ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    สงครามซีเรีย: รัสเซียเดินหน้าโจมตีทางอากาศถล่มที่มั่นของไอซิสในซีเรียไม่สนเสียงคัดค้านจากสหรัฐฯ (ตอนที่ 3/2)

    [​IMG]

    ------------
    6.) วันที่ 1 ต.ค.58 รายงานข่าวจาก Sputnik แจ้งว่า "สมาชิกสภายุโรปชาวฝรั่งเศสเชิญปูตินไปกล่าวปาฐกถาในรัฐสภายุโรป" (French MEP Invites Putin to Address European Parliament) (อุ๊แม่เจ้า! งานนี้ทั้งสหรัฐฯโปรอเมริกาเต้นเป็นผีเข้าแน่ๆ รับไม่ได้เด็ดขาด ทำไมฝรั่งเศสทำอย่างนี้ ก็สื่อฯของอเมริกาและตะวันตกส่วนใหญ่ต่างก็พากันโจมตีกล่าวหารัสเซียและปูตินด้วยกันทั้งนั้น แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับนักการเมืองชาวฝรั่งเศสหละนี่? ฮี่ๆๆ)
    รายงานข่าวบอกว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาสมาชิกสภายุโรปชาวฝรั่งเศสได้กล่าวว่า "มันจะเป็นอะไรที่เจ๋งมากๆ (absolutely wonderful) ถ้าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินจะมากล่าวปาฐกถาในสภายุโรปแห่งนี้" (ฮี่ๆๆ สะใจอ่ะ! Oopz!) (โปรอเมริกาที่ต่อต้านรัสเซียและปูตินรับไม่ได้กับข่าวนี้อ่ะดิ อย่าพากันยกพวกไปเผาหอไอเฟลเพื่อระบายความแค้นกับฝรั่งเศสหละ เดี๋ยวจะเป็นเศษกับมานะจะหาว่าไม่เตือน ที่ฝรั่งเศสเขาไม่ใจดีเรียกไปปรับทัศนคติในค่ายทหารเหมือนลุงตู่นะครับ เขายิงทิ้งเลย เพราะเขาถือว่าคุณอาจจะเป็นผู้ก่อการร้่ายไปทำลายสมบัติประจำชาติของเขาก็ได้ แต่ถ้าไปเล็มหญ้าแถวๆนั้นก็อาจจะได้อยู่นะ คริๆ)
    Nadine Morano พรรค UMP ของฝรั่งเศสกล่าวในไซด์ไลน์ของงานสัมนา International Parliamentary Forum ในกรุงมอสโคว์ว่า "เดี้ยนอยากจะเห็น Mr.Putin มาที่สภายุโรปเป็นอย่างยิ่ง และกล่าวปาฐกถาในที่นี่ มันจะเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมจริงๆ เพราะว่าพวกเราทุกคนอยากจะได้ยินเรื่องราวจากฝั่งของเขาบ้าง (I would love to see Mr. Putin coming to the European Parliament and making an address there. It would be really wonderful because we are all eager to hear his side of the story)"
    เท่านั้นแหละ... เป็นเรื่องเลยคราวนี้ วันที่ 3 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "พวกสมาชิกรัฐสภาอียูหวาดกลัวในการออกเสียงสนับสนุนการเจรจากับรัสเซีย" (EU Parliament Members Afraid to Voice Support for Dialogue With Russia) (ฮ่าๆๆ... อียูนี่ยังไงกันนะ? พวกหนึ่งอยากให้ปูตินเดินทางไปกล่าวปฐกถาในสภาอียู ส่วนอีกพวกเราเห็นปูตินเห็นเหมือนแวมพายร์เห็นแสงแดดอย่างนั้นแหละ ปูตินนี่น่ากลัวขนาดนั้นเลยหรือในสายตาของนักการเมืองยุโรปบางคน ไม่ใช่ ที่เขากลัวหนะคือกลัวจอมอันธพาลโลกจักรวรรดิเฮเกจะไปหาเรื่องกลั่นแกล้งเขาต่างหากเล่า)
    Elisabetta Gardini นักการเมืองสมาชิกรัฐสภายุโรปชาวอิตาลีซึ่งเป็นสมาชิกของกลุ่ม "เพื่อการเจรจารอบใหม่กับรัสเซีย" (For New Dialogue With Russia) กล่าวว่า พวกสมาชิกรัฐสภายุโรปหลายคนต่างหวาดกลัวที่จะออกเสียงแสดงมุมมองของพวกเขาและสนับสนุนอย่างเปิดเผยว่าพวกเขาสนับสนุนการเจรจากับรัสเซีย
    Elisabetta Gardini กล่าวว่า "เราสนับสนุนแนวความคิดริเริ่มของกลุ่มนี้ เนื่องจาก อย่างที่คุณอาจจะรู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องมีความกล้าที่จะส่งเสียงต่อจุดยืนในลักษณะนี้ในสภายุโรป หากพวกเรา ไม่สนับสนุนการแซงชั่นต่อต้านรัสเซีย พวกเราก็จะจบเห่ในแบล็กลิสต์แน่นอน (ว้าวววว! การเมืองระดับโลกเขาเล่นกันแรงมากนะนี่ ใครไม่เห็นด้วย เป็นได้เจอใบเหลือง ใบแดงแน่ อาจจะหมดอนาคตทางการเมืองหรือหายนะไปเยือนได้ง่ายๆ ก็ไหนว่าเป็นประชาธิปไตย รับฟังความเห็นต่างอย่างไรเล่า แน่นอนว่าถ้าใครมีความเห็นต่างจากจักรวรรดิเฮเกได้เจอดีแน่ นั่นแหละประชาธิปไตยสไตล์ตะวันตกของจริงเลยหละ)" Elisabetta Gardini กล่าวต่ออีกว่า "นี่เป็นสถานการณ์ที่แปลก (odd) สำหรับหลายคนที่ต่างก็หวาดกลัวที่จพูดออกมา และพวกเราก็ไม่มั่นใจด้วยว่าใครจะเห็นด้วยกับเราบ้าง (see eye to eye) หรือว่าใครไม่เห็นด้วย" (โอ้… ช่างน่าเห็นใจนักการเมืองในระบบประชาธิปไตยของยุโรปจริงๆ ก็ไหนว่าเป็นประชาธิปไตยแล้วมีเสรีภาพยังไงเล่า แล้วทำไมนักการเมืองอียูถูกพูดแบบนั้น) (โปรอเมริกาอาจจะบอกว่าสื่อฯรัสเซียโกหก... ฮึ่มเขาโพสต์ขึ้นในอินเตอร์เผยแพร่ขนาดนี้นี่นะ ไม่เห็นว่าเจ้าตัวเจ้าของคำพูดจะออกมาประท้วงหรือปฏิเสธเลยนี่ว่าสื่อฯรัสเซียพูดไม่จริง ก็พวกเขากลัวปูตินไงเล่า ฮ่าๆๆ)
    7.) ไปฟังเสียงจากสื่อฯของเยอรมันนีบ้าง เดี๋ยวโปรอเมริกาจะหาว่าเราลำเอียงนำเสนอแต่ข่าวจากสื่อรัสเซียฝ่ายเดียว วันที่ 2 ต.ค.58 รายงานข่าวจาก Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินรบของรัสเซียในซีเรียโจมตีอีโก้ของสหรัฐฯ - หนังสือพิมพ์เยอรมันนีกล่าว" (Russian Aircraft in Syria “Attacks” US Ego – German Newspaper) ฮ่าๆๆ... อันนี้สื่อฯรัสเซียไม่ได้เขียนเองนะครับ สื่อฯรัสเซียเอาข่าวมาจากสื่อฯตะวันตกอย่างเยอรมันนีเลยนะ แล้วก็อย่ามากล่าวหาว่าเพจนี้นำเสนอแต่ข่าวจากสื่อฯรัสเซียฝ่ายเดียวอีกหละ
    สื่อฯรัสเซียอ้างรายงานข่าวจากหนังสือพิมพ์ Handelsblatt ของเยอรมันนีว่า "การโจมตีที่เด็ดขาดของรัสเซียใส่ตำที่มั่นของผู้ก่อการร้ายไอซิสในซีเรียเปรียบเทียบกับความเฉื่อยชาของสหรัฐฯเป็นเวลาถึง 4 ปี เท่ากับเป็นการโจมตีชื่อเสียงของสหรัฐฯไปเลยทีเดียว (Russia’s decisive attack on ISIL positions in Syria compared to four years of US inertness, has dealt a blow to the reputation of the United States)"
    หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียได้สร้างความเสียหายให้กับความภาคภูมิใจของรัฐบาลสหรัฐฯและเหล่าพันธมิตรของสหรัฐฯด้วย ในขณะที่มีการดำเนินปฏิบัติการทางทหารอย่างมีประสิทธิภาพไม่มากก็น้อยในซีเรีย (โอ้… นึกว่าสื่อฯรัสเซียแรงแล้วนะ เจอสื่อฯเยอรมันแรงยิ่งกว่าอีกอ่ะ สำบัดสำนวนนี่สุดยอดทั้งนั้น "ปูตินได้สร้างความเสียหาย (/ทำลาย) ความภาคภูมิใจของสหรัฐฯ..." ตรงนี้ที่เจ็บ คำถามก็มีอยู่ว่าอะไรหรือที่ว่าเป็นความภาคภูมิใจของสหรัฐฯในซีเซียที่ถูกปูตินทำลายไปหนะ? ก็ปูตินเขาบอกว่าเขาต้องการที่จะทำลายผู้ก่อการร้ายไอซิส! ถ้าสิ่งที่ปูตินทำลายไปในซีเรียเป็นความภาคภูมิของสหรัฐฯและพันธมิตรตามที่สื่อฯเยอรมันพูดถึง ถ้าอย่างนั้นก็อาจจะสรุปได้ว่า "ไอซิส" คือความภาคภูมิใจของสหรัฐฯและพันธมิตรหละสิ เป็นไงเล่าลีลาหยดปากกาของสื่อฯเยอรมัน จะโทษแอ็ดมินไม่ได้นะ เพราะโปรอเมริกาเรียกร้องให้แอ็ดมินหาข่าวมาจากแหล่งอื่นบ้าง แอ็ดมินก็จัดให้แล้วนครับ อย่าหยิกเล็บตัวเองอีกหละ พอหละสงสารโปรอเมริกา ถ้าแปลมากกว่านี้เดี๋ยวโปรอเมริกาที่มาส่องเพจนี้จะหัวใจวายตายซะก่อน คริๆ)
    8.) วันที่ 3 ต.ค.58 รายงานข่าวบอกว่าปธน. Recep Tayyip Erdogan ของตุรกีกำลังวางแผนจะเจรจากับปธน.วลาดิมีร์ ปูตินเกี่ยวกับการโจมตีทางอากาศในซีเรีย Erdogan ให้สำภาษณ์กับสำนักข่าว Al Jazeera ว่า "ผมจะไปพบกับปูตินเพื่อหารือกันเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย และแสดงความกังวลของผมต่อเรื่องนี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศของพวกเราต่างก็เป็นเพื่อนกัน ผมจะขอให้เขาพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับปฏิบัติการของรัสเซียในซีเรีย" (ก็พึ่งจะเจอกันหยกๆตอนเปิดมหาวิหารมัสยิดหลวงกรุงมอสโคว์เมื่อสัปดาห์ก่อน ก่อนที่ปูตินจะสั่งโจมตีไอซิสในซีเรียเองไม่ใช่รึ? วันก่อนตุรกีทำเป็นออกแถลงการร่วมกับหลายประเทศไม่เห็นด้วยกับรัสเซียที่ไปโจมตีไอซิสในซีเรีย สหรัฐฯใช้ตุรกีเป็นสถานที่ฝึกพวกกบฏสายกลางเพื่อส่งเข้าไปต่อสู้กับรัฐบาลซีเรีย แต่แปลงร่างแปรพักตร์ไปเข้ากับกลุ่มก่อการร้าย al-Nusra Front ซะงั้น ก่อนหน้านี้ปูตินก็ได้โทรคุยกับเหล่าสปอนเซอร์รายใหญ่ของกบฏเหล่านั้นมาแล้วเช่น ตุรกี อิสราเอล ซาอุดิอาระเบีย กาต้าร์ ให้ถอนตัวออกซะเพราะว่างานนี้ปูตินจะเก็บกวาดซีเรียให้เรียบร้อยสะอาดปราศจากผู้ก่อการร้ายอีกต่อไป ในขณะเดียวกันโครงการท่อแก๊สระหว่างรัสเซีย ตุรกีและกรีซก็ยังคงเดินหน้าต่อไป รัสเซียก็แค่ขอให้พวกสปอนเซอร์เหล่านี้วางมือจากเกมสกปรกนี้ซะ เลิกขโมยน้ำมันเถื่อนของซีเรียซึ่งเป็นเพื่อนบ้างไปขายโดยอาศัยไอซิสและกบฏเป็นเครื่องมือก็เท่านั้นเอง รัสเซียจะไม่จุกจิกตามเอาความในเรื่องอื่นๆ ขอแค่หยุดให้การสนับสนุนเหล่ากบฏและกลุ่มก่อการร้ายไอซิสเหล่านั้น ถ้าสปอนเซอร์เหล่านั้นไม่ยอมหยุด งั้นก็คงต้องเจอของแข็งกันบ้างหละ)
    9.) แล้วทางสหรัฐฯและนาโต้เคลื่อนไหวอย่างไรบ้าง? งานนี้ไม่ธรรมดาซะแล้วครับท่าน สหรัฐฯและนาโต้บอกว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องลูกน้องตัวเองในซีเรีย ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ปฏิบัติการซ้อมรบทหาร Trident Juncture 2015 ของนาโต้เริ่มขึ้นในวันเสาร์นี้" (Trident Juncture 2015 NATO Military Exercises Kick Off Saturday) บางคนอาจจะมองว่าก็เป็นเรื่องปรกตินี่เขาก็ซ้อมรบกันอยู่เรื่อยๆ
    รายงานข่าวบอกว่าการซ้อมรบของนาโต้ในครั้งนี้เป็นการซ้อมรับครั้งใหญ่สุดในรอบ 13 ปี มีประเทศต่างเข้าร่วมด้วยถึง 30 ประเทศ (นาโต้มีสมาชิก 28 ประเทศ) การซ้อมรบจะจัดขึ้นที่ยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก (นั่นไง... สนามหญ้าหน้าบ้านของรัสเซียชัดๆเลย) มหาสมุทรแอ็ดแลนติก แคนาดา บางสำนักข่าวบอกว่าจะจัดที่เนเธอร์แลนด์ บรัสเซสส์ (เบลเยี่ยม) และเยอรมันนีด้วย และที่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ระหว่างวันที่ 3 ตุลาคม ถึง 6 พฤศจิกายน 2558 (1 เดือนกับ 3 วัน) มีทหารเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 36,000 นาย ตอนนี้เรือรบของรัสเซียกำลังซ้อมรบอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนใกล้ชายฝั่งซีเรียเช่นกัน เป็นเรื่องสิครับท่าน (ไม่มีอะไรหรอก คงจะไม่บังเอิญยิงขีปนาวุธใส่กันหรือขับเครื่องบินรบไล่บี้กันกับฝ่ายรัสเซียแถวนั้นหรอกมั๊ง ปรอบใจตัวเองไว้นะ) แบบนี้ถ้าไม่เรียกว่ายั่วยุจะให้เรียกว่าอะไรอีกหละ อีกจุดหนึ่งที่ไปจัดที่เยอรมันก็คือ พักนี้เยอรมันและกรุงบรัสเซลส์เริ่มตีตัวออกห่างจากสหรัฐฯและหันไปสวีตกับรัสเซียมากขึ้นด้วย ล่าสุดป้าแมร์เกิ้ลออกมายอมรับแล้วว่าไคร์เมียเป็นของรัสเซีย ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ต่างก็พากันประท้วงและแซงชั่นรัสเซียไม่ยอมรับว่าไคร์เมียเป็นของรัสเซียตามคำสั่งของจักรวรรดิเฮเกโมนี่
    10.) ข่าวบันเทิง: รายงานข่าวล่าสุดจาก Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "อเมริกาจะไม่ใจดีกับคอมมิวนิสต์โอบาม่า - สื่อฯอเมริกากล่าว" (America Will Never Be Great With Communist Obama – US Media) อึ้ยยยย! ไม่จริงมั๊ง สื่อฯรัสเซียกล่าวหาใส่ร้ายผู้ประเทศประชาธิปไตยเบอร์หนึ่งของโลกได้อย่างไร?
    ฮ่าๆๆ! รายงานข่าวจากสื่อฯรัสเซียบอกว่า "Todd Wood (ชื่อเหมือนชาวอเมริกันเลยนะ? คริๆ) เขียนไว้ในเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์ Washington Times (ของรัสเซียมั๊ง?) ว่ารัฐบาลโอบาม่าไม่เพียงแต่จำกัดเสรีภาพของประเทศชาติในลักษณะเหมือนโซเวียตมากๆเท่านั้น แต่ยังจะทำทุกอย่างเพื่อลดอิทธิพลของสหรัฐฯในเวทีระหว่างประเทศอีกด้วย" (กรรมหละสิโปรอเมริกาครับ! ชาวอเมริกันมองว่ารัฐบาลของนายโอบาม่าเป็นคอมมิวนิสต์ซะงั้น)
    นโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯ - ที่เกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน หรือถอนทหาร (ของสหรัฐฯ) ออกจากตะวันออกกลาง หรือการสู้รบแบบปลอมๆกับพวกไอซิส (artificial fight with ISIL) - นั้นเพียงเพราะมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำหให้อิทธิพลในต่างประเทศของสหรัฐฯอ่อนแอลง Wood เชื่อว่า โอบาม่่าไม่รักอเมริกา และการคาดการณ์ของเขา (โอบาม่า) เกี่ยวกับอนาคตของประเทศนี้เป็นอะไรที่ค่อนข้างมืดมน
    Wood เขียนเอาไว้ว่า "อเมริกาจะไม่มีโอกาสได้เป็นชาติที่ยิ่งใหญ่อีกต่อไป จนกว่าพวกเราจะรื้นฟื้นจุดศูนย์รวมนี้ ความรักนี้ ความรักในเสรีภาพ (ที่จะรุกรานประเทศอื่น?) และเจตจำนงค์ที่จะแพร่ขยายออกไป สนับสนุนมัน บำรุงมันในต่างประเทศ" หมอนี่ท่าจะอาการหนัก ก็ต้องยอมรับว่านี่เป็นผลผลิตจากการคลั่งลัทธิประชาธิปไตยเกินเหตุ โอบาม่าคงจะภาคภูมิใจกับพลเมืองของตัวเองที่มีแนวความคิดรักชาติในลักษณะของการรุกรานชาติอื่นที่มองว่าเป็นเรื่องของเสรีภาพแบบนั้นนะ กรรม!
    11.) ข่าวล่ามาแรง วันที่ 3 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news แกล้งพาดหัวข่าวให้ฝรั่งตกใจเล่นว่า "แยกแผ่นดินใหม่: กองทัพเรือของจีนออกทัวร์กลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย" (Breaking New Ground: China's Navy Tours Scandinavian Countries)
    รายงานข่าวบอกว่า เรือรบจำนวน 3 ลำของกองทัพเรือจีน (People’s Liberation Army Navy - PLAN) เรือพิฆาตขีปนาวุธหนึ่งลำ, เรือฟริเกตติดตั้งขีปนาวุธหนึ่งลำ และเรือส่งกำลังเสริม (replenishment ship) อีกหนึ่งลำได้เดินทางไปเยี่ยมเดนมาร์ก ฟินแลนด์และสวีเดน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ในฐานะเป็น "การเยือนด้วยเจตนาดี" (goodwill visits)
    รายงานข่าวบอกว่า กองเรือรบสมัยใหม่ของจีนจะเข้าเยี่ยมยุโรปเหนือ และแสดงให้เห็นถึงความสามารถทางด้านเทคนิคที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันจีนก็มีความสนใจในภูมิภาคอาร์ติกด้วย ขบวนเรือเหล่านี้เป็นกองเรือที่ 152 ของกองทัพเรือจีนซึ่งอยู่ในภารกิจ "การเดินทางรอบโลก" (round-the-globe voyage) หลังจากหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการละเมิดลิขสิทธิ์ในอ่าว Aden ในระหว่างที่เดินทางกลับบ้านนี้ กองทัพเรือจีนจะแวะเยี่ยมกลุ่มประเทศสแกดิเนเวียด้วย
    นี่หละมั๊งที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีกองทัพเรือของจีนออกจากคลองสุเอซในอียิปต์ที่สื่อฯหลายสำนักเล่นข่าวว่ามีเรือบรรทุกเครื่องบินของจีนมุ่งหน้ามาช่วยรัสเซีย แต่ต่อมาจีนออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าวว่าไม่เป็นความจริง ความจริงก็คือเรือชุดนี้ต่างหาก และข่าวนี้สื่อฯจีนก็ลงข่าวตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาแล้ว มีการพบปะกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเดนมาร์กด้วย แต่ที่น่าสนใจก็คือจีนมีกำหนดการล่วงหน้าแล้วว่าจะไปเยือนยุโรป แต่นาโต้กลับพึ่งประกาศซ้อมรบใหญ่หลายแห่ง ซึ่งรวมทั้งแถวทะเลเมดิเตอร์เรเนียซึ่งกองเรือของจีนจะต้องเดินทางผ่านไปด้วย และไปซ้อมรบที่นอร์เวย์ซึ่งก็ไม่ไกลจากจุดหมายปลายทางของกองเรือรบของจีนเช่นกัน ว้าววว! มันช่างบัญเอิญกันอะไรขนาดนี้
    12.) ล่าสุด… 3 ต.ค.58 Sputnik news รายงานข่าวว่า กลุ่มหัวรุนแรงผู้ก่อการร้ายชาวซีเรียจำนวน 450 คน และอาชญากรอีก 250 คนที่เป็นที่ต้องการตัวโดยรัฐบาลซีเรียได้วางอาวุธและยอมกลับไปสู่ชีวิตที่สันติแล้ว รายงานข่าวบอกว่ากลุ่มติดอาวุธและอาชญากรประมาณ 700 กว่าคนยอมเข้ามอบตัวให้กับทางการท้องถิ่นในเขตปกครองจังหวัด Daraa ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนของประเทศจอร์แดนเมื่อสองวันก่อน รายงานข่าวโดยสำนักข่าว Arab News Agency Sana แห่งชาติของซีเรีย
    เป็นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก สหรัฐฯและพันธมิตรปราบอยู่ตั้ง 1 ปีกว่า แต่ไม่มีใครมอบตัวให้กับรัฐบาลและกองทัพของซีเรียเลย ปูตินเข้าไปจัดการแค่ 3 วัน มีผู้ก่อการร้ายตายเพียบ พวกที่ยังไม่อยากตายตามไปด้วยก็รีบพากันมอบตัวให้กับทางการตั้งหลายร้อยคนเฉยเลย งานนี้ไม่รู้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะเอาไปซุกไว้ตรงไหนแล้วหละครับท่าน
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    04/10/2558

