ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โอบามาสับ “จีน” ใช้อิทธิพลข่มเหงเพื่อนบ้าน หลังผุดโครงการ "ถมทะเล" เชื่อมหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2558 11:20 น.

    [​IMG]
    @ภาพถ่ายดาวเทียมเผยความคืบหน้าของงานถมทะเลและการก่อสร้างๆต่าง บริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ในทะเลจีนใต้ ของจีน


    รอยเตอร์ – ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ระบุสหรัฐฯ เป็นกังวลที่จีนใช้ “ขนาดและอิทธิพล” ข่มเหงประเทศเพื่อนบ้าน หลังจากที่ปักกิ่งเผยรายละเอียดโครงการถมทะเลเชื่อมเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนใต้ โดยอ้างว่าเพื่อใช้ป้องกันทางทหารและบริการพลเรือนซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอื่นด้วย

    การที่จีนรีบเร่งถมทะเลบริเวณเกาะปะการัง 7 จุดในหมู่เกาะสแปรตลีย์สร้างความหวั่นวิตกต่อประเทศอื่นๆ เช่น ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ดังกล่าวเช่นกัน และยังเรียกเสียงติเตียนจากผู้นำทั้งฝ่ายทหารและพลเรือนของสหรัฐฯ

    แม้หมู่เกาะใหม่ไม่อาจทำลายแสนยานุภาพของสหรัฐฯ ที่ยังเป็นต่อจีนในภูมิภาคนี้ แต่ท่าเรือ คลังน้ำมัน ตลอดจนรันเวย์เครื่องบิน 2 จุดที่คนงานจีนกำลังเร่งก่อสร้างนั้น ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าจะเปิดทางให้ปักกิ่งแผ่อิทธิพลทางทะเลเข้ามาได้ถึงใจกลางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    “ประเด็นที่เรากังวลคือการที่จีนไม่ปฏิบัติตามระเบียบและกฎเกณฑ์นานาชาติ แต่กลับใช้ขนาดและอิทธิพลที่เหนือกว่าบีบให้ประเทศอื่นๆ ตกเป็นเบี้ยล่าง” โอบามา กล่าวปาฐกถาที่จาเมกาเมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) ก่อนจะเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดผู้นำประชาคมแคริบเบียนที่ปานามา

    “สหรัฐฯ เชื่อว่าปัญหานี้ต้องแก้ไขด้วยวิธีทางการทูต การที่ฟิลิปปินส์และเวียดนามไม่มีพื้นที่ใหญ่โตเท่าจีนก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะถูกเขี่ยทิ้งไปง่ายๆ”

    จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดในทะเลจีนใต้ ซึ่งแต่ละปีจะมีสินค้าที่ถูกขนส่งทางเรือผ่านน่านน้ำแถบนี้เป็นมูลค่าถึง 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน และไต้หวัน ก็อ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อนนี้เช่นกัน

    จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ วางตัว “เป็นกลาง” ในเรื่องนี้ และระบุว่ายินดีที่จะเจรจาแบบทวิภาคีกับประเทศคู่กรณี

    ก่อนหน้านี้ หัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้แถลงโครงการถมทะเลเชื่อมเกาะปารังบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยอ้างวัตถุประสงค์ด้านการป้องกันประเทศและบริการพลเรือน ซึ่งประเทศเพื่อนบ้านจะได้รับประโยชน์ด้วย

    หัว ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ทางทหารของหมู่เกาะใหม่ แต่ระบุว่า การแปรสภาพเกาะปะการังและงานก่อสร้างทั้งหมดมีความจำเป็น เนื่องจากน่านน้ำบริเวณนั้นมีเรือสินค้าแล่นผ่านมาก และเสี่ยงต่ออันตรายจากพายุไต้ฝุ่นเนื่องจากห่างไกลแผ่นดิน

    “เราจะสร้างที่พัก ศูนย์ช่วยเหลือด้านการเดินเรือ ศูนย์ค้นหาและช่วยชีวิต ตลอดจนมีบริการพยากรณ์สภาพอากาศในทะเล บริการด้านการประมง และอื่นๆ” ซึ่งจีนและประเทศเพื่อนบ้านจะสามารถใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ หัว กล่าว

    “การก่อสร้างทั้งหมดอยู่ในขอบเขตอำนาจอธิปไตยของจีน มันเป็นโครงการที่ยุติธรรม มีเหตุผล และอยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ได้กระทบหรือจงใจคุกคามประเทศใดๆ เพราะฉะนั้นไม่มีใครตำหนิเราได้ในเรื่องนี้”

    ทุกประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ยกเว้นบรูไนได้เข้าไปสร้างฐานที่มั่นเล็กๆ ไว้บนหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งอยู่ห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ราว 1,300 กิโลเมตร


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041568
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันฟื้นดันหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ทองคำลง 3 วันติด
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2558 05:29 น. (แก้ไขล่าสุด 10 เมษายน 2558 10:20 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ปิดบวกเล็กน้อย โดยนักวิเคราะห์บางส่วนอ้างพบเห็นสัญญาณการฟื้นตัวทางอุปสงค์ในสหรัฐฯ ปัจจัยนี้ผลักให้วอลล์สตรีทดีดขึ้นจากแรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่ทองคำขยับลง 3 วันติด ยังกังวลกรอบเวลาขึ้นดอกเบี้ยของเฟด

    น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 37 เซ็นต์ ปิดที่ 50.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.02 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ชัยลาชา นาอีร์ จาก “แพลตต์” บริษัทที่ปรึกษาทางพลังงานบอกว่าราคาน้ำมันเมื่อวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ฟื้นตัวจากการช้อนซื้อเก็งกำไรของนักลงทุนหลังร่วงลงหนักหนึ่งวันก่อนหน้านี้ แต่ทางฟิล ฟีนน์ จากไพรซ์ ฟีเจอร์ส กรุ๊ป เน้นว่าการที่สหรัฐฯ นำเข้าน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นแม้สต๊อกสูงลิ่ว แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มอุปสงค์ที่ดีขึ้นภายในชาติผู้บริโภครายใหญ่แห่งนี้ หรือไม่ก็อาจมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานตึงตัว

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ขยับขึ้นเล็กน้อย ได้แรงหนุนของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันฟื้นตัว ท่ามกลางรายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่ออกมาผสมผสาน

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 56.22 จุด (0.31 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,958.73 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 9.28 จุด (0.45 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,091.18 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 23.74 จุด (0.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,974.57 จุด

    หุ้นภาคพลังงานขยับขึ้นร้อยละ 1.5 หลังน้ำมันดิบเบรนท์ปิดบวกร้อยละ 1.8 หลังจากดิ่งลงแรงถึงร้อยละ 6 ในวันพุธ (8 เม.ย.)

    นักลงทุนยังจับตาไปที่รายงานผลประกอบการของบริษัทต่างๆ โดยวอลกรีนส์ บู๊ทส์ ปิดบวกจากรายได้ที่เหนือความคาดหมาย ส่วนอัลโคและเบดบาธแอนด์บียอนด์ ร่วงลง หลังรายงานผลประกอบการสร้างความผิดหวังแก่ตลาด

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ปรับลด 3 วันติดต่อกัน ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของรายงาน minutes ของที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่บ่งชี้ว่าเหล่าสมาชิกของเฟดมีความเห็นแตกแยกเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 9.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,193.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวฝรั่งเศสหลายหมื่นชุมนุมทั่วประเทศต้านรัดเข็มขัด จนต้องปิดหอไอเฟล
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 เมษายน 2558 01:38 น. (แก้ไขล่าสุด 10 เมษายน 2558 10:44 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ - ประชาชนหลายหมื่นคนร่วมตัวกันบนท้องถนนตามเมืองต่างๆทั่วฝรั่งเศสในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) การประท้วงที่นำโดยสหภาพเพื่อต่อต้านมาตรการลดค่าใช้จ่ายภาครัฐ จนหอไอเฟลต้องปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันมันยังซ้ำเติมความอลหม่านในแดนน้ำหอมที่เผชิญเหตุผละงานประท้วงของเจ้าหน้าที่ควบคุมการสัญจรทางอากาศและคนงานสถานีวิทยุของรัฐพร้อมๆกัน

    การเดินขบวนทั่วประเทศโดยในกรุงปารีสมีผู้เข้าร่วมมากที่สุด คือบททดสอบสำคัญว่าเหล่าสหภาพต่างๆ จะสามารถรวบรวมผู้สนับสนุนมากน้อยแค่ไหน สำหรับต่อต้านการจำกัดการใช้จ่าย ที่พวกเขามองว่ามันจะส่งผลกระทบต่องานบริการสาธารณะและอำนาจการซื้อที่อาจก่อความเสียหายแก่เศรษฐกิจหมายเลข 2 ของยูโรโซนแห่งนี้

    อย่างไรก็ตาม ทาง CFDT หนึ่งในสหภาพแรงงานใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศส ปฏิเสธเข้าร่วมเคลื่อนไหว เนื่องจากมีความเห็นที่ต่างออกไป โดยแย้งว่าการประหยัดค่าใช้จ่ายในฝรั่งเศส ไม่ได้เข้มข้นเท่ามาตรการรัดเข็มขัดในประเทศอื่นๆของยูโรโซน อย่างเช่นสเปน ไอร์แลนด์ และกรีซ

    รัฐบาลของประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ คาดหมายว่าเศรษฐกิจของประเทศจะขยายตัวแค่ร้อยละ 1 ในปีนี้ และปรับลดประมาณการณ์การเติบโตช่วง 2 ปีข้างหน้า ย้ำถึงเศรษฐกิจที่เปราะบาง อย่างไรก็ตามทางธนาคารกลางฝรั่งเศส ปรับเพิ่มการขยายตัวทางเศรษฐกิจไตรมาสแรกจากร้อยละ 0.3 เป็นร้อยละ 0.4 อ้างถึงอุปสงค์ต่างชาติที่แข็งแกร่ง

    จำนวนผู้ออกมาร่วมชุมนุมทั่วประเทศนั้นผสมผสาน โดยที่เมืองสตาร์บูร์ก ทางตะวันออก มีประชาชนแค่ราว 1,000 คนรวมตัวกันบน้องถนน ส่วนที่เมืองตูลูส ทางตะวันตก มีประมาณ 8,000 คน ขณะที่ตำรวจในเมืองมาร์กเซย์ ทางภาคใต้ บอกว่ามีผู้ร่วมเดินขบวน 7,000 คน สวนทางกับฝ่ายจัดที่บอกว่ามีมากถึงเกือบ 45,000 คน และในลียงมีผู้เข้าร่วม 4,000 คน

    เหล่าสหภาพคาดหมายว่าจะมีประชาชนหลายหมื่นคนร่วมเดินขบวนกับที่ชุมนุมหลักในกรุงปารีสในช่วงค่ำของวัน ด้วยเหตุนี้หอไอเฟลที่ปกติแล้วจะแออัดไปด้วยนักท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องปิดบริการ

    แกนนำการชุมนุมเรียกร้องให้ผละงานทั่วภาครัฐ ในนั้นรวมถึงครูที่เป็นลูกจ้างของทางการ โดยการประท้วงครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมๆกับที่การผละงานประท้วงของเจ้าหน้าที่ควบคุมการสัญจรทางอากาศเข้าสู่วันที่ 2 และพนักงานเครือข่ายสถานีวิทยุแห่งรัฐ ดำเนินการประท้วงต่ออีกวัน

    สายการบินต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ฟรานซ์ อีซีย์เจ็ต และไรอันแอร์ ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยวทั้งขาเข้าและออกจากฝรั่งเศส ไปยังจุดหมายปลายทางบางแห่งในยุโรป สืบเนื่องจากพนักงานหอควบคุมการบินผละงานประท้วงแผนเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมการทำงานและปรับเพิ่มอายุเกษียณจาก 57 ปีเป็น 59 ปี

    ครูส่วนหนึ่งในระบบโรงเรียนรัฐของฝรั่งเศสก็ผละงานประะท้วงเช่นกัน แต่โรงเรียนจำนวนมากก็ยังดำเนินการเรียนการสอนตามปกติ

