ติดตามสถานะการณ์

นักวิทย์เผยหลักฐานทั่วโลก นีแอนเดอร์ทัล-โฮโมเซเปียนส์ สู้รบแบบสงครามกันยาวนานนับแสนปี! เพื่อแก่งแย่งแข่งขัน แต่มนุษย์เราพัฒนาอาวุธ-วิธีรบได้ดีกว่าเมื่อเวลาผ่านไป เป็นหนึ่งในเหตุให้มนุษย์ยุคเก่าสูญพันธุ์
•
มนุษย์นีแอนเดอร์ทัลและมนุษย์โฮโมเซเปียนส์เป็นสายพันธุ์ที่วิวัฒนาการขึ้นมาจากบรรพบุรุษเดียวกันและอยู่ร่วมกันมาอย่างยาวนาน
•
แต่ก่อนหน้านักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมมนุษย์นีแอนเดอร์ทัลถึงได้สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ 40,000 ปีที่แล้วและโฮโมเซเปียนส์ที่เป็นบรรพบุรุษของเรายังมีชีวิตอยู่ต่อมาเรื่อย ๆ
•
มีอยู่หลายทฤษฎีที่ถูกนำมาอธิบายเรื่องดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นการแย่งทรัพยากร เช่น อาหาร และที่อยู่อาศัย หรือแม้กระทั่งมีทฤษฎีที่อธิบายว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหันได้ หรือต้องเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศโดยตรง
•
แต่ข้อมูลล่าสุดเผยว่ามนุษย์ hominin ทั้งสองสายพันธุ์ต่อสู้กันอย่างสยดสยองมาเป็นเวลา 100,000 ปี
•
ถึงแม้ว่านีแอนเดอร์ทัลจะไม่ใช่บรรพบุรุษเราแต่ว่าเขาก็เป็นเหมือนคู่พี่น้องที่วิวัฒนาการคู่กันมาเลยทีเดียว เรากับนีแอนเดอร์ทัลมีพฤติกรรมหลาย ๆ อย่างที่ใกล้เคียงกัน หรือแม้กระทั่ง DNA ก็เหมือนกับเราถึง 99.7%
•
มนุษย์ทั้งสองแยกกลุ่มกัน เมื่อ 600,00 ปีที่แล้ว กลุ่มหนึ่งอยู่ในแอฟริกาและวิวัฒนาการมาเป็นเรา อีกกลุ่มเคลื่อนย้ายไปอาศัยในยุโรป และเอเชีย กลายเป็นนีแอนเดอร์ทัล
•
ด้วยความเหมือนต่าง ๆ ทั้งพฤติกรรมและ DNA ทำให้เราต่างแก่งแย่งแข่งขันกัน โดยการขยายตัวเจริญเติบโตของประชากรโฮโมเซเปียนส์ทำให้ต้องขยายตัวออกจากดินแดน และเป็นเหตุให้เกิดการสู้รบกว่า 100,000 ปี
•
นีแอนเดอร์ทัลมีร่างกายที่แข็งแรง มีความเชี่ยวชาญในการล่า มีการใช้อาวุธ ใช้ไฟต่างๆ ทำให้การต่อสู้เหนือมนุษย์ยุคปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง จากหลักฐานชิ้นส่วนกระดูกในหลาย ๆ พื้นที่ชี้ให้เห็นว่านีแอนเดอร์ทัลเคยผ่านสงครามการสู้รบมา ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ คู่ต่อสู้คือบรรพบุรุษโฮโมเซเปียนของเรานั่นเอง
•
จากการต่อสู้อย่างยาวนาน เหตุผลนึงที่คาดว่าทำให้เราชนะสงครามนี้ และมนุษย์ยุคเก่าแพ้พ่ายนั้นก็เพราะเมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์เราฉลาดเรียนรู้วิธีการรบ และพัฒนาอาวุธที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ทำให้เราสามารถชนะในการต่อสู้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เมื่อเวลาผ่านไปนีแอนเดอร์ทัลถึงแก่การสูญพันธุ์
•
นี่เป็นเพียงบทสรุปโดยย่อ โดยทุกท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมฉบับเต็มได้ที่

https://theconversation.com/war-in-...d-for-supremacy-for-over-100-000-years-148205
•
https://www.dailymail.co.uk/science...rilla-style-global-warfare-100-000-years.html

https://www.nhm.ac.uk/discover/who-...68wpVumTLDBubtbZpU-0Hq2oO8dSCNCdkJvYEO_ZsM_8U

 

มลพิษ PPE อังกฤษผวา พบหน้ากากอนามัยเกลื่อน 30% ของชายหาดทั้งหมด! ที่ได้ลงไปทำความสะอาด เป็นภัยคุกคามใหม่น่ากังวล

หน้ากากอนามัย และถุงมือแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งถูกพบในกว่า 30% ของชายหาดจากการตรวจประจำปี

The Marine Conservation Society กลุ่มที่จัดการทำความสะอาดชายหาดเผยว่าจำนวนขยะ PPE ที่พบนั้นเป็นที่หน้ากังวลอย่างมาก

ผู้คนกว่า 400 คนเข้าร่วมการทำความสะอาดชายหาดกว่า 100 แห่งในเดือนกันยายนที่ผ่านมา

MCS เผยว่าขณะนี้สัตว์ป่าอยู่ในความเสี่ยงจากขยะ PPE ที่อาจคร่าชีวิตมันได้ โดยไม่นานก่อนหน้านี้มีการเผยภาพสัตว์หลากหลายชนิดที่ติดกับดักขยะหน้ากากถึงขั้นทำให้มันตาย

ขยะจำนวนที่พบมากจากการสำรวจชายหาดคือขยะพลาสติก ทิชชู่เปียก ซองขนม ก้นบุหรี่ และคอตตอนบัด แต่นี่เป็นครั้งแรกที่อาสาพบขยะอย่างหน้ากากและถุงมือมากขึ้น

MCS ชี้ว่ามีขยะพลาสติกมากมายที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่ยังเห็นอยู่ในทะเลอย่างมาก

