ติดตามสถานะการณ์

Oct 28, 2020 โอ้ว! ยอดติด-นอนโรงพยาบาล-ตาย พุ่งทำสถิติใหม่ทั้งหมดในยุโรป เยอรมนีเจอยอดตายโควิดสูงในรอบ 5 เดือน
.
เยอรมนี: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า เยอรมนีเผชิญกับแนวโน้มผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างเป็นที่น่ากังวล จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 81 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ส่งผลให้กลายเป็นสถิติผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 80 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 10,263 ราย ด้านจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 24 ตุลาคม มีจำนวน 13,161 ราย ทำสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 4 และเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันด้วย ในขณะที่เมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น เยอรมนีทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดถึง 13,476 ราย สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในเยอรมนีเป็นต้นมา และอยู่อันดับที่ 16 ของโลก ขยับขึ้น 1 อันดับโลกใน 5 วันผ่านมา
.
สเปน: กระทรวงสาธารณสุข สเปน เปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 267 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ส่งผลให้กลายเป็นสถิติผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 10 วันผ่านมาติดต่อกัน ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 100 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 35,298 ราย อยู่อันดับที่ 8 ของโลก และเป็นอันดับ 4 ในยุโรป สำหรับสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ในสเปนเมื่อ 24 ชั่วโมงผ่านมา มีจำนวนเพิ่มขึ้น 18,418 ราย ส่งผลให้สเปนมีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 1,174,916 อยู่อันดับที่ 6 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของยุโรป ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านไป สเปนมีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ใน 1 วันพุ่งขึ้นทำสถิติใหม่นับตั้งแต่เกิดการระบาดเป็นต้นมา โดยมีมากถึง 21,200 ราย
.
สาธารณรัฐเชค: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดเชื้อ จำนวนผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล และจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ทำสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมา จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 15,663 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดเป็นต้นมา นอกจากนี้ ยังทำสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 6 ทำให้จำนวนติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 284,003 ราย อยู่อันดับที่ 28 ของโลก ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศในรอบ 1 วันผ่านมา พุ่งขึ้น 578 ทำสถิติ มากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในสาธารณรัฐเชค ทำให้จำนวนสะสมรวมเป็น 6,191 ราย ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในรอบ 1 วันผ่านมาที่ 182 รายนับเป็นยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีจำนวนมากกว่าวันละ 100 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 7 อีกด้วย ส่งผลให้ตัวเลขสะสมมาอยู่ที่ 2,547 ราย
.
อิตาลี: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 21,994 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในอิตาลี และทำสถิติพุ่งเกินกว่าวันละ 20,000 รายเป็นครั้งที่ 2 ทำให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 564,778 ราย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 4 ของยุโรป และเป็นอันดับที่ 14 ของโลก ขยับขึ้น
.
2 อันดับในชั่วข้ามวัน ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นอีก 221 ราย ทำสถิติเสียชีวิตมากกว่าวันละ 200 รายเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดโรคระบาดเป็นต้นมา ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 37,700 ราย ทำสถิติประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ในยุโรป
.
เบลเยียม: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 89 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ส่งผลให้กลายเป็นสถิติผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 80 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 10,899 ราย ด้านจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 28 ตุลาคม มีจำนวน 12,687 ราย ทำสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 6 วันติดต่อกันผ่านมาด้วย ในขณะที่เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น เบลเยียมทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดถึง 17,709 ราย สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศเป็นต้นมา และอยู่อันดับที่ 24 ของโลก
.
สหราชอาณาจักร: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 367 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ส่งผลให้กลายเป็นสถิติผู้เสียชีวิตมากที่สุดในรอบ 5 เดือน หรือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม และเป็นครั้งแรกที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่าวันละ 300 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็น 45,365 ราย ทำสถิติอันดับ 5 ประเทศที่มีผู้เสียชีวิตสะสมมากของโลก และเป็นอันดับ 1 ในทวีปยุโรปด้วย ด้านจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 28 ตุลาคม มีจำนวน 22,885 ราย ทำสถิติติดมากกว่า 20,000 รายเป็นครั้งที่ 6 ในรอบ 7 วันผ่านมาด้วย ในขณะที่เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมานั้น สหราชอาณาจักรทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดถึง 26,684 ราย สร้างสถิติจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศเป็นต้นมา และอยู่อันดับที่ 9 ของโลก
.
โปแลนด์: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 16,300 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา และยังทำสถิติติดเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 10,000 รายเป็นครั้งที่ 7 และเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 280,229 ราย อยู่อันดับที่ 29 ของโลก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 132 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 4,615 ราย ด้านจำนวนผู้ติดเชื้อถูกส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทั่วประเทศในรอบ 1 วันผ่านมา พุ่งขึ้น 1,009 ราย ทำสถิติมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศโปแลนด์ ทำให้จำนวนสะสมรวมเป็น 13,291 ราย
.
#ยุโรป #เยอรมนี #สเปน #อิตาลี #ฝรั่งเศส #โควิด19 #โควิดรอบ 2 #misterban

 

Oct 28 , 2020 กยท.ลุ้นราคายางทะลุเกิน 100 บาทต่อกิโลกรัม หลังคาดว่าจะเกิน 80 บาทต่อกิโลกรัมเร็วๆนี้ จากปัจจัยน้ำท่วมและฝนตกหนัก ส่งผลให้ผลผลิตทั่วโลกลดลง
.
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย หรือ กยท. เปิดเผยว่า ราคายางยังคงบวกอย่างต่อเนื่อง และทะลุแนวต้านสูงสุดในรอบ 3 ปี 8 เดือน คาดการณ์ว่าราคายางพาราจะสามารถพุ่งสูงแตะ 80 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ในเร็ว ๆ นี้ ส่วนแนวต้านต่อไปที่คาดว่าราคายางพาราจะขึ้นไปได้ คือ 90-100 บาทต่อกิโลกรัมตามลำดับ
.
คาดว่าในปี 2563 ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นกว่าราคารับประกันทุกตัว เนื่องจากเกิดน้ำท่วมและฝนตกหนัก ในจีนตอนใต้และเวียดนาม ส่งผลให้ผลผลิตทั่วโลกลดลง ส่วนไทยก็ประสบปัญหาฝนตกผลผลิตออกน้อยกว่า 10% แต่ตลาดโลกยังมีความต้องการไม่ต่างจากปี 2562 ที่ส่งออกได้ 4.35 ล้านตัน
.
โดยในปี 2563 จะมีการส่งออกได้ประมาณ 4.46 ล้านตัน แต่ราคาที่ส่งออกจะเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จากปีก่อน หรือมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น 5.6 หมื่นล้านบาท หรือรวมมูลค่าส่งออกประมาณ 2.43 แสนล้านบาท จากปี 2563 ส่งออกได้ประมาณ 1.87 แสนล้านบาท ส่งผลให้ กยท.สามารถมีรายได้จากการส่งออก ประมาณ 8 พันล้านบาท จากสภาพอากาศในกลุ่มประเทศผู้ผลิตยางที่มีฝนตกชุก และเกิดน้ำท่วม นอกจากนี้ ยังมีพายุโซเดลซึ่งเป็นพายุลูกใหม่ที่กำลังก่อตัว เป็นปัจจัยที่ส่งผลด้านราคายางให้ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากการไล่ซื้อของผู้ประกอบการจากจีน ที่ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลสนับสนุนให้มีการใช้รถยนต์ขนาดเล็กมากขึ้น ทำให้มีการผลิตและใช้ยางรถยนต์ในจีนเพิ่มขึ้น 3 เท่าจากปกติ
.
#ราคายาง #สูงสุด #ยางพารา #Misterban

 

Oct 28 , 2020 ครม.อนุมัติต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 1 เดือนถึงสิ้นเดือน พ.ย.63 เพื่อคุมโควิด
.
รายงานจากทำเนียบรัฐบาลระบุว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมเป็นประธาน มีมติเห็นชอบขยายระยะเวลาการบังคับใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคม 2563 ออกไปอีก 1 เดือน หรือไปเป็นสิ้นสุดในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
.
สำหรับการการประกาศบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฯ ทั่วราชอาณาจักรเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 8 ครั้งที่ 1 วันที่ 26 มีนาคม – 30 เมษายน 2563
.
ครั้งที่ 2 วันที่ 1 พฤษภาคม – 31 พฤษภาคม 2563
ครั้งที่ 3 วันที่ 1 มิถุนายน – 30 มิถุนายน 2563
ครั้งที่ 4 วันที่ 1 กรกฎาคม – 31 กรกฎาคม 2563
ครั้งที่ 5 วันที่ 1 สิงหาคม – 31 สิงหาคม 2563
ครั้งที่ 6 วันที่ 1 กันยายน – 30 กันยายน 2563
ครั้งที่ 7 วันที่ 1 ตุลาคม – 31 ตุลาคม 2563
ครั้งที่ 8 วันที่ 1 พฤศจิกายน – 30 พฤศจิกายน 2563
.
#พรกฉุกเฉิน #1เดือน #Misterban #Covid19

 

