ติดตามสถานะการณ์

IS-ตอลิบาน ประกาศสงครามกันเอง
by พรรณิการ์ วานิช 21 เมษายน 2558 เวลา 20:37 น.

การระหองระแหงกันระหว่างกลุ่มหัวรุนแรงกลุ่มใหม่ไฟแรงอย่าง IS หรือที่ปัจจุบันนิยมเรียกว่า "ดาชต์" กับกลุ่มก่อการร้ายเก่าแก่อย่างตอลิบาน หรืออัลกออิดะห์ เป็นที่รับรู้ในประชาคมโลกมานานแล้ว โดยเหตุผลหลักเชื่อว่าเป็นเพราะดาชต์ แย่งลูกค้าสาวกหัวรุนแรงไปเป็นนักรบญิฮาดได้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ และก่อนหน้านี้ กลุ่มตอลิบานและกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ก็แสดงความไม่พอใจที่กลุ่มดาชต์มีพฤติกรรมโหดเหี้ยม ขัดต่อหลักอิสลาม

แต่ล่าสุด มีรายงานจากตำรวจอัฟกานิสถานว่ากลุ่มตอลิบาน ที่มีอิทธิพลอยู่ในอัฟกานิสถาน และกลุ่มดาชต์ ที่ครองอำนาจในอิรักและซีเรีย ถึงกับประกาศสงครามศักดิ์สิทธิ์ญิฮาดต่อกัน โดยต่างฝ่ายต่างกล่าวหาว่าอีกฝ่ายเป็นพวกนอกรีต แกนนำกลุ่มตอลิบานประกาศว่านักรบทุกคนของตอลิบานจะต้องทำทุกวิถีทาง ไม่ให้ดาชต์ปักธงในแผ่นดินของอัฟกานิสถานได้อย่างเด็ดขาด

ส่วนนายอาบู บักร์ อัล แบกดาดี ผู้นำดาชต์ ก็กล่าวหาว่านายมูลลาห์ โมฮัมหมัด โอมาร์ ผู้นำตอลิบาน เป็นผู้นำทางทหารที่ล้าหลัง โง่เง่า และไม่มีการศึกษา ไม่สมควรจะได้รับความเคารพเชื่อถือ ไม่ว่าจะทางจิตวิญญาณหรือการเมือง

IS-ตอลิบาน ประกาศสงครามกันเอง - VoiceTV

 

ซาอุฯ แถลงยุติปฏิบัติการโจมตีเยเมนแล้ว
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 22, 2015



ชาวเยเมนเดินบนถนนที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของซาอุดิอาระเบียต่อคลังขีปนาวุธที่ใกล้บริเวณเนินเขา Fajj Attan เมืองหลวงเยเมนเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2015 (ภาพ AFP)

เพรสทีวี – ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศยุติปฏิบัติการ “พายุขั้นเด็ดขาด” ในการดำเนินการโจมตีทางอากาศต่อเยเมน และประกาศจุดเริ่มต้นของปฏิบัติการใหม่ที่ขนานนามว่า “ปฏิบัติการแห่งการฟื้นฟูความหวัง” สถานีโทรทัศน์ของรัฐซาอุฯ รายงาน

“ซาอุดิอาระเบียได้สิ้นสุดปฏิบัติการ “พายุขั้นเด็ดขาด” แล้ว ทั้งนี้ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นไปตามการร้องขอจากรัฐบาลเยเมน และอดีตประธานาธิบดีผู้ลี้ภัย อับ รอบบุ มันซูร อาดี” นายพลจัตวา อะหมัด อัลอัซซีรี โฆษกกองทัพซาอุฯ กล่าวผ่านทางสถานีโทรทัศน์เมื่อวันอังคาร (21 เม.ษ)

เขาเสริมว่า การปิดล้อมทางทะเลของซาอุดีอาระเบียที่มีต่อเยเมนจะคงอยู่ และกองกำลังซาอุดีอาระเบียจะยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของนักสู้ อันซอรุลเลาะฮ์ (ฮูซี) ต่อไป

ตามถ้อยแแถลงของกองทัพซาอุ ขั้นตอนต่อไปจะมุ่งเป้าไปที่การเจรจาทางการเมือง การส่งมอบความช่วยเหลือ และผสมผสานในทางการเมือง การทูต และทางทหาร

ถ้อยแถลงโดยกระทรวงกลาโหมซาอุดีอาระเบีย อ้างว่า การโจมตีทางอากาศของซาอุดิอาระเบียได้ทำลายอาวุธหนักและจรวดขีปนาวุธที่ถูกยึดจากฐานและค่ายทหาร โดยนักรบฮูซี และกองกำลังที่จงรักภักดีของ อดีตประธานาธิบดี อาลี อับดุลเลาะห์ ซอและห์

การโจมตีทางอากาศได้ประสบความสำเร็จในการทำลาย “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศเพื่อนบ้าน” ซาอุกล่าวอ้างในถ้อยแถลง

ซาอุดีอาระเบียได้เริ่มต้นรุกรานทางทหารและโจมตีเยเมนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม – โดยไม่ผ่านมติของยูเอ็น – โดยอ้างว่าเพื่อส่งคืนอำนาจให้ฮาดีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของริยาด

รายงานระบุว่า ประชาชนชาวเยเมนกว่า 2,800 คนถูกฆ่าตายในระหว่างการรุกรานโจมตีของซาอุฯ เกือบ 4 สัปดาห์

ซาอุฯ แถลงยุติปฏิบัติการโจมตีเยเมนแล้ว | abnewstoday

 

ลำดับเหตุการณ์ในเยเมน : จากมกราคม 2011 ถึงมีนาคม 2015
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 21, 2015



การเดินประท้วงในเยอรมัน เรียกร้องให้ซาอุดิอารเบียหยุดโจมตีเยเมน ภาพจาก Yemen Real news



• 27 มกราคม 2011 : ผู้ประท้วงในเมืองซานาอฺ เรียกร้องให้ประธานาธิบดีอาลี อับดุลลอฮ์ ซาเลห์ ลาออกหลังจากอยู่ในอำนาจมาสามสิบปี เริ่มต้นการปฏิวัติในเยเมน

• 12 กันยายน 2011 : ซาเลห์ลงนามในเอกสารฉบับหนึ่งเพื่อมอบอำนาจพิเศษให้รองประธานาธิบดีอาเบด รอบบู มันซูร ฮาดี ทำการเจรจาการเปลี่ยนผ่านอำนาจกับสภาความร่วมมืออ่าว (GCC) และพรรคร่วมฝ่ายค้าน (JMP) พรรคการเมืองฝ่ายค้านของเยเมน

• ธันวาคม 2011 : ซาเลห์ประกาศว่าเขาได้มอบอำนาจให้กับรองประธานาธิบดีฮาดีที่ได้รับการแต่งตั้งของเขา ภายใต้ข้อกำหนดของขั้นตอนแรกในการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่ GCC เป็นสื่อกลาง

• มกราคม 2012 : ซาเลห์ และพันธมิตรใกล้ชิดกับสมาชิกครอบครัวของเขาหลายคน ได้รับความคุ้นกันอย่างเต็มที่โดยรัฐสภา

• 21 กุมภาพันธ์ 2012 : ฮาดีได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีของเยเมนในการเลือกตั้งที่มีผู้สมัครเพียงคนเดียว เขาได้รับการกำหนดวาระเป็นเวลาสองปี ซึ่งในระหว่างนั้นเขาจะดูแลการเปลี่ยนผ่านทางสถาบันและการเมืองของเยเมนให้สอดคล้องกับมติของสภาสานเสวนาแห่งชาติ (NDC)

• มกราคม 2014 : สมาชิกสภา NDC บรรลุข้อตกลงฉบับทดลองในกรุงซานาอฺ เมืองหลวง มาตราต่างๆ ของรัฐธรรมนูญฉบับร่างได้ถูกปรับปรุงออกมาในที่สุด จนกระทั่งเยเมนสามารถเปลี่ยนผ่านอำนาจได้เสร็จสมบูรณ์

• กันยายน 2014 : กลุ่มเฮาซีเข้ามาถึงซานาอฺ หลังจากทำการต่อสู้กับอิสลาห์ในพื้นที่ราบสูง อับดุลมาลิก อัล-เฮาซี เรียกร้องให้ฮาดีมุ่งมั่นกระทำตามมติของ NDC ทั้งหมด ในข้อตกลงเมื่อเดือนมกราคม 2014 มีการลงนามความตกลงกันในซานาอฺ และจัดตั้งรัฐบาลผสมชุดใหม่

• มกราคม 2015 : หลังจากมีการถกเถียงกันทางการเมืองเป็นเวลาหลายเดือน และมีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ฮาดีประกาศลาออก คณะรัฐมนตรีทั้งหมดของเขาลาออก ฮาดีและรัฐมนตรีหลายคนถูกกลุ่มเฮาซีกักบริเวณอยู่ในบ้านทันที ขณะที่จามาล เบโนมาร์ ทูตพิเศษของสหประชาชาติประจำเยเมนพยายามที่จะให้ทุกฝ่ายกลับคืนสู่โต๊ะเจรจา

• กุมภาพันธ์ 2015 : ฮาดีหนีออกจากซานาอฺไปยังเอเดน ที่ซึ่งเขาได้ประกาศให้เอเดนเป็นเมืองหลวงแห่งใหม่ของเยเมน ทำให้เยเมนแยกออกเป็นสอง ซานาอฺกลายเป็นเมืองร้างทางการทูต เพราะสถานทูตต่างประเทศทั้งหมดถอนนักการทูตของตนออกจากเมือง

• มีนาคม 2015 : สหรัฐฯ ประกาศถอนกองทหารของตนออกจากฐานทัพอากาศอัลอานัด ใกล้กับเอเดน

• 25 มีนาคม 2015 : ซาอุดิอารเบียเปิดฉากโจมตีเยเมนฝ่ายเดียวด้วยการหนุนหลังจากชาติอาหรับแปดประเทศ ได้แก่ คูเวต, บาห์เรน, โมรอกโก, กาตาร์, อียิปต์, ซูดาน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และจอร์แดน และได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ภายในไม่กี่วัน ปากีสถานเข้าร่วมกองกำลังผสม แต่ล่าสุด ยังคงปฏิเสธที่จะส่งทหารเข้าร่วมในการรบ