    ภาพจาก © Sputnik/ Igor Russak

    ----------
    Russia Air Force Destroys ISIL Command Center, Underground Depot Near Raqqa
    Russian Bombers Use Satellite-Guided Missiles for High Precision (VIDEO)
    Russian Aviation Hits Over 50 ISIL Facilities in Syria With 60 Flights
    Russian Bombers Use Satellite-Guided Missiles for High Precision (VIDEO)
    US Senators Urge Carter, Kerry to End Train-and Equip-Program in Syria
    Iraqi Prime Minister Says Open to Russian Airstrikes Against Islamic State
    ISIL Militants Moving Families to Iraq Amid Russian Airstrikes in Syria
    Russian anti-terror op in Syria — RT News
    EU Parliament Members Afraid to Voice Support for Dialogue With Russia
    Russian Aircraft in Syria “Attacks” US Ego – German Newspaper
    French MEP Invites Putin to Address European Parliament
    Russia Seeks to Strengthen Lebanese Army to Fight ISIL
    Erdogan Intends to Discuss Russian Military Operation in Syria With Putin
    America Will Never Be Great With Communist Obama – US Media
    Finally the Penny Drops: Merkel Admits Crimea is Part of Russia
    Breaking New Ground: China's Navy Tours Scandinavian Countries
    Trident Juncture 2015 NATO Military Exercises Kick Off Saturday
    Syrian Militants Surrender in Droves to Daraa Governorate
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เชชเนีย ประกาศความพร้อมในการส่งกองกำลังไปยังซีเรีย
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 3, 2015

    [​IMG]

    presstv – ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐปกครองตนเองเชชเนียประกาศความพร้อมที่จะส่งกองกำลังไปยังซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย

    สำนักข่าว ซานา ของซีเรีย เผยว่า รอมฏอน คูดาเยฟ แห่งเชชเนียประกาศพร้อมที่จะส่งกองกำลังไปยังซีเรียเพื่อทำลายกลุ่มก่อการร้าย

    sputniknews รายงานว่า คุดาเยฟ เผยว่า ในปี 1999 เชชเนียต้องเผชิญกับความเลวร้ายจากกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้ แต่ประชาชนของเชชเนีย ต่างให้การสาบานตน ว่า จะต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายผู้ชั่วช้าเหล่านี้ให้ถึงที่สุด ไม่ว่าเขาจะปรากฏตัวในสถานที่ใดก็ตาม

    เขากล่าวเสริมว่า “เราจะขออนุญาตในการส่งกองกำลังไปยังประเทศซีเรียและขอมีส่วนร่วมในการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้าย. ”

    เขากล่าวเสริมว่า การตัดสินใจในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับปูติน ประธานาธิบดีของรัสเซีย และทางเรามีความพร้อมอยู่เสมอในส่งกองกำลังไปยังซีเรีย

    คุดาเยฟ ได้ออกมาแสดงความพร้อม หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากโจมตีกลุ่มก่อการร้ายในซีเรีย เมื่อวันพุธที่ผ่านมา



    PressTV-چچن برای اعزام نیرو به سوریه اعلام آمادگی کرد


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    เชชเนีย ประกาศความพร้อมในการส่งกองกำลังไปยังซีเรีย | abnewstoday
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำความเข้าใจ “ขบวนการปฏิวัติอิสลาม”
    จิตวิญญาณแห่งการปฏิวัติปี 2011 ยังคงลุกไหม้อยู่ในบาห์เรน, เยเมน และที่อื่นๆ ถึงแม้ว่ามันจะถูกทำลายไปในอียิปต์ โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 2, 2015

    [​IMG]

    นับตั้งแต่การล่มสลายของระบอบการปกครองของสุลต่านแห่งออตโตมานเมื่อสิ้นสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ดินแดนตะวันออกของมุสลิมและแอฟริกาเหนือ หรือ MENA (Muslim East and North Africa region) ก็ไม่เคยได้พบเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงบนแผนที่ทางศาสนา, สังคม, เศรษฐกิจ และการเมือง อาจจะจริงที่มันเกิดมาจากการจลาจลต่อต้านและประณามผู้มีอำนาจในเวลานั้น ขบวนการนี้ ที่มหาอำนาจตะวันตกชอบเรียกกันว่าเป็นปรากฏการณ์ “อาหรับสปริง” มักจะถูกมองจากแง่มุมของอาณานิคมใหม่อยู่บ่อยครั้ง ด้วยเหตุนี้จึงเป็นการจำกัดทั้งการกล่าวถึงและการทำความเข้าใจกับสิ่งที่ควรจะอธิบายว่าเป็นขบวนการสร้างความตื่นตัวหรือการฟื้นฟูมากกว่า

    ขบวนการประชาชนโดยเนื้อแท้ เหตุการณ์ในปี 2011 ที่ได้เห็นประชาชนลุกขึ้นต่อต้านระบอบการปกครองที่ได้รับการหนุนหลังจากตะวันตกและได้รับการอุ้มชูจากซาอุดี้ฯ มันเป็นมากกว่าแค่การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงเป็นระบอบประชาธิปไตยและเรียกร้องความยุติธรรมทางสังคม แต่ในปี 2011 เราไม่ได้เห็นการถือกำเนิดขึ้นของอุดมการณ์รวมอาหรับรูปแบบใหม่ตามที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนได้กล่าวไว้ภายหลังการโค่นล้มอดีตผู้นำเผด็จการฮุสนี มุบารัก ของอียิปต์ แต่ได้เห็นการปฏิเสธลัทธิจักรวรรดินิยมของตะวันตกแทน

    เมื่อเป็นอิสระจากการบีบบังคับของอุดมการณ์ทางการเมืองและความเชื่อทางศาสนา (องค์ประกอบเหล่านั้นได้ถูกจัดให้เป็นช่องทางในการกดขี่รวมทั้งเป็นความชอบธรรมสำหรับความรุนแรง) ขบวนการในปี 2011 จึงเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัยแห่งการฟื้นฟู, การตื่นตัว หรือยุคของประชาชนหลังจากหลายศตวรรษแห่งการตกเป็นทาส

    และถึงแม้ว่าเปลวไฟแห่งการปฏิวัติของ MENA จะผ่านพบมาทุกอย่างแล้วนอกจากการดับมอด จิตวิญญาณของมันยังคงสังเกตเห็นได้ดีที่สุดในเยเมนและบาห์เรน ที่ซึ่งการต้านทานของประชาชนมีความรุนแรงและแข็งข้อมากที่สุดในการปฏิเสธไม่ยอมก้มหัวให้กับการกดขี่ที่รุนแรงขึ้น ทั้งระดับภูมิภาคและระดับนานาชาติ

    เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการส่วนใหญ่ยังคงยึดติดกับกระบวนทัศน์แบบตะวันตกเมื่อทำการศึกษาเหตุการณ์ในปี 2011 โครงสร้างของเรื่องนี้จึงมีความเอนเอียงและมีจุดบกพร่อง จึงทำให้ไม่สามารถเข้าใจได้อย่างถูกต้องถึงธรรมชาติและลักษณะของความเปลี่ยนแปลงนี้ที่จะกวาดล้าง “โลกเก่า” ออกไป ความเป็นคู่ที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญได้กล่าวถึง (สังคมแบบดั้งเดิมกับสังคมภาคประชาชน และศาสนากับโลกวิสัย) เป็นการแสดงออกของลัทธิจักรวรรดิ์นิยมตะวันตกอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฝ่ายโลกวิสัยและสังคมภาคประชาชนถูกใช้ประโยชน์ในฐานะเป็นเครื่องมือของการปราบปรามและทำให้ตกเป็นทาสโดยระบอบการปกครองแบบจักรวรรดิ์

    การแยกขั้วกันจริงคือการแยกระหว่างประชาชนแห่ง MENA กับมหาอำนาจตะวันตกที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลหุ่นเชิดของพวกเขา เช่น ซาอุดิอารเบีย ถ้าอิสลามจะพบว่าตัวเองอยู่ท่ามกลางพายุ มันก็เป็นเพราะว่าหลักการศาสนาของมัน ที่มุสลิมใน MENA ยังคงรักษาไว้อย่างเข้มแข็ง ได้ยืนหยัดท้าทายต่อวาระพวกโลกานิยม (globalist)

    อิสลามเป็นศาสนาที่ประกาศความเป็นศัตรูกับสังคมตะวันตกมากกว่าศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียวอื่นๆ ซึ่งตอนนี้กลุ่มโลกวิสัยและอเทวนิยมได้กลายเป็นรากฐานใหม่ของความเชื่อของพวกโลกานิยมที่ปรากฏต่อสายตาเรา แน่นอน บทบาทที่ลัทธิวะฮาบีเล่นอยู่ด้วยการนำเสนอุดมการณ์หัวรุนแรงที่ชั่วร้ายจำเป็นที่จะต้องถูกจัดให้เป็นเครื่องมืออีกชิ้นหนึ่งของลัทธิโลกานิยมที่จะแตกย่อยภูมิภาคนี้

    ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจะปฏิเสธไม่ยอมมองให้เห็นอิทธิพลของการปฏิวัติอิสลามของอิหร่านเมื่อปี 1979 ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี 2011 แต่มันก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเพียงไม่กี่ทศวรรษต่อมา การต่อสู้เพื่อการตัดสินใจทางการเมืองด้วยตนเองของอิหร่านได้สะท้อนเสียงก้องลึกอยู่ในดินแดนแห่ง MENA มีความคู่ขนานกันอย่างปฏิเสธไม่ได้ระหว่างเหตุการณ์ปัจจุบันนี้กับความเปลี่ยนแปลงทิ่หร่านได้ผ่านพ้นมาเมื่อครั้งที่มันได้ถอดถอนชาห์ที่ตะวันตกแต่งตั้งและหนุนหลังอยู่ เพื่อให้รูปแบบทางการเมืองจากการเลือกของมันเองที่มีความสอดคล้องกันกับสังคมและประเพณีทางศาสนาของมันเข้ามาแทนที่

    เมื่อการปฏิวัติอิสลามปี 1979 ยังมีความต่อเนื่องเรื่อยมา การลุกฮือในปี 2011 ก็อาจจะถูกจดจำในฐานะที่เป็นการปลดปล่อยครั้งยิ่งใหญ่ของประชาชนอาหรับ ระหว่างแนวคิดรวมชาติอาหรับของประธานาธิบดีจามาล อับดุล นาซิร และวิลายะฮ์อิสลามของอิหม่ามโคมัยนี ประชาชนในดินแดน MENA กำลังสลายรูปแบบเก่าๆ ของตะวันตก เพื่อที่จะพยายามสถาปนารูปแบบของพวกเขาเองที่มีพื้นฐานอยู่บนหลักคำสอนของอิสลาม พวกเขาผูกพันกันด้วยการต่อสู้แบบเดียวกันกับการกดขี่และกลั่นแกล้งจากปีศาจร้ายตัวเดียวกัน นั่นก็คือ กลุ่มหัวรุนแรง ประชาชนในภูมิภาคนี้กำลังเรียนรู้ที่จะเคลื่อนไปด้วยกันท่ามกลางความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่เพิ่งพบใหม่นี้ อย่างช้าๆ และได้ประจักษ์ว่าพวกเขาไม่จำเป็นต้องยืนอย่างโดดเดี่ยว และพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว

    ขบวนการต้านทานที่กระจัดกระจายกันก่อนหน้านี้ ประกายไฟที่ถูกสร้างขึ้นผ่านช่วงเวลาหลายทศวรรษเพื่อต่อต้านการสั่งการของตะวันตกนี้ มีพื้นที่มากขึ้นกว่าที่มหาอำนาจตะวันตกจะเคยใส่ใจยอมรับ จนตอนนี้ได้เปลี่ยนจากชนกลุ่มน้อยมาเป็นคนส่วนใหญ่แล้ว จากลิเบียถึงซีเรีย และจากอิรักถึงบาห์เรน ประชาชนได้สัมผัสแล้วว่าจำเป็นต้องมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในส่วนของพวกเขา และจะไม่เป็นตามวาทกรรมของนักการเมืองที่ตะวันตกหนุนหลังอีกต่อไปแล้ว และที่ใดที่ได้เกิดปรากฏการณ์ “อาหรับสปริง” ขึ้นเพื่อประกาศการยึดครองของดินแดนตะวันออกของมุสลิม และการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลของมัน พายุแห่งการปฏิวัติที่กำลังมาถึงนี้จะไม่ยอมทนทุกข์และไม่ยอมรับการอุปถัมภ์ของต่างชาติ

    ยังคงมีความแข็งแกร่งที่ยังไม่ได้ถูกใช้ในมรดกแห่งอิสลามของอารเบีย ในนั้นประชาชนมีส่วนร่วมในประวัติศาสตร์แห่งความมั่งคั่งทางปัญญาและจิตวิญญาณที่ไร้ขอบเขตที่ถักทอขึ้นโดยรอบความศรัทธาที่ไม่ยอมแบ่งแยก และยอมรับความหลากหลาย มันแค่รอเวลาเท่านั้นก่อนที่สำนึกนี้จะแสดงตัวขึ้นมาเป็นความจริงที่สัมผัสได้ มันเป็นภาวะจำยอมอย่างมากเท่านั้นที่ประชาชนสามารถรับได้ก่อนที่จะทำการต่อต้านความอยุติธรรม

    ___

    แปลจาก Understanding the Islamic revolutionary movement, Catherine Shakdam, Crescent Magazine

    เขียนโดย Catherine Shakdam

    เกี่ยวกับผู้เขียน : แคเทอรีน ชัคดัม เป็นนักวิเคราะห์การเมือง, นักเขียน และนักวิจารณ์เกี่ยวกับตะวันออกกลาง โดยเน้นเป็นพิเศษในเรื่องขบวนการหัวรุนแรงและเยเมน ผลงานของเธอตีพิมพ์เผยแพร่ในสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของโลก เช่น Foreign Policy Journal, Mintpress News, The Guardian, Your Middle East, Middle East Monitor, Middle East Eye, Open Democracy, Eurasia Review และอีกมากมาย ผู้เชี่ยวชาญทางสถานี RT เธอยังเขียนบทวิเคราะห์ให้กับ Etejah TV, สถานีวิทยุ IRIB, Press TV และ NewsMax TV เป็นผู้อำนวยการโครงการต่างๆ ของสถาบัน Shafaqna เพื่อการศึกษาตะวันออกกลาง และเป็นที่ปรึกษาให้กับ Anderson Consulting งานวิจัยและผลงานเกี่ยวกับเยเมนของเธอถูกนำไปใช้โดยคณะมนตรีความมั่นคงสห ประชาชนในเรื่องที่เกี่ยวกับเยเมนถูกปล้นกองทุนในปี 2015


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ทำความเข้าใจ “ขบวนการปฏิวัติอิสลาม” | abnewstoday
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิสราเอลลักพาตัวชาวปาเลสไตน์ 562 คน ในช่วงเดือนกันยายน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 3, 2015

    [​IMG]

    แฟ้มภาพ
    presstv – สมาคมนักโทษปาเลสไตน์ เผยว่า ในช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทหารอิสราเอล ได้ “ลักพาตัว” ชาวปาเลสไตน์จำนวน 562 คน รวมถึงเด็กหลายนับสิบคน ในเขตเวสต์แบงก์และกาซ่า

    สมาคมดังกล่าว ได้เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 ตุลาคม ว่า ช าวปาเลสไตน์ 294 คน ในเขตเยรูซาเล็มถูกลักพาตัว โดยผู้ที่ถูกลักพาตัวดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นเด็กๆ

    ตามคำประกาศของสมาคม ดังกล่าว การลักพาตัวชาวปาเลสไตน์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานและทหารอิสราเอลบุกโจมตีเขตรอบบริเวณมัสยิดอัลอักซอ และบุคคลที่ถูกจับกุมตัวนั้นถูกส่งไปยังเรือนจำ

    เหตุการณ์ความรุนแรงในเขตบริเวณมัสยิดอัลอักซอ เริ่มขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายน จากนั้นความรุนแรงและการปะทะเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ นับจากทหารอิสราเอลเข้ามาในเขตบริเวณมัสยิดอัลอักซอเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองปีใหม่ของยะฮูดี พร้อมกับกลุ่มชาวยิวสุดโต่งที่มีการบุกโจมตีชาวปาเลสไตน์ที่เข้าร่วมในมัสยิดอัลอักซอ

    ผู้สันทัดกรณี เผยว่า ชาวกาซ่า อย่างน้อย 56 คน ถูกลักพาตัว ซึ่งในจำนวนนั้นเป็นชาวประมง

    สมาคมนักโทษปาเลสไตน์ เผยว่า พลเมืองปาเลสไตน์ที่ถูกอิสราเอล ลักพาตัว นั้น ในอัลคอลิล 75 คน รามุลลอฮ์ และอัลบัยเราะฮ์ 38 คน บัยตุลลาห์ 32 คน ญานีน 32 คน นาบลัส 20 คน โตลครัม 8 คน อะรีฮา 6 คน โฏบาส 5 คน กัลกีลียะห์ 4 คน และในเซลฟียะห์ 2 คน

    รายงานระบุว่า ขณะนี้มีเด็กๆปาเลสไตน์ อยู่ในเรือนจำอิสราเอล จำนวน 230 คน ซึ่งบรรดาเด็กๆเหล่านี้ถูกลิดรอนสิทธิขั้นพื้นฐาน ถูกทรมานและทำร้ายจิตใจในหลายๆรูปแบบ

    นอกจากนั้น ยังมีสตรีปาเลสไตน์อีกจำนวน 25 คน อยู่ในการควบคุมของอิสราเอล โดยที่ 15 คน ในจำนวนนั้นถูกส่งเข้าเรือนจำ ในช่วงเดือนกันยายน

    ตามรายงานระบุอีกว่า ชาวปาเลสไตน์จำนวน 7000 กว่าคน อยู่ในเรือนจำต่างๆของอิสลาม 17 แห่ง ที่ถูกตั้งข้อหาอย่างไม่เป็นธรรมและไม่มีการพิจารณาคดีใดๆ

