ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Aw.article-181025-18-10-25-Dow-Jones-_-SP-500-_-Nasdaq-Index-800x420.jpg
    ดัชนี Dow Jones / S&P 500 / Nasdaq แตกต่างกันอย่างไร?
    28 ต.ค. 2018
    ดัชนี Dow Jones / S&P 500 / Nasdaq แตกต่างกันอย่างไร? / โดย ลงทุนแมน
    โดยปกติแล้ว นักลงทุนหลายคน จะติดตามความเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะ เชื่อว่าดัชนีเหล่านี้มีอิทธิพลต่อภาวะการซื้อขายของตลาดหุ้นทั่วโลก ไม่มากก็น้อย
    ดัชนีที่เราคุ้นหู จะมีอยู่ด้วยกัน 3 ชื่อ คือ Dow Jones, S&P 500 และ Nasdaq
    แต่ทราบกันหรือไม่ว่า แต่ละดัชนี มีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ลงทุนแมนจะมาเล่าให้ฟัง

    ในตลาดหลักทรัพย์ มีหุ้นอยู่มากมายหลายพันตัว การที่จะบอกว่าหุ้นขึ้นหรือลง จึงจำเป็นต้องมีดัชนีกลางที่บ่งชี้ถึงสภาวะราคาในภาพรวม
    ประเทศไทย มีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งดัชนีราคาคือ SET Index และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ซึ่งดัชนีราคาคือ MAI Index
    ขณะที่สหรัฐอเมริกา ก็มีการตลาดหลักทรัพย์อยู่หลายแห่งเช่นกัน โดยสองตลาดหลัก คือ New York Stock Exchange : NYSE (มูลค่า 760 ล้านล้านบาท) และ Nasdaq (มูลค่า 340 ล้านล้านบาท) ทั้งสองตลาดนี้มีธุรกิจมาจดทะเบียนรวมกันราว 5,700 บริษัท
    แต่ว่า ดัชนีที่เราเห็นกันนั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของแต่ละตลาดแบบตรงตัว โดย Dow Jones และ S&P 500 มีผู้จัดทำขึ้น ซึ่งอิงข้อมูลหุ้นจากทั้งตลาด NYSE และ Nasdaq
    ขณะที่ Nasdaq เป็นดัชนีที่บ่งชี้ราคาหุ้นของตลาดตนเองตามชื่อ

    ทีนี้ มาลองดูว่า แต่ละดัชนี มีหลักการคำนวณอย่างไร?
    Dow Jones Industrial Average ถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัท Dow Jones & Company ซึ่งเป็นสื่อที่ตีพิมพ์ข้อมูลเกี่ยวกับการเงิน เช่น หนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal
    ดัชนี Dow Jones เริ่มใช้เมื่อปี 1896 ในตอนแรก ประกอบไปด้วย บริษัทอุตสาหกรรมการผลิตเป็นหลัก เนื่องจากเป็นผู้นำตลาดในขณะนั้น จึงเป็นเหตุให้ในชื่อ มีคำว่า Industrial อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไป ธุรกิจประเภทอื่น ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดแทน ทั้งบริษัทพลังงาน เทคโนโลยี การเงิน และสินค้าอุปโภคบริโภค
    ปัจจุบันดัชนี Dow Jones คำนวณมาจาก หุ้นขนาดใหญ่ 30 ตัว ซึ่งผู้จัดทำคัดเลือกว่าเป็นบริษัทผู้นำในแต่ละธุรกิจ โดยมีหุ้นจาก NYSE 25 บริษัท เช่น Exxon Mobil, J.P.Morgan, Goldman Sachs, IBM, Walmart, Nike, Coca-Cola, McDonald’s, Visa, Johnson & Johnson, Boeing เป็นต้น และมาจาก Nasdaq อีก 5 บริษัท เช่น Apple, Microsoft, Cisco, Intel เป็นต้น
    สำหรับดัชนี Standard & Poor’s 500 หรือ S&P 500 ถูกจัดทำขึ้นโดยบริษัท Standard & Poor ซึ่งดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับข้อมูลทางการเงิน และการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
    [​IMG]
    [​IMG]
    ดัชนี S&P 500 เริ่มใช้เมื่อปี 1957 โดยคำนวณมาจากหุ้นใหญ่ 500 ตัว จากทั้ง NYSE และ Nasdaq ซึ่งผู้จัดทำ จะคัดเลือกตามเกณฑ์ เช่น มูลค่าตลาดสูงเกณฑ์ที่กำหนด และมีสภาพคล่องที่ดี โดยมูลค่าของบริษัทใน S&P 500 คิดเป็น 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาทั้งหมด
    ส่วนดัชนี Nasdaq เป็นตัวเลขที่บ่งชี้ราคาหุ้นในตลาด Nasdaq เอง โดยเริ่มใช้เมื่อปี 1971 ปัจจุบันมีหุ้นในการคำนวณราว 3,300 ตัว
    ทั้งนี้ในตอนแรก Nasdaq ถูกตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งระดมทุนของบริษัทขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถจดทะเบียนใน NYSE ได้ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ที่มีทรัพย์สินที่มีตัวตน ต่ำกว่าเกณฑ์
    หุ้นอย่าง Microsoft, Apple, Amazon, Alphabet, Facebook, Cisco ต่างอยู่ในตลาดนี้ ซึ่งต่อมา ได้กลายเป็นบริษัทชั้นนำของโลก เนื่องจากบริษัทเทคโนโลยีมีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดทำให้ดัชนีนี้กลายเป็นตัวแทนของกลุ่มเทคโนโลยีไปโดยปริยาย
    สำหรับวิธีการคำนวณดัชนีจะมีข้อแตกต่างกันอยู่คือ ดัชนี Dow Jones จะคิดมาจาก ค่าเฉลี่ยของราคาหุ้นแบบตรงๆ ซึ่งต่างจาก ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ที่คิดมาจาก การถ่วงน้ำหนักตามมูลค่าตลาดของบริษัท
    ยกตัวอย่างเช่น บริษัท Coca-Cola ราคา 45 ดอลลาร์ มูลค่าตลาด 195,000 ล้านดอลลาร์
    McDonald’s ราคา 166 ดอลลาร์ มูลค่าตลาด 129,000 ล้านดอลลาร์
    ในกรณีนี้สำหรับดัชนี Dow Jones น้ำหนักของ McDonald’s ในดัชนีจะมากกว่า Coca-Cola เพราะราคาต่อหุ้นของ McDonald’s มากกว่า
    แต่สำหรับดัชนี S&P 500 น้ำหนักของ Coca-Cola ในดัชนีจะมากกว่า McDonald’s เพราะมูลค่าตลาดของ Coca-Cola มากกว่า
    จะเห็นได้ว่า แม้ Dow Jones จะเป็นดัชนีเก่าแก่ ที่รวบรวมบริษัทชั้นนำเอาไว้ แต่อาจจะไม่ใช่ตัวแทนที่ดีของภาพรวมตลาด เนื่องจากมีหุ้นแค่ 30 ตัว และไม่ได้รวมหุ้น เช่น Amazon, Alphabet, Facebook หรือ Berkshire Hathaway ไว้ เนื่องจาก หุ้นเหล่านี้ ไม่ค่อยมีการแตกพาร์ ราคาจึงสูง และการคำนวณแบบ Dow Jones นั้น หุ้นที่ราคาสูง จะมีอิทธิพลต่อดัชนีมากกว่าปกติ
    ขณะที่ S&P 500 อาจจะได้รับการยอมรับให้เป็นตัวแทนภาพรวมที่ดีกว่า จากการที่มูลค่าครอบคลุมเกือบทั้งหมด และมีบริษัทที่หลากหลายครบถ้วน