Source : MintPress News | Independent, non-partisan journalism

ลำดับเหตุการณ์ในเยเมน : จากมกราคม 2011 ถึงมีนาคม 2015 | abnewstoday

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 เม.ย.58 ในที่สุดก็ถึงวันนี้ ซาอุฯ สั่งรบประจันหน้าเยเมนเต็มพิกัดแล้ว
กองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) เป็นหน่วยทหารที่เป็นเอกเทศและมีกระทรวงเฉพาะเป็นของตัวเองของประเทศซาอุฯ จุดเป็นกองกำลังทางภาคพื้นดินที่มีความแข็งแกร่งที่สุดของซาอุฯ แต่ที่ผ่านมายังไม่เคยมีประสบการณ์รบจริงทางภาคพื้นดิน
ที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมของประเทศซาอุดีอาระเบีย ได้สั่ง ปฏิบัติการทางทหารในการโจมตีรุกรานเยเมน โดยอาศัยกองทัพอากาศและกองทัพบกของซาอุดิอาระเบีย
ล่าสุดกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุฯ ได้ออกคำสั่งแก่กองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) ของประเทศให้เข้าสู่การทำสงครามกับกองกำลังรัฐบาลฮูที แห่งเยเมนแล้ว และหากการตัดสินใจนี้ไม่ถูกยกเลิก ตามที่มีผู้ห้ามปราม แต่ยังแข็งขืนเดินหน้าต่อไป จากสถานการณ์นี้วิเคราะห์ได้ว่า
--------------------------->
1. กองทัพอากาศ และกองทัพบก ของซาอุฯ ทำอะไรเยเมนไม่ได้มากนัก การโจมตีทางอากาศ ที่ใช้ค่าใช้จ่ายมหาศาลในการซื้ออาวุธจากอเมริกา มาทิ้งในต่างแดน ไม่สงผลแพ้ชนะสงคราม
2. ซาอุฯ ได้ถลำลึกสู่สงครามเต็มรูปแบบแล้ว จนต้องหันมาใช้ กองกำลังรักษาดินแดน (National Guard) ที่แยกอิสระจากกระทรวงกลาโหม ถือเป็นการเกไพ่หมดหน้าตักสุดท้าย
3. กำลังเกิดความขัดแย้งแตกเป็นเสี่ยงในกลุ่มที่กุมอำนาจทางการเมืองในซาอุฯ การใช้กองกำลังนี้ ส่อว่ากำลังจะมีการปฏิวัติเกิดขึ้น จึงต้องตัดไฟแต่ต้นลม
4. ซาอุฯ กำลังส่งทหารไปตายอีกเป็นแสนคน เพราะไม่มีทางที่จะชนะเยเมน ที่หนุนโดยอิหร่านได้เลย เพราะพวกนี้รบมาทั้งชีวิตของตัวเอง การรบคือชีวิตของพวกเขา ดังนั้นหัวใจพวกเขาแข็งแกร่งกว่ามาก และซาอุฯ ก็เคยพ่ายแพ้สงคราม กับเยเมนมาแล้วครั้งหนึ่ง
5. ด้านอาวุธนั้น ฝรั่งเศสขายให้เลบานอน และเลบานอน ก็เอามาให้กลุ่มเฮสบุลเลาะห์ กองกำลังผสม ของอีหร่านอีกที และเฮสบุลเลาะห์ ได้จัดกำลังเข้าช่วยเยเมนเรียบร้อยแล้ว
6. เปรียบมวย เฮสบุลเลาะห์ ของอิหร่าน (เหมือนมวยต่างจังหวัด) กับ กองกำลัง National Guard ของซาอุฯ ( เหมือนมวยเมืองกรุง) หากประจันหน้ากัน ยังมองไม่ออกว่าซาอุฯ จะชนะได้อย่างไร เพราะความอึดมันต่างกันฟ้ากับเหว
จำซัดดำ แห่งอิรักได้ไหม อเมริกาหนุนเต็มเหนี่ยว ขายอาวุธให้สารพัด ยุให้รบกับอิหร่านนานถึง 8 ปี แต่ไม่ปรากฎแพ้ชนะ จนอิรักสิ้นเนื้อประดาตัว อ่อนแอ เมื่อนั้นอเมริกา ก็ยกทัพมาตีอิรัก จนเละตายเกือบล้านคน
ซาอุฯ ยามนี้ก็คืออิรักภาค 2 นั้นแหละ มีแค่เละกับตาย เป็นของขวัญลูกยุจากอเมริกาเท่านั้น ถ้าไม่หยุดตามคำเตือนของรัสเซีย คงสิ้นชื่อแล้ว ซาอุฯ ในความทรงจำ
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

-ไม่ตรงประเด็น ทำให้ของขึ้นราคา
-เงินเดือน 4% ได้ประโยชน์ แต่ข้าราชการ ระดับ ชำนาญการ ลงมา
* ระดับชำนาญการพิเศษ-เชี่ยวชาญพิเศษ ที่เงินเดือนไม่เต็มขั้น(ตัน)ไม่ได้ขึ้น สัก%
* ระดับชำนาญการพิเศษ-เชี่ยวชาญพิเศษ ที่เงินเดือนเต็มขั้น(ตัน) ขยายเพดานให้ได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นไปอีก
****ขึ้นเงินเดือนได้ประโยชน์แต่ข้าราชการเล็กๆ กับข้าราชการใหญ่ๆ

 

อิหร่านชี้ ซาอุดิอาระเบียยุติสงครามเยเมน หมายถึงความพ่ายแพ้
ตะวันออกกลางเกาะติดสถานการณ์เยเมน
by เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 22, 2015



ชายชาวเยเมนเดินผ่านรถซึ่งได้รับความเสียหายจากการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียซึ่งอยู่ใกล้กับฐานทัพทหารในเมืองหลวงซานา (ภาพ : เอเอฟพี)

เพรสทีวี – โฆษกรัฐสภาอิหร่าน อาลี ลาริจานี กล่าวว่า การประกาศยุติปฏิบัติการทางทหารของซาอุดิอารเบียต่อเยเมน หมายถึงความล้มเหลวของปฏิบัติการุกรานอันหน่อมแน้ม

ที่พิธีเปิดสมัยประชุมรัฐสภาในกรุงเตหะรานวันนี้ (พุธ) อาลี ลาริจานี ได้วิพากษ์วิจารณ์ถ้อยแถลงของกระทรวงกลาโหมซาอุดิอาระเบียที่ระบุว่า การโจมตีทางอากาศประสบความสำเร็จในการกำจัด “ภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศซาอุดีอาระเบียและประเทศเพื่อนบ้าน”

ถ้าพิจารณาอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างการรุกรานทางทหารของซาอุดีอาระเบียที่มีต่อเยเมน ลาริจานี กล่าวว่า “ประการแรก ประชาชนมากกว่าหนึ่งพันคน ที่รวมทั้งชาย สตรี และเด็กๆ ที่ถูกสังหาร ขณะที่อีกหลายพันคนได้รับบาดเจ็บ ประการที่สอง โครงสร้างพื้นฐานบางส่วนของประเทศ (เยเมน) ถูกทำลาย และประการที่สาม กองกำลังปฏิวัติอันซอรุลเลาะฮ์ร่วมกับกองทัพเยเมนยังคงควบคุมพื้นที่หลายจังหวัดในเยเมน”

“รัฐบาลซาอุดีอาระเบียในขณะนี้ควรจะถามว่า ในสามประการดังกล่าว อันไหนบ้างคือวัตถุประสงค์ของปฏิบัติการ ‘พายุขั้นเด็ดขาด” ลาริจานี กล่าว

‘พายุขั้นเด็ดขาด” หรือ Decisive Storm เป็นชื่อภารกิจทางทหารที่ประเทศซาอุดิทหารใช้โจมตีเยเเมนซึ่งได้สิ้นสุดลงแล้วในขณะนี้

@โฆษกรัฐสภาอิหร่าน อาลี ลาริจานี (ดูรูป)

ลาริจานี เน้นว่า นับตั้งแต่ซาอุดีอาระเบียเริ่มมีการโจมตีทางอากาศต่อเยเมนในปลายเดือนมีนาคม เตหะรานก็เห็นแล้วว่าเป็นปฏิบัติการที่ยังประโยชน์ต่ออิสราเอล และย้ำว่า การแทรกแซงจากต่างประเทศในกิจการของเยเมนจะไม่มีผลใดๆ นอกเสียจากเป็นการลดทอนพลังอำนาจของชาวมุสลิม

“ซาอุฯ ที่ชาญฉลาด นับตั้งแต่นี้ต้องประเมินท่าทีของพวกเขาให้ถูกต้อง [และตระหนัก] ว่าวิธีการดังกล่าวไม่เพียงแต่จะไม่มีประโยชน์สำหรับการรักษาความมั่นคงของพวกเขา ทว่าทั้งหมดจะนำไปสู่การสูญสิ้นเกียรติภูมิแห่งอิสลามของพวกเขา” ลาริจานี กล่าว

นายพลจัตวาอาเหม็ด อัลอัซซิรี โฆษกกองทัพ ซาอุฯ ออกอากาศผ่านสถานีโทรทัศน์ในวันอังคาร (21) ประกาศยกเลิกการโจมตีของริยาดที่ มีชื่อรหัสว่า “พายุเด็ดขาด” ที่เป็นภารกิจทางทหารโจมตีเยเมน

แต่เขาระบุว่า การปิดล้อมทางทะเลของซาอุดีอาระเบียที่มีต่อเยเมนจะคงอยู่ และกองกำลังซาอุดีอาระเบียจะยังคงจับตาการเคลื่อนไหวของนักสู้ อันซอรุลเลาะฮ์ (ฮูซี) ต่อไป

ซาอุดีอาระเบียได้เริ่มต้นรุกรานทางทหารและโจมตีเยเมนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม – โดยไม่ผ่านมติของยูเอ็น – อ้างว่าเพื่อส่งคืนอำนาจให้ฮาดีซึ่งเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของริยาด รายงานระบุว่า ประชาชนชาวเยเมนกว่า 2,800 คนถูกฆ่าตายในระหว่างการรุกรานโจมตีของซาอุฯ เกือบ 1 เดือน

อิหร่านชี้ ซาอุดิอาระเบียยุติสงครามเยเมน หมายถึงความพ่ายแพ้ | abnewstoday

 

ปอกเปลือก ทรราช
ซาอุดิประกาศยุติโจมตีเยเมน ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วง ฮิ้วววว!



-------------
อะดีดาดี้ อะดีด๊าดี... เป็นไรครับมิน? ดีจาย... ดีใจเรื่องไรหรอ? ก็สงครามในเยเมนสิ้นสุด ราคาน้ำดิบทั่วโลกลดลง จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไรเล่า
มาคุยเรื่องอานิสงส์ของการหยุดสงครามต่อสักนิดนึงนะครับ จากนั้นค่อยไปลุยข่าวมันๆเกี่ยวกับสหรัฐฯ ยุโรป รัสเซีย อาจจะเจาะไปถึงเกาะอังกฤษด้วยก็ได้ ถ้ามีเวลาพอนะ อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนท้ายของโพสต์ก่อนหน้านี้ว่าให้จับตาดูราคามน้ำมันดิบในตลาดโลกหลังโฆษกกองกำลังผสมชาติอาหรับนำโดยซาอุดิฯออกมาประกาศหยุดปฎิบัติการ "Operation Decisive Storm" ถล่มเยเมนเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาทางสถานีโทรทัศน์ในซาอุดิฯ ว่าจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอย่างไรบ้าง
วันนี้สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียออกมารายงานว่าเวลา 7.50 น. ตามเวลาในกรุงมอสโคว์ (ตรงกับ 4.50 น. GMT) ราคาซื้อขายน้ำมันดิบ Brent ของอังกฤษล่วงหน้าในเดือนมิถุนายนปรับลดลงที่ 0.76% โดยปรับลงมาอยู่ที่ $61.61/barrel (เมื่อวานนี้อยู่ที่ $62.78) ส่วน WTI ของสหรัฐฯนั้นปรับราคาเดือนมิถุนายนลงมาที่ 1.13% อยู่ที่ $55.97/barrel (เมื่อวานนี้อยู่ที่ $56.29) ส่วนน้ำมันดิบดูไบ DME นั้น สื่อฯเขาไม่ได้บอกไว้ แต่แอ็ดมินก็สรรหามาลงให้ด้วย เพราะไทยเราอ้างอิงตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่สิงคโปร์ซึ่งอ้างอิงราคาน้ำมันดิบดูไบ ดังนั้นจึงจำเป็นที่เราก็ควรจะได้รับทราบเช่นกัน วันนี้นำมันดิบ DME อยู่ที่ $59.20/barrel (เมื่อวานนี้อยู่ที่ $60.43) เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นแนะนำให้ดูกราฟภาพราคาน้ำมันดิบตามที่แนบมาประกอบ ส่วนของ DME นั้นไม่มีกราฟ มีแต่ราคาย้อนหลังมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนลิ้งค์อ้างอิงแหล่งที่มานั้นได้ใส่ไว้ข้างล่างบทความเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแล้วครับ
หลังจากที่ทางการซาอุดิออกมาประกาศหยุดปฏิบัติการโจมตีเยเมนแล้ว ก็มีข่าวจากฝั่งเยเมนว่ายังมีเครื่องบินรบจากซาอุดิบินเข้าไปทิ้งระเบิดในเยเมนอยู่อีก (มีคลิปประกอบข่าวใน RT ด้วย) แต่อันนี้ก็ต้องฟังหูไว้หูก่อน เพราะกลศึกสงครามและการเมืองนั้นสู้กันทุกรูปแบบ แต่เมื่อซาอุดิฯกล้าออกมายืนยันการหยุดโจมตีเยเมนอย่างเป็นทางการขนาดนั้น ซาอุดิฯจะพลิกลิ้นกลับคำอย่างบางประเทศที่ทำอยู่บ่อยๆ ก็ให้มันรู้ไปสิ สื่อฯซาอุดิฯรายงานว่าที่หยุดยิงนี้เนื่องจากเป็นการร้องขอจากปธน. Hadi ที่ลี้ภัยอยู่ในซาอุดิฯ และ Hadi บอกว่าจะเดินทางกลับมายังเยเมนเพื่อฟื้นฟูเยเมน แต่ไม่ได้บอกว่าจะกลับมาเมื่อไร หนักกว่านั้น Hadi ยังไม่วายลามไปถึงอิหร่านอีกโดยออกมาโวยวายว่าเป็นเพราะอิหร่านนั่นแหละที่สนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่มฮูติ แน่ะ… แต่ไม่กล้าที่จะตำหนิกองกำลังผสมอาหรับกับซาอุดิฯว่าเป็นผู้ก่อสงครามเข่นฆ่าประชาชนทั่วไปในเยเมนเป็นจำนวนมาก ขืนพูดอย่างนั้น Hadi คงไม่มีที่ให้ซุกหัวอีกแล้ว ก็เพื่อให้ตัวเองกลับมามีอำนาจในเยเมนอีกครั้งก็ต้องพูดตามสคริปต์ที่เจ้านายเขาเขียนให้อ่านนั่นแหละ
ทาง UNICEF ออกมาแถลงตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบจากสงครามในเยเมนว่า มีประชาชนต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจำนวน 15.9 ล้านคน ในจำนวนนี้มีเด็ก 7.9 ล้านคน มีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเพราะภัยสงครามจำนวน 150,000 คน ประชาชนเสียชีวิต 767 คน รวมทั้งเด็กด้วย 77 คน มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2,906 คน เป็นเด็กจำนวน 44 คน เด็กไม่สถานที่ศึกษาจำนวน 2 ล้านคน UNICEF ต้องการเงินช่วยเหลือจำนวน $88.1 ล้านเหรียญ แหม… มากันเป็นสูตรเลยนะ คำถามก็มีอยู่ว่า ทำไมยูเอ็นถึงไม่ห้าม และไม่ป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้่นซ้ำแล้วซ้ำอีก? ทำไมถึงชอบทำแบบวัวหายล้อมคอกทุกที? ถ้าทำอย่างนั้นหมายถึงป้องกันไม่ให้เกิดปัญหา แล้วยูเอ็นจะเอาเงินที่ไหนมาหล่อเลี้ยงองค์ขนาดใหญ่ทั่วโลกได้หละครับ ส่วนหนึ่งก็หากินกับเงินบริจาคพวกนี้แหละ
The Eyes
22/04/2558
----------
Oil Prices Decreasing Amid Termination of Military Campaign in Yemen / Sputnik International
http://rt.com/news/251777-yemen-operation-end-saudi/
Saudi-Led Coalition Promises Yemen ‘Hope’ Instead of ‘Storm’ / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
สหรัฐฯประท้วงนับพันต่อต้านการเหยียดผิว ความอยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนอีกรอบในเมือง Baltimore รัฐ Maryland



