ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ซาอุฯ ประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีตัดศีรษะ 4 ราย หลัง′คิงซัลมาน′ครองราชย์ไม่ถึงสัปดาห์ วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 18:45:38 น.

    [​IMG]

    จากรายงานของสำนักข่าวอาที หลังจากที่กษัตริย์ซัลมานขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 23 มกราคม นับแต่กษัตริย์อับดุลเลาะห์พระเชษฐาเสด็จสวรรคต ซาอุดิอาระเบียได้ประหารชีวิตนักโทษด้วยการตัดศีรษะไปแล้วถึง 4 ราย

    นักโทษรายแรก นายโอมาร์ บิน ยาห์ยา บิน อิบราฮิม อัล-บากากี ถูกลงโทษด้วยการประหารชีวิตในความผิดฐานร่วมประเวณีกับบรรดาเครือญาติ กระทรวงมหาดไทยได้กล่าวว่านี่คือการลงโทษต่อความชั่วของเขาพร้อมกับเป็นบทเรียนให้กับผู้อื่น

    นักโทษอีกสองรายถูกประหารในความผิดฐานลักลอบนำเข้ายาเสพติดสู่ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย

    และอีกหนึ่งรายเป็นครูซึ่งถูกตัดสินให้รับผิดด้วยโทษประหารในข้อกล่าวหาที่ว่าเขาข่มขืนนักเรียนหญิงหลายรายซึ่งเขาไม่ยอมรับและได้ทำวิดีโอความยาวประมาณ20นาที ชี้แจงว่าเขาถูกใส่ร้าย วิดีโอชิ้นนี้เขามุ่งหวังที่จะให้กษัตริย์อับดุลเลาะห์กษัตริย์ในขณะนั้นได้พิจารณา โดยหวังว่าความพยายามครั้งนี้จะช่วยให้เขาพ้นโทษตายได้ แต่เขาคิดผิด

    การประหารเหล่านี้เกิดขึ้นพร้อมๆ กับการเดินทางเยือนประเทศซาอุดิอาระเบีย ของประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ และผู้แทนระดับสูงอื่นๆ ของสหรัฐอย่างนายจอห์น แคร์รี เพื่อแสดงความเคารพต่อกษัตริย์อับดุลเลาะห์ผู้ล่วงลับซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐฯ และเพื่อเจรจาในประเด็นที่ทั้งสองประเทศได้ดำเนินการร่วมกัน

    ทั้งนี้ไม่มีรายงานว่าทางสหรัฐฯ ได้แสดงการกดดันทางการทูตต่อซาอุดิอาระเบีย ในประเด็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนแต่อย่างใด

    ซาอุฯ ประหารชีวิตนักโทษด้วยวิธีตัดศีรษะ 4 ราย หลัง′คิงซัลมาน′ครองราชย์ไม่ถึงสัปดาห์ :
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรณีศึกษา "การจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบพัสดุฯ"
    อย่างไร ให้ถูกระเบียบฯ โดย กองตรวจสอบระบบการเงินบัญชีท้องถิ่น

    [​IMG]

    เรื่อง การจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบพัสดุฯ

    ข้อบกพร่องการจัดซื้อจัดจ้าง

    1. ไม่ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องจัดซื้อจัดจ้าง
    2. บ่งชี้เข้าลักษณะการแบ่งซื้อแบ่งจ้าง
    3. จัดซื้อครุภัณฑ์เกินราคามาตรฐานครุภัณฑ์
    4. จัดซื้อวัสดุก่อนขออนุมัติจัดซื้อจากผู้บริหาร
    5. ไม่ได้เผยแพร่ประกาศสอบราคาในเว็บไซต์ของจังหวัดและกรมบัญชีกลาง
    6. ไม่มีเหตุผลความจำเป็นที่จะขยายเวลาของสัญญาจ้างออกไป
    7. จัดซื้อคอมพิวเตอร์ไม่ผ่านคณะกรรมการบริหารและจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ระดับจังหวัดอนุมัติ
    8. การติดตั้งอุปกรณ์กีฬาออกกำลังกายกลางแจ้ง ในที่ส่วนบุคคลไม่มีการอุทิศให้ และเป็นที่ดินส่วนบุคคลครอบครอง


    ***
    เหมาะสำหรับท่านที่รับผิดชอบให้การจัดซื้อจัดจ้าง
    ควรศึกษาดูสิ่งที่เบิกจ่ายได้ตามระเบียบฯ
    สตง. จะได้ไม่มาทักท้วงทีหลังครับ

    ดาวน์โหลดเอกสารชุดนี้ - > http://www.dla.go.th/upload/templateOrganize/menu/2015/1/1421725359881.pdf

    เกร็ดความรู้ ห่างไกล สตง. เรื่อง "การจัดซื้อจัดจ้าง ตามระเบียบพัสดุฯ"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนดล แซ่เล้า‎ภัยพิบัติ ก่อนวันสิ้นยุค

    ถ้านับจากวันที่ได้ข่าวแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่ (530,000 ตารางกิโลเมตร) หลุดมาจากขั่วโลกใต้ ก็น่าจะราวๆ 3 วันแล้วนะครับ สัญญาณเตือนจากสัตว์ มีทั้ง มด กบ แมลง ฯลฯ บ่งบอกถึงความผิดปกติของสัตว์เหล่านี้ได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นทั้งประเทศไทยเลยนะครับ จากเพื่อนๆผมที่อยู่แต่ละจังหวัด หรือคนที่แอดเฟสไว้ ไม่ว่าเขาจะศึกษาเรื่องแบบเดียวกับเรานี้หรือไม่ ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่มันผิดปกตินะ ระวังไว้ครับ เตรียมตัวไว้ดีกว่า เทียนไข ไฟฉาย น้ำ (ใส่ขวดน้ำไว้หลายๆขวด) อาหาร ผมว่าปีนี้ได้ใช้แน่นอนครับ ดูท่าว่าในสัปดาห์นี้ คงมีเรื่องอะไรให้ตื่นเต้นเป็นแน่ พายุหิมะที่อเมริกาไม่รุนแรงตามคาดการณ์ ภัยแล้งหลายต่อหลายประเทศ บลาซิลแล้งหนักรอบ 60 ปี เมืองใหญ่ๆหลายเมืองก็ไม่มีน้ำใช้ ผมเองก็ตรวจสอบเกี่ยวกับพายุ หรือ มรสุมแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีฝนได้ แต่ทำไมพวกสัตว์ถึงแตกตื่นกันนัก แต่ผมเชื่อสัตว์พวกนี้มากกว่าเทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบันนะครับ เพราะไม่งั้น สัตว์พวกนี้คงไม่อยู่รอดมาเป็นหลายล้านปีได้ครับ เตรียมตัวให้พร้อมนะครับ
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ผ่าน Market AnyWare

    ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศคิวอี
    ธนาคารกลางสิงคโปร์ หรือเอ็มเอเอส สร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหญ่ให้กับตลาดเงิน หลังประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หรือคิวอีในวันนี้ ด้วยการลดค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ที่ 1.35 ต่อดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าอ่อนค่าสุดในรอบ 3 ปีนับจากปี 2554
    การประกาศผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสิงคโปร์ครั้งนี้ สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดการเงินอย่างมาก อีกทั้งยังไม่อยู่ในกำหนดการประชุมของธนาคารกลางตั้งแต่แรกด้วย
    ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของธนาคารกลางสิงคโปร์ มีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป หรืออีซีบี ประกาศใช้มาตรการคิวอีวงเงิน 1.14 ล้านล้านยูโร ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลกลุ่มยูโรโซนและสินทรัพย์ทางการเงินของเอกชนเดือนละ 60,000 ล้านยูโรตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้เงินยูโรร่วงลงเกือบ 17% มาอยู่ที่ 1.11-1.13 ดอลลาร์ต่อยูโร จากที่เคยอยู่ในระดับ 1.40 ดอลลาร์ต่อยูโร เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
    ขณะที่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า การตอบสนองตลาดการเงินโลกอย่างรวดเร็วของธนาคารกลางสิงคโปร์ครั้งนี้ เนื่องจากหากสิงคโปร์อยู่เฉย ๆ จะส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจากคาดว่าแนวโน้มเงินเฟ้อในปีนี้อาจจะลดลงอยู่ที่ระดับ 0.5% เท่านั้น

    ธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศคิวอี - NOW26.TV
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ ปอกเปลือก ทรราช

    Fracking คืออะไร? ทำไมชาวบ้านทั้งในอเมริกากับในยุโรปถึงกลัวกันนัก?
    ----------

    [​IMG]

    ขอเท้าความก่อนนะครับ ตามที่ได้ให้สัญญาไว้ในโพสต์ก่อนหน้านี้ว่าจะมาเฉลยคำตอบว่า "fracking คืออะไร?" เพราะเกรงว่าถ้าเขียนในโพสต์นั้นแล้วมันยาว จึงต้องตัดออกมาเป็นอีกโพสต์หนึ่งต่างหาก เรื่องของเรื่องก็คือว่าเมื่อ 2 วันก่อนผมบังเอิญไปเจอคลิปอันหนึ่งที่แชร์ในเฟซบุคนี่แหละเกี่ยวกับเรื่องการทำ fracking ผมก็คลิกตามไปดู เออ… ก็น่าสนใจได้ความรู้เพิ่ม และวันนี้ก็บังเอิญอีกหละไปเจอข่าวการประท้วงการทำ fracking ที่อังกฤษ ก็เอามาเล่าข่าวให้ฟังกัน เพื่อให้ครบอรรถรสและให้เพื่อนๆ ได้รับความรู้ไปด้วยก็คิดว่าน่าจะนำเรื่องนี้มาเล่าให้ฟังท่าจะดีนะ สำหรับผู้ที่รู้อยู่แล้วก็อย่าว่ากันนะครับ ไม่ต้องอ่านก็ได้นะ

    Fracking (อ่านว่า แพร็กกิ้ง) บางครั้งก็เรียกว่า "Hydraulic fracturing, Hydrofracturing, hydrofracking, fracking, fraccing หรือ shale fracking" เป็นเทคนิคใหม่ในการขุดเจาะน้ำมันดิบและแก๊สจากชั้นหินที่ใช้อยู่ในอเมริกาและในยุโรปตอนนี้ อันที่จริงจะว่าใหม่ก็ไม่เชิงนะ เพราะเขาได้คิดค้นวิธีนี้มาตั้งแต่ปี 1947 โน่นแล้ว และประสบผลสำเร็จเป็นอย่างมากในปี 1950 น้ำมันดิบที่ประเทศอเมริกาขุดเจาะได้อยู่ในตอนนี้ในประเทศของตนที่เรียกว่า "shale oil" นี้ก็ใช้วิธี fracking นี้แหละในการขุดเจาะ ในยุโรปก็มีหลายประเทศกำลังนำวิธีนี้ไปใช้รวมทั้งอังกฤษที่มีการประท้วงต่อต้านด้วย

    เทคนิคก็คือการใช้หัวสว่านเจาะสำรวจลงไปใต้ดินเพื่อหาแหล่งน้ำมันว่าที่ใดมีน้ำมันดิบอยู่บ้าง แต่แหล่งน้ำมันที่พบนั้นมันไม่ได้เป็นบ่อเป็นหลุมขนาดใหญ่เหมือนที่สูบจากตะวันออกกลางหรือในประเทศไทยหรือในที่อื่นๆ ที่เคยปฏิบัติมา แต่แหล่งน้ำมันที่ว่านั้นมันจะอุดอยู่ตามซอกหิน ตามร่องหิน ในชั้นใต้ดินลึกลงไปตั้งแต่ 1,000 ฟุตจนถึง 8,000 ฟุตก็จะไปเจอร่องหินน้ำมัน (ลึกกว่าระดับน้ำบาดาล)

    พอเจาะลงไปในแนวดิ่งแล้วก็เปลี่ยนหัวเจาะไปเป็นแนวนอน ก็พึ่งรู้นี่แหละว่าเขาสามารถทำอย่างนี้ใต้ดินได้ด้วย หัวเจาะก็จะเจาะผ่านรอยแตกร้าวของหินใต้ดินเหล่านั้นไปด้วย แต่ทั้งน้ำมันดิบและแก๊สมันยังติดอยู่ตามร่องหินเหล่านั้นมันไม่ไหลลงมาสู่รูที่เจาะลงไปนะสิ ก็ต้องใช้วิธีเทน้ำ ทราย สารเคมีกว่า 600 ชนิดลงไป พอสารเคมีเหล่านี้ถูกเทลงไปก็จะทำปฏิกิริยากับก๊าซที่มีอยู่ในชั้นใต้ดินนั้นและขยายตัวสร้างแรงดันมหาศาลขึ้นมา ทำให้ร่องหินใต้ดินเหล่านั้นขยายตัวแตกเป๊าะ นี่คือที่มาที่เรียกว่า "fracking" จากนั้นทั้งน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่ติดอยู่ตามร่องหินเหล่านั้นก็จะไหลลงมารวมกับในรูที่ได้เจาะไว้ แล้วบริษัทน้ำมันก็สูบหรือดูดขึ้นมาสกัดเอาน้ำมันดิบและก๊าซไปเข้าโรงกลั่นหรือผ่านกรรมวิธีอื่นๆ ต่อไป และก็เอาไปขายทำเงินต่อไป