    แล้วผลตอบแทนของทั้งสามดัชนี เทียบกันแล้วเป็นอย่างไร?
    ถ้าเรามาลองดูดัชนีย้อนหลัง (ข้อมูล ณ สิ้นเดือน กันยายน ปี 2018)
    เมื่อ 10 ปีที่แล้ว
    Dow Jones อยู่ที่ 10,850 จุด
    S&P 500 อยู่ที่ 1,166 จุด
    Nasdaq อยู่ที่ 2,092 จุด
    เมื่อ 5 ปีที่แล้ว
    Dow Jones อยู่ที่ 15,130 จุด
    S&P 500 อยู่ที่ 1,682 จุด
    Nasdaq อยู่ที่ 3,771 จุด
    Close Ad
    เมื่อ 1 ปีที่แล้ว
    Dow Jones อยู่ที่ 22,405 จุด
    S&P 500 อยู่ที่ 2,519 จุด
    Nasdaq อยู่ที่ 6,496 จุด
    ปัจจุบัน
    Dow Jones อยู่ที่ 26,458 จุด
    S&P 500 อยู่ที่ 2,914 จุด
    Nasdaq อยู่ที่ 8,046 จุด
    ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
    ดัชนี Dow Jones เพิ่มขึ้น 144% หรือเฉลี่ย 9.3% ต่อปี
    ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 150% หรือเฉลี่ย 9.6% ต่อปี
    ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 285% หรือเฉลี่ย 14.4% ต่อปี
    แสดงให้เห็นว่า ตลาดโดยรวมมีการเติบโตราว 9% ต่อปี ในขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ในระยะหลัง มีการเติบโตสูง และนักลงทุนอาจคาดหวังกับธุรกิจไว้สูง สะท้อนจากผลตอบแทน 14% ซึ่งสูงกว่าตลาดรวม

    โดยสรุปแล้ว แต่ละดัชนี มีความแตกต่างกัน ทั้งในแง่บริษัทที่อยู่ในการคำนวณ และหลักการคำนวณ
    ถ้าอยากติดตาม ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในภาพรวม อาจจะเลือกดู S&P 500 แต่ถ้าอยากรู้ว่าหุ้นบลูชิพเคลื่อนไหวอย่างไร อาจจะเลือกดู Dow Jones หรือถ้าอยากเน้นดูหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ก็อาจจะเลือกดู Nasdaq แทน
    นักลงทุนอย่างพวกเรา หากต้องการลงทุนในสหรัฐอเมริกา อาจซื้อได้ผ่านกองทุนรวมซึ่งลงทุนในหุ้นหลายประเภท หรือบางทีอาจจะอิงผลการดำเนินงานกับดัชนีเหล่านี้
    ดังนั้น การที่ทราบว่าดัชนีต่างๆ มีที่มาอย่างไร และประกอบไปด้วยบริษัทอะไรบ้าง ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เราควรเรียนรู้ไว้ เพื่อจะได้นำไปใช้ประโยชน์ในอนาคต..
    ----------------------
    รู้เรื่องดัชนีตลาดหุ้นแล้ว อยากรู้เรื่องเศรษฐกิจอื่นๆ ติดตามได้ที่แอปพลิเคชัน "blockdit" โหลดได้ที่ blockdit.com
    ความคิดดีๆ เกิดขึ้นที่บล็อกดิต..
    .
    อินสตาแกรม ไว้ดูภาพสวยๆ instagram.com/longtunman
    .
    ทวิตเตอร์กระชับฉับไว twitter.com/longtunman
    .
    ไลน์ส่งข้อความตรงวันละครั้ง line.me/R/ti/p/%40longtunman
    ----------------------

