ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



27. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
Marie Le Pen หัวหน้าพรรคการเมืองฟร้อนท์เนชั่นแนลของฝรั่งเศส จวกว่าพวกนักการเมืองในบรัสเซลส์ ว่าเป็นลูกไล่อเมริกา ไม่มีความคิดที่จะยืนบนขาตัวเอง เอาแต่เชื่อฟังสหรัฐแล้วเดินตามกันต้อยๆ ทั้งที่เป้าหมายของอเมริกาคือการสร้างสงครามในยุโรปและผลักดันให้นาโตต้องเผชิญหน้ากับรัสเซีย
เธอบอกอีกว่า นักการเมืองยุโรปพวกนี้ยังทำตัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ในกรณีที่รัฐบาลโจรในยูเครนยิงปืนใหญ่ทำร้ายประชาชนผู้บริสุทธ์ในยูเครนตะวันออก
ฝรั่งเศสทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลเริ่มประสานเสียงไม่เอาสหรัฐฯและพยายามโน้มเอียงประเทศไปฝั่งรัสเซีย
thanong
9/2/2015
http://rt.com/news/230503-le-pen-us-lackey/

 

Thanong Fanclub



28. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
ในวันที่ 5กุมภาพันธ์ เด็กกะโปโลเชนโก้พบกับป้าแองจี้และออลลองด์ที่เคียฟเพื่อส่งสัญญานเอสโอเอสว่า ถ้าไม่ได้รับความช่วยเหลือทางทหาร และเศรษฐกิจจากตะวันตก มีหวังยูเครนนอกจากจะโดนพวกกบฎถล่มเละแล้ว ยังจะเจอภาวะเศรษฐกิจที่ล่มสลายด้วย ในวันเดียวกันนั้นเองธนาคารกลางของยูเครนขึ้นดอกเบี้ยเป็น19.50% น่าจะอยู่ในระดับสูงที่สุดในโลกแล้วเวลานี้ เพื่อปกป้องค่าเงินของยูเครนที่ตกเละตุ๊มเป๊ะ
ทองคำสำรองของยูเครนโดนปล้นไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปีที่แล้วตอนขอเงินช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ พวกอิลิทฝรั่งมีหรือจะให้ยูเครนกู้โดยรู้ทั้งรู้ว่าไม่มีทางจะได้เงินคืน เลยต้องปล้นทองยูเครนไปก่อน 33ตัน ขนจากตู้เชฟธนาคารกลางยูเครนเอาไปนิวยอร์คแบบซึ่งๆหน้า เพื่อเป็นหลักประกัน ถ้าเจ้งไอเอ็มเอฟรับผิดชอบไป
ลูกน้องป้าแองจี้รู้ดีว่าเคียฟไปไม่รอดแล้วทางเศรษฐกิจ จะทุ่มเงินเข้าไปอีกเท่าไหร่เพื่ออุ้มรัฐบาลของเด็กกะโปโรเชนโก้ อีกประการหนึ่งคือ ลูกพี่มะกันกำลังเตรียมการที่จะส่งอาวุธยุโธปกรณ์ให้เคียฟเพื่อรบกับพวกกบฎแยกดินแดนที่กำลังรุกคือบเข้ามา มีชัยแล้วประมาณ2ส่วนในพื้นที่5ส่วนของยูเครน มีหรือที่ปูตินจะแพ้เด็กกะโปโลเชนโก้ ถ้าเอาเคียฟไม่อยู่ แล้วจะขู่ยุโรปกลับไปอย่างไร ป้าแองจี้รู้ดีว่าchipหายแล้ว ถ้าไม่รีบเร่งแตะเบรคเสียก่อน มะกันส่งอาวุธมาให้เคียฟมีหวังสงครามยูเครนระเบิดตูมตามจนล้นทะลักชายแดนเข้าไปในยุโรปเป็นแน่ เพราะว่าพี่ปูเตือนแล้วว่าใครส่งอาวุธให้เด็กกะโปโลเชนโก้ถือว่าประกาศสงครามกับมาเธอร์รัสเซีย
ป้าแองจี้เลยต้องชวนออลลองด์ไปหาเด็กกะโปโลเชนโก้ด้วยกันเพื่อหาทางยุติวิกฤติ ก่อนที่จะพังมากกว่านี้ ออลลองด์ไม่ต้องการเผชิญหน้ากับปูตินอยู่แล้ว และต้องการญาติดีด้วยซ้ำ ส่วนคาเมรอนไม่ต้องพูดถึง หดหัวอยู่นกระดอง คอยสนับสนุนมะกันในการเพิ่มวิกฤติในยูเครนเพื่อดำรงแผนปิดล้อมรัสเซียเอาไว้ ป้าแองจี้ต้องยอมเสียหน้า เพราะว่าก่อนหน้านี้เล่นไม้แข็งกับปูตินมาตลอดในวิกฤติยูเครน ทั้งแซงชั่นทั้งสาระพัดขู่ใหปูตินหยุดการสนับสนุนพวกกบฎยูเครน แต่มาตอนนี้สถานการณ์พลิก ปูตินได้เปรียบ พวกกบฎกำลังได้ใจ และทหารยูเครนเริ่มที่จะอ่อนเปลี้ยลงทุกวัน เพราะว่าไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จะตะวันตก
ทีมงานเยอรมันคิดหาทางออกคือต้องยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน แคว้นDonetsk และLuganskให้พวกกบฎไปเพื่อปกครองตัวเอง เหมือนที่ไครเมียได้ตีจากไปก่อนหน้านี้ และอาจจะต้องเสยดินแดนเพิ่มมากไปกว่าเขตหยุดยิงที่ได้ตกลงกันในข้อตกลงMinskที่ทำเอาไว้ในเดือนกันยายนปี2014 อย่างนี้ก็เสร็จโก๋ พวกรัฐอิสระทั้งหลายท้ายที่สุดก็กลับไปสู่อ้อมกอดของมาเธอร์รัสเซีย ข้อเสนอนี้ออลลองด์รีบสนับสนุนทันที จะได้สงบศึกยูเครนโดยด่วน ก่อนที่มะกันจะส่งอาวุธมาให้เคียฟ เพื่อทำให้สงครามยูเครนรุนแรงมากยิ่งขึ้น และสร้างความเสี่ยงว่าสงครามโลกจะเกิดขึ้นอีกครั้งในยุโรป
หลังจากพบกับเด็กกะโปโลเชนโก้ในวันที่5กุมภาพันธ์ที่เคียฟ ทั้งป้าแองจี้และออลลองด์รีบแจ้นบินไปเจอปูตินที่วังเครมลิน กรุงมอสโควในวันต่อมา ถ้าต้องมาหาหมีขาวในถ้ำน้ำแข็ง แสดงว่าป้าแองจี้หมดฤทธิ์แล้ว ถ้าอยู่ในฐานะได้เปรียบมีหรือป้าแองจี้จะคลานมาหาปูติน เจรจาพูดคุยกันยาวนานถึง5ชั่วโมงถึงแผนสันติภาพ ซึ่งแน่นอนคือแผนที่ยูเครนจะต้องโดนเฉือนดินแดนไปให้พวกกบฎและท้ายที่สุดคงจะต้องเข้าปากหมีขาว
ช่วยไม่ได้จริงๆ อยู่ดีๆไม่ชอบ
เพื่อทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวอย่างทางการ เลยจะมีแผนสันติภาพ Minsk Agreementฉบับที่2 โดยที่ผู้นำของรัสเซีย เยอรมัน ฝรั่งเศสและยูเครนจะพบกันที่กรุงMinsk ประเทศเบลารุสในวันที่11กุมภาพันธ์นี้ เพื่อตกลงกันเจรจาหย่าศึก โดยที่ยูเครนต้องเสียดินแดนเพื่อเป็นรัฐกันชนให้รัสเซีย
แต่ก่อนจะมีMinsk Agreement ภาค2 เยอรมันจัดการประชุมความมั่นคงที่มิวนิคในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อดูว่าปฏิกิริยาของพันธมิตรยุโรปและนาโต้จะว่าอย่างไร แน่นอนอังกฤษและสหรัฐฯฉุนขาดที่เยอรมันเป๋ไป ไม่ต้องพูดถึงฝรั่งเศสที่พร้อมจะย้ายบ้านไปอยู่ฝั่งตะวันออกอยู่แล้ว ตัวแทนสหรัฐฯไม่ว่าจะเป็นวุฒิสมาชิกLindsey Graham และรองประธานาธิบดีJoe Bidenต่างแสดงท่าทีว่าจะปล่อยให้รัสเซียลำพองใจไม่ได้ ต้องส่งอาวุธไปช่วยเคียฟรบพวกกบฎ
เลยยังไม่รู้ว่าMinsk Agreementจะลงเอยอย่างไร เพราะว่าอังกฤษและสหรัฐฯไม่ยอมเรื่องนี้ง่ายๆ ไม่รู้ว่าการระเบิดโรงงานเคมีที่Donetskในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเป็นการขู่ หรือเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อบล๊อคไม่ให้เยอรมัน ฝรั่งเศส ยูเครนและรัสเซียตกลงแผนสันติภาพได้หรือไม่ เหมือนกับตอนต้นปีที่ออลลองด์ต้องการให้ยุโรปเลิกแซงชั่นรัสเซีย ฝรั่งเศสเลยเจอการก่อการร้ายCharlie Hebdoเป็นของขวัญ
ต้องคอยรายงานจากฝั่งรัสเซียว่าระเบิดที่โรงงานเคมีที่Donetskนั้นมีส่วนผสมของนิวเคลียร์ขนาดย่อมหรือไม่ ถ้ามีสารนิวเคลียร์ มีหวังสวยแน่ๆ ได้เห็นหมัดสวนจากหมีขาวที่นิ่งมาตลอด ปูตินเดินหมากแก้เกมอย่างสุขุม กินยูเครนกลับ กินไซปรัส กินตุรกี และกำลังจะกินกรีซอีกราย ถ้าได้กรีซ เท่ากับว่าหมีขาวจะถือแต้มต่อเหนือยุโรปทันที
เกมนี้กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน ไม่สามารถจะกระพริบตาได้
thanong
10/2/2015

