ติดตามสถานะการณ์

"ข่าวดีแก่ทุกครอบครัวและเด็กๆ ในเยอรมัน"

ตั้งแต่วันที่ 01.01.2021 เป็นต้นไป รัฐบาลเยอรมันประกาศปรับเพิ่มเงินค่าเลี้ยงดูเด็กหรือ Kindergeld ให้มีอัตราสูงขึ้น

"ถึงเดือนละ 15 ยูโร หรือ 180 ยูโรต่อปี"

จึงทำให้ผู้ปกครองในเยอรมันจะได้รับเงิน Kindergeld ทุกเดือนในอัตราใหม่โดยมีรายละเอียดดังนี้

บุตรหนึ่ง/สองคน = จะได้รับเดือนละ 219 ยูโร ต่อคนต่อเดือน (ประมาณ 8,103 บาท)

ถ้ามีบุตรสามคน = จะได้รับเดือนละ 225 ยูโร ต่อคนต่อเดือนในคนที่สาม (ประมาณ 8,325 บาท)

ถ้ามีบุตรตั้งแต่สี่คนเป็นต้นไป = จะได้รับเดือนละ 250 ยูโร ต่อคนต่อเดือนตั้งแต่คนที่สี่เป็นต้นไป (ประมาณ 9,250 บาท)

สรุปง่ายๆ คือถ้าคุณมีลูกสี่คนคุณจะได้รับเงิน

219+219+225+250 = 913 ยูโรต่อเดือน
หรือประมาณ 33,781 บาทต่อเดือนเลยทีเดียว

*อัตราค่าเงินคิดที่ 1 ยูโร = 37 บาท

ซึ่งพ่อบ้านมองว่า เป็นของขวัญปีใหม่ที่ดีงามจริงๆ เลยนะเนี่ย

"ในเรื่องร้ายก็ยังมีเรื่องดีๆ แทรกอยู่เสมอ"

#พ่อบ้านเยอรมัน #เยอรมัน #เยอรมนี #Germany #German #Kindergeld

ที่มาของข้อมูล:
https://www.spiegel.de/wirtschaft/s...5-euro-a-4607619f-c4db-442d-a524-f78dce32b2a3

https://www.taschengeldtabelle.org/...sregierung beschlossene,auf 219 Euro im Monat.

 

จับกุม ผู้ประท้วง 60 คนในเหตุการณ์จลาจลเลือกตั้งในสหรัฐฯ

ตำรวจพอร์ตแลนด์ได้จับกุมผู้คนอย่างน้อย 10 คน ในระหว่างการประท้วงและความไม่สงบหลังการเลือกตั้งในอเมริกา ซึ่งผู้ชุมนุมประท้วงจำนวนมากถูกห้ามและยึดอาวุธ

ตามรายงานระบุว่า Kate Brown ผู้ว่าการรัฐนี้ถูกบังคับให้ใช้กองกำลังพิทักษ์ชาติเพื่อตอบโต้เหตุรุนแรงในคืนหลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

กรมตำรวจพอร์ตแลนด์ระบุว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 10 คนในระหว่างการชุมนุมประท้วงหลังจากการประกาศสถานการณ์ความวุ่นวายในเมือง

กรมตำรวจนิวยอร์กยังประกาศด้วยว่ามีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 50 คนระหว่างการประท้วงในเมือง เมื่อช่วงเที่ยงคืนวันพุธ

การประท้วงในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นในเมืองอื่น ๆ ของสหรัฐฯเช่นแอตแลนตา ดีทรอยต์ นิวยอร์กและโอ๊คแลนด์

ข่าวโลกที่3

https://www.tasnimnews.com/fa/news/1399/08/15/2383459/بازداشت-60-نفر-در-ناآرامی-

 

อดีตลูกเรือEVA แกนนำประท้วงอีกทั้งเคยก่อคดี “ว่าจะวางยากัปตัน” ทางทนายอีวีเอกล่าว: ห้ามกลับเข้ามาอีวีเออีก

คดีดังที่เกิดขึ้นตอนที่ลูกเรือรวมตัวประท้วงบริษัทสายการอีวีเอ ไต้หวัน ลูกเรือจำนวนมากออกมาประท้วงยาวนานเป็นเดือนๆ โดยบริษัทอีวีเอก็ไม่มีท่าทียอมเจรจาใดๆ แถมยังกล่าวอีกว่า ต่อให้ประท้วงต่ออีกเดือนก็ได้เชิญเลย!!

สุดท้ายร้อนถึงภาครัฐที่ออกหน้าแทนขอให้เกิดการเจรจาขึ้นถึงได้ยุติ โดยทางลูกเรือก็แทบไม่ได้ในสิ่งที่เรียกร้องมากเท่าที่เรียกแต่ว่าก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

ขณะที่มีการประท้วงนั้น แกนนำคนนึงชื่อ นางสาวแซ่กัว (กัวจื่อเยียน) ได้มีแชทหลุดที่คุยกับเพื่อนร่วมรุ่นว่า หากได้บินกับกัปตันคนนึงจะใส่...ให้กิน (แปลง่ายๆว่าวางยา) เมื่อเเชทหลุดกลายเป็นข่าวโด่งดังทันที และทางอีวีเอได้ส่งทนายความไปแจ้งความทันที ด้วยเหตุผลความปลอดภัย เพราะเมื่อเรื่องนี้หลุดทำให้ ผู้เดินทางกังวลโทรถึงบริษัทสายแทบไหม้

เหตุเกิดจากกัปตันคนดังกล่าวออกมาแสดงจุดยืนตรงกันข้ามและพูดกับลูกเรือเหล่านี้ลงเฟสส่วนตัวว่าเสียเวลาเปล่า แทนที่จะเอาเวลาไปทำมาหากิน ทำให้ลูกเรือไม่พอใจและนางสาวกัวถึงกับหลุดพูดไปว่า “หากบินด้วยจะวางยา” ถึงขนาดถามหาตารางบินของกัปตันคนดังกล่าว

นางสาวกัวถูกไล่ออกทันทีที่บริษัทมีมติประชุมออกมา และนางสาวกัวได้ขอสหภาพเป็นตัวแทนฟ้องร้องเพื่อขอกลับเข้าทำงาน ( เอาตามจริงการมีประวัติที่ไม่ดี แถมกลายเป็นข่าวโด่งดัง ทั่วไต้หวันทำให้ทุกบริษัทปฏิเสธที่จะรับเข้าทำงานโดยเฉพาะสายการบินที่มีไม่กี่สายในไต้หวัน ยิ่งเกี่ยวกับด้านความปลอดภัยแล้วล่ะก็)

ล่าสุด ทนายความตัวแทน อีวีเอ ได้ออกมากล่าวว่า : การรับกลับเข้ามาทำงานอีกครั้งเป็นไปไม่ได้

ข้อคิดวันนี้ “จงรับผลของการกระทำ ด่าแล้วจงไปให้รอด”

https://www.google.com.tw/amp/s/www.cna.com.tw/amp/news/asoc/202011030201.aspx

 

ไต้หวันพบสารปนเปื้อนในชาตรามือ
สำนักงานอาหารและยาของไต้หวัน (Taiwan Food and Drug Administration) ออกประกาศผลการตรวจสอบสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ ล่าสุด พบว่า มีสินค้า 14 รายการที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยของไต้หวัน