    References
    -https://en.wikipedia.org/wiki/Dow_Jones_Industrial_Average
    -https://en.wikipedia.org/wiki/S&P_500_Index
    -https://en.wikipedia.org/wiki/NASDAQ
    -https://www.investopedia.com/university/indexes/

    https://www.longtunman.com/10998
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่คลังสินค้าติดโควิด-19 เป็นรายที่ 4 ในสนามบินสุวรรณภูมิ
    “เจ้าหน้าที่คลังสินค้า” ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายที่ 4 ในสนามบินสุวรรณภูมิ “ทอท.” กุมขมับ สายการบิน “โคเรียนแอร์” ไม่แจ้งข้อมูลตามขั้นตอน เล็งคาดโทษเอาผิด
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "นายกฯ" สั่งเตรียม "ยา-รพ.เฉพาะ" ในทุกภูมิภาค รับโควิด-19 ระยะ 3
    "นายกฯ" สั่งเตรียม "ยา-รพ.เฉพาะ" ในทุกภูมิภาค รับประเทศไทยระยะ 3 โควิด-19 ปรับจัดประชุมโคโรนาไวรัส นั่งห่างกัน 1 เมตรขึ้นไป ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    https://www.thairath.co.th/news/politic/1798121

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    S&P 500 กับ Dow Jones - อะไรเป็นตัวแทนตลาดสหรัฐได้ดีกว่ากัน Thu 8 Nov, 2018 11:38 /
    012.png

    S&P 500 กับ Dow Jones - อะไรเป็นตัวแทนตลาดสหรัฐได้ดีกว่ากัน
    6 พ.ย. 2561 / 02.54 น.

    ที่มา : Wattana Stock Page

    ทุกเช้าเรามักจะตื่นมาแล้วเปิดดูกันก่อนว่า เมื่อคืนนี้ "ดาว" เป็นอย่างไร หรือก็คือ ดันชีค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม Dow Jones นั้นเคลื่อนไหวไปในทิศทางใด

    ถ้า Dow บวกเยอะ เราก็จะเข้าใจว่า ตลาดสหรัฐบวกเยอะ และถ้า Dow ลบเยอะ เราก็เข้าใจในทางตรงกันข้าม

    แต่เอาเข้าจริงแล้ว DJIA หรือชื่อเต็มๆว่า Dow Jones Industrial Average นั้น ไม่ได้เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นสหรัฐที่ครอบคลุมเลย เพราะว่าในดัชนีนั้นประกอบด้วยหุ้นเพียงแค่ 30 ตัว

    ตลาดหุ้นสหรัฐหลักๆแล้วมี 2 ตลาด ก็คือ NYSE (New York Stock Exchange) และ Nasdaq

    ในยุค dot com นั้น บริษัททางด้านธุรกิจอินเตอร์เนตนิยมที่จะไปจดทะเบียนในตลาดหุ้น Nasdaq จนเมื่อก่อนหลายคนเข้าใจกันว่า ตลาดหุ้นแห่งนี้เป็นตลาดสำหรับหุ้น dot com ทั้งหลายเท่านั้น

    ซึ่งในช่วงแรกๆมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆนั่นล่ะ

    แต่มาภายหลัง ก็มีหุ้นที่อยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นมากมายที่เลือกที่จะจดทะเบียนใน Nasdaq เพราะจะว่ากันไปแล้ว ทั้ง NYSE กับ Nasdaq ก็ถือว่าเป็นคู่แข่งแย่งชิงลูกค้าที่จะเข้าไปจดทะเบียนกัน

    NYSE กับ Nasdaq จึงไม่เหมือนกับ SET กับ MAI ของไทยโดยสิ้นเชิง

    DJIA เป็นดัชนีที่มีมานานแล้ว โดยเป็นความพยายามในการคัดเลือกหุ้น 30 ตัวที่ทางบริษัทคิดว่ามีความโดดเด่นและสามารถจะเป็นตัวแทนของตลาดได้มาใช้ในการคำนวณ

    ในยุคแรก นอกจากดัชนีอุตสาหกรรม แล้ว ยังมีดัชนีขนส่ง หรือ Dow Jones Transportation Average ด้วย ซึ่งในการวิเคราะห์ทางเทคนิค จะต้องใช้ 2 ดัชนีควบคู่กัน

    แต่เนื่องจากภาคการขนส่งไม่ได้มีความสำคัญในยุคหลังๆ ดัชนีขนส่งจึงไม่มีคนให้ความสนใจ คงเหลือไว้เพียงแค่ดัชนีอุตสาหกรรมเท่านั้น

    การเลือกหุ้นที่จะเข้ามาบรรจุใน DJIA นั้น ทางบริษัทที่ทำดัชนีจะเป็นคนเลือก ซึ่งหุ้นเกือบทั้งหมด จะมาจากตลาด NYSE และมีหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่มาจาก Nasdaq

    นั่นเป็นเรื่องปกติ เพราะว่าดัชนี DJIA มีขึ้นก่อนการเกิดขึ้นของ Nasdaq และการคัดเลือกหุ้นเข้าหรือออกจากการคำนวณดัชนีนั้น ทางบริษัทผู้จัดทำดัชนีใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก และมีความพยายามในการเลือกหุ้นจากหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม

    โดยดัชนี DJIA นั้น จะมีการกำหนดค่าตัวแปรตัวหนึ่งซึ่งคิดมาจากสูตรคำนวณ เพื่อให้เป็นตัวคูณว่า 1 ดอลลาร์ของราคาหุ้น 30 ตัวนี้ที่เปลี่ยนไป จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของดัชนีเท่าไหร่

