ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    บัลติมอร์ยก2 : เมื่อประชาชนไม่กลัวเคอร์ฟิว ตำรวจก็จับเข้าคุก, เมื่ออัยการสั่งออกหมายจับตำรวจ 6 นายที่ฆ่าเฟรดดี้ เกรย์ สหภาพตำรวจบัลติมอร์บอกอัยการถอยออกไป

    [​IMG]

    ---------------
    วันนี้ (2 พ.ค.58) สถานการณ์ในบัลติมอร์มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวรัสเซียเกาะติดสถานการณ์ตลอดเวลา วันนี้ RT News ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "เฟรดดี้ เกรย์ 'ความขัดแย้งเรื่องของผลประโยชน์' : สหภาพตำรวจเมืองบัลติมอร์เรียกร้องให้อัยการถอยออกไปอยู่ข้างๆ" (Freddie Gray ‘conflicts of interest’: Baltimore police union calls for prosecutor to step aside) เดี๋ยวจะผู้เขียนปั้นข่าวขึ้นมาเอง เอาภาษาอังกฤษต้นฉบับให้อ่านด้วยเลย ข้างล่างมีลิ้งค์ให้ด้วยนะครับ
    นั่นคือในมุมมองของสื่อฯรัสเซีย ไม่แปลกเวลาสื่อฯสหรัฐฯเขียนข่าวเกี่ยวกับประเทศอื่นก็จะเขียนประมาณนี้แหละหรืออาจจะแรงกว่านี้ก็ได้ ทีใครทีมันว่างั้นเถอะ นี่ก็แสดงว่าบัลติมอร์กลายเป็นรัฐตำรวจไปแล้วสินี่ ขนาดอัยการปฏิบัติตามกฎหมายจนสามารถออกหมายจับผู้กระทำผิดได้ ตำรวจก็ยังมาสั่งให้อัยการอย่ายุ่ง! เฉยเลย
    สหภาพตำรวจเมืองบัลติมอร์ได้เรียกร้องให้ Marilyn J. Mosby อัยการของรัฐแมรี่แลนด์มอบหมายให้อัยการพิเศษเข้ามาดูแลคดี (take over) ตำรวจสหรัฐฯ 6 นายมีส่วนเกี่ยวข้องในการจับกุมและทำให้ผู้ต้องสงสัยคือนายเฟรดดี้ เกรย์เสียชีวิต แต่อัยการ Mosby ปฏิเสธคำเรียกร้องนั้น (นี่แหละคือกระบวนการยุดิธรรมของสหรัฐฯที่เป็นอยู่ทุกวันนี้)
    เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 พ.ค.58) Gene Ryan ประธาน "ภราดรภาพของตำรวจแห่งเมืองบัลติมอร์" (Fraternal Order of Police (FOP)) (ชื่อคุ้นๆเหมือนที่ไหนซักแห่งนะ?) ออกมากล่าวว่า "เพื่อหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือละเมิดต่อกฎของการแสดงความรับผิดชอบในวิชาชีพ ผมขอให้คุณ [อัยการรัฐ] แต่งตั้งเจ้าหน้าที่อัยการพิเศษขึ้นมาพิจารณาว่าควรจะตั้งข้อหาใดๆหรือไม่"
    ฝ่าย Mosby อัยการรัฐแมรี่แลนด์ออกมาแถลงต่อสื่อฯว่า "ฉันขอบอกให้คุณทราบเลยว่าประชาชนแห่งเมืองบัลติมอร์เลือกฉันมา และไม่มีความรับผิดชอบใดๆเกี่ยวข้องกับอัยการพิเศษด้วย ฉันสามารถบอกให้คุณรู้ได้เลยว่านับตั้งแต่วันแรกมา พวกเราทำการสอบสวนโดยอิสระ เราไม่ได้เชื่อถือข้อมูลเพียงด้านเดียวจากที่กรมตำรวจให้มา"
    นั่นคือการซัดกันระหว่างฝ่ายผู้บังคับใช้กฎหมาย (ตำรวจ) กับฝ่ายที่เป็นนักกฎหมายในกระบวนการยุติธรรม (อัยการ) ปัญหาก็มีอยู่ว่าทำไมตำรวจบัลติมอร์ถึงอยากให้เปลี่ยนอัยการคนอื่นมาดูแลคดี เมื่อมีหลักฐานพิสูจน์ว่าตำรวจกระทำผิดจริง?
    เมื่อวันที่ 1 พ.ค.58 ที่ผ่านมา อัยการ Mosby ออกมาแถลงผลการสืบสวนสอบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเฟรดดี้ เกรย์ พบว่ามีตำรวจบัลติมอร์มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยกันทั้งหมด 6 นาย (ผิวขาว 3 ผิวสี 3 / ชาย 5 หญิง 1 ตามภาพประกอบข่าว) ซึ่งทั้ง 6 คนนี้ถูกอัยการตั้งข้อหาว่า "กระทำการโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต / ทำให้ผู้อื่นเสียชีวิตโดยไม่เจตนา" (homicide / manslaughter) ซึ่งตำรวจทั้ง 6 นายก็ได้ยอมเข้ามอบตัวด้วยตัวเอง กฎหมายกำหนดไว้ว่าค่าประกันตัวอยู่ระหว่าง $250,000 - $350,000 ขึ้นอยู่กับความผิดที่กระทำ (ประมาณ 8.1 - 11.3 ล้านบาท)
    ปัญหามันก็น่าจะจบแล้ว แต่ปรากฎว่าไม่จบครับ ประชาชนไม่ยอม พวกเขามีความรู้สึกว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรม แม้จะมีเคอร์ฟิวก็ไม่กลัว ไม่ใช่ท้าทายกฎหมาย แต่เขาบอกว่ามันไม่ยุติธรรมจึงพากันออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนต่างในเมืองบัลติมอร์หลายพันคนในตอนกลางวัน ตกกลางคืนถึงเวลาเคอร์ฟิวก็ไม่เลิก ถูกตำรวจจับกุมตัวไปประมาณ 10 กว่าคน
    เมื่อเมืองต่างๆ และรัฐต่างๆทั่วสหรัฐฯเห็นว่าทางบัลติมอร์ซึ่งเป็นเมืองต้นเหตุยังไม่เลิก เมืองอื่นก็ยังไม่เลิกประท้วงด้วยเช่นกัน แล้วมันลุกลามออกไปยังเมืองต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ สื่อฯบอกว่าลามไปทั่วประเทศสหรัฐฯแล้วตอนนี้ ดูภาพประกอบนะ เมื่อตำรวจปราบจลาจลของสหรัฐฯปะทะกับม็อบ ก็มีการแจกแก๊สน้ำตาให้ดมกันตามระเบียบ สูตรเดิมที่เคยเล่าให้ฟังแล้ว ไล่ตะครุบ กดหัวลงกับพื้น ล็อกกุญแจมือด้านหลัง หิ้วขึ้นรถตำรวจตามระเบียบ ตำรวจกับทหารของสหรัฐฯหนะหรือ โล่ห์พร้อม กระบองพร้อม ปืนพร้อม ประชาชนสู้
    The Eyes
    02/05/2558
    ----------
    http://rt.com/usa/255013-fop-asks-mosby-special-prosecutor/
    http://rt.com/usa/255041-seattle-police-protests-may-day/
    Baltimore Police Arrest Crowds Refusing to Obey Curfew / Sputnik International
    May Day Marches Across US Incorporate Protests Against Police Brutality / Sputnik International
    Freddie Gray Death in Baltimore Determined as Homicide — State Attorney / Sputnik International
    Baltimore Officers Charged With Freddie Gray Homicide Post Bail – Reports / Sputnik International
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    3 สูตรอาหาร ล้างอุจจาระตกค้างในลำไส้
    ดูเพิ่มเติม ==> 3 สูตรอาหาร ล้างอุจจาระตกค้างในลำไส้ - โอ้โหซ่าส์ ข่าว คลิป รูป กีฬา ฮอต!
    19 มกราคม 2558 00:33 น.
    “อุจจาระตกค้าง” เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุเช่น เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด, กินอาหารที่มีกากใยน้อย, มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ หรือ ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบทำให้น้ำที่ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน
    หากถ่ายอุจจาระ หลังเวลา 7 โมงเช้าลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบนเวลาถ่ายจะ ถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอมาจ่ออปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญานบอกสมองให้ปวดอึหลัง 7 โมงเช้า ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วงเวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้ว เราก็หยุดแต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นไป ไม่มาจ่อปลายทวารทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่าหมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่ามันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่น
    ฉะนั้น ทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอส่วนที่เหลือ ก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะ และกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมายเช่น ท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัวอ่อนเพลียนอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน และอื่น ๆ นั่นแหละเป็นที่มา..ที่คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่าเวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ
    การนำอุจจาระตกค้างออกจึงจำเป็นต้องหาว่าเป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น แต่ถ้าสามารถได้รับการตรวจด้วยลูกดิ่งเพนดูลั่มก็จะรู้ได้
    สำหรับท่านที่ไม่สะดวกในการเดินทางมาให้ตรวจ ก็แนะนำให้ถ่ายพยาธิเสียก่อน แล้ว ลองสูตรอาหารดังต่อไปนี้
    สูตรที่ 1
    เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้วทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน เม็ดแมงลักจะลากอุจจาระตกค้างออกมา ทานเป็นปกติได้ทุกวันหรือ 3-4วันต่อสัปดาห์ แล้วแต่จะชอบ
    สูตรที่ 2
    ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออก
    สูตรที่ 3
    ดื่มนมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ500 มิลลิลิตร) และ กล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมงเช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตามที่เห็นสมควร
    ข้อมูลจาก:
    ดูเพิ่มเติม ==> 3 สูตรอาหาร ล้างอุจจาระตกค้างในลำไส้ - โอ้โหซ่าส์ ข่าว คลิป รูป กีฬา ฮอต!
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    เอาอีกแล้ว! สหรัฐฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรัฐไอโอวาเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสไข้หวัดนก

