ติดตามสถานะการณ์

สูตร ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก ได้ผลดีมาก « on: April 02, 2015, 08:27:00 AM »
ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก



ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก ตำรับที่ ๑
ท่านให้เอา หัวผักกาดขาว ( หัวไช่เท้า ) สด ๑ - ๒ หัว นำมาล้างน้ำให้สะอาด ตัดหัวจุกออก ตำให้ละเอียด คั้นเอาน้ำ ๑ ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้งแท้ ๑ ช้อนโต๊ะ กวนให้เข้ากัน ใช้รับปประทานเวลาก่อนนอน ให้ผสมรับประทานทุกวัน วันละ ๑ ครั้ง รับประทานยานี้เป็นเวลาเพียง ๓ วัน อาการของโรคริดสีดวงชนิดมีเลือดออก และดากออกจะหายไปเป็นปลิดทิ้งทันที ถ้าเป็นมานาน ให้ผสมยานี้รับประทานวันละ ๑ ครั้ง ติดต่อกันประมาณ ๑๕ วัน
สรรพคุณ รักษาโรคริดสีดวงทวารหนัก ชนิดเลือดออก และดากออกหายขาดชะงัดนักแลฯ
ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก

ตำรับที่ ๒
ท่านให้เอา ดอกคำฝอย ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ สะค้าน ๑ ผลมะตูมแห้ง ๑ รากอังกาบเหลือง ๑ ตัวยาทั้ง ๖ อย่างนี้
เอาอย่างละเท่าๆกัน นำมาใส่หม้อดินต้มกับน้ำพอสมควร ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา วันละ ๒ ครั้ง เวลา เช้า - เย็น
สรรพคุณ แก้โรคริดสีดวงในลำใส้ ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก

ตำรับที่ ๓
ท่านให้เอา เปลือกกล้วยน้ำว้า ๓ กำมือ เกลือทะเล ( เกลือแกง ) ๑ กำมือ ตัวยาทั้ง ๒ อย่างนี้
นำใส่หม้อดินใส่น้ำพอท่วมยา ต้มเคี่ยวประมาณ ๓๐ นาที ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชาจีน ก่อนอาหารเช้า - เย็น
สรรพคุณ แก้โรคริดสีดวงลำใส้ที่มีอาการปวดท้องเป็นประจำ ได้ผลดีอย่างชะงัดนักแลฯ
ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก

ตำรับที่ ๔
ท่านให้เอา ยาดำ ๑ มหาหิงคุ์ ๑ การบูร ๑ ลูกกระวาน ๑ ลูกจันทน์ ๑ ตัวยาทั้ง ๕ อย่างนี้
นำมาบดเป็นผง ผสมกับน้ำมะกรูด
หรือน้ำผึ้งแท้ ก็ได้ ปั้นเป็นลูกกลอนขนาดเท่าเมล็ดข้าวโพด ใช้รับประทานครั้งละ ๑ - ๒ เม็ด ทุกวัน
ยาแก้โรคริดสีดวงทวารหนัก

ตำรับที่ ๕
ท่านให้เอา ลูกมะเกลือ ( คั้นเอาน้ำ ) ๑ น้ำมันยาง ๑ ต้นบอระเพ็ด ( คั้นเอาน้ำ ) ๑ น้ำผึ้งแท้ ๑ ตัวยาทั้ง ๔ อย่างนี้
เอาอย่างละ ๑ ถ้วยกาแฟ นำมาผสมกัน ใช้น้ำยารับประทานครั้งละ ๑ ถ้วยชา
วันละ ๒ ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และ ก่อนนอน ประมาณ ๑๕ วัน
สรรพคุณ รักษาโรคริดสีดวงทวารหนักทุกชนิด และ โรคริดสีดวงจมูก หายชะงัดนักแลฯ
ที่มา ������Դ�մǧ���� - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع

http://www.khonthaiuk.eu/forum/index.php…

 

ปอกเปลือก ทรราช
Dollar No More : ไม่เอาอีกแล้วเงินดอลล่าร์ จุดจบดอลล่าร์สหรัฐฯใกล้จะมาถึงแล้ว
--------------
หลายประเทศและหลายกลุ่มเศรษฐกิจทั่วโลกกำลังหันหลังให้สกุลเงินดอลล่าร์ในการซื้อขายระหว่างประเทศ เมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา Justin Yifu Lin อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลกได้ออกมาตำหนิการครอบงำของเงินดอลล่าร์สหรัฐฯที่ทำให้เกิดวิกฤษเศรษฐกิจทั่วโลก และกล่าวว่ามัน (เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ) ควรจะถูกกำจัดออกไปจากการเป็นสกุลเงินสำรองของโลก (อัยย๊ะ! แรงอ่ะ) ตามความคิดของ Lin นั้น วิธีการแก้ไขปัญหาควรจะเปลี่ยนสกุลเงินของประเทศมาเป็นสกุลเงินที่มีอยู่ทั่วโลก (replace the national currency with a global currency)
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลายประเทศซึ่งรวมทั้ง รัสเซีย จีน อินเดีย และตุรกีได้ตัดสินใจที่จะทิ้งเงินดอลล่าร์สหรัฐฯในการค้าขายต่างประเทศระหว่างประเทศเหล่านี้ด้วยกัน ซึ่งมักจจะใช้ทองคำในการชำระค่าสินค้าต่างๆ หรือตามแต่จะตกลงกันในสกุลเงินต่างๆ (ที่ไม่ใช่เงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ซึ่งส่วนมาก็เป็นสกุลเงินของตัวเองในแต่ละประเทศนั่นเอง)
คราวนี้มาดูภาพกราฟิกประกอบซึ่งสื่อฯรัสเซียเขาทำขึ้นมาให้เห็นภาพชัดๆเลยว่ามีประเทศใดบ้างที่ประกาศทิ้งเงินดอลล่าร์ในการซื้อขายระหว่างกันบ้าง โดยมีการนำสถิติตั้งแต่ปี 2007 มาจนถึงปี 2014 เส้นสีชมพูหมายถึงประเทศและกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ได้ยกเลิกการใช้เงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯแล้ว ส่วนเส้นสีเขียวหมายถึงประเทศและกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐต่างๆที่กำลังจะยกเลิกการใช้เงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯ ในการซื้อขายระดับทวิภาคี
ในปี 2011 กลุ่ม ALBA ได้ยกเลิกไปแล้วจำนวน $8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (billion), ในปี 2014 กลุ่ม BRICS ประกาศว่าจะยกเลิกการใช้เงิน USD จำนวน $300 billion, ในปี 2013 กลุ่ม MERCOSUR กำหนดว่าจะยกเลิกจำนวน $98,194 billion, ในปี 2014 กลุ่ม EEU จะยกเลิก $57.4 billion และในปี 2007 กลุ่ม SCO ประกาศว่าจะยกเลิก $50 billion (ดูภาพกราฟิกจากซ้ายไปขวาประกอบ)
The Eyes
01/05/2558
-----------
Dollar No More / Sputnik International

