ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    15. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    หลังจากคงดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้แตะ0%มา7ปีแล้ว ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดเมื่อวันพุธที่ผ่านมามีมติคงดอกเบี้ยเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง อ้างโน้นอ้างนี่มาตลอดว่าเศรษฐกิจดีขึ้น การจ้างงานดีขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วเฟดยังไม่สามารถขึ้นดอกเบี้ยอยู่ในระดับปกติที่ควรจะเป็น4%ได้
    แต่มีการแย้มพรายว่าเฟดอาจจะสามารถขึ้นดอกเบี้ยช่วงปลายปีนี้
    นโยบายดอกเบี้ย0%ประการที่หนึ่ง และการทำQEพิมพ์เงินมหาศาลเข้าระบบการเงินของเฟดประการที่สองกลายเป็นกับดักของเฟดเอง เหมือนคนทาสีพื้นห้อง ทาไปทามาตัวเองติดอยู่ในมุมอับออกไปไม่ได้ เพราะว่าถ้าต้องขึ้นดอกเบี้ยกลับไปสู่สภาวะปกติ และเงินQEต้องออกมาจากระบบ จะเกิดวิกฤติการเงินแบบฟ้าถล่ม
    ถ้าเปรียบเป็นสำนวนไทย คือเฟดได้ขึ้นหลังเสือแล้ว ลงมาเมื่อไหร่โดนกัดตาย
    Danielle DiMartino Booth อดีตที่ปรึกษาของDick Fisher ประธานเฟดสาขาดัลลัส บอกว่าเฟดเข้าไปในมุมอับแล้ว ความน่าเชื่อถือกำลังจะมีปัญหา
    คนเชื่อว่านโยบายการเงินที่ผ่อนคลายจะไม่นำไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ความคิดนี้เป็นเรื่องไร้เดียงสา
    Boothบอกว่าความมั่นคงของผู้เกษียณอายุทุกคนอยู่ในภาวะเสี่ยง เมื่อราคาที่เลยเถิออย่างมหาศาลของตลาดตราสารหนี้และตลาดหุ้นปรับตัวเองกลับสู่สภาพความเป็นจริง
    หมายความว่าฟองสบู่ต้องแตกนั้นเอง
    รอยร้าวลุกของตลาดการเงินสหรัฐไม่มีทางออกจากการแช่ดอกเบี้ย0%มานาน7ปี และการพิพม์เงินเข้าระบบอย่างมหาศาล
    อ่านข่าวมติเฟด:
    รอยเตอร์/เอเอฟพี - ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม ณ ระดับเตี้ยติดพื้นใกล้ๆร้อยละ 0 ในวันพุธ(17มิ.ย.) แต่เผยเศรษฐกิจของอเมริกากำลังเติบโตปานกลางหลังหยุดชะงักท่ามกลางสภาพอากาศหนาวเหน็บก่อนหน้านี้ พร้อมแย้มดูเหมือนจะแข็งแกร่งเพียงพอสำหรับสนับสนุนให้ปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงปลายปี
    ในคำแถลงด้านนโยบายและตัวเลขประมาณการณ์ล่าสุดของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ( FOMC) ระบุว่าหลังจากหดตัวในไตรมาสแรก เวลานี้เศรษฐกิจกลับสู่เส้นทางการเติบโตระหว่างร้อยละ 1.8 ถึง 2.0 ในปีนี้ ปรับลดจากการประมาณการณ์เมื่อเดือนมีนาคม ที่คาดหมายว่าน่าจะขยายตัวตลอดทั้งปีร้อยละ 2.3 ถึง 2.7
    เฟดกล่าวด้วยว่าในส่วนตลาดแรงงานก็กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ แม้คาดหมายว่าตัวเลขคนว่างงานตอนสิ้นปีอาจสูงกว่าที่ประมาณการณ์คราวก่อนในเดือนมีนาคม ขณะเดียวกันแม้อัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็คาดหมายว่าน่าจะดีดตัวขึ้นตามลำดับสู่ร้อยละ 2 ตามเป้าหมายระยะกลางที่วางเอาไว้
    จากคำแถลงและตัวเลขประมาณการณ์ดังกล่าวทำให้เฟดยังอยู่บนเส้นทางของความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1 หรือ 2 ครั้ง ระหว่างการประชุมกำหนดนโยบายในอีก 4 ครั้งที่เหลือของปี 2015 "เฟดมีอยู่ 2 กฎเกณฑ์ หนึ่งคือการฟื้นตัวของตลาดแรงงาน ซึ่งเรากำลังพบเห็นต่อเนื่อง และสองคือความเชื่อมั่นว่าภาวะเงินเฟ้อจะเคลื่อนสู่เป้าหมาย ซึ่งมันค่อยๆเริ่มจะเกิดขึ้นแล้ว" เวย์น เคลาฟ์มัน หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การตลาดของฟีนิกซ์ ไฟแนนเชียล เซอร์วิชส์ ในนิวยอร์กกล่าว
    เหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังคงอัตราดอกเบี้ยระดับใกล้ร้อยละ 0 ไว้สำหรับตอนนี้ และบอกว่าจะปรับขึ้นอย่างเหมาะสมก็ต่อเมื่อตลาดงานฟื้นตัวแล้วและมีความเชื่อมั่นอย่างยิ่งว่าตัวเลขเงินเฟ้อจะดีดขึ้น
    เฟดปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวทางจีดีพีในปี 2015 ลง ตามหลังภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี ถือเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ธนาคารกลางแห่งนี้ปรับลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของปีนี้ อย่างไรก็ตามเหล่าคณะกรรมการเฟด 15 ใน 17 ราย ยังบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ อันเป็นมุมมองที่ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการณ์คราวก่อน
    ทั้งนี้สมาชิกส่วนใหญ่ที่เข้าร่วมการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของเฟด คาดหมายจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเหนือร้อยละ 0.5 ในช่วงสิ้นปี "กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวปานปลาง" เฟดระบุในถ้อยแถลง "อัตราการจ้างงานเริ่มดีดตัวขึ้น ขณะที่ตัวเลขคนว่างงานยังทรงตัว สิ่งต่างๆในตลาดแรงงานบ่งชี้ว่าการใช้ทรัพยากรแรงงานไม่ก่อประโยชน์ก็ค่อยๆน้อยลงแล้ว"
    ด้วยอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันอยู่ระหว่างร้อยละ 0 ถึงร้อยละ 0.25 จึงคาดหมายว่าตั้งแต่ตอนนี้จนถึงสิ้นปีน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยราวๆร้อยละ 0.5 ด้วยนักวิเคราะห์จำนวนมากเชื่อว่าการปรับขึ้นครั้งแรกน่าจะมีขึ้นในเดือนกันยายน
    thanong
    18/6/2015
    The Liscio Report
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    16. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    กลุ่มBRICSคือบราซิล รัสเซีย อินเดีย จีนและแอฟริกาใต้ไม่ต้องการอยู่ในระบบการเงินโลกที่ร้าวแล้ว จึงกำลังเตรียมการจัดต้องระบบชำระเงินของตัวเอง ที่ไม่ต้องขึ้นอยู่กับระบบSWIFTในปัจจุบัน ที่คุมการชำระเงินทั้งหมดของโลกเวลานี้
    จากการคุมSWIFT ทำให้สหรัฐมีการโมเมตั้งกฎกติกาเอง บังคับใช้เอง อยากจะทำลายเศรษฐกิจประเทศใดเช่นที่ทำกับอิหร่าน แต่ไม่กล้าทำกับรัสเซีย ก็แซงชั่นประเทศนั้นด้วยการตัดขาดระบบแบงค์เชื่อมต่อกับ SWIFT เท่านี้ก็ทำให้การโอนเงินเป็นง่อยทันที
    ด้วยเหตุนี้BRICS ถึงกำลังพัฒนาระบบSWIFTของตัวเองเพื่อจะได้ไม่ต้องพึ่งพาตะวันตกเวลามีปัญหาการเมืองกันขึ้นมา
    thanong
    18/6/2015
    ​BRICS starts examining SWIFT alternative — RT Business
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    18. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    กรีซเข้าโค้งสุดท้ายแล้ว ของการแหกโค้งหรือจะอยู่ในเลนคนขับต่อไป เพราะว่าเจรจากับเจ้าหนี้Troikaคือสหภาพยุโรป ธนาคารกลางยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศล้มเหลวอีกรอบในวันพฤหัสบดีที่ 18มิถุนายนที่ผ่านมา
    ไฮไลท์คือ:
    1. ยังเหลือเวลาอีกจนถึง30 มิถุนายน ก่อนที่กรีซจะผิดชำระหนี้ถ้าตกลงกันไม่ได้เรื่องแผนการปฎิรูปเศรษฐกิจทั้่งหมดเพื่อแลกกับเงินกู้ก้อนใหม่
    2. ความจริงกรีซผิดชำระหนี้แล้ว300ล้านยูโรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ขอยกยอดมาจ่ายรวมกัน1,600ล้านยูโรในวันที่30 มิถุนายนนี้ แต่เงินจำนวนนี้กรีซไม่มี ต้องได้เงินกู้ก้อนใหม่จากเจ้าหนี้เพื่อมาจ่ายเงินก้อนหนี้
    3. เงินก้อนใหม่ที่Troikaจะให้กรีซเบิกกู้คือ7,200ล้านยูโร ซึ่งอยู่ในแพคเกจของเงินช่วยเหลือ240,000ล้านยูโร
    4. กรีซมีหนี้ทั้งหมด320,000ล้านยูโร ไม่มีทางชำระได้เพราะว่าเงินจำนวนนี้เท่ากับ180%กว่าต่อจีดีพี
    5. ภาวะการตกงานในกรีซตอนนี้อยู่ที่27% และจีดีพีหดตัวไปแล้ว26%จากปี2008เป็นต้นมา
    ถ้ากรีซออกจากยูโร ระบบแบงค์จะพังทันที เพราะว่าเงินฝากไหลออกจากแบงค์ไปแล้ว150,000กว่าล้านยูโร คนกรีซเอาเงินไปฝังตุ่มและไปฝากต่างประเทศกัน ที่ระบบแบงค์กรีซอยู่ได้แบบอาการโคม่าตอนนี้ เพราะว่าธนาคารกลางยุโรปให้กู้สภาพคล่องระยะสั้น85,000ล้านยูโร เงินช่วยเหลือแบงค์กรีซสภาพคล่องนี้จะถูกตัด ถ้าหากกรีซเบี้ยวหนี้ในวันที่1กรกฎาคมนี้
    รัฐบาลกรีซของนายAlexis Tsipras ไม่มีทางเลือกมาก เพราะว่าTroikaเล่นแรงให้กรีซรัดเข็มขัดอย่างรุนแรง เพื่อแลกเงินช่วยเหลือ เนื่องจากตกลงกันไม่ได้ Troikaจะปล่อยให้ระบบแบงค์ฺกรีซล่มไปเลย อันจะนำมาสู่วิกฤติการเงินที่หนักหน่วยสาหัสสำหรับกรีซ จะเกิดจลาจลและรัฐบาลนายTsiprasจะอยู่ไม่ได้
    นายTsiprasจะพากรีซซบอกรัสเซียทันหรือไม่ จะอยู่ในเขตยูโรโซนเพื่อเป็นผีดิบต่อ หรือจะออกไปดี?
    อ่านข่าวอับเดทเพิ่มเติม:
    การเจรจาอันเคร่งเครียดของเหล่าผู้นำยูโรโซนเพื่อหาทางฝ่าทางตันวิกฤตหนี้กรีซ ยุติลงโดยปราศจากข้อตกลงใดๆในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) ขณะที่ไอเอ็มเอฟเตือนเอเธนส์ ว่าจะไม่เลื่อนกำหนดเวลาชำระหนี้แก่กรีซในช่วงสิ้นเดือนนี้ ส่อเค้ามากขึ้นเรื่อยๆว่าเอเธนส์อาจผิดนัดชำระหนี้และออกจากยูโรโซน
