ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บอสใหญ่ IMF ชี้ ศก.อินเดียจะเติบโต “แซงหน้าจีน” ภายในปี 2030
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2558 10:45 น. (แก้ไขล่าสุด 17 มีนาคม 2558 11:28 น.)

    [​IMG]

    @กริสตีน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คริสติน ลาการ์ด กรรมการผู้จัดการใหญ่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เผยในวันจันทร์ (16 มี.ค.) ระบุ เศรษฐกิจอินเดียจะมีการเติบโตและขยายตัวต่อเนื่องจนมีขนาดใหญ่กว่าเศรษฐกิจของทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนีรวมกันภายในช่วงสิ้นทศวรรษนี้ ก่อนที่อินเดียจะขยับ “แซงหน้าจีน” ได้ภายในปี 2030 หรือในอีก 15 ปีข้างหน้า

    กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟระบุว่า เศรษฐกิจของอินเดียในเวลานี้ เปรียบเหมือนเป็น “แสงสว่างจุดเล็กๆ”ที่ปรากฏขึ้นท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก พร้อมชี้ ประชากรส่วนใหญ่ของอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มคนหนุ่มสาวที่มีการศึกษาดี และความก้าวหน้าในการปฏิรูปเศรษฐกิจในระดับโครงสร้าง จะเป็นสองปัจจัยสำคัญ ที่จะช่วยให้เศรษฐกิจอินเดีย “พุ่งทะยาน” ได้ในไม่กี่ปีจากนี้

    ลาการ์ดระบุว่า ทางผู้เชี่ยวชาญของไอเอ็มเอฟได้ปรับเป้าคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจอินเดียใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยระบุ เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตได้ราว 7.2 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ และการเติบโตจะเพิ่มขึ้นเป็น 7.5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2016

    ขณะเดียวกัน บอสใหญ่ไอเอ็มเอฟยังเผยว่า มีความเป็นไปได้สูงมากที่จีดีพีของอินเดียจะเติบโตจนมีขนาดใหญ่กว่าจีดีพีของทั้งญี่ปุ่นและเยอรมนีรวมกันภายในช่วงสิ้นทศวรรษนี้ หรือภายในปี 2019

    ยิ่งไปกว่านั้น กรรมการผู้จัดการใหญ่ไอเอ็มเอฟยังประเมินว่าอินเดียมีศักยภาพมากพอที่จะก้าว “แซงหน้าจีน” ขึ้นเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีขนาดของเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกได้ภายในปี 2030 หรือในอีก 15 ปีข้างหน้า พ่วงด้วยตำแหน่งประเทศที่มีประชากรมากที่สุด และมีทรัพยากรด้านแรงงานกลุ่มใหญ่ที่สุดของโลกด้วยเช่นกัน

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000031028
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    มันได้ผล! สหรัฐฯตัดอิหร่านและฮิชบอลเลาะห์ออกจากรายชื่อผู้ก่อการร้าย

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รายงานประจำปีที่ส่งถึงวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯโดยผู้อำนวยการฝ่ายข่าวกรองแห่งชาติ James R. Clapper ได้ตัดประเทศอิหร่านและกลุ่มฮิชบอลเลาะห์ออกจากรายชื่อภัยคุกคามจากการก่อการร้ายแล้ว (terrorist threats) การที่สหรัฐฯยอมเปลี่ยนใจไม่กำหนดให้อิหร่านและกลุ่มฮิชบอลเลาะห์เป็นภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายอีกต่อไปก็เนื่องมาจากเห็นว่าทั้งสองกลุ่มได้ให้ความร่วมมือในการปราบปรามกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสในประเทศอิรัคนั่นเอง ทั้งนี้อิหร่านและกลุ่มฮิชบอลเลาะห์ถูกสหรัฐฯขึ้นบัญชีดำว่าเป็นภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายตั้งแต่ปีที่แล้ว (2557) อันเนื่องมาจากเข้าไปเกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองในซีเรียซึ่งทางสหรัฐฯและชาติพันธมิตรถือว่าเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อตนเอง
    แต่รายงานดังกล่าวที่ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2558 ได้เน้นไปที่กลุ่มไอซิสว่าเป็นภัยคุกคามขั้นร้ายที่สุด (extremist threat) ต่อแผ่นดินของอเมริกา
    แม้ว่าจะถูกถอดชื่อออกจากการเป็นภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายแล้ว ทั้งอิหร่านและฮิชบอลเลาะห์ก็ยังยืนยันว่าจะให้การสนับสนุนกับกรุงแบกแดดและกรุงดามัสกัส ทั้งทางด้านอาวุธ ที่ปรึกษา การเงิน และกองกำลังต่อสู้ ส่วนทางอิสลาเอลบอกว่าบทบาทของอิหร่านในการต่อสู้กับพวกไอซิสในพื้นที่นั้นส่งผลให้การประเมินภัยคุกคามของประเทศอ่อนแอลง
    แม้อิหร่านจะไม่ถูกกำหนดให้อยู่ในรายชื่อภัยคุกคามด้านการก่อการร้ายแล้ว แต่ก็มารายชื่อติดอยู่ในกลุ่มประเทศที่สหรัฐฯถือว่าเป็นภัยคุกคามด้านอื่นๆอีก (threats) เช่นด้านไซเบอร์ ภูมิภาค อาวุธที่มีอำนาจทำลายล้างสูง และรายงานนี้ก็ยังบอกอีกว่าการดำเนินนโยบายของอิหร่านอาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งทางด้านเชื้อเพลิงในภูมิภาคและการแบ่งแยกนิกายในกลุ่มประเทศที่สนับสนุนนิกายชีอะห์ก็ได้
    การดำเนินนโยบายปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิสโดยรัฐบาลอิหร่านได้ส่งกองกำลังของตนเองเข้าช่วยเหลืออิรัคนั้นถือว่าได้ผลเกินคาด นอกจากจะไล่พวกไอซิสให้ถอยร่นไปใกล้จะถึงพรมแดนตุรกีได้แล้วยังไม่ต้องกลายเป็นผู้ก่อการร้ายในสายตาสหรัฐฯและตะวันตกอีกต่อไป ฮิชบอลเลาะห์ก็ได้ความดีความชอบอันนี้ด้วย ส่วนที่ยังปรากฎอยู่ในรายชื่อเป็นภัยคุกคามด้านอื่นต่อสหรัฐฯนั้น มันเป็นเรื่องปรกติของรัฐบาลสหรัฐฯอยู่แล้ว ประเทศไหนที่กำลังจะก้าวขึ้นมาเทียบชั้นหรือแซงหน้าอเมริกา อเมริกาก็จะหาข้ออ้างสารพัดตั้งข้อหาให้ได้เสมอนั่นแหละ ไม่ใช่เฉพาะอิหร่านหรอก อย่างเช่นภัยคุกคามในภูมิภาคนั้นมีดังนี้...
    1.) ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ : อิรัค ซีเรีย รัฐอิสลามของอิรัคและลิแวนต์ อิหร่าน ลิเบีย เยเมน เลบานอน อียิปปต์ ตูนีเซีย
    2.) ยุโรป : ตุรกี และผู้มีส่วนร่วมหลัก (ไม่ระบุว่าเป็นใครบอกแต่ว่า "Key Partners")
    3.) รัสเซีย และ ยูเรเซีย : รัสเซีย ยูเครน มอลโดวา เบลารุส คอเคซัส และเอเซียกลาง (อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน คาซัคสถาน)
    4.) เอเซียตะวันออก : จีน เกาหลีเหนือ
    5.) เอเซียใต้ : อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย
    6.) กลุ่มประเทศในซาฮารา แอฟริกา : แอฟริกาตะวันตก ซูดาน ซูดานใต้ ไนจีเรีย โซมาเลีย กองกำลังต่อต้านของพระผู้เป็นเจ้า (Lord’s Resistance Army พวกนี้เป็นพวกคริสต์สุดโต่งเคลื่อนไหวอยู่แถวอูกานดาและซูดานใต้) สาธารณรัฐแอฟริกากลาง และกลุ่มซาเฮล (The Sahel)
    7.) แถบลาตินอเมริกาและคาบสมุทรคาริบเบียน : คิวบา อเมริกากลาง (เบลีซ คอสตาริกา เอลซัลวาดอร์ กัวเตมาลา ฮอนดูรัส นิการากัว ปานามา) เวเนซูเอล่า เฮติ (Haiti)
    น่าสังเกตว่ากลุ่มประเทศอียูนี่อเมริกาจะไม่กล้าแตะเลยนะ นี่คือสาเหตุหนึ่งที่เขารวมตัวกันเพราะต้องการให้ตัวเองมีอำนาจในการต่อรองกับมหาอำนาจอย่างอเมริกาได้ ไม่งั้นคงจะโดนแบล็คลิสต์ไปหลายประเทศแล้วโดยเฉพาะพวกบอลติกที่มีนาซีออกมาเดินขบวนด้วย ส่วนที่ใส่ยูเครนเข้าไปด้วยก็คงมุ่งไปที่พวกนิยมรัสเซียในภูมิภาคดอนบาสส์นั่นแหละ ส่วนพวก Neo Nazi Azov, Right Sector, Tryzub ที่อยู่ในยูเครนและมีที่นั่งในสภานั้นเป็นพวกเดียวกันกับอเมริกาอยู่แล้ว
    The Eyes
    17/03/2558
    -----------
    Iran Scrapped from US Terrorism Threat List, Praised for Fighting ISIL / Sputnik International
    http://www.dni.gov/…/Unclassified_2015_ATA_SFR_-_SASC_FINAL…
    http://www.timesofisrael.com/us-report-scraps-iran-hezbol…/…
    http://www.mrctv.org/…/iran-hezbollah-removed-us-list-terro…
    http://www.newsweek.com/iran-and-hezbollah-omitted-us-terro…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ผู้นำเยอรมันกล่าวว่าอียูไม่ต้องการแซงชั่นรัสเซีย สหรัฐฯได้ยินหรือเปล่า?

