ติดตามสถานะการณ์

รวบตัว 3นักข่าวอัล-จาซีรา ฐานปล่อยโดรนบินว่อนเหนือกรุงปารีส โดยไม่ได้รับอนุญาต updated: 26 ก.พ. 2558 เวลา 10:40:24 น. ประชาชาติธุรกิจออนไลน์



วันนี้ (26ก.พ.58) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักข่าวสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมอัล-จาซีรา 3 คน ถูกจับกุมตัว ในข้อหา ปล่อยอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ในกรุงปารีส อย่างผิดกฎหมาย หลังจากเจ้าหน้าที่พบเห็นโดรนลำหนึ่งในพื้นที่ บัวส์ เดอ บูโลญ ฝรั่งเศส

โฆษกของคณะอัยการ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีความสัมพันธ์กันระหว่างการจับกุมครั้งนี้กับการพบอากาศยานไร้คนขับปริศนาเหนือกรุงปารีสเมื่อคืนก่อนที่เจ้าหน้าที่ฝรั่งเศสพบโดรนบินอยู่เหนือหอไอเฟลและสถานที่สำคัญอื่นๆของในฝรั่งเศสถึง 5 ครั้ง ภายใน 2 คืนติดต่อกัน เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีกฎหมายห้ามปล่อยโดรนบินอยู่เหนือกรุงปารีสโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งหากฝ่าฝืน มีโทษสูงสุดจำคุก 1 ปี และปรับ 75,000 ยูโรแหล่งข่าวของศาลระบุว่า ผู้ที่ถูกจับกุมตัวทั้ง 3 คน คนแรกกำลังบังคับโดรน, คนที่ 2 ถ่ายภาพ และคนที่ 3 ยืนดู ส่วนชื่อและสัญชาติของนักข่าวทั้ง 3 ยังไม่มีการเปิดเผย แต่ทราบว่ามาจากสถานีโทรทัศน์อัล-จาซีรา มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกาตาร์

ตำรวจฝรั่งเศส เปิดเผยว่า พบโดรนที่ไม่สามารถระบุเอกลักษณ์บินอยู่เหนือท้องฟ้ากรุงปารีส 2 คืนติดต่อกัน ในช่วงเวลาของการรักษาความปลอดภัยอันเข้มงวดท่ามกลางภัยคุกคามของพวกก่อการร้าย โดยเหตุการณ์ล่าสุดนี้มีขึ้น หลังจากพบเห็นโดรนลึกลับบินอยู่ตามโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์หลายครั้งเมื่อปีที่แล้ว และเร็วๆนี้ก็มีเครื่องบินสอดแนมไร้คนขับโผล่เหนือทำเนียบประธานาธิบดีและอ่าวแห่งหนึ่งในบริตทานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือดำน้ำและพลังงานนิวเคลียร์ของประเทศ

ขณะที่ เจ้าหน้าที่ตกอยู่ในความมืดมน เนื่องจากยังไม่สามารถตามจับผู้เป็นเจ้าของโดรนได้ หรือยังไม่สามารถสรุปได้ว่า มีเจตนามุ่งร้ายใดๆหรือไม่ ในช่วงที่ฝรั่งเศสได้ยกระดับเฝ้าระวังความปลอดภัยขั้นสูง หลังจากเกิดเหตุบุกโจมตีที่กลางใจเมืองหลวงเมื่อเดือนที่แล้ว

ที่มา: TNN24

รวบตัว 3นักข่าวอัล-จาซีรา ฐานปล่อยโดรนบินว่อนเหนือกรุงปารีส โดยไม่ได้รับอนุญาต : ประชาชา

 

Jeerachart Jongsomchai



... "ทำไม ประเทศตะวันตกชอบโจมตีจับผิด อิหร่าน ? "
... ประวัติศาสตร์ช่วงปลาย ศตวรรษที่ 19 อิหร่านโดนต่างชาติล่าอาณานิคมรุมกินโต๊ะทั้งอังกฤษโจมตีด้านทิศใต้ รัสเซียทิศเหนือ และอ๊อตโตมัน ( ตุรกี ) ทางตะวันตก จึงทำให้อิหร่านรู้ไส้รู้พุงอ้วนๆของเหล่ามหาอำนาจดีว่าต้องการอะไร
... ช่วงปี 1794 - 1925 "ราชวงศ์ กอญัร"( Qajar ) ที่มีเชื้อสาย Turkic ปกครองอิหร่านมานาน จนมาปลายศตวรรษที่ 19 จึงถูกตะวันตกล่าอาณานิคมดังกล่าว
... หลังจากความระส่ำระสายของราชวงศ์กอญัร "เปอร์เซีย" ได้ตกอยู่ภายใต้ของมหาอำนาจต่างประเทศ โดยเฉพาะ "รัสเซียและอังกฤษ" ราชวงศ์กอญัร ได้ทำสงครามกับรัสเซียถึง 2 ครั้ง และต้องเสียดินแดนแถบเทือกเขาคอเคซัสทั้งหมด แม้แต่ประเทศอังกฤษก็มีผลประโยชน์จำนวนมากในเปอร์เซียอย่างการ "ขุดเจาะน้ำมัน" ที่ขุดพบในคริสต์ศตวรรษที่ 19
... "วัฒนธรรมตะวันตก" ได้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศจำนวนมาก ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 (ค.ศ. 1914 - 1918) เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของ "เปอร์เซีย" เนื่องจากตกอยู่ภายใต้อำนาจของมหาอำนาจตะวันตกหลายประเทศ ทั้งรัสเซีย, อังกฤษ, ออตโตมัน, เยอรมัน และอเมริกา ทำให้เกิดกระแสต่อต้านที่กว้างขวางของประชาชนชาวเปอร์เซีย เพื่อปกป้องผลประโยชน์และเอกราชของประเทศ
... จนเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1921 "เรซา ข่าน" ผู้บัญชาการกองพันน้อย "คอสแซค" ( อิหร่านเป็นประเทศที่มีหลายเผ่าชาติพันธุ์มาก ) ได้นำกองทัพบุกเข้าเมืองหลวงได้ยึดอำนาจและทำการรัฐประหาร "พระเจ้าอะหมัด ชาห์ กษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งราชวงศ์กอญัร ได้แต่งตั้ง "เรซา ข่าน" เป็นรัฐมนตรีกระทรวงสงคราม
... ปี ค.ศ. 1923 พระเจ้าอะหมัด ชาห์ได้เสด็จไปประทับในยุโรปและไม่เดินทางกลับมายังอิหร่านเลย "เรซา ข่าน" ได้ยึดอำนาจจากราชวงศ์กอญัรและประกอบพิธีราชาภิเษกเป็นกษัตริย์เป็นกษัตริย์องค์แรกของ "ราชวงศ์ปาห์ลาวี" เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ค.ศ. 1925
... เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพพันธมิตรจึงได้ตัดสินใจบุกอิหร่าน ซึ่งขณะนั้นอิหร่านมีความสัมพันธ์อันดีกับ "เยอรมนี" โดย"อังกฤษ"ได้บุกยึดภาคใต้ของอิหร่าน และ "โซเวียต"ได้เข้ายึดทางตอนเหนือของอิหร่าน อิหร่านจึงถูกปกครองโดยกองทัพสัมพันธมิตร กษัตริย์เรซาจึงถูกบีบบังคับให้สละราชสมบัติ เพื่อให้พระโอรสองค์ใหญ่คือ "โมฮัมหมัด เรซา ข่าน" ขึ้นเป็นกษัตริย์แทน ประเทศอิหร่านหลังจากนั้นจึงมีความสัมพันธ์อันดีประเทศตะวันตก โดยเฉพาะ "อเมริกา"
... ในปี ค.ศ. 1951 เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนอิหร่านกำลังตื่นตัวเรื่อง "ชาตินิยม" "ดร.มุฮัมหมัด มูซัดเดก" เป็นนายกรัฐมนตรี เขาได้ดำเนินการ "ยึดบริษัทน้ำมันแองโกล-อิหร่านออยล์" ซึ่งเป็นของอังกฤษเป็นของรัฐ ทำให้ต่างชาติมีมาตรการตอบโต้บอยคอตน้ำมันอิหร่าน ในวันที่ 22 ตุลาคมปีเดียวกัน รัฐบาลอิหร่านได้ประกาศตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอังกฤษ ขณะเดียวกันสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มปั่นป่วน และเสื่อมลงอย่างรวดเร็ว และเกิดความวุ่นวายมากขึ้น
... เดือนสิงหาคม ค.ศ. 1953 ชาห์โมฮัมหมัดเรซา และราชินีได้เสด็จออกนอกประเทศ 3 วันหลังจากนั้น "นายพลซาเฮดี" ( ที่ได้รับการหนุนหลังจากทั้ง MI6 ของอังกฤษ และ CIA ของอเมริกา ... ไหนว่าอเมริกาไม่ชอบรัฐประหาร บอกเป็นเผด็จการทำไมหนุนนายพลซาเฮดี ) ประกาศตนเป็นนายกรัฐมนตรี และเข้าควบคุมอำนาจแทนมูซัดเดก
... ชาห์โมฮัมหมัดเรซาเสด็จฯ กลับอิหร่านและทำการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ที่มี "นโยบายนิยมตะวันตก" อิหร่านได้ทำการเปิดสัมพันธไมตรีกับการทูตกับอังกฤษใหม่อีกครั้ง และมีการเจรจาตกลงกับ "บริษัทน้ำมัน" ทั้งอังกฤษและอเมริกา และนับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1955 เป็นต้นมา ชาห์โมฮัมหมัดเรซาได้เริ่มมีบทบาทในการบริหารประเทศมากขึ้น และพาประเทศเข้าสู่ระบอบการปกครองแบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์
... ความขัดแย้งเรื่องนี้รุนแรงเพิ่มขึ้นระหว่างพวกชาตินิยมต่อต้านตะวันตกโดยเฉพาะอเมริกัน กับรัฐบาลที่ถูกตะวันตกครอบงำ ประชาชนในเตหะรานได้รวมกันประท้วงชาห์ เผาธงชาติ ถือป้ายข้อความ "แยงกี้ โกโฮม" "ชาห์ต้องลาออก" และ "โคมัยนีต้องปกครองอิหร่าน"
... มีการลุกฮือเผาบ้านของชาวอเมริกัน ตลอดจนกิจการต่าง ๆ ของชาวตะวันตกทหารได้สกัดกั้นและทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายนับร้อย เหตุการณ์ลุกลามใหญ่โตจนรัฐบาลอเมริกา และยุโรปสั่งให้คนของตนออกจากอิหร่าน สุดท้าย กุมภาพันธ์ 1979 โคมัยนี ประกาศการเป็นรัฐที่ปกครองโดยศาสนาอิสลามโดยสมบูรณ์นับจากนั้นมา
... และยิ่งกว่านั้น "โคไมนี" ประกาศอย่างสั่นสะเทือนเลื่อนลั่นทั่วอ่าวเปอร์เซียว่า จะส่งออกแนวคิดและการกฎิวัติอิสลามไปทั่วดินแดนแถบนี้ แปลว่าจะต้องผลักดันอิทธิพลตะวันตกออกไปให้มากที่สุด ทุนนิยมเสรีได้ฟังจึงหนาวๆร้อนๆไปตามๆกัน
... ด้วยสาเหตุนี้เอง ทั้ง "อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล ( ที่กลัวอิหร่านขับไล่ออกจากอาหรับ ) ซาอุดิอาระเบีย" ( ที่กลัวอิหร่านจะโค่นล้มระบอบกษัตริย์และนิกายวาฮิบี้ของตน ) จึงต้องออกมาตรการทุกอย่างในการโจมตีและต่อต้านอิหร่านมาจนถึงปัจจุบัน
.
http://th.wikipedia.org/…/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9…
History of Iran - Wikipedia, the free encyclopedia

 

หยดน้ำ บนใบบัว



คน มักเข้าใจว่า..
รูปปั้นพระพุทธเจ้า
มาจากจินตนาการ แต่จริงๆแล้วดูภาพผู้หญิงคนนี้
คือเชื้อสายศากยวงค์ของพระพุทธเจ้า
ซึ่งยังมีอยู่ในอินเดีย ศากยวงค์ตระกูลของพระพุทธเจ้า
เวลามีพิธีสำคัญยังต้องเสาะหาตระกูลนี้
มาทำพิธี หน้าตาสวยมาก สาธุ

 

27ก.พ.นี้!ประชุมมส.ไร้วาระ‘ธัมมชโย’



มส.ยันไม่มีวาระมติ‘ธัมมชโย’เข้าที่ประชุมวันศุกร์27ก.พ.นี้ เปิดหนังสือคำวินิจฉัยเจ้าคณะยันไม่ปาราชิก ‘ส.ศิวรักษ์’ท้า‘ประยุทธ์’เร่งปฏิรูปคณะสงฆ์
26ก.พ.2558 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพนม ศรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ว่า จากการที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้ผู้แทนพศ.เข้าชี้แจงกรณีวัดพระธรรมกายเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์นั้น นายวิษณุได้ย้ำถึงแนวทางการทำงานว่า ต้องแบ่งเป็นเรื่องของศาสนจักร และอาณาจักร ส่วนกรณีที่จะมีเรื่องเกี่ยวกับวัดธรรมกายเสนอประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์หรือไม่นั้น ขณะนี้ทางสำนักเลขาธิการมส.ได้แจ้งมาว่า ไม่มีวาระดังกล่าว เพียงแต่เป็นการรับรองมติการประชุมของ มส. เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาเท่านั้น

