ติดตามสถานะการณ์

"การบินไทย" ปรับลดเงินฝ่ายบริหาร 6 เดือน ฝ่าวิกฤติ "โควิด-19"
ฝ่ายบริหาร "การบินไทย" ประกาศลดเงินเดือนสวัสดิการ ตั้งแต่ 15-25% ในระยะเวลา 6 เดือน เพื่อฝ่าวิกฤติไวรัส "โควิด-19" มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.นี้
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

เจลล้างมือทั่วไปฆ่าเชื้อโควิด-19 ไม่ตาย ชี้แอลกอฮอล์ต้องเข้มเกิน 70% 25 ก.พ. 2020 - 14:11 น.

ดร.นพ.พลวัฒน์ ติ่งเพ็ชร สาขาวิชาจุลชีววิทยาและภูมิคุ้มกันวิทยา สถานวิทยาศาสตร์พรีคลินิก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) บรรยายถึงไวรัสไวรัสโคโรนา(COVID-19) ในกิจกรรมการบรรยายหัวข้อ COVID-19 (Coronavirus Disease 2019) เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ที่ผ่านมา

นพ.พลวัฒน์ กล่าวอ้างอิงจากงานวิจัยในหลายประเทศ โดยระบุว่า ทุกวันนี้ระยะฟักตัวของไวรัสโคโรนายังอยู่ที่ 14 วัน ตามข้อมูลที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ให้การรับรอง ส่วนตัวเลข 24 วันที่มีการพูดถึงกันนั้น WHO แสดงความคิดเห็นว่า มีความเป็นไปได้ว่าเกิดจากมีผู้ที่ได้รับเชื้อซ้ำ สำหรับการติดต่อจากคนสู่คน ไวรัสนี้สามารถติดต่อได้ในระยะน้อยกว่า 2 เมตร เรียกว่าติดต่อผ่านทางละอองฝอย แต่เนื่องจากโรคนี้คือ SARS-CoV-2 ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับ SARS-CoV ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดได้มากกว่าทางละอองฝอย แต่ข้อมูล ณ ปัจจุบันยังอยู่ที่ละอองฝอยเท่านั้น

นอกจากนี้ ยังพบว่าเชื้อดังกล่าวยังมีอยู่ในอุจจาระด้วย ฉะนั้นวิธีการป้องกันคือ 1. อย่าอยู่ใกล้กับผู้ป่วย ถ้าอยู่ใกล้กันจำเป็นต้องใส่หน้ากาก 2. ล้างมือก่อนสัมผัสอาหาร หรือสัมผัสส่วนต่างๆ ของร่างกายตัวเอง 3. ปิดฝาก่อนกดชักโครก

ดร.นพ.พลวัฒน์ กล่าวว่า แม้ว่า SARS-CoV-2 หรือ ไวรัส COVID-19 จะเป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้ม ซึ่งตามทฤษฎีจัดว่าอ่อนแอ แต่กลับพบว่ามีความสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานและไม่ตายง่ายๆ โดยผลการศึกษาพบว่า ในอากาศ 20 องศาเซลเซียส ความชื้นสัมพัทธ์ 50% เชื้อมีอายุได้ถึง 6 วัน หรือจากการทดลองพบว่าเชื้ออยู่บนพลาสติกได้ 9 วัน และอยู่ในเสื้อกาวน์ได้ถึง 2 วัน“จากการทดลองในต่างประเทศ พบว่าต้องใช้แอลกอฮอล์เข้มข้นเกิน 70% เชื้อถึงจะตาย ขณะที่เอทานอล (Ethanol) ต้องมีความเข้มข้น 70-95% เชื้อถึงจะตาย ฉะนั้นต้องกลับไปดูเจลล้างมือที่เราใช้ว่าเอทานอลเข้มข้นเท่าใด ถ้าเพียงแค่ 50% หรือ 65% คงไม่พอ เชื้อไม่ตาย ส่วนตัวผมใช้วิธีพกแฮลกอฮอล์ขวดเล็กๆ ติดตัวตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยได้มาก” ดร.นพ.พลวัฒน์ กล่าว