    DJIA จึงเป็นดัชนีที่ "ให้ความสนใจเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของราคา" ของหุ้น 30 ตัวที่ถูกรวมคำนวณเท่านั้น

    แต่ถ้าจะบอกว่า DJIA เป็นดัชนีที่ไม่มีการถ่วงน้ำหนัก มันก็ไม่ใช่ แต่การถ่วงน้ำหนักของดัชนี ถูกคำนวณโดยผู้จัดทำดัชนีมาให้แล้ว โดยราคาของหุ้นทุกตัวจะถูกคูณด้วยค่าตัวแปรที่คำนวณไว้อย่างคงที่

    แม้จะเป็นการเลือกหุ้นมาเพียงแค่ 30 ตัว แต่น่าแปลกเป็นอย่างมาก ที่ดัชนี DJIA นั้น สามารถเป็นตัวแทนของหุ้นทั้งตลาดของสหรัฐได้อย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งหมดทั้งมวลอยู่ที่ขั้นตอนการเลือกหุ้นและการได้มาซึ่ง "ค่าคงที่" ดังกล่าว ที่มีความซับซ้อนอย่างมากและมีเงื่อนไขในการเลือกค่อนข้างมาก

    ประกอบกับก่อนหน้านี้ ตลาด Nasdaq ยังมีขนาดไม่ได้ใหญ่มากเหมือนปัจจุบัน การเลือกหุ้นเพียงไม่กี่ตัวจาก Nasdaq เข้าไปรวมคำนวณ DJIA (หรือ Dow 30) ก็เพียงพอที่จะเป็นตัวแทนของภาพรวมตลาดหุ้นของสหรัฐได้

    S&P 500 เป็นดัชนีที่จัดทำขึ้นโดย S&P โดยการคัดเลือกเอาหุ้น 500 ตัว จากกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้เป็นตัวแทนของตลาดหุ้นสหรัฐทั้ง 2 ตลาด นั่นหมายความว่า 500 ตัวที่ถูกเลือกนั้น ก็จะมีทั้งที่มาจาก NYSE และ Nasdaq และจัดเรียงตามลำดับที่การจัดทำดัชนีกำหนดเอาไว้

    การได้กลุ่มตัวอย่างที่มากกว่า เพราะมีหุ้นที่บรรจุในดัชนีถึง 500 ตัว ทำให้ใน S&P500 นั้นมีการแบ่งเป็นกลุ่มอุตสากรรมย่อยๆได้มากกว่า 10 หมวด

    โดยดัชนี S&P500 นั้นเป็นดัชนีชนิด "ถ่วงน้ำหนัก" ด้วยมูลค่าตลาด นั่นคือหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงก็จะมีน้ำหนักต่อดัชนีมาก หุ้นที่มีมูลค่าตลาดต่ำกว่า ก็จะมีน้ำหนักต่อดัชนีน้อยกว่า

    ถ้าต้องการเทียบ S&P500 ก็เหมือนดัชนี SET50 SET100 บ้านเรานั่นล่ะ

    เมื่อก่อนนี้ เช้าตื่นมา ถ้าเราดูดัชนีหลัก 3 ตัวของสหรัฐ คือ Dow S&P500 Nasdaq เราก็จะมักเห็นว่า มันจะคล้อยไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการดูเพียงแค่ Dow ก็จะทำให้เราเข้าใจถึงตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนที่ผ่านมาได้

    แต่ในปัจจุบันนี้ หุ้นที่มีการเติบโตโดดเด่นมาตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา คือหุ้นในกลุ่ม FAANG หรือ Facebook Amazon Apple Netflix และ Google (บริษัทลูกของ Alphabet) ซึ่งเป็นหุ้นที่ล้วนแล้วแต่จดทะเบียนอยู่ในตลาด Nasdaq ทั้งสิ้น

    ผลกำไรของบริษัทที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผลักดันให้ราคาหุ้นเหล่านี้พุ่งอย่างรุนแรง จนลำพังแค่หุ้นเพียงแค่ 5 ตัวนี้ มีน้ำหนักมากกว่า 10% ในดัชนี S&P500

    แต่ในหุ้น 5 ตัวนี้ มีเพียง APPLE ตัวเดียวเท่านั้นที่ถูกบรรจุอยู่ในการคำนวณดัชนี DJIA

    ด้วยเหตุนี้ หลายครั้งเราจึงมักเห็นว่า ทำไม Dow บวก แต่ S&P500 กลับติดลบ และถ้าหันไปดู Nasdaq จะเห็นว่าลบหนักมาก

    นั่นเพราะหุ้นเด่นๆหลายๆตัวที่นักลงทุนเล่นกันในเวลานี้ อยู่ใน Nasdaq ซึ่งปรับตัวลงแรง มันไปฉุดให้ S&P500 ลงมาด้วย แต่ด้วยการที่มันไม่ได้บรรจุอยู่ใน DJIA มันก็เลยทำให้ Dow ยังคงบวกอยู่ได้ด้วยการปรับขึ้นของหุ้นใหญ่ตัวอื่น

    ถ้าจะมองกันอย่างยุติธรรม S&P500 นั้นดูจะเป็นตัวแทนในการ track ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐของทั้ง 2 ตลาดในภาพรวมได้ดีกว่า DJIA เพราะจำนวนหุ้นในบรรจุในดัชนีนั้นมีมากกว่า ทำได้ภาพที่ดีกว่า