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 พ.ค.58) นาย Terry Branstad ผู้ว่าการรัฐไอโอวา (Iowa) ประเทศสหรัฐฯประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน (a state of emergency) เนื่องจากการระบาดของโรคไข้หวัดนก (bird flu epidemic) ที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้รัฐไอโอวาเป็นรัฐที่ 3 ในประเทศสหรัฐฯที่ต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโรคอย่างรุนแรงครั้งใหม่สุด
    จากการประเมินเมื่อเร็วๆนี้ รัฐไอโอวาถือว่าเป็นรัฐที่ผลิตไข่ไก่มากเป็นอันดับหนึ่งในประเทศ มีแม่ไก่พันธุ์ไข่อยู่ราว 16 ล้านตัวในรัฐแห่งนี้ที่ติดเชื้อหรือสันนิษฐานว่าติดเชื้อภายในฟาร์มไก่
    ผู้ว่าฯ Terry Branstad กล่าวแถลงการณ์ว่า "การแพร่ระบาดของไข้หวัดนกนี้ ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อมนุษย์ เรากำลังจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และเชื่อว่าการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นแนวทางที่ดีที่สุดที่จะทำให้ทรัพยากรทั้งหมดยังคงสามารถใช้ประโยชน์ได้" (เอ้า! "ไม่เสี่ยงต่อมนุษย์" แล้วประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทำไม? พูดเป็นลิเกอีกหละ งั้นก็แนะนำให้ท่านผู้ว่าฯเก็บไก่ที่ติดเชื้อไข้หวัดนกไว้รับประทานเองละกัน)
    การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมีผลทันทีและเกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงการเกษตรของรัฐประกาศว่าผลจากการตรวจสอบหาไวรัสจากฟาร์มไก่ทั้งสี่แห่งเป็นบวก จึงมีผลให้รัฐไอโอวาต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทันที และจะได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ในการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค
    สำนักข่าว sputnik รายงานต่อว่า มีหลายประเทศที่ประกาศแซงชั่นการนำเข้าสัตว์ปีกทั้งหมดหรือเป็นบางส่วนจากสหรัฐฯ นับตั้งแต่มีการตรวจพบการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา รัฐมินเนโซตา (Minnesota) และรัฐวิสคอนซิน (Wisconsin) ก็ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินมาแล้วเนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดนกในเดือนเมษายนที่ผ่านมา
    เมื่อวันที่ 21 เมษายนที่ผ่านมากระทรวงเกษตรของสหรัฐฯได้มีคำสั่งให้ฆ่าไก่จำนวน 5.3 ล้านตัวในฟาร์ม "ซันไรซ์" ในรัฐไอโอวาแห่งนี้เนื่องจากตรวจพบว่าติดเชื้อไข้หวัดนก ในรัฐไอโอว่ามีไก่ฟาร์มอยู่ราว 59 ล้านตัว (ไก่ไข่กับไก่เนื้อ?) รายงานข่าวบอกว่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนกที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้เป็นสายพันธุ์ H5N2
    The Eyes
    02/05/2558
    ----------
    Iowa Declares State of Emergency to Contain Bird Flu Outbreak / Sputnik International
    Minnesota Governor Declares State of Emergency Over Bird Flu Outbreak / Sputnik International
    สหรัฐเชือดไก่กว่า 5 ล้านตัวสกัดไข้หวัดนก | เดลินิวส์
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ทุบกันใหญ่แล้วพี่น้อง! ตำรวจเมืองมิลานแจกแก๊สน้ำตาและกระบองฟาดเข้าใส่กลุ่มนักศึกษาประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดและงาน Expro Milan 2015 ที่อิตาลี (Help! Where are HRW and UN? Italian riot police are violating anti-austerity students in Milan now.)
    ---------------
    ตอนนี้ ขณะนี้ เวลานี้ ตำรวจอิตาลีกำลังเมามันกับการรุมสกรัมม็อบนักศึกษาในเมืองมิลาน ทั้งโล่ห์ กระบอง และแก๊สน้ำตา แจกกันสนั่น ใครหลบได้ก็หลบ หลบไม่ได้ก็กินกระบองและรองเท้าคอมแบทตำรวจปราบจลาจลในยุโรปไป ที่ถูกรวบตัวได้ก็ถูกกดหัวลงกับพื้น ล็อกกุญแจมือ ลากขึ้นรถตำรวจที่เตรียมมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
    ช่วงบ่ายวันนี้ (1 พ.ค.58 ตามเวลาท้องถิ่น) มีกลุ่มประชาชนและนักศึกษาหลายพันคนออกมารวมตัวกันหลายพันคนเดินประท้วงตามท้องถนนในกรุงมิลานประเทศอิตาลี เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล (anti-austerity protest) และประท้วงการจัดงาน Expro Milan 2015 กลุ่มผู้ประท้วงที่ต้องการสร้างสถานการณ์บางคนขว้างพลุไฟใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจล และชายชุดดำก็จุดไฟเผารถยนต์ที่จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียงหลายคัน กลุ่มผู้ประท้วงบางรายพากันขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ แค่นั่นแหละ... ตำรวจปราบจลาจลก็วิ่งกรูเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อเหตุเหล่านั้นทันที มีการตะลุมบอนกันโดยตำรวจปราบจลาจลกับกลุ่มผู้ประท้วง ใครเป็นใครก็ดูจากภาพประกอบที่รวบรวมมาให้ละกัน
    งาน Milan Expro 2015 จัดขึ้นที่กรุงมิลานระหว่างวันที่ 1 พ.ค. - 31 ต.ค.58 ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นทุก 5 ปี ครั้งล่าสุดจัดขึ้นที่เมืองเซี่ยงไฮ้ของจีน (World Expro 2010 Shanghai) เป็นงานแสดงนวัตกรรมในด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ด้วย ที่เซี่ยงไฮ้มียอดผู้เช้าชมงานทั้งสิ้น 73 ล้านคนสูงสุดเป็นประวัติการ ปีนี้อิตาลีเป็นเจ้าภาพจัดงานบ้าง โดยได้เตรียมงานมาตั้งแต่ปี 2008 แล้ว ทางรัฐบาลอิตาลีได้ลงทุนในการจัดงานครั้งนี้ประมาณ $1.46 billion (ประมาณ 4.7 หมื่นล้านบาท) แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐบางคนในอิตาลีบอกว่า งบประมาณในที่ใช้สำหรับพัฒนาทางด่วน เส้นทางรถไฟและอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้ราว $14 billion (4.55 แสนล้านบาท) รัฐบาลอิตาลีคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานนี้ราว 20 ล้านคน ซึ่งจะช่วยทำให้เศรษฐกิจของอิตาลีดีขึ้น แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเชื่ออย่างนั้นด้วย
    ภายใต้สถานการณ์วิกฤตทางเศรษฐกิจของยุโรปที่ย่ำแย่อยู่ในขณะนี้ อิตาลีเองก็ใกล้จะเข้าสู่สภาวะเดียวกันกับกรีซแล้ว รัฐบาลอีตาลีเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัดอย่างหนัก ทำให้มีผู้ประท้วงต่อต้านอยู่เรื่อยๆ กลุ่มผู้ประท้วงมองว่าการจัดงานดังกล่าวไม่ได้ช่วยให้เศรษฐกิจของอิตาลีดีขึ้นจริง เพราะมีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงต่างๆที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก และมองว่าโครงการดังกล่าวทำให้สูญเสียเงินไปเป็นจำนวนมาก และยิ่งจะเป็นการดึงประเทศให้เข้าสู่วิกฤตทางเศรษฐกิจมากกว่าเดิม จึงเกิดการต่อต้านอย่างหนัก
    คร่าวๆ ก็ประมาณนี้แหละนะ ส่วนใครอยู่เบื้องหลัง อะไร ยังไงนั้น ตอนนี้ยังไม่ค่อยมีข่าวออกมาซักเท่าไรนัก จึงเล่าให้ฟังได้เท่านี้ก่อน นี่แหละอีกมุมหนึ่งของอียูในช่วงเวลาปัจจุบันนี้ เหมือนกับรัฐบาลของพวกเขามองว่าการประท้วง ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วง หรือการเผาบ้านเผาเมือง เป็นเรื่องปรกติในบ้านของพวกเขา แต่ถ้าเกิดขึ้นที่บ้านเรา เขาจะรีบออกมาโวยวายทันที และจะส่งพวกที่อ้างว่าเป็นนักสิทธิมนุษยชนรับจ้างทั้งหลายดาหน้าออกมาเรียกร้องนั่นนี่ทันทีเลย แต่พอเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นมาในยุโรปหรือสหรัฐฯ พวกนักสิทธิมนุษยชนรับจ้างเหล่านี้ก็ไม่กล้าที่จะออกมาเรียกร้องจากนายจ้างของพวกเขาเลย
    The Eyes
    02/05/2558
    ----------
    http://rt.com/news/254933-milan-expo-protest-clashes/
    http://news.yahoo.com/police-tear-gas-milan-expo-protests-1…
    Milan Expo 2015: A wasted opportunity?
    http://www.telegraph.co.uk/…/Students-and-riot-police-clash…
    http://www.ibtimes.co.uk/expo-milano-2015-hundreds-students…
    No Expo » Materiali
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนประกาศซ้อมรบร่วมกับรัสเซียเป็นครั้งแรกในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน (Russia-China First-ever joint naval drills in Mediterranean) หุหุ… อเมริกา นาโต้ มีหนาวหละงานนี้

    [​IMG]

