่วย คนที่เคยทำกรรมชั่ว มาช่วยเจรจาต้าอวยกับเจ้ากรรม นายเวร ให้อีกหรือ?

นี่ต่างหากจึงเป็นเหตุผลหลักว่า ทำไมผมต้องเข้ามาในเว็บนี้

ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

ลุงมหา