ติดตามสถานะการณ์

ไฟป่าลามหนักใกล้เขื่อนในแคลิฟอร์เนีย
ทางการรัฐแคลิฟอร์เนียในสหรัฐกำลังพยายามอย่างหนัก ในการดับไฟป่าที่ลุกลามมาตั้งแต่วันเสาร์ ใกล้เขื่อนแห่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแองเจลิส
วันจันทร์ 20 เมษายน 2558 เวลา 11:05 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครลอสแองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่าสำนักงานป้องกันเพลิงไหม้และไฟป่าแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียรายงานการระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 600 คน เร่งควบคุมสถานการณ์ไฟป่าใกล้เขื่อนปราโด ในเมืองโคโรนา ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนครลอสแองเจลิส ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับพื้นที่อย่างน้อย 980 เอเคอร์ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมเพลิงได้เพียงร้อยละ 25 เท่านั้น และสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่แล้วกว่า 200 หลังคาเรือน
เบื้องต้นสาเหตุของไฟป่าที่ปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์ยังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ ว่าเกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์หรือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่การที่บริเวณแห่งนี้ไม่เคยเกิดไฟป่าแม้แต่ครั้งเดียวในรอบเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกิดการตั้งสมมติฐานว่า อาจเป็นผลจากสภาพอากาศแล้งจัดในพื้นที่
http://www.dailynews.co.th/…/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9B%E0…

 

ปอกเปลือก ทรราช
ขีปนาวุธข้ามทวีป RS-26 ICBM ของรัสเซียบุกอเมริกา



---------------
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 เม.ย.58) องค์การอวกาศแห่งชาติของรัสเซีย (Russian Federal Space Agency - Roscosmos) เผยแพร่ข่าวในเว็บไซท์ของตนว่า ทางรัสเซียจะนำข้าวหลามยักษ์ "RS-26 ICBM" ขีวปนาวุธ (ต้นแบบ) ข้ามทวีปรุ่นใหม่ (ballistic missile - ไม่มีระบบนำวิถี) ไปแสดงอวดกองทัพและรัฐบาลของสหรัฐฯถึงประเทศสหรัฐอเมริกาเลย ภายใต้กรอบสนธิสัญญาการลดอาวุธทางยุทธศาสตร์ (Strategic Arms Reduction Treaty (START-3)) ส่วนจะไปวันไหนนั้นยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ จะขนทางเรือไปให้ดู หรืออาจจะยิงขึ้นฟ้าลอยไปตกลงหน้าบ้านโอบาม่าหรือหน้าทำเนียบขาวก็ได้ ให้อเมริกาเลือกรูปแบบการ shipment เอาเองว่าจะชอบทาง Sea หรือ Air ถ้าขนส่งทางทะเลนี่อาจะใช้เวลานาน แต่ถ้าเป็นทางอากาศนี่แป๊บเดียวไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว
ขีปนาวุธ RS-26 นี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "Rubezh" พัฒนามาจาก "RS-24 Yars ICBM" ตัวใหม่ติดหัวรบได้หลายหัวรบ และมีน้ำหนักเบากว่า Yars สามารถยิงได้จากฐานเคลื่อนที่ ไม่จำเป็นต้องยิงจากไซโล (silo) ที่เป็นฐานยิงอยู่ใต้ดินอีกต่อไป รุ่นก่อนนี้มีน้ำหนักถึง 120 ตันแต่รุ่นปรับปรุงสามารถลดน้ำหนักลงได้ที่ 80 ตันมีการลดขนาดของมิสไซล์ลงแต่ไม่ลดคุณภาพ มีการปรับปรุงด้านเชื้อเพลิงของจรวดให้เป็นแบบเชื้อเพลิงแข็ง (solid fuel) สามารถยิงได้จากตำแหน่งต่างๆ รัสเซียได้เหตุผลว่าการที่ทำให้ RS-26 ICBM สามารถยิงได้จากพาหนะเคลื่อนที่นั้นก็เพื่อเพิ่มอัตราความอยู่รอดของขีปนาวุธรุ่นนี้ เพื่อหลบเลี่ยงและอำพรางตัวจากการโจมตีของข้าศึกได้ง่ายขึ้น
ตามรายงานก่อนหน้านี้บอกว่า RS-26 พึ่งเริ่มต้นพัฒนาเมื่อต้นปี 2558 นี่เอง แต่จะถูกส่งเข้าประจำการทางกองทัพของรัสเซียในปีเดียวกันนี้ (ข้อมูลจากบางแห่งบอกว่าจะเข้าประจำภายในปี 2559) ส่วน RS-24 Yars นั้นทดลองยิงครั้งแรกในปี 2554 ไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ประสบผลสำเร็จจากการทดลองยิงเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2555 ซึ่งยิงจากฐานปล่อยยานอวกาศที่ Plesetsk Cosmodrome (ตะวันตะเฉียงเหนือของรัสเซีย) เมือง Mirny เขต Arkhangelsk Oblast ไปยังเป้าหมายที่ Kura Test Range เมือง Kamchatka Krai (แหลม Kamchatka) ตะวันออกไกลของรัสเซียใกล้ๆกับสถานที่ๆรัสเซียพึ่งจะส่ง S-400 ไปตามที่โพสต์แล้วก่อนหน้านี้ สามารถยิงไปถึงเป้าหมายที่อยู่ห่างออกไปถึง 6,000 กม.ได้เพียงไม่กี่นาที
นอกจากนี้แล้ว เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2555 ยังได้มีการทดลองยิงจาก Kapustin Yar ทางตะวันตกของรัสเซียไปยังเป้าหมายที่เมือง Sary Shagan ประเทศ Kazakhstan อีกด้วย และเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2556 ก็มีการทดลองยิงอีกครั้งจาก Plesetsk Cosmodrome ไม่บอกจุดเป้าหมาย คาดว่าน่าจะเป็นที่เดิมคือ Kura Test Range
RS-26 ICBM เป็นขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซียรุ่นล่าสุดระยะการยิงอยู่ที่ 5,800 - 6,000 กม. มีขนาดเล็กกว่าอีกสองรุ่น คือ รุ่น Topol-M ICBM ระยะการยิงอยู่ที่ 10,500 - 11,000 กม. และรุ่น RS-24 Yars ที่มีระยะการยิงได้ไกลถึง 12,000 กม. อาวุธประเภทนี้นอกจากรัสเซียแล้ว สหรัฐ จีน อินเดีย และอิสราเอลก็มี (ดูข้อมูลเพิ่มเติมจากลิ้งค์ด้านล่างหากสนใจมากกว่านี้)
The Eyes
21/04/2558
-----------
TASS: Russia - Prototype of new RS-26 ICBM to be shown to US side by year end
RS-26 Rubezh Intercontinental Ballistic Missile | Military-Today.com
RS-26 Rubezh - Wikipedia, the free encyclopedia
Hypersonic speed - Wikipedia, the free encyclopedia
Missiles | Military-Today.com
http://en.wikipedia.org/…/Intercontinental_ballistic_missile

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียส่ง S-400 Triumph ประจำการที่แหลม Kamchatka แถวทะเลญี่ปุ่น 36 ชุด



---------------
เห็นภาพ S-400 ของรัสเซียสองคันๆละ 4 ท่อ ก็ชวนให้นึกถึง 44 อีกหละ... วันก่อนพูดเรื่อง S-300 ให้ฟังแล้ว วันนี้ขยับขึ้นมาอีกนิดนะ เมื่อวานนี้สำนักข่าวต่างประเทสของรัสเซียรายงานว่า ทางกองทัพของรัสเซียได้ส่งระบบต่อต้านอากาศยานและระบบป้องกันภัยทางอากาศต่อต้านขีปนาวุธรุ่นใหม่ S-400 Triumph ซึ่งนาโต้เรียกว่า "SA-21 Growler" จำนวน 36 units เข้าประจำการใกล้เมือง Petropavlovsk-Kamchatsk ในแหลม Kamchatka ทางตะวันออกไกลของรัสเซีย ซึ่งอยู่กันคนละซีกโลกของกรุงมอสโคว์ แถวๆ Sea of Okhotsk โน่น S-400 ที่ส่งไปล็อตนี้เป็นล็อตที่ 2 เพื่อปกป้องน่านฟ้าของรัสเซีย ล็อตแรกได้ส่งไปประจำการตั้งแต่เดือนมิถุนายนปี 2557
รัสเซียมี S-400 ประจำการอยู่ที่ กรุงมอสโคว์ เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์ก Severomorsk (ศูนย์บัญชาการใหญ่ของฐานทัพเรือประจำทิศเหนือ Northern Fleet) ที่ภูมิภาค Kaliningrad แถวทะเลบอลติก ที่ล้อมลอบด้วยกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งเป็นทั้งฐานทัพเรือ และเขตเศรษฐกิจพิเศษเป็นแหล่งอุตสาหกรรมการต่อเรือรบของรัสเซียที่อยู่นอกแผ่นดินแม่ ที่ Novorossiysk ฐานทัพทางทิศใต้ ที่ Nakhodka ฐานทัพทางตะวันออก และที่ Murmansk ฐานทัพทางตะวันตกอีกแห่ง (เฉพาะฐานทัพทางตะวันตกนี่มี S-400 ประจำการอยู่ 4 แห่งด้วยกัน)
S-400 เป็นระบบต่อต้านอากาศยานรุ่นใหม่ของรัสเซีย เดิมชื่อ "S-300PMU-3" มีพิสัยในการยิงได้ไกลถึง 400 กม. สามารถยิงทุกอย่างที่ลอยอยู่ในอากาศให้ล่วงลงมาได้ตั้งแต่เครื่องบินรบขนาดเล็ก จนถึงขีปนาวุธนำวิถี (cruise missiles) เช่น Tomahawk และขีปนาวุธแบบไม่นำวิถี (ballistic missiles) ที่ติดหัวรบนิวเคลียร์
รัสเซียประกาศว่าจะไม่ส่งออกระบบ S-400 ไปต่างประเทศอีกในไม่กี่ปีนี้ แต่จะขายเฉพาะ S-300 ให้เท่านั้น แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่าจีนได้จองไว้แล้ว 6-8 ชุด อียิปต์ก็แสดงความสนใจอยากได้ S-400 ของรัสเซียด้วย เบลารุสเร็วกว่าเพื่อนสั่งซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2554 จะเริ่มส่งมอบได้ภายในปีนี้ เวียตนามก็อยากจะได้ไว้ในครอบครอง 4-6 ชุด ซาอุดิอาระเบียจองไว้ที่ 12 ชุด เซอร์เบียก็สนใจอยากจะนำไปเพิ่มศักยภาพให้กับระบบป้องกันภัยทางอากาศของตน ส่วนตุรกี (นาโต้) บอกว่าอยากได้ S-400 ของรัสเซียเช่นกัน แต่รัสเซียเสนอขาย S-300 ให้แทน ต่อมาตุรกีก็หันไปคุยเรื่องราคา HQ-9 ของจีนแทน (รู้สึกว่าจะเคยลงข่าวให้แล้วครั้งหนึ่งนะ) S-300 ของรัสเซียก็เลยตกจากโต๊ะการเจรจา เอาน่าเพื่อนกัน (จีน-รัสเซีย) ก็แบ่งกันทำมาหากินบ้าง
The Eyes
21/04/2558
-----------
http://rt.com/news/251213-russia-kamchatka-s400-deployed/
Second Shipment of S-400 Missile Systems Arrives in Russia's Far East / Sputnik International
S-400 (missile) - Wikipedia, the free encyclopedia

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียไฟเขียวฮังการี กรีซ ไซปรัส ส่งออกอาหารมาที่รัสเซียได้ อียูชาติอื่นๆตาลุกวาว