    แต่ DJIA เป็นดัชนีที่มีการจัดทำกันมาตั้งแต่ก่อนปี 1900 แล้ว นับว่าเป็นดัชนีที่นักวิเคราะยุคศตวรรษที่แล้วก็ใช้กันมา ได้รับความนิยม และมีความจำเป็นที่จะต้องมีอยู่ต่อไป

    ซึ่งเราได้เห็นการปรับเปลี่ยนในบางเรื่องในยุคหลังๆนี้ เพราะก่อนหน้านี้ หุ้น 30 ตัวที่บรรจุอยู่ใน DJIA นั้นแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย แต่หลังๆนี้มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างบ่อย เพื่อให้หุ้นที่อยู่ใน DJIA เป็นตัวแทนของอุตสาหกรรมต่างๆได้มากขึ้น

    ในปัจจุบันนี้ บริษัท S&P Dow Jones ซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี 2012 โดยการร่วมกันของ 3 บริษัทอย่าง S&P Global , CME Group และ News Corp เป็นผู้จัดทำดัชนี S&P และถือสิทธิการทำดัชนี Dow Jones อยู่ในมือทั้งหมด

    https://www.stock2morrow.com/discuss/room/1/topic/10672
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก การลงทุน

    ด่วน! ราคาน้ำมันดิ่งอีกครั้ง (-8.34%) ราคาต่ำสุดในรอบ 17 ปี
    FB_IMG_1584536762581.jpg
    หลังสงครามระหว่างน้ำมันของกลุ่ม OPEC ยังไม่จบดี ทั้งรัสเซีย และซาอุดิระเบีย ยังมุ่งหน้าเพิ่มกำลังผลิตน้ำมันต่อไป

    ซึ่งล่าสุด ซาอุดิระเบีย ประกาศเพิ่มกำลังผลิตเป็น 13 ล้านบาร์เวลต่อวัน (สูงสุดในประวัติศาสตร์)

    ทั้งในสภาวะไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอุตสาหกรรมของการเดินทาง ต้องหยุดชะงักลง ทั้งปิดเมือง ปิดห้ามเข้าออก ปิดห้ามคนประเทศต่างๆ ทำให้น้ำมันเหลืออยู่ในตลาด ยิ่งมากขึ้นๆเรื่อยๆ

    ซึ่งแน่นอน ส่งผลให้ราคาน้ำมันลดลง จากที่ supply มากกว่า demand ขึ้นเรื่อยๆ

    พรุ่งนี้เตรียม มอบตัว: PTT PTTGC TOP IVL IRPC

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวดี (18 มีนา) ฮอกไกโดประกาศสิ้นสุด “ภาวะฉุกเฉิน” วันที่ 19 มีนาคมนี้

    แปลตรงตัว : ผู้ว่าซุซุกิกล่าวว่า “(เรา) หลีกเลี่ยงจากสถานการณ์ที่จะทำให้ไม่สามารถปกป้องชีวิตและการดำเนินชีวิตหากเกิดการระบาดใหญ่และการล่มสลายทางการแพทย์ (ได้) แล้ว”

    「爆発的な感染拡大と医療崩壊による命と暮らしを守れない状況は回避された」

    แปลให้สวยแบบไทย ๆ (意訳) คือ “เราผ่านพ้นวิกฤติสถานการณ์ระบาดใหญ่และการล่มสลายทางการแพทย์ จึงสามารถปกป้องชีวิตและการดำเนินชีวิต(ของชาวฮอกไกโด)ไว้ได้แล้ว”

    จากนี้ไปผู้ว่าฯ ก็จะเน้นงานป้องกันการระบาดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กันต่อไป

    ปรบมือให้ผู้ว่าของพวกเราหน่อยค่ะ

    (๑✪∀✪ノノ゙✧パチパチ
    ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨

    https://www.jiji.com/jc/article?k=2020031801263&g=soc

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1584537064895.jpg

    บาทอ่อนทะลุ 32.50
    อ่อนสุดในรอบ 15 เดือน

    ความกังวลการแพร่ระบาดของ Covid-19 ทั่วโลก ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสินทรัพย์ทุกประเภท เพื่อถือเงินสดอย่างดอลลาร์ ส่งผลให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเร็วโดยดัชนี DXY ขึ้นไปแตะระดับ 99.8

    ขณะที่ Safe Haven Asset อย่างทองคำ ยังไม่พ้นโดนนักลงทุนเทขาย ส่งผลให้ราคาปรับลดลงไปต่ำกว่า 1500 ดอลลาร์/toz.

    ด้านสินทรัพย์ของไทยนั้น ต่างชาติได้มีการขายออกไปแล้วกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. นับตั้งแต่ต้นปี 2563 ประกอบกับตัวเลขผู้ติดเชื้อในประเทศไทยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กดดันให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าทะลุ 32.50 ในวันนี้

    การเปลี่ยนแปลงสกุลเงินแต่ละประเทศ ในปี 2653
    IDR –8.91 %
    THB –7.74 %
    KRW –7.18 %
    MYR –6.46 %
    TWD –0.75 %

    JPY +1.29 %
    USD +3.36%

    Gold -1.16%

    #เจ็บทุกAssets #ทองยังเซ #หุ้นไม่ต้องเศร้าเรามีเพื่อน
    #บาทอ่อน #32ไม่ไหว #จะไป33 #ติดทั้งโควิด #ติดทั้งดอย #เทขายกันหมด #ต้องสวดมนต์ละจุดนี้ #ค่าเงินบาท #โควิท19

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตือน! พรุ่งนี้ลมแรงระดับไต้ฝุ่น