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อวานนี้ (16 มี.ค.58) สำนักข่าวต่างประเทศของรัสเซียรายงานว่านางอังเกลา แมร์เคิล (Angela Merkel) นายกรัฐมนตรีของเยอรมันนีได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อฯหลังจากที่คุยกับประธานาธิบดีเปโตร โปโรเชนโก ของยูเครนในกรุงเบอร์ลินว่า "แน่นอนพวกเราพร้อมสำหรับการทำแซงชั่งรอบใหม่หากจำเป็นจนถึงที่สุด แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายในตัวมันเอง เราไม่ต้องการอย่างนั้น" ก็แสดงว่าจะไม่แซงชั่นแล้ว ซึ่งก็ไปในทิศทางเดียวกันกับฝรั่งเศส ถ้าสองมหาอำนาจนี้จับมือกันแล้วใครในอียูจะกล้าเถียงอีกหละ
    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาทางนาย Sebastian Kurz รมว.ต่างประเทศของออสเตรีย ก็ออกมากล่าวว่าเขาไม่สนับสนุนการต่ออายุแซงชั่นรัสเซียอีกครั้ง แต่ก็ทิ้งท้ายว่าก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในยูเครน (ตะวันออก) ผู้นำอียูจะถกกันเกี่ยวกับการต่ออายุแซงชั่นรัสเซียอีกรอบหรือไม่ในวันที่ 19-20 มีนาคม 2558 ที่จะถึงนี้
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานาย Donald Tusk ประธานสภายุโรปได้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ New York Times ของสหรัฐฯว่า "ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะให้สมาชิกของอียูทั้งหมดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการลงออกเสียงแซงชั่นรัสเซียอีกรอบเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน (เสียงแตกว่างั้นเถอะ) แต่นักการเมืองในยุโรปเชื่อว่ามีโอกาสในการแสดงออกซึ่งเจตนาที่ดีจากรัสเซีย (พูดเพื่อเอาใจสหรัฐฯและพวกที่ไม่ชอบรัสเซีย โดยหวังว่ารัสเซียคงจะไม่ใช้มาตรการที่รุนแรงกับยูเครนอีก) เชื่อว่ามอสโคว์อาจจะพยายามก่อให้เกิดีรอยร้าวระหว่างผู้นำอียู ในกรณีนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะปกป้องสหภาพยุโรป" อันหลังนี้เหมือนจะเอียงไปทางสหรัฐฯกับยูเครนและฝ่ายที่ต้องการจะสร้างกองทัพอียูเพื่อขู่รัสเซียนะ
    ส่วนนาย Vladimir Chizhov ทูตรัสเซียประจำยูเอ็นออกมาเย้ยอียูเมื่อวันจันทร์นี้ว่า อียูล้มเหลวในการคำนวณอันตรายทั้งหมดในการแซงชั่นรัสเซีย เนื่องจากอียูยังไม่ได้กำหนดยุทธศาสตร์ขั้นพื้นฐานในการแซงชั่นรัสเซียในระยะยาวเอาไว้เลย ตอนนี้สมาชิกอียูหลายประเทศออกมาแสดงความคิดไม่เห็นด้วยกับการแซงชั่นรัสเซียอีกต่อไป (เพราะอียูเองก็กำลังจะแห้งตายอยู่แล้ว)
    นอกจากนี้แล้วทูตรัสเซียฯ ยังกล่าวถึงกรณีข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของปูตินอีกว่า พวกตะวันตกพากันกุข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำรัสเซียขึ้นมาก็เพื่อกระตุ้นการแซงชั่นรัสเซียนั่นเอง โอ๊ะ! … โอ… มุกนี้รัสเซียเขารู้ทันแต่แรกแล้วอ่ะ เสียใจด้วยนะจ๊ะขาลือทั้งหลาย จากนั้นฝ่ายโฆษกของปูตินก็บอกกับสื่อฯว่าจะไม่ตอบคำถามเกี่ยวกับสุขภาพของปูตินอีกต่อไป เพราะยิ่งพูดก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นข่าวลือใหม่ๆออกเรื่อยๆ
    งานนี้สื่อฯฝั่งรัสเซียเอาคืนบ้างหลังจากที่เก็บเงียบมาพักหนึ่งเพื่อดูทิศทางของข่าวลือจากฝั่งตะวันตก แล้วเย้ยกลับแบบเจ็บๆว่า "ปูตินกลับมาแล้ว เอ…หรือว่าจริงๆแล้วเขาไม่ได้ไหนเลยนะ? สื่อฯตะวันตกต่างก็พากันซุบซิบเกี่ยวกับการหายตัวไปของปูติน โหมไฟด้วยทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนาๆ เริ่มจากสุขภาพแย่ ถูกรัฐประหารยึดอำนาจ และเอเลี่ยนลักพาตัว ซึ่งในขณะเดียวกันนั้นทั่วโลกเต็มไปด้วยไอซิส อีโบล่า ความขัดแย้งในยูเครน และเรื่องอื่นๆอีกมากมายกว่า "การไม่ปรากฎตัว" (disappearance) ของปูติน" ขนาดนั้นก็ยังไม่วายจะมีคนขี้สงสัยมาตั้งคำถามอีกนะว่า เอ๊ะ… ที่ออกทีวีนั้นใช่ปูตินตัวจริงหรือเปล่า? อุบ๊ะ!…. สงสัยพวกนี้อินกับหนังสายลับมากไปอ่ะ
    มาฟังทางยูเครนบ้าง เมื่อวานนี้หลังจากที่โปโรเชนโก้คุยกับแมร์เกิลที่เบอร์ลินแล้ว ไม่รู้แกคิดอะไรอยู่ จู่ๆก็บอกกับนักข่าวว่าขอให้ประเทศต่างๆในตะวันตกบอยคอตต์การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 21 ในปี 2561 (21th FIFA World Cup 2018) ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพ โดยกล่าวว่ากรุงมอสโควไม่มีสิทธิ์ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานกีฬาขนาดใหญ่อย่างนี้ และยังกล่าวแบบดำดินอีกว่า "พวกเขาพูดกันว่าฟุตบอลไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง และหนึ่งควรแยกเป็นสอง แต่เรื่องนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?" เดี๋ยวจะหาว่าผมแปลมั่วเอาคำพูดของหมอนี่มาให้ดูซะเลย "They say that football has nothing to do with politics and one should separate the two. But how is this possible?" ผู้เขียนอ่านแล้วอ่านอีก ประโยคแรกก็เข้าใจอยู่หรอกนะที่ว่าฟุตบอลไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมืองหนะ แต่ประโยคหลังนี่เขาพูดอะไรของเขาอ่ะ? ก็พอจะรู้อีกนั่นแหละว่าเขาพยายามจะหมายถึงการแบ่งแยกดินแดนในยูเครนตะวันออก แต่มันเกี่ยวอะไรกับฟุตบอล กับการแบ่งแยก เพราะฟุตบอลก็มีสองฝ่ายอยู่แล้วนี่ แยกกันเป็นสองฝ่ายอย่างทีมฟุตบอลก็ถูกแล้วไม่ใช่รึ? ถ้ามีทีมเดียวแล้วจะแข่งกับใครอ่ะ?
    โปโรเชนโก้ผู้ไม่อยากเห็นสันติภาพในยูเครนกล่าวว่า "ความจริงก็คือว่าข้อตกลงในการเจรจากันนั้นมันไม่ได้ผล สำหรับพวกเราแล้ว ข้อตกลงกรุงมินส์กคือความหวัง แต่ไม่ใช่ความจริง พวกเขาบอกว่าพวกเขาได้ถอนอาวุธออกไปแล้ว แต่พวกเขาไม่ให้หน่วย OSCE เข้าไปควบคุม" มันมั่วมากเลยนะหมอนี่ ตอนแรกบอกว่าไม่ได้ผลพูดแทน OSCE ฝ่ายตรวจสอบเลยนะ ซึ่งทาง OSCE ยังไม่เคยออกมาพูดอย่างนั้นซักครั้งเลย และมีตรงไหนในข้อตกลงที่บอกว่าให้ OSCE เข้าไปควบคุมอาวุธของฝั่ง DPR กับ LPR บ้างหละ ถามกลับบ้างนะ แล้วคุณโปโรเชนโก้ให้ OSCE เข้าความคุมอาวุธของฝั่งยูเครนหมดแล้วหรือยัง? ยิ่งฟังหมอนี่พูด ก็ยิ่งเลอะขึ้นทุกวัน ที่แกต้องการก็คือแซงชั่น และอาวุธหนัก แถมเงินกู้ IMF และยอดขายคุ๊กกี้กับช็อคโกแลตของแกเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง
    ยังไม่หยุดแค่นี้ โปโรเชนโก้ยังเดินแผนกองกำลังรักษาสันติภาพในยูเครนตะวันออกต่ออีกครั้ง หลังจากที่ถูกรัสเซียปฏิเสธแผนนี้มาแล้วครั้งหนึ่งในยูเอ็น (เคยเล่าให้ฟังแล้ว) คราวนี้มาใหม่อีกรอบ โดยโปโรเชนโก้ได้เสนอโครงการกองกำลังรักษาสันติภาพนานาชาติต่อสภายูเครนเพื่อให้สภาฯส่งต่อไปยังสภาความมั่นคงของยูเอ็นและสภาของยุโรป โปโรเชนโกคงจะลืมกรณีของ "อับฮาเซีย" (Abkhazia) ที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจอร์เจียไปแล้วหละมั๊ง ตอนนี้แยกตัวออกมาปกครองตนเองเป็นสาธารณรัฐปกครองตนเองอับฮาเซีย ที่มีกองทัพของรัสเซียเข้าไปช่วยทำหน้าที่ด้านป้องกันประเทศให้ เพื่อกันไม่ให้กองกำลังของจอร์แดนหรือนาโต้เข้ามายึดคืนหนะ ก่อนนี้จอร์แดนก็ขอให้กองกำลังรักษาสันติภาพ (peacekeepers) จากยูเอ็นเข้ามาช่วยอย่างนี้แลหะ ผลสุดท้ายเข้าทางรัสเซียอีก เพราะทหารส่วนมากที่มาทำหน้าที่เป็นกองกำลังรักษาสันติภาพมาจากฝั่งรัสเซียแทบทั้งนั้น ทำให้จอร์เจียถึงกับอ้าปากหวอมาจนทุกวันนี้ (เคยเล่าฟังหนหนึ่งแล้วเมื่อเร็วๆนี้เอง หากผู้ใดสนใจก็สามารถค้นหาอ่านย้อนหลังได้)
    ต่อกรณีที่มีการเสนอให้มีปฏิบัติการกองกำลังรักษาสันติภาพโดยยูเครนเข้ามาประจำการในยูเครนตะวันออกนั้น ก่อนหน้านี้ก็มีคนออกมาตั้งคำถามว่า แล้ว OSCE ที่ทำหน้าที่อยู่นี้หละจะเอาไปไว้ตรงไหน ยูเครนก็ตอบไม่ได้ ทางรัสเซียก็เสนอให้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ OSCE เข้าไปอีกซึ่งทางอียูก็เห็นด้วยและได้เพิ่มไปแล้วเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง คราวนี้ทางรัสเซียก็ออกมาตอบโต้ฝั่งยูเครนทันทีเลยว่า รัสเซียพร้อมที่จะถกเรื่องนี้กับทางยูเอ็น แต่ว่าการเคลื่อนกองกำลังรักษาสันติภาพเข้ามาในยูเครนตะวันออกนั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือจากเคียฟและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภูมิภาคดอนบาสส์ (Donbass : Donetsk + Luhansk) งานนี้โปโรเชนโกจ๋อยอีก ยังไม่จบง่ายๆหรอก หมอนี่จะมีไอเดียอะไรแผลงๆออกมาเรื่อยอ่ะ
    ป.ล. ว่าจะพูดเรื่องเยอรมันไม่เห็นด้วยกับการแซงชั่นรัสเซีย ยาวมาถึงเรื่องฟุตบอลโลกครั้งที่ 21 และเรื่องยูเครนตะวันออกอีกแหละ พอดีกว่า เดี๋ยวจะเผลอพูดยาวไปถึงเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของยูเครนอีก
    The Eyes
    17/03/2558
    -----------
    West Ready But Unwilling to Impose New Sanctions on Russia – Merkel / Sputnik International
    Austria Opposes Immediate Extension of Anti-Russia Sanctions - FM / Sputnik International
    EU Unanimity on Anti-Russian Sanctions ‘Impossible’ - EU Council President / Sputnik International
    EU Fails to Plan Sanction Strategy Against Moscow - Russian Envoy / Sputnik International
    TASS: Russia - West cultivates rumours about Putin’s health to spur up sanctions — Russian EU ambassador
    TASS: Russia - No more comment on Putin’s health from Kremlin — spokesman
    Return of the Putin: Western Media Solves Mystery It Created / Sputnik International
    Return of the Putin: Western Media Solves Mystery It Created / Sputnik International
    Poroshenko Calls for Boycott of World Cup 2018 in Russia / Sputnik International
    TASS: Sports - FIFA calls boycott of sports events ineffective means to solve political problems
    Poroshenko Submits Int'l Peacekeeping Project to Ukrainian Parliament / Sputnik International
    http://rt.com/…/241065-russia-un-peacekeepers-ukraine-poin…/
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    อดีตทหารนาซีเดินขบวนประจำปีครบรอบ 70 ปีสงครามโลกครั้งที่สองในเมืองรีก้า ประเทศลัตเวีย

    [​IMG]