    รัฐบาลของนายออลลองด์ ประกาศลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณสู่ระดับที่เห็นพ้องกับยูโร ในช่วงปลายวาระดำรงตำแหน่งของเขาในปี 2017 โดยถึงตอนนั้นจะตัดลดค่าใช้จ่ายในโครงการต่างๆ 50,000 ล้านยูโร แต่ยอดงบประมาณรายจ่ายก็ยังจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041458
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : จีนเผยแผนถมที่สร้าง “หมู่เกาะ” กลางทะเลจีนใต้ ระบุใช้ในทางทหาร-ให้บริการพลเรือน “ฟิลิปปินส์” ค้านแหลก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    9 เมษายน 2558 22:47 น. (แก้ไขล่าสุด 10 เมษายน 2558 10:43 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - ทางการจีนออกมาแถลงในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ถึงแผนงานต่างๆ ที่เตรียมการเอาไว้สำหรับหมู่เกาะซึ่งตนกำลังสร้างขึ้นมา ด้วยการถมทะเลเชื่อมเกาะเล็กเกาะน้อยในทะเลจีนใต้เข้าด้วยกัน โดยระบุว่าพื้นที่นี้จะถูกใช้ทั้งเพื่อการป้องกันทางการทหาร และเพื่อให้บริการต่างๆ ในด้านพลเรือน ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ประเทศอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม ทางด้านฟิลิปปินส์ได้ออกมาแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ โดยเรียกร้องให้ปักกิ่งรื้อถอนการก่อสร้างต่างๆ ที่กระทำอยู่

    หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกกับที่ประชุมแถลงข่าวตามปกติในกรุงปักกิ่งว่า งานถมทะเลและการก่อสร้างๆต่าง ในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ ของทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนกำลังดำเนินการอยู่นี้ เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องกระทำ ส่วนหนึ่งเนื่องจากในบริเวณดังกล่าวซึ่งอยู่ห่างไกลจากผืนแผ่นดิน มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายจากพายุไต้ฝุ่น ขณะที่มีเรือสินค้าแล่นไปมาจำนวนมาก

    “เรากำลังสร้างทั้งที่พักหลบภัย, สิ่งต่างๆ ที่จะช่วยการเดินเรือ, การค้นหาและกู้ภัย, ตลอดจนบริการพยากรณ์อากาศพื้นที่ทางทะเล, บริการด้านประมง และบริการด้านการบริหารอื่นๆ” ทั้งสำหรับจีนและสำหรับประเทศเพื่อนบ้าน โฆษกหญิงผู้นี้กล่าว

    นอกจากนั้นเธอระบุว่า แนวกาะเล็กเกาะน้อยและเกาะปะการังในบริเวณนี้ ยังสอดคล้องกับความต้องการในการป้องกันทางการทหารของจีนอีกด้วย ทว่าไม่ได้ให้รายละเอียดมากไปกว่านี้

    เท่าที่ผ่านมาจีนยังแทบไม่ได้มีการแถลงแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับแผนงานของตนที่เตรียมการไว้สำหรับหมู่เกาะซึ่งสร้างขึ้นมาใหม่นี้เลย ขณะที่การถมทะเลอย่างเร่งรีบซึ่งกำลังดำเนินอยู่บนเกาะปะการังรวม 7 เกาะ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ก็สร้างความตื่นตัววิตกให้แก่ชาติอื่นๆ ซึ่งอ้างกรรมสิทธิ์เหนือบริเวณแถบนี้เช่นกัน อีกทั้งเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ โดยล่าสุดคือจากรัฐมนตรีกลาโหม แอช คาร์เตอร์ ซึ่งกำลังเดินทางมาเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ในสัปดาห์นี้

    หวาระบุในการแถลงข่าวคราวนี้โดยย้ำจุดยืนเดิมของจีน นั่นคือ “การก่อสร้างที่เกิดขึ้นอย่างสมเหตุสมผลเหล่านี้ เป็นเรื่องที่อยู่ภายในขอบเขตของอำนาจอธิปไตยของจีนอย่างสิ้นเชิง เป็นการกระทำที่ยุติธรรม, มีเหตุมีผล, ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ได้สร้างความกระทบกระเทือนและไม่ได้พุ่งเป้าหมายเพื่อเล่นงานประเทศใดๆ ทั้งสิ้น เป็นสิ่งที่พ้นวิสัยที่จะมาตำหนิวิจารณ์”

    จีนนั้นประกาศอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่แทบจะตลอดทั้งทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางเดินเรือทะเลที่สำคัญที่สุดเส้นทางหนึ่งของโลก ขณะที่ ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, บรูไน และไต้หวัน ก็อ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ซึ่งทับซ้อนกับทางแดนมังกร

    ผู้อ้างกรรมสิทธิ์รายอื่นๆ เหล่านี้ทุกๆ รายยกเว้นบรูไน ต่างก็ไปก่อสร้างที่มั่นเล็กที่มั่นน้อยเอาไว้ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่จีนราวๆ 1,300 กม. แต่อยู่ใกล้ชาติอื่นๆ ที่อ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนอยู่มากกว่า

    ขณะที่หมู่เกาะถมทะเลของจีนนี้ จะไม่มีผลทำให้ฐานะความเหนือล้ำกว่าในทางการทหารในภูมิภาคนี้ของสหรัฐฯต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงไป ทว่าการที่คนงานจีนกำลังสร้างทั้งท่าเรือและคลังน้ำมัน ตลอดจนอาจจะมีสนามบิน 2 แห่งด้วยเช่นนี้ ก็ทำให้พวกผู้เชี่ยวชาญมองว่า หมู่เกาะสร้างใหม่นี้จะเปิดทางให้ปักกิ่งสามารถแผ่อำนาจอิทธิพลลึกเข้าไปในบริเวณที่ถือเป็นหัวใจทางทะเลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นี้

    พวกเจ้าหน้าที่ทางนาวีของตะวันตกและเอเชียยังพูดเป็นการภายในว่า จีนอาจเกิดความรู้สึกหาญกล้ามากขึ้น จนกระทั่งอาจพยายามที่จะจำกัดการเดินอากาศและการเดินเรือของประเทศอื่นๆ ในบริเวณนี้ ในทันทีที่หมู่เกาะซึ่งสร้างใหม่นี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์

    สำหรับปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ นั้น รายที่ตอบโต้รวดเร็วที่สุดคือฟิลิปปินส์ โดยที่ ปีเตอร์ พอล กัลเวซ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า จีนจะต้อง “รื้อถอน” การถมทะเลและการก่อสร้างในบริเวณเกาะปะการัง มิสชีฟ รีฟ ซึ่งแดนตากาล็อกอ้างกรรมสิทธิ์อยู่ อีกทั้งอยู่ห่างจขากเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ไปทางตะวันตก 216 กม.

    เขาระบุว่า การกระทำเช่นนี้ของจีนส่งผลกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งชาติของฟิลิปปินส์ และไม่เพียงฟิลิปปินส์หรือภูมิภาคนี้เท่านั้นที่บังเกิดความกังวล แต่ประชาคมระหว่างประเทศโดยรวมก็มีความวิตก

    การออกมาแถลงแจกแจงของโฆษกระทรวงการต่างประเทศจีนคราวนี้ บังเกิดขึ้นไม่กี่ชั่วโมงภายหลังที่ “ศูนย์เพื่อยุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศศึกษา” (CSIS) อันเป็นกลุ่มคลังสมองในกรุงวอชิงตัน เผยแพร่ภาพถ่ายจำนวนหนึ่งในวันพุธ (16) ซึ่งระบุว่าเป็นแนวโครงข่ายเชื่อมต่อทางพื้นดินที่เกิดจากการถมทะเล ตลอดจนโครงสร้างใหม่ๆ ของจีน ในบริเวณรอบๆ เกาะปะการัง มิสชีฟ รีฟ

    การดำเนินการบนมิสชีฟ รีฟ ที่จีนเข้ายึดครองตั้งแต่ปี 1995 นี้ ถือเป็นการถมทะเลจุดที่ 7 ในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การถมทะเลมีความคืบหน้าอย่างชัดเจนในแนวเกาะปะการังอีก 6 แห่งของหมู่เกาะแห่งนี้

    ภาพถ่ายที่นำมาเผยแพร่ล่าสุดของ CSIS เผยให้เห็นบริเวณที่มีการถมที่เป็นเกาะจำลองขนาดเล็ก ตลอดจนโครงสร้างใหม่ แนวกำแพงกั้นคลื่น และอุปกรณ์ก่อสร้าง อาทิ เรือขุด ตามแนวเกาะปะการังมิสชีฟ ทั้งนี้เปรียบเทียบกับภาพถ่ายในเดือนตุลาคมปีที่แล้วที่ยังไม่มีการถมทะเลแต่อย่างใด จะมีก็แต่เพียงอาคาร 3 ชั้น, กังหันลม. และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ บนเกาะปะการังรูปวงแหวนแห่งนี้เท่านั้น

    ขณะที่ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์แสดงให้เห็นเรือสะเทินน้ำสะเทินบกลำหนึ่งของจีน จอดอยู่ห่างจากทางเข้าเกาะปะการังแห่งนี้หลายร้อยเมตร โดย CSIS ระบุว่า เรือดังกล่าวสามารถขนทหาร 800 นาย ตลอดจนยานยนต์หุ้มเกราะสะเทินน้ำสะเทินบกอีก 20 ลำ

    ก่อนที่ฝ่ายจีนจะออกมาแถลงรายละเอียดครั้งนี้ รัฐมนตรีกลาโหมคาร์เตอร์ของสหรัฐฯ เมื่อถูกผู้สื่อข่าวสอบถามเกี่ยวกับภาพถ่ายการถมทะเลและการก่อสร้างบนมิสชีฟ รีฟ ที่ทาง CSIS นำออกเผยแพร่ เขาตอบว่าเขาไม่ต้องการคาดเดาเกี่ยวกับแผนการที่จีนคิดจะดำเนินการในอนาคต แต่ก็กล่าวต่อไปว่า การทำให้ข้อพิพาทเรื่องดินแดนในทะเลจีนใต้เข้าสู่กระบวนการแห่งการเป็นกรณีพิพาททางการทหารเช่นนี้ อาจจะนำไปสู่ “เหตุการณ์ที่เป็นอันตราย”

    “มันไม่ใช่เป็นแค่ความกังวลของฝ่ายอเมริกันเท่านั้น แต่ยังเป็นความกังวลของแทบจะทุกๆ ประเทศในตลอดภูมิภาคนี้” คาร์เตอร์กล่าว ก่อนที่จะเดินทางออกจากญี่ปุ่น เพื่อต่อไปเยือนเกาหลีใต้ในวันพฤหัสบดี (9)


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041444
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มะกันลั่นขวาง “เตหะราน” แทรกแซง “เยเมน” อิหร่านขู่ต้องยุติแซงก์ชันทั้งหมดจึงยอมเซ็นข้อตกลงนุก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2558 22:14 น. (แก้ไขล่าสุด 10 เมษายน 2558 10:55 น.)

    [​IMG]
    @อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน

    เอเจนซีส์ - วอชิงตันปล่อยหมัดตรง โดยรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ประกาศเตือนในวันพฤหัสบดี (9 เม.ย.) ว่าสหรัฐฯ จะไม่ “นิ่งเฉย” ปล่อยให้เตหะรานสนับสนุนกลุ่มกบฏ “ฮูตี” เข้ายึดอำนาจในเยเมน ขณะที่ทั้งผู้นำสูงสุดและประธานาธิบดีของอิหร่านวิจารณ์ปฏิบัติการโจมตีของกลุ่มพันธมิตรอาหรับนำโดยซาอุดีอาระเบีย ว่า เป็น “การก่ออาชญากรรม” และเป็น “ความผิดพลาดร้ายแรง” นอกจากนี้ เตหะรานยังยังประกาศจะไม่ยอมลงนามข้อตกลงโครงการนิวเคลียร์ขั้นสุดท้าย หากไม่มีการยื่นหมูยื่นแมวยุติการแซงก์ชันคว่ำบาตรในทันที

    รัฐมนตรีต่างประเทศเคร์รี กล่าวในการให้สัมภาษณ์โทรทัศน์พีบีเอสของสหรัฐฯ ว่า อเมริกายอมไม่ได้ที่ต่างชาติจะเข้าแทรกแซงเยเมน และว่า อิหร่านต้องตระหนักว่า สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยปล่อยให้เสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าวถูกบ่อนทำลาย

    เคร์รีสำทับว่า วอชิงตันไม่ได้ต้องการเผชิญหน้ากับเตหะราน แต่ขณะเดียวกันก็จะไม่ทอดทิ้งพันธมิตรที่เผชิญการคุกคามจากสิ่งที่อิหร่านอาจเลือกทำอยู่

    คำประกาศของเคร์รีถือเป็นการวิจารณ์ของอเมริกาอย่างตรงไปตรงมาที่สุด ต่อการที่อิหร่านให้การสนับสนุนกบฏฮูตีนิกายชีอะต์ในเยเมน

