ติดตามสถานะการณ์

ซาอุฯถล่มตึกบัญชาการทหารบกเยเมน | เดลินิวส์



ซาอุดีอาระเบียโจมตีทางอากาศถล่มอาคารกองบัญชาการกองทัพบกเยเมนในกรุงซานา ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย44ศพ บาดเจ็บกว่า100ราย ซึ่งมีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2558 เวลา 21:15 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงซานา ประเทศเยเมน เมื่อวันที่7มิ.ย.ว่า สำนักข่าวซาบาของกลุ่มกบฎฮูตีรายงานว่า ซาอุดีอาระเบียได้ทิ้งระเบิดโจมตีอาคารกองบัญชาการกองทัพบกของเยเมนในกรุงซานา ทำให้ประชาชนกว่า44คนเสียชีวิต และบาดเจ็บอีกกว่า100ราย ในจำนวนนี้มีเด็กและผู้หญิงรวมอยู่ด้วย

รายงานเปิดเผยอีกว่า การโจมตีทางอากาศครั้งนี้ซาอุดีอาระเบียได้มุ่งเป้าถล่มอาคารทำการของเจ้าหน้าระดับสูงของกองทัพเมเมน ซึ่งตั้งอยู่ในเขตทาห์รีร์ กลางกรุงซานา “

อ่านต่อที่ : ซาอุฯถล่มตึกบัญชาการทหารบกเยเมน | เดลินิวส์

 

กินยาต้านฯต่อเนื่อง 7 วันก่อนมีเซ็กซ์ป้องกันเอดส์ | เดลินิวส์



สธ.เผยกินยาต้านไวรัสฯต่อเนื่อง 7 วันก่อนมีเซ็กซ์-สวมถุงยาง ช่วยป้องกันเอดส์ ตั้งเป้ายุติปัญหา"เอดส์"ในปี 73 วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2558 เวลา 17:55 น.

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า โครงการ "เทสต์แอนด์ทรีต" ซึ่งเปิดรับอาสาสมัครกลุ่มชายรักชาย และสาวประเภทสองจาก 7 จังหวัด รวมกว่า 8,000 คน เพื่อร่วมโครงการตรวจหาเชื้อเอชไอวีและรักษาหากติดเชื้อ และมีการติดตามเพื่อตรวจซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันการติดเชื้อรายใหม่ และแพร่กระจายเชื้อเอชไอวีสู่บุคคลอื่นนั้น ได้เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่ พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการแล้วจำนวนหนึ่ง โดยกลุ่มอาสาสมัครที่ตรวจไม่พบเชื้อเอชไอวีจะได้รับการชักชวนเข้าโครงการประเมินการกินยาต้านไวรัสเพื่อป้องกันการติดเชื้อ (เพร็พ - PreP) ที่เป็นการให้ยาต้านไวรัสกับกลุ่มเสี่ยงฟรี เพื่อศึกษาอัตราการติดเชื้อในคนที่กินยาก่อนติดเชื้อว่ามีโอกาสมากน้อยเพียงใด นพ.โสภณ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาพบว่า การรับประทานยาต้านไวรัสก่อนการติดเชื้อ สามารถช่วยลดโอกาสติดเชื้อเอชไอวีได้ถึงร้อยละ 90 แต่การศึกษาครั้งนี้เพื่อต้องการให้เห็นภาพชัดในสังคมไทยว่าสามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อได้จริง ส่วนที่จะขยายให้บริการยาต้านไวรัสฯฟรี เช่นเดียวกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีทุกสิทธิที่ได้รับยาต้านไวรัสฯ หรือไม่นั้น จำเป็นที่จะต้องรอผลการศึกษาก่อนว่าดำเนินการแล้วมีปัญหาอุปสรรคใดหรือไม่ และมีความคุ้มค่าหรือไม่ อย่างไรก็ตาม โดยปกติการป้องกันก็จะมีการสวมถุงยางอนามัยอยู่แล้ว ซึ่งไม่ว่ากลุ่มเสี่ยงหรือประชาชนทั่วไปก็สามารถขอรับได้ฟรีที่สถานพยาบาล ทั้งนี้ ทั้ง 2 โครงการจะนำไปกำหนดนโยบายเพื่อยุติปัญหาเอดส์อย่างตรงสภาพปัญหา โดยตั้งเป้ายุติปัญหาเอดส์ภายในปี 2573 ด้าน นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย กล่าวว่า การให้ยาต้านไวรัสเอชไอวียังคงให้ฟรีเฉพาะผู้ป่วยเอดส์ทุกสิทธิการรักษา แต่สำหรับผู้ที่ต้องการป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีโดยการรับประทานยาต้านไวรัสฯ ล่วงหน้านั้นยังต้องจ่ายเงินเอง ซึ่งอย่างที่ทราบผลการศึกษาพบว่าร้อยละ 90 สามารถช่วยป้องกันได้ แต่จะต้องรับประทานยาต้านไวรัสฯแล้วอย่างน้อยประมาณ 7 วันขึ้นไป ดังนั้นหากจะป้องกันโดยซื้อยาต้านฯมากินก่อนมีเพศสัมพันธ์ทันทีในวันนั้น ประสิทธิภาพในการป้องกันอาจไม่เต็มที่ สำหรับยาต้านไวรัสฯเพื่อป้องกันการติดเชื้อ สามารถซื้อได้ตามสถานพยาบาลทั่วไป แต่หากมารับบริการที่ศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ค่าใช้จ่ายในส่วนของยาต้านไวรัสฯและค่าบริการตรวจเลือดติดตามผล จะอยู่ที่ครั้งละ 30 บาท.“

อ่านต่อที่ : กินยาต้านฯต่อเนื่อง 7 วันก่อนมีเซ็กซ์ป้องกันเอดส์ | เดลินิวส์

 

2 สนช.อดีตผู้ว่าฯปัดเอี่ยวโกงซื้อยาปราบศัตรูพืช | เดลินิวส์





อดีตผู้ว่าฯมุกดาหาร-เลย ยันจัดซื้อยึดระเบียบ อย่าเหมารวมกรณี"บึงกาฬ" อัด“วิลาศ”ไม่ใช่คนพื้นที่ ติดใจสร้างกระแสหรือไม่ วันอาทิตย์ที่ 7 มิถุนายน 2558 เวลา 16:14 น.

เมื่อวันที่ 7 มิ.ย. นายชาญวิทย์ วสยางกูร สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร กล่าวตอบโต้กรณีที่ถูกนายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีตส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าเกี่ยวข้องกับการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างยาปราบศัตรูพืช ว่า ขณะนั้นมีการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าได้รับความเดือดร้อนจากภัยธรรมชาติ เช่น ศัตรูพืช เป็นต้น ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็พบว่าสถานการณ์ดังกล่าวเป็นความจริงและเข้าหลักเกณฑ์ ตนในฐานะผู้ว่าราชการจังหวัดก็ต้องประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติ เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และการจัดซื้อจัดจ้างก็ทำตามระเบียบ ซึ่งได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2553-2555 อีกทั้งหลายจังหวัดใกล้เคียงมีปัญหาและมีการการประกาศเช่นเดียวกัน ถ้าไม่ช่วยเหลือแล้วเกิดความเสียหายมากกว่าเดิม ใครจะรับผิดชอบ “ผมทำตามหน้าที่และไม่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้าง เพราะคนที่ปฏิบัติเป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่าง ยังไม่มีหน่วยงานใดที่ชี้ว่าเราทุจริต สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) กำลังตรวจสอบอยู่ ยังไม่ชี้มูล ผมไม่เข้าใจว่านายวิลาศรู้ข้อเท็จจจริงในพื้นที่หรือไม่ เพราะไม่ใช่คนในพื้นที่ และไปเอาข้อมูลมาจากที่ใด นายวิลาศจะมาเล่นงานอะไรกับผมและเพื่อนผม ทำไมต้องกล่าวหากันหรือต้องการสร้างกระแสหรือไม่ ส่วนผมจะฟ้องร้องกลับหรือไม่นั้นขอพิจารณาก่อนและจะไปหารือกับนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช."นายชาญวิทย์ กล่าว ด้านนายพรศักดิ์ เจียรณัย สมาชิกสนช. และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดเลย กล่าวว่า การที่จะประกาศเขตภัยพิบัติมีระเบียบกำกับอยู่แล้ว ไม่ใช่ผู้ว่าฯทำได้เอง และมีหน่วยเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบว่าพื้นที่ที่ประชาชนร้องเรียนเป็นอย่างไร เป็นจริงตามที่ประชาชนร้องเรียนหรือไม่ แล้วจึงประกาศได้ ถ้าเกิดความเสียหายแล้วไม่ช่วยเหลือ ใครจะรับผิดชอบต่อ ความเสียหายที่เกีดขึ้น และการทุจริตที่จ.บึงกาฬ อย่าเอามาเปรียบเทียบกับจังหวัดอื่นๆ อย่าเหมารวมกัน แต่ต้องดูกันเป็นรายกรณี.“

อ่านต่อที่ : 2 สนช.อดีตผู้ว่าฯปัดเอี่ยวโกงซื้อยาปราบศัตรูพืช | เดลินิวส์

 

ซวยเลย ISIS เจอบึ้มฐานบัญชาการ หลังโพสต์ภาพเซลฟี่ระบุพิกัด



ถึงจะเป็นกลุ่มกองกำลังที่ถูกตราหน้าว่าโหดเหี้ยมที่สุดในโลก แต่ก็พลาดได้เหมือนกัน เมื่อสมาชิกกลุ่ม ISIS ได้ถ่ายภาพเซลฟี่ตัวเองหน้าฐานบัญชาการใหญ่ โพสต์ลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก แต่ไม่รู้ว่าภาพจากโทรศัพท์มันบอกพิกัดได้ เลยกลายเป็นการ "เรียกแขก" กองทัพสหรัฐฯ ส่งเครื่องบินรบไปตามจุดที่ระบุไว้ แล้วบึ้มทันที
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2558 เว็บไซต์มิเรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า เหตุการณ์นี้เปิดเผยโดยนายเฮอร์เบิร์ต ฮอว์ก คาร์ลิเซิล หัวหน้าหน่วยรบทางอากาศของสหรัฐฯ เขาได้เล่าว่า มีสมาชิกกลุ่ม ISIS บางรายได้ถ่ายรูปเซลฟี่ที่ฐานบัญชาการใหญ่ ISIS แล้วอวดภาพลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยไม่รู้เลยว่าภาพแต่ละภาพที่ถ่ายจากโทรศัพท์มือถือนั้นสามารถเอาไปแกะรอยพิกัดที่ถ่ายได้
และแล้วความซวยก็มาเยือน เมื่อหน่วยจู่โจมทางอากาศของสหรัฐฯ ได้ตรวจสอบ Metadata ของภาพเซลฟี่นั้น ซึ่งมีการระบุตำแหน่งไว้ จากนั้นก็ไม่รอช้า นำเครื่องบินรบบินออกไปยังเป้าหมาย แล้วบึ้มเป้าหมายด้วยขีปนาวุธ 3 ลูก หลังจากภาพเซลฟี่ถูกโพสต์ได้เพียง 22 ชั่วโมง
ภาพจาก ISIS
ซวยเลย ISIS เจอบึ้มฐานบัญชาการ หลังโพสต์ภาพเซลฟี่พาซวยเซลฟี่ระบุพิกัด

 

ปอกเปลือก ทรราช
ทางเลือกใหม่ : จีนขยายเงินหยวนเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลาง



--------------
ไปเที่ยวจีนกับตะวันออกกลางกันซักหน่อยนะครับ จับตาดูจีนเดินเกมเศรษฐกิจแข่งขันกับสหรัฐฯให้ดี เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าว sputnike news พาดหัวข่าวว่า "New Choice: Chinese Currency Expands to Middle East" และขยายความต่ออีกว่า "การใช้สกุลเงินเรนมินบิ (ของจีน) ไปทั่วโลกอาจจะช่วยลดต้นทุนในการทำธุรกรรมทางการเงินให้กับจีนโดยอนุญาตให้มีการแลกเปลี่ยนสกุลเงิน RMB กับสกุลเงินที่ไม่ใช่ USD ของสหรัฐฯ" (เห็นการเดินหมากของจีนหรือยังครับ? นี่คือหนึ่งในมาตรการลดความสำคัญของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯลง พูดภาษาชาวบ้านก็คือฆ่าดอลล่าร์สหรัฐฯนั่นแหละ)
รายงานข่าวบอกว่า จีนได้ก่อตั้งศูนย์เคลียร์ริ่งเงินหยวน (Renminbi) ขึ้นในตะวันออกกลางเป็นครั้งแรกที่ประเทศกาตาร์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จุดประสงค์ของศูนย์แห่งนี้ก็เพื่อเสนอให้สถาบันทางการเงินท้องถิ่นสามารถเข้าถึงสกุลเงิน RMB ของจีนและให้เข้าถึงตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้มากขึ้น
นอกจากนี้แล้วจีนยังมุ่งสนับสนุนการให้มีการใช้เงิน RMB ระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น และเป็นการเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนด้านการค้าขายระหว่างกรุงปักกิ่ง (Beijing) และกรุงโดฮา (Doha) และในภูมิภาคตะวันออกกลางให้กว้างขวางออกไปด้วย
[จีนพยายามที่จะทำให้มีการใช้สกุลเงินของตนทั่วโลก เพื่อลดการพึ่งพาเงินดอลล่าร์อเมริกัน ซึ่งตามมาด้วยวิกฤตทางการเงินทั่วโลก] - สำนักข่าว Sputnik news
สำหรับจีนแล้ว การใช้สกุลเงิน RMB ทั่วโลกอาจจะช่วยลดต้นทุนในการโอนเงิน ซึ่งทำให้สามารถแลกเปลี่ยนเงิน RMB ของจีนกับสกุลเงินของประเทศอื่นๆที่ไม่ใช่ USD ของสหรัฐฯได้โดยตรง นอกจากนี้แล้วยังเป็นการเพิ่มความต้องการทรัพย์สินที่ประเมินค่าเป็นเงิน RMB ทั่วโลกได้มากขึ้นด้วย เนื่องจากสถาบันทางการเงินต่างๆจะหันไปหาสภาพคล่อง (liquidity) ของ RMB มากขึ้น
เมื่อมีการใช้เงิน RMB ในการค้าขายเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ความต้องการในการสำรองทองคำด้วยเงินดอลล่าร์สหรัฐฯก็จะค่อยๆลดลงตามไปด้วย
เหตุผลหลักที่จีนเลือกกาตาร์ในการก่อตั้ง renminbi clearing center นั้น เนื่องจากกาตาร์มีเงินสำรองที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศทั้งสิ้น $43 billion (ประมาณ 1.4 ล้านล้านบาท) และมีสินทรัพย์ในต่างประเทศในกองทุนความมั่นคงอธิปไตยของตนอีกราว $200 billion (ประมาณ 6.7 ล้านล้านบาท) นอกจากความมีเสถียรภาพดังที่กล่าวมานี้แล้ว กาตาร์ยังเป็นผู้ส่งออกแก๊สธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดให้กับจีนด้วย ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของความต้องการด้านพลังงานของจีน
ยิ่งกว่านี้ก็คือว่า จีนเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ที่สุดไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งคิดเป็น 15% ของสินค้าที่มีการส่งออกไปยังภูมิภาคนี้ การจัดตั้งศูนย์เคลียร์ริ่งของจีนในครั้งนี้ จะช่วยให้โดฮาแข็งแกร่งขึ้นในฐานะเป็นศูนย์กลางทางการเงินในภูมิภาคและระหว่างประเทศ กาตาร์ได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจในเอเซีย การก่อตั้งศูนย์เคลียร์ริ่งของจีนในครั้งนี้จึงเป็นการเสริมสร้างการเชื่อมโยง (ระหว่างตะวันออกกลางกับเอเซียเท่านั้น)
ในบริบทของภูมิรัฐศาสตร์นั้น (geopolitical context) นี่นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญของจีนในการจัดระเบียบโลกแบบหลายขั้วอำนาจขึ้นมาใหม่ (new multipolar international order) ด้วยการเพิ่มความมุ่งมั่นไปที่ห่วงโซ่มูลค่าในเอเซียและนานาชาติที่เกิดขึ้นมาใหม่จากสายพานเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม
ว้าว!.... นี่แปลตามต้นฉบับเป๊ะ! เลยนะนี่ ไม่มียัดไส้นะครับ รู้แล้วสินะว่าทำไมสหรัฐฯถึงได้ออกอาการกระวนกระวายเหมือนคนเป็นไข้ หรือดิ้นรนเหมือนคนกำลังจะขาดอากาศหายใจในช่วงนี้ โดยพยายามเสี้ยมให้เพื่อนบ้านในเอเซียทะเลาะกับจีนมากขึ้น ก็จีนทำอย่างเนี๊ย! ทำยังไง? ก็ฆ่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯทางอ้อมอยู่นี่ไง ถ้าสหรัฐฯปล่อยให้กระแสลดความสำคัญของดอลล่าร์ดำเนินการต่อไปอย่างนี้อยู่เรื่อยๆ จบเห่แน่สหรัฐฯเอ๋ย... ดังนั้นสหรัฐฯจึงต้องหาทางสกัดจีนให้ได้ทุกช่องทางที่เป็นไปได้ สหรัฐฯพยายามยั่วให้จีนทำสงครามในทะเลจีนใต้ แต่สหรัฐฯจะไม่เป็นทัพหน้าซะเอง ยุให้ฟิลิปปินส์กับญี่ปุ่นลุยก่อน จีนบอกว่าไม่เอาสงครามหรอก จีนจะเล่นเกมเศรษฐกิจกับสหรัฐฯมันส์กว่าเยอะ ดูซิใครจะเจ๋งกว่ากัน
มีอีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจ จีนไม่เลือกซาอุดิฯ แต่เลือกกาตาร์ซึ่งเป็นประเทศเล็กๆอยู่ติดกับซาอุดิฯแทน ทั้งๆที่ซาอุดิฯนั่นคือเจ้าพ่อน้ำมันมหาเศรษฐีในตะวันออกกลางเลยหละ แต่พอเกิดสงครามกับเยเมนขึ้นมาจีนบอกว่า ไปหากาตาร์ดีกว่า หรือว่าจีนจับยามสามตาดูแล้วว่าอนาคตของซาอุดิฯ ที่เดินตามก้นอเมริกาและอิสราเอลจะเป็นอย่างไร
The Eyes
09/06/2558
----------
New Choice: Chinese Currency Expands to Middle East / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
ทรานส์นิสเทรียถูกล้อมกรอบปิดตายกำลังขาดเสบียงอาหารและความช่วยเหลือจากรัสเซียโดยยูเครนและนาโต้จริงหรือ?



