ติดตามสถานะการณ์

ชาวบ้านเกาะลันตา แห่เก็บหอยหวาน สร้างรายได้ช่วงยางราคาตก
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 29 ม.ค. 2558 20:46



ชาวบ้านในตำบลเกาะลันตาน้อยเดือดร้อนหนัก หลังราคายางพารายังตกลงอย่างหนัก แห่เก็บหอยหวานตามชายหาดบ้านหลังสอด นำไปขายในตลาด เป็นรายได้เสริมหาเลี้ยงครอบครัวแม้จะได้ราคาไม่มาก แต่ช่วยบรรเทารายได้ที่ตกต่ำจากราคายางตกอยู่ในขณะนี้

วันที่ 29 ม.ค.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ราคายางพารายังคงตกต่ำลงอย่างน่าเป็นห่วง ชาวบ้านส่วนใหญ่ที่มีอาชีพสวนยางได้รับความเดือดร้อน บางรายต้องโค่นต้นยางเพื่อนำไม้ยางไปขายเพื่อนำเงินมาปลูกพืชอื่นทดแทน ขณะที่บางรายต้องหารายได้เสริม เหมือนอย่างชาวบ้านใน ต.เกาะลันตาน้อย อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ ซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำสวนยาง ได้ออกมาหาหอยหวาน เพื่อหารายได้เสริม ที่บริเวณชายหาดบ้านหลังสอด ต.เกาลันตาน้อย กว่า 300 คน ตลอดแนวชายหาดระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

โดยหอยหวาน หรือหอยตลับ จะพบมากบริเวณชายหาดทราย ในเกาะลันตาน้อย และพบมากบริเวณหาดหลังสอด ช่วงน้ำลงหอยจะฝังตัวอยู่ตามหาดทราย เมื่อถูกคลื่นซัดขึ้นบนชายหาดจะถีบตัววิ่งตามผิวน้ำ จากนั้นจะซ่อนตัวในพื้นทราย โดยที่ชาวบ้านใช้ช้อนขุด หรือใช้มือคลำแล้วเก็บใส่ย่ามได้คนละ 2-3 กก. นำไปขายในตลาดที่ราคา กก.ละ 60-80 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาด เป็นสร้างรายได้วันละไม่ต่ำกว่า 200 บาท โดยใช้เวลาเพียง 3-4 ชั่วโมง ต่อวัน แม้ว่ารายได้ไม่มากแต่ช่วยบรรเทารายได้ที่ตกต่ำจากราคายางตกอยู่ในขณะนี้

นางจันทร์ศรี เหมพิทักษ์ อายุ 55 ปี ชาวตำบลเกาะลันตาน้อย กล่าวว่า ช่วงนี้ราคายางพาราตกต่ำประกอบกับใกล้ช่วงฤดูหยุดพักกรีดยางพารา ทำให้รายได้ไม่พอค่าใช้จ่าย จึงต้องออกมาหาหอยขายเป็นรายได้เสริม โดยปีนี้พบว่าหอยมีจำนวนมาก วันหนึ่งจะเก็บได้คนละ 1-2 กก.ขายได้ประมาณ 100-200 บาท ถึงแม้รายได้ไม่มากมาย แต่ก็สามารถช่วยบรรเทาความเดือดร้อนไปได้ในระดับหนึ่ง

ชาวบ้านเกาะลันตา แห่เก็บหอยหวาน สร้างรายได้ช่วงยางราคาตก - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Jaroen Compeerapap



การมองเห็น ระบบนิบิรุและ planet x บนท้องฟ้า หลายคนอยากเห็น และบันทึกภาพจากกล้องเพื่อแบ่งปันกันนั้น เป็นเรื่องซับซ้อนมากแม้นักดาราศาสตร์ ที่เคยชินกับกล้องส่อง และ เห็นภาพดวงดาวโดยอิงกับแกน X Y เนื่องด้วยระบบนิบิรุ และโลกของเราต่างหมุนรอบตัวเองในวงโคจร คนละวงโคจรว่าง่าย ๆ อยู่กันคนระบบสุริยะ มีวงโคจรต่างกัน ขณะที่เจ้าดาวนิบิรุก็หมุนเหมือนกัน ดังนั้นการมองเห็นบนท้องฟ้าจึงไม่เหมือนกันจากจุดพื้นที่ ๆ มองต่างกัน นักดาราศาสตร์ได้แบ่งโลกออกเป็นส่วน ๆ หลัก ๆ เขาเรียกว่าครึ่งโลกทางเหนือ เรียกว่า Northern hemisphere และครึ่งโลกทางใต้เรียกว่า Southern hemisphere ขอให้ดูตามรูป ทำเลที่ตั้งของประเทศไทยเราจัดอยู่ครึ่งโลกทางเหนือ แต่อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร ติดกับครึ่งโลกทางใต้ด้วย มีคนถ่ายรูประบบนิบิรใกล้กับดวงอาทิตย์ ในมุมประมาณ 11 นาฬิกา ส่วนครึ่งโลกทางเหนือจะถ่ายเห็นตอนมุม 4 นาฬิกาตอนดวงอาทิตย์ใกล้ตกดิน ทั้งนี้ทั้งนั้นยังขึ้นกับเดือนที่ถ่ายด้วยเหมือนกันเพราะจะทำให้ตำแหน่งโลกอยู่ในมุมมองต่าง ๆ บางเดือนไม่อาจมองเห็นได้เพราะ ระบบนิบุรุ วงโคจรของมันมาทางใต้ของโลก สำหรับบ้านเราใครที่ชอบค้นคว้าตามหาความจริง ลองดูตอน 11 นาฬิกาดู ผมยังไม่ได้ลองเลยเพราะอาจจะต้องใช้แผ่น่กรองแสงสีต่างไว้ดู ระวังสายตาอย่าไปจ้องดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าต้องมีแผ่นกรองแสงกระดาษแก้ว กระจกสีก็น่าจะได้ เจอแล้วมาแบ่งปันกันดูว่ามันมีจริง ๆ หรือไม่ เพราะเราเห็นแต่ภาพจากต่างประเทศ ภาพที่สองเป็นตำแหน่งดวงดาววันที่ 30 มกราคม 2558 เอามาฝาก

 

ภาคเหนือ-ตะวันตกอังกฤษหิมะตกหนัก



หิมะกระหน่ำหนักทั่วภาคเหนือและภาคตะวันตกของอักงฤษในวันพฤหัสบดี ส่งผลกระทบหนักต่อการสัญจรทั้งทางบก และทางอากาศ

วันพฤหัสบดี 29 มกราคม 2558 เวลา 20:11 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า หิมะที่ตกลงมาอย่างหนักในวันนี้ ทำให้ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ต้องยกเลิกเที่ยวบินโดยสารเข้าออกจำนวนมาก และการสัญจรบนนถนนและทางรถไฟหลายสายถูกปิด ทั่วภาคเหนือและภาคตะวันตกของอังกฤษ ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติได้ออกประกาศเตือนภัยในระดับ "เตรียมพร้อม" รับมือภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น

มีรายงานโรงเรียนหลายสิบแห่งในเขตคัมเบรีย ทางเหนือของเกาะอังกฤษ และในไอร์แลนด์เหนือ ปิดการเรียนการสอน บริการรถบัสโดยสารประจำทางในเมืองเชฟฟีลด์หลายสายได้รับผลกระทบ นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ออกประกาศเรียกร้องให้ประชาชนสนใจติดตามรับฟังการประกาศของทางการเกี่ยวกับสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับสั่งหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ให้รายงานสถานการณ์เป็นระยะ.