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 1 พ.ค.58 กระจองงองเจ้าข้าเอ้ย อเมริกาจะประกาศอัยการศึก 7 รัฐ
เนื่องจากบริหารประเทศด้วยระบบทุนนิยม โดยใช้เครื่องมือเป็นการเลือกตั้ง ส่งผลให้เกิดหนี้สินของรัฐบาลอเมริกา มีมากล้นพ้นตัวกว่า 6,500 ล้านล้านบาท หากนำเงินงบประมาณประจำปี 15 ล้านล้านบาท
ใช้หนี้เงินต้นต้องใช้ไปอีกราว 334 ปีหนี้เงินต้นจึงจะหมด แล้วใช้หนี้ดอกเบี้ยไปอีก 300 ปีจึงจะเป็นอิสระปลอดหนี้ ทำให้บางรัฐของอเมริกา ไม่ต้องการรับผิดชอบหนี้นี้ของอเมรอกา และต้องการแยกเป็นประเทศอิสระ
ประจวบกับสถานการณ์ม็อบลุกลาม ทหารตำรวจจับประชาชนเอาหน้าโขกฟุตบาติ เลือดกลบปาก จนมีการเผาบ้านเผาเมืองไปทั่ว รัฐบาลอเมริกาจึงอ้างหน้าเฉย ว่าประเทศจะเข้าสู่ภาวะสงคราม จึง "เตรียมประกาศกฎอัยการศึก ( Martial Law)" ใน 7 รัฐ เพื่อนำทหารเข้าควบคุมรัฐแบบเบ็ดเสร็จ
ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ย.58 นี้ โดยกฎอัยการศึก จะครอบคลุมรัฐ อริโซนา แคลิฟอร์เนีย โคโรราโด นิวแม็กซิโก เนวาดา เท็กซัส และยูท่า โดยให้อำนาจทหารเบ็ดเสร็จเหนือพลเรือน มีทั้งทหารนาวิก , ซีล , กรีนเบเร่ , หน่วยรบพิเศษ กองทัพอากาศ เข้าปฏิบัติการ
โดยอ้างว่าการประกาศอัยการศึกครั้งนี้เพื่อให้การรบ "สมจริง" และกำหนดให้รัฐทางใต้ 3 รัฐที่ประสงค์จะแยกเอกราช คือ แคลิฟอร์เนีย เท็กซัส และยูท่า เป็นฝ่ายศัตรู ในการซ้อมรบครั้งนี้
แถมกองทัพอเมริกา มีแผนจะยึดอาวุธของพลเรือนทั้ง 3 รัฐทางใต้ช่วงประกาศกฎอัยการศึก 3 เดือนนั้นอีกด้วย อ้างว่าเพื่อความปลอดภัย เพราะมีแผนจะต้องนำกลุ่ม IS จากตะวันออกกลาง เข้ามาอเมริกาด้วย เพื่อให้การฝึกสมจริง..น้าน
จ๊าก..เราขอให้มวลมหาประชาชนอเมริกัน ออกมาๆๆๆ ฮิวแมนไรท์ว็อช และ NGO หดหัวไปไหนกันหมด..จะประกาศกฎอัยการศึกในอเมริกาแล้ว..มีเสียงแว่วๆ กระซิบ ลอดออกมาจากท่อระบายน้ำว่า "..ไม่ฉะบายย ก็ลมมันเย็น...แท้งกิ้วทรีไทม์ "...ฮา (หัวเราะเป็นภาษาเกาหลีเหนือ)
@ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 1 พ.ค.58 เกิดพายุงวงช้างในทะเลภูเก็ต และสารพัดป่วนภัยพิบัติทั้งโลก
เมื่อวานนี้ช่วงเย็น เกิดพายุงวงช้างที่ในทะเล ใกล้หาดกะรน ภูเก็ต และมีประชาชนที่เห็นเหตุการณ์ถ่ายภาพไว้ได้ ขณะเดียวกันภูเขาไฟลูกเดิมที่ชิลีได้ปะทะรอบใหม่อย่างรุนแรง
ทางการต้องสั่งอพยพประชาชนกว่า 6,000 คน ในรัศมีโดยรอบภูเขาไฟ และเถ้าถ่านได้ลอยข้ามมาถึงแอฟฟริกาแล้ว , อีกภาพเป็นภูเขาไฟในฮาวายที่ลาวาเดือดหนักไหลออกมาแล้ว , และวันนี้ทั้งวันแผ่นดินไหวถี่ยิบกระจายไปทั่วแนววงแหวนแห่งไฟ
ช่วงนี้ธรรมชาติกำลังจะสื่อบอกอะไรกับมนุษย์ ดิน น้ำ ลม ไฟ อลเวงกันไปหมดทั้งโลก
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 1 พ.ค.58 หมู่เกาะชวา ปาปัวนิวกินี แผ่นดินไหว ฮาวายประกาศเตือนคลื่นสึนามิ
เมื่อช่วงสายวันนี้ เกิดเหตุแผ่นดินไหวทางตอนใต้ของหมู่เกาะชวา ประเทศอินโดนีเซีย แรงสั่นสะเทือนขนาด 5.0 ที่ความลึก 7.3 กิโลเมตร เบื้องต้นไม่มีรายงานความเสียหายหรือผลกระทบต่อไทย
และที่หมู่เกาะปาปัวนิวกินี แผ่นดินไหวขนาด M6.8 ลึก 10 กม. ส่งผลไปอีกซีกโลกหนึ่ง หมู่เกาะฮาวาย อเมริกา มีหินร้อนตกลงในทะเลลาวาจำนวนมากผิดปกติ ทางการประกาศให้นักท่องเที่ยวอย่าเข้าไปใกล้ และเกิดเหตุระทึกเมื่อมีการประกาศเตือนภัยใก้ระวังคลื่นสึนามิอีกด้วย
อืมม..ช่วงนี้เปลือกโลกแนววงแหวนแห่งไฟ มีปฏิกิริยาถี่ยิบเลย เลยเอาวิธีการทุบกระจกรถฉุกเฉินจากภายในรถ เอาชีวิตรอดออกมา กรณีรถจมน้ำทั้งคัน ระบบไฟฟ้าเสีย เปิดประตูและกระจกไม่ได้
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 1 พ.ค.58 ชักมีเสียวล่ะซิ ภูเขาไฟบนเกาะเยื้องระนอง ปล่อยเถ้าถ่านออกมา
เกิดเหตุจู่ๆ ภูเขาไฟที่เกาะบาเร็น ของอินเดีย ในฝั่งทะเลอันดามัน เยื้องๆ จังหวัดระนอง ห่างไทยไปราว 560 กม. ได้ปล่อยเถ้าถ่าน มีควันพุ่งขึ้นมาสูงราว 3 กิโลเมตร โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย เป็นการคุกรุ่นขนาดเล็ก แต่ยังไม่ได้รายงานการเตือนซึนามิ
มันชักขยับเข้ามาใกล้ไทยซะแล้ว แสดงว่าแผ่นเปลือกโลกแนวนั้น ท่าทางจะไม่หยุดการเลื่อนตัวได้ง่ายๆ เพราะส่งผลกระทบไปทั่วเลย ข้ามไทย ไปถึงชายฝั่งของญี่ปุ่นโน่นเลย แผ่นดินชายฝั่งยาว 400 เมตร งอกปูดขึ้นมาเกือบ 20 เมตรรวดเดียวข้ามคืน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Jeerachart Jongsomchai



... "อเมริกาเข้าใกล้การประกาศกฎอัยการศึก : ชะลอเลือกตั้งใหญ่ 2016 เพื่อเตรียมรับสงคราม ?"
.
... ข่าวเมื่อสองสามปีมานี้ เรื่องอเมริกาเตรียม FEMA Camp กว่า 800 แห่งทั่วประเทศเพื่อเตรียมการกักกัน คุมขังคนที่ไม่เห็นด้วยหรือต่อต้านกับรัฐบาล ในกรณีที่อาจจะเกิดสภาวะฉุกเฉินในประเทศจนต้องประกาศกฎอัยการศึกนั้น มีแววว่าจะเป็นไปได้สูงขึ้นเรื่อยๆ
... เพราะจากปลายปีที่แล้วที่มีการฝึกซ้อมปฎิบัติการทางทหารในเขตเมืองใหญ่ของรัฐต่างๆทั่วประเทศนั้นมีมากเรื่อยๆจากปลายปีที่แล้วจนถึงปีนี้ยิ่งเข้มข้นกว่าเดิม ในชื่อว่าปฎิบัติการ Jade Helm
... เรื่องค่ายกักกันผู้ที่ต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ของอเมริกาเช่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางรัฐบาลได้ส่งผู้คนเข้าแคมป์มาแล้วกว่า 110,000–120,000 ซึ่งตอนนั้นเป็น "อเมริกาเชื้อสายญี่ปุ่น" ที่ถูกบังคับให้ต้องอพยพย้ายจากฝั่งตะวันตกมาอยู่ในค่ายที่ถูกจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดีในเขตด้านในของประเทศ ที่ตอนนั้นมีการสงสัยคนเชื้อสายญี่ปุ่นหลายคนที่อาจจะเป็น "สายลับ กองหนุน" หรือแอบช่วยเหลือทหารฝ่ายญี่ปุ่นแบบลับๆ ในการต่อต้านอเมริกา ( fifth column = เสาต้นที่ห้า ) จึงต้องจัดการต้อนเข้าแคมป์ให้หมด
... หรือช่วง "สงครามเย็น" ที่อเมริกาทำสงครามกับ "โซเวียตรัสเซีย" ข้อมูลจาก FBI บอกว่าในปี1956 มีการออก "แผน C" เอาไว้ในกรณีฉุกเฉินถ้าอเมริกาถูกโจมตีจาก "อาวุธนิวเคลียร์" จาก "โซเวียตรัสเซีย" จะมีการจับกุมผู้ถูกหมายหัวกว่า 13,000 คนให้จับเข้าคุกทั้งผู้ต่อต้านรัฐบาลและนักการทูตฝ่ายศัตรูให้หมด
... โดยให้เหตุผลว่า "เสรีภาพในภาวะวิกฤติเป็นอันตรายต่อความมั่นคงภายในประเทศ" ( สงสัยจัง ทำไมไม่เอาเหตุผลนี้อธิบายกับตัวเองตอนถามประเทศไทยบ้าง เมื่อปีที่แล้ว )
... และถ้าเกิดมีการประกาศ "กฎอัยการศึก" แล้วจะกระทบอย่างไรบ้าง ?
... "รัฐธรรมนูญจะถูกแช่แข็ง" คนอเมริกาจะไม่มีสิทธิพิ้นฐานเหมือนเคยเช่นสิทธิในการพูด การข่าว การชุมนุมกัน ผูัต่อต้านรัฐบาลจะถูกจับกุมโดยปราศจากข้อกล่าวหาได้ และล่าสุดมีการเปิดเผยว่า กลุ่มบุคคลที่อยู่ในรายชื่อ "หมายหัว" จากทางการมีมากมายกว่า 8 ล้านคน ที่ต้องถูกส่งเข้าคุก FEMA Camp หรือในกรณีหนักๆ ก็มีสิทธิ์ยิงหรือฆ่าได้ โดยไม่ผิด
... ทรัพยากร ทรัพย์สินต่างๆทั่วทั้งประเทศจะถูกควบคุมบริหารจัดการโดยรัฐ ท้้งน้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ อินเตอร์เน็ต ทุกระบบ เป็นเผด็จการสมบูรณ์แบบ
... พูดง่ายๆ อเมริกาจะกลายเป็น "รัฐบาลทหาร" เสียเอง มีรถถังวิ่งไปทั่วประเทศเหมือนในหลายๆประเทศที่อเมริกาเคยด่ากลาดเป็นปืนกลไปทั่วโลก คราวนี้จะโดนด่าย้อนกลับบ้าง
... ยิ่งประกอบกับ เหตุการณ์บริบทโลกปัจจุบันยิ่งคุกรุ่นร้อนแรง ทั้ง ยูเครน ซีเรีย เยเมน อิรัก ลิเบีย คิวบา ... อเมริกายิ่งต้องทำให้ภายในประเทศนิ่งๆเข้าไว้ไม่แกว่งไปมา ไม่งั้นป่วนทั้งในบ้าน นอกบ้านโอกาศแพ้เพรี่ยงพร้ำสงครามใหญ่มีสูง
... และยิ่งกว่านั้น อเมริกากำลังจะมี "เลือกตั้งทั่วไปในปี 2016" หรือปีหน้านี้ นักวิเคราะห์ของอเมริกาเช่น Dr Ben Carson ได้บอกว่าอาจจะมีการ ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประเทศเป็นสูญญากาศและ "เลื่อนการเลือกตั้งใหญ่" ออกไป และ "โอบาม่า" จะได้ยืดการปกครองประเทศออกไปอีก เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับประเทศในยามสงครามก่อน ( เพราะการเปลี่ยนแม่ทัพใหญ่ยามสงครามยักษ์นั้นเป็นสิ่งที่ตำราพิชัยสงคราม ไม่ควรจะกระทำ )
... ดังนั้นมองได้ว่าเหตุการณ์ที่ "บัลติมอร์" อเมริกา ที่กำลังวุ่นวายเป็นไฟลามทุ่งไปทั่วประเทศอยู่ในขณะนี้นั้น อาจจะเป็นการส่งเสริมอย่างลับๆโดยฝ่ายรัฐบาลหรือหน่วยงานลับของอเมริกาเอง เพื่อจะจุดไฟความสับสนวุ่นวายโกลาหลให้มากขึ้น เพื่อให้ดูเนียนตาสมเหตุผล เพียงพอต่อการประกาศกฎอัยการศึกดังที่ได้เตรียมการวางแผนมา
... ( คล้ายๆประเทศหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ที่ผู้ใหญ่บ้าน"สาย" ของ "ตาอยู่เขียว" เป็นแกนนำออกไปไล่ "ตาอินแดง" กลางถนนคนเป็นล้านร่วมครึ่งปี เพื่อให้ไฟลุกโชน มีน้ำหนักให้"ตาอยู่เขียว" ออกมาไล่ "ตาอินแดง" และ "ตานาสีฟ้า" ออกไปกินแห้วทั้งคู่ เพื่อรักษาความสงบในประเทศ ... จนตอนนี้ตาอิน ตานา และ "ลุงแซม" ต้องแก้เกมกำลังจะร่วมมือกันเฉพาะกาลไล่ล่า "ตาอยู่เขียว" อยู่ในตอนนี้ อยู่ที่ ตาอยู่เขียวจะทำเพื่อชาติหรือเพื่อตัวเองแค่นั้น )
... ดังนั้นเป็นไปสูงว่าในอนาคตอันใกล้อเมริกาจะประกาศกฎอัยการศึก จับคนเข้าคุกเป็นล้าน โอบาม่าจะกลายเป็นผู้นำเผด็จการทหารเสียเอง เพื่อรับมือกับอะไรบางอย่าง เช่น "สงครามนิวเคลียร์" ที่กำลังจะมาถึงกับ "รัสเซีย" คู่ปรับตลอดกาลก็เป็นได้
.
http://www.zerohedge.com/…/what-would-happen-if-martial-law…