    จบแล้วครับสำหรับการทำ fracking ฟังดูก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนิ แต่ปัญหาก็คือว่า ทั้งน้ำและสารเคมีสารพัดชนิดที่เทลงไปในหลุมนั้นมีปริมาณมาก ประมาณ 1-8 ล้านแกลลอนต่อหนึ่งหลุม โดยในแต่แห่งที่มีการขุดเจาะด้วยวิธีนี้ใช้สารเคมีประมาณ 400,000 แกลลอน ในกระบวนการนี้น้ำและสารเคมีที่เทลงไปสามารถดูดกลับขึ้นมาได้เพียง 30-50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อ้าวแล้วส่วนที่เหลือหละมันไปอยู่ที่ไหน? มันก็ซึมไปตามดิน ตามร่องหิน ทั้งซึมลงไปข้างล่างและซึมขึ้นข้างบนด้วย ไปทุกทางที่มีที่ให้มันไหลไปซึมไปจนไปสู่แหล่งน้ำบริโภคในที่สุด ทำให้น้ำดื่มไม่สะอาดเพระาเจือปนด้วยสารเคมีนานาชนิด อันนี้เขาพิสูจน์มาแล้วว่ามันเจือปนจริงๆ

    ผลกระทบในด้านอื่นหละ? เนื่องจากภูมิประเทศของแต่ละท้องที่ไม่เหมือนกัน แรงดันที่เกิดจากสารเคมีเหล่านั้นก็แตกต่างกัน ถ้ามีแรงดันมากมันก็กลายเป็นระเบิดใต้พิภพทำให้เกิดแผ่นดินไหวได้อย่างที่อังกฤษเป็นต้น แล้วสารเคมีที่สูบขึ้นมาบางส่วนก็ระเหยขึ้นสู่อากาศ ทั้งที่ระเบยจากใต้ดินก็มี สารเคมีเหล่านั้นก็ไปรวมอยู่กับก้อนเมฆ แล้วก็ตกลงมาเป็นฝนพิษ อเมริกากับยุโรปเขาชอบ ผู้ที่ไม่ชอบเพราะได้รับความเดือดร้อนและเห็นภัยว่ามันเป็นภัยต่อทั้งมนุษย์สัตว์และสิ่งแวดล้อมทุกอย่างเลย จึงส่งผลให้มีการออกกฎหมายห้ามทำ fracking ในบางพื้นที่ที่จะส่งผลกระทบต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อมในบางประเทศ อันที่จริงมันกระทบอยู่แล้วหละไม่ว่าจะไกลหรือใกล้ชุมชน

    ต้นทุนในการทำ fracking สำหรับ shale oil นี้ประมาณ 68-70 ดอลล่าต่อบาร์เรล ในขณะที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกตอนนี้อยู่ที่ 48 ดอลล่าต่อบาร์เรล อ้าวแบบนี้อเมริกาก็เจ้งนะสิ นี่แหละคือปัญหาที่อเมริกากับยุโรปกำลังประสบอยู่ตอนนี้ ก็ช่วยไม่ได้ก็คิดจะทำให้ราคาน้ำมันต่ำลงเพื่อแข่งกับกลุ่มโอเปกและรัสเซียเองนี่ ตัวเองต้องเจ็บด้วย

    ในยุโรปมีการทำ fracking หลายประเทศ ประท้วงก็เยอะ สื่อฯหลักๆ เขาไม่ค่อยขึ้นข่าวหรอกเพราะมันจะทำให้หุ้นของพวกบริษัทน้ำมันร่วง แต่ถ้าสนใจก็สามารถค้นหาจาก google ได้โดยพิมพ์คำว่า "fracking" เท่านั้นแหละขึ้นมาเพรียบ แล้วที่ประเทศไทยมีการนำเอาวิธีการ fracking มาใช้หรือยัง? เท่าที่ตรวจดูจากกลุ่มที่เขาจับตาการทำ fracking ในต่างประเทศยังไม่พบว่ามีการทำ fracking ในประเทศไทยนะครับ ข่าวจากสื่อฯก็ยังไม่พบว่ามีนะ จากรายงานประจำปีของกระทรวงพลังงานก็ไม่พบว่ามี แต่มีบางคนบอกว่ามีการทำ fracking ในประเทศไทยแล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าที่ไหน จังหวัด อำเภอ ตำบล หรือเขตไหน บริเวณไหนก็ไม่ได้บอกไว้ อันนี้ก็ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าไปเอาข้อมูลนั้นมาจากไหน?

    ขอต่ออีกสักนิดนะครับ ตอนนี้เรากำลังระดมสมองช่วยกันปฏิรูปประเทศไทย ทั้งสปช. และสนช. ได้เอาประเด็นเรื่องการป้องกันการทำ fracking ในประเทศไทยนี้ไปพิจารณาบ้างหรือยังครับ? ไม่ใช่ว่าพอเวลาผ่านไปแล้วพบว่ามีการลักลอบหรืออนุญาตให้ทำ fracking ในเมืองไทยแล้วก็เกิดการประท้วงอีกเหมือนอย่างในต่างประเทศ แล้วก็มาทำเป็นวัวหายล้อมคอกอีกนะ ต่างประเทศเขาศึกษาไว้แล้วว่ามีผลกระทบอย่างไรบ้าง น่าจะเอามาใช้เป็นข้อมูลในการออกกฎหมายป้องกันเอาล่วงหน้าจะดีไหม?

    The Eyes
    28/01/2558
    ----------

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    Dangers of Fracking
    What is Fracking?
    Hydraulic fracturing - Wikipedia, the free encyclopedia
    https://trackingfracking.wordpress.com/…/fracking-map-of-t…/
    BBC News - Fracking moratorium rejected by MPs
    BBC News - What is fracking and why is it controversial?
    BBC News - Guide to fracking
    BBC News - Fracking: Untangling fact from fiction
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong

    FBI จับ “สายลับรัสเซีย” อ้างตัวเป็นนักการทูต-นายธนาคาร สืบข้อมูลวอลสตรีท หาช่องทางล่มเศรษฐกิจอเมริกา
    ดูเหมือนสงครามเย็นจะกลับมาคืนอีกครั้ง เมื่อล่าสุด FBI สหรัฐฯสามารถจับสายลับรัสเซีย 3 คนที่อ้างว่าเป็นนักการทูตและนายธนาคารได้ในขณะที่พยายามรับสมัครกลุ่มผู้หญิงที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก โดยใช้การติดต่อด้วยรหัสลับ และพบโดยตรงโดยไม่ผ่านช่องทางการติดต่อผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดักฟัง เพื่อสืบความลับทางการเงินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อหาทางทำลาย
    ดูเหมือนสงครามเย็นจะกลับมาคืนอีกครั้ง เมื่อล่าสุด FBI สหรัฐฯสามารถจับสายลับรัสเซีย 3 คนที่อ้างว่าเป็นนักการทูตและนายธนาคารได้ในขณะที่พยายามรับสมัครกลุ่มผู้หญิงที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก โดยใช้การติดต่อด้วยรหัสลับ และพบโดยตรงโดยไม่ผ่านช่องทางการติดต่อผ่านอีเมลหรือโทรศัพท์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดักฟัง เพื่อสืบความลับทางการเงินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เพื่อหาทางทำลาย
    เดลีเทเลกราฟต์ รายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า สายลับรัสเซีย 3 คนที่อ้างตัวเป็นนักการทูตและนายธนาคารถูกจับกุมโดย FBI สหรัฐฯในข้อหาจารกรรมความลับอเมริกา ซึ่งคนทั้งสามทำงานร่วมกับคนอื่นเพื่อหาความลับทางเศรษฐกิจและการเงิน รวมไปถึงการคว่ำบาตรเศรษฐกิจต่อรัสเซียในสถานการณ์ความตรึงเครียดของ 2 ชาติที่มีความสัมพันธ์เลวร้ายอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เกิดวิกฤตยูเครน
    โดย FBI ได้เริ่มต้นการสอบสวนสืบเนื่องมาจากคดีการจับกุมในปี 2010 ของ “คนใน” แอนนา แชมป์แมน ( Anna Chapman ) และสาบลับอีก 9 คน ที่อยู่ในเซลที่แอบฝังตัว ซึ่งหนึ่งในเป้าหมายที่กลุ่มสายลับรัสเซียทั้ง 3 ต้องการมาให้ร่วมงานด้วยเป็นกลุ่มผู้หญิงอายุน้อยนิรนามกลุ่มหนึ่ง “ที่มีความสัมพันธ์กับมาหวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งที่อยู่ในนิวยอร์ก” รวมไปถึงมีตำแหน่งในบริษัทชั้นนำในอเมริกา
    อีฟเกนี บูร์ยาคอฟ (Evgeny Buryakov) ผู้ที่อ้างตัวเป็นนายธนาคารจากสถาบันการเงินที่รัฐบาลรัสเซียเป็นเจ้าของ ถูก FBI จับกุม และจะต้องขึ้นศาาลในข้อหาจารกรรมผลประโยชน์สหรัฐฯให้กับหน่วยงานข่าวกรองรัสเซีย SVR ในช่วงปี 2010 -2014 และผู้ต้องหาอีก 2 รายที่ถูกระบุในคำฟ้องคือ อีกอร์ สโปริเชฟ ( Igor Sporyshev) และวิกเตอร์ โปดอบนีย์ (Victor Podobnyy) ถูกแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่การทูตรัสเซียประจำนิวยอร์ก และประจำองค์การสหประชาชาติ แต่ทว่าทั้ง สโปริเชฟและโปดอบนีย์นั้นได้เดินทางออกจากสหรัฐฯไปก่อนหน้านี้ และได้รับการคุ้มครองทางการทูต
    ในคำร้องร่วม 26 หน้า ชี้ว่า บูร์ยาคอฟมีความสนใจที่จะเรียนรุ้การซื้อขายของวอลสตรีทแบบไฮสปีด และโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ (automated trading algorithms ) รวมไปถึงการไร้เสถีรภาพของตลาด ซึ่งความสนใจเหล่านี้ทำให้นักวิเคราะห์อเมริกันรู้สึกแปลกใจ และคิดว่าชายผุ้นี้อาจต้องการเรียนรู้เพื่อที่ต้องการจะล่มระบบตลาดหลักทรัพย์อเมริกาโดยการทำให้การซื้อขายการหุ้นและหลักทรัพย์ที่อ่อนไหวง่ายปั่นป่วนผ่านทางโปรแกรมเทรดหุ้นอัตโนมัติ ซึ่งพรีท บารารา ( Preet Bharara) อัยการสหรัฐฯที่จะนำสืบในคดีนี้ชี้ว่า คดีนี้เผยให้เห็นความตรึงเครียดที่ชัดเจนระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย
    นอกจากนี้สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า สายลับทั้งสามคนสืบหาข้อมูลผลประโยชน์สหรัฐฯให้กับหน่วยงานข่าวกรองรัสเซีย SVR และมีความพยายามที่จะจ้างวานผู้ที่มีถิ่นพำนักในสหรัฐฯเพื่อเป็นแหล่งข้อมูล “ที่มีบางส่วนสามารถระบุชื่อและบางส่วนไม่” อ้างอิงจากคำฟ้อง
    และพบว่าทั้งบูร์ยาคอฟ สโปริเชฟ และโปดอบนีย์ถูกสั่งการให้มุ่งค้นหาข้อมุลโดยเฉพาะในส่วนที่สหรัฐฯต้องการจะคว่ำบาตรรัสเซีย และความสามารถของสหรัฐฯในการที่จะพัฒนาแหล่งพลังงานอื่น FBI แถลง
    ในการติดต่อระหว่างสายลับพบว่ามีการใช้รหัสข้อความ รวมไปถึงการพบปะแบบตัวต่อตัวเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลในแบบทั้งจากคำพูดและการเขียนด้วยลายมือ โดยพบว่าสายลับหมีขาวเลี่ยงที่จะใช้การติดต่อผ่านทางเทคโนโลยีเพื่อเลี่ยงการถูกสอดแนม เช่น อีเมล หรือโทรศัพท์ ซึ่งรหัสลับรวมไปถึง คำสามัญ เช่น ตั๋ว หนังสือ รายขื่อ และร่ม”
    “เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2012 ไปจนถึงกลางเดือนกันนายน 2014 FBI สามารถสอดแนมบูร์ยาคอฟและสโปริเชฟ ทั้งอิเลกทรอนิก และแบบซึ่งหน้า ในการพบปะของคนทั้งคุ่กว่า 48 ครั้ง ซึ่งรวมไปถึงการนัดหมายส่วนหนึ่งที่พบว่า บูร์ยาคอฟได้ส่งกระเป๋า นิตยสาร หรือแผ่นกระดาษ มอบให้กับนักการทูตรัสเซียรายนี้ในที่สาธารณะ ซึ่งความเสี่ยงในการถูกสอดแนมน้อยกว่าเมื่อเทียบกับต้องพบในที่ส่วนบุคคล” รายงานจากคำฟ้อง 26 หน้า
    นอกจากนี้ FBI ได้ลอบวางเครื่องดักฟังไว้ในตึกแห่งหนึ่งที่ถูกใช้โดย SVR ในแมนแฮตตัน และสามารถบันทึกคำสนทนาระหว่างสายลับไว้ได้ โดยสหรัฐฯสามารถจับตามองความเคลื่อนไหว ตลอดจนหมายเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อ รวมไปถึงใช้แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออย่างน้อย 1 คน
    และนอกจากนี้ยังพบว่า มีการใช้สำนักข่าวที่มีรัฐบาลรัสเซีนเป็นเจ้าของ อิตาร์ทาส ในการหาข่าวลับ โดยการป้อนคำถามทให้กับสำนักข่าวในการสืบหาความลับวอลสตรีท
    ในขณะเดียวกัน สื่ออังกฤษรายงานว่า สถานทูตรัสเซียประจำนิวยอร์กไม่ออกความเห็นในการจับกุมครั้งนี้

