ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    แผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ความลึก 7 กม. สั่นสะเทือนเมืองหลวงของ โครเอเชีย

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ความเสียหายหลังเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.4 ในซาเกร็บ ประเทศโครเอเชีย # 22 มีนาคม

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กิ๊ฟจังนั่งเล่า

    #ความรู้ ชนิดไวรัส SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 : S กับ L

    นักวิชาการญี่ปุ่นวิเคราะห์เห็นตามนักวิชาการจีนว่าไวรัส SARS-CoV-2 ที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 มีอย่างน้อย 2 ชนิด 3 ประเภท

    ⚠️ไวรัสมันกลายพันธ์ุได้เรื่อย ๆ เป็นปรกติไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ กลายพันธุ์แย่ลง/ดีขึ้นก็ได้

    เรียก ชนิด S กับ L เพราะมีสารพันธุกรรมส่วนเดียวที่แตกต่างกัน

    (*แก้ไข จากชาวเพจ ในภาพน่าจะเป็น RNA นะคะ ไม่ใช่ DNA)

    (โดยแตกต่างกันที่กรดอะมิโนนะคะ —> ขอบคุณชาวเพจค่ะ สำหรับข้อมูล)

    - L คือ ลิวซีน
    - S คือ ซีรีน

    ข้อแตกต่างของ S กับ L คือ L จะหนักกว่า S

    (วิธีจำ(ไปสอบ); เหมือนพุงไซส์ L ใหญ่กว่า S นั่นเอง <— (^◇^;))

    —————-

    ชนิด S มีประมาณ 30% ของทั้งหมด
    - ใกล้เคียงกับไวรัสที่เจอในค้างคาว
    - พลังโจมตีอ่อน

    ชนิด L มีประมาณ 70% ของทั้งหมด
    - กลายพันธุ์จากชนิด S
    - มีความสามารถในการระบาดสูง

    —————

    แต่พอแยกลงไปอีก ชนิด L ยืนหนึ่งเรียก (CTC) ในขณะที่ชนิด S แยกเป็น 2 ประเภทไปอีก คือ TCC และ TCT

    ลำดับการกลายพันธุ์
    TCT(เบาสุด)

    TCC

    CTC (แรงสุด)

    ถ้าผลการวิจัยเป็นจริง

    ถือเป็นบุญของโตเกียว แม้เราจะตรวจแบบมินิมอลวันละ 100 นิด ๆ แต่เราเป็นสายพันธุ์ S แบบ TCT ซึ่งถือว่าเบา โชคดีไปนะคะทุกคน

    แต่ คานางาวะ ไอจิ เกียวโต ยังเบาใจไม่ได้เพราะเป็น L

    บางประเทศ/เมืองมี 2 ชนิดในเมืองเดียว

    ✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

    ✒️อีกอย่างคนยังเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ คาดว่าจะเป็นเรื่องของเวลาและสุขอนามัยคนในชาติแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    ✒️คำศัพท์เฉพาะมีแก้ไขแจ้งได้นะคะ สายวิทย์ตัวสุดท้ายที่แอดเรียนคือตอนปี 1 ^^;

    ✒️ของไทย ไม่มีเขียนไว้ แต่สนามมวยมาจากอิตาลี ระบาดแรงน่าจะเป็น L นะคะ ?

    ข้อมูล: Sunday Station

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

    FB_IMG_1584888056733.jpg
    [ภาพที่1 เรียก ชนิด S กับ L เพราะ มีสารพันธุกรรมส่วนเดียวที่แตกต่างกัน
    (*แก้ไขในภาพ จากชาวเพจ น่าจะเป็น RNA นะคะ ไม่ใช่ DNA)

    (โดยแตกต่างกันที่กรดอะมิโนนะคะ —> ขอบคุณชาวเพจค่ะ สำหรับข้อมูล)

    - L คือ ลิวซีน
    - S คือ ซีรีน]

    FB_IMG_1584888059176.jpg
    [ภาพที่ 2 ข้อแตกต่างของ S กับ L คือ L จะหนักกว่า S

    (วิธีจำ (ไปสอบ): เหมือนพุงไซส์ L ใหญ่กว่า S นั่นเอง <— #(^◇^;))]

    FB_IMG_1584888062267.jpg
    [ภาพที่ 3 ชนิด S มีประมาณ 30% ของทั้งหมด
    - ใกล้เคียงกับไวรัสที่เจอในค้างคาว
    - พลังโจมตีอ่อน

    ชนิด L มีประมาณ 70% ของทั้งหมด
    - กลายพันธุ์จากชนิด S
    - มีความสามารถในการระบาดสูง]

    FB_IMG_1584888064974.jpg
    [ภาพที่ 4 แต่พอแยกลงไปอีก ชนิด L ยืนหนึ่งเรียก (CTC) ในขณะที่ชนิด S แยกเป็น 2 ประเภทไปอีก คือ TCC และ TCT

    ลำดับการกลายพันธุ์
    TCT(เบาสุด)

    TCC

    CTC (แรงสุด)

