ติดตามสถานะการณ์

"อนุพงษ์" ประสานพื้นที่กองทัพภาค 2-3 กัก "ผีน้อย" จาก 2 เมืองเกาหลีใต้
“อนุพงษ์” สั่งการผู้ว่าฯ ต้องเข้มตรวจคัดกรอง เน้นเป็นพิเศษ “ผีน้อย” มาจาก 2 เมืองโควิด-19 ระบาดหนักของเกาหลีใต้ ยัน ต้องกักในที่ควบคุมของรัฐบาล
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

จีนศึกษา (วันพฤหัสบดีที่ ๕ มี.ค.๖๓) ขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อป้องกันและควบคุมโควิด-๑๙ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ ๒ มี.ค.๖๓ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

๑. ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ในฐานะเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนและประธานคณะกรรมาธิการทหารกลางของจีน ได้กล่าวเน้นขณะตรวจเยี่ยมหน่วยฯ ว่า
๑.๑ ต้องจัดให้ความปลอดภัยด้านสิ่งมีชีวิตเป็นส่วนประกอบสำคัญส่วนหนึ่งของความปลอดภัยแห่งชาติในภาพรวม มีการพัฒนาทักษะและความสามารถทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดและทำให้งานสาธารณสุขเข้มแข็งยิ่งขึ้น
๑.๒ ต้องปรับปรุงระบบเตือนภัยเพื่อป้องกันและควบคุมโรคระบาดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ดำเนินการศึกษาวิจัยเพื่อก่อตั้งระบบบัญชาการ ปฏิบัติการ และหลักประกันหลังจากเข้าสู่ภาวะฉุกเฉินในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค
๑.๓ วัคซีนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาด ดังนั้น จีนต้องเร่งวิจัยพัฒนาวัคซีนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะเดียวกันต้องติดตามผลคืบหน้าด้านการวิจัยและการพัฒนาของต่างประเทศอย่างใกล้ชิด มีการส่งเสริมความร่วมมือ เพื่อให้วัคซีนเข้าสู่ช่วงทดสอบทางคลินิกและการใช้งานในการตลาดโดยเร็ว โดยจีนต้องพัฒนาระบบสำรองวัคซีนแห่งชาติ เพื่อเตรียมความพร้อมต่องานป้องกันและควบคุมโรคระบาดซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นเรื่องที่จะพบบ่อยครั้งมากขึ้น
๑.๔ ต้องจัดการวิจัยเกี่ยวกับ แหล่งที่มา และวิถีการแพร่ระบาดของไวรัสอย่างประสานกัน เพื่อเรียนรู้ให้แน่ชัดว่า แหล่งที่มาของไวรัสมาจากไหน และจะไปทางไหน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพความถูกต้องแม่นยำของการตรวจตราอีกด้วย
๑.๕ ต้องสร้างระบบใหม่ของการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นแก่นแท้ของชาติ โดยเพิ่มการลงทุนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุข รวมทั้งส่งเสริมงานวิจัยขั้นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต เพื่อให้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลและสุขภาพมีผลคืบหน้าเชิงรุก
๑.๖ ต้องเร่งพัฒนาและส่งเสริมทักษะและความสามารถด้านการสำรองทางยุทธศาสตร์และพลังทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงเทคโนโลยีด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อและสาธารณสุข ขจัดข้อกีดขวางด้านเทคโนโลยีและอุปกรณ์ เพื่อให้สามารถถือครองลิขสิทธิ์และทรัพย์สินทางปัญญาของอุปกรณ์ชั้นสูงในการรักษาพยาบาล
๑.๗ ในกระบวนการต่อสู้โควิด-๑๙ จีนต้องถือครองทรัพย์สินทางปัญญาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น ประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มแข็งให้มากยิ่งขึ้น เพื่อปกป้องความปลอดภัยทางชีวิตและสุขภาพของประชาชน และมีส่วนช่วยเหลือในการปกป้องความปลอดภัยทางยุทธศาสตร์แห่งชาติ

๒. หน่วยงานที่ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมในวันที่ ๒ มี.ค.๖๓ ได้แก่ สถาบันวิจัยการแพทย์ทางการทหาร และสถาบันการแพทย์ของมหาวิทยาลัยชิงหวา เพื่อศึกษางานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งงานการรักษาพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-๑๙ โดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษเกี่ยวกับเรื่องวัคซีน ภูมิคุ้มกัน เวชภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์การตรวจไวรัสอย่างรวดเร็ว และงานด้านการวิจัยและการประยุกต์ อีกทั้งได้ไปพบและให้กำลังใจแก่ผู้เชี่ยวชาญตลอดจนเจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