    ---------------
    วันที่ 16 มีนาคม ของทุกปี พวกทหารผ่านศึกนิยมลัทธินาซี (Waffen-SS) จะออกเดินขบวนใหญ่ที่เมืองรีก้า (Riga) เมืองหลวงของประเทศลัตเวีย เพื่อเป็นการสรรเสริญลัทธินาซีของพวกเขา โดยการเดินขบวนนี้มุ่งหน้าไปที่อนุสาวรีย์เสรีภาพภายในเมืองรีก้า กองกำลังนาซีเยอรมันในลัตเวียได้ก่อตั้งขึ้นในปี 2486 (1943) และถูกสลายในปี 2488 (1945) พร้อมกับกองทัพนาซีหน่วยอื่นๆ โดยโซเวียต จากน้ันโซเวียตก็เข้าครอบครองลัตเวียและกำหนดให้ลัตเวียเป็นส่วนหนึ่งโซเวียตต่อจากนาซีเยอรมัน ต่อมาหลังจากที่ลัตเวียได้รับเอกราชในปี 2534 (1991) หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต พวกอดีตนาซีชาวลัตเวียก็จัดให้มีการเดินขบวนขึ้นมาเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2541 (1998)
    เมื่อต้นเดือนนี้นาย Dzintars Rasnacs รมว.ยุติธรรมของลัตเวียประกาศว่าเขาจะเข้าร่วมเดินขบวนในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นเกียริตแก่กองทัพลัตเวียในอดีตและความศรัทธาของพวกเขาในการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยลัตเวีย ส่วนประเทศยุโรปอื่นๆและสหรัฐฯไม่ พูดไม่จา ไม่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็นกับกรณีนี้ ยกเว้นเช็กที่ออกมาประณามว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจ แต่ก็มีบางคนที่ไม่เห็นด้วยกับพวกนาซีกลุ่มนี้ออกมาประท้วงด้วยการแต่งชุดป้องกันเชื้อโรคชูภาพอันโหดร้ายจากการกระทำของพวกนาซีในอดีต แต่นาซีกลุ่มนี้อ้างว่าพวกเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำเหล่านั้น เพราะพวกเขาสู้รบอยู่แนวหน้าในช่วงนั้น
    เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 58 ที่ผ่านมานาโต้นำโดยสหรัฐฯได้ขนพาหนะทางทหารและรถถังจำนวน 120 คันเข้าสู่ลัตเวียเพื่อปฏิบัติการซ้อมรบในคาบสมุทรบอลติกร่วมกับกลุ่มประเทศบอลติก (ลิธัวเนีย, ลัตเวีย, เอสโตเนีย) ใกล้ชายแดนรัสเซีย ต่อมาในวันที่ 14 มี.ค. 58 นาโต้และกองทัพลัตเวียซ้อมรบร่วมกันอีกที่ Adazi Training Area ในลัตเวีย แต่กรณีนี้สหรัฐฯไม่ปริปากซักคำว่าต้องปราบปรามลัทธินาซี แสดงว่าสหรัฐฯก็สนับสนุนนาซีเหล่านี้อยู่เช่นกันนะสิ?
    The Eyes
    17/03/2558
    --------------
    Riga Nazi vets parade ‘reinterpretation of history for political purposes’ — RT Op-Edge
    Riga Nazi vets parade ‘reinterpretation of history for political purposes’ — RT Op-Edge
    Hundreds of Waffen-SS veterans march in Riga, antifascists ‘sanitize’ square after them — RT News
    Glorification of Nazism on 70th Anniversary of WW2 ‘Abhorrent’ / Sputnik International
    History Turned Inside Out: Nazi Vets Annual March Held in Riga / Sputnik International
    German Right-Wing Party Co-Organizes Nazi Parade in Riga - Bundestag Member / Sputnik International
    Results of UN Vote on Anti-Nazi Resolution / Sputnik International
    Over 100 US armored vehicles roll into Latvia, NATO flexes muscles in Europe (VIDEO) — RT News
    Drill spree: NATO tanks arrive for military exercise in Estonia — RT News
    More NewSS From Latvia / Sputnik International
    https://www.youtube.com/watch?v=TCUfORLodOY
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    ปูตินปรากฎตัวสยบข่าวลือสารพัด สั่งซ้อมรบในอาร์คติก

    [​IMG]

    ---------------
    เมื่อเร็วๆนี้สื่อฯฝั่งตะวันตกต่างก็ช่วยกันโหมข่าวว่าปูตินหายตัวไปปริศนาไม่เห็นปรากฎเป็นข่าวมาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม แล้ว ลือกันสารพัด บ้างก็ว่าป่วยอย่างนั้นอย่างนี้ บ้างก็ว่าพึ่งได้ลูกชายกับแฟนสาวหลังจากที่หย่ากับอดีตภรรยาที่มีลูกด้วยกันสองคน แม้กระทั่งว่าถูกยึดอำนาจบ้าง ฝ่ายรัฐบาลของรัสเซียก็ออกมาโต้ปฏิเสธข่าวนั้นตลอด คนก็ยังไม่เชื่ออีก เพราะชอบเสพข่าวลือ พวกสื่อฯในเครือของอเมริกาและยุโรปก็เล่นข่าวนี้ไม่เลิก แต่ไม่เคยที่จะแวะเข้าไปดูการออกงานของปูตินจากเว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซียเลยว่าวันๆนั้นปูตินพบแขกบ้านแขกเมืองกับใครบ้าง เพียงเพราะเลื่อนการประชุมกับผู้นำของคาซัคสถานออกไปเท่านั้นก็สันนิษฐานกันไปต่างๆนาๆ เราก็ดูข่าวอยู่เรื่อยๆ ก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดปรกติตรงไหน เช่น
    เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 58 ปูตินก็ให้สัมภาษณ์กับสถานทีโทรทัศน์ช่อง Rossiya-1 เปิดใจที่ตัดสินใจยึดไคร์เมียกลับมารวมกับรัสเซีย ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์ได้ทำเป็นสารคดีเพื่อออกอากาศทั่วประเทศเมื่อวานนี้เอง เพื่อเป็นการฉลองการผนวกไคร์เมียเข้ากับรัสเซียครบรอบ 1 ปี ชาวไคร์เมียก็ออกมาร่วมงานเฉลิงฉลองกันมากมายใหญ่โตอย่างสนุกสนาน
    จากนั้นวันที่ 13 มี.ค. 58 ปูตินก็พบกับผู้นำของเซาท์ออสซีเซีย (South Ossetia) ของภูมิภาคคอเคซัสส่วนหนึ่งของรัสเซีย
    วันนี้ (16 มี.ค. 58) ปูตินก็ออกมายืนยันว่าจะเข้าร่วมประชุมกับผู้นำของเบลารุส และคาซัคสถาน ที่กรุงอัศตานา (Astana) เมืองหลวงของประเทศคาซัคสถานในวันที่ 20 มี.ค.58 ที่จะถึงนี้ แสดงว่าที่เลื่อนการประชุมออกกับผู้นำคาซัคสถานออกไปวันก่อนนั้นก็เพื่อเปลี่ยนสถานที่ประชุมจากรัสเซียไปเป็นที่คาซัคสถานแทน ไม่เห็นแปลกตรงไหน
    วันนี้ปูตินก็สั่งให้ออกประกาศแจ้งให้ประชาชนทั้งประเทศทราบว่าจะมีการซ้อมรบที่ฐานทัพเรือทางเหนือของรัสเซีย (Northern Fleet) เป็นระยะเวลา 5 วันโดยเริ่มต้นในวันนี้ โดยปฏิบัติการซ้อมรบครั้งนี้มีกำลังพลและบุคคลากรทางกองทัพเข้าร่วมทั้งหมดถึง 38,000 คน ยุทโธปกรณ์จำนวน 3,360 ชิ้น (หมายถึงที่ใหญ่ๆมั๊ง) เรือรบจำนวน 45 ลำ, เรือดำน้ำจำนวน 15 ลำ และ เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์อีก 110 เครื่อง ซึ่งจะเป็นการซ้อมรบทั้งบนบก ทางน้ำ และอากาศ
    คำถาม ทำไมปูตินถึงสั่งให้มีการซ้อมรบที่ฐานทัพเรือแห่งนี้ และฐานนี้อยู่ตรงไหน? ฐานทัพเรือ Northern Fleet รับผิดชอบด้านการป้องกันประเทศอยู่ทางตอนเหนือของรัสเซียในคาบสมุทรอาร์คติกและแอ็ตแลนติก (Arctic and Atlantic Oceans) ซึ่งมีฐานใหญ่อยู่ที่ทะเลบาเรนท์และทะเลนอร์เว (Barents and Norwegian Seas) จัดตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 1937 ในยุคโซเวียต มีเรือดำน้ำมากกว่า 200 ลำ
    สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 มี.ค.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวของรัสเซียลงข่าวว่าทางแคนนาดาได้สั่งเพิ่มงบกลาโหมให้กับกองทัพที่รับผิดชอบในคาบสมุทรอาร์คติกเป็นจำนวนมาก เพื่อปกป้องผลประโยชน์เรื่องแหล่งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติ และมีเรือบรรทุกสิ่งของ (barge) ลำหนึ่งของบริษัท Northern Transport Company Ltd ที่เป็นเจ้าของโดยแคนนาดาและสหรัฐฯ ถูกพายุพัดออกจากทะเลโบฟอร์ต (Beaufort Sea) ในคาบสมุทรอาร์คติกไปติดในเขตของรัสเซีย ซึ่งอยู่ห่างจากชายฝั่งของรัสเซียแค่ 42 กม. ในพื้นที่ Chukotka ทางตะวันออกของรัสเซีย แน่นอนว่าตอนนี้อยู่ในการควบคุมของรัสเซียแล้ว รัสเซียจะคืนให้แคนนาดาหรือไม่นั้นก็เป็นสิทธิ์ของรัสเซีย เพราะเรือของแคนนาดาลอยมาเอง ที่แย่ก็คือแคนานาดันให้การสนับสนุนยูเครนด้วยกรณีวิกฤตยูเครนด้วยนี่สิ มันก็ยิ่งให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศตึงเครียดขึ้นมา
    ส่วนเรื่องข่าวลือจากตะวันตกเพื่อดิสเครดิตปูตินนั้นยังมีมาเรื่อยๆ ล่าสุดบอกว่าที่ปูตินหายไปนั้นเพราะว่าปวดหลัง อ้าวเปลี่ยนมุกใหม่อีกหละ ปูตินคงนึกในใจว่า ต่อไปพวกนั้นคงจะลงข่าวว่าปูตินปวดห้องน้ำหรือปูตินปวดอย่างอื่นด้วยแน่ๆเลย
    The Eyes
    16/03/2558
    -----------
    TASS: Russia - Putin explained why he decided to return Crimea to Russia
    TASS: Russia - Russia, South Ossetia leaders to sign 25-year alliance treaty next week
    TASS: Russia - Putin will meet leaders of Belarus, Kazakhstan in Astana on March 20
    Northern Fleet - Wikipedia, the free encyclopedia
    Freezing Cold War: Canada to Spend Billions on Arctic Military Gear / Sputnik International
    Canadians Fear Chilly Relations With Russia May Jinx Attempts to Get Barge / Sputnik International
    Canada to spend billions on Arctic military equipment - report — RT News
    Putin Orders Northern Fleet to Full Alert for Combat Readiness Drills / Sputnik International
    Russian, Belarusian, Kazakh Presidents to Meet in Astana March 20 / Sputnik International
    Documentary on Russia-Crimea Reunification to Hit the Screen / Sputnik International
    Meeting of Russian, Belarusian, Kazakh Leaders in Astana Postponed / Sputnik International
    http://sputniknews.com/analysis/20150316/1019533565.html
    http://rt.com/news/240921-us-masterminds-ukraine-putin/
    TASS: Russia - Putin says Crimea’s parliament was absolutely legitimate
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอกเปลือก ทรราช
    กลุ่มฮิซบุลลอฮ์ในเลบานอนส่งนักรบเข้าร่วมกองกำลังผสมของอิรัคต่อสู้ไอซิส

    [​IMG]