--------------
เมื่อวันที่ 26 พ.ค.58 ที่ผ่านมาแอ็ดมิน (คุณอาย - ปอกเปลือก ทรราช) ได้ลงข่าวความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับทรานส์นิสเทรีย (Tranistria) ซึ่งอยู่ระหว่าง Moldova และ Ukraine แต่เป็นโปรรัสเซีย ไม่ติดทะเลดำ มีเพียงสองช่องทางที่จะเข้าถึง Transnistria ได้คือผ่านยูเคนและผ่านมอลโดวาเท่านั้น (โพสต์เดิม https://www.facebook.com/fisont/posts/1673612039525596) เมื่อปลายพฤษภาคมที่ผ่านมาทางยูเครนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทหารกับรัสเซียทุกรูปแบบ ไม่อนุญาตให้กองทัพของรัสเซียเดินทางผ่านหรือเข้าไปในดินแดนของยูเครนได้ นั่นหมายความว่ารัสเซียจะไม่สามารถส่งกำลังสนับสนุนทางทหารและอาวุธเข้าไปในทรานส์นิสเทรียผ่านยูเครนได้อีก แม้จะเป็นกองกำลังรักษาสันติภาพ (peacekeepers) ก็ตาม
นี่เป็นลูกเล่นของสหรัฐฯและนาโต้โดยใช้ยูเครนเป็นเครื่องมือเพื่อยั่วยุและกีดกันไม่ให้รัสเซียเข้าถึงทรานส์นิสเทรียได้ ก่อนหน้านี้ทางสหรัฐฯได้ออกมาเรียกร้องให้รัสเซียถอนกองกำลังรักษาสันติภาพออกจากทรานส์นิสเทรีย เพื่อเปิดทางให้สหรัฐฯและนาโต้ส่งกองทัพของตัวเองเข้าไปประจำการแทน แต่เสียงของสหรัฐฯดูเหมือนจะเป็นการพึมพำอยู่ในลำคอ ทำให้รัสเซียฟังไม่ออกไม่รู้ว่าสหรัฐฯพูดหรือหมายถึงอะไร ดังนั้นกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียก็ยังคงรักษาการอยู่ในทรานส์นิสเทรียจนถึงปัจจุบัน (ประจำการตั้งแต่ปี 1992)
ก็มีแฟนเพจ (และแฟนคลับปูติน?) สนใจใคร่รู้ข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวในทรานส์นิสเทรียและจากฝ่ายรัสเซียด้วย จึงนำข่าวมาแชร์ให้ทั้งแอ็ดมินและแฟนเพจคนอื่นๆได้ทราบกัน (ไม่ได้ตำหนินะ อย่าเข้าใจผิดหละครับ) เล่นเอาตกอกตกใจกันไปพักหนึ่งโดยบอกว่า "เนี่ย… แอ็ดมินครับ มีข่าวว่าอย่างนี้ ตอนนี้ทรานส์นิสเทรียถูกปิดตายรอบด้านจากสหรัฐฯ นาโต้ และยูเครน ซึ่งทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งอาหารและเสบียงไปให้ทรานส์นิสเทรียได้อีกต่อไป สงกะสัยว่าประชาชนชาวทรานส์นิสเทรียและทหารรัสเซียที่อยู่ในทรานส์นิสเทรียต้องอดตายกันแน่ๆ ถ้าปูตินไม่ทำอะไรซักอย่าง แต่ถ้าผลีผลาม ทำอะไรรุนแรงก็จะเข้าทางสหรัฐฯได้อีก..." ประมาณนี้หละนะ แอ็ดมินก็ถามตัวเองสิว่า "อ๊ะจริงดิ?" แฟนเพจอยากให้แอ็ดมินช่วยตามข่าวให้หน่อยว่างั้น ได้ครับ... แต่แลกกันนะ ช่วยโปรโมทเพจ "ปอกเปลือก ทรราช" ให้ด้วยหละ ฮ่าๆๆ (OK?)
กรณี blockade of Russian peacekeeping forces ทั้งจากฝ่ายยูเครนและมอลโดวานี่ต้องแยกออกเป็นประเด็นนะครับ 1.) เรื่องกองทัพกำลังทหารและอาวุธ 2.) เรื่องเสบียงอาหาร ในข่าวและคำประกาศ (กฎหมาย) จากทั้งยูเครนและมอลโดวาไม่ได้พูดถึงเรื่องการปิดกั้นการส่งเสบียงอาหารไปให้ทั้งกองทัพและประชาชนชาวทรานส์นิสเทรียเลยนะ ถ้ามีข่าวแบบนี้โผล่ออกมาแสดงว่ากังวลเกินเหตุหรือไม่ก็อ่านข่าวไม่ชัดเจน หรือตีไข่ใส่โจ๊กเกินไป (ไม่ได้ว่าแฟนเพจนะ - หมายถึงแหล่งข่าวต่างประเทศบางสำนักหนะครับ)
ประเด็นที่ 1.) เรื่องกองทัพกำลังทหารและอาวุธ มาจากสองทางคือยูเครนประกาศตัดความสัมพันธ์ด้านการทหารกับรัสเซีย แน่นอนว่าย่อมทำให้รัสเซียไม่สามารถส่งกำลังสนับสนุนทางกองทัพโดยใช้เส้นทางผ่านยูเครนทั้งทางบกและทางอากาศได้อีกต่อไป แต่กฎหมายใหม่นี้เป็นการตัดความสัมพันธ์ชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้บอกว่าจะสิ้นสุดเมื่อไรด้วย ก็คงจะหลังจากที่สหรัฐฯและยูเครนคิดว่าได้ชัยเหนือรัสเซียในสนามรบยูเครน (ซึ่งเป็นไปไม่ได้) หรือสหรัฐฯและยูเครนยอมแพ้เอง (อาจจะเป็นไปได้แต่คงจะต้องใช้เวลายาวนานมาก) ส่วนความเคลื่อนไหวจากทางมอลโดวานั้น เมื่อเร็วๆนี้ทางมอลโดวาภายใต้การชักใยของสหรัฐฯและนาโต้ ได้เพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับจำนวนทหารของรัสเซียที่จะส่งเข้าไปในทรานส์นิสเทรีย
มีรายงานข่าวว่าทางกรุง Chisinau ของมอลโดวาไม่อนุญาตให้ทหารของรัสเซียที่ไม่แสดงเอกสารระบุตัวตนซึ่งต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างชัดเจนผ่านสนามบินนานาชาติ Chisinau เข้าไปยังเมือง Tiraspol ซึ่งเป็นเมืองหลวงของทรานส์นิสเทรียได้ แต่ทางกรุง Chisinau (มอลโดวา) ยังคงอนุญาตให้กองกำลังรักษาสันติภาพ ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่รวมทั้งอาวุธที่ใช้ในนามของ peacekeeping forces ของรัสเซีย ผ่านเข้าออกได้ตามปรกติ ทางมอลโดวาบอกว่าถ้ากระทำในนามของกองกำลังรักษาดินแดนที่14ของรัสเซีย (14th Guards Army) ในทรานส์นิสเทรียถือว่าผิดกฎหมาย แต่ถ้าในนามของ international peacekeeper forces ก็สามารถผ่านเข้าออกได้ นี่เป็นระเบียบของ UNSC
ก่อนหน้านี้ทางมอลโดวาได้แบนข่าวทีวีภาคภาษารัสเซียและโปรแกรมการวิเคราะห์ข่าวต่างๆที่เอียงไปทางรัสเซียทั้งหมดในมอลโดวา ต่อมารัสเซียก็ตอบโต้มอลโดวาด้วยการสั่งแบนสินค้าส่งออกของมอลโดวามาที่รัสเซีย ทำให้เศรษฐกิจของมอลโดวาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก นี่แหละผลของการเชื่อคำยุยงของสหรัฐฯ
สำหรับเรื่องปิดล้อมการสนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพ (Russian peacekeeper's supply blockade) ของรัสเซียในทรานส์นิสเทรียนี้ รมว.กลาโหมของรัสเซียออกมากล่าวว่า "ทางกลาโหมของรัสเซียได้เตรียมพร้อมล่วงหน้าสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเอาไว้แล้ว และได้ทำงานเพื่อหาทางออกในหลายช่องทางด้วยกันสำหรับสถานการณ์นี้" ผลที่ตามมาก็คือการปิดล้อมดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการให้การสนับสนุนกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียในทรานส์นิสเทรีย นี่คือประเด็นที่หนึ่ง เคลียร์นะครับ?
คราวนี้มาดูประเด็นที่ 2.) บ้าง สำหรับประเด็นที่สองนี้ก็คือบางคนกังวลและเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าทรานส์นิสเทรียถูกตัดอาหารจากโลกภายนอกแน่แล้ว ตามรายงานข่าวรองนายกรัฐมนตรีของรัสเซียพูดว่า "food will be purchased on site" แปลว่ารัสเซียและทรานส์นิสเทรียสามารถหาซื้ออาหารจากท้องถิ่นคือทั้งในทรานส์นิสเทรีย มอลโดวา และยูเครนได้ตามปรกติ ไม่จำเป็นต้องส่งไปจากรัสเซีย การค้าขายระหว่างประเทศก็ยังคงดำเนินไปตามปรกติ สหรัฐฯจะกล้าออกคำสั่งตัดอาหารประชาชนราว 500,000 คนในเมืองทรานส์นิสเทรียให้อดตายได้หรือ? มันไร้มนุษยธรรมเกินไป
นอกจากนี้ รองนายกฯรัสเซียยังกล่าวอีกว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่อยู่ในเขตขัดแย้งมีเพียงพอ (quite enough) สำหรับความต้องการของกองกำลังรักษาสันติภาพ รายงานข่าวจาก sputnik news บอกว่าหนึ่งในภารกิจที่สำคัญของกองกำลังรักษาสันติภาพของรัสเซียในพื้นที่ดังกล่าวก็คือปกป้องคลังอาวุธขนาดใหญ่ที่เหลือจากยุคโซเวียต สหรัฐฯและนาโต้รวมทั้งยูเครนจะกล้าแหย่รังแตนทรานส์นิสเทรียหรือ? มีอะไรซ่อนอยู่ในนั้นบ้างสหรัฐฯยังไม่รู้เลย ถ้าสหรัฐฯและนาโต้มั่นใจก็คงลุยตั้งแต่แรกแล้วหละ คงไม่ปล่อยให้ยืดเยื้อมาได้ถึงยี่สิบกว่าปีแน่นอน
มีประเด็นไหนอีกที่คิดว่ายังค้างคาใจและน่าจะเป็นจุดเสี่ยงอีก? นึกก่อน... อ้อ! เรื่องการแต่งตั้งนาย Mikheil Saakashvili อดีตปธน.จอร์เจียไปเป็นผู้ว่าเมือง Odessa Oblast โดยปธน.โปโรเชนโกของยูเครนเมื่อเร็วๆนี้ นาย Mikheil Saakashvili นี้อ้างว่าลี้ภัยทางการเมืองแต่จริงๆแล้วหนีความผิดกฎหมายอาญาหลายข้อหารู้สึกว่าจะเกี่ยวกับการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การพยายามเพิ่มอำนาจเบ็ดเสร็จแบบเผด็จการให้กับตัวเอง รวมทั้งข้อหาโกงการเลือกตั้ง และการพยายามที่จะครองตำแหน่งปธน.จอร์เจียติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3 ด้วย นายคนนี้เป็นพวกโปรอเมริกาและโปรนาโต้ ข้อมูลเบื้องต้นบอกว่าอย่างนั้นนะ
แล้วเกี่ยวอะไรกับทรานส์นิสเทรีย ยูเครน และรัสเซียด้วย? โดยผิวเผินนั้นบางคนมองว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน Odessa เป็นอีกเมืองหนึ่งที่สำคัญของยูเครนอยู่ติดทะเลดำ มีชายแดนติดกับทั้งโรมาเนียและมอลโดวา และที่สำคัญอยู่ติดกับทรานส์นิสเทียด้วย พื้นที่ทับซ้อนระหว่างมอลโดวาและยูเครนก็คือทรานส์นิสเทรียซึ่ง 50% อยู่ในฝั่ง Odessa และอีกครึ่งหนึ่งอยู่ในฝั่งมอลโดวานั่นเอง ที่โอเดสซาก็มีสนามบินและท่าเรือ ส่วนที่ทรานส์นิสเทรียก็มีสนามบินอีก 3 แห่งคือที่เมือง Camenca, Tighina (Bender) และที่ Tiraspol แต่ข้อมูลเบื้องต้นบอกว่ายังไม่เปิดทำการ (อย่างเป็นทางการ) นี่คืออีกช่องทางหนึ่งของการติดต่อกับโลกภายนอกของทรานส์นิสเทรียโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับทางรัสเซียในอนาคต เกรงแต่ว่ายูเครนและสหรัฐฯจะยิงถล่มเละเหมือนกับสนามบินโดเน็ทส์กซะก่อน แต่ปูตินจะยอมให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้หรือ?
กลับมาที่เรื่องของนาย Mikheil Saakashvili ในโอเดสซาต่อนะครับ Aleksandr Chalenko นักวิเคราะห์ชาวรัสเซียมองว่าหนึ่งในเหตุผลที่โปโรเชนโกแต่งตั้งให้ Mikheil Saakashvili เด็กของสหรัฐฯไปเป็นผู้ว่าโอเดสซานั้นก็เพื่อจัดการปัญหาเกี่ยวกับทรานส์นิสเทรียนี่แหละ โดยมองว่าสหรัฐฯกำลังเตรียมการบางอย่างที่ bad สำหรับทรานส์นิสเทรียและ Novorossiya (เรียกชื่อตามกลุ่มแบ่งแยกดินแดนของชาวโดเน็ทส์กและลูฮานส์ก) Aleksandr Chalenko มองว่าหากปราศจากสงคราม โปโรเชนโก้รีจีม (Poroshenko's regime) อาจจะถึงคราวอวสานก็ได้ การจะหาเรื่องรัสเซียอีกรอบนอกจากกล่าวหาว่าอยู่เบื้องหลังความขัดแย้งใน DPR/LPR แล้วก็คือกล่าวหาว่ารัสเซียยึดทรานส์นิสเทรียนี่แหละ
เนื่องจาก Mikheil Saakashvili เคยประมือกับปูตินในสงคราม South Ossetia war ระหว่างจอร์เจียกับโปรรัสเซียมาแล้วในปี 2008 ซึ่งจอร์เจียแพ้ราบคาบไม่เป็นท่า และไหนจะสาธารณรัฐปกครองตนเองอับฮาเซีย (Abkhazia) อีก เฉพาะในอับฮาเซียนี้รัสเซียก็ได้ส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปประจำการเช่นกัน อาวุธทุกรูปแบบมีทั้งเรือรบ เรือดำน้ำ รถถัง ปืนใหญ่ ระบบป้องกันภัยทางอากาศรุ่นใหม่อย่าง S-300 (เคยเล่าให้ฟังแล้ว) นั่นแหละกองกำลังรักษาสันติภาพสไตล์รัสเซียของจริง คราวนี้สหรัฐฯและยูเครนก็คงจะส่งหมอนี่มาแก้มือที่ทรานส์นิสเทรียมั๊ง? หาก Saakashvili สามารถเอาชนะศึกที่กำลังจะมาถึงในทรานส์นิสเทรียได้ตามแผนของสหรัฐฯและนาโต้ เขาก็มีโอกาสที่จะกลับไปเป็นปธน.นอมินีของสหรัฐฯในจอร์เจียอีกสมัยก็ได้
แต่ช่วงเวลาที่มีการสู้รบกันรุนแรงในยูเครนตะวันออกเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ก็มีการเคลื่อนไหวของกองกำลัง NAF โปรรัสเซียในโอเดสซาเช่นกันมีการปะทะกันระหว่างกองทัพของฝ่ายยูเครนและฝ่าย NAF ในพื้นที่บ่อยครั้งด้วย โอเดสซาคืออีกหนึ่งพื้นที่ที่มีแนวโน้มว่าจะแบ่งแยกดินแดนหรือเรียกร้องการปกครองตนเองในอนาคตเช่นเดียวกับกรณีของ DPR และ LPR
ที่สหรัฐฯและยูเครนรวมทั้งมอลโดวาและโรมาเนียกลัวก็คือ กลัวว่าปูตินจะใช้แผนทำประชามติให้ทรานส์นิสเทรียออกเสียงเป็นส่วนหนึ่งกับรัสเซียโดยใช้ไคร์เมียโมเดล ตอนนี้สนามบินในทรานส์นิสเทรียยังสร้างไม่เสร็จ และกองกำลัง NAF ในโอเดสซายังมีไม่มากพอ รัสเซียจึงไม่จำเป็นต้องออกมาตอบโต้กรณีของทรานส์นิสเทรียตามแผนของสหรัฐฯ แต่รัสเซียกำลังจับตาดูการเคลื่อนไหวของโอเดสซา
ถ้ายูเครนคิดจะเล่นเกมนี้ต่อโดยเอาโอเดสซาเป็นเดิมพัน อันตรายมาก มีโอกาสที่โอเดสซาจะหลุดมือยูเครนไปได้ง่ายๆ สหรัฐฯอาจจะมองว่าโอเดสซาไม่ได้มีชายแดนอยู่ติดกับรัสเซียอย่างโดเน็ทส์และลูฮานส์ก คงยากที่รัสเซียจะส่งกำลังสนับสนุนแบบลับๆให้ได้ ก็ดูอย่างกรณีของทรานส์นิสเทรียสิ ถูกปิดล้อมทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศขนาดนั้นยังรอดมาได้จนถึงทุกวันนี้เลย
โอเค… ขอพักเรื่องทรานส์นิสเทรียไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ ถ้ามีความคืบหน้าก็จะเอามาเล่าให้ฟังอีกในโอกาสต่อไป
The Eyes
09/06/2558
----------
Kiev’s Blockade of Transnistria Fraught With New War / Sputnik International
What Saakashvili's Appointment as Governor of Odessa Means for Transnistria / Sputnik International
Opposition Journalists in Odessa in Very Real Danger - German Media / Sputnik International
Kiev's Blockade of Transnistria Peacekeepers Betrays Ukrainians – Deputy PM / Sputnik International
Transnistria - Wikipedia, the free encyclopedia
http://www.rferl.org/…/with-russia-boxed-in-f…/27044816.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
เยเมน : ฮูติทดลองส่งข้าวหลามน้อย (Scud-B/R-17) ไปให้ซาอุดิอาระเบียลองชิมดู