    เข็มนาฬิกาแห่งวิกฤตขยับใกล้เวลาเที่ยงคืนทุกขณะ หลังจากที่ประชุมของเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศยูโรโซนในลักเซมเบิร์ก ล้มเหลวในการหารือฝ่าทางตันข้อตกลงปฏิรูปที่อาจช่วยหลุดพ้นหายนะจากกรณีที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน
    "ไม่มีข้อตกลง ณ ที่ประชุมยูโรกรุ๊ป" วาลดิส ดอมโบรฟสกีส์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปบอกหลังจากโต๊ะประชุมต้องยุติลง ตามหลังการหารือในประเด็นกรีซราวๆ 90 นาที แต่เขาบอกว่า "มันเป็นสัญญาณที่แข็งกร้าวสำหรับกรีซว่าต้องมีส่วนร่วมอย่างจริงจังในการเจรจา" ขณะที่แหล่งข่าวรายหนึ่งพูดกับเอเอฟพีว่าผลลัพธ์ของการหารือครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องน่าเศร้า
    อย่างไรก็ตามนายโดนัลด์ ทัสค์ ประธานอียู แถลงอย่างรวดเร็วว่าจะจัดประชุมซัมมิทฉุกเฉินของเหล่าผู้นำ 19 ชาติสมาชิกยูโรโซนที่บรัสเซลส์ในวันจันทร์หน้านี้(22มิ.ย.) โดยบอกว่ามันเป็นเวลาที่ต้องหารือกันอย่างเร่งด่วน สำหรับหยิบยกสถานการณ์ของกรีซมาพูดคุยกันในระดับผู้นำสูงสุดทางการเมือง ทั้งนี้ซัมมิทดังกล่าวจะมีขึ้นก่อนหน้าที่ประชุมเหล่าผู้นำอียูทั้ง 28 ประเทศ ซึ่งกำหนดไว้ในวันพฤหัสบดี(25มิ.ย.)และวันศุกร์(26มิ.ย.)
    อเล็กซิส ซีปราส นายกรัฐมนตรีซ้ายจัดของกรีซ ปฏิเสธปฏิรูปในด้านบำนาญและอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำเรียกร้องของเหล่าเจ้าหนี้นานาชาติเพื่อแลกกับการขยายเวลาโครงการเงินช่วยเหลืออันมหาศาลจากอียูและไอเอ็มเอฟ โดยเหล่าเจ้าหนี้ปฏิเสธจ่ายเงินงวดสุดท้าย 7,200 ล้านยูโรจากโครงการช่วยเหลือเดิม หากไม่มีข้อตกลงปฏิรูปใดๆ และกรีซจะไม่เหลือเงินสดอีกเลย หากไม่มีข้อตกลงขยายโครงการกู้ยืม
    นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปแถลงกับผู้สื่อข่าวว่าเวลาใกล้หมดแล้ว และบอกว่าตอนนี้ลูกบอลอยู่ทางฝั่งของกรีซ ส่วนปิแอร์ มอสโกวิซี กรรมาธิการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป เรียกร้องประนีประยอมอย่างสมเหตุสมผลเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะอันเกี่ยวพันกับเอเธนส์
    หากไม่ได้รับเงินช่วยเหลืองวดสุดท้าย นั่นเท่ากับว่ากรีซจะไม่สามารถชำระหนี้จำนวน 1,6000 ล้านยูโรคืนแก่ไอเอ็มเอฟในวันที่ 30 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันเดียวกับโครงการช่วยเหลือหมดอายุลง " ในขณะที่นายใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คริสติน ลาการ์ด แถลงกร้าวเตือนรัฐบาลกรีซในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่า ไม่สามารถเลื่อนการจ่ายหนี้ก้อนโตที่ถึงกำหนดในสิ้นเดือนนี้ได้อีกแล้ว
    ลาการ์ดประกาศออกมาเช่นนี้ ในเวลาเดียวกับที่ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกรีซ แถลงว่าเธอยังคงเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำข้อตกลงเพื่อช่วยชีวิตกรีซให้พ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งอาจตามมาด้วยการที่เอเธนส์ถูกขับออกไปจากการใช้สกุลเงินยูโร ทั้งนี้ถ้าเอเธนส์ยอมอ่อนข้อประนีประนอม
    อย่างไรก็ตามความเชื่อมั่นดังกล่าวสวนทางกับอารมณ์แห่งความมืดมัวที่ปกคลุมการประชุมในลักเซมเบิร์ก ด้วยเหล่ารัฐมนตรีหลายคน เริ่มพูดคุยอย่างเปิดเผยถึงกรณีความเป็นไปได้ต่างๆ อย่างเช่นกรีซต้องออกจากยูโรโซนหากผิดนัดชำระหนี้
    หากปราศจากเงินช่วยเหลืองวดสุดท้ายและพลาดเส้นตายชำระหนี้ของไอเอ็มเอฟ ก็จะเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่กรีซถูกโดดเดี่ยวทางการเงินเพียงลำพัง และด้วยเงินทุนที่ว่างเปล่า ทุกสายตาจึงจับจ้องว่าจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น
    "ทางเลือกอื่นคือเตรียมแผนบี" ไมเคิล นูนาน รัฐมนตรีคลังไอร์แลนด์บอก พร้อมระบุว่าเขาไม่กลัวผลกระทบต่อเนื่องในกรณีที่กรีซต้องออกจากยูโรโซน ส่วนอเล็กซ์ สตับบ์ รัฐมนตรีคลังฟินแลนด์ บอกว่า "ทางเลือกที่ 1 คือขยายเงินกู้ ส่วนแผนบีคือผิดนัดชำระหนี้"
    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17) ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของกรีซเอง ได้ออกมาแถลงเตือนว่า หากไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ เอเธนส์อาจต้องออกจากยูโรโซนหรือกระทั่งออกจากอียูด้วยซ้ำ
    thanong
    19/5/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000069272
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    19. พอฟองสบู่ร้าว ก็ลั่นกลองรบ
    ธนาคารกลางของสหรัฐหรือเฟดไม่ได้ขึ้นดอกเบี้ยจาก0.25%ในวันที่17 มิถุนายนที่ผ่านมา และไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นหรือเปล่า แม้ว่าจะมีการคาดการว่าเฟดอาจต้องขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย0.25%สองครั้งในปีนี้ถึงต้นปีหน้า
    ที่เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยและมีการเลื่อนเรื่องนี้มาตลอดเพราะว่าถ้าดูตามเทรนแล้วเฟดดำเนินนโยบายกดดอกเบี้ยต่ำลงมาตลอดระยะเวลา30ปีที่ผ่านมา
    หมายความว่านโยบายของเฟด คือการแปลงเศรษฐกิจภาคที่แท้จริงของสหรัฐให้เป็นภาคการเงินให้หมด (financialization) ทุกอย่างสามารถแปลงเป็นทรัพย์สินทางการเงินได้ โดยใช้ดอกเบี้ยต่ำและการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
    วิธีการนี้ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐตกอยู่ในมือของแบงค์Wall Street และเฟดโดยปริยาย เพราะว่าเฟดคุมนโยบายการเงิน พิมพ์เงินได้ตามใจชอบ และเกื้อกูลพวกแบงค์Wall Street ที่อยู่ในแก๊งค์เดียวกัน
    อำนาจที่แท้จริงในสหรัฐจึงอยู่ในมือเฟดและWall Street ไม่ใช่นักการเมืองที่คนอเมริกันเลือกตั้งมา
    เนื่องจากดอกเบี้ยต่ำและมีการพัฒนาการของตราสารการเงินใหม่ๆ จึงเกิดตลาดอนุพันธ์ขึ้นที่ตัวมันเองไม่ได้มีค่าอะไร แต่ต้องอิงทรัพย์สินหรือดัชนีอย่างอื่น ปรกฎว่าตลาดอนุพันธ์ที่อิงดอกเบี้ยสหรัฐโตไปอยู่ที่$555ล้านล้าน
    ตัวเลข$555ล้านล้านนี้ไม่ได้เขียนผิด ถ้าดอกเบี้ยต้องขึ้น คนที่เล่นอนุพันธ์ดอกเบี้ยจะขาดทุน และสามารถทำให้ระบบแบงค์ล่มได้
    Phoenix Global Research รายงานว่า นายBen Bernankeอดีตประธานเฟดบอกกับพวกผู้บริหารHedge Fundsอย่างลับๆว่า ภายในชีวิตของเขา จะไม่เห็นดอกเบี้ยสหรัฐขึ้น เพราะถ้าขึ้นจะตายกันหมด
    ดูไปแล้ว เหมือนกับว่าแบงค์Wall Streetจับระบบการเงินสหรัฐและของโลกเป็นตัวประกัน ต้องหล่อเลี้ยงพวกเขาให้ได้กำไรมโหฬารทุกปี ผ่านการกดดอกเบี้ยต่ำลงไปเรื่อยๆ ให้สภาพคล่องสูงๆ ถ้าWall Streetกำไร เงินเข้ากระเป๋าตัวเอง ถ้าWall Streetเจ้ง สหรัฐจะล้มทั้งประเทศ
    แต่ในทฤษฎีสมคบคิด การดำเนินนโยบายดอกเบี้ยต่ำของเฟดคือเป็นการใส่ยาเสพติดลงไปในระบบเศรษฐกิจอย่างจงในเป็นเวลานาน30ปี เพื่อให้Wall Streetและเฟดยึดระบบการเงินสหรัฐและระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงอย่างสมบูรณ์แบบผ่านการสร้างฟองสบู่การเงิน เนื่องจากสหรัฐเป็นศูนย์กลางการเงินของโลก Wall Streetและเฟดจึงยึดโลกไปด้วย ประเทศอื่นๆเป็นแค่บริวารคอยที่จะโดนกินรวบทีหลัง
    เฟดมีทางเลือก3ทางต่อไปหลังจากฟองสยู่การเงินเริ่มจะร้าวหรือไปต่อลำบากคือ 1. ดันทุรังคงดอกเบี้ย0%ไปเรื่อยๆให้นานที่สุด 2. ขึ้นดอกเบี้ยเพราะแรงกดดันเงินเฟ้อจะโผล่มาให้เห็นชัดขึ้น และตลาดการเงินดันดอกเบี้ยขึ้นไปรอก่อนแล้ว 3. กดดอกเบี้ยลงติดลบ ทำนโยบายผ่อนคลายการเงินเพิ่มหรือQE รอบที่4
    และในทฤษฎีสมคบคิด เฟดอาจจะต้องการขึ้นดอกเบี้ยแรงๆก็ได้โดยอ้างว่าสกัดเงินเฟ้อ แต่แท้ที่จริงแล้ว เพื่อล้มกระดานระบบการเงินโลกไปเลย อันนำไปสู่การสร้างเงินสกุลโลกเดียว One World Currency
    เกมนี้เหมือนเทพเจ้าJanus2หน้า ของโรม หน้าหนึ่งเป็นนักบุญนักสร้าง อีกหน้าหนึ่งคือซาตานนักทำลาย ทั้งขึ้นทั้งล่อง ไม่ว่าจะหงายหน้าใบไหนออกมา เฟดและWall Streetจะตีกินหมด
    คือจริงไม่จริงอีกไม่นานคงจะได้เห็น
    thanong
    19/6/2015
    http://www.zerohedge.com/news/2015-06-18/fed-now-officially-very-serious-trouble
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไอซิส จ่อปฏิบัติการช่วงเดือน “รอมฎอน”
    ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    หนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ อเมริกา รายงานว่า บรรดาผู้สังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เผยว่า มีหลักฐานยืนยันว่ากลุ่มก่อการร้ายไอซิสจะปฏิบัติการในช่วงเดือนรอมฎอน