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    อิสราเอลลักพาตัวชาวปาเลสไตน์ 562 คน ในช่วงเดือนกันยายน | abnewstoday
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศพผู้แสวงบุญชาวอิหร่านจากเหตุโศกนาฏกรรมมีนา ชุดแรก 104 ศพ กลับถึงประเทศแล้ว โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 3, 2015

    [​IMG]

    presstv – เครื่องบินลำเลียงศพผู้แสวงบุญชาวอิหร่านจากเหตุโศกนาฏกรรมที่มีนา ซาอุดิอาระเบีย ชุดแรก 104 ศพ ได้ถึงกรุงเตหะรานแล้วเมื่อช่วงเช้าตรู่วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

    ขณะกำลังกำลังลำเลียงเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของผู้แสวงบุญออกจากเครื่องบินคาร์โกของซาอุดิอาระเบีย ซึ่งลงจอดที่สนามบิน เมห์ราบอด กรุงเตหะราน

    ตามรายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ทางอิหร่านได้จัดส่งเครื่องบินไปรับศพผู้แสวงบุญดังกล่าวแล้ว แต่ทางการซาอุดิอาระเบียไม่ยอมให้เครื่องบินลำดังกล่าวลงจอด ที่สนามบิน ญิดดะฮ์ โดยที่ไม่ได้มีการแจ้งสาเหตุ

    เจ้าหน้าที่สนามบิน เมห์ราบอด เผยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า ศพผู้แสวงบุญจากอิหร่านชุดที่สอง จะถูกนำกลับประเทศในเวลา 9: 30 น ตามเวลาท้องถิ่น

    พิธีต้อนรับเรือนร่างอันบริสุทธิ์ของผู้แสวงบุญจากโศกนาฏกรรมที่มินา จะมีขึ้น ในสนามิบน เมห์ราบอด โดยมีประธานาธิบดีอิหร่านเข้าร่วม

    คณะรัฐบาลมีแถลงการณ์เชิญชวนประชาชนชาวอิหร่านเข้าร่วมในพิธีศพของผู้แสวงบุญจากโศกนาฏกรรมที่มีนาอย่างพร้อมเพรียงกัน ในวันเช้าวันอาทิตย์ ณ กรุงเตหะราน และแคว้นต่างๆทั่วประเทศ

    ในปีนี้ ชาวอิหร่านจำนวน 64,000 คน ไปประกอบพิธีฮัจญ์ ณ ประเทศซาอุดิอาระเบีย จากเหตุการณ์อันเศร้าสลดโศกนาฏกรรมที่มีนา ทำให้ผู้แสวงบุญชาอิหร่าน เสียชีวิต 464 คน

    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    ศพผู้แสวงบุญชาวอิหร่านจากเหตุโศกนาฏกรรมมีนา ชุดแรก 104 ศพ กลับถึงประเทศแล้ว | abnewstoday
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบบนี้ไม่ใช่กบฎขายชาติหรือ

    ป้าน้อย (นางสุบิน เที่ยงลาย) ได้แจ้งให้ทราบว่า นายอำเภอ และปลัดอำเภอโคกสูง ได้มาพบที่บ้าน และแจ้งว่า ทางจังหวัดสระแก้วไม่สามารถไปเอาที่นามาคืนให้แก่ชาวบ้าน เนื่องจากกัมพูชาไม่ยอม และพยายามโน้มน้าวให้ป้าน้อยยอมแบ่งที่นาของตัวเองให้แก่กัมพูชา จะได้ไม่ต้องมาทะเลาะกัน

    นายอำเภอโคกสูงของไทย มาหว่านล้อมให้ชาวบ้านคนไทย ที่ถูกกัมพูชาบุกรุกเข้ามาแย่งยึดที่นาของตนเอง ต้องยอมยกแผ่นดินให้กัมพูชาเสียโดยดี เพราะนายอำเภอ ผู้ว่าฯสระแก้ว รวมถึงทหาร และ ตชด. ทั้งหมด ไม่มีความสามารถไปไล่กัมพูชาให้ออกไปจากแผ่นดินไทยได้

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000111299
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อีกหน่อยจะต้องยอมพื้นแผ่นดินไทยตรงที่ชาวกัมพูชามาจับจองให้เป็นของประเทศกัมพูชาด้วยไหม ประเทศกัมพูชาก็ยังมีพื้นที่อีกกว้างขวางทำไมไม่เข้าไปทำระโยชน์ คิดจะใช้วิธีค่อย ค่อยให้คนมาปักหลักในประเทศอื่นแล้วยึดแผ่นดินของประเทศอื่นไปเป็นของตนเอง
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    ระวังโรค Propaganda Clot : กรณีศึกษาผลกระทบจากการเสพข่าวข้างเดียวจากสื่ออเมริกาและตะวันตกในกลุ่มโปรอเมริกามากเกินไปและขาดความระมัดระวัง

    [​IMG]

    ------------
    เมื่อวานนี้ (3 ต.ค.58) มีโปรอเมริกาคนหนึ่ง (รายล่าสุด) มาท้าดวลกับแอ็ดมินเพจ "ปอกเปลือก ทรราช" อาจจะเป็นเพราะว่าหล่อนไม่ค่อยจะชอบใจที่เห็นเพจนี้นำเสนอข่าวจกาสื่อฯของรัสเซีย (และจีน) เป็นส่วนมาก อันที่จริงหากเป็นแฟนเพจประจำก็จะรู้ว่าเพจนี้นำเสนอข่าวที่หลากหลายและจากสำนักข่าวหลายแห่งทั่วโลก เช่นรัสเซีย จีน สหรัฐฯ ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเซีย แต่คงเป็นเพราะว่าหล่อนพึ่งจะมาอ่านเจอข่าวในเพจนี้และสังเกตว่าเพจนี้นำข่าวมาจากสื่อฯของรัสเซียเป็นส่วนมากจึงเหมารวมหรือเข้าใจว่าเพจนี้ไม่นำเสนอข่าวจากแหล่งอื่นเลย และเป็นเพราะว่าเธอ "ไม่ชอบปูติน" จึงออกมาแสดงความคิดเห็นในแบบของเธอ มันน่าเบื่อนะสำหรับพวกที่อ่านแบบฉาบฉวยขาดการตรวจสอบแล้วด่วนตัดสินคนอื่นตามความคิดเห็นของตนเอง เพียงเพราะอาจจะมีนัยหรือจุดประสงค์บางอย่าง แล้วชิงกล่าวหาคนอื่นแทน ดังนั้นเพื่อให้เห็นพฤติกรรมของบางคนบางกลุ่มมีพฤติกรรมแปลกๆ จึงนำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง
    เมื่อวานนี้มีคุณผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการนำเสนอข่าว (สไตล์คุณอายส์) ของเพจนี้ โดยใช้ชื่อในเฟซบุคของหล่อนว่า "Lucia Sritapawang" พอเข้าไปเช็กดูโปรไฟล์จากเฟซของหล่อนแล้วบอกว่าศึกษาอยู่ที่ม.เชียงใหม่ ทำงานอยู่ที่สำนักกฏหมาย (Law Office) ที่ไหนก็ไม่รู้ เธอน่าจะเป็นคนไทย (?) แต่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นภาษาอังกฤษ (ก็ไม่ว่ากัน เพจเราเปิดกว้างทุกภาษาอยู่แล้วขอให้เป็นการใช้คำพูดที่ดูแล้วมีการศึกษาและสุภาพก็พอ) แต่เมื่อดูจากทดลองเขียนชื่อแรกของเธอเป็นภาษาไทยดูบ้าง ก็จะได้ "Lucia -> ลูเซีย -> ลูเสีย -> รู..." เนื่องจากเธอบอกว่าศึกษาที่ม.เชียงใหม่ ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับสถานที่ที่เธอต้องการจะสื่อบางอย่าง แอ็ดมินก็จึงถือวิสาสะเรียกชื่อหล่อนใหม่ว่า "คุณรู... ที่เชียงใหม่" นะครับ (คริๆ)
    เมื่อวานนี้ "คุณรู... ที่เชียงใหม่" แสดงความคิดเห็นว่า "Unfortunately,Putin propaganda is making Thais believe so easily. He is 100% created the story....April fools...poor Thais." (โชคร้ายจัง โฆษณาชวนเชื่อของปูติน กำลังทำให้คนไทยเชื่อได้โดยง่ายดาย เขาเป็นคนแต่งเรื่องขึ้นมาเอง 100 เปอร์เซนต์… (เหมือนที่หล่อนกำลังแต่งอยู่นี่หรือเปล่า?) เมษาโกหก... (เป็นวลี/วาทกรรมอย่างหนึ่งที่เกี่ยกับการแต่งเรื่องโกหกหลอกลวงหันให้สนุกสนาน ขำๆ) คนไทยผู้น่าสงสาร) นั่นแหละคำพูดของหล่อน ดูคล้ายกับว่าหล่อนจะไม่ค่อยมีความภาคภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยหรือทำมาหากินอยูบนผืนแผ่นดินไทยหรือมีบรรพบุรุษเป็นคนไทยเอาซะเลย อันนี้เป็นการตั้งข้อสังเกตจากคำพูดที่หล่อนกำลังเย้ยหยันคนไทย (ทั้งประเทศ) และจากการที่หล่อนเลี่ยงที่จะใช้ภาษาอังกฤษก็คงจะเพื่อสื่อให้ต่างชาติเห็นว่าคนไทยเป็นอย่างที่หล่อนกำลังกล่าวหาและดูถูกอยู่นั่นแหละ
    แอ็ดมินและแฟนเพจก็เข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยและได้ถามไปหลายคำถามเกี่ยวกับคำกล่าวหาที่เลื่อนลอย/ไม่มีมูล (groundless accusation) ของคุณรู...ฯ แต่เธอก็ไม่สามารถนำหลักฐานใดๆมาชี้แจงเพื่อยันคำกล่าวหาของเธอที่บอกว่าปูตินสร้าง propanda 100%
    คุณรู...ฯ กล่าวว่า "อเมริกาทำผิดในการเข้าไปในอีรัก แต่ประเด็นที่ี่พูดในวันนี้ี้ต้องการจะบอกว่า คุณเอาข้อมูลจาก sputnik news คือเอาข้อมูลของัฐบาลรัสเซียทั้งดุ้น อะไรก็ตามที่มาจากรัฐบาลเชื่อถือไม่ได้เป็นการโฆณาช่วนเชื่อไม่ใช้ ข่าว รัสเซียให้เงินเดือนกับสื่อต่างประเทศทั่วโลกเป็นรายเดือน มนุษย์เราจะทำอะไรต้องมีจรรยาบรรณมีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม ถ้าคนทุกคนคิดแต่ว่าฉันจะทำอย่างนี้ใครจะทำไม่ก็เรียกว่าขาดวามรับผิดชอบ ถามตนเองุถจดว่าลึกๆแล้วคุณกำลังทำอะไรต่อสังคมไทย"
    นั่นไง... จากกล่าวหาปูติน ก็เริ่มลามปามมาที่แอ็ดมินแล้วนะนี่ ตรรกะของเธอก็คือ "…อะไรก็ตามที่มาจากรัฐบาลเชื่อถือไม่ได้เป็นการโฆณาช่วนเชื่อไม่ใช่ ข่าว…" (เธอหมายถึงรัฐบาลรัสเซีย) คำถามก็มีอยู่ว่าแล้วทำไมข่าวที่มาจากรัฐบาลรัสเซียถึงเชื่อถือไม่ได้ทั้งๆที่รัสเซียก็เป็นประชาธิปไตยเช่นเดียวกับสหรัฐฯและประเทศอื่นๆทั่วโลกที่เป็นประชาธิปไตย? เธอไม่ได้พูดถึงเรื่องประชาธิปไตย แต่ชิงกล่าวหารัฐบาลรัสเซียแบบ groundless งานถนัดสไตล์โปรอเมริกาอีกนั่นแหละว่า "…รัสเซียให้เงินเดือนกับสื่อต่างประเทศทั่วโลกเป็นรายเดือน..." เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า? ประโยคนี้เปลี่ยนจากคำว่า "รัสเซีย" เป็น "สหรัฐอเมริกา" จะถูกต้องกว่าไหม? และคำว่า "สื่อฯต่างประเทศทั่วโลก" ของหล่อนนี่ถ้าหมายถึงสื่อฯของรัสเซียที่มีสำนักงานและสาขาอยู่ในต่างประเทศทั่วโลก อันนั้นก็ถือต้องครับ ก็ Sputnik news เป็นสื่อฯของรัฐบาลรัสเซีย 100% แปลกตรงไหนที่รัฐบาลจะจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานและลูกจ้างของตนเองไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกประเทศ รัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกเขาก็ทำอย่างนี้ด้วยกันทั้งนั้นไม่ใช่รึ?
    แต่ถ้าเธอหมายถึงว่า รัฐบาลรัสเซียเอาเงินอุดปากสื่อฯต่างประเทศสำนักอื่นๆ ของประเทศอื่นๆเพื่อให้เขียนข่าวเข้าข้างรัสเซีย อันนี้คุณมีหลักฐานไหมที่จะกล่าวหาคนอื่นแบบไม่ยุติธรรมเช่นนั้น? Prove it! ตัวอย่างง่ายๆ ถ้ามีคนออกมากล่าวหาคุณรู...ฯในทางที่เป็นลบแบบเดียวกับที่คุณรู...ฯกำลังกล่าวหารัสเซียอยู่นี้ โดยไม่สามารถหาหลักฐานพิสูจน์หรือยืนยันได้ตามที่กล่าวหาหรือนินทา คุณรู...ฯจะยอมรับคำกล่าวหานั้นได้หรือไม่?
    คุณรู...พยายามสอนจรเข้ว่ายน้ำหรือเอามาพร้าวห้าวมาขายสวน โดยการอ้างถึงเรื่อง "จรรยาบรรณ" และ "และความรับผิดชอบ" จากผู้อื่นโดยลืมมองดูตัวเอง ซึ่งเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่เธอได้รับอิทธิพลจากนักการเมืองอเมริกันและสื่อฯของสหรัฐฯและตะวันตกด้วยการชิงถามหาหลักคุณธรรมพื้นฐานจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อกลบเกลื่อนความบกพร่องของตัวเองที่ขาดแคลนสิ่งเหล่านั้นที่เธอกำลังถามหา
    วาทกรรมและ propaganda หรือข้อกล่าวหาเลื่อนลอยเหล่านี้มีให้พบเห็นอยู่บ่อยๆในสื่อฯของสหรัฐฯตั้งแต่ระดับผู้ประเทศลงมาเลย (เพจนี้นำเสนอตัวอย่างให้ได้เห็นหลายครั้งแล้ว) ก็ต้องถามคุณ "รู... ที่เชียงใหม่" กลับไปด้วยว่า แล้วการที่คุณกล่าวหาสื่อฯรัสเซีย และรัฐบาลรัสเซีย และผู้นำของรัสเซียโดยไม่มีหลักฐานใดๆพิสูจน์นั้น เรียกว่ามี "จรรยาบรรณ และความรับผิดชอบ" หรือไม่? เห็นไหมพฤติกรรมของคนเหล่านี้ก็จะเป็นแบบนี้แหละ ชิงกล่าวหาคนอื่นเพื่ออำพรางปมด้อยหรือปิดบังสิ่งที่ตัวเองทำกล่าวคือตัวเองทำความผิดแต่โยนความผิดให้คนอื่น สไตล์โปรอเมริกาของแท้
    คราวนี้คุณรู...เริ่มกลยุทธ์ "confuse society" ด้วยการกล่าวว่า "…ถามตนเองุถจดว่าลึกๆแล้วคุณกำลังทำอะไรต่อสังคมไทย" นี่เป็นอีกเทคนิคหนึ่งเพื่อลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายตรงข้าม ด้วยการทำให้สังคมเกิดความสับสนลังเล หรือโดยการร้องขอเสียงสนับสนุนจากประชาชนมากขึ้น (discredit the opponent by confusing the society or by request more supports from public) เพื่ออะไร? ก็ทำให้แฟนเพจขาดความมั่นใจแอ็ดมินที่เป็นผู้เขียนบทความหรือแปลข่าวตามต้นฉบับและเป็นข้อเท็จจริงอีกด้านหนึ่งที่คุณรู...ไม่สามารถที่จะแสดงให้เป็นเท็จได้ (falsify) เพราะว่าความจริงก็คือความจริงอยู่วันยังค่ำ เมื่อหล่อนไม่สามารถถกด้วยเหตุผลและหลักฐานได้ หล่อนจึงเล่นเกมจิตวิทยามวลชนเอาซะเลย ว่า "ที่แอ็ดมินเสนอข่าวจากสื่อฯของรัฐบาลรัสเซียนี่ มีจุดประสงค์อะไรกับสังคมไทยกันแน่?" เอากะหล่อนสิ (ไม่เอาหรอก... ก็มันเสียอยู่นิ คริๆ)
    เพจนี้พูดมาหลายครั้งแล้วว่า เพจเรา (ปอกเปลือก ทรราช) เป็นเพจเปิด ยึดในหลักการ free speech แต่ต้องไม่กระทบต่อสิทธิ์ของผู้อื่น ไม่บ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ศาสนา และผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ยุยงให้สังคมเกิดความแตกแยก ไม่ส่งเสริมคำพูดประเภท "hate speech" หรือภาษาที่ไม่สุภาพ ไม่สนับสนุนให้นำเรื่องกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาหรือผิวสีมาเป็นเครื่องมือทำลายสังคมหรือทำให้สังคมเกิดความแตกแยก จุดประสงค์ในการนำเสนอข่าวของเพจเราก็เพื่อทำให้สังคมได้รับรู้ข้อมูลทั่วโลกอย่างรอบด้านที่ไม่สามารถหาได้จากสื่อฯกระแสหลักในประเทศหรือต่างประเทศทั่วไปที่ได้รับอิทธิจากสื่อฯของสหรัฐฯและตะวันตกซึ่งครอบงำสังคมไทยมานาน และบันเทิงในการอ่านข่าวบ้าง เป็นการเปิดประตูสู่โลกกว้างให้กับสังคมไทยอย่างแท้จริง ไม่มีเจตนาใดแอบแฝงใดๆทั้งนั้น
    ไม่นำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จหรือจากแหล่งข่าว (ลือ) ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือขาดหน่วยงานหรือองค์กรใดให้การรับรองหรือแสดงความรับผิดชอบ ยินดีรับฟังความเห็นต่าง หากอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริงมากกว่าการกล่าวหาโดยปราศจากหลักฐานหรือให้ร้ายกัน การนำเสนอข่าวทุกครั้งมีแหล่งอ้างอิงให้ผู้อ่านสามารถตรวจเช็กจากแหล่งข่าวต้นฉบับ (original sources) ได้เสมอ การแสดงความคิดเห็นหรือการวิเคราะห์ข่าวโดยแอ็ดมิน ถือว่าเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมตามหลักการในเรื่องของเสรีภาพทางความคิดและการแสดงความคิดเห็นที่ไม่ผิดกฏหมายและอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญของประเทศไทย และอยู่ในแนวคิดของคำว่า "การแสดงความเห็นต่าง" ด้วย ที่ว่ามานี้คือจุดประสงค์ของเพจนี้ เข้าใจนะครับคุณรู...ฯ
    นอกจากนี้แล้วคุณรู...ก็จะเน้นกล่าวหาปูตินและสื่อฯของรัสเซียในแง่ลบ จากการเสพข้อมูลด้านเดียวของเธอจากสื่อฯของสหรัฐฯและตะวันตกตามสไตล์โปรอเมริกาที่ไม่ชอบรัสเซียและปูตินนั่นแหละ เมื่อถูกถามกลับว่าทำไมคุณถึงไม่ชอบเขา กลุ่มนี้ก็จะบอกว่าก็รัสเซียและปูตินไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เมื่อถูกถามว่าไหนหละหลักฐานที่คุณกล่าวเขานั่นหนะอยู่ที่ไหน? คุณรู...ฯก็จะแบะๆ... (no prove)
    งั้นแอ็ดมินก็จะยกตัวอย่างสิ่งที่ไม่ดีของรัสเซียให้คุณรู...ได้รับรู้ดังนี้นะครบ เช่น เชื่อมสัมพันธ์กับรัฐบาลไทย รัสเซียสั่งซื้อข้าว และยางพาราจากไทยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก รัสเซียกับไทยจะร่วมเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจด้วยในทุกมิติ ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้ไทยมีการจ้างงานเพ่ิมมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจเติบโตขึ้น ลดการพึ่งพาจากสหรัฐฯและตะวันตก กระจายความเสียงทางการค้าและหลายๆด้าน นี่คือสิ่่งที่ไม่ดีของรัสเซียที่โปรอเมริกาไม่ชอบใช่ไหมครับ?
    คราวนี้มาดู "ตรรกะ" ของคุณรู...ที่ใช้กล่าวหา Sputnik news ซึี่งเป็นสื่อฯของรัฐบาลรัสเซียบ้างนะครับ ดูซิว่าความรู้ที่เธอได้จากการเสพข่าวของสหรัฐฯและตะวันตกเป็นเช่นไร จากคำพูดของคุณรู...ที่พูดในตอนต้นที่ว่า "…คุณเอาข้อมูลจาก sputnik news คือเอาข้อมูลของัฐบาลรัสเซียทั้งดุ้น อะไรก็ตามที่มาจากรัฐบาลเชื่อถือไม่ได้เป็นการโฆณาช่วนเชื่อไม่ใช้ ข่าว…" สามารสรุปและจัดลงในรูปแบบของหลักตรรกศาสตร์ได้ดังนี้
    1.) ข้อมูลจากสื่อฯของรัฐบาล (รัสเซีย) เชื่อถือไม่ได้และเป็นโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda)
    2.) Sputnik news เป็นสื่อฯของรัฐบาลรัสเซีย
    3.) ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จาก Sputnik news จึงเชื่อถือไม่ได้
    นี่ตรรกะของ "คุณรู... ที่เชียงใหม่" ซึ่งอ้างว่าศึกษาอยู่ม.เชียงใหม่เป็นอย่างนี้ อย่าบอกนะว่าคุณรู...เรียนวิชาตรรกศาสตร์มาจาก ม.เชียงใหม่หนะ? เพราะคุณลุงกำนันก็จบม.เชียงใหม่มาเหมือนกัน แต่ฉลาดและเก่งมากๆ ไม่สร้างตรรกะวิบัติ วิปริต ผิดเพี้ยนและโง่ๆแบบนี้เลยนี่นา
    มีอยู่คอมเม้นท์หนึ่งที่คุณรู...พยายามจะกล่อมให้แอ็ดมินหันไปเสพข่าวจากสื่อฯของสหรัฐฯบ้าง โดยยกตัวอย่าง VOA ที่เธออาจจะชื่นชอบว่า "รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของและบริหารงาน มี30ภาษา มีการทำงานใน34ประเทศ ไม่มีใครในโลกนี้เอาการโฆษณาชวนเชื่อของรัสเซียมาเป็นข่าวยกเว้นผู้มีเจตนาลึกซึ้งและมีวัตถุประสงค์ลึกล้ำ เท่านั้น เสียงอเมริกาไม่เคยใช้เป็นข่าวให้คนอเมริกัน เจตนาดีจริงๆหาข่าวหลายที่หน่อย คนไทยจะได้ไม่ถูกล้างสมอง..."
    คำว่า "เสียงอเมริกา" ในที่นี้หมายถึงสำนักข่าว Voice of America (VOA) ที่เป็นสื่อฯของรัฐบาลสหรัฐฯโดยตรง เป็นสถานีออกอากาศภายนอกของรัฐบาลกลางสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ ย้ำ "VOA เป็นสื่อฯของรัฐบาลสหรัฐฯ" หมายความว่ารัฐเป็นเจ้าของ รัฐบาลสหรัฐฯเป็นผู้จ่ายเงินเดือนให้พนักงานและดูแลค่าใช้จ่ายทุอย่าง มีการออกอากาศทั้งด้านโทรทัศน์ FM, AM อินเตอร์เน็ท อยู่ในสหรัฐฯและประเทศต่างๆทั่วโลก ถ้าเราทดลองเอาสื่อฯสหรัฐฯไปแทนสื่อฯของรัสเซียในตรรกะของคุณรู...ก็จะปรากฏออกมาแบบนี้
    1.) ข้อมูลจากสื่อฯของรัฐบาล (สหรัฐฯ) เชื่อถือไม่ได้และเป็นโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda)
    2.) Voice of America เป็นสื่อฯของรัฐบาลสหรัฐฯ
    3.) ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จาก Voice of America จึงเชื่อถือไม่ได้
    อ้าว! ทำไมเป็นแบบนั้นหละครับคุณ poor รู... ที่เชียงใหม่? ทำไมตรรกะของคุณถึงได้ฆ่าคุณเองซะอย่างนั้นหละครับ? อีกซักตัวอย่างไหมครับ? คราวนี้ลองเอาสื่อฯของฝั่งตะวันตกไปแทนสื่อฯของรัสเซียบ้างนะครับ BBC เป็นรัฐวิสาหกิจของอังกฤษจึงถือว่าเป็นสื่อฯของรัฐด้วย
    1.) ข้อมูลจากสื่อฯของรัฐบาล (อังกฤษ) เชื่อถือไม่ได้และเป็นโฆษณาชวนเชื่อ (propaganda)
    2.) BBC เป็นสื่อฯของรัฐบาลอังกฤษ
    3.) ดังนั้น ข้อมูลที่ได้จาก BBC จึงเชื่อถือไม่ได้
    ฮ่าๆๆ.... ตกลงว่าตรรกะของคุณ poor รู...นำไปสู่บทสรุปที่ว่าทั้งสื่อฯของอเมริกาและอังกฤษเชื่อถือไม่ได้ซะงั้น เมื่อพิจารณาตามรูปแบบที่ถูกต้องตามหลักตรรกศาสตร์แล้วนั้น จะพบว่ามีความผิดพลาดหรือ "วิบัติ/เพี้ยน" (fallacy) อยู่ในตรรกะของคุณรู...ในประพจน์ (proposition) แรก เพราะการที่เธอพยายามกล่าวหาและทำลายความน่าเชื่อถือ (ดิสเครดิต) สื่อฯและรัฐบาลรัสเซีย หล่อนจึงสร้างประพจน์แบบผิดๆขึ้นมาโดยเหมารวมเอาว่า ข้อมูลทั้งหมดที่ได้จากสื่อฯของรัฐบาลนั้นเชื่อถือไม่ได้ นี่มันผิดตรงนี้แหละ เหมือนกับการพูดว่า
    1.) สัตว์ที่มีปีกทุกชนิด สามารถบินได้ (เด็กอนุบาลก็สามารถบอกได้ว่าไม่เสมอไปหรอกนะ)
    2.) นกทุกชนิด เป็นสัตว์ที่มีปีก
    3.) นกกระจอกเทศและนกเพนกวิน เป็นสัตว์ที่มีปีก
    4.) ดังนั้น นกกระจอกเทศและนกเพนกวิน จึงเป็นสัตว์ที่สามารถบินได้
    เนี่ย… ตรรกะของคุณรู...ฯเป็นแบบนี้อ่ะ อย่าบอกว่าความรู้เหล่านี้คุณรู...ได้มาจาก VOA หรือสื่อฯอื่นๆที่เป็นกระบอกเสียงให้รัฐบาลสหรัฐฯและตะวันตกหนะ สหรัฐฯและตะวันตกเขาคงจะภาคภูมิใจมากที่สามารถทำให้คุณรู...มีความฉลาดได้ขนาดนี้ สามารถสร้างตรรกะวิบัติออกมาได้แบบนี้
    จริงๆแล้วข้อดีของสื่อฯสหรัฐฯและตะวันตกก็มีอยู่บ้างคือเขาพยายามปกป้องผลประโยชน์ประเทศของเขาเอง แต่ชอบที่จะกล่าวหาและมุ่งดิสเครดิตเพื่อทำลายชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของประเทศอื่น ยุยงส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศนั้นๆเกิดความแตกแยก ไม่ภาคภูมิใจชาติกำเนิดของตนเอง ให้หันไปนิยมเชิดชูต่างชาติแทน เราจึงได้บุคคลากรแบบคุณรู...นี้ออกมาอย่างไรหละครับ
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    04/10/2558
    ----------
    https://en.wikipedia.org/wiki/Sputnik_(news_agency)
    https://en.wikipedia.org/wiki/BBC
    https://en.wikipedia.org/wiki/Voice_of_America
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    สงครามรัสเซียถล่มไอซิสในซีเรียวันที่สี่ (ตอนที่ 1/2)

