ติดตามสถานะการณ์

ภูเขาไฟคอสตาริกาปะทุแรงสุดในรอบ 20 ปี ชาวบ้านอพยพหนี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มีนาคม 2558 10:13 น. (แก้ไขล่าสุด 13 มีนาคม 2558 10:48 น.)


@ภูเขาไฟตูรีอัลบาในคอสตาริกาปลดปล่อยเถ้าถ่านลอยสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า วานนี้ (12 มี.ค.)

เอเจนซีส์ - ภูเขาไฟตูรีอัลบา (Turrialba) ในคอสตาริกาปลดปล่อยเถ้าถ่านและก๊าซพิษลอยสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าเกือบ 1 กิโลเมตรเมื่อวานนี้ (12 มี.ค.) ซึ่งเป็นการปะทุที่รุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปี ขณะที่ทางการท้องถิ่นเร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย

ภูเขาไฟซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของคอสตาริกาเกิดระเบิดขึ้น 4 ครั้งวานนี้ (12) หมอกควันและเถ้าถ่านลอยไปถึงกรุงซานโฮเซซึ่งอยู่ห่างออกไป 50 กิโลเมตร จนต้องมีการสั่งปิดสนามบินชั่วคราว

“เราแนะนำให้ประชาชนและสัตว์เล็กอพยพออกมาจากพื้นที่เสี่ยงเสียก่อน เพราะการระเบิดครั้งล่าสุดนี้รุนแรงมาก” โฆษกศูนย์เฝ้าระวังกิจกรรมภูเขาไฟและแผ่นดินไหวแห่งคอสตาริกา แถลง

หน่วยบรรเทาสาธารณภัยคอสตาริกาได้สั่งปิดถนนรอบๆ ภูเขาไฟตูรีอัลบาซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม และอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในรัศมี 1 ไมล์

ตูรีอัลบาเริ่มปะทุเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว และมีการปลดปล่อยแมกมาหรือลาวาออกมาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1863

 

โพลโค้งสุดท้ายเลือกตั้งอิสราเอล “เนทันยาฮู” ยังตามหลัง
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มีนาคม 2558 17:45 น.



เอเอฟพี – ผลสำรวจความคิดเห็นโค้งสุดท้ายไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในอิสราเอลชี้ว่า พรรคลิคุดของนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ที่นั่งในรัฐสภาสภาตามหลังกลุ่มการเมืองคู่แข่งสายกลางซ้ายอยู่ 4 ที่นั่ง

หนังสือพิมพ์รายวัน Yediot Aharonot ที่ขายดีที่สุด เผยให้เห็นว่า พรรคไซออนนิสต์ยูเนียน คู่แข่งสำคัญของพรรคลิคุด จะได้ที่นั่ง 26 ที่นั่งจากทั้งหมด 120 ที่นั่งในรัฐสภา ขณะที่พรรคของ เนทันยาฮู จะได้ 22 ที่นั่ง

ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน 1,032 คนของหนังสือพิมพ์เจ้านี้ที่จัดทำขึ้นโดยบริษัทโพล Mina Tzemach จัดให้พรรคจอยท์ ลิสต์ กลุ่มพันธมิตรพรรคชนเชื้อสายอาหรับของอิสราเอลที่เพิ่งตั้งขึ้นมาหมาดๆ อยู่ที่อันดับ 3 ด้วยคาดว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภา 13 ที่นั่ง

โพลนี้มีอัตราความคลาดเคลื่อนบวกลบ 2.5 เปอร์เซ็นต์ หนังสือพิมพ์เจ้านี้ ระบุ

โพลของ Panels Research ที่ตีพิมพ์โดยหนังสือพิมพ์รายวัน Jerusalem Post ร่วมกับหนังสือพิมพ์ Maariv เผยให้เห็นว่า พรรคลิคุดตามหลังพรรคคู่แข่งอยู่ 4 ที่นั่งเช่นกัน โดยพรรคไซออนิสต์ ยูเนียน นำพวกเขาอยู่ 25 ต่อ 21ที่นั่ง

ผลสำรวจจากประชาชน 1,300 คนชิ้นนี้ยังชี้ตรงกันว่าพรรคจอยท์ ลิสต์จะได้ ส.ส. 13 ที่นั่ง โดยโพลนี้มีอัตราความคลาดเคลื่อนอยู่ที่ 3.0 เปอร์เซ็นต์

วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่โพลความคิดเห็นสามารถถูกตีพิมพ์เผยแพร่โดยถูกต้องตามกฎหมายก่อนการเลือกตั้ง

พรรคไซออนิสต์ ยูเนียนเกิดจากการจับมือกันระหว่างพรรคแรงงานของ ไอซาค เฮอร์ซอค และพรรคสายกลางฮัตนูอาห์ที่นำโดย ซีปี ลีฟนี อดีตผู้นำการเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ของฝ่ายอิสราเอล

โพลต่างๆ เมื่อไม่นานมานี้จัดให้พรรคไซออนิสต์ยูเนียนนำพรรคลิคุดอยู่ 2 ถึง 3 ที่นั่ง ขณะที่ผลสำรวจเมื่อวานนี้ (12) โดยหนังสือพิมพ์เอียงซ้ายฮาเร็ตซ์จัดให้พรรคไซออนนิสต์ยูเนียนนำพรรคของ เนทันยาฮู อยู่ 24 ต่อ 21 ที่นั่ง ขณะที่พรรคจอยท์ลิสต์ครองอันดับ 3 ด้วย 13 ที่นั่ง

ระบบการเลือกตั้งของรัฐยิวมีเป้าประสงค์ให้รัฐบาลไม่ถูกจัดตั้งขึ้นโดยพรรคที่ใหญ่ที่สุดพรรคเดียว แต่โดยหัวหน้าพรรคใดก็ตามที่สามารถสร้างกลุ่มพันธมิตรที่ควบคุมเสียงส่วนใหญ่ของรัฐสภาได้

 

ทีมวิจัยอวกาศญี่ปุ่นสร้าง “เทคโนโลยีส่งพลังงานไร้สาย” ก้าวแรกสู่แผนสร้าง “โรงไฟฟ้าอวกาศ”โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2558 17:16 น. (แก้ไขล่าสุด 12 มีนาคม 2558 18:59 น.)



เอเอฟพี – นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นประสบความสำเร็จในการส่งผ่านพลังงานแบบไร้สาย ซึ่งถือเป็นก้าวย่างสำคัญที่อาจก่อให้เกิดโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในอวกาศขึ้นในวันใดวันหนึ่งก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่เผยวันนี้ (12)

ทีมวิจัยใช้คลื่นไมโครเวฟส่งพลังงาน 1.8 กิโลวัตต์ ซึ่งมากพอที่จะเปิดใช้งานกาต้มน้ำไฟฟ้า ผ่านอากาศด้วยความถูกต้องแม่นยำสู่เครื่องรับที่อยู่ห่างออกไป 55 เมตร

แม้ว่าระยะทางดังกล่าวจะถือว่าไม่มากนัก แต่เทคโนโลยีนี้ก็สามารถกรุยทางให้มนุษยชาติเอื้อมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ปริมาณมหาศาลที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือในอวกาศและใช้มันบนพื้นโลกในท้ายที่สุด โฆษกองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น (แจกซา) ระบุ

“นี่เป็นครั้งแรกที่มีผู้ประสบความสำเร็จในการส่งพลังงานไฟฟ้าปริมาณส่งออกสูงเกือบ 2 กิโลวัตต์ผ่านคลื่นไมโครเวฟไปยังเป้าหมายขนาดเล็ก โดยใช้อุปกรณ์ควบคุมแบบเจาะจงทิศทางอันซับซ้อน” เขากล่าว

แจกซาพยายามคิดค้นระบบพลังงานแสงอาทิตย์อวกาศ (Space Solar Power Systems หรือ SSPS) มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โฆษก ระบุ

โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในอวกาศจะมีประโยชน์เหนือกว่าโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ตั้งอยู่บนพื้นโลกอย่างมากมาย ด้วยสภาพความพร้อมที่จะนำพลังงานมาใช้ตลอดเวลา โดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศหรือช่วงเวลาของวัน

ถึงแม้ว่าดาวเทียมดวงต่างๆ อย่างเช่น สถานีอวกาศนานาชาติ จะสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาที่ตัวดาวเทียมได้มานานแล้ว แต่การส่งพลังงานดังกล่าวลงมาบนโลกให้คนใช้ได้นั้น ยังเป็นเพียงเรื่องของนิยายวิทยาศาสตร์

ทีมวิจัยอวกาศญี่ปุ่นสร้าง “เทคโนโลยีส่งพลังงานไร้สาย” ก้าวแรกสู่แผนสร้าง “โรงไฟฟ้าอวกาศ”

แต่งานวิจัยของแดนอาทิตย์อุทัยชิ้นนี้กำลังเสนอความเป็นไปได้ที่ วันหนึ่งมนุษย์จะสามารถเก็บเกี่ยวแหล่งพลังงานที่ไม่มีวันหมดสิ้นในอวกาศ

โฆษกของแจกซา ระบุว่า แนวคิดดังกล่าวมีไว้ใช้กับดาวเทียมส่งผ่านแสงอาทิตย์ด้วยคลื่นไมโครเวฟ ซึ่งจะมีแผงดูดซับแสงอาทิตย์และเสาอากาศ โดยจะถูกจัดตำแหน่งไว้ห่างจากโลกราว 36,000 กิโลเมตร

“แต่มันอาจใช้เวลาหลายสิบปีกว่าที่เราจะได้เห็นประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีนี้ อาจเป็นในช่วงทศวรรษ 2040 หรือไกลกว่านั้น” เขากล่าว

“มีความท้าทายหลายอย่างที่จะต้องเอาชนะ เช่น จะส่งโครงสร้างขนาดใหญ่เข้าสู่อวกาศได้อย่างไร จะสร้างและบำรุงรักษามันอย่างไร”

แนวความคิดเรื่องโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในอวกาศผุดขึ้นมาในหมู่นักวิจัยสหรัฐฯ ในช่วงทศวรรษ 1960 และโครงการ SSPS ของญี่ปุ่น ซึ่งมีกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นผู้จัดหาทุนหลัก ได้เริ่มต้นขึ้นในปี 2009 โฆษก ระบุ

ญี่ปุ่นซึ่งขาดแคลนทรัพยากรต้องนำเข้าเชื้อเพลิงฟอสซิลปริมานมหาศาล และหันมาอาศัยแหล่งพลังงานนี้มากยิ่งขึ้น เนื่องจากการปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของประเทศเพราะผลพวงจากภัยพิบัติที่ฟูกูชิมะเมื่อปี 2011

 

โอเอสซีอีอนุมัติเพิ่มคณะสังเกตการณ์ข้อตกลงหยุดยิงยูเครนเป็น1,000คน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 มีนาคม 2558 02:32 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - องค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป(โอเอสซีอี) เตรียมเพิ่มคณะผู้สังเกตการณ์ปฏิบัติหน้าที่ทางภาคตะวันออกของยูเครนอีกกว่าเท่าตัว เป็น 1,000 คน ตามคำร้องขอของเยอรมนีและรัสเซีย นอกจากนี้ยังจะขยายภารกิจออกไปอีก 1 ปี

