ติดตามสถานะการณ์

วิกฤตก่อนเลือกตั้ง!สหรัฐฯติดเชื้อโควิดรายวันทะลุ9หมื่นคน สูงสุดตั้งแต่ระบาด

สหรัฐฯพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่รายวัน ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในวันพฤหัสบดี(29ต.ค.) และเป็นครั้งแรกที่มีผู้ติดเชื้อใหม่เกินกว่า 90,000 คนในรอบ 24 ชั่วโมง ตามข้อมูลของมหาวิทยาลัยจอห์นส ฮอปกินส์

https://mgronline.com/around/detail/9630000112519

 

มีเสียวเล็กน้อย!เครื่องบินปริศนาบินโฉบใกล้เวทีหาเสียงทรัมป์ รุดส่ง F-16เข้าสกัด(ชมคลิป)

เครื่องบินปริศนาลำหนึ่ง บินเฉียดใกล้เวทีหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในแอริโซนา เมื่อวันพุธ(28ต.ค.) กระตุ้นให้กองทัพอากาศสหรัฐฯ ต้องส่งเครื่องบินขับไล่เข้าสกัดเป็นการด่วน ท่ามกลางเสียงฮือฮาของฝูงชนที่มาร่วมรับฟังการปราศรัยของประธานาธิบดี

https://mgronline.com/around/detail/9630000112505

 

ฝรั่งเศสผวา!คุ้มกันสถานที่สำคัญ หลังหนุ่มตูนิเซียตะโกน'อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่'ตัดหัวและสังหารรวม3ศพ

พบชายที่ตะโกน 'อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่(Allahu Akbar)' ตัดศีรษะหญิงรายหนึ่ง และสังหารคนอื่นๆอีก 2 ราย ที่โบสถ์แห่งหนึ่งในเมืองนีซ ประเทศฝรั่งเศสเมื่อวันพฤหัสบดี(29ต.ค.) ก่อนถูกยิงและควบคุมตัวโดยตำรวจ เป็นชาวตูนิเซีย เหตุการณ์สยองขวัญที่กระตุ้นให้รัฐบาลต้องเสริมกำลังคุ้มกันสถานที่สำคัญต่างๆ

https://mgronline.com/around/detail/9630000112478

 

‘ทรัมป์-ไบเดน’ลุยหาเสียงรัฐฟลอริดา ขณะเคสใหม่‘โควิด’พุ่งวันละกว่า7หมื่นคน

ทั้ง“ทรัมป์” และ “ไบเดน” ต่างลุยหาเสียงในรัฐฟลอริดา สนามเลือกตั้งสำคัญที่ต้องชนะ ในศึกชิงทำเนียบขาวซึ่งวันตัดสินใกล้เข้ามาทุกขณะ ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาที่สาหัสขึ้นเรื่อยๆ โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 71,000 คน ตรงข้ามกับคำอวดอ้างของประธานาธิบดีที่ว่า สถานการณ์กำลังดีขึ้น ด้านผู้ท้าชิงลั่นพร้อมใช้แนวทางวิทยาศาสตร์จัดการโควิดตั้งแต่วันแรกหากชนะเลือกตั้ง

รัฐฟลอริดาซึ่งมีคณะผู้เลือกตั้งเป็นจำนวน 29 เสียง ขณะที่ประวัติการโหวตที่ผ่านมาก็ไม่มีความแน่นอนว่าเอนเอียงไปทางพรรคไหน จึงกลายเป็นสมรภูมิสำคัญในการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังจะมีขึ้นในวันอังคารหน้า (3 พ.ย.) โดยโพลล่าสุดของรอยเตอร์/อิปซอสระบุว่า ผู้ตอบแบบสอบถามในรัฐนี้ 49% จะเลือกโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต และ 47% เล็งโหวตให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จากพรรครีพับลิกัน

ผู้มีสิทธิ์ออกเสียง 48% ต่อ 42% บอกว่า ไบเดนจัดการโรคระบาดได้ดีกว่า อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ 52% ต่อ 41% ในประเด็นเศรษฐกิจ

ขณะที่โพลของ FiveThirtyEight.com ระบุว่า ชาวอเมริกัน 57.4% รับไม่ได้กับมาตรการจัดการโควิดของทรัมป์ มีแค่ 39.8% ที่เห็นดีด้วย
เวลาเดียวกัน ยู.เอส. อิเล็กชันส์ โปรเจ็กต์ของมหาวิทยาลัยฟลอริดา เผยว่า มีชาวอเมริกันทั่วประเทศออกไปใช้สิทธิ์ล่วงหน้าถึงกว่า 75 ล้านคนแล้วเมื่อนับจนถึงวันพุธ (28)

ขณะที่โควิด-19 ระบาดหนักทั่วอเมริกา ทรัมป์ยังคงเน้นจัดปราศรัยหาเสียงกลางแจ้งเพื่อเรียกผู้คนให้เข้าร่วมจำนวนมากๆ โดยที่มีกำหนดหาเสียงในช่วงบ่ายวันพฤหัสฯ (29) ที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการหาเสียงหลายครั้งก่อนหน้านี้ ฝูงชนที่สนับสนุนทรัมป์นับพันคนเบียดเสียดกันฟังปราศรัย และจำนวนมากไม่สวมหน้ากากป้องกัน

ตรงข้ามกับไบเดนที่จะหาเสียงแบบไดรฟ์อินในเมืองเดียวกันในช่วงค่ำ โดยผู้เข้าฟังการปราศรัยส่วนใหญ่จะอยู่ในรถ

เมื่อเหลือเวลาอีกไม่กี่วันและมีคะแนนนิยมเป็นรองในโพลสำรวจทั่วประเทศ ทรัมป์จึงตะลุยหาเสียงหนักวันละ 3 จุดในรัฐต่างๆ ซึ่งเขาจะต้องชนะ ส่วนไบเดนดูสบายๆ กว่า เช่น ใช้เวลาถึง 2 วันในสัปดาห์นี้หาเสียงอยู่ใกล้บ้านเกิดของตนที่รัฐเดลาแวร์

วันพุธ หลังจากพบกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพในเดลาแวร์เพื่อปรับแผนการรับมือโรคระบาด ไบเดนประกาศว่า แม้ชนะการเลือกตั้ง แต่การทำให้โรคระบาดจบลงจะเป็นงานที่หนักหน่วง อย่างไรก็ตาม เขาจะไม่ขายฝันด้วยการอวดอ้างว่า มีสวิตช์มหัศจรรย์ที่ทำให้ปัญหานี้จบลงทันที แต่ให้สัญญาว่า จะเริ่มทำสิ่งที่ถูกต้องตั้งแต่วันแรกด้วยการใช้หลักการวิทยาศาสตร์นำทางการตัดสินใจ

อดีตรองประธานาธิบดีวัย 77 ปีผู้นี้ยังประณามคณะบริหารของทรัมป์ที่เพิกเฉยต่อความปลอดภัย และล้มเหลวในการสร้างแผนควบคุมโควิด

ด้านทรัมป์ วัย 74 ปี คุยว่า จะได้ชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย แต่สำทับว่า ห่วงอย่างเดียวเท่านั้นว่า เดโมแครตจะโกงการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นการตอกย้ำทฤษฎีสมรู้ร่วมคิดว่า อาจมีการโกงการเลือกตั้งโดยไม่เคยแสดงหลักฐานแม้แต่ครั้งเดียว

อดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้ยังกล่าวหาว่า ไบเดนต้องการให้ล็อกดาวน์ประเทศซึ่งจะยิ่งซ้ำเติมเศรษฐกิจที่บอบช้ำอยู่แล้ว ทรัมป์ยังย้ำหลายครั้งว่า สถานการณ์โรคระบาดในอเมริกากำลังดีขึ้น

ทว่า วันพุธ น.พ.แอนโทนี ฟาวซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อและสมาชิกทีมสู้โควิดของทำเนียบขาว เตือนว่า แม้มีวัคซีนภายในปีนี้ แต่กว่าโรคระบาดจะจบลงหรือสถานการณ์คืนสู่ปกติเป็นบางส่วนก็คงเป็นปีหน้า

ล่าสุด มีผู้เสียชีวิตจากโควิดในอเมริกากว่า 227,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ยวันละกว่า 71,000 คน จาก 51,000 คนเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ทุกมลรัฐพบจำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มสูงขึ้น ยกเว้นฮาวายและเดลาแวร์ ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตต่อวันก็เพิ่มขึ้นใน 39 รัฐ โดยเฉลี่ยแล้วเวลานี้มีผู้เสียชีวิตวันละ 805 คน จาก 714 คนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว

วิสคอนซิน หนึ่งในรัฐที่มีการระบาดหนักที่สุด พบผู้ติดเชื้อสูงสุดเกือบ 5,300 คนเมื่อวันอังคาร (27) เสียชีวิต 64 คน และกำลังส่งสัญญาณเตือนว่าเหลือเตียงในแผนกผู้ป่วยวิกฤตอีกเพียง 12%

 

อดีตปธ.เกาหลีใต้ “ลี เมียงบัค” คอตกเดินเข้าคุก หลังศาลสูงสุดยืนคำสั่งจำคุก “คดีคอร์รัปชัน” ตามศาลชั้นล่าง
.
.
.
เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – อดีตประธานาธิบดี ลี เมียงบัค ถูกศาลสูงสุดเกาหลีใต้พิพากษายืนตามคำสั่งศาลชั้นล่างในโทษจำคุก 17 ปีคดีความผิดคอร์รัปชัน ทนายความส่วนตัวชี้ ลีจะเข้ามอบตัวต่ออัยการเกาหลีใต้ภายในวันจันทร์หน้า(2 พ.ย)
.
เอเอฟพีรายงานวันนี้(29 ต.ค)ว่า อดีตประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ลี เมียงบัค(Lee Myung-bak)ที่ดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2008 -2013 ที่ผ่านมาอยู่นอกเรือนจำภายใต้เงื่อนไขการประกันระหว่างรอคำตัดสินศาลสูงสุดเกาหลีใต้ ซึ่งเขาไม่ได้มาปรากฎตัวเพื่อรับฟังคำพิพากษาวันพฤหัสบดี(29)
.
โดยในคำตัดสินที่ออกมาได้พิพากษายืนตามศาลชั้นล่างที่ตัดสินลีปัจจุบัน 78 ปีในความผิดยักยอกทรัพย์ 25.2 พันล้านวอน(22 ล้านดอลลาร์)และรับสินบนจำนวน 9.4 พันล้านวอน และสั่งให้เขารับโทษจำคุกเป็นเวลา 17 ปีในเรือนจำ
.
ทั้งนี้ลียังถูกสั่งปรับเป็นเงินราว 13 พันล้านวอน และถูกยึดทรัพย์ 5.7 พันล้านวอน
.
คำพิพากษาศาลสูงสุดกล่าวว่า “ไม่มีความผิดพลาดทางกฎหมายในคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีคอร์รัปชันและยักยอกทรัพย์”
.
ทั้งนี้พบว่าลีถูกตัดสินความผิดครั้งแรกในปลายปี 2018 และต้องถูกจำคุก และหลังจากนั้นศาลอุทธรณ์เกาหลีใต้สั่งเพิ่มโทษจำคุกแก่เขาเป็นการถูกจำคุก 17 ปีแต่ยังอนุญาตให้ลีได้รับการประกันตัวระหว่างรอคำพิพากษาศาลสูงสุดเกาหลีใต้
.
อ้างอิงจากบลูมเบิร์ก สื่อธุรกิจ ทนายความส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดี ลี เมียงบัค ยืนยันว่าลูกความจะเข้ามอบตัวกับสำนักงานอัยการเกาหลีใต้ในวันจันทร์(2) ทนายความยังเปิดเผยว่า ลีมีกำหนดเข้ารับการตรวจสุขภาพในวันศุกร์(30)
.
เอเอฟพีรายงานว่า มีการพบตำรวจปรากฎตัวที่บ้านพักของลีในกรุงโซลเพื่อนำตัวเขากลับเข้าเรือนจำ แต่สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ชี้ว่า ลีขอให้เลื่อนออกไปโดยให้เหตุผลปัญหาด้านสุขภาพ

 

ฝรั่งเศส-เยอรมนีสั่งล็อกดาวน์ทั่วปท. ผู้นำอียูนัดถกยกระดับร่วมมือต่อสู้ไวรัส ขณะผู้เชี่ยวชาญเตือน วัคซีนรุ่นแรกๆ จะยัง‘ไม่สมบูรณ์’

ฝรั่งเศส-เยอรมนีสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศอีกครั้ง หลังไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กลับมาติดต่อรุนแรงรอบสองทั่วยุโรป ขณะที่ฤดูหนาวกำลังย่างมาถึง แหล่งข่าวเผยผู้นำอียูนัดหมายประชุมสุดยอดผ่านระบบวิดีโอในวันพฤหัสฯ (29 ต.ค.) เพื่อหารือและปรับปรุงความร่วมมือในการจัดการวิกฤตโรคระบาด

ตลาดหุ้นทั่วโลกชวนกันเข้าสู่แดนลบ จากข่าวเยอรมนีกับฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสองประเทศใหญ่สุดของยุโรป ออกมาตรการจำกัดเข้มงวดกิจกรรมของประชาชนเพื่อสกัดโรคระบาดทั่วประเทศรอบใหม่

ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส แถลงถ่ายทอดสดทางทีวีเมื่อวันพุธ (28) ว่า ไวรัสโคโรนาระบาดอย่างรวดเร็วกว่าฉากทัศน์อย่างเลวร้ายที่สุดซึ่งคาดกันเอาไว้ ทำให้ฝรั่งเศสตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเพื่อนบ้านคือ เข้าสู่การระบาดรอบสองที่หนักกว่าและอันตรายกว่ารอบแรก และรัฐบาลจำเป็นต้องกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อหยุดยั้งการระบาดอีกครั้ง

ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ของฝรั่งเศสรอบใหม่นี้ที่จะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันศุกร์ (30) จนถึงวันที่ 1 ธันวาคมเป็นอย่างน้อยนั้น ประชาชนจะต้องกักตัวอยู่ในบ้าน แต่สามารถออกไปซื้อข้าวของจำเป็น พบแพทย์ หรือออกกำลังกายได้วันละ 1 ชั่วโมง และออกไปทำงานได้หากนายจ้างเห็นว่า งานนั้นทำจากที่บ้านไม่ได้ ส่วนโรงเรียนยังให้เปิดตามปกติ