    ถ้าผลการวิจัยเป็นจริง

    ถือเป็นบุญของโตเกียว แม้เราจะตรวจแบบมินิมอลวันละ 100 นิด ๆ แต่เราเป็นสายพันธุ์ S แบบ TCT ซึ่งถือว่าเบา โชคดีไปนะคะทุกคน

    แต่ คานางาวะ ไอจิ เกียวโต ยังเบาใจไม่ได้เพราะเป็น L

    บางประเทศ/เมืองมี 2 ชนิดในเมืองเดียว

    ✒️อีกอย่างคนยังเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่ คาดว่าจะเป็นเรื่องของเวลาและสุขอนามัยคนในชาติแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ

    ✒️ของไทย ไม่มีเขียนไว้ แต่สนามมวยมาจากอิตาลี ระบาดแรงน่าจะเป็น L นะคะ ?]


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    เพิ่มเติมไม่มี "พระเจ้าคุ้มครองคุณ" เมื่อคุณจาม

    สิ่งนี้เกิดขึ้นเพราะชายคนนี้จาม
    และคนเหล่านี้รู้ว่าเขาป่วยและบังคับให้เขาลงจากรถบัส

    ❗No more "God bless you" when you sneeze

    This happened because this man sneezed.
    And these people knew that he was sick and forced him to get off the bus.

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ภูเขาไฟ #Pococatepetl ประเทศเม็กซิโก ในวันที่ 22 มีนาคม 2563 เวลา 2:59 น. มีการบันทึกว่ามีการปะทุของชิ้นส่วนไส้บนเนินเขาของภูเขาไฟ ที่ระยะ 800 เมตร เสาของเถ้าและก๊าซภูเขาไฟสูงถึง 1 กม. และกระจายไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ

    #Popocatepetl volcano, Mexico
    on March22 2020 at 2:59 h, an explosion was recorded that launched incandescent fragments on the slopes of the volcano at a distance of 800 m, the column of ash and volcanic gases reached 1 km in height and dispersed to the northeast.

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    โรงพยาบาลกำลังตั้งเตียงเพื่อป้องกันการติดเชื้อในโรงจอดรถ สหรัฐอเมริกา

    Nikki Nasuti กล่าวว่า "โรงพยาบาลในแนชวิลล์ ฉันเชื่อ"

    Eileen M Carroll กล่าวว่า "พวกเขากำลังทำเช่นนั้นกับหนึ่งในโรงพยาบาลของเราเช่นกัน Greenville SC"

    Hospital is setting up beds for the coronvirus surge in the parking garage. United States.

    Nikki Nasuti says "Hospital in Nashville I believe."

    Eileen M Carroll says, "they are doing that to one of our hospitals as well. Greenville SC"

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จาก หนังสือ ฉบับนี้ / หมายความว่า กทม. และ ปริมณฑล / เป็นศูนย์กลางแพร่เชื้อ แล้ว /

    ใครมา จาก กทม. / ปริมณฑล ไป ต่างจังหวัด / จะถูก กักกันโรค 14 วัน
    FB_IMG_1584889595645.jpg FB_IMG_1584889598184.jpg
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [ถ้ารัฐมนตรีมหาดไทยออกคำสั่งให้ทุกจังหวัดปิดกั้นไม่ให้คนในจังหวัดเดินทางข้ามจังหวัดเป็นเวลา 14 วัน ก็เท่่ากับประกาศ กักกันเชืัอ
    ใน กรุงเทพ และปริมณฑล แล้วนั่นเอง จะเกิดความโกลาหลไหม]

    ปิดกรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ไม่ได้ประสานกับจังหวัดต่างๆ ให้ปิดไม่ให้คนนอกพื้นที่เข้าไปพร้อมๆกัน
    จึงเกิดสภาพดังที่เห็น ไวรัสโควิดซึ่งเดินไปไหนเองไม่ได้ กำลังเดินทางไปทั่วประเทศก็คราวนี้
    แต่ยังมีเวลาอีกวันสองวันครับ
    รัฐมนตรีมหาดไทยต้องรีบออกคำสั่งให้ทุกจังหวัดปิดกั้นไม่ให้คนในจังหวัดเดินทางข้ามจังหวัดเป็นเวลา 14 วัน ก็จะสกัดการแพร่ระบาดไว้ในแต่ละจังหวัดได้ และเมื่อพ้น 14 วันแล้ว ก็น่าจะควบคุมการแพร่ระบาดได้

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "หลังจากไวรัสโควิดหายไปโลกเราจะเป็นอย่างไร?"