ขอขอบคุณภาพจาก บีบีซี นิวส์

ภาคเหนือ-ตะวันตกอังกฤษหิมะตกหนัก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

สุขภาพนักสิทธิมนุษยชนชื่อดังชาวซาอุฯแย่ลง



ภรรยาเผย สามีนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชาวซาุดีอาระเบียย่ำแย่ลง หลังถูกเฆ๊่ยนชุดแรก 50 ครั้ง จากทั้งหมด 1,000 ครั้ง ตามคำสั่งศาล

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 02:41 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่า นางเอนซาฟ ไฮดาร์ ภรรยาของ นายราอิฟ บาดาวี บล็อกเกอร์ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ "Free Saudi Liberals" นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนชื่อดังของซาอุดีอาระเบีย ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยผ่านล่าม ที่กรุงออตตาวา เมื่อวันพฤหัสบดี ว่า สุขภาพของสามีย่ำแย่ลงมาก หลังถูกเฆี่ยนชุดแรก 50 ครั้ง ตามคำสั่งศาลเมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่ผ่านมา และเชื่อว่า นายราอิฟจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ หากถูกลงโทษครบตามคำตัดสิน

นายราอิฟวัย 31 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบียจับกุม เมื่่อวันที่ 17 มิ.ย. 2555 ในความผิดฐานดูหมิ่นศาสนา อาชญากรรมไซเบอร์ และไม่เชื่อฟังบิดา ซึ่งถือเป็นความผิดอาญาประเภทหนึ่งในซาอุดีอาระเบีย ตอนแรกศาลตัดสินเมื่อปี 2556 ให้จำคุกเป็นเวลา 7 ปี และเฆี่ยน 600 ครั้ง แต่ปีต่อมากลับคำตัดสินใหม่เป็นจำคุก 10 ปี เฆี่ยน 1,000 ครั้ง และปรับเป็นเงิน 1 ล้านริยาล (ประมาณ 8.7 ล้านบาท) โดยโทษเฆี่ยนให้เฆี่ยนสัปดาห์ละ 50 ครั้ง ทุกสัปดาห์ติดต่อกันไปจนกว่าจะครบ แต่การเฆี่ยนรอบที่ 2 ถูกเลื่อนมา 2 ครั้ง เนื่องจากสุขภาพของนายราอิฟไม่อำนวย

นางเอนซาฟซึ่งปัจจุบันได้รับสถานะผู้ลี้ภัยการเมือง อาศัยอยู่ในแคนาดา พร้อมกับลูก 3 คน ตั้งแต่ปี 2556 กล่าวอีกว่า เธอรู้สึกเป็นห่วงสามี เนื่องจากมีรายงานว่าสุขภาพแย่ลงเรื่อยๆ หลังถูกเฆี่่ยนชุดแรก และเธอเชื่อว่าไม่มีมนุษย์คนไหนทนทานได้ กับการถูกเฆี่ยน 50 ครั้งทุกสัปดาห์.

สุขภาพนักสิทธิมนุษยชนชื่อดังชาวซาอุฯแย่ลง | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

อังกฤษเรียกทูตรัสเซียแจงเหตุเครื่องบินรบเฉียดน่านฟ้า



รัฐบาลอังกฤษเชิญเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าพบเพื่อขอคำอธิบาย หลังเครื่องบินรบ 2 ลำของกองทัพมอสโกบินเฉียดน่านฟ้าบริเวณช่องแคบอังกฤษ

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 09:02 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ว่ากระทรวงกลาโหมอังกฤษออกแถลงการณ์เรื่องการเชิญนายอเล็กซานเดอร์ วลาดิมิโรวิช ยาโคเวนโก เอกอัคคราชทูตรัสเซียประจำกรุงลอนดอน เข้าพบเมื่อวันพฤหัสบดี เพื่อหารือและต้องการคำชี้แจงอย่างเร่งด่วน เกี่ยวกับกรณีที่เครื่องบินทิ้งระเบิด 2 ลำของกองทัพรัสเซีย รุ่น "ตูโปเลฟ ตู-95" บิดเฉียดเข้ามาใกล้น่านฟ้าเหนือเมืองบอร์นมัธ ใกล้ช่องแคบอังกฤษ ทางตอนใต้ของประเทศ เมื่อวันพุธ

แม้เครื่องบินทั้งสองลำจะไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้า แต่การที่เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลกระทบต่อระบบการบินพลเรือน และคือเหตุผลที่กระตุ้นให้รัฐบาลเวสต์มินเสอตร์ต้องเชิญเอกอัครราชทูตรัสเซียให้เข้ามาอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำนักงานการบินพลเรือนของอังกฤษกลับกล่าวว่า เครื่องบินรบของรัสเซียนั้นไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของอังกฤษ จึงอาจเป็นไปได้ว่า เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศอังกฤษ 2 ลำที่บินไล่ประกบและสกัดเครื่องบินรบของอีกฝ่ายต่างหาก อาจสร้างปัญหาให้กับการสัญจรของเครื่องบินพาณิชย์ในเวลานั้น

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพ.ย.ปีที่แล้ว เรือตรวจการณ์ 4 ลำของกองทัพเรือรัสเซียเดินทางเข้ามาบริเวณช่องแคบอังกฤษ ก่อนกลับออกไปหลังเรือตรวจการณ์ของกองทัพเรืออังกฤษรีบเข้าประกบ
อังกฤษเรียกทูตรัสเซียแจงเหตุเครื่องบินรบเฉียดน่านฟ้า | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ConStantine Elzindu



‪#‎ข่าวภัยพิบัติ‬
/// ถนนในรัสเซียกลายเป็นบล็อกน้ำแข็ง เหมือนช่องฟรีซ ///
ตอนนี้เมือง Dudinka ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศรัสเซีย ได้กลายเป็นเมืองน้ำแข็ง ถนนหลายสายกลายเป็นบล็อกน้ำแข็งและได้ห่อหุ้มรถยนต์ที่จอดอยู่ตามถนน ในช่วงกลางคืนมีอุณหภูมิลดต่ำลงถึง -40 องศาเซลเซียส จากการบันทึกเมืองแห่งนี้มีอุณหภูมิต่ำสุดถึง -56.7 องศาเซลเซียส
_____________________
Cr: Next step

 

ConStantine Elzindu



‪#‎ข่าวภัยพิบัติ‬
/// นักวิทยาศาสตร์ชี้กรุงดับลินไอซ์แลนด์ อาจจมทะเลเพราะเหตุโลกร้อนขึ้น ///
รายการโทรทัศน์ "อีโค อาย" (Eco Eye) ของรัฐบาล "ไอซ์แลนด์" (Ireland) ได้กล่าวอ้างคำพูดของนักวิทยาศาสตร์ว่า มีโอกาส 2 เปอร์เซ็นต์ที่กรุง "ดับลิน" (Dublin) ของ "ไอซ์แลนด์" อาจจะจมอยู่ใต้ทะเลในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเมื่อปีที่ผ่านมา"ไอซ์แลนด์" มีสภาพอากาศร้อนจัด และอุณหภูมิสูงสุดในประวัติศาสตร์ด้วย นอกจากนั้น ประชาชนในกรุง "ดับลิน" เปิดเผยว่า ปัจจุบันความเย็นของน้ำในทะเล ไม่เหมือนเมื่อ 10 ถึง 15 ปีที่ผ่านมา ขณะที่ฤดูร้อนก็ยาวนานกว่าปกติ โดยในช่วงฤดูหนาว ก็ไม่มีหิมะตกแล้ว
นอกจากนั้น เมืองอื่นๆ ที่อยู่ในพื้นที่ลุ่ม อาทิ เมือง"คอร์ก" (Cork),"เบลฟาสต์" (Belfast) และ"กัลเวย์" (Galway) ก็มีโอกาสที่จะจมอยู่ใต้ทะเลเช่นกันเนื่องจากเป็นพื้นที่ ที่ป้องกันได้ยาก นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่า จะต้องใช้งบประมาณราว 5,600 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 182,500 ล้านบาทในการป้องกันประชากร และพื้นที่เสี่ยงตามชายฝั่งของประเทศ ทั้งนี้ ทางการ"ไอซ์แลนด์"ประกาศว่า จะตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และฟื้นฟูธรรมชาติให้สอดคล้องกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจให้ได้ภายในปี 2593
Cr: Ch 7

 

Focus : แปลกแต่จริง!! โรคหัดในดิสนีย์แลนด์เกิดจาก “เชื่อฉีด -ไวรัสมีชีวิต- เข้าตัวเด็กทำให้เป็นออทิสติก” หลังติดเชื้อไปแล้ว 90 ทั่วสหรัฐฯ ลามเข้าเม็กซิโก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2558 20:59 น.