บทสรุป ในขณะตรวจเยี่ยมหน่วยงานวิจัยเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโรคที่กรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ได้กล่าวเน้นว่า จีนเป็นประเทศที่มีประชากรจำนวน ๑,๔๐๐ ล้านคน การป้องกันและควบคุมโรคระบาดขนาดใหญ่ และป้องกันความเสี่ยงด้านสาธารณสุข จึงเป็นเรื่องใหญ่ที่มีความสำคัญและประมาทไม่ได้ ดังนั้น งานที่เร่งด่วนและสำคัญที่สุดคือต้องใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยชีวิตผู้ป่วยมากขึ้น ซึ่งต้องเร่งวิจัยยา ใช้ทั้งยาจากแพทย์แผนจีนและยาตะวันตก ส่งเสริมการใช้ยาที่ให้ผลการรักษาดี โดยพัฒนาและคัดกรอง ในขณะเดียวกันก็ตรวจชุดยารักษาที่ได้ผล ตามความต้องการของผู้ป่วย รวมทั้งหาวิธีการรักษาใหม่ ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น นอกจากนี้ ควรให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาแก่ผู้ป่วยและครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย

ประมวลโดย พลตรี ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล
( ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://english.www.gov.cn/news/topnews/202003/03/content_WS5e5dd349c6d0c201c2cbd6d9.html และเว็บไซต์ http://thai.cri.cn/20200303/369e47c9-530a-d3bc-18eb-28c2b2b3170b.html รวมทั้งเว็บไซต์ http://thai.cri.cn/20200303/78fc8a9f-6e5b-7fc3-4089-a5a97dca9222.html และเว็บไซต์ ตลอดจนเว็บไซต์ https://news.cgtn.com/news/2020-03-...ccines-for-coronavirus--OxgfMsQZWw/index.html และเว็บไซต์ http://thai.cri.cn/20200303/dd4d3e00-3b0c-3164-7cbc-760b4b06d323.html รวมถึงเว็บไซต์ https://www.scmp.com/news/china/soc...-puts-focus-long-term-coronavirus-battle-more และเว็บไซต์ http://www.xinhuanet.com/english/2020-03/02/c_138836241.htm )

 

ทางการจีน "ขายหน้ากากอนามัยในปั๊มน้ำมัน Sinopec 50แห่งทั่วปักกิ่ง 30,000ชิ้นต่อวัน" เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงหน้ากาก โดย1คน สามารถซื้อได้1แพ็ค(มี10ชิ้น) ต่อสัปดาห์ ในราคาแพ็คละ 35หยวน หรือราว 157.5บาท)

.

สำหรับการซื้อ ผู้ซื้อสามารถดาวน์โหลดAppมาติดตั้งบนมือถือและสั่งซื้อหน้ากากผ่านApp จากนั้นไปรับของที่ปั๊มน้ำมันที่ใกล้เราที่เราเลือกเอาไว้ตอนสั่งซื้อ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนที่มีรถยนต์ คนทั่วไปก็สั่งซื้อและไปรับที่ปั๊มน้ำมันได้ ตามการรายงานของ 中央新闻 (CCTV News) สื่อทางการจีน

ทั้งนี้ใน Weiboบัญชีทางการของปั๊มน้ำมัน 中国石化 (China Sinopec) ระบุว่า "การขายหน้ากากอนามัยในปั๊มน้ำมันในครั้งนี้มาจากทางการจีนต้องการให้ประชาชนได้หน้ากากอนามัยไปใช้อย่างเพียงพอและราคาไม่แพง โดยใช้ปั๊มน้ำมันเป็นช่องทางขายและกระจายสู่วงกว้าง"

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

สาธารณสุขแถลง พบผู้ป่วย COVID-19รายใหม่ในไทย 4ราย เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดหนัก อิตาลี 2ราย และอิหร่าน 2ราย ทำให้ตอนนี้ไทยมียอดผู้ป่วยสะสมรวม 47ราย / กำลังรักษาตัวในรพ. 15ราย หายดีและออกจากรพ.แล้ว 31ราย เสียชีวิต1ราย

สำหรับรายละเอียดของ 4รายที่เพิ่มมาใหม่ ทางไทยรัฐได้รายงานดังนี้

- รายที่ 1 :เป็นชายชาวอิตาลี อายุ 29 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาจากประเทศอิตาลี เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 1 มี.ค. 2563 เดินทางมารักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ด้วยอาการ ไข้ ไอ ถูกส่งรักษาต่อที่โรงพยาบาลชลบุรี

-รายที่ 2: เป็นชายไทย อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานบริษัท มีประวัติเดินทางมาจากประเทศอิตาลี เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 2 มี.ค.2563 โดยเดินทางมารักษาด้วยตนเอง ที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2563 ด้วยอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ

รายที่1และรายที่2 ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน

- รายที่ 3: ชายชาวจีน อายุ 22 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางมาจากประเทศอิหร่าน เพื่อต่อเครื่องบิน เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2563 โดยเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ตรวจพบไข้ ไอ น้ำมูก ในระหว่างการต่อเครื่อง จึงส่งรักษาตัวที่ สถาบันบำราศนราดูร

- รายที่ 4: ชายชาวไทย อายุ 20 ปี เป็นนักศึกษา เดินทางกลับมาจากประเทศอิหร่าน เดินทางเข้าประเทศไทยวันที่ 27 ก.พ. 2563 เดินทางมารักษาด้วยตนเองที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 2563 ด้วยอาการไข้ มีน้ำมูก