 

Jeerachart Jongsomchai

... ถ้าสร้างรถไฟสายกาญจนบุรี เชื่อมกับแหลมฉบังออกอ่าวไทยได้ และถ้าพม่าสร้างรถไฟเชื่อมจากท่าเรือทวายมาถึงกาญจนบุรี ก็จะเป็นการเปิดเส้นทางเชื่อมระหว่างมหาสมุทรอินเดียและทะเลจีนใต้ใหม่ในรอบประวัติศาสตร์ ช่องแคบสิงคโปร์ก็จะลดความแออัดลงสูญเสียรายได้ไปส่วนหนึ่ง สินค้าฝั่งอินเดีย บังคลาเทศ พม่า ก็มาใช้เส้นทางขนส่งทางรถไฟเส้นนี้แทน ไม่ต้องอ้อมไปช่องแคบสิงคโปร์
... รัฐบาลไทยจะได้ค่าอากรขนส่งมากมายมหาศาลในอนาคต จากผู้ส่งสินค้า ญี่ปุ่นก็ได้ประโยชน์ในการขนสินค้าในฝั่งนั่นที่เขาก็คาดหวังจะไปลงทุนในพม่าเพื่อถ่วงดุลอำนาจกับจีนด้วย

ญี่ปุ่นเข้าวินคว้ารถไฟ 2 สาย ลงนาม พ.ค.นี้ดันเชื่อมเศรษฐกิจทวาย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 30 เม.ย. 2558 06:15



ไทย-ญี่ปุ่นลงนามเอ็มโอยู พ.ค.นี้ สร้างรถไฟ 2 เส้นทาง ความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ และทางคู่กาญจนบุรี-อรัญประเทศ ด้านบอร์ด ทอท.ปรับลดค่าก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 ลง 10,000 ล้านบาท พร้อมปลด “ประพนธ์” พ้น ผอ.สนามบินสุวรรณภูมิ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมช.คมนาคม เปิดเผยถึงผลหารือโครงการความร่วมมือพัฒนาระบบรางร่วมกับรัฐบาลญี่ปุ่นว่า ได้ข้อสรุปว่าจะให้ญี่ปุ่นก่อสร้างโครงการรถไฟไทย 2 เส้นทาง คือ รถไฟทางคู่ขนาดราง 1 เมตร เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-แหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา-อรัญประเทศระยะทาง 574 กิโลเมตร (กม.) และ รถไฟฟ้าความเร็วสูงกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ระยะทาง 670 กม. โดยรัฐบาลทั้ง 2 ประเทศจะลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ภายในเดือน พ.ค.นี้

“กระทรวงคมนาคมเห็นว่า รถไฟทั้ง 2 เส้นทางมีความเหมาะสม เพราะเชื่อมโยงเศรษฐกิจฟากตะวันออกไปตะวันตกตอนใต้ของไทย โดยขนส่งสินค้าจากท่าเรือแหลงฉบังไปท่าเรือทวาย ขณะที่ญี่ปุ่นก็มีแผนขยายการลงทุนการผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ไปยังเมียนมาร์ซึ่งจะเชื่อมต่อมาไทยได้ และอนาคตยังมีแผนเชื่อมไปยังเวียดนามด้วย”

ส่วนการสร้างรถไฟทางคู่แม่สอด จ.ตาก-มุกดาหาร จะให้ญี่ปุ่นช่วยศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างตลอดเส้นทาง หลังจากก่อนหน้านี้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ศึกษาเฉพาะเส้นทางแม่สอด-พิษณุโลกเท่านั้น รวมทั้งขอให้ญี่ปุ่นส่งผู้เชี่ยวชาญมาศึกษาและให้คำแนะนำในการวางโครงข่ายรถไฟในภาคตะวันออกของไทย เนื่องจากมีหลายเส้นทางที่อาจทับซ้อนกัน

นายอาคมยังกล่าวถึงความร่วมมือรถไฟทางคู่ไทย-จีน เส้นทางหนองคาย-นครราชสีมา-แก่งคอย-มาบตาพุด และแก่งคอย-กรุงเทพฯ ว่า จะใช้รูปแบบการลงทุนแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ งานฐานรากและการก่อสร้าง รวมทั้งการเวนคืนที่ดิน จะใช้เงินงบประมาณรัฐและแหล่งเงินกู้ในประเทศ ส่วนงานระบบการเดินรถเห็นตรงกันให้จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเป็นนิติบุคคล ทำหน้าที่ลงทุนงานระบบกับการเดินรถ โดยใช้เงินกู้จากจีน ซึ่งไทยได้เสนอขอเงื่อนไขเงินกู้พิเศษดอกเบี้ยต่ำกว่า 2% ระยะเวลา 30 ปี ในจำนวนนี้เป็นระยะเวลาปลอดชำระหนี้ 6-7 ปี

ด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวหลังประชุมเตรียมการก่อนร่วมหารือการลงทุนโครงการรถไฟทางคู่ไทย-จีน ครั้งที่ 4 ที่ประเทศจีน วันที่ 6-8 พ.ค.นี้ ว่า มีการสรุปความก้าวหน้าการสำรวจออกแบบและความร่วมมือในการดำเนินงานและการลงทุน การจัดเตรียมบุคลากรเพื่อรับการฝึกอบรมและถ่ายทอดเทคโนโลยี รวมทั้งเห็นชอบให้มีการทำรถไฟทางคู่ขนาดรางมาตรฐาน 1.435 เมตร เส้นทางเชื่อมต่อจากเวียงจันทน์ไปหนองคาย 30 กม. และมีแผนวางโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกตลอดเส้นทางอีกด้วย

ขณะที่นายประสงค์ พูนธเนศ ประธานคณะกรรมการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า บอร์ด ทอท.รับทราบการปรับลดราคาในโครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 ลง 10,000 ล้านบาท จาก 62,503 ล้านบาท โดยการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 จะเริ่มได้ในปีนี้ นอกจากนั้น ที่ประชุมบอร์ด ทอท.ยังมีมติปลดเรืออากาศโทจตุรงคพล สดมณี อดีตผู้อำนวยการสนามบินดอนเมือง พ้นสภาพจากการเป็นพนักงาน ทอท. หลังจากคณะกรรมการสอบสวนวินัยสรุปว่ามีการกระทำผิดร้ายแรงทางวินัย กรณีขุดดินในสนามบินดอนเมืองขาย มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งให้นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้เชี่ยวชาญระดับ 11 เป็นผู้อำนวยการสนามบินสุวรรณภูมิ แทนนายประพนธ์ ปัทมกิจสกุล มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.นี้.