Oct 28 , 2020 ประชาชนสงขลาแห่เดินทางไปแบงก์กรุงไทย ขอให้ช่วยแก้ปัญหาแอปพลิเคชันเป๋าตัง หลังสแกนหน้าไม่ผ่าน – จำรหัสไม่ได้ หวั่นพลาดสิทธิโครงการ “คนละครึ่ง”
.
พื้นที่ธนาคารกรุงไทย สาขาหาดใหญ่ใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ประชาชนจำนวนมากเดินทางไปลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งจำนวนมาก ตั้งแต่ก่อนเปิดเวลาทำการแต่ยังมีปัญหาเรื่องแอปพลิเคชันเป๋าตัง จึงต้องนำโทรศัพท์มือถือไปให้เจ้าหน้าที่ธนาคารแก้ไข เพราะมีปัญหาสแกนใบหน้าไม่ผ่านและจำรหัสเดิมไม่ได้ จึงไม่สามารถใช้บริการโครงการคนละครึ่งได้หลังจากที่เปิดให้ใช้สิทธิ์มาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563
.
โดยจากจำนวนประชาชน ที่ไปนั่งรอตั้งแต่ก่อนธนาคารเปิดทำการ จึงทำให้เกิดปัญหาขึ้นเล็กน้อยจากการแจกบัตรคิว เพราะเจ้าหน้าที่ไม่รู้ว่าใครมาก่อนมาหลัง ผู้ที่มารอต้องบอกและช่วยยืนกันเอง บางคนมารอตั้งแต่ 07.00 น.เนื่องจากทางธนาคารกรุงไทยสาขาหาดใหญ่ใน ให้บริการผู้ที่มาทำธุรกรรมแอปพลิเคชันเป๋าตังเปิดบัญชี และเอทีเอ็ม แค่วันละ 120 คิว ช่วงเช้า 60 คิว และช่วงบ่าย 60 คิว
.
ประชาชนที่มาแก้ไขระบบเป๋าตัง บอกว่าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว แต่มีปัญหาเรื่องสแกนใบหน้าไม่ผ่าน และระบบ บอกว่าให้มาติดต่อที่ธนาคาร จึงรีบมาเพื่อนำไปใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งเพราะกลัวพลาดสิทธิ์
.
#คนละครึ่ง #Misterban #กรงุไทย #Misterban

 

Oct 28, 2020 ด่วน! ห้างโตคิวเตรียมปิดกิจการในไทย บอกลามาบุญครองปลายเดือนมกราคม 64 ปิดฉากห้างโตคิว 35 ปีในไทย
.
ห้างสรรพสินค้าโตคิว ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท โตคิว เปิดเผยว่า ห้างสรรพสินค้าโตคิว สาขากรุงเทพ ประเทศไทย เตรียมปิดกิจการค้าปลีกในรูปแบบห้างสรรพสินค้าในช่วงปลายเดือนมกราคม 2564 นี้ การตัดสินใจปิดธุรกิจในประเทศไทยครั้งนี้ ถือเป็นการปิดฉากที่สมบูรณ์แบบ หลังจากในปี 2562 ห้างสรรพสินค้าโตคิวได้ปิดกิจการของสาขาพาราไดซ์ พาร์ค บนถนนศรีนครินทร์ กรุงเทพมหานคร
.
สำหรับสาเหตุในการยุติธุรกิจค้าปลีกของห้างสรรพสินค้าโตคิวในประเทศไทยนั้น เป็นผลมาจากหลากหลายปัจจัยที่เกิดขึ้น รวมถึงความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้า เช่น ภาวะตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศไทยตกต่ำอย่างรุนแรงจากผลกระทบของโรคระบาดโควิด-19 นับตั้งแต่ต้นปีนี้ การแข่งขันและการพัฒนาของธุรกิจค้าปลีกในรูปแบบห้างสรรพสินค้าในประเทศไทยมีความรุนแรงและรวดเร็ว และปัจจัยที่ผลสำคัญและรุนแรงที่สุด คือสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ที่ส่งผลต่อมาตรการจำกัดการเข้าออกของชาวต่างประเทศของประเทศไทย
.
ในขณะที่บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารเอ็มบีเค ได้เปิดเผยรายงานที่ประชุมของบริษัทดังกล่าวว่า ห้างสรรพสินค้าโตคิว มาบุญครองเซ็นเตอร์ ได้เช่าพื้นที่ทั้ง 4 ชั้น ในปัจจุบัน โดยทำการต่อสัญญาเช่าพื้นที่ไปเป็นเวลา 9 ปี
.
ด้านผลประกอบการของห้างสรรพสินค้าโตคิว มาบุญครองเซ็นเตอร์ พบว่า มีผลการดำเนินงานขาดทุนถึง 3 ปีติดต่อกัน เริ่มจาก ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 288,437,791 ล้านบาท ในปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 90,034,335 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 193,564,674 ล้านบาท รวมผลการขาดทุนสะสมสุทธิเป็น 572,036,800 ล้านบาท โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่าในปี 2560 มีผลขาดทุนสูงสุด
.
สำหรับธุรกิจห้างสรรพสินค้าจากประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย ต้องเผชิญกับปัจจัยลบรวมถึงความไม่แน่นอนอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในรายล่าสุด คือ กลุ่มบริษัท อิเซตัน มิตซูโคชิ โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ได้ปิดกิจการห้างอิเซตัน สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปิดฉากธุรกิจที่เปิดมาอย่างยาวนานถึง 28 ปี

ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้าโตคิวเปิดดำเนินกิจการในประเทศไทย ใช้ชื่อว่า บริษัท กรุงเทพ-โตคิว สรรพสินค้า จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2541 ทุนจดทะเบียน 12 ล้านบาท โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 1985 หรือปี 2528 หรือเปิดกิจการมานานถึง 35 ปี
.
#ปิดกิจการ #เลิกกิจการ #โตคิว #ไทย #ห้างสรรพสินค้า #misterban

 

Oct 28 , 2020 ครม.เห็นชอบหลักการเปิดรับนักท่องเที่ยว STV กลุ่มเรือสำราญ – เรือยอร์ช แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโควิด
.
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรีหรือ ครม.เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดรับนักท่องเที่ยวประเภทพิเศษ Special Tourist Visa (STV) โดยจะออกประกาศให้คนต่างด้าวที่มีคุณสมบัติ ตามที่กำหนดมีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTV ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ภายใน 30 วันหลังจากมีประกาศบังคับใช้ ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2564
.
สำหรับคุณสมบัติที่กำหนดของคนต่างด้าวที่มีสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTV มีดังนี้
.
เป็นบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา(เรือยอร์ช)ในกลุ่มผู้ควบคุมยานพาหนะ หรือเจ้าหน้าที่ประจำยานพาหนะ หรือผู้โดยสาร ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำหรือความเสี่ยงปานกลาง ตามการจัดกลุ่มประเทศด้านการแพทย์และสาธารณสุข สำหรับการผ่อนคลายผู้ไม่มีสัญชาติไทยเข้ามาในราชอาณาจักรตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
.
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวจะต้องยอมรับการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ราชการกำหนดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 และยินยอมกักตัวภายในเรือไม่น้อยกว่า 14 วัน พร้อมกับมีหลักฐานเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อท่องเที่ยวโดยเรือสำราญและกีฬา
.
รวมถึงต้องมีหลักฐานกรมธรรม์การทำประกันสุขภาพที่คุ้มครองตรวจรักษาโรคโควิด-19 ในวงเงิน 100,000 เหรียญสหรัฐฯ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในประเทศไทย รวมถึงการทำประกันสุขภาพและอุบัติเหตุของไทยคุ้มครองตลอดระยะเวลาที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมีจำนวนเงินประกันภัยสำหรับค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยนอก ไม่น้อยกว่า 40,000 บาท และผู้ป่วยในไม่น้อยกว่า 400,000 บาท และมีหลักฐานการชำระเงินล่วงหน้าในการเช่าจองสถานที่จอดเรือ พร้อมปฏิบัติตามประกาศของกรมเจ้าท่าว่าด้วยแนวปฏิบัติสำหรับเรือสำราญและกีฬา(เรือยอร์ช)ที่เข้ามาในน่านน้ำไทย
.
สำหรับบุคคลต่างด้าวที่มากับเรือยอร์ช ที่ผ่านคุณสมบัติข้างต้นแล้วจะขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTV จะเสียค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราครั้งละ 2,000 บาท ได้รับอนุญาตให้อยู่ในประเทศไทยได้เป็นเวลา 90 วัน นับแต่วันที่เดินทางเข้ามา อย่างไรก็ตามให้ผ่อนผันสำหรับกรณีที่เรือยอร์ชเดินทางออกจากประเทศต้นทางและอยู่ระหว่างการเดินทางเข้ามาในน่านน้ำไทยก่อนที่ประกาศจะมีผลบังคับใช้ กลุ่มนี้จะได้รับสิทธิ์ขอรับการตรวจลงตราประเภทนักท่องเที่ยวSTVได้เป็นเวลา 30 วันหลังจากที่ประกาศมีผลบังคับใช้
.
อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ครบกำหนดอยู่ในไทยแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองมีอำนาจอนุญาตให้อยู่ต่อไปได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 90 วัน โดยให้คนต่างด้าวยื่นคำขอและเสียค่าธรรมเนียมตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
.
#เรือสำราญ #เรือยอร์ช #Misterban #Covid19

 