    ---------------
    ก่อนจะเข้าสู่ข่าวรัสเซียกับจีนประกาศซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในทะเลเมดีเตอร์เรเนียน ขอเล่าข่าวย้อนหลังช่วงปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมาซัก2-3ข่าวก่อนนะ เพื่อให้ผู้อ่านได้เห็นภาพการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่ายได้กว้างและชัดเจนยิ่งขึ้น
    - เมื่อวันที่ 27 เม.ย.58 ที่ผ่านสำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าสหรัฐฯและญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงร่วมกันโดยสหรัฐฯพร้อมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์และกองทัพอ้างเพื่อปกป้องญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้เป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของสหรัฐฯ หลังจากที่เป็นศัตรูกันและพ่ายแพ้ให้กับสหรัฐฯในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 รายงานจากข้อตกลงร่วมกันระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่นระบุว่า สหรัฐฯจะส่งเรือบรรทุกเครื่องบินพลังงานนิวเคลียร์ของตนเข้าประจำการในฐานทัพนาวิกโยธินของสหรัฐฯในเมือง Yokosuka จังหวัด Kanagawa ประเทศญี่ปุ่นภายในปีนี้ และในปี 2017 กองทัพสหรัฐฯจะเพิ่มจำนวนเรือรบติดตั้งระบบต่อต้านขีนปนาวุธประเภท ballistic missile เพิ่มขึ้นอีกหลายจุดในญี่ปุ่นด้วย
    - ในวันเดียวกันนี้ (27 เม.ย.58) ก็มีข่าวจากทางรัสเซียออกมาว่ารัสเซียพร้อมจะขาย S-400 ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศที่ทันสมัยของรัสเซียให้กับประเทศจีน โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจีนได้จองระบบ S-400 จากรัสเซียอย่างน้อยจำนวน 6 กองพัน (6 battalions) สำนักข่าว sputnik ของรัสเซียรายงานว่าจีนมี S-300 รุ่นล่าสุดของรัสเซียไว้ป้องภัยทางอากาศอยู่แล้ว แต่ S-300 รุ่นเก่านั้นมีรัศมีทำการไกลเพียง 300 กม.ซึ่งหมายความว่าสามารถยิงไปถึงเพียงแค่บางส่วนของเกาะไต้หวันได้เท่านั้น แต่ S-400 มีการปรับปรุงและพัฒนาเพิ่มขึ้น รัศมีทำการอยู่ที่ 400 กม. ซึ่งจีนสามารถส่งไปทำลายเป้าหมายใดๆก็ได้เหนือน่านฟ้าของเกาะไต้หวัน ระบบนี้ยังสามารถทำลายเป้าหมายทางอากาศได้ไกลถึงกรุงนิวเดลี และกรุง Calcutta ประเทศอินเดียด้วย รวมทั้งยังครอบคลุมถึงน่านฟ้าในกรุงฮานอยและกรุงโซลได้ด้วย
    - ต่อมาในวันที่ 30 เม.ย.58 มีรายงานอย่างเป็นทางการจากสหรัฐฯว่า ญี่ปุ่นอาจจะเข้าร่วมปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศกับกองทัพสหรัฐฯในทะเลจีนใต้ เพื่อเป็นการตอบโต้กรณีที่จีนกำลังถมที่ทำสนามบินบนหมู่เกาะที่กำลังเกิดข้อพิพาทกันในทะเลจีนใต้ นาย Shinzo Abe นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่นเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันเพื่อร่วมวางแผนกับสหรัฐฯโดยอ้างว่าเพื่อเป็นการขยายบทบาทด้านความปลอดภัยเหนือดินแดนของตัวเองให้กว้างขึ้น ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดปรากฎออกมาว่าแผนการดังกล่าวนั้นจะเป็นอย่างไรบ้าง แต่ในขณะที่กำลังการตกลงกันในเรื่องนี้ระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่น ญี่ปุ่นอาจจะเข้าร่วมปฏิบัติการลาดตระเวนทางอากาศร่วมกับกองทัพสหรัฐฯในทะเลจีนใต้ด้วย
    - วันที่ 1 พ.ค. 58 : เมื่อสหรัฐฯกับญี่ปุ่นคิดจะเล่นเกมแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างนี้ โดยหาได้เรียนรู้บทเรียนของความสูญเสียในอดีตและป้องกันไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกไม่ วันนี้ (1 พ.ค.) สำนักข่าวทั้งในกรุงปักกิ่ง (Beijing) และกรุงมอสโคว์จึงรายงานข่าวว่า จีนกับรัสเซียประกาศจะร่วมปฏิบัติการซ้อมรบทางทะเลร่วมกันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
    ทะเลที่ว่านี้มันอยู่ตรงไหนรึ? หากดูภาพแผนที่ประกอบก็จะพบว่าทะเลเมดิเตอร์เรเนียนอยู่ระหว่างยุโรปกับแอฟริกา ระหว่างกรีซ อิตาลี ตูนีเซีย ลิเบีย อียิปต์ และตุรกี (คร่าวๆก็ประมาณนี้) นั่นหมายความว่าหน้าบ้านของอียูและนาโต้เลยนะนั่นหนะ สหรัฐฯกับนาโต้ซ่ามากนัก เที่ยวมาจัดซ้อมรบกันในทะเลดำหน้าบ้านรัสเซียและในกลุ่มประเทศบอลติก คราวนี้เจอย้อนศรเข้าให้บ้างอย่าโวยวายละกัน
    การซ้อมรบดังกล่าวระหว่างจีนกับรัสเซียในครั้งนี้จะจัดขึ้นในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมนี้ Geng Yansheng โฆษกกลาโหมของจีนกล่าวว่า "จุดประสงค์ [ของการซ้อมรบ] ก็เพื่อเป็นการกระชับความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจร่วมกันระหว่างสองประเทศอย่างเป็นมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านนาวิกโยธินของพวกเราเพื่อร่วมกันป้องกันภัยคุกคามทางทะเล" (ภัยคุกคามที่ว่านั้นหมายถึงใครก็น่าจะรู้้กันอยู่นะ คริๆ) จีนยังกล่าวอีกว่า "สิ่งที่จำเป็นจะต้องบอกให้ทราบก็คือว่าการซ้อมรบเหล่านี้ไม่ได้มีจุดประสงค์มุ่งไปยังฝ่ายที่สาม และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับสถานการณ์ในภูมิภาค" (คริๆ อีกครั้ง)
    ก่อนหน้านี้รัสเซียกับจีนได้มีปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกันมาแล้วในมหาสมุทรแปซิฟิกที่ทั้งสองประเทศมีอาณาเขตถึงกัน ส่วนการซ้อมรบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในปี 2015 นี้จะเน้นด้านการส่งกำลังเสริมทางทะเล ปฏิบัติการคุ้มกัน และใช้อาวุธและกระสุนจริงด้วย
    เรื่องการซ้อมรบหรือการลาดตระเวนทางอากาศหรือแม้กระทั่งใต้ทะเลนี่มีอะไรๆสนุกเกิดขึ้นเยอะ ที่ว่าสนุกนี่ไม่ใช่ชอบที่จะเห็นการเกิดสงครามนะ หมายถึงการแหย่กันไปมา ฝึกรบข่มกัน หรือรัสเซียส่งเครื่องบินรบของตนเองบินคู่กับเครื่องบินรบของนาโต้ที่ลาดตระเวนเหนือน่านฟ้าทะเลบอลติกโดยที่นาโต้ (อาจจะ) ไม่รู้ตัวเป็นต้น อ่ะ!… เล่าให้ฟังซะหน่อย เมื่อวันที่ 30 เม.ย.58 ที่ผ่านมา หลังจากที่เครื่องบินรบของนาโต้กำลังจะเสร็จสิ้นภารกิจลาดตระเวนทางอากาศในบอลติก (Estonai, Latvia, Lithuania) โดยเครื่องบินรบขององทัพอากาศสเปนและโปแลนด์กำลังจะบินกลับฐานของนาโต้ สื่อฯสเปนก็จับภาพได้ว่ามีเครื่องบินแปลกๆลำหนึ่งที่ดูแล้วไม่เหมือนของนาโต้บินขนาบข้างมาคู่กับเครื่องบินรบ Typhoons ของกองทัพอากาศสเปนด้วย
    สื่อฯสเปนจับภาพได้หลายช็อตมาก แล้วเปรียบเทียบกับเครื่องบินรบทั่วโลกที่มีใช้อยู่ในปัจจุบันรุ่นที่ใกล้เคียงกับภาพที่บันทึกได้ ผลปรากฎว่า อัยย๊ะ! มันคือ Su-34 ของรัสเซียนะสิ! เป็นไปได้ไงที่เครื่องบินรบของนาโต้เองก็ไม่รู้ด้วยว่ามี Su-34 ของรัสเซียบินอยู่ข้างๆ แต่สื่อฯของสเปนจับภาพได้เฉยเลย เคยลงข่าวเกี่ยวกับความคิดเห็นของรัสเซียเกี่ยวกับกรณีเช่นนี้ให้ฟังบ้างแล้วนะว่า ทางกองทัพของรัสเซียเขาถือว่านั่นคือการฝึกเผชิญหน้ากับอริอย่างแท้จริง บทเรียนแบบนี้หาไม่ได้ง่ายๆ แต่รัสเซียก็บอกว่าไม่ได้กระทำผิดกฎการบินนานาชาติหรือผิดระเบียบการใช้น่านฟ้าสากลตรงไหนเลย แค่ส่งนักบินออกไปหาบทเรียนพิเศษเสริมประสบประการณ์ให้ตัวเองเท่านั้นเอง
    The Eyes
    01/05/2558
    ----------
    ​China, Russia to hold first-ever Mediterranean naval exercise — RT News
    Russia, China Plan First-Ever Joint Naval Drills in Mediterranean / Sputnik International
    http://russia-insider.com/…/china-russia-hold-1st-join…/6302
    US Ready to Use Nuclear, Conventional Weapons to Defend Japan / Sputnik International
    Come Fly With Me: Spanish and Russian Warplanes Meet Over Baltic Sea / Sputnik International
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 2 พ.ค.58 มติ UN ห้ามหยุดยิงในเยเมนเด็ดขาด เพราะขัดหลักการตั้งองค์กร
    หลังซาอุฯ และพันธมิตรได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศยังที่มั่นกลุ่มนักรบรัฐบาลฮูตีของเยเมน เข้าสู่สัปดาห์ที่ 6 รัสเซียเสนอให้มีการประชุมฉุกเฉินของสมาชิก 15 ชาติใน UN ขอให้มีการหยุดยิงโดยทันที หรือหยุดพัก เพื่อให้มีการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในเยเมน
    รัสเซียมองว่าการก่อสงครามรุกรานประเทศอื่น เข่นฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง เป็นสิ่งที่ไร้มนุษยธรรม อีกทั้งก่อปัญหาตามมามากมาย เช่น ขาดแคลนเชื้อเพลิงขั้นรุนแรงกระทบต่อการจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์
    แพทย์และพยาบาลในพื้นที่ภาคใต้ของเยเมนเสี่ยงได้รับอันตรายจากการสู้รบ กระทบต่อการจัดส่ง อาหารและยา เพื่อช่วยเหลือเด็ก สตรี และคนชรา ที่อ่อนแอ จากการโจมตีโดยซาอุฯ และฝ่ายอเมริกา
    คณะมนตรี UN อ้างว่า UN ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมความขัดแย้ง และรักษาผลประโยชน์ของชาติตะวันตก การดำเนินการเพื่อมนุษยธรรม ไม่ใช่บทบาทของ UN จึงลงมติปฏิเสธข้อเสนอของรัสเซีย
    การโจมตีทางอากาศของซาอุฯ และการปะทะกันทางภาคพื้นดินครั้งล่าสุด ในเมืองเอเดน ใกล้ชายแดนซาอุฯ มีผู้อ่อนแอเสียชีวิต 47 ศพ ซึ่งกาชาดพยายามจะอพยพเจ้าหน้าที่และคนไข้จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง แต่ทางซาอุฯ และฝ่ายอเมริกาไม่ยอม
    -------------------------------->
    ใครที่เข้าใจผิดมานานว่า UN คือองค์กรเป็นกลางของนานาชาติคอยไกล่เกลี่ยข้อพิพาท และช่วยเหลือให้เกิดความสงบ ช่วยเหลือผู้เดือดร้อน คงต้องทำความเข้าใจเสียใหม่
    เพราะ UN คือองค์กรที่ช่วยเหลือชาติตะวันตกและพันธมิตรเท่านั้น แต่กดขี่ชาติตะวันออกและประเทศยากจน ดังนั้นการระดมทุนต่างๆ ก็เพื่อช่วยชาติตะวันตกอย่างเดียว ถ้ามาช่วยชาติตะวันออก หรือ ชาติที่ไม่มีผลประโยชน์ มติจะไม่ผ่าน
    เป็นรูปแบบเผด็จการเสียงข้างมากแบบหนึ่ง ที่บล็อคผลโหวตไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นภาพลักษณ์ UN ที่คนทั้งโลกเห็น คือ การสร้างขึ้นมาโดยสื่อยิวไซออนิสต์เท่านั้น มันคือภาพลวงตาเท่านั้น
    ส่วนองค์กรสิทธิ ฮิวแมนไรท์ว็อช ทั้งหลาย ก็รับเงินช่วยเหลือจากชาติตะวันตก ดังนั้นกลุ่ม NGO พวกนี้มีหน้าที่ไล่จับผิดชาติกำลังพัฒนา และ ชาติยากจนเท่านั้น ไม่มีวันที่องค์กร NGO พวกนี้จะทำเพื่อประชาชนจริงๆ
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    ... "การเมืองภายในของซาอุกำลังแย่งกันเป็นใหญ่ ... อาจจะรอวันระเบิดจากภายใน"
    ... นึกถึงตอนที่เคาะลีฟะห์ผู้ทรงธรรมที่สามท่านอุษมานปลดเจ้าครองนครคนก่อนๆสมัยท่านอุมัรแล้วเอาคนในตระกูลอุมัยยะห์ขึ้นมาแทนตระกูลฮาชิม จนกลายเป็นการเล่นพวกพ้อง แถมใช้จ่ายฟุ่มเฟือยไม่สนใจราษฎรฟังแต่ที่ปรึกษาคนสนิทอย่างมัรวารคนเดียวเป็นส่วนใหญ จนเกิดการต่อต้านและกบฏในที่สุดและตามมาด้วยการปิดบ้านล้อมท่านและสังหาร สุดท้ายก็แตกแยกมากกว่าเดิมในสมัยท่านอะลี จนเกิดเป็นสงครามอัล ยะมัล และสงครามซิฟฟิน ตามลำดับ ... จนในที่สุดก็แตกแยกเป็น ซุนหนี่ เคาะวาริจญ์ ชีอะห์ ในที่สุด

    รัฐประหารในระบอบการปกครองของซาอุฯ

    Category: News & Event Published on Thursday, 30 April 2015 18:11 Written by Islamicstudiesth Team. Hits: ข่าว เหตุเพราะมารดาเป็นชาวเยเมน มกุฎราชกุมารจึงถูกปลด/รัฐประหารในระบอบการปกครองของซาอุฯ

    [​IMG]

    "มัชอัล" และ "เตอร์กี" บุตรชายสองคนของอับดุลลอฮ์ กษัตริย์ผู้ล่วงลับ ได้ถูกปลดจากการเป็นผู้ปกครองนครมักกะฮ์และกรุงริยาด และท่ามกลางลูกๆ ของอดีตกษัตริย์ผู้นี้มีเพียง "มัตอับ" คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (National Guard) แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับการดำรงอยู่ต่อไปของเขาในตำแหน่งนี้

    ญอมนิวส์รายงาน : หนังสือพิมพ์ "เราะยุลเยาม์" ได้ชี้ถึงสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงล่าสุดในระบอบการปกครองของราชวงศ์ซะอูด และได้เขียนวิเคราะห์ว่า : "คำสั่งต่างๆ ที่ออกโดยกษัตริย์ซัลมานนั้น คล้ายคลึงกับคำสั่งที่ไฟซอล บินอับดุลอะซีซ พี่ชายของเขาได้ออกในปี 1965 ในการปลดกษัตริย์ซะอูด ผู้เป็นน้องชายของตน"

    หนังสือพิมพ์นี้ได้เขียนต่อไปว่า : “บางทีหากเราจะเรียกคำสั่งต่างๆ ที่ไม่คาดคิดที่ออกโดยกษัตริย์ซัลมาน บินอับดุลอะซีซ ว่าเป็น "รัฐประหาร " ก็นับว่าไม่ได้พูดเกินจริง เขาได้ปลด "มุกริน" น้องชายต่างมารดาของตนออกจากการเป็นมกุฎราชกุมารหลังจากไม่กี่เดือน และได้แต่งตั้งมุฮัมมัด บินนายิฟ หลานชายคนแรกของอับดุลอะซีซ ผู้ก่อตั้งระบอบการปกครองของซาอุดิอาระเบียขึ้นแทนที่เขา และกษัตริย์ซัลมานได้แต่งตั้งลูกชายของตนเป็นมกุฎราชกุมาร”

    หนังสือพิมพ์นี้กล่าวต่อไปอีกว่า : "ในการออกคำสั่งต่างๆ ของกษัตริย์ซัลมานนั้น เป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติของบรรพบุรุษของตน แต่ในการคัดเลือกมกุฎราชกุมาร เขาไม่ได้อ้างอิงถึง "สถาบันบัยอัต” (ให้สัตยาบัย) ที่กษัตริย์อับดุลลอฮ์ได้ก่อตั้งขึ้น โดยการเป็นสมาชิกของบรรดาเจ้าชายอาวุโสและลูกๆ ของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งราชวงศ์แต่อย่างใดเลย"

    หนังสือพิมพ์นี้รายงานต่อไปว่า : "กษัตริย์ซัลมานได้กล่าวในคำพูดหนึ่งของเขาว่า มุกรินได้ประกาศความต้องการของตนที่จะถอนตัวจากการเป็นมกุฎราชกุมาร แต่นับจากการขึ้นสู่อำนาจของกษัตริย์ซัลมานเป็นที่ชัดเจนว่า เขาต้องการที่จะกำจัดร่องรอยทั้งหมดของอับดุลลอฮ์ อดีตกษัตริย์ และเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจการปกครอง"

    เขาได้เปลี่ยน 9 รัฐมนตรี และ “คอลิด อัลตุวัยญะรี” อดีตหัวหน้าสำนักพระราชวังก็ถูกปลดออกจากตำแหน่งตั้งแต่ก่อนที่จะศพของกษัตริย์องค์ก่อนจะถูกฝัง

    หนังสือพิมพ์เราะยุลเยาม์ได้กล่าวเสริมอีกว่า : "ล่าสุดในโลกไซเบอร์ได้มีการตีพิมพ์เผยแพร่ว่า เจ้าชายมุกรินได้คัดค้านการแทรกแซงทางทหารของซาอุดิอาระเบียในประเทศเยเมน หรือเนื่องจากมารดาของเขามีเชื้อสายเป็นชาวเยเมน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับความจริงที่ว่ากษัตริย์ซัลมานมีการตัดสินใจอยู่ก่อนแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจการปกครองและนโยบายต่างๆ ทางการเมืองก่อนหน้านี้"

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในเรื่องของมกุฎราชกุมารเท่านั้น ทว่าเขาได้ปลด “ซะอูด อัลไฟซอล” ออกจากตำแหน่งภายหลังการดำรงตำแหน่งมาเป็นเวลาถึง 40 ปี และแต่งตั้ง “อัลญุบัยร์” ทูตซาอุฯ ในอเมริกาขึ้นมาแทนที่เขา นี่เป็นครั้งแรกที่ตำแหน่งนี้ได้หลุดออกไปจากครอบครัว "กษัตริย์ไฟซอล" และถูกมอบให้กับบุคคลจากประชาชนทั่วไป

    หนังสือพิมพ์นี้ได้ชี้ต่อไปเกี่ยวกับแผนของกษัตริย์ซัลมานในการปลดลูกๆ ของอับดุลมะลิก อดีตกษัตริย์ซาอุฯ และกล่าวเสริมว่า : "การปลดอับดุลอะซีซ บินอับดุลลอฮ์ ลูกชายของกษัตริย์องค์ที่ผ่านมาออกจากตำแหน่งรองรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศนั้น เป็นเรื่องที่น่าคิด เนื่องจากว่าการคาดการณ์ต่างๆ นั้นชี้ให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการเป็นตัวแทนของซะอูด อัลไฟซอล”

    "มัชอัล" และ "เตอร์กี" บุตรชายสองคนของอับดุลลอฮ์ กษัตริย์ผู้ล่วงลับ ก็ถูกปลดจากการเป็นผู้ปกครองนครมักกะฮ์และกรุงริยาดเช่นกัน และท่ามกลางลูกๆ ของอดีตกษัตริย์ผู้นี้มีเพียง "มัตอับ" คนเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกองกำลังรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (National Guard) แต่ก็ไม่มีหลักประกันใดๆ สำหรับการดำรงอยู่ต่อไปของเขาในตำแหน่งนี้ และบางทีกษัตริย์ซัลมานกำลังมองหาโอกาสที่เหมาะสมอยู่

    หนังสือพิมพ์นี้ได้เสริมในตอนท้ายว่า : "การเปลี่ยนแปลงต่างๆ จะหยุดลงเพียงแค่นี้ หรือจะยังคงดำเนินต่อไปอีกในอนาคต? ปฏิกิริยาของเจ้าชายซาอุฯ คนอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกหลานของกษัตริย์ผู้ก่อตั้งประเทศซาอุดิอาระเบียที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะเป็นอย่างไร? ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตอบคำถามนี้ แต่อาจกล่าวได้ว่า สามารถคาดหมายได้เลยว่ากษัตริย์องค์ใหม่จะยังมีการตัดสินใจที่ชวนตกตลึงอื่นๆ อีก"

    [​IMG]
    .