    กรมอุตุนิยมวิทยาออกมาเตือนประชาชนในเกาหลีใต้ให้ระวังลมกรรโชกแรงที่รุนแรงถึงขั้นไต้ฝุ่นที่กำลังคืบคลานเข้ามาโดยเริ่มจากเช้าพรุ่งนี้

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเวลา 6:00 - 18:00 น. ลมกรรโชกแรงทั่วประเทศ ความเร็วของแรงลม 90 ก.ม/ ชั่วโมง หรือ 25 เมตร/วินาที ซึ่งปกติแล้วความเร็วของแรงลมไต้ฝุ่นอยู่ที่ 17 เมตร/วินาที ไม่พบฝนตกในวันพรุ่งนี้ ย้ำมีแต่แรงลมล้วนๆ เตือนพี่น้องดูแลข้าวของและดูแลตัวเองให้ดี

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [Update] วันที่ 18 มีนาคม 2563
    วันนี้มีคนติดเชื้อเพิ่ม 35 คน รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อแล้ว 212 คน
    FB_IMG_1584538529269.jpg
    ยังมีตัวเลขรอผลอยู่ 2,606 คน และยังมีผู้ป่วยที่กำลังติดตามผลอยู่ 7,566 คน

    ข้อมูลที่เห็น มองได้เห็นว่าประเทศไทยมีความเสี่ยงมากในการแพร่ระบาด ซึ่งตอนนี้ได้มีไวรัสแพร่กระจาย ตามแต่ละภูมิภาคแล้ว

    ดังนั้นทุกคนแม้แต่ในต่างจังหวัด ต้องเตรียมพร้อมกับสิ่งที่เกิดขึ้นกันด้วยนะคับ

    แบ่งปันจาก การลงทุน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชี้แจงกรณีพนักงานทำความสะอาดเป็นลมหน้าอาคารผู้โดยสาร เบื้องต้นพบว่ามีไข้สูงและมีอาการหายใจลำบาก แต่ไม่มีประวัติเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง เร่งตรวจหาสาเหตุอาการป่วยที่แท้จริง #ThaiPBSnews #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

    https://news.thaipbs.or.th/content/289962

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    แผ่นดินไหวขนาด 5.7 เพิ่งถล่ม Magna, Utah 18 มีนาคม 2563
    .
    5.7 magnitude earthquake has just struck Magna, Utah. March 18, 2020.

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ร้านดังไปอีกหนึ่ง ... Ser Wong Yee
    ร้านซุปงู และ หมูแดง มิชลินแห่งย่าน CausewayBay
    .
    แจ้งข่าวเศร้ารายวัน มีใครเคยทานร้านนี้กันบ้างคะ?

    “Ser Wong Yee” ร้านนี้ปัจจุบันได้ Michelin Bib Gourmand
    เมนูดัง คือ ซุปงู และหมูแดง ที่พวกสื่อเคยจัดอันดับให้เป็นตัวท็อปแห่งย่าน Causeway Bay
    .
    ร้านเปิดมา 40 ปีแล้ว
    เจ้าของบอกว่า สามารถฝ่าวิกฤติโรค SARS เมื่อ 17 ปีก่อนมาได้ แต่เจอ Covid เข้าไป สู้ไม่ไหวจริงๆ
    .
    ขอปิดร้านเมื่อหมดสัญญาเช่า #สิ้นเดือนหน้า (เมษายน)
    .
    จึงเรียนมาเพื่อให้แฟนๆ ไปสั่งลากันค่ะ
    .
    เครดิตภาพ: Openrice
    .
    #eatlike852 #covid19hongkong

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระสูตรมนตร์ปัดเป่าโรคระบาด

    ข้าพเจ้าได้ยินมาดังนี้ ครั้งหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่วัดเวฬุวนาราม ในกรุงราชคฤห์เพื่อแสดงพระธรรมเทศนาเบื้องหน้าพุทธบริษัทสี่จำนวนมากมาย ในเวลานั้นในกรุงเวสาลีเพิ่งเกิดโรคระบาดขึ้นทั่วและลุกลามอย่างรวดเร็ว ผู้ที่เสียชีวิตนั้นมีจำนวนนับไม่ถ้วนและไม่มีที่จะสิ้นสุดลง ทั้งยังไม่มีวิธีการรักษาและช่วยชีวิตผู้ที่ติดเชื้อ

    ครั้นแล้ว พระอานนท์คุกเข่าเบื้องหน้าพระพุทธองค์ ประณมมือสักการะแล้วกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า “กรุงเวสาลีประสบกับโรคระบาดร้ายแรง ข้าพระองค์ของพระภควันทรงสอนอุปเทสทั้งหลายอันศักดิ์สิทธ์เพื่อกำจัดการแพร่กระจายของโรคระบาดและปลดเปลื้องชาวพาราให้ได้รับสันติสุข ปลอดจากความทุกข์ทรมานและความเจ็บป่วย

    พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ผู้ทรงปัญญาว่า "อานนท์ จงฟังให้ดี มีปีศาจอยู่เจ็ดตัวและแพร่โรคร้ายออกไปอย่างไม่หยุดหย่อนและเหตุนี้ทำให้คนมากมายนับไม่ถ้วนติดเชื้อ หากผู้ใดติดเชื้อโรคนี้ผู้นั้นจะมีอาการปวดหัวและตัวหนาวสั่นและมีไข้ร่างกาย ผู้นั้นปรารถนาจะให้หายโดยพลัน อันความเจ็บปวดของผู้นั้นยากที่จะแสดง แต่ถ้าบุคคลมีความรู้ชื่อของโรค การติดต่อจะไม่เป็นอันตรายต่อผู้นั้น ด้วยเหตุนี้เราจะเทศนาเรื่องนี้เพื่อประโยชน์แก่เธอ"

