ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    2. จีนเตรียมชักกระบี่ปลิดวิญญาน
    สังเกตุดูเวลาใครมีอำนาจ พวกนักการเมืองหรือนักธุรกิจจะไปเกาะเพื่อขอส่วนแบ่งหรือเสริมบารมีตัวเอง แต่เวลาคนนั้นหมดอำนาจลงไป พวกนักการเมืองและนักธุรกิจจะรีบกระโดดหนีกันแทบไม่ทัน บางทีก็ถีบส่งด้วยซ้ำ
    เรื่องเงินๆทองๆก็เหมือนกัน เนื่องจากดอลล่าร์เป็นเงินสกุลหลักของโลกมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่2 ค่าเงินสกุลอื่นๆเป็นบริวารหมด ใครๆก็อยากจะมาเกาะขอส่วนบุญ เพราะว่าสหรัฐฯเป็นมหาอำนาจของโลก มีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลก
    ฮ่องกงดอลล่าร์เกาะดอลล่าร์สหรัฐฯยังกับใส่กุญแจมือไปด้วยกันเลย ส่วนเงินหยวนของจีนก็เกาะดอลล่าร์เหมือนกัน แต่ตอนนี้จีนคิดว่าน่าจะได้เวลาเลิกเกาะดอลล่าร์ได้แล้ว เพราะว่าสหรัฐฯกำลังเข้าสู่ยุคของความเสื่อม มีหนี้มาก เศรษฐกิจทรุดไม่มีทางฟื้น และไม่มีทางใช้หนี้ได้ยกเว้นพิมพ์เงินมาจ่ายหนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งสหรัฐฯจะเจอเงินเฟ้อถล่ม เพราะว่าค่าเงินขาดความน่าเชื่อถือ
    จีนนอกจากจะเลิกให้หยวนเลิกเกาะดอลล่าร์แล้วน่าจะสั่งฮ่องกงให้ถีบส่งด้วย เพราะว่าจีนกำลังก้าวขึ้นมาเป็นมหาอำนาจ จะเป็นมหาอำนาจได้ค่าเงินสกุลอื่นต้องมาเกาะหยวน แล้วจีนจะเป็นมหาอำนาจได้อย่างไร ถ้าหากหยวนต้องไปเกาะดอลล่าร์ ต้องถีบส่งกันแล้ว
    เงินบาทของไทยก็เคยเกาะดอลล่าร์สหรัฐฯแน่น เกาะไปเกาะมาโดนเขาถีบออกในปีต้มยำกุ้ง1997 ตอนนี้เลยเข็ดไม่เกาะแน่นอีกแล้ว แค่ขอเกี่ยวก้อยกันไป เพราะว่าไม่รู้จะเอาบาทไปอิงกับอะไร ทั้งๆที่ปู่ย่าตายายเคยสอนว่าทองเป็นเงินที่แท้จริง ไอ้เงินกระดาษเป็นของสมมุติก็ลืมไปหมดแล้ว
    ความจริงโดนล้างสมองกันทั้งโลกจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกตะวันตกที่ไม่เคยสอนเรื่องทองเลย ลองเข้าไปค้นหาหนังสือเกี่ยวกับทองในห้องสมุดมหาวิทยาลัยดังๆดู จะมีตำราเกี่ยวกับทอง หรือหนังสือประวัติศาสตร์เกี่ยวกับทองที่ดีๆกี่เล่มกัน ที่เขียนมาก็บิดเบือนเกือบจะทั้งนั้น หลายคนเรียนจบปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์หรือการเงินมา แต่ไม่เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับทองเลยแม้แต่เล่มเดียว
    พวกอิลิทครอบงำการสอนวิชาประวัติศาสตร์และเศรษฐศาสตร์และการเงินที่เกี่ยวกับทองอย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อให้ทุกคนมองไม่เห็นความสำคัญของทอง และให้เห็นว่าเงินกระดาษคือหัวใจของระบบการเงินและเศรษฐกิจที่แท้จริง เพราะว่าพวกอิลิทพิมพ์เงินดอลล่าร์ให้เราใช้ได้ไม่จำกัด แต่ไม่สามารถพิมพ์ทองคำแท่งได้ และที่สำคัญที่สุดเงินดอลล่าร์เป็นปฏิปักษ์กับทอง ทองขึ้นดอลล่าร์ร่วง ดอลล่าร์ขึ้นทองตก
    ที่ผ่านมาจีนเล่นตามเกม ผูกหยวนกับดอลล่าร์ เกาะเอาไว้แน่นๆเพื่อเสถียรภาพของค่าเงินและหนุนการส่งออก ขายของได้ดอลล่าร์มาก็เอาไปซื้อพันธบัตรสหรัฐฯเพื่อไฟแนนซ์งบขาดดุลของสหรัฐฯ เพราะว่าสหรัฐฯต้องซื้อของMade in Chinaมาก ทำให้ขาดดุลการค้าปีละหลายแสนล้านเหรียญ ตอนนี้จีนถือพันธบัตรสหรัฐฯอยู่$1ล้านล้านกว่า และมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่$4ล้านล้านกว่า ยังมีทรัพย์สินในรูปดอลล่าร์มาก
    จีนเลยกำลังผ่องถ่ายดอลล่าร์ออกไป ด้วยการไปซื้อกิจการและแหล่งทรัพยากรในแแอฟริกา ลาตินอเมริกา และที่สำคัญที่สุดจีนใช้ดอลล่าร์ซื้อทองทำให้จีนมีทองคำสำรองมากที่สุดในโลกแล้ว เชื่อกันว่าจีนน่าจะมีทองอยู่ในประเทศ16,000ตัน มากกว่าสหรัฐฯที่มี8,100ตันไปแล้ว
    เมื่อผ่องถ่ายได้ที่ จีนจะเลิกให้หยวนเกาะดอลล่าร์ และจะสั่งให้ทางการฮ่องกงเลิกเกาะดอลล่าร์เหมือนกัน เมื่อเลิกเกาะดอลล่าร์ หยวนจะมาเกาะทองคำแทน ซึ่งทุกประเทศจะเห็นดีเห็นงามด้วย เพราะว่าทองเป็นเงินหรือสื่อกลางของการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการมา6,000ปีแล้ว ทองเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย ที่จำต้องยอมรับดอลล่าร์ของสหรัฐฯเพราะว่าสหรัฐฯมีปากกระบอกปืน เป็นเจ้าพ่อ แต่ตอนนี้เจ้าพ่อกำลังเสื่อมอำนาจลง
    ตอนนี้ปูตินสั่งทิ้งดอลล่าร์แล้ว เลิกผูกรูเบิ้ลกับดอลล่าร์ ต่อไปน่าจะผูกกับทอง หรือหยวน ทางบริษัทใหญ่ของรัสเซียทิ้งดอลล่าร์มาถือฮ่องกงดอลล่าร์แทน
    ถ้าหากฮ่องกงดอลล่าร์ หรือหยวนปลดล๊อคดอลล่าร์สหรัฐฯเมื่อใด ซึ่งต้องทำเพื่อเป็นหมัดโฟลโล่ของปูติน ดอลล่าร์จะร่วงคล้ายๆกัน แต่จะร่วงหนักกว่า เพราะว่าขนาดเศรษฐกิจของจีนใหญ่พอๆกับสหรัฐฯ ฮ่องกงดอลล่าร์จะไปผูกกับหยวน โดยที่หยวนจะไปผูกกับทองคำอีกต่อหนึ่ง
    คิดดูก็แล้วกัน สวิสปลดเงินฟรังค์จากเงินยูโรวันเดียว ทั้งดอลล่าร์และยูโรร่วงเมื่อเทียบกับเงินฟรังค์ทันที30% สหายรัสเซียนจะต้องรักเพลงกระบี่ปลิดวิญญานของเถ้าแก่สีมาก เพราะว่าสหายรัสเซียจะได้กำไรมหาศาลเมื่อฮ่องกงดอลล่าร์ และหยวนปลดแแอกจากดอลล่าร์ ขอเอาคืนมั่ง
    แล้วสหายไทยไม่คิดทำอะไรบ้างเลยหรือ ตุนฮ่องกงดอลล่าร์และหยวนบ้างก็ดีนะ คริๆๆ
    เสธ. ทนง 2
    18/1/2015
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    3. จีนเตรียมชักกระบี่ปลิดวิญญาน
    Peter Schiff แห่ง Euro Pacific Capitalเชื่อว่าจีนผูกค่าเงินหยวนกับดอลล่าร์นานเกินไปแล้ว จีนมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศถึง$4.5ล้านล้าน มากกว่าสวิตเซอร์แลนด์ไม่รู้กี่เท่า แล้วจีนจะเก็บดอลล่าร์เข้ามาในพอร์ตอีกมากเพียงใดก่อนที่จะเลิก เหมือนพวกสวิสที่อุ้มยูโรไม่ไหว
    เขาบอกว่า ถ้าจีนปลดล๊อคดอลล่าร์เมื่อใด นอกจากดอลล่าร์จะร่วงหนักแล้ว ตลาดการเงินโลกจะถล่มทะลาย ทำให้ทาง US Federal Reserveต้องพิมพ์เงินรอบที่4หรือทำQE4
    ถ้าเฟดต้องทำQE4 ถือว่าเกมโอเวอร์แล้ว เพราะว่าดอลล่าร์จะร่วง แล้วจีนจะซื้อดอลล่าร์เพื่อให้หยวนอ่อนหรือเพื่อหนุนการส่งออก ถึงตอนนั้นจีนจะกลายเป็นมหาอำนาจทางการเงินมากกว่าที่ต้องการหยวนแข็ง เพื่อเพิ่มอำนาจในการซื้อ เทคโอเวอร์กิจการประเทศอื่นๆ ใช้เงินซื้อประเทศบริวารแทนที่จะมามัวนั่งแคร์การส่งออก เพราะว่าตลาดของสหรัฐฯ อียูและญี่ปุ่นมาถึงจุดอิ่มตัวแล้ว
    การที่พวกช๊อคโกแล๊ทปลดค่าเงินฟรังค์จากยูโร เป็นกรณีศึกษาที่ดีให้กับธนาคารกลางของจีน กำเซี่ยๆ เพราะว่าแค่สวิสยังล้มยักษ์ยูโรและยักษ์ดอลล่าร์กระเป๋าฉีกได้แล้ว หยวนหรือฮ่องกงดอลล่าร์จะไม่สามารถพลิกฟ้าพลิกแผ่นดินได้เชียวหรือ
    Peter Schiff บอกว่าเมื่อทางการจีนตัดสินใจลอยค่าเงิน ทั้งหยวนและฮ่องกงดอลล่าร์จะถีบดอลล่าร์สหรัฐฯส่งพร้อมๆกัน ผลที่ตามมาคือจะเกิดความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลกเทียบเท่าแผ่นดินไหว10.0ในริคเตอร์สเกล ซึนามิญี่ปุ่นแค่9.1นะ
    เขาบอกว่า ถึงตอนนั้นเท่ากับว่ามังกรจีนเสยหมัดเข้าปลายคางพญาอินทรีเลยทีเดียว
    เสธ. ทนง 3
    18/1/2015
    http://www.gramsgold.com/…/peter-schiff-this-swiss-event-wi…
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    4. จีนเตรียมชักกระบี่ปลิดวิญญาน
    กระผมเสธ. ทนง 4ขอรายงานตัว เพื่อทำหน้าที่แฉ ครั๊บบบบบผม!
    หยวนและฮ่องกงดอลล่าร์ที่ผูกกับดอลล่าร์สหรัฐฯเป็นกลไกที่ผิดธรรมชาติ เพราะว่าดอลล่าร์สหรัฐฯตีนตุ๊บป่องๆกลางอากาศ ไม่ได้อิงหลักทรัพย์ใดๆเช่นทอง หรือsilver จะยืนอยู่ได้ตลอดกาลหรือ เพราะว่าตีนลอยมาตั้งแต่ปี1971 ได้เวลาดอลล่าร์ที่ตีนลอยนี้กลับมาอยู่ใต้กฎแรงโน้มถ่วงของโลกได้แล้ว และก่อนที่ดอลล่าร์โดนแรงโน้มถ่วงของโลกดูดลงมาพื้นดิน หยวนและฮ่องกงดอลล่าร์ต้องสลัดให้ทัน
    อีกกลไกหนึ่งที่ผิดปกติ ถูกปั่น หรือถูกบิดเบือนคือราคาทองคำ ที่โดนแก๊งพิมพ์เงินทุบราคามาตลอด ถ้าราคาทองตกตามกลไกตลาด พวกแก๊งพิมพ์เงินจะอยู่เฉยๆ ถ้าราคาทองพุ่งขึ้น พวกแก๊งทุบทองจะเข้ามาดันราคาลง เพราะว่าผลประโยชน์ทางการเงินทั้งหมดของพวกอิลิทโลกอยู่ในดอลล่าร์ที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก และทองเป็นศัตรูหมายเลข1ของดอลล่าร์ เคยเห็นพวกนักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลคนใดบ้างที่ให้ความสำคัญกับทอง ซึ่งเป็นปฏิปักษ์ที่แท้จริงกับดอลล่าร์
    อะไรก็ตามที่ผิดกลไกธรรมชาติ มันจะยืนอยู่ไม่ได้ตลอดไป เพราะฉะนั้นเวลาดูเรื่องค่าเงินหยวน และค่าเงินฮ่องกงดอลล่าร์ที่ผูกกับดอลล่าร์อย่างฝืนกลไกธรรมชาติ หรือราคาทองที่โดนทุบราคาไม่ให้ชูหัวขึ้นมาได้ ต้องดูกันยาวๆ แต่เวลาของกลไกที่ผิดธรรมชาติของหยวน ฮ่องกงดอลล่าร์ และทองนี้น่าจะกำลังถึงจุดจบอีกไม่นาน
    น่าจะปีนี้ ซึ่งเป็น The Year of Living Dangerously ที่ทุกอย่างต้องถูกคลี่คลายออกมา ถ้าหากไม่โดนWW3ขัดจังหวะไปก่อน
    เพราะว่าการลอยหยวน การปลดแอกฮ่องกงดอลล่าร์ และการที่พวกอิลิทจะใช้ดอลล่าร์ทุบราคาทองต่อไปไม่ไหว เพราะว่าหมดทองในสต๊อคแล้วจะเป็นการประกาศจุดจบของดอลล่าร์ในฐานะที่เป็นเงินสกุลหลักของโลก ทั้งทองคำหรือหยวนจะมาแทนดอลล่าร์นั้นเอง พวกสวิสโชว์ให้ดูแล้วว่าปลดฟรังค์จากการผูกกับยูโร ดอลล่าร์ก็ทรุดเหมือนกัน ไม่ได้แน่จริง แจ๊คสามารถล้มยักษ์ให้ลงไปนับแปดได้ แล้วถ้ามังกรล้มยักษ์ จะเกิดอะไรขึ้น ไม่สลบคาเวทีหรือ
    ที่ดอลล่าร์แข็งเอาๆทุกวันนี้เป็นเพียงภาพลวงตา เพราะว่าศัตรูหมายเลข1 และหมายเลข2ของดอลล่าร์ คือทองคำและเงินหยวนยังไม่ได้แจ้งเกิด
    ดอลล่าร์แข็งค่ากับบริวารเงินกระดาษชั้นเลว ไม่ว่าจะเป็นยูโรหรือเยน ที่มีการกดดอกเบี้ยต่ำกว่าดอกเบี้ยดอลล่าร์ และเศรษฐกิจเฮงซวยมาก มีการทำQE หรือพิมพ์เงินเพื่อทำให้ค่าเงินตัวเองอ่อนกว่าดอลล่าร์ที่หลอกว่าต้องการทำให้ค่าเงินตัวเองอ่อนด้วยการเปิดฉากการทำQEก่อน แต่ดอลล่าร์จะอ่อนไม่ได้ เพราะว่าถ้าอ่อนหรือปล่อยให้ราคาทองเพิ่มขึ้นสูง ดอกเบี้ยจะขยับสูงขึ้น เมื่อดอกเบี้ยสูงขึ้น ฟองสบู่ตลอดบอนด์จะแตก ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่มด Janet Yellenกลัวที่สุด เหมือนผีดิบแดรกคิวล่าที่กลัวกระเทียม
    เสธ. ทนง 4 จอมแฉ
    18/1/2015
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนดล แซ่เล้า