เปิดหนังสือคำวินิจฉัย "ธัมมชโย"
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า หลังจากนายวิษณุมีคำสั่งให้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เข้ามาชี้แจงเกี่ยวกับกรณีวัดพระธรรมกายนั้น ล่าสุดได้มีการรายงานถึงหนังสือผลการวินิจฉัยตามกระบวนการปกครองคณะสงฆ์ของพระราชปริยัติยาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี ในฐานะเจ้าคณะปกครองในขณะนั้นให้นายวิษณุรับทราบจำนวน 2 ฉบับ โดยฉบับแรกเป็นหนังสือพิจารณาคดีที่เกิดขึ้น ซึ่งมีใจความว่า สิขาบทนี้เป็นสจิตตกะ เกิดขึ้นโดยสมุฏฐาน ดังนั้นการจะสำเร็จประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งในอวหารดังกล่าว คือ ลัก, ยักยอก, ฉ้อ และหลอกลวง ตามที่ผู้กล่าวหาได้กล่าวหานั้น จะต้องประกอบด้วยองค์ประกอบ คือ มีไถยจิต และมีเจตนาเป็นที่ตั้งกอปรกับ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ได้มีหนังสือแสดงเจตนาที่จะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน ซึ่งมีผู้มีจิตศรัทธาถวายให้เป็นสมบัติส่วนตัวของท่านให้เป็นสมบัติของวัดพระธรรมกาย ไว้อย่างชัดเจนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 พฤษภาคม 2542 โดยมีท่านอธิบดีกรมการศาสนา รองอธิบดีกรมการศาสนา และผู้อำนวยการสำนักงานเลขาธิการมหาเถรสมาคมลงนามเป็นพยานไว้ จึงกล่าวได้ว่า พระราชภาวนาวิสุทธิ์ ไม่มีไถยจิต และไม่มีเจตนา จึงไม่เข้าข่ายที่จะปรับอาบัติตามสิกขาบทได้ ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 12(2) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521) จึงมีคำสั่งไม่รับคำกล่าวหาของผู้กล่าวหา โดยความเห็นชอบของคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ตามความในข้อ 15 (2) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521)ว่าด้วยการลงนิคหกรรม

แจงละเอียดไม่มีความผิด
ส่วนในฉบับที่ 2 เนื้อความระบุว่า จังหวัดในฐานะผู้พิจารณา อาศัยอำนาจตามความในข้อ 12 (2) แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 11 (พ.ศ.2521) จึงมีคำสั่งไม่รับคำกล่าวหาของผู้กล่าวหา โดยความเห็นชอบของคณะผู้พิจารณาชั้นต้น ตามความในข้อ 15(2) แห่งกฎมหาเถรสมาคมฉบับดังกล่าวข้างต้น เรื่องทั้งหมดจึงเป็นอันถึงที่สุดยุติลง ดังรายละเอียดและขั้นตอนต่างๆ ตามเอกสารที่ได้แนบมาพร้อมนี้
อย่างไรก็ตามในส่วนนายมานพ พลไพรินทร์ ได้กล่าวหา พระราชภาวนาวิสุทธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และพระภาวนาวิริยคุณ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เช่นเดียวกัน แต่ต่อมานายมานพ ได้ข้อยุติ และขอถอนฟ้องข้อกล่าวว่า ในทุกเรื่องทุกกรณี จังหวัดในฐานะผู้พิจารณา ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เป็นสิทธิของผู้กล่าวหา ในเมื่อผู้กล่าวหาขอถอนฟ้องข้อกล่าวหา เรื่องทั้งหมดจึงเป็นอันสิ้นสุดยุติลงเช่นเดียวกัน

โฆษกแจง27ก.พ.แค่มส.รับรองตั้งคณะทำงานพระพุทธศาสนา

นายสมชาย สุรชาตรี โฆษกสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าว่า ในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) ในวันที่ 27 ก.พ. นี้ ตนยังไม่ทราบว่าจะมีวาระอะไรหรือไม่ เพียงแต่จะมีการรับรองการประชุมของวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา อาทิ การตั้ง คณะทำงานรวบรวมข้อมูลและศึกษาสถานการณ์ทางพระพุทธศาสนาขึ้นมา 1 ชุด ซึ่งประกอบด้วยกรรมการมส.ทั้งฝ่ายธรรมยุต และมหานิกาย 4 รูป และผู้ทรงคุณวุฒิ 2 ท่าน ได้แก่ พระพรหมบัณฑิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร.) พระพรหมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศาราม พระพรหมสิทธิ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร พระธรรมบัณฑิต เจ้าอาวาสวัดพระราม 9กาญจนาภิเษก นายจำนง สวมประคำ อดีตเลขาธิการวุฒิสภา และนายพิสิฐ เจริญสุข อดีตข้าราชการกรมการศาสนา เพื่อทำหน้าที่ศึกษาข้อมูลทางพระพุทธศาสนาโดยภาพรวม ในการนำรายงานต่อมส. ได้รับทราบและมีแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ทันทวงที

‘ส.ศิวรักษ์’ท้า‘ประยุทธ์’เร่งปฏิรูปคณะสงฆ์

ทางด้านนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ หรือส.ศิวรักษ์ นักเขียนผู้ได้รับการขนานนามปัญญาชนสยาม ได้กล่าวในเสวนา "การบิดเบือนความเชื่อทางพุทธศาสนา พุทธพาณิชย์ ผิดหรือถูก" จัดโดยภาควิชาศิลปะการแสดง มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ที่โรงละคร BLACK Box Theatre โดยเรียกร้องให้มีการปฏิรูปคณะสงฆ์ครั้งใหญ่โดยยุบมหาเถรสมาคม ยกเหตุไร้ประสิทธิภาพ ประกอบกับยกเลิกกฎหมายคณะสงฆ์ปัจจุบันเสียเพราะเป็นเผด็จการ อาจจะนำกฎหมายคณะสงฆ์ปี2485 มาใช้ก่อนก็ได้ โดยท้าว่าหากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหากแน่จริงและหวังจะรักษาพระพุทธศาสนาก็ควรจะให้อำนาจยุบมหาเถรสมาคม

ชี้ชาวพุทธอ้าง‘บุญ’ทำศาสนาพุทธเสื่อม

นายสุลักษณ์ กล่าวด้วยว่า ความเชื่อศาสนาพุทธ คือมนุษย์เปลี่ยนความโลภเป็นการให้ เปลี่ยนความเกลียด เป็นความรัก และเปลี่ยนความโง่ ให้เป็นการเห็นแจ้งเห็นจริง ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงพุทธภาวะได้โดยไม่ต้องห่มผ้าเหลือง การทำบุญ และถือศีล เป็นเพียงวิธีหนึ่งในการเข้าถึงศาสนา เพื่อทำนุบำรุงให้ศาสนาคงไว้ในประเทศ

เมื่อก่อนพระสงฆ์ อยู่ได้ด้วยการออกบิณฑบาตอย่างเดียว อยู่ใต้ต้นไม้ ยาก็นำปัสสาวะมาผสม แต่ทุกวันนี้ พวกเจ๊ก จีน ที่ขายสังฆภัณฑ์แถวเสาชิงช้าหรือ พุทธพาณิชย์ พวกนี้ทำเสียหายหมด บรรจุของที่ไม่จำเป็นให้ผู้บริโภคซื้อ หลอกลวง ซึ่งของเหล่านั้นก็สะสมอยู่ที่วัด ดังนั้น คนทำให้พระเสียคน และพระก็พร้อมจะเสียคน แถมตอนนี้พุทธพาณิชย์ไม่ใช่โยมทำแต่พระก็ทำด้วย

เช่นเดียวกับ สังฆทาน เมื่อก่อนวัสดุที่ใช้ทำมาจากกระทงไม่ใช้ภาชนะที่ใช้แล้ว แต่ทุกวันนี้เป็นกระป๋อง ถุงพลาสติก สกปรกวัดไปหมด พระเองก็ไม่สอนคนแล้วจะให้คนเปลี่ยนความโลภเป็นการให้ทานได้อย่างไร

“เมื่อสาระความเชื่อกลายไป ทำให้เกิดความบิดเบือน อ้างว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ ทุกวันนี้ทุนนิยม บอกว่าคุณจะต้องรวยถึงจะได้บุญ เปิดช่องให้วัดธรรมกายเป็นสัญลักษณ์ของทุนนิยมบริโภคนิยมที่สมบูรณ์ มีหลายอย่างที่พระทำโดยไม่ใช่หน้าที่ของพระ คนที่บริโภคทุนนิยมแบบสุดๆ คือพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัดธรรมกาย ด้วยการโยงการเมืองเข้าในวัด เห็นอย่างนี้พระเป็นหัวคะแนนที่แพงที่สุด ดังนั้น พระต้องรู้เท่าทันการเมือง เศรษฐกิจสังคม เอาตัวเองมาประยุกต์นำสังคมได้อย่างไร”

ส.ศิวรักษ์ กล่าวอีกว่าคนไทยส่วนใหญ่ไม่ได้ถือพุทธ แต่ถือความเชื่อ ถือผี ถือไสยศาสตร์ และเราถูกล้างสมองมาพันปีที่ต้องทำบุญกับพวกห่มเหลือง พระมีประโยชน์ถ้าพระเป็นสมณะแต่ตอนนี้ไม่ใช่ พระสวดมนต์เพราะหาเงิน ขณะที่คนใส่บาตรเพราะต้องการถูกหวย เลอะเทอะ เสียพื้นฐานไปหมดแล้ว ศาสนาพุทธไม่มอมเมาด้วยความเชื่อ เรื่องที่ว่าชาติหน้ามี ชาติหลังมีเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้ ศาสนาพุทธบอกแต่สิ่งที่พิสูจน์ได้เท่านั้น ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพัฒนาเรื่องการศึกษา ให้คนมีความรู้ ไม่ถูกมอมเมาให้เชื่อไรผิดๆ และคนไปวัด เพราะวัดเป็นอารามที่ร่มรื่น ร่มเย็น สงบ วิเวก มีผู้ถือศีล มีผู้สมณะที่มีกิจธุระน้อยกว่าเรา เป็นตัวอย่างที่แตกต่างไปจากสังคมกระแสหลัก แต่วัดตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว

“วัดต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมสมัยใหม่ ต้องยึดศีล สมาธิ ปัญญาเป็นหลัก ลดความเหลื่อมล้ำ ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจน ลดความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่เช่นนั้น ก็จะเป็นการส่งเสริมให้เกิดวัดธรรมกายที่ร่ำรวยโดยไม่มีเหตุผล อาศัยลาภและยศ หลอกคนโง่นิมนต์พระไปสวดถวายปัจจัย 1 แสนบาท ทั้งหมดเป็นเรื่องทุกขัง เวลานี้พระรุ่นใหม่มุ่งแต่อวดอุตริ อย่างไรก็ตาม ทุกวันนี้ แม้ศาสนาจะเข้าขั้นวิกฤต แต่เชื่อว่าในอนาคตจะดีขึ้นได้ เพราะธรรมะย่อมชนะอธรรม รวมถึงต้องมีการจัดเก็บภาษีวัด ตรวจสอบบัญชีเงินให้โปร่งใสจะทำให้วัดสะอาดมากขึ้น รวมถึงควรมีการส่งเสริมให้เกิดภิกษุณี ซึ่งจะช่วยภิกษุสงฆ์ที่เลวร้ายให้ฟื้นขึ้นมา” ส.ศิวรักษ์ กล่าวปิดท้าย

ภิกษุณีธัมมนันทา (นามเดิม รศ.ดร.ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์)วัดทรงธรรมกัลยาณี ต.พระประโทน จ.นครปฐม กล่าวว่าการที่คนมาบวชเป็นพระสงฆ์หรือภิกษุณี ก็เพื่อเพียรพยายามดับทุกข์ให้สิ้น เป้าหมายสู่นิพพาน ซึ่งถ้าพระระลึกแบบนี้ได้ ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเงินพันล้านในพระพุทธศาสนา และการนำเงินเข้าวัด โดยอ้างว่าเป็นการทำนุบำรุงศาสนานั้น เป็นการทำให้คนบ้าบุญ พระก็คิดหาเรื่องให้คนเข้าวัดทำบุญ การสร้างอุโบสถใหญ่โต วัตถุมากมายเพื่อทำพิธีสังฆกรรม ทั้งที่อุโบสถควรสถานที่ที่เล็กที่สุดในวัด เพราะการทำพิธีดังกล่าวใช้พระเพียง 21 รูปเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องสร้างอุโบสถให้ใหญ่โต

“สังคมปัจจุบัน เป็นสังคมบ้าบุญ หลายคนพยายามนำของดีของเลิศมาถวายพระ เพื่อให้ได้ของดีของเลิศนั้นกลับมา ซึ่งเป็นวิธีคิดแบบวัตถุนิยม แต่ไม่ได้เหมาะสมกับสมณะรูปเลยแม้แต่น้อย ญาติโยมต้องพิจารณาและเข้าใจว่าของที่จะนำไปถวายวัดมีความจำเป็นหรือไม่ อย่าไปยึดติดสมบัติของญาติโยม ต้องจำไว้ว่าเราเข้ามาวัด มาโบสถ์ เพื่อเข้าไปทำบุญ เงินเพียงเล็กน้อยก็ได้บุญ ไม่จำเป็นต้องถวาย 5,000 ล้านบาท อย่าตกเป็นเหยื่อของการทำบุญ”

สังคมไทย เป็นสังคมที่ยึดติดกับความร่ำรวยประชาชนเสพติดการถวายเงิน เพื่อขอพรให้ร่ำรวย พระแทนที่ให้สมณสัญญาแก่ญาติโยมกลับตามใจญาติโยม ทำให้พระก็หวังร่ำรวยไปด้วย ศาสนาจึงไปผิดทิศผิดทางอย่างที่เห็น