เอเจนซีส์ - ถึงสหรัฐฯจะถูกมองเป็นประเทศมีเสรีภาพ เจ้าพ่อประชาธิปไตย และรวมไปถึงความล้ำยุคอีกหลายด้าน แต่มีอีกหลายเรื่องที่อาจคาดไม่ถึงว่าจะเกิดในสหรัฐฯ เป็นต้นว่า พรรครีพับลิกันของสหรัฐฯที่ครองเสียงข้างมากในทั้งสภาสูงและสภาล่างมีแนวคิดไม่ยอมรับทฤษฎีโลกร้อน แต่ในกรณีการระบาดโรคหัดที่เริ่มจากดีสนีย์แลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนียช่วงกลางเดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมา และลามไปยังอีก 10 รัฐ และข้ามไปยังเม็กซิโก ซึ่งยอดติดเชื้อล่าสุดรวมกันไม่ต่ำกว่า 90 รายจากการรายงานของไทม์ส ในวันนี้(29) กลับพบว่าเกิดมาจากแนวคิดการเคลื่อนไหวปฎิเสธการทำวัคซีนที่แพร่หลายอยู่ทั่วอเมริกาในขณะนี้ ซึ่งล่าสุดวันพฤหัสบดี(29) โรงเรียนมัธยมปลายในรัฐแคลิฟอร์เนียสั่งพักการเรียนนักเรียน 66 คน เป็นเวลา 2 สัปดาห์เนื่องมาจากการระบาดของโรคหัด และในรัฐแอริโซนา มีรายงานการเฝ้าจับตาอีก 1,000 คน ที่อาจติดโรคหัดเชื่อมโยงสวนสนุกดิสนีย์แลนด์

การระบาดของโรคหัด (measles) ที่มีต้นตอมาจากสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย และลามไปยังอีก 10 รัฐใหญ่ในสหรัฐฯ เมื่อไม่นานมานี้ ที่ล่าสุดมีตัวเลขการติดเชื้อไม่ต่ำกว่า 90 ราย รวมถึงเม็กซิโก โดยไทม์สรายงานวันนี้(29)ว่า โรงเรียนมัธยมปลาย Palm Desert High School ในริเวอร์ไซด์ เคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งพักการเรียนนักเรียนร่วม 66 คน เป็นเวลา 2 สัปดาห์เนื่องมาจากการระบาดของโรคหัด เว้นแต่ว่า นักเรียนเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้ว่าได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันมาก่อนหน้านี้ โดยการประกาศสั่งพักการเรียนนี้สืบเนื่องมาจากเชื่อว่า หนึ่งในนักเรียนกลุ่มต้องสงสัยได้แพร่โรคหัดไปให้กับนักเรียนอื่นอีก 20 ราย

และในรัฐแอริโซนา มีรายงานการเฝ้าจับตาอีก 1,000 คน ที่อาจติดโรคหัดเชื่อมโยงสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ในวันเดียวกัน(29) โดยฟอกซ์นิวส รายงานว่าแผนกสาธารสุขรัฐแอริโซนา สั่งเฝ้าจับตา 1,000 คน ที่รวมถึงเด็ก 200 คน ที่อาจติดโรคหัดที่ศูนย์การแพทย์ในฟินิกซ์ และได้มีการขอร้องให้ผู้ที่ได้รับเชื้อ และยังไม่เคยได้รับวัคซีนป้องกันมาก่อนให้อยู่แต่ภายในบ้านเป็นเวลา 21 วัน หรือหากจำเป็นต้องเดินทางออกมาที่สาธารณะ ต้องสวมหน้ากากอนามัยป้องกันทุกครั้ง “รับทราบว่าเป็นการยากที่ต้องถูกกักบริเวณอยู่แต่ภายในที่พักเป็นเวลานาน 21 วัน แต่ทว่าทางรัฐแอริโซนาต้องการให้ชาแอริโซนาทำตามคำแนะนำนี้อย่างเคร่งครัด เพราะเมื่อผู้คนเดินทางไปจับจ่ายที่ห้างสรรพสินค้า และมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายโรคไปสู่คนอื่นอีกร่วมร้อยอย่างรวดเร็ว ในขณะนี้เราต้องต่อสู้กับการระบาดของโรคหัดนี้ที่กำลังวิกฤต” วิล ฮัมเบอร์ (Will Humble) ผู้อำนวยการสาธารณสุขรัฐแอริโซนาแถลง

แต่อย่างไรก็ตาม รัฐแอริโซนาไม่มีตัวเลขนักเรียนรัฐแอริโซนาที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด หรือช่วงอายุ โดยในวันอังคาร(28) มีหญิงชาวแอริโซนาใน มารีโคปา เคาน์ตี (Maricopa County) ได้รับการยืนยันว่าป่วยเป็นโรคหัดที่เชื่อมโยงกับการระบาดในดิสนีย์แลนด์ โดยได้รับการแพร่เชื้อจากครอบครัวในพินาล เคาน์ตี (Pinal County) ที่กลับมาจากการเที่ยวสวนสนุกดีสนีย์แลนด์

สาเหตุการแพร่ระบาดล่าสุดในสหรัฐฯ เชื่อว่าเกิดมาจากแนวคิดการปฎิเสธการฉีดวัคซีนในสหรัฐฯแพร่หลายในหมู่ผู้ปกครองในสหรัฐฯ โดย USA TODAY สื่อสหรัฐฯชี้ในวันจันทร์(27)ว่า การเกิดโรคระบาดแสดงให้เห็นถึง การได้ข้อมูลที่ผิดพลาด การถูกชี้นำในทางที่ผิดโดยบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงสังคมสหรัฐฯ และรวมไปถึงการไม่บังคับใช้กฎหมายของรัฐอย่างเคร่งครัด ซึ่งเจมส์ เชอร์รี (James Cherry) ได้เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส สื่อสหรัฐฯ ว่า สาเหตุการระบาดของโรคหัดในสหรัฐฯที่เริ่มต้นจากสวนสนุกในรัฐแคลิฟอร์เนียมีสาเหตุเกิดมาจากแนวคิดต่อต้านการทำวัคซีนแน่นอน 100 %

ในปี 1960 พบว่าโรคหัดได้สังหารคนไปถึง 450 คนต่อปี และทำให้ต้องกลายเป็นผู้พิการจำนวนมากกว่านั้น ก่อนปี 2000 โรคหัดนี้ได้ถูกกำจัดไปจากสหรัฐฯเนื่องจากวัคซีนที่มีฤทธิ์ครอบจักรวาลที่ได้ปกป้องบุตรหลานชาวอเมริกันจากโรคร้าย แต่ในปี 2014 กลับพบว่า สหรัฐฯกลับต้องเผชิญหน้ากับผุ้ป่วยโรคหัดอีกครั้งจำนวนถึง 644 ราย และเกือบจะแค่ 1 เดือนแรกของปี 2015 มีปรากฏตัวเลขผุ้ติดเชื้อโรคหัดไปแล้วไม่ต่ำกว่า 90 ราย ที่ล้วนเชื่องมโยงกับการระบาดโรคหัดในดีสนีย์แลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย

ถึงแม้ตัวเลขที่พบยังมีจำนวนไม่สูง แต่แนวโน้มการติดเชื้อดูเหมือนจะเพิ่มอย่างรวดเร็ว เพราะพบว่ามีผู้ปกครองชาวอเมริกัน จำนวนมากต่างตกเป็นเหยื่อของแนวคิด “การไม่ยอมรับทำวัคซีน” ที่เผยแพร่โดยผู้มีชื่อเสียงในวงสังคมอเมริกันที่ได้แนวคิดมาจากการศึกษาในอังกฤษที่อ้างว่า การทำวัคซีน MMR (โรคหัด โรคคางทุม และโรคหัดเยอรมัน) นั้นเป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เกิดโรคออทิสติกได้ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่จะพบว่าแนวคิดต่อต้านการฉีดวัคซีนนั้นมีนักการเมืองสายพรรครีพับริกันอยู่ในหัวขบวน พรรครีพับลิกันที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นพรรคแนวอนุรักษ์นิยม ปฎิเสธแนวคิดทฤษฎีโลกร้อน รวมไปถึงปกป้องชีวิตในครรภ์ด้วยการไม่ต้องการให้ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ หรือไม่สนับสนุนให้รัฐใช้เงินของรัฐสนับสนุนโครงการวางแผนครอบครัว และอื่นๆอีกมากมาย The DC World Affairs Blog ได้ลงบทความ “Ron Paul and the The Dangers of the Anti-Vaccine Movement”ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2011 ถึงอันตรายจากแนวคิดต่อต้านการทำวัคซีนของรอน พอล และพรรคพวก ที่ปัจจุบันรอน พอล ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกรัฐเทกซัส โดยกล่าวว่า สว. พอลและผู้ร่วมแนวคิด เช่น เจนนี แมคคาธี (Jenny McCarthy) นักแสดงหญิงชาวสหรัฐฯ ได้ร่วมกันชักจูงพ่อแม่ชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากไม่ให้นำบุตรหลานเข้ารับวัคซีน โดยโยงไปถึงผลข้างเคียงที่อาจทำให้เกิดโรคออทิสติก และมีผู้ปกครองอเมริกันที่มีบุตรหลานป่วยด้วยโรคออทิสติกไม่ต่ำกว่า 5,000 ในปี2011 ได้ยื่นฟ้องร้องค่าเสียหายจากการนำบุตรหลานไปเข้ารับวัคซีน