    [​IMG]

    ------------
    ยินดีต้อนรับช่วงเวลาแห่งการรายงานข่าวแบบมันส์ตามที่แฟนเพจรอคอย... เกี่ยวกับสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอากาศรัสเซีย (+กองทัพรัฐบาลซีเรีย) ปะทะกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงฝ่ายค้านต่อต้านรัฐบาลซีเรีย สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "กองทัพอากาศรัสเซียได้โจมตีเป้าหมาย 10 จุดในซีเรียตลอดช่วงเวลา 24 ชม.ล่าสุด - กระทรวงกลาโหมแถลง"
    1.) RT รายงานว่าเครื่องบินรบของรัสเซียได้โจมตีเป้าหมายของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสจำนวน 10 แห่งในซีเรียตลอดระยะเวลาการโจมตีทางอากาศในวันที่ผ่านมา ได้ทำลายคลังเก็บอาวุธ ศูนย์ฝึกกำลังพล และสาธารณูปโภค (ของพวกไอซิส) ตลอดระยะเวลา 24 ชั่วโมงที่ผ่านมารัสเซียได้ส่งเครื่องบินรบออกไปจำนวน 20 เที่ยวบิน รางานข่าวจากก.กลาโหมของรัสเซีย (ก็แสดงให้เห็นว่างานนี้รัสเซียพิถีพิถันในการระบุพิกัดและเป้าหมายที่จะโจมตีเป็นอย่างมาก ถ้าไม่แม่นยำหรือไม่แน่ใจก็จะยังไม่บอมบ์ เมื่อได้รับการยืนยันข้อมูลที่แน่ชัดแล้วรู้ว่าพวกไอซิสไปรวมตัวกันแล้วก็ค่อยบึ้ม!)
    รายงานข่าวบอกว่ากระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เผยแพร่คลิบวีดีโอการโจมตีไอซิสโดยเครื่องบินรบของรัสเซียหลายคลิป ซึ่งสื่อฯของรัสเซียก็นำมาเผยแพร่และก็มีการแชร์กันตามโลกโซเชียลเยอะมาก เล่นเอาสหรัฐฯและพันธมิตรอับอายมากๆ เพราะตลอดระยะเวลาปีกว่า ที่สหรัฐฯและพันธมิตรส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดส่วนมากมักจะมีแต่รายงานข่าวปากเปล่ากับภาพความเสียหายบ้านเรือของประชาชน น้อยครั้งมากที่จะมีคลิปในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศประกอบ แต่งานนี้รัสเซียจัดเต็ม ดูกันให้เห็นจะๆยังกะนั่งดูหนังสงครามให้เห็นกันทั้งโลกเลยว่า กองทัพอากาศรัสเซียเล่นไอซิสที่จุดไหนบ้าง ล่าสุดนี้ส่วนมากจะเป็นเขตนอกเมือง ห่างไกลชุมชน มากกว่า
    รายงานข่าวบอกว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24M และ Su-34 ได้กระหน่ำถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายถึง 8 แห่งใกล้เมือง al-Shughur ในจังหวัด Idlib รายงานจากกลาโหมของรัสเซียกล่าว่า รัสเซียได้ทำลายคลังอาวุธของพวกไอซิสไปถึง 3 แห่ง ซึ่งรวมทั้งอาวุธและทัพย์สินอื่นๆได้ถูกกวาดให้เรียบไปด้วยการปักหมุดล็อกเป้าโจมตี โดยใช้ขีปนาวุธรุ่น KAB-500 จากอากาศสู่ภาคพื้น ทำให้สิ่งปลูกสร้างและอาวุธต่างๆของศัตรูถูกกำจัดเรียบ (หมายถึงเฉพาะจุดที่โจมตีนะครับ)
    นอกจากนี้แล้วเครื่องบินรบของรัสเซียยังสามารถทำลายศูนย์บัญชาการของไอซิสด้วยขีปนาวุธทางอากาศเจาะทะลุกำแพงรุ่น BETAB-500 ได้อีกด้วยรังของพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสทั้ง 4 แห่งถูกทำลายเรียบ (completely destroyed) งานนี้รัสเซียกระจายกองกำลังทางอากาศออกโจมตีในหลายพื้นที่มาก มีการใช้งานโดรนเป็นมากเช่นกัน เพราะว่าจะต้องจับและลาดตระเวนดูอยู่ตลอด 24 ชั่วโมงด้วย
    ปูตินลงมือเองเล่นเอาทั้งทำเนียบดำและเพนตาก้อนเดือดผุดๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ได้ออกมาข่มขู่และกล่าวหารัสเซียรายวัน อ้างรายงานข่าวจากองค์กรสิทธิมนุษยชนที่มีฐานใหญ่อยู่ที่อังกฤษ ซึ่งในกลุ่มกบฏและคาดว่าน่าจะอยู่ในฝ่ายผู้ก่อการร้ายด้วย เป็นการรายงานข่่าวเท็จซ้ำๆ ย้ำๆ อาศัยว่าย้ำหัวตะปูเล่าความเท็จเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่าการโจมตีของรัสเซียทำให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปแล้วถึง 36 ราย แต่คราวนี้ไม่บอกว่าเด็กและผู้หญิงอีกแล้ว บอกแต่ว่าเป็นพลเรือน ก็พวกผู้ก่อการร้ายมันก็เป็นพลเรือเป็นส่วนมากอยู่แล้วไม่ใช่รึ? ดูเหมือนว่าสื่อฯตะวันตก (รอยเตอร์ส) จะรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่รัสเซียไปช่วยซีเรียกำจัดผู้ก่อการร้ายไอซิส ถึงได้เล่นข่าวนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก น่าสงสารประชาชนของพวกเราเหลือเกิน เมืื่อสื่อฯตกอยู่ในมือของพวกนายทุนที่เห็นแก่เงินใครจ่่ายให้ก็เขียนไปตามที่เจ้าของเงินต้องการให้เขียน มีตัวอย่างให้เห็นพึ่งจะถูกเรียกไปปรับทัศนคติวันก่อนนี้เองใช่ป๊ะโปอเมริกา?
    2.) วันนี้รัสเซียมีของเล่นชิ้นใหม่ไปฝากไอซิสด้วยหละ ฮี่ๆๆ สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "เครื่องบินรบของรัสเซียในซีเรียทุบไอซิสพั๊วะด้วย ขีปนาวุธอากาศสู่ภาคพื้น Kh-29L" (Russian Aviation in Syria Smashes ISIL With Kh-29L Air-to-Surface Missile) (นี่แหละของเล่นชิ้นใหม่ที่ว่าหนะ)
    รายงานข่าวบอกว่า กองทัพรัสเซียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์นี้ว่า กองทัพอากาศรัสเซียในซีเรียได้ใช้ขีปนาวุธ Kh-29L แบบอากาศสู่ภาคพื้นในการจู่โจมกลุ่มก่อการร้ายไอซิส Col. Igor Klimov โฆษกกลาโหมของกองทัพการบินและอวกาศของรัสเซียกล่าวว่า "ขีปนาวุธ Kh-29L air-to-surface ติดตั้งด้วยระบบนำวิถีเลเซอร์ semi-active เมื่อยิงออกไปแล้ว (มันก็จะไม่อยู่กับที่) ระบบนำร่องก็จะฉายแสงไปที่เป้าหมายด้วยแสงเลเซอร์ ในขณะเดียวกันเครื่องบินรบก็จะดำเนินการสู้รบต่อไปได้" (ตัวนี้สร้างมาตั้งแต่ปี 1980 และยังมีประจำการอยู่ในกองทัพในปัจจุบัน มีหลายรุ่นหลายขนาด รัศมีทำการอยู่ที่ 10-30 กม. ติดหัวรบน้ำหนัก 320 กก.) ตอนนี้ทางรัสเซียเน้นตัดกำลังของไอซิสโดยโจมตีแหล่งรายได้หลักไอซิสซึ่งก็คือแหล่งน้ำมัน เชื้อเพลิง คลังอาวุธ สถานที่เก็บเงิน ก็ประมาณว่าเผาดอลล่าร์สหรัฐทิ้งไปต่อหน้าต่อตาทำเนียบดำเลยว่างั้นเถอะ
    แล้วทางอเมริกาหละว่าอย่างไรบ้าง? เพนตาก้อนก็ออกมาขู่เมื่อวันก่อนนี้ว่าจะยังคงเดินหน้าส่งโดรนเข้าไปทิ้งระเบิดในทั้งอิรัคและซีเรียต่อไป แต่ไม่มีรายงานข่าวจากฝั่งรัสเซียหรือสหัฐฯหรือตะวันตกว่าได้มีโดรนของสหรัฐฯกล้าที่จะจ่อหัวเข้าไปในน่านฟ้าของซีเรียในช่วงนี้แต่อย่างได้เลย แค่ราคาคุยว่างั้นเถอะ
    จะเข้าไปได้อย่างไรหละครับก็ตอนนี้รัสเซียขนระบบขีนาวุธป้องกันภัยทางอากาศอย่าง (air defence system) Pantsir-S1 (SA-22) และ SA-15 เข้าไปประจำการอยู่ในซีเรียเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ก็ยังมี S-300 ของซีเรียด้วย ส่วน S-30 ก็คอยเป็นการ์ดคุ้มกันภัยทางอากาศให้กับเครื่องบินทิ้งระเบิดอย่าง S-24, Su-25 และ Su-34 อีกชั้นหนึ่ง อ้าว! ไอซิสมีกองกำลังสนับสนุนทางอากาศสำหรับต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลกลางและรัสเซียด้วยรึ? อันนี้ก็ต้องให้ทำเนียบดำและพันธมิตรตอบอ่ะครับ ก็แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าเครื่องบินรบของฝ่ายไหนถ้าเข้ามาในน่านฟ้าของซีเรียในช่วงนี้โดยไม่ได้อนุญาตจากรัฐบาลซีเรียและรัสเซีย แม้ว่าจะบินต่ำเพื่อหลบเรด้าร์หลักก็อย่างหวังเลยว่าจะลอดพ้นสายตาของรัสเซียไปได้
    3.) ความเคลื่อไหวจากฝั่งเยอรมันนี: วันที่ 4 ต.ค.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าววา่า "แมร์เกิ้ลกล่าว่า: การแก้ไขวิกฤตปัญหาในซีเรียจะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากปูตินและอัสซาด" (Merkel: Resolution of Syrian Crisis is Impossible Without Putin, Assad) โอ้…เดียร์ What is that? Did you hear that, Obama? มันคือเสียงรอยร้าวระหว่างทำเนียบดำกับกรุงเบอร์ลินนะสิครับ สหรัฐฯอาศัยชื่อนาโต้จัดซ้อมรบในเยอรมันใช่ได้ งั้นคุณป้าแมร์เกิ้ลบอกว่า เดี้ยนไม่ปลื้มย๊ะ! งันเดี๊ยนของหันไปเชียร์ปูตินดีกว่า เพราะปูตินเขาทั้งหล่อและสมาร์ท ที่สำคัญเขาไม่หาเรื่องรถ Volkswagen ของฉันด้วย ปูตินเขาเปิดให้ Volkswagen ไปลงทุนในรัสเซียได้ด้วย และตอนนี้กำลังเจรจาลับเรื่องหาทางยกเลิกแซงชั่นรัสเซียกันอยู่โดยไม่ให้สหรัฐฯมากดดันอียูได้ เมื่อถึงจุดๆหนึ่งก็อาจจะประกาศตั้งกองทัพอียูขึ้นมาเพื่อชิงอำนาจนาโต้ออกจากจอมอันธพาลจักรวรรดิเฮเกซะเลย ไอเดียนี้ไม่ได้เรื่องเล่นๆนะ เมื่อเร็วๆนี้ประธานอียูแห่งกรุงบรัสเซลส์ก็ออกมาพูดแล้ว โดยทางเยอรมันบอกว่าไม่ปฏิเสธแนวความคิดนี้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้อาจจะเป็นในระยะยาว
    รายงานข่าวบอกว่า Angela Merkel นายกฯเยมรมันนีให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Deutschlandfunk ว่า รัสเซียและสหรัฐฯ รวมทั้งซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน เยอรมันนี ฝรั่งเศส และอังกฤษ สามารถที่จะมีบทบาทที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาทางการเมืองในวิกฤตซีเรียได้
    นายกฯ Angela Merkel กล่าวว่าการเจรจาต่อรองกันควรจะมีตัวแทนจากพรรคฝ่ายค้านของซีเรียและรัฐบาลของอัสซาดเข้ามาร่วมด้วย (ซึ่งก็ตรงกับแนวทางของปูตินที่ได้เสนอไปแล้วก่อนหน้านี้และกำลังดำเนินการควบคู่ไปพร้อมกันในขณะนี้ด้วย)
    วันที่ 4 ต.ค.58 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แต่กลับวิจารณ์คนอื่นๆแทน - สมาชิกสภา Bundestang ของเยอรมันนีกล่าว" (US Does Not Admit Its Mistakes, But Criticizes Others – Bundestag Member) (จริงหรือเปล่าครับโอบาม่า? ไม่ต้องมองอื่นไกลครับ สังเกตจากพฤติกรรมของโปรอเมริกทั้งหลายก็ได้แบบที่พาดหัวข่าวนี้เดี๊ยะเลย!)
    นาย Wolfgang Gerke รองประธานพรรค Lett Party ในสภา Bundestag ของเยอรมันนีกล่าว่า "กองกำลังที่ก่อความวุ่นวายขึ้นในซีเรีย ควรจะหยุดการวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่เขากำลังพยายามเข้าไปยุติปัญหาความขัดแย้งในประเทศ" (ชัดไหมครับท่านโอบาม่า แห่งทำเนียบทำ? เออ… พวกองค์กรทุนต่างชาติและสื่อฯขี้หมาแห้งในบ้านเราจะกล้าลงข่าวนี้หรือเปล่านะ? ฝันไปเหอะ ท่าน Wolfgang Gerke น่าจะมาพูดให้พวกนักวิชาเกินและสื่อฯเทียมขายตัวทั้งหลายในบ้านฟังบ้างนะ แต่อย่างว่าแหละ พวกนี้อาจจะมีต่อม propaganda clot อยู่ก็ได้จึงคงจะไม่สามารถรับรู้อะไรได้อีกแล้วนอกจากคอยผงกหัวรับคำสั่งจากนายใหญ่และอเมริกาเท่านั้น)
    นักการเมืองชาวเยอรมันนีได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT ว่า "สหรัฐฯไม่เคยยอมรับความผิดพลาดของตนเองเลย แต่เลือกที่จะออกมาตำหนิประเทศอื่นๆที่กำลังช่วยกันแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในวิกฤตซีเรียแทน เรื่องแบบนี้ (เยอรมัน) ยอมรับไม่ได้ (This is unacceptable)" (ว้าวววว! อ่านที่นักเมืองเยอรมันด่ารัฐบาลสหรัฐฯแล้วก็มันส์ดีครับ ไม่รู้ว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะสำนึกได้บ้างหรือเปล่านะ?)
    Gerke กล่าวต่ออีกว่า "หลายคนได้ลืมไปแล้วว่าพวกไอซิสได้อาวุธและเงินมาได้อย่างไร และพวกนั้นดึงดูดสาวกเป็นจำนวนมากจากทั่วโลกได้อย่างไร กองกำลังที่จะต้องแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้ควรจะหยุดวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียได้แล้ว" (The forces that must be held accountable for it should stop criticizing Russia) (นักการเมืองเยอรมันบอกให้สหรัฐฯช่วยหุบเมาท์เลิกวิจารณ์ใส่ร้ายรัสเซียได้แล้ว อันนี้สื่อฯรัสเซียเขาไม่ด้เขียนเองนครับ แน่นอนว่าสื่อฯกระแสหลักของสหรัฐฯและตะวันตกไม่กล้าลงข่าวแบบนี้อยู่แล้ว ขืนลงก็ตกงานกันเพียบสิครับ ประชาธิปไตยเป็นใหญ่ซะอย่าง ใครไม่เชื่อฟัง โดนเด้งทันที ใช่ปะโปรอเมริกา?) นอกจากนี้แล้ว Gerke ยังได้เรียกร้องให้รัสเซียช่วยหาทางสะกัดไม่ให้อาวุธตกไปอยู่ในมือของพวกไอซิสได้อีก บล็อกเส้นทางการเงินของผู้ในการสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย
    ป.ล. อ่านตอนที่ 2/2 ในโพสต์ต่อไป...
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    05/10/2558