ทาง MCS จะนำข้อมูลเหล่านี้เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลเร่งลงมือแก้ไขต่อไป

ที่มา

https://www.bbc.com/news/uk-scotland-54815579

https://www.theguardian.com/environ...-gloves-found-on-30-of-uk-beaches-in-clean-up

 

สุดอึ้ง ยักษ์ทะเลบนผืนดิน! พบโครงกระดูกวาฬ! ซากเก่าแก่ ที่บ้านแพ้ว สมุทรสาคร ใต้ผืนดิน ห่างไกลทะเล เร่งตรวจ ชี้เป็นหลักฐานประวัติศาสตร์

ThaiWhales องค์กรที่ทำงานด้านอนุรักษ์วาฬ และทะเลเผยว่า เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนได้รับแจ้งว่ามีการพบ โครงกระดูกวาฬ ที่ ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร

ในเบื้องต้นเผยว่าบริเวณนั้นห่างทะเล และไม่เคยมีการนำซากวาฬเกยตื้นมาฝังอย่างแน่นอน ภายหลังได้พบทางทีมงานได้แจ้งทีมสัตว์ทะเลหายาก ศวบต. ที่หลังจากทราบเรื่องเจ้าหน้าที่ก็รีบลงพื้นที่ทันที

โครงกระดูกวาฬที่พบลึกจากผิวดินกว่า 6 เมตร เป็นวาฬขนาดใหญ่ยังไม่ทราบสายพันธุ์ พบส่วนกระดูกสันหลัง (Vertebrate) 5 ชิ้น ที่มีขนาดใหญ่ ดูจะใหญ่กว่าซากวาฬบรูด้าที่เคยพบมา

จากการสังเกต พื้นที่ใกล้กับแม่น้ำท่าจีน ที่พบมีลักษณะเป็นกระซ้า มีซากเปลือกหอยเล็กๆ ทับถม ทำให้อาจสันนิษฐานได้ว่าพื้นที่นี้เคยเป็นทะเลมาก่อน

นักวิจัยทช. กำลังหาวิธีในการเก็บกู้โครงกระดูกที่เหมาะสมที่สุด รวมทั้งหาอายุของพื้นที่และตรวจหาค่าอายุกระดูกด้วยวิธีทางวิทยาศาสตร์ต่อไป

โครงกระดูกวาฬที่เก่าแก่ที่สุดในไทยที่เคยพบคือโครงกระดูกวาฬฟิน (Fin whale) ที่หมู่บ้านวิจิตราธานี ถนนบางนา-ตราด ที่ค้นพบเมื่อสร้างหมู่บ้าน โครงกระดูกนั้นบางชิ้นเป็น Fossil (กลายเป็นหิน) แล้ว

ทาง ThaiWhales คาดการณ์ว่าซากโครงกระดูกวาฬตัวนี้ก็น่าจะเก่ามาก ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ทั้งเรื่องวาฬ และ เรื่องโบราณคดีและธรณีวิทยา ที่ควรศึกษาค้นคว้าและทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับการมีอยู่ของวาฬไทยมากขึ้น

สามารถดูประวัติการพบโครงกระดูกวาฬในไทยที่ ThaiWhales เคยรวบรวมไว้ได้ตามลิงค์นี้
http://www.thaiwhales.org/article/pdf/TOP10.pdf

Original content & photos by ThaiWhales

ที่มา

 

สวัสดีอีกครั้ง! นาซาสร้างการติดต่อกับยาน Voyager 2 สุดเก่าแก่ได้อีกครั้ง! ซึ่งออกห่างไกลโลก 2.5 ล้านกม. หลังตัดการติดต่อเพื่อซ่อมเสาวิทยุ ปล่อยบินเดี่ยวนาน 7 เดือน ในอวกาศ
•
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติภารกิจได้ส่งชุดคำสั่งไปยังยานสำรวจ Voyager 2 อายุ 43 ปี โดยใช้เสาอากาศภาคพื้นดินที่ Deep Space Station 43 (DSS43) ซึ่งจะสร้างสัญญาณที่ยืนยันการตอบสนองว่า “call”
•
อย่างไรก็ตาม DSS43 ได้ออฟไลน์ไปตั้งแต่เดือนมีนาคมเมื่อ NASA อัพเกรดฮาร์ดแวร์เสร็จสิ้น แต่การส่งสัญญาณไปยังยานก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ Voyager 2 ได้ส่ง “hello” กลับมาหลัง 34 ชั่วโมง เนื่องด้วยระยะทางที่ไกล และ DSS43 จะกลับมาทำงานอย่างเต็มที่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2021
•
ฐานที่ตั้งของ DSS43 อยู่ในออสเตรเลีย ซึ่งมันเป็นหนึ่งเสาสัญญาณที่ตั้งอยู่รอบโลก ที่รวมกันเพื่อสื่อสารกับยานอวกาศใด ๆ ที่อยู่เลยจากดวงจันทร์ไปอีก
•
ขณะนี้ Voyager 2 เดินทางออกห่างจากโลกไปแล้ว 18.6 ล้านกิโลเมตร ซึ่งยานอวกาศอยู่ไกลออกไปทางใต้ จนไม่มีเสาอากาศวิทยุในซีกโลกเหนือ ซึ่ง DSS43 เป็นเพียงเทคโนโลยีเดียวบนโลกที่มีเครื่องส่งสัญญาณที่มีประสิทธิภาพมากพอที่จะไปถึงระยะดังกล่าวได้
•
นอกจากการซ่อมจานสัญญาณจะทำให้กลับมาติดต่อกับ Voyager 2 ได้อีกครั้ง แต่การอัพเกรดยังเป็นประโยชน์ต่อการทำภารกิจในอนาคตอย่าง Mars Perseverance ที่จะลงสำรวจบนดาวเคราะห์สีแดงในเดือน 18 กุมภาพันธ์ 2021 อีกด้วย
•
https://www.dailymail.co.uk/science...r-old-Voyager-2-11-6-BILLION-miles-Earth.html

https://www.nasa.gov/feature/jpl/nasa-contacts-voyager-2-using-upgraded-deep-space-network-dish/

https://www.space.com/nasa-commands-voyager-2-probe-interstellar-space-upgraded-dsn

https://www.independent.co.uk/life-...er-2-nasa-contact-radio-antenna-b1558609.html

