ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "บิ๊กป๊อก"ปัดชง ครม.ย้ายบิ๊กมหาดไทย
    "ประวิตร"นั่งหัวโต๊ะถก ครม.แทน "บิ๊กตู่" ลือ มท.จ่อชงโยกย้าย ขรก.ระดับสูง "บิ๊กป๊อก"ปัด ยังไม่ชงย้ายขรก.คดีทุจริต ชี้ดำเนินการตามแผน นายกฯ วันอังคารที่ 28 เมษายน 2558 เวลา 14:07 น.

    [​IMG]

    เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) แทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ที่ติดภารกิจเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 26 ที่ประเทศมาเลเซีย

    โดยวาระ ครม.ที่น่าสนใจ อาทิ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ เตรียมเสนอแต่งตั้งผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ด้านกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เสนอปฏิญญาร่วมว่าด้วยความร่วมมือระหว่างรัฐมนตรีประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ฉบับที่ 3 และแผนปฏิบัติการระดับอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ฉบับที่ 4 ขณะที่กระทรวงมหาดไทยขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเป็นค่าเช่าระบบคอมพิวเตอร์ให้บริการประชาชนด้านทะเบียนและบัตรประจำตัวประชาชน เพื่อทดแทนระบบเดิม 455 แห่ง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีข่าวลือว่า ในการประชุม ครม.วันนี้ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เตรียมจะเสนอบัญชีรายชื่อข้าราชการระดับสูงสังกัดกระทรวงมหาดไทยให้ที่ประชุม ครม.พิจารณาโยกย้ายเป็นวาระจร ซึ่งมีทั้งตำแหน่งรองปลัด อธิบดี และผู้ว่าราชการจังหวัด

    อย่างไรก็ตามภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม ครม. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการการลงโทษทางวินัย และปรับย้ายกับข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ว่า ขณะนี้ยังไม่มี โดยตนได้มอบหมายให้นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ ปลัดกระทรวงหาดไทย เป็นผู้ดำเนินการ แต่หากจะมีต้องดำเนินการให้เป็นไปตามแนวทางที่นายกรัฐมนตรีวางไว้.

    "บิ๊กป๊อก"ปัดชง ครม.ย้ายบิ๊กมหาดไทย | เดลินิวส์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันคงที่-หุ้นสหรัฐฯบวกเล็กน้อย ทองคำปิดสูงสุดรอบ3สัปดาห์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 06:07 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์/เอพี - ราคาน้ำมันทรงตัวเมื่อวันอังคาร(28เม.ย.) นักลงทุนชั่งน้ำหนักปัจจัยความกังวลด้านความมั่นคงในตะวันออกกลางและดอลลาร์ที่อ่อนค่ากับสต๊อกเชื้อเพลิงที่สูงลิ่วของสหรัฐฯ ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกจากรายงานผลประกอบการบริษัท ขณะที่ทองคำพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 57.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 64.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ราคาน้ำมันสหรัฐฯแกว่งตัวจากแดนลบขึ้นไปปิดบวก จากรายงานข่าวอิหร่านสั่งเรือสินค้าเอ็มวี เมอร์สก ไทกริส ที่ติดธงหมู่เกาะมาร์แชลไปจอดที่เมืองบันดาร์อับบัสเมื่อวันอังคาร(28เม.ย.) สืบเนื่องจากข้อพิพาททางพาณิชย์

    แม้สื่อมวลชนอิหร่านรายงานว่าเหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีนัยยะทางการเมืองหรือการทหาร และเป็นเพียงประเด็นทางพลเรือนเท่านั้น แต่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯแถลงว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการคุกคามอย่างเห็นได้ชัด

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ตะวันออกกลางถูกปกคลุมได้ด้วยความตึงเครียดระดับสูง หลังซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรอาหรับยังเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มกบฏฮุตีในเยเมนที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันอังคาร(28เม.ย.) 2 ดัชนีหลักปิดบวกเล็กน้อย หลังเมอร์ครายงานผลประกอบการแข็งแกร่งและไอบีเอ็มเพิ่มเงินปันผล

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 72.17 จุด (0.40 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,110.14 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 5.84 จุด (0.28 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,114.76 จุด แนสแดค ลดลง 4.82 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,055.42 จุด

    หุ้นของเมอร์ค ทะยานขึ้นกว่าร้อยละ 5 หลังผู้ผลิตยารายใหญ่ของสหรัฐฯแห่งนี้มีรายได้ในไตรมาสแรกเกินคาดหมาย ส่วนหุ้นของไอบีเอ็ม ปิดบวกร้อยละ 1.9 และเป็นอิทธิพลด้านบวกสำคัญที่สุดของดัชนีดาวโจนส์ หลังบริษัทแห่งนี้ปรับเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสร้อยละ 18 อย่างไรก็ตามแนสแดค ปิดลบ ถูกฉุดโดยหุ้นของแอปเปิล

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันอังคาร(28เม.ย.) ทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ นักลงทุนเข้าถือสินทรัพย์เสี่ยงต่ำท่ามกลางการจับตาผลประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 10.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,213.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินโดฯยิงเป้าประหาร8นักโทษคดียาเสพติดแล้ว แต่ผู้ต้องขังฟิลิปปินส์รอดนาทีท้าย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 03:43 น. (แก้ไขล่าสุด 29 เมษายน 2558 05:41 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - นักโทษคดียาเสพติด 8 คนจากหลายประเทศถูกมือเพชฌฆาตอินโดนีเซียปลิดชีวิตด้วยการยิงเป้าแล้ว หลังผ่านเที่ยงคืนเข้าสู่เช้ามืดวันพุธ(29เม.ย.)ไม่นาน สื่อมวลชนรายงาน แต่ผู้ต้องขังชาวฟิลิปปินส์รอดพ้นจากการประหารในนาทีสุดท้าย

    ยังไม่มีคำยืนยันอย่างเป็นทางการว่านักโทษชายทั้ง 8 คนถูกประหารแล้วตามรายงานข่าวจริงหรือไม่ ขณะที่ก่อนหน้านี้จาการ์ตาปฏิเสธคำวิงวอนในนาทีสุดท้ายจากทั่วโลก ให้ความเมตตานักโทษคดียาเสพติดจากไนจีเรีย ออสเตรเลีย บราซิลและอินโดนีเซีย พร้อมสั่งประหารชีวิตหมู่ในกระบวนการที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง

    โฆษกของสำนักงานอัยการเปิดเผยว่าการประหารชีวิตนางแมรี เจน เวโลโซ แม่ลูก 2 ชาวฟิลิปปินส์ที่ถูกจับกุมในปี 2010 หลังหิ้วกระเป๋าซุกซ่อนเฮโรอีน 2.6 กิโลกรัมเข้าอินโดนีเซีย ถูกเลื่อนออกไปก่อน เพื่อตอบสนองต่อคำร้องขอจากมะนิลา หลังคนส่งยารายหนึ่งเข้ามอบตัวกับตำรวจในฟิลิปปินส์ในวันอังคาร(28เม.ย.)

    ประธานาธิบดีเบนิโญ อากีโน แห่งฟิลิปปินส์เผยเมื่อวันอังคาร(28เม.ย.) ว่าเขาได้ร้องขอไปยังรัฐบาลอินโดนีเซียเป็นครั้งสุดท้ายให้ละเว้นการประหารนางเวโลโซ โดยอ้างว่าเธอเป็นพยานปากสำคัญในการดำเนินคดีแก๊งยาเสพติด

    แผนการประหารชีวิตหมู่ครั้งนี้ถูกประณามโดยสหประชาชาติและฉุดความสัมพันธ์ระหว่างออสเตรเลียและอินโดนีเซียเข้าสู่ภาวะตึงเครียด

    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าคาดหมายว่าจะมีการประหาร ฝูงชนรวมตัวกันตามเมืองต่างๆทั่วออสเตรเลีย จุดเทียนแก่นายแอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน 2 นักโทษชาวออสเตรเลีย ชูป้ายข้อความและเรียกร้องออสเตรเลียตอบโต้อย่างแข็งกร้าวต่ออินโดนีเซียหากยังเดินหน้าการลงทัณฑ์

    ที่เรือนจำบนเกาะแห่งหนึ่งนอกชายฝั่งชวากลาง ดินแดนลานประหาร มีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น พบเห็นรถฉุกเฉินหลายสิบคัน โดยบางคันขนโลงศพสีขาวไปยังเรือนจำเพื่อรอรับร่างไร้วิญญาณของนักโทษที่กำลังถูกปลิดชีพ

    เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียไม่ได้เจาะจงถึงกำหนดเวลาการประหาร แต่กลุ่มนักโทษคดียาเสพติดที่ถูกประหารไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดนลงทัณฑ์หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนไปแล้ว ทั้งนี้ผู้ต้องขังได้รับอนุญาตว่าจะเลือกยืน คุกเข่าหรือนั่งต่อหน้าทีมยิงเป้า แต่พวกเขาจะถูกปิดตา มัดมือและมัดเท้า ทั้งนี้เพชฌฆาต 12 คนเล็งเป้าไปที่หัวใจของนักโทษแต่ละคน ทว่ามีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นที่ใช้กระสุนจริง เพื่อปกปิดตัวตนของมือประหาร

    เมื่อวันจันทร์(27เม.ย.) เจ้าหน้าที่อนุญาตตามคำร้องขอครั้งสุดท้ายของนายแอนดรูว์ ชาน สำหรับแต่งงานกับแฟนสาวชาวอินโดนีเซียในเรือนจำ แต่ปฏิเสธคำวิงวอนนาทีสุดท้ายจากออสเตรเลียที่ร้องขอชีวิตนายชานและนายสุกุมาราน ที่ถูกจับกุมเมื่อปี 2005 ในฐานะหัวหน้าแก๊งยาเสพติดที่วางแผนลอบขนเฮโรอีนออกจากอินโดนีเซีย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048724
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียเตรียมอพยพพลเมืองราว 200 ชีวิตออกจากเนปาล
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 04:26 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์-แหล่งข่าวทางการทูตของรัสเซียเผย รัฐบาลมอสโกเตรียมอพยพพลเมืองแดนหมีขาวราว 200 ชีวิต ออกจากเนปาลในเร็วๆนี้ หลังเนปาลเผชิญหายนะจากแผ่นดินไหวระดับ 7.9 แมกนิจูดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์

    รายงานของสำนักข่าวทาสส์ ซึ่งอ้างนักการทูตของรัสเซียในเนปาลระบุว่า พลเมืองรัสเซียราว 200 คนจะถูกอพยพออกจากกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของเนปาลในเร็วๆนี้ และว่าในขณะนี้ชาวรัสเซียกลุ่มนี้อยู่ภายใต้การดูแลภายในค่ายพักชั่วคราวที่รัฐบาลมอสโกตั้งขึ้นในเนปาล

    อย่างไรก็ดี การอพยพครั้งนี้ต้องเผชิญกับความท้าทายสำคัญจากปัญหาทางเทคนิคหลายประการ รวมถึง การถูกตัดขาดของถนนหลายสายที่ได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหว และระยะทางวิ่งที่ค่อนข้างสั้นของสนามบินนานาชาติกาฐมาณฑุ

    ด้านอเล็กซานเดอร์ โรมานอฟ หัวหน้าทีมช่วยเหลือที่ถูกส่งมาจากกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินของรัสเซียเปิดเผยว่า การอพยพชาวรัสเซียออกจากเนปาล จะใช้เครื่องบินลำเลียงแบบ “Il-76”จำนวน 2 ลำของกองทัพอากาศแดนหมีขาว ซึ่งจะมุ่งหน้าไปยังอินเดีย ก่อนจะเดินทางต่อไปจนถึงรัสเซีย และคาดว่าเที่ยวบินแรกอาจออกเดินทางจากกรุงกาฐมาณฑุได้ภายในวันพุธ (29 เม.ย.) นี้ หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย

    ทั้งนี้ เหตุแผ่นดินไหวระดับ 7.9 แมกนิจูดในเนปาลเมื่อวันเสาร์ (25) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกินกว่า 5,000 คนและอีกมากกว่า 8,000 คนได้รับบาดเจ็บ ขณะที่สหประชาชาติประเมินว่ามีผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัตินี้ไม่ต่ำกว่า 6.6 ล้านคน


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048729
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    4วันแล้วแต่เหยื่อแผ่นดินไหวเนปาลยังเฝ้ารอความช่วยเหลือ พบรอดตายปาฏิหาริย์ติดอยู่ใต้ซากกับศพ80ชม. โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 05:21 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์/ซีเอ็นเอ็น - ประชาชนที่ติดค้างตามหมู่บ้านและเมืองห่างไกลต่างๆทั่วเนปาลในวันอังคาร(28เม.ย.) ยังคงเฝ้ารอการเดินทางมาถึงของความช่วยเหลือและสิ่งของบรรเทาทุกข์ 4 วันหลังภัยพิบัติแผ่นดินไหวรุนแรงทำลายอาคารบ้านเรือนและท้องถนน ที่ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดทะลุ 5,000 ศพ อย่างไรก็ตามอีกก็พอมีข่าวดีบ้าง เมื่อพบผู้รอดชีวิตอย่างปาฏิหาริย์เป็นระยะๆ โดยรายหนึ่งติดอยู่ใต้ซากหักพังร่วมกับศพนานถึง 80 ชั่วโมง

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/pp3e-dJh9_8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    รัฐบาลยังไม่สามารถประเมินของเขตความเสียหายจากมหันตภัยแผ่นดินไหวระดับ 7.9 เมื่อวันเสาร์(25เม.ย.) ได้อย่างเต็มที่ โดยยังมิอาจเข้าถึงพื้นที่แถบภูเขาจำนวนมาก แม้เสบียงช่วยเหลือและบุคลากรกำลังหลั่งไหลมาจากทั่วทุกมุมโลก

    นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลาของเนปาล ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวรอยเตอร์ในวันอังคาร (28) ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะทะลุหลัก 10,000 คน ในขณะที่ข้อมูลข่าวสารเรื่องความเสียหายจากหมู่บ้านและตำบลห่างไกลยังคงมาไม่ถึง ถ้าเป็นจริงนั่นเท่ากับว่ามันจะมากกว่ายอดผู้เสียชีวิต 8,500 ศพในแผ่นดินไหวเมื่อปี 1934 อันเป็นหายนะครั้งเลวร้ายหนสุดท้ายที่เล่นงานประเทศแห่งนี้

    เขาบอกว่ารัฐบาลกำลังพยายามอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้แล้วในการค้นหาและกู้ภัย แต่การส่งความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ทุรกันดารเป็นภารกิจที่ท้าทายและยากลำบากมาก จากนั้นระหว่างการแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์ในช่วงค่ำวันอังคาร(28เม.ย.) นายกรัฐมนตรีรายนี้ได้ประกาศไว้ทุกข์ทั่วประเทศเป็นเวลา 3 วัน

    เนปาลได้แจ้งต่อองค์กรความช่วยเหลือต่างๆว่าไม่ต้องการคณะช่วยเหลือตามหาผู้รอดชีวิตจากต่างชาติเพิ่มเติมอีก โดยยืนย้นว่ารัฐบาลและกองทัพสามารถรับมือได้ อย่างไรก็ตามเหล่านักวิเคราะห์มองว่าโอกาสค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากหักพังเริ่มเลือนลาง เนื่องจากหายนะครั้งนี้ผ่านพ้นมากว่า 4 วันแล้ว

