ติดตามสถานะการณ์

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
มหาอำนาจในเอเชีย รัสเซีย + จีน กับปฎิบัติการตอบโต้ นักล่าอาณานิคมตะวันตก (3/3)



----------
โดย: Tor Teerawat & Noraseth Tuntasiri
แผนตอบโต้ อเมริกาก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาในเมืองฟอร์ตาเลซ่า ทางตะวันออกเฉียงเหนือของแดนแซมบานี้เอง เมื่อสี จิ้น ผิงได้พบกับปูติน รวมทั้งผู้นำบราซิล อินเดีย และแอฟริกา หรืออีกนัยหนึ่ง 5 เสือจาก 4 ทวีปได้ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ช่วยกันจัดระเบียบเศรษฐกิจโลก ไม่ปล่อยให้ตกอยู่ในมือของสหรัฐผ่านการควบคุมโดยธนาคารโลก และพันธมิตรตะวันตกที่ผูกขาดการบริหารไอเอ็มเอฟ อีกต่อไป
โดยผู้นำประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ "BRICS" ทั้ง 5 ประเทศได้เปิดประชุมสุดยอด จากนั้นร่วมกันประกาศตั้งธนาคาร "BRICS" และกองทุนการเงินสำหรับภาวะฉุกเฉิน หรือมินิไอเอ็มเอฟ เพื่อเป็นทางเลือกใหม่ของประเทศพัฒนาให้สามารถรับมือกับวิกฤติการณ์ค่าเงินได้ ไม่ต้องตกเป็นลูกไก่ในกำมือของกลไกการเงิน ของธนาคารโลกและไอเอ็มเอฟเหมือนที่แล้วๆ มา การวางกลยุทธด้านเศรษฐกิจ ของชาติในเอเชีย ถูกวางแผนมาเป็นอย่างดี การจัดตั้งกลุ่ม Brics ขึ้นมา เพื่อคานอำนาจกับกลุ่ม G7 โดยมีสมาชิกที่เป็นประเทศที่มีพื้นที่ใหญ่ ประชากรมาก ทรัพยากรเยอะ มีแนวโน้มว่าจะเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจอย่างสูงในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะประชาชนของ BRICS ก็ปาเข้าไปเกือบ 3 พันล้านคนแล้ว พื้นที่อีกเกือบ 40 ล้านตารางกิโลเมตร (เกือบเท่าทั้งทวีปเอเชีย) แต่เดิม BRICS ไม่ได้มีแอฟริกาใต้อยู่ในกลุ่มนี้ เป็นเพียง BRIC เท่านั้น แอฟริกาใต้ได้เข้ามารวมกลุ่มในภายหลัง
Abdul Rahim Mourad อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของเลบานอนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า "งานของกลุ่ม BRICS (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน แอฟริกาใต้) ในการคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งต่างๆในตะวันออกกลาง น่าจะสามารถต่อสู้กับความพยายามของสหรัฐฯได้ในเร็วๆนี้ Abdul Rahim Mourad กล่าวในการแถลงข่าวต่อคณะผู้แทนของสมัชชาแห่งชาติเลบานอน (Lebanese National Assembly) ว่า "ประเทศสมาชิกของกลุ่ม BRICS สามารถที่จะกลายเป็นคู่ปรับ ที่ทรงคุณค่าของสหรัฐฯ และอาจจะนำไปสู่การยุติสถานการณ์ในตะวันออกกลางได้ด้วย พวกเราต้องการให้กลุ่มประเทศสมาชิกของ BRICS เป็นพลังขับเคลื่อนหลักในภูมิภาคนี้"
อดีตรมว.กลาโหมของเลบานอนกล่าวเพิ่มเติมว่า "ระเบียบเก่าๆ ของสหรัฐฯ ที่ครอบครองอำนาจ แต่เพียงผู้เดียวในตะวันออกกลางนั้น ได้มีชีวิตมาอย่างยาวนานเพื่อผลประโยชน์ของตนมากพอแล้ว"
สหรัฐฯได้เข้าไปมีส่วนร่วม (/แทรกแซง) ในความคิดริเริ่มต่างๆเพื่อพยายามแก้ไขความขัดแย้งจำนวนมากในภูมิภาคนี้ ซึ่งรวมถึงการเริ่มโจมตีทางอากาศใส่พวกผู้ก่อการร้ายไอซิสทั้งในอิรัคและในซีเรีย
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมที่ผ่านมา กลุ่ม BRICS ได้ร่วมกันลงนามยอมรับคำประกาศอูฟ่า (Ufa Declaration) ซึ่งแสดงจุดยืนพื้นฐานในการแก้ไขปัญหาสงครามกลางเมืองในซีเรีย ในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลายฉบับ และความร่วมมือในการค้าขาย นอกการการรวมกลุ่มกันเพื่อคานอำนาจชาติตะวันตก ของมหาอำนาจในเอเชียอย่าง กลุ่ม BRICS แล้ว มหาอำนาจในเอเชีย ยังมีแนวคิด ที่จะทำการค้า การลงทุน และกิจกรรมทางการเงิน โดยที่ไม่อ้างอิงกับดอลลาห์ เพื่อลดบทบาทของสกุลเงินอย่างดอลลาห์ลงโดยเฉพาะ
จีนยังเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ของ อเมริกา ที่ถือครองพันธบัตรอเมริกา มูลค่ามากมายหมาศาล หากอเมริกาคิดจะขยับ ล้ำเส้นมากเกินไป รัฐบาลอเมริกา จะโดนถล่มค่าเงินดอลลาห์ ด้วยการเทขายดอลลาห์ทิ้ง เพื่อโจมตีทางเศรษฐกิจของอเมริกา นอกจากจะโดนถล่มค่าเงินดอลลาห์แล้ว สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือหนี้สิน ของอเมริกามี่มากถึง 18 ล้านล้านเหรียญ หนี้สินที่เพิ่มมากขึ้นมาจากโครงการพัฒนาและวิจัยอาวุธ แบบผลาญงบประมาณ และการทำกิจกรรมสงคราม ที่สหรัฐ ไปก่อไว้ภายนอกประเทศ เป็นสาเหตุสำคัญในการก่อหนี้จำนวนมหาศาล ที่สำคัญดอกเบี้ย ที่เพิ่มขึ้นทุกๆนาที มีมูลค่าสูงถึง 10 ล้านเหรียญต่อนาที ฉุดให้อเมริกามีสภาพย่ำแย่ลงมากกว่าเดิม
และที่จะไม่กล่าวถึงไม่ได้ คือ รัสเซีย ยังเตรียมปล่อยหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียม เกี่ยวกับการก่อวินาศกรรม เหตุการณ์ 9/11 กันยายน ที่อเมริกาใช้เป็นเหตุผลข้ออ้างในการพาตนเอง เข้าไปทำสงครามในอัฟกันนิสถาน ก็อาจจะโดนรัสเซียนำออกมาแฉ ย่อมสร้างความไม่ไว้ใจให้กับประชาชนชาวอเมริกัน ต่อรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งย่อมมีผลกับสหรัฐอย่างแน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันเชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ถึงจุดที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่สงครามเย็น "ความสงบก่อนพายุ" ปูตินจะตอบโต้ครั้งเดียว แต่เขาจะจอบโต้อย่างหนัก. รัสเซียมีการเตรียมการ เปิดตัวหลักฐานเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของรัฐบาลสหรัฐ และหน่วยสืบราชการลับในการก่อวินาศกรรม 9/11 กันยายน โดยหลักฐานที่มาจาก ภาพของดาวเทียม ซึ่งจะสามารถพิสูจน์ได้ว่า รัฐบาลสหรัฐ ได้ก่อวินาศกรรม กรณี 9/11 เพื่อที่จะได้รับความเห็นชอบจากประชาชน ในการเข้าไปทำสงครามในอัฟกันนิสถาน การก่อวินาศกรรม ที่มีการวางแผนโดยรัฐบาลสหรัฐ แต่ดำเนินการโดยใช้พร็อกซี่ ว่าการโจมตีอเมริกา เป็นการกระทำการรุกราน ของการก่อการร้ายระหว่างประเทศ การหลอกลวงและการฆาตกรรม ประชาชนของตัวเอง เพื่อผลประโยชน์ของน้ำมัน ในตะวันออกกลาง และบริษัทของรัฐ
รัสเซีย จะพิสูจน์ให้เห็นว่า อเมริกา ใช้การก่อวินาศกรรม กับประชาชนของตนเอง เพื่อให้บรรลุข้ออ้างสำหรับ การเข้าไปแทรกแซงทางทหารในต่างประเทศ โดยรัสเซีย จะอ้างอิงหลักฐานที่มาจากภาพถ่ายดาวเทียม
หากประสบความสำเร็จ ผลกระทบจากหลักฐานดังกล่าว จะกระชากหน้ากากรัฐบาลสหรัฐ กับนโยบายการก่อการร้ายที่เป็นความลับ ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลจะถูกทำลาย และจะนำมาซึ่งการประท้วงในเมือง ที่นำไปสู่การจลาจลตามที่นักวิเคราะห์ชาวอเมริกัน คาดการณ์ สหรัฐอเมริกา ในเวทีการเมืองโลก ตำแหน่งของอเมริกาเป็นผู้นำ ในการต่อสู้กับการก่อการร้ายระหว่างประเทศ จะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
และกรณีสำคัญ ชาติพันธมิตรตะวันตกของอเมริกา อย่างยุโรป กำลังหาทางเพื่อตีตัวออกห่าง อเมริกา เริ่มมีรอยร้าวเกิดให้เห็น เมื่อพันธมิตรยุโรป ต้องการลดบทบาทของนาโต้ลง การดำเนินการต่างๆของสหรัฐ เริ่มส่งผลร้าย กับพันธมิตรยุโรป ในหลายๆกรณีทั้งทางตรง และทางอ้อม
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2557 ทางการเยอรมัน ได้รวบ ชายผู้หนึ่งอายุ 31 ปี แต่ไม่เปิดเผยนาม ลูกจ้างของหน่วยข่าวกรองเยอรมนี BND เป็นสายลับที่ขายความลับสุดยอดของชาติให้แก่ สหรัฐ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีหญิงเยอรมันพอรับทราบข่าวนี้ มีความไม่พอใจมาก ได้เรียก จอห์น บี. เอเมอร์สัน เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำเยอรมนีเข้าพบ เพื่อขอความกระจ่าง จากข่าวสอดแนมที่เกิดขึ้นล่าสุด เจ้าหน้าที่หน่วย BND ได้ติดตามและพบว่า มีอีเมล์ส่งถึงสถานทูตสหรัฐในเยอรมนีซึ่งมีข้อความคล้ายคลึงกับอีเมล์ ที่ส่งถึงสถานทูตรัสเซียในเยอรมนี เมื่อสอบดูว่าแหล่งส่งอีเมล์มาจากไหน ก็ต้องตกตะลึงเมื่อปรากฏว่า อีเมล์นั้นออกมาจากหน่วยงาน BND ประเมินกันว่า มีการดาวส์โหลด เอกสารขั้นสุดยอดจากระบบข้อมูลของ BND ไม่ต่ำกว่า 300 ชิ้น โดยเซฟข้อมูลลงใน ยูเอสบีแฟลชไดรว์ เพื่อการส่งมอบ โดยพบกันที่สถานลึกลับหลายแห่งในออสเตรีย เพื่อการส่งมอบและรับค่าตอบแทน สายลับผู้นี้ยอมรับว่าได้รับค่าตอบแทน 10,000 ยูโร/ไฟล์
รายงานข่าวกล่าวต่อไปว่า ที่เขาถูกจับได้เพราะมีความโลภมาก ต้องการขยายฐานลูกค้า โดยหมายจะขายความลับแก่ชาวรัสเซียด้วย ก็เลยถูกจับ เพราะมีพิรุธ ทีแรกเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับที่ติดต่อกับสายลับของรัสเซีย แต่ท้ายที่สุดเขาสารภาพว่า ทำงานร่วมกับชาวอเมริกัน นักการเมืองที่ใกล้ชิดกับกรณีนี้เปิดเผยว่า สายลับวัย 31 ผู้นี้ยอมสารภาพว่า ได้ส่งมอบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีรัฐสภาเยอรมนี จัดตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษขึ้นมาเพื่อตรวจสอบเรื่องที่ถูกอเมริกาสอดแนมตามการเปิดโปงของ เอ็ดเวิร์ต โสนว์เดน อดีตพนักงานสัญญาจ้าง ของหน่วยข่าวกรอง NSA สหรัฐ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่สหรัฐถูกเปิดโปง เรื่องการทำจารกรรมความลับของเยอรมนี ครั้งแรก เปิดโปงโดย สโนว์เดน ที่กำลังลี้ภัยอยู่ในรัสเซียในขณะนี้ สโนว์เดน เปิดโปงว่า หน่วยข่าวกรอง NSA ของสหรัฐได้ดักฟังโทรศัพท์ส่วนตัวของ นายกรัฐมนตรี แมร์เกิล พอแมร์เกิลรับทราบข่าวนี้ก็โทรศัพท์ไปหา โอบามา โดยย้ำว่า ถ้าเรื่องที่อเมริกาดักฟังโทรศัพท์มือถือของเธอเป็นความจริง จะถือเป็นการละเมิดความไว้วางใจระหว่างพันธมิตร รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี ยังได้เรียกทูตสหรัฐเข้าพบ และยื่นคำประท้วงว่า เรื่องนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติมาก ระหว่างสองชาติที่เป็นพันธมิตรกันมาหลายสิบปี
ตอนนั้น นายเจย์ คาร์นีย์ โฆษกทำเนียบขาวพยายามแก้ต่างว่า อเมริกาไม่ได้ดักฟังโทรศัพท์มือถือของแมร์เคิล และจะไม่ดักฟังในอนาคต แต่เขาก็ไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ว่า ที่ผ่านมาอาจมีการสอดแนมการสื่อสารของผู้นำเยอรมนี
การชั่งน้ำหนักของ ชาติในเอเชียในจุดนี้ นับว่ายอดเยี่ยม รอยร้าวระหว่างอเมริกา กับพันธมิตรยุโรป การเกิดขึ้นของสงครามโลก จะมีซักกี่ประเทศที่ยังยืนอยู่ข้างอเมริกา เพราะพันธมิตรตะวันตกไม่ใช่คนโง่ ที่จะเอาคนไม่น่าไว้วางใจ และกำลังจะล้มละลาย อย่างอเมริกา มาเป็นลูกพี่
และเมื่อทุกอย่างพร้อม ก็มาถึงเวลาเปิดหน้าชกแบบเต็มรูปแบบ รัสเซีย+จีน ประกาศสงครามกับผู้ก่อการร้ายในซีเรีย โดยได้รับการร้องขอจากรัฐบาล ซีเรีย ให้เข้าไปดำเนินการปราบปรามการก่อการร้าย รัสเซียน้อมรับคำร้องขอ และเข้าไปถล่มผู้ก่อการร้ายในซีเรีย โดยเงื่อนของรัฐบาลซีเรีย ห้ามเครื่องบินรบของตะวันตกเข้าไปในเขตน่านฟ้าของซีเรีย เรียกได้ว่ากลุ่มก่อการร้าย ได้ถูกปิดกั้นความช่วยเหลือทางอากาศเป็นที่เรียบร้อย และทำการปิดล้อมกลุ่มก่อการร้ายต่างๆ ทางภาคพื้นดินโดย รัฐบาลซีเรีย ร่วมกับอีหร่าน หมากตานี้ของรัสเซีย กับจีน เรียกว่ารุกคาด เพราะอเมริกา ได้แต่เฝ้ามองทั้งกำลังพล (กลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่ม) ที่เข้าไปรวมตัวกันในซีเรีย อาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงเงินทุนจำนวนมากมายมหาศาล และเวลาที่เสียไป กำลังถูกมหาอำนาจในเอเชีย โค่นล้มทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมา ลงไปต่อหน้าต่อตา
การโดนล้มแผนการ แบบนี้เหมือนอเมริกา โดนชาติในเอเชีย ออกหมัดฮุกขวา เข้าเต็มๆหน้า ลงไปนอนนับกับพื้น อเมริกา ย่อมเกิดความแค้นที่แผนการต่างๆกำลัง ล่มไม่เป็นท่า แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะถ้า อเมริกาคิดสั้นทำอะไรแบบเลือดขึ้นหน้า สงครามใหญ่ที่จะตามมา อเมริกาน่าจะทราบดีว่า มันจะไม่มีคำว่าคุ้มค่า สำหรับอเมริกา อีกต่อไป(ด้วยเทคโนโลยีทางทหารในปัจจุบันของมหาอำนาจในเอเชีย อเมริกา อาจสิ้นชาติ ได้ไม่ใช่เรื่องแปลก)
"หลายคนมีคำถามเกิดขึ้นมาในใจว่า สงครามใหญ่อย่างสงครามโลกครั้งที่ 3 อย่างที่ใครๆหลายคนเกิดความกังวลนั้น จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อเมริกาในตอนนี้ จะเอาเงินทุนมาจากไหนไปทำสงคราม การประกาศสงครามของสหรัฐอเมริกา ต่อชาติมหาอำนาจในเอเชีย จะใช้เหตุผลข้ออ้างใด ที่มีความถูกต้องและชอบธรรม มาทำให้ประชาชนชาวอเมริกายอมรับ ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐต่อประชาชนอาจจะหมดลงได้ทุกเวลา และ หนี้สินจำนวนมหาศาลของอเมริกาในตอนนี้ เปรียบดั่ง อสุรกายร่างยักษ์ ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทุกๆนาที เฉพาะปัญหานี้ก็สามารถทำให้ความแตกแยกและเหตุรุนแรงต่างๆ ภายในอเมริกาสามารถประทุขึ้นได้ และที่สำคัญ อเมริกาจะไม่รบถ้าหากความได้เปรียบ ในหลายๆด้านยังไม่มีพอ ดังนั้นคำว่า สงครามโลก! จึงถือว่ายังห่างใกลยิ่งนัก ที่จะขึ้นในเวลาอันใกล้นี้."
ป.ล.ข้อมูลบางส่วน จากเพจปอกเปลือกทรราช และขอขอบคุณ คุณ Noraseth tuntasiri ผู้แปลบทความ เกี่ยวกับ okno-m อีกท่านหนึ่ง ขอบคุณครับ
อ้างอิงกลุ่ม Brics : ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont/posts/1720905858129547
อ้างอิง Okno-m : ปอกเปลือกทรราช 24 กันยายน Noraseth tuntasiri ผู้แปล: https://www.facebook.com/fisont/posts/1725791334307666… อ้างอิงปูตินเตรียมปล่อยหลักฐานทางดาวเทียม กณณีการก่อวินาศกรรม 9/11 :Pravda: Putin Threatens to Release Satellite Evidence of 9/11 | SOTN: Alternative News & Commentary
อ้างอิง: okno-m sputniknews
Source : Cutting-Edge Russian Space Surveillance System now Four Times More Capable
4.9. The case of the US Strategic Defence Initiative
อ้างอิง Sukhoi T50 PAK-FA :
Top US Analyst: Russia's Next-Gen Fighter Jet Better Than US's (Sukhoi T-50)

