ติดตามสถานะการณ์

หนึ่งในสีสันยอดฮิตในแอปพลิเคชั่น “เทเลแกรม” คือ สติ๊กเกอร์มีมบุคคลทางการเมือง ที่นักแชทใช้ส่งต่อกันเพื่อสร้างความเฮฮา ท่ามกลางเหตุการณ์บ้านเมืองที่แสนตึงเครียด...ใครจะเป็นมีมสติ๊กเกอร์บ้าง ไปชมกัน

 

อุตุฯ เตือนปีนี้ 7 จังหวัด เย็นยะเยือกสุด
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศเตือนไทย เริ่มต้นฤดูหนาวอย่างเป็นทางการแล้ว 7 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุดเลขตัวเดียว

 

เผยรายงานวิทยาศาสตร์ถึงรบ. UK พบ เชื้อโควิด-19 กำลังกลายพันธุ์ แต่ขณะนี้ UK ยังไม่สามารถที่จะศึกษาความสำคัญของการกลายพันธุ์ในเชิงลึก พบอาจทำให้ติดเชื้อเร็วขึ้น และตายเร็วขึ้นกว่าระบาดรอบแรก

เมื่อ 24 ต.ค.63 เว็บไซต์เดลี่เมล และมิร์เรอร์ รายงาน กลุ่มที่ปรึกษาภัยจากเชื้อไวรัสทางเดินหายใจสายพันธุ์ใหม่และอุบัติใหม่ ‘The New and Emerging Respiratory Virus Threats Advisory Group’ ( NERVTAG) ในอังกฤษ ส่งรายงานถึงรัฐบาลสหราชอาณาจักร (UK) เมื่อ 23 ต.ค. ระบุ เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 กำลังกลายพันธุ์ และอาจกลายเป็นเชื้อโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนติดเชื้อง่ายขึ้น แต่ขณะนี้ สหราชอาณาจักรยังไม่มีความสามารถที่จะศึกษาวิจัยการกลายพันธุ์เหล่านี้ของเชื้อโควิด-19 ในเชิงลึกและไม่เข้าใจถึงอันตรายของเชื้อโควิด-19 ที่กำลังกลายพันธุ์

บรรดานักวิทยาศาสตร์ของกลุ่ม NERVTAG ซึ่งทำงานกับกลุ่ม SAGE ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลสหราชอาณาจักร ยังระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่การกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 อาจทำให้เชื้อมีการระบาดได้ง่ายมากขึ้น

‘ขณะนี้ ทีมนักวิจัยในสหราชอาณาจักรกำลังมอนิเตอร์ ติดตามการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น แต่ยังไม่สามารถติดตามอย่างเป็นระบบถึงความสำคัญของการกลายพันธุ์ของเชื้อโควิด-19 ซึ่งนี่คือช่องว่างที่มีความสำคัญในความรู้ของพวกเรา’ กลุ่ม NERVTAG ระบุในรายงาน พร้อมกับชี้ว่า ‘พวกเราขาดความสามารถในการประเมินความสำคัญทางชีวภาพของการติดตามตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของยีนเชื้อโควิด-19 ที่กำลังกลายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วและเป็นระบบ’

นอกจากนั้น ตามข้อมูลของเครือข่ายสถานพยาบาล ยังพบว่า ในตอนนี้ ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 ในสหราชอาณาจักรกำลังเสียชีวิตอย่างรวดเร็วมากขึ้นเมื่อเทียบกับการระบาดของโควิด-19 ในระลอกแรก เนื่องจากจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2563 พบว่า ผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 มีอาการป่วยหนักจนถึงขึ้นกำลังจะเสียชีวิตเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 13 วัน หลังจากเริ่มมีอาการโรคโควิด-19 อย่างเช่น ไอ ไข้สูง หรือเริ่มสูญเสียการได้กลิ่นและรู้รส ทว่าหลังจากวันที่ 1 สิงหาคม เป็นต้นมา ช่วงเวลาที่ผู้ป่วยโควิด-19 ป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิตนั้น ถ้าเป็นผู้ชายจะเสียชีวิต โดยเฉลี่ยแล้ว อยู่ที่ 7 วัน-7 วันครึ่งเท่านั้น ส่วนผู้หญิงจะอยู่ที่ 6 วัน

อย่างไรก็ตาม อัตราเฉลี่ยของการเสียชีวิตที่เร็วขึ้นของผู้ป่วยโควิด-19 ในการระบาดระลอกสองนั้น อาจสามารถอธิบายได้จากอัตราการเสียชีวิตที่ลดลง เนื่องจากการรักษาพัฒนาดียิ่งขึ้น จนทำให้มีผู้ป่วยหายป่วยมากขึ้น และอาจรวมทั้งอัตราการเสียชีวิตที่น้อยลง หลังจากได้รับการรักษามานานแล้วก็เป็นได้

 

เกิดแสงออโรร่าสีเขียวสวยงาม เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2020 เกิดที่ Abisko National Park ประเทศสวีเดน
Cr. Chad Blakely

 

[1] โครงการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา
- รัฐบาลตั้งชื่อโครงการนี้ให้ดูหรูคือ โครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต อ.จะนะ ซึ่ง ครม. ได้อนุมัติเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2562 ให้ใช้พื้นที่ของ 3 ตำบล คือตำบลนาทับ ตลิ่งชัน และสะกอม รวมเนื้อที่ทั้งหมด 16,753 ไร่ และล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาผังเมืองรวมในเขตจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2563 ซึ่งมีผู้ว่าฯ สงขลา เป็นประธานได้มีมติเอกฉันท์ให้เปลี่ยนผังเมืองอำเภอจะนะจาก "สีเขียว" คือเมืองเกษตรให้เป็น "สีม่วง" เพื่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมเป็นที่เรียบร้อย

- โครงการนี้ถูกกลุ่มเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยื่นหนังสือคัดค้านกับ จารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าฯ สงขลา ณ ศาลากลางจังหวัดเพราะไม่เห็นด้วยที่ ศอ.บต.และรัฐบาลอ้างผลการจัดรับฟังความคิดเห็นเมื่อวันที่ 11 ก.ค. 2563 ซึ่งไม่มีความชอบธรรม ไม่เป็นไปตามกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามระเบียบสำนักฯ ว่าด้วยการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน พ.ศ.2548 เนื่องจากกลุ่มคัดค้านไม่ได้เข้าร่วม

- ก่อนหน้านั้นเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นได้เดินทางมายื่นหนังสือคัดค้านโครงการที่ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมี ไครียะห์ ระหมันยะ เยาวชนจาก อ.จะนะ ได้เขียนจดหมายน้อย ฉบับที่ 2 จากลูกสาวแห่งทะเลจะนะถึงปู่ประยุทธ์ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อขอให้ยกเลิก มติ ครม.นิคมอุตสาหกรรมจะนะ แต่ไม่ได้คำตอบใดๆ จากรัฐบาลและจาก พล.อ.ประยุทธ์ ชาวบ้านต้องเสียเวลาเปล่า

- กลุ่มทุนเบื้องหลังที่ผลักดันนิคมแห่งนี้คือ ประชัย เลี่ยวไพรัตน์ แห่งบริษัท TPIPP หรือ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) โดยที่ผ่านมายืมปาก ศอ.บต.อ้างเรื่องการจ้างงานและบอกว่าไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม (นิคมฯที่ไหนไม่สร้างมลพิษ?)