    สำนักข่าว mehrnews ของอิหร่านรานงานอ้าง หนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ อเมริกา ที่ได้รายงานระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส มีแผนจะปฏิบัติการในช่วงเดือนรอมฎอน

    ตามรายงานระบุว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสใช้ประโยชน์จากความสำคัญในทางศาสนาในการส่งเสริมและปลุกระดม “เรื่องญิฮาด” มากยิ่งขึ้น ซึ่งตามธรรมเนียมปฏิบัติของไอซิสนั้นถือเป็นโอกาสที่ดีในการโจมตี

    ในวันแรกของเดือนรอมฎอน ไอซิส ก็ได้ประกาศสถาปนารัฐ “คอลีฟะห์” ของตนขึ้นมา โดย อะบู มุฮัมมัด อัลอะดานี โฆษกของกลุ่มไอซิส ประกาศในวันแรกของเดือนรอมฎอน ว่า “ยุคใหม่สำหรับการญิฮาดในต่างประเทศ”เริ่มขึ้นแล้ว ถัดจากนั้นไม่กี่วัน อะบู บักร์ อัลบักดาดี แกนนำไอซิส ก็ออกมาประกาศต่อหน้าสาธารณชนครั้งแรก ว่า “ไม่มีการกระทำสิ่งใดในเดือนรอมฎอนที่จะมีความประเสริฐไปกว่าการญิฮาด” ดังนั้นอย่าปล่อยโอกาสที่ดีเหล่านี้หลุดมือไป จงก้าวเดินมุ่งหน้าสู่จุดหมายต่อไป

    หนังสือพิมพ์ วอชิงตันโพสต์ รายงานว่า นักวิเคราะห์และผู้สังเกตการณ์บางคน มีความกังวลอาจจะเกิดเหตุการณ์ร้ายในช่วงเดือนรอมฎอนปีนี้

    ในการนี้สถาบันการศึกวิจัยด้านสงคราม ได้คาดการณ์ครั้งล่าสุด กรณีการปฏิบัติการของไอซิสว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิสมีการเตรียมที่จะปฏิบัติการ โดยหวังในชัยชนะครั้งใหม่ในช่วงเดือนรอมฎอน

    สถาบันดังกล่าวยังย้ำว่า ไอซิสต้องการควบคุมและยึดครองเขตพื้นที่โบราณสถาน และการบุกโจมตีเขตพื้นที่ของชีอะห์ในอิรัก เพื่อสามารถที่จะจุดเชื้อเพลิงความแตกแยกทางนิกายและเผ่าพันธุ์ให้ทวีความรุนแรงมากขึ้น

    داعش آماده عملیات در ماه رمضان می شود - خبرگزاری مهر | اخبار ایران و جهان | Mehr News Agency

    ไอซิส จ่อปฏิบัติการช่วงเดือน “รอมฎอน” | abnewstoday
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อดีตนายทหารสหรัฐ 45 นาย ยื่นจดหมายให้ยุติการใช้อากาศยานไร้พลขับ
    สหรัฐby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    Mehrnews – อดีตนายทหารอเมริกา 45 นาย ลงนามในจดหมายเรียกร้องให้ทางการปลดพวกเขาออกจากการควบคุมอากาศยานไร้พลขับ พร้อมกับประกาศว่า พวกเขาจะไม่ขอมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการของอากาศยานไร้พลขับ ที่ได้สังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์มาแล้วจำนวนมาก

    จดหมายฉบับดังกล่าวถูกตีพิมพ์ ในช่วงเวลาที่ทางการอเมริกาใช้อากาศยานไร้พลขับ ปฏิบัติการโจมตีในภารกิจต่างประเทศ เช่น ในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน เป็นเหตุให้กลุ่มก่อการร้ายไอซิสเสียชีวิต และสังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมาก

    ในจดหมายดังกล่าว ระบุว่า เหตุการณ์โจมตีโดยใช้อากาศยานไร้พลขับของอเมริกานั้น ได้สังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน ลิเบีย เยเมน โซมาเลีย อิรัก และซีเรีย ไปแล้ว จำนวน 6,000 กว่าคน

    การที่เว็บไซด์ knowdrones.com ได้เปิดเผยจดหมายดังกล่าวนั้น ต้องการให้จดหมายดังกล่าวนี้ถูกตีพิมพ์กันอย่างแพร่หลายให้เป็นที่รับรู้ โดยเฉพาะนอกฐานทัพทหารที่มีการควบคุมการปฏิบัติการของอากาศยานไร้พลขับ

    หนึ่งในนายพลที่ได้ลงนามจดหมายดังกล่าว คือ แอน ไรท์ ซึ่งได้ลาออกจากอาชีพราชการทหารเนื่องจากต่อต้านการบุกโจมตีอิรักของอเมริกาในปี 2003 ซึ่งไรท์ ก่อนหน้านี้เป็นอดีตนักการทูตที่ประจำการในหลายประเทศ

    เว็บไซด์ knowdrones.com เป็นเว็บไซด์ของกลุ่มที่มีการเคลื่อนไหวสนับสนุนเรียกร้องให้นานาชาติยุติการใช้อาวุธในการปฏิบัติการโจมตีของอากาศยานไร้พลขับ

    ในปีที่ผ่านมา การปฏิบัติการโจมตีอากาศยานไร้พลขับของอเมริกาในประเทศต่างๆ โดยอ้างเพื่อทำลายฐานที่มั่นของกลุ่มก่อการร้ายไอซิสนั้น ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เนื่องจากการโจมตีดังกล่าว มันได้สังหารชีวิตผู้บริสุทธิ์และพลเรือนจำนวนมาก



    نامه ۴۵ کهنه سرباز آمریکایی برای توقف عملیات پهپادها - خبرگزاری مهر | اخبار ایران و جهان | Mehr News Agency

    อดีตนายทหารสหรัฐ 45 นาย ยื่นจดหมายให้ยุติการใช้อากาศยานไร้พลขับ | abnewstoday
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลยุทธ์ บารัค โอบามา ต่อการสร้างสงครามเย็นในภูมิภาคเอเชีย
    เอเชียแปซิฟิกby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 18, 2015

    [​IMG]

    เพรสทีวี – ในเวลาเดียวกันที่ทหารสหรัฐได้ตระเตรียมความพร้อมที่จะฝึกซ้อมรบทางทหารในประเทศไทย บรรณาธิการอาวุโสของนิตยาสาร Veterans Today ได้กล่าวกับเพรสทีวี ว่า เป้าหมายหนึ่งของกลยุทธ์ใหม่ที่วอชิงตันกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ คือ การสร้างสงครามเย็นในภูมิภาคนี้

    Jim W.Dean อดีตนายทหารสหรัฐ ได้ให้สัมภาษณ์กับเพรสทีวีทางโทรศัพท์ ว่า เรายืนยันได้ว่ามีการสร้างสงครามเย็นในภูมิภาคนี้

    สกอต มาร์เซล เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้กล่าวในสภาครองเกรสเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาว่า การฝึกซ้อมรบ คอบร้าโกลด์ ประจำปี จะจัดขึ้นที่ประเทศไทยในปีหน้า ประเทศที่คาดว่าหลังจากการทำรัฐประหารของรัฐบาลชั่วคราวจะยังคงต่อสู้กับความวุ่นวาย และจะสามารถเรียกคืนประชาธิปไตยกลับมาอีกครั้งได้

    มาร์เซล ได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับวอชิงตัน ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา จึงได้ตัดสินใจที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกที่จะจัดขึ้นในปี 2016 นี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศสโลแกนหนึ่งขึ้นมาในปี 2012 ว่า เอเชียตะวันออก คือ หัวใจหลักทางการเมืองของสหรัฐ

    Jim W.Dean ได้ให้สัมภาษณ์อีกว่า มันเป็นสิ่งเดียวกันกับสิ่งที่ขณะสมเด็จพระสันตะปาปากล่าวในระหว่างที่เขาไปเยือนบอสเนีย “เรากำลังเผชิญกับสงครามในรูปแบบใหม่ ซึ่งมันกำลังเคลื่อนไหวโดยซ่อนอยู่ภายใต้รูปแบบที่ผิวเผิน และมันจะส่งผลกระทบไปยังทุกพื้นที่”

    Jim W.Dean ได้เน้นอีกว่า มันไม่มีเหตุผลเอาเสียเลยที่สหรัฐจะเข้ามาเป็นผู้ริเริ่มในการฝึกซ้อมรบในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะถ้าเราสังเกตเกี่ยวกับประเด็นนี้ เดิมแล้วกองทัพของประเทศไทยเองก็สามารถที่จะปกป้องประเทศตนเองได้อย่างดี แต่กลับเป็นสหรัฐเองต่างหาก ที่ต้องการให้เสาอากาศแห่งการสอดรู้สอดเห็นของตนกลับมามีความมั่นคงเหนือประเทศนี้อีกครั้งหนึ่ง

    สหรัฐมีเป้าหมายจะรักษาความสัมพันธ์ของตนกับกองทัพประเทศนี้ด้วยการสร้างความสัมพันธ์กับนายพลอาวุโสระดับสูง ซึ่งจากจุดนี้จะทำให้พวกเขาทราบถึงการเปลี่ยนแปลงต่างๆในระบบการสื่อสารและรัฐบาล

    สหรัฐและพันธมิตรจะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “หัวใจของเอเชียตะวันออก” เพื่อคุกคามประเทศจีน

