ติดตามสถานะการณ์

ข่าวฮ่องกง

โควิด-19 ฮ่องกง : เสียชีวิตเพิ่มรายที่ 3 และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 114 ราย

สาธารณสุขฮ่องกง แถลงวันนี้ว่าฮ่องกงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นรายที่ 3 จากไวรัสโควิด-19 และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย รวมเป็น 114 ราย และรักษาหายออกจากโรงพยาบาลแล้ว 58 ราย โดยมีผู้ป่วย 1 รายที่มีอาการวิกฤติ

ผู้เสียชีวิตรายที่ 3 จากไวรัสโควิด-19 ในฮ่องกงเป็นหญิงสูงอายุ วัย 76 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้เธอป่วยเรื้อรังอยู่แล้ว เธออาศัยที่ Un Lok House ใน Cheung Sha Wan เธอเสียชีวิตวันนี้เมื่อเวลา 17.13 น. ที่โรงพยาบาล Caritas Medical Centre

ส่วนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอีก 4 ราย 2 รายในกลุ่มนี้ไม่มีอาการใดๆ และอีก 2 รายคาดรับเชื้อนอกฮ่องกง

รายที่ 111 - เป็นหญิงวัย 76 ปี หนึ่งในกลุ่มชาวฮ่องกงที่เดินทางไปอินเดีย โดยมีทั้งหมด 5 คนในกลุ่มที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อ

รายที่ 112 - เป็นชายวัย 55 ปี ที่ติดเชื้อในฮ่องกง เขาไม่มีอาการใดๆ เขาเป็นสามีของผู้ติดเชื้อรายหนึ่งที่ก่อนหน้านี้ภรรยาของเขาได้ไปวัด Fook Wai Ching She Buddhist temple ใน North Point และได้รับการติดเชื้อ

รายที่ 113 - เป็นแม่บ้านวัย 47 ปี คาดติดเชื้อในฮ่องกง เธอทำงานเป็นแม่บ้านให้กับนายจ้างผู้ที่ได้รับการยืนยันติดเชื้อก่อนหน้านี้ โดยนายจ้างของเธอได้แพร่เชื้อให้อย่างน้อย 3 คน รวมสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียนของเธอด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการรายงานการแพร่เชื้อจากคนสู่สัตว์

รายที่ 114 - เป็นชาวอังกฤษ วัย 41 ปี ที่พักอาศัยที่ Happy Valley เขาได้เดินทางไปญี่ปุ่นและลอนดอน โดยเขาได้เดินทางจากลอนดอนกลับฮ่องกงในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ ด้วยเที่ยวบิน CX250 และต่อมาก็มีน้ำมูกไหล เจ็บคอ และปวดหัว

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://gisanddata.maps.arcgis.com/apps/opsdashboard/index.html#/bda7594740fd40299423467b48e9ecf6, https://www.scmp.com/news/hong-kong/health-environment/article/3074144/coronavirus-four-more-confirmed-cases-hong-kong

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

เมื่อคืนที่ผ่านมา ไทยเริ่มมาตรการกักกันเชื้อผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ทุกคนแล้วนะคะ

❗️คนไทยหรือคนฮ่องกงที่จะเดินทางออกจากฮ่องกงติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดนะคะ เพราะฮ่องกงก็รวมอยู่ในลิสราชกิจจานุเบกษาล่าสุดค่ะ

จากคลิปในข่าว
- คนไทยถูกส่งไปกักตัวที่ ฐานทัพสัตหีบ
- ส่วนชาวเกาหลีใต้จะต้องกักกันเชื้อที่โรงแรม โดยต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ (ในคลิปเวลา 3:30 ผู้สื่อข่าวแจ้งรายละเอียดไว้)

Source : https://youtu.be/4AlUiSo3iYw,
https://www.facebook.com/tnamcot/videos/227791148266654/

 

ธรรมนัส แจงปมฉาว หลังโดนแฉคนสนิทกักตุนหน้ากากฟันกำไรอื้อ

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏข่าวจากการเผยแพร่ของเพจแหม่มโพธิ์ดำว่า คนสนิทผู้ติดตามข้าพเจ้าได้กักตุนหน้ากากอนามัยจำนวน 200 ล้านชิ้นเพื่อขายต่อให้กับนายทุนจีนและผู้อื่น นั้น ขอเรียนชี้แจง ดังนี้

(1) จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้าหากอนามัยคือนายศรสุวีร์ ภู่รวีร์รัศวัชรี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับข้าพเจ้า(2) ส่วนนายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้า นั้น ได้ยืนยันกับข้าพเจ้าว่าตนได้ไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยกันและไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อนโดยเป็นการพบกันครั้งแรก

3) เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้ขอให้นายพิตตินันท์ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัยและขายสินค้าเกินราคาและในความผิดที่ถูกนายศรสุวีร์แอบอ้างนำข้อความไปโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับให้นำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอีกทางแล้วโดยนายพิตตินันท์จะดำเนินการในวันนี้

(4) อนึ่ง นายพิตตินันท์ รักเอียด เคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 6 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอมาเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้าจริง แต่หากพบว่านายพิตตินันท์ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายศรสุวีร์ดังกล่าว ข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

The post ธรรมนัส แจงปมฉาว หลังโดนแฉคนสนิทกักตุนหน้ากากฟันกำไรอื้อ appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/thailand/627854

 

ซาอุฯ สั่งระงับการเข้า-ออกกลุ่มประเทศเสี่ยงชั่วคราว

วานนี้ (8 มี.ค. 63) – ซาอุดิอาระเบียประกาศว่า จะทำการหยุดเที่ยวบิน ร่วมไปถึงการเดินทางทางเรือชั่วคราว จากหลากหลายประเทศ เพื่อเป็นความพยายามที่จะยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธ์ุใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 ตามที่สำนักข่าวของรัฐซาอุดิอาระเบียรายงาน

ซาอุอิอาระเบียระงับการเดินทางทั้งหมด 9 ประเทศ ได้แก่:

– สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
– คูเวต
– บาห์เรน
– เลบานอน
– ซีเรีย
– เกาหลีใต้
– อียิปต์
– อิตาลี
– อิรัก

The post ซาอุฯ สั่งระงับการเข้า-ออกกลุ่มประเทศเสี่ยงชั่วคราว appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/global/627847

 

ไวรัสโคโรนา: สหราชอาณาจักรประเมินกรณีเลวร้ายสุดอาจมีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ 1 แสนคน ด้านอิตาลีเริ่มกักกันคน 16 ล้านคน

• 8 มีนาคม 2020
• 
  

Image copyrightAFP
คำบรรยายภาพเที่ยวบินจากสนามบินในเมืองมิลานของอิตาลีดูเหมือนจะยังให้บริการอยู่ แม้ว่าจะอยู่ระหว่างการกักกันโรค
สื่ออังกฤษหลายแห่งรายงาน สหราชอาณาจักร 'เตรียมรับกรณีเลวร้ายที่สุด' ของการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วสหราชอาณาจักรมากถึง '100,000 คน' ด้านอิตาลีได้กักกันโรคในหลายจังหวัดทางตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ ครอบคลุมประชากร 16 ล้านคน

สื่อหลายฉบับของอังกฤษต่างพากันพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการรับมือการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของรัฐบาลอังกฤษ โดยซันเดย์ ไทมส์ พาดหัวว่า "ทางการเตรียมเผชิญกรณีเลวร้ายที่สุด" โดยมีการอ้างแหล่งข่าวที่มีส่วนในการเตรียมแผนรับมือกล่าวว่า "ผู้เชี่ยวชาญหลายคน" เชื่อว่า อาจมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหราชอาณาจักร 100,000 คน โดยขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า ทำเนียบนายกรัฐมนตรีปฏิเสธตัวเลขนี้

หนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ รายงานว่า รัฐมนตรีกำลังพิจารณาเลื่อนการสอบ A-Level (นักเรียนระดับอายุ 16-18 ปี) และ GCSE (นักเรียนระดับอายุ 14-16 ปี) ออกไป และจะมี "การพิจารณาเป็นพิเศษ" ในการให้คะแนนนักเรียนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา และจะมีการปล่อยตัวนักโทษความเสี่ยงต่ำด้วย หากเจ้าหน้าที่เรือนจำมีจำนวนไม่เพียงพอ

นางนิโคลา สเตอร์เจียน นายกรัฐมนตรีสกอตแลนด์ ได้กล่าวกับ สกาย (Sky) เกี่ยวกับรายงานของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ ไทมส์ เรื่องจำนวนผู้เสียชีวิตกรณีเลวร้ายที่สุดว่า "เรากำลังพิจารณาสถานการณ์เลวร้ายที่สุดทางวิทยาศาสตร์ในขณะนี้ และเราได้ยินตัวเลขอีกหลายจำนวนในช่วงหลายวันที่ผ่านมาว่า อาจมีประชากรถึง 80% ติดเชื้อ แม้ว่า ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง ดังนั้น ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวเลขกรณีเลวร้ายที่สุดอย่างมากจริง ๆ"

นางสเตอร์เจียน เน้นย้ำว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ใช่ "การคาดการณ์" ว่าจะเกิดขึ้นจริง ๆ และระบุว่า ประชาชนส่วนใหญ่ที่ติดเชื้อไวรัสจะหายดีในเวลาอันรวดเร็ว เธอระบุว่า จำเป็นต้องสนับสนุนค่าใช้จ่ายของ บริการสุขภาพแห่งชาติ (National Health Service--NHS) อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในช่วงที่สหราชอาณาจักรพยายามจัดการกับไวรัสโคโรนา

เธอกล่าวถึงการจัดประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติ ที่จะจัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ในเดือน พ.ย. นี้ว่า การเตรียมการจัดการประชุมจะเดินหน้าต่อไป

