ติดตามสถานะการณ์

#สรุป ข่าว โตเกียวโอลิมปิก-พาราลิมปิก 2020 (27 กุมภา - 4 มีนา )

✒️หลายคนอาจจะสงสัยทำไมแอดไม่ค่อยอัพเรื่องนี้ คือข่าวมันเปลี่ยนทุกวันเลยค่ะ (￣▽￣ ตกลงจะเอายังไง.... คนนู้นพูดที คนนี้พูดที กลับไปกลับมา

✒️สรุปคือ ทุกฝ่ายอยากจัด
ประธาน IOC ก็ยังยืนยันจะจัดต่อ รอไปตัดสินมิถุนานู่นเลย / นายกอาเบะก็จะจัด / รมต. โอลิมปิกก็จะจัด / ปธ. โอลิมปิกญี่ปุ่นก็จะจัด ยังไงก็จะจัดค่ะ ถ้าไม่ใช่ถึงขั้นติดเชื้อกันหนัก ยังไงก็คงไม่หยุดง่าย ๆ ค่ะ

✒️ส่วนความงงของข่าวเป็นยังไง ดูข่าวตลอด 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา จาก Timeline ของ Yahoo! Japan นะคะ

แค่อัพภาพคบเพลิงยังกลับไปกลับมา....เลย...

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #โอลิมปิก #พาราลิมปิก

Source: Yahoo! Japan News

 

#ข่าวสั้น (4 มีนา) พบชาว จ. มิเอะ ชาย วัย 40s ติดเชื้อ หลังติดด่านกักกันโรคที่สนามบินจูบุ

สอบประวัติ เดินทางไปประเทศ เวียดนาม กัมพูชา และฟิลิปปินส์มาเมื่อเดือนที่แล้ว

16 ก. พ. เป็นต้นมา
✈️เวียดนาม กัมพูชา ฟิลิปปินส์
กลับมา กัมพูชาอีก

✈️ขากลับนั่งเครื่องบินผ่านเวียดนามมา

เจ้าตัวแจ้งที่ด่านกักกันโรคว่า หายใจลำบาก

จากประวัติการเดินทาง คาดว่าน่าจะติดมาจากต่างประเทศ

——-

✒️กัมพูชา....เวียดนาม....ฟิลิปปินส์... หวั่นใจแทนทุกประเทศเลยนะคะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200304/k10012313921000.html

 

#ข่าวด่วน ผู้ติดเชื้อในประเทศวันนี้เยอะมากที่สุดตั้งแต่รายงานมาเลยค่ะ อ่านจากกระทู้ที่ Pinned ไว้เลยนะคะ


(4 มีนา) พบผู้ป่วยรายแรกในจ. มิยาซากิ

‍ชายวัย 70s อาศัยที่เมืองมิยาซากิ

宮崎県で初の感染者を確認 70代男性１人 新型コロナウイルス https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200304/k10012313961000.html

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

#update รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในญี่ปุ่น ประจำวันที่ 4 มีนาคม 2020

✒️สรุปรายวัน อัพเดท ผู้ติดเชื้อแยกรายจังหวัด ลำดับก่อนหลังขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ประกาศประจำวัน

✒️รายละเอียดอ่านใต้แคปเจอร์ผู้แถลงข่าว (ส่วนใหญ่เป็น ผู้ว่าฯ นายกเทศมนตรี)

✒️อยากรู้อะไรเป็นพิเศษถามได้นะคะ

Index อัพเดท รายจังหวัด (เวลา; จำนวน; รายที่....จังหวัด) 

◆จ. ยามากุจิ (9:56) 1 ราย (รายแรกของจังหวัด)
◆จ. เอะฮิเมะ (15:00) 1 ราย (รายที่ 2)
◆จ. ฮอกไกโด (15:15) 3 ราย (รายที่ 80-82)
◆จ. เกียวโต (16:30) 2 ราย (รายที่ 3-4)*
- ไม่มีรูป
- ไปไลฟ์มาทั้งคู่ / คนนึงทำงานที่ McDonald
◆จ. ชิบะ (17:31) 1 ราย (รายที่ 15 ของจังหวัด รายที่ 5 ของสปอร์ตคลับที่ Ichikawa)
◆จ. โคจิ (18:08) 4 ราย (รายที่ 4-7)
◆จ. ไอจิ เมืองนาโกย่า
(20:42) 6 ราย (รายที่ 42-47)
(22:49) 2 ราย (รายที่ 48-49)
◆จ. โตเกียว (20:56) 4 ราย (รายที่ 41-44)
◆จ. มิยาซากิ (21:23) 1 ราย (รายแรก)
◆จ. โอซาก้า (21:30) 9 ราย (รายที่ 9-17)
◆จ. คุมาโมโต้ (22:56) 1 ราย (รายที่ 6)

▪️ กักกันที่สนามบิน 1 ราย (รายที่ 10)

✼••┈┈┈┈••✼••┈┈┈┈••✼

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

#คลายเครียดวันนี้ #เรื่องดังบนทวีตญี่ปุ่น (5 มีนา) เมื่อกระดาษชำระในห้องน้ำ Toilet paper 　กลับมาลงแผงอีกครั้ง หลังเจอข่าวลือผลิตจากจีน แม้รัฐบาลเอย ทีวีเอยจะบอกว่า 98% ผลิตในประเทศญี่ปุ่นไม่หมดหรอก โรงงานผู้ผลิตจะถ่ายรูปมากลบอย่างไร ก็ไม่นำพา ของก็ขายหมดตลอด

ล่าสุดอีออน ของมาถึงแล้ว เรียงจัดเต็มพร้อมเขียนป้าย

“จำกัด 1 คนได้แค่ 10 แพค”