หนึ่งในนั้นคือ “ชาตรามือ” โดยทางไต้หวันพบว่า ชาตรามือที่นำเข้าโดยบริษัท Bos Lifestyle จำนวนกว่า 5 ตันปนเปื้อนสารฟิโพรนิล (fipronil) ซึ่งเป็นสารกำจัดแมลงในปริมาณ 0.005 ส่วนในล้าน (parts per million หรือ ppm) ซึ่งเกินค่ามาตรฐานของไต้หวันซึ่งตั้งไว้ไม่เกิน 0.002 ส่วนในล้าน

ส่วนสินค้ารายอื่นๆ ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยด้านอาหารของไต้หวันในครั้งนี้ ได้แก่ ชาเขียว-หัวไชเท้าจากญี่ปุ่น กะหล่ำปลีจากจีน กะเทียม-งาขาวจากอินโดนีเซีย และงาดำจากปารากวัย

ด้านของสำนักงานอาหารและยาของไต้หวัน ระบุว่า สินค้าที่ไม่ผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยอาหารในครั้งนี้จะถูกทำลายหรือส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง

อย่างไรก็ตาม ชาตรามือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตชาสัญชาติไทยอายุกว่า 70 ปี และทำตลาดในหลายประเทศ ได้แก่ บรูไน กัมพูชา จีน ฮ่องกง เกาหลีใต้ มาเลเซีย พม่า และสิงคโปร์

กรณีศึกษา! “ชาตรามือฟีเวอร์” กลยุทธ์พลิกแบรนด์เก่า เป็นแบรนด์เก๋าที่ใครๆ ก็อยากต่อแถว
ที่มา – Taipeitimes, Focustaiwan

 

ฝันครองทำเนียบขาว ‘ไบเดน’ใกล้เป็นจริง แต่ ‘ทรัมป์’โวยถูกโกง ม็อบ 2 ฝ่ายเริ่มรวมตัว

ไบเดนเข้าใกล้ทำเนียบขาวเข้าไปทุกขณะ หลังคว้าชัยในมิชิแกนและวิสคอนซิน ทำให้มีคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งล่าสุด 264 คะแนน ขาดอีกแค่ 6 คะแนนเพื่อเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอกจากนั้นยังมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวตจากทั่วประเทศนำอยู่กว่า 3 ล้านคะแนน ด้านทรัมป์โวยถูกโกงทั้งที่ไม่มีหลักฐาน และยื่นฟ้องศาลขอให้ยุติการนับคะแนนหรือนับคะแนนใหม่ในหลายรัฐ ขณะที่สถานการณ์เริ่มตึงเครียดมากขึ้น หลังกลุ่มผู้สนับสนุนและกลุ่มต่อต้านทรัมป์เริ่มชุมนุมในหลายเมือง

การนับคะแนนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังคงดำเนินต่อไปตลอดคืนที่ 2 เมื่อวันพุธ (4 พ.ย.) ในพวกรัฐสมรภูมิที่มีผู้ใช้สิทธิ์ล่วงหน้าและผู้ที่ส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์จำนวนมาก เนื่องจากต้องการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโควิด-19 ส่งผลให้การนับคะแนนยากขึ้นและต้องใช้เวลานานขึ้น

ผู้สมัครทั้งสองคนยังต้องลุ้นกันต่อ จนกว่าใครคนใดคนหนึ่งจะรวบรวมคะแนนจากคณะผู้เลือกตั้งได้ถึง 270 เสียง ซึ่งหมายถึงได้ครองตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อไปของอเมริกา

ฝ่ายที่ได้เปรียบขณะนี้คือ โจ ไบเดน ตัวแทนพรรคเดโมแครต ซึ่งได้กล่าวปราศรัยถ่ายทอดทางทีวีจากเมืองวิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ อันเป็นที่พำนักปัจจุบัน โดยแสดงความมั่นใจว่า หลังการนับคะแนนเสร็จสิ้น ตนจะได้เป็นผู้ชนะ พร้อมเปิดเว็บไซต์เริ่มเตรียมการถ่ายโอนอำนาจปูทางสู่การเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมปีหน้า

ทั้งนี้ หลังจากชนะในรัฐสมรภูมิสำคัญทางเหนือ 2 รัฐติดต่อกัน คือ มิชิแกนและวิสคอนซิน รวมทั้งยังได้แอริโซนา ซึ่งทั้งหมดนี้ต่างเคยสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งครั้งที่แล้วเมื่อปี 2016 ทำให้ไบเดนได้คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง 264 คะแนน ทิ้งห่างทรัมป์ที่ได้แค่ 214 คะแนน

นอกจากนั้น เมื่อการนับคะแนนมาถึงวันพุธ ไบเดนยังมีคะแนนป็อปปูลาร์โหวต นั่นคือเสียงของผู้ลงคะแนนจากทั่วประเทศมากกว่าทรัมป์เป็นจำนวน 3.6 ล้านเสียง อย่างไรก็ดี ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ สิ่งที่เป็นตัวตัดสินการเลือกตั้งประธานาธิบดีคือ เสียงของคณะผู้เลือกตั้งเท่านั้น โดยที่ในปี 2016 ทรัมป์ยังคงชนะฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ที่ได้คะแนนป็อปปูลาร์โหวตทั่วประเทศมากกว่าตัวเขาราว 3 ล้านเสียง

เวลานี้ยังคงเหลือเพียง 4 รัฐ คือ เนวาดา (มีเสียงคณะผู้เลือกตั้ง 6) จอร์เจีย (16) นอร์ทแคโรไลนา (15) และเพนซิลเวเนีย (20) เท่านั้นซึ่งพวกสื่อใหญ่ของสหรัฐฯยังไม่ได้ประกาศคาดการณ์ว่าไบเดนหรือทรัมป์เป็นผู้ชนะ โดยที่บางรัฐยังมีบัตรเลือกตั้งซึ่งต้องนับอีกจำนวนมากโดยเฉพาะพวกที่ส่งทางไปรษณีย์

สำหรับไบเดนแล้ว หากสามารถคว้าชัยในรัฐเหล่านี้ได้แม้เพียงรัฐเดียว ก็จะทำให้ได้เสียงคณะผู้เลือกตั้งถึง 270 เสียงในทันที ทั้งนี้คาดกันว่าไบเดนมีโอกาสสูงมากที่จะได้เนวาดา ซึ่งในการนับคะแนนช่วงท้ายๆ เขานำทรัมป์อยู่เล็กน้อย ไม่เช่นนั้นก็ต้องไปลุ้นกันที่เพนซิลเวเนีย ซึ่งตอนแรกๆ ทรัมป์นำ แต่แล้วคะแนนไบเดนกำลังตีตื้นขึ้นมาเรื่อยๆ โดยเห็นกันว่าเสียงโหวตซึ่งนับกันทีหลังนั้น มาจากเขตที่นิยมเดโมแครต ตลอดจนเป็นบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์ ที่ผู้ออกเสียงมีเปอร์เซนต์เป็นเดโมแครตมากกว่ารีพับลิกัน