 

อังกฤษ : ลอนดอน ตำรวจเข้าจับกุมกลุ่มประท้วงฝ่าฝืนมาตรการล็อคดาวน์กว่า 190 คน หลังจากทางรัฐบาลสั่งล็อคดาวน์ 5 พฤศจิกายน -2 ธันวาคม ตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดยังพุ่ง วันที่ผ่านมาวันเดียว 23,287 คน

https://fb.watch/1CmpM4kLdq/

 

มาเลเซีย : ล็อคดาวน์อีกรอบ 9 พฤศจิกายน -6 ธันวาคม หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่พุ่งวานนี้วันเดียว 1,775 คน มาตรการ CMCO ทุกรัฐในคาบสมุทรมาเลเซีย(ยกเว้นรัฐเปอร์ลิส ปาหังและ กลันตัน)'จะอยู่ภายใต้คำสั่งควบคุมการเคลื่อนไหวตามเงื่อนไข (CMCO) เป็นเวลาสี่สัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายนถึง 6 ธันวาคม

 

07.11.20

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Bent Høie สัญญาว่าจะเปิดเผย เกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเป็นไปได้ของ วัคซีนโคโรน่า ชนิดที่จะใช้ใน ประเทศนอร์เวย์ โดยที่ ผู้คนสามารถ เลือกฉีดวัคซีนได้ ตาม ความสมัครใจ

1.รมต.สธ Høie กล่าวว่า ภารกิจหลักของพวกเขา ในฐานะเจ้าหน้าที่ คือการเปิดเผยให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไป ในเรื่องประโยชน์ของการฉีดวัคซีน และความไม่แน่นอนของ ผลข้างเคียง ด้วยวิธีนี้ เขา หวังว่า ผู้คน จะสามารถตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวเองได้

2.รมต.สธ กล่าวว่า ขณะนี้ มี การทดสอบวัคซีน หลายชนิด และ มีการค้นพบผลข้างเคียง ในระหว่างการทดสอบ เราต้องเปิดใจด้วย ข้อเท็จจริง ที่ว่าเมื่อเรา ฉีดวัคซีน คุณก็จะสามารถตรวจพบผลข้างเคียงที่หายากในหลายบุคคลด้วยเช่นกัน ดังนั้น พวกเรา ใน ประเทศนอร์เวย์ จึงมีการติดตามผลข้างเคียงของ วัคซีน ที่ไม่ได้ทำในขั้นตอนของการทดสอบเท่านั้น หมายถึงหลังจาก การฉีดวัคซีน ไปแล้วด้วย

3.Espen Rostrup Nakstad ผช.ผอ FHI กล่าวว่า เป็นที่ทราบดีว่า หลายคนเกิดความสงสัยใน ประสิทธิภาพของวัคซีน และ ผลข้างเคียง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ ต้องประเมินข้อมูล ที่คุณได้รับมาและ ตัดสินใจด้วยตัวเอง ว่า ความเสี่ยง ใน การรับวัคซีน นั้นมีมากกว่า หรือ น้อยกว่า การป่วยจากเชื้อไวรัส หรือไม่

4.ผช.ผอ FHI กล่าวว่า มันจะขึ้นอยู่กับแต่ละคน ถ้าหากคุณต้องการ รับวัคซีน เมื่อพร้อมใช้งาน เขาไม่คิดว่า ผู้คนในประเทศนอร์เวย์ จะต่อต้านการฉีดวัคซีน มากนัก เมื่อเวลานั้นมาถึง เรื่องนี้จะเป็นไปด้วยดี ด้วยการให้ข้อมูลที่ดีแก่ทุกคน ให้ทุกคนได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง

จะไม่มีการ อนุมัติ วัคซีนตัวใดๆ เพื่อใช้ใน หมู่ประชากร หากยังพบผลข้างเคียง เพียงน้อยนิดก็ตาม

5.เกี่ยวกับ วัคซีน ที่กำลังทดสอบอยู่อาจมีผลแตกต่างกัน เช่น ประเภทหนึ่งสามารถป้องกัน กลุ่มเสี่ยง ไม่ให้ป่วยหนัก ได้ ส่วนอีกประเภทหนึ่งช่วยลด การติดเชื้อ และช่วยใน การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เป็นต้น ประเทศนอร์เวย์ มีเป้าหมายว่า อย่างน้อย 2 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดควรได้รับ การฉีดวัคซีน

6.รมต.สธ กล่าวว่า นอร์เวย์ จะได้รับวัคซีนจาก สหภาพยุโรปและมีการคาดคะเนว่า จะสามารถดำเนินการ ฉีดวัคซีน ชุดแรกได้ในราวๆ เดือนเมษายน ปีหน้า แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มี วัคซีนชนิดใดได้รับการอนุมัติ และ ยังเร็วเกินไปที่จะพูดอะไรในตอนนี้ เกี่ยวกับเวลาที่มาตรการควบคุมการระบาดฯ จะผ่อนคลายลงได้เมื่อไหร่นั้น มันขึ้นอยู่กับเวลาที่เราได้รับวัคซีนว่าเราจะได้รับวัคซีนชนิดใด และมีผลอย่างไร

ยังมี คำถามมากมาย ที่ยังไม่ได้รับ คำตอบ ในขณะนี้...