    ที่มา ผู้จัดการ
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ สิงห์อาสา คนหัวใจสิงห์

    [​IMG]

    เตือนบรรดาคอกาแฟ...จนท.กัมพูชาเข้าทะลายโรงงานผลิตกาแฟปลอมและจับยึดไป 34 ตัน กาแฟเหล่านี้มีการปลอมปนด้วยสารอันตรายต่อผู้ที่บริโภคเข้าไป...คนไทยที่ไปซื้อกาแฟตามรูปแบบนี้ที่ตลาดโรงเกลือหรือตลาดช่องจอม ตลาดสวนส้ม ตลาดเขาดิน ขอให้ท่านนำไปทิ้งฝังกลบเสีย อย่าฝืนกินเป็นเด็ดขาด ด้วยความปรารถนาดีต่อท่าน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ ConStantine Elzindu

    [​IMG]
    #ภัยแล้งจังหวัดน่าน

    สถานีวัดระดับน้ำ N67 แม่น้ำน่าน
    พิกัด
    15.86876667°N
    100.26439722°E
    น้ำแล้งลดต่ำ จนขาตอม่อสะพานโผล่เห็นชัด

    Cr: paipibut
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ ConStantine Elzindu

    [​IMG]

    ‪#‎ข่าวภัยแล้ง‬
    รวมข่าวภัยแล้งบ้านเรา(ประเทศไทย)

    ภูมิภาค 28 ม.ค.- ศูนย์ ปภ.เขต 5 ห่วงภัยแล้งอีสานตอนล่าง ล่าสุด 3 จังหวัดประกาศพื้นที่พิบัติภัยแล้ว โคราชมากสุด 12 อำเภอ เขื่อนลำตะคองน้ำต่ำกว่าครึ่ง

    ภัยแล้งเริ่มรุนแรง ! แม่น้ำบางขามแห้งขอด ชาวลพบุรีขาดน้ำกิน-น้ำใช้
    28 ม.ค.58

    ภัยแล้งคุกคามอ่างทอง เกษตรกรเลี้ยงเป็ด ต้องสูบน้ำบาดาลใช้
    27 ม.ค. 58

    'มหาสารคาม' แล้งหนัก! เดือดร้อนกว่า 4 พันครัวเรือน จนท.เร่งช่วยเหลือ
    26 ม.ค. 58

    ชาวอ่างทอง แห่หาปลาสร้างรายได้ หลังคลองแห้ง
    26 ม.ค. 58

    ปภ.ประกาศภัยแล้ง 20 อำเภอใน 'โคราช-ชัยภูมิ-บุรีรัมย์'
    16 ม.ค. 58

    ภัยแล้งออกฤทธิ์ ถมบิ๊กแบ็กกั้นน้ำเค็ม
    13 ม.ค. 58

    แล้งเยือนสุโขทัย น้ำยมแห้งจนสันดอนทรายโผล่ยาว
    3 ม.ค. 58

    (27ม.ค.)เขื่อนภูมิพล ต้องลดการระบายน้ำลง โดยจะระบายน้ำเป็นช่วงเวลา ส่งผลกระทบต่อการเลี้ยงปลาในกระชังที่อำเภอเมืองตาก เกษตรกรต้องคอยดูระดับน้ำ เพราะหากน้ำแห้งทรายจะไหลทับกระชังปลาเสียหาย

    แม่น้ำปิง จังหวัดเชียงใหม่ ลดต่ำกระทบต่อปลาในกระชังหลายอำเภอ เกษตรกรขอให้ชลประทานช่วยรักษาระดับน้ำ และตรวจสอบการปล่อยน้ำเสียเพื่อไม่ให้ปลาตายเหมือนปีก่อน

    แม่น้ำยม จังหวัดแพร่ แห้งลงเรื่อยๆ บางจุดชาวบ้านสามารถเดินลงไปหาปลาได้กลางแม่น้ำ ขณะที่หลายพื้นที่เริ่มนำกระสอบทรายมากั้นเพื่อเก็บกักน้ำไว้ใช้ เพราะมีแนวโน้มว่าภัยแล้งจะรุนแรงขึ้น

    แม่น้ำป่าสัก ช่วงที่ไหลผ่านอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ แห้งขอด เกษตรกรส่วนใหญ่ต้องหันไปพึ่งบ่อบาดาลเพื่อปลูกผักและยาสูบ แต่ปริมาณน้ำมีน้อย เพราะมีการเจาะบ่อบาดาลกันมาก

    เกษตรกรที่เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งในจังหวัดพิจิตร ได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ต้องไล่ต้อนเป็ดไปหาแหล่งน้ำไกลจากหมู่บ้าน บางรายก็ต้องขอใช้พื้นที่นาที่เจ้าของไม่ได้ทำนาแล้วลงทุนสูบน้ำมาเลี้ยงเป็ด

    เกษตรกรอำเภอเมืองกำแพงเพชร ก็ต้องเลิกทำนาหันมาปลูกอ้อย ตามโครงการโซนนิ่ง ปรับเปลี่ยนนาให้เหมาะสมไปปลูกพืชฤดูแล้ง และพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนการทำนา

    แต่เกษตรกรที่ปลูกอ้อย ในจังหวัดนครสวรรค์ กำลังได้รับผลกระทบจากภัยแล้ง ต้องไปซื้อน้ำมารดต้นอ้อยไม่ให้แห้งตาย และยังมีหนอนมากัดกินต้นอ้อยด้วย

    เครดิต:Thairath, INN ,Ch 7,mcot
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ In & Outside World

    [​IMG]

    Kepler-444 ระบบสุริยะโบราณ
    ตรวจพบใหม่ Kepler-444 การค้นพบของดาวโบราณตั้งอยู่ 117 ปีแสงจากโลก และมี 5 ดาวเคราะห์ที่โคจรรอบ ๆ ใช่เวลาน้อยกว่า 10 วันโคจรครบรอบ การขาดน้ำและมีรังสีระดับสูง ทำให้ไม่เอื้ออำนวยต่อสิ่งมีชีวิต
    แต่การค้นพบใหม่ นำไปสู่มุมมองจักรวาลที่แตกต่างออกไป
    (ดาวฤกษ์ ที่เคยดับไปตามกาลที่เหมาะสม)

    https://www.youtube.com/watch?v=43SXZ21PURc

    http://rt.com/news/226911-space-ancient-star-system/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สร้างเฮลิคอปเตอร์ บินบนดาวอังคาร
    โดย ไทยรัฐฉบับพิมพ์ 28 ม.ค. 2558 12:01

    [​IMG]


    องค์การอวกาศสหรัฐฯแจ้งว่า กำลังสร้างเฮลิคอปเตอร์ลำเล็กๆ เพื่อจะให้ออกบินนำทางให้กับยานสำรวจพื้นผิวดาวอังคารในวันหน้า

    เฮลิคอปเตอร์นั้นจะมีสภาพเหมือนกับเป็นยานบินหุ่นยนต์ ซึ่งสามารถบินได้ไกลกว่า 3 เท่า เพื่อจะบินนำทาง เนื่องจากภูมิประเทศของดาวอังคารเต็มไปด้วยพื้นที่สูงๆต่ำๆ ดารดาษไปด้วยสันเขาและหุบเขา ยากแก่การเดินทาง

    นอกจากนั้น ยานยังจะได้อาศัยภาพถ่ายจากเฮลิคอปเตอร์ลำเล็กเพื่อศึกษาลาดเลาดูก่อน ซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่าจากภาพของยานตรวจการณ์ในวงโคจร ซึ่งโคจรอยู่สูงจากพื้นถึง 240 กม.

    เฮลิคอปเตอร์ซึ่งจะเอาขึ้นไปใช้บนดาวอังคาร ขณะนี้กำลังทดสอบอยู่ หากได้รับการอนุมัติก็พร้อมจะออกบินได้ในไม่ช้า

    เนื่องจากถ้าเทียบกับโลก ดาวอังคารมีอากาศเบาบางกว่าโลกมาก รวมทั้งแรงโน้มถ่วงที่อ่อนกว่า ดั้งนั้น เฮลิคอปเตอร์ที่สร้างนั้น จะต้องมีความแข็งแรงมากกว่า จึงจะสามารถทนกับการจะขึ้นลงในอากาศบนนั้นได้ ทั้งที่ตัวเองก็ต้องมีน้ำหนักเบาด้วย.

    สร้างเฮลิคอปเตอร์ บินบนดาวอังคาร - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Piyacheep S.Vatcharobol

    [​IMG]


    ดูแค่กราฟให้ละเอียดก่อนนะครับว่าอุณหภูมิน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นมากขนาดไหนในรอบ ๓๐ ปีที่ผ่านมา เส้นกราฟชันมกากว่า ๘๐ องศาแล้วใช่ไหมครับ
    มันสะท้อนให้เห็นความสัมพันธ์กับทุ่นต่างๆกระเพื่อมขึ้นๆลงๆเป็นช่วง ที่ข่าวว่าไม่ทราบสาเหตุ
    แต่เราทราบว่าเป็นเพราะแผ่นดินใต้น้ำปริแยก แก๊ศซัลเฟอร์ไดออกไซค์ผุดขึ้นมา ลวกปลาโลมา ปลาวาฬ สัตว์ทะเล ฯฯฯฯฯฯฯฯฯ
    แต่เราทราบว่ามีการดันตัวออกมาของโคลนภูเขาไฟ
    และเราก็ทราบว่ามีทั้งแผ่นดินแยกใต้ท่องทะเลลสาวาออกมา มีทั้งภูเขาไฟใต้ทะเลปะทุ ปล่อยเถ้าถ่านและความร้อนออกมา
    เรียกว่าสารพัดความร้อนจากใต้ดินใต้ทะเลผุดขึ้นมาหาน้ำทะเล แถมยังมีกัมมันตภาพรังสีจากโรงไฟฟ้าญี่ปุ่น ที่ปล่อยน้ำมีอุณหภูมิสูงมีรังสีลงทะเลอีก
    และก็แถมชั้นที่สอง ความร้อนจากรังสีที่มาจากดวงอาทิตย์อีก
    บ้านชายทะเล ที่พักใกล้ทะเลไม่น่าพิศมัย วิไลศักดิ์แล้วนะครับ
    เตรียมที่พักสำรองเสียแต่เนิ่นๆนะครับ จะได้ไม่ฉุกละหุ
    ซึ่งนี่ก้เป็นหลักฐานสนับสนุนภัยทางน้ำ จากทะเลมหาสมุทรที่ทำไม ต้องต้องหาดินแดนที่สูงๆไกลทะเล ๕๐๐ กิโลเมตร สูงจากน้ำทะเล ๖๐๐ เมตรอยู่ไงหละครับ
    จะดับไป หรือ จะตั้งอยู่
    ก็ขอให้มีสติเข้าใจธรรมชาติอย่างถ่องแท้นะครับ
    Rising Ocean Temperatures Burst Through NOAA's Charts
    by Lori Zimmer, 01/26/15
    National Oceanic Atmospheric Administration, NOAA, climate change, rising ocean temperatures
    Last year was not only the hottest year on record, but the National Oceanic Atmospheric Administration has just released a terrifying chart showing a sharp increase in the temperature of the world’s oceans. The graph outlines ocean temperatures since 1960, illustrating that the effects of global warming go beyond air temperature. In fact, the waters have warmed so quickly over the past 30 years, NOAA scientists have had to consistently retool their ocean heat charts to convey temperature increases.
    Proving the skeptics wrong, climate change is here and very real. If rising global air temperatures are not enough to convince critics arguing against the reality of climate change, NOAA’s chart of ocean temperatures will. Even more disturbing, NOAA has had to remake its graphs to include 2014’s ocean temperatures, because initially they logged off the charts.
    Related: Sea Ice Loss Blamed for Huge Spike in Alaskan Average Temperatures
    The soaring graph reflects the amount of heat contained in the Earth’s energy system, which equates to global warming. This can mean that air temperatures can fluctuate as energy moves from air to land to water. Measuring ocean temperatures is a more accurate way to graph global warming, as oceans retain and store roughly 90 percent of that energy.
    NOAA updates the chart every three months with their findings, showing how temperatures can change in short amounts of time. With 2014 being the highest thermal energy year in recorded history, it is like the organization will need to consistently expand their graphing system for years to come.
    Via The Grist
    Image © Magnus Bråth