ญี่ปุ่นเข้าวินคว้ารถไฟ 2 สาย ลงนาม พ.ค.นี้ดันเชื่อมเศรษฐกิจทวาย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Chalee Na Roied



เมื่อวานนี้ผมวิเคราะห์เรื่อง แผ่นดินไหวที่เนปาลนะครับ และพูดถึงความเป็นไปได้สองอย่างก็คือ แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น มีเป้าหมายทางภูมิศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ เพราะเวลานี้สงครามเศรษฐกิจ และสงครามค่าเงิน(Currency war) ระหว่างสองขั้วมหาอำนาจ กำลังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้น ซึ่งยิ่งนานวันเมื่อพิจารณาแนวโน้มแล้ว ถนนทุกสายกำลังมุ่งหน้ามาทางเอเชีย โดยเฉพาะมหาอำนาจอย่างจีน และรัสเซีย ซึ่งรับประกันความมั่นคงระหว่างกัน เป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่ สามารถโจมตีสหรัฐได้
http://kingworldnews.com/china-and-russias-plans-for-world…/
วันนี้ทางผู้อำนวยการ หน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐในภูมิภาคเอเชียได้ออกมาให้สัมภาษณ์ จากการพบปะกันระหว่าง นายจอห์น เคอร์รี รมต.ต่างประเทศ สหรัฐ และ แอชตัน คาร์เตอร์ รมต.กลาโหมสหรัฐ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ภายหลังพบปะหารือกัน ก่อนหน้าการเดินทางเยือนสหรัฐ อย่างเป็นทางการของ นายกฯญี่ปุ่น ชินโซะ อาเบะ ว่ารัฐบาลสหรัฐกับญี่ปุ่น จะดำรงความร่วมมือกันทางทหาร และจะใช้ทั้งนิวเคลียร์และอาวุธทั่วไป ในการโจมตีจีนเพื่อปกป้องญี่ปุ่น ในกรณีเกิดสถานขัดแย้งในภูมิภาคนี้
และนอกจากนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ก็จะมีการเสริมทหาร และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการเมือง กับประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ไทย พม่า สิงคโปร์ และเวียดนาม
“Central to (its Asia policy) is the ironclad US commitment to the defense of Japan, through the full range of US military capabilities, including nuclear and conventional,”
It’s part of Washington’s so-called East Asia rebalancing – challenging China through strengthened military, economic, and political ties with Japan, South Korea, India, Australia, New Zealand, Indonesia, the Philippines, Thailand, Myanmar, Singapore and Vietnam.
เพราะฉะนั้นนี่คือ สัญญาณที่ชัดเจนครับว่า สหรัฐจะเดินเกมส์รุกเต็มที่ เพื่อรักษาอิทธิของสหรัฐในภูมิภาคนี้ต่อไป และจะส่งเรือรบและ ทหารสหรัฐเข้ามาเพิ่มเติม ทั้งในเอเชียแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย เพื่อปิดล้อมและกดดันจีนต่อไป
....."ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม".....

Obama Threatens China with Nuclear Weapons. Militarization of Asia-Pacific | Global Research - Centre for Research on Globalization

 

Thanong Fanclub



11. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
ธนาคารกลางของสหรัฐฯทำQEไปแล้ว อังกฤษทำQEไปแล้ว ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรปทำลังทำQE แล้วจะให้จีนอยู่เฉยๆ ทำเสแสร้งเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้อย่างไร?
QEคือการที่ธนาคารกลางพิมพ์เงินเข้าไปในระบบการเงินเพื่อซื้อทรัพย์สินทางการเงินออกมา เช่นพันธบัตรรัฐบาล หรือพันธบัตรในรูปแบบต่างๆ ทำให้สภาพคล่องเพิ่มขึ้นและสร้างแรงกดดันให้ดอกเบี้ยลดลง
จีนอาจจะเก็บอาการเสแสร้งไม่ยี่หระได้ไม่นาน เพราะว่าเศรษฐกิจภายในกำลังมีปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีปริมาณ$2.6ล้านล้าน ที่กำลังมีปัญหาในการชำระหนี้
ในเมื่อพวกลื้อเล่นQEได้อย่างสนุกสนาน ทำไมอั๊วขอเล่นQEให้มันมือด้วยคนไม่ได้หรือ?
ทำให้ในวันที่28 เมษายนที่ผ่านมา ทางธนาคารกลางของจีน (People's Bank of China)ประกาศว่าจะอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อช่วยฐานะทางการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่กำลังถังแตก จากการใช้เงินมหาศาลในการเนรมิตเมืองใหม่เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองตามความฝันอันสูงสุดของจีน
แบบฉบับQEของจีนจะเน้นอุ้มฐานะการเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่ได้ออกบอนด์รัฐบาลท้องถิ่น (provincial bonds) ของทางสหรัฐฯจะมีตราสารการเงินคล้ายๆกันเรืียกว่า municipal bonds โดยที่ธนาคารกลางของจีนจะปล่อยกู้ให้กับธนาคารเพื่อเข้าไปซื้อพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่น ไม่ว่าเร็ทติ้งจะดีหรือเลวปานใด
ธนาคารกลางของจีนจะส่งสัญญานให้แบงค์ว่า: "หลับหูหลับตาซื้อๆเข้าไปเถอะ พิมพ์เงินแจกให้ฟรีแล้ว อย่าไปคิดมาก"
สัญญานการทำQEของจีนนี้ส่อให้เห็นว่าจีนกำลังมีปัญหาเศรษฐกิจภายใน และจีดีพีที่กำลังชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด แม้ว่าตัวเลขจีดีพีของทางการจะบอกว่าอยู่ที่7% แต่มีฝรั่งบางสำนักบอกว่าอยู่ที่3.8%
จีนเลยต้องเสแสร้งว่ายังคงยืนหยัดได้อย่างเหนี่ยวแน่นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกและการค้าโลกที่ชะลอตัวลง
ประเด็นคือเมื่อจีนทำQEและดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำค่าหยวนให้อ่อน ประเทศต่างๆในเอเซียจะได้รับผลกระทบ คือจำเป็นต้องเดินตามรอยเท้าอาเฮีย เพราะว่าเศรษฐกิจจีนเป็นสมอหลักของเอเซีย
จะเกิดปรากฎการณ์แห่กันลดดอกเบี้ยและทำให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนตัวลงเพื่อแข่งกันส่งออกในเอเซีย ทั้งในเกาหลีใต้ ไต้หวัน ส่วนญี่ปุ่นไม่ต้องพูดถึงทำ QEไปแล้ว$3ล้านล้าน และกดดอกเบี้ยจนแทบจะไม่เหลือช่องว่างให้ทำอะไรได้อีกยกเว้นพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ
ไทยแลนด์ไม่ต้องการน้อยหน้าใคร รีบลดดอกเบี้ยในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินสองนัดติดต่อกันจาก2.0%เหลือ1.50% รีบชิงลดดอกเบี้ยก่อนใครอะเกรสสิฟอย่างนี้ แสดงว่าตัวเลขเศรษฐกิจไทยแลนด์คงจะเน่าสุดๆ
ตัวเลขเน่าจริง เพราะว่าส่งออกไทยในไตรมาสแรกติดลบ4%กว่า เงินเฟ้อในไตรมาสแรกติดลบ0.5% การบริโภคภายในเดี้ยง การใช้จ่ายภาครัฐออดๆแอดๆ การลงทุนภาคเอกชนรอเมกะโปรเจ๊คอย่างเดียว ไม่งั้นไม่ทำอะไร
ทางแบงค์ชาติต๊กกะใจกันใหญ่ เหมือนเลือดเข้าตา ควานหามาตรการเพิ่มเพื่อช่วยการส่งออก เพราะว่าบาทมันแข็งไป โดยจะอนุญาตให้คนไทยขนเงินไปลงทุนต่างประเทศมากขึ้น
ทำให้นโยบายการเงินไทยอยู่ในโหมดลดดอกและทำให้บาทอ่อนตามสูตรตามตำรา
ดูท่าแล้วในที่สุด ประเทศไทยจะต้องเดินทางสู่นรกด้วยการทำQEกับเขาด้วยหรือไม่?
ทางฝ่ายสหรัฐฯกำลังดูเอเซียดิ้นอย่างใจจดใจจ่อ ไอเจ้งแล้วนะ แต่พวกยูกำลังจะตามมาขอเจ้งกับไอหรือ
ถ้าพวกยูต้องการอย่างนั้นได้เลย ในเดือนมิถุนายน หรือเดือนกันยายนทมิฬ ไอจะขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก หลังจากที่กดดอกเบี้ยมาที่ระดับ0.25%มาตั้งแต่ปี2009 เพื่อทำลายการเงินของพวกยู เพราะว่าเงินดอลล่าร์ที่พวกยูกู้มาถูกๆระหว่างปี2009-2014จะต้องไหลกลับมายังศูนย์กลางการเงิน ทำให้ค่าเงินพวกยูและตลาดการเงินป่วนหนัก
พวกยูอาจจะขายของได้ราคาถูก ไอขายของไม่ได้ แต่เงินไหลกลับมาบ้านไอจะทำให้ไอยังจะพอซูซี้มั่วต่อไปได้ ค่าเงินดอลล่าร์แข็ง ค่าเงินพวกยูไหลลงอย่างไม่มีหูรูด เงินเฟ้อจะมาเคาะประตูบ้านพวกยู
แล้วถ้าพวกยูจำต้องหันหัวกลับทิศด้วยการขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ตอนนั้นคงจะเสแสร้งกันไม่ได้กันอีกแล้ว
แต่ถ้าจีนลอยค่าเงินหยวนในช่วงนั้น จะออกมาอีกเกม เอมันอะไรกันนี่ ใครจะไปก่อนกันแน่
thanong
1/5/2015
Next Stage in Global Monetary War: China Close to Stimulus, US Fed Cautious / Sputnik International