    ภาพ A Sukhoi-34 jet จาก © Vladimir Astapkovich / RIA Novosti

    ----------
    Russian anti-terror op in Syria — RT News
    Russian Air Force hit 10 ISIS targets in Syria in last 24 hours – Defense Ministry (VIDEOS) — RT News
    Russian Aviation in Syria Smashes ISIL With Kh-29L Air-to-Surface Missile
    http://sputniknews.com/middleeast/2...airstrikes.htmltion-syria-kh-29l-missile.html
    Merkel: Resolution of Syrian Crisis is Impossible Without Putin, Assad
    Russian Weapons in Syria Create New Political, Strategic Balance in Region
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    สงครามรัสเซียถล่มไอซิสในซีเรียวันที่สี่ (ตอนที่ 2/2)

    [​IMG]

    ------------
    4.) เหลือใครอีกที่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้?.... อ้อ Bernie Sanders หนึ่งในผู้แข่งขันชิงเป็นตัวแทนเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯสมัยหน้าจากพรรคดีโมแครท สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "สหรัฐฯถอยออกมา: เบอร์นี่ แซนเดอร์คัดค้านการกำหนดเขตห้ามบินแต่เพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐฯในซีเรีย" (US Back Off: Bernie Sanders Opposes Unilateral No-Fly Zone in Syria)
    รายงานข่าวบอกว่าแซนเดอร์ได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ชาวอเมริกันหยุดแทรกแซงประเทศอาหรับ เนื่องจากมันกำลังทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมอีก (because it is making the situation there worse.) (นี่ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.ของสหรัฐฯก็ไม่เห็นด้วยพฤติกรรมบางอย่างของรัฐบาลสหรัฐฯ)
    Sanders กล่าวในหนังสือพิมพ์ The Washington Post ของอเมริกาว่า "ในจุดนี้ ผมคัดค้านการกำหนดเขตห้ามบิน (No-Fly-Zone) แต่เพียงผู้เดียวในซีเรีย (หมายถึงไม่เห็นด้วยที่อเมริกาจะอ้างอำนาจเผด็จการประชาธิปไตยของตนเองในการออกกฎนี้แต่เพียงฝ่ายเดียว - unilateral) ซึ่งจะทำให้พวกเราถลำลึกเข้าพัวพันในสงครามกลางเมืองที่น่าสยดสยองนั้น (horrible civil war) และจะนำสหรัฐฯไปสู่ความพัวพันในภูมิภาคที่ไม่มีวันสิ้นสุด" (ชัดไหมครับโปรอเมริกา? แล้วก็อย่าสะเอิะมากล่าวหาเพจนี้อีกนะว่าไม่อ้างแหล่งข่าวจากที่อื่นบ้างเลย นี่ Sputnik ของรัสเซียก็เอาข่าวนี้มาจากสื่อฯของสหรัฐฯนั่นเอง และเพจนี้ก็เข้าไปเช็กดูจาก original source แล้วก็พบว่าสื่อฯรัสเซียไม่ได้โกหกหรือเต้าข่าวขึ้นมาเองอย่างที่โปรอเมริกาสุดโต่งบางคนออกมากล่าวหาหรอกนะ เพื่อเป็นหลักฐานก็เลยแค็ปเจอร์ภาพจากเว็บไซท์ของ The Washington Post มาหให้ดูด้วยเลย แถมใส่ลิ้งค์ให้อีกตะหาก นี่ขนาดคนอเมริกันบางคนก็ยังไม่เห็นด้วยกับนโยบายบางอย่างของรัฐบาลเขาเลย ส่วนคนไทยโปรอเมริกาหน้ามืดตามัวก็ เห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำของรัฐบาลสหรัฐฯทุกอย่าง เหลือเชื่อเลยพวกนี้ สะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยเรายังต้องการการปฏิรูปและการให้การศึกษาและข้อมูลที่ถูกต้องอยู่อีกมาก)
    ต่อนะครับ... คุณแซนเดอร์ (แหม… พอเขาพูดถูกใจแอ็ดมินหน่อยหละก็ ถึงกับเรียก "คุณแซนเดอร์" เลยนะ ฮ่าๆๆ แอ็ดมินชอบคนนี้ครับส่วนนักการเมืองชาวอเมริกันน้ำดีคนหนึ่งก็คืออดีตวุฒิสมาชิก Ron Paul) กล่าวว่า "การแทรกแซง (meddling) ของสหรัฐฯในความขัดแย้งในซีเรียอาจจะทำให้วิกฤตการณ์เลวร้ายลงยิ่งกว่าเดิมอีก ซึ่งจะส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตไปมากกว่าเดิม" (โย่! แมน… จริงแท้แน่นอนครับท่าน แต่จะมีชาวอเมริกันกี่คนนะที่คิดได้อย่างคุณแซนเดอร์นี่?)
    คุณแซนเดอร์กล่าวว่า "พวกเราจะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการที่จะไม่ทำให้สถานการณ์มีความซับซ้อนและอันตรายในซีเรีย หรือเลาร้ายยิ่งกว่าเดิม" (ก็แปลว่าการที่สหรัฐฯแส่เข้าไปในซีเรียนี่มันไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย งั้นโอบาม่าก็ถอยออกไป Back off! ปล่อยให้มืออาชีพอย่างปูตินเขาจัดการดีกว่า เพราะว่ารัสเซียถล่มกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงแบ่งแยกดินแดนในเชเชนมาแล้ว จากนั้นก็นำความสงบกลับคืนสู่เชเชนและฟื้นฟูเชเชนกับขึ้นมาใหม่ ส่วนสหรัฐฯถล่มอิรัค อัฟกานิสถาน และลิเบียแล้วเป็นอย่างไร กี่ปีแล้ว มีวี่แววแห่งสันติภาพจะฉายแสงไปที่ประเทศเหล่านั้นภายใต้ทำลายและยึดครองของอเมริกาบ้างไหม? มืดสนิท! ผู้มีสติปัญญาย่อมสามารถเปรียบเทียบได้)
    แล้วแนวความคิดเรื่องการกำหนดเขตห้ามบินนี้มาจากไหน? ก็จากนาง Hillary Clinton อย่างไรหละครับท่าน โดยนาง Hillary Clinton กล่าวว่า "โดยส่วนตัวแล้ว ณ ตอนนี้ เดี๊ยนขอเรียกร้องให้มีการกำหนดเขตห้ามบินและการเดินทาง (การให้ความช่วยเหลือ) ด้านมนุษยธรรม (เพื่ออะไร?) เพื่อพยายามหยุดการฆาตกรรมหมู่ (carnage) จากทั้งภาคพื้นดินและจากทางอากาศ"
    ชัดเลยหล่อนนี่แสบเข้าไส้เลยจริงๆ carnage ที่หล่อนพูดถึงนั้นน่าจะหมายถึงการสังหารหมู่พวกไอซิสโดยฝีมือของกองทัพซีเรีย (ภาคพื้นดิน) และเครื่องบินรบกองทัพอากาศของรัสเซีย (ทางอากาศ) มากกว่าหยุด carnage โดยพวกไอซิสและกลุ่มหัวรุนแรง เพราะสหรัฐฯสนับสนุนพวกกบฏสายกลางและพอส่งเข้าไปในซีเรีย ก็แปลงร่างเป็นกลุ่มก่อการร้าย al-Nusra Front อัลเคด้าซะงั้น ตอนที่สหรัฐฯและพันธมิตรส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดในซีเรียอ้างว่าเพื่อปราบปรามไอซิสเป็นเวลาถึงหนึ่งปีกว่า มีประชาชนพลเรือน เด็ก ผู้หญิงเสียชีิวิตและบาดเจ็บไปเท่าไร? แต่นางคลินตันไม่ใช้คำว่า "carnage" (การฆาตกรรมหมู่/การสังหารหมู่) กับการกระทำของกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรเลย แต่พอรัสเซียส่งเครื่องบินรบไปทิ้งระเบิดใส่ไอซิสโดยตรง แม่นยำมาก นางคลินตันกลับออกมาใช้คำพูดตามลีลานักการเมืองที่ไม่ระบุเจาะว่าหมายถึงใครแต่ผู้อ่านย่อมรู้ว่าหมายถึงใคร ด้วยคำว่า "carnage" นั่นแหละลูกแหลของนักการเมืองสหรัฐฯ แล้วพวกโปรอเมริกาก็ซึมซับวัฒนธรรมใหม่แบบนี้จากนักการเมืองของสหรัฐฯได้โดยง่ายซะด้วย แต่นักการเมืองเยอรมันบอกว่า "แหยงอ่ะ! สหรัฐฯไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง แต่มุ่งวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นแทน" เพื่อกลบเกลื่อนความบกพร่องของตัวเอง เหมือนใครรู้ไหม? "รูเสีย ที่เชียงใหม่" (จำได้ แนวเดียวกันเดี๊ยะเลย)
    5.) ทางฝรังเศสว่าอย่างไรบ้าง? วันที่ 4 ต.ค.58 Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ปูตินอาจจะกลายเป็นหุ้นส่วนของฝรั่งเศสในกต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส - ปธน.ออลลองด์กล่าว" (Putin May Become France's Partner in Anti-ISIL Fight – Hollande) (คุณออลลองค์เข้าใจอะไรผิดหรือเปล่าครับ? ตอนนี้ใครคุมเกมในซีเรียอยู่ ปูตินนะครับ คนที่ควรจะขอเข้าเป็นหุ้นส่วนนั้นควรจะเป็นฝรั่งเศสมากกว่าไม่ใช่รึ? ก็อีโก้ของนักการเมืองตะวันตกอ่ะ เขาจะพยายามยกตัวเองให้เหมือนกับว่ามีบทบาทที่สำคัญกว่าหรือถือไพ่ที่เหนือกว่าอีกฝ่ายในการให้สัมภาษณ์สื่อฯเสมอ ไม่อย่างนั้นก็จะถูกมองว่าเขาอ่อนแอที่จะต้องไปง้อรัสเซีย แต่จริงๆแล้วเขาคงอยากจะพูดว่า "พี่ปูตินครับ ขอให้รับออลลองด์เข้าเป็นหุ้นส่วนในครั้งนี้ด้วยได้ไหมครับ?" ต่างหากหละ)
    ปธน. Francois Hollande กล่าว (เหมือนคนน้อยใจ) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า ปัจจุบันนี้ปธน.วลาดิมีร์ ปูตินไม่ได้เป็นพันธมิตรของฝรั่งเศสในซีเรีย (อ้าว! ก็คุณกลายเป็นลูกกระเป๋งของอเมริกาเขาสั่งให้คุณเบี้ยวส่งเรือบรรทุกเฮลิค็อปเตอร์ทั้งๆที่รับเงินรับงานจากรัสเซียมาแล้วคุณก็ทำ แมวที่ไหนจะกล้าไปทำการค้ากับคนกระล่อนปลิ้นปล้อนไม่รักษาคำพูดอย่างนั้น?) แต่เขา (ปูติน) อาจจะกลายเป็นหุ้นส่วนในการแสวงหาหนทางแก้ไขปัญาหาทางการเมืองในวิกฤตซีเรียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสก็ได้
    ในการประชุมเจรจา "Normandy Four" ที่กรุงปารีสเมื่อวันก่อน ปูตินได้หารือกับออลลองด์เกี่ยวกับกระบวนการของรัสเซียในแคมเปญจ์การโจมตีทางอากาศต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย โดยเน้นย้ำว่าประเทศอื่นๆควรจะร่วมกันทำงานที่ศูนย์ข้อมูลข่าวสารในกรุงแบกแดด (ซึ่งตอนนี้รัสเซียกำลังเป็นผู้นำกลุ่มอยู่)
    ปธน.ออลลองด์ ของฝรั่งเศสได้ให้สัมภาษณ์สถานทีโทรทัศน์ Arte ว่า "ไม่ ณ ตอนนี้ เขาไม่ได้เป็นพันธมิตรของพวกเรา เขาเป็นพันธมิตรของบาชาร์ อัสซาด [ประธานาธิบดีของซีเรีย] แต่พรุ่งนี้เขาอาจจะ - และผมก็อาจจะชอบด้วย อย่างที่ผมได้กล่าวกับเขาไปแล้ว - เป็นหุ้นส่วนในการแสวงหาวิธีการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางการเมือง และในการโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายไอซิส" (ตอนแรกก็ปฏิเสธ แต่ตอนสุดท้ายดูเหมือนว่าอยากจะร่วมมือกับรัสเซียซะงั้น อ้าวววว! แล้วสหรัฐฯจะว่าอย่างไรหละครับนี่? เพื่อของอเมริกากำลังจะหันมาขอจับมือกับปูตินซะงั้น)
    6.) ท่าทีของอังกฤษที่เขาไม่เคยเชิญเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพซักครั้ง (พักหลังนี้) ว่าอย่างไรบ้าง? เออ… มันก็แปลกดีนะ เท่าที่สังเกตมานี้ ในการเจรจาสันติภาพยุติความขัดแย้งที่ยูเครน ไม่มีใครเชิญให้สหรัฐฯและอังกฤษเข้าร่วมซักครั้งเลย ตั้งแต่ที่กรุงมินส์กและที่ปารีสด้วย สองเกลอนี่คงแสบไม่ใช่น้อยเขาถึงไม่ให้ร่วมโต๊ะเจรจาด้วย
    วันที่ 4 ต.ค.58 RT news พาดหัวข่าวว่า "นายกฯคาเมรอนจะสั่งซื้อกองทัพโดรนเพิ่มอีกสองเท่า (อ้างว่า) เพื่อใช้ในการต่อสู้กับไอซิส" (Cameron to double UK drone fleet for fight against ISIS) (น้านนน! วิธีการหาทางผลาญงบของเขาหละ ก็ตอนนี้รัสเซียเขาไม่ให้เครื่องบินของต่างชาติอย่างพวกสหรัฐฯและพันธมิตรเข้าไปในซีเรียจนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจปราบปรามไอซิสไม่ใช่รึ? ส่วนที่อิรัคก็เริ่มมีท่าทีว่าไม่ต้อนรับกองทัพต่างชาติอีกต่อไป ยกเว้นพันธมิตรใหม่อย่าง รัสเซีย อิหร่าน และซีเรีย แล้วคุณคาเมร่อนจะซื้อโดรนไปปราบไอซิสที่ไหน?)
    รายงานข่าวบอกว่า อังกฤษประกาศว่าจะใช้เงินหลายร้อยล้านปอนด์ในการซื้อโดรนรุ่นใหม่เพื่อใช้ต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส นายกฯอังกฤษกล่าวว่าเขาต้องการเพิ่มกองทัพโดรนขึ้นเป็นสองเท่า เนื่องจากประเทศของเขาพร้อมที่จะดำเนินปฏิบัติการทางทหารในซีเรีย (นี่ถล่มซีเรียมาหนึ่งปีกว่า ก็ยังไม่สามารถปราบไอซิสได้ ไม่สามารถทำลายคลังอาวุธ สถานีเชื้อเพลิง ศูนย์บัญชการ แหล่งกลบดานในอุโมงภูเขาได้ซักแห่ง แต่ปูตินลุยแต่ 4 วันผลงานเพียบ กลุ่มติดอาวุธยอมมอบตัวตั้ง 700 กว่าคนแล้วรายงานวันที่ 3 ต.ค.58 ยังจะด้านอ้างเรื่องปราบไอซิสในการเพิ่มงบกลาโหมอยู่อีกรึ?) เขาจะซื้อเท่าไร? รายงานข่าวบอกว่า คาเมรอนต้องการโดรนรุ่นใหม่ 20 ลำซึ่งมีชื่อว่า Protector ปัจจุบันนี้อังกฤษมีโดรนรุ่น Reaper อยู่ 10 ลำ งานนี้สหรัฐฯนับตังค์อีกแล้วครับท่าน Good job, boy.
    7.) ฝ่ายค้านซีเรียเรียกร้องให้มีเขียนรัฐธรรมนูญขึ้นมาใหม่หลังเลือกตั้งในปี 2015 เท่านั้น รายงานข่าวบอกว่าพรรคฝ่ายค้านของซีเรียได้ออกมาเรียกร้องให้มีการระงับการใช้รัฐธรรมนูญเป็นการชั่วคราวก่อนการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาในปี 2016 (อ้าว! ไหงเป็นงั้นหละ? ก็ไหนก่อนหน้านี้ออกมาเรียกร้องให้เป็นประชาธิปไตยกัน แต่จู่ๆก็เสนอให้งดใช้รัฐธรรมนูญเฉยเลย แล้วจะใช้กฎหมายอะไรปกครองประเทศหละนี่?)
    นาย Mahmoud Afandi หนึ่งในผู้เข้าร่วมการประชุม Astana ว่าด้วยการยุติปัญหาความขัดแย้งในซีเรียได้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RIA Novosti (Sputnik เวอร์ชั่นรัสเซีย) ว่า "ประเด็นใหม่ๆรวมถึงการเรียกร้องให้ระงับการใช้รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน จนกว่าจะมีการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา เพื่อให้สภาร่างกฏหมาย basic law ฉบับใหม่ขึ้นมาในภายหลัง"
    ผู้เข้าร่วมในที่ประชุมกล่าวว่า ตามกฎหมายฉบับร่างของพรรคฝ่ายค้านนั้น รัฐสภาที่จะเลือกตั้งในปี 2016 นี้จะมีอำาจไร้ขีดจำกัด (unlimited powers) (ฝ่ายค้านคือเด็กของสหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตก ที่กำลังจับอาวุธต่อสู้กับกองทัพของรัฐบาลกลางอยู่ในขณะนี้ไม่ต่างจากพวกไอซิส ดังนั้นอาจจะเป็นไปได้ว่าร่างกฎหมายฉบับนี้มีแบ็คโดยสหรัฐฯนั่นเอง)
    8.) หันมาดูทางปธน.บาซาร์ อัสซาดบ้าง วันที่ 4 ต.ค.58 Sputnik พาดหัวข่าวว่า "ปธน.อัสซาดกล่าวว่า: รัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน และอิรัคจะช่วยรักษาภูมิภาคนี้ให้ปลอดภัย มิฉะนั้นมันถูกทำลาย" (Assad: Russia, Syria, Iran, Iraq Will Save Region or It Will be Destroyed)
    ปธน.อัสซาดกล่าวว่า "พันธมิตร (ฝั่งรัสเซีย) มีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ เนื่องจากมีหลายประเทศได้แสดงออกแล้วว่าพร้อมที่จะให้การสนับสนุนพันธมิตรนี้"
    ผู้นำซีเรียให้สัมภาษกับ Khabar TV ว่า "เมื่อพวกเราได้บรรลุฉันทามติในฐานะชาวซีเรียในการประชุมร่วมกันที่กรุงมอสโคว์ การประชุมครั้งอื่นๆ หรือการเจรจาใดๆที่จะจัดขึ้นโดยข้อตกลงที่ว่าพวกเราจะบรรลุข้อตกลงร่วมกันในกรุงมอสโคว์ นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมพวกเราถึงกล่าวว่า Moscow3 เป็นสาระสำคัญสำหรับความสำเร็จของ Geneva 3" (สรุป ไม่มีอะไรมาก ก็เดินหน้าเจรจากันต่อไป ยิ่งนานยิ่งดี จะได้ปราบพวกไอซิสได้หมดรวมทั้งกลุ่มติดอาวุธต่างๆและทหารรับจ้างต่างชาติด้วย)
    9.) สุดท้าย… อัพเดทข่าวล่าสุดให้ซักหน่อยนะครับ วันเดียวกันนี้ Sputnik news พาดหัวข่าวที่น่าสงสัยและน่าสนใจว่า "สหรัฐฯปฏิเสธรายงานข่าวที่ว่าหยุดชะลอโจมตีทางอากาศใส่ตำแหน่งผู้ก่อการร้ายไอซิสในอิรัค" (US Dismisses Reports on Halting of Airstrikes on ISIL Positions in Iraq) (อัยย๊ะ! มีงี้ด้วยอ่ะ? ทีโรงพยาบาลในอัฟกานิสถานที่เขาแจ้งพิกัดให้ทราบล่วงหน้าแล้ว ก็ยังเดินห้าถล่มถึง 30 นาที แต่พอรู้ตำแหน่งของไอซิสในอิรัคกลับหยุดซะงั้น)
    รายงานข่าวบอกว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงแบกแดดออกแถลงการณ์ในวันอาทิตย์นี้ว่า กรุงวอชิงตันได้ปฏิเสธรายงานจากสื่อฯเมื่อเร็วๆนี้ในกล่าวหาว่าพันธมิตรนานาชาตินำโดยสหรัฐฯได้หยุดโจมตีตำแหน่งของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในอิรัค
    ก่อนหน้านี้สื่อฯภาคภาษาอาระบิกได้รายงานว่า กรุงวอชิงตันได้แก้เผ็ดด้วยการระงับการสนับสนุนทางอาการของตนให้กับกองทัพอิรัคต่อการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวกรองในกรุงแบกแดด เพื่อประสานความพยายามระหว่างซีเรีย อิหร่าน และอิรัค ในการต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิส
    แถลงการกล่าวว่า "รายงานข่าวเมื่อเร็วๆนี้ที่กล่าวหาว่าพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯได้หยุดปฏิบัติการทางอากาศหรือความร่วมมือทางกองทัพกับกองกำลังรักษาความมั่นคงของอิรัค (Iraqi Security Forces) นั้นเป็นไม่เป็นความจริง" (แต่ผมจริงอ่ะ! ไม่เชื่อคำพูดของอสรพิษพวกนี้หรอก) ส่วนที่เหลือก็ประมาณว่า สหรัฐฯบอกว่าไม่จริ๊งไม่จริง เอาอะไรที่ไหนมาพูด อย่าไปเชื่อ ตอนนี้สหรัฐฯยังให้ความร่วมมือกับกองทัพของอิรัคในการปราบปรามไอซิสอยู่ ดูสิ ก่อนหน้านี้ก็พึ่งจะปล่อยให้ไอซิสเข้ายึดเมืองแห่งหนึ่งแล้วก็ขนอาวุธของสหรัฐฯไปจนเกลี้ยงเลย แล้วก็แกล้งลงข่าวบอกประชาชนของตัวเองว่าถูกปล้นอาวุธไปแหละ เห็นไหมพูดแคนี้ชาวอเมริกันก็เชื่อแล้ว ไม่เถียงรัฐบาลเขาซักคำ
    รายงานข่าวเมื่อวันศุกร์นี้บอกว่า โฆษกกระทรวงกลาโหมของอิรัคกล่าวว่าประเทศอิรัคอาจจะร้องขอความช่วยเหลือทางกองทัพจากรัสเซียในการต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส (นั่นไง... ก่อนหน้านี้ก็นายกฯอิรัคออกมาพูดว่าอยากให้รัสเซียช่วยโจมตีทางอากาศจัดการกับพวกไอซิสในอิรัคด้วย คราวนี้ก็กลาโหมของอิรัคพูดบ้างแล้ว จะไม่ให้สหรัฐฯดิ้นพล่านได้อย่างไรหละครับ)