ภิกษุณีธัมมนันทา กล่าวต่อว่าเวลานี้ทุกคนแสวงหาความสุขที่เน้นความสบายกายมากกว่าสบายใจ ดังนั้น ต้องมาตั้งหลักชั่งน้ำหนักว่าจะให้สุขใจหรือสบายกาย ต้องอยู่ในกระบวนการเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้แจ้ง และสร้างฐานจิตให้เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ใช่สนใจอดีตและกังวลอนาคต รวมถึงอะไรที่ผิดไปจากคำสอนของพระพุทธเจ้าต้องช่วยกันปรับปรุง เสนอแนะให้ถูกต้อง เพราะปัญหาหลายอย่างที่เกิดขึ้นมาจากตัวพระ และชาวพุทธที่ต้องการแสวงหาความสุข มุ่งซื้อวัตถุธรรมเพื่อให้สบายใจ เราต้องเข้าใจเรื่องคำสอนของพรพุทธเจ้าที่เน้นย้ำเรื่องของความจริง พูดแต่ความจริงพิสูจน์ได้ไม่ใช่บิดเบือนศาสนา

พระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี กล่าวว่าตามหลักคำสอนของพระพุทธศาสนาจะสอนเรื่องของทุกข์และการดับทุกข์ แต่ขณะนี้คำสอน ความเชื่อกลับถูกบิดเบือนไป โดยมีต้นเหตุมาจากเรื่องของบุญ คนไทยไม่ได้ทำบุญเพื่อเป็นเครื่องชำระจิตใจให้สะอาด ไม่ได้เน้นพุทธวิธี แต่กลับไปเน้นเรื่องทำบุญมากเพื่อหวังผลร่ำรวยในรูปแบบพุทธพิธี เชื่อว่ายิ่งทำมากได้มาก และคนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดทำบุญเพื่อทำนุบำรุงพุทธศาสนา แต่ทำทุกอย่างเพราะเชื่อว่าญาติโยมที่เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับส่วนบุญกุศลในอีกภพหนึ่ง และต้องการให้การถวายเงินซึ่งทำได้ง่ายเป็นการสะสมบุญในชาติต่อไป

“การทำบุญ ไม่ใช่เป็นเรื่องของการทำมากหรือทำน้อย แต่เป็นเรื่องของวิธีการชำระ ฟอกใจมนุษย์ เป็นการให้ทาน เช่น การบิณฑบาต พระสงฆ์ออกบิณฑบาตเพื่อให้คนรู้จักการให้ รวมถึงเพื่อให้พระได้เผยแพร่หลักธรรมคำสอน แต่ทุกวันนี้พระสงฆ์ออกบิณฑบาต เวลามีญาติโยมตักบาตรให้จะต้องสวดมนต์ให้ยาวขึ้น หากไม่ทำจะถูกโยมต่อว่าได้ อีกทั้งพระสงฆ์ส่วนใหญ่เดินบิณฑบาตตามตลาด หรือเลือกหมู่บ้านใหญ่ๆมีรถรับส่ง ซึ่งความจริงแล้วทำไม่ได้ เพราะพระต้องออกบิณฑบาตได้ทุกที่”

อย่างไรก็ตาม ยากที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของคนให้มาทำนุบำรุงศาสนาแทนการขอบุญ เพราะความเชื่อแพร่กระจายเร็วมาก ดังนั้น ทุกคนต้องมีสติ ใคร่ครวญก่อนให้ อย่าทำบุญโดยกระทบฐานะและโลภแห่งตน รวมถึงอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ โดยเฉพาะการโกหก เช่น ก่อนหน้านี้มีการโกหกว่าจะจัดงานบิณฑบาตพระจำนวนหนึ่งล้านองค์ ซึ่งจะเป็นจริงไม่ได้ เพราะพระสงฆ์ในประเทศไทย มีเพียง 3แสนองค์ เท่านั้น

นอกจากนั้น การถวายปัจจัยพระ ห้ามบอกว่าถวายส่วนตัว แต่ให้บอกว่าถวายพระพุทธศาสนา ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เกิดปัญหาทะเลาะวิวาทระหว่างลูกหลานของพระกับกรรมการวัดอย่างที่เห็นตามข่าว อีกทั้ง มีหลายวัดไม่กล้าให้ตรวจสอบบัญชีเงินของวัด แต่สำหรับวัดสวนแก้วสามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด แล้วจะรู้ว่าที่วัดแทบไม่มีเงิน เมื่อใดที่เงินในบัญชีมีจำนวนมากๆ ก็จะถูกเบิกจ่ายออกมาเพื่อบริจาคเป็นการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนทั้งหมด ไม่มีการสะสมจนถึงร้อยล้าน พันล้าน

พระพยอม กล่าวต่อว่าตอนนี้ชาวพุทธมักจะเชื่อง่าย ซึ่งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องช่วยกันหาทางออก และชาวพุทธควรมีสติ ปรับความเชื่อให้ตรงกับหลักคำสอน ถ้าพระวัดไหนพูดไม่จริงก็อย่าไปเชื่อ และการทำนุบำรุงศาสนาไม่ใช่การทุ่มเงินไปกับวัตถุให้แก่วัด หรือสร้างเครื่องรางของขลัง และควรมีความรู้ ความเข้าใจในเรื่องพุทธพาณิชย์ ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าเป็นการเป็นการขายของเกี่ยวกับศาสนา ต้องปรับเปลี่ยนความเชื่อใหม่ เพราะไม่จำเป็นต้องนำสิ่งของมีค่ามาถวายวัด ขณะที่ไสยพาณิชย์ เป็นเรื่องของการหลอกลวง ไม่มีอะไรจริง อยากให้ชาวพุทธภาวนาจิตที่ไม่ใช่แค่การหลับตา แต่ต้องมีสติ รู้สึกพอใจ เป็นการภาวนาในทุกอิริยาบถ เพราะหากไม่มีการปรับเปลี่ยนศาสนาพุทธคงบอกช้ำกว่านี้

ดีเอสไอเร่งขยายผลการถ่ายโอนที่ดินของ‘ศุภชัย’

พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม รับผิดชอบภารกิจปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ เปิดเผยภายหลังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ร่วมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เปิดตู้เซฟที่ยึดได้จากบริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้ง กรุ๊ป (ประเทศไทย)จำกัด ว่า ในการตรวจค้นพบโฉนดที่ดินและหลักฐานที่เชื่อมโยงกับคดียักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด จึงได้เรียกพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดตรวจสอบความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างสหกรณ์กับวัดพระธรรมกาย เข้าพบเพื่อวางแนวทางการสอบสวนขยายผล โดยเฉพาะเส้นทางการถ่ายโอนโฉนดที่ดินจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯไปยังบุคคลอื่น ๆก่อนหน้าปปง.จะเข้าตรวจค้นสหกรณ์เมื่อปี 2556 นอกจากนี้ยังต้องสอบสวนถึงความสัมพันธ์และเชื่อมโยงระหว่างสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐีซึ่งมีที่ตั้งอยู่ภายในวัดพระธรรมกาย และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและวัดพระธรรมกาย เนื่องจากในชั้นสืบสวนปรากฎข้อมูลความเชื่อมโยงทางการเงินระหว่างกัน


27

 

Thanong Fanclub



12. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
Julius Caesar (100 ก่อนคริสตกาล - 44 ก่อนคริสตกาล) นอกจากจะเป็นแม่ทัพที่เข้มแข็งแล้ว ยังเป็นนักการเมืองที่ฉลาดด้วย ซีซ่าร์รู้ดีว่าถ้าเขาต้องการมีอำนาจในโรม เขาต้องประสบความสำเร็จในสนามรบก่อน ซีซ่าร์นำกองทัพโรมันไปพิชิตGaul, Belgae, Britain รวมทั้งกษัตริย์Vercingertorix หัวหน้าเผ่าAverni ผู้รวบรวบGaulเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อลุกฮือขึ้นมาต่อต้านโรมัน ซีซ่าร์ปราบกบฎ และเผ่าพันธุ์ต่างๆที่ไม่ต้องการขึ้นกับโรมจนราบคาบ สามารถยึดดินแดน หรืออาณานิคมอันกว้างใหญ่ไพศาลจนเกือบจะครอบคลุมทั้งภาคพื้นยุโรป ยกเว้นทางตอนเหนือของลุ่มแม่น้ำไรน์ที่พวกเผ่าพันธุ์ดั้งเดิมของเยอรมันคุมเชิงอยู่ สิ่งที่โรมได้จากชัยชนะของซีซ่าร์คือเงิน ทอง ภาษีหรือการส่งส่วย ทาสและแรงงาน รวมทั้งซับไพล์อาหาร และที่สำคัญที่สุดระบบการค้าที่ขยายตัวขึ้น ผ่านเหรียญเงินที่โรมเป็นผู้ออกและควบคุม
แม้ว่าซีซ่าร์จะนำความร่ำรวยและเสถียรภาพให้โรมที่ต้องทำสงครามตลอดเวลาในการขยายจักรวรรดิ พวกขุนนางเซเนทไม่ไว้ใจเขา เสร็จศึกก็สั่งให้ซีซ่าร์ปลดประจำการ ซีซ่าร์ก็กลายเป็นสามัญชนชาวโรมันธรรมดา พวกขุนนางเซเนทเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ควบคุมการเมืองของโรมผ่านการออกกฎหมายและการแต่งตั้งตำแหน่งที่สำคัญๆ ซีซ่าร์แอบเจรจาในทางลับกับCrassus และPompey the Greatเพื่อฟอร์มพันธมิตรกัน กลายเป็นสามเสือ (The First Triumvirate)ของโรม โดยที่พวกเซเนทไม่รู้ Crassusเป็นขุนนางและนักรบที่ร่ำรวยที่สุดในโรม ส่วนปอมเปย์เป็นนายผลผู้ประสบความสำเร็จอย่างมากในสงครามในเอเชีย แต่ไม่ได้รับความวางใจจากพวกขุนนางเซเนท ซีซ่าร์ถึงกับยอมยกลูกสาวสุดที่รักจูเลียให้แต่งงานกับปอมเปย์เพื่อเป็นเนื้อทองแผ่นเดียวกัน จากการสนับสนุนของคราสซัสและปอมเปย์ ซีซ่าร์ได้รับเลือกเป็นกงสุลของโรม ซึ่งเป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดในปี59ก่อนศริสตกาล
ซีซ่าร์เดินหน้าสร้างบารมีทางการเมืองด้วยการเสนอกฎหมายปฏิรูปที่ดิน เพื่อเปิดโอกาสให้คนจนมีที่ดินทำดินด้วยการยกที่ของสาธารณรัฐให้คนจน และเขาต้องการให้ความเป็นพลเมืองโรมแก่ชาวต่างชาติที่ยอมอยู่ใต้โรมมากขึ้น ซีซ่าร์รู้วิธีการสร้างฐานเสียงดีทั้งจากการซื้อใจประชาชนโรมและสร้างพันธมิตรทางการเมืองผ่านการติดสินบนและปลายดาบ พวกเซเนทเดินหน้าขวางซีซ่าร์เพราะว่าไม่ต้องการเสียผลประโยชน์จากการปฏิรูป ซีซ่าร์เสนอกฎหมายปฏิรูปผ่านสภาประชาชน โดยมีคราสซัสและปอมเปย์ยืนอยู่ข้างๆ พวกขุนนางเซเนทรู้ตัวทันทีว่ากำลังจะต้องรบกับ3เสือ นอกจากจะผ่านกฎหมายปฏิรูปได้ 3เสือยังสามารถให้Publius Clodius Pulcherได้รับเลือกเป็นทรีบูน ทำให้Marcus Tullius Cicero และCatoขุ่นเคืองมาก ทั้งซิเซโรและคาโตเป็นตัวแทนของขุนนางเซเนทที่ต้องการรักษาระบบสาธารณรัฐให้คงอยู่กับโรม ทุกคนยังมีความทรงจำของยุคเผด็จการSullaที่ยึดอำนาจจากเซเนท และไม่ต้องการให้เผด็จการกลับมามีอิทธิพลเหนือสาธารณรัฐอีก
3เสือเดินหน้าสร้างอำนาจและอิทธิพลในการเมืองโรม ซีซ่าร์ได้เป็นกงสุลของGaul (พื้นที่ทางตอนเหนือของอิตาลีและฝรั่งเศสในปัจจุบัน) และได้เป็นแม่ทัพคุมทอง4กองพัน แต่ละกองพันมีทหาร5,000นาย ซีซ่าร์จะไม่ยอมให้กองทัพของตัวเองหลุดจากมือเป้นอันขาด เพราะว่ากองทัพของเขาเป็นอำนาจต่อรองที่สำคัญกับพวกเซเนท แต่ความสัมพันธ์ของ3เสือดำเนินไปอย่างไม่ราบรื่น เพราะนอกจากจะไม่ไว้ใจกัน ยังอิจฉาริษยากันอีกด้วย แม้ว่าซีซ่าร์จะพยายามประคัประคองTriumvirateไม่ให้แตกคอกัน โดยซีซ่าร์เสนอว่าเขาจะขอกินตำแหน่งแม่ทัพGaulอีก5ปี ส่วนคราสซัสไปเป็นผู้ว่าการที่ซีเรียเพื่อเตรียมรบกับอาณาจักรพาเธียร์ (Parthian Empire) และปมเปย์อยู่โรมต่อไปแต่จะได้ปกครองHispania หรือเสปน
3 เสือTriumvirateยึดการเมืองโรมแบบเบ็ดเสร็จ แต่ไม่ช้าหลังจากนั้นพวกขุนนางเซเนทเริ่มเข้ามาเสี้ยมให้แตกคอกัน โดยที่ซีซ่าร์และคราสซัสไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว ส่วนปอมเปย์ไม่ชอบหน้าคราสซัสเพิ่มขึ้น ที่สำคัญที่สุดปอมเปย์เป็นนายพลที่ประสบความสำเร้๗อย่างสูงและเคืองใจที่ซีซ่าร์เด่นกว่าทางทหาร เมื่อจูเลียเสียชีวิตระหว่างการคลอด ปอมเปย์ไม่มีเหตุอะไรที่จะต้องคงสัมพันธ์กับซีซ่าร์อีกต่อไป พวกขุนนางเซเนทได้ทีสนับสนุนปอมเปย์เต็มที่เพื่อที่จะต้านซีซ่าร์
คราสซัสไปซีเรียและรบกับพวกพาเธียร์และต่อมาเสียชีวิตในสนามรบ ซีซ่าร์และปอมเปย์แตกคอหนักมากยิ่งขึ้น ปอมเปย์ได้รับเลือกเป็นกงสุลในปี52ก่อนคริสตกาล แม้ว่าจะมีกองกำลังน้อยกว่าโรม แต่ซีซ่าร์ไม่ยอมก้มหัวให้พวกขุนนางในโรมที่คอยตักกินบนความสำเร็จจากหยาดเหงื่อและการแลกชีวิตของเขาและทหารโรมมัน เขายกทัพจากGaulกลับบ้านเพื่อยึดโรม ระหว่างทางมีแม่น้ำรูบิคอน (Rubicon River)เล็กๆขวางกั้นอยู่ ถ้าเขาตัดสินใจนำทัพข้ามแม่น้ำรูบินคอนหมายความว่าจะไม่หันหลังกลับไปอีกแล้ว สงครามกลางเมืองโรม (civil war)กำลังจะเกิด
เซเนทแต่งตั้งปอมเปย์ให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดเพื่อที่จะปกป้องโรมจากซีซ่าร์ปอมเปย์เลือกที่จะชนะด้วยการล่าถอย ยอมทิ้งโรม เขาและพวกขุนนางเซเนทที่ต้านซีซ่าร์หนีไปปักหลักที่กรีซ โดยหวังว่าจะรวบรวมกองทัพโรมและพันธมิตรทั้งหมดที่มีจำนวนมากมายกว่าซีซ่าร์หลายเท่าเพื่อบดขยี้ซีซ่าร์ทีหลัง ซีซ่าร์ยกทัพไปรบกับปอมเปย์ในที่สุดสามารถเอาชัยเหนือกว่ากองทัพของปอมเปย์ได้ ปอมเปย์หนีไปอิยิปต์และโดนฆ่าตายที่นั่น ซีซ่าร์กลายเป็นเผดจการ ผู้มีอำนาจสูงสุดหนึงเดียวในโรม และมีฐานะเทียบเท่าเทพเจ้า
thanong
27/2/2015
รูปประกอบซีซ่าร์ ปอมเปย์ และคราสซัส