Oct 28 , 2020 กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืนแนะปรับแผนพีดีพีใหม่ ให้ชะลอลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า หลังกำลังผลิตสำรองสูงถึงระดับ 50% เป็นภาระต่อผู้บริโภค
.
ดร.ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน (ERS) เปิดเผยว่า ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาภาครัฐได้อนุมัติให้สร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มโดยมิได้ทบทวนแนวโน้มความต้องการใช้ไฟฟ้าในระยะยาวที่ลดลงอย่างเพียงพอ เนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหลายช่วง
.
รวมทั้งการคาดการณ์ที่ต่ำเกินไปของการผลิตไฟฟ้าในรูปแบบใช้เอง (Prosumer) ของภาคอุตสาหกรรมและครัวเรือน ผนวกกับสถานการณ์โควิด-19 ทำให้เกิดปัญหากำลังผลิตสำรองสูงถึงระดับ 50% เป็นภาระต่อผู้บริโภค เนื่องจากระบบค่าไฟฟ้าเป็นแบบผ่านส่งต้นทุนเพราะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)เป็นผู้รับซื้อไฟฟ้าเข้าระบบสายส่งเพียงรายเดียว
.
ทั้งนี้ ERS มีข้อเสนอในหลากหลายมาตรการเพื่อลดผลกระทบในประเด็นดังกล่าว ดังนี้
.
1.ทบทวนหลักเกณฑ์ทางการเงินในการกำหนดค่าไฟฐาน เพื่อลดค่าไฟฐานและสร้างแรงจูงใจให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าระบบปัจจุบันที่รับประกันผลตอบแทน
.
2.ในส่วนของกำลังผลิตใหม่ให้เร่งเจรจาชะลอการลงทุนและเลื่อนกำหนดการเข้าสู่ระบบ (COD) ของหน่วยผลิตไฟฟ้าใหม่ โดยเฉพาะของเอกชนที่ได้รับอนุมัติโดยมิได้ผ่านการประมูล

3.ในส่วนของกำลังผลิตที่ติดตั้งไปแล้ว ให้ปรับระบบการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าในส่วนที่เรียกกันว่า Merit Order โดยจัดให้โรงไฟฟ้าต่างๆ ทั้งเอกชนและของรัฐแข่งกันเสนอราคาขายที่ต่ำที่สุด ซึ่งอาจจะต่ำกว่าค่าพลังงานที่เคยระบุไว้ในสัญญา 4.รัฐควรใช้เงื่อนไขตามสัญญาเพื่อลดหรือเจรจาลดการซื้อในส่วนที่เป็นสัญญาผูกมัด (Must take) และลดการจ่าย “ค่าความพร้อมจ่าย” ที่สามารถลดได้ และ5.ไม่ต่อใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น
.
ด้านการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ( พีดีพี )ควรปรับปรุงกระบวนการให้ทันสมัย โปร่งใส และมีความยืดหยุ่น สะท้อนความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ให้เกิดการอนุมัติกำลังผลิตที่เกินความจำเป็นและเป็นปัญหาที่ยาวนาน และเพื่อวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จริงจังมากขึ้น ขณะเดียวกันควรเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ได้พีดีพี ที่โปร่งใสและสมบูรณ์
.
ส่วนในระยะยาว หากปฏิรูปให้มีตลาดซื้อขายไฟฟ้าเสรี สถานการณ์กำลังผลิตสำรองล้นเกินจะทำให้ค่าไฟลดลงแทนที่จะสูงขึ้น ดังนั้นควรเปิดบริการสายส่ง สายจำหน่ายไฟฟ้าแก่บุคคลที่สาม (TPA) เช่นเดียวกับที่ได้มีการเปิด TPA ระบบท่อก๊าซธรรมชาติและคลังนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ไปแล้ว การแข่งขันตลอดสายจะทำให้ระบบมีทั้งความมั่นคงและได้ค่าไฟฟ้าที่ต่ำลงสำหรับผู้บริโภค กลุ่ม ERS จึงเสนอให้เตรียมการออกแบบตลาดไฟฟ้าที่มีทั้งการประมูลค่าพลังงานไฟฟ้า และการประมูลค่ากำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อป้องกันปัญหาค่าไฟพุ่งขึ้นสูงมากในช่วงขาดแคลน โดยมีเงื่อนไขการแบ่งภาระความเสี่ยงอย่างเหมาะสมและเป็นธรรมระหว่างผู้ผลิตไฟฟ้ากับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นช่วงกำลังผลิตสำรองเกิน หรือขาด หรือสมดุล
.
สำหรับด้านปิโตรเลียม ขอเร่งรัดให้พัฒนาทรัพยากรปิโตรเลียมของไทยก่อนที่จะด้อยค่า ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด-19 ด้วย ได้แก่ การเปิดสัมปทานรอบ 23 การพัฒนาพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา รวมถึงการนำพื้นที่ภาคเหนือที่อยู่ใต้กรมการพลังงานทหารมาอยู่ภายใต้ พ.ร.บ. ปิโตรเลียม พ.ศ.2560 เพื่อนำผลประโยชน์มาเป็นรายได้ส่วนกลางของรัฐ
.
ขอเสนอให้ไทยกำหนดสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนต่อพลังงานโดยรวม ไม่ต่ำกว่า 50% โดยเร็ว เพื่อให้ไทยก้าวไปสู่การเป็นเศรษฐกิจและสังคมคาร์บอนต่ำ ที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็น 0 (Carbon Neutral) ภายในปี ค.ศ. 2050 โดยการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน พลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาด รวมทั้งนำระบบ Carbon Tax/Carbon Pricing มาใช้
.
ทั้งนี้ต้องเปิดเผยข้อมูลพีดีพี เช่น ต้นทุนของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ทั้งเอกชนและ กฟผ. ข้อจำกัดในการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ข้อจำกัดของระบบสายส่งสาย รวมทั้งการวิเคราะห์ทางเลือกต่าง ๆ ในการจัดหาไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการลงทุนโดยรวมที่มีประสิทธิภาพ (Optimization) ระหว่างสายส่งสายจำหน่าย กับการสร้างโรงไฟฟ้าในการจัดทำแผน PDP และแผนการลงทุนในระบบสายส่งสายจำหน่าย นอกจากนี้การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ควรผ่านการประมูลแข่งขันด้านราคา โดยมีต้นทุนผันแปรของโรงไฟฟ้าหลักเป็นเพดาน
.
#โรงไฟฟ้า #เบรก #ส่วนเกิน #PDP #Misterban

 

Oct 28 , 2020 ไทย - จีน ลงนามสัญญา 2.3 จัดหาขบวนรถไฟความเร็วสูงและจัดฝึกอบรมบุคลากร วงเงิน 50,633 ล้านบาท
.
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยในโอกาสเป็นประธานในพิธีลงนามในสัญญาจ้างงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล รวมทั้งจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากร (สัญญา 2.3) ของโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและจีนในการพัฒนาระบบรถไฟความเร็วสูง เพื่อเชื่อมโยงภูมิภาค ช่วงกรุงเทพมหานคร - หนองคาย (ระยะที่ 1 ช่วงกรุงเทพฯ - นครราชสีมา) ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับโครงการความร่วมมือฯ นี้ เนื่องจากเป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ และเป็นกลไกในการพัฒนาประเทศ และภูมิภาค
.
สำหรับเส้นทางนี้เปรียบเสมือนสายใยเชื่อมโยงไทยกับจีนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นระหว่างกันในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ และความเชื่อมโยงทางคมนาคม ตลอดจนส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนกับประชาชนให้มากยิ่งขึ้น
.
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า สำหรับ โครงการนี้ เป็นอีกโครงการสำคัญ ที่รฟท.ได้รับมอบหมายให้พัฒนาโครงการตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน โดยได้ดำเนินงานก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ 1 สัญญา คือ สัญญา 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 1 สัญญา คือ สัญญา 2-1 สีคิ้ว-กุดจิก โดยมีความคืบหน้า 42%
.
ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการลงนามเตรียมลงนามสัญญาก่อสร้างอีก 9 สัญญา และขั้นตอนการประกาศผลการประกวดราคา 2 สัญญา และอยู่ระหว่างการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคาอีก 1 สัญญา ซึ่งจะดำเนินการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง 253 กิโลเมตร และสถานีรถไฟความเร็วสูง 6 สถานี คือ สถานีกลางบางซื่อ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา
.
สำหรับในวันนี้ลงนามในสัญญา 2.3 เพื่อดำเนินงานระบบราง ระบบไฟฟ้าและเครื่องกล และจัดหาขบวนรถไฟและจัดฝึกอบรมบุคลากรเพื่อการเดินรถและซ่อมบำรุง วงเงิน 50,633 ล้านบาท เป็นโอกาสดีที่ไทยจะได้รับความรู้และเทคโนโลยีระบบรางจากจีน
.
นายศักดิ์สยาม ชิดชอม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า สำหรับโครงการนี้เมื่อแล้วเสร็จปี 2568 จะเป็นการยกระดับมาตรฐานรถไฟไทย ให้มีความเจริญก้าวหน้า เป็นการลงทุนเพื่อวางรากฐานความมั่นคง ด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านคมนาคมของไทยในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลในการพัฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี
.
#รถไฟฟ้าความเร็วสูง #ไทย #จีน #Misterban

 