ทั้งนี้ ตามข้อมูลที่ทางสาธารณสุขเคยแถลงมาก่อนหน้านี้ ใครมีอาการป่วย ไอ จาม สามารถโทรไปได้ที่เบอร์ 1422 หากมีอาการป่วยหรือเข้าข่าย จะมีทีมแพทย์ไปรับถึงที่ โดยเฉพาะกลุ่มเฝ้าระวัง

https://www.thairath.co.th/news/politic/1787313

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อาร์เจนตินา
ในบ่ายวันพุธ เกิดพายุที่รุนแรง พร้อมลูกเห็บที่โจมตีเมือง Guachipas ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาในช่วงเวลาสั้น ๆ ทำให้น้ำท่วมถนน

 

ส.ส.สหรัฐฯ ลงมติผ่านงบประมาณกว่า 2 แสนล้านบาท เพื่อต่อสู้กับการระบาด COVID-19 ขณะที่ รัฐแคลิฟอร์เนียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินรับมือการแพร่ระบาด

 

ไวรัสโควิด-19 วิวัฒนาการร้ายกาจปรับตัวแพร่เชื้อ กลายพันธุ์ได้จริงหรือ

ด้าน “ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา” หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และกรรมการให้คำปรึกษา "เชื้อไวรัสโควิด-19" กล่าวกับ “ทีมข่าวเจาะประเด็นไทยรัฐออนไลน์” ว่า ยังไม่รู้ว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์จริงหรือไม่ เพราะตอนแรกเชื้อนี้มาจากค้างคาวและเข้าไปสิงอยู่ในตัวนิ่ม ซึ่งรู้มานานพอสมควรว่าเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ช่วงก่อนปีใหม่ จนกระทั่งนักวิทยาศาสตร์ชาวจีน เก็บตัวอย่างไวรัสของผู้ป่วยจำนวน 103 คน และพบว่ามีความผันแปรทางรหัสพันธุกรรม จึงไปเทียบกับตัวนิ่มจนพบว่าเชื้อไวรัสตัวนี้มีความผันแปรแตกต่างกัน

นั่นแสดงว่ามีการแปรรหัสพันธุกรรมไปเรื่อยๆ โดยในระดับยีนส์ มีการวิเคราะห์พบว่า มีการผันแปรพันธุกรรม ซึ่งมีน้ำหนักมากพอในการเปลี่ยนแปลงของกรดอะมิโน ทำให้เชื่อว่าไวรัสสายพันธุ์เอส มาก่อน แล้วกลายมาเป็นสายพันธุ์แอล

“สายพันธุ์แอล อาจเป็นกลุ่มก้าวร้าว ดุร้าย ทำให้มีผู้ติดเชื้อไปยังคนมากถึง 70% เลยมีการตั้งสมมติฐานกันว่าน่าจะเกิดจากการคุมเข้มออกมาตราการป้องกันต่างๆ ของจีน ไม่ว่าทั้งยาและการควบคุมการแพร่กระจาย จนไวรัสสายพันธุ์แอล เริ่มผันแปรตัวเองให้มีชีวิตอีกครั้ง กระทั่งกลับมาเป็นสายพันธุ์เอส อีกครั้ง แต่ทั้งหมดเป็นการเปรียบเทียบรหัสพันธุกรรม นำมาเทียบเคียงกับรหัสพันธุกรรมในคน ดูความเป็นได้ว่า ไวรัสตัวไหนดุร้าย หรือไม่ดุร้าย สามารถบอกได้หรือไม่ในการทำนายโรคว่า คนติดเชื้อคนนี้แย่หรือไม่ ต้องมีการพิสูจน์ความจริงอีกครั้งว่า ไวรัสตัวแอล ดุร้ายจริงหรือไม่ และคนติดไวรัสตัวเอส อาจมีอาการเพียงน้ำมูกไหลจริงหรือไม่”



สรุปว่าขณะนี้อาจบอกไม่ได้ว่าไวรัสตัวใดร้ายแรงมากกว่ากัน เนื่องจากไวรัสมีหลายตัว ยกตัวอย่างไวรัสซิกา มีการแพร่ระบาดจากหมู่เกาะแคริบเบียน ไปทั่วโลกโดยมีการเปลี่ยนพันธุกรรม เปลี่ยนยุงลายจากชนิดหนึ่งกลายเป็นอีกชนิดหนึ่ง เรียกว่าวิวัฒนาการของไวรัส เพื่อให้มีชีวิตอยู่ได้อย่างเหมาะสม ในการไปอยู่กับสิ่งมีชีวิตตัวใหม่ โดยไม่เรียกว่าการผ่าเหล่า แต่เป็นวิวัฒนาการในการปรับตัวให้อยู่ได้ของไวรัส ในการไปอยู่ในสัตว์อีกชนิด จากสัตว์สปีชีส์หนึ่งไปอีกสปีชีส์หนึ่ง เพราะไวรัสสามารถเปลี่ยนหน้าเปลี่ยนตาได้ หากไปหาที่อยู่ใหม่ต้องมีวิวัฒนาการให้เข้ากับสิ่งมีชีวิต ต้องวิวัฒนาการไปด้วยกัน อย่างกรณีไวรัสเปลี่ยนจากค้างคาว มายังตัวนิ่ม แต่ที่ผ่านมามีรายงานบางตัวระบุว่าไม่ใช่ แต่เกิดจากแรงบีบของไวรัสกับสัตว์นั้นๆ