 

Thanong Fanclub

29. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
ในเบื้องต้นนี้ คิดว่าน่าจะเป็นนุ๊กขนาดจิ๋วที่ซัดโรงงานเคมีDonetskเพื่อลองของ หรืออาจจะเป็นความพยายามล้มแผนMinsk Agreement ถ้าได้รับการยืนยันอีกที เราจะได้มาถึงจุดที่ไม่สามารถหวลกลับไปได้อีกแล้ว the point of no return.
thanong
10/2/2015

<iframe width="650" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/ZuQ5EPnSE_4" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

Video: Explosión en una fábrica química deja una nube con forma de hongo en el este de Ucrania - RT

 

Thanong Fanclub



30. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
ป้าแองจี้บินด่วนไปหาโอมาม่าที่วอชิงตันดีซีเมื่อวานนี้ (9/2/2015) เพื่อรายงานให้นายใหญ่ทราบถึงความพยายามของเยอรมันและฝรั่งเศสในการเจรจากับรัสเซียเพื่อบรรลุแผนสันติภาพให้ยูเครน
ไม่ได้มีการแถลงรายละเอียดว่าป้าแองจี้รายงานอะไรให้โอมาม่าทราบ แต่คาดว่าจะมีการขีดเส้นปลอดทหารมีระบะ50-70กิโลเมตรเพื่อให้ฝ่ายเคียฟและกบฎมีการหยุดยิงกัน
แน่นอนโอมาม่าฟังแล้วไม่สบอารมณ์
โอบามาแถลงว่าสหรัฐฯอาจจะส่งอาวุธให้เคียฟเพื่อสู้รบกับพวกกบฎ เพราะว่ารัสเซียเป็นฝ่ายรุกรานยูเครนก่อน และมีการฝ่าฝืนแผนสันติภาพMinsk Agreement อันเดิม
โอมาม่าบอกว่า แต่การแซงชั่นรัสเซียเพิ่มเติมทั้งทางการทูตและด้านอื่นๆเพื่อโดดเดี่ยวรัสเซียให้ได้เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องรีบทำ
โอมาม่าไม่ยอมลดราวาศอก และโรงงานเคมีที่Donetskเชื่อว่าเจอระเบิดนุ๊คขนาดจิ๋วไปแล้ว
แล้วจะเกิดอะไรขึ้นในอันดับต่อไป?
thanong
10/2/2015
BBC News - Ukraine conflict: US 'may supply arms to Ukraine'

 

Thanong Fanclub



31. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
สายตานักวิเคราะห์ที่ดีต้องถอยฉากหนึ่งก้าวเพื่อมองในสิ่งที่เขาอยากให้เรามอง และต้องเพ่งมองไปที่จุดอื่นที่เขาอำพรางไม่อยากให้เรามอง
วิกฤติISISปะทุขึ้นมาอีกครั้ง โดยอำพรางตัวภายใต้วิกฤติของหนี้กรีซและสงครามในยูเครน วิกฤติกรีซและยูเครนทำให้ชาวโลกลืมปฏิบัติการถล่มISIS ในตะวันออกกลางหรือมองข้ามความสำคัญของเรื่องนี้ไปเลย
กรีซเป็นวิกฤติการเงินที่อาจจะทำให้ยูโรล่มสลาย เกี่ยงงอนกันไประหว่างเจ้าหนี้ยุโรปและลูกหนี้กบฎกรีซ ท้ายที่สุดลูกหนี้ที่ไม่มีอะไรจะเสียอาจจะทำให้เจ้าหนี้เจ้งได้ เพราะว่าทั้งจะหยุดการชำระหนี้และออกจากเขตยูโรไปพร้อมๆกัน
ยูเครนเป็นสงครามกลางเมืองระหว่างเคียฟและพกวกบฎแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลัง สงครามกลางเมืองนี้อาจจะกลายเป็นตัวจุดปะทะให้ยุโรปเป็นสมรภูมิสงครามใหญ่ ถ้าไม่สามารถตกลงแผนสันติภาพได้ วิกฤติยูเครนเกิดจากน้ำมือของสหรัฐฯและอียู เสร็จแล้วย้อนศรกลับมาหาตัวเอง เพราะว่าปูตินขู่กลับว่าถ้าตะวนัตกติดอาวุธให้ยูเครน ถือว่าประกาศสงครามกับรัสเซีย ผลที่จะตามมาคือtotal war หรือสงครามที่เต็มรูปแบบ
เยอรมันเหลิงไปหน่อยที่ไปยุ่มย่ามในวิกฤติยูเครน ตอนนี้กำลังจะเจอของจริงอยากจะถอนตัว ฝรั่งเศสไม่ต้องพูดถึง ถอดใจไปนานแล้ว เหลือแต่สหรัฐฯที่ต้องการไล่บี้ปิดล้อมหมีขาวต่อไปผ่านสงครามตัวแทน
การถล่มISISเป็นการอำพรางปฏิบัติการทหารของสหรัฐฯและพันธมิตรเพื่อแย่งอำนาจคืนมาจากอิหร่านและรัสเซียในตะวันออกกลาง อิหร่านกำลังแผ่อำนาจลงมาทางใต้เพื่อกดดันกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่เป็นพันธมิตรของโลกตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นซาอุดิฯ ยูเออี คูเวต ยาห์เรน การ์ต้า รวมทั้งอิสราเอลซึ่งเป็นตัวโจ๊กเก้อร์
สงครามISIS เป็นสงครามของการปกป้องเปโตรดอลล่าร์ของตะวันตกนั่นเอง เพราะว่าถ้าไม่สามารถยันซาอุดิฯให้อยู่ได้ และอิหร่านโดยการหนุนของรัสเซียและจีนเป็นใหญ่ จะเลิกการซื้อขายน้ำมันเป็นเงินดอลล่าร์ ซึ่งจะกลายเป็นเงินกงเต๊กทันที
สมรภูมิหลักอยู่ที่อิรักและซีเรีย เพราะว่าอิหร่านมีฐานใหญ่ในสองประเทศนี้แล้ว การถล่มอิรักของสหรัฐฯในรอบ10ปีที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้สหรัฐฯได้ครอบครองแผนดินอิรัก เพราะว่าส่วนมากจะใช้กองทัพอากาศ ไม่ได้มีคนไปคุมพื้นที่ อิหร่านจึงค่อยๆซึมเข้าไป ในขณะเดียวกันอิรักเจอการก่อการร้ายรายวันจนเกรงกันว่าสักวันหนึ่งประชากรอิรักอาจจะสูญพันธุ์ได้ แต่ไม่ไมีใครสนใจ เพราะว่าตายไปก็ดี เพราะว่าที่สำคัญที่สุดน้ำมันยังอยู่ใต้ทะเลทรายอิรักในปรมาณที่มาก
ส่วนซีเรียนั้นเป็นที่รู้กันว่าทั้งการ์ต้าและซาอุดิฯต้องการโค่นรัฐบาลBashar al-Assadที่รัสเซียและอิหร่านหนุนอยู่เต็มสูบ จึงต้องยืมมือสหรัฐฯและตะวันตกเข้ามาถล่ม เพราะว่าตอนนี้รัสเซียและอิหร่านเริ่มได้เปรียบขึ้นในตะวันออกกลางจากการได้ตุรกีมาเป็นพันธมิตร รามทั้งเอสบอเลาะห์ในเลบานอน ซีเรีย อิรัค และเยเมนทางตอนใต้ของซาอุดิฯ ถ้าไม่ทำสงคราม ซาอุดิฯ รวมทั้งพันธมิตรอาหรับของโลกตะวันตกอาจจะหมดอำนาจไปได้ในที่สุด
แต่อยู่ดีๆจะทะเล่อทะล่าเข้าไปถล่มซีเรียและอิรัก จึงจำเป็นที่จะต้องสร้างผีให้คนกลัว ผีนั้นก็คือISISที่เป็นมุสลิมสุหนี่ทั้งนั้นที่มีคอนเน็กชั่นกับฝ่ายทหารและหน่วยข่าวกรองของโลกตะวันตก ไม่เคยมีการกล่าวหาจากสื่อหรือข้อเขียนจากโลกตะวันตกเลยว่าISISเกิดจากฝีมือของรัสเซีย อิหร่าน ซีเรีย หรือตุรกี แต่มีรายงานมากมายที่ตั้งข้อสงสัยว่าISISเป็นการสร้างขึ้นมาโดยสหรัฐฯและพันธมิตรในตะวันออกกลาง มิฉะนั้นแล้วISISจะเอาอาวุธ เงินหรืออุปกรณ์การรบมาจากใหน กองกำลังก่อการร้ายขนาดใหญ่อย่างนี้ที่ได้รับการฝึกปรือมาอย่างดีไม่สามารถจะเกิดขึ้นมาได้จากกลางอากาศ โดยที่หน่วยข่าวกรองของตะวันตกและพันธมิตรตะวันออกกลางไม่รู้ ISISเกิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แตกหน่อออกจากกลุ่มอัล เคด้าที่สหรัฐฯสนับสนุนอยู่อย่างเปิดเผยและเชิงลับ
เหตุการก่อการร้ายCharlie Hebdoและการเผาทั้งเป็นนักบินจอร์แดนใหญ่เพียงพอที่จะทำให้กองทัพตะวันตกส่งกองกำลังเพิ่มเพื่อกลับเข้าไปทำสงครามใหม่ในตะวันออกกลาง ฝรั่งเศสส่งกองทัพไปถล่มISISในอิรัก กษัตริย์อัลดุลเลาะห์ของจอร์แดนถึงกับออกข่าวว่าจะขับเครื่องบินถล่มฐานที่มั่นของISISเองในซีเรีย สหรัฐฯและพันธมิตรตะวันตกอื่นๆก็มีปฏิบัติการถล่มISIS แต่จริงๆแล้วพันธมิตรตะวันตกถล่มISISหรือว่าถล่มศัตรูของISISกันแน่เพื่อเปิดทางให้ISISเข้ารุกกินดินแดนให้ตัวเอง สงครามในอิรักหนักหน่วงมากแต่ไม่มีการออกข่าว
อิหร่านรอวันตอบโต้ในสงครามตะวันออกกลาง เหมือนกับรัสเซียรอวันตอบโต้ในสงครามยูเครน และกรีซเตรียมออกจากยูโร ทั้ง3เหตุการณ์ใหญ่นี้จะชี้ชะตาว่าโลกใบนี้จะยังคงอยู่ดีหรือไม่
thanong
10/2/2015
2,000 UK troops, RAF spy plane bound for Jordan to combat ISIS — RT UK

