ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าการเกาะเปอร์โตริโกลงนามรับรองการใช้ “กัญชา” ทางการแพทย์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2558 07:38 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:22 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - อเลฮันโดร การ์เซีย ปาดิญา ผู้ว่าการเกาะเปอร์โตริโก ดินแดนในปกครองของสหรัฐฯ ในทะเลแคริบเบียนลงนามในคำสั่งเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) อนุญาตให้มีการใช้ “กัญชา” ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่จำกัดการใช้เฉพาะด้านการแพทย์เท่านั้น

    คำสั่งดังกล่าวซึ่งมีผลบังคับใช้ในทันที ถูกประกาศหลังมีการถกเถียงกันเป็นวงกว้างในสังคมเปอร์โตริโกนานหลายเดือนเกี่ยวกับความเหมาะสมและผลกระทบทางสังคมที่อาจเกิดขึ้นหลังจากกัญชากลายเป็น “สิ่งถูกกฎหมาย”

    อย่างไรก็ดี ผู้ว่าการเกาะเปอร์โตริโกยืนยันว่ารัฐบาลท้องถิ่นภายใต้การนำของเขาจะดำเนินทุกมาตรการที่จำเป็นเพื่อให้การใช้กัญชาถูกจำกัดวงอยู่แต่เฉพาะในวงการแพทย์เท่านั้น

    จนถึงขณะนี้มี 23 มลรัฐในสหรัฐฯ ที่มีการรับรองการใช้กัญชาทางการแพทย์ให้เป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ขณะที่จาเมกาได้กลายเป็นดินแดนแห่งแรกในทะแลแคริบเบียนที่รับรองกัญชาเช่นกัน


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000051003
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไข้เลือดออกระบาดหนักในบราซิล ปีนี้สังเวยแล้ว 229 ศพ ติดเชื้ออีกมากกว่า 7.4 แสนราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 พฤษภาคม 2558 07:01 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:15 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - กระทรวงสาธารณสุขบราซิลแถลงในวันจันทร์ (4 พ.ค.) ระบุในปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในแดนแซมบ้าแล้ว 229 ราย

    คำแถลงของกระทรวงสาธารณสุขบราซิลระบุ ในปีนี้มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกในแดนแซมบ้าแล้วทั้งสิ้น 229 ราย จากจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออกที่มีจำนวนสูงถึง 745,900 รายทั่วประเทศ ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าในปีที่แล้วถึง “234%”

    นครเซาเปาโลซึ่งเป็นบ้านของประชากรมากกว่า 12 ล้านคน ถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางของการระบาดของไข้เลือดออก จากการที่มียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 169 ราย และติดเชื้ออีก 401,564 ราย ส่งผลให้มหานครแห่งนี้ต้องเผชิญกับการระบาดของไข้เลือดออกในระดับที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา

    ทั้งนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกของเมื่อปีที่แล้ว บราซิลมียอดผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก 44 ราย และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในนครเซาเปาโล


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบเพิ่ม 100 ศพหมู่บ้านนักเดินป่า รมว.เนปาล กลับลำบอกยินดีต้อนรับ จนท.กู้ภัยต่างชาติ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 22:35 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:08 น.)

    [​IMG]
    @ชาวพุทธเนปาลไหว้พระสวดมนตร์ที่หน้าพระพุทธรูป ด้านนอกของมหาเจดีย์โพธินาถ ในกรุงกาฐมาณฑุ เมื่อวันจันทร์ (4) ซึ่งชาวพุทธนิกายมหายานในเนปาลและอีกหลายๆ ประเทศถือว่าเป็นวันวิสาขบูชา

    เอเจนซีส์ - ตำรวจเนปาลและอาสาสมัครพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 100 รายใต้กองหิมะที่ถมทับหมู่บ้านนักเดินป่า “ลังตัง” ขณะที่เอกอัครราชทูตเมืองลุงแซมคุยเครื่องบินขนส่งอเมริกันที่เพิ่งเดินทางถึง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง “ฉับพลันทันที” ต่อปฏิบัติการกู้ภัยและแจกจ่ายความช่วยเหลือแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล ด้านรัฐมนตรีสารสนเทศของเนปาลออกมาพูดใหม่ว่า ต้องการความช่วยเหลือนานาชาติอย่างมหาศาล และยินดีให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติอยู่ในเนปาลนานเท่าที่ปรารถนา

    ทางการเนปาลเปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (4 พ.ค.) ว่าได้ขุดพบร่างผู้เสียชีวิตราว 100 ศพในหมู่บ้านลังตังในวันเสาร์และวันอาทิตย์ (2-3) โดยหมู่บ้านดังกล่าวห่างจากกาฐมาณฑุทางเหนือ 60 กิโลเมตร และเป็นเส้นทางเดินเขายอดนิยมของชาวตะวันตกซึ่งถูกหิมะถล่มฝังมิดทั้งหมู่บ้าน รวมถึงเกสต์เฮาส์ทั้ง 55 หลัง

    ในจำนวนผู้เสียชีวิตเหล่านี้เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 7 ราย ทว่า สามารถระบุตัวตนได้เพียง 2 ราย นอกจากนั้นยังไม่รู้แน่ชัดว่ามีคนอยู่ในหมู่บ้านมากน้อยเพียงใดขณะเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่บางคนระบุว่าอาจยังมีร่างผู้เสียชีวิตฝังอยู่ใต้หิมะประมาณ 120 รายหรือมากกว่านั้น

    รัฐบาลเนปาลแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เมษายน ล่าสุดเพิ่มเป็น 7,276 ราย บาดเจ็บกว่า 14,300 คน

    มิเรนทรา ไรจาล รัฐมนตรีสารสนเทศเนปาล แถลงในวันเดียวกันว่า ในอีก 2-3 สัปดาห์ รัฐบาลจะต้องมีแผนฟื้นฟูประเทศที่เป็นรูปธรรม ซึ่งจะต้องใช้งบประมาณมหาศาล จึงอยากเรียกร้องให้นานาชาติให้การสนับสนุนเนปาลในเรื่องนี้ด้วย

    รัฐมนตรีเนปาลสำทับว่า เนปาลยินดีต้อนรับและเจ้าหน้าที่กู้ภัยต่างชาติสามารถอยู่ในเนปาลนานเท่าที่ต้องการ คำพูดของเขาเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามจากที่ก่อนหน้านี้เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่า เนปาลไม่ต้องการปฏิบัติการกู้ภัยจากต่างชาติอีกต่อไป และต้องการให้เจ้าหน้าที่เหล่านั้นเดินทางกลับประเทศ

    ทั้งนี้ นับจากเนปาลประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปีเมื่อปลายเดือนที่แล้ว มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยและบรรเทาทุกข์ 4,050 คนจาก 34 ประเทศเดินทางไปให้การช่วยเหลือ

    ล่าสุดคือ ทหารอเมริกัน 100-120 คนที่เดินทางไปพร้อมกับเครื่องบิน 8 ลำเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งรวมถึงเครื่องฮิวอี้, ซี-17 และออสเปรย์ และคาดว่าฮิวอี้จะเริ่มปฏิบัติภารกิจประเมินสถานการณ์เพื่อวางแผนการช่วยเหลือตั้งแต่เช้าวันจันทร์

    ปีเตอร์ ดับเบิลยู. บ็อดดี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงกาฐมาณฑุ ให้สัมภาษณ์หลังจากทีมบรรเทาทุกข์ของอเมริกาเดินทางถึงเนปาลว่า เครื่องบินขนส่งสหรัฐฯ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทันทีทันใดในความพยายามช่วยเหลือเพื่อนำปฏิบัติการกู้ภัยและสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปแจกจ่ายในพื้นที่ห่างไกลของเนปาล

    เจ้าหน้าที่เนปาลผู้หนึ่งเสริมว่า เครื่องบินอเมริกันอาจช่วยนำประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยด้วย

    ขณะเดียวกัน องค์การพัฒนาเอกชน แฮนดิแคป อินเตอร์เนชันแนลรายงานว่า คนไข้ 12% หรือราว 3,000 คนที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 4 แห่งในกาฐมาณฑุ แวลลีย์ มีอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง นอกจากนี้ยังมีคนไข้ที่จำเป็นต้องตัดอวัยวะทิ้งเพิ่มขึ้นและคาดว่า จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    อนึ่ง วันอาทิตย์ที่ผ่านมาบริษัทที่บริหารจัดการการปีนเขาประกาศระงับเทศกาลปีนเขาเอเวอเรสต์ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ หลังจากเหตุหิมะถล่มหลังแผ่นดินไหวทำให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และนับจากนั้นได้เกิดอาฟเตอร์ช็อกและการสั่นไหวตามมาไม่หยุดหย่อน

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050963
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เฒ่าเนปาลวัย 101 ปีแปลกใจ รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวได้อีกครั้ง ยอมรับคราวนี้น่ากลัวกว่า 80 ปีก่อน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 20:21 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:04 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ตอนที่บ้านของเขาพังลงมา แล้วยังมีหินก้อนใหญ่ตกทับหน้าอก ฟานชู ตามัง เกษตรกรชาวเนปาลวัย 101 ปี ผู้เคยรอดชีวิตมาจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อ 80 ปีก่อน คิดว่าคราวนี้เวลาของเขานั้นคงหมดเสียแล้ว

    แต่แล้ว ตามัง ก็ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปส่งโรงพยาบาลอย่างปลอดภัย เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอก ขาและแขนเมื่อวันเสาร์ (2 พ.ค.) ที่ผ่านมา หรือ 1 สัปดาห์เต็มๆ หลังจากเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ที่สร้างความเสียหายหนักให้กับเนปาล ด้วยตัวเลขผู้เสียชีวิตกว่า 7,300 ราย นับเป็นภัยพิบัติที่เลวร้ายสุดในรอบกว่า 8 ทศวรรษ

    ขณะที่ก้อนหินกำลังถล่มลงมาจากเนินที่อยู่รอบหมู่บ้านของเขา ในจังหวัดนูวาโคต ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุออกไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 80 กิโลเมตร บ้านของเขาก็พังถล่ม ก้อนหินน้อยใหญ่ก็กระเด็นเข้าใส่

    “ผมอยู่ในสวน ตอนที่ก้อนหินตกใส่ ผมคิดว่าคงจะต้องตายแน่” ตามัง บอกกับเอเอฟพีในวันจันทร์จากบนเตียงในโรงพยาบาลที่เขาเข้ารับการรักษาตัว

    “แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ผมกลับรอดตายได้ในครั้งนี้ เช่นเดียวกับครั้งก่อน” เขาเล่าพร้อมกับบอกด้วยว่า ภัยพิบัติเมื่อวันที่ 25 เมษายน น่ากลัวยิ่งกว่าแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในหุบเขากาฐมาณฑุเมื่อปี 1934

    หลายชั่วโมงต่อมา ลูกสะใภ้ได้ดึงตัวเขาขึ้นมาจากกองซากปรักหักพัง ตามังต้องใช้ชีวิตอยู่ในสวนเป็นอาทิตย์ จนกระทั่งกองทัพเนปาลนำตัวเขาขึ้นเฮลิคอปเตอร์พาไปส่งโรงพยาบาลเมื่อวันเสาร์

    “เธอช่วยผมไว้ ไม่งั้นผมคงตายไปแล้ว” ตามังบอกพร้อมกับยืนยันว่าเขาอายุ 101 ปี

    “มีคนตายมากมายในหมู่บ้านของเรา กลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปหมด ซากศพพากันเน่าเปื่อย ไม่มีพระทำพิธีศพ” เขากล่าว