-------------
สหรัฐอเมริกา ประเทศที่ประกาศต่อชาวโลกเสมอมาว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตย ชอบออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศอื่นๆอยู่เสมอ แต่ภายในประเทศของตัวเองนั้นเต็มไปด้วยการเหยียดผิวที่รุนแรง มีข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ต่างประเทศและข่าวท้องถิ่นปรากฎให้เห็นอยู่บ่อยๆว่าตำรวจผิวขาวสังหารคนผิวดำไม่มีอาวุธแทบจะทุกสัปดาห์ แต่รัฐบาลของสหรัฐฯก็ไม่เคยที่จะให้ความสนใจในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ภายในประเทศของตนอย่างจริงจัง เพราะมัวแต่ให้เงินสนับสนุนองค์ NGO ในต่างประเทศออกมาเรียกร้องเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศนั้นๆอยู่บ่อยๆ อีกทั้งรัฐบาลสหรัฐฯมุ่งเน้นแต่จะสร้างสงครามในต่างประเทศเป็นหลัก ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนและการไม่ได้รับความเป็นธรรมในชนกลุ่มน้อยภายในสหรัฐฯจึงหมักหมมและทวีความรุนแรงขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา มีประชาชนทั้งผิวขาวและผิวสีนับพันออกมาเดินประท้วงในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากการเสียชีวิตของชายผิวดำชื่อ Freddie Gray วัย 25 ปีด้วยฝีมือของตำรวจผิวขาว เกรย์เสียชิวิตเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาหลังจากเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลมา 1 สัปดาห์ซึ่งพบว่าเส้นประสาทกระดูกไขสันหลังถูกตัดขาด พยายานในที่เกิดเหตุสามารถใช้โทรศัพท์มือถือบันทึกเหตุการณ์ที่ตำรวจลากตัวนายเกรย์ขึ้นรถตู้เอาไว้ได้
เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา เมื่อตำรวจ 6 นายรุมเข้าจับกุมนายเฟรดดี้ เกรย์ ในเมืองบัลติมอร์ ตามรายงานของตำรวจสหรัฐฯไม่ได้บอกว่าเขาโดนข้อหาอะไร แต่หลังจากที่ถูกลากตัวขึ้นรถตู้ไปแล้วพบว่านายเฟรดดี้ เกรย์ ต้องเข้ารับษาตัวในโรงพยาบาลเป็นการด่วน ทางตำรวจออกมากล่าวว่า "เราไม่มีหลักฐาน หรือวีดีโอ หรือวัตถุหลักฐานใดๆที่บ่งบอกว่าเป็นการใช้กำลัง ไม่มีหลักฐานจากการชันสูตรศพ ไม่มีแขน-ขาส่วนไหนหัก เขาได้รับความเจ็บปวดจากอาการบาดเจ็บที่ไขสันหลังของเขา"
ฮ๊ะ!… ทั้งๆที่ก่อนหน้าจะพบกับตำรวจเขาก็ยังเดินดีๆอยู่นี่นะ? นั่นแหละสไตล์ตำรวจสหรัฐฯ (บางคน) "ไม่มีหลักฐาน!" จะมีได้อย่างไร ก็ในเมื่อตำรวจเป็นผู้จัดการเองทุกอย่าง ที่เหยื่อเสียชีวิตนี้ก็ไม่ได้บอกว่าเสียชีวิตเพราะแขนหรือขาหักซะหน่อย แต่เหยื่อได้รับบาดเจ็บภายในอย่างสาหัสเข้าขั้นโคม่าโดยไม่มีร่องรอยจากการทำร้ายภายนอก ตำรวจสหรัฐฯทำได้อย่างไรนะ? มันก็แปลกดี พอตำรวจออกมากล่าวว่าไม่มีหลักฐาน ก็มีคลิปโผล่ออกในยูทูปทันทีเลย ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์ตอนตำรวจอเมริกันลากชายผิวดำคนอเมริกันด้วยกันขึ้นรถตู้ไป อุ้มกันกลางวันแสกๆ นี่แหละ หนึ่งอาทิตย์ต่อมาผู้ที่ถูกตำรวจสหรัฐฯอุ้มนั้นไม่รอด ไปพบยมบาลซะแล้ว
สังคมในแวกนั้นก็ไม่ยอมสิคราวนี้ เขามีความรู้สึกว่าเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยมากในสหรัฐฯ มันอุกอาจมาก มีการขู่จะปิดเมืองกันด้วย ก็ไหนว่าสหรัฐฯเป็นประเทศที่มีเสรีภาพ และส่งเสริมเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนอย่างไรเล่า แล้วทำไมถึงเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้นมาบ่อยนัก? อเมริกาพยายามที่จะใช้เรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนเล่นงานประเทศอื่นที่เป็นคู่ค้ากับตนแม้กระทั่งกับอียูเอง แต่เกิดการต่อต้านจากภาคประชาชนในยุโรปอย่างหนักซะก่อน แล้วมีประเทศไหนบ้างที่จะกล้าออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในอเมริกาบ้าง พวกนักสิทธิมนุษยชนทั้งหลายหนะหรือ? ฝันไปเถอะใครเป็นคนจ่ายเงินเดือนให้พวกนั้นถ้าไม่ใช่สหรัฐฯ มีหรือที่ HRW จะกล้ามาเรียกร้องเรื่องแบบนี้จากรัฐบาลสหรัฐฯ ขืนออกมาเรียกร้องก็รายได้หด ถึงกับตกงานหมดอนาคตไปเลยก็ได้
The Eyes
22/04/2558
----------
Thousands March in Baltimore After Black Man's Death in Police Custody / Sputnik International
Six Baltimore Police Officers Suspended After Freddie Gray Dies of Injuries / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
ยูเครน : "เงินเราอยู่ไหน?" คนงานเหมืองถ่านหินนับพันประท้วงเรียกร้องค่าแรงจากรัฐบาลยูเครน



-------------

มาดูสถานการณ์ในยูเครนภายใต้รัฐบาลชุดปัจจุบันที่จัดตั้งโดยสหรัฐฯบ้าง ช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.58) มีคนงานเหมืองชาวยูเครนตะวันออกราว 5,000 คนออกมาประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลจ่ายเงินเดือนของพวกเขาที่ยังค้างอยู่ (รายงานข่าวไม่ได้บอกว่าค้างอยู่กี่เดือน) ประชาชนเหล่านี้มาจากโดเนทส์กและลูฮานส์กที่เคยเกิดการสู้รบกันเมื่อเร็วๆนี้ ได้มารวมตัวกันปิดถนนประท้วงที่หน้าอาคารรัฐสภาและหน้าทำเนียบปธน.ของยูเครน เรียกร้องให้นายกฯ Arseny Yatsenyuk ของยูเครนออกมาเจรจาต่อรอง และเรียกร้องให้รัฐบาลยูเครนรีบจ่ายเงินค้างจำนำข้าว โอ๊ะ! ม่ายช่ายยย ค้างค่าแรงคนงานเหมืองถ่านหินให้กับพวกเขาโดยเร็ว

เพราะพวกเขาจะต้องนำไปเป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูครอบครัวของพวกเขาในชีวิตประจำวันต่อไป ตอนนี้ไม่มีอะไรจะกินแล้ว คนงานเหมืองถ่านหินเหล่านี้ออกมาตะโกนว่า "หน้าไม่อาย!" (Shame on you!) จริงๆแล้วต้องแปลว่า "พวกหน้าด้าน!" (อุ๊ย! แรงอ่ะ) และว่า "เงินของพวกเราอยู่ที่ไหน?" (Where’s our money?) จะอยู่ไหนหละครับ? ก็อยู่ในกระเป๋าพวกนักการเมืองของยูเครนกับสหรัฐฯนั่นนะสิ ยูเครนมีเงินซื้ออาวุธจากสหรัฐฯและยุโรปมาทำสงคราม (กู้มาให้ชาวบ้านจ่ายให้แทน) แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าแรงให้คนงานเหมืองถ่านหินของพวกตน ลดพนักงานของรัฐลงประมาณครึ่งหนึ่ง เศรษฐกิจแย่มากๆ แต่รัฐบาลก็ยังใฝ่ที่จะทำสงครามต่อไปอีก

แบบนี้มันเข้าข่ายแรงงานทาส ละเมิดสิทธิมนุษยชนเห็นๆเลยนะนี่ รัฐบาลสหรัฐฯกับอียูทำอะไรอยู่ พวก HRW ทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่ออกมาเรียกร้องและประณามการกระทำของรัฐบาลยูเครนบ้าง ใช้แรงงานคนโดยไม่จ่ายค่าตอบแทนให้พวกเขาได้อย่างไร? สหรัฐฯรู้เห็นเรื่องนี้ด้วยหรือไม่? สหรัฐฯก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เหมือนเดิม เพราะรัฐบาลนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของสหรัฐฯ ไม่จ่ายก็ไม่เป็นไร สหรัฐฯไม่เคยตำหนิรัฐบาลชุดนี้ของยูเครนอยู่แล้ว

ยูเครนนั้นมีเหมืองถ่านหินอยู่ราว 95 แห่งทั่วประเทศ อยู่ในการควบคุมของกรุงเคียฟ ราว 35 แห่ง (แล้วที่เหลือหละ? อาจจะเป็นของเอกชน) ก่อนหน้านี้รัฐบาลยูเครนบอกว่าจะปิดเหมืองที่ไม่มีผลกำไรในยูเครนตะวันออก 3 แห่ง และเมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็พึ่งเกิดเหตุเหมืองถล่มเนื่องจากอุบัติเหตุระเบิดภายในเหมือง (ในภูมิภาคดอนบาสส์) แต่ไม่เกี่ยวกับสงคราม ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายและได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง รัฐบาลกลางของยูเครนแทบจะไม่ได้ส่งความช่วยเหลืออะไรไปให้เลย เนื่องจากมัวแต่ทำสงครามกันอยู่ (เคยลงข่าวให้อ่านแล้ว)

กรณีการประท้วงเรียกร้องการจ่ายเงินเดือนคนงานเหมืองที่รัฐบาลค้างจ่ายนี้ ทางปธน.ของยูเครนออกมากล่าวว่า "ต้องการให้รัฐบาลยูเครนดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ ในการแก้ไขปัญหาซึ่งทำให้คนงานเหมืองออกมาประท้วงตามท้องถนน" แค่นี้แหละคำพูดของโปโรเชนโก้ ปธน.ของยูเครน จากคำพูดดังกล่าวมีอะไรที่เป็นรูปธรรมและนำไปสู่การปฏิบัติอย่างจริงจังได้บ้าง? ไม่มีเลย เพราะอะไร?