รัฐนี้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญของทีมนักกฎหมายของทีมหาเสียงของทรัมป์ ที่ก่อนหน้านี้ได้เคยยื่นคัดค้านคำตัดสินของศาลชั้นต้นซึ่งอนุญาตให้นับคะแนนบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์ที่หน้าซองประทับวันที่อย่างช้าสุดวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. ทว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งได้รับหลังวันเลือกตั้ง ขณะที่ทอม วูล์ฟ ผู้ว่าการรัฐ ซึ่งสังกัดพรรคเดโมแครต ยืนยันว่า ทุกคนต้องรอและสัญญาว่า จะนับคะแนนบัตรเลือกตั้งทุกใบ

นอกจากนั้น ขณะที่ทรัมป์เอาแต่โวยวายว่า ถูกโกง ไบเดนกลับเรียกร้องให้ประชาชนหยุดปฏิบัติต่อฝ่ายตรงข้ามราวกับเป็นศัตรู ท่ามกลางบรรยากาศการแบ่งขั้วอย่างรุนแรงตลอด 4 ปีที่ผ่านมาและวิกฤตโรคระบาดที่เมื่อวันพุธ อเมริกาทุบสถิติผู้ติดเชื้อรายวันทะลุ 1 แสนคน

ทว่า ทรัมป์ที่อวดอ้างชัยชนะฝ่ายเดียวและประกาศชัดเจนว่า จะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่สื่อรายงานออกมา ทวิตกล่าวหาโดยไม่มีหลักฐานว่า มีการโกงการเลือกตั้ง เช่น หาว่ามีบัตรเลือกตั้งปริศนาที่ไปโผล่ที่มิชิแกน

นอกจากนั้นทีมหาเสียงของทรัมป์ยังประกาศฟ้องร้องต่อศาลเพื่อให้ระงับการนับคะแนนในมิชิแกน เพนซิลเวเนีย และจอร์เจีย รวมทั้งขอให้นับคะแนนใหม่ในวิสคอนซิน

โดยที่มิชิแกน ทีมหาเสียงของทรัมป์ฟ้องให้ระงับการนับคะแนนด้วยข้ออ้างว่า กลุ่มผู้สังเกตการณ์ของตนไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสังเกตการณ์ในระยะใกล้

การเลือกตั้งครั้งนี้เตือนความจำถึงเหตุการณ์เมื่อปี 2000 ที่จอร์จ ดับเบิลยู. บุช จากพรรครีพับลิกัน ลงสมัครชิงทำเนียบขาวกับอัล กอร์ จากพรรคเดโมแครต ซึ่งผลการนับคะแนนในรัฐฟลอริดาเป็นตัวชี้ขาดและสุดท้ายไปจบลงที่ศาลสูงสุดที่สั่งระงับการนับคะแนนใหม่ ขณะที่บุชมีคะแนนนำ

อนึ่ง ยูเอส อิเล็กชันส์ โปรเจ็กต์ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา ประเมินว่า ปีนี้มีผู้ใช้สิทธิ์ถึง 160 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้ลงคะแนนล่วงหน้า 101.1 ล้านคน โดย 65.2 ล้านคนในจำนวนนี้เลือกลงคะแนนทางไปรษณีย์

ขณะเดียวกัน แม้ยังไม่มีรายงานเหตุการณ์รุนแรงที่บางคนกลัว แต่ความตึงเครียดเริ่มก่อตัวขึ้นในหลายเมือง เช่น ที่ดีทรอยต์ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรคเดโมแครต และประชาชนส่วนใหญ่เป็นคนดำ กลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่ส่วนใหญ่เป็นคนผิวขาวราว 30 คน ตะโกนหน้าสำนักงานเลือกตั้งให้หยุดนับคะแนน และพยายามบุกเข้าไปแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดไว้

นอกจากนี้มีกลุ่มผู้สนับสนุนทรัมป์ที่มีท่าทีก้าวร้าวประมาณ 200 คนรวมตัวกันหน้าสำนักงานเลือกตั้งในเมืองฟินิกซ์ รัฐแอริโซนา โดยมีเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายร่างกำยำตั้งแนวป้องกันด้านหน้าทางเข้า ขณะที่ผู้ประท้วงบางรายพกปืนอย่างเปิดเผย เนื่องจากรัฐนี้อนุญาตการพกพาอาวุธในสถานที่สาธารณะ

เวลาเดียวกัน กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านทรัมป์ในเมืองอื่นๆ เรียกร้องให้มีการนับคะแนนต่อไป รายงานระบุว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 11 คนและยึดอาวุธในเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน หลังเกิดเหตุจลาจล นอกจากนั้นยังมีการจับกุมผู้ก่อเหตุในนิวยอร์ก เดนเวอร์ และมินนิอาโปลิส และมีข่าวว่า มีการวางแผนชุมนุมกว่า 100 จุดทั่วอเมริการะหว่างวันพุธถึงวันเสาร์ (7)

การเลือกตั้งของอเมริกาที่ปกติแล้วถือเป็นแบบอย่างสำหรับประเทศประชาธิปไตยหน้าใหม่ทั่วโลก มาปีนี้กลับสร้างความกังวลให้นานาชาติ

อันเนเกรต แครมป์-คาร์เรนบาวเออร์ รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี เตือนว่า สถานการณ์ในอเมริกาที่คุกรุ่นอย่างมากอาจนำไปสู่วิกฤตรัฐธรรมนูญ

นอกจากนี้ คณะเจ้าหน้าที่จากองค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ที่ติดตามตรวจสอบการเลือกตั้งในประเทศตะวันตกและประเทศอดีตสมาชิกสหภาพโซเวียต เผยว่า ไม่พบหลักฐานการโกงการเลือกตั้งในอเมริกา และสำทับว่า ข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลของทรัมป์บ่อนทำลายความไว้วางใจในระบอบประชาธิปไตย

 

สหรัฐฯทุบสถิติติดโควิด‘วันละแสน’ ขณะ‘อังกฤษ’ต้องล็อกดาวน์รอบสอง

ยอดผู้ติดเชื้อรายวันในอเมริกาของโรคโควิด-19 ทำสถิติใหม่ในวันพุธ (4 พ.ย.) ด้วยตัวเลขใกล้ๆ หรือกระทั่งเลย 1 แสนคน เวลาเดียวกันจำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเมื่อวันอังคาร (3) ยังทะลุ 50,000 คนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ส่วนทางด้านสหราชอาณาจักรต้องเริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วทั้งแคว้นอังกฤษเป็นรอบที่สองเมื่อวันพฤหัสบดี (5)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า 9 มลรัฐของอเมริกา ได้แก่ โคโรลาโด ไอดาโฮ อินเดียนา เมน มิชิแกน มินนิโซตา โรดไอส์แลนด์ วอชิงตัน และวิสคอนซิน ต่างมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดในวันเดียวในรัฐของตนเมื่อวันพุธ

ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันรวมทั่วสหรัฐฯซึ่งรอยเตอร์รวบรวมและรายงานในวันพุธคือ 102,591 คน ลบสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ซึ่งอยู่ที่ 100,233 คน รวมทั้งยังถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ของทั่วโลกอีกด้วย