(ปรกติ 1 ครอบครัวใช้ 1 แพค 1 เดือนกว่าจะหมด )

AEON คงบอก ขนเลยค่ะคุณลูกค้าขนโลด สั่งมาเยอะมาก ^^;

ส่วน 1 ในคนปล่อยข่าวลือ โดนที่ทำงานลงโทษไปเรียบร้อยแล้ว

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

ภาพ : Twitter

 

คำค้นหา "ชาวมณฑลเจ้อเจียงที่ทำงานในอิตาลีอพยพกลับมาจีนหลายคน" กลายเป็นคำค้นหายอดฮิตในโซเชียลจีน หลังมีคนจีนจำนวน8คนที่กลับจากอิตาลี ป่วยCOVID-19 และยังมีคนจีนทยอยกลับจากอิตาลี หนีการระบาดCOVID-19 อย่างต่อเนื่อง

และยังมีอีกจำนวนอย่างน้อย 30รายที่เป็นคนจีนมาจากอิตาลีที่เดินทางกลับมาเจ้อเจียงเมื่อคืนวันที่3มี.ค. โดยมีสาวจีน1คน มีอาการไอมา3วันแล้ว จึงโดนนำตัวส่งรพ.เพื่อตรวจCOVID-19 และคนอื่นๆประมาณ40คนก็โดนกักตัวเพื่อเฝ้าระวังเช่นกัน (กักตัวยังโรงแรมที่พักที่จัดได้เตรียมไว้สำหรับเฝ้าระวัง)

.

ตามข้อมูลในจีน พบว่า ส่วนใหญ่แล้วคนจีนที่ไปทำงานในอิตาลีจะเป็นคนจีนจากอำเภอชิงเทียน เมืองหลีสุ่ย มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งผู้ป่วยCOVID-19จำนวน8ราย ที่กลับมาจากอิตาลี ก็เป็นชาวอำเภอชิงเทียน

ทางรัฐบาลท้องถิ่นอำเภอชิงเทียนจึงได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคนจีนในต่างแดนว่า "ขอให้คนที่อยู่ต่างประเทศ ให้อยู่ที่นั่นต่อไป เพราะการกลับมาบ้าน (ที่จีน) ไม่เพียงแต่เสี่ยงที่จะติดเชื้อระหว่างการเดินทาง แต่ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับบ้านเกิดของพวกเขาเองในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด อีกทั้งยังสร้างอันตราย เพิ่มความเสี่ยงให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงครอบครัวของพวกเขาเองอีกด้วย"

จากข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่นอำเภอชิงเทียน พบว่า "มีชาวอำเภอชิงเทียนไปใช้แรงงาน-ทำงานในยุโรป 330,000คน เฉพาะที่อิตาลีมีอยู่ราว 100,000คน และตอนนี้อพยพหนีจากอิตาลีกลับมายังบ้านเกิดที่จีนจำนวนกว่า 100คนแล้ว ตั้งแต่ยุโรปเริ่มมีการระบาด"

ทั้งนี้ทางการจีนได้ออกมาตรการ กักตัว14วัน สำหรับคนที่เดินทางเข้าปักกิ่งที่มาจาก อิตาลี,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้ และอิหร่าน โดยหากมีอาการเข้าข่ายติดเชื้อจะเฝ้าระวังที่โรงพยาบาล หากยังไม่มีอาการ จะให้กักตนเองและเฝ้าระวังที่บ้าน แต่ถ้าเป็นคนมาจากต่างถิ่น จะพาไปกักตัวยังโรงแรมที่จัดไว้สำหรับกักตัวโดยเฉพาะ

อ้ายจงอ้างอิงจาก

- https://m.weibo.cn/2803301701/4478394396271324

- https://www.scmp.com/news/china/soc...inese-living-overseas-urged-stay-put-imported

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

จีนเริ่มตรวจพบผู้ป่วยCOVID-19ที่เป็น "คนจีนหนีจากอิตาลีในช่วงที่ธุรกิจที่นั่นถูกผลกระทบจากCOVID-19" ล่าสุดพบ 8ราย ในจำนวนนี้ มี7รายที่กลับมาพร้อมกัน และมีรายงานว่าคนจีนอย่างน้อย100คน หนีจากอิตาลีกลับเข้ามาในจีน จากทั้งหมดราว 100,000 ที่ใช้แรงงาน-ทำงานในอิตาลี

.

สถานการณ์ในจีนตอนนี้ การควบคุมแพร่ระบาดภายในประเทศมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในทุกวัน แต่ที่น่ากังวลสำหรับจีนในตอนนี้คือ การติดเชื้อที่มาจากนอกจีน กล่าวคือคนที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงนอกจีน เช่น ญี่ปุ่น ,เกาหลีใต้, อิตาลี,อิหร่าน แล้วมีรายงานว่าติดเชื้อเมื่อมาถึงจีนแล้ว

ล่าสุด มีคนจีนที่ไปทำงานในประเทศอิตาลี เริ่มหนีกลับมาที่จีน เพราะอิตาลีตอนนี้เกิดการแพร่ระบาดCOVID-19อย่างหนัก โดยพื้นที่ที่คนจีนกลับเข้ามามากที่สุด คือ อำเภอชิงเทียน เมืองหลีสุ่ย มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งคนจีนจะรู้กันว่า อำเภอนี้มีคนจีนไปทำงานและไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศติดอันดับต้นๆของประเทศทีเดียว

สื่อจีน รายงานว่า ทางอำเภอชิงเทียนได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในพื้นที่ซึ่งเป็น สาวชาวจีนแซ่ "หวัง" ที่เดินทางมาจากอิตาลีรายแรกเมื่อวันที่ 2มี.ค. ซึ่งวันนี้ 3มี.ค. มีรายงานเพิ่มเติมว่า "สามี,น้องชายและเพื่อนร่วมงานของคนนี้ ทั้งหมด 6ราย" ติดเชื้อทั้งหมด

โดยทั้ง7รายข้างต้น บินจากมิลาน เปลี่ยนเครื่องที่กรุงมอสโคว ประเทศรัสเซีย เพื่อบินจากรัสเซียมาที่มหานครเซี่ยงไฮ้ โดยถึงสนามบินผู่ตงเซี่ยงไฮ้ในตอนดึกของ 27ก.พ.