    Piyacheep S.Vatcharobol

    [​IMG]

    ตามที่ถามอีกนะครับ ว่าแผ่นน้ำแข็งขนาดใหญ่กว่าสยามประเทสหลุดออกมาจากขั้วโลกใต้ จริงหรือ ไม่ ?
    อันที่จริงเป็นแผ่นน้ำแข็งเก่า แต่อัพเดทข้อมูลใหม่นะครับ แผ่นนี้แยกออกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ แล้ว
    แต่ข่าวเพิ่มเติมคือ พบว่ามีการละลายจากฐานรากขึ้นบน
    คือแทนที่จะละลายจากบนลงล่าง จากความร้อนของดวงอาทิตย์ แต่กลับละลายจากล่างขึ้นบนมากกว่าละลายจากบนลงล่าง ซึ่งผมถือว่าเป็นการบอกนัยยะว่าอุรหภูมิน้ำทะเลที่ขั้วโลกใต้สูงขึ้นมากกว่าผิวน้ำ อันเนื่องมาจากภูเขาไฟใต้น้ำแข็งระเบิดปะทุออกมาหลายลูก ทำให้ทวีปแอนตาร์กติก้าร้อนระอุขึ้นจนน้ำแข็งแตกออก เคลื่อนลงทะเลและละลาย
    เฉพาะแผ่นนี้แผ่นเดียวก็จะทำให้น้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้น ๖ เมตร ซึ่งอันนี้ผมก็เชื่อว่าเขาเตือนเป็นนัยยะแล้วนะครับว่าชายฝั่งทะเลน้ำจะท่วมสูงขึ้นถึง ๖ เมตรได้ เราๆท่านๆก็ลองตรวจว่า ระดับ ๖ เมตร หรือ ตึกแถว ๒ ชั้นนั้นมันสูงแค่ไหน แล้วบ้านท่านอยู่ในรัศมีน้ำทะเลสูงเพิ่มอีก ๖ เมตรไหม? อันนี้เป็นการเตือนแบบชิวๆ ทำนองว่าน้ำทะเลจะค่อยๆสูงขึ้นนะ
    แต่หากท่านนำข่าวแต่ละชิ้นมารวมกัน ท่านจะพบว่ามันไม่ชิวๆ ซึ่งนี่ยังไม่รวมถึงข่าว ภูเขาแห่งไฟในออสเตรเลียที่พบว่ามีอุรหภูมิสูงขึ้น
    แต่หกพันปีที่ผ่านมา อุณหภูมิมันไม่สูงขึ้นมากนัก (หรือว่าเขาลืมเอาปรอดไปวัดก่อนหน้านี้) กลับมีอุณหภูมิสูงขึ้น การเผาผลาญมากขึ้น
    ซึ่งหากท่านเอาข่าวอื่นๆมาประกอบกัน ท่านจะทราบว่าทวีปออสเตรเลียกำลังลุกเป็นไฟจริงๆ เพราะตั้งแต่ไฟป่าที่ยังดับไม่ได้ ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์นับแต่มีการรับรู้และบันทึกไว้สมัยกัปบิตันเจมส์ คุ๊ก พานักโทษไปขังไว้ที่ทวีปออสเตรเลีย ไล่ยึดที่ดินชาวอบอร์ริจิ้นจนกลายมาเป็นชาวออสเตรเลียในปัจจุบันนั้น มันร้อนขึ้นกว่าเดิม
    ทั้งหลายทั้งมวลนี้ก็เปรียบเสมือข่าวร้ายว่าเรากำลังจะเผชิญกับหายะนะครั้งใหญ่ของมนุษยชาติ เสทือนเรือที่กำลังจมน้ำ ระหว่างที่เรื่อกำลังจมน้ำไปเรื่อยๆ ดุอันตรายไม่มาก แต่เมื่อถึงจุดจุดหนึ่ง ที่จุดศูนย์ถ่วงเปลี่ยนไป เรือจะพลิกว่ำ ซึ่งใช้เวลาสั้นนิดเดียว เมื่อเทียบกับเวลาที่เรือกำลังจม และเวลาสั้นๆนี้ ความเสียหายมหาศาล ไม่เชื่อลองไปหาภาพยนตร์ "ชู้รักเรือล่ม" มาดูนะครับ
    อย่าบอกว่าเหตุการณ์ใหญ่คนจะตายเกินครึ่งโลก ทำไมไม่เป็นข่าว ทำไมไม่มีการเตือนนะครับ ?
    เขาก็พยายามเตือนเสมอมา แต่เราๆท่านะจะรับรู้รับทราบหรือไม่นั้น มันเป็นอีกเรื่องหนึ่งใช่ไหมครับ?
    สงครามโลกก็มีข่าวเตือนกันตลอด แต่เกือบทุกคนก็ไม่นำพา เตรียมพร้อมรับมือจริงจัง
    จะดับไป หรือ จะยังตั้งอยู่ ก่อนจะไปเกิดใหม่ ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง
    Antarctica's Totten Glacier, twice the size of Victoria, 'melting from below'
    Updated yesterday at 1:13pmMon 26 Jan 2015, 1:13pm
    Totten Glacier, Antarctica
    PHOTO: Totten Glacier in eastern Antarctica is twice the size of Victoria and contains enough water to raise the sea level by six metres. (Supplied: Esmee van Wijk/CSIRO)
    RELATED STORY: New record set for extent of Antarctic sea iceRELATED STORY: Thaw reveals Scott of the Antarctic expedition notebookRELATED STORY: Krill diet discovery predicts threat to Antarctic life
    MAP: TAS
    Warm ocean water is melting one of the world's biggest glaciers from below, potentially leading to a rise in sea levels, Australian scientists have discovered.
    Australian icebreaker Aurora Australis recently returned to Hobart from Antarctica, with a team of 23 scientists who had used new technology to collect the first water samples near the Totten Glacier.
    At 538,000 square kilometres, Totten is twice the size of Victoria and holds enough water to raise sea levels by six metres.
    Steve Rintoul from the Australian Climate and Environment Cooperative Research Centre said the results indicated the glacier was being melted by the sea water beneath it.
    "The measurements we collected provide the first evidence that warm water reaches the glacier and may be driving that melt of the glacier from below," he said.
    The fact that it's changing is something new, we used to think that the glaciers in east Antarctic were very stable and unlikely to change.
    Steve Rintoul, Antarctic Climate and Environment research centre
    The glacier holds enough water to raise the sea level by six metres and scientists said it had been thinning over the past 15 years.
    "We used to think the glaciers in east Antarctica were unlikely to be affected by the ocean because they were a long way away from the warm ocean waters," he said.
    "The fact that it's changing is something new, we used to think that the glaciers in east Antarctic were very stable and unlikely to change."
    But he said it was too soon to tell if the glacier was melting as a result of a changing global climate.
    "What our observations can't tell us is how things have changed over time, because this is the first time anyone has made measurements in this area," he said.
    "The measurements we've collected here are crucial for setting a benchmark that can be used to assess future change."
    Aurora Australis went where no vessel had gone before
    Tony Worby, also from the research centre, said the study was groundbreaking.
    "No ship has ever been where the Aurora Australis went on this voyage, the ship managed to get front of the Totten Glacier," he said.
    "Over the next year or two we'll process all of that data and get a really great sense of how warmer ocean water is affecting the glacier."
    The results from this expedition will be used as the benchmark for next year's trip.
    http://www.abc.net.au/…/sea-water-melting-totten-gl…/6047076
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฮิซบุลเลาะฮ์เปิดฉากโจมตียิวไซออนนิสต์แล้ว!
    ตะวันออกกลางby เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 29, 2015 348

    [​IMG]

    วานนี้ (28 ม.ค.) กลุ่มฮิซบุลเลาะฮ์ขบวนการต่อสู้แห่งเลบานอนได้เปิดฉากโจมตีขบวนรถของกองทัพอิสราเอลในเขตเชบีอาฟาร์ม ( Shebaa Farms) ขณะที่รถเหล่านั้นกำลังบรรทุกเจ้าหน้าที่และทหารไซออนนิสต์ ทำให้ศัตรูบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

    สำนักข่าวเพรสทีวีของอิหร่านรายงานอ้างคำสัมภาษณ์ จามาล วากีม ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยนานาชาติเลบานอน ที่ยืนยันว่ามีทหารของอิสราเอล 2 นาย เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 8 นาย

    ด้านสำนักข่าวท้องถิ่นของเลบานอนได้รายงานจำนวนตัวเลขทหารฝ่ายอิสราเอลแตกต่างกัน บางส่วนรายงานว่า ทหารอิสราเอล เสียชีวิต 15-17 คน และผบ.ระดับสูงได้รับบาดเจ็บ หนึ่งคน และมีความเป็นไปได้ว่า ทหารอิสราเอล อาจถูกจับเป็นเชลยอีกหนึ่งคน

    สำนักข่าวทับนอค รายงานว่า ฮิสบุลเลาะฮ์ ได้โจมตีขบวนทหารอิสราเอล บริเวณชายแดนทำให้ทหารอิสราเอล เสียชีวิตจำนวน 15 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวน 9 คน โดยทางฮิสบุลเลาะฮ์ ได้ยิงจรวดต่อต้านรถถังยิงเข้าใส่รถทหารของอิสราเอล

    ซึ่งหลังจากเกิดเหตุโจมตีขบวนรถอิสราเอลได้ไม่นาน รถถังของกองทัพยิวก็ได้เปิดฉากยิงเข้าใส่พื้นที่ของเลบานอน

    อนึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา ทหารยิวไซออนิสต์ ได้โจมตีด้วยขีปนาวุธจากเฮลิคอปเตอร์ ใส่กองกำลังนักต่อสู้กลุ่มหนึ่งของฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจเยี่ยมเมือง บริเวณใกล้ที่ราบสูงโกลัน โดยการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในเขตแดนของซีเรียครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่ขบวนรถของสมาชิกคนสำคัญของขบวนการต่อสู้ฮิซบุล เลาะห์แห่งเลบานอน ส่งผลให้มีสมาชิกกลุ่มเสียชีวิตถึง 6 คน รวมถึง “ญิฮาด มุฆนียะฮ์” บุตรชายของ “อิมาด มุฆนียะฮ์” อดีตผู้บัญชาการทหารคนสำคัญของขบวนการฮิซบุลเลาะห์และ “นายพลมุฮัมมัดอะลี อัลเลาะฮ์ดาดี” จากกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามแห่งอิหร่าน
    ซึ่งหลังจากนั้น ซัยยิดฮะซัน นัศรุลเลาะฮ์ เลขาธิการฮิซบุลเลาะฮ์ แห่งเลบานอน ก็ได้ออกมาส่งสาส์นเตือนอิสราเอล ด้วยประโยคสั้นๆ ผ่านสำนักข่าวอัลมานาร์ว่า “อิสราเอลจงเตรียมหลุมหลบภัยได้แล้ว”


    เชบีอาฟาร์ม ตั้งอยู่ที่ไหน ?