ดิ อ็อบเซิร์ฟเวอร์ เรียกมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลกำลังพิจารณาว่า "รุนแรง" และเน้นย้ำว่า อาจมีการบังคับให้ศาลใช้โทรศัพท์และการเชื่อมต่อผ่านวิดีโอเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส นอกจากนี้ยังรายงานเพิ่มเติมว่า รัฐมนตรีกำลังพิจารณายกเลิกการควบคุมช่วงเวลาที่รถตู้ขนส่งสินค้าสามารถให้บริการได้ และลดข้อจำกัดจำนวนชั่วโมงการขับรถของคนขับเพื่อป้องกันการขาดแคลนอาหาร

ส่วน ซันเดย์ มิร์เรอร์ รายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐ 430,000 คน อาจจำเป็นต้องทำงานจากบ้าน ถ้าสหราชอาณาจักรเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า "การระบาดใหญ่"

อิตาลีกักกันคน 16 ล้านคน
อิตาลีกำลังพยายามสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ต้องกักกันโรคประชากรมากถึง 16 ล้านคน โดยผู้ใดก็ตามที่อาศัยอยู่ในภูมิภาคลอมบาร์ดี และจังหวัดทางตอนเหนือและตอนกลางรวม 14 จังหวัด จำเป็นต้องได้รับอนุญาตเป็นพิเศษในการเดินทาง โดยเมืองมิลานและเวนิสต่างก็ได้รับผลกระทบด้วย

นายกรัฐมนตรีจูเซปเป คอนเต ของอิตาลี ประกาศด้วยว่า จะมีการปิดโรงเรียน ยิม พิพิธภัณฑ์ ไนต์คลับ และสถานที่อื่น ๆ ทั่วทั้งประเทศ

มาตรการนี้ถือว่าเป็นมาตรการที่รุนแรงที่สุดที่เกิดขึ้นนอกประเทศจีน และจะบังคับใช้จนถึง 3 เม.ย. นี้

อิตาลี มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มากที่สุดในยุโรป และมีรายงานผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อวันเสาร์ มาตรการการกักกันโรคที่เพิ่งออกมา จะส่งผลกระทบต่อประชากรอิตาลีราว 1 ใน 4 และพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตอนกลางและตอนเหนือของประเทศ ซึ่งมีความสำคัญในทางเศรษฐกิจ


ภายใต้มาตรการนี้ ผู้คนจะไม่สามารถเข้าออกภูมิภาคลอมบาร์ดี ซึ่งมีเมืองมิลานเป็นเมืองสำคัญได้

ข้อจำกัดเดียวกันนี้ยังบังคับใช้กับอีก 14 จังหวัด ได้แก่ โมดีนา, พาร์มา, เพียเชนซา, เรจโจ เอมีเลีย, ริมินี, เพซาโร และอูร์บิโน, อะเลสซานเดรีย, อัสตี, โนวารา, เวอร์บาโน กูซิโอ ออสโซลา, แวร์เชลลี, พาดูอา, เทรวีโซ และเวนิส

นายคอนเต กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า "จะมีไม่มีเดินทางเข้าออกพื้นที่เหล่านี้ หรือระหว่างภายในพื้นที่เหล่านี้ ถ้าไม่มีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน เหตุฉุกเฉิน หรือเหตุผลด้านสุขภาพ"

"เรากำลังเผชิญกับเหตุฉุกเฉิน เหตุฉุกเฉินระดับประเทศ เราต้องจำกัดการแพร่ของไวรัสและป้องกันไม่ให้โรงพยาบาลต่าง ๆ มีคนไข้มากเกินไป"

แต่การขนส่งที่เข้าออกภูมิภาคที่ถูกกักกันโรคยังคงดำเนินต่อไป โดยพบว่า ในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่สนามบินมัลเพนซา (Malpensa) ในเมืองมิลาน ปรากฏว่า ยังมีเที่ยวบินอย่างน้อย 7 เที่ยวจากเมืองต่าง ๆ ในยุโรป เดินทางมาถึง

คนไทยเตรียมพร้อมเพราะรู้สึกถึงภัยใกล้ตัว
นางศศิธร ตอนตี คนไทยซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองคัตโตลิกา จังหวัดริมินี ในแคว้นเอมิเลียโร มันญา ของอิตาลี มา 28 ปี บอกบีบีซีไทยว่า การออกมาตรการปิดเมืองต่าง ๆ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา ทำให้รู้สึกกังวลใจ เพราะเมืองที่อาศัยอยู่เป็นหนึ่งในพื้นที่สีแดงที่ถูกสั่งปิดด้วย โดยทางการไม่อนุญาตให้เดินทางเข้า-ออก เมือง แต่ยังสามารถสัญจรไปมาในเมืองได้ ในเวลาเดียวกันหน่วยงานสาธารณสุขขอความร่วมมือไม่ให้ไปอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก

Image copyrightSASITHORN TONTI
คำบรรยายภาพ"ถ้าใส่หน้ากากอนามัยที่อิตาลี เขาก็คิดว่าเราไม่สบาย"
"มีการขอความร่วมมือให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ส่วนผู้ที่มีความจำเป็นต้องออกไปซื้ออาหารและของใช้ให้ออกไปเพียงหนึ่งคน เราก็ตั้งรับเตรียมเสบียง ซื้อน้ำดื่ม กระดาษชำระ อาหารแห้ง เราต้องเตรียมพร้อมแล้วเพราะมันใกล้ตัวมาก "

นางศศิธร บอกอีกว่า พยายามหลีกเลี่ยงการออกไปในที่ชุมชน เพราะคนในอิตาลีไม่สวมหน้ากากเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส "เราเพิ่งกลับจากไทยมาก็ใส่หน้ากาก คนที่นี่ถามว่าไม่สบายทำไมไม่อยู่บ้าน เราบอกไปว่าใส่เพื่อป้องกันตัวเองและคนอื่นด้วย แต่คนอิตาลีไม่เข้าใจ ตอนนี้เลยหลีกเลี่ยงในที่ชุมชนคนเยอะ ๆ เพราะคนอิตาลีไม่เข้าใจว่าใส่หน้ากากทำไม"

นางศศิธร ซึ่งประกอบธุรกิจร้านขายจักรยานบอกอีกว่า เริ่มมีลูกค้าเข้าร้านน้อยลง เช่นเดียวกับร้านอาหารที่ได้รับอนุญาตให้เปิดบริการถึงหกโมงเย็น ก็เชื่อว่าประสบปัญหาเช่นกัน


บทวิเคราะห์โดย มาร์ก โลว์เอิน ผู้สื่อข่าวประจำกรุงโรม


มีการพูดถึงกันอย่างมากว่า ในช่วงสัปดาห์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเป็นช่วงเวลาสำคัญในการดูว่า การรับมือกับไวรัสโคโรนาของอิตาลีจะหยุดยั้งการแพร่ระบาดได้หรือไม่ ถ้าจำนวนเริ่มลดลง ก็เป็นการบ่งบอกว่า มาตรการควบคุมได้ผล แต่ปรากฏว่า เหตุการณ์ไม่เป็นเช่นนั้น

ผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รัฐบาลจึงได้ขยับไปขั้นต่อไป และเป็นมาตรการที่ค่อนข้างแรง มันไม่ใช่การปิดเมืองอย่างสิ้นเชิง เครื่องบินและรถไฟยังคงให้บริการและการเข้าพื้นที่จะได้รับอนุญาตหากมีเหตุผลจำเป็นเกี่ยวกับการทำงาน หรือเหตุฉุกเฉิน โดยตำรวจจะสามารถเรียกและสอบถามเหตุผลจากผู้คนที่กำลังพยายามจะเดินทางเข้า-ออกเมืองในพื้นที่ถูกกักกันโรคได้

คำถามคือ มาตรการนี้สายเกินไปหรือไม่ เชื่อกันว่า ไวรัสแพร่กระจายอยู่ไปในอิตาลีนานหลายสัปดาห์ ก่อนที่จะมีการตรวจพบ และขณะนี้พบผู้ติดเชื้อแล้วทั้งใน 22 ภูมิภาคของประเทศ รัฐบาลกำลังใช้มาตรการควบคุมพื้นที่ที่กว้างขวางมากที่สุดนอกประเทศจีน แต่นี่คือ กรณีที่เรียกว่า วัวหายล้อมคอกหรือไม่


รายละเอียดของข้อจำกัดใหม่มีอะไรบ้าง
ระงับการจัดงานแต่งงานและงานศพ รวมถึงกิจกรรมทางด้านวัฒนธรมและศาสนาทุกอย่าง ปิดโรงภาพยนตร์, ไนต์คลับ, ยิม, สระว่ายน้ำ, พิพิธภัณฑ์ และรีสอร์ตสกีทุกแห่ง

ร้านอาหารและร้านกาแฟในเขตที่ถูกกักกันโรค สามารถเปิดให้บริการได้ระหว่าง 6.00-18.00 น. แต่ลูกค้าต้องนั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร

ผู้คนได้รับคำแนะนำให้อยู่บ้านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ผู้ที่ฝ่าฝืนการกักกันโรคอาจถูกจำคุกนาน 3 เดือน



นายเทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (World Health Organization--WHO) ชมเชยอิตาลีว่า "เสียสละอย่างแท้จริง" ในการใช้มาตรการดังกล่าว จนถึงตอนนี้ มีประชาชนในทางตอนเหนือของอิตาลีเพียง 50,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากการกักกันโรค

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลประกาศปิดโรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งทั่วประเทศนาน 10 วัน

Image copyrightGETTY IMAGES
คำบรรยายภาพผู้คนต่อแถวซื้ออาหารในเมืองมิลาน ขณะที่มีประกาศมาตรการการกักกันโรค
สถานการณ์ในที่อื่น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง
WHO ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลกเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 102,000 คนแล้ว และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 3,500 คน ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีน ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดเมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา

แต่ในจีนมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันเดียวเมื่อวันอาทิตย์ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. เป็นการบ่งชี้ว่า การแพร่กระจายของไวรัสกำลังลดลง

มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เมื่อวันเสาร์ 40 ราย น้อยกว่าตัวเลขที่มีรายงานเข้ามาเมื่อวันศุกร์กว่าครึ่ง ขณะที่รายงานจำนวนผู้เสียชีวิตรายใหม่อยู่ที่ 27 คน ต่ำที่สุดในรอบกว่า 1 เดือน และทุกคนอยู่ในอู่ฮั่น ซึ่งเป็นเมืองที่เริ่มมีการระบาดครั้งแรก

อิหร่าน หนึ่งในประเทศที่มีการระบาดมากที่สุดนอกประเทศจีน ยืนยันผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 6,000 คน และมีผู้เสียชีวิต 145 คน

Image copyrightGETTY IMAGES
คำบรรยายภาพมีการแจกข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสโคโรนาให้แก่ผู้โดยสารที่กลับมาจากอิหร่าน
ความคืบหน้าอื่น ๆ :

• โรงแรมแห่งหนึ่งที่ถูกใช้กักกันโรคเพื่อยับยั้งการระบาดของไวรัสโคโรนาในเมืองฉวนโจวของจีน พังถล่ม ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน
• สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ทรงถ่ายทอดสดการสวดอ้อนวอนพระเจ้าประจำวันอาทิตย์เป็นครั้งแรกของพระองค์ เพื่อหลีกเลี่ยงกับเข้าใกล้กับผู้คนที่มารวมตัวกันจำนวนมาก พระองค์ตรัสว่า "การสวดทำให้พระองค์ใกล้ชิด" กับผู้ที่ทุกข์ทรมานจากการระบาด
• ในสหรัฐฯ เรือสำราญลำหนึ่งพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 3,533 คน ที่ถูกควบคุมอยู่นอกชายฝั่งใกล้กับนครซานฟรานซิสโก หลังจากมีผู้ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโคโรนา 21 คน ถูกย้ายไปยังท่าเรือเมืองโอ๊กแลนด์ที่อยู่ใกล้เคียง
• มีการยืนยันการติดเชื้อไวรัสนี้ของบุคคลหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมทางการเมืองของฝ่ายอนุรักษ์นิยมเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และรองประธานาธิบดีไมก์ เพนซ์ ของสหรัฐฯ ขึ้นพูดในงานนี้

เมื่อวันอาทิตย์ เจ้าหน้าที่ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า มีจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในวันก่อนหน้าที่ 367 คน ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมในประเทศเพิ่มเป็น 7,134 คน

ในสหรัฐฯ มีรายงานผู้ติดเชื้อมากกว่า 400 คน และยอดรวมผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 19 คน

ในนครนิวยอร์ก ผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นจาก 44 คนเมื่อวันศุกร์เป็น 76 คน นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแล้ว

พบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาคนแรกในอเมริกาใต้ เป็นชายวัย 64 ปีในอาร์เจนตินา

ส่วนในออสเตรเลีย ชายในวัยกว่า 80 ปี กลายเป็นคนที่ 3 ที่เสียชีวิตจากไวรัสนี้

ประเทศอื่น ๆ ที่มีรายงานยอดรวมผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้แก่ ฝรั่งเศส (949 คน) เยอรมนี (795 คน) สเปน (441 คน) สหราชอาณาจักร (209 คน) และเนเธอร์แลนด์ (188 คน)

โคลอมเบีย, บัลแกเรีย, คอสตาริกา, มอลตา, มัลดีฟส์ และปารากวัย ต่างรายงานการพบผู้ติดเชื้อรายแรกในประเทศ

https://www.bbc.com/thai/internatio...Ga0gLKAnu9hpwRokQwc4LFttUT-grYKfcjBe81aJozsNM

 

Gossipสาสุข

เหมือนอยู่ในโลกคู่ขนาน!
สาธารณสุขยันหน้ากากพอใช้
แต่โรงพยาบาลยังเดือดร้อนถ้วนหน้า
•
•
ย้อนเวลากลับไปตั้งแต่ปลายเดือน ม.ค. เรื่อง “หน้ากากอนามัย” ขาดนั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะถูกพูดถึงกันอย่างหนาหู ตั้งแต่วันที่จีน ประกาศปิดเมือง และไทยเพิ่มมาตรการคัดกรองผู้ป่วยจากสนามบิน – ด่านควบคุมโรค ทั่วประเทศแล้ว
•
วันนั้น เริ่มมีเสียงบ่นจากบุคลากรสาธารณสุข ว่าได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันตัวเองไม่เพียงพอ เพราะไม่สามารถ “จัดซื้อ” ตามระบบราชการด้วยราคาปกติได้ เนื่องจากมีการปั่นราคา จากทั้งโรงงาน จากทั้งพ่อค้าคนกลาง
•
หากใช้สามัญสำนึกตามปกติ ตั้งแต่ 2 เดือนที่แล้ว ก็ต้องรู้โดยทั่วกันว่าหน้ากากจะต้องขาดแน่ๆ เพราะไม่เพียงแต่ประชาชนจะต้องหาซื้อกันให้ควั่กแล้ว บุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับก็ต้องใช้เพิ่มหน้ากากเพิ่ม ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวชาติอื่นที่ประสบปัญหาหน้ากากขาดเหมือนกัน ก็จะขนหน้ากากกลับไปกันเป็นลัง เพื่อนำไปใช้ในประเทศตัวเอง
•
เมื่อถึงเวลานั้น สิ่งที่รัฐควรต้องทำ คือควบคุม “กลไกตลาด” เพราะจะมีการบิดเบือน มีการกักตุน และมีการโก่งราคาขายอย่างแน่นอน
•
ปัญหาก็คือ ตั้งแต่เดือน ก.พ. เป็นต้นมา รัฐบาลไทยไม่ได้ทำเช่นนั้น ยังเชื่อในฝีมือตัวเอง ว่ากำลังการผลิตนั้นเพียงพอ ระบบการจัดส่ง ยังเป็นไปตามปกติ วิธีแก้ปัญหาของรัฐบาล ของกระทรวงพาณิชย์ คือการเอาหน้ากากที่ผลิตได้วันละล้านกว่าชิ้นไปตระเวนขาย จัดพิธีเปิดโดยเอาข้าราชการมากล่าวรายงาน เอารัฐมนตรีมาให้โอวาท เสมือนเป็นบุญคุณอย่างยิ่งที่เอาหน้ากากอนามัยมาขายในราคาถูก
•
ต้องไม่ลืมว่า หน้ากากอนามัย ถือเป็น “สินค้าควบคุม” ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. ซึ่งมีความหมายว่า กระทรวงพาณิชย์ สามารถเข้าไปควบคุมได้ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิต ว่าผลิตจำนวนเท่าไหร่ การกระจายสินค้า ว่าถูกส่งไปยังมือใคร และหากมีการส่งออก ควรส่งออกในปริมาณเท่าไหน และส่งเท่าใด ที่จะไม่ให้กระทบกับดีมานด์ในประเทศ
•
แต่อย่างที่รู้กัน หลังประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา 1 เดือน หน้ากากอนามัยราคาแพง ยังคงพบได้ทั่วไป ทั้งในช่องทางออนไลน์ และในช่องทางออฟไลน์ ท่ามกลางข่าวลือว่านักการเมืองบางคนกักตุนหน้ากากไว้ในมือตัวเอง แล้วนำไปปล่อยให้คนใกล้ชิดในล็อตใหญ่ๆ หรือข่าวลือประเภท “ไอ้โม่ง” เข้าไปคุมสต็อกหน้ากากอนามัยถึงหน้าโรงงาน ทั้งนำไปกระจายให้พ่อค้าคนกลางที่อยู่ใกล้ชิด หรือแอบเอาไปส่งออกในประเทศที่มีความต้องการมากกว่า
•
จะอย่างไรก็แล้วแต่ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดก็คือการเป็น “สินค้าควบคุม” ไม่ได้มีผลทำให้หน้ากากอนามัยในตลาดหาได้ง่ายขึ้น และการเป็น “สินค้าควบคุม” ก็ไม่ได้ทำให้หน้ากากถูกส่งไปยังโรงพยาบาล ส่งไปยังบุคลากรทางการแพทย์ได้ถูกที่ถูกทางเลย
•
หน้ากากยังเป็นสิ่งที่หายาก เจ้าหน้าที่ทุกระดับ เมื่อลงเวร ยังใช้หน้ากากได้แค่ชิ้นเดียว และสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็คือจะไม่มีหน้ากากเหลืออีกแล้ว ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า กลายเป็นวิกฤตระดับชาติของโรงพยาบาลน้อยใหญ่ทั่วประเทศ
•
นั่นคือความล้มเหลวอันดับแรก ที่กระทรวงพาณิชย์ไม่อาจปฏิเสธได้ เพราะเป็นภารกิจโดยตรงที่ในการดูแลไม่ให้หน้ากากขาดแคลน ไม่ว่าจะในระดับประชาชนทั่วไป หรือในระดับโรงพยาบาล
•
คำถามต่อมาก็คือ กระทรวงสาธารณสุข ในฐานะต้นสังกัดของสถานบริการ ไปจนถึงด่านตรวจกักกันโรคทั่วประเทศ ได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เพื่อปกป้องบุคลากรของตัวเองจากการขาดอุปกรณ์สำคัญอย่างหน้ากากอนามัย?
•
คำตอบทีน่าผิดหวังก็คือ กระทรวงสาธารณสุข ได้ลงไปสำรวจความต้องการของหน้ากากในโรงพยาบาลต่างๆ แล้ว แต่ได้รับคำตอบว่าหน้ากากอนามัย ในเขตบริการสุขภาพทุกเขตนั้น ยังมีเพียงพอ...
•
ไม่แน่ใจว่าข้าราชการระดับไหนที่ไป “เพ็ดทูล” ผู้บริหารแบบนั้น หรือจะเป็นนักการเมืองระดับ “เจ้ากระทรวง” เองที่เมคข้อมูลนี้ขึ้นมา แต่ข้อเท็จจริงก็คือ ไม่ว่าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลอำเภอ โรงพยาบาลจังหวัด หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ กลับประสบปัญหาแบบเดียวกันหมด คือนอกจากจะไม่มีหน้ากากป้องกันตัวเองจากโรคโควิด – 19 แล้ว การทำฟัน การรักษาโรคติดเชื้ออื่นๆ หรือแม้กระทั่งการผ่าตัด ก็เจออุปสรรคแบบเดียวกัน เพราะไม่มีหน้ากากเหลือให้ใช้แล้ว...
•
จริงอยู่ หน้ากากอนามัยนั้นขาดแคลนทั่วโลก ในจีน ในญี่ปุ่น ในยุโรป ล้วนเจอปัญหาเดียวกัน คือห้างสรรพสินค้า ไม่เหลือหน้ากากจำหน่าย แต่ข้อเท็จจริงที่กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงสาธารณสุข และรัฐบาลควรทราบก็คือ ไม่มีประเทศไหน ปล่อยให้โรงพยาบาลและบุคลากรสาธารณสุขขาดแคลนหน้ากากอนามัยเหมือนประเทศนี้
•
ยิ่งสมาคมร้านขายยาออกมา “แฉ” ว่ากรมการค้าภายในไม่เคยส่งหน้ากากอนามัยให้จัดจำหน่ายตามที่กล่าวอ้าง และยิ่งโรงพยาบาลแต่ละแห่ง ออกมาให้ข้อมูลว่า ที่กระทรวงพาณิชย์ระบุว่าจะกระจายหน้ากากลงมาให้โรงพยาบาลกี่แสนกี่ล้านชิ้นนั้น ไม่เคยถึงโรงพยาบาลแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น “ระหว่างทาง”
•
เรื่องนี้ไม่ยาก แค่รัฐบาลออกมาตอบสังคมให้ได้ว่า หน้ากากวันละล้านกว่าชิ้นที่ผลิตได้นั้น ถูกกระจายไปยังจุดไหน กระจายให้ใครบ้าง แล้วปัญหาอยู่ตรงไหน ทำไมถึงไม่เคยถึงมือโรงพยาบาล หรือสมาคมร้านขายยา...
•
เมื่อตอบไม่ได้ และยิ่งมีทีท่าจาก สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ซึ่งมาจากพรรคเดียวกับ จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.พาณิชย์ ในการจ้องจะเอาผิดผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่พูดเรื่อง “หน้ากากขาด” ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า “มีพิรุธ” ในการจัดการกระจายหน้ากากจริง
•
คำถามก็คือ เราจะปล่อยให้ระบบสาธารณสุขไทย อยู่กันแบบที่บุคลากร ไม่มีหน้ากากในการทำงาน ปล่อยให้มีความเสี่ยงกันไปแบบนี้จริงหรือ?
•
คำถามก็คือ ระบบราชการไทย จะปกป้องคนที่หาประโยชน์จากเรื่องนี้ จะไม่มีการเอาผิด จากการบริหารงานที่ไร้ประสิทธิภาพ จนสะท้อนให้เห็นว่าอาจมีการ “ทุจริต” จริงหรือ?
•
ถ้าหากตอบคำถามไม่ได้ จัดการปัญหาพวกนี้ไม่ได้ และยังทำตัวเสมือนอยู่ใน “โลกคู่ขนาน” ไม่ยอมรับว่าเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นจริง ก็ชัดเจนว่าเราจะผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้อย่างยากลำบาก และคนที่เจ็บตัวหนักที่สุด ก็หนีไม่พ้นบุคลากรทางการแพทย์ ที่ทำหน้าที่เป็นทั้ง “ทัพหน้า” และจัดการกับทั้งผู้เฝ้าระวัง ผู้ป่วย ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
•
ภาวนาอย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย...