และวันที่ 28 ก.พ. ทั้งหมดได้เหมารถจากเซี่ยงไฮ้ไปที่อำเภอชิงเทียน เมืองหลีสุ่ย มณฑลเจ้อเจียง

นอกจากนี้ ยังมีเพื่อนร่วมงานของคุณหวังที่ทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟร้านอาหารในเมืองBergamo แคว้นLombardy พื้นที่ระบาดหนัก ที่เดินทางมาอีกไฟล์ทบินหนึ่ง แต่พอมาถึงที่จีน ก็ได้รับการวินิจฉัยว่าป่วย COVID-19 เช่นกัน

โดยสาเหตุที่ทั้ง8รายนี้บินกลับมาจีน คือ ไม่มีงานทำ เนื่องจากธุรกิจที่นั่นมีปัญหาจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทางสาธารณสุขมหานครเซี่ยงไฮ้เผยว่า ขณะนี้ได้กักตัว79คนที่ติดต่อพบปะและใกล้ชิดกับผู้ป่วยทั้ง8รายนี้แล้ว

ด้านรัฐบาลท้องถิ่นอำเภอชิงเทียนได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงคนจีนในต่างแดนว่า "ขอให้คนที่อยู่ต่างประเทศ ให้อยู่ที่นั่นต่อไป เพราะการกลับมาบ้าน (ที่จีน) ไม่เพียงแต่เสี่ยงที่จะติดเชื้อระหว่างการเดินทาง แต่ยังสร้างแรงกดดันมหาศาลให้กับบ้านเกิดของพวกเขาเองในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด อีกทั้งยังสร้างอันตราย เพิ่มความเสี่ยงให้กับคนในพื้นที่ รวมถึงครอบครัวของพวกเขาเองอีกด้วย"

จากข้อมูลของรัฐบาลท้องถิ่นอำเภอชิงเทียน พบว่า "มีชาวอำเภอชิงเทียนไปใช้แรงงาน-ทำงานในยุโรป 330,000คน เฉพาะที่อิตาลีมีอยู่ราว 100,000คน และตอนนี้อพยพหนีจากอิตาลีกลับมายังบ้านเกิดที่จีนจำนวนกว่า 100คนแล้ว ตั้งแต่ยุโรปเริ่มมีการระบาด"

ทั้งนี้ทางการจีนได้ออกมาตรการ กักตัว14วัน สำหรับคนที่เดินทางเข้าปักกิ่งที่มาจาก อิตาลี,ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้ และอิหร่าน

อ้ายจงอ้างอิงจาก

- https://m.weibo.cn/2803301701/4478394396271324

- https://www.scmp.com/news/china/soc...inese-living-overseas-urged-stay-put-imported

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ - คุณยายวัย98ยิ้มได้ หายจากCOVID-19 พร้อมลูกและหลานสาว

.

วันนี้ 3มี.ค. คุณยายชาวจีนวัย98ปี พร้อมลูกสาววัย79ปี และหลานสาววัย47ปี ที่ป่วยCOVID-19 เหมือนกันหมด หายดีและออกจากรพ.ในเมืองอู่ฮั่น ท่ามกลางความยินดีของทีมแพทย์และชาวโซเชียลจีนที่รับรู้เรื่องนี้ โดยทั้ง3คน แม้จะหายดีและออกจากรพ.ได้แล้ว แต่ตามรายละเอียดข่าวของ 人民网 (People's Daily) ระบุว่า ยังต้องไปที่พักที่จัดเตรียมเอาไว้ให้สำหรับฟักพื้นและกักตัวดูอาการ14วัน เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ติดเชื้อแล้วจริงๆ

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

บริษัทอาหารและเครื่องดื่มแห่งหนึ่งในอู่ฮั่นถูกปรับ3ล้านหยวน (ประมาณ 13.5ล้านบาท) เนื่องจากฉวยโอกาสขึ้นราคาผักและผลไม้ ในช่วงการแพร่ระบาดCOVID-19 ตามการรายงานของ People's Daily

ตัวอย่างราคาที่ขายเกินจริงบนแพลทฟอร์มE-commerceของบริษัท เช่น

- ข้าวโพดสด 10หยวน/1 ฝัก (ประมาณ 45บาท)

- หัวไชเท้า 16หยวน/1กิโลกรัม (ประมาณ 72บาท)

- แครอท 25หยวน/1 กิโลกรัม (ประมาณ 112.5บาท)

- มะเขือเทศ 22หยวน/1 กิโลกรัม (ประมาณ 99บาท)

- ถั่วแขก 36หยวน/1 กิโลกรัม (162บาท)

โดยขายแพงกว่าที่ขายกันปกติ 2-6เท่า

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

หัวหน้าสำนักงานใหญ่เพื่อดำเนินการตามคำสั่งผู้นำสูงสุด กล่าวว่า.....
มีบางประเทศในยุโรป มีการบล็อกการถ่ายส่งโอนวัสดุอุปกรณ์สุขภัณฑ์และยาฆ่าเชื้อมาให้อิหร่าน ถึงแม้ว่าได้มีข้อตกลงลงนามกับพวกเขาไว้แล้วก็ตาม
แต่ถึงกระนั้นก็ตามยังมีมหามิตรของอิหร่านค่อยช่วยเหลือและส่งวัสดุอุปกรณ์สุขภัณฑ์และยาฆ่าเชื้อมาให้อิหร่าน เพราะในขณะนี้จำเป็นต้องใช้จำนวนมากอย่างเร่งด่วนผลิตเองไม่ทัน
สถานะการณ์เริ่มควบคุมได้แล้ว

BY>>>>>Giant Khan<<<<<

https://www.tasnimnews.com/en/news/...king-export-of-disinfectants-to-iran-official

 

จีนพบไวรัสโคโรน่า 2019 กลายพันธุ์ มาเลเซียป่วย 1 แพร่ให้ 14
4 มีนาคม 2563 - 20:20 น.