    "หลัง 72 ชั่วโมงแรกผ่านไป อัตราผู้รอดชีวิตลดลงอย่างกะทันหันและเราเข้าสู่วันที่ 4 แล้ว" วอจเท็ค วิลค์ จากศูนย์ช่วยเหลือนานาชาติโปแลนด์ องค์กรเอ็นจีโอที่ส่งเจ้าหน้าที่แพทย์ 6 คนและทีมดับเพลิง 81 นายเข้าร่วมปฏิบัติการกู้ภัยในเนปาลกล่าว "พอเข้าสู่วันที่ 5 โอกาสจะขยับเข้าใกล้ศูนย์"

    ท่ามกลางความหวังที่เลือนลาง ทีมช่วยเหลือเนปาลกับฝรั่งเศสคณะหนึ่ง สามารถดึงชายวัย 28 ปี ออกจากซากหักพังของอาคารอพาร์ทเมนท์ในกาฐมาณฑุ หลังติดอยู่ภายในห้องๆหนึ่งร่วมกับร่างไร้วิญญาณ 3 ศพนานราวๆ 80 ชั่วโมง หลังจากก่อนหน้านี้คุณแม่ลูก 4 วัย 40 ปี ที่ติดอยู่ภายในห้องชั้นล่างของอาคารอพาร์ทเมนต์ 5 ชั้นนาน 36 ชั่วโมง ก็ได้รับความช่วยเหลือจากทีมกู้ภัยอินเดีย โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ

    อย่างไรก็ตามที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในเขตโครคาของเนปาล ซึ่งอยู่ติดกับศูนย์กลางของแผ่นดินไหว ผู้หญิงอีกคนไม่เคราะห์ดีเช่นนั้น โดยในขณะที่สามีของเธอไปหากินในอินเดียและไม่พบเห็นว่าจะมีความช่วยเหลือเข้ามา เธออดทนขุดรื้อซากหักพังของบ้านที่พังถล่มลงมาเป็นเวลาหลายชั่วโมงเพื่อค้นหาลูกๆ และสุดท้ายใจแทบสลายเมื่อพบร่างไร้วิญญาณของลูกน้อย 2 คน ลูกสาววัย 10 ขวบและลูกชายวัย 8 ขวบ โดยมีเพียงลูกชายวัย 4 ขวบอีกคนเท่านั้นที่รอดชีวิตราวปาฏิหาริย์

    ในหมู่บ้าน Barpak อยู่ถัดขึ้นไปทางเหนือ เฮลิคอปเตอร์ของทีมช่วยเหลือไม่สามารถหาที่ลงจอดได้ และในวันอังคาร(28เม.ย.) ทหารต้องเคลื่อนพลทางบก เริ่มจากรถบัสต่อด้วยเดินเท้าเพื่อเข้าไปให้ถึงพื้นที่ประสบภัย นอกจากนี้แล้วเฮลิคอปเตอร์ทหารยังทำได้แค่บินวนเหนือหมู่บ้าน Laprak และหย่อนอาหารลงไปในความหวังว่าจะมีผู้รอดชีวิตมารับมันไป ท่ามกลางการคาดหมายของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นว่าบ้านเรือนราว 1,600 หลังจากทั้งหมด 1,700 ในพื้นที่นี้พังราบเป็นหน้ากอง

    ที่สินธุปัลโชค ขับรถจากกาฐมาณฑุ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 3 ชั่วโมงครึ่ง แผ่นดินไหวที่ตามมาด้วยดินถล่มได้คร่าชีวิตชาวบ้าน 1,182 ศพและบาดเจ็บสาหัส 376 คน ด้วยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเกรงว่ายังมีอีกมากที่ติดอยู่ใต้ซากหักพังและจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

    ความช่วยเหลือจากนานาชาติเริ่มทยอยมาถึงเนปาล แต่การแจกจ่ายเป็นไปอย่างล่าช้า ส่วนหนึ่งเพราะมีอฟเตอร์ช็อคเกิดขึ้นเป็นพักๆใกล้สนามบิน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตที่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการออกมาแล้วนั้น จนถึงช่วงค่ำวันอังคาร เฉพาะในเนปาลประเทศเดียวยอดอยู่ที่ 5,057 คน ในจำนวนนี้เป็นนักปีนเขา 18 คนที่ถูกหิมะถล่มบนเอเวอเรสต์ ขณะที่นักปีนเขาที่รอดชีวิตนั้น ได้รับการอพยพด้วยเฮลิคอปเตอร์ลงมาทั้งหมดแล้ว สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่ประมาณ 9,200 คน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตในชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดียและจีนมากกว่า 100 คน

    ในช่วงเย็นวันอังคาร เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของเนปาลรายงานว่า ได้เกิดหิมะถล่มในตอนบ่ายวันนั้นที่เขตโกดาตาเบลา ซึ่งเป็นพื้นที่บนเส้นทางไต่เขา “ลังตัง” ซึ่งได้รับความนิยมกันมาก และเกรงว่ามีคนสูญหายไปราว 250 คน ทั้งนี้เทือกเขาลังตัง ตั้งอยู่ค่อนข้างใกล้กับกรุงกาฐมาณฑุ และเป็นที่นิยมในหมู่นักปีนเขาต่างชาติ

    สหประชาชาติประมาณการว่า นอกจากผู้บาดเจ็บล้มตายแล้ว ยังมีผู้ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติรุนแรงนี้ถึง 8 ล้านคน และ 1.4 ล้านคนต้องการอาหาร พร้อมกันนี้ ยูเอ็นยังจัดสรรเงินจากกองทุนฉุกเฉินให้เนปาล 15 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยให้องค์กรด้านมนุษยธรรมจากนานาชาติเร่งรัดปฏิบัติการ รวมทั้งจัดหาที่พักพิง น้ำ ยา และบริการด้านโลจิสติกส์


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048733
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดินถล่มทับหมู่บ้านอัฟกานิสถาน กังวลอาจมีคนตายสูงถึง52ศพ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2558 01:31 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - หวั่นวิตกกันว่าจะมีชาวบ้านเสียชีวิตอย่างน้อยๆ 52 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก หลังเกิดเหตุดินถล่มถมหมู่บ้านแห่งหนึ่้งในแถบพื้นที่ภูเขาห่างไกลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถานในวันอังคาร(28เม.ย.) ภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งล่าสุดที่เล่นงานประเทศที่หักพังเสียหายจากภาวะสงคราม

    ภัยพิบัติครั้งนี้ที่ฝังบ้านเรือนหลายสิบหลังในจังหวัดบาดัคชาน เกิดขึ้นในวาระใกล้ครบรอบ 1 ปีเหตุดินถล่มครั้งใหญ่ซึ่งมีต้นตอจากภาวะฝนตกหนัก คร่าชีวิตชาวบ้านไปอย่างต่ำ 300 ศพในดินแดนห่างไกลนี้

    หายนะทางธรรมชาติดังกล่าวเน้นย้ำถึงความท้าทายที่ประเทศด้อยพัฒนาแห่งนี้ต้องเผชิญ ในขณะที่อีกด้านหนึ่งพวกเขาก็ยังต้องต่อสู้กับเหตุความไม่สงบโดยฝีมือของพวกตอลิบาน

    กุล โมฮัมหมัด เบดาร์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเผยว่ามีผู้หญิงอย่างน้อย 25 คนและเด็ก 22 คน อยู่ในกลุ่มผู้สูญหายในเหตุดินถล่มที่หมู่บ้านจาร์โย บาลา "เราร้องขอความช่วยเหลือจากคาบูลแล้ว และพวกเขาบอกว่ากำลังส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำเข้าช่วยปฏิบัติการกู้ภัย"

    "มันเป็นพื้นที่ห่างไกลตามแนวชายแดนติดกับทาจิกิสถาน และถนนที่มุ่งหน้าสู่เขตนี้ยังอยู่ในช่วงปิดการสัญจร6เดือน" เขากล่าวโดยชี้ให้เห้นถึงความท้าทายที่ความพยายามบรรเทาภัยต้องเผชิญ

    ด้านลาล โมฮัมหมัด อาห์เหมดซาอี โฆษกตำรวจของบาดัคชาน ยืนยันตัวเลขผู้สูญหายดังกล่าว "จากข้อมูลเบื้องต้นพบว่าบ้านเรือนราว 100 หลังได้รับความเสียหายจากเหตุดินถล่มและมีชาวบ้านสูญหาย 52 คน"

    ทำเนียบประธานาธิบดีอัชราฟ กานี ระบุในถ้อยแถลงว่าผู้นำรายนี้รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งหลังได้ทราบข่าวดินถล่มที่คร่าชีวิตประชาชนของประเทศ โดย กานี ซึ่งอยู่ระหว่างเยือนอินเดียเป็นเวลา 3 วัน สั่งการให้เจ้าหน้าที่จัดการภัยพิบัติดำเนินการส่งมอบความช่วยเหลือแก่เหยื่อผู้ประสบภัยอย่างเร่งด่วน

    แถบภาคเหนือของอัฟกานิสถาน ต้องเผชิญอุทกภัยและดินถล่มบ่อยครั้งในช่วงฤดูฝน ขณะที่บ้านที่สร้างจากโคลนแทบจะไม่ได้ป้องกันชาวบ้านจากระดับน้ำที่สูงขึ้นและการไหลบ่าของดินโคลนเลยแม้แต่น้อย

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โพลเผย! ครึ่งหนึ่งของนักลงทุนคาด “กรีซ” จะออกจากยูโรโซนภายใน 12 เดือน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 18:40 น.

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – ราวครึ่งหนึ่งของนักลงทุนคาดการณ์ว่ากรีซจะออกจากยูโรโซนภายใน 12 เดือนข้างหน้า ผลสำรวจโดยบริษัทวิจัยของเยอรมัน เซ็นทิกซ์ (Sentix) เผยในวันนี้ (28)

    ดัชนีการแตกออกจากกลุ่มยูโรโซนสำหรับกรีซของเซ็นทิกซ์พุ่งถึง 48.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายนจาก 35.5 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม ชี้ให้เห็นว่า หนึ่งในสองของนักลงทุนกังขาเกี่ยวกับคำมั่นที่ว่าจะเก็บเอเธนส์ไว้ในกลุ่มใช้ค่าเงินสกุลเดียวกันนี้กันต่อไป

    “คำมั่นสัญญาของนักการเมืองยุโรปที่จะทำให้แผนการเก็บกรีซไว้ในยูโรโซนสำเร็จนั้นไม่ได้รับความเชื่อถือในเบื้องต้นจากราวครึ่งหนึ่งของนักลงทุนทั้งหมด” เซ็นทิกซ์ ระบุในถ้อยแถลง

    กรีซนั้นขาดแคลนเงินสดมานานหลายสัปดาห์แล้ว แต่การเจรจากับเจ้าหนี้อย่างสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมกลับถูกทำให้ติดชะงักจากมาตรการปฏิรูป ซึ่งรวมถึงการตัดลดเงินบำนาญและการเปิดเสรีตลาดแรงงานที่กรีซต้องบังคับใช้

    “ในปี 2012 มาริโอ ดรากี (ประธานธนาคารกลางยุโรป) ทำให้นักลงทุนสงบลงด้วยความรับผิดชอบต่อเงินยูโรจนถึงที่สุดของเขา แต่คำมั่นของเขาจะยังคงมีเหตุผลเชื่อได้อยู่หรือไม่สำหรับกรีซในวันนี้” เซ็นทริกซ์ ระบุ

    ดัชนีการแตกกลุ่มสำหรับยูโรโซนโดยรวมไต่ขึ้นถึง 49.0 เปอร์เซ็นต์ในเดือนเมษายนจาก 36.8 เปอร์เซ็นต์ในเดือนมีนาคม เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของการคาดการณ์ว่า เอเธนส์จะออกจากกลุ่มนี้

    ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับเดียวกับช่วงจุดสูงสุดของวิกฤตหนี้ยูโรโซนในปี 2012

    อย่างไรก็ตาม ดัชนีของ เซ็นทริกซ์ ที่วัดความเสี่ยงของการแพร่กระจายติดต่อ ได้ตกลงต่ำเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 26.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่า นักลงทุนไม่ได้คาดการณ์โดยรวมๆ ว่า วิกฤตหนี้ของกรีซจะลุกลามไปยังส่วนอื่นๆ ของยูโรโซน

    การสำรวจการแตกกลุ่มนี้ ซึ่งครอบคลุมนักลงทุน 1,023 คน ถูกจัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน โดยเป็นการหาเปอร์เซ็นต์ของนักลงทุนที่คาดว่ายูโรโซนจะสลายตัว

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048600
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ญี่ปุ่น-USเปิด'แนวทางป้องกันร่วม'เพิ่มบทบาททัพ'ปลาดิบ'-สู้อิทธิพลจีน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 21:54 น.

    [​IMG]

    @ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ พร้อมกับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เดินออกจาก “อนุสรณ์สถานลินคอล์น” ในกรุงวอชิงตันวันจันทร์ (27) หลังจากที่โอบามาพาอาเบะทัวร์สถานทีสำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งนี้แล้ว

    เอเจนซีส์ - ญี่ปุ่น-อเมริกาประกาศแนวทางปฏิบัติฉบับปรับปรุงใหม่ล่าสุด สำหรับความร่วมมือด้านกลาโหมของประเทศทั้งสอง สะท้อนให้เห็นความมุ่งมั่นของโตเกียวในการเพิ่มบทบาททางทหารระหว่างประเทศ ในห้วงเวลาที่จีนแผ่ขยายอิทธิพลอย่างแข็งกร้าว และโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือก็เป็นภัยคุกคามมากขึ้น

    แนวทางปฏิบัติฉบับใหม่ที่ประกาศออกมาเมื่อวันจันทร์ (27 เม.ย.) ถือเป็นประเด็นสำคัญที่สุดประเด็นหนึ่ง ระหว่างการเยือนสหรัฐฯของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ในสัปดาห์นี้ และยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า โตเกียวพร้อมรับภาระด้านความมั่นคงของโลกมากขึ้น

    ในแนวทางปฏิบัติฉบับใหม่นี้ เปิดโอกาสให้สองประเทศร่วมมือกันทางทหารในระดับโลก ตั้งแต่การต่อต้านขีปนาวุธนำวิถี การโจมตีทางไซเบอร์และในอวกาศ ตลอดจนถึงการรักษาความปลอดภัยทางทะเล ทั้งนี้การตกลงกันในเรื่องนี้มีขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นอนุมัติให้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภา เพื่อตีความรัฐธรรมนูญฉบับใฝ่สันติของแดนอาทิตย์อุทัยเสียใหม่ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นมีสิทธิใน “การป้องกันร่วม” ไม่ใช่แค่ป้องกันตนเองเท่านั้น เป็นต้นว่า ญี่ปุ่นสามารถสอยขีปนาวุธที่มุ่งหน้าโจมตีอเมริกา ตลอดจนญี่ปุ่นสามารถเข้าช่วยเหลือประเทศที่สามที่ถูกโจมตี แทนที่จะต้องจำกัดเพียงแค่ใช้กำลังอาวุธได้เมื่อญี่ปุ่นเองถูกโจมตี

    รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี และรัฐมนตรีกลาโหม แอชตัน คาร์เตอร์ ของสหรัฐฯ เป็นผู้แถลงเปิดตัวแนวทางปฏิบัติฉบับใหม่นี้ เคียงข้างกับรัฐมนตรีต่างประเทศ ฟูมิโอะ คิชิดะ และรัฐมนตรีกลาโหม เกน นากาตานิ ของญี่ปุ่น ภายหลังการเจรจากันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก

    ระหว่างการแถลงข่าว เคร์รี ประกาศว่า การทบทวนแนวทางปฏิบัติทางการทหารครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับจากปี 1997 เป็น “การเปลี่ยนผ่านครั้งประวัติศาสตร์ในด้านความสัมพันธ์ทางกลาโหมระหว่างประเทศของเราทั้งสอง” รวมทั้งทำให้ทั้งญี่ปุ่นและอเมริกาปลอดภัยยิ่งขึ้น ขณะที่ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีเสถียรภาพมากขึ้น

    เคร์รียังพาดพิงอย่างอ้อมๆ ถึงความแข็งกร้าวของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ว่า “เราปฏิเสธไม่ยอมรับข้อเสนอแนะใดๆ ที่บอกว่าเสรีภาพในการเดินเรือ, การบินผ่าน, ตลอดจนการใช้ทะเลและน่านฟ้าอย่างไม่ถูกต้องตามกฎหมายอื่นๆ คืออภิสิทธิ์ซึ่งรัฐใหญ่ๆ มอบให้แก่รัฐเล็กๆ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเพ้อฝันและจินตนาการเฟื่องๆ ของรัฐใหญ่”

    ทั้งนี้ เป็นที่คาดว่า แนวทางปฏิบัติใหม่นี้จะนำไปสู่การร่วมมือใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างอเมริกาและญี่ปุ่นในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนมีข้อพิพาทแย่งชิงดินแดนกับหลายประเทศ ไม่เฉพาะเพียงในทะเลจีนตะวันออก ที่แดนมังกรกับแดนอาทิตย์อุทัยมีข้อพิพาทช่วงชิงหมู่เกาะ เซนกากุ/เตี้ยวอี๋ว์ กันอยู่

    ในการแถลงข่าวคราวนี้ รัฐมนตรีของฝ่ายญี่ปุ่นได้กล่าวถึงปัญหาที่ถูกหลบเลี่ยงมาตลอด เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการตรวจการณ์ร่วมกันในเส้นทางเดินเรือในเอเชีย โดยระบุว่า ญี่ปุ่นยังต้องดำเนินการเกี่ยวกับร่างกฎหมาย ตลอดจนหารือกับประเทศเพื่อนบ้านก่อน

    ขณะที่เคร์รีกล่าวย้ำว่า วอชิงตันจะยึดมั่นในพันธกรณีการพิทักษ์ปกป้องญี่ปุ่นและดินแดนภายใต้การปกครองของญี่ปุ่นทั้งหมด ซึ่งก็คือครอบคลุมถึงหมู่เกาะเซนกากุ/เตี้ยวอี๋ว์ ที่ปัจจุบันอยู่ในการปกครองของแดนอาทิตย์อุทัยด้วยนั่นเอง

    อย่างไรก็ตาม พวกนักวิเคราะห์มองว่า แม้ได้รับการยืนยันเช่นนี้ โตเกียวยังอดกังวลไม่ได้ว่า วันหนึ่งวอชิงตันที่อยู่ระหว่างการจำกัดงบประมาณทางทหาร และนับวันจะเกี่ยวข้องทางเศรษฐกิจกับจีนลึกซึ้งขึ้น อาจไม่ช่วยปกป้องญี่ปุ่นตามที่ตกลงกันไว้

    ปัจจุบัน เรือตรวจการณ์และเครื่องบินทางทหารจากประเทศคู่พิพาทในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ เฉียดใกล้กันบ่อยครั้งในดินแดนที่แย่งชิงสิทธิ์กันอยู่ สร้างความวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ว่า อาจมีการชนกันโดยไม่ตั้งใจหรือเหตุการณ์อื่นๆ แล้วลุกลามกลายเป็นการปะทะใหญ่โต

    แนวทางปฏิบัติด้านการทหารฉบับใหม่นี้ ยังมีความหมายเป็นการขจัดข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ที่เคยขีดกรอบการปฏิบัติการร่วมทางทหารของญี่ปุ่นเอาไว้ที่บริเวณโดยรอบแดนอาทิตย์อุทัยเท่านั้น โดยที่นับจากนี้ กองทัพญี่ปุ่นจะสามารถออกไปร่วมปฏิบัติการทั่วโลกเพื่อปกป้องตนเองและประเทศหรือภูมิภาคอื่นๆ

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เปิดโอกาสให้ญี่ปุ่นสามารถขยายความร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูล รวมทั้งเพิ่มความร่วมมือด้านความมั่นคงในไซเบอร์และการปกป้องทรัพย์สินในอวกาศมากขึ้น

    ถึงแม้ยืนยันว่า แนวทางการทหารร่วมใหม่ไม่ได้พุ่งเป้าที่จีนโดยตรง แต่เน้นย้ำภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ทว่ารัฐมนตรีกลาโหมคาร์เตอร์ ของสหรัฐฯ ก็แถลงพาดพิงถึงปักกิ่งอย่างอ้อมๆ ว่า คำตอบสำหรับเอเชียไม่ใช่อยู่ที่ประเทศใดประเทศหนึ่งจะพยายามควบคุมสั่งการประเทศอื่นๆ

    นอกเหนือจากทั้งสองประเทศจะเปิดตัวแนวทางปฏิบัติสำหรับความร่วมมือด้านกลาโหมฉบับนี้แล้ว โอบามา ซึ่งตามกำหนดการจะจัดการต้อนรับอาเบะอย่างเป็นรัฐพิธีที่กรุงวอชิงตันในวันอังคาร (28) ยังได้แสดงความสนิทสนมเป็นพิเศษกับผู้นำญี่ปุ่นผู้นี้ ด้วยการนำอาเบะออกทัวร์อนุสรณ์สถานประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น เมื่อวันจันทร์

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048659
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โสมขาวลั่นทุก "กิจกรรมทางทหาร" ของญี่ปุ่นในภูมิภาค ต้องปรึกษาเกาหลีใต้ หลังวอชิงตัน-โตเกียวปรับความร่วมมือทางทหารใหม่ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 15:18 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 16:20 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี – เกาหลีใต้ออกมาตอบสนองอย่างระมัดระวังในวันนี้ (28) ต่อการกำหนดแนวทางการป้องกันประเทศสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นขึ้นใหม่ โดยเรียกร้องให้มีการปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับโซลในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลี

    ภายใต้แนวทางใหม่ดังกล่าว ญี่ปุ่นสามารถสอยขีปนาวุธที่มุ่งไปยังสหรัฐฯ และให้ความช่วยเหลือประเทศที่สามถูกโจมตี หากการโจมตีดังกล่าวถูกพิจารณาแล้วว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของแดนอาทิตย์อุทัย

    โซลเป็นกังวลว่า กฎเกณฑ์ใหม่สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคงที่ถูกเผยโฉมออกมาเมื่อวานนี้ (27) อาจเปิดทางให้ญี่ปุ่นสามารถใช้หลักการของ “การป้องกันตนเองร่วม” ไปทั่วคาบสมุทรเกาหลีโดยปราศจากความยินยอมของพวกเขา

    เกาหลีใต้มีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ 28,500 คน ซึ่งช่วยปกป้องเกาหลีใต้จากภัยคุกคามโดยเพื่อนบ้านผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์อย่างเกาหลีเหนือ

    “รัฐบาลคาดหวังว่าสหรัฐฯและญี่ปุ่นจะบังคับใช้แนวทางนี้ในวิถีทางที่ส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค และรักษาไว้ซึ่งการปรึกษาหารือกับเราอย่างใกล้ชิดในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงบนคาบสมุทรเกาหลีและผลประโยชน์ของชาติเรา” กระทรวงการต่างประเทศของแดนโสมขาว ระบุในถ้อยแถลงในวันนี้ (28)

    ทางกระทรวงเสริมว่า แนวทางการป้องกันประเทศสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นอันใหม่นี้ดูเหมือนว่าจะได้คำนึงถึงความกังวลของโซลแล้ว และสังเกตเห็นถึงข้อกำหนดการของเคารพอำนาจอธิปไตยของประเทศที่สามอย่างสมบูรณ์

    โฆษกกระทรวงกลาโหมของโซลยืนยันในวันนี้ (28) ว่า กิจกรรมทางทหารใดๆ ของญี่ปุ่นภายในพื้นที่ปฏิบัติการของเกาหลีใต้ในช่วงสงครามจำเป็นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากโซล

    ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นสองพันธมิตรทางทหารหลักของสหรัฐฯ ในเอเชีย แต่ความสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้านนี้นั้นกลับตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา

    มรดกตกทอดอันขมขื่นของการปกครองอาณานิคมเหนือคาบสมุทรเกาหลีช่วงปี 1940-1945 ของญี่ปุ่นเป็นประเด็นที่ใหญ่ยิ่งในแดนโสมขาว ซึ่งจดจ่อเฝ้าระวังอย่างยิ่งยวดต่อทุกการแผ่ขยายของกิจกรรมทางทหารหรือขอบเขตของความรับผิดชอบของญี่ปุ่น

    ในตอนนี้ยังไม่มีการตอบสนองจากเกาหลีเหนือต่อแนวทางการป้องกันประเทศอันใหม่นี้
    เมื่อเดือนที่แล้ว หนังสือพิมพ์ โรดอง ซินมุน ของทางการโสมแดง เตือนว่า แนวทางดังกล่าวเป็นความพยายามของสหรัฐฯ ที่จะเสริมอำนาจตนเองในการควบคุมภูมิภาคนี้ และจะนำไปสู่ “ความขัดแย้งทางทหารและวิกฤตของการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์”

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048441
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้นำยูเครนตั้งเป้านำพาประเทศเข้าสู่กระบวนการรับ “สมาชิกใหม่” ของ EU ในปี 2020 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 03:43 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 09:02 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ผู้นำยูเครนแสดงความเชื่อมั่นในวันจันทร์ (27 เม.ย.) โดยระบุว่าประเทศของตนจะสามารถก้าวเข้าสู่กระบวนการขอรับการพิจารณาเป็น “สมาชิกใหม่” ของสหภาพยุโรป (อียู) ได้ภายใน 5 ปี

    โปโรเชนโก วัย 49 ปี ซึ่งก้าวขึ้นครองอำนาจในฐานะประธานาธิบดีคนที่ 5 ของยูเครนตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้วแสดงท่าทีดังกล่าว ระหว่างเข้าร่วมการประชุมสุดยอดระหว่างยูเครนกับอียู (Ukraine-EU summit) ที่กรุงเคียฟ ในวันจันทร์ (27)

    ผู้นำยูเครนระบุว่า ประเทศของตนมีความมุ่งมั่นต่อแผนการดังกล่าว และจะเร่งดำเนินทุกมาตรการ ตลอดจนปฏิบัติตามทุกเงื่อนไขที่จำเป็นเพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการก้าวเข้าสู่กระบวนการรับพิจารณาเป็นสมาชิกใหม่ของอียูในปี 2020

    ประธานาธิบดียูเครนย้ำด้วยว่า การมีสถานะเป็นสมาชิกอียูถือเป็นยุทธศาสตร์ และหลักหมุดที่สำคัญยิ่งของยูเครนในอนาคต พร้อมระบุว่าการดำเนินนโยบาย “หันหน้าสู่ตะวันตก” ซึ่งหมายถึงการมุ่งกระชับความสัมพันธ์ ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและความมั่นคงกับยุโรปและสหรัฐฯ ถือเป็นเพียง “ตัวเลือกเดียว” ที่รัฐบาลเคียฟมีอยู่ สำหรับปกป้องตนเองจาก “ภัยคุกคามทางตะวันออก” ซึ่งก็คือรัสเซีย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000048212
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระทึก! พายุซัดรถไฟตกรางยกระดับสูงหลายสิบเมตรในสหรัฐฯ (ชมคลิป)
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 04:30 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 08:59 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - แนวพายุที่เคลื่อนผ่านมลรัฐลุยเซียนาของสหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์(27 เม.ย.) พัดถล่มรุนแรงจนเกิดไฟฟ้าดับเป็นบริเวณกว้าง กระทบผู้บริโภคราว 168,000 ราย เช่นเดียวกับที่ท่าอากาศยานนานาชาตินิวออร์ลีนส์ ขณะที่สื่อแพร่คลิปนาทีระทึกเหตุการณ์รถไฟขนส่งสินค้าขบวนหนึ่งบนรางยกระดับทนพลานุภาพของแรงลมไม่ไหวถูกซัดตกรางจากความสูงเหนือพื้นดินหลายสิบเมตร

    <iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/JqSSdcLPwGU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากพายุลูกนี้ซึ่งส่งผลกระทบในกว้าง โดยนอกจากเบื้องต้นที่กล่าวมามันยังทำให้ไฟฟ้าที่ศาลอาญาในนิวออร์ลีนส์ดับ และโรงเรียนกับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในพื้นที่ต้องยกเลิกการเรียนการสอน ในนั้นรวมถึงมหาวิทยาลัยนิวออร์ลีนส์

    สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งเผยแพร่บันทึกวิดีโอเป็นภาพเหตุการณ์พลานุภาพของพายุที่ซัดเอาตู้รถไฟขบวนสินค้าขบวนหนึ่งตกรางบริเวณทางรถไฟยกระดับ บริเวณชานเมืองนิวออร์ลีนส์ จากนั้นก็ราวกับโดมิโนเมื่อโบกี้อื่นๆ ก็ถูกลากตกจากระดับความสูงหลายสิบเมตรลงสู่พื้นดินตามๆ กัน

    ที่สนามบินนานาชาตินิวออร์ลีนส์ เกิดไฟฟ้าดับที่อาคารผู้โดยสารหลัก ส่วนลานบินก็ต้องปฏิบัติงานภายใต้ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน โดยภาพถ่ายที่โพสต์ลงเป็นโลกออนไลน์พบนักเดินทางต่อแถวยาวเหยียดภายในอาคารผู้โดยสารเพื่อรอเที่ยวบิน ขณะที่สนามบินต้องแจ้งเลื่อนเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกบนเว็บไซต์

    ด้านเอ็นเมอร์กี คอร์ป บริษัทพลังงานเจ้าใหญ่ที่สุดของรัฐเผยว่าจนถึงตอน 12.30 น.(ตรงกับเมืองไทย 00.30 น.วันอังคาร) มีลูกค้าลุยเซียนากว่า 168,000 ราย ส่วนใหญ่ในพื้นที่นิวออร์ลีนส์และบาตันเราจ์ ที่ต้องอยู่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้

    เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่า พายุลูกนี้ที่มีความเร็วลมสูงสุด 113 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วมุ่งหน้าไปทางตะวันออก ข้ามลุยเซียนา มุ่งหน้าสู่อ่าวเม็กซิโก

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คูเวตเตรียมแช่แข็งจำนวนชาวต่างชาติ งดออกวีซ่าใหม่หากแรงงานต่างชาติหน้าเก่ายังไม่ออกจากประเทศ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 04:40 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 09:08 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ทางการคูเวตเตรียมเริ่มบังคับใช้มาตรการ “แช่แข็งจำนวนชาวต่างชาติ” ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปด้วยการงดออกวีซ่าให้แก่ “แรงงานต่างชาติรายใหม่”