#COVID19 #โควิด19 #หน้ากากอนามัย #กระทรวงสาธารณสุข #กระทรวงพาณิชย์

 

คลิปนาที คนรีบวิ่งขึ้นรถไฟขบวนสุดท้าย หลัง อิตาลี สั่งปิดเมืองนับเดือน พิษ COVID-19
.
เผยนาทีชาวอิตาลี เร่งอพยพออกจากเมือง หลังทางการประกาศปิดเมืองยาวถึงเมษายน 63 รับมือ COVID-19 ที่ระบาดหนัก
.
จากสถานการณ์ COVID-19 ที่กำลังระบาดหนักในหลายประเทศ หนึ่งในนั้นคือ อิตาลี ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 230 คน นำไปสู่คำสั่งปิดแคว้นลอมบาร์เดียทางภาคเหนือ และอีก 14 เมือง ตั้งแต่วันนี้ (8 มีนาคม 2563) นั้น
.
ล่าสุด (8 มีนาคม) ผู้ใช้ทวิตเตอร์ Max Howroute ได้เผยภาพนาทีที่ประชาชนรีบวิ่งไปขึ้นรถไฟขบวนสุดท้ายที่ออกจากแคว้นลอมบาร์เดีย เป็นจำนวนมาก เพราะถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะได้ออกจากเมือง ไม่เช่นนั้นจะต้องถูกกักกันไม่ได้เดินทางออกจากพื้นที่ไปจนถึงวันที่ 3 เมษายน เลยทีเดียว
.
รายงานระบุว่า จากคำสั่งปิดเมืองดังกล่าว ส่งผลให้มีประชาชนกว่า 16 ล้านคน จะต้องถูกกักตัวในพื้นที่ซึ่งถูกปิดเมือง รวมไปถึงเมืองชื่อดังอย่าง มิลาน และเวนิส เป็นต้น


.
https://covid-19.kapook.com/view221...9TgJp8kap61sra5leXCgzcpVEKfFSdNNQ_dUSMMP9VzZo

 

Watchers
#ข่าวภัยพิบัติ #บราซิล
// บราซิลเดินหน้าค้นหาเหยื่อดินถล่ม เสียชีวิตแล้ว 32 คน //
07/03/20
#Brazil - เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหายจากเหตุดินถล่มในบราซิล ขณะที่ทางการยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 คน

จำนวนผู้สูญหายจากเหตุการณ์ดินถล่มในบราซิล เพิ่มเป็น 46 คน ขณะที่ทางการยืนยันมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 32 คน หลังเกิดเหตุดินถล่มเมื่อ 4 วันก่อน ที่เมืองกัวรูฮา ในรัฐเซาเปาโล เวลานี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยและอาสาสมัครยังคงเดินหน้าค้นหาผู้สูญหาย ขณะที่ชาวบ้านหลายร้อยคนต้องอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว เนื่องจากบ้านเรือนเสียหาย

บราซิลมักประสบภัยพิบัติจากฝนตกหนักบ่อยครั้ง เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เกิดฝนตกหนักทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ คร่าชีวิตผู้คน 80 คน และเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดน้ำท่วมในนครรีโอเดจาเนโร ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน
#SanPablo #Brazil
CR: mcot, RedClimáticaMundial
#Watchers

 

Tati Gelo

นักดาราศาสตร์ gill broussard ตามรอย nibiru
กราฟิกของมันขึ้นอยู่กับข้อมูลจากนักดาราศาสตร์รัสเซีย
ตามการคำนวณของเขาดาวจะมาถึงในอีกหนึ่งปี (30/3/21)
แต่จากเวทีของรถม้าฉันคิดว่ามันจะเอาชนะวงโคจรของดาวพฤหัสบดีเหมือนจรวด

O astrônomo Gill Broussard acompanha Nibiru.
Seus gráficos são baseados nos dados dos astrônomos russos.
Segundo seus cálculos, o astro chegará daqui a um ano (30/3/21).
Mas, pelo andar da carruagem, acho que ele vai ultrapassar a órbita de Júpiter como um foguete

 

ป้องกันไวรัส ฝ่ายจัดคอนเฟิร์มเอฟวันที่บาห์เรนปิดสนามแข่ง
ศึกเอฟวันที่บาห์เรนแม้จะยังดำเนินการแข่งขันต่อไป แต่ได้ถูกยกระดับความปลอดภัยด้วยการสั่งห้ามแฟนบอลเข้าสนามเรียบร้อยแล้ว
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline
.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานวันที่ 9 มี.ค.ว่า ฝ่ายจัดการแข่งขันรถสูตรหนึ่งชิงแชมป์โลก 2020 รายการที่สองของปีที่บาห์เรน ออกแถลงการณ์ยืนยันใช้มาตราการปิดสนามแข่งขัน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
.
โดยสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสมรณะ ได้กระจายไปแล้วกว่า 80 ประเทศทั่วโลก ทำให้การแข่งขันกีฬารายการสำคัญๆ ต้องถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด
.
ร่วมถึงล่าสุด ฝ่ายจัดการแข่งขันเอฟวันในศึก “บาห์เรน กรังด์ปรีซ์ 2020” ระหว่างวันที่ 20-22 มีนาคมนี้ ออกแถลงการณ์ยืนยันแล้วว่า ได้ยกระดับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาด โดยสั่งปิดสนามแข่งขันเพื่อความปลอดภัยของนักแข่งและทีมงาน
.
อย่างไรก็ตาม แฟนๆ กีฬายังสามารถรับชมการแข่งขันได้เช่นเดิม ผ่านการถ่ายทอดสดทางหน้าจอทีวี.
https://www.thairath.co.th/sport/ot...8IUskGglEWNFeXsiA-aHIim8ntDzdaRuUKcrg-7AyNlMk

 

“อิตาลี” วิกฤตหนัก ยอดป่วยติดเชื้อโควิด-19 แซงเกาหลีใต้

อิตาลีกลายเป็นด่านหน้าของการแพร่ระบาดในยุโรป ถึงแม้ว่าเมื่อวานนี้ รัฐบาลจะประกาศมาตรการขั้นเด็ดขาดปิดแคว้นลอมบาร์เดีย และอีก 14 จังหวัด ตัวเลขผู้ติดเชื้อยังเพิ่มสูงขึ้น ล่าสุด ยอดรวมอยู่ที่ 7, 375 คน เสียชีวิตแล้ว 366 คน แซงเกาหลีใต้ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 รองจากจีน อีกทั้งยังมีข่าวลือว่า ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของอิตาลีก็ติดเชื้อด้วย

สำหรับมาตรการล็อคดาวน์เกือบ 1 เดือน จะส่งผลต่อประชากรราว 16 ล้านคน โดยจำกัดการเดินทางของประชาชนเท่าที่จำเป็น
และล่าสุด สายการบินพากันยกเลิกเที่ยวบินเข้าออกพื้นที่สีแดงดังกล่าวแล้ว ส่วนโรงเรียน พิพิธภัณฑ์ ไนท์คลับ และฟิตเนส ถูกสั่งปิดจนถึง 3 เมษายน

The post “อิตาลี” วิกฤตหนัก ยอดป่วยติดเชื้อโควิด-19 แซงเกาหลีใต้ appeared first on AMARIN TV HD | อมรินทร์ทีวี ช่อง 34.