นักวิจัยจีนย้ำโควิด – 19 มีโอกาสกลายพันธุ์อีก ขณะที่มาเลเซียเจอผู้ป่วยรายใหม่รวดเดียว 14 ราย จากคนๆ เดียว คาดเชื้อเพิ่งแสดงหลังผู้ป่วยกลับจากเซี่ยงไฮ้นานเกินเดือน ส่วนอินเดียเริ่มมาตรการแบนผู้ที่เดินทางจากอิตาลี – อิหร่าน - เกาหลี

งานวิจัยล่าสุดจากนักวิทยาศาสตร์ - แพทย์ ชาวจีน ซึ่งตีพิมพ์ลงในวารสาร National Science Review เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2563 ค้นพบข้อมูลล่าสุดว่าเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ที่พบล่าสุด อาจมี 2 สายพันธุ์ ซึ่งเกิดจากการ “กลายพันธุ์” และพัฒนาตัวเองของเชื้อไวรัส โดยได้ทำการวิเคราะห์ข้อมูลทางพันธุกรรมของเชื้อไวรัส 103 ตัวอย่าง และพบการกลายพันธุ์มากกว่า 149 จุด

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ชาวจีน เรียกไวรัสโคโรน่าตัวที่กลายพันธุ์ว่าเป็น L Type ซึ่งสามารถติดต่อและแพร่กระจายได้มากกว่าเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ตัวแรก หรือ S Type

ขณะเดียวกัน ยังพบอีกว่า มีการกลายพันธุ์จาก S Type เป็น L Type ตั้งแต่ก่อนวันที่ 7 มกราคม ในอู่ฮั่น จุดศูนย์กลางของการระบาดไปทั่วโลก โดยเชื้อไวรัสโคโรน่าที่พบขณะนี้ เป็นตัว L Type มากกว่า 70% และเป็น S Type ราว 30%

การศึกษายังพบอีกด้วยว่า มาตรการ “คุมเข้ม” การระบาด ของทางการจีน เช่น การปิดเมือง อาจมีส่วนสำคัญทำให้เชื้อไวรัสกลายพันธุ์จาก S Type ไปเป็น L Type อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยแต่ละคนจะมีเชื้อไวรัสโคโรน่าชนิดเดียว คือไม่ใช่ S Type ก็เป็น L Type

ทั้งหมดนี้ นักวิจัยได้ระบุในรายงานด้วยว่า อาจเป็นไปได้ที่จะมีการ “กลายพันธุ์” ของเชื้อไวรัสอีก หลังมีการระบาดไปยังทวีปอื่นๆ

ขณะเดียวกัน ในมาเลเซีย เริ่มมีเคสที่เข้าข่าย ซูเปอร์สเปรดเดอร์ (Super - Spreader) โดยมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันเดียว 14 คน หลังจากตัวเลขผู้ป่วยในมาเลเซีย นิ่งอยู่ที่ 36 คนมานาน

14 เคสที่เพิ่มขึ้นใหม่ เกิดจาก ชายวัย 52 ปี คนหนึ่ง ซึ่งเดินทางไปประชุมที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน ช่วงกลางเดือนมกราคม ที่ผ่านมา และเริ่มมีไข้ รวมถึงมีอาการ “เจ็บคอ” เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ก่อนจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนวันเดียวกัน จนพบว่าผลแล็บเป็นบวกสำหรับ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โรคโควิด-19 (COVID-19)

สำหรับชายคนนี้ ทางการมาเลเซียระบุว่าเป็นผู้ป่วยหมายเลข 26 โดยมีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับเขามากกว่า 16 คน

อย่างไรก็ตาม นพ.นัวร์ ฮิแชม อับดุลลาห์ ผู้อำนวยการใหญ่ ประจำกระทรวงสาธารณสุข มาเลเซีย ระบุว่า การแพร่ระบาดของชายคนดังกล่าวยังไม่ถือว่าเป็น Super - Spreader เพราะมีผู้เกี่ยวข้องแค่ 16 คน ที่เกี่ยวข้องกับชายคนนี้ ต่างจาก Super - Spreader ในเกาหลีใต้ ซึ่งพาโรคโควิด-19 ติดต่อไปอีกหลายพันคน

เขายืนยันว่า กระทรวงสาธารณสุข สามารถติดตามผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยหมายเลข 26 ได้ทั้งหมดแล้ว และเชื่อว่าจะสามารถควบคุมการระบาดได้ โดยไม่จำเป็นต้องปิดออฟฟิศ ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิงของรัฐ และมีพนักงานจำนวนมาก

ทั้งนี้ หากชายคนดังกล่าวติดเชื้อจากเซี่ยงไฮ้จริง ก็หมายความว่าเชื้อฝังอยู่ในตัวเขานานกว่า 1 เดือนครึ่ง ก่อนจะแสดงอาการ และแพร่ต่อไปยังคนอื่นๆ รอบตัว