พิพิธภัณฑ์ทั่ว "เนเธอร์แลนด์" เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด่วน หลัง “เครื่องแบบหน่วย SS –ปืนนาซีเยอรมัน” ถูกโจรกรรมตามใบสั่ง
.
.
.
เอเจนซีส์ – พิพิธภัณฑ์สงครามทั่วเนเธอร์แลนด์ในเวลานี้กำลังตื่นตัวกับความพยายามที่จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยป้องกันการถูกเข้าโจรกรรมของมีค่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่มีใบสั่งต้องการของที่ระลึกเกี่ยวข้องกับอดีตผู้นำนาซีเยอรมัน อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และกองทัพของเขา ซึ่งรวมถึงเครื่องแบบหน่วย SS ของฮิตเลอร์ อาวุธปืน และร่มชูชีพ
.
หนังสือพิมพ์เดอะการ์เดียนรายงานวันนี้(27 ต.ค)ว่า ท่ามกลางความต้องการจากทั่วโลกถึงของมีค่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 พบว่าพิพิธภัณฑ์สงครามในออสเซนเดรชต์( Ossendrecht) จังหวัดนอร์ทบราแบนต์ (North Brabant) และที่ บีค( Beek) จังหวัดลิมบูร์ก (Limburg) ถูกเข้าโจรกรรมเมื่อในไม่นานมานี้
.
และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ พิพิธภัณฑ์ต่างๆได้นำของมูลค่าสูงออกไปจากที่จัดแสดงหรือเพิ่มมาตรการป้องกันให้มีความเข้มงวดมากขึ้นด้วยเกรงว่าอาตเป็นการโจรกรรมตามใบสั่ง
.
พิพิธภัณฑ์สงครามปี 1940 -1945(The 1940-1945 War Museum) ในลุน อ็อพ ซานด์(Loon op Zand)ได้นำส้อมออกไปจากที่จัดแสดงส่วนของเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารส่วนตัวของผู้นำนาซี อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ และไฮน์ริช ฮิมเลอร์ (Heinrich Himmler)หัวหน้าหน่วยทซ์ชทัฟเฟิล (Die Schutzstaffel) หรือ SS ซึ่งเป็นองค์การกำลังกึ่งทหารสังกัดพรรคนาซีภายใต้คำสั่งของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์
.
และทางพิพิธภัณฑ์ยังเปิดเผยว่าได้มีการติดตั้งประตูความมั่นคงขึ้นใหม่
.
ด้าน ฟรานส์ ฟอน เฟนรอยจ์(Frans van Venrooij )เจ้าของพิพิธภัณฑ์เปิดเผยว่า “เมื่อวานนี้ผมได้นำสิ่งของออกจากที่จัดแสดงส่วน(อดอล์ฟ)ฮิตเลอร์ในวัยเยาว์ รวมไปถึงชุดเครื่องแบบหน่วย SS ออกไป”
.
ขณะที่พิพิธภัณฑ์สงครามอาร์นเฮม( Arnhem War Museum)แถลงสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า “ได้ติดตั้งเครื่องป้องกันการเข้าออกรถใหญ่เพื่อที่รถที่มีขนาดใหญ่จะไม่สามารถเข้ามาได้
.
และพิพิธภัณฑ์สงครามโอเวอร์ลุน( Overloon War Museum)แถลงว่า ได้ส่งมอบคืนหนังสือล้ำค่าที่หายาก 2 เล่มสมัยช่วงนาซีเรืองอำนาจ ซึ่งรวมไปถึงหนังสือความตายจากค่ายนรกเอาช์วิทซ์(the Dead from Auschwitz) ที่ยืมมาจากสถาบันเนเธอร์แลนด์เพื่อการจดบันทึกสงคราม (Netherlands Institute for War Documentation)ในอัมสเตอร์ดัม
.
ทั้งนี้ 2 สัปดาห์ก่อนหน้ามีการโจรกรรมช่วงกลางดึกมูลค่าหลายแสนยูโรเกิดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์อูร์ล็อกส์(Oorlogsmuseum)ในออสเซนเดรชต์ สิ่งของจัดแสดงที่หายไปรวมถึง ชุดเครื่องแบบหน่วย SS ร่มชูชีพ และอาวุธปืนที่รวมถึง ฟัลเชียร์มเยเกอร์เกเวร์ 42 (Fallschirmjägergewehr 42 )หรือ ปืนไรเฟิลทหารโดดร่ม 42 ซึ่งเป็นปืนไรเฟิลอัตโนมัติแบบเลือกโหมดยิงถูกผลิตขึ้นในนาซีเยอรมัน มีมูลค่า 50,000 ยูโร
.
ด้าน ยอน เดอ ยองจ์( Jan de Jonge) เจ้าของพิพิธภัณฑ์ที่อาศัยอยู่ถัดไปเปิดเผยว่าโจรได้แอบเจาะประตูเพื่อปลดล็อกด้านใน และชี้ต่อว่าตัวเขาไม่ได้ยินเสียงผิดปกติอะไรทั้งสิ้น
.
พบว่าโจรได้ตัดกระจกตู้จัดแสดงและนำออก โดยนำสิ่งของจัดแสดงที่เชื่อกันว่าจะสามารถขายได้ในตลาดโลก ทางเจ้าของยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้เป็นทรัพย์สินส่วนบุคคลดังนั้นจึงไม่มีการประกันไว้
.
ขณะที่พิพิธภัณ์สงครามพยานด้วยสายตา( Eyewitness Museum)ในบีคถูกโจรกรรมสิ่งของจัดแสดงในเดือนสิงหาคมตกความเสียหายรวม 1.5 ล้านยูโร
.
ด้านเจ้าของพิพิธภัณฑ์ วิม ซีเลน( Wim Seelen )เปิดเผยว่า ปรตูหน้าถูกงัดด้วยกลุ่มโจร 6 คนและคนเหล่านี้ได้ทุบตู้จัดแสดงและดูเหมือนจะรู้ว่าต้องการขโมยสิ่งใดออกไปบ้างในการโจรกรรมที่ใช้เวลาแค่ 6 นาทีเท่านั้น โดยทางซีเลนเชื่อว่าต้องมีใบสั่งอยู่เบื้องหลังการโจรกรรมครั้งนี้อย่างแน่นอน
.
ทั้งนี้ตำรวจเนเธอร์แลนด์กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนการโจรกรรมอุกอาจแต่ยังไม่มีการจับกุมเกิดขึ้น

 

‘แอนต์’ยักษ์ฟินเทคจีนทำIPOระดมทุนสูงเป็นประวัติการณ์ 34,000ล้านดอลลาร์ คาดส่ง‘แจ็ก หม่า’ขึ้นเศรษฐีเบอร์11ของโลก

แอนต์ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ฟินเทคและอี-เพย์เมนต์ในเครืออาลีบาบา โดยเป็นที่รู้จักกันนอกประเทศจีนในฐานะเจ้าของ “อาลีเพย์” เปิดตัวเริ่มขายหุ้นต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) พร้อมๆ กัน ทั้งในตลาดหุ้นฮ่องกงและตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันอังคาร (27 ต.ค.) ปักหมุดระดมทุน 34,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะกลายเป็นการทำไอพีโอครั้งที่มีมูลค่าสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็จะทำให้ผู้ถือหุ้นอย่าง แจ็ก หม่า กลายเป็นอภิมหาเศรษฐีอันดับที่ 11 ของโลก

การทำไอพีโอ ของแอนต์ กรุ๊ป ครั้งนี้ จะทำลายสถิติเดิมของซาอุดี อารัมโก รัฐวิสาหกิจน้ำมันของซาอุดีอาระเบียทซึ่งทำไว้เมื่อระดมทุนได้กว่า 29,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

แอนต์ เริ่มแรกเป็นเจ้าของอาลีเพย์ ซึ่งทำหน้าที่รองรับสนับสนุนกิจการอี-คอมเมิร์ซของอาลีบาบา ได้พัฒนากลายเป็นผู้นำระบบชำระเงินออนไลน์ในจีน ขณะเดียวกัน แอนต์ยังได้ขยายกิจการด้านเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) จนกลายเป็นผู้นำและผู้เล่นรายบิ๊กในแดนมังกรในเรื่องการเงินออนไลน์ ทั้งในด้านการปล่อยเงินกู้, การออกกรมธรรม์ประกันภัย, กองทุนรวม, บริการเกี่ยวกับการเดินทางอย่างเช่นการจองตั๋วเครื่องบินจองห้องพักโรงแรม เป็นต้น

ขณะที่จีนเป็นประเทศซึ่งพวกผู้บริโภคก้าวกระโดดข้ามจากการใช้เงินสด ทว่าเมินพวกเช็ค และบัตรเครดิต ซึ่งนิยมกันในโลกตะวันตก แต่หันมาใช้อุปกรณ์และแอปชำระเงินตลอดจนทำธุรกรรมทางการเงินออนไลน์อย่างกว้างขวางหลายปีแล้ว ดังนั้น แอนต์จึงถูกมองว่าเป็นบริษัทการเงินแห่งอนาคต และนับวันก็จะทิ้งพวกธนาคารและบริษัทการเงินแบบเดิมๆ เอาไว้เบื้องหลัง

ในวันจันทร์ (26) แอนต์แถลงว่า จะนำหุ้นจำนวน 1,670 ล้านหุ้นออกขายในตลาดฮ่องกงในราคาหุ้นละ 80 ดอลลาร์ฮ่องกง (10.30 ดอลลาร์) นับจากวันอังคาร และขายอีก 1,670 ล้านหุ้นในตลาดเซี่ยงไฮ้ในราคาหุ้นละ 68.80 หยวน (10.30 ดอลลาร์) รวมเป็นมูลค่าเกิน 34,000 ล้านดอลลาร์และอาจถึง 40,000 ล้านดอลลาร์ ถ้านำออปชั่นหุ้นส่วนเกินออกมาขายด้วย

คำแถลงยังระบุว่า หุ้นแอนต์จะเริ่มเทรดในตลาดทั้งสองวันที่ 5 พฤศจิกายน

ยักษ์ใหญ่ฟินเทคและอี-เพย์เมนต์แห่งนี้ยังเผยว่า มีปริมาณธุรกรรมปีละกว่า 118 ล้านล้านหยวน และมีผู้ใช้รายเดือนที่ใช้งานจริงกว่า 700 ล้านคน

การจดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงของแอนต์มีขึ้นหลังจากปักกิ่งเรียกร้องให้ภาคเทคโนโลยีซึ่งเป็นอุตสาหกรรมสำคัญของจีน จดทะเบียนในตลาดหุ้นในประเทศขณะที่จีนกำลังขัดแย้งอย่างรุนแรงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองกับอเมริกา

วันเสาร์ที่ผ่านมา (24) หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างร่วมประชุมบันด์ ซัมมิตที่เซี่ยงไฮ้ว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่การระดมทุนมูลค่าสูงขนาดนี้ ขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ มีการกำหนดราคากันนอกนิวยอร์กซิตี้

“เมื่อ 5 ปีที่แล้วหรือกระทั่ง 3 ปีที่ผ่านมา เราคงไม่กล้าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้”

คาดหมายกันว่า จากการทำไอพีโอครั้งนี้ยังจะส่งให้หม่าขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 11 ของโลกในดัชนีบลูมเบิร์กส์ บิลเลียนแนร์

บลูมเบิร์กระบุว่า หุ้น 8.8% ในแอนต์ที่เป็นของอดีตครูสอนภาษาอังกฤษผู้นี้จะมีมูลค่า 27,400 ล้านดอลลาร์เมื่ออิงกับราคาที่เสนอขาย และทำให้ทรัพย์สินของหม่าเพิ่มเป็น 71,100 ล้านดอลลาร์ มากกว่าแลร์รี เอลลิสันแห่งออราเคิล, ฟรังซัวส์ เบตเตนคอร์ต-เมเยอร์ส ทายาทลอรีอัล และสมาชิกแต่ละคนในครอบครัววัตสันที่เป็นเจ้าของห้างวอลมาร์ทในอเมริกา

นักธุรกิจหมื่นล้านผู้นี้ยังเป็นเพียงผู้ประกอบการที่ขาดแคลนเงินทุนตอนที่มีคนแนะนำให้รู้จักอินเทอร์เน็ตขณะเดินทางไปอเมริกาในทศวรรษ 1990

หลังจากนั้นเขาเปิดตัวธุรกิจมากมายที่เกี่ยวข้องกับอินเทอร์เน็ตในจีนซึ่งมีทั้งสำเร็จและล้มเหลว ก่อนที่จะโน้มน้าวให้เพื่อนกลุ่มหนึ่งร่วมสมทบทุน 60,000 ดอลลาร์เพื่อก่อตั้งอาลีบาบาในปี 1999

บลูมเบิร์กระบุว่า การทำไอพีโอครั้งนี้จะทำให้มีเศรษฐีพันล้านแจ้งเกิดอีกอย่างน้อย 18 คน อาทิ ลูซี เผิง กรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่สุดในแอนต์รองจากหม่า และ อิริก จิง ประธานกรรมการของแอนต์

นอกจากนั้น รายงานของหูรุ่น รีพอร์ตที่ออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังระบุว่า ทรัพย์สินของหม่าเพิ่มขึ้น 45% ในปีนี้ จากการเติบโตของธุรกิจช้อปปิ้งออนไลน์ในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคต้องกักตัวภายใต้มาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนา

 

‘ทรัมป์’ฮึกเหิมตั้ง ‘ผู้พิพากษาศาลสูงสุด’สำเร็จ ‘ไบเดน’โวยรีพับลิกันรีบร้อนผิดปกติ

ทรัมป์ได้ชัยชนะสำคัญก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งแค่ 8 วัน หลังวุฒิสภาที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากโหวตรับรองผู้พิพากษาศาลสูงสุดที่เขาเสนอชื่อ ซึ่งจะทำให้ฝ่ายอนุรักษนิยมครองเสียงถึง 6 ใน 9 ขององค์คณะตุลาการชุดนี้และอาจส่งผลต่อการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่จะมีขึ้นต้นเดือนหน้า ด้านไบเดนโจมตีรีพับลิกันรีบร้อนผิดปกติ พร้อมกับบอกว่านี่เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นว่าทุกเสียงมีความสำคัญ ดังนั้นอเมริกันชนต้องออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ในวันจันทร์ (26 ต.ค.) วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติด้วยคะแนน 52-48 รับรอง เอมี โคนีย์ แบร์เรตต์ อาจารย์นิติศาสตร์วัย 48 ปี ดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาคนใหม่ของศาลสูงสุด ซึ่งถือเป็นสมาชิกคนที่ 6 ในองค์คณะตุลาการศาลสูงสุดชุดปัจจุบันที่มีแนวทางอนุรักษนิยม และเป็นคนที่ 3 ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สิทธิ์เป็นผู้เสนอชื่อ ทั้งนี้ผู้พิพากษาศาลสูงสุดสหรัฐฯ มีวาระดำรงตำแหน่งตลอดชีพ

ทรัมป์ประกาศจากทำเนียบขาวโดยมีแบร์เรตต์ยืนอยู่ด้านข้างว่า นี่เป็นวันสำคัญของอเมริกา รัฐธรรมนูญของอเมริกา และหลักนิติธรรมที่เที่ยงตรงและเป็นกลาง

ทางด้านพรรคเดโมแครตไม่พอใจอย่างมากที่รีพับลิกันเร่งรัดให้มีการรับรองแบร์เรตต์ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีเพียงไม่กี่วัน และเตือนว่า แบร์เรตต์อาจลงมติยกเลิกการคุ้มครองสิทธิ์ในการทำแท้งหรือระบบประกันสุขภาพที่คุ้มครองชาวอเมริกันนับล้านคน

ทว่า แบร์เรตต์ที่ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อคืนวันจันทร์ ยืนยันว่า จะไม่นำความเชื่อส่วนตัวมาก้าวก่ายงานตุลาการ รวมทั้งจะไม่ยอมให้การเมืองแทรกแซง

การลงมติรับรองแบร์เรตต์ก่อนถึงกำหนดเลือกตั้งเพียง 8 วันถือเป็นชัยชนะสำคัญที่ทรัมป์จะนำไปอวดอ้างระหว่างลุยหาเสียงโค้งสุดท้ายเพื่อต่อสู้กับโจ ไบเดน ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตที่โพลส่วนใหญ่ระบุว่า มีคะแนนนำในระดับทั่วประเทศราว 10% ขณะที่ในสนามเลือกตั้งสำคัญๆ บางรัฐ คะแนนของทั้งคู่ค่อนข้างคู่คี่

ทางฝ่ายไบเดนแถลงเมื่อคืนวันจันทร์ว่า การรับรองแบร์เรตต์อย่างรีบร้อนและไม่เคยมีมาก่อนเป็นการตอกย้ำกับชาวอเมริกันว่า คะแนนเสียงของทุกคนมีความสำคัญ

ทั้งนี้ ยังต้องติดตามกันต่อไปว่า ชัยชนะนี้จะเป็นตัวพลิกเกมเลือกตั้งประธานาธิบดีมาเข้าทางทรัมป์หรือไม่ แต่ที่แน่ๆ คือวิกฤตโรคระบาดยังตามหลอกหลอนอดีตพิธีกรเรียลลิตี้โชว์ผู้นี้ไม่เลิก ด้วยยอดผู้เสียชีวิตกว่า 225,000 คนในอเมริกา และผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นทำสถิติต่อเนื่องในหลายรัฐ ขณะที่ความหวังรัฐสภาจะสามารถผ่านแพคเกจให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ก่อนวันเลือกตั้งก็ดับวูบ โดยสมาชิกสภาพรรคเดโมแครตกับทำเนียบขาวไม่สามารถตกลงรอมชอมกันได้

กระนั้น ทรัมป์ยังอวดอ้างระหว่างหาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์ว่า โรคระบาดเริ่มซาลงแล้วและกล่าวหาสื่อเอาแต่ประโคมข่าวไวรัส ทั้งที่เมื่อวันอาทิตย์ (25) มาร์ก มีโดว์ส ประธานคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว เพิ่งยอมรับว่า คณะบริหารไม่ได้กำลังจะควบคุมโรคระบาด แต่โฟกัสที่การบรรเทาการระบาดเท่านั้น

ทรัมป์ยังประกาศว่า ประชาชนมีโอกาสเลือกระหว่างตนที่จะผลักดันการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว กับไบเดนที่จะทำให้เศรษฐกิจถดถอยรุนแรง

ด้านไบเดนซึ่งแวะหาเสียงที่เพนซิลเวเนียเมื่อวันจันทร์ โจมตีว่า ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีซึ่งมีความเป็นไปได้อย่างย่ำแย่ที่สุดที่จะนำอเมริกาให้หลุดพ้นจากโรคระบาด ก่อนหน้านั้นเขาก็บอกว่า ทรัมป์ยกธงขาวยอมแพ้ตั้งแต่แรกด้วยการบอกว่า ไวรัสจะหายไปเอง

ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดี วัย 77 ปี ที่ใช้แนวทางในการหาเสียงอย่างระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคระบาดมากกว่าทรัมป์อย่างชัดเจน เสริมว่า จะลุยหาเสียงในช่วงที่เหลือนี้เพื่อนำประชาธิปไตยกลับมา เริ่มจะจากที่รัฐจอร์เจียวันอังคาร (27)

ขณะเดียวกัน มีการเปิดเผยว่า จนถึงวันจันทร์มีชาวอเมริกันถึง 64 ล้านคนไปเลือกตั้งก่อนกำหนด มากกว่าจำนวนผู้ไปใช้สิทธิ์ก่อนกำหนดในการเลือกตั้งปี 2016 ถึง 6 ล้านคน

และจากข้อมูลที่ระบุว่า พวกที่ไปเลือกตั้งก่อนกำหนดนั้น ผู้สนับสนุนเดโมแครตมีสัดส่วนสูงกว่าผู้สนับสนนรีพับลิกันมาก ทำให้ผู้นำรีพับลิกันบางคนเริ่มยอมรับว่า ตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์กำลังอยู่ในอันตราย