    ... นักวิเคราะห์ประเมินว่าโลกเราจะประสบกับอะไรบ้างหลังไวรัวโควิด19จางหายไป เช่นเศรษฐกิจจะตกต่ำทั่วโลก ดอกเบี้ยจะต่ำลงเพื่อกระตุ้นการลงทุน เงินจะฝืดขึ้น คนจะประหยัดมากขึ้น เช่น

    ... 1) "นโยบายการกีดกันการค้าจะกลับมา" จากที่เคยเปิดเสรีมากขึ้นนำเข้าส่งออกกันทั่วก่อนการมาของไวรัส เรื่องนี้อเมริกานำร่องไว้ก่อนแล้วก่อนไวรัสมาหนึ่งปี คำว่า "โลกาภิวัฒน์อาจจะสูญพันธุ์" พักใหญ่

    ... นักการเมืองจะร่างนโยบายนี้มาในสภาเพื่อปกป้องสินค้าบริการตัวเองกันทั่วโลกเพื่อกระตุ้น "การจ้างงาน" ในประเทศตัวเอง

    ... 2) จากข้อแรกเมื่อมีการกีดกันทางการค้าการลงทุนข้ามแดนน้อยลง การผลิตจะน้อยลง การเติบโตทางเศรษฐกิจจะลดลง เงินจะฝืดขึ้นในระบบ

    ... 3) "พึ่งพาตัวเองมากขึ้น", เพราะช่วงไวรัสมาทุกชาติตระหนักถึงความเปราะบางของการเป็นส่วนหนึ่งของ "ห่วงโซ่การผลิต" เมื่อหลายชาติปิดประเทศลงทำให้สินค้าบริการขาดแคลน, ทั่วโลกจะหันมา "พึ่งพาตัวเองมากขึ้น" สินค้าอะไรที่พอจะผลิตเองได้ก็จะทำ ไม่นำเข้าหมดเหมือนแต่ก่อน,

    ... 4) "การทำธุรกิจ การค้าขาย การเรียน" ที่ถูกปิดตายลงช่วงไวรัส, จะกระตุ้นให้มีการพัฒนาสิ่งเหล่านั้นมากขึ้นทั้งซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ อย่างแพร่หลายเป็น "สังคมที่สื่อสารออนไลน์" มากกระจายไปทั่ว, แต่การติดต่อสื่อสารแบบตัวต่อตัวจะไม่หายไปหมด แต่จะลดลงไป

    ... 5) สืบเนื่องจากความก้าวหน้าทางการสื่อสารออนไลน์ "ธุรกิจการบิน โรงแรม จะหดตัวลง" กระทบกับการจ้างงานในห่วงโซ่นี้ไปทั่วโลก

    ... 6) "ทำงานที่บ้าน" หรือ Work from home, WFH จะเป็นทางเลือกในการสื่อสารต่อกันแพร่หลายมากขึ้นในอนาคต

    ... 7) "ทัศนคติการบริโภคคนทั่วโลกจะเปลี่ยนไป" ความระมัดระวังของผู้บริโภคจะยังคงอยู่อีกต่อไปหลังจากโควิด19, จะลดลงเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008, ทัศนคติของการ ชั่งใจในการใช้จ่ายผู้บริโภคจะสูงขึ้นและ "ยอดการค้าปลีกจะตกลง" ฟุ่มเฟือยน้อยลง... จะนำไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยากและช้าลง

    ... 8) "การกระตุ้นทางเศรษฐกิจการคลังจะขยายตัว" ตามนโยบายการเงิน เพื่อบรรเทาปัญหาการว่างงานและภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ โครงการก่อสร้างสาธารณสุขพื้นฐานขนาดใหญ่อาจจะเกิดขึ้นมา เพื่อบรรเทาการว่างงาน

    ... 9) "การล่มสลายของคลังของอเมริกา" จะประสบกับการหาเงินมาจ่ายหนี้พันธบัตรที่ขายไปทั่วโลก ประกอบกับหนี้สินของธนาคารกลางก็ทับถมขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การขาดดุลของรัฐบาลอเมริกาเพิ่มสูงขึ้นทำให้รัฐบาลอเมริกาก็ยิ่งกู้ ยิ่งขายพันธบัตรก็ยิ่งสร้างหนี้วิกฤติหนักขึ้น

    ... 10) " ราคาน้ำมันโลก" อาจจะกลับมาที่ระหว่าง40-60ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล แต่ "ซาอุดิอาระเบียอาจจะร่วมมือกับรัสเซีย" เพื่อกำจัดอเมริกา ออกจากตลาดผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่

    ... 11) "ตลาดพันธบัตรจะตกสวรรค์" พันธบัตรหลายตัวเช่นเรื่องพลังงานที่เคยรุ่งเรืองจะตกสวรรค์ เหลือราคาตามจริง จะกลายเป็นพันธบัตรขยะ ไม่มีใครต้องการ เทขายทิ้ง และจะกระทบกับการแย่งซื้อพันธบัตรของกระทรวงการคลังอเมริกาด้วย เช่นก่อนหน้านั้นมีถึงระยะ 30ถึง50ปี เพราะนักลงทุนกลัวพันธบัตรระยะสั้นมีความเสี่ยง

    ... 12) "กองทุนบำเหน็จบำนาญ" ของข้าราชการก็อาจจะมีปัญหาที่ผ่านมานักลงทุนไปล้างสมองเกลี้ยกล่อมให้รัฐบาลตาวาวให้เอาเงินนี้ไปลงทุนในตลาดเพื่อหวังเงินมากขึ้น, ทำให้เกิดความเสี่ยง เมื่อตลาดผันผวนจากวิกฤติเศรษฐกิจ จะมีผลต่อการปันผลของข้าราชการที่เคยได้อาจจะน้อยลง ... คนแก่ได้ใช้เงินยามชราน้อยลง

    ... 13) "โควิด19จะเป็นแพะในวิกฤติทั้งหมด" ที่กล่าวมา ทั้งๆที่ความจริงแล้ว มันเป็นแค่ดินก้อนสุดท้ายที่ฝังกลบหลุมศพในสุสานจนมิดแค่นั้นเอง

    .