ขณะที่ อินเดีย ประเทศที่หยุดนิ่ง ไม่มีการระบาดของไวรัสโคโรน่ามานาน ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวชาวอิตาเลียนเช่นกัน โดยพบเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ในนักท่องเที่ยว 15 คน ขณะเดินทางท่องเที่ยวทะเลทรายในแคว้นราชสถาน ส่งให้อินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของโลก มีผู้ติดเชื้อรวมมากกว่า 28 คน โดยเริ่มมีการกันตัวผู้สัมผัสใกล้ชิดนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ รวมถึง “คนขับรถ” ให้อยู่ภายใต้การกักกันโรคอย่างใกล้ชิด

ขณะเดียวกัน อินเดียได้ออกมาตรการใหม่ โดยจะไม่อนุมัติวีซ่า สำหรับผู้ที่เดินทางจากอิตาลี อิหร่าน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เพื่อป้องกันการระบาดเป็นวงกว้างในประเทศ หลังจากก่อนหน้านี้ ได้แบนผู้ที่เดินทางจากจีน มาตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ แล้ว

ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก ประกาศปรับตัวเลข “อัตราตาย” ของผู้ป่วยด้วยโรคโควิด-19 หลังมีการระบาดอย่างหนักเพิ่มเติมในประเทศอิหร่าน เกาหลีใต้ และในทวีปยุโรป เป็น 3.4% ซึ่งถือว่ารุนแรงกว่า “ไข้หวัด” ตามฤดูกาล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 1%

อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบประสิทธิภาพการติดต่อ และการระบาดระหว่างหวัดธรรมดา ทีโดรสบอกว่า หวัดธรรมดายังคงติดต่อได้ง่ายกว่า ข้อมูลจาก WHO ยังคงชี้ชัดว่า ผู้ที่ไม่มีอาการป่วย จะไม่สามารถ “แพร่เชื้อ” ต่อได้ แย้งกับรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า มีการแพร่เชื้อต่อในผู้ที่มีเชื้อในร่างกาย แต่ไม่แสดงอาการ

อย่างไรก็ตาม โควิด-19 นั้นส่งผลกระทบรุนแรงกว่า อาการป่วยหนักกว่าหวัดทั่วไปมาก โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว และไม่มีภูมิคุ้มกัน ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่มีวัคซีน หรือวิธีการรักษาโดยตรง มีเพียงแต่การรักษาตามอาการ

การปรับอัตราตายขึ้นเป็น 3.4% ทำให้โควิด-19 มีอัตราตายที่สูงกว่า Spanish Flu หรือ “ไข้หวัดสเปน” ซึ่งระบาดในช่วงปี 1918 - 1920 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อราว 500 ล้านคนทั่วโลก และมีอัตราตายประมาณ 2.5%

ทั้งหมดนี้ ทีโดรส ยืนยันว่า เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 นั้น ในที่สุดจะสามารถ “ควบคุม” ได้ เพียงแต่ต้องแก้ปัญหาการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ และชุดป้องกัน ทั้งหน้ากากอนามัย ถุงมือ โดยทีโดรสบอกว่าทั่วโลก ต้องเพิ่มกำลังการผลิตให้มากขึ้นราว 40% จึงจะ “เอาอยู่”

Shares :
hfocus.org

ขอบคุณภาพจาก สำนักข่าวซินหัว

https://www.komchadluek.net/news/regional/420687?adz

 

ข่าวนี้เป็นข่าวน่ายินดีที่บริษัท Shimadzu หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องมือวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ (Analytical Instruments) ชั้นนำของโลก ได้เผยถึงการพัฒนาอุปกรณ์ตรวจไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ตัวใหม่ ที่จะสามารถตรวจสอบและรู้ผลได้ภายในเวลา 1 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันใช้เวลาถึง 4-6 ชั่วโมงกว่าจะรู้ผล
・
หวังว่าในอีกไม่นานจะค้นพบยารักษาและวิกฤตโรคโควิด-19 จะคลี่คลายไปในทางที่ดี

#anngleth #ข่าว #ข่าวญี่ปุ่น #ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ #โควิด19
https://th.anngle.org/news/shimadzu-coronakit.html

 