เพราะว่างานนี้อยู่ภายใต้การดูแลของนายกฯ ทั้งนายกฯและปธน.นั้น บางมิติก็ไม่ค่อยจะลงรอยกันสักเท่าไร ก็โยนกันไปมาอย่างที่เห็น นี่แหละนักการเมืองยูเครน ถ้าเถียงกันมากๆ ก็ซัดกันจนปากแตกในสภาฯก็เคยมีมาแล้ว ขนาดออกทีวียังทุ่มโต๊ะใส่กันเลย แล้วรัฐบาลยูเครนรับมือม็อบคนงานเหมืองอย่างไร? แทนที่จะส่งตัวแทนออกมาเจรจารับทราบปัญหา ก็ส่งตำรวจคุมฝูงชนปราบจลาจลออกมาต้อนรับม็อบแทน โชคดีที่ไม่มีการปะทะกัน คนงานเหมืองสลายตัวไปซะก่อน แต่บอกว่าหากยังไม่ได้รับเงินเดือนที่ค้างอยู่ ก็จะกลับมาประท้วงอีก และจะบุกเข้าไปในอาคารของรัฐบาลและรัฐสภาฯด้วย เมื่อวานนี้ก็มีความพยายามทีี่จะบุกเข้าไป แต่ไม่เป็นผล

The Eyes
23/04/2558
----------

http://rt.com/news/252113-kiev-miners-protest-ukraine/
https://www.youtube.com/watch?v=62DSqcrOXs4

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 23 เม.ย.58 เกิดการอุ้มฆ่าในอเมริกาอีกแล้ว ประเทศนี้คือเผด็จการชัดๆ
ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา ตำรวจอเมริกา 6 นาย ได้ใช้กำลังรุมเข้าจับกุม นายเฟรดดี้ เกรย์ ชายผิวสีอายุ 25 ปี ในเมืองบัลติมอร์ รัฐแมรี่แลนด์ โดยไม่แจ้งข้อหาใดๆ และ "ไม่มีกฎหมายมาตรา 44 รองรับ" แล้วเขาถูกลากตัวขึ้นรถตู้กลางวันท่ามกลางสายตาประชาชนและการบันทึกภาพ
แล้วเอาไปทำอะไรบางอย่าง จนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลฉุกเฉิน เขาได้รับบาดเจ็บภายในอย่างแสนสาหัส อาการโคม่า แต่ไม่มีร่องรอยจากการทำร้ายภายนอก แต่มาเขาทนพิษบาดเจ็บไม่ไหว จึงตายอย่างไร้ความผิด
ทางตำรวจออกมากล่าวว่า "ไม่มีหลักฐาน และใบเสร็จว่าตำรวจทำร้ายเขา " และจะไม่ลาออก จะไม่รับผิดชอบใดๆ เพราะการทำเช่นนั้นไม่ใช่ประชาธิปไตย รัฐบาลของสหรัฐฯ ก็เฉยๆ ไม่สนใจ เพราะจ่ายเงินสนับสนุนองค์กร NGO ปิดปากไปแล้ว
ประชาชนย่านนั้นเลยทนไม่ไหว ออกมาประท้วงขู่ทางการว่าจะปิดเมืองแบบเป็นอัมพาต เพราะประเทศอเมริกา มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนกันอย่างโจ่งครึ่ม มีการอุ้มฆ่าประชาชนกลางวันแสกๆ โดยไม่แจ้งข้อหา และไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรม
สื่อมวลชน และ NGO ถูกซื้อและแทรกแซง ประชาชนขาดเสรีภาพ หากออกมาประท้วง ก็จะโดนตำรวจใช้ความรุนแรง ทุบ ตี ต่อย เตะ ใช้เสปรย์พริกไทยฉีด ยิงด้วยแก๊สน้ำตา และปืนจริงทันที เหตุการณ์แบบนี้เกิดเป็นประจำโดยที่คนทั่วโลกไม่ค่อยรู้
นี่คือวิธีการปกครองประชาชนตามระบอบประชาธิปไตย ที่ประชาชนจะขาดเสรีภาพ และถูกอุ้มฆ่ากันอย่างง่ายดาย...ประชาชนไทย รู้สึกกังวล กับสถานการณ์ขาดเสรีภาพ ของประชาชนอเมริกาอย่างมาก
เพราะการละเมิดสิทธิมนุษยชน กระบวนการยุติธรรมที่ 2 มาตรฐาน หวังว่ารัฐบาลอเมริกา จะได้แสดงความรับผิดชอบลาออก และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่โดยเร็วที่สุด เพื่อนำระบอบประชาธิปไตย แบบอนุรักษ์นิยมคืนสู่ มวลมหาประชาชนอเมริกัน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 22 เม.ย.58 รัฐบาลฮูที ปลุกประชาชนทั่วประเทศจัดทัพบุกโจมตีซาอุฯ
เกือบ 1 เดือน ที่ซาอุฯ รุกรานโจมตีทางอากาศเยเมน โดยที่มีสหรัฐให้การสนับสนุน ตั้งแต่เมื่อ 26 มีนาคม โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยรัฐบาลเยเมนเก่าที่อเมริกา ชักใยหันซ้าย ขวาได้ แต่การจัดอีเว้นท์โจมตีทาง อากาศ กลับทำร้ายเด็ก ผู้หญิง คนชรา ผู้บริสุทธิ์ ไปราว 700 ราย
เมื่อวานซาอุฯ ประกาศสิ้นสุดปฏิบัติการ เพราะทำไปก็ไร้ผล โดนเยเมนหลอกอีก ว่าคลังอาวุธถูกทำลาย เพื่อเป็นกลลวงให้ซาอุฯ ส่งทหารเข้าไปติดกับดัก Killing Field ล่าสุดสถานีโทรทัศน์อัล-มาซิราห์ ของรัฐบาลฮูที ปลุกระดมให้ประชาชนออกมาชุมนุมตามท้องถนนสายต่างๆ
เพื่อแสดงพลังว่าคนเยเมน แม้ตายก็ไม่กลัวซาอุฯ กับอเมริกา ฆ่า 1 เกิด 100 พร้อมจะยกกำลังบุกกรุงริยาร์ด ของซาอุฯ และบุกยึดดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของซาอุฯ ให้ตกมาเป็นดินแดนของเยเมนอีกด้วย เป็นจิตวิทยาข่าวสารยามสงคราม การสงครามนั้นจิตวิทยาการรบสำคัญที่สุด
ถามคนเยเมนวันนี้รบเพื่อใคร..คำตอบคือเพื่อดินแดนตัวเอง..ถามทหารซาอุฯ รบและตายเพื่อใคร...เออ..นั่นซิ ก็เหมือนกับทหารอเมริกันรบแพ้ที่เวียดนามนั่นแหละ เมื่อตายมากๆ กระแสประชาชนถามว่ารบเพื่อใคร ?? พอตอบไม่ได้ก็ต้องยกทัพกลับแบบแพ้ยับเยิน
ในเร็วๆ นี้จะได้เห็นรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน สวิตเซอร์แลนด์ และซีเรีย ประชุมกันที่อิหร่าน โดยมีเป้าหมายที่จะพิจารณาแนวทางต่างๆ ในการส่งความช่วยเหลือระหว่างประเทศไปยังซีเรีย ให้มากยิ่งขึ้น..EU คือ ฝรั่งเศส และสวิตฯ แตกออกมาทางอิหร่านแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Jeerachart Jongsomchai