    ... https://www.bloomberg.com/opinion/a...rus-a-long-term-look-at-economies-and-markets

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหล่ากูรูฟันธง ไทยเสี่ยงเข้า Technical Recession

    ย้อนกลับไปในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ประเทศไทยเราเข้าสู่วิกฤตการระบาดของไวรัสแบบที่ หากมีคนบอกเรา 2 เดือนก่อนหน้านี้ว่า หุ้นจะตก ตราสารหนี้จะร่วง คนจะหยุดงาน ห้างร้านจะปิด เราก็คงไม่เชื่อ

    แต่สิ่งเหล่านั้น เกิดขึ้นพร้อมกันในวันนี้

    ล่าสุด ผมได้เห็นโพสจากสมาคมอุรเวชช์แห่งประเทศไทย ในพระบรมชาชูถัมภ์ ทำแบบจำลองผู้ติดเชื้อในไทย ไล่ตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค. ปีนี้ ไปจนถึง สิ้นเดือนมี.ค. ปีหน้า แล้วตัวเลข แล้วก็ต้องบอกว่า "เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมจริงๆ"

    เพราะผู้ติดเชื้อจะเพิ่มขึ้นไปแตะหลักแสนที่เดือนมิ.ย. หรือ อีก 3 เดือนหลังจากวันนี้

    สงครามไวรัสครั้งนี้ ไม่ใช่แค่เป็นโจทย์ของคนไทย แต่เป็นของคนทั่วโลกไปแล้ว ไม่ใช่เพราะไวรัสตัวนี้อัตราการเสียชีวิตสูง แต่เป็นเพราะอัตราการแพร่ระบาดสูง และจำนวนบุคลากรทางการแพทย์ในหลายประเทศไม่เพียงพอ

    หากจำนวนผู้ติดเชื้อ เป็นผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปี และไม่สามารถเข้าถึงแพทย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ปัญหาที่ใหญ่กว่าจะตามมา

    และโลกเรากำลังเข้า Aging Society ทั้งโลก ดังนั้น หากแพร่ระบาดเร็วเกินไป ก็คือ เสี่ยงเกินไปในการทำให้เศรษฐกิจ Meltdown ลงทันทีนะครับ

    แล้วเศรษฐกิจไทย เจอวิกฤตรอบนี้ไป นักการเงินมองอนาคตเป็นอย่างไร เราไปดูกัน

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย - ประมาณการ GDP ปีนี้จะยังโตอยู่ที่ระดับ 0.5% แต่ตัวเลข GDP ไตรมาส 1 และไตรมาส 2 น่าจะออกมาติดลบ 2 ไตรมาสติด แล้วค่อยๆฟื้นขึ้ืนในไตรมาส 3 ทั้งทางทางศูนย์วิจัย ให้มุมมองว่า จะติดตามการควบคุมการแพร่ระบาดจากภาครัฐฯ และอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วย ก่อนทบทวนตัวเลขการเติบโต แต่เปิดช่องไว้ว่า "มีความเป็นไปได้ที่จะเห็นเศรษฐกิจไทยลงลึกกว่าที่ประมาณการ"

    ทีมวิจัยเศรษฐกิจ ธนาคารกรุงศรี - ประมาณการ GDP ปี 2563 อยู่ที่ -0.8% จากประมาณการเดิม 1.5% ปัจจัยหลักมาจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งกระทบต่อ Business Activity ทั้งนี้ เครื่องยนต์หลักอย่างภาคการท่องเที่ยว ทางกรุงศรีมองว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะติดลบ -30% หรือลดลงอยู่ที่ 27.8 ล้านคนในปีนี้ทีเดียว

    Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ - เปิดเผยบทวิเคราะห์ว่า ได้ปรับลดประมาณการ GDP ไทยปีนี้เป็นหดตัว -0.3% จากเดิมคาดขยายตัว 1.8% โดยเกิด Technical Recession ในช่วงครึ่งแรกของปี หากการแพร่ระบาดทั้งในไทยและต่างประเทศถูกควบคุมได้ภายในไตรมาสที่ 2 ซึ่งเร็วกว่ากรณีฐาน ก็จะทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวและมูลค่าการส่งออกของไทยปรับดีขึ้นมากกว่ากรณีฐานได้เช่นกัน