-----------
หันมาดูสถานการณ์การสู้รบกันระหว่างเยเมนกับซาอุดิอาระเบียกันบ้างนะครับ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 มิ.ย.58) มีรายงานข่าวจากสำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งรายงานว่า กลุ่มฮูติซึ่งเป็นชนเผ่านักรบที่เป็นคณะปฏิวัติครองอำนาจรัฐบาลกลางของเยเมมนอยู่ในขณะนี้ได้โจมตีเมือง Khamees Mushait ทางตะวันตกเฉียงใต้ของซาอุดิฯ ด้วยขีปนาวุธ Scud-B จากกรุง Sadaa ทางตอนเหนือของเยเมน ตามรายงานข่าวจากฝั่งเยเมนบอกว่าเข้าเป้าโป๊ะเชะ แต่สื่อฯของซาอุดิฯและสื่อฯตะวันตกได้ลงข่าวว่าฝั่งซาอุดิฯสามารถสกัด Scud ของเยเมนเอาไว้ได้ด้วยขีปนาวุธ Patriot สองลูกโดยอ้างรายงานข่าวจากกองทัพของซาอุดิฯ แต่ไม่มีภาพประกอบ แล้วยังอ้างคำพูดของทหารฝั่งซาอุดิอีกว่า "โอ้ขอบคุณพระเจ้าที่เรามีกองกำลังป้องกันภัยทางอากาศสามารถบล็อกจรวดชนิดนี้และทำลายมันได้ และขัดขวางความพยายามแบบนี้ได้" (บอกว่าฟังแล้วอยากจะ "เลี่ยนอ่ะ!" จะโฆษณาขายของให้สหรัฐฯว่างั้นเหอะ อ่านแล้วเซ็งกับสื่อฯตะวันตกจริงๆ พับผ่าสิจอร์จ!)
ดูจากคลิปประกอบข่าวของรอยส์เตอร์พบว่าเป็นการโจมตีรถบรรทุกคันหนึ่งเหมือนกำลังขนอาวุธขนาดใหญ่ไปที่แห่งหนึ่งจนระเบิด โดยใส่คำบรรยายนิดหน่อยว่า "Saudi Patriot missiles shoot down Yemeni Scud" ฉายซ้ำๆอยู่ประมาณ 3 รอบ ก็ฝั่งฮูติเขาบอกว่าเขายิงไปทางอากาศไม่ได้ขนใส่รถบรรทุกส่งไปให้ซาอุดิฯ ในข่าวของรอยเตอร์สเองก็พูดว่า "Yemen's dominant Houthi group and its army allies fired a Scud missile at Saudi Arabia which the kingdom said it shot down on Saturday…" ก็ยังเอาคลิปแหกตามาหลอกชาวบ้านอยู่อีก บ้าบอคอแตกจริงๆ ทำไปได้... นี่แหละถึงได้ไม่ค่อยอ้างอิงและอ่านข่าวจากสื่อฯตะวันตก
อ่านข่าวต่อดีกว่า... ในวันเดียวกันนี้ซาอุดิฯแค้นมาก จึงส่งเครื่องบินรบเข้าไปทิ้งระเบิดโจมตีกรุงซานาของเยเมน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 44 รายเป็นพลเรือน 20 ราย ช่วงประมาณเดือนเมษายนที่ผ่านมา สื่อฯฝั่งซาอุดิฯและสื่อฯตะวันตกลงข่าวว่ากองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯสามารถทิ้งระเบิดทำลายโรงเก็บ Scud ของเยเมนได้ อ้าว… แล้วมันโผล่มาได้ยังไงหละนี่? รู้จักฮูติน้อยไปซะแล้ว เขาก็มีลับลวงพรางกันบ้างสิครับ
นี่ฮูติแค่หยั่งเชิงดูนะว่าของเก่าตกรุ่นจะยังใช้ได้หรือเปล่า เพราะเห็นแต่ตอนที่ซัดดัมใช่ถล่มกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตรในทะเลทรายต่อสู้กับแพ็ททริออตของสหรัฐฯในสมัยก่อนเท่านั้น คราวนี้จะเห็นได้ว่าฮูติเริ่มแล่นของหนักขึ้นเรื่อยๆแล้ว น่าจะยังมีอะไรให้ซาอุดิฯกับพวกเซอร์ไพรส์ได้อีกอยู่นะ
ขีปนาวุธ Scud (tactical ballistic missiles จากภาคพื้นสู่ภาคพื้น) ที่ฮูติยิงในครั้งนี้เป็นรุ่น Scud-B (เรียกชื่อตามนาโต้) รัศมีทำการที่ 300 กม. ชื่อจริงๆคือ R-17 (SS-1C Scud-B) ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น R-300 สร้างขึ้นในปี 1970 คาดว่าสร้างขึ้นมาราว 7,000 ลูกโดยโซเวียต มีใช้ใน 32 ประเทศในยุคสงครามเย็นระหว่างสหรัฐฯกับโซเวียต ช่วงนั้นหลายประเทศนิยมใช้มาก รุ่นแรกชื่อ R-11 หรือ Scud-A (รัสมีทำการ 180 กม.) รุ่นที่สองคือ R-17 หรือ Scud-B (300 กม.) รุ่นที่สามคือ Scud-C (550 กม.) และรุ่นที่สี่คือ Scud-D (700 กม.) จากข้อมูลเบื้องต้นบอกว่าเยเมนมีแต่ Scud-B เฉพาะที่เยเมนใต้นั้นมีเครื่องยิง 6 ชุด ไม่บอกจำนวนมิสไซล์ว่ามีเท่าไร ข้อมูลเบื้องต้นจากเว็บไซต์ strategypage บอกว่าเยเมนมี Scud-B จำนวน 18 หัวรบ ถ้าสมมุติ... สมมุติเล่นๆนะว่าฮูติบังเอิ๊ญบังเอิญมี Scud-D ขึ้นมาหละ และยิงไปพร้อมกันซัก 5 ลูกนี่ กรุงริยาดห์จะเหลือหรือ?
แอ็ดมินสงสัยอยู่อยู่นานแล้วว่าเยเมนก็มีเครื่องบินรบเหมือนกันทำไมถึงไม่เห็นส่งออกไปลุยกับเครื่องบินรบของฝั่งซาอุดิฯบ้าง ท่านผู้อ่านสงสัยกันบ้างไหมครับ? จึงลองค้นหาข้อมูลจากวิกิดู พบว่ากองทัพอากาศของเยเมนนั้นมีเครื่องบินรบอยู่หลายรุ่น ส่วนมากเป็นของโซเวียตตกรุ่นคงจะไม่สามารถไปต่อกรกับ F-16 ของฝั่งซาอุดิฯได้แน่ แต่จากข้อมูลเบื้องต้นบอกว่าเยเมนมี MiG-29SMT อยู่จำนวน 22 ลำ และ MiG-29UB จำนวน 5 ลำบางแห่งบอกว่า 23 ลำและกำลังสั่งเพิ่มจากรัสเซีย จริงแล้วมีออร์เดอร์ไปตั้งแต่ปี 2003-2005 โน่นแล้ว ตอนนี้สถานะ MiG-29 ของเยเมนไม่ชัดเจน (unknown)
บางรายงานบอกว่าถูกเครื่องบินรบของซาอุดิฯโจมตี หรือขาดอะไหล่และขาดครูฝึก อย่างหลังนี่ฟังไม่ขึ้นหรอก ที่รัสเซียตอนนี้เขามีโครงการจัดทัวร์เหนือเส้นขอบฟ้าด้วย MiG-29 ให้กับนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักในฐานะนักบินผู้ช่วย ถ้าเยเมนจะฝึกจริงๆ ไปฝึกที่รัสเซียก็ได้ไม่ใช่ปัญหาอะไร ส่วนที่บอกว่าขาดแคลนอะไหล่นี่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะรัสเซียยังไม่เลิกผลิตเครื่องบินรุ่นนี้และยังส่งออกอยู่เรื่อยๆ อียิปต์ก็พึ่งจะสั่งซื้อไปเอง ตอนนี้ก็ยังประจำการอยู่ในกองทัพของรัสเซียด้วย และอีกอย่างเครื่องบินและเรือรบของรัสเซียก็สามารถเข้าออกเยเมนได้อยู่บ่อยๆ ยูเอ็นและสหรัฐฯสั่งแบนอาวุธให้เยเมนแต่ไม่ได้ห้ามอะไหล่เครื่องบินซะหน่อย เหตุผลสองข้อหลังนี้ฟังไม่ขึ้น แสดงว่าเยเมนอาจจะเก็บของดีไว้เซอร์ไพรส์ซาอุดิทีหลังก็ได้ ซาอุดิฯเล่นกับไฟซะแล้ว
The Eyes
08/06/2558
----------
Saudi airstrikes kill 44, including 20 civilians, in Yemen's capital - reports — RT News
Saudi Arabia Claims Downs Missile Fired by Yemen’s Houthis / Sputnik International
http://www.chinadaily.com.cn/…/2015…/06/content_20928286.htm
http://www.reuters.com/…/us-yemen-security-saudi-idUSKBN0OM…
http://news.yahoo.com/saudi-arabia-says-shot-down-scud-miss…
http://www.b14643.de/Spacerockets/Diverse/Scud/index.htm…
https://www.strategypage.com/dls/articles2002/20021218.asp
Scud - Wikipedia, the free encyclopedia
Yemeni Air Force - Wikipedia, the free encyclopedia
https://www.youtube.com/user/countryoftourism
https://www.youtube.com/user/MiGFlug
http://www.migflug.com/…/flying-w…/mig-29-edge-of-space.html

 

กระแสต้านอิสราเอล กำลังมาแล้ว!!
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - มิ.ย. 8, 2015



สองนักธุรกิจชาวยิว ชี้ถึงท่าทีและการดำเนินการล่าสุดของชาติยุโรปที่ได้ออกมาตรการบอยคอตสินค้าอิสราเอล ว่า “สึนามิ ต้านอิสราเอล กำลังมาแล้ว”

jamnews – อ้างจากหนังสือพิมพ์ HAARTEZ อิสราเอล ว่า ฮายิม และ ชันโดน ชาบอน สองนักธุรกิจชาวยิว ให้สัมภาษณ์ โดยชี้ถึงการบอยคอต สิ้นค้าของยิวไซออนิสต์ที่ผลิตในเขตเวสตแบงก์ โดยชาติยุโรปนั้น ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนภัย ว่า สึนามิ ต้านอิสราเอล กำลังมาแล้ว

ล่าสุดบางชาติในยุโรป ออกมาประกาศบอยคอต สินค้าต่างๆ ของอิสราเอลที่ผลิตในเขตพื้นที่เวสต์แบงก์ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลมีความวิตกกังวลต่อเรื่องนี้อย่างมาก

ปีที่ผ่านมาชาติยุโรปหลายประเทศเริ่มยอมรับรับรองรัฐปาเลสไตน์ ยิ่งทำให้อิสราเอลมีความหวาดวิตกว่าประชาคมโลกจะมีความเกลียดแค้นอิสราเอลมากขึ้น

กระแสต้านอิสราเอล กำลังมาแล้ว!! | abnewstoday

 

10 สัญลักษณ์มือระเบิดฆ่าตัวตาย
เรื่องเด่นประเด็นร้อนby อิบรอฮีม อาแว - มิ.ย. 8, 2015



تروریست انتحاری
นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง ได้อธิบาย คุณลักษณะและอาการสิบอย่าง ของมือระเบิดฆ่าตัวตายของสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย

Alalam – มันศูร อัลชิมรี นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง กล่าวว่า สัญลักษณ์ทั้งหมดเหล่านี้ หรือบางส่วนนั้น มันเป็นข้อเท็จจริงในการสังเกตลักษณะของมือระเบิดฆ่าตัวตายได้เป็นอย่างดี

หนังสือพิมพ์ มักกะห์ อาบาน อ้างจากคำกล่าวของ มันศูร อัลชิมรี ย้ำว่า พฤติกรรมเหล่านี้มันเป็นเพียงภาคทฤษฎีเท่านั้น เนื่องจากเมื่อเผชิญหน้าโดยตรงกับเหตุการณ์อาจจะแสดงพฤติกรรมในลักษณะอื่นก็เป็นได้ ดั่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในมัสยิดอิมามฮูเซ็น เมืองดัมมาม หลังจากที่มือระเบิดฆ่าตัวตายถูกจับพิรุธ แทนที่พลเมืองจากหลบหนี แต่กลับวิ่งตามมือระเบิดฆ่าตัวตาย เพื่อปกป้องชีวิตคนบริสุทธิ์ และแล้ว เขาก็ได้เสียชีวิตจากการถูกระเบิด

นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญด้านกลุ่มก่อการร้ายและกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง กล่าวว่า กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ได้รับการเลี้ยงดูด้านงบประมาณ การทหาร และข้อมูลข้อสารจากหลายประเทศ กลุ่มก่อการร้ายไอซิส ได้ใช้หลายสิบภาษาเพื่อดึงดูดเยาวชนให้เข้าร่วมขบวนการ มีการกำหนดภารกิจและหน้าที่ให้กับสมาชิกแต่ละคนอย่างชัดเจน โดยจะแบ่งออกเป็นฝ่ายนักรบ ฝ่ายบัญชาการ ฝ่ายคุมกองกำลัง ฝ่ายบริหาร ฝ่ายปฏิบัติการระเบิดฆ่าตัวตาย และ……

เขากล่าวเสริมว่า นักโทษกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่งบางคนที่อยู่ในเรือนจำซาอุดิอาระเบีย ได้หลอกลวงผู้คุมเรือนจำและเจ้าหน้าที่ซาอุดิอาระเบีย ว่า ตนได้กลับตัวแล้ว เปลี่ยนความคิดแล้ว และไม่นิยมความคิดของกลุ่มสุดโต่งแล้ว แต่หลังจากที่ได้รับการปล่อยตัว ก็เข้าร่วมสมทบกับกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งเหมือนเดิม จากนั้นก็จะปฏิบัติการเป็นมือระเบิดฆ่าตัวตาย

เขากล่าวว่า คุณลักษณะ 10 ประการ ที่สามารถพบเห็นในตัวของมือระเบิดฆ่าตัวตายมีดังนี้

1 จะสวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่สอดคล้องกับภูมิอากาศของสถานที่ที่จะลงมือปฏิบัติการระเบิดฆ่าตัวตาย โดยที่มือระเบิดฆ่าตัวตายนั้น สามารถเห็นความแตกต่างในเรื่องนี้อย่างชัดเจน เช่น ในสภาพอากาศร้อน เขาจะสวมเสื้อผ้าหลวมๆ หรือเสื้อผ้าที่มีน้ำหนักมาก