สิ่งที่บ่งบอกชัดว่าไวรัสมีวิวัฒนาการในการปรับตัว เพราะเมื่อปี 2004 เคยไปเจอว่ามีโคโรนา 2 ชนิด อยู่กับค้างคาวตัวเดียวกัน แต่คิดว่าไวรัสน่าจะประกอบร่างใหม่ สุดท้ายแล้วสรุปว่าเจ้าไวรัสตัวเก่าปรับตัว กระทั่งไปสู่คน แสดงให้เห็นว่าไวรัสนั้นมีการยืดหยุ่นปรับตัวได้ ส่วนไวรัสโควิดพันธุ์เอส ไม่กลัวความร้อน จะปรับตัวตามอากาศ แสดงอาการเงียบๆ เมื่อคนติดเชื้อจะไม่แสดงอาการ และค่อยๆ ดุร้าย ทำให้คนติดเชื้อไม่รู้ จึงแพร่ไปยังคนจำนวนมากและมากขึ้น



“ขอภาวนาให้การแพร่ระบาดในไทยเป็นไวรัสพันธุ์เอสที่ไม่แสดงอาการ จากคนไม่น่าสงสัยติดเชื้อ กลับกลายมาเป็นคนแพร่เชื้อ มาแบบเงียบๆ ไม่ทำให้คนตาย หากคนไทยติดเชื้อ 30 ล้านคน ครึ่งหนึ่งของประเทศ อาจจะเป็นการป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อต่อ คนติดเชื้อจะไม่เป็นอะไรมากเหมือนไข้หวัด ยกเว้นคนกลุ่มเสี่ยงจะเป็นอันตราย แต่หากเป็นการระบาดของสายพันธุ์แอล มันแรงมากอย่างที่จีนบอกแต่ตรงนี้ต้องรอการพิสูจน์อีกครั้ง คาดรู้ผลอีก 1 อาทิตย์ และหวังว่าในไทยจะเป็นพันธุ์เอส ผมขอให้คนไทยโชคดี”.



https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/1787943

 

หมอจีนโชว์ผลงานวัคซีนต้าน COVID-19 ด้วยการฉีดเข้าตัวเอง แต่ยังไม่เคยทดสอบกับใครมาก่อน By เหมียวเลเซอร์ -5 March 2020
นับว่าเป็นอีกหนึ่งครั้งที่ประเทศจีนได้สร้างความตกตะลึงให้กับคนทั้งประเทศและทั้งโลกอีกครั้ง หลังจากที่มีการประกาศว่าผลิตวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาได้สำเร็จแล้ว ตามกระบวนการของวัคซีนจะต้องทดลองในสัตว์เสียก่อน จากนั้นจะเริ่มทดลองใช้ในมนุษย์ จนรับรองผลว่าปลอดภัยใช้ต้านไวรัสได้จึงจะนำมาใช้งานจริง



แต่ทว่าในขณะที่หมอและนักวิทย์ทั่วโลกกำลังยุ่งกับการรักษาผู้ป่วยจากไวรัส COVID-19 กันอยู่นั้น คุณหมอเฉิน เหวย วัย 54 ปีจากประเทศจีนท่านนี้ ลัดขั้นตอนการผลิตและรับรองผลวัคซีนตัวใหม่ล่าสุดด้วยการฉีดเข้าตัวเองเลย

ท่ามกลางงานแถลงข่าวคุณหมอในชุดป้องกันเชื้อเต็มรูปแบบ ได้โชว์ฉีดวัคซีนตัวใหม่เข้าร่างกายของเธอเอง…

นั่นเป็นเพราะว่าคุณหมอด้านระบาดวิทยาและพลตรีในกองทัพปลดปล่อยประชาชนท่านนี้ ต้องการแสดงให้เห็นว่าประเทศจีนมีความก้าวหน้าด้านวัคซีนต้านไวรัสมากกว่าที่ใดบนโลก



นอกจากคุณหมอจะฉีดวัคซีนใหม่ที่ยังไม่ได้ทดสอบมาก่อนเข้าตัวเองไปแล้ว ก็ยังเชิญสมาชิกในทีมอีก 6 คนมาร่วมฉีดวัคซีนตัวใหม่ด้วย

สำหรับภาพแถลงข่าวชุดนี้ถูกเผยแพร่ผ่านบัญชีเวย์ป๋อของกองทัพ แต่ทว่ากลับถูกลบออกไปในภายหลัง

นอกจากนั้นคุณหมอเฉินได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อโทรทัศน์ของจีนว่า พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อผสมผสานวัคซีนตัวใหม่ขึ้นมา พัฒนานำไปใช้ทางด้านคลีนิก และพยายามผลักดันวัคซีนตัวใหม่เข้าสู่กระบวนการทดสอบกับคนให้เร็วที่สุด (ด้วยการฉีดเข้าตัวเอง)