    ภาพจาก © Photo: pixabay

    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    05/10/2558
    ----------
    Russian anti-terror op in Syria — RT News
    US Back Off: Bernie Sanders Opposes Unilateral No-Fly Zone in Syria
    Bernie Sanders sides with Obama and against Clinton on no-fly zone in Syria - The Washington Post
    Putin May Become France's Partner in Anti-ISIL Fight – Hollande
    Syrian Opposition Urges to Rewrite Constitution Only After 2016 Elections
    Cameron to double UK drone fleet for fight against ISIS — RT UK
    Assad: Russia, Syria, Iran, Iraq Will Save Region or It Will be Destroyed
    US Dismisses Reports on Halting of Airstrikes on ISIL Positions in Iraq
    US Does Not Admit Its Mistakes, But Criticizes Others – Bundestag Member
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หน่วยคอมมานโดเยอรมนี 500 นาย เข้าสู่แบกแดด
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 4, 2015

    [​IMG]

    แหล่งข่าวอาหรับ เผย หน่วยคอมมานโด เยอรมนี 500 นาย ได้เข้าสู่กรุงแบกแดดแล้ว เพื่อให้การช่วยเหลืออเมริกา พยายามที่จะสร้างพันธมิตรให้สมดุลกับพันธมิตรของรัสเซียในภูมิภาค

    alkhaleejonline รายงานว่า หน่วยคอมมานโดเยอรมนี 500 นาย ได้เข้าสู่กรุงแบกแดดแล้ว โดยมีผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังทหารอเมริกาให้การต้อนรับที่สนามกรุงแบกแดด

    รายงานระบุโดยอ้างจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสถานทูตอเมริกาประจำกรุงแบกแดด ซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม เผยว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยคอมมานโด เยอรมนี 500 นาย พร้อมด้วยรถทหารของเยอรมนีอีก 40 คัน รวมทั้ง รถหุ้มเกราะ ได้ถึงอิรักแล้ว โดยมีผู้บัญชาการระดับสูงของกองกำลังทหารอเมริกาให้การต้อนรับ ที่สนามบินกรุงแบกแดด
    เขาอ้างว่ากองกำลังเหล่านี้จะต่อสู้เคียงข้างกับกองกำลังสหรัฐอเมริกาในอิรัก ในการปราบกลุ่มไอซิส

    แบกแดดได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่า ไม่ต้องการกองกำลังทหารจากต่างประเทศอีก แต่แล้วเกือบทุกวันจะได้ยินข่าวใหม่จากการปฏิบัติการทางทหารของอเมริกาในอิรัก ที่พยายามจะเข้าไปแทรกแซงในการต่อสู้กับกลุ่มไอซิส รวมทั้งในเมือง อัล อันบาร์

    แหล่งข่าวดังกล่าวเผยอีกว่า ล่าสุดได้มีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรสี่ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย อิหร่าน ซีเรียและอิรัก เพื่อทำการต่อสู้และปราบปรามไอซิส อีกทั้งกรุงแบกแดดก็ให้การตอบรับต่อกลุ่มพันธมิตรดังกล่าว และการที่มอสโกเข้าไปยังสนามรบในซีเรียนั้น เป็นเหตุให้อเมริกาได้มีการจัดตั้งกลุ่มพันธมิตรที่มีความใกล้เคียงกัน ในภูมิภาค ด้วยเหตุนี้จึงมีความพยายามที่จะเป็นพันธมิตรกับเยอรมนี

    เขาย้ำว่า อีกไม่กี่วันข้างหน้านี้บางประเทศจะเข้าร่วมสมทบกับกลุ่มพันธมิตรของอเมริกาและอีกบางประเทศจะเข้าร่วมกับพันธมิตรรัสเซีย

    الخليج اونلاين
    اخبار ايران و جهان |خبرگزاري فارس| Fars News Agency


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    หน่วยคอมมานโดเยอรมนี 500 นาย เข้าสู่แบกแดด | abnewstoday
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อิสราเอลส่งอาวุธให้ซาอุดิอาระเบีย ใช้ถล่มเยเมน
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 4, 2015

    [​IMG]

    แฟ้มภาพ
    alalam – เครื่องบิน โบอิ้ง 747 ลำหนึ่งของกองทัพอากาศอิสราเอล ที่บรรจุอาวุธ ขีปนาวุธและอุปกรณ์เครื่องมือทหารต่างๆ ได้ลงจอดในฐานทัพ Khamis Mushait เขตพื้นที่ Asir ซาอุดีอาระเบีย เพื่อลำเลียงส่งอาวุธดังกล่าวให้กับชาติพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียใช้ในการโจมตีเยเมน

    ตามรายงานจากแหล่งข่าวท้องถิ่นในเขตพื้นที่ Asir ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของซาอุดีอาระเบีย ระบุว่า อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านี้เพื่อเป็นการสนับสนุนกองกำลังทางอากาศให้กับกลุ่มพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบีย ในการโจมตีพื้นที่ต่างๆ ในเยเมน

    แหล่งข่าวดังกล่าวย้ำว่า อิสราเอลได้สร้างสะพานทางอากาศเชื่อมกับฐานทัพอากาศ คอลิด บิน อับดุลอาซิส ใน Khamis Mushait เพื่อเป็นการสนับสนุนซาอุดิอาระเบียและกลุ่มพันธมิตรซาอุ และจัดเตรียมส่งอาวุธและยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นในการโจมตีเยเมน

    แหล่งข่าวเยเมนอ้างว่า หลังจากที่กองกำลังเยเมน ได้ยิงขีปนาวุธ “สกัด” ยังฐานทัพอากาศ คอลิด บิน อับดุลอาซิส ใน Khamis Mushait ของซาอุดิอาระเบีย เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา นอกเหนือจากผู้บัญชาการทหารอากาศซาอุดีอาระเบียเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่ทหารอิสราเอล 20 นาย และเจ้าหน้าที่ทหารซาอุดิอาระเบียอีก 60 นาย เสียชีวิตด้วย

    ในช่วงเวลาดังกล่าว กองกำลังติดอาวุธเยเมน ประกาศว่า ได้ยิงขีปนาวุธโจมตี ฐานทัพอากาศ คอลิด บิน อับดุลอาซิส ใน Khamis Mushait ทำให้เจ้าหน้าที่ของซาอุ อเมริกาและอิสราเอล ที่ประจำการอยู่ในฐานดังกล่าวเสียชีวิตนับสิบคน


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    อิสราเอลส่งอาวุธให้ซาอุดิอาระเบีย ใช้ถล่มเยเมน | abnewstoday
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อันตรายมาก เชื้อ H041 เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อันตรายมากและเลวร้ายกว่าเชื้อเอดส์ สามารถติดต่อกันได้ทางเลือด น้ำหนอง น้ำลาย เพศสัมพันธ์และจากแม่สู่ลูก แต่ในกรณีแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ลูกในท้องก็จะโดนไวรัสชนิดนี้กัดกินไปด้วย

    แบ่งปันในขณะนี้!!! เป็นโรคใหม่ อันตรายกว่าเอดส์
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    สุดยอดรัฐบาลรัสเซียในการให้ความคุ้มครองประชาชนของตนเอง ศาลรัสเซียแบน google ไม่ให้ใช้เว็บบ็อต (web robot) วิเคราะห์อีเมล์ส่วนบุคคลของผู้ใช้งานชาวรัสเซีย

    [​IMG]

    --------
    เมื่อต้นปีนี้นาย Anton Burkov ชาวเมือง Yekaterinburg ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในรัสเซียได้ยื่นฟ้อง Google หลังจากตกเป็นเป้าของโฆษณาทางอินเตอร์เน็ทที่เกี่ยวกับการท่องเที่ียวในฝรั่งเศสเริ่มปรากฏขึ้นในบราวเซอร์ของเขา หลังจากที่เขาได้หารือการเกี่ยวกับการเดินทางท่องเที่ยวในเมือง Strasbourg กับเพื่อนๆของเขาทางอีเมล์ในปี 2013 ศาลรัสเซียได้พิจารณาตัดสินว่า มันไม่ใช่เรื่องสำคัญที่ว่าใครจะติดต่อกันทางจดหมาย (correspondence) - ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์คนอื่นหรือบ็อต หากมันเป็นการละเมิดกฎหมายที่เกี่ยวกับ ความเชื่อมั่นในการติดต่อกันทางจดหมาย (มันก็ผิดด้วยกันทั้งนั้น!)
    ศาลรัสเซียรัสเซียในกรุงมอสโคว์ได้ประกาศคำวินิจฉัยว่า "การกระทำของสาขาของบริษัท (google) ในรัสเซียได้ชี้นำโดยผลของการตรวจสอบ/จับตาดู (monitoring) ในอีเมล์ของโจทก์ ดังนั้น จึงเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวในการส่งจดหมายติดต่อกันของโจทก์"
    ในมุมมองของศาลแล้ว "Google Russia ได้ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อความเป็นอิสระ ซึ่งรู้ว่าซอฟท์แวร์ที่บริษัทใช้งานนั้นได้ละเมิดสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของพลเมืองชาวรัสเซียในความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับการติดต่อกันทางจดหมาย"
    ส่งผลให้ศาลส่งปรัลบริษัท Google Russia เป็นจำนวนเงิน 50,000 รูเบิล (ประมาณ 27,680 บาท ปรับน้อยจัง?) แต่ที่เด็ดก็คือตรงนี้ครับท่าน... และได้สั่งแบนบริษัทจากการฝังโฆษณาตามบริบท ของเนื้อหาในอีเมล์ของโจทก์ด้วย
    ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า คดีนี้จะเป็นการกำหนดมาตรฐานในการพิจารณาคดีต่อไป (set precedent) และจะมีการนำไปใช้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการละเมิดความเป็นส่วนตัวในอีเมล์ในโอกาสต่อไปด้วย ส่วน Google Russia และบริษัทแม่ บอกว่าจะขอยื่นอุทธรณ์ต่อไป โดยให้เหตุผลว่าการโฆษณาตามบริบท (เนื้อหา) ในอีเมล์ (ของผู้ใช้งาน) ทำรายได้ให้บริษัทได้อย่างมหาศาล (กรรม!)
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    06/10/2558

    ภาพจาก © Sputnik

    ----------
    Court Bans Google From Spying on Russian Users' Email Correspondence
    You Don't Got Mail
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts
    ปธน.บาซาร์ อัสซาด: ตะวันตกใช้ขบวนการก่อการร้ายเป็นเครื่องมือใหม่เพื่อพิชิตตะวันออกกลาง, อัสซาด บอกว่าพร้อมจะก้าวลงจากตำแหน่ง หากการสละตำแหน่งของเขาเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยาวนานมาตลอดสี่ปี

    [​IMG]