    วอชิงตันนั้นสนับสนุนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของพันธมิตรอาหรับที่มีซาอุดีอาระเบียเป็นแกนนำ และเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปลายเดือนที่แล้ว ขณะที่กลุ่มกบฏยังคงสามารถรุกคืบสู่เอเดน เมืองหลักทางใต้ของเยเมน หลังจากเข้ายึดกรุงซานาสำเร็จตั้งแต่ต้นปี

    เพื่อตอกย้ำการสนับสนุนต่อพันธมิตรอาหรับ พันเอกสตีเวน วาร์เรน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงว่า อเมริกาได้เริ่มปฏิบัติการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศให้เครื่องบินรบของพันธมิตรตั้งแต่วันอังคาร (7) และจะส่งเครื่องบินบรรทุกเชื้อเพลิงไปให้การสนับสนุนทุกวันบริเวณนอกน่านฟ้าเยเมน

    ริยาดซึ่งเป็นมหาอำนาจนิกายสุหนี่ กล่าวหาเตหะราน มหาอำนาจนิกายชีอะต์ สนับสนุนกบฏฮูตีเพื่อก่อตั้งรัฐนิยมอิหร่านขึ้นมาในดินแดนที่อยู่ติดกับซาอุดีอาระเบีย ถึงแม้ทั้งอิหร่านและกบฏฮูตีต่างปฏิเสธข้อกล่าวหานี้มาตลอด

    ระหว่างการปราศรัยเนื่องใน “วันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ” ของอิหร่าน เมื่อวันพฤหัสบดี (9) อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้กล่าวประณามการโจมตีทางอากาศของซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรต่อเยเมน โดยระบุว่าเป็น “การก่ออาชญากรรม”

    ขณะที่คำปราศรัยในงานเดียวกันของ ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเยเมนหยุดยิงเพื่อเปิดทางสู่การเจรจา และว่า การโจมตีทางอากาศเป็น “ความผิดพลาดร้ายแรง” โดยอ้างอิงตัวอย่างที่เกิดขึ้นในซีเรียและอิรักที่กองกำลังพันธมิตรที่นำโดยอเมริกา โจมตีทางอากาศต่อกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในขณะนี้

    โมฮัมเหม็ด จาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านขานรับว่า เตหะรานพร้อมดำเนินการเพื่อให้มีการเจรจาสันติภาพ

    ทั้งนี้ วันพุธ (8) ซารีฟได้เดินทางเยือนไปเยือนปากีสถาน พันธมิตรใกล้ชิดที่ซาอุดีอาระเบียกำลังพยายามชักชวนให้เข้าร่วมปฏิบัติการถล่มกบฏฮูตี โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านนำแผนการ 4 ขั้นตอนเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีนาวาซ ชารีฟ ของปากีสถาน ประกอบด้วยการเรียกร้องให้ทุกฝ่ายในเยเมนหยุดยิงทันที การจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การเจรจาระหว่างกลุ่มต่างๆ ในเยเมน และการตั้งรัฐบาลที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม

    อย่างไรก็ตาม ขณะที่เดินเกมทางการทูต สำนักข่าวเพรสทีวีรายงานโดยอ้างคำสัมภาษณ์ของพลเรือตรีฮาบีบอลเลาะห์ เซย์ยารีของอิหร่านว่า อิหร่านได้ส่งเรือพิฆาต 1 ลำและเรือส่งกำลังบำรุงอีก 1 ลำไปยังน่านน้ำใกล้กับเยเมน โดยระบุว่า เป็นส่วนหนึ่งของโครงการต่อต้านโจรสลัดและปกป้องเส้นทางเดินเรือสำคัญของภูมิภาค

    ขณะเดียวกัน แม้พันธมิตรอาหรับระดมโจมตีที่มั่นของกบฏฮูตีที่ผนึกกำลังกับกองกำลังความมั่นคงเยเมนส่วนที่ยังภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเละห์ แต่ฝ่ายกบฏยังไม่มีอาการเพลี่ยงพล้ำแต่อย่างใด มิหนำซ้ำยังสามารถบุกยึดเมืองเอแต็ก เมืองหลวงของจังหวัดชับวา ทางตะวันออกของเยเมนได้ในวันพฤหัสบดี ซึ่งทำให้คืบเข้าใกล้ทรัพย์สินที่มีค่าทางเศรษฐกิจที่สุดของเยเมนคือ โรงงานผลิตและสถานีส่งออกก๊าซ เบลฮาฟ ริมทะเลอาหรับ

    วิกฤตเยเมนที่องค์การอนามัยโลกระบุว่า ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 640 คนนับจากวันที่ 19 เดือนที่ผ่านมานั้น กำลังถูกจับตาว่า จะกลายเป็นสงครามตัวแทนระหว่างอิหร่าน มหาอำนาจชีอะต์ กับซาอุดีอาระเบีย และพันธมิตรอาหรับที่นับถือนิกายสุหนี่ โดยที่ฝ่ายหลังมีอเมริการ่วมสนับสนุนอาวุธและข่าวกรอง

    ในอีกด้านหนึ่ง อิหร่านยังอยู่ภายใต้การกดดันของนานาชาติเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ โดยล่าสุดถึงแม้บรรลุร่างกรอบข้อตกลงกับ 6 ชาติมหาอำนาจแล้ว แต่ข้อตกลงขั้นสุดท้ายที่มีเส้นตายเดือนมิถุนายนนี้ยังคงไร้ความแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากประธานาธิบดีรูฮานีประกาศในการปราศรัยเมื่อวันพฤหัสบดี ว่า เตหะรานจะไม่ยอมลงนามข้อตกลง เว้นแต่จะมีการประกาศยกเลิกมาตรการลงโทษต่ออิหร่านโดยสิ้นเชิงพร้อมๆ กัน

    ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีแนวโน้มเป็นไปได้ยาก โดยเมื่อวันจันทร์ (6) วอชิงตันออกมายืนยันชัดเจนอีกครั้งว่า การยกเลิกมาตรการลงโทษอิหร่านจะต้องดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น

    ขณะที่ อยาตอลเลาะห์ คาเมเนอี ระบุในคำปราศรัยเมื่อวันพฤหัสบดีของเขาว่า กรอบโครงข้อตกลงระหว่างอิหร่านกับ 6 มหาอำนาจ ยังไม่มีหลักประกันว่าจะสามารถสานต่อจนกระทั่งได้ข้อตกลงฉบับสมบูรณ์ที่บังคับใช้กันจริงๆ ในเดือนมิถุนายน

    “สิ่งที่ทำกันจนจนกระทั่งถึงเวลานี้ ยังไม่ใช่เป็นการค้ำประกันว่าจะมีข้อตกลงขึ้นมา หรือเป็นการค้ำประกันเนื้อหาของข้อตกลงนี้ หรือแม้กระทั่งเป็นการค้ำประกันว่าการเจรจาจะดำเนินต่อเนื่องไปจนกระทั่งเสร็จสิ้นลง” คาเมเนอี ซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจสุดท้ายในกิจการทุกๆ อย่างของรัฐ ระบุในคำปราศรัย ซึ่งเผยแพร่อยู่บนเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเขา

    “ทุกสิ่งทุกอย่างยังอยู่ที่รายละเอียด อาจจะเป็นไปได้ว่า ทางอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งไม่มีความเป็นธรรมเลย ต้องการที่จะจำกัดประเทศของเราด้วยรายละเอียดนี่แหละ” เขาบอก

    คาเมเนอีระบุด้วยว่า เขายังไม่มีจุดยืนใดๆ ทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ “พวกเจ้าหน้าที่บอกว่า ยังไม่มีอะไรเสร็จสิ้นออกมาเลย ยังไม่มีอะไรที่เป็นข้อผูกพันออกมาเลย ดังน้น ข้าพเจ้าจึงไม่ได้สนับสนุนและก็ไม่ได้คัดค้าน (กรอบข้อตกลงที่เห็นพ้องกันได้นี้)”


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041440
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรฮานีกร้าว! อิหร่านจะลงนาม “ข้อตกลงนิวเคลียร์” ก็ต่อเมื่อการคว่ำบาตรถูกยกเลิก “ในวันเดียวกัน” เท่านั้น โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2558 18:42 น. (แก้ไขล่าสุด 9 เมษายน 2558 18:49 น.)

    [​IMG]

    รอยเตอร์ – อิหร่านจะลงนามข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายกับหกชาติมหาอำนาจก็ต่อเมื่อมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดที่มีการบังคับใช้จากข้อพิพาทโครงการนิวเคลียร์ของตนถูกยกเลิกในวันเดียวกันเท่านั้น ประธานาธิบดี ฮัสซัน โรฮานี กล่าวในการปราศรัยที่ถ่ายทอดทางโทรทัศน์วันนี้ (9)

    อิหร่านและกลุ่มชาติมหาอำนาจได้บรรลุกรอบข้อตกลงนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วในเมืองโลซานของสวิตเซอร์แลนด์ โดยพุ่งเป้าที่การจำกัดโครงการนิวเคลียร์ของเตหะรานแลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

    ทุกฝ่ายกำลังพยายามทำงานเพื่อให้ได้ข้อตกลงว่าด้วยโครงการนิวเคลียร์ฉบับสุดท้ายทันเส้นตายวันที่ 30 มิถุนายน ทั้งนี้มหาอำนาจตะวันตกนั้นมองว่าโครงการดังกล่าวมีจุดประสงค์ที่การพัฒนาระเบิดปรมาณู แต่เตหะรานยื่นยันว่า มันเป็นโครงการเพื่อสันติอย่างแท้จริง

    โรฮานี กล่าวว่า “เราจะไม่ลงนามข้อตกลงใดๆ ทั้งสิ้น หากมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดไม่ถูกยกเลิกภายในวันเดียวกัน เราต้องการข้อตกลงที่ชนะทั้งสองฝ่ายสำหรับทุกฝ่ายที่มีส่วนร่วมในการเจรจานิวเคลียร์นี้”

    นับตั้งแต่มีการบรรลุกรอบข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านและสหรัฐดูเหมือนว่าจะมีการตีความที่ต่างกันในบางประเด็น รวมถึงจังหวะเวลาและขอบเขตของการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

    “เป้าหมายของเราในการเจรจา (กับชาติมหาอำนาจหลัก) คือเพื่อรักษาสิทธิด้านนิวเคลียร์ของชาติเรา เราต้องการผลลัพธ์ที่จะเป็นประโยชน์กับทุกคน” โรฮานี กล่าวในพิธีรำลึกวันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติของอิหร่าน

    “ชาติอิหร่านเคยเป็นและจะเป็นผู้ชนะในการเจรจานี้” เขากล่าว

    อิหร่านยืนยันว่า มติขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และมาตรคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (อียู) ที่เกี่ยวกับนิวเคลียร์ทั้งหมด จะถูกยกเลิกทันทีที่ข้อตกลงฉบับสุดท้ายได้รับการลงนาม

    แต่สหรัฐฯ ระบุเมื่อวันจันทร์ (6) ว่า มาตรการคว่ำบาตรจะต้องค่อยๆ ทยอยถูกยกเลิกภายใต้ข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับสมบูรณ์

    นับตั้งแต่ต้นปี 2012 มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและอียูทำให้อิหร่านไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้เกือบ 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน (บีดีพี) โดยลดลงไปถึง 60 เปอร์เซ็นต์หรือราว 1 ล้านบีดีพี

    “ข้อได้เปรียบสำคัญของเราในการเจรจานี้คือความจริงที่ว่าประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ รับทราบแล้วว่า ชาวอิหร่านจะไม่ยอมจำนนต่อการกลั่นแกล้ง , การคว่ำบาตร และการข่มขู่” โรฮานี กล่าว

    “ถือเป็นชัยชนะสำหรับอิหร่านที่มหาอำนาจทางทหารอันดับหนึ่งของโลกยอมรับแล้วว่าชาวอิหร่านจะไม่จำนนต่อแรงกดดัน”

    ผู้เจรจาจากอิหร่าน , สหรัฐฯ , เยอรมนี , ฝรั่งเศส , อังกฤษ , รัสเซีย และจีนจะทำการเจรจาต่อในอีกไม่กี่วันที่จะถึงนี้เพื่อปูทางสู่ข้อตกลงฉบับสุดท้าย