อ้างอิงข้อมูลบางส่วน : จาก.คม ชัด ลึก เปิดโลกวันอาทิตย์ : โดย...บุญรัตน์ อภิชาติไตรสรณ์

 

เปิดตัวเลขล่าสุด เหตุเหยียบกันตายในพิธีฮัจย์ ยอดตายและสูญหายเกือบ 3,000 ราย!! โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 7, 2015

Tasnimnews – รวบรวมตัวเลขล่าสุด ที่สื่อทางการของแต่ละประเทศออกมารายงานเกี่ยวกับจำนวนผู้แสวงบุญของตนเองที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมมินา แสดงให้เห็นว่า มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 1,284 คน สูญหาย 1,666 คน และบาดเจ็บ 416 คน

เหตุการณ์โศกนาฏกรรมที่มินา ได้ผ่านพ้น 11 วันมาแล้ว โดยมีผู้แสวงบุญเสียชีวิตพันกว่าคน แต่ทางการรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ยังไม่ได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริง จากเหตุโศกนาฏกรรมมินา


# ตามตารางข้างล่างนี้ แสดงให้เห็นถึงตัวเลขทางการล่าสุด ที่สื่อทางการของแต่ละประเทศออกมารายงานผู้แสวงบุญของตนเองที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมมินา

ตัวเลขทางการล่าสุด ที่สื่อทางการของแต่ละประเทศออกมารายงานผู้แสวงบุญของตนเองที่เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมมินา แสดงให้เห็นว่า มีผู้เสียชีวิต ประมาณ 1284 คน สูญหาย 1666 คน และบาดเจ็บ 416 คน

สืบเนื่องจากศพของผู้เสียชีวิตยังไม่ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์อีกจำนวนมาก ดังนั้นคาดว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้จำนวนที่แท้จริงจะมากกว่านี้

สถิติผู้เสียชีวิตและสูญหายเหตุโศกนาฏกรรมมินา จากวันที่ 24 ก.ย – 5 ต.ค

stats-dead-hajjตามตารางนี้ ยอดผู้เสียชีวิต 1,284 ราย สูญหาย 1,666 ราย รวมยอดผู้เสียชีวิตและสูญหาย 2,950 ราย และบาดเจ็บอีก 416 ราย

ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ เฉพาะในส่วนที่ได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขทางซาอุฯ ยังอยู่ที่ 769 ราย และบาดเจ็บ 934 ราย

ก่อนหน้านี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิต ที่เผยแพร่ทางเว็บกระทรวงสาธารณสุขซาอุดิอาระเบีย มียอดสูง ประมาณ 4,000 กว่าคน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ถูกลบออก


# เว็บไซต์ กระทรวงสาธารณสุขซาอุฯ เผยแพร่คำประกาศของรมช.สาธารณสุข ซาอุฯ เผยตัวเลขผู้เสียชีวิตเหยียบกันตายในพิธีฮัจย์สูงลิ่วถึง 4,173 คน ก่อนลบข่าวทิ้งในเวลาต่อมา

ด้านสำนักข่าวเอพีรวบรวมข้อมูลตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ว่าน่าจะมีอย่างน้อย 1,112 คน โดยคาดว่าจำนวนที่แท้จริงจะมากกว่านี้เนื่องจากเอพีสำรวจครอบคลุมเพียง 16 ประเทศจากกว่า 180 ประเทศที่ส่งผู้แสวงบุญเข้าร่วมรวม 2 ล้านคนในพิธีฮัจญ์ที่ซาอุดีอาระเบีย

ในปีนี้อินโดนีเซียมีผู้แสวงบุญเข้าร่วม 168,800 คน แต่ซาอุดีอาระเบียรายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเหยียบกันตายที่ 769 คน


เอบีนิวส์ทูเดย์
abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

เปิดตัวเลขล่าสุด เหตุเหยียบกันตายในพิธีฮัจย์ ยอดตายและสูญหายเกือบ 3,000 ราย!! | abnewstoday

 

ใส่ร้ายป้ายสี ข่าวนี้เชื่อไม่ได้น่ะครับ นาย Vasyl Vovk หนึ่งในคณะเจ้าหน้าที่สอบสวนยูเครน ูเปิดเผยว่าได้พบเศษซากขีปนาวุธบู๊ค ของรัสเซีย ในร่างผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรม เที่ยวบิน MH 17 โดนยิงตกทางภาคตะวันออกของยูเครน เมื่อก.ค.ปีก่อน เพราะ ขีปนาวุธบู๊ค ซึ่งขีปนาวุธชนิดนี้ ประเทศยูเครน ก็ใช้อยู่ ไม่ใช่มีแต่ประเทศรัสเซียเท่านั้น และคณะกรรมการสอบสวนร่วมระหว่างประเทศ หรือ JIT ในโศกนาฏกรรม MH17 ได้เคยเพียงแต่ระบุว่า มีการพบเศษซากวัตถุขีปนาวุธบู๊คในบริเวณจุดที่เครื่องบินตก และยังได้วิพากษ์วิจารณ์นาย Vovk ที่ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับโศกนาฏกรรม MH17 อย่างไม่ระมัดระวัง เพราะที่ผ่านมา JIT ไม่เคยตำหนิรัสเซียโดยตรงว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ MH17 โหม่งโลก

https://www.thairath.co.th/content/530838

 

...ครับ ไม่วันใดก็วันหนึ่ง ทำสิ่งใดไว้ ผลย่อมตามมาเสมอ ..

ขอให้ท่านสุกิจSukit มีสุขภาพแข็งแรงครับ

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
สื่อฯสหรัฐฯยังน้ำเน่าไม่เลิก... กรุงเตหะรานออกมาปฏิเสธข่าวขีปนาวุธของรัสเซียยิงจากทะเลแคสเปี้ยนไปตกในอิหร่าน