อินเดียผวาหนัก ผู้ป่วยโควิด19 รายใหม่จัดปาร์ตี้ก่อนตรวจพบ
.
ก่อนหน้านี้ผมเห็นคนไทยหลายคนออกมาโพสต์แนว ๆ ตั้งข้อสังเกตว่าทำไมอินเดียถึงมีผู้ติดเชื้อน้อย โดยคาดคะเนกันไปต่าง ๆ นาๆ ทั้งจากเรื่องภูมิอากาศ ไปจนถึงเรื่องอาหารการกิน
.
แต่ต้องบอกอย่างนี้ครับว่าที่ตอนแรกผู้ติดเชื้อในอินเดียน้อยนั้น เป็นเพราะเที่ยวบินจากจีนมายังอินเดียนั้นมีไม่มาก และคนจีนมาเที่ยวอินเดียก็มีสัดส่วนที่น้อยมาก ฉะนั้นใน 3 รายแรกที่เป็นผู้ติดเชื้อจึงเป็นนักเรียนอินเดียที่ไปเรียนที่จีนเท่านั้น
.
เหตุผลที่คนจีนมาเที่ยวอินเดียน้อย ก็คงคล้าย ๆ หลายประเทศคืออินเดียไม่เปิดฟรีวีซ่า และยังคงมีความเข้มงวดในการขอวีซ่าท่องเที่ยวเช่นกัน นี่เลยกลายเป็นปราการสำคัญที่ทำให้ในช่วงแรกอินเดียต้านทานไวรัสที่จะระบาดมาจากจีนได้ และยิ่งไปกว่านั้นคือหลังเกิดการระบาดในจีน อินเดียยกเลิกการให้วีซ่าทั้งหมด เพื่อไม่ให้คนจีนเข้าประเทศครับ
.
ในด้านหนึ่งคนไทยชอบมองว่าอินเดียอ่อนเรื่องระบบสาธารณสุข แต่จริง ๆ แล้วระบบการแพทย์อินเดียค่อนข้างดีมากนะครับ เพียงแค่มันไม่ทั่วถึงเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรเท่านั้นเอง อินเดียนั้นเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ของประเทศตะวันออกกลางเลยก็ว่าได้
.
เพราะนอกจากค่ารักษาพยาบาลจะมีราคาที่เป็นมิตรแล้ว คุณภาพนั้นก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน อันนี้คนที่เคยรักษาโรงพยาบาลเอกชนในอินเดียจะรู้ดีว่าแม้ราคาจะแรงแต่คุณภาพการรักษาก็ดีมาก ๆ เลย แอดก็ใช้บริการอยู่บ่อยครั้งตอนเรียนที่นั่น
.
แต่สำหรับในเรื่องของโควิด19นั้น ต้องยอมรับครับว่าศักยภาพของอินเดียค่อนข้างมีจำกัดเมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ของประเทศ กล่าวคือจำนวนห้องทดลองในการตรวจหาเชื้อนั้นไม่ได้มีทุกรัฐ จำเป็นต้องอาศัยห้องทดลองเฉพาะที่จะมีตามโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยหรือศูนย์ภูมิภาคเท่านั้น ทำให้บางครั้งการตรวจหาเชื้อเป็นไปได้ค่อนข้างล่าช้า
.
อย่างไรก็ตามต้องยอมรับครับว่า 2 เดือนมานี้ตัวเลขของผู้ป่วยในอินเดียไม่เพิ่มเลยเพราะหลายปัจจัย แต่ต้องบอกใครหลายคนที่เคยเขียนวิเคราะห์เรื่องอินเดียไม่มีผู้ป่วยไปก่อนหน้านี้ครับว่า อาจต้องกลับไปปรับแก้เสียใหม่
.
เพราะล่าสุดตัวเลขผู้ป่วยในอินเดียได้เพิ่มมาอีก 3 คน จากการแถลงของกระทรวงสาธารณสุข โดยแต่ละเคสพบในพื้นที่ที่ต่างกันคือ คนหนึ่งพบที่เมืองไฮเดอราบัดเพิ่งกลับมาจากประเทศกาตาร์ อีกคนพบที่เมืองชัยปุระเป็นนักท่องเที่ยวชาวอิตาลี และอีกคนเป็นชาวเดลีที่กลับมาจากอิตาลี
.
จะเห็นว่าทั้ง 3 เคส ไม่ปรากฎแล้วว่าเคยมีปฏิสัมพันธ์อะไรกับประเทศจีน หรือคนจีนเลย เรื่องนี้ทำเอาคนอินเดียต่างกังวลกันว่าเจ้าโควิด19 กำลังมาเคาะประตูบ้านตัวเองเสียแล้ว ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือทั้ง 3 เคสนั้นกว่าจะตรวจพบก็ได้เดินทางไปหลายที่ในอินเดียแล้วด้วย เช่นเคสนักท่องเที่ยวชาวอิตาลีนั้นเที่ยวเมืองอุไดปุระมาก่อน แล้วมาแสดงอาการที่เมืองชัยปุระ
.
เคสนี้ที่พีคมาก ๆ คือตอนแรกวันเสาร์ที่ผ่านมาตรวจหาเชื้อไม่พบ พอหมอให้ยารักษาไข้ปรากฎว่าไข้ไม่ลดทำให้ต้องตรวจหาเชื้ออีกรอบ และปรากฎว่าเจอเชื้อแต่ก็ยังไม่คอนเฟริม จนวันนี้สด ๆ ร้อน ๆ หลังรัฐบาลส่งผลตรวจไปให้ห้องแลปที่เมืองปูเน่ ซึ่งอยู่กันคนละรัฐ ปรากฎว่าผลทดสอบคอนเฟริมว่าติดเชื่้อจริง ทำเอาทางการราชาสถานต้องวุ่นหาเพื่อนร่วมกรุ๊ปทัวร์ และคนที่นักท่องเที่ยวคนนี้เคยไปเจอกันให้วุ่น
.
แต่เคสที่พีคที่สุดตอนนี้คือชาวเดลีที่กลับมาจากอิตาลีเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ ซึ่งพอกลับมาถึง คนนี้ได้เดินทางไปหาญาติที่เมืองอัครา ก่อนที่จะกลับมาจัดงานปาร์ตี้วันเกิดให้ลูกชายที่โรงแรมห้าดาวชื่อดังกลางกรุงนิวเดลี ซึ่งมีแขกจำนวนมาก (ผู้ป่วยเป็นคนรวยมีฐานะ ส่วนโนงถ้าอยากรู้หาในเนตได้เลยครับ) ซึ่งงานนี้หลายครอบครัวมาเข้าร่วมงานวันเกิดด้วย (นึกภาพงานสไตล์อินเดียยิ่งคนรวยงานยิ่งช้าง)
.
และกว่าผู้ป่วยคนนี้จะแสดงอาการและตรวจพบว่าติดเชื้อนั้นก็ปาเข้าไปวันที่ 2 มีนาคม งานนี้ทำเอาคนอินเดียใจหล่นไปกองที่พื้นกันเลยทีเดียว เพราะไม่รู้ว่าคนกลุ่มนี้จะติดเชื้อหรือไม่ และเดินทางไปที่ไหนบ้างระหว่างนั้น ที่สำคัญลูกของผู้ป่วยก็เดินทางไปโรงเรียนแล้วหนึ่งวันเต็ม
.
ตอนนี้ทางการอินเดียจึงเร่งติดตามตัวคนกันให้วุ่น โรงแรมเจ้าของปาร์ตี้เร่งทำความสะอาดยกใหญ๋ (แต่ไม่ปิดนะครับ) และให้พนักงานที่บริการในงานวันนั้นหยุดพักอยู่บ้าน 14 วัน โรงเรียนลูกผู้ป่วยประกาศปิด 3 วัน (ทั้งนี้ รมต.ศึกษาอินเดียบอกว่าไม่ต้องปิดก็ได้)
.
ฉะนั้นหากเกิดการระบาดอย่างหนักในอินเดียในช่วงต่อจากนี้ไป มีความเป็นไปได้ว่าคนนี้อาจกลายเป็นผู้แพร่เชื้อหลักคนแรกของประเทศอินเดียก็เป็นได้
.
ที่มันน่ากังวลเพราะว่าอินเดียนั้นค่อนข้างจะอยู่กันอย่างแออัด มันจึงเพิ่มโอกาสในการแพร่กระจายของโควิด19 ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น งานนี้ผมก็ได้แต่ภาวนาว่ามันจะไม่แพร่กระจาย และหวังว่ารัฐบาลจะกักตัวคนทั้งหลายได้ทันท่วงที เพราะสัปดาห์อินเดียมีเทศกาลใหญ่คือโฮลี่ ที่คนจะออกมาสาดสีกันเต็มเมืองไปหมด
.
ขอย้ำอย่างนี้นะครับว่ารัฐบาลอินเดีบเขาแจ้งว่ายังไม่ต้องตื่นตระหนก และรัฐบาลอินเดียได้ออกประกาศยกเลิกวีซ่าทั้งหมดที่เคยให้ไปกับนักท่องเที่ยวจาก 4 ประเทศคือเกาหลี ญี่ปุ่น อิหร่าน และอิตาลี มีผลวันนี้เป็นต้นไป โดยห้ามเข้าอินเดีย ซึ่งรวมถึงคนที่เคยไปจีนหลังเดือนกุมภาพันธ์ด้วย (ส่วนประเทศไทยนั้น สวดมนต์กันต่อไปครับ)
.
สุดท้ายนี้ผมขอเป็นหนึ่งแรงที่อยากกราบกรานใครก็ตามที่ไปพื้นที่เสี่ยงทั้งหลาย ช่วยกักตัวเองอยู่บ้าน 14 วันนะครับ เพราะผมไม่อยากให้มันเกิดเรื่องทำนองเดียวกับที่เกิดในอินเดียเช่นนี้
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #โควิด19 #ไวรัส