    รัฐประหารในระบอบการปกครองของซาอุฯ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สกายนิวส์ : ความลับบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเยเมนได้ถูกเปิดเผย
    Category: News & Event Published on Saturday, 02 May 2015 11:26 Written by Islamicstudiesth Team.

    [​IMG]

    สหรัฐได้ปกปิดความลับการมีอยู่ของบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเยเมนโดยที่ถ้าหากเยเมนได้ควบคุมบ่อน้ำมันนี้จะกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในภูมิภาค

    มัชริกนิวส์รายงาน : โทรทัศน์สกายนิวส์ของอเมริกาเปิดเผยว่าเยเมนมีบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลก และอเมริกาและอดีตรัฐบาลของเยเมนจงใจปิดบังเรื่องนี้

    ตามรายงานนี้ วอชิงตันได้เข้าสู่การดำเนินการกับอดีตเจ้าหน้าที่รัฐบาลของเยเมน เพื่อไม่ให้ความลับที่สำคัญนี้ หมายถึงบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเยเมนได้ถูกเปิดเผย

    บ่อน้ำมันนี้อยู่ในแนวเชื่อมต่อกับบ่อน้ำมันต่างๆ ของซาอุดิอาระเบียและส่วนหนึ่งอยู่ในแนวต่อกับอิรักและสหรัฐได้ใช้ความพยายามที่จะปกปิดข่าวนี้

    ตามรายงานของสกายนิวส์ แหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดของโลกอยู่ในประเทศเยเมน โดยที่พื้นที่ส่วนเล็กของมันอยู่ลึกเข้าไปในซาอุดิอาระเบียในระยะทาง 1,800 เมตร ในเขตพื้นที่ชายแดนที่มีชื่อว่า "อัลเญาฟ์" แต่แหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดอยู่ใต้แผ่นดินของเยเมน และในแง่ของปริมาณแล้วนับว่าเป็นแหล่งสำรองน้ำมันดิบที่ใหญ่ที่สุดในโลก

    แม้ในขณะนี้ซาอุดิอาระเบียจะมีแหล่งสำรองน้ำมันดิบเป็นร้อยละสามสิบสี่ของแหล่งสำรองน้ำมันของโลกก็ตาม แต่การค้นพบบ่อน้ำมันดิบเหล่านี้ในเยเมนจะทำให้ประเทศนี้กลายเป็นประเทศที่มีแหล่งสำรองน้ำมันบริมาณร้อยละสามสิบสี่ของโลกแทน

    เกี่ยวกับเรื่องนี้ "ชาร์ลส์ ไอยูบ" ได้เขียนในบทความหนึ่งของหนังสือพิมพ์ "อัดดิยาร" ของเลบานอนว่า : ดูเหมือนว่าสงครามที่กำลังเกิดขึ้นในเยเมนโดยมีสหรัฐและซาอุดิอาระเบียเข้าร่วมในสงครามนี้นั้น ก็มีเป้าหมายอยู่ที่บ่อน้ำมันเหล่านี้นั่นเอง โดยที่รัฐบาลที่ผ่านมาของเยเมนมีเจตนาที่จะให้บริษัทต่างๆ ของรัสเซียเข้ามามีส่วนร่วมเคียงข้างกับบริษัทต่างๆ ของอังกฤษและสหรัฐ แต่ได้เกิดข้อพิพาทขึ้นในเรื่องนี้ และการประกาศการค้นพบใหม่นี้ในเยเมนได้ถูกห้าม

    มีคำถามเกิดขึ้นว่า ขณะนี้สถานการณ์ในอนาคตของเยเมนจะเป็นอย่างไร? เนื่องจากกำลังจะกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยกว่าซาอุดีอาระเบีย ยิ่งไปกว่านั้นกำลังจะกลายเป็นประเทศที่ร่ำรวยที่สุดในภูมิภาค และช่องทางที่จะครอบครองแหล่งสำรองน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกนี้ จะเป็นไปได้อย่างไร ในขณะที่ระบอบการปกครองของเยเมนยังไร้ความมั่นคง

    รายงานได้เสริมว่า : รายงานข่าวต่างๆ ที่ยังไม่ได้รับการยืนยันได้ชี้ให้เห็นว่าซาอุดีอาระเบียได้ยื่นข้อเสนอต่อเยเมนว่าจะจ่ายเงินให้ประเทศนี้ปีละหนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อแลกกับสัมปทานในการขุดเจาะน้ำมันจากเยเมนเป็นเวลาห้าสิบปี แต่เยเมนไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

    นอกจากนี้บริษัทต่างๆ ของอเมริกาและฝรั่งเศสได้ให้ข้อเสนอต่างๆ ที่เย้ายวน แต่ปัญหาหลักก็คือการที่บ่อน้ำมันเหล่านี้อยู่ในเขตพื้นที่ของจังหวัด "อัลเญาฟ์" และ "มะริบ" โดยที่สหรัฐและซาอุดิอาระเบียมีความพยายามที่จะครอบครองมันโดยอาศัยมือของกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะฮ์

    ในตอนท้ายของบทความนี้ได้กล่าวว่า : ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้เองเป็นไปได้ว่าอีกยี่สิบปีข้างหน้าความขัดแย้งครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นเกี่ยวกับพลังงานในเยเมน และเช่นเดียวกันนี้ความขัดแย้งระหว่างมอสโกและวอชิงตันในการใช้ประโยชน์จากน้ำมันในเยเมนจะเกิดขึ้น