    วอชิงตันด้วยประสิทธิภาพของนโยบายต่างประเทศที่เรียกว่า “หัวใจของเอเชียตะวันออก” พยายามที่จะขยายที่ยืนของตนให้มากขึ้นในภูมิภาคนี้ และกลยุทธ์นี้ก็ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของนโยบายต่างประเทศสหรัฐในตะวันออกกลาง-ยุโรบซึ่งจะถูกกำหนดแก่ ตะวันออกและเอเชียใต้

    PressTV-«جنگ سرد جدید امریکا در آسیا»

    กลยุทธ์ บารัค โอบามา ต่อการสร้างสงครามเย็นในภูมิภาคเอเชีย | abnewstoday
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันขึ้น-ทองพุ่ง $25 หุ้นสหัฐฯ ทุบสถิติหลังเฟดยันค่อยๆ ปรับขึ้นดอกเบี้ย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มิถุนายน 2558 05:15 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มิถุนายน 2558 10:29 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ส่วนแนสแดคทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ หลังเฟดยืนยันจะค่อยๆ ปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่ทั้งสองปัจจัยดังกล่าวดันทองคำพุ่งแรง

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 53 เซ็นต์ ปิดที่ 60.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 39 เซ็นต์ ปิดที่ 64.26 ดอลลลาร์ต่อบาร์เรล

    ดอลลาร์ที่แข็งอ่อนค่าลง อำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ ขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของข้อมูลคลังเชื้อเพลิงสำรองของสหรัฐฯ เมื่อวันพุธ (17 มิ.ย.) ที่พบว่าสต๊อกน้ำมันดิบสัปดาห์ที่แล้ว ลดลงถึง 2.7 ล้านบาร์เรล ถือเป็นการปรับลด 7 สัปดาห์ติดต่อกัน

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรงในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) โดยแนสแดคทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ท่ามกลางหุ้นที่ปรับขึ้นทั้งกระดาน หลังธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ยันจะค่อยๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 180.10 จุด (1.00 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,115.84 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 20.80 จุด (0.99 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,121.24 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 68.07 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,132.95 จุด สูงกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม อยู่ 25 จุด ขณะที่ในการซื้อขายระหว่างวันปรับขึ้นไปสูงสุดถึง 5,143.32 จุด

    นักวิเคราะห์ชี้ว่า ปัจจัยที่สนับสนุนความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) คือถ้อยแถลงทางนโยบายของเฟดเมื่อวันพุธ (17 มิ.ย.) และคำสัญญาจากตัวประธานนางเจเน็ต เยลเลน ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะค่อยๆ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับเตี้ยติดพื้นใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ

    การปรับขึ้นของตลาดหุ้นสหรัฐฯมีขึ้นแม้วิกฤตหนี้สินกรีซยังคงไร้ทางออก และมีคำเตือนจากนายยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซ ที่บอกว่าเหตุการณ์หนึ่งในข้อพิพาทอันเจ็บปวดระหว่างกรีซกับเหล่าเจ้าหนี้อียู-ไอเอ็มเอฟ ต่อการปลดล็อกเงินช่วยเหลือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดสำหรับเอเธนส์ กำลังถูกลากเข้าใกล้อันตรายใหญ่หลวง

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ทะยานอย่างแรง ปิดระดับสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน หลังเฟดส่งสัญญาณจะค่อยๆ ปรับขึ้นดอกเบี้ยตามลำดับและจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 25.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,202.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รวบทันควันมือกราดยิงโบสถ์คนผิวดำในสหรัฐฯ “โอบามา” ครวญเกิดบ่อยเกินไปแล้ว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 มิถุนายน 2558 01:02 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มิถุนายน 2558 11:56 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - มือปืนผิวขาววัย 21 ปี ต้องสงสัยลงมือสังหาร 9 ศพที่โบสถ์คริสเตียนเก่าแก่ขณะที่ผู้คนผิวสีกำลังสวดอธิษฐาน ในเมืองชาร์ลสตัน มลรัฐเซาท์แคโรไลนา ถูกรวบตัวแล้วในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ แถลงประณามว่าเป็น “การฆาตกรรมที่ไร้ความรู้สึก” และร้องเรียงทบทวนประเด็นครอบครองอาวุธปืนหลังประเทศต้องเผชิญเหตุความรุนแรงลักษณะนี้บ่อยครั้ง

    เกรกอรี มุลเลน ผู้บังคับการตำรวจเมืองชาร์ลสตัน แถลงกับผู้สื่อข่าวว่านายดีแลนด์ รูฟ ถูกควบคุมตัวหลังโดนเจ้าหน้าที่เรียกให้จอดรถเพื่อตรวจค้นในเมืองเชลบี มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ราว 4 ชั่วโมงหลังจากขับรถยนต์หนีไปจากจุดที่ลงมือก่อเหตุกราดยิง พร้อมเผยว่าคณะสืบสวนของเมืองชาร์ลสตันเตรียมบินไปยังเชลบีเพื่อสอบปากคำนายรูฟ เกี่ยวกับอาชญากรรมอันน่าสยดสยองและโหดเหี้ยมที่เขาก่อขึ้น

    [​IMG]
    @นายดีแลนด์ รูฟ ถูกควบคุมตัวหลังโดนเจ้าหน้าที่เรียกให้จอดรถเพื่อตรวจค้นในเมืองเชลบี มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ราว 4 ชั่วโมงหลังจากขับรถยนต์หนีไปจากจุดที่ลงมือก่อเหตุกราดยิง

    เหตุกราดยิงเมื่อช่วงค่ำคืนวันพุธ (17 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่โบสถ์เอ็มมานูเอล แอฟริกัน เมโทดิสต์ เอปิสโคปัล เชิร์ช (โบสถ์เอ็มมานูเอล เอเอ็มอี) คือหนึ่งในเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบหลายปีต่อสถานสักการะบูชาในสหรัฐฯ และยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความตึงเครียดทางผิวสีอีกด้วย

    เหยื่อของเหตุโจมตีครั้งนี้มีทั้งสิ้น 9 คน แบ่งเป็นผู้หญิง 6 คนและชาย 3 คน โดย 8 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และไปสิ้นลมที่โรงพยาบาลอีก 1 คน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกหลายคน ขณะที่ ท็อดด์ รัตเทอร์ฟอร์ด ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนราษฎรมลรัฐเซาท์แคโรไลนา เปิดเผยว่า ศิษยาภิบาลที่เป็นหัวหน้าผู้ดูแลโบสถ์แห่งนี้คือ คลีเมนตา พิงค์นีย์ ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาของมลรัฐด้วยนั้น เป็น 1 ใน 9 ผู้เสียชีวิต

    ชายคนหนึ่งซึ่งอ้างตัวว่าเป็นลุงของนายรูฟ บอกว่าเมื่อเร็วๆนี้ได้มอบปืนพกคาลิเบอร์.45 แก่หลาน ในวาระครบรอบวันเกิด โดยฝากผ่านไปทางบิดาของนายรูฟ และมีคนเห็นผู้ต้องสงสัยวัย 21 ปีรายนี้พกปืนเตร็ดเตร่ไปทั่ว

    ด้าน ลอเรตตา ลินซ์ อัยการสูงสุดสหรัฐฯระบุในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่ากระทรวงยุติธรรมจะเข้าสืบสวนหาแรงจูงใจของคนร้ายและข้อเท็จจริงที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีโบสถ์ในเซาท์แคโรไลนา หลังล่าสุดสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้ว อย่างไรก็ตามเธอเตือนยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าคดีนี้เกี่ยวพันกับสถานที่ของรัฐหรือของรัฐบาลกลาง หลังจากก่อนหน้านี้ทางกระทรวงออกมาบอกว่าจะสืบสวนในความเป็นไปได้ที่โศกนาฏกรรมครั้งนี้จะเป็น “อาชญากรรมจากความเกลียดชัง”

    ในเวลาต่อมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯแถลงในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่าสหรัฐฯ ต้องทบทวนอีกครั้งว่าเหล่ามือสังหารมีอาวุธปืนในครอบครองได้อย่างไร หลังจากประณามเหตุกราดยิงหมู่ในโบสถ์คนผิวดำว่าเป็นการฆาตกรรมที่ไร้ความรู้สึก

    “ตอนนี้คือช่วงเวลาแห่งความเศร้าโศกและเยียวยา แต่ขอพูดให้ชัดเจนว่า เราในฐานะประเทศ ต้องพิจารณาข้อเท็จจริงว่ารูปแบบความรุนแรงหมู่ลักษณะนี้ ทำไม่ถึงไม่เกิดขึ้นในประเทศพัฒนาแล้วอื่นๆ” โอบามากล่าว

    “ที่อื่นๆ ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยแบบนี้ และมันอยู่ในอำนาจของเราที่ต้องดำเนินการอะไรบางอย่างแล้ว” โอบามากล่าว อย่างไรก็ตาม เขายอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะผ่านกฎหมายหรือแม้แต่จัดการกับประเด็นควบคุมอาวุธปืน จากข้อติดขัดในด้านผลประโยชน์ทางการเมือง

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    IMF ระบุไม่เลื่อนวันจ่ายหนี้ให้กรีซ “แมร์เคิล” ยังหวังเอเธนส์คุยเจ้าหนี้ได้
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 22:02 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มิถุนายน 2558 10:44 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - นายใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คริสทีน ลาการ์ด แถลงกร้าวเตือนรัฐบาลกรีซในวันพฤหัสบดี (18 มิ.ย.) ว่า ไม่สามารถเลื่อนการจ่ายหนี้ก้อนโตที่ถึงกำหนดในสิ้นเดือนนี้ได้อีกแล้ว เป็นการเพิ่มแรงบีบคั้นในขณะที่บรรดารัฐมนตรีคลังของยูโรโซนเปิดประชุมกันเพื่อหาทางทำข้อตกลงคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของเอเธนส์

    ลาการ์ดประกาศออกมาเช่นนี้ ในเวลาเดียวกับที่ อังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของกรีซ แถลงว่าเธอยังคงเชื่อมั่นว่ามีความเป็นไปได้ที่จะทำข้อตกลงเพื่อช่วยชีวิตกรีซให้พ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ซึ่งอาจตามมาด้วยการที่เอเธนส์ถูกขับออกไปจากการใช้สกุลเงินยูโร ทั้งนี้ถ้าเอเธนส์ยอมอ่อนข้อประนีประนอม

    ขณะที่บรรดารัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน หรือที่เรียกขานกันว่า “ยูโรกรุ๊ป” กำลังเข้าประชุมกันที่ลักเซมเบิร์กในวันพฤหัสบดี (18) ในสภาพที่เรียกได้ว่า เกือบถอดใจกับการหาหนทางคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของกรีซแล้ว ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟ ได้กล่าวสำทับก่อนที่เธอจะเข้าร่วมการหารือคราวนี้ด้วย ว่า “ไม่มีระยะปลอดหนี้อีกต่อไปแล้ว” โดยเงื่อนไขชำระหนี้ระบุเอาไว้ว่าวันที่ 30 มิถุนายน ดังนั้นหากเมื่อเข้าสู่วันที่ 1 กรกฎาคมยังไม่มีการจ่าย ก็คือกรีซไม่ได้ชำระหนี้