 

สหรัฐฯ อนุมัติขายอาวุธอีกชุดให้ไต้หวัน มูลค่า $2.3 พันล้าน เจอจีนตามโวยไม่เลิกเหมือนกัน ฮึ่ม‘แซงก์ชั่น’บริษัทที่ผลิต

กระทรวงการต่างประะเทศสหรัฐฯ อนุมัติแล้วให้สามารถขายระบบป้องกันชายฝั่ง “ฮาร์พูน” ซึ่งผลิตโดยโบอิ้ง แก่ไต้หวันได้ ในข้อตกลงซึ่งอาจมีมูลค่าสูงสุดถึง 2,370 ล้านดอลลาร์ เพนตากอน (กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ) แถลงเมื่อวันจันทร์ (26 ต.ค.) ถือเป็นการท้าทายซ้ำสองหลังจากปักกิ่งเพิ่งแสดงความโกรธเกรี้ยวดีลที่วอชิงตันขายขีปนาวุธและจรวดมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์ให้ไทเปในสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะที่คำแถลงของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเองบอกว่า ได้แจ้งแก่รัฐสภาอเมริกันอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (26) เกี่ยวกับการอนุมัติดังกล่าวซึ่งครอบคลุมข้อเสนอขายระบบป้องกันชายฝั่ง ฮาร์พูน จำนวนสูงสุดไม่เกิน 100 ชุด โดยระบบนี้ครอบคลุมรวมไปถึงขีปนาวุธยิงจากพื้นดินแบบ RGM-84L-4 Harpoon Block II ซึ่งบริษัทโบอิ้งเป็นผู้ผลิต จำนวน 400 ลูก

ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถติดตั้งบนแท่นยิงตายตัวหรือนำขึ้นรถบรรทุกก็ได้ มีพิสัยทำการราว 78 กิโลเมตร สำหรับปฏิบัติการในฐานะขีปนาวุธร่อนป้องกันชายฝั่ง

ตามกระบวนการปฏิบัติ หลังจากกระทรวงการต่างประเทศแจ้งอย่างเป็นทางการแล้ว รัฐสภาจะมีเวลา 30 วันสำหรับคัดค้านการขาย แต่ในกรณีนี้เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น เนื่องจากพวกสมาชิกรัฐสภาทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตต่างให้ความสนับสนุนเรื่องการป้องกันไต้หวันกันอย่างกว้างขวาง

ทางด้านสำนักงานของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน แห่งไต้หวัน ออกคำแถลงแสดงความขอบคุณสหรัฐฯ สำหรับการขายอาวุธคราวนี้ โดยระบุว่ามันจะ “ยกระดับสมรรถนะในการทำสงครามแบบอสมมาตร” ของไต้หวัน

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้มีขึ้น หลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติเมื่อวันพุธ (21) ที่แล้ว ให้สามารถขายระบบอาวุธล็อตแรกจำนวน 3 ชนิดแก่ไต้หวัน ประกอบด้วยแท่นยิงจรวดหลายลำกล้องติดตั้งบนรถบรรทุกของล็อกฮีด มาร์ติน, ขีปนาวุธต่อต้านขีปนาวุธชนิดยิงจากอากาศสู่ภาคพื้นแบบ AGM-84H SLAM-ER พร้อมอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องของโบอิ้ง, และระบบกระเปาะลาดตระเวนทางอากาศซึ่งเป็นตัวเซนเซอร์สำหรับติดตั้งบนเครื่องบินขับไล่ F-16

เรื่องนี้ทำให้จีนประกาศตอบโต้ด้วยการลงโทษคว่ำบาตรบริษัทอเมริกันซึ่งผลิตอาวุธเหล่านี้ โดยในวันจันทร์ (26 ต.ค.) จ้าว ลี่เจียน โฆษกคนหนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศของจีน เปิดเผยกับพวกผู้สื่อข่าวในกรุงปักกิ่ง ว่าจีนจะกำหนดมาตรการคว่ำบาตร ล็อกฮีด มาร์ติน, โบอิ้ง ดีเฟนซ์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของโบอิ้ง , เรย์เธียน และบริษัทสหรัฐฯ อื่นๆ ที่พวกเขาบอกว่าเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้ไต้หวัน

จ้าวไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่าการแซงก์ชั่นจะอยู่ในลักษณะไหน แต่กล่าวว่านี่เป็นสิ่งที่ปักกิ่งทำเพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ” ของตน และจะใช้กับพวกซึ่ง “ประพฤติอย่างเลวร้ายในกระบวนการขายอาวุธให้แก่ไต้หวัน”

อย่างไรก็ตาม มอร์แกน ออร์ตากัส โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกถ้อยแถลงตอบโต้ว่า “เราขอประณามความพยายามของจีนที่ต้องการแก้เผ็ดบริษัทสหรัฐฯ และบริษัทต่างชาติ สำหรับการขายอาวุธที่สนับสนุนความจำเป็นด้านป้องกันตนเองอย่างถูกต้องตามกฎหมายแก่ไต้หวัน”

สำหรับปฏิกิริยาของปักกิ่งต่อการที่วอชิงตันประกาศขายอาวุธให้ไทเปเป็นล็อตที่ 2 นั้น หวัง เหวินปิน โฆษกอีกผู้หนึ่งของกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงในวันอังคาร (27) ว่า จีน “คัดค้านอย่างหนักแน่น” ต่อความเคลื่อนไหวเช่นนี้ และเรียกร้องสหรัฐฯให้ “ยุติแผนการขายอาวุธอย่างไม่สมด้วยเหตุผลให้แก่ไต้หวัน เพื่อที่จะไม่กลายเป็นสาเหตุสร้างความเสียหายมากขึ้นอีกแก่ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ และแก่สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน”

โฆษกผู้นี้ซึ่งกล่าวในการแถลงข่าวตามปกติของกระทรวง บอกอีกว่า จีนจะ “ดำเนินมาตรการที่เหมาะสมและจำเป็นเพื่อพิทักษ์ปกป้องอธิปไตยและผลประโยชน์ด้านความมั่นคงแห่งชาติของตนอย่างหนักแน่นมั่นคง”

 

‘สหรัฐฯ’เจรจาหารือระดับสูงกับ‘อินเดีย’ มุ่งต่อต้าน‘ความก้าวร้าวรุกรานของจีน’ พร้อมลงนามข้อตกลงแลกเปลี่ยนข้อมูลอ่อนไหวทางทหาร

สหรัฐฯกับอินเดียสมัครสมานสามัคคีกันเพื่อต่อต้าน “ความก้าวร้าวรุนรานของจีน” รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกันกล่าวในวันอังคาร (27 ต.ค.) ภายหลังการเจรจาหารือระดับสูงระหว่างรัฐมนตรีสำคัญจากทั้งสองประเทศ รวมทั้งมีการลงนามกันในข้อตกลงทางทหารที่จะแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูลดาวเทียมและข้อมูลแผนที่ซึ่งอ่อนไหวระหว่างกันด้วย

ทั้งรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ มาร์ก เอสเปอร์ และรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ ต่างเน้นย้ำทำให้จีนกลายเป็นจุดโฟกัสของการพบหารือของพวกเขากับรัฐมนตรีต่างประเทศและรัฐมนตรีกลาโหมของอินเดียในคราวนี้ ในขณะที่แดนภารตะก็มีกรณีเผชิญหน้ากับแดนมังกรบริเวณชายแดนเทือกเขาหิมาลัยซึ่งสองฝ่ายพิพาทช่วงชิงกันอยู่

“เรายืนเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ในการสนับสนุนภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างสำหรับทุกๆ ฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากความก้าวร้าวรุกรานและกิจกรรมทำลายเสถียรภาพที่กำลังเพิ่มขึ้นจากประเทศจีน” เอสเปอร์กล่าวในที่ประชุมแถลงข่าวภายหลังการพบปะหารือ

ขณะที่พอมเพโอบอกว่า มี “การหารืออย่างจริงจังเกี่ยวกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน” ซึ่งเขากล่าวต่อไปว่า “ไม่ได้เป็นมิตรกับประชาธิปไตย, หลักนิติธรรม, ความโปร่งใส, หรือเสรีภาพในการเดินเรือ”

ทางฝ่ายอินเดียนั้น ในระหว่างการหารือ ทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศ สุพรหมณยัม ชัยศังกระ และรัฐมนตรีกลาโหม ราชนาถ ซิงห์ ต่างไม่ได้อ้างอิงถึงจีนโดยออกนามตรงๆ แต่รัฐมนตรีต่างประเทศแดนภารตะได้พูดว่า สันติภาพจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อทุกๆ ประเทศเคารพใน “บูรณภาพแห่งดินแดนและอธิปไตยของทุกๆ รัฐ”

เขายังเรียกร้องต้องการให้มี “เอเชียซึ่งมีหลายๆ ขั้ว” ถึงแม้ในทางเป็นจริงแล้ว เอเชียในเวลานี้มีจีนเป็นหมายเลขหนึ่งทั้งในเรื่องพลังทางเศรษฐกิจและพลังทางการทหาร

<b>ข้อตกลงด้านข้อมูลทางการทหาร </b>

นอกจากหารือกันแล้ว สหรัฐฯกับอินเดียได้ลงนามในข้อตกลงต่างๆ จำนวนหนึ่ง โดยที่ได้รับความสนใจมากก็คือ ข้อตกลงด้านกลาโหมฉบับใหม่ ที่มีชื่อว่า “ข้อตกลงการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือพื้นฐานว่าด้วยความร่วมมือด้านภูมิสารสนเทศเชิงพื้นที่” (Basic Exchange and Cooperation Agreement on Geospatial Cooperation) ซึ่งเอสเปอร์บอกในการแถลงข่าวว่า เป็น “หลักหมายที่สำคัญ” ซึ่งจะคอยดูแลสนับสนุนความร่วมมือระหว่างฝ่ายทหารของทั้งสองประเทศ