    ที่มา : mashreghnews

    สกายนิวส์ : ความลับบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของโลกในเยเมนได้ถูกเปิดเผย
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    14. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    ปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซาอุดิ อาราเบียประกาศว่ายกเลิกปฏิบัติการถล่มเยเมนทางอากาศอย่างกระทันหัน หลังจากก่อสงครามกับเพื่อนบ้านที่อยู่ทางใต้มาร่วม1เดือนเต็มๆ ทำให้ชาวเยเมนเสียชีวิต1,000กว่าคน และบาดเจ็บหลายพันคน ชาวเยเมนมีความเป็นอยู่อย่างแร้นแค้นมาก สื่อซาอุประกาศว่าปฏิบัติการบรรลุผลสำเร็จแล้ว
    เออ!แล้วไง?
    แต่ความจริงไม่เป็นเช่นนั้นเลย ซาอุเสแสร้งว่าสงครามกับพวกฮูติในเยเมน หรือกบฎซีห์อะที่ฝักใฝ่กับอิหร่านได้บรรลุเป้าหมายแล้ว จึงเตรียมการขั้นต่อไปเพื่อฟื้นฟูความหวังใหม่ในเยเมน แต่รู้กันไปทั่วว่าการสงครามของซาอุต่อเยเมนล้มเหลวโดยสิ้นเชิง เพราะว่า
    1. ไม่สามารถจะถล่มพวกฮูติให้ราบคาบเพื่อปูทางให้ทหารเดินเท้าของซาอุ 150,000นายเข้าไปยึดพื้นที่ หรือยึดทั้งประเทศ
    2. ไม่สามารถจะเอาอดีตประธานาธิบดีไฮดีของเยเมนที่ขณะนี้ลี้ภัยในซาอุให้กลับไปมีอำนาจเหมือนเดิมได้ เพื่อที่จะคานอิทธิพลของอิหร่านในเยเมน
    3. สื่ออาหรับรายงานสงครามเยเมนทำให้ภาพพจน์ของซาอุเสื่อมลงไปอย่างมาก เพราะว่าทั้งเด็ก ผู้หญิงและคนแก่ที่ไม่รู้อิโหน่อิหน่เสียชีวิตไปเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ซาอุฯไม่สามารถสร้างความเสียหายให้พวกฮูติจนต้องลดอิทธิพลลงไปได้
    4. สันนิบาตอาหรับ10ชาติที่ร่วมกับซาอุในการถล่มเยเมน เอาเข้าจริงแล้ว แค่ลงชื่อและช่วยรบนิดหน่อยพอเป็นพิธี แต่ยืนดูเฉยๆมากกว่า ทำให้ซาอุหืดขึ้นคอ โดยเฉพาะปากีสถานและอิยิปต์ไม่ยอมส่งทหารมาช่วยรบเพื่อยึดเยเมน มีข่าวว่าอิยิปต์เรียกร้องเงินจำนวนมากเพื่อส่งทหารไปช่วยซาอุรบ ซาอุถึงกับกระอัก
    5. กองทัพซาอุเป็นทหารเศรษฐีมีอาวุธดีเยี่ยม Made in USA และ Made in UK แต่รบไม่เป็น ถ้าทหารราบบุกเข้าเยเมน จะตายเป็นเบือ
    6. สหรัฐฯสนับหนุนให้ซาอุถล่มเยเมน ด้วยการให้ความช่วยเหลือทางข้อมูลและข่าวกรองทางทหาร แต่อาจจะไม่ต้องการให้ซาอุมีชัยโดยเด็ดขาด เพราะว่ากำลังเจรจาปัญหานิวเคลียร์กับอิหร่านอยู่ สหรัฐฯต้องการดึงเอาอิหร่านออกมาจากอกของรัสเซียและจีน สหรัฐฯจึงช่วยซาอุแบบขอไปที หรืออาจจะช่วยให้ซาอุรบแพ้ด้วยก็ได้ ซาอุจะได้อ่อนแอ และต้องซบอกสหรัฐฯแบบโงหัวไม่ขึ้น
    7. พี่ปูตินโทรหากษัตริย์ซัลมานของซาอุฯ เรียกร้องให้พระองค์หาทางออกเยเมนด้วยทางการเมือง ทางสหรัฐฯก็ส่งสัญญานให้ซาอุว่ายกเลิกการสงครามเถอะ ยิ่งรบต่อยิ่งจะเจ็บหนัก ทำให้กองทัพซาอุจำต้องกลืนเลือดยอมถอยจากเยเมนแบบหน้าแหกจนหมอไม่รับเย็บ
    8. แผนการทั้งหมดของซาอุฯ ซึ่งถือว่าเป็นผู้นำของมุสลิมสุหนี่ในการใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อเผชิญหน้ากับอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้นำของมุสลิมชีห์อะต้องล้มเหลวลงอย่างไม่เป็นท่า เหมือนกับที่คาดการไว้ก่อนรบเสียอีก เพราะว่าซาอุเก่งเรื่องให้สัมปทานขุดน้ำมันมาขายอย่างเดียว แต่รบไม่เป็น
    9. สงครามตัวแทนนี้ระหว่างซาอุกับเยเมนทำให้เห็นอิทธิพลของรัสเซีย จีนและอิหร่านที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่สหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศสหนุนซาอุแบบขอไปที
    สรุป:
    ซาอุกำลังเผชิญภัยกับแรงต่อต้านมากยิ่งขึ้นจากการล้อมกรอบของอิหร่าน ผ่านซีห์อะตัวแทนในเลบานอน ซีเรีย อิรัคทางตอนเหนือ และเยเมนทางตอนใต้ นอกจากนี้พันธมิตรของซาอุเช่นตุรกีและปากีสถานมีแนวโน้มที่จะออกจากค่ายตะวันตกไปซบค่ายตะวันออกที่มีรัสเซียและจีนยืนคอยอ้าแขนรับอยู่ เฮียสีเพิ่งจะไปเยือนปากี พร้อมรับปากเงินลงทุนและอัดฉีกต่างๆหลายหมื่นล้านเหรียญ ทำให้แขกปากีเข่าอ่อนใจอ่อน เพราะว่าเห็นเงินหยวนลอยมาแล้ว
    อันนำไปสู่การปรับขบวนทัพภายในราชวงศ์เปลี่ยนตำแหน่งมกุฎราชกุมารอย่างสายฟ้าฟาด ชั่วโมงนี้ซาอุออกอาการน่าเป็นห่วงจริงๆ
    thanong
    2/5/2015
    http://www.huffingtonpost.com/…/saudi-arabia-yemen-east_b_7…
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    15. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    ซาอุดิฯกำลังอยู่ภายใต้วิกฤติ หลังจากประกาศยกเลิกการถล่มเยเมนทางอากาศแล้ว มีการประกาศปรับตำแหน่งมกุฎราชกุมารอย่างสายฟ้าฟาดเกิดขึ้นในราชวงศ์ซาอุในวันที่28เมษายนที่ผ่านมา
    กษัตริย์Salmanได้ปลดเจ้าชายMuqrin พระอนุชาต่างมารดาออกจากตำแหน่งมกุฎราชกุมาร และได้แต่งตั้งเจ้าชายMohamed bin Nayef พระราชนัดดาขึ้นมาแทน และได้แต่งตั้งMohamed bin Salmanพระโอรสของพระองค์เป็นรองมกุฎราชกุมาร
    ถือว่าเจ้าชายNayefเป็นรัชทายาทรุ่นที่3คนแรกที่จะขึ้นมาเป็นกษัตริย์องค์ต่อไป ตั้งแต่ก่อตั้งราชวงศ์ซาอุฯมาตั้งแต่ปีคศ 1932 โดยกษัตริย์Abdulaziz al-Saud มีกษัตริย์ทั้งหมด 6พระองค์คือ กษัตริย์Saud กษัตริย์Faisal กษัตริย์Khalid กษัตริย์Fahd กษัตริย์Abdullah และกษัตริย์Salmanในปัจจุบัน ทุกพระองค์ต่างเป็นพระโอรสของกษัตริย์Abdulaziz al-Saudทั้งสิ้น
    การสืบทอดสันติวงศ์ไปสู่รัชทายาทรุ่นที่3กำลังเกิดขึ้นภายในราชวงศ์ซาอุท่ามกลางวิกฤติของประเทศ
    ไม่มีคำอธิบายว่าทำไมเจ้าชายMuqrinถึงถูกถอดจากตำแหน่งมกุฎราชกุมาร ทั้งๆที่ได้รับตำแหน่งนี้พร้อมกับกับการขึ้นครองราชสมบัติของกษัตริย์Salmanในเดือนมกราคมที่ผ่านมาหลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์Abdullah
    เป็นที่รู้กันดีว่าเจ้าชายMuqrinมีความสนิทสนมและเป็นที่ไว้วางพระทัยของกษัตริย์Abdullahมาก และพระองค์ต้องการให้เจ้าชายMuqrinเป็นกษัตริย์องค์ต่อไปจากกษัตริย์Salman เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่าอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้
    สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในราชวงศ์ มีการมองกันว่าเกิดจากหลายประเด็นด้วยกันคือ
    1. กษัตริย์Salmanมีพระประสงค์ที่จะรวบพระราชอำนาจให้เป็นหนึ่งเดียวภายในราชวงศ์ซาอุ
    2. ปูทางให้หน่อเชื้อสายของกษัตริย์Salmanได้เป็นกษัตริย์ต่อไป
    3. รักษานโยบายทุบราคาน้ำมันต่อไป ซาอุผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลกที่10ล้านบาเรลล์ต่อวัน ใช้สงครามน้ำมันเพื่อทำให้รัสเซีย และอิหร่านอ่อนแอ แต่ก็ทำให้Shale Oil & Gasของสหรัฐฯกำลังล้มละลายไปด้วย โดยเดิมพันว่าซาอุสายป่านยาวสุด จะสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดได้
    4. รักษานโยบายที่เป็นพันธมิตรกับสหรัฐฯต่อไปอย่างเหนียวแน่น ชั่วโมงนี้มีเพียงสหรัฐฯเท่านั้นที่จะทำให้ซาอุอยู่หรือไป
    ภายนอกอาจจะเสแสร้งว่ายิ่งใหญ่มั่นคงรวยด้วยดอลล่าร์ แต่ความจริงแล้ว ซาอุกำลังเผยความอ่อนแอจากภายในออกมาให้เห็น
    thanong
    2/5/2015
    http://www.zerohedge.com/…/2…/04-overflow/20150429_saudi.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    16. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
    หนึ่งในนักวิเคราะห์การเงินและนักลงทุนที่ผมชื่นชอบมากที่สุดคือลุงMarc Faber บรรณาธิการของThe Gloom, Boom & Doom Report ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์ลุงมาร์กที่สตูดิโอของช่องNow26มาแล้ว2ครั้ง ได้เกร็ดความรู้และสนุกมาก เพราะว่าลุงมาร์กเป็นคนที่ฉลาด ตีนติดดินและจริงใจมาก ไม่เสแสร้งว่าตัวเองยิ่งใหญ่ระดับโลก
    ความไม่เสแสร้งเป็นคุณสมบัติของผู้ดี
    ลุงมาร์กเป็นชาวสวิสและมีบ้านเรือนปักหลักอยู่ที่เชียงใหม่ แม้ว่าจะพูดอะไรที่ไม่เข้าหูพวกนักข่าวCNBCหรือBloomberg แต่พวกนักข่าวเชียร์หุ้นนี้อดไม่ได้ที่ต้องให้ลุงมาร์กเข้ากล้อง เพราะว่าต้องการฟังคำวิเคราะห์ที่ตรงไปตรงมา โดยไม่มีวาะแอบแฝง
    ล่าสุดลุงมาร์กเพิ่งจะให้สัมภาษณ์CNBCด้วยความเห็นที่ร้ายสุดๆ โดยบอกว่าหุ้นสหรัฐฯมีโอกาสตก40% เพราะว่าเป็นฟองสบู่ที่เกิดจากการปั่นของธนาคารกลาง แต่บอกไม่ได้ว่าหุ้นจะตกเมื่อใด
    CNBCกระแนะกระแหนลุงมาร์กว่าเห็นพูดว่าหุ้นจะตกมาหลายปีแล้ว แต่หุ้นสหรัฐฯกลับขึ้นเอาๆ
    ผมก็มีความเห็นเหมือนลุงมาร์กมาตลอดว่าระบบการเงินโลกไปต่อไม่ได้เพราะว่าล้มไปแล้ว ต้องปรับโครงสร้างเพื่อเดินหน้าใหม่ แต่ปรากฎว่าไม่มีการปรับโครงสร้าง แต่มีการทำQEพิมพ์เงินกลบปัญหาของธนาคารกลาง หนี้ที่มากเกินไปไม่ได้รับการแก้ไข
    แต่ที่คาดการไม่ถึงคือไม่คิดว่าพวกธนาคารกลางจะบ้าเลือดขนาดนี้ด้วยการพิมพ์เงินไม่อั้นกดดอกเบี้ยลง0%เพื่ออุ้มตลาดหุ้น ทำให้ยื้อซื้อเวลาได้ยาวนานมา7ปีแล้ว พร้อมกับทุบทองตลอดทาง ที่ทำได้นานอย่างนี้แสดงว่าธนาคารกลางคุมระบบโลกเกือบเบ็ดเสร็จจนกลไกตลาดไม่ทำงานตามปกติได้
    อย่างไรก็ดี ลุงมาร์กผู้ไม่เสแสร้งบอกว่าฟองสบู่ตลาดหุ้นอย่างไรเสียต้องแตกวันยังค่ำ แต่บอกไม่ได้เมื่อไหร่ แต่ถ้ามันแตก จะฉิบหายหนักกันถ้วนหน้า
    "เป็นเวลา2ปีแล้ว ที่ผมคิดว่าหุ้นสหรัฐฯต้องมาถึงจุดคอเร็กชั่นแล้ว (เทขาย) ผมพูดเสมอว่าฟองสบู่ก็คือฟองสบู่ ถ้าไม่มีการเทขาย หุ้นก็ต้องขึ้นต่อ และวันหนึ่งมันต้องตกลงมา อย่างรุนแรง
    "ตลาดมาถึงจุดที่ว่าจะไม่ลง10% อาจจะขึ้นต่อไปได้อีก แต่เมื่อมันลง จะตก30%หรือ40%เป็นอย่างน้อย" ลุงมาร์กพูด
    หุ้นขึ้นที่ผ่านมาเพราะว่ามีการเทรดโมเมนตั้มหรือจังหวะแรงเหวี่ยง แต่ลุงมาร์กบอกว่าเขาลงทุนหุ้นเพราะหุ้นมีแวลูหรือมีค่า ไม่ได้ลงทุนเพราะโมเมนตั้ม แม้กระนั้นดูเหมือนว่าการเทรดแบบโมเมนตั้มกำลังอ่อนแรงลง
    ฤดูใบไม้ร่วงกำลังจะมาถึงอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ต้องรอดูว่าหุ้นจะร่วงตามใบไม้หรือไม่ตามที่Martin Armstrongได้เตือนเอาไว้ว่าจะเกิดเหตุจลาจลในสหรัฐฯ และมีแรงกดดันให้ธนาคารกลางของสหรัฐฯให้ขึ้นดอกเบี้ย ไม่เดือนมิถุนายน ก็เดือนกันยายน
    ถ้าเฟดต้องขึ้นดอกเบี้ย หุ้นจะเจอการคอเร็กชั่นอย่างรุนแรง ฟองสบู่การเงินจะแตก
    thanong
    2/5/2015
    Marc Faber: Stocks are about to fall 40%—at least!
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมัน-ทองคำลงหลังดอลล์แข็งค่า หุ้นสหรัฐฯบวกแรง
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2558 05:20 น. (แก้ไขล่าสุด 2 พฤษภาคม 2558 11:15 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - ราคาน้ำมันปรับลงในวันศุกร์ (1 พ.ค.) หลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ส่วนทองคำปิดลบคาดอุปสงค์อ่อนจากข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุด ขณะที่วอลล์สตรีทขยับขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 59.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 66.46 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกัดเซาะอุปสงค์ เนื่องจากน้ำมันดิบจะมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ซื้อที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

    นักวิเคราะห์มองดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 9 สัปดาห์นี้ อาจเป็นสัญญาณเศรษฐกิจของสหรัฐฯกำลังมีเสถียรภาพ

    ปัจจัยนี้ทำให้อุปสงค์ต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำลดลง และส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) ขยับลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 7.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,174.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้ (1 พ.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 3 วัน ภายใต้การนำของแอปเปิลและหุ้นเทคโนโลยีอื่นๆ เช่นเดียวกับภาคอุตสากรรมส่วนใหญ่

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 183.54 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,024.06 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.78 จุด (1.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,108.29 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 63.97 จุด (1.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,5005.39 จุด

    แอปเปิล ที่หนึ่งวันก่อนหน้านี้ขยับลงร้อยละ 5.7 ฟื้นตัวกลับมาปิดบวกร้อยละ 3.0 ส่วนไกลีด ไซเอนซ์ ปิดบวกร้อยละ 4.5 หลังรายงานมีรายได้สุทธิในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มเกือบ 2 เท่าเป็น 4,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านเอ็มเจน ปิดบวกร้อยละ 1.6 ไบโอเจน ปิดบวกร้อยละ 3.3 และ เซลจีน ปิดบวกร้อยละ 2.3

    ส่วน เจนเนอรัล มอเตอร์ส ปิดบวกร้อยละ 1.0 หลังรายงานมียอดขายรถยนต์ในสหรัฐฯเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 5.9 เป็น 269,056 คัน เช่นเดียวกับ ฟอร์ด มอเตอร์ ที่ขยับขึ้นร้อยละ 0.1 หลังมียอดขายเดือนเมษายน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.4 เป็น 222,498 คัน


     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เนปาลรับ “หมดหวัง” พบผู้รอดชีวิต ยอดตายดินไหวพุ่งทะลุ 6,700 บาดเจ็บกว่า 14,000 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2558 11:33 น.

    [​IMG]
    @ชายชาวเนปาลนั่งดูศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เม.ย. ถูกนำมาฌาปนกิจที่ริมแม่น้ำในกรุงกาฐมาณฑุ

    เอเอฟพี – รัฐบาลเนปาลยอมรับ “หมดโอกาส” พบผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพักจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดพุ่งสูงกว่า 6,700 คน บาดเจ็บอีกกว่า 14,000 คน

    หลังเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 80 ปีของเนปาลผ่านไปครบ 1 สัปดาห์ ความหวังที่จะพบสัญญาณผู้รอดชีวิตอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มในกรุงกาฐมาณฑุก็ริบหรี่ลงจนไม่มีเหลือ เวลานี้รัฐบาลเนปาลจึงต้องปรับแผนกู้ภัย โดยเน้นเข้าถึงประชาชนในพื้นที่ชนบทซึ่งยังรอรับความช่วยเหลือและสิ่งของบรรเทาทุกข์

    กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (UNICEF) เตือนให้เจ้าหน้าที่เร่งทำงานแข่งกับเวลาเพื่อป้องกันการเกิดโรคระบาด ซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเยาวชน 1.7 ล้านคนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ภัยพิบัติรุนแรง ขณะที่นักอุตุนิยมวิทยาเตือนแนวโน้มเกิดฝนตกหนักในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    แผ่นดินไหวขนาด 7.8 ตามมาตราแมกนิจูดสร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ต่อดินแดนพุทธภูมิทั้งในแง่ผู้เสียชีวิต อาคารบ้านเรือน และโบราณสถานเก่าแก่ และยังก่อให้เกิดหิมะถล่มคร่าชีวิตนักปีนเขาบริเวณเบสแคมป์ของยอดเขาเอเวอเรสต์ไปอีก 18 คน

    ลักษมี ปราสาท ธากาล โฆษกกระทรวงมหาดไทยเนปาล ระบุว่า “เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์ รัฐบาลพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน แต่ดิฉันคิดว่าเวลานี้โอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตอยู่ใต้ซากอาคารคงไม่มีแล้ว”

    นอกจากยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 6,621 คนในเวลานี้ ธากาล ยังแจ้งจำนวนผู้บาดเจ็บจากแผ่นดินไหวรวมทั้งสิ้น 14,023 คน

    รัฐบาลต่างชาติกว่า 20 ประเทศได้จัดส่งทีมกู้ภัยพร้อมสุนัขดมกลิ่นเข้าไปช่วยค้นหาผู้ที่อาจติดอยู่ในซากปรักหักพัง ทว่าไม่มีการพบผู้รอดชีวิตรายใหม่ตั้งแต่เย็นวันพฤหัสบดี(30 เม.ย.)