    ---------------
    สถานการณ์ในอิรัคเริ่มจะมันขึ้นมาอีกรอบ เมื่อวันที่ 13 ก.พ.58 ได้เสนอข่าวเกี่ยวกับกองกำลังผสมระหว่างอิหร่าน-อิรัค-เคิร์ด ร่วมกันต่อสู้ขับไล่พวกไอซิสที่เมืองติกริตได้สำเร็จ แต่ก็ถูกเครื่องบินรบสหรัฐฯแกล้งทิ้งระเบิดใส่ทำให้ทหารอิรัคเสียชีวิตไป 22 นาย แต่ทางสหรัฐฯปฏิเสธว่าไม่ใช่ฝีมือของตนเองโดยโยนความผิดไปให้อิรัคว่ายิงกันเอง บ้าสิ!... พูดไปได้
    จากนั้นก็มีความคืบหน้าเกี่ยวกับกองกำลังผสมในอิรัคเพิ่มเข้ามาอีกว่า อิหร่านได้ชวนให้กองกำลัง Hezbollah (ฮิซบอลเลาะห์ ฮิซบอลลาห์ หรือ เฮซบอลเลาะห์) จำนวน 800 นายเข้าร่วมกับกับกองกำลังผสมในอิรัคเพื่อปราบปรามพวกผู้ก่อการร้ายไอซิส แหล่งข่าวรายงานว่ากรุงเตหะรานได้ขอให้นาย Hassan Nasrallah ผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ช่วยส่งทหารมาสนับสนุนกองกำลังผสม และทางผู้นำของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ก็ได้รับปากแล้วด้วยว่าจะส่งกองกำลังระดับแนวหน้าชั้นสุดยอดจำนวน 800 นายเข้าร่วมภายในสองสัปดาห์นี้
    โดยนักรบฮิซบอลเลาะห์ชุดนี้จะตั้งกองกำลังอยู่ทางตอนเหนือของเมือง Samarra ของอิรัคเพื่อเข้าโจมตีกวาดล้างพวกไอซิสที่ยึดเมืองโมซูล (Mosul) ไว้ตั้งวันที่ 10 มิ.ย. 2557 ที่ผ่านมา จุดประสงค์ของอิหร่านและอิรัคที่ชวนพวกฮิซบอลเลาะห์เข้าร่วมในครั้งนี้ก็เนื่องจากกองกำลังของตัวเองไม่เพียงพอ และที่จะให้กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ไปประจำอยู่ใกล้เมืองโมซูลนั้นก็เพื่อกันไม่ให้ทางกองทัพของสหรัฐฯเข้าไปถึงบริเวณนั้นได้ คือถ้าสหรัฐฯเข้าไปยึดเมืองโมซูลได้ ไม่มีทางที่อิรัคจะปราบพวกไอซิสในเมืองนี้แน่นอน ดังนั้นต้องชิงลงมือก่อน งานนี้อิรัคไฟเขียว
    กลุ่มฮิซบอลเลาะห์นี้เป็นชาวมุสลิมนิกายชิอะห์เช่นเดียวกับอิหร่าน ทางสหรัฐฯและอิสราเอลกล่าวหาว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อการร้าย แต่อุดมการณ์ของกลุ่มนี้เป็นพวกสายกลาง เน้นความสามัคคีของทุกนิกายในชาติ ปัจจุบันมีพรรคการเมืองเป็นของตนเองและมีที่นั่งในสภาฯเป็นพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาลของประเทศเลบานอนด้วย กลุ่มนี้เป็นพันธมิตรกับกลุ่มฮามาสในปาเลสไตน์ และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลซีเรียและอิหร่านด้วย เน้นนโยบายด้านสาธารณูปโภคเช่นสร้างโรงพยาบาล สถานศึกษา และการให้บริการด้านสังคม แต่ในขณะเดียวกันก็มีกองกำลังเป็นของตัวเอง
    ผลงานสำคัญของกลุ่มนี้ก็คือเคยขับไล่กองกำลังอิสราเอลออกจากพื้นที่ทางตอนใต้ของเลบานอนได้สำเร็จในเดือนพฤษภาคมปี 2000 ซึ่งอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่การรุกรานครั้งที่ 2 ในปี ค.ศ. 1982 และทางสหประชาชาติก็ได้ประกาศให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นของเลบานอน
    ดังนั้นทั้งอิสราเอลและสหรัฐฯจึงไม่ชอบกลุ่มนี้เอามากๆ และพยายามทุกวิถีทางที่จะทำลายกลุ่มนี้ให้ได้ แต่มันจะไม่ง่ายอย่างนั้นซะแล้วหละสิ เมื่อทั้งอิรัค อิหร่าน เคิร์ด และฮิซบอลเลาะห์รวมตัวกันได้ขนาดนี้ หากกองกำลังผสมชุดนี้สามารถกวาดล้างพวกไอซิสออกจากอิรัคได้หมด สหรัฐฯและนาโต้ก็จะไม่มีข้ออ้างที่จะเข้าไปตั้งฐานทัพของตัวเองในอิรัคอีกต่อไป และที่สหรัฐฯเริ่มไม่พอใจรัฐบาลอิรัคในตอนนี้ก็คือ อิรัคหันไปสั่งซื้ออาวุธจากอิหร่านเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ยอดขายอาวุธของสหรัฐฯในอิรัคแบบมัดมือชกลดลง
    ป.ล. เมืองโมซูล (Mosul) เป็นเมืองหลวงของแคว้นนีนะวาห์ (Nineveh) ประเทศอิรัค อยู่ใกล้กับซีเรีย ตุรกี และอิหร่าน
    The Eyes
    16/03/2558
    --------------
    Hezbollah to Send Forces to Fight ISIL in Iraq / Sputnik International
    https://www.bellingcat.com/…/irans-expanding-sphere-of-inf…/
    ฮิซบุลลอฮ์ - วิกิพีเดีย
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    19. ข่าวด่วนพี่ปู
    พี่ปูยังไม่โผล่หน้าให้เห็น แต่ได้สั่งการให้กองทัพเรือภาคเหนือ (Northern Fleet)เตรียมพร้อมการรบอย่างเต็มที่ ด้วยการซ้อมรบอย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลา5วันเริ่มต้นวันที่ 16มีนาคมนี้
    รมวกลาโหมของรัสเซียนาย Sergie Shoiguเป็นผู้เปิดเผยการซ้อมรบครั้งใหญ่ครั้งนี้เพื่อปกป้องความมั่นคงของรัสเซียในภูมิภาคอาร์คติก
    ในการซ้อมรบครั้งนี้ จะมีทหารรัสเซียเข้าร่วม 38,000นาย โดยมีอุปกรณ์ทางทหาร3,360ชิ้น เรือรบ41ลำ เรือดำน้ำ15ลำ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์รวมกัน110เครื่อง
    จะเป็นการซ้อมรบทางบก ทะเลและทางอากาศพร้อมๆกัน
    นายShoiguเปิดเผยว่าการซ้อมรบครั้งใหญ่ครั้งนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองกับภัยและความท้าทายๆทางทหาร และการรวมตัวกันทางยุทธศาสตร์ทางเหนือ (แถวอาร์คติก) ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของรัสเซีย
    thanong
    16/3/2015
    Putin Orders Northern Fleet to Full Alert for Combat Readiness Drills / Sputnik International
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    20. ข่าวด่วนพี่ปู
    พี่ปูกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า ชีวิตคงจะน่าเบื่อมากนะ ถ้าไม่มีข่าวลือ
    พี่ปูปรากฎตัวแล้วที่กรุงSt Petersburgในวันนี้ สยบข่าวลือว่าเขาเป็นอะไรไปแล้ว และโดนยึดอำนาจโดยพวกทหาร
    พี่ปูหายหน้าหายตาไปจากสาธารณะชนไปเป็นเวลา10วันพอดี ทำให้เกิดการคาดคะเนไปต่างๆนาๆ วันนี้เขาได้พบกับประธานาธิบดีของKyrgyzนายAlmazbek Atambayev โดยให้ผู้สื่อข่าวได้ถ่ายภาพทั้งเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง
    โฆษกของเครมลิน นายDmitry Peskovเยาะเย้ยสื่อต่างประเทศที่ได้มีการคาดเดาไปต่างๆนาๆ เกี่ยวกับการหายตัวของพี่ปู เขาพูดล้อเลียนว่า: "พวกคุณเห็นท่านปูตินป่วยเป็นอัมพาตหรือเปล่า และถูกพวกนายพลจับตัวไป อ้าวทานปูตินเพิ่งจะกลับมาจากสวิตเซอร์แลนด์ไม่ใช่หรือเพราะว่าไปทำคลอดที่นั่น"
    เป็นอันว่าพี่ปูสยบข่าวลือไปเรียบร้อยแล้วว่าเขาไม่ได้โดนรัฐประหาร เขาไม่ได้ป่วย เขาไม่ได้ไปสวิตเซอร์แลนด์เพื่อไปหากิ๊กที่คลอดลูก และที่สำคัญที่สุดเขายังไม่ตาย
    มีทวิทเตอร์ล้อเลียนว่า "ไม่เชื่อเลยว่าเป็น(ปูติน)จริงๆ"
    ต้องดูกันอีกทีว่า ที่พี่ปูหายตัวไปช่วงนั้นมีการซัดกันภายในหรือเปล่า เพราะว่าสื่อกระแสหลักของตะวันตกเล่นกันแรงมากว่าพี่ปูโดนทหารก่อการรัฐประหารโค่นลงจากอำนาจ หรือว่าพี่ปูหนีหน้าไปเพื่อแอบซุ่มเตรียมแผนการรบเพื่อเตรียมตีโต้นาโต้ที่กำลังเคลื่อนทัพเข้ามาหายใจรดต้นคอรัสเซีย
    thanong
    16/3/2015
    http://rt.com/news/241069-putin-rumours-back-alive/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    21. ข่าวด่วนพี่ปู
    ข่าวที่พี่ปูอาจจะโดนโค่นล้มโดยรัฐประหารอาจจะมีความจริงบ้าง เพราะว่าZvi Magen อดีตทูตอิสราเอลประจำกรุงมอสโควออกมาให้สัมภาษณ์ว่า มีสัญญานว่ามีการรัฐประหารเกิดขึ้นในรัสเซีย เขาเชื่อว่าทหารและนักธุรกิจที่ร่ำรวยกลุ่มหนึ่งไม่พอใจพี่ปู และอาจจะมีส่วนทำให้พี่ปูหายตัวไป ก่อนหน้านี้Business Insiderและ Timeก็งรายงานข่าวในทำนองเดียวกันว่าพี่ปูอาจจะโดนพวกนายพลสอยลงจากตำแหน่ง
    แต่พี่ปูปรากฎกายแล้ววันนี้ ดูท่าทางสบายดี เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่เบื้องหลังอาจจะมีการเช็ดบิลกันก็ได้ อย่างไรก็ตามพี่ปูอาจจะใช้เวลาส่วนมากวางแผนการตีโต้กลับนาโต้มากกว่า ณ ขณะนี้ เราอยู่แค่วงนอกคงรู้ได้แค่นี้
    เราเริ่มต้นด้วยคำถามว่าพี่ปูหายไปไหน และคาดคะเนทฤษฎีต่างๆ สุดท้ายเราตามหาตัวพี่ปูพบแล้ว ด้วยการปรากฎตัวของพี่ปู1วันหลังจากIdes of March
    โดยส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่ามีความพยายามจะจัดการกับพี่ปูในวันIdes of March เหมือนกับที่ซีซ่าร์โดนฆ่า และพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่2โดนบังคับให้สละราชสมบัติในวันเดียวกันนี้ แต่ปูตินน่าจะอ่านเกมออก และหลบตัวไปก่อน ทำให้เกมเปลี่ยน พวกนี้ใช้ฤกษ์ยามเหมือนบ้านเรา อย่าไปคิดว่าฝรั่งไม่เชื่อถือในฤกษ์ยาม เคร่งมากกว่าเราเสียอีก
    ขอจบซีรี่ส์ข่าวด่วนพี่ปูแค่นี้ ไม่เข้าใจเหมือนกัน ที่เห็นหลายคนเขียนโจมตีเฟสนี้ ทั้งๆที่พยายามค้นหาความจริง เหมือนนักสืบพยายามค้นหาคนที่หายตัวไป ต้องใช้ข้อมูลรอบด้าน ทั้งลือและไม่ลือท่ามกลางสงครามข่าวสาร แต่ท้ายที่สุดก็พอจะสรุปได้คำตอบที่ทำให้เราเข้าใจภาพที่แท้จริงดีขึ้น
    พี่ปูหายตัวไป10วันถือว่าคุ้มจริงๆ เพราะว่าอย่างน้อยช่วยให้เราเห็นว่าสื่อตะวันตกและนักวิเคราะห์ตะวันตกโกหกเก่งอย่างไร หวังว่าแฟนคลับคงจะเข้าใจว่ามันเป็นเช่นนี้เอง
    thanong
    16/3/2015
    Israel’s former ambassador to Russia: 'There are signs of a coup' - World - Israel News | Haaretz
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    1. ยุคสุดท้าย (End Time)
    ในความเชื่อของหลายศาสนา พระเจ้าสร้างทุกอย่าง เมื่อเป็นเช่นนั้น พระเจ้ามีแผนการสำหรับจุดจบของทุกอย่างเหมือนกัน
    สำหรับคนบาปหรือคนที่ไม่เชื่อพระเจ้าจะตกนรกทั้งเป็น และต้องตายอย่างทรมานในกองเพลิง ไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิด ส่วนคนดีหรือคนที่เชื่อในพระเจ้าจะได้รับรางวัลตอบแทนด้วยการได้กลับไปอยู่กับพระเจ้าในสรวงสวรรค์ชั่วนิจนิรันดร์
    ทุกครั้งที่เกิดการล่มสลายของอาณาจักรต่างๆไม่ว่าจะเป็นเมโสโปเตเมีย กรีซ โรมัน อิยิปต์ หรือแม้แต่ในช่วงสงครามโลกในศตวรรษที่แล้ว ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ที่รับเคราะห์ต่างเชื่อว่ามันเป็นจุดจบของยุคสุดท้าย (End Time) ส่วนผู้พิชิตมองเพียงว่ามันเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างหรือขยายอาณาจักรใหม่ ต่อมาอาณาจักรใหม่นี้ก็ถูกทำลายโดยผู้ที่แข็งแรงกว่า กลายเป็นยุคสุดท้ายของผู้แพ้ แต่กลับเป็นยุคฟ้าใหม่ของผู้ชนะ หมุนเวียนสลับกันไปมาอย่างนี้ในประวัติศาสตร์โลก
    ตอนที่กรุงศรีอยุธยาโดนพม่าเผาในปีพศ. 2310 คนไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ หรือได้รับรู้ถึงการล่มสลายของอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคนี้ต่างก็รู้สึกถึงความทุกข์อย่างแสนสาหัส เพราะว่าอยุธยาถูกทำลาย ทั้งวัดวาอาราม วังและบ้านเรือนถูกเผาจนเหลือแต่ซากปรักหักพัง และผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมากจนไม่สามารถฟื้นฟูอยุธยาให้เหมือนเดิมได้ ถือเป็นยุคสุดท้าย เดชะบุญที่พระเจ้าตากสินกอบกู้บ้านเมืองได้ ทำให้สยามได้เกิดใหม่เป็นอาณาจักรธนบุรีและอาณาจักรรัตนโกสินทร์ ซึ่งดำรงมาจนถึงทุกวันนี้
    อย่างไรก็ตาม ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์โลกที่ชาวโลกทั่วทุกแว่นแคว้นในประเทศต่างๆ ต่างก็มีรู้สึกร่วมกันเหมือนในยุคนี้ โดยมีความเชื่อร่วมกันว่า ยุคสุดท้ายกำลังมาถึงในอีกไม่ช้า และจะมีผลกระทบต่อชะตากรรมของทุกทุกคนบนโลกเหมือนกัน จะเกิดเหตุร้ายของภัยพิบัติ โรคระบาด ความอดหยาก และสงครามที่รุนแรงและเลวร้ายที่สุด
    ยุคสุดท้ายของยุคนี้อาจจะไม่มีผู้ชนะ เพราะว่าทุกคนจะแพ้หมดจากสงครามนิวเคลียร์ล้างโลก คนตายจะโชคดีไป ส่วนคนที่รอดชีวิตจะเหมือนซากศพที่เดินได้ อยู่ไปก็ไม่มีความหมาย
    อยู่ที่ความเชื่อและศรัทธาของแต่ละคนว่าในยุคสุดท้ายพระเจ้าจะมาช่วยคนดีและลงโทษคนเลวหรือไม่? หรือว่ามนุษย์จะกลับไปสู่ยุคหินกันอีกครั้งหลังจากการทำลายของยุคสุดท้าย? หรือว่าจะมีผู้ชนะจากสงครามโลกและจะนำโลกเข้าสู่ยุคใหม่ หรือยุคมืดอีก1,000ปีข้างหน้า โดยที่มนุษย์มาถึงจุดของวิวัฒนาการที่เชื่อมั่นตัวเองว่าสามารถสร้างโลกใหม่จากความรู้และเทคโนโลยี่เทียบชั้นพระเจ้าไปแล้ว? และพระสยามเทวาธิราชจะมาช่วยปกป้องประเทศไทยหรือไม่ เหมือนกับที่เคยปกป้องบรรพบุรุษของเรามาตลอด มิเช่นนั้นไทยคงจะไม่มีประเทศดำรงอยู่เหมือนทุกวันนี้?
    นี้คือความท้าทายของยุคสุดท้าย เพราะว่ายังมีความสับสนว่า พระเจ้าจะเป็นผู้ทำลายโลก หรือว่ามีมนุษย์กลุ่มหนึ่งคิดทำลายโลกกันแน่เพื่อครองโลกอย่างเบ็ดเสร็จ
    thanong
    16/3/2015
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    2. ยุคสุดท้าย (End Time)
    ในยุคสุดท้ายนี้ มนุษย์เป็นผู้กำหนด หรือว่าพระเจ้าเป็นผู้กำหนด? สำหรับผู้นำรัสเซียนายวลาดิเมียร์ ปูตินและชาวรัสเซียนแล้ว คงจะไม่มีเวลาคิดถึงปัญหาในเชิงปรัชญาและศาสนานี้ เพราะว่ากองทัพของนาโต้ ภายใต้การบงการของโรม ลอนดอนและดีซีกำลังคืบคลานเข้ามาปิดล้อมบริเวณชายแดนรัสเซียแล้ว
    ไม่ว่าจะเป็นที่โปแลนด์ ลัทเวีย ลิธัวเนีย เอสโตเนีย บัลกาเรีย รถถัง ยานหุ้มเกราะพร้อมอาวุธของสหรัฐฯและนาโต้ถูกส่งเข้าไปในประเทศเหล่านี้ภายใต้ข้ออ้างว่าฝึกซ้อมรบทางทหารร่วมกันเพื่อป้องกันภัยการรุกรานจากรัสเซีย และเพื่อแสดงให้โลกเห็นว่านานาชาติไม่ยอมรับในบทบาทของรัสเซียในวิกฤติยูเครน นอกจากนี้มี11ประเทศของนาโต้พร้อมส่งกองกำลังและอาวุธมาช่วยยูเครนรบเพื่อยันรัสเซียทางใต้ ซึ่งถือว่าเป็นการประกาศสงครามกับรัสเซียในทางอ้อม ส่วนทางสแกนดินาเวีย ทั้งนอร์เวย์และสวีเดนก็พร้อมยันรัสเซียทางตอนเหนือและอาร์คติก
    ปูตินตอบโต้ด้วยการสั่งให้ทหาร38,000นายการซ้อมรบครั้งใหญ่เริ่มต้นในวันที่16 มีนาคม 2015 เพื่อปกป้องความมั่นคงของรัสเซียในภูมิภาคอาร์คติก
    ในการซ้อมรบครั้งนี้ จะมีทหารรัสเซียเข้าร่วม 38,000นาย โดยมีอุปกรณ์ทางทหาร3,360ชิ้น เรือรบ41ลำ เรือดำน้ำ15ลำ เครื่องบิน และเฮลิคอปเตอร์รวมกัน110เครื่อง จะเป็นการซ้อมรบทางบก ทะเลและทางอากาศพร้อมๆกัน เห็นได้ชัดเจนว่าเป็นการซ้อมรบที่สมบูรณ์แบบมากเพื่อเตรียมรับมือกับนาโต้28ประเทศที่กำลังจะรุมรัสเซียประเทศเดียว
    ดูเหมือนว่าการซ้อมรบระหว่างทั้ง2ฝ่ายนี้จะเอาจริงเอาจังมาก และมีความเป็นไปได้ว่าซ้อมรบเสร็จแล้วก็เข้าประจำการตามตำแหน่งไปเลย ไม่น่าที่จะถอนกลับเหมือนกับการซ้อมรบแบบปาหี่Cobra Goldที่เมืองไทย ปูตินหายหน้าหายตาไปเป็นเวลา10วันระหว่างวันที่5-15 มีนาคม 2015ก็เพื่อที่จะจัดการกับปัญหาภายในและเตรียมความพร้อมของแผนการรบ ในระหว่างนั้นทางรัสเซียได้ออกข่าวเป็นระยะๆว่า รัสเซียพร้อมที่จะตอบโต้กับการท้าทายทางทหารของนาโต้ทุกรูปแบบโดยไม่เป็นรอง
    มีข่าว3ชิ้นที่น่าสนใจที่ออกมาจากฝั่งรัสเซียในช่วงนี้คือ:
    1. มีรายงานจากฝั่งมีขาวว่า Alexander Bortnikov ผู้อำนวยการของFederal Security Service ได้ไปพบกับโอบ้ามากที่ทำเนียบขาวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และโอบ้ามากบอกBortnikovให้กลับไปบอกกับปูตินว่าสงครามโลกกำลังใกล้เข้ามาแล้ว และปูตินอาจจะไม่มีอำนาจที่จะหยุดมันได้
    2. สื่อThe Vergeรายงานในวันศุกร์ว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นในระบบอินเตอร์เน็ตของยุโรป เป็นเวลา5วันที่การจรจรของเว๊ปจากเมืองฮุสตัน รัฐเท็กซัสไปยังแอดเดรสในอังกฤษถูกลากยาวต่อให้ไปผ่านบริษัทเทเลคอมของยูเครนและรัสเซีย ปรากฎว่าFederal Security Servicesและ Kaspersky Labของรัสเซียสามารถแฮ๊คและสอดแนมพบข้อมูลว่าอังกฤษมีแผนเตรียมถล่มรัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์ในช่วงสัปดาห์หน้าเริ่มวันที่15 มีนาคม 2015เป็นต้นไป ทำให้รัสเซียเตรียมแผน (Dead Hand) หรือหัตถ์มรณะเพื่อตอบโต้ผ่านการยิงขีปนาวุธนิวเคลียร์ข้ามทวีป (Intercontinental ballistic missiles)
    3. ทางสื่อรัสเซียเผยแพร่สารคดีเบื้องหลังการยึดไครเมีย โดยมีคำพูดของปูตินว่าในช่วงนั้น รัสเซียเตรียมที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ ถ้าหากว่าถูกตอบโต้หรือมีความจำเป็น แต่บังเอิญการควบรวมไครเมียของรัสเซียเป็นไปด้วยดี
    ทั้งดีซี ลอนดอน โรมและเทล อาวีฟฝ่ายหนึ่ง และมอสโคว ปักกิ่งและเตหะรานอีกฝ่ายเห็นยุคสุดท้ายแล้วกำลังมา และยุคสุดท้ายนี้จะตัดสินกันด้วยสงครามนิวเคลียร์
    thanong
    17/3/2015
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    3. ยุคสุดท้าย (End Time)
    เรามาถึงยุคสุดท้ายของภัยจากสงครามโลกครั้งที่3นี้ได้อย่างไร? เราได้เห็นดีกรีความร้อนแรงของการเผชิญหน้าทางทหารระหว่างโลกตะวันตกและโลกตะวันออกที่นับวันจะทวีความเข้มขึ้นขึ้น ความจริงยุคสุดท้ายที่เรากำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้จากภัยของสงครามโลกครั้งที่3ไม่ใช่เป็นเรื่องบังเอิญ ไม่ใช่เป็นเรื่องสถานการณ์พาไป แต่เป็นเรื่องที่มีการเตรียมการมาแล้วหลายร้อยปี
    ความบังเอิญไม่มี ทุกอย่างถูกเตรียมการมาหมดแล้วโดยมนุษย์ จะเป็นพระประสงค์ของพระเจ้าหรือเปล่า นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่งของความเชื่อหรือความศรัทธาของแต่ละคน
    ถ้าอ่านประวัติศาสตร์อย่างพินิจพิเคราะห์จะเห็นได้ว่าประเทศตะวันตกพยายามที่จะครอบงำและยึดครองโลกมาตลอดผ่านสงครามและการล่าอาณานิคม เริ่มต้นโดยโปรตุเกสที่เป็นมหาอำนาจ ตามมาด้วยเสปน ดัชท์ ฝรั่งเศส อังกฤษ และในปัจจุบันนี้คือสหรัฐอเมริกา โดยที่การเดินเรือค้นพบโลกใหม่หรือทวีปอเมริกาของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัสในตอนปลายของศตวรรษที่15ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นของลัทธิล่าอาณานิคมเพื่อครอบงำโลกทั้งใบ
    ในยุคแรกเริ่มของลัทธิล่าอาณานิคม กษัตริย์ของเสปนและโปรตุเกสกางแผนที่โลกออกมา ตกลงกันอย่างง่ายๆด้วยการขีดเส้นแบ่งครึ่งแผนที่โลกเหมือนผ่าแตงโมครึ่งซีก เสปนจะไปยึดส่วนที่เป็นตะวันตกของโลก ส่วนโปรตุเกสไปยึดส่วนที่เป็นตะวันออกของโลก ด้วยเหตุนี้เราถึงได้เห็นการฆ่าและการทำลายชนเผ่าพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือ อาณาจักรโบราณในอเมริกากลางและอเมริกาใต้โดยพวกล่าอาณานิคมจากตะวันตก มีการยึดครองแอฟริกาและการล้มล้างสถาบันกษัตริย์ของประเทศและอาณาจักรทางตะวันออกพื่อทำให้ศูนย์กลางของประเทศอ่อนแอ และง่ายต่อการยึดครองและล้างสมองในเวลาต่อมา เริ่มจากอินเดีย พม่า จีน ไทย เวียดนาม เขมร ลาว มาเลย์ เกาหลี ฯลฯ
    เรือรบของมหาอำนาจตะวันตกที่ออกไปล่าอาณานิคมจะมีนักบวชของโรมส่งมาด้วยเพื่อเผยแพร่ศาสนาคริสต์และเพื่อการเสริมอำนาจของโรม
    ความยิ่งใหญ่และความเสื่อมของจักรวรรดิขึ้นอยู่กับความสามารถในการรักษาค่าเงินของตัวเองให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกเพื่อควบคุมธุรกิจและการค้าขาย จากกราฟจะเห็นได้ว่าโปรตุเกสสามารถรักษาความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของตัวเองได้เป็นเวลา 75ปี, เสปน110ปี, ดัชท์ 75ปี, ฝรั่งเศส105ปี, อังกฤษ110ปี และสหรัฐฯตั้งแต่ปีคศ 1925จนถึงปัจจุบันนี้
    ยูเอสดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลกมา90ปีแล้ว และกำลังเข้าสู่ยุคเสื่อมเหมือนเงินสกุลหลักอื่นๆ เนื่องจากหนี้สินที่แก้ไม่ตก และจำต้องพิมพ์เงินเพื่อพยุงตัวเองเวลานี้ ทำให้ไม่มีความน่าเชื่อถือ ปัญหาคือเงินสกุลหลักของโลกที่จะมาแทนต่อไปคือเงินหยวนของจีน ซึ่งอยู่นอกโผ ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตะวันตก มีวิธีเดียวที่จะสกัดจีนเพื่อไม่ให้หยวนได้แจ้งเกิดคือการก่อสงคราม
    อย่างที่ซุนวูได้กล่าวเอาไว้ ทุกสงครามเป็นเรื่องของกลลวง แม้ว่าสหรัฐฯและนาโต้จะเตรียมการปิดล้อมเพื่อเช็คบิลรัสเซียโดยเอาเหตุวิกฤติยูเครนมาอ้าง แต่เป้าที่แท้จริงแล้วคือต้องการล้มจีน หรือล้มกระดานทั้งระบบเพื่อล้างหนี้ของสหรัฐฯและสหภาพยุโรปที่ไม่มีวันชดใช้ได้ แต่ถ้าจะมองให้ลึกลงไปอีกชั้นหนึ่ง ตามแผนการก่อสงครามโลกครั้งที่3มีอยู่ในพิมพ์เขียวดั้งเดิมของโรม ลอนดอนและดีซีที่มีอยู่แล้วเพื่อที่จะทำลายโลกและสร้างโลกใหม่ที่จะมีรัฐบาลโลกเดียว เพื่อครอบงำโลกอย่างเบ็ดเสร็จตามเจตนารมณ์ที่มีมานานนับพันปีแล้ว
    โรม ลอนดอนและดีซีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อสงครามสงครามโลกครั้งที่1 และสงครามโลกครั้งที่2 จะเห็นได้ว่าสงครามโลกครั้งที่1นำไปสู่การรวบอำนาจผ่านสันนิบาตชาติ (the League of Nations) เป็นการทำลายจักรวรรดิคู่แข่งคือออสเตรียนฮังการี่ ปรัสเซีย ออตโตมันและรัสเซีย เหลือแต่จักรวรรดิอังกฤษเจ้าเดียวในยุโรป
    ในสงครามโลกครั้งที่2นำไปสู่การรวบอำนาจที่ใหญ่ขึ้นผ่านองค์การสหประชาชาติ (United Nations) โดยลอนดอนและโรมดันแอบไปซ่อนข้างหลังและดันให้ดีซีออกหน้ากลายเป็นมหาอำนาจโลกแต่ผู้เดียว แต่เป้าหมายนี้ยังไม่สมบูรณ์ สงครามโลกครั้งที่3จำต้องเกิดขึ้นเพื่อที่จะนำไปสู่รัฐบาลโลกเดียว One World Government
    เกมถูกกำหนดเอาไว้แล้ว ไม่มีเรื่องบังเอิญ
    thanong
    17/3/2015
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    สำหรับแฟนคลับของ วลาดิเมียร์ ปูติน ตอนนี้ผู้นำรัสเซีย ปรากฎตัวแล้วนะครับ ในขณะพบปะหารือกับ ผู้นำคีร์กิซสถาน ที่เซ็นปีเตอร์สเบอร์ก สยบข่าวรัฐประหารที่สื่อตะวันตก และนักวิเคราะห์หลายคน ที่ออกมาแสดงความเห็นได้เป็นอย่างดี แต่การปรากฏตัวของเขาครั้งนี้ พร้อมทั้งคำสั่งให้ทหารรัสเซียกว่า 40,000 นาย อยู่ในสถานการณ์เตรียมพร้อมขั้นสูงสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมรบของรัสเซีย?.. Vladimir Putin Appears in Public for First Time After 10-Day Absence - WSJ
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    เมื่อครู่นี้ผมพูดถึงบางเว็บ ที่ผมชอบเข้าไปอ่านติดตามข้อมูล เว็บที่ว่านี้คือ "King World News" นะครับ ตอนนี้เข้าได้ตามปรกติ เศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่สถานะวิกฤติ และสามารถเกิดเหตุการณ์ ที่ทำให้นักลงทุนตื่นตระหนกได้ทุกเมื่อ เพราะธนาคารกลางสหรัฐ และยุโรปใช้มาตรการQE และปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ สร้างหนี้สาธารณะจำนวนมาก และเริ่มไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ จนทำให้ธนาคารกลางเริ่มที่จะหมดหวังแล้วนั่นเอง เอาเป็นว่าผมไม่สามารถ พิมพ์เนื้อหาทั้งหมดได้ ใครสนใจและพอที่จะแปลได้ ลองเข้าไปอ่านดู
    Severe Cracks In The System Warn Devastating Global Panic Is Near | King World News