 

Thanong Fanclub



32. จับตาวิกฤติกรีซ & วิกฤติยูเครน
Black Swanหรือว่าหงส์ดำ เป็นศัพท์แสลงแปลว่าเหตุการณ์ร้ายที่เกิดขึ้นโดยไม่มีใครคาดฝันและมีผลกระทบที่ใหญ่หลวงตามมา
แค่ผ่านปี2015มาไม่ถึงเดือนครึ่งเราได้เห็นเหตุการณ์black swanหลายเหตุการณ์ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Charlie Hebdo การลอยตัวค่าเงินของสวิสฟรังค์ การเผานักบินจอร์แดนโดยพวกISIS การประกาศทำQEของธนาคารกลางของยุโรปแพคเกจกู่ไม่กลับ กบฎลูกหนี้กรีซ320,000ล้านยูโรที่อาจจะทำให้ยุโรปเจ้ง สงครามที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้นในตะวันออกของยูเครน และล่าสุดการระเบิดโรงงานเคมีที่Donetskที่อาจจะเกิดจากนิวเคลียร์ขนาดจิ๋ว
จับตาดูดีๆ ปี2015นี้เป็นปีของBlack Swan หรือปีของนางพญาหงส์ดำที่จะออกมาให้เราเห็นแต่ละฉาก ที่มากด้วยเสน่ห์แต่อาบด้วยยาพิษแห่งความตาย
thanong
10/2/2015

 

ปอกเปลือก ทรราช
อัพเดทข่าวระเบิดบิ๊กกะบูมดอกเห็ดน้องนิวเคลียร์ที่โดเนทส์ก ยูเครน
-------------

ช่วงกลางคืนวันที่ 8 ก.พ.58 เวลา 10.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น ได้มีระเบิดขนาดใหญ่ส่งแสงสว่างวาบไปทั่วบริเวณ โดยประชาชนที่อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรยังสามารถมองเห็นแสงระเบิดนั้นได้ ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนบ้านเรือนเสียหาย กระจกประตูหน้าต่างและข้าวของแตกกระจาย ตามรายงานข่าวเบื้องต้นแจ้งว่ามีการระดมยิงจรวด Grad 20 ลูกและทำลายยานพาหนะบรรทุกกระสุนไปแล้ว 30 คัน

ความจริงที่ทราบตอนนี้อย่างแน่ชัดแล้วก็คือ สถานที่ที่เกิดการระเบิดนั้นเป็นโรงงานเคมีทางการทหาร ใช้สำหรับผลิตกระสุนปืนและวัตถุระเบิดซึ่งตอนนี้ตกอยู่ในเขตของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซีย ไม่มีสารกัมมันตภาพรังสีทางเคมีใดๆ หลังจากที่เกิดการระเบิดในตอนกลางคืนแล้ว (มีผู้บันทึกภาพวีดีโอได้และกล้องวงจรปิดบางตัวที่อยู่ห่างไกลจากสถานที่เกิดระเบิดก็สามารถบันทึกภาพเห็นการระเบิดได้เช่นกัน) ทางสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นของโดเนทส์กก็ลงไปสำรวจพื้นที่เสียหายและทำข่าวออกมาเผยแพร่ พบว่ามีหลุมขนาดใหญ่และลึกไม่ต่ำกว่า 5 เมตรเป็นวงกว้างจากการระเบิด ต้นไม้บริเวณใกล้เคียงหักขาดทั้งต้นเป็นจำนวนมากจากแรงระเบิด ไม่พบสิ่งปลูกสร้างใดๆ ในบริเวณใกล้เคียง ดูจากภาพในคลิปข่าวแล้วคาดว่าเส้นผ่าศูนย์ของปากหลุมกว้างไม่ต่ำกว่า 25 เมตร

ฝั่งยูเครนรีบออกมากล่าวหาว่าเป็นฝีมือของพวกแบ่งแยกดินแดนนั่นแหละที่ทำ โดยกล่าวว่าระบบรักษาความปลอดภัยของโรงงานแห่งนั้นไม่มีมาตรฐาน มีคนทิ้งก้นบุหรี่ลงที่พื้นและทำให้เกิดระเบิดขึ้นมาได้ ฟังมันพูดเข้าสิ คนที่พูดอย่างนี้นั่งอยู่ที่กรุงเคียฟยังรู้อีกว่าเขาทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นในโรงงานเคมี แล้วบางคนในฝั่งยูเครนยังพูดติดตลกอีกว่าเป็นเพราะหนึ่งในขบวนรถคอนวอยที่ขนอาหารและเครื่องช่วยเหลือผู้ประสบภัยในยูเครนจากฝั่งไปรัสเซียไปให้วันก่อนนั้นมีหมายเลขรถเป็นเลข 13 อยู่ด้วย ซึ่งทางตะวันตกเขาถือว่าเป็นเลขที่นำโชคร้ายมาให้ คนที่พูดอย่างนี้เหมือนจะพูดเยาะเย้ยฝ่ายตรงข้ามและพูดเพราะสนุกปากในขณะที่ชาวบ้านประสบความลำบากและเสียชีวิตจริงๆ

หนึ่งในสมาชิกรัฐสภาของยูเครน Boris Filatov กล่าวว่ากองกำลังของยูเครนได้ระดมยิงจรวด Smerch (the BM-30 Tornado) เข้าทำลายพื้นที่ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก จากคำกล่าวของ Boris Filatov บอกว่าคนที่ยิงจรวดไปนั้นไม่รู้ว่าพวกเขากำลังยิงอะไร เขาเพียงแต่ปฏิบัติตามคำสั่งตามพิกัดที่ได้รับคำสั่งให้ยิงเท่านั้น

ชัดเจนหละว่างานนี้เป็นฝีมือของฝั่งยูเครนแน่ๆ เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 1-2 วันสื่อฯหลายแห่งลงข่าวว่ากองทัพยูเครนได้ระดมพลและขนอาวุธหนักเข้าไปยังเมือง Debaltseve ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโดเนทส์กทางตอนเหนือใกล้กับเขตลูฮานส์กที่เป็นกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียเช่นกัน เหตุการณ์ระเบิดใหญ่แบบนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีตที่เมืองโดเนทส์กถึง 3-4 ครั้งในช่วงปลายปีที่แล้ว (20 ก.ย. 57, 20 ต.ค.57 และ 10, 19 พ.ย.57)


The Eyes
10/02/2558
----------
httpa//rt.com/news/230459-donetsk-explosion-ukraine-shelling/:::http://rt.com/news/230459-donetsk-explosion-ukraine-shelling/
httpsa//www.youtube.com/watch?v=-C8GV63mnBU%3A%3A%3Ahttps%3A%2F%2Fwww.youtube.com%2Fwatch%3Fv%3D-C8GV63mnBU
httpa//www.davidicke.com/headlines/huge-explosion-at-donetsk-chemical-plant-military-dont-know-what-they-hit/:::Huge explosion at Donetsk chemical plant, military ‘don’t know what they hit’ » David Icke
httpa//www.ibtimes.co.uk/ukraine-crisis-donetsk-chemical-plant-hit-by-massive-explosion-1470895:::Ukraine Crisis: Donetsk Chemical Plant 'Hit by Massive Explosion'
httpa//www.dailystormer.com/the-ukraine-huge-explosion-at-donetsk-chemical-plant/:::The Ukraine: Huge Explosion at Donetsk Chemical Plant | Daily Stormer
httpa//www.kyivpost.com/content/kyiv-post-plus/donetsk-chemical-plant-hit-by-biggest-blast-in-the-war-380032.html:::Donetsk chemical plant hit by biggest blast in the war
httpa//edition.cnn.com/2015/02/09/europe/ukraine-explosion/:::Explosion reported at chemical plant in eastern Ukraine - CNN.com
httpa//www.foxnews.com/world/2014/10/20/powerful-explosion-rocks-rebel-held-ukrainian-city-as-fighters-ignore-cease/:::Explosion rocks rebel-held Ukrainian city as fighters ignore cease-fire, death toll rises | Fox News
httpa//www.nytimes.com/2014/09/21/world/europe/explosion-rocks-eastern-ukraine-hours-after-an-amended-cease-fire-is-signed.html:::http://www.nytimes.com/2014/09/21/w...rs-after-an-amended-cease-fire-is-signed.html
httpa//www.thedailybeast.com/articles/2014/11/10/in-ukraine-winter-is-coming-and-so-are-the-russians.html:::Ukraine Could Explode in the Next 48 Hours - The Daily Beast

 