 

Thanong Fanclub



12. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
ในบรรดานักเสแสร้งแล้ว ไม่มีใครจะยิ่งใหญ่ไปกว่านายธนาคารกลางและนักลงทุนของยุโรป ดูเอาก็แล้วกันว่ากว่า30%ของพันธบัตรรัฐบาลในเขตยูโร หรือเป็นเม็ดเงินประมาณ2ล้านล้านยูโรกำลังเทรดกันด้วยดอกเบี้ยที่ติดลบ
ดอกเบี้ยติดลบ!!!!!!!!!
ปรากฎการณ์ดอกเบี้ยติดลบนี้ ทำให้หนังสือพิมพ์The Telegraph ของอังกฤษลงบทความให้ชื่อว่า "Negative interest rates put world on course for biggest mass default in history" ดอกเบี้ยติดลบจะทำให้โลกเกิดภาวะการผิดการชำระหนี้ครั้งมโหฬารที่สุดในประวัติศาสตร์
ดดอกเบี้ยติดลบเริ่มที่สวิสก่อนเมื่อ4เดือนมาแล้ว ที่พันธบัตรอายุ10ปีของสวิสเทรดไปเทดมาดอกเบี้ยติดลบ ลามไปทำให้พันธบัตรของประเทศยูโรอื่นๆติดลบไปด้วย เพราะว่าสภาพคล่องล้นเหลือมากจนท่วม จนไม่รู้ว่าจะเอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหน
จากตัวเลขที่มีการรวบรวมกันมา ประมาณ70%ของบอนด์เยอรมันมีดอกเบี้ยติดลบ ของฝรั่งเศสมีบอนด์ดอกเบี้ยติดลบ50% ของเสปนซึ่งที่จริงล้มละลายไปนานแล้วมีบอนด์ที่เทรดดอกเบี้ยติดลบ17%
ในภาวะดอกเบี้ยติดลบนี้ นักลงทุนบอนด์ยอมขาดทุน ผู้ออกบอนด์แทนที่จะจ่ายดอกเบี้ยกลับได้กำไร
โลกกลับตาลปัตร แต่ดอกเบี้ยติดลบกลายเป็นเรื่องปกติ (new normal) และตลาดการเงินก็ถูๆไถๆต่อทำเสแสร้งว่าไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น
นายMartin Armstrongบอกว่า นักลงทุนยอมขาดทุนด้วยการถือบอนด์ที่ดอกเบี้ยติดลบของเยอรมัน เพราะเก็งว่าถ้าเยอรมันออกจากเขตยูโรไปพิมพ์เงินมาร์คแล้ว จะได้กำไรจากการแลกยูโรเป็นมาร์ค
แต่ไม่ได้อธิบายบายถือบอนด์ติดลบของเสปนจะได้อะไร เพราะว่าเศรษฐกิจและฐานะการเงินของประเทศกระทิงดุเน่าสุดๆ
ภาวะดอกเบี้ยติดลบนี้ส่อแววว่าระบบการเงินของยุโรปได้มาถึงมะเร็งขั้นที่4แล้ว จะฉายรังสีไปอีกกี่ยก ก่อนที่จะเบี้ยวหนี้กัน
การทำQEของธนาคารกลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่นและยุโรปก็เพื่อกดดอกเบี้ยให้ต่ำ เพื่อว่านักลงทุนจะได้ลงทุนในทรัพย์สินที่เสี่ยง โดยหวังว่าจะช่วยทำให้เศรษฐกิจฟื้น แต่ที่ไหนได้ เป็นเป็นการสร้างหนี้เพิ่ม
ภาวะเศรษฐกิจหลังวิกฤติ2008ที่ไม่ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้อย่างจริงๆจังๆ โดยมีแต่จะเพิ่มหนี้เพิ่มเพื่อกดปัญหา ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
ในเมื่อหนี้เพิ่มขึ้น และหนี้ภาครัฐต่อจีดีพีของประเทศจี7อยู่ที่120% จึงจำเป็นต้องกดดอกเบี้ยให้อยู่ระดับ0% อัดเงินสภาพคล่องเข้าระบบทำให้เงินล้นระบบ ทำให้เกิดดอกเบี้ยติดลบ เพราะว่าเศรษฐกิจที่แท้จริงไม่ฟื้น นักลงทุนถือพันธบัตรติดลบขาดทุนหน่อย ดีกว่าไปลงทุนแล้วเงินอาจจะหายไปเลย
สถานการณ์ดอกเบี้ยติดลบอย่างนี้ พวกยุโรปจะเสแสร้งกันไปได้นานอีกเท่าใด
thanong
1/5/2015
http://www.telegraph.co.uk/…/Jeremy-Warner-Negative-interes…

 