    แต่สิ่งที่เว็บดังกล่าวได้พูดไว้ในตอนท้าย ซึ่งผมไม่ได้เข้าใจผิดครับ เกี่ยวกับการควบคุมข้อมูลข่าวสาร(net neutrality) ของรัฐบาลสหรัฐ เพราะปรากฎว่าเป็นทั่วโลก เพราะเว็บดังกล่าว มีผู้ติดตามจำนวนมาก ทั้งในสหรัฐและตะวันตก ซึ่งทางเว็บได้รับข้อความผ่านอีเมล์ ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นว่า ไม่สามารถเข้าชมได้ ซึ่งทางเว็บก็ยอมรับว่ารถูกโจมตี ซึ่งทางเว็บได้แจ้งว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ มีโอกาสนำเสนอข้อเท็จจริงอีกด้าน ให้ผู้อ่านได้มากที่สุด
    "King World News has been taken offline a number of times in the past few weeks. It has become very clear by now to all KWN readers around the world that governments in the West do not want the alternative news and information we provide to be shared with the public. This has resulted in an increasing number of attacks on the site. King World News will do everything in our power to get back online as quickly as possible each time the site is taken offline and thank you for your many emails of support."
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    หลายวันก่อนผมพยายาม เข้าไปติดตามข้อมูลในเว็บไซด์ บางเว็บนะครับ แต่ปรากฎว่าไม่สามารถ ที่จะเข้าไปอ่านข้อมูลได้ เพราะเวลานี้ระบบอินเตอร์เน็ตในสหรัฐ โดยเฉพาะเว็บข่าวที่ นำเสนอข้อเท็จจริง กำลังถูกโจมตีจากรัฐบาล ภายใต้กฎหมายที่เรียกว่า "net neutrality" เพื่อไม่ให้ชาวอเมริกัน ได้รับฟังข้อมูลข่าวสาร และข้อเท็จจริงอีกด้าน และก็อย่าแปลกใจครับ ในขณะที่ สงครามโลกกำลัง จะประทุอยู่รอมร่อ และในขณะที่สื่อหลักๆ กำลังปลุกระดมให้ชาวอเมริกัน เห็นความเลวร้ายของรัสเซีย เพื่อความชอบธรรมในการทำสงคราม แต่ชาวอเมริกันและชาวโลกส่วนใหญ่ ยังไม่ตระหนักถึง หายนะที่รออยู่เบื้องหน้า คงเหลือแต่สื่อที่เป็นอิสระ เพียงไม่กี่รายเท่านั้น Sleepwalking Into World War Three? Why The Independent Media Is Vital | Global Research
    ดร. พอลล์ เครค โรเบิร์ต อดีต รมต.คลังสหรัฐ ถึงออกมาพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ ในงานประกาศรางวัลของสมาคมสำนักข่าวระหว่างประเทศของเม็กซิกันว่า "สื่อที่นำเสนอความจริงนั้น เป็นศัตรูของรัฐบาลวอชิงตัน"
    และนักข่าวหรือคอลัมนิสต์ ที่นำเสนอข้อเท็จจริง ถ้าไม่ถูกไล่ออกจากงาน ก็ต้องหนีหัวซุกหัวซุน เข้าไปหลบภัยในสถานกงสุลต่างประเทศ เหมือน จูเลียน อัสสาจ หรือ เอ็ดเวิร์ด สโนวเดน ที่กำลังลี้ภัยอยู่ในรัสเซียนั่นเอง “Truth in Media is the Enemy of Washington, Truth is Our Country”: Dr. Paul Craig Roberts | Global Research
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Pics : เนทันยาฮูกร้าวก่อนเปิดคูหาเลือกตั้ง “จะไม่ยอมให้เกิดรัฐปาเลสไตน์”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มีนาคม 2558 11:44 น.