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานตัวเลขที่รวบรวมโดยมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ ซึ่งออกมาว่า ระหว่างเวลา 20.30 น.วันอังคาร ถึง 20.30 น.วันพุธ สหรัฐฯพบผู้ป่วยรายใหม่รวม 99,660 ราย และระบุเช่นกันว่าตัวเลขนี้ถือว่าสูงสุดเป็นสถิติใหม่

ข้อมูลของจอห์นส์ฮอปกินส์ยังระบุด้วยว่า ระหว่างช่วง 24 ชั่วโมงดังกล่าว ในสหรัฐฯมีผู้เสียชีวิตจากโควิดจำนวน 1,112 คน ทำให้ยอดสะสมป็น 233,000 คน ส่วนจำนวนติดเชื้อสะสมอยู่ที่กว่า 9.4 ล้านคน

รายงานของรอยเตอร์ยังระบุว่า จำนวนผู้เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจากไวรัสโคโรนาในวันอังคารทะลุ 50,000 คนเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่วันละ 850 คน จาก 700 คนเมื่อเดือนที่แล้ว

วิกฤตโรคระบาดส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอเมริกันในเกือบทุกแง่มุม ซึ่งรวมถึงการที่มีผู้ออกเสียงกว่า 100 ล้านคนไปใช้สิทธิ์ก่อนถึงวันเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันอังคาร ซึ่งกลายเป็นการทำสถิติใหม่

ข้ามฟากมาทางสหราชอาณาจักร ประชาชนทั่วทั้งแคว้นอังกฤษจำนวน 56 ล้านคนเข้าสู่มาตรการล็อกดาวน์รอบสองในวันพฤหัสฯ (5) ท่ามกลางความไม่แน่ใจซึ่งมีมากขึ้นเกี่ยวกับนโยบายเข้มงวดเพื่อป้องกันวิกฤตโรคระบาด โดยมาตรการครั้งนี้ มีดังเช่น การทำงานจากที่บ้านหากทำได้ และการปิดร้านค้าและบริการทั้งหมดที่ไม่จำเป็น ซึ่งรวมถึงผับ บาร์ ร้านอาหาร แต่โรงเรียนยังเปิดตามปกติ

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ประกาศยกเลิกระบบที่บังคับใช้ก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นการควบคุมการระบาดเป็นบางพื้นที่ และหันมาล็อกดาวน์ทั่วทั้งอังกฤษ หลังหน่วยงานสาธารณสุขตือนว่า ในเร็ววันนี้โรงพยาบาลอาจไม่สามารถรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ได้อีกต่อไป ขณะจำนวนผู้เสียชีวิตก็ทำสถิติสูงสุดในรอบ 6 เดือน

แต่ถึงแม้ผลสำรวจความคิดเห็นบ่งชี้ว่า สังคมโดยรวมสนับสนุนนโยบายกักตัวอยู่บ้าน กลับมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจและสุขภาพจิต โดยเมื่อวันพุธ สมาชิกรัฐสภา 32 คนจากพรรคอนุรักษนิยมซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ได้โหวตคัดค้านมาตรการล็อกดาวน์ครั้งใหม่

ทั้งนี้ ตอนที่ใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วแคว้นอังกฤษครั้งแรกในเดือนมีนาคมซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ประชาชนให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี แต่เมื่อมาตรการต่อต้านไวรัสโคโรนาลากยาวเข้าสู่ฤดูหนาว การปฏิบัติตามก็หย่อนยานลงเรื่อยๆ เนื่องจากชีวิตความเป็นอยู่ได้รับผลกระทบมากขึ้น

ผลการศึกษาฉบับใหม่ที่คิงส์ คอลเลจ ลอนดอนสำรวจจากประชาชนวัยผู้ใหญ่กว่า 6,000 คน พบว่า 1 ใน 4 เชื่อว่า ตัวเองเคยติดโควิด-19 แล้วในการระบาดรอบแรก ซึ่งมากกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่นักวิจัยของรัฐบาลประเมิน

หลายคนที่ร่วมแสดงความคิดเห็นยังบอกว่า การที่ตัวเองเคยติดเชื้อทำให้มีภูมิต้านทานและไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามกฎล็อกดาวน์

ทั้งนี้ จอห์นสันย้ำว่า มาตรการล่าสุดจะสิ้นสุดลงอัตโนมัติในวันที่ 2 ธันวาคม ซึ่งอังกฤษจะเปลี่ยนไปใช้ระบบจัดระดับการควบคุมตามสถานการณ์การระบาดในแต่ละพื้นที่อีกครั้ง

สหราชอาณาจักร โดยเฉพาะแคว้นอังกฤษ เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาหนักที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตเกือบ 48,000 คน และผู้ติดเชื้อกว่า 1 ล้านคน

วันพุธมีรายงานผู้เสียชีวิต 192 คนภายใน 28 วันนับจากตรวจพบว่าติดเชื้อ ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับจากช่วงกลางเดือนพฤษภาคม

ในสหราชอาณาจักร นอกจากอังกฤษแล้ว ทั้งแคว้นสกอตแลนด์ เวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ ต่างบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศในสหภาพยุโรป ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสและเยอรมนี

 

อิตาลีหวนสู่วิกฤต!ติดเชื้อโควิดทุบสถิติสูงสุดวันเดียว3.4หมื่นคน เตรียมบังคับใช้เคอร์ฟิว

อิตาลีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 34,505 คนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากการเปิดเผยของกระทรวงสาธารณสุขในวันพฤหัสบดี(5พ.ย.) ถือเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด และเพิ่มขึ้นจากระดับ 30,550 คนของเมื่อวันพุธ(4พ.ย.)

https://mgronline.com/around/detail/9630000114906

 

เอาละซิ!'ทรัมป์'โวยโดนโกงส่อเค้าไม่ยอมรับผล ไบเดนมั่นใจคว้าชัยศึกเลือกตั้งปธน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(5พ.ย.) ออกมาแถลงยืดยาวอ้างโดยไม่มีหลักฐานใดๆว่าโดนโกงชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังการนับคะแนนเสียงในรัฐสมภูมิหลายแห่ง พบว่าเขาใกล้พบกับความปราชัย ส่วน โจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต แสดงความเชื่อมันว่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยในศึกชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว เมื่อการนับคะแนนแล้วเสร็จ

https://mgronline.com/around/detail/9630000114914

 

ตึงเครียด!ฝ่ายหนุนคู่ชิงปธน.ชุมนุมที่ศูนย์นับคะแนนรัฐตัดสิน'เพนซิลเวเนีย' ศาลตีตกคำร้องทรัมป์ที่มิชิแกนและจอร์เจีย

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งในวันพฤหัสบดี(5พ.ย.) กำลังเร่งมือนับคะแนนนในเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิสำคัญ ฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ต่างรวมตัวชุมนุมท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียด ที่ศูนย์นับคะแนนหลักในรัฐแห่งนี้ โหมกระพือความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ลุกลามบานปลาย ขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่งศาลในรัฐมิชิแกนและจอร์เจีย ได้ตีตกคำร้องทีมหาเสียงของทรัมป์ ที่กล่าวอ้างว่าพบความผิดปกติและหวังให้หยุดนับคะแนน

https://mgronline.com/around/detail/9630000114909

 