Source : #AmarinTV #อมรินทร์ #อมรินทร์ทีวี
https://www.amarintv.com/news-updat...bPDLwVO1jW2jHXKGSmXZuyGxbwij3slpuEQljsn0edf9Y

 

นายกฯ กวดขัน ข้าราชการทุกระดับ ใครทำงานไร้ประสิทธิภาพ เจอตรวจสอบ

วันที่ 9 มี.ค. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือเทียบเท่า ครั้งที่ 1/2563 โดยกล่าวก่อนประชุมว่า ทุกคนทราบดีว่า สถานการณ์บ้านเมืองเรามีอะไรบ้าง กระทบกับการทำงานของเรา สิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างความเชื่อมั่น สร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกัน จึงหวังว่าพวกเราจะเป็นหลัก ของข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร ต้องชัดเจนในการทำงาน ทำงานอย่างละเอียด ไม่ใช่ทำเฉพาะหัวเรื่องแค่นั้น ต้องมีการติดตามกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับในการสั่งการลงไป


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันก่อนตนได้ฟังแล้วไม่สบายใจ แต่จะไม่พูดดีกว่าเพราะสื่ออยู่ ดังนั้นการทำงานที่สำคัญวันนี้มีหลายเรื่อง โดยเฉพาะการเน้นย้ำเรื่องการแก้ปัญหาโรคโควิด-19 เรื่องอากาศ เรื่องเศรษฐกิจ และภัยแล้ง ซึ่งยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากท่านทั้งหลาย จะเห็นว่า ทุกอย่างตนเป็นคนตัดสินใจทั้งหมด ไม่ว่าใครจะสั่งอะไรต่างๆ ต้องขออนุมัติตนทั้งหมด ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ต้องชี้แจงมาทุกครั้ง ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้น เมื่อแจ้งมาแล้วตนเองพิจารณาแล้วเหมาะสม แต่จะต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ด้วย จึงขอฝากความหวังไว้กับข้าราชการทุกคน ทำให้ละเอียด คิดให้ตลอดครบวงจร ว่าทำแล้วจะไปไหนอย่างไร รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาระดับล่าง

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวว่า วันนี้เรายังมีปัญหาพอสมควร เรื่องการสร้างความเข้าใจ กับเรื่องของการอำนวยความสะดวก และการดูแลพี่น้องประชาชนข้างล่าง เขายังมีปัญหาอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่นายกรัฐมนตรีพูดไป หรือรัฐมนตรีพูดไป หลายอย่าง ทุกคนยอมรับ แต่ปัญหาคือในทางปฏิบัติยังไม่ทั่วถึง ซึ่งมีปัญหาในการปฏิบัติระดับขั้นตอนข้างล่าง จึงต้องกวดขันเจ้าหน้าที่ทุกคนในทุกระดับ อย่าให้ผมได้รับแจ้งว่าใครที่ทำงานไม่มีประสิทธิภาพ ผมใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ทุกระดับลงไป จากข้างบนไปถึงข้างล่าง ดังนั้นเป็นช่วงที่เราทุกคนต้องทำงานด้วยกัน เข้าใจนะครับ
https://www.thairath.co.th/news/pol...jdgFsUBkzMg_VR3v8Om2ucxreeU4ucDG8GPJaj_O9kE8c

 

ฉางเอ๋อโฟร์ขุดสำรวจอีกฟากของดวงจันทร์


ภาพ : CLEP/GRAS/NAOC

หลังจากยานอวกาศฉางเอ๋อ โฟร์ (Chang' E-4) ได้เดินทางออกจากโลกและไปลงจอดบนพื้นทางตะวันออกของหลุมอุกกาบาตฟอนคาร์มาน ตั้งอยู่ใกล้กับขั้วใต้ของดวงจันทร์ เมื่อ 3 ม.ค.ปีที่ผ่านมา และยานอวกาศสัญชาติจีนลำนี้ก็ส่งหุ่นยนต์อวี้ทู่-ทู (Yutu-2) ไปตระเวนสำรวจด้านไกลของดวงจันทร์ทันที โดยใช้เครื่อง Lunar Penetrating Radar (LPR) หยั่งความลึกของดวงจันทร์ด้วยสัญญาณเรดาร์

การศึกษาล่าสุดจากหอสังเกตการณ์ดาราศาสตร์แห่งชาติ ของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน ที่เปิดเผยในวารสารความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ (Science Advances) เผยให้เห็นถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้พื้นผิวดวงจันทร์ เมื่อทีมได้ใช้เครื่อง LPR ส่งสัญญาณวิทยุลึกลงไปในพื้นผิวของดวงจันทร์ที่ระดับความลึก 40 เมตร ใช้ช่องสัญญาณความถี่สูงที่ 500 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งมากกว่าความลึกถึง 3 เท่าของยานอวกาศฉางเอ๋อ ทรี ได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ ข้อมูลนี้ทำให้นักวิจัยพัฒนาสร้างภาพโดยประมาณของชั้นหินใต้ผิวดินดวงจันทร์ได้

นักวิจัยได้รวมภาพเรดาร์เข้ากับข้อมูลที่ได้ รวมถึงข้อมูลภาพ และนำไปวิเคราะห์เชิงปริมาณของดินใต้พื้นผิวดวงจันทร์ ซึ่งสรุปได้ว่าดินใต้พื้นผิวนั้นทำจากวัตถุที่เป็นเม็ดเล็กๆ มีรูพรุน ฝังอยู่ในหินขนาดต่างๆ น่าจะเป็นผลมาจากความปั่นป่วนของกาแล็กซียุคแรก เมื่ออุกกาบาตและเศษซากอื่นๆในอวกาศพุ่งตกกระทบกับดวงจันทร์บ่อยครั้งผลกระทบนั้นสร้างพื้นผิวขรุขระบนพื้นผิวดินโดยมีชั้นที่แตกต่างกัน.

https://www.thairath.co.th/news/for...VtFke9BlidD2NG2GosdwA5upPzqQ9pA5NLHH2ekoYSXo0

 

อิตาลีเปิด ห้องเรียนออนไลน์ หนีโควิด-19

รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาของอิตาลีสั่งให้โรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่ง ปิดการเรียนการสอนตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคมไปจนถึงวันที่ 15 มีนาคมนี้เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัส หลังสถานการณ์ระบาดในอิตาลีทวีความรุนแรงหนักที่สุดในทวีปยุโรป

ด้านโรงเรียนทั้งรัฐบาลและเอกชนก็ได้ปฏิบัติตามมาตรการความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด แต่การสั่งปิดโรงเรียนทำให้ครูและนักเรียนได้รับผลกระทบในเรื่องแผนการเรียนการสอนที่ไม่ต่อเนื่อง วิกฤตดังกล่าวกลายเป็นโอกาสให้หลายโรงเรียนได้ทดลองใช้วิธีการสอนผ่านระบบทางไกล ด้วยเครื่องมือทางเทคโนโลยีต่าง ๆ อย่างเช่น โรงเรียนแห่งหนึ่งในแคว้นลีกูเรีย พื้นที่ชายหาดทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ ได้พยายามเริ่มต้นใช้แพลตฟอร์มออนไลน์แล้ว

ออลก้า ทาร์ทารินี คุณครูวิชาประวัติศาสตร์ได้ให้สัมภาษณ์กับยูโรนิวส์ว่า เธอนำเนื้อหาบทเรียนเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2 ใส่ลงไปในแพลตฟอร์ม Google Hangouts ให้นักเรียนในคลาสของเธอ สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาได้จากที่บ้าน และพูดคุยผ่านแอปพลิเคชั่นแชทแบบเห็นหน้าได้ด้วย ซึ่งคุณครูหลาย ๆ ท่านในโรงเรียนแห่งนี้ก็ได้ใช้วิธีเดียวกันกับนักเรียนทั้งหมด 1,600 คน

นักเรียนที่ทดลองเรียนผ่านระบบออนไลน์ ส่วนใหญ่มักชื่นชอบความสะดวกสบายที่สามารถทำความเข้าใจเนื้อหาผ่านหน้าคอมพิวเตอร์ได้ แต่ข้อเสียคือ พวกเขารู้สึกขาดปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน ซึ่งบางวิชาเรียนก็อาศัยการเรียนรู้เป็นกลุ่ม ที่ทำให้ได้อะไรมากกว่าการเรียนคนดียว

