ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    3. กำเนิดทางสายไหม
    เป็นที่ชัดเจนว่า การเปิดตัวเส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจครั้งนี้นั้น เป็นการนำจีนเข้าสู่ความผู้นำระดับโลกในศตวรรษที่ 21 ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงประเทศจีนจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกเพื่อผลิกดันการเจริญเติบโตไปเป็นเครื่องจักรในการลงทุน การลงทุนในทางสายไหมจะทำให้จีนสามารถก้าวข้ามความเป็นประเทศที่ต้องพึ่งพาการบริโภคภายในอย่างเดียวในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจหลังยุคตกต่ำของการส่งออก
    จากระบบการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง ผลิตได้ทั้งสากกระเบือยันเรือรบที่เคยพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ จีนจะสยายปีกกลายเป็นประเทศที่จะเน้นการลงทุน ด้วยเงินทุนและเทคโนโลยี่ของตัวเอง โดยจะเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจของการบริโภคภายในของจีนที่จะกลายเป็นศูนย์กลางของโลกต่อไป
    นับว่าเป็นการแก้ปัญหาการชะลอตัวของการค้าโลกและการเข้าสู่ยุคตกต่ำของเศรษฐกิจโลกได้อย่างแยบยล เพราะว่าจีนรู้ตัวดีว่าการส่งออกไปตลาดหลักของโลกเช่นสหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่นกำลังมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
    ตัวเลขทางการชี้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเติบโตในระดับ7% แต่บางสำนักย่างนายMarc Faberเชื่อว่าจีนอาจจะโตแค่3.8% ส่วนตัวเลขการส่งออกบางเดือนก็ดี บางเดือนก็แย่ ภายในประเทศจีน ปรากฎว่าตอนนี้มีหนี้และสภาวะฟองสบู่เกิดขึ้นในการใช้จ่ายที่เกินตัวของรัฐบาลท้องถิ่น อสังหาฯและตลาดหุ้น มีความเหลื่อมล้ำของรายได้
    ถ้ายังคงใช้โมเดลเดิมในการบริหารประเทศ จีนต่อไปจะมีปัญหาในการบริหารประชากร1,300ล้านคนที่มีความคาดหวังสูงว่าจะมีชีวิตที่อยู่ดีกินดีสูงขึ้นไป การสร้างวิสัยทัศน์ในเส้นทางสายไหมจะเป็นทางออกของจีนแบบก้าวกระโดด และจะมีผลเชื่อมโยงกับสถานภาพความเป็นผู้นำโลกของจีนทั้งทางเศรษฐกิจ การเงิน การเมืองและการทหารอีกด้วย
    กำเนิดทางสายไหมและการลอยตัวค่าเงินหยวนจะดำเนินไปเคียงคู่กัน จีนจำต้องผลักดันให้เงินหยวนเป็นสกุลเงินหลักของโลกให้ได้ เพื่อปลดแอกจากการต้องพึ่งพาดอลล่าร์สหรัฐในทางการเงิน จีนพิมพ์หยวนเอง จะพิมพ์เท่าไหร่ก็ได้ คุมเกมได้ ถ้าหากยังคงเล่นตามตำราพึ่งพาดอลล่าร์ จะถูกสหรัฐใช้การเพิ่มหรือการลดปริมาณเงินมาทำลายเศรษฐกิจจีนเหมือนอย่างที่ประเทศต่างๆทั่วโลกติดกับดักดอลล่าร์อยู่ในเวลานี้
    เมื่อมองต่อไปข้างหน้า จีนเองก็ไม่จำเป็นต้องสะสมเงินทุนสำรองเป็นดอลล่าร์สหรัฐในจำนวนมหาศาลอีกต่อไป มิหน้ำซ้ำจีนสามารถลดการถือครองดอลล่าร์ลงไปเรื่อยๆ แล้วเอาหยวนขึ้นมาผงาดแทนในระบบการเงินโลก หรือทุกประเทศที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเส้นทางสายไหม ปัจจุบันจีนก็เป็นประเทศที่มี เงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากที่สุดในโลกถึง 4 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ
    เงินหยวนจะเป็นหัวในของทางสายไหมใหม่ ในขณะที่เงินดอลล่าร์สหรัฐจะค่อยๆถูกลดบทบาทไปเรื่อยๆ
    จีนอาจตัดสินใจลอยตัวค่าเงินของตัวเองในเดือนตุลาคมหรือภายในปีนี้ เวลาช่างประจวบเหมาะกับการที่ กองทุนการเงินระหว่างประเทศคิดจะรวมเงินหยวนเข้าไปร่วมเป็นเงินสกุลหลักในตะกร้าเงิน เงื่อนไขสำคัญอย่างหนึ่งของกองทุนการเงินระหว่างประเทศคือจีนจะต้องเปิดเผยปริมาณทองคำสำรองของตัวเอง เมื่อจีนหงายไพ่ออกมาอาจจะช๊อคโลกคือมีทองคำมากถึง 16,000 ตัน ทำให้มีความเชื่อมั่นในฐานะการเงินของจีนเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ดอลล่าร์หรือเงินสกุลอื่นๆ ไม่มีทองคำสำรองหนุนหลัง
    ถ้าเรามองกันอีกมุมหนึ่ง การเปิดเผยทองคำสำรองก็สามารถใช้ในการประกันค่าเงินหยวนไปในตัว เมื่อเงินหยวนกลายเป็นเงินสกุลหลักของโลกเทียบเคียงดอลล่าร์สหรัฐ ปอนด์อังกฤษ เยนญี่ปุ่นและยูโรของสหภาพยุโรป จะทำให้จีนก้าวขึ้นมาผงาดเป็นผู้นำโลกและมีโอกาสแซงหน้าสหรัฐในระยะต่อไป
    AIIB ก็จะปล่อยเงินกู้เพิ่มเติมเป็นสกุลเงินของจีน ธนาคารเพื่อการพัฒนา(ใหม่) ก็จะได้รับอานิสงค์นี้เช่นกันโดยปล่อยกู้เป็นหยวน บทบาทของดอลล่าร์สหรัฐก็จะค่อยๆด้อยลงโดยปริยาย
    ในเรื่องเศรษฐกิจและการเงินนี้ จีนเดินเกมอย่างอดทนและระมัดระวังเพื่อนำพาประเทศจากการพึ่งพาการส่งออกมา มาเป็นผู้นำของการลงทุนทางสายไหมที่จะพลิกโฉมโลกใหม่ และที่สำคัญที่สุดมีการเตรียมการอย่างเป็นขั้นตอนเพื่อลอยค่าหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกในที่สุด ผ่านการ
    1.ทำหยวนสว๊อปกับค่าเงินประเทศต่างๆ
    2. ตั้งสถาบันการเงินAIIB, New Development Bankที่จะปล่อยกู้เป็นหยวน
    3. ตุนทองให้มากที่สุดในโลกเพื่อหนุนค่าเงินหยวน
    4. ให้Shanghai Gold Exchangeเตรียมโค๊ดค่าทองเป็นหยวน แทนที่จะเป็นดอลล่าร์ และแย่งชิงศูนย์กลางการเทรดทองจากลอนดอน
    5. เตรียมระบบChina International Payment Systemเพื่อรองรับการเทรดหยวนใจระบบแบงค์กิ้งของโลก
    6. เตรียมการให้หยวนเป็นหนึ่งในสกุลหลักในตระกร้าเงินของกองทุนการเงินระหว่างประเทศเทียบชั้นกับดอลล่าร์ ปอนด์ ยูโรและเยน
    ความสำเร็จของเรื่องทุกอย่างมีเงื่อนไขของกาลเวลา สำหรับทางสายไหม เวลาได้มาถึงแล้ว
    thanong
    8/5/2015
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    4. กำเนิดทางสายไหม
    เฮียสีจะถูกมองว่าข้ามหน้าข้ามตาพี่ปูตินของรัสเซียหรือไม่ด้วยข้อเสนอของเส้นทางสายไหม เพราะดูมันว่าทางสายไหมจะแข่งกันกับเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) ปูตินถือว่ายูเรเซียเป็นวิสัยทัศน์ของรัสเซียที่จะนำพารัสเซียให้กลับมาเป็นมหาอำนาจของโลกอีกครั้งหนึ่ง ยูเรเซียในนิยามของปูตินคือยุโรปตะวันออก รัสเซีย เอเซียกลาง เอเซียใต้และเอเซียทั้งหมด
    แต่ในชั้นแรก ปูตินต้องรวบรวมอดีตประเทศที่เคยเป็นบริวารของสหภาพยุโรปที่ล่มสลายไปแล้ว ให้กลับเข้ามาอยู่ในกลุ่มเดียวกันเหมือนเดิมก่อน เขตเศรษฐกจิร่วมยูเรเซียจึงเป็นหัวใจของการสร้างให้รัสเซียเป็นศูนย์กลางของเขตเศรษฐกิจใหม่ที่จะแข่งขันกันกับยุโรปและเอเซีย ไม่นับอเมริกา
    สมาชิกของเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซียประกอบด้วย เบรารุส คาซัคสถาน รัสเซีย และ อาเมเนีย ขณะที่คาจิกิสสถานกำลังจะเข้าร่วมในเร็วๆนี้
    แต่ไม่มีเหตุผลที่เส้นทางสายไหมทางเศรษฐกิจของจีนและเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซียจะไม่สามารถไปกันได้ ที่จริงแล้วจะเสริมกันและสามารถเดินคู่ไปด้วยกันได้เลย ในอดีตทางสายไหมก็เชื่อมโยงเอเซียกลางของกลุ่มประเทศที่เคยเป็นสมาชิกของสหภาพโซเวียตกับจีนอยู่แล้ว
    Pepe Escobar เขียนบทความชื่อ Go west, young Hun ตีพิมพ์ในเอเชียไทมส์ออนไลน์ Asia Times โดยบรรยายให้เห็นภาพได้ดีว่าเส้นทางสายไหมใหม่ได้มีการเชื่อมโยงแล้วกับยูเรเซียอย่างไรผ่านการเดินทางและการขนส่งสินค้าโดยขบวนรถไฟ แทนคาราวานอูฐ หรือม้าในอดีต
    "วันที่ 18 พฤศจิกายน 2014 ควรจะเป็นวันที่จดจำกันเอาไว้ในประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล ในวันนั้น ที่เมืองอี้อู (Yiwu) ในมณฑลเจ้อเจียง ของจีน ซึ่งอยู่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร รถไฟขบวนแรกที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 82 ตู้ บรรจุสินค้าส่งออกน้ำหนักรวมกันมากกว่า 1,000 ตัน เดินทางออกจากกลุ่มอาคารคลังสินค้าขนาดมหึมาของเมืองนี้ มุ่งหน้าไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน และไปถึงจุดหมายปลายทางในอีก 21 วันต่อมา นั่นคือ วันที่ 9 ธันวาคม
    "ขอต้อนรับเข้าสู่ ทางรถไฟทรานส์ยูเรเชีย (trans-Eurasia) สายใหม่
    "ด้วยระยะทางกว่า 13,000 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้จะกลายเป็นเส้นทางรถไฟบรรทุกสินค้าซึ่งมีความยาวที่สุดในโลก (นับเฉพาะที่มีการเดินทางกันเป็นประจำ) ได้อย่างไม่ยากไม่เย็นอะไรเลย เพราะจะมีความยาวยิ่งกว่า “ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย” (Trans-Siberian Railway) ซึ่งกลายเป็นตำนานไปแล้วถึงราว 40% ทีเดียว สินค้าที่ลำเลียงในเส้นทางสายนี้ จะเดินทางข้ามประเทศจีนจากภาคตะวันออกสู่ภาคตะวันตก จากนั้นก็ผ่านคาซัคสถาน, รัสเซีย, เบลารุส, โปแลนด์, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, และไปถึงสเปนในท้ายที่สุด
    "คุณๆ อาจจะนึกอะไรไม่ออกแม้สักน้อยนิดว่า เมืองอี้อู นี่อยู่ตรงไหน แต่สำหรับพวกนักธุรกิจซึ่งกำลังสาละวนอยู่กับการค้าขายข้ามยูเรเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มาจากโลกอาหรับด้วยแล้ว พวกเขาต่างยึดโยงผูกพันตัวเองเข้ากับเมือง “ที่กำลังเกิดสิ่งมหัศจรรย์!” แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เรากำลังพูดถึงเมืองที่เป็นศูนย์กลางค้าส่งขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าผู้บริโภคขนาดเล็กๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงของเด็กเล่น เป็นไปได้ทีเดียวว่ามันเป็นศูนย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เฉพาะในจีนเท่านั้น
    "ทางรถไฟข้ามยูเรเชียเชื่อมต่อระหว่าง อี้อู-มาดริด สายนี้ เป็นตัวแทนการเริ่มต้นของโครงการการพัฒนาขนาดใหญ่โตมโหฬารชุดหนึ่ง ซึ่งมีศักยภาพที่จะพลิกเกมทำให้ความสัมพันธ์และการแข่งขันด้านต่างๆ ในโลกของเราต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
    "ทางรถไฟสายนี้จะกลายเป็นช่องทางโลจิสติกส์ทรงประสิทธิภาพที่มีระยะยาวยาวเหยียดอย่างเหลือเชื่อ และก็จะเป็นตัวแทนของความคิดเชิงภูมิรัฐศาสตร์ชนิดที่คำนึงถึงมนุษย์ โดยเป็นการถักร้อยผู้ค้ารายเล็กๆ เข้ากับตลาดขนาดมหึมาข้ามผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล นอกจากนั้น ทางรถไฟสายนี้ยังกลายเป็นตัวอย่างรูปธรรมของกระบวนการบูรณาการดินแดนมหาทวีปยูเรเชียเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่อย่างคึกคักในเวลานี้ และสิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอื่นใด ทางรถไฟสายนี้คือส่วนประกอบส่วนแรกใน “เส้นทางสายไหมใหม่” (New Silk Road) ของจีน ซึ่งมองเห็นกันว่าเป็นโครงการแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 อีกทั้งจะกลายเป็นเรื่องราวเล่าขานทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในระยะเวลาหลายๆ ทศวรรษข้างหน้า"
    การเสริมกันระหว่างทางสายไหมและยูเรเซียจะช่วยในการสร้างความสามารถในการแข่งขันกับประเทศ G3 --สหรัฐ ยุโรป และ ญี่ปุ่น – เพื่อสร้างเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทั้งด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจและความรุ่งเรืองสำหรับศตวรรษที่ 21