ผู้ที่จะออกจากบ้านจะต้องมีแบบฟอร์มรับรองซึ่งตำรวจอาจขอเรียกตรวจ

สำหรับเยอรมนี จะปิดบาร์ ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์ระหว่างวันที่ 2-30 พฤศจิกายน ขณะที่โรงเรียนยังเปิดตามเดิม ส่วนร้านค้าจะอนุญาตให้เปิดได้โดยจำกัดจำนวนลูกค้าในแต่ละรอบ และยังไม่มีคำสั่งให้ประชาชนกักตัวอยู่บ้าน

นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิลของเยอรมนี แถลงว่า แม้ระบบสาธารณสุขเวลานี้ยังรับมือความท้าทายนี้ได้ แต่ด้วยอัตราความเร็วในการระบาดปัจจุบัน หากยังไม่เพิ่มการป้องกันแล้ว มีแนวโน้มว่า ภายในไม่กี่สัปดาห์จำนวนผู้ป่วยอาจล้นเกินขีดจำกัดความสามารถในการรองรับ

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสเวลานี้พบผู้ติดเชื้อวันละกว่า 36,000 คน ส่วนเยอรมนีซึ่งสถานการณ์เคยเบากว่าเพื่อนบ้านในช่วงการระบาดเมื่อต้นปี รอบนี้กลับพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเช่นเดียวกัน

แม้ผู้นำหลายชาติพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการล็อกดาวน์ที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ แต่การบังคับใช้มาตรการจำกัดครั้งใหม่สะท้อนสถานการณ์การระบาดที่หนักหน่วงในยุโรป ตั้งแต่สเปน ฝรั่งเศส เยอรมนี รัสเซีย โปแลนด์ จนถึงบัลแกเรีย

ทาเทียนา โกลิโควา รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันพุธว่า เตียงคนไข้ใน 16 แคว้นขณะนี้รองรับผู้ป่วยแล้วถึง 90% ขณะที่เจ้าหน้าที่เตือนว่า แม้แต่ระบบสาธารณสุขที่มีอุปกรณ์ครบครันอย่างในฝรั่งเศสและสวิตเซอร์แลนด์ ยังอาจถึงจุดที่ไม่สามารถรับมือได้ภายในไม่กี่วัน

นอกจากนั้นความหวังที่โลกจะมีวิธีรักษาหรือสกัดการระบาดยังดูมืดมน โดยที่ เคต บิงแฮม หัวหน้าทีมเฉพาะกิจในการจัดหาวัคซีนของสหราชอาณาจักร ออกมาเตือนว่า วัคซีนเวอร์ชันแรกๆ อาจจะยังมีประสิทธิภาพที่ไม่สมบูรณ์

ในข้อเขียนของบิงแฮมซึ่งเผยแพร่ทางวารสารทางการแพทย์ “แลนสิท” ที่มีชื่อเสียงมาก เธอบอกว่า “วัคซีนรุ่นแรกๆ น่าที่จะไม่สมบูรณ์ และเราควรเตรียมตัวเอาไว้ว่าวัคซีนเหล่านี้อาจจะไม่ได้ป้องกันการติดต่อ แต่จะลดอาการต่างๆ และกระทั่งในกรณีเช่นนั้น ก็อาจจะใช้ไม่ได้ผลกับทุกๆ คนหรือใช้ไม่ได้ผลอย่างยาวนาน”

เวลานี้ยังไม่มีวัคซีนที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ต่อสู้กับไวรัสโคโรนาไมว่าชนิดใดๆ โดยที่ความพยายามของหลายต่อหลายฝ่ายที่จะจัดทำวัคซีนขึ้นมาป้องกันโรคซาร์ส (SARS ย่อมาจาก Severe Acute Respiratory Syndrome โรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง) และโรคเมอร์ส (MERS ย่อมาจาก Middle East Respiratory Syndrome กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง) ซึ่งก็เป็นเชื้อไวรัสโคโรนาเช่นกันนั้น ล้วนประสบความล้มเหลว

นอกจากนั้นนักวิทยาศาสตร์ยังเตือนว่า ภูมิคุ้มกันต่อสู้ไวโรโคโรนานั้น ดูเหมือนสามารถจางหายไปได้เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ดังนั้น ความสำเร็จของการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยการกระตุ้นจากวัคซีนใดๆ ขึ้นมา เพื่อให้สามารถป้องกันการติดเชื้อหรือทำให้เชื้อไม่แสดงอาการรุนแรง จึงอาจจะเป็นความท้าทายอย่างมาก

ความเห็นเช่นนี้ของบิงแฮมปรากฏขึ้นมา ขณะพวกผู้นำรัฐบาลทั้งในสหราชอาณาจักรและประเทศอื่นๆ กำลังกำหนดยุทธศาสตร์โควิด-19 ของพวกตนโดยอิงอยู่กับความคาดหวังที่จะมีวัคซีนออกมาให้ใช้กันได้อย่างกว้างขวางพอสมควรประมาณต้นปีหน้า

ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) เพิ่งแถลงในวันอังคาร (27) ที่ผ่านมา ว่า ยุโรปมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านคนในรอบ 7 วัน เท่ากับเกือบครึ่งหนึ่งของเคสใหม่ทั่วโลก 2.9 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,700 คน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า 37%

ล่าสุด ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อกว่า 42 ล้านคน และเสียชีวิตกว่า 1.1 ล้านคน

รัฐบาลทั่วยุโรปกำลังถูกโจมตีเรื่องที่ไม่ยอมร่วมมือกัน รวมทั้งไม่ฉวยคว้าโอกาสจากการที่สถานการณ์การระบาดสงบลงในช่วงฤดูร้อนเพื่อดำเนินแนวทางป้องกัน แต่กลับปล่อยให้โรงพยาบาลต่างๆ อยู่ในสภาพไม่ได้เตรียมพร้อมรับมือการระบาดรอบสอง

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวในยุโรปเผยว่า พวกผู้นำของสหภาพยุโรป จะประชุมสุดยอดผ่านระบบวิดีโอในวันพฤหัสบดี เพื่อหารือและปรับปรุงความร่วมมือในการจัดการวิกฤตโรคระบาด

นับจากสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปะทะระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงหลายครั้งในหลายเมืองของอิตาลี จากความไม่พอใจของผู้ประกอบการและประชาชนต่อมาตรการล็อกดาวน์ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

สำหรับที่อินเดีย รายงานที่ออกมาในวันพฤหัสฯ ระบุว่า ประเทศที่เผชิญการระบาดรุนแรงอันดับ 2 ของโลกแห่งนี้ มีผู้ติดเชื้อสะสมเกิน 8 ล้านคนแล้ว

 

WHOชี้ยุโรปกลับมาเป็นศูนย์กลางโควิด-19 สเปน,อิตาลีทุบสถิติรายวันผู้ติดเชื้อสูงสุด