ปอกเปลือก ทรราช



กรีซเอาอย่างรัสเซียบ้างงัดไม้เด็ดทวงหนี้สงครามโลกครั้งที่สองจากเยอรมันเอาดื้อๆ
-------------
เมื่อสมาชิกสหภาพยุโรปต่างก็บีบบังคับให้รัฐบาลใหม่ของกรีซชำระหนี้เร็วๆ เพื่อกันไม่ให้กรีซถอนตัวออกจากอียูโดยกดดันให้กรีซเพิ่มมาตรการรัดเข็มขัดบีบให้ขายสมบัติชาติและรัฐวิสาหกิจธุรกิจต่างๆ ของกรีซในราคาถูกให้ต่างชาติ ซึ่งสวนทางกับนโยบายของรัฐบาลใหม่ชุดนี้และประชาชนที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าว เมื่อโดนบีบหนักเข้าปูตินก็เลยแนะนำนายกรัฐมนตรี Alexis Tsipras ของกรีซว่า เอาอย่างพี่นี่สิน้อง ทวงหนี้สงครามโลกครั้งที่สองย้อนหลังพวกมันไปเลย เนี่ยพี่ทำมาแล้ว นายกฯกรีซถามว่าจะดีหรือพี่ปูติน? ปูตินบอกว่าดีแน่นอนเห็นตอนนี้ทางเยอรมันนีคุยโอ่ว่ายอดส่งออกปีที่แล้วสูงริ่ว ตัวเลข GDP ของเยอรมันสูงกว่าปีก่อนๆ เป็นประวัติการณ์ไม่รู้ว่าเขาแกล้งสร้างภาพให้ประชาชนของเขาและประเทศสมาชิกในยุโรปดีใจเล่นหรือเปล่า แต่พี่ว่าไม่จริงอ่ะดูจากความเดือดร้อนที่พี่สั่งห้ามนำเข้าสินค้าจากยุโรปดิ ห่อเหี่ยวกันทั้งยุโรปเลยนะนั่นหนะ
ล่าสุดนายกรัฐมนตรีAlexis Tsipras ของกรีกออกมาประกาศเลยว่าจะทวงหนี้สงครามโลกครั้งที่สองจากเยอรมันนีอีกรายเหมือนกับรัสเซียบ้าง เอาหละสิงานนี้ เยอรมันนีคงนึกไม่ถึงว่านายกฯหนุ่มไฟแรงวัย 40 ของกรีซจะงัดไม้นี้ออกมาใช้ตอนเข้าตาจนแบบนี้ นายกฯไซปราสบอกว่าชาวเอเธนมีพันธกรณีทางประวัติศาสตร์ที่จะเรียกร้องค่าเสียหายจากเยอรมันนีเป็นเงินหลายพันล้านยูโรในการชดเชยค่าเสียหายทั้งทางด้านวัตถุและการเงินในช่วงที่กองทัพนาซีของเยอรมันเข้ามายึดครองประเทศกรีซในปี 1941
ไซปราสกล่าวว่าเยอรมันนีติดหนี้กรีซอยู่ราว 162 พันล้านยูโร หรือประมาณ 183 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 ล้านล้านกว่าบาท) ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับครึ่งหนึ่งของหนี้สินของประเทศ
ทางกรุงเบอร์ลินรีบปฏิเสธที่จะจ่ายค่าเสียหายดังกล่าวให้กับกรีซโดยอ้างว่า ผ่านไปตั้ง 70 กว่าปีหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง การเรียกร้องค่าเสียหายขาดความชอบธรรม อ้าว! ที่พูดอย่างนี้ก็แสดงว่าเป็นหนี้เขาจริงๆ นะสิแต่ไม่จ่ายเบี้ยวหนี้กันเห็นๆเฉยเลยอ่ะ ก็เมื่อหนี้เก่าของกรีซเยอรมันยังไม่จ่ายให้เลย อ้างว่าเวลาผ่านไปตั้งนานแล้ว แบบนี้กรีซก็จะทำให้เวลาผ่านไปตั้งนานแล้วบอกว่าไม่จ่าย เพราะผ่านไปตั้งหลายสิบปีแล้วการออกมาเรียกร้องให้ใช้หนี้ถือว่าไม่ชอบธรรมบ้างสิ เกมนี้สนุกแน่ๆ
ก่อนหน้านี้ (4 ก.พ.58) ทางนายกรัฐมนตรี Matteo Renzi ของอิตาลีซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันกับไซปราสและมีแนวคิดแบบเดียวกันเกี่ยวกับเรื่องมาตรการรัดเข็มขัดได้ออกมาแสดงความคิดเห็นสนับสนุนให้ไซปราสยกเลิกหรือผ่อนปรนมาตรการรัดเข็มขัดภายในประเทศด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเสียงสนับสนุนหนึ่งจากอิตาลี
Marine Le Pen ผู้นำพรรคการเมืองฝ่ายขวาของฝรั่งเศสได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีการยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดของกรีกว่า "เป็นไปไม่ได้ที่จะยกเลิกมาตรการรัดเข็มขัดของกรีซโดยไม่ถอนตัวออกจากอียู" Marine Le Pen กล่าวว่ามีแต่ความเติบโตทางเศรษฐกิจเท่านั้นถึงจะทำให้กรีซสามารถชำระหนี้ได้ ต่อกรณีนั้นพวกเขาจำเป็นต้องกลับไปใช้สกุลเงินของตนเอง นี่ก็ชัดอีกคน จากท่าทีของนักการเมืองฝรั่งเศสตอนนี้ก็คือ 1) ไม่ต้องการให้ยูเครนเข้าร่วมนาโต้และอียู 2) เริ่มเห็นด้วยกับแนวคิดให้กรีซออกจากอียู แต่ติดที่เยอรมันที่ไม่ต้องการให้กรีซออกจากอียู ส่วนอังกฤษก็ยังลังเลต่อกรณีนี้
The Eyes
10/02/2558
----------
http://rt.com/news/230479-greece-tsipras-germany-nazi/
Italian Prime Minister Backs Greece's Efforts to Renegotiate Its Debt / Sputnik International
การค้าเยอรมนีเกินดุลสูงสุดเป็นประวัติการณ์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
Le Pen Denounces Ukraine's 'War Crimes,' Calls for Dialogue With Russia / Sputnik International

 

ปอกเปลือก ทรราช



อังกฤษเริ่มขยับเตรียมตัวรับมือกรีซถอนตัวออกจากอียู
-------------
+ นายกฯอังกฤษเรียกประชุมด่วนกรณีกรีกจะออกจากอียู
-------------
เมื่อวานนี้ (9 ก.พ.58) สำนักข่าวต่างประเทศ Sputnik News พาดหัวข่าวออนไลน์ว่า "นายกฯคาเมรอนของยูเคเรียกประชุมฉุกเฉินกรณีความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากอียู" โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีของอังกฤษได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านการเงินของสหราชอาณาจักรว่าเครือจักรภพอังกฤษจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้างหากกรีซถอนตัวออกจากอียูจริงๆ (อ้างจากรายงานของ BBC) ซึ่งเมื่อประเมินจากสถานการณ์ตอนนี้แล้วพบว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่กรีซจะถอนตัวออกจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโร
เจ้าหน้าที่ด้านการเงินได้ให้ความเห็นว่า การออกจากอียูของกรีซนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อเงินฝากของกรีซและก่อให้เกิดอัตราเงินเฟ้อขยายตัวมากขึ้นทั้งยังเป็นการลดค่าสกุลเงินของกรีซด้วย อันนี้รัฐบาลใหม่และใครๆ ก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะเป็นอย่างนั้นแน่นอน แต่เจ้าหน้าที่พวกนี้ไม่วิเคราะห์ลงไปว่ากรีซจะรับมืออย่างไรกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นแน่นอนนี้
นอกจากนี้แล้วเจ้าหน้าที่ยังวิเคราะห์ต่อไปอีกว่าอังกฤษอาจจะได้รับผลกระทบมากขึ้น หากประเทศอื่นๆที่ประสบภาวะทางเศรษฐกิจย่ำแย่เช่นเดียวกับกรีซเอาอย่างกรีซและออกจากอียูบ้าง
+ การเมืองภายในของอังกฤษที่ต้องการจะออกจากอียูเช่นกันและเรื่องทำประชามติกรณีสก็อตแลนด์รอบสอง
-------------
ส่วนเมื่อวันที่ 8 ก.พ.58 ที่ผ่านมาสำนักข่าวต่างประเทศ RT News ของรัสเซีย รายงานว่า กลุ่มนักการเมืองชาตินิยมในสก็อตแลนด์และเวลส์ได้ให้คำมั่นว่าจะหยุดผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอังกฤษที่บังคับให้พวกเขาออกจากสหภาพยุโรป หากอังกฤษจัดให้มีการลงประชามติในประเด็นดังกล่าวตามที่คาดไว้ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอนกล่าวว่าเขาจะจัดให้มีการรณรงค์เรื่องการทำประชามติว่าอังกฤษจะเข้าหรือออกจากยุโรป (in/out referendum 2017) หากพวกอนุรักษ์นิยมชนะในการเลือกตั้งสมัยหน้าในเดือนพฤษภาคมปีนี้ ซึ่งฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็คือพรรคของเขานั่นแหละครับ
แต่เสียงจากนักการเมืองฝั่งแคว้นเวลส์บอกว่าแต่ละประเทศในสหราชอาณาจักรมีสิทธิ์ที่จะออกเสียงด้วยตัวเองว่าสหราชอาณาจักรควรจะอยู่ต่อหรือถอนตัวออกจากอียู นั่นเป็นเพราะว่าอังกฤษมีประชากรมากกว่าสก็อตแลนด์ เวลส์ ไอร์แลนด์เหนือ ดังนั้นการออกเสียงอาจจะดูไม่สมสัดส่วนในฝ่ายที่พวกเขาชอบ นาย Leanne Wood ให้ความเห็นว่าเราควรจะออกจากอียูก็ต่อเมื่อเสียงส่วนใหญ่ในประเทศสมาชิกของสหราชอาณาจักรมีความเห็นร่วมกันที่ต้องการทำเช่นนั้นเท่านั้น สก็อตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เป็นพวกโปร-ยูโรเปียนมากกว่าอังกฤษ
Nicola Sturgeon ผู้นำคนใหม่ของพรรค Scottish National Party (SNP) ฝ่ายสก็อตแลนด์ขู่ว่าถ้าอังกฤษนำกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภา (House of Commons) ฝ่าย SNP ก็จะนำกฎหมายขอแก้ไขการทำประชามติกรณีแยกสก็อตแลนด์ออกจากอังกฤษเช่นกัน ซึ่งอาจจะขอให้มีการโหวดเสียงในทั้ง 4 ประเทศในสหราชอาณาจักรด้วยก็ได้
เอาหละสิไม่ใช่เฉพาะกรีซเท่านั้นนะที่อยากจะออกจากอีกยูในยามที่อียูเข้าสู่ภาวะคับขัน อันที่จริงต้องบอกว่ากรีซหนะคับขันยิ่งกว่าอียูซะอีก แม้กระทั่งอังกฤษเองก็ไม่อยากอยู่ในอียูแล้ว แต่ประเทศสมาชิกอีก 3 ประเทศในเครือสหราชอาณาจักรไม่เห็นด้วยกับอังกฤษนี่สิเพราะ 3 ประเทศนี้อยากจะอยู่ต่อในอียู จะทำยังไงอ่ะ แล้วฝ่ายสก็อตแลนด์ก็เริ่มมีความหวังนิดๆ แล้วว่าอาจจะมีโอกาสทำประชามติออกเสียงแยกตัวออกจากอังกฤษอีกครั้งก็ได้ ทำไมประเทศพวกนี้มันถึงได้วุ่ยวายกันอย่างนี้หนอ
The Eyes
10/02/2558
----------
UK Prime Minister Cameron Holds Emergency Meeting on Possible 'Grexit' / Sputnik International
BBC News - UK planning for possible Greece exit from the eurozone
Scottish and Welsh nationalists vow to stop Britain leaving EU — RT UK
http://rt.com/uk/205535-scotland-independence-eu-snp/
http://www.bbc.com/n…/uk-scotland-scotland-politics-29805045