    สวนเชบีอา ( Shebaa Farms หรืออีกชื่อหนึ่ง Har Dov) ปัจจุบันอยู่ภายใต้การยึดครองของรัฐเถื่อนไซออนิสต์ ซึ่งอยู่ติดกับ จูลาน โดยสวนเชบีอา เคยเป็นชายแดนระหว่าง เลบานอน และ ซีเรีย จนกระทั่งถูกยึดครองไป ในปี 1967 โดยมีความยาวประมาณ 24 กิโลเมตร และกว้าง 13 กิโลเมตร และมีความสูง 1200 กิโลเมตรเหนือระดับน้ำทะเล ซึ่งในปัจจุบัน รัฐเถื่อนไซออนิสต์ ได้ยึด สวนต่างๆ ระหว่าง ภูเขา อัลมะซัค และ รูซจำนวน 12 แห่ง

    ทางด้านเนทันยาฮู นายกรัฐมนตรอิสราเอล ได้ออกแถลงการณ์ว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอว่า อย่าได้ลองดีกับเรา กองทัพอิสราเอล พร้อมที่จะดำเนินมาตรการขั้นรุนแรงอยู่เสมอ”

    สำนักข่าวอัลอาลัมของอิหร่านรายงานคำพูดของเนทันยาฮู ที่ได้แถลงว่า “หากใครคิดจะทำลายอำนาจของเรา ขอให้เขาระลึกเถิดว่า เกิดอะไรขึ้นกับกาซ่าบ้าง”

    ฮิซบุลเลาะฮ์เปิดฉากโจมตียิวไซออนนิสต์แล้ว! | abnewstoday
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มุสลิมชีอะฮ์โยงการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ซาอุฯกับโลกยุคสุดท้าย
    ตะวันออกกลางบทความby เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 29, 2015 155

    [​IMG]

    ในช่วงสองปีที่ผ่านมา สื่อต่างๆได้ทำการตีพิมพ์รายงานที่ค่อนข้างขัดแย้งกันเกี่ยวกับสุขภาพของกษัตริย์ อับดุลลอฮ์แห่งซาอูดี้อารเบีย ขณะที่สัปดาห์สุดท้ายก่อนการสิ้นพระชนม์ ราชสำนักซาอุดีอาระเบียได้ออกแถลงว่า กษัตริย์มีโรคปอดบวม โดยได้มีการใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจตลอดเวลา
    ในความเป็นจริง ทุกครั้งที่สุขภาพและอาการประชวรของกษัตริย์ทรุดลง สำนักข่าวต่างๆก็จะคาดเดา เขียนบทวิเคราะห์กันไปต่างๆนาๆ ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับราชวงศ์ซาอูด และการขึ้นเป็นผู้นำแทนของพวกเขาหลังการสิ้นพระชนม์ ของกษัตริย์อับดุลลอฮ์นี้ ทว่าฝ่ายนักวิชาการของชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ กลับคิดและพูดในสิ่งที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว โดยที่มีความเชื่อว่า การสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อับดุลลอฮ์นี้นั้น ถือเป็นสัญญาณต้นๆอันหนึ่งของการเชื่อมโยง อันนำไปสู่เหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ระดับช็อกโลก
    อับดุลลอฮ์ คือพระโอรสองค์ที่ 10 ของกษัตริย์ อับดุลอาซิส ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1924 แม่ของท่านคือ ฟาดะห์ บุตรีของ อะซี อัล ชูรามี หนึ่งในสมาชิกของราชวงศ์อัลราชีด ซึ่งเป็นแคนดิเดท ของราชวงศ์อัลซาอูด และเป็นราชวงศ์หนึ่งของ คาบสมุทรอาหรับที่เคยปกครอง เอมิเรต แห่ง ญาบัล ชัมมัรฺ, กษัตริย์อับดุลลอฮ์ ขึ้นครองราชย์ในปี 2005 หลังการตายของพระเชษฐา พระราชาฟาฮัด ถึงกระนั้นอำนาจก็ได้อยู่ในมือของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ตามสายรายงานพระวจนะ ของศาสดามูฮำหมัด ของฝ่ายมุสลิมนิกายชีอะฮ เกี่ยวกับเหตุการณ์หลังการสิ้นพระชนม์ ของกษัตริย์ ที่มีนามว่า ‘อับดุลลอฮ’ ในเมือง ‘ฮิญาซ’; หรือ ภาคตะวันตกของซาอุอาระเบีย ในปัจจุบัน – โดยกล่าวถึง เหตุการณ์ที่ ผู้สืบทอดราชบัลลังก์ต่อมาจะไม่เป็นที่ยอมรับ และจะมีความขัดแย้งบานปลาย และจะยังคงดำรงอยู่ จนกระทั้งการปรากฏขึ้นของ ‘อิมามมะฮดีย์’

    มุสลิมนิกายชีอะฮ เชื่อว่า อิมามผู้บริสุทธิ์นี้ คือทายาทอันชอบธรรม ในการปกครองประชาชาติอิสลาม ซึ่งการปกครองนั้นครอบคลุมหมด ทั้งศาสนจักร และอาณาจักร ด้วยอิมามทั้ง 12 ท่าน คือผู้สืบทอดของท่านศาสดามุฮัมมัด รวมถึงความเป็นผู้นำแห่งประชาชาติ โดยที่อิมามมะฮดีย์ คืออิมามคนสุดท้าย ที่ได้เร้นกายหายไปอย่างลึกลับตามพระประสงค์ของพระเจ้า และจะเป็นที่ปรากฏก็ต่อเมื่อ ถึงยุคหนึ่งที่ถูกกำหนดให้เป็นยุคสุดท้ายของโลกแห่งวัตถุนี้แล้วเท่านั้น และปรากฏพร้อมด้วยกับพระเยซูคริสต์ หรือ ศาสดาอีซาของชาวมุสลิม เพื่อนำมาซึ่งความสงบสุขไปทั่วโลก

    อ้างอิงจากหนังสือ “250 สัญญาณ จวบจนการปรากฏกายของอิมามมะฮ์ดีย์,” (“250 Signs Until the Appearance of Imam Mahdi,”) – ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) กล่าวว่า: “ครั้นวันโลกาวินาศ ชายผู้หนึ่งที่มีชื่อเหมือนกับสัตว์จะขึ้นครองบัลลังก์ และหลังจากนั้นชายชื่ออับดุลลอฮจะเข้ามามีอำนาจ ใครก็ตามที่แจ้งแก่ฉันเกี่ยวกับความตายของเขา ฉันจะแจ้งแก่เขาซึ่งการปรากฏขึ้น (ของมะฮดีย์) ด้วยหลายวัน หลายเดือนผ่านพ้นไปหลังการตายของอับดุลลอฮ์ รัฐบาลนั้นจะปรากฏขึ้น”
    นักการศาสนาที่สอนอยู่ในเมืองกุม ประเทศอิหร่าน บอกกับสำนักข่าว Al-Monitor โดยไม่ประสงค์ออกนามว่า, “ชายที่มีชื่อเหมือนสัตว์ (ณ ที่นี้) มีความเป็นไปได้ว่า จะหมายถึง กษัตริย์ฟาฮัด เนื่องจากชื่อของเขานั้นมีความหมายว่า สัตว์นักล่า เจ้าเสือชีตาห์ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ็อลฯ) ได้เคยกล่าวไว้”
    บิฮารุล อัล อันวาร (The Bahar al-Anvar) หนังสือรวบรวมฮาดิษ ได้รวบรวมสุนทรพจน์บทหนึ่ง ของอิมามคนที่ 6 ของชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ หรือท่านอิมามซอดิก เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไว้ ตามที่ท่านได้กล่าวว่า: “เมื่ออับดุลลอฮตาย ผู้คนจะไม่เห็นชอบด้วยกับใครก็ตาม(ที่จะมาแทน) และเหตุการณ์เช่นนี้จะดำรงอยู่ กระทั่งการปรากฏของอิมาม (มะฮดีย์) รัชสมัยร่วมร้อยปีจะสิ้นสุดลง และยุคแห่งราชอาณาจักรที่ไม่มีวันล่มสลาย จะมาถึงภายในเวลาไม่กี่วัน ไม่กี่เดือน”

    นักวิชาการมุสลิมชีอะฮกล่าว, “มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ต่อสู้เพื่อแย่งชิงราชบัลลังก์ในซาอุดิอาระเบีย ณ ปัจจุบันนี้ ตามที่ กษัตริย์อับดุลลอฮ์ ได้มีความพยายามในการสร้างบทบาทใหม่ให้กับ รองมกุฎราชกุมาร ซึ่งความจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ หากเจ้าชายซัลมานได้ขึ้นครองราชย์ และ มุคริน บุตรของอัลดุลอาซิส ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองมกุฎราชกุมาร นั่นแปลว่า รองมกุฎราชกุมารคนต่อไปก็จะเป็น มูติบ บุตรชายของอัลดุลลอฮ์ ดังนั้น เราจึงสามารถคาดการณ์ถึงความตึงเครียดระหว่าง บุตรชายของกษัตริย์อับดุลลอฮ และพระเชษฐาของเจ้าชายซัลมาน ที่จะบานปลายขึ้น หลังจากการจากไปของ กษัตริย์อับดุลลอฮ
    ในปี 2012 ซัลมาน บุตรของ อับดุลอาซิซ ได้รับการสถาปนาเป็นมกุฎราชกุมาร และสองปีหลังจากนั้น มุคริน บุตรของอัลดุลอาซิส ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองมกุฎราชกุมาร
    อ้างอิงจาก นสพ. Al-Akhbar ระบุว่า กฎมณเทียรบาลได้ บัญญัติ ไว้ว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไท คือแคนดิเดท ที่มีโอกาสมากที่สุดในการรับตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี และหลังจากนั้น คือตำแหน่งของ มกุฎราชกุมาร แต่หลังจากที่มีการยกระดับสถานะ ของกองกำลังรักษาดินแดนแห่งชาติ ดำรงตำแหน่งผู้บังคับบัญชาการ โดย มูติบ บุตรชายของอัลดุลลอฮ์ ซึ่งได้รับคำสั่งให้มีการเปลี่ยนให้มัน กลายเป็นกระทรวงๆหนึ่ง ที่มีสถานะเทียบเท่ากันกับ กระทรวงกลาโหมและกระทรวงมหาดไท นับได้ว่า ปีกของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ ในหมู่ราชวงศ์ ได้ถูกกางไว้เป็นอย่างดี เพื่อความพร้อม เป็นแคนดิเดทชิงราชบัลลังก์ที่แข็งแกร่งไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วSAROYALS_GC

    [​IMG]

    นักการศาสนาในเมืองกุมกล่าวอ้างจากพระวัจนะของศาสดามูฮำหมัด ถึงเหตุการณ์ที่ว่า ผู้นำในฮิญาซ จะปกปิดถึงข่าวการตายของกษัตริย์ในระยะเวลา 40 วัน ซึ่งถ้าดูจากพระอาการประชวรของคิงส์อับดุลลอฮ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วก็ได้
    บางคนเชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของกลุ่มก่อการร้ายใน อิรักและซีเรีย(ISIS,ISIL) ที่มาพร้อมด้วยธงสีดำของพวกเขา ก็คืออีก สัญลักษณ์หนึ่งของการหวนกลับมาของอิมามะฮดีย์

    ดั่งที่มีรวบรวมไว้ในหนังสือ “Comments on the Peak of Eloquence” และหนังสือ Nahj al-sa’adah fi mustadrak และหนังสือ นะฮ์ยุลบาลาเฆาะฮ์ ของอิมามอะลี อิมามคนแรกของมุสลิมนิกายชีอะฮ์ ความว่า “เมื่อเจ้าเป็นพยานเห็น ธงสีดำ จงนิ่งเฉยเสีย เนื่องด้วยว่า เสียงเรียกของพวกเขาคือสิ่งที่เป็นโมฆะ และไม่ชอบธรรมถูกต้อง และเจ้าอย่าได้ช่วยเหลือพวกเขา หัวใจของพวกเขานั้นแข็งกระด้างเหมือนได้ถูกเติบเต็มไปด้วยเหล็ก พวกเขาไม่ให้เกียรติในการรักษาสัญญา พวกเขามีชื่อและฉายาที่ถูกตั้งตามชื่อของเมืองต่างๆ”

    นักวิชาการในเมืองกุม อธิบายคำกล่าวข้างต้นไว้ว่า “ธงสีดำ อันนี้สามารถให้ความหมายถึง ธงของพวก ISIS ที่ขณะนี้กำลังเข่นฆ่าผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก ในภูมิภาคนี้ ด้วยความโหดร้ายป่าเถื่อน และ เมื่อคำนึงถึงชื่อที่เหมือนกับเมืองต่างๆ ผมสามารถอ้างถึง อบู บักรฺ อัล บักดาดี (เมืองแบกแดด) หรือ อูมาร อัล เชเชน(เมืองเชเชน เชสเนีย)”
    เขายังกล่าวต่อว่า “นักการศาสนาในเมืองกุมหลายๆท่านต่างมีความเชื่อว่า การมาถึงของอิมามมะฮดีย์นั้นใกล้มากแล้ว แม้แต่ อุลามาอฺที่สำคัญหลายๆคนก็ได้แสดงออกถึงความหวังที่พวกเขามีต่อเหตุการณ์เหล่านี้ ให้บังเกิดขึ้น และได้ทำการเชิญชวนให้ผู้คนเตรียมความพร้อมเพื่อช่วยเหลือท่านอิมามมะฮดีย์”
    “สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภูมิภาค ณ ขณะนี้ มีความคล้ายคลึงเป็นอย่างมากต่อสิ่งที่อิมามหลายๆท่านได้เคยพยากรณ์ไว้ เกี่ยวกับเงื่อนไข ต่างๆที่จะเกิดขึ้น ก่อนการปรากฏกายของท่านอิมามมะฮ์ดีย์ ดังนั้น ช่วงเวลาที่ต้องเผชิญกับความจริง อาจใกล้ปรากฏแล้ว”