ทั้งนี้ข้อตกลงฉบับนี้จะเปิดทางให้ฝ่ายทหารสหรัฐฯสามารถแบ่งปันแลกเปลี่ยนข้อมูลดาวเทียมและข้อมูลจากเครื่องจับสัญญาณ (เซนเซอร์) ที่มีความอ่อนไหว กับฝ่ายทหารของอินเดียได้

ฝ่ายอเมริกันเห็นว่า เรื่องนี้จะช่วยให้นิวเดลีสามารถใช้เทคโนโลยีสหรัฐฯได้ดีขึ้นในการกำหนดเป้าหมายโจมตีของพวกขีปนาวุธ และในการจัดวางตำแหน่งกองทหารของตน

นอกจากนั้นยังจะเปิดทางให้สหรัฐฯสามารถจัดส่งเทคโนโลยีการนำร่องล่าสุดให้แก่เครื่องบินขับไล่ลำใดๆ ก็ตามที่สหรัฐฯจัดส่งให้แก่อินเดีย

มีรายงานว่า เอสเปอร์กำลังกดดันหว่านล้อมเพื่อให้อินเดียซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ เอฟ-18 ของสหรัฐฯ และถอยห่างจากการพึ่งพาอาวุธยุทโธปกรณ์รัสเซีย

ทว่าอินเดียระบุว่าต้องการให้อาวุธยุทโธปกรณ์ของตนผลิตขึ้นภายในประเทศมากกว่า และกำลังต้องการการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย

ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (26) ระหว่างที่พอมเพโอและเอสเปอร์เจรจาแบบหนึ่งต่อหนึ่งกับรัฐมนตรีกระทรวงเดียวกันของตนจากฝ่ายอินเดียนั้น พวกเขากได้เรียกร้องต้องการให้มีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นลึกซึ้งมากขึ้นอยู่แล้ว

ชัยศังกระ ได้ทวิตหลังการพบหารือกับพอมเพโอว่า ความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรที่กำลังปรากฏขึ้นมาใหม่ๆ นี้ ได้ “เติบโตไปอย่างมีสาระสำคัญ”

สำหรับ เอสเปอร์ กับ ซิงห์ นั้น “แสดงความยินดีสำหรับเรื่องการขยายการแลกเปลี่ยนแบ่งปันด้านสารสนเทศ” คำแถลงของฝ่ายสหรัฐฯระบุ ขณะที่กระทรวงกลาโหมอินเดียรายงานว่า รัฐมนตรีทั้งสองได้หารือกันถึง “พื้นที่ความร่วมมือใหม่ๆ ที่อาจเป็นไปได้” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

ทั้งสหรัฐฯและอินเดียต่างมีความสัมพันธ์กับจีนซึ่งตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ ในระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมา

วอชิงตันมีศึกการค้าที่ดุเดือดกับปักกิ่ง และคณะบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ก็ส่งเสียงเตือนภัยมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับการที่จีนกำลังเติบโตขยายตัวเป็นมหาอำนาจในทางเศรษฐกิจและทางการทหาร

สำหรับอินเดียก็กำลังมองหาความสนับสนุนทางทหารระหว่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ที่ได้เกิดการปะทะทางชายแดนกับจีนในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยที่มีทหารอินเดียอย่างน้อย 20 คนเสียชีวิต ส่วนจีนยอมรับว่าฝ่ายตนก็มีผู้บาดเจ็บล้มตายแต่ไม่ให้รายละเอียด

ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองฝ่ายได้ส่งกำลังทหารหลายหมื่นคนไปยังพรมแดนที่พิพาทช่วงชิงกันของพวกเขาในภูมิภาคลาดัค และกำลังเสริมที่มั่นเผชิญหน้ากันในพื้นที่สูงชันและอากาศต่ำกว่าจุดเยือกแข็งขณะเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว

อินเดียนั้นกำลังช็อปปิ้งซื้อหาพวกอุปกรณ์ใช้ในอากาศหนาวยะเยือกจากสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่หลายรายเผย นอกจากนั้นยังได้ตกลงขยายการซ้อมรบทางนาวีในมหาสมุทรอินเดียที่จะจัดขึ้นในเดือนหน้าให้รวมเอาออสเตรเลียเข้ามาร่วมด้วย

เท่าที่ผ่านมา การซ้อมรบที่ใช้ชื่อวา “มาลาบาร์” นี้ มีเพียงอินเดีย, สหรัฐฯ, และญี่ปุ่น

พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯพูดกันมาระยะหนึ่งแล้วว่า ต้องการให้ 4 ชาตินี้ซึ่งมีการรวมกลุ่มกันโดยเรียกชื่อว่ากลุ่มพันธมิตร “คว็อด” (Quad) มีการจัดโครงสร้างในลักษณะที่ถาวรมากยิ่งขึ้น อันเป็นความเคลื่อนไหวซ่งกระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงว่า ฝ่ายตนได้ “เฝ้าสังเกตอยู่”

<b> ‘จีน’ด่าแหลก ‘พอมเพโอ’ </b>

เฉพาะพอมเพโอ หลังจากอินเดียแล้ว เขายังจะต่อไปเยือนศรีลังกา, มัลดีฟส์, และอินโดนีเซีย โดยการที่จีนกำลังมีทั้งการลงทุนและอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นในศรีลังกาและมัลดีฟส์ ได้จุดประกายให้เกิดความวิตกกังวลในวอชิงตันและนิวเดลี

มีรายงานว่า พอมเพโอวางแผนมุ่งกดดันชาติเหล่านี้ให้ผลักไสต่อต้านการแข็งกร้าวยืนกรานของจีน ซึ่งพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯร้องเรียนว่ามีจุดเน้นอยู่ที่การปล่อยกู้แบบมุ่งให้ตกเป็นเหยื่อและการดำเนินโครงการพัฒนาต่างๆ ซึ่งเป็นประโยชน์แก่จีนมากกว่าประเทศผู้รับความช่วยเหลือ

ปรากฏว่าสถานเอกอัครราชทูตจีนในศรีลังกา ได้ประณามการไปเยือนประเทศเกาะแห่งนี้ของพอมเพโอ ตั้งแต่ก่อนเขาเดินทางไปถึงด้วยซ้ำ โดยแถลงประณามเรื่องที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯผู้หนึ่งพูดเตือนศรีลังกาว่าควรต้องระแวงระวังการลงทุนของจีน และหันมาร่วมมือกับสหรัฐฯแทน

“เราสนับสนุนศรีลังกาให้ทบทวนทางเลือกต่างๆ ที่เราเสนอไว้เพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีความโปร่งใสและยั่งยืน ซึ่งตรงกันข้ามกับวิธีปฏิบัติแบบแบ่งแยกกีดกันและคลุมเครือกำกวม” ดีน ธอมป์สัน นักการทูตอาวุโสสูงสุดที่ดูแลเอเชียใต้ กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “เรารบเร้าศรีลังกาให้ตัดสินใจที่ยากลำบากแต่จำเป็นเพื่อให้ได้มาซึ่งความเป็นอิสระทางเศรษฐกิจของตนสำหรับความมั่งคั่งรุ่งเรืองในระยะยาว และเราพร้อมยืนหยัดเป็นหุ้นส่วนกับศรีลังกาสำหรับการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจของศรีลังกา”

สถานเอกอัคครราชทูตจีนบอกว่า การแสดงความคิดเห็นเช่นนี้เป็นการละเมิดอย่างโจ่งแจ้งต่อพิธีการและมารยาททางการทูต ไม่เพียงเท่านั้น คำแถลงของทางสถานทูตยังเย้ยเยาะสหรัฐฯที่จัดให้พอมเพโอสามารถมาเยือนอย่างเร่งด่วนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ซึ่งกำลังสร้างภาระด้านโลจิสติกส์อย่างใหญ่โตให้แก่ศรีลังกา ที่กำลังอยู่ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19

“วิธีการเช่นนี้เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างแท้จริงว่าท่านมีความเคารพในประเทศเจ้าภาพอย่างนั้นหรือ? มันเป็นการช่วยเหลือการป้องกันและการควบคุมโรคระบาดของท้องถิ่นหรือ? มันเป็นผลประโยชน์ของประชาชนชาวศรีลังกาหรือ?” คำแถลงของสถานเอกอัครราชทูตจีนตั้งคำถาม

คำแถลงยังเตือนพอมเพโอว่า อย่ามา “บังคับและรังแก” ศรีลังกาให้ต้องยินยอมต่อต้านจีน

 

อลม่าน!ตำรวจสหรัฐฯรัวยิงคนดำตายอีก กระพือประท้วงรุนแรงต้องเสริมกำลังคุ้มกันเมืองฟิลาเดลเฟีย(ชมคลิป)

เมืองฟิลาเดลเฟีย ในรัฐเพนซิลเวเนีย ของสหรัฐฯ จำเป็นต้องเสริมกำลังตำรวจและขอกำลังสนับสนุนเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายจากพื้นที่ที่อยู่โดยรอบ ในการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ความไม่สงบเพิ่มเติมในวันอังคาร(27ต.ค.) หลังเกิดเหตุวุ่นวายท่ามกลางการประท้วงกรณีตำรวจยิงชายผิวสีรายหนึ่งเสียชีวิต

https://mgronline.com/around/detail/9630000111550

 