 

ปอกเปลือก ทรราช

คลิปรวมเหตุการณ์ผู้ก่อการร้าย ISIS ลอบวางระเบิดรถทหารของอีรัค (และสหรัฐฯ?) ปี2014 คราวนี้ก็รู้แล้วสินะว่าทำไมสหรัฐฯถึงถอนทัพภาคพื้นดินออกจากอีรัคและเปลี่ยนมาเป็นการโจมดีด้วยโดรนทางอากาศแทน ตอนนี้สหรัฐฯก็กำลังจะส่งกองทัพของตนเข้าไปในอีกรัคอีกรอบแล้ว
-------------
Source :

<iframe width="640" height="390" src="https://www.youtube.com/embed/76hTosMxq9Q" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

ปอกเปลือก ทรราช



OPEC บอกว่าปีนี้จะมีความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้น
-------------
เห็นข่าวนี้เกี่ยวกับราคาน้ำมันก็อดไม่ได้อยากจะเอามาเล่าสู่เพื่อนๆ ฟังครับเพราะมันมีผลกระทบต่อปากท้องความเป็นอยู่ของเราและทุกคนทั่วโลกเช่นกันเกี่ยวกับเรื่องราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกนี่แหละ
เมื่อวานนี้สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกที่เรียกว่า OPEC เขาเขียนรายงานของวันที่ 9 เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ว่า ในปี 2015 นี้โอเปคคาดว่าจะมีความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกในปริมาณที่เพิ่มขึ้นประมาณจาก 1.17 ล้านบาร์เรลถึง 92.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งตัวเลขนี้จะกลับด้านกันกลับความต้องการในการใช้น้ำมันจากฝ่าย OECD ของอเมริกา ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา OPEC ลดการผลิตน้ำมันลง 53,000 บาร์เรลโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 30.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน (รายงาน OPEC วันที่ 9 ก.พ.58 หน้า 34)
ในขณะที่กลุ่มน Non-OPEC เพิ่มการผลิตในปี 2015 เป็น 0.85 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลง 0.42 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า (รายงาน OPEC วันที่ 9 ก.พ.58 หน้า 42)
อันที่จริงรายงายของเขามีเยอะกว่านี้นะครับเกือบร้อยหน้าแหนะ ขี้เกียจอ่านและเอาสั้นๆ จากข่าวแล้วเทียบกับรายงานตัวจริงก็ตัวเลขในสื่อฯกับในรายงานตรงกันไหมแค่นั้นก็พอ สรุปว่าตรงกัน
แล้วยังไง? ประเด็นมันก็อยู่ที่ว่าพอรายงานนี้ออกมาแบบนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจากเดิมที่คาดว่าพอลบข่าวลือจากสื่อฯอเมริกาเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกกระเตื้องขึ้นแล้วกลับลดลงนิดหน่อยในวันศุกร์ที่ผ่านมาแล้ววันจันทร์ก็กลับเพิ่มขึ้นไปใหม่อีกนี่สิ โดยเมื่อวานนี้ราคาน้ำมันดิบ Brent ของอังกฤษเพิ่มขึ้นไปที่ $58.13 เหรียญต่อบาร์เรลซึ่งคาดว่าจะสูงขึ้นอีกประมาณ 0.56% ในเดือนมีนาคมนี้ ในขณะที่ของ WTI ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ $52.70 ต่อบาร์เรล
แล้วในวันที่ 8 ก.พ.58 ที่ผ่านมาก็มีคนงานประมาณพันกว่าคนโรงกลั่นน้ำมัน BP Plc’s Whiting ในรัฐอินเดียน่าและโอไฮโอ ประเทศสหรัฐฯเข้าร่วมประท้วงกับกลุ่ม USW อีกด้วย มันก็ยิ่งเป็นปัจจัยให้ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกสูงขึ้นไปอีกสิคราวนี้
อ่านเจอข่าวนี้แล้วเซ็งเลยครับ ราคาน้ำมันดิบมันกำลังดิ่งลงได้ที่แล้ว ดันมาขึ้นอีกอ่ะ แบบนี้เราก็ใช้น้ำมันแพงสินี่ แต่อย่างน้อยก็ขออย่าได้สูงกว่า $55 ต่อบาร์เรลเลยนะ (WTI) ประมาณนี้แหละกำลังดีแล้ว ตอนนี้ไม่ทราบตัวเลขที่แน่ชัดว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน Shale Oil ในสหรัฐฯหยุดผลิตไปกี่แท่นขุดเจาะแล้ว
The Eyes
10/02/2558
----------
TASS: Economy - OPEC raises 2015 oil demand forecast
TASS: Economy - Brent crude price exceeds $58 as OPEC raises member countries' oil demand outlook for 2015
US BP oil workers join largest nationwide strike in 35 years — RT USA
http://www.reuters.com/…/us-markets-oil-idUSKBN0LD01P201502…
http://www.reuters.com/…/…/us-opec-oil-idUSKBN0LD1GO20150209
http://www.opec.org/…/d…/publications/MOMR_February_2015.pdf

 