-------------
หลังจากที่สื่อฯรัสเซียรายงานข่าวและเผยแพร่คลิปที่กองทัพเรือรัสเซียยิงขีปนาวุธนำวิถีจากเรือรบในทะเลแคสเปี้ยนโจมตีฐานที่มั่นจุดต่างๆของขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย สหรัฐฯเป็นเดือดเป็นร้อนแทนลูกน้องของตัวเองเป็นอย่างมาก จึงให้สื่อฯกระบอกเสียงของตัวเอง CNN ออกมาชิงข้อได้เปรียบรีบเต้าข่าวสาดโคลนใส่รัสเซียทันทีเลยว่า มีขีปนาวุธของรัสเซียไปตกในดินแดนของอิหร่านประมาณ 4 ลูก โดยอ้างแหล่งข่าวนิรนาม (มันเต้าข่าวขึ้นมาเอง) และก็ไม่ได้ให้ข้อมูลหรือหลักฐานที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์หรือยืนยันข้อกล่าวหานั้นได้ มีแต่บอกว่า "It's unclear where in Iran the missiles landed…." (มันไม่ชัดเจนว่าขีปนาวุธไปตกที่ไหนในอิหร่าน)
ทางกลาโหมของรัสเซียออกมาตบปากสั่นสอนสื่อฯอเมริกาโดยกล่าวว่า "ไม่เหมือน CNN เราไม่รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวนิรนาม (anonymous sources หาคนรับผิดชอบไม่ได้ว่าอย่างนั้นเถอะ) แต่เราได้แสดงการยิงขีปนาวุธของเราและเป้าหมายที่ขีปนาวุธเหล่านั้นโจมตีตามเวลาจริง (real-time เวลาปัจจุบัน/เวลาช่วงนั้นๆที่เกิดเหตุการณ์จริง) โดรนของรัสเซียที่ปฏิบัติการอยู่ในซีเรียทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ในการจับตาดูปฏิบัติการต่างๆ" (สหรัฐฯและพันธมิตรมีแบบนี้ให้ดูหรือเปล่า? Never!)
แถลงการณ์กลาโหมของรัสเซียกล่าวต่ออีกว่า "ไม่ว่ามันจะสร้างความไม่พึงพอใจหรือน่าผิดหวังให้กับเพื่อนของเราในเพนตากอนและในแลงเลย์ยังไง การโจมตีของเราด้วยอาวุธนำวิถีที่มีความแม่นยำใส่สิ่งปลูกสร้างของพวกไอซิสได้พุ่งเข้าสู่เป้าหมาย (ทุกนัด)" (นั่นแหละลูกเล่นของสหรัฐฯ คลิปที่เอามาประกอบข่าวก็เป็นคลิปของรัสเซีย ที่ถ่ายจากโดรนของกองทัพรัสเซียซึ่งจับตาดูเป้าหมาย ณ จุดที่ถูกขีปนาวุธของรัสเซียโจมตีไอซิส แต่ tricky CNN ก็รายงานข่าวที่อ้างแหล่งข่าวผี แล้วใช้คลิปของรัสเซียประกอบข่าวซะงั้น โดยปากก็บอกว่าขีปนาวุธของรัสเซียไปตกในอิหร่าน มีแต่คนโง่เท่านั้นที่จะเชื่อคำพูดและการเสนอข่าวแบบนั้นได้)
คราวนี้ทางอิหร่านออกมายืนยันเองเลยว่า โดย Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "กรุงเตหะรานไม่มีข้อมูลเกี่ยวกบขีปนาวุธนำนำวิถีตามที่มีการกล่าวหาว่าตกในอิหร่าน" (Tehran Has No Info on Cruise Missiles Which Allegedly Landed in Iran)
กระทรวงกลาโหมของอิหร่านรายงานว่า "ขีปนาวุธแบบ cruise missiles ของรัสเซียที่ตกนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างโฆษนาชวนเชื่อทางการเมือง (propaganda) ของพวกตะวันตก"
รายงานข่าวบอกว่า กรุงเตหะรานได้ปฏิเสธรายงานข่าวของสหรัฐฯที่ว่ามี cruise missiles ของรัสเซียจำนวนสี่ลูกซึ่งมีเป้าหมายโจมตีไอซิสไปตในดินแดนของอิหร่าน ทางกระทรวงกลาโหมของอิหร่านกล่าวว่า มันเป็น "สงครามทางจิตวิทยา" (psychological war)
จะเชื่อใคร ระหว่างข่าวของ CNN สื่อฯกระบอกเสียงของสหรัฐฯที่อ้างข่าวจากผี และไม่มีหลักฐานยืนยันใดๆ เล่นออกมากล่าวโจมตีและกล่าวหารัสเซีย แถมเสี้ยมให้อิหร่านกับรัสเซียแตกคอกัน กับแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากกลาโหมของทั้งสองประเทศซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้กระทำและจากฝ่ายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ถูกกระทำ? นี่แหละสาเหตุหนึ่งที่ไม่ค่อยอ้างข่าวแบบ propaganda จากสื่อฯของสหรัฐฯและตะวันตก น้ำเน่าเยอะมาก
ตอนนี้สหัฐฯและพันธมิตรกำลังตั้งข้อสงสัยว่า รัสเซียเอาข่าวเกี่ยวกับตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสมาจากไหน ถึงได้ยิงเข้าเป้าตลอด ขนาดสหรัฐฯและพันธมิตรเล่าทิ้งระเบิดแบบปูพรมเป็นเวลาปีกว่า ถล่มเมืองทิ้งตั้งหลายเมืองก็ยังไม่สามารถระบุตำแหน่งแหล่งกบดานของไอซิสให้โลกรู้ได้เลย แต่งานนี้รัสเซียกลับสามารถถ่ายคลิปการโจมตีของรัสเซียไปยังเป้าหมายได้ตลอด รัสเซียก็บอกแล้วไงว่าเขามีโดรนจับตาการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นทั้งวันทั้งคืน ไม่ยอมให้พลาดสายตาเด็ดขาด สะกดรอยตามตลอด จนรู้ว่าพวกไอซิสและกลุ่มกบฏไปนัดพบกันและกลบดานอยู่ที่ไหนบ้าง และรัสเซียก็มีศูนย์ข่าวกรองระหว่าง 4 ประเทศที่ทำงานร่วมกันด้วย แล้วไหนจะข้อมูลที่ได้จากพวกที่วางอาวุธเข้ามามอบตัวให้กับทางการของซีเรียอีกหละ เพียบครับท่าน เพียงแต่ซีเรียและรัสเซียยังไม่เปิดเผยข้อมูลออกมาเท่านั้นเอง นี่แหละที่ทำให้สหรัฐฯเป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งนัก คงเกรงว่าพวกที่ไปมอบตัวยอมจำนวนจะปล่อยความลับออกไปหมดหละสิ
วันที่ 8 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Iraqis Look to 'Hajji Putin' to Save Them From ISIL" โอ้!… งานนี้เล่นเอาทำเนียบข่าวหยิกเล็บตัวเองอีกแล้วครับท่าน แปลว่า "อิรัคมองไปที่นักบุญปูติน (/ผู้แสวงบุญ) เพื่อให้คุ้มครองพวกเขาจากผู้ก่อการร้ายไอซิส" ภาพพจน์ของปูตินในสายตาของสื่อฯและชาวอเมริกันและตะวันตกที่เผยแพร่ออกไปนั้น ปูตินเป็นผู้ร้าย แต่งานนี้ถ้าปูตินเป็นอย่างสื่อฯอเมริกาและตะวันตกพยายามนำเสนอจริง แล้วอิรัคจะขอความช่วยเหลือจากปูตินทำไม? ทำไมถึงไม่ไปขอความช่วยเหลือจากเหล่านักบุญ (ปลอม) ในทำเนียบขาวและตะวันตกหละ?
รายงานข่าวบอกว่าหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการโจมตีทางอากาศของรัสเซียในซีเรีย และความล้มเหลวของกรุงวอชิงตันที่ได้กระทำเช่นนั้นมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมาก ทางอิรัคก็กำลังแสวงหาหนทางใหม่ๆเพื่อกำจัดกลุ่มก่อการร้ายที่เรียกตัวเองว่า "ไอซิส" ออกไป มีหลายคนกำลังพากันเรียกการให้การสนับสนุนช่วยเหลือนี้ว่า "Hajji Putin" (ว้าววว! ก็เป็นพระเอกตัวจริง ในโลกของความเป็นจริงนะสิครับ อ้าว… ออกมาดิ้นได้แล้วครับโปรอเมริกา คริๆ)
Karim Nihaya นักวาดภาพที่อาศัยอยู่ในกรุงแบกแดดได้กล่าวกับสำนักข่าว Agence France-Presse ว่า "ผมกำลังรอคอยให้รัสเซียมามีส่วนร่วมในการต่อสู้กับพวก Daesh (ไอซิส) พวกเขา (รัสเซีย) ทำงานได้ผล สหรัฐฯและพันธมิตรของสหรัฐฯได้พากันทิ้งระเบิดมาเป็นแรมปี และไม่บรรลุผลอะไรเลย" (They get results. The United States and its allies on the other hand have been bombing for a year and achieved nothing.) (ชัดมะ?)
ตรงนี้โปรอเมริกาตั้งใจอ่านให้ดีนะครับ... ขอแนะนำให้เตรียมยาหม่อง ยาลมเอาไว้ด้วยนะ เพราะถ้าอ่านแล้วอาจจะเกิดอาการช็อคกระทันหันก็ได้ คริๆ... Nihaya กล่าวในขณะที่กำลังวาดภาพเหมือนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียว่า ไม่ได้มีเพียงแค่เขาคนเดียวเท่านั้น (ตอนนี้) พวกปูตินมาเนีย (Putinmania / พวกคลั่งไคล้ลุ่มหลงปูติน) ได้แผ่ไปทั่วประชากรชาวอิรัคหมดแล้ว (อัยย๊ะ!)
พวกเราควรจะมอบความเป็นพลเมือง (citizenship) ชาวอิรัคและซีเรียให้ปูตินด้วย (ว้วววว… เป็นไงเล่าโรคคลั่งปูตินในอิรัค) เพราะว่าท่านรักพวกเรามากกว่าพวกนักการเมืองของพวกเราเอง Mohammed al-Bahadli นักศึกษาในเมือง Najaf กล่าวกับสำนักข่าว AFP ของฝรั่งเศส (ข่าวนี้รัสเซียไม่ได้เต้าข่าวโดยอ้างดื้อว่าเป็นแหล่งข่าวนิรนามอย่าง CNN ของสหรัฐฯ และ BBC ของอังกฤษนะครับ สื่อฯรัสเซียเอาข่าวมาจากสื่อฯตะวันตกด้วย คริๆ)
อ้อ… แถมให้อีกข่าวหนึ่งเกี่ยวกับปฏิบัติการภาคพื้นดิน วันที่ 8 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ซีเรียได้ขอความช่่วยเหลือจากพันธมิตรในปฏิบัติการภาคพื้นดินหากเกิดความจำเป็น - รัฐมนตรีกล่าว" (Syria to Ask Allies for Help in Ground Operations if Need Arises - Minister)
ตามรายงานข่าวบอกว่า Omran Zoubi รมว.ข้อมูลข่าวสารของซีเรีย (Syrian Information Minister) ได้กล่าวว่า "ซีเรียอาจจะหันไปขอความช่วยเหลือจากพันธมิตรในปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อสู้กับกลุ่มก่อการ้ายไอซิส หากมีความจำเป็น"
Zoubi กล่าวว่า "แน่นอน ชัยชนะเหนือพวกไอซิสย่อมเป็นไปไม่ได้เพียงเพราะการโจมตีทางอากาศเท่านั้น ปฏิบัติการทางกองทัพบนภาคพื้นมีความจำเป็นต่อปฏิบัติการทางอากาศด้วย กองทัพซีเรียมีประสบการในสนามรบนี้ เมื่อผู้นำของซีเรียพบว่ามีความจำเป็น แน่นอนว่าซีเรียก็จะออกคำร้องขอ [เพื่อขอความช่วยเหลือกในปฏิบัติการภาคพื้น ground operations] แต่ ณ เวลานี้ กองทัพซีเรียยังสามารถปฏิบัติการในสนามรบภาคพื้นได้ด้วยตัวเอง เมื่อซีเรียต้องการบางอย่างในด้านกองทัพ ซีเรียก็จะขอจากเพื่อนๆ พี่น้องและบรรดาพันธมิตรของซีเรีย" (ก็หมายความว่า ซีเรียไม่ได้ปิดกั้นให้ทหารต่างชาติเข้าร่วมปฏิบัติการภาคพื้นร่วมกับกองทัพซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และกลุ่มต่อต้านรัฐบาล นั่นแหละที่สหรัฐฯและตะวันตกกลัว เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นซีเรียและรัสเซียก็จะประกาศปิดน่านฟ้าในเขตเหล่านั้นด้วย ยากที่เครื่องบินรบหรือโดรนของสหรัฐฯและพันธมิตรจะเข้าไปได้โดยอ้างว่าไปโจมตีไอซิสเหมือนที่เคยอ้างมาตลอด แต่ดันไปช่วยฝ่ายกบฏให้ถล่มกองทัพซีเรียซะงั้น)
ป.ล. ตอนนี้รัสเซียกำลังหาทางเข้าไปช่วยรัฐบาลอัฟกานิสถานจัดการกับพวกไอซิสและตาลีบันในอัฟกานิสถานด้วย ดูซิว่ารัฐบาลอัฟกานิสถานจะทำอย่างไรกับกองทัพของสหรัฐฯจำนวน 10,000 ในอัฟกานิสถาน ถ้าอัฟกานิสถานร่วมมือกับรัสเซียอย่างซีเรียและอิรัคด้วย งานนี้สหรัฐฯจะเสียหน้ามาก และอาจจะป่วนโลกยิ่งกว่านี้อีกก็ได้
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
09/10/2558

ภาพจาก © Russian Defense Ministr

----------
Tehran Has No Info on Cruise Missiles Which Allegedly Landed in Iran
U.S.: Russian missiles heading for Syria landed in Iran - CNNPolitics.com
Syria crisis: Russian Caspian missiles 'fell in Iran' - BBC News
Russia Versus ISIL: Here's What Happened So Far
Taking Names, Kicking Ass: Spy Planes, Ships Help Russian Forces Smash ISIL
Defense Ministry Releases Video of Cruise Missile Strikes on ISIL Targets
Iraqis Look to 'Hajji Putin' to Save Them From ISIL
Russia Demolishes ISIL Targets, Slams Washington for Missing Their Mark
Syria to Ask Allies for Help in Ground Operations if Need Arises - Minister

 

ขอบคุณท่าน ddman ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงเช่นกันครับ

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts



สงครามสื่อฯ งานนี้สื่อฯค่ายรัสเซียไม่ยอมให้สื่อฯอเมริกาลวงโลกมากล่าวได้ง่ายๆอีกต่อไป RT news พาดหัวข่าวท้า CNN เลยว่า "Proof please? CNN claims Russian missiles crashed in Iran, Moscow refutes, US can’t confirm" (กรุณาพิสูจน์สิครับ? CNN อ้างว่าขีปนาวุธของรัสเซียตกในอิหร่าน กรุงมอสโคว์ปฏิเสธ สหรัฐฯไม่สามารถยืนยันได้) นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯกล่าวว่า "ตนไม่สามารถยืนยันรายงานข่าวของ CNN ได้" อ้างโดยรอยเตอร์ส (Reuters) ดูจากหนังหน้าของผู้สื่อข่าว CNN ที่ออกมาปล่อยโดยอ้างแหล่งข่าวผีบอกในครั้งนี้แล้ว ไม่คิดว่าจะมียางอายหลงเหลืออยู่แล้วนะ เป็นการตั้งข้อสังเกต ไม่ได้ดูถูกนะครับ คริๆ
https://www.rt.com/news/318059-russia-syria-ccn-iran-missiles/

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
สงครามตะวันออกกลางจะขยายมาในเอเซียอาคเนย์ได้หรือไม่?



----------
โดย: Noraseth Tuntasiri
จากความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้นครับ - ผมเห็นหลายๆคอมเมนท์ที่เหมือนตื่นตระหนกคิดไปไกล ขนาดที่ว่าพยายามจะเชื่อมโยงสถานการณ์สงครามในตะวันออกกลางในขณะนี้ เข้ากับภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ อย่างสหรัฐจะมาก่อสงครามขึ้นบริเวณแถบนี้หาก ผมอยากให้มองที่ปัจจัยก่อนนะครับ อะไรที่จะสร้างแรงจูงใจ ที่จะทำให้สหรัฐทำอย่างนั้น
ตัวอย่าง
1.ผลประโยชน์ระหว่างตะวันออกกลาง กับ อาเซี่ยน เทียบแค่ปริมาณน้ำมันสำรอง กับประเทศเล็กๆอย่างคูเวตประเทศเดียว มีน้ำมันสำรองมากกว่าของทุกประเทศในอาเซี่ยนรวมกัน (ไม่นับของพม่าและเขมร) 6.27 เท่า
2.ภูมิศาสตร์ ตะวันออกกลางเชื่อมต่อทั้ง ทะเลอาหรับ มหาสมุทธอินเดีย ทะเลแดง ทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน เป็นเส้นทางขนส่งน้ำมันที่สำคัญมากที่สุด เขื่อมต่อได้กับทั้งยุโรปและด้านแปซิฟิก ส่วนอาเซี่ยนเป็นยุทธศาสตร์ ด้านทหารต่อจีน ในฐานะแหล่งส่งกำลังบำรุง ไม่ใช่กำลังรบ ยกเว้นที่เกาะกวม
3.หากสหรัฐคิดจะก่อสงครามด้านแปซิฟิก " คุ้มค่ากับการลงทุน "หรือปล่าว รวมทั้งระยะเวลา จากที่ผ่านๆมาสหรัฐต้องการปล้นทรัพยากร ไม่ใช่ต้องการดินแดน และตอนนี้เพื่อลดทอนการขยายอิทธิของจีนและรัสเซีย ในเวทีระดับโลก