ต้นตอการศึกษาออทิสติกและการรับวัคซีนมาจากการศึกษาที่ถูกตีพิมพ์ลงวารสารอังกฤษ The Lancet ในวันทื่ 28 กุมภาพันธ์ ในปี 1998 ของการศึกษาโดยนายแพทย์ แอนดรูว์ เวกฟิลด์ (Andrew Wakefield) ที่ได้อ้างว่า ในการวิจัยของเขาพบความเชื่อมโยงของวัคซีน MMR และการป่วยด้วยโรคออทิสติก และจนถึงปี 2011 ตลอดการศึกษางานวิจัยอีกไม่ต่ำกว่า 25 ชิ้น ไม่พบความเชื่อมโยงวัคซีนนี้กับโรคออทิสติก แต่อย่างใด และพบว่าในปี 1993 ญี่ปุ่นยกเลิกการแจกจ่ายวัคซีน MMR ในเด็กแต่กลับพบว่าอัตราป่วยด้วยโรคออสติกกลับสูงขึ้น และภายหลังพบว่า เวกฟิลด์และเพื่อร่วมวิจัยจากอังกฤษได้กุผลการศึกษานี้ โดยวารสารอังกฤษได้ประณามว่า “เป็นความตั้งใจที่จะหลอกลวงผลงานศึกษา” และเมื่อ The Lancet ย้อนกลับไปตรวจสอบแพทย์ที่ร่วมลงชื่อในงานวิจัยชิ้นนี้ของเวกฟิลด์พบว่า แพทย์เหล่านั้นได้ถอนชื่อออกจากงานวิจัยชิ้นนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้สนับสนุนแนวคิดนี้ เช่น แมคคาธี ยังคงปกป้องเวกฟิลด์และผลงานวิจัยของเขาถึงแม้ผลวิจัยล่าสุดจะไม่ชี้ความเชื่อมโยงก็ตาม อย่างไรก็ตาม เหมือนเช่นในสหรัฐฯ ในขณะนั้นโรคหัดได้ระบาดในอังกฤษ และมีตัวเลขผู้ปกครองนำบุตรหลานเข้ารับการทำวัคซีนเพียง 80% ในขณะที่ CDC สำนักงานป้องกันและควบคุมโรคติดต่อในสหรัฐอเมริการายงานว่ามีตัวเลขผู้ปกครองอเมริกันถึง 40 % ตัดสินใจเลื่อน หรือปฎิเสธนำบุตรหลานเข้ารับวัคซินอย่างน้อย 1 รายการ

โดย USA TODAY ชี้ข้อบกพร่องในสหรัฐฯ จากช่องโหว่กฎหมายรัฐทั่วอเมริกาที่อนุญาตให้ผู้ปกครองสามารถใช้ข้ออ้างทางการแพทย์ที่จะไม่นำบุตรหลานไปฉีดวัคซีนที่กำหนดได้ แต่ทว่าเป็นที่น่าแปลกใจที่ทุกรัฐในอเมริกา ยกเว้นรัฐมิสซิสซิปปีและรัฐเวสต์ เวอร์จิเนีย อนุญาตให้พ่อแม่อเมริกันสามารถใช้ “ข้ออ้างทางศาสนา” เพื่อเลี่ยงนำบุตรหลานเข้ารับวัคซีน นอกจากนี้ยังพบว่ามีอีกถึง 19 รัฐที่อนุญาตให้ใช้เหตุผล “แนวคิดทฤษฎี” เพื่อที่จะเป็นข้ออ้างไม่ต้องการให้เด็กเข้ารับวัคซีน ซึ่งในสหรัฐฯผู้ปกครองต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างจากหลายประเทศ เช่น ไทย ที่เด็กจะได้รับวัคซีนโดยรัฐบาลเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย

เช่นในรัฐทางตะวันออกของสหรัฐฯ มีขั้นตอนง่ายมากในการไม่ขอรับทำวัคซีน ผู้ปกครองในรัฐนิวเจอร์ซีเพียงแค่ยื่นจดหมายที่ระบุว่า การเข้ารับวัคซีนจะเป็นการขัดขวางต่อสิทธิเสรีภาพที่จะปฎิบัติตามหลักปฏิบัติทางศาสนา และเด็กคนนั้นไม่จำเป็นต้องทำวัคซีน โดยพบว่าในปี 2014 มีเด็กนักเรียนถึง 9,000 รายที่ได้รับข้ออ้างทางศาสนาไม่ต้องเข้ารับวัคซีน สูงเป็น 5 เท่าของจำนวนในปี 2005 ซึ่งกระจุกตัวในเคาน์ตี 4แห่ง

นอกจากนี้ รอยเตอร์ยังตอกย้ำถึงสาเหตุการระบาดสืบเนื่องจาก “แนวคิดปฎิเสธการฉีดวัคซีน” ในวันพุธ(28) ว่า แผนกสาธารณสุขประจำรัฐแคลิฟอร์เนียออกมายอมรับว่า การระบาดโรคหัดในรัฐแคลิฟอร์เนียเกิดจาก ผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนแพร่โรคติดต่อไปสู่ผู้อื่น ซึ่งพบว่าภายในรัฐโกลเดนสเตทแห่งนี้ มีนักเรียนจำนวนถึง 2.7 % ได้รับข้อยกเว้นเหตุผลเสรีภาพในการปฎิบัติตามศาสนาไม่ต้องทำวัคซีน

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ชาวอเมริกันที่เห็นการระบาดของโรคหัดยังคงยืนยันในความเชื่อต่อต้านการทำวัคซีนให้เด็ก โดย LA Times รายงานในวันที่ 25 มากราคม ล่าสุด ถึงความรู้สึกของผู้ปกครองที่ยังคงยืนยันไม่ต้องการให้มีการทำวัคซีนของแกรี โมแนแฮน (Gary Monahan) สมาชิกสภาเมืองเมซา รัฐแอริโซนา คุณพ่อลูก 6 ที่มีหนึ่งในนั้นป่วยด้วยโรคออทิสติก โดยโมแนแฮนยอมรับว่า ตัดสินใจให้บุตร 4 คนสุดท้ายปฎิเสธการทำวัคซีน โดยสมาชิกสภาเมืองเมซาให้ความเห็นว่า “ จะให้พูดอย่างไรที่จะไม่ดูเหมือนคนไร้สติ และผมไม่ต้องการให้ใครติดโรคหัด แต่จะให้ผมทำใจยอมรับได้อย่างไรที่ต้องทนเห็นการฉีดไวรัสที่ยังมีชีวิตถึง 3 ตัวเข้าสู่ร่างกายของเด็กอายุแค่ 1ปี มันดูหัวใจสลายและโหดร้ายเกินจะทำใจยอมรับได้ ซึ่งรัฐบาลและรัฐต้องทำให้ง่ายมากกว่านี้สำหรับผู้ปกครองในการเข้าสู่ระบบสุขภาพเพื่อจะทำให้ถูกต้อง” นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับความเห็นของ ดี คล็อก (Dee Klocke) คุณแม่ลูก 2 ที่ลูกของเธอเข้าเรียนในโรงเรียนวาลดอร์ฟ (Waldorf School) ในออเรนจ์ เคาน์ตี รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งประชากรส่วนใหญ่ในเคาน์ตีแห่งนี้มีฐานะและการศึกษาดี แต่กลับพบว่า นักเรียนในโรงเรียนนี้ถึง 41% ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน โดยเธอให้ความเห็นถึงการโอกาสติดโรคหัดสำหรับบุตรของเธอว่า “ถ้าหากเด็กๆต้องติดโรคหัด แล้วจะทำไม… บางทีที่ดิฉันกล่าวเช่นนี้เพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น”

Focus :

 

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐฯต่ำสุดเกือบ15ปี-คนว่างงานเหลือ5.6%
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มกราคม 2558 02:07 น.