รีบไปไหม!รัสเซีนเริ่มผลิตวัคซีนโควิด-19ตัวที่ 2 แม้การทดลองยังไม่เสร็จสมบูรณ์

รัสเซียเริ่มผลิตวัคซีนโควิด-19 ตัวที่ 2 แม้ยังไม่การทดลองยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยเครมลินเร่งรีบพัฒนาโล่ป้องกันโรคระบาดใหญ่ ที่กำลังระบาดหนักในแดนหมีขาว มีผู้ป่วยใหม่รายวันมากกว่า 15,000 คน มานานนับสัปดาห์ ส่งผลให้ยอดผู้ติดเชื้อสะสมล่าสุดทะลุ 1.5 ล้านคนและเสียชีวิต 26,500 ราย

https://mgronline.com/around/detail/9630000111560

 

ตำรวจปะทะผู้ชุมนุมในอิตาลี ประชาชนไม่ขอทนข้อจำกัดสกัดโควิด-19 บาดเจ็บหลายสิบคน

พวกผู้ประท้วงเกิดปะทะกับตำรวจทางภาคเหนือของอิตาลี ในขณะที่การชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศเมื่อค่ำคืนวันจันทร์(26ต.ค.) ในการประท้วงต่อต้านข้อจำกัดต่างๆของรัฐบาลที่กำหนดออกมาเพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ระลอกสอง แม้ดินแดนแห่งนี้กำลังเผชิญสถานการณ์เลวร้าย ล่าสุดตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันแตะพุ่งเกิน 20,000 คนในวันอังคาร(27ต.ค.)

https://mgronline.com/around/detail/9630000111563

 

ยุโรปร่อแร่!โควิดระลอก2ไม่รามือ UKกับฝรั่งเศสยอดตายพุ่ง อิตาลีติดเชื้อทุบสถิติ

สหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสรายงานพบผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 สูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและเมษายนตามลำดับ ส่วนอิตาลี พบผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดในวันอังคาร(27ต.ค.) ในขณะที่การแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่ไวรรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในยุโรป ไม่ส่งสัญญาณเบาบางลงเลยแม้แต่น้อย

https://mgronline.com/around/detail/9630000111587

 

เบลเยียมสาหัส! หมอ ‘ติดโควิด’ ยังต้องทำงานต่อ ยอดติดเชื้อรายวันพุ่งเฉลี่ย 1.3 หมื่น เตียงไอซียูใกล้เต็ม
.
บุคลากรด้านการแพทย์ในเมืองลีแยฌ (Liege) เมืองใหญ่อันดับ 3 ของเบลเยียมซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดของโควิด-19 ถูกขอร้องให้ดูแลคนไข้ต่อแม้ตนเองจะติดเชื้อ ขอเพียงยังไม่แสดงอาการป่วยเท่านั้น ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขระดับสูงออกมาเตือนว่าเตียงผู้ป่วยไอซียูอาจเต็มภายในอีก 2 สัปดาห์ และเวลานี้โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มมีบุคลากรไม่เพียงพอ
.
สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติ Sciensano ของเบลเยียมแถลงว่า ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาพบผู้ติดเชื้อใหม่เฉลี่ยวันละประมาณ 13,000 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 11.5 ล้านคน ขณะที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรป (ECDC) ระบุว่า อัตราการติดเชื้อต่อหัวประชากรในเบลเยียมอยู่ที่ 1,390 ต่อประชากร 100,000 คนในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สูงเป็นอันดับ 1 ของยุโรปแซงหน้าสาธารณรัฐเช็กไปเรียบร้อยแล้ว
.
อีฟส์ ฟอน แลเทม (Yves Van Laethem) โฆษกศูนย์รับมือวิกฤตโควิด-19 ของเบลเยียม เตือนว่า หากชาวเบลเยียมยังไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หอผู้ป่วยหนักในโรงพยาบาลต่างๆ จะมีผู้ป่วยเต็ม 2,000 คนซึ่งเป็นศักยภาพสูงสุดที่รองรับได้ภายในอีก 15 วันข้างหน้า
.
ลีแยฌซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในเขตวัลโลเนีย (Wallonia) มีอัตราการแพร่กระจายของโควิด-19 สูงสุดในเบลเยียม โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งมหาวิทยาลัยลีแยฌยอมรับกับ CNN เมื่อวันอังคาร (27) ว่า เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ไม่เพียงพอ ทางโรงพยาบาลจึง “ไม่มีทางเลือก” นอกจากขอร้องให้แพทย์และพยาบาลที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวก แต่ไม่มีอาการป่วย ยังคงมาทำงานต่อ
.
“มันไม่ใช่ปัญหา เพราะพวกเขาทำงานในหอผู้ป่วยโควิดซึ่งคนไข้ก็ติดเชื้อเหมือนกัน” เธอกล่าว
.
ด้านโฆษกหญิงของกระทรวงสาธารณสุขเบลเยียมยืนยันกับ CNN ว่า การอนุญาตให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการทำงานต่อไปนั้น สามารถทำได้ “ในบริบทที่จำเพาะเจาะจงอย่างยิ่ง” และทางกระทรวงยังคำนึงถึงความปลอดภัยของคนไข้เป็นสำคัญ
.
ระหว่างแถลงข่าวเมื่อวันจันทร์ (26) ฟอน แลเทม ระบุว่า ตอนนี้เตียงผู้ป่วยไอซียูทั่วประเทศถูกใช้ไปแล้วประมาณ 1,000 เตียง และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 1,250 เตียงในช่วงปลายสัปดาห์ พร้อมยอมรับว่าอาจจะต้องมีการสั่งล็อกดาวน์ครั้งที่ 2 หากจำนวนคนไข้ที่เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลไม่มีแนวโน้มลดลง
.
รัฐบาลเบลเยียมเริ่มยกระดับคุมเข้มทางสังคมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพื่อชะลอการแพร่กระจายของไวรัส โดยบังคับใช้คำสั่งเคอร์ฟิวตั้งแต่เที่ยงคืนถึง 5.00 น. ของทุกวัน, งดการจำหน่ายอาหารแบบนั่งรับประทานในร้าน และให้ประชาชนส่วนใหญ่ทำงานจากบ้าน ส่วนการแข่งขันกีฬาอาชีพก็จะต้องจัดแบบไม่มีผู้ชมในสนามเท่านั้น
.
ตามข้อมูลจาก Sciensano ในวันอังคาร (27) เบลเยียมมีผู้ป่วยโควิดสะสมรวมทั้งสิ้น 333,718 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10,899 รายนับตั้งแต่ไวรัสเริ่มระบาด
.
ที่มา: CNN, รอยเตอร์

 

เกิดเหตุสะเทือนสังคมขึ้นอีกครั้งในสหรัฐฯ หลังตำรวจฟิลาเดลเฟียยิงชายผิวสี วอลเตอร์ วอลเลส วัย 27 ปีเสียชีวิตบนถนนต่อหน้าผู้เป็นแม่ ปลุกกระแสการประท้วงของคนผิวสีครั้งใหม่

 

มะกันแห่โหวตล่วงหน้าทะลุ 70 ล้านคน คาดศึก ‘ทรัมป์-ไบเดน’ จะมีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสูงสุดในรอบกว่า 100 ปี
.
US Elections Project เผยมีชาวอเมริกันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งประธานาธิบดีล่วงหน้ากันแล้วมากกว่า 70 ล้านคน หรือคิดเป็นกว่าครึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิ์ทั้งหมดเมื่อปี 2016 ขณะที่ยังเหลือเวลาอีก 1 สัปดาห์ก่อนจะถึงวันเลือกตั้งจริง 3 พ.ย.
.
จำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าที่สูงเป็นประวัติการณ์บ่งบอกถึงความกระตือรือร้นที่ชาวอเมริกันมีต่อศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ ครั้งนี้ได้เป็นอย่างดี และมีความเป็นไปได้สูงที่การชิงชัยระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ กับ โจ ไบเดน จะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์โหวตมากที่สุดในรอบกว่า 100 ปี
.
ฝ่ายเดโมแครตดูจะมีภาษีดีกว่าในช่วงแรกๆ เนื่องจากฐานเสียงส่วนใหญ่หันมาใช้วิธีโหวตทางไปรษณีย์ (mail balloting) เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโควิด-19 ขณะที่ฐานเสียงรีพับลิกันจำนวนมากยังคงปฏิเสธการลงคะแนนด้วยวิธีนี้ หลังจากที่ ทรัมป์ ออกมากล่าวโจมตีซ้ำๆ ซากๆ อย่างไร้หลักฐานว่ามันจะนำไปสู่การโกงเลือกตั้ง
.
แม้ข้อมูลในภาพรวมจะพบว่า ผู้สนับสนุนเดโมแครตใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้ามากกว่ารีพับลิกันประมาณ 2 ต่อ 1 ทว่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ช่องว่างดังกล่าวเริ่มหดแคบลง เนื่องจากผู้สนับสนุนรีพับลิกันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าด้วยตนเองกันมากขึ้น
.
ไมเคิล แมคโดนัลด์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยฟลอริดาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ดูแล US Elections Project ประเมินว่า ศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะมีชาวอเมริกันออกมาใช้สิทธิ์มากถึง 150 ล้านคน หรือประมาณ 65% ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด ซึ่งเป็นสัดส่วนสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1908
.
สำหรับศึกเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อปี 2016 มีผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งล่วงหน้าประมาณ 47.2 ล้านคน
.
ที่มา: รอยเตอร์