    วิกฤตหนี้กรีซใกล้จุดไคลแมกซ์เข้ามาทุกที เนื่องจากแพกเกจเงินกู้ล่าสุดซึ่งกรีซขอกู้จากพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศทั้ง 3 อันได้แก่ สหภาพยุโรป (อียู), ไอเอ็มเอฟ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) นั้น กำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 30 นี้แล้ว ขณะที่เอเธนส์ยังไม่สามารถตกลงเงื่อนไขกับฝ่ายเจ้าหนี้ เพื่อจะได้รับเงินกู้งวดสุดท้ายของแพกเกจดังกล่าว เป็นจำนวน 7,200 ล้านยูโร (8,100 ล้านดอลลาร์) จะได้นำไปชำระให้ไอเอ็มเอฟ 1,600 ล้านยูโรภายในวันที่ 30 เดือนนี้เช่นกัน และอีก 6,700 ล้านยูโรที่ต้องจ่ายให้อีซีบีในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

    แต่กระนั้น ระหว่างแถลงในสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนีวันพฤหัสบดี (18) แมร์เคิลกล่าวว่า ยังคงเชื่อว่ากรีซจะบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศได้ หากผู้นำทางการเมืองของกรีซแสดงเจตจำนงอย่างแข็งกล้า และสำทับว่า เยอรมนีจะพยายามดำเนินการเพื่อให้เอเธนส์คงอยู่ในยูโรโซนต่อไป

    ท่าทีประนีประนอมของแมร์เคิลมีขึ้นแม้ว่าผลสำรวจเมื่อสัปดาห์ที่แล้วระบุว่า ชาวเมืองเบียร์ส่วนใหญ่ต้องการให้กรีซออกจากยูโรโซนก็ตาม

    เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (17) ถือเป็นครั้งแรกที่ธนาคารกลางของกรีซเอง ได้ออกมาแถลงเตือนว่า หากไม่สามารถตกลงกับเจ้าหนี้ได้ เอเธนส์อาจต้องออกจากยูโรโซนหรือกระทั่งออกจากอียูด้วยซ้ำ

    ขณะเดียวกัน เริ่มปรากฏสัญญาณชัดเจนว่าพวกผู้นำทางการเงินในอียูมีการพิจารณาอย่างจริงจังเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซน โดยเจนส์ ไวด์แมนน์ ผู้ว่าการธนาคารกลางเยอรมนี แสดงความเห็นตรงไปตรงมาว่า หากไม่มีกรีซ สหภาพการเงินของยุโรปอาจเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับล่มสลาย

    ทั้งนี้ บรรดาเจ้าหนี้ระงับเงินกู้งวดสุดท้ายไว้ก่อน เพื่อแลกเปลี่ยนกับมาตรการปฏิรูปเพิ่มเติมจากกรีซ ทว่า นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ที่ชูธงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดมาตั้งแต่ตอนหาเสียงเลือกตั้ง ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงมาตรการที่สำคัญอย่างระบบบำนาญและภาษีมูลค่าเพิ่ม

    ในคืนวันพุธ ประชาชนชาวกรีซหลายพันคนชุมนุมในเอเธนส์เพื่อต่อต้านข้อเรียกร้องของพวกเจ้าหนี้ในการลดบำนาญ ขณะที่ผลสำรวจระบุว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่พากันสนับสนุนการแข็งขืนของรัฐบาล

    ซีปราสยังเตือนว่า การยืนกรานของอียูให้กรีซตัดลดบำนาญเป็นอุปสรรคขัดขวางข้อตกลงและส่งผลร้ายต่อยุโรปทั้งหมด

    การแข็งขืนของทั้งสองฝ่ายได้นำไปสู่การวิวาทะอย่างเปิดเผยระหว่างซีปราส กับ ฌอง-โคลด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ที่กล่าวหาว่า ผู้นำเอเธนส์ทำให้ประชาชนกรีซเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเจรจา

    อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าทั้งคู่หารือทางโทรศัพท์กันเป็นครั้งแรกเมื่อวันพุธ นับจากการเจรจาระหว่างกรีซกับเจ้าหนี้ล้มไม่เป็นท่าในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (14)

    เวลานี้ทั่วโลกต่างจับตาวิกฤตหนี้กรีซอย่างใจจดใจจ่อ เมื่อวันพุธ เจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ก็แถลงเตือนว่า เศรษฐกิจโลกอาจสะดุดแรง หากกรีซและเจ้าหนี้ตกลงกันไม่ได้

    กระนั้น ยานิส วารูฟากิส รัฐมนตรีคลังกรีซเปิดใจว่า ไม่วาดหวังว่าจะสามารถผ่าทางตันมาตรการปฏิรูปแลกเงินกู้ในการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนวันพฤหัสบดี

    เช่นเดียวกัน ฮันส์ เจิร์ก เชลลิง รัฐมนตรีคลังออสเตรีย ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่คิดว่า เอเธนส์จะเสนอแผนปฏิรูปใหม่เข้าสู่ที่ประชุม

    วิกฤตกรีซยังถูกคาดหมายว่า จะเป็นประเด็นสำคัญในการประชุมสุดยอดผู้นำอียูปลายสัปดาห์หน้า เนื่องจากนอกจากนัยทางเศรษฐกิจและการเงินแล้ว การออกจากอียูหรือยูโรโซนของกรีซยังสร้างความกังวลให้ผู้นำยุโรปในแง่ที่ว่า รัสเซียอาจถือโอกาสขยายอิทธิพลในยุโรปใต้

    ทั้งนี้ในวันศุกร์นี้ (19) ซีปราสได้รับเชิญเป็นอาคันตุกะพิเศษในงานประชุมด้านการลงทุนของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ถึงแม้มีข้อเท็จจริงอยู่ว่า อียูเพิ่งต่ออายุมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียกรณีการแทรกแซงยูเครนเมื่อไม่กี่วันมานี้

    IMF
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UNHCR ระบุทั่วโลกควรเอาอย่าง “ตุรกี” เรื่องนโยบายรับผู้ลี้ภัย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 21:06 น.

    [​IMG]
    @แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ

    เอเอฟพี – ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติออกมาเรียกร้องในวันนี้ (18) ให้ทั่วโลกรวมถึงชาติตะวันตกเปิดพรมแดน และเอาอย่างตุรกีในเรื่องการต้อนรับผู้ภัยชาวซีเรีย

    ตุรกีซึ่งรับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมาแล้วราว 1.8 ล้านคนนับตั้งแต่ความขัดแย้งปะทุขึ้นในปี 2011 กล่าวย้ำหลายครั้งว่า พวกเขาถูกปล่อยให้แบกรับภาระอย่างไม่เท่าเทียม ในขณะที่บรรดาชาติตะวันตกเอาแต่เฝ้าดูอยู่อย่างเดียว

    แอนโตนิโอ กูเตอร์เรส ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ บอกกับผู้สื่อข่าวที่นครอิสตันบูลในการเผยแพร่รายงานประจำปีของ UNHCR ว่า โลกมีความรับผิดชอบร่วมกันในการปกป้องผู้ลี้ภัย

    “มันเป็นสิ่งสำคัญที่สหภาพยุโรป , กลุ่มชาติอ่าวอาหรับ และส่วนอื่นๆของโลกจะเปิดพรมแดนของพวกเขาด้วย” เขากล่าว

    เขากล่าวว่า ความเอื้อเฟื้อของตุรกีมีความหมายเป็นพิเศษในโลกที่ “พรมแดนมากมายถูกปิดหรือควบคุม และที่ซึ่งมีกำแพงขวางกั้นใหม่ๆ ถูกสร้างขึ้นมาหรือถูกประกาศ” และเสริมว่า “สิ่งนี้คือสิ่งที่ทุกคนควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” เขากล่าว

    “มันไม่ใช่ความรับผิดชอบเฉพาะของตุรกี , เลบานอน หรือจอร์แดนเท่านั้น มันคือความรับผิดชอบของทั้งโลก” กูเตอร์เรส กล่าว โดยอ้างถึงอีกสองประเทศที่ก็รับผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเป็นจำนวนมากเช่นกัน

    ตุรกีใช้นโยบาย “เปิดประตู” ที่ประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิป เออร์โดแกน ให้การสนับสนุนกับผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ซึ่งอังการายังคงสานต่ออยู่ถึงแม้ว่าจะมีความตึงเครียดทางสังคมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ตาม

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทางการตุรกีจุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียงขึ้นด้วยการปิดพรมแดนไม่รับผู้ลี้ภัยที่หลหนีการปะทะระหว่างกองกำลังชาวเคิร์ดและกลุ่มนักรบญิฮาดเพื่อแย่งชิงเมืองทาลอับยาดของซีเรีย แต่ก็เปิดใหม่อีกครั้งในภายหลังและรับผู้ลี้ภัยเข้ามาราว 23,000 คน


    UNHCR
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากการที่ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ UNHCR ออกมาเรียกร้องในวันนี้ (18) ให้ทั่วโลกรวมถึงชาติตะวันตกเปิดพรมแดน และเอาอย่างตุรกีในเรื่องการต้อนรับผู้ภัยชาวซีเรีย ถ้าข่าวจาก Islamicstudiesth Team เป็นเรื่องจริงที่ว่ากลุ่มดาอิช (ISIS) เดินอยู่เบื้องหน้าทหารตุรกี ประเทศตุรกีน่าเอาอย่างตรงไหน

    กลุ่มดาอิช (ISIS) เดินอยู่เบื้องหน้าทหารตุรกี / ภาพ + วิดีโอ Category: News & Event Published on Monday, 15 June 2015 23:06 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    จำนวนหนึ่งจากสมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) ได้ห้ามบรรดาผู้ลี้ภัยชาวซีเรียข้ามพรมแดนไปยังประเทศตุรกี

    [​IMG]

    อัลอาลัมรายงานว่า : รูปภาพต่างๆ ที่ถูกตีพิมพ์เผยแพร่เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ แสดงให้เห็นว่า จำนวนหนึ่งจากสมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) อยู่ห่างจากบรรดาทหารของตุรกีเพียงไม่กี่เมตร และกำลังบังคับให้บรรดาลี้ภัยชาวซีเรียย้อนกลับเข้าไปในซีเรีย

    สำนักข่าวฝรั่งเศส (เอเอฟพี) ได้ตีพิมพ์ภาพต่างๆ เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ พร้อมกับกล่าวย้ำว่า ในช่วงหลายวันมานี้ ตุรกีได้ดำเนินการต่างๆ เพื่อจำกัดการอพยพของผู้ลี้ภัยชาวซีเรียเข้าสู่ประเทศนี้

    ภาพต่างๆ เหล่านี้ ถ่ายจากบริเวณเขตผ่านแดน "ตัล อับยัฎ" ในจังหวัด "ชานลีอูรฟะฮ์" ชายแดนของตุรกี ในภาพเหล่านี้ สมาชิกของกลุ่มดาอิช (ISIS) กำลังขอให้ประชาชนกลับเข้าไปในเมืองของตน