... "ตาลีบัน - ISIL : ประกาศสงครามจีฮัดระหว่างกันในอัฟกานิสถาน หรือสงครามตัวแทนของใคร ? "
.
... เมื่อ 20 เมษายน 2015 ที่ผ่านมามีข่าวจากหัวหน้าตำรวจในเมือง Helmand ของ อัฟกานิสถาน ได้บอกว่าทั้งสองฝ่าย "ตาลีบัน และ ISIL" :ได้ประกาศสงครามจีฮัดระหว่างกันแล้ว ซึ่งก็สอดคล้องกับที่ผ่านมาก็มีระเบิด ที่ Jalalabadเมื่อวันเสาร์ที่ 19 เมษายนที่ผ่านมาที่มีคนตายกว่า 33 คนบาดเจ๊บกว่า 125 คน ซึ่ง "ตาลิบัน" ก็ออกมาประณามว่าเป็นผลงานของ ISIL เหตุการร์นี้เหมือนเป็นการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการของสองฝ่าย
... ก่อนหน้านี้ Abu Bakar Al-Baghdadi หัวหน้าของกลุ่ม ISIL ได้ออกมาประณามว่ากลุ่ม "ตาลิบันเป็นแค่นักรบกระดาษที่โง่งม"
... เพราะอะไรหรือ ? หรือเป็นเพราะว่าสัปดาห์ที่แล้วก่อนหน้านั้น "ตาลิบัน" เพิ่งประกาศว่านักรบของตาลิบันอย่าไปยุ่งกับกับ ISIL เด็ดขาด เพราะแนวคิดไม่ตรงกัน เพราะดูเหมือนว่า ISIL พยายามจะดึงนักรบจากตาลิบันที่เชื่อคำโฆษณาชวนเชื่อของ ISIL ไป จะยิ่งทำให้ ตาลิบัน น้อยลงอ่อนกำลังลงมากกว่าเดิม ( ที่อาจจะเป็นแผนการณ์จากฝ่ายตะวันตกก็ได้ )
... เมื่อความพยายามของเจ้าหน้าที่รัฐอัฟกานิสถานที่จะให้ ISIL ดึงกำลังพลจาก ตาลิบันให้อ่อนแอไม่ได้ผล ก็เลยเกิดการระเบิดขึ้นและทำให้ทั้งสองฝ่ายทเลาะกันเอง ฆ่ากันเอง ไม่ต้องมีกองกำลังตะวันตกมาปราบให้เปลืองงบ "เสี้ยมให้ฆ่ากันเอง" ดีกว่า
... "ตาลิบัน" เกิดมาจากไหน ?
... กลุ่มนี้ปรากฎในสื่อกระแสหลักครั้งแรกก็ในสมัย "สงครามเย็น" ที่มีกลุ่ม "มูจาฮีดีน" ของอิสลามรวมพลังกันต่อต้าน "โซเวียตรัสเซีย" ออกจากอัฟกาสถานโดยมีอเมริกาและซาอุดิอาระเบียเป็นแกนหลกในการอุดหนุนอย่างลับๆและเปิดเผย จนรัสเซียแตกไปในช่วง 1990 - 1991 ซึ่งกลุ่มต่างๆที่รวมกันขับไล่โซเวียตรัสเซีย ก็หันมารบกันเอง ( ซึ่งรวมทั้ง อัล กออิดะห์ ด้วย ) รบกันไปมาสุดท้ายปี 1996 ตาลีบันแข็งแรงกว่าปกครองประเทศอัฟกานิสถานได้ ทำให้อเมริกาไม่พอใจ พยายามหาทางโค่นล้มให้ได้
... จนในปี 2001 เกิดการระเบิดตึกแฝด 9 กันยา ทำให้อเมริกาโยงการที่บินลาเดนไปซุกบีกกลุ่มตาลิบันจนหาเหตุล้างสมองโลกจนเชื่อง ส่งกองทหารผิวขาวต่างศาสนามาโจมตีตาลีบันแตกในปี 2001 ( แท้จริงแล้ว อเมริกามีเป้าหลักคือต้องการกำจัด ตาลิบัน โดยอ้างบินลาเดน เพราะต้องการทำ "ท่อแก๊ส" จากประเทศรอบทะเลแคสเปียน และต้องการ "ปิดล้อมอิหร่าน" ทางตะวันออกไปพร้อมๆกัน
... หลังจากนั้น ประเทศที่ออกมาประกาศหนุน "ตาลิบัน" ในการต่อสู้กับอเมริกาและตะวันตก ก็คือ "อิหร่าน" มีการต่อสู้กันมาตลอดตั้งแต่ 2001 จนถึงปัจจุบัน 2015 ตาลีบันไม่เคยยอมแพ้ เพราะอิหร่านหนุนสุดตัว ล่าสุดเมื่อ 2012 ตาลิบันได้ประกาศว่าได้เปิดสำนักงานอย่างออกหน้าอย่างเป็นทางการในอิหร่านเลยทีเดียว ไม่ต้องปิดบังกันแล้ว สรุปว่าในสายตาของอิหร่านแล้ว ตาลิบันคือโล่ห์เกราะแห่ง "รัฐกันชน" นั่นเอง
... " ISIL" นั้นแง่หนึ่งคือหุ่นเชิดของอเมริกา อิสราเอล และซาอุดิอาระเบีย
... จากกระแสข่าวทั้งกระแสหลักและรองออกมาเหมือนกันหมดว่า ISIL นั้นแง่หนึ่งคือ "หุ่นเชิด" ของอเมริกา อิสราเอล และซาอุดิอาระเบียที่หนุนทั้งทางอาวุธเงินทองรวมทั้งในการแอบส่งน้ำมันเถื่อนไปขายให้ตลาดยุโรปมาตลอด ที่ Zerohedge เคยบอกว่า เป็นนโยบาย "รังแตน" ของตะวันตกในการทำให้อาหรับอิสลามแตกแยก โดยเป็นกองกำลังแบบกองกำลังทางบกระหว่างอิรัก ซีเรีย ตุรกี แต่ครั้งนี้แปลกว่าว่าลามมาที่ "อัฟกานิสถาน" ได้อย่างไร ?
... ครั้งนี้จึงมองได้ว่า “สงครามระหว่าง ตาลิบันและISIL “ ในครั้งนี้คือ "สงครามตัวแทนระหว่างอิหร่านกับตะวันตก" เพราะว่าข่าวที่ออกมานั้นอิสราเอลนั้นพยายามจะบี้อิหร่านให้ตายคามือให้ได้โดยเร็วที่สุด อีกข้างหนึ่งคือฝ่ายเรื่อง โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ในขณะเดียวกันก็แอบอ้อมมาตีด้านตะวันออกของอิหร่านผ่านทาง ISIL โดยต้องทำลาย “ตาลิบัน” ที่เป็นเหมือนโล่ห์เกราะด้านนี้ให้ได้ก่อน หรืออาจจะเป็นการเอาคืนของซาอุดิอาระเบียที่ต้องการแก้แค้นอิหร่านที่ทำให้ตัวเองต้องพ่ายแพ้ใน "สงครามในเยเมน" ล่าสุด จึงต้องเปลี่ยนยุทธศาสตร์โดยการโต้กลับบุกอิหร่าน ผู้ที่ให้การหนุนกลุ่มเฮาซี หรือ ฮูติโดยตรงเสียเลย
... และมองกว้างกว่านั้นมันคือการตั้งใจที่จะให้สงครามอาร์มาเกดดอนที่เริ่มขยายตัวออกไปเรื่อยๆ จาก ยูเครน ซีเรีย อิรัก เยเมน และตามมาด้วย “อัฟกานิสถาน” นั่นเอง เพราะมีข้อสังเกตคือ ISIL ที่เป็นกองกำลังทางบกจะข้ามจากฝั่งตะวันตก ทางอิรัก ซีเรีย มาฝั่งตะวันออกได้อย่างไร? ถ้าไม่มีผู้ให้การสนับสนุนที่เป็นระบบ และมันก็สอดคล้องกับกระแสสงครามในย่านนี้อยู่แล้ว
... นับวันยิ่งจะร้อนแรง เราเองคงต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อมเพราะถ้าเกิดสงครามใหญ่ผลกระทบจะมาแบบกระทันหันและรุนแรงมาก
.
http://www.theoslotimes.com/taliban-isis-announce-war-again…
http://nypost.com/…/suicide-bomb-attack-kills-at-least-30-…/
http://www.telegraph.co.uk/…/Taliban-opens-office-in-Iran.h…

 

Jeerachart Jongsomchai

... "จับตา โป๊ปฟรานซิสแห่งวาติกัน เยือนคิวบาเพื่ออะไร ? "
... วาติกันนั้นสนิทแนบกับอเมริกามานานแล้ว เคยร่วมกันทำสงครามกับคอมมิวนิสต์มาแล้วช่วงสงครามเย็น อย่างเปิดเผย ( ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจ "วาติกัน"เป็นองคฺกรที่ปกครองศาสนา ที่อาจจะมีกลุ่มอิทธิพลครอบงำได้บ้างอยู่แล้ว แบบมหาเถรสมาคมของไทยเรา ... เพราะศาสนาคริสต์โรมันคาทอลิกนั้นเป็นศาสนาที่ประเสริฐศาสนาหนึ่ง คิอต้องแยกกันครับ )
... "คิวบา" นั้นเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของอเมริกา เป็นเหมือนประตูบ้านของอเมริกา เหมือนที่ ยูเครนเป็นประตูบ้านของ "รัสเซีย" ( หรือ เมืองหน้าด่านก็ได้ ) และล่าสุด "รัสเซีย" ก็ต้องการโต้กลับ บุกคืนหลังจากปล่อยให้อเมริกาบุกมาทั้งยูเครนและประเทศแถบทะเลบอลติก ดังนั้น "คิวบา" นิคารากลัว เวเนซุเอร่าร์ จึงคือฐานที่สำตัญของรัสเซียในการโต้กลับ
... เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น อเมริกาพยายามโน้มน้าวผู้นำคิวบาพยายามคืนดี เพื่อจะไม่ให้รัสเซียมาตั้งฐานทัพอีก แต่ยังไม่ได้ผล จึงต้องเอา "ผู้ใหญ่มาช่วยพูด" ซึ่งก็คือ โป๊ปฟรานซิส แห่งวาติกัน นันเอง
... ทั้งหมดนั้นคือการพยายาม"ตั้งรับ" อย่างสุดตัวของ อเมริกานั้นเอง โดนบ้างก็ร้อนตัวเป็นเหมือนกัน "คิวบา" จึงคือเมืองหน้าด่านที่กำลังถูกจีบอย่างหนัก
.

 

Thanong Fanclub



21. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
ก่อนที่CERNจะเปิดดำเนินการเครื่องเร่งอนุภาครอบสองที่มีพลังงานมหาศาลมากกว่าเดิมสองเท่าเพื่อที่จะยิงอนุภาคให้เกิดภาวะบิ๊กแบง ศาสดาจารย์ สตีเฟ่น ฮอกิ้งได้ออกมาเตือนว่าเครื่องเร่งอนุภาคอาจจะสร้างภัยอันตรายใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติ อนุภาคพระเจ้าที่CERNค้นพบอาจจะนำมาสู่การทำลายโลกและจักรวาล เพราะว่าเวลาและอวกาศอาจจะล่มสลายทำให้โลกและระบบสุริยะจักรวาลถูกทำลายเป็นระบบลูกโซ่
แม้แต่นักทฤษฎีฟิสิกซ์ชาวอินเดียของCERNผู้หนึ่ง ชื่อดร. Amit Goswamiได้ออกมาพูดให้วงแตก เขาแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า "จริงๆแล้วเราไม่รู้ว่าเรากำลังทำอะไร" We honestly have no fucking idea what we're doing."
แม้ว่าพวกนักฟิสิคซ์มั่นใจว่าตัวเองกำลังทำอะไร แต่อาจจะไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ก็ได้เหมือนกับที่ Dr Amit Goswamiได้ยอมรับความจริง แต่ส่วนมากนักนักฟิสิกซ์เกือบ8,000คนของCERNยังตั้งความหวังที่จะค้นพบความรู้อันยิ่งใหญ่ หรือความลี้ลับของการก่อกำเนิดของจักรวาลและอนุภาคพื้นฐานของสรรพสิ่งในขณะที่พระเจ้า หรือขบวนการทางฟิสิกซ์กำลังสร้างโลก
ถ้ารู้ความลับนี้ นักฟิสิกซ์อาจจะทะนงตัวมองว่าตัวเองเทียบเคียงพระเจ้าได้ เพราะว่าจะสามารถสร้างจักรวาลได้จากห้องแลป
หลายคนเริ่มเป็นกังวลว่าโครงการCERNทดลองยิงอนุภาคในท่อความเร็วสูงเทียบเท่าแสง มีการฟ้องร้อง CERNให้หยุดการวิจัยและพัฒนาอนุภาคผ่านเครื่องเร่งอนุภาค ไปๆมาๆเครื่องเร่งอนุภาคของCERNอาจจะเปลี่ยนมิติโลก หรือทำลายโลกก็ได้
Dr Amit Goswamiเกรงเหมือนกับที่Stephen Hawkingกลัวว่าการยิงอนุภาคด้วยความเร็วเกือบเท่าแสงอาจจะทำลายโลกได้
เขาอยู่ในค่ายควันตัมฟิสิกซ์ที่ไม่เชื่อในทฤษฎีบิ๊กแบงที่อธิบายว่าจักรวาลเกิดจากการระเบิดของมวลสารที่รวมตัวกันอัดตัวกันอย่างหนาแน่นก่อนที่จะระเบิดออกมากลายเป็นระบบสุริยจักรวาล พวกควันตัมฟิสิกซ์เห็นว่าจักรวาลมีอยู่อย่างไร มันก็เป็นอยู่อย่างนั้นมาก่อน
เขามาถึงจุดที่ไม่เชื่อว่านักฟิสิกซ์รู้ว่าตัวเองมีความรู้จริงๆหรือเปล่า ความรู้ของนักฟิสิกซ์เกี่ยวกับจักรวาลปัจจุบัน ไม่ได้ไปไกลเกินกว่ามนุษย์โบราณอะไรเลย
thanong
http://yournewswire.com/cern-to-attempt-big-bang-in-march-…/
http://waterfordwhispersnews.com/…/we-honestly-have-no-fuc…/

 