    บล.เอเซีย พลัส - ปรับลดคาดการณ์ GDP ไทยปี 2563 กลายเป็นติดลบ -1.4% จากเดิมหวังโต 1.6% บนสมมติฐานว่า covid-19 จะสามารถควบคุมได้ภายในไตรมาส 3/63 นี้

    KKP Research - เปิดเผยว่าปี 2563 คาดว่าการเติบโตของเศรษฐกิจไทยจะติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -2.4% จากก่อนหน้านี้ที่ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัว -0.4% โดย KKP มีรายงานว่า ทีมนักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America คาดว่าครึ่งปีแรกของปี 2563 เศรษฐกิจโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย (Global Recession) ขณะที่ทั้งปี 2563 คาดว่า GDP จะขยายตัว 0.3%

    พอได้ลองอ่านรายละเอียดของบทวิเคราะห์แต่ละเจ้า ผมกลับมองว่า มันไม่ได้เกินเลยจากความเป็นจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น และมีความเสี่ยงที่แม้จะย่างเข้าไตรมาส 3 แล้ว ปัญหาอาจจะยังไม่จบ

    ผมว่า เราต้องยอมรับความจริง ต้องเตรียมตัวกันให้ดีๆ อยู่กับปัจจุบัน มองมันด้วยใจเป็นกลาง แล้วเราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้

    แหล่งที่มาข้อมูล :
    https://www.scbeic.com/th/detail/product/6693
    https://thestandard.co/thai-economy-in-year-63-has-contracted/
    https://thestandard.co/asia-plus-adjust-down-thai-new-gdp-2020/
    https://www.thebangkokinsight.com/304196/
    https://www.prachachat.net/finance/news-434207

    Mr.Messenger รายงาน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "ฉีดวัคซีนเพื่อลดประชากรโลก: คนอินเดียเชื่อฉีดวัคซีนคือยาพิษจากอังกฤษช่วง 1800-1899"

    ... ในช่วงปี 1800-1899 บางคนในอินเดียสงสัยว่าการฉีดวัคซีนนั้น ดูเหมือนจะตั้งใจใช้เพื่อฆ่าพวกเขาจาก "พวกอังกฤษ"

    ... ตัวอย่างเช่นในฉบับเดือนมีนาคม 1890 ของวารสารการแพทย์อินเดีย Indian Medical Gazette ในบทความ "ดร. K.C. Bose เรื่องไข้ฝีดาษในกัลกัตตา,” ผู้เขียน, แพทย์ที่นิยมการฉีดวัคซีนตามแบบอังกฤษ กล่าวว่าชาวอินเดียบางคนเชื่อว่าการฉีดวัคซีนนั้นถูกใช้เพื่อ“ ลดจำนวนคนจนในอินเดีย”

    ... "ความรักที่มีต่อลูก ๆ ของพวกเขา, ทำให้พวกเขาคิดว่าการฉีดวัคซีนเป็นการดำเนินการที่รัฐบาลตั้งใจจะทำให้จำนวนผู้ด้อยโอกาสในอินเดียลดน้อยลง ความกลัวนี้ประกอบกับศีลธรรมทางศาสนาของพวกเขาทำให้พวกเขามั่นคงและแน่วแน่และการถกเถียงเรื่องนี้ถือเป็นสิ่งที่ไร้ค่าที่จะฆ่าลูกของตัวเอง"

    ... ผู้เขียนกล่าวโทษการกระทำของคนกลุ่มนั้นสำหรับความไม่ไว้วางใจในการให้ฉีดวัคซีนนี้ หมอคนนี้เขาอาจเชื่ออย่างจริงใจ แต่อาจเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ เราถูกบอกกล่าวอยู่เสมอเพื่อปกป้องการฉีดวัคซีนจากความสงสัย มีข้อแก้ตัวอยู่เสมอ แม้การฉีดวัคซีนไข้ทรพิษที่ทางการรับรองจะไม่ทำให้เกิดการตายมากมายของผู้รับการฉีด แต่ที่น่าสนใจก่อนหน้านี้ในบทความการแพทย์นี้ยอมรับเช่นกันว่าการฉีดวัคซีนอาจเป็นอันตรายได้

    ... "ฉันไม่สามารถข้ามไปพูดจุดอื่นโดยไม่พูดอะไรสักคำเกี่ยวกับว่า บางครั้งกระบวนการฉีดวัคซีนก็มีความอันตรายเช่นกัน" ...


    ... J.N. เฮย์ส กล่าวในหนังสือเรื่อง " The Burdens of Disease" หรือ "ภาระของโรค" ได้แสดงความคิดเห็นต่อผู้คนในประเทศอินเดียที่มองว่า "การฉีดวัคซีนเป็นเครื่องมือในการลดจำนวนประชากร" เช่นกัน

    ... "มีข่าวลือที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็วในปี 1898 ไปทั่วเมืองกัลกัตตาว่าวัคซีนของ Haffkine ในความเป็นจริงแล้วคือยาพิษที่เตรียมโดยรัฐบาลในการจะฆ่าคนอินเดีย" ...