    ----------
    วันที่ 4 ต.ค.58 สำนักข่าว RT news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "Assad: ‘West uses terrorism as new instrument to subjugate Middle East’" ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ของปธน.บาชาร์ อัสซาด แก่ Habar TV โดยกล่าวว่า กลุ่มประเทศตะวันตกกำลังใช้ขบวนการก่อการร้ายเป็นเครื่องมือ (เป็นข้ออ้าง) ในการควบคุม (ตะวันออกกลาง)
    1.) อัสซาดกล่าวว่า "จากจุดเริ่มต้นมา เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ามีมือของพวกตะวันตกอยู่เบื้องหลังของขบวนการก่อการร้ายในซีเรีย" ในการให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ เช็กจากต้นฉบับข่าวจากสำนักข่าว SANA (Syrian Arab News Agency) แล้วพบว่าให้สำภาษณ์เยอะมาก 38 คำถามยาวๆทั้งนั้น แปลไม่ไหวหรอกครับ เอาย่อๆตามที่ RT news ของรัสเซียสรุปบางประเด็นก็แล้วกันนะ
    รายงานข่าวบอกว่าประธานาธิบดีอัสซาดคิดว่า ที่พันธมิตรนำโดยสหรัฐฯต่อต้านกลุ่มก่อการร้ายไอซิสไม่ประมีประสิทธิภาพนั้น ก็เพราะว่าพวกตะวันตกไม่ได้ต้องการที่จะเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายไอซิส อันที่จริงแล้ว ตะวันตกต้องการที่จะรักษาสมดุลระหว่างฝ่ายต่างๆที่ทำสงครามกันเพื่อ "ขยายระยะเวลากระบวนการบ่อนทำลายในซีเรีย (perpetuate the process of erosion in Syria) และอิรัค และประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้ต่างหาก ดังนั้นพวกเราถึงได้อ่อนแอมาเป็นระยะเวลาหลายสิบปี หรืออาจจะหลายรุ่นก็ได้"
    ปธน.อัสซาด ตั้งคำถามว่า "สหรัฐฯและพันธมิตรจะต่อสู้กับขบวนการก่อการร้ายไอซิสในซีเรียและในอิรัคได้อย่างไร ก็ในเมื่อพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุดของพวกเขา (สหรัฐฯและตะวันตก) ในรัฐบาลของนาย Erdogan (ปธน.ตุรกี) และนาย Davutoglu (นายกฯตุรกี) กำลังให้การสนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และปล่อยให้พวกผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นข้ามชายแดนและนำอาวุธต่างๆ เงิน และพวกนักรบรับจ้างผ่านตุรกีได้?" (อย่าลืมว่ากบฏซีเรียที่เป็นลูกน้องของสหรัฐฯก็ฝึกอยู่ในตุรกีและบางประเทศที่เป็นพันธมิตรของสหรัฐฯแถวนั้นเช่นกัน)
    ปธน.ของซีเรียกล่าวว่า ตั้งแต่มีการจัดตั้งกองกำลังพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯขึ้นมานี้ ขบวนการก่อการร้ายได้ขยายออกไปตามภูมิศาสตร์และหาสมาชิกเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว (อื่มมมม! ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นหละครับท่านโอบาม่า? ระดับสหรัฐฯและตะวันตกนี่จะไม่รู้เลยหรือว่าใครให้การสนับสนุนและอยู่เบื้องหลังของไอซิสบ้าง? ขนาดดักฟังเขาไปทั่วโลกยังทำได้เลย การติดตามหาสปอนเซอร์ของไอซิสก็ไม่น่าจะเกินความสามารถของสหรัฐฯเลยนี่นา? รู้… แต่ไม่บอกอ่ะ)
    อัสซาดกล่าวว่า "ตามพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า [ซีเรีย, อิหร่าน และเฮชบอลเลาะห์] จะสามารถเอาชนะกลุ่มก่อการร้ายได้ ซึ่งเป็นเครื่องมือชิ้นใหม่ (new instrument) สำหรับใช้ในการพิชิตภูมิภาคนี้"
    ปธน.อัสซาดพูดถึงเรื่องการโจมตีจากฝ่ายรัสเซียว่า ไม่เหมือนกับพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ รัสเซียร่วมมือกับอิหร่าน อิรัค และซีเรียมีโอกาสเป็นอย่างมากที่จะประสบความสำเร็จ "มันจะต้องสำเร็จ มิฉะนั้นภูมิภาคทั้งหมดซึ่งไม่เพียงแค่หนึ่งหรือสองประเทศนี้เท่านั้น ก็จะถูกทำลายไปด้วย" (ว้าวววว! ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ดูอิรัค ลิเบีย และอัฟกานิสถานเป็นต้น ประเทศเหล่านี้ต่างก็ย่อยยับไปด้วยฝีมือของนักส่งออกประชาธิปไตยเบอร์หนึ่งของโลกและพันธมิตรตะวันตกด้วยกันทั้งนั้น แต่พอรัสเซียเข้าไปจัดการกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านั้นได้แค่ไม่กี่วัน สหรัฐฯชี้มือมาที่รัสเซียทันทีว่า "หยุด! คุณกำลังทำร้ายประชาชน พลเรือน คุณไม่ได้ทำลายไอซิส" สื่อฯสำนักต่างๆทั่วโลกที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐฯและตะวันตกต่างก็ประสานเสียงเป็นจั๊กกะจั่นหน้าหนาวทันที พูดแบบเดียวกันเดี๊ยะ "รัสเซียเป็นผู้ร้ายที่ไปทำร้ายไอซิส... รัสเซียมุ่งโจมตีกบฏติดอาวุธของสหัฐฯและพันธมิตรที่แปลพักตร์ไปเข้ากลุ่มกับพวกอัลเคดาร์ และอาจจะรวมถึงไอซิสด้วย รัสเซียทำไม่ถูกต้อง" ประมาณนี้แหละ สามารถอ่านได้จากสื่อฯไทยโปรอเมริกาได้เลย)
    2.) "หากว่าการก้าวลงจากตำแหน่งเป็นการแก้ไขปัญหา ผมก็จะไม่ลังเลที่จะกระทำเช่นนั้นเลย" (If my departure is the solution, I will never hesitate to do that)
    เกี่ยวกับเรื่องการเมือง ประธานาธิบดีอัสซาดได้กล่าวอีกครั้งหนึ่งว่า เขาพร้อมสำหรับการเจรจาทางการเมืองกับชาวซีเรียทุกคน - แต่ต้องไม่ใช่กับพวกมหาอำนาจตะวันตก "การเจรจาใดๆ เกี่ยวกับระบบการเมืองหรือเจ้าหน้าที่ทั้งหลายในประเทศนี้ เป็นกิจการภายในของซีเรีย" ปธน.อัสซาดกล่าว (Any talk about the political system or the officials in this county is an internal Syrian affair) (สหรัฐฯและพันธมิตรได้ยินหรือเปล่า? ผู้นำของซีเรียกล่าวว่าคนนอกอย่าแส่เรื่องภายในของประเทศเขา ปล่อยให้คนในบ้านของเขาคุยกันเอง เพราะถ้าอเมริกาเข้าไปยุ่งที่ไหน ที่นั่นบรรลัยทุกแห่ง!)
    ปธน. อัสซาดกล่าวต่ออีกว่า "เมื่อประชาชนชาวซีเรียตัดสินใจว่า บุคคลคนนั้นควรจะอยู่ เขาก็จะอยู่ และเมื่อประชาชนชาวซีเรียตัดสินใจว่าเขาควรจะไป เขาก็จะไปในทันที หากว่าการสละตำแหน่งของผม เป็นการแก้ไขปัญหา ผมก็จะไม่ลังเลใจที่จะกระทำเช่นนั้นเลย"
    คำถามของบางคนแสร้งโลกสวยอาจจะถามว่า "แล้วทำไมคุณถึงไม่ยอมก้าวลงก่อนหละ?" ก็มีคำถามย้อนกลับไปอีกว่า ถ้าอัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว มีอะไรเป็นเครื่องรับประกันได้ว่าบ้านเมืองจะสงบจริงๆ? เพราะว่าตอนนี้มีกลุ่มที่ต่อสู้กับรัฐบาลซีเรียอยู่สองกลุ่มใหญ่ๆด้วยกันคือ กลุ่มไอซิส และกลุ่มกบฏหรือพวกพรรคฝ่ายค้าน และในฝ่ายค้านนั้นก็แบ่งย่อยเป็นกลุ่มต่างๆอีกมากมายประมาณ 58 กลุ่ม (ข้อมูลจากวิกิถ้าจำไม่ผิดนะ) ถ้าอัสซาดสละตำแหน่ง โดยไม่มีการสืบทอดอำนาจใดๆ (สมมุติครับ) แล้วมีอะไรเป็นหลักประกันว่าพวกกบฏที่ต้องการจะเข้ามาครอบครองอำนาจใหม่จะไม่ต่อสู้กับพวกผู้ก่อการร้ายไอซิสอีก?
    กรณีนี้ดูที่อิรัคเป็นตัวอย่าง ตอนแรกสหรัฐฯหาเหตุผลรุกรานอิรัคเพื่อโค่นล้มซัดดัมว่ามีอาวุธร้ายแรง หลังจากที่โค่นล้มซัดดัมได้แล้ว สหรัฐฯก็จัดการให้อิรัคมีการเลือกตั้งใหม่ (ส่งออกประชาธิปไตยแบบสหรัฐฯไปให้อิรัค) และก็มีไอซิสเกิดขึ้นมาในอิรัคทันที ตอนนี้รัฐบาลอิรัคก็กำลังวุ่นอยู่กับการจัดการปัญหาผู้ก่อการร้ายไอซิสในประเทศของตน ตั้งแต่สหรัฐฯและพันธมิตรรุกรานอิรัคเป็นต้นมาตั้งแต่ปี 2003 จนถึงทุกวันนี้ (2015) สิบกว่าปี แล้วก็ยังไม่เห็นว่าอิรัคจะสงบสุขซักที สหรัฐฯและพันธมิตรก็ยังเดินหน้าก่อสงรามในอิรัคไม่หยุดหย่อน โดยใช้ไอซิสเป็นเครื่องมือตามที่ปธน.อัสซาดได้กล่าวไว้นั่นเอง
    แล้วจะให้แน่ใจได้อย่างไรว่าหากปธน.อัสซาดไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกต่อไป แล้วกลุ่มกบฏและผู้ก่อการร้ายไอซิสจะยุติสงครามทันที? สหรัฐฯและพันธมิตรให้คำตอบได้ไหมว่ากลุ่มกบฏและผู้ก่อการร้ายไอซิสจะไม่ทำสงครามอีก ไม่มีการแบ่งแยกประเทศ หลังจากที่อัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งแล้ว? ดูลิเบียทุกวันนี้สิ... สหรัฐฯและตะวันตกกำจัดกัดดาฟี่ได้เหมือนกับซัดดัมแล้ว ลิเบียสงบหรือไม่? กัดดาฟี่ออกไป ไอซิสเข้ายึดครองทันที และหากอัสซาดก้าวลงจากตำแหน่งแล้วจะมั่นใจได้อย่างไรว่าประเทศซีเรียจะไม่กลายเป็นประเทศไอซิสไปในพริบตา? ไม่มีใครที่จะเป็นผู้ให้หลักประกันนี้ได้
    มีสิ....ก็ให้สหรัฐฯและตะวันตกส่งทหารและกองทัพของตนเองเข้าไปคุมทุกจุดทุกเมืองและเข้าไปตั้งฐานทัพอย่างถาวร เหมือนกับที่สหรัฐฯเข้าไปตั้งฐานทัพของตนในยุโรป ญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆทั่วโลกอย่างไรเล่า รับรองสงบทันทีเลย ถ้าอย่างนั้นก็มีถามอีกว่า ก็แล้วทำไมจะต้องเป็นสหรัฐฯเพียงแต่ประเทศเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์กระทำอย่างนั้นได้? ทำไมประเทศอื่นที่ไม่ใช่พันธมิตรของสหรัฐฯ อย่างรัสเซียหรือจีนถึงไม่มีสิทธิ์นี้บ้าง? บางคนอาจจะยกเรื่องระบบการปกครองมาเป็นข้ออ้างว่า ให้จีนเข้าไปตั้งฐานทัพในซีเรียไม่ได้หรอก เพราะว่าจีนเป็นคอมมิวนิสต์ เดี๋ยวจะทำให้ซีเรียกลายเป็นคอมมิวนิสต์หรือเมืองขึ้นของคอมมิวนิสต์ไปด้วย ถ้าอย่างนั้นแล้วรัสเซียหละ? ตอนนี้รัสเซียไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์แล้วนะ เขาเป็นประชาธิปไตยเต็มใบแล้ว ไม่มีประเทศไหนในโลกปฏิเสธการเป็นประชาธิปไตยของรัสเซียเลย พวกจอมแถก็อาจจะบอกว่า ก็รัสเซียเป็นอดีตโซเวียตที่เคยเป็นคอมมิวนิสต์มาก่อน จึงไม่ไว้ใจ อ้าว… ถ้าอย่างนั้นก็ต้องถามกลับไปอีกว่า แล้วสหรัฐฯนักค้าทาสละเมิดสิทธิ์มนุษยชนเบอร์หนึ่งของโลกและอังกฤษ ฝรั่งเศส ประเทศนักล่าอาณานิคมเหล่านั้นประเสริฐเลอเลิศกว่าประเทศอื่นตรงไหนรึ?
    กลับมาที่ข่าวต่อนะครับ... อัสซาดเน้นย้ำว่า ไม่มีประเทศใดในโลกที่จะเจรจากับกลุ่มก่อการร้าย พวกเขาควรจะอยู่ภายใต้กฎหมาย และนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
    ปธน.อัสซาดกล่าวว่า "อย่างไรก็ตามรัฐอาจจะจัดให้มีการเจรจากับกลุ่มก่อการร้ายขึ้นมาในกรณีเดียวคือ เมื่อวัตถุประสงค์ของการเจรจาเป็นไปเพื่อบุคคลต่างๆที่ดำเนินการก่อการร้ายเพื่อให้วางอาวุธของพวกเขา และอยู่ภายใต้รัฐและกฎหมาย นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นโดยปรกติในซีเรีย (ในสหรัฐฯด้วยหรือเปล่า?) พร้อมกับรัฐบาลที่จัดให้มีการเจรจาร่วมกันกับกลุ่มที่แสวงหาการปรองดอง นิรโทษกรรมให้พวกเขา และให้โอกาสพวกเขากลับมาใช้ชีวิตตามปรกติ"
    ก็ไหนเห็นสหรัฐฯและตะวันตกชี้หน้าประนามอัสซาดว่าเป็นเผด็จการไง แต่ตอนเขาพูดก็ไม่เห็นว่าจะเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหาโดยสื่อฯกระแสหลักของสหัฐฯและตะวันตกเลยนี่นา นี่แหละคือจุดที่อเมริกาหวาดกลัวที่สุด จุดที่จะเกิดความสามัคคีของคนในชาตินั้นๆ นี่แหละถ้าฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลตกลงยุติสงครามได้เมื่อไรและร่วมมือกันปราบผู้ก่อการร้ายไอซิส งานนี้สหรัฐฯและพันธมิตรก็ขาดทุนแย่สิครับ และจะขายอาวุธแลกน้ำมันดิบเถื่อนราคาถูกได้อย่างไร
    3.) มาฟังด้านรัสเซียบ้างนะครับ... วันที่ 5 ก.ย.58 สำนักข่าว Sputnik news พาดหัวข่าวว่า "ลาฟรอฟกล่าวว่า กรุงมอสโคว์พร้อมที่จะทำการติดต่อกับกลุ่มกองกำลังปลดปล่อยซีเรีย" (Lavrov Says Moscow Ready to Establish Contacts With Free Syrian Army)
    นาย Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียกล่าวเมื่อวันจันทร์นี้ว่า กรุงมอสโคว์กำลังเตรียมพร้อมเพื่อทำการติดต่อกับกลุ่ม Free Syrian Army (FSA) และได้ขอให้ทางสหรัฐฯแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับ FSA แล้วด้วย แต่จนบัดนี้ทางกรุงมอสโคว์ก็ยังไม่ได้รับการตอบสนองใดๆเลย (กองกำลังปลดปล่อยซีเรีย (FSA) เป็นพรรคฝ่ายค้านติดอาวุธต่อสู้กับรัฐบาลจนเกิดสงครามกลางเมืองตั้งแต่ปี 2011 ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลสหรัฐอเมริกา เป็นเด็กของอเมริกาว่าอย่างงั้นเถอะ เห็นหรือยังว่าสหรัฐฯชอบสนับสนุนให้เกิดความแตกแยกในประเทศต่างๆมากขนาดไหน? กลุ่มหัวรุนแรงอุยกูร์ที่จีนก็เช่นกัน ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯและตุรกีด้วย แสบทั้งคู่เลย)
    นายลาฟรอฟกล่าวว่า "ในกรณีใดๆ ผมได้ร้องขอให้นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯให้ข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับที่อยู่ของกองกำลังปลดปล่อยซีเรียให้เราทราบด้วยว่าอยู่ที่ไหนและใครกำลังนำกลุ่มนี้อยู่" (รัสเซียก็รู้ว่า FSA เป็นเด็กของสหรัฐฯ แต่ก็แกล้งถามไปอย่างนั้นแหละว่าช่วยบอกให้ทราบหน่อยว่ามันอยู่ที่ไหน จะได้ไปบอมบ์ได้ถนัดๆหน่อย ฮ่าๆๆ ไม่ใช่ คือจะได้เรียกมาเจรจากันอย่างเป็นทางการ ถ้าไม่ยอมมาเจรจาหากเลยกำหนดแล้ว หากโดรนและดาวเทียมของรัสเซียและกองทัพซีเรียหาเจอเอง เดี๋ยว FSA ของสหรัฐฯจะไม่มีโอกาสมานั่งโต๊ะเจรจาได้นะ พอถึงเวลานั้นเงื่อนไขของ FSA ก็อาจจะไม่มีน้ำหนักเท่าที่ควร ข้อต่อรองอาจจะดูอ่อนไปก็ได้)
    ป.ล. ตอนต่อไปจะเกี่ยวกับกรณีเครื่องบินรบรัสเซียแฉลบน่านฟ้าตุรกีเล่นๆ... ก็บอกแล้วว่าให้ back off ก็ไม่ถอยซักที งั้นรัสเซียเลยส่งเครื่องบินรบไปชะเง้อดูเหนือน่านฟ้าของตุรกีซักหน่อยเพื่อดูว่าพวกกบฏของสหรัฐฯในตุรกียังอยู่ดีมีสุขกันอยู่หรือเปล่าเท่านั้นเอง ตุรกีก็ทำเป็นตกอกตกใจส่งเครื่องบินรบ F-16 เข้าสะกัดเครื่องบินรบของรัสเซียไปได้
    The Eyes
    เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
    06/10/2558

    ภาพ Syria's President Bashar al-Assad จาก © SANA / Reuters

    ----------
    https://www.rt.com/news/317625-assad-interview-syria-terrorism/
    President al-Assad: New anti-terrorism coalition must succeed, otherwise the whole region will be destroyed | Syrian Arab News Agency
    Lavrov Says Moscow Ready to Establish Contacts With Free Syrian Army
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    วันที่ 29 มกราคม 2558 ทำเนียบดำบอกว่า "กลุ่มตาลีบันไม่ใช่ขบวนการก่อการร้าย แต่เป็นเพียงกลุ่มกบฏติดอาวุธเท่านั้น" ฮ่าๆๆ

    [​IMG]

    ภาพ นักรบตาลีบัน Taliban fighters (Reuters) / Reuters

    ------------
    https://www.youtube.com/watch?v=CjwfGvdOb3k
    https://www.rt.com/usa/227487-white-house-taliban-terrorists/
    Taliban Are Not Terrorists, or So Says the White House - ABC News
    Why Obama Needs to Pretend the Taliban Aren’t Terrorists | National Review Online
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    [​IMG]

    เห็นคุณเปลวฯ ตั้งฉายาให้ว่าเป็น "บุรุษเหล็ก" เลยหละครับ อยู่กลางดงพันธมิตรของสหรัฐฯที่เต็มไปด้วยสิงสาลาสัตว์ทั้งนั้นแต่ก็ยังยืนหยัดอยู่ได้มาจนถึงทุกวันนี้ ขนาดซัดดัมและกัดดาฟี่ที่ว่าแน่ๆ ก็ยังไม่อึดที่คนนี้เลย การเดินเกมที่ไม่ธรรมดาจริงๆ คือไม่หยิ่งเกินไป หาพันธมิตรที่เป็นมหาอำนาจอย่างรัสเซียมางัดกับอเมริกาและนาโต้ ในขณะเดียวกันก็คบกับอิหร่านเพื่อถ่วงดุลรัสเซีย คบกับรัสเซียเพื่อถ่วงดุลไม่ให้อิหร่านกลืนได้ด้วย ถือว่าคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆครับ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช https://www.facebook.com/fisont?fref=ts

    เมื่อ ยุโรป เป็นแค่เบี้ย บนกระดานหมากรุก

    [​IMG]