Thanong Fanclub



22. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
นักฟิสิกซ์เชื่อในทฤษฎีบิ๊กแบง เพราะส่องกล้องตรวจวัดเห็นจักรวาลและดวงดาวต่างๆเคลื่อนตัวหนีออกจากกันด้วยความเร็ว จึงมานั่งคิดว่าในเมื่อจักรวาลและดวงดาววิ่งหนีออกจากกัน มันต้องเคยอยู่ใกล้กันมาก่อนเมื่อย้อนเวลากลับไป
และถ้าหากเป็นไปได้ เมื่อย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้น หรือนับ1 จักรวาลและดวงดาวน่าจะเคยอยู่รวมกันเป็นส่วนเดียวกัน
เหมือนกับเวลาดูภาพยนต์ในโรงหนัง หนังจะเริ่มฉายตอนต้นไปตอนกลางจนถึงตอนจบ ทีนี้ถ้าเราให้เครื่องฉายภาพยนต์เดินถอยหลัง เราจะได้ดูตอนจบแล้วมายังตอนกลางก่อนที่จะจบลงด้วยตอนต้นของหนัง
ด้วยเหตุนี้นักฟิสิกซ์และนักวิทยาศาสตร์จึงตื่นเต้นมากกับทฤษฎีบิ๊กแบง เพราะว่ามันเป็นการย้อนเวลากลับไปยังจุดเริ่มต้นของการกำเนิดจักรวาล เหมือนกับการฉายหนังหมุนย้อนกลับ
ทฤษฎีบิ๊กแบงอธิบายการเกิดของจักรวาลด้วยสมมุติฐานดังนี้:
1. เวลาเกิด (the beginning of time) หลังการขยายตัวของอะตอมเม็ดเดียวมีการระเบิดและขยายตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ภายในไม่กี่ล้านล้านหน่วยของวินาทีเม็ดอะตอมมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่าผลองุ่น
2. หลังจากขยายตัวระยะหนึ่ง จักรวาลมีรูปร่างเหมือนซุปร้อนๆ มีคว๊าค มีอิเลคตรอนและอนุภาคต่างๆเกิดขึ้น
3. จักรวาลที่เย็นลงอย่างรวดเร็วทำให้ค๊วาครวมตัวกันทำให้เกิดโปรตอนและนิวตรอน
4. สภาวะที่ร้อนเกินไปทำให้อะตอมยังฟอร์มตัวกันไม่ได้ อีเลคตรอนและโปรตอนทำให้แสงส่องออกมาไม่ได้ จักรวาลเป็นเหมือนม่านหมอกที่ร้อนจัด
5. อีเลคตรอนรวมตัวกันกับโปรตอนและนิวตรอนกลายเป็นอะตอม โดยมากแล้วจะเป็นอะตอมของไฮโดรเจนและฮีเลี่ยม เริ่มมีแสงส่องออกมาได้
6. แรงโน้มถ่วงทำให้ไฮโดรเจนและฮีเลี่ยมรวมตัวกันเป็นแกแลคซี่ ส่วนกลุ่มก้อนก๊าซที่มีขนาดเล็กกว่ารวมตัวกันเป็นดวงดาว
7. ในขณะที่แกแลคซี่รวมตัวกันภายใต้แรงโน้มถ่วง ดวงดาวที่ก่อตัวระยะแรกจะตาย พ่นสสารต่างๆออกมาในอวกาศทำให้เกิดดวงดาวและดาวนพเคราะห์
สิ่งที่เครื่องเร่งอนุภาคของCERNกำลังทดลองอยู่เวลานี้ตามคำบอกเล่าของCERNคือสร้างเหตุการณ์จำลองเพื่อย้อนรอยการเกิดของจักรวาล ด้วยการยิงอนุภาคโปรตอนด้วยความเร็วสูงเกือบเท่าแสดงภายใต้สภาวะที่ควบคุมในท่อใต้พื้นดินเพื่อให้ชนกัน หลังจากนั้นจะตรวจสอบวัดดูว่าอนุภาคจิ๋วต่างๆที่เกิดจากการแตกสลายของโปรตอนคืออะไร และเพื่อทำความเข้าใจว่าจุดกำเนิดของเวลาคืออะไร
แต่ปัญหาของทฤษฎีบิ๊กแบงคือจุดเริ่มต้นของเวลาเมื่ออะตอมเม็ดเดียวเกิดระเบิดออกมาทำให้เกิดการขยายตัว เพราะว่าการเกิดทุกอย่าง ต้องมีสิ่งอย่างน้อย2สิ่งขึ้นไปกระทบกัน เช่นพ่อเรามาเจอแม่เรา เกิดการกระทบกัน บิ๊กแบง!!!ทำให้เราและพี่น้องเราเกิดตามกันมาได้ พ่อหรือแม่คนเดียวทำให้เกิดบิ๊กแบงไม่ได้ เพราะฉะนั้นอยู่ดีๆ อะตอมเม็ดเดียวจะระเบิดออกมาขยายตัวจะเป็นไปไม่ได้ ต้องมีอะตอมอย่างน้อยอีกตัวหนึ่งกระทบกันอย่างรุนแรงถึงจะเกิดแรงระเบิดออกมา
แล้วอะไรที่จะมำให้อะตอมสองเม็ดนั้นมากระทบกันด้วยแรงเสน่หาแบบบิ๊กแบงเพื่อทำให้จักรวาลเกิดขึ้นมา ที่สำคัญอะตอมสองเม็ดนั้นแรกเริ่มมาจากไหน?
ไอสไตน์ วิญญานท่านอยู่ไหน ช่วยมาตอบด้วย?
thanong
23/4/2015

 

Thanong Fanclub



23. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
นักฟิสิกซ์ของCERNเหมือนเด็กที่ซุกซนชอบเล่นไม้ขีดไฟ ผู้ใหญ่อย่างศาสดาจารย์ สตีเฟ่น ฮอกิ้ง (Stephen Hawking) และดร. Amit Goswamiออกมาเตือนแล้วก็ไม่เชื่อว่า เล่นยิงอนุภาคไปมาอาจจะทำให้โลกและจักรวาลล่มสลายได้
แน่นอนนักฟิสิกซ์ของCERN8,000คนไม่ได้สุมหัวกันเพื่อหาอนุภาคพระเจ้าอย่างเดียว ในหัวต้องใครแอบมีการคิดเรื่องที่เลวร้ายก็ได้จากการผลพลอยได้ของการทดลองเครื่องยิงอนุภาคก็ได้
แล้วเรื่องที่เลวร้ายที่นักฟิสิกซ์ของCERNอาจกำลังคิดทำอยู่คืออะไร?
บางทีDan Brown นักเขียนนิยายแนวสืบสวนเชิงสัญยลักษณ์ของพวกอิลลูมิเนติอาจจะแย้มให้เราได้รู้จักนิยายเล่มแรกๆที่ทำให้เขามีชื่อเสียง คือAngels & Demons ดูลักษณะพล๊อตเรื่องและงานเขียนของDan Brownแล้ว ไม่น่าที่จะเป็นไปได้ที่เขาจะเขียนเอง ต้องมีใครคนใดคนหนึ่งหรือกลุ่มบุคคลช่วยDan Brownสร้างพล๊อตเรื่องที่สะท้อนเป้าหมายของพวกอิลลิทที่ต้องการสร้างโลกใหม่
พูดง่ายๆDan Brownต้องเป็นเด็กสร้างของพวกอิลิท
เรื่องAngels & DemonsของDan Brownสะท้อนการทำงานของCERNและความเกี่ยวข้องของโรมันแคทอลิก เรื่องDa Vinci Codeสะท้อนความต่อเนื่องของอำนาจที่ไม่เสื่อมคลายของพวกอัศวินครูเสด และเชื้อสายของพระเยซูที่ยังสืบเนื่องถึงทุกวันนี้ และเรื่องInfernoเป็นเรื่องที่สะท้อนความพยายามที่จะลดประชนกรโลก
ในเรื่องAngels & Demon พระเอกของเรื่องคือRobert Langdonถูกเรียกตัวมาสืบเรื่องพวกอิลลูมิเนติที่ได้ขโมยเอากล่องที่บรรจุปฏิสสาร (antimatter) ไปจากCERN และถ้าปล่อยให้อยู่ในมือของคนไม่ดี กล่องปฎิสสารอาจจะทำลายโลกได้
อย่างที่เขียนแล้วก่อนหน้านี้ นักฟิสิกซ์ระดับรางวัลโนเบลชาวอังกฤษ Paul Diracเป็นผู้นำเสนอสมการใหม่ว่าทุกๆอนุภาค (particle) จะมีอนุภาคต้าน (antiparticle) และจะมีประจุที่ตรงกันข้ามกัน เช่นเมื่อมีอีเลคตรอน ก็จะต้องมีแอนตี้อีเลคตรอนเหมือนกันทุกอย่างเพียงแต่ว่ามีประจุบวก เพราะว่าอีเลคตรอนมีประจุลบ ด้วยข้อเสนอนี้ทำให้การศึกษาความเป็นไปได้ที่แกแล็กซี่และจักรวาลมีส่วนประกอบของปฏิสสาร (antimatter)ด้วย
เมื่อสสารและปฏิสสารมากระทบกัน จะทำลายกันเอง หายตัวไปอย่างทันทีกลายเป็นพลังงาน เหตุการณ์บิ๊กแบงที่ก่อกำเนิดจักรวาลน่าจะทำให้มีปริมาณของสสารและปฏิสสารในปริมาณที่เท่ากัน แต่ในความเป็นจริงมีสสารมากกว่าปฏิสสารในจักรวาล
นักฟิสิกซ์ของCERNจำนวนหนึ่งต้องกำลังศึกษาปฏิสสารอย่างเข้มข้นเพื่อหาพลังงานของจักรวาล หรือทำระเบิดที่ร้ายแรงกว่านิวเคลียร์
ในAngels & Demons พระเอกคือRobert LangdonถูกเรียกตัวมาสืยสวนการฆาตกรรมนายLeonardo Vetra นักฟิสิกซ์ของCERN โดยมีนางเอกVittoriaมาช่วยด้วย ตัวละครหลักคือ Camerlengo Carlo Ventresca ผู้ช่วยมือขวาขององค์พระสันตปะปาหรือโป๊ปที่โดนลอบปลงพระชนม์
มีอยู่วันหนึ่งโป๊ปเล่าให้นักฟิสิกซ์ของCERNคือนายLeonardo VetraและCamerlengoฟังว่าแท้ที่จริงแล้ว Camerlengoเป็นบุตรของโป๊ปเอง อันเกิดกับแม่ชี ทำให้Camerlengoผิดหวังในโป๊ปมากที่ทำผิดประเวณี Camerlengoเลยวางยาพิษโป๊ปและวางแผนขโมยกล่องที่บรรจุปฏิสสารเพื่อทำลายมหาวิหารSt Peter'sที่เป็นสัญยลักษณ์ของคริสตจักรโรมันแคทอลิก และเพื่อกอบกู้ศาสนา
ความจริงโป๊ปเล่าความจริงยังไม่จบ แต่โดนCamerlengoปลงพระชนม์ก่อน ที่จริงแล้วCamerlengoเป็นเด็กหลอดแก้ว เกิดจากการผสมเทียม โป๊ปรักลูกและทึ่งในวิทยาศาสตร์มาก จึงให้การสนับสนุนงานวิจัยของCERNเต็มที่เพื่อความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ โป๊ปเชื่อว่าปฏิสสารอาจจะเป็นการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์และพระเจ้าได้
พล๊อตเรื่องดำเนินไปอย่างตื่นเต้นเพราะว่าCamerlengoฆ่าพวกคาร์ดินาลและผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก รวมทั้งให้คนลักพาตัวVittoriaไป
Robert Langdonจะตามหาตัวผู้ร้ายได้ต้องเดินย้อนศรทางของพวกอิลลูมินาติ (Path of the Illumination) ที่มีพิธีการรับสมาชิกเข้าเป็นพวก CarmerlengoหลอกLangdonเหมือนเล่นซ่อนหากัน ไปๆมาๆCarmerlengoเป็นผู้พบกล่องบรรสุปฏิสสารที่หลุมฝังศพของเซ็นท์ปีเตอร์ที่อยู่ฐานใต้วิหารเซ็นท์ปีเตอร์ ความจริงแล้่วCarmerlengoเปลี่ยนใจไม่ต้องการระเบิดวิหารเซ็นท์ปีเตอร์เพราะว่าได้มีฌานกับพระเจ้าทั้งCarmerlengoและLangdonหนีขึ้นเฮลิคอปเตอร์ก่อนที่ปฏิสสารจะระเบิด Carmerlengoกระโดดร่มลงมาอย่างปลิดภัย ยืนบนตึกของวิหารเซ็นท์ปีเตอร์ ส่วนLandongเกาะประตูเครื่องหล่นลงไปในแม่น้ำTiberปลอดภัยเหมือนกัน
ผู้คนทึ่งในความอัศจรรย์ที่Carmerlengoยืนอยู่บนวิหารเว็นท์ปีเตอร์ เหล่าคาร์ดินัลประชุมกันและเห็นพ้องว่าจะเลือกให้Carmerlengoเป็นโป๊ปองค์ต่อไป Mortati หัวหน้าคณะของคาร์ดินัลเป็นผู้ได้ดูเทปที่มีการอัดเอาไว้ระหว่างที่โป๊ปพูดคุยกับVetraและCarmerlengoที่ฟังความไม่จบเอาความจริงมาบอกCarmerlengo เมื่อรู้ความจริงว่าตัวเองฆ่าพ่อตัวเองตายCarmerlengoจึงมีความเสียใจอย่างแรง ราดน้ำมันใส่ตัวเองและเผาตัวเองที่จัตุรัสเซ็นท์ปีเตอร์ให้ทุกคนได้เห็น
เรื่องจบลงด้วยMortati ได้รับเลือกเป็นโป๊ป และพระเอกLangdonและนางเอกVittoriaได้มาอยู่กันอีกครั้งที่โรงแรมBernini ไม่ต้องบอกก็รู้่ว่าเกิดปรากฎการณ์บิ๊กแบงค์ขึ้นมาอย่างไรของเรื่องส่วนตั๊วส่วนตัว ว. 5 บนชั้น7ของโรมแรมBerniniที่ให้ความสุขกายสบายอารมณ์ทั้ง4ฤดู
thanong
23/4/2015

