ติดตามสถานะการณ์

เยาวชนวัย 19 ปี แกนนำ #ปลดแอก #ฮ่องกง ยอมรับ #ฮ่องกงโมเดล พ่ายแพ้ หลัง #จีน บังคับใช้กฎหมายความมั่นคง หวังไม่เป็นฝุ่นใต้จีน แต่กลับสูญเสียยิ่งกว่าเดิม
.
จงหอลัม #鍾翰林 ถูกควบคุมตัวตาม #กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง หลังพยายามเข้าไปขอลี้ภัยในสถานกงสุลสหรัฐประจำฮ่องกง แต่ถูกปฏิเสธ เขาไม่เพียงเผชิญกับมีโทษจำคุก 3 ปีถึงตลอดชีวิต และยังถูกครอบครัวตัดขาด แนวร่วมต่างลี้ภัย แม้แต่มวลชนที่เคยร่วมประท้วงก็ค่อยๆ ลืมเลือน
.
จงหอลัม ยอมรับว่า “ตั้งแต่หลายปีก่อนก็เตรียมใจไว้แล้วว่า วันหนึ่งอาจต้องเดินเข้าคุก แต่คาดไม่ถึงว่าวันนั้นจะมาถึงเร็วเพียงนี้”
.
เขาเห็นว่าการประท้วงแบบสันติอหิงสาที่ผ่านมาไม่สามารถนำชัยชนะมาได้ จึงประกาศใช้ทุกวิถีทาง รวมทั้งการก่อจลาจล เพื่อเรียกร้องให้ฮ่องกงเป็นเอกราช แต่การใช้ความรุนแรงจนล้ำเส้นได้ทำให้รัฐบาลจีนล้มเกม ด้วยการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคง เขายอมรับว่า วันนี้เสรีภาพและสิทธิปกครองตัวเองของฮ่องกงถูกบีบคั้นยิ่งกว่าเดิม เอกราชฮ่องกงยิ่งห่างไกลความเป็นจริง
.
เขาบอกว่า “รัฐบาลจีนอยากให้ฮ่องกงเป็นเหมือนเมืองทั่วไปเมืองหนึ่งของจีน นี่คืออาณัติจากปักกิ่ง”
.
จงหอลัมเล่าว่า ตอนที่จีนเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกปี 2008 ชาวฮ่องกงมีความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นคนจีน ตอนนั้นคนฮ่องกงที่สนับสนุนแนวทางเอกราชมีแค่ 10% หลายคนบอกว่าเป็นเรื่อง “เพ้อฝัน” จนกระทั่งรัฐบาลจีนบิดพริ้วสัญญาที่จะให้เลือกตั้งผู้บริหารฮ่องกงโดยตรง ทำให้ชาวฮ่องกงต้องเลือกเส้นทางปลดแอก
.
หลังความล้มเหลวในการชุมนุมปี 2014 แนวทางปลดแอกฮ่องกงเป็นกระแสพุ่งแรง กลุ่มของเขาก้าวขึ้นมาเป็นแนวหน้าแทนฝ่ายสันติอหิงสา ใช้ความรุนแรงปะทะกับเจ้าหน้าที่ คุกคามผู้ที่เห็นต่าง จนกระทั่งเผาบ้านเผาเมือง ทำให้มีผู้ถูกจับกุมจำนวนมาก
.
หลังถูกดำเนินคดี จงหอลัมได้ครุ่นคิดใหม่ “เราอาจปลอบใจตัวเองว่าชนะแล้ว ที่ทำให้รัฐบาลถอนร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ แต่ว่าเพื่อนร่วมอุดมการณ์ถูกจับกุมจำนวนมาก สูญสิ้นทุกสิ่ง ผมไม่คิดว่านี่จะเรียกได้ว่าเป็นชัยชนะ”
.
วันนี้ จงหอลัมบอกว่า เราต้องกลับมาคิดใหม่ว่า นอกจากการประท้วงบนท้องถนนแล้วยังมีวิถีทางอื่นไหม?
.
เขาบอกว่าการประท้วงที่ไม่มีแกนนำ ทำให้ผู้ประท้วงไม่อาจสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ หลายคนคิดว่ามีคนออกมาบนท้องถนนมืดฟ้ามัวดิน ชัยชนะใกล้มาถึงแล้ว เดินหน้ากดดันรัฐบาลต่อเนื่อง ไม่ถอยแม้แต่ก้าวเดียว ไม่ยอมรับการเจรจา และก็ไม่รู้ด้วยว่าใครจะเป็นตัวแทนของผู้ชุมนุมทั้งหมดได้ ที่สำคัญคือ ไม่แน่ใจว่าเวทีเจรจาจะรับฟังความเห็นของประชาชนไหม

แต่การใช้ความรุนแรงจนทำให้รัฐบาลจีนต้องบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงฮ่องกง ทำให้ชัยชนะที่ผู้ประท้วงวาดหวัง ถูกล้มกระดานลง
.
เขาประเมินว่าว่า “คนฮ่องกงใช้ทุกวิถีทางแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ประชาธิปไตย หลายปีต่อจากนี้ ฮ่องกงคงเข้าสู่ความถดถอย ไม่น่าจะมีการประท้วงขนาดใหญ่ได้เหมือนเดิมอีก”
.
วันนี้ จงหอลัมยอมรับว่า “บางเรื่องต้องรอเวลาที่เหมาะสม แต่ไม่รู้ว่าเวลานั้นจะมาถึงเมื่อไหร่”
.
เขาบอกว่า ถึงแม้เราจะพ่ายแพ้ในวันนี้ แต่คนฮ่องกงไม่อาจนั่งรอความตาย สิ่งที่เราต้องทำตอนนี้คือ สร้างความรู้สึกร่วมในหมู่ชาวฮ่องกง ยืนหยัดในวัฒนธรรมและจิตวิญญาณท้องถิ่น รอจนถึงเวลาที่คนส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันจึงออกมาเรียกร้อง ถึงจะมีทางออกใหม่ได้”

ในการประท้วงฮ่องกง มีบทเพลงที่ได้รับความนิยมมากจนกลายเป็นเพลงประจำการชุมนุม คือ เพลง #海闊天空 ที่แปลว่า ฟ้ากว้างทะเลไกล ผลงานของ #Beyond วงร็อคชื่อดังแห่ง #ฮ่องกง ในปี 1993 หว่อง กา กุย นักร้องนำและผู้เขียนเพลงนี้ ได้แรงบันดาลใจมาจากการต่อสู้เรียกร้องเอกราชแอฟริกาของนายเนลสัน แมนเดลา โดยประยุกต์เพื่อบอกเล่าการไล่ตามความฝันบนเส้นทางดนตรีของเขา
.
ชื่อเพลง 海闊天空 ยังสอดคล้องกับภาษิตของจีนที่ว่า 退一步海闊天空 มีความหมายว่า “ถอยคนละก้าว ฟ้ากว้างทะเลไกล” ...นี่น่าเป็นสิ่งที่ชาวฮ่องกงที่ขับร้องเพลงนี้ และรัฐบาลจีนที่เข้าใจภาษิตนี้นำไปใคร่ครวญ เพราะท้องฟ้าที่ฮ่องกงและจีนก็คือฟ้าผืนเดียวกัน เพียงแต่มีทะเลกั้นเท่านั้น.