2 ท่าทางการเดินของมือระเบิดฆ่าตัวตาย จะมีลักษณะที่ผิดปรกติจากผู้คนทั่วๆไป เนื่องจากความหนักของวัตถุระเบิดที่ผูกติดไว้กับตัวเอง หรือ มีอาการเมายาที่เกิดจากการเสพยาก่อนลงมือปฏิบัติการ

3 มีใบหน้าที่ตื่นตระหนก มีความกังวล และมีเหงื่อไหลโชกออกมา และจะเห็นอาการกระตุกบนใบหน้าของมือระเบิดฆ่าตัวตายอย่างเห็นได้ชัด

4 มือระเบิดจะหายใจเร็วเนื่องจากความผิดปรกติของหัวใจที่มีการเต้นเร็ว

5 มือระเบิดฆ่าตัวตาย จะจ้องมองและมุ่งเล็งเป้าหมายอย่างเดียวโดยไม่สนใจที่จะหันซ้ายหันขวา

6 จะเห็นริมฝีปากของมือระเบิดฆ่าตัวตายขยับอยู่เสมอในปฏิบัติการ โดยจะมีการกล่าวคำปฏิญาณตนหรือ จะกล่าวซิกร์รำลึก

7 บางกรณีมือระเบิดฆ่าตัวตายจะซ่อนวัตถุระเบิดไว้ในกระเปJาเสื้อหรือกระเป่ากางเกง หรือจะซ่อนในรูปลักษณะต่างๆตามความเหมาะสม

8 เมื่อมีการสนทนากับเขา เขาจะไม่ตอบโต้ หรือจะไม่ให้ความสำคัญต่อคู่สนทนา

9 มือระเบิดฆ่าตัวตายบางคน จะทำการโกนหนวดเคราก่อนปฏิบัติการ เพื่อไม่ให้เกิดความคลางแคลงสงสัยในตัว

เขา ซึ่งส่วนเคราของเขาจะสามารถเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนจากส่วนอื่นๆ ของผิวหนัง

10 มือระเบิดบางคน จะฉีดน้ำหอมให้หอมฟุ้งก่อนลงมือปฏิบัติการระเบิดฆ่าตัวตาย



10 نشانه یک تروریست انتحاری!

10 สัญลักษณ์มือระเบิดฆ่าตัวตาย | abnewstoday

 

ฮิซบุลลอฮ์ ย้ำ หากไซออนิสต์สร้างสงครามครั้งใหม่ ชาวอิสราเอลนับล้านคนต้องหนีอพยพ เรื่องเด่นประเด็นร้อนby อิบรอฮีม อาแว - มิ.ย. 6, 2015



ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์เลบานอน ชี้ว่า การข่มขู่ของอิสราเอล เป็นส่วนหนึ่งของสงครามจิตวิทยา และกล่าวย้ำว่า การปรากฏตัวของอิสราเอลนั้น เริ่มต้นด้วยการเข่นฆ่า การก่ออาชญากรรมและการทำลาย

presstv – ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ ได้กล่าวปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (5) โดยกล่าวถึงอิสราเอล ว่า “ เราไม่มีวันกลัวสงครามและการข่มขู่ของพวกคุณ หากพวกคุณสร้างสงครามขึ้นมาแล้ว ชาวอิสราเอลนับล้านคนต้องหนีอพยพอย่างแน่นอน ”

เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ ได้ชี้ถึง เหตุการณ์สงคราม 33 วัน ที่เราสามารถรุกคืบในดินแดนของศัตรู ว่า ในวันนั้น อิสราเอลได้ทำลายอาคารบ้านเรือนของเรา แต่อาคารบ้านเรือนของพวกเขายังปลอดภัย ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ผ่านไปแล้ว แต่ทว่าในวันนี้นับจากเหตุการณ์ปี 2006 มันได้จบสิ้นแล้ว

เรามีกองกำลังและทหารหาญที่เพียงพอแล้ว

ซัยยิด ฮะซันนัศรุลลอฮ์ ได้เรียกร้องให้ชาวเลบานอนมีความรักความสามัคคีกัน และกล่าวย้ำว่า “ ในวันนี้ เราต้องการความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียวและการสนับสนุนอย่างเต็มที่ เราไม่ต้องการกองกำลังเพิ่ม เนื่องจากเรามีกองกำลังพอที่สามารถก้าวไปถึงเป้าหมายได้ สถานการณ์ในวันนี้ เราไม่ต้องการกองกำลังอาสาและการะดมพลอีก เพราะเราไม่ได้ต้องการจัดตั้งกองกำลังอาสาสมัครของประชาชนแต่เราต้องการความเป็นหนึ่งเดียวและความสามัคคี”

ไอซิสและอัลกออิดะห์ ถูกสร้างมาโดยอเมริกา ซาอุดิอาระเบียและปากีสถาน

เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ ได้ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยไร้เหตุผล กรณีที่อิหร่านมีส่วนรู้เห็นต่อเหตุการณ์ระเบิดฆ่าตัวตายในซาอุดิอาระเบีย ว่า เป็นการกล่าวหาที่เลื่อนลอย ไม่มีมูลความจริง เหมือนกับที่เคยกล่าวหา บัชชาร์ อะซัด ว่าให้การสนับสนุนกลุ่มไอซิส ซึ่งล้วนแล้วเป็นข้อกล่าวหาที่แปลกและไร้สาระ เนื่องจาก ไอซิส เป็นเครือข่ายหนึ่งของอัลกออิดะห์ ในอิรัก โดยมี อัลบักดาดีเป็นผู้นำ และเป็นที่ชัดเจนแล้วว่าไอซิส คือเครือข่ายของอัลกออิดะห์ โดยแยกออกจากอัลกออิดะห์ เนื่องจากความขัดแย้งในด้านผู้นำทางภาคสนามในซีเรีย และประชาคมโลก ต่างรู้ดีว่า อเมริกา ซาอุดอาระเบีย และหน่วยงานลับของปากีสถาน เป็นผู้จัดตั้งกลุ่มอัลกออิดะห์ขึ้นมา

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ กล่าวย้ำว่า “ไอซิสคือภัยคุกคามและเป็นกลุ่มที่อันตรายมาก ซึ่งมันได้คุกคามทั่วโลกโดยเฉพาะในเลบานอน และในวันนี้พวกมันได้มาถึงยังชายแดนของเราแล้ว”

ซาอุดิอาระเบีย ปราบปรามผู้ออกมาประณามการโจมตีเยเมน

ซัยยิด ฮะซัน นัศรุลลอฮ์ กล่าวถึงการโจมตีเยเมนางอากาศโดยซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรว่า “การโจมตีได้ผ่านพ้นมาแล้ว 72 วัน ทางการซาอุดิอาระเบียได้ใช้สื่อ เครื่องมือและการข่มขู่ลักษณะต่างๆ เพื่อไม่ให้ผู้ใดออกมาเอ่ยปากประณาม และตำหนิซาอุดิอาระเบียในการโจมตีเยเมนทางอากาศ”

เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์ ชี้ถึง เป้าหมายที่ซาอุดิอาระเบียออกมากล่าวอ้างความชอบธรรมในการโจมตีเยเมน ซึ่งมาถึงวันนี้แล้วมันยังไม่บังเกิดผล ว่า “ เราขอประณาม การโจมตีทางอากาศของซาอุดิอาระเบียและอเมริกา ต่อเยเมน เป็นการโจมตีที่ป่าเถื่อน จุดยืนของเราในเรื่องนี้เหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ซึ่งเส้นขอบฟ้าและความหวังของพวกเขาเหล่านี้คือการรุกราน การเข่นฆ่าและการหลั่งเลือดชีวิตผู้บริสุทธิ์



PressTV-هشدار نصرالله درباره جنگ روانی اسراییل

ฮิซบุลลอฮ์ ย้ำ หากไซออนิสต์สร้างสงครามครั้งใหม่ ชาวอิสราเอลนับล้านคนต้องหนีอพยพ | abnewstoday

 

รางวัล 5 ล้านดอลลาร์จากลูกชายมุรซีสำหรับหัวของกษัตริย์ซาอุฯ + ภาพ
Category: News & Event Published on Monday, 08 June 2015 19:19 Written by Islamicstudiesth Team.



ลูกชายอดีตประธานาธิบดีอียิปต์ประกาศตั้งรางวัลค่าหัว 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับการลอบสังหารกษัตริย์ซาอุฯ

สำนักข่าวอะฮ์ลุลบัยติ์ (อ.) หรือ ABNA รายงานว่า : นาย "อะห์มัด มุฮัมมัด มุรซี" ลูกชายของ นาย "มุฮัมมัด มุรซี" อดีตประธานาธิบดีของอียิปต์ประกาศว่า กลุ่มภราดรภาพมุสลิม (อิควานุ้ลมุสลิมูน) ได้กำหนดรางวัลค่าหัวจำนวนเงิน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับบุคคลที่ประสบความสำเร็จในการลอบสังหารกษัตริย์ซาอุดิอาระเบีย

นายมุรซีได้เขียนลงในหน้าทวิตเตอร์ส่วนตัวของตนว่า : กลุ่มภราดรภาพมุสลิม (อิควานุ้ลมุสลิมูน) ได้กำหนดรางวัลค่าหัวจำนวนเงิน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับผู้ที่สามารถตัดหัวของกษัตริย์ซัลมาลแห่งซาอุดิอาระเบียได้


เขายังได้เขียนอีกข้อความหนึ่งว่า : บางคนไม่ยอมรับว่ากษัตริย์ซัลมาลเป็นผู้ก่อการร้าย ใม่ใช่ตัวเขาเพียงเท่านั้นที่เป็นผู้ก่อการร้าย ทว่าพ่อของเขาและพี่ชายของเขาก็เป็นผู้ก่อการร้ายด้วย



ที่มา : ABNA

รางวัล 5 ล้านดอลลาร์จากลูกชายมุรซีสำหรับหัวของกษัตริย์ซาอุฯ + ภาพ

 

เมืองญีซานของซาอุฯ ใกล้จะล่มสลาย
Category: News & Event Published on Monday, 08 June 2015 20:11 Written by Islamicstudiesth Team.



แหล่งข่าวต่างๆ กล่าวว่า ผลจากการทรยศของทหารวาอุดิอาระเบียบางส่วนและการถอนตัวของทหารอีกกลุ่มหนึ่งจากกองทัพของประเทศนี้ ทำให้เมืองญีซานใกล้ที่จะล้มสลายแล้ว

ญอมนิวส์ : โทรทัศน์อัลอาราบียารายงานว่า ทหารบางส่วนจากกองทัพของซาอุดิอาระเบียได้สมรู้ร่วมคิดและทรยศปล่อยให้กองทัพของเยเมนเข้าสู่เมืองญีซานของซาอุดิอาระเบีย

ว่ากันว่าผลจากการทรยศของทหารวาอุดิอาระเบียบางส่วนและการถอนตัวของทหารอีกกลุ่มหนึ่งจากกองทัพของประเทศนี้ ทำให้เมืองญีซานใกล้ที่จะล้มสลายแล้ว

ข่าวนี้เป็นการเตรียมพื้นฐานสำหรับการประกาศดารล่มสลายของเมืองญีซาน

ในขณะที่บางแหล่งข่าวรายงานว่า กองทัพซาอุดีอาระเบียได้ส่งกองพันพิเศษติดอาวุธหลายกองพันไปยังพื้นที่นี้พร้อมด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์หนัก

ที่มา : jamnews

เมืองญีซานของซาอุฯ ใกล้จะล่มสลาย

 

ช่วงเวลาขณะยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปยังฐานทัพทหารของซาอุฯ + วิดีโอ
Category: News & Event Published on Tuesday, 09 June 2015 02:51 Written by Islamicstudiesth Team.