ปอกเปลือก ทรราช



แผนสันติภาพของปูตินเริ่มได้ผล ล่าสุดอียูสั่งชะลอแซงชั่นรัสเซียและกบฎยูเครนออกไปก่อน
------------
มีข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับรัสเซีย-อียูมาเล่าต่อให้ฟังอีกนิดนะครับ อย่าพึ่งเบื่อกันซะก่อนหละครับเพราะเหตุการณ์กำลังน่าตื่นเต้นเร้าใจเข้าไปเรื่อยๆ แล้ว โดยเมื่อวันที่ 9 ก.พ.58 ที่ผ่านมานี้ที่ประชุมสหภาพยุโรปที่เดิมทีมีแผนจะทำการแซงชั่นรัสเซียต่อไปตามคำแนะนำของรัฐบาลสหรัฐฯและของอังกฤษก่อนหน้านี้ แต่หลังจากที่มีนายกรัฐมนตรีเยอรมันกับประธานาธิบดีฝรั่งเศสเดินทางไปของเจรจากับปูตินถึงกรุงมอสโคว์โดยปิดห้องคุยกันเพียง 3 คนเท่านั้น (อ้อที่บางคนบอกว่ามีนักข่าวเดินไปมาหนะ ตอนนั้นเป็นเวลาก่อนการคุยกันะครับ เขาเปิดประตูให้นักข่าวถ่ายรูปบันทึกวีดีโอประกอบข่าวซะหน่อยจากนั้นก็เชิญนักข่าวหรือใครๆทุกคนออกไปหมดเหลือแต่ผู้นำ 3 ท่านนั้นคุยกัน 5 ชั่วโมงเท่านั้นนะ) หลังจากคุยกันแล้วปูตินก็ยื่นแผนสันติภาพมาให้แต่ยังไม่มีการเปิดเผยต่อสื่อมวลชนใดๆ ทั้งนั้นเลย
แต่หลังจากผู้นำเยอรมันนีกับฝรั่งเศสกลับมาแล้วก็มีการปรึกษาหารือกับฝ่ายต่างๆต่ออีก ล่าสุดที่ประชุมใหญ่สหภาพยุโรป 28 ประเทศ มีมติให้เลื่อนเวลาการลงมติแซงชั่นรัสเซียออกไปก่อน รอฟังผลการเจรจา 4 ฝ่ายระหว่าง รัสเซีย-เยอรมันนี-ฝรั่งเศส-ยูเครน กันอีกรอบหนึ่งในวันพุธที่จะถึงนี้ (ก็คือพรุ่งนี้แหละครับ)
รัฐมนตรีต่างประเทศของฝรั่งเศส Laurent Fabius กล่าวว่า "หลักการของการแซงชั่นเหล่านี้ยังคงอยู่ แต่การดำเนินการให้มีผลสำเร็จได้นั้นจะต้องขึ้นอยู่กับผลของเจรจาด้วย ซึ่งเราจะรู้ผลโดยวันจันทร์หน้าและดูว่าการเจรจาที่กรุงมินส์กจะเป็นไปในทิศทางใด"
ฝ่ายรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมัน Frank-Walter Steinmeier กล่าวว่าการเจรจาที่กรุงมินส์กจะนำไปสู่ก้าวแรกเพื่อระงับไฟสงคราม (การหยุดยิง)
รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ (UK) กล่าวว่าหากการเจรจาแผนสันติภาพสำเร็จ ก้าวต่อไปของอียูก็คือจะต้องหยุดการแซงชั่นเพื่อป้องการการเรียกร้องจากฝ่ายที่ถูกแซงชั่น งานนี้รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษพูดไม่เหมือนกับที่นายเดวิด คาเมรอนพูดวันก่อนเลยนะ แบบนี้เขาเรียกว่าอังกฤษกลับลำหันมาเข้าแนวร่วมกับอียูซะแล้ว ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
ทางสเปนบอกว่าการแซงชั่นรัสเซียในครั้งที่ผ่านๆ มานี้ทำให้สเปนประสบภาวะวิกฤตตามไปด้วย เพราะทำให้สเปนสูญเสียรายได้จากการค้าขายกับรัสเซียไม่ต่ำกว่า 7.8 ล้านล้านบาท
ส่วนประธานาธิบดี Milos Zeman ของสาธารณรัฐเช็ก (Czech) เรียกร้องให้มีการยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย โดยกล่าวว่ามันไม่นำมาซึ่งผลที่น่าปรารถนาเลย และมันเปล่าประโยชน์
นายกรัฐมนตรีหนุ่มหล่อของกรีซก็ไม่เห็นด้วยกับการแซงชั่นรัสเซียโดยกล่าวว่าวิกฤตการณ์ในยูเครนนั้นจะต้องได้รับการแก้ไขเบื้องหลังโต๊ะเจรจาต่อรอง แล้วยังกล่าวอีกว่าการเจรจากันที่กรุงมินส์กไม่ความถือเป็นโอกาสสุดท้าย
ในช่วงที่อียูกำลังเลื่อนการแซงชั่นรัสเซียออกไปนั้น ฝ่ายนายกรัฐมนตรีของเยอรมันนีก็บินตรงไปเจรจาสันติภาพกรณีวิกฤตยูเครนต่อที่สหรัฐฯกับนายโอาบาม่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนายกรัฐมนตรีของเยอรมันนีเสนอว่าไม่เห็นด้วยกับการสนับสนุนด้านอาวุธให้กับยูเครน และเตือนสหรัฐฯว่าหากสหรัฐฯทำเช่นนั้นผลร้้ายที่ไม่คาดคิดก็จะตามมาแน่ๆ อันนี้เรียกว่ากล่อมแกขู่นะนี่ แสดงว่าเธออาจจะมีหมัดเด็ดรอโอบาม่าอยู่ก็ได้
ส่วนโอบาม่าหลังจากที่ปรึกษากับทีมงานแล้วบอกว่า หากการเจรจาล้มเหลวสหรัฐฯจะทำทุกวิถีทางซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือให้การสนับสนุนอาวุธหนักให้กับยูเครน นี่ก็ขู่จังเลย มันต้องการจะให้เกิดสงครามตัวแทนขึ้นในยูเครนให้ได้จริงๆนะนี่
ตอนนี้ทุกประเทศในยุโรปเริ่มรับรู้ผลของการแซงชั่นรัสเซียแล้วว่า มันไม่ได้ทำร้ายรัสเซียแต่เพียงฝ่ายเท่านั้น มันยังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองอีกด้วย ทุกคนต่างก็ได้รับผลกระทบไม่แพ้รัสเซีย อเมริกาหนะหรือ จิ๊บๆ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงเพราะอยู่ไกลจากรัสเซียและมีการค้าขายกับรัสเซียน้อยกว่ายุโรปจึงแทบจะไม่สะทกสะท้านอะไรเลย ถ้าเกิดสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครนขึ้นจริงๆ อเมริกาจะรวยจากการขายอาวุธอย่างเดียว คนที่ตายมากที่สุดก็คือทหารของยูเครนพลเมืองของยูเครนและยุโรป และรัสเซีย ฝ่ายยุโรปรู้ผลลัพธ์ดีว่ามันจะออกมาเป็นเช่นไร ไม่ว่าใครแพ้หรือชนะ ทั้งรัสเซียและยุโรปจะยับเยินไม่มีชิ้นดีแน่ ส่วนอเมริกาก็นั่งกระดิกเท้าดูข่าวการถล่มกันระหว่างรัสเซียกับยูเครนผ่านทีวีดาวเทียมสบาย ผู้นำอียูทั้งหลายรู้ว่าที่นี่ไม่ใช่เวียดนาม และตะวันออกกลางนะ นี่มันบ้านของพวกเรานะ ก็เลยตัดสินใจว่าไม่เอา ไม่เอาสงครามในยุโรป จึงเริ่มไม่เห็นด้วยกับแผนยุยงให้รัสเซียกับอียูแตกกันเป็นเสี่ยง
มีหรือที่รัฐบาลอเมริกาจะยอม เขาจะต้องคิดแผนการชั่วๆ อะไรซักอย่างไว้ในใจแน่ๆ โดยแผนแรกก็คือทำให้การเจรจา 4 ฝ่ายไม่ประสบผลสำเร็จ หรืออาจจะกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้ทั้งสองฝ่ายปะทะกันรุนแรงมากขึ้นโดยให้ต่างฝ่ายต่างก็โทษกันไปมาว่าฝ่ายนั้นเริ่มก่อนจึงต้องตอบโต้ให้สาสมอย่างนี้เป็นต้น งานแบบนี้เขาถนัดนักแหละ และใช้ได้ผลมาโดยตลอดซะด้วย ต้องดูว่างานนี้อียูจะหลงกลด้วยหรือเปล่า หากจำเป็นเพราะอเมริกาดื้อเหลือเกิน อียูก็อาจจะหันมาจับมือกับรัสเซียก็ได้ และหากรัฐบาลของยูเครนยังไม่หยุดก่อเหตุโดยหลงคำยุแหย่จะฝั่งอเมริกา อาจจะมีการล้มอำนาจรัฐบาลชุดปัจจุบันของยูเครนก็ได้ มันก็ยังพอจะมีหมากอีกหลายตาให้เดินได้อยู่นะ แต่ที่สำคัญก็คืออเมริกากุมอำนาจนาโต้ไว้ในมือตัวเองแล้วนี่สิ แต่ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนจากอียูนาโต้ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน คราวนี้ก็อยู่ที่ความจริงใจของปูตินต่ออียูหละ
The Eyes
10/02/2558
----------
http://rt.com/news/230591-eu-sanctions-russia-delay/
BBC News - Ukraine conflict: US 'may supply arms to Ukraine'
http://edition.cnn.com/…/09/eur…/ukraine-conflict/index.html
http://www.telegraph.co.uk/…/Ukraine-crisis-talks-latest.ht…
http://www.kyivpost.com/…/stephen-m-walt-why-arming-kyiv-is…

 

ธันวา สงวนสิน

'กรีซ' ระดมฝ่ายสนับสนุนต่อต้านนโยบายรัดเข็มขัด
<iframe width="854" height="510" src="https://www.youtube.com/embed/ZO6D7U3uP1A" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

Jeerachart Jongsomchai



... "เป้าหมายของอเมริกา : คือการใช้ฐานทัพอากาศจอร์แดนบุกซีเรีย หลังตุรกีปฎิเสธ"

... ตอนแรกนั้น "อเมริกา" ตั้งใจจะมีฐานการรบในการบุก "ซีเรีย" โดยมีสองฝั่งฐานทัพของเพื่อนพันธมิตรคือทางเหนือคือ ฐานบินใน "ตุรกี"( Incirlik Air Base ) และทางใต้คือใน "จอร์แดน" ( Muwaffaq Salti Air Base ) แต่เดือนกันยายนปีที่แล้วนั้นตุรกีได้ปฎิเสธไปแบบไม่กลัวระเบิดป่วนตามมาว่าไม่ยอมให้ใช้ แม้หลังจากการปฎิเสธคำขอร้องจากอเมริกาไป จะมีความวุ่นวายจากชาวเคิร์ดในตุรกีตามมาเป็นการบีบบังคับแต่ "เออโอกัน" ก็ไม่ยอม สุดท้ายอเมริกาก็ตีด้านเหนือยังไม่ได้มากนักและช้ามาก ( เหมือนฟุตบอลจะมีปีกซ้ายปีกขวาให้หลากหลาย ตอนนี้ปีกฝั่งตุรกีใช้การแทบไม่ได้แล้ว )

... เพราะถ้าตุรกียอมให้ใช้ฐานบิน รัสเซัยอาจจะตัดท่อแก๊สที่จะส่งมาให้ตุรกี และจะทำให้เศรษฐกิจของประเทศย่ำแย่ และอีกอย่าง ตุรกีกลัวว่ารัสเซียจะแอบสนับสนุนชาวเคิร์ดในตุรกีป่วนประเทศ ( ตามความเห็นของนักวิชาการชาวตุรกีบางคนในอเมริกา ) และที่สำคัญที่สุด ตุรกีรู้ว่ารัสเซียก็แอบหนุนอาวุธและช่วยเหลือซีเรียมาตลอดมา จนแล้วจนรอดตุรกีจึงปัดคำขอของอเมริกาไปในที่สุด

... อเมริกาจะโจมตีทางอากาศจากเรือรบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนก็แพงและช้า จึงต้องหาแหล่งใหม่โดยมุ่งไปที่จอร์แดน โดยเฉพาะฐานทัพอากาศที่ทางตอนเหนือของประเทศจอร๋แดนเป็นหลัก แต่ก็นั่นประชากรจอร์แดนส่วนใหญ่ไม่ชอบอเมริกาก็ต้องมีเหตุการณ์อะไรบางอย่างมาทำให้คนจอร์แดนโกรธเกลียด ISIL ก่อนจึงจะเนียนในการไปบอมบ์ในดินแดนซีเรียได้ จึงเกิดการจัดเหานักบินจอร์แดนขึ้น ซึ่งได้ประโยชน์หลายอย่าง ทั้งได้เงินจากอเมริกาทั้งเงินฟรีและให้กู้ยืม (มาคอร์รัปชั่น) ทั้งกษัตริย์อับดุลลาห์ได้คะแนนนิยม ทั้งอิสราเอลปลอดภัยขึ้น และสุดท้ายสำคัญมากตอนนี้คือ อเมริกาได้ใช้ "ฐานทัพอากาศของจอร์แดน" เอาไปโจมตี "ซีเรีย"

... ยิ่งหลังจากเลือกตั้งกลางเทอมพรรครีพับรีกันสายเหยี่ยวได้ครองทั้งสองสภา ยิ่งต้องการขายอาวุธของนายทุนพรรคได้เปลี่ยนรมว. กลาโหมเป็นนาย Ashton Carter ที่รับประกันความโหดห้ามอุทรธ์ อเมริกาจึงต้องรีบหาฐานบินมาตอบสนองนโยบายนี้โดยเร็ว และความตอบจึงตกมาที่ฐานบินใน "จอร์แดน" เพราะอีกสองทางเลือกที่เหลือคือไซปรัสและยูเออีก็ไกลเกินไป ( ยิ่งฐานบินในยูเออีต้องมีการเติมน้ำมันระหว่างทางบนอากาศยิ่งลำบาก )