    ระเบียบใหม่ด้านการรับคนเข้าเมืองของคูเวตที่เพิ่งถูกประกาศใช้ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไป ทางการคูเวตจะออกวีซ่าให้กับแรงงานต่างชาติรายใหม่ 1 รายก็ต่อเมื่อมีแรงงานต่างชาติรายเก่า 1 รายเดินทางออกจากคูเวต

    ความเคลื่อนไหวล่าสุดถูกมองว่าเป็นความพยายามของรัฐบาลคูเวตในการจำกัดจำนวนของชาวต่างชาติในประเทศที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องจนมีสัดส่วนสูงกว่า 2 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศที่มี 3.3 ล้านคน ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆของชาวคูเวตเจ้าของประเทศที่เริ่มเคลื่อนไหวต่อต้านชาวต่างชาติมากขึ้น

    ทั้งนี้ ข้อมูลล่าสุดระบุว่า จำนวนแรงงานต่างชาติในคูเวตเวลานี้มีมากกว่า 2 ล้านคน และส่วนใหญ่ทำงานในภาคเอกชนของคูเวต ขณะที่มากกว่า 90% ของชาวคูเวตทำงานกับหน่วยงานภาครัฐ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    WHO จี้ทั่วโลกเร่งสร้างภูมิคุ้มกันเด็ก หลังพบข้อมูลเด็กที่ “ไม่ได้รับวัคซีน” ยังคงสูงถึง 1 ใน 5 ของประชากรเด็กโลก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 05:08 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 09:01 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ฌอง-มารี ออคโว-เบเล ผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกโรงเตือนในวันจันทร์ (27 เม.ย.) ที่นครเจนีวา โดยระบุ จำนวนของเด็กที่ “ไม่ได้รับวัคซีน” ยังคงมีสัดส่วนสูงถึง 1 ใน 5 ของประชากรเด็กทั่วโลก

    ผู้อำนวยการฝ่ายการสร้างภูมิคุ้มกันของ WHO ระบุว่า ในขณะนี้มีเด็กๆต้องเสียชีวิตสูงถึง 1.5 ล้านคนต่อปี เพราะอาการเจ็บป่วยที่เป็นผลพวงจากการไม่ได้รับวัคซีนที่จำเป็นตามกำหนด

    ออคโว-เบเลระบุว่า ถึงเวลาแล้วที่ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจะต้องให้ความสำคัญต่อการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชากรเด็กในประเทศของตนอย่างจริงจัง และว่าความพยายามในเรื่องนี้ของหลายประเทศยังคงหย่อนยานและไร้ประสิทธิภาพ แม้บรรดาประเทศสมาชิกของ WHO จะร่วมกันให้คำมั่นตั้งแต่ปี 2012 ในการที่จะรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชนขนานใหญ่ก็ตาม

    ทั้งนี้ ข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ราวครึ่งหนึ่งของเด็กที่ “ไม่ได้รับวัคซีน” ที่จำเป็นทั่วโลกอาศัยอยู่ใน 3 ประเทศ คือ อินเดีย ปากีสถาน และไนจีเรีย


    WHO
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ ประกาศจะเร่งทำลาย “หัวรบนิวเคลียร์เก่า” เร็วขึ้นอีก 20%
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 09:04 น. (แก้ไขล่าสุด 28 เมษายน 2558 09:08 น.)

    [​IMG]

    @จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงต่อที่ประชุมทบทวนภาคีสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) ประจำปี 2015 ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก วานนี้ (27 เม.ย.)

    เอเอฟพี - สหรัฐฯ ประกาศจะเร่งทำลายหัวรบนิวเคลียร์ที่หมดอายุให้เร็วขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์ พร้อมทั้งฝากคำเตือนไปยังเกาหลีเหนือว่าจะถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลกยิ่งกว่าเก่าหากยังไม่ล้มเลิกกิจกรรมนิวเคลียร์

    จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ที่กลุ่มชาติมหาอำนาจ P5+1 กำลังเจรจากับอิหร่านนั้น “ใกล้ความสำเร็จยิ่งกว่าครั้งใดๆ”

    ระหว่างการประชุมทบทวนภาคีสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) ประจำปี 2015 ที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก วานนี้ (27 เม.ย.) เคร์รียืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงยึดถือคำมั่นสัญญาว่าจะลดอาวุธให้เร็วขึ้น ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอเมริกาไม่กระตือรือร้นเท่าที่ควร

    “เรามีความตั้งใจจริงที่จะร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าข้อสงสัยที่มีมาตลอดนั้นไม่เป็นจริง” เคร์รีเผย พร้อมย้ำว่าสหรัฐฯ ปรารถนาให้การแข่งขันสะสมอาวุธนิวเคลียร์ “เป็นเพียงอดีต”

    ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ทำลายหัวรบนิวเคลียร์ไปแล้ว 10,251 ลูก และมีอยู่อีก 2,500 ลูกซึ่งปลดระวางและพร้อมที่จะนำไปทำลาย

    “ผมยินดีที่จะประกาศให้ทราบทั่วกันวันนี้ว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจเร่งทำลายหัวรบนิวเคลียร์หมดอายุให้เร็วขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์” รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว

    เคร์รียังถือโอกาสนี้วิจารณ์เกาหลีเหนือ และเตือนว่าเปียงยางจะต้องเร่งบรรเทาความกังวลที่นานาชาติมีต่อกิจกรรมนิวเคลียร์ของพวกเขา

    “ตราบใดที่ยังไม่ทำเช่นนั้น เกาหลีเหนือก็จะถูกโดดเดี่ยวจากนานาชาติยิ่งขึ้นเรื่อยๆ”

    องค์การสหประชาชาติและสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรเกาหลีเหนือเพื่อตอบโต้การทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2006, 2009 และล่าสุดเมื่อปี 2013

    ไม่นานมานี้มีเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญว่า เกาหลีเหนืออาจครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ซึ่งผลิตจากพลูโตเนียมหรือยูเรเนียมเกรดอาวุธ ระหว่าง 10-16 ลูก

    เคร์รีระบุด้วยว่า สหรัฐฯ พร้อมที่จะเปิดเจรจากับรัสเซียว่าด้วยข้อตกลงลดอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์ (START) โดยตั้งเป้าให้ลดลงอีก 1 ใน 3 จากระดับที่ตกลงกันไว้เมื่อปี 2011

    การประชุมทบทวนภาคีสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์เปิดฉากขึ้น ท่ามกลางการลดอาวุธที่ยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรจากฝ่ายสหรัฐฯ และรัสเซีย และความสัมพันธ์วอชิงตัน-มอสโกที่ตกต่ำเป็นประวัติการณ์จากวิกฤตในยูเครน


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics& Clips : “ซานเจย์ กูปตา” หมอ CNN ยอมทิ้งไมค์นักข่าวชั่วคราว ลงมือผ่าตัดสมองช่วยชีวิตคนไข้เนปาลวัย 15ปีที่ถูกกำแพงถล่มทับ หลังยอดดับเลย 4,352 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 เมษายน 2558 11:40 น.

    [​IMG]

    เอจนซีส์/เอพี/เอเอฟพี - ในวันจันทร์(27)นายแพทย์ชาวสหรัฐฯ ซานเจย์ กูปตา (Sanjay Gupta)วัย 45 ปี ผู้ดำเนินรายการด้านการแพทย์ประจำ CNN สื่อสหรัฐฯ ต้องยอมทิ้งสภาพนักข่าวชั่วคราว แต่สวมบทบาทนายแพทย์ด้านศัลยกรรมประสาทแทนเพื่อช่วยชีวิตคนไข้หญิงชาวเนปาลวัย 15 ปี Sandhya Chalise ที่ด้วยการผ่าตัดสมองหลังจากเธอถูกกำแพงถล่มหลังจากเกิดแผ่นดินไหวที่โรงพยาบาลเบอร์(Bir)ในกรุง กาฐมาณฑุ หลังจากที่นายแพทย์ CNN รายนี้เดินทางมาถึงเนปาล 2 วันหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ในขณะล่าสุดวันนี้(28) ตำรวจเนปาลเปิดเผยว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวและตามด้วยอาฟเตอร์ช็อกนั้นล่าสุดมีไม่ต่ำกว่า 4,352 คนในขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บอยู่ที่เกือบ 8,000 คน

    <iframe width="636" height="340" src="https://www.youtube.com/embed/0xDCCPHsilY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(27)ว่า Sandhya Chalise ชาวเนปาลวัย 15ปี ได้รับการช่วยชีวิตจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมประสาทจากสหรัฐฯ นายแพทย์ซานเจย์ กูปตา (Sanjay Gupta)วัย 45 ปี ผู้ดำเนินรายการด้านการแพทย์ประจำสถานีโทรทัศน์สหรัฐฯ CNN ในวันจันทร์(27)ที่โรงพยาบาลเบอร์(Bir)ในกรุง กาฐมาณฑุ

    สื่ออังกฤษรายงานว่า จากการรายงานของCNN ชี้ว่า Chalise อาศัยอยู่ในเขตที่อยู่ห่างไกลในเนปาลมีอาการเลือดคั่งในสมองจากการที่เธอถูกกำแพงถล่มทับในขณะที่เธอกำลังตักน้ำในระหว่างที่เกิดแผ่นดินไหวในวันเสาร์(26) ซึ่งChalis เดินทางมาถึงโรงพยาบาลเบอร์ 2 วันหลังเกิดเหตุ

    “ผมได้รับการร้องขอให้ทำการช่วยชีวิตคนไข้หญิงรายนี้จากแพทย์ที่ทำหน้าที่อยู่ที่นั่น” กูปตาอธิบายในขณะให้สัมภาษณ์กับ CNN ทางโทรศัพท์ และเสริมต่อว่า “ผมคิดว่าทีมแพทย์ที่นั่นต้องการคนช่วยเหลือจริงๆเพราะงานล้นมือมาก”

    ซึ่งในระหว่างการผ่าตัดสมอง กูปตาต้องอาศัยเพียง “เลื่อย” เพื่อผ่ากะโหลกคนไข้แทนที่จะเป็นที่เจาะไฟฟ้าตามที่ควรจะเป็นในห้องผ่าตัดที่กูปตาคุ้นเคยในสหรัฐฯ รวมไปถึงการที่ต้องใช้น้ำบริสุทธิและไอโอดีนจากขวดเพื่อฆ่าเชื้อโรคแทนที่จะใช้อ่างล้างมือปลอดเชื้อสำหรับห้องผ่าตัด กูปตาให้สัมภาษณ์ต่อ

    ทั้งนี้แพทย์ CNN เปิดเผยถึงผลการผ่าตัดคนไข้รายนี้ว่า ปลอดภัยและมีอาการดีหลังการผ่าตัด แต่เป็นที่น่าเศร้าว่าเรื่องราวของChalise เด็กสาวชาวเนปาลรายนี้ไม่แตกต่างจากคนอื่นที่ประสบเหตุในประเทศนี้

    และหลังจากที่กูปตาผ่าตัดChalise เสร็จสิ้นแล้ว มีคนไข้หนูน้อยชาวเนปาลวัย 8 ปีถูกส่งมายังโรงพยาบาลแห่งนี้เพื่อเข้ารับการผ่าตัดสมองที่คล้ายกัน ซึ่งกูปตาเปิดเผยถึงเหตุน่าสลดในปาลว่า “ผมเดินทางทั่วโลกและได้เห็นสภาพที่น่าโหดร้ายมากมาย แต่ทว่ายังไม่มีเหตุการณ์ใดที่จะน่าหดหู่ใจเท่ากับที่พบในเนปาล” เพราะในขณะนี้เป็นที่แน่ชัดว่า พวกเขาต้องการอุปกรณ์และเครื่องมือจำนวนมากกว่านี้ พวกเขาต้องการกำลังคนเพิ่มอย่างเร่งด่วน เพราะคาดว่าจะมีคนไข้จำนวนมากถูกส่งเข้ามาเพื่อรับการรักษาในขณะที่หน่วยกู้ภัยกำลังทำงานแข่งเวลาเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต ซึ่งในขณะนี้ทางทีมแพทย์แทบจะรับมือจำนวนคนไข้ในปัจจุบันนี้ไม่ได้แล้ว”

    สื่ออังกฤษรายงานว่า นอกจากกูปตาจะทำหน้าที่เป็นหัวหน้านักข่าวการแพทย์ให้กับ CNN แล้ว เขายังทำหน้าที่เป็นแพทย์ศัลยกรรมด้านประสาทให้กับโรงพยาบาลอีโมรีในแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย อีกด้วย

    ในขณะที่สถานการณ์ตัวเลขผู้เสียชีวิตในเนปาลล่าสุด ตัวเลขยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุด โดยเอพีรายงานในวันอังคาร(28)ว่า ตำรวจเนปาลได้แถลงยอดตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันมีไม่ต่ำกว่า 4,352 คน และเอเอฟพีรายงานตัวเลขยอดผู้ได้รับบาดเจ็บในวันนี้(28)ว่า มีไม่ต่ำกว่า 7,953 คน ซึ่งนอกจากนี้ยังพบว่ามีรายงานยอดผู้เสียชีวิตในทิเบตของจีนอยู่่ที่ 25 คน ในขณะที่ยอดเสียชีวิตในเหตุการณ์แผ่นดินไหวในอินเดียสูงถึง 73 คน

    In Pics& Clips :
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คาด'เนปาล'ตาย ทะลุหมื่น ประสบภัย8ล้าน
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 29 เม.ย. 2558 05:01

    [​IMG]

    นายกเผย-ล่าสุดกว่า5พันศพซี130ขนทหารไทยไปถึงแล้ว‘ศพน้องอีฟ’พ่อให้กลับไทย

    เนปาลยังทุกข์ระทมแสนสาหัส ผู้นำชาติเผยยอดเหยื่อธรณีพิโรธ อาจทะลุถึง 10,000 ศพ ขณะที่การค้นหาต้องเผชิญอุปสรรคนานัปการ จนชาวบ้านต้องใช้มือช่วยขุดหาศพคนตาย นายกฯชมกระทรวงการต่างประเทศช่วยคนไทยพ้นนรกดินไหวตามแผน กองทัพไทยส่งกำลังพลชุดแรกพร้อมยุทโธปกรณ์กับเครื่องอุปโภค บริโภคไปช่วยเนปาลแล้ว รวมถึงแพทย์กระทรวงสาธารณสุขไปเช่นกัน เอกอัครราชทูตเนปาลซึ้งใจคนไทยช่วยทั้งเงินทั้งของ ขณะที่ทุกหน่วยงานรัฐระดมจัดหาเงินบริจาคเต็มที่ พ่อน้องอีฟเปลี่ยนใจนำศพลูกมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ไทย ส่วนอัฐิแยกเก็บ 2 ประเทศ ส่วนแม่ผู้สูญเสียลูกสาวยังทำใจไม่ได้ มหาดไทยชวนร่วมบริจาคของเน้นเป็นประโยชน์ เหมาะสมและสะดวก วอนประชาชนอย่าตระหนกแผ่นดินไหว ด้านเชียงใหม่ระวัง 10 รอยเลื่อน