    แผ่นดินไหวรุนแรงครั้งนี้ยังทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 100 คนในอินเดีย และจีน

    รัฐบาลเนปาลยังอยู่ระหว่างประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากภูมิประเทศที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาสลับซับซ้อนทำให้การจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เป็นไปอย่างยากลำบาก

    จำนวนชาวต่างชาติที่เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวเนปาลก็ยังสรุปไม่ได้ชัดเจน แต่นักการทูตระบุว่า มีพลเมืองสหภาพยุโรปราว 1,000 คนที่พำนักอยู่ในเนปาลขณะเกิดเหตุ และเวลานี้ยังไม่ทราบชะตากรรม

    ชาวยุโรปสวนใหญ่เดินทางมาท่องเที่ยวเนปาลเพื่อพิชิตยอดเขาเอเวอเรสต์ หรือไม่ก็เดินเทรกกิ้งที่ลังตัง (Langtang) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย และอยู่ไม่ไกลจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ (25)

    “เรายังติดต่อพวกเขาไม่ได้ แต่ก็ไม่ทราบว่าสถานะของพวกเขาเป็นอย่างไร” เรนสเจ ทีริงค์ เอกอัครราชทูตผู้แทนอียูประจำเนปาล ให้สัมภาษณ์ พร้อมยืนยันยอดผู้เสียชีวิต 12 คนที่เป็นพลเมืองอียู

    เจ้าหน้าที่อียูอีกคนหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ ระบุว่า ชาวยุโรปที่สูญหายไปส่วนใหญ่น่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ทุรกันดารและการสื่อสารขัดข้อง

    รัฐบาลเนปาลยอมรับว่า ภารกิจกู้ภัยครั้งนี้หนักหนาสาหัส แต่ วาเลอรี อามอส หัวหน้าฝ่ายกิจการมนุษยธรรมของยูเอ็น ก็ออกมาพูดให้กำลังใจวานนี้ (1 พ.ค.) โดยชี้ว่า “ความเสียหายที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกระดับนี้ย่อมจะเป็นภารกิจหนัก ไม่ว่าจะเกิดกับรัฐบาลชาติใดก็ตาม”

    ยูนิเซฟ เตือนว่า สุขภาพและความเป็นอยู่ของเด็กๆ ผู้ประสบภัยในเนปาล “แขวนอยู่บนเส้นด้าย” หลายคนอยู่ในสภาพไร้บ้าน หวาดกลัว และยังไม่สามารถเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐาน

    “โรงพยาบาลทุกแห่งมีผู้ป่วยล้นมือ น้ำดื่มขาดแคลน ศพผู้เสียชีวิตยังถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพัง และประชาชนจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ในที่เปิดโล่ง สภาวะเช่นนี้จะเป็นบ่อเกิดโรคระบาดที่สมบูรณ์แบบที่สุด” รอว์นัก ข่าน รองผู้แทนยูนิเซฟประจำเนปาล กล่าว


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050155
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สลด!เหยื่อแผ่นดินไหวเนปาลต้องคุ้ยหาอาหารประทังชีวิต พลเมืองEUสูญหายนับพัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 22:03 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์/บีบีซี - เจ้าหน้าที่ของเนปาลและนานาชาติในวันศุกร์(1พ.ค.) กำลังพยายามค้นหาประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังสูญหายตามหลังแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในนั้นเป็นพลเมืองจากสหภาพยุโรปนับพันคน โดยในส่วนอาหารและเสบียงบรรเทาทุกข์อื่นๆค่อยๆไปถึงผู้ประสบภัยที่ติดค้างในพื้นที่ห่างไกลอย่างช้าๆ ท่ามกลางรายงานข่าวว่ามีเหตุกระทบกระทั่งแย่งกันขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่ออพยพ ขณะเดียวกันก็ประสบปัญหาขาดแคลนทั้งคนขับและรถลำเลียงสิ่งของบรรเทาภัย เนื่องจากหลายคนต้องกลับบ้านไปดูแลครอบครัว จนชาวบ้านบางส่วนต้องคุ้ยหาอาหารเพื่อเอาชีวิตรอด

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/v_N-604XzjY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/G9pxPc5zf0k" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เนปาลวิงวอนไปยังประเทศต่างๆมอบความช่วยเหลือด้านเฮลิคอปเตอร์เพิ่มเติมในความพยายามบรรเทาภัย หลังมีรายงานข่าวเข้ามาอย่างต่อเนื่องว่ามีผู้รอดชีวิตค่อยๆปรากฎตัวออกมาที่หมู่บ้านต่างๆซึ่งอยู่ห่างไกล ขณะที่ผู้สื่อข่าวบีบีซีรายงานว่าเกิดเหตุกระทบกระทั่งกันระหว่างผู้ประสบภัยที่ต้องการอพยพ เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ไม่มีที่ว่างเพียงพอ

    เจ้าหน้าที่เนปาลบอกว่ายอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการจากแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 6.8 เมื่อวันเสาร์(25เม.ย.) อยู่ที่ 6,250 ศพและบาดเจ็บ 14,357 คน แต่ชาวบ้านอีกจำนวนมากในพื้นที่ห่างไกลทั้งหลายยังไม่ทราบชะตากรรม และรัฐบาลเตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่า 10,000 ศพ

    ด้านหัวหน้าผู้แทนสหภาพยุโรปประจำเนปาลเผยว่ามีชาวยุโรปสูงสุดราว 1,000 คนที่ยังสูญหาย ส่วนใหญ่ขาดการติดต่อบริเวณรอบๆเส้นทางไต่เขายอดนิยม "เราไม่รู้ว่าพวกเขาอยู่ไหน และมีชะตากรรมเป็นอย่างไร" เอกอัครราชทูตเรนส์เจ ทีรินค์ บอกกับผู้สื่อข่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยากที่จะแกะรอยผู้สูญหาย เพราะนักท่องเที่ยวสะพายเป้ส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทะเบียนกับสถานทูตของพวกเขาในเนปาล

    จากการตรวจสอบของรอยเตอร์กับรัฐบาลชาติต่างๆพบว่าในจำนวนพลเมืองอียูที่สูญหายนั้นมาจากฝรั่งเศส อิตาลีและสเปน 221 คน ขณะที่ประเทศอื่นๆยังไม่ได้ให้ข้อมูลล่าสุดว่ามีพลเมืองของพวกเขามากน้อยแค่ไหนที่ยังสูญหาย

    การอัพเดทยอดเหยื่อของแผ่นดินไหว รัฐบาลเนปาลไม่ได้ให้ตัวเลขของผู้สูญหาย แต่ยังพบเห็นศพถูกดึงขึ้นจากซากหักพังของอาคารอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยยังไม่สามารถเข้าถึงในบางพื้นที่ซึ่งอยู่ห่างไกล

    ในกรุงกาฐมาณฑุ ศพไร้ญาติจำนวนมากถูกจัดการเผาอย่างรวดเร็วเพราะถูกกดดันจากห้องเก็บศพ โดยนอกเหนือจากโอกาสที่จะเกิดโรคติดต่อแล้ว กลิ่นเหม็นของซากศพยังแผ่ลามไปทั่ว ทั้งนี้ศพเหล่านั้นอาจเป็นแรงงานต่างด้าวจากชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดีย ซึ่งพักอาศัยเพียงลำพังในเนปาล "ห้องเก็บศพรองรับศพจนเกิดพิกัดแล้ว เราได้รับคำสั่งให้เผาศพทันทีหลังจากร่างเหล่านั้นถูกดึงออกมาจากซากหักพัง" รามาน ลาลาล เจ้าหน้าที่กองกำลังอาสมัครอินเดีย ซึ่งทำหน้าที่ประสานงานกับกองทัพเนปาลเผย

    ความช่วยเหลือเริ่มเข้าถึงเมืองและหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลตามแถบภูเขาและตีนเขาอย่างช้าๆ แต่ความพยายามยกระดับความรวดเร็วในการส่งมอบของรัฐบาลต้องเผชิญกับความผิดหวัง เนื่องจากขาดแคลนรถบรรทุกและคนขับ เพราะจำนวนมากได้กลับไปบ้านเกิดของตนเองเพื่อช่วยเหลือครอบครัว อีกด้านหนึ่งแม้เฮลิคอปเตอร์ทหารจะหย่อนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและขนมปังกรอบแก่ชุมนุมต่างๆที่อยู่ห่างไกล แต่ประชาชนต้องการข้าวและส่วนประกอบอื่นๆเพื่อนำไปปรุงอาหารมากกว่า

    ชาวเนปาลจำนวนมากหลับนอนในที่โล่งมาตั้งแต่แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์(25เม.ย.) เนื่องจากผู้รอดชีวิตไม่กล้ากลับเข้าบ้านเพราะกังวลกับอาฟเตอร์ช็อครุนแรงที่ยังสั่นไวเป็นพักๆ ด้วยสหประชาชาติคาดหมายว่ามีบ้านเรือนมากกว่า 600,000 หลังได้รับความเสียหายและถูกทำลาย

    สหประชาชาติเผยว่ามีประชาชนราว 8 ล้านคนจากทั้งหมด 28 ล้านคนของเนปาลที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ โดยอย่างน้อยๆ 2 ล้านคนต้องการเตนท์ น้ำสะอาด อาหารและยาตลอดช่วง 3 เดือนข้างหน้า ขณะที่รัฐมนตรีมหาดไทยของเนปาลบอกว่ารัฐบาลจะมอบความช่วยเหลือเบื้องต้น 1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต และเงินค่าฌาปนกิจหรือฝังศพอีก 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ

    ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศของเนปาลบอกว่าประเทศของเขาต้องการเงินอย่างน้อย 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในการฟื้นฟูบ้าน โรงพยาบาล สำนักงานราลหาร และอาคารประวัติศาสตร์ทั้งหลายขึ้นมาใหม่ และร้องขอความช่วยเหลือจากเหล่าผู้บริจากนานาชาติ

    พบเห็นความขุ่นเคืองต่อความเอื่อยเฉื่อยของปฏิบัติการช่วยเหลือปะทุขึ้นในบางพื้นที่ โดยชาวเนปาลกล่าวหารัฐบาลแจกจ่ายความช่วยเหลือจากนานาชาติที่หลั่งไหลเข้ามายังประเทศอย่างล่าช้า โดยบางกรณีชาวบ้านพากันปาก้อนหินใส่รถที่บรรทุกสิ่งของช่วยเหลือและเสบียงอาหาร เพราะความโกรธจากความหิวโหย ส่วนที่หมู่บ้านซันดาร์กุลา ใกล้ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ทางตะวันตกของเมืองหลวง ชาวบ้านต้องดิ้นรนตะเกียกตะกายคุ้ยหาอาหารใต้ซากบ้านที่หักพังเพื่อประทังชีวิต

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองทัพซีเรียเปิดฉากจู่โจมฝ่ายกบฏในบริเวณพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 20:37 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - กลุ่มผู้สังเกตการณ์ระบุว่า กองทัพซีเรียได้เปิดฉากจู่โจมต่อบรรดากลุ่มกบฏในวันศุกร์ (1 พ.ค.) เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งในการควบคุมพื้นที่จังหวัดลาตาเกีย ซึ่งเป็นฐานที่มั่นสำคัญของฝ่ายรัฐบาลในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

    หลังจากพบกับความพ่ายแพ้หลายครั้งในจังหวัดอิดลิบ กองทัพซีเรียก็ได้เสริมกำลังป้องกันที่มั่นหลายแห่ง เพื่อให้พร้อมรับมือการโจมตีของฝ่ายกบฏในจังหวัดลาตาเกีย

    กลุ่มผู้สังเกตการณ์ระบุว่า กองทัพซีเรียได้โจมตีที่มั่นของฝ่ายกบฏตั้งแต่คืนวันพฤหัสบดีจนถึงวันศุกร์ ในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดลาตาเกีย โดยฝ่ายรัฐบาลเสียชีวิต 10 ราย ส่วนฝ่ายกบฏตายไป 7

    การสู้รบเกิดขึ้นบริเวณยอดเขานาบียูเนส ที่มั่นทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญ สูงกว่าระดับน้ำทะเล 1,500 เมตร ตรงขอบของจังหวัดอิดลิบและจังหวัดฮามา

    ฝ่ายรัฐบาลควบคุมพื้นที่บริเวณยอดเอาไว้ ส่วนฝ่ายกบฏปักหลักอยู่บริเวณตีนเขาฝั่งตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ ด้วยความต้องการที่จะป้องกันนาบียูเนส ทำให้ฝ่ายรัฐบาลจำเป็นจะต้องขับไล่พวกกบฏออกไปให้พ้น