- นักการเมืองที่เปิดหน้าสนับสนุนโครงการคือ นิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ร่วมกว้านซื้อที่ดิน ซึ่งเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า IRPC (บริษัทในเครือ TPIPP) มีที่ดินเดิมอยู่ที่ ต.นาทับ อ.จะนะ ส่วน TPI กำลังจัดหาที่ดินอยู่ ทั้ง IRPC และ TPI (บริษัทในเครือ TPIPP) คงรอความชัดเจนเรื่องท่าเรือ ซึ่ง TPI และ IRPC ก็มีศักยภาพในการลงทุนอยู่แล้ว (https://www.prachachat.net/property/news-351847) ยังมีตัวละครอีกหลายคน (อ่านต่อ )

[2] โครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล มูลค่า 1 แสนล้านบาท
- คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร เร่งผลักดันโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนให้เขื่อนภูมิพล จ.ตาก มูลค่า 1 แสนล้านบาท โดยมีบริษัท ต้าถัง ทุนรัฐวิสาหกิจจีนสนใจเข้ามาลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์ส่งให้กับรัฐบาลไทย

- หนึ่งในนักการเมืองที่ผลักดันโครงการคือ วีระกร คำประกอบ สส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะรองประธาน กมธ. ชุดนี้ โดยเปิดเผยกับบีบีซีไทยว่า บริษัท ต้าถัง อยู่ระหว่างการจัดทำร่างทีโออาร์ส่งให้กับรัฐบาลไทย เขาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เห็นชอบโครงการนี้แล้ว

- การก่อสร้างโครงการผันน้ำยวมบริเวณรอยต่อ 3 อำเภอ ของ จ.เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน จะผันน้ำยวมเข้าเขื่อนภูมิพล เขื่อนกั้นแม่น้ำยวมมีความสูง 69 เมตร อยู่ใน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 2,075 ไร่ สถานีสูบน้ำบ้านสบเงาและอาคารประกอบอุโมงค์คอนกรีต ความยาว 61 กิโลเมตร เจาะผ่านผืนป่าต้นน้ำรอยต่อ 3 จังหวัด จุดกองดินที่ขุดขึ้นจากอุโมงค์ 6 จุด และพื้นที่ปากอุโมงค์บริเวณบ้านแม่งูด ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่

- โครงการนี้อ้างว่าจะเติมน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกทางการเกษตรในฤดูแล้งกว่า 1.6 ล้านไร่ เพิ่มการผลิตไฟฟ้าให้เขื่อนภูมิพลเฉลี่ย 417 ล้านหน่วยต่อปี ช่วยเพิ่มการผลิตน้ำประปา การประมงในเขื่อนและการท่องเที่ยว มีประชาชนได้รับผลกระทบไม่เกิน 30 ราย ทว่าเครือข่ายประชาชนลุ่มน้ำสาละวิน ระบุว่ามีประชาชน 36 หมู่บ้านไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้

- ขณะเดียวกันพื้นที่ศึกษาโครงการ อยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 5 แห่ง อุทยานแห่งชาติ 1 แห่ง ครอบคลุม 3 จังหวัด บริเวณบ้านแม่งูด ต.นาคอเรือ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ เป็นพื้นที่ปลายทางของปากอุโมงค์ ก่อนน้ำลงสู่เขื่อนภูมิพล พื้นที่นี้ห่างจากสันเขื่อนภูมิพลราว 10 กิโลเมตร เป็นเขตรอยต่อระหว่าง จ.เชียงใหม่กับ จ.ตาก ในพื้นที่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยง เฉพาะหมู่ 6 มีอยู่ 175 ครัวเรือน

- เหตุผลในการผลักดันโครงการจากปาก สส.วีระกร คือ "แม่น้ำเจ้าพระยาในลุ่มน้ำเจ้าพระยาในภาคกลางขาดแคลนไม่พอใช้ ทางกรมชลประทานประมาณการว่าขาดอยู่ 2,800 ล้าน ลบ.ม. เป็นที่มาของการศึกษาเพื่อเติมน้ำลงอ่างเก็บน้ำภูมิพล คาดว่าการผันน้ำจะทำให้ได้น้ำเติมเขื่อนภูมิพลมาสู่ภาคกลางได้ประมาณ 1,700 ล้าน ลบ.ม." และบอกด้วยว่า ไม่มีชาวบ้านคัดค้านโครงการนี้เพราะมีผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมน้อยมาก จึงคาดว่าจะดำเนินการได้ภายใน 3 ปี

- เขาบอกว่า "ผมมีโอกาสกราบเรียนนายกฯ ท่านนายกฯ รู้อยู่แล้ว สองโครงการนี้ แต่ท่านบอกเมียนมาพูดยาก ผมบอกไม่ใช่หน้าที่เราเลยครับ เพราะทางจีนเขาจะเป็นตัวกลางคนเจรจาให้เอง ท่านบอกก็ดีสิ แล้วยิ่งโครงการนี้เราไม่ต้องลงทุนเองยิ่งดีใหญ่เลย" วีระกร ระบุ

[3] โครงการสัมปทานเหมืองทองแก่งหางแมว จ.จันทบุรี / อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์
- โครงการสำรวจแร่และเปิดเหมืองทองคำใน อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ถูกชาวจันทบุรีคัดค้านการขออาชญาบัตรพิเศษแร่ทองคำ พร้อมยื่นรายชื่อกว่า 150,000 รายชื่อ เพื่อปกป้องแหล่งต้นน้ำสำคัญของภาคตะวันออก และพื้นที่เพาะปลูกผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดของไทย

- คำขออาชญบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำครั้งนี้ ยื่นขอโดย บริษัท ริชภูมิ ไมนิ่ง จำกัด หนึ่งในบริษัทลูกของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด สัญชาติออสเตรเลีย ซึ่งได้ยื่นขอสำรวจแร่ทองคำในพื้นที่ 14,650 ไร่ มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ 22 หมู่บ้าน ใน ต.พวา และ ต.สามพี่น้อง อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี

- นอกจากการขออาชญาบัตรพิเศษแร่ทองคำที่ จ.จันทบุรี แล้ว บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทลูกของบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดทเต็ด ลิมิเต็ด ก็ได้ยื่นคำขออาชญาบัตรพิเศษสำรวจแร่ทองคำและเงิน รวมพื้นที่ 208,894 ไร่ ในพื้นที่ 5 ตำบล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ด้วย โดยเป็นหนึ่งในแผนการสำรวจแร่ทองคำใน 12 จังหวัดที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ อนุมัติเปิดทางไว้

- อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2562 สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.อุตสาหกรรม ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการที่จะประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในไทยสามารถยื่นขออาชญาบัตรพิเศษได้ แต่จะต้องอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 (ฉบับใหม่) และเป็นไปตามนโยบายทองคำ ขณะที่กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) ระบุว่า มีผู้ยื่นขออาชญาบัตรพิเศษแร่ทองคำ จำนวน 10 ราย ประมาณ 100 แปลง ในพื้นที่เป้าหมาย 12 จังหวัด ประกอบด้วย เลย เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร นครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว สุราษฎร์ธานี และสตูล

[4] โครงการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นชายหาดทั่วประเทศ
- การสร้างแนวกันคลื่นบริเวณชายหาดเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งกระจายอยู่ตามชายหาดทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตก มูลค่ารวมหลายพันล้านบาทและการก่อสร้างมีหลากหลายรูปแบบ แต่ในที่สุดมีข้อสรุปทางวิชาการและหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ยิ่งสร้างยิ่งทำให้ชายหาดถูกกัดเซาะเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ด้านข้างของสิ่งปลูกสร้างเหล่านั้น

- ล่าสุด วราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ว่า สรุปรายงานสถานการณ์พื้นที่ที่ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทย ช่วงปี 2562 มีระยะทางรวม 91.69 กม. มีพื้นที่ถูกกัดเซาะรุนแรงที่ต้องแก้ไขเร่งด่วนระยะทาง 12.87 กม. ส่วนมากมีสาเหตุมาจากกิจกรรมมนุษย์และผลกระทบที่เกิดจากโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งที่ได้ดำเนินก่อสร้างแล้ว แต่ส่งผลต่อพื้นที่ข้างเคียงในหลายพื้นที่

- ตัวอย่างการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลหรือกำแพงกันคลื่นที่มีปัญหา เช่น บริเวณพื้นที่ชายฝั่งหาดม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งขณะนี้ศาลปกครองสงขลาให้สั่งให้ระงับโครงการชั่วคราว เพราะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ โดยโครงการส่วนใหญ่ดำเนินการโดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งอยู่ในการกำกับของ ทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย จากพรรคภูมิใจไทย

[5] โรงไฟฟ้าชีวมวลชุมชน
- โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนหรือโรงไฟฟ้าชีวมวล 700 MW มีกระทรวงพลังงานเป็นเจ้าของแนวคิด มูลค่าลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท ตั้งเป้าสร้างเศรษฐกิจโตกว่า 5 แสนล้านบาท และจะใช้เครื่องจักรอุปกรณ์และแรงงานในประเทศกว่าร้อยละ 60 ชุมชนทั่วประเทศกว่า 5 หมื่นครัวเรือน สามารถเข้าไปถือหุ้นบุริมสิทธิในโรงไฟฟ้าไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 พร้อมสัญญา Contact Farming ประกันราคาขายเชื้อเพลิงเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 20 ปี

- ทว่าภาพฝันที่วาดจนสวยหรูถูกคัดค้านจากชาวบ้านในหลายจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เช่น พื้นที่ ม.3 ต.ถ้ำสิงขรณ์ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ได้ร่วมลงชื่อคัดค้านกว่า 600 รายชื่อ ยื่นต่อ วิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2563 ให้พิจารณาสั่งระงับการก่อสร้าง เนื่องจากสถานที่ตั้งของโรงไฟฟ้าชีวมวลไม่เหมาะสมและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชุมชน

- ปัจจุบันยังมีการคัดค้านโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ แม้การนำเศษวัสดุต่างๆ มาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าน่าจะเป็นเรื่องที่ดี แต่กระบวนการผลิตที่ไม่รัดกุมหรือไม่ได้มาตรฐานจะเกิดฝุ่นควันและขี้เถ้าจากการเผาจนกลายเป็นแหล่งมลพิษในชุมชน รวมถึงมีการปล่อยน้ำเสียจากกระบวนการผลิตลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย ซึ่งเป็นที่ทราบกันวงในว่านักธุรกิจที่ผลักดันโรงไฟฟ้าชีวมวลคือลูกบิ๊ก ป ย่านคลองหลอด

ทั้ง 5 โครงการนี้เป็นเพียงน้ำจิ้มที่ยกมาเป็นตัวอย่างเท่านั้น

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว รวมกันเราอยู่!!! องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่า ขณะนี้มี 184 ประเทศที่เข้าร่วมในโครงการพันธมิตรด้านวัคซีน COVID-19 หรือ โคแวกซ์ (COVAX) ที่มีเป้าหมายเร่งการพัฒนาและแจกจ่ายวัคซีน COVID-19 สำหรับประเทศต่างๆ ทั่วโลก

โดยเรื่องนี้ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นายเทดรอส อัดฮานอม เกเบรเยซุส กล่าวที่สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า ขณะนี้มีวัคซีน COVID-19 ที่อยู่ระหว่างการพัฒนามากกว่า 100 ชนิดภายใต้โครงการนี้ ทำให้ COVAX เป็นโครงการที่รวบรวมวัคซีนที่มีโอกาสนำมาใช้กับ COVID-19 มากที่สุด และมีประสิทธิภาพที่สุดในการแบ่งปันวัคซีนที่ปลอดภัยและมีประสิทธิผลอย่างเท่าเทียมทั่วโลก ถือเป็นวิธีที่รวดเร็วที่สุดในการปกป้องชุมชนต่างๆ รักษาเสถียรภาพของระบบสาธารณสุขและฟื้นฟูเศรษฐกิจโลก

** สหรัฐฯไม่ได้เข้าร่วมในโครงการ COVAX ที่ว่านี้ และเมื่อต้นปี-รัฐบาลกรุงวอชิงตันยังได้ตัดสินใจถอนการสนับสนุนแก่องค์การอนามัยโลก โดยอ้างเหตุผลว่าอยู่ภายใต้อิทธิพลของจีนมากเกินไป ขณะที่จีนประกาศตัวเป็นสมาชิกของโครงการ COVAX เมื่อเดือนที่แล้ว.

 

เศรษฐกิจภาคค่ำเมืองอู่ฮั่นฟื้นตัวแข็งแกร่ง ยามราตรีกลับมาคึกคื้นขึ้นอีกครั้ง
.
ขณะนี้ การเดินทอดน่องไปตามถนนในเมืองอู่ฮั่น ก็จะพบกับบรรยากาศราตรีอันคึกคักทั่วทุกหนทุกแห่ง แผงปิ้งย่างริมถนน แผงลวกจิ้มสไตล์หมาล่าทั่ง แผงเครปธัญพืชแบบจีน ตลอดจนแผงของกินเล่นอื่นๆ มีลูกค้าแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ในร้านอาหารส่วนหนึ่งมีลูกค้านั่งอยู่เต็มร้าน บางร้านมีคิวยาวเหยียด
.
ค่ำคืนของวันที่ 16 ต.ค. เหม่ยถวน (Meituan) ประกาศ “รายงานการพัฒนาเศรษฐกิจภาคค่ำของเมืองอู่ฮั่นปี 2020” ระบุว่า หลังผลกระทบในระยะสั้นจากการแพร่ระบาด เศรษฐกิจภาคค่ำของเมืองอู่ฮั่นแสดงการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งเป็นรูปตัว “V” ดัชนีชี้วัดการบริโภคในภาคค่ำในขณะนี้สูงเป็น 16 เท่าจากช่วงการแพร่ระบาด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 12% โดยมีการบริโภคภาคค่ำกระจุกตัวอยู่ในช่วงเวลา 18:00-22:00 น.
.
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลวันชาติจีนและวันไหว้พระจันทร์ที่เพิ่งผ่านไปไม่นาน เมืองอู่ฮั่นได้รองรับนักท่องเที่ยวถึง 18,824,600 ครั้ง มีรายได้จากการท่องเที่ยว 9,219 ล้านหยวน (ราว 42,941 ล้านบาท) ฟื้นตัวถึงระดับ 83.21% และ 73.18% ของระยะเดียวกันปีที่แล้ว ตามลำดับ
.
#อู่ฮั่น #เศรษฐกิจภาคค่ำ #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