    กลุ่มดาอิช (ISIS) เดินอยู่เบื้องหน้าทหารตุรกี / ภาพ + วิดีโอ
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทยพบผู้ติดเชื้อเมอร์สบ่งชี้ไวรัสแผ่ลามในเอเชีย-WHOย้ำยังไม่กลายพันธุ์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 23:29 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - สื่อต่างประเทศรายงาน ไทยยืนยันในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) พบผู้ติดเชื้อเมอร์สรายแรก เป็นชายวัย 75 ปีที่เพิ่งเดินทางกลับจากโอมาน ส่งสัญญาณว่าไวรัสชนิดนี้เริ่มแผ่ลามในเอเชีย นับตั้งแต่แพร่ระบาดอย่างหนักในเกาหลีใต้ คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 23 ศพ ขณะที่ผอ.อนามัยโลกเชื่อโสมขาวจะสามารถควบคุมสถานกาณ์ได้ และชี้ว่าอย่างน้อยๆก็มีข่าวดีคือยังไม่พบการกลายพันธุ์ของมัน

    ไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) แพร่ระบาดในอัตราที่รวดเร็วอย่างน่ากังวลในเกาหลีใต้ นับตั้งแต่วินิจฉัยพบไวรัสมรณะนี้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม โดยนอกจากผู้เสียชีวิตข้างต้นแล้ว ในแดนโสมขาวยังพบผู้ติดเชื้ออีก 165 คน ถือเป็นการแพร่ระบาดเลวร้ายที่สุดนอกซาอุดีอาระเบีย

    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่าไทยที่ตลาดการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ป่วยจากตะวันออกกลาง แถลงพบคนไข้ที่มีผลตรวจเมอร์สออกมาเป็นบวกรายแรกในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) หลังจากผลตรวจคนอื่นๆราว 20 คนก่อนหน้านี้ออกมาเป็นลบ

    ศ.นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเผยว่า "ชายคนนี้มาจากประเทศตะวันออกกลาง ผลตรวจยืนยันว่าเขาติดเชื้อไวรัสกลุ่มอาการทางเดินหายใจตะวันออกกลาง" และบอกว่าชายคนดังกล่าวเดินทางเข้าประเทศไทยพร้อมกับครอบครัวเมื่อ 3 วันก่อน

    เอเอฟพีอ้างคำกล่าวของโฆษกรัฐบาลบอกกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมาว่าชายคนนี้มาจากโอมานและได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกลางกรุงเทพฯเพื่อรักษาโรคหัวใจ หลังจากเข้ารับการตรวจหาเชื้อเมอร์สแล้ว เขาถูกเคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลสถาบันบำราศนราดูร ในจังหวัดนนทบุรีในตอนเช้าวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.)

    สื่อต่างประเทศแห่งนี้รายงานด้วยว่าเจ้าหน้าที่กำลังติดตามเหล่าผู้โดยสารที่อยู่บนเที่ยวบินเดียวกัน เช่นเดียวกับใครก็ตามมีสัมผัสกับชายคนดังกล่าวระหว่างที่เขาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ "เรามั่นใจว่า เราสามารถควบควมการแพร่ระบาดได้" พลตรี สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุในคำแถลง พร้อมระบุว่ได้กำหนดมารตรการควบคุมการแพร่ระบาดแล้ว ในนั้นรวมถึงสังเกตอาการสมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วย 3 คน

    ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี(18มิ.ย.) นางมากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก(WHO) มองในแง่ดีอย่างระมัดระวังต่อความสามารถในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเมอร์สของเกาหลีใต้ หลังจากเดิมที WHO ได้ให้คำจำกัดความการแพร่ระบาดของไวรัสนี้ว่าเป็นเหมือนสัญญาณปลุกให้ทุกคนตื่นขึ้น

    "การประเมินของเราในปัจจุบันต่อสถานการณ์เมอร์สในเกาหลีใต้ คือตอนนี้รัฐบาลยืนหยัดได้ดี" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมบอกว่าสถานการณ์ยังไม่เข้าองค์ประกอบาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ "การแพร่ระบาดเมอร์สกำลังถูกดึงเข้าสู่การควบคุม แม้อาจต้องใช้เวลามากกว่าที่หลายฝ่ายอยากเห็น"

    ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกรายนี้เผยรัฐบาลเกาหลีใต้ยอมรับว่าพวกเขาเริ่มต้นดำเนินการล่าช้า แต่ได้เพิ่มความพยายามอย่างรวดเร็วและอย่างเป็นระบบ ซึ่งผลก็คือจำนวนที่ลดลงของผู้ติดเชื้อรายใหม่ และข่าวดีอีกอย่างก็คือเหล่านักวิทยาศาสตร์ไม่ตรวจพบการกลายพันธุ์ของยีนในไวรัส

    ความเห็นของชาน มีขึ้นในขณะที่กระทรวงสาธารณสุขเกาหลีใต้รายงานพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 3 ศพและมีผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 3 คน แม้ว่าเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ทางการเชื่อว่าเกาหลีใต้ผ่านพ้นจุดเลวร้ายสุดของวิกฤตมาแล้ว

    องค์การอนามัยโลกบอกเมื่อวันพุธ(17มิ.ย.) การขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเมอร์สในหมู่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชาชนคือปัจจัยหลักที่กระพือการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว และเผยว่ามีการยืนยันพบไวรัสเมอร์สใน 4 ชาติเอเชีย ก่อนหน้าไทย ได้แก่จีน เกาหลีใต้ มาเลเซียและฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่ไวรัสมรณะชนิดนี้ปรากฎตัวขึ้นในซาอุดีอาระเบียครั้งแรกในปี 2012

    เวลานี้มีประชาชนมากกว่า 6,700 คนกำลังถูกกักกันโรคในเกาหลีใต้ ในความพยายามยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสเมอร์ส เพิ่มขึ้นจากวันพุธ(17มิ.ย.) อยู่ร้อยละ 3 ส่วนอีก 4,500 คนได้รับอนุญาตให้กลับบ้านได้

    อย่างไรก็ตามได้เกิดความกังวลจากรายงานข่าวที่บอกว่าผู้ติดเชื้อบางรายหลบหนีมาตรการกักกันโรค ซึ่งกัดเซาะความพยายามของรัฐบาลในการบรรเทาความวิตกของประชาชนต่อไวรัสชนิดนี้ที่เพิ่มก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจที่เปราะบางของประเทศ


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรีซหลายพันลุกฮือประท้วง ต้านเจ้าหนี้ต่างชาติ "ไม่เอานโยบายรัดเข็มขัด" ถึงแม้เสี่ยงต้องลาออกจากอียู ดูภาพชุดจาก Manager Multimediaโดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 18:30 น. (แก้ไขล่าสุด 18 มิถุนายน 2558 21:09 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ – ในวันพุธ(17) ประชาชนชาวกรีกทุกเพศทุกวัยจำนวน 3,000 คนได้ตบเท้าลงถนนมุ่งหน้าสู่รัฐสภากรีซในกรุงเอเธนส์สนับสนุนนายกรัฐมนตรี อเลซิส ทซิปราส ที่ต่อต้านเจ้าหนี้ต่างชาติกดดันให้มีการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัด และการตัดงบประมาณประเทศมากขึ้น ถึงแม้ว่ากรีซมีภาวะความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้หากหาเงินไม่ทันตามกำหนดก็ตาม และผลโพลล่าสุดชี้ ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศยังคงต้องการให้กรีซยังคงอยู่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรปต่อไป

    อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้(18)ว่าในวันพุธ(17) ประชาชนกรีซราว 3,000 คนพร้อมใจปรากฏตัวบริเวณด้านหน้ารัฐสภากรีซ เพื่อสนับสนุนนายกรัฐมนตรี อเลซิส ทซิปราส ในการต่อต้านข้อเรียกร้องของบรรดาเจ้าหนี้รายใหญ่ต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็น IMF หรือสหภาพยุโรปที่เรียกร้องให้รัฐบาลกรีซใช้นโยบายรัดเข็มขัดให้มากไปกว่านี้

    โดยประชาชนเหล่านั้นต่างเรียกร้องให้บรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติเคารพการตัดสินใจประชาชนกรีซที่มอบความไว้วางใจให้กับพรรครัฐบาลไซริซา(Syriza)ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีนโยบายการหาเสียงสำคัญคือ การต่อต้านนโยบายการรัดเข็มขัดของประเทศ

    สื่อกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า ป้ายข้อความสีสันสะดุดตาที่บรรดาผู้ประท้วงต่างจัดหามานั้นมีข้อความเรียกร้องส่งไปยังบรรดาเจ้าหนี้ก้อนโต้ทั้งหลาย เช่น “ชีวิตของประชาชนชาวกรีซไม่ได้ขึ้นกับเจ้าหนี้ต่างชาติ” และต่างส่งเสียงร้องตะโกน “ต้องเคารพเส้นแดง” ที่โยงไปถึงเส้นตายการเจรจาของรัฐบาลกรีซในปัญหาหนี้สินที่ลากยาวนานกว่า 5 เดือน

    ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยกรีซ นิคอส วูตซิส" ได้ร่วมอยู่กับผู้ประท้วงเมื่อวานนี้(17)นี้ได้ยืนยันคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ว่า จะต้องยกเลิกนโยบายการรัดเข็มขัด ในขณะที่รัฐมนตรีการคลังชาติสมาชิกในยุโรปต่างกำลังร่วมประชุมหารือในวันพฤหัสบดี(18)เพื่อบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับวิกฤตหนี้กรีซ

    และก่อนหน้านี้ในวันอังคาร(16) นายกรัฐมนตรีกรีซที่มีอาบุน้อยที่สุดในประวัคติศาสตร์ร่วม 150 ปีของประเทศได้ออกมากล่าวโต้กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติว่า “เป็นความพยายามที่จะทำให้กรีซต้องอับอาย” โดยการยื่นข้อเสนอให้กรีซจำต้องหั่นงบประมาณของประเทศให้มากกว่านี้เพื่อแลกเปลี่ยนกับการได้รับความช่วยเหลือเงินก้อนใหม่ที่ถูกแช่แข็งมานาน

    ทั้งนี้กรีซยืนยันว่า เงื่อนไขการขอรับความช่วยเหลืองวดก่อนหน้านี้นั้นเข้มงวดมากจนเกินไป และในวันอาทิตย์(14)รัฐบาลกรีซล้มเหลวในการเจรจาประนีประนอมกับเจ้าหนี้ต่างชาติ รวมไปถึงได้รับเงินช่วยเหลือก้อนใหม่ที่ต้องการเพื่อที่ทางกรีซจะสามารถชำระเงินจำนวน 1.8 พันล้านดอลลาร์คืนให้กับ IMF ภายในสิ้นเดือนมิถุนายน และรวมไปถึงเงินจำนวน 7.5 พันล้านที่ทางกรีซต้องชำระคืนในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม

    อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า กรีซได้รับเงินก้อนราว 270 พันล้านในการกอบกู้วิกฤตจาก IMF Troika ธนาคารกลางแห่งยุโรป และ คณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission)

    นอกจากนี้ยังมีการทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนกรีซ ซึ่งพบว่าเสียงส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนให้กรีซยังคงอยู่ในสหภาพยุโรปต่อไป แต่ทว่าไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัดของบรรดาเจ้าหนี้ต่างชาติ

    และในวันพุธ(18) นายกรัฐมนตรีเยอรมัน อังเกลา แมร์เคิล ประนามเอเธนส์ที่ไม่ใส่ใจเพียงพอถึงสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์กรีซในเวลานี้

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียขู่ขยายเวลา “งดซื้อสินค้าเกษตร” จาก EU หากโดนคว่ำบาตรเพิ่ม
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 16:27 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี – รัสเซียขู่จะขยายเวลาในการงดซื้อสินค้าเกษตรจากสหภาพยุโรปหากถูกอีกฝ่ายคว่ำบาตรเพิ่ม แต่คาดว่าจะไม่มีแผนตอบโต้ที่รุนแรงกว่านั้น อเล็กเซย์ อุลยูกาเยฟ รัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจแดนหมีขาว แถลงวันนี้(18 มิ.ย.)