ย้อนอ่านตอนแรกที่

บทความเรียบเรียงจาก บทสัมภาษณ์ สำนักข่าวBBC https://www.bbc.com/zhongwen/trad/chinese-news-54629519

 

31.10.20

รัฐบาล เปลี่ยนแปลงคำแนะนำใหม่สำหรับการหยุดการติดเชื้อในบ้าน เนื่องจาก หลายคนติดเชื้อจากผู้ที่ตนเองอยู่อาศัยด้วย ดังนั้น รัฐบาล จึงชี้แจงคำแนะนำ และ กฎระเบียบ สำหรับเรื่องนี้

Helsedirektoratet และ Folkehelseinstituttet แนะนำมาตรการ 3 ประการดังต่อไปนี้ - #มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30.10.20

1.ผู้ที่ สัมผัสใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อ ที่มีอาการจะต้องถูก แยกตัว เช่นเดียวกับว่าพวกเขาเป็นผู้ติดเชื้อ (isoleres)

ผู้ที่ติดเชื้อโคโรนาไวรัส ควรแยกตัวเองเพื่อ กักกันตนเองที่บ้าน ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสควรได้รับการกักกันเช่นกัน ขณะนี้มีการแนะนำข้อกำหนดว่า ผู้ที่อยู่ในระหว่างกักกันตนเอง และ มีอาการป่วย #จะต้องแยกตัวเองทันที จนกว่าจะได้ผลการทดสอบเชิงลบ และจะต้อง กักกันตนเองให้ครบระยะเวลา 10 วัน แม้ว่าคุณจะมีผลทดสอบเป็นลบก็ตาม รัฐบาล กำลังเปลี่ยนกฎเกี่ยวกับการกักกัน และจะชี้แจงเรื่องนี้

*Isoleres หมายถึง การแยกตัวออกมา เช่น อยู่ในบ้านของตนเอง หรือ ในที่อยู่อาศัยอื่น ที่เหมาะสมโดย หลีกเลี่ยงกาาติดต่อกับผู้อื่นให้มากที่สุด

2.แนะนำให้ทำการทดสอบ ผู้ที่สัมผัสอย่างใก้ลชิด กับ ผู้ติดเชื้อ (Anbefales)
ทุกคนที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อจะต้องถูกกักกันตนเอง และ แนะนำให้เข้ารับการทดสอบ วิธีนี้จะสามารถทำให้ แยกสมาชิก ในครอบครัวที่ติดเชื้อ และ กักกันได้เร็วขึ้น และ ผู้ที่เข้าสุ่การกักกันตนเอง จะต้องอยู่ให้ครบ 10 วัน แม้ว่าคุณจะมีผลทดสอบเป็นลบก็ตาม

3.ผู้ใหญ่ในครัวเรือนเดียวกัน ที่ ถูกกักกัน ในเวลาเดียวกัน ควรเว้นระยะห่างจากกัน

ผู้ใหญ่ในครัวเรือนเดียวกันที่ถูกกักกันในเวลาเดียวกันควรเว้นระยะห่างจากกันให้มากที่สุด กฏนี้ ใช้กับสมาชิกในครอบครัวที่เป็น ผู้ใหญ่ ด้วยกัน เท่านั้น ไม่ได้ใช้กับ ผู้ใหญ่ ที่เป็นผู้ปกครองของ เด็กๆ (พ่อแม่ลูกยังสามารถพบกันได้ เมื่ออยู่ในการกักกันตัวภายในบ้านของตนเอง)

สำหรับหลาย ๆ คน เป็นการยากที่จะรักษาระยะห่างจากสมาชิกในครอบครัว เพื่อป้องกันไม่ให้ สมาชิกในครอบครัวแพร่เชื้อซึ่งกันและกันเทศบาล มีหน้าที่จัดหาที่พักให้กับผู้ติดเชื้อที่ไม่สามารถ แยกตัว ออกจากสมาชิกคนอื่นๆใน บ้านของตนเอง และ เมืองใหญ่ หลายเมืองมี โรงแรมสำหรับ กักกันตนเองของ ผู้ติดเชื้อ
.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ที่มา เวปไซต์รัฐบาล Regjeringen :
https://www.regjeringen.no/no/aktuelt/nye-tiltak-for-a-stoppe-smitte-i-hjemmet/id2782426/

 

แอปเปิลร่วงอันดับ 4 เสี่ยวหมี่ แซงขึ้นอันดับ 3 สมาร์ทโฟนโลก

ไอดีซี (International Data Corporation) ได้เปิดเผย (30 ต.ค.) รายงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดส่งสมาร์ทโฟนในไตรมาสที่สามของปี 2020 ซัมซุง ยักษ์ใหญ่ของเกาหลีใต้สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำไว้ได้

รายงานของไอดีซี (International Data Corporation – IDC) บริษัทที่ปรึกษาและวิจัยข้อมูลการตลาดชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านไอที โทรคมนาคม และคอนซูมเมอร์เทคโนโลยี เผยให้เห็นว่ายอดจัดส่งสมาร์ทโฟนประมาณ 353.6 ล้านเครื่อง ลดลง 1.3 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งดีกว่าที่คาดไว้เนื่องจากการระบาดของโควิด -19 ที่กำลังดำเนินอยู่ ซึ่งหลายประเทศถูกปิดกั้นเป็นเวลาหลายเดือน

ก่อนหน้านี้ IDC ได้คาดการณ์ว่าในไตรมาสที่สามของปีนี้ (เดือนกรกฎาคมถึงกันยายน) อาจมีการลดลงประมาณ 9 เปอร์เซ็นต์ แต่ตัวเลขที่แท้จริงดีกว่าที่คาดไว้

ตามรายงาน ซัมซุงครองตำแหน่ง ด้วยส่วนแบ่งตลาด 22.7 เปอร์เซ็นต์ มียอดจัดส่ง 80.4 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 บริษัทเติบโต 2.9 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบเป็นรายปี

หัวเว่ย อยู่อันดับที่สองด้วยยอดจัดส่ง 51.9 ล้านเครื่อง ครองตลาดทั่วโลกประมาณ 14.7 เปอร์เซ็นต์ แต่การจัดส่งของยักษ์ใหญ่ของจีนลดลงมากถึง 22 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบรายปี

ในขณะที่ตลาดหัวเว่ยลดลง แต่อีกตลาดก็เติบโตอย่างมาก เสี่ยวหมี่แซงหน้าแอปเปิลขึ้นมาเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับสามของโลก โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 13.1 เปอร์เซ็นต์ และมีการจัดส่ง 46.5 ล้านชิ้น มีการเติบโตถึง 42 เปอร์เซ็นต์ ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสมาร์ทโฟนระดับล่างและระดับกลาง โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา เช่น อินเดีย

แอปเปิล และ วีโว่ ครองตำแหน่งที่สี่และห้าโดยมีส่วนแบ่งตลาด 11.8 เปอร์เซ็นต์และ 8.9 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ ในขณะที่แอปเปิลจัดส่งสินค้าได้ 41.6 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 3 ปี 2020 วีโว่ของจีนมียอดขาย 31.5 ล้านเครื่อง

...................
ข้อมูล - https://www.gizmochina.com/2020/10/30/xiaomi-overtakes-apple-smartphone-shipments-q3-2020/

 

อัพเดทตัวเลขผู้เสียชีวิต 51 ราย (เวลา 15.00 น. 1 พ.ย.)
ตุรกี : จังหวัด อิซเมียร์ สรุปเหตุแผ่นดินไหวล่าสุด /เวลา 13.00น. 1 พ.ย 2563
-เสียชีวิต 51 ราย มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 896 คน ยอด 667 คนออกจากโรงพยาบาล229 คนยังอยู่ระหว่างการรักษา
-อาฟเตอร์ช็อก 833 ครั้งรุนแรง ขนาด -4.0 ถึง 40 ครั้ง
-ทางการยังคงทำการค้นหาตามซากตึก และ ชายฝั่ง

#อ่านเหตุการณ์ทั้งหมด

 

ฟิลิปปินส์ : เวลา 10.00น. สถานการณ์ภายในห้างสรรพสินค้าใน Polangui
#ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น GONI โคนี แรงลม 220กม./ชม. ความรุนแรงระดับ 4
รวมคลิป

# อ่านข่าวก่อนหน้าตามโพสนี้


https://fb.watch/1uioVmcTa2/

 

ฟิลิปปินส์ : ซุปเปอร์ไต้ฝุ่น GONi โคนี
#อัพเดท 11.00 น. /พายุไต้ฝุ่น โคนี ขึ้นฝั่งเวลา 05.00 น. ด้วยความเร็วลม 220 กม./ชม. ความรุนแรง ระดับ4
แรงลมสร้างความเสียหายจำนวนมาก ฝนตกหนัก มีน้ำป่าหลายพื้นที่ เวลา 11.00 น. พายุลดกำลังลงเล็กน้อย แต่ทางการยังเตือนภัยสูงสุด (สถานะพายุ พื้นที่ตามภาพ)
รวมคลิป

#ย้อนอ่านโพสแรกพายุโคนี เส้นทางพายุ

 

“พระกรีกออร์โธด็อกซ์” ถูกยิงนอกโบสถ์ลิยงระยะเผาขน คนร้ายถูกจับ
.
.
.
.เอเอฟพี/เอพี – มือปืนอุกอาจลอบยิงพระกรีกออร์โธด็อกระยะเผาขนตอนกำลังปิดโบสถ์ช่วงเที่ยงวันเสาร์(31 ต.ค) อาการขั้นสาหัส ขณะที่คนร้ายตำรวจฝรั่งเศสจับกุมได้สำเร็จ ตอนนี้ยังไม่ทราบแรงจูงใจ

เอเอฟพีรายงานวันนี้ 1 พ.ย ว่า พระนิกายกรีกออร์โธด็อกซ์วัย 52 ปี นิโคลาออซ คาคาเวลากี (Nikolaos Kakavelaki) ขณะที่กำลังปิดประตูโบสถ์ที่เมืองลิยง(Lyon)ในช่วงพักเที่ยงกลางวันของวันเสาร์(31 ต.ค)ถูกยิงโดยคนร้ายและในเวลานี้อยู่ในโรงพยาบาลในอาการขั้นสาหัส แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผย
,
มือปืนได้หลบหนีไปหลังก่อเหตุแต่ว่าอัยการเมืองลิยงชี้ว่า ถูกตำรวจจับกุมไว้ได้สำเร็จ “บุคคลที่มีรูปพรรณสอดคล้องกับพยานนั้นในเวลานี้อยู่ในการควบคุมตัวของตำรวจแล้ว” และเสริมต่อว่า ในขณะที่จับกุมคนร้ายพบว่าคนร้ายไม่มีอาวุธ นิโคลัส จาเคต์( Nicolas Jacquet) อัยการเมืองลิยงชี้
.
เขาชี้ต่อว่า ตามคำบอกเล่าของพยานและตำรวจพบว่า มีเสียงปืนดังขึ้นและเห็นคนวิ่งหลบหนีไปจากที่เกิดเหตุขณะที่มีชายคนหนึ่งมีร่องรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่บริเวณหน้าอกด้านนอกประตูโบสถ์ที่ด้านหลัง
.
ด้านอาร์คบิชอปแห่งนิกายกรีกออร์โธด็อกได้ออกมาประณามเหตุที่เกิดขึ้น โดยประณามความโหดเหี้ยมว่าเป็นสิ่งที่ท้าท้ายเหตุผลของมนุษย์
.
แหล่งข่าวตำรวจฝรั่งเศสเปิดเผยว่า บาทหลวงถูกยิงระยะเผาขนที่อก 2 นัด เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสกำลังตกเป็นเป้าการโจมตีและวิพากษ์วิจารณ์จากโลกมุสลิม และ 1 วันก่อนหน้าวิหารนอร์ทเธอดาม(Basilica of Notre-Dame) เมืองนีซตกเป็นเป้าโจมตีด้วยฝีมือชายอายุน้อยชาวตูนิเซียที่ถือมีดและคัมภีร์อัลกุรอานเข้าไปด้านในโบสถ์ก่อนที่จะใช้มีดตัดศรีษะผู้ที่เข้ามาสักการะ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย อ้างอิงจากเอพี
.
ซึ่งในวันศุกร์(1)เป็นช่วงเวลาที่ฝรั่งเศสล็อกดาวน์บริเวณที่โบสถ์ออร์โธด็อกซ์ที่มีขนาดเล็กแห่งนี้ตั้งอยู่ในแหล่งคนอาศัยของเมืองลิยงนั้นเงียบเป็นพิเศษ
.
เอเอฟพีรายงานว่าที่กรุงปารีส รัฐมนตรีมหาดไทยฝรั่งเศส เฌราลด์ ดาร์มาแนง (Gerald Darmanin) เปิดประชุมฉุกเฉินสำหรับสถานการณ์

 