รอยเตอร์/เอเอฟพี - ยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์รายใหม่จากประกันการว่างงานของสหรัฐฯ ดิ่งลงต่ำสุดในรอบเกือบ 15 ปีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่อัตราคนว่างงานก็ลดลงสู่ระดับร้อยละ 5.6 ย้ำถึงสัญญาณแห่งความหวังของตลาดแรงงานชาติเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ของโลกรายนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเผยเมื่อวันพฤหัสบดี(29ม.ค.) ว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายใหม่ลดลงจาก 43,000 อัตราเมื่อสัปดาห์ก่อน เหลือแค่ 265,000 อัตราในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 มกราคม ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2000 และถือเป็นลดลงรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนพศจิกายน 2012

ตัวเลขที่ลดลงครั้งนี้ถือว่ามากกว่าที่คาดหมายไว้มาก ด้วยนักเศรษฐศาสตร์หลายคนประมาณการณ์ว่าน่าจะลดลงมาแตะระดับราวๆ 300,000 อัตรา อย่างไรก็ตามหากอ้างว่ามันสะท้อนถึงความเข้มแข็งของตลาดแรงงานก็อาจจะเป็นการกล่าวเกินจริง เนื่องจากข้อมูลนี้ได้นับรวมวันหยุดราชการ "วันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง" เข้าไปด้วย

ตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับขึ้นเพิ่มเติมเล็กน้อยจากข้อมูลดังกล่าว ส่วนดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมีการเปลี่ยนแปลงในกรอบแคบๆ

ในส่วนของค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของยอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์รายใหม่จากประกันการว่างงาน ซึ่งถูกมองว่าเป็นตัววัดแนวโน้มตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากมีความผันผวนน้อยกว่าตัวเลขรายสัปดาห์ พบว่าลดลง 8,250 อัตรา เหลือ 298,500 อัตรา ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง ลดลง 71,000 ราย สู่ระดับ 2.4 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 17 มกราคม

การลดลงล่าสุดของผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานนี้ ช่วยเพิ่มมุมมองในทางบวกต่อสภาวการณ์ของตลาดแรงงาน ขณะที่มันถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากธนาคารกลางหรัฐฯ ย้ำถึงการประเมินทางในบวกต่อตลาดแรงงาน

ข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯยังพบด้วยว่าอัตราคนว่างงาน ลดลงสู่ระดับร้อยละ 5.6 ในเดือนธันวาคม ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2008 ขณะที่เศรษฐกิจของประเทศเมื่อปีที่แล้ว มีการสร้างงานมากที่สุดในรอบ 15 ปี หรือเกือบ 3 ล้านอัตรา

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011676

 

EU ไฟเขียวยืดเวลาคว่ำบาตร “รัสเซีย” ถึง ก.ย. แต่ยังไม่มีมาตรการบีบคั้นเพิ่ม
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 30 มกราคม 2558 09:24 น.



รอยเตอร์ – รัฐมนตรีต่างประเทศของกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) มีมติวานนี้(29) ให้ขยายเวลาคว่ำบาตรรัสเซียต่อไปจนถึงเดือนกันยายน โดยยังไม่ประกาศแผนกดดันทางเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่รัฐบาลใหม่กรีซซึ่งหลายฝ่ายยังไม่มั่นใจในจุดยืนยอมที่จะสนับสนุนบทลงโทษต่อมอสโก

ที่ประชุมรัฐมนตรีอียูยังคงคำสั่งห้ามเดินทางและอายัดทรัพย์สินที่ประกาศไว้เมื่อปีที่แล้ว และในการประชุมครั้งถัดไปวันที่ 9 กุมภาพันธ์นี้ก็จะมีการพิจารณาใส่รายชื่อบุคคลลงในบัญชีคว่ำบาตรเพิ่มเติมด้วย

อย่างไรก็ตาม บรรดารัฐมนตรีได้ละข้อความ “ออกมาตรการจำกัดเพิ่มเติม” ที่ปรากฏในร่างหนังสือก่อนการประชุม โดยหัวหน้าฝ่ายกิจการต่างประเทศของอียูชี้ว่า จะมีการตัดสินใจอีกครั้งในการประชุมผู้นำอียูเดือนหน้า

รัฐบาลเยอรมนี ชี้ว่า การออกบทลงโทษเพิ่มเติมจะต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในยูเครนว่ามีการรุกคืบของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ซึ่งจะเป็นเหตุอันควรให้ต้องเพิ่มมาตรการกดดันหรือไม่

การประชุมนัดฉุกเฉินระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศอียูมีขึ้น หลังจากกบฏในยูเครนตะวันออกฝ่าฝืนข้อตกลงหยุดยิงที่บังคับใช้เมื่อ 5 เดือนก่อน และเริ่มปฏิบัติการเชิงรุก โดยเมื่อวันเสาร์(24) กองกำลังกบฏได้ระดมยิงปืนใหญ่ใส่เมืองท่ามารีอูโพลจนทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 30 ราย และนำมาซึ่งการปะทะอย่างรุนแรงกับทหารของยูเครน แต่ดูเหมือนฝ่ายกบฏเองก็ยังไม่มีเจตนาโจมตีเพื่อยึดเมืองให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ

ด้านสหรัฐฯ ซึ่งร่วมกับอียูคว่ำบาตรมอสโกเมื่อปีที่แล้ว ก็ระบุว่ายังไม่มีแผนกดดันใดๆ เพิ่มเติมเช่นกัน

“แน่นอนว่าสหรัฐฯ เห็นด้วยกับท่าทีของอียู มันคือมาตรการเชิงบวก” เจน ซากี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เอ่ยถึงการยืดเวลาคว่ำบาตรรัสเซียโดยสหภาพยุโรป

“นี่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่า การกระทำที่เกิดขึ้นในช่วงหลายวันและหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ และจะต้องได้รับการตอบโต้”

ท่าทีของกรีซถูกจับตามองเป็นพิเศษในการประชุมรัฐมนตรีอียูที่กรุงบรัสเซลส์ หลังจากที่นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ซีปราส จากพรรคไซรีซาซึ่งมีแนวคิดต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเริ่มเข้าบริหารประเทศเมื่อวันจันทร์(26) โดยรัฐบาลเอเธนส์ติติงอียูที่ไม่ปรึกษาหารือก่อนจะขู่ลงโทษมอสโกเพิ่ม

อย่างไรก็ดี นิโกส กอตเซียส รัฐมนตรีต่างประเทศกรีซ ปฏิเสธชัดเจนต่อแนวคิดที่ว่า เอเธนส์อาจจะคัดค้านมาตรการคว่ำบาตรในทุกรูปแบบ

รัฐมนตรีต่างประเทศอิตาลี ระบุว่า กอตเซียส ได้ประกาศกลางที่ประชุมว่า “ผมไม่ใช่หุ่นเชิดของรัสเซีย” และลงนามสนับสนุนคำแถลงที่ว่า มอสโกอยู่เบื้องหลังเหตุนองเลือดในยูเครนตะวันออก และเรียกร้องให้รัสเซียยุติการสนับสนุนกลุ่มแบ่งแยกดินแดน

นักการทูตระบุว่า กรีซ, อิตาลี และออสเตรียต่างเรียกร้องให้อียูเลื่อนแผนกดดันรัสเซียเพิ่มเติมออกไปก่อน ขณะที่อังกฤษและกลุ่มประเทศบอลติกต้องการให้อียูประกาศความชัดเจนของมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมโดยเร็วที่สุด


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011723

 

อดีต ปธน.โสมขาวแฉ “คิม จองอิล” ขอเงินสด “หมื่นล้านดอลลาร์” แลกเปิด “ซัมมิต” ในปี 2009 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 มกราคม 2558 15:01 น.