    นักประวัติศาสตร์ มูฮัมมัด โฮสเซ็น ราจาบี ดาวานี บอกกับ นสพ. Iranian ว่า: “ด้วยความเคารพถึงสัญญาต่างๆในฮาดิษของมุสลิมนิกายชีอะฮ์ อย่างแน่นอนเรากำลังประสบกับวันโลกาวินาศ ทว่าวันโลกาวินาศไม่มีระยะเวลากำหนดไว้ ไม่เป็นที่รับรู้ว่า มันจะเริ่มขึ้นและจะยุติงลงเมื่อใด”
    กระนั้น ก็ยังมีบางรายงาน (ริวายะฮ์) และฮาดิษของชาวมุสลิมนิกายชีอะฮ ที่มีความขัดแข้งกับรายงานที่ยกมาก่อนหน้านี้ โดยชี้แนะถึงสัญญาณที่แตกต่างกันออกไปถึงการปรากฏของอิมามมะฮดีย์ ณ วันนี้ อย่างไรก็ดี หลายๆคนต่างคาดการณ์เป็นเสียงเดียวกัน เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่จะติดตามมาหลังการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ซาอุฯ เช่นเดียวกันกับผลกระทบของมันต่อการพัฒนาของโลก ด้วยสาเหตุจากการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์อับดุลลอฮ์ ได้มีการวิเคราะห์ถึง ความมั่นคงของกรุงริยาดว่าอาจจะมาถึงจุดสิ้นสุด และเป็นการเปิดเผยการเชื่อมโยงคำพยากรณ์ ที่ร้อยเรียงไปถึงยุคสมัยการกลับมาของอิมามมะฮดีย์

    ถอดความโดย Ummul shuhada

    Al-Monitor: the Pulse of the Middle East

    มุสลิมชีอะฮ์โยงการสิ้นพระชนม์ของกษัตริย์ซาอุฯกับโลกยุคสุดท้าย | abnewstoday
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Waraporn Rot

    [​IMG]

    แรงพยาบาท-ถาดทอง
    เหตุที่พระเทวทัตอาฆาตพยาบาทพระพุทธเจ้าทุกๆชาติ
    ในอดีตกาลล่วงมานานแสนนาน ณ เสริวประเทศ มีพ่อค้าอยู่ 2 คน ชื่อว่า "เสรีวัน" และ "เสรีวะ" พ่อค้าทั้ง 2 คนอยู่ในตำบลเดียวกัน และได้ค้าขายร่วมทางกันตลอดมา พ่อค้าคนที่ชื่อเสรีวันเป็นคนที่ซื่อสัตย์ แต่คนที่ชื่อเสรีวะ เป็นคนโลเลและโลภมาก ทั้งสองคนต่างยึดอาชีพเร่ซื้อขายของไปตามเมืองต่าง ๆ ร่วมกัน
    อยู่มาวันหนึ่งทั้งสองได้ชวนกันสะพายย่ามและหาบสินค้าไปขายยังตำบล หนึ่งในเมืองอริฏฐปุระ แล้วก็แยกทางกัน เสรีวันเดินเข้ามาทางทิศตะวันออก ส่วนเสรีวะเดินเข้ามาทางตะวันตกของตำบลนั้น เสรีวะได้ไปถึงเรือนเศรษฐีตกยาก ซึ่งมีแต่ยายกับหลานสาวที่อาศัยอยู่ด้วยกันสองคน เมื่อหลานสาวเห็นเครื่องประดับที่พ่อค้าคนนั้นเร่ขายก็ร้องไห้ด้วยความอยาก ได้ ยายจึงนำถาดเก่าคราคร่ำใบเดียวที่มีอยู่ออกมาขอแลก พ่อค้าคนนั้นเอาเข็มขีดขูดดูจึงรู้ว่า เป็นถาดทองคำแท้ จึงนำถาดไปชั่งน้ำหนักดูก็เห็นราคาคงราว ๆ แสนกหาปณะ (เป็นการเรียกเงินตราในสมัยพุทธกาล 1 กหาปณะมีมูลค่าเท่ากับ 4 บาทไทย)
    พ่อค้าคนนั้นจึงเกิดความโลภ อยากได้เปล่าจึงวางถาดนั้นเสีย แล้วบอกกับยายว่าไม่มีราคาไม่อาจแลกของอะไรได้เลย และก็จากไป ด้วยความหวังเมื่อย้อนกลับมาก็จะได้ถาดนั้นเปล่า ๆ หรือไม่ก็แลกกับของราคาถูก ๆ ทำให้หลานสาวของยายร้องไห้คว่ำครวญด้วยความผิดหวัง
    เมื่อพ่อค้าโลเลโลภมากคนนั้นจากไปสักพักใหญ่ นายเสรีวันพ่อค้าที่เดินทางมาจากทางทิศตะวันออกก็เร่ร้องซื้อขายของมาถึง เรือนเศรษฐีตกยากหลังนั้นเช่นกัน ยายกับหลานสาวก็นำถาดนั้นออกมาขอแลกเปลี่ยนกับเครื่องประดับอีก พ่อค้าคนนั้นจึงยกถาดนั้นชูขึ้น เห็นว่าหนักแปลกกว่าถาดธรรมดา จึงขีดขูดดูด้วยเข็มดังเช่นพ่อค้าคนก่อนหน้านี้ทำ ก็รู้ว่าเป็นทองคำ จึงบอกออกไปตามความจริงว่า "ถาดใบนี้เป็นทองคำมีราคาถึงหนึ่งแสนกหาปณะ"
    ส่วนสินค้าที่เขามีอยู่ราคาเพียง 500 กหาปณะเท่านั้น ย่อมไม่สามารถจะแลกเปลี่ยนกันได้ ยายเจ้าของถาดจึงบอกว่า "เมื่อ สักครู่นี้มีพ่อค้าคนหนึ่งมาดูแล้วบอกว่า เป็นของไม่มีราคา แต่มาบัดนี้ได้ปรากฎขึ้นมาว่าเป็นทองคำ ก็เห็นจะเป็นบุญของเธอกับหลานสาวมาก เธอจึงให้เลือกกับสินค้าตามสมควรเถิด"
    เมื่อยายเจ้าของถาดอ้อนวอนอย่างนี้อยู่ถึงสองสามครั้ง พ่อค้าจึงยอมตกลงยกสินค้าที่มีทั้งหมด ซึ่งมีราคาเพียง 500 กหาปณะกับเงินอีก 500 กหาปณะให้ แล้วรีบนำถาดนั้นกลับที่พักโดยเร็ว
    เมื่อเสรีวันออกไปพ้นหมู่บ้านแล้ว ก็ได้เวลาที่เสรีวะย้อนกลับมา พอทราบว่าเสรีวันได้นำถาดไปเสียแล้วก็แค้นใจ เสียใจจนล้มลงหมดสติไป เมื่อฟื้นขึ้นมาจึงคว้าไม้แล้วออกวิ่งตามหา และไปทันเสรีวันที่กำลังจะข้ามแม่น้ำไปถึงฝั่งตรงข้าม จึงร้องตะโกนให้กลับมา แต่เสรีวันไม่ยอมกลับ เสรีวะเกิดความขัดเคืองสุดขีด กำทรายขึ้นมาหนึ่งกำแล้วตะโกนว่า "ข้าจะตามจองล้างจองผลาญเจ้าไปทุกภพทุกชาติ ให้มากกว่าเม็ดทรายทั้งหมดที่ข้ากำอยู่ในมือนี้"
    ครั้นเสรีวะกล่าวจบก็มีโลหิตพุ่งออกมาจากปากของเขาด้วยอำนาจความแค้น เคืองเศร้าโศกเสียใจเป็นกำลัง ถึงกับล้มลงขาดใจตาย ณ ที่นั้นเอง
    ท่านผู้อ่านควรจะทราบต่อไปว่าพ่อค้าที่ชื่อเสรีวะนั้นคือ พระเทวทัต ที่ผูกอาฆาตพระพุทธเจ้าเป็นครั้งแรกและตามล้างแค้นกันมาหลายชาติจนถึงชาติ สุดท้ายได้เกิดเป็นพระเทวทัต และพ่อค้าเสรีวันเกิดเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระเทวทัตตามประทุษร้ายพระพุทธองค์หลายครั้งหลายคราแต่ไม่สำเร็จ
    ท่านทั้งหลายคงเห็น ฤทธิ์ของความพยาบาท ความโลภ และความหลงผิดกันแล้วว่า มันเป็นเหตุแห่งความทุกข์และนำไปสู่ความหายนะ แต่ในทางตรงกันข้ามถ้ายิ่งมีสิ่งเหล่านี้ในตัวของคนเราน้อยเท่าไร ก็จะทำให้ชีวิตพบเจอแต่ความสุขความเจริญมากเท่านั้น
    ที่มา thammasatu.com
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทำไมผมจึงไม่เป็น “ชาร์ลี เอบโด”??
    เรื่องเด่นประเด็นร้อนby เอบีนิวส์ทูเดย์ - ม.ค. 27, 2015 982

    [​IMG]

    ในปี 2011 เมื่อสำนักงานของชาร์ลี เอบโด ถูกยิงระเบิด ผมได้เขียนบทความหนึ่งใช้ชื่อเรื่องว่า การยั่วยุทางการเมือง : การยิงระเบิดใส่นิตยสารชาร์ลี เอบโด หมายถึงอะไร ในบทความนั้นผมได้เขียนไว้ว่า จุดประสงค์ของเอบโดในการตีพิมพ์การ์ตูนในทำนองเหยียดชาติพันธุ์และสร้างความ เกลียดกลัวอิสลามนั้นก็เพื่อการยั่วยุ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายสุดโปรดของมันก็คือศาสนาอิสลามและชาวมุสลิม (โดยเฉพาะชาวมุสลิมฝรั่งเศส)

    ชาร์ลี เอบโด รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ พวกเขาต้องการที่จะยั่วยุ พวกเขาสร้างกระแสข่าวและดึงดูดความสนใจของสื่อทั่วโลกให้หันมาที่นิตยสารของ พวกเขาซึ่งมีคนติดตามน้อยมากภายนอกฝรั่งเศส

    ผมเขียนไว้ตอนนั้นว่า การตอบสนองที่ดีที่สุด “สำหรับการสร้างความขุ่นเคืองหรือความรำคาญใจเหล่านั้นน่าจะเป็นการประท้วง อย่างสันติ หรือการเขียนล้อเลียนสิ่งพิมพ์ของชาร์ลี เอบโด หรือทำเหมือนที่คนส่วนใหญ่ทำ นั่นก็คือ อย่าไปใส่ใจกับมัน”

    ผม ยังได้กล่าวถึงความเกลียดกลัวคนต่างชาติพันธุ์อย่างน่าอึดอัด สภาวะต่อต้านมุสลิมของฝรั่งเศส กับการที่มันทำให้ชาวมุสลิมและชนกลุ่มน้อยชาวแอฟริกาเป็นพวกชายขอบในทุก แวดวงของสังคมและชีวิตทางการเมืองของชาติ และการเพิ่มขึ้นของอาชญากรรมเนื่องจากความเกลียดชังที่มีต่อชาวมุสลิม (เรื่องนี้ยิ่งแย่ลงตั้งแต่นั้น)

    สุดท้าย เนื้อเรื่องที่ไม่ถูกบอกเล่าในประวัติความกล้าหาญของฝรั่งเศสก็คือ ความสัมพันธ์อันขมขื่นระหว่างการสถาปนาฝรั่งเศสกับชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม อิสลามถูกทำให้เป็น “คนอื่น” ไปในฝรั่งเศสและทั่วยุโรป เหมือนที่เป็นในสหรัฐฯ แต่ในฝรั่งเศส มันอยู่ในระดับต่อไปแล้ว

    ใน ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ความดึงดันในการต่อต้านมุสลิมได้เพิ่มสูงขึ้นเป็นครั้งคราว โรงเรียนของรัฐห้ามสวมฮิญาบ ผ้าคลุมหน้าก็ถูกห้ามไปด้วย และหลังจากเกิดกระแสความนิยมต่อพรรคชาตินิยมต่อต้านมุสลิมของมารีน เลอ แปง ซาร์โกซี่และคณะได้จัดให้มีการ “สนทนาระดับชาติ” เกี่ยวกับอิสลามขึ้น

    จาก รายงานฉบับหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ กระแสความเกลียดกลัวอิสลามได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในฝรั่งเศส… เห็นได้ชัดว่าอัลกออิดะฮ์ในเยเมน องค์กรต่างชาติที่ไม่เกี่ยวข้องกับฝรั่งเศส กำลังเล่นเกมยั่วยุทางการเมืองของมันเอง มันต้องการที่จะ “เสี้ยมความขัดแย้งให้แหลมคมยิ่งขึ้น” และส่งเสริมการต่อสู้ระหว่างมุสลิมกับผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมในฝรั่งเศสให้หนัก หน่วงขึ้น มีคนจำนวนมากเหลือเกินที่เต็มใจจะใช้แผนการเช่นนั้น กลุ่มหัวรุนแรงจากทั้งสองฝ่าย เกาะกินซึ่งกันและกันเหมือนกับปลิง

    แล้วทำไมผมจึงไม่เป็นชาร์ลี เอบโด? ทำไมผมจึงไม่สามารถรู้สึกดีกับกระแสแฮชแท็ก #JeSuisCharlie ได้?