สำหรับคุณหมอเฉินเคยมีประวัติช่วยพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสอีโบลาในปี 2014 เป็นรายแรก และเคยช่วยผลิตวัคซีนต้านไวรัส SARS ในช่วงปี 2000 ด้วยเช่นกัน ซึ่งทั้งคุณหมอเฉินและทีมทำงานอยู่ที่สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นมานานแล้ว

อย่างไรก็ดี แลปของคุณหมอก็เป็นหนึ่งในแลปที่กำลังช่วยกันพัฒนาวัคซีนตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพในการต้านไวรัส COVID-19 ซึ่งในประเทศอื่นๆ ก็เริ่มมีวัคซีนออกมาแล้วเช่นกัน แต่กำลังอยู่ในช่วงทดลองกับสัตว์อยู่

ที่มา: ladbible, vice


https://www.catdumb.tv/chen-wei-vaccine-injected-290/

 

เราแพ้แล้ว! นักวิทย์ผู้ดีชี้การต่อสู้เพื่อสกัดกั้นการระบาดโควิด-19 สิ้นสุดแล้ว
รอบโลก


5 มี.ค. 2563-17:18 น.

เราแพ้แล้ว! - วันที่ 5 มี.ค. เดลีเมล์รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์จากประเทศอังกฤษยอมรับว่าความพยายามต่อสู้เพื่อสกัดกั้นการระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (SARS-CoV-2) ซึ่งก่อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ของประชาคมโลกนั้นสิ้นสุดแล้วด้วยความล้มเหลว

ศาสตราจารย์นีล เฟอร์กูสัน จากมหาวิทยาลัยกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ กล่าวว่า ประชาคมโลกพยายามอย่างหนักเพื่อสกัดกั้นการระบาดของเชื้อชนิดนี้ แต่ประสบกับความล้มเหลว สะท้อนจากสถิติตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลุกลามไปแทบทุกประเทศทั่วโลกแล้ว

มีรายงานพบผู้ติดเชื้อก่อโรคโควิด-19แล้วอย่างน้อยจาก 80 ชาติทั่วโลก โดยล่าสุด เป็นประเทศโปแลนด์ และหมู่เกาะแฟโร ของประเทศเดนมาร์ก เหลือเพียงชาติยุโรปไม่กี่ประเทศเท่านั้น



ศ.เฟอร์กูสัน กล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างเปลี่ยนจากแผนสกัดกั้นการระบาดไปเป็นการชะลอการระบาดแทน เพื่อลดภาระหน่วยงานด้านการแพทย์ให้สามารถรับมือกับจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดทอนผลกระทบต่อสังคมแทน

สำหรับประเทศอังกฤษนั้นซึ่งกำลังเผชิญกับการระบาดเช่นกัน เหลือเวลาอีกไม่กี่สัปดาห์ที่หน่วยงานของรัฐจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่จำเป็นก่อนที่การระบาดจะสู่ระดับควบคุมไม่ได้ เช่น การปิดสถานศึกษา และการขอความร่วมมือไม่ให้ประชาชนจูบกันในอิตาลี



ศ.เฟอร์กูสัน ระบุว่า เริ่มมีหลักฐานบ่งชี้ว่ากำลังมีการระบาดในอังกฤษ แต่ยังไม่ถึงขั้นร้ายแรงแบบอิตาลี โดยรัฐบาลควรเริ่มจากการดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันกลุ่มเสี่ยงก่อน เช่น เด็ก และผู้สูงอายุ รวมทั้งผู้มีโรคประจำตัว เพราะมีโอกาสเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากที่สุด

คำเตือนของ ศ.เฟอร์กูสัน เกิดขั้นหลังสหราชอาณาจักรพบผู้ป่วยติดเชื้อก่อโรคโควิด-19 แล้วอย่างน้อย 85 คน โดยเจ้าหน้าที่ไม่ยอมเปิดเผยว่าแต่ละคนนั้นอยู่ที่ใดบ้าง ทราบเพียงว่า 80 คนอยู่ในอังกฤษ อีก 3 คนอยู่ในสก็อตแลนด์ และอีกคนในแคว้นเวลส์ และไอร์แลนด์เหนือ


เช่นเดียวกันกับ ศาสตราจารย์คริส วิตตี ที่ปรึกษาสูงสุดกิจการสาธารณสุขอังกฤษ เตือนว่า ชาวอังกฤษกว่า 66 ล้านคน อาจต้องเผชิญกับการหยุดชะงักชีวิตประจำวันเป็นเวลาอย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้รัฐบาลจัดการควบคุมการแพร่ระบาดที่จะเกิดขึ้น

แผนการควบคุมกาแพร่ระบาดของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรี บ่งชี้ว่า อาจมีการปิดสถานศึกษา บังคับทำงานจากที่บ้าน งดเดินทางไปร้านอาหารนอกบ้าน และสถานบันเทิง

ขณะที่สำนักงานภัยพิบัติอังกฤษ ประเมินว่า หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ อาจมีผู้เสียชีวิตทั่วโลกกว่า 5 แสนราย แต่ตัวเลขใหม่จากจีนที่พบแนวโน้มลดลงของการแพร่ระบาด และตัวเลขผู้เสียชีวิตที่อยู่ที่ราว 3,000 ราย บ่งชี้ว่า การประเมินของอังกฤษอาจมากเกินความเป็นจริง