1 > หลังจากถูกโจมตีจากประเทศท้ายแม่น้ำโขงมาโดยตลอดว่ากักน้ำและปล่อยน้ำตามใจตัวเอง ตอนนี้จีนคิดใหม่ทำใหม่ด้วยการเริ่มแชร์ข้อมูลตลอดทั้งปีจากสถานีอุทกวิทยา 2 แห่งริมแม่น้ำโขงเพื่อให้ประเทศเพื่อนบ้านท้ายน้ำสามารถคาดการณ์ภัยพิบัติได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

2 > กระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนประกาศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่าข้อมูลจากสถานี 2 แห่งคือ Yunjinghong และ Man'an ในมณฑลยูนนานทางตะวันตกเฉียงใต้จะถูกแบ่งปันกับ 5 ประเทศในกลุ่มแม่น้ำโขงรวมถึงคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างรัฐบาลสำหรับภูมิภาคความร่วมมือในลุ่มน้ำโขงตอนล่าง

3 > ก่อนหน้านี้จีนจะแชร์เฉพาะข้อมูลอุทกวิทยาสำหรับฤดูน้ำหลากระหว่างเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัติที่มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่มีความโปร่งใสเพียงพอ

5 > “เนื่องจากอิทธิพลของปัจจัยด้านสภาพอากาศ เช่น ภาวะโลกร้อนและความผิดปกติของมรสุมทำให้ภูมิภาคแม่น้ำโขงต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างรุนแรงจากอุทกภัยและภัยแล้ง” กระทรวงทรัพยากรน้ำจีน กล่าวและเสริมว่า การแบ่งปันข้อมูลสามารถปรับปรุงการพยากรณ์ทางอุทกวิทยาและการบรรเทาสาธารณภัยของประเทศท้ายน้ำ เพื่อลดการสูญเสียชีวิตให้น้อยที่สุด

6 > แม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไหลลงใต้ผ่านจีนไปยังเมียนมา ลาว ไทย กัมพูชาและเวียดนาม ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแม่น้ำโขงเป็นจุดสำคัญของข้อพิพาททางน้ำและความตึงเครียดทางการเมืองเนื่องจากประเทศต้นน้ำคือจีนสร้างเขื่อนกั้นหลายแห่งและยังปล่อยน้ำแบบไม่บอกไม่กล่าว

7 > การแชร์ข้อมูลของจีนมีขึ้นหลังมีการเปิดเผยการศึกษาโดย Eyes On Earth บริษัทวิจัยและให้คำปรึกษาที่เชี่ยวชาญด้านน้ำรายใหญ่ที่ได้รับทุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา กล่าวว่าการสร้างเขื่อนในแม่น้ำโขงของจีนทำให้เกิดภัยแล้งร้ายแรงในประเทศท้ายน้ำในปี 2562

8 > รายงานนี้ยังชี้ว่าเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่สร้างขึ้นโดยจีนเพื่อผลิตไฟฟ้าพลังน้ำและการจัดการน้ำได้กักเก็บน้ำจากแม่น้ำโขงตอนบน ทำให้ประเทศท้ายน้ำขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูฝนปีที่แล้ว

9 > อย่างไรก็ตาม นักวิจัยบางคนและสำนักเลขาธิการ MRC ได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีการและข้อสรุปของการศึกษาของ Eyes On Earth โดยเรียกร้องให้รวมเอาข้อมูลต้นน้ำจากจีนและทำให้รายงานมีความโปร่งใสมากขึ้นเพื่อปรับปรุงความร่วมมือในภูมิภาคและจัดการปัญหาการขาดแคลนน้ำ

10 > Sixth Tone สื่อของรัฐที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเซี่ยงไฮ้รายงานว่าเพื่อตอบสนองต่อคำวิจารณ์เกี่ยวกับการขาดความโปร่งใสในการแบ่งปันข้อมูลแม่น้ำโขง นายกรัฐมนตรีหลี่เค่อเฉียงให้คำมั่นเมื่อเดือนสิงหาคมว่าจีนจะให้ข้อมูลน้ำตลอดทั้งปีแก่ประเทศต่างๆ ริมแม่น้ำโขงเริ่มตั้งแต่ปีนี้ และสองเดือนต่อมาจีนและ MRC ได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อดำเนินการดังกล่าวรวมถึงแบ่งข้อมูลปริมาณน้ำฝนและระดับแม่น้ำวันละสองครั้ง

11 > เว็บไซต์ของกระทรวงทรัพยากรน้ำของจีนระบุว่า "ประเทศในลุ่มน้ำโขงชื่นชมการกระทำที่มีเมตตากรุณาของจีนและแสดงความขอบคุณจีนที่ให้ข้อมูลอุทกวิทยาของแม่น้ำล้านช้าง (แม่น้ำโขง) ตลอดทั้งปี" อย่างไรก็ตาม ต้องฟังเสียงจากประชาชนทั่วไปที่พึ่งพาอาศัยแม่น้ำโขงอย่างจริงจังกันก่อน เพราะพวกเขาคือผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสร้างเขื่อนและการปล่อยน้ำของจีน

ข้อมูลจาก
• Li You. (Nov 04, 2020). "After Criticism, China to Provide Mekong River Data Year-Round". Sixth Tone.
• "The Ministry of Water Resources officially provided the Lancang River with annual hydrological information to Mekong countries". (Nov 11, 2020). Ministry of Water Resources.

 