    พระอานนท์กราบทูลว่า “ได้โปรด เข้าพระองค์ปรารถนาที่จะได้สดับ” พระพุทธเจ้าตรัสว่า “เมื่อพุทธบริษัททั้งสี่ปรารถนาจะท่องนามปีศาจเหล่านี้และทำให้พวกมันสงบลง ดังนั้นพึงกล่าวดังนี้"

    "ขอนอบน้อมแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระธรรมเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระสังฆเจ้า ขอนอบน้อมแด่พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ ขอนอบน้อมแด่พระอรหันต์ ขอนอบน้อมในผู้กล่าวมนตร์ (ชื่อของผู้ปฏิบัติธรรม)

    พุทธบริษัทหลาย คำภาวนานี้เราสอนเพื่อให้สอดคล้องกับการภาวนาของพวกเธอ นามของปีศาจเหล่านั้นมีดังนี้

    เราจะเทศนาแก่พวกเธอดังนี้ "ซา หลัว ชวี" (沙羅佉) หลังจากกล่าว ซา หลัว ชวี สามครั้งแล้ว พระพุทธองค์ตรัสมนตร์ว่า

    เมิ่ง ตัว หนาน กุ่ย,
    อา ชวี หนี กุ่ย,
    หนี ชวี ซือ กุ่ย,
    อา ชวี หนา กุ่ย,
    ปัว หลัว หนี กุ่ย,
    อา ผี หลัว กุ่ย,
    ปัว ถี หลี กุ่ย(夢多難鬼, 阿佉尼鬼, 尼佉尸鬼, 阿佉那鬼, 波羅尼鬼, 阿毘羅鬼, 波提棃鬼)

    พระพุทธองค์ตรัสว่า "นี่คือมนตร์ของปีศาจทั้งเจ็ด นามของพวกมันมีดังนี้ เมื่อผู้ใดมีไข้หรือเจ็บป่วย พึงเรียกชื่อปีศาจทั้งเจ็ดแล้วกล่าวว่า "จงออกไปในบัดดล ออกไปในบัดดล อย่าได้อยู่ต่อไป"

    โรคระบาดจะสิ้นไปจากร่างกายของพุทธบริษัททังหลาย และความเจ็บป่วยจะหายไปอย่างรวดเร็ว จะได้รับการรักษาเยียวยา ศิษย์ตถาคตทั้งหลาย บัดนี้พึงขอพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง จุดธูปบูชาและกราบนมัสการ และสวดภาวนาบูชาพระพุทธเจ้านานา หากมีปีศาจที่ไม่เชื่อฟังของสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ศีรษะของมันจะแตกเป็นเจ็ดเสี่ยงเหมือนกิ่งไม้อรชกะ

    หากผู้ใดมีโรคาพยาธิ หากผ่านหนึ่งวัน สองวัน สามวัน ถึงเจ็ดวันแล้วมีไข้กับความปวดทรมาน ให้ใช้มนตร์นี้ทำน้ำมนตร์แล้วให้ผู้ป่วยไข้ได้ดื่มกิน พึงสวด 21 ครั้ง โรคาพยาธิ โรคติดต่อ โรคระบาดจะปลาศไป

    แลหากมีผู้ใดตั้งประตูแล้วเขียนชื่อโรค ให้ผู้นั้นเขียนชื่อปีศาจทั้งเจ็ดไว้ที่หน้าผาก และหากผู้ใดมีด้ายห้าสี (น้ำเงิน แดง ขาว ดำ เหลือง) ให้ผูกด้ายกับแต่ละชื่อปีศาจแล้วไปผูกไว้ที่เหนือประตู จักเป็นมงคลยิ่ง

    หากผู้ใดภาวนาพระสูตรอย่างขันแข็ง ตั้งใจจดจำ ถือศีลไม่กินผักมีกลิ่นแรง แล้วเอ่ยชื่อปีศาจทั้งเจ็ด ปีศาจแห่งโรคทั้งเจ็ดจะถูกกั้นไว้ไม่อาจผ่านประตูได้

    หากมีมันผู้ใดเข้ามาในบ้านของผู้ล้มป่วย ปีศาจจะพบกับคนผู้นั้นแล้วทุกตนจะหนีจากร่างกายผู้ป่วยจนปลอดจากโรคติดต่อตลอดไป

    หากมีผู้ใดตั้งใจแนะนำพระสูตรนี้แก่ผู้อื่น คัดลอก จดจำ และสวดภาวนา คนผู้นั้นจะพ้นจากโชคร้ายและปัดเป่าภยันตรายไป

    หากนำพระสูตรนี้ไปใส่ไว้ในกลักแล้วนำไปวางเหนือประตู ปีศาจมารทั้งหลายจะไม่กล้าผ่านไปและคนผู้นั้นยังจะมีอายุยืนยาวและมีโชควาสนายิ่งนัก"

    พระอานนท์ประณมมือกราบทูลพระพุทธเจ้าว่า "ข้าพระองค์พึงเรียกพระสูตรนี้ว่ากระไร จะพึงปฏิบัติรักษาไว้ได้อย่างไร?" พระภควันตรัสว่า "พระสูตรนี้มีชื่อว่า "พระสูตรมนตร์ปัดเป่าโรคระบาด" (却溫黃神呪經)

    เมื่อพระพุทธองค์สอนพระสูตรดังนี้ เทพ นาคา อสุรา ทิพย์บุรุษ สันนิบาตทั้งปวงต่างสดับมนต์และปราโมทย์ยินดี พากันกราบนมัสการ น้อมรับคำสอน แล้วนำไปปฏิบัติ