โทรทัศน์เยเมนได้เผยแพร่ภาพข่าวขณะทำการยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปยังฐานทัพทหารของซาอุดิอาระเบีย

อัลอาลัมรายงานว่า : ในวันศุกร์ที่ผ่านมากองทัพเยเมนได้ตอบโต้การโจมตีของซาอุดิอาระเบีย โดยการยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปยังฐานทัพทหารของประเทศนี้

โทรทัศน์ "อัลมะซีเราะฮ์" ของเยเมนได้เผยแพร่คลิปวิดีโอขณะทำการยิงขีปนาวุธสกั๊ด

นี่เป็นครั้งแรกที่กองทัพเยเมนได้ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลในการตอบโต้การโจมตีของซาอุดิอาระเบีย



กองทัพเยเมนได้เตือนบรรดาทหารผู้รุกรานของซาอุดิอาระเบียว่าในกรณีที่การโจมตีทางทหารของซาอุฯ ต่อประชาชนเยเมนยังคงดำเนินต่อไป ก็จะค่อยๆ ตอบโต้การรุกรานนี้โดยอาศัยการสนับสนุนของกองกำลังของประชาชน


ขณะเดียวกัน สำนักข่าวฟาร์สได้รายงานในวันศุกร์เช่นกันว่า : "อะห์มัด อัลอะซีรี" โฆษกพันธมิตรกลุ่มประเทศอาหรับ ในการให้สัมภาษณ์กับโทรทัศน์ "อัลอาราบียา" ได้กล่าวอ้างว่า ขบวนการอันซอรุลลอฮ์แห่งเยเมนมีขีปนาวุธสกั๊ดอยู่ในครอบครองไม่ต่ำกว่า 300 ลูก

เมื่อวานนี้ กองทัพเยเมนได้ปฏิบัติการทางภาคพื้นดินอย่างกว้างขวางในการโจมตีตำแหน่งต่างๆ ทางทหารของซาอุดีอาระเบียในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองอะซีร นัจญ์รอนและญีซาน

ที่มา : fa.alalam และ farsne

VDO :

<iframe width="720" height="400" src="https://www.youtube.com/embed/akm1GrK2FJM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ช่วงเวลาขณะยิงขีปนาวุธสกั๊ดไปยังฐานทัพทหารของซาอุฯ + วิดีโอ

 

Thanong Fanclub



14. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
อย่างที่John Nash หรือมิสเตอร์ บิวตี้ฟูลไมด์ได้กล่าวไว้ว่า เงินดี (good money)คือเงินที่รักษาค่าของมันได้เมื่อเวลาผ่านไป ส่วนเงินเลว (bad money)ไม่สามารถรักษาค่าของมันได้เมื่อเวลาผ่านไป
แล้วจะเอาอะไรไปวัด good money และbad moneyได้ดีที่สุด?
คำตอบก็คือทอง
ทองคือเงินที่แท้จริง ที่ใช้กันมานานเป็นเวลาหลายพันปีแล้ว เงินกระดาษที่มาแทนทอง เพราะว่าคนพิมพ์เงินมีอำนาจทางการเมืองสามารถพิมพ์หรือสร้างเงินใหม่เท่าไหร่ก็ได้ แต่ไม่สามารถพิมพ์ทองหรือสร้างทองออกมาได้ เพราะว่าทองเป็นแร่ที่ต้องขุดจากใต้ดินขึ้นมา
พวกนักการเงินจึงมีการเอาเปรียบระบบด้วยการใช้เงินกระดาษ (fiat money)ที่เป็นหัวเชื้อของเงินเฟ้อ เพราะว่ายิ่งมีเงินกระดาษมากเท่าใดในระบบ ยิ้งจะมีเงินเฟ้อมาก เพราะว่าข้าวของหรือบริการในระบบเศรษฐกิจเพิ่มไม่เร็วเท่าการพิมพ์เงินกระดาษเข้าสู่ระบบ
ย้อนกลับไปดูราคาทองในอดีต จะเห็นได้ว่าบาทมีอำนาจซื้อสูง แต่ค่อยๆเสื่อมค่าลงตามลำดับ ทองคำหนัก1บาทมีราคา416บาทในปี พศ 2508 และราคาทองรักษาระดับนี้หลายปีก่อนที่จะขึ้นไปถึง576บาทในปี 2015
ราคาทองกระโดดเป็น1,497บาทในปี 2517 แสดงว่าเงินเฟ้อประเทศไทยภายใน10ปีระหว่างปี2508 และปี2517ขึ้นไปถึง3เท่าเมื่อเทียบราคาทอง
ทองก็คือทอง ไม่ได้มีราคาขึ้นหรือลง ราคาที่ขึ้นหรือลง คือมูลค่าสมมุติของเงินกระดาษที่เอาไปเทียบทองต่างหาก
ราคาทองเพิ่มอีกเท่าตัวในระยะเวลา5ปีหลังจากนั้นเป็น 3,000บาทในปี 2522 และอีกหนึ่งปีต่อมาหรือในปี2523 ราคาทองเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัวเป็น 5660บาท
แสดงว่าไทยมีปัญหาขาดดุล ปัญหาการคลังและปัญหาเงินเฟ้อหนักมากในช่วงนั้น
ราคาทองอยู่ระดับ4,000บาทเป็นเวลานานระหว่างปี2524 ถึงปี2540 เพราะว่ามีการเอาระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบคงที่มาใช้ ทำให้บาทมีเสถียรภาพ ทำให้ค่าทองไม่เคลื่อนไหวมากนัก
แต่หลังเปิดสรีการเงินและBIBF เงินบาทพังปี2540 ราคาทองเอาไม่อยู่ เคลื่อนไหวจากระดับ4,869บาทในปีนั้นสูงทะยานไปเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง
ระหว่าง ปี2541-2544ทองอยู่ระดับ5,000บาท ปี2545ทองขึ้นระดับ6,000บาท ปี2546-2547 อยู่ระดับ7,000บาท ปี2548 ราคาทองอยู่ระดับ8,000บาท ก่อนที่จะขึ้นถึง10,000บาทในปี 2549
ปี2558นี้ หรือเกือบ10ปีต่อมาทองทำราคาสูงเกือบเท่าตัวที่ 18,000-19,000บาท
เมื่อเทียบบาทกับทอง จะเห็นภาพชัดเจนว่าอำนาจซื้อของบาทลดลงไปเรื่อยๆ จากที่มีเงิน400กว่าบาทสามารถซื้อทองห้อยคอน้ำหนักหนึ่งบาทได้ในปี2508 แต่40ปีต่อมาหรือในปัจจุบันนี้ต้องใช้เงิน18,000-19,000บาทถึงจะซื้อทองน้ำหนัก1บาทได้
เงินบาทกลายเป็นbad moneyเสื่อมค่าลง50เท่าในระยะ40ปี เมื่อเทียบกับทอง
เห็นแล้วช๊อค
Bad moneyมีผลกระทบกับคนจน หรือผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด เพราะว่าข้าวของมีราคาแพงขึ้นอย่างรวดเร็ว ในขณะที่รายได้ขึ้นน้อยหรือคงที่
จำเป็นที่ทางการต้องกลับมาทบทวนนโยบายการเงินใหม่ เพื่อว่าทำอย่างไรเงินบาทเป็นgood moneyให้ได้นานที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้เงินบาทเสื่อมค่าลงและทำลายความร่ำรวยของคนถือบาท (wealth effect)อย่างรวดเร็วอย่างนี้
thanong
8/6/2515

 

Thanong Fanclub



15. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
สมัยรัชกาลที่5 สยามรวยมาก เพราะว่าค่าเงินแข็งแกร่ง บาทเป็นgood money
เราอยู่ในระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง ไม่ได้นำเข้าสินค้ามาก แต่มีรายได้จากการส่งออกมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นข้าว ยาง ไม้สัก ดีบุกต่างก็เป็นสินค้าหลัก4ชนิดของการส่งออกของไทย
ในเมื่อมีรายได้จากการส่งออกมากกว่าการนำเข้ามาก บาทก็ต้องแข็งหรือมีอำนาจซื้อสูงเป็นธรรมดา ถ้ามีปัญหามาก ส่งออกไม่ได้ สยามก็ไม่เดือดร้อน เพราะว่าประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ในน้ำมีปลาในนามีข้าว พึ่งพาตัวเองได้ ปิดประเทศก็อยู่ได้
แต่พวกฝรั่งนักล่าอาณานิคมเอาปืนมาบังคับเราเปิดประเทศจะได้ปล้นทรัพยากรธรรมชาติเรา ชาติอื่นๆก็โดนฝรั่งปล้นทรัพยากรอย่างนีี้ทั้งนั้น
ในปีพศ 2451 ค่าเงินบาทแข็งแกร่งมั่นคง 1 ปอนด์อังกฤษแลกเงินบาทได้13บาท และ1ดอลล่าร์สหรัฐฯแลกเงินบาทได้2.69บาท อำนาจซื้อเราสูงบาทเป็นgood moneyจริงๆ เพราะว่าเราอิงระบบมาตรฐานทองคำ การคลังของประเทศไม่มีปัญหา ไม่มีปัญหาขาดดุลการค้า เพราะว่าเราไม่ได้อิมพอร์ตอะไรมาก รัชกาลที่5ทรงระมัดระวังเรื่องการเงินและการคลังของประเทศมาก
หลังสงครามโลกครั้งที่2ประเทศทั่วโลกล้มละลาย มีหนี้มากยากจนหมด อังกฤษออกรายงานลับว่าสยามเป็นประเทศที่รวยที่สุดในโลกเวลานั้นแม้ว่าเราส่งออกแค่ข้าว ไม้สัก ยาง และดีบุก ลองไปค้นดู ฝรั่งรู้ว่าเรารวย แต่เราถูกฟอกย้อมให้คิดว่าเราจน หรือไม่เจริญมาตลอด
มาดูในสมัยปัจจุบันค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบปอนด์และดอลล่าร์ ต้องมี48-50บาทถึงแลกได้1ปอนด์ และต้องมี33บาทแลกได้1ดอลล่าร์ บาทกลายเป็นbad moneyไปแล้ว เพราะว่าเรามีอำนาจซื้อน้อยลงกว่าเดิม เศรษฐกิจอ่อนแอลง แต่อังกฤษและสหรัฐฯมีอำนาจซื้อเพิ่มเมื่อเทียบกับไทย
แต่เท่านั้นยังไม่พอ ผู้บริหารการเงินและเศรษฐกิจไทยไม่ว่าจะเป็นหม่อมอุ๋ยหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังและแบงค์ชาติยังคงต้องการให้บาทเป็นbad money มีค่าอ่อนลงไปอีก
นโยบายปัจจุบันต้องการให้บาทอ่อนค่าไปเรื่อยๆเพื่อหนุนการส่งออก เพราะว่าเราไม่รู้จักพอ ที่ไม่รู้จักพอ เพราะว่าเราไม่ได้เอาหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เหมือนแต่ก่อน แต่เน้นการส่งออกและอัตราการเจริญเติบโตเศรษฐกิจที่โตสูงอย่างต่อเนื่องในการบริหารเศรษฐกิจแทน
ในการใช้ระบบเศรษฐกิจแบบเปิดเพื่อดันจีดีพี โดยเน้นการส่งออก เราต้องนำเข้าด้วย โดยผสมผสานวัตุดิบภายในประเทศและวัตถุดิบจากต่างประเทศมาประกอบในการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก ไปๆมาๆการส่งออกและนำเข้าเทียบเท่ากับ130%ต่อจีดีพี
ที่สำคัญเราผลิตไม่เก่ง ไม่มีเงินทุนมาก จึงเปิดประเทศให้ญี่ปุ่นหรือประเทศต่างๆเข้ามาใช้ทรัพยากรธรรมชาติบ้านเราอย่างเสรีเพื่อการส่งออก เราได้ค่าแรง แต่กำไรส่วนมากตกอยู่ในมือต่างชาติ
ป๋าเปรมเป็นผู้เปลี่ยนประเทศจากการผลิตเพื่อทดแทนการนำเข้า เป็นการเปิดประเทศให้ต่างชาติมาลงทุนเพื่อการส่งออก นี้คือจุดเริ่มต้นของปัญหา เพราะว่าเราได้ก้าวหนีออกจากระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง
อาจจะมีคนไทยที่เก่งสามารถเข้าร่วมผลิตในการส่งออกได้ด้วย แต่พูดโดยภาพรวมคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์จากการส่งออกอย่างคุ้มค่า อาจจะดีระยะเริ่มต้น แต่ส่งออกไปส่งออกมานานๆ คนไทยเริ่มจนลง เพราะว่าbad moneyไหลสะพัด กำไรส่วนมากอยู่ในมือนายทุน กิจการใหญ่ๆเป็นของนายทุนหรือต่างชาติทั้งนั้น เกิดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ส่วนคนไทยขายแรงงานถูกๆ ซ้ำถูกระบบการเงินเสรีีมีการเพิ่มปริมาณเงินโดยแบงค์ชาติสร้างเงินเฟ้อ bad money ยิ่งจะไปกันใหญ่ ยิ่งพัฒนาเศรษฐกิจสมัยใหม่ คนไทยยิ่งจนลง ยิ่งมีอำนาจซื้อน้อยลงและยิ่งมีหนี้มากขึ้นจากนโยบายbad money
ถ้าเราใช้ระบบเศรษฐกิจแบบพอเพียง คนไทยส่วนมากไม่มีวันจน หรือมีหนี้สูงอย่างนี้ เพราะว่าในระบบเศรษฐกิจพอเพียง คนไทยเป็นเจ้าของกิจการเอง ไม่ได้เปิดให้ต่างชาติมาแย่งตั้งโรงงาน การผลิตจะเพื่อการบริโภคภายในเป็นหลัก ที่เหลือถึงจะส่งออกเป็นเงินออม เมื่อเป็นเช่นนี้ระบบเศรษฐกิจจะไม่มีวิกฤติ เพราะว่าการคลังจะมีงบประมาณที่สมดุล หนี้ต่างประเทศไม่มีหรือมีน้อย รายได้ต่างประเทศมากกว่ารายจ่ายจากการนำเข้า
ประเทศอาจจะดูไม่เจริญฟู่ฟ่า แต่คนไทยไม่มีใครจน เพราะว่าแผ่นดินประเทศไทยกว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์ที่จะดูแลทุกคนได้ ถ้ามีผู้บริหารที่มีคุณธรรม เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม
แต่ทุกวันนี้เรามีกำลังการผลิตที่เกินเลยไปมาก ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือยให้ต่างชาติบริโภคและกับเงินกระดาษที่เขาพิมพ์ออกมาเปล่าๆ เราไม่ได้ผลิตเพื่อการบริโภคภายในอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ทำการผลิตเพื่อขายสินค้าให้ต่างประเทศ
เมื่อเปิดประเทศทางเศรษฐกิจเพื่อเน้นการส่งออก ที่ตามมาคือการเปิดเสรีระบบการเงิน เปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจจากของจริง (real economy)กลายเป็นทรัพย์สินทางการเงินแทน (financialization)ผ่านตลาดหุ้น ตลาดเครดิต ตลาดบอนด์ ตราสารหนี้ หรือตราสารการเงินต่างๆ
การแปลงทรัพย์สินเป็นตราสารทางการเงินเป็นหัวเชื้อของเงินเฟ้ออันนำไปสู่bad money
แต่นักการเงินหรือนายแบงค์หรือผู้ที่มีทรัพย์สินถาวร หรือทรัพย์สินทางการเงินจะรวยจากระบบfinancialization ส่วนผู้ผลิตโดนนักการเงินคุม ผู้บริโภคไม่ต้องพูดถึง ต้องสร้างหนี้เพื่อบริโภคอย่างเดียว เพราะว่าbad moneyจะทำให้รายรับไม่พอรายจ่าย
เรามีรัฐบาลที่ผ่านมาที่เอาใจแต่พวกฝรั่ง แต่เห็นคนไทยด้วยกันเป็นขี้ข้า จึงกลายเป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่สลับซับซ้อนยากที่จะแก้ไข เพราะว่าตีโจทย์ไม่ออกกัน
ในเศรษฐกิจแบบพอเพียง จีดีพีจะโตช้า แต่เราไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับมันมาก ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาน มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ดีงาม ต่างชาติใครๆก็อยากมาเที่ยว คนไทยเป็นเจ้าของโรงแรม แทนที่จะให้พวกโรงแรมลูกโซ่ของต่างชาติมายึดหัวหาดหมด เราเป็นเจ้าของร้านอาหาร เจ้าของกิจการเกี่ยวเนื่อง ทำอาชีพโดยสุจริต แค่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวอย่างเดียวก็รวยแล้ว
ไทยเรามีสินค้าเกษตรที่ดี สะอาดถูกหลักอนามัย มีอาหารไทยที่ดีที่สุดในโลก ใครๆก็ต้องการ
เรามีสินค้าที่สามารถพัฒนาเป็นยาได้ไม่ว่าพืชผักสมุนไพรต่างๆ การบริการทางแพทย์หรือสาธารณสุขสามารถพัฒนาให้เจริญได้
พลังงานไทยก็มีพอใช้ ไม่จำเป็นต้องอิมพอร์ตมาก ถ้ามีการขุดคลองขุดแม่น้ำการคมนาคมทางเรือจะประหยัด มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีพอใช้
แค่นี้คนไทยก็สบายแล้ว โดยที่ไม่รวย ไม่จนแต่พอมีพอใช้
เมื่อไม่เน้นการผลิตเชิงอุตสาหกรรมเพื่อการส่งออก ไม่เน้นเปิดประเทศมากจนเกินไป ประเทศไทยจะไม่มีปัญหาเศรษฐกิจเชิงโครงสร้างหรือมหภาค การคลังจะสมดุล หนี้ต่างประเทศไม่มีหรือมีน้อย อิมพอร์ตแต่พอประมาณ ใช้ของไทยๆ ไม่ยกอำนาจการเงินให้แบงค์พานิชย์ ไม่ขายแบงค์ ไม่ขายทรัพย์สิน ไม่ขายที่ดินให้ต่างชาติ ลดการเปลี่ยนโครงสร้่างเศรษฐกิจที่แท้จริงเป็นเศรษฐกิจทางการเงินเพื่อรักษาอำนาจค่าเงินบาท
ถ้าทำเช่นนี้ได้ ไทยจะมีบาทเป็นgood money แม้คนไทยอาจจะมีรายได้น้อย แต่good moneyสามารถส่งลูกหลานเรียนหนังสือได้
การปฏิรูปประเทศไทยต้องปรับทั้งโครงสร้างกลับไปสู่หลักของความพอเพียง ไม่เน้นการส่งออก เน้นให้คนไทยเป็นเจ้าของกิจการ เน้นการผลิตเพื่อการบริโภค ลดการนำเข้า รักษาค่าเงินบาทให้มั่นคง
และหากเราใช้ระบบการเมืองแบบธรรมาธิปไตยที่ธรรมะหรือความถูกต้องเป็นใหญ่ บวกกับหลักเศรษฐกิจพอเพียง เท่านี้ประเทศไทยก็เป็นสวรรค์บนดินแล้ว
ขอความกรุณาท่านบิ๊กตู่ฟังเรื่องgood moneyและเศรษฐกิจพอเพียงทางนี้หน่อย อย่าไปฟังพวกนักเศรษฐศาสตร์อ้างเปิดเสรีกันมาก เพราะว่าแค่นี้คนไทยกำลังจะจนฉิบหายกันถ้วนหน้าเกือบหมดประเทศแล้ว
thanong
7/6/2015