---------------
ขอมาอัพเดทเรื่องเศรษฐกิจสักนิดนะครับ จากนั้นค่อยไปที่เรื่องข้าวหลามกันสำหรับแฟนเพจแนวฮาร์ดคอร์ทั้งหลาย แม้ว่าจะอยู่ภายใต้การแซงชั่นรัสเซียและรัสเซียแซงชั่นกลับ แต่รัสเซียก็ใจดีหลังจากพันธมิตรบางประเทศในอียูได้แสดงท่าทีคัดค้านการแซงชั่นรัสเซียสวนกระแสเสียงส่วนใหญ่ในยุโรปและสหรัฐฯ เพราะขืนเชื่อสหรัฐฯต่อไป มีหวังเศรษฐกิจของประเทศเล็กๆในยุโรปได้พังแน่นอน ในขณะที่สหรัฐฯเองซึ่งเป็นผู้ยุให้อียูแซงชั่นรัสเซีย แล้วอียูก็ได้รับผลกระทบด้วยนั้นสหรัฐฯไม่คิดที่จะเหลียวแลให้ความช่วยเหลือใดๆเลย นอกจากออกกฎหมายเอาเปรียบกลุ่มประเทศยุโรปโดยขนสินค้าของตนเข้ามาขายในยุโรปและหาทางกีดกันและกดดันไม่ให้สินค้าจากยุโรปหรือประเทศอื่นที่สหรัฐฯเรียกว่า "หุ้นส่วน" หรือ "พันธมิตร" ของสหรัฐฯเข้าไปตีตลาดในสหรัฐฯได้
ในเร็วๆนี้ทางรัสเซียจะอนุญาตให้นำเข้าสินค้าทางการเกษตรและอาหารจากประเทศฮังการี กรีซ และไซปรัสได้ โดยสินค้าส่วนมากจะเป็นพวกผลไม้และพืชผัก ขณะนี้หน่วยงานทางด้านสาธารณสุขของรัสเซียกำลังเข้าไปตรวจสอบสินค้าในทั้งสามประเทศ ซึ่งรวมทั้งอินเดียด้วย เจ้าหน้าที่จากทางการของรัสเซียกล่าวว่า "รัสเซียกำลังเข้าไปตรวจสอบบริษัทต่างๆประมาณ 20 แห่งในกรีซและฮังการี ในอินเดียประมาณ 4-5 บริษัท ไซปรัสได้ร้องขอให้ยืดเวลาออกไปก่อนเนื่องจากเหตุผลทางเทคนิค จากนั้นกระบวนการตรวจสอบจะเริ่มขึ้นในวันที่ 24 เมษายนนี้"
เพื่อเป็นการตอบโต้สหรัฐฯ อียู แคนดา ออสเตรเลีย และนอร์เวย์ที่แซงชั่นรัสเซียหลายรอบ รัสเซียจึงแซงชั่นประเทศเหล่านั้นกลับบ้าง เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าสินค้าประเภทผลไม้ พืชผัก เนื้อสัตว์ สัตว์ปีก ปลา และอาหารที่ใช้ในชีวิตประจำวันจากสหภาพยุโรปและประเทศอื่นๆที่แซงชั่นรัสเซีย สินค้าที่ถูกรัสเซียแซงชั่นนั้นมีมูลค่าถึง $9 billion (เกือบ 3 แสนล้านบาท)
ทางการรัสเซียกล่าวว่าแม้ว่ารัสเซียจะยกเลิกการแบนสินค้าจากยุโรปแล้วในอนาคต แต่รัสเซียก็จะไม่อนุญาตให้สินค้าเหล่านั้นจากยุโรปไหลทะลักเข้ามาในประเทศได้โดยอัติโนมัติ จะต้องมีการทำรายชื่อบริษัทที่จะได้รับอนุญาตให้นำเข้าสินค้ามายังรัสเซียได้อย่างเป็นทางการอีกครั้ง
พวกที่หวังว่าจะได้รับส่วนบุญจากทั้ง 3 ประเทศที่เคยยกมือสนับสนุนการแซงชั่นรัสเซียนั้นอย่าหวังว่าจะได้แอ่มรัสเซียง่ายๆเลย บางครั้งก็ต้องให้บทเรียนกับพวกนั้นบ้าง ดูซิว่าเมื่อรัสเซียเปิดประตูบ้านต้อนรับ 3 ประเทศในอียูเหล่านี้แล้วประเทศอื่นๆ ยังจะมีท่าทีที่แข็งกร้าวและไม่เป็นมิตรกับรัสเซียต่อไปอีกหรือไม่ แม้กระทั่งท่าทีของเยอรมันก็เริ่มเปลี่ยนไป หลังจากที่มีข่าวปล่อยออกไปว่ารัสเซียกับกรีซจะลงนามเรื่องการก่อสร้างท่อส่งแก๊สสาย Turkish Stream ซึ่งรัสเซียจะปล่อยเงินกู้ให้กรีซประมาณ 1.76 แสนล้านบาทล่วงหน้าไปก่อนนั้น ทาง รมว.ต่างประเทศของเยอรมันก็ออกมาแสดงความยินดีกับกรีซด้วย ซึ่งต่างกับก่อนหน้านี้ที่อียูได้แสดงออกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมากที่นายกฯกรีซตัดสินใจเดินทางเข้าพบปูตินที่กรุงมอสโคว์
ส่วนสถานการณ์ที่ยูเครนหนะหรือ ตอนนี้มีการสังหารนักข่าวต่างชาติ และนักการเมืองของยูเครนด้วยกันเองเป็นว่าเล่น คดีสังหารประชาชนที่ไมดานไม่มีความคืบหน้า การปราบปรามคอรัปชั่นล้มเหลว สหรัฐฯก็เฉยๆกับเรื่องเหล่านี้ มีแต่อียูเท่านั้นที่ออกมาประท้วงเรื่องการสังหารสื่อฯต่างชาติ การฆ่านักข่าวในกรุงเคียฟมันไม่ค่อยมีผลกับรัสเซียหรือกลุ่ม DPR/LPR ในยูเครนตะวันออก พวก… ก็เลยไปสร้างเหตุการณ์สังหารนักข่าวในภูมิภาคดอนบาสส์ (DPR/LPR) เอาซะเลยเพื่อจะโยนความผิดไปให้พวก DPR/LPR แต่แผนนี้ล้มเหลวไม่เป็นท่าเนื่องจากมีหน่วย OSCE คอยจับตาการเคลื่อนไหวของทั้่งสองฝ่ายอยู่
The Eyes
21/04/2558
-----------
Hungary, Greece, Cyprus to Restart Food Trade With Russia Despite Sanctions / Sputnik International
Fruits Of Their Labor / Sputnik International
Return of Foreign Suppliers on Russian Food Market Not Guaranteed / Sputnik International
Embargo relief? Russia tests food from Greece, Hungary & India — RT Business
German FM Upbeat on Possible Gas Deal Between Russia and Greece / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
เหตุที่มิตรของสหรัฐฯน้อยลง : นาโต้บอกว่า "ไม่สนใจในการต่อสู้แบบแฟร์ๆ"



---------------
นับวันพฤติกรรมและการแสดงออกของสหรัฐฯที่เผยให้โลกรู้ว่าสหรัฐฯนั้นนิยมเผด็จการมากขึ้นเรื่อยๆมันชั่งสวนทางและขัดกันกับหลักการประชาธิปไตยที่สหรัฐฯชูธงมาโดยตลอด นอกการพยายามออกกฎหมายเอารัดเอาเปรียบพันธมิตรของตัวเองในด้านการค้าระหว่างประเทศที่สหรัฐฯเองเลี่ยงที่จะให้คำว่า "free trade" ในการตั้งชื่อให้กับเขตการค้าพิเศษทั้งสองแห่งที่สหรัฐฯตั้งขึ้นร่วมกับประเทศต่างๆเช่น "Trans-Pacific Partnership" (TPP) และ "Trade and Investment Partnership" (TTIP) แล้ว
ก่อนนี้เรามักจะได้ยินคำว่า "Free-Trade Area" (FTA) กันอยู่บ่อยๆ แม้ว่าในชื่อนั้นจะหมายถึงเขตการค้าที่ปลอดภาษีหรือได้รับยกเว้นภาษีบางประการ แต่ด้วยเหตุที่ว่าคำว่า "free" ก็มีความหมายไปในทาง อิสระ เสรีภาพ ปราศจากการผูกมัด หรือพันธนาการด้วย แต่กฎหมาย TPA ของสหรัฐฯที่กำลังจะออกใช้กับอียูนั้นไม่มีส่วนไหนที่เป็นการสนับสนุนเรื่องเสรีภาพและประชาธิไตยของชาติอื่นเลย ด้วยเหตุนี้กระมังพักหลังนี้สหรัฐฯจึงพยายามเลี่ยงที่จะใช้คำว่า "free trade" ในการตั้งชื่อเขตการค้าต่างๆที่ตัวเองเป็นผู้กุมบังเหียน ในขณะที่รัสเซียและจีนซึ่งเป็นอดีตคอมมิวนิสต์และเป็นคอมมิวนิสต์ในปัจจุบัน กลับเลือกที่จะใช้คำว่า "free trade" ในการตั้งชื่อเขตการค้าเสรีหรือเขตการค้าพิเศษแทน โลกมันช่างกลับตาลปัตรกันจริงๆ
แม้กระทั่งเรื่องการเมืองและการสู้รบกัน สหรัฐฯก็ยังไม่ชอบวิธีการที่เรียกว่า "ยุติธรรม" เลย เกี่ยวกับกรณีรัสเซียนั้น ล่าสุดผู้บัญชาการกองทัพสหรัฯประจำยุโรป (นาโต้) ได้ออกมากล่าวว่า "พวกเรา (สหรัฐฯ) ไม่สนใจในการต่อสู้ที่ยุติธรรมกับใคร เราต้องการที่จะมีชัยเหนือกว่าในทุกด้าน ผมไม่คิดว่าพวกเราหล่นมาอยู่ข้างหลัง แต่รัสเซียปิดช่องว่างในด้านศักยภาพบางอย่างไปแล้ว เราไม่ต้องการให้พวกเขา (รัสเซีย) ปิดช่องว่างดังกล่าว"
นั่นแหละนิสัยสหรัฐฯ ผู้รักการรุกรานชาติอื่นเป็นชีวิตจิตใจ แม้บางคนจะมองว่านั่นเป็นเพียงวาทกรรมในการยั่วยุรัสเซีย เพื่อทำให้รัสเซียเปิดฉากโจมตีนาโต้ก่อน จากนั้นสหรัฐฯจะได้อ้างความชอบธรรมในการถล่มรัสเซีย เมื่อดูจากคำพูดของทั้งนักการเมือง นักการทหารจากฝั่งสหรัฐฯแล้ว คำพูดเหล่านี้สื่อฯตะวันตกไม่กล้าที่จะบอกว่ามันเป็น "ความก้าวร้าว" ของฝั่งสหรัฐฯเอง แต่พอปูตินชี้ว่าสหรัฐฯและอียูอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เผาบ้านเผาเมืองในไมดานที่ยูเครนนั้น สื่อฯภายใต้การควบคุมของรัฐบาลตะวันตกกลับพูดว่าปูตินก้าวร้าวซะงั้น เฮ้อ… อ่านข่าวจากสื่อฯตะวันตกแล้วเซ็งทู๊กกกกกที อ่านของรัสเซียกับจีนดีฝ่า
มาฟังเฮียปูตินพูดบ้างครับ... ปูตินพูดในสารคดีเนื่องในงานครบรอบ 15ปีการเป็นประธานาธิบดีของปูติน สมัยแรกปูตินดำรงตำแหน่งปธน.ของรัสเซีย 7 May 2000 - 7 May 2008 (8ปี) ต่อจากนั้น นายกฯดิมิทรี เมดเวเดฟคนปัจจุบันก็สลับขึ้นเป็นปธน.ของรัสเซียแทน (พรรคเดียวกัน United Russia) 7 May 2008 - 7 May 2012 (4ปี) โดยที่ปูตินเปลี่ยนไปนั่งเก้าอี้นายกฯรัสเซียแทน หลังจากที่เมดเวเดฟอยู่ครบวาระในสมัยแรก ก็มีการแข่งขันเลือกตั้งปธน.รัสเซียอีก ปูตินได้รับคัดเลือกให้เป็นปธน.จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากทางรัสเซียและทั่วโลกก็รู้กันว่า ดิมิทรี เมดเวเดฟนั้นคือเงาของปูติน ดังนั้นทางรัสเซียก็เลยจัดฉลองการเป็นปธน.ของรัสเซียให้กับปูตินรวมเป็น 15 ปีไปซะเลย (ตามรธน.ของรัสเซียนั้นปูตินจะอยู่ในตำแหน่งปธน.สมัยแรกของรอบที่สองไปอีกจนถึงปี 2018)
ในสารคดีดังกล่าวปูตินได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับท่าทีของอียูที่มีต่อรัสเซียเพื่อให้ประชาชนชาวรัสเซียและทั่วโลกตื่นรู้กับเจตนาที่แท้จริงของตะวันตกว่า "บางครั้งผมก็ได้รับความประทับใจที่ว่าพวกเขารักเราเมื่อพวกเราต้องการความช่วยเหลือที่จะถูกส่งมาให้กับพวกเรา ในกรณีนี้ก็ถือว่าดีอยู่แล้ว ในกรณีนี้พวกเขาได้ส่งมันฝรั่งมาให้เรา" (แปลว่าอะไรครับ?)
ปูตินกล่าวต่ออีกว่า "โลกได้ตัดสินใจแล้วว่ารัสเซียจะยุติการดำรงอยู่ของตัวเองในรูปแบบปัจจุบัน มีเพียงคำถามเดียวเท่านั้นที่ยังคงอยู่ก็คือว่ามันจะเกิดขึ้นเมื่อไร? และผลที่จะตามมาจะเป็นอย่างไร?" (ปริศนาอีกแล้ว...)
จากทั้งหมดที่ปูตินกล่าวมานี้ อ่านแล้วก็ชวนงงสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยติดตามสถานการณ์ของรัสเซียอย่างใกล้ชิด สื่อฯของรัสเซียถอดรหัสปริศนาปูตินออกมาว่า "ตกวันตกรักรัสเซียก็ต่อเมื่อรัสเซียต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเท่านั้น" และจากตรงนี้สื่อฯรัสเซียก็กระชับให้ได้ใจความสั้นๆและเข้าใจง่ายอีกว่า "ตะวันตกชอบที่จะเห็นรัสเซียอ่อนแอ-ปูติน" ชัดมะ? บางคนอาจจะยังสงสัยอยู่ว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมด้วย? โดยปรกติแล้วการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากต่างประเทศนั้นมักจะมาเมื่อบางประเทศประสบหายนะภัยทางธรรมชาติหรือจากภัยสงครามเท่านั้น
แต่ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันนี้จะบอกว่ารัสเซียกำลังเจอมหันตภัยทางธรรมชาติก็คงไม่ใช่แน่นอน ความเป็นไปได้ก็มีแต่จากภัยสงครามที่นาโต้ปรารถนานักหนานั่นเอง การที่ปูตินบอกว่าตะวันตกชอบการให้ความช่วยเหลือนั้นไม่ใช่คำชมแน่นอน แม้ว่ามันจะฟังดูดีในภายนอก แต่มันเจ็บจี๊ดดดดไปถึงทรวงเลยหละสำหรับผู้นำชาติตะวันตกทั้งหลาย เพราะการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจากตะวันตกที่จะมาถึงรัสเซียได้นั้น ก็ต่อเมื่อรัสเซียตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับยูเครนตะวันออกแล้วเท่านั้น นี่ปูตินเขาให้สติประชาชนของเขาอย่างนี้ นี่ไม่ใช่ยุยงให้ชาวรัสเซียเกลียดชังชาวตะวันตก แต่พูดเพื่อให้รู้ทันเลห์ของมิตรบางประเภทนั่นเอง
ลองเปรียบเทียบศิลปะในการพูดระหว่างฝั่งสหรัฐฯ (นาโต้) กับของฝั่งรัสเซีย (ปูติน) ดูสิ มันคนละชั้นกันจริงๆ เหมือนใครนะ ที่ได้รับฉายาว่า "น้ำผึ้งอาบมีโกน (?)" อ้อ… "มีดโกนอาบน้ำผึ้ง" นั่นแหละๆ คนนั้นแหละ....
The Eyes
20/04/2558
-----------
US Army Commander Confirms NATO "Not Interested in a Fair Fight" / Sputnik International
West Prefers a Weak Russia – Putin / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
เยเมน : ซาอุดิฯหยอดอาวุธให้อัลเคด้า, ซาอุดิฯใช้อาวุธเคมีถล่มเยเมน, อัลเคด้ายึดสนามบินในเยเมนได้, ฝรั่งเศสส่งอาวุธให้นักรบเลบานอน, กลุ่มฮูติเตรียมโจมตีชายแดนซาอุดิฯรอบใหม่, ลับลวงพรางฮูติปล่อยข่าวคลังอาวุธถูกทำลายถึง 80%