ข่าวจาก RT 14 ก.ค.58 พาดหัวข่าวว่า: สงครามอัฟกานิสถาน เสียค่าใช้จ่ายจากภาษีอเมริกันชน ชั่วโมงละ 4 ล้านเหรียญ (145 ล้านบาท)
- จากข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นถึงสงครามของอเมริกาในอัฟกานิสถานใช้จ่ายเงินจากภาษี 4 ล้านเหรียญ/ชม.ทั้งๆที่โอบามาใช้กำลังทหารเพียงแค่ 10,000 นาย ตั้งแต่จอร์จดับเบิลยูบุชได้รับอนุญาตการรุกรานในปี 2544 สหรัฐใช้งบประมาณไปแล้วกว่า 700,000 ล้านเหรียญ ( 25 ล้านล้านบาท ) ใน 14 ปีที่ผ่านมา เฉพาะปี 58 ปีเดียว 35,000 ล้านเหรียญ ตามตัวเลขจาก NPP : The National Priorities Project เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร งบประมาณกลุ่มงานวิจัยไม่เอียงเข้าข้างรัฐบาลกลาง งบประมาณเริ่มแรกสำหรับสงครามในอัฟกานิสถานถูกกำหนดไว้ที่ 2 หมื่นล้านเหรียญ สำหรับปีงบประมาณ 44/45 ในอีก 2 ปีต่อมางบประมาณลดลงเหลือ 1.4 หมื่นล้านเหรียญ โดยโยกงบบางส่วนไปในสงครามอิรัค แต่ในปี 2553 ค่าใช้จ่ายในอัฟกานิสถานกลับเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านเหรียญ หลังค่าใช้จ่ายในอิรักลดลง พอถึง 2556 งบประมาณเริ่มลดลง จนเหลือปีละ 35,000 ล้านเหรียญ ( 1.27 ล้านล้านบาท) ในปี 58
- ค่าใช้จ่ายรายหัวต่อทหาร 1 นาย ประมาณ 1 ล้านเหรียญ/ปี สูงกว่าที่นักวิจัยรัฐสภาประมาณเอาไว้เมื่อ 2549 ที่ 3.9 แสนเหรียญ/คน/ปี บทความนี้ของ RT ก็ได้อ้างอิงตามบทความของนิวยอร์กไทม์ส ทั้งนี้ NPP ยังมองว่าตัวเลขค่าใช้จ่าย 7 แสนล้านเหรียญ ยังไม่ใช่ราคาที่แท้จริงของสงครามครั้งนี้ ที่ขาดหายไปอย่างค่าใช้จ่ายในอนาคตที่มีศักยภาพในการดูแลทางการแพทย์สำหรับทหารที่ได้รับบาดเจ็บและทหารผ่านศึก และยังไม่รวมถึงดอกเบี้ยจากหนี้สิน (national debt) ที่เกิดจากการใช้จ่ายของสงคราม
- Linda Bilmes นักเศรษฐศาสตร์จากฮาร์วาร์ด ได้คำนวณในปี 2013 ว่าสงครามในอัฟกานิสถานและอิรักได้กลายเป็น " สงครามที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ"
http://www.rt.com/usa/273457-afghanistan-war-costs-usa/
ข่าวจาก Time 1 ม.ค.58 พาดหัวข่าวว่า ต้นทุนที่แท้จริงของสงครามอัฟกานิสถาน อาจทำให้คุณประหลาดใจ
- The Congressional Research Service หน่วยงานบริการการวิจัยรัฐสภาสหรัฐฯ การคำนวณที่แท้จริงของต้นทุนรวมทั้งหมดในการทำสงคราม คาดว่าอยู่ในช่วงระหว่าง 4 - 6 ล้านล้านเหรียญ ( 145 - 218 ล้านล้านบาท) ซึ่งรวมถึง " การดูแลในระยะยาวด้านการแพทย์และการชดเชยความพิการสำหรับบริการสมาชิกทหารผ่านศึกและครอบครัวทหาร การช่วยเติมเต็มและค่าใช้จ่ายทางสังคมและเศรษฐกิจ " ตามข้อมูลของ Linda Bilmes ในปี 2013 อดีต ผู้ช่วยเลขานุการ และ CFO กระทรวงพาณิชย์ สหรัฐ สมัยคลินตัน
- เพนตากอนและผู้ควบคุมฝ่ายพลเรือน (รัฐบาล) ไม่ชอบที่จะพูดคุยเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในสงครามทั้งก่อนและหลังการรบพุ่ง นั้นเพราะตัวเลขราคาที่สูงตามกฏหมายที่ได้กำหนดเอาไว้ล่วงหน้า เหมือนกับจะทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก การทำสงครามจะทำให้ความเป็นไปได้น้อยลงไป ภายใต้การบริหารของบุช ได้บีบบังคับให้ Lawrence Lindsey ลาออกเป็นหัวหน้าของสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ ก่อนถึงปี 2546 ก่อนที่จะเข้าไปรุกรานอิรัค หลังจากที่เขาเปิดเผยว่าค่าใช้จ่ายในการทำสงครามกับอิรัก อาจสูงถึง 2 แสนล้านเหรียญ ...นึกถึงเพลงของอัสนีย์เลยครับ บอกแล้ว..ไม่ฟัง ไม่ฟัง แล้วยังไม่ฟัง 5555
- 1 เดือนต่อมา ก่อนสหรัฐจะบุกอิรัค รมต.กลาโหม Donald Rumsfeld ได้แนะนำว่าค่าใช้จ่ายทั้งหมดของสงครามจะเป็น " อะไรบางอย่างที่ต่ำกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ new CRS report รายงานค่าใช้จ่ายว่า เมื่อสิ้นสุดสงครามอิรัค 814,600 ล้านเหรียญ อัฟกานิสถาน 685,600 ล้านเหรียญ ..เล่นเอา Lawrence Lindsey ขำกลิ้ง แล้วก็ร้องเพลง บอกแล้วไม่ฟัง รายงาน CRS กล่าวว่าค่าใช้จ่ายของการรักษาทหารอเมริกัน 1 นาย ปีนี้คนละ 3,900,000 เหรียญ
The True Cost of the Afghanistan War May Surprise You
Linda J. Bilmes อาจารย์อาวุโส Harvard Kennedy School งานวิจัยของเธอมุ่งเน้นไปที่การจัดทำงบประมาณของสหรัฐและการบริหารภาครัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าใช้จ่ายของสงครามกิจการทหารผ่านศึกและข้าราชการพลเรือน
- ความขัดแย้งในอิรัก - อัฟกานิสถาน จะเป็นสงครามที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ ระหว่าง 4 - 6 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งรวมถึงการดูแลระยะยาวด้านการแพทย์และการชดเชยความพิการสำหรับทหารผ่านศึกและครอบครัวทหาร การเติมเต็มและค่าใช้จ่ายทางสังคมและเศรษฐกิจ มรดกของการตัดสินใจดำเนินการในสงครามอิรักและอัฟกานิสถานจะครองงบประมาณของรัฐบาลกลางในอนาคตนานหลายทศวรรษ
ผมจะลองเปรียบเทียบแสนยานุภาพทางทหาร โดยการจัด ranking วัดจากมากกว่า 50 factors (ไม่รวมอาวุธนิวเคลียร์ ) ไม่ใช่เฉพาะด้านทหารเท่านั้น เช่นปริมาณเงินสำรอง จำนวนประชากร กำลังพลสำรอง งบประมาณกลาโหม หนี้สาธารณะ ฯลฯ - Ranking 2558 อันดับที่ของโลก
12.อินโดฯ
20.ไทย
21.เวียดนาม
23.อิหร่าน
26.สิงคโปร์
28.ซาอุฯ
35.มาเลย์
42.ซีเรีย
44.พม่า
79.เยเมน
102.อัฟกานิสถาน
112.อิรัค
คราวนี้ลองนึกภาพดูนะครับ หากสหรัฐฯ จะมาแหย่แถวๆนี้จะต้องลงทุนเท่าไหร่ และใช้เวลาอีกกี่ปี
จากที่ผมเขียนในตอนต้น เพื่ออธิบายถึงปัจจัยเพื่อสร้างแรงจูงใจ ซึ่งจะต้องสัมพันธ์กับความคุ้มค่าของการลงทุน และเวลา จะเห็นได้ชัดเจนว่าหากสหรัฐคิดจะปล้นทัพยากรจากดินแดนแถบนี้มีแต่เจ๊ง ไม่มีเจ๊า และเวลาคงไม่ใช่แค่ 14 ปีเหมือนในอิรัคและอัฟกานิสถาน คราวนี้จะพาไปดูว่า ณ.ปัจจุบันสหรัฐมีความพร้อมหรือปล่าวที่จะเพิ่มแนวรบ จุดตายของสหรัฐคือทุนครับ แปลแบบไม่เต็มฉบับครับ มี 3 เนื้อข่าวเดี๋ยวจะยาวไป
- รายงานจาก Sputnik 3 ต.ค.58 พาดหัวว่า โอบามา : การเพิ่มยอดหนี้ของสหรัฐสามารถทำให้ระบบการเงินหมุนกลับเข้าสู่การควบคุมของหางเครื่องบิน (Tailspin) ไม่ใช่อย่างน้านนน หมายถึงการควบคุมบังคับได้ที่เปรียบเสมือนหางเสือเครื่องบินครับ...( เอ๊ะหรือว่าโอบาม่าจะกำลังพาอเมริกาบินตีลังกา 8 ตลบแล้วปักหัวลงกันมาแน่นะ )
โอบามากล่าวว่าหากรีพับลิกันพยายามที่จะป้องกันรัฐบาลสหรัฐไม่ให้เพิ่มเพดานหนี้ ( ยังเป็นหนี้ไม่พออีกหรือไง ) จะเกิดภัยพิบัติทางการเงินและภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก โอ้โห..ช่างกล้านะ กะว่าจะเอาเศรษฐกิจโลกเป็นตัวประกันเลยอ่ะ เมืื่อวันที่ 1 ต.ค.58 รมต.คลัง Jack Lew ได้สอบถามรัฐสภาเพือเพิ่มวงเงินหนี้ เพราะรัฐบาลกลางจะหมดความสามารถในการกู้เงิน ในวันที่ 5 พ.ย.58 รีพับลิกันซึ่งมีอำนาจ แต่เพียงผู้เดียวที่จะเพิ่มเพดานหนี้ให้หรือไม่ ได้ข่มขู่ว่าจะฝาขีดจำกัด ...( ไม่อนุมัติว่างั้นเถอะ อเมริกันล่อกันเองซะแล้ว) เว้นแต่ว่าทำเนียบขาวจะยอมรับเงื่อนไขตัดค่าใช้จ่ายงบประมาณ...กรรมยุคล้ำสมัยจรวด Hypersonic มาเร็วกว่าที่คาด เคยขู่อะไรกรีซไว้ จำได้หรือปล่าว ฮ่าาา
- วันที่ 5 พ.ย.58 สหรัฐจะเหลือเงินสดอยู่ในมือ เพียงแค่ 30,000 ล้านเหรียญ ยังห่างไกลกับรายจ่ายประจำวันของรัฐบาลที่สูงถึง 60,000 ล้านเหรียญ - ตามรายงานของกรมธนารักษ์ ก่อนหน้านี้ในเดือน มี.ค.กระทรวงการคลังได้ยื่นวงเงินกู้เป็น 17.2 ล้านล้านเหรียญ ( 617 ล้านล้านบาท..เอ๊งงง ใช้หนี้อีกซัก 2 ชาติก็คงใกล้หมดแล้วละ สงสัยว่าแค่เฉพาะดอกเบี้ยเดือนละเท่าไหร่? ) วงเงินกู้ได้รับการอนุญาติชั่วคราว 1.1 ล้านล้านเหรียญ ยืดเวลาออกไปโดยสภาคองเกรส
- ต่อด้วย Sputnik 4 ต.ค.58 ทำเนียบขาวไม่สามารถหลอกลวงได้อีกต่อไปว่าเป็นฮีโร่เศรษฐกิจ แค่พาดหัวสื่อรัสเซียก็เล่นแสบซะแล้ว น่ารักมากๆ 55
เมื่อเร็วๆนี้ โอบาม่า ได้ลงนามกฏหมายงบประมาณขยายเงินทุนของรัฐบาลกลางออกไปจนถึง 11 ธ.ค.58 มิฉะนั้นประเทศจะต้องเผชิญหน้ากับการ shutdown รัฐบาล (เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าลาแล้วนะ White House) Alex Golubovic นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐกล่าวว่า ในขณะเดียวกันความตึงเครียดระหว่างทำเนียบขาวและรีพับลิกันในสภาคองเกรสจะทวีความรุนแรงท่ามกลางจุดเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ในวันที่ 1 ต.ค.ทั้งสองพรรคการเมืองใหญ่ต้องยอมรับกับจำนวนของบทบัญญัติของร่างงบประมาณ และนี้จะเป็นงานที่ยากที่จะบรรลุผลสำเร็จ เพราะเรื่องนี้ทั้งรัฐบาลและรัฐสภาจะต้องเห็นด้วยกับร่างงบประมาณ 2016 ภายในวันที่ 16 ธ.ค. มิฉะนั้นการทำงานของรัฐบาลอาจจะต้องอยู่ภายใต้การคุกคาม (threat) สื่อรัสเซียใช้คำกันตรงๆเลยครับเข้าแสกหน้าพอดี ใครกันนนน....กล้าข่มขู่รบ.สหรัฐ เอ๊า..ก็ทำตัวเองแล้วจะให้โทษใคร แค่ถอนฐานทัพออกจากประเทศอืนๆทั่วโลกกว่า 700 แห่ง เลิกทำตัวเป็นอันตพาลโลก ก็ช่วยได้เยอะ
- อีกซักข่าวครับ Sputnik 4 ต.ค.58 สหรัฐจ่ายเป็นพันล้านเหรียญบนความล้มเหลวของกองกำลังรักษาความปลอดภัย...(ใช่หรือ?) ในต่างประเทศ
เกิดคำถามขึ้นเป็นจำนวนมากในสหรัฐถึงผลสำเร็จที่แท้จริงกับจากเงินของผู้เสียภาษีหลายหมื่นล้านเหรียญ ที่วอชิงตันใช้ในโปรแกรมการฝึกอบรมทางทหารในต่างประเทศ ตอนนี้นับพันคนที่ผ่านการฝึกของเพนตากอนมาแล้ว ในกองกำลังความมั่นคงทั้งในตะวันออกกลาง อาฟริกาเหนือ อาฟริกาใต้ เอเชียใต้ ได้พังพินาศ, จนตรอก หรือ พ่ายแพ้ โปรแกรมการฝึกของสหรัฐมูลค่า 500 ล้านเหรียญต่อกลุ่มกบฏในซีเรีย ทำการสร้างนักรบได้เพียง 60 คนที่มีความพร้อม
- ข่าวนี้สื่อรัสเซียนำมาจาก The New York Times อ้างคำพูดของ Karl W. Eikenberry อดีตผู้บัญชาการทหารและเอกอัครราชทูตสหรัฐในอัฟกานิสถาน ที่บันทึกการติดตามการสร้างกองกำลังความมั่นคงที่ผ่านมา 15 ปี ว่าเป็นสิ่งน่าอนาถ. เลวทราม ที่พูดเอาไว้ในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
สรุป - ลองนึกถึงความเป็นไปได้ครับ
1.สหรัฐ เปิดแนวรบเพิ่ม จะใช้ทุนจากที่ไหน ขนาดแค่การเมืองในประเทศก็วุ่นวายพอแล้ว หากบางท่านคิดว่างั้นถ้า ปธน.มาจากรีพับลิกัน ซึ่งคุมเสียงข้างมากในสภาละ ก็โจทย์เหมือนกันครับ สหรัฐจะต้องกู้เงินมาก่อสงคราม ในขณะที่คนอเมริกันมีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน 10 กว่า% บางรัฐสูงถึง 18-19% (ไทย 3%กว่าๆ) คนอเมริกันยังต้องรับคูปองแลกอาหารอีกหลายสิบล้านคน - ข้อมูลในส่วนนี้รวมทั้งพวก homeless คนไร้บ้าน ในสหรัฐผมเคยเขียนเอาไว้แล้ว
2.หนี้ภายนอก (external debt รัฐ+เอกชน) มูลค่ามหาศาลจำนวน 18.54 ล้านล้านเหรียญ หรือ 666 ล้านล้านบาท ถ้าเฉพาะของรัฐตามที่เสนอคือ 17.2 ล้านล้านเหรียญ ( 617 ล้านล้านบาท ) ในขณะที่งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2559 ของไทย คือ 2.72 ล้านล้านบาท ซึ่งรวมค่าใช้จ่ายของทุกกระทรวง และการชำระหนี้แล้ว - ลองนึกดูครับว่าหนี้ขนาดนี้ของสหรัฐ จะมีใครปล่อยกู้ให้อีกแค่ไหน หรือสหรัฐต้องแลกด้วยอะไร
3.ผมเทียบกับการลงทุนก่อสงครามขั้นต่ำคือสงครามอิรัค-อัฟกานิสถาน สหรัฐต้องใช้เงินไป 145 - 218 ล้านล้านบาท กับเวลาอีก 14 ปี แต่สมมุติถ้าหากสหรัฐจะมาก่อสงครามในเอเชียอาคเนย์ เอาแค่ อินโด ไทย เวียดนาม มาเลย์ นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่สหรัฐจะค้องจ่าย ต้องสูงกว่าอีกมาก และถ้าสหรัฐชนะแล้วจะได้อะไรจากพื้นที่แถบนี้ คุ้มค่าต่อการลงทุนหรือปล่าว
4.ถ้าหากมีเรื่องราวจริงๆในพื้นที่แถบนี้ ผมคิดว่าจีนไม่นั่งดูเฉยๆแน่ครับ สหรัฐจะกล้าดับเครื่องชนหรือ
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
09/10/2558
------------
http://www.rt.com/usa/273457-afghanistan-war-costs-usa/
The True Cost of the Afghanistan War May Surprise You
http://research.hks.harvard.edu/publications/workingpapers/citation.aspx?PubId=8956&type=WPN
Harvard Kennedy School - Linda Bilmes on the U.S. Engagement in Iraq and Afghanistan: “The Most Expensive Wars in U.S. History”
Obama: Rising US Debt Limit Can Return Financial System Into Tailspin
US White House Can No Longer Pretend to be 'Economic Hero'
US Spent Billions on Failed Foreign Security Forces - US Media

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
ถึงคราวญี่ปุ่นโดนเล่นบ้าง... ทางด่วนสู่นรก: สหรัฐฯกำลังสืบหาว่าไอซิสได้รับโตโยต้าที่น่าขายหน้าไปได้อย่างไร?