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3697653

 

ไวรัสโควิด-19 กลายพันธุ์ในปอด
.
1.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน เปิดเผยล่าสุดถึงการวินิจฉัยการติดเชื้อของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ จากการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต
.
2.การวินิจฉัยกระทำโดยการสังเกตการณ์ทางพยาธิวิทยา โดยใช้วิธีเจาะตัดชิ้นเนื้อจากอวัยวะภายใน
.
3.ผลการชันสูตรพบว่า...ไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อ 3 อวัยวะสำคัญ
.
4.หนึ่ง...ไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ในปอดหลายระดับ เรียกว่า Pulmonary Mutation
.
5.สอง...ม้ามเกิดการหดตัว และสาม...เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมสภาพและตายในที่สุด เรียกว่า ภาวะ Necrosis
.
6.ผลการวินิจฉัยและชันสูตรถูกรวบรวมและอัพเดทเป็นฉบับที่ 7 แล้ว ข้อมูลที่ได้ มีความสำคัญมากในการรักษาชีวิตผู้ป่วยติดเชื้อ
.
■ สถานการณ์การแพร่ระบาดในจีนและทั่วโลก
.
1.คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ‘โควิด-19’ ระหว่างเดือน ธ.ค. จนถึงวันที่ 4 มี.ค.ว่า...ในจีนแผ่นดินใหญ่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3,012 คน ผู้ป่วย 80,409 คน ในจำนวนนี้ได้รับการรักษาจนหายดี 52,045 คน
.
2.สถานการณ์น่าเป็นห่วงคือ เกาหลีใต้ ประเทศที่มีผู้ป่วยมากเป็นอันดับ 2 จำนวนผู้ป่วยทะลุ 6,000 คน เสียชีวิตแล้ว 40 คน
.
3.นายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือส่งกำลังใจให้ชาวเกาหลีใต้ ฝ่าฟันวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
.
4.สวิตเซอร์แลนด์ มีผู้เสียชีวิตเป็นรายแรกจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นหญิงวัย 74 ปี อาศัยอยู่ในเมืองทางตะวันตกของประเทศ ซึ่งเธอเข้ารับการรักษาตัวได้ไม่นาน
.
5.รัฐแคลิฟอร์เนีย รัฐที่มีประชากรมากที่สุดในสหรัฐฯ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแล้ว หลังมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโควิด-19 คนแรก
.

 

‘หน้ากากอนามัย’ 5 แสนชิ้น กักตุนในโกดัง
.
1.ไวรัสโควิด-19 คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปแล้วกว่า 3,100 คน ติดเชื้ออีกกว่า 90,000 ราย
.
2.แต่...ในอินโดนีเซียเพิ่งพบผู้ติดเชื้อเป็นรายแรก
.
3.หลังข่าวแพร่ขยายออกไป ชาวอินโดนีเซียแตกตื่นหาซื้อหน้ากากอนามัย และเยลทำความสะอาดมือ ไว้ใช้ป้องกันการติดเชื้อ
.
4.เหตุการณ์นี้ทำให้ประธานาธิบดีโจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ออกมาขอร้องประชาชนว่า อย่าเพิ่งแตกตื่น
.
5.สิ่งที่น่าแปลก (ตามที่สำนักข่าวหลายแห่งรายงาน) คือ หน้ากากอนามัยและเยลทำความสะอาดมือ หมดไปจากท้องตลาดอย่างรวดเร็ว
.
6.สาเหตุสำคัญน่าจะเกิดจากการกักตุน และก็เป็นจริงตามที่คาด เพราะสำนักงานตำรวจอินโดนีเซียแถลงว่า พบหน้ากากอนามัยกว่า 5 แสนชิ้น ในโกดังเก็บสินค้าแห่งหนึ่งในเมืองตันเจรัง ปริมณฑลของกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย
.
7.เจ้าของโกดังและเจ้าของสินค้าไม่ได้มีอาชีพในการจำหน่ายจ่ายแจก
.
8.หลังตรวจพบ มีการส่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ บุกยึดของกลาง และจับกุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 รายเพื่อสอบปากคำ
.
9.สถานการณ์ในอินโดนีเซีย โดยเฉพาะในเมืองหลวง กรุงจาการ์ตา หลังมีรายงานข่าวพบผู้ติดเชื้อรายแรก ราคาหน้ากากอนามัยถีบตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและขาดแคลน
.
10.เจ้าหน้าที่ตรวจพบมีการกักตุนสินค้าไว้เพื่อจำหน่ายในราคาที่สูงกว่าปกติ
.
11.กฎหมายอินโดนีเซียระบุว่า ผู้ใดกักตุนสินค้า มีความผิด ต้องโทษจำคุกสูงสุด 5 ปีและปรับเป็นเงินอีกด้วย
.
ขอบคุณภาพจาก...https://www.channelnewsasia.com/new...d-19-patient-two-weeks-before-tested-12491484
.