------------
หลังจากที่นำเสนอข่าวคราวความเคลื่อนไหวในแวดวงเศรษฐกิจโลกให้ได้รับรู้กันแล้ว คราวนี้หันมาติดตามมวยคู่เอก (เยเมน vs ซาอุดิฯ) ที่กำลังฮ็อตในช่วงนี้กันต่อนะครับ... จะไล่เลียงลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งในเยเมนและที่เกี่ยวกับเยเมนให้ฟังตามวันที่ๆปรากฎในสื่อฯนะครับ
- 16 เม.ย. 58 ซาอุดิฯส่งเครื่องบินหย่อนอาวุธให้กลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลเคด้า (Al-Qaeda) ในเมือง Shabwa ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยเมน การให้การสนับสนุนด้านอาวุธและเงินสดด้วยการทิ้งลงมาจากอากาศติดร่มชูชีพให้กับพวกอัลเคด้าโดยฝีมือของซาอุดิฯในลักษณะนี้กระทำมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่ต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาวุธทั้งหมดเป็นของเมดอินยูเอสเอ บางส่วนหย่อนผิดที่หรือถูกลมพัดร่มชูชีพไปตกในพื้นที่ของกลุ่มฮูติ ก็ถูกพวกฮูติยึดมาได้เป็นจำนวนมาก เมื่อเร็วๆนี้ทาง UNSC มีคำสั่งแบนอาวุธทุกชนิดในเยเมนแต่ทำไมซาอุดิฯถึงยังส่งอาวุธให้กับกลุ่มผู้ก่อการร้ายในเยเมนซึ่งเป็นพวกเดียวกันกับซาอุดิฯและสหรัฐฯได้อยู่อีก ในขณะที่สหรัฐฯก็ทำเฉย ดูเหมือนว่าจะเป็นใจหรือสนับสนุนการกระทำเช่นนั้นของซาอุดิฯด้วย?
- 17 เม.ย. 58 พอกลุ่มผู้ก่อการร้ายอัลเคด้าได้รับอาวุธร้ายแรงและเงินสนับสนุนทางอากาศจากซาอุดิฯแล้ว กลุ่มอัลเคด้ารุกหนักสามารถเข้ายึดสนามบินหลักและศูนย์บัญชการป้องกันภัยทางอากาศรวมทั้งสถานีน้ำมันในเยเมนได้ในวันต่อมา
- 19 เม.ย. 58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าเครื่องบินรบซาอุดิฯเริ่มใช้อาวุธเคมีในการโจมตีตลาดและสถานที่ๆมีผู้คนพลุกพล่านในเมือง Sa'ada ติดกับชายแดนซาอุดิ มีพลเรือนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก แต่สหรัฐฯและยูเอ็นก็ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้อีกตามเคย
- 19 เม.ย. 58 ฝรั่งเศสออกประกาศว่าอาวุธล็อตแรกที่จะส่งไปกองทัพเลบานอนเพื่อใช้สำหรับต่อสู้กับไอซิสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆตามแนวชายแดนซีเรียภายในวันจันทร์นี้ ภายใต้วงเงินมูลค่า $3 billion (ประมาณ 9.75 หมื่นล้านบาท) ซึ่งเป็นเงินที่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดิฯ อาวุธและยานพาหนะที่ฝรั่งเศสกำลังส่่งไปเลบานอนนั้นประกอบด้วย ยานพาหนะสำหรับต่อสู้และขนส่งจำนวน 250 คัน เฮลิค็อปเตอร์ Cougar 7 ลำ เรือรอบ corvette ขนาดเล็ก 3 ลำ อุปกรณ์สอดแนมและด้านการสื่อฯสารอีกจำนวนหนึ่งภายใต้โปรแกรมการปรับปรุงอาวุธให้ทันสมัยระยะเวลา 4 ปี ในด้านกองทัพในเลบานอนนั้น กลุ่มติดอาวุธฮิชบอลเลาะห์มีศักยภาพเหนือกว่าของฝั่งรัฐบาลและมีผลงานเป็นที่โดดเด่นจนเป็นที่ยอมรับของชาวเลบานอนอยู่หลายครั้ง (เคยเล่าให้ฟังแล้ว) กลุ่มนี้ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน
ล่าสุดกลุ่มนักรบฮิชบอลเลาะห์ประกาศว่าจะเข้าไปช่วยรัฐบาลเยเมน (ฮูติ) ต่อสู้กับกองกำลังพันธมิตรอาหรับที่นำโดยซาอุดิฯในเยเมน แม้ว่าทางสหรัฐฯจะสามารถร่ายมนต์ให้ UNSC แซงชั่นอาวุธเยเมน (เป้าหมายหลักคือห้ามสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่มฮูติ) แต่ไม่ได้ห้ามไม่ให้ฮิชบอลเลาะห์จากเลบานอนเข้าไปร่วมด้วย ฝรั่งเศสก็ส่งอาวุธหนักหลายอย่างไปให้เลบานอน แล้วคิดหรือว่าอาวุธเหล่านั้นจะไม่มาถึงมือของฮิชบอลเลาะห์ และถูกนำมาถล่มซาอุดิฯผู้รุกรานเยเมนในที่สุด แม้ว่าสหรัฐฯและยุโรปจะเป็นพันธมิตรกันมาตลอดแต่พักหลังนี้อียูมีความรู้สึกว่าถูกข่มขู่ คุกคามทางอ้อม และเริ่มจะถูกเอารัดเอาเปรียบ มัดมือชก ถูกริดรอนเสรีภาพ สิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของอียูเริ่มจะถูกสหรัฐฯริดรอนมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเกิดการรุกฮือขึ้นต่อต้านกฎหมายการค้าแบบเอารัดเอาเปรียบของสหรัฐฯ (TTIP) ขึ้นมาในยุโรปเป็นอย่างมากในหลายประเทศ ฝรั่งเศส เยอรมัน อังกฤษก็เป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้นด้วย งานนี้ (การสนับสนุนอาวุธให้เลบานอน) จึงเหมือนเป็นการย้อนศรสหรัฐฯเต็มๆ แต่เป็นแบบนิ่มๆ พวกที่ฆ่าก็ฆ่ากันไป พวกที่ขายอาวุธก็รวยกันต่อไปเช่นกัน อ้อ… เกือบลืม ตอนนี้ที่เยอรมันก็มีเริ่มมีการออกมาประท้วงซาอุดิฯที่ใช้ความรุนแรงในเยเมนบ้างแล้ว ถึงจะไม่ต่อต้านสหรัฐฯตรงๆ แต่ก็เหมือนเป็นการส่งสัญญาณบางอย่างจากเยอรมันไปถึงสหรัฐฯแน่นอน
- 19 เม.ย. 58 โฆษกของกองกำลังผสมอาหรับนำโดยซาอุดิฯ ออกมากล่าวว่ากลุ่มฮูติเตรียมเปิดปฏิบัติการตอบโต้ภาคพื้นดินตามแนวชายแดนซาอุดิฯครั้งใหญ่ ช่วงที่ผ่านมาก็มีการซัดกันไปมาในสนามรบภาคพื้นดิน ทหารของซาอุดิฯโดนเก็บไปก็มากแต่ไม่ค่อยเป็นข่าวจากฝั่งซาอุดิฯสักเท่าไร ซาอุดิฯนั้นใช้ยุทธวิธีโจมตีทางอากาศเป็นหลัก เน้นถล่มเป้าหมายสถานที่เก็บอาวุธ ระบบสาธารณูปโภค ไฟฟ้า น้ำประปา สนามบิน ฐานทัพ ศูนย์สื่อฯสารโทรคมนาคมของเยเมนเป็นหลัก รูปแบบเดียวกันกับที่กองทัพฝั่งรัฐบาลของยูเครนกระทำในยูเครนตะวันออกเลย ที่ยูเครนมีสหรัฐฯเป็นกุนซือใหญ่คอยวางแผนให้ว่าควรจะถล่มที่ใดบ้าง ที่เยเมนนี้ก็เช่นกันสหรัฐฯคอยให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิคและให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆแก่ซาอุดิฯ
ดังนั้นจึงไม่แปลกใจว่าทำไมเครื่องบินรบของซาอุดิฯถึงเน้นที่ระบบสาธารณูปโภคเป็นหลัก หลังสงครามสหรัฐฯสามารถปล่อยเงินกู้ก้อนใหญ่อ้างเพื่อบูรณะประเทศได้ เพื่อทำกำไรจากดอกเบี้ยเงินกู้ IMF อย่างที่ทำในยูเครนได้อีกสบาย สหประชาชาติออกมาประกาศว่ามีชาวเยเมนประมาณ 150,000 กลายเป็นผู้ไร้ที่พักอาศัยเนื่องจากภัยสงครามเพียงไม่ถึงเดือน เลขาฯยูเอ็นออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหยุดยิง แต่ยูเอ็นปฏิเสธแผนสันติภาพของรัสเซียที่ห้ามการสนับสนุนอาวุธให้กับทุกฝ่ายและหยุดยิงในเยเมน แต่ยูเอ็นแบนอาวุธเฉพาะฝั่งรัฐบาลเยเมนเท่านั้นและไฟเขียวให้กองกำลังผสมอาหรับสามารถถล่มเยเมนได้ไม่อั้น เพราะอาวุธเหล่านั้นซื้อมาจากสหรัฐฯและยุโรปเป็นหลัก
- 20 เม.ย. 58 ทางผู้นำของกลุ่มฮูติออกมาประกาศผ่านโทรทัศน์ท้องถิ่นในเยเมนว่า ตอนนี้สถานที่เก็บอาวุธของเยเมนถูกฝั่งซาอุดิฯทำลายไปแล้วประมาณ 80% เฉพาะช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่ผ่านมานี้ เครื่องบินรบซาอุดิฯและพวกเข้ามาถล่มเยเมนไม่ต่ำกว่า 106 ครั้ง และในช่วงเวลาไม่ถึงเดือนที่ผ่านมา ซาอุดิฯและพวกเปิดฉากถล่มเยเมนด้วยเครื่องบินรบมากกว่า 2,300 ครั้ง มีประชาชนทั่วไปเสียชีวิตมากกว่า 750 คน ผู้นำคนของฮูติออกมาเรียกร้องให้ประชาชนชาวฮูติร่วมกันปกป้องประเทศชาติของตนจากผู้รุกราน โดยกล่าวว่า "จุดประสงค์ของซาอุดิฯนั้นก็เพื่อรุกรานและยึดครองเยเมน ประชาชนชาวเยเมนจะไม่มีวันยกประเทศนี้ให้ใคร เยเมนจะต่อต้านในการเผชิญหน้ากับการรุกรานอย่างป่าเถื่อน ซาอุดิฯ ไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของเพื่อนบ้าน ปัญหาเรื่องการเมืองเป็นกิจการภายในของเยเมน และมันขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะกำหนดอนาคตอของพวกเราเอง" (สหรัฐฯและซาอุดิฯไม่เกี่ยว ไสหัวออกไป อย่ามายุ่ง! แถมให้)
- จบข่าว -
ป.ล. ส่วนภาพการ์ตูนล้อเลียนการเมืองนั้นเก็บมาฝากจากฝั่งเยเมนครับผม
The Eyes
20/04/2558
----------
http://www.presstv.ir/…/406478/Houthis-seize-Saudi-dropped-…
http://www.presstv.ir/…/Ansarullah-seizes-airdropped-Saudi-…
https://www.facebook.com/yemen.crisis
Al-Qaeda Seizes Major Airport, Air Defense HQ, Oil Terminal in Yemen / Sputnik International
Chemical Weapons Used by Saudi Arabia in Yemen Kill Scores of Civilians / Sputnik International
France Sends Arms to Lebanon for ISIL Fight / Sputnik International
Houthi Rebels Prepare for New Attack Along Saudi Arabia Border – Coalition / Sputnik International
http://rt.com/news/251085-yemen-houthis-struggle-saudis/
80% of Houthis' Weapon Storage Facilities Destroyed / Sputnik International