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 27 ก.พ.58 มะกันเครียด จีนรวยกว่า เรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์มากกว่า
โลกตะลึง เมื่ออเมริกายอมรับแล้วว่า เรือดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ของจีนนั้นมีมากกว่าของมะกัน จีนอ้างว่าที่เอาเรือดำน้ำ 77 ลำ ไปมหาสมุทรอินเดียเพราะ กำลังสำรวจที่ตั้งภูมิศาสตร์ใหม่ จีนบอกคนรวยทำอะไรย่อมไม่ผิด และเป็นสิทธิของจีนที่จะรวยกว่าอเมริกา
และเรือดำน้ำของจีนก็เงินจีนเอง ไม่ต้องทำ QE ทางเศรษฐกิจ พิมพ์เงินอนาคตมาใช้ โดยไม่มีทองทำค้ำประกัน และไม่ได้เป็นหนี้ต่างประเทศถึง 590 ล้านล้านบาท เหมือนอเมริกา..เผลอๆ จีนอาจเอาทองทำมาทำเรือดำน้ำทุกลำยังไหว
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 27 ก.พ.58 ผลพวงการตายจากระบอบเลือกตั้ง ประชาธิปไตย
สภาพศพทหารยูเครนจำนวนมาก ในเขตยึดครองของนักรบนิยมรัสเซีย ตอนนี้เริ่มขึ้นอึด ส่งกลิ่น เพราะศพถูกทิ้งไว้โดยไม่ได้นำไปทำพิธีตามศาสนา เป็นที่น่าอนาถตา และในกรุงเคียฟ เมืองหลวงยูเครน ก็มีการประท้วง และตำรวจสลายม็อบด้วยความรุนแรง ไม่เว้นแต่ละวัน
นี่แหละคือสภาพ ระบอบเลือกตั้งประชาะธิปไตย โดยฝีมือมะกัน ที่ไทยหวิดไปนิดเดียว ถ้าไม่มีการรัฐประหารปีที่แล้ว สภาพการฆ่าฟันกันเองจากสงครามกลางเมือง คงไม่ต่างจากนี้
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ปอกเปลือก ทรราช
ปฏิบัติการตำรวจทุบม็อบยูเครนอีกรอบ



-------------
เอาอีกแล้วยูเครนสลายม็อบไม่เว้นวันจริง เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 3 ทุ่มของคืนวันที่ 26 ก.พ.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบจลาจลพร้อมกระบองครบมือจำนวนมากเข้าสลายกลุ่มผู้ชุมนุมปักหลักประท้วงที่บริเวณธนาคารแห่งชาติของยูเครนในกรุงเคียฟ งานนี้ฝั่งตำรวจเอารถแท็กเตอร์เข้าไถพังเต้นท์ที่พักหลบฝนของกลุ่มประท้วง มีการปะทะกันได้รับบาดเจ็บเลือดออกหลายราย ผู้ประท้วงกลุ่มนี้มารวมตัวกันเรียกร้องให้ผู้ว่าธนาคารแห่งชาติของยูเครนชื่อนาง Valeria Gontareva กับรองผู้ว่าลาออกจากตำแหน่ง โดยกลุ่มผู้ประท้วงได้มารวมตัวกันและปักหลักค้างคืนอยู่ที่ธนาคารตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา สำหรับสาเหตุที่มาขับไล่นางนั้นก็เพราะว่าทางอัยการของยูเครนได้เปิดคดีอาชญากรรมกล่าวหาว่านาง Valeria Gontarev แทรกแซงเงินตราต่างประเทศในสิงหาคม 2014
ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประท้วงฝ่ายต่อต้านรัฐบาลราว 1,000 คนก็รวมตัวกันประท้วงใกล้ๆกับสถานีรถไฟใต้ดิน Arsenalnaya ของยูเครน นี่ก็ซัดกันทั้งตำรวจและผู้ประท้วงอีกจุด มีระเบิดขวดด้วย พวกนี้เป็นพวกชาตินิยมหัวรุนแรง กลุ่มนี้เรียกตัวเองว่า "กองกำลังภราดร" ขู่ว่าจะหยุดการเชื่อมโยงสายการบินกับประเทศต่างๆในอียูด้วย และกลุ่มผู้ประท้วงหลายสิบคนได้เริ่มเข้าไปรวมตัวกันใกล้สนามบินแล้ว ก่อนหน้านี้พวกนี้ก็ไปประท้วงและก่อเหตุที่หน้ารัฐสภาของยูเครนมาแล้วรอบหนึ่ง ตรงนั้นก็ปะทะกับตำรวจปราบจลาจลเช่นกัน
และในวันเดียวกันนั้น (วันพุธที่ 25 ก.พ.58) พวกฝ่ายขวาชาตินิยมสุดโต่งซึ่งเป็นกองกำลังอิสระก็ออกมาเดินขบวนในกรุงเคียฟเช่นกัน พวกนี้จะแต่งตัวคล้ายทหารทั้งหมด การเดินขบวนในครั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจต่อรัฐบาลชุดนี้ ซึ่งพวกเขาอ้างว่าเป็นกลุ่มที่มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลชุดนั้นและพวกนี้ก็มีที่นั่งในสภาชุดปัจจุบันนี้ด้วย และยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลนี้ใช้ระบบปฏิบัติการกวาดล้างที่ดีกว่านี้ ทั้งเสนอให้รัฐบาลนี้ประกาศใช้กฎอัยการศึกด้วย และเรียกร้องให้รัฐบาลออกกฎหมายทำให้กองกำลังของกลุ่มนี้ถูกต้องตามกฎหมายด้วย รวมถึงการปราบปรามคอรัปชั่นในรัฐบาลชุดนี้ด้วย
อยากให้สถานภาพกองกำลังของตัวเองถูกต้องตามกฎหมายก็ไปคัดเลือกทหารสิจะยากอะไร แต่พวกนี้ไม่ไปเพราะถ้าทำอย่างนั้นก็จะอยู่ในสังกัดของรัฐบาล พวกนี้ไม่ต้องการอย่างนั้น ต้องการที่จะเป็นกองกำลังของตัวเองต่างหากแต่อยากให้รัฐบาลรับรองสถานภาพ มีประเทศไหนที่เจริญแล้วเขาทำอย่างนั้นบ้างเล่า ส่วนเรื่องเรียกร้องให้ปราบปรามการคอร์รัปชั่นนี่ แน่ใจหรือว่าอยากให้ทำอย่างนั้นจริงๆ ถ้าตรวจสอบกันขึ้นมาจริง มันจะโดนหมดทั้งยวงเลยนะนั่นหนะทั้งหัวหน้ากลุ่มของตัวเอง นายกฯ ปธน. ผู้ที่เกี่ยวข้องโดนหมดเลยนะ จะรับได้หรือ?
ปูตินกำลังรอจังหวะให้พวกนี้มันสร้างความปั่นป่วนในกรุงเคียฟให้มากๆและเผาบ้านเผาเมืองของตัวเองอีกรอบก่อน จากนั้นก็ให้สัญญาณพวกยูเครนตะวันออกนิยมรัสเซียและพื้นที่ใกล้เคียงทำประชามติอีกรอบรวมเข้ากับรัสเซียซะเลยเอาอย่างไคร์เมียโมเดลนั่นแหละ พวกกรุงเคียฟก็จะวุ่นวายอยู่กับการปราบจลาจลฆ่ากันเองในกรุงเคียฟและแย่งกันเป็นรัฐบาล ส่วนทางตะวันออก็เสร็จปูตินหละ ยิ่งทะเลาะกันมาก ยิ่งสร้างความแตกแยกแตกสามัคคีกันมาก แผ่นดินประเทศยูเครนก็จะเล็กลงเรื่อยๆ เพราะประชาชนในตะวันออกเขาไม่อยากอยู่กับประเทศที่มีแต่ความวุ่นวายขาดเสถียรภาพ ล่าสุดทาง DPR กับ LPR บอกว่าจะหันไปใช้เงินสกุลอื่นแทนเงิน Hryvnia (UAH) ของยูเครนแล้ว ปากก็พูดให้ดูดีไว้ก่อนว่าจะหันไปใช้เงินดอลล่าของสหรัฐฯและเงินหยวนของจีนแทนเพื่อป้องกันกระแสต่อต้าน แต่เชื่อเถอะพอเอาเข้าให้จริงๆ ใช้รูเบิลของรัสเซียนั่นแหละ ของแบบนี้ก็รู้ๆ กันอยู่
The Eyes
27/02/2558
-----------
https://www.youtube.com/watch?v=i5IJnEizRpQ
https://www.youtube.com/watch?v=UfJ9ZyDgbq4
TASS: World - Police disperse protesters at Ukraine National Bank
TASS: Economy - No criminal case against National Bank governor — Kiev prosecutor’s office
TASS: World - Anti-government protest in downtown Kiev escalates
TASS: World - Ukrainian paramilitaries warn they may upset Kiev-EU air links
TASS: World - Ukraine’s National Guard troops, nationalists clash in downtown Kiev
TASS: World - Kiev police tighten security ahead of anti-government protests
Activists protesting at the national Bank of Ukraine, demanding the resignation of its head
Right Sector ultranationalists hold 'March of Truth' in Kiev — RT In motion
http://rt.com/busin…/235747-donetsk-lugansk-currency-market/
http://www.demotix.com/…/right-sector-ultranationalists-hol…

 

กองทัพยูเครนเริ่มถอนอาวุธหนักจากแนวหน้าตามข้อตกลงหยุดยิงกับกบฎ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2558 00:29 น.



เอเอฟพี - กองทัพยูเครนเผยเมื่อวันพฤหัสบดี(26ก.พ.) กำลังเริ่มถอนอาวุธหนักออกจากแนวหน้า ความเคลื่อนไหวสนับสนุนแผนสันติภาพที่เปราะบาง ทว่าทางฝั่งสหรัฐฯและรัสเซียยังสาดโคลนกันไปมาเกี่ยวกับวิกฤตความขัดแย้งนี้

คำแถลงถอนอาวุธหนัก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของข้อตกลงสันติภาพที่บรรลุกันเมื่อราวๆกลางเดือน มีขึ้นหลังจากข้อตกลงหยุดยิงที่มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ได้รับการยึดมั่นจากทั้งสองฝ่ายทั่วโซนขัดแย้งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

"วันนี้(วันพฤหัสบดี) ยูเครนกำลังเริ่มถอนปืนใหญ่ 100มม.ออกจากแถวหน้า" กอลทัพระบุในถ้อยแถลง "นี่คือก้าวย่างแรกของการถอนอาวุธหนักและจะดำเนินการแต่ฝ่ายเดียวภายใต้การตรวจตราและตรวจสอบของ OSCE(องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป)"

การถอนอาวุธทุกชนิดที่มีขนาดลำกล้องมากกว่า 1000มม. มีจุดมุ่งหมายเพื่อสนับสนุนเขตกันชนของสองฝ่ายที่กำลังสู้รบกัน เป็นระยะทางอย่างน้อย 50 และ 140 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับพิสัยของอาวุธ

พวกกบฏยืนยันว่าพวกเขาเริ่มถอนปืนใหญ่ เครื่องยิงจรวดและรถถังออกจากบางพื้นที่แล้ว อย่างไรก็ตามยังไม่มีคำยืนยันจาก OSCE ด้วยทางคณะผู้สังเกตการณ์บอกว่าสองฝ่ายคู่สงครามไม่ได้ให้ข้อมูลที่จำเป็นที่จะสามารถสรุปได้ว่ามีการถอนอาวุธใดๆจริงหรือไม่