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041365
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : สงครามเย็นรอบใหม่? เพนตากอนปัดฝุ่น “กองบัญชาการลับลึกร่วม 620 ม. ใต้ภูเขาไชแอนน์” หลังร้าวหนักกับปูติน ที่มีแผนตั้ง “หัวรบนิวเคลียร์” ในไครเมีย
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2558 18:29 น. (แก้ไขล่าสุด 10 เมษายน 2558 09:59 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ฐานทัพลับใต้ภูเขาไชแอนน์ (Cheyenne Mountain Complex) รัฐโคโลราโด หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ยังหลงเหลือของอดีตสงครามเย็นถูกปัดฝุ่นกลับมานำใช้งานอีกครั้ง หลังเพนตากอนสั่งให้มีการปรับปรุงล่าสุด รวมถึงติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสารใหม่ทั้งหมด หลังจากความสัมพันธ์สหรัฐฯ และรัสเซียสั่นคลอนหนักหลังจากไครเมียถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซีย ในขณะที่สื่อเคียฟตีข่าวประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มีความตั้งใจจะตั้งหัวรบนิวเคลียร์บนคาบสมุทรไครเมียพร้อมทหารประจำการร่วม 100,000 นาย

    เดลีเมล์ สื่ออังกฤษรายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า หลังจากที่ 10 ปีก่อนหน้านี้มีคำสั่งปิดฐานทัพลับใต้ภูเขาไชแอนน์ (Cheyenne Mountain Complex) เพราะมีความเห็นว่า รัสเซียไม่เป็นภัยต่อสหรัฐฯอีกต่อไป

    ทั้งนี้ บังเกอร์นิวเคลียร์แห่งนี้อยู่ลึกลงไปใต้ภูเขาไชแอนน์ร่วม 620 เมตร รัฐโคโลราโด ได้เคยถูกใช้เป็นฐานบัญชาการของ NORAD ศูนย์ควบคุมป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐฯ เพื่อค้นหามิสไซล์สัญชาติรัสเซีย และยังเป็นศูนย์กองบัญชาการเหนือแห่งสหรัฐฯ (US Northern Command) ในกรณีเกิดเหตุสงครามโลกครั้งที่ 3

    แต่ทว่าล่าสุดสื่ออังกฤษรายงานว่า หลังจากที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียตกต่ำหนักหลังเกิดเหตุผนวกไครเมีย และมีข่าวว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูตินขู่ที่จะใช้มิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์หากมีการยึดไครเมียกลับคืนสู่ยูเครน ทำให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ หันมาเปิดการใช้งานฐานทัพลับแห่งนี้อีกครั้ง

    โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาเพนตากอนประกาศทำสัญญามูลค่า 700 ล้านดอลลาร์ ว่าจ้างบริษัท เรย์ทีออน คอร์ปอเรชัน (Raytheon Corporation) เพื่อปรับปรุงฐานลับแห่งนี้ให้ทันสมัย และกลับมาใช้งานได้สำหรับ NORAD และศูนย์กองบัญชาการเหนือแห่งสหรัฐฯ ซึ่ง พล.ร.อ.วิลเลียม กอร์ตนีย์ (William Gortney) ผู้บัญชาการของหน่วยงานทั้งสองให้ความเห็นว่า เพราะธรรมชาติของฐานทัพลับใต้ภูเขาไชแอนน์ที่ถูกสร้างเพื่อให้มีความทนทานต่อนิวเคลียร์ ดังนั้นจึงต้องมีการปรับปรุงครั้งใหญ่เพื่อทำให้สามารถติดต่อสื่อสารจากที่นั่นได้...แต่สิ่งที่ผมวิตกเป็นประการแรก คือ ในฐานทัพใต้ดินแห่งนั้นเราจะมีพื้นที่เพียงพอสำหรับทุกคนหรือไม่ ซึ่งผมไม่ใช่ผู้ที่จะตัดสินว่าใครจะสามารถลงไปหลบอยู่ที่นั่นได้บ้าง” กอร์ตนีย์แถลง

    เดลีเมล์ชี้ว่า ฐานทัพใต้ภูเขาไชแอนน์ขนาดครึ่งเอเคอร์แห่งนี้ถูกสร้างในยุค 1960 ลึกลงไปใต้ภูเขาในรัฐโคโลราโด เพื่อเป็นบังเกอร์กันภัยอาวุธนิวเคลียร์จากสหภาพโซเวียตในขณะนั้นซึ่งภายในฐานทัพมีเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศเตรียมพร้อมในการส่งสัญญาณเตือน ซึ่งอาจทำให้นำไปสู่สงครามนิวเคลียร์

    แต่ทว่าในปี 2006 ทางเพนตากอนตัดสินใจปิดฐานลับใต้ภูเขาแห่งนี้ และย้ายสำนักงานใหญ่ของ NORAD และศูนย์กองบัญชาการเหนือแห่งสหรัฐฯไปยังฐานทัพอากาศพีเตอร์เซน ในโคโลราโดสปริงส์ และปรับให้ฐานทัพลับใต้ภูเขาไชแอนน์เป็นฐานทัพสำรองหากจำเป็น

    แหล่งข่าวเพนตากอนเปิดเผยว่า “ในขณะนี้ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเล็งที่เคลื่อนย้ายอุปกรณ์สื่อสารกลับไปที่ฐานทัพลับใต้ภูเขาแห่งนี้” และแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่เพนตากอนอีกคนเสริมต่อว่า “อุปกรณ์การสื่อสารติดต่อสำหรับกองบัญชาการจำนวนมากถูกติดตั้งเข้าไป”

    โดยแหล่งข่าวเพนตากอนให้ข้อมูลว่า จากการที่ทำงานของกองทัพสหรัฐฯ ใต้ภูเขาไชแอนน์นี้ขึ้นอยู่กับเครือข่ายระบบคอมพิวเตอร์ และการสื่อสารระบบดิจิตอลเป็นหลัก ซึ่งจะทำให้อุปกรณ์เหล่านี้ได้รับความเสียหายง่ายมากจากการโจมตีด้วยคลื่นพัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า หรือ EMP ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ หรือเกิดจากการโจมตีด้วยระเบิดนิวเคลียร์ก็ได้

    ดังนั้น ภายใต้สัญญา 10 ปีของบริษัท เรย์ทีออน คอร์ปอเรชัน ทางบริษัทมีกำหนดต้องให้บริการเพื่อทำให้มั่นใจว่าหน่วยงานที่อยู่ภายในฐานลับใต้ภูเขาไชแอนน์และรวมไปถึงฐานทัพอากาศปีเตอร์เซนจะสามารถทำงานได้ตลอดเวลา อย่างมีประสิธิภาพ และอย่างทันท่วงที โดยไม่มีการเตือนที่กำกวม รวมไปถึงการโจมตีทางอากาศ รวมถึงมิสไซล์ และการปราฏตัวของยานข้าศึก

    นอกจากนี้ยังพบว่า ทางเรย์ทีออน คอร์ปอเรชันยังได้รับสัญญาในการมอบหมายทำงานที่ไม่เปิดเผยที่ฐานทัพวาเดนเบิร์ก (Vandenberg) รัฐแคลิฟอร์เนีย และฐานทัพอากาศออฟฟุตต์ในรัฐเนแบรสกา

    ในขณะที่เพนตากอนกลับมาปัดฝุ่นฐานทัพบังเกอร์นิวเคลียร์ใหม่อีกครั้ง ยูเครนทูเดย์ สื่อยูเครนได้รายงานเมื่อวานนี้ (8) โดยอ้างอิงจากสำนักข่าวอิสระในไครเมีย ว่าประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน มีแผนที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งที่คาบสมุทรนิวเคลียร์ พร้อมทหารประจำการอีก 100,000 นายในเร็ววันนี้

    โดยแอนดรีย์ คลีเมนโก (Andriy Klymenko) นักข่าวสำนักข่าวอิสระในไครเมียรายงานว่า ปูตินมีแผนที่จะปรับใหฐานทัพเรือทะเลดำให้มีอาวุธมิสไซล์ติดหัวรบนิวเคลียร์ประจำ ทหารเรือ และเครื่องบินรบ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลารอฟ ได้เคยกล่าวไว้ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาว่า รัสเซียมีทุกเหตุผลที่จะนำอาวุธนิวเคลียร์มาติดตั้งที่ไครเมีย

    ทางไครเมีย หรือชื่อใหม่ รัฐโนโวรอสซิยา (Novorossiya) ที่หมายความว่า “รัสเซียใหม่” กระตือรือร้นต่อความคิดนี้ จนถึงขณะนี้รัฐใหม่แห่งนี้เชื่อมกับแผ่นดินใหญ่รัสเซียได้เพียงทางอากาศและทางทะเลเท่านั้น


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041354
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    NORAD ควบคุมป้องกันภัยอากาศมะกันอ้าง “Tu-95 เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลหมีขาว” ส่งสัญญาณข่มขู่ หลังบินเฉียดสหรัฐฯถี่ยิบ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    9 เมษายน 2558 11:49 น. (แก้ไขล่าสุด 9 เมษายน 2558 16:06 น.)

    [​IMG]
    @เครื่องบินรบสัญชาติรัสเซียปรากฏขึ้นบนฟากฟ้าใกล้กับเขตป้องกันทางอากาศ ADIZ ของรัฐอะแลสกา

    เอเจนซีส์ - พล.ร.อ.บิล กอร์ตนีย์ (Bill Gortney) แห่ง NORAD ศูนย์ควบคุมป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์ในวันจันทร์ (7 เม.ย.) ว่า พบความถี่ของ Tu-95 เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลรัสเซียบินเข้าใกล้เขตป้องกันทางอากาศ ADIZ ของสหรัฐฯมากขึ้นอย่างผิดปกติหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ วลาดิมีร์ ปูติน ได้ผนวกคาบสมุทรไครเมียในเดือนมีนาคม 2014 คล้ายต้องการส่งสัญญาณต้องการข่มขู่

    บิสซิเนส อินไซเดอร์ รายงานเมื่อวานนี้ (8) ว่า ในการให้สัมภาษณ์ของ พล.ร.อ.บิล กอร์ตนีย์ (Bill Gortney) แห่ง NORAD ศูนย์ควบคุมป้องกันภัยทางอากาศสหรัฐฯ เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกลของกองทัพรัสเซียที่ได้บินเข้าใกล้สหรัฐฯ มากขึ้นจนผิดสังเกตหลังจากเดือนมีนาคม 2014 เป็นต้นมา คล้ายกับว่าต้องการให้ทางสหรัฐฯ รับทราบการมีตัวตนของขุมอำนาจทางอากาศของกองทัพหมีขาว ในขณะที่สหรัฐฯ ที่ทางสหรัฐฯ ไม่ได้ทำการอันใดเลย คล้ายกับที่รัสเซียได้แสดงความก้าวร้าวต่อยุโรป

    บิซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า การส่งสัญญาณทางทหาร และการแสดงแสนยานุภาพกลายเป็นสิ่งปกติไปแล้วสำหรับยุทธศาสตร์ของรัสเซียซึ่งทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิดและเครื่องบินขับไล่เริ่มบินลาดตระเวนแถบทะเลบอลติกของยุโรป และนอกชายฝั่งญี่ปุ่นโดยที่ปิดเครื่องติดต่อสื่อสาร

    และเป็นที่รู้ว่าการบินที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการศึกนี้ได้เป็นส่วนหนึ่งในเกมการเมืองระหว่างประเทศเพื่อแสดงถึงศักยภาพของรัสเซียต่อขุมอำนาจโลกตะวันตก

    “การบินของรัสเซียไม่ได้แสดงความสำคัญทางการทหารแม้แต่น้อย” ทอม นิโชลส์ (Tom Nichols) ศาสตราจาย์ประจำวิทยาลัยกองทัพเรือสหรัฐฯ (US Naval War College) และสมาชิกอาวุโสประจำคาร์เนกี เคาน์ซิล ด้านจริยศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ได้แสดงความคิดเห็นว่า “นี่เป็นออกแถลงการณ์ทางการเมือง ข่มขู่ จากรัสเซียเพื่อแสดงให้ยุโรปเห็นว่านาโตนั้นไม่สามารถคุ้มครองได้”

    กอร์ตนีย์ยืนยันว่า ทาง NORAD รับรู้ถึงการกระทำของรัสเซีย “ทางสหรัฐฯ จับตาต่อการกระทำใดๆ ของรัสเซีย ซึ่งพวกเขาต้องทำตามกฏนานาชาติที่ระบุไว้ และทุกคนสมควรที่จะบินอย่างมืออาชีพในฝั่งของเขา และทางเราเช่นกันในขณะที่จับตาดูด้วยความระมัดระวัง” กอร์ตนีย์แถลง