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 21 เม.ย.58 ผู้นำกลุ่มก่อการร้ายเด็กซาอุฯ และอเมริกา ถูกหน่วยรบพิเศษรัสเซียสังหาร
กลุ่มคอเคซัส เอมิเรตส์ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มก่อการร้ายอัลกออิดะห์ ซึ่งสนับสนุนด้านการเงิน และอาวุธจากซาอุฯ และอเมริกา มาอีกต่อหนึ่ง ถูกยุยงให้จัดตั้งรัฐอิสลามขึ้น ในเขตพื้นที่ระหว่างดาเกสถาน กับเชชเนีย
และเน้นการก่อเหตุรุนแรงด้วยการใช้มือระเบิดฆ่าตัวตายที่เป็นสตรี นายเกเบคอฟ รับตำแหน่งผู้นำกลุ่มเมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา เขาเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งคือ นายอาลี อาบู มุคฮัมหมัด อัลดาเกสตานี
จากการที่หน่วยรบพิเศษของรัสเซีย ปิดล้อมบ้านของผู้ต้องสงสัยในเมืองบายนัคส์ค ในสาธารณรัฐดาเกสถาน และมีการยิงปะทะกันเกิดขึ้น หน่วยต่อต้านการก่อการร้าย ของรัสเซีย ได้ แถลงความสำเร็จในการสังหาร นายอเลียสคับ เกเบคอฟ ผู้นำกลุ่มคอเคซัส เอมิเรตส์ เสียชีวิตพร้อมกับสมาชิกกลุ่มอีก 2 คน
--------------------------------->
ไปยมโลกซะอีกแล้ว เด็กมะกัน แต่มีคนอยากใหญ่อีกเยอะ ที่อเมริกา จะปั้นภาพขึ้นมาเป็นผู้นำกลุ่ม พวกที่ตายก็ตายไป พวกนี้แค่เบี้ยเท่านั้น ดูอย่างบินลาเดน พออิสราเอล อเมริกา ซาอุฯ ร่วมกันก่อเหตุ 911 จนสมใจแล้ว ต่อมาก็ถูกสังหาร
ตอนนี้อเมริกาก็ขู่กรรโชกซาอุฯ ว่าจะเอาเรื่องหนักกรณี 911 ถึงขั้นแยกประเทศ แต่มีข้อแม้ว่า ซาอุฯ ต้องไปก่อสงครามที่เยเมน จึงเป็นเหตุให้ซาอุฯ โจมตีเยเมนอยู่ทุกวันนี้อย่างเดียวดาย เพราะชาติพันธมิตรอื่นถอนตัวไปจะหมดแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Jeerachart Jongsomchai



... "สตีเฟ่น ฮอว์คิง : เตือน Hadron - Collider ( = "บิ๊กแบงค์", เครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่ ) ของ CERN จะทำลายโลกและจักรวาล"
.
... ความน่ากลัวของโลกที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ที่กำลังจะเดินตามคำทำนายเรื่อง "วันสิ้นโลก" นั้นไม่ได้มีแค่เรื่องของการต่อสู้กันทางทหารและอาวุธของประเทศมหาอำนาจ ที่เริ่มจะเหมือน "สงครามอาร์มาเกดดอน" มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังมีความน่ากลัวจาก การทดลองทางวิทยาศาสตร์ของ CERN กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ไม่ยอมฟังใครด้วยเช่นกัน ... โดยพวกเขามีแผนการที่จะเปิดการทดลองสร้างคล้าย "บิ๊กแบงค์" ( เครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่ ) หรือ Hadron - Collider ในเดือน "มีนาคม 2015" นี้อีกครั้ง
... ( CERN = องค์กรวิจัยนิวเคลียร์แห่งยุโรป (European Organization for Nuclear Research) หรือ "เซิร์น" (Conseil Européen pour la Recherche Nucléaire) เป็นผู้สร้างเครื่องนี้ขึ้นที่บริเวณเขตแดนประเทศ ฝรั่งเศส และ สวิตเซอร์แลนด์ ใกล้กับกรุงเจนีวา เป็น "ท่อใต้ดิน" ลักษณะเป็นวงแหวนขนาดความยาวเส้นรอบวง 27 กิโลเมตร อยู่ลึกใต้ดิน 175 เมตร
... CERN พยายามทดลองสร้างการชนกันของอนุภาคขนาดเล็ก ( พวกเขาเรียกมันว่า "อนุภาคแห่งพระเจ้า" God Particle ) เพื่อทดลองสร้าง "บิ๊กแบงค์" เพื่อให้เกิดพลังงานขนาดใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็มีคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกเตือนว่าในทางทฤษฎีก็สามารถมีผลร้ายมหันต์ด้วยเช่นกัน
... "สตีเฟ่น ฮอว์คิง" นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะชาวอังกฤษได้ออกมาเตือนว่า โครงการ The Large Hadron Collider (LHC) ของ CERN ที่เกิดจากการชนของอนุภาคขนาดเล็กที่มีพลังงานมากที่สุดในโลกนั้น อันตรายมากเมื่อมองจากสายตาของสงครามเหนือธรรมชาติระหว่างฝ่ายธรรมะและอธรรมในโลกปัจจุบัน
... เขาบอกว่า พวกนักวิทยาศาสตร์( และ วิศวกร มากกว่า 8,000 คน จาก 85 ประเทศทั่วโลกในมหาวิทยาลัยและห้องทดลองทั่วโลกนับร้อยแห่ง ) เหล่านี้ยังไม่รู้ตัวว่ากำลังเล่นกัน "แรง" ที่มีกำลังมหาศาล ที่พวกเขายังไม่รู้จักมันเพียงพอ เพื่อพยายามสร้าง "บิ๊กแบงค์" ในโลกเรา ที่พวกเขาเรียกมันว่า "อนุภาคแห่งพระเจ้า" ( God Particle )
... โดย "สตีเฟ่น ฮอว์คิง" บอกว่า อนุภาคขนาดเล็กที่ชนกันในระดับพลังงานมหาศาลในสภาวะที่ไม่มั่นคง ไม่เสถียร นั้นในทางทฤษฎีนั้น สามารถทำลายโลกของเราและจักรวาลให้ย่อยยับได้ทันที โดยจะทำลายทุกอย่างทั้งหมด รวมทั้งที่ว่าง และกาลเวลาด้วย
... โดยนอกจากจะทำลายโลกแล้วยังจะขยายการทำลายด้วยความเร็วเท่าความเร็วแสงออกไปยังอวกาศ จักรวาลอีกด้วย ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกทำลายโดยสิ้นเชิง
... หลายคนที่เฝ้าติดตามได้บอกว่า CERN กำลังปิดบังข้อมูลกับชาวโลกรวมถึงความอันตรายที่แท้จริงของโครงการนี้ รวมทั้งมีการตั้งข้อสังเกตว่า สัญญลักษณ์รูปปั้น พระอิศวร ( 'Shiva' หรือ ศิวะ ) ที่หน้าสำนักงานใหญ่ของ CERN ที่อีกในนัยยะหนึ่ง เป็นสัญญลักษณ์ของ "เทพเจ้าแห่งการทำลายล้าง หรือปีศาจ"( The Hindu God of Destruction) ที่กำลังเต้นรำในความตายและหายนะ เป็นการบอกอะไรเราเป็นนัยหรือไม่ ? หรือว่าเขาต้องการ "้เปิดประตูนรก"
... นักวิเคราะห์บางคนมองลึกไปอีกว่า อาจจะเป็นการสร้างขึ้นเพื่อให้เกิดการทำลายล้างโลกและหายนะเพื่อเตรียมตัวต้อนรับ "การมาถึงของซาตาน" ของพวก "อิลลูมินาติ" ... ซึ่งก็สอดคล้องกับข่าวที่ว่า CERN ได้ตอบรับการเป็นสมาชิกใหม่ของ "อิสราเอล" เมื่อปี 2011 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นประเทศสมาชิกล่าสุดของ CERN นับแต่ปี 1999 เลยที่เดียว และนักวิทยาศาสตร์ "ยิว" ก็มีมากมายใน CERN ด้วยเช่นกัน ( ซึ่งการมาของปีศาจนั้น ทางอิสลามเรียกว่า "ดัจญาล" ที่มีตาเดียวเหมือนสัญลักษณ์ของกลุ่มองค์กร "อิลลูมินาติ )
... ในทางทฤษฎีแล้ว เชื่อว่าเมื่อเดิน "เครื่องชนอนุภาคขนาดใหญ่" จะสามารถสร้างอนุภาคฮิกส์ ( หรือ อนุภาคพระเจ้า ) ขึ้น อันเป็นอนุภาคหนึ่งในสองชนิดในแบบจำลองมาตรฐานที่ยังไม่ถูกค้นพบ ซึ่งจะเป็นการตอบคำถามอันหาคำตอบไม่ได้ภายใต้กฎทางฟิสิกส์ปัจจุบัน และทำให้สามารถอธิบายคุณสมบัติพื้นฐานของอนุภาคที่ประกอบกันขึ้นเป็นมวล
... ผู้คนจำนวนหนึ่งทั่วโลกเป็นกังวลเกี่ยวกับ "ความปลอดภัย" ในการทดลองครั้งนี้ ว่าอาจจะทำให้เกิด "หลุมดำ" บางส่วนถึงกับฟ้องร้องต่อศาลให้ระงับการทดลอง แต่ชุมชนนักวิทยาศาสตร์ต่างเห็นพ้องกันว่าการทดลองเครื่องเร่งอนุภาคครั้งนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายแต่อย่างใด
... ทั้งๆที่นักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะของโลกอย่าง "สตีเฟ่น ฮอว์คิง" หรือแม้แต่นักวิทยาศาตร์ด้านจักรวาลวิทยา อย่าง Neil de Grasse Tyson, ได้ออกมาเตือนในทำนองเดียวกันแล้วก็ตาม
.
Attempt To Re-Create 'Big Bang' Begins March 2015 - Will Gates Of Hell Soon Open To The Destruction Of All Creation?
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8…
Large Hadron Collider - Wikipedia, the free encyclopedia
https://www.youtube.com/watch?v=huO8yLcC6hU
http://press.web.cern.ch/…/cern-admit-israel-first-new-memb…
https://www.google.co.th/search…
https://www.youtube.com/watch?v=huO8yLcC6hU

 