... "จอร์แดน" กับ "ซีเรีย" นั้นแม้ช่วงตั้งแต่ปี 1948 - 1973 จะเป็นพันธมิตรกันในการทำสงครามไล่ยิว อิสราเอลออกจากดินแดนอาหรับไป แต่หลังจาก "สงครามYom Kippur" เป็นต้นมาที่อียิปต์กับซีเรียร่วมกันรบกับอิสราเอลอีกรอบ นั้น จอร์แดนไม่ได้ร่วมด้วย เพราะก่อนหน้านั้น ปี 1970-71 จอร์แดนทะเลาะกับกลุ่ม PLO ปาเลสไตน์มุลสิมที่นำโดยนายยัสเซอร์ อาราฟัตก่อนแล้วเรื่องใครจะเป็นใหญ่ในจอร์แดน ( ในจอร์แดนนั้น ชาวจอร์แดนที่แท้จริงมีแค่ 1 ใน 3 ที่เหลือมีหลายชนเผ่า ) ที่มีข่าวลือจาก "มอสสาด" ของอิสราเอลว่า กษัตริย์จอร์แดนจะถูกลอบสังหารจากบางกลุ่มประกอบกับสงครามกับปาเลสไตน์ครั้งนั้น ทำให้จอร์แดนได้ผลักไสชาวปาเสไตน์ไปที่เลบานอนจนไปก่อตั้งกลุ่ม "เฮสบุลเลาะห์" ที่ตอนใต้ของเลบานอนและต่อสู้กับอิสราเอลในเวลาต่อมา จากนั้นจอร์แดนก็ไม่กินเส้นกับซีเรียตลอดมา

... ซึ่งสาเหตุที่อเมริกาไม่ใช้เครื่องบินทางไกล B-2 bomber แบบที่โจมตีลิเบียเพราะมีน้อยเกินไป เมื่อรวมเอาหลายๆสาเหตุ คำตอบจึงมาลงท้ายด้วย การที่จะเร่งเกมปิดบัญชีอัล อัสสาสในซีเรียนั้นต้องมีฐานบินในจอร์แดนให้เร็วที่สุด ( การอ้างจะโจมตี ISIL เป็นแค่นิทานหลอกเด็ก เพื่อปกปิดความต้องการจริงๆ )

... เพราะนอกจากอเมริกาจะได้ใช้ฐานบินในจอร์แดนโจมตีทางอากาศแล้ว ยังจะได้ใช้ชายแดนทางบกที่ติดกับซีเรียทางทิศเหนือในการขนถ่านอาวุธยุทโธปกรณ์จากอเมริกาและนาโต้เพื่อจะเข้าไปสนับสนุนกลุ่มที่ต่อต้านอัล อัสสาสอีกด้วย ที่จะสะดวกประจวบเหมาะมากขึ้นเพราะฐานกองกำลังกลุ่มกบฎในซีเรียที่ต่อต้านอัล อัสสาสอยู่ทางตอนใต้ของซีเรียด้วย

... ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะเกิดเหตุการณ์เผานักบินจอร์แดนเพื่อจุดไฟความโกรธขึ้นให้สาธารณชนจอร์แดนเพื่อเห็นด้วยและยินยอมในการโจมตีแพะ ISIL เพราะหลังจากเผาไม่กี่วันก็มีการโจมตีทางอากาศจากฐานในจอร์แดนเป็นหลายสิบเที่ยว เหมือนเตรียมการมานานเป็นอย่างดี เพื่อสุดท้ายจะได้บรรลุวัตถุประสงค์หลายๆอย่างดังกล่าวมา รวมทั้งข้อหลักใหญ่คือ ต้องรีบปิดเกม "ซีเรีย" ให้เร็วที่สุด

.
https://medium.com/…/syria-air-war-could-launch-from-secret…
https://www.middleeastmonitor.com/…/9806-us-to-use-jordan-a…
Yom Kippur War - Wikipedia, the free encyclopedia

 

Kaokala Fc
9 ก.พ. งามไส้ เอชเอสบีซี ช่วยลูกค้าเศรษฐีเลี่ยงภาษีเป็นเงินมหาศาล



เอชเอสบีซี ธนาคารยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ถูกแฉ ช่วยเศรษฐีเลี่ยงภาษีเป็นเงินมหาศาล ทั้งพวกค้ายาเสพติด ค้าอาวุธ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่9ก.พ.ว่าเอชเอสบีซี ธนาคารใหญ่สุดของอังกฤษก่อเรื่องอื้อฉาวช่วยลูกค้าระดับเศรษฐีทั่วโลกหลีกเลี่ยงภาษีเป็นเงินหลายพันล้านปอนด์โดยบีบีซีพาโนรามาได้เห็นข้อมูลบัญชีจากลูกค้าจำนวน106,000คน ใน 203ประเทศซึ่งอดีตพนักงานคนหนึ่งนำมาเผยแพร่ในปี2550บัญชีดังกล่าวรวมทั้งรายละเอียดของลูกค้าเกือบ7,000รายที่มีฐานอยู่ในสหราชอาณาจักร

ธนาคารเอกชนในสวิสของเอชเอสบีซีช่วยซุกซ่อนเงินหลายล้านดอลลาร์สหรัฐของพวกนักค้ายาเสพติด,พ่อค้าอาวุธและผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมขณะเดียวกัน ก็ช่วยเศรษฐีทั่วโลกเลี่ยงภาษีตามรายงานจากเอกสารที่รั่วไหลซึ่งเปิดโปงเรื่องดังกล่าวด้วยกฎหมายป้องกันการปกปิดความลับของธนาคารในประเทศ

ในรายงานจากสมาคมผู้สื่อข่าวสื่อสืบสวนระหว่างประเทศและองค์กรข่าวต่าง ๆ มีขึ้นขณะที่รัฐบาลอังกฤษพยายามกวาดล้างการเลี่ยงภาษีเพื่อส่งเสริมรายได้เข้ารัฐที่ลดลงอย่างมากจากวิกฤติการเงินและบรรเทาเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าคนรวยไม่จ่ายอย่างยุติธรรม

http://www.dailynews.co.th/…/งามไส้+เอชเอสบีซี+ช่วยลูกค้าเศ…

 

Kaokala Fc
9 ก.พ. ‘ภูเขาไฟอัคคี’ ในกัวเตมาลาปะทุ สั่งปิดสนามบินนานาชาติ



เมื่อวันที่ 9 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าภูเขาไฟอัคคี (Fire Volcano) ปะทุพ่นเถ้าถ่านและควันสู่ท้องฟ้า ส่งผลให้ ทางการกัวเตมาลา ประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางต้องมีคำสั่งปิดท่าอากาศยานระหว่างประเทศ ‘ลา อูโรรา’ (La Aurora International Airport) พร้อมทั้ง อพยพประชาชนกว่า 100 คน

ด้านสำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติกัวเตมาลา ระบุว่า ภูเขาไฟอัคคี หรือมีชื่อเรียกเป็นภาษาท้องถิ่นว่า ‘ฟูโก โวลแคน’ ได้พ่นเถ้าถ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าสูงนับ 5,500 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ขณะที่สำนักงานภัยพิบัติแห่งชาติได้ยกระดับเตือนภัยภูเขาไฟปะทุ เป็น ‘สีส้ม’ เตรียมพร้อมสำหรับอาจมีการอพยพประชาชน

ทั้งนี้ ภูเขาไฟ ‘อัคคี’ (Fire Volcano) ได้เริ่มปะทุพ่นควันและเถ้าถ่านครั้งใหม่ ออกมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 7 ก.พ. โดยภูเขาไฟลูกนี้เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ ที่ยังมีพลังมากที่สุดลูกหนึ่งในภูมิภาคอเมริกากลาง

‘ภูเขาไฟอัคคี’ ในกัวเตมาลาปะทุ สั่งปิดสนามบินนานาชาติ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เจอแล้ว! ซากเครื่องบินชิลี สาบสูญพร้อมทีมฟุตบอลเมื่อ 54 ปีก่อน
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 ก.พ. 2558 22:51


(ภาพ: AP Photo)

มีผู้ค้นพบพบซากเครื่องบิน ซึ่งเชื่อว่าเป็นลำเดียวกันที่ตกและหายสาบสูญไปพร้อมกับผู้โดยสารและลูกเรือ 24 คน รวม นักฟุตบอลชาวชิลี 8 คน เมื่อกว่า 54 ปีก่อนแล้ว บนเทือกเขาแอนดีส...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า นักปีนเขาชาวชิลีกลุ่มหนึ่ง อ้างว่าพวกเขาพบซากเครื่องบินซึ่งเชื่อว่าเป็นของเครื่องบิน 'ดักลาส ดีซี-3' เที่ยวบิน 210 ของสายการบิน ลาน แอร์ไลน์ส ซึ่งประสบอุบัติเหตุตกและหายไปอย่างเป็นปริศนาเมื่อ 3 เม.ย. 1961 จนทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด รวมถึงนักฟุตบอลของสโมสรกรีน ครอส 8 คนและโค้ช อาร์นัลโด บาสเควซ แล้ว

นาย เลโอนาร์โด อัลบอร์นอซ หนึ่งในสมาชิกนักปีนเขากลุ่มที่พบซากเครื่องบิน เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ของชิลีว่า พวกเขาพบซากเครื่องบินปริศนานี้ที่ความสูง 10,000 ฟีต แต่ยังไม่มีการเปิดเผยตำแหน่งของซากเครื่องบินสู่สาธารณะ เนื่องจากเกรงว่า อาจมีการเข้าไปขโมยของ แม้ซากเครื่องบินจะอยู่ห่างไกลมากก็ตาม

"ซากส่วนลำตัวเครื่องส่วนหนึ่งยังอยู่ที่นั่น มีหลายอย่างกระจัดกระจายอยู่โดยรอบเต็มไปหมด รวมถึงกระดูกมนุษย์" นายอัลบอร์นอซกล่าว