องค์การอนามัยโลก(WHO)ประจำภาคพื้นยุโรปในวันพฤหัสบดี(29ต.ค.) บอกว่ามาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศควรเป็นทางเลือกสุดท้าย แม้ยอมรับทวีปแห่งนี้กลับมาเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 อีกครั้งแล้ว โดยล่าสุุดสเปนและอิตาลีพบผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่เกิดการระบาด

https://mgronline.com/around/detail/9630000112474

 

ไม่ถึงสัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง!ศก.สหรัฐฯขยายตัว33.1% มากสุดในประวัติศาสตร์

เศรษฐกิจสหรัฐฯขยายตัวในอัตราที่มากสุดในประวัติศาสตร์ในไตรมาส 2 ผลจากรัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ในมาตรการบรรเทาผลกระทบโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ยังคงมีความกังลว่าบาดแผลจากภาวะถดถอยสืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจต้องใช้เวลาเยียวยานาน 1 ปีหรือมากกว่านั้น

https://mgronline.com/around/detail/9630000112473

 

Oct 30 , 2020 กรมควบคุมโรคชี้แจงแนวทางควบคุมโควิดกรณีชาวต่างชาติมาไทย ต้องถูกกักตัว 14 วัน แต่หากพบเชื้อโควิด ผู้มีอาการน้อย – ไม่มีอาการ จะพักรักษาตัวในโรงพยาบาลแค่ 10 วัน พร้อมตรวจเช็คอาการก่อนให้ออกจากโรงพยาบาล ส่วนผู้มีอาการมากจะรักษาตามดุลยพินิจแพทย์
.
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบชาวต่างชาติติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทย นั้น กรมควบคุมโรค ขอให้ข้อมูลว่า ในการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือชาวต่างชาติ กระทรวงสาธารณสุข ได้มีมาตรการและแนวทางปฏิบัติที่เข้มข้นและเป็นไปในทางเดียวกันมาโดยตลอด โดยได้มีการปรับปรุงและพัฒนาแนวทางปฏิบัติดังกล่าวให้สอดคล้องกับสถานการณ์ของโรคอย่างต่อเนื่อง
.
กรณีชาวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ต้องลงทะเบียนที่สถานทูตไทย ณ ประเทศนั้นๆ พร้อมยื่นเอกสารต่างๆ ได้แก่ ใบรับรองสุขภาพ (Fit to fly) และใบรับรองผลการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ไม่พบเชื้อ (COVID-Free Certificate) ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง มีประกันสุขภาพวงเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3 ล้านบาท) ใบจองที่พักซึ่งเป็นสถานที่กักกันโรค (ASQ) จากนั้นสถานทูตจะออกใบอนุญาต Certificate of Entry ให้เดินทางเข้ามาได้ และเมื่อเดินทางมาถึงไทยจะต้องถูกกักกันไว้สังเกตอาการ 14 วัน ในสถานที่ที่ทางรัฐกำหนด ซึ่งอาจจะเป็นโรงแรม (ASQ) หรือที่พักขององค์กร (OQ) ที่ได้รับการตรวจรับรองว่าผ่านมาตรฐานแล้ว
.
หากตรวจพบว่าชาวต่างชาติติดเชื้อโควิด 19 ระหว่างการกักกัน จะถูกส่งไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนคู่สัญญากับทางโรงแรมที่เป็นสถานที่กักกันโรค ซึ่งค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลทั้งหมดผู้ป่วยต้องรับผิดชอบเอง ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจึงไม่เป็นภาระกับรัฐ โดยผู้ติดเชื้อจะได้รับการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ อยู่ในห้องแยก หรือหอผู้ป่วยที่มีเฉพาะผู้ป่วยยืนยัน และแพทย์จะดูแลรักษาตามแนวทางของกรมการแพทย์ จนผู้ป่วยหายดีเป็นปกติ ไม่แพร่เชื้ออีก ซึ่งในรายที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการมักใช้เวลารักษาในโรงพยาบาลนานไม่เกิน 10 วัน ในกรณีที่อาการรุนแรง เช่น ปอดอักเสบอาจจะใช้เวลารักษานานถึง 1 เดือน แต่เป็นผู้ป่วยส่วนน้อย (ร้อยละ 5 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมด)
.
นายแพทย์โอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ภายหลังจากหายดีแล้ว แพทย์จะอนุญาตให้กลับบ้านได้ โดยมีเกณฑ์ดังนี้
.
1.เมื่อผู้ป่วยที่ไม่มีอาการ ให้พักในโรงพยาบาล 10 วันนับจากวันที่ตรวจพบ
2.ผู้ป่วยที่อาการน้อย ให้พักในโรงพยาบาล 10 วันนับจากวันที่มีอาการ และพักจนไม่มีอาการแล้วอย่างน้อย 24 ชม.
3.ผู้ป่วยอาการรุนแรง รักษาตัวในโรงพยาบาลจนอาการดีขึ้นให้ออกจากโรงพยาบาลตามดุลยพินิจของแพทย์
.
โดยผู้ป่วยที่มีอาการดีขึ้นและผลถ่ายภาพรังสีปอดคงที่ อุณหภูมิไม่เกิน 37.8°C ต่อเนื่อง 24 ชม. อัตราการหายใจไม่เกิน 20 ครั้ง/นาที แพทย์จะพิจารณาให้ออกจากโรงพยาบาลได้
.
สำหรับคำแนะนำในการปฏิบัติตัวหลังกลับจากโรงพยาบาล มีดังนี้ 1.การดูแลสุขอนามัย ให้สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่าง เมื่อต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น 2.ล้างมือด้วยสบู่และน้ำเป็นประจำ โดยเฉพาะหลังจากถ่ายปัสสาวะหรืออุจจาระหรือถูมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ก่อนและหลังสัมผัสจุดเสี่ยงที่มีผู้อื่นในบ้านใช้ร่วมกัน เช่น ลูกบิดประตู ราวบันได มือจับตู้เย็น เป็นต้น 3.ไม่ใช้อุปกรณ์รับประทานอาหารและแก้วน้ำร่วมกัน และ 4.หากมีอาการป่วยเกิดขึ้นใหม่ เช่น ไข้สูง ไอมาก เหนื่อย แน่นหน้าอก หอบ หายใจไม่สะดวก เบื่ออาหาร ให้รีบติดต่อสถานพยาบาล ให้สวมหน้ากากและเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวหรือขอรถพยาบาลมารับ งดการเดินทางด้วยรถหรือเรือสาธารณะ
.
#สาธารณสุข #โควิด #กักตัว #Covid19 #Misterban

 

Oct 30,2020 บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ทรงตัวได้ดีกว่าที่ประเมินไว้ ท่ามกลาง Sentiment ที่เป็นลบจากนอกประเทศ รวมถึงราคาน้ำมันก็มีภาพเป็นลบ อาจเป็นผลจากที่ตลาดบ้านเราปรับตัวลงไปก่อนคนอื่นแล้ว และแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,200 ยังทำงานได้ค่อนข้างดี โดยช่วงนี้จะต้องติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/63 และหลัก ๆ ก็ติดตามสถานการณ์การเมืองในประเทศ
.
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวลง เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่ร่วงไปเกือบ 200 จุด จากความกังวลสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิดที่วิตกจะกระทบการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐโดนขายออกมาด้วย อย่างไรก็ดี จะต้องจับตาผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ แต่กว่าจะทราบผลการเลือกตั้งก็อาจจะเป็นช่วงเช้าของวันที่ 4 พ.ย.
.
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์หากไม่มีประเด็นใหม่เพิ่ม และการเมืองในประเทศยังนิ่ง ๆ อยู่ ซึ่งดัชนีฯคงจะแกว่งสร้างฐานแถว 1,200 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,200-1,198 จุด ส่วนแนวต้าน 1,210 จุด
.
#SET #หุ้น #Misterban #เลือกตั้ง #สหรัฐ