Jeerachart Jongsomchai



... "คำทำนายเรื่องวันสิ้นโลก : ของศาสนาต่างๆ"
.
... เป็นเรื่องที่แปลกที่ศาสนาหลักๆของโลกล้วนกล่าวถึงวันสิ้นโลกเอาไว้ในศาสนาของตน สอดคล้องกับแนวคิดวิทยาศาตร์สมัยใหม่ที่ว่าโลก จักรวาลเราไม่ได้อยู่ยงถาวรแต่อย่างใด แต่มีการเกิด ( บิ๊กแบงค์ ) และการสิ้นสุด ... และยิ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่กำลังร้อนรุ่ม
... "ศาสนาคริสต์"
... "การพิพากษาครั้งสุดท้าย" ( Last Judgment) ตามหลักอวสานวิทยาศาสนาคริสต์ หมายถึง วันที่พระเป็นเจ้าทรงพิพากษาบรรดาประชาชาติต่าง ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากการคืนชีพของบรรดาผู้ตายและการมาครั้งที่สองของพระเยซู หลังจากการเกิดสงคราม "อารมาเกดโดน"
... "อารมาเกดโดน" เป็นสมรภูมิการยุทธ์อันเกี่ยวข้องกับ "คำพยากรณ์วันสิ้นโลก" "พระเมสสิยาห์" จะเสด็จมาอีกครั้ง เพื่อขจัด "ศัตรูของพระคริสต์" (antichrist) ซึ่งคัมภีร์ไบเบิลขนานเขาเหล่านั้นว่า "สัตว์"โดยพระเมสสิยาห์จะกระทำสงคราม ณ สมรภูมิอารมาเกดโดน เพื่อยังให้ "สัตว์" ทั้งปวงปลาสนาการไป และบัดนั้น ซาตานจักถูกผลักไสลงสู่ "ช่องบาดาล" หรือ "นรกขุมลึก" (abyss) เป็นเวลาหนึ่งพันปี ซึ่งเรียกว่า "ยุคพันปี"
... พระเจ้าทรงกำหนดวันหนึ่งไว้เพื่อจะพิพากษาโลกด้วยความชอบธรรมโดยใช้บุรุษผู้หนึ่งซึ่งพระองค์ทรงแต่งตั้ง ผู้พิพากษาที่ได้รับการแต่งตั้งองค์นี้คือ "พระเยซูคริสต์" ซึ่งได้รับการปลุกให้คืนพระชนม์ วันพิพากษาจะเริ่มขึ้นหลังจาก "สงครามอาร์มาเก็ดโดน" เมื่อระบบของซาตานบนแผ่นดินโลกถูกทำลายลงแล้ว.
... หลังจากอาร์มาเก็ดดอน ซาตานกับผีปิศาจพรรคพวกของมันจะถูกกักขังอยู่ในเหวลึกเป็นเวลาหนึ่งพันปี. ระหว่างช่วงเวลานั้น ผู้ที่เป็นทายาทร่วมกับพระเยซูซึ่งอยู่ในสวรรค์จำนวน 144,000 คนจะเป็นผู้พิพากษาและจะปกครอง เป็นกษัตริย์กับพระคริสต์เป็นเวลาหนึ่งพันปี

... "ศาสนาอิสลาม"
... "วันกิยามะฮฺ" ( ช่วงเวลาสุดท้ายของโลก ) เป็นวันที่ยิ่งใหญ่ ความโกลาหลเกิดขึ้นอย่างสาหัส มวลมนุษย์จะตกอยู่ในความตระหนกและหวาดกลัว สายตาบรรดาผู้อธรรมจะมองต่ำ อัลลอฮฺจะทำให้วันกิยามะฮฺสำหรับบรรดาผู้ศรัทธาเหมือนระยะเวลาระหว่างซุฮร์กับอัศร์เท่านั้น ส่วนบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะรู้สึกว่ามันยาวนานถึงห้าหมื่นปี
... "อัลลอฮฺ" ได้ตรัสว่า “ครั้นเมื่อเสียงเป่าครั้งแรกถูกเป่าขึ้นหนึ่งครั้ง (เป็นสัญญาณแจ้งให้ทราบถึงวันกิยามะฮฺ) แผ่นดินและเทือกเขาจะถูกยกขึ้นแล้วมันทั้งสองจะถูกกระแทกกันแตกกระจายเป็นผุยผง ในวันนั้น วันกิยามะฮฺก็จะเกิดขึ้น ชั้นฟ้าก็จะแยกออก และในวันนั้นมันก็จะอ่อนกำลังลงอย่างไม่เป็นระเบียบ”
“เมื่อท้องฟ้าแตกออก และบรรดาดวงดาวหล่นกระจัดกระจาย และเมื่อทะเลถูกให้เอ่อล้น และเมื่อหลุมฝังศพถูกพลิกกลับ”
... “เมื่อเหตุการณ์(วันกิยามะฮฺ)ได้เกิดขึ้น ไม่มีใครอีกที่ปฏิเสธต่อเหตุการณ์นั้น มันทำให้กลุ่มชนหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน”
... เมื่อ "อิหม่ามมะฮ์ดี" คือบุคคลหนึ่ง ที่นบีมุฮัมมัดพยากรณ์ว่าจะมาขจัดความชั่วร้าย และปกครองโลกเป็นเวลาหลายปี และสร้างสันติสุขบนโลกก่อนที่ถึงวันกิยามะฮ์ และศาสนาอิสลามก็บอกด้วยว่า "นบีอีซา" ( พระเยซู ) จะกลับมาต่อสู้กับพวก "ดัญญาล" ตาเดียว ( ที่ต่อต้านพระคริสต์ด้วยเช่นกัน อิสลามถือว่าพระเยซู เป็นนบีองค์หนึ่ง ที่พระเจ้าส่งมา )
... โดยสงครามจะเริ่มบริเวณประเทศ "ซีเรีย" ในปัจจุบัน
... "ศาสนาพุทธ"
...พุทธศาสนิกชนเชื่อว่าเมื่อศาสนาของพระโคตมพุทธเจ้าสิ้นสุดไปแล้ว โลกจะล่วงเข้าสู่ยุคแห่งความเสื่อมถอย อายุขัยของมนุษย์ลดลงจนเหลือ 10 ปี ก็เข้าสู่ "ยุคมิคสัญญี" ผู้สลดใจกับความชั่วก็หันมารวมกลุ่มกันทำความดี จากนั้นอายุขัยเพิ่มขึ้นถึง 1 อสงไขยปี แล้วจึงลดลงอีกจนเหลือ 80,000 ปี
... จากศิลาจารึก เชตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย
ดูก่อนอานนท์ “เมื่อศาสนาของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล ( = 2,500 ปี, ปัจจุบัน 2558 ) สัตว์โลกทั้งหลายที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย "แผ่นดินแผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ"
... "คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ" ส่วนเวไนยสัตว์ ผู้ขวนขวายในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงในพระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบาง แต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น”
... ในยุคนี้จะมีพระโพธิสัตว์ที่บำเพ็ญบารมีครบ 80 อสงไขยแสนมหากัป ลงมาตรัสรู้เป็น พระเมตไตรยพุทธเจ้า "พระศรีอริยเมตไตรย" เป็นพระโพธิสัตว์ผู้จะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายแห่งภัทรกัปนี้ พระศรีอริยเมตไตรยจะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่งมาในอนาคต โลกนี้จะมีความสงบสุข
...................................................
... ยังไม่นับของชนเผ่ามายา ที่บอกว่าปฎิทินโลกได้สิ้นสุดเมื่อ 21 -12 - 2012 ( 21 ธันวาคม 2012 ) ที่ผ่านมาแล้วสามปี หลายคนตีความว่าเราเริ่มเข้าสู่การเริ่มต้นของยุค "วันสิ้นโลก" แล้ว
... หรือ คำทำนายของ "พระในคริสต์ศาสนาท่านมาลาคี" ที่บอกว่า สันตปาปาองค์นี้ ( โป๊ปฟรานซิส ) จะเป็นองค์สุดท้ายของวาติกันก่อน "วันสิ้นโลก" หรือ "การพิพากษาครั้งสุดท้าย" ซึ่งจะตามมาด้วยการพังทลายของวาติกันและโรม
... ล่าสุดเมื่อปลายเดือนมีนาคม2015 ที่ผ่านมา มีแรบไบ Rimenov ของชาวยิว ได้ไปที่ฟลอริด้าของอเมริกาและบอกให้ชาวยิวในอเมริกา รวมทั้งอเมริกาใต้ และยุโรปให้รีบอพยพออกจากประเทศแล้วให้รีบไปที่อิสราเอลเพื่อความปลอดภัย เพราะว่าอเมริกากำลังจะเกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ที่รัฐต่างๆจะเกิดการแยกตัวจากรัฐบาลกลาง จะมีการเสียชีวิตมากมายมหาศาล มีแค่ผู้คนบางส่วนเท่านั้นที่จะรอดชีวิต
... ก่อนหน้านี้ ปี 2007 ก็มีแรบไบชาวยิวที่มีชื่อเสียงที่ทุ่มชีวิตทั้งชีวิตศึกษาเกี่ยวกับคัมภีร์โตร่าของศาสนายูดายอย่างท่าน Yitzhal Kurani ที่ได้เสียชีวิตเมื่อปี 2006 ได้บอกลูกศิษย์ว่าหลังท่านเสียชีวิตให้เอาโน็ตที่ท่านเขียนเอาไว้มาบอกคนอื่นๆหลังท่านเสียชีวิตไปและโน๊ตที่ท่านเขียนนั้นเขียนว่า "Yehoshua คือ เมสสิยาห์" ( ความหมายของ "เมสสิยาห์" หมายถึงกษัตริย์ยิวผู้ปกครองโลกในยุคสุดท้ายไปตลอดชั่วนิรันดร์ ) หรือเขียนอีกชื่อว่า Yeshua (Jesus) หรือ "พระเยชู" ตามคริสตศาสนา หรือ "นบีอีซา" ตามศาสนาอิสลาม นั่นเอง
... ที่ทำให้เกิดกระแสไปทั่วสังคมชาวยิว บ้างก็ว่าสิ่งนั้นเป็นของปลอม บ้างก็ว่าแสดงว่าท่าน Yitzhal Kurani เป็นคริสเตียนบ้าง แต่ที่แน่ๆสำหรับชาวคริสต์และอิสลามนั้นเป็นการตอกย้ำว่า นี่อาจจะเป็นสัญญานว่า "วันสิ้นโลก" อาจกำลังจะมาถึงแล้วในเร็ววัน
... ลูกชายแรบไบ Yitzhal Kurani ได้บอกว่า "พ่อผมได้บอกว่าท่านได้พบกับ"เมสสิยาห์" ในญานทัศนะ และบอกว่า "เมสสิยาห์"กำลังจะมาในเร็ววัน"
.
The Rabbi, the Note and the Messiah - Israel Today | Israel News
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8…
http://www.jw.org/…/วันพ%E…/
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8…
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%AE%E0%B9…
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8…
http://www.islammore.com/main/content.php…
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8…
http://www.thaipost.net/…
http://www.thaipost.net/…

 

Chalee Na Roied



มีบางท่านแชร์ข้อมูลมานะครับว่า แนวโน้มปี 59 อาจจะไม่มีการฝึก คอบบร้าโกลด์ เพราะการประชุมเตรียมการ ถูกเลื่อนไปไม่มีกำหนด ผมก็เลยเข้าไปดูในเว็บ สื่อกลาโหมสหรัฐอย่าง "Star and stripes"
http://www.stripes.com/…/cobra-gold-planning-postponed-no-d…#
ปรากฎว่ามีารายงานดังกล่าวจริงครับ เป็นการเลื่อนการประชุม เตรียมการและวางแผนการฝึก ระหว่างไทยกับสหรัฐสำหรับปี 59 ซึ่งกำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 24-26 ที่ฮาวาย ออกไปอย่างไม่มีกำหนด และยังไม่มีการตัดสินใจใดๆ
ความเป็นไปได้ก็คือ อาจจะรอดูท่าทีของรัฐบาลไทย และคำสั่งจากรัฐบาลสหรัฐ หรือไม่ก็เป็นการส่งสัญญาณ "ล่วงหน้า" ก่อนการมาของ ฑูตสหรัฐคนใหม่ ในเดือนพฤษภาคมนี้
จริงๆการฝึกคอบร้าโกลด์ สำหรับเราไม่ค่อยได้อะไรหรอก อย่างมากก็ประสบการณ์ เทคนิคและยุทธวิธีการรบ ซึ่งคุ้นเคยกันอยู่แล้ว เครื่องบินที่เข้าร่วมการฝึกรุ่นใหม่ อย่าง V-22 (Osprey) เขาก็ไม่ให้เราขึ้น ได้แค่บันทึกภาพเท่านั้น มันหวงของมันจะตาย บินมาส่งนาวิกโยธินของสหรัฐ ให้โรยตัวในพื้นที่การฝึก แล้วก็บินกลับ แต่สิ่งที่สหรัฐได้ก็คือ การผลัดเปลี่ยนกำลังมาเข้าร่วมการฝึก เพื่อปรับความคุ้นเคยกับ สภาพอากาศและภูมิประเทศแถบนี้ และรักษามิตรภาพระหว่างกันก็เท่านั้น
ถ้าปีหน้ายกเลิกการฝึก ก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า แนวโน้มความสัมพันธ์"ไทย-สหรัฐ" น่าจะไม่ค่อยราบรื่นต่อไป และจะไปตรงสิ่งที่นักวิเคราะห์ชาวอเมริกัน บางคนได้ให้ความเห็นไว้ ซึ่งผมนำมาวิเคราะห์เมื่อหลายวันก่อนว่า การส่งฑูตสหรัฐคนใหม่ คือ กลินส์ เดวีส์ คือสัญญาณที่ส่งมาว่า สหรัฐ"อาจจะ"เล่นเกมส์แรง...