ภายใต้เงื่อนไขของแผนสันติภาพที่ลงนามโดยทั้งเคียฟและฝ่ายกบฏเมื่อราวๆกลางเดือน มีจุดมุ่งหมายให้ถอนอาวุธหนักแล้วเสร็จภายใน 14 วัน ทั้งนี้ในส่วนของการสู้รบเบาบางลงอย่างฉับพลันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยกองทัพยูเครนบอกว่าเป็นวันที่ 2 แล้วที่ไม่มีกำลังพลของพวกเขาเสียชีวิตจากการสู้รบ ยกเว้นแต่ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย

อย่างไรก็ตามในขณะที่การสู้รบบรรเทาลง แต่ความตึงเครียดระหว่างตะวันตกกับมอสโกกลับคุกรุ่นยิ่งขึ้น โดยนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวต่อสภาคองเกรสในวันพุธ(25ก.พ.) ว่ารัสเซียและกบฏนิยมมอสโกล้มเหลวในการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงหยุดยิง

นายเคร์รี บอกด้วยว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ดำเนินนโยบายต่างๆที่ล้วนแต่ละเมิดบรรทัดฐานระหว่างประเทศ ด้านการเคารพต่อเขตแดน เขาใช้อำนาจ ยุยงและอำนวยความสะดวกโดยตรงแก่พวกยึดดินแดน ในความพยายามก่อความไร้เสถียรภาพแก่ยูเครน จนถึงวันนี้ ทั้งรัสเซียและกองกำลังที่พวกเขาสนับสนุน ไม่ได้เฉียดใกล้การทำตามพันธสัญญาเลย" เขากล่าวพร้อมเตือนว่ามอสโกอาจเจอมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติม

กระนั้นทางฝั่งมอสโก โดยนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศ ก็ตอบโต้ว่าคำขู่เกี่ยวกับมาตรการลงโทษรอบใหม่คือหลักฐานชั้นดีที่บ่งชี้ว่าตะวันตกไม่ได้ใส่ใจในความสำเร็จของความพยายามหยุดยั้งการสู้รบที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 5,800 ศพ นับตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นมา

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000023676

 

Jeerachart Jongsomchai
... "จีน - คาซัคสถาน : จับมือกันผลิตยูเรเนียมทำพลังงานนิวเคลียร์ และถ่วงดุลอำนาจรัสเซีย อเมริกา"



... แม้ "จีน" กับ "คาซัคสถาน" จะมีความสัมพันธ์กันไม่ดีนักในสมัยก่อนรวมแผ่นดินสมัยราชวงศ์ฉิน สมัยเลียดก๊กนั้น ราชวงศ์โจวตะวันออกต้องย้ายเมืองหลวงมาทางตะวันออกก็เพราะชนเผ่าทางตะวันตก ซึ่งก็รวมถึงชาวคาซัคด้วย แต่ต่อมาสมัยราชวงศ์ชิงจีนก็ครอบครองซินเกียงที่เป็นของชาวอุยกูร์ ที่เป็นพี่น้องเชื้อสายเดียวกับชาวคาซัค จีนก็ปลอดภัยขึ้น คาซัคก็อยู่ใต้อิทธิพลรัสเซีย ปัญหาระหว่างสองฝ่ายก็เลยสงบ ไม่มีอะไร

... จนปี 1996 ทั้งสองชาติได้ร่วมกันเป็นประเทศผู้ก่อตั้ง Shanghai Cooperation Organisation. ( SCO ) ที่เป็นความร่วมมือกันทั้งทางด้าน "การทหาร, การเมือง, เศรษฐกิจ " ระหว่างประเทศในแถบเอเชียกลาง ประกอบด้วย China, Kazakhstan, Kyrgyzstan, Russia, Tajikistan และ Uzbekistan. ( Uzbekistan เข้ามาในปี 2001 )

... โดยจีนจะได้อาศัยความสัมพันธ์กับคาซัคสถานเป็นตัวถ่วงดุลอำนาจและอิทธิพลของรัสเซียได้ด้วยทั้งสองฝ่าย ( คาซัคก็เอาจีนมาถ่วงการกลับมาเป็นพี่เบิ้มของรัสเซียลูกพี่เก่า จีนก็เอาคาซัคมาเป็นกองหนุนถ่วงดุลอำนาจรัสเซียเหมือนกัน win win ทั้งคู่ )

... แต่ทั้งคู่ก็พยายามไกล่เกลี่ยปัญหาระหว่างกันเหมือนกัน เช่นเรื่องปัญหาชาวอุยกูร์ในซินเกียงที่เป็นพี่น้องกับชาวคาซัค ไม่ให้คาซัคแอบส่งเสริมพวกแบ่งแยกดินแดนของซินเกียงออกจากจีน

... ยิ่งกว่านั้นจีนพยายามอย่างสูงในการลดการแผ่อิทธิพลของ "อเมริกา" ที่พยายามจะขอมาตั้ง "ฐานทัพทหาร" ในคาซัคสถาน ซึ่งถ้ายอมให้จีนและรัสเซียคงไม่พอใจอย่างมาก

.. และในปี 1997 ทั้งสองประเทศร่วมกับ Kyrgyzstan, Tajikistan เป็นสี่ประเทศได้ลงนามลดการคงทหารตามแนวพรมแดนเพื่อลดความตึงเครียดระหว่างกัน

... สรุปว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดีขึ้นเป็นลำดับ และทั้งสองก็ขยายความร่วมมือในทางรูปธรรมมากขึ้น นอกเหนือจากด้านพลังงาน "น้ำมันและแก๊ส" ที่จีนต้องการจากคาซัคสถานอย่างมากและมีโครงการร่วมกันมาหลายปีแล้ว ยังมีความร่วมมือด้านอื่นอีก เช่นเมื่อปีที่แล้วทั้งคู่ได้ลงนามร่วมกันผลิตและสำรวจ "แร่ยูเรเนียม" ที่รู้กันดีว่าใช้ผลิต "นิวเคลียร์" ( ใช้ได้ทั้งทางการทหารและพลังงานสันติ )

... โดยข้อมูลปี 2013 นั้น "คาซัคสถาน" เป็นประเทศที่ผลิต "แร่ยูเรเนียม" มากที่สุดของโลก คิดเป็น 38% ของทั้งหมด

... ซึ่ง CGNP - China General Nuclear Power ได้ลงนามร่วมกับรัฐวิสาหกิจ "Kazatomprom" ของรัฐบาลคาซัคเป็นเจ้าของเมื่อปลายปี 2014 ที่ผ่านมา เพื่อสำรวจขุดเจาะและผลิต "แร่ยูเรเนียม" เพื่อผลิตพลังงานนิวเคลียร์ ( ข่าวไม่ได้บอกว่าเอาไปทำอาวุธนิวเคลียร์ด้วยหรือไม่ ) โดยทั้งสองชาติได้ร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2006 แล้วและเติบโตขยายมากขึ้นเรื่อยๆ

... ซึ่งตอนนี้ "จีน" มีนโยบาย เดินหา วิ่งหา เสาะหา "แร่ยูเรเนียม" ไปทั่วโลกเพื่อจะเอาไปเดินหน้าเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของตน ไม่ให้เครื่องยนตร์เศรษฐกิจสะดุด , โดยเฉพาะอาฟริกา ที่ "ไนจีเรีย" และ "นามิเบีย" ( ที่โชคร้ายแบบบังเอิญหรือตั้งใจจากใครก็ไม่ทราบ ต้องมาเจอทั้งโรค "โรคอีโบล่า" และ "โจรโบโกฮารัม" กำลังปั่นป่วนอยู่ขณะนี้ )

... "จีน" ที่เป็นผู้บริโภคพลังงานมากอันดับสองของโลก แต่เป็นผู้นำเข้า "แร่ยูเรเนียม" อันดับหนึ่งของโลกกำลังหายูเรเรียมจากทั่วโลกเพื่อป้อนโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้นความสัมพันธ์ทั้งสองประเทศจึงเป็นมากกว่าแค่เพื่อนบ้าน แต่อาจจะเป็น "พันธมิตรที่สำคัญ" ต่อกันและกันเลยทีเดียว

.
http://usa.chinadaily.com.cn/…/2014…/16/content_19097750.htm
http://en.wikipedia.org/…/China–Kazakhstan_relations
http://en.wikipedia.org/w…/Shanghai_Cooperation_Organisation
http://www.eniscuola.net/…/world-uranium-mining-production…/

 

ยอดตายหิมะถล่มทั่วอัฟกันทะลุ200ศพ แต่คาดอาจสูงกว่านี้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 กุมภาพันธ์ 2558 02:01 น.



เอเอฟพี - ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุหิมะถล่มหลายระลอกซึ่งมีต้นตอจากหิมะตกหนักทั่วอัฟกานิสถาน เพิ่มเป็นมากกว่า 200 คนแล้ว เจ้าหน้าที่เผยเมื่อวันพฤหัสบดี(26ก.พ.) พร้อมเตือนตัวเลขเหยื่ออาจพุ่งสูงกว่านี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องพบกับความยากลำบากในการเข้าถึงพื้นที่ประสบภัย
เหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดปันจ์ชีร์ ทางตะวันออกของกรุงคาบูล ด้วยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 168 คน นายอับดุล ราห์มาน คาบิรี ผู้ว่าราชการจังหวัดบอกกับเอเอฟพี ขณะที่เหตุหิมะถล่มหลายระลอกครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีหิมะตกลงมาอย่างหนักต่อเนื่องหลายวันติด ก่อความเสียหายแก่บ้านเรือนมากกว่า 100 หลังในจังหวัดแห่งนี้ และปิดกั้นถนนสายหลัก ทำให้หน่วยกู้ภัยประสบกับความยากลำบากในการเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆที่ได้รับความเดือดร้อน
"ยอดรวมผู้เสียชีวิตจากเหตุหิมะถล่มหลายครั้งในจังหวัดปันจ์ชีร์ เพิ่มเป็น 168 คน" คาบิรี กล่าวพร้อมเตือนว่าตัวเลขอาจเพิ่มสูงขึ้นในช่วงอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า "เราไม่เคยเห็นหิมะหรือมีเหตุหิมะถล่มมากมายขนาดนี้ในปันจ์ชีร์ มานานหลายสิบปีแล้ว"
อับดุล ราห์มาน คาลันตารี หัวหน้าหน่วยตอบสนองภัยพิบัติของสภาเสี้ยววงเดือนแดงอัฟกัน ยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตในจังหวัดปันจ์ชีร์เช่นกัน แต่บอกกับเอเอฟพีว่ายอดที่แท้จริงอาจสูงกว่านี้
ส่วนที่อื่นๆ พบผู้เสียชีวิต 18 รายในจังหวัดบาดัคชาน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ 12 คนในจังหวัดนูริสทาน ทางภาคเหนือ นอกจากนี้แล้วยังพบผู้เสียชีวิตอีก 6 คนในจังหวัดบามิยาน ทางภาคกลาง 4 คนในจังหวัดลักช์มันและ 1 คนในจังหวัดนันการ์ฮาร์ ซึ่งต่างตั้งอยู่ทางภาคตะวันออก ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมเป็นอย่างน้อย 209 ศพ
ทีมกู้ภัยยังพยายามกู้ศพผู้เสียชีวิตและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตที่ตกค้างในจังหวัดปันจ์ชีร์ แต่หิมะที่ลึกมากเป็นอุปสรรคขัดขวางความพยายามเข้าถึงหมู่บ้านต่างๆที่อยู่ห่างไกล ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ต้องใช้เฮลิคอปเตอร์ 2 ลำนำสิ่งของบรรเทาทุกข์จากคาบูลไปยังปันจ์ชีร์ และแจกจ่ายแก่ครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ แต่ข้าวของเหล่านั้นยังขาดแคลนอยู่มาก
ประธานาธิบดีอัสราฟ กานี ออกถ้อยแถลงแสดงความเสียใจต่อเหยื่อผู้เสียชีวิตในช่วงค่ำวันพุธ(25ก.พ.) พร้อมเผยได้ออกคำสั่งถึงเจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานให้มอบความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ผู้ประสบภัย ขณะที่ชาติเพื่อนบ้านอย่างปากีสถาน ก็เสนอมอบความช่วยเหลือเช่นกัน
เหตุหิมะถล่มคร่าชีวิตผู้คนเกิดขึ้นแทบเป็นเรื่องปกติในพื้นที่แถบภูเขาของอัฟกานิสถานในช่วงฤดูหนาว โดยหนึ่งในนั้นคือเหตุสลดที่เกิดขึ้นในดินแดนห่างไกลทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อปี 2012 ซึ่งมีผู้สูญหายมากถึง 145 คนและเชื่อว่าได้เสียชีวิตทั้งหมด
http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย
วันที่ 27 ก.พ.58 รถถังรุ่นล่าสุดของรัสเซียสุโค่ยมาก



รถถังรุ่น "Armata" คันแรกที่เพิ่งผลิต เตรียมส่งมอบให้กับกองทัพรัสเซียสำหรับการทดสอบในเบื้องต้น ในช่วงต้นเดือน ก.พ. รถถังคันแรกได้ส่งมอบให้กับ กระทรวงกลาโหมของรัสเซีย เพื่อนำไปทดสอบเบื้องต้นในเดือน มี.ค. โดยรัสเซียวางแผนใช้มัน ร่วมขบวนสวนสนามที่จตุรัสแดงในวันที่ 9 พค. ที่จะถึงนี้
กองทัพรถถังรัสเซีย ขึ้นชื่อว่าใหญ่โต และน่าเกรงขามมากที่สุดในโลก ชนิดแลกกันหมัดต่อหมัด ชาติตะวันตกคงเทียบไม่ติด
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียส่งขบวนรถคอนวอยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยยูเครนตะวันออกรอบที่ 16



--------------
วันนี้ (27 ก.พ.58) สื่อฯฝั่งรัสเซียรายงานว่ากระทรวงฉุกเฉิน (Emergencies Ministry) ของรัสเซียได้ปล่อยขบวนรถคอนวอยขนอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับเด็กนักเรียน จำนวน 170 คันรถ 10 ล้อเพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปกับชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาค Donbass (Donetsk และ Luhansk) ทางตะวันออกของยูเครนที่จะได้ผลกระทบจากสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพของยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย โดยรถแต่ละคันนั้นบรรทุกข้าวของเครื่องใช้หนักประมาณ 1.8 ตัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รัสเซียได้ส่งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ชาวยูเครนตะวันออกแล้วทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ตัน
ส่วนรัฐบาลยูเครนเองหนะหรือ? จนป่านนี้ยังไม่เห็นมีข่าวว่าได้ส่งอะไรไปช่วยเหลือประชาชนของตัวเองเลย แต่ล่าสุดประธานาธิบดีของยูเครนที่บินกลับมาจากไปดูงานแสดงอาวุธที่ United Arab Emirates (UAE) ในตะวันออกกลางคุยโอ่ว่าสามารถบรรลุข้อตกลงซื้ออาวุธจาก UAE กว่า 20 สัญญา อ้าวพวกก็งงดิ UAE เขาผลิตอาวุธซะที่ไหนหละ และสัญญาที่ว่านั้นก็ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย แล้วจะเอาอาวุธที่ไหนมาขายให้ยูเครน มันจะไปยากอะไร ก็ในเมื่อทางอียูและรัสเซียคัดค้านการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครน สหรัฐฯก็เล่นขายผ่านตัวแทนในตะวันออกกลางแทนซะเลยสิ สหรัฐฯกับบางประเทศในยุโรปก็ขายอาวุธให้ UAE จากนั้น UAE ก็เอามาขายให้ยูเครนต่ออีกทอดหนึ่งกินหัวคิวไปสบาย
ส่วนเรื่องแก๊สที่ทางรัสเซียขู่ว่าจะตัดแก๊สยูเครนเนื่องจากยูเครนไม่เบี้ยวค่าแก๊สล่วงหน้านั้น ก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งเพราะมันมีผลกระทบต่อยุโรปที่รับแก๊สรัสเซียต่อจากยูเครนอีกทอดหนึ่งด้วยนะสิ ล่าสุดเห็นว่าจะมีการเจรจากันสามฝ่ายระหว่างรัสเซีย-ยูเครน-อียู ในวันที่ 2 มีนาคมที่จะถึงนี้ และทางกรุงเคียฟพึ่งจะแจ้งทางรัสเซียไปเองว่าได้จ่ายค่าแก๊สที่ค้างไว้เป็นจำนวนเงิน $15 million (ประมาณ 4.8 ร้อยล้านบาท) ให้รัสเซียแล้ว ดูแล้วมันก็ไม่มากมายอะไรเลยนะ มันไม่เงินจะจ่ายค่าแก๊สจริงๆ หรือว่าไม่อยากจะจ่ายให้รัสเซียกันแน่ เพราะมีเงินไปสั่งซื้ออาวุธจาก UAE ได้ตั้ง 20 กว่าสัญญาแหนะ แต่ทางรัสเซียบอกว่าเช็คกับทางธนาคารแล้วตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินจากยูเครน เงินยังไม่เข้าบัญชีของ Gazprom ของรัสเซียว่างั้นเถอะ ถ้าได้รับเงินค่าแก๊สแล้วก็จะไม่ตัดแก๊สยูเครน ก่อนหน้านี้ทางรัสเซียก็ออกมาพูดเปรยๆว่าอาจจะส่งแก๊สให้พื้นที่โดเนทส์กกับลูฮานส์กใช้ฟรี เพราะทางยูเครนปฏิเสธที่จะจ่ายค่าแก๊สในส่วนนี้ให้กับรัสเซีย
นี่… เป็นซะอย่างนี้หละรัฐบาลชุดนี้ของยูเครน แล้วจะไม่ให้ประชาชนชาวยูเครนตะวันออกเขารักปูตินได้อย่างไรหละ อ้อ… เมื่อวันก่อนโปโรเชนโก ปธน.ของยูเครนยังโอ่อีกว่าจะเอาไคร์เมียกลับมาเป็นของยูเครนอีกให้ได้ จะสร้างไคร์เมียใหม่ขึ้นมา ฟังเขาพูดเข้า จะเปลี่ยนสนานรบจากยูเครนตะวันออกไปที่ไคร์เมียว่างั้นเถอะ หาเรื่องตายซะแล้ว ตรงนั้นรัสเซียมีสิทธิ์ถล่มนักรบรับจ้างของยูเครนได้เต็มที่เลยนะ ฐานทัพเรือของรัสเซียก็อยู่ที่นั่นงานนี้ไม่ต้องพึ่งกลุ่มกบฎนิยมรัสเซียหรอก กองทัพรัสเซียจะลุยเองเลยหละ เพราะเขาถือว่าเขามีความชอบธรรมที่จะปกป้องประเทศของเขา
The Eyes
27/02/2558
------------
http://sputniknews.com/russia/20150227/1018821324.html
TASS: Russia - Russian humanitarian aid delivered to east Ukraine's Luhansk
http://tass.ru/en/russia/779925
http://rt.com/business/236019-gazprom-naftogaz-russsia-gas/
http://sputniknews.com/business/20150227/1018829770.html
http://sputniknews.com/russia/20150225/1018732209.html
http://sputniknews.com/europe/20150225/1018746423.html
Gazprom Gets $15 Mln in Advance Gas Payment From Ukraine / Sputnik International
http://sputniknews.com/business/20150227/1018827140.html

 

ปอกเปลือก ทรราช
รัสเซียส่งขบวนรถคอนวอยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยยูเครนตะวันออกรอบที่ 16



--------------
วันนี้ (27 ก.พ.58) สื่อฯฝั่งรัสเซียรายงานว่ากระทรวงฉุกเฉิน (Emergencies Ministry) ของรัสเซียได้ปล่อยขบวนรถคอนวอยขนอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับเด็กนักเรียน จำนวน 170 คันรถ 10 ล้อเพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปกับชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาค Donbass (Donetsk และ Luhansk) ทางตะวันออกของยูเครนที่จะได้ผลกระทบจากสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพของยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย โดยรถแต่ละคันนั้นบรรทุกข้าวของเครื่องใช้หนักประมาณ 1.8 ตัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รัสเซียได้ส่งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ชาวยูเครนตะวันออกแล้วทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ตัน
ส่วนรัฐบาลยูเครนเองหนะหรือ? จนป่านนี้ยังไม่เห็นมีข่าวว่าได้ส่งอะไรไปช่วยเหลือประชาชนของตัวเองเลย แต่ล่าสุดประธานาธิบดีของยูเครนที่บินกลับมาจากไปดูงานแสดงอาวุธที่ United Arab Emirates (UAE) ในตะวันออกกลางคุยโอ่ว่าสามารถบรรลุข้อตกลงซื้ออาวุธจาก UAE กว่า 20 สัญญา อ้าวพวกก็งงดิ UAE เขาผลิตอาวุธซะที่ไหนหละ และสัญญาที่ว่านั้นก็ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย แล้วจะเอาอาวุธที่ไหนมาขายให้ยูเครน มันจะไปยากอะไร ก็ในเมื่อทางอียูและรัสเซียคัดค้านการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครน สหรัฐฯก็เล่นขายผ่านตัวแทนในตะวันออกกลางแทนซะเลยสิ สหรัฐฯกับบางประเทศในยุโรปก็ขายอาวุธให้ UAE จากนั้น UAE ก็เอามาขายให้ยูเครนต่ออีกทอดหนึ่งกินหัวคิวไปสบาย
ส่วนเรื่องแก๊สที่ทางรัสเซียขู่ว่าจะตัดแก๊สยูเครนเนื่องจากยูเครนไม่เบี้ยวค่าแก๊สล่วงหน้านั้น ก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งเพราะมันมีผลกระทบต่อยุโรปที่รับแก๊สรัสเซียต่อจากยูเครนอีกทอดหนึ่งด้วยนะสิ ล่าสุดเห็นว่าจะมีการเจรจากันสามฝ่ายระหว่างรัสเซีย-ยูเครน-อียู ในวันที่ 2 มีนาคมที่จะถึงนี้ และทางกรุงเคียฟพึ่งจะแจ้งทางรัสเซียไปเองว่าได้จ่ายค่าแก๊สที่ค้างไว้เป็นจำนวนเงิน $15 million (ประมาณ 4.8 ร้อยล้านบาท) ให้รัสเซียแล้ว ดูแล้วมันก็ไม่มากมายอะไรเลยนะ มันไม่เงินจะจ่ายค่าแก๊สจริงๆ หรือว่าไม่อยากจะจ่ายให้รัสเซียกันแน่ เพราะมีเงินไปสั่งซื้ออาวุธจาก UAE ได้ตั้ง 20 กว่าสัญญาแหนะ แต่ทางรัสเซียบอกว่าเช็คกับทางธนาคารแล้วตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินจากยูเครน เงินยังไม่เข้าบัญชีของ Gazprom ของรัสเซียว่างั้นเถอะ ถ้าได้รับเงินค่าแก๊สแล้วก็จะไม่ตัดแก๊สยูเครน ก่อนหน้านี้ทางรัสเซียก็ออกมาพูดเปรยๆว่าอาจจะส่งแก๊สให้พื้นที่โดเนทส์กกับลูฮานส์กใช้ฟรี เพราะทางยูเครนปฏิเสธที่จะจ่ายค่าแก๊สในส่วนนี้ให้กับรัสเซีย
นี่… เป็นซะอย่างนี้หละรัฐบาลชุดนี้ของยูเครน แล้วจะไม่ให้ประชาชนชาวยูเครนตะวันออกเขารักปูตินได้อย่างไรหละ อ้อ… เมื่อวันก่อนโปโรเชนโก ปธน.ของยูเครนยังโอ่อีกว่าจะเอาไคร์เมียกลับมาเป็นของยูเครนอีกให้ได้ จะสร้างไคร์เมียใหม่ขึ้นมา ฟังเขาพูดเข้า จะเปลี่ยนสนานรบจากยูเครนตะวันออกไปที่ไคร์เมียว่างั้นเถอะ หาเรื่องตายซะแล้ว ตรงนั้นรัสเซียมีสิทธิ์ถล่มนักรบรับจ้างของยูเครนได้เต็มที่เลยนะ ฐานทัพเรือของรัสเซียก็อยู่ที่นั่นงานนี้ไม่ต้องพึ่งกลุ่มกบฎนิยมรัสเซียหรอก กองทัพรัสเซียจะลุยเองเลยหละ เพราะเขาถือว่าเขามีความชอบธรรมที่จะปกป้องประเทศของเขา
The Eyes
27/02/2558
------------
http://sputniknews.com/russia/20150227/1018821324.html
http://tass.ru/en/russia/779942
http://tass.ru/en/russia/779925
http://rt.com/business/236019-gazprom-naftogaz-russsia-gas/
Ukraine's Naftogaz Pays $15Mln to Gazprom for March Deliveries - Company / Sputnik International
http://sputniknews.com/russia/20150225/1018732209.html
http://sputniknews.com/europe/20150225/1018746423.html
Gazprom Gets $15 Mln in Advance Gas Payment From Ukraine / Sputnik International
http://sputniknews.com/business/20150227/1018827140.html

 