รอยเตอร์ - อดีตประธานาธิบดี อี มย็อง-บัก แห่งเกาหลีใต้เผยเคยถูกเกาหลีเหนือเรียกร้องเงินสดถึง 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กับอาหารอีก 500,000 ตัน เพื่อแลกกับการเปิดเจรจาซัมมิตในปี 2009 ทว่ารัฐบาลโซลปฏิเสธที่จะจ่าย

อี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำเกาหลีใต้ระหว่างปี 2008-2013 เปิดใจผ่านหนังสือที่จะวางจำหน่ายในสัปดาห์หน้าว่า รัฐบาลของเขาไม่ยอมรับเงื่อนไขของเปียงยาง

“เอกสารฉบับนั้นแทบไม่ต่างอะไรจาก “ใบแจ้งหนี้ค่าจัดประชุมซัมมิต” โดยมีการระบุเงื่อนไขความช่วยเหลือที่เราต้องมอบให้ และกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน” อีระบุ

รัฐบาลประธานาธิบดี คิม แด-จุง แห่งเกาหลีใต้ เคยเปิดเจรจาระดับสูงสุดกับผู้นำ คิม จอง อิล ในปี 2000 ซึ่งช่วยลดการเผชิญหน้าและสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองชาติคู่อริ แต่ภายหลังมีการเปิดโปงว่าประธานาธิบดีคิมต้องจ่ายเงินสินบนถึง 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อซื้อความร่วมมือจากโสมแดง

ในทางเทคนิค เกาหลีเหนือและใต้ยังอยู่ในสถานะ “คู่สงคราม” เนื่องจากการสู้รบในช่วงปี 1950-1953 ยุติลงได้ด้วยข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังไม่มีการทำสนธิสัญญาสันติภาพ

ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์เพิ่งได้รับตัวอย่างเนื้อหาในหนังสือของ อี มย็อง-บัก ส่วนที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ วันนี้ (29)

เอกสารดังกล่าวอ้างถึงข้อเรียกร้องที่โสมแดงกำหนดเป็นเงื่อนไขจัดประชุมซิมมิต ซึ่งประกอบด้วยข้าวสารจำนวน 400,000 ตัน, ข้าวโพด 100,000 ตัน, ปุ๋ย 300,000 ตัน และเงินสดอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่เกาหลีเหนือจะนำไปเป็นทุนก่อตั้งธนาคาร

“เราจะไม่ยอมถูกตั้งเงื่อนไขต่อรองเพื่อเจรจากับพวกเขา” อี เขียน

ประธานาธิบดีโรห์ มู-ฮยุน แห่งเกาหลีใต้ ได้พบกับผู้นำคิม จองอิล ในการประชุมซัมมิตครั้งที่ 2 เมื่อปี 2007

ผู้นำคิมพยายามที่จะเปิดซัมมิตกับเกาหลีใต้อีกเป็นครั้งที่ 3 ก่อนที่ตนเองจะถึงแก่อสัญกรรมลงในเดือนธันวาคม ปี 2011 ทว่า ความพยายามดังกล่าวไม่เป็นผล เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่ยอมรับผิดในเหตุโจมตีเรือรบโชนันของเกาหลีใต้ เมื่อปี 2010

เรือรบโชนันถูกตอร์ปิโดยิงจมในปี 2010 คร่าชีวิตลูกเรือไปทั้งสิ้น 46 นาย ซึ่งรัฐบาลเกาหลีใต้กล่าวหาว่าเปียงยางคือตัวการ

อี มย็อง-บัก บริหารประเทศจนหมดวาระ โดยไม่เคยได้พบปะกับผู้นำเกาหลีเหนือโดยตรง

ในเดือนนี้ ผู้นำคิม จองอึน และประธานาธิบดีพัค กึนฮเย แห่งเกาหลีใต้ ต่างประกาศจุดยืนเปิดกว้างสำหรับการเจรจาซัมมิต โดยเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (23) เกาหลีเหนือได้ยื่นเงื่อนไขให้เกาหลีใต้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรที่ประกาศใช้โดยรัฐบาล อี มย็อง-บัก ก่อนที่จะมาพูดคุยถึงการรื้อฟื้นเจรจา

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000011416

 

เที่ยวบินสหรัฐฯถูกขู่ออนไลน์กว่า 50 ครั้งใน 2 สัปดาห์
by Sutthiporn Bunchuay 30 มกราคม 2558 เวลา 05:20 น.

ทางการสหรัฐฯได้รับคำขู่ก่อการร้ายออนไลน์กว่า 50 ครั้งใน 2 สัปดาห์ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เที่ยวบินภายในประเทศ 2 เที่ยวบิน ถูกข่มขู่ในลักษณะเช่นนี้เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา

ทางการสหรัฐฯเปิดเผยข้อมูลระบุว่า นับตั้งแต่วันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา ที่เกิดเหตุการณ์ข่มขู่วางระเบิดสายการบินเซาธ์เวสต์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 2492 และสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ 1156 ซึ่งการข่มขู่ดังกล่าวกระทำการผ่านทวิตเตอร์ และมีแนวโน้มที่น่าเชื่อถือได้ จนทำให้ทางการสหรัฐฯ ต้องส่งเครื่องบิน F-16 ขึ้นไปบินประกบเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยให้กับเที่ยวบินทั้งสอง หลังจากนั้น ก็เกิดการข่มขู่ออนไลน์ในลักษณะเช่นนี้อีกประมาณ 50 ครั้ง

ซึ่งการข่มขู่ในแต่ละครั้ง ไม่มีครั้งใดที่เกิดการวางระเบิดหรือก่อการร้ายจริง แต่ทางการสหรัฐฯก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ และยังคงสั่งให้สำนักงานสอบสวนกลาง หรือเอฟบีไอ เฝ้าจับตาความเคลื่อนไหวของผู้ต้องสงสัยอยู่ตลอด โดยร่วมมือกับทางสายการบินต่างๆเพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียดด้วย เบื้องต้น สันนิษฐานว่า การข่มขู่ที่ตามมาในระยะหลัง เป็นเพียงแค่การกระทำลอกเลียนแบบเท่านั้น

ทั้งนี้ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มกราคทมที่ผ่านมา ได้สร้างความปั่นป่วนให้กับสนามบินในมลรัฐนอร์ทแคโรไลนาเป็นอย่างมาก โดยหลังจากที่เที่ยวบินทั้งสองลงจอดเรียบร้อยแล้ว ได้มีการประกาศปิดรันเวย์ และระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสาร หวั่นว่าอาจจะมีการซุกซ่อนระเบิดเอาไว้ แต่เหตุการณ์ทั้งหมดก็ผ่านไปด้วยดี และไม่มีใครบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด

<iframe width="640" height="360" frameborder="0" scrolling="no" src="http://www.voicetv.co.th/content/embed?id=160947" ></iframe>

เที่ยวบินสหรัฐฯถูกขู่ออนไลน์กว่า 50 ครั้งใน 2 สัปดาห์ - VoiceTV

 

สหรัฐขอความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีนกันโรคหัด



รัฐบาลสหรัฐขอความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด หลังพบการระบาดอย่างหนักในรัฐแคลิฟอร์เนีย จากผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวดิสนีย์แลนด์ตั้งแต่กลางเดือนที่แล้ว

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 13:30 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี ขอความร่วมมือให้ชาวอเมริกันเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคหัด โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งพบผู้ป่วยโรคหัดแล้วกว่า 90 คน ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

ทั้งนี้ ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการเดินทางไปท่องเที่ยวที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์ ในเมืองอนาไฮม์ ระหว่างวันที่ 15-20 ธ.ค. อย่างไรก็ตาม ซีดีซีเชื่อว่าผู้ที่เป็นพาหะนำเชื้อไวรัสรูบิโอลาที่เป็นสาเหตุของโรคหัดกลับเข้ามาในสหรัฐอาจเป็นชาวต่างชาติซึ่งเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่สวนสนุกแห่งนี้ เนื่องจากรัฐบาลสหรัฐประกาศให้ประเทศเป็นเขตปลอดโรคหัดตั้งแต่ปี 2543 แล้ว กระนั้นซีดีซียอมรับว่ายังมีการพบผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง โดยสถิติเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่กว่า 600 คน

โรคหัดที่เกิดจากเชื้อไวรัสรูบิโอลานั้น สามารถติดต่อกันได้ทางอากาศผ่านการไอหรือจาม และยังไม่มีการรักษาจำเพาะ โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักมีอาการดีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์ผ่านการรักษาตามอาการ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีสภาพร่างกายอ่อนแอเป็นทุนเดิมหรือมีภูมิต้านทานต่ำอาจเผชิญอาการแทรกซ้อนรุนแรง ถึงขั้นตาบอด สมองอักเสบ ท้องร่วงรุนแรง ติดเชื้อในช่องหู และปอดอักเสบได้

สหรัฐขอความร่วมมือประชาชนฉีดวัคซีนกันโรคหัด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เจ้าหน้าที่ระดับสูงอียูเยือนกรีซหารือเรื่องหนี้



นายมาร์ติน ชูลซ์ ประธานสภายุโรป ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนแรกของอียู ซึ่งเดินทางเยือนกรุงเอเธนส์ เพื่อหารือกับรัฐบาลชุดใหม่ของกรีซเกี่ยวกับมาตรการจัดการภาระหนี้สิน