.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Katrin Hellesnes Journalist
Tormod Strand Journalist

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/norge/lover-full-apenhet-om-koronavaksine-1.15230354

 

สื่อต่างประเทศเผย มาร์ก เมโดว์ส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาววัย 61 ปี ซึ่งมักปรากฏตัวในงานอีเวนต์ต่างๆ โดยไม่สวมหน้ากาก มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก นับเป็นบุคคลใกล้ชิดประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ รายล่าสุดที่ติดโรคนี้

อ่านต่อ >>https://sondhitalk.com/2020/11/07/10926
.............................................
ติดตามคลิป VDO เพิ่มเติมได้ที่
YoutubeSondhitalk: https://www.youtube.com/c/Sondhitalk
Website: https://www.sondhitalk.com
Podcast Sondhitalk: https://sondhitalk.podbean.com/

 

โพลไม่พลิก ดอลลาร์อ่อน รับ Biden นั่งประธานาธิบดี

หลังนับคะแนนเลือกตั้งสหรัฐฯ มา 3 วัน น่าจะเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า Joe Biden จะก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ขาดเพียง 6 ที่นั่ง ก็จะครองเสียงส่วนมาก 270 เสียงพอดี โดยยังมีคะแนนที่อาจตามมาจากอีกหลายรัฐ

ตลาดการเงินขานรับด้วยภาวะ Risk-on sentiment ทำให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ส่งผลให้สกุลเงินภูมิภาคปรับแข็งค่าถ้วนหน้า

นำโดยเงินรูเปียห์อินโด ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 2.64% ตามมาด้วยราคาทองคำที่ปรับสูงขึ้น 2.06% ขณะที่เงินบาทและวอนยังคงแข็งขึ้นใกล้เคียงกันที่ 1.3-1.5% และเงินภูมิภาคอื่นๆ แข็งค่าขึ้น 0.7-1% ขณะที่ ดอลลาร์ไต้หวัน (TWD) ปรับแข็งค่าสูงสุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ 1997

ความไม่แน่นอนในระยะถัดไป
ยังต้องติดตามกลยุทธ์ด้านกฎหมายที่ Trump อาจนำมาใช้ เพื่อให้มีการนับคะแนนใหม่ในรัฐที่มีคะแนนเสียงใกล้เคียงกัน โดยหวังอาจจะช่วยซื้อเวลาและเพิ่มโอกาสให้สามารถกลับมาเป็นประธานาธิบดีได้ในสมัยที่สอง

#Bidenมาพาดอลลาร์อ่อน #เงินภูมิภาคแข็งขึ้นกันถ้วนหน้า #อินโดนำ #บาท30อีกครั้ง #TWDแข็งสุดรอบ20ปี #ค่าเงินบาท

 

⚠️ [BREAKING] ⚠️ #ค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุด ในรอบ 10 เดือน !

ตอนนี้เทรดอยู่ที่ 30.60 บาทต่อดอลล่าร์แล้วเกือบแตะระดับที่แข็งที่สุดของปี เพราะตลาดมองว่าไบเดนจะชนะเลือกตั้งและทำให้เงินดอลล่าร์ไหลออกนอกประเทศ และเงินที่ไหลเข้าประเทศไทยทำให้ค่าเงินบาทแข็งขึ้น

ผลการเลือกตั้งสหรัฐนั้นมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของทุกประเทศทั่วโลกจริงๆ และถึงแม้ทางโจ ไบเดนและพรรคเดโมแครตใกล้จะชนะมากๆแล้ว คืนนี้เพิ่งแซงหน้าในรัฐ Swing States ไปอีกบางรัฐและต้องการอีกเพียงแค่รัฐเดียวก็จะชนะการเลือกตั้งทั้งหมดแล้ว

#แต่นักลงทุนก็ยังไม่ควรชะล่าใจไป เพราะการนับคะแนนยังไม่จบลง และเรายังต้องดูอีกว่าการฟ้องร้องของฝ่ายทรัมป์นั้นจะสร้างความยืดเยื้อไปได้แค่ไหน

อย่างไรก็ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาถึงระดับนี้นั้น ได้รับแรงหนุนจากหลายปัจจัยดังนี้

1️⃣ หากไบเดนชนะการเลือกตั้งจริงๆ นโยบายของไบเดนที่จะขึ้นภาษีบริษัทอเมริกาประกอบกับการค้าระหว่างประเทศที่จะฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง จะทำให้เศรษฐกิจของบางประเทศอื่นๆได้รับผลที่ดีขึ้น และด้วยเหตุผลนี้ค่าเงินดอลล่าร์จึงอ่อนค่าลงเพราะ #เงินจะไหลออกไปลงทุนนอกประเทศมากขึ้น เงินบาทและสกุลเงินเอเชียจึงแข็งค่าขึ้น

2️⃣ เมื่อคืนธนาคารกลางสหรัฐ (FED) มีประชุม FOMC และได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.00-0.25% ตามคาด ยิ่งช่วยกดดันทำให้ Dollar Index อ่อนค่าลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 92.3 จุด ทำให้ #ค่าเงินบาทเมื่อเทียบกับดอลล่าร์แข็งค่าขึ้น

3️⃣ นักลงทุนต่างชาติขนเงินเข้ามาลงทุนในตลาดไทย #ทำให้ความต้องการของเงินบาทสูงขึ้น โดยวันนี้นักลงทุนยังคงเข้าซื้อพันธบัตรไทยอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะยังขายสุทธิหุ้นไทยมาตลอดอาทิตย์ แต่ปริมาณการซื้อพันธบัตรนั้นสูงกว่า

4️⃣ ค่าเงินบาทหลุดแนวรับที่สำคัญที่ 30.8- 31.0 บาทต่อดอลล่าร์ ที่ยืนมาได้ตลอดเกือบ 10 เดือน ทำให้พอหลุดแนวรับแล้วจึงมี #แรงเทขายทางเทคนิค เข้ามามากขึ้น (กราฟแนบในคอมเม้นท์)

#ต้องจับตามอง ผลการเลือกตั้งของประธานาธิบดีสหรัฐต่อไปเพราะจะมีผลสำคัญต่อทิศทางค่าเงินบาทในอีก 4 ปีข้างหน้า กับควรจับตาดูว่านักลงทุนต่างชาติจะยังทยอยนำเงินไหลเข้ามาลงทุนในไทยอย่างต่อเนื่องหรือไม่

✅ ติดตามผลการเลือกตั้งและข่าวสารในตลาดอย่างใกล้ชิดไปกับเพจเราได้ !

แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

⚠️ [UPDATE] ⚠️ รัสเซียประกาศ #ปูตินยังแข็งแรงดีและไม่คิดจะลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดี เหมือนดังที่มีข่าวลือ !

ช่วงเช้าเมื่อวานนี้หลายสื่อต่างชาติได้ออกมารายงานว่า ประธานาธิบดีปูตินกำลังวางแผนที่จะลาออกในต้นปีหน้าเพราะอาการป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ซึ่งทำให้เป็นข่าว #ช็อกไปทั่วโลก เพราะด้วยกฏหมายล่าสุดของทางรัสเซียนั้น ทางปูตินสามารถอยู่ในอำนาจประธานาธิบดีไปได้ยาวกว่าอีก 15 ปี (จนถึงปี 2036) แต่ทำไมกลับจะสละอำนาจที่ตัวเองครองมากว่า 20 ปี อย่างกระทันหันเช่นนี้ #หรือว่าอาการป่วยจะรุนแรงจริง ?

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ทางทำเนียบเครมลินของรัสเซียก็ได้ออกมาปฏิเสธข่าวที่ปูตินจะวางมือจากตำแหน่งแล้ว และยืนยันว่าทางประธานาธิบดีปูตินยังมีสุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรงดีอยู่

ข่าวเรื่องปูตินป่วยมีการปล่อยออกมาไม่นานหลังจากสภานิติบัญญัติของรัสเซียเพิ่งเสนอกฎหมายที่จะทำให้ประธานาธิบดีรัสเซีย #ได้รับการยกเว้นจากการถูกดำเนินคดีทางอาญาตลอดชีวิต แม้ลงจากตำแหน่งแล้วก็ตาม ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่าข่าวการวางมืออาจจะเป็นเรื่องจริง

⛔️ ท่านใดไม่อยากผลาดข่าวสารที่น่าสนใจในตลาดอย่างใกล้ชิดและรวดเร็ว

แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

อัพเดทข่าวสาร COVID-19 ในนอร์เวย์ และไอซ์แลนด์ (สถานะ 6 พฤศจิกายน 2563)
นอร์เวย์: ติดเชื้อสะสม 23,225 ราย / เสียชีวิต 285 ราย / รักษาหาย 19,973 ราย
ไอซ์แลนด์: ติดเชื้อสะสม 5,039 ราย / เสียชีวิต 18 ราย / รักษาหาย 4,286 ราย

#สถานการณ์การระบาดในนอร์เวย์
ยอดผู้ติดเชื้อ 635 คน ของวันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 เป็นสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อสูงที่สุดใน 1 วัน นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาด

#มาตรการควบคุมการระบาดระลอกที่ 2 ของนอร์เวย์
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 รัฐบาลนอร์เวย์แถลงมาตรการควบคุมการระบาดระลอกที่ 2 โดยมีมาตรการเพิ่มเติมที่สำคัญหลายมาตรการ แต่ที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล เห็นว่ามีความสำคัญและจะกระทบกับพี่น้องชาวไทยที่จะเดินทางมายังนอร์เวย์ ได้แก่
ผู้ที่เดินทางจากประเทศในเขตสีแดงต้องแสดงผลตรวจโควิด-19 ไม่เกินกว่า 72 ชั่วโมง ก่อนการเดินทาง (มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 เวลาตั้งแต่ 00.00 น. เป็นต้นไป) ยกเว้น (1) ผู้มีสัญชาตินอร์เวย์ หรือผู้มีถิ่นพำนักในนอร์เวย์ หรือผู้เปลี่ยนเครื่องในนอร์เวย์ (2) ผู้ที่มาจากสวีเดนและฟินแลนด์ เพื่อการทำงาน/ธุรกิจ และ (3) เจ้าหน้าที่ที่ทำงานบริการสาธารณะ
ผู้ที่เดินทางเข้ามายังนอร์เวย์ต้องมีที่อยู่ที่แน่นอน ซึ่งหากไม่มีที่อยู่ที่แน่นอน จะต้องกักตัวในโรงแรมและเข้ารับการตรวจเชื้อโควิด-19 โดยบังคับใช้กับผู้ที่มาเยี่ยมญาติในนอร์เวย์ด้วย

ทั้งสองมาตรการนี้จะส่งผลกระทบต่อชาวไทยที่เดินทางมาจากประเทศไทย ที่ไม่มีถิ่นพำนักถาวร ไม่มี work permit และเดินทางมาเยี่ยมญาติ/คนรักในนอร์เวย์ จึงขอให้พี่น้องชาวไทยช่วยกันบอกต่อมาตรการดังกล่าวด้วยนะครับ

มาตรการอื่นๆ ที่มีการประกาศเพิ่มเติมได้แก่
ให้จำกัดจำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะในอาคารที่ไม่มีที่นั่งแน่นอนสูงสุดไม่เกิน 50 คน และไม่เกิน 200 คน หากมีการระบุที่นั่ง โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2563
ให้หลีกเลี่ยงการเดินทางภายในประเทศยกเว้นมีความจำเป็นในการปฏิบัติงาน หรือการเดินทางไปบ้านพักตากอากาศส่วนตัวที่ไม่มีการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
ให้บาร์และสถานบริการงดขายแอลกอฮอล์ ตั้งแต่เวลา 00.00 น. และไม่รับลูกค้าหลังเวลา 22.00 น. โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 00.00 น. เป็นต้นไป