พญ.พาณิภัค กตเวทิวงศ์ หน่วยโรคติดเชื้อ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มธ. กล่าวถึงอาการและแนวทางการรับมือ การรักษา และการป้องกัน COVID-19 ว่า ผู้ที่ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยคือ 1. ผู้ที่ป่วย 2. ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย 3. ผู้ที่เดินทางไปในแหล่งชุมชนหรือพื้นที่ที่มีความแออัด โดยหน้ากากที่แนะนำคือหน้ากากอนามัย

อย่างไรก็ตาม การสวมใส่หน้ากากอนามัยต้องสวมและถอดอย่างถูกวิธี ไม่เช่นนั้นประสิทธิภาพในการป้องกันจะไม่ดีเท่าที่ควร โดยก่อนใส่ต้องล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง จับตรงหูด้านข้าง หันฝั่งสีเข้มออกด้านนอก บีบลวดตรงจมูก และคลุมให้ถึงคาง“หน้ากากฝั่งสีเข้มคือฝั่งที่จะสัมผัสกับเชื้อโรคโดยตรง ฉะนั้นเมื่อสวมใส่หน้ากากไปแล้ว ไม่ควรนำมือไปสัมผัสฝั่งสีเข้มอีกเป็นอันขาด โดยเฉพาะตอนถอด หากเราไปสัมผัสจะทำให้มีการปนเปื้อนเชื้อ” พญ.พาณิภัค กล่าว


พญ.พาณิภัค กล่าวอีกว่า อาการที่สามารถสังเกตได้ในชีวิตประจำวัน คือไข้ ไอ เหนื่อย ร่วมกับประวัติที่น่าสงสัย เช่น เดินทางมาจากพื้นที่การระบาด หรือสัมผัสกับผู้ที่มีความเสี่ยง ก็ควรมาพบแพทย์ ซึ่งจากสถิติพบว่าผู้ป่วย 1 คน มีโอกาสแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นเฉลี่ยแล้ว 2 ราย โดยระยะการแพร่เชื้อผ่านทางละอองฝอยในสภาวะปกติจะอยู่ที่ 6 ฟุต หรือระยะ 2 เมตรสำหรับคำแนะนำ ได้แก่ 1. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นแหล่งระบาดของโรคตามประกาศ 2. หากไปมาแล้วและเพิ่งเดินทางกลับมา ควรหยุดอยู่บ้าน แยกของใช้ และวัดไข้วันละ 2 ครั้ง หากเกิดไข้ ไอ เหนื่อย ให้รีบไปพบแพทย์“อยากให้ประชาชนติดตามสถานการณ์และประกาศอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติตัวอย่างเหมาะสม เนื่องจากสถานการณ์อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคต” พญ.พาณิภัค กล่าว

https://www.springnews.co.th/thailand/622472

 

ครบรอบ 1 เดือนหลังปิดมณฑลหูเป่ย
เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงที่ผ่านมาหลังรัฐบาลกลางจีนสั่งปิดมณฑลหูเป่ย ?
วันที่ 23 ก.พ. เป็นวันครบรอบ 1 เดือนหลังจากที่รัฐบาลกลางจีนสั่งปิดเมืองในมณฑลหูเป่ยเพื่อจำกัดการแพร่กระจายของไวรัส COVID – 19 โดยมาตรการปิดเมืองนี้รวมไปถึงการระงับระบบขนส่งสาธารณะ การสั่งปิดสนามบิน รถไฟ ทางหลวง ห้ามประชาชนเดินทางออกนอกเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยกเลิกงานฉลองวันตรุษจีน โดยเมื่อวันที่ 23 ม.ค. ทางการจีนสั่งปิดเมืองอู่ฮั่น หวงกัง เอ้อโจว และสั่งปิดเมืองอื่นๆ ในมณฑลหูเป่ยในวันถัดมา ต่อมาในวันที่ 2 ก.พ. ทางการจีนก็สั่งปิดเมืองเวินโจว ในมณฑลเจ้อเจีย ซึ่งเป็นมณฑลที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดรองจากมณฑลหูเป่ยเช่นกัน มีผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดเมืองทั้งสิ้นมากกว่า 56 ล้านคน
มาตรการดังกล่าวได้รับทั้งเสียงชื่นชมในการตัดสินใจควบคุมโรคอย่างเด็ดขาดของจีน รวมทั้งคำวิจารณ์ว่าจีนอาจทำ "เกินกว่าเหตุ" และทำให้ผู้คนตื่นตระหนก อย่างเช่นที่นักประวัติศาสตร์การแพทย์ โฮวาร์ด มาร์เคล เขียนในบทวิจารณ์ของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า มาตรการปิดเมืองเป็นการผลักภาระให้ชาวมณฑลหูเป่ย และการค่อยๆ เพิ่มความรัดกุมของมาตรการอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตรวจสอบได้ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย น่าจะดีกว่าการสั่งปิดเมืองแบบรวบอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง
แม้ว่าเสียงตอบรับต่อจีนจะมีทั้งบวกและลบ แต่ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัส COVID - 19 ที่ขยายตัวขึ้นเรื่อย ๆ ประเทศอื่น ๆ ก็หันมาเริ่มใช้มาตรการปิดเมืองเช่นกัน อย่างเช่นเมื่อวันที่ 13 ก.พ. เวียดนามที่สั่งปิดชุมชน Son Loi โดยผู้อาศัยในเขตชุมชนดังกล่าวกว่า 10,000 คนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากพื้นที่ชุมชนเป็นเวลา 20 วัน หรือล่าสุดนี้เมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา สำนักข่าวยูโรนิวส์ก็รายงานว่า ทางการอิตาเลียนสั่งปิดเมืองทางตอนเหนือของประเทศอย่างน้อย 10 เมือง และล่าสุดนี้ก็ยกเลิกการจัดงานคาร์นิวัลในเมืองเวนิส หลังจากที่อิตาลีมีผู้เสียชีวิตจากไวรัส COVID -19 เป็นประเทศแรกในยุโรป
นอกจากมาตรการปิดเมืองแล้ว ประเทศต่าง ๆ ก็เข้มข้นกับการกักตัวและคัดกรองผู้คนเข้าประเทศมากขึ้น อย่างเช่นสหรัฐ ฯ ที่มีคำสั่งเมื่อวันที่ 31 ม.ค. ให้กักตัวชาวอเมริกัน 195 คน ที่เดินทางกลับจากมณฑลหูเป่ยเป็นเวลา 14 วัน และห้ามชาวต่างชาติที่เดินทางไปจีนในช่วง 14 วันเดินทางเข้าสหรัฐ ฯ และเมื่อวันที่ 3 ก.พ. ทางการญี่ปุ่นก็สั่งกักบริเวณผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 3,700 คน เป็นเวลา 2 สัปดาห์ที่ท่าเรือเมืองโยโกฮามา โดยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสบนเรือดังกล่าวมีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นรองก็เพียงแต่จำนวนผู้ติดเชื้อในจีนเท่านั้น

 

มาตรการกักตัวประชาชนมากกว่า 70 คนในยูเครนที่อพยพออกมาจากจีนระหว่างเกิดการระบาดของโคโรนาไวรัส โควิด-19 ได้ลุกลามไปเป็นความวุ่นวาย เมื่อประชาชนจำนวนมากไม่พอใจต่อมาตรการดังกล่าวและเกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในคำแถลงบนหน้าเฟสบุ๊ก ประธานาธิบดีโวโลดีเมียร์ เซเลนสเกีย กล่าวว่า ผู้ที่ถูกนำตัวออกมาจากจีนมีสุขภาพแข็งแรงดี และจะถูกนำตัวไปไว้ที่ศูนย์การแพทย์ในหมู่บ้านโนวี ซานซารี เพื่อดูอาการ ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับบ้าน

Ukraine's effort to quarantine more than 70 people evacuated from China over the coronavirus outbreak plunged into chaos, Thursday, February 20, as local residents opposing the move engaged in violent clashes with police.

In a statement published on his Facebook page, President Volodymyr Zelenskiy said the people evacuated from China are healthy and will live in a closed medical center run by the National Guard in the village of Novi Sanzhary as a precaution.

 

สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือ โควิด-19 ขยายวงกว้างไปถึงยุโรปและตะวันออกกลาง แต่องค์การอนามัยโลกเชื่อว่า วิกฤติปัจจุบันยังไม่ถึงระดับที่จะประกาศว่าเป็นโรคระบาดแผ่วงกว้าง
https://www.voathai.com/a/coronavirus-outbreak-italy-iran-europe-who/5302520.html

 

ช่วงอากาศร้อนไวรัสยังไงก็ไม่ตาย เพราะอากาศมันจะร้อนถึงอุณหภูมิ56องศาเซลเชียส นาน30นาที เลยหรือ

แบ่งปันจาก อ้ายจง

จีนเผย "แผนวินิจฉัยและรักษาไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ ฉบับที่3" ระบุ "ไวรัสสามารถตายได้ที่อุณหภูมิ56องศาเซลเชียส นาน30นาที ,เอทิลแอลกอฮอล์ 75% สามารถยับยั้งไวรัสได้" และที่น่ากังวลคือ "พบว่า เคสผู้ป่วยที่ไม่มีประวัติไปตลาดที่คาดว่าเป็นต้นตอระบาดสูงขึ้นเรื่อยๆ"
นอกจากนี้ ในมณฑลกว่างตง ยังพบผู้ป่วยที่อายุน้อยที่สุด ที่10ปี ทำให้กล่าวได้ว่า ไวรัสชนิดนี้สามนรถติดได้ทุกช่วงวัยแล้ว ไม่เหมือนก่อนหน้านี้ที่ผู้เชี่ยวชาญในจีนเชื่อว่า เด็กและคนอายุไม่เยอะมีโอกาสติดได้ยาก
สำหรับวิธีการป้องกันตนเองจากเชื้อนี้นะครับ ขอสรุปดังนี้
1. ใส่หน้ากากอนามัย
2. หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
3. เวลาจามต้องป้องกัน ปิดปาก และหมั่นล้างมือ
4. ล้างมือด้วยน้ำและสบู่ขั้นต่ำ20วินาที
5. แอลกอฮอล์สามารถช่วยฆ่าเชื่อได้
6. กินอาหารปรุงสุก งดอาหารดิบทุกชนิด ต้องปรุงอาหารด้วยความร้อน เพราะไวรัสชนิดนี้ไม่ทนความร้อนดังที่ระบุไปข้างต้น
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

สาวร้อยเอ็ดเครียดจัด จ่อโดดสะพานปลิดชีพ ย่ำเท้าหางานทำ แต่ไม่มีใครรับ
สาวร้อยเอ็ดจากบ้านมา หวังหางานที่พัทยาทำ แต่โดนพิษโควิด-19 ท่องเที่ยวซบเซาไม่มีใครรับ เจ้าตัวเครียดจัด จ่อโดดสะพานปลิดชีพ พลเมืองดี ตร. ช่วยทัน พร้อมหาทางออก
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

#เมืองกอม_อู่ฮั่นแห่งอิหร่าน
#แหวกม่านเปอร์เซียด้วยCovid_19
เมื่อสักครู่เห็นข่าวด่วนเข้ามาแว๊บๆ ว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตด้วยโรคไวรัสCovid-19 ที่เมืองกอม ประเทศอิหร่านอาจทะยานไปแตะที่ 50 คนแล้ว ซึ่งตัวเลขนี้ เป็นยอดตัวเลขสะสมมาตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ มาจนถึงวันนี้ แต่รัฐบาลอิหร่านปิดข่าว
ซึ่งทางการอิหร่าน ยังไม่ยืนยันว่าข่าวนี้จะเป็นจริงหรือไม่ ตอนนี้ยังยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตทั่วประเทศที่ 43 คน และเป็นชาวเมืองกอมถึง 26 คน
แต่หากเมืองกอมที่เป็นจุดศูนย์กลางการระบาดของโรค Covid-19 และมีตัวเลขผู้เสียชีวิตสูงถึงขนาดนี้ และยังไม่แน่ใจว่ามีผู้ติดเชื้อจริงๆอยู่เท่าไหร่กันแน่ สถานการณ์โรคระบาดในอิหร่านอาจจะรุนแรงมากขึ้นไปอีก จนอาจจะกลายเป็นอู่ฮั่นแห่งอิหร่านในไม่ช้า
จุดเริ่มต้นของเชื้อไวรัสในอิหร่าน เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครทราบ แต่ทันทีที่อิหร่านประกาศจำนวนผู้ติดเชื้อ 2 รายแรกเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ คือเสียชีวิตเรียบร้อยแล้ว และทั้ง 2 คนเป็นชาวเมืองกอม
แล้วหลังจากนั้น ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอิหร่านก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัวทุกวัน จากนั้นก็ลุกลามออกไปยังเมืองใกล้เคียง รวมถึงกรุงเตหะราน เมืองหลวงด้วย
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโรค ยังพบเส้นทางการระบาดของผู้ติดเชื้อในเลบานอน และ แคนาดา มาจากนักท่องเที่ยว ที่เดินทางเข้าไปในเมืองกอม ก่อนกลับประเทศ
ต้นตอเชื้อไวรัส Covid-19 ในอิหร่าน สันนิษฐานว่ามาจากคนงานจีน ที่เข้าไปทำงานก่อสร้าง โครงการโซลาร์เซลล์ ในเมืองกอม ที่อาจมีบางคนติดเชื้อก่อนเดินทางเข้าอิหร่าน
สิ่งที่น่าเป็นห่วงในกรณีของเมืองกอม ในอิหร่าน คือ เมืองนี้ เป็นเมืองขนาดใหญ่ เป็นอันดับ 7 ของประเทศ ที่มีประชากรมากถึง 1.2 ล้านคน และห่างจากกรุงเตหะรานเพียง 140 กม.
นอกจากนี้ เมืองกอมยังเป็นเมืองสำคัญ มีศาสนาสถานศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นศูนย์กลางทางจิตวิญญาณของชาวมุสลิม นิกายชีอะห์ ที่จะมีชาวมุสลิมชีอะห์จากทั่วโลกเดินทางเข้าไปแสวงบุญปีหนึ่งไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน และยังเป็นศูนย์กลางการศึกษาด้านศาสนาของอิหร่านด้วย
ดังนั้นสถานการณ์โรคระบาดในเมืองกอม ก็คือระเบิดเวลาดีๆนี่เอง
ถึงแม้ว่าทางอิหร่านจะไม่อยากเปิดประเทศในต่างชาติเข้ามาวุ่นวายในบ้านตัวเองเท่าไหร่ และยืนยันว่ายังไงก็เอาอยู่ แต่ประเทศเพื่อนบ้านเขาไม่คิดแบบนั้น
ล่าสุด คูเวตสั่งอพยพ พลเมืองของตัวเองออกจากอิหร่านโดยด่วน ปากีสถาน อาฟกานิสถาน และตุรกี สั่งปิดพรมแดนกับอิหร่านทันที
ก็นับเป็นปีแห่งเคราะห์ซ้ำ กรรมซัดของอิหร่านจริงๆ แต่เราจะไม่ย้อน