    ผู้ก่อตั้ง 'ชาร์ลี เอ็บโด' วิจารณ์กองบก.รุ่นใหม่

    [​IMG]

    หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" วิจารณ์ความเป็นคนดื้อรั้นเกินไปของสเตฟาน ชาร์บอนนิเยร์ บรรณาธิการที่เสียชีวิตในเหตุกราดยิง 12 ศพที่สำนักพิมพ์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของ "หายนะ"

    วันศุกร์ 16 มกราคม 2558 เวลา 15:00 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 16 ม.ค. ว่านิตยสารการเมืองฝ่ายซ้ายรายสัปดาห์ "นูเวล อ็อบส์" ตีพิมพ์บทความของนายอองรี รูสเซล หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" เมื่อปี 2513 และผลักดันให้หนังสือพิมพ์เสียดสีการเมืองฉบับนี้เป็นที่รู้จักในสังคมฝรั่งเศส กล่าวถึงนายสเตฟาน ชาร์บอนนิเยร์ เจ้าของนามปากกา "ชาร์บ" บรรณาธิการใหญ่ของสำนักพิมพ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 12 ศพ จากเหตุกราดยิงที่สำนักพิมพ์เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ว่าเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรงที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง แต่หลายครั้งที่ความเป็นตัวของตัวเองทำให้ชาร์บอนนิเยร์เข้าขั้น "หัวแข็ง" เกินไป

    ด้วยเหตุนี้ บุคลิกและทัศนคติดังกล่าวของชาร์บอนนิเยร์ไม่ทำให้รูสเซลแปลกใจสักเท่าไหร่ เมื่อชาร์ลี เอ็บโด ภายใต้การบริหารของบรรณาธิการหนุ่มใหญ่วัย 47 ปี จะนำการ์ตูนล้อเลียนศาสดาขึ้นปกฉบับหนึ่งเมื่อปลายปี 2554 และหลังจากนั้นไม่นาน กลุ่มคนร้ายซึ่งจนถึงปัจจุบันยังไม่ทราบว่าเป็นใคร บุกเข้ามาเผาสำนักงานจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่แทนที่จะนำเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเป็นบทเรียน ชาร์บอนนิเยร์กลับตีพิมพ์การ์ตูนล้อเลียนศาสนาอีกครั้งในฉบับเดือนก.ย. 2555 และทำให้สำนักพิมพ์ต้องพบกับเหตุการณ์เลวร้ายในที่สุด

    อย่างไรก็ตาม รูสเซลทิ้งท้ายด้วยการแสดงความเสียดายและเสียใจอย่างยิ่ง ต่อการจากไปของชาร์บอนนิเยร์ และนักเขียนการ์ตูนของชาร์ลีเอ็บโดอีก 4 คน คือนายฌอง กาบูต์ เจ้าของนามปากกา "ซาบู" นายจอร์จ โวลินสกี เจ้าของนามปากกา "โวลินสกี" นายฟิลิปเป ออนอเร และนายแบร์นาร์ด เวิร์ลฮัก เจ้าของนามปากกา "ติกนู"

    บทความดังกล่าวของรูสเซลสร้างความไม่พอใจอย่างหนักให้กับนายริชาร์ด มัลกา ทนายความของชาร์ลี เอ็บโด ซึ่งยื่นหนังสือร้องเรียนไปยังกองบรรณาธิการของ นูเวล อ็อบส์ โดยให้เหตุผลว่า ชาร์บอนนิเยร์เพิ่งเสียชีวิตและยังไม่มีการจัดพิธีศพด้วย การออกมาแสดงความคิดเห็นวิจารณ์ผู้ตายในเชิงลบเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรเหมาะสมเท่าใดนัก แต่ได้รับคำตอบกลับมาว่า เป็นเสรีภาพในการแสดงออกทางความคิดเห็น และทีมงานของนูเวล อ็อบส์ ไตร่ตรองเรื่องนี้เป็นอย่างดีแล้ว

    ผู้ก่อตั้ง 'ชาร์ลี เอ็บโด' วิจารณ์กองบก.รุ่นใหม่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ Bank of Thailand Scholarship Students

    [​IMG]

    (Jan 17) "จับตาสงคราม'ค่าเงิน' ปะทุ" ธปท.จับตาสวิสช็อกตลาดเงินทั่วโลก ประกาศลอยตัวเงินฟรังก์สวิส คาดกระทบระยะสั้นจากความกังวลนักลงทุน

    ด้านนักเศรษฐศาสตร์ คาดทุนเคลื่อนย้ายส่อไหลเข้าไทย พร้อมประเมิน 2 สกุลเงินโลก “เยน-ยูโร” จ่อทำคิวอีเพิ่ม เปิดศึกสงครามค่าเงิน ขณะหลายประเทศเริ่มทยอยลดดอกเบี้ย
    ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ช็อกตลาดเงินด้วยการยกเลิกการผูกติดเงินฟรังก์กับยูโรที่ระดับ 1.2 ฟรังก์ต่อยูโร ซึ่งใช้มา 3 ปีตั้งแต่เกิดวิกฤติหนี้ยุโรป ส่งผลให้เงินฟรังก์พุ่งขึ้นทันทีเกือบ 30% ไปอยู่ที่ 0.8517 ฟรังก์ต่อยูโรเมื่อวันพฤหัสบดี (15 ม.ค.) และปรับตัวลงหลังจากนั้นที่ 1.0199 ฟรังก์ต่อยูโรเมื่อวานนี้ (16 ม.ค.)