ครั้งแรก! นักดาราศาสตร์ตรวจพบคลื่นวิทยุปริศนา ที่เกิดขึ้นสว่างวาบในเวลาสั้นๆ จากดาวในกาแล็กซี่ของเรา! นำไปสู่การศึกษา ค้นหาเพิ่มเติม
•
Fast Radio Bursts หรือ FRBs คือ เป็นเหตุการที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น ๆ เพียงเสี้ยววินาที แต่มันสามารถปล่อยพลังงานออกมามากกว่าดวงอาทิตย์ถึงล้านเท่าได้เลยทีเดียว
•
แต่ในครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่นักดาราศาสตร์พบ FRB ครั้งแรกในกาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา ใกล้ที่สุดเท่าที่เคยตรวจพบมาก่อน ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถไขปริศนาได้ว่าที่จริงแล้วพวกมันมาจากไหน
•
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์พยายามไขปริศนาการระเบิดของคลื่นวิทยุดังกล่าวแต่ก็ไม่สามารถไขข้อสงสัยนี้ได้ เนื่องจาก FRB เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงระยะสั้น ๆ เกิดขึ้นไกล และแถมยังไม่สามารถคาดเดาได้ แต่เป็นที่ชัดเจนว่ามันจะต้องก่อตัวขึ้นในสภาวะที่รุนแรงในจักรวาล ซึ่งคำอธิบายของการเกิดมีความเป็นไปได้ตั้งแต่การตายของดาวยันไปถึงเทนโนโลยีจากต่างดาว
•
อย่างไรก็ตามนักดาราศาสตร์ที่ค้นพบ FRBs ครั้งล่าสุด กล่าวว่า การระเบิดของคลื่นวิทยุดังกล่าวเหมือนจะมาจากดาวที่มีสนามแม่เหล็กที่มีพลังงานสูง ซึ่งพวกเขาได้ยืนยันว่าการระเบิดของคลื่นวิทยุในครั้งนี้นั้นเหมือนกับครั้งอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไปนอกกาแล็กซี ซึ่งอย่างน้อยก็สามารถชี้ให้เห็นได้ว่าการระเบิดครั้งอื่น ๆ ก็เกิดจากวัตถุอื่นที่คล้ายคลึงกัน
•
เมื่อวันที่ 27เมษายน 2020 นักวิทยาศาสตร์ได้รับรายงานการปล่อยรังสีเอกซ์หลายครั้งจากสนามแม่เหล็กและรังสีแกรมมาจากดาวที่มีสนามแม่เหล็ก และในวันถัดมาพวกเขาได้ใช้กล้องโทรทรรศน์อเมริกาเหนือสองตัวในการสังเกตการณ์ท้องฟ้า และพบการระเบิดของคลื่นจาก FRB 200428
•
นอกจาก FRB 200428 จะเป็นดาวดวงแรกในกาแล็กซีทางช้างเผือกที่ปล่อย FRB และมีความเกี่ยวเนื่องกับสนามแม่เหล็กแล้ว มันยังเป็นการระเบิดครั้งแรกที่ปล่อยสิ่งอื่นออกมามากกว่าคลื่นวิทยุ
•
อย่างไรก็ตามการพบ FRB ครั้งล่าสุดนี้ยังไม่สามารถอธิบายเหตุการเกิดของ FRB ที่เหลือได้ทั้งหมด ถึงแม้ว่าถ้าหากบทสรุปของการเกิดจะเกิดจากดาวที่สนามแม่เหล็กพลังงานสูง แต่ก็ยังมีปริศนาหลายอย่างที่ต้องไข นักดาราศาสตร์ต้องหากลไกที่ทำให้สนามแม่เหล็กที่ทำให้เกิด FRB ยังต้องทำความเข้าใจอีกว่าทำไมมันถึงปล่อยพลังงานที่สุกสว่างนั้นออกมา และทำไมมันถึงระเบิดพลังงานและรังสีเอกซ์ออกมาในเวลาเดียวกัน
•
https://www.independent.co.uk/life-...dio-burst-fast-galaxy-milky-way-b1590956.html

https://www.bbc.com/news/science-environment-54815687

https://edition.cnn.com/2020/11/04/world/fast-radio-burst-magnetar-discovery-scn/index.html

https://www.nature.com/articles/s41586-020-2863-y

 

H5N8 ทำพิษ อังกฤษ เตรียมฆ่าสัตว์ปีกหมื่นตัว หลังไข้หวัดนกระบาด! ในฟาร์มเมือง Cheshire เร่งควบคุม กำจัดเชื้อ ชี้ไม่แพร่สู่คน
•
สัตว์ปีกกว่า 13,000 ตัวจ่อถูกปลิดชีวิต ณ ฟาร์มแห่งหนึ่งใน Cheshire หลังพบไข้หวัดนก Avian flu เชื้อ H5N8 ได้รับการยืนยันตรวจพบ
•
อย่างไรก็ตาม สาธารสุขอังกฤษเผยว่าความเสี่ยงต่อผลกระทบต่อสาธารณสุขนั้นต่ำมาก และขณะนี้ไม่มีการพบว่าเชื้อนี้จะส่งสู่มนุษย์
•
นอกจากนี้จะมีการตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อตรวจสอบถึงอันตราย และมีความเกี่ยวข้องกับไวรัสที่กระจายในยุโรปขณะนี้หรือไม่
•
โดยจะมีการทำโซนควบคุมในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อ และหาหลักฐานอย่างเร่งด่วนของเชื้อที่กระจายเพื่อควบคุมและกำจัด
•
ทางสาธารณสุขชี้ว่าไข้วัดใหญ่ Avian นี้มีความเสี่ยงต่ำต่ออาหาร และแนะนำว่าควรที่จะปรุงอาหารให้สุกเพื่อความปลอดภัย
•
ที่มา

https://www.bbc.com/news/uk-england-merseyside-54787797

https://www.gov.uk/guidance/avian-influenza-bird-flu
•
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
Environman

 

เดนมาร์กสลด จำต้อง ฆ่าตัวมิ้งค์ 17 ล้านตัว! หลังพบโควิดกลายพันธุ์ ที่สามารถแพร่สู่มนุษย์ได้ ระบาดมิ้งค์ในฟาร์มที่เพาะเลี้ยงเอาขน
•
เดนมาร์กจำต้องปลิดชีวิตตัวมิ้งค์ 17 ล้านตัวหลังหวั่นโคโรนาไวรัสกลายพันธุ์ที่สามารถแพร่สู่มนุษย์ได้ โดยพบในฟาร์มมิ้งค์ ตำรวจเผยต้องจัดการให้เร็วที่สุด โดยมิ้งค์จากกว่า 1,000 ฟาร์มจะถูกปลิดชีพ
•
นายกรัฐมนตรี Mette Frederiksen เผยว่าการกลายพันธุ์ของไวรัสเป็นภัยเสี่ยงต่อประสิทธิภาพของวัคซีน Covid-19 ในอนาคต และชี้ว่าต้องนี้สถานการณ์อยู่ในความตึงเครียดอย่างมาก
•
เดนมาร์กเป็นประเทศที่ผลิตขนมิ้งค์ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในช่วงการระบาดโควิดนี้มีการพบกรณีที่มิ้งค์ในฟาร์มติดเชื้อ Coronavirus ในเดนมาร์กและหลายประเทศก่อนหน้านี้
•
แต่การแพร่ระบาดในเดนมาร์กเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมี 5 เคสของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในฟาร์มมิ้งค์ และมีผู้คนติดเชื้อแล้ว 12 ราย
•
"เรามีความรับผิดชอบที่จะต้องปกป้องประชากรของเรา แต่ในขณะนี้ที่มีการกลายพันธุ์เกิดขึ้น เราต้องมีความรับผิดชอบเพื่อคนทั้งโลก" นายกฯกล่าว
•
ก่อนหน้านี้สเปนได้ฆ่ามิ้งค์นับแสนตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหลังพบการแพร่ระบาด นอกจากนี้ในเนเธอร์แลนด์เองก็มีการฆ่าสัตว์ดังกล่าวหลายหมื่นตัวเช่นกัน
•
ขณะนี้กำลังมีการศึกษาว่าเหตุใดทำให้มิ้งค์นั้นสามารถจับเชื้อและแพร่ระบาดได้
•
ที่มา

https://www.bbc.com/news/world-europe-54818615


•
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
Environman

 

#News1feed : โฆษกกมธ.ตำรวจ แถลงเชิญสตช.ซ้ำ ชี้แจงเหตุควบคุมสลายม็อบ หลังอ้างเตรียมเอกสารไม่ทัน จี้ให้ความสำคัญฝ่ายนิติบัญญัติ ลั่น 12 พ.ย. ผบ.ตร.ต้องโผล่แจง ยันไม่เล่นละครฟอกขาวให้องค์กร

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000114675
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

⚠️ [BREAKING] ⚠️ #ทรัมป์ออกแถลงข่าวเช้านี้ว่า "ถ้าเรานับคะแนนเสียงให้ถูกต้องตามกฏหมายผมจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ถ้าคุณนับคะแนนโหวตที่ผิดกฏหมายเข้าไปด้วย นั่นจะเรียกว่าเป็นการขโมยชัยชนะการเลือกตั้ง”

“If you count the legal votes, I easily win. If you count the illegal votes, they can try to steal the election from us,” ทรัมป์แถลงที่ทำเนียบขาว

การที่ทรัมป์พยายามดื้อดึงไม่ยอมรับผลเลือกตั้งและหาว่าทางพรรคเดโมแครตโกงนั้น เป็นเป็นเพียงการกระทำที่บ้าบอและไร้เหตุผลหรือไม่ ?