 

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุว่า ยา #เรมเดซิเวียร์ ซึ่งเป็นยาต้านไวรัสที่หลายประเทศใช้กับผู้ป่วยโควิด-19 นั้น ไม่มีผลหรือมีผลเพียงเล็กน้อยในการช่วยรักษาโรคโควิด 19
.
องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือ FDA รับรองให้ใช้ยาเรมเดซิเวียร์ในการรักษาโรคโควิด 19 นอกจากนี้ในบางประเทศ เช่น ญี่ปุ่นยังมีการอนุญาตให้ใช้ยาตัวนี้ในกรณีฉุกเฉิน
.
WHO ประกาศผลการทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ว่า ยาตัวนี้มีผลน้อยมากหรือไม่มีผลเลยในการป้องกันการเสียชีวิตจากโรคโควิด 19 หรือในการลดระยะเวลารักษาตัวในโรงพยาบาล
.
แต่ถึงกระนั้น FDA ก็ยังอนุมัติใช้ยาเรมเดซิเวียร์ เจ้าหน้าที่ของ WHO ที่รับผิดชอบด้านการดูแลทางคลินิกระบุว่า WHO จะออกแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการใช้ยาเรมเดซิเวียร์ในอีก 3 ถึง 4 สัปดาห์ข้างหน้านี้.

 

หายปริศนามานานกว่า 6 ปี!! ทีมผู้เชี่ยวชาญการบิน ชี้ผลการศึกษาใหม่ เชื่อพบจุดตก MH370 แล้ว บินผ่านอินโดฯ ก่อนตกในมหาสมุทรอินเดีย

#ข่าวต่างประเทศ #ไทยรัฐออนไลน์

 

กระทรวงสาธารณสุข เผยผลสอบสวนโรคหญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ที่สมุย โดยผลการตรวจเลือดไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19 ส่วนผู้สัมผัสใกล้ชิด และพนักงานของสถานที่กักกันโรค ผลตรวจไม่พบเชื้อ และได้ให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุมเข้มมาตรฐานของสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนดอย่างเคร่งครัด หลังพบเชื้อโควิด-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส

วันนี้ (24 ต.ค.) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในผู้ป่วยเพศหญิงสัญชาติฝรั่งเศสติดเชื้อโควิด-19 ภายหลังเดินทางมาถึงประเทศไทย และผ่านการกักกันโรคระยะเวลา 14 วันแล้ว และได้รับการวินิจฉัยพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัด ทำการสอบสวนโรคอย่างละเอียดและโปร่งใส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน

โดยทีมสอบสวนโรค ได้ติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายนี้ ประกอบด้วย สมาชิกครอบครัวที่ร่วมเดินทางมาด้วย 2 ราย และเพื่อนต่างชาติที่ขับรถไปรับที่สนามบินอีก 1 ราย ซึ่งทั้ง 3 ราย ไม่มีอาการทางเดินหายใจ ผลการตรวจโควิดไม่พบเชื้อ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือบนเที่ยวบินเดียวกันรวม 12 ราย พบผู้โดยสาร 1 ราย มีอาการทางเดินหายใจ และได้เก็บตัวอย่างส่งตรวจโควิด ผลไม่พบเชื้อ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเฝ้าระวังอาการและรอตรวจหาเชื้อ ทั้งนี้ ผลการตรวจเลือดของผู้ป่วยไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19 แต่พบสารพันธุกรรมจำนวนมาก สอดคล้องกับลักษณะการติดเชื้อเฉียบพลันของโรคโควิด-19 ส่วนการถอดรหัสพันธุกรรมอยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าน่าจะเป็นการติดเชื้อภายในประเทศ

สำหรับการสอบสวนในสถานที่กักกันโรค จังหวัดสมุทรปราการ ที่ผู้ป่วยเข้าพักระหว่าง วันที่ 30 กันยายน ถึง 15 ตุลาคม 2563 พบผู้ปฏิบัติงานจำนวน 68 คน เก็บตัวอย่างส่งตรวจแล้ว 67 ราย ผลไม่พบเชื้อโควิด-19 รวมทั้งผลตรวจเลือดก็ไม่พบภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโควิด-19

ส่วนการเก็บตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม จำนวน 7 ตัวอย่าง พบเชื้อโควิด-19 ที่พื้นผิวอุปกรณ์ออกกำลังกายภายในห้องฟิตเนส จำนวน 1 ตัวอย่าง จึงมีความเสี่ยงจากการที่ผู้ถูกกักกันไม่ครบ 14 วัน ออกมาแพร่เชื้อในห้องฟิตเนส และพื้นที่ส่วนกลางบางจุด

ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค ร่วมกับหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ ดำเนินการสอบสวนและควบคุมโรคตามมาตรฐานสูงสุด และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ต่อเนื่องจนครบ 14 วัน รวมทั้งจะได้ประสานกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ คุมเข้มมาตรฐานของโรงแรมที่เข้าร่วมเป็นสถานที่กักตัวที่รัฐกำหนด (Alternative State Quarantine) อย่างเคร่งครัด ไม่ให้เป็นจุดเสี่ยงเกิดการแพร่กระจายเชื้อ และขอให้ประชาชนมั่นใจในมาตรฐานการป้องกันควบคุมโรคของประเทศไทยที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422

 

Oct 24, 2020 เอเชียคว้าอันดับ 2 ของโลก ติดโควิด-19 ทะลุ 10 ล้านคน เกือบ 80% ที่อินเดีย

รอยเตอร์ส สำนักข่าวชื่อดังระดับโลก เปิดเผยผลการติดตามภาวะการระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก พบว่าทวีปเอเชียมีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 สะสมทะลุ 10 ล้านคน ซึ่งเกิดขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม ส่งผลให้ทวีปเอเชียซึ่งเป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 มากเป็นภูมิภาคที่ 2 ของโลก โดยภูมิภาคที่มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 มากอันดับ 1 ของโลก คือละตินอเมริกา

เอเชียยังมีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 คิดเป็น 24% หรือเกือบ 1 ใน 4 ของผู้ติดโรคโควิด-19 ทั่วโลกที่มีสะสมสูงถึงกว่า 42.5 ล้านคน (ตัวเลขเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2563) ประเทศอินเดียมีสัดส่วนของผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 มากเป็นอันดับ 1 ในทวีปเอเชียมากถึง 78% ของจำนวน 10 ล้านคน หรือกว่า 7.8 ล้านคน (ตัวเลขผู้ติดโรคโควิด-19 ในอินเดียเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ 7,814,682 ราย) และยังมากเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาคเอเชียใต้ ด้านจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดโควิด-19 ในเอเชีย มีเป็นจำนวนรวมกัน 163,000 ราย คิดเป็น 14% ของจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตทั่วโลก

ความรุนแรงของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในประเทศอินเดียได้รับการจัดให้เป็นประเทศที่มีภาวะการติดเชื้อเลวร้ายที่สุดในโลก ถึงแม้ว่าจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมจะเป็นรองเพียงสหรัฐอเมริกา จากการตรวจสอบ พบว่าอินเดียมีอัตราเฉลี่ยติดโรคโควิด-19 รายวันที่วันละ 764 ราย ทำสถิติอัตราเฉลี่ยติดเชื้อรายวันที่เลวร้ายที่สุดของโลก และยังคิดเป็นทุกๆผู้เสียชีวิต 13 รายทั่วโลกจะต้องมี 1 รายอยู่ในอินเดีย ในกรณีรายสัปดาห์ พบว่าอินเดียมีผู้ติดโรคโควิด-19 มากกว่า 57,000 รายต่อวันบนเฉลี่ยรายสัปดาห์ นั่นหมายถึง พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 58 รายต่อ 10,000 คนในประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของทวีปเอเชีย

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในทวีปเอเชียมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เช่น อินเดียมีอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงก่อนเดือนตุลาคม ท่ามกลางภาวะการระบาดของโรคดังกล่าวพุ่งทะยานสูงต่อเนื่องในทวีปอเมริกา และยุโรป

สำหรับประเทศบังคลาเทศ ซึ่งมีพรมแดนติดกับประเทศอินเดียนั้น ได้รับการจัดให้เป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดมากเป็นอันดับ 2 ในเอเชีย ด้วยจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมสูงถึง 396,413 ราย อยู่อันดับที่ 18 ของโลก อย่างไรก็ตาม อัตราการติดโรคโควิด-19 ในบังคลาเทศเริ่มชะลอลงที่ 40% ของอัตราการติดเชื้อรายวันสูงสุดเป็นสถิติตั้งแต่เกิดการระบาดเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ด้านภูมิภาคอาเซียน ซึ่งอยู่ในทวีปเอเชีย พบว่า ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีชาวมุสลิมอาศัยอยู่มากที่สุดในโลก มีจำนวนผู้ติดโรคระบาดโควิด-19 มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ตามด้วยประเทศฟิลิปปินส์ ทั้ง 2 ประเทศมีจำนวนผู้ติดโรคสะสมที่ 381,910 ราย และ 367,819 ราย ตามลำดับ

#เอเชีย #อินเดีย #โควิด19 #misterban

 

Oct 24, 2020 กรมควบคุมโรค ออกประกาศเตือน 5 โรค 2 ภัยสุขภาพ ที่ประชาชนควรระมัดระวังในช่วงฤดูหนาว
.
เมื่อวานนี้(23 ตุลาคม 2563) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในช่วงเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ของทุกปี ประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งบางพื้นที่จะมีอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศที่หนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน เสี่ยงเจ็บป่วยได้ง่าย
.
กรมควบคุมโรคจึงขอให้ประชาชนหมั่นดูแลร่างกายให้อบอุ่นและแข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อลดโอกาสที่จะเจ็บป่วยจากโรคและภัยสุขภาพ และได้ออกประกาศกรมควบคุมโรค เรื่อง การป้องกันโรคและภัยสุขภาพที่เกิดในช่วงฤดูหนาวของประเทศไทย พ.ศ.2563 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ดังนี้
.
กลุ่มที่ 1 โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ได้แก่ 1.โรคไข้หวัดใหญ่ พบผู้ป่วยได้ตลอดทั้งปี พบมากในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว 2.โรคปอดอักเสบ พบผู้ป่วยได้ทุกกลุ่มอายุ ติดต่อจากการหายใจหรือสัมผัสละอองฝอยจากน้ำมูก น้ำลายที่ปนเปื้อนเชื้อผ่านการไอ จาม แล้วนำมาสัมผัสที่จมูก ตา หรือปาก ป้องกันได้ด้วยการรักษาสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่หรือแอลกอฮอล์เจล ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น และสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
.
กลุ่มที่ 2 โรคติดต่อทางเดินอาหารและน้ำ ได้แก่ 1.โรคอุจจาระร่วง เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อโรคเข้าไป ผู้ป่วยจะมีอาการถ่ายเหลวหรือถ่ายเป็นน้ำ 3ครั้งขึ้นไปต่อวัน อาจมีไข้หรืออาเจียนร่วมด้วย ป้องกันได้โดยการดูแลสุขอนามัย เลือกรับประทานอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตอย่างปลอดภัย ดื่มน้ำที่สะอาด รับประทานอาหารที่ปรุงสุกและสะอาด
.
กลุ่มที่ 3.โรคติดต่อที่สำคัญอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว ได้แก่ 1.โรคหัด เกิดจากการหายใจเอาละอองอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อไวรัสเข้าไป อาการจะคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา และจะมีไข้สูง ตาแดงก่ำ 3-4 วัน จึงเริ่มมีผื่นขึ้นลักษณะผื่นนูนแดงติดกันเป็นปื้นๆ ป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเข็มแรกตอนอายุ 9-12 เดือน เข็มสองตอนอายุ 2 ปีครึ่ง 2.โรคมือ เท้า ปาก เป็นโรคที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก เกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับน้ำมูก น้ำลาย ผื่น ตุ่มน้ำใส หรืออุจจาระของผู้ป่วย อาการคือ จะมีแผลหรือตุ่มในช่องปาก กระพุ้งแก้ม มีผื่นแดงหรือตุ่มบริเวณฝ่ามือ ฝ่าเท้า ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรงและหายเองได้ ผู้ปกครองและครูควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของบุตรหลาน หากพบอาการสงสัยว่าป่วย ให้แยกเด็กป่วยออกจากเด็กปกติทันที รีบพาไปพบแพทย์
.
ส่วนกลุ่มที่ 4 ภัยสุขภาพ ได้แก่ 1.การเสียชีวิตที่เกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว โดยไม่ได้มีเครื่องนุ่งห่มหรือเครื่องห่มกันหนาวที่เพียงพอในพื้นที่อากาศหนาว และคาดว่าเกี่ยวเนื่องจากภาวะอากาศหนาว รองลงมาคือ มีโรคประจำตัว และมีประวัติการดื่มสุราเป็นประจำ ตามลำดับ
.
สำหรับการป้องกัน ควรเตรียมความพร้อมร่างกายให้แข็งแรง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลสุขภาพแก่บุคคลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ให้สวมใส่เครื่องนุ่งห่มที่เพียงพอและอยู่อาศัยในที่อบอุ่น งดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด รักษาความสะอาด ล้างมือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้ป่วย รวมถึงไม่ห่มผ้าหรือสวมเสื้อผ้าที่เปียกชื้น