    ชาวเนปาลยังตกอยู่ในภาวะทุกข์ยากลำเค็ญแสนสาหัส จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 7.8 แมกนิจูด ที่ส่งผลความเสียหายอย่างเหลือคณานับให้แก่โบราณสถานสำคัญต่างๆ หลายแห่ง รวมทั้งบ้านเรือนประชาชนที่พังราบเป็นหน้ากลองในหลายพื้นที่ ผู้คนมากมายไร้ที่นอน ขาดแคลนอาหาร เด็กๆกว่า 1 ล้านคนต้องอดอยากหิวโหยไร้ที่อยู่อาศัย โดยยอดผู้เสียชีวิตขณะนี้พุ่งเกิน 5 พันศพและคาดว่าจะถึง 1 หมื่นศพ ขณะที่การช่วยเหลือผู้ที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนหรือสถานที่ต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้าเนื่องจากมีอุปสรรคนานัปการไม่ว่าจะเป็นเครื่องไม้เครื่องมือและเส้นทางการเข้าถึงพื้นที่ที่ถูกตัดขาดจากเหตุแผ่นดินไหว ทั้งยังมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดต่อเนื่องเป็นระยะๆ

    ผู้นำเนปาลระบุอาจตายถึงหมื่นศพ

    ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเหตุโศกนาฏกรรมสะเทือนใจชาวโลก ที่จนถึงวันนี้ (28 เม.ย.) เป็นวันที่ 4 แล้ว ที่แผ่นดินเนปาลยังทุกข์ระทมกับภัย พิบัติร้ายแรงในรอบ 80 ปี ว่า ปฏิบัติการค้นหาและแจกจ่ายความช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังเป็นไปอย่างล่าช้า แม้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเริ่มทยอยเดินทางถึงเนปาลแล้ว ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตตามรายงานของกระทรวงมหาดไทยเนปาล อยู่ที่ 4,349 คน บาดเจ็บเกือบ 8,000 คน ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บส่วนใหญ่อยู่ในเนปาล นอกนั้นอยู่ที่อินเดีย ธิเบต และบังกลาเทศ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้ด้วย ขณะที่นายกรัฐมนตรีสุชิล คอยราลา ของเนปาล ระบุว่าผู้เสียชีวิตอาจทะลุถึง 10,000 คน เพราะข้อมูลจากหมู่บ้านห่างไกล ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวยังมาไม่ถึงมือเจ้าหน้าที่ รัฐบาลกำลังทำอย่างสุดความสามารถทั้งภารกิจการค้นหาและบรรเทาทุกข์ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาท้าทายและยุ่งยากมากสำหรับเนปาลและไม่ต่างจากการเตรียมการทำสงครามเลยทีเดียว

    ชาวบ้านช่วยค้นหาตามมีตามเกิด

    ข่าวแจ้งด้วยว่าแม้ผู้นำประเทศเนปาลจะออกมายืนยันว่าได้ทำสุดความสามารถ เพื่อค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย อีกทั้งยังมีผู้รอดชีวิตได้รับการช่วยเหลือขึ้นมาจากใต้ซากอาคารบ้านเรือนอย่างต่อเนื่อง แต่ชาวบ้านยังไม่พอใจและเห็นว่าทางการรับมือภัยพิบัติแผ่นดินไหวล่าช้า หลายคนเลือกที่จะขุดค้นหาบุคคลผู้เป็นที่รักที่จมอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ที่อาจรอความหวังได้รับการช่วยชีวิตอยู่ด้วยมือเปล่าและเครื่องมือง่ายๆตามที่หาได้ ขณะที่ชาวบ้านอีกหลายคนช่วยกันค้นหาญาติที่อาจรอดชีวิตใต้ซากหอคอยเก่าแก่ยุคศตวรรษที่ 19 “ธาราฮารา” ที่ถล่มพังลงมาจากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว

    เผยยอดผู้ประสบภัยกว่า 8 ล้านคน

    ส่วนผู้คนจำนวนมากทั้งในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่อื่นๆ ยังต้องนอนค้างคืนในที่โล่งแจ้งรวมทั้งตามสวนสาธารณะและถนน เพราะหวาดผวากับอาฟเตอร์ช็อกและบ้านเรือนเสียหายอยู่อาศัยไม่ได้ โดยอาฟเตอร์ช็อกครั้งล่าสุดขนาด 4.7 แมกนิจูด เกิดเมื่อช่วงเช้าตรู่วันที่ 28 เม.ย. ด้านนักธรณีวิทยาเตือนว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นต่อเนื่องอีกประมาณ 1 เดือน ด้านรายงานของสำนักงานประสานงานเพื่อผู้อยู่อาศัยของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เผยถึงตัวเลขประเมินเบื้องต้นของผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวว่ามีประมาณ 8 ล้านคน กระจายอยู่ใน 39 อำเภอ ในจำนวนนี้มีกว่า 2 ล้านคน อยู่ใน 11 อำเภอที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก

    ช่วยคนลงจากยอดเอเวอเรสต์ได้แล้ว

    ข่าวระบุด้วยว่าในกลุ่มผู้ตกค้างบนหุบเขาเอเวอเรสต์มากกว่า 200 คน ได้รับการอพยพลงมาพื้นล่างทั้งหมดแล้ว เช่นเดียวกับเหล่าผู้เสียชีวิตในเหตุหิมะถล่ม จากแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ด้านสถานการณ์ในภูมิภาคห่างไกล ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังวิกฤติ โดยแพทย์หญิงรีเบคกา แม็คอาเทียร์ แพทย์ชาวอเมริกัน 1 ในกลุ่มคนแรกๆ ที่เดินทางเข้าถึงอำเภอกอร์คา ที่อยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหวเผยว่า บ้านเรือนผู้คนพังราบคาบกว่า 90% ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเผยว่า หมู่บ้านหลายแห่งที่อยู่รอบศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังเข้าถึงยากเพราะถนนหนทางถูกตัดขาดจากเหตุดินถล่มลงมากีดขวาง อีกทั้งสภาพอากาศเลวร้าย ก็เป็นอุปสรรคในการส่งเฮลิคอปเตอร์เข้าพื้นที่ด้วย

    นานาชาติยังระดมช่วยทุกทิศทาง

    ส่วนของความช่วยเหลือจากนานาชาติ ที่มีทั้งส่งเงินและอาสาสมัครมาช่วยเหลือเนปาล โฆษกกองทัพเนปาลแถลงว่า ทีมแพทย์และกู้ภัยจากอย่างน้อย 12 ประเทศ กำลังช่วยทหารและตำรวจเนปาลที่ถูกระดมมาเกือบทั้งกรมกอง ปฏิบัติหน้าที่ค้นหาและช่วยเหลือในกรุงกาฐมาณฑุและพื้นที่โดยรอบ การช่วยเหลือมาจากประเทศใหญ่ๆ เช่น อินเดียและจีน แต่ก็มีภูฏาน ประเทศเพื่อนบ้านเล็กๆ ส่งทีมแพทย์มาช่วยด้วย ขณะที่ทีมแพทย์และกู้ภัยจากรัสเซีย ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สวิตเซอร์แลนด์และสิงคโปร์ ทั้งเดินทางมาถึงแล้วและกำลังทยอยเดินทางมาสมทบ

    เฟซบุ๊ก–กูเกิล ช่วยกาชาดสากลค้นหา

    ขณะเดียวกัน แวดวงเทคโนโลยีสารสนเทศ ก็เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือเหยื่อแผ่นดินไหวด้วย เมื่อสื่อสังคมออนไลน์ “เฟซบุ๊ก” และเว็บสืบค้นข้อมูล “กูเกิล” ได้ร่วมกับคณะกรรมการกาชาดสากล (ไอ–ซีอาร์ซี) เปิดหน้าเพจตามค้นหาผู้สูญหายและให้ผู้ใช้ได้ติดต่อแจ้งข่าวญาติๆ รวมทั้งเป็นช่องทางบริจาคช่วยเหลือ ด้านบริษัทจัดหาภาพถ่าย “ดิจิตอลโกลบ” ในสหรัฐฯ เปิดให้คนช่วยตรวจสอบ ภาพถ่ายดาวเทียมคมชัดสูงของพื้นที่กว่า 14,000 ตารางกิโลเมตรทั่วเนปาล รวมทั้งภาพความเสียหายของอาคารและถนนหนทาง เพื่อช่วยทีมกู้ภัยที่ทำงานในพื้นที่ซึ่งก็มีคนอาสาช่วยดูกว่า 4,500 คน

    ระดมเงินบริจาคเบื้องต้นได้ 127 ล้าน

    ในส่วนประเทศไทยนั้นเมื่อเวลา 09.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เกาะลังกาวี สหพันธรัฐมาเลเซีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ระหว่างเข้าร่วมการประชุม สุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ 26 ว่า เสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ เร่งให้ความช่วยเหลือคนไทย ขณะนี้มีคนไทยในเนปาลเข้ามาอยู่อาศัยที่สถานเอกอัครราชทูตไทยแล้ว 40 คน นักศึกษาและนักท่องเที่ยวไทยในเนปาลปลอดภัยแล้วต้องขอชมกระทรวงการต่างประเทศที่จัดการได้ตามแผนช่วยเหลือ เบื้องต้น ทุกประเทศได้จัดส่งเงินช่วยเหลือประเทศละ 2 แสนดอลลาร์ ไทยจัดส่งทีมแพทย์ อาหารเครื่องนุ่งห่ม และสิ่งของจำเป็นไปช่วยเหลือแล้ว โดยกองทัพอากาศได้นำเครื่องบินซี 130 นำแพทย์ 7 คนไปช่วยจัดตั้งโรงพยาบาลสนามและศูนย์ประสานงานทางด้านการแพทย์ หลังจากนี้ประเทศไทยจะเตรียมส่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ เพื่อเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการพิสูจน์เอกลักษณ์ของผู้เสียชีวิตด้วย ได้สั่งการให้ทุกภาคส่วนเปิดรับการบริจาค จากประชาชนในทุกช่องทาง ขณะนี้ยอดการบริจาคอยู่ที่ 127 ล้านบาท

    ยอดเงินช่วยผ่านรายการ 56 ล้าน

    ที่กองการบิน กรมการขนส่งทหารบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและ ผบ.ทบ.กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวประเทศเนปาลว่า ตามที่ได้มีการจัดรายการรับบริจาคผ่านสถานีวิทยุและโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้ยอดเงินประมาณ 56 ล้านบาทเศษ ขณะที่สิ่งของต่างๆหากประชาชนจะบริจาค ประสานงานได้โดยตรงผ่านกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) และกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11 รอ. ) รวมถึงส่วนราชการอื่นๆ ก็พร้อมรับสิ่งของบริจาคด้วย กระทรวงกลาโหมส่งกำลังพลไปช่วยเหลือ 67 นาย กองทัพบกได้จัดชุดแพทย์และเครื่องทำน้ำดื่ม ผลิตน้ำได้ 6,000 ลิตรต่อวัน ได้สั่งการให้เตรียมชุดค้นหาและกู้ภัย รวมถึงชุดสุนัขดมกลิ่น กระทรวงสาธารณสุข พร้อมเดินทางไป ก็จะได้ไปช่วยเหลือร่วมกัน โดยในวันที่ 29 เม.ย.จะมีการลำเลียงเครื่องบิน C-130 นำเจ้าหน้าที่ และสิ่งของ นำไปช่วยเหลือต่อไป

    ส่งทหารไปเนปาลชุดแรก

    ส่วนที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง เช้าวันเดียวกัน พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผบ.ทหารสูงสุด มอบหมายให้ พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รอง ผบ.ทหารสูงสุด เป็นประธานในพิธีส่งกำลังพลทหารคณะช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล จำนวน 67 นาย พร้อมยุทโธปกรณ์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภคไปให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่เมืองกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ภายหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่ง ชาติ มอบหมายให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพไทยดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ เบื้องต้นชุดคณะช่วยเหลือดังกล่าวจะปฏิบัติงานเป็นเวลา 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย.-4 พ.ค.58 หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะสั่งการอีกครั้งว่าจะให้ดำเนินการอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ในการเดินทางไปเนปาลของกำลังพลทหารครั้งนี้ กองทัพไทยยังได้มอบเหรียญพระครูสังฆวิชัย (หลวงพ่อแช่ม) พร้อมผ้ายันต์ให้แก่กำลังพลที่ไปปฏิบัติหน้าที่ทุกคน เพื่อเสริมสร้างกำลังใจและความเป็นสิริมงคลด้วย ซึ่งในการนี้ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ผช.ผบ.ทบ. ได้ไปร่วมส่งกำลังพลครั้งนี้ด้วย

    ใช้งบ 100 ล้านบาทหนุนปฏิบัติภารกิจ

    พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในช่วงต้นการประชุม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานในที่ประชุม ได้สั่งการเกี่ยวกับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล โดย ครม.ยังได้อนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท ใช้ในการปฏิบัติภารกิจทุกส่วนของการช่วยเหลือ กำชับให้ทุกส่วนราชการได้ติดตามการช่วยเหลือเพิ่มเติม ตามที่เนปาลร้องขอมา โดยเฉพาะการฟื้นฟูบูรณะต่างๆ ในฐานะที่ไทยเคยมีประสบการณ์ด้านการบรรเทาภัยพิบัติขนาดใหญ่มาแล้ว และ พล.อ.ประวิตรยังได้กล่าวขอบคุณส่วนราชการ คนไทยทุกคน ที่ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจากรายการ “หัวใจไทยส่งไปเนปาล” ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย. มียอดบริจาคผ่านรายการรวมเบ็ดเสร็จทั้งสิ้น 56 ล้านบาทเศษ ส่วนการรับบริจาคเงินของรัฐบาลนั้น ได้เปิดบัญชี “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล” ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ของสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 เท่านั้น เพื่อป้องกันการหลอกลวงของผู้ไม่ประสงค์ดี

    สปช.หักเงินเดือนคนละ 2 พันช่วย

    ตอนสาย ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่มี น.ส.ทัศนา บุญทอง รองประธาน สปช.คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ได้ขอความเห็นเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ที่ผ่านมา ประธาน สปช.ได้สั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการ สปช.รับแจ้งการบริจาคสิ่งของของสมาชิก สปช.ที่ศูนย์รับฟังความคิดเห็น สปช. ซึ่งสิ่งของจะมอบผ่านสภากาชาดไทย ขณะที่ที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยให้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยเหลือ ด้วยการหักเงินจากบัญชีค่าตอบแทนของ สปช. จำนวน 2,000 บาท ส่วนคนใดจะบริจาคเพิ่มสามารถทำได้ โดยเงินทั้งหมดจะมอบผ่านรายการที่รัฐบาลจัดขึ้น เพื่อส่งมอบให้ประเทศเนปาลต่อไป

    สนช.ตั้งโต๊ะรับช่วยผู้ประสบภัย

    นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วิป สนช.) กล่าวว่า นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช.มีดำริถึงการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินไหวที่เนปาล ซึ่งสมาชิกหลายคนแสดงความเห็น และห่วงใยชาวเนปาล จึงมีความเห็นตรงกันว่า จะเปิดให้สมาชิก สนช.บริจาคเงินตามศรัทธาเพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยดังกล่าว โดยในวันที่ 30 เม.ย.จะตั้งโต๊ะรับบริจาคที่บริเวณหน้าห้องประชุมรัฐสภา 1 และยังร่วมบริจาคเงินได้ที่กลุ่มงานการเงิน สำนักการคลัง ชั้น 1 อาคาร 2 หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธ.กรุงไทย สาขารัฐสภา ชื่อบัญชี “สภานิติบัญญัติแห่งชาติช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวเนปาล 2558” เลขที่บัญชี 089-0-16216-6 โดยขณะนี้นายพรเพชรได้ร่วมบริจาคแล้วเป็นเงิน 10,000 บาท