 

https://www.xinhuathai.com/high/ผลชันสูตรศพเหยื่อโควิด-1_20200305

 

ชาวบ้านหูเป่ย์ติดเชื้อไวรัส ปกปิดอาการป่วยไม่กักตัวเอง ชวนกันมาเล่นไพ่ติดเชื้อกระจาย
By เหมียวเลเซอร์ -5 March 2020
สามัญสำนึกต่อส่วนรวมในช่วงนี้กำลังถูกรณรงค์อย่างหนัก แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ในประเทศจีนกำลังลดลง แต่ก็ยังมีประชาชนบางส่วนที่ไม่ยอมปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคเช่นเคย

เว็บไซต์ Shanghaiist รายงานว่าชายรายหนึ่งเป็นชาวบ้านจากหมู่บ้านเหลาหวู่ ตั้งอยู่ในเขตนอกเมืองหวงฉี มณฑลหูเป่ย์ ได้รับการตรวจวินิจฉัยพบว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาพประกอบเนื้อหา: เมืองหวงฉีระหว่างการเฝ้าระวังไวรัส

ทางการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของชายรายนี้ พบว่าเขามักจะเดินทางออกจากหมู่บ้านตนเองช่วงแพร่ระบาดบ่อยๆ และพยายามปกปิดการไอจาม อาการไข้ขึ้น และอาการอื่นๆ

และที่ยิ่งแย่ไปกว่านั้นก็คือ เขาชักชวนเพื่อนบ้านในหมู่บ้านตัวเองมาร่วมกันตั้งโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอก และเกมไพ่ชนิดอื่นๆ ร่วมด้วย จนนำไปสู่การแพร่เชื้อไวรัสใส่คนในครอบครัวและเพื่อนๆ ที่เชิญมาเล่นไพ่ด้วยกันพบว่าติดเชื้อกันหมด





สำหรับช่วงไวรัส COVID-19 ระบาดนั้น ทางการจีนได้ออกประกาศว่าการรวมตัวเล่นไพ่นกกระจอกนั้นถือว่ามีความผิดทางอาญา และมีผลบังคับใช้ในทุกพื้นที่ของประเทศจีน

โดยก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจีนออกตรวจลาดตระเวน เมื่อพบการตั้งโต๊ะเล่นไพ่นกกระจอกจึงมีสิทธิ์ทุบและทำลายโต๊ะเล่นไพ่ทิ้งโดยไม่ต้องได้รับการอนุมัติใดๆ เพิ่มเติม หรือออกคำสั่งทำโทษหากผู้ใดฝ่าฝืน

ชาวบ้านบางรายถูกสั่งทำโทษแบกโต๊ะเล่นไพ่

ที่มา: shanghai.ist

https://www.catdumb.tv/hubei-man-hide-symptom-mahjong-290/

 

เคสหญิงสาวเสียชีวิตที่ปทุมธานี #ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด19 #เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

#ผลชันสูตร
จากกรณีสาวกลับจากญี่ปุ่นเสียชีวิตปริศนาภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการนำร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวไปตรวจสอบ #ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด19 แต่ประการใด

แต่พบว่าการเสียชีวิตของหญิงรายดังกล่าว #เกิดจากอาการหัวใจวาย ซึ่งตรงกับที่ญาติของหญิงรายนี้ให้ข้อมูลว่าเธอมีโรคประจำตัวอยู่โดยร่างของเะอจะถูกส่งไปยังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไปนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลือต่างๆที่ถูกแพร่ออกมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

cr : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี

 

เสียชีวิตจากหัวใจวายแต่ผลการชันสูตรของจีนพบว่าไวรัสทำให้เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจเสื่อมสภาพและตายได้ ตอนชันสูตรป้องกันตัวเองดีขนาดไหนน่ะ



เคสหญิงสาวเสียชีวิตที่ปทุมธานี #ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด19 #เสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย

#ผลชันสูตร
จากกรณีสาวกลับจากญี่ปุ่นเสียชีวิตปริศนาภายในโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านรังสิต ล่าสุดหลังจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการนำร่างของหญิงสาวคนดังกล่าวไปตรวจสอบ #ไม่พบเชื้อไวรัสโควิด19 แต่ประการใด

แต่พบว่าการเสียชีวิตของหญิงรายดังกล่าว #เกิดจากอาการหัวใจวาย ซึ่งตรงกับที่ญาติของหญิงรายนี้ให้ข้อมูลว่าเธอมีโรคประจำตัวอยู่โดยร่างของเะอจะถูกส่งไปยังจังหวัดเชียงใหม่เพื่อทำพิธีทางศาสนาต่อไปนอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลือต่างๆที่ถูกแพร่ออกมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

cr : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี

 

ญี่ปุ่นยกเลิกฟรีวีซ่าและจะระงับการออกวีซ่าให้ชาวฮ่องกง

ญี่ปุ่นได้กำหนดให้มีการกักกันตัวผู้ที่เดินทางมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ทุกคน 14 วัน และจะหยุดการออกวีซ่าใหม่ให้กับชาวฮ่องกง เนื่องจากต้องการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า โควิด-19