#misterban #กรมควบคุมโรค #โรคหน้าหนาว #โรคติดต่อ

 

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)โดยศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออก อธิบายว่า ภาพปลิงทะเลเกยหาดบางกะไชย อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี จำนวนมาก เมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมานั้นน่าจะเกิดจากความเค็มต่ำจากที่น้ำจืดไหลลงสู่ทะเล
.
และจากสอบถาม ดร.สุเมตต์ ปุจฉาการ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล ทำให้ทราบว่าเมื่อน้ำจืดลงมามากปลิงทะเลจะทนสภาพการเปลี่ยนแปลงความเค็มไม่ทัน และสูญเสียแรงดันออสโมซิสในร่างกาย จึงอ่อนแอจนไม่สามารถต้านทานกระแสคลื่น จึงถูกพัดขึ้นมาเกยหาด
.
ทั้งนี้ ปลิงทะเลเป็นสัตว์ทะเลที่อ่อนแอต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมแบบฉับพลัน จึงมักพบขึ้นมาเกยหาดบ่อยๆ เช่น ปลิงทะเลหัวมันเทศ Acaudina molpadiodes รวมทั้งปลิงทะเลชนิดนี้ด้วย
.
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ ทช.ได้สัมภาษณ์นายวิภัตร ลิปยากร ชาวบ้านบริเวณที่เกิดเหตุ แจ้งว่าพบปลิงทะเลทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิตเกยหาด เมื่อเวลาประมาณ 08.00 น. เป็นระยะทางประมาณ 300 เมตร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่พบได้ปกติทุกปี เนื่องจากบริเวณนี้เป็นหาดเลนซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของปลิงทะเล
.
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ ทช. ได้เข้าพื้นที่สำรวจ เมื่อเวลา 16.00 น. เมื่อวันที่ 23 ต.ค. เป็นระยะทาง 300 เมตร เบื้องต้นพบปลิงทรายหนามชนิด Holothuria (Theelothuria) kurti 1 ตัว ไม่พบสัตว์น้ำอื่นๆ ตาย โดยปลิงส่วนใหญ่สามารถกลับลงไปในน้ำได้ในช่วงน้ำขึ้นในช่วงเย็น
.
เบื้องต้นไม่แนะนำให้สัมผัสตัวปลิง โดยระหว่างการสำรวจยังพบปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีบริเวณจุดเกิดเหตุ จากนั้นได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำทั่วไป 3 สถานี พบว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลชายฝั่งประเภทที่ 4 เพื่อการนันทนาการ (กรมควบคุมมลพิษ, 2560) ยกเว้นค่าออกซิเจนละลายในน้ำสูงกว่าปกติ ส่วนแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุให้เกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีคือกลุ่มไดโนเฟลคเจลเลตชนิด Noctiluca scintillans

อ้างอิง:

 

1 > ประเด็นคาใจทำไมอิมแพคเมืองทองธานีไม่มีรถไฟฟ้าเสียที ณ เวลานี้มีความกระจ่างมากขึ้น เมื่อที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2563 เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2563 ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เป็นประธานการได้มีมติเห็นชอบรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทอง ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย

2 > โครงการส่วนต่อขยายสายสีชมพูเส้นนี้ได้เพิ่ม 2 สถานีเข้าสู่เมืองทองธานี (สถานี MT-01 อยู่บริเวณหน้าอาคารอิมแพ็คชาเลนเจอร์ และสถานี MT-02 อยู่บริเวณด้านหน้าของทะเลสาบเมืองทองธานี ใกล้กับเอสซีจี สเตเดี้ยม มีระยะทางรวมประมาณ 3 กิโลเมตร)

3 > สำหรับโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเส้นนี้เป็นข้อเสนอของบริษัท นอร์ท เทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) อยู่ในกลุ่มกิจการร่วมค้าบีเอสอาร์ (บีทีเอส-ซิโนไทยฯ-ราชกรุ๊ป) ผู้รับสัมปทานพัฒนารถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี โดยจะลงทุนเองราว 3,379 ล้านบาท

4 > อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปีนี้ใช้เวลาก่อสร้างราว 1 ปีถึงปีครึ่ง และจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 2565 ซึ่งจะสอดคล้องกับรถไฟฟ้าสายสีชมพูสายหลัก ช่วงแคราย - มีนบุรี ที่ปัจจุบันงานก่อสร้างคืบหน้า 60% คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการปลายปี 2564 และเปิดเต็มระบบภายในปี 2565 ส่วนตัวขบวบรถ 42 ขบวน จะทยอยรับมอบภายในครบภายในปี 2564

5 > ขณะที่โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี เส้นหลัก คาดว่าจะเปิดช่วงแรกจากสถานีมีนบุรีถึงสถานีศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ ได้ประมาณเดือน ต.ค. 2564 ช่วง 2 จากสถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ แจ้งวัฒนะ ถึงสถานีกรมชลประทาน ช่วงสุดท้ายจากสถานีกรมชลประทาน ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ภายในเดือน ต.ค. 2565 โดยจะเริ่มทดสอบเดินรถเสมือนจริงในเดือน ส.ค. 2564 และเปิดให้บริการจริงเดือน ต.ค.2564 ช่วงแรกจำนวน 19 สถานี จากทั้งหมด 30 สถานี

อ้างอิง:
https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/36154
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/904031
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1849454

 

จีน : เมืองจีซี มณฑลเฮย์หลงเจียง ครอบครัวชาวจีนเสียชีวิต 9 คนจาก 12 อาหารเป็นพิษ กรดยีสต์ข้าว
#5 ตุลาคม ครอบครัวชาวจีนทำอาหารรับประทานในช่วงมื้อเช้า รวมทั้งทำบะหมี่ครอบครัวมีทั้งหมด 12 คน7 คน เสียชีวิตในเวลาต่อมาหลังจากทานอาหาร 2คนนำส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในวันที่ 13 ตุลาคม 3คนเป็นเด็กรอดชีวิตไม่ทานบะหมี่เพราะมีกลิ่น รสแปลกๆ จากการตรวจสอบพบว่าแป้งข้าวโพดหมักที่นำมาทำบะหมี่อาจเป็นพิษเนื่องจากเก็บในตู้เย็นนานเป็นปี ผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารชาวจีนคาดว่าเกิดจากพิษ Bongkrekic acid ที่มีความรุนแรงยังทนต่อการต้มในอุณหภูมิสูง พิษก่อความเสียหายรุนแรงต่ออวัยวะของมนุษย์หลายส่วน รวมถึง ตับ ไต หัวใจ และสมอง เขาย้ำว่า ในตอนนี้ยังไม่มียาต้านพิษ กรดยีสต์ข้าวเป็นสาเหตุหลักของพิษเนื่องจากผลิตภัณฑ์แป้งข้าวโพดหมักที่นำมาปรุงอาจมีเชื้อรา

 

ไอร์แลนด์ : เมืองโดรกเฮดา ชายทุบขวดเหล้าทิ้งในร้านเทสโก้ เขาโกรธจัด ที่พนักงานแจ้งให้เขาสวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้าซื้อสินค้า ขวดเหล้าจำนวนมากบนชั้นวางถูกทุบทำลาย