    ตอนแรกตำรวจระบุว่า ตามังติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังในบ้านของตัวเองมาตลอด นับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา แต่ในภายหลังตำรวจได้บอกว่า อันที่จริงแล้วตามังได้รับความช่วยเหลือจากบริเวณสวนของเขา ซึ่งเขาใช้เป็นที่หลบภัยมาตั้งแต่เกิดเหตุภัยพิบัติ

    ตามังบอกว่า เนื่องจากมีร่างคนตายมากมายกองสุมรวมกัน ผู้คนในชุมชนแห่งนี้ที่มีจิตศรัทธาในศาสนาพุทธ จึงได้ตัดสินใจร่วมกันจัดพิธีเผาศพครั้งใหญ่ในสัปดาห์ที่แล้ว

    การช่วยตามังได้สำเร็จนับเป็นข่าวดีที่หาได้ยากสำหรับเนปาล หลังจากที่มีการประกาศอย่างเป็นทางการในวันเสาร์ ว่าจะยุติการค้นหาผู้รอดชีวิตที่ถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

    “ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะดวงดีรึเปล่า แต่ที่รู้คือผมเป็นคนแข็งแรง ผมทำงานในทุ่ง ผมเดินทุกวัน” เขากล่าว

    “ตอนนี้ผมเริ่มสงสัยแล้วว่าเมื่อไหร่ผมถึงจะตาย แล้วทำไมจึงมีคนหนุ่มสาวมากมายที่จากโลกไปก่อนผม” ตามังบอกนักข่าว

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวขนาด 4.0 ตามด้วยคลื่นระลอกอาฟเตอร์ช็อกเขย่า “ซานฟรานซิสโก”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 18:31 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:01 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ – เกิดแผ่นดินไหวระดับ 4.0 แมกนิจูด และตามด้วยระลอกอาฟเตอร์ช็อกตามมาหลังจากนั้นในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ (3 พ.ค.) ยังไม่มีรายงานความเสียหายเบื้องต้น

    RT สื่อรัสเซียรายงานเมื่อวานนี้ (3) ว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.0 แมกนิจูดบริเวณซานฟรานซิสโก เบย์แอเรีย ทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ในเวลาหลังจาก 14.00 น.เมื่อวานนี้ ห่างไปไม่เกิน 12 ชม. หลังมีรายงานเกิดแผ่นดินไหวในลอสแองเจลิส ทางใต้ของสหรัฐฯ

    และในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายปรากฏออกมาเมื่อแผ่นดินไหวเกิดขึ้นโดยศูนย์กลางที่บริเวณนอกเมืองคอนคอร์ด (Concord) ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซานฟรานซิสโก และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกราว 4 ครั้งหลังจากนั้นที่มีระดับความรุนแรงระหว่าง 1.6-2.7 แมกนิจูด ซึ่งสื่อรัสเซียรายงานว่า แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในระดับความลึกราว 8-9 ไมล์

    นอกจากนี้ อ้างอิงจากสำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) พบว่ามีการเกิดแผ่นดินไหวระดับ 3.9 แมกนิจูดในลอสแองเจลิสในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (3) ซึ่งทางหน่วยสหรัฐฯ ชี้ว่าเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้นซึ่งเกิดขึ้น 1 ไมล์ห่างจากวิว ปาร์ก-วินเซอร์ ฮิลส์ (View Park-Windsor Hills) เพราะแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในระดับความลึกแค่ 5.6 ไมล์ จัดเป็นแผ่นดินไหวระดับตื้น แต่กระนั้นระดับการสั่นรับรู้ไปทั่วบริเวณแอ่งลอสแอนเจลิส (LA basin)

    ด้านหน่วยดับเพลิงลอสแองเจลิสปรับการทำงานเข้าสู่โหมดแผ่นดินไหวชั่วคราว ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกสำรวจพื้นที่ซึ่งคาดว่าอาจได้รับความเสียหายไม่ต่ำกว่า 470 ตารางไมล์ และรวมไปถึงสถานีดับเพลิงอีก 106 แห่งได้สำรวจความปลอดภัย คำเตือนแผ่นดินไหวถูกยกเลิกหลังจากนั้น

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050894
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวบ้านหลายร้อยประท้วงต้าน “อัลกออิดะห์” คุมเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของเยเมน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    4 พฤษภาคม 2558 19:03 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 10:00 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ชาวบ้านท้องถิ่นหลายร้อยคนออกมาประท้วงกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ควบคุมเมืองมูคัลลา เมืองเอกของจังหวัดฮาดรามาวต์ของเยเมน หนึ่งเดือนหลังจากที่พวกนักบญิฮาดรุกรานเมืองนี้ ผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวในวันนี้ (4 พ.ค.)

    “บาตาร์ฟี ออกไป ฮาดรามาวต์ต้องการอิสรภาพ” พวกเขาป่าวร้องเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (3) โดยอ้างถึง คาลิด บาตาร์ฟี สมาชิกอาวุโสของกลุ่มอัลกออิดะห์ ซึ่งถูกเรียกชื่อตามรายงานว่า “เอมีร์แห่งมูลคัลลา”

    บาตาร์ฟี อยู่ในหมู่นักโทษกว่า 300 คนที่หลบหนีออกมาจากเรือนจำมูคัลลา ซึ่งถูกพวกกลุ่มติดอาวุธบุกถล่ม ขณะที่กลุ่มอัลกออิดะห์เข้ารุกรานเมืองนี้เมื่อเดือนที่แล้ว

    การประท้วงเมื่อวานนี้ (3) ปะทุขึ้นหลังจากที่พวกกลุ่มติดอาวุธบุกถล่มมัสยิดแห่งหนึ่งภายหลังการสวดมนต์เย็น และนักรบรายหนึ่งได้เล็งปืนไปที่อิหม่ามพร้อมกับข่มขู่ว่าจะฆ่าเขาฐานวิพากษ์วิจารณ์กลุ่มอัลกออิดะห์ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบอกกับเอเอฟพี

    “ชาวใต้ตื่นขึ้น ไม่เอาทั้งอัลกออิดะห์ และฮูตี” กลุ่มผู้ประท้วงตะโกน พร้อมทั้งประกาศไม่ยอมรับกลุ่มกบฏนิกายชีอะห์ที่เข้ายึดเมืองหลวงและกำลังต่อสู้เพื่อขยายดินแดนของตนในตอนใต้

    ผู้ชุมนุมรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเผยนามกล่าวว่า ชาวบ้านท้องถิ่นของเมืองมูคัลลากำลังแสดงความไม่พอใจต่อการที่กลุ่มอัลกออิดะห์ “แทรกแซงชีวิตพวกเขาในทุกด้าน”

    กลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงสายสุนหนี่กลุ่มนี้ได้ตั้งด่านตรวจทั่วทั้งเมืองนี้และกำลังเรียกร้องให้ชาวบ้านใช้ศาลของพวกเขาซึ่งบังคับใช้การตีความกฎหมายชารีอะห์ของศาสนาอิสลามอย่างเข้มงวด

    พวกชาวบ้านยังกล่าวหากลุ่มนี้ด้วยว่าพยายามยัดเยียดอิหม่ามของพวกเขาเองเข้าสู่มัสยิดทั่วทั้งเมืองนี้

    เมืองมูคัลลาประสบกับภาวะขาดแคลนเชื้อเพลิงและอาหารอย่างมาก ซึ่งได้เกิดขึ้นกับเมืองอื่นๆ ของเยเมนที่ได้รับผลกระทบจากการสู้รบกันระหว่างกลุ่มกบฏและกลุ่มผู้สนับสนุนประธานาธิบดี อาเบดรับบู มันซูร์ ฮาดี

    จังหวัดฮาดรามาวต์เป็นบ้านเกิดบรรพบุรุษของ อุซามะห์ บิน ลา ดิน ผู้นำกลุ่มอัลกออิดะห์ที่ถูกสังหารแล้ว

    สหรัฐฯนั้นมองว่ากลุ่มอัลกออิดะห์ในคาบสมุทรอาระเบีย (AQAP) ซึ่งมีฐานอยู่ในเยเมน เป็นเครือข่ายย่อยที่อันตรายที่สุดของกลุ่มนี้

    กลุ่ม AQAP ได้ใช้ประโยชน์จากความโกลาหลที่กำลังเกาะกุมเยเมนเพื่อขยายดินแดนของตนในภาคตะวันออกเฉียงใต้

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050908
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บัลติมอร์กลับคืนสู่ความสงบ “นายกเทศมนตรีประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 16:01 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ – นายกเทศมนตรีบัลติมอร์ได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเมื่อวานนี้(3) หลังจากที่ได้ประกาศใช้เกือบ 1 สัปดาห์หลังจากเริ่มการประท้วงที่กลายเป็นจลาจลเกิดขึ้น หลังจากการเสียชีวิตล่าสุดของหนุ่มผิวสีชาวบัลติมอร์ เฟรดดี เกรย์ วัย 25 ปี เสียชีวิตจากการถูกจับกุมตัวของตำรวจบัลติมอร์

    RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้(3)ว่า สเตฟานี รอว์ลิงส์-เบลก (Stephanie Rawlings-Blake) นายกเทศมนตรีเมืองบัลติมอร์แถลงว่า “ดิฉันไม่มีเจตนาที่จะใช้เคอร์ฟิวยาวนานแม้เพียงวันเดียวหากไม่จำเป็น ซึ่งดิฉันคิดว่าเรามาถึงจุดที่ไม่จำเป็นต้องใช้แล้วในวันนี้ และดิฉันได้ออกคำสั่งยกเลิกการใช้เคอร์ฟิวที่จะมีผลบังคับใช้ทันที”

    และรอว์ลิงส์-เบลกแถลงต่อว่า “ดิฉันขอขอบคุณชาวบัลติมอร์ต่อความอดทนที่มี”

    สื่อรัสเซียรายงานว่า ในวันที่ 27 เมษายน เกิดเหตุจลาจลจากความไม่พอใจในการเสียชีวิตของเฟรดดี เกรย์ วัย 25 ปี เสียชีวิตจากการถูกจับกุมตัวของตำรวจบัลติมอร์ และนำมาสู่การเผาเครือข่ายร้านยา CVS ปล้นสะดมร้านค้า และการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ที่ยิงกระสุนยาง และแก๊สน้ำตาตอบโต้

    นอกจากนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการจับกุมตัวผู้ประท้วงเป็นจำนวนมาก และมีหน่วยแนชันแนลการ์ดและSWAT ราว 3,000 เข้าควบคุมความสงบในพื้นที่

    แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบการจับกุมเกรย์ทั้ง 6 นายถูกจับและมีการตั้งข้อกล่าวหาคนทั้งหมด ทำให้สถานการณ์ที่ตรึงเครียดมาตลอดทั้งสัปดาห์ผ่อนคลาย และการประท้วงกลับกลายเป็นการเดินขบวนอย่างสงบแทน


     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศสขายเครื่องบินรบ 24 ลำให้กาตาร์ มูลค่า 6 พันล้านยูโร
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 15:29 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 09:49 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ประธานาธิบดีฝรั่งเศสไปเยือนประเทศกาตาร์ในวันจันทร์ (4 พ.ค.) เพื่อควบคุมดูแลการเซ็นสัญญาขายเครื่องบินรบ “ราฟาล” จำนวน 24 ลำ มูลค่าหลายพันล้านยูโร

    ข้อตกลงการซื้อขายที่มีมูลค่า 6.3 พันล้านยูโรในครั้งนี้ เป็นการสั่งซื้อเครื่องบินรบ 24 ลำ ที่ผลิตโดยกลุ่มบริษัท “ดัสโซลต์” ของฝรั่งเศส พร้อมออพชั่นพิเศษที่ให้กาตาร์สามารถซื้อเพิ่มได้อีก 12 ลำ

    ผู้นำฝรั่งเศสจะเข้าร่วมในพิธีการเซ็นสัญญาซื้อขายเครื่องบินรบราฟาลในวันจันทร์ โดยมีรัฐมนตรีต่างประเทศ “โลรองต์ ฟาเบียส” กับรัฐมนตรีกลาโหม “ฌอง-อีฟ เลอ แดร็ง” ไปร่วมงานด้วย

    นอกจากนี้ยังมีอีก 1 ข้อตกลงที่จะให้ฝรั่งเศสทำการฝึกสอนให้แก่นักบิน 36 คน กับวิศวกรเครื่องกลประมาณ 100 คนของกาตาร์ เช่นเดียวกับพวกเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง เพราะราฟาลสามารถใช้ในภารกิจสอดแนมได้ด้วย

    ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ จะพบกับเจ้าชายแห่งกาตาร์ “ชีค ทามิน บิน ฮามัด อัล-ทานี” ก่อนจะเดินทางต่อไปยังซาอุดีอาระเบีย เพื่อเข้าร่วมประชุมคณะมนตรีความร่วมมืออ่าวอาหรับในวันอังคาร (5 พ.ค.)