เมอร์ชิฮา พอดซิค โฆษกขององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรปเปิดเผยในวันพฤหัสบดี(12มี.ค.) "การตัดสินใจที่ได้รับความเห็นชอบในวันนี้(จากสมาชิกของโอเอสซีอี) ทำให้ตอนนี้ภารกิจดังกล่าวสามารถเพิ่มจำนวนคณะผู้สังเกตการณ์สงสุดเป็น 1,000 คนขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ นอกจากนี้ที่ประชุมยังให้อาณัติขยายกรอบเวลาภารกิจจนถึง 31 มีนาคม 2016"

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เยอรมนีและเรียกร้ององค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป เพิ่มคณะผู้สังเกตุการณ์จากปัจจุบันราว 470 คน เป็น 1,000 คน และขยายระยะเวลาภารกิจออกไปอย่างน้อย 1 ปี ด้วยรัฐมนตรีทั้งสองประเทศบอกว่าจำเป็นต้องมีคณะผู้สังเกตการณ์เพิ่มเติมเพื่อการตรวจตราอย่างมีประสิทธิภาพต่อข้อตกลงหยุดยิงทางภาคตะวันออกของยูเครนรอบล่าสุด ระหว่างกบฏฝักใฝ่มอสโกกับกองกำลังรัฐบาลเคียฟ

คณะผู้สังเกตการณ์ของโอเอสซีอี เข้าประจำการณ์ในยูเครนครั้งแรกเมื่อ 1 ปีก่อน หลังมีคำร้องขอมาจากยูเครน โดยคณะผู้สังเกตการณ์เหล่านี้จะทำหน้าที่รายงานสถานการณ์การสู้รบระหว่างพวกแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียกับกองทัพยูเครน เช่นเดียวกับความเคลื่อนไหวต่างๆตามจุดผ่านแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครน

กองทัพยูเครนอ้างเมื่อวันอังคาร(10มี.ค.) ว่ากบฏนิยมรัสเซียกำลังสะสมอาวุธหนักตามโกดังต่างๆรอบเมืองโดเนตสก์ที่อยู่ภายใต้การยึดครอง แม้ข้อตกลงหยุดยิงที่เห็นพ้องเดือนที่แล้ว เรียกร้องถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้าก็ตาม อย่างไรก็ดีทางโอเอสซีอี บอกว่าไม่สามารถยืนยนการถอนอาวุธจากทั้งสองฝ่ายได้ เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถเข้าถึงที่ตั้งต่างๆที่เชื่อว่าเป็นคลังเก็บอาวุธได้ทั้งหมด

 

ออสซีแห้วอีก! อินโดฯ ปัดข้อเสนอรับผิดชอบค่าใช้จ่าย 2 นักโทษตลอดชีวิต แลกเว้นโทษตาย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 มีนาคม 2558 22:02 น. (แก้ไขล่าสุด 13 มีนาคม 2558 10:42 น.)


@มยูรัน สุกุมารัน และ แอนดรูว์ ชาน หัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด "บาหลีไนน์" ซึ่งถูกทางการอินโดนีเซียตัดสินประหารชีวิต

เอเอฟพี - อินโดนีเซียในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ปฏิเสธข้อเสนอของออสเตรเลียที่ขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของ 2 นักโทษคดียาเสพติดตลอดระยะเวลาที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต หากยอมเว้นโทษตายแก่ทั้งสอง แต่ขณะเดียวกันก็ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลงทัณฑ์ด้วยการยิงเป้าพวกเขาเร็ววันนี้

จูเลีย บิชอบ รัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลีย ยื่นข้อเสนอในหนังสือที่ส่งถึงเร็ตโน มาร์ซูดี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ขณะที่แคนเบอร์รา สำรวจหาทุกวิถีทางสำหรับโน้มน้าวจาการ์ตา ล้มเลิกการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และมยูรัน สุกุมารัน 2 นักโทษแดนจิงโจ้

ชาน และ สุกุมารัน อยู่ในกลุ่มนักโทษหลายคนที่จะถูกยิงเป้าในเรือนจำความมั่นคงสูงบนเกาะนูซากัมบังงันของอินโดนีเซียในอนาคตอันใกล้นี้ในฐานความผิดก่ออาชญากรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเกือบทั้งหมดเป็นนักโทษชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ตามสำนักงานอัยการยืนยันในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ว่าพวกเขาจะยึดตามแผนเดิมคือประหารชีวิตนักโทษทุกคนพร้อมกัน นั่นหมายความว่าคงต้องเลื่อนเวลาการลงทัณฑ์ออกไป เนื่องจากเจ้าหน้าที่ต้องรอให้การยื่นอุทธรณ์ทางกฎหมายของหลายคนเสร็จสมบูรณ์ก่อน

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม บิชอบ เสนอแลกเปลี่ยนนักโทษระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับ มาร์ซูดี แต่ถูกปฏิเสธ และล่าสุดในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) เธอก็ส่งหนังสือยื่นข้อเสนอ ออสเตรเลียขอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดของ 2 นักโทษคดียาเสพติด ตลอดระยะเวลาที่ถูกจำคุกตลอดชีวิต

“อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า รัฐบาลออสเตรเลียพร้อมที่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการจำคุกคุณชาน และคุณสุกุมารัน ไปตลอดชีวิต หากอินโดนีเซียไม่ยินดีแลกเปลี่ยนตัวนักโทษ” จดหมายที่ออกโดยกระทรวงการต่างประเทศแดนจิงโจ้ระบุ “ชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่สนับสนุนความพยายามของเราที่จะขอลดหย่อนโทษให้แก่คุณชาน และคุณสุกุมารัน เราไม่ปรารถนาให้การประหารชีวิตพวกเขามาบั่นทอนความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น (ระหว่างออสเตรเลียกับอินโดนีเซีย)”

กระนั้นก็ดีทางโฆษกกระทรวงต่างประเทศอินโดนีเซียระบุว่า ข้อเสนอรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตลอดระยะเวลาของการต้องโทษจำคุกตลอดชีวิตของ 2 ผู้ต้องขัง ถูกปฏิเสธเช่นกัน “โทษประหารชีวิตถูกพิพากษาโดยศาล” เขากล่าว “มันไม่ใช่การเจรจาต่อรอง มีการตัดสินใจทางกฎหมายแล้ว”

โฆษกรายนี้ระบุด้วยว่า จาการ์ตารู้สึกผิดหวังที่รายละเอียดของการสื่อสารระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของ 2 ชาติ ถูกปล่อยรั่วไหลโดยฝั่งแคนเบอร์รา โดยชี้ว่าตามบรรทัดฐานทางการทูตแล้ว “เราจะไม่สื่อสารหรือเจรจาผ่านสื่อมวลชน”

แอนดรูว์ ชาน และ มยูรัน สุกุมารัน หัวหน้าแก๊งขนยาเสพติด “บาหลีไนน์” ถูกศาลอินโดนีเซียพิพากษาประหารชีวิตในปี 2006 ฐานพยายามขนเฮโรอีนออกจากเกาะบาหลี และเมื่อเร็วๆนี้เพิ่งถูกปฏิเสธคำร้องขออภัยโทษจากโจโค วิโดโดประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ความหวังสุดท้ายที่จะรอดพ้นจากถูกยิงเป้า และถูกพาตัวไปยังเกาะนูซากัมบังงัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของแดนประหารแล้ว

ทนายความของ ชาน และ สุกุมารัน ได้ยื่นคัดค้านการปฏิเสธลดหย่อนโทษของประธานาธิบดี วิโดโด โดยชี้ว่าผู้นำอิเหนาไม่ได้คำนึงถึงกระบวนการบำบัดพฤติกรรมที่นักโทษทั้ง 2 คนได้รับขณะอยู่ในเรือนจำ และปฏิเสธคำขอบรรเทาโทษอย่างไม่มีเหตุผล

ศาลปกครองของจาการ์ตาในวันพฤหัสบดี (12 มี.ค.) ได้เลื่อนการพิจารณาคำร้องดังกล่าวออกไปเป็นวันที่ 19 มีนาคม หลังจากเอกสารที่คณะทำงานด้านกฎหมายของรัฐบาลยื่นมานั้นยังไม่สมบูรณ์

เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียยืนกรานมาตลอดว่าการปฏิเสธอภัยโทษของประธานาธิบดีคือโอกาสสุดท้ายที่จะรอดโทษประหารขอนักโทษทั้งสองและพวกเขาจะเดินหน้าโดยไม่สนความพยายามทางกฎหมายใดๆ อีก อย่างไรก็ตาม หลังมีเสียงคร่ำครวญมาจากนานาชาติ ท่าทีของพวกเขาก็อ่อนลงไปและบ่งชี้ว่าจะรอจนว่าการยื่นอุทธรณ์ต่างๆจะได้บทสรุป

ประเด็นการประหารชีวิตนักโทษยาเสพติดพลเมืองออสเตรเลียของอินโดนีเซียนี้ ได้ลุกลามบานปลายเป็นความขัดแย้งระหว่างสองชาติ หลังจากเมื่อเดือนที่แล้ว นายกรัฐมนตรี โทนี แอ็บบอตต์ แห่งออสเตรเลีย ออกมาทวงบุญคุณต่อกรณีเคยบริจาคเงินช่วยเหลือนับพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามหลังเกิดเกิดภัยพิบัติสึนามิในมหาสมุทรอินเดียเมื่อปี 2004 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 220,000 คน

คำพูดของเขามีเป้าหมายเพื่อโน้มน้าวให้จาการ์ตายุติการประหารชีวิต แอนดรูว์ ชาน และ มยุราน สุกุมาราน แต่ความพยายามดังกล่าวกลับส่งผลตรงกันข้าม และเป็นเหตุให้เกิดกระแสความขุ่นเคืองอย่างมโหฬารขึ้นในแดนอิเหนา ที่ซึ่งผู้ประท้วงหลายกลุ่มเริ่มการรณรงค์รวบรวมเหรียญเพื่อจ่ายคืนแคนเบอร์รา และเมื่อวันอังคาร (10 มี.ค.) กลุ่มผู้ประท้วงชาวอินโดนีเซียได้ส่งถุงบรรจุเหรียญให้แก่สถานทูตออสเตรเลีย ระบุว่าเป็นการคืนเงินช่วยเหลือในช่วงเผชิญมหันตภัยร้ายแรง

นอกจากนี้แล้ว รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานเพื่อการเมือง กฎหมายและความมั่นคงของอินโดนีเซียออกมาเตือนว่า “คลื่นสึนามิ” ผู้แสวงหาที่พักพิงอาจถูกปล่อยเข้าออสเตรเลียเพื่อเป็นการตอบโต้ หากแคนเบอร์รายังไม่เลิกทวงบุญคุณขอการลดหย่อนผ่อนโทษให้นักโทษประหารคดีค้ายาเสพติด 2 รายดังกล่าว