    ... มาตรฐานในการปฏิบัติของการฉีดวัคซีนแบบแขนต่อแขน เผยให้เห็นการปกครองแบบสร้างความหวาดกลัวในหมู่คนอินเดีย บางคนอาจคิดว่าเจ้าหน้าที่ของอังกฤษกำลังอยู่ระหว่างการทำสงครามกับชาวอินเดีย ชาวพื้นเมืองของอินเดียจึงมีเหตุผลที่ดีที่จะกลัวการฉีดวัคซีน

    ... นอกจากนั้น "อังกฤษ" ยังออกกฎหมายบังคับใช้ "การฉีดวัคซีนในบริติชอินเดีย" กับคนอินเดียอย่างรุนแรงที่ไม่มีใครเทียบได้ กฏหมายถูกบังคับใช้โดยปราศจากความยินยอมและขัดกับความต้องการของผู้คนท้องถิ่น จึงทำให้พวกเขามองว่า "วัคซีนมันคือยาพิษ"

    ... ซึ่งการคัดค้านการฉีดวัคซีนเกิดขึ้นจากความรู้ที่ได้รับจากประสบการณ์ที่เศร้าและขมขื่น พวกคนอินเดียรู้ว่าในช่วงเวลาเดียวกันนั้นเองก็ "การแพร่ระบาดของโรคเรื้อน" ที่น่ากลัวในอินเดียและประเทศอื่น ๆอย่างบังเอิญ, เรื่องนั้นเกิดขึ้นพร้อมกัน เลยทำให้พวกเขาเชื่อว่าการตายที่มากมายสืบเนื่องจากการฉีดวัคซีนแน่นอน และพวกเขาก็ยอมจะเผชิญกับความรุนแรงของการลงโทษทางกฎหมายหรือ เผชิญกับอันตรายจากโรคที่เกิดจากป่าที่บางครั้งก็ยังหาที่หลบซ่อนป้องกันภัยได้ ดีกว่าที่จะเสี่ยงกับการฉีดวัคซีนจากพวกอังกฤษที่มองไม่เห็นและหายนะมากกว่า

    .... นอกจากใน "อินเดีย" แล้ว , ใน "แคนาดา" ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันก็มีข่าวว่ามี "การฉีดวัคซีนเป็นเครื่องมือเพื่อฆ่าหมู่คนแคนาดาพื้นเมือง" ด้วยเช่นกันโดยเป็นข้อมูลใหม่ที่เขียนโดย Kevin D. Annett ที่เคยทำงานกับคนท้องถิ่น , เขียนเมื่อปี 2009 ใน Republic of Lakotah website

    ... ( อย่าเพิ่งไว้ใจวัคซีนจากฝรั่งนักล่าอาณานิคม ที่ออกข่าวว่าจะมารักษาไวรัสโควิด19 จะประเทศไหนทำก็ตาม เรื่องการใช้วัคซีนเป็นเครื่องมือในการฆ่าศัตรูมีมานานแล้ว" ในประวัติศาสตร์ ... เพื่อเขาจะลดประชากรแล้วปกครองคนที่ถูกลดศักยภาพทางร่างกายและสมอง ตามยาพิษที่เขาฉีดเข้าไป ... โควิด19 อาจจะเป็นตัวชงบีบคนทั่วโลกเพื่อให้ไปฉีดวัคซีนพิษตามที่เขาออกแบบมาก็ได้ )

    .

    ... Decimating Canadian Indians

    Was vaccination a tool of genocide against Indians in the Americas in the 1800s? This appears to be the case in at least Canadia. Kevin D. Annett, an educator who has worked with aboriginals in Canada, wrote in 2009 the following for the Republic of Lakotah website:

    ...

    ... Citizens of India Believe Vaccination used for Depopulation in 1800s

    In the 1800s, some in India suspected that vaccination was used to deliberately kill them.
    For instance, in the March 1890 edition of the Indian Medical Gazette in an article titled “Dr. K.C. Bose on Small-pox in Calcutta,” the author, a pro-vaccine doctor, says that certain Indians believed vaccination was used to “thin the number of its poor subjects”:

    The affection for their children has driven them to regard vaccination as an operation intended by government to thin the number of its poor subjects. This dread, coupled with their religious scruples, have made them obstinately firm and resolute, and sound arguments are regarded as a worthless dodge to play on their minds to kill their own children.
    The Indian Medical Gazette, “Dr. K. C. Bose on Small-pox in Calcutta.” (March 1890), 82. Accessible at https://europepmc.org/backend/ptpmcrender.fcgi?accid=PMC5149194&blobtype=pdf

    The author blames the actions of rogue, unsanctioned vaccinators for this distrust of vaccination. He may have sincerely believed this, but this may or may not be true. We are constantly told lies to protect vaccination from reproach. There is always an excuse. And it is not as if official, sanctioned smallpox vaccinators didn’t cause mass death themselves. Interestingly, earlier in the article the doctor does admit that vaccination can be dangerous:

    I cannot pass on to consider another point without saying a few words the dangers sometimes attending the process of vaccination. …
    Ibid.