    โอลองด์ มีกำหนดจะพูดคุยกับชีคทามิน เกี่ยวกับบรรดาวิกฤตต่างๆ ในภูมิภาคนั้น ซึ่งรวมถึงเรื่องปฏิบัติการทางอากาศของพันธมิตรอาหรับ ที่โจมตีพวกกบฏในเยเมน

    ทั้งนี้ ผู้นำฝรั่งเศสจะเดินทางไปซาอุฯ ตั้งแต่คืนวันจันทร์ เพื่อพูดคุยกับกษัตริย์ซัลมาน

    หลังจากที่ดิ้นรนอยู่หลายปี ในการขายเครื่องบินรบราฟาลให้แก่ต่างชาติ ในที่สุดดัสโซลต์ก็ประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการทำสัญญาซื้อขายกับอียิปต์ อินเดีย รวมถึงรายล่าสุดอย่างกาตาร์

    จากข้อมูลของฟาเบียส ฝรั่งเศสอาจได้ฉลองอีกครั้งในเร็ววันนี้ สำหรับข้อตกลงซื้อขายเครื่องบินรบกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่กำลังอยู่ระหว่างการเจรจา แถมดูเหมือนว่าน่าจะลงเอยด้วยดี

    ส่วนทางด้าน เลอ แดร็ง ผู้เคยเดินทางมาตะวันออกกลางหลายครั้งแล้ว ได้พบกับ “ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ซาเยด อัล-นาห์ยาน” เจ้าชายแห่งอาบูดาบีและเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพยูเออี เมื่อวันอาทิตย์

    สื่อของยูเออีรายงานว่า ทั้งคู่ได้พูดคุยกันเรื่องความร่วมมือในด้านกลาโหม อาทิ ข้อตกลงเกี่ยวกับการฝึกร่วมกัน

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “อลงกรณ์” ร้องรัฐเปิดสัมปทานปิโตรเลียมไวๆ “มนูญ” หยันภาคประชาชนไม่เคยทำธุรกิจน้ำมัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2558 19:43 น. (แก้ไขล่าสุด 5 พฤษภาคม 2558 08:54 น.)

    [​IMG]
    @มนูญ ศิริวรรณ (ภาพจากแฟ้ม)

    กรรมาธิการปฏิรูปพลังงาน เรียกร้องรัฐบาลแสดงความชัดเจนกรณีเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 หลังสั่งระงับพิจารณาตามข้อเสนอของภาคประชาชนใน 90 วัน ไร้ความคืบหน้า ลั่นต้องเดินหน้าเปิดสัมปทาน พร้อมแก้กฎหมาย “มนูญ” บอกยิ่งเปิดเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ยันคำเดิมก๊าซธรรมชาติกำลังจะหมด อ้างไทยไม่มีความพร้อมแบ่งปันผลผลิต จัดตั้งระบบใช้เวลาหลายปี หยันภาคประชาชนไม่เคยมีประสบการณ์ตรงในธุรกิจน้ำมัน คิดเองเออเองทั้งสิ้น

    วันนี้ (4 พ.ค.) นายอลงกรณ์ พลบุตร สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และกรรมาธิการ (กมธ.) ปฏิรูปพลังงาน ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากที่ สปช. ได้ส่งรายงานเรื่องการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ไปยังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลจัดเวทีกลางรับฟังความคิดเห็นด้านพลังงานตั้งแต่เดือน ก.พ. ที่ผ่านมา พร้อมทั้งจัดประชุมคณะทำงานเพื่อพิจารณาตามข้อเสนอของภาคประชาชนให้แล้วเสร็จภายใน 90 วันนั้น จนถึงขณะนี้ตนยังไม่เห็นความคืบหน้าของเรื่องนี้ โดยเฉพาะการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 และ พ.ร.บ. ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ซึ่งตนเห็นว่ารัฐบาลน่าจะมีความชัดเจนในเรื่องเหล่านี้ เพราะส่งผลต่อความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในอนาคต และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติที่มีต่อรัฐบาลไทย เนื่องจากกระทรวงพลังงานได้ออกประกาศเชิญชวนบริษัทต่างๆ ให้มายื่นขอสิทธิสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลียมรอบที่ 21 แล้ว และถึงแม้ว่าจะต้องเลื่อนออกไปก็เป็นเหตุผลที่ยอมรับกันได้ แต่ไม่ใช่เลื่อนไปไม่มีกำหนด จะต้องมีความชัดเจนว่าจะเปิดสัมปทานวันไหนอย่างไร และไม่ควรโยนให้รัฐบาลต้องตัดสินใจอีก

    “ส่วนตัวเห็นว่า การเปิดสัมปทานรอบใหม่จะต้องเดินหน้า เพราะความมั่นคงด้านพลังงานเป็นเรื่องสำคัญ และต้องเร่งปรับปรุงกฎหมายปิโตรเลียมทั้ง 2 ฉบับให้มีความสอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน เกิดการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม” นายอลงกรณ์ กล่าว

    ด้าน นายมนูญ ศิริวรรณ รองประธาน กมธ. ปฏิรูปพลังงาน คนที่ 2 สปช. กล่าวว่า หากการเปิดสัมปทานยังถูกเลื่อนออกไป จะทำให้ไทยต้องนำเข้าพลังงานจากนอกประเทศมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย เพียงแต่จะไม่เกิดผลกระทบในทันทีทันใด เพราะขณะนี้เรายังพอปริมาณก๊าซธรรมชาติในประเทศใช้ไปได้ แต่ทั้งนี้ผลกระทบจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อปริมาณก๊าซในประเทศจะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จะเห็นนับจากนี้ไปประมาณ 5 ปี

    “การเปิดสัมปทานยิ่งเร็วเท่าไรได้ก็ยิ่งดี เพราะเกี่ยวกับเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน ถ้าเราทำช้า เราก็จะรู้ว่ามีก๊าซมากน้อยแค่ไหนช้าไป ถ้าช้าไป 1 ปีก็รู้ช้าไป 1 ปี ถ้าช้าไป 2 ปีก็รู้ช้าไป 2 ปี เพราะฉะนั้นเรื่องการวางแผนด้านความมั่นคงถ้ารู้เร็วก็สามารถปรับตัวได้เร็ว และจะวางแผนด้านความมั่นคงได้ดีกว่า เราจะวางแผนกันอย่างไร จะนำเข้าเท่าไร จะนำเข้าจากไหน ความเสี่ยงเรามีมากน้อยแค่ไหนอย่างไร เรื่องนี้เป็นเรื่องการวางแผนด้านความเสี่ยงก็ควรต้องรู้ล่วงหน้าพอสมควร” รองประธาน กมธ.พลังงาน ระบุ

    ส่วนการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 จะเกิดขึ้นภายในรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่นั้น นายมนูญ กล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) รู้ว่าความเสี่ยงของประเทศมีมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องรีบตัดสินใจ เพียงแต่ว่า ขณะนี้กระแสคัดค้านของภาคประชาชนค่อนข้างแรงเรียกร้องให้มีระบบหรือทางเลือกมากขึ้น ซึ่งขณะนี้มีการพูดถึงระบบแบ่งปันผลผลิต (พีเอสซี) เพราะฉะนั้นคงจะดูว่า จะมีการแก้ไขกฎหมายให้มีทางเลือกได้หรือไม่ เชื่อว่าถ้ามีความชัดเจน ก็คงจะเร่งรัดให้แก้ไขกฎหมาย ซึ่งจะทำให้เห็นว่าได้มีการตอบสนองข้อเรียกร้องของภาคประชาชน และจะได้เดินหน้าเปิดสัมปทานปิโตรเลียมต่อไป

    นายมนูญ ระบุอีกว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะเดินหน้าเปิดสัมปทานได้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเปลี่ยนจากระบบสัมปทานไปใช้ระบบแบ่งปันผลผลิต ซึ่งไทยไม่มีความพร้อม เพราะไม่ใช่แก้ไขกฎหมายอย่างเดียวแล้วก็ทำได้เลย แต่ระบบพีเอสซีจะต้องเตรียมการในเรื่องของการจัดตั้งองค์กรใหม่ที่จะเข้าไปทำงานร่วมกับผู้ผลิต ไม่ว่าจะเป็นการจัดตั้งบรรษัทพลังงานแห่งชาติตามข้อเรียกร้องของภาคประชาชนหรือจะเอาองค์กรที่มีอยู่มาดำเนินงานก็ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ยังไม่รวมถึงการออกกฎหมายหรือปรับปรุงกฎระเบียบต่าง ๆ มารองรับ การหาบุคลากรที่มีความชำนาญ ทุกเรื่องต้องใช้เวลา ยกตัวอย่าง มาเลเซียใช้เวลาหลายปีกว่าจะแก้ไขกฎหมายและจัดตั้งองค์กรขึ้นมาดูแล

    “รอบที่ 21 ควรจะเดินหน้าใช้ระบบสัมปทานไปก่อน ขณะเดียวกันเราก็แก้ไขกฎหมายและหาทางจัดตั้งองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับทำระบบแบ่งปันผลผลิตควบคู่กันไปด้วย ถ้าพร้อมที่จะทำระบบแบ่งปันผลผลิตเมื่อไร แล้วมาพิจารณาดูว่า จะใช้ระบบนี้ในแปลงสัมปทานใด เช่น แปลงสัมปทานที่กำลังจะหมดอายุในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือเอาไปใช้ในพื้นที่ทับซ้อนไทย - กัมพูชา” นายมนูญ กล่าว