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกโรงเรียนและทุกพื้นที่ของอิตาลี สามารถใช้วิธีนี้เพื่อทำการเรียนการสอนได้อย่างต่อเนื่อง เหตุผลหลัก ๆ คือการขาดแคบนอุปกรณ์ที่พร้อมทั้งในฝั่งของนักเรียนและในฝั่งของโรงเรียนเอง นอกจากนี้ การสั่งปิดโรงเรียนยังส่งผลกระทบกับผู้ปกครองบางกลุ่มที่ไม่สามารถดูแลบุตรหลานได้ อย่างเช่น จีโอวานน่า แอลเกรตตี้ ผู้ปกครองของเด็กออทิสติกรายหนึ่ง เปิดเผยว่าเธอจำเป็นต้องหยุดงานมาอยู่บ้านดูแลลูก เพราะเขาต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ซึ่งควรมีหน่วยงานมาให้การสนับสนุนผู้ปกครองของเด็กพิเศษด้วย

The post อิตาลีเปิด ห้องเรียนออนไลน์ หนีโควิด-19 appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์
https://www.springnews.co.th/global/627880

 

สิ้นปีไม่จบ นักวิทย์เชื่อ “โควิด-19” ระบาดข้ามปี ชี้ไวรัสชอบอากาศหนาว

นักวิทยาศาสตร์ฮ่องกง ชี้ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อาจยืดเยื้อข้ามปี และพื้นที่การระบาดรุนแรงอาจเปลี่ยนไป ขณะที่งานวิจัยจีนอีกฉบับ ชี้ ไวรัส “โควิด-19” ชอบอากาศหนาว

เว็บไซต์ เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ สื่อภาษาอังกฤษ ในฮ่องกงรายงานเมื่อ 8 มี.ค. 63อ้างถึงความเห็นของศาสตราจารย์ Yuen Kwok-yung นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ที่เชื่อว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก ไม่น่าจะยุติได้ภายในสิ้นปี 2563 นอกจากนี้ยังเชื่อด้วยว่า พื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงจะเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นรัฐบาลแต่ละประเทศต้องปรับมาตรการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในแต่ละช่วงได้อย่างทันท่วงที

ศาสตราจารย์ Yuan แนะนำว่า วิธีป้องกันโรคโควิด-19 ที่ดีที่สุด คือการรักษาสุขอนามัยของตัวเอง เช่น ล้างมือให้สะอาด รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ถ้าไม่จำเป็น

ส่วนที่มีการรายงานว่า ไวรัสโคโรนา 2019 ซึ่งเป็นต้นตอของโรคโควิด-19 มีการ กลายพันธุ์นั้น ศาสตราจารย์ Yuan ระบุว่า จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานที่ชัดเจนที่ชี้ว่า เชื้อที่กลายพันธุ์มีความรุนแรงจนอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตมากขึ้น

ขณะเดียวกันมีการเผยแพร่งานวิจัยจากจีนอีกฉบับที่ชี้ว่า ไวรัสโคโรนา 2019 จะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว พร้อมทั้งระบุว่า สถานการณ์ระบาดจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับฤดูกาล

โดยงานวิจัยชิ้นนี้มาจากมหาวิทยาลัยซุน ยัด-เซน ที่มณฑลกวางตุ้งของจีน ซึ่งเก็บข้อมูลอัตราพบผู้ป่วยทั่วโลกตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม ถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และนำมาวิเคราะห์ผลจนพบว่า อุณหภูมิเฉลี่ยที่ไวรัสโคโรนา 2019 แพร่เชื้อได้ดีที่สุดอยู่ที่ต่ำกว่า 8.72 องศาเซลเซียส โดยหากอุณหภูมิสูงกว่านี้ เชื้อจะอ่อนแอและมีอัตราการแพร่เชื้อต่ำลง

งานวิจัยชิ้นนี้สอดคล้องกับงานวิจัยอีกหลายชิ้นก่อนหน้านี้ที่เชื่อว่า สภาพอากาศหนาวน่าจะมีผลทำให้หลายพื้นที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่รุนแรง อย่างไรก็ตาม ยังมีนักวิทยาศาสตร์ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับความชื้นในอากาศที่เชื่อว่ามีผลต่อการแพร่ระบาดเช่นกัน


https://www.thairath.co.th/news/for...HhYRI_bhHysn7FmjU1RPZ0y8mGS1TfEzwfvFFouv2ck_Y

 

รู้จีนตามอรัญญา
#โควิด-19
#อู่ฮั่น
ตอบแทนบุญคุณของชาวอู่ฮั่น ฮีโรหญิงขับรถส่งสิ่งของเข้าอู่ฮั่น 2 ครั้ง
นางเซี่ย หลิน เป็นคนมณฑลอันฮุย ขับรถบรรทุกมานานกว่า 30 ปีแล้ว เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เซี่ย หลินได้ยินข่าวว่า มีสิ่งของจำเป็นทางการแพทย์รวมถึงหน้ากากอนามัยและชุดป้องกันจำเป็นจะต้องขนส่งจากนครเซี่ยงไฮ้ไปยังเมืองอู่ฮั่น ที่มีระยะทางกว่า 800 กิโลเมตร แต่ในช่วงการระบาดของโควิด-19 คนขับรถบรรทุกที่ยอมไปอู่ฮั่นมีน้อยมาก เธอจึงสมัครทันทีโดยไม่ได้ลังเลสักวินาที
การที่ตัดสินใจจะขับรถไปอู่ฮั่นนั้น นอกจากว่าเซี่ยหลินเป็นคนที่มีน้ำใจแล้ว ยังมีสาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่ง คือเมื่อเดือนสิงหาคมพ.ศ. 2559 เซี่ยหลินขนส่งสินค้าไปทิเบต ตอนผ่านเขตอาหลี่ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ไม่มีผู้อยู่อาศัยนั้น รถเสีย รอสามวันทีมช่วยเหลือยังมาไม่ถึง แต่เสบียงและน้ำดื่มหมดแล้ว
ขณะที่เธอไม่แน่ใจว่าตนเองจะรอดชีวิตหรือเปล่านั้น ได้พบทีมนักขี่มอเตอร์ไซค์เที่ยวทิเบตวิ่งผ่าน หัวหน้าทีมเอากระบอกน้ำร้อนของตน เทน้ำร้อนหนึ่งแก้วให้เซี่ยหลิน และใช้เครื่องส่งรับวิทยุบอกสมาชิกข้างหลังว่า ทุกคนที่ขี่มอเตอร์ไซค์ต่อหน้าเธอ ก็เทน้ำร้อนหนึ่งแก้วให้เธอ อื่นๆไม่ได้พูดอะไรมากนัก แต่เซี่ยหลินเห็นบนรถของพวกเขาได้ติดธงที่เขียนว่า “อู่ฮั่น”
น้ำร้อนเหล่านี้ทำให้เซี่ยหลินได้รอดชีวิตจากความลำบากครั้งนั้น คราวนี้ เธอจึงตั้งใจจะตอบแทนบุญคุณของชาวอู่ฮั่น
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ เซี่ยหลินกลับจากอู่ฮั่นแล้วก็กักตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วันด้วยตนเอง แล้วเตรียมตัวเพื่อขนส่งเครื่องช่วยหายใจไปยังอู่ฮั่นเป็นครั้งที่สอง ช่วงเช้าวันที่ 27 กุมภาพันธ์ เซี่ยหลินได้ขนส่งเครื่องช่วยหลายใจ 130 เครื่องไปถึงโรงพยาบาลในเมืองอู่ฮั่นเรียบร้อย
ในระหว่างการทำงาน เซี่ยหลินพยายามไม่สัมผัสกับคนอื่น และหลังกลับบ้านแล้วก็กักตนเองที่บ้านเป็นระยะหนึ่ง เพื่อลดความเสี่ยงและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่น
จีนมีสุภาษิตว่า 滴水之恩，涌泉相报(ตี ส่วย จือ เอิน โหย่ง ฉวน เซียง เป้า) แปลว่า แม้บุญคุณเท่าน้ำหยดเดียว ก็จงจะตอบแทนดุจสายธาร！ต้องขอบคุณเซี่ยหลินและฮีโรอีกมากมายที่ร่วมการต่อสู้กับไวรัส หวังว่าสงครามครั้งนี้จะสิ้นสุดลงและวัน “ปลดแอก”จะมาถึงโดยเร็ววัน
กด like และติดตามด้วยนะตะ

 