    [​IMG]
    @"Yitzhak Herzog" (ซ้าย) ผู้สมัครจากพรรคกลางซ้าย ท้าชิงกับเบนจามิน เนทันยาฮู รักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากพรรคลิคุด


    เอเจนซีส์ – อิสราเอลจะเริ่มเปิดคูหาเลือกตั้งในวันนี้(17) เพื่อชี้ชะตาว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ในขณะที่รักษาการนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูประกาศให้คำมั่นต่อชาวยิวทั้งปวงว่า หากเขาได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกครั้งในวันนี้(17) จะไม่มีวันยอมให้เกิด “รัฐปาเลสไตน์เด็ดขาด”

    บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(16)ว่า เบนจามิน เนทันยาฮู รักษาการนายกรัฐมนตรีอิสราเอลพยายามที่จะกอบกู้สถานการณ์หลังจากผลโพลล่าสุดชี้ว่าพรรคแกนนำรัฐบาลของเนทันยาฮู พรรคลิคุด( Likud party) นั้นมีคะแนนตามหลังพรรคไซออนนิส ยูเนียน (Zionist Union) ซึ่งเป็นพรรคตรงข้ามกลางซ้าย ที่ประกาศนโยบายจะปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ รวมไปถึงประชาคมโลก

    แต่สื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า จะไม่มีพรรคดใดชนะมีคะแนนมากกว่า 1 ใน 4 ของคะแนนทั้งหมด

    ทั้งนี้เนทันยาฮูอ้างว่า การที่ยอมสละสิทธิ์ดินแดนให้กับปาเลสไตน์ถือเป็นความเสี่ยงต่ออิสราเอลที่จะทำให้กลุ่มก่อการร้ายสามารถโจมตีอิสราเอลได้ง่าย “ใครก็ตามที่เพิกเฉยต่อความจริงนี้เป็นพวกเอาหัวมุดลงใต้พื้นทรายเท่านั้น และฝ่ายซ้ายทำเช่นนั้น เอาหัวมุดพื้นทรายเป็นระยะ” เนทันยาฮูให้สัมภาษณ์กับเสื่อข่าวออนไลน์เอ็นอาร์จีนิวส์

    และเมื่อรักษาการนายกรัฐมนตรีอิสราเอลถูกถามว่า ปาเลสไตน์ไม่สามารถก่อตั้งเป็นรัฐได้สำเร็จหากเนทันยาฮูได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามาใช่หรือไม่ ซึ่งเนทันยาฮูกล่าวตอบอย่างหนักแน่นว่า “ใช่อย่างแน่นอน”

    การเลือกตั้งที่จะเปิดฉากในวันนี้(17) บีบีซีชี้ว่า เป็นการตัดสินใจของรักษาการนายกรัฐมนตรีอิสราเอลในการประกาศจัดเลือกตั้งทั่วไปเร็วก่อนกำหนด โดยตั้งความหวังจะกวาดคะแนนเสียงผุ้สนับสนุนจากกลุ่มขวาจัดต่างๆที่อยู่ในรัฐบาลผสมให้เป็นหนึ่งเดียวเพื่อง่ายในการจัดการ แต่ทว่าบีบีซีวิเคราะห์ว่า อาจเป็นไปได้ที่จะมีพรรคการเมืองที่มีแนวคิดคล้ายเนทันยาฮูเข้ามาร่วมเพื่อจัดตั้งรัฐบาลผสม แต่ทว่ายังไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนในขณะนี้

    ช่วงต้นของการหาสียง 90 วัน เหล่าผู้สนับสนุนเนทันยาฮูต่างกังวลในการที่เนทันยาฮูลดตัวเลขความพึงพอใจ ปฎิเสธการปรากฏตัวทางโทรทัศน์เพื่อร่วมดีเบตกับคู่แข่งฝ่ายซ้าย แต่ยังย้ำจุดยืนตอกย้ำความจำเป็นของการป้องกันอิสราเอลซึ่งถือเป็นเครดิตของเนทันยาฮู

    ทั้งนี้ในปี 2009 เนทันยาฮูสนับสนุนแนวคิด “รัฐปาเลสไตน์” แต่ภายใต้เงื่อนไขของการลดกำลังทหาร และปาเลสไตน์ต้องยอมรับอิสราเอลในฐานะรัฐ

    ผลโพลล่าสุดเผยแพร่ก่อนสุดสัปดาห์ชี้ว่า มีแนวโน้มว่าพรรคไซออนนิส ยูเนียน นั้นจะสามารถกวาดที่นั่งได้เกือบทั้งหมดในการเลือกตั้งวันนี้(17) ซึ่งเนทันยาฮูกล่าวหาพรรคกลางซ้ายว่า มีความพยายามจะยกสิทธิชอบธรรมของอิสราเอลต่อเยรูซาเลมในฐานะเป็นเมืองที่ไม่สามารถแบ่งแยกได้ไปให้กับปาเลสไตน์เพื่อการเจรจาสันติภาพ และรวมไปถึงเมื่อวานนี้(16) เนทันยาฮูกล่าวที่นิคมก่อตั้งชาวยิวที่เยรูซาเลมตะวันออกโดยอ้างว่า มีเพียงแต่เขาเพียงผู้เดียวที่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้กับเยรูซาเลมได้

    สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ปาเลสไตน์ต้องการเยรูซาเลมในฐานะเมืองหลวงแห่งรัฐ ซึ่งเยรูซาเลมถูกอิสราเอลยึดไปตั้งแต่ปี 1967 ในช่วงสงความตะวันออกกลาง

    In Pics : ๷ѹ
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุฯ เตือนทำข้อตกลงกับอิหร่าน จะจุดชนวนแพร่กระจายนิวเคลียร์
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มีนาคม 2558 22:40 น. (แก้ไขล่าสุด 17 มีนาคม 2558 11:26 น.)