    นายมนูญ กล่าวว่า สำหรับภาคประชาชนที่ออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ตนมีข้อสังเกตว่า แต่ละคนที่ออกมารณรงค์คัดค้านไม่มีใครที่มีประสบการณ์ตรงในธุรกิจน้ำมันหรือในอุตสาหกรรมการขุดเจาะและสำรวจปิโตรเลียมเลย เป็นเพียงการนำข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาวิเคราะห์กันเองทั้งสิ้น

    http://manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050921
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯแจ้งให้พลเมืองของตัวในเยเมนตัวใครตัวมัน รัฐบาลไม่มีแผนช่วยอพยพประชาชนของตัวเองออกจากเยเมนในช่วงนี้

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวานนี้ (4 พ.ค. 58) เว็บไซต์ของสถานทูตสหรัฐฯประจำเยเมนออกประกาศว่า "เนื่องจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงและภัยคุกคามกำลังเกิดขึ้นในประเทศเยเมนยังอยู่ในระดับวิกฤตสูงสุด รัฐบาลสหรัฐฯไม่มีแผนที่จะประสานงานการอพยพพลเรือนของสหรัฐฯ [ออกจากเยเมน] ในขณะนี้ หากคุณต้องการที่จะออกจากเยเมน คุณควรจะเตรียมพร้อมและใช้ช่องทางอื่นในการหลบหนีออกจากประเทศเยเมนเอาเอง" (แปลเป็นภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายๆสั้นๆว่า "ตัวใครตัวมันหละพี่น้อง!")
    สหรัฐฯและอังกฤษมีเรือรบลำเบ้อเล่อ จ่ออยู่ชายฝั่งของอิหร่าน แต่ไม่ยอมเอามาอพยพพลเรือนของตัวเองออกจากเยเมน ในหนังฮอลลิวูดเรามักจะได้ยินอยู่บ่อยๆว่า กองทัพหรือรัฐบาลสหรัฐฯ "จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง" (Leave no man behind) นั่นคือในหนัง ส่วนในโลกของความเป็นจริงนั้นก็คือ นี่ตามที่เขาประกาศในเว็บไซต์นี้
    ก่อนหน้านี้ทางจีนกับรัสเซียเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือในการอพยพผู้คนออกจากเยเมน สหรัฐฯก็มองดูเฉยๆ และชี้บอกพลเรือนของตัวเองว่าให้ไปขึ้นเครื่องบินและเรือรบของรัสเซียสิ หลังจากที่รัสเซียกับจีนสิ้นสุดภารกิจอพยพผู้คนออกจากเยเมนแล้ววันนี้สหรัฐฯบอกประชาชนของตัวเองว่า "ตัวใครตัวมันนะชาวอเมริกันในเยเมน"
    The Eyes
    05/05/2558
    ----------
    Yemen Crisis
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เยเมน : ซาอุดิฯกลับคำส่งกองทัพภาคพื้นดินและอาวุธเข้าประจำการเมืองอาดังอ้างเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สหรัฐฯและอังกฤษเคลื่อนเรือรบประชิดชายฝั่งอิหร่าน อียิปขยายเวลาความร่วมมือในปฏิบัติการต่อต้านฮูติออกไปอีก 3 เดือน

    [​IMG]

    --------------
    เอาหละสิ... ดูเหมือนว่าความวุ่นวายรอบใหม่ในเยเมนกำลังจะเริ่มขึ้นอีกแล้ว เพราะใครบางคนไม่อยากให้มันสงบ เนื่องจากยังไม่บรรลุเป้าหมาย ก่อนหน้านี้ทาง UNSCR มีมติให้สั่งแบนอาวุธทุกชนิดในเยเมน เมื่อวานนี้มีข่าวออกมาว่าทางซาอุดิฯกับกองกำลังผสมอาหรับจะส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในเมืองอาดัง (Aden) โดยให้เหตุผลว่าเพื่อเป็นการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม (ด้วยลูกกระสุนปืนนี่นะ?)
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทางการของเยเมนรายงานว่าฝ่ายซาอุดิฯส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปในเขต Aden ทางตอนใต้ของเยเมน แต่ฝ่ายซาอุดิฯรีบออกมาปฏิเสธโดยเร็ว รัฐบาลของเยเมนกล่าวอีกว่ากองกำลังผสมอาหรับชุดที่สองจำนวน 20 นายกำลังเดินทางมาที่ท่าเรือเมืองอาดัง
    ตอนแรกทางซาอุดิฯบอกว่าที่ส่งไปนั้นคือหน่วยลาดตระเวน แต่จากรายงายของฝั่งเยเมนบอกว่า ทางกองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯได้ส่งหน่วยแม่นปืน (Snipers) และหน่วยจู่โจมเฉพาะกิจเข้าร่วมในภาระกิจภาคพื้นดินในเยเมนด้วย
    ต่อมาในวันจันทร์นาย Younis Mahmoud ที่ปรึกษากลาโหมของซาอุดิฯกล่าวว่า "ซาอุดิฯจะพักการโจมตีทางอากาศในเยเมนออกไปก่อนสักพัก แต่จะใช้กำลังภาคพื้นดินเป็นฝ่ายสนับสนุนการโจมตีทางอากาศ มิฉะนั้นการพยายามล้มล้างกลุ่มฮูติอย่างมีประสิทธิภาพก็จะไม่เป็นผล นอกจากนี้แล้วการส่งกองกำลังภาคพื้นดินเข้าไปตั้งฐานทัพในเยเมนยังจะเป็นการช่วยให้กองกำลังผสมสามารถระบุตำแหน่งของกลุ่มฮูติได้อย่างแม่นยำมากขึ้นด้วย"
    ทหารซาอุดิฯเข้าไปในเยเมนได้อย่างไรก็พวกฮูติสกัดบริเวณชายแดนระหว่างซาอุดิฯกับเยเมนทางตอนเหนือไว้อยู่ไม่ใช่รึ? ทางน้ำสิครับ ออกมาจากทะเลแดง ผ่านช่องแคบระหว่างเยเมนกับจิบูติ (Djibouti) ตรงลิ่วเข้าที่ท่าเรืออ่าวอาดังที่เมืองอาดังที่มีกองกำลังกลุ่มผู้สนับสนุนปธน.Hadi ควบคุมอยู่ แล้วอิหร่านหละ ทำไมถึงไม่ป้องกันไว้? ทัพเรือของอิหร่านนั้นอยู่คนฟากของเยเมนซึ่งอยู่ที่อ่าวเปอร์เซียกับอ่าวโอมานและช่องแคบฮอร์มุซโน่น ถูกเรือรบของสหรัฐฯและอังกฤษเคลื่อนเข้าประชิดประกบไว้โดยอ้างว่าเพื่อคุ้มกันเรือสินค้า เคลื่อนไหวมาทางนี้ไม่ได้ เพื่อเปิดช่องให้ฝ่ายกองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯส่งทหารของตนเข้าไปยังเมืองอาดังได้
    ส่วนท่าทีล่าสุดของอียิปต์ก็คือ รมว.กลาโหมของอียิปต์ออกมากล่าวว่ารัฐบาลอียิปต์ได้ตัดสินใจที่จะขยายระยะเวลาความร่วมมือกับกองกำลังผสมอาหรับออกไปอีก 3 เดือน อ้างว่าเพื่อปกป้องความปลอดภัยให้กับประเทศอียิปต์และเพื่อรักษาความปลอดภัยของโลกอาหรับ (อ้าว แล้วเยเมนไม่ใช่อาหรับหรือไง?)
    ข้อสังเกต สหรัฐฯและยูเอ็นสั่งแบนอาวุธทุกชนิดในเยเมน หมายความว่าห้ามนำอาวุธเข้าไปหรือสนับสนุนกลุ่มต่างๆในเยเมน แต่วันนี้ซาอุดิฯนำกองกำลังภาคพื้นดินพร้อมทั้งอาวุธเข้าไปในเยเมนได้ แล้วคิดหรือว่าอาวุธที่นำเข้าไปนั้นจะไม่ตกไปถึงมือของกลุ่มผู้สนับสนุน Hadi และกลุ่มอัลเคด้ารวมทั้งไอซิสในเยเมนด้วย มาตรฐานอะไรของเขาก็ไม่รู้ หรือจะบอกว่าสั่งห้ามสนับสนุนด้านอาวุธเฉพาะกลุ่มฮูติเท่านั้น ไม่ได้ห้ามกลุ่มอื่นด้วย กรรม! เอ้า.... มาคอยดูการสู้รบภาคพื้นดินระหว่างกองกำลังผสมนำโดยซาอุดิฯที่มีสหรัฐฯเป็นแบ็คให้กับกลุ่มฮูติ ดูซิว่าใครจะแน่กว่ากัน งานนี้ยาวแน่ๆ
    The Eyes
    05/05/2558
    ----------
    Snipers, Special Forces Reportedly Take Part in Ground Offensive in Aden / Sputnik International
    Sudan Official Says Ground Intervention Needed in Yemen / Sputnik International
    US Navy Starts Accompanying British Ships Off Iranian Coast / Sputnik International
    http://www.middleeasteye.net/…/saudi-led-coalition-sends-gr…
    Snipers, Special Forces Reportedly Take Part in Ground Offensive in Aden / Sputnik International
    US Navy Starts Accompanying British Ships Off Iranian Coast / Sputnik International
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    ยุให้รำ ตำให้รั่ว เสี้ยมให้แตก : สหรัฐฯกำลังเล่นเกมสร้างความหวาดระแวงแย่งอำนาจกันในซาอุดิฯ

    [​IMG]

    --------------
    สำนักข่าว "Intelligence Review IHS Jane's 360" ของสหรัฐฯ ตั้งอยู่ที่ Douglas County รัฐ Colorado และ ในนิวยอร์ก และในยุโรป ออกมาสร้างกระแสเกี่ยวกับการปฏิบัติยึดอำนาจของกลุ่มชนชั้นปกครอง (governing elites) ในซาอุดิอาระเบีย ระหว่างฝ่ายกษัตริย์ Salman bin Abdel Aziz al-Saud และเจ้าชาย Miteb (Mutaib bin Abdullah bin Abdulaziz Al Saud) ซึ่งเป็นพระโอรสของกษัตริย์ Abdullah bin Abdulaziz Al Saud พระองค์ก่อนที่พึ่งสวรรคตไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค.58 ที่ผ่านมา (เจ้าชาย Miteb เป็นพระอนุชาต่างมารดาของกษัตริย์ซัลมาน) โดยเจ้าชาย Miteb คุมกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (National Guard) ของซาอุดิฯ
    National Guard มีกำลังทหารทั้งหมด 100,000 นายและกำลังสนับสนุนชนเผ่าอีก 25,000 นาย รายงานโดยตรงต่อกษัตรย์ผ่านรัฐมนตรีกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (the Minister of the National Guard) ไม่เหมือนกับกองทัพอื่นๆในซาอุดิฯที่ขึ้นตรงต่อรมว.กลาโหม (Ministry of Defense) National Guard มีหน้าที่ปกป้องราชวงค์ซาอุดิฯ (House of Saud) เป็นหน่วยงานด้านการรักษาความมั่นคงภายใน ป้องกันการก่อการปฏิวัติ คุ้มครองสถานที่สำคัญๆในเมือง Mecca และเมือง Medina
    ส่วนกองทัพที่ขึ้นตรงกับกลาโหมของซาอุดิฯนั้นมีอยู่ 4 กองทัพด้วยกันคือ 1.) ทหารบก (Saudi Arabian Army) มีกำลังพลอยู่ประมาณ 75,000 นาย และทหารกองหนุนกำลังพลสำรองอีก 75,000 นาย 2.) กองทัพอากาศ (Royal Saudi Air Force) มีกำลังพลประมาณ 18,000 นาย 3.) นาวิกโยธิน/ทหารเรือ (Royal Saudi Navy) มีกำลังพลและบุคคลากรประมาณ 50,000 นายซึ่งทั้งทหารเรือจำนวน 12,000 เข้าด้วยกันแล้ว 4.) กองทัพป้องกันภัยทางอากาศ (Royal Saudi Air Defense) มีกำลังพลประมาณ 40,000 นาย 5.) กองกำลังอาสา (paramilitary forces) ไม่ทราบจำนวน รวมทั้งหมดแล้วเฉพาะที่เป็นทหารประจำการสามารถปฏิบัติภารกิจสู้รบได้ก็ประมาณ 200,000 นาย ครึ่งหนึ่งเป็นของฝ่ายกลาโหม ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นของฝ่าย National Guard ข้อมูลคร่าวๆก็หามาได้ประมาณนี้ หากต้องการมากกว่านี้ถามคุณgoogleได้ครับผม
    มาดูต่อนะว่า IHS Jane's 360 ของสหรัฐฯพูดว่าอย่างไรบ้าง IHS กล่าวว่าเหตุผลที่คาดว่าจะเกิดความวุ่นวายทางการเมืองภายในกลุ่มชนชั้นปกครองหรือบางทีอาจจะเกิดการปฏิวัติยึดอำนาจขึ้นมาหลังจากที่ King Salman ประกาศเปลี่ยนตัวตำแหน่งมกุฎราชกุมารพระองค์ใหม่ (Crown Prince) และเปลี่ยนตัวรมว.มหาดไทยมาเป็นคนของพระองค์ซึ่งก็คือเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน นาเยฟ (Nayef bin Abdulaziz Al Saud) พระราชนัดดา (หลาน) คุมทั้่ง 2 ตำแหน่งมกุฎราชกุมารและรมว.มหาดไทย
    การเคลื่อนไหวในครั้งนี้เป็นการเปลี่ยนถ่ายอำนาจการบริหารของศาล "Court of Crown Prince" และศาล "Saudi Royal Court" จากมกุฎราชกุมารโดยให้สังกัดภายใต้การดูแลของรองมกุฎราชกุมาร ซึ่งก็คือพระโอรสของ King Salman ซึ่งเป็นรมว.กลาโหมด้วย
    ข่าวจาก IHS เขาไม่ได้ลงรายละเอียดมากขนาดนี้นะ บางส่วนหามาเสริมให้ และ IHS ก็กล่าวต่อไปอีกว่ามีอีกสิ่งหนึ่งที่กษัตริย์ซาอุดิฯกระทำก็คือแยกบริษัทน้ำมัน Saudi Aramco ซึ่งเป็นของรัฐออกจากการดูแลของกระทรวงน้ำมัน (Oil Ministry) การดูแลการถ่ายโอนบริษัทน้ำมันในครั้งนี้อยู่ภายใต้การดูแลของพระโอรสของ King Salman
    เมื่อดูจากการเคลื่อนไหวทางการเมืองภายในของซาอุดิฯแบบนี้แล้ว IHS เชื่อว่าการเปลี่ยนถ่ายอำนาจทางการเมืองแบบนี้อาจจะทำให้เจ้าชาย Miteb (Mutaib bin Abdullah bin Abdulaziz Al Saud) ซึ่งตำรงค์ตำแหน่งรมว.กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ (Minister of the National Guard) คุมกำลังพลถึง 100,000 นาย ไม่พอใจได้ (แม้จะอยู่ภายใต้การดูแลของพระโอรสของ King Salman ที่ดำรงตำแหน่งรองมกุฎราชกุมารและเป็นรมว.กลาโหมด้วย)
    ซับซ้อนจัง! ดูจากตรงนี้แล้ว King Salman ก็ไม่น่าจะกังวลอะไรแล้วนี่ เพราะทุกอย่างก็เหมือนอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่าย King Salman ทั้งหมดแล้วไม่ใช่รึ และด้านกลาโหมก็ให้ก็ให้ลูกชายของตัวเองดูแลอยู่และกองทัพ National Guard ก็ต้องรายงานต่อกษัตริย์โดยผ่านลูกชายของ King Salman อยู่แล้วนี่? ทาง IHS ของสหรัฐฯสรุปว่าการเคลื่อนไหวแบบนี้เป็นการเสี่ยงต่อการวางกองกำลังทหารฝ่ายที่ภักดีต่อกษัตริย์กับฝ่ายของเจ้าชาย Miteb (น้องชาย) และฝ่ายของเจ้าชาย Nayef (ลูกชาย) สื่อฯรัสเซียกล่าวว่าหากการคาดการณ์ดังกล่าวเป็นความจริง นี่อาจจะเป็นอีกจุดเดือดจุดหนึ่งในตะวันออกกลางก็ได้
    เมื่อสหรัฐฯเป็นพันธมิตรกับซาอุดิฯ แล้วทำไมถึงต้องปล่อยข่าวในลักษณะนี้ออกมา? สหรัฐฯคาดหวังอะไรจากการปล่อยข่าวในลักษณะนี้ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อซาอุดิฯที่เป็นลูกค้ารายใหญ่ในการซื้ออาวุธจากสหรัฐฯเลย?
    The Eyes
    05/05/2558
    ----------
    Not All Quiet on Saudi Front: King Salman’s Power Trips Might Trigger Coup / Sputnik International
    http://www.janes.com/…/deputy-crown-prince-s-attempts-at-co…
    Saudi Arabian National Guard - Wikipedia, the free encyclopedia
    Armed Forces of Saudi Arabia - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนเตรียมจัดให้รัสเซียอยู่ในกลุ่ม "สมาชิกชาติเอเซีย" ในธนาคาร AIIB ซึ่งมีเอกสิทธิ์มากกว่า Non-Asian

    [​IMG]

    --------------
    มาดูความคืบหน้าเกี่ยวกับธนาคาร AIIB นำโดยจีนบ้างครับ หนังสือพิมพ์ Asia Times ในจีนรายงานจากแหล่งข่าวทางการทูตภายในของจีนว่า จีนกำลังจะอนุญาตให้รัสเซียเข้าร่วมในธนาคารโครงสร้างพื้นฐานในเอเซีย (AIIB) ในฐานะสมาชิกประเภท "Asian" ซึ่งมีสิทธิ์ในการโหวดออกเสียงมากกว่าประเทศที่ไม่ใช่เอเซีย (Non-Asian)
    เกาหลีใต้ (ที่ถูกอิทธิพลของสหรัฐฯครอบงำเป็นส่วนมาก) จะถูกลดสัดส่วนผู้ถือหุ้นในธนาคารลงมาที่ 3 - 3.5% จากก่อนหน้านี้คาดว่าน่าจะอยู่ที่ 4 - 5%
    Laurence Summers ประธานมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดและอดีต รมช.คลังของสหรัฐฯ กล่าวว่า "การก่อตั้งธนาคาร [AIIB] ได้รับการยอมรับจากประเทศมหาอำนาจทั่วโลกเป็นจำนวนมาก (ยกเว้นสหรัฐฯเพราะขนาดส่งบิ๊กบอส IMF มาทาบทามจีนแล้ว จีนก็ไม่สน) ในขณะที่สหรัฐฯล้มเหลวในการปรับโครงสร้างสถาบันทางการเงินที่มีอยู่เช่น IMF เพื่อให้สอดคล้องกับความจริงทางภูมิรัฐศาสตร์สมัยใหม่" (พูดอย่างนี้ก็แสดงว่า 1.)ยอมรับว่าสหรัฐฯล้มเหลวจริงๆ 2.) เหมือนต้องการให้สหรัฐฯไม่ล้มเหลวในการใช้อำนาจเผด็จการและอิทธิพลของตัวเองเหนือประเทศอื่น 3.) คล้ายๆกับจะบอกว่าถ้าสหรัฐฯอยากอยู่รอดจะต้องแสดงอิทธิฤทธิ์ว่าตัวเองมีอำนาจมากกว่านี้อีก จีนและรัสเซียก็รู้ว่าที่ Laurence Summers พูดอย่างนี้นั้นหมายถึงอะไรและต้องการให้รัฐบาลสหรัฐฯทำอะไรมากกว่าที่เป็นอยู่ เช่นบีบบังคับประเทศอื่นมากกว่านี้ แทรกแซงกิจการภายในของประเทศอื่นมากกว่านี้ หรือสุมไฟสงครามในประเทศต่างๆทั่วโลกมากขึ้นกว่านี้เป็นต้น)
    กฎระเบียบของธนาคาร AIIB นั้นยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่จากรายงานทราบว่าสมาชิกชาติเอเซียของธนาคาร AIIB จะมีสิทธิ์โหวดถึง 75% ในขณะที่อีก 25% นั้นเป็นของสมาชิกที่ไม่ใช่เอเซีย (Non-Asain members)
    ข่าวนี้ต้องบอกว่าเป็นการเดิมเกมที่แยบยลและชาญฉลาดอีกก้าวหนึ่งของจีนและรัสเซีย เพื่อสงวนสิทธิ์ไว้ให้คนเอเซียด้วยกัน ไม่ให้ตะวันตกมีโอกาสเข้ามาฮุบหรือแผ่นอิทธิพลเหนือ AIIB ของเอเซียได้ ให้เอาแค่เงินลงทุนมาร่วมกับจีนและเอเซียก็พอ ส่วนอภิสิทธิ์พิเศษนั้นจีนเขาขอสงวนไว้ให้ชาวเอเซียมากกกว่ายุโรปนะครับ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้คนไทย รัฐเซียและชาติอื่นๆในเอเซียรักจีนได้อย่างไรหละครับ? แผนการที่สหรัฐฯจะทำให้เอเซียแตกคอกันแล้วปกครองนั้นต้องสะดุดอีกครั้งจนได้
    The Eyes
    05/05/2558
    ----------
    Russia to Get More Voting Rights in China-Led Bank Than Non-Asian States / Sputnik International
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ข่าวบันเทิง? : นักวิเคราะห์ด้านการเงินของสหรัฐฯทำนายว่าการล่มสลายของเศรษฐกิจสหรัฐฯเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้!

    [​IMG]

    --------------
    ที่บอกว่า "ข่าวบันเทิง" นี่ พูดเล่นนะขอรับ เป็นข่าวเศรษฐกิจการเงินของสหรัฐฯ วันก่อนผู้เขียนไปอ่านเจอข่าวนี้จากสื่อฯฝั่งรัสเซียเขานำเอาความคิดเห็นและการวิเคราะห์เกี่ยวกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯที่กำลังถอยหลังเข้าคลองลงเหวอยู่ทุกวันนี้โดยนักวิเคราะห์ชาวอเมริกันในหนังสือพิมพ์ Washington Times ของสหรัฐฯมาเล่าให้ฟัง ผู้เขียนเห็นว่าน่าสนใจจึงหยิบเอามาเล่าให้ผู้อ่านฟังอีกต่อหนึ่ง ดีป๊ะ? ดีสิครับ... ฮ่าๆๆ ลองอ่านดูนะว่าคนอเมริกันแท้ๆเขาคิดอย่างไรกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯในตอนนี้ ขอแย้มว่ารัฐบาลสหรัฐฯมีหนาวววว
    นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันที่ว่านั้นคือใครรึ? เขาเชื่อ "L. Todd Wood" ผู้เขียนหนังสือ "Currency" และอีกหลายเล่ม Wood อธิบายว่าทำไมเศรษฐกิจของสหรัฐฯถึงเสี่ยงต่อการล่มสลาย (the verge of collapse) และว่าทำไมรัสเซีย ซึ่งเพิ่มทองเป็นทุนสำรองของตัวเอง (Gold Reserve) อาจจะกลายเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ (ว้าวววว! ฟังดูแล้วเริ่มจะน่าสนใจขึ้นมาแล้วสินี่ ต้องอ่านต่อ ก็หยอดแบบนี้ ก็ทำให้อยากอ่านดิ ก็ต้นฉบับเขาว่ามาอย่างนั้นนิ แอ็ดมินก็แปลฟังอ่ะ)
    ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องทองคำในคลังของรัสเซียนี่มีอยู่ว่า เมื่อต้นสัปดาห์นี้รัสเซียได้เพิ่มปริมาณทองคำเข้าในคลังทุนสำรอง (Gold Reserve) ของตัวเองถึง 30 ตัน ทำให้ตอนนี้รัสเซียมีทองคำเก็บอยู่ในคลังของรัฐบาลกลางทั้งสิ้น 1,238 เมตริกตัน ซึ่งสร้างความกังวลใจให้แก่สหรัฐฯเป็นอย่างมาก (สหรัฐฯนี่ก็แปลก เห็นคนอื่นเขารวยบ้าง กลับเป็นกังวลใจซะงั้น สหรัฐฯมีสิทธิ์รวยได้เพียงประเทศเดียวในโลกหรือไง?)
    นักวิเคราะห์ชาวสหรัฐฯกล่าวว่า "สถานะทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปัจจุบันนี้ตกอยู่ในภาวะที่ลำบากมาก (troublesome) ในขณะที่รัสเซียและจีนต่างก็พากันเพิ่มปริมาณทองคำสำรองของตน สหรัฐฯได้กว้านซื้อหนี้เน่าเอาไว้เนื่องจากนิสัยการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยอย่างโง่ๆ (due to foolish spending habits) ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯเองดิ่งลงเหวอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้" (ที่บอกว่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างโง่ๆนี่ ไม่ได้หมายถึงภาคประชาชนส่วนมาก แต่หมายถึงรัฐบาลของเขา)
    ว้าว! อันนี้นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันเขาพูดเองนะ รัสเซียกับจีนไม่เกี่ยว ยอมรับความจริงเหอะโปรอเมริกาเอ๋ย แล้วไทยหละ? เพิ่มทองเข้าคลังอย่างรัสเซียกับจีนบ้างหรือเปล่า? เดี่ยวหาข้อมูลมาให้ครับ... ข้าพเจ้าก็อยากรู้อยู่เหมือนกัน ได้ข้อมูลมาแล้วครับ อินเตอร์เน็ทไร้พรมแดนนี่อะไรก็เร็วได้ดั่งใจจริงๆ... เช็คจาก "รายงานเศรษฐกิจและการเงินเดือนเมษายน 2558" ของธนาคารประเทศไทยแล้ว ไม่พบข้อมูลที่ต้องการ บอกแต่ว่าไทยเรานำเข้าทองคำจากต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากราคาทองคำลดลง น่าจะหมายถึงพวกพ่อค้านายทุนที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำหนะ
    หาในไทยไม่พบ ไปหาจากต่างประเทศก็ได้ จึงลองไปเยี่ยมเว็บไซต์ "tradingeconomics" ของต่างประเทศดูซึ่งจะรวบรวมข้อมูลตัวเลขที่สำคัญด้านสถิติของแต่ละประเทศทั่วโลกเอาไว้มากมาย จากข้อมูลที่ได้มาพบว่าปัจจุบันไทยเรามี Gold Reserve อยู่ที่ 152.41 ตัน อยู่ในระดับนี้มาตั้งแต่ปลายปี 2011 แล้ว 4 ปีกว่าไม่เพิ่มไม่ลด คงเส้นคงวา แต่ก่อนหน้านั้นต่ำกว่านี้มาก คงรู้นะว่าเพราะใครและเพราะอะไร เห็นตัวเลขล่าสุดตอนแรกแล้วก็ชวนเศร้า หลงอุทานออกมาว่า "ทำไมน้อยจัง!" ฝ่ายผู้ดูแลเขาบอกว่าสูงมากกว่านี้ไม่ได้ เพราะจะทำให้ค่าเงินบาทแข็ง ทำให้การส่งออกลำบาก เดี๋ยวมือที่มองไม่เห็นจะมาปล้นไปอย่างที่เกิดขึ้นในยูเครนที่ทองคำหายไปตั้ง 21 ตันช่วงบ้านเมืองของเขาวุ่นวายหนะ ตอนนี้ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้ (เคยเล่าให้ฟังแล้ว)
    พูดเรื่องทองคำในคลังของไทยแล้วจิตใจมันห่อเหี่ยวยังไงก็ไม่รู้ กลับมาที่รัสเซียกับสหรัฐฯต่อดีกว่า นักวิเคราะห์ชาวอเมริกันกล่าวว่าจากข้อมูลของ IMF พบว่าตอนนี้รัสเซียมีทองคำสำรองมากเป็นอันดับที่ 5 ของโลก ในช่วงที่รัสเซียถูกโจมตีค่าเงินรูเบิลจากสหรัฐฯและอียูนั้น รัสเซียพยายามเพิ่มปริมาณทองคำสำรองเข้าคลังของตัวเองมากขึ้น Wood บอกว่านั่นเป็นการเดินหมากที่ชาญฉลาดมาก ยกนิ้วโป้งให้ปูตินเลย รัสเซียเตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะเปลี่ยนผู้เล่นบ้าง และโลกก็จะได้เห็นความเสื่อมสลายของมหาอำนาจเศรษฐกิจตะวันตกในเร็วๆนี้ (นักเศรษฐศาสตร์ไทยมองเกมออกหรือยังก็ไม่รู้ สงสัยลุงตู่คงต้องจับหน้าพวกนักเศรษฐศาสตร์สำนักตะวันตกของไทยให้หันมาดูและศึกษายุทธวิธีจากรัสเซียกับจีนบ้างแล้วหละครับ ว่าเขาทำอย่างไรถึงสามารถทำให้เศรษฐกิจของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาได้แม้ในภาวะที่ตะวันตกรุมกลั่นแกล้งกันซะขนาดนั้น)
    สหรัฐฯมีหนี้ต่างประเทศเกือบ $20 trillion (USD 20,000,000,000,000) ในขณะที่รัสเซียมีอยู่แค่ $600 billion (USD 600,000,000,000) ณ เดือนวันที่ 1 มกราคม 2558 ที่ผ่านมา จากตัวเลขนี้บอกได้ว่ารัสเซียมีหนี้ต่างประเทศน้อยกว่าสหรัฐฯถึง 33 เท่า (แสดงว่าที่สหรัฐฯอวดว่าตัวเองรวยนี่เพราะเอาเงินกู้จากต่างประเทศมาอวดทั้งนั้นสินี่) นอกจากนี้แล้วหนี้ต่างประเทศของสหรัฐฯยังโตขึ้น โตขึ้น เรื่อยๆ ในขณะที่รัสเซียได้ลดหนี้ของตัวเองลงถึง 17% ตั้งแต่ปีที่แล้ว
    นักวิเคราะห์มองว่าสหรัฐฯจะตื่นมาและพบว่าตัวเองกำลังจะล้มละลาย ในขณะที่รัสเซีย (และจีน) มีทองคำหนุนสกุลเงินของตนก็จะกลายเป็นผู้มีอำนาจในการเขียนกฎระเบียบทางเศรษฐกิจของโลกแทน จริงๆแล้วนักวิเคราะห์ชาวอเมริกันกล่าวไว้มากกว่านี้นะ ถ้าแปลมาทั้งหมดก็จะยาวเกินไป แต่ก็น่าสนใจโดยเฉพาะจุดที่เขามองว่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯกำลังจะมีค่าไม่ต่างจากกระดาษทั่วไปนี่แหละ นี่แสดงว่าที่มีการเม้าท์กันในโลกโซเชียลนี่ก็ไม่ใช่พูดเล่นๆแล้วสินี่ ขนาดชาวอเมริกันเขาก็ยังมองอย่างนี้เลย
    สุดท้าย Wood กล่าวว่าตอนนี้สหรัฐฯถังแตกแล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯยังไม่ล่มตอนนี้ก็คือ US Federal Reserve ที่เข้าไปแทรกแซงเพื่อทำให้อัตราดอกเบี้ยต่ำแบบปลอมๆ (interest rates artificially low) เท่านั้น
    คำถามสำคัญที่หลายๆคนโดยเฉพาะรัสเซียกับจีนอยากรู้ก็มีอยู่ว่า แล้วเรามีเวลานานสักเท่าไรจนกว่าเศรษฐกิจที่ง่อนแง่นของสหรัฐฯจะล้มละลาย? (how long do we have until the unsustainable US economy collapses?) แปลตรงๆก็คือว่า "เมื่อไหร่มันถึงจะล้มละลายซะทีหละ?" เจ็บอ่ะ!
    The Eyes
    05/05/2558
    ----------
    US Financial Analyst Predicts Inevitable Collapse of US Economy / Sputnik International
    Thailand Gold Reserves | 2000-2015 | Data | Chart | Calendar | Forecast
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤษภาคม 2015
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    สหรัฐฯโดนอีกแล้ว! รัสเซียสั่งแบนนำเข้าถั่วจากอเมริกาเนื่องจากตรวจพบว่ามีสารพิษเจือปนในอัตราสูง

    [​IMG]