    นายโธมัส จอร์แดน ประธานธนาคารกลาง กล่าวว่าเหตุที่ยกเลิกการผูกติดเพราะไม่จำเป็นต้องใช้ระบบดังกล่าวอีกต่อไป อีกทั้งระบบดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินไปได้ในระยะยาว พร้อมระบุว่าไม่ได้เคลื่อนไหวเพราะแตกตื่นเกี่ยวกับการคาดหมายล่วงหน้าว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะจัดทำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

    "หากคุณต้องการยุติมาตรการทำนองนี้ คุณต้องทำให้ตลาดประหลาดใจ" นายจอร์แดนอธิบาย โดยนอกจากยกเลิกการผูกติดแล้ว ธนาคารกลางยังพยายามสกัดกระแสการเข้าถือครองเงินฟรังก์สวิสด้วยการลดดอกเบี้ยเงินที่ธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินอื่น ฝากไว้กับธนาคารกลางลงอีก 0.5% เป็นติดลบ 0.75% หลังจากเมื่อเดือนที่แล้วได้กำหนดดอกเบี้ยติดลบเป็นครั้งแรกตั้งแต่ทศวรรษ 70

    การที่นักลงทุนหันถือครองเงินฟรังก์สวิสมีขึ้นในช่วงที่อีซีบีกำลังพิจารณาว่าจะออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) หรือไม่ ประกอบกับการเผชิญหน้าระหว่างยุโรปกับรัสเซีย ได้สร้างแรงกดดันต่อค่าเงินยูโร

    "อัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าวถูกนำมาใช้ในช่วงที่เงินฟรังก์สวิสมีค่าสูงเกินไป ประกอบกับมีความไม่แน่นอนระดับสูงในตลาดการเงิน ขณะนี้แม้ฟรังก์สวิสยังอยู่ในระดับสูง แต่ไม่สูงเกินปัจจัยพื้นฐานมากนัก ขณะที่เศรษฐกิจขณะนี้สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ได้" ธนาคารกลางระบุ

    การเลิกการผูกติดมีขึ้นทั้งที่นายจอร์แดนเพิ่งกล่าวเมื่อต้นเดือนว่าระบบนี้เป็นกลางมาก ส่วนรองประธานธนาคารกลางก็กล่าวว่าระบบนี้จะยังเป็นเสาหลักในนโยบายของธนาคาร
    ธปท.ชี้สร้างความกังวลระยะสั้น

    นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า การยกเลิกอัตราแลกเปลี่ยนขั้นต่ำของค่าเงินฟรังก์สวิสกับค่าเงินยูโรในครั้งนี้ ไม่น่ากระทบต่อตลาดเงินในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่มากนัก เนื่องจากเงินฟรังก์สวิสไม่ใช่สกุลเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เพียงแต่ระยะสั้น อาจสร้างความกังวลใจให้กับนักลงทุน

    ส่วนค่าเงินบาทไทยนั้น แข็งค่าขึ้นบ้างตามทิศทางของค่าเงินเยนที่มีลักษณะเป็น safe haven อย่างไรก็ตาม ธปท. จะเฝ้าติดตามพัฒนาการของตลาดเงินอย่างใกล้ชิด ทั้งในส่วนการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยน และการเคลื่อนย้ายเงินทุน เพื่อดูแลเสถียรภาพของตลาดการเงินต่อไป

    ธนาคารกลางสวิส (เอสเอ็นบี) เริ่มกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนของเงินฟรังก์สวิสกับค่าเงินยูโรไว้โดยกำหนดเพดานไม่ให้แข็งค่าไปกว่า 1.2 ฟรังก์ ต่อ 1 ยูโร โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.2554 ด้วยเหตุผลว่าขณะนั้นเงินฟรังก์สวิสแข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโรมาก ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของสวิส

    อย่างไรก็ตามช่วงที่ผ่านมาเงินยูโรได้ปรับตัวอ่อนค่าลงมากเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ และส่งผลให้ค่าเงินฟรังก์สวิสอ่อนค่าลงตามไปด้วย ประกอบกับการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) กำลังเตรียมการเข้าซื้อพันธบัตร(Public QE) ซึ่งอาจทำให้เงินยูโร อ่อนค่าลงต่อไปอีก ซึ่งการผูกค่าเงินไว้นานเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นเมื่อภาวะที่ค่าเงินฟรังก์สวิสไม่ได้โอเวอร์แวลูมากเท่ากับเมื่อปี 2554 เอสเอ็นบี จึงเห็นว่า น่าจะเป็นเวลาเหมาะสมที่จะยกเลิกเพดานดังกล่าว

    การยกเลิกเพดานขั้นต่ำทำให้กลไกตลาดสามารถหาอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ ที่สะท้อนกลไกตลาดที่แท้จริงซึ่งระยะแรก อัตราแลกเปลี่ยนอาจผันผวนมากจนเกินไป(overshoot) ไปบ้าง แต่ก็กลับมาอยู่ที่ประมาณ 1 ฟรังก์ต่อ 1 ยูโร ซึ่งเป็นอัตราแลกเปลี่ยนก่อนที่จะมีการนำอัตรา 1.2 มาใช้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว

    ชี้สวิสรับผลกระทบอียูทำคิวอี
    นายพิพัฒน์ เหลืองนฤมิตชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์(บล.) ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การตัดสินใจยกเลิกเพดานค่าเงินฟรังก์สวิสของ เอสเอ็นบี น่าจะเป็นเพราะเอสเอ็นบีต้องการเลี่ยงผลกระทบหาก อีซีบี ตัดสินใจใช้มาตรการคิวอี

    “เอสเอ็นบีคงไม่อยากรับผลกระทบจากคิวอีของอีซีบี เพราะรู้ว่าอีกไม่นานอีซีบีคงพิมพ์เงินออกมาแน่ๆ ดังนั้นถ้าเงินฟรังก์ยังยึดติดกับยูโรอยู่ ผลที่เกิดขึ้นจะต้องมีเงินทุนไหลเข้าสวิสฯ จำนวนมาก เป็นภาระของเอสเอ็นบีที่ต้องคอยปกป้องค่าเงิน เมื่อถึงจุดหนึ่งที่เอสเอ็นบีมองว่าไม่ไหว เขาจึงต้องตัดสินใจปล่อยค่าเงินลอยตัว”นายพิพัฒน์ กล่าว

    การที่เอสเอ็นบีปล่อยให้ค่าเงินฟรังก์สวิสลอยตัว น่าจะส่งผลดีใน 2 ด้าน คือ ช่วยชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ และชะลอการไหลเข้าของเงินทุนเคลื่อนย้าย เพราะที่ผ่านมาค่าเงินฟรังก์สวิสไม่ต่างจากฟรีมันนี่ คือ เงินไหลเข้ามาเท่าไรก็มีคนรับซื้อในอัตราเท่าเดิม

    จับตาเงินไหลเข้าไทย
    สำหรับผลกระทบต่อเงินบาทไทยนั้น นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สิ่งที่เห็นชัดจากการลอยค่าเงินฟรังก์ คือ เงินเยนแข็งค่าขึ้น เพราะเวลาที่มีความผันผวนในตลาดเงิน คนมักกลับไปหาเงินเยน แต่ในระยะข้างหน้าทั้งญี่ปุ่นและยูโร มีแนวโน้มว่าจะทำคิวอีเพิ่ม ซึ่งเกรงว่ากรณีนี้จะนำไปสู่สงครามค่าเงินได้

    “ดูเหมือนว่า 2 เงินสกุลหลักของโลก กำลังเข้าสู่ภาวะสงครามค่าเงิน พยายามทำให้เงินตัวเองอ่อนค่าลง ขณะที่ประเทศอื่น เริ่มตั้งคำถามว่า จะทำยังไงต่อไป ซึ่งแนวโน้มจากนี้ไปเชื่อว่าเงินคงจะไหลเข้าในสกุลเงินที่แข็งค่า หรือสกุลเงินที่ให้ผลตอบแทนในรูปอัตราดอกเบี้ยสูงอยู่ โอกาสที่เงินจะไหลเข้าไทยจึงมีความเป็นไปได้”นายพิพัฒน์กล่าว

    "เรื่องนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะถ้าเราไม่ทำอะไรเลยแนวโน้มเงินบาทก็คงแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ประเทศพัฒนาแล้วบางแห่งเริ่มลดดอกเบี้ยลง เพื่อลดแรงจูงใจการไหลเข้าของเงินทุน ทำให้ต้องโดดร่วมสงครามค่าเงินไปโดยปริยาย"

    อย่างไรก็ตามในส่วนของประเทศไทย การลดดอกเบี้ยนโยบายอาจต้องคิดกันอย่างรอบคอบ เพราะยังมีความเสี่ยงในเรื่องหนี้ครัวเรือนที่สูง รวมทั้งราคาสินทรัพย์บางชนิดอาจเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ นำไปสู่ปัญหาด้านเสถียรภาพการเงิน จึงเป็นเรื่องที่ต้องชั่งน้ำหนักให้ดี

    หวั่นเกิดสงครามค่าเงิน
    ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (อีไอซี) ระบุว่ามาตรการดังกล่าว อาจทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ในการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (Currency War) เพื่อทำให้ค่าเงินอ่อน และเป็นการรักษาความได้เปรียบทางด้านการส่งออก ซึ่งหากค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับลดดอกเบี้ยลงได้

    สำหรับค่าเงินฟรังก์ที่แข็งค่าขึ้น อีไอซี ประเมินว่า ไม่ได้ช่วยการส่งออกของไทยมากนัก เนื่องจากการส่งออกของไทยไปสวิสฯ คิดเป็นสัดส่วนเพียง 0.6% ของการส่งออกทั้งหมด

    อย่างไรก็ตามผลกระทบกับผู้นำเข้าคงมีบ้างในกลุ่มสินค้าหรูหรา เช่น เครื่องประดับ และนาฬิกา โดยการนำเข้าจากสวิสฯ คิดเป็นเพียง 3% ของนำเข้าทั้งหมด

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหมืองถ่านหินระเบิดในรัสเซีย สังเวยชีวิตคนงาน 2 ศพ สูญหายอีก 1
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2558 00:19 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายหลังเกิดเหตุระเบิดที่เหมืองถ่านหินแห่งหนึ่ง ในเขตสเวอร์ดลอฟส์ก ทางภาคกลางของรัสเซีย ทั้งนี้เป็นการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ในวันเสาร์ (17 ม.ค.)

    รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า เจ้าหน้าที่จากทีมค้นหาและกู้ภัยพบร่างของคนงานเหมือง 2 รายที่เสียชีวิตภายในเหมืองถ่านหิน “ยูซานายา” ในเขตสเวอร์ดลอฟส์ก ทางภาคกลางของรัสเซีย อย่างไรก็ดีทีมค้นหายังคงไม่พบร่างของคนงานอีกรายหนึ่งที่ถูกระบุว่าหายตัวไป

    นอกเหนือจากคนงานเหมือง 2 รายที่ได้รับการยืนยันว่าเสียชีวิต และคนงานอีก 1 รายที่ยังคงหายสาบสูญ มีรายงานว่าคนงานเหมืองอีกอย่างน้อย 2 รายที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากเหตุเหมืองระเบิดครั้งนี้ ได้ถูกนำตัวส่งไปรักษายังโรงพยาบาลกลางในเมืองคุชวาที่อยู่ใกล้เคียง

    ก่อนหน้านี้วาเลรี โกเรลีกห์ โฆษกตำรวจประจำเขตสเวอร์ดลอฟส์กออกมาแถลงว่า ในขณะที่เกิดการระเบิดในเหมืองดังกล่าวมีคนงานกำลังทำงานอยู่ภายในเหมืองจำนวน 89 คน และในจำนวนนี้มี 86 คน ที่ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย

    ทั้งนี้ ข้อมูลจากการสืบสวนเบื้องต้นของทางการแดนหมีขาวพบว่า เหตุระเบิดซึ่งทำให้เกิดเพลิงไหม้ตามมาในครั้งนี้เกิดขึ้นที่ระดับความลึกราว 440 เมตร แต่ทีมสืบสวนยังคงไม่สามารถสรุปได้ถึงสาเหตุที่แท้จริงที่นำไปสู่โศกนาฏกรรมนี้


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    7 ชาติสมาชิก EU นำโดยฝรั่งเศส-อิตาลี ประกาศจุดยืนหนุน “เลิกคว่ำบาตรรัสเซีย” ชี้ยุโรปไม่ควรบ้าจี้ตามแรงกดดัน US โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
    18 มกราคม 2558 02:22 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์-7 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ประกาศจุดยืนหนุนให้อียูยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย ชี้ ยุโรปควรมีจุดยืนที่เป็นเอกภาพ และไม่โอนอ่อนต่อแรงกดดันจาก “รัฐบาลสหรัฐฯ”

    รายงานล่าสุดซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงบรัสเซลส์ของเบลเยียมระบุว่า ในขณะนี้มีสมาชิกสหภาพยุโรป 7 ชาติ ประกอบด้วยฝรั่งเศส สาธารณรัฐเชก สโลวาเกีย ไซปรัส อิตาลี ฮังการี และออสเตรีย ประกาศจุดยืนร่วมกันหนุนให้มีการยกเลิกหรือผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย แม้เสียงส่วนใหญ่ในหมู่ 28 ชาติสมาชิกอียูจะยังคงหนุนให้เดินหน้าคว่ำบาตรรัฐบาลมอสโกต่อไปจากผลพวงของวิกฤตในยูเครน

    ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวทางการทูตเผยว่าที่ประชุมใหญ่นัดแรกประจำปี 2015 ของอียู ที่จะจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ในวันที่ 19 มกราคมนี้ จะไม่มีการพิจารณาหรือการลงมติต่อมาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมต่อรัสเซียด้วยเช่นกัน แม้จะต้องเผชิญกับแรงกดดันหนักจากรัฐบาลบารัค โอบามาในสหรัฐฯที่ต้องการให้ยุโรป “เล่นเกมปิดล้อมรัสเซีย” ตามยุทธศาสตร์ของทางวอชิงตัน

    ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาแรมปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปได้ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียหลายชุด ตามแรงกดดันจากรัฐบาลอเมริกัน ทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง จากผลพวงของวิกฤตในยูเครน รวมถึงการที่รัสเซียทำการผนวก “ไครเมีย” จากยูเครนเมื่อช่วงต้นปี 2014 ที่ผ่านมา

    7
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯค้าน ICC สืบข้อหารัฐยิวก่อ “อาชญากรรมสงคราม” ในกาซา
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2558 16:06 น.

    [​IMG]

    กลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นมาจากย่านตุฟฟาห์ ภายหลังการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในฝั่งตะวันออกของเมืองกาซา เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ปี 2014

    เอเอฟพี – สหรัฐฯจับมือร่วมกับอิสราเอลในการประณามการตัดสินใจของศาลอาชญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ที่จะเปิดการสืบสวนเบื้องต้นวานนี้ (16) ถึงเรื่องอาชญากรรมสงครามที่อาจเกิดขึ้นกับปาเลสไตน์ โดยวิจารณ์อย่างรุนแรงว่าเป็น “ตลกร้ายที่น่าเศร้า”

    ฟาโทอู เบ็นโซอูดา อัยการของไอซีซี กล่าวว่า สำนักงานของเธอจะดำเนิน “การวิเคราะห์ด้วยความเป็นอิสระและยุติธรรมอย่างเต็มที่” ต่อข้อหาการก่ออาชญากรรมสงครามโดยอิสราเอล รวมถึงผู้ที่กระทำผิดในช่วงการโจมตีฉนวนกาซาเมื่อปีที่แล้ว

    การตัดสินใจของเธอมีขึ้นภายหลังปาเลสไตน์เข้าร่วมไอซีซีอย่างเป็นทางการเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ เปิดทางให้พวกเขาสามารถยื่นข้อร้องเรียนอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติฟ้องอิสราเอลในส่วนของเดือนเมษายน

    ชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,200 คนและชาวอิสราเอล 73 คนถูกสังหารในช่วงสงครามฤดูร้อนปีที่แล้วในฉนวนกาซา

    สหรัฐฯออกมาวิจารณ์การตัดสินใจดังกล่าวเมื่อช่วงค่ำวานนี้ (16) โดยระบุว่า พวกเขาคัดค้านการดำเนินคดีต่ออิสราเอลในไอซีซี เนื่องจาก “ไม่เกิดประโยชน์ต่อการสร้างสันติภาพ”

    “มันเป็นตลกร้ายอันน่าเศร้าที่ว่าอิสราเอล ซึ่งอดทนต่อจรวดของผู้ก่อการร้ายนับร้อยๆลูกที่ยิงมาตกใส่พลเรือนและละแวกบ้านของพวกเขา ตอนนี้กำลังถูกตรวจสอบโดยไอซีซี” เจฟฟ์ ราธเก โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในถ้อยแถลง

    ก่อนหน้านั้นนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ได้ออกมาตอบโต้อย่างเดือดดาลต่อการตัดสินใจของอัยการรายนี้ โดยเรียกมันว่าเป็นเรื่อง “น่าอดสู” และ “บ้อบอคอแตก” เนื่องจาก “ทางการปาเลสไตน์ร่วมมือกับกลุ่มฮามาส กลุ่มก่อการร้ายซึ่งก่ออาชญากรรมสงคราม ต่างกับอิสราเอลที่ต่อสู้กับความหวาดกลัวพร้อมกันกับรักษากฎหมายระหว่างประเทศ และมีระบบยุติธรรมอันเป็นอิสระ”

    เบ็นโซอูดา เคยกล่าวเน้นย้ำไว้ก่อนหน้านี้ว่า “การตรวจสอบเบื้องต้นไม่ใช่การสืบสวน แต่กระบวนการตรวจสอบข้อมูลนี้ขึ้นอยู่กับว่ามีหลักอันควรหรือไม่ที่จะดำเนินต่อด้วยการสืบสวน” โดยเธอจะตัดสินใจในลำดับต่อไปว่าจะเปิดการสืบสวนเต็มขั้นหรือไม่

    อิสราเอลเริ่มการลงโทษขนานใหญ่ต่อเขตเวสต์แบงค์เมื่อวันที่ 13 มิถุนายนปีที่แล้ว หลังจากเหตุลักพาตัวและสังหารวัยรุ่นชาวอิสราเอล 3 ราย ซึ่งเป็นชนวนให้เกิดเหตุการณ์ต่างๆตามมาจนนำไปสู่สงครามฉนวนกาซานาน 6 สัปดาห์

    การเคลื่อนไหวของปาเลสไตน์ที่จะเข้าร่วมไอซีซีก็ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์ ในการที่จะทำให้การรณรงค์เรื่องการขอสถานะรัฐของพวกเขาเป็นวาระสากล และผละจากกระบวนการสันติภาพที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งติดชะงักมายาวนาน

    ปาเลสไตน์ได้รับการยกสถานภาพจากผู้สังเกตการณ์เป็น “รัฐผู้สังเกตการณ์” ขององค์การสหประชาชาติในปี 2012 และได้รับการเปิดรับให้เข้าร่วมไอซีซีและองค์การนานาชาติอื่นๆ

    ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากล (แอมเนสตี อินเตอร์เนชันแนล) ก็ออกมาเห็นชอบกับการประกาศดังกล่าวของไอซีซี โดยระบุว่า “สิ่งนี้อาจจะปูทางให้กับเหยื่อหลายพันคนของอาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศให้ได้รับการเข้าถึงความยุติธรรม”

    อย่างไรก็ตาม “การตรวจสอบเบื้องต้นนี้อาจนำไปสู่การสืบสวนความผิดที่ “กระทำโดยทุกฝ่าย” แอสเนสตี เน้นย้ำในถ้อยแถลง


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำมันพุ่งหลังIEAเชื่อจะคืนสู่สมดุล หุ้นสหรัฐฯ-ทองคำทะยาน
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 มกราคม 2558 05:43 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันพุ่งแรงในวันศุกร์(16ม.ค.) หลังทบวงพลังงานระหว่างประเทศ(ไออีเอ) ชี้พบเห็นสัญญาณตลาดจะฟื้นตัวตามหลังร่วงแตะระดับต่ำสุดรอบหลายปีเร็วๆนี้ ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้วอลล์สตรีทกลับมาบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 6 วัน ขณะที่ทองคำขยับขึ้นอย่างแข็งแกร่งจากแรงเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงต่ำท่ามกลางความกังวลต่อความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์

    ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 2.44 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    ทบวงพลังงานระหว่างประเทศคาดหมายว่าราคาน้ำมันจะยังคงขยับลงในระยะสั้น แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่จะฟื้นตัวขึ้นคืนสู่สมดุลในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าอุปสงค์จะไม่เพิ่มขึ้นมากก็ตาม

    ทางไออีเอ ยังปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวทางอุปทานของเหล่าประเทศที่ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปก ว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราว 350,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากบริษัทพลังงานต่างๆปรับลดงบประมาณและยกเลิกโครงการต่างๆท่ามกลางราคาน้ำมันที่ร่วงหนัก แต่ขณะเดียวกันไออีเอ ได้คงประมาณการณ์การขยายตัวทางอุปสงค์สำหรับปี 2015 ไว้ตามเดิม โดยคาดหมายว่าน่าจะเพิ่มขึ้นราว 900,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 93.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์(16ม.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรก หลังจากขยับลงหนักมา 5 วันติด ได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มพลังงาน และข้อมูลที่ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังอยู่บนเส้นทางของการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง

    ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 190.86 จุด (1.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,511.57 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 26.75 จุด (1.34 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,019.42 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 63.56 จุด (1.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,634.38 จุด

    รายงานของรัฐบาลสหรัฐฯพบว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคแตะระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีในเดือนมกราคม ส่วนผลผลิตของโรงงานก็เพิ่มขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

    หุ้นทั้ง 10 กลุ่มในดัชนี เอสแอนด์พี 500 ต่างปิดบวกกันถ้วนหน้า นำโดยภาคพลังงานที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.2 หลังจากน้ำมันดิบสหรัฐฯพื้นตัวขึ้นร้อยละ 5.3 และเบรนต์ ขยับขึ้นร้อยละ 3.9 หลังไออีเอคาดหมายว่าแนวโน้มขาลงของตลาดจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางปี

    ส่วนราคาทองคำเมื่อวันศุกร์(16ม.ค.) ดีดตัวแรงต่อเนื่อง จากผลกระทบจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมสกุลเงินฟรังก์ ทำให้มีการโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 12.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยังกู้ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องคิวแซด8501ขึ้นมาไม่ได้

    [​IMG]

    หน่วยกู้ภัยยังไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบินแอร์เอเชียอินโดนีเซีย เที่ยวบิน คิวแซด 8501 ขึ้นจากใต้ก้นทะเลชวา เนื่องจากคลื่นทะเลปั่นป่วน

    วันเสาร์ 17 มกราคม 2558 เวลา 23:37 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 17 ม.ค. ว่า ปฏิบัติการกู้ซากเครื่องบินโดยสาร สายการบินแอร์เอเชีย อินโดนีเซีย ที่ตกลงในทะเลชวา ระหว่างเกาะเบลิตังกับเกาะบอร์เนียว ระหว่างออกเดินทางจากเมืองสุราบายา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของอินโดนีเซีย ไปยังสิงคโปร์ เมื่อเช้าวันที่ 28 ธ.ค. ในวันนี้ทีมนักประดาน้ำ 15 คนของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ยังไม่สามารถเข้าถึงชิ้นส่วนลำตัวเครื่องบิน ที่ค้นพบตั้งแต่วันพุธ (14 ม.ค.) ได้เนื่องจากคลื่นทะเลปั่นป่วนรุนแรง หลังพยายามติดต่อกัน 3 วัน ในวันพฤหัสบดี วันศุกร์ และวันนี้

    ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องขนาดความยาว 30 เมตร ซึ่งมีปีกข้างหนึ่งติดอยู่ ถูกพบพร้อมกับชิ้นส่วนอื่นๆ อีก 8 ชิ้น รวมถึงส่วนที่เป็นห้องนักบิน และเครื่องยนต์เครื่องหนึ่ง อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ใต้ก้นทะเลความลึกจากผิวน้ำประมาณ 28 เมตร และอยู่ห่างจากจุดที่พบส่วนปีกหางก่อนหน้านี้ 3 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่เชื่อว่า ผู้ที่อยู่บนเครื่องที่เหลือส่วนใหญ่ติดอยู่ในส่วนลำตัวเครื่องที่พบ โดยจนถึงขณะนี้หน่วยกู้ภัยพบผู้เสียชีวิตแล้วเพียง 51 ศพ จากผู้โดยสารและลูกเรือที่อยู่ในเครื่องทั้งหมด 1

    ยังกู้ชิ้นส่วนลำตัวเครื่องคิวแซด8501ขึ้นมาไม่ได้ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Nibiru Facts/Elenin Facts/2012/NWO/FEMA/Earth Quakes/T Cyclones etc

    [​IMG]

    เราไม่ได้มีแผ่นดินไหวขนาด 6.0mag ซักครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ......
    ~~~> WE HAVE NOT HAD ONE 6.0mag QUAKE IN THE PAST 2 MONTHS......

    ยังไม่มีใครถามว่าทำไมกิจกรรมแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ได้หยุดใน 2 เดือนที่ผ่านมา ...... ????
    hi guys, besides the Stock Markets and Banks busy crashing,
    no one has asked WHY the LARGE quake activity has basically STOPPED over the past 2 months......????

    โดยทั่วไปเราแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แม็ก ประมาณ 12 ครั้ง + ไหวต่อเนื่องต่อเดือนเมื่อปีที่ผ่านมา ....
    เรามีแผ่นดินไหว 154 ครั้งที่วัดได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่า 6.0 แม็ก
    เรามีแผ่นดินไหว 12 ครั้งที่วัดได้ว่ามีขนาดใหญ่กว่า 7.0 แม็ก
    >>> เรามีแผ่นดินไหว 7.0 แม็ก 5 ครั้ง โจมตีเรา ในเดือนเมษายน 2014
    เรามีแผ่นดินไหวขนาด 6.0 แม็ก 28 ครั้ง ในเดือนเมษายน 2014
    Basically we had about 12 x 6.0 mag+ quakes per month last year....
    We had 154 quakes measuring larger than 6.0 mag
    We had 12 quakes measuring larger than 7.0 mag
    >>> We had 5 x 7.0 mag quakes hit us in April 2014 <<<
    We had 28 x 6.0 mag quakes in April 2014


    เราไม่ได้มีแผ่นดินไหว 6.0 แม็ก แม้ครั้ง ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ......
    WE HAVE NOT HAD ONE 6.0 mag QUAKE IN THE PAST 2 MONTHS......

    ผมคิดว่าเหตุผลสำหรับกรณีนี้ ซึ่ง ซีตาได้อธิบายว่า Nibiru ได้โผล่ขึ้นมาบนสุริยวิถีระหว่างดาวศุกร์และโลก (ดูรูป) และด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่ได้มีผลกระทบต่อโลกมากที่สุด เพราะดาววีนัส (ศุกร์) ได้ปิดกั้นสนามแม่เหล็กของเธอ เพราะดาววีนัสได้อยู่ตรงด้านหน้าของโลก และปิดกั้นสนามแม่เหล็ก Nibiru ที่มีความรุนแรง .......
    I think the reason for this is as the Zeta's have explained, Nibiru has popped up on the Ecliptic BETWEEN Venus and Earth (look at the pic) and because of this she is NOT affecting Earth as much because Venus is BLOCKING her magnetic field because Venus is directly in front of Earth BLOCKING Nibiru's strong magnetic field.......


    อะไรเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป คือเมื่อดาวศุกร์ได้รับการผลักดันให้ออกไป เมื่อ Nibiru ยังคงเดินทางต่อไป ดาววีนัสจะกระเด้งออกจากระหว่าง Nibiru และโลก, กรณีนี้คือเมื่อสนามแม่เหล็กของ Nibiru จะดูดแต่เพียงดาวโลก จะการก่อให้เกิดสิ่งที่เรารอคอยมานาน คือการกลับขั้วสนามแม่เหล็กโลก และที่ใกล้กว่านั้นเราจะได้ พบเธอ และมากกว่านั้นเธอจะบดโลกด้วยสนามแม่เหล็กของเธอ ....
    what will happen next is when Venus gets pushed away as Nibiru continues her journey, Venus will pop out from between Nibiru and Earth, this is when Nibiru's magnetic field will just suck us in causing the long awaited Pole Shift and the closer that we get to her the more she will crush Earth with her magnetic field....


    อย่าความเครียด ถ้า Pole Shift เกิดขึ้นเราไม่ได้จะมีรอบเมื่อ Nibiru ทับอิโมติคอนหัวใจโลก
    Don't stress, if the Pole Shift happens we will nOt be around when Nibiru crushes Earth heart emoticon

    เหมือนมันเป็นเพียงเรื่องของเวลา ..........
    soooo, it is only a matter of time..........