    [​IMG]
    @เจ้าชายเตอร์กี อัล-ไฟซาล แห่งซาอุดีอาระเบีย ให้สัมภาษณ์บีบีซี โดยเตือนเหล่ามหาอำนาจของโลกว่า การทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่เทคโนโลยีด้านปรมาณูจะแพร่กระจายออกไปในวงกว้างยิ่งขึ้น ถึงแม้ไม่มีตำแหน่งราชการใดๆ แล้ว แต่อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองของประเทศ ตลอดจนเคยเป็นเอกอัครราชทูตของซาอุดีอาระเบียประจำสหรัฐฯและอังกฤษผู้นี้ ยังคงมีอิทธิพลอย่างสูงภายในราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย

    เอเจนซีส์ - เจ้าชายอาวุโสทรงอิทธิพลของราชวงศ์ซาอุดีอาระเบีย ออกโรงเตือนเหล่ามหาอำนาจของโลกในวันจันทร์ (16 มี.ค.) ว่า การทำข้อตกลงเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน อาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่เทคโนโลยีด้านปรมาณูจะแพร่กระจายออกไปในวงกว้างยิ่งขึ้น เนื่องจากทั้งซาอุดีอาระเบียและประเทศอื่นๆ ต่างจะเรียกร้องสิทธิแบบที่เตหะรานจะได้รับ ความเคลื่อนไหวคราวนี้มีขึ้นในขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯกับอิหร่านกำลังเจรจากันอย่างเข้มข้นเพื่อให้ได้กรอบข้อตกลงที่จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้

    กลุ่ม P5+1 ซึ่งหมายถึง 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (สหรัฐฯ, รัสเซีย, จีน, อังกฤษ, ฝรั่งเศส) บวกด้วย 1 คือ เยอรมนี ขณะนี้กำลังเจรจากับอิหร่าน เพื่อจัดทำข้อตกลงซึ่งมุ่งหมายที่จะจำกัดกิจกรรมทางด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน ทว่าไม่ได้ให้ยุติโครงการทั้งหมด

    พวกที่ไม่เห็นด้วยโต้แย้งว่า การทำเช่นนี้จะจุดชนวนให้เกิดการแข่งขันด้านอาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยมีความเป็นศัตรูคู่แข่งกันระหว่างซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านเป็นตัวกระตุ้น นอกจากนั้นอิสราเอลและพวกล็อบบี้ยิสต์ของรัฐยิวในสหรัฐฯก็แสดงความไม่พอใจ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมในปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่รู้กันทั่วไปแม้ไม่มีการยอมรับอย่างเปิดเผย ว่าอิสราเอลเป็นชาติเดียวในตะวันออกกลางซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง

    เจ้าชายเตอร์กี อัล-ไฟซาล อดีตผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองของซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนเคยเป็นเอกอัครราชทูตของริยาดประจำวอชิงตันและลอนดอน ได้ตอกย้ำจุดยืนของราชอาณาจักรร่ำรวยด้วยน้ำมันแห่งนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุแลโทรทัศน์บีบีซี ของอังกฤษคราวนี้ โดยบอกว่า ตนพูดมาตลอดว่า ซาอุดีฯ ต้องการได้สิ่งเดียวกับที่จะคลอดออกมาจากการเจรจาดังกล่าว

    “ถ้าอิหร่านสามารถเสริมสมรรถนะยูเรเนียมไม่ว่าในระดับใด คงไม่ได้มีเพียงซาอุดีฯ เท่านั้นที่จะเรียกร้องในสิ่งเดียวกัน แต่โลกทั้งโลกจะเปิดประตูสู่เส้นทางเดียวกันโดยปราศจากการยับยั้ง และนั่นคือเหตุผลหลักของผม ในการคัดค้านกระบวนการของ P5+1”

    ขณะที่การเจรจาดังกล่าวกำลังงวดเข้ามา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซาอุดีฯ ได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์กับเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึงแผนการศึกษาความเป็นไปได้ในการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 เตาในซาอุดีอาระเบีย

    ริยาดยังลงนามข้อตกลงความร่วมมือด้านนิวเคลียร์กับจีน ฝรั่งเศส และอาร์เจนตินา และมีแผนสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 16 เตาภายในระยะเวลา 20 ปี

    +รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จอห์น เคร์รี (ขวา) เดินไปยังห้องประชุมแถลงข่าวสื่อมวลชน กับ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย เจ้าชาย ซาอุด อัล ไฟซาล ภายหลังเจรจาหารือกันที่กรุงริยาดเมื่อวันที่ 5 มีนาคม เคร์รีได้พบหารือกับเหล่ารัฐมนตรีต่างประเทศของชาติอาหรับริมอ่าวเปอร์เซีย เพื่อบรรยายสรุปความคืบหน้าของการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน

    เมื่อต้นเดือนนี้ จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บินสู่ริยาดเพื่อรับรองกับซาอุดีอาระเบีย และพันธมิตรอาหรับชาติอื่นๆ ว่า อเมริกาจะยอมรับข้อตกลงที่เป็นการป้องกันไม่ให้อิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเยือนคราวนั้น เคร์รีได้รับแจ้งจากผู้นำของชาติเหล่านี้ว่า การที่เตหะรานสนับสนุนกลุ่มมุสลิมชีอะต์ในความขัดแย้งในตะวันออกกลาง ไม่ว่าจะเป็นที่เยเมน ซีเรีย อิรัก ปาเลสไตน์ หรือบาห์เรน ถือเป็นปัญหาใหญ่ไม่ต่างอะไรกับโครงการนิวเคลียร์

    “เพราะฉะนั้น การยุติความกลัวเรื่องการพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ไม่ได้ทำให้ปัญหายุ่งยากที่เราเผชิญจากอิหร่านจบสิ้นลง” เจ้าชายเตอร์กีกล่าว ถึงแม้เขาไม่ได้ดำรงตำแหน่งหน้าที่ทางราชการใดๆ แล้ว แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันอย่างกว้างขวางว่าสิ่งที่เขาพูดเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของบุคคลระดับอาวุโสในราชวงศ์อัล ซาอุด ทั้งนี้ เจ้าชายเตอร์กี ยังเป็นพี่ชายของ เจ้าชายซาอุด อัล-ไฟซาล รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียคนปัจจุบันด้วย

    สิ่งที่ริยาดกังวลที่สุดคือ การที่อิหร่านสนับสนุนกองกำลังอาวุธท้องถิ่นชาวชีอะห์ในอิรัก ทำการต่อสู้กับกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) บทบาทดังกล่าวยิ่งชัดเจนเปิดเผยมากขึ้นในการบุกชิงเมืองติกริต ซึ่งกำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ โดยที่ นายพล กอเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ “คุดส์” ของกองทัพพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่าน กำลังก้าวออกจากเงามืดออกมาชี้นำกองกำลังอาวุธของฝ่ายชีอะห์อย่างเปิดเผย

    วอชิงตันนั้นกำลังพยายามรักษาสมดุลอันอ่อนไหว โดยระบุว่า อเมริกาและอิหร่านมีเป้าหมายเดียวกันในการกำจัดไอเอส

    อย่างไรก็ดี ระหว่างการเยือนแบกแดดเมื่อไม่นานมานี้ พลเอกมาร์ติน เดมป์ซีย์ ประธานคณะเสนาธิการร่วมทางทหารของสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลต่อการที่ผู้นำการเมืองชีอะต์ของอิรักไม่ทำตามสัญญาในการสร้างความปรองดองระหว่างประชากรชาวสุหนี่ และชาวชีอะต์ พร้อมเตือนว่าเรื่องนี้อาจบ่อนทำลายกลุ่มพันธมิตรนานาชาติต่อต้านไอเอส ที่ซาอุดีฯ และหลายรัฐอาหรับที่เป็นสุหนี่ เข้าร่วมด้วย

    ขณะเดียวกัน ริยาดไม่พอใจที่วอชิงตันยังปฏิเสธไม่ยอมติดอาวุธให้กลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิหร่าน

    ทั้งนี้ ซาอุดีฯ ตกลงเข้าร่วมโครงการฝึกและติดอาวุธให้กบฏซีเรียที่มีอเมริกาเป็นแกนนำ ถึงแม้โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับไอเอส ไม่ใช่อัสซาดก็ตาม แต่เจ้าชายเตอร์กีบอกว่า ตัวเขาเชื่อว่า การสู้รบกับไอเอสนั้น ในที่สุดแล้วก็จะเป็นการสู้รบกับอัสซาดอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น

    +รัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น เคร์รี ของสหรัฐฯ (ซ้าย) และรัฐมนตรีต่างประเทศ โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ของอิหร่าน (ขวา) ......เริ่มการเจรจาหารือกันต่อในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหราน ณ เมืองโลซานน์, สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันจันทร์ (16 มี.ค.)


    +จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ (กลาง) ออกมาขี่รถจักรยานระหว่างหยุดพักการเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศ โมฮัมหมัด จาวัด ซารีฟ ของอิหร่าน ในเมืองโลซานน์, สวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันจันทร์ (16)

    สำหรับการเจรจานิวเคลียร P5+1 นั้น ในวันอาทิตย์ (15) และวันจันทร์ (16) เคร์รีแยกออกมาเจรจากับจาวัด ซารีฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านที่เมืองโลซานน์, สวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ซารีฟจะบินไปบรัสเซลส์ในช่วงเย็นวันจันทร์ เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และสหภาพยุโรป (อียู) จากนั้นก็จะกลับสู่โลซานน์เพื่อเจรจากับ 5 มหาอำนาจ ได้แก่ รัสเซีย จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส และเยอรมนีตั้งแต่วันอังคาร (17)

    ทั้งเคร์รีและซารีฟตั้งเป้าที่จะเห็นพ้องกันเกี่ยวกับกรอบโครงข้อตกลงให้ได้ภายในสิ้นเดือนนี้ ก่อนบรรลุข้อตกลงฉบับเต็มในวันที่ 1 กรกฎาคม โดยที่ต่างก็ตระหนักว่า หลังจากพลาดกำหนดเส้นตายไปแล้วสองครั้งคือในเดือนกรกฎาคมและพฤศจิกายนปีที่แล้ว การต่ออายุการเจรจาออกไปอีกครั้งคงทำได้ยากมาก เนื่องจากความกดดันภายในของทั้งในฝ่ายอเมริกาและในฝ่ายอิหร่าน


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000030938
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ปูติน” พร้อมสั่งกองกำลังนิวเคลียร์ป้องกัน “แหลมไครเมีย”
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มีนาคม 2558 15:07 น. (แก้ไขล่าสุด 16 มีนาคม 2558 15:14 น.)