    ทั้งนี้ ทาง NORAD พบว่า เครื่องบินรบสัญชาติรัสเซียปรากฏขึ้นบนฟากฟ้าใกล้กับเขตป้องกันทางอากาศ ADIZ ของรัฐอะแลสกา


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041051
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : ระทึกปิดเมือง!! อพยพเกือบ 30,000 หนีตายเพลิงไหม้ “รง.ผลิตสารตั้งต้น PX ก่อมะเร็ง” ในจางโจว หลังใช้ดับเพลิงจีนร่วม 800 สู้เปลวเพลิงมรณะกว่า 4 วัน โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2558 14:59 น. (แก้ไขล่าสุด 9 เมษายน 2558 15:44 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี – เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่เริ่มตั้งแต่เย็นวันจันทร์ (6) ในโรงงานจางโจว PX (Zhangzhou PX) โรงงานผลิตสารตั้งต้น PX หรือ paraxylene ที่ใช้กันมากในอุตสาหกรรมสิ่งทอ แรงระเบิดสั่นสะเทือนตึกของโรงงานในจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจำนวน 800 คน สามารถดับเพลิงไหม้ลงได้ในวันอังคาร (7) แต่ทว่าแท็งก์เก็บขนาดใหญ่กลับปะทุขึ้นมาอีกครั้งเมื่อวานนี้ (8) ส่งผลให้ต้องอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่รอบโรงงานเกือบ 30,000 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยง

    เอเอฟพีรายงานวันนี้ (9) ว่า สำนักข่าวซินหัวของจีนรายงานในเย็นวันพุธ (8) ถึงการสั่งอพยพครั้งใหญ่ของคนร่วม 29,096 คน ออกจากพื้นที่เสี่ยงรอบโรงงานจางโจว PX (Zhangzhou PX) โรงงานผลิตสารตั้งต้น PX หรือ paraxylene ในจางโจว มณฑลฝูเจี้ยน และไฟที่ปะทุขึ้นมาล่าสุดจากแท็งก์เก็บขนาดใหญ่ที่เกิดเปลวไฟขนาดมหึมาที่ลามไปทั่วขึ้นก่อนหน้านั้นในวันพุธ (8) สามารถถูกดับลงได้ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (9)

    มีผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้จำนวน 6 คน ในโรงงานเคมีแห่งนี้ ซึ่งถือเป็นอุบัติเหตุครั้งที่ 2 ในรอบ 2 ปี

    ซึ่งภาพข่าวทางโทรทัศน์ในช่วงต้นสัปดาห์นี้ แสดงถึงเปลวเพลิงขนาดมหึมาพุ่งขึ้นจากโรงงานสารเคมีไปในอากาศในขณะที่พนักงานดับเพลิงจีนร่วม 800 คน กำลังพยายามดับไฟที่เกิดเหตุ

    ทั้งนี้ โรงงานเคมีแห่งนี้ผลิตสารตั้งต้น PX ที่ติดไฟง่าย และก่อให้เกิดมะเร็งที่ใช้กันมากในอุตสาหกรรมทอผ้าและฟิล์มโพลีเอสเตอร์ได้ ทำให้เกิดการประท้วงขนาดใหญ่ในไม่กี่เมืองทั่วจีนในไม่กี่ปีที่ผ่านมาหลังจากพบว่าโรงงานแห่งนี้ผลิตสารเคมีที่เสี่ยงต่อสุขภาพทำให้เกิดมะเร็ง

    ซึ่งแต่เดิมมีแผนที่จะก่อสร้างโรงงานแห่งนี้ใกล้เมืองเซียเหมิน มณฑลฝูเจี้ยน แต่ต้องเปลี่ยนแผนโยกย้ายมาสร้างที่เมืองจางโจวแทนหลังจากเกิดประท้วงครั้งใหญ่ในปี 2007

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000041193
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มะกันขู่จะไม่อยู่เฉยปล่อยให้อิหร่านหนุนกบฏฮูตียึดเยเมน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 เมษายน 2558 15:43 น. (แก้ไขล่าสุด 9 เมษายน 2558 15:53 น.)

    [​IMG]

    เอเอฟพี - รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ “จอห์น เคร์รี” ระบุในวันพุธ (8 เม.ย.) ว่า อเมริกาจะไม่ยอมยืนดูอยู่เฉยๆ ในขณะที่อิหร่านให้การสนับสนุนฝ่ายกบฏที่เป็นมุสลิมชีอะห์ที่กำลังยึดครองดินแดนของเยเมน

    เคร์รี ได้บอกกับสถานีโทรทัศน์พีบีเอส ว่า มีการตรวจสอบแล้วและพบว่ามีหลายเที่ยวบินจากอิหร่านเข้าไปในเยเมนทุกสัปดาห์

    เคร์รี ระบุว่า อิหร่านจะต้องนึกให้ออกว่าอเมริกาไม่ใช่ประเทศที่จะยอมอยู่เฉยๆ ในขณะที่ภูมิภาคนั้นกำลังสั่นคลอนหรือในขณะที่ผู้คนต้องปะทะกันในการสู้รบกันที่เห็นได้อย่างแจ่มแจ้งว่าเป็นการรุกล้ำพรมแดนของประเทศอื่น

    อย่างไรก็ตาม เคร์รี ได้บอกว่า อเมริกาไม่ได้จ้องหาหนทางที่จะเผชิญหน้ากับอิหร่าน แต่ถึงกระนั้นก็จะไม่เดินหนีมิตรประเทศ โดยจะยืนเคียงข้างกับชาติเหล่านั้นที่กำลังรู้สึกว่าโดนคุกคาม จากผลพวงของการตัดสินใจของอิหร่าน

    การแสดงความเห็นครั้งนี้ ถือเป็นการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ครั้งแรก นับตั้งแต่เคร์รีกลับมาจากการเจรจากรอบข้อตกลงกับอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เรื่องการควบคุมโครงการนิวเคลียร์

    พันธมิตรชาติอาหรับที่นำโดยซาอุดีอาระเบีย ซึ่งอเมริกาให้การหนุนหลัง ได้ใช้การโจมตีทางอากาศต่อพวกกบฏฮูตี เพื่อพยายามฟื้นฟูอำนาจการปกครองของประธานาธิบดี อับเบด รับบูห์ มานซูร์ ฮาดี ที่หนีออกนอกประเทศ

    กบฏฮูตีได้ควบคุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างในเยเมน ซึ่งรวมถึงเมืองหลวงอย่างกรุงซานา ทั้งยังได้รับความร่วมมือจากกองกำลังความมั่นคง ซึ่งยังคงภักดีต่ออดีตผู้นำ “อาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์” ที่ถูกโค่นอำนาจในปี 2012 หลังเหตุการณ์อาหรับสปริง

    ซาอุดีอาระเบียได้กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นผู้ให้การสนับสนุนกบฏฮูตี แต่รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน “โมฮัมเหม็ด จาวัด ซารีฟ” ยังคงยืนกรานว่ารัฐบาลของเขาอยากให้การสู้รบยุติลงโดยเร็ว

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]
    ·
    รัสเซียเดินหน้าหาพันธมิตรร่วมฆ่าดอลล่าร์ต่อ รัสเซียชวนอินโดนีเซียใช้สกุลเงินตราของทั้งสองประเทศร่วมกัน
    --------------
    รัสเซียและอินโดนีเซียกำลังจะเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินของตนเองในการค้าขายระหว่างประเทศของทั้งสองประเทศ เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.58) ถือว่าเป็นวันครบรอบ 10 ปีของสมัยประชุมว่าด้วยการคณะกรรมการร่วมด้านการค้า-เศรษฐกิจและความร่วมมือทางด้านเทคโนโลยีระหว่างอินโดนีเซียกับรัสเซีย ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองคาซาน (Kazan) ทางตะวันออกเฉียงใต้ของรัสเซีย
    ในโอกาสนี้นาย Denis Manturov รมว.อุตสาหกรรมและการค้าของรัสเซียได้เสนอต่อนาย Sofyan Djalil ผู้ประสานงานด้านกระทรวงเศรษฐกิจของอินโดนีเซียว่า "รัสเซียคาดหวังว่าจะได้รับการสนับสนุนในการเปลี่ยนมาใช้สกุลเงินของแต่ละประเทศในการทำการค้าระหว่างกันพร้อมกับประเทศอื่นๆและอินโดนีเซียด้วย รัสเซียได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางอินเดีย จีน เวียตนาม และไทยมาแล้ว การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยทำให้สกุลเงินของประเทศเหล่านี้มีความเข้มแข็งมากขึ้น และเป็นการเปิดโอกาสให้ประเทศหุ้นส่วนสามารถทำงานได้อย่างอิสระจากเงินดอลล่าร์ของสหรัฐฯและเงินยูโรของอียูด้วย"
    อินโดนีเซียมีท่าทีอย่างไรต่อข้อเสนอนี้? นาย Sofyan Djalil พูดขึ้นทันทีเลยว่า อินโดนีเซียพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอจากฝ่ายรัสเซีย เพราะว่าผลกระทบของความผันผวนของค่าเงินดอลล่าร์ถือว่าเป็น "ความเจ็บปวดแบบกลืนไม่เข้าคายไม่ออก (น่ารำคาญมาก)" (pain in the neck) จริงๆแล้วคิว่าทางอินโดฯก็อยากจะใช้คำพูดว่า "pain in the ass!" นั่นแหละมันตรงดี แต่ด้วยมรรยาททางการทูตก็ต้องเก็บอาการนิ๊ดดดนึง เข้าใจตรงกันนะ ฮ่าๆๆ...
    เมื่อสหรัฐฯใช้เงินดอลล่าร์ของตัวเองเป็นหนึ่งในเครื่องมือในเครื่องมือแผ่อิทธิพลของจักวรรดิตนเองและทำลายระบบเศรษฐกิจของประเทศอื่นที่ไม่ยอมก้อหัวให้สหรัฐฯ คราวนี้ถึงคราวที่ประเทศเหล่านั้นจะรวมตัวกันฆ่าดอลล่าร์ของสหรัฐฯบ้างแล้ว
    The Eyes
    10/04/2558
    ----------
    Russia Offers Indonesia Mutual Transactions in National Currencies / Sputnik International
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช

    [​IMG]