 

ปูตินจะพบผู้นำคีร์กีซสยบข่าวลือป่วยหนัก



ทำเนียบเครมลินออกมาสยบข่าวลือว่า ผู้นำรัสเซียป่วยหนัก ด้วยการประกาศว่า วันจันทร์หน้า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน จะเจรจาสุดยอดกับผู้นำคีร์กีซสถาน ในนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก

วันศุกร์ 13 มีนาคม 2558 เวลา 18:34 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโกประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่13มี.ค.อ้างถ้อยแถลงจากทำเนียบเครมลินที่ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะพบประธานาธิบดีคีร์กีซสถานในวันจันทร์ที่16 มี.ค.นี้ หลังจากนายปูตินไม่ได้ปรากฎตัวในที่สาธารณะมานานกว่าหนึ่งสัปดาห์จนเกิดข่าวลือว่า ผู้นำรัสเซียป่วยหนัก

ก่อนหน้านั้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์นี้ประธานาธิบดีปูตินได้เลื่อนแผนการเจรจาสุดยอดกับผู้นำคาซัคสถานและเบลารุส ทำให้เกิดข่าวลือว่านายปูตินล้มป่วย ทั้งที่ผู้นำรัสเซียปรากฎตัวเป็นข่าวแทบทุกวัน ด้านนายดิมิทรี เปสคอฟโฆษกประธานาธิบดีปูตินบอกว่าไม่ต้องห่วง เพราะประธานาธิบดีรัสเซียมีสุขภาพแข็งแรง และร่างกายที่สมบูรณ์จริงๆ

สำหรับแผนการพบปะระหว่างประธานาธิบดีปูตินกับประธานาธิบดีอัลมัซเบคอาตัมบาเยฟแห่งคีร์กีซสถานที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก จะเป็นการหารือเกี่ยวกับการเข้าร่วมในสหภาพเศรษฐกิจยูเรเซีย กลุ่มการค้าที่มีรัสเซียผู้นำ ซึ่งรวมถึงประเทศอย่างเบลารุส คาซัคสถาน และอาร์เมเนีย

ปูตินจะพบผู้นำคีร์กีซสยบข่าวลือป่วยหนัก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เกาหลีทำแอพฯแจ้งเตือนเด็กฆ่าตัวตาย



เกาหลีใต้พัฒนาแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยแจ้งเตือนผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่มีความเสี่ยงที่กำลังคิดฆ่าตัวตาย หวังลดจำนวนเด็กฆ่าตัวตายในประเทศ

วันศุกร์ 13 มีนาคม 2558 เวลา 20:49 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่13มี.ค.ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้พัฒนาแอพพลิเคชั่นแจ้งเตือนผู้ปกครองเด็กนักเรียนที่มีความเสี่ยงคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้มีแผนที่จะเปิดตัวในปีนี้ ทั้งนี้แอพพลิเคชั่นจะทำการตรวจจับคำ “ที่เชื่อโยงกับการฆ่าตัวตาย” ที่เด็กใช้ค้นหาในโลกสังคมออนไลน์ ข้อความ หรือแม้แต่อินเตอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือ

ระบบจะตรวจจับและประมวลผลเด็กคนที่มีความเสี่ยง ก่อนทำการแจ้งเตือนไปยังผู้ปกครองของเด็กทางสมาร์ทโฟน ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้แถลงว่า การฆ่าตัวตายของเด็กนักเรียนได้กลายเป็นปัญหาสังคม จึงต้องมีระบบและมาตรการในการป้องกันที่ครอบคลุม

จากสถิติของกลุ่มประเทศองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา(โออีซีดี) ทั้งหมด34 ประเทศ เกาหลีใต้เป็นประเทศที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูงที่สุด และมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี สาเหตุจากการแข่งขันสอบเข้ามหาวิทยาลัย

กระทรวงศึกษาธิการเกาหลีใต้เผยข้อมูลพบว่า ระหว่างปี2552-2557 มีนักเรียนฆ่าตัวตายสูงถึง878ราย รวมจำนวนนักเรียนที่ฆ่าตัวตายเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่118ราย

เกาหลีทำแอพฯแจ้งเตือนเด็กฆ่าตัวตาย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

จีนชื่นชมอังกฤษประกาศร่วมหุ้นส่วนเอไอไอบี



โฆษกรัฐบาลจีนแถลงชื่นชมอังกฤษที่ประกาศสนใจเข้าร่วมเป็นหุ้นส่วนในธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย(เอไอไอบี) แม้ทำให้สหรัฐเกิดความไม่พอใจก็ตาม

วันศุกร์ 13 มีนาคม 2558 เวลา 17:05 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 13มี.ค.ว่ารัฐบาลจีนยกย่องอังกฤษที่ประกาศจะเข้าร่วมในธนาคารเพื่อการพัฒนานำโดยจีนหลังสหรัฐแสดงความไม่พอใจที่อังกฤษจะเข้าเป็นหุ้นส่วนในธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชีย(เอไอไอบี)

นายหงเล่ย โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนเปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวว่า จีนขอแสดงความยินดีต่อการตัดสินใจของสหราชอาณาจักร หากทุกอย่างดำเนินไปด้วยดี อังกฤษอาจกลายเป็นสมาชิกธนาคารเอไอไอบีในช่วงสิ้นเดือนมี.ค. และเอไอไอบี จะเป็นธนาคารเพื่อการพัฒนาที่สมบูรณ์แบบ สำหรับธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชียที่มีมูลค่า 50,000ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 1.6ล้านล้านบาท ผลักดันโดยรัฐบาลจีนเพื่อเป็นหนทางของการพัฒนาทางการเงินในภูมิภาคและยังถูกมองว่าจะเป็นคู่แข่งของสถาบันการเงินที่มีสำนักงานอยู่ในสหรัฐอย่างธนาคารโลก(เวิลด์แบงก์)

อย่างไรก็ตามสหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้และอีกหลายประเทศ ปฏิเสธการร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งธนาคารเอไอไอบี แต่อังกฤษประกาศว่า แผนการเข้าร่วมธนาคารเพื่อการพัฒนาที่ผลักดันโดยจีน และทำให้อังกฤษกลายเป็นชาติมหาอำนาจตะวันตกแห่งแรกที่เข้าร่วมนั้น เพื่อกระชับความสัมพันธ์กับจีน

สำหรับประเทศที่ให้การสนับสนุนธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเอเชียรวมทั้งอินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ปากีสถานฟิลิปปินส์ อุซเบกิสถานและเวียดนาม โดยจีนกับ20ประเทศลงนามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)เพื่อตั้งธนาคารดังกล่าวที่มีสำนักงานอยู่ในกรุงปักกิ่งของจีนเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว



จีนชื่นชมอังกฤษประกาศร่วมหุ้นส่วนเอไอไอบี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

พบหลุมยุบขนาดยักษ์แห่งใหม่ในไซบีเรีย



นักวิทยาศาสตร์รัสเซียเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมยุบยักษ์แห่งที่ 7 ที่เพิ่งมีรายงานการค้นพบทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศในเขตไซบีเรีย โดยสันนิษฐานว่าปรากฏการณ์เกิดหลุมเหล่านี้เป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน

วันศุกร์ 13 มีนาคม 2558 เวลา 16:46 น.
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 13 มี.ค. ว่า นายวาสิลี โบโกยาฟเลนสกี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยก๊าซและน้ำมัน จากราชบัณฑิตวิทยสถานแห่งรัสเซีย เผยการค้นพบหลุมยุบขนาดยักษ์แห่งใหม่ มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 กิโลเมตร ในสาธารณรัฐซาฮา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ซึ่งนับเป็นหลุมยุบยักษ์แห่งที่ 7 เท่าที่มีการรายงาน ขณะที่ทั้ง 6 แห่งก่อนหน้านี้ล้วนอยู่ในแคว้นยามาโล-เนเนตสกี ในเขตไซบีเรียทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยผู้เชี่ยวชาญเตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบหลุมยุบแห่งใหม่ ว่ามีลักษณะการเกิดเช่นเดียวกับอีก 6 จุดหรือไม่

นอกจาก 7 แห่งนี้แล้ว นักวิทยาศาสตร์คาดว่ามีอีกจำนวนมากที่ยังไม่ถูกค้นพบ เนื่องด้วยลักษณะภูมิประเทศที่ห่างไกลไม่มีผู้คนอาศัย โดยการค้นพบเริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อเดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ทำให้เกิดการคาดเดาทฤษฎีการเกิดกันไปต่างๆ นานา ไม่ว่าจะเป็นอุกกาบาตถล่มหรือแม้แต่ฝีมือมนุษย์ต่างดาว แต่นักวิทยาศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศของโลกที่เพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้น้ำแข็งใต้ดินที่อยู่ในชั้นดินเยือกแข็งคงตัวละลาย ปลดปล่อยก๊าซมีเทนออกมา จนนำไปสู่การระเบิดกลายเป็นหลุมขนาดยักษ์ โดยในบรรดาหลุมที่คาดว่าอยู่นอกเหนือการสำรวจ คือหลุมที่เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว อาจจะราวหลายพันปีก่อนหน้านี้ และใช้เวลาประมาณ 2 - 3 ปี แปรสภาพกลายเป็นแหล่งน้ำ ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำการศึกษาวิเคราะห์.

หมายเหตุ: ภาพประกอบคือหลุมยุบที่มีการค้นพบก่อนหน้านี้ที่แคว้นยามาโล-เนเนตสกี

พบหลุมยุบขนาดยักษ์แห่งใหม่ในไซบีเรีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ปอกเปลือก ทรราช
อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดในตะวันออกกลางอิรัคจับมืออิหร่านถล่มไอซิส อเมริกาไม่พอใจส่งเครื่องบินรบถล่มทหารอิรัคดับ 22 นาย



---------------
มาติดตามสถานการณ์การสู้รบระหว่างกองทัพอิรัคกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสลูกน้องอเมริกาบ้างครับ ขอเล่าเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนนี้ก็พอนะครับ
เมื่อวันที่ 5 มี.ค.58 (ยึดวันที่ตามข่าวต่างประเทศนะครับ) กลุ่มผู้ก่อการร้ายไอซิสสามารถรุกเข้ายึดแหล่งผลิตน้ำมันใกล้บ้านเกิดของอดีตปธน.ซัดดัม ฮุสเซน ของอิรัค แถวเมือง Al-Alam ทางตะวันออกของเมือง Tikrit ได้ บ่อน้ำมันแห่งนี้สามารถผลิตน้ำมัน 25,000 บาเรลและผลิตก๊าซธรรมชาติได้ถึง 4.24 ล้านคิวบิคเมตรต่อต่อวัน
ต่อมาในวันที่ 10 มี.ค.58 กองทัพอิรัคที่ได้รับการสนับสนุนจากกองกำลัง Shiite ของอิหร่านพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธท้องถิ่นชาวเคิร์ด สามประสานรวมกำลังถล่มไอซิสอย่างหนัก ทำให้ไอซิสไม่สามารถรับมือได้จึงจำใจถอย เพราะเสียกำลังพลไปมาก จากนั้นกองกำลังผสมของอิรัคก็สามารถเข้ายึดเมือง Al-Alam จากพวกไอซิสคืนมาได้อีกครั้ง การต่อสู้ได้รุกไล่พวกไอซิสให้ถอยร่นเข้าไปในเมืองติกริตและหนีออกจากเมืองไปในที่สุด และอิรัคก็ยึดเมืองติกริตคืนมาได้ด้วยเช่นกัน ชัยชนะครั้งนี้ทำให้รัฐบาลและกองทัพของอิรัคมีความมั่นใจและฮึกเหิมมากขึ้นแม้จะไม่มีอเมริกาช่วยเหลือ
วันต่อมาฝ่ายสหรัฐฯที่นั่งดูสถานการณ์การสู้รบกันผ่านจอทีวีที่กรุงวอร์ชิงตันและคอยรับฟังรายงานข่าวจากซีไอเอในอีรัคอยู่ตลอดเวลา โดยที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือใดๆในการต่อสู้และขับไล่ไอซิสในครั้งนี้ก็ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อฯของตัวเองว่า ทางสหรัฐฯเชื่อว่าทางกองทัพของอิรัคที่มีอิหร่านอยู่เบื้องหลังสามารถเอาชนะพวกผู้ก่อการร้ายได้ แต่สหรัฐฯมีความกังวลถึงสถานภาพของประชาชนชาวสุหนี่ในอิรัค เนื่องจากเกรงว่าสถานการณ์สู้รบอาจบานปลายกลายเป็นสงครามชาติพันธุ์กับทหารอิรักส่วนใหญ่ซึ่งเป็นชาวชีอะห์ นั่นเอาอีกแล้วไหมหละ! สหรัฐฯใช้ลูกไม้เดิมอีกแล้ว ใช้แผนทำลายความสามัคคีเสี้ยมให้ประชาชนและกองทัพแตกคอกันอีกแล้ว (เหมือนที่กำลังพยายามทำอยู่ในเมืองไทยในขณะนี้) และทำให้สองชาติที่นับถือศาสนาเดียวกันแต่คนละนิกายหันมาทะเลาะกันเรื่องศาสนาอีกแล้ว เขากำลังร่วมมือกันต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย อเมริกาดันเสี้ยมให้เขาไม่ถูกกันซะนี่ ก็ลูกน้องตัวเองตกเป็นรองแพ้สนามรบที่ติกริตอ่ะ ก็เลยต้องงัดไม้นี้ออกมาใช้
นอกจากเสี้ยมให้ประชาชนชาวอิรัคและและทหารทะเลาะกันแล้ว ยังหาเรื่องฝั่งรัสเซียอีก โดยบอกว่านักรบอาสาจำนวนมากที่เข้าร่วมกับฝ่ายไอซิสในตะวันออกกลางนั้นอาจจะหันมาก่อการร้ายในรัสเซียก็ได้ จากข้อมูลของทางการรัสเซียพบว่ามีนักรบชาวรัสเซียประมาณ 1,700 กว่าคนที่เข้าต่อสู้ร่วมกับฝ่ายไอซิสด้วย แต่ถ้าเทียบกับฝั่งตะวันตกแล้วของอียูมีเป็นหมื่นกว่ารายที่ไปเป็นพวกไอซิส แต่อเมริกาไม่เคยเปิดเผยว่ามีคนของตนไปเป็นพวกไอซิสจำนวนเท่าไรบ้างเลย
หลังจากที่ไอซิสถูกกองกำลังผสมของอิรัคไล่ยิงถล่มหนีหางจุกตูดออกจากเมืองติกริตแล้ว และสหรัฐฯรู้สึกไม่ชอบใจที่เป็นเช่นนั้น จึงส่งเครื่องบินรบของตัวเองออกไปถล่มที่เมืองติกริตในอิรัค และในซีเรียด้วย โดยก่อนหน้านี้อ้างว่าทางรัฐบาลอิรัคไม่ได้ร้องขอมาจึงไม่ส่งกองกำลังหรือเครื่องบินรบไปช่วย แต่งานนี้เขาก็ไม่ได้ขอมาเหมือนกัน แต่พี่แกส่งไปเอง แล้วก็ทิ้งระเบิดใส่เมืองหลังจากที่พวกไอซิสออกไปแล้วด้วย ตามรายงานบอกว่าถล่มไปหลายจุดสามารถทำลายอาวุธหนักและรถยนต์ของพวกไอซิสได้จำนวนมาก จะเขียนรายงานให้สวยยังไงก็เขียนไปเถอะก็พูดเองเออเองทั้งนั้น ระเบิดที่ไปทิ้งใส่เมืองติกริตนั้นทิ้งใส่ใครกันแน่? ก็เมื่อพวกไอซิสมันหนีออกไปหมดแล้ว ก็จะใครซะอีกหละที่อยู่ที่นั่น เหลือแต่ทหารอิรัค-อิหร่าน-นักรบชาวเคิร์ดเท่านั้นเองนะสิ
ต่อมาในวันที่ 13 มี.ค.58 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า รัฐบาลอิรัคเรียกร้องให้มีการสอบสวนการโจมตีทางอากาศของเครื่องบินสหรัฐฯที่ทำให้ทหารของอิรัคเสียชีวิตจำนวน 22 นาย กรรม! กองทัพของสหรัฐฯออกมาแก้ตัวว่าทหารของอิรัคที่เสียชีวิตนั้นเป็นอุบัติเหตุในการต่อสู้กันเองในกลุ่มกองกำลังผสมของฝั่งอิรัค (friendly fire incident) โดยอ้างรายงานของอิรัค รายงานแบบนี้มันเสกขึ้นมาได้เสมอโดยฝ่ายสหรัฐฯ ส่วนทางการของอิรัคออกมาปฏิเสธรายงานดังกล่าวที่อ้างโดยสหรัฐฯ และบอกว่าทางกำทัพของอิรัคไม่ได้ส่งเครื่องบินรบเข้าไปต่อสู้ในบริเวณดังกล่าวเลย ถ้าฟังดูแค่นี้บางคนอาจจะบอกว่าจะเชื่อใครดีหละนี่โทษกันไปแล้วก็โทษกันมาอ่ะ แต่ถ้ามองให้ดีก็จะพบว่าถ้าอเมริกาไม่ส่งเครื่องบินรบของตัวเองเข้าไปเหตุการณ์ดังกล่าวก็จะไม่เกิดขึ้นโดยเด็ดขาด
งานนี้เป็นการสั่งสอนอิรัคจากฝั่งอเมริกาว่า หนึ่งอย่าไปร่วมมือกับอิหร่าน สองอย่าทำให้อเมริกาเสียหน้าในเวทีโลกว่าถึงแม้ไม่มีอเมริกาช่วย อิรัคกับอิหร่านก็สามารถเอาชนะพวกไอซิสได้ สามอเมริกาไม่ชอบให้ใครมารังแกไอซิสลูกน้องของตัวเอง ถ้าปราบพวกไอซิสได้ อิหร่านกับอิรัคสามัคคีกันเกิดความสงบแล้วอเมริกาจะกินอะไรในตะวันออกกลาง และจะขายอาวุธให้ใคร และจะใช้ข้ออ้างอะไรในการเพิ่มงบกลาโหมรวมถึงเหตุผลในการชักชวนให้ชาติพันธมิตรนาโต้ไปถล่มตะวันออกกลางอีก
เมื่อเร็วๆนี้ก็มีข่าวจากฝั่งรัสเซียว่าปูตินกำลังจะเข้าไปเป็นผู้เล่นอีกรายในตะวันออกกลาง โดยใช้เหตุผลเดียวกันกับสหรัฐฯและนาโต้ว่าไปปราบไอซิสเช่นเดียวกับอิหร่านที่ไปช่วยอิรัคนั่นแหละ จุดประสงค์ของปูตินนอกจากไปช่วยฝั่งรัฐบาลซีเรียที่เป็นพวกโปร-รัสเซียและเรื่องของผลประโยชน์ระหว่างซีเรียกับเซียแล้ว ยังมีเรื่องของความมั่นคงในรัสเซียอีกด้วย ยังไง? ก็ตอนนี้ทางนาโต้ถอนทัพออกจากการคุ้มครองฝิ่นในแอฟกานิสถานมาซ้อมรบใกล้ชายแดนรัสเซียทั้งทางน้ำและทางบกเพิ่มมากขึ้นทุกวัน การตกเป็นผู้รับนานๆแบบนี้ไม่ดีแน่ จำเป็นต้องย้ายสนานรบออกไปที่อื่นให้ห่างจากบ้านตัวเอง ไปที่ไหน? ที่อิรัคมีอิหร่านช่วยอยู่แล้วโดยมีจีนหนุนอิหร่านอยู่ห่างๆ ส่วนที่ซีเรียยังไม่มีใครช่วยฝั่งรัฐบาลซีเรียแบบออกหน้าโดยตรง สหรัฐฯและนาโต้สนับสนุนฝั่งกบฎที่ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งก็คือไอซิสนั่นแหละ ก็เหลืออยู่ที่เดียวคือซีเรียนี่ไงที่รัสเซียจะเข้าไปเล่นได้ ดังนั้นข้ออ้างที่เข้าร่วมสงครามในซีเรียเพื่อดึงนาโต้ออกจากรัสเซียก็คือไปสู้กับไอซิส แล้วก็ถือโอกาสซัดกับพวกกบฎที่อเมริกาหนุนอยู่ด้วยซะเลยโดยบอกว่าเป็นพวกไอซิสบ้าง เหตุผลนี้ฝั่งตะวันตกห้ามรัสเซียไม่ได้เพราะไปปราบไอซิสซึ่งเป็นเป้าหมายเดียวกันกับที่อเมริกาและนาโต้บอกว่าเป็นผู้ก่อการร้าย ภาพจึงออกมาว่าอยู่ฝ่ายเดียวกันร่วมมือกันปราบไอซิส คล้ายๆกับการแข่งกันปราบนาซีของฮิตเลอร์ในสมัยก่อน แต่ไม่เหมือนสมัยสงครามเวียดนามที่เป็นสงครามตัวแทนอยู่กันคนละฝ่าย ปูตินแค่รอเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นเอง เพราะช่วงที่ไปพบกับผู้นำอียิปต์ก็เคยเกริ่นกันไว้แล้วรอบหนึ่ง
The Eyes
14/03/2558
-----------
ISIS leaders pull back from Tikrit amid massive Iraqi assault on stronghold – reports — RT News
ISIL Torches Iraq Oil Field as Army Advances on Tikrit / Sputnik International
Iraqi Security Forces, Militia Capture Strategic Town From Islamic State / Sputnik International
Iran Anti-ISIL Contribution Now ‘Positive’, US Worried About What's Next / Sputnik International
‘No Doubt’ Iran-Iraq Joint Forces Will Retake Tikrit from ISIL - Pentagon / Sputnik International
Large Number of Russians Fighting With ISIL May Return With Terror Skills / Sputnik International
Islamic State Weakened by 12 US, Coalition Airstrikes - Pentagon / Sputnik International
Peshmerga Fighters Take Key Ridgeline in Iraq - US Central Command / Sputnik International
http://rt.com/ne…/240441-iraq-soldiers-killed-investigation/