#มาตรการของกรุงออสโล
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 เทศบาลกรุงออสโลได้ประกาศมาตรการ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เป็นเวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์ ดังนี้
ห้ามรวมตัวกันทางสังคมนอกบ้าน
งดการจัดกิจกรรมสันทนาการสำหรับผู้ใหญ่
ห้ามดำเนินการธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมทางวัฒนธรรมและสันทนาการ (ยกเว้น ห้องสมุด)
งดเว้นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ร้านอาหารสามารถเปิดทำการได้โดยห้ามให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมฯ ระดับสีแดง (อันตรายระดับสูง) โดยสามารถรวมกลุ่มขนาดเล็กได้เท่านั้น และโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นเตรียมพร้อมที่จะใช้มาตรการควบคุมฯ ในระดับสีแดง
ต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่อใช้บริการแท็กซี่ เช่นเดียวกับการใช้ระบบคมนาคมสาธารณะ
ในร้านค้าต่างๆ ต้องบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม 2 เมตร
สามารถจัดกิจกรรมซ้อมกีฬาสำหรับเด็กและเยาวชนได้ แต่ห้ามเข้าร่วมการแข่งขันต่างๆ และการเดินทางไปแข่งนอกเมือง

#มาตรการควบคุมการระบาดในไอซ์แลนด์
รัฐบาลไอซ์แลนด์ได้ประกาศเพิ่มความเข้มงวดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 โดยมีผลบังคับใช้ทั่ว ประเทศ ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ได้แก่
ห้ามรวมตัวกันเกิน 10 คน เพื่อจัดกิจกรรมส่วนตัว
สามารถร่วมงานฌาปนกิจศพได้ถึง 30 คน โดยแบ่งการเข้างาน ครั้งละ 10 คน
ห้ามผู้ใช้บริการเข้าร้านขายยาและซุปเปอร์มาร์เก็ตเกินกว่าครั้งละ 50 คน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับขนาดของร้าน
ต้องมีการเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 2 เมตร
แนะนำให้มีการใช้หน้ากากอนามัย หากไม่สามารถเว้นระยะห่างทางสังคมได้
เด็กเล็กอายุไม่เกิน 4 ขวบ ไม่จำเป็นต้องเว้นระยะห่างทางสังคม 2 เมตรและไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย
ไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมด้านกีฬาและสันทนาการ
ปิดบริการสระว่ายน้ำและสวนน้ำสาธารณะทุกแห่ง
ปิดการแสดงในโรงละคร
ปิดบริการสถานบันเทิงกลางคืน
ร้านอาหารสามารถบริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึงเวลา 21.00 น.

ทั้งรัฐบาลนอร์เวย์และไอซ์แลนด์ต่างออกมาตรการที่เข้มข้นขึ้น เพื่อลดจำนวนผู้ติดเชื้อลงและคงไม่อยากให้มีการ lock down ประเทศอีกเพราะมีผลกระทบในวงกว้างหลายอย่าง สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ทุกท่านเข้มแข็ง อดทน ติดตามมาตรการที่ออกมาอย่างใกล้ชิดและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดนะครับ

วันนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอนำเสนอภาพถ่ายโดยอาจารย์ชนกกมล โพธิศรี ยอร์ท นายกสมาคมภาษาและวัฒนธรรมไทย-นอร์เวย์ โดยอาจารย์ได้กรุณาเขียนข้อความคติธรรมประกอบว่า
“ภาพเหล่านี้ถ่ายเมื่อวาน เวลาประมาณสิบหกนาฬิกา ที่เมือง Sarpsborg ท้องฟ้าหลังพระอาทิตย์ตกในยามเย็นหลากหลายสี สดใส สวยงามมาก และนี่คือหนึ่งในเสน่ห์นอร์เวย์ อากาศในแต่ละวันเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว บางวันอาจจะมีทั้งร้อน แสงแดด ฝน หิมะ ลูกเห็บ ลมแรง และหนาวจัด พวกเราที่อยู่ที่นี่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกับทุกสภาพอากาศ ชีวิตคนเราก็ไม่ต่างกับสภาพอากาศมากนัก เราอาจจะต้องพบกับหลาย ๆ สถานการณ์ในชีวิตประจำวัน จึงควรที่จะต้องเตรียมกาย เตรียมใจ ให้พร้อมที่จะรับและเผชิญได้กับทุก ๆ สถานการณ์ของชีวิต และถือเสมือนว่าเป็นการท้าทายความสามารถ และความเข้มแข็งของตนเองนะคะ ”

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล ขอขอบคุณอาจารย์ชนกกมลฯ ที่ส่งภาพสวยๆ และข้อความให้กำลังใจพวกเรามา ณ ที่นี้นะครับ ❤️
ขอให้ทุกท่านมีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงนะครับ

ด้วยรักและห่วงใยจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออสโล
#การทูตเพื่อประชาชนทุกแห่งหนเราดูแล
#น้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน

 