อัปเด็ต: “ไต้ฝุ่นโกนี” ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ ดับ4 ดินถล่ม-ฝนตกหนัก-ลมแรงจัด ถึงขั้นสนามบินมะนิลาปิด.
.
.
.
เอเอฟพี/รอยเตอร์ – ไต้ฝุ่นโกนี(Typhoon Goni) ถือเป็นพายุที่มีความร้ายแรงที่สุดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ที่จังหวัดคาตันดัวเนสซึ่งเป็นเกาะในเวลา 04.50 น. วันอาทิตย์(1 พ.ย) ล่าสุดเสียชีวิต 4 ราย หลังเกิดลมพัดแรงจัดขั้นร้ายแรง ฝนตกหนัก และดินถล่ม 2 แห่ง ก่อนพายุเข้ามะนิลาออกคำสั่งให้อพยพคนออกไปอยู่ในที่ปลอดภัยร่วม 316,000 คนที่ภูมิภาคไบโคล มีการสั่งปิดท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ของกรุงมะนิลา เที่ยวบินต่างประเทศและในประเทศหลายสิบเที่ยวถูกยกเลิก
.
เอเอฟพีรายงานวันนี้(1 พ.ย)ว่า ไต้ฝุ่นโกนี(Typhoon Goni) ถือเป็นพายุที่มีความร้ายแรงที่สุดขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ที่จังหวัดคาตันดัวเนสซึ่งเป็นเกาะในเวลา 04.50 น. วันอาทิตย์(1 พ.ย) ซึ่งก่อนหน้าที่พายุจะเข้า อ้างอิงจากรอยเตอร์ 1 วันก่อนหน้า รัฐบาลมะนิลาสั่งให้อพยพประชาชนเกือบ 1 ล้านคนจากทางภาคใต้ของเกาะลูซอนซึ่งเป็นเกาะหลักไปอยู่ในที่ปลอดภัย
.
โดยไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยกำลังลมแรง 215 กิโลเมตร/ชั่วโมง และลมกรรโชก 265 กิโลเมตร/ชั่วโมง ทำให้เกิดลมพัดแรงจัดและฝนตกหนัก สำนักงานอุตุนิยมวิทยาฟิลิปปินส์และสำนักงานจัดการภัยพิบัติฉุกเฉินฟิลิปปินส์แถลง
.
ทางฟิลิปปินส์ระบุว่า ในอีก 12 ชั่วโมงข้างหน้าคาดว่า ลมที่มีระดับความรุนแรงขั้นหายนะและฝนที่ตกหนักจะเกิดขึ้นที่ภูมิภาคไบโคล(Bicol)ซึ่งประกอบไปด้วย ส่วนปลายสุดทางใต้ของเกาะหลักลูซอนและจังหวัดคาตันดัวเนส(Catanduanes)
.
“พื้นที่เหล่านี้ถือว่ามีความอันตรายเป็นพิเศษ”
.
โดยก่อนหน้าการเข้าของไต้ฝุ่น หัวหน้าหน่วยป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์ ริคาร์โด จาลาด(Ricardo Jalad)กล่าวว่า ได้มีการสั่งอพยพประชาชนจากภูมิภาคไบโคลเกือบ 1 ล้านคนออกไปอยู่ที่อื่นเพื่อความปลอดภัยแล้ว
.
แต่ทว่าวันนี้(1) เอเอฟพีชี้ว่า อเล็กซิส นาซ( Alexis Naz) โฆษกหน่วยป้องกันภัยพลเรือนฟิลิปปินส์แถลงว่า มีแค่ 316,000 คนเท่านั้นที่หนีออกจากบ้านไป
.
โฆษกกล่าวต่อว่า ผลจากลมพายุที่ด้านนอกสำนักงานมีต้นไม้หักโค่น รวมไปถึงฝนตกหนัก
.
เอเอฟพีชี้ว่า มีประชาชนร่วม 31 ล้านคนอยู่ตามทางผ่านของไต้ฝุ่นโกนี รวมถึงกรุงมะนิลา ที่ได้มีการสั่งอพยพประชาชนจากพื้นที่ราบลุ่มชุมชนแออัดออกไปซึ่งอาจตกเป็นเหยื่อของสตอร์มเสิร์จสูงหลายเมตรได้
.
นอกจากนี้สนามบินกรุงมะนิลา หรือ ท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ปิดลงเช่นกัน โดยรอยเตอร์ชี้ว่า มีเที่ยวบินหลายสิบเที่ยวระหว่างประเทศและในประเทศถูกสั่งยกเลิก
.
ซึ่งหลังพายุไต้ฝุ่นโกนีเข้ามีดินถล่มเกิดขึ้นไปแล้วในฟิลิปปินส์ 2 แห่ง และคาดว่าอาจจะเกิดดินถล่มแห่งที่ 3 ที่จังหวัดเกซอน( Quezon) ภายหลังในวันนี้(1)
.
รอยเตอร์รายงานเข้ามาว่า พายุทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 4 รายที่ภูมิภาคไบโคลซึ่งเป็นจุดที่เกิดดินถล่ม 2 แห่ง โดยผู้ว่าราชการจังหวัด อัล ฟรานซิส บิคารา( Al Francis Bichara) เปิดเผยและเสริมต่อว่า เหยื่อผู้่เสียชีวิตรวมไปถึง 1 รายที่ถูกต้นไม้ล้มทับและเด็กหญิงวัย 5 ปีถูกกระแสน้ำพัดพาไป
.
ด้านโฆษกประจำตัวผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า ประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต กำลังเฝ้าจับตาสถานการณ์จากบ้านเกิดทื่เมืองดาเวาอยู่ในเวลานี้
.

 