 

ปอกเปลือก ทรราช
ระวัง! ทานไอศครีมมรณะของอเมริกันเสียชีวิตแล้ว 3 ป่วยหนักอีก 2 ราย



---------------
ข่าวนี้เช็คแล้วครับ ไม่มั่ว ไม่ใช่ข่าวปล่อย ไม่ใช่ข่าวลืออย่างกรณีข่าวปล่อยเกี่ยวกับปูตินจากฝั่งตะวันตก เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหน่วยงานด้านอาหารและยาของสหรัฐฯได้เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการเสียชีวิต 3 รายจากผู้ป่วยทั้งหมด 5 รายที่เป็นโรค "ลิสเทอริโอสิส" (Listeriosis) เนื่องจากติดเชื้อแบ็คทีเรีย "ลิสเทอเรีย" (Listeria) เมื่อช่วงเดือนมกราคมปี 2557 ในประเทศสหรัฐอเมริกา
จากการตรวจสอบย้อนหลังเพื่อหาแหล่งที่มาของเชื้อโรคชนิดนี้โดยพบว่า ผู้ป่วยทั้ง 5 รายทานไอศรีมชนิดหนึ่งที่เรียกว่า "Scoops" (บ้านเราเรียกว่าไอศรีมโคน) ของบริษัทผลิตไอศรีมยี่ห้อเดียวกันชื่อ "Blue Bell" สัญชาติอเมริกันที่ผลิตมายาวนานถึง 108 ปี จำหน่ายใน 23 รัฐและเป็นไอศรีมที่มียอดขายสูงสุดในอเมริกา ผู้ป่วยทั้ง 5 รายถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเนื่องจากพิษของการติดเชื้อลิสเทอเรียเสียชีวิต 3 รายในเวลาต่อมาในโรงพยาบาล ส่วนอีกสองรายยังพักรักษาตัวอยู่ตั้งแต่ปีที่แล้ว จากการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ของ Blue Bell ที่ผลิตในรัฐเซาท์แคโรไลน่า และรัฐเท็กซัส พบว่าไอศรีมที่ปนเปื้อนเชื้อลิสเทอเรียมี 3 ชนิดคือ Chocolate Chip Country Cookie Sandwiches, และ Great Divide Bars
โรค "ลิสเทอริโอสิส" หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า โรคลิสเทอริโอซิส (Listeriosis) เป็นโรคที่เกิดจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียที่เรียกกันในภาษาทางวิทยาศาสตร์ว่าลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส (Listeria monocytogenes) ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่เล็กมากไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่าได้
เมื่อได้รับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อลิสทีเรีย โมโนไซโตจีเนส เข้าไปก็จะมีอาการคล้ายโรคหวัด คือ วิงเวียนศีรษะ ปวดหัว มีไข้ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ และอาเจียน
และที่สำคัญก็คือถ้าโรคนี้เกิดกับมารดาที่กำลังตั้งครรภ์ เด็กทารก และผู้สูงอายุรวมถึงผู้ป่วยที่เป็นโรคเอดส์ ก็จะเกิดอาการรุนแรงอย่างมาก ในกรณีที่เป็นมารดาที่กำลังตั้งครรภ์ก็อาจจะเกิดภาวะการแท้งลูกได้ หากเกิดในทารก คนชรา หรือผู้ป่วยโรคเอดส์ อาจเสียชีวิตได้ หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
จากข้อมูลพบว่าความรุนแรงที่เกิดกับมารดาที่กำลังตั้งครรภ์มีมากกว่าคนธรรมดาที่ติดเชื้อนี้ถึง 20 เท่า และ 200-300 เท่าสำหรับผู้ป่วยโรคเอดส์
เมื่อต้นปีนี้เองก็มีข่าวก็มีข่าวจากทาง อย.เผย แอปเปิ้ลปนเปื้อนเชื้อลิสเทอเรีย (Listeria) ที่ อย.สหรัฐอเมริกา เรียกคืนจากบริษัท Bidart Bros ไม่มีการนำเข้ามาในประเทศไทย ที่นำเข้ามาเป็นคนละตรา ผู้บริโภคไม่ต้องกังวล ทั้งนี้ด่านอาหารและยามีการตรวจเข้มก่อนนำเข้าเป็นอย่างดี เพื่อความปลอดภัยก่อนบริโภคควรล้างให้สะอาด และปอกเปลือกก่อนรับประทาน... (อันนี้ทางสำนักสารนิเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขของไทยเราแจ้งมาอย่างนี้)
ที่เมืองไทยไม่รู้ว่ามีไอศครีมยี่ห้อนี้ขายตามร้านอาหารดังๆหรือในห้างเปล่านะ คำเตือนการบริโภคไอศครีมอเมริกันเป็นความเสี่ยงต่อชีวิตของท่านเอง โปรดใช้วิจารณญาณก่อนการตัดสินใจซื้อและบริโภค
The Eyes
14/03/2558
---------------
http://www.cdc.gov/lis…/outbreaks/ice-cream-03-15/index.html
Three Dead After Kansas Ice Cream Poisoning / Sputnik International
http://fox2now.com/…/blue-bell-ice-cream-products-linked-t…/
http://www.foodsafetynews.com/…/3-deaths-5-illnesses-list…/…
http://elib.fda.moph.go.th/library/default.asp…
http://pr.moph.go.th/…/include/admin_hotnew/show_hotnew.php…
http://www.foodsafety.gov/…/causes/bacteriaviruses/listeria/
HealthMap | Cholera

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียปล่อยกู้ IMF ให้ยูเครน 4.5 ร้อยล้านบาท



---------------
นาย Anton Siluanov รมว.คลังของรัสเซียกล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 มี.ค.58 ที่ผ่านมารัสเซียได้ปล่อยเงินกู้ IMF ให้กับทางกรุงเคียฟงวดแรกจำนวน 13.75 ล้านดอลล่า (ประมาณ 4.5 ร้อยล้านบาท) ตามโปรแกรมการปล่อยเงินกู้ของ IMF เพื่อช่วยเหลือยูเครนภายใต้วงเงิน 17.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯนั้น (ประมาณ 5.7 แสนล้านบาท) กลุ่มประเทศผู้ถือหุ้นในกองทุนฯ จะต้องแบ่งโควต้ากันในการปล่อยเงินกู้ ซึ่งหนนี้ก็ถึงคราวของรัสเซียแล้ว จริงแล้วยูเครนขอกู้ไว้ทั้งหมดถึง 40 ล้านเหรียญฯ (1.3 ล้านล้านบาท $1 = 32.9664 บาท) โดยกำหนดไว้ว่าภายในปี 2558 นี้ยูเครนจะได้รับเงินกู้รวมทั้งหมด 10 ล้านเหรียญฯ ส่วนยอด 17.5 พันล้านเหรียญฯนี้เป็นงวดแรกที่ยูเครนได้รับอนุมัติจาก IMF ส่วนยอดที่เหลือก็จะกระจายกันไปตามแหล่งเงินทุนของเจ้าหนี้รายใหญ่ๆทั้งหลายที่นำโดยสหรัฐฯและอียู แบ่งกันกินว่างั้นเถอะ นาย Arseniy Yatsenyuk นายกฯของยูเครนกล่าวว่าเงินกู้ IMF ไม่ได้ใช้ในโปรแกรมด้านสังคม ในขณะที่นาย Natalie Jaresko รมว.คลังของยูเครนกล่าวว่ายอดเงินกู้ IMF จะถูกนำมาใช้แทนทองคำสำรองเงินทุนในประเทศและสำรองเพื่อการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งการใช้หนี้ต่างประเทศด้วย
เงินกู้จำนวนนี้จะไม่ถูกนำมาใช้เพื่อการปฏิรูปและพัฒนาประเทศในโครงการใดๆเลย ไม่ว่าจะเป็นด้านการฟื้นฟูความเสียหายจากสงคราม ด้านสังคม และอื่นๆ แต่จะถูกนำไปจ่ายเป็นค่าอาวุธให้กับสหรัฐฯและอียูแทน บางส่วนพวกนักการเมืองก็แบ่งกันกินตามระเบียบ ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายเปโตร โปโรเชนโก ปธน.ของยูเครนมามุกเดิมโดยออกมาคุยฟุ้งอีกแล้วว่ากรุงเคียฟได้มีสัญญาการส่งมอบอาวุธหนักจากกลุ่มประเทศอียูแล้ว
มันจะเชื่อถือได้หรือเปล่านี่? ครั้งก่อนนี้ก็ออกมาต้มชาวบ้านไปครั้งหนึ่งแล้วว่าได้เซ็นต์สัญญาซื้อขายอาวุธกับประเทศสหรัฐอาหรับอีมิเรทส์ตั้ง 20 กว่าสัญญา ต่อมาทาง UAE ก็ออกมาปฏิเสธคำกล่าวอ้างของนายโปโรเชนโก้ หน้าแตกยับเยิน คราวนี้มามุกเดิมอีกหละ แต่จาก UAE มาเป็น EU แทน แต่ทางกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียในยูเครนตะวันออกกลางก็ออกมาปฏิเสธคำพูดของนายโปโรว่า สัญญาที่ว่าอาจจะเป็นสัญญาซื้อขายอาวุธของบริษัทเอกชนมากกว่า
จะเอกชนหรือรัฐบาลทำเองมันก็พวกเดียวกันนั่นแหละ อาจจะซื้อในนามของบริษัทเอกชนบังหน้าก็ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงข้อห้ามจากทางอียูที่ไม่เห็นด้วยในการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
The Eyes
14/03/2558
--------------
http://rt.com/business/240517-russia-ukraine-imf-tranche/
Russia Provides Ukraine With $13.75 Million as Part of First IMF Loan / Sputnik International
TASS: Economy - Russia to take part in financing 1st tranche of IMF program for Ukraine — finance minister
Kiev Admits Existence of Contracts on Delivery of Lethal Weapons From EU / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



จีนตอกกลับอเมริกาทำตัวเหมือนเด็กเป็นพวกโรคหวาดระแวงชอบตีโพยตีพาย กรณีอังกฤษเข้าร่วม AIIB กับจีน
----------------
บทบรรณาธิการสำนักข่าวซินหัว (Xinhua) เป็นรายแรกที่ออกมาตอบโต้กรณีกรุงวอร์ชิงตันที่พยายามดึงอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกของธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคเอเซีย "Asian Infrastructural Investment Bank" (AIIB) ตามที่ได้แจ้งให้ทราบในโพสต์ก่อนหน้านี้ ในการตอบโต้อเมริกาจากสื่อฯของจีนในครั้งนี้จีนได้กล่าวว่า "สหรัฐฯได้ทำตัวเป็นพวกโรคฮิสทีเรียหวาดระแวงอีกครั้ง โดยได้เผยความขี้สงสัยต่อการก่อตั้งธนาคาร AIIB ของจีน"
นี่เป็นข้อความบางตอนจากสื่อฯจีน...
"สหรัฐฯพยายามที่จะปิดตาตัวเองไม่ให้เห็นความพยายามในทางที่สร้างสรรค์เช่นสายพานทางเศรษฐกิจในเส้นทางสายไหมระหว่างจีนกับยุโรป บางครั้งพวกนักการเมืองของสหรัฐฯก็ไม่สามารถห้ามตัวเองได้จากเรื่องจุกจิกหยุมหยิม และเป็นพวกขาดความรับผิดชอบ" สักแต่ว่าผายลมออกทางปากไปวันๆว่างั้นเถอะ
"ปฏิกิริยาของรัฐบาลสหรัฐฯในครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก นอกจากอาการหวาดผวาแบบเด็กที่มีต่อจีน ซึ่งก็ไม่ต้องแปลกใจอะไรมองเสียว่ากรุงวอร์ชิงตันนั้นได้พาตัวเองไปอยู่บนคลื่นที่ไม่อาจะเชื่อได้มานานแล้ว" (อูย… สำบัดสำนวนของจีนเป็นอย่างนี้เองหรอกรึ ใช้ได้อ่ะ ชอบไม่ด่าตรงๆว่าเป็น "พวกที่เชื่อถือไม่ได้" แต่บอกว่าอยู่กับสิ่งอื่นที่เชื่อถือไม่ได้แทน) บก.ของซินหัวบอกว่ามันเป็นสไตลลลลล์อ่ะ น้อง
แถมให้อีกนิดนึงว่า "รัฐบาลสหรัฐฯจะต้องเข้าใจว่าการมีอคติและการขาดความไว้วางใจทางยุทธศาสตร์ที่ฝังรากลึกที่มีต่อจีนนั้นไม่สามารถช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีและเข็มแข็งให้กับชาติเอเซียนี้ได้"
กำลังรอฟังหมัดสวนกลับจากฝั่งรัฐบาลจีนอยู่ ยังไม่มา เขาปล่อยให้สื่อฯออกมาด่านำไปก่อน เดี๋ยวพี่ใหญ่คงจะตามมาเองมั๊ง? ถ้าไม่มาก็อาจจะทำเป็นหูทวนลมไป ประมาณว่าอย่าไปพยายามตีความหมายจากเสียงฝายลมของรัฐบาลอเมริกันให้เป็นภาษาคนเลย
The Eyes
14/03/2558
--------------
Commentary: U.S. childish paranoia only weakens ties with China - Xinhua | English.news.cn
China Furious at US 'Childish, Hysterical Paranoia' on Beijing World Bank / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช
อังกฤษไม่สนคำขู่ของอเมริกา ขอมีเอี่ยวใน AIIB ร่วมกับจีนด้วย



----------------
วันนี้ (13 มี.ค.58) รัฐบาลอังกฤษตัดสินใจขอเข้าร่วมเป็นสมาชิกในการก่อตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเอเซีย ที่มีชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า "Asian Infrastructural Investment Bank" (AIIB) อังกฤษถือว่าเป็นชาติแรกในกลุ่มประเทศตะวันตกที่เข้าธนาคาร AIIB ที่นำโดยจีน ปัจจุบัน AIIB ประกอบด้วยสมาชิกทั้งหมด 28 ประเทศ โดยในวันที่ 24 ตุลาคม 2557 กลุ่มประเทศในเอเซีย 21 ประเทศได้ (รวมทั้งประเทศไทยด้วย แต่ไม่มีญี่ปุ่นกับออสเตรเลีย) ลงนาม MOU ร่วมกันที่กรุงปักกิ่งประเทศจีนเพื่อจัดตั้งธนาคารแห่งขึ้นมา เพื่อใช้เป็นแหล่งเงินทุนให้แก่ประเทศสมาชิกได้ใช้สำหรับกู้ยืมในโครงการก่อสร้างและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในภูมิภาคเอเซีย-แฟซิฟิก โดยมียอดเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งจีนจะร่วมลงทุนถึง 50% ต่อมาในปีนี้ก็มีชาติอื่นๆขอเข้าร่วมด้วย จะมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงปักกิ่งภายในสิ้นปีนี้
การก่อตั้งธนาคาร AIIB นี้ในสายตาของสหรัฐฯบอกว่าเป็นคู่แข่งของธนาคารโลก IMF และ ADB ที่นำโดยสหรัฐฯ แต่ฝ่ายจีนมองว่าเป็นทางเลือกให้กับกลุ่มประเทศสมาชิก ที่จะได้ไม่ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบจากชาติมหาอำนาจตะวันตกอีกต่อไป ก่อนหน้านี้ทางสหรัฐฯก็ออกมาเตือนอังกฤษว่าให้คิดให้ดีนะที่จะร่วมมือกับจีนหนะ และดูถูกว่าระบบการบริหารการจัดการและด้านความโปร่งใสของ AIIB ยังไม่ได้มาตรฐานสากล อ้าว! เขายังได้ออกระเบียบอะไรให้เรียบร้อยเลย เขาแค่เซ็นลงนาม MOU ร่วมกันว่าจะตั้งธนาคารขึ้นมาเท่านั้น อาคารสำนักงานก็ยังสร้างไม่เสร็จ ตอนนี้เขากำลังร่วมมือกันร่างกฎระเบียบและเงื่อนไขต่างๆร่วมกันอยู่ทางสหรัฐฯรีบเตะตัดขาแล้วว่าไม่โปร่งใส มันแน่อยู่แล้วถ้าโครงการไหนที่อเมริกไม่มีส่วนแบ่งเค้กด้วย ก็จะออกมาแนวนี้เสมอ แต่จีนกับอังกฤษไม่สน อังกฤษบอกว่าอะไรหรือเหมือนได้ยินเสียงปีกแมลงวันกระทบอากาศบินผ่านหูไปฟังไม่รู้เรื่อง มะ…อาเฮียสี มาคุยเรื่องการลงทุนในธนาคาร AIIB ร่วมกันดีกว่า คืออังกฤษอยากจะขอมีหุ้นด้วยซักสิบกว่าเปอร์เซ็นจะได้หรือเปล่า? เฮียสีบอกว่าไม่มีปัญหายินดีต้อนรับเสมอ ในการนี้อังกฤษบอกว่านี่เป็นโอกาสที่ดีที่สุดสำหรับอังกฤษและเอเซียในการลงทุนร่วมกัน และอังกฤษคิดว่านี่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของชาติของอังกฤษ
นอกจากนี้แล้วจีนกับอังกฤษยังจับมือกันกำหนดให้ลอนดอนเป็นศูนย์การแลกเปลี่ยนสกุลเงินหยวนที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปอีกด้วย งานนี้อเมริกาก็ค้านหัวยันฝาอีกเช่นกัน แต่อังกฤษก็ไม่สน ก็กินเปอร์เซ็นต์ฟรีๆจากการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและหักค่าธรรมเนียนอ่ะ ใครจะไม่ชอบ โอกาสดีๆวิ่งมาหาอย่างนี้ถ้าไม่คว้าไว้ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว อังกฤษเองก็รู้ตัวว่าพักหลังมานี้เหมือนตัวเองตกเป็นเบี้ยล่างของอเมริกามาโดยตลอด ที่อเมริกาสั่งอะไรแล้วอังกฤษก็ต้องตอบสนองเสมอ แม้ในภายนอกจะมองว่าเป็นเพื่อนกัน แต่ลึกๆแล้วอังกฤษไม่รู้สึกอย่างนั้นหรอก พวกอียูก็รู้ดี ดังนั้นอังกฤษจึงหาช่องที่จะสลัดออกจากปีกอเมริกาให้ได้เมื่อมีโอกาส จีนจับตาดูตลอด กวักมือเรียกมาดิ มาทางนี้มาร่วมมือกับเราดีกว่า ทำไมจีนต้องทำดีกับอังกฤษด้วย? นอกจากเรื่องของผลประโยชน์ร่วมกันและลดทอนพันธมิตรของสหรัฐฯลงแล้ว ยังมีอีกเหตุผลหนึ่งคืออังกฤษพยายามจะเอาฮ่องกงมาเป็นอาณานิคมของตัวเองอีกครั้งนะสิ ถ้าอังกฤษมีความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนกันจีนมาก ต่างฝ่ายต่างก็ได้ผลประโยชน์ร่วมกันการที่จีนจะกันอังกฤษออกจากเรื่องฮ่องกงได้ก็ไม่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป คราวนี้ก็เหลือแต่อเมริกานั่นแหละที่จะต่อสู้เพื่อยึดฮ่องกงจากจีนแทน
อันที่จริงจีนยังเป็นผู้ร่วมลงทุนรายใหญ่ในธนาคารเพื่อการลงโครงสร้างพื้นขนาดใหญ่กับกลุ่ม BRICS อีกด้วยนะ โดยธนาคารแห่งนี้กำหนดเงินลงทุนในครั้งแรกที่ 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่ากับ AIIB แต่ใน BRICS นี้จีนถือหุ้นอยู่ 40% ส่วนที่เหลือก็เป็นของอีก 4 ประเทศสมาชิก เดิมทีออสเตรเลียก็อยากจะร่วมกับ AIIB เช่นกันแต่ถูกอเมริกาเบรคไว้ซะก่อน ก็เลยพลาดโอกาสไป ส่วนญี่ปุ่นนั้นมี ADB แบงค์ที่ร่วมมือกับสหรัฐฯในเอเซียอยู่แล้วจึงไม่เข้าร่วมกับ AIIB แต่จำนวนสมาชิกมันต่างกันอ่ะ AIIB + BRICS เงินลงทุนไม่ใช่น้อยๆนะ ครอบคลุมทั้งเอเซียและแอฟริกาใต้ด้วย ต่อไปก็เหลือแต่กลุ่มประเทศลาตินอเมริกา เช่นคิวบา, เวเนซูเอล่า, อาร์เจนตินา, เปรู ฯลฯ เท่านั้น พวกนี้ไม่ค่อยจะชอบอเมริกาซะด้วยสิ บราซิลเข้าร่วม BRICS กับจีนและรัสเซียแล้ว ถ้าชวนกลุ่มประเทศเหล่านี้ร่วมมือกันได้อีก อเมริกาคงต้องคิดหนักเลยหละ
The Eyes
13/03/2558
------------
http://rt.com/business/240341-uk-usa-asia-bank/
US Rebukes UK for Joining Beijing's World Bank / Sputnik International
http://en.wikipedia.org/…/Asian_Infrastructure_Investment_B…
BRICS - Wikipedia, the free encyclopedia

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 14 มี.ค.58 ช่วยด้วย..เด็กสร้างอเมริกา โดนอิหร่าน จีน รัสเซีย รุมกินโต๊ะ
กองทัพอิรัค ได้รับการสนับสนุนจาก กองกำลังของอิหร่าน และกองกำลังเคิร์ด ที่อิหร่านหนุนหลัง กองกำลังผสมบุกตลุยกลุ่ม IS ฮอลีวู็ดของชาติตะวันตกอย่างหนัก ผลออกมาสู้ไม่ไหว ถูกไล่เตะไล่ยิงวิ่งหางจุกตูก ตายไปจำนวนมาก จนกองกำลังผสมยึดหลายเมือง รวมทั้งเมืองติกริต เมืองใหญ่ บ้านเกิดของซัดดัม ได้อย่างง่ายดาย
อเมริกาได้แต่มองตาปริบๆ รอ CIA ที่ฝังตัวเป็นที่ปรึกษาอยู่ในกลุ่มบัญชาการกลุ่ม IS รายงานกลับวอชิงตัน มะกันรอจนกลุ่ม IS ฮอลีวู็ด ออกจากเมืองไปหมดแล้ว และรีบส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดใส่เมืองติกริตทันที เพื่อโจมตีกองกำลังผสม ที่มารังแกเด็กของตนเอง ส่งผลให้ทหารอิรักตายราว 22 ราย..อ้าวววว
ตอนนี้สิ่งที่อเมริกา ขี้ไหลไปรวมที่ลูกตา คือ หมีขาวปูติน ประกาศว่า จะส่งกำลังพล และอาวุธไปไล่ปราบฆ่ากลุ่ม IS ในซีเรียให้ราบ เพราะในอิรัก มีอิหร่าน กับจีน ตลุยจนกลุ่ม IS แทบเหี้ยนเต้แล้ว..อเมริกาถึงกับร้องจ๊าก เพราะเพิ่งออกข่าวปล่อยว่าปูตินตายไปหมาดๆ หมดกันแบบนี้
และจะห้ามรัสเซีย มาปราบกลุ่ม IS ก็ไม่ได้ เพราะมะกันประกาศเองว่าจะทำสงครามปราบกลุ่ม IS แต่เบื้องหลังคือโค่นรัฐบาลอัดซาด ของซีเรีย นั่นเอง..ถ้ารัสเซีย มาร่วมวงไพบูลย์อีกราย งานนี้บอกได้คำเดียวว่า กลุ่ม IS เด็กในคาถามะกัน ตายเป็นเบือแน่ๆ
มะกันซวยเลย โดนอิหร่าน จีน รัสเซีย รุมกินโต๊ะกลุ่ม IS เด็กสร้างของตัวเอง..แถมที่ชวนอึ้งคือเงินกู้ IMF ที่ให้ยูเครนกู้ล่าสุด 1.3 ล้านบาท ดันเป็นเงินที่มาจากกระทรวงการคลังของรัสเซีย เพราะชาติตะวันตกถังแตก ไม่มีสักบาท...จน เครียด พี้กัญชา ฮา !!
@ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Chalee Na Roied



เมื่อวานนี้ทาง พล.อ.ประยุทธิ์ ก็ได้ฝากบอกบรรดานักลงทุน และนักธุรกิจชาวอเมริกัน ไปบอกรัฐบาลสหรัฐ ด้วยวลีเด็ดที่ว่า "อย่าตัดเสื้อตัวเดียวให้คนทั้งโลก"
ซึ่งทำให้คนไทยหลายคน อาจจะรู้สึก"สะใจ"กับคำพูดดังกล่าว แต่ในความเป็นจริง ในฐานะผู้นำประเทศ คำพูดดังกล่าว คงไม่ต่างอะไรกับ การส่งสัญญาณไปสู่ รัฐบาลวอชิงตันนั่นแหละครับว่า ประเทศไทยมีเอกราช คงไม่สามารถไปทำตาม สิ่งที่รัฐบาลวอชิงตันต้องการได้ทั้งหมด แต่ไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีต่อสหรัฐ เพราะความสัมพันธ์ ที่มีต่อกันกว่า 200 ปีนั่นเอง
แต่ในขณะที่บ้านเราก็โดนกดดัน จากรัฐบาลสหรัฐ เพื่อนบ้านในละแวกอาเซียนเอง เวลานี้ก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะเวียดนามเพิ่งถูกร้องขอ จากรัฐบาลสหรัฐว่า รู้สึกวิตกกังวลกับ การใช้ฐานบินต่อระยะของ เครื่องบินทิ้งระเบิดในรัสเซีย ในอ่าวเวียดนาม เพราะกำลังจะสร้างความตึงเครียดขึ้น ในภูมิภาคดังกล่าว http://www.cbsnews.com/…/u-s-to-vietnam-stop-letting-russi…/
ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว สหรัฐอเมริกามีเรือรบจอดซ่อมในอ่าวเวียดนาม และมหาสมุทรแปซิฟิกจำนวนมากเช่นกัน พูดง่ายๆก็คือ สหรัฐเกรงว่า ถ้าวันใดวันหนึ่งเปิดฉากโจมตีรัสเซีย แม้กระทั่งจีน บรรดาฐานทัพสหรัฐ ในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยเฉพาะเกาะกวมย่อมถูกตอบโต้ด้วยนิวเคลียร์ จากเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย ที่บินลาดตระเวนในมหาสมุทรแปซิฟิก ณ ห้วงเวลานี้นั่นเอง เพราะเคยเกิดเหตุการณ์เผชิญหน้ากันมาแล้ว http://www.washingtontimes.com/…/russiain-tu-95-bear-h-bom…/
อย่างที่เคยคาดการณ์ไปเมื่อต้นปี ว่าในปี2015นี้สหรัฐจะเริ่ม บีบคั้นและกดดันประเทศเล็ก ในเอเชียแปซิฟิก เพื่อให้เลือกข้างให้ได้ และก็หนีไม่พ้นเรื่องของผลประโยชน์ของสหรัฐเอง เพราะรัฐบาลไทยในยุคที่ผ่านมา เคยมีการเสนอให้สหรัฐใช้ไทยเป็นฐานทัพสหรัฐมาแล้ว แต่ดันเจอรัฐประหารเสียก่อน แผนการของสหรัฐก็เลยต้องถูกพับไปด้วย และก็อย่าไปแปลกใจว่าทำไม เขาถึงไม่พิศมัย รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธิ์ เพราะต้องยอมรับว่า ท่านเองมีความตั้งใจ ในการรักษาผลประโยชน์ของประเทศมาก กว่าผลประโยชน์ของตนเอง แม้ช่วงนี้อาจจะปัญหารุมเร้า ต่างๆมากพอสมควร
ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่จำเป็นเราก็ไม่ควรจะเปิดช่อง ให้มหาอำนาจใช้ประเทศ เพื่อทำลายหรือปิดล้อม ประเทศอื่นเป็นอันขาดครับ จะไม่เป็นผลดีกับเราเอง เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้น สหรัฐเขาทำสงครามอยู่นอกประเทศ เขาไม่เสียหายอะไรหรอก มีแต่บ้านเรานั่นแหละที่รับเคราะห์แทน ใครที่ไปหลงไหลชื่นชม คิดว่าเขาจะมาช่วย ขอให้ท่านดู ยูเครน ไว้เป็นตัวอย่าง
เมื่อวันก่อนมีกระแสข่าว เฮลิคอปเตอร์แบล็คฮอร์คของสหรัฐ ประสบอุบัติเหตุที่ อ่าวเม็กซิโก ในฟลอริดาไกล้กับ ฐานทัพอากาศสหรัฐ เอกลิน (Eglin Air Force Base) และคาดว่านาวิกโยธินสหรัฐ น่าจะเสียชีวิตทั้งหมด จากอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งทีมกู้ภัยกำลังช่วยค้นหา ท่ามกลางสภาพอากาศที่หมอกลงจัด http://ktla.com/…/army-helicopter-crashes-off-northwest-fl…/
เรื่องนี้ตามรายงานที่ รมต.กลาโหมสหรัฐ ได้รายงานผู้นำรัสเซียว่า ศพนาวิกโยธินดังกล่าวคือ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เรียกว่า "US Marine Corps Forces Special Operations Command (MARSOC)" ซึ่งเคยประจำการอยู่ในโรมาเนีย บริเวณทะเลดำ และเข้ามาช่วยฝึกกองกำลังยูเครน ในการต่อสู้กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่ฝักใฝ่รัสเซีย ซึ่งถูกปิดล้อมและโจมตีพร้อมทั้ง กองกำลังยูเครนกว่า 5,000 นายบริเวณเมือง "Debaltseve" ของยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา http://www.thetotalcollapse.com/bodies-of-us-soldiers-kil…/…
ซึ่งภายหลังปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้กองกำลังยูเครน เสียชีวิตจำนวนมาก และหนึ่งในนั้นคือ หน่วยปฏิบัติการสงครามพิเศษ ของนาวิกโยธินสหรัฐ(MARSOC) รวมอยู่ด้วย ซึ่งภายหลังการกวาดล้าง ทางฝ่ายต่อต้านรัฐบาลยูเครน ได้ลำเลียงศพทหาร รวมถึงนาวิกโยธินสหรัฐ หน่วยดังกล่าวให้กับรัฐบาลยูเครน Home | Daily Mail Online
เรื่องนี้นอกจากไม่มีการนำเสนอในสื่อสหรัฐแลัว รัฐบาลสหรัฐยังปกปิดความพ่ายแพ้ ปิดบังชาวอเมริกัน ไม่ต่างอะไรกับตัวเลข ผู้เสียชีวิตในสงครามเวียดนาม และสงครามอิรัก เพราะนี่คือการทำลายหลักฐาน สังเวยลูกเรือที่บริสุทธิ์ จากเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว และให้ชาวอเมริกันเชื่อว่า เกิดจากอุบัติเหตุ เพื่อไม่ให้รู้ว่ารัฐบาลสหรัฐ ได้แอบส่งหน่วยรบพิเศษ และกองกำลังนาโต ตลอดจนสนับสนุนอาวุธเข้าไป ยังยูเครนเพื่อปิดล้อมรัสเซียนั่นเอง http://www.businessinsider.com/putin-ukraines-army-is-a-nat…
นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับ นาวิกโยธินสหรัฐ ซึ่งเป็นคนชาติเดียวกันเอง พวกเขายังสามารถทำได้ และยังไม่นับเหตุการณ์9/11 ที่สังเวยชีวิตชาวอเมริกันจำนวนมาก เพื่อเป้าหมายในการ ส่งทหารสหรัฐเข้าไปยังตะวันออกกลาง ซึ่งทางรัสเซียกำลังเอง เคยขู่ว่าจะเปิดเผย ข้อเท็จจริงเรื่องนี้ http://www.veteranstoday.com/…/pravda-putin-threatens-to-r…/
เพราะฉะนั้นสำหรับคนไทย(บางกลุ่ม) ที่เข้าใจว่าเขามีความปรารถนาดี ต่อประเทศ และกำลังเรียกร้องประชาธิปไตยนั้น ขอให้ท่านพิจารณาให้ดีนะครับว่า แท้จริงแล้วเขาจริงใจกับเราหรือไม่? หนทางที่ดีที่สุด คือ เรานั่นแหละที่ต้องพึ่งตัวเอง อย่าไปชักน้ำเข้าลึก ชักศึกเข้าบ้านเป็นอันขาด อย่าไปเชื่อนักการเมือง นักวิชาการขายชาติ ที่รับเงินสนับสนุนการเคลื่อนไหว จากต่างขาติเป็นอันขาด
มิเช่นนั้นรับรองว่า ถึงขั้นสิ้นชาติสิ้นแผ่นดิน...