    ----------
    โดย: Tor Teerawat (05 ต.ค. 2558)
    ประเทศในยุโรป กำลังเผชิญกับ ปัญหาผู้ลี้ภัย จากตะวันออกกลางและแอฟริกา ผู้คนจำนวนมากต้องทิ้งบ้านของพวกเขาและทุกสิ่งทุกอย่างไว้ แล้วไปที่ยุโรป สาเหตุ เป็นเพราะสงครามในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมถึงผลกระทบที่มาจากการปฏิวัติสี และการก่อการร้ายซึ่งส่งผลให้ เกิดปัญหาผู้อพยพ ทั้งทางตรงและทางอ้อม กับยุโรป
    ในปัจจุบันมีผู้ลี้ภัยเกิดขึ้นจำนวนมาก จากตะวันออกกลาง ไหลทะลักเข้าสู่ยุโรปสถานการณ์การต่อต้านผู้อพยพลี้ภัย ด้วยความก้าวร้าวเกิดมากขึ้น ด้วยวัฒนธรรมที่แตกต่าง รวมถึงเชื้อชาติ ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้เกิดความขัดแย้งทางสังคม ที่เป็นเหมือนระเบิดเวลา ทางสังคมขนาดใหญ่ ที่รอเวลาถึงจุดแตกหัก จากสาเหตุของประชากรสองกลุ่มที่มีความแตกต่างกัน
    วิกฤตการอพยพในปัจจุบันนี้ ในยุโรป มีความเชื่อมโยงกับการปฏิวัติสี ในความเป็นจริงการปฏิวัติสีได้รับการวางแผนระยะยาว ที่มุ่งการแทรกแซง โดยการปฏิวัติสีเป็นการดำเนินงานในทางลับ ด้วยข้อกำจัดของการแสดงออกของอเมริกา ที่ไม่สามารถดำเนินการบางอย่าง แบบเปิดเผยได้ ทุกการเคลื่อนไหวของการปฏิวัติสี ได้รับเงินทุน และ ถูกจัดขึ้นโดยรัฐบาลสหรัฐ ในทางลับ และโดยองค์กรพัฒนาเอกชนที่ได้รับทุนจากสหรัฐ เพื่อเป้าหมายของอเมริกา กับการล่าอาณานิคมยุคใหม่ โดยมีองค์กรต่างๆ ช่วยเหลือประสานงานกัน เช่น องค์กรพัฒนาเอกชนอเมริกัน "Freedom House", "องค์กรแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย" (NED), และองค์กรพัฒนาภาคเอกชน "Open Society Institute" โดยมี จอร์จ โซรอส ให้เงินทุนสนับสนุน
    ในเมษายน 2011 นิวยอร์กไทม์ส ได้เผยแพร่หลักฐานสำหรับการฝึกอบรม อย่างเป็นระบบของคนหนุ่มสาว โดยสถาบันการศึกษาสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อ ผู้ให้การสนับสนุนการปฏิวัติสี ในศตวรรษที่ 20 สหรัฐดำเนินการต่างๆ กับ CIA / USAID และองค์กรต่างๆ สนับสนุนเงินทุนโดยจอร์จโซรอส การเลือกผู้นำของการปฏิวัติสี เป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จ ของการปฏิวัติสี โดยผ่านการเลือกและการฝึกอบรม ในปี ค.ส.1990 มีการดำเนินการเกี่ยวกับ "นักเรียนแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ." เช่น ทีมของนักศึกษาในสหรัฐอเมริกา และอังกฤษ โปรแกรมทำงานสำหรับนักเรียน ในช่วงฤดูร้อน การทำงานและการเดินทางในสหรัฐอเมริกา กองทุนโดนัลด์ทรัมป์ จะส่งทูตไปเลือกนักเรียนที่ดีที่สุด จากมหาวิทยาลัย เพื่อการฝึกอบรม ความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย การปฏิบัติงานในส่วนต่างๆของโลก จุดประกายความขัดแย้งในประเทศเป้าหมายแล้วล้มล้างรัฐบาลท้องถิ่น เพื่อปรับเปลี่ยน ผู้นำในประเทศต่างๆ ให้เป็นเพียงหุ่นเชิด ของนายทุนตะวันตก พวกเขาจะสามารถปกครองโดยผ่านเผด็จการรัฐสภา การดำเนินนโยบายในประเทศต่างๆ เอื้อผลประโยชน์ ให้พวกเขา
    การดำเนินการที่สำคัญ คือการสร้างเงื่อนไขต่างๆ ให้เกิดผู้ชุมนุมประท้วงตามท้องถนน และโค่นล้มรัฐบาลในประเทศเป้าหมายที่ไม่เข้าพวกกับฝ่ายตน
    กรณีของยูเครน เป็นตัวอย่างได้อย่างดี จากการถูก "ปฏิวัติสี" ส่งผลตามมาด้วยปัญหามากมายจากความวุ่นวายในประเทศเป้าหมาย ไฟสงคราม และความขัดแย้ง ยังขยายออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง รัสเซีย ที่สถานการณ์ต่างๆ ในยูเครน ยังไม่มีทีท่าว่าจะไปในแนวทางที่ดีขึ้น จนกระทั่งถึงปัจจุบันวิกกฤษยูเครนที่เกิดขึ้นในสถานการณ์เช่นนี้ รัสเซียต้องการความมั่นคงและเสถียรถาพตามขอบเขตชายแดนของรัสเซีย วิกฤตยูเครนเป็นภัยคุกคามกับความมั่นคงของรัสเซีย ซึ่งยุโรปทราบดีว่า รัสเซียจะต้องทำทุกวิถีทาง เพื่อต่อต้านการคุกคามทุกรูปแบบ
    เมื่ออเมริกาพยายามดึงพันธมิตรยุโรป เข้าไปมีปัญหาความขัดแย้งกับรัสเซีย ที่สำคัญยุโรปก็ดำเนินการต่างๆ ไปในแนวทางที่เผชิญหน้ากับรัสเซีย บทสรุปของปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น จะส่งผลในด้านลบให้กับยุโรปในท้ายที่สุดความรุนแรงต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับ รัสเซีย การสร้างความวุ่นวายในตะวันออกกลาง สุดท้ายจะนำไปสู่ปัญหาที่บานปลายซึ่งยุโรปจะต้องจ่ายด้วยราคาแพงสำหรับความผิดพลาดที่ผ่านมา
    ยุโรปควรจะใช้ความพยายามต่างๆ เพื่อที่จะรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในประเทศเหล่านั้น (ตะวันออกกลาง)แต่ยุโรป กลับดำเนินการต่างๆที่สวนทางกับคำว่า เสถียรภาพ และสันติภาพ การเข้าแทรกแซงทางทหารในหลายๆประเทศในตะวันออกกลาง เหมือนกับการเติมเชื้อไฟให้ปัญหาโหมแรงขึ้น และยิ่งนานวันปัญหาต่างๆยิ่งบานปลาย จนยากเกินที่จะควบคุม "ไฟสงคราม และการก่อการร้าย ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น" ในภูมิภาคข้างเคียงกับภูมิภาคยุโรป ท้ายที่สุดจะทำให้ปัญหาต่างๆ ย้อนกลับไปหา ยุโรป ในหลายรูปแบบ
    จึงเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมอเมริกาที่เป็นพันธมิตรกับยุโรป ถึงดำเนินการต่างๆ ไปในแนวทางที่ ส่อแววว่าจะไม่เป็นผลดีกับมิตรประเทศของตนอย่างยุโรป ความสัมพันธ์ของอเมริกากับยุโรป การเปลี่ยนแปลงของยุโรปในปัจจุบัน (มีการรวมตัวกันเป็นสหภาพยุโรป) ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ของยุโรปและสหรัฐอเมริกาในอนาคต การล่มสลายของสหภาพโซเวียต (ค.ศ. 1991) นับเป็นการสิ้นสุดของสงครามเย็น (Cold War) ทำให้สหรัฐอเมริกาเป็นอภิมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียว การลดลงของภยันตรายจากการข่มขู่ของคอมมิวนิสต์ในขณะที่ยุโรปเริ่มจะมีความเข้มแข็งเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ ย่อมเป็นปัจจัยและเงื่อนไขที่จะส่งเสริมบทบาท ทางการเมืองในอนาคตของยุโรป ซึ่งในยุคต่อไปนี้เองที่เป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาจะต้องปรับแนวนโยบายต่างประเทศกับยุโรป
    บทบาทของสหรัฐอเมริกาในองค์การนาโต้ต้องมีการประเมินใหม่ ตลอดจนท่าทีของสหรัฐอเมริกาที่มีต่อประชาคมยุโรป ในฐานะกลุ่มประเทศและเป็นประเทศสมาชิกแต่ละประเทศ การปรับความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาในด้านเศรษฐกิจ การเมือง การป้องกันยุโรป ความขัดแย้งของยุโรปและสหรัฐอเมริกามิติใหม่ซึ่งมีปัจจัยที่สำคัญ 2 ประการ ดังนี้ 1.ปัจจัยด้านกำลังทหาร
    2.ปัจจัยด้านเศรษฐกิจ
    ด้านกำลังทหาร การลดบทบาทของสหรัฐอเมริกา และการขยายบทบาทของประเทศในยุโรป การสิ้นสุดของสงครามเย็นภายหลังของการล่มสลายขององค์การกติกาสัญญาวอซอ เป็นการสิ้นสุดของการเผชิญหน้าระหว่างค่ายโลกเสรีกับค่ายโลคอมมิวนิสต์ในยุโรป นอกจากนั้นการลดกำลังอาวุธขนาดกลาง ยิ่งทำให้ภาพของการคุกคามลดลง ในบริบทดังกล่าวความจำเป็นในด้านการพึ่งพากำลังอำนาจทางการทหารและนิวเคลียร์จากสหรัฐอเมริกาก็ย่อมลดลงไปด้วย ในช่วงขณะเดียวกันยุโรปเองก็มีพลังทางเศรษฐกิจและการรวมตัวกันในกรอบของประชาคมยุโรป ซึ่งเป็นฐานสำคัญสู่การขยายพลังทางการเมืองและการทหารในอนาคต
    การปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเมืองดังกล่าว ย่อมส่งผลต่อการปรับโครงสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกากับยุโรป เพราะผลที่ตามมาคือ การปรับโครงสร้างภายในกรอบของนาโต้เพื่อสะท้อนแนวโน้มการขยายบทบาทของยุโรปและการมีอิสระยิ่งขึ้น อีกส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ก็คือ การขยายบทบาทขององค์การสหภาพยุโรปตะวันตก อันเป็นองค์การการทหารและความมั่นคงภายในกรอบของยุโรปเอง
    จากการลดบทบาท ของนาโต้ ทำให้บทบาทของสหรัฐอเมริกาลดลงด้วย สร้างความไม่พอใจแก่สหรัฐอเมริกา เพราะอำนาจต่อรองต่างๆ ในภูมิภาคลดลง ในขณะที่เยอรมันและฝรั่งเศสเป็นประเทศที่รวมอำนาจเป็นศูนย์กลางของยุโรป ยุโรปมีบทบาทเรียนจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่าการแข่งขันระหว่างรัฐชาติได้นำความหายนะมาสู่ยุโรป จึงพยายามสร้างสันติภาพใหม่และจัดระเบียบใหม่ในความเป็นตัวของตัวเอง
    ด้านเศรษฐกิจ การรวมตัวกันของชาติยุโรปขึ้นเป็นสหภาพยุโรป (European Union) มีหลักการที่สำคัญต่างๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ การจัดตั้งตลาดเดียวแห่งยุโรป คือ การกำหนดโครงการจัดตั้งตลาดภายในประชาคมเป็นตลาดเดียว ซึ่งจะกลายเป็นเขตพื้นที่พรมแดนภายในขวางกัน ทั้งนี้เพื่อค้ำประกันการไหลเวียนอย่างเสรีของสินค้า บุคคล บริการ และทุนของประชาคม เกิดความจำเป็นที่จะต้องประสานนโยบายด้านอื่นๆ ของประเทศสมาชิกตามมา อาทิเช่น นโยบายด้านเศรษฐกิจการค้า สังคม และแรงงานสัมพันธ์ ตลอดจนการยกเลิกการควบคุมพรมแดน ทั้งนี้ เพื่อรับรองสภาพการเป็นตลาดเดียวของยุโรป การสร้างตลาดเดียวสามารถทำให้เกิดการบูรณาการในภาคอื่นๆ ตามมาด้วย
    “โครงการ 1992” ถูกมองว่าเป็นแบบแปลนของการสร้าง “ป้อมปราการยุโรป” ที่มีนโยบายปกป้องเศรษฐกิจการค้าเฉพาะภายในกลุ่มและกีดกันสินค้าและการลงทุนนอกกลุ่ม ส่งผลกระทบต่อสินค้าของสหรัฐอเมริกาในการเข้ามาจำหน่ายในยุโรป ซึ่งทั้งสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างตอบโต้เกี่ยวกับเรื่องการค้าซึ่งกันและกัน เช่น…
    สหภาพยุโรป (European Union) สั่งระงับการนำเข้าพืชตัดต่อสายพันธุกรรม (GMO) ประเภทใหม่ๆ เป็นเวลา 3 ปี ในขณะที่สหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศผู้ผลิตอาหารจากข้าวโพดและถั่วเหลืองจาก GMO รายใหญ่ที่สุดของโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐอเมริกา
    สหภาพยุโรป แจ้งให้ประเทศผู้ที่ส่งพืช GMO เข้าจำหน่ายในสภาพยุโรปต้องติดฉลากด้วย ซึ่งสหรัฐอเมริกาเองก็ออกมาคัดค้านการติดฉลาก โดยอ้างว่า จะทำให้ผู้บริโภคหวาดกลัวโดยใช่เหตุและเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม (Inovation) ซึ่งมีการพัฒนาการอย่างรวดเร็ว
    สหรัฐอเมริกาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากต่างประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อผู้ส่งออกเหล็ก ทั้งจาก ญี่ปุ่น และมากที่สุดคือยุโรป ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาขององค์การการค้าโลก (WTO) แต่สิ่งที่สหภาพยุโรปจะดำเนินการเพื่อตอบโต้สหรัฐอเมริกาคือ การเพิ่มภาษีสินค้าที่ส่งออกมายังยุโรป เช่น น้ำส้มฟลอริด้า ผักแช่แข็ง ไปจนถึงผลิตภัณฑ์กระดาษ ซึ่งสมาชิกสหภาพยุโรปทั้ง 15 ประเทศ ให้ความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ในการตอบโต้ สหรัฐอเมริกา มีมาตรการเพิ่มเงินอุดหนุนภาคการเกษตรและการตั้งกำแพงภาษีนำเข้า ซึ่งกระทบต่อการส่งออกของสหภาพยุโรป
    "เมื่ออเมริกา ตัดสินใจที่จะสร้างโซนของความไม่แน่นอน โซนของสงคราม โซนของความขัดแย้งและการก่อการร้าย ในตะวันออกกลาง พวกเขาตระหนักดีว่าผู้คนจะหนีไปยังยุโรปซึ่งยุโรป จะถูกใช้เป็นตัวเบี้ยบนกระดานหมาก เพื่อล้มประเทศต่างๆในตะวันออกกลาง และเข้าครอบครอง ซึ่งเมื่อตะวันออกกลางถูกควบคุมเบ็ดเสร็จ ได้เมื่อไหร่ ความวุ่นวายต่างๆจะย้ายไปสู่ภูมิภาคยุโรป ในที่สุด เพราะความไม่แน่นอนในยุโรปเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสหรัฐอเมริกา"
    ป.ล.เมื่อความโลภของมนุษย์ มีความล้ำลึก กว่าห้วงอวกาศ สันติภาพที่แท้จริง จึงเป็นสิ่งที่ยากจะเกิดขึ้น.

    อ้างอิงกรณีวิกฤติผู้อพยพในยุโรป
    (หน้านี้หายไปแล้วน่ะครับ:http://www.komchadluek.net/detail/20150830/212437.htm)

    ดูหน้านี้แทนครับ วิกฤติการณ์ผู้อพยพในยุโรป เปิดโลกวันอาทิตย์ : วิกฤติการณ์ผู้อพยพในยุโรป : โดย...บุญรัตน์ อ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย 700 กว่าคน ยอมจำนนกับทางการแล้ว
    โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 6, 2015

    [​IMG]

    แฟ้มภาพ : AFP
    กองกำลังติดอาวุธ 700 กว่าคน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซีเรีย ได้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นแล้ว

    presstv รายงานอ้างจาก แหล่งข่าว ซานา ซีเรีย เผยว่า ในช่วงวันเสาร์ที่ผ่านมา กองกำลังติดอาวุธ 450 คน และคนร้ายอีก 250 คน ในเขตชานเมืองทางตอนใต้ของดาร์อา (Deraa) ยอมมอบตัวและมอบอุปกรณ์ทางทหารและอาวุธต่างๆ ต่อกองทัพของซีเรีย

    เจ้าหน้าที่ทหารของซีเรียโดยความร่วมมือของชนเผ่าและบุคคลผู้มีชื่อเสียงบางส่วนในพื้นที่นี้ ได้เริ่มต้นความพยายามต่างๆ ของตนเพื่อการปรองดองแห่งชาติและการนิรโทษกรรมสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ยังไม่ได้ก่ออาชญากรรมต่อประชาชนชาวซีเรีย

    รายงานระบุว่า อาวุธที่กองกำลังติดอาวุธมอบให้กับทางการ มีทั้ง ปืนกล อาวุธปืน และปืนไรเฟิล
    รัสเซีย ได้ดำเนินการแผนปรองดองแห่งชาติ ในปี 2014 ในเมือง ฮ็อมส์ ทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งหลังจากดำเนินการได้สักระยะหนึ่งทำให้กลุ่มติดอาวุธที่ได้ยึดครองเมือง 1500 กว่าคน เข้ามอบตัว

    ในขณะที่แห่งข่าวภาคสนาม เผยว่า กลุ่มติดอาวุธในเมือง ดาร์อา จำนวน 2600-3000 คน ได้หลบหนีเข้าตุรกี
    เหตุการณ์ความไม่สงบในซีเรีย ปะทุขึ้นในปี 2011 ตลอดช่วงระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมาของเหตุความรุนแรงดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 250,000 คน และต้องอพยพลี้ภัยอีก 1 ล้านกว่าคน


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    กลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรีย 700 กว่าคน ยอมจำนนกับทางการแล้ว | abnewstoday
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักข่าวหญิง รายงานข่าวการก่ออาชญากรรมของอิสราเอล ในสภาพที่ใบหน้ามีบาดแผลจากการถูกโจมตี โดย เอบีนิวส์ทูเดย์ - ต.ค. 6, 2015

    [​IMG]

    presstv – เฮนา มาฮามิด นักข่าวหญิงของสถานีโทรทัศน์ อัล-มายาดีน ขณะรายงานข่าวการก่ออาชญากรรมของอิสราเอลในกรุงเยรูซาเล็มถูกวางระเบิดเสียงทำให้ใบหน้าของเธอถูกเผาข้างหนึ่ง

    สถานีโทรทัศน์ อัลมายาดีน รายงานว่า ขณะที่ เฮนา มาฮามิด นักข่าวหญิงของสถานีโทรทัศน์ กำลังรายงานข่าวการก่ออาชญากรรมของอิสราเอล ที่ได้สังหาร วัยรุ่นชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งเสียชีวิต เธอถูกเป็นเป้าโจมตีของอิสราเอล

    ตามรายงานระบุว่า หลังจากที่ทหารอิสราเอลได้สังหาร วัยรุ่นชาวปาเลสไตน์คนหนึ่งเสียชีวิต รุ่งเช้าวานนี้ (อาทิตย์) ได้บุกบ้านของวัยรุ่นที่เสียชีวิตดังกล่าว ในเขตพื้นที่ อัล อาวียะห์ แล้วได้จับกุมตัวบุคคลในครอบครัวหลายคน

    ผู้สื่อข่าว Mayadeen หลังการรักษาตัวเสร็จแล้ว ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของใบหน้าของเขามีพันผ้าพันแผลติดอยู่ ก็ยังคงทำการรายงานข่าวต่อไป

    ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เขตเยรูซาเล็มตกอยู่ในสภาพของการปะทะกันอย่างหนัก และคาดว่าแนวโน้มนี้จะรุนแรงมากขึ้น

    เอเอฟ พี – รายงานว่า ตำรวจและแพทย์ปาเลสไตน์ เปิดเผยว่า ทหารอิสราเอลได้ยิงหนุ่มปาเลสไตน์วัย 18 ปีคนหนึ่งเสียชีวิต ระหว่างการปะทะที่เมืองตุลกาเร็มในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายยิ่งขึ้น

    ฮุซัยฟา อุสมาน สุลัยมาน ถือเป็นชาวปาเลสไตน์คนแรกที่ถูกสังหารโดยหน่วยงานความมั่นคงยิว หลังความรุนแรงเริ่มทวีขึ้นในเขตเวสต์แบงก์จากการที่ผู้ก่อเหตุชาวปาเลสไตน์ใช้มีดแทงชาวยิวดับ 2 ศพในเขตเมืองเก่าเยรูซาเลม
    สภาเสี้ยววงเดือนแดง (Red Crescent) รายงานว่า มีชาวปาเลสไตน์ 77 คนได้รับบาดเจ็บจากกระสุนยางและกระสุนจริง ระหว่างเกิดเหตุปะทะขึ้นในเมืองตุลกาเร็ม เจนิน เฮบรอน และชานเมืองรามัลเลาะห์ในเขตเวสต์แบงก์ เมื่อวานนี้ (4)

ปัจจุบันมีชาวปาเลสไตน์ราว 300,000 คนอาศัยอยู่ในฝั่งตะวันออกของนครเยรูซาเลม ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตเมืองเก่า

    เลขาธิการสหประชาชาติ บัน คี มุน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทนอดกลั้น พร้อมระบุว่า “รู้สึกเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าเหตุรุนแรงที่เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณอันตรายที่นำไปสู่การยกระดับความขัดแย้ง”

ประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งปาเลสไตน์ ได้ต่อโทรศัพท์ถึง บัน เพื่อวิงวอนให้นานาชาติยื่นมือเข้ามาช่วยปกป้องชาวปาเลสไตน์จากการถูกโจมตีโดยชาวยิว โดยก่อนหน้านั้น อับบาส ได้กล่าวบนเวทีประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติเมื่อวันพฤหัสบดี(1)ว่า เขาไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพที่ทำไว้กับอิสราเอล เนื่องจากรัฐบาล เนทันยาฮู เป็นฝ่ายละเมิดสัญญาก่อน

    ชมคลิป PressTV - Homepage


    เอบีนิวส์ทูเดย์
    abnewstoday | เอบีนิวส์ทูเดย์
    เอบีนิวส์ทูเดย์ยินดีเป็นอย่างยิ่งให้นำข่าวและเนื้อหาอื่นๆ ของเราไปเผยแพร่ แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขที่จะต้องให้เครดิตกับเอบีนิวส์ทูเดย์สำหรับเนื้อหาทุกชิ้นที่นำไปเผยแพร่

    นักข่าวหญิง รายงานข่าวการก่ออาชญากรรมของอิสราเอล ในสภาพที่ใบหน้ามีบาดแผลจากการถูกโจม
     

แชร์หน้านี้

Loading...