 

Oct 30 , 2020 บอร์ดอนุมัติ ซาฟารีเวิลด์-ภูเก็ตแฟนตาซี กู้เงินผู้หุ้นรายใหญ่ 200 ล้านบาท แก้ปัญหาสภาพคล่องหลังได้รับผลกระทบจากโควิด คิดอัตราดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี
.
นางอาภา คิ้วคชา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซาฟารีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ SAFARI แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 28 ต.ค.2563 ได้มีมติอนุมัติให้บริษัทและบริษัทย่อย(ภูเก็ตแฟนตาซี) กู้ยืมเงินจาก “นางสาวอัมพรศรี คิ้วคชา” กรรมการและผู้บริหารของบริษัทฯ และกู้ยืมจากกรรมการและผู้บริหารอื่นในกลุ่มตระกูลคิ้วคชา ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท เพื่อใช้หมุนเวียนในกิจการของกลุ่มบริษัท ภายในระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ 1 ต.ค.2563-30 ก.ย.2564 ในวงเงินรวมไม่เกิน 200 ล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทละไม่เกิน 100 ล้านบาท กําหนดอัตราดอกเบี้ย 7.00% ต่อปี ทั้งนี้ลักษณะของการกู้ยืมเงินบริษัทและบริษัทย่อยจะทยอยรับเงินกู้ตามความจําเป็นโดยตลอดระยะเวลาการกู้ยืมจะมีวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 200 ล้านบาท และจะชําระคืนเมื่อสามารถจัดหาแหล่งเงินจากแหล่งอื่นมาทดแทน หรือมีกระแสเงินสดเพียงพอที่จะชําระหนี้เงินต้นทั้งจํานวน หรือชําระคืนบางส่วน
.
นางอาภากล่าวว่า การกู้ยืมเงินจากกรรมการและผู้บริหารของบริษัท เป็นการแก้ปัญหาการขาดสภาพคล่องของกลุ่มบริษัทในภาวะฉุกเฉินจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งภูเก็ตแฟนตาซียังคงต้องปิดกิจการชั่วคราว เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตยังไม่ฟื้น รายได้จากการดําเนินงานของบริษัทเพียงแห่งเดียวไม่เพียงพอต่อรายจ่ายของทั้งกลุ่มบริษัท ประกอบกับการจะได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งกําหนดเป็นนโยบายที่จะให้ความช่วยเหลือเยียวยาแก่กิจการที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง บริษัทและบริษัทย่อยจึงจําเป็นต้องกู้ยืมจากกรรมการและผู้บริหารเพื่อใช้หมุนเวียนสภาพคล่องของกลุ่มบริษัท
.
ทั้งนี้ บริษัทได้ขยายระยะเวลาครบกําหนดไถ่ถอนออกไปอีก 1 ปี จากเดิมครบกําหนดไถ่ถอนหุ้นกู้มีประกันของบริษัท ภูเก็ตแฟนตาซี จํากัด (มหาชน) ที่จะครบกำหนดในเดือน มิถุนายน-ธันวาคม 2563 จํานวน 5 รุ่น มูลค่ารวม 1,642.30 ล้านบาท ออกไปอีก 1ปี เป็นครบกําหนดไถ่ถอนในวันที่ 4 มิถุนายน 2564, วันที่ 24 กรกฎาคม 2564, วันที่ 6 กรกฎาคม 2564, วันที่ 7 สิงหาคม 2564 และวันที่ 11 ธันวาคม 2564 โดยได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นกู้ของบริษัทย่อยแล้ว
.
#ซาฟารีเวิลด์ #ภูเก็ตแฟนตาซี #กู้เงิน #เสริมสภาพคล่อง #Misterban

 

ยักษ์ใหญ่ช่วยโลก วิจัยชี้ ป่าใหม่ในประเทศจีนช่วยดูดคาร์บอนมหาศาล นโยบายปลูกต้นไม้อย่างจริงจัง มีส่วนช่วยบรรเทาโลกร้อนอย่างมาก
•
นโยบายการปลูกต้นไม้อย่างจริงจังของจีนมีส่วนสำคัญในการช่วยบรรเทาเรื่องผลกระทบทางด้านสภาพภูมิอากาศ
•
ทีมงานระหว่างประเทศได้ตรวจสอบพื้นที่สองภูมิภาคในประเทศจีน เพื่อประเมินการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของป่าที่เกิดใหม่ที่ถูกคาดการณ์ผิดไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วมันมีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนมากกว่า 35% ของพื้นที่ดูดซับคาร์บอนของแผ่นดินจีนทั้งหมด
•
พื้นที่ดูดซับคาร์บอนอย่างพื้นที่ป่าพรุหรือป่าไม้ทั่วไปมีความสามารถในการดูดซับคาร์บอนได้มากกว่าที่ตัวมันเองปล่อย มันจึงสามารถช่วยลดคาร์บอนในชั้นบรรยากาศได้
•
จีนเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนจำนวนมหาศาลออกมาสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 28% ของคาร์บอนที่ทั้งโลกปล่อยออกมา
•
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้จีนได้ประกาศว่าตนเองจะปล่อยคาร์บอนถึงจุดพีคก่อนปี 2030 และจะผันตัวเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนเป็นกลางภายในปี 2060
•
ถึงแม้ว่าวิธีการของประเทศจีนที่จะพาไปสู่เป้าหมายจะยังไม่ชัดเจน แต่มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิลจำนวนมาก และต้องจัดการกับคาร์บอนที่อยู่ในชั้นบรรยากาศด้วย
•
พื้นที่สีเขียวของจีนปรากฏมากขึ้นจากการปลูกต้นไม้นับพันล้านต้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นดินกลายเป็นทะเลทรายและลดการสูญเสียดิน
•
ทางด้านกรมอุตุวิทยาของจีนได้ประเมินปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ที่ถูกดูดซับโดยป่าของจีน ทั้งทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน (มณฑลยูนนาน กุ้ยโจว กว่างซี) และทางตอนตะวันออกเฉียงเหนือ (เฮยหลงเจียง จี๋หลิน)
•
พบว่าพื้นที่ Biosphere หรือส่วนพื้นผิวของโลกบริเวณตะวันตกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่สามารถดูดซับคาร์บอนได้มากถึง 31.5% ของพื้นที่ที่มีสามารถในการดูดคาร์บอนได้ทั้งหมดในจีน ขณะที่ในตะวันออกเฉียงเหนือของจีนช่วยดูดซับคาร์บอนได้ 4.5%
•
Prof Shaun Quegan จาก Sheffield University ระบุว่า ประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนของทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นไปตามที่คาดคิด แต่ประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บนของป่าในตะวันตกเฉียงใต้มันดีเกินคาดจนประหลาดใจ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการดูดซับคาร์บอนจะลดลงเมื่อเวลาผ่านไป เนื่องจากอัตราการเจริญเติบโตลดลง และระบบต่าง ๆ เข้าสู่ความมั่นคงมากยิ่งขึ้น
•
Richard Black จาก Energy and Climate Intelligence Unit (ECIU) ระบุว่า ถึงแม้ว่าประสิทธิภาพในการดูดซับของป่าจะมากกว่าที่เคยคาดไว้ แต่ก็ไม่ควรดีใจเกินเหตุ เพราะไม่เพียงแต่คาร์บอนไดออกไซด์เท่านั้นที่เราต้องลด แต่เรายังต้องจัดการกับก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดด้วย
•
ที่มา

https://www.bbc.com/news/science-environment-54714692

https://www.nature.com/articles/s41586-020-2849-9

 