 

อินเดียติดโควิด-19 พุ่ง
.
จากรายงานล่าสุดเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาของกระทรวงสาธารณสุขอินเดียซึ่งนำแถลงโดยรัฐมนตรี ระบุว่าในวันนี้ อินเดียพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานจำนวน 21 คน
.
โดยในจำนวนนี้ 15 คนตรวจพบที่เมืองชัยปุระ รัฐราชาสถาน แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม

และอีก 6 คนตรวจพบที่เมืองอัครา รัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นที่ตั้งของทัชมาฮาล อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมเช่นเดียวกัน
.
ทั้งนี้ทางการอินเดียรายงานว่ายังมีผู้ต้องสงสัยติดเชื้ออีกจำนวนมากหลายร้อยคนที่อยู่ระหว่างรอผลการตรวจทางห้องแลป เพื่อยืนยันการติดเชื้อโควิด-19
.
ฉะนั้น ณ จนถึงตอนมีผู้ติดเชื้อที่อินเดียแล้ว 28 คน
.
เดลี 1 คน
ไฮเดอราบัด 1 คน
ชัยปุระ 17 คน (คนอินเดีย 1 คน คนอิตาลี 16 คน)
อัครา 6 คน
โดยทั้ง 25 กรณีนี้ไม่มีใครมีประวัติติดต่อกับประเทศจีน หรือคนจีน แต่เป็นการรับเชื้อจากต่างประเทศ เช่นอิตาลี และกาตาร์ หรือจากคนใกล้ชิดที่ไปประเทศเสี่ยง

เกรละ 3 คน (ทั้ง 3 คนรักษาหายป่วยหมดแล้ว เป็นนักเรียนมาจากอู่ฮั่น)
.
ใครไปอินเดียช่วงนี้ก็ระวังตัวด้วยนะครับ และที่สำคัญ เครื่องเทศ หรือสมุนไพรอินเดีย ที่คนไทยบางกลุ่มบอกว่ากันโรคได้นั้น ไม่เป็นความจริงใด ๆ ทั้งสิ้น
.
#กระแสเอเชียใต้ #อินเดีย #โควิด19 #โรคระบาด #COVID19

 

John Traczyk

อัตราตายโคโรนาไวรัสของ Covid-19 สูงกว่าไข้หวัดใหญ่ องค์การอนามัยโลกประกาศเมื่อวันอังคารว่าอัตราการเสียชีวิตทั่วโลกของโรคที่เกิดจาก coronavirus ใหม่คือร้อยละ 3.4

กรณี Coronavirus ทั่วโลก 94,244
ความตาย: 3,220

มันส่งผลกระทบต่อ 82 ประเทศและดินแดนทั่วโลก

ผู้ที่เสียชีวิตนอกประเทศจีนเกินกว่าผู้ที่อยู่ในประเทศเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาด

แข่งขันเพื่อเพิ่มการทดสอบเนื่องจาก coronavirus แพร่กระจายในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ

ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเป็นเก้าคน

วงเล็บปีกกาของสหรัฐอเมริกาสำหรับการหยุดชะงักมากขึ้นเนื่องจาก coronavirus เขย่าธุรกิจ

ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นในอิตาลี 79 คนเสียชีวิตมากเป็นอันดับสามรองจากจีนและอิหร่าน

นอกประเทศจีนประเทศที่ถูกโจมตีมากที่สุดยังคงเป็นเกาหลีใต้ซึ่งมี 5,621 คดี อิหร่านมี 2,992 ราย; และอิตาลีกับ 2,502

โรงเรียนและมหาวิทยาลัยในอิตาลีทั้งหมดต้องปิด
โรงเรียนและมหาวิทยาลัยทุกแห่งจะต้องปิดตัวลงในอิตาลีจนถึงกลางเดือนมีนาคมเนื่องจากการต่อสู้ของประเทศเพื่อควบคุมโรคคอโรนาไวรัส

อิตาลีจะห้ามกิจกรรมสาธารณะและปิดโรงภาพยนตร์และโรงภาพยนตร์

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของเยอรมนีประกาศว่าการระบาดของโรค "โรคระบาดทั่วโลก"

ซาอุดิอาระเบียได้ระงับอุมเราะห์ การเดินทางไปยังเมืองศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองแห่งของนครเมกกะและเมดินาเพื่อประชาชนซาอุดิอาระเบียและผู้อยู่อาศัยอื่น ๆ ในราชอาณาจักรชั่วคราวเนื่องจากความกังวลของ coronavirus

อัปเดตสด

Coronavirus Fatality Rate of Covid-19 Is Higher Than the Flu. The World Health Organization announced on Tuesday that the global death rate of the disease caused by the new coronavirus was 3.4 percent.

Coronavirus Cases worldwide 94,244
Deaths: 3,220

It is affecting 82 countries and territories around the world.

Deaths outside China exceeded those inside the country for the first time since the start of the outbreak.

Race to increase testing as coronavirus spreads in U.S. and elsewhere.

Death toll in the US rises to nine.

U.S. braces for more disruption as coronavirus jolts business.

Death toll skyrockets in Italy 79 dead, the third highest after China and Iran.

Outside China, the worst-hit nations remain South Korea, which has 5,621 cases; Iran, with 2,992 cases; and Italy, with 2,502.

All Italian schools and universities to close.
All schools and universities are to close in Italy until mid-March as the country battles to control the coronavirus.

Italy will ban public events, and close cinemas and theaters.

German finance minister declares outbreak "a global pandemic"

Saudi Arabia has temporarily suspended Umrah pilgrimages to the two holy cities of Mecca and Medina for Saudi citizens and the kingdom’s other residents due to coronavirus concerns, the state news agency SPA said today.

Live Updates
https://www.theguardian.com/world/l...087df56e4c1f8a#block-5e5fa8608f087df56e4c1f8a

 

John Traczyk

ศูนย์ราชการสหรัฐอเมริกา(US federal facility ) แห่งแรกปิดทำการ 14 วันหลังจากพนักงานแสดงอาการ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิปิดสำนักงานในซีแอตเทิล

เบิร์กลีย์ แคลิฟอร์เนียรายงานกรณีแรกประกาศภาวะฉุกเฉิน
“ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ดร. Lisa Hernandez ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าผู้อยู่อาศัยทดสอบผลบวกของ COVID-19 ซึ่งเป็น coronavirus ใหม่ที่แพร่กระจายไปทั่วโลกและที่ทุกคนควรเตรียมในท้องถิ่น” เมืองกล่าวในการแถลงข่าว

North Carolina ยืนยันกรณีแรกของรัฐ

ฟอร์ดห้ามการเดินทางเพื่อธุรกิจที่ไม่จำเป็นทั้งหมด

IMF และธนาคารโลกจะจัดประชุม 'ฤดูใบไม้ผลิแบบเสมือนจริง'

First US federal facility closed for 14 days after employee shows symptoms. The Department of Homeland Security has closed its office in Seattle.

Berkeley, California reports first case, declares emergency.
"Health Officer Dr. Lisa Hernandez announced Tuesday that a resident tested positive for COVID-19, a new coronavirus spreading around the world and for which everyone should prepare locally," the city said in a press release.

North Carolina confirms state’s first case.

Ford bans all non-essential business travel.

IMF and World Bank to hold ‘virtual’ spring meetings.

 

สธ.ฝรั่งเศสยัน ภายในช่วงสัปดาห์นี้ จะสามารถจัดหาหน้ากากได้อีก 15-20 ล้านชิ้น 'ตามที่มีผู้จำเป็นต้องใช้'
.
https://www.xinhuathai.com/inter/ฝรั่งเศสมุ่งสร้างคลังห_20200304

 

ตรวจเข้ม! จีนพบผู้เดินทางเข้าประเทศ 'มีอาการป่วย' 6,700 กว่าราย ยืนยันติด ’โควิด-19‘ แล้ว 75 ราย
.
https://www.xinhuathai.com/high/ตรวจเข้ม-จีนพบผู้เดินทา_20200304

 

แม้ว่าการอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในช่วงนี้ แต่บางครั้งเราก็อาจมีเหตุจำเป็นต้องออกไปข้างนอกอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วเราจะหลีกเลี่ยงเชื้อไวรัสระหว่างที่อยู่บนเครื่องบิน ในรถบัส หรือขนส่งสาธารณะอื่นอย่างไร? มาลองอ่านคำแนะนำจากรัฐบาลจีนกัน
.
อ่านต่อได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com/china/ตอบทุกข้อสงสัย-จีนออกคำ_20200304

 

หูเป่ยเตรียมทยอยปิด 'โรงพยาบาลชั่วคราว' หลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น
.
อ่านต่อได้ที่ https://www.xinhuathai.com/high/หูเป่ยเตรียมทยอยปิด-โร_20200304