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 12:21 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่านายมาร์ติน ชูลซ์ ประธานสภายุโรป ( อีพี ) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดี หลังเสร็จสิ้นการเข้าพบนายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำกรีซ เป็นเวลาราว 40 นาที เพื่อหารือกันในประเด็นการบริหารนี้สินของรัฐบาลเอเธนส์ ขอให้ซีปราสพยายามหาทางแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างสุขุมและมีเหตุผล พร้อมทั้งขอให้ตัดสินใจด้วยความรอบคอบที่สุด

ขณะที่ผู้นำกรีซกล่าวเพียงว่า รัฐบาลเอเธนส์ต้องการหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุข้อตกลงที่ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์เท่าเทียมกัน อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์และมีประสิทธิภาพดูเหมือนต้องใช้เวลาอีกระยะ

การพบปะระหว่างชูลซ์กับซีปราสมีขึ้นเพียง 1 วันหลังรัฐบาลกรีซของซีปราส ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 25 ม.ค. สั่งระงับโครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกแขนง และการปฏิรูปโครงสร้างงบประมาณของกระทรวงและหน่วยงานในสังกัดของรัฐ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัดที่รัฐบาลชุดก่อนหน้าลงนามเมื่อปี 2553 ร่วมกับบรรดาเจ้าหนี้ เพื่อแลกกับการรับเงินช่วยเหลือเป็นรายงวดรวม 240,000 ล้านยูโร ( ราว 9.1 ล้านล้านบาท ) สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงให้กับเยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเสาหลักของยูโรโซน และอีกหลายประเทศที่เริ่มกังวลว่า หากเผชิญแรงกดดันมากขึ้น กรีซอาจตอบโต้ด้วยการหยุดชำระหนี้

ทั้งนี้ นายเจอเริน ดิจส์เซลโบลม รมว.กระทรวงการคลังเนเธอร์แลนด์ ในฐานะประธานยูโรกรุ๊ป หรือกลุ่มประเทศผู้ใช้เงินยูโรเป็นสกุลหลัก 19 ประเทศ มีกำหนดเข้าพบกับซีปราสในวันนี้ ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหภาพยุโรป ( อียู ) คนที่ 2 ต่อจากชูลซ์ ด้านกระทรวงการคลังกรีซออกแถลงการณ์ว่า การเยือนของดิจส์เซลโบลมเสมือนเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นเจรจาอย่างเป็นทางการระหว่างรัฐบาลเอเธนส์กับเจ้าหนี้กลุ่ม "ทรอยกา" ได้แก่ อียู ธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ )

เจ้าหน้าที่ระดับสูงอียูเยือนกรีซหารือเรื่องหนี้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ปค.สั่งห้ามขรก.เล่นไลน์-เฟซบุ๊กเด็ดขาด



'ปค.'ร่อนหนังสือถึงผวจ.ทั่วประเทศ ห้ามขรก.ใช้คอมฯของราชการ เล่นเฟซบุ๊ก-ไลน์ ส่วนตัว ป้องหมิ่นเบื้องสูง ปัดไม่ได้จำกัดสิทธิเสรีภาพ

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 14:31 น.
เมื่อวันที่ 30 ม.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรมการปกครอง (ปค.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดออกมา เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา เรื่องแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อสารของทางราชการ โดยระบุแนวทางในการใช้คอมพิวเตอร์ฯ ของทางราชการกรมการปกครองคือ ให้บุคลากรใช้คอมพิเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารของทางราชการ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ห้ามมิให้บุคลากรใช้คอมพิวเตอร์ฯ ไปใช้ในทางส่วนตัวที่ใช้โปรแกรมโซเชียลมีเดีย เช่นเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือการส่งอีเมลล์ที่เข้าข่ายความผิดอาญา และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมดูแลการใช้คอมพิวเตอร์ฯ หากมีบุคคลากรกระทำความผิด จะถือเป็นความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาด้วย

ทั้งนี้นายกฤษฎา บุญราช อธิบดี ปค. กล่าวว่า การออกหนังสือดังกล่าว เนื่องจากเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคนหนึ่งใน จ.สระแก้ว ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก UnchaUnyo เผยแพร่รูปภาพ และข้อความที่มีลักษณะหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งต้องดูผลของรูปคดีว่าจะออกมาเป็นอย่างไร หากมีความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนระเบียบราชการต่อไป อย่างไรก็ตามการออกหนังสือดังกล่าวไม่ใช่เป็นการจำกัดสิทธิเสรีภาพแต่เป็นการป้องกันไม่ให้ใช้ของราชการไปใช้ในทางที่ส่อให้เกิดความเสียหาย

นอกจากนี้นายกฎษฎา ได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการสอบคัดเลือกข้าราชการ เพื่อเข้ารับการศึกษาอบรบหลักสูตรนายอำเภอ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ว่า ขณะนี้ มีผู้ขอยื่นคำร้อง 12 ราย อาทิ ข้อสอบไม่ชัดเจน ทั้งนี้ หลังวันที่ 3 ก.พ.จะมีการรวบรวมคำร้อง พร้อมทั้ง จะมีการชี้แจง หากคำร้องเกี่ยวข้องกับข้อสอบ โดยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ส่วนคำร้องที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสอบ กรมการปกครองจะเป็นชี้แจง ขณะที่คำร้องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการทุจริตในการสอบ ม.ธรรมศาสตร์ จะเป็นผู้รับผิดชอบ

“ที่ว่าการสอบครั้งนี้ดูยุ่งยาก เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เปิดให้ดูคะแนน ภายหลังการสอบ เพื่อให้ผู้สอบสามารถท้วงติงได้ ทั้งนี้เพื่อความโปร่งใส หากหลังการชี้แจงแล้ว ผู้สอบยังไม่พอใจก็สามารถไปฟ้องต่อศาลปกครองได้” นายกฎษฎา กล่าว.

ปค.สั่งห้ามขรก.เล่นไลน์-เฟซบุ๊กเด็ดขาด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

ด่วน!! หนังสือถึงผู้ว่าทั่วประเทศ ห้ามข้าราชการเล่นเฟซบุ๊ก ไลน์
30 มกราคม 2558 14:30 น.



ด่วน!! หนังสือถึงผู้ว่าทั่วประ
(เครดิตภาพจากมติชนออนไลน์)
นำเสนอข่าวโดยทีมงาน Sanook.com
ออกหนังสือด่วนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ ห้ามข้าราชการเล่นเฟซบุ๊ค เล่นไลน์
(30 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรมการปกครอง (ปค.) ได้มีหนังสือด่วนที่สุดออกมา เมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา เรื่องแนวทางการใช้คอมพิวเตอร์ และเครื่องมือสื่อสารของทางราชการ
ด้วยกรมการปกครองได้รับแจ้งว่ามีบุคลากรภาครัฐบางรายใช้คอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารของทางราชการที่ติดต่อในที่ว่าาการอำเภอ ศาลากลางจังหวัด หรือสำนักงานของกรมการปกครอง ไปใช้ในโปรแกรม Social media เช่น โปรแกรม Facebook, Line , E-mail ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฎิบัติราชการ โดยส่งข้อความหรือรูปภาพที่อาจเข้าข่ายความผิดทางอาญาหรือเกิดความเสียหายต่อผู้อื่น รวมทั้งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
โดยระบุแนวทางในการใช้คอมพิวเตอร์ฯ ของทางราชการกรมการปกครองคือ ให้บุคลากรใช้คอมพิเตอร์หรือเครื่องมือสื่อสารของทางราชการ เพื่อประโยชน์ของทางราชการ ห้ามมิให้บุคลากรใช้คอมพิวเตอร์ฯ ไปใช้ในทางส่วนตัวที่ใช้โปรแกรมโซเชียลมีเดีย เช่นเฟซบุ๊ก ไลน์ หรือการส่งอีเมลล์ที่เข้าข่ายความผิดอาญา
และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นควบคุมดูแลการใช้คอมพิวเตอร์ฯ หากมีบุคคลากรกระทำความผิด จะถือเป็นความบกพร่องของผู้บังคับบัญชาด้วย (ข้อมูลจากมติออนไลน์)

http://hot.ohozaa.com/hot-5-15-130760

 