    J.N. Hays, in The Burdens of Disease, also comments on residents of India viewing vaccination as a tool of depopulation:

    [A]s early as 1898 rumors circulated through Calcutta that Haffkine’s vaccine was in fact a poison prepared by the government …
    J.N. Hays, The Burdens of Disease: Epidemics and Human Response in Western History (Piscataway, NJ: Rutgers University Press, 2003), 199.

    The standard, sanctioned practice of arm-to-arm vaccination unleashed a reign of terror in India. One might think that the British authorities were at war with their Indian subjects. Natives of India had good cause to fear vaccination:

    The laws enforcing vaccination in British India, which are unparalleled for their severity, were passed without the consent and against the wishes of the people, whose objection to vaccination arises from a knowledge often gained by sad and bitter experience. They know that the fearful spread of leprosy in India and other countries is coincident with and, as they believe, due to the extension of vaccination, and they prefer to face the severities of the law, with its ruinous judicial penalties, or even to risk the dangers of the jungle, where they are sometimes compelled to seek refuge for their little ones, to the risks of this hideous and destructive scourge. That leprosy, confessed to be incurable, is inoculated by vaccination (a fact once vehemently denied) is now reluctantly admitted by the leading dermatologists of all countries, and by the most experienced chiefs of the leper asylums and public health departments in the West Indies, in South America, South Africa, and in the Sandwich Islands.
    William Tebb, The Recrudescence of Leprosy and Its Causation: A Popular Treatise (London: Swan Sonnenschein & Co., 1893), 362.

    .

    ... https://www.vaccinesandchristianity...population-genocide-in-early-vaccine-history/

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แจ้งผ่าน วันนี้ สะพาน 1 อ.แม่สายเปิดเป็นวันสุดท้าย จะปิดเวลา 21.00 น
    จนกว่าจะเข้าสู่
    สถานการณ์ปกติ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชาชนต่างสวมหน้ากากอนามัย ทยอยเดินมาที่สถานีขนส่งโดยสารกรุงเทพฯ(จตุจักร) เพื่อขึ้นรถกลับภูมิลำเนา หลังกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีมาตราการสั่งปิดสถานที่เสี่ยงแพร่ระบาดโรค #โควิด19

    ซึ่งมีแรงงานบางส่วนจากสถานประกอบการต้องหยุดชั่วคราว ระหว่างวันที่ 22 มี.ค.-12 เม.ย. 2563 รวม 22 วัน ทำให้บางครอบครัวเลือกเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัด แม้ว่าล่าสุดคณะกรรมการควบคุมโรคจะออกแนวทางให้จังหวัดทั่วประเทศ ตั้งทีมระดับอำเภอ หมู่บ้าน เพื่อทำบัญชีผู้ที่เดินทางกลับจาก กทม. เพื่อคัดกรองการแพร่เชื้อ / 22 มีนาคม 2563

    #COVID19 #COVIDー19 ⁣⁣#ไทยรัฐ #Thairath

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก รอบโลกรอบเรา กับ รสสุคนธ์ ปราโมทย์

    #สหรัฐปิดแล็บทางทหารหลังโควิดหลุดออกมา !! ร่วมล่ารายชื่อให้ทำเนียบขาวบอกเหตุผลที่สั่งปิดห้องปฎิบัติการทหาร เกี่ยวข้องกับการรั่วไหลของโควิดหรือไม่ ??
    .
    ในวันที่ 10 มีนาคม มีการเปิดตัวคำร้องบนเว็บไซต์ของทำเนียบขาวขอให้รัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยให้สาธารณชนทราบถึงเหตุผลที่แท้จริงสำหรับการปิด Fort Detrick ห้องปฏิบัติการทางทหาร เพื่อชี้แจงว่าห้องปฏิบัติการนั้นเป็นหน่วยการวิจัยใหม่ coronavirus "COVID19" ที่มีการรั่วไหลของไวรัสหรือไม่
    .
    ห้องปฏิบัติการ Fort Detrick เป็นห้องทดลองเชื้อโรคชั้นนำของกองทัพสหรัฐฯในเมือง Fredrick รัฐแมริแลนด์ ศึกษาการติดเชื้อร้ายแรง เช่น อีโบลาและไข้ทรพิษ ซึ่งถูกปิดตัวลงทันทีเมื่อเดือนสิงหาคม 2562
    .
    ตามรายงานของสื่อระบุว่า เกิดความกังวลด้านความปลอดภัย หลังจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคพบว่า องค์กรล้มเหลวในการจัดวางระบบอย่างเพียงพอ ในเรื่องของการปนเปื้อนน้ำเสียและขาดการฝึกอบรมสำหรับพนักงาน ด้าน CDC หรือสาธารณสุขของสหรัฐ ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ “ ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคงแห่งชาติ” New York Times รายงาน
    .
    คำร้องในครั้งนี้ มีการแสดงไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดเจนตามลำดับเวลา แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เกี่ยวข้องกับห้องปฏิบัติการที่ไม่สามารถอธิบายได้ และยังแสดงลิงก์ที่เป็นไปได้ ระหว่างห้องปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐ และ coronavirus ตัวอย่างเช่น โรคปอดบวมจากแหล่งกำเนิดที่ไม่ทราบสาเหตุถูกค้นพบในประเทศจีนในเดือนพฤศจิกายน 2019 หลังจากที่สหรัฐอเมริกาจัดกิจกรรม 201 ซึ่งเป็นการซ้อมรบร่วม ก่อนระยะเวลาไม่นานที่ "โควิด-19" แพร่ระบาดไปทั่วโลก โดยอ้างถึงผู้ช่วยผู้อำนวยการซีไอเอเมื่อเดือนตุลาคม
    .
    คำร้องยังระบุด้วยว่ามีรายงานข่าวภาษาอังกฤษจำนวนมากเกี่ยวกับการปิด Fort Detrick ถูกลบในเดือนนี้โดยแสดงหน้าเว๊ปไซต์ “ไม่พบ 404”
    .
    ก่อนหน้านี้โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน Zhao Lijian กล่าวใน Twitter ว่า กองทัพสหรัฐฯอาจนำเชื้อไวรัสร้ายแรงมาสู่หวู่ฮั่น Zhao ได้รีทวีตลิงค์ของเว็บไซต์ที่ให้หลักฐานเพิ่มเติมว่าไวรัสมีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา โดยข้อความในทวีตระบุว่า “บทความนี้มีความสำคัญอย่างมากต่อเราทุกคน โปรดอ่านและรีทวีต”