หรือว่าจริงๆแล้ว ทั้งการขอให้ทุกคนออกมาใช้สิทธิ์ที่คูหา ทั้งการประกาศชัยชนะล่วงหน้าตั้งแต่คืนแรกทั้งๆที่คะแนนยังนับไม่จบ ? ทั้งการที่พยายามฟ้องศาลและเอาชนะกันที่ศาลนั้น #จะเป็นแผนอันแยบยลที่ทรัมป์วางไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ?

ทางเพจได้เขียนบทความวิเคราะห์ว่าทำไมทุกเหตุการณ์บ้าบิ่นที่ทรัมป์พยายามจะทำนั้นถึงลงตัวกันอย่างเหมาะเจาะและ #เขารู้ตัวแต่แรกแล้วว่าจะแพ้การเลือกตั้ง นี่จึงเป็นทางออกเดียวที่เหลืออยู่

ลองหาคำตอบได้ที่บทความนี้เลยครับ

ความคืบหน้าของคะแนนเลือกตั้ง

คะแนนของโจ ไบเดนใกล้แตะ 270 คะแนนแล้ว ตอนนี้ขอแค่ชนะอีกรัฐเดียวจาก เพนซิลวาเนีย จอร์เจีย เนวาดา หรือ นอร์ธ แคโรไลนา ก็จะสามารถก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ในขณะที่ทางด้านทรัมป์ยังต้องลุ้นกวาดให้ได้ทั้งหมด 4 รัฐที่เหลือถึงจะได้ชัย

✅ ติดตามผลการเลือกตั้งและข่าวสารในตลาดอย่างใกล้ชิดไปกับเพจเราได้ !

แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

ผู้พิพากษาศาลฯ มิชิแกน - จอร์เจียไม่รับฟ้อง
หลังทรัมป์ยื่นร้องขอให้หยุดนับคะแนน
.
ผู้พิพากษาทั้งในจอร์เจียและมิชิแกนได้ปฎิเสธคำฟ้องจากทีมรณรงค์หาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้หยุดการนับคะแนนเสียงเลือกตั้งต่อ
.
หลังจากที่ทีมงานของทรัมป์กล่าวหาว่า การนับคะแนนเสียงในรัฐจอร์เจียมีบัตรเลือกตั้ง 53 ใบที่ยังไม่ได้ตรวจสอบปะปนอยู่ในกองบัตรลงคะแนนที่อยู่ในขั้นตอนการนับคะแนน แต่เจ้าหน้าที่ยืนยันว่าบัตรลงคะแนนทั้งหมดส่งมาถึงหน่วยนับภายในเวลาที่กำหนดในเมืองชาแธมเคาน์ตี้ ยืนยันว่าบัตรเลือกตั้งทั้งหมดถูกจัดการอย่างถูกต้องและตรงเวลา
.
ส่วนผู้พิพากษาในรัฐมิชิแกนก็ได้ยกฟ้องในข้อพิพาทที่ว่า ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกันสามารถเข้าถึงการจัดการบัตรเลือกตั้งได้ (โกงเลือกตั้ง)
.
ผู้พิพากษาซินเทีย สตีเฟนส์ ตั้งระบุว่า มีการยื่นฟ้องในช่วงบ่ายวันพุธเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะมีการนับบัตรลงคะแนนครั้งสุดท้าย นอกจากนี้เธอยังกล่าวอีกว่า โจเซลิน เบนสัน เลขานุการรัฐ ผู้ตกเป็นจำเลยไม่ได้มีความผิดตามฟ้อง เพราะเธอไม่ได้ควบคุมการนับคะแนนท้องถิ่นแม้ว่าเธอจะเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเลือกตั้งของรัฐก็ตาม
.
โดยผู้ยื่นฟ้องได้กล่าวหาว่าเบนสัน ซึ่งเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครตอนุญาตให้มีการนับบัตรลงคะแนนต่อโดยที่ไม่มีทีมผู้สังเกตการณ์ของทั้งสองฝ่าย โดยเธอถูกกล่าวหาว่าบ่อนทำลาย “สิทธิตามรัฐธรรมนูญของผู้มีสิทธิเลือกตั้งในมิชิแกนทุกคน ในการเลือกตั้งที่ยุติธรรมและชอบด้วยกฎหมาย”
.
เบนสันกล่าวผ่านทนายความของรัฐโดยปฏิเสธข้อกล่าวหา เพราะเธอไม่ได้มีอำนาจในการควบคุมการนับคะแนน ซึ่งส่วนใหญ่มีศูนย์กลางอยู่ที่ศูนย์ TCF ในเมืองดีทรอยต์ ที่มีกลุ่มผู้ประท้วงที่สนับสนุนทรัมป์ได้ไปรวมตัวกันตะโกนให้หยุดนับคะแนนขณะที่กำลังนับบัตรลงคะแนนอยู่
.
ในขณะที่ทรัมป์ ได้แถลงไม่ยอมให้มีการนับคะแนนเสียงของชาวอเมริกันจำนวนมหาศาล ซึ่งลงคะแนนเสียงทางไปรษณีย์ โดยกล่าวหาว่า ถ้ามีการนับบัตรเลือกตั้งที่ถูกกฎหมาย (หมายถึงบัตรที่มาลงคะแนนที่คูหา) เขาจะชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย แต่หากนับบัตรเลือกตั้งที่ไม่ถูกกฎหมายและบัตรที่มาถึงช้า พวกเขาสามารถขโมยชัยชนะไปจากเรา
.
พร้อมกับโทษว่าที่เขาแพ้เลือกตั้งในหลายๆ รัฐเป็นเพราะมีการแทรกแซงจากสื่อยักษ์ใหญ่ บริษัททุนหนา ซึ่งเกี่ยวโยงกับพรรคเดโมแครต
.
พอแถลงจบผู้สื่อข่าวพยายามตะโกนถามว่า "คุณคือพวกขี้แพ้ชวนตีใช่หรือเปล่า "
.
ทรัมป์กลับไม่ตอบ แต่รีบเดินหนีเข้าหลังเวทีไปเลย
.
ส่วนทางด้านโจ ไบเดน เองก็ออกมาตอบโต้ทรัมป์ผ่านทางทวีตเตอร์ว่า “ไม่มีใครขโมยประชาธิปไตยไปจากเราได้ ทั้งตอนนี้และตลอดไป สหรัฐมาไกล ต่อสู้มามาก และอดทนมามากเกินกว่าจะปล่อยให้เรื่องนี้เกิดขึ้น”

 