ปอกเปลือก ทรราช



รัสเซียส่งขบวนรถคอนวอยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปช่วยยูเครนตะวันออกรอบที่ 16
--------------
วันนี้ (27 ก.พ.58) สื่อฯฝั่งรัสเซียรายงานว่ากระทรวงฉุกเฉิน (Emergencies Ministry) ของรัสเซียได้ปล่อยขบวนรถคอนวอยขนอาหาร ยารักษาโรค เครื่องนุ่งห่ม หนังสือเรียน และอุปกรณ์การเรียนการสอนสำหรับเด็กนักเรียน จำนวน 170 คันรถ 10 ล้อเพื่อเป็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปกับชาวยูเครนที่อาศัยอยู่ในภูมิภาค Donbass (Donetsk และ Luhansk) ทางตะวันออกของยูเครนที่จะได้ผลกระทบจากสงครามกลางเมืองระหว่างกองทัพของยูเครนกับกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซีย โดยรถแต่ละคันนั้นบรรทุกข้าวของเครื่องใช้หนักประมาณ 1.8 ตัน ตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว รัสเซียได้ส่งการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ชาวยูเครนตะวันออกแล้วทั้งสิ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ตัน
ส่วนรัฐบาลยูเครนเองหนะหรือ? จนป่านนี้ยังไม่เห็นมีข่าวว่าได้ส่งอะไรไปช่วยเหลือประชาชนของตัวเองเลย แต่ล่าสุดประธานาธิบดีของยูเครนที่บินกลับมาจากไปดูงานแสดงอาวุธที่ United Arab Emirates (UAE) ในตะวันออกกลางคุยโอ่ว่าสามารถบรรลุข้อตกลงซื้ออาวุธจาก UAE กว่า 20 สัญญา อ้าวพวกก็งงดิ UAE เขาผลิตอาวุธซะที่ไหนหละ และสัญญาที่ว่านั้นก็ไม่ได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณะด้วย แล้วจะเอาอาวุธที่ไหนมาขายให้ยูเครน มันจะไปยากอะไร ก็ในเมื่อทางอียูและรัสเซียคัดค้านการสนับสนุนด้านอาวุธให้ยูเครน สหรัฐฯก็เล่นขายผ่านตัวแทนในตะวันออกกลางแทนซะเลยสิ สหรัฐฯกับบางประเทศในยุโรปก็ขายอาวุธให้ UAE จากนั้น UAE ก็เอามาขายให้ยูเครนต่ออีกทอดหนึ่งกินหัวคิวไปสบาย
ส่วนเรื่องแก๊สที่ทางรัสเซียขู่ว่าจะตัดแก๊สยูเครนเนื่องจากยูเครนไม่เบี้ยวค่าแก๊สล่วงหน้านั้น ก็ก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาอีกครั้งเพราะมันมีผลกระทบต่อยุโรปที่รับแก๊สรัสเซียต่อจากยูเครนอีกทอดหนึ่งด้วยนะสิ ล่าสุดเห็นว่าจะมีการเจรจากันสามฝ่ายระหว่างรัสเซีย-ยูเครน-อียู ในวันที่ 2 มีนาคมที่จะถึงนี้ และทางกรุงเคียฟพึ่งจะแจ้งทางรัสเซียไปเองว่าได้จ่ายค่าแก๊สที่ค้างไว้เป็นจำนวนเงิน $15 million (ประมาณ 4.8 ร้อยล้านบาท) ให้รัสเซียแล้ว ดูแล้วมันก็ไม่มากมายอะไรเลยนะ มันไม่เงินจะจ่ายค่าแก๊สจริงๆ หรือว่าไม่อยากจะจ่ายให้รัสเซียกันแน่ เพราะมีเงินไปสั่งซื้ออาวุธจาก UAE ได้ตั้ง 20 กว่าสัญญาแหนะ แต่ทางรัสเซียบอกว่าเช็คกับทางธนาคารแล้วตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินจากยูเครน เงินยังไม่เข้าบัญชีของ Gazprom ของรัสเซียว่างั้นเถอะ ถ้าได้รับเงินค่าแก๊สแล้วก็จะไม่ตัดแก๊สยูเครน ก่อนหน้านี้ทางรัสเซียก็ออกมาพูดเปรยๆว่าอาจจะส่งแก๊สให้พื้นที่โดเนทส์กกับลูฮานส์กใช้ฟรี เพราะทางยูเครนปฏิเสธที่จะจ่ายค่าแก๊สในส่วนนี้ให้กับรัสเซีย
นี่… เป็นซะอย่างนี้หละรัฐบาลชุดนี้ของยูเครน แล้วจะไม่ให้ประชาชนชาวยูเครนตะวันออกเขารักปูตินได้อย่างไรหละ อ้อ… เมื่อวันก่อนโปโรเชนโก ปธน.ของยูเครนยังโอ่อีกว่าจะเอาไคร์เมียกลับมาเป็นของยูเครนอีกให้ได้ จะสร้างไคร์เมียใหม่ขึ้นมา ฟังเขาพูดเข้า จะเปลี่ยนสนานรบจากยูเครนตะวันออกไปที่ไคร์เมียว่างั้นเถอะ หาเรื่องตายซะแล้ว ตรงนั้นรัสเซียมีสิทธิ์ถล่มนักรบรับจ้างของยูเครนได้เต็มที่เลยนะ ฐานทัพเรือของรัสเซียก็อยู่ที่นั่นงานนี้ไม่ต้องพึ่งกลุ่มกบฎนิยมรัสเซียหรอก กองทัพรัสเซียจะลุยเองเลยหละ เพราะเขาถือว่าเขามีความชอบธรรมที่จะปกป้องประเทศของเขา
The Eyes
27/02/2558
------------
Russia’s 16th Humanitarian Convoy to Eastern Ukraine Ready to Depart / Sputnik International
http://tass.ru/en/russia/779942
http://tass.ru/en/russia/779925
http://rt.com/business/236019-gazprom-naftogaz-russsia-gas/
Ukraine's Naftogaz Pays $15Mln to Gazprom for March Deliveries - Company / Sputnik International
Russia Signs Arms Deal With UAE to Supply AU-220M Automatic Turret Module / Sputnik International
Poroshenko's Big Haul: What Exactly Did Ukraine Bring Back From the UAE? / Sputnik International
Gazprom Gets $15 Mln in Advance Gas Payment From Ukraine / Sputnik International
Russia May Halt Gas Supplies to Ukraine if No Prepayment Received / Sputnik International

 

Thanong Fanclub



13. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
3เสือยุคแรก (First Triumvirate)เป็นการผนึกพันธมิตรในเชิงลับระหว่างซีซ่าร์ คราสซัสและปอมเปย์เพื่อยึดอำนาจโรม แต่พันธมิตรนี้จบลงด้วยซีซ่าร์กุมอำนาจเด็ดขาดแต่ผู้เดียว แต่ซีซ่าร์โดนแทงตายในสภาโดยพวกเซเนทที่ต้องการฟื้นระบบสาธารณรัฐและต้องการได้อำนาจคืนมาโดยไม่คำนึงผลกระทบที่จะตามมาจากภาวะสุญญากาศในการเมืองโรมและความอ่อนไหวในการรักษาอำนาจของโรมเหนืออาณานิคมทั่วทั้งยุโรป แอฟริกาเหนือ และเอเซียให้อยู่กับร่องกับรอย
ใน3เสือยุคที่2เป็นการฟอร์มตัวอย่างเป็นทางการระหว่างOctavian หลานและทายาททางการเมืองของซีซ่าร์ Marcus Aemilius Lepidus และMark Antonyเพื่อยึดอำนาจจากโรมระหว่างปี43ก่อนคริสตกาลถึงปี33ก่อนคริสตาล นับว่าเป็นการสิ้นสุดระบบสาธารณรัฐ และในท้ายที่สุดOctavian สามารถก้าวขึ้นมามีอำนาจแต่เพียงผู้เดียว เหมือนซีซ่าร์ กลายเป็นจักรพรรดิAugustus
น่าสนใจว่าTriumvirate ระหว่างโรม ลอนดอนและดีซีในยุคปัจจุบัน ในท้ายที่สุดแล้วใครจะกลายเป็นผู้มีอำนาจผู้เดียวที่แท้จริง ในTriumvirateนี้ฟอร์มกันอย่างไม่เป็นทางการเพื่อยึดครองโลก เหมือนกับที่ซีซ่าร์ คราสซัสและปอมเปย์รวมตัวกันเป็น3เสือเพื่อยึดอำนาจโรมจากพวกเซเนท
ในขณะที่โรมยืนนิ่งในเงามืด ลอนดอนแสดงออกว่าเป็นผู้ตามของดีซีที่ดี เพราะว่าดีซีมีแสนยานุภาพที่เกรียงไกรที่สุดในโลก หลังจากสงครามโลกครั้งที่2 Triumvirateตะวันตก ดูแลระเบียบโลกปัจจุบันผ่านดอลล่าร์ ค้าเสรี และโลกาภิวัฒน์ สามารถเอาชนะโซเวียตรัสเซียได้ในสงครามเย็น โรมต้องการได้เยรูซาเลมเพื่อสร้างโลกใหม่ และขยายอำนาจของแคทอลิกเพื่อเป็นศาสนาของโลกต่อไป อังกฤษกำลังตระเกียกตระกายที่จะรักษาศูนย์กลางทางการเงินของลอนดอน ถ้ารักษาไม่ได้ จะถือเป็นการสิ้นสุดของดินแดนพระอาทิตย์ที่ไม่ตกดิน เกาะอังกฤษอาจจะจมทะเลไปเลยก็ได้ ส่วนดีซีอาจจะมีการแย่งอำนาจกันภายในเพื่อประกาศอิสระภาพครั้งที่2จากลอนดอนและโรม
ในขณะเดียวกัน รัสเซียและจีนเริ่มผงาดและแอบจับมือกับอิหร่านเพื่อรวมตัวกันเป็นTriumvirateตะวันออกเพื่อเผชิญหน้ากับTriumvirateตะวันตกที่กำลังเสื่อมเพราะมีปัญหาในระบบการเงินดอลล่าร์ มีความพยายามที่จะใช้ระบบเผด็จการมาควบคุมประชาชนของตัวเองมากยิ่งขึ้นผ่านการวาดภาพผีก่อการร้ายและเรื่องอ้างความมั่นคง
ทั้งสองTriumvirateนี้เลยจุดที่จะประนอมความกันแล้ว การแซงชั่นรัสเซียโดยสหรัฐฯและอียูถือว่าเป็นการก้าวข้ามแม่น้ำรูบิคอน หรือจุุดที่ไม่สามารถหวลกลับคืนมา (point of no return) เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะยึดครองโลกในศตวรรษที่21
ในTriumrateแรกของโรม คราสซัสไปกินเมืองซีเรีย และทำสงครามรบกับกองทัพพาร์เธีย ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์ใหญ่ของอิหร่านก่อนที่จะถูกฆ่าตายในสนามรบ ส่วนปอมเปย์หลังจากแพ้สงครามกับซีซ่าร์หนีไปอิยิปต์ และถูกพระเจ้าปโตเลมีที่13 พระอนุชาของพระนางคลีโอพัตราสั่งฆ่า ส่วนซีซ่าร์ขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นผู้นำเด็ดขาดแต่ผู้เดียวของโรมที่เป็นจักรวรรดิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในยุคนั้น แต่ซีซ่าร์จบชีวิตลงอย่างน่าอนาจใจจากการโดนพวกสมาชิกเซเนทรุมแทงในสภา
Triumvirateตะวันตกในปัจจุบันดูเหมือนว่าจะเดินย้อนรอยTriumvirateยุคซีซ่าร์ มีการส่งกองทัพสหรัฐฯ อังกฤษ และโกล (Gaul)ฝรั่งเศสไปรบที่ซีเรียเหมือนกับที่คราสซัสได้ไปกินตำแหน่งผู้ว่าการซีเรีย Triumvirateตะวันตกเตรียมการทำสงครามกับอิหร่าน เหมือนกับที่คราสซัสและโรมทำสงครามกับกองทัพพาร์เธียของอิหร่านโบราณที่เก่งกาจทั้งทหารม้าและพลธนูที่เยี่ยมยอด คราสซัสแพ้และตายในการรบกับพาร์เธียร์ เราต้องคอยดูว่าTriumvirateตะวันตกจะแพ้อิหร่านเหมือนกับที่คราสซัสต้องจ่ายด้วยชีวิตหรือไม่
ปอมเปย์หลังพ่ายแพ้สงครามกับซีซ่าร์แล้ว หนีไปขอลี้ภัยที่อิยิปต์แต่โดนอิยิปต์หักหลังโดนฆ่าตายบนเรือที่เทียบท่าเมืองอเล็กซานเดรียในปี48ก่อนคริสตกาล ในต้นเดือนกุมภาพันธ์ปี2015นี้ ผู้นำอิยิปต์คนปัจจุปันนายAbdel-Fattah el-Sissi ได้หักหลังTriumvirateตะวันตกเรียบร้อยแล้ว ด้วยการเซ็นสัญญาพันธมิตรทางความมั่นคงกับปูตินผู้นำของรัสเซีย และมีข้อตกลงที่จะค้าขายกันโดยไม่ใช้ดอลล่าร์สหรัฐฯ
สถานการโลกปัจจุบันกำลังดำเนินไปด้วยลีลาคล้ายกับประวัติศาสตร์ของโรมันยุคซีซ่าร์เรื่องอำนาจ ตัวละครยังหน้าเดิมๆอยู่
thanong
27/2/2015

 