Thanong Fanclub



13. นักเสแสร้งผู้ยิ่งใหญ่ (The Great Pretender)
เมื่อธนาคารกลางต้องพิมพ์เงินทำQEเพื่อกอบกู้ระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจ ถือว่าได้เลือกที่จะใช้วิธีการนิวเคลียร์ทางการเงิน (nuclear option) ซึ่งเป็นมาตรการด่านสุดท้าย หมดจากนี้ก็ตกเหวกันหมด
นิวเคลียร์ออฟชั่นนี้ช่วยกันยิงสนั่นจนโลกแทบระเบิด เพราะว่าใช้เงินไปแล้ว$10ล้านล้านรวมกัน
ก่อนจะถึงด่านสุดท้ายของนิวเคลียร์ออฟชั่นคือมาตรการทางด้านการคลังของรัฐบาลที่จำต้องสร้างหนี้ด้วยการออกบอนด์มาอุ้มระบบการเงินที่ล้มละลายจากฟองสบู่ทีแตก พอรัฐบาลอุ้มระบบการเงินที่ล้มละลายจนฐานะการคลังของตัวเองล้มละลายไปด้วยแล้ว ธนาคารกลางจะเข้ามาอุ้มต่อด้วยการพิมพ์เงินซื้อบอนด์ของรัฐบาล ภาษาอังกฤษเรียกว่า monetization of government debt
ธนาคารกลางจะmonetizeหนี้รัฐบาลจนตัวเองล้มละลายเหมือนกัน
ยกตัวอย่างธนาคารกลางของสหรัฐฯ หรือUS Federal Reserve ระหว่างปี1914ถึง2007 มีงบดุลจากศูนย์ดอลล่าร์มาอยู่ที่$853,000ล้าน แต่หลังจากวิกฤติวอลล์สตรีทปี2008ที่ทำให้ทรัพย์สินของโลกหายไป$60ล้านล้าน รัฐบาลกลางของสหรัฐฯอุ้มระบบการเงินไม่ไหว เพราะว่ามีหนี้ของเดิมมากอยู่แล้ว ไหนจะBear Stearns, Lehman Brothers, AIG, Fredie Mac & Fannie Mae
เฟดจึงต้องทำNuclear Optionด้วยการพิมพ์เงินเข้าไปซื้อบอนด์รัฐบาลและบอนด์ของแบงค์ พร้อมทั้งกดดอกเบี้ยลงเหลือ0% ทำQEสามรอบทำให้ตอนนี้งบดุลของเฟดอยู่ที่$4.44ล้านล้าน
ผลก็คือหุ้นดาวโจรของสหรัฐฯพุ่งเหมือนดาวหาวผีพุ่งใต้ ดาวโจรฟองสบู่แตก แครชจาก14,000ในเดือนกรกฎาคมปี2007 มาลงถึง7,000ในเดือนมีนาคม2009 ก่อนที่จะพุ่งมาที่18,000เดือนเมษายนที่ผ่านมา
ปรากฎว่าการขึ้นของดาวโจรหรือทรัพย์สินทางการเงินอื่นๆสอดคล้อง (positive correlation)กับการเพิ่มปริมาณเงินผ่านการทำQEของเฟด
ทั้งเฟดและCERNต่างเล่นนิวเคลียร์ออฟชั่นทางการเงินและฟิสิกส์ตามลำดับกันอย่างสนุกสนาน เกรงกันว่าระบบการเงินโลกจะแตกด้วยนิวเคลียร์ออฟชั่นของเฟด และการทดลองยิงอนุภาคของCERNอาจจะก่อให้เกิดแรงระเบิดที่ทำให้โลกแหลกสลายเป็นจุลได้
หลังจากที่เฟดเริ่มใช้นิวเคลียร์ออปชั่นทางการเงินแล้ว อังกฤษเจริญรอบตาม ญี่ปุ่นขอเอาอีก และยุโรปตามมาติดๆ จนกลายเป็นเรื่องปกติ (new normal)ทั้งๆที่ระบบการเงินรอบนี้มาถึงจุดจบแล้ว เพราะว่าแก้ปัญหาไม่ได้เนื่องจากหนี้โลกมากเกินไปอยู่ที่$240ล้านล้าน และปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่สามารถสร้างรายได้ใหม่มาจ่ายหนี้ได้
เมื่อเศรษฐกิจมีปัญหา หนี้มาก นักลงทุนในยุโรปถึงได้กลัวฟองสบู่ตลาดหุ้น กลัวการลงทุนแล้วสูญหมด จึงยอมขาดทุนด้วยการลงทุนในบอนด์ทั้งๆที่แทบไม่ได้ดอกเบี้ย ดันกันไปมาจนดอกเบี้ยติดลบ แต่ยังคงกัดฟันถือบอนด์ที่ดอกเบี้ยติดลบเพื่อรักษาเงินต้น
แต่คนทั่วไปยังไม่รู้ไม่เข้าใจยังดำเนินชีวิตตามปกติ ทั้งๆที่หายนะทางการเงินกำลังจะมา
ทั้งเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางของญี่ปุ่นและเฟดยอมรับว่าการทำQEไม่สามารถจะหวนกลับได้ คือต้องอุ้มทรัพย์สินเน่าๆของรัฐและแบงค์เน่าๆต่อไปธนาคารกลางของญี่ปุ่นและสหรัฐฯไม่สามารถขายทรัพย์สินออกไปเพื่อดึงเงินกลับ เพราะว่าจะทำให้ระบบการเงินที่เปราะบางอยู่แล้วล้มทันทีจากดอกเบี้ยที่จะทะยานสูงขึ้น และสภาพคล่องที่จะตึงตัว (market squeeze)
จึงเสแสร้งพูดหน้าตาเฉยว่ามันเป็นเรื่องปกติไปสำหรับการทำQE ทั้งๆที่QEเป็นเรื่องต้องห้าม หรือtabooของระบบการเงิน
Jim Rickards ผู้แต่งThe Death of Moneyบอกว่า ตลาดการเงินจะไม่ยอมให้เฟดทำQE4 ถ้างบดุลของเฟดเกิน$5ล้านล้าน ความน่าเชื่อถือของเฟดและของดอลล่าร์จะหมดลงไปทันที จะเสแสร้งกันต่อไปว่าไม่มีปัญหาไม่ได้
ในเมื่อพวกบิ๊กๆเล่นนิวเคลียร์ออฟชั่น จีนเลยอยากลองดูมั่ง สหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่นและอียูเป็นพวกเดียวกัน ทำQEประคองกันไปได้ เพราะว่าคุมระบบการเงินโลกไป80กว่า% ถ้าหากจีนกระโดดเข้าเล่นเกมนิวเคลียร์ออปชั่นด้วยการทำQE สภาพคล่องยิ่งล้นระบบโลก เพราะว่าประเทศเล็กน้อยใหญ่ต้องเล่นตามเกมไม่งั้นอยู่ไม่ได้ ค่าเงินแข็ง ขายของไม่ออก เอกชนกดดัน
จากเกมนิวเคลียร์ออปชั่นกลายเป็นรัสเซี่ยนรูเล็ตไปเลย ไม่รู้ว่าใครจะโป้ง!!!ตายก่อน หรือระบบการเงินของใครจะระเบิดออกมาก่อนจากฟองสบู่การเงินนิวเคลียร์ วัดดวงกัน
ความจริงแล้วต้องล้างหนี้ แล้วนับ1ใหม่ IMFก็ได้แนะนำแล้วให้ยึดเงินฝากเพื่อชดใช้ค่าเสียหายฐานะการคลังจากรัฐและแบงค์
ตอนนี้เขารอจังหวะอยู่ ประชาชนโดนปล้นเงินฝากแน่ๆ แล้วเปลี่ยนเงินกระดาษเป็นเงินดิจิตัลเพื่อง่ายในการควบคุมและรักษาฐานอำนาจทางการเงินของพวกอิลิทต่อไป
ไปๆมาๆจะมาลงที่One World Currencyหรือไม่ หนังดีต้องดูตอนจบ
thanong
1/5/2015
http://www.bestmindsinc.com/…/BMI_WhenTheNuclearMoneyOption…

 

Kaokala Fc
30 เม.ย. อีกขั้นของการต่อสู้ !! สหรัฐฯ คิดค้นกระสุนโจมตีเป้าหมายได้เองสำเร็จ



ถึงคราวบอกลาสงครามในรูปแบบเดิมที่เราเคยรู้จัก เมื่อกระสุนปืนสามารถพุ่งเข้าเป้าหมายด้วยตัวมันเอง

สำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยความสำเร็จในการคิดค้นกระสุนปืนที่สามารถสั่งการพุ่งไปยังเป้าหมายได้ด้วยตัวของมันเอง (Self-Steering) ภายใต้ชื่อโครงการว่า EXACTO (เอ็กแซคโต้)

โดยความพิเศษของกระสุนชนิดนี้ คือ บริเวณส่วนปลายของกระสุนจะมีเซนเซอร์ตรวจจับ ที่จะส่งข้อมูลไปยังส่วนปลอกกระสุนและบังคับให้เลี้ยวไปยังเป้าหมาย ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้ทหารของกองทัพสหรัฐฯ สามารถยิงเข้าเป้าได้แม่นยำมากขึ้น แม้ว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายก็ตาม อีกทั้งยังช่วยรักษาชีวิตของทหารทุกนายที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปเสี่ยงในสถานการณ์อันตรายอีกด้วย

อีกขั้นของการต่อสู้...สหรัฐฯ คิดค้นกระสุนโจมตีเป้าหมายได้เองสำเร็จ : มติชนออนไลน์

 

Kaokala Fc
30 เม.ย. ยูเครนสะพรึง หลุมยุบยักษ์ 100 เมตร กลืนบ้าน 7 หลัง ยังขยายวงได้อีก



ยูเครนสะพรึง หลุมยุบยักษ์กว้าง 100 เมตร กลืนบ้านแล้ว 7 หลัง ยังขยายวงได้อีก ชาวบ้านวอนรัฐบาลหาที่อาศัยแห่งใหม่ให้ หรือหาวิธีหยุดไม่ให้หลุมขยาย

วันที่ 29 เมษายน 2558 เว็บไซต์เดลี่เมลของอังกฤษ มีรายงานว่า เกิดหลุมยุบยักษ์กว้าง 100 เมตร และลึก 60 เมตรขึ้น บริเวณหมู่บ้านซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของยูเครน กลืนบ้านเรือนของชาวบ้านไปแล้ว 7 หลัง เป็นผลให้ผู้อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเกิดความหวาดกลัวว่าบ้านของตัวเองอาจจะถูกทำลายลงเมื่อไรก็ได้ หลังพบว่าหลุมยุบดังกล่าวยังคงขยายวงกว้างออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับสิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุดในขณะนี้ คือให้รัฐบาลเข้ามาช่วยหาที่อาศัยใหม่ในพื้นที่ปลอดภัยให้แก่พวกเขา หรือหามาตรการใด ๆ ก็ตามมาหยุดยั้งไม่ให้หลุมดังกล่าวขยายวงไปกว้างกว่านี้

ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวเริ่มขึ้นตั้งแต่ 220 ปีก่อน เมื่อได้มีการทำกิจการเหมืองเกลือขึ้นในพื้นที่ กระทั่งเหมืองเกลือเหล่านี้ปิดตัวลงก็มีน้ำจำนวนมากที่ค่อย ๆ สะสมอยู่ภายในเหมือง และละลายเกลือที่แทรกอยู่ในดินจนอย่างช้า ๆ กลายเป็นโพรงขนาดใหญ่ นำไปสู่การถล่มลงของพื้นดินที่อยู่บ้านบน เกิดเป็นหลุมยุบขนาดยักษ์ในที่สุด

ขณะที่ชาวบ้านรายหนึ่งเผยว่า เขาสังเกตเห็นหลุมดังกล่าวครั้งแรกตั้งแต่ 11 ปีก่อน จากนั้นหลุมก็เริ่มขยายวงเข้ามาใกล้บ้านเรือนของชาวบ้านมากขึ้น และเป็นไปได้ว่าทั้งพื้นที่แถบนี้อาจถูกทำลายลงในอนาคต และแม้ก่อนหน้านี้จะมีผู้เชี่ยวชาญชี้แนะว่าการนำดินมาถมลงในอุโมงค์ใต้ดินจะช่วยแก้ปํญหาดังกล่าวได้ แต่ท้ายที่สุดทางรัฐบาลก็ไม่ยกเลิกวิธีดังกล่าวไป เมื่อได้ทราบว่ามรค่าใช้จ่ายในการดำเนินการถึง 10 ล้านปอนด์ (ราว 500 ล้านบาท) และต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 7 ปี

ทางด้านเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นเผยว่า ตอนนี้มีบางครอบครัวที่ย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว แต่ยังมีอีก 130 ครอบครัวที่ปฏิเสธอการย้ายไปตั้งถิ่นฐานที่อื่น

ภาพจาก trakiadnes.com
ยูเครนสะพรึง หลุมยุบยักษ์ 100 เมตร กลืนบ้าน 7 หลัง ยังขยายวงได้อีก

 

Kaokala Fc
30 เม.ย. สุดล้ำ! "ลิฟต์"ขับเคลื่อนทุกทิศทางด้วย"แม่เหล็ก" ใช้จริงที่เยอรมนี ปี2016 !