Update 17:00 น. ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2020
.
หลังจากที่ โจ ไบเดน มีคะแนนตามโดนัลด์ ทรัมป์ ในรัฐจอร์เจียมาตั้งแต่เริ่มต้นนับคะแนน ล่าสุดตอนนี้ไบเดนมีคะแนนนำทรัมป์ในรัฐจอร์เจียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในช่วงโค้งสุดท้ายของการนับคะแนนที่นับมาแล้ว 99% เหลือเพียงแค่ 1% เท่านั้นหากนับเสร็จสิ้นก็มีแววว่าไบเดนจะคว้าชัยได้อีกรัฐ และทำให้ทรัมป์คงหัวเสียไม่น้อยเลยทีเดียว หลังจากที่พยายามยื่นฟ้องต่อศาลให้พิจารณาสั่งหยุดนับคะแนนในรัฐจอร์เจียและรัฐอื่นๆ แต่สุดท้ายศาลไม่รับฟ้อง
.
ล่าสุดคะแนนในรัฐจอร์เจีย (17.37 น.)
ไบเดน : 49.4% 2,449,371 เสียง
ทรัมป์ : 49.4% 2,448,454 เสียง
.
ซึ่งจอร์เจียมีคะแนนเสียงผู้แทนถึง 16 คะแนนจากคณะผู้เลือกตั้ง และหากทรัมป์พลาดในรัฐนี้ไปโอกาสการชนะคะแนน Popular Vote ก็ถือว่าดับสิ้นทันที

 

สถานการณ์ในซานเปโดรซูลา #ฮอนดูรัส เนื่องจากแม่น้ำสายหลักล้นตลิ่งเนื่องจากฝนที่ตกลงมาจากพายุโซนร้อน ETA ผู้คนยังคงอยู่บนหลังคาบ้านเรือนเพื่อรอการช่วยเหลือ มีรายงานผู้เสียชีวิต 11 ราย

 

ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ที่ 32/2563
เรื่อง ญี่ปุ่นลดระดับคำเตือนการเดินทางไปประเทศไทยเป็นระดับที่ 2
และผู้ที่พำนักระยะยาวในญี่ปุ่นและเดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลทางธุรกิจ สามารถกลับเข้าญี่ปุ่นโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน

อนุสนธิประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว ที่ 31/2563 ลงวันที่ 29 กันยายน 2563 เรื่อง ญี่ปุ่นขยายประเภทคนไทยที่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้ นั้น
เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 รัฐบาลญี่ปุ่นได้ถอนประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่ห้ามเดินทางเข้าญี่ปุ่น และลดระดับคำเตือนการเดินทางเป็นระดับที่ 2 (งดการเดินทางที่ไม่เร่งด่วนและไม่จำเป็น) และจะยกเว้นให้ชาวญี่ปุ่น และชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาวในญี่ปุ่นที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลทางธุรกิจ สามารถเดินทางกลับเข้า ญี่ปุ่น โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เป็นต้นไป รายละเอียดสรุปได้ดังนี้

1. เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นได้ถอน8 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจออกจากรายชื่อประเทศที่ห้ามเดินทางเข้า ญี่ปุ่น ได้แก่ ออสเตรเลีย บรูไนฯ จีน (รวมฮ่องกงและมาเก๊า) นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม และลดระดับคำเตือนการเดินทางเป็นระดับที่ 2 (งดการเดินทางที่ไม่เร่งด่วนและไม่จำเป็น) จากเดิมระดับ 3 (งดการเดินทาง) มีรายละเอียด ดังนี้

1) ผู้ที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นจากประเทศ/เขตเศรษฐกิจข้างต้นไม่ต้องแสดงผลตรวจ PCR ที่เป็นลบก่อนการเดินทาง ไม่ต้องตรวจPCR เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่น แต่จะต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วันหลังจากเดินทางถึงญี่ปุ่นและห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะในช่วงดังกล่าว ขึ้นอยู่กับระยะเวลาที่พำนักอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น (ดูข้อ 2)) และอยู่ภายใต้เงื่อนไขอื่น ๆ ที่ทางการญี่ปุ่นกำหนด

2) ผู้ที่พำนักระยะยาวในญี่ปุ่น ซึ่งเดินทางไปต่างประเทศระยะสั้นและเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นภายในเวลาน้อยกว่า 7 วัน สามารถขอรับการตรวจ PCR เมื่อเดินทางถึงญี่ปุ่นได้หากไม่ต้องการกักตัว 14 วัน แต่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเองแต่ยังห้ามใช้ระบบขนส่งสาธารณะในช่วง14 วันหลังจากที่เดินทางถึงญี่ปุ่น

3) ญี่ปุ่นยังคงระงับวีซ่าและมาตรการยกเว้นวีซ่าสำหรับประเทศ/เขตเศรษฐกิจดังกล่าว ซึ่งหมายความว่า นักท่องเที่ยวของไทยที่ก่อนหน้านี้ได้รับการยกเว้นวีซ่า 15 วัน และมาตรการยกเว้นวีซ่าประเภทอื่น ๆ ยังไม่สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้รายละเอียดตามตารางจากเว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นที่แนบมาพร้อมนี้

2. รัฐบาลญี่ปุ่นจะยกเว้นให้ชาวญี่ปุ่นและชาวต่างชาติที่พำนักระยะยาวในญี่ปุ่น(residents) ที่เดินทางไปต่างประเทศด้วยเหตุผลทางธุรกิจ สามารถเดินทางกลับเข้าญี่ปุ่นโดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน โดยจำกัดช่วงเวลาการเดินทางไปต่างประเทศไม่เกิน 7 วัน และในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ รัฐบาลญี่ปุ่นขอความร่วมมือให้ใช้มาตรการป้องกัน การติดเชื้ออย่างเต็มที่ นอกจากนี้ จะต้องมีบริษัท/องค์กรรับผิดชอบการเดินทางดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร และยืนยันว่า ผู้เดินทางจะดำเนินการตามมาตรการกักกัน ได้แก่ ต้องตรวจ PCR และมีผลเป็นลบ ไม่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะและบันทึกสถานที่ที่เดินทางไปในช่วง 14 วันหลังจากที่เดินทางถึง พร้อมแจ้งแผนการเดินทางในญี่ปุ่นในช่วงดังกล่าว
รายละเอียดปรากฏตาม https://www.mofa.go.jp/ca/fna/page4e_001053.html#section6 และ https://www.mofa.go.jp/mofaj/press/...5_l9oF7DNseS9N9e0EehXyBEcbQ6hPO1kKipOxYYr2Usg
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่น สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่น และสถานกงสุลใหญ่ญี่ปุ่นประจำประเทศไทย

จึงขอประกาศมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

ประกาศ ณ วันที่ 6 พฤศจิกายน 2563

(นายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์)
เอกอัครราชทูต

 

ฮอนดูรัส: ประเทศในอเมริกากลาง ผู้คนกำลังรอการช่วยเหลือบนหลังคาบัาน ขณะน้ำกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆหลังจากเฮอริเคน ETA เอตา ความรุนแรงระดับ5 ถล่มวานนี้ทำให้ฝนตกหนัก ลมแรง 225 +กม./ชั่วโมง พื้นที่เสียหายเป็นบริเวณกว้าง
คลิปเพิ่ม


https://fb.watch/1B6pdCyf3l/