    หากความพยายามของฝ่ายรัฐบาลซีเรียประสบความสำเร็จ ก็จะสามารถเชื่อมต่อกับหน่วยทหารของกองทัพที่อยู่ในพื้นที่ ซาห์ล อัล-กาห์บ ของจังหวัดฮามา รวมถึงอาจจะเคลื่อนพลไปยังพื้นที่ จิสรา อัล-ชุกฮูร์ ที่เคยเสียให้กับพวกกองกำลังอิสลามิสต์และอัลนุสราฟรอนต์เมื่อวันที่ 25 เมษายน

    แต่อีกด้านหนึ่ง หากฝ่ายกบฏสามารถยึดยอดเขาแห่งนี้เอาไว้ได้ ก็จะเป็นการเปิดเส้นทางไปสู่พื้นที่ชายฝั่งของจังหวัดลาตาเกีย

    ย้อนกลับไปในเดือนเมษายน 2013 การสู้รบในพื้นที่แห่งนี้จบลงที่ชัยชนะของฝ่ายรัฐบาล

    สงครามกลางเมืองที่กินเวลายาวนานถึง 4 ปีในซีเรียได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 220,000 ราย


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050011
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข้อมูลชี้ 1 ใน 5 ของคนชราเมืองลุงแซม เสียชีวิตขณะ“สิ้นเนื้อประดาตัว”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 20:13 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-ผลสำรวจล่าสุดในสหรัฐฯ โดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยมิชิแกนพบข้อมูลอันน่าตกใจว่า ราว 1 ใน 5 ของผู้สูงอายุชาวอเมริกันจะเสียชีวิตลงในขณะที่ตนเองประสบภาวะ “สิ้นเนื้อประดาตัว”

    ผลสำรวจดังกล่าวซึ่งได้มาจากการเก็บข้อมูลนานถึง 3 ปีเต็มระหว่างปี 2010 – 2012 พบว่าราว 20% หรือ 1 ใน 5 ของกลุ่มตัวอย่างชาวอเมริกันที่มีอายุตั้งแต่ 85 ปีขึ้นไปที่เสียชีวิตในช่วงเวลาดังกล่าว มีอันต้องเสียชีวิตในขณะที่ตนเองสิ้นเนื้อประดาตัว โดยไม่มีทรัพย์สินใดๆเลยที่เหลืออยู่ในความครอบครอง (ยกเว้นบ้าน)

    ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มตัวอย่างซึ่ง “เป็นโสด” และเสียชีวิตขณะมีอายุ 85 ปีขึ้นไปในช่วงปี 2010 – 2012 ดูจะมีศักยภาพทางการเงินที่ “ย่ำแย่กว่า” กลุ่มตัวอย่างที่มีวัยเดียวกันแต่มีครอบครัวแล้ว

    โดยข้อมูลที่ทีมวิจัยรวบรวมได้พบว่ากลุ่มตัวอย่างซึ่ง “เป็นโสด” และเสียชีวิตขณะมีอายุ 85 ปีขึ้นไปในช่วงดังกล่าวราว 1 ใน 6 ตายในขณะที่ไม่มีทรัพย์สินใดๆติดตัวเลย และอีกราว 1 ใน 10 มีอันต้องเสียชีวิตลงขณะที่มี “หนี้สินเฉลี่ย” สูงถึงคนละ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 197,840 บาท)

    ทีมวิจัยพบว่า ชาวอเมริกันวัยหลังเกษียณส่วนใหญ่มักประสบปัญหาการมีเงินเก็บออมไว้ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย หรือไม่ก็มีอันต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งหมดไปกับการรักษาอาการเจ็บป่วยในวัยชรา

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2012 เคยมีการเผยแพร่ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย “เอ็มไอที” ที่พบข้อมูลว่า ราว 46% หรือเกือบครึ่งหนึ่งของชาวอเมริกันจะเหลือทรัพย์สินติดตัวในช่วง “ปีสุดท้ายของชีวิต”ไม่ถึง 10,000 ดอลลาร์ (ราว 330,870 บาท)

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000050001
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อัยการตั้งข้อหา6ตร.สหรัฐฯคดีชายผิวดำตายระหว่างถูกจับ กระพือจลาจลในบัลติมอร์ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2558 01:03 น.

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/v7B7IVgZdAw" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เอเอฟพี - คณะอัยการในบัลติมอร์ในวันศุกร์(1พ.ค.) ตั้งข้อหาเจ้าหน้าที่ 6 นายในความผิดต่างๆนานาหลายกระทง ในนั้นรวมถึงฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาและไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน ในคดีที่ชายผิวสีแอฟริกันอเมริกันวัย 25 ปี เสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจจับกุม ซึ่งกระพือเหตุจลาจลไปทั่งเมืองเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จนต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน

    แมรีลีน มอสบี อัยการของรัฐเปิดเผยว่าได้มีการออกหมายจับเพื่อจับกุมเจ้าหน้าที่กรมตำรวยบัลติมอร์ทั้ง 6 นายต่อการตายของนายเฟรดดี เกรย์ ซึ่งกระพือให้เกิดการประท้วงและเหตุจลาจลต่อเนื่องหลายวันในเมืองท่าทางชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯแห่งนี้

    "จากการสืบค้นอย่างครอบคลุม และจากการสืบสวนอย่างละเอียดและอิสระ ประกอบกับผลชันสูตรศพที่สรุปว่าเหตุเสียชีวิตของนายเกรย์คือการฆาตกรรม ทำให้เราเชื่อว่ามูลเหตุที่น่าจะเป็นเพียงพอที่จะยื่นฟ้องทางอาญา" มอสบีแถลงต่อผู้สื่อข่าว

    เสียงเชียร์ดังขึ้นหลังมอสบีแถลงตั้งข้อหาเหล่าตำรวจ ณ บริเวณบันไดของอนุสรณ์สงครามของบัลติมอร์ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถนนของศาลากลางเมือง อันเป็นจุดรวมตัวของผู้ประท้วงที่เรียกร้องความยุติธรรมต่อการเสียชีวิตของนายเกรย์
    [​IMG]
    @แมรีลีน มอสบี อัยการของรัฐบัลติมอร์แถลงความคืบหน้าของการดำเนินคดีตำรวจ จากกรณีชายผิวสีแอฟริกันอเมริกันวัย 25 ปี เสียชีวิตระหว่างถูกจับกุม

    นายเกรย์ ถูกจับกุมข้อหาครอบครองมืดพกโดยไม่ได้รับอนุญาต เมื่อ 12 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะเสียชีวิตในอีก 1 สัปดาห์ต่อมา ด้วยอาการเจ็บที่กระดูกสันหลัง

    ทั้งนี้นายตำรวจที่เผชิญข้อหาหนักหน่วงที่สุดของฐานความผิดฆ่าโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน ได้แก่เจ้าหน้าที่ซีซาร์ กูดสัน ซึ่งทำหน้าที่ขับรถตู้พานายเกรย์ไปยังสถานีตำรวจ โดยนายตำรวจวัย 45 ปีรายนี้ยังเจอข้อหาประทุษร้าย การฆ่าคนโดยไม่เจตนาและประพฤติมิชอบ ส่วนตำรวจอีก 3 นายโดนข้อหาฆ่าคนโดยไม่ไตร่ตรองไว้ก่อน ขณะที่อีก 2 นายที่เหลือเจอแค่ข้อหาประทุษร้ายและประพฤติมิชอบ

    มอสบี บอกว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นดำเนินการจับกุมโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายและนายเกรย์ก็ไม่ได้ก่ออาชญากรรมใดๆ โดยอัยการหญิงรายนี้เรียกร้องผู้ประท้วงอยู่ในความสงบตามหลังการตั้งข้อหาดังกล่าวและย้ำว่ากำลังดำเนินการสืบสวนอยู่

    การเสียชีวิตของเกรย์ กลายเป็นประเด็นล่าสุดของการถกเถียงกันทั่วสหรัฐฯต่อพฤติกรรมใช้กำลังเกินกว่าเหตุของตำรวจอเมริกัน โดยบางส่วนมองว่าเจ้าหน้าที่ด่วนใช้กำลังกับคนผิวดำเร็วเกินไป โดยเฉพาะกับพวกวัยรุ่น

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเอ็นเอสซียังตกลงกันไม่ได้เรื่องเยเมน
    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือยูเอ็นเอสซี ยังไม่สามารถออกแถลงการณ์ร่วมกัน เพื่อเรียกร้องการหยุดยิงทันทีในเยเมนได้ ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตตั้งแต่กลางเดือนมี.ค. เพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 1,244 ศพแล้ว
    วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 เวลา 9:05 น.

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า นายวิทาลี เชอร์กิน เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) แถลงเมื่อวันศุกร์ แสดงความสงสัยและ "ประหลาดใจ" อย่างยิ่ง หลังที่ประชุมสมาชิกยูเอ็นเอสซีทั้ง 15 ประเทศ ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงตามญัตติที่รัฐบาลมอสโกเป็นผู้ยื่นเสนอ ว่าด้วยการให้ที่ประชุมมีมติเรียกร้องให้มีการหยุดยิงทันที ในเยเมน ว่าอาจซ่อนเร้นด้วยเรื่อง "ลับลมคมใน" บางอย่าง

    ขณะที่แหล่งข่าวในที่ประชุมเผยในเวลาต่อมา ว่าสมาชิกบางประเทศเพียงต้องการเวลาอีกระยะ เพื่อพิจารณาญัตติของรัสเซียให้ละเอียดกว่านี้เท่านั้น การยังไม่บรรลุข้อตกลงร่วมกันในเวลานี้ ไม่ได้หมายความว่า ข้อเสนอแนะได้รับการปฏิเสธ อย่างไรก็ตาม รายงานบางกระแสระบุว่า ที่ประชุมมี "ความกังวล" เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลมอสโกกับอิหร่าน ที่หลายฝ่ายเชื่อว่าสนับสนุนกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน

    ด้านนายบัน คี-มูน เลขาธิการยูเอ็น กล่าวเตือนทุกฝ่ายว่า ภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของยูเอ็นและหน่วยงานร่วมอีกหลายแห่งในเยเมน อาจต้องเข้าสู่ภาวะชะงักงันภายในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เนื่องจากขาดแคลนเชื้อเพลิงสำหรับพาหนะลำเลียงสิ่งของ

    ทั้งนี้ รายงานขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) เผยจำนวนผู้เสียชีวิตจากการสู้รบในเยเมนตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. หรือ 1 สัปดาห์ก่อนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองทัพพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดีอาระเบีย ว่าอยู่ที่อย่างน้อย 1,244 ศพ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ภาคสนามของฮูพบสัญญาณเริ่มต้นการแพร่ระบาดของโรคหัด ไข้เลือดออก และไข้กาฬหลังแอ่นในเยเมนแล้ว

    ยูเอ็นเอสซียังตกลงกันไม่ได้เรื่องเยเมน | เดลินิวส์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ทำเนียบขาวยอมรับว่ากระบวนการระบบยุติธรรมของสหรัฐฯมีปัญหาจำเป็นต้องมีการปฎิรูปด่วน!

    [​IMG]