 

มาเลเซีย : ผู้ป่วยโควิดรายใหม่วันนี้ + 1,228 คน เสียชีวิต 7 คน
#เป็นตัวเลขติดเชื้อสูงสุดในการระบาดรอบที่2
รวมผู้ติดเชื้อทั้งหมด 25,742 คน เสียชีวิต 221 คน
ภาพ :moh

 

วันนี้ ทางสำนักข่าว Radio Free Asia ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติตั้งขึ้น เพื่อต้องการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกรัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชียปิดกั้นไม่ให้ประชาชนเข้าถึง เสนอข่าว Thai Protests Inspire Rare Online Government Criticism in Neighboring Laos ระบุว่า
.
การชุมนุมต่อต้านรัฐบาล ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยขณะนี้ ได้กลายเป็นแรงบันดาล ให้ผู้คนในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว เริ่มตั้งคำถาม และวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของตนมากขึ้น
.
โดยผู้ชุมนุมในประเทศไทยนั้นระบุข้อเรียกร้อง 3 ประการคือ
...

1. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา (Prayut Chan-o-cha) นายกรัฐมนตรีที่ครองอำนาจยาวนานมาตั้งแต่สมัยเป็นผู้นำจากการรัฐประหารในปี 2557 จนเปลี่ยนสถานะเป็นผู้นำจากรัฐบาลเลือกตั้งในปี 2562 ต้องลาออกจากการเป็นนายกฯ
.
2. เปิดทางให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
.
3. ปฏิรูปสถาบันกษัตริย์
...

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ นั้นได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2563 เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้กลไกรัฐสภา เพื่อหาทางออก และวันที่ 22 ต.ค. 2563 ได้ยกเลิกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในกรุงเทพฯ
.
ในระหว่างที่การชุมนุมประท้วงในประเทศไทยดำเนินไป มีความเคลื่อนไหวจากชาวลาว ที่ติดตามสถานการณ์ผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ บนเว็บไซต์ทวิตเตอร์ มีการสร้างแฮชแท็ก “ถ้าการเมืองลาวดี (if Lao politics was good)” และตั้งคำถามว่าเหตุใด ลาวถึงไม่เป็นประเทศ ที่ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย
.
เพื่อที่ประชาชนจะได้มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยได้พบเห็นได้ง่ายนักในสังคมลาว เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลลาวที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาความยากจน การทุจริต และอื่นๆ มักต้องเผชิญกับการถูกจับกุมคุมขัง
.
เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล (Netiwit Chotiphatphaisal) นักศึกษาชาวไทย ที่เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว เล่าถึงเหตุการณ์ที่ชาวลาว เริ่มวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของตนเอง โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการชุมนุมประท้วงในไทย
.
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2563 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า ชาวลาวใช้ทวิตเตอร์ ตั้งคำถามกับรัฐบาลลาว เช่น ชาวลาวยังมีปัญหาการไม่รู้หนังสือค่อนข้างสูง เพราะโรงเรียนขาดแคลนงบประมาณ ในขณะที่ชนชั้นนำนิยมส่งบุตรหลานในเรียนในต่างประเทศ รวมถึงปัญหาสิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำในสังคม
.
อีกทั้ง ยังมีการรายงานข่าวอีกว่า การแสดงความคิดเห็นผ่านสื่อออนไลน์ใน สปป.ลาว ก่อให้เกิดข้อถกเถียงอยู่ไม่น้อย ในขณะที่ฝ่ายที่เห็นใจผู้ชุมนุมในไทย มองว่าอย่างไรเสีย สังคมลาวก็ต้องเปลี่ยนแปลงให้ทันต่อโลก เพราะไม่สามารถปฏิเสธกระแสแห่งโลกาภิวัตน์ และอยู่อย่างโดดเดี่ยวได้ และประชาชนชาวลาว ควรมีสิทธิในการร่วมตัดสินใจในการพัฒนาประเทศ
.
ชาวลาวบางส่วนก็มีมุมมองที่ต่างออกไป อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Vongvichit Poti Lars โพสต์ข้อความระบุว่า อย่านำลาวไปเทียบกับไทย ลาวเป็นประเทศที่มีการเมืองมั่นคง และเป็นเอกภาพไม่มีความแตกแยก
.
โดยทาง Vanida S. Thephsouvanh ประธานขบวนการลาว เพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์กรจัดตั้งในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ให้ความเห็นว่า ทั้งผู้ปกครอง และประชาชนชาวลาว กำลังเฝ้ามองสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยว่า อะไรจะเกิดขึ้นต่อไป ก่อนจะตัดสินใจแสดงท่าที อนึ่ง ข้อมูลจาก www.laoconnection.com ที่สำรวจเมื่อช่วงต้นปี 2563 ระบุว่า มีชาวลาวประมาณ 3 ล้านคนที่ใช้สื่อออนไลน์ หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรทั้งประเทศ นอกจากนี้
.
เช่นเดียวกับการสำรวจของสำนักข่าว Radio Free Asia เมื่อเดือน ส.ค. 2563 พบว่า ชาวลาวจำนวนไม่น้อย เลือกที่จะติดตามข้อมูลข่าวสาร ผ่านสื่อออนไลน์อย่างเฟซบุ๊ก และยูทูป รวมถึงจากสำนักข่าวต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย มากกว่าสื่อของรัฐบาลลาว ที่ดูแล้วช้า และไม่ทันสมัย
.
ทั้งนี้ สปป.ลาว ปกครองโดยพรรคปฏิวัติของประชาชนลาว (LPRP) มาตั้งแต่ปี 2518 และมีการปิดกั้นการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์จากประชาชน
.
อย่างเช่นในปี 2557 มีการออกกฎหมายห้ามวิจารณ์รัฐบาล และพรรค LPRP ซึ่งมีบทลงโทษทั้งประชาชน และผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต โดยผู้กระทำผิดอาจถูกลงโทษจำคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 3 ปี และปรับตั้งแต่ 430-2,165 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 13,000-67,000 บาท และมีคดีตัวอย่าง เช่น Houayheuang Xayabouly หญิงวัย 30 ปี ถูกลงโทษจำคุก 5 ปี จากการใช้เฟซบุ๊ก วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาล ในการรับมือปัญหาน้ำท่วม
.
แต่ในบางกรณี เช่น Sangkhane Phachanthavong นักเคลื่อนไหวทางการเมืองใน สปป.ลาว ที่ถูกจับกุมหลังวิพากษ์วิจารณ์ปัญหาการทุจริตในภาครัฐ ได้รับการปล่อยตัวในเดือน ส.ค. 2563 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก แต่ถึงกระนั้น Sangkhane ก็ยังถูกกล่าวหาว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลาว ที่เคลื่อนไหวอยู่ในต่างประเทศ
.
ซึ่งทางองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน (Reporters Without Borders - RSF) เผยแพร่ดัชนีเสรีภาพสื่อมวลชนประจำปี 2563 โดย สปป.ลาว นั้นอยู่ในอันดับ 172 จากทั้งหมด 180 ประเทศ ขณะที่องค์กร Freedom House ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
.
ผลการสำรวจในปี 2563 ได้จัดให้ สปป.ลาว เป็นกลุ่มประเทศที่ไม่มีเสรีภาพ โดยได้คะแนนเพียง 14 จากเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็น 2 จากเต็ม 40 คะแนนด้านสิทธิทางการเมือง และ 12 จากเต็ม 60 คะแนนด้านสิทธิ และเสรีภาพ