 

Chalee Na Roied

ดูภาพการทิ้งระเบิดของ ซาอุดิอาระเบียในเยเมนนะครับ ระเบิดที่ใช้ความรุนแรงระดับนี้ น่าจะเป็นทำลายบังเกอร์ใต้ดิน(bunker buster) ระเบิดดังกล่าว อานุภาพทำลายล้างสูงมากครับ คงไม่ต้องไปเดาว่า พลเรือนในพื้นที่เหล่านั้น จะสูญเสียมากแค่ไหน อาวุธที่ใช้ทำสงครามส่วนใหญ่ ไม่ได้ผลิตในซาอุดิอาระเบียแน่นอน เป็นผลพวงมากจาก ระบบน้ำมันแลกอาวุธ(petrodollar) เป็นของรัฐบาลใดนั้น คงไม่ต้องสงสัยนะครับ
และไม่น่าเชื่อก็คือ ภาพที่เกิดขึ้นนั้น เกิดในดินแดนที่เป็นมุสลิม ซึ่งหลักการของอิสลาม มุสลิมคือพี่น้องกัน แต่เวลานี้กลับต้องมารบราฆ่าฟันกันเอง เพราะผลประโยชน์ของชาติมหาอำนาจ และความโลภนั่นเอง

<iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/U7ph1AKsHzg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

https://youtu.be/U7ph1AKsHzg

 

อิหร่านโชว์แสนยานุภาพวันกองทัพแห่งชาติ (ชมภาพ)
ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - เม.ย. 20, 2015



Presstv – เนื่องวันกองทัพแห่งชาติ กองทัพสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ได้จัดพิธีสวนสนามและแสดงโชว์แสนยานุภาพและขีปนาวุธต่างๆที่เป็นผลงานแห่งความสำเร็จล่าสุดของกองทัพที่ผลิตขึ้นโดยผู้เชี่ยวชาญในประเทศ เช่น ขีปนาวุธระบบป้องกันทางอากาศ

ในพิธีสวนสนามต่างๆของกองทัพสาธารณรัฐอิสลาม มีขึ้นเมื่อเช้าวันเสาร์ ที่ 18 เมษายน เนื่องในวันกองทัพแห่งชาติ โดยมีการแสดงผลงานความสำเร็จระบบการป้องกันที่สร้างจากผู้เชี่ยวชาญท้องถิ่นในประเทศ เช่น ขีปนาวุธระบบป้องการทางอากาศความเชื่อ 373 ควบคู่กับขีปนาวุธด้านการสื่อสาร การควบคุมและการสั่งการที่ชาญฉลาด “รอซูล” และ “ฟาโกร์”

ขีปนาวุธป้องกัน “ความเชื่อ” 373 มีความคล้ายคลึงกับขีปนาวุธ s 300 ของรัสเซีย และสามารถโจมตีเป้าหมายเครื่องบินของศัตรูที่อยู่ระดับความสูง

ขีปนาวุธคำสั่งและระบบการควบคุมชาญฉลาดมีความสามารถพิเศษในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากแหล่งที่มาของข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันทางอากาศ รวมทั้งเรดาร์ทหารชนิดต่างๆ สัญญาณเฝ้าระวังระบบนำวิถีและการควบคุมและศูนย์สั่งการข้อมูลและการควบคุมต่างๆ

ระบบขีปนาวุธดังกล่าวมีความเป็นอิสระอย่างสมบูรณ์ของยุทธวิธีและ ควบคุมคำระบบการป้องกันทางอากาศภาคพื้นดินและระบบการควบคุมทางอากาศ

ระบบขีปนาวุธ “รอซูล” เป็นระบบขีปนาวุธที่ทันสมัยมีการสื่อสารขั้นสูงที่มีความสามารถในการเข้ารหัสการสื่อสารได้อย่างเยี่ยมยอด สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐานและส่งมอบเรดาร์ของการต่อสู้ยังสำนักงานใหญ่ ซึ่งขีปนาวุธชนิดนี้ ถือเป็นการแสดงและเปิดตัวอย่างเป็นทางการครั้งแรกในพิธีสวนสนามครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังมีการโชว์เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอากาศ อีกด้วย อีกทั้งมีการแสดงโชว์ของกองทัพเรือของสาธารณรัฐอิสลามด้วย

พิธีสวนสนามมีขึ้นเนื่องในวัน กองทัพของสาธารณรัฐอิสลาม โดยมีประธานาธิบดี ฮะซัน โรฮานีย์ เข้าร่วมเป็นประธานในพิธี

อิหร่านได้กล่าวย้ำอยู่เสมอว่า ขีปนาวุธต่างๆเหล่านี้เพื่อป้องกันประเทศ หาใช่เป็นภัยคุกคามต่อนานาชาติ

ภาพต่อไปนี้เป็นการโชว์แสนยานุภาพในพิธีสวนสนามของกองกำลังทหารของสาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน ในกรุงเตหะรานและเมืองอื่น ๆ ของอิหร่าน



อิหร่านโชว์แสนยานุภาพวันกองทัพแห่งชาติ (ชมภาพ) | abnewstoday

 

Thanong Fanclub



13. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
ลูกาสนักฟิสิกซ์ของCERNที่กำลังค้นหาวิธีการที่จะไขความลี้ลับเพื่อประตูสู่มิติของกาลเวลาเพื่อไปหาลูซิเฟอร์ (Lucifer) พระเจ้าของพวกอิลิทที่ต้องการผลักดันให้เกิดโลกใหม่หรือNew World Order ด้วยเหตุนี้ผู้หญิงชุดดำน่าจะมีชื่อเรียกกว่าลูซี่ ( Lucy) เพราะว่าทั้งลูกาสและลูซี่ต่างเป็นลูกหลานของลูซิเฟอร์ที่รอวันจะทะลวงประตูต่างมิติเพื่อกลับมาครองโลก
มีคำอธิบายในวิกิพีเดียว่า: "ลูซิเฟอร์ (อังกฤษ: Lucifer) เป็นทูตสวรรค์ มีบทบาทเป็นอย่างมากในตำนานของศาสนาคริสต์ คำว่าลูซิเฟอร์ เป็นคำละตินมาจากคำว่า "Lux" แปลว่าแสงสว่าง และ "Ferrer" แปลว่า ผู้นำมา หรือผู้ถือ นำมารวมกันแปลว่า "ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง" หรือ "ดาวประกายพรึก" หรือรู้กันทั่วไปคือดาวพระศุกร์
"ในหนังสืออิสยาห์ บทที่ 14 ข้อ 12 ใช้คำลูซิเฟอร์นี้หมายถึงพระเจ้าฮัมมูราบีแห่งกรุงบาบิโลน ซึ่งถูกพระยาห์เวห์บันดาลให้เสื่อมอำนาจ ต่อมาคำนี้ใช้หมายถึง "ซาตาน" ซึ่งเป็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งที่พระยาห์เวห์ทรงขับออกจากสวรรค์"
เมื่อลูซิเฟอร์กลับมาแล้ว จะเป็นพระเจ้าที่จะครองโลก โครงการCERNดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเปิดประตูมิติของเวลา เพื่อติดต่อกับสิ่งมีชีวิตต่างมิติของเวลา และอาจจะนำลูซิเฟอร์กลับมายังโลก เพื่อทำลายทุกศาสนาในโลกนี้และนำพาโลกสู่ยุคใหม่ภายใต้ศาสนาโลกศาสนาเดียว (One World Religion)
thanong
20/4/2015
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8…

 

Thanong Fanclub



14. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
องค์การสหประชาชาติประกาศให้ปี2015นี้เป็นปีแห่งสีนานาชาติ International Year of Light เพื่อให้ประชาชนทั่วโลกได้รับรู้ถึงความสำคัญของเทคโนโลยี่ของแสง และเพื่อเฉลิมฉลองครอบรอบ100ปีของการพิมพ์งานThe Theory of General of Relativity ของไอสไตน์ ผู้ซึ่งได้เปลี่ยนความรู้มนุษย์เกี่ยวกับแสง เวลา อวกาศ พลังงานและจักรวาล
แต่การที่ยูเอ็นประกาศให้ปีนี้เป็นปีแห่งแสงนานาชาติอาจจะมีความเกี่ยวข้องกับเตรียมการอย่างเงียบๆของพวกอิลิทในการมาถึงของพระเจ้าของพวกเขาคือลูซิเฟอร์ หรือผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง
CERNรีบกระดี้กระด้าออกมารับการฉลองปีแห่งแสงนานาชาติ เพราะว่าแสง (light) หมายถึงความสว่าง (luminosity) ได้เหมือนกัน CERNใช้luminosityเป็นหน่วยในการวัดความสว่างอันเกิดจากการที่อนุภาคชนกัน CERNมีโครงการเรียกว่าHigh Luminosity LHCเพื่อที่จะเพิ่มความสว่างในการชนกันของอนุภาคให้เพิ่มขึ้น10เท่า
สัญลักษณ์ของลูซิเฟอร์คือแสงสว่าง อิลลูมินาติมีรากศัพท์มาจากแสงสว่างของลูซิเฟอร์ นอกจากนี้CERNไม่ปิดบังอีกต่อไปว่าตัวแทนของนักฟิสิกซ์ขององค์กรคือลูกาส เป็นชื่อย่อของลูซิเฟอร์ ผู้กำลังเปิดมิติของการเวลาเพื่อเตรียมการมาถึงของยุคใหม่ของลูซิเฟอร์นั่นเอง
thanong
20/4/2015
http://home.web.cern.ch/…/…/01/2015-international-year-light

 