สหรัฐฯสั่งตัด “จีเอ็สพีไทย” ตอบโต้ความขัดแย้งนำเข้าเนื้อหมู
.
เอเอฟพี/mgrออนไลน์ – ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) แถลงวันศุกร์(30 ต.ค)ว่า จะตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ จีเอ็สพี กับไทย หลังรัฐบาลไทยล้มเหลวในการนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อหมูจากผู้ผลิตอเมริกัน ส่งผลกระทบมูลค่า 817 ล้านดอลลาร์ต่อสินค้าส่งออกไทยรวมไปถึง มะม่วง สัปรด อุปกรณ์ตกแต่งเล็บเพื่อความงาม ท่อเหล็ก และอัญมณี และทางสหรัฐฯจะเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.คนี้
.
เอเอฟพีรายงานเมื่อวานนี้(31 ต.ค)ว่า ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ โรเบิร์ต ไลไฮเซอร์ แถลงวันศุกร์(30 ต.ค)ว่า
.
“การตัดสินใจตัดสิทธิพิเศษทางภาษี หรือ จีเอ็สพี กับไทยในเรื่องเนื้อหมูของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ นั้นแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลที่จะเพิ่มการเฝ้าจับตาและการบังคับต่อนโยบายสิทธิพิเศษทางการค้าของเรา(trade preference program)”
.
นั้นคิดเป็น 1 ใน 6 ของสิทธิพิเศษของไทยที่ได้รับจากโครงการที่เรียกว่า จีเอสพี (GSP: Generalized System of Preferences) หรือ “ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร”
.
เอเอฟพีรายงานว่า สินค้าไทยที่ได้รับผลกระทบจากการถูกตัดจีเอสพีครั้งนี้คือ มะม่วง สัปรด อุปกรณ์ตกแต่งเล็บเพื่อความงาม ท่อเหล็ก และอัญมณี
.
ทั้งนี้สมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC (National Pork Producers Council) ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนในปี 2018 เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่สหรัฐฯมีมาตรการต่อไทย
.
โดยจีเอ็สพีจะอนุญาตให้สินค้าปลอดภาษีสามารถเข้าสู่ตลาดอเมริกาสำหรับสินค้า 3,500 ประเภทจาก 119 ชาติทั่วโลก โดยในการแลกเปลี่ยนเพื่อปกป้องสิทธิแรงงาน สิทธิบัตรทรัพย์สินทางปัญญา และทำให้เกิดความมั่นใจถึง "การเข้าสู่ตลาดอย่างความเท่าเทียมและมีเหตุผล"
.
ผู้แทนการค้าสหรัฐฯชี้ว่า วอชิงตันตัดสินใจยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีบางส่วนต่อไทยจากการที่ไทยล้มเหลวในการอนุญาตให้มีการนำเข้าเนื้อหมูจากผู้ผลิตอเมริกัน
.
ซึ่งความเคลื่อนไหวการตัดจีเอสพีครั้งนี้ส่งผลมูลค่า 817 ล้านดอลลาร์ต่อสินค้าส่งออกไทยที่จะเริ่มต้นบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค เนื่องจากขาดความก้าวหน้าอย่างชัดเจนในการให้เหตุผลต่อสหรัฐฯถึงการเข้าสู่ตลาดไทยของผลิตภัณฑ์เนื้อหมูของผู้ผลิตสหรัฐฯถึงแม้จะมีการใช้เวลาหารือในเรื่องนี้มาถึง 12 ปีแล้วก็ตาม
.
ทั้งนี้อ้างอิงจากเว็บไซต์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯพบว่าทางสำนักงานได้รับเรื่องร้องเรียนจากสมาคมผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC เมื่อวันที่ 17 พ.ค ถึงปัญหาการส่งออกเนื้อหมูเข้าสู่ตลาดไทย โดยในหนังสือร้องเรียน ทางสมาคมระบุว่าไทยไม่เข้ามาตรฐานตามสิทธิที่จะได้รับสิทธิพิเศษทางภาษี จีเอสพี ที่กำหนดให้ต้องให้การเข้าสู่ตลาดอย่างเท่าเทียมและมีเหตุผล แต่ทางไทยยังคงมีข้อกำหนดมากมายในการจำกัดการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐเข้าสู่ตลาดในประเทศ
.
ซึ่งในข้อกำหนดการจำกัดยังรวมไปถึงการห้ามนำเข้าเนื้อหมูที่ไม่ผ่านการปรุงสุก ผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนต่างๆของหมู และห้ามการนำเข้าเนื้อหมูที่ใช้สารเร่งเนื้อแดง(ractopamine)
.
นอกจากนี้ในคำร้องที่ยื่นถึงสำนักผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ทางผู้ผลิตเนื้อหมูแห่งชาติสหรัฐฯ NPPC ยังชี้ว่ารัฐบาลไทยน้อยครั้งที่จะออกใบอนุญาตการนำเข้าสำหรับเนื้อหมูและมีการขนส่งที่มีจำนวนไม่กี่ครั้งยังมีค่าธรรมเนียมการตรวจสอบที่แพง
.
เว็บไซต์ของสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯยังชี้ว่า การพิจารณาถึงสิทธิจีเอสพีของไทยนั้นมีหนังสือร้องเรียนจากสมาพันธ์แรงงานอเมริกันและสภาคองเกรสแห่งองค์กรอุตสาหกรรม AFL-CIO( American Federation of Labor and Congress of Industrial Organizations)ยื่นค้างอยู่ก่อนแล้ว
.
จากตัวเลขปี 2019 พบว่าไทยเป็นคู่ค้าในการส่งสินค้าเข้าสู่ตลาดสหรัฐฯใหญ่สุดเป็นอันดับที่ 16 โดยมีมูลค่าสินค้านำเข้าจากไทยราว 33.4 พันล้านดอลลาร์ สูงขึ้น 5.0% หรือราว 1.6 พันล้านดอลลาร์จากปี 2018 โดยสินค้าเครื่องจักรหนักจากไทยเป็นสินค้าที่เข้าสหรัฐฯมากที่สุดในปี 2019 จำนวน 8.4 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอันดับ 2 คือเครื่องจักรไฟฟ้า 7.6 พันล้านดอลลาร์ อันดับ 3 ยาง จำนวน 4.0 พันล้านดอลลาร์ และรถยนต์ จำนวน 1.2 พันล้านดอลลาร์
.
ซึ่งสินค้าผักผลไม้ไทยในปี 2019 ที่สหรัฐฯนำเข้ามีจำนวน 154 ล้านดอลลาร์โดยการตัดจีเอสพีที่ถูกประกาศในวันศุกร์(30 ต.ค)จะกระทบในส่วนนี้

 

อดีตนักแสดงเจมส์ บอนด์ ชาวสกอตแลนด์ เซอร์ฌอน คอนเนอรี่ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 90 ปี เซอร์ฌอน คอนเนอรี เคยรับบทสายลับ 007 หรือ เจมส์ บอนด์ มาด้วยกันถึง 7 ภาค ได้แก่
พยัคฆ์ร้าย 007 Dr. No ปี 1962
เพชฌฆาต 007 From Russia with Love ปี 1963
จอมมฤตยู 007 Goldfinger ปี 1964
ธันเดอร์บอลล์ 007 Thunderball ปี 1965
จอมมหากาฬ 007 You Only Live Twice ปี 1967
007 ยอดพยัคฆ์ราชินี On Her Majesty's Secret Service ปี 1969
007 เพชรพยัคฆราช Diamonds Are Forever ปี 1971
.
เขาเคยได้รับรางวัลออสการ์สาขาดาราประกอบชายยอดเยี่ยม จากภาพยนตร์เรื่อง The Untouchables ในปี ค.ศ. 1987
.
ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดที่เขาเล่นคือ The League of Extraordinary Gentlemen ในปี ค.ศ. 2003

 

ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด ของอินโดนีเซียประนามในวันเสาร์ (31) ต่อสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นการโจมตี "ก่อการร้าย" ในฝรั่งเศส แต่ก็เตือนด้วยว่าความคิดเห็นของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง เป็นการดูหมิ่นศาสนาอิสลามและทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของชาวมุสลิมทุกแห่งหน
.