-------------
วันที่ 7 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "Highway to Hell: US Looks Into How ISIL Gets Its Infamous Toyota Trucks" (ซวยแล้วไหมหละอาเบะ! เล่นกับงูพิษโดนมันแว้งกัดซะแล้ว ชาวนากับงูเห่าแท้ๆ)
รายงานข่าวบอกว่า กรุงวอชิงตันได้เปิดการสอบสวนว่ากลุ่มก่อการร้ายไอซิสหาทางเอารถปิ๊กอัพโตโยต้าเป็นจำนวนมากและรถ SUV ไปใช้ได้อย่างไร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในคลิปวิดีโอของกลุ่ม jihadist (ก็ถามทำเนียบดำกับซีไอเอสิครับ วางแผนกันไว้แต่แรกแล้วไม่ใช่รึ?)
สำนักตรวจสอบการสนับสนุนด้านการเงินกลุ่มก่อการร้ายกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ (The Terror Financing Unit of the US Treasury Department) กำลังตรวจสอบวิธีการที่กลุ่มก่อการร้ายจัดหารถปิ๊กอัพยี่ห้อโตโยต้าจำนวนมาก และรถ SUVs (ขับเคลื่อนสี่ล้อ) ซึ่งเป็นพาหนะที่ปรากฎอย่างเด่นชัดในคลิปวีดีโอ propaganda ของกลุ่ม jihadist ไปได้อย่างไร สื่อฯต่างประเทศรายงาน (อันที่จริงประเด็นนี้ได้มีการตั้งคำถามมาตั้งแต่ปี 2009 ก่อนที่จะมีอาหรับสปริงและก่อโค่นกัดดาฟี่ซะอีก)
รายงานข่าวบอกว่า บริษัทโตโยต้า (Toyota) ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ได้รายงานแล้วว่าว่า ทางบริษัทกำลังให้การสนับสนุนในการบวนการตรวจสอบ แต่บริษัทก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารถยนต์ของพวกเขาตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้ายได้อย่างไร (ก็ไหนบอกว่าซีไอเอให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและอาวุธรวมทั้งพาหนะแก่กลุ่มที่สหรัฐฯอุปโลกขึ้นมาว่า "กบฏสายกลาง" แล้วตอนที่ฝึกเสร็จแล้วในตุรกีก็ส่งขบวนคอนวอยเข้าไปในซีเรียโดยมีเครื่องบินรบของสหรัฐฯและพันธมิตรคอยคุ้มกันภัยทางอากาศให้มิใช่รึ? แล้วสหรัฐฯไปหารถเหล่านั้นมาจากไหนให้กับกลุ่มกบฏเหล่านั้นหละ? ซีไอเอรู้ดีที่สุด)
Ed Lewis กรรมการผู้จัดการนโยบายสาธารณะและการสื่อสารประจำกรุงวอชิงตันของโตโยต้ากล่าวว่า "เราได้ฟังการสรุปบรรยายของกระทรวงการคลัง (ของสหรัฐฯ) เกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทาน (supply chains) ของโตโยต้าในตะวันออกกลาง และกระบวนการที่ว่าโตโยต้าได้อยู่ในฐานะที่จะปกป้องห่วงบูรณาการโซ่อุปทาน"
Ed Lewis กล่าวว่า "โตโยต้าได้มีนโยบายที่เข้มงวดในการที่จะไม่ขายพาหนะให้กับผู้ซื้อที่มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะใช้หรือปรับแต่งพาหนะเหล่านั้นสำหรับกิจกรรมทหาร หรือการก่อการร้าย" ในขณะเดียวกัน Ed Lewis ก็กล่าวเพิ่มว่า "มันเป็นไปไม่ได้สำหรับโตโยต้าที่จะควบคุมช่องทางที่ไม่ถูกต้องหรือผิดกฎหมายได้ทั้งหมด โดยที่รถยนต์ของพวกเราอาจจะถูกนำไปใช้งาน" (อึ่ม… นั่นนะสิ จะรู้ได้อย่างว่าผู้ซื้อที่ซื้อรถแล้วจะเอาไปประกอบอาชญากรรม หรือกระทำผิดกฎหมายใดๆหรือไม่ มันเป็นความรับผิดชอบของบริษัทผู้ผลิตหรือไง? ที่อเมริกามีการขายปืนเกลื่อนมาก มีการก่ออาชญากรรมด้วยปืนสูงมาก แล้วสหรัฐฯไปฟ้องเอาผิดกับบริษัทผู้ผลิตปืนเหล่านั้นหรือไม่? มีรถยนต์แต่ถ้าไม่เติมน้ำมันหรือแก๊สมันก็วิ่งไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก็ต้องไปตรวจสอบเอาผิดกับบริษัทผู้ผลิดเชื้อเพลิงที่ขายน้ำมันให้กับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นด้วยสิ ต้องไปเอาผิดกับบริษัทที่ผลิตเสื้อผ้าที่พวกผู้ก่อการร้ายใช้สวมใส่ด้วยไหม?)
Toyota Hilux ปิ๊กอัพเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส มีขายอยู่นอกอเมริกาเหนือ เกาหลี และญี่ปุ่น และก็คล้ายกับ Toyota Tacoma และ Toyota Land Cruiser ด้วย รถยนต์เหล่านี้ได้ปรากฏอยู่บ่อยๆ ในคลิปวีดีโอโฆษณาชวนเชื่อที่มีการติดตั้งอาวุธหนักให้ด้วย ซึ่งกลุ่มก่อการร้ายไอซิสใช้ยิงในลิเบีย ซีเรีย และอิรัค
Mark Wallace อดีตเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำยูเอ็นซึ่งอ้างโดยสำนักข่าว ANC News ว่า "น่าเสียดายที่รถ Toyota Land Cruiser และ Hilux ที่มีประสิทธิภาพได้กลายเป็นยานพาหนะสำหรับเกือบจะทุกส่วนของกลุ่มไอซิส" (ฮั่นแน่... กำลังจะบอกว่าทำไมถึงไม่เป็น Ford หรือ Chevrolet ของอมเริกานะหละสิ?)
Mark Wallace กล่าวเพิ่มว่า "พวกไอซิสได้ใช้รถยนต์เหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมทางทหาร กิจกรรมก่อเหตุร้าย และอื่นๆที่คล้ายกันนี้" (เขากำลังจะบอกว่า เพราะฉะนั้น Toyota เป็นสัญลักษณ์ของพาหนะกลุ่มก่อการร้ายหละสิ? ทุกอย่าใช้รถโตโยต้านะ เพราะทางการของสหรัฐฯจะอาจจะเน้นตรวจค้นหรือมุ่งเป้าไปที่รถยี่ห้อโตโยต้าเป็นหลัก และถ้าใครขับโตโยต้า อาจจะถูกจับตาหรือคิดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับไอซิสก็ได้ ซวยเลย... )
เทคนิคการเตะตัดขาคู่แข่งทางการตลาดเป็นอย่างนี้แหละครับท่าน พึ่งเล่น Volkswagen ของเยอรมันไปหยกๆ เรื่องการปล่อยมลพิษ เล่นเอาหุ้นของ Volkswagen ล่วงไปแล้ว คราวนี้ก็ถึงตา Toyota บ้างหละ โทษฐานที่ไม่เชื่อฟังคำสั่ง หันไปจ๊ะจ๋าออกหน้าออกตาคบกับรัสเซียได้อย่างไร และที่แสบก็คืออาเบะดันถ่ายคลิปโชว์ตอนที่วิ่งไปจับมือกับปูตินในยูเอ็นนี่ รู้ไหมว่าตัวอิจฉาอย่างอเมริกาเขาทนไม่ได้ เขารับไม่ได้ จึงนำมาซึ่งการตรวจสอบเอาดื้อนี้แล
อ้อ… เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว ฐานผลิตรถกระญี่ปุ่นรวมทั้งโตโยต้าด้วยอยู่ในประเทศไทยนะครับ รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมประเภทนี้โดยเฉพาะโตโยต้า หากสหรัฐฯกล่าวหาญี่ปุ่นเอาดื้อๆว่าญี่ปุ่นสนับสนุนรถยนต์หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนรถยนต์ให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส แล้วก็สั่งแซงชั่นรถญี่ห้อนี้ซะเลย ซวยไหมนั่น? มันก็จะเข้ากับแผนอีกแผนหนึ่งที่อียูพึ่งจะออกมาตำหนิไทยเกี่ยวกับสวัสดิการแรงงานด้วย ที่ว่าไทยจำกัดเสรีภาพในการประท้วงของพนักงาน ประเทศไทยไม่มีม็อบแรงงานต่อต้าน ประท้วงบ่อยๆ อย่างยุโรป หรืออเมริกา ทาางอียูเขาไม่ชอบ เขาบอกว่ามันสงบ ไม่ดี จะต้องมีพนักงานออกมาประท้วงเรียกร้องโน่น นี่ นั่น บ่อยๆ ถึงจะถูกใจเขา
เออ… แล้วผู้ประกอบการต่างชาติก็จะพากันย้ายฐานผลิตไปอยู่ประเทศที่เขาไม่ค่อยมีแรงงานออกมาประท้วงแทน คราวนี้ก็พากันกินแกลบเพราะไปเชื่ออียู ทางอียูชงเรื่องเตรียมให้พนักงานในบริษัทอุตสาหกรรมของไทยออกมารวมกันประท้วงนายจ้าง ส่วนสหรัฐฯก็เตรียมทำให้โตโยต้าเจ้ง เข้าแก๊บกันพอดี อึ่ม… อยากตกงานไวๆ ก็ให้รีบพากันออกมาประท้วง เศรษฐกิจของไทยจะได้แย่ลงกว่านี้เร็วๆ ตามอียูไปด้วยนั่นแหละ)
กลับมาที่ข่าวต่อนะครับ... รายงานข่าวบอกว่ามีการกล่าวอ้างว่ามีรถยนต์โตโยต้า 800 กว่าคันหายไปในซิดนี่ประหว่างปี 2014 และ 2015 ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อการร้ายแสดงความคิดเห็นว่ารถยนต์เหล่านี้อาจจะถูกจัดส่งไปให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสก็ได้ (ฮ่าๆๆๆ... เอ้า... นี่ขนาดออสเตรเลีย ลูกกระเป๋งของอเมริกาเองก็ยังไม่เว้นเลยนะนี่ บอกแล้วใครแตกแถวเป็นต้องโดน ถ้าเชื่อฟังก็จะไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เป็น แต่ถ้าแข็งข้อเมื่อไร หรือตีตัวออกห่างหรือหันไปคบกับฝ่ายที่สหรัฐฯเรียกว่าศัตรูเมื่อไร สหรัฐฯก็จะสวมบทเป็นตำรวจโลกขึ้นมาอีกครั้ง ซวยไหมนั่น?)
ในส่วนของโตโยต้า บริษัทกล่าวว่า ยอดขายรถปิ๊กอัพ Hilux และ Land Cruisers ในอิรัคได้ลดลงถึง 13,000 คันในปีที่ผ่านมา หลังจากที่ทำยอดขายเพิ่มขึ้นได้เป็น 3 เท่าจาก 6,000 คันในปี 2011 เพิ่มเป็น 18,000 คันในปี 2013 ว้าวววว (ทำไมยอดขายของโตโยต้าในอิรัคถึงลดลงหรือไม่ครับ? ก็อเมริกาเอารถ Humvee ไปแจกให้ใช้ฟรีตั้ง 2,000 กว่าคันแหนะ มันจะไม่ลดได้อย่างไร?)
อ๊ะๆๆ... ตัวเลขนี้ไม่ได้มั่วนะครับ วันที่ 1 มิถุนายน 2015 สำนักข่าว The Guardian ของอังกฤษพาดหัวข่าวว่า "ไอซิสยึดรถฮัมวี่ติดอาวุธพร้อมจำนวน 2,300 คันจากกองทัพของอิรัคในจังหวัด Mosul" เป็นอย่างไรหละครับ รถทหารตั้ง 2,300 คันของสหรัฐฯถูกปล้นไปได้ง่ายๆขนาดนั้นเลยรึ? ก็มันตั้งใจให้ปล้นอ่ะ ปากก็บอกว่าปล้น แต่จริงๆแล้วสมยอม ประเคนให้เลยหรือเปล่า?
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าได้อนุมัติให้สนับสนุนกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดและกบฏฝ่ายค้านสายกลางอีกครั้ง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในคำแถลงการยุทธศาสตร์กำจัดไอซิสของเขา เรื่องนี้ถูก Matt Purple นำมาเขียนบทความในนิตยสาร National Interest ของสหรัฐฯด้วย เนื้อหาก็คล้ายกับที่เพจนี้เล่าให้ฟังบ่อยๆนั่นแหละว่าสุดท้ายแล้วทั้งอาวุธ เงิน พาหนะ และคน ก็ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มก่อการร้าย แต่รัฐบาลของสหรัฐฯก็ยังจะเดินหน้าผลาญเงินงบประมาณในโครงการนี้ต่อไป และหันมาสนับสนุนเคิร์ดด้วย
ชาวเคิร์ดในซีเรียที่สหรัฐฯสนับสนุนนั้นเป็นกลุ่ม YPG (People's Protection Units) ที่มีนักรบหญิงเยอะๆนั่นแหละ ก่อนหน้านี้ (น่าจะถูกเสี้ยมให้) ขัดแย้งกับรัฐบาลของซีเรีย แต่พักหลังหันมาจับมือกับกองทัพรัฐบาลซีเรียเพื่อต่อสู้กับไอซิส สหรัฐฯอยากได้ชาวเคิร์ดมาเป็นพวกและอาจจะเอาไว้ยันกับกองกำลังฝ่ายค้าน FSA ในซีเรียในอนาคตก็ได้ จึงสนับสนุนทั้งสองทาง แต่จุดประสงค์อันใกล้นี้ก็เพื่อให้ชาวเคิร์ดและ FSA ต่อสู้กับรัฐบาลอัสซาด
ชาวเคิร์ดบอกว่าไม่มีปัญหา แต่ไหนหละอาวุธ ไหนหละเงินสนับสนุน สหรัฐฯบอกว่าไม่มีปัญหาเรื่องนั้นเลย ทำเนียบดำยินดีจัดให้ หลังจากที่ชาวเคิร์ดได้รับอาวุธจากสหรัฐฯแล้ว แทนที่จะไปต่อสู้กับกองทัพรัฐบาลอัสซาดตามที่สหรัฐฯต้องการ ที่ไหนได้ชาวเคิร์ด YPG กลับไปร่วมมือกับกองทัพรัฐบาลอัสซาดต้านไอซิสเฉยเลย ฮ่าๆๆ ผิดหวังอ่ะดิ
ล่าสุด… วันที่ 5 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ผู้บัญชาการกองกำลังปลดปล่อยซีเรียได้ขอให้รัสเซียให้ความช่วยเหลือกในการต่อสู้กับพวกไอซิสด้วย" (Free Syrian Army Command Asks Russia for Help Against ISIL) นั่นไง... สุดท้าย FSA ก็จะหักหลังอเมริกาอีกจนได้ แต่รัสเซียคงจะไม่ทำแบบสหรัฐฯที่สนับสนุนในลักษณะนั้นหรอกนะ ปูตินไม่ใช่ไก่อ่อนที่จะมาหลอกเอาอาวุธและเงินสนับสนุนจากรัสเซียไปได้ง่ายๆหรอก ต้องพิสูจน์ฝีมือให้รัสเซียเห็นซะก่อนว่ามีความจริงใจที่จะร่วมมือกับรัสเซียและรัฐบาลอัสซาดจริงหรือเปล่า?
ป.ล. คิดว่าสหรัฐฯจะเรียกร้องให้มีการตรวจสอบว่า ทำไมไอซิสถึงหันมานิยมใช้รถฮัมวี่ของกองทัพสหรัฐฯแทนรถโตโยต้าของญี่ปุ่นหรือไม่? ฮ่าๆๆ
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
----------
Highway to Hell: US Looks Into How ISIL Gets Its Infamous Toyota Trucks
Isis captured 2,300 Humvee armoured vehicles from Iraqi forces in Mosul | World news | The Guardian
These Toyota trucks are popular with terrorists - here's why | Business Insider India
ISIS Seized 2,300 U.S. Armored Humvees, Possibly Worth 1 Billion Dollars - Ben Swann's Truth In Media
ISIS turning US Humvees into Iraq's nightmare - Business Insider
Free Syrian Army Command Asks Russia for Help Against ISIL

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts



วิวัฒนาการของไอซิส FSA > al-Nusra > ISIS > Moderate Opposition

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอแฉ... สภาคองเกรสสหรัฐฯติดอาวุธให้ไอซิสในซีเรียผ่าน "กบฏฝ่ายค้านสายกลาง" (1/2)



-------------
อเมริกันแฉอเมริกันด้วยกันเองแล้วครับท่านงานนี้มีทั้งอดีต CIA และ DIA ของสหรัฐฯนั่นแหละออกมาแฉพฤติกรรมของรัฐบาลสหรัฐฯที่ให้การสนับสนุนไอซิสแบบเนียนๆ แต่ชั่วร้ายที่สุด
1.) วันที่ 8 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "US Congress Arms ISIL in Syria Via 'Moderate' Opposition - ex-CIA Officer" (ถะด้าาาา... งามไส้ไหมหละครับจักรวรรดิเฮเกโมนี!)
กรุงวอชิงตัน (Sputnik รายงาน) John Kiriakou อดีตเจ้าหน้าที่ต่อต้านขบวนการก่อการร้ายจาก CIA และเจ้าหน้าที่สืบสวนอาวุโสคณะกรรมาธิการวิเทศสัมพันธ์วุฒิสภาของหสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ว่า "สภาคองเกรสติดอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสหัวรุนแรงเองหละ ด้วยการจัดหาอาวุธให้กับกลุ่มกบฏฝ่ายค้านสายกลาง (moderate opposition)"
กองกำลัง FSA เป็นพรรคฝ่ายค้านของซีเรียที่ติดอาวุธ โดยกลุ่มประเทศตะวันตกมองว่าเป็นพวก "สายกลาง" (moderate) (ฮั่นแน่... เนียนเชียะ ก็สหรัฐฯไม่ใช่รึที่ตั้งชื่อนี้ให้กับกลุ่มนี้เองว่า "moderate rebel" พอภาพพจน์ของพวกนี้เริ่มเน่า สหรัฐฯก็บอกตั้งชื่อนี้ให้ซะงั้น) กลุ่มนี้ต่อสู้กับกองทัพของซีเรียที่ภักดีต่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดตั้งแต่เริ่มสงครามกลางเมืองในปี 2011 และในปี 2014 สภาคองเกรสของสหรัฐฯก็ได้สำรองเงินงบระมาณจำนวน $500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.77 หมื่นล้านบาท) เพื่อสร้างกองทัพ FSA ขึ้นมามากกว่า 5,000 คนดภายในสิ้นปี 2015 นี้
John Kiriakou กล่าวว่า "พวกเขา [FSA] ไม่ได้ช่วยอะไรเลย!: การให้การสนับสนุนพวกนั้นมีแต่จะทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม อาวุธของสหรัฐฯส่วนมากที่ส่งไปให้พวก FSA ได้หาหนทางของมันเองในการตกไปอยู่ในมือของพวกกลุ่มก่อการร้ายไอซิส สภาคองเกรสได้จ่ายเงินให้กับการติดอาวุธให้กับพวกกลุ่มก่อการร้ายไอซิส"
ชัดไหมครับโอบาม่า... อันนี้จริงแท้แน่นอน ผบ.กองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯพึ่งจะสารภาพในต่อสภาคองเกรสไปเมื่อเร็วๆนี้เอง แต่ทั้งรัฐบาลของสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกก็เฉยๆ เหมือนเป็นเรื่องปรกติที่ไม่ร้ายแรงอะไร เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สำนักข่าวต่างประเทศภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯก็เสนอข่าวพอเป็นพิธี จากนั้นทุกคนก็ลืมเลือนไป แล้วก็หันไปเล่นข่าวโจมตีรัสเซียต่อ เพราะไปขัดขวางการทำมาหากินของประเทศเหล่านั้นในซีเรีย ที่รัสเซียส่งเครื่องบินรบ เรือรบ เข้าไปช่วยกองทัพของรัฐบาลซีเรียในการปราบปราบกลุ่มก่อการร้ายไอซิส แต่สหรัฐฯและพันธมิตรกลับพยายามเข้าขัดขวางทุกช่องทาง ด้วยการสร้าง propaganda ดิสเครดิตรัสเซียและอัสซาดรายวัน จนชาวโลกบางส่วนเกือบจะเข้าใจว่า การที่รัสเซียเข้าไปช่วยกำจัดไอซิสในซีเรียนี้ กลายเป็นว่ารัสเซียเป็นผู้ร้ายในสายตาของสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกซะงั้น กรรม!
Kiriakou มองว่า กองกำลังของขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียมีความสามารถในการยึดและใช้อาวุธที่ทันสมัยของสหรัฐฯจาก FSA ได้นั้น ก็เหมือนกับที่พวกไอซิสทำในอิรัค และก็เพลิดเพลินกับการใช้ยุทโธปรกรณ์ที่มีศักยภาพสูงของสหรัฐฯ ที่พวกเขา (ไอซิส) ยึดมาจากกองทัพของอิรัคที่ฝึกโดยสหรัฐฯแล้วก็หลบหนีไปนั่นแหละ (สหรัฐฯเขาคุยว่าโปรแกรมการฝึกซ้อมทางกองทัพให้กับทหารต่างชาติของเขานี่สุดยอดหาที่เปรียบมิได้ มิน่าหละไอซิสถึงได้ยึดอาวุธของสหรัฐฯไปต่อหน้าต่อตาทหารอิรัคที่ฝึกโดยสหรัฐฯนั่นเอง แล้วเพนตากอนก็ออกมาแถว่า เป็นเพราะว่าในกองทัพสหรัฐฯมีแต่ชาวชีอะห์ ซึ่งถือว่าเป็นชนส่วนน้อยของพลเมืองอิรัค สหรัฐฯชิ่งไปเล่นประเด็นว่าถ้าต้องการให้กองทัพอิรัคเอาชนะไอซิสได้จะต้องมีทหารซุนนีในกองทัพของอิรัคมากกว่านี้ แล้วไง? แล้วก็ให้สหรัฐฯฝึกให้อีกครั้ง อย่างนั้นรึ? พวกกบฏสายกลาง FSA ก็เป็นซุนนีส่วนมากไม่ใช่รึ? แต่พอสหรัฐฯฝึกเสร็จแล้วส่งเข้าไปในซีเรีย กลับกลายเป็นว่า FSA ดันส่งอาวุธของสหรัฐฯไปให้ไอซิส และมากกว่า 95% ได้แปรพรรคเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า al-Nusra Front เฉยเลย เผลอๆอาจจะไปร่วมกับไอซิสด้วยก็ได้ เจ๋งไหมหละสหรัฐอเมริกา?)
อดีตเจ้าหน้าที่ CIA กล่าวอีกว่า "แนวความคิดที่ตรงกันข้ามกับเรื่องเสรีภาพ (liberal) ความรักในเสรีภาพแบบประชาธิปไตย (democratic freedom-loving) การรักสันติภาพ (peace-loving) ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ให้กับประธานาธิบดีอัสซาดของซีเรีย เป็นเรื่องที่ 'ไร้สาระทั้งเพ' (just nonsense) สหรัฐฯควรที่จะถอยออกไป แทนการทำให้สถานการณ์มันเลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิม" (The US idea of "a liberal, democratic freedom-loving, peace-loving opposition," an alternative to Syrian President Assad, was just nonsense. The US should have stayed out instead of making the situation worse.) (โปรอเมริกาได้ยินหรือเปล่าครับ อดีตซีไอเอบอกว่า สิ่งที่สหรัฐฯกำลังนำไปสู่ซีเรียแทนประธานาธิบดีบาร์ชา อัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งนั้น เป็นสิ่งที่ตรงข้ามกับคำว่า "democratic freedom-loving" ถ้าไม่เชื่อก็หันไปดู "ประชาธิปไตย" ที่สหรัฐฯจัดให้ในลิเบีย และยูเครนในวันนี้ดูนะครับ ในยูเครนนี่กองกำลังติดอาวุธอิสระ Right Sector และ Neo-Nazi Arzov ที่ไม่ขึ้นตรงต่อกองทัพรัฐบาลกลางคุมสภาฯนะครับ เด็กเลี้ยงของสหรัฐฯและตะวันตกทั้งนั้น เจ๋งปะ?)
2.) ฟังอดีตซีไอเอพูดอีกซักคนไหมครับ? เอาให้มันเสด็จน้ำไปเลยนะ... ฮี่ๆๆ วันที่ 7 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "การให้การสนับสนุนของสหรัฐฯต่อพวกกบฏซีเรียถือว่าเป็นอันตราย เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย" (US Support for Syrian Rebels 'Dangerous' as Russia Conducts Airstrikes) นาย Larry Johnson อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอของสหรัฐฯกล่าวว่า "สหรัฐฯจำเป็นต้องยุติการฝึกกองทัพและการให้การสนับสนุนทั้งหมดแก่กองกำลังฝ่ายค้านของซีเรีย เพราะว่ามันผิดกฎหมายและอันตรายด้วย" (…because it is illegal and dangerous.)
ชัดพอไหมครับท่านเจ้าโอบาม่า? เจ้าสำนักประชาธิปไตยโลก ผู้มีเสรีภาพอยู่เหนือกฎหมายทุกประการ ประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯมันดีอย่างนี้นี่เอง มิน่าหละโปรอเมริกาถึงได้คลั่งไคล้อยากได้กันนักหนา เสรีภาพที่จะรุกรานอธิปไตยของประเทศอื่น เสรีภาพที่จะบอมบ์โรงพยาบาล เสรีภาพที่จะเป็นฝ่ายตรวจสอบเองโดยไม่ให้องค์กรกลางจากประเทศใดๆเข้าร่วมตรวจสอบ แต่พอเครื่องบินมาเลเซียตกที่ยูเครนตะวันออกกลับตั้งคณะกรรมการกลางระหว่างประเทศขึ้นมาตรวจสอบ นี่แหละมาตรฐานของรัฐบาลอเมริกา
Larry Johnson กล่าวว่า "มันเป็นความโง่เง่าและอันตราย (It would be foolish and dangerous.) ต่อสหรัฐฯ" เมื่อถูกถามว่า สหรัฐฯควรจะเดินหน้าโปรแกรมฝึก และติดอาวุธ และให้การสนับสนุนความช่วยเหลือแก่กบฏซีเรียในขณะที่รัสเซียกำลังมีการโจมตีทางอากาศหรือไม่?
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาวุฒิสมาชิก Chris Murphy ของสหรัฐฯได้กล่าวกับสำนักข่าว Sputnik news ของรัสเซียว่า โปรแกรมของสหรัฐฯที่จะฝึกและติดอาวุธให้กับกองกำลัง (กบฏ) ซีเรียสายกลางนั้น ได้เป็นการให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ก่อการร้าย "โดยไม่เจตนา" (unwittingly) (ขี้แมวนี่! ถ้าพวกนี้แถไปว่าไม่ได้ได้เจตนา แสดงว่าตรงกันข้ามกับที่พวกนี้พยายามบ่ายเบี่ยงความรับผิดชอบของตนเอง)
Larry Johnson (อดีตซีไอเอ) แย้งว่า "สหรัฐฯควรที่จะหยุดให้การสนับสนุนความช่วยเหลือด้านกองทัพต่อกองทัพปลดปล่อยซีเรีย (Free Syrian Army) และเลิกโปรแกรมฝึกและติดอาวุธให้กับกบฏซีเรียซะ เพราะว่าพวกเขาได้เติมพลังให้กับขบวนการก่อการร้าย" (…because they have fuelled terrorism.) (ก็รัฐบาลสหรัฐฯต้องการให้มันเป็นแบบนั้นอยู่แล้วไม่ใช่รึ? เอาอาวุธไปให้พวกกบฏ และให้พวกกบฏเอาไปให้ไอซิส แค่นี้สหรัฐฯก็พ้นจากข้อกล่าวหาว่าสนับสนุนไอซิสได้สบาย แหม… โลกนี้มันช่างสวยงานใสซื่อซะเหลือเกินนะพ่อกะล่อนทองเบอร์หนึ่งของโลก แล้วประชาชนชาวอเมริกันก็เชื่อตามด้วยนะ กรรม!)
อดีตซีไอเอ Johnson กระชากหน้ากากของรัฐบาลสหรัฐฯต่ออีกว่า กองกำลังกบฏ FSA นั้นเป็นผลิตผลของ CIA เองเลยหละ (The Free Syrian Army itself, Johnson claimed, is a CIA "construct") ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของปฏิบัติการทางจิตวิทยาที่ออกแบบมาเพื่อเล่นบทกองกำลังฝ่ายค้านของซีเรีย ตามที่ Thomas Jefferson อดีตปธน.คนที่ 3 ของสหรัฐฯกล่าวเอาไว้ว่า "กองทัพประชาธิปไตย" (army of democrats) (ดังนั้นเมื่อเร็วๆนี้เราจึงได้เห็นกองทัพประชาธิปไตยรุ่นใหม่รวมหัวกันทำการโจมตีทางไซเบอร์ต่อระบบคอมพิวเตอร์ของหน่วยงานราชการไทย)
Johnson กล่าวว่า "ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ ถือว่ารัสกระทำถูกต้องตามกฎหมายในซีเรีย ซึ่งได้รับการเชื้อเชิญโดยรัฐบาลของซีเรียซึ่งมีอำนาจทางการปกครองและยังมีที่นั่งในสหประชาชาติด้วย แต่สหรัฐฯได้ดำเนินปฏิบัติการทางกองทัพที่ผิดกฎหมาย (ในซีเรีย)" (อ้าว!… ก็ขนาดยูเอ็นก็ยังยอมรับรัฐบาลอัสซาดเลย แล้วสหรัฐฯและพันธมิตรจะไปล้มเขาทำไมหละนี่? แบบนี้มันพฤติกรรมของอันธพาลชัดๆเลยที่พากันยกพวกไปรุมทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่าหากเขาไม่ยอมทำตามคำสั่งของสหรัฐฯ)
อ่านต่อในตอนที่ 2/2...
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
----------
US Congress Arms ISIL in Syria Via 'Moderate' Opposition - ex-CIA Officer
US Support for Syrian Rebels 'Dangerous' as Russia Conducts Airstrikes
Former DIA Chief: US Weapon Delivery to Opposition to Escalate Syria Crisis
Syrian Missile Defense Systems 'Harass' Turkish Jets
Russian Long-Range Cruise Missiles 'Particular Challenge' for US Defense
Russian Warships in Caspian Sea Launch Attack on ISIL in Syria
Russian Navy Ships to Practice Securing Shipping Lanes in Caspian Sea
Russia Preparing New EW System Against Cruise Missiles, Space Attacks
Jamming the Jihad: Russian Electronic Warfare Systems Spotted in Syria
https://www.rt.com/news/317068-russia-isis-islamic-syria/

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอแฉ... สภาคองเกรสสหรัฐฯติดอาวุธให้ไอซิสในซีเรียผ่าน "กบฏฝ่ายค้านสายกลาง" (2/2)



-------------
3.) กลับมาดูสถานการณ์ในซีเรียบ้างนะครับ เมื่อวานนี้รัสเซียจัดหนักให้กับไอซิสและกบฏซีเรียโดยการยิงขีปนาวุธนำวิถีหลายลูกจากทะเลแคสเปี้ยน ไม่มีระบบป้องกันภัยทางอากาศของประเทศใดแถวนั้นเข้าสะกัดเลยแม้แต่น้อย อิหร่านกับอิรัคบอกว่าถึงมีก็ไม่ยิง เพราะว่าเป็นพวกเดียวกัน คืออย่างนี้ครับเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาเรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเบียน (Caspian Sea) ซึ่งเป็นทะเลปิด ไม่มีส่วนไหนอยู่ติดออกสู่ทะเลใหญ่ได้อยู่ระหว่างรัสเซีย คาซัคสถาน เติร์กเมนิสถาน อิหร่าน อาเซอร์ไบจาน ได้ทำการยิงขีปนาวุธเล่นๆซึ่งรัสเซียบอกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบเร่งด่วน (Snap Drills) มาแล้ว และกลางเดือนเดียวกันนี้ เรือรบของรัสเซียในทะเลแคสเปี้ยนก็ซ้อมรบยิงขีปนาวุธเล่นๆอีกหลายนัด ไม่รู้ว่าไปตกที่ไหนบ้าง ก็แสดงว่ารัสเซียได้ทดสอบยิงไปแล้วสองยก
ดังนั้นเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.58) คราวนี้ไม่ใช่ซ้อมรบอีกแล้ว จัดของจริงให้เลย โดยเรือรบของรัสเซียที่อยู่ในทะเลแคสเปี่ยนได้ยิงขีปนาวุธนำวิถีน่าจะยิงจากน่านน้ำของอิหร่าน โค้งผ่านดินของอิหร่าน ข้ามอิรัค พอผ่านพรมแดนอิรัคเข้าซีเรียได้ก็วิ่งตรงลิ่วเข้าสู่เป้าหมายไอซิสในจังหวัด Idilb และ Hama ทันทีเลย ตู้มมมม!ๆๆๆๆ ประมาณ 10 ลูกอ่ะ ฉลองวันเกิดของปูตินครบรอบ 63 ปีพอดี เทียนวันเกิดปูตินมาแล้วครับไอซิส ช่วยเป่าเทียนวันเกิดให้ปูตินด้วยนะ คริๆ อเมริกาและพันธมิตร นั่งตาค้างอ้าปากหวอเลย อึ้งรัสเซียทำได้ไงอ่ะ? อิรัคที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯด้วยทำไมถึงไม่ยิงสะกัดหละ อิรัคบอกว่าตอนนี้เปลี่ยนข้างแล้วครับ ชอบแบบปูตินมากกว่า ถึงลูกถึงคนดี วันที่ 5 ต.ค.58
มีอีกข่าวหนึ่งครับ ตุรกีอยากลองของ ขอแก้มือที่วันก่อนถูกเครื่องบินรบ MiG-29 ของรัสเซียบินเฉียดเข้าไปในน่านฟ้าของตุรกีและก็ล็อกเป้าด้วยเรด้าร์พร้อมยิงขีปนาวุธใส่เครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีที่บินขึ้นมาสะกัดเครื่องบินรบของรัสเซีย เหลือแค่ขั้นตอนกดปุ่มยิงขีปนาวุธเท่านั้น ไม่ว่าเครื่องบินรบของตุรกีจะหลบไปไหนก็ไม่มีทางหนีพ้นได้เด็ดขาด แต่รัสเซียไม่ทำ ไม่กด แค่แหย่นักบินรบของตุรกีให้เหงื่อตกฉี่แทบราดเล่นๆเท่านั้น คริๆ
วันที่ 7 ต.ค.58 ตุรกีส่งเครื่องบินรบ F-16 ขึ้นสู่ท้องฟ้า กะว่าจะไปร่วมฉลองวันเกิดของปูตินที่ซีเรียหละมั๊ง เจอกองทัพซีเรือสั่งสอนซะ งานนี้ไม่หมูเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วนะน้อง Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ระบบป้องกันขีปนาวุธของซีเรีย ได้ก่อกวนเครื่องบินรบของตุรกี" (Syrian Missile Defense Systems 'Harass' Turkish Jets) (ฮึ!… ซีเรียทำอย่างนั้นได้ด้วยรึ?)
Sputnik news รายงานข่าวว่าเสนาธิการของตุรกีได้ออกมากล่าวหาเรด้าร์ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียเมื่อวันพุธนี้ว่า "ก่อกวน" (harassing) อากาศยานของตุรกี ตามชายแดนของตุรกีและซีเรีย (ฮั่นแน่... ตอนเจอกันกับ MiG-29 และ Su-30 ของรัสเซียวันก่อน พี่แกก็ใช้คำนี้แหละ "ก่อกวน/รบกวน")
ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียไปก่อกวนเครื่องบินรบของตุรกียังไงหรือครับ? แถลงการจากเสธนาธิการของตรุกีซึ่งอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันอังคารว่า "เครื่องบินรบ F-16 ของตุรกีจำนวน 8 ลำได้ทำการลาดตระเวนตามแนวชายแดนตุรกี-ซีเรีย ระหว่างปฏิบัติการนี้ เครื่องบินของพวกเราได้ถูกก่อกวนโดยระบบขีปนาวุธของซีเรียเป็นเวลา 30 วินาที"
วันก่อนเจอไปสองลำ วันนี้พาพวกมาอีก 6 เป็นแปดลำ กะว่างานนี้จะเล่นเครื่องบินรบของรัสเซียให้ร่วงในเขตแดนของตุรกีให้ได้ แล้วก็ป่าวร้องให้โลกได้เห็นว่านี่ไงรัสเซียรุกล้ำน่านฟ้าของตุรกีเอง ก็เลยเป็นแบบนี้ มีหลักฐานชัดเจน เสียใจครับ งานนี้ปูตินรู้ทันอ่ะ คริๆ รู้นะว่าตุรกีคิดอะไรอยู่ จริงๆแล้ว เป้าหมายของตุรกีก็คือ กะจะบินเข้าไปถล่มกองกำลังชาวเคิร์ดแถวชายแดนซีเรียต่างหากหละ ก็วันก่อนรัสเซียก็พึ่งจะเอาอาวุธทันสมัยระบบ radio-electronic warfare รุ่น Krasukha-4 มาลงข่าวหยกๆว่ามีประจำการอยู่ในซีเรียด้วย ตุรกีและนาโต้ยังคิดจะลองของอยู่อีกรึ? นั่นแค่เตือนเองนะครับ ถ้าเอาจริงหละก็ป่านนี้เครื่องบินรบของตุรกีอาจจะโหม่งโลกไปโดยไม่รู้สาเหตุก็ได้ ทำเป็นเล่นไป เออ… ชักจะชอบระบบนี้แล้วสินี่ เจ๋งอ่ะ ตอนนี้รัสเซียกำลังพัฒนาระบบใหม่แบบนี้แหละ แต่แรงกว่านี้อีกโดยบอกว่าเอาไว้สอยขีปนาวุธประเภท cruise missiles และ tactical and strategic aviation (พวกนิวเคลียร์) โดยเฉพาะเลย ฮู่ๆๆๆ
4.) วันที่ 8 ต.ค.58 Sputnik news ไม่อยากให้สหรัฐฯและพันธมิตรเสียเวลาค้นหาคำตอบว่ารัสเซียใช้ขีปนาวุธรุ่นไหนในการยิงถล่มไอซิสจากเรือรบในทะเลแคสเปี้ยนเมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมา Sputnik news ก็เลยพาดหัวข่าวแบบเย้ยสหรัฐฯนิดๆว่า "เฉลย…. ขีปนาวุธนำวิถีพิศัยไกลท้าทายระบบป้องกันของสหรัฐฯเป็นการเฉพาะนะจ๊ะ" (Russian Long-Range Cruise Missiles 'Particular Challenge' for US Defense) สไตล์ปูตินอ่ะ ไม่ต้องอ้อมค้อม บอกไปเลยว่า งานนี้รัสเซียพร้อมแล้วครับ ใครจะขอท้าชกบ้างก็เชิญได้เลยนะ
ตอนท้ายของรายงานข่าวบอกว่า รัสเซียได้สำแดงแสนยานุภาพของขีปนาวุธนำวิถีพิศัยไกล (long-range cruise missile) ในซีเรีย ซึ่งสามารถพึ่งเข้าชนเป้าหมายในระยะไกลถึง 1,500 กม. (932 ไมล์) จากเรือรบที่อยู่ในทะเลแคสเปี้ยนได้อย่างสบายๆ
Adm. William Gortney ผบ. NORAD (North American Aerospace Defense Command) ของสหรัฐฯกล่าวว่า "ความท้าทายที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้.... เป็นการบินพิศัยไกลของรัสเซีย (long-range aviation) และขีปนาวุธนำวิถีของรัสเซียที่คุกคามจากเรือดำน้ำ แพลตฟอร์มใต้ดิน (subsurface) และแพลตฟอร์มบนผิวดิน" (สรุปครบทั้งสี่อย่างเลยคือใต้ติน บนดิน ใต้น้ำ และอากาศ สหรัฐกลัวของพวกนี้ของรัสเซียทั้งนั้น แต่เลี่ยงไปใช้คำว่า อาวุธของรัสเซียเป็นภัยคุกคามแทน เป็นเทคนิคในการใช้คำพูดเชิงให้คนอื่นมองว่าตัวเองเป็นเหยื่อ ที่กำลังจะถูกรัสเซียรังแกซะงั้น ฮ่าๆๆ)
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
----------
US Congress Arms ISIL in Syria Via 'Moderate' Opposition - ex-CIA Officer
US Support for Syrian Rebels 'Dangerous' as Russia Conducts Airstrikes
Former DIA Chief: US Weapon Delivery to Opposition to Escalate Syria Crisis
Syrian Missile Defense Systems 'Harass' Turkish Jets
Russian Long-Range Cruise Missiles 'Particular Challenge' for US Defense
Russian Warships in Caspian Sea Launch Attack on ISIL in Syria
Russian Navy Ships to Practice Securing Shipping Lanes in Caspian Sea
Russia Preparing New EW System Against Cruise Missiles, Space Attacks
Jamming the Jihad: Russian Electronic Warfare Systems Spotted in Syria
https://www.rt.com/news/317068-russia-isis-islamic-syria

 

จากคำกล่าวของ แอชตัน คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ที่ว่า“เราได้เห็นพฤติกรรมที่ไม่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้นเรื่อย ๆ จากกองทัพรัสเซีย พวกเขาละเมิดน่านฟ้าตุรกี พวกเขายิงจรวดร่อนจากทะเลแคสเปียนโดยไม่แจ้งเตือนใด ๆ” แสดงให้เราเห็นว่า สหรัฐน่าจะจนตรอกแล้ว เพราะถ้ารัสเซีย แจ้งเตือนว่าจะยิงจรวดร่อนจากทะเลแคสเปียนให้สหรัฐ ทราบ IS คงเผ่นไปเรียบร้อยโดยไม่โดนระเบิด และอาจโดนเกณพ์ประชาชนที่บริสุทธ์ มารอรับลูกระเบิดแทน และถ้ารัสเซียไม่ละเมิดน่านฟ้าตุรกี เพียงไม่กี่วินาที จะสามารถกำหนดเขตห้ามบินเหนือซีเรียได้อย่างสมบูรณ์ไหม ไม่น่าเชื่อน่ะครับว่า คนระดับ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จะมีมุมมองในความคิด แบบนี้