Thanong Fanclub



14. จักรวรรดิโรมันคืนชีพ
ความเสื่อมของจักรวรรดิอเมริกาขณะนี้ เหมือนกับความเสื่อมและการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันโบราณในศตวรรษที่5 ซึ่งเกิดการใช้จ่ายที่เกินตัว หนี้สินที่มากเกินตัว และการขยายอำนาจรวมทั้งค่าใช้จ่ายทางทหารที่เกินตัว
ดีซีต้องใช้เงินอย่างน้อย$1ล้านล้านในการรักษาและดูแลแสนยานุภาพทางทหาร งบประมาณที่ขาดดุลและหนี้ที่เพิ่มเกิน100%ต่อจีดีพี ทำให้ทางเฟดเดอรัช รีเชริฟต้องพิมพ์เงินผ่านการทำQE ซึ่งจะมีผลทำให้ความเชื่อมั่นในค่าเงินดอลล่าร์สั่นคลอน ทั้งรัสเซียและจีนกำลังหาทางปลดแอกดอลล่าร์อยู่
สิ่งที่สหรัฐฯกำลังเผชิญคล้ายๆกับสิ่งที่จักรวรรดิโรมันเคยผ่านมา ที่จริงโรมันพังเพราะการทำQEมาแล้ว เพราะว่าฐานะการคลังล้มละลาย ทำให้เกิดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งทำให้จักรวรรดิโรมันล่มสลาย
ช่วงเริ่มต้นของคริสตกาล เหรียญเงินเดนารีอุส (Silver Denarius)ของโรมัน มีส่วนผสมของแร่เงิน3.50กรัมกว่าๆ แต่ต่อมาวินัยการคลังของโรมหย่อนยานลงไป จำเป็นต้องเพิ่มปริมาณเหรียญเงินในระบบเศรษฐกิจ แต่แร่เงินมีจำกัด ทำให้ส่วนผสมของเงิน (silver)ในเหรียญ (coin) ลดลงไปเรื่อยๆ โดยที่มีส่วนผสมของทองแดงเพื่อขึ้น ค่าเงินตกตามสัดส่วนแร่เงินในเหรียญที่ลดลง เกิดเงินเฟ้อ จนในที่สุดเหรียญเงินของโรมันแทบจะไร้ค่า เพราะว่าเหลือแต่ทองแดง
เมื่อลุล่วงปี250หลังคริสตกาล ส่วนผสมของแร่เงินในเหรียญเดนารีอุสเหลือ0% เท่ากับว่าจักรวรรดิโรมันทำQEจนระบบการเงินอาณาจักล่มสลาย เพราะว่าhyperinflation หรือเงินเฟ้ออย่างรุนแรง จักรวรรดิไม่มีเงินพอที่จะดูแลกองทัพ
ที่จริงโรมก็มีเหรียญ3ประเภทใช้ คือเหรียญทอง เหรียญเงิน และเหรียญทองแดง แน่นอนเหรียญทองมีค่ามากที่สุด รองลงมาคือเหรียญเงิน ส่วนเหรียญทองแดงไม่ได้มีค่าหรือเป็นที่ยอมรับเหมือนทองและเงิน
เหรียญทองโรมันแต่มีการหมุนเวียนน้อยมาก ส่วนมากโรมใช้เหรียญทองสำหรับการซื้อสินค้าหรู หรือของฟุ่มเฟือยจากจีน หรืออินเดีย เช่นผ้าไหม เครื่องเทศ ธูปฯลฯ เวลาโรมซื้อสินค้าจาก2ประเทศนี้ จะจ่ายเป็นเหรียญทองคำออกไป และเหรียญทองเหล่านี้จะไม่ไหลกลับไปที่โรมอีก เพราะว่าประเทศคู่ค้าไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรจากโรม
โรมเป็นรัฐทหารไม่ได้ผลิตอะไร แต่อยู่ได้ด้วยการเก็บส่วยและเก็บภาษีจากอาณานิคม ปล้นสดมภ์ ขายแรงงานทาส โรมผลิตอาหารไม่พอกินด้วยซ้ำ ต้องพึ่งพาธัญญพืชจากอิยิปต์ และขุดแร่ทองจากเสปนเป็นหลัก เมื่อโรมไม่ได้ผลิตสินค้าอะไรที่จีนหรืออินเดียต้องการ แม้จะถลุ่งแร่ทองได้จากเสปนในปริมาณที่ไม่ลด แต่ก็ไม่พอใช้ โรมจึงมีการใช้เหรียญเงินในปรมาณที่เพิ่มขึ้นตลอดเวลา และในที่สุดการใช้จ่ายเกินตัวทำให้ต้องมาใช้เหรียญทองแดง ทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อ การคลังที่ล้มละลาย
การพิมพ์เงินของสหรัฐฯระหว่างปีคศ 2009 ถึง2014สะท้อนภาวะการเงินที่มีปัญหาของสหรัฐฯ คล้ายกับการเพิ่มปริมาณเงิน หรือการลดแร่เงินในเหรียญจนเหลือแค่ทองแดงของโรมโบราณ โรมปัจจุบันรู้ดีว่าประวัติศาสตร์การเงินของโรมโบราณดีว่ามีชะตากรรมอย่างไร แต่ทำไมปล่อยให้ดีซีทำการพิมพ์เงินจนดอลล่าร์เสื่อมค่า มีความเสี่ยงที่จะหมดความเชื่อถือในอนาคต ช่วงวิกฤติ2008ถึงปัจจุบัน ธนาคารกลางภายใต้การดูแลของดีซี ลอนดอนและโรมพิมพ์เงินไปแล้วรวมกัน$10ล้านล้านเพื่ออุ้มระบบการเงินทั้งหมดในเครือ ทำให้มีความเสี่ยงของเงินเฟ้อที่รุนแรงในอนาคต
หรือว่าโรมและลอนดอนตั้งใจที่จะฆ่าห่านที่ออกไข่เป็นทอง
ถ้าจะเปรียบTriumvirateปัจจุบันกับ3เสือในสมัยซีซ่าร์ โรมก็คือซีซ่าร์ ลอนดอนคือปอมเปย์ ส่วนดีซีคือคราสซัส ที่ถูกลอยแพ ต้องไปดูแลซีเรียก่อนที่จะรบกับกองทัพพาร์เทียของอิหร่านโบราณจนเสียชีวิต ในปัจจุบันนี้โอบามากำลังก่อสงครามในซีเรีย และในที่สุดคงต้องรบกับอิหร่าน เหตุการณ์ช่างคล้ายคลึงกับอดีตเหมือนถอดออกจากบล๊อกเดิม
thanong
27/2/2015
http://srsroccoreport.com/…/peak-gold-how-the-romans-lost-…/

 

Chalee Na Roied

สถานการณ์ในตะวันออกกลาง เป็นสิ่งที่คาดไว้ไม่ผิดตั้งแต่แรกนะครับ สำหรับสงครามต่อต้าน การก่อการร้ายทำลายเครือข่าย ISISในอิรัก และ ISIL ในซีเรีย ของสหรัฐ อังกฤษ กองกำลังนาโต ตลอดจนพันธมิตรสหรัฐในตะวันออกกลาง และปฏิบัติการทางทหารส่วนใหญ่นั้น เป้าหมายไม่ได้เป็นไปเพื่อโจมตีหรือทำลาย เครือข่ายดังกล่าวซะทีเดียว แต่เป็นจุดเริ่มต้นของการส่งทหารสหรัฐ และอังกฤษ ตลอดจนพันธมิตรเข้ามายัง ภูมิภาคนี้เท่านั้น เป้าหมายจริงๆก็คือ เตรียมการบุกโค่นล้ม รัฐบาลอัสสาดของซีเรีย รวมถึงอิหร่าน พันธมิตรของรัสเซียและจีน ที่เป็นภัยคุกคามต่อ"petrodollar" นั่นเอง Syria – Oil – Petro Dollar – Debt Ceiling freeze – Bullet Purchase – Dollar Collapse – Global Currency – NWO – All Wars Are Bankers’ Wars
ซึ่งเวลานี้ บารัค โอบามา กำลังจะตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางอากาศ และส่งทหารรุกคืบเข้าไปในซีเรีย โดยใช้ข้ออ้างเพื่อทำลายเครือข่าย IS และช่วยให้ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลอัสสาด สามารถรุกคืบเข้าไปใจกลางเมืองหลวงของซีเรียได้ง่ายขึ้นนั่นเอง..
http://www.zerohedge.com/news/2015-02-26/stage-set-syrian-invasion

 

Chalee Na Roied

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/fcrIdqHEBe8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สิ่งที่ผมพูดถึงเมื่อวานนะครับ คาราวานรถถัง และรถลำเลียงหุ้มเกราะของสหรัฐ ได้มีการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อเตรียมการซ้อมรบ กับกองกำลังนาโต ในยุโรปตะวันออกห่างจากชายแดนของ รัสเซียไม่ถึง 300 หลา และห่างจากชานเมือง เซ็นต์ปีเตอร์สเบิร์กของรัสเซีย เพียง 60 ไมล์ ซึ่งเข้าข่ายยั่วยุรัสเซียอย่างชัดเจน
Yet yesterday US combat vehicles conducted a military parade and show of military force in Estonia just 300 yards -- yards! -- from the Russian border. That is just over 60 miles from downtown St. Petersburg."

http://www.zerohedge.com/news/2015-...s-military-maneuvers-300-yards-russias-border

 

สื่ออังกฤษตั้งคำถาม “ตุรกี” คือพันธมิตรหรือศัตรูกันแน่ ในสงครามต้านไอซิส?
เรื่องเด่นประเด็นร้อนby อิบรอฮีม อาแว - ก.พ. 26, 2015



เดอะไทมส์ สื่ออังกฤษ ได้ตั้งคำถามต่อประเด็นที่คลุมเครือในจุดยืนของตุรกี ที่มีต่อกลุ่มก่อการร้ายไอซิส และถือว่าตุรกีใช้ไอซิสเป็นเครื่องมือเพื่อบรรลุเป้าหมายของอังการ่า

หนังสือพิมพ์ เดอะไทมส์ ของอังกฤษ ระบุว่า ตุรกีกลายเป็นแนวร่วมที่คลุมเครือของกลุ่มพันธมิตรในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส เพราะด้านหนึ่งตุรกีจะเน้นย้ำในการสนับสนุนและมีส่วนร่วมกับพันธมิตรในการโจมตี และปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิส แต่อีกด้านหนึ่ง ตุรกีก็ได้แสดงพฤติกรรมอีกแบบต่อการมีความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสโดยใช้ดินแดนของตนเป็นด่านหลักของกลุ่มก่อการร้ายสุดโต่งจากตะวันตกเพื่อเข้าร่วมสมทบกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ในซีเรียและอิรัก

หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ ย้ำว่า บัดนี้ ถึงเวลาแล้วที่ตุรกีต้องกล้าแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ว่า จะเป็นพันธมิตรร่วมของเรา หรือเป็นศัตรู ????

เดอะไทมส์ ระบุว่า มีเพียงแค่สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ คือ ตุรกี ต้องติดแผ่นป้ายประกาศในสนามบินของตนสำหรับบรรดากลุ่มก่อการร้ายว่า “นี่คือจุดเริ่มต้นของการสู่สงครามอันศักดิ์สิทธิ์”

หนังสือพิมพ์เดอะไทมส์ เขียนเสริมว่า เป็นที่เปิดเผยว่าตุรกีกำลังแสวงหาเป้าหมายหลักที่ชัดเจนสองประการ คือ โค่นล้มรัฐบาลบัชชาร์ อัสซาด และประการที่สอง กำราบและปราบปรามชาวเคิร์ด ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้เอง ทำให้ตุรกีต้องเหยียบเรือสองแคม ต่อกรณีของไอซิส โดยหวังที่จะใช้ไอซิสเป็นเครื่องมือและใช้ประโยชน์เพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งสองประการของตน

หนังสือพิมพ์ดังกล่าว ยังเรียกร้องให้ตะวันตกโดยเฉพาะชาติพันธมิตร พึงระวังกับตุรกีต่อประเด็นการทำสงครามกับกลุ่มไอซิส เนื่องจาก อังการ่ามีปฏิสัมพันธ์กับกลุ่มนี้ มาก่อน (ก่อนที่จะกลายเป็นศัตรู) จึงสามารถที่จะใช้กลุ่มไอซิสเป็นเครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายของตนได้อย่างดี

ด้านอิบรอฮีม คาเลน โฆษกของ สำนักประธานาธิบดี “รอญับ ฏอยยิบ อุรดุฆอน” กล่าวว่า ขณะนี้ บรรดาเจ้าหน้าที่ของตุรกี ได้เน้นย้ำที่จะให้ความร่วมมือกับหน่วยงานสืบราชการลับและความมั่นคงของตนกับชาติพันธมิตรเพื่อตามหานักเรียนหญิงชาวอังกฤษสามคน โดยที่หญิงสาวดังกล่าว ได้หนีออกจากอังกฤษ แล้วเข้ามายังตุรกีเพื่อเข้าร่วมสมทบกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิสในซีเรีย

โดยกรณีสามนักเรียนหญิงชาวอังกฤษ ใช้ตุรกีเป็นทางผ่านเข้าร่วมกลุ่มไอซิสในซีเรีย เป็นกระแสข่าวที่โดง่ดังในยุโรป เมื่อ 21 ก.พ. เอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการต่อต้านการก่อการร้าย สังกัดตำรวจสันติบาลอังกฤษ (สกอตแลนด์ยาร์ด) แถลงกังวลว่า น.ส.คาดิซา ซัลทานา วัยราว 17 ปี น.ส.ชามินา เบกุม วัย 15 ปี ซึ่งอาจแอบอ้างชื่อเป็น น.ส.อกลีมา เบกุม วัย 17 ปี และเพื่อนนักเรียนหญิงวัยราว 15 ปี อีกคน ทั้งหมดเป็นนักเรียนหญิงจากโรงเรียน Bethnal Green Academy ทางภาคตะวันออกของกรุงลอนดอน ได้เข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส หลังเดินทางจากสนามบินแกตวิกในกรุงลอนดอนไปยังประเทศตุรกี ซึ่งมีชายแดนติดต่อกับซีเรียและอิรัก เมื่อ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา ท่ามกลางค่านิยมน่าเป็นห่วงของวัยรุ่นหัวรุนแรงที่ชักจูงให้เพื่อนร่วมอุดมการณ์เข้าสังกัดกลุ่มก่อการร้าย โดยเฉพาะกองกำลังไอซิส ซึ่งขยายอิทธิพลในหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง

เดลี่เทเลกราฟ สื่ออังกฤษรายงานว่า แหล่งข่าวกรองตุรกี พบว่าทั้ง 3 คนข้ามพรมแดนตุรกีเข้าไปยังซีเรียแล้ว โดยไปยังเมือง Tal Abyad ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของกลุ่มไอซิส โดยมีชายชาวซีเรียคนหนึ่งขับรถส่วนตัวมารับ เด็กสาวชาวมุสลิมทั้ง 3 คนได้ใช้บัตรแสดงตัวของพลเมืองซีเรียในการแสดงตน คาดว่าในไม่ช้า นักเรียนหญิงชาวอังกฤษทั้ง 3 คน จะเข้าบรรจุเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกกลุ่มติดอาวุธหลายร้อยคนที่อยู่ในซีเรีย โดยสมาชิกเหล่านี้ ต่างรณรงค์ก่อการร้ายข่มขู่คนในพื้นที่ และมีเป้าหมายหลักในการโจมตีชาติตะวันตก

สื่ออังกฤษรายงานด้วยว่า นักเรียนหญิงเหล่านี้นั่งเครื่องบินโดยสารของสายการบินตุรกีแอร์ไลน์ หนึ่งในนั้นถือหนังสือเดินทางปลอม

ข้อมูลจากอังกฤษยังพบว่ามีสตรีชาวอังกฤษอายุน้อยและหญิงวัยรุ่นอังกฤษที่นับถือศาสนาอิสลามร่วม 50 คน ออกเดินทางจากอังกฤษไปยังซีเรีย เพื่อร่วมขบวนการกับกลุ่มก่อการร้ายไอซิส ก่อนหน้านั้นก็มีนักเรียนหญิงในโรงเรียนนี้ที่เดินทางไปยังซีเรียเมื่อเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา และเมื่อเธอเดินทางกลับประเทศก็ได้รณรงค์ให้หญิงสาวหลายคู่หาเวลาไปพักผ่อนแบบนี้บ้าง

อ้างอิง

Turkey must decide if it’s our friend or foe | The Times

روزنامه انگلیسی: ترکیه هپیمان است یا دشمن ؟!

เว็บไซต์สำนักข่าวไทย

สื่ออังกฤษตั้งคำถาม “ตุรกี” คือพันธมิตรหรือศัตรูกันแน่ ในสงครามต้านไอซิส? | abnewstoday