อ้างจีนทุ่มทุนโครงการผันน้ำยวม-เมยลงอ่างภูมิพลมูลค่า 1.1 แสนล้านแลกสร้างเขื่อนกั้นสาละวิน “วีระกร”เดินหน้าเต็มเหนี่ยว ระบุชัดนายกฯเห็นด้วยพร้อมสนับสนุน
.
https://transbordernews.in.th/home/?p=24674
.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมาได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ สภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายวีระกร คำประกอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)จังหวัดนครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะ รองประธานคนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายวีระกรได้กล่าวตอนหนึ่งว่า
.
“(แม่น้ำ) ยมตอนล่าง อยู่ที่ตำบลเตาปูน (อ.สอง จ.แพร่) ไม่ใช่ตำบลสะเอียบแล้วนะครับ จุดที่ผมว่าเนี่ยจะลดขนาดของ (อ่าง) ยมตอนล่างลง จากเดิม design ประมาณ 550 ล้านลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) เราจะเหลือไม่เกิน 400 ล้านลบ.ม. คืออย่างน้อยถ้าลุ่มน้ำยม ผมใช้ว่า อ่างเก็บน้ำเตาปูนเพราะอยู่ที่ตำบลเตาปูน ท่านห้ามพูดเขื่อนนะฮะ เพราะหากพูดเขื่อนปุ๊บเราจะเข้าเมืองสะเอียบไม่ได้ เค้าจะไล่ทุบเราออกมา ก็ใช้คำว่าอ่างเก็บน้ำเตาปูน อยู่ใต้ตำบลสะเอียบลงมา โดยประมาณแล้ว 400 (ล้าน ลบ.ม.) ไม่เกิน 400 (ล้าน ลบ.ม.) ทำไม คือจะไม่เข้าไปแตะต้องตำบลสะเอียบเลยครับ จุดน้ำสูงสุดเนี่ยจะไม่เข้าไปท่วมสะเอียบแม้แต่ปลายนิ้วเดียว ถ้าเค้ายอมเนี่ยอย่างน้อยเราจะมีสัก 400 ล้าน (ลบ.ม.) ไว้บริหารจัดการยามน้ำแล้ง เราก็ปล่อยน้ำลงใส่ข้างล่างได้ ยามน้ำท่วมก็กักไว้ได้บ้าง ก็ดีกว่าไม่มี อะไรก็ตามที่มันช่วยได้บ้าง มันก็ดีกว่าไม่มีน้ำ
.
“ท่านคงทราบดีว่าบริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณที่ลาดชันมากไม่ใช่ 45 องศาน่ะ เท่าที่ดูถ้าท่านจำได้ 60 องศา น้ำจะไหลลงมาแรงมาก เวลามันลงก็จะมาท่วมเขตอำเภอต่างๆ ของจังหวัดแพร่ อำเภอตอนล่าง พวกวังชิ้น ศรีสัชนาลัย สุโขทัย จะโดนน้ำท่วมหมด น้ำมาแรงเพราะความลาดชันมันสูง เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าถ้าเราในฐานะผู้แทนราษฎร เป็นกรรมาธิการ ได้มีโอกาสไปคุย ซึ่งเราจะเชิญแกนนำของสะเอียบมาด้วย แต่ท่านต้องช่วยผมท่องนะ ท่องใช้คำว่าอ่างเก็บน้ำเตาปูน อย่าไปแตะต้องคำว่าเขื่อนแก่งเสือเต้นอันขาด ผมอยากให้ท่านช่วยจำ เวลาเราไปคุยเดี๋ยวเราหลุดไปคำแก่งเสือเต้น ล่ะ วิ่งออกมาไม่ทันเลยนะท่าน เค้าโดนกันเมาเยอะแล้ว ผมเตือนท่านนะครับ ก็ให้ท่านช่วยแก้ด้วยเวลาเราไปประชุม เรามีเวลา 1 วันเข้าไปดูลุ่มน้ำยมตอนบน
.
“หนึ่งวัน เข้าไปดูลุ่มน้ำยมตอนบน คือเขตอำเภอเชียงคำ (จ.พะเยา) เนี่ยเป็นต้นน้ำยมใน ต.เชียงคำ ซึ่งเป็นจุดก่อนที่เราจะเข้าจังหวัดน่าน เราอยู่กก มาอิง จากอิง เราจะแวะเข้ามานอนที่เชียงม่วน เพื่อที่จะได้มีโอกาสคุยกับชาวเตาปูนหรือชาวสะเอียบ เท่าที่รายงานจากกรมชลประทาน ชาวเตาปูนมีความดีใจที่อยากจะได้อ่างเก็บน้ำตัวนี้ แต่ชาวสะเอียบกลัวมาก เพราะฉะนั้นเราก็จะเชิญผู้แทนสะเอียบมา และในฐานะผู้แทนราษฎร เราก็จะยืนยันว่าระดับกักเก็บสูงสุดจะไม่เข้าไปกล้ำกรายตำบลสะเอียบเลย จะไม่เข้าไปท่วมเลย คือผมว่ามันน่าดีใจนะ น่าดีใจ ถ้าเราทำสำเร็จ 400 ล้าน(ลบ.ม.) ก็ยังดีกว่าไม่มีสักล้านหนึ่งเลย เวลาน้ำลงมาจากเขาด้วยความชัน 60 องศาเนี่ย มันมาเร็วมาก”
.
นายวีระกรกล่าวว่า “เรื่องที่สอง ที่ผมอยากจะเรียนในที่ประชุม ตามที่ที่ประชุมอนุกรรมาธิการฯได้มีมติว่าเราเห็นชอบที่จะผลักดันโครงการผันน้ำจากแม่น้ำเมยและแม่น้ำยวม ทั้งสองโครงการข้ามภูเขาสูงประมาณ160 เมตร เพื่อลงมาสู่อ่างเก็บน้ำภูมิพล เราจะสูบน้ำจากอ่างเก็บน้ำยม (แม่น้ำยวม) ข้ามเขาโดยอุโมงค์เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 7 เมตรกว่า ไหลลงไปหาแม่หูด (แม่งูด-อ.ฮอด จ. เชียงใหม่ ) ไหลลงแม่น้ำปิงที่ดอยเต่า ส่วนอีกจุดหนึ่งจุดใต้ลงมาที่เราไปดูกันมาแล้ว จากห้วยแม่ขะแนขี้เทอร์ ก็จะทำฝายเล็กๆ กั้นและเก็บน้ำได้ประมาณ 1 ล้านลูกบาศก์เมตร และเราก็จะสูบข้ามเขาสูงประมาณ 160 เมตรเหมือนกัน และก็จะไหลลงไปหาแม่น้ำแม่ตื่น แล้วไหลลงแม่น้ำปิง
.
“ทั้งสองโครงการนี้ ทางกรรมาธิการฯของเราก็ได้รับทราบและได้เห็นชอบกันไปแล้ว ผมจึงถือโอกาสนี้เข้าไปกราบเรียนท่านนายกรัฐมนตรีโดยตรง เมื่อวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ ได้มีโอกาสเล่าให้ท่านฟัง สิ่งที่ท่านพูดกับเราก็คือ หนึ่ง เห็นชอบเลย อยากทำมากโครงการตัวนี้ และผมยืนยันกับท่านตามคำพูดของหมอจาตุรงค์ (เพ็งนรพัฒน์ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย) ถ้าท่านทำโครงการนี้ได้ เติมน้ำให้ภาคเหนือตอนล่างให้ภาคกลางตอนบนได้ ลุ่มน้ำเจ้าพระยาน้ำอุดมสมบูรณ์ ท่านได้เป็นนายก 8 ปีแน่เลย ผมเอาคำพูดของหมอจาตุรงค์ไป ท่านนายกบอกเอาเลย ส่งเลยแล้วผมก็บอกว่าตอนที่ผมเป็นประธานอนุกรรมาธิการเรื่องนี้ได้มีบริษัทจีนที่เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลจีน เค้าเข้ามาทาบทาม เข้ามาเสนอนะครับ ซึ่งข้อเสนอนี้ผมไม่มีสิทธิ์รับหรือไม่รับ
.
รองประธานกมธ.กล่าวว่า “ผมเรียนท่านนายกฯทราบ ทั้งสองโครงการนี้ รัฐบาลไม่ต้องลงทุนเลยนะครับ 40,000 กว่าล้านกับ 70,000กว่าล้าน เป็น 110,000 ล้าน รัฐบาลไม่ต้องลงทุนสักบาทเดียวเลย รัฐบาลจีนจะมาลงทุนทำให้ เป็นเมกะโปรเจ็ค โดยที่เขาจะขอรัฐบาลไทยทำเขื่อน ลักษณะทำกระแสไฟฟ้า 3 ตัวด้วยกันนะครับ เป็นลักษณะของ run-off river คือไม่มีการสร้างอ่างเก็บน้ำ เป็นการเอากระแสน้ำหมุนเทอร์ไบน์ ปั่นเครื่องปั่นไฟ 3 ตัวด้วยกันนะครับ บนบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน แม่น้ำสาละวิน 3 จุดด้วยกันนะครับ เค้าจะขายกระแสไฟฟ้าให้รัฐบาลไทยและรัฐบาลพม่า นายกฯ บอกอยากให้ทำจังเลยผมชอบที่สุดเลยคือของฟรี ท่านนายกบอก แต่การพูดกับรัฐบาลพม่ามันยาก ผมบอกไม่ต้องห่วงครับ โครงการนี้รัฐวิสาหกิจของจีนเค้าบอกว่าการเจรจากับรัฐบาลพม่าเป็นหน้าที่ของเค้า เพราะฉะนั้นเนี่ยจึงทำให้ท่านนายกฯ ยืนยันว่าสนับสนุนโครงการนี้แล้วให้รัฐวิสาหกิจจีนนี้ไปประสานงานติดต่อกับท่านเฉลิมเกียรติ สทนช. (นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ) โดยตรงเลย ซึ่งผมก็ได้เรียนไปแล้วเมื่อวานนี้ ในการประชุมอนุเมื่อวานนี้
.
“ผมก็อยากสรุปว่า การผันน้ำเข้าสู่อ่างเก็บน้ำภูมิพลประมาณ 3,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร ไม่ใช่ความฝันแล้วนะครับ น่าจะใกล้ความจริงมากๆ แล้ว ก็ผลิตผลโดยตรงโดยเฉพาะแม่น้ำปิงตอนล่าง ซึ่งมีจังหวัดที่ติดนครสวรรค์ จะได้รับประโยชน์มหาศาลเลยนะครับ คลองต่างๆ คลองสวนขวัญ ท่อทองแดงของกำแพงเพชร พวกนี้จะได้ประโยชน์มหาศาล น้ำจะเป็นระบบชลประทานที่ยอดเยี่ยมเลยนะครับ ถ้าเรามีการผันน้ำสองโครงการนี้เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้ทางบริษัททางจีนเอาจริงเอาจังก็จะประสานกับสทนช.โดยตรง นายกรัฐมนตรี ซึ่งผมได้ถือโอกาส เรียนท่านแล้วว่ามันไม่ใช่ความฝันเริ่มเป็นความจริงที่ใกล้ด้วย เพราะจีนเค้ารับปากเจรจา ส่วนราคาค่ากระแสไฟฟ้าเท่าไหร่ยังไง เค้าจะขายเท่าไหร่ ไม่ใช่หน้าที่ของเรา เป็นหน้าที่ที่เค้าจะเจรจากับรัฐบาลไทยกันเอง เราไม่เกี่ยวข้องด้วย เราเพียงแต่หวังให้เกิดโครงการนี้ เพื่อสร้างน้ำ สร้างปริมาณน้ำที่จะเพียงพอต่อการใช้ของประเทศไทย”
.
นายวีระกรกล่าวว่า ปัจจุบันนี้ลุ่มเจ้าพระยาเรามีน้ำท่าทั้งหมด 28,000 ล้านลูกบาศก์เมตร แต่ไม่น่าเชื่อ ตัวเลขที่เราต้องใช้น้ำของลุ่มน้ำเจ้าพระยา 32,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร แปลว่าเราเกินอยู่ 4,000 กว่าล้านลูกบาศก์เมตร การใช้เราจะเกินกว่าปริมาณน้ำท่าที่แม่น้ำเจ้าพระยาโดยค่าเฉลี่ยจะให้ได้ ดังนั้นก็จะพอดีกับการที่เราจะทำสองโครงการนี้ ถ้าเสร็จก็เป็นประโยชน์มหาศาล
.
“อีกประการก็คือ จากกก อิงน่านที่ผมได้พูดเมื่อตอนต้น ที่เราเตรียมงาน 18-19-20 (มีนาคม 2563) อยากเรียนเชิญทุกท่านไป โครงการนี้เราจะผันน้ำได้ประมาณ 2,300 ล้านลูกบาศก์เมตร ลงอ่างสิริกิติ์ แน่นอนคงรับไม่ได้ทุกปี บางปีอาจ 1,000 ล้าน (ลบ.ม.) บางปี 2,000 ล้าน (ลบ.ม.) หรืออย่างปีนี้สามารถรับได้ถึง 4,000 ล้าน (ลบ.ม.) ด้วยซ้ำไปเพราะน้ำไม่มีในเขื่อนสิริกิติ์เก็บน้อย ก็สุดแล้วแต่โครงการซึ่งขณะนี้ดูแล้ว กกอิงน่านกรมชลประทานแทบจะทิ้งแล้ว เพราะเหตุว่ามันลงทุนประมาณแสนกว่าล้าน แล้วก็เดิมทีเขื่อนสิริกิติ์แทบจะเต็มทุกปี มีระยะหลังๆเท่านั้นเองที่ไม่เต็มและขาดน้ำประมาณ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ก็เรียนเพื่อทราบว่าเราจะไปดูเพื่อสนับสนุนโครงการนี้ด้วย ท่านที่เป็นกรรมาธิการฯร่วมเดินทางก็จะได้ไปดูข้อเท็จจริง แล้วอาจจะช่วยเจรจาช่วยคุยกับประชาชน โดยเฉพาะที่ผมอยากเรียนเชิญกรรมาธิการฯจากสุโขทัย แพร่ ที่ท่านเดือดร้อน นครสวรรค์ พิษณุโลก ท่านเดือดร้อนจากน้ำท่วม น้ำแล้งทุกปี ช่วยไปที ไปคุยกับคนที่เค้าไม่ยอมให้สร้าง ไปขอร้องเค้า ไฟลท์บังคับนะครับ”
.
อนึ่ง-ระหว่างวันที่ 18-20 มีนาคม 2563 กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำทั้งระบบ มีกำหนดการลงพื้นที่ จ.เชียงราย พะเยาและน่าน เพื่อศึกษาและประชุมเกี่ยวกับโครงการผันน้ำกก อิง น่าน