Thanong Fanclub



15. เซิร์น (CERN) เปิดมิติเวลา หรือทำลายล้างโลก
ไม่ต้องปิดบังกันต่อไป โรมประกาศในเดือนเมษายนปีที่แล้วว่า ลูซิเฟอร์เป็นพระเจ้าที่โรมบูชามาตลอด ลูซิเฟอร์เปรียบเหมือนดาวแห่งรุ่งอรุณ (Morning Star)ที่นำแสงสว่างมาให้มนุษยชาติ
และโรมน่าจะดูแลการทำงานของCERNอย่างใกล้ชิด เพื่อรอวันมาของผู้ซึ่งนำแสงสว่างมาให้มนุษย์
เว๊ปtumnandd.comสรุปความเป็นมาของลูซิเฟอร์ดังนี้:
"ลูซิเฟอร์ (Lucifer) ถือเป็นจอมมารแห่งนรก ที่มีชื่อเสียงค่อนข้างโด่งดังเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็เป็นเพราะลูซิเฟอร์ อาจจะมีบทบาทในพระคัมภีร์หลายประการ โดยคำว่าลูซิเฟอร์นั้น เป็นภาษาละติน มีผสมจากคำ 2 คำ ได้แก่ “Lux” ที่หมายถึง แสงสว่าง และ “Ferrer” ที่หมายถึง ผู้นำมาหรือผู้ถือ เมื่อนำเอาทั้งสองคำมารวมกันก็จะมีความหมายว่า “ผู้นำมาซึ่งแสงสว่าง” หรือแปลง่ายๆตามภาษาชาวบ้านว่า “รุ่งอรุณ” หรือ “ดาวแห่งความแสงสว่าง” ทั้งนี้ก็เพราะ ลูซิเฟอร์เป็นอดีตอัคระเทวทูตที่เป็นผู้ถูกสร้างขึ้นมาจากแสงสว่าง มีเป็นใหญ่รองลงมาจากพระเป็นเจ้า ซึ่งอาจถือได้ว่า เป็นอัคระเทวทูตที่ยิ่งใหญ่มากที่สุด ณ เวลานั้นเลยก็ได้ แต่ด้วยความหลงในอำนาจที่คิดว่าตนเองยิ่งใหญ่เหนือผู้ใด จึงทำให้ลูซิเฟอร์คิดก่อการกบฏเพื่อหักหลังพระเป็นเจ้า จนท้ายที่สุดก็ถูกลงโทษให้ตกจากสวรรค์ และกลายมาเป็น”ปีศาจ” ในที่สุด
ตำนานของชาวฮิบรูกล่าวไว้ว่า ลูซิเฟอร์ได้กระทำผิดเพราะถูกยุแยงจากซาตาน (ตามตำนานนี้ ฮิบรู ลูซิเฟอร์ และ ซาตาน จะเป็นคนละคนกัน) โดยในพระคัมภีร์ของฮิบรูนั้น ซาตานถือเป็นหนึ่งในอัคระเทวฑูตที่ชื่อว่า Satan-Sataniel (หรือSamael?) ด้วย และด้วยความที่ซาตานอยากจะเป็นที่หนึ่งในจักรวาล จึงได้ยุยงส่งเสริมให้เทพเจ้าองค์อื่นกลายเป็นมารร้ายแทนตัวเอง
ส่วนตำนานของชาวคริสต์ที่อยู่ในคัมภีร์ The Old Testament ก็ได้นิยามความหมายของ Helel เป็น ลูซิเฟอร์ และได้นำไปเชื่อมโยงกับปีศาจร้ายที่มีรูปกายเป็นสัตว์เลื้อยคลาน โดยสัตว์ร้ายนี้จะแอบเข้ามาในสวนอีเดนเพื่อที่จะหลอกลวงอดัมกับอีฟ
ส่วนในยุคกลาง นักบุญเจอโรม (St.Jerome) ผู้เป็นหลวงพ่อในศาสนะจักร มีแนวความคิดที่ว่า ลูซิเฟอร์ ไม่ควรจะเป็นชื่อของ “ปีศาจ” จึงได้เปลี่ยนมาใช้เป็นคำว่า “ซาตาน” แทน แต่ในเวลาภายหลัง ทั้งสองชื่อก็ถูกรวมมาเป็นคนคนเดียวกัน ดังที่สามารถพบเจอได้ในพระคัมภีร์บางเล่ม ที่ชื่อของลูซิเฟอร์และซาตานนั้น ถูกใช้แทนกันเสมอ
ตำนานกรีกได้เปรียบคำว่า ลูซิเฟอร์ เฉกเช่นเดียวกับดาววีนัส เนื่องจากเดิมทีแล้ว ลูซิเฟอร์เป็นชื่อเดิมของดาววีนัส ในขณะที่บางตำนานของชาวเพแก้น หรือ วิคคา ก็บอกเอาไว้ว่า หลังจากที่พระเจ้าได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาแล้ว ก็มีความใส่ใจดูแลในตัวพวกมนุษย์มากกว่าผู้อื่นได และแน่นอนว่ามากกว่าตัวลูซิเฟอร์เองด้วย ทำให้ลูซิเฟอร์เกิดความรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ และเป็นผู้นำในการก่อกบฏต่อพระเป็นเจ้า แต่ในบางความเชื่อของชาวเพเก้น ก็บอกเล่ากันว่า ลูซิเฟอร์นั้นอาศัยอยู่ที่ทวีปยุโรปและเอเชีย
ทุกวันนี้ ได้เกิดมีลัทธิใหม่ที่ยกให้ลูซิเฟอร์เป็นเทพเจ้าเหนือพวกเขา และเรียกชื่อตัวเองว่า “ลูซิเฟอเรี่ยน (Luciferains)” ซึ่งล้อตามชื่อของพระศาสดา Lucifer Calaritanus บิช๊อปของลูซิเฟอเรี่ยน มีความเชื่อว่า พระเยซูคริสต์ไม่ใช่เทพผู้ถูกเลือก แต่ก็คือ ลูซิเฟอร์นั่นเอง (คล้ายกับลัทธิการบูชาซาตานหรือปีศาจ) ในคัมภีร์ของกลุ่มคเหล่านี้ ได้บอกเล่าเรื่องราวเหตุการณ์เรื่อง “ก่อนจะร่วงหล่น” หรือ “Before the fall” เอาไว้ว่า
หลังจากที่พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้น ลูซิเฟอร์ก็เกิดความรักใคร่เอ็นดูในความใสซื่อบริสุทธิ์ของมนุษย์เป็นอย่างมาก แต่เนื่องจากมนุษย์มีความใสซื่อเกินไป จึงทำให้มนุษย์ไม่รับรู้ถึงตัวตนของพระเป็นเจ้า ตำนานที่กล่าวไว้ในคัมภีร์มีบันทึกไว้ว่า พระเจ้าเสกงูออกมาเพื่อล่อลวงมนุษย์ให้กินผลไม้แห่งปัญญา และเมื่อมนุษย์ได้รับประทานผลไม้ชนิดนี้เข้าไป ก็จะทำให้รู้สึกถึงพระเป็นเจ้าได้มากขึ้น มนุษย์จึงได้ขับไล่ออกจากสวนอีเดนไป หลังจากที่ลูซิเฟอร์ทราบเรื่อง ก็รู้สึกโกรธและคิดที่จะก่อกบฏขึ้น เรื่องนี้ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโน้มน้าวจิตใจของสาวกลัทธิลูซิเฟอเรี่ยน ซึ่งภายหลังได้กลายมาเป็นลัทธินอกรีต และกระจัดกระจายอออกไปตามถิ่นฐานต่างๆ บางกลุ่มคนก็หันพึ่งยาเสพติด หรือเสียงเพลง เพื่อใช้ในการกล่อมประสาทของตนเอง
ซึ่งเหตุผลที่ลูซิเฟอร์ถือเป็นตัวแทนของบาปแห่งความหยิ่งพยอง ก็เป็นเพราะเขาคิดว่าตนเองเก่งกาจและมีพลังเหนือใคร จนนำพาความหลงผิด และคิดก่อกบฏขึ้น จนในที่สุดก็กลายมาเป็นสงครามสวรรค์ครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั่นเอง โดยศึกครั้งนี้ ลูซิเฟอร์ได้จูงใจเทพ 2 ใน 3 (หรือบางก็ว่า 3 ใน5) ของเทพทั้งหมดบนสวรรค์ เพื่อมาต่อสู้กับกองทัพสวรรค์ ที่มีแม่ทัพเป็นอัคระเทวฑูตมิคาเอล แต่สุดท้ายก็ได้แพ้พ่ายไปในที่สุด
ว่ากันว่า ลูซิเฟอร์มักจะปรากฏตัวในลักษณะที่เป็นมังกรหรือสิงโต และมีลูกสมุนที่ชื่อว่า Satanackia และ Agalierap ผู้จงรักภักดีอยู่ข้างกายเสมอ เปรียบเสมือนแขนทั้งสองข้างของลูซิเฟอร์ก็ว่าได้ ส่วนสัญลักษณ์ที่ใช้แทนตัวลูซิเฟอร์ก็จะเป็น กางเขนกลับหัว โดยมีเลขประจำตัวของลูซิเฟอร์หรือเลขแห่งความโชคร้าย เป็น 666 ซึ่งแตกต่างจากเลขแห่งความโชคดีของพระคริสต์ ที่เป็น 333"
thanong
20/4/2015
https://www.youtube.com/watch?v=dcpVrtv2t-M
http://www.tumnandd.com/%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%8B%E0%B8%…/

 

Thanong Fanclub



ความเสี่ยงที่เรือรบสหรัฐฯและเรือรบอิหร่านจะปะทะกันในทะเลเยเมน
ซาอุดิฯบอมบ์เยเมน อิหร่านขนอาวุธทางเรือไปช่วยพวกฮูติรบซาอุดิฯ สหรัฐฯช่วยซาอุดิฯ สหรัฐฯส่งเรือรบไปสกัดเรือรบอิหร่านไม่ให้ส่งอาวุธให้ฮูติ
จับตาดูว่ากองทัพเรือสหรัฐฯและกองทัพเรืออิหร่านจะต้องปะทะกันในทะเลทางตอนใต้ของเยเมนหรือไม่
thanong
21/4/2015

http://rt.com/usa/251409-us-iran-yemen-interception/
US Navy Sends Aircraft Carrier, Warships To Intercept Iranian Weapons Shipments In Yemeni Waters | Zero Hedge

 

พายุซัดชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย น้ำท่วมหนัก-ไฟฟ้าถูกตัด
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2558 13:21 น.



รอยเตอร์ – ลมกำลังแรงเท่าพายุไซโคลน , คลื่นยักษ์ , ฝนตกเทกระหน่ำ และน้ำท่วมฉับพลันได้ซัดกระหน่ำชายฝั่งทางตะวันออกของออสเตรเลียในวันนี้ (21) ทำให้สตรีรายหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และบ้านกว่า 100,000 หลังคาเรือนไม่มีไฟฟ้าใช้

ลมกำลังแรงถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ฉุดกระชากต้นไม้ออกทั้งราก โดยบางต้นได้สร้างความเสียหายให้กับรถยนต์ นอกจากนี้แรงลมยังพังกันสาดและนั่งร้านอาคาร และถึงขนาดทำให้รถยนต์คันหนึ่งพลิกคว่ำ

ทางรถไฟเชื่อมตอนเหนือและตอนใต้ของนครซิดนีย์ถูกตัดขาด และถนนมากมายหลายสายในเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแดนจิงโจ้แห่งนี้ถูกน้ำท่วม

สำนักงานการขนส่งแนะนำชาวซิดนีย์ให้หลีกเลี่ยง “การเดินทางที่ไม่จำเป็น” ทุกกรณี จนกว่าสภาพอากาศจะเบาบางลง รายงานระบุว่า โรงพยาบาลบางแห่งที่ไฟฟ้าถูกตัดขาดต้องอาศัยเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และโรงเรียนราว 25 แห่งปิดการเรียนการสอน

อุทกภัยครั้งนี้ทำให้ได้เห็นนครซิดนีย์รับปริมาณน้ำฝนของเกือบหนึ่งเดือนภายในแค่ 24 ชั่วโมง ข้อมูลจากสำนักงานอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเผย

หน่วยบริการฉุกเฉินของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ (New South Wales State Emergency Service -เอสอีเอส) ระบุว่า ได้รับสายแจ้งขอความช่วยเหลือกว่า 3,000 สาย และต้องปฏิบัติงานกู้ภัยจากเหตุน้ำท่วม 19 ครั้ง รวมถึงกรณีของสตรีสูงอายุในเมืองสเตราด์ ห่างจากตอนเหนือของนครซิดนีย์เพียง 200 กิโลเมตรกว่าๆ สตรีรายดังกล่าวอยู่ในอาการหนักหลังจากเธอได้รับการช่วยเหลือ

“เราไม่เคยพบเจอสภาพอากาศแบบนี้หรือรุนแรงเท่านี้มาก่อนในช่วงหลายปี” สตีเวน เพียซ รองผู้อำนวยการของเอสอีเอสบอกกับสถานีวิทยุและโทรทัศน์ออสเตรเลีย (เอบีซี)

“ลมกำลังแรงเท่าลมพายุอย่างสม่ำเสมอนี้เป็นพายุหมุนจริงๆ ในบางพื้นที่ โดยมีแรงลมสูงสุดถึง 135 กิโลเมตรต่อชั่วโมง”

พายุรุนแรงนอกชายฝั่งทางตอนเหนือของซิดนีย์ได้ทำให้เกิดคลื่นยักษ์ใกล้กับชายหาดหลายแห่ง รวมถึงชายหาดยอดนิยมระดับโลกอย่างชายหาดบอนดี ทุ่นตรวจวัดสภาพอากาศในมหาสมุทรนอกชายฝั่งซิดนีย์วัดความสูงคลื่นได้ 11.2 เมตรเมื่อคืนนี้

สภาพอากาศที่รุนแรงดังกล่าวมีขึ้นใกล้กับหลายพื้นที่ของซิดนีย์ฮาเบอร์ ทำให้เรือสำราญลำหนึ่งที่มีผู้โดยสารราว 2,500 คนต้องรออยู่นอกชายฝั่ง ผจญกับคลื่นขนาดใหญ่ เรือหลายลำที่แล่นเข้าสู่ท่าเรือแห่งนี้ต้องได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่นำร่องของท่าเรือ แต่สภาพอากาศที่รุนแรงทำให้เรือเหล่านั้นไม่สามารถเข้าเทียบท่าเรือได้

หน่วยงานของท่าเรือแห่งนี้ ระบุว่า ท่าเรือซิดนีย์อาจปิดไม่ให้มีการขนส่งทางการค้าทางเรือเป็นเวลา 48 ชั่วโมง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045461

 

“สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น” ชี้โอกาสบรรลุข้อตกลงการค้า TPP อยู่ “แค่เอื้อม”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2558 13:45 น. (แก้ไขล่าสุด 21 เมษายน 2558 13:49 น.)


@รายนาม 12 ประเทศที่ร่วมเป็นสมาชิก หรืออยู่ระหว่างเจรจาข้อตกลงทีพีพี

เอเอฟพี - โอกาสที่สหรัฐฯ และญี่ปุ่นและก้าวข้ามความเห็นต่าง และดึงโตเกียวเข้าร่วมเป็นภาคีเขตการค้าเสรีภาคพื้นแปซิฟิก “อยู่เพียงแค่เอื้อม” แดนนี รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิกแถลงเมื่อวานนี้ (20 เม.ย.)