 

Thanong Fanclub



16. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
เราอยู่ในโลกที่กลับตาลปัตร good moneyกลายเป็นbad money และbad moneyกลายเป็นgood money
และประเทศไทยเดินเข้าสู่กับดักbad moneyอย่างเต็มตัว โดยเอาเงินอนาคตมาใช้ผ่านตลาดหุ้่น ตลาดเครดิต ตลาดบอนด์ กู้หนี้ยืมสินจากแบ
งค์ในรูปแบบต่างๆที่เลยเถิดความพอดีพองาม มีการเซ็งลี้ทรัพยาการธรรมชาติให้ต่างชาติมาตักตวงกิน โดยที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ประโยชน์อะไร จะไม่เหลือทรัพยากรธรรมชาติอะไรให้ลูกหลานสืบไปในภาคข้างหน้า
เราส่งออกโดยให้ต่างชาติมาลงทุน เราการขายแรงงาน และทำลายทรัพยากรธรรมชาติเพื่อให้ได้เงินกระดาษดอลล่าร์มาโดยถือว่าเป็นความร่ำรวย เราสะสมดอลล่าร์ที่เป็นbad moneyเพราะว่าเป็นเงินกระดาษเปล่าๆ ไม่มีหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง
ตอนนี้ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ$160,000ล้านเพื่อหนุนเงินบาทและการค้าขาย เราคิดว่าเรามั่นคง แต่จริงๆแล้่ว มันเป็นbad moneyทั้งนั้น เพราะว่าเงินที่เราสะสมในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นเงินกระดาษbad moneyทั้งนั้น (currency reserve system) ไม่ว่าจะเป็นดอลล่าร์ ยูโร เยน สิงคโปร์ดอลล่าร์ ริงกิตมาเลย์เซีย หรือเกาหลีวอนที่แฝงด้วยสารัตถะของการเสื่อมค่าจากเงินเฟ้อ
เงินดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลกที่เป็นเงินกระดาษ (fiat money) ประวัติศาสตร์ก็ชี้ให้เห็นแล้วว่าเงินสกุลหลักของโลกมีอายุเฉลี่ย60-70ปี ก่อนที่จะล่มสลาย เนื่องจากการใช้จ่ายที่เกินตัวของรัฐบาล ระบบเครดิตหรือหนี้ของประเทศที่เอาไม่อยู่ อันนำมาสู่การพิมพ์เงินเพื่อแก้ปัญหาเตะถ่วงเวลา ในที่สุดเงินกระดาษก็พังเกิดภาวะเงินเฟ้ออย่างรุนแรง (hyperinflation)
จีนเข้าสู่ระบบการส่งออกเหมือนกับไทย แต่ทำได้ดีกว่า เพราะว่ารัฐบาลคุมเกม แต่เราปล่อยให้ต่างชาติคุมเกม จีนรู้ดีว่าความร่ำรวย$4ล้านล้านที่สะสมจากการส่งออกตลอดระยะเวลา30ปีที่ผ่านมา มันไม่ยั่งยืน เพราะว่า$4ล้านล้านเป็นbad moneyทั้งนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในรูปบอนด์รัฐบาลสหรัฐจำนวน$1.4-$1.5ล้านล้าน ไม่ว่าจะเป็นรูปเงินสดดอลล่าร์ ยูโร หรือเยน
จีนเริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับดอลล่าร์ที่เป็นbad moneyหลังวิกฤติ2008 เพราะว่าธนาคารกลางของสหรัฐมีการพิมพ์เงินทำQE ออกมาเพื่ออุ้มระบบการเงินโลกทั้งระบบ การพิมพ์เงินออกมามากจะทำให้ดอลล่าร์เสื่อมค่า ในเมื่อจีนถือดอลล่าร์มาก ดอลล่าร์เสื่อมค่า จีนจะขาดทุน ส่งออกเหนื่อยเปล่าๆ ไม่ได้อะไร
ยิ่งส่งออกมากยิ่งจะจน เพราะว่ายิ่งจะได้กระดาษเสื่อมค่ามากขึ้น
จีนรู้ดีว่าเมื่อทำQEแล้วสหรัฐจะเลิกไม่ได้ เงินดอลล่าร์ต่อไปจะเสื่อมค่ามีปัญหาเหมือนเงินกระดาษในประวัติศาสตร์โลกที่อยู่ได้ไม่นาน ไม่ยั่งยืน
จีนจึงต้องดำเนินนโยบายหันเหจากbad moneyเป็นgood moneyแทน ด้วยการสะสมทอง เพราะว่าทองคำไม่มีวันเน่า ไม่สามารถสร้างเงินเฟ้อได้ สามารถรักษาความร่ำรวยหรือwealth effectได้ จีนจึงเปลี่ยนดอลล่าร์ที่ได้จากการค้าขายเป็นทองแทน รัสเซียและอินเดียก็ทำอย่างนี้ โดยพยายามหนีจากbad moneyเข้าหาทอง ซึ่งถือว่าเป็นgood money
แต่จีนจะซื้อทองตุนทองอย่างเดียวไม่ได้ จีนต้องทำให้หยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกให้ได้ด้วย เพื่อที่จะลดการพึ่งพาดอลล่าร์ ไม่ว่าจะทำหยวนสว๊อป ค้าขายเป็นเงินหยวนและเงินสกุลท้องถิ่นอื่นๆ การทำให้เซี่ยงไฮ้เป็นศูนย์กลางตลาดทองของโลกเพื่อกำหนดราคาทองเองเป็นหยวน ฯลฯ
เมื่อจังหวะเวลามาถึง มีการคาดการว่าจีนจะลอยค่าหยวน โดยที่มีทองหนุนหลัง หยวนจะเป็นgood moneyเพื่อสร้างความแตกต่างกับดอลล่าร์กระดาษที่เป็นbad money
แล้วบาทไทยมีการเตรียมพร้อมที่จะเป็นgood moneyกับเขาอย่างไรบ้าง หรืองว่าต้องการเป็นbad moneyตลอดไป
thanong
8/5/2015

 