    วิธีเดียวที่เราเป็นมนุษย์จะอยู่รอดการเปลี่ยนแปลงนี้คือการตื่นขึ้นมาและหยุด Nibiru โดยการมีสติกลายเป็นหนึ่งในความคิด และเปี่ยมด้วยความรัก
    the ONLY way WE, as humanity, will survive this Shift is by waking up and stopping Nibiru by consciously becoming one in thought, and in love heart emoticon


    สุริยวิถี (อังกฤษ: Ecliptic) คือ ระนาบทางเรขาคณิตที่เป็นระนาบวงโคจรของโลก ดาวเคราะห์ส่วนใหญ่ในระบบสุริยะมีระนาบวงโคจรใกล้เคียงกับระนาบนี้ เมื่อมองจากโลก สุริยวิถีเป็นวงกลมใหญ่บนทรงกลมฟ้าที่แทนเส้นทางการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ตลอดทั้งปีท่ามกลางดาวฤกษ์ที่เป็นฉากหลัง ระนาบนี้ทำมุมเอียงกับเส้นศูนย์สูตรฟ้าเป็นมุมประมาณ 23.5° ซึ่งเป็นผลจากความเอียงของแกนหมุนของโลก ระนาบวงโคจรของดวงจันทร์เอียงกับระนาบสุริยวิถีเป็นมุมประมาณ 5°

    เนื่องจากดวงอาทิตย์ปรากฏเคลื่อนที่ไปตามสุริยวิถีเป็นมุม 360 องศา ในระยะเวลาประมาณ 365.25 วัน หรือ 1 ปี ดวงอาทิตย์จึงเคลื่อนที่ไปด้วยอัตราประมาณ 1° ต่อวัน โดยมีทิศทางจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวันออก ตรงข้ามกับการหมุนของทรงกลมฟ้า

    สุริยวิถีกับเส้นศูนย์สูตรฟ้าตัดกันที่จุด 2 จุด ซึ่งอยู่ตรงข้ามกัน คือ จุดวสันตวิษุวัตและจุดศารทวิษุวัต เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนมาถึง 2 ตำแหน่งนี้ กลางวันกับกลางคืนจะยาวนานเท่ากันสำหรับผู้สังเกตบนผิวโลก (อย่างน้อยก็ในทางทฤษฎี เพราะมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อความยาวนานของกลางวัน-กลางคืน เช่น บรรยากาศโลก)

    จุดที่สุริยวิถีอยู่ห่างจากเส้นศูนย์สูตรฟ้ามากที่สุดขึ้นไปทางเหนือ เรียกว่า จุดครีษมายัน และลงไปทางใต้เรียกว่า จุดเหมายัน หากดวงจันทร์ผ่านแนวสุริยวิถีขณะจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับ จะมีโอกาสเกิดอุปราคาขึ้นได้
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ ConStantine Elzindu

    [​IMG]

    // ภูเขาไฟไอซ์แลนด์ยังปะทุหนัก //
    วันที่17/01/15
    ทางการไอซ์แลนด์เผยภาพการปะทุของภูเขาไฟ "บาร์ดาร์บุนกา" ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ที่จนถึงขณะนี้ ยังคงปะทุพ่นเถ้าถ่านและหินร้อนขึ้นสู่ท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญระบุ การปะทุของภูเขาไฟเกิดขึ้นติดต่อกันมานานกว่า 5 เดือน สาเหตุจากการเกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็กที่เกิดขึ้นรอบภูเขาไฟ พร้อมเตือนว่า หากการปะทุยิ่งรุนแรงมากกว่านี้ อาจทำให้กลุ่มควันจากภูเขาไฟลอยปกคลุมท้องฟ้า ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อการบินในประเทศ หรืออาจทั่วทวีปยุโรป อย่างไรก็ดี ทางการได้ส่งทีมผู้เชี่ยวชาญลงพื้นที่เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์รอบภูเขาไฟอย่างใกล้ชิด พร้อมรายงานสถานการณ์ตลอดเวลา แต่ยังไม่มีการยกระดับการเตือนภัยหรืออพยพประชาชนแต่อย่างใด
    Credit: Ch 7
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ Bank of Thailand Scholarship Students

    [​IMG]

    (Jan 17)คอลัมน์ เศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจเรา: เริ่มไม่ไว้วางใจเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา : แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะแสดงข้อมูลทางเศรษฐกิจให้เห็นด้วยการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นอยู่แต่ผู้เดียว ในบรรดาประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกทั้งหลายแต่ล่าสุดนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา เห็นภาพชัดถึงความไม่ไว้วางใจของทั่วโลกรวมทั้งนักลงทุนในสหรัฐอเมริกาเองต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในปี 2558 ซึ่งมีการกล่าวกันว่าอาจจะไม่โดดเด่นอย่างแท้จริงอย่างที่เคยคาดการณ์กันก่อนหน้านี้

    นักวิเคราะห์จากสำนักใหญ่ในสหรัฐอเมริกาแทบทุกค่ายต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า อเมริกามิอาจยืนอยู่ได้แต่ผู้เดียวในตลาดโลก โดยมิได้รับผลกระทบต่อการตกต่ำของเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก ซึ่งดำเนินมาตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วและคาดว่ายังคงอยู่เช่นนี้ไปจนกระทั่งจบปี 2558

    แต่ปัญหาก็คือ ผลกระทบที่มีการคาดการณ์กันนั้น ยังไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า สหรัฐอเมริกาจะได้รับผลกระทบแค่ไหนอย่างไร จะทำให้อัตราการเติบโตของเขตเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดของโลกและกำลังกลายเป็นที่พึ่งของโลกในเวลานี้จะชะลอตัวลงมากน้อยแค่ไหนอย่าง

    ความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากการประเมินผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ของบรรดานักวิเคราะห์ในสหรัฐอเมริกาเอง โดยบลูมเบิร์กรายงานล่าสุดว่า ในช่วงต้นปีนี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า บรรดาผู้ประกอบการซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของสหรัฐอเมริกา จะมีกำไรในไตรมาสที่ 4 เติบโตขึ้นแค่เพียง 2.8% เท่านั้น ผิดกับการสำรวจเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในขณะนั้นนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าผลกำไรของผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ของกิจการในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาจะเติบโตถึง 8.1%

    ชัดเจนอย่างยิ่งถึงการมีมุมมองต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในลักษณะที่เชื่อว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาจะตกต่ำลง แม้ว่า เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐอเมริกาเพิ่งรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่สามสูงถึง 5% ก็ตาม

    นักเศรษฐศาสตร์ต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในปี 2558 จะไม่สดใสเท่ากับปี 2557 เพราะว่า

    หนึ่ง ธนาคารกลางสหรัฐฯ หยุดการปั๊มเงินเข้าระบบเศรษฐกิจหรือที่เราเรียกกันว่ามาตรการ QE เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจำนวนมหาศาล ตั้งแต่เมื่อสิ้นสุดไตรมาสที่ 3 ของปีที่ผ่านมา หรือเมื่อสิ้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้สภาพคล่องของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ไม่มีสภาพคล่องที่เหลือเฟือเช่นดั่งก่อนหน้านี้

    สอง ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ตามโปรแกรมมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและปีนี้เป็นปีที่สิ้นสุดการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำที่สุดที่ใกล้ 0% ซึ่งธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาเองได้ส่งสัญญาณออกมาตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมาว่า อาจจะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ในช่วงกลางปีนี้ ดังนั้น ส่งผลให้นักเศรษฐศาสตร์แค่หลับตาก็มองเห็นภาพของต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นของผู้ประกอบการ รวมทั้ง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่จะแข็งค่าขึ้นจากการขึ้นดอกเบี้ย เพราะเท่ากับเป็นการเรียกเงินของตัวเองที่ไปแสวงหากำไรจากตลาดที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงทั่วทั้งโลกในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาให้กลับเข้าสู่สหรัญอเมริกา

    การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และต้นทุนที่แพงขึ้นของผู้ประกอบการ จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับภาวะความสามารถในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ทั่วทั้งโลกอีกครั้งหนึ่ง

    เหตุการณ์นี้จะตรงกันข้ามกับช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ที่สหรัฐฯ ออกมาตรการ QE ทำให้ดอลลาร์ท่วมโลก ค่าเงินดอลลาร์ก็อ่อนค่าลงมิหนำซ้ำอัตราดอกเบี้ยก็อยู่ใกล้ศูนย์เปอร์เซ็นต์เป็นภาวะที่ต้นทุนถูกมากๆ สำหรับผู้ประกอบการ ทำให้สหรัฐฯได้เปรียบประเทศอื่นๆ ทั่วทั้งโลก และเป็นปัจจัยสำคัญที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นกลับมา

    สังเกตนะครับว่า ยังมิทันที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเลย เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ถูกซื้อเก็บเพื่อการเก็งกำไรล่วงหน้า จนในขณะนี้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯทะยานขึ้นไปแข็งค่ามากที่สุดในรอบ 9 ปีเมื่อเปรียบเทียบกับ 10 สกุลเงินหลักที่สำคัญของโลก

    ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงจับตามมองผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา จากปัจจัยลบเหล่านี้ ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมารายงานบทวิเคราะห์ปรับลดการคาดการณ์ในมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ค่อยๆ ถูกปรับลดลงเรื่อยๆ

    ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา สำนักงานแรงงานของสหรัฐอเมริกา รายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมในเดือนธันวาคมระบุว่า เพิ่มขึ้นถึง 252,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มขึ้น 240,000 ตำแหน่ง รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มขึ้นที่มากกว่าที่คาดการณ์อย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง โดยเมื่อเดือนก่อนหน้านั้น ยอดการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 353,000 ตำแหน่ง

    ส่งผลให้ในปี 2557 ที่ผ่านมา ประชากรชาวสหรัฐอเมริกามีงานทำเพิ่มขึ้นถึง 2.95 ล้านคน นับว่าดีที่สุดในรอบ 15 ปี ที่ผ่านมา

    ในขณะที่อัตราการว่างงานลดลงมาเหลือ 5.6% จากระดับ 5.8% เมื่อเดือนก่อนหน้านี้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 5.7% และยังต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2008 เป็นต้นมา

    ข้อมูลดีเช่นนี้ หุ้นต้องขึ้นแล้วครับ แต่ที่ไหนได้ นักลงทุนขายหุ้นทิ้งกันอุตลุด รวมทั้งขายเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แม้กระทั่งพันธบัตรของสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ลดลงไปถึง 0.95% หรือ 170.50 จุด

    เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ ก็เพราะว่า ในรายละเอียดของข้อมูลดังกล่าว นักลงทุนไปพบเห็นรายงานระบุว่า รายได้ต่อชั่วโมงของลูกจ้างลดลง 5 เซนต์ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาหรือประมาณราว 0.2% โดยลดลงจากระดับ 24.62 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมงเมื่อเดือนก่อนหน้า ลงมาอยู่ที่ระดับ 24.57 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อชั่วโมง

    ข้อมูลดังกล่าว นักวิเคราะห์กล่าวว่า สะท้อนสัญญาณของรายได้ประชากรของสหรัฐอเมริกาที่กำลังลดลงครับ!