    ---------------
    วันนี้แต่ข่าวเด็ดๆทั้งนั้นเลยอ่ะ ข่าวระบบกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯ, ซาอุดิฯถล่มเยเมนยก2 ชาวเยเมนรวมตัวกันนับแสนต่อต้านซาอุดิฯกับสหรัฐฯ, ผู้นำเยอรมันตัดสินใจว่าจะไปกรุงมอสโคว์หลังงาน V-Day 1วันหลังจากถูกขู่เมื่อเร็วๆนี้ว่าจะมีปฏิบัติการพายุถล่มรัฐสภาเยอรมันนในกรุงเบอร์ลินจากพวกฝ่ายขวาหัวรุนแรง, ข่าวอดีตนายกฯแคนาดาเป็นแขกของปูตินทำให้รัฐบาลของแคนาดาไม่พอใจ, ข่าวเงินกู้อียูทำให้เศรษฐกิจของยูเครนทรุดหนักกว่าเดิม, ข่าวมหาเศรษฐีชาวอเมริกันบอกว่าตอนนี้ถึงเวลาทำการลงทุนในรัสเซียแล้วเพราะเศรษฐกิจของรัสเซียมีความมั่นคง (อุบ๊ะ! ชอบข่าวนี้จัง), ข่าวนักกฎหมายสหรัฐฯออกมาบอกว่าตำรวจบัลติมอร์ไม่ได้ทำอะไรผิด (ทั้งๆที่ผลการสอบสวนออกมาแล้วนี่นะ?), ข่าวทหารยูเอ็น (ฝรั่งเศส) ล่วงละเมิดทางเพศเด็กในแอฟริกา (อันนี้ต้องขยาย), และข่าวจีนออกมาตบปากสหรัฐฯที่ออกมาแสดงความคิดเห็นว่าการจัดงานสวนสนามทางกองทัพของจีนที่กำลังจะมีขึ้นประมาณเดือนกันยายนปีนี้สร้างความอึดอัดและเป็นกังวลให้แก่สหรัฐฯและเพื่อนบ้าน เป็นต้น มีทั้งข่าวดีและข่าวไม่ดี แต่ก็น่าสนใจในสถานกาณ์โลกด้วยกันทั้งนั้น เอาข่าวไหนก่อนดีหละพี่น้อง? วันนี้วันหยุดนะนี่... ถือว่าอ่านข่าวช่วงวันหยุดละกันน้อ ขอเริ่มที่ข่าวเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมของสหรัฐฯก่อนละกัน เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในอเมริกาตอนนี้ ส่วนข่าวอื่นๆจะทะยอยเล่าในโพสต์ต่อๆไปนะครับ
    สืบเนื่องจากมีข่าวฉาวโฉ่ครึกโครมไปทั่วโลก ยกเว้นสื่อฯหลักของอเมริกาเอง เกี่ยวกับระบบสองมาตรฐานและความอยุติธรรมรวมทั้่งการเหยียดผิวในอเมริกาเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ สถิติตำรวจสหรัฐฯสังหารคนตายไม่ต่ำกว่าวันละ 3 ราย (เคยลงให้อ่านแล้ว) จนนำไปสู่การลุกฮือของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและบานปลายไปสู่จลาจลและเหตุรุนแรงในหลายแห่งทั้งในเฟอร์กูสันและในบัลติมอร์ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้
    ทางรัฐบาลสหรัฐฯส่งนาย Josh Earnest เลขาฯโฆษกประจำทำเนียบขาวออกมากล่าวกับสื่อฯว่า ทางสหรัฐฯต้องการให้มีการพิจารณา "การปฏิรูประบบยุติธรรมทางอาญา" (criminal justice system) ระหว่างสองพรรคการเมืองขึ้นมาโดยเร็ว เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะมีความเท่าเทียมกันอย่างทั่วถึงในทุกสังคม (อัยย๊ะ! นี่ทำเนียบขาวพูดเองเลยนะ ไม่ใช่รัสเซียหรือจีนหรือเกาหลีเหนือหรือแม้แต่ไทยพูดนะ ก็แสดงว่าสหรัฐฯยอมรับเองแล้วสิว่าที่แล้วมานั้น มันไม่ความยุติธรรมที่แท้จริงในสหรัฐฯเลย แหม… เห็นลุงตู่กับคสช.ทำโรดแม็บปฏิรูปในไทยหน่อย รีบเกาะกระแสปฏิรูปอย่างไทยด้วยเลยนะ จะขอมาดูงานจากลุงตู่ก็ไม่ว่าอะไรนะ มะต้องเขินหรอก Ooopz!… สมาชิกบอกว่าแอ็ดมินเปิดโอกาสให้แฟนเพจได้เม้นท์บ้างดิ นี่มินฯเล่นคนเดียวหมดเลยอ่ะ แฟนเพจก็อดเม้นท์มันๆด้วยเลย อ่ะครับผม ขออภัยบางทีก็ติดลมด้วยน้อ เผลอไปนิดนึง)
    กลับมาที่ข่าวนี้ต่อนะ... สำนักข่าว sputnik รายงานจากกรุงวอชิงตันว่า การออกมาแสดงความคิดเห็นจากทำเนียบขาวในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่สหรัฐฯได้เผชิญกับการประท้วงหลายละลอกเกี่ยวกับการฆ่าชาวแอฟริกันอเมริกันโดยฝีมือของตำรวจสหรัฐฯ ซึ่งตามมาด้วยการวิพากษ์วิจารณ์จากผู้นำในสังคมต่างๆเกี่ยวกับระบบยุติธรรมของสหรัฐฯที่มุ่งเป้าไปที่ชาว African-Americans อย่างไม่เป็นธรรม
    Josh Earnest กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานี้ว่า "มีเหตุผลที่ดี (เพียงพอ) สำหรับพวกเราที่จะพิจารณาถึงองค์ประกอบบางอย่างในระบบยุติธรรมทางอาญาในตอนนี้ ซึ่งเกิดขึ้นในสังคมต่างๆมากมายทั่วประเทศเกี่ยวกับว่าหลักการและระเบียบในระบบกฎหมายของพวกเรา (สหรัฐฯ) ถูกนำไปใช้อย่างยุติธรรมทั่วประเทศแล้วหรือไม่" (อีกแล้วครับท่าน! สหรัฐฯสงสัยในกระบวนการยุติธรรมของตัวเอง พิลึกน้อ! กิ้วๆ)
    เลขาฯโฆษกของทำเนียบขาวกล่าวว่า ทั้งพรรคดีโมแครทและพรรครีพับลิกันควรจะสนับสนุนการปฏิรูปในระดับพื้นฐาน/สามัญสำนึก (common sense) ในสภาคองเกรสของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการปฏิรูปกฎหมายการพิจารณาบทลงโทษสำหรับบุคคลที่ถูกพิพากษาในคดียาเสพติดที่ไม่รุนแรง (non-violent drug offenses) (นั่นไง! ยุทธการนำยาเสพติดขึ้นมาทำให้เป็นสินค้าพาณิชย์อย่างถูกกฎหมายในสหรัฐฯกำลังจะค่อยๆเริ่มต้นขึ้นมาทีละนิดแล้ว มันช่างสอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการขายกัญชาเสรีในอเมริกาของรัฐบาลโอบาม่าจริงๆ พับผ่าสิ! คิดได้ไงนี่)
    สื่อฯรัสเซียเขาเจาะลึกลงไปอีกและพบว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่มีประชากรคุก (นักโทษ) มากที่สุดในโลก (The United States has the largest prison population in the world.) เกือบ 50% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมดมาจากคดียาเสพติดที่ไม่รุนแรง นี่เป็นข้อมูลจากสำนักเรือนจำของสหรัฐฯ (US Bureau of Prisons) และเกือบ 40% ของผู้ต้องขังเป็นชาวแอฟริกันอเมริกัน (African American)
    จากสถิติของสำนักเรือจำของสหรัฐฯในปี 2013 พบว่ามีประชาชนต่ำกว่า 7 ล้านคนค่อยๆลดจำนวนลงจากการอยู่ภายใต้รูปแบบของการกำกับดูแลและแก้ไขพฤติกรรม จากตัวเลขดังกล่าวพบว่ามีประชาชนที่ถูกคุมประพฤติและรอลงอาญาจำนวน 4.5 ล้านคน และราว 2.2 ล้านคนอยู่ในเรือนจำของรัฐหรือของรัฐบาลกลางและตามคุกท้องถิ่นด้วย (ข้อมูลมันชัดเจนมาก แอ็ดมินก็ไม่รู้จะวิเคราะห์อย่างไรต่อแล้ว ก็มันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ซะขนาดนั้นอ่ะ แฟนเพจจัดการต่อละกันครับผม)
    ต่อที่ข่าวบัลติมอร์ซักหน่อยนะ สืบเนื่องจากที่อัยการรัฐ Marilyn Mosby คนสวย (มีครอบครับแล้ว) ออกมาสั่งออกหมายจับตำรวจบัลติมอร์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของเฟรดดี้ เกรย์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางทนายของตำรวจรีบออกมากล่าวแก้ต่างให้กับตำตวจทั้ง 6 นายนั้นกับสื่อฯทันทีเลยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า "พวกเขาได้ปฏิบัติอย่างสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับที่พวกเขาได้รับการฝึกมาตลอดเวลา" ทนายยังกล่าวอีกว่า "เจ้าหน้าที่ตำรวจ 6 นายนั้นไม่ได้ทำอะไรผิด" (did nothing wrong) (ครับ! ตำรวจสหรัฐฯ ยิงคนผิวดำไม่อาวุธตาย อุ้มฆ่าชายผิวสีที่ไม่มีอาวุธและไม่ได้ต่อสู้กลับ ก็ยังบอกว่าไม่ได้ทำอะไรผิด แล้วใครผิดหละครับคุณทนาย?) It's America, man. It's USA. Got it?
    ป.ล. อ้อเกือบลืมเลย... ตอนนี้จับตาสหรัฐฯเริ่มจ้องที่ศรีลังกากับมัลดีฟส์แล้ว เมื่อวันก่อนรมว.ของสหรัฐฯพึ่งไปแสร้งทำตีซี้กับรัฐบาลศรีลังกาและเข้าพบกับชนกลุ่มน้อยในศรีลังกามาเอง ดูว่าจะมีเงินสนับสนุนบางอย่างจากสหรัฐฯไหลลงไปในศรีลังกาหรือไม่ ถ้ารัฐบาลศรีลังกายอมให้สหรัฐฯใช้สนามบินหรือเข้าไปตั้งกองทัพของตนในศรีลังกาได้ ก็จะอาจจะไม่เกิดความแตกแยกและสงครามขึ้นในศรีลังกาอีก แต่ถ้ารัฐบาลชุดใหม่ไม่เชื่อฟังอเมริกา ไม่แน่นะ ความขัดแย้งรอบใหม่ระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์ในศรีลังกาอาจจะเกิดขึ้นอีกรอบก็ได้ เกี่ยวกับกรณีนี้อินเดียกับจีนยังเงียบๆอยู่ แต่ระวังอเมริกาไว้ให้ดีก็แล้วกัน นั่นคืออีกจุดยุทธศาสร์หนึ่งที่สหรัฐฯต้องการจะใช้คานอำนาจอินเดียกับจีนที่กำลังเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในตอนนี้โดยเฉพาะทางเศรษฐกิจ
    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงสนับสนุนอดีตปธน.ของมัลดีฟส์ (Maldives) ในข้อหาเกี่ยวกับคดีก่อการร้ายโดยศาลพิพากษาให้จำคุก 13 ปี เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ประท้วงได้ประมาณ 200 คนซึ่งรวมทั้งนาย Sheik Imran ผู้นำพรรคฝ่ายค้านด้วย นายจอห์น แคร์รี รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ รีบออกมาวิจารณ์ทันทีว่าการจับกุมตัวนายโมฮัมเหม็ด นาชีด อดีต.ปธนของมัลดีฟส์ที่มาจากการเลือกตั้งแม้การตรวจสอบจะพบว่ามีส่วนเกี่ยวกับข้องกับการก่อการร้ายก็ตาม ถือว่าเป็นการคุกคามประชาธิปไตยของมัลดีฟส์ (เอากะอเมริกาดิ!) ซึ่งในสมัยที่นายโมฮัมเหม็ด นาชีดเป็นปธน.ของมัลดีฟส์นั้นเขาได้สั่งจับกุมผู้พิพากษาอาวุโสของมัลดีฟส์ด้วย (ทีอย่างนี้ไม่บอกว่าขัดขวางกระบวนการยุติธรรม หรือการเมืองแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมเลยนะ) พวกยูเอ็นและนักสิทธิมนุษยชนภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯก็ออกมาประสานเสียงพร้อมกันว่า "ไม่เป็นธรรม" และ "ไม่เป็นประชาธิไตย" ที่กฎหมายลงโทษอดีตปธน.ของมัลดีฟส์
    ที่น่าแปลกใจก็คือ พอรมว.ต่างประเทศของสหรัฐฯลงพื้นที่ในเอเซีย (ศรีลังกาในรอบ 10 ปี) ก็มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตปธน.มัลดีฟส์ขึ้นมาทันที มันแปลกไหม? คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้่นที่ไหนซักแห่งนี่แหละน๊าาาา? ใครจำได้บ้างป๊ะ? (ว่าจะเขียนเพียงสั้นๆนะนี่ ป.ล.ไปซะ 3 ย่อหน้าเลย)
    The Eyes
    03/05/2558
    ----------
    US Justice System Needs Reforms to Be Fair - White House / Sputnik International
    Racial Profiling By US Police Must Stop – Civil Rights Coalition / Sputnik International
    Baltimore Riots: Police Officers 'Did Nothing Wrong' - Lawyer / Sputnik International
    Opposition Leader Arrested in Maldives Protests / Sputnik International
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,257
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    การซ้อมขบวนสวนสนามในวัน V-Day ของรัสเซีย
    --------------
    ไปเที่ยวรัสเซียดีกว่า... ดูคลิปการซ้อมเดินขบวนสวนสนามในงานวันประกาศชัยชนะเหนือกองทัพนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 โดยกองทัพโซเวียต (Victory Day) วันที่ 9 พ.ค.2558 กรุงมอสโคว์ ประเทศรัสเซีย คั่นเวลาข่าวไปก่อนนะครับ ดนตรีประกอบได้อารมณ์มาก เร้าใจดี ดูแสนยานุภาพทางกองทัพของรัสเซียไปพลางๆก่อน ในคลิปนี้แค่จิ๊บๆ ส่วนในคลิปที่สอง (ลิงค์ที่ 2) ซึ่งไม่ได้ลงให้ เพราะยาวประมาณ 22 นาที เป็นการซ้อมพาเรดของทหารรัสเซียล้วนๆ ขบวนระเบียบของทหารรัสเซียสวยงามมาก เพลงมาร์ชน่าสนใจ พอฟังไปเรื่อยๆ แล้ว ชวนให้มีอารมร่วมแต่งเนื้อร้องภาคภาษาไทยร่วมร้องไปด้วยเลยว่า "ระเบียบ วินัย ไม่ยอมให้ใคร มารุกราน ย่ำยีอธิปไตย..." ฮ่าๆๆ เป็นไปได้น้อ...
    The Eyes
    3/5/2558
    ------------
    <iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/cdZ3v7kEbM8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/HD6RtJ1soyk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     

แชร์หน้านี้

Loading...