Nov 7 , 2020 รมว.คมนาคมแนะแอร์พอร์ต เรล ลิงก์หากต้องการลดค่าโดยสารช่วยประชาชนจะต้องไม่ขาดทุน แนะเร่งศึกษาแนวทาง หากทำได้จริงจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน
.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังประชุมมอบนโยบายให้กับคณะกรรมการและผู้บริหาร บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ว่า ขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการ (บอร์ด) แอร์พอร์ตลิงก์ชุดใหม่โดยมี นายระพี ผ่องบุพกิจ เป็นประธานได้รายงานถึงปัญหาต่างๆ ของแอร์พอร์ตลิงก์ที่จะต้องดำเนินการแก้ไข เช่น ภารกิจที่จำกัด ทำให้การหารายได้มีข้อจำกัดไปด้วย ซึ่งได้ให้รฟท.และแอร์พอร์ตลิงก์ไปหารือร่วมกันว่าจะสามารถคลายล็อกได้อย่างไรบ้าง
.
โดยมาตรการลดค่าโดยสารแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้ประชาชนนั้น บอร์ด รฟท. ได้อนุมัติให้ดำเนินการแล้ว แต่ก่อนหน้านี้แอร์พอร์ตลิงก์ได้มีการปรับลดค่าโดยสาร และพบว่าต้องประสบปัญหาขาดทุนวันละ 30,000 บาท หรือประมาณ 900,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นหากจะดำเนินมาตรการลดค่าโดยสาร จะต้องไม่สร้างภาระขาดทุนเพิ่ม เช่น ตรวจสอบต้นทุนดำเนินการ ว่ามีจุดใดที่สามารถปรับลดลงได้อีกบ้าง
.
นอกจากนี้ จะต้องนำสมมุติฐานในการลดค่าโดยสาร ซึ่งแอร์พอร์ตลิงก์ระบุว่า เพื่อกระจายการเดินทางของผู้โดยสารในช่วงเวลาเร่งด่วนออกไปใช้บริการในเวลาอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีตัวเลขสถิติที่ยืนยันได้ว่า การลดค่าโดยสารลง ทำให้ผู้โดยสารไปใช้บริการช่วงนอกเวลาเร่งด่วนเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงให้นำสมมุติฐานไปพิสูจน์ ว่ามีการกระจายผู้โดยสาร และมีรายได้เพิ่มขึ้นหรือไม่ ให้เก็บสถิติประมาณ 2 สัปดาห์ หากตัวเลขผู้โดยสารนอกเวลาเร่งด่วนเพิ่มและส่งผลต่อรายได้ที่เพิ่มขึ้นและภาพรวม ไม่ขาดทุนเหมือนที่ผ่านมา ก็สามารถประกาศการลดค่าโดยสารได้ ซึ่งอาจจะเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชนด้วย แต่หากทำแล้ว ไม่เป็นไปตามสมมุติฐาน และต้องรับภาระขาดทุนเพิ่ม ไม่ควรลดราคา
.
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเดินรถนั้น แอร์พอร์ตลิงก์รายงานว่า ปัจจุบัน ได้มีการซ่อมบำรุงรถไฟฟ้า จะสามารถใช้งานได้ครบทั้ง 9 ขบวน ทำให้สามารถให้บริการได้ตามตารางการเดินรถปกติ และมีสถิติการเดินรถตรงตามตารางเวลามากกว่า 99%
.
โดยประธานบอร์ดแอร์พอร์ตลิงก์ ยังได้เสนอแนวทางในการดำเนินการระบบตั๋วร่วม พัฒนาระบบการใช้บัตรข้ามระบบ ในรูปแบบ Interoperability กับ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เพื่อให้บัตรรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ สามารถใช้งานข้ามระบบ 2 สายนำร่องก่อน ซึ่งให้ทั้ง 2 หน่วยงานไปหารือร่วมกัน
.
#คมนาคม #รถไฟฟ้า #แอร์พอร์ตเรลลิงก์ #ARL #Misterban

 

Nov 7 ,2020 กรุงไทยเร่งศึกษาผลกระทบ หลังกฤษฎีกาตีความว่าไม่เป็นรัฐวิสาหกิจ
.
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย หรือ KTB เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา ธนาคารได้รับหนังสือจากกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งแจ้งให้ธนาคารทราบว่า สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามีหนังสือตอบข้อหารือของกองทุนฯ ที่ขอความเห็นกรณีเกี่ยวกับสถานภาพของกองทุนฯ และธนาคารกรุงไทย
.
โดยสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้แจ้งผลการพิจารณาว่า ธนาคารกรุงไทยไม่มีลักษณะเป็นบริษัท หรือบริษัทมหาชนจำกัด ที่เป็นรัฐวิสาหกิจตาม(2) และ (3) ของบทนิยามคำว่า “รัฐวิสาหกิจ” ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561
.
การเปลี่ยนสถานภาพของธนาคารตามความเห็นข้างต้น อาจมีผลต่อการดำเนินธุรกิจของธนาคาร และต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องกับรัฐวิสาหกิจหลายฉบับ ซึ่งธนาคารอยู่ระหว่างการพิจารณาถึงผลกระทบในด้านต่างๆ หากได้ความชัดเจนแล้ว ธนาคารจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรับทราบต่อไป
.
นอกจากนี้ธนาคารได้ศึกษาผลความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นด้านคุณสมบัติของกรรมการและผู้บริหารสูงสุดของธนาคาร จนได้ข้อยุติว่า โดยผลความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ประกอบกับการมีผลบังคับใช้ของพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและการบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2562 ส่งผลให้กรรมการ ผู้บริหารสูงสุด ตลอดจนพนักงานของธนาคาร ไม่อยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานของกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ.2518
.
สำหรับผลกระทบด้านกฎหมายฉบับอื่นๆธนาคารจะเรียนแจ้งให้ทราบในโอกาสต่อไป
.
#กรุงไทย #พ้นรัฐวิสาหกิจ #misterban

 

Nov 7 ,2020 จีนอนุมัติชุดทดสอบแอนติเจนโควิด แสดงผลลัพธ์ได้ภายใน 20 นาที
.
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สำนักบริหารเวชภัณฑ์แห่งชาติ (NMPA) ของจีนได้อนุมัติชุดทดสอบสารก่อภูมิต้านทานหรือแอนติเจนจำนวน 2 ชุด ซึ่งสามารถตรวจจับโรคโควิด-19 และแสดงผลลัพธ์ได้ภายใน 20 นาที
.
แถลงการณ์จาก NMPA เมื่อวันที่5 พ.ย. ระบุว่า ชุดทดสอบดังกล่าวพัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพสองแห่งในนครกว่างโจวและกรุงปักกิ่ง จัดเป็นชุดทดสอบแอนติเจนโรคโควิด-19 สองลำดับแรกที่ได้รับการรับรองในจีน
.
ชุดทดสอบดังกล่าวสามารถตรวจพบผู้มีผลทดสอบเป็นบวกได้อย่างรวดเร็วด้วยการตรวจจับปริมาณไวรัสที่เพิ่มสูงขึ้นในระยะติดเชื้อเฉียบพลัน โดยสามารถใช้ตรวจคัดกรองเบื้องต้นและจัดการผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อได้อย่างทันท่วงที
.
อย่างไรก็ดี ชุดทดสอบแอนติเจนเป็นเครื่องมือเสริมจากวิธีการตรวจโรคโควิด-19 ในปัจจุบัน และยังไม่สามารถใช้ระบุการติดเชื้อเพียงอย่างเดียวได้ แต่ควรใช้ร่วมกับการทดสอบกรดนิวคลีอิก การแสดงภาพเพื่อตรวจโรค และข้อมูลการวินิจฉัยอื่นๆ เพื่อระบุสถานะการติดเชื้อ พร้อมเสริมว่าจำเป็นต้องมีการทดสอบกรดนิวคลีอิกเพิ่มเติมในกลุ่มผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดโรคโควิด-19 ทั้งผู้ที่มีผลแอนติเจนเป็นบวกและลบด้วย
.
นอกเหนือจากชุดทดสอบแอนติเจน 2 ชุดข้างต้นแล้ว จีนยังได้อนุมัติน้ำยาตรวจจับกรดนิวคลีอิกของโรคโควิด-19 จำนวน 24 รายการ และน้ำยาตรวจจับแอนติบอดีอีก 25 รายการ
.
#จีน #แอนติเจนโควิด #โควิด19 #Covid19 #misterban