    “เราจะยังคงมาตรการเดิมคืองดซื้อผลิตผลทางการเกษตรของยุโรป แน่นอนว่านี่คือการตอบโต้ที่สมน้ำสมเนื้อ” อุลยูกาเยฟ ให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าว อาร์ไอเอ โนโวสตี ของรัสเซีย

    “เราอาจขยายขอบเขตการแบนสินค้าให้มีชั้นเชิงยิ่งขึ้นไปอีก” เขากล่าวเสริม

    เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมอสโกจะคว่ำบาตรสินค้ายุโรปประเภทอื่นๆ ด้วยหรือไม่ รัฐมนตรีผู้นี้ก็ตอบว่า “ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น”

    ด้านรองนายกรัฐมนตรี อาร์คาดี ดีวอร์โควิช แห่งรัสเซีย ก็เปิดเผยกับสื่อสำนักนี้เช่นกันว่า “เราจะขยายเวลาคว่ำบาตรสินค้า หากอียูทำเช่นนั้นกับเรา” แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าจะยืดเวลาไปอีกนานเท่าใด เขาก็ตอบง่ายๆ ว่า “ยังไม่ขอระบุเส้นตาย”

    รัสเซียได้ประกาศแบนสินค้าประเภทผลิตภัณฑ์นม เนื้อสัตว์ ปลา ผลไม้ และผักที่นำเข้าจากออสเตรเลีย แคนาดา สหภาพยุโรป นอร์เวย์ และสหรัฐฯ

    นักการทูตจากอียูทั้ง 28 ประเทศได้ลงมติเห็นชอบวานนี้ (17) ให้ขยายเวลาคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 มกราคม 2016 เพื่อลงโทษที่มอสโกเข้าไปแทรกแซงวิกฤตความขัดแย้งในยูเครนตะวันออก ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะถูกนำเข้าสู่ที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอียูในสัปดาห์หน้าเพื่อประกาศอย่างเป็นทางการ


     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวบ้านพบทหารสหรัฐฯ “เป็นศพ” ใกล้ฐานทัพอเมริกาในเกาหลีใต้ระหว่างฝึก หลังก่อนหน้าสื่อมั่นคงแฉ ทำไม “เพนตากอน” ต้องส่งเชื้อแอนแทรกซ์ทั้งเป็นไปยังโซล โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มิถุนายน 2558 15:48 น. (แก้ไขล่าสุด 19 มิถุนายน 2558 10:19 น.)

    [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]

    @ค่ายทหารแคมป์แจ็คสันที่ดำเนินการโดยกองทัพที่ 8 (Eighth Army )เป็นสถานที่สำหรับฝึกซ้อมสำหรับทหาร NCO หรือทหารที่ไม่ได้รับมอบหมายภารกิจ และรวมไปถึงทหารเกณฑ์เกาหลีที่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่ประจำในหน่วย KATUSA

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ไมเคิล วิลเลียม คอรีย์ (Michael William Corey) ทหารหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งประจำอยู่ญี่ปุ่นเสียชีวิตไม่ห่างจากค่ายฐานทัพสหรัฐฯ แคมป์แจ็กสัน ในระหว่างถูกส่งตัวมาฝึกในเกาหลีใต้ในช่วงนี้ โดยชาวเกาหลีใต้ที่อาศัยใกล้ฐานทัพสหรัฐฯ เป็นผู้พบศพในวันจันทร์ (15 มิ.ย.) ในขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตอย่างแน่ชัดซึ่งก่อนหน้านี้สื่อการทหารและความมั่นคง The DefenceOne รายงานว่า หลังจากที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯยอมรับว่าได้มีความผิดพลาดจัดส่ง “เชื้อไวรัสแอนแทรกซ์” ซึ่งถือเป็นอาวุธชีวภาพไปยังห้องทดลองวิทยาศาสตร์ทั่วสหรัฐฯ และรวมไปถึงออสเตรเลีย แคนาดา และเกาหลีใต้ โดยเพนตากอนยอมรับว่าการจัดส่งไปยังเกาหลีใต้เพื่อต้องการให้กองทัพสหรัฐฯ เพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจพบและค้นหาอาวุธชีวิภาพชนิดนี้ด้วนความรวดเร็วจากระยะไกลเพื่อช่วยชีวิตทหารผูปฎิบัติหน้าที่

    ฐานทัพสหรัฐฯ ประจำเกาหลีใต้ได้ออกแถลงการณ์ในวันพฤหัสบดี (18) หลังในวันจันทร์ (15) ชาวเกาหลีใต้พบศพไมเคิล วิลเลียม คอรีย์ (Michael William Corey) ทหารหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ซึ่งประจำอยู่ญี่ปุ่นเสียชีวิตไม่ห่างจากค่ายฐานทัพสหรัฐฯ แคมป์แจ็กสัน ในระหว่างถูกส่งตัวมาฝึกในเกาหลีใต้ในช่วงนี้

    รอยเตอร์รายงานว่า แต่เดิมคอรีย์เป็นทหาร NCO จาก โฮโร แวลลีย์ (Oro Valley) รัฐแอริโซนา รายงานจากแถลงการณ์ของแคมป์แจ็กสันทางเหนือของกรุงโซล

    โดยในแถลงการณ์ระบุว่า คอรีย์เสียชีวิตในระหว่างการฝึกลาดตระเวนทางบกภายในค่ายทหารแห่งนี้ โดยนายทหารรายนี้เป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลประจำ 441st ฐานทัพสหรัฐฯ แคมป์ซามา (Camp Zama) ในใกล้กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น แต่ถูกส่งตัวมาฝึกในเกาหลีใต้ในช่วงนี้ และการเสียชีวิตนายทหารรายนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน

    ทั้งนี้ มีนายทหารสหรัฐฯ ร่วม 28,500 นายประจำอยู่ในเกาหลีใต้ซึ่งเกาหลีใต้ถือเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ใกล้ชิดของสหรัฐฯ รอยเตอร์รายงานเพิ่มเติมว่า ค่ายทหารแคมป์แจ็กสันที่ดำเนินการโดยกองทัพที่ 8 (Eighth Army) เป็นสถานที่สำหรับฝึกซ้อมสำหรับทหาร NCO หรือทหารที่ไม่ได้รับมอบหมายภารกิจ และรวมไปถึงทหารเกณฑ์เกาหลีที่มีทักษะการใช้ภาษาอังกฤษขั้นสูงที่ประจำในหน่วย KATUSA

    และความสัมพันธ์ด้านการทหารระหว่างทั้งสองชาติที่นอกจากที่สหรัฐฯจะมีฐานทัพประจำเกาหลีใต้ ฝึกทหารเกาหลีใต้ และรวมไปถึงการฝึกซ้อมรบร่วมกันแล้ว ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งนี้ยังปรากฏเป็นข่าวหน้าหนึ่งไปทั่วโลกในช่วงปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาที่ทางกองทัพสหรัฐฯได้ออกมายอมรับว่ามีการส่งตัวอย่างอาวุธชีวภาพ “เชื้อแอนแทรกซ์” ไปยังค่ายทหารกองทัพอากาศในเกาหลีใต้จริง จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ สื่อความมั่นคงและการทหาร The DefenceOne เปิดเผยถึงสาเหตุว่า เหตุใดเพนตากอนจึงจัดส่งเชื้อแอนแทรกซ์ไปยังห้องวิทยาศาสตร์ทั่วสหรัฐฯ รวมไปถึง แคนาดา ออสเตรเลีย และเกาหลีใต้

    โดยการรายงานข่าวของสื่อการทหารพบว่า เพนตากอนจัดส่งอาวุธชีวภาพแอนแทรกซ์ไปยังโซลเพื่อ “ทดสอบอุปกรณ์ชนิดใหม่ที่ใช้ดักจับเชื้อโรคอาวุธชีวภาพ” The DefenceOne ระบุว่าในเดือนเมษายน 2014 ทางเพนตากอนเริ่มต้นกระบวนการทดลองที่สำคัญของหน่วยงานความร่วมมือระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และกองทัพเกาหลีใต้ที่มีการทดลองเกี่ยวกับการระบุหาการคุกคามทางภัยความมั่นคง ที่โครงการความร่วมมือนี้มีชื่อย่อว่า “JUPITR”

    และในภายใต้โปรแกรม JUPITR ประกอบไปด้วยการทดลองเครื่องมือต่างๆทั้งขนาดย่อส่วนและขนาดใหญ่เพื่อช่วยให้ทหารผู้ปฎิบัติหน้าที่สามารถตรวจพบเชื้อไวรัสอาวุธชีวภาพได้ทันท่วงทีจากในระยะไกลซึ่งความก้าวหน้าทางวิทยาการนี้ สื่อการทหารระบุว่าก้าวหน้าไปกว่า การวิเคราะห์โครงสร้างทางเคมีของกรดอะมิโนพื้นฐานที่กระทำอยู่ตามปกติไปแล้ว หรือการใช้เซนเซอร์เลเซอร์เพื่อตรวจจับ

    และในเดือนสิงหาคม 2014 ทาง The DefenceOne ได้เห็นเครื่องมือตรวจสอบของ JUPITR ที่ Army’s Chemical Materials Activity ในเอดจ์วูด (Edgewood) รัฐแมรีแลนด์ ที่มีการใช้ระบบเซ็นเซอร์เลเซอร์ตรวจจับสารเคมีที่อยู่ในยูวี และส่งผลทำให้ทั้งระบบดึงตัวอย่างจากอากาศ ณ จุดนั้นเพื่อทำการวิเคราะห์ลงรายละเอียดทั้งหมด

    โดยสื่อความมั่นคงชี้ว่า จากความพยายามทั้งหมด เพนตากอนต้องการที่จะค้นหาสารเคมีที่จะเกิดอันตรายต่อชีวิตได้อย่างรวดเร็ว แต่ทว่าถือเป็นความผิดพลาดในการส่งเชื้อไวรัสทั้งเป็นออกไปยังห้องปฎิบัติการต่างๆ รวมถึงในโซล



     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'จีน'ไม่ขำแต่ออกมาตอบโต้คำพูดแสบสันต์ของ 'โดนัลด์ ทรัมป์'


    โดย เอเชียอันเฮดจ์
    19 มิถุนายน 2558 11:48 น.