 

กรมสรรพสามิต เตรียมแจกแอลกอฮอล์ล้างมือ 3 แสนลิตร
.
วันนี้ ( 9 มีนาคม 2563 ) นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า กรมสรรพสามิต ได้ขอบริจาคแอลกอฮอล์จากผู้ประกอบการในประเทศจำนวน 3 แสนลิตร เพื่อนำมาผสมน้ำเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือแก่ ประชาชนทั่วประเทศ เพื่อร่วมป้องกันการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา(โควิด-19) ซึ่งการรับบริจาคฮอลกอฮอล์ เพื่อผลิตแอลกอฮอล์ล้างมือแบบผสมน้ำ 70% คือแอลกอฮอล์ 70% น้ำ 30% โดยไม่มีการผสมมอยส์เจอร์ไรเซอร์แบบเดียวกับการผลิตเพื่อจำหน่ายแต่อย่างใด แต่เป็นสูตรมาตรฐานที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อได้ โดยเฉพาะไวรัสโคโรนา
.
โดยจะดำเนินการแจกจ่ายผ่านสรรพสามิตพื้นที่ทุกจังหวัด จำกัดคนละ 1 ลิตร เป็นระยะเวลาประมาณ 1 เดือน คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายในเดือนนี้
.
นอกจากนี้ กรมสรรพสามิต ยังมีนโยบายส่งเสริมการใช้แอลกอฮอล์หรือสุราสามทับ นำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ โดยการให้สิทธิทางภาษีของแอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการลดต้นทุนทางภาษีและเพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) จากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ
.
“ปัจจุบันแอลกอฮอล์ที่ทำเป็นเจลล้างมือไม่ได้ขาดตลาด แต่ที่เราต้องออกประกาศนี้ ก็เพื่อเตรียมการไว้ล่วงหน้า หากการแพร่ระบาดโควิด-19 ยังไม่จบง่ายๆ ก็เพื่อป้องกันการกักตุนหรือเก็งกำไร ฉะนั้น เราจึงต้องให้มีสินค้าออกมารองรับให้เพียงพอ”
.
กรมสรรพสามิต จะได้ออกประกาศเงื่อนไขการขอใช้สิทธิเสียภาษีในอัตราศูนย์ สำหรับสุราสามทับที่นำไปแปลงสภาพเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือ ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบที่ไม่ได้ทำขึ้นเพื่อการจำหน่าย เพื่อให้ผู้ประกอบอุตสาหกรรมสุราสามทับ เพื่อการส่งออกและผู้ประกอบการเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้เสียภาษีในอัตราศูนย์บาทต่อลิตร
.
กรมสรรพสามิต จะลดเงื่อนไขรวมทั้งข้อจำกัดต่างๆ เพื่อให้ปฎิบัติง่ายขึ้นและทันสถานการณ์เร่งด่วนและไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อขาย แต่ทำเพื่อแจกจ่ายให้ประชาชน ซึ่งผู้ยื่นทำผลิตภัณฑ์ต้องเป็นหน่วยงานของรัฐและผู้ที่หน่วยงานรัฐรับรองเท่านั้น และ ประกาศนี้ จะมีผลระยะสั้น คือ ให้ถึงวันที่ 30 ก.ย.นี้เท่านั้น แต่หากสถานการณ์ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติหรือยังมีการแพร่กระจายก็จะพิจารณาขยายระยะเวลาตามความจำเป็นต่อไป
.
“ถ้าไม่มีประกาศตัวนี้ ผู้ผลิตสุราสามทับ(แอลกอฮอล์) จะต้องเสียภาษีสำหรับการนำไปบริจาคเพื่อทำลิตภัณฑ์ทำความสะอาดล้างมือเป็นเจลหรือเปรย์ และไม่สามารถบริจาคได้ สำหรับโรงงานเอทานอลนั้น บริจาคได้ แต่ถ้าจะขายเพื่อให้คนเอาไปทำผลิตภัณฑ์ล้างมือนั้น ทำไม่ได้ เพราะไม่ใช่โรงงานสุราสามทับ ฉะนั้น วันนี้ สรรพสามิตจะออกประกาศให้รองรับให้เอทานอลสามารถจำหน่ายวัตถุดิบสำหรับไปทำแอลกอฮอล์ล้างมือได้”
.
เหตุที่ต้องมีสุราสามทับ คือ การแปลงสภาพแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์เอาไปทำมูลค่าเพิ่มอย่างอื่น โดยเฉพาะสุรา มีความเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน ตัวแอลกอฮอล์เป็นวัตถุไวไฟโดยสภาพของมันเอง ฉะนั้น ต้องมีการควบคุมในระดับหนึ่ง รวมถึง การที่เอาไปผลิตภัณฑ์เจลล้างมือจะต้องมีอย.รองรับในการนำไปใช้ป้องกันการแพ้
.
The post กรมสรรพสามิต เตรียมแจกแอลกอฮอล์ล้างมือ 3 แสนลิตร appeared first on SpringNews.

Source : #Springnews #สปริงนิวส์

 

‘ศรสุวีย์’ แจงพูดมั่วไม่มีหน้ากากอนามัยจริง แค่อยากอวดโซเชียล

วันที่ 9 มี.ค. 63 นายศรสุวีย์ ภู่รวีนะศวัชรี หรือ บอย ที่แอบอ้างคนสนิทผู้ติดตาม รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เดินทางมาถึง สำนักงานตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมกับระบุว่า ไม่มีอะไรนอกจากขอโทษพี่น้องประชาชน ตนไม่มีหน้ากากตุนไว้จริงๆ ส่วนในคลิปนั้นตนได้เข้าไปเห็นในเป็นคลังสินค้าของใครก็ไม่ทราบ ที่โพสต์เพราะอยากจะโชว์ว่าเจอหน้ากากจำนวนมาก ส่วนที่บอกว่า มี 200 ล้านชิ้น ก็พูดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ส่วนทีมรัฐมนตรีตนเจอครั้งเดียว อยากขอโทษทุกคนที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อน

The post ‘ศรสุวีย์’ แจงพูดมั่วไม่มีหน้ากากอนามัยจริง แค่อยากอวดโซเชียล appeared first on AMARIN TV HD | อมรินทร์ทีวี ช่อง 34.

Source : #AmarinTV #อมรินทร์ #อมรินทร์ทีวี