    จีนและรัสเซียเองก็หันหน้าเข้าหากัน อยู่แล้วด้วยความสัมพันธ์ทวิภาคีที่ใกล้ชิดมากขึ้นเรือยๆ เพื่อจะเผชิญหน้ากับความขัดแย้งที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากการคุกคามของโลกตะวันตก นำโดยสหรัฐ
    ที่ผ่านมา จีนออกหน้าให้ความช่วยเหลือรัสเซียทางการเงิน ในยามที่รัสเซียตกต่ำที่สุดในช่วงปลายปี2014 เนื่องจากค่าเงินรูเบิ้ลถูกโจมตี ราคาน้ำมันโดนทุบ และเศรษฐกิจรัสเซียโดนอียูและสหรัฐฯคว่ำบาตร สิ่งที่จีนได้รับคือข้อตกลงที่รัสเซียและซับพลายก๊าซธรรมชาติให้จีน ความร่วมมือทางการค้าและการเงินในรูปรูเบิ้ลหยวนสว๊อปเพื่อดั๊มดอลล่าร์ทิ้ง และที่สำคัญจีนได้เทคโนโลยี่ทางทหารชั้นสูงจากรัสเซีย
    คงจะเลี่ยงไม่พ้นที่ยูเรเซียและทางสายไหมจะมาบรรจบกันเพื่อเกื้อกูลกัน โดยที่รัสเซียและจีนต้องพัฒนาความสัมพันธ์ให้เป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นจนถึงความมั่นคงในระดับสูงสุด ถ้าทำสำเร็จความเจริญหรือความรุ่งเรืองของโลกจะเอนเอียงมาภูมิภาคยูเรเซียและเอเซียในศตวรรษที่21โดยที่ผู้นำโลกเก่าอย่างสหรัฐฯและยุโรปจะประสบความยากลำบากในการรักษาสถานภาพเดิม
    แล้วสหรัฐฯและยุโรปจะปล่อยให้ทางสายไหมหรือยูเรเซียแจ้งเกิดได้ง่ายๆหรือ?
    thanong
    8/5/2015
    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    5. กำเนิดทางสายไหม
    เส้นทางสายไหมจะเริ่มต้นที่เมืองซีอาน และจะไปจบที่เมืองซีอาน เหมือนในอดีตที่รุ่งเรืองของอาณาจักรจีนโบราณ
    มีการขุดพบหลุมที่ฝั่งทหารหุ่นของจักรพรรดิจิ๋นซี ผู้รวบรวมอาณาจักรจีนให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเป็นครั้งแรกที่เมืองแห่งนี้ ถือว่าเป็นการค้นพบหนึ่งในแหล่งอารยะธรรมโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในอดีตซีอานสามารถเชื่อมโยงถึงโรม ซึ่งหลงใหลในผ้าไหมและสินค้าฟุ่มเฟือยจากจีนมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเทศ เครื่องประดับ เครื่องปั้น
    โรมยอมจ่ายทองให้จีนเพื่อซื้อสินค้าราคาแพง หนึ่งในสาเหตุของการล่มสลายของโรมคือการขาดดุลให้จีนและอินเดีย เพราะต้องเสียทองเพื่อการนำเข้าสินค้าจากตะวันออก โดยที่ทองนั้นหลังจากจ่ายไปแล้ว หายเข้าไปในจีนและอินเดียโดยไม่หวนกลับอาณาจักโรมอีกเลย
    CRI online สรุปประวัติศาสตร์ของทางสายไหมได้ครอบคลุมพอสมควรดังนี้:
    "เส้นทางสายไหมเป็นเส้นทางการไปมาหาสู่กันทางการค้าทางบกในสมัยโบราณของจีนที่ผ่านเอเซียกลางไปสู่เอเซียใต้ เอเซียตะวันตกตลอดจนยุโรปและอาฟริกาเหนือ เนื่องจากเคยมีใยไหมและผ้าไหมของจีนจำนวนมากผ่านเส้นทางสายนี้ไปสู่ตะวันตก ฉะนั้น จึงได้รับสมญานามว่าเป็นเส้นทางสายไหม ตามผลวิจัยศึกษาทางโบราณคดีแสดงว่า เส้นทางสายไหมมีขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีนเมื่อปี 100 ก่อน คริสต์ศักราช เวลานั้น ผ่านเส้นทางสายไหมสายใต้ไปสู่ทางตะวันตกจะไปถึงอาฟกานิสถาน อุสเบกกิสถาน อิหร่านและเมืองอเล็กซานเดรียของอียิปต์ในปัจจุบัน อีกสายหนึ่งผ่านปากีสถาน เมืองคาบูลของอาฟกานิสถานถึงอ่าวเปอร์เซีย ถ้าจากเมืองคาบูลลงสู่ทางใต้ ก็จะไป ถึงเมืองการาจีของปากีสถานในปัจจุบัน แล้วต่อทางเรือจะไปถึงเปอร์เซีย กรุงโรมและ ที่อื่น ๆ ได้
    "สมัยโน้น จากตะวันตกสู่ตะวันออกตามเส้นทางสายไหมมี 4 อาณาจักรสำคัญ คือ อาณาจักรโรมันในยุโรป ราชอาณาจักรปาร์เธีย (Parthia เป็นราชอาณาจักรระบอบทาสของอิหร่านในสมัยโบราณ) ราชอาณาจักรคูซาน(Kushan เป็นราชอาณาจักรที่ปกครองเอเซียกลางและภาคเหนืออินเดีย)และราชอาณาจักรจีน
    "ในสมัยราชวงศ์ฮั่นของจีน เส้นทางสายไหมทำให้อารยธรรมสมัยโบราณของ 4 ราชอาณาจักร เกิดการแลกเปลี่ยนและการกระทบกระเทือนซึ่งกันและกันโดยตรง นับตั้งแต่สมัยนั้น เป็นต้นมา การพัฒนาไม่ว่าอารยธรรมแบบไหนต่างก็ไม่ใช่การพัฒนาอย่างโดดเดี่ยว อีกแล้ว
    "ถึงสมัยราชวงศ์ถังระหว่างศตวรรษที่ 7 ถึงศตวรรษที่ 9 เส้นทางสายไหมนับว่า อยู่ในช่วงพัฒนาจนเจริญที่สุด นกและสัตว์แปลกประหลาด เพชรพลอย เครื่องหอม เครื่องกระจก เหรียญเงินเหรียญทองของตะวันตกตลอดจนดนตรี ระบำ อาหารการกินและเสื้อผ้าอาภรณ์ของเอเซียตะวันตกและเอเซียกลางได้ทยอยกันแพร่เข้าสู่จีน ในขณะเดียวกัน สินค้าและเทคโนโลยีของจีน เช่น ไหม ผ้าไหม การเลี้ยงไหม เทคนิคการทำกระดาษ การพิมพ์ การผลิตเครื่องเขิน เครื่องเคลือบดินเผา ดินระเบิดและเข็มทิศ เป็นต้น ก็แพร่กระจายไปสู่ที่ต่าง ๆ โดยผ่านเส้นทางสายไหม ซึ่งได้สร้างคุณูปการอันสำคัญต่ออารยธรรมโลก
    "พร้อม ๆ กับที่การไปมาหาสู่กันทางการค้าได้รับการพัฒนา การแลกเปลี่ยนทาง วัฒนธรรมตามเส้นทางสายไหมก็คึกคักมากเช่นกัน เท่าที่ทราบ พุทธศาสนาได้แพร่ กระจายจากอินเดียเข้าสู่เมืองเค่อจือเอ่อในเขตซินเกียง เมือง ตุนหวงมณฑลกันซู่และ เขตแดนชั้นในของจีนโดยผ่านเส้นทางสายไหม ตามเส้นทางสายไหม มีถ้ำหินทาง พุทธศาสนาเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ถ้ำมั่วเกาเมืองตุนหวงและถ้ำหลงเหมิน เมืองลั่วหยางที่มีชื่อเสียง เป็นต้นส่วนใหญ่ได้ผสมผสานลักษณะทางศิลปะของตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน เป็นหลักฐานที่พิสูจน์ให้เห็นการแลกเปลี่ยน ทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก ปัจจุบัน ถ้ำเหล่านี้ต่างก็เป็นมรดก วัฒนธรรมของโลก
    "หลังจากศตวรรษที่ 9 เป็นต้นมา พร้อม ๆ กับที่สถานะทางการเมืองและเศรษฐกิจ ในทวีปเอเซียและทวีปยุโรปได้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเทคโนโลยี่การเดินเรือทางมหาสมุทรได้รับการพัฒนาก้าวหน้า การขนส่งทางทะเลได้ขยายบทบาทเด่นขึ้นทุกวัน ในด้านการค้า เส้นทางสายไหมทางบกสายนี้จึงค่อย ๆ เสื่อมความนิยมลง ถึงสมัยราชวงศ์ซ่ง ของจีนเมื่อศตวรรษที่ 10 เส้นทางสายไหมใช้เป็นเส้นทางการ ขนส่งทางการค้าน้อยมาก
    "เส้นทางสายไหมเป็นช่องทางสำคัญที่กระจายอารยธรรมโบราณของจีนไปสู่ตะวันตก และเป็นสะพานเชื่อมในการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมระหว่างจีนกับตะวันตกด้วย
    "เส้นทางสายไหมที่ผู้คนกล่าวถึงบ่อยๆนั้นหมายถึงเส้นทางบกที่ จางเชียนในสมัยซีฮั่นของจีนสร้างขึ้น เริ่มต้นจากเมืองฉางอาน ทางทิศตะวันออกจนถึงกรุงโรม ทางทิศตะวันตก เส้นทางบกสายนี้มีเส้นทางแยกสาขาเป็นสองสายไปทางทิศใต้และทางทิศเหนือ เส้นทางทิศใต้จากเมืองตุนหวงไปสู่ทางตะวันตกโดยออกทางด่านหยางกวน ผ่านภูเขาคุนหลุนและเทือกเขาชงหลิ่น ไปถึงต้าเย่ซื่อ(แถวซินเจียงและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถานในปัจจุบัน) อันซิ( อิหร่านในปัจจุบัน) เถียวซื่อ(คาบสมุทรอาหรับปัจจุบัน)ซี่งอยู่ทางตะวันตก สุดท้ายไปถึงอาณาจักรโรมัน
    "ส่วนเส้นทางทิศเหนือจากเมืองตุนหวงไปสู่ทางตะวันตกโดยออกด่านอวี้เหมินกวน ผ่านเทือกเขาด้านใต้ของภูเขาเทียนซานและเทือกเขาชงหลิ่น ผ่านต้าหว่าน คางจวี (อยู่ในเขตเอเซียกลางของรัสเซีย) แล้วไปยังทิศตะวันตกเฉียงใต้ สุดท้ายรวมกันกับเส้นทางทิศใต้ เส้นทางสองสายนี้เรียกว่า“เส้นทางสายไหมทางบก”
    "นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางสายไหมอีกสองสายซึ่งน้อยคนจะทราบ สายหนึ่งคือ“เส้นทางสายไหมทิศตะวันตกเฉียงใต้” เริ่มจากมณฑลเสฉวนผ่านมณฑลยูนนานและแม่น้ำอิรวดี จนถึงจังหวัดหม่องกงในภาคเหนือของพม่า ผ่านแม่น้ำชินด์วิน ไปถึงมอพาร์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ต่อจากนั้น เลียบแม่น้ำคงคาไปถึงภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดีย และไปถึงที่ราบสูงอิหร่าน
    "เส้นทางสายไหมสายนี้มีประวัติยาวนานกว่าเส้นทางสายไหมทางบก เมื่อปี1986 นักโบราณคดีได้พบซากอารยธรรมซานซิงตุยที่เมืองกว่างฮั่น มณฑลเสฉวน ซึ่งห่างจากปัจจุบันประมาณสามพันกว่าปี ได้ขุดพบโบราณวัตถุจำนวนหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมเอเซียตะวันตกและกรีซ ในจำนวนนั้น มีไม้เท้าทองที่ยาว142เซ็นติเมตร “ต้นไม้วิเศษ”ที่สูงประมาณสี่เมตรและรูปปั้นคนทองแดง หัวทองแดงและหน้ากากทองแดงเป็นต้นที่มีทั้งขนาดใหญ่และเล็กต่างๆกัน
    "ผู้เชี่ยวชาญเห็นว่าวัตถุโบราณเหล่านี้อาจะถูกนำเข้ามาในการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมระหว่างตะวันตกและตะวันออก ถ้าความคิดเห็นประการนี้ได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง เส้นทางสายไหมสายนี้ก็มีอยู่แล้วตั้งแต่กว่าสามพันปีก่อน
    "เส้นทางสายไหมอีกสายหนึ่งคือ นั่งเรือจากนครกวางเจาผ่านช่องแคบหม่านล่าเจีย(ช่องแคบมะละกาในปัจจุบัน) ไปถึงลังกา (ศรีลังกาในปัจจุบัน) อินเดียและอัฟริกาตะวันออก เส้นทางเส้นนี้ได้ชื่อว่า“เส้นทางสายไหมทางทะเล” วัตถุโบราณจากโซมาลีที่อัฟริกาตะวันออกเป็นต้นยืนยันว่า “เส้นทางสายไหมทางทะเล”สายนี้ปรากฎขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งของจีน
    "เส้นทางสายไหมทางทะเลได้เชื่อมจีนกับประเทศอารยธรรมที่สำคัญและแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมของโลก ได้ก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมในเขตเหล่านี้ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น“เส้นทางแลกเปลี่ยนระหว่างตะวันออกกับตะวันตก” เอกสารด้านประวัติศาสตร์ระบุว่า สมัยนั้นมาร์โค โปโลก็ได้เดินทางมาถึงจีนโดยผ่าน“เส้นทางสายไหมทางทะเล” ตอนกลับประเทศ เขาได้ลงเรือที่เมืองเฉวียนโจวของมณฑลฮกเกี้ยนของจีนกลับถึงเวนิส ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขาโดยผ่านเส้นทางสายนี้เหมือนกัน"
    ไหนๆ จะฟื้นฟูความยิ่งใหญ่ในอดีตของทางสายไหมแล้ว ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเสนอแผนเขตเศรษฐกิจทางสายไหมทั้งทางถนน รถไฟและทางเรือ มีการเชื่อมโยงเรื่องท่อน้ำมันและท่อก๊าซเพื่อย้อนยุคให้จีนกลับกลายมาเป็นศูนย์กลางการค้า และอารยะธรรมของโลกอีกครั้งหนึ่ง
    วงจรของทางสายไหมนี้ที่เจริญแล้วก็เสื่อมล่มสลายกินเวลาเกือบ3,000ปี ก่อนที่จะถูกรื้อฟื้นเพื่อให้ได้ถือกำเนิดใหม่
    thanong
    8/5/2015
    China ABC----พิพิธภัณฑ์บนอินเตอร์เนต
    China ABC----ประวัติศาสตร์ของจีน
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    6. กำเนิดทางสายไหม
    สถานีทีวีของญี่ปุ่นNHKใช้เวลา17ปีเพื่อทำสารคดีเรื่อง ทางสายไหม: การกำเนิดและการล่มสลายของอารยะธรรม (The Silk Road: The Rise and Fall of Civilizations) ก่อนที่จะถูกนำมาเผยแพร่ออกอากาศเป็นครั้งแรกในวันที่7เมษายน ปีคศ1980 โดยออกอากาศลงเป็นตอนๆ ถือว่าเป็นผลงานระดับคลาสสิคของประวัติศาสตร์การทำหนังสารคดีของญี่ปุ่นเลยทีเดียว
    จุดประสงค์ของการทำสารคดีเรื่องทางสายไหมก็เพื่อศึกษาว่าญีปุ่นโบราณได้รับอิทธิพลจากทางสายไหมมากเพียงใด
    หนึ่งในจุดเด่นของสารคดีทางสายไหมของNHKนี้คือเพลงประกอบที่แต่งโดยศิลปินคีตาโร่ เขาใช้เครื่องMinimoogหรือซินเทไซเซอร์เครื่องเล็กๆแต่งเพลงสายไหม ด้วยทำนองที่เรียบง่ายแต่บริสุทธิ์ ที่สะท้อนการเดินทางกลับไปสู่เส้นทางโบราณที่เต็มไปด้วยความท้าทาย ความลำบาก ภยันตรายและความตื่นตาตื่นใจที่ได้พบกับสถานที่แปลกตา ผู้คนต่างเผ่า และอารยะธรรมที่แตกต่างออกไป