    ฝรั่งเศสปั่นป่วนหนัก ประชาชนนัดหยุดงานประท้วงหลายแสนทั่วปารีสและเมืองอื่นๆ ปิดหอไอเฟล ปิดโรงพยาบาล ปิดโรงเรียนต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล สหรัฐฯออกส่งทูตง้อรัสเซียขอเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    --------------
    ถึงคราวฝรั่งเศสบ้างหละ พิษวิกฤตเศรษฐกิจของยุโรยังแผลงฤทธิ์ยอย่างต่อเนื่อง เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.58) มีประชาชนในฝรั่งเศสออกมาร่วมตัวกันประท้วงนโยบายรัดเข็มขัดของรัฐบาลประมาณ 300,000 ทั่วเมืองใหญ่ในฝรั่งเศส การประท้วงในครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของกลุ่ม CGT, FO, FSU และ Solidaires เฉพาะในปารีสนั้นมีผู้ประท้วงประมาณ 120,000 คนออกมาประท้วงตามท้องถนนและบริเวณหอไอเฟล พนักงานที่ดูแลหอไอเฟลได้ปิดประตูตลอดทั้งวันและปิดไฟปิดระบบส่งสัญญาณวิทยุส่งผลให้เครื่องบินหลายร้อยเที่ยวบินต้องหลีกเลี่ยงฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก แปลกจังประท้วงอยู่ที่ถนนทั่วไปไม่ได้ปิดสนามบินซะหน่อย แต่สายการบินต่างๆ กลับเลี่ยงเส้นทางบินผ่านฝรั่งเศสเป็นจำนวนมาก เขากลัวอะไรกัน เหมือนเป็นสัญญาณบ่งบอกอะไรบางอย่างว่าอาจจะมีการก่อการร้ายสอยเครื่องบินให้ล่วงลงในฝรั่งเศสอย่างนั้นแหละ
    การประท้วงดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา เนื่องจากรัฐบาลของฝรั่งเศสออกมาประกาศว่าจะคงมาตรการรัดเข็มขัดนี้ต่อไปอีก 3 ปี (จนถึงปี 2017) และต้องการจะตัดค่าใช้จ่ายภาครัฐลงถึง $53 billion (ประมาณ 1.7 ล้านล้านบาท) พร้อมทั้งปรับลด GDP ลงอีก 3% นโยบายดังกล่าวอันเนื่องมาจากวิกฤตด้านการเงินในอียูก่อให้เกิดการว่างงานขึ้นในฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากไม่แพ้กรีซ การประท้วงยังคงดำเนินต่อไปในวันนี้ด้วย และทางกลุ่มผู้ประท้วงบอกว่าจะนัดรวมตัวกันครั้งใหญ่อีกในวันที่ 1 พฤษภาคมที่จะถึงนี้
    ที่รัสเซียเจอพิษแซงชั่นจากสหรัฐฯและอียูมากกว่าฝรั่งเศสซะอีก แต่ไม่พบว่ามีการประท้วงและมีความวุ่นวายอย่างในอียูเลย ไม่มีการเผาบ้านเผาเมืองประท้วงอยู่ที่เกิดขึ้นในเยอรมัน ฝรั่งเศสและกรีซ แต่รัสเซียก็สามารถผ่านพ้นมาได้และเศรษฐกิจของรัสเซียกำค่อยๆจะกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงที่รัสเซียโดนกลั่นแกล้งอย่างหนักจากสหรัฐฯกับอียูนั้น รัสเซียกลับได้พันธมิตรจากต่างแดนเพิ่มขึ้นมากมาย
    ในขณะที่อียูยังเดินตามยุทธวิธีของสหรัฐฯคือทำเป็นเบ่งใส่ประเทศที่กำลังพัฒนา อ้างเรื่องเสรีภาพ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนเข้าเป็นเครื่องมือในการกีดกันสินค้าจากประเทศเหล่านั้นเช่นไทย เป็นการทำลายพันธมิตรของตัวเองไปในตัวในภาวะที่เศรษฐกิจของอียูกำลังย่ำแย่อย่างนี้ ถือเป็นการเดินเกมที่ไม่ฉลาดเอามากๆ แพ้หมากปูตินตลอด สหรัฐฯและอียูกะจะใช้มาตรการแซงชั่นบีบให้เศรษฐกิจของรัสเซียตกต่ำให้มากที่สุด โดยคาดว่าประชาชนในประเทศรัสเซียจำนวนมากจะทนอยู่ภายใต้เศรษฐกิจที่ตกต่ำข้าวของแพงอย่างนั้นไม่อีกต่อไป จะต้องลุกฮือขึ้นมาประท้วงก่อการจลาจลอย่างที่เห็นอยู่บ่อยๆจนเป็นเรื่องชินตาในอียูไปแล้วนั้น ผิดคาดครับ ปูตินรับมือได้
    แม้ว่านักการเมืองฝ่ายค้านของรัสเซียจะรับลูกต่อจากสหรัฐฯมาพยายามบ่อนทำลายความมั่นคงภายในของรัสเซียแต่ก็ไม่เป็นผล น่าสนใจไหมหละว่าปูตินทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ได้เป็นเผด็จการ ไม่ได้เป็นคอมมิวนิสต์ มีการเลือกตั้ง และเป็นประชาธิปไตยอย่างที่โลกตะวันตกทั้งหลายอยากให้เป็น แต่แผนนี้ไม่สามารถทำความสามัคคีของคนในชาติของรัสเซียได้ ซึ่งมีหลายสาธารณรัฐและหลายชาติพันธุมาก แต่ก็ไม่มีเหตุการณ์อย่างที่เกิดขึ้นในฝรั่งเศสในตอนนี้ นั่นเพราะรัฐบาลรัสเซียให้ความจริงใจกับประชาชนของเขา ให้ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ว่าสาเหตุที่แท้จริงของวิกฤตค่าเงินรูเบิลและวิกฤตเศรษฐกิจของรัสเซียที่เกิดขึ้นนั้น ไม่ใช่ว่ารัฐบาลรัสเซียบริหารไม่เก่งหรือทำงานไม่เป็น ไม่ใช่จากปัจจัยภายใน แต่เป็นเพราะปัจจัยภายนอก เป็นเพราะสหรัฐฯและอียูพยายามจะทำลายรัสเซียให้ได้ ประชาชนชาวรัสเซียต้องไม่หลงกลและตกเป็นเครื่องมือของผู้ไม่หวังดีที่จะมาทำลายชาติของรัสเซีย แล้วรัฐบาลก็หาทางช่วยเหลือประชาชนของเขา ลดผลกระทบให้กับชาวบ้านให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนค่าเงินรูเบิลค่อยๆทรงตัวขึ้นเรื่อยๆ
    เกมนี้สหรัฐฯแพ้แล้ว การใช้ไม้แข็งกับรัสเซียและการพยายามยั่วยุให้ปูตินตัดสินใจใช้กำลังทางกองทัพถล่มประเทศสมาชิกนาโต้ในอียูนั้นไม่ได้ผลซะแล้ว ล่าสุดเมื่อวานนี้รัฐบาลสหรัฐฯแอบส่งเอกอัครราชทูตของตัวเองเข้าพบประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการต่างเทศสภาดูม่าของรัสเซีย เพื่อถกปัญหาด้านความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าการที่สหรัฐฯพยายามเข้ามาหารัสเซียแบบนี้น่าสงสัยยิ่งนักว่ามาในนามของมิตรหรือศัตรูกันแน่ เพราะว่าในขณะที่สหรัฐฯยื่นมือซ้ายมาจับมือกับรัสเซีย แต่มืออีกข้างหนึ่งก็ถืออาวุธชี้มาทางรัสเซียพร้อมกันไปด้วย เช่นสหรัฐฯเรียกร้องให้แซงชั่นรัสเซียต่อไป สหรัฐฯพยายามให้กลุ่มชาติพันธ์ทาทาร์ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในไคร์เมียออกมาเรียกร้องต่อต้านรัสเซีย สหรัฐฯใช้กองทัพนาโต้รุกปิดล้อมรัสเซียจากฝั่งยุโรปตะวันออก และยังไม่หยุดเสี้ยมให้ยูเครนทะเลาะกับรัสเซียอีก โปโรเชนโก้ลูกกระเป๋งของสหรัฐฯก็พยายามจะดึงกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้ามาเอี่ยวในยูเครนตะวันออกแทน OSCE ให้ได้ พฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้บ่งบอกว่าอยากจะเป็นมิตรและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศเลย
    อ้อแถมให้อีกนิดหนึ่ง ที่อิตาลี่ก็เริ่มปั่นป่วนแล้วเช่นกัน กระแสแยกตัวออกจากอียูเริ่มจะแรงขึ้นเรื่อยๆแล้ว ตอนนี้มีการล่ารายชื่อผู้สนับสนุนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนชาวอิตาลีแล้ว กรีซมีเพื่อนแล้ว
    The Eyes
    10/04/2558
    ----------
    Italy's Eurosceptics Get 100,000 Signatures for Referendum to Exit Eurozone / Sputnik International
    ​Eiffel Tower, schools, airports shut as thousands take to French streets in nationwide strike — RT News
    Italy's Eurosceptics Get 100,000 Signatures for Referendum to Exit Eurozone / Sputnik International
    US Ambassador, Russian Foreign Committee Head Discuss Bilateral Relations / Sputnik International
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ไอซิส GhostSec แฮ็กระบบทีวีฝรั่งเศส?

    [​IMG]

    ------------
    แน่ใจหรือว่าเป็นฝีมือไอซิส? ครั้งก่อนกรณีบริษัทโซนีพิกเจอร์ของสหรัฐฯถูกแฮ็กก็โบ้ยให้เกาหลีเหนือมาหนึ่งแล้ว คราวนี้มาอีกแล้วลูกเล่นเก่าแต่เปลี่ยนตัวผู้เล่นโดยมีผู้กำกับคนเดิมควบคุมการแสดง คือเปลี่ยนจากเกาหลีเหนือเป็นไอซิส และเปลี่ยนจากโซนี่เป็น TV5Monde ของฝรั่งเศสแทนเมื่อวันพุธที่ 8 ที่ผ่านมา ตามมาด้วยการประท้วงครั้งใหญ่ในฝรั่งเศสต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดส่งผลให้เครื่องบินหลายร้อยเที่ยวบินปั่นป่วนหลีกเลี่ยงการบินผ่านประเทศฝรั่งเศสไปด้วย ของแบบนี้อย่าคิดว่าชาวโลกหรือประเทศอื่นๆเขาจะดูไม่ออกว่าเป็นฝีมือใคร ภาพการ์ตูนจากสื่อฯฝั่งรัสเซียมันชัดมากเลยนะ งานนี้ไม่ได้ขู่แค่ทีวีของเกาหลีเหนือหรอกนะ แต่ขู่กรายๆไปถึงยักษ์ใหญ่ด้านไอทีอย่างไมโครซ้อฟท์แต่ไม่บอกชื่อไมโครซ้อฟท์ตรงๆ แต่เรียกชื่อระบบคลาวด์ของ Yahoo! ซึ่งตอนนี้กลายเป็นของไมโครซ้อฟท์ไปแล้ว และ Google รวมถึง GoDaddy ด้วย ถ้าบริษัทด้านไอทีเหล่านี้ไม่ให้ความร่วมมือในการแซงชั่นรัสเซียเหมือนกับบริษัทไอทีรายอื่นๆแม้กระทั่งบริษัทเกมก็ยังทำตามคำสั่งของรัฐบาลสหรัฐฯมาแล้ว มีหวังยักษ์ใหญ่ด้านไอทีเหล่านี้จะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไปแน่ๆ ไอซิสนี่นะจะมีปัญญาไปเจาะระบบไอทีของไมโครซอฟท์กับกูเกิลได้ มันตลกฝืดไปหน่อยละมั๊ง
    The Eyes
    10/04/2558
    ----------
    GhostSec-Busted / Sputnik International
    Anonymous Posts List of ISIL Websites and the US, UK Firms That Host Them / Sputnik International
    http://rt.com/news/247433-israel-hackers-cyber-holocaust/
    http://rt.com/news/248073-islamic-state-hackers-french-tv/
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    จีนรับอิหร่านเข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งธนาคาร AIIB เป็นอันดับที่ 34

    [​IMG]