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://www.naewna.com/inter/527217
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

ประเทศไทยได้รับการคัดเลือกให้เป็นฐานการผลิตวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของบริษัท แอสตร้า เซนเนก้า ซึ่งคาดว่า จะพัฒนาวัคซีนให้ใช้ได้ และเริ่มผลิตประมาณกลางปี 2564
.
โดย แอสตร้าเซนเนก้า เป็น 1 ใน 5 บริษัทที่กำลังทดลองวัคซีนโควิดตัวอย่าง ในระยะที่ 3 ซึ่งเป็นระยะสุดท้าย และมีความเป็นไปได้สูงที่จะประสบความสำเร็จ อีก 4 รายคือ กามาเลยา/สปุตนิกของรัสเซีย, โมเดอร์นากับไฟเซอร์ของสหรัฐฯ และซิโนวัค จากจีน
.
แอสตร้า เซนเนก้า เป็นบริษัทสัญชาติอังกฤษ-สวีเดน ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย อ็อกซฟอร์ดวิจัยวัคซีนป้องกันโควิด AZD 1222 ปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างการทดลองขั้นที่ 3 กับกลุ่มตัวอย่าง 18,000 คน ซึ่งหากได้ผล ก็จะสามารถขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานด้านอาหาร และยาของสหราชอาณาจักร และผลิตออกมาใช้ได้ทันที
.
ส่วนด้าน ออกซ์แฟม ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลต่อต้านความยากจนระดับโลก ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า กำลังการผลิตวัคซีนโควิด-19 ของผู้ผลิตทั้ง 5 รายข้างต้น รวมกันเท่ากับ 5.9 พันล้านโดส ขณะนี้ถูกประเทศร่ำรวย รวมทั้งสหรัฐฯ สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่นสั่งซื้อ โดยมีการทำสัญญาไปแล้ว 2.7 พันล้านโดส อีก 2.6 พันล้านโดสที่เหลือถูกจับจองโดยประเทศกำลังพัฒนา เช่น จีน อินเดีย และบราซิล
.
ดังนั้น ถึงแม้ว่าต้นปี และกลางปีหน้า จะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้ว แต่ใช่ว่าทุกประเทศทุกคนในโลกนี้ จะมีวัคซีนใช้ทันที มีเงินก็ซื้อไม่ได้ เพราะ 51% ของวัคซีนที่คาดว่าจะใช้ได้ผล ถูกกว้านซื้อไปโดยประเทศร่ำรวยที่มีประชากรรวมกันเพียง 13% ของประชากรโลก ซึ่งกระบวนการ ในการผลิตวัคซีนต้องใช้เวลา เมื่อผลิตเสร็จแล้ว ก็ต้องกระจายไปยังประชาชนในประเทศต่างๆ ที่มีความต้องการนับพันล้านโดส การขนส่งจึงต้องใช้เวลาเช่นกัน
.
โดยการเซ็นเอ็มโอยู เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ระหว่างกระทรวงสาธารณสุขของไทย บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ บริษัท เอสซีจี และแอสตร้าเซนเนก้า เป็นข้อตกลงว่า แอสตร้า เซนเนก้า จะมอบวัคซีนตัวอย่างที่ได้รับการรับรองแล้ว ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีน AZD 1222 ให้กับบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ และร่วมมือกับสยามไบโอไซเอนซ์ ติดตั้งกระบวนการผลิต เพื่อผลิตวัคซีนสำหรับคนไทย และประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไม่มุ่งหวังผลกำไร อีกทั้ง ความร่วมมือนี้ เป็นการผลักดันจากกระทรวงสาธารณสุข โดยบริษัท เอสซีจี ซึ่งมีโครงการวิจัย และพัฒนากับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ดมายาวนาน เป็นผู้ประสานงานระหว่างประเทศไทยกับมหาวิทยาลัยอ็อกซฟอร์ด
.
ซึ่ง บริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ถือหุ้น 100% โดยสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์เป็นผู้ผลิตยาชีววัตถุ (biological product-ยาที่ผลิตโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ) แห่งแรก และแห่งเดียวของประเทศไทย ที่สามารถผลิตยา ได้ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2552
.
จากพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสุขภาพของคนไทย โดยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสืบสาน และต่อยอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมชนกนาถ ในด้านการสาธารณสุขของไทย
.
ในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ระบาดใหม่ๆ สยามไบโอไซเอนซ์ ได้ปรับพื้นที่บางส่วนของโรงงาน เพื่อใช้ผลิตชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก โดยร่วมมือกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ โดยตั้งเป้าผลิตชุดตรวจ 1 แสน ตัวอย่าง มอบให้รัฐบาลส่งต่อไปยังห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ
.
โดยทาง พลอากาศเอกสถิตย์พงษ์ สุขวิมล เลขาธิการสำนักพระราชวัง ในฐานะประธานกรรมการบริษัท สยามไบโอไซเอนซ์ จำกัด กล่าวว่า ศูนย์การผลิตของบริษัท มีเครื่องจักรที่เป็นเทคโนโลยีชั้นสูงสำหรับผลิตยารักษาโรคมะเร็ง และโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เครื่องจักรดังกล่าว สามารถประยุกต์ใช้ผลิตวัคซีน AZD 1222
.
ภายหลังจากการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากแอสตร้า เซนเนก้า รวมทั้งขั้นตอนการรับรองจากคณะกรรมการอาหารและยา ซึ่งคาดว่า วัคซีนชุดแรกจะพร้อมใช้กลางปีหน้า ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยสามารถผลิตวัคซีนดังกล่าวได้สำเร็จ เป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
.
ข่าวสำคัญที่ไม่เป็นที่สนใจมากนัก คือ กลางปีหน้าคนไทยจะได้รับวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นชาติแรกๆ ในโลก จากโรงงานผลิตวัคซีนของในหลวง

-------------------------------
แหล่งข่าว

https://mgronline.com/daily/detail/9630000105514
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

กลุ่มมือปืนบุกจู่โจมโรงเรียนแคเมอรูน สังหารเด็กไม่เลือกหน้าตาย6ศพ

เกิดเหตุกลุ่มมือปืนบุกจู่โจมโรงเรียนแห่งหนึ่งในแคเมอรูนเมื่อวันเสาร์(24ต.ค.) กราดยิงไม่เลือกหน้า สังหารเด็กไปอย่างน้อย 6 ศพและบาดเจ็บราวๆ 8 คน ในแคว้นแห่งหนึ่งที่พวกกลุ่มก่อความไม่สงบแบ่งแยกดินแดนปฏิบัติการอยู่

https://mgronline.com/around/detail/9630000108903