"ธีสเซ่นครุปป์" บริษัทจากเยอรมนี พัฒนาระบบลิฟต์แบบใหม่ขึ้นมาแทนที่ระบบลิฟต์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพื่อทำลายข้อจำกัดของลิฟต์ที่ใช้กันอยู่ทั่้วไป ซึ่งใช้ได้กับตัวอาคารที่มีความสูงไม่เกิน 600 เมตร โดยประมาณ เนื่องจากความสูงที่เกินกว่านั้น น้ำหนักของลวดสะลิงที่ใช้เพื่อดึงลิฟต์ขึ้น-ลงเมื่อรวมเข้ากับน้ำหนักของตัวลิฟต์จะมีน้ำหนักมากเกินไป จนสะลิงไม่สามารถรองรับได้

ระบบลิฟต์ใหม่ของธีสเซ่นครุปป์ เรียกว่า "มัลติ" ใช้เทคโนโลยี "แม็กเนติก เลวิเทชั่น" หรือ "แม็กเลฟ" ซึ่งอาศัยแรงแม่เหล็กเป็นตัวขับเคลื่อนตัวลิฟต์ ส่งผลให้สามารถสร้างลิฟต์ขึ้นสู่ระดับความสูงได้เกินกว่า 1,000 เมตรได้ นอกจากนั้นยังเคลื่อนที่ในแนวขวางได้ พอๆ กับแนวดิ่งได้อีกด้วย

เทคโนโลยีแม็กเลฟอาศัยแรงผลักของแม่เหล็กที่มีขั้วเหมือนกัน ทำให้ตัวตู้ลิฟต์ "ลอย" อยู่ในช่องลิฟต์ ในขณะเดียวกันก็จะใช้แรงดูดของขั้วแม่เหล็กอีกชุดหนึ่ง (ซึ่งเป็นขั้วต่างกัน) เป็นตัวดูดและผลักให้ตู้ลิฟต์เคลื่อนที่ไปในทิศทางที่ต้องการ เมื่อต้องการเปลี่ยนทิศทาง

ส่วนของรางรองรับตัวลิฟต์จะหมุนกลับด้าน เท่ากับเป็นการสลับขั้วแม่เหล็กเพื่อนำลิฟต์ไปในทิศทางใหม่ที่ต้องการ กระบวนการทำงานดังกล่าวจะสิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าน้อยลง โดยทางบริษัทเชื่อว่าสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงเมื่อเทียบกับระบบลิฟต์มาตรฐานแบบเดิมถึง 50 เปอร์เซ็นต์

ระบบ "มัลติลิฟต์" ของธีสเซ่นครุปป์ กำหนดจะทดสอบการใช้งานจริงที่ประเทศเยอรมนีในปี 2016 นี้

สุดล้ำ! "ลิฟต์"ขับเคลื่อนทุกทิศทางด้วย"แม่เหล็ก" ใช้จริงที่เยอรมนี ปี2016 ! : มติชนออนไลน์

 

ด่วนแผ่นดินไหว 6.6 เกาะปาปัว ประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว
วันศุกร์ ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558, 16.03 น.



1 เม.ย.58 มีรายงานข่าวว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.6 แมกนิจูด เมื่อเวลา15.06 น. ตามเวลาท้องถิ่น บริเวณ เกาะ นิว บริเทน หมู่เกาะปาปัวนิวกินี ลึกลงไปในทะเล 10 กิโลเมตร และยังเกิดอาฟเตอร์ช๊อคขนาด 7.1 แมกนิจูด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนภัยสึนามิ แต่ยังไม่มีผลกระทบถึงประเทศไทย


ต่างประเทศ - ด่วน!!!แผ่นดินไหว6.6เกาะปาปัว ประกาศเตือนภัยสึนามิแล้ว

 

อนามัยโลกเผยยอดเหยื่อ “อีโบลา” พุ่งเฉียด 11,000 ศพ ติดเชื้อทะลุ 26,000 ราย ชี้ ยังเจอ “เคสใหม่” ต่อเนื่อง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 06:27 น. (แก้ไขล่าสุด 1 พฤษภาคม 2558 10:54 น.)



เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยในวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) ว่าพบผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัส “อีโบลา” 48 ราย และพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 131 รายในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกนับตั้งแต่วันที่ 27 เมษายนที่ผ่านมา ส่งผลให้ยอดผู้ต้องสังเวยชีวิตทั้งหมดจากการตกเป็นเหยื่อของไวรัสมรณะชนิดนี้ทั้งในกินี ไลบีเรีย และเซียร์ราลีโอน เพิ่มเป็น 10,890 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้ออยู่ที่ 26,290 รายแล้วนับแต่ที่พบการระบาดครั้งแรกในเขตป่าลึกของกินีเมื่อต้นปีที่แล้ว

ข้อมูลล่าสุดของ WHO ระบุว่า ไลบีเรียเป็นประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดถึง 4,608 คนและมีผู้ติดเชื้อ 10,322 คน ตามมาด้วยเซียร์ราลีโอน (เสียชีวิต 3,901 คน ติดเชื้อ 12,387 คน) และกินี (เสียชีวิต 2,381 คน ติดเชื้อ 3,581 คน)

อย่างไรก็ดี มีการยืนยันการพบผู้ติดเชื้ออีโบลาในอีก 6 ประเทศ คือ มาลี ไนจีเรีย เซเนกัล สเปน สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยในจำนวนนี้ไนจีเรียเป็นประเทศที่พบการระบาดในระดับรุนแรงที่สุด จากการพบผู้เสียชีวิต 8 คนและติดเชื้อ 20 คน

ทั้งนี้ อีโบลาถือเป็นไวรัสที่มีอัตราการเสียชีวิตของผู้รับเชื้อสูงถึง 90% และจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนชนิดใดที่ผ่านการรับรองให้ใช้รักษาผู้ติดเชื้อได้อย่างเป็นทางการ



http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000049718

 

ข้อมูลชี้ราคาน้ำมันโลกยังไม่พ้นขาลง ส่อเค้าตกต่ำยาวถึงสิ้นปี 2016
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 07:37 น. (แก้ไขล่าสุด 1 พฤษภาคม 2558 10:54 น.)



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ผลสำรวจรายเดือนของรอยเตอร์ซึ่งรวบรวมความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ด้านพลังงานจาก 32 สำนักที่มีการเผยแพร่ล่าสุดในวันพฤหัสบดี (30 เม.ย.) ชี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มตกต่ำต่อเนื่องต่อไปอีก “อย่างน้อย 1 ปี” หรือจนกว่าจะสิ้นปี 2016

ผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุ “ราคาเฉลี่ย” ของน้ำมันดิบตลาด “เบรนท์ทะเลเหนือ” ในปี 2015 นี้จะยังคงอยู่ที่ระดับ 60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หรือปรับสูงขึ้น 80 เซ็นต์จากการคาดการณ์เมื่อเดือนที่แล้ว

ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันดิบในตลาดนี้เคยร่วงลงไปเหลือ 45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเดือนมกราคม จากที่เคยพุ่งสูงแตะระดับ 115 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาแล้ว

ข้อมูลที่รอยเตอร์รวบรวมได้จากบรรดานักวิเคราะห์ระบุว่า ขณะนี้ความต้องการน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในช่วงขาลงเนื่องจากปริมาณน้ำมันสำรองคงคลังของทั้งสหรัฐฯและของโลกยังคงอยู่ในระดับสูงลิ่ว

ประกอบกับมีความเป็นไปได้ที่ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อย่างอิหร่านจะสามารถกลับคืนสู่ตลาดได้อย่างเต็มรูปแบบอีกครั้ง หลังถูกยกเลิกคว่ำบาตรเพราะบรรลุข้อตกลงด้านนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ และการไหลทะลักของน้ำมันจากอิหร่านเข้าสู่ตลาดในช่วงกลางปีนี้ อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกดิ่งลงอีกในช่วง 6 เดือนหลังของปี 2015

 

แม้รอดชีวิต แต่ผู้คนในเนปาลรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ความสิ้นหวังก่อตัว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 15:56 น.



เอเอฟพี - บรรดาผู้รอดชีวิต ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวของเนปาล ต่างพากันรู้สึกสิ้นหวังและเหมือนถูกทอดทิ้งในวันนี้ (1 พ.ค.) หลังจากสูญเสียคนที่พวกเขารัก รวมถึงวิถีชีวิตที่เคยดำเนินมา เพราะภัยพิบัติที่คร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 6,300 ราย

ในขณะที่เกิดความปีติยินดีที่สามารถช่วยเหลือผู้รอดชีวิตได้ 2 ราย ทำให้เจ้าหน้าที่มีแรงที่จะค้นหาผู้รอดชีวิตรายอื่นๆ ในกาฐมาณฑุกันต่อไป แต่ถึงกระนั้นกาชาดก็ได้เตือนเกี่ยวกับความเสียหายในวงกว้างของประเทศในแถบภูเขาหิมาลัยแห่งนี้

6 วันหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ทางการได้ระบุจำนวนผู้เสียชีวิตในเนปาลไว้ที่ 6,204 กับอีกประมาณกว่า 100 รายที่เสียชีวิตในประเทศใกล้เคียงอย่างอินเดียและจีน

อย่างไรก็ตาม ขอบเขตพื้นที่ความเสียหายทั้งหมดที่เกิดจากแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปีของเนปาลครั้งนี้ ยังคงปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์พยายามจะเข้าไปช่วยเหลือในหลายเขตซึ่งเป็นพื้นที่ภูเขา