    --------------
    เมื่อวันที่ 30 เม.ย.58 ที่ผ่านมาทางการรัสเซียประกาศสั่งห้ามนำเข้าอาหารจำพวกถั่วจากประเทศสหรัฐอเมริกาเพราะฝ่ายจับตาและตรวจสอบจากกระทรวงเกษตรของรัสเซีย (Russian state agricultural watchdog) ตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์อาหารประเภทถั่วที่สหรัฐฯส่งมาขายในรัสเซียนั้นมีสารพิษเจือปนในอัตราสูง จึงสั่งห้ามนำเข้าชั่วคราวโดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.58 เป็นต้นไป
    ไม่มีอะไรมากก็เรื่องสงครามแซงชั่นกันระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียนี่แหละ ซึ่งเริ่มเกมก่อนโดยสหรัฐฯอันเนื่องมาจากไม่พอใจที่ไคร์เมียกลับไปรวมเข้ากับรัสเซียได้อีกครั้ง วันนี้จึงถูกรัสเซียสวนกลับบ้างด้วยการสั่งแบนอาหารหลายประเภทจากสหรัฐฯ อย่าทำเป็นโวยวายละกัน ที่รัสเซียสั่งแบนในครั้งนี้ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล หรือยกเรื่องการแก้แค้นนะ แต่ทางการของรัสเซียเขาตรวจพบว่าถั่วของอเมริกาไม่ปลอดภัย มีสารพิษเจือปนสูงจริงจริ๊ง เขาเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคซึ่งมีทั้งประชาชนชาวรัสเซียและชาติอื่นๆรวมทั้งยุโรปและชาวอเมริกันที่อาศัยอยู่ในรัสเซียจะได้รับพิษจากถั่วปนสารพิษของอเมริกาด้วยเท่านั้นเอง จึงสั่งแบนชั่วคราวให้รัฐบาลสหรัฐฯไปปรับปรุงมาตรฐานถั่วของตัวเองให้ดีซะก่อนแล้วค่อยมาขอร้องให้รัสเซียยกเลิกการสั่งห้ามนำเข้าในภายหลังก็ได้
    อ้าว! แล้วชาวรัสเซีย และอเมริกันรวมทั้งยุโรปที่อาศัยอยู่ในรัสเซียจะเอาถั่วจากที่ไหนรับประทานกันหละ? ก็คงจะเพราะว่าเนื่องจากถั่วที่ผลิตได้ในประเทศรัสเซียนั้นไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ และเมื่อแบนถั่วอเมริกาแล้ว ทางรัสเซียก็หันไปสั่งนำเข้าถั่วจากอินเดียแทนสิ ฮ่าๆๆ คิดจะมาแทรกแซงศรีลังกากับมัลดีฟส์สะเทือนถึงอินเดียหละสิ งานนี้อินเดียกับรัสเซียจึงแท็กทีมกันซะเลย มันดีแท้ๆเกมนี้
    ป.ล. ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เฟซบุคลบโพสต์ที่อ้างอิงแหล่งข่าว (ลิ้งค์) จากสำนักข่าวทาสส์ของรัสเซียมาเมื่ออาทิตย์ก่อน เนื่องจากระบบของเขาแจ้งว่าคำว่า "t-a-s-s" เป็นไรซักอย่างที่ต้องถูกบล็อค (ในตอนนั้น) ตอนนี้กลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว แต่ก็ยังไม่ไว้ใน จึงต้องใส่ภาษาไทยลงแทนชื่อสำนักข่าวนี้ เพื่อความปลอดภัยครับผม นี่ขนาดจะเขียนคำว่า "ทาสส์" เป็นภาษาอังกฤษตามต้นฉบับเขาก็ยังระแวงเลยนะนี่ หลอนแล้ว ไม่รู้ว่าระบบของเฟซบุคจะเกิดอาการมึนแบบครั้งก่อนขึ้นมาอีกเมื่อไร
    The Eyes
    04/05/2558
    ----------
    Russia Bans US Peanut Imports Over High Toxicity Levels / Sputnik International
    http://ทาสส์.ru/en/economy/792585
    http://ทาสส์.ru/en/economy/792629
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จิมมี่ คาร์เตอร์ อดีตปธน.สหรัฐคนที่39 บอกว่าการที่ไคร์เมียกลับมารวมเข้ากับรัสเซียอีกครั้งนั้นเป็นความต้องการของชาวไคร์เมีย

    [​IMG]