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000113293

 

ผมว่า รัสเซียคงคิดว่าสูญเสียทางเศรษฐกิจกับตุรกี คงจะเป็นช่วงสั้นๆ แต่ยังดีกว่าการโดนตุรกีร่วมมือกับสหรัฐทำลายประเทศตนเองน่ะครับ ซึ่งนั่นคงโดนพวกเขาเหล่านั้นเหยียบไว้ตลอดไปน่ะครับ เท่าที่ทราบรัสเซียก็รอคำตอบจากตุรกีว่าจะเอนเอียงมาทางตนบ้างไหม แต่ตอนนี้ตุรกีแสดงจุดยืนว่าจะเข้าร่วมกับสหรัฐอย่างเต็มที่แล้ว เขาก็คงไม่แคร์อะไรกับตุรกีแล้วน่ะครับ

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000113191

 

สหรัฐมีสิทธิกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าประเทศซีเรียด้วยหรือ เรื่องดังกล่าวนี้ปูตินได้ประกาศ เขตห้ามบินสำหรับเครื่องบินของสหรัฐและนาโต้เหนือน่านฟ้าซีเรียแล้ว อเมริกา และนาโต้โจมตี IS แบบไหน ยิ่งโจมตี IS ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งุรกคืบหน้าเข้ายึดครองพื้นที่ของประเทศอิรัก และซีเรียได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่กับประเทศตุรกีไม่เห็นเข้าไปโจมตีเลย จำได้ไหมครับที่ผมนำข่าวที่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ้ไม่ให้เข้าไปในประเทศตุรกี

สหรัฐยังไม่ตัดสินใจ"เขตห้ามบิน"เหนือซีเรีย | เดลินิวส์

 

ภาพจาก Cr islamicstudiesth.com

 

ทำไปได้

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts



ตุรกีโดนเข้ากับตัวเองจนได้... เกิดเหตุระเบิดซ้อนกัน 2 ครั้งใกล้สถานีรถไฟในกรุงอังการา เบื้องต้นรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 30 ราย บาดเจ็บมากกว่า 100 คน เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลตุรกีกล่าวว่าเป็นการโจมตีจากผู้ก่อการร้ายด้วยระเบิด ฝ่ายตรวจสอบกล่าวว่าเป็นระเบิดพลีชีพ พยานในที่เกิดเหตุบอกว่าระเบิดทั้งสองครั้งเกิดขึ้นในกลุ่มผู้ประท้วงโดยสันติที่จัดขึ้นโดยสหภาพการค้า และ ngo จำนวนมากที่ประท้วงความขัดแย้งระหว่างรัฐกับกลุ่มหัวรุนแรงชาวเคิร์ด PKK ทางตะวันออกเฉียงใต้ของตุรกี ทางการยังไม่ยืนยันได้ว่าเป็นฝีของกลุ่มใดที่ก่อเหตุในครั้งนี้ และยังไม่มีกลุ่มออกมาแสดงความรับผิดชอบ

ภาพจาก © REUTERS/ Tumay Berkin

Two Explosions Rock Railway Station in Ankara, Many Casualties Reported

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts



นึกว่าจะแน่!... "สหรัฐฯเปลี่ยนเส้นทางการบินอากาศยานเพื่อหลีกเลี่ยงรัสเซียในซีเรียเป็นเรื่องที่น่าอับอายขายขี้หน้ามาก" - วุฒิสมาชิก McCain (Lord of War) กล่าว, โอบามาสั่งยุติโปรแกรมสนับสนุนกบฏซีเรียที่ล้มเหลวมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
-------------
วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "US Rerouting Aircraft to Avoid Russians in Syria 'Humiliating' - McCain" (อ้าว! วันก่อนยังเห็นคุยออกมาขู่รายวันตามสื่อฯกระบอกเสียของรัฐบาลสหรัฐฯอยู่เลยว่าสหรัฐฯจะไม่ถอย จะเดินหน้าสนับสนุนพวกกบฏซีเรียและสนับสนุนด้านอากาศด้วย เจอเฮียปูตินคำรามกระทืบเท้าวิ่งเข้าแค่นั้น ถึงกลับวิ่งหางจุกตูดไปเห่าอยู่ในบ้านซะงั้น หมดท่าเลยพระเอกหนังฮอลลิวูดของโปรอเมริกา คริๆ)
John McCain วุฒิสาชิกของสหรัฐฯให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่า "รายงานของเพนตาก้อนของสหรัฐฯที่เปลี่ยนแปลงเที่ยวบินเพื่อหลีกเลี่ยงอากาศยาน (เครื่องบินรบ) ของรัสเซียในซีเรียเป็นความอับอายขายหน้า (embarrassment)"
McCain กล่าวว่า "พวกเรา (สหรัฐฯ) ไม่อาจให้รัสเซียมาสั่งให้สหรัฐอเมริกาบินตรงไหนได้ (หรือไม่ได้) นั่นเป็นเรื่องที่น่าอับอาย นั่นคือความอัปยศ" ("We can’t be dictated by the Russians as to where the United States of American can fly airplanes. That is disgraceful. That is humiliating," McCain stated) (ตามสบายครับท่าน เอาอีกครับ... ด่าอีกสิครับท่าน คริๆ อันนี้สื่อฯรัสเซียไม่ได้เต้าข่าวขึ้นมาเองนะครับ สหรัฐฯเขาซัดกันเองนะ)
เมื่อวันพุธที่ผ่านมาเพนตากอนได้รายงานว่าสหรัฐฯได้ขยับเพื่อรักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากภารกิจด้านการบินของอากาศยานของรัสเซียในน่านฟ้าซีเรีย McCain กล่าวว่า สหรัฐฯควรจะ "ออกไปจาก" ประเทศนั้นซะเลย หากปฏิบัติการทั้งหมดของคุณ (สหรัฐฯ) ถูกออกคำสั่งโดยความเสี่ยง (ปอดแ...ก) ในการเผชิญหน้ากับรัสเซีย (ฮี่ๆๆ… ตาเฒ่าแม็คเคนพูดอะไรก็น่าจะช่วยรักษาหน้าโอบาม่าในฐานะผู้นำประเทศสหรัฐอเมริกาหน่อยนะ ถึงจะอยู่คนพรรคการเมืองแต่ก็แผ่นดินเดียวกันอยู่ไม่ใช่รึ? คริๆ)
รายงานข่าวบอกว่าตั้งแต่เริ่มต้นปฏิบัติการทางอากาศโจมตีเป้าหมายของไอซิสในซีเรียเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้โจมตีทางอากาศใส่เป้าหมายได้อย่างแม่ยำแล้วทั้งสิ้นถึง 110 แห่ง รายงานข่าวยังบอกอีกว่า เจ้าหน้าที่ทางกองทัพของสหรัฐฯและรัสเซียได้ตกลงที่จะทำงานร่วมกันเพื่อลดความขัดแย้งเหนือน่านฟ้าในซีเรีย เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบที่ไม่ได้เจตนาระหว่างเครื่องบินรบของทั้งสองประเทศ
ก็หมายความว่าสหรัฐฯถอยครับท่าน ถ้าไม่ถอยเครื่องบินรบและโดรนของสหรัฐฯก็จะล่วงในซีเรีย ตัวอย่างเช่น วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว FARS ของอิหร่านรายงานว่า กองทัพซีเรียยิงโดรนสายลับของข้าศึกตกในจังหวัด Lattakia รายงานข่าวบอกว่า โดรนสายลับนี้ควบคุมโดยกลุ่มก่อการร้ายที่บินเหนือชายฝั่งจังหวัด Lattakia นี่เขตของรัฐบาลซีเรียกับรัสเซียนะ กล้าเข้ามาแอบสืบข่าวถ้ำมองถึงด้านในเลยรึ? ยอากลองของว่าอย่างนั้นเถอะ มีหรือที่กองทัพซีเรียและรัสเซียจะปล่อยกลับออกไปได้ เล่นเอาเหล่าสปอนเซอร์กลุ่มก่อการร้ายเครียดไม่น้อยเลยนะนั่นหนะ
วันที่ 9 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวที่มีนัยว่าสหรัฐฯกำลังจะขาดเสียงสนับสนุนว่า "วุฒิสมาชิกได้เรียกร้องให้กรุงวอชิงตันปฏิเสธที่จะดำเนินปฏิบัติการใดๆในซีเรียอีกต่อไป" (Senator Urges Washington to Refuse Pursuing Any Further Operations in Syria)
วุฒิสมาชิก Chris Murphy ของสหรัฐฯกล่าวเมื่อวันศุกร์นี้ว่าเขาได้เตือนตั้งแต่เริ่มต้นแล้วว่าโปรแกรมการฝึก-และ-ติดอาวุธของสหรัฐฯ (ให้กลุ่มกบฏซีเรีย) เป็นการสร้างปัญหาที่ลึกลงไปกว่าเดิม
Chris Murphy กล่าวว่า "เป็นระยะเวลาเกือบสองปี ผมได้แสดงความกังวลใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของพรรคฝ่ายค้านซีเรียที่จะร่วมมือและสนับสนุนอาวุธของอเมริกันให้กับกลุ่ม Nusra [Front] ซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายอัลเคด้า" (ก็รัฐบาลสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียเขาต้องการให้เป็นอย่างนั้นอยู่แล้วไม่ใช่หรือครับท่านวุฒิสมาชิก?)
Chris Murphy กล่าวว่า "ผมได้เตือนฝ่ายบริหาร [ของโอบาม่า] เกี่ยวกับการฝักใฝ่การดำเนินการใดๆเพิ่มเติม หรือปฏิบัติการในทางลับใดๆเพื่อเข้าไปแทรกแซงในสงครามกลางเมืองในซีเรีย" และ Murphy ยังได้กล่าวอีกว่า การตัดสินใจของรัฐบาลโอบาม่าที่จะยุติโปรแกรมการฝึกและติดอาวุธ (ให้กับกลุ่มกบฏซีเรีย) มาจากการเปิดเผยข้อมูลที่ว่า "พวกกบฏซีเรียที่ฝึกโดยสหรัฐได้มอบอาวุธของสหรัฐฯให้กับกลุ่มก่อการร้าย Nusra Front" (ถ้าจะพูดตรงๆว่าโครงการหรือโปรแกมนี้เป็นการฝึกและติดอาวุธให้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสทั้งทางตรงและทางอ้อม ก็อาจจะทำให้ชื่อเสียงของประเทศสหรัฐอเมริกาย่อยยับยิ่งกว่านี้ สไตล์นักการเมืองเขาก็พูดอ้อมแบบนี้แหละ)
รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมานาย Richard Murphy เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำซีเรีย (คนละคนกับวุฒิสมาชิก Chris Murphy) ได้กล่าวกับสำนักข่าว Sputnik ว่ากลุ่มกบฏฝ่ายค้านบางกลุ่มต้องการที่จะโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัสซาดผู้นำของซีเรีย มากกว่าจะทำลายขบวนการก่อการร้ายไอซิส
วันที่ 9 ต.ค.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "รายงานข่าวบอกว่า รัฐบาลโอบาม่าได้ยุติโปรแกรมมูลค่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐฯที่สนับสนุนกลุ่มกบฏซีเรีย" (Obama administration ends $500mn program to train Syrian rebels – report) โดยอ้างคำพูดของ Ashton Carter รมว.กลาโหมของสหรัฐฯ คาดดว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯจะแถลงเรื่องนี้ในภายหลังในวันศุกร์ (แต่ท่าน รมว.กลาโหมแถลงก่อนปธน.ซะอีก ฮ่าๆๆ)
Carter กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเมื่อวันศุกร์ที่กรุงลอนดอนว่า "กรุงวอชิงตันได้มองหาหนทางที่จะปรับปรุงโปรแกรมนี้มาเป็นเวลาหลายสัปดาห์แล้ว" (เขาเลี่ยงที่จะใช้คำว่ากำลังจะคว่ำโปรแกรมนี้ โดยใช้คำพูดว่า "ปรับปรุง" แทน มันเป็นภาษานักการเมือง ต้องเข้าใจ คริๆ)
Carter กล่าวเพิ่มว่า เขา "ไม่ประทับใจกับความพยายามในช่วงต้นๆของโปรแกรมนี้ (ก็บอกไปตรงๆว่า ผิดหวัง/และล้มเหลว ไปเลยก็จบหละ ลีลาจริงๆ)" และว่ากรุงวอชิงตันกำลังมองหา "หนทางที่แตกต่างในการบรรลุวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์แบบเดียวกันนี้" (หมายความว่าจะยุติโครงการนี้ แต่จะใช้โครงการอื่นแทน แต่จุดยืนของสหรัฐฯก็คือสนับสนุนฝ่ายค้านให้โค่นล้มรัฐบาลอัสซาดที่มาจากการเลือกตั้งด้วยเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนชาวซีเรีย)
ในขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่เพนตาก้อนได้กล่าวกับหนังสือพิมพ์ The New York Times ของสหรัฐฯว่า การสรรหาสมาชิกที่เรียกว่า กบฏซีเรียสายกลาง (the recruitment of so-called moderate Syrian rebels) ที่จะเข้ารับการฝึกตามโปรแกรมดังกล่าวในจอร์แดน กาต้าร์ ซาอุดิอาระเบีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็จะสิ้นสุดลงด้วย (จะแน่ใจได้อย่างไรว่ากบฏพวกนั้นเป็นชาวซีเรียจริงๆ หรือทั้งหมดเลย จะไม่มีนักรบหรือทหารต่างชาติเข้าไปรวมอยู่ในกลุ่มกบฏสายกลางด้วย ถ้ามี ก็แสดงว่าสหรัฐฯกำลังส่งทหารต่างชาติในรูปแบบของกบฏให้เข้าไปเข่นฆ่าประชาชนชาวซีเรีย และทหารของรัฐบาลกลางซีเรียอยู่นะสิ กรรม!)
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
10/10/2558

ภาพจาก© AP Photo/ Matt York

----------
US Rerouting Aircraft to Avoid Russians in Syria 'Humiliating' - McCain
Senator Urges Washington to Refuse Pursuing Any Further Operations in Syria
Farsnews
https://www.rt.com/news/318107-obama-ends-syrian-rebels/
https://www.rt.com/usa/318054-ndaa-syria-isis-ukraine/
https://www.youtube.com/watch?v=eD8p-HioGbI

 

ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

สหรัฐฯเตรียมยกเลิกโปรแกรมฝึกกบฏซีเรีย

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/_8hkjUhJDKA" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://www.youtube.com/watch?v=_8hkjUhJDKA

ปฏิบัติการภาคพื้นของกองทัพซีเรียยิงถล่มไอซิสที่จังหวัด Hama

<iframe width="854" height="480" src="https://www.youtube.com/embed/AYAeegjhQWM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://www.youtube.com/watch?v=AYAeegjhQWM