Thanong Fanclub



17. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
Bloomberg Intelligenceรายงานว่า ถ้าหากจีนต้องการใช้ทองหนุนเงินหยวน ทองจะมีราคาสูงขึ้นเป็น$64,000ต่อออนซ์ หรือประมาณ50เท่าสูงกว่าราคาทองในปัจจุบัน
Bloomberg ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าได้ตัวเลขนี้มาได้อย่างไร แต่เนื่องจากความตรึงเครียดทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนและสหรัฐ มีความเป็นไปได้ที่จีนจะต้องหาทางปลดล๊อคการผูกค่าหยวนกับดอลล่าร์ และเอาหยวนหันไปอิงทองแทน
วิธีการนี้จะเป็นการเปลี่ยนเงินหยวนจากbad moneyที่อิงดอลล่าร์กระดาษ มาเป็นgood moneyที่อิงทอง และจะเป็นการทำลายดอลล่าร์ไปในตัว
ปริมาณเงินM1ในระบบการเงินของจีนมีอยู่33.64ล้านล้านหยวน หรือเทียบเท่า$5.4ล้านล้าน
Bloombergคาดการว่าจีนน่าจะมีทองคำสำรองอยู่3,510ตัน ถ้าหากว่าจะหนุนเงินหยวนทั้งหมด$5.4ล้านล้านในระบบ ทองคำต้องมีราคา$48,600ต่อออนซ์
สรุปได้ว่า ณ ระดับราคาทองในปัจจุบันที่ประมาณ$1,200ต่อออนซ์ มันเป็นไปไม่ได้ที่จีนจะใช้ทองคำหนุน เพราะว่าจีนต้องใช้ทองคำในปริมาณที่สูงถึง126,000ตัน เพื่อหนุนเงินที่หมุนเวียนในระบบ$5.4ล้านล้าน
ด้วยเหตุนี้Bloombergและนักวิเคราะห์หลายคนไม่เชื่อว่าจีนจะกลับไปใช้ระบบมาตรฐานทองคำ ที่ค่าเงินอิงกับทอง มีทองคำในสต๊อคหนุนหลัง
แต่จีนมีการตะลุยซื้อทองมากในช่วงที่ผ่านมา เพราะว่ายิ่งถือดอลล่าร์มากยิ่งมีความเสี่ยงจากการที่US Federal Reserveพิมพ์เงินดอลล่าร์ออกมาเรื่อยๆ เพื่อช่วยรัฐบาลจ่ายหนี้ที่ไม่มีวันจ่ายได้ ต่อไปการพิมพ์ดอลล่าร์จะทวีคูณสูงขึ้นไปอีก ทำให้เกิดเงินเฟ้อ bad moneyอยู่แล้วจะกลายเป็น big bad money
แต่อย่างไรก็ตาม ทองเป็นยุทธศาสตร์ทางการเงินที่สำคัญของจีน เพื่อสร้างความแตกต่างระหว่างหยวนและดอลล่าร์ ถ้าหยวนต้องการเป็นเงินสกุลหลักของโลกที่ชาวโลกให้ความเชื่อถือในวันแรกที่ลอยค่า หยวนต้องมีทองคำหนุน อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ทองคำหนุนเงินM1ที่อยู่ในระบบทั้งหมด อาจจะหนุนเพียงบางส่วนก็ได้ เมื่อเงินหยวนเป็นเงินสกุลหลักของโลกแล้ว มีความเป็นgood moneyจีนจึงจะสามารถไฟแนนซ์โครงการเส้นทางสายไหมที่จะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีน ที่ตอนนี้กำลังมีปัญหาจากการส่งออกและนำเข้าที่มีแนวโน้มลดลงอย่างมาก
และถ้าหากสหรัฐถูกบังคับให้ต้องเล่นตามเกมทองของจีน ด้วยการใช้ทองคำ8,500ตันที่มีอยู่ -- หรืออาจจะไม่มีอยู่แล้ว -- หนุนเงินดอลล่าร์ เพื่อรักษาคววามน่าเชื่อถือ ราคาทองต้องสูงกว่านี้มากเพื่อให้สอดคล้องกับเงินหมุนเวียนM1ในระบบของสหรัฐ
แต่สหรัฐไม่ชอบสู้กับใครทางเศรษฐกิจ เพราะถือว่ามีอาวุธและกองทัพที่เข้มแข็งกว่า อันนำมาสู่การใช้เอเซียเพื่อปิดล้อมจีน เพื่อไม่ให้จีนผงาดทั้งการเมือง เศรษฐกิจ การเงิน และการทหาร การปิดล้อมจีนกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น และมีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุปะทะกันระหว่างสหรัฐและจีนในทะเลจีนใต้ เมื่อเศรษฐกิจของเอเซียถูกลากลงไปให้มีปัญหาเพื่อทำให้จีนอ่อนแอไปด้วย จีนจะมีปัญหาในการลอยค่าหยวนเพื่อแข่งบารมีกับดอลล่าร์
เรื่องgood money & bad moneyระหว่างจีนและสหรัฐอาจจะต้องตัดสินกันด้วยกระบอกปืน
thanong
9/6/2015
Buy Gold Bullion Safely | Secure Storage | GoldCore

 

Thanong Fanclub



18. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
ความร่ำรวยของประเทศอย่างหนึ่งวัดได้จากปริมาณเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ (international reserves)ที่ถืออยู่ เพราะว่าเงินทุนสำรองระหว่างประเทศใช้ในการหนุนค่าเงิน และช่วยในการทำมาค้าขาย เช่นประเทศไทยไม่สามารถทำมาค้าขายกับต่างประเทศได้ด้วยเงินบาท (ยกเว้นในประเทศเพื่อนบ้านที่ยอมรับเงินบาทมากขึ้น) เราจึงจำต้องมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก ในการทำมาค้าขาย
เดิมทีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศเป็นgood moneyเพราะว่ามีแต่เงิน (silver) หรือทอง แต่ต่อมาอังกฤษออกจากระบบมาตรฐานทองคำช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่1เพราะว่าการคลังเจ้ง ทำให้สยามออกจากมาตรฐานทองคำด้วย เอาบาทไปอิงกับปอนด์แทน
หลังสงครามโลกครั้งที่2 บาทไปอิงกับดอลล่าร์ ซึ่งอิงกับทองคำอีกต่อหนึ่งในระบบมาตรฐานทองคำ ทำให้บาทอิงทองทางอ้อมโดยปริยาย การเอาเงินกระดาษไปอิงทองจะทำให้ค่าเงินเสถียร ไม่ขึ้นลงอย่างวูบวายเหมือนทุกวันนี้
แต่สหรัฐใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย เงินดอลล่าร์ที่พิมพ์ออกมาเกินทองคำสำรองที่มีอยู่ ทำให้คนไม่มั่นใจ เอาดอลล่าร์ไปแลกทองที่หน้าต่างของUS Federal Reserve เมื่อโดนแลกทองมากๆ สหรัฐทนไม่ไหวเลยประกาศปิดหน้าต่างทองในปี1971 โดยประกาศว่าจะพิมพ์ดอลล่าร์เป็นเงินกระดาษเปล่าๆ ไม่มีทองหรือหลักทรัพย์อะไรหนุนหลัง
ตั้งแต่นั้นมาดอลล่าร์สหรัฐจากgood moneyทืี่มีทองหนุนหลัง กลายเป็นbad moneyที่พิมพ์ออกมาเป็นกระดาษกงเต๊ก
แต่เนื่องจากดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลก สหรัฐมีอำนาจทางทหารมาก แต่ละประเทศไม่กล้าหือจำต้องใช้ดอลล่าร์กงเต๊กต่อไป ใช้ไปใช้มาจนเคยชิน นานเข้าจึงเลิกเห็นความสำคัญของทอง เพราะว่าโดนล้างสมอง
ตำราวิชาเศรษฐศาสตร์และการเงินต่างๆมีการส่งเสริมเงินกระดาษแทนทอง ทำให้คนที่ทำงานด้านเศรษฐศาสตร์และการเงินต่อมาเห็นเงินกงเต๊กดีกว่าทอง หรือเห็นbad moneyดีกว่าgood money เพราะว่าbad moneyดอลล่าร์สภาพคล่องดี ซื้อง่ายขายคล่อง
ประเทศไทยก็โดนฟอกย้อม จากสุวรรณภูมิหรือดินแดนแห่งทองกลายเป็นดินแดนแห่งแบงค์กงเต๊ก bad money เพราะว่าทางธนาคารแห่งประเทศไทยไม่เห็นความสำคัญของการถือทองในเงินทุนทำรองระหว่างประเทศอีกต่อไป
ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยที่มีอยู่$160,000ล้าน ส่วนมากจะเป็นดอลล่าร์ ยูโร เยน สิงคโปร์ดอลล่าร์ มาเลย์เซียริงกิต เกาหลีวอน ฯลฯiรวมทั้งพันธบัตรที่มีเร็ตติ้งสูงที่ออกโดยพวกรัฐบาล เงินกระดาษเหล่านี้เป็นbad moneyทั้งนั้นในโลกมายาการเงิน
ในขณะเดียวกันสัดส่วนของทองคำที่เป็นgood moneyที่มีอยู่ในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารแห่งประเทศไทยมีน้อยมาก คือมีทองคำอยู่152.4ตัน หรือเทียบเท่า 3.7% ของเงินทุนสำรองระหว่างประเทศทั้งหมด ณ เดือนมกราคมปี2015
ตามตาราง เราจะเห็นได้ว่าประเทศตะวันตกที่หลอกเราให้ใช้bad moneyต่างถือทองคำ good moneyในสัดส่วนที่สูงทั้งนั้นในเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ อังกฤษ เยอรมัน อิตาลี ฝรั่งเศส เนเธอแลนด์
จีนที่โชว์ว่ามีทอง1,000กว่าตัน ความจริงแล้วอาจจะมีมากกว่านี้เป็นสิบเท่าก็ได้ เพราะว่ายังไม่มีการปรับปรุงตัวเลขให้ทันสมัย
คำถามคือทำไมประเทศเกิดใหม่ รวมทั้งไทยถึงมีทองหรือgood moneyน้อยเมื่อเที่ยบกับbad money ทั้งๆที่ฝรั่งมีทองในระดับที่สูงทั้งนั้น ถึงแม้ว่าปากจะว่าไปอย่าง แต่ในทางปฎิบัติมีการเก็บตุนทองในระดับที่สูง
thanong
9/6/2015

 

Thanong Fanclub



19. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
ธนาคารแห่งประเทศไทยเพิ่งจะออกข่าวว่าขาดทุนbad moneyบักโกรกมาก
ในปี2014 ธนาคารแห่งประเทศไทยขาดทุนสุทธิ60,000กว่าล้านบาทในงบดุล ส่งผลให้เงินกองทุนติดลบสะสม700,000ล้านบาท
ถ้าเป็นกิจการปกติ เหมือนทีพีไอ (TPI)ต้องถือว่าธนาคารแห่งประเทศไทยล้มละลายไปแล้ว เพราะว่ามีหนี้มากกว่าทรัพย์สิน
แต่เนื่องจากธนาคารแห่งประเทศไทยถือว่าเป็นสถาบันการเงินหลักของประเทศ เป็นผู้พิมพ์เงินบาท เป็นผู้บริหารนโยบายการเงินของประเทศ การขาดทุนสะสมจนเงินกองทุนติดลบ ไม่เป็นอะไร
แต่การบริหารbad moneyอย่างนี้จะไปต่อได้อีกนานเท่าใด?
อ่านข่าวรายละเอียดในASTVผู้จัดการออนไลน์:
"แบงก์ชาติรายงานปี 57 ยอดขาดทุนสะสมพุ่ง 6 แสนล้านบาท
รายงานข่าวจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกรายงานประจำปี 57 ซึ่งรายงานฐานะการดำเนินการและฐานะการเงินของ ธปท.ปี 57 พบว่า ธปท.มีสินทรัพย์ 3,527,289.19 ล้านบาท และมีหนี้สิน 4,227,783.27 ล้านบาท ส่งผลให้มีเงินกองทุนติดลบสะสม 700,494.09 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในปี 57 มีรายได้ 59,415.30 ล้านบาท แต่มีรายจ่าย 120,984.77 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 61,569.48 ล้านบาท ทำให้ผลขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 634,471 ล้านบาท
ส่วนใหญ่เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายที่สูงกว่าดอกเบี้ยรับ โดยปี 57 มีภาระดอกเบี้ยจ่าย 109,575.58 ล้านบาท และมีรายได้จากดอกเบี้ยรับ 47,024.41 ล้านบาท แต่มีกำไรจากค่าเงินบาท 9,442.63 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธปท.ชี้แจงว่า การขาดทุนมาจากดำเนินนโยบาย 2 ส่วน คือ 1.การตีราคาค่าเงิน เพราะค่าเงินยูโร และค่าเงินเยนอ่อนค่ามากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จากมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ซึ่งเมื่อ ธปท.ตีราคาเงินสองสกุลที่อยู่ในทุน สำรองทางการระหว่างประเทศของไทยเป็นดอลลาร์สหรัฐฯ จึงได้ปริมาณเงินดอลลาร์สหรัฐฯน้อยลง ส่งผลให้มูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศเมื่อตีราคาเป็นเงินบาทลดลง
และ 2.จากส่วนต่างดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย จากการออกพันธบัตร ธปท.เพื่อปรับสภาพคล่องระบบเศรษฐกิจ ยืนยันว่า การขาดทุน ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานแน่นอน "
*****************************************************************
อืมม...การขาดทุน ไม่เป็นอุปสรรคต่อการทำงานแน่นอน ถ้าเช่นนั้นลองขาดทุนbad moneyไปถึง1ล้านล้าน แล้วดูว่าตลาดการเงินจะว่าอย่างไร?
thanong
9/6/2015
http://www2.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx…

 

Thanong Fanclub



20. เงินดี vs เงินเลว (Good Money vs Bad Money)
อ่านพาดหัวข่าวกรุงเทพธุรกิจฉบับวันที่ 9 มิถุนายน พศ 2558 ที่คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ให้สัมภาษณ์แล้วละเหี่ยใจ
"จี้รัฐหามาตรการกระตุ้น หนุนบริหารเงินทุนสำรองกดบาทอ่อน สหพัฒน์ห่วงกำลังซื้อซึมยาว ลดดอกเบี้ยไม่พอกระตุ้นเศรษฐกิจ เตือนลงทุนระมัดระวัง"
ทุกข้อที่แนะนำมาเป็นนโยบายbad moneyทั้งนั้น เวลาเสือออกหากิน จับเหยื่อไม่ได้ ต้องยอมอด เวชาชาวนาปลูกข้าวไม่ได้ เพราะว่าฝนฟ้าไม่อำนวย ยอมรับสภาพ แต่เวลานักธุรกิจยอดขายตก ไม่ยอมรับสภาพ แต่จะเรียกร้องให้รัฐบาลทำนโยบายbad moneyทุกอย่าง ให้ผู้บริโภคก่อหนี้เพิ่ม เพื่อไม่ให้ยอดขายของธุรกิจตัวเองตก
thanong
9/6/2015