จีนแซงสหรัฐครองแชมป์เงินทุนเอฟดีไอมากที่สุด



"อังค์ถัด" จัดอันดับให้จีนเป็นประเทศแนวโน้มกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( เอฟดีไอ ) เข้าประเทศมากที่สุดเมื่อปีที่แล้ว เขี่ยสหรัฐลงจากบัลลังก์แชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

วันศุกร์ 30 มกราคม 2558 เวลา 14:18 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 30 ม.ค. ว่าองค์กรการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา ( อังค์ถัด ) เผยรายงานแนวโน้มกระแสเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ( เอฟดีไอ ) ประจำปี 2557 ว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 1.26 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 41.58 ล้านล้านบาท ) ลดลงจากปีก่อนหน้านี้ราวร้อยละ 8

ทั้งนี้ หากจำแนกเป็นรายประเทศพบว่า จีน เป็นประเทศได้รับเอฟดีไอสูงที่สุดในโลก 128,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 4.22 ล้านล้านบาท ) ครองอันดับ 1 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 ตามด้วยฮ่องกง ซึ่งเป็นเขตบริหารพิเศษของจีน 111,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.66 ล้านล้านบาท ) สหรัฐแชมป์เก่าตกไปอยู่ในอันดับ 3 ด้วยสถิติ 86,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.83 ล้านล้านบาท ) ลดลงจากสถิติเมื่อปี 2556 ถึงร้อยละ 63

อันดับ 4 เป็นของสิงคโปร์ 81,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.67 ล้านล้านบาท ) บราซิลอยู่ในอันดับ 5 ด้วยสถิติ 62,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.04 ล้านล้านบาท ) ขณะที่อันดับ 6-10 ได้แก่ อังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ และลักเซมเบิร์ก

อย่างไรก็ตาม อังค์ถัดวิเคราะห์ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีแนวโน้มดีขึ้นในปีนี้ น่าจะสามารถดึงดูดเม็ดเงินจากนักลงทุนต่างประเทศได้อีกครั้ง ด้านภาวะเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาของเอเชียแม้จะซบเซาตลอดทั้งปีที่แล้ว แต่เอฟดีไอยังเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้ร้อยละ 15 มาอยู่ที่ 492,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 16.2 ล้านล้านบาท )

จีนแซงสหรัฐครองแชมป์เงินทุนเอฟดีไอมากที่สุด | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

มหา สูญญตา

พระอามิตาภะพุทธะ ณ ปราสาท นครวัดฯ

 

ผู้นำเยอรมนีปฏิเสธยกหนี้บางส่วนให้กรีซ



นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี ยืนยันไม่มีมาตรการยกหนี้บางส่วนให้กรีซ โดยรัฐบาลเอเธนส์ต้องร่วมหาทางออกกับเจ้าหนี้อย่างมีเหตุผลเท่านั้น เพื่อเสถียรภาพทางการเงินของยุโรป

วันเสาร์ 31 มกราคม 2558 เวลา 17:00 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่าหนังสือพิมพ์ "ฮัมบัวร์เกอร์ อาเบนด์บลัตต์" ฉบับวันเสาร์ ตีพิมพ์บทสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ผู้นำเยอรมนี ว่าในขณะที่เจ้าหนี้เอกชนหลายรายยินยอมผ่อนผันการชำระหนี้ หรือยกเลิกหนี้บางส่วนให้กับรัฐบาลเอเธนส์ตลอดระยะเวลา 3-4 ปีที่ผ่านมา แต่รัฐบาลเยอรมนีไม่มีนโยบายเช่นนั้น

อย่างไรก็ตาม เธอยืนยันว่ายุโรปต้องการหาทางออกกับกรีซด้วยความประนีประนอมและสมเหตุสมผล เพื่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของสหภาพที่มั่นคง เช่นเดียวกับประเทศในภูมิภาคที่กำลังประสบปัญหาเดียวกัน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซีปราส ผู้นำกรีซ มีกำหนดเดินทางเยือนอิตาลีและฝรั่งเศสตามลำดับ ระหว่างวันอังคารและวันพุธนี้ แต่ไม่มีกำหนดการเดินทางเยือนเยอรมนี ประเทศเสาหลักของยูโรโซน จากการเป็นผู้บริจาคเงินเข้ากองทุนส่วนกลางรายใหญ่ที่สุด

ขณะที่นายปิแอร์ มอสโกวิซี กรรมาธิการด้านการคลังของสหภาพยุโรป ( อียู ) หนึ่งในเจ้าหนี้ของกรีซในนาม "ทรอยกา" ร่วมกับธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) กล่าวแสดงความกังวลอย่างยิ่งกับท่าทีล่าสุดของกรีซและมหาอำนาจในยูโรโซน และยืนยันว่ากรีซควรอยู่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของยูโรโซน หรือ 19 ประเทศผู้ร่วมใช้สกุลเงินยูโรต่อไป การถอนตัวออกจากกลุ่มไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามจะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปยังระบบเศรษฐกิจของภูมิภาคแน่นอน

รายงานล่าสุดของอียูระบุ สถานการณ์หนี้ล่าสุดของกรีซเมื่อรวมทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยด้วยแล้ว สูงถึง 315,000 ล้านยูโร ( ราว 11.6 ล้านล้านบาท ) มากกว่า 175% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี )

ผู้นำเยอรมนีปฏิเสธยกหนี้บางส่วนให้กรีซ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

แบงก์ชาติรัสเซียลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี



ธนาคารกลางรัสเซียปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงร้อยละ 2 มาอยู่ที่ร้อยละ 15 หลังประเมินเศรษฐกิจของประเทศเริ่มทรงตัวมากขึ้น ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี

วันเสาร์ 31 มกราคม 2558 เวลา 13:40 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่าธนาคารกลางรัสเซียออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากร้อยละ 17 ลงมาอยู่ที่ร้อยละ 15 เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศที่แนวโน้ม "ทรงตัว" มากขึ้น ถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2554

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินรูเบิลแข็งตัวขึ้นทันทีเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ 71 รูเบิลต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่อัตราเมื่อวันพฤหัสบดีอยู่ที่ 68.73 รูเบิล ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ธนาคารกลางรัสเซียยังประกาศการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบจำนวน 2.3 ล้านล้านรูเบิล ( ราว 1.15 ล้านล้านบาท ) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เริ่มฟื้นตัวจาก "ปัจจัยลบภายนอก" ที่หมายถึงมาตรการคว่ำบาตรของตะวันตก และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ยังคงตกต่ำ ขณะที่คาดการณ์อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ น่าจะอยู่ที่ร้อยละ 3.2

แบงก์ชาติรัสเซียลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 3 ปี | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ผู้นำคิมยัวะโอบามาชี้เกาหลีเหนือจะล่มสลาย



นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แสดงความไม่พอใจอย่างหนัก หลังประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ วิจารณ์ระบอบการปกครองสังคมนิยมของรัฐบาลเปียงยางว่าจะต้องล่มสลายในอนาคต โดยประกาศกร้าวจะไม่อยู่เฉยในเรื่องนี้แน่นอน

วันเสาร์ 31 มกราคม 2558 เวลา 12:55 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. ว่าสำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) สื่อกระบอกเสียงเพียงหนึ่งเดียวของรัฐบาลเปียงยาง เผยแพร่แถลงการณ์ของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ว่าทางการเปียงยางจะไม่มีทางอยู่เฉย ในขณะที่ศัตรูจากภายนอกประพฤติตัวเสมือนเป็น "สุนัข" ที่คอย "เห่าหอน" พร้อมจ้องจะล้มล้างอำนาจการปกครองระบอบสังคมนิยมของเกาหลีเหนือ

ขณะเดียวกัน เคซีเอ็นเอยังรายงานภารกิจของผู้นำ ขณะลงพื้นที่สังเกตการณ์ปฏิบัติการซ้อมรบของกองทัพอากาศและกองทัพเรือด้วย แต่ไม่มีการระบุวันที่และสถานที่จัดการซ้อมรบครั้งนี้อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวของนายคิม จอง-อึน ถือเป็นการตอบโต้คำกล่าวของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐ ซึ่งให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 26 ม.ค. ว่าระบอบการปกครองของเกาหลีเหนือจะล่มสลายสักวันหนึ่งในอนาคต พร้อมกับให้คำจำกัดความประเทศแห่งนี้ว่า เป็นดินแดนที่ทั้งโดดเดี่ยว ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก และถูกประชาคมโลกรุมคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก

ผู้นำคิมยัวะโอบามาชี้เกาหลีเหนือจะล่มสลาย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์