Oct 30, 2020 สยองก่อนฮาโลวีน! ติดสถิติใหม่ใน 1 วันกว่า 88,000 คนในสหรัฐ ยุโรปยังท่วมด้วยสถิติคนติดโรคโควิด-19 ใหม่ตั้งแต่มีมา
.
สหรัฐอเมริกา: ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาดแห่งชาติสหรัฐ หรือ CDC เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 1 วัน เมื่อถึงวันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม (ตามเวลาในสหรัฐ) พุ่งทะยานถึง 88,452 ราย ทำสถิติพุ่งสูงสุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 ในสหรัฐเป็นต้นมา และยังทำสถิติมากกว่าวันละ 80,000 รายเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 7 วันผ่านมา ส่งผลให้จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมพุ่งเป็น 9,212,767 ราย เป็นอันดับ 1 ของโลก สำหรับสถิติติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงเดิมนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2563 มีจำนวนพุ่งขึ้น 84,218 ราย
.
เยอรมนี: กระทรวงสาธารณสุข เยอรมนี เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 30 ตุลาคม มีจำนวน 18,526 ราย สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในเยอรมนีเป็นต้นมา และทำสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 6 และเป็นวันที่ 6 ติดต่อกันด้วย ส่งผลให้เยอรมนีมีจำนวนผู้ติดโรคสะสมเป็น 498,353 ราย อยู่อันดับที่ 16 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้น 76 ราย รวมจำนวนสะสมเป็น 10,435 ราย
.
สเปน: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 23,580 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศสเปนเป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังทำสถิติติดมากกว่าวันละ 20,000 รายเป็นครั้งแรก ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 1,238,922 ราย อยู่อันดับที่ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของยุโรปตะวันตก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 173 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 35,639 ราย อยู่อันดับ 8 ของโลก
.
อิตาลี: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 26,831 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในอิตาลี และทำสถิติพุ่งเกินกว่าวันละ 20,000 รายเป็นครั้งที่ 3 ทำให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 616,959 ราย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 4 ของยุโรป และเป็นอันดับที่ 13 ของโลก ขยับขึ้น
.
1 อันดับในชั่วข้ามวัน ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นอีก 217 ราย ทำสถิติเสียชีวิตมากกว่าวันละ 200 รายเป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมา ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 38,122 ราย ทำสถิติประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ในยุโรป
.
เบลเยียม: กระทรวงสาธารณสุข รายงานว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 30 ตุลาคม มีจำนวน 21,048 ราย สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศเป็นต้นมา และทำสถิติติดมากกว่าวันละ 20,000 รายเป็นครั้งแรก โดยอยู่อันดับที่ 23 ของโลก ส่งผลให้เบลเยียมขยับเพิ่มขึ้น 1 อันดับโลกในรอบ 1 วันผ่านมา นอกจากนี้ ยังทำสถิติติดมากกว่าวันละ 10,000 รายเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 7 วันติดต่อกันผ่านมาด้วย
.
#สหรัฐ #ยุโรป #เยอรมนี #สเปน #อิตาลี #โควิด19 #โควิดรอบ 2 #misterban

 

Oct 30 , 2020 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 12 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,775 ราย ยอดเสียชีวิต 59 ราย
.
โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 131 ราย รักษาหายแล้ว 3,585 ราย เสียชีวิต 59 ราย
.
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 12 ราย อยู่ในพื้นที่ State Quarantine
.
เดินทางมาจากฟิลิปปินส์ 1 ราย สหรัฐฯ 1 ราย อินเดีย 3 ราย เมียนมา 1 ราย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ 4 ราย จอร์แดน 1 ราย และเอธิโอเปีย 1 ราย
.
#ศบค #Covid19 #ไวรัส #Misterban

 

Oct 30 , 2020 ‘วิษณุ เครืองาม’ชี้อย่าคาดหวังคณะกรรมการสมานฉันท์ จะจบทุกปัญหาได้
.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ ว่า ยังไม่ทราบความคืบหน้า ต้องไปถามจากสถาบันพระปกเกล้า และส่วนตัวไม่มีข้อแนะนำ แต่เชื่อว่าการตั้งคณะกรรมการชุดดังกล่าวขึ้นมา จะนำทุกความคิดเห็นของทุกฝ่ายมาร่วมกันหาทางออก
.
ส่วนกรณีที่ฝ่ายค้านมีโอกาสจะไม่เข้าร่วมนั้น ไม่ขอแสดงความเห็น และขณะนี้ฝ่ายค้านก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธ เพราะยังไม่เห็นรูปแบบของคณะกรรมการชุดดังกล่าว ซึ่งตอบไม่ได้ว่าทุกฝ่ายจะเข้าร่วมหรือไม่ และไม่อยากให้พูดไปก่อนล่วงหน้า เหมือนเป็นการตีปลาหน้าไซ ทำให้คนแตกตื่นตกใจว่ามีอะไรแอบแฝง
.
ทุกอย่างต้องใช้เวลา แต่หากใช้เวลานานเกินไป ก็จะเป็นการซื้อเวลา และอย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะจบลงที่คณะกรรมการชุดนี้ เพราะอาจจะมีการเสนอหลายทางออกก็ได้
.
ส่วนกรณีที่นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่ารัฐบาลต้องฟังเสียงของผู้ชุมนุม และมองว่าการสื่อสารของนายกรัฐมนตรีกับผู้ชุมนุม เป็นคนละทิศทางนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ส่วนตัวไม่เห็นคำให้สัมภาษณ์ และไม่ทราบว่าจะต้องนำมาพิจารณาในคณะกรรมการสมานฉันท์หรือไม่ เพราะยังไม่เห็นรายละเอียด ขอสื่อมวลชนอย่านำสิ่งที่บุคคลอื่นพูด แล้วนำมาถามต่อ เพราะจะกลายเป็นการขยายประเด็นให้บานปลาย
.
#การเมือง #ชุมนุม #ประท้วง #Misterban #วิษณุ #สมานฉันท์

 