    เพลงSilk Roadทำให้คีตาโร่เป็นศิลปินที่ดังไปทั่วโลกชั่วข้ามคืน
    ชีวิตคือการเดินทาง การเดินทางนั้นมี2รูปแบบ คือเดินทางจากโลกที่เราคุ้นเคยไปสู่โลกที่แลปก แลเเดินทางจากโลกที่แปลกมายังโลกที่เราคุ้นเคย
    ทุกครั้งที่เราได้ฟังเพลงSilk Roadของคีตาโร่ เราจะรู้สึกเหมือนได้เดินทางกลับไปยังโลกที่เราคุ้นเคย ในระหว่างทางได้พบกับโลกที่แปลก ความไม่เที่ยง และในใจร้องเรียกหาอยู่เสมอว่าเมื่อไหร่จะถึงบ้านที่เราคุ้นเคย
    thanong
    8/5/2015
    https://www.youtube.com/watch?v=BddSN2jNS9E
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    7. กำเนิดทางสายไหม
    จากมุมมองด้านภูมิรัฐศาสตร์ ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในยูเครนและทะเลจีนใต้สะท้อนถึงความพยายามของ สหรัฐที่จะสกัดกั้นรัสเซียและจีนที่กำลังจะมีอำนาจเพิ่มขึ้น เพราะว่ารัสเซียกำลังสร้างเขตเศรษฐกิจยูเรเซียให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของโลกด้วย ทรัพยากรธรรมชาติ อาหารและแรงงาน ขณะที่จีนมองตัวเองเป็นผู้นำเศรษฐกิจของโลกด้วยเส้นทางสายไหม
    สหรัฐจะปล่อยให้ทั้งรัสเซียและจีนผงาดไม่ได้
    ขั้วอำนาจเก่าของโลกทั้งสหรัฐ สหภาพยุโรปลและญี่ปุ่นกำลังเสื่อมจากการเผชิญกับภาระหนี้ที่เกินกว่าจะเยียวยา ความไม่มีเสถียรภาพทางการเงิน อัตราการว่างงานที่สูง และการเจริญเติบโตที่แทบจะไม่ขยับ ฐานะทางการเงิน กำลังถูกทำลายด้วยนโยบายดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซนต์ หรือดอกเบี้ยติดลบ การพิมม์เงินขนาดมหึมา และการสร้างฟองสบู่ในตลาดเงินที่รอวันจะแตก
    จุดจบของโลกเก่าคือการล่มสลายของเศรษฐกิจจากภาวะเงินฝืด หรือการล่มสลายของเศรษฐกิจจากภาวะเงินเฟ้อ หรือการก่อสงครามโลกครั้งที่3 อย่างใดอย่างหนึ่งต้องเกิดขึ้นโดยไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้
    ในขณะเดียวกัน รัสเซียและจีนค่อยๆเผยตัวออกมาเป็นผู้นำโลกใหม่ ทั้งสองประเทศต้องการความยอมรับ นับถือ และการยอมรับที่เท่าเทียมกันในเวทีด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสองประเทศ ต้องการปรับเปลี่ยนกฎและกติกาสำหรับการค้า การลงทุน การเงินและการเมืองของโลกในอนาคต
    ไม่เกินความคาดหมายเลยที่ทั้งสหรัฐและสหภาพยุโรปยอมไม่ได้ที่จะให้รัสเซียก้าวขึ้นมาท้าทาย มีการรวมพลังกันโอบล้อมรัสเซียด้วยกองทัพจากพันธมิตรนาโต้ ด้วยข้ออ้างเรื่องวิกฤติการณ์ในยูเครน ทั้งๆที่ยุโรปและสหรัฐเข้าไปหนุนการปฏิวัติรัฐบาลยูเครนที่มาจากการเลือกตั้ง และเป็นตัวก่อวิกฤติยูเครน
    การโอบล้อมรัสเซียด้วยกองทัพก็มีเป้าหมายที่จะกีดกันรัสเซียไม่ให้เล่นบทเด่นในยูเรเซีย เพราะว่ายูเรเซียเป็นหนึ่งในแหล่งทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของโลก
    สหรัฐเองก็ใช้นโยบายแกนหลักเอเชีย (Asia Pivot) เพื่อจะทวงคืนบทบาทและอำนาจของตัวเองในเอเชียแปซิฟิคโดยอ้างเรื่องความขัดแย้งในแถบทะเลจีนใต้ เหมือนกับที่รัสเซียโดน จีนเองก็ถูกโอบล้อมด้วยฐานทัพทหารของสหรัฐในประเทศในเอเชียแปซิฟิค
    การปิดล้อมจีนในแปซิฟิคก็เพื่อกันไม่จีนสามารถมีอิทธิพลเหนือเอเชีย และสกัดไม่ให้ทางสายไหมได้แจ้งเกิด เพราะว่าถ้าจีนลอยเงินหยวนได้เมื่อไหร่ และสามารถนำร่องในการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในทางสายไหม จีนจะพลิกขั้วอำนาจโลก แรงโน้มถ่วงของอำนาจโลกจะย้ายมายังจีนที่จะเป็นศูนย์กลางของเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในศตวรรษที่21
    thanong
    9/5/2015
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    8. กำเนิดทางสายไหม
    Zbigniew Brzezinski อดีตที่ปรึกษาทางความมั่นคงให้ประธานาธิบดีจิมมี่ คาร์เตอร์ เขียนหนังสือThe Grand Chessboardในปี1997 เพื่อวางพิมพ์เขียวของนโยบายภูมิรัฐศาสตร์การเมืองให้สหรัฐฯในการครอบงำรัสเซียและรักษาความเป็นเจ้าโลกของตัวเองต่อไป
    เขาเขียนว่ายูเครนเป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในตารางหมากรุกของยูเรเซีย ถ้าไม่มียูเครน รัสเซียจะไม่สามารถเป็นใหญ่ในยูเรเซียได้ แต่ถ้ารัสเซียยึดยูเครนและทรัพยากรที่สำคัญได้ รัสเซียจะเป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่เหนือทั้งยุโรปและเอเซีย
    นอกจากยูเครนแล้ว อาเซอร์ไบจาน เกาหลีใต้ ตุรกีและอิหร่านจะเป็นประเทศที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในภูมิรัฐศาสตร์
    Brzezinski แนะว่าในเมื่อยูเรเซียจะเป็นดินแดนที่มีความสำคัญในภูมิรัฐศาสตร์ของโลกต่อไในอนาคต สหรัฐฯจำต้องทำทุกอย่างไม่ให้มีมหาอำนาจใดของยูเรเซีย หรือรัสเซียนั่นเอง สามารถเติบโตขึ้นมาเพื่อท้าทายอำนาจของสหรัฐฯได้
    จึงไม่น่าแปลกใจที่17ปีให้หลัง สหรัฐฯก่อวิกฤติยูเครนเพื่อดึงเอายูเครนออกจากอ้อมอกของรัสเซีย และสกัดแผนการใหญ่ของปูตินที่จะสร้างอาณาจักรยูเรเซียที่มีดินแดนกว้างใหญ่เชื่อมโยงยุโรปและเอเซียเข้าด้วยกัน สหรัฐฯไม่ลดละที่จะตีคอกให้รัสเซียอยู่ในวงจำกัด
    หลังสงครามดลกครั้งที่2 สร้างนาโต้ขึ้นในปี1949เพื่อเป้นตัวแทนของโลกเสรี เพื่อปิดล้อมรัสเซีย ทำให้รัสเซียต้องตั้งกลุ่ม Warsaw Pactที่เป็นตัวแทนของค่ายคอมมูนิสต์ขึ้นมาในปี1954 ทั้งสองฝ่ายสู้กันผ่านสงครามเย็นและสงครามตัวแทนและการสะสมอาวุธนิวเคลียร์แข่งกัน จนในที่สุดรัสเซียแพ้ อาณาจักรโซเวียตล่มสลายในปี1991 แทนที่จะหยุดแค่นั้นสหรัฐฯและนาโต้แผ่ขยายอำนาจไปทางทิศตะวันออกเพื่อประชิดชายแดนรัสเซีย โดยดึงเอาประเทศสังคมนิยมยุโรปตะวันออกมาและเอาประเทศที่เคยอยู่ใต้อานัติของรัสเซียเข้าเป็นพวกแทนเพื่อทำลายความมั่นคงของรัสเซีย
    ในปี1998 โลกตะวันตกถล่มการเงินรัสเซียจนล้มละลายไปอีกรอบ และในเดือนตุลาคมปี2013 สหรัฐฯเริ่มแผนการก่อวิกฤติยูเครนเพื่อแตะแข้งแตะขารัสเซียตามพิมพ์เขียวใหญ่ที่Brzezinskiร่างเอาไว้ ถ้าจะต้องก่อสงครามเพื่อจะหยุดรัสเซีย ก็จำต้องทำ
    ในเดือนตุลาคมปี2014 Hillary Clintonผู้ที่หวังจะเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯกล่าวโจมตีปูตินและรัสเซียอย่างรุนแรง เธอบอกว่าปูตินเป็นภัยต่อประเทศในยุโรปและผลประโยชน์ของสหรัฐฯ เธอเรียกร้องให้มีมาตรการที่จะปิดกั้นไม่ให้ปูตินเดินได้
    เธอกล่าวถึงปูตินว่า :"ฉันเห็นเขาเป็นคนที่เลือดเย็น เป็นสายลับเคจีบีที่มีแผนสูงที่จะทำให้ตัวเองแลพพวกพ้องร่ำรวย และพยายามที่จะรื้อฟื้นอำนาจของรัสเซียรอบๆรั้วประเทศตัวเอง."
    และไม่น่าแปลกใจที่วิกฤติยูเครนนำไปสู่การแซงชั่นรัสเซียเพื่อทำลายรัสเซียทางเศรษฐกิจและการเงิน มีการทุบและถล่มค่าเงินรูเบิ้ลโดยแบง๕ืและกองทุนการเงินจากตะวันตก เพื่อว่ารัสเซียจะไม่สามารถจะผงาดมาเป็นผู้นำของยูเรเซียได้ ขณะนี้Eurasian Economic Unionกำลังแค่ตั้งไข่เท่านั้น มีประเทศที่เคยอยู่ใต้อาณาจักรโซเวียตเข้าร่วมไม่กี่ประเทศ
    รัสเซียโดนยำหนัก ทั้งการเมือง เศรษฐกิจและการเงิน และสื่อฝรั่งรายงานว่ารัสเซียเจ๊งแล้วจากการถูกโจมตีค่าเงินในเดือนธันวาคมปี2014 รอวันล้มละลาย ถ้าเป็นสมัยก่อน รัสเซียคงจะล้มครืนอย่างไม่เป็นท่า แต่ตอนนี้รัสเซียไม่ใช่รัสเซียในอดีต และมีจีนคอยหนุนหลังทางการเงิน เศรษฐกิจรัสเซียและการเงินเริ่มค่อยๆฟื้นตัวอย่างมีเสถียรภาพ
    แต่ตอนนี้รัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์ที่ไม่แพ้สหรัฐฯ และมีจีนที่คอยหนุนหลังอยู่ จีนจะไม่มีวันปล่อยให้รัสเซียล้มละลายได้ทางการเงินเป็นอันขาด เพราะว่าจะมีผลกระทบต่อความมั่นคงของจีนตามมา ปูตินจะไม่มีวันยอมแพ้เกมการเงินจนหมดตัวจริงๆ เพราะว่ามีนิวเคลียร์อยู่ในมือ ในเมื่อสหรัฐฯและยุโรปตั้งใจทำลายรัสเซีย และสหรัฐฯประกาศว่ามีสิทธิ์ยิงนิวเคลียร์เพื่อปกป้องตัวเองก่อน รัสเซียมีสิทธิืที่จะยิงนิวเคลียร์ใส่คู่ต่อสู้ก่อนเหมือนกัน
    ขณะนี้เป็นการลองเชิงกันอยู่ว่าใครจะมีอาวุธที่เหนือกว่ากัน นาโต้ทะยอยปิดล้อมจีน มีการส่งทหารเข้าไปในยูเครนเพื่อเผชิญหน้ากับรัสเซีย จะมีเซอร์ไพรซ์หรือไม่
    thanong
    9/5/2015
    http://original.antiwar.com/…/brzezinski-mapped-out-the-ba…/
    http://www.washingtonpost.com/…/hillary-clinton-forgets-he…/
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    9. กำเนิดทางสายไหม
    ในวันที่28 พฤษภาคม 2014 ประธานาธิบดีโอบามาพูดกับนักเรียนนายร้อยWest Point ในงานมอบปริญญาบัตรว่า การรุกรานของรัสเซียต่อประเทศที่เคยอยู่ภายใต้อาณาจักรโซเวียตทำให้เมืองหลวงของยุโรปทุกแห่งมีความกังวลใจเป็นอย่างมาก
    นอกจากนี้โอบามายังพูดว่าอำนาจทางเศรษฐกิจและทหารของจีนที่เพิ่มขึ้นทำให้ประเทศเพื่อนบ้านรู้สึกไม่สบายใจ จากบราซิลถึงอินเดีย ชนชั้นกลางของประเทศเกิดใหม่กำลังแข่งกับสหรัฐฯ และรัฐบาลของประเทศเหล่านี้ต้องการมีสิทธิมีเสียงมากขึ้นในเวทีระหว่างประเทศ
    ค่อนข้างจะชัดว่าโอบามาพูดให้นายทหารนายร้อยที่จบจากWest Pointฟังว่าภัยที่คุกคามความเป็นมหาอำนาจของสหรัฐคือการที่จีน รัสเซียและประเทศเกิดใหม่กำลังจะมีความเข้มแข็งขึ้น ทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร
    ตีความได้ว่า ถ้าสหรัฐฯจะคงความเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวต่อไป สหรัฐฯจะไม่รีรอในการใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อบรรลุผลเป้าหมาย
    โอบามายังพูดถึงAmerican exceptionalism หรือความวิเศษของอเมริกาที่ยกเว้นไม่เหมือนใคร "สหรัฐฯเป็นประเทศที่สำคัญที่สุด ซึ่งเป็นความจริงในศตวรรษที่แล้ว และจะเป็นจริงในศตวรรษนี้"
    หมายความว่าประเทศอื่นๆไม่สำคัญ จะอยู่หรือจะไม่อยู่ต่อไปไม่เป็นอะไร
    โอบามาพูดชัดว่าสหรัฐจะใช้กำลังทางทหารเมื่อเห็นว่าผลประโยชน์หลักของสหรัฐ (core interest) ถูกคุกคาม และถ้าต้องรบจะไม่รบเดี่ยวๆ แต่จะรนณรงค์ให้พันธมิตรเข้าร่วมรบด้วย
    คำว่าcore interestตีความหมายได้กว้างมาก แต่มันครอบคลุมไปยังทุกประเทศที่ไม่เดินตามนโยบายสหรัฐนั่นเอง
    ทั้งรัสเซียและจีนฟังสุนทรพจน์ของโอบามาแล้วรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที สหรัฐจะขอรวยหรือมีอำนาจแต่ผู้เดียวหรือ ประเทศอื่นขอรวยมั่ง ขอเจริญมั่ง
    ไม่ได้หรือไง
    thanong
    9/5/2015
    https://www.whitehouse.gov/…/remarks-president-west-point-a…
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    10. กำเนิดทางสายไหม
    The Council on Foreign Relations หรือCFR ซึ่งเป็นแหล่งคลังสมองของสหรัฐที่รับใช้ผลประโยชน์ของวอลล์สตรีทได้ออกรายงานเมื่อเร็วๆนี้ว่า สหรัฐต้องล้มจีนให้ได้ เพราะว่าจีนกำลังจะกลายเป็นมหาอำนาจที่เหนือกว่าสหรัฐ
    ชั่วโมงนี้ชกใส่หน้ากันเลย ไม่ต้องเต้นฟุตเวิร์คกันแล้ว
    รายงานของCRFนี้มีชื่อว่าRevising U.S. Grand Strategy Toward China
    เขียนโดย Robert D. Blackwill และAshley J. Tellis ทั้งคู่ลงความเห็นว่าความสำเร็จของจีนทางเศรษฐกิจในระยะ31ปีที่ผ่านมาทำให้จีนมีอำนาจมากโดยรวม ทำให้จีนสามารถมีอิทธิพลเหนือเอเซีย และทำลายเป้าหมายทางภูมิรัฐศาสตร์ของสหรัฐฯที่ถือภูมิภาคเอเซียนี้ต้องไม่มีใครเป็นมหาอำนาจเหนือผู้อื่น
    แสดงว่ามีเพียงสหรัฐเท่านั้นที่จะใหญ่ได้แต่ผู้เดียวในเอเซีย
    Richard Haass หัวหน้าใหญ่ของ CFR เขียนคำนำให้โดยบอกว่า ความสัมพันธ์ที่สำคัญที่สุดในศตวรรษที่21 คือความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและจีน
    เมื่อเป็นเช่นนี้ รายงานCFRบอกว่า สหรัฐจำต้องมีนโยบายที่ต่อเนื่องเพื่อตอบโต้กับจีนเนื่องจากจีนจะเป็นคู่แข่งที่สำคัญที่สุดของสหรัฐในอีกหลายสิบปีข้างหน้า นโยบายต่อจีนนี้เลยเวลาการปรับเปลี่ยนมานานแล้ว
    จีนผงาดขึ้นมาได้จากประเทศคอมมิวนิสต์ที่ล้าหลัง เนื่องจากนโยบายของสหรัฐต้องการให้จีนเข้าสู่ระเบียบโลกเสรี ผ่านการลงทุน การค้าและความร่วมมือด่านต่างๆ แต่ตอนนี้การผงาดของจีนเป็นภัยต่อความเป็นเจ้าของสหรัฐในเอเซีย ดังนั้นสหรัฐจำต้องมีนโยบายถ่วงดุลจีน แทนที่จะช่วยให้จีนผงาดขึ้นไปต่อ
    รายงานCFR บอกว่าสหรัฐต้องมียุทธศาสตร์ในการหยุดยั้งอันตรายจากภูมิเศรษฐกิจและอำนาจทางทหารของจีน ที่จะมีผลกระทบต่อผลประโยชน์ของสหรัฐในเอเซีย และทั่วโลก แม้ว่าสหรัฐและพันธมิตรจำต้องมีความสัมพันธ์ทางการทูตและเศรษฐกิจกับจีนต่อไป
    ข้อแนะนำของรายงานCFRมีดังต่อไปนี้:
    1. ให้สหรัฐมียุทธศาสตร์หลักในการต้านจีน ด้วยการเสริมความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นอันดับแรก
    2. เสริมความเข้มแข็งทางหทาร วอชิงตันต้องไม่มีเพดานการลงทุนทางงบประมาณทหาร สหรัฐต้่องมีฐานทัพเรือและอากาศในทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก
    3. สหรัฐต้องส่งเสริมการค้าเสรีในกรอบของTrans-Pacific Partnership โดยสภาคอนเกรซต้องให้อำนาจทำเนียบขาวในการดำเนินการเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน
    4. กีดกันจีนไม่ให้เข้าถึงเทคโนโลยี่ชั้่นสูง
    5. เพิ่มศักยภาพทางไซเบอร์เพื่อต้านจีน ไม่ให้จีนเข้าถึงไซเบอร์ข่าวสารและด้านอื่นๆ
    6. สหรัฐต้องสร้างความสัมพันธ์กับมิตรประเทศรอบๆจีน เพราะว่าจะเผชิญหน้ากับจีนโดดๆไม่ได้
    7. แต่สหรัฐจะยังคงเปิดทางการพูดคุยกับจีนตลอดเวลาในระดับต่างๆ
    ดูเอาก็แล้วกันว่ารายงานCFRมีสุ้มเสียงหรือข้อแนะอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพ มีแต่สร้างความแตกแยกและมุ่งเน้นแสนยานุภาพทางทหารของสหรัฐเพื่อสกัดจีนและประเทศอื่นๆที่ขัดผลประโยชน์สหรัฐ CFRมีอิทธิพลมาก เพราะว่าหลังจากเขียนรายงานเสร็จแล้ว กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐจะเอาไปปฏิบัติ
    แน่นอนรายงานCFRนี้ไม่ได้พูดออกมาตรงๆ แต่ที่จริงแล้วเกรงกลัวว่าทางสายไหมของจีนจะทำให้จีนกลายเป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่21 จึงจำต้องวางวุทธศาสตร์ใหม่เพื่อเตะแข้งเตะขาไม่ให้จีนเดินหน้าทางสายไหมได้
    thanong
    9/5/2015
    Robert D. Blackwill and Ashley J. Tellis: Revising U.S. Grand Strategy Toward China - Council on Foreign Relations
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    11. กำเนิดทางสายไหม
    ในระหว่างวันที่ 7-12 พฤษภาคม 2015 นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนจะอยู่ในระหว่างการเยือนคาซัคสถาน รัสเซียและเบลารุสอย่างเป็นทางการ จังหวะการเยือน3ประเทศนี้ ความหมายทางการทูต การเมือง เศรษฐกิจ และการทหารที่ลึกซึ้งของจีน
    ประการแรก การเยือนคาซัคสถาน รัสเซียและเบลารุสของประธานาธิบดีสี แสดงให้เห็นว่าจีนให้ความสำคัญกับเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) ที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียเป็นตัวตั้งตัวตีผลักดันให้เกิด เพราะว่าทั้ง3ประเทศนี้เป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซียที่จะเป็นเขตเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดของโลกแห่งหนึ่งในอนาคต
    ประการที่สอง จีนต้องการให้เขตเศรษฐกิจยูเรเซียสามารถผนวกหรือเชื่อมโยงกับทางสายไหมได้ แทนที่จะเป็นคู่แข่งกัน
    CRI Online สื่อของจีนรายงานว่า นายเฉิง กั๋วผิง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีนได้ระบุว่า รัสเซีย คาซัคสถานและเบลารุสล้วนเป็นประเทศตามเส้นทางสายไหมสมัยโบราณ และเป็นมิตรทางยุทธิศาสตร์ของจีน เพื่อความร่วมมือสำคัญในการพัฒนาหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางของจีน
    ในขณะที่รัสเซียกำลังวางแผนจะสร้างช่องทางข้ามทวีปยุโรป-เอเชีย เบลารุสก็เริ่มกระบวนการเพื่อสร้างสหพันธ์เศรษฐกิจเอเชีย-ยุโรป
    จีนเองและประเทศดังกล่าวก็กำลังหารือในเรื่องที่ว่าทำอย่างไงจึงจะสามารถกระชับความร่วมมือในการสร้างแถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหม เพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องสามารถดำเนินการสร้างสรรค์ร่วมกันและได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน
    ประการที่สาม ประธานาธิบดีสีต้องการให้เห็นถึงความสำคัญและเอกลักษณ์ของยุทธศาสตร์ความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างจีนกับรัสเซียด้วยการเข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์
    ในวันที่ 9 พฤษภาคม ประธานาธิบดีสีได้เข้าร่วมพิธีสวนสนามของทหารรัสเซียที่จัตุรัสแดง กรุงมอสโคว เพื่อฉลองครบรอบ 70 ปีแห่งชัยชนะสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ พิธีจัดได้ใหญ่โตมโฬารตระการตามาก ในขณะที่รัสเซียเอาชนะนาซีเยอรมันได้ จีนได้ทำสงครามต่อต้านญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ทั้งสองประเทศแม้จะได้ชัยในตอนท้ายแต่ต้องประสบกับความยากลำบากและเสียหายทั้งชีวิตประชาชนและทรัพย์สินอย่างมากในสงครามโลกครั้งที่2
    มีผู้นำโลกเข้าร่วม20ประเทศ แต่ปรากฎว่าผู้นำโลกอย่างประธานาธิบดีโอบามาของสหรัฐ เดวิด คาเมรอนนกยกรัฐมนตรีของอังกฤษ ปฏิเสธคำเชิญของมอสโควที่จะเข้าร่วมพิธีฉลองครบรอบ70ปีัแห่งชัยชนะต่อสงครามต่อต้านฟาสซิสต์ โดยอ้างเรื่องวิกฤติยูเครน ทั้งๆที่ในสงครามโลกครั้งนี้2 สหรัฐ อังกฤษและรัสเซียจับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อรบกับฮิตเลอร์ รัสเซียเสียหายหนักที่สุดในสงคราม และเป็นผู้เสียสละที่แท้จริง ในขณะที่สหรัฐเข้าทำสงครามทีหลัง และทำสงครามนอกบ้านตัวเอง เพราะว่าสงครามโลกครั้งที่2เวทีใหญ่อยู่ในยุโรป สหรัฐเข้ามาปิดเกม และเอาดีใส่ตัวแต่ผู้เดียวว่าเป็นฮีโร่ผู้ชนะสงครามโลกครั้งที่2 ส่วนอังกฤษเป็นอีแอบที่ก่อสงครามทั้งครั้งที่1และ2เพื่อล้มเยอรมันและประเทศต่างๆเพื่อผลักดันโลกให้อยู่ใต้อำนาจของกลุ่มแอลโกลแซกซอน (Anglo Saxon)
    ประธานาธิบดีปูตินจัดพิธีรำลึกชัยชนะเหนือนาซีเยอรมัน เพื่อแสดงให้เป็นแสนยานุภาพทางทหารของรัสเซียว่า พร้อมรบเต็มพิกัด ในขณะที่ประธานาธิบดีสีเข้าร่วมพิธีด้วยเพื่อแสดงให้เห็นว่าจีนจะเป็นพันธมิตรทางทหารกับรัสเซียในการเผชิญหน้ากับพวกแอลโกลแซกซอน ที่กำลังทำทุกอย่างเพื่อล้มกระดานเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย และทางสายไหม
    thanong
    9/5/2015
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงจะเยือนรัสเซีย คาซัคสถานและเบลารุสอย่างเป็นทางการและจะเข้าร่วม
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    12. กำเนิดทางสายไหม
    ในที่สุดการรวมตัวกันระหว่างเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) และทางสายไหมก็ลงตัว หลังจากการพบปะเจรจากันระหว่างประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดี วราดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย
    ผู้นำทั้งคู่เห็นว่าการรวมตัวกันระหว่างยูเรเซียและทางสายไหมมีแต่จะเอื้อประโยชน์ให้กัน เนื่องจากสภาพภูมิศาสตร์ที่ใกล้ชิดกัน ความต่อเนื่องของประวัติศาสตร์ของทางสายไหม และสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียและจีนที่ได้ลงลึกไปอีกหลายมิติ เพราะว่าทั้งรัสเซียและจีนกำลังเผชิญหน้ากับกลุ่มแองโกลแซกซอนอย่างที่เรียกว่าใครดีใครอยู่
    มีการเซ็นสัญญาร่วมมือกันหลายฉบับระหว่างรัสเซียและจีนเพื่อผนวกเอายูเรเซียและทางสายไหมเข้าด้วยกัน
    “การรวมตัวกันของยูเรเซียและทางสายไหม หมายความว่ามิตรภาพความร่วมมือกันได้มาถึงระดับใหม่ และสะท้อนให้เห็นที่ว่างที่เดียวกันบนทวีปของโครงการทั้งสอง" ปูตินกล่าว
    ในข้อตกลงเพื่อเสริมความร่วมมือระหว่างยูเรเซียและทางสายไหม จีนจะลงทุน$5.8พันล้านเพื่อก่อนสร้างรถไฟความเร็วสูงสาย MoscowและKazan ทางรถไฟนี้จะเชื่อมต่อไปยังจีน เชื่อมโยงรัสเซียและจีนผ่านประเทศคาซัคห์สถาน
    ถือได้ว่าทางรถไฟความเร็วสูงนี้ เป็นส่วนหนึ่งของทางสายไหม ที่จะเชื่อมโยงจีน กับยุโรปและตะวันออกกลาง โครงการร๔ไฟความเร็วสูงระหว่าง Moscow-Kazanต้องใช้เงินลงทุนทั้งหมด$21.4 พันล้าน
    นอกจากจะมีข้อตกลงทางการเงินระหว่างแบงค์ระหว่างรัสเซียและจีน ทางบริษัทผลิตก๊าซGazpromของรัสเซียและ National Petroleum Corporation (CNPC)จีนได้เซ้นสัญญาส่งก๊าซจากรัสเซียเข้าจีน โดยความร่วมมือนี้จะกินเวลา5ปี จะมีการวางท่อก๊าซ Altaiระยะ1ถึงระยะ3
    ชัดเจนแล้วว่าจีนและรัสเซียจะเดินหน้าสร้างทางสายไหมและยูเรเซียให้เป็นเครื่องยนต์ของการเจริญเติบโตของโลกในศตวรรษที่21 ไม่ว่ากลุ่มแองโกลแซกซอนจะพยายามขัดแข้งขัดขาอย่างไรก็ตาม
    thanong
    9/5/2015
    http://rt.com/busine…/256877-russia-china-deals-cooperation/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    13. กำเนิดทางสายไหม
    มีสุภาษิตของอาหรับที่จักกันดีว่า The dog barks but the caravan moves on. แปลว่าไม่ว่าหมาจะเห่าอย่างไรก็ตาม แต่กองคาราวานจะเดินหน้าต่อไป
    สุภาษิตอาหรับนี้ใช้ได้ดีกับทางสายไหม แม้ว่าแองโกลแซกซอนจะขู่หรือจะเห่าอย่างไรก็ตาม จีนต้องเดินหน้าโครงการทางสายไหมต่อไปโดยไม่สนใจหรือหันหลังกลับมามอง
    thanong
    9/5/2015
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    14. กำเนิดทางสายไหม
    ทางสายไหมต้องใช้เม็ดเงินลงทุนมหาศาล แต่จีนได้แย้มออกมาให้เห็นแล้วว่าเงินไม่ใช่ปัญหา โดยก้อนแรกเอามารวมกันเห็นจะๆแล้วจะมีประมาณ$156,300ล้าน หรือเกือบ5ล้านล้านบาท
    ในจำนวนนี้ Asia Infrastructure Investment BankหรือAIIBจะปล่อยกู้$50,000ล้าน
    กองทุนทางสายไหม (Silk Road Fund)จะให้ความช่วยเหลือ $40,000ล้าน,
    New Development Bank หรือธนาคารเพื่อการพัฒนาของกลุ่มBRICSจะปล่อยกู้$30,000ล้าน
    China New Development Bank จะปล่อยกู้$16,300ล้าน
    Asean Infrastructure Connectivity Funds จะให้ความช่วยเหลือ$20,000ล้าน
    รวมเม็ดเงินทั้งหมดสำหรับการไฟแนนซ์ทางสายไหมสูงถึงเกือบ5ล้านล้านบาท และการปล่อยกู้หรือการให้ความช่วยเหลือโครงการที่เกี่ยวข้องกับทางสายไหมจะอยู่ในรูปของเงินหยวนที่กำลังจะลอยตัว เมื่อเป็นเช่นนี้ทางสายไหมจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับการแจ้งเกิดของเงินหยวนในฐานะที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก เพื่อที่จะมาเทียบเคียงเงินดอลล่าร์สหรัฐ
    คิดดูก็แล้วกัน โครงการเส้นสายไหม และเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซียจะบอยคอตกลับบ้างโดยจะไม่ใช้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักในการแลกเปลี่ยน หรือเข้ามาเกี่ยวข้องแล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับดอลล่าร์?
    thanong
    9/5/2015
    Mapping the New Silk Road
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    15. กำเนิดทางสายไหม
    ยุโรปมีเขตเศรษฐกิจร่วมยุโรปที่ไปไกลถึงขนาดใช้เงินกลุมยูโรร่วมกัน (European Union) กลุ่มประเทศอาเซี่ยนมีเขตประชาคมเศรษฐกิจอาเซี่ยน (Asean Economic Community) รัสเซียกำลังจะสร้างเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) และจีนกำลังจะสร้างทางสายไหม (Silk Road Economic Belt and Road)
    แล้วสหรัฐจะเล่นไพ่อะไร?
    จะเห็นได้ว่ารายงานของCFR ชื่อว่า "Revising U.S. Grand Strategy Toward China" ที่เขียนโดยRobert D. Blackwill และAshley J. Tellis ได้แนะนำให้รัฐบาลสหรัฐบล๊อคจีนให้ได้ เพื่อไม่ให้จีนเติบโตกล้าแกร่งจนเป็นคู่แข่งสหรัฐได้ในเอเซีย โดยสหรัฐต้องใช้นโยบายทางทหารและเศรษฐกิจเชิงรุก เพื่อว่าสหรัฐจะสามารถรักษาสถานภาพความเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในเอเซีย
    นโยบายเศรษฐกิจเชิงรุกของสหรัฐคือ กรอบความร่วมมือการค้าเสรีTrans-Pacific Partnership หรือTPPที่มีการก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี2005 แต่ยังคงอยู่ระหว่างการเจรจากับประเทศผู้เข้าร่วมทั้งหมด12ประเทศคือสหรัฐ ออสเตรเลีย บรูไน แคนาดา ชิลี ญี่ปุ่น มาเลย์เซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ และเวียดนาม
    ประธานาธิบดีบุชริเริ่มTPPด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนว่าต้องการสกัดอำนาจหรืออิทธิพลทางเศรษฐกิจของจีนในเอเซีย เพราะว่าระบุตั้งแต่ต้นว่าจะไม่เชิญให้จีนเข้าเป็นสมาชิกของTPP แม้ว่าจีนเป็นประเทศที่มีความสำคัญมากที่สุดในเอเซียแปซิฟิค
    ที่ผ่านมาการเจรจาการค้าเสรีTPPเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคนานัปการ เพราะว่าจะเป็นการเปิดเสรีจริงๆ ติดขัดกันในการเจรจาระหว่างสมาชิกประเทศในเรื่องที่อ่อนไหว เช่นการเกษตร ทรัพย์สินทางปัญญา ภาคบริการและการลงทุน
    ตอนที่โอบามามาเยือนไทยในสมัยรัฐบาลปู ได้พยายามจีบให้ไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิกของTPP ทางรัฐบาลไทยตกลงจะศึกษาเรื่องTPP แต่โชคดีที่ไทยคงจะไม่เข้าร่วม เพราะว่าเข้าไปแล้วออกไม่ได้ ต้องหมดตัวตายแน่ๆ โดนบรรษัทข้ามชาติของสหรัฐกินรวบหมด
    ตอนนี้การเจรจาTPPเข้าสู่โค้งสำคัญ โอบามาต้องการให้สภาคอนเกรซให้อำนาจพิเศษกับเขา (fast track authority)ในการเจรจาปิดดีลTPP โดยที่คอนเกรซไม่สามารถแก้ไขได้ มีแต่โหวตเยส หรือโนเท่านั้น
    ปรากฎว่าคอนเกรซกำลังมีปัญหากับโอบามาอยู่ เพราะว่าทางUS Trade Representative ที่ดูแลเรื่องนี้ไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดของข้อตกลงว่าจะทำให้สหรัฐได้หรือเสียอะไรบ้าง โอบามาก็ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน โดยด่ากราดว่าพวกที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะพวกเดโมแครทด้วยกันเป็นพวกบ๊องตื้น ทั้งๆที่TPPจะเปิดการค้าเสรี จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น
    ว่ากันเข้าไป
    แต่เอาเข้าจริง วาระแอบแฝงของTPP คือ1. จะเป็นการโอนอำนาจหรือกลไกการค้าหรือระเบียบต่างๆจากรัฐบาลไปยังบรรษัทข้ามชาติให้มีอำนาจเหนือรัฐบาล บรรษัทข้ามชาติคุมรัฐบาลสหรัฐอีกต่อหนึ่ง และ
    2. ที่สำคัญที่สุดเขตการค้าเสรีTPPจะส่งเสริมให้มีการใช้ดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป และจะเป็นการสกัดการผงาดของเงินหยวนของจีน
    ดูTPPแล้วจะมาแข่งกับทางสายไหมของจีนแล้วมันเทียบกันไม่ติดเลย ในขณะที่สหรัฐจ้องเอาเปรียบประเทศสมาชิกTPPลูกเดียวโดยให้เปิดการค้าเสรีทุกภาคส่วนให้บรรษัทข้ามชาติที่เข้มแข็งของสหรัฐ เพื่อสหรัฐจะได้ตีกินฝ่ายเดียว ส่วนเส้นทางสายไหม จีนพร้อมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยออกเงินไปก่อน เพื่อนำพาประเทศต่างๆเข้าสู่ขบวนการเชื่อมโยงมากยิ่งขึ้นทั้งทางด้านรัฐศาสตร์ ภูมิศาตร์ ประวัติศาสตร์ เศรษฐกิจ การเงินและความสั้มพันธ์ระหว่างประเทศ
    แน่นอนจีนหวังผลระยะยาวกับเส้นทางสายไหม ในส่วนของTPP สหรัฐหวังหลอกแดกประเทศคู่เจรจาระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวลูกเดียว
    thanong
    9/5/2015
    http://www.politico.com/…/secrecy-eroding-support-for-trade…
    http://www.nytimes.com/…/nike-to-create-jobs-if-trans-pacif…
    Trans-Pacific Partnership - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]
    ·
    16. กำเนิดทางสายไหม
    เส้นทางสายไหมประกอบด้วยเส้นทางที่เป็นถนน เส้นทางเรือ รวมทั้งเส้นทางรถไฟ แต่หัวใจของทางสายไหมคือเส้นทางถนนที่เรียกว่าEconomic Belt หรือเข็มขัดเศรษฐกิจที่เริ่มต้นจากเมืองซีอาน ผ่านUrumqiทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ก่อนที่จะวิ่งตัดผ่านเอเซียกลางหลายประเทศ อิหร่าน อิรัก ก่อนที่จะไปสิ้นสุดที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี
    เมื่อทางสายไหมEconomic Beltสร้างเสร็จแล้ว จะเชื่อมโยงจีนกับเอเซียกลาง ตะวันออกกลาง ไปถึงยุโรป เพราะว่าเมืองอิสตันบูล แบ่งเป็นสองส่วน คือส่วนที่เป็นเอเซีย และส่วนที่เป็นยุโรป ความเจริญจะมาสู่ภูมิภาค เพราะว่าการเชื่อมโยงทางถนนจะทำให้การคมนาคมไปมาหาสู่กัน รวมทั้งการขนส่งสินค้าเป็นไปด้วยความสะดวกมากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นการฟื้นเส้นทางสายไหมโบราณที่จีนมีการค้ากับเอเซียกลางและตะวันออกกลาง ก่อนที่สนค้าจีนจะไปถึงโรม
    ตามแผนที่จะเห็นได้ว่า เส้นทางถนนจากอิสตันบูลสามารถขึ้นเหนือไปถึงกรุงมอสโคว และจากมอสโควสามารถเชื่อมโยงไปทางตะวันตก ตัดผ่านยุโรปตะวันออกและยุโรปตะวันตก ก่อนที่จะไปสิ้นสุดที่เมืองร๊อตเตอร์ดาม ซึ่งเป็นเมืองท่าของเนเธอร์แลนด์ และเป็นเมืองท่าที่สำคัญที่สุดของยุโรป จากร๊อตเตอร์ดาม มีถนนตัดลงมาถึงเมืองเวนิสของอิตาลี
    เวนิส ซึ่งเป็นมหาอำนาจทางการค้า ทางทะเลตั้งแต่สมัยก่อน จะเป็นจุดเริ่มต้นของเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road) ที่สามารถเดินทางผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปแวะที่กรุงเอเธนส์ของกรีซ ก่อนที่จะแล่นเรือลงมาผ่านครองซูเอซของอิยิปต์ที่แอฟริกาเหนือเข้าทะเลแดง ก่อนที่จะไปถึงฮับทางการเดินเรือที่นำคัญคือกรุงไนโรบีของประเทศเคนยาที่แอฟริกาตะวันออก
    จากเคนยาสามารถแล่นเรือไปอินเดียตอนใต้และมุ่งเหนือไปยังบังคลาเทศ หรือจากอินเดียตอนใต้วิ่งตัดไปทางตะวันออกเข้าช่องแคบมะละกา ผ่านไปยังเวียดนามเหนือ ก่อนที่จะไปสิ้นสุดเส้นทางไหมทางทะละที่ประเทศจีน
    ทำให้เส้นทางสายไหมทางถนน และเส้นทางสายไหมทางทะเลเชื่อมโยงกันพอดีเป็นโดยอ้อมสามทวีปคือเอเซีย ยุโรปและแอฟริกา
    แต่โจทย์ที่จะยากที่สุดของเส้นทางสายไหม ไม่ใช่เรื่องเงิน หรือเรื่องการก่อสร้าง แต่เป็นเรื่องความมั่นคง ทำอย่างไรที่จะให้บริเวณเส้นทางสายไหมผ่านมีความสงบสุข ไม่มีการรบราฆ่าฟันกัน หรือการก่อการร้าย เพราะว่าถ้ามีเหตุการณ์ไม่สงบ หรือภาวะสงคราม การเดินทางด้วยเส้นทางสายไหมจะเป็นไปอย่างลำบาก หรือเป็นไปไม่ได้
    เมื่อมีอภิมหาโครงการใหญ่อย่างเส้นทางสายไหมเกิดขึ้นอย่างนี้ ก็ต้องมีมารมาผจญเป็นธรรมดา มารตัวนี้ไม่ต้องการให้เส้นทางสายไหมได้เกิดอย่างสะดวก เพราะว่าเป็นพวกอิจฉาตาร้อน เป็นพวกประเภทกูขอใหญ่คนเดียว คนอื่นใหญ่ไม่ได้ และจะทำทุกอย่างเพื่อล้มทางสายไหมให้ได้
    thanong
    10/5/2015
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    17. กำเนิดทางสายไหม
    แต่ทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road)ใช่ว่าจะสามารถพัฒนาได้อย่างราบรื่น เพราะว่าจีนกำลังมีข้อพิพาทในดินแดนในทะเลจีนใต้กับประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ มาเลย์เซีย และบรูไน
    ถ้าจีนจะสามารถพัฒนาทางสายไหมทางทะเลได้ ปัญหาความขัดแข้งในทะเลจีนใต้ต้องได้รับการแก้ไขให้ยุติโดยสันติวิธี
    คู่กันของจีนในทะเลจีนใต้ตัวจริงคือเวียดนามและฟิลิปปินส์ เพราะว่ามีดินแดนที่ใกล้ชิดบริเวณที่ขัดแย้งกันมากที่สุด คือหมู่เกาะสแปรทลีย์ จีนกำลังเดินเนินการสร้างสิ่งปลูกสร้างในบริเวณหมู่เกาะนี้ ทำให้ทั้งเวียดนามและฟิลิปินส์เต้น เชื่อกันว่าบริเวณนี้อุดมด้วยทรัพยาการธรรมชาติทางพลังงาน
    ในเมื่อลุยเดี่ยวสู้จีนไม่ได้ ประเทศที่มีปัญหากับจีนในทะเลจีนใต้จึงจับมือกันสู้กับจีนผ่านกรอบของอาเซี่ยนที่มีสมาชิก10ประเทศ กลายเป็นว่าจีนต้องเผชิญหน้ากับอาเซี่ยน10ประเทศในข้อขัดแย้งทะเลจีนใต้ ไม่ได้คุยกันตัวต่อต่อ
    นี้คือจุดยืนที่แตกต่างกันระหว่างจีนกับอาเซี่ยน จีนบอกว่าจีนมีข้อพิพาทกับประเทศที่เป็นสมาชิกของอาเซี่ยนจริง แต่จีนไม่ได้มีปัญหากับสมาคมอาเซี่ยน เพราะว่าสมาคมอาเซี่ยนเป็นองค์กร ไม่ได้มีสถานภาพที่จะมีหรือถือกรรมสิทธิ์ใดๆในดินแดนในทะเลจีนใต้
    การประชุมอาเซี่ยนซัมมิท หรือระดับผู้นำสุดยอดที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาทะเลจีนใต้ยังคงเป็นระเบิดเวลาที่อาจจะตูมขึ้นมาได้ทุกเวลา
    Voice of America รายงานว่า:
    "ผู้นำอาเซี่ยน นำโดยนายนาจิบ ราซัคนายกรัฐมนตรีของมาเลย์เซียในฐานะเจ้าภาพได้ผลักดันให้อาเซี่ยนออกแถลงการณ์แสดงจุดยืนร่วมในท่าทีที่เป็นกังวลใจกับการสร้างสิ่งปลุกสร้างบนเกาะในทะเลจีนใต้ที่เป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ ความมั่นคง และเสถียรภาพในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้
    "แต่จุดยืนดังกล่าวของอาเซียนกลับถูกตอบโต้จากจีน โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนนาย Hong Lei กล่าวว่าจีนมีความกังวลอย่างยิ่งต่อความเห็นของบรรดาผู้นำประเทศอาเซียนที่ร่วมประชุมอยู่ที่มาเลเซีย
    "โฆษก Hong Lei กล่าวว่าจุดยืนของจีนในเรื่องทะเลจีนใต้มีความมั่นคงและชัดเจน ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างจีนกับสมาคมอาเซียน และว่าจีนต้องการแก้ไขข้อพิพาทเรื่องนี้โดยเคารพต่อความจริงทางประวัติศาสตร์และกฏหมายระหว่างประเทศ
    "นาย Najib Razak กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่าผู้นำอาเซียนพยายามโน้มน้าวให้จีนเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จากการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับประเทศสมาชิกอาเซียน เพราะหากเสถียรภาพของอาเซียนสั่นคลอน จะส่งผลกระทบไปถึงจีนอย่างเลี่ยงไมได้
    "เป็นเวลา 13 ปีมาแล้วที่อาเซียนและจีนพยายามจัดทำ Code of Conduct หรือระเบียบปฏิบัติว่าด้วยทะเลจีนใต้ เพื่อใช้เป็นแนวทางจัดการข้อพิพาทเรื่องพื้นที่ทับซ้อน และเพื่อป้องกันผลประโยชน์ด้านดินแดนและเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่มีความคืบหน้าเกิดขึ้นมากนัก
    "นายกฯ Najib Razak กล่าวว่าอาเซียนจำเป็นต้องจัดการความขัดแย้งแตกต่างในประเด็นเรื่องพื้นที่ทับซ้อนนี้ โดยไม่ก่อให้เกิดความตึงเครียดยิ่งขึ้น และว่าทะเลจีนใต้คือเส้นทางขนส่งสินค้าสำคัญของโลก ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นในแถบนี้จึงได้รับการจับตามองไปทั่วโลก รวมทั้งข้อพิพาทล่าสุดซึ่งอาเซียนต้องจัดการแก้ไขโดยเร็ว ในแนวทางที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย
    "ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้รุนแรงขึ้น หลังจากมีภาพถ่ายดาวเทียมเปิดเผยให้เห็นภาพสิ่งก่อสร้างหลายอย่างในแถบหมู่เกาะ Spratly เช่นอาคารหลายชั้น ท่าเทียบเรือที่สามารถรองรับเรือของทหารได้ ตลอดจนสิ่งที่ดูเหมือนเส้นทางขึ้นลงเครื่องบินที่ใกล้เสร็จสมบูรณ์
    "หมู่เกาะ Spratly มีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอุดมสมบูรณ์ และเชื่อว่าอาจมีแหล่งน้ำมันและแก๊สธรรมชาติซุกซ่อนอยู่ หมู่เกาะแห่งนี้อยู่ห่างจากจีนมากกว่า 3,000 กม. แต่ห่างจากฟิลิปปินส์ 860 กม. และห่างจากเวียดนามไม่ถึง 800 กม."
    แต่มีฉันทามติจริงหรือระหว่างประเทศอาเซี่ยนด้วยกันต่อปัญหาความขัดแข้งในทะเลจีนใต้ เพราะว่ามีหลายประเทศที่ไม่ได้มีเอี่ยวอะไรในเรื่องนี้
    เส้นทางสายไหมทางทะเลกำลังเจอกับมรสุมใหญ่ทั่้งๆที่เรือยังไม่ทันได้ออกจากท่า
    thanong
    10/5/2015
    http://www.voathai.com/…/asean-china-south-chi…/2744199.html
    http://www.voanews.com/…/concerns-about-south-…/2735701.html
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    18. กำเนิดทางสายไหม
    ผู้ที่เป็นตัวตั้งตัวตีในการเผชิญหน้ากับจีนมากที่สุดในข้อพิพาทในทะเลจีนใต้คือฟิลิปปินส์ รองลงมาคือเวียดนาม
    ที่ประชุมสมาคมอาเซี่ยนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศของฟิลิปปินส์ Albert del Rosario เรียกร้องให้ประเทศสมาชิกอาเซียนพร้อมใจกันต่อต้านการกระทำของจีนในทะเลจีนใต้ และขอให้จีนหยุดการก่อสร้างใดๆ ในบริเวณหมู่เกาะ Spratly
    ปัญหาทะเลจีนใต้มีความสลับซับซ้อนมากขึ้นไปอีกเมื่อสหรัฐเสนอตัวเข้ามาเป็นพี่เลี้ยงให้ฟิลิปปินส์ และเวียดนามก็ได้ดึงเอาสหรัฐเข้ามาเพื่อถ่วงดุลจีน ทั้งสองประเทศยอมให้สหรัฐใช้ดินแดนของประเทศตัวเองเป็นฐานทัพ
    เรื่องนี้ทำให้จีนเดือดดาลเป็นฟืนเป็นไฟ เพราะว่าสหรัฐพยายามหาทางเข้ามาขอมีส่วนร่วมในทะเลจีนใต้อยู่แล้ว โดยอ้างเสรีภาพในการเดินเรือ แต่แท้ที่จริงต้องการแบ่งแยกและปกครองภูมิภาคนี้ต่อไป และสหรัฐต้องการปิดล่้อมจีนผ่านพันธมิตรอาเซี่ยนที่คยกันมานานตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2
    อย่างไรก็ตาม ไม่มีฉันทามติในอาเซี่ยนในปัญหาทะเลจีนใต้ เกิดความแตกแยกในกลุ่มอาเซียนขึ้นมาด้วยซ้ำ เพราะว่าลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่งล้วนไม่ได้กล่าวอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ไม่ต้องการแสดงท่าทีอะไรที่จะทำให้เกิดความบาดหมางกับจีน รวมทั้งไทยที่อยู่ตรงกลางกำลังทำหน้าที่สานสัมพันธ์ทางทหารกับจีน ส่วนฟิลิปปินส์กับเวียดนามมีข้อพิพาทกับจีนอย่างดุเดือดโดยมีสหรัฐคอยหนุนอยู่ข้างหลัง
    ล่าสุดข่าวจากไทยรัฐในวันที่8 พฤษภาคม 2015รายงานจุดยืนของกัมพูชาว่า:
    "กัมพูชาแสดงท่าทีสนับสนุนจีนในปัญหาพิพาทน่านน้ำทะเลจีนใต้ ควรแก้ปัญหากันเองในกลุ่มประเทศผู้ร่วมอ้างสิทธิ สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ไม่ควรเกี่ยวข้อง
    "ท่าทีดังกล่าวของกัมพูชา ซึ่งไม่ใช่ผู้ร่วมอ้างสิทธิครอบครองน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ มีขึ้นในการประชุมกับกลุ่มนักการทูต 28 ประเทศในกรุงพนมเปญซึ่งมีขึ้นแบบลับเมื่อวันที่ 7 พ.ค. นางเซือง รัตชาวี ปลัดกระทรวงต่างประเทศกัมพูชา แถลงว่าการอ้างสิทธิครอบครองเขตแดนทะเลจีนใต้ต้องแก้โดยกลุ่มประเทศเกี่ยวข้อง อาเซียนไม่สามารถแก้ปัญหานี้ได้ พวกเรา (อาเซียน) ไม่ใช่สถาบันทางกฎหมาย ไม่ใช่ศาลที่ตัดสินได้ว่าใครผิดใครถูก ยืนยันกัมพูชาเป็นกลาง ไม่ได้ถูกจีนครอบงำ จีนไม่ได้เป็นเพื่อนสนิทแค่กัมพูชา แต่ยังคบหาสนิทกับประเทศอื่นๆ ที่ต่อต้านจีนด้วย แต่นางเซืองไม่ได้ระบุว่ามีประเทศใดบ้าง
    "โดยจีนอ้างสิทธิครอบครองน่านน้ำทะเลจีนใต้กว่า 90% เน้นย้ำมานานแล้วว่าอาเซียนไม่ใช่คู่กรณีขัดแย้ง และควรแก้ไขแบบทวิภาคีกับผู้ร่วมอ้างสิทธิอย่างเวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไนฯ และมาเลเซีย ขณะที่กัมพูชาก็ไม่ยอมใส่ปัญหาพิพาทนี้ในแถลงการณ์ที่ประชุมอาเซียนเมื่อปี 2555 ส่วนที่ประชุมอาเซียนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเลเซียก็ไม่ได้ระบุชื่อจีนในแถลงการณ์อาเซียนเมื่อกล่าวถึงข้อพิพาทในทะเลจีนใต้."
    เรื่องทะเลจีนใต้กำลังจะบานปลาย และจะเป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงของเส้นทางสายไหมทางทะเล
    thanong
    10/5/2015
    http://www.voathai.com/…/asean-summit-opening-…/2737286.html
    กัมพูชาหนุนจีนแก้ปัญหาทะเลจีนใต้ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    19. กำเนิดทางสายไหม
    เริ่มจับคู่กันชัดเจนมากยิ่งขึ้นระหว่างจีน+รัสเซีย และระหว่างญี่ปุ่น+สหรัฐ ซึ่งกำลังนำไปสู่การเผชิญหน้าที่ตรึงเครียดมากยิ่งขึ้นระหว่างคู่รักคู่แค้นนี้ และอาจจะนำไปสู่สงครามตัวแทนในเอเซีย
    ในวันที่ 9พฤษภาคมที่มอสโควจัดให้มีพิธีเดินสวนสนามที่จัตุรัสแดงเพื่อฉลองชัยชนะของกองทัพรัสเซียที่มีต่อฟาสซิสต์ฮิตเลอร์เมื่อ70ปีที่แล้ว ปรากฎว่ามีกองทหารเกียติยศของจีนเข้าร่วมเดินสวนสนามด้วย โดยที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียและประธานาธิบดีสีของจีนเป็นผู้ร่วมชมพร้อมผู้นำโลกประมาณ20ประเทศ
    การมาร่วมเดินขบวยกองทหารเกียรติยศของจีนเป็นสัญลักษณ์สื่อให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทางทหารที่สนิทแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นระหว่างจีนและรัสเซีย มีการซ้อมรบทางทหารด้วยกัน และมีการซื้อขายอาวุธกันเพิ่มมากขึ้น ทั้งๆที่ทั้งสองประเทศเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามเย็น คอมมิวนิสต์จีนและคอมมิวนิสต์รัสเซียถือกันคนละตำรา ของจีนเป็นการปฏิวัติชาวนา ส่วนของรัสเซียเป็นการปฏิวัติของชนชั้นแรงงาน แต่เอาเข้าจริงแล้วจีนและรัสเซียบาดหมางกันเรื่องผลประโยชน์ของชาติมากกว่าเรื่องอุดมการณ์คอมมิวนิสต์
    Gilbert Rozman ผู้เชี่ยวชาญความสัมพันธ์จีนและรัสเซียแห่งมหาวิทยาลัยPrincetonกล่าวว่า จีนและรัสเซียลงเอยด้วยกันดี แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในเรื่องผลประโยชน์ของประเทศ แต่ทั้งคู่กำลังเผชิญหน้ากับศัตรูเดียวกัน คือสหรัฐ
    ช่วงระหว่างวันที่26เมษายนและ3พฤษภาคมที่ผ่านมา นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นได้เดินทางไปเยือนกรุงวอชิงตันดีซีอย่างเป็นทางการ ถือว่าเป็นการไปคานอำนาจของจีนและรัสเซียและตอกย้ำความสัมพันธ์ระหว่างนายกับลูกน้อง เพราะว่าญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่สอง และตั้งแต่นั้นมาถูกสหรัฐคุมให้เดินอยู่ในกรอบมาตลอด แม้กระทั่งการป้องกันประเทศ ญี่ปุ่นจำต้องพึ่งพากองทัพสหรัฐเป็นหลัก
    มีสองวาระที่สำคัญที่สุดของการเดินทางไปดีซีของนายอาเบะคือ 1. ข้อตกลงความร่วมมือทางทหาร และ 2.ข้อตกลงทางการค้าเสรีภายใต้กรอบของTrans-Pacific Partnership (TPP)
    ในข้อตกลงความร่วมมือทางทหาร ญีปุ่่นจะร่วมปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯด้วยการช่วยสหรัฐทำสงครามในกรณีที่สหรัฐถูกโจมตี เช่นถ้าหากว่าเกาหลีเหนือยิงจรวดใส่สหรัฐ ญี่ปุ่นสามารถยิงจรวดขึ้นไปสกัดได้ นอกจากนี้ความร่วมมือทางทหารจะไปไกลถึงให้ญี่ปุ่นสามารถส่งทหารออกไปร่วมรบหรือลาดตระเวณนอกพื้นที่ของประเทศ
    แน่นอนเราคงได้เห็นญี่ปุ่นส่งทหารมาช่วยสหรัฐลาดตระเวณในทะเลจีนใต้ในไม่ช้า เพราะว่าญีปุ่่นกำลังเปลี่ยนแปลงประเทศกลับไปสู่ความเป็นรัฐทหารอีกครั้ง
    ส่วนอีกวาระหนึ่งที่สำคัญของนายอาเบะคือการการผลักดันการเจรจากรอบการค้าเสรี "ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก" (TPP) ให้ลุล่วงไปด้วยดี กลุ่มTPP มีสมาชิกเข้าร่วมทั้งหมด 12 ประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เวียดนาม ออสเตรเลีย ชิลี และเปรู แต่การเจรจาระหว่างสหรัฐกับญี่ปุ่นเจอทางตันหลายประการ เช่น สหรัฐเรียกร้องให้ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวเพื่อการบริโภคมากขึ้น ขณะที่ฝั่งญี่ปุ่นต้องการให้มะกันยกเลิกภาษีนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์
    นายอาเบะได้รับเกียรติให้ไปกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมสภาร่วมของคอนเกรซ และเขาใช้เวทีนี้เพื่อโน้มน้าวให้ทั้งวุฒิสมาชิกและผู้แทนราษฎรของสหรัฐสนับสนุนTPP โดยยอมโหวตให้ประธานาธิบดีโอบามามีอำนาจเร่งด่วนพิเศษ (fast track authority)ในการปิดดีลTPP โดยที่คอนเกรซจะโหวตข้อตกลงTPPว่าจะให้ผ่านหรือไม่ แต่ไม่สามารถแก้ไขรายละเอียดของข้อตกลงได้
    เป็นที่รู้กันว่า ญี่ปุ่นเดินเกมช่วยสหรัฐบล๊อคจีนไม่ให้ผงาดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิค เพราะว่าญีปุ่่นก็มีปัญหาข้อพิพาทในหมู่เกาะเซนกากุ หรือเตียวหยูในภาษาจีน แต่ญี่ปุ่นรู้ตัวดีเหมือนกันว่าถ้าจีนใหญ่ขึ้นมา จะถูกเอาคืนเพราะว่าในอดีตญี่ปุ่นก่อสงครามฆ่าคนจีนไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโศกนาฏกรรมนานกิง
    เห็นได้ชัดเจนว่าในเส้นทางสายไหมของศตวรรษที่21 จะไม่มีสหรัฐและญีปุ่่นเข้าร่วม นอกจากจะไม่ร่วมแล้วต้องหาทางสกัดไม่ให้เกิดอีกด้วย สหรัฐจะเข้ามาช่วยถือหางประเทศอาเซี่ยนที่มีปัญหาข้อพิพาททะเลจีนใต้กับจีน กองทัพเรือของสหรัฐพร้อมประจำการแล้ว ส่วนทางเศรษฐกิจและการเงินสหรัฐและญี่ปุ่นต้องใช้TPPเพื่อมาแข่งกับ หรือสกัดทางสายไหม
    ความขัดแย้งในโลกมี3จุดในขณะนี้ คือ1.ตะวันออกกลาง 2. ยูเครน 3. ทะเลจีนใต้ มีโอกาสสูงที่หนึ่งใน3จุดนี้จะพัฒนาออกเป็นสงครามที่ขยายวง ดูๆแล้วมีความเสี่ยงว่าสงครามตะวันออกกลางหรือวิกฤติยูเครนจะเป็นเป้าหลอก เป้าจริงของแองโกลแซกซอนอาจจะต้องการล่้มจีนหรือล้มทางสายไหมในทะเลจีนใต้ก็ได้ เพราะว่าจีนเป็นภัยต่อความเป็นมหาอำนาจของแองโกลแซกซอนมากว่ารัสเซีย
    ทางสายไหมยังต้องฟันฝ่าอุปสรรคขวากหนามอีกมาก
    thanong
    10/5/2015
    http://www.zerohedge.com/…/isolated-china-and-russia-demons…
    http://www.rubbersurat.com/…/20…/28147-27-04-2015-qq---qtppq-
    http://www.defensenews.com/…/us-japan-new-militar…/26443297/
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    มันกำลังมา
    พายุฤดูร้อนถล่ม จ.สุโขทัย-ยุติการแข่งบอลยามาฮ่าลีกวันกลางคัน
    10/5/2015

    พายุฤดูร้อนถล่ม จ.สุโขทัย-ยุติการแข่งบอลยามาฮ่าลีกวันกลางคัน Sun, 10/05/2015 - 09:41

    <iframe width="615" height="346" src="https://www.youtube.com/embed/RN6FeTSY_6s" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เมื่อวานนี้ (9 พ.ค.2558) เกิดพายุฤดูร้อนที่พื้นที่ อ.เมือง จ.สุโขทัย โดยได้สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานศาลจังหวัดสุโขทัย รวมทั้งต้องยุติการแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน ระหว่างทีมสุโขทัยเอฟซี กับ นครปฐมเอฟซี กลางคัน


    การแข่งขันฟุตบอลยามาฮ่าลีกวัน ที่สนาม อบจ.สุโขทัย ทุ่งทะเลหลวง อ.เมือง จ.สุโขทัย ระหว่างทีมสุโขทัยเอฟซี กับ นครปฐมเอฟซี ต้องยุติลง หลังแข่งขันในครึ่งหลังได้เพียง 7 นาที เนื่องจากพายุฤดูร้อนทำให้ฝนตกอย่างหนัก และมีลูกเห็บจำนวนมาก อีกทั้งไฟภายในสนามฯ ได้ดับลงทั้งหมด ขณะที่ลมกระโชกแรงได้ส่งผลกระจกห้องพักกรรมการและห้องแถลงข่าวแตก เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 คน จากการโดนเศษกระจกบาด โดยนำตัวส่งโรงพยาบาลสุโขทัย

    นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานสโมสรฟุตบอลสุโขทัยเอฟซี กล่าวว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นเหตุสุดวิสัย แม้จะพยายามแก้ไขระบบไฟฟ้าเพื่อให้สามารถกลับมาแข่งขันต่อในครึ่งหลัง แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเกิดความเสียหายรุนแรง

    นอกจากนี้ พายุฤดูร้อนยังได้พัดถล่มสำนักงานศาลจังหวัดสุโขทัยและบริเวณพุทธมนฑล ที่อยู่ในบริเวณทุ่งทะเลหลวง ทำให้หลังคาของสำนักงานศาลฯ ได้รับความเสียหายบางส่วน

    พายุฤดูร้อนถล่ม จ.สุโขทัย-ยุติการแข่งบอลยามาฮ่าลีกวันกลางคัน - ข่าวไทย...
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองกำลังที่ภักดีต่อผู้นำเยเมนยึดคืนพื้นที่สำคัญจากกลุ่มกบฏฮูตี Sat, 09/05/2015 - 13:58

    [​IMG]

    การสู้รบในเมืองท่าเอเดนทางภาคใต้ของเยเมนยังดำเนินไปอย่างดุเดือด ล่าสุดกองกำลังติดอาวุธที่ภักดีต่อผู้นำเยเมน สามารถโจมตีรุกคืบยึดพื้นที่ 2 เขตสำคัญของเมืองจากกลุ่มกบฎฮูตีไว้ได้แล้ว

    กองกำลังที่ภักดีต่อประธานาธิบดีอับด์ รับบู มานซูร์ ฮาดี ผู้นำเยเมน ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติ สามารถยึดพื้นที่ 2 เขตสำคัญ ในเมืองท่าเอเดนจากกลุ่มกบฏฮูตีไว้ได้ หลังเปิดการสู้รบกันอย่างดุเดือดมาเป็นเวลาหลายวัน โดยมีกองทัพซาอุดิอาระเบียและชาติพันธมิตรอาหรับเปิดการโจมตีทางอากาศสนับสนุน

    การรุกคืบเข้ายึดเขตสำคัญในเมืองท่าเอเดนมีขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง หลังจากซาอุดิอาระเบียประกาศหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมในเยเมนเป็นเวลา 5 วัน เริ่มมีผลในวันอังคารที่ 12 พ.ค.2558 โดยมีเงื่อนไขว่ากลุ่มกบฏฮูตีจะต้องหยุดยิงเช่นกัน

    การสู้รบในเยเมนที่ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติ สร้างความวิตกให้กับนานาชาติถึงสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงทุกขณะ ขณะที่การโจมตีทางอากาศของซาอุดิอาระเบีย ทำให้ชาวเยเมนเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 1,300 คน

    นอกจากนี้ยังสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและระบบสาธารณูปโภค รวมทั้งเป็นสาเหตุของการขาดแคลนอาหาร ยาและเชื้อเพลิง คาดว่ามีชาวเยเมน 20 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 80 ของประชากรทั้งหมดกำลังเผชิญความอดอยากอยู่ในขณะนี้

    กองกำลังที่ภักดีต่อผู้นำเยเมนยึดคืนพื้นที่สำคัญจากกลุ่มกบฏฮูตี - ข่าวไ...
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "เดวิด คาเมรอน" เป็นนายกฯ อังกฤษอีกสมัย-ได้เสียงข้างมากในสภาฯ Fri, 08/05/2015 - 21:00

    [​IMG]

    วันนี้ (8 พ.ค.2558) เวลาประมาณ 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 21.30 น.เวลาประเทศไทย การนับคะแนนเลือกตั้งทั่วไปของสหราชอาณาจักรทั้ง 650 เขตเสร็จสิ้นไปแล้ว ผลการเลือกตั้งปรากฏว่าพรรคอนุรักษ์นิยมที่มีนายเดวิด คาเมรอน เป็นหัวหน้าพรรค ได้เสียงข้างมากคือ 331 ที่นั่ง ทำให้เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรต่ออีกหนึ่งสมัยและพรรคอนุรักษ์นิยมได้เป็นรัฐบาลเสียงข้างมากพรรคเดียว ขณะที่ผลการเลือกตั้งทำให้หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่ 3 พรรคประกาศลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อความพ่ายแพ้

    ขณะที่ผลการเลือกตั้งเต็มไปด้วยสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ทั้งการพ่ายแพ้ของผู้สมัครที่เป็นตัวเก็ง ชัยชนะอย่างถล่มทลายของพรรค SNP ในสกอตแลนด์ ไปจนถึงการสอบตกของ "ไนเจล ฟาราจ" หัวหน้าพรรค UKIP

    พรรคที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุด 5 อันดับแรก คือ พรรคอนุรักษ์นิยม 331, พรรคแรงงาน 232, พรรคสกอตติช เนชันแนล (SNP) 56, พรรคลิเบอรัล เดโมแครต 8, เดโมแครต ยูเนียนนิสต์ 8

    ผลการนับคะแนนที่ออกมาแตกต่างจากผลการหยั่งเสียงหน้าคูหาเลือกตั้งหรือเอ็กซิท โพล ที่บอกว่าพรรคอนุรักษ์นิยมจะได้ 316 ที่นั่ง และพรรคแรงงานได้ 239 และพรรคลิเบอรัล เดโมแครตได้ 10 ที่นั่ง

    ภายหลังรู้ผลการเลือกตั้งเกือบครบทุกเขต "ไนเจล ฟาราจ" หัวหน้าพรรค UKIP ได้แถลงลาออกจากตำแหน่ง ตามด้วย "นิค เคล็กก์" ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคลิเบอรัล เดโมแครต เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการที่พรรคได้ส.ส.น้อยกว่าที่ตั้งเป้า

    เวลาใกล้เคียงกัน "เอ็ด มิลิแบนด์" ได้แถลงยอมรับความพ่ายแพ้และประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคแรงงาน เพื่อแสดงความรับผิดชอบที่ไม่สามารถทำให้พรรคได้จำนวนส.ส.เข้าไปนั่งในสภาฯ ตามจำนวนที่ตั้งเป้าหมายไว้ได้



    มิลิแบนด์แสดงความเสียใจต่อผู้สมัครของพรรคที่พ่ายแพ้การเลือกตั้งและบอกว่าความพ่ายแพ้นี้เป็นความรับผิดชอบของเขาแต่เพียงผู้เดียว เขากล่าวขอโทษที่ทำตามเป้าหมายไม่ได้ แต่เขาได้พยายามอย่างดีที่สุดแล้วตลอด 5 ปีที่ผ่านมา พร้อมกับขอบคุณทีมงานของพรรค ประชาชนที่สนับสนุนทุกคน และยืนยันว่าเขาจะเดินหน้าทำงานเพื่อประชาชนต่อไป

    "ขออย่าได้เสียใจกับความพ่ายแพ้ พรรคแรงงานของเราเคยกลับมาแข็งแกร่งมาแล้วในอดีต และเราจะต้องกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" มิลิแบนด์กล่าว เรียกเสียงปรบมือดังกึกก้องจากผู้สนับสนุน

    การที่พรรคอนุรักษ์นิยมมีเสียงข้างมากในสภาเวสต์มินสเตอร์ส่งผลให้นายเดวิด คาเมรอน หัวหน้าพรรคได้เป็นนายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักรต่ออีกสมัย ซึ่งนายคาเมรอนได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เวลา 12.30 น.ตามเวลาอังกฤษ จากนั้นได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 10 ถ.ดาวนิง ที่พำนักของนายกรัฐมนตรีอังกฤษและกล่าวถ้อยแถลงเป็นครั้งแรกหลังรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

    นายคาเมรอนกล่าวว่าเขาจะทำตามนโยบายที่แถลงไว้ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งโดยเร็ว ซึ่งรวมถึงการจัดลงประชามติว่าสหราชอาณาจักรจะเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไปหรือไม่ ให้อำนาจการปกครองตนเองแก่สกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนทุกกลุ่ม

    นายกฯ อังกฤษบอกว่า เอ็ด มิลิแบนด์ หัวหน้าพรรคแรงงานโทรศัพท์มาแสดงความยินดีกับเขาเมื่อเช้านี้ นายคาเมรอน ยกย่องหัวหน้าพรรคแรงงานว่าเป็นผู้ที่มุ่งมั่นทำงานเพื่อสาธารณะอย่างแท้จริง

    ส่วนผลการเลือกตั้งในสกอตแลนด์ พรรคสกอตติช เนชันแนลหรือ SNP กวาดที่นั่งเกือบหมดคือ 56 จาก 59 ที่นั่ง เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2010 ถึง 50 ที่นั่ง ส่วนพรรคแรงงาน คู่แข่งสำคัญของ SNP ได้ส.ส.มาเพียง 1 คน ลดลงจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้วถึง 40 คน

    สรุปผลการเลือกตั้งในสกอตแลนด์ พรรค SNP ได้ส.ส.56 คน, พรรคแรงงาน 1 คน, พรรคอนุรักษ์นิยม 1 คน และ พรรคลิเบอรัล เดโมแครต 1 คน รวมส.ส. 59 คน

    พรรค SNP ช่วงชิงที่นั่งจากพรรคแรงงานไปได้หลายเขตรวมทั้งเขตเลือกตั้งของ "จิม เมอร์ฟีย์" ผู้นำพรรคแรงงานในสกอตแลนด์ และ "ดักลาส อเล็กซานเดอร์" โฆษกฝ่ายการต่างประเทศและผู้อำนวยการเลือกตั้งของพรรคแรงงานที่พ่ายแพ้ต่อผู้สมัครจากพรรค SNP คือ "ไมรี แบล็ค" ชัยชนะครั้งนี้ทำให้แบล็ค อายุ 20 ปี เป็นส.ส.ที่มีอายุน้อยที่สุดในสภาฯ นับตั้งแต่ปี 1667

    ด้วยจำนวน ส.ส.ถึง 56 คน ทำให้พรรค SNP เป็นพรรคใหญ่อันดับสามในสภาเวสต์มินสเตอร์ ตามหลังพรรคอนุรักษ์นิยม และพรรคแรงงาน

    "นิโคลา สเตอร์เจียน" นักการเมืองหญิงวัย 45 ปีหัวหน้าพรรค SNP จึงน่าจะเป็นผู้ที่มีความสุขมากที่สุดในการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการนำพาพรรคช่วงชิงที่นั่งจากพรรคคู่แข่งได้จำนวนมาก ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าเป็นผลจากการที่พรรค SNP มีบทบาทในการลงประชามติแยกสกอตแลนด์เมื่อปีที่แล้ว

    ก่อนการเลือกตั้ง พรรค SNP ถูกโจมตีอย่างหนักโดยเฉพาะจากพรรคแรงงานว่ามีนโยบายที่จะทำให้สหราชอาณาจักรแตกแยกเนื่องจากพรรค SNP เป็นพรรคที่สนับสนุนให้สกอตแลนด์แยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร และมีบทบาทอย่างมากในช่วงที่มีการลงประชามติแยกสกอตแลนด์เมื่อเดือนกันยายน 2557 ซึ่งผลออกมา 55 ต่อ 45 เปอร์เซ็นต์ไม่ต้องการให้แยกประเทศ

    แต่สเตอร์เจียนยืนยันว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้จะนำไปสู่การลงประชามติแยกสกอตแลนด์อีกครั้งหนึ่งอย่างที่หลายคนกล่าวหา เธอให้สัมภาษณ์บีบีซีหลังจากรู้ผลการเลือกตั้งในสกอตแลนด์ว่า คนที่เลือกพรรค SNP ไม่ได้มีแต่ผู้ที่สนับสนุนการแยกสกอตแลนด์ คนที่ไม่เห็นด้วยกับการแยกประเทศก็เลือกพรรค SNP เช่นกัน ซึ่งนั่นแสดงว่าพรรคของเธอเป็นตัวแทนของชาวสกอตแลนด์อย่างแท้จริง



    เธอย้ำอีกครั้งว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ที่พรรค SNP ได้ส.ส.มากถึง 56 คน ไม่ได้เป็นสัญญาว่าจะมีการทำประชามติแยกสกอตแลนด์เป็นครั้งที่ 2

    "การลงประชามติจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น" สเตอร์เจียนกล่าว

    "ไทยพีบีเอส" ได้สัมภาษณ์ชาวสกอตแลนด์บางคนที่เป็นผู้สนับสนุนพรรค SNP ซึ่งมีทั้งคนที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแยกประเทศ ส่วนใหญ่บอกว่าเลือกพรรค SNP เพราะอยากให้มี ส.ส.สกอตแลนด์เข้าไปนั่งในสภาฯ เยอะๆ เพื่อให้การกำหนดนโยบายของประเทศเป็นไปในทางที่ดีต่อสกอตแลนด์

    การเลือกตั้งสหราชอาณาจักรโดยภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นับตั้งแต่เปิดคูหาให้ประชาชนมาลงคะแนนเลือกตั้งระหว่างเวลา 07.00-22.00 น. ของวันที่ 7 พ.ค.2558 มีหน่วยเลือกตั้งประมาณ 50,000 แห่งทั่วประเทศ และมีผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งประมาณ 35 ล้านคน การนับคะแนนใช้เวลาทั้งหมดราว 15 ชั่วโมง คณะกรรมการการเลือกตั้งเป็นผู้ประกาศชื่อผู้ชนะในแต่ละเขต โดยผู้สมัครทุกคนจะมายืนรวมกันบนเวทีขณะฟังประกาศผลการนับคะแนนและชื่อผู้ชนะ หลังจากนั้นผู้สมัครอาจขึ้นมากล่าวอะไรเล็กน้อย เช่น ขอบคุณผู้มาใช้สิทธิ์ อวยพรให้ผู้ชนะหรือประกาศท่าทีทางการเมืองของตนหลังการเลือกตั้ง

    ขณะที่อัตราการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 66 เปอรเซ็นต์ นับว่าสูงที่สุดนับตั้งแต่การเลือกตั้งปี 1997

    กุลธิดา สามะพุทธิ ผู้สื่อข่าวไทยพีบีเอสออนไลน์ รายงานจากกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

    "เดวิด คาเมรอน" เป็นนายกฯ อังกฤษอีกสมัย-ได้เสียงข้างมากในสภา...
     

แชร์หน้านี้

Loading...