บริษัทท่องเที่ยวในฮ่องกงเตรียมยกเลิกทัวร์อย่างน้อย 85 รายการที่จะไปญี่ปุ่น ซึ่งส่งผลกระทบกับนักท่องเที่ยวราว 1,600 ราย

ตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดในญี่ปุ่นมีราว 1,000 ราย และเสียชีวิต 12 ราย โดยในจำนวนนี้รวมถึงผู้ที่ติดเชื้อจากเรือสำราญ 700 รายด้วย

โดยนโนบายกักกันเชื้อของญี่ปุ่นนี้ ยังมีผลกับผู้ที่เดินทางมาจากเกาหลีใต้ด้วย

ตัวแทนจากสถานกงสุลญี่ปุ่นในฮ่องกงเปิดเผยว่าหลังจากการระงับมีผลบังคับใช้ ญี่ปุ่นจะไม่ออกวีซ่าใหม่ให้กับชาวฮ่องกง ชาวฮ่องกงจะไม่มีหนทางที่จะได้เข้าญี่ปุ่น

ก่อนหน้านี้ ผู้ที่มีหนังสือเดินทางฮ่องกงและมาเก๊าสามารถอยู่ในญี่ปุ่นได้สูงสุด 90 วันโดยไม่ต้องมีวีซ่า แต่ชาวจีนแผ่นดินใหญ่จะต้องขอวีซ่าก่อนออกเดินทาง

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...onavirus-japan-quarantine-visitors-china-and?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

Live สด บรรยากาศไฟล์ทแรกที่อพยพชาวฮ่องกงออกจากอู่ฮั่น

 

ชาวฮ่องกงลดราคาขายบ้านกระหน่ำ! ไวรัสโคโรน่ากระทบเศรษฐกิจเมือง

เจ้าของบ้านที่ Valais ย่าน Sheung Shui ได้ขายบ้านในฮ่องกงขนาด 1,588 ตร.ฟุต ในราคา 21.3 ล้านเหรียญฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาโดยขาดทุนไป 10 ล้านเหรียญฮ่องกง

นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ได้เปิดเผยว่าไม่สามารถให้รายละเอียดชื่อผู้ซื้อขายได้ แต่จากการซื้อขายครั้งนี้ ทำให้ขาดทุนไปทั้งสิ้น 11.6 ล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อรวมภาษีและค่าใช้จ่ายต่างๆ

ยังมีการซื้อขายบ้านอีกรายการ โดยบ้านขนาด 3,034 ตร.ฟุต พร้อมสวนขนาด 922 ตร.ฟุต ที่ Regalia Bay ในย่าน Stanley ได้ขายไปเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ไปในราคา 67 ล้านเหรียญฮ่องกง ซึ่งขาดทุนไปราว 5 ล้านเหรียญฮ่องกง

Martin Wong ผู้จัดการฝ่ายขายที่ Midland Realty เผยว่า “เจ้าของบ้านบางคนรู้สึกว่าสถานการณ์ช่วงนี้ไม่ค่อยดี ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการขายอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัสในปัจจุบัน”

Source : https://www.scmp.com/business/artic...heir-homes-huge-losses-flee-city-coronavirus?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

WHO ยกย่องฮ่องกง สิงคโปร์ ปราบปรามไวรัสโคโรน่า “อย่างมีประสิทธิภาพสูง”

Dr Michael Ryan ผู้อำนวยการบริหาร WHO (World Health Organisation) กล่าวว่ามาตรการวัดขึ้นอยู่กับสถานการณ์ในท้องถิ่นนั้นๆ โดยการปราบปรามการแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือ โควิด-19 ของฮ่องกงและสิงค์โปร์ถือได้ว่ามีประสิทธิภาพมาก

ในการประชุมวิชาการที่เจนีวา Dr Michael Ryan ได้กล่าวว่า “มาตรการในการวัดระดับนั้นไม่เกี่ยวข้องกับการปิดเมืองหรือการห้ามการเดินทาง โดยการปราบปรามและมีการพบการติดเชื้อลดลงในช่วงหกสัปดาห์ที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ ไม่มีการบันทึกผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มในฮ่องกงในวันอังคารวานนี้

ฮ่องกงไม่ได้มีการแบนนักเดินทางส่วนใหญ่ของโลก และได้มีมาตรการกักกันเชื้อให้กับผู้ที่มาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาด เช่น จากจีนแผ่นดินใหญ่ อิหร่าน และบางพื้นที่ของเกาหลีใต้และอิตาลี

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...ronavirus-top-who-official-praises-hong-kong?

#ข่าวฮ่องกง #khaohonkong

 

ภาพ เมื่อ 20.00 น.ที่ผ่านมาไฟกำลังลุกไหม้ป่า "บริเวณเทือกเขา"ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติอินทนนท์ รอยต่อ ยอดดอยหัวเสือ ตอนนี้ไฟยังแดงลุกลามเรื่อยๆ สามารถมองเห็นจากพื้นราบจอมทองได้อย่างชัดเจน #ไฟไหม้ป่า

เครดิตภาพ : คุณ Prasong Posri, อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่