Oct 30 , 2020 ญี่ปุ่นลดระดับคำเตือนมาไทย พร้อมอีก 8 ประเทศ หลังคุมโควิดได้ดี
.
นายโตชิมิตสึ โมเตกิ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่นประกาศลดระดับคำเตือนการเดินทางไปยัง 9 ประเทศ หลังจากที่อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเหล่านั้นชะลอตัวลง
.
โดยญี่ปุ่นได้ลดระดับการเตือนเดินทางไปยังประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลงสู่ระดับ 2 จากทั้งหมด 4 ระดับ โดยประเทศเหล่านั้นได้แก่ ออสเตรเลีย, เกาหลีใต้, สิงคโปร์, ไทย, ไต้หวัน, จีน, นิวซีแลนด์, บรูไน และเวียดนาม แต่รัฐบาลยังคงขอความร่วมมือประชาชนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังต่างประเทศ
.
#ญี่ปุ่น #9ประเทศ #Covid19 #โควิด19 #Misterban

 

#Covidยังพีคไม่หยุดที่สหรัฐ
#ผู้ติดเชื้อใหม่ทะลุ9หมื่นรายในรอบ24ชั่วโมง

สถานการณ์ Covid-19 ในสหรัฐ ยังพีคต่อเนื่อง มาวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐก็ทุบสถิติอีกแล้ว ยอดตัวเลขอย่างโหด 91,295 เคส ภายในรอบ 24 ชั่วโมง นับเป็นสถิติใหม่ในโลก ที่ทำให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อรวม ทะลุ 9 ล้านคนไปแล้วในวันนี้

เรียกได้ว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 ในสหรัฐ แทบไม่ได้ทุเลาลงเลย มีแต่จะหนักขึ้นทุกวัน ยิ่งช่วงใกล้วันเลือกตั้ง ที่ผู้สมัครจากทั้ง 2 พรรคใหม่ ต่างจัดแคมเปญหาเสียงกันไม่หยุด

ทางฝั่งของพรรครีพับลิกัน นำโดยท่านเสี่ยอ่าง
โดนัลด์ ทรัมพ์ ก็มาติด Covid-19 ด้วยตัวเองมาแล้วในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง แต่ก็ต้องรีบกลับเข้าโปรแกรมเดินสายต่อทันที แม้จะเพิ่งหายจากการติดเชื้อ

ส่วนรองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์ ก็สุ่มเสี่ยงไม่แพ้กัน เพราะผู้ช่วยส่วนตัวของเขาก็มาติดเชื้อ Covid ถึง 5 คนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ไมค์ เพนซ์ ก็ไม่ยอมกักตัว และยืนยันว่าทั้งเขา และภรรยา ตรวจเชื้อแล้วเป็นลบ จึงไม่จำเป็นต้องกักตัว และยังคงเดินหน้าหาเสียงอย่างต่อเนื่องแทบทุกวัน

ยิ่งช่วงใกล้เลือกตั้ง เคสผู้ติดเชื้อยิ่งเพิ่ม คนอเมริกันเขาไม่กลัว ไม่ตกใจกันมั่งเลยหรือ?

สื่อที่สหรัฐเขาก็พยายามจะนำเสนอตัวเลข ข้อมูลการแพร่ระบาดนะคะ แต่น่าเสียดายที่สหรัฐมีผู้นำที่ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับการควบคุมการระบาด และช่วงนี้ท่านเสี่ยแกก็โฟกัสแต่การเลือกตั้งอย่างเดียวจริงๆ พอผู้สื่อข่าวจี้ถามถึงปัญหาเรื่อง Covid-19 แกจึงโมโหตอบนักข่าวไปว่า

“All you hear is Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid, Covid. That’s all they put on, because they want to scare the hell out of everyone.”

"ตอนนี้ไปไหนก็ได้ยินแต่ Covidๆๆๆ ออกข่าวอยู่ได้ทุกวี่ ทุกวัน ทำให้ชาวบ้านกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อไปหมดแล้ว"

นอกจากนี้คนสหรัฐจะเริ่มเมินปัญหาเรื่อง Covid และทำใจว่ายังไงก็ต้องเสี่ยงอยู่กับมัน ก็สู้อยู่ให้ freestyle สบายใจฉันแบบที่เคย จะได้ไม่ต้องเครียด

อีกทั้งเรื่อง Covid ก็กลายเป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ที่ทั้ง 2 พรรคหยิบขึ้นมาฟาดฟันกันทางการเมือง โดยที่ทรัมพ์ ก็อัดงบเร่งการพัฒนาทั้งวัคซีน และ ยาต้านให้ออกมาให้เร็วที่สุด และต้องทันช่วงเลือกตั้ง ส่วน โจ ไบเดน ก็ประกาศนโยบาย ให้คนอเมริกันฉีดวัคซีน Covid ฟรีหากเขาชนะเลือกตั้ง เป็นประธานาธิบดีคนใหม่

คนอเมริกันก็เลยไม่ซีเรียสแล้ว เพราะคิดว่าเดี๋ยวยาต้านก็มี วัคซีนก็มา ฉีดให้ฟรีอีกต่างหาก

โดยที่ตอนนี้ ยังไม่มีใครสามารถตอบได้เลยว่า เมื่อไหร่วัคซีนจะพัฒนาสำเร็จ และผลิตได้ในปริมาณเท่ากับความต้องการของคนอเมริกันทั้งประเทศ

นายแพทย์ แอนโธนี ฟาวซี หัวหน้าศูนย์ ศบค. แห่งสหรัฐอเมริกา เคยออกมาเตือนแล้วว่า เราอาจได้เห็นสหรัฐมีผู้ติดเชื้อรายวันเกิน 1 แสนคนก่อนสิ้นปี และวัคซีนจะมาได้ต้องรอถึงปีหน้า นับว่าสิ่งที่คุณหมอฟาวซี แกเคยเตือนไว้ตั้งแต่ต้นปีนั้น ใกล้เคียงความเป็นจริงมากๆ

น่าเสียดาย ที่คนในทำเนียบขาว ไม่ค่อยชอบฟังคำหมอเตือนสักเท่าไหร่นะคะ

แหล่งข้อมูล

https://www.channelnewsasia.com/new...ses-24-hours-for-first-time-13412530#cxrecs_s

https://www.nytimes.com/2020/10/21/...ou-hear-is-covid-covid-covid-covid-covid.html

https://www.cnbc.com/2020/10/25/mike-pence-coronavirus-four-aides-test-positive-for-covid-19.html

https://www.nytimes.com/interactive/2020/us/coronavirus-us-cases.html

https://www.ndtv.com/world-news/us-tops-90-000-coronavirus-cases-in-24-hours-for-first-time-2317857

 

นี่คือคำเตือน !!

พลังงานความร้อนรั่วไหลสู่บรรยากาศชั้นบน !!