    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ Asia Times)

    China responds to Donald Trump’s insults
    By Asia Unhedged
    17/06/2015

    โดนัลด์ ทรัมป์ เจ้าพ่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และดาราเอกทีวีเรียลลิตี้โชว์ชาวอเมริกัน ออกมาประกาศตัวลงแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร 16 มิถุนายนที่ผ่านมา และได้กล่าว “พูดพล่ามโวยวาย” เรื่องต่างๆ อยู่ 40 นาที โดยที่จีนเจอเข้าไปหลายดอก ปรากฏว่าปักกิ่งไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องน่าขำ และออกมาแถลงตอบโต้อย่างซีเรียสทีเดียว

    อันที่จริง จีนควรจะถือว่ามันเป็นคำยกย่องชมเชยนะ

    ถ้าหากคุณไม่ได้ถูกดูหมิ่นหยามหยันเป็นการส่วนตัวเอาเลยจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ในตอนที่เขาประกาศกระโจนเข้าสู่สังเวียนการแข่งขันชิงชัยเพื่อเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯอย่างเป็นทางการ นั่นย่อมหมายความว่าจริงๆ แล้วคุณก็ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรนักหรอก คราวนี้ปรากฏว่าจีนได้รับความสนอกสนใจอย่างพิเศษทีเดียวจากผู้เข้าแข่งขันชิงทำเนียบขาวคนล่าสุดรายนี้ ทว่าจีนกลับถือเอาการที่ถูก ทรัมป์ เล่นงานโจมตีเป็นเรื่องจริงเรื่องจัง และออกมาแถลงว่าความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯนั้น สร้างขึ้นมาบนความร่วมมือซึ่งกันและกันระหว่างประเทศทั้งสอง

    “ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและความร่วมมือทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯได้เติบโตขยายตัวขึ้นมาอย่างมากมายมโหฬาร จนกระทั่งในทุกวันนี้มันมีขนาดขอบเขตซึ่งพูดได้ว่าเหมือนกับ 'พวกคุณอยู่ในท่ามกลางพวกเรา และพวกเราก็อยู่ในท่ามกลางพวกคุณ' ไปแล้ว” ลู่ คัง (Lu Kang) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ซึ่งสอบถามความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของ ทรัมป์

    เจ้าพ่อนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และดาราเอกทีวีเรียลลิตี้โชว์ชาวอเมริกันรายนี้ ออกมาประกาศเมื่อวันอังคาร (16 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า เขาขอลงแข่งขันเพื่อให้ได้เป็นผู้สมัครของพรรครีพับลิกันในการชิงชัยเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยหน้า

    เขาใช้เวลาอยู่ 40 นาทีในวันนั้นเพื่อพูดพล่ามโวยวายถึงเรื่องต่างๆ ตามที่นึกออกมาได้ มีบางคนเรียกมันว่าเป็น “การปราศรัย” (อย่างเช่น หนังสือพิมพ์นิวยอร์กเดลินิวส์ ซึ่งถึงขั้นถอดเทปรายละเอียดออกมาให้อ่านกัน ดูรายละเอียดได้ที่ http://www.nydailynews.com/news/pol...6-presidential-announcement-article-1.2260117) แต่เอเชียอันเฮดจ์ขอเรียกว่าเป็น “การพูดพล่ามโวยวาย” (rant) หรือเรียกให้กิ๊บเก๋ก็ต้องบอกว่าเป็น “การพูดพล่ามโวยวายตามกระแสสำนึก” (stream-of-conscious rant)

    ทรัมป์นั้นเรียกคนอื่นๆ ทุกๆ คนซึ่งลงชิงชัยคว้าตำแหน่งประธานาธิบดีเช่นเดียวกับตัวเขาว่าเป็น “พวกขี้แพ้” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจบ บุช ที่เขาบอกว่าทั้งงี่เง่าและผิดพลาดในประเด็นปัญหาต่างๆ เขาพูดว่าพวกผู้อพยพชาวเม็กซิกันทั้งหมด ไม่ว่าถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมาย ต่างล้วนเป็นพวกอาชญากรและผู้ร้ายนักข่มขืน ขณะที่ซาอุดีอาระเบียนั้นก็จะไม่สามารถดำรงคงอยู่ได้หรอกถ้าหากไม่มีสหรัฐฯ

    แน่นอนทีเดียว ทรัมป์เก็บเอาความเห็นแสบสันต์สุดๆ ของเขาบางอันเพื่อนำมามอบให้แก่จีน เขาบอกกับฝูงชนซึ่งมาฟังเขาที่อาคาร “ทรัมป์ทาวเวอร์” ในนิวยอร์กว่า คนอเมริกันหางานทำกันไม่ได้ “เพราะมันไม่มีตำแหน่งงานอะไรเหลืออยู่ เพราะจีนเอาตำแหน่งงานของเราไป”

    “ครั้งสุดท้ายซึ่งคุณได้ยินคำพูดที่ว่า 'จีนกำลังฆ่าเราอยู่' นะ คุณได้ยินเมื่อไหร่ล่ะ? พวกเขากำลังลดค่าเงินของพวกเขาให้อยู่ในระดับที่คุณจะไม่เชื่อเลยว่าทำกันได้ขนาดนี้ มันทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่บริษัทของพวกเราจะไปแข่งขันด้วย เป็นไปไม่ได้เลย พวกเขากำลังฆ่าเราอยู่นะ แต่คุณจะไม่ได้ยินเรื่องนี้จากใครที่ไหนหรอก คุณจะไม่ได้ยินเรื่องนี้จากใครที่ไหนเลย”

    ในช่วงกลางๆ ของ “คำปราศรัย” ของเขา ทรัมป์บอกว่า “ผมรักประเทศจีนนะ คนชอบพูดกันว่า 'ปู้โท่ คุณไม่ชอบประเทศจีน' ไม่ใช่หรอกครับ ผมรักพวกเขานะ แต่พวกผู้นำของพวกเขานะฉลาดกว่าพวกผู้นำของเรามากๆ เราก็เลยไม่สามารถประคับประคองตัวเราให้ยังคงรักพวกเขาต่อไปได้”

    “มันมากเกินไปอ่ะ มันเหมือนกับ เอ้อ มันเหมือนกับเอาทีม นิวอิงแลนด์ แพทริออต และ ทอม เบรดี้ เอาพวกเขามาแข่งกับทีมฟุตบอล (อเมริกัน) โรงเรียนมัธยมของคุณ นี่แหละความแตกต่างคนละชั้นกันระหว่างพวกผู้นำของจีนกับพวกผู้นำของเรา” เขากล่าว “พวกเขากำลังเลาะเราออกมาเป็นชิ้นๆ เรากำลังช่วยสร้างประเทศจีนขึ้นมาใหม่ เรากำลังช่วยสร้างประเทศต่างๆ ขึ้นมาใหม่มากมายเหลือเกิน ...”

    “ประเทศจีน คุณได้ไปหมดแล้วตอนนี้ ทั้งถนนเอย, สะพานเอย, โรงเรียนเอย คุณไม่เคยพบเคยเห็นอะไรเหมือนยังงี้มาก่อนหรอก พวกเขามีสะพานที่ทำให้สะพานจอร์จ วอชิงตัน (George Washington Bridge) แลดูเหมือนกับเป็นแค่มันฝรั่งลูกเล็กๆ ไปเลย คุณมีปัญหากับพวกไอซิส (ISIS คำย่อหนึ่งที่ยังมีผู้นิยมเรียกขานกันของกลุ่มไอเอส -ผู้แปล) แต่คุณมีปัญหาใหญ่โตยิ่งกว่านั้นอีกกับประเทศจีน” ทรัมป์กล่าวต่อ

    จีน ซึ่งดูจะมองไม่เห็นมุกตลกในการลงแข่งขันของทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นตอบโต้กลับอย่างสุภาพเมื่อวันพุธที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา

    “มันเป็นสถานการณ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ล้วนแต่เป็นผู้ชนะนะครับ การค้าขายขนาดมหึมาเช่นนั้นจริงๆ แล้วต่างก็ให้ผลประโยชน์อย่างมากมายมโหฬารแก่ทั้งสองฝ่าย” ลู่ กล่าวตอบโต้โดยไม่ได้มีการเอ่ยชื่อของทรัมป์ “ผมเชื่อว่าถึงแม้ยังคงมีความขัดแย้งอะไรต่างๆ ดำรงอยู่ แต่ทั้งสองฝ่ายก็สามารถที่จะจัดการกับมันได้โดยผ่านช่องทางต่างๆ ซึ่งมีอยู่แล้ว ผมเชื่อว่าถ้าหากไม่มีรากฐานรองรับที่ดีแล้ว ความสัมพันธ์ทางการค้าอย่างนี้จะไม่สามารถรักษาเอาไว้อย่างยาวนานหรอก”

    ไม่ต้องสงสัยเลยว่าสองประเทศที่เป็นเจ้าของเศรษฐกิจอันใหญ่โตเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 ของโลกนี้ มีความไม่ลงรอยกันเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะในเรื่องลัทธินิยมทหารที่สูงขึ้นเรื่อยๆ, สิทธิมนุษยชน, หรือนโยบายด้านค่าเงินตรา แต่เมื่อถึงตอนท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่สำคัญจริงๆ สำหรับสหรัฐฯก็คือ เงินทอง นั่นเอง ดังนั้นถ้าหากมันเป็นผลดีสำหรับธุรกิจแล้ว คุณก็สามารถมั่นใจได้ว่าสหรัฐฯจะยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหนหรอก

    (จากคอลัมน์ Asia Unhedged ในเอเชียไทมส์)

    '
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แม่ปิงสวยจังเลย

    Raks Mae Ping
    อย่าคิดว่า "แม่ปิง" จะไม่มีวันแห้ง! (ภาพยกมาเป็นอุทาหรณ์)

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Narumon Bangsroi
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จะต้องขุดสมบัติโบราณที่ใต้น้ำแม่ปิงแล้ว ฟ้าเป็นใจ เปิดน้ำเป็นทาง แบบบัญญัติ 10 ประการ

    Raks Mae Ping

    [​IMG]

    รูปแม่ปิงของจริงที่ท่าก้อ อ.ลี้ ลำพูน เหลือน้ำเท่าเนี้ยะ!
    Cr: Navachon Tasingkam
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [​IMG]

    ยังไงก็ขอให้แม่ปิงกลับไป เป็นแบบนี้เร็วๆ น่ะครับ

    ภาพ แม่น้ำปิงที่ "แก่งก้อ" จาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...