    โดย ทรงเกียรติ ชาตวัฒนานนท์
    Source: สยามรัฐสัปดาหวิจารณ์
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ระเบียบ โลกใหม่

    ภัยพิบัติรอบโลกเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แถมมีเสียงปริศนา เกิดขึ้นไปทั่วโลก

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/pCYfQmk5yao" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/eCAgmtB4j7w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  15. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ............................
    เรียนคุณสุกิจSukit...ฝากหาข้อมูลมาแชร์หน่อยคะว่าอีกนานไหมคุณดาวพระศุกร์จะหลุดออกจากวงโคจรระหว่างโลกกับคุณนิบุรุ...และจากข้อความข้างต้นแปลว่าเรามอบความเมตตาและความรักให้ดาวนิบิรุรับรู้ได้เหรอ...ดีจัง(deejai)
    แบบข้อความของห้องสลายภัยพิบัติด้วยรหัสเต๋า...ทำสมาธิแล้วอธิษฐานจิต...แบบนี้น่าจะพอได้เนาะ...
    ....คำอธิษฐานจิต
    ขอน้อมคุณงามความดีจากการนั่งสมาธิในครั้งนี้
    ขอให้สิ่งมีชิวิต มวลมนุษยชาติบนโลกใบนี้ และในจักรวาล จงอยู่เย็นเป็นสุข
    ขอให้ผู้ที่ล่วงลับจากภัยพิบัติทั่วโลกจงสู่สุคติ
    ขอให้ไตรภพสันติสุข ขอให้การปรับตัวของโลกจงเป็นไปอย่างราบรื่น
    ไม่รุนแรง ไม่เกิดสึนามิ ไม่เกิดแผ่นดินไหว
    น้ำไม่ท่วม อุณหภูมิโลกจงเย็นสบาย โลกจงสงบสุข
    .....คุณนิบิรุจะรับรู้ได้ไหม...เก็บพลังแม่เหล็กลงหน่อยนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 มกราคม 2015
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    <iframe width="854" height="510" src="//www.youtube.com/embed/gTgmtoKiEnk" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ตอนนี้มีการรายงานว่า แฮคเกอร์ได้แฮ็คข้อมูลของ UPI(United Press International)รายงานข่าว หัวหน้าเสนาธิการร่วมของสหรัฐ(US Joint Chief of Staff) อ้างว่าเรือบรรทุกเครื่องบิน จอร์จวอชิงตัน ได้รับความสียหาย และขณะนี้ทางกองทัพเรือสหรัฐ กำลังรับมือกับจีนในบริเวณทะเลจีนใต้ สงครามโลกครั้งที่ 3 ได้เริ่มต้นแล้ว นอกจากนี้ทวิตเตอร์ดังกล่าว ยังรายงานอีกว่า พระสันตปาปา ฟรานซิส

    https://www.youtube.com/watch?v=gTgmtoKiEnk

    ก็ได้ประกาศว่า สงครามโลกได้เกิดขึ้นแล้ว พร้อมทั้งมีรายงานระบุว่าทาง ประธานธนาคารกลางสหรัฐ แจเนต เยลเลน ได้เรียกประชุมฉุกเฉินเพื่อออกมาตรการ ดอกเบี้ยติดลบในเย็นวันนี้เวลา 4 โมงเย็น (17 ม.ค.) http://www.usatoday.com/…/…/16/hacked-fake-chinese/21868895/
    เอาเป็นว่าแม้ภายหลังทาง UPI จะออกมาชี้แจงว่า ข่าวที่เกิดขึ้นไม่เป็นความจริง สงครามโลกครั้งที่ 3 ยังไม่ได้เริ่มต้น แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ ..."น่าจะมีความเคลื่อนไหว".. ที่ไม่ปรากฎในสื่อหลักๆ มากพอสมควร ยังไงก็ต้องจับตากันต่อไปครับ
    เมื่อวันก่อนผมให้เป็นข้อสังเกต กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับ ธนาคารกลางสวิส และตั้งข้อสังเกตว่า บรรดาผู้บริหารของ ธนาคารแห่งชาติสวิส ไม่น่าจะตัดสินใจทำ ในสิ่งที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ ผมก็เลยสนใจใคร่รู้ว่า ใครคือ ประธานบอร์ดบริหารธนาคารกลางสวิส ที่กำลังถูกกดดัน จากภาคการส่งออกมากที่สุดเวลาน้ี
    เขาคือ โทมัส จอร์แดน จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย เบิร์น สวิสเซอร์แลนด์ และในขณะที่ทำงานในธนาคารแห่งชาติสวิส ก็ทำหน้าที่ๆปรึกษาใน มหาวิทยาลัย ฮาร์วาร์ดในปี 1997 เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังเป็น กรรมการของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ หรือ "The Bank for International Settlements( BIS ) ตั้งอยู่ที่เมือง บาเซิล ของสวิตเซอร์แลนด์ และนั่งเป็นกรรมการบอร์ด ที่สำคัญของสถาบันการเงินระดับโลกอีกตำแหน่งหนึ่งอีกด้วย http://www.theguardian.com/…/thomas-jordan-swiss-national-b…
    ผมไปสะดุดตากับแหน่ง กรรมการบอร์ดบริหารของ BIS นี่แหละครับ เพราะธนาคารแห่งนี้ ถือว่าเป็นธนาคารที่สำคัญที่สุดในโลกก็ว่าได้ แต่มีคนรู้จักน้อยมาก BIS ก่อตั้งขึ้นในปี 1930 มีหน้าที่อำนวยความสะดวก และให้คำปรึกษา และการดำเนินนโยบาย ด้านการเงินของธนาคารกลางในแต่ละประเทศ แม้แต่ธนาคารกลางสหรัฐ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ BIS เช่นเดียวกัน และมีเครือข่ายธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ทั่วโลกมากกว่า 58 แห่ง ทำให้ BIS คือ ธนาคารกลางของ บรรดาธนาคารกลางทั่วโลกนั่นเอง (The central bank of central banks) Bank for International Settlements - Federal Reserve Bank of New York
    และบรรดาคนชั้นสูงที่มั่งคั่งของยุโรป และบรรดาผู้นำของประเทศต่างๆ ตลอดจนมหาเศรษฐีทั่วโลก ชอบนำเงินที่ได้จากการคอรัปชัน มาฝากไว้จำนวนมาก มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน สวิสต์เซอร์แลนด์จึงถูกกำหนด ให้เป็นประเทศที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด และไม่มีการเปิดเผยข้อมูลของลูกค้า คนที่เคยทำงานใน ธนาคารโลก แคเรน ฮูดส์ ซึ่งเป็นนักกฎหมายจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เยลล์ สหรัฐ ได้ออกมาเปิดเผยว่า บรรดาคนชั้นสูงที่มีเป้าหมายในการครองโลก กำลังวางแผนทำให้รัฐบาลทุกประเทศทั่วโลก ตกอยู่ในฐานะลูกหน้ี ผ่านสถาบันการเงินแห่งนี้ เพราะธนาคารแห่งนี้ในอดีต คือ ที่ฟอกเงินของบรรดานาซี ตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา นอกจากนี้สถานที่แห่งนี้ ยังมีการจัดประชุมของ บรรดาผู้แทนธนาคารกลาง ต่างทั่วโลกเพื่อกำหนด นโยบายของธนาคารกลางร่วมกัน ในวงรอบทุก 2 เดือน มีอิทธิพลต่อการเมืองในทุกประเทศ เพราะบรรดาชั้นสูงเหล่านี้ ครอบงำเศรษฐกิจโลกมากถึง 40% ผ่านบรรดาธนาคารกลางต่าง มีบริษัทที่เป็นนอมินีทั่วโลกนับล้านบริษัท จึงสามารถกำหนด ความเป็นไปของทุกชีวิตบนโลกนั่นเอง
    World Bank Whistleblower Reveals How The Global Elite Rules The World | Global Research
    เพราะฉะนั้นผมถึงไม่แปลกใจกับ มาตรการของธนาคารแห่งชาติสวิสที่ออกมา ถึงแม้กำลังถูกคนในประเทศ โดยเฉพาะภาคการส่งออกของสวิส รวมถึงภาคการท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ แต่แน่นอนครับสำหรับ บรรดามหาเศรษฐีและชนชั้นสูงที่ฝากเงินในสวิส โดยเฉพาะ BIS แทบไม่ได้รับผลกระทบอะไร มิหนำซ้ำยังกุมความได้เปรียบ เพราะเงินฟรังซ์แข็งค่าขึ้น ที่สำคัญที่สุด ถ้าเกิดหายนะทางเศรษฐกิจขึ้นในยุโรป ก็จะสามารถซื้อสินทรัพย์หล่านี้ ได้ในราคาถูกนั่นเอง มาตรการที่เกิดขึ้น นอกจากจะเป็นการปลดล็อคตัวเอง ออกจากยูโรและดอลลาร์ เพราะคนกลุ่มนี้ น่าจะคาดการณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไป กับเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐได้
    และสอดคล้องกับ สถานการณ์ในยุโรปตะวันออก ที่ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ เพราะนอกจากรัสเซีย ตัดสินในหยุดส่งก๊าซผ่านยูเครนไปยังทวีปยุโรป ตอบโต้ความรุนแรง ที่เกิดขึ้นในยูเครนระลอกล่าสุด ทำให้ประเทศในยุโรปมากกว่า 6 ประเทศ กำลังประสบกับวิกฤติด้านพลังงานแล้ว EU Energy Crisis: Russia Cuts Off Gas Supplies through Ukraine To Six European Countries | Global Research
    นอกจากนี้ยังพุ่งเป้าไปยังสหรัฐโดยตรง โดยได้ออกมาประกาศว่า จะนำเงินกองทุนเพื่อความั่งคั่งจำนวน 88พันล้านดอลลาร์ ในต่างประเทศ มาซื้อรูเบิลเพื่ออุ้มเศรษฐกิจของประเทศ ตามที่ผู้นำรัสเซีย ได้เคยประกาศไปก่อนหน้านั้น ซึ่งรัสเซียเองพร้อมรับมือจาก การถูกลดเครดิตด้านความน่าเชื่อถือ เพราะรัสเซียไม่ได้สนใจ สหรัฐและตะวันตกแล้ว กำลังเดินหน้า ความร่วมมือกับจีน และประเทศในกลุ่ม BRICS , EEU ,และ SCO ผลักดันสกุลเงินอื่นขึ้นมาแชร์ ส่วนแบ่งของดอลลาร์ ในตลาดโลกนั่นเอง http://www.bloomberg.com/…/russia-to-convert-currency-from-…
    สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นแผนการของ บรรดาชนชั้นสูง(อิลลูมิเนติ) กำลังวางแผนทำให้เกิด สหรัฐและยุโรป ต้องเผชิญหน้ากับรัสเซียและจีน ตลอดจนประเทศในกลุ่มBRICS กลายเป็นสงครามโลกครั้งที่3 เพราะนโยบายของ ธนาคารกลางยุโรป ที่กำลังจะออกมา ส่งผลทำให้เศรษฐกิจยุโรป และสหรัฐถึงทางตัน มาตรการQE ระลอกใหม่ที่กำลังจะออกมา สำหรับรัสเซียและจีนแล้ว ไม่น่าจะสามารถรับได้อีกต่อไป กับนโยบายพิมพ์เงิน อย่างไม่มีวันจบ ในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ
    ถามว่าถ้ารัสเซียที่ออกมาประกาศล่วงหน้าว่า จะขายสินทรัพย์และเงิน ในกองทุนในต่างประเทศ เพื่อซื้อรูเบิลแล้ว เงินยูไรที่พิมพ์ออกมาจะเอาไว้ที่ไหน? จ่ายค่าก๊าซกับรัสเซียจะรับอีกหรือไม่? เพราะกระทั่งดอลลาร์ที่ได้มา รัสเซียก็เอาไปซื้อทองคำเก็บไว้ และเพิ่งตัดการส่งก๊าซไปยัง บางประเทศในสหภาพยุโรป
    เงินยูโรมันก็ไหลเข้าท่วมยุโรปและสหรัฐ ทำให้ฟองสบู่แตก เพราะหนี้สินทั่วโลก มากมายมหาศาล สถาบันการเงินแทบจะหยุดชะงัก เกิดการจราจล รัฐบาลต้องระงับใช้รัฐธรรมนูญ ประกาศใช้กฎอัยการศึก และที่แย่ที่สุดก็คือ สงครามนั่นเอง...
    http://seekingalpha.com/…/294…/3646256-we-now-stand-at-
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chalee Na Roied