 

"คุยกับบัญชา" ทนพิษโควิด-19 เล่นงานไม่ไหว 'ซิซซ์เลอร์' ในสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลาย ล้มรอบ 2 ในรอบ 20 ปี
.
#Sizzler #สหรัฐอเมริกา #ล้มละลาย #ปิดกิจการ #โควิด19 #ตกงาน #BTimes #คุยกับบัญชา

https://fb.watch/1Com1wpEIJ/

 

#News1feed : คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดกระบี่ เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายที่ 21 รอผลยืนยันเป็นซากหรือเชื้อที่แพร่ระบาดได้ ส่วนผู้ใกล้ชิดในครอบครัว 4 รายเบื้องต้นผลเป็นลบ นำผู้สัมผัส 20 ราย สอบสวนโรคและกักตัวทั้งหมดแล้ว

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000115317
...........................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

#News1feed : ตรวจพบชาวเนเธอร์แลนด์ติดเชื้อโควิด 1 ราย ขณะเข้ากักตัวในโรงแรม ASQ จ.ภูเก็ต ในวันที่ 4 ของการกักตัว โดยไม่แสดงอาการ ขณะนี้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000115321
...........................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

7 พฤศจิกายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน นายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต แถลงที่เมืองวิลมิงตัน ในรัฐเดลาแวร์เมื่อคืนวานตามเวลาสหรัฐหรือช่วงสายวันนี้ตามเวลาไทย กล่าวว่า เขากำลังจะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เนื่องจากเขามีคะแนนนำและทิ้งห่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐที่จะชี้ชะตาผลการเลือกครั้งในครั้งนี้ แม้ผลการเลือกตั้งยังไม่ได้ข้อสรุปอย่างเป็นทางการ
.
ไบเดนยืนยันว่าเขามีคะแนนนำประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐจอร์เจีย รัฐแอริโซนา และรัฐเนวาดา ซึ่งจะทำให้เขาสามารถรวบรวมคะแนนคณะผู้เลือกตั้งได้มากกว่า 300 เสียง เกินเกณฑ์ขั้นต่ำซึ่งกำหนดไว้ที่อย่างน้อย 270 เสียง จากทั้งหมด 538 เสียง
.
นายไบเดน กล่าวว่า เขาบอกได้รับคะแนนเสียงจากประชาชนเกินกว่า 74 ล้านเสียง เกินกว่าผู้สมัครประธานาธิบดีคนใดเคยทำได้ในประวัติศาสตร์ของสหรัฐ คะแนนเสียงเหล่านี้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า พวกเขาต้องการให้ประเทศสามัคคีกัน ใม่ใช่แตกแยกกันอย่างนี้ต่อไป
.
ซึ่งหากเขาชนะ เขาจะกำหนดให้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องสิ่งแวดล้อม และความขัดแย้งทางสังคมโดยเฉพาะปัญหาสีผิว เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องปฏิรูปและแก้ไขให้เร็วที่สุด
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.naewna.com/inter/530331
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

รายงานเอเอฟพีเมื่อวันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน กล่าวด้วยว่า ข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นฮอปกินส์จากเมืองบัลติมอร์ของสหรัฐที่รวบรวมระหว่างเวลา 20.30 น.ของวันพฤหัสบดี ถึงเวลา 20.30 น.ของวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น (08.30 น.วันเสาร์ของไทย) พบว่า มีผู้ป่วยโควิด-19 ในสหรัฐเสียชีวิตในช่วงเวลานี้อีก 1,149 ราย
.
จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าวที่มากกว่า 127,000 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐตามข้อมูลอย่างเป็นทางการนั้นเพิ่มเป็นมากกว่า 9.73 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 236,000 คน ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกนั้นมีมากกว่า 49.24 ล้านน เสียชีวิต 1.24 ล้านคน
.
จากข้อมูลของจอห์นฮอปกินส์ ยอดผู้ติดเชื้อของสหรัฐในวันศุกร์เป็นยอดเกิน 100,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ส่วนยอดผู้เสียชีวิตก็เกิน 1,000 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 4 ครั้งสุดท้ายที่สหรัฐมีอัตราผู้เสียชีวิตระดับนี้คือช่วงต้นเดือนกันยายน
.
คาดกันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในสหรัฐจะยังคงเพิ่มขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็นขึ้น และผู้คนจะพบปะสังสรรค์กันภายในที่ร่มมากกว่ากลางแจ้ง ซึ่งเป็นสภาพเงื่อนไขที่เอื้อต่อการแพร่เชื้อไวรัสจากคนสู่คน นอกจากนี้อากาศที่เย็นและแห้งยังเป็นสภาพที่อำนวยให้ไวรัสคงชีวิตอยู่ได้ในอากาศและบนพื้นผิวนานขึ้นด้วย.
-------------------------------
แหล่งข่าว
- https://www.thaipost.net/main/detail/83059
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision