ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20200302_071853.jpg

    (Mar 1) 'โควิด-19' พ่นพิษตลาดหุ้นทรุด 'เศรษฐีระดับโลก' สูญเงินรวมแสนล้านดอลล์: สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า มหาเศรษฐีร่ำรวยที่สุดระดับโลก 500 คน สูญเงินรวมกัน 4.44 แสนล้านดอลลาร์จากการทรุดตัวของตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)

    ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งลง 12.4% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการร่วงลงรายสัปดาห์รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินปี 2551

    บุคคลร่ำรวยที่สุด 3 คนของโลก ซึ่งได้แก่ นายเจฟฟ์ เบซอส ผู้ก่อตั้งอเมซอนดอทคอม นายบิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ คอร์ป และนายเบอร์นาร์ด อาร์โนลต์ ประธานบริษัทหลุยส์วิตตอง ขาดทุนหนักที่สุด โดยสูญเงินรวมกันราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ส่วนนายอีลอน มัสก์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทเทสลา อิงค์ ซึ่งเป็นบุคคลร่ำรวยที่สุดอันดับที่ 25 ของโลก ขาดทุน 9 พันล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากที่ราคาหุ้นเทสลาดิ่งลงอย่างหนักตามหุ้นทั่วโลกจากความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ที่ระบาดลุกลามไปทั่วโลก

    Source : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    https://www.bangkokbiznews.com/news...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral

    - World’s Richest Lose $444 Billion After Hellish Week for Markets:
    https://www.bloomberg.com/news/arti...er-hellish-week-for-markets?srnd=premium-asia
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20200302_072522.jpg

    (Mar 1) โปรดอ่าน "บำราศนราดูร" แนะคนกลับจากเมืองนอก : สถาบันบำราศนราดูร" มีคำแนะนำ สำหรับคนที่กลับจากประเทศเสี่ยงไวรัสโคโรนา

    วันที่ 29 ก.พ.63 สถาบันบำราศนราดูร ได้เผยแพร่คำแนะนำสำหรับคนที่กลับจากประเทศเสี่ยงไวรัสโคโรนา ระบุว่า

    Q & A โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19)

    กรณีที่บริษัท / โรงเรียน / หน่วยงานมีนโยบายให้พนักงานหรือนักเรียนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเสี่ยงที่มีการระบาดของโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-19) ไปตรวจเพื่อยืนยันว่าไม่มีการติดเชื้อทั้งที่ยังไม่ได้มีอาการป่วยควรจะเดินทางมาตรวจที่โรงพยาบาลหรือไม่?

    คำตอบ : ไม่มีความจําเป็นและไม่คุ้มเพราะหากไปตรวจเลยโดยที่ยังไม่มีอาการหรือมีอาการแค่เล็กน้อยยังไม่เข้าข่ายสงสัยตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขเปอร์เซ็นต์การตรวจเจอเชื้อน้อยมากหรือหากตรวจแล้วผลเป็นไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีเชื้อในระยะต่อมาเพราะเชื้อนี้มีระยะฟักตัวที่ 14 วันซึ่งถ้าระยะต่อมามีอาการมากขึ้นก็ต้องไปตรวจใหม่อยู่ดีคำแนะนำ

    1. ให้สังเกตอาการป่วยอยู่ที่บ้าน / ที่พักจนครบ 14 วันนับจากวันที่กลับมาจากประเทศเสียงโดยหลีกเลี่ยงการไปที่สาธารณะที่มีคนอยู่หนาแน่นโดยไม่จำเป็นงดใช้ของใช้ร่วมกับผู้อื่นให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ร่วมกับผู้อื่นหมั่นล้างมือบ่อยๆกินร้อนข้อนกลางและหากภายใน 14 วันมีไข้ร่วมกับไอจามหรือมีอาการมากขึ้นให้รีบมาพบแพทย์

    2. ข้อควรปฏิบัติในการสังเกตอาการป่วยอยู่ที่บ้าน

    - แยกอยู่คนเดียวห่างจากคนอื่นหากต้องอยู่ใกล้ชิดกับผู้อื่นให้สวมหน้ากากอนามัย
    - แยกสำรับอาหารจานข้าวซ้อนส้อมแก้วน้ำ
    - หากใช้ห้องน้ำให้หมั่นทำความสะอาดห้องน้ำชักโครกลูกบิดประตูด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ
    - เสื้อผ้าแนะนำให้รักแยกรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวห้ามใช้ปะปนร่วมกับคนอื่น
    - ผู้ที่เข้าข่ายสงสัยโรคโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-19) ตามเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขให้ไปรับการตรวจที่รพ. ตามสิทธิ์ (ค่าตรวจโคโรน่าไวรัส 2019 COVID-19) ไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่ค่าตรวจอื่นๆเบิกตามสิทธิ์) หรือหากอยู่ต่างพื้นที่ก็สามารถเข้ารักษาได้ที่ร.พ. ของรัฐได้ทุกแห่งหากยังไม่มีอาการใดๆหรืออาการไม่เข้าข่ายตามหลักเกณฑ์ไม่แนะนำให้ไปตรวจเองหากตรวจต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง) และหากตรวจไม่พบเชื้อโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-ครั้งแรกแต่ถ้ามีอาการป่วยมากขึ้นหรืออาการไม่ดีขึ้นขอให้กลับไปพบแพทย์โรงพยาบาลใกล้บ้านอีกครั้ง

    3. ในกลุ่มที่ไม่มีอาการหรืออาการไม่เข้าข่ายและเดินทางมาจากประเทศที่เสี่ยงแม้จะตรวจไม่พบเชื้อโคโรน่าไวรัส 2019 (COVID-19) ในครั้งแรกขอให้สังเกตอาการป่วยอยู่ที่บ้าน / ที่พักจนครบ 14 วัน

    Source: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์

    https://www.thansettakij.com/conten...homepage_hilight&utm_medium=internal_referral
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พบผู้ติดเชื้อรายแรกที่ จ. เฮียวโกะ
    ชายวัย 40s อาศัย เมืองนิชิโนะมิยะ
    รายละเอียด
    ‍ทำงานอยู่ที่ จ. โอซาก้า (ถึง 23 ก.พ.)
    23 ก.พ. ทำงานที่บ. ที่โอซาก้า
    ↓ 
    25 ก.พ. ~ ไข้ราว ๆ 38 องศา มีไข้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ

    26 ก.พ. สถานพยาบาล A ไข้หวัดใหญ่เป็นลบ

    27 ก.พ. สถานพยาบาล B ไข้หวัดใหญ่เป็นลบ / x-ray ปอดไม่มีอะไร

    28 ก.พ.~ ไอ ไอต่อเนื่อง

    29 ก.พ. สถานพยาบาล A / x-ray ปอด ตรวจเจอปอดอักเสบ —> แนะนำสถานพยาบาล C —> ไปสถานพยาบาล C
    - CT ให้ยาและให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน เก็บตัวอย่าง

    1 ก.พ. ผลออกเป็นบวก เข้ารพ.  尼崎総合医療センター(อามะกะซากิโซโกอิเรียวเซ็นเตอร์)
    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19
    https://www.kobe-np.co.jp/news/sougou/202003/sp/0013158893.shtml
    https://web.pref.hyogo.lg.jp/kk03/documents/corona-2003012230_3.pdf
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (1 มีนา) รัฐบาลเตรียมออกคำสั่ง “ขอ” ให้หลีกเลี่ยงการไปกินบุฟเฟ่ต์ และ ใช้บริการยิม
    ผลจากการประชุมของนายกและกองบัญชาการวางแผนป้องกันการระบาดของโรค
    จากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
    - เป็นสถานที่ที่อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี และมีผู้คนเข้าไปรวมกันอยู่เยอะ
    - มีโอกาสสัมผัสกับผู้คนจำนวนมากที่คาดเดาไม่ได้ 
    ———
    ✒ อ่านดี ๆ เป็นคำสั่ง “ขอ” นะคะไม่ใช่คำสั่ง “ห้าม” ดังนั้นจะทำก็ได้ไม่ทำก็ได้ไม่มีผลทางกฎหมาย 
    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19
    Kyodo:
    https://t.co/MDVNlMaTmL?amp=1
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวสั้น #ข่าวด่วน พบผู้ติดเชื้อที่เมืองคิตะคิวชู จ. ฟุกุโอกะ เป็นชายคนขับแท็กซี่วัย 60s
    รายที่ 3 ของจังหวัดฟุกุโอกะ
    ไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศและไม่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ
    มีโรคเกี่ยวกับไตเป็นโรคประจำตัว 
    19 ก.พ. ไอ

    25 ก.พ. หายใจหอบเหนื่อย เข้ารพ. ในเมืองคิตะคิวชู

    https://headlines.yahoo.co.jp/hl?a=20200301-13986341-kbcv-l40
    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
    #เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หน้ากากอนามัยไม่ได้ช่วยป้องกัน COVID-19
    .
    อาจจะเรียกได้ว่าเป็นความแตกต่างทางมุมมองทางการแพทย์เรื่องการใช้หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกัน COVID-19
    ในขนาดที่บ้านเราฝังเอเชียเราต่างใช้หน้ากากอนามัยสวมเพื่อป้องกันตัวเองจาก COVID-19
    แต่ในโลกตะวันตกอเมริกาหรือยุโรปกลับมองว่ามันไม่ได้ช่วยอะไรและไม่สับสนให้คนสวมหน้ากากอนามัยด้วยเพราะมองว่าจะทำให้ติดเชื้อมากกว่าเดิม
    โดยแพทย์ทางฝั่งตะวันตกมองว่าการติดเชื้อ COVID-19มาจากละอองน้ำที่มาจากร่างกายดังนั้นเพียงแค่ล้างมือก็เพียงพอ แต่การใช้หน้ากากอนามัยจะทำให้มือไปสัมผัสกับหน้ากากบ่อยขึ้นซึ่งโอกาสเสี่ยงติดโรคมากขึ้น โดยสาธารณสุขของทางฝั่งตะวันตกแนะนำให้สวมหน้ากากเมื่อคุณป่วยแล้วเท่านั้น
    ดังนั้นในโลกตะวันตกและยุโรปเลยไม่มีคนใส่หน้ากากอนามัยและค่อนข้างมองคนที่ใส่หน้ากาก(โดยเฉพาะคนเอเชีย)อย่างรังเกียจด้วย
    ……………………….
    อธิบายเล็กน้อยแอดนำบทความนี้มาให้ดูเพื่อเห็นมุมมองที่ต่าง แอตไม่ใช่แพทย์หรือคนที่ทำงานด้านสาธารณสุข ดังนั้นหากใครที่มีข้อมูลนอกเหนือจากนี้สามารถแจ้งได้
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กอดปลอบของเมีย
    .
    หลายคนคงทราบเรื่องมาเลเซียได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ และดูเหมือนคนที่จะเจ็บมากที่สุดคนนึงคืออดีตนายกมหาเธร์ ที่ออกมาแถลงข่าวโวยวายและผิดหวังกับการที่มาเลเซียได้นายกคนใหม่ที่……….ไม่ใช่เขา
    หลังการแถลงข่าวภรรยาของเขา Siti Hasmah คู่ชีวิตที่แต่งกันมา 63 ปีได้เข้ามากอดเขา ภาพนี้อาจไม่มีอะไรมากกว่าภรรยาที่เข้ามากอดปลอบสามี แต่ก็เป็นภาพที่ทำให้เราเห็นคำว่า
    คู่ทุกข์ คู่ยาก
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ป้องกันโควิด..ทางการลาว สั่งห้ามจัดวิ่งฮาล์ฟมาราธอนเวียงจันทน์ ก่อนกิจกรรมวิ่งจะเริ่ม 9 ชั่วโมง ความวุ่นวายก็ตาม เพราะผู้จัด ผู้วิ่งเตรียมพร้อม 100% #ลาว #แล่นเวียงจัน
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นาย Muhyiddin เข้าสาบานตนพร้อมรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของประเทศมาเลเซีย เรียบร้อยแล้วท่ามกลางเสียง ต่อต้านจากฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง โดยมหาเธร์ออกมาพูดว่าเขาถูกทรยศ
    อย่างไรก็ดียังไม่มีฝ่ายใดได้เสียงข้างมาก รัฐบาลของนายMuhyiddinจึงอาจเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #สรุปดราม่าสภาอลเวงมาเลย์
    #เดิมพันสูงของท่านป๋ามหาเธร์
    ผ่านพ้นไปแล้วกับพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 อย่างเป็นทางการ (ณ ตอนนี้) ของนาย มูห์ยิดดิน ยัสซิน หัวหน้าพรรคเล็ก Malaysian United Indigenous Party หรือ PPBM ซึ่งท่านป๋า มหาเธร์ เคยนั่งเป็นประธานพรรค
    แต่ว่า การได้รับการรับรองจากสมเด็จพระราชาธิราช กษัตริย์แห่งมาเลเซียในวันนี้ ก็ใช่ว่าเรื่องวุ่นๆในสภามาเลย์จะจบเสียทีเดียว เพราะท่านป๋า ยังไม่ถอดใจ เตรียมยื่นมติเปิดสภา หาเสียงสนับสนุน เพราะป๋าก็ยังมั่นใจว่ายังกุมเสียงข้างมากในสภาได้ แต่ต้องการให้โหวตนายกฯในสภาอีกครั้ง
    สภายังไม่นิ่งนี่นา ว่าแต่ทำไมหวยถึงมาหล่นที่นาย มูห์ยิดดิน ยัสซิน ม้ามืดที่เบียดเข้าป้ายได้เป็นผู้นำมาเลย์ได้ในเวลาเพียง 5 วัน
    เรื่องของเรื่อง ก็คือปมเงื่อนไขที่ท่านป๋าได้สัญญาไว้กับนายอัลวาร์ อิบราฮิม ว่าต้องส่งต่อตำแหน่งให้ หลังจากที่ป๋านั่งเป็นนายกรัฐมนตรีในช่วงครึ่งแรก
    แต่แหล่งข่าวในมาเลเซียมองว่า ท่านป๋าไม่อยากผลัดตำแหน่งในอันวาร์ในตอนนี้ และมีลูกพรรคบางส่วนต้องการแยกตัวไปจับขั้วกับฝ่ายค้าน ที่รวมถึงกลุ่มพรรค UMNO ด้วย
    แต่ท่านป๋าแกมั่นใจว่า แกมีเสียงสนับสนุนเกินครึ่งในสภาอยู่ ถ้ามีการเสนอชื่อนายกฯ แกน่าจะได้เสียงสนับสนุนมากกว่านายอันวาร์ ท่านป๋าเลยเสี่ยงด้วยการลาออกตูม! สร้างความปั่นป่วนไปทั้งสภาเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
    แล้วก็เป็นดังคาด มีงูเห่าในพรรคร่วม 11 คน ประกาศตั้งเป็นกลุ่มอิสระ เพื่อรอเสียบฝ่ายที่จะได้ตั้งรัฐบาลใหม่
    หลังจากที่สมเด็จพระราชาธิบดีรับจดหมายลาออก ก็ได้แต่งตั้งท่านป๋าเป็นนายกฯรักษาการณ์ไปก่อนชั่วคราว จนกว่าจะได้นายกฯคนใหม่
    ท่านป๋าจึงได้เสนอไอเดีย จัดตั้งรัฐบาลปรองดองแห่งชาติ แล้วให้โหวตเลือกนายกฯเอาในสภา
    แต่ไอเดียนี้ ฝ่านค้านไม่ซื้อ โดยเฉพาะพันธมิตรพรรค UMNO ขั้วอำนาจเก่า ที่เสนอให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ดีกว่า
    สมเด็จพระราชาธิบดีตัดสินว่า หากพรรคไหนมีความสามารถที่จะรวบรวมเสียงข้างมากในสภาได้ หัวหน้าพรรคก็จะได้รับความไว้วางใจจากพระองค์ที่จะแต่งตั้งให้เป็นนายกรัฐมนตรี
    และตลอดทั้งสัปดาห์ ก็มีหัวหน้าพรรค ฝ่ายการเมืองใหญ่ วิ่งเข้าวังกันไม่ขาดสาย
    แต่จุดเปลี่ยนสำคัญมาอยู่ช่วงปลายๆสัปดาห์ ที่กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบัน Pakatan Harapan ที่ประกอบด้วย 4 พรรค คือ
    - Democratic Action Party (DAP)
    - People's Justice Party (PKR) - ของนายอันวาร์
    - National Trust Party (AMANAH)
    และ Malaysian United Indigenous Party หรือ PPBM ที่มูห์ยิดดินเป็นหัวหน้าพรรค
    ทีมพรรคร่วมดันเสียงแตก พรรค PPBM ร่วมกับแก๊งค์งูเห่าอิสระ 11 คน ไหลไปจับขั้วกับกลุ่มฝ่ายค้าน เสนอชื่อ มูห์ยิดดิน ยัสซิน เป็นแคนดิเดท
    ส่วนพันธมิตร Pakatan Harapan (PH) ที่ยังเหลืออยู่ ส่งชื่อ อันวาร์ อิบราฮิม
    จึงทำให้ฝ่าย PPBM ของนายมูห์ยิดดิน ดูจะมีเสียงสนับสนุนมากกว่า สมเด็จพระราชาธิบดีจึงตัดสินพระทัย รับรองนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน ให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8
    นัยสำคัญทางการเมืองของมาเลเซียในการเปลี่ยนขั้วอำนาจครั้งนี้ คือการกลับมาอีกครั้งของพรรค UMNO พรรคที่เคยปกครองมาเลเซียมาตลอด 60 ปี ก่อนจะพ่ายแพ้ให้กับท่านป๋า มหาเธร์ ในศึกเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
    เมื่อผลออกมาเช่นนี้ ท่านป๋า มหาเธร์ ของัดกำลังภายในฮึดสุดท้าย รวบรวมเสียงที่ยังมีอยู่ ประกาศว่ามีเสียงข้างมากในสภา พร้อมกับโพสต์รายชื่อ สส.จำนวน 114 คน ที่จะสนับสนุนป๋า ส่วนท่านสมเด็จพระราชาธิบดี ป๋าบอกว่าจะส่งจดหมายไปอธิบายทีหลัง
    แต่พอมาตอนเช้าวันอาทิตย์ ท่านสมเด็จฯ ออกมายืนยันว่า หมายกำหนดการในพิธีสาบานตนยังคงเดิม และนาย มูห์ยัดซิน จะเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 8 ของมาเลเซีย
    ดูเหมือนจะจบ แต่ก็ยังไม่จบ! ท่านป๋ายังไม่ยอมแพ้ จะยื่นมติเปิดประชุมสภาเพื่อลงคะแนนเสียงกันอีกรอบ
    และหากฝ่ายนายกฯ มูห์ยัดซิน ไม่ได้รับเสียงสนับสนุนเกินครึ่งหล่ะก็ ได้บันเทิงกันอีกรอบ ไม่สภาล่มก็อาจถึงขั้นยุบสภาได้เหมือนกัน
    แต่ท่านป๋า อยู่ในวงการมานาน ก็คงรู้ดีว่า "งูเห่า" นั้นเป็นของเหลว มันจะไหลไปที่ไหนก็ได้ จับไม่อยู่ นับจำนวนไม่ได้ จะรู้ก็ตอนลงมติจริงเท่านั้นหล่ะค่า
    แหล่งข้อมูล
    https://www.straitstimes.com/asia/s...rt-for-pm-issues-list-of-114-mps-who-back-him
    https://www.thestar.com.my/opinion/...olitics/2020/03/01/the-games-politicians-play
    https://www.thestar.com.my/news/nation/2020/03/01/muhyiddin-is-eighth-pm-says-king
    https://www.straitstimes.com/global
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    LOGO-W-2.jpg
    หิมาลัย : เมื่อหลังคาโลกกลายเป็นสายน้ำ

    หิมาลัย : เมื่อหลังคาโลกกลายเป็นสายน้ำ
    น้ำแข็งที่เคยเป็นลักษณะโดดเด่นของเทือกเขาในเอเชียใต้อย่าง หิมาลัย มาช้านาน กำลังละลายกลายเป็นทะเลสาบขนาดใหญ่แห่งใหม่ๆ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดอุทกภัยระดับทำลายล้าง

    หากนั่งเครื่องบินผ่านเมานต์เอเวอเรสต์ คุณจะทะยานอยู่เหนือยอดเขาขรุขระห่มหิมะขาวโพลนของเทือกเขา หิมาลัย ทอดไกลไม่สิ้นสุดไปจรดเส้นขอบฟ้า นี่เป็นภูมิทัศน์ที่ไม่เหมือนที่อื่นใดบนดาวเคราะห์ดวงนี้ ตลอดหลายพันปีที่ผ่านมา ธารน้ำแข็งมหึมาแห่ง หิมาลัย รับหิมะใหม่เข้ามาเติมจากมรสุมที่พัดผ่านทุกฤดูร้อน

    แต่หากนั่งเครื่องบินลำเดิมในอีก 80 ปีนับจากนี้ ภูผาน้ำแข็งยักษ์ใหญ่อันแวววามเหล่านั้นอาจไม่เหลืออีกแล้ว

    ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2019 ศูนย์นานาชาติเพื่อการพัฒนาพื้นที่ภูเขาแบบบูรณาการ (International Centre for Integrated Mountain Development: ICIMOD) ตีพิมพ์บทวิเคราะห์ละเอียดที่สุดในปัจจุบันที่อธิบายว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลต่อธารน้ำแข็งในเทือกเขาหิมาลัย ฮินดูกูช การาโกรัม และปามีร์อย่างไร ทั้งหมดนี้เป็นเทือกเขาที่ประกอบกันเป็นวงโค้งทอดผ่านอัฟกานิสถาน ปากีสถาน จีน อินเดีย เนปาล ภูฏาน และเมียนมา การศึกษาดังกล่าวยังเตือนด้วยว่า หนึ่งในสามถึงสองในสามของธารน้ำแข็งราว 56,000 แห่งโดยประมาณในภูมิภาคแถบนี้จะละลายหมดไปภายในปี 2100 ขึ้นอยู่กับอัตราเร็วของภาวะโลกร้อน

    glacial-lakes-gokyo-village-nepal.adapt_.1190.1.jpg
    หมู่บ้านก๊อกโย ซึ่งซุกตัวอยู่ข้างทะเลสาบที่รับน้ำส่วนหนึ่งจากธารน้ำแข็งโกซุมปาของเนปาล ไม่ต้องเผชิญอันตรายฉับพลันจากน้ำท่วม แต่ชุมชนอื่นๆในหิมาลัยกำลังถูกทะเลสาบธารน้ำแข็งที่มีน้ำสูงขึ้นคุกคาม (ภาพถ่าย: GETTY IMAGES/FENG WEI PHOTOGRAPHY)
    นี่คือคำพยากรณ์อันน่าตระหนกสำหรับชาวเอเชียใต้ราว 1,900 ล้านคนที่อาศัยธารน้ำแข็งเหล่านี้เป็นแหล่งน้ำหลัก ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อการบริโภคและสุขอนามัยเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเกษตร การผลิตไฟฟ้าพลังน้ำ และการท่องเที่ยวด้วย ไม่เพียงเท่านั้น การสำรวจยังตั้งคำถามที่เร่งด่วนกว่า นั่นคือ ขณะที่ธารน้ำแข็งละลายอย่างรวดเร็วนี้ น้ำทั้งหมดประมาณ 3,850 ลูกบาศก์กิโลเมตร หรือราว 50 เท่าของโตนเลสาบในประเทศกัมพูชาจะไหลไปที่ไหน

    คำตอบก็คือ เทือกเขา หิมาลัยซึ่งมีธารน้ำแข็งเป็นเอกลักษณ์มาช้านาน กำลังกลายเป็นเทือกเขาที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลสาบอย่างรวดเร็ว อันที่จริง การศึกษาอีกชิ้นพบว่าตั้งแต่ปี 1990 ถึง 2010 เกิดทะเลสาบใหม่ๆที่รับน้ำจากธารน้ำแข็งละลายกว่า 900 แห่งในเขตเทือกเขาสูงทั่วเอเชีย

    “มันเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคาดไว้ กระทั่งเมื่อห้าหรือ 10 ปีก่อนมากเลยครับ” อัลตัน ไบเออร์ส นักสำรวจของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก และนักธรณีวิทยาภูเขาประจำมหาวิทยาลัยโคโลราโดที่โบลเดอร์ บอก

    glacial-lakes-raft-taboche-lake-scientists-nepal.adapt_.885.1.jpg
    ทีมนักวิทยาศาสตร์เก็บตัวอย่างแก่นตะกอนก้นทะเลสาบตาโบเชของเนปาล ใกล้หมู่บ้านก๊อกโย ชั้นตะกอนไม่เพียงให้เบาะแสว่า ทะเลสาบก่อตัวอย่างไรและเมื่อไร แต่ยังเอื้อให้นักวิจัยศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะต่างๆ ตามฤดูกาลได้เมื่อเวลาผ่านไป
    เพื่อทำความเข้าใจการก่อตัวของทะเลสาบเหล่านี้ ให้ลองนึกภาพธารน้ำแข็งเป็นเหมือนรถแทรกเตอร์น้ำแข็งที่ค่อยๆไถพื้นที่ลาดเขาลงมา พร้อมกับขูดผืนดินลงไปด้วย โดยทิ้งเศษดินหินเป็น สันสูงไว้ข้างๆ ขณะที่มันแล่นไปข้างหน้า สันเหล่านั้นคือกองตะกอนธารน้ำแข็ง (moraine) และเมื่อ ธารน้ำแข็งละลายและหดตัวลง น้ำก็ไหลลงไปในร่องที่เหลืออยู่โดยมีกองตะกอนธารน้ำแข็งเป็นเหมือนสันเขื่อนตามธรรมชาติ

    “เริ่มจากแอ่งน้ำแข็งละลายหลายๆ แอ่ง” ไบเออร์สอธิบายและเสริมว่า “แล้วค่อยๆ เชื่อมต่อกันเป็นแอ่งเดียว กลายเป็นทะเลสาบที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี”

    และเมื่อทะเลสาบเต็ม น้ำอาจล้นข้ามกองตะกอนธารน้ำแข็งที่กั้นน้ำเอาไว้ หรือในกรณีเลวร้ายที่สุด กองตะกอนธารน้ำแข็งอาจพังลง นักวิทยาศาสตร์เรียกเหตุการณ์นี้ว่า “น้ำท่วมทะลักจากทะเลสาบธารน้ำแข็ง” (glacial lake outburst flood: GLOF) แต่ชาวเชอร์ปาเรียกว่า ชู-กยุมฮา หรืออุทกภัยขั้นหายนะ

    เหตุน้ำท่วมทะลักจากทะเลสาบธารน้ำแข็งในหิมาลัยครั้งน่าทึ่งที่สุดครั้งหนึ่งเกิดขึ้นในภูมิภาคกุมบูของเนปาล ในวันที่ 4 สิงหาคม ปี 1985 เมื่อน้ำแข็งจากธารน้ำแข็งลังโมชีถล่มลงสู่ทะเลสาบดิ๊กรูปร่างคล้ายลูกแพร์ยาวราว 1.6 กิโลเมตร ทะเลสาบนี้น่าจะมีอายุไม่ถึง 25 ปี ตอนที่น้ำแข็งถล่มลงสู่ทะเลสาบ มันทำให้เกิดคลื่นสูงสี่ถึงหกเมตร ซึ่งทลายทำนบตะกอนธารน้ำแข็งและปลดปล่อยน้ำกว่าห้าล้านลูกบาศก์เมตรให้หลากท้นลงมาทางปลายน้ำ

    น้ำท่วมทะลักทำลายสะพาน 14 แห่ง บ้านเรือนราว 30 หลังคาเรือน และโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังน้ำแห่งใหม่ รายงานบางฉบับบอกว่ามีผู้เสียชีวิตหลายคน “น้ำท่วมทะลักลักษณะนี้เกิดขึ้นเนืองๆครับ” ไบเยอร์สบอก “แต่เราไม่เคยพบเห็นทะเลสาบอันตรายจำนวนมากเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ ขนาดนี้มาก่อน เรามีข้อมูลเกี่ยวกับทะเลสาบเหล่านี้น้อยมากครับ”



    glacial-lakes-panorama-taboche-nepal.adapt_.945.1.jpg
    เมื่อเดือนพฤษภาคม นักวิทยาศาสตร์ล่องแพข้ามทะเลสาบตาโบเชซึ่งผิวน้ำส่วนใหญ่ยังเป็นน้ำแข็ง ตาโบเชและทะเลสาบอื่นๆในเขตคุมบูของเนปาลเป็นแหล่งน้ำสำคัญของคนในท้องถิ่น แต่ทะเลสาบ บางแห่งอาจเป็นอันตรายต่อชุมชนในหุบเขาบื้องล่าง ถ้าน้ำเอ่อล้นหรือทำให้ทำนบธรรมชาติพังทลาย
    ยังมีภัยคุกคามอื่นๆ ซ่อนอยู่ใต้น้ำแข็งอีก ขณะที่น้ำแข็งละลาย ถ้ำใหญ่ๆจะกลายเป็นโพรงอยู่ภายในธารน้ำแข็งที่กำลังหดตัว และอาจรับน้ำจนเต็มถ้ำ โพรงหรืออ่างเก็บน้ำที่ไม่มีใครรู้เหล่านี้ อาจเชื่อมต่อกับสระน้ำบนผิวดินผ่านปล่องในน้ำแข็ง เมื่อช่องระบายน้ำของโพรงเก็บน้ำเกิดละลายอย่างฉับพลัน น้ำในสระที่เชื่อมต่อกันหลายสิบแห่ง ก็ไหลลงไปตามโพรงนั้นในทันที พอน้ำมาบรรจบกันย่อมทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ แม้สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เรียกว่า “น้ำท่วมจากปล่องธารน้ำแข็ง” (englacial conduit flood) นี้จะมีขนาดเล็กกว่าและมีอำนาจทำลายล้างต่ำกว่าน้ำท่วมทะลักจากทะเลสาบธารน้ำแข็ง แต่กลับเกิดขึ้นบ่อยกว่าโดยที่เรามีข้อมูลเพียงน้อยนิด

    แต่ตอนนี้ น้ำท่วมทะลักจากทะเลสาบธารน้ำแข็งคือข้อวิตกหลัก ไบเออร์สชี้ไปยังกองตะกอนธารน้ำแข็งที่ตีนธารน้ำแข็งคุมบูซึ่งตอนนี้มีสระเล็กๆกระจุกตัวอยู่ “นั่นคือทะเลสาบยักษ์แห่งใหม่ครับ” เขาบอกพลางชี้ไปยังกองตะกอนธารน้ำแข็งที่พูนสูงเหนือหมู่บ้านตักลา “แค่รอว่าเมื่อไรมันจะกลายเป็นภัยคุกคามเท่านั้น”

    ผลการศึกษาเมื่อปี 2011 ชี้ว่า ทะเลสาบ 42 แห่งในเนปาลมีความเสี่ยงสูงอย่างยิ่งหรือมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุทกภัย ทั่วภูมิภาคหิมาลัยสูง (Greater Himalaya) หรือแนวเทือกเขาสูงที่สุดของระบบเทือกเขาหิมาลัย อาจมีทะเลสาบอยู่มากกว่าร้อยแห่ง

    เรื่อง เฟรดดี วิลคินสัน

    สารคดีเรื่องนี้สนับสนุนโดยโรเล็กซ์ ซึ่งร่วมกับสมาคมเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก จัดทำโครงการรณรงค์เพื่อโลกที่ยั่งยืน หรือสารคดีชุดว่าด้วยการสำรวจทางวิทยาศาสตร์เพื่อสำรวจ ศึกษา และบันทึกการเปลี่ยนแปลงในภูมิภาคที่พิเศษสุดของโลก ติดตามความเคลื่อนไหวล่าสุดของการสำรวจสุดขั้วบนเมานต์เอเวอเรสต์ ในโครงการรณรงค์เพื่อโลกที่ยั่งยืนของเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกและโรเล็กซ์ได้ที่ natgeo.com/perpetualplanet

    อ่านสารคดีฉบับเต็มได้ในนิตยสาร เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ฉบับภาษาไทย เดือนธันวาคม 2562

    https://ngthai.com/environment/28103/glacial-lakes-of-the-himalaya/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #บทวิเคราะห์บนสื่อญี่ปุ่นเขียนว่าดังนี้:
    ประเทศจีนได้โชว์ศักยภาพในการระดมพลยามฉุกเฉินในเหตุการณ์ที่อู่ฮั่น แสดงให้โลกประจักษ์ว่า ประเทศจีนมีความสามารถในการระดมกำลังทหารต่อกรกับสหรัฐได้เลยทีเดียว
    - จีนมีกำลังทางอากาศเหนือกว่าญี่ปุ่นสี่เท่า
    - ศักยภาพในการลำเลียงทางรถไฟเหนือกว่าญี่ปุ่นเก้าสิบเท่า
    - สามารถสร้างโรงพยาบาลสนามพันเตียงชั้นเลิศภายในหนึ่งสัปดาห์
    - มีความรวดเร็วในการรวบรวมบุคลากรและอุปกรณ์อย่างน่าทึ่ง
    - มีระบบแบบแผนบัญชาการเรียกกำลังคนเป็นพันเป็นหมื่นมารวมตัวได้ในพริบตา
    สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการโชว์ให้โลกเห็นว่า จีนได้ผงาดขึ้นมาเป็นประเทศที่ยากที่จะหาใครกล้าสู้รบตบมือด้วยแล้ว จีนได้บรรลุเป้าหมายในการแสดงแสนยานุภาพโดยที่ยังไม่ต้องทำสงครามกับใครเลย
    นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นคนญี่ปุ่นมองจีนด้วยสายตาเช่นนี้ เขามองการสู้ศึกไวรัสโควิค2019ของจีนในครั้งนี้ เสมอเหมือนการระดมพลทั่วประเทศในการรับมือกับมหาสงคราม!
    เขาวิเคราะห์ได้ดีมาก จึงขอนำมาแบ่งปัน
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หายนะของโรงแรมในฮ่องกง กับห้องว่าง 90%
    โรงแรมหรูในฮ่องกงกำลังต้องเผชิญกับความเสียหายอย่างหนักไปอีกหลายเดือน นับตั้งแต่การระบาดของไวรัสโคโรน่าที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ทั่วโลก ทำให้บริษัท ภาคงานต่างๆ ยกเลิกการจัดงานต่างๆ ในฮ่องกง
    อัตราเฉลี่ยการจองห้องพักลดลงเหลือเพียง 10% ตั้งแต่ต้นปี 2020 หลังธุรกิจด้านการบริการได้รับผลกระทบเป็นลูกโซ่ไปจากคำเตือนการเดินทางต่างๆ และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงอย่างมาก อีกทั้งการใช้จ่ายที่ลดลงของผู้บริโภค
    Harbour Centre Development เจ้าของโรงแรม The Murray luxury hotel ในย่าน Central เผยว่า “อัตราการจองห้องพักลดลงเหลือ 10% แม้ว่าจะมีการปรับราคาห้องพักแล้ว ส่วนห้างสรรพสินค้าก็ไม่มีคนไปเดิน และไม่ค่อยมีผู้คนมาทานอาหารนอกบ้าน”
    ***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***

    Source : https://www.scmp.com/business/artic...kets-disaster-90-cent-rooms-stay-vacant-amid?
    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดช็อก หน้ากากล้านชิ้นโผล่เฟซบุ๊ก ทั้งที่ทั่วประเทศขาดแคลน #หน้ากากอนามัย #คมชัดลึก
    https://www.komchadluek.net/news/regional/420054?fv=
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปิดแล้ว โบสถ์วัดคาทอลิก #จันทบุรี เจ้าหน้าที่ปิดประกาศงดให้เข้าเยี่ยมชมภายใน ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อ #ไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID 2019)
    #โควิด19 #ท่องเที่ยว
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150

    #ชลบุรี สาวช๊อก เข้าลิฟท์เจอคราบคนถุยน้ำลายไว้ที่ปุ่มกด จิตตกหวั่นติดเชื้อ
    #77ข่าวเด็ด #โควิด19 #ลิฟท์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยืนยันโควิดแล้ว 4,212 ราย ชาวไร่ชาวนาโอดต่างชาติหายกลับประเทศ หวั่นขาดแคลนแรงงานหลังโรคระบาดซา

    #thaikuk #thaikuknews #โควิด #ต่างชาติ #เกาหลี #โคโรนา

    1. [2 มี.ค. 2020 เวลา 00:00 น.]

    ยอดผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันการติดเชื้อทั้งหมดในเกาหลีคือ 4,212 ราย

    โดยยอดเพิ่มขึ้นจากวานนี้ 476 ราย

    มีผู้เสียชีวิตแล้ว 22 ราย และ 31 รายได้รับการรักษาหายขาดแล้ว

    หลังจากการรวบรวมสถิติอย่างเป็นทางการเสร็จ พบผู้ป่วย 2 รายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 24 ราย

    ปัจจุบันมียอดผู้ที่รอผลตรวจหาเชื้อโควิด 33,799 ราย

    และนี่ก็คือสถานะผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในแต่ละภูมิภาคจากจำนวน 476 รายที่ได้รับการยืนยันมาใหม่

    โซล(seoul) 4 ราย, ปูซาน(busan) 5 ราย, แทกู(daegu) 377 ราย, อินชอน(incheon) 1 ราย, แทจอน(daejeon) 1 ราย, คย็องกีโด(gyeonggi) 3 ราย, คังวอน(gangwon) 4 ราย, ชุงนัม(chungnam) 10 ราย, จอนนัม(jeonnam) 2 ราย, คย็องบุก(gyeongbuk) 68 ราย, คย็องนัม(gyeongnam) 1 ราย

    2. [ฤทธิ์โควิดกับสถานการณ์ผีน้อยจีนในเกาหลี]

    ผู้อพยพผิดกฎหมายชาวจีนในอันซานกล่าวว่า

    “วีซ่า C-3 ที่ออกมาเพื่อให้ผีน้อยสมัครใจออกจากเกาหลีนั้น มันไม่มีความหมายเลย ฉันอยู่จนสามารถพูดภาษาเกาหลีได้แล้ว แต่นั่นมันก็ดูเป็นเรื่องยากที่จะออกจากเกาหลี เพราะทำงานที่นี่มาเป็นเวลานานกลับจีนไปก็ไม่มีที่ทำงานในจีน เพราะพวกเขาออกจากเกาหลีใต้โดยสมัครใจ อย่างไงก็ตามกระทรวงยุติธรรมกำลังบอกให้เราออกจากประเทศ “

    1-1.jpg

    * นี่เป็นรูปภาพที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเกาหลีซึ่งถูกแชร์ SNS

    แต่ในอีกทางด้านหนึ่งในแทกู โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีนในแทกูมีความกลัวต่อไวรัสโควิดอย่างมาก
    ผู้อพยพผิดกฎหมายที่ต้องการเดินทางออกนอกประเทศอย่างรวดเร็วกำลังพากันเข้าแถวที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและยินดีที่จะเดินทางออกนอกประเทศโดยสมัครใจ



    3. [คังวอนโดเป็นกังวลเพราะไม่มีแรงงานต่างชาติ]



    2-1.jpg

    Cho Nam-myung (วัย 61 ปี) ชาวไร่ชาวนาในคังวอนโด กำลังเป็นห่วงอย่างมาก
    นาย Cho กลัวว่าเพราะไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่กระจาย แรงงานต่างชาติก็จะหดหาย คาดว่านี่จะส่งผลกระทบต่ออุปสงค์และอุปทานของทรัพยากรมนุษย์เนื่องจากบางประเทศไม่สามารถเข้าเกาหลีใต้ได้อย่างง่ายดาย

    4. [ตรวจหาเชื้อให้แรงงานต่างชาติที่ฟาร์มปศุสัตว์ในชุงช็องบุกโด]

    3-1.jpg

    ตามที่ชุงช็องบุกโดระบุว่ามีแรงงานต่างชาติ 609 คนและทำงานที่ฟาร์มปศุสัตว์ 188 แห่ง

    มีชาวเนปาล 297 คน, ไทย 128 คน, กัมพูชา 89 คน, เวียดนาม 42 คน, และ จีน 36 คน

    เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโควิด-19 ในชุงช็องบุกโด เราจะเรียกเจ้าของฟาร์ม 188 แห่ง มาค้นหาว่ามีการติดเชื้อหรือไม่

    [เนื้อหา]

    – จะมีการระบุว่าแรงงานต่างชาติมีอาการติดเชื้อ COVID-19 หรือไม่

    – ตรวจสอบว่ามีหน้ากากและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดมือเพียงพอหรือไม่

    – ตรวจสอบว่าแรงงานต่างชาติไปที่ชุมชนของตนเองหรือไม่

    เจ้าหน้าที่ชุงช็องนัมโดกล่าว

    “การเรียกมาตรวจครั้งแรกในวันนี้ยังไม่เป็นปัญหาใหญ่”


    5. [เมืองกิมแฮจะแจกหน้ากากแก่เกษตรกรปศุสัตว์ที่จ้างแรงงานต่างชาติ]

    4-1.jpg

    กิมแฮได้มีการจัดสรรและให้การสนับสนุนทางการเงินแก่เกษตรกร

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีแผนที่จะจัดหน้ากาก 2,000 ชิ้นให้กับฟาร์มกว่า 400 ฟาร์มที่จ้างแรงงานต่างชาติในเดือนมีนาคมนี้

    https://thaikuk.com/korea-news/gene...vBuIt1xYoBDmqTuBlweHe8dUIITRoLoqUCN10oDSmkc-Q
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Environman

    ทีมศึกษาขยะทะเล พบขยะหน้ากากอนามัยลอยทะเล-เกลื่อนหาดในฮ่องกง! วอนทิ้งถูกที่ ถูกวิธี กำจัดปลอดภัย

    OceanAsia ที่ทำการศึกษาขยะทะเล ซาก และไมโครพลาสติก โดยทำงานวิจัยในหมู่เกาะ Soko เน้นการศึกษาขยะ แหล่งที่มาและอื่นๆ เป็นเวลากว่า 5 เดือนแล้ว

    โดยในเดือนนี้ทางทีมได้พบขยะใหม่ นั่นก็คือหน้ากากอนามัยจำนวนมาก มันดูสกปรกอย่างมาก ซึ่งมาจากการที่มีการใช้หน้ากากเพื่อป้องกันโรคมากขึ้นในช่วงแพร่ระบาด

    ในฮ่องกงเราสามารถเห็นหน้ากากถูกทิ้งตามธรรมชาติ และการเดินของมันในการลงทะเล พัดขึ้นสู่หาด และเกาะ ก็เกิดขึ้นเร็วมาก

    OceanAsia ระบุว่านี่ทำให้เห็นว่าระบบการจัดการปัญหาขยะนั่นมีปัญหาในฮ่องกงและ จีน

    ในบ้านเราอาจเกิดปัญหานี้เช่นกันจึงชวนทุกคนทิ้งขยะหน้ากากให้ถูกที่ถูกวิธีดังนี้

    1 พับหน้ากาก ม้วน
    2 มัดด้วยสายรัด
    3 ใส่ถุงที่สามารถมองเห็นได้ มัด มิดชิด
    4 ทิ้งในถังขยะติดเชื้อ

    ติดต่อกับสถานพยาบาลใกล้บ้านเพื่อส่งหน้ากากไปกำจัด หรือมองหาจุดรับขยะติดเชื้อใกล้บ้านท่าน (ห้ามทิ้งลงในถังขยะอันตราย ชื่อคล้ายแต่ไม่เหมือนกัน)

    แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะไปถึงโรงพยาบาล อาจจะแยกหน้ากากที่ใช้แล้วใส่ในถุงที่สามารถมองเห็นภายในได้ (ถ้ากลัวไม่ชัด เขียนไปเลยว่าเป็นหน้ากากอนามัยใช้แล้วก็ยิ่งดี) มัดให้แน่นและทิ้งในถังขยะทั่วไปของกทม.

    ภาพ Naomi Brannan

    ที่มา OeanAsia

    https://www.facebook.com/593071998/posts/10157703393716999/?d=n

    https://www.facebook.com/1396075433861294/posts/1806941892774644/?d=n

    ร่มธรรม ขำนุรักษ์
    environman — กำลังสนับสนุน ทิ้งหน้ากากถูกที่ ถูกวิธี กำจัดปลอดภัย

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    WHO เตือนรบ.ทั่วโลกเร่งจัดหา ‘เครื่องช่วยหายใจ’ ไว้รองรับผู้ป่วยโควิด-19 ที่อาการรุนแรง เผยแพร่: 2 มี.ค. 2563 09:27 ปรับปรุง: 2 มี.ค. 2563 09:30 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000002150801.jpg
    เอเอฟพี - องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศเตือนวานนี้ (1 มี.ค.) ให้ทุกประเทศทั่วโลกจัดเตรียมเครื่องช่วยหายใจ (ventilators) ไว้สำหรับผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่โควิด-19 ที่อาการรุนแรง ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อยังมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ

    WHO ได้รายงานสถานการณ์ล่าสุดของโควิด-19 โดยระบุว่า “การบำบัดด้วยออกซิเจน (oxygen therapy) ถือเป็นแนวทางการรักษาหลักสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด-19ที่อาการรุนแรง”

    “ทุกประเทศควรจัดหาเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด (pulse oximeters) และเครื่องช่วยหายใจทางการแพทย์เตรียมไว้ในจำนวนที่เหมาะสม”

    ไวรัสโควิด-19 ได้คร่าชีวิตคนทั่วโลกไปแล้วกว่า 3,000 ราย และพบผู้ติดเชื้อกว่า 88,000 รายในราว 60 ประเทศ นับตั้งแต่มีการตรวจพบเชื้อครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่นของจีนเมื่อปลายปีที่แล้ว

    อย่างไรก็ดี WHO ตั้งข้อสังเกตว่าไวรัสจะยิ่งอันตรายมากเป็นพิเศษสำหรับผู้ป่วยที่อายุเกิน 60 ปี หรือมีโรคประจำตัวอยู่ก่อนแล้ว

    จากข้อมูลเมื่อวันที่ 24 ก.พ. พบว่า ในจำนวนผู้ติดเชื้อเกือบ 45,000 รายในจีนมีเพียง 2.1% เท่านั้นที่อายุต่ำกว่า 20 ปี

    WHO ระบุว่า ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง (mild) โดยมีเพียง 14% ที่ถึงขั้นปอดอักเสบ ส่วนผู้ป่วยระยะวิกฤตมีเพียง 5% เท่านั้น

    ขณะนี้อัตราการเสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ยังอยู่ที่ระหว่าง 2-5%

    WHO ย้ำถึงความจำเป็นที่จะต้องตรวจพบเชื้อแต่เนิ่นๆ “ตามมาด้วยมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดที่เหมาะสม โดยในเคสที่ไม่รุนแรงก็ให้รักษาตามอาการ และจัดเตรียมเครื่องไม้เครื่องมือให้พร้อมสำหรับการดูแลผู้ติดเชื้อที่อาการหนัก”

    ทั้งนี้ WHO เตือนว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยระยะวิกฤตยังสูงกว่า 50% จึงจำเป็นที่จะต้องเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้ เช่น จัดเตรียมเครื่องช่วยหายใจเพื่อป้องกันอันตรายของเนื้อปอด (lung protective ventilation) ให้มีเพียงพอ

    https://mgronline.com/around/detail...pFvbAbCcwoEuZvdxLMKpkWPYK8Xk8vMDLBorTt0BHklYE
     

แชร์หน้านี้

Loading...