บรรดาองค์กรอิสลามอนุรักษนิยมในอินโดนีเซีย ประเทศที่มีชาวมุสลิมมากที่สุดในโลก ปลุกกระแสการประท้วงและคว่ำบาตรฝรั่งเศส พร้อมกับแชร์รูปมาครงมีใบหน้าเหมือนกับปีศาจตาสีแดง
.

"เสรีภาพในการพูดที่ทำร้ายค่านิยมอันบริสุทธิ์และศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของศาสนานั้นไม่ถูกต้อง มันไม่ควรได้รับการปกป้องและมันจำเป็นต้องหยุด" ผู้นำแดนอิเหนา ซึ่งคนส่วนใหญ่เรียกว่า โจโควี กล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์
.

อย่างไรก็ตาม การเชื่อมโยงศาสนากับการก่อการร้ายก็เป็นสิ่งผิดมหันต์เช่นกัน ผู้ก่อการร้ายก็คือผู้ก่อการร้าย
.

อ่านต่อ >> https://mgronline.com/around/detail/9630000113000

 

ต้านไม่ไหว!อังกฤษกลับสู่ล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังเป็นชาติที่9โลกยอดติดเชื้อโควิดทะลุ1ล้านคน

นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน สั่งให้อังกฤษกลับสู่มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ หลังสหราชอาณาจักรมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ผ่าน 1 ล้านคน ท่ามกลางความกังวลว่าระลอกสองของการแพร่ระบาดเสี่ยงทำให้ระบบสาธารณสุขรับมือไม่ไหว

https://mgronline.com/around/detail/9630000113059

 

ไม่ฟังเสียงโต้แย้ง!ห้างค้าปลีกสหรัฐฯ'คอสต์โก'ประกาศเลิกขายกะทิชาวเกาะ อ้างใช้แรงงานลิง

มีรายงานว่า คอสต์โก ห้างค้าปลีกรายใหญ่ของสหรัฐฯ หยุดสั่งซื้อกระทิชาวเกาะ หลังจากกลุ่มพิทักษ์สัตว์พีต้า กล่าวหาบริษัทผู้ผลิต "เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด" บังคับใช้แรงงานลิง

https://mgronline.com/around/detail/9630000113063

 

อลหม่าน!เกิดเหตุประท้วงรุนแรงทั่วสเปน ต้านประกาศภาวะฉุกเฉินโควิด-19

นายกรัฐมนตรีสเปนในวันเสาร์(31ต.ค.) แถลงประณามเหตุประท้วงรุนแรงหลายจุดตามเมืองต่างๆทั่วประเทศ ระหว่างการชุมนุมต่อต้านข้อจำกัดต่างๆที่กำหนดออกมาเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกสอง หลังประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรอบใหม่ เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่แล้ว

https://mgronline.com/around/detail/9630000113067

 

โดนรวบเป็นชุด!จับ7ส.ส.ฝักใฝ่ประชาธิปไตยฮ่องกง ฐานขัดขวางประชุมสภาฯ

สมาชิกฝ่ายฝักใฝ่ประชาธิปไตยในสภานิติบัญญัติแห่งฮ่องกง 7 คนถูกรวบตัวในวันอาทิตย์(1พ.ย.) ตามข้อกล่าวหาต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการขัดขวางการประชุมสภาฯเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ความเคลื่อนไหวที่มีขึ้นหลังจากปักกิ่งผ่านกฎหมายความมั่นคงฉบับใหม่บังคับใช้กับเกาะแห่งนี้ในเดือนมิถุนายน

https://mgronline.com/around/detail/9630000113079

 

ลมแทบจับ!!เจองูหลามตัวเบิ้มความยาว3เมตรซุกในห้องเครื่องรถยนต์(ชมคลิป)

เจ้าของรถฟอร์ด มัสแตง ในสหรัฐฯ ถึงกับช็อก เปิดกระโปรงด้านหน้ารถเพื่อเช็กอาการ แต่ภาพที่พบกลับเป็นงูหลามขนาดใหญ่มีความยาว 10 ฟุต(ราว 3 เมตร) นอนนิ่งอยู่ภายในห้องเครื่อง

https://mgronline.com/around/detail/9630000113072

 

⚠️ [BREAKING] ⚠️ ไม่รอด ! อังกฤษสั่ง Lock Down ทั่วประเทศอีกรอบ ! หลังยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดทะลุ 1 ล้านราย จะส่งผลกระทบอย่างสูงต่อเศรษฐกิจของประเทศแน่ๆ และนักลงทุนควรจับตามองช่วงเปิดตลาดวันจันทร์นี้ให้ดี

#น่าจะเป็นข่าวใหญ่ที่สุดในตลาดในช่วงสุดสัปดาห์นี้แล้ว ทางบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษสู้การระบาด Wave 2 ไม่ไหวและได้ออกมาประกาศเมื่อเช้านี้ว่าจะทำการ Lock Down ประเทศอังกฤษแบบทั่วประเทศเป็นครั้งที่ 2 เป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน หลังยอดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศดีดเกิน 1 ล้านคนแล้ว

ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันของอังกฤษยังคงดีดสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดขึ้นไปแตะระดับ 24,000 รายต่อวันแล้ว หรือเป็นระดับที่สูงที่สุดเป็นอันดับที่ 7 ของโลกในเวลานี้ และมีผู้เสียชีวิตรวม 46,645 รายแล้วในประเทศ

การระบาด Wave 2 ในยุโรปโดยรวมยังน่าเป็นห่วงหลังจากทางฝรั่งเศสและเยอรมันก็เพิ่งประกาศ Lock Down ไปในอาทิตย์ที่ผ่านมา สุดสัปดาห์นี้นอกจากทางอังกฤษแล้วประเทศออสเตรีย กรีซ และโปรตุเกส ก็เพิ่งประกาศยืดการ Lock Down ต่อไปเช่นเดียวกัน

ปัญหาที่น่ากลัวในยุโรปตอนนี้สองอย่างคือ #ประชาชนไม่ยอมใส่หน้ากาก และ #หน้าหนาวที่กำลังจะมาถึง

รายละเอียดสำคัญในการ Lock Down ของอังกฤษรอบนี้ ที่จะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย. เป็นต้นไป

1️⃣ ร้านอาหาร ผับ ธุรกิจบริการ และ ร้านค้าที่ขายสินค้าที่ไม่จำเป็น จะต้องปิดเป็นเวลา 1 เดือน

2️⃣ แต่ข่าวดีคือ #การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก จะได้รับอนุญาตให้จัดต่อไปได้

3️⃣ สถานศึกษายังจะได้รับอนุญาตให้เปิดต่อไป

4️⃣ จำกัดให้ประชาชนพบปะกับคนที่ไม่ได้เป็นสมาชิกครัวเรือนในพื้นที่กลางแจ้งได้ครั้งละ 1 คนเท่านั้น

ติดตามข่าวสารในตลาดโลกและการลงทุนไปกับทางเพจอย่างรวดเร็วและทันตลาด !

แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

#ทันโลกกับTraderKP

 

มาดากัสการ์เฮ! นักวิทย์พบกิ้งก่าคาเมเลี่ยนVoeltzkow อีกครั้ง! หลังไม่พบกว่า 100 ปี! ชี้มีชีวิตอาศัยแค่ช่วงหน้าฝน สีสันเอกลักษณ์ ถูกคุกคามตัดทำลายป่า
•
กิ้งก่าคาเมเลี่ยน Voeltzkow ที่พบครั้งสุดท้ายเมื่อ 100 ปีก่อนถูกพบอีกครั้งในมาดากัสการ์ โดยนักวิทยาศาสตร์ขณะทำการสำรวจศึกษา
•
นักวิทยาศาสตร์พบสายพันธุ์กิ้งก่าคาเมเลี่ยนที่พบครั้งสุดท้ายเมื่อ 100 ปีก่อน อีกครั้งในด้านตะวันตกเฉียงเหนือของมาดากัสการ์
•
ในรายงานที่ตีพิมพ์ในวารสาร Journal Salamandra ทีมศึกษาจาก Bavarian State Collection of Zoology (ZSM) เผยว่าจากการวิเคราะห์ยีนพบว่าสายพันธุ์มีความใกล้เคียงกับ Labord's Chameleon
•
นักวิจัยเชื่อว่าสัตว์เลื้อยคลานทั้งสองสายพันธุ์อาศัยเฉพาะในหน้าฝน ฟักไข่ เติบโตอย่างรวดเร็ว ผสมพันธุ์ และตายในเวลาไม่กี่เดือน
•
โดยตัวเมียของสายพันธุ์ Voetzkow ที่ไม่เคยได้มีข้อมูลก่อนหน้านี้ นักวิจัยเผยว่ามีลาย และสีที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเจาะจงในช่วงตั้งท้อง ในช่วงพบตัวผู้ หรือเวลาเครียด
•
นักวิทยาศาสตร์เผยว่าถิ่นอาศัยของกิ้งก่าคาเมเลี่ยน Voeltzkow นั้นอยู่ภายใต้ภัยคุกคามจากการตัดไม้ทำลายป่า
•
ที่มา

https://www.theguardian.com/environment/2020/oct/30/voeltzkow-chameleon-rediscovered-madagascar
•
ร่มธรรม ขำนุรักษ์
Environman

 

เรื่องสิทธิ GSP (Generalized System of Preferences) ที่ทางรัฐบาลของ Donald Trump ประกาศจะตัดของไทยออกในปลายปีนี้ จะว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลก็จริง แต่ในแง่หนึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ถึงขั้นน่าตกใจอะไรขนาดนั้น เพราะเรื่องการจะตัดสิทธิ GSP นี้ได้รับการพูดถึงมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว

สำนักงานตัวแทนการค้าของฝั่งอเมริกา (ที่นำโดย Bob Lighthizer) ก็เคยออกมาพูดแถลงการณ์ข่าวเกี่ยวกับกรณีของไทยมาหลายรอบแล้ว อ้างว่าไทยไม่ได้เล่นตามเกมการค้าของสหรัฐอเมริกา เรื่อง การนำเข้าเนื้อหมูจากเกษตรกรของสหรัฐอเมริกา กับประเด็นเรื่องแรงงาน

จริงๆแล้วเรื่องนี้ในมิติของการทูตและนโยบายการทางการค้าของปีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เรื่อง หมู หลายๆท่านก็คงจะเคยได้ยินกันมาก่อนอยู่แล้วว่า หมูของเกษตรกรอเมริกานั้นมันไม่เหมือนหมูทั่วๆไป แต่เป็นหมูที่ทางแวดวงปศุสัตว์ แวดวงเกษตรกรรมเขาบ่นกันมากว่าเป็นหมูฉีดสารบ้าง ฉีดฮอร์โมนบ้าง

ผมไม่แน่ใจว่าเขาเรียกสารนั้นว่าอะไร อาจจะเรคโตพามีน หรือฮอร์โมนอะไรสักอย่าง (ตรงนี้ถ้าใครมีความรู้ก็มาช่วยเสริมข้างล่างก็ได้ครับ) แต่มันเป็นปัญหามากๆสำหรับประเทศที่ต้องการจะทำการค้าขายกับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะในยุคของ Donald Trump ที่มองเรื่องการค้าเป็นเกมแบบยื่นหมูยื่นแมว (transactionalism)

เพราะยุทธศาสตร์การพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาจะพยายามหาทางบีบให้คู่ค้าซื้อสินค้า นำเข้าสินค้าของอเมริกาเพิ่มมากขึ้นให้ได้ในทุกๆวิถีทาง อันนี้ไม่ใช่ประเทศไทยอย่างเดียวนะครับที่โดน แต่ไต้หวัน อังกฤษอะไรพวกนี้ก็โดนเหมือนกันหมด เรื่องหมูเนี่ย ใครที่อยากเป็นคู่ค้า หวังจะเกาะอเมริกานั้นโดนขู่มาหมดแล้ว

อย่างไต้หวันนี้ ก็เพิ่งโดนเรื่องหมูไปไม่นาน รัฐบาล Trump ก็ตั้งใจจะส่งทูตไปคุยล็อบบี้อยู่หลายรอบเหมือนกัน แต่มันมาเป็นช่วงประจวบเหมาะกับที่ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับไต้หวันดิ่งลงเหว มาได้ 4-5 ปีพอดีประธานาธิบดี Tsai Ing-wen ก็อยู่ในสถานะที่ต้องการจะตีสนิทกับอเมริกา Trump ส่งคนไปตามตื๊อนิดหน่อยไต้หวันก็ยอมโอนอ่อนให้

ส่วนของอังกฤษนี้ ก็โดน Trump เอาหมูฉีดสารมาขู่เหมือนกัน ว่าถ้าอยากจะออกจากสหภาพยุโรปแล้วเอนมาหาสหรัฐอเมริกาในทางเศรษฐกิจ ก็ต้องยอมเปิดทางให้อเมริกาส่งหมูฉีดสารของเกษตรกรเขาเข้าไปขายในอังกฤษ ซึ่งก็เท่ากับว่าจะต้องเข้าไปทุบตลาดของเกษตรกรที่อังกฤษ ก็เป็นประเด็นที่ตึงเครียดภายในพรรค Conservative ขณะนี้

เรื่องที่ไทยโดนตัดสิทธิ์ GSP เพราะหมูอะไรนี้จึงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจอะไรครับ มันเป็นความเป็นไปได้ที่ถูกเผยออกมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว ว่าเขาจะทำ จะด้วยเหตุผลด้านการค้า หรือจะเป็นด้านการเมืองระหว่างประเทศที่อยู่เบื้องหลัง (อย่างเรื่องการใกล้ชิดจีนมากเกินไป หรือการมีประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนก็ตาม)

เราเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจและอิทธิพลเล็กกว่า สิ่งที่เราทำได้มีแต่การเตรียมตัวรับมือกับผลกระทบ และเตรียมปรับตัว ปรับทิศทางทางด้านนโยบายต่อไป ว่าเราจะทำอย่างไรหลังจากนี้ ทางเลือกมีตั้งหลากหลายทาง เอาง่ายๆเลยก็หันไปขอร้องให้จีนช่วยเหลือได้ (ไม่ยาก) จีนนั้นยินดีที่จะเข้ามาเสียบแทนอยู่แล้ว

อย่างกัมพูชาพอโดนสหภาพยุโรปประกาศตัดสิทธิ EBA (Everything But Arms) ในปีก่อน เขาก็แก้ปัญหาด้วยการไปง้อจีน ไปง้อประธานาธิบดี Xi Jinping แล้วขอให้จีนทำ FTA กับกัมพูชา เจรจากันจริงๆไม่ถึง 1 ปี (ไม่น่าจะเกินครึ่งปีด้วยซ้ำ) จีนก็เปิด FTA ให้กัมพูชา

เราจะเอาอย่างนั้นไหม? ถ้าจะเอาแบบนั้นก็ได้นะครับ ง่ายๆเลย หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือ ถ้าอเมริกาตัดสิทธิ GSP กับไทย เราก็ไปหาช่องทางในการเจรจาข้อตกลงการค้าฉบับอื่นก็ได้ เรามีความสัมพันธ์ในภาพรวมที่ดีกับสหรัฐอเมริกาอยู่แล้ว ไม่มี GSP ในส่วนนี้ เราก็ขอเจรจาขอสิทธิอื่น ขออย่างอื่นมาทดแทนได้

เขาตัดแค่สิทธิ GSP ไม่ได้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย ดังนั้นสถานการณ์มันไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้นครับ มันมีความเสียหายเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ใช่จุดจบของทุกอย่าง ไทยกับอเมริกายังมีความสัมพันธ์กันอยู่ ดังนั้นยังสามารถคุยได้ จะทำอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น โอกาสเปิดตลอด

อย่างญี่ปุ่นช่วงนี้ก็กำลังเดินสายหาพันธมิตร และกระชับมิตรกับประเทศในแถบ ASEAN เพื่อช่วยสหรัฐอเมริกาดึงประเทศในแถบเอเชียตะวันออก และเพื่อนบ้านรอบๆแปซิฟิคตีตัวออกห่างจากจีนอยู่ การแข่งขันของมหาอำนาจภายในภูมิภาคมันดุเดือดมากครับช่วงปลายปีนี้ ไทยสามารถใช้ประโยชน์จากมิตินี้ได้

แต่ขออนุญาตให้ข้อคำนึงไว้ประการหนึ่ง FTA ที่จีนทำกับกัมพูชา ฉบับล่าสุดนั้น ในระยะยาวไม่ได้ช่วยอะไรกับ Profile ด้านการค้าขายของกัมพูชามากนัก และไม่อาจช่วยเหลือหรืออุ้มอุตสาหกรรมโรงงาน-การผลิตเสื้อผ้าได้มากเท่าที่หลายๆคนคาดหวังไว้ เพราะ FTA ใหม่ที่จีนมีกับกัมพูชานั้นเป็น FTA ที่มุ่งเน้นไปกับสินค้าประเภทพืชผลทางการเกษตร ซึ่งไม่ได้มีมูลค่าหรือความหมายทางเศรษฐกิจอะไรขนาดนั้น

ฉะนั้นหากไทยเราจะหันไปหาจีนเพื่อแก้ปัญหาจึงพึงระวัง และพิจารณาข้อจำกัดบางอย่างของการทำข้อตกลงการค้าแบบทวิภาคีร่วมกับจีนไปด้วยครับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารูปแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นกับทางกัมพูชา เพราะมันจะส่งผลเสีย และความเสียหายต่อระบบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทยในระยะยาว

** ขออภัยที่ไม่ค่อยได้มีเวลามาเขียนอะไรยาวๆในช่วงหลังๆนี้ ช่วงก่อนหน้านี้ผมมีติดวงประชุมหลายวง ต้องไปต่างจังหวัดอยู่บ่อยๆ เลยมีเวลาเขียนอะไรเล่นๆแค่โพสต์แบบสั้นๆใน Blockdit (แนวๆเล่าข่าวเป็นส่วนใหญ่ไม่ได้เน้นวิเคราะห์ จึงไม่ได้เอามาลงใน Facebook ครับ)

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า!!! ล่าสุด Goh Miah Kiat ซีอีโอบริษัท Karex ผู้ผลิตถุงยางอนามัยอันดับ 1 ของมาเลเซีย เปิดเผยว่า ยอดขายถุงยางอนามัยผ่านช่องทางออนไลน์พุ่งขึ้น 7 เท่าในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 สาเหตุหลักมาจากการล็อกดาวน์สกัด COVID-19 ซึ่งเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม

Goh Miah Kiat กล่าวว่า “ผู้คนจำนวนมากมีกิจกรรมในห้องนอนมากขึ้นเพราะไม่มีอะไรให้ทำและคุณไม่สามารถออกไปไหนได้ในช่วงล็อกดาวน์สกัด COVID-19 และผมเดาว่ามันเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่ต้องการมีลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นคู่รักที่อายุน้อย เพราะอนาคตไม่สามารถคาดเดาได้เลยในตอนนี้”

** Karex เป็นหนึ่งในผู้ผลิตถุงยางอนามัยรายใหญ่ของโลก โดยผลิตถุงยางอนามัยมากกว่า 5 พันล้านชิ้นต่อปี หรือเฉลี่ย 10 ล้านชิ้นต่อวัน ทั้งนี้ ร้อยละ 50 ของถุงยางอนามัยที่ Karex ผลิตนั้น เป็นไปตามความร่วมมือกับรัฐบาลสำหรับโครงการอนามัยทางเพศ ทำให้ถุงยางอนามัยทำรายได้เพียง 1 ใน 3 ของบริษัทเท่านั้น ส่วนที่เหลือมาจากการเป็นผู้รับผลิตสินค้า (OEM) และทำวิจัยเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ (ODM) ของผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดแบรนด์อื่นๆ และมีรายได้จากผลิตภัณฑ์คุมกำเนิดและผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทางเพศของตัวเองด้วย.
------------------------------------
อ่านต่อ : https://www.pptvhd36.com/news/ประเด...QPvJ7M5t26DeDnUfHj8QrSDKtKaocQ_-uFQ4kI345Ir3o