    [​IMG]

    ภาพทวิตเตอร์ของ UPI ที่อ้างว่า โดนแฮ็คข้อมูล อ้างเรื่องสงครามโลกครั้งที่3นะครับ ทางวอชิงตันไทม์ ภายหลังก็ออกมาเปิดเผยว่า "ไม่จริง"
    New York Post, UPI Twitter accounts hacked, tweet fake 'WWIII' scare - Washington Times
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 19 ม.ค.58 ในยูเครน ปะทะกันด้วยอาวุธหนัก สะพานพังยับ
    การปะทะกันระหว่างกองทัพยูเครน กับกลุ่มนักรบนิยมรัสเซีย ที่มองโดเน็ทซ์ค ยังเกิดขึ้นอย่างดุเดือด มีการใช้อาวุธหนักจรวด 40 ลำกล้อง และปืนใหญ่ ประเคนใส่กองทัพยูเครน ซึ่งยูเครนก็ตอบโต้ด้วยปืนใหญ่จากรถถัง ทำลายสะพาน ที่เป็นเส้นทางลำเลียงที่สำคัญ อาวุธ จากการสู้รบของทั้ง 2 ฝ่าย บางส่วนหลุดออกจากพื้นที่สู้รบ ตกลงไปใส่รถประชาชน และอาคารบ้านเรือน
    ในช่วงราวเที่ยงคืนวันเสาร์ ที่เมืองชนบทติดพรมแดนรัสเซีย เกิดลำแสงสีฟ้าคล้ายแสงแฟลช แต่ไม่มีเสียงใดๆ พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในเวลาสั้นๆ จำนวน 2 รอบ จนทำให้ไฟฟ้าทั้งเมืองดับ ??...มันมาแล้ว EMP (Electromagnetic Pulse) !!
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 19 ม.ค.58 เปรี้ยงๆๆ..อเมริกา ไม่ปลอดภัยแล้ว แม้แต่บ้านรองประธานาธิบดียังถูกกระหน่ำยิง
    เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 20.28 น. มีรถยนต์คันหนึ่งขับผ่านมาใกล้บ้านของ นาย โจ ไบเดน รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐเดลาแวร์ และยิงปืนหลายนัด แต่ในขณะนั้น นายไบเดน และ จิล ภริยาไม่อยู่ที่บ้าน รถยนต์คันหนึ่งขับเข้ามาใกล้บ้านของรองประธานาธิบดีด้วยความเร็วสูง และคนในรถยิงปืนหลายนัด
    บนถนนสาธารณะ นอกเขตอารักขาความปลอดภัย โดยเจ้าหน้าที่หน่วยตำรวจลับ ที่คุ้มกันบ้านของรองประธานาธิบดี ได้ยินเสียงปืน และรถยนต์คันหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่นายหนึ่งจับตาดูอยู่วิ่งจากที่เกิดเหตุไปด้วยความเร็วสูง
    เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบริเวณโดยรอบบ้านของนายไบเดน รวมถึงบ้านเรือนใกล้เคียง แต่ไม่พบความเสียหายใดๆ เพราะบ้านของรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ห่างจากถนนที่เกิดเหตุยิงปืนไปหลายร้อยหลา
    ตำรวจของสำนักงานตำรวจเขต นิว คาวเซิล เคาน์ตี ได้ร่วมมือกับ FBI สาขาบอลติมอร์ สืบสวนในเหตุการณ์นี้ หลังจากเกิดเหตุราวครึ่งชั่วโมง ตำรวจจับกุมชายคนหนึ่งที่พยายามขับรถหลบหนีการตรวจ แต่สุดท้ายเขา "ไม่เกี่ยวข้อง" กับเหตุยิงปืน
    --------------------------------->
    โห..ประเทศอเมริกา ที่อ้างว่าปลอดภัยสูง มีคนมายิงปืนเล่นที่บ้าน รองประธานาธิบดี ได้..จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เขายิงปิดข่าว เรายิงต้องประจานว่าประเทศเขาไม่มีความปลอดภัยใดๆ หลงเหลือแล้ว
    นี่ยังไม่นับการเกิดเหตุควันปริศนา ในสถานี้รถไฟใต้ดิน ในมหานครของอเมริกา มีคนตายไป 1 คน บาดเจ็บเกือบ 100 คน อพยพคนหนีอีกเกือบ 1,000 คน ป่านนี้ยังหาสาเหตุไม่ได้ว่าควันมรณะนั้นมาจากไหน ตลกร้ายสุดๆ
    และรองประธานาธิบดีคนนี้ ก็เป็นอีลิท คนหนึ่งที่มีผลประโยชน์ ในตะวันออกกลาง มีบริษัทรับเหมาใหญ่ที่สุดคือ ฮาริเบอร์ตัน ที่รับงานของรัฐบาลอเมริกา สร้างฐานทัพ เอาเงินมาเข้ากระเป๋าตนเอง
    ตอนนี้อิลิทอเมริกา และอีลิทญี่ปุ่น ทำโครงการ "กำแพงยักษ์เมืองซาอุ" ยาวกว่า 600 ไมล์ ระหว่างซาอุฯ กับอิรัก ตอนเหนือ มูลค่ามหาศาลสุดคณานับ และยังมีแผนจะสร้างแนวกั้นพรมแดนของเยเมน เป็นทางยาว 1 พันไมล์ ในพื้นที่ตอนใต้ของประเทศ อ้างตลกมากว่าเอาไว้ป้องกันกลุ่มนักรบ IS โจมตีซาอุฯ
    กลุ่มอีลิทพวกนี้จึงได้งานรับเหมาก่อสร้าง เงินเต็มกระเป๋า ถ้าไม่สร้างภาพร้ายกลุ่มนักรบ IS ไว้ แล้วอีลิทจะได้เงินก่อสร้างก้อนนี้ได้อย่างไร ? การยิงปืนครั้งนี้ย่อมมีเงื่อนงำน่าสงสัยหนักขึ้นไปอีก...ทำปายด้ายยย ยิงปืนใส่บ้านรองประธานาธิบดีอเมริกัน ที่เป็นอีลิทใหญ่..!!
    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 18 ม.ค.58 อังกฤษอากาศหนาวจัดปานขั้วโลกเหนือ
    ชาวอังกฤษ ต้องเผชิญ สภาพอากาศหนาวจัด เข้าขั้นขั้วโลกเหนือ เมื่อพายุหิมะเข้าโจมอย่างต่อเนื่อง ที่อุณภูมิจะต่ำถึง ลบ 15 องศาเซลเซียส ทางการอังกฤษ ได้ออกคำเตือนป้ายเหลือง หรือ “ระวัง” แก่พลเมืองอังกฤษ ที่อาศัยในสกอตแลนด์ เวลส์ เซาท์เวสต์
    บริเวณตอนกลางของประเทศ บางพื้นที่อาจมีหิมะสูงถึง 10-15 ซม. อุณหภูมิ ลดลงต่ำที่สุดในช่วง 2 ปี สภาพอากาศที่เลวร้ายเช่นนี้สามารถฆ่าคนได้ทุก 7 นาท
    ----------------------->
    สภาพอากาศตอนนี้ หลายพื้นที่หนาวเย็นลงฉับพลัน อุณหภูมิลดต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ประเทศไทยภาคเหนือ และอีสาน โดยเฉพาะยอดดอยสูง อากาศก็หนาวเย็นอุณหภูมิลดลงจากเดิมราว 3-5 องศา และจะคงหนาวเย็นต่อไปถึง 22 ม.ค.58 หลังจากนี้ไปต้องประเมินอีกครั้ง
    @ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     

แชร์หน้านี้

Loading...