    ขอบริจาคเต็นท์–เสื้อกันหนาว

    ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาลว่า ที่ประชุม ครม.ได้หารือถึงการให้ความช่วยเหลือ โดยกระทรวงมหาดไทยมีแนวคิดว่าจะช่วยเหลือสิ่งของจำพวกเต็นท์ เครื่องกันหนาว อาหารพร้อมทาน ส่วนที่ประเทศเนปาลขอความช่วยเหลือเป็นเงินบริจาคและจิตอาสามากกว่านั้น รัฐบาลต้องนำมาพิจารณา กระทรวงการต่างประเทศคงจะประเมินเรื่องนี้เสนอรัฐบาล เมื่อถามถึงมีการทำบัญชีแอบอ้าง จากกลุ่มมิจฉาชีพเพื่อรับบริจาค พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่า ไม่น่าจะมี และมีศูนย์ดำรงธรรมเป็นจุดศูนย์รวมในแต่ละพื้นที่ ได้กำชับศูนย์ดำรงธรรมเพื่อไม่ให้ประชาชนเสียความตั้งใจในการบริจาค ส่วนข้อกังวลจากบางฝ่ายว่าประเทศไทย อาจอยู่ในพื้นที่ที่จะเกิดแผ่นดินไหวก็เชื่อไม่น่ามีผล แต่รัฐบาลก็ต้องมีความพร้อมและมีแผนป้องกันในระยะยาว ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนก วันที่ 29 เม.ย. จะประชุมของกระทรวงมหาดไทย โดยจะย้ำเรื่องการเฝ้าระวังด้วย

    ไทยมอบเงินช่วยเบื้องต้น 6 ล้านบาท

    วันเดียวกัน ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนรชิต สิงหเสนี ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนมอบเงินบริจาคเบื้องต้นของรัฐบาลไทย จำนวน 2 แสนเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลเนปาล ผ่านทางนายขคนาถ อธิการี เอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย โดยเอกอัครราชทูตเนปาล ได้ขอบคุณทางการไทยและประชาชนไทย ที่แสดงความประสงค์ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาลเป็นจำนวนมากและรวดเร็ว โดยทราบว่ามีผู้มอบทั้งเงิน สิ่งของ และอาสาไปให้ความช่วยเหลือที่เนปาล จึงรู้สึกซาบซึ้งและเป็นเกียรติต่อมิตรภาพที่ชาวไทยมอบให้

    เผยต้องการของใช้พื้นฐาน

    เอกอัครราชทูตเนปาล กล่าวว่าสำหรับสิ่งของจำเป็นเร่งด่วน ที่รัฐบาลเนปาลต้องการขณะนี้ คือ ของใช้พื้นฐาน ได้แก่ เต็นท์ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค ผ้าห่ม เวชภัณฑ์ และน้ำดื่มโดยหากมีผู้ประสงค์บริจาคเงินเพิ่มเติมให้กับสถานทูตฯ เดินทางมามอบให้ได้โดยตรงที่สถานทูตฯ หรือโอนเงินผ่านบัญชี กระแสรายวัน ธนาคารกรุงเทพ เลขที่ 9313500234 ชื่อบัญชี Nepal Earthquake Relief Fund และบัญชีกระแสรายวัน ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 0713017184 ชื่อบัญชี Nepal Earthquake Relief Fund สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ HOME หรือเฟซบุ๊กของสถานทูต “The Embassy of Nepal in Bangkok”

    นักท่องเที่ยว–นศ.รอกลับบ้าน

    นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลง ขณะนี้คนไทยที่พำนักในสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเนปาล จำนวน 45 คน ทุกคนปกติสุขดี มีผู้แจ้งความจำนงกลับไทยแล้ว 30-40 คน ส่วนนักศึกษาแพทย์ 6 รายอยู่ที่โพคารา สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเนปาล กำลังประสานให้เดินทางมายังกาฐมาณฑุ แต่เนื่องจากขณะนี้เนปาลระงับสายการบิน จึงมีการประสานเส้นทางโดยรถยนต์ และตามที่กระทรวงมหาดไทยได้ตั้งศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศนั้น สิ่งของที่บริจาค ควรเป็นของที่ยังไม่เคยใช้งาน ถ้าเป็นอาหารแห้ง หลีกเลี่ยงส่วนผสมของเนื้อวัวเนื่องจากชาวเนปาลส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู

    พ่อน้องอีฟเปลี่ยนใจจัดงานศพลูกในไทย

    ด้านครอบครัวของ น.ส.มารีสา อีฟ จีระวงศ์ไกรสร ผู้ช่วยแพทย์สาวไทยที่เสียชีวิตจากภูเขาหิมะถล่มเสียชีวิต ตอนสายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายอาคม จีระวงศ์ไกรสร บิดาของน้องอีฟ-น.ส.มารีสา ว่า ครอบครัวได้ปรึกษากันแล้วคิดว่าจะขอนำศพบุตรสาวกลับมาจัดพิธีศพในประเทศไทย เนื่องจากนางวีรุดา มารดา ยังอยู่ในอาการเศร้าโศกและไม่สะดวกที่จะเดินทางไปสหรัฐฯ อีกทั้งญาติๆ อยากให้นำศพมาทำพิธีที่ประเทศไทย ตนเห็นว่าอีฟ เคยตั้งใจไว้ว่าจะกลับมาอยู่เมืองไทย เพื่อดูแลบิดามารดาและทำประโยชน์ช่วยเหลือคนไทย จึงตัดสินใจที่จะนำศพอีฟกลับมาเมืองไทย โดยได้แจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศเนปาลแล้วว่า จะให้สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเนปาล ช่วยดำเนินการจัดนำศพอีฟกลับมาประเทศไทยและจะแจ้งให้กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล ช่วยประสานงานกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำเนปาล ดำเนินการแทนตนนำศพน้องอีฟกลับประเทศไทย

    แยกอัฐิ 2 ส่วนเก็บไทย-สหรัฐฯ

    นายอาคมเปิดเผยอีกว่า ครอบครัวนับถือศาสนาคริสต์ แต่ก็ได้ให้ญาติช่วยกันติดต่อว่า เมื่อทำพิธีทางศาสนาคริสต์แล้ว ตั้งใจจะฌาปนกิจ จากนั้นแยกอัฐิอีฟเป็น 2 ส่วน เก็บไว้ที่ประเทศไทย 1 ส่วน เนื่องจากอีฟตั้งใจจะกลับมาใช้ชีวิตกับบิดามารดาที่ประเทศไทย เมื่อไม่มีโอกาสมาอยู่ยังมีชีวิต ก็ขอนำอัฐิเก็บไว้ที่ประเทศไทยแทน อีก 1 ส่วนนำกลับไปฝังที่ประเทศสหรัฐฯสถานที่เกิด เวลาที่ตนและภรรยากลับไปสหรัฐฯ จะได้ไปหาอีฟด้วย เนื่องจากตน และภรรยาแบ่งเวลาไปๆมาๆ ระหว่างประเทศไทยและประเทศสหรัฐฯ 3 เดือนครั้ง นายอาคมเผยด้วยว่า ชีวิตตนรอดตายมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกช่วงคนร้ายลอบวางระเบิดที่ตึกเวิลด์เทรด ขณะนั้นทำงานเป็นผู้จัดการบริษัทซีพี สำนักงานนิวยอร์ก ตอนระเบิดก็อยู่ในตึก แต่ไม่เป็นอันตราย ครั้งที่สองตอนกลับประเทศไทยก่อนที่คนร้ายจะขับเครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรดถล่ม คิดว่าบั้นปลายจะอยู่กับลูกๆ แต่ไม่คิดว่าอีฟจะจากไปก่อน ขอขอบคุณกำลังใจที่ทุกคนมอบให้

    แม่ยังทำใจไม่ได้ลูกจากกะทันหัน

    ส่วนนางวีรุดา จีรวงศ์ มารดาของอีฟ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ายังไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์หรือพูดคุยกับบุคคลภายนอก แต่นางวีรุดาได้ติดตามข้อความต่างๆที่ชาวไทยในสหรัฐฯโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กของศูนย์วัฒนธรรมไทยแห่งรัฐนิวยอร์ก โดยมีข้อความแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอาคมและนางวีรุดา พร้อมทั้งอธิษฐานจิตให้อีฟเป็นเด็กน่ารักและเป็นนางฟ้าของทุกๆคน ขอให้หลับสบายไปสู่สรวงสวรรค์ พร้อมกันนี้นางสุจิตรา ปาลีวงศ์ ประธานศูนย์วัฒนธรรมแห่งรัฐนิวยอร์ก ได้โพสต์แจ้งทุกคนว่า ชาวไทยในนิวยอร์กจะทำบุญให้กับอีฟ วันที่ 2 พ.ค.นี้ ที่วัดพุทธไทยถาวร นครนิวยอร์ก เลี้ยงพระเพลและมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพช่วงบ่าย ขณะที่นางวีรุดาได้โพสต์ข้อความตอบว่า “ขอบคุณทุกคนที่รู้จักและไม่รู้จัก แม่เสียใจอย่างสุดซึ้งกับการสูญเสียน้องเขาไป เขาคงไม่รักแม่ถึงทำแบบนี้”

    รองปลัด สธ.นำทีมไปช่วยเนปาล

    อีกด้านในส่วนการเดินทางไปช่วยเหลือชาวเนปาล ของทีมแพทย์กระทรวงสาธารณสุขนั้น วันเดียวกัน นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา ผู้ช่วย ผอ.รพ.ราชวิถี เดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล โดยสายการบินไทยเที่ยวบินที่ทีจี 319 นพ.สุริยะกล่าวว่า เบื้องต้นได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติภารกิจ 2 วันแต่จะมากกว่านั้นหรือไม่อยู่ที่สถานการณ์ ก่อนรายงานกลับมาที่กระทรวง การเดินทางล่วงหน้าไปเพื่อประสานกับสถานทูตไทยในเนปาลและสหประชาชาติ รวมถึงสาธารณสุขของประเทศเนปาลว่ามีความต้องการให้ทีมแพทย์ช่วยเหลือลักษณะใดบ้าง เพราะยังมีอีกหลายเมืองที่ประสบภัย รวมถึงหาสถานที่จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม

    4 ทีมแพทย์-เวชภัณฑ์พร้อม

    รองปลัด สธ.กล่าวต่อไปว่า ตอนนี้ทีมแพทย์และเวชภัณฑ์พร้อมแล้ว มีทีมแพทย์ 4 ทีม ทีมละ 16-17 คน เป็นกลุ่มที่มีประสบการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนใหญ่อุบัติภัยที่เกิดขึ้นในไทยก็เป็นที่ฝึกฝนทีมแพทย์เหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ทั้งน้ำท่วมใหญ่ สึนามิ และโคลนถล่ม โดยทีมแพทย์ที่จะเดินทางเข้าช่วยเหลือจะอยู่ 14 วันหมุนกันไป รวมถึงยังมีทีมแพทย์จากกองทัพไทยและทีมแพทย์จากญี่ปุ่นที่จะเดินทางเข้าไปให้การช่วยเหลือ ทั้งนี้ทีมที่ไปจะต้องดูแลตัวเองได้ จึงเตรียมอุปกรณ์ภาคสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบสื่อสาร เครื่องปั่นไฟ รวมทั้งอาหารน้ำดื่มไปเอง สำหรับการทำงานของทีมแพทย์ จะทำงานเหมือนในห้องฉุกเฉิน ที่สามารถช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บก่อนส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหลักของเนปาลเพื่อรักษาต่อไป

    แห่บริจาคที่ศูนย์ดำรงธรรมทั่วประเทศ

    ขณะที่ศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ ที่ศูนย์ดำรงธรรมในแต่ละจังหวัด ได้เปิดเป็นศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล มีข้าราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมาคม ชมรม มูลนิธิ บริษัท ห้างร้าน พ่อค้าแม่ค้าและประชาชน นำข้าวของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภคบริโภค เครื่องนุ่งห่ม น้ำดื่ม อาหารสำเร็จรูป และเงินสด เดินทางมาบริจาคจำนวนมาก นอกจากนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาบางจังหวัดยังเปิดศูนย์รับบริจาคตามวัดต่างๆ อาทิ จ.พิษณุโลก ที่วัดราชบูรณะ จ.นครศรีธรรมราช ที่โรงเรียนปริยัติธรรมฯ ภายในวัดสระเรียง เพื่อรวบรวมน้ำใจของเหล่าพุทธศาสนิกชนในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ได้รับความเดือดร้อน

    เชียงใหม่ระวัง 10 รอยเลื่อน

    นายธนะสิทธิ์ เอี่ยมอนันชัย ผอ.ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เผยว่า หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาลทำให้รอยเลื่อนเปลือกโลกขยับหลายแห่ง โดยพื้นที่ จ.เชียงใหม่ มีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 10 รอย ปีที่แล้วเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 5 พ.ค.57 เกิดจากรอยเลื่อนพะเยา จุดศูนย์กลางอยู่ที่ อ.แม่ลาว จ.เชียงราย แต่อาฟเตอร์ช็อกของแผ่นดินไหวที่เนปาลมากกว่าที่ อ.แม่ลาว ขณะนี้ต้องเฝ้าระวังรอยเลื่อนทั้งหมด เพราะหากรอยเลื่อนไหนขยับทุกรอยจะขยับตามไปหมด การเกิดแผ่นดินไหวไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ จึงได้แต่เฝ้าระวังอย่างเดียว กรมอุตุนิยมวิยาภาคเหนือมีเครื่องมือตรวจวัดการเกิดแผ่นดินไหวหลายจุด เพื่อเฝ้าระวังมาโดยตลอด ด้านนายพุทธิพงษ์ ศิริมาศ ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า เพื่อความไม่ประมาทจะมีการซ้อมแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยและการเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหวเพื่อให้ประชาชนป้องกันตัวเองได้เพราะ จ.เชียงใหม่ มีตึกและอาคารสูงจำนวนมาก

    ช่างปูนปั้นเมืองเพชรปลอดภัย

    นายทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (ประณีตศิลป์-ศิลปะปูนปั้น) เผยว่า รู้สึกเป็นห่วงนายสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้นเมืองเพชรบุรี น้องชาย พร้อมคณะรวม 7 คน ที่เดินทางไปทำงานปูนปั้นประดับพระอุโบสถวัดกีรติวิหาร เมืองกิติภูร ประเทศเนปาล ซึ่งอยู่ใกล้กับกรุงกาฐมาณฑุที่เกิดแผ่นดินไหว ทราบว่าทั้งหมดปลอดภัย มีเพียงบางคนที่ขาแพลงเนื่องจากกระโดดลงจากนั่งร้านขณะเกิดแผ่นดินไหว แต่ความเป็นอยู่ลำบาก ต้องออกมานอนในสนามหรือที่โล่ง ยังเดินทางกลับเมืองไทยไม่ได้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือด้วย นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้เหล่าพุทธศาสนิกชนให้ความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบภัยด้วยเนื่องจากเนปาลถือเป็นพุทธภูมิแห่งหนึ่ง