การเกริ่นเป็นนัยๆ ของรัสเซล มีขึ้นไม่กี่วันก่อนที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นจะเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเข้าพบและหารือกับประธานาธิบดีบารัค โอบามา และจะเป็นผู้นำแดนอาทิตย์อุทัยคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงปาฐกถาต่อที่ประชุมสภาคองเกรส

หนึ่งในประเด็นหลักที่ อาเบะ จะหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม ก็คือการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ทีพีพี) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่สหรัฐฯ เป็นตัวตั้งตัวตี และปัจจุบันมี 12 ชาติในเอเชีย-แปซิฟิกประกาศเข้าร่วมหรืออยู่ระหว่างการเจรจา เช่น ออสเตรเลีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย และเวียดนาม

เขตการค้าเสรีที่ว่านี้จะมีมูลค่าเศรษฐกิจรวมกันถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของโลก ทว่ามหาอำนาจทางเศรษฐกิจอันดับ 2 อย่างจีนถูกกีดกันออกไป

“การเจรจาทีพีพีคืบหน้าไปอย่างต่อเนื่อง ผมยอมรับว่าโอกาสที่เราจะบรรลุข้อตกลงกับญี่ปุ่นอยู่เพียงแค่เอื้อม” รัสเซลกล่าวต่อสภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (Council on Foreign Relations) ซึ่งเป็นสถาบันคลังความคิดในนิวยอร์ก

“ผู้นำประเทศและรัฐมนตรีพาณิชย์ในกลุ่ม 12 ชาติตั้งเป้าที่จะบรรลุข้อตกลงให้สำเร็จในปีนี้ ซึ่งมันเป็นข้อตกลงที่น่าประทับใจ ไม่เพียงในด้านการค้า แต่ยังรวมถึงด้านสิ่งแวดล้อมและแรงงานด้วย”

ด้านนายกรัฐมนตรีอาเบะ ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์เนิลในทำนองเดียวกัน

“ผมคิดว่าข้อตกลงระหว่างเรากับสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาทุกที แต่ก็หวังว่าจะมีความคืบหน้ายิ่งไปกว่านี้” ผู้นำญี่ปุ่น กล่าว

ผู้แทนเจรจาของสหรัฐฯ และญี่ปุ่นอยู่ระหว่างหารือมาราธอนที่กรุงโตเกียวเพื่อคลี่คลายอุปสรรคต่างๆ โดยเฉพาะประเด็นการเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตร และโอกาสที่สหรัฐฯ จะเข้าไปทำตลาดรถยนต์ในญี่ปุ่น

“ถ้าเราตกลงกันได้ระหว่างที่ผมพบประธานาธิบดี (โอบามา) ก็จะเป็นเรื่องดี แต่คนเราเวลาปีนเขา ก้าวสุดท้ายมักลำบากที่สุดเสมอ” อาเบะระบุ

สัปดาห์ที่แล้ว วุฒิสมาชิกอาวุโสของสหรัฐฯ ได้เสนอกฎหมายให้อำนาจ “ฟาสต์แทร็ก” หรือการเจรจาการค้าแบบเร่งด่วนแก่ โอบามา หลังจากนั้นก็จะส่งข้อตกลงการค้าที่เสนอขึ้นมาให้คองเกรสโหวตรับรองหรือคัดค้าน ทว่าคองเกรสจะไม่สามารถแก้ไขรายละเอียดของทีพีพี ซึ่งถือเป็นข้อตกลงการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่มีการทำความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ขึ้นเมื่อปี 1994


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045330

 

หุ้นมะกันพุ่ง-น้ำมันทรงตัวหลังจีนกระตุ้น ศก.อีกรอบ ทองคำลง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2558 05:24 น. (แก้ไขล่าสุด 21 เมษายน 2558 10:49 น.)



รอยเตอร์/เอเอฟพี - วอลล์สตรีทพุ่งแรงเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) จากรายงานผลประกอบการบริษัทอันสดใสและหลังจีนเคลื่อนไหวกระตุ้นเศรษฐกิจ ปัจจัยนี้ช่วยพยุงราคาน้ำมันปิดคงที่ ส่วนทองคำขยับลงเหตุนักลงทุนขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 208.63 จุด (1.17 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,034.93 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 19.22 จุด (0.92 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,100.40 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 62.78 จุด (1.27 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,994.60 จุด

ธนาคารกลางจีนเมื่อวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) ประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ ลงอีก 1% นับเป็นการปรับลดอัตราการกันสำรองครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน โดยมีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการปล่อยกู้และต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

ในความเคลื่อนไหวของวอลล์สตรีทเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) มีแอปเปิลเป็นตัวนำ หลังบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลกแห่งนี้ ขยับขึ้นถึงร้อยละ 2.28 ขณะที่ ไอบีเอ็ม ก็พุ่งทะยานถึง 3.42 หลังมีผลประกอบการไตรมาสแรกเกินกว่าตลาดคาดหมายไว้

ด้านราคาน้ำมันในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ปิดในกรอบแคบๆ หลังข่าวธนาคารกลางจีนเคลื่อนไหวปรับลดกันสำรองธนาคารพาณิชย์ ช่วยกลบความกังวลกรณีที่สมาชิกโอเปกชี้กำลังผลิตยังแข็งแกร่ง ท่ามกลางอุปทานล้นตลาด

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 64 เซ็นต์ ปิดที่ 56.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันศุกร์ (17 เม.ย.) ปิดที่ 63.45 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ตลาดปิดบวกในช่วงต้นจากมาตรการของจีน แต่ช่วงหนึ่งก็ปรับสู่แดนลบหลังรัฐมนตรีพลังงานซาอุดีอาระเบียชี้ว่ากำลังผลิตยังแข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้วราคาน้ำมันก็ปิดบวกเล็กน้อย จากความคาดหมายเกี่ยวกับคลังเชื้อเพลิงสำรองของอเมริกา

นักวิเคราะห์บอกว่า รายงานของ Genscape บริษัทผู้ให้บริการข้อมูลทางพลังงาน ก่อความคึกคักแก่นักลงทุน หลังคาดหมายว่าสต๊อกน้ำมันดิบสำรองที่เมืองคุชชิง โอคลาโฮมา น่าจะลดลงราวๆ 900,000 บาร์เรล

ส่วนราคาทองคำในวันจันทร์ (20 เม.ย.) ขยับลงพอสมควร นักลงทุนขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ หลังนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยืนกรานว่า กรีซ ชาติที่กำลังประสบปัญหาหนี้สินจะไม่ถูกบีบออกจากยูโรโซน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,193.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045309

 

ซาอุฯ ถล่มคลังขีปนาวุธกบฏเยเมน ระเบิดสันตะโรตายเจ็บอื้อ-บ้านเมืองพินาศ (ชมคลิป) โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 เมษายน 2558 02:44 น. (แก้ไขล่าสุด 21 เมษายน 2558 10:48 น.)



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่นำโดยซาอุดีอาระเบียต่อกรุงซานา เมืองหลวงของเยเมนที่ถูกกบฏยึดครอง ถล่มคลังขีปนาวุธแห่งหนึ่งเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) กระพือให้เกิดการระเบิดสนั่นหวั่นไหวหลายระลอก คร่าชีวิตผู้คนอย่างน้อย 25 ศพ บาดเจ็บเกือบ 400 คน ทำบ้านเรือนพังพินาศและก่อแรงสั่นสะเทือนไปจนถึงละแวกชุมชนที่อยู่ห่างออกไป

https://youtu.be/6LDFD02-Utc

https://youtu.be/lqdUfqjI9R4

https://youtu.be/iiAS_P_gzDg

มีความกังวลว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้ หลังจากระเบิดจากเครื่องบินรบ 2 ลูกพุ่งชนคลังขีปนาวุธที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ทิ้งซากความเสียหายในพื้นที่ฟาจจ์ อัตตานของกรุงซานา เป็นทางยาวและพบเห็นกลุ่มควันสีดำทะมึนลอยคลุ้งไปทั่วบริเวณ

รอยเตอร์อ้าง “ซาบา” สำนักข่าวแห่งรัฐที่ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏฮูตี รายงานว่า “จากข้อมูลเบื้องต้นหลังซาอุดีอาระเบียบจู่โจมด้วยระเบิดถล่มย่านฮัดดาและอัตตาน ในกรุงซานนาวันนี้ พบว่ามีพลเรือนเสียชีวิต 25 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 398 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก”

ส่วนเอเอฟพีรายงานอ้างแหล่งข่าวด้านการแพทย์ปรับเพิ่มจำนวนพลเรือนที่เสียชีวิตในปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มคลังขีปนาวุธ ในเมืองหลวงเยเมนของซาอุดีอาระเบีย จากเบื้องต้น 18 ศพเป็น 28 ศพ หลังการโจมตีทางอากาศ 2 ลูก ทำบ้านเรือนหลายหลังพังพินาศและละแวกชุมชนที่อยู่ห่างออกไปก็ยังรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายนี้เตือนว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มสูงกว่านี้ เนื่องจากมีจำนวนมากที่อาการสาหัส

พันธมิตรอาหรับสุหนี่ที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ที่เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกบฏชีอะห์ฮูตีเมื่อเดือนที่แล้ว ประกาศฟื้นฟูอำนาจแก่ประธานาธิบดีอับดุล รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ซึ่งหลบหนีไปยังริยาด หลังพวกนักรบรุกคืบประชิดเมืองเอเดน สถานที่หลบภัยของเขาทางภาคใต้ของประเทศ

ริยาดกล่าวหาอิหร่าน มหาอำนาจฝ่ายชีอะห์ของภูมิภาคนี้ ให้การสนับสนุนกบฏ ขณะที่เหตุการณ์รุนแรงดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่า เยเมนจะแตกเป็นเสี่ยง จากการกลายเป็นสมรภูมิของสงครามตัวแทนระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านซึ่งเป็นมหาอำนาจสุหนี่และชีอะห์ในตะวันออกกลาง

เหตุโจมตีกรุงซานาเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.) จุดชนวนให้เกิดการระเบิดขึ้นหลายระลอกและส่งคลื่นช็อคไปทั่วเมือง ทำรถยนต์บุบบู้บี้ อาคารพังเสียหาย และเศษซากหักพังกระจัดกระจายเต็มท้องถนน ผู้เห็นเหตุการณ์เล่ามีไฟลุกไหม้ที่คลังขีปนาวุธที่ถูกถล่มและสถานีบริการน้ำมันที่อยู่ใกล้ๆ กัน โดยเปลวความร้อนสามารถสัมผัสได้จากระยะไกล นอกจากนี้แล้วยังพบเห็นพลเรือนหลายคนค่อยๆ โผล่ออกมาจากซากบ้านเรือนของตนเอง บางคนก็ถือกระเป๋าสัมภาระและมีท่าทีตื่นตะลึงต่อขอบเขตความเสียหายด้านนอก

ยอดเขาดังกล่าวเป็นของกองพันขีปนาวุธของกองทหารพิทักษ์สาธารณรัฐ ซึ่งยังคงภักดีต่อประธานาธิบดีอาลี อับดุลลาห์ ซาเลห์ ซึ่งถูกกล่าวหาว่าชักใยกบฏฮูตีในการสู้รบกับรัฐบาล

พันธมิตรที่นำโดยซาอุดีอาระเบียบอกว่า ได้โจมตีทางอากาศไปแล้วกว่า 2,000 เที่ยวนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการ โดยตอนนี้สามารถกลับมาควบคุมน่านฟ้าของเยเมนได้อย่างสมบูรณ์และทำลายระบบโครงสร้างพื้นฐานของฝ่ายกบฏได้รับความเสียหาย อย่างไรก็๋ตามทางระหว่างการแถลงสรุปประจำวัน ทางโฆษกปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อเหตุระเบิดในกรุงซานาเมื่อวันจันทร์ (20 เม.ย.)

สหประชาชาติเผยว่า ความขัดแย้งนี้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วหลายร้อยศพและมีผู้บาดเจ็บหลายพันคน และกำลังมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อวิกฤตด้านมนุษยธรรม โดยแม้มีเสียงเรียกร้องให้เจรจาสันติภาพ แต่ในวันจันทร์ (20 เม.ย.) รัฐบาลเยเมน ปฏิเสธข้อเสนอของอิหร่าน ที่แสดงความประสงค์ขอเป็นคนกลาง

ซาอุฯ ถล่มคลังขีปนาวุธกบฏเยเมน ระเบิดสันตะโรตายเจ็บอื้อ-บ้านเมืองพินาศ (ชมคลิป)

“ความพยายามเป็นคนกลางใดๆ ที่มาจากอิหร่าน เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะว่าอิหร่านเกี่ยวข้องในประเด็นเยเมน” ริยาด ยัสซิน รัฐมนตรีต่างประเทศเยเมนกล่าว “ฮูตีและกองกำลังของซาเลห์ต้องถอนออกไปจากเมืองและหมู่บ้านทุกแห่งของเยเมน ในนั้นรวมถึงซานาและเอเดน และคืนซาดา (ป้อมปราการทางเหนือ) แก่พลเมือง และวางอาวุธ” เขาบอก “จากนั้นเราถึงค่อยพูดเรื่องเจรจาและทางออกทางการเมือง แต่ตอนนี้ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจา”

รัฐบาลพลัดถิ่นมีกำลังใจมากขึ้นในวันอาทิตย์ (19 เม.ย.) หลังจากเหล่าผู้บัญชาการทหารที่มีกำลังพลราว 25,000 นายในจังหวัดฮาดรามาวต์ จังหวัดที่มีขนาดใหญ่สุดของประเทศและมีพรมแดนติดกับซาอุดีอาระเบีย ออกมาแสดงความสนับสนุนนายฮาดีและความชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญของเขา อย่างไรก็ตาม นายอับดุลมาลิก อัล-ฮูตี แกนนำฝ่ายกบฏ ประกาศว่ากองกำลังของพวกเขาจะไม่ยอมจำนนอย่างแน่นอน


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000045295