ความเสียหายอย่างหนักปรากฏให้เห็นได้ในพื้นที่ซินโฮปาชอค ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกาฐมาณฑุ ที่นั่นความรู้สึกสิ้นหวังกำลังก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ

แม้รอดชีวิต แต่ผู้คนในเนปาลรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ความสิ้นหวังก่อตัว
"หนึ่งในบรรดาทีมของเราได้กลับมาจากชอธาราในอำเภอซินโฮปาชอค ซึ่งมีรายงานว่าบ้านเรือน 90 เปอร์เซ็นต์พังทลาย" จากัน ชาปากาอิน ผู้อำนวยการประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิคของสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ กล่าว

"โรงพยาบาลพังถล่มลงมา ผู้คนพากันคุ้ยซากปรักหักพังด้วยมือของพวกเขา โดยหวังว่าจะได้พบกับสมาชิกในครอบครัวที่ยังมีชีวิตอยู่" เขากล่าว

นักข่าวของเอเอฟพีที่อยู่อีกจุดหนึ่งในซินโฮปาลอค พบเห็นความเสียหายชนิดที่ไม่เหลือชิ้นดี

"บ้านเกือบทุกหลังในหมู่บ้านของผมพังทลาย มีคนตาย 20 คน เราเสียทั้งวัวและแกะ" คูมาร์ กอห์ราไซนี กล่าวถึงความเสียหายในเมลัมชี ซึ่งเป็นหมู่บ้านของเขา

ครูสอนภาษาอังกฤษวัย 33 ปีรายนี้บอกว่า โรงเรียนในหมู่บ้านพังทลายและไม่มีที่ไปให้กับบรรดาเด็กๆ

"ไม่มีใครมาช่วยเรา รถบรรเทาทุกข์ต่างก็พากันแล่นผ่านไป เราจะรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร" เขากล่าว

ในเมลัมชี บรรดาร้านค้าและร้านอาหารต่างพากันปิด ถนนหลายสายส่วนใหญ่รกร้างไร้ผู้คน

ที่ชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวซึ่งอยู่ใกล้ๆ บ้านเกือบทุกหลังที่นั่นได้รับความเสียหาย จนไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีก ชาวบ้านละแวกนั้นต้องนอนตามเต็นท์

แม้ว่า บรรดาหน่วยงานบรรเทาทุกข์จะบอกว่า ปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือแก่พื้นที่ห่างไกลนั้นมีมากขึ้น แต่ผู้คนในเมลัมชีก็ยังคงไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ

"เราเห็นเฮลิคอปเตอร์หลายลำ เราเห็นเครื่องบิน แต่ไม่มีใครแวะมาที่นี่" ชาริค ราม กอห์ราไซนี กล่าว

ชาวนาวัย 23 ปีรายนี้ บอกว่า เขาได้ทราบเรื่องทีมกู้ภัยต่างชาติ ที่กระจายกำลังกันไปทั่วเนปาล

"เราอ่านข่าวเกี่ยวกับความช่วยเหลือของต่างชาติ แล้วเราก็เกิดมีความหวัง แต่ในความเป็นจริงไม่มีใครมาช่วยเราเลย ไม่มีใครสนเราเลย" เขากล่าว

กอห์ราไซนี เล่าให้ฟังว่า มีทีมช่วยเหลือของญี่ปุ่นทีมหนึ่งขับรถผ่านหมู่บ้านของเขา แล้วก็พบกับชายคนหนึ่งที่ล้มลงริมถนน พวกเขาก็เลยหยุดรถแล้วให้ยาแก้ปวด 2 เม็ด จากนั้นก็ขับรถจากไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากชาติต่างๆ มากกว่า 20 ประเทศ กำลังออกค้นหาผู้รอดชีวิต โดยทำงานร่วมกับทีมฉุกเฉินของเนปาล

ทีมกู้ภัยของฝรั่งเศส นอร์เวย์และอิสราเอล ได้มีส่วนร่วมในความสำเร็จของปฏิบัติการช่วยผู้หญิงรายหนึ่งเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี จากซากอาคารในกาฐมาณฑุ ใกล้กับจุดที่ช่วยเด็กวัย 15 ปีเอาไว้ได้ก่อนหน้านี้

ทีมกู้ภัยใช้เวลาถึง 10 ชั่วโมงในการช่วยเหลือ กฤษณา เทวี คธา หญิงผู้รอดชีวิตจากซากปรักหักพัง เธอถูกส่งไปรักษาตัวฉุกเฉินแล้ว

แม้รอดชีวิต แต่ผู้คนในเนปาลรู้สึกเหมือนถูกทอดทิ้ง ความสิ้นหวังก่อตัว

"พื้นดินยังคงสั่นไหวเล็กน้อยอยู่ทุกวัน เราไม่มีทางรู้เลยว่าเมื่อไหร่เราจะอยู่ เมื่อไหร่เราจะตาย" โกปัล กูรัง บอกกับเอเอฟพี ขณะอยู่ในหมู่บ้านลาปราค ที่มีเฮลิคอปเตอร์ของอินเดียบินมาส่งสิ่งของช่วยเหลือ

"เราไม่ได้รับการปกป้องคุ้มครอง ที่นี่ฝนตกตลอดเวลา เราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ผู้คนกลัวกันมากในตอนนี้" เขากล่าว

หน่วยงานด้านอาหารของยูเอ็นได้ขอเงินช่วยเหลือ 8 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเกษตรกรและเลี่ยงวิกฤติอาหาร ก่อนถึงฤดูการปลูกข้าวซึ่งน่าจะเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม

"นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการช่วยให้ชาวนาสามารถปลูกข้าวได้ทันเวลา เพื่อจะได้เก็บเกี่ยวในปีนี้" สมศักดิ์ พิภพภิญโญ ผู้แทนขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติในเนปาล กล่าว

ด้านรัฐบาลเนปาล คาดหวังว่าจะสามารถส่งความช่วยเหลือทางอากาศได้เพิ่มขึ้น โดยทางรัฐมนตรีมหาดไทยระบุว่า เฮลิคอปเตอร์หลายลำกำลังถูกจัดส่งไปยังหลายพื้นที่ซึ่งยากจะเข้าถึง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000049913

 

In Pics : ผู้บัญชาการกองทัพเนปาลคาด ยอดเสียชีวิตเหยื่อแผ่นดินไหวอาจสูงถึง 15,000 คน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 1 พฤษภาคม 2558 10:24 น.



เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(30 เมษายน) พลเอก กูราฟ รานา (Gaurav Rana ) ผู้บัญชาการกองทัพบกเนปาลให้สัมภาษณ์พิเศษกับ NBC News สื่อสหรัฐฯ คาดาการณ์ตัวเลขผู้เสียชีวิตในภัยพิบัติแผ่นดินไหวเนปาลนั้นอาจมีไม่ต่ำกว่า 15,000 คน

NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้(30 เมษายน)ว่า พลเอก กูราฟ รานา. (Gaurav Rana) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษในวันพฤหัสบดี(29 เมษายน)ว่า “การคาดการณ์ตัวเลขยอดเหยื่อผู้เสียชีวิตของเรานั้นมีแนวโน้มว่าอาจจะเลวร้าย เพราะทางเราคิดว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 10,000 – 15,000 คน”

พลเอกรานาเป็นผู้นำในภารกิจกู้ภัยทั่วเนปาล ที่ตัวเลขอย่างเป็นทางการล่าสุดในการเสียชีวิตนับตั้งแต่วันเสาร์(25 เมษายน)นั้นอยู่ที่ 5,800 คน

นอกจากนี้ผู้บัญชาการกองทัพบกเนปาลรับรู้ว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 แมกนิจูด และทำให้เกิดการถล่มของอาคารบ้านเรือนเป็นจำนวนมาก ทำให้เป็นการยากสำหรับเจ้าหน้าที่ในการค้นหาผู้รอดชีวิต และยังรวมไปถึงปัญหาที่ตามมาหลังจากนั้น เช่น การระบาดของโรคติดต่อ รวมไปถึงความไม่พอใจของประชาชนในพื้นที่ต่อการทำงานที่ล่าช้าของทีมกู้ภัย

“มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้น และทางกองทัพเนปาลเฝ้าจับตา และแน่นอนมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบาดขึ้น และทางเรากำลังเฝ้าระวัง” พลเอกรานากล่าวต่อ

นอกจากนี้ผู้นำภารกิจกู้ภัยเนปาลยังยอมรับว่า ทางกองทัพรับทราบถึง ความรู้สึกไม่พอใจของประชาชนเนปาลเป็นอย่างมากต่อการตอบสนองของรัฐบาลเนปาล พร้อมกับย้ำว่าทางกองทัพเนปาลทำงานร่วมมือกับตำรวจเพื่อระบุว่ามีความสงบเกิดขึ้นที่ใดบ้าง เพื่อสามารถเข้าไปรักษาความสงบได้ทันท่วงที

ซึ่งในวันพุธ(29)มีฝูงชนชาวเนปาลหลายร้อยคนประท้วงด้านนอกรัฐสภาเนปาล กดดันให้รัฐบาลเนปาลเพิ่มจำนวนรถบัสเพื่อเข้าไปยังบริเวณหุบเขาด้านใน เพื่อแจกจ่ายความช่วยเหลืออย่างทั่วถึงให้มากกว่านี้ และสื่อเนปาลต่างวิพากษ์ถึงการทำหน้าที่ค้นหาและกู้ภัยของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติเนปาลในการทำหน้าที่ไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร



http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000049763