    (พระสูตรนี้กล่าวกันว่าพระอโมฆวัชระ บูรพาจารย์นิกายมนตรยานสมัยราชวงศ์ถังเป็นผู้แปล แต่นักวิชาการบางท่านกล่าวว่าแต่งขึ้นในเมืองจีน นิยมสวดกันในนิกายเซนสำนักรินไซ และนิกายนิชิเรน ในญี่ปุ่น)

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oil Trading - ทันตลาดน้ำมันและเศรษฐกิจโลกกับ KP

    ถึงแม้ว่าช่วงนี้เรายังจะไปเที่ยวอังกฤษไม่ได้ แต่ถ้าใครมีแผนจะกลับไปในอนาคตหรือยังต้องใช้เงินปอนด์เรื่อยๆอยู่ นี่เป็นโอกาสของคุณแล้ว ! ค่าเงินปอนด์กำลังอ่อนค่าที่สุดในรอบ 35 ปีเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ ทำให้หากนำเงินไทยไปแลกตอนนี้ก็กำลังแลกได้ถูกลงเรื่อยๆ ! แม้เงินบาทเราจะอ่อนค่าลงที่สุดในรอบปีก็ตาม

    เหตุผลหลักๆที่ทำให้ค่าเงินปอนด์กำลังถูกที่สุดเป็นประวัติการณ์นั้นก็หนีไม่พ้นเพราะว่า #ไวรัสโควิด นั้นเอง แต่ไม่ใช่เพราะว่าประเทศอังกฤษกำลังมีเชื้อแพร่ระบาดสูงสุด จริงๆแล้วผู้ติดเชื้อในอังกฤษยังเป็นรองหลายประเทศในยุโรปอย่าง อิตาลี เสปน และ ฝรั่งเศส

    แต่เป็นเพราะตลาดมองว่าประเทศอังกฤษยังมีมาตรการในการป้องกันที่หละหลวมกว่าประเทศเหล่านั้น เช่นการยังไม่ยอมปิดโรงเรียนหรือยังมีการปล่อยให้แสดงคอนเสิร์ตได้อยู่ ทำให้ตลาดเสียความมั่นใจและเทขายค่าเงินปอนด์จนอ่อนค่าลงมาที่ 1.2 ปอนด์ต่อดอลล่าร์ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 1985 เป็นต้นมา

    หากนำมาเทียบกับค่าเงินบาทที่กำลังอ่อนค่าอย่างรวดเร็วเพราะเศรษฐกิจไทยกำลังโดนโจมตีหนักเช่นกัน เพราะประเทศเรานั้นพึ่งพาการท่องเที่ยวสูงมากและตอนนี้กองทุนต่างชาติที่เทขายหุ้นก็กำลังขายเงินบาทออกไป จนค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมาที่ 32.43 บาทต่อดอลล่าร์ ต่ำที่สุดในรอบปีกว่าๆ หรืออ่อนที่สุดนับตั้งแต่ธันวาคมปี 61

    #ไวรัสโควิด19 นั้นทำให้ค่าเงินบาทปั่นป่วนไม่น้อย ทั้งๆที่ค่าเงินบาทเรานั้นเพิ่งแข็งค่าที่สุดในรอบ 40 ไปเมื่อสิ้นปีที่แล้วเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐ ที่ 29.7 บาท หรืออ่อนค่าขึ้นมาเกือบ -10% ภายในระยะเวลาอันสั้นตั้งแต่ไวรัสระบาด

    แต่ #ข่าวดีของนักสะสมเงินปอนด์ ด้วยการอ่อนค่าที่รุนแรงกว่าของค่าเงินปอนด์นั้น ทำให้เงินบาทกำลังแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆเมื่อเทียบกับปอนด์ หากย้อนไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง หากเราจะแลกเงิน 1 ปอนด์เราต้องใช้เงิน 41.5 บาทไปแลก แต่ผ่านมาเพียงอาทิตย์เดียววันนี้เรานำไปแค่ 38.3 บาทเราก็สามารถแลกเงินได้ 1 ปอนด์แล้ว ! หรือว่าถูกลงมา -8% ภายในระยะเวลาอันสั้น ! (กราฟทั้งหมดแนบในคอมเม้นท์ครับ)

    มาตรการในการควมคุมไวรัสระบาดของแต่ละประเทศนั้นมีความสำคัญต่อนักลงทุนและกองทุนต่างๆเป็นอย่างมาก ดีที่นักลงทุนยังเชื่อใจมาตรการของไทยมากกว่าที่อังกฤษ แต่ถ้าเริ่มกลับกันเมื่อไหร่ตอนนี้เอาอาจต้องแลกเงินแพงนะ #นักสะสมเงินปอนด์ ไม่ควรผลาดโอกาสนี้

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน‼️ ผู้ว่าฯเชียงใหม่แถลง เชียงใหม่พบผู้ป่วยยืนยัน 1 ราย ติด 'โควิด-19' รอผลยืนยันอีก 5-6 ราย เฝ้าระวังอีก 374 ราย *ข้อมูล ณ วันที่ 18 มีนาคม 2563

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความรุนแรงของไฟป่าบริเวณบ้านห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่ ที่มองเห็นจากมุมสูงลุกลามต่อเนื่อง ตั้งแต่เวลา14.00-20.30 น. เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2563 ในพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ของทหาร เหนือห้วยตึงเฒ่า ก่อนจะลามไปยังท้ายหมู่บ้าน บ้านพักข้าราชการตุลาการ จ.เชียงใหม่

    #ภาพโดยทีมโดรนจิตอาสา

     

แชร์หน้านี้

Loading...