    ------------
    มันเป็นไปแล้ว เด็กเส้นรายใหญ่ของจีน "อิหร่าน" แม้ว่าจะเลยกำหนดการรับสมัครสมาชิกของ AIIB มาตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค.58 แล้ว แต่จีนก็แนะนำให้อิหร่านเข้าร่วมทุนในธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในเอเซีย Asian Infrastructure Investment Bank (AIIB) และอิหร่านก็ยื่นใบสมัครหลังปิดรับสมัครด้วย แต่จีนก็อ้าแขนรับแล้วยกให้เป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกสัดส่วนผู้ก่อตั้งธนาคารด้วยกัน (Prospective Founding Members (PFM)) รายที่ 34 จากทั้งหมดตอนนี้มี 38 ประเทศ ส่วนจำนวนประเทศที่ยื่นใบสมัครทั้งหมดนั้นมี 57 ประเทศ มีหลายประเทศที่ยื่นใบสมัครก่อนอิหร่านซะอีก แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นสมาชิกระดับ PFM อย่างอิหร่านเลย ใครเป็นใครให้รู้ซะมั่ง ขนาดอิสราเอลยื่นก่อนอีก ยังไม่รับการพิจารณาเลยนะนี่ ฮ่าๆๆ... สหรัฐฯที่ส่ง IMF มาทาบทามขอแจมด้วยหนะหรือ? จีนบอกบั๊บบาย อย่าฝันไปเลยว่าจะได้ลงเรือสำเภาทองลำนี้ร่วมกับจีน
    แถมให้อีกข่าวหนึ่ง... เมื่อวานนี้ (9 เม.ย.) จีนเริ่มขยับกรณีวิกฤตยูเครน ในการเดินทางไปที่รัสเซียระยะ 3 วันของจีน นาย Wang Yi รมว.ต่างประเทศของจีนได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิกฤตยูเครนตะวันออกและปัญหาความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย อันที่จริงต้องบอกว่าความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย โดยจีนได้แสดงความคิดเห็นที่ไม่เข้าข้างสหรัฐฯที่เน้นการใช้ความรุนแรงและสนับสนุนด้านอาวุธหนักให้ยูเครนแม้แต่น้อย แต่จีนเลือกที่จะใช้วิธีเดียวกันกับรัสเซีย กล่าวคือจีนเสนอว่าปัญหาวิกฤตยูเครนนั้นจำเป็นต้องแก้ไขด้วยวิธีทางการเมืองเท่านั้น เน้นย้ำว่าต้องใช้วิธีทางการทูตระดับสูง พร้อมกับกล่าวเพิ่มว่าการใช้กำลังทางทหารนั้นไม่ใช่ตัวเลือก ในการนี้นาย Wang Yi ได้ให้สัมภาษณ์ตอนหนึ่งกับทีวี Rossiya 24 ของรัสเซียว่า "รัฐบาลยูเครนควรจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างภูมิภาคต่างๆ และประชาชนสัญชาติต่างๆในประเทศในวิถีทางที่เท่าเทียมกัน" เมื่อจีนเริ่มขยับในเกมนี้ท่าทีของอียูที่ต้องการจะบีบรัสเซียตามแผนของสหรัฐฯก็จะเปลี่ยนไปบ้างหละ
    The Eyes
    10/04/2558
    ----------
    Iran Joins China-Led Asian Infrastructure Investment Bank / Sputnik International
    http://en.wikipedia.org/…/Asian_Infrastructure_Investment_B…
    Western Sanctions on Russia Harm Peace Process in Ukraine - China's FM / Sputnik International
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "“กรีซ : คือม้าไม้โทรจันจากรัสเซีย ส่งเป็นไส้ศึก ไปทำให้อียูแตกแยก ?"
    .
    ... กรีซต้องจ่ายงินคืนแก่ IMF เจ้าหนี้หลังจากที่ต้องยืมเงินมาเมื่อ 2010 , ในวันที่ 9 เมษายน 2015 นี้แล้วด้วยวงเงิน 460 ล้านยูโร แต่ก่อนจ่าย นาย Tsipras นายกของ "กรีซ" ได้เดินทางไปพบกับ ปูติน ผู้นำของ "รัสเซีย" ในวันที่ 8 เมษายน ก่อนเวลาจ่ายตังค์แค่วันเดียว
    ... การเยือนครั้งนี้ ได้สั่นสะเทือนพื้นดินอียูไปถึงเบลเยี่ยมเมืองหลวงของอียูเลยทีเดียว
    ... ขณะที่ไปเยือน นาย Tsipras ได้ยกประเด็นสำคัญด้วยว่าว่าอยากให้ EU นั้น "ยกเลิกการแซงชั่นต่อรัสเซีย" ต่อกรณี "สงครามยูเครน" เพราะว่าการตอบโต้ที่รัสเซียมีต่อ EU คือการยกเลิกการนำเข้าสินค้าสินค้าต่างๆจากประเทศในอียู ซึ่งทำให้ประเทศต่างๆในเครืออียูเองได้รับความเดือดร้อน และการแซงชั่นนั้นไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาของยูเครนได้เลย แต่ยิ่งทำให้อียูเกิดวิกฤติใหญ่ขึ้นอีก ยิ่งไปกว่านั้นเขาบอกว่ามันยิ่งจะทำให้เกิด "สงครามเย็น" อีกครั้ง
    ... ( นักวิเคระห์บางคนบอกว่าเป็นแผนให้ "ยุโรปฆ่ากันเอง" ไม่เฉพาะการทหาร แต่ยังเน้นทางเศรษฐกิจ จนย่อยยับทั้งหมดแล้วอเมริกาและอิสราเอลก็จะมาชุบมือเปิบได้ง่ายๆ แบบที่กำลังยุแยงให้อิสลามฆ่ากันเองในอิรัก ซีเรีย เยเมน ในขณะนี้ )
    ... ในแต่ละปีสินค้าการเกษตรที่ อียูส่งออกนั้น 10% คือไป "รัสเซีย" มูลค่าประมาณ 11,000 ล้านยูโรต่อปี และผลกระทบนั้นก็ได้ลามไปทั่วยุโรปแล้ว
    ... เช่น "ลูกพีช" จาก "กรีซ" ส่งออกไปขายรัสเซียประมาณ 160,000 ตันต่อปี คิดเป็นเงินประมาณ180 ล้านยูโร ที่ตอนนี้ 8,000 ตันกำลังถูกระงับการส่งออกทันทีและเก็บรอแบบไร้อนาคตในตู้แช่ ที่สถานการณ์ลูกพีชตอนนี้ก็ล้นตลาดอยู่แล้ว ยิ่งจะทำให้ราคาตกลงไปอีก และถ้าปัญหาหนักขึ้นเหตุการณ์อาจจะเปลี่ยนแปลงเป็น "ความวุ่นวายทางการเมือง" ได้
    ... ขณะที่ "กรีซ" เองนั้นการส่งออกทั้งหมดของกรีซ 40% นั้นส่งไปขายให้ "รัสเซีย" ซึ่งเมื่อเกิดการแซงชั่น กรีซก็เลยรับส้มเน่าเต็มๆ การส่งออกสะดุดยิ่งเป็นอุปสรรคในการฟื้นฟูประเทศจากการหายป่วยจากไข้เศรษฐกิจอีก
    ... ส่วนปูตินก็บอกว่าเข้าใจและเห็นใจกรีซที่ต้องมารับกรรมกับการที่ถูกบีบให้ร่วมแซงชั่นรัสเซีย เพราะต้องทำตามเจ้าหนี้ฝั่งอียู แต่ทางรัสเซียก็คงไม่ยอมยกเว้นให้ในการกลับมานำเข้าอาหารและสินค้าการเกษตรจากกรีซอีกในตอนนี้
    ... และทางกรีซบอกว่าที่มานั้นพบปูตินน้ั้นไม่ได้แสดงการขอร้องความช่วยเหลือทางการเมืองแต่อย่างใด แต่อยากสนใจให้รัสเซียลดราคาแก๊สให้ถูกลงเพื่อเป็นปัจจัยในการพัฒนาประเทศ และรัสเซียก็บอกว่า ยังไม่มีการลงนามตกลงอะไรกันเลย แต่ว่าทางมอสโกว์สนใจที่จะไปลงทุนในเรื่องการซื้อโครงการ "พลังงาน" และ "ระบบรถไฟ" ในกรีซ
    ... และยังรวมถึงการที่รัสเซียมองว่ากรีซเป็นส่วนหนึ่งของ "แนวท่อแก๊ส Turkey Stream" ที่เป็นทางออกของรัสเซียที่ส่งแก๊สผ่านยูเครนไม่ได้ จึงต้องยอมอ้อมมาผ่านตุรกีแทน จากตุรกี ผ่านกรีซและไปยังยุโรป อยู่เหมือนกัน เป็นการแลกเปลี่ยนในการช่วยเหลือกรีซ ( โดยรัสเซียได้ยื่นข้อเสนอที่จะส่งแก๊สให้ตุรกีมากขึ้นอีก ในราคาที่ลดให้อีก 6% ตั้งแต่ปีหน้าขึ้นไป , ตุรกีนำเข้าแก๊สจากรัสเซีย 60% ของที่ใช้ในประเทศ ) ถ้าตุรกี กรีซ ผ่าน แนวท่อแก๊สก็สดใสแบบไม่ต้องง้อยูเครน
    ... ขณะที่เพื่อนบ้านอย่าง "ออสเตรีย" เตือน กรีซ ว่าการเดินทางมารัสเซียและได้กล่าวให้อียูยกเลิกการแซงชั่นครั้งนี้ อาจจะทำให้อียูแตกแยกได้ ไม่อยากให้กรีซสนิทสนมกับรัสเซียเกินไป ขณะที่กรีซก็บอกอย่างแมนๆว่าประเทศตัวเองมีอธิปไตยชัดเจนมานาน ที่จะดำเนินนโยบายต่างประเทศ "แบบหลายหน้า" ได้
    ... นอกจากเรื่องการค้าที่ต้องพึ่งพากันระหว่าง "กรีซ" และ "รัสเซีย" แล้ว ในอดีตทั้งสองประเทศยังมีความผูกพันธ์ทางวัฒนธรรมด้วยเช่น รัสเซียนั้นรับเอาศาสนาคริสต์เข้าสู่ประเทศครั้งแรกก็จากกรีซในแบบนิกาย "กรีกออร์โธดอกซ์" ที่เป็นไม่เบื่อไม่เมากับ "นิกายโรมันคาทอลิก" ของ "วาติกัน" ( ที่สนิทสนมกับฝั่งอเมริกาและอิสราเอล ) ที่มีการทำสงครามฆ่ากันตายมาหลายยุคหลายสมัย
    ... มีนักข่าวบางคนตั้งข้อสังเกตว่า "กรีซ" กำลังจะถูกส่งมาจากรัสเซียเพื่อมาเป็น "ม้าไม้โทรจัน" เพื่อจะมาแทรกซึมและโจมตีให้กรุงทรอยแห่งอียูแตกแยกหรือไม่ เพราะอาจจะมีหลายประเทศที่เดือนร้อนจากสินค้าที่ขายไม่ได้ ทั่วอียูออกมากดดันให้มีการผ่อนปรนหรือยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียก็ได้ เพราะต้นปีนี้ก็มี 7 ชาติได้อกมาเรียกร้องแล้วอีกไม่นานคงมีอีก
    ... และถ้ามีความเห็นแตกแยกกันกรณียกเลิกแซงชั่นรัสเซีย ที่อยู่บนผลประโยชน์ของประชาชนตาดำๆชาวยุโรปเอง ก็อาจจะนำมาสู่การแตกแยกจริงๆก็ได้ เพราะตอนนี้เกิดการร้องเรียนของชาวบ้านเกษตรกรยุโรปในหลายประเทศต่อรัฐบาลแล้วว่า การแซงชั่นคือการบั่นทอนทำลายตัวเองของยุโรป โดยที่ประเทศเจ้าความคิดอย่างอเมริกากลับไม่เสียหายอะไรเลย
    ... นาย Tsipras ได้บอกว่า "ประเทศหลายประเทศในอียูไม่ได้มาแบ่งปันความเจ็บปวดจากการรับผลกระทบจากการตอบโต้การแซงชั่นรัสเซียร่วมกับกรีซเลย"
    .
    http://www.theguardian.com/…/alexis-tsipras-in-moscow-asks-…
    http://www.bloomberg.com/…/playing-poker-with-putin-greece-…
    https://www.facebook.com/photo.php?...201845.-2207520000.1428658716.&type=3&theater
    Greece–Russia relations - Wikipedia, the free encyclopedia
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มประเทศนอร์ดิกกระชับร่วมมือทางทหารกรณีรัสเซีย

    [​IMG]

    กลุ่มประเทศนอร์ดิก ซึ่งประกอบด้วยนอร์เวย์,สวีเดน,เดนมาร์ก,ฟินแลนด์และไอซ์แลนด์ ประกาศกระชับร่วมมือทางทหาร เนื่องจากกองทัพรัสเซียเข้ามาป้วนเปี้ยนมากขึ้นในภูมิภาคบอลติก

    วันศุกร์ 10 เมษายน 2558 เวลา 17:14 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออสโลประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่10 เม.ย.ว่า กลุ่มประเทศนอร์ดิกให้คำมั่นกระชับความร่วมมือทางทหารในประกาศซึ่งอ้างรัสเซียเป็นปัญหาใหญ่ต่อความมั่นคงของยุโรป

    โดยบรรดารมว.กลาโหมนอร์เวย์,สวีเดน,เดนมาร์กและรมว.ต่างประเทศไอซ์แลนด์กับฟินแลนด์ เปิดเผยว่า พวกเขาได้เพิ่มความร่วมมือทางทหารเพื่อรับมือต่อการท้าทายสถานการณ์ความมั่นคงในยุโรปกรณีที่รัสเซียเข้าไปเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครนและการเคลื่อนไหวในภูมิภาคบอลติกมากขึ้นของกองทัพรัสเซีย ซึ่งการกระทำของรัสเซียถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อความมั่นคงของยุโรป

    กลุ่มประเทศนอร์ดิกรายงานว่า กองทัพรัสเซียเข้ามาเคลื่อนไหวในภูมิภาคบอลติกมากขึ้นเมื่อปีที่แล้ว รวมทั้งการละเมิดน่านฟ้าหลายครั้งและเครื่องบินรบได้บินเข้ามาโดยไม่แจ้งให้ทราบ ทำให้กลุ่มประเทศนอร์ดิกต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับเหตุการณ์หรือวิกฤตที่เป็นไปได้ และเห็นว่าเหล่าผู้นำรัสเซียเตรียมใช้ช่องทางด้านการทหารเพื่อหวังบรรลุผลทางการเมือง

    สำหรับการเพิ่มความร่วมมือระหว่างกลุ่มประเทศนอร์ดิกจะรวมทั้งการร่วมซ้อมรบและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและกระชับสัมพันธ์อุตสาหกรรมทางทหาร

    กลุ่มประเทศนอร์ดิกกระชับร่วมมือทางทหารกรณีรัสเซีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบเหตุ'สูญพันธุ์ครั้งใหญ่'เมื่อ500ล้านปีก่อนแล้ว

    [​IMG]

    ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มหาศาล ที่พวยพุ่งออกจากภูเขาไฟในไซบีเรียจากการระเบิดครั้งใหญ่เมื่อราว 500 ล้านปีก่อน เป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลกว่าร้อยละ 90 และสัตว์บกราว 2 ใน 3 สูญหายไปจากโลก

    วันศุกร์ 10 เมษายน 2558 เวลา 05:56 น.
    สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่า วารสารวิทยาศาสตร์ "ไซแอนซ์" ฉบับล่าสุด เผยแพร่ผลงานของทีมนักวิจัยนำโดยราเชล วู้ด นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเอดินบะระในสกอตแลนด์ ในการค้นพบสิ่งที่อาจเป็นสาเหตุของการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ซึ่งนับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์โลก จากการศึกษาตัวอย่างหินในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เคยเป็นพื้นมหาสมุทรในช่วงเวลานั้น เผยให้เห็นหลักฐานที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงของมหาสมุทร ในช่วงสิ้นสุดยุคเพอร์เมียน ซึ่งเกิดการแปรสภาพเป็นกรดอย่างรุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ทะเล

    นักวิจัยพุ่งเป้าไปที่การระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาในแถบไซบีเรีย ทางตอนเหนือของรัสเซีย เมื่อราว 500 ล้านปีก่อน ที่ดำเนินต่อเนื่องนานราว 1 ล้านปี เชื่อมต่อระหว่างยุคเพอร์เมียนและยุคไทรแอสซิก ทำให้เกิดการก่อตัวของผืนแผ่นดินจากหินภูเขาไฟ โดยการระเบิดครั้งนั้นยังปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จำนวนมหาศาลออกมา และส่งผลกระทบต่อสรรพสิ่งมีชีวิตทั้งบนบกและในทะเล

    ตลอดช่วงระยะเวลาหนึ่ง การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เอาไว้ปริมาณมาก ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์ประกอบทางเคมีของมหาสมุทร และกลายสภาพเป็นกรดอย่างรุนแรงเมื่อราว 252 ล้านปีก่อน ทำให้สัตว์ทะเลกว่าร้อยละ 90 สูญพันธุ์ไป โดยหนึ่งในนั้นคือไทรโลไบต์และแมงป่องทะเล ขณะที่สิ่งมีชีวิตบนบกต้องเผชิญกับสภาวะโลกร้อนและสภาพอากาศแห้งแล้ง ราว 2 ใน 3 ของสัตว์บกต้องสูญพันธุ์ รวมถึงสัตว์เลื้อยคลานคล้ายสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีศักยภาพสูงกว่าในระบบนิเวศน์ช่วงเวลานั้น มีเพียงบางสายพันธุ์ที่อยู่รอด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือบรรพบุรุษของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมยุคใหม่ รวมถึงมนุษย์ด้วย โดยการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่นี้กินระยะเวลายาวนานกว่า 60,000 ปี และยังเป็นการปูทางไปสู่กำเนิดของไดโนเสาร์ในอีกราว 20 ล้านปีต่อมา

    วู้ด กล่าวว่า การค้นพบนี้มีความสำคัญมาก เพราะเชื่อว่ามหาสมุทรในปัจจุบัน กำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่สภาพการเป็นกรดที่คล้ายกับช่วงเวลานั้น ซึ่งการค้นพบครั้งนี้จะทำให้เราเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น ของภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นตามมาต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล โดยก่อนหน้านี้มีการสันนิษฐานมากมายถึงสาเหตุที่แท้จริง รวมถึงการแปรสภาพเป็นกรดของมหาสมุทรด้วย แต่ที่ผ่านมายังไม่มีหลักฐานที่สามารถเชื่อมโยงได้.

    พบเหตุ'สูญพันธุ์ครั้งใหญ่'เมื่อ500ล้านปีก่อนแล้ว | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัฐฟลอริดา 'เมืองหลวงโจร' ของสหรัฐ

    [​IMG]

    รายงานของรัฐบาลสหรัฐระบุ รัฐฟลอริดาเป็นรัฐที่มีอัตราการเกิดคดีลักทรัพย์สูงที่สุดในประเทศ

    วันศุกร์ 10 เมษายน 2558 เวลา 07:48 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ว่าคณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลสหรัฐออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี อ้างข้อมูลสถิติการเกิดคดีอาชญากรรมซึ่งรวบรวมโดยกระทรวงยุติธรรม พบว่ารัฐฟลอริดามีอัตราเกิดการลักทรัพย์สูงที่สุดในประเทศ ระหว่างปี 2556-2557 โดยสถิติการได้รับแจ้งเหตุอยู่ที่ 186.3 ครั้ง ต่อจำนวนประชากร 100,000 คน

    ขณะที่หากจำแนกออกเป็นเมือง ปรากฏว่าเมืองไมอามีมีสถิติการเกิดเหตุสูงที่สุด ด้วยอัตราการได้รับแจ้งเหตุ 316.2 ครั้ง ต่อจำนวนประชากร 100,000 คน รายงานระบุด้วยว่า เมื่อไม่นานมานี้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัย 42 คน กระทำความผิดต่างวาระกันใน 25 ข้อหา ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับการจารกรรมข้อมูลส่วนตัวของประชาชน "หลายหมื่นรายการ" สร้างความเสียหายให้กับบุคคลและหน่วยงานรัฐหลายล้านดอลลาร์สหรัฐ

    ด้านกระทรวงยุติรรมรายงานเพิ่มเติมเรื่องการตั้งหน่วยงานพิเศษปราบปรามการฉ้อโกงเมื่อปี 2555 ซึ่งสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้แล้ว 359 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 314 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 10,362 ล้านบาท )

    รัฐฟลอริดา 'เมืองหลวงโจร' ของสหรัฐ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'อังกฤษ'บุญมี-กรรมบัง พบน้ำมันแต่สูบใช้ยาก!

    [​IMG]

    "เมืองผู้ดี" บุญมีแต่กรรมบัง ค้นพบน้ำมันดิบมหาศาลถึง 1 แสนล้านบาร์เรล ในบ่อบนดินใกล้สนามบินแกตวิก ทางภาคใต้ แต่อาจสูบมาใช้สอยได้เพียงแค่ 3-15 % เพราะผืนดินเป็นหินแข็ง อยากซึมผ่าน

    วันศุกร์ 10 เมษายน 2558 เวลา 06:35 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่า ยูเค ออยล์ แอนด์ ก๊าซ อินเวสต์เมนต์ส (มหาชน) บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ เผยการค้นพบน้ำมันดิบ ในบ่อบนดินบริเวณใกล้ท่าอากาศยานนานาชาติแกตวิก ทางภาคใต้ของประเทศ และห่างจากใจกลางกรุงลอนดอนไปทางใต้ประมาณ 47.5 กิโลเมตร มีปริมาณมากกว่าที่เคยคิด โดยการวิเคราะห์ตัวอย่างจากการขุดสำรวจหลุมใหม่ในแอ่งวีลด์ บ่งชี้ว่า ในพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำมันดิบราว 158 ล้านบาร์เรลต่อตารางไมล์ ซึ่งหมายถึงในพื้นที่ทั้งหมด อาจมีปริมาณน้ำมันดิบถึง 100,000 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่เคยประเมินก่อนหน้านี้กว่า 10 เท่า และมากมหาศาลเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำมันดิบประมาณ 42,000 ล้านบาร์เรล ที่อังกฤษสูบขึ้นจากทะเลเหนือ ในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา

    นายสตีเฟน แซนเอร์สัน ซีอีโอ บริษัทยูเค ออยล์ แอนด์ ก๊าซ อินเวสต์เมนต์ กล่าวว่า บริษัททำการขุดเจาะแอ่งวีลด์มาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1930 แต่ด้วย "แนวคิด วิธีการและเทคโนโลยี" สมัยใหม่ ทำให้บริษัทมีความเข้าใจต่อศักยภาพของพื้นที่มากกว่าเดิม และเมื่อเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว วารสารบริติช จีโอโลจิคอล เซอร์เวย์ รายงานว่าชั้นหินน้ำมันของแอ่งวีลด์ มีน้ำมันดิบอยู่ประมาณ 8,800 ล้านบาร์เรล แซนเดอร์สัน กล่าวอีกว่า การประเมินจากสำรวจครั้งใหม่ ทำให้พื้นที่นี้กลายเป็นแหล่งน้ำมันดิบระดับโลกแห่งใหม่

    อย่างไรก็ตาม นายอลาสแตร์ เฟรเซอร์ อาจารย์ประจำภาควิชาธรณีศาสตร์ปิโตรเลียม แห่งอิมพีเรียล คอลเลจ กรุงลอนดอน อดีตเคยทำงานบริษัทน้ำมัน บีพี ของอังกฤษนาน 30 ปี กล่าวเตือนว่า ลักษณะทางธรณีวิทยาของพื้นที่ "ไม่เป็นใจอย่างมาก" แม้น้ำมันดิบอาจจะมีมากมหาศาล แต่ยากลำบากมากที่จะนำมันขึ้นมาจากใต้ผืนดิน เนื่องจากหินแข็งแกร่งอย่างยิ่ง และไม่สามารถซึมผ่านได้ ซึ่งประเด็นนี้นายแซนเดอร์สันเองก็ยอมรับว่า เป็นความจริง โดยจากการคิดคำนวณทางด้านเทคนิกคาดว่า จะสามารถสูบน้ำมันขึ้นมาใช้สอยได้เพียงแค่ร้อยละ 3-15 เท่านั้น.

    'อังกฤษ'บุญมี-กรรมบัง พบน้ำมันแต่สูบใช้ยาก! | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐ-จีนเปิด 'สงครามน้ำลาย' รอบใหม่เรื่องทะเลจีนใต้

    [​IMG]

    รัฐบาลสหรัฐกล่าวหารัฐบาลจีนใช้อิทธิพลกดขี่ประเทศขนาดเล็กกว่า เพื่ออ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ ขณะที่รัฐบาลปักกิ่งชี้แจงโครงการถมพื้นที่ในทะเลพิพาท เพื่อช่วยเหลือเรือประมง และเพื่อ "เป้าหมาย" ด้านกลาโหม

    วันศุกร์ 10 เมษายน 2558 เวลา 08:58 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงคิงส์ตัน ประเทศจาเมกา เมื่อวันที่ 9 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ แถลงนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศในแถบทะเลแคริบเบียน หรือ "แคริคอม" เมื่อวันพฤหัสบดี แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ในทะเลจีนใต้ ว่ารัฐบาลปักกิ่งกำลังใช้อิทธิพลกดขี่ให้บรรดาประเทศคู่กรณีตกอยู่ในสถานะที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะกับเวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งผู้นำสหรัฐกล่าวเป็นนัยว่า การที่ทั้งสองประเทศมีขนาดเล็กกว่า และไม่มีศักยภาพในหลายด้านทัดเทียมจีน ไม่ได้หมายความว่า ประเทศขนาดเล็กเหล่านี้จะไม่สามารถ "ตอบโต้" ได้

    อย่างไรก็ตาม โอบามากล่าวว่า การแก้ไขกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้ไม่สมควรใช้วิธีข่มขู่ ผ่านการแสดงอิทธิพลว่าฝ่ายใดเหนือกว่า ในมุมมองของสหรัฐเชื่อว่า วิธีทางการทูตสามารถคลี่คลายปัญหาและข้อขัดแย้งที่ยืดเยื้อนี้ได้ ขณะที่นายเจฟฟรีย์ ราธเค โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ แถลงในวันเดียวกันที่กรุงวอชิงตัน ว่าการที่รัฐบาลจีนยังคงเดินหน้าถมพื้นที่ในทะเลพิพาทจะยิ่งเป็นการเพิ่มความตึงเครียดให้กับบรรยากาศของความสัมพันธ์กับประเทศคู่กรณี

    ด้านน.ส.หัว เจิ้นอิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวยืนยันว่า โครงการถมพื้นที่ส่วนหนึ่งในทะเลจีนใต้ มีจุดประสงค์สำคัญคือเพื่อก่อสร้างสถานที่พักพิงและหลบภัยชั่วคราว รวมถึงศูนย์การแพทย์เคลื่อนที่ สำหรับให้ความช่วยเหลือกับเรือประมงในบริเวณนั้น ให้รอดพ้นจากอันตรายและความเสียหายอื่นที่อาจเกิดจากพายุ และเพื่อ "เป้าหมาย" ทางทหาร โดยปฏิเสธลงลึกในรายละเอียด

    สหรัฐ-จีนเปิด 'สงครามน้ำลาย' รอบใหม่เรื่องทะเลจีนใต้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...