    ผม ไม่สามารถโกหกได้ทั้งที่สติดีแล้วบอกว่า บรรดาผู้ถูกฆ่าเหล่านั้นเป็น “ผู้พลีชีพเพื่อเสรีภาพในการพูด” ผมเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการสังหารหมู่ เป็นความน่าชัง และเป็นผลมาจากวิธีการเยาะเย้ยขององค์กรต่างชาติหัวรุนแรงที่ปลอมตัวมาภาย ใต้ธงของอิสลาม ในเมื่อทั้งหมดที่พวกเขาต้องการให้ได้มาคืออำนาจ ส่วนการประณามสาปแช่งเป็นของชาวมุสลิมผู้ต้องรับเคราะห์เพราะการกระทำของพวก เขา

    ในขณะเดียวกันกับที่ผู้ก่อการร้ายในรูปแบบกึ่งทหารกลุ่มนี้ กำลังจัดการกับเจ้าหน้าที่ตำรวจมุสลิมฝรั่งเศสที่ชื่ออาห์เมด เมราเบต ผู้ซึ่งเป็นคนแรกที่เข้าไปช่วยในเหตุการณ์ที่สำนักงานเอบโด นักเรียนตำรวจมุสลิมชาวเยเมน 35 คน ถูกระเบิดโดยอัลกออิดะฮ์ แต่ทว่าไม่มีใครถือว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องนี้?

    ผมไม่ สามารถพูดได้ว่า “JeSuisCharlie” เพราะผมรู้ว่า หนังสือพิมพ์เพื่อเสรีภาพยุคใหม่ฉบับนี้สนับสนุนอะไร : การพูดในเชิงเหยียดชาติพันธุ์, เหยียดเพศ และสร้างความเกลียดกลัวอิสลาม ลองดูตัวอย่างเพียงเล็กน้อยจากจำนวนมากมายของมัน

    ---
    @CharlieHebdoMuhammad ดูภาพ
    ----
    นั่นเป็นภาพที่แสดงถึงมุสลิมอาหรับที่มีรอยยิ้มอวดดีเซ่อซ่าและจมูกเหมือนตะขอ ที่คาดหวังได้จากพวกเหยียดชาติพันธุ์ หรือดูตัวอย่างฉบับหลังจากเด็กสาวชาวไนจีเรียถูกโบโกฮารัมลักพาตัวไป

    ---
    @Hebdo_Boko_Welfare ดูภาพ
    ---
    เด็กสาวถูกนำเสนอเป็นภาพที่กำลังร้องว่า “เอามือออกไปจากเช็คสงเคราะห์ของเรานะ!” เป็นการอ้างอิงถึงการเหยียดชาติพันธุ์ที่ไม่ค่อยแนบเนียนเท่าไหร่ต่อชนกลุ่ม น้อยที่ยากจน ซึ่งพบได้ทั่วไปในโลกตะวันตก ไม่เฉพาะในฝรั่งเศส

    หรือลองดูตัวอย่างนี้ ผมสงสัยว่ามันจะพูดอะไรได้?
    ---
    @Hebdo_Quran_Bullets ดูภาพ
    ---
    การหลอกลวงของชาร์ลี เอบโด เมื่อเป็นเรื่องเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดจะต้องถูกกล่าวถึงด้วยเช่นกัน มันได้ไล่นักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งออกเนื่องจากมีเจตนาในการต่อต้านยิว เพราะเขียนล้อเลียนลูกชายอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสผู้ซึ่งเปลี่ยนไปนับถือ ศาสนายิว ดังที่นักข่าวของ NBC ชื่อ อัยมัน มุห์เยลดีน ได้เขียนไว้ว่า

    เอบโดได้ไล่นักเขียนการ์ตูนคนหนึ่งออก และกล่าวหาว่าเขาเป็นพวกต่อต้านยิว เพราะเขาได้ล้อเลียนลูกชายของอดีตประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่เปลี่ยนไปนับถือ ศาสนายิว ทำไมการล้อเลียนบุคคลที่มีชีวิตอยู่จึงถือเป็นการพูดด้วยความเกลียดชังต่อ ต้านยิว แต่การล้อเลียนบุคคลสำคัญทางศาสนาจึงไม่เป็นไร? ใครเป็นคนตัดสินว่าอะไรคือการต่อต้านยิว และใครตัดสินว่าอะไรคือความเกลียดกลัวอิสลาม?

    นี่ไม่ใช่ หนังสือพิมพ์ที่ประวัติในการใช้คำพูดด้วยความเกลียดชังและการหลอกลวงของมัน ควรจะถูกล้างให้ขาวสะอาดจนเป็นอนุสาวรีย์ผู้พลีชีพเพื่อเสรีภาพในการพูดไป ได้ ถ้อยคำเย้ยหยันของมันมีเป้าหมายเพื่อทำลายผู้ถูกกดขี่ และเพื่อผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจ

    สุดท้ายนี้ ผมขอย้ำอีกครั้งว่าไม่มีความชอบธรรมใดๆ สำหรับการสังหารหมู่ในปารีสหรือในเยเมนที่กระทำการโดยอัลกออิดะฮ์ ผมหวังว่าผู้กระทำผิดจะถูกจับกุมและถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว เพื่อที่ครอบครัวเหล่านั้นจะได้รู้สึกสงบและคลายความทุกข์ไปได้บ้าง

    อย่างไร ก็ตาม ในกระบวนการนั้น ชาวมุสลิมไม่ควรที่จะถูกปฏิเสธและถูกลบความเป็นตัวตนของพวกเขาไป ด้วยการถูกขอให้ประณามซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อการกระทำที่พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยว ข้องใดๆ แต่ถูกถือว่ามีความผิดเพียงเพราะพวกเขาปรากฏตัวอยู่ตรงนั้น

    **เพิ่มเติม : เมห์ดี เป็นนักวิจารณ์และนักเขียนคอลัมน์ ได้เขียนประเด็นเพิ่มเติมที่ผมนำมารวมไว้ด้วยการอนุญาตของเขา – (Garibaldi) :

    มีประเด็นที่มีค่ามากมายในบทความนี้ แต่ยังขาดหายไปบางประเด็น

    ผม ไม่เคยเชื่อว่าผมจะต้องเขียนอะไรเพื่อปกป้องชาร์ลี ที่จริงแล้วผมเป็นนักวิจารณ์เนื้อหาของมัน ส่วนภาพล้อเลียนนั้น ผมยักไหล่และเลือกที่จะไม่ใส่ใจกับมันหรือวิพากษ์วิจารณ์มัน เหมือนกับมุสลิมส่วนใหญ่ ผมวิจารณ์ภาพวาดอื่นๆ ที่ไม่เคยสร้างความแตกต่างระหว่างมุสลิมกับพวกหัวรุนแรงเลยมากกว่า ดังนั้น ชาร์ลี เอบโดมีมุมมองเกี่ยวกับเสรีภาพในการพูดเถียงด้านเดียว และไม่ซื่อสัตย์ ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดคือสมัยที่ Philippe Val เป็นประธาน เขาทำสงครามอย่างจริงจังกับอิสลาม และนับตั้งแต่ที่เขาออกไป ท่วงทำนองนั้นได้ปรากฏขึ้นทีละน้อย ยกตัวอย่างเช่น พวกเขาวาดการ์ตูนเกี่ยวกับไอซิซ ที่ผมเห็นว่าตลก

    ทีนี้ ขณะที่พนักงานในชาร์ลี เอบโดไม่ใช่วีรบุรุษแห่งเสรีภาพในการพูดที่บางคนอยากให้เป็น พวกเขาก็ไม่ใช่พวกเหยียดชาติพันธุ์เหมือนที่คนอื่นๆ บรรยาย ผลงานและรูปแบบของพวกเขาเป็นแบบฝรั่งเศสที่ผสมผสานกับอารมณ์ขันที่ไม่ยั้ง คิด มีความเผ็ดร้อนแบบซ้ายจัด ต่อต้านศาสนาแบบเลยเถิด ซึ่งมุ่งเป้าไปที่ทุกคน (ตั้งแต่แคธอลิกไปจนถึงยิว พวกเขายังโจมตีอิสราเอล และทุกฝ่ายด้วย) ผมไม่เคยซื้อชาร์ลี และคิดว่าโดยทั่วไปแล้วมันไม่ตลก เหมือนกับมุสลิมส่วนใหญ่ ผมจะเฉยๆ กับมัน และบางครั้งโพสต์คำวิจารณ์บนหน้า FB ของผม ส่วนหนึ่งในงานของพวกเขาเป็นการฉวยโอกาส เหมือนการตีพิมพ์การ์ตูนเมื่อมีความตึงเครียดเกิดขึ้นเนื่องจากงานภาพยนตร์ ในยูทูปเมื่อปี 2011

    อีกประเด็นหนึ่งที่ไม่น่าจะมองข้ามไป นั่นก็คือ ชาร์ลีเป็นที่ผสมปนเปกันของนักหนังสือพิมพ์ที่มีความรู้สึกต่างๆ กัน เช่น

    – Sine ถูก Philppe Val ไล่ออกเพราะเชื่อว่าเป็นพวกต่อต้านยิว และผลงานของเขา ซึ่งช่วงแรกต่อต้านไซออนิสต์อย่างยิ่ง แต่เปลี่ยนเป็นเชิงเกลียดกลัวอิสลามด้วยเหมือนกัน

    – Cabu ซึ่งหลายคนที่ผมรู้จักบอกว่าเขาเป็นคนน่ารักมาก เปิดกว้างต่อการพูดคุย และไม่มีอคติในเชิงเหยียดชาติพันธุ์กับใครเลย

    – Wolinski เป็นนักนิยมอนาธิปไตยแบบยุค 70s และไม่ค่อยสนใจในอิสลาม

    – Charb เป็นคนที่เชื่อฝังหัวในเรื่องเสรีภาพในการพูดจนถึงขนาดเป็นคนหัวรั้น แต่เขาเป็นคนซับซ้อน มีข่าวลือว่าเขาไม่เห็นด้วยกับการไล่ Sine ออก ผมคิดว่าเขาเป็นพวกเกลียดกลัวอิสลาม แต่ต้องประหลาดใจที่ได้ยินเขาพูดอย่างมีเหตุผลระหว่างการอภิปรายเกี่ยวกับ ความเกลียดกลัวอิสลาม ซึ่งเขาใช้คำพูดแรงๆ ต่อนักวิจารณ์ที่เป็นพวกเกลียดกลัวอิสลาม

    Bernard Maris เป็นคนที่ผมอาลัยที่สุดจากพวกเขาทุกคน เขาเป็นคนประหยัดตัวจริงและตลกมาก ไม่ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยกับเขาไปทุกเรื่อง แต่เพื่อนๆ ชาวอัลจีเรียหลายคนพูดถึงเขาด้วยความรัก เป็นคนมีเหตุผลและน่ารักเหมือนที่เกือบทุกคนรับรอง

    – คนที่ถูกยิงไม่ได้มีเพียงตำรวจมุสลิมที่ชื่ออาห์เมดเท่านั้น แต่ยังมีมุสตอฟาด้วย Zineb El Ghazoui นักหนังสือพิมพ์ชาวโมรอคโค (ที่ผมไม่ชอบจริงๆ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น) เป็นพนักงานคนหนึ่ง แต่ไม่อยู่ที่นั่นระหว่างเกิดเหตุกราดยิง

    ขณะที่มีเหตุผลสมควร ที่จะวิจารณ์ชาร์ลี แต่สิ่งที่เกิดขึ้นช่างน่าสยดสยอง โดยส่วนตัวผมยังตกตะลึงไม่หาย ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นนักหนังสือพิมพ์ชาวอัลจีเรีย และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พวกเขานึกถึงนักหนังสือพิมพ์มากกว่า 100 คนที่ถูกฆ่าในช่วงปี 1990 สัตว์โลกที่ทำเรื่องนั้นได้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชาวมุสลิม และไม่สมควรที่จะถูกเรียกเช่นนั้น เสรีภาพในการพูดไม่ใช่หัวข้อที่จะถกเถียงกัน มันไม่มีเงื่อนไข ไม่ต้องกล่าวถึงเลยว่า การโจมตีครั้งนี้จะเป็นสาเหตุให้เกิดปฏิกิริยากับมุสลิม…อีก