 

เจอทุจริต 115 ราย มท.1 ยืนยัน ขรก.ซี10 ร่วมด้วย
โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 23 เม.ย. 2558 07:25



ต้องขอใช้ม.44 เฉดหัว มอบ ‘วิษณุ’ ตรวจสอบ ก่อนประกาศทางการ

รมว.มหาดไทย เผยได้รับรายชื่อข้าราชการทุจริตอื้อซ่าถึง 118 ราย เป็นข้าราชการในสังกัดกระทรวงถึง 115 ราย อีก 3 เป็นของกรุงเทพมหานคร จ่อฟันไม่เลี้ยงตามนโยบายนายกฯ “วิษณุ” ตรวจสอบครั้งสุดท้ายว่าใครจะโดนมาตรา 44 ป.ป.ช.ไฟเขียวให้ “ธาริต” ขยายเวลาชี้แจงที่มาทรัพย์สิน ส่วนกระทรวงศึกษาธิการพบการจ้างออกแบบอาคารของสำนักงาน สกสค. วงเงิน 360 ล้านบาท ผิดชัดเจน นายกรัฐมนตรีเตรียมฟันบรรดาข้าราชการที่ทุจริตและชอบรับอามิสสินจ้าง หลังให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ศอตช. รวบรวมรายชื่อข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต พบว่ามี 198 ราย นั้น

ทั้งนี้ ที่กระทรวงมหาดไทย เมื่อบ่ายวันที่ 22 เม.ย. พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการกับข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตว่า หลังจากได้รับรายชื่อจำนวน 118 ราย จากนายกรัฐมนตรีเพื่อให้เร่งรัดดำเนินการ โดยในจำนวนนี้เป็นข้าราชการกระทรวงมหาดไทย 115 ราย กรุงเทพมหานคร 3 ราย ทั้งหมดเป็นข้าราชการประจำและข้าราชการท้องถิ่น มี 3-4 รายที่เป็นผู้บริหารระดับ 10 ขึ้นไป ขอให้สังคมสบายใจ เพราะ มีความตั้งใจต้องการเร่งรัดการดำเนินการ หากผล การตรวจสอบเป็นที่สุด จะดำเนินการเอาผิดทางวินัยด้วยโทษสูงสุด แต่หากกระบวนการตรวจสอบยังไม่สิ้นสุด จะเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาใช้ อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว จัดการกับคนเหล่านี้ ยอมรับว่าเคยทำเรื่องไปยังคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เพื่อขอตำแหน่งพิเศษให้กลุ่มคนดังกล่าวไปประจำ แต่ ก.พ.ไม่อนุมัติ จึงต้องใช้อำนาจของนายกรัฐมนตรีจัดการกับคนเหล่านี้

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงยุติธรรมมีข้าราชการที่มีชื่ออยู่ 5 ราย สังกัดกรมราชทัณฑ์และดีเอสไอ ในจำนวนนี้มีรายชื่อที่ถูกชี้มูลแล้ว 2-3 ราย สั่งการให้ถอดจากตำแหน่งหน้าที่แล้ว ทั้งนี้ รายชื่อที่มีอยู่ทั้งหมด 198 รายชื่อนั้น มีทั้งที่ชี้มูลและยังไม่ได้ ชี้มูลความผิด ส่วนกลุ่มที่ต้องใช้กฎหมาย ม.44 ดำเนินการ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้ตรวจสอบรายชื่อเป็นครั้งสุดท้าย เพื่อเอารายชื่อแนบท้ายก่อนประกาศใช้ ม. 44 ส่วนอีกกลุ่มก็จะให้รัฐมนตรีของแต่ละกระทรวงดำเนินการตามกฎระเบียบ

ในส่วนที่นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอ ที่ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติและสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เรียกให้ชี้แจงที่มาของทรัพย์สินนั้น วันเดียวกัน นายปรีชา เลิศกมลมาศ กรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะประธานคณะ อนุกรรมการไต่สวนเรื่องนี้ เป็นประธานประชุมคณะอนุกรรมการไต่สวน พิจารณาคำร้องของนาย ธาริต ที่ยื่นขอขยายเวลาการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินที่ถูก ป.ป.ช.อายัดทรัพย์สินจำนวน 40.9 ล้านบาท หลังประชุมนายปรีชากล่าวว่า คณะอนุกรรมการฯ มีมติให้ขยายเวลาการเข้าชี้แจงของนายธาริตออกไปอีก 30 วัน โดยจะครบกำหนดในวันที่ 19 พ.ค. 58 เบื้องต้นนายธาริตชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรมาที่คณะอนุกรรมการฯก่อน แล้วมาให้ถ้อยคำด้วยตัวเองกับ ป.ป.ช.ในภายหลังได้ แต่ถ้านายธาริตมาชี้แจงทั้งหมดด้วยตัวเอง จะเป็นผลดีมากกว่า ประเด็นที่คณะอนุกรรมการต้องการให้นายธาริตชี้แจงอย่างละเอียดคือ กรณีที่ ป.ป.ช.ได้อายัดทรัพย์สินของนายธาริตไว้ชั่วคราว ตามที่ ป.ป.ช.ส่งหนังสือแจ้งให้นายธาริตทราบแล้ว

นอกจากนี้ นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธาน ป.ป.ช. ขอให้ตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีดีเอสไอ เนื่องจากไม่สั่งฟ้อง พ.ต.ท.ศุภชัย ผุยแก้วคำ อดีตรอง ผกก.สภ.เมืองพัทยา ผู้จ้างวานมือปืนยิงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในสมัยดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นนายธาริต ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงอย่างชัดเจนผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยว่า พ.ต.ท.ศุภชัยเป็นผู้จ้างวานมือปืนยิงวัดพระแก้ว เป็นเงิน 5 แสนบาท ดังนั้นพฤติกรรมของนายธาริตทำในสิ่งที่สวนทางกับคำพูดของตัวเองขณะเป็นเลขานุการ ศอฉ. จึงน่าสงสัยว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ขณะนี้ทราบว่า พ.ต.ท.ศุภชัยกำลังขออนุญาต คสช.ออกนอกประเทศ จึงขอให้ คสช.พิจารณาให้รอบคอบว่า ถ้าอนุญาตให้ออกนอกประเทศแล้ว พ.ต.ท.ศุภชัยจะเดินทางกลับมาหรือไม่

อีกด้านที่กระทรวงศึกษาธิการ พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงว่า ได้ชี้แจงถึงคำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีการโยกย้ายผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงฯ โดยขอให้ผู้ที่รับหน้าที่ใหม่ไปศึกษางาน เพื่อให้การดำเนินงานต่างๆ เกิดความต่อเนื่อง ไม่สะดุดโดยล่าสุดได้แต่งตั้งให้นายกมล ศิริบรรณ รองปลัดกระทรวงฯ ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) นายสุเทพ ชิตยวงษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวง ปฏิบัติหน้าที่ตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การค้าฯ และเชิญทั้ง 3 คนมาพูดคุยทำความเข้าใจ ในงานที่ได้รับมอบหมาย อาจเป็นงานที่ทำให้เกิดความลำบากใจ และมีการต่อต้านจากบุคลากรในหน่วยงานอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าทั้ง 3 คนเข้าไปบริหารงานได้ หากมีอุปสรรคอะไรให้มาปรึกษาหารือ ยินดีให้ความช่วยเหลือเต็มที่

พล.ร.อ.ณรงค์กล่าวด้วยว่า ในส่วนของ สกสค. ให้ไปดูเรื่องการดูแลสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมถึงการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์ต่อสวัสดิการครูให้มากที่สุด ขณะองค์การค้าฯ ได้กำชับให้ดูแลการจัดพิมพ์ตำราเรียนให้ทันเปิดเรียน อย่าให้คำสั่งโยกย้ายครั้งนี้เป็นข้ออ้างทำให้การจัดพิมพ์ตำราเรียนเกิดความล่าช้า ส่วนการตรวจสอบความถูกต้องและโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณ การบริหารการเงิน ทรัพย์สิน และผลประโยชน์อื่นใดของทั้ง 3 หน่วยงาน คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) จะเข้ามาช่วยดูแล หากมีข้อมูลใดที่เกี่ยวข้อง ขอให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ฯ ทั้ง 3 หน่วยงาน ดูแลให้ข้อมูลกับ คตร.เพื่อให้การตรวจสอบมีความรอบด้านมากขึ้น

นายกำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ในวันที่ 24 เม.ย. พล.ร.อ.ณรงค์ได้เชิญคณะกรรมการ สกสค.คณะกรรมการคุรุสภา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าฯ รวม 3 หน่วยงานประชุมกัน เพื่อหารือแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ และตั้งแต่ที่มีคำสั่งโยกย้ายผู้บริหารกระทรวงฯ ก็ยังไม่มีการพูดคุยกับนายสมศักดิ์ ตาไชย และนายสมมาตร มีศิลป์ สำหรับนายสมศักดิ์ นายสมมาตร ขณะนี้ยังถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา ยังไม่ถือว่ามีความผิด คงต้องให้โอกาสชี้แจง ในส่วนของ สกสค. และองค์การค้าฯ จะมีปัญหาในลักษณะที่คล้ายกัน คือปัญหาการจัดซื้อจัดจ้าง ทั้งกรณีทุจริตการก่อสร้างอาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ จำนวน 360 ล้านบาท ซึ่งตนเป็นประธานสืบสวนข้อเท็จจริง ผลออกมาแล้วว่ามีมูลที่ส่อไปในทางทุจริต มีการขยายเวลาการก่อสร้าง แก้ไขแบบ ทำให้ผิดสัญญา ไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ.2535 ก่อให้เกิดความเสียหายกับทางราชการ ขณะที่องค์การค้าฯ จะมีข้อร้องเรียน ที่เคยได้รับการตรวจสอบไปแล้ว อาทิ การเช่าแท่นพิมพ์ พิมพ์แบบเรียนในราคาที่สูงเกินจริง เป็นต้น ส่วนคุรุสภา มีปัญหาเรื่องร้องเรียน การเรียกรับเงินในการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการคุรุสภาจังหวัด แต่ยังไม่มีผู้เสียหายมาร้องเรียนโดยตรง จากนี้หากมีผู้มาร้องเรียนก็จะมีการตรวจสอบต่อไป