 

Thanong Fanclub



รัฐมนตรีคลังกรีซลงรูปฮือฮาในทวิทเตอร์
Yanis Varoufakis รัฐมนตรีคลังของกรีซสร้างภาพว่ากรีซไม่จำเป็นต้องจนหรือทุกข์ยากอีกต่อไป ด้วยการลงรูปตัวเองและภรรยาในทวิทเตอร์ให้คนเห็นไลฟสไตล์ว่าไม่ได้รัดเข็มขัด สร้างความฮือฮามาก เพราะว่าดูท่าแล้วกรีซไม่จ่ายหนี้แน่ๆ
เดี๋ยวจะส่งโน้ตเพลง "จำเลยรักIMF" ไปให้ท่านYanis ดูซิว่าจะเล่นเปียโนเพลงนี้ได้ หรือซาบซึ้งใจหรือเปล่า?
thanong
14/3/2015

 

Thanong Fanclub



ข่าวลือปูตินตายแล้ว
มีข่าวลือแพร่สะพัดในสื่ออินเตอร์เน็ตว่าปูตินตายแล้ว เนื่องจากปูตินไม่ออกงานมา7กว่าวันแล้ว แม้ว่านายDmitry Peskov เลขาณุการของปูตินที่ดูแลสื่อจะออกมารับรองว่าปูตินยังสบายดี ไม่มีเหตุผลที่จะต้องห่วงอะไร ทุกอย่างยังดีอยู่ แต่สื่อโวเซี่ยลมีเดียได้ฌาปนกิจปูตินไปเรียบร้อยแล้ว
มีการเผยแพร่ภาพในทวิทเตอร์ให้เห็นปูตินนอนในโลงในงานศพลึกลับ และภาพการ์ตูนเอ๊กซ์เรย์ชันสูตรศพปูตินพบว่าเสียชีวิตจากการสำลักธงชาติยูเครนที่คอ
thanong
14/3/2015
Internet rumours about that Russian President Vladimir Putin is dead

 

Thanong Fanclub

สวีเดนเตรียมส่งทหารไปเกาะGotlandเพื่อเฝ้าระวังเรือดำน้ำรัสเซีย
สวีเดนเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ไม่เอารัสเซีย รมวกลาโหม นายPeter Hultqvistบอกว่า จะส่งทหารสวีดิช150 นายไปประจำการที่เกาะGotland ซึ่งอยู่ระหว่างสวีเดนและกลุ่มประเทศบอลติก หน้าที่หลักของทหารคือล่าเรือดำน้ำของรัสเซีย สวีเดนกลัวว่าจะโดนรัสเซียบุกอย่างกระทันหัน จำต้องคอยปกป้องอธิปไตย
หลังจากซ้อมรบในทะลดำที่สร้างความตรึงเครียดกับรัสเซียแล้ว สหรัฐฯเตรียมการซ้อมรบกับกลุ่มประเทศบอลติกโดยส่งรถหุ้มเกราะและรถถังไปให้ใช้ และล่าสุดมีรายงานข่าวว่าสหรัฐฯกำลังเตรียมซ้อมรบกับบุลกาเรียอีกประเทศหนึ่ง
นาโต้เร่งปิดล้อมรัสเซียทางทหาร จนเกือบจะปิดผนึกไปแล้ว
thanong
14/3/2015
http://www.zerohedge.com/…/estonia-fears-being-overrun-russ…
http://rt.com/news/240565-us-bulgaria-military-drills/

 

Thanong Fanclub



รัสเซียโต้มะกันจุ้นจ้าน ยันใช้อ่าวเวียดนามเติมน้ำมันเครื่องบินไม่หนักใคร
มอสโก/วอชิงตัน, 13 มี.ค. (รอยเตอร์) -- ในวันศุกร์นี้รัสเซียได้ปฏิเสธความวิตกกังวลของสหรัฐ เกี่ยวกับการใช้ฐานทัพเก่าของสหรัฐแห่งหนึ่ง ในเวียดนาม เพื่อเติมเชื้อเพลิงเครื่องบินทิ้งระเบิด ที่ออกบินรอบๆ เขตแดนของสหรัฐในย่านเอเชียแปซิฟิก ทั้งยังระบุว่าคำแถลงของฝ่ายสหรัฐ เมื่อเร็วๆ นี้ "ชวนให้สงสัย" และ "ดูประหลาด"
รอยเตอร์รายงานในวันพุธว่า สหรัฐได้ขอร้องเวียดนาม ให้ยุติการอนุญาตให้เครื่องบินเติมน้ำมันของรัสเซีย ไปใช้ฐานทัพอ่าวกามแรง (Cam Ranh/คัมราน) ในการเติมน้ำมันกลางอากาศ ให้แก่เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์รัสเซีย ที่มีขีดความสามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ ที่ออกแสดงความเข้มแข็ง ในย่านเอเชียแปซิฟิก
"น่าแปลกใจที่ได้ยินคำแถลงดังกล่าวจากตัวแทนฝ่ายสหรัฐ ที่มีกองกำลังตั้งมั่นอย่างถาวรในหลายประเทศเอเชีย-แปซิฟิก และ ยังคงสืบต่อเพิ่มระดับกิจกรรมทางทหารในภูมิภาคนี้" กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว
ฝ่ายรัสเซียระบุด้วยว่า คำแถลงของสหรัฐที่ว่า การเติมเชื้อเพลิงเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซียจากเวียดนาม อาจทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นสูงนั้น "ชวนให้สงสัย"
กระทรวงกลาโหมยังระบุอีกว่า กิจกรรมของกองทัพอากาศรัสเซีย กับความร่วมมือกับเวียดนามนั้น "ดำเนินการสอดคล้องโดยเคร่งครัด กับปทัสฐานระหว่างประเทศ และความตกลงทวิภาคี ไม่ได้มีจุดหมายต่อต้านใครหรืออะไรทั้งสิ้น และ จะไม่เป็นการคุกคามต่อสันติภาพกับเสถียรภาพในภมิภาคเอเชียแปซิฟิก"
พล.อ.วินเซ็นต์ บรู๊ก ผู้บัญชาการกองทัพบกสหรัฐในแปซิฟิก กล่าวกับรอยเตอร์สัปดาห์ที่แล้วว่า เครื่องบิน (รัสเซีย) ได้ทำการบิน "ยั่วยุ" รวมทั้งบินรอบๆ เกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนแปซิฟิกของสหรัฐ และ ยังเป็นที่ตั้งฐานทัพขนาดใหญ่
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ปีนี้ว่า เครื่องบินบรรทุกน้ำมันแบบ อิล-78 (Il-78) ได้ใช้อ่าวกามแรงในปี 2557 ทำให้สามารถเติมน้ำมันกลางอากาศให้เครื่องบินทิ้งระเบิดยุทธศาสตร์ ที่สามารถติดอาวุธนิวเคลียร์ แบบ TU-95 "แบร์" (Bear) ได้ สื่อในเวียดนามที่ทางการควบคุม ก็รายงานเรื่องนี้เช่นกัน
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นางเจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐกล่าว่าว่า สหรัฐไม่ประสงค์จะให้รัสเซียใช้อ่าวกามแรง
"เราได้เรียกร้องไปยังเจ้าหน้าที่ของเวียดนาม เพื่อให้หลักประกันว่า รัสเซียจะไม่สามารถใช้อ่าวกามแรง เพื่อดำเนินกิจกรรมที่อาจจะทำให้ภูมิภาคนี้ตึงเครียดยิ่งขึ้น" โฆษกของสหรัฐกล่าว ระหว่างการแถลงข่าวปรกติ
สถานีวิทยุเสียงอเมริกาได้รายงานอ้างโฆษกหญิงประจำสถานทูตสหรัฐในกรุงฮานอยผู้หนึ่ง ซึ่งกล่าวในวันพฤหัสบดีว่า คำเรียกร้องของสหรัฐ ถูกส่งผ่านไปยังเจ้าหน้าที่ของฝ่ายเวียดนามสัปดาห์ที่แล้ว และ เธอไม่ทราบว่ามีการตอบสนองใดๆ จากรัฐบาลเวียดนามหรือไม่
รัฐบาลเวียดนามไม่ได้ตอบสนองรอยเตอร์ ที่ร้องขอความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ เช่นกัน
ในวันศุกร์นี้สำนักข่าวทาสส์ของรัสเซีย ได้รายงานอ้างนายคอนสแตนติน วนูคอฟ เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำเวียดนาม ซึ่งกล่าวว่าเวียดนามและรัสเซีย ต่างเป็นประเทศเอกราช ที่ "ไม่ต้องการการชี้แนะหรือความเห็นจากผู้ใดและเราไม่ได้ตั้งใจที่จะรับฟังความเรียกร้องต้องการ (ของใคร)"
รัสเซียกับเวียดนามเป็นพันธมิตรกันมายาวนาน และ มอสโก เป็นผู้สนับสนุนฮานอยในการต่อสู้กับสหรัฐในสงครามมเวียดนาม ที่ยุติลงในปี 2518
แต่เหตุขัดแย้งในปัจจุบันได้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาที่ ความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับสหรัฐอบอุ่น เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งความวิตกกังวลร่วมกัน ต่อการเติบใหญ่ทางอำนาจของจีน และการขยายเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
วอชิงตันกระตือรือล้นที่จะให้ตนเองมีโอกาสเข้าใช้อ่าวกามแรง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ "ปักหมุด" ในเอเชีย เพื่อต่อต้านความเข้มแข็งของจีนที่กำลังเพิ่มขยาย
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้เรือของสหรัฐหลายลำ ได้เข้าไปใช้อ่าวเวียดนามสำหรับการซ่อมแซม
เจ้าหน้าที่สหรัฐได้พยายามที่จะไม่วิพากษ์วิจารณ์เวียดนามโดยตรง เกี่ยวกับเที่ยวบินของรัสเซีย ซึ่งเป็นการเน้นว่าสหรัฐเคารพในสิทธิของเวียดนามที่จะทำความตกลงกับประเทศอื่นๆ
ในวันพฤหัสบดี เจ้าหน้าที่อาวุโสในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ บอกรอยเตอร์ว่า วอชิงตันไม่เห็น "ข้อบ่งชี้ใดๆ ว่าความสัมพันธ์ของเวียดนามกับรัสเซีย จะทำให้ความสัมพันธ์กับสหรัฐ ลดระดับ หรือ อ่อนแอลง หรือ ได้รับผลกระทบ".
14/3/2015







http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000029925