ทั้งนี้ ในวันเกิดเหตุเมื่อราว 54 ปีก่อน เครื่องบิน ดักลาส ดีซี-3 เป็นเครื่องบิน 1 ใน 2 ลำ ที่พานักฟุตบอลทีมสโมสร กรีน ครอส เดินทางกลับเมืองซานติเอโก หลังจากแข่งขันนัดเยือนที่เมืองคาสโตร ก่อนจะหาบสาบสูญไปขณะบินผ่านเทือกเขาแอนดีส หลังจากมีการติดต่อครั้งสุดท้าย โดยนักบินรายงานว่ามีน้ำแข็งเกาะส่วนปีกและใบพัด และขอลดเพดานบิน แต่ไม่ได้รับอนุญาตเนื่องจากจะไปทับเส้นทางบินของเครื่องบินลำอื่น

ในวันที่ 10 เม.ย. 1961 มีการพบซากเครื่องบินบางส่วนในสภาพถูกไฟเผาไหม้ที่เนินเขา ลา โกเตรา บนเขาแอนดีส และทางการประกาศว่าผู้ที่อยู่บนเครื่องบินลำนี้เสียชีวิตทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การหายไปของเครื่องบิน ดักลาส ดีซี-3 เป็นหนึ่งในปริศนาที่ยังไขไม่ได้ที่ลึกลับที่สุดของประเทศชิลี และสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วโลกในสมัยนั้น

เจอแล้ว! ซากเครื่องบินชิลี สาบสูญพร้อมทีมฟุตบอลเมื่อ 54 ปีก่อน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สหรัฐฯอาจมอบอาวุธให้ยูเครนสู้กบฏ หากสันติวิธีล้มเหลว
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 10 ก.พ. 2558 05:31


บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐฯ (ภาพ: REUTERS)

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา กล่าวว่า สหรัฐฯกำลังศึกษาทางเลือกในการจัดหาอาวุธที่ทำให้ถึงตายได้แก่ยูเครน หากวิธีทางการทูตไม่สามารถทำให้วิกฤติในภาคตะวันออกของยูเครนยุติลงได้...

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กล่าวในงานแถลงข่าวเคียงข้างนางอันเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ภายหลังทั้งสองคนหารือกันที่ทำเนียบขาว ว่า "หากวิธีทางการทูตล้มเหลวจริงๆ สิ่งที่ผมขอให้ทีมเจ้าหน้าที่ของผมทำคือ พิจารณาทุกทางเลือก" และเสริมด้วยว่า การมอบอาวุธให้ยูเครนเป็นเพียงทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับการพิจารณาเท่านั้น


ด้านนางแมร์เคิล ซึ่งแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนส่ไม่เห็นด้วยกับการส่งอาวุธให้แก่ยูเครน กล่าวยอมรับการถดถอยของความพยายามหาทางออกด้วยวิธีทางการทูตร่วมกับรัสเซยี ในเรื่องวิกฤติยูเครน แต่พวกเขาจะพยายามต่อไป

ในขณะเดียวกัน นายโอบามากล่าววิพากษ์วิจารณ์การรุกรานยูเครนของรัสเซีย ว่ารัสเซียละเมิดพันธสัญญาทุกข้อที่ให้ไว้ในข้อตกลงสันตภาพที่กรุงมินสก์ ซึ่งปัจจุบันไม่มีผลแล้วในทางปฏิบัติ และกล่าวว่า ชายแดนยุโรปไม่อาจเขียนใหม่ได้โดยใช้อาวุธปืน แต่ถึงกระนั้นการรุกรานของรัสเซีย ก็ช่วยเพิ่มความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างสหรัฐฯและพันธมิตรในยุโรป


ด้านประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวหารชาติตะวันตกว่า สนับสนุนการก่อรัฐประหารในยูเครน เมื่อครั้งชาวยูเครนฝักฝ่ายยุโรปลุกฮือโค่นอำนาจอดีตประธานาธิบดี วิคเตอร์ ยานูโควิช เมื่อปีก่อน รวมถึงทำผิดสัญญาที่ว่าจะไม่ขยายกองกำลังของนาโตในยุโรปตะวันตก และบังคับให้ประเทศต่างๆเลือกข้างระหว่างพวกเขากับรัสเซีย

สหรัฐฯอาจมอบอาวุธให้ยูเครนสู้กบฏ หากสันติวิธีล้มเหลว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

วาระระดับโลก! 3 ชาติยักษ์ใหญ่ ‘สหรัฐฯ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี’ ผนึกกำลังสู้‘ ไอซิส’
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 ก.พ. 2558 17:11


---
@ฝูงบินรบ F-16 ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถึงฐานทัพจอร์แดนแล้ว
---
รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนี 3 ชาติยักษ์ใหญ่ของโลก ประกาศจะร่วมมือกันต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธสุดโหด ‘ไอซิส’ ขณะที่กองกำลังพันธมิตรปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มเป้าหมายกลุ่มไอซิส ในอิรักและซีเรีย รวมทั้งเมืองโมซูล

เมื่อวันที่ 9 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ผู้นำรัฐบาลและรมว.ต่างประเทศจากหลายประเทศทั่วโลก เข้าร่วมการประชุมเรื่องความมั่นคงของโลก ที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี เป็นเวลา 3 วัน จนถึงเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย รมว.ต่างประเทศ 3 ชาติยักษ์ใหญ่ของโลก คือ สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และเยอรมนี ประกาศจะผนึกกำลังต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม หรือไอซิส

นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า การที่กลุ่มไอซิสลงมือสังหารเรืออากาศโท มูอัธ อัล-คาซาสเบห์ นักบินชาวจอร์แดน ด้วยการ ‘เผาทั้งเป็น’ นั้น แสดงให้เห็นถึงความโหดเหี้ยมของกลุ่มนี้ พร้อมกับเรียกว่าเป็นระดับเลวร้ายครั้งใหม่ โดยนายแคร์รี่ได้ประณามความโหดร้ายของกลุ่มไอซิส และประกาศว่ารัฐบาลสหรัฐฯ มีความมุ่งมั่นที่จะหยุดยั้งกลุ่มไอซิสด้วยการใช้กองกำลังในทุกรูปแบบ


วันเดียวกัน มีรายงานว่า กองกำลังพันธมิตรเดินหน้าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ทิ้งระเบิดถล่มฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธไอซิสอย่างดุเดือด ทั้งในอิรักและซีเรีย รวมถึงการโจมตีเมืองโมซูล เมืองใหญ่อันดับ 2 ในอิรัก ซึ่งถูกกลุ่มไอซิสยึดครองได้ตั้งแต่เดือน มิ.ย.ปี 2557 โดยขณะนี้ กองกำลังนักรบชนเผ่าในอิรักได้ตั้งกำลังอยู่บริเวณด้านนอกของเมืองโมซูลแล้ว เพื่อพยายามจะบุกยึดเมืองโมซูลคืนจากกลุ่มไอซิส โดยได้รับการสนับสนุนจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของกองกำลังพันธมิตร ขณะที่ฝูงบินรบ F-16 ของกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้มาถึงฐานทัพอากาศในจอร์แดน เมื่อวันที่ 8 ก.พ. เพื่อเข้าร่วมในปฏิบัติการโจมตีถล่มไอซิสแล้ว

วาระระดับโลก! 3 ชาติยักษ์ใหญ่ ‘สหรัฐฯ-ฝรั่งเศส-เยอรมนี’ ผนึกกำลังสู้‘ ไอซิส’ - ข่าวไทยรัฐออ

 

อิรักเล็งส่งทหารราบสู้ไอเอส พันธมิตรหนุนเต็มที่
โดย ทีมข่าวต่างประเทศ 10 ก.พ. 2558 01:50


(ภาพ: REUTERS)

เมื่อ 9 ก.พ. นายจอห์น อัลเลน ผู้ประสานงานระหว่างกองทัพสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศพันธมิตรฝั่งตะวันตก และกลุ่มประเทศอาหรับในตะวันออกกลางเพื่อต่อสู้กับกองกำลังติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในอิรักและซีเรีย แถลงข่าวว่ารัฐบาลอิรักกำลังพิจารณาส่งกองกำลังทหารราบบุกยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มไอเอสในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยกองทัพสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรจะช่วยเหลือกองทัพอิรักในด้านต่างๆอย่างเต็มที่ ส่วนกองทัพจอร์แดนแถลงผลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศฐานที่มั่นกลุ่มไอเอสเพื่อตอบโต้กรณีไอเอสสังหาร ร.ท.มาอัซ คาสซาสเบห์ นักบินชาวจอร์แดน โดยสามารถทำลายฐานที่มั่นไอเอสได้ราว 20 เปอร์เซ็นต์ จากปฏิบัติการ 56 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ.

ด้านนายจอห์น แคร์รี รมว.การต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่สหรัฐฯเริ่มขึ้นตั้งแต่เดือน ก.ย.2557 ช่วยให้อิรักยึดพื้นที่คืนจากกลุ่มไอเอสได้ราว 1 ใน 5 ของดินแดนที่ถูกยึดครอง ส่วนองค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในซีเรีย เผยว่า กองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดได้บุกยึดพื้นที่เมืองโคบานี ชายแดนซีเรีย คืนจากกลุ่มไอเอสได้อีก 3 จุด และรัฐบาลญี่ปุ่นแถลงชี้แจงกรณีกระทรวงต่างประเทศมีคำสั่งยึดหนังสือเดินทางของนายยูอิชิ สุกิโมโตะ ช่างภาพอิสระชาวญี่ปุ่น ซึ่งวางแผนเดินทางไปซีเรียเพื่อรายงานสถานการณ์ในค่ายผู้ลี้ภัย โดยย้ำว่ารัฐบาลจำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องชีวิตของนายสุกิโมโตะเอง.

อิรักเล็งส่งทหารราบสู้ไอเอส พันธมิตรหนุนเต็มที่ - ข่าวไทยรัฐออนไลน์