    ผม อยู่ในเนเธอร์แลนด์เมื่อปี 2005 ตอนที่แวนโกะถูกฆาตกรรม ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร แต่ผมได้เห็นผลที่เกิดขึ้นตามมาสำหรับชาวมุสลิม เราต้องต่อสู้เหมือนกับวิลเดอร์ แต่เราไม่ควรจะปล่อยการปกป้องเสรีภาพในการพูดให้กับพวกเกลียดกลัวอิสลามหรือ พวกเหยียดชาติพันธุ์อื่นๆ นี่คือเหตุผลที่ผมเข้าร่วมในการชุมุมและจะร่วมเดินขบวนวันอาทิตย์ด้วย ผมมีความสุขที่ได้เห็นพวกเกลียดกลัวอิสลามและพวกชอบยั่วยุถูกไล่ออกไปจากการ ชุมนุมเมื่อวันพุธ เสรีภาพในการพูดไม่ควรจะถูกปล่อยให้นักเกลียดกลัวอิสลามออกมาปกป้อง มิฉะนั้นมันจะเป็นหายนะสำหรับชาวมุสลิม
    ดังนั้น ในขณะที่ผมไม่ได้ลงชื่อเห็นด้วยกับ Iamcharlie แต่ผมสนับสนุนข้อความของมัน การสนับสนุนชาร์ลีไม่ใช่การเห็นด้วยกับกองบรรณาธิการหรือเรื่องราวของมัน แต่มันเป็นการดำเนินไปตามมาตรฐานและแสดงให้เห็นว่าชาวมุสลิมก็เป็นเหมือน พลเมืองฝรั่งเศสคนอื่นๆ ทั้งหมด พวกเขามีความหวังเหมือนกัน มีสิทธิ์เหมือนกัน และเป็นเหยื่อของเหตุการณ์ร้ายนี้ด้วยเหมือนกัน


    แปลจากบทความต่างประเทศ
    เขียนโดย Garibaldi
    ที่มา Loonwatch.com - "The Mooslims, they're heeere!"



    ทำไมผมจึงไม่เป็น “ชาร์ลี เอบโด”?? | abnewstoday
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ConStantine Elzindu

    [​IMG]

    ‪#‎ข่าวภัยพิบัติ‬
    /// เชียงราย กรมทรัพยากรธรณี ตรวจดินยุบจากแผ่นดินไหวอีก 1 สัปดาห์สรุปต้องเตือนพื้นที่หรือไม่ ///

    เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรธรณี ได้นำเครื่องมือและอุปกรณ์เข้าตรวจสอบพื้นที่ที่เกิดดินยุบตัวกลางทุ่งนาพื้นที่บ้านดงมะเฟือง 9 ต.จอมหมอกแก้ว อ.แม่ลาว จ.เชียงราย โดยเป็นหลุมกว้างประมาณ 3-4 เมตร และลึกประมาณ 3 เมตร เหตุเกิดวันที่ 16 ม.ค. ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดเจ้าของที่ดินได้นำดินไปทำการถมพื้นที่ให้อยู่ในสภาพเดิม ภายหลังจากเจ้าหน้าที่จากกรมทรัพยากรธรณีได้เข้าไปตรวจสอบทางกายภาพภายนอกแล้ว โดย นายศุภวิชญ์ ยอแสงรัตน์ นักธรณีวิทยาชำนาญการ กรมทรัพยากรธรณี ได้นำเครื่องต้านทานไฟฟ้า หรือ IRIS นำเข้าจากฝรั่งเศส ไปทำการตรวจสอบพื้นที่ชั้นใต้ดินบริเวณจุดเกิดเหตุด้วย โดยมีการวางอุปกรณ์ดังกล่าวตามจุดต่าง ๆ ใกล้กับหลุมที่ยุบจำนวน 4-5 จุด ตามแนวที่กำหนดเอาไว้ในแต่ละจุด ซึ่งเครื่องดังกล่าวจะยิงกระแสไฟฟ้าลงไปยังชั้นใต้ดินเพื่อวัดค่าความต่างศักย์ไฟฟ้าที่จะมีต่อสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่ใต้ดิน ทำให้สามารถนำไปเป็นข้อมูลเพื่อการวิเคราะห์ได้ต่อไป ซึ่งคาดว่าการเกิดหลุมยุบมาจากแผ่นดินไหว แต่ยังไม่ทราบสภาพของชั้นดินที่อยู่ลึกลงไป ซึ่งหากเครื่องมีการตรวจวัดแล้วก็จะนำไปประเมินประมาณ 1 สัปดาห์ และหากอันตรายเรื่องชั้นดิน ก็จะไม่มีการประกาศแจ้งเตือนพื้นที่ต่อไป เบื้องต้นคาดว่า พื้นที่เกิดหลุมยุบนั้นในพื้นที่ดังกล่าว จะไม่เกิดอันตรายกับพื้นที่และชุมชน เพราะห่างจากชุมชนอย่างมาก

    Cr: INN
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pimolmas Phanichrangsi

    "ปูติน" ชี้ "นาโต" จูงจมูกกองทัพยูเครน

    [​IMG]

    ประธานาธิบดีรัสเซียวลาดิมีร์ปูติน (L) พบกับนักเรียนในขณะที่ไปมหาวิทยาลัยทรัพยากรธรณีแห่งชาติในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, 26 มกราคม 2015
    Russian President Vladimir Putin (L) meets with students while visiting the National Mineral Resources University in St. Petersburg, Jan. 26, 2015.

    ปธน.วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวเปรียบเทียบบทบาทของกองทัพยูเครนในปัจจุบันว่า "อยู่ใต้อำนาจ หรือ เสมือนเป็นเพียงเบี้ยล่าง ที่ปล่อยให้ "นาโต" ชักนำไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ ด้วยจุดประสงค์เพื่อควบคุมนโยบายภูมิศาสตร์การเมืองของรัสเซีย ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของชาวยูเครนเอง แต่เป็นเพื่อความได้เปรียบของนาโต!!"
    ปูติน ยังประณามรัฐบาลยูเครนว่า การเลือกยุติปัญหาผ่านการกลับมาใช้กำลังสู้รบอีกครั้งในเมืองโดเนตสก์และมาริอูโปล คือการทำลายข้อตกลงสันติภาพที่ลงนามร่วมกันเมื่อเดือนก.ย.ปีที่แล้วโดยสิ้นเชิง
    ขณะที่รัฐบาลรัสเซียออกแถลงการณ์สนับสนุนคำกล่าวของปูตินในเวลาต่อมา และเตือนตะวันตกเรื่องการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียในอนาคต(อีกครั้ง ซึ่งหลายครั้งจนนับจะไม่ไหวละ 555) ว่าสะท้อนการมีมุมมองระยะสั้นต่อสถานการณ์วุ่นวายในยูเครน
    ด้านนายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต แถลงปฏิเสธข้อกล่าวหาของปูติน และกล่าวหาอีกฝ่ายต่อไปว่า ยังคงเดินหน้าให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธและกำลังพลแก่กลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนทางตะวันออกของยูเครน
    ซึ่งนายอังเดร เคลิน ทูตพิเศษของรัสเซียประจำองค์การความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (OSCE) ได้ปฏิเสธคำกล่าวหาของนาโต โดยยืนยันว่ากลุ่มกบฏในยูเครนใช้อาวุธยุคเก่าตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต และเป็นสิ่งที่ยึดมาได้จากกองทัพยูเครนเท่านั้น!!

    Putin: Ukraine Army in Fact ‘NATO Legion’
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หยึย! สวนสัตว์ฟิลิปปินส์เปิดบริการพิเศษ นวดร่างกายนักท่องเที่ยวด้วยงูยักษ์ 4 ตัว วันที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 21:09:00 น.

    [​IMG]

    สวนสัตว์เซบู ซิตี้ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ออกไอเดียบรรเจิด เมื่อเสนอการนวด "ทางเลือก" ให้แก่นักท่องเที่ยว

    วิธีการนวดของสวนสัตว์แห่งนี้ ก็คือ การให้นักท่องเที่ยวนอนลงบนแคร่ไม้ไผ่ แล้วนำงูเหลือม 4 ตัว มาวางพาดลงบนร่างกายของนักท่องเที่ยวคนนั้นๆ เพื่อกล้ามเนื้อในร่างกายของผู้ถูกนวดจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่

    รายงานระบุว่างูแต่ละตัวที่นำมาให้บริการนวดร่างกายในครั้งนี้ จะมีความยาวราว 5 เมตร และมีน้ำหนักตัวรวมกันราว 250 กิโลกรัม

    อย่างไรก็ตาม ใช่ว่านักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับสิทธิพิเศษดังกล่าว เพราะคนที่จะถูกนวดคลึงโดยงูยักษ์ทั้งสี่ จะต้องเป็นผู้ที่มอบเงินบริจาคให้แก่สวนสัตว์แห่งนี้เท่านั้น

    ก่อนหน้านี้ สวนสัตว์เซบู ซิตี้ เคยจัดบริการนวดทางเลือกในลักษณะดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะนำมาบริการนักท่องเที่ยวอีกครั้งในขณะนี้ ตามคำเรียกร้องที่ถูกส่งเข้ามาเป็นจำนวนมาก

    "ตอนแรกๆ บรรดานักท่องเที่ยวต่างรู้สึกกลัว แต่แขกส่วนใหญ่ที่ถูกงูเหล่านั้นนวดคลึงร่างกายต่างพูดเป็นเสียงเดียวกัน ว่าพวกเขาชอบวิธีการนวดแบบนี้มาก" โจวานนี่ โรมาราเต้ ผู้จัดการสวนสัตว์แห่งนี้ กล่าว

    ที่มา มิร์เรอร์
    หยึย! สวนสัตว์ฟิลิปปินส์เปิดบริการพิเศษ นวดร่างกายนักท่องเที่ยวด้วยงูยักษ์ 4 ตัว : มติชนอ
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,318
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จุดแดงๆ บนท้องฟ้าเป็นเรื่องจริงน่ะครับ เพราะมีผู้ใหญ่ที่ผมนับถือในที่ทำงานถ่ายได้ เหมือนกัน เมื่อก่อนผมอาจไม่แน่ใจว่ามีการแต่งภาพหรือไม่ แต่พอเห็นภาพของท่าน ก็เหมือนกับภาพในเฟสต่างๆ ที่นำมาลง ก็เลยเชื่อว่าจุดแดงๆ นี่มีจริง ส่วนจะเป็นอะไร ก็รอดูกันต่อไป

    Jaroen Compeerapap

    [​IMG]
    ·
    บนความจริง มีความไม่จริง : ผู้สนใจที่ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับ นิบิรุ และ planet x ขอให้ระมัดระวังและใช้วิจารณญาณให้มาก ตราบใดที่โลกเรายังมีลักษณะทวิลักษณ์ เช่น ขาวคู่กับดำ ความดีความชั่ว สวรรค์กับนรก หรือ ความมืด และสว่าง รวยกับจน ซาตาลและผู้ทรงธรรม และอีกหลาย ๆ อย่างเป็นคู่ขัดแย้งกันกรณีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ นิบิรู และ planet x ที่ทำให้คนบางกลุ่มบางจำพวกไม่กล้าสู้กับความจริง เพราะความจริงอาจกระทบกับประโยชน์ของเขาเหล่านั้น จึงเป็นที่มาของการสร้างความจริงเทียม ในเรื่องดังกล่าวมาเพื่อให้ความจริงที่เป็นจริง เป็นเรื่องไม่จริงขึ้นมาได้ ภาพความจริงของนิบิรู ที่ถ่ายจากกล้อง Telescope ในขั้วโลกใต้เมื่อปี ค.ศ. 2008 จะมีลักษณะที่มีจุดดำ ๆ ล้อมด้วยสีแดง ล่าสุดเมื่อกล้อง Gran Telescopio Milimetrico ถ่ายที่ Mexico เมื่อต้นปี 2015 เราจะเห็นจุดดำเหมือนกัน เห็นขณะพระอาทิตย์ตกดินดังภาพ ช่วยกันจำไว้นะครับของจริง เราจะเห็นจุดดำล้อมรอบด้วยสีแดง อยู่หลังดวงอาทิตย์ ถ้ามีจุดดำเปล่า ๆ ไม่มีสีแดงล้อมรอบ และ ปรากฏอยู่หน้าดวงอาทิตย์ อันนี้เป็นของไม่จริงเพื่อมากลบเกลื่อนของจริง บางแห่งลงทุนเอาเครื่องบินไปพ่นสารเคมีเพื่อปกปิดท้องฟ้า คล้าย ๆ สุภาษิตไทยที่ว่า พยายามเอาใบบัวไปปิดช้างทั้งตัวนั่นเอง แสดงว่าภาพนิบิรุ มีต้นทุนที่สูงมาก ๆๆ สำหรับคนบางกลุ่ม แต่สำหรับเรามันคือ ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...