    เงินบริจาคลดหย่อนภาษีได้

    นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า จากเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล และมีหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศไทย ร่วมกันช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว โดยมีการเปิดรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อรวบรวมส่งไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์ให้แก่ชาวเนปาลนั้น กรมสรรพากรขอชี้แจงว่า การบริจาคช่วยเหลือในกรณีดังกล่าว ผู้บริจาคสามารถนำเงินหรือมูลค่าทรัพย์สินที่บริจาคไปหักเป็นค่าลดหย่อน หรือหักเป็นรายจ่ายในการเสียภาษีได้ ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่มีอยู่

    เที่ยวบินลงเนปาลเข้าที่แล้ว

    อีกด้าน พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เรื่องการส่งความช่วยเหลือไปยังประเทศเนปาลนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแสดงความเป็นห่วงมาก ได้รายงานการจัดกิจกรรมระดมทุนผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ได้เงิน 56 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้จัดส่งเจ้าหน้าที่และความช่วยเหลือจากกระทรวงต่างๆไปกับเครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศ และจะมีการรับคนกลับมาด้วย ส่วนปัญหาการจราจรทางอากาศ ที่สนามบินตรีภูวัน เมื่อวันที่ 27 เม.ย. ที่เที่ยวบินจากไทยไม่สามารถขึ้นลงได้นั้น สถานการณ์ขณะนี้ถือว่าเข้าที่แล้ว ดังนั้น การช่วยเหลือต่างๆจะต้องรอให้เนปาลเป็นฝ่ายเรียกร้องมาก่อน การที่ไทยจะเข้าไปช่วยเหลือเรื่องการบริหารการบินมีข้อจำกัดเรื่องของภาษาในการสื่อสารภายใน ดังนั้น ถ้าเขาไม่เชิญก็อย่าไปยุ่ง แต่เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือ

    “บินไทย” พร้อมขนส่งแพทย์–อาหาร

    นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในส่วนของการบินไทยจะเป็นสายการบินหลัก ในการขนส่งความช่วยเหลือด้านสิ่งของบรรเทาทุกข์และบุคลากรด้านการแพทย์ การกู้ภัยไปยังประเทศเนปาล ตลอดจนสนับสนุนภาครัฐ กองทัพ และสภากาชาดไทย เพื่อช่วยเหลือตามแผนของรัฐบาลไทย ตลอดจนการขนส่งสิ่งของที่กระทรวงการต่างประเทศได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตเนปาลประจำประเทศไทย รวมทั้งมีการจัดอาหารกล่อง 200 กล่อง และน้ำดื่ม 500 ขวด จากครัวการบินไทยส่งไปกับเที่ยวบินของการบินไทยทุกวัน เพื่อช่วยเหลือคนไทยในสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุด้วย

    นศ.เนปาลซึ้งใจคนไทย

    นายคารุน ชัคยา อายุ 29 ปี ชาวเนปาล นักศึกษาปริญญาโทคณะเภสัชศาสตร์ 1 ใน 14 นักศึกษาชาวเนปาล ที่เดินทางมาศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) วิทยาเขตหาดใหญ่ จ.สงขลา เผยว่า หลังเกิดเหตุพยายามติดต่อกลับไปที่บ้านเกิด ในกรุงกาฐมาณฑุ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงส่งข้อความเข้ามือถือของน้องชาย วันรุ่งขึ้นได้รับข้อความตอบกลับว่าทั้งพ่อ แม่ และน้องชาย ทุกคนปลอดภัย แม่โทร.กลับมาหาและเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทราบว่าบ้านได้รับความเสียหายเล็กน้อย ส่วนคนละแวกใกล้เคียงส่วนใหญ่ปลอดภัย แต่ในพื้นที่เมืองหลวงยังมีผู้คนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือโบราณสถานที่เป็นมรดกโลกหลายแห่งได้รับความเสียหาย นอกจากจะเป็นการยากในการบูรณะฟื้นฟูแล้วยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของเนปาล เนื่องจากรายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยว ขณะนี้ความช่วยเหลือต่างๆจากนานาชาติแม้เพียงเล็กน้อยก็ถือว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง จึงขอขอบคุณมหาวิทยาลัยและประชาชนชาวไทยทุกคนที่กำลังระดมความช่วยเหลือชาวเนปาลอยู่ในขณะนี้

    นักท่องเที่ยวไทยเผยนาทีระทึก

    ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 19.00 น. กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 30 คน เดินทางกลับจากประเทศเนปาล ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินที่ทีจี 3209 โดยเป็นกลุ่มที่ตกค้างอยู่ที่สนามบินตรี–ภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ ตั้งแต่วันที่ 27 เม.ย. นายศุภวัฒน์ แย้มประเสริฐ อายุ 30 ปี หนึ่งในนักท่องเที่ยว กล่าวว่า เดินทางไปเที่ยวและปีนเขากับพี่สาว ตั้งแต่วันที่ 20 เม.ย. วันเกิดเหตุเดินท่องเที่ยวตามโบราณสถานในเมืองกาฐมาณฑุ จู่ๆ ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง ตอนนั้นตกใจมาก รีบพาพี่สาววิ่งไปอยู่กลางที่โล่งแจ้ง หลังเหตุการณ์สงบต้องดูแลตัวเองรวมกลุ่มอยู่กับนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่อยู่รวมกันเป็นจุดๆ พอวันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปที่สนามบินรอขึ้นเครื่องกลับไทย ตอนนั้นลำบากมาก เพราะไม่รู้ว่าจะได้ขึ้นเครื่องตอนไหน ไม่มีเจ้าหน้าที่มาดูแล อาหารที่สนามบินก็ไม่มี ต้องนอนทนหิวอยู่ 2 คืนถึงจะได้กลับเมืองไทย พอถึงเมืองไทยได้พบเพื่อนที่มารอรับที่สนามบินก็ดีใจมาก เพราะหลังเกิดเหตุติดต่อใครไม่ได้เลย

    สลด..ตายกว่า 5 พันเจ็บกว่าหมื่น

    เวลา 19.30 น. ตามเวลาในไทย สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า หน่วยงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ สังกัดกระทรวงมหาดไทยของเนปาล แถลงปรับยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวเพิ่มเป็น 5,057 คน ส่วนผู้บาดเจ็บมีมากกว่า 10,000 คน และยังมีรายงานเชื่อว่ามีคนสูญหายมากถึง 250 คนในเหตุดินและหิมะถล่มในหมู่บ้านชนบทห่างไกลแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตเดินป่ายอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทางเหนือกรุงกาฐมาณฑุ แต่ด้วยสภาพอากาศเลวร้ายและมีฝนตก ทำให้การค้นหาช่วยเหลือทำได้ไม่เต็มที่ ขณะเดียวกัน มีรายงานเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.8 แมกนิจูด ลึกใต้ดิน 71 กม. ในพื้นที่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเอกวาดอร์ แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บและความเสียหาย

    นำศพน้องอีฟลงจากยอดเขาแล้ว

    สำหรับศพของอีฟนั้น มีรายงานว่าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเนปาล ได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ของประเทศเนปาล นำศพ น.ส.มาริสา หรือน้องอีฟจากจุดเกิดเหตุ คือเทือกเขาเอเวอเรสต์ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ไปส่งที่กรุงกาฐมาณฑุ โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำเนปาล ได้จัดรถพยาบาลไปรับศพมาเก็บไว้ในห้องเย็นของสถานเอกอัครราชทูต เพื่อรอการส่งศพไปตามที่ญาติต้องการต่อไป

    กต.ปัดข่าวคนไทยถูกสถานทูตทอดทิ้ง

    ขณะเดียวกัน นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมช.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีข่าวที่มีการร้องเรียนจากคนไทยที่ประสบเหตุในเนปาลบางส่วน อ้างว่า ไม่ได้รับการดูแลจากสถานเอกอัครราชทูตไทยฯ เท่าที่ควรว่าไม่น่าจะเป็นอย่างนั้น อาจเป็นความเข้าใจผิดกัน เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยทุกคน มีภารกิจสำคัญที่ต้องดูแลคนไทยที่มีความทุกข์ยาก อีกทั้งเจ้าหน้าที่ของไทยทุกฝ่าย ซึ่งไปทำหน้าที่ดูแลผู้ประสบภัยที่เนปาล ก็ให้การช่วยเหลือคนไทยถ้วนหน้า ตอนนี้มีคนไทยไปพักอยู่ในภายในพื้นที่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯ จำนวนหลายสิบคน

    คาด'เนปาล'ตาย ทะลุหมื่น ประสบภัย8ล้าน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สื่อนอกแพร่ภาพจากโดรน เผยความเสียหายจากดินไหวเนปาล (ชมคลิป)
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 28 เม.ย. 2558 03:21

    [​IMG]

    (ภาพ: AP Photo)

    สื่อต่างประเทศเผยแพร่ภาพจากคลิปวิดีโอซึ่งถ่ายโดยโดรน แสดงให้เห็นภาพความเสียหายจากแผ่นดินไหวภายในกรุงกาฐมาณฑุจากบนท้องฟ้า ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 4,000 รายแล้ว...

    <iframe width="570" height="351" src="https://www.youtube.com/embed/fFRPFMGptJE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    สำนักข่าวต่างประเทศเผยแพร่คลิปวิดีโอซึ่งถ่ายจากอากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน แสดงให้เห็นความเสียหายภายในประเทศเนปาล ที่เกิดจากแผ่นดินไหวลูกใหญ่แรงสั่นสะเทือนระดับ 7.8 แมกนิจูด เมื่อวันที่ 25 เม.ย. โดยขณะนี้ มีผู้เสียชีวิตในเนปาลและประเทศข้างเคียงแล้วกว่า 4,000 ราย

    ภาพจากโดรนแสดงให้เห็นความเสียหายมากมายเกิดกับอาคารบ้านเรือนทั่วกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงของประเทศ อาคารเก่าแก่หรือโบราณสถานหลายแห่งรวมถึง หอธาราฮารา หอคอยสูง 9 ชั้น ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1832 พังถล่มลงมาทั้งหมด

    ขณะเดียวกัน ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บหลายพันคนในประเทศเนปาล ต้องนอนในเต็นท์กลางแจ้งเป็นคืนที่ 3 เมื่อวันจันทร์ เนื่องจากพวกเขาหวั่นวิตกว่า อาคารซึ่งได้รับความเสียหายจากเผ่นดินไหวและอาฟเตอร์ช็อกเกือบ 100 ลูก จะพังถล่มลงมาอีก ด้านหน่วยกู้ภัยก็ยังคงขุดซากปรักหักพังเพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตต่อไป แม้ความหวังเริ่มเลือนรางแล้วก็ตาม

    สื่อนอกแพร่ภาพจากโดรน เผยความเสียหายจากดินไหวเนปาล (ชมคลิป) - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การเจรจาระหว่าง “สหรัฐฯ” กับ “อิหร่าน” จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ (1)
    เรื่องเด่นประเด็นร้อนby ยูซุฟ ญาวาดี - เม.ย. 27, 2015

    [​IMG]

    เนื่องด้วยความสัมพันธ์ และการแลกเปลี่ยน ระหว่าง สหรัฐ กับ อิหร่าน เป็นปรากฎหนึ่งที่มีผลอย่างลึกซึ้งต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เพื่อที่จะวิเคราะห์ และวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการเจรจาล่าสุดระหว่างสองประเทศนี้ จึงจำเป็นที่จะต้องศึกษาถึงจุดเริ่มต้นทางประวัติศาสตร์ของเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองฝ่าย

    ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์และการเจรจาต่อรอง ระหว่าง อิหร่าน และ สหรัฐ

    ในยุคปี 50 เมื่อ อังกฤษ สูญเสียอิทธิพล และสถานะของตนในอิหร่าน เนื่องด้วย เหตุการณ์ที่ทำให้อุตสาหกรรมน้ำมัน เป็นอุตสาหกรรมแห่งชาติ รัฐบาลบริเตนได้ท้วงติงต่อศาลโลกและสหประชาชาติด้วยท่าทีที่ขึงขัง และได้แสดงท่าทีที่จะปิดล้อมอิหร่านด้วยวิธีทางทหาร นี่จึงเป็นเหตุให้สหรัฐอเมริกาสามารถเข้าแทรกแซง และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากน้ำมัน เพราะในช่วงเวลานั้น อิหร่านนับเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับที่ 4 ของโลก

    สหรัฐซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศมหาอำนาจซึ่งอยู่ในระดับแถวหน้า มีบทบาทโดยตรงในการแทรกแซงอิหร่านในเวลานั้น โดยนำเสนอการเข้าแทรกแซงครั้งนี้ในฐานะผู้สร้างสันติ และยังสามารถทำให้คนทั่วไปและองค์กรกลุ่มต่างๆในอิหร่าน คิดว่า พวกเขามาช่วยแก้ไขปัญหาในประเทศ

    และเพราะการแทรกแซงครั้งนี้ อุตสาหกรรมน้ำมันที่น่าจะเป็นของชาวอิหร่าน จึงตกไปอยู่ในมือของชาวต่างชาติอย่างสหรัฐ โดยมีรัฐบาลที่ฝักใฝ่นิยมตะวันตกในสมัยชาห์ ปาลาวี คอยช่วยเหลือและการันตีการเข้ามาครั้งนี้ของสหรัฐ สิ่งนี้เองทำให้อุตสาหกรรมน้ำมันแห่งชาติของอิหร่าน ตกไปอยู่ในมือของสหรัฐอย่างแยบคาย และเมื่อมีการเสนอให้ทำรัฐประหารโดยสหรัฐ กลุ่มองค์กรที่มีชื่อว่า ฮัยอัตฮากีเมะฮ ได้เป็นผู้ลงมือทำรัฐประหารในครั้งนี้

    นี่คือก้าวแรกในการปรากฎตัวของสหรัฐในอิหร่าน โดยการปรากฎตัวครั้งนี้ ทำให้พรรคชาติอิหร่าน ที่ได้ต่อสู้เพื่ออุดมการณ์ที่ยึดถือมาเป็นเวลาหลายปี ถูกยุบลงอย่างรวดเร็ว

    หลายปีหลังจากนั้น หลังจากเกิดการรัฐประหารในวันที่ ในปี 1953 จนถึงการปฏิวัติอิสลาม ในปี 1979 อเมริกาสามารถกำหนดทิศทางต่างๆ ในวงการต่างๆ ของอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็น เศรษฐกิจ, การเมือง, วัฒนธรรม และยังสามารถใช้อิทธิพลที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้นในการทำให้อิหร่านเป็นประเทศที่ใช้สำหรับตั้งฐานทัพได้อีกด้วย

    อิทธิพลของสหรัฐมากมายไปจนถึงขั้นที่ หากจะต้องมีการตัดสินใจอะไรที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศ พวกเขาสามารถกำหนดบทบาทได้อย่างเปิดเผย พวกเขายังสามารถหยุดยั้งการเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตามที่มีกลิ่นของ “เอกราช” หรือ “การปลดแอกจากอิทธิพลของชาวต่างชาติ” ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