ขณะที่นายพินิจศักดิ์กล่าวว่า หลังจากมีคำสั่งให้มาปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.และมอบนโยบายให้เข้าไปดูแลโครงการต่างๆของสำนักงาน ให้เป็นไปด้วยความโปร่งใส ได้เชิญรองเลขาธิการ สกสค.ทั้ง 4 คนมาพูดคุยเรื่องการทำงาน พร้อมทั้งได้ขอเอกสารการดำเนินโครงการที่เกิดปัญหา มาศึกษาในรายละเอียด ต้องใช้เวลาในการตรวจสอบและทำความเข้าใจพอสมควร ในการประชุมบอร์ด สกสค. วันที่ 24 เม.ย. อาจจะยังไม่มีการนำผลสอบสวนข้อเท็จจริง เกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง อาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 360 ล้านบาทของสำนักงาน สกสค. ที่พบว่าส่อมีการทุจริตมาพิจารณา แต่จะพิจารณาเรื่องเร่งด่วนที่ตกค้าง ส่วนประเด็นข้อร้องเรียนการทุจริตต่างๆนั้น ขอเวลาในการศึกษาและตรวจสอบรายละเอียดก่อน สำหรับตนพร้อมทำหน้าที่นี้อย่างเต็มที่ และอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เมื่อรัฐบาลและ คสช.มีความชัดเจนว่าต้องการทำให้กระทรวงใสสะอาด ก็ไม่กลัวว่าจะมีใครเข้ามาล้วงลูก หรือเกิดรายการคุณขอมา การตรวจสอบครั้งนี้ ตนทำหน้าที่ตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ไม่มีมวยล้มต้มคนดูแน่ หากมีการทุจริตเกิดขึ้นจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การสืบสวนข้อเท็จจริง การดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัดเชียงใหม่ วงเงิน 360 ล้านบาทของสำนักงาน สกสค.นั้น คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯ พบหลักฐานที่ชัดเจนว่า กรณีการจ้าง หจก.เอี่ยมเกศกิจออกแบบก่อสร้างอาคาร อาจดำเนินการมิชอบด้วยกฎหมาย โดย หจก.แห่งนี้ มีคุณสมบัติไม่ตรงตามประกาศเชิญชวนเข้าเสนอราคาของ สกสค. โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีผลงานประกอบการพิจารณาตั้งแต่ต้น จากการไปตรวจสอบสถานที่ตั้ง หจก.เอี่ยมเกศกิจ ของเจ้าหน้าที่สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พบว่า ปัจจุบันศาลล้มละลายกลาง มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของ หจก.แห่งนี้ไว้เด็ดขาด เมื่อวันที่ 27 พ.ย.2555 ต่อมาได้มีคำพิพากษาให้ล้มละลาย เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.2556 อีกทั้งยังพบว่างานออกแบบของ หจก.เอี่ยมเกศกิจที่ชนะการออกแบบ ไม่สมบูรณ์ ไม่ตรงตาม TOR ที่กำหนดไว้ ที่สำคัญคือผู้บริหาร สกสค.มีเจตนาในการเปลี่ยนแบบแปลนการก่อสร้างจาก 7 ชั้น เป็น 9 ชั้น โดยที่ไม่ได้มีการเสนอขออนุมัติจากบอร์ด สกสค.ก่อน แต่พอมีเรื่องร้องเรียนเกิดขึ้นจึงมีการนำเสนอให้บอร์ดพิจารณาในภายหลัง ซึ่งบอร์ด สกสค.ให้ก่อสร้างตามแบบแปลนเดิม

เจอทุจริต 115 ราย มท.1 ยืนยัน ขรก.ซี10 ร่วมด้วย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

In Pics : ระทึก! “ภูเขาไฟคาลบูโก” ในชิลีปะทุครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2558 09:18 น. (แก้ไขล่าสุด 23 เมษายน 2558 10:42 น.)



รอยเตอร์ - ภูเขาไฟคาลบูโกทางตอนใต้ของชิลีเกิดปะทุอย่างรุนแรงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี ปลอดปล่อยกลุ่มควันและเถ้าถ่านหนาทึบขึ้นสู่ท้องฟ้าเกือบ 20 กิโลเมตรเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) จนสำนักงานบรรเทาเหตุฉุกเฉินแห่งชาติชิลี (ONEMI) ต้องออกประกาศเตือนภัยขั้นสูงสุด

ภูเขาไฟคาลบูโกซึ่งอยู่ห่างจากกรุงซันติอาโกไปทางใต้ราว 1,000 กิโลเมตร ใกล้เมืองเปอร์โตวาราสซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยว เกิดปะทุขึ้นอย่างกะทันหันเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ราว 04.00 น.วันนี้ตามเวลาในไทย)

ทางการชิลีได้สั่งอพยพประชาชนในรัศมี 20 กิโลเมตร และสั่งให้โรงเรียนปิดการเรียนการสอนชั่วคราว

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมามีชาวบ้านอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงแล้วประมาณ 4,000 คน ขณะที่ประธานาธิบดี มิเชล บาเชเล็ต แห่งชิลี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยในวันนี้ (23)

ล่าสุดยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต สูญหาย หรือได้รับบาดเจ็บ แต่ โรดริโก เปนญาอีลิลโล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยชิลี ขอร้องให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงรีบอพยพออกมาเสียก่อน และเตือนให้ระวังอันตรายจากน้ำและเศษหินที่อาจไหลลงมาตามลาดภูเขาไฟสู่ที่ราบลุ่มแม่น้ำโดยรอบ

กระแสลมที่พัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือทำให้เถ้าถ่านและควันจากภูเขาไฟลอยข้ามแดนไปถึงอาร์เจนตินา

กาเบรียล โอรอซโก นักภูเขาไฟวิทยาจากสำนักงานธรณีและเหมืองแห่งชิลี ให้สัมภาษณ์ว่า “ในกรณีนี้เถ้าถ่านภูเขาไฟลอยขึ้นไปเป็นระยะทางสูงมาก จึงมีความเสี่ยงที่มันจะตกลงมาตามแรงโน้มถ่วงเพราะน้ำหนักของมันเอง ซึ่งจะทำให้เกิดเป็นมวลก๊าซพิษและเศษหิน (pyroclastic flow)” ที่มีความร้อนจัด และสามารถทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในเส้นทางที่มันผ่านไปด้วยความเร็วสูงถึง 200-300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

สายการบิน LATAM ประกาศยกเลิกเที่ยวบินไป-กลับเมืองเปอร์โตมอนต์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เนื่องจากเถ้าถ่านภูเขาไฟอาจทำให้เป็นอันตรายต่อการบิน

ชิลีตั้งอยู่ในแนววงแหวนไฟแห่งมหาสมุทรแปซิฟิก และมีเทือกภูเขาไฟที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากอินโดนีเซีย

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046302

 

ทางการกรีซควบคุมตัวเศรษฐีดัง “เลโอนิดาส โบโบลาส” ไปสอบสวนฐาน “จงใจเลี่ยงภาษี” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2558 05:59 น. (แก้ไขล่าสุด 23 เมษายน 2558 10:30 น.)



เอเจนซีส์ - เลโอนิดาส โบโบลาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) กลุ่มเอลลัคตอร์ กรุ๊ป บริษัทก่อสร้างรายใหญ่ที่สุดของกรีซถูกควบคุมตัวในวันพุธ (22) ไปสอบสวนความผิดฐาน “เลี่ยงภาษี”

รายงานข่าวระบุว่า มหาเศรษฐีชื่อดังรายนี้ถูกสอบสวนและถูกสั่งให้จ่ายเงินจำนวน 1.8 ล้านยูโร (ราว 62.5 ล้านบาท) คืนแก่รัฐโดยเร็วที่สุด

ความเคลื่อนไหวล่าสุดถือเป็นความพยายามจัดระเบียบทางการคลังของรัฐบาลฝ่ายซ้ายของกรีซ ภายใต้การนำของกลุ่มการเมือง “ซีริซา” ที่เพิ่งก้าวขึ้นสู่อำนาจหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม

ทั้งนี้ รัฐบาลใหม่ของกรีซประกาศจะกวาดล้างการก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจทุกรูปแบบ รวมถึงการเลี่ยงภาษีอย่างจริงจัง และโบโบลาสถือเป็น “คนดัง” รายแรกที่ถูกควบคุมตัวจากการหลบเลี่ยงภาษี ซึ่งสร้างความเสียหายไม่น้อยให้กับเศรษฐกิจกรีซในแต่ละปี

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046279

 

โฆษกมะกันแฉรัสเซียเสริม “ระบบป้องกันภัยทางอากาศ” ในยูเครนตะวันออก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 เมษายน 2558 10:21 น.



รอยเตอร์ – รัฐบาลสหรัฐฯ กล่าวหารัสเซียว่านำระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้าไปติดตั้งในภาคตะวันออกยูเครนเพิ่มเติม และยังฝึกยุทธวิธีให้แก่กองกำลังกบฏแบ่งแยกดินแดน ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงกรุงมินสก์

แมรี ฮาร์ฟ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงวานนี้ (22 เม.ย.)ว่า “ระบบป้องกันภัยทางอากาศที่รัสเซียนำเข้าไปติดตั้งในยูเครนตะวันออก เพิ่มจำนวนสูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นมา” ขณะที่การซ้อมรบของฝ่ายกบฏก็เป็นไปอย่างซับซ้อนยิ่งขึ้น “จนเชื่อได้ว่ารัสเซียต้องมีส่วนช่วยเหลือ”

ฮาร์ฟ ชี้ว่า อากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของรัสเซียที่ฝ่ายกบฏนำมาใช้ในการฝึกซ้อม คือหลักฐานยืนยันว่ามอสโกยังไม่วางมือจากวิกฤตความขัดแย้งครั้งนี้

การสู้รบในยูเครนตะวันออกทวีความร้อนระอุขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์นี้ แม้ข้อตกลงหยุดยิงจะยังมีผลบังคับใช้มาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ โดยแต่ละฝ่ายอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามใช้ความรุนแรงก่อน ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (20) รัฐมนตรีต่างประเทศ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ของรัสเซีย ได้แสดงความมั่นใจว่า การละเมิดข้อตกลงหยุดยิงได้ผ่านพ้นไปแล้ว

อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กลับออกมาแฉว่า รัสเซียส่งกองกำลังเข้าไปตรึงชายแดนยูเครนเพิ่มขึ้น

“รัสเซียกำลังส่งทหารเข้าไปเพิ่มเติม หลังจากที่ตรึงแนวชายแดนอย่างมั่นคงอยู่แล้ว” ซึ่งทำให้เวลานี้มีทหารรัสเซียประจำการอยู่ตามแนวพรมแดนยูเครนหนาแน่นที่สุดตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา

ฝ่ายกบฏในภาคตะวันออกซึ่งโกรธแค้นที่อดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช ถูกโค่น และไม่ยอมรับอำนาจของรัฐบาลยูเครนชุดใหม่ซึ่งมีจุดยืนเอียงข้างยุโรป ได้ประกาศแยกตัวเป็นอิสระจนเกิดเป็นวิกฤตการณ์สู้รบที่ยืดเยื้อมานานถึงปีเศษ และทำให้มีผู้ถูกสังหารไปแล้วมากกว่า 6,000 คน

ยูเครนและพันธมิตรตะวันตกกล่าวหาว่ามอสโกส่งทั้งทหารและอาวุธเข้าไปหนุนหลังกบฏแบ่งแยกดินแดน ซึ่งรัสเซียยืนกรานปฏิเสธมาตลอด

สหรัฐฯและยุโรปผนึกกำลังคว่ำบาตรรัสเซีย และเตือนว่าบทลงโทษทางเศรษฐกิจจะถูกยกเลิกก็ต่อเมื่อรัสเซียยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขหยุดยิงที่ตกลงกันไว้ที่เมืองหลวงของเบลารุสโดยไม่บิดพลิ้ว

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000046331