    “ ทำไมห้องปฏิบัติการทางทหาร Fort Detrick ของสหรัฐจึงปิดตัวลง ทำไมไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลก่อนหน้านั้นถึงเกิดฉับพลัน? สิ่งที่ทำให้เกิดโรคปอดบวมไอ ทำไมไม่อนุญาตให้คนทำการทดสอบ coronavirus คุณพยายามซ่อนอะไร ทุกคนต้องการคำอธิบาย” ผู้ใช้ Twitter Julius Ryde แสดงความคิดเห็นโดยตรงกับประธานาธิบดีทรัมป์
    .
    โฆษกของกระทรวงต่างประเทศของจีน Geng Shuang กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับแหล่งที่มาของไวรัสและ“ นี่เป็นปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ” อย่างไรก็ตามจากการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 18 มีนาคม Zhong Nanshan ที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของจีนปฏิเสธการยืนยันอย่างกว้างขวางว่าไวรัสที่มีต้นกำเนิดในหวู่ฮั่น “การระบาดของไวรัสที่เกิดจากการติดเชื้อซ้ำในประเทศจีนในหวู่ฮั่น… แต่ไม่ได้หมายความว่าแหล่งกำเนิดของมันจะอยู่ในหวู่ฮั่น” (people's daily, china)

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก ปิยะนันท์ ศศิมาส

    ยอดเมื่อวาน 22/03/2020 ล่าสุด
    อัตราผู้ป่วยติดเชื้อรายวันของไทย
    จาก 23.8% ขยับขึ้นไปที่ 30%
    ---------------------------------
    FB_IMG_1584919084450.jpg
    สูตร และวันเวลาที่ยอด
    จะขึ้นไปที่ 1000, 1 หมื่น, 1 แสนราย
    ตามรูป

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว ขนาด 6.1
    ภูมิภาค CENTRAL EAST PACIFIC RISE
    วันที่ 2020-03-22 เวลา22: 38: 05.3 UTC
    ตำแหน่ง 4.8 S; 104.87 W
    ความลึก 10 กม
    Screenshot_20200323-062850.png 840916.global.thumb.jpg 840916.regional.thumb.jpg
    Magnitude 6.1
    Region CENTRAL EAST PACIFIC RISE
    Date time 2020-03-22 22:38:05.3 UTC
    Location4.68 S ; 104.87 W
    Depth10 km

    Distances
    2660 km SW of Guatemala City, Guatemala / pop: 995,000 / local time: 16:38:05.3 2020-03-22

    2670 km SW of San Salvador, El Salvador / pop: 526,000 / local time: 16:38:05.3 2020-03-22

    2740 km S of Mexico City, Mexico / pop: 12,295,000 / local time: 16:38:05.3 2020-03-22

    https://m.emsc.eu/earthquake/earthquake.php?evid=840916
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    อิตาลีกำลังยุ่งเหยิงในขณะนี้ นั่นคือสาเหตุที่เราต้องดำเนินมาตรการป้องกัน Coronavirus อย่างจริงจัง

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    กองทัพโมร็อกโกเคลื่อนที่ไปตามท้องถนน โมร็อกโกมีเคสที่ยืนยันแล้ว 115 รายและเสียชีวิตจากไวรัส 4 ราย

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Brenes

    ในช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในกัวเตมาลา ปรบมือให้กับเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ที่ยังคงอยู่ในงานบริการขั้นพื้นฐานเมื่อเริ่มเคอร์ฟิว

     

แชร์หน้านี้

Loading...