    ความสัมพันธ์ของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไปเป็นระยะเวลาประมาณ 8 เดือน หลังจากการปฏิวัติอิสลามครั้งใหญ่ หลังจากที่ราชวงศ์ปาลาวี หลบหนีออกนอกประเทศ ทว่าบรรยากาศและยุคใหม่ของอิหร่านได้เริ่มต้นแล้ว เป็นยุคที่ประชาชนอิหร่าน เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วย คำสามคำ คือ “อิสติกลาล ออซอดีย์ ญุมฮูรีเยอิสลามีย์” หมายถึง “เอกราช เสรีภาพ สาธารณรัฐอิสลาม” นั่นคือสามสิ่งที่ประชาชนชาวอิหร่านต่างเรียกร้องให้เกิดขึ้น

    ยุคใหม่เริ่มต้นด้วยการประกาศความเป็นเอกราชของประชาชนชาวอิหร่าน และการประกาศไม่ยอมตกอยู่ภายใต้เงาของต่างชาติใดๆ อีก โดยยุคนี้เริ่มต้นด้วยการนำของ ซัยยิด รุฮุลลอฮ มูซาวีย์ โคมัยนี การปฏิวัติจึงค่อยๆ แผ่กระจายไปทั่วทั้งประเทศ และหลังจากนั้น หลังจากที่การปฏิวัติใหม่ครั้งนี้ดำเนิน ไปอย่างสำเร็จลุล่วง ความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างสหรัฐ กับ ประเทศที่มีชื่อใหม่ว่า “สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน” จึงถูกตัดขาดอย่างสมบูรณ์



    อิหร่าน และ สหรัฐ หลังจากปี 79

    หลังจากที่ได้มีการบุกยึดสถานทูตที่นับเป็นศูนย์กลางในการสอดแนมของสหรัฐในเวลานั้น โดยนักศึกษามหาวิทยาลัย มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แผนสมคมคิด, เกิดความพยายามในการแทรกแซง, ความพยายามที่จะทำลายการปฏิวัติ, การลอบสังหาร, การสนับสนุนจากกลุ่มต่างๆ ที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน, กลุ่มต่อต้านการปฏิวัติ การคว่ำบาตรต่างๆ จนไปสู่การที่สหรัฐสนับสนุนซัดดัมให้เปิดสงครามกับอิหร่าน ในสงคราม 8 ปี

    และตัวอย่างการเดินทางของนาย โรเบิร์ต แม็ก ฟาร์เลน (Robert Mcfarlane) ที่ปรึกษาเฉพาะของประธานาธิบดีเรแกนในช่วงเวลานั้น ที่ได้เดินทางมาเตหะราน ในปี 87 ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงที่ความขัดแย้ง และความเป็นศัตรูระหว่างอิหร่า นกับอเมริกา อยู่ในระดับที่น่าตึงเครียด เพรา เป็นช่วงที่อิหร่าน ต้องรับศึกในระดับสูง โดยการเดินทางของโรเบิร์ตเป็นการเดินทางอย่างลับถึงที่สุด

    แต่หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิหร่านสังกัดกองทัพ ก็ได้เปิดโปงการมาของนายโรเบิร์ต ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที นายฮาชิมี รัฟซันญานี กล่าวถึงเสมอ ถึงความไม่ซื่อสัตย์ของสหรัฐ เพราะการเดินทางของนายโรเบิร์ต เป็นการเดินทางที่ผิดกฎหมาย นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่ดูเหมือนว่า สหรัฐพยายามที่สร้างสถานการณ์ในการโจมตีอิหร่าน เช่นการระเบิดของเครื่องบินผู้โดยสารชาวอิหร่าน ในบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหลายร้อยคน

    นอกจากนี้ ยังมีอีกปรากฎการหนึ่ง ที่ทำให้สหรัฐสามารถส่งคนเข้าพื้นที่ตะวันออกกลาง นั่นก็คือ การแสดงความประสงค์ในการต้องการให้จัดตั้งกองกำลังความมั่นคงและความสงบในตะวันออกกลาง เป็นข้อเสนอที่ทำให้ สหรัฐสามารถมองเห็นโอกาสที่มีมากขึ้น หลังจากการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

    ยังมีเหตุการณ์ 11 กันยา ที่ทำให้สหรัฐหวนคืนตะวันตกออกกลางอีกครั้งหนึ่ง โดยการเข้าไปยังอัฟกานิสถานของกองทัพสหรัฐ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายเพียงอย่างเดียว พวกเขายังได้ใช้โอกาสในการเข้ามาสร้างความปั่นป่วนในประเทศอัฟกานิสถาน และยังได้ประสานงานร่วมมือกับกลุ่มญิฮาดกลุ่มต่างๆ อีกด้วยเช่นกัน จนทำให้ถึงจุดหนึ่ง เวทีการเจรจาระหว่างอิหร่านและสหรัฐ ก็เริ่มต้นอีกครั้ง โดยในการเจรจาครั้งนี้ สหรัฐต้องการที่จะแลกเปลี่ยนทัศนะในการบุกอัฟกานิสถาน ด้วยข้ออ้างเรื่องการต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย และให้รัฐมนตรีต่างประเทศของแต่ละฝ่าย และรวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับสงคราม



    เหตุผลในการเจรจาระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ในเรื่องอัฟกานิสถาน

    ในกรณีนี้ ทางสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ได้อธิบายถึง เหตุผลในการเจรจากับสหรัฐ ในเรื่อง อัฟกานิสถาน ไว้ว่า

    1. เพื่อดำเนินการสร้างความสงบให้เกิดขึ้นในประเทศที่ไม่มีความสงบในประเทศตะวันออก

    2. ทำลาย และกวาดล้างมาเฟียพ่อค้ายาเสพติด ซึ่งมีแหล่งผลิต หรือ โรงงานในอัฟกานิสถาน

    3. ทางสหรัฐเสนอให้ เจรจากับอิหร่าน ในเรื่อง ตอลิบัน ซึงเป็นหนึ่งในกลุ่มก่อการที่คอยสร้างความไม่สงบในอัฟกานิสถาน

    โชคร้ายที่การจัดโต๊ะเจรจาผ่านไปได้ไม่กี่วัน จอร์ช บุช ก็ประกาศว่า อิหร่านเป็นศูนย์กลางของความชั่วร้ายในโลก จึงทำให้ความพยายามที่จะเจรจาและหาทางออกในเรื่องอัฟกานิสถาน ต้องจบลง

    ขณะเดียวกัน สหรัฐก็ได้ตั้งข้อกล่าวหาใหม่ให้กับอิหร่านอีกครั้ง การหาเรื่องครั้งนี้ ทำให้ ปธน.สหรัฐ ถึงกับขู่จะบุกโจมตีประเทศ และยังมีปฏิบัติการด้านอื่นๆ เข้ามาเพิ่มอีก เช่นการ คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และประเด็นเรื่องพลังงานนิวเคลียร์

    ประเด็นเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน เป็นประเด็นที่จุดเริ่มต้น สหรัฐ และ กลุ่มสหภาพยุโรป เป็นผู้ทวงติงและแสดงถึงความไม่พอใจ ซึ่งภายหลังจากนั้นโคลงการพลังงานนิวเคลียร์สะอาด ก็ถูกนำเสนอให้พิจารณาในสภาความมั่นคง โดยมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้อิหร่าน สามารถพัฒนาโครงการนี้ได้ มีการยื่นคำขาดจากสภาความมั่นคงต่อประเทศอิหร่าน

    ยังมีการกดดันจากสหรัฐมาอย่าง หนักหน่วงจนกระทั่งเกิดสงคราม อิรัค สหรัฐและตะวันตก จึงมุ่งที่จะใช้กำลังไปในทางนี้ ทว่าอย่างไรก็ตาม การคว่ำบาตรอิหร่านก็ยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่สหรัฐ ต้องยุ่งกับสงครามที่ตนสร้างขึ้นมา จึงไม่มีจังหวะที่จะกดอิหร่านในเรื่อง นิวเคลียร์ได้อย่างสะดวกนัก



    โปรดติดตามตอนต่อไป

    การเจรจาระหว่าง “สหรัฐฯ” กับ “อิหร่าน” จากจุดเริ่มต้นจนถึงวันนี้ (1) | abnewstoday
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “เรามาถึงแล้ว” สุดโต่งไอซิสในเยเมนเผยวิดีโอขู่ฆ่าตัดคอกลุ่มฮูซี
    ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 26, 2015

    [​IMG]

    RT – กลุ่มสุดโต่งไอซิสประกาศอย่างเป็นทางการในการเข้าร่วมป่วนเยเมน ด้วยการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่ขู่จะฆ่าตัดคอนักรบฮูซีของเยเมน

    เช่นครั้งก่อนๆ คลิปวิดีโอซึ่งตัดต่ออย่างมืออาชีพ มีทั้ง CG และเพลงประกอบ ความยาว 9 นาที เผยให้เห็นนักรบสุดโต่งกลุ่มหนึ่งด้วยชุดทหารเต็มยศอยู่ในบริเวณทะเลทรายแห่งหนึ่ง ที่พวกเขาอ้างว่าสถานที่ดังกล่าวใกล้กับกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมน

    คลิปวิดีโอเผยให้เห็นนักรบสุดโต่งเหล่านี้พร้อมปืน เอเค 47 ปืนกลหนัก และอาร์พีจี โดยมีการยิงโชว์ด้วยบางส่วน

    จากนั้นหัวหน้ากลุ่มนักรบได้ปักธงดำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มไอซิสลงบนพื้นทรายแล้วประกาศว่า พวกเขาเป็นนักรบของรัฐอิสลามไอซิส ที่มาถึงเยเมนแล้วเพื่อจะมาตัดคอของพวกฮูซี

    “เรามาถึงเยเมน พร้อมกับเหล่าลูกทีมที่กระหายเลือดของคุณ เพื่อล้างแค้นให้กับชาวซุนนีและส่งคืนดินแดนของพวกเขาที่ถูกยึดครอง” หัวหน้านักรบสุดโต่งไอซิสกล่าว

    เขายังได้เชิญชวนชายฉกรรจ์ซุนนีในเยเมนให้เข้าร่วมกับพวกเขาเพื่อต่อสู้กับกลุ่มฮูซีอีกด้วย

    คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกอัพโหลดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

    “เรามาถึงแล้ว” สุดโต่งไอซิสในเยเมนเผยวิดีโอขู่ฆ่าตัดคอกลุ่มฮูซี | abnewstoday
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,258
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    เมื่อวานนี้ผมแชร์ข่าวเหตุจราจลในเมืองบัลติมอร์ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุด ในมลรัฐแมรีแลนด์ คล้ายๆกับเหตุจราจลที่ เฟอร์กูสัน รัฐมิสซูรีก่อนหน้านั้น สาเหตุการประท้วงจนบานปลายเป็น เหตุจราจลก็เนื่องมาจากเรื่องของ การที่ตำรวจก่อเหตุสังหาร วัยรุ่นชาวอเมริกันสีผิว จนนำมาซึ่งการประท้วง จนเกิดจราจลล่าสุด และเหมือนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จงใจปล่อยให้เหตุการณ์ การปล้นสดมภ์และการวางเพลิงเกิดขึ้น ทั่วเมืองบัลติมอร์ โดยไม่มีการเข้าไปยับยั้งเหตุการณ์ แต่กลับประกาศภาวะฉุกเฉิน และเรียกกำลังพลสำรอง เข้ามาช่วยเจ้าหน้าที่ ในการรับมือสถานการณ์ดังกล่าว http://endoftheamericandream.com/…/are-the-baltimore-riots-…
    นี่คือรูปแบบที่เราคุ้นเคยกันดีในบ้านเรา ในห้วงความขัดแย้งทางการเมือง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แต่บ้านเราใช้เรื่องความต่างระหว่างชนชั้น ในตะวันออกกลางใช้เรื่องศาสนา ในสหรัฐใช้เรื่องของสีผิว เข้ามาเป็นชนวนขัดแย้ง แล้วก็ยั่วยุให้เกิดความรุนแรงจนกระทั่งเกิดจราจล เพื่อความชอบธรรมในการประกาศภาวะฉุกเฉิน ให้ทหารเข้ามาควบคุมสถานการณ์ และทำหน้าที่ร่วมกับตำรวจ แม้เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นเรียกว่า กฎอัยการศึก แต่อำนาจในการควบคุมและบัญชาการ ในเมืองบัลติมอร์ขึ้นอยู่กับทหารแล้ว National Guard Deployed to Baltimore, But No Martial Law ‘… At This Point’ | Global Research - Centre for Research on Globalization
    และไม่ใช่เฉพาะในรัฐแมรีแลนด์เท่านั้น ตอนนี้หน่วยงานพิทักษ์มาตุภูมิ (DHS) ซึ่งหน้าที่ไม่ต่างอะไรกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในของไทย มีการสะสมกระสุนจำนวนมาก มีการเคลื่อนยานลำเลียงทางทหาร มีการย้ายศูน์บัญชาการและป้องกันภัยทางอากาศ ของทวีปอเมริกาเหนือ(NORAD) เข้าไปอาศัยบังเกอร์ใต้ดิน ที่เคยใช้ในยุคสงครามเย็น ซึ่งแน่นอนว่าคือ การเตรียมการรับมือเหตุการณ์ที่ใหญ่มาก http://endoftheamericandream.com/…/signs-that-the-elite-are…
    ก่อนหน้านั้นในห้วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ธนาคารกลางสหรัฐ ได้มีการเตรียมการจัดตั้งทีมงานและเจ้าหน้าที่เทคนิค เตรียมการรับมือและป้องกันสถาบันการเงิน พนักงานของธนาคารกลาง ที่ทำงานในสาขานิวยอร์คบางส่วน มีการอพยพไปประจำการยังชิคาโก การติดตั้งระบบติดต่อสื่อสารผ่านดาวเทียม ระหว่างธนาคารที่ประจำในชิคาโก และธนาคารสาขานิวยอร์ค คล้ายๆรองรับเหตุการณ์ที่ กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตในอ่าวแมนฮัตตันหรือมหานครนิวยอร์ค ซึ่งยังไม่แน่ว่าเป็นเหตุการณ์ใด ภัยพิบัติธรรมชาติ การถูกโจมตีด้วยสงครามไซเบอร์ หรือแม้กระทั่ง EMP http://www.zerohedge.com/…/ny-feds-plunge-protection-team-s…
    ส่วนทางตอนใต้ของสหรัฐ อย่างที่ทราบกันดี กำลังมีการเตรียมการฝึกทางทหารที่เรียกว่า "Jade Helm" ซึ่งกำลังจะเริ่มขึ้นในเดือนกรกฎาคม ถึงเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนเป้าหมายก็หนีไม่พ้น เรื่องที่เกริ่นไว้แต่ตอนต้นนั่นแหละครับ เพราะนี้คือรูปแบบ ในการเตรียมการรับมือ เหตุการณ์ที่ใหญ่มาก
    ซึ่งถ้าพิจารณาข้อมูลและข้อเท็จจริงในห้วงเวลานี้ สัญญาณที่ชัดเจนคงหนีไม่พ้นเรื่องของ หายนะทางเศรษฐกิจ สงครามกลางเมือง และสงครามโลก ซึ่งการเตรียมการดังกล่าว ถูกออกแบบและวางแผนไว้ล่วงหน้าหลายปีแล้วนั่นเอง
    http://www.zerohedge.com/…/turning-america-battlefield-blue…
     

แชร์หน้านี้

Loading...