    [​IMG]
    @อดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน (ซ้าย) ขึ้นชื่อว่าเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของ ปูติน

    รอยเตอร์/ เอเอฟพี – ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน เปิดใจผ่านสารคดีซึ่งเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์รัสเซียเมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) ระบุตนพร้อมจะสั่งกองกำลังนิวเคลียร์ให้เตรียมป้องกันคาบสมุทรไครเมีย พร้อมทั้งชี้แจงเรื่องที่มอสโกให้ความช่วยเหลือแก่อดีตประธานาธิบดี วิกเตอร์ ยานูโควิช แห่งยูเครน หลังอีกฝ่ายถูกรัฐสภาลงมติถอดถอน


    สารคดีซึ่งมีความยาวเกือบ 3 ชั่วโมงชุด “ไครเมีย สู่บ้านเกิด” ถูกฉายทางสถานีโทรทัศน์รอสสิยา- 1 เมื่อวานนี้ (15 มี.ค.) ก่อนจะถึงวาระครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียผนวกคาบสมุทรในทะเลดำ โดย ปูติน ได้ประกาศตัวเป็นผู้ปกป้องไครเมียจาก “พวกชาตินิยมจัด” ที่ยึดอำนาจในกรุงเคียฟ และเปิดเผยสิ่งที่เขาพร้อมจะทำเพื่อปกป้องพลเมืองท้องถิ่นที่พูดภาษารัสเซีย

    ปูติน กล่าวว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากผู้นำต่างชาติหลายต่อหลายคน และชี้แจงให้ผู้นำเหล่านั้นเข้าใจว่า “แผ่นดินตรงนั้นเป็นดินแดนของเราตามประวัติศาสตร์ และชาวรัสเซียก็อาศัยอยู่ที่นั่น พวกเขากำลังตกอยู่ในอันตราย และเราทิ้งพวกเขาไม่ได้”

    “นี่คือการแสดงจุดยืนตรงๆ และเปิดเผยของผม และคงเพราะเหตุนี้จึงไม่มีใครอยากจุดชนวนสงครามโลกขึ้นใหม่”

    ปูติน ยังเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่ ยานูโควิช จะหนีออกจากแผ่นดินยูเครนไปยังเมือง รอสตอฟ-ออน-ดอน ทางภาคใต้ของรัสเซีย โดยระบุว่า ตนได้ช่วยชีวิต ยานูโควิช ซึ่งตกอยู่ในอันตราย หลังถูก “พวกคณะปฏิวัติ” ยึดอำนาจปกครอง

    “สำหรับเราทุกอย่างชัดเจน เราทราบมาว่าพวกเขาไม่เพียงวางแผนจับกุม ยานูโควิช แต่ถึงขั้นจะทำให้เขาไม่มีตัวตนอยู่อีกต่อไป ก็อย่างที่บุคคลสำคัญคนหนึ่งในประวัติศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่า ไม่มีคนก็ไม่มีปัญหา”

    ปูติน เผยว่า ช่วงแรกๆ ยานูโควิช ปฏิเสธที่จะหนีออกจากยูเครน แต่ต่อมาไม่กี่วันก็ขอร้องให้เขาช่วยหาทางพาข้ามไปยังรัสเซีย

    “เราช่วยชีวิตเขาและครอบครัว ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องดี และเป็นสิ่งที่น่ายกย่อง”

    การที่ ยานูโควิช เลิกทำข้อตกลงการค้ากับสหภาพยุโรปเพื่อหันไปผูกสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัสเซีย สร้างความโกรธแค้นต่อชาวยูเครนจำนวนมาก จนเกิดเป็นกระแสลุกฮือและเหตุจลาจลนองเลือดที่กรุงเคียฟ ก่อนที่ ยานูโควิช จะถูกรัฐสภาลงมติถอดถอนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

    อย่างไรก็ดี การโค่น ยานูโควิช กลับกลายเป็นชนวนเหตุให้รัสเซียเดินหน้ายึดแหลมไครเมียกลับมาเป็นของตนอีกครั้ง

    “แน่นอนตอนนั้นเราไม่รู้ว่าจะมีปฏิกิริยาตอบโต้อย่างไร (ต่อการยึดไครเมีย) ดังนั้นในขั้นแรก ผมจึงต้องกำหนดทิศทางของกองทัพ และไม่ใช่แค่กำหนดทิศทาง แต่ออกคำสั่งโดยตรงเลยทีเดียว”

    เมื่อผู้ดำเนินรายการถามว่า เขาได้สั่งให้กองกำลังนิวเคลียร์เตรียมพร้อมหรือไม่ ปูติน ตอบว่า “เราพร้อมที่จะทำ”

    ผู้นำรัสเซียยืนกรานว่า สิ่งที่เขาทำเป็นการปกป้องไครเมียไม่ให้เกิดสงครามนองเลือดเหมือนเช่นในภาคตะวันออกของยูเครน และถือเป็น “หน้าที่” ซึ่งเขาเองไม่มีวันเปลี่ยนใจ

    “ถ้าคุณเชื่อมั่นว่าคุณทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำเพื่อผลประโยชน์ของชาติ และเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย ถ้ามีความมั่นใจเช่นนี้ละก็ ทุกอย่างจะสำเร็จเอง”

    ปูติน ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนหรือออกสื่อโทรทัศน์มาตั้งแต่วันที่ 5 มีนาคม ซึ่งก่อให้เกิดข่าวลือไปต่างๆ นานาในโลกออนไลน์ แม้เจ้าหน้าที่มอสโกจะยืนยันว่าเขายังคงปฏิบัติภารกิจตามปกติก็ตาม

    สำนักข่าว Dozhd ซึ่งเป็นสื่ออิสระ รายงานว่า ทำเนียบเครมลิมไม่แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับกระแสข่าวที่ว่า ปูติน ไม่ได้อยู่ในกรุงมอสโก แต่หลบไปพำนักที่บ้านริมทะเลสาบในจังหวัดนอฟโกรอดมาหลายวันแล้ว

    หนังสือพิมพ์ออสเตรียฉบับหนึ่ง ระบุว่า ปูตินมีอาการเจ็บหลัง จนต้องเชิญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อจากกรุงเวียนนาไปดูอาการของเขาที่รัสเซีย

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000030689
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ปูติน” เตรียมออกปรากฏตัวในวันนี้ หลังหายหน้าไปนาน 10 วัน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มีนาคม 2558 15:30 น. (แก้ไขล่าสุด 16 มีนาคม 2558 15:37 น.)

    [​IMG]
    @วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย

    เอเอฟพี – ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซียมีกำหนดที่จะออกมาปรากฏตัวต่อสาธารณะอีกครั้งในวันนี้ (16) หลังจากการหายหน้าหายตาไปอย่างผิดปกตินานถึง 10 วัน ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาพิลึกพิลั่นเกี่ยวกับสถานที่ที่เขาอยู่และสุขภาพของบุรุษเหล็กแห่งแดนหมีขาวคนนี้

    ปูติน มีกำหนดการพบปะกับประธานาธิบดี อัลมัซเบค อาตัมบาเยฟ แห่งคีร์กิสถานในนครเซนต์ปีเตอร์เบิร์กในวันนี้ (16) และเจ้าหน้าที่เครมลินยืนยันกับเอเอฟพีว่า การพบปะดังกล่าวมีขึ้นตามกำหนดการ

    ปูติน วัย 62 ปี ถูกเห็นในที่สาธารณะครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 มีนาคมที่งานแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมาตรี มัตเตโอ เรนซี ของอิตาลี

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขายกเลิกกิจกรรมต่างๆ ตามกำหนดการ รวมถึงการเดินทางเยือนประเทศแถบเอเชียกลางอย่างคาซัคสถาน และแผนลงนามข้อตกลงพันธมิตรกับแคว้นออสเซเทียใต้ที่แยกตัวออกมา

    การหายหน้าหายตาไปอย่างผิดปกติของเขาในครั้งนี้ก่อให้เกิดกกระแสการคาดเดาถึงเหตุผลต่างๆ นานาของการหายหน้าไป เช่นที่ว่า เขาได้ทายาทคนใหม่ , ถูกปลดจากตำแหน่งในการรัฐประหาร , ล้มป่วย , ไปทำศัลยกรรมเสริมความงาม หรือกระทั่งเสียชีวิต

    มุกตลกขำขันแพร่หลายอย่างกับไฟป่าในเครือข่ายสังคมออนไลน์ของแดนหมีขาว ซึ่งเป็นสถานที่แห่งเสรีภาพในการพูดแห่งสุดท้ายในรัสเซีย และการขึ้นแฮชแท็กว่า # Putinumer (#ปูตินตายแล้ว) ก็กลายเป็นกระแสในทวิเตตอร์

    ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกของเขา กล่าวว่า ปูติน แข็งแร็งดี และปฏิเสธข่าวลือต่างๆ โดยชี้ว่าเป็น “ความบ้าบอในเดือนมีนาคม” (March madness)

    ช่องโทรทัศน์เสรีทางอินเตอร์เน็ต Dozhd ระบุเมื่อวานนี้ (15) โดยอ้างจากหลายแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีรัสเซียล้มป่วยเป็นไข้หวัดและพักผ่อนอยู่ที่บ้านของเขากลางทะเลสาบวัลไดในภาคเหนือ


    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000030714
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,299
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “มาดูโร” ได้อำนาจสั่งการต้านสหรัฐฯ สมใจ หลังสภาเวเนซุเอลาชูมือลงคะแนนหนุน กม.ต่อต้านจักรวรรดินิยม โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มีนาคม 2558 18:11 น. (แก้ไขล่าสุด 17 มีนาคม 2558 11:24 น.)

    [​IMG]

    เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้รับอำนาจสั่งการพิเศษจากรัฐสภาเวเนซุเอลาเพื่อตอบโต้สหรัฐฯสมความตั้งใจในวันอาทิตย์ (15) หลังจากก่อนหน้านี้ถูกประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ประกาศคว่ำบาตรเวเนซุเอลา และยังถือว่าประเทศแหล่งน้ำมันดิบใหญ่ที่สุดในโลกแห่งนี้เป็นภัยความมั่นคงต่อผลประโยชน์สหรัฐฯ

    กฎหมาย “ต่อต้านจักรวรรดินิยม” ที่เข้าสู่สภาเวเนซุเอลาหลังจากประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นิโคลัส มาดูโร ได้เสนอเข้าไปก่อนหน้านี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาเวเนซุเอลาแล้วเมื่อวานนี้ (15) และจะมีผลบังคับใช้ทันทีที่ประกาศลงไปในราชกิจจานุเบกษาของเวเนซุเอลาไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2015

    บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวันนี้ (16) ว่าอำนาจที่ได้รับจากรัฐสภาเวเนซุเอลานั้นจะทำให้มาดูโรใช้คำสั่งประธานาธิบดีได้ทันทีในมาตรการที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงประเทศ และการทหาร

    โดยมาดูโรต้องการขยายอำนาจสั่งการในฐานะประธานาธิบดีเพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่ได้ประกาศคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลเวเนซุเอลา ที่รวมไปถึงการปฏิเสธวีซ่าเข้าอเมริกา และการยึดทรัพย์สิน โดยมาดูโรอ้างว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน และผู้นำประเทศโซเชียลิสต์ที่มีปัญหาเศรษฐกิจอย่างหนักในละตินอเมริกากล่าวหาวอชิงตันว่าพยายามจะล้มรัฐบาลเวเนซุเอลาชุดปัจจุบันในขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯปฎิสธมาตลอด และยังกระตุ้นให้ผู้นำเวเนซุเอลาหันมาสนใจปัญหาเศรษฐกิจของประเทศแทน รวมไปถึงการขาดแคลนสินค้าจำเป็นขั้นพื้นฐานอย่างหนัก รวมไปถึงปัญหาเงินเฟ้อ

    สื่ออังกฤษยังรายงานว่า หลังจากรัฐสภาเวเนซุเอลาผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับนี้ ผู้สนับสนุนมาดูโรจำนวนมากได้เดินขบวนเพื่อแสดงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันในการต่อต้านอเมริกาจักรวรรดินิยม และผู้นำเวเนซุเอลาได้ขึ้นกล่าวปราศรัยมีใจความตอนหนึ่งว่า “ถึงแม้อเมริกาจะมีดอลลาร์พลังทางสื่อมวลชน แต่สหรัฐฯไม่มีสิ่งหนึ่งที่เราเวเนซุเอลามีคือ พลังแห่งความเที่ยงตรง ซึ่งกฎมหายฉบับนี้จะให้อำนาจผมเพื่อปกป้องสันติภาพและเวเนซุเอลา”

    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000030849
     

แชร์หน้านี้

Loading...