ARC สีแดงเหนือสวีเดน: คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับแสงออโรรา - แสงสีเขียวและสีม่วงบนท้องฟ้าในช่วงที่มีพายุแม่เหล็ก แต่นี่เป็น SAR . Auroral Red Arc ที่เสถียร

นักดูแสงออโรร่าส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อนเพราะโดยปกติแล้วพวกมันจะมองไม่เห็นด้วยตามนุษย์ จนกระทั่งวันศุกร์ที่ผ่านมาในสวีเดนเมื่อGöran Strand ช่างภาพได้เห็นภาพนี้

"มันเป็นคืนที่น่าตื่นตาพร้อมกับแสงเหนือที่สวยงามจริงๆ แต่ส่วนโค้งนี้กลายเป็นอัญมณีสำหรับคืนนี้" คุณ Strand กล่าวซึ่งไม่รู้ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น

SAR เกี่ยวข้องกับออโรรา แต่ไม่เหมือนกัน แสงออโรราปกติจะปรากฏขึ้นเมื่ออนุภาคพลังงานสูง (รังสี) โปรยปรายลงมาตามเส้นสนามแม่เหล็กขั้วกระทบชั้นบรรยากาศ (สูง 100-200 กม.) และทำให้เกิดการเรืองแสงเหมือนหลอดภาพของทีวีสีรุ่นเก่า SAR มีรูปแบบแตกต่างกัน

เป็นสัญญาณของพลังงานความร้อนที่รั่วไหลสู่บรรยากาศชั้นบน (สูง ~ 400 กม.) จากระบบกระแสวงแหวนของโลก ในกรณีนี้ความร้อนอาจถูกส่งมาจากกระแสลมสุริยะความเร็วสูงที่กระทบสนามแม่เหล็กโลกก่อนภาพถ่ายของ Strand ไม่นาน

จุดจบของโลกกำลังไปได้สวย

วิวรณ์ 16: 8-9
ทูตสวรรค์องค์ที่สี่เทขวดของตนลงบนดวงอาทิตย์ และทรงประทานอำนาจแก่เขาในการเผาคนด้วยไฟ
และมนุษย์ถูกแผดเผาด้วยความร้อนแรงและดูหมิ่นพระนามของพระเจ้าซึ่งมีอำนาจเหนือภัยพิบัติเหล่านี้และพวกเขากลับใจที่จะไม่ถวายเกียรติแด่พระองค์



THIS IS A WARNING!!

Heat Energy Leaking into the Upper Atmosphere!!

A RED ARC OVER SWEDEN: You've heard of auroras--green and purple lights in the sky during geomagnetic storms. But this is a SAR. Stable Auroral Red Arc.

Most aurora watchers have NEVER seen one, though, because they are usually invisible to the human eye. Until last Friday in Sweden, when photographer Göran Strand saw this one.

"It was a spectacular night with some really nice Northern Lights, but this arc turned out to be the gem for the night," says Strand who clearly has no idea what is happening.

SARs are related to auroras, but they are not the same. Regular auroras appear when high-energy particles (radiation) rain down along polar magnetic field lines, hitting the atmosphere (100-200 km high) and causing it to glow like the picture tube of an old color TV. SARs form differently.

They are a sign of heat energy leaking into the upper atmosphere (~400 km high) from Earth's ring current system. The heat, in this case, may have been delivered by a high-speed solar wind stream that hit Earth's magnetic field shortly before Strand's photo.

The end of the world is going to be beautiful.

Revelation 16:8-9
And the fourth angel poured out his vial upon the sun; and power was given unto him to scorch men with fire.
And men were scorched with great heat, and blasphemed the name of God, which hath power over these plagues: and they repented not to give him glory.

 

30/10/2563/18.00 น." โคนี"แรงขึ้นเป็นซุปเปอร์ไต้ฝุ่นแล้ว
"พายุไต้ฝุ่น “โคนี"ตำแหน่ง ล่าสุด 16.3N 131.6E
มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 kts หรือ 278 กม./ซ.ม. ความกดอากาศส่วนกลางอยู่ที่ 945 hpa เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 20 กม/ซ.ม. คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งที่ประเทศฟิลิปปินส์แล้วจะเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนกลางต่อไป ที่มาข้อมูล jtwc, windy, tsr storm
#เตือนภัยพิบัติโลก

 

การที่จีนมุ่ง'ก้าวหน้า' ไม่ใช่เพื่อการเป็น'ปฏิปักษ์' หากแต่ว่า จีนก้าวหน้า เพื่อมุ่งขยายความร่วมมือ
.
1/ สิ้นสุดไปแล้วสำหรับการประชุมเต็มคณะ ของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ชุดที่ 19 ครั้งที่ 5 ที่กรุงปักกิ่ง วันสุดท้ายเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 29 ต.ค.)
.
2/ China Report ASEAN – Thailand ขอสรุปสาระสำคัญจากการประชุม ตั้งแต่ 26-29 ต.ค. ดังนี้ครับ...แผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติของจีน ระยะ 5 ฉบับที่ 14 จีนระบุว่า จีนจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนใหม่แห่งการพัฒนาอย่างมีคุณภาพ ลงลึกการปฏิรูปทุกด้าน ยกระดับการเปิดประเทศสู่ภายนอก นำไปสู่ความทันสมัยแห่งสังคมนิยม ปี ค.ศ. 2035
.
3/ มีการกำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมไว้ว่า จีนต้องพัฒนาอย่างมั่นคงบนพื้นฐานที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ระบบตลาด อารยธรรม ระบบนิเวศ เพื่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวจีนในระดับสูงขึ้น
.
4/ จีนจะยกระดับการเปิดประเทศในทุกๆด้าน ขับเคลื่อนเสรีภาพทางการค้าและการลงทุนด้วย ‘หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง’ ที่สำคัญจีน จะร่วมปฏิรูประบบบริหารเศรษฐกิจโลก
.
5/ จีนย้ำว่า การพัฒนาต้องควบคู่ไปกับความมั่นคง ขจัดความเสี่ยง ประกันความมั่นคงความปลอดภัยในชีวิตของประชาชน รักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของสังคม
.
6/ จีนจะพึ่งลำแข้งของตนเองในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เข้มแข็ง ก้าวสู่การเป็นประเทศนวัตกรรมชั้นนำ เพื่อให้พลังทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ขับเคลื่อนพลังทางเศรษฐกิจ และพลังโดยรวมของประเทศ ให้เติบโตขนานใหญ่ เมื่อระบบเศรษฐกิจมีความทันสมัย การปล่อยคาร์บอนต้องลดลง ประเทศต้องมีระบบนิเวศที่ดีขึ้น
.
7/ ผลิตภัณฑ์มวลรวมทางเศรษฐกิจและรายได้ของประชาชนชาวจีนทั้งในเมืองและชนบท จะต้องมีความก้าวหน้าครั้งใหญ่ จีดีพีเฉลี่ยต่อคน อย่างน้อยต้องสูงถึงระดับกลางของระดับประเทศที่พัฒนาแล้ว
.
8/ ในการประชุม มีการย้ำเสมอว่า การที่จีนก้าวหน้า ไม่ใช่เพื่อการเป็นปฏิปักษ์ หากแต่ว่า จีนก้าวหน้าเพื่อมุ่งขยายความร่วมมือ เช่น ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในอีกหลายๆด้าน ให้มากขึ้นกว่าเดิม
.
9/ โดยสรุปแล้ว แผนพัฒนาของจีน ล้วนแต่มุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนชาวจีนให้ดีขึ้น สร้างเสริมความสุข มีงานทำ มีรายได้ มีการศึกษา มีสุขภาพดี มีระบบประกันสังคมถ้วนหน้า ทุกๆด้านมีความสมดุล เป็นธรรม เป็นหนึ่งเดียว และยั่งยืน
.
อ้างอิง จาก...
-www.xinhuanet.com/english/2020-10/29/c_139476109.htm
-https://news.cgtn.com/news/2020-10-29/19th-CPC-Central-Committee-concludes-fifth-plenary-session-UZ8ZC4kHhm/index.html
.