    --------------
    อุ๊แม่จ้าว! เห็นฤทธิ์ปูตินหรือยัง? หลังจากที่ปูตินได้เชิญบรรดาท่านผู้อาวุโสอดีตผู้นำทางการเมืองระดับโลกให้คำแนะนำและปรึกษาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์โลกในปัจจุบันที่นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่านผู้เฒ่าโคฟี่ อันนันก็ได้ออกมากล่าวเป็นรายแรกแล้วว่าสหรัฐฯนั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำลายความมั่นคงของอิรัคและทำให้อิรัคและตะวันออกกลางตกอยู่ในสภาพที่เป็นอยู่อย่างทุกวันนี้ รัฐบาลสหรัฐฯไม่เถียงซักคำ แทบจะเอาหน้ามุดแผ่นดินหนี
    เมื่อวันที่ 3 พ.ค.58 ที่ผ่านมา หนึ่งในผู้เฒ่าจากกลุ่ม Elders คือ Jimmy Carter อดีตประธานาธิบดีคนที่ 39 ของสหรัฐฯ (1977-1981) ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นกรณีไคร์เมียตามมาติดๆว่า เอ้ยยยย! เรื่องไคร์เมียนั้นมันเป็นความต้องการของประชาชนชาวไคร์เมียเค้า สหรัฐฯไปยุ่งอะไรด้วย! ก่อนหน้านี้ไคร์เมียก็เป็นส่วนหนึ่งของโซเวียตมาก่อนอยู่แล้ว ก่อนที่จะโอนมาอยู่ภายใต้การดูแลของยูเครนในยุคโซเวียตซะอีก วันนี้เมื่อประชาชนชาวไคร์เมียเขาทำประชามติและชนะด้วยเสียท่วมท้น 96% ว่าอยากจะไปกลับไปรวมเข้ากับรัสเซียอีกครั้งก็ถือเป็นความชอบธรรมของเขาสิ จะมากล่าวหาว่ารัสเซียไปยึดไคร์เมียได้อย่างไร?
    มันเป็นไปแล้ว! จิมมี่ คาร์เตอร์พูดออกมาชัดเจนซะขนาดนี้ แล้วสหรัฐฯกับอียูบางประเทศยังจะท่องเป็นนกแก้วนกขุนทองแผ่นเสียงตกร่องอยู่อีกหรือว่า "รัสเซียยึดไคร์เมีย" กลับไปศึกษาประวัติศาสตร์และดูข้อเท็จจริงให้ดีก่อนป๊ะ
    คาร์เตอร์ยังย้อนอดีตให้ฟังอีกว่า ตามประวัติศาสตร์ของไคร์เมียนั้น ในปี 1950s Nikita Khrushchev ผู้นำของโซเวียตในสมัยนั้นได้โอนการดูแล Crimea ให้แก่ยูเครนเพื่อเป็นรางวัล อย่างไรก็ตาม ตอนนั้นที่ Khrushchev ทำอย่างนี้ก็คงจะคิดว่า USSR คงจะไม่มีทางสลายตัวแน่ คาร์เตอร์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ทางสถานีวิทยุ VOA (Voice of America) ในรัสเซียว่า "มันเป็นความต้องการของประชาชนชาวไคร์เมีย ผมเชื่ออย่างนั้น" (ฮ่าๆๆ! นี่ท่านผู้เฒ่าคาร์เตอร์พูดผ่านสถานีวิทยุอเมริกันในรัสเซียเลยนะนี่ ซึ่งปรกติแล้ว VOA มักจะนำเสนอข่าวที่เป็นบวกกับสหรัฐฯและจ้องจะดิสเครดิตประเทศต่างๆที่เข้าไปตั้งที่ทำการอยู่บ่อยๆ แต่เจอท่านคาร์เตอร์เข้าไป VOA ก็ VOA เหอะ)
    ต่อกรณีของวิกฤตยูเครนในตะวันออกนั้น จิมมี่ คาร์เตอร์ได้แสดงความคิดเห็นว่า การฟื้นฟูสันติภาพในยูเครนนั้นต้องเป็นไปตามข้อตกลงเจรจาสันติภาพที่กรุงมินส์กเท่านั้น หมายความว่าไม่เอากองกำลังสันติภาพจากยูเอ็นเข้าไปตามที่รัฐบาลยูเครนเสนอ (แผนของสหรัฐฯ โปโรเชนไม่มีปัญญาคิดเรื่องแบบนี้เองได้หรอก) เพราะถ้าเอากองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไป สหรัฐฯก็จะถือโอกาสส่งกองทัพนาโต้เข้าไปในยูเครนและตั้งฐานทัพของตนในยูเครนซะเลย การที่จะไล่ออกไปในภายหลังนั้นคงจะยากซะแล้ว ถ้าสมมุติว่าเมื่อสหรัฐฯสามารถเข้าไปตั้งฐานทัพในยูเครนได้แล้วโดยอ้างเรื่องความไม่สงบในยูเครนตะวันออก หากยูเครนสงบก็ไม่มีเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯจะอยู่ในที่นั่นอีกต่อไป เรื่องอะไรจะทำให้สงบหละ เพราะนั่นถือว่าสหรัฐฯสามารถขยับเข้าใกล้ชายแดนรัสเซียได้มากเข้าไปอีก ถึงสงบก็จะยังคงอยู่โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการจับตาดูสถานการณ์ต่อไป
    เมื่อพูดถึงกรณีที่สหรัฐฯกล่าวหาว่ารัสเซียส่งทหารและอาวุธของตนเข้าไปร่วมสู้รบในยูเครนตะวันออกเพื่อช่วยเหลือกลุ่ม DPR/LPR นั้น อดีตปธน.ของสหรัฐฯกล่าวว่า "ข้อมูลดังกล่าวไม่เคยได้รับการยืนยัน" อย่างเป็นทางการซักที อ้าว! สหรัฐฯหน้าแตกอีกแล้วหลังจากที่ทั้งพยายามกล่าวหาและสร้างหลักฐานเท็จใส่ร้ายรัสเซียมานับครั้งไม่ถ้วน ไม่ใช่ว่าพวกนักการเมืองรุ่นใหม่และรุ่นเก่าบางกลุ่มที่ชักใยอยู่เบื้องหลังของสหรัฐฯจะสามารถตบตาบรรดาท่านผู้เฒ่าที่มีประสบการณ์โชกโชนในเวทีการเมืองระดับโลกเหล่านี้ได้ตามที่ต้องการได้ตามอำเภอใจซะแล้วสิ บุคคลเหล่านี้แม้จะปลดเกษียณไปแล้วแต่ก็ยังรวมตัวกันและจับตาดูสถานการณ์โลกอย่างต่อเนื่อง
    The Eyes
    04/05/2558
    ----------
    Carter: Reunification With Russia Was 'Something Crimean People Wanted' / Sputnik International
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "อิสราเอล : ใช้เครื่องบินพ่นสารพิษใส่พืชไร่ของเกษตกรในเขตกาซ่าเสียหาย อีกครั้ง"
    .
    ... ข่าวเมื่อ 20 เมษายน 2015 ที่ผ่านมา บริเวณ "ฉนวนกาซ่า" เกษตรกรชื่อ Ahmed Badawi ที่ไร่ของเขาอยู่ห่างจากเขตแดนระหว่างกาซ่ากับอิสราเอลประมาณ 400 เมตร บอกว่าเขาเห็นเครื่องบินของอิสราเอลบินข้ามเขตแดน ข้ามมาในเขตปาเลสไตน์ แล้วเริ่มโปรยพ่นสารเคมีอะไรบางอย่างออกไปทั่วไร่สวนผักของเขา และหลังจากนั้นแค่สองวัน ก็เกิดผลกระทบด้านลบขึ้นมาทันที
    ... Mahmoud Dalloul เกษตกรอีกคนที่อยู่คนละพื้นที่กับคนแรก ก็บอกว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อิราเอลทำการโปรยสารเคมีบางอย่างที่ทำให้ผลผลิตทางการเกษตรของปาเลสไตน์เสียหายแบบนี้ในกาซ่า
    ... "อิสราเอลทำลายระบบสาธารณูปโภคและระบบโครงสร้างที่อยู่บนพื้นดินของปาเลสไตน์มาแล้วบ่อยครั้ง" Dalloul บอก
    ... Ahmed Badawi บอกว่าเขาเสียหายไปราว 25,000 จากการถูกทำลายในครั้งนี้
    ... Mahmoud Dalloul บอกว่าฤดูร้อนที่แล้วเราสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่าง( จากการทำลายของอิสราเอล) และฤดูกาลนี้เรากำลังสูญเสียอีกครั้ง
    ... ( ยังไม่นับที่ชาวปาเลสไตน์อีกหลายคนที่จะต้องไม่มีอาหาร ผักทานกัน ที่อาจจะต้องนำเข้าจากที่อื่น ที่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็น GMO หรือมีสารพิษเจือปนมากกว่าแค่ไหน เหมือนหนีเสือปะจระเข้ หรือไม่ ... )
    ... ย้อนไปเมื่อปี 2006 กลุ่ม "ฮามาส" ได้รับ "การเลือกตั้ง" อย่างถูกกฎหมายที่จะได้สิทธิ์ในการปกครองตัวเองของ "กาซ่า"
    ... แต่ปรากฎว่า "อิสราเอล และอเมริกา" ไม่ยอมรับการเลือกตั้งนี้ ทั้งๆที่ "ฮามาส" ได้มาจาก "การเลือกตั้ง" ของชาวปาเลสไตน์จริงๆ เพียงเพราะว่านโยบายของ "ฮามาส" นั้นใกล้ชิดกับกลุ่ม "ภราดรภาพมุสลิม" ที่อยู่ใกล้ชิด "อียิปต์" ที่มีแนวคิดหลักคือ เน้นการปกครองตามหลัก "ชารีอะห์" ที่ปกครองใต้กฎหมายอิสลามคล้ายๆที่อิหร่านเป็น
    ... และที่ชัดเจนคือ "ฮามาส" เป็นสายเหยี่ยวที่ไม่ยอมรับ "อิสราเอล" และพร้อมจะสู้เพื่อดินแดนปาเลสไตน์
    ... ซึ่งแนวคิดแบบนี้รวมถึงการมองว่า "รัฐอิสราเอล" ที่ก่อตั้งในปี 1948 นั้น เป็นสิ่งไม่ถูกต้องทั้งตามกฎหมายโลกและตามประวัตศาสตร์ ในการมาปล้นดินแดนของชาวอาหรับปาเลสไตน์ ทำให้นี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้อิสราเอลพยายาม "ทำให้กลุ่มฮามาสอ่อนแอ" มากขึ้นทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ และตัดขาดความสัมพันธ์กับอียิปต์ ที่คอยส่งเสริมด้านอาหาร อาวุธและบริการต่างๆ .
    ... และการทำลายพืชพันธุ์อาหารต่างๆของชาวปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่องก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการกัดกร่อนทำให้ "กาซ่า" อ่อนแอจากภายในโดย "คนยิว" จากอิสราเอล
    .
    https://www.middleeastmonitor.com/n...-sprays-gaza-farms-with-poisonous-gases-again
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    25. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    ในช่วงฤดูร้อนนี้ การประท้วงผิวสีในสหรัฐฯน่าจะมีความรุนแรงและระบาดมากขึ้น ไม่มีการเสแสร้่งอีกต่อไปสำหรับความทัดเทียมกันที่ไม่มีในสังคมอเมริกันเมื่อมันเป็นเรื่องเกี่ยวกับผิวสี
    ข้อสรุปว่าจะมีเหตุประท้วงที่รุนแรงขึ้นในฤดูร้อนนี้คือ ความเห็นของ96%ของคนอเมริกันที่ทางWall Street Journal/NBC News Pollได้ทำการสำรวจ โดยสะท้อนให้เห็นว่าการจลาจลในบัลติมาร์ รัฐเมรี่แลนด์หลังจากงานศพของนายFreddie Gray คนผิวดำอเมริกันที่เสียชีวิตในขณะที่ถูกทางตำรวจควบคุมตัวไม่ใช่เป็นเรื่องท้องถิ่นอีกต่อไป แต่กลายเป็นเรื่องระดับชาติไปแล้ว
    มีการประท้วงผิวสีในหลายมลรัฐไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์คหรือดีซีหลังจากเหตุจลาจลที่บิลติมอร์ และในช่วงวันแรงงานมีการเดินขบวนทั่วประเทศสหรัฐฯตั้งแต่แคลิฟอร์เนียถึงนิวยอร์คเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมในเรื่องผิวสี
    คนผิวดำเชื่อว่าทางการกระทำต่อของผิวดำไม่ทัดเทียมกับคนผิวขาว อย่างไรก็ตามในการสำรวจ หลายคนพูดว่าคนผิวดำถือโอกาสทุบข้าวของให้เสียหายหรือปล้นร้านค้า แต่ส่วนหนึ่งบอกว่าที่ออกมาก่อจราจลเพราะว่าผิดหวังกับการทำงานของตำรวจที่กระทำต่อคนผิวดำ
    ในช่วงต้นทศวรรษที่1960s Martin Luther King เป็นหมอสอนศาสนาที่ได้กลายเป็นผู้นำขบวนการสิทธิประชาคม (American Civil Rights Movement) เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ที่โด่งดังในปี1963 ชื่อว่า I have a dream หรือฉันมีความฝัน โดยมีเนื้อหาเรียกร้องให้มีการยกเลิกการเยียดผิวในสหรัฐฯ มีการเดินขบวนโดยคนผิวดำไปยังกรุงวอชิงตัน ดีซีเพื่อแสดงพลัง
    50ปีให้หลังจากสุนทรพจน์ "ฉันมีความฝัน"ของคิง สหรัฐฯยังไม่ได้ไปไหนไกลเรื่องปัญหาผิวสี แต่กลับย้อนยุคกลับไปมีปัญหาเรื่องผิวสีเหมือนเดิม เริ่มต้นจากเหตุการที่วันรุ่นMichael Brownถูกยิงตายเมื่อปีที่แล้วที่Ferguson รัฐมิสซูรี่ ทำให้เกิดการประท้วงผิวสีอย่างรุนแรง และต่อมามีเหตุการณ์ที่ดูเหมือนจะจงใจให้เกิดความแตกแยกระหว่างคนผิวขาวและคนผิวดำ โดยที่คนผิวขาวจะเป็นเจ้าหน้าที่ และคนผิวดำเป็นผู้ถูกกระทำ ทำให้เกิดความแตกแยกในประเทศ การจลาจลที่บัลติเมอร์เป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องของสงครามผิวสีที่กำลังครุกรุ่นขึ้นมา
    แสดงว่าที่ผ่านมาสหรัฐฯเสแสร้งว่าปัญหาเรื่องผิวสีในประเทศหมดลงไปแล้ว เพราะว่ามีเรื่องสิทธิพิเศษต่างๆให้ชนกลุ่มน้อย แต่เอาเข้าจริงปัญหาผิวสีกลับมาหลอกหลอนสหรัฐฯอีกครั้ง คราวนี้ดูท่าแล้วจะรุนแรงหนักกว่าเดิม เพราะว่ามันจะบวกกับปัญหาเศรษฐกิจ ความเหลื่อมล้ำ และปัญหาหนี้และปัญหาการว่างงาน
    thanong
    4/5/2015
    U.S. Split Along Racial Lines on Backlash Against Police, Poll Finds - Washington Wire - WSJ
    May Day: thousands across US demand racial justice at rallies for workers' rights | World news | The Guardian
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    26. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    ลุงMarc Faberบอกว่าหุ้นสหรัฐฯเป็นฟองสบู่ที่พร้อมที่จะแตกทุกเมื่อ แต่ไม่มีใครบอกได้ว่าจะแตกเมื่อใด แต่ถ้าแตก หุ้นจะตก40% Jeremy Grantham แห่งGrantham Mayo van Otterloo บอกว่าฟองสบู่ตลาดหุ้นS&P 500จะไปถึงจุดพีคที่2250ก่อนที่จะแตก และล่าสุดนักเขียนHarry Dent บอกว่าตลาดหุ้นจะเริ่มแตกปีนี้ แต่จะเสียหายหนักในปี2016 และ2017
    Dentบอกว่าตลาดหุ้นเข้าสู่ช่วงฟองสบู่ครั้งที่3 (2000-2001; 2007-2008; 2015-) โดยที่หุ้นดาวโจรอาจจะไปถึงสุดพีคระหว่าง17,000-19,000ก่อนที่จะแครช และเมื่อหุ้นตก ความเสียหายจะหนักหน่วงกว่าครั้งที่แล้วที่เสียหายประมาณ$60ล้านล้าน
    ตลาดหุ้นเป็นฟองสบู่เพราะว่าธนาคารกลางรวมหัวกันกดดอกเบี้ยเหลือ0%และมีการพิมพ์เงินจากกลางอากาศเข้าระบบสูงถึง$11-$12ล้านล้าน ทำให้เกิดสิ่งแวดล้อมเทียมทางการเงิน
    Dentคาดการตามชาร์ตว่า เมื่อตลาดดาวโจรแครช อาจจะลงไประดับ5,500-6,000 โดยรอบที่แล้วดาวโจรแครชลงไปถึง7,000ในเดือนมีนาคม2009
    Dentบอกว่าความเสียหายครั้งนี้ที่จะกินเวลาระหว่าง2015-1017 จะทำให้ความร่ำรวยจากตลาดหุ้นหายไปสูงถึง$100ล้านล้าน
    thanong
    4/5/2015
    Over $100 Trillion in Wealth Will Disappear-Harry Dent | Greg Hunter’s USAWatchdog
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    27. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    ที่ผ่านมาสหรัฐฯและอียูจะใช้นโยบายการคว่ำบาตรประเทศที่ไม่ยอมก้มหัวให้ปล้นทรัพยากรธรรมชาติ หรือยอมเป็นบริวาร แต่ตอนนี้ประเทศเกิดใหม่กำลังรวมตัวกันคว่ำบาตรสหรัฐฯและอียูมั่ง อย่างน้อยไม่ต้องการใช้เงินดอลล่าร์และเงินยูโร
    มีรายงานว่า:
    "อิหร่านเตรียมจับมือตุรกีเดินหน้าแผนใช้เงินสกุลท้องถิ่นในการค้าขายทวิภาคี ระหว่างทั้งสองชาติ แทนการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯและเงินยูโรเป็นสื่อกลาง
    ญาลาล เอบราฮิมี ประธานสภาการค้าร่วมอิหร่าน - ตุรกี ออกมาเปิดเผยว่า แนวคิดการใช้เงินสกุลริอัล และ ลีรา เป็นสื่อกลางในการค้าขายระหว่างประเทศทั้งสองถูกหยิบยกมาพูดคุยกันเมื่อไม่นานมานี้ ระหว่างการเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของประธานาธิบดี เรเซป ทายยิบ เออร์โดกัน ผู้นำตุรกี ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขจัดอุปสรรคและส่งเสริมการค้า
    ประธานสภาการค้าร่วมอิหร่าน - ตุรกี เผยว่า ขณะนี้มีการบรรลุข้อตกลงในเรื่องดังกล่าวระหว่างรัฐบาลของอิหร่านและตุรกีแล้ว และคาดว่า จะเริ่มการใช้เงินสกุลท้องถิ่นเป็นสื่อกลางในการค้าระหว่างกันได้ภายในปีนี้
    ก่อนหน้านี้ อิหร่านได้บรรลุข้อตกลงแบบเดียวกันนี้กับรัสเซียมาแล้ว ซึ่งมีผลให้มีการใช้เงินรูเบิลและ เงินริอัล เป็นสื่อกลางในการค้าขายระหว่างกัน"
    ผู้นำรัสเซีย นายวลาดิเมียร์ ปูตินได้เดินสายทำข้อตกลงกับประเทศต่างๆเพื่อใช้เงินสกุลของตัวเองในการค้าขายกัน ไม่ว่ากับอิยิปต์ หรือล่าสุดกับอาร์เจนติน่า เพื่อลดอิทธิพลของสหรัฐฯ จีนก็กำลังจะลอยค่าหยวนเพื่อมาแข่งกับดอลล่าร์
    จะเห็นได้ว่าแนวโน้มสงครามการคว่ำบาตรการเงินกำลังรุนแรงมากยิ่งขึ้น
    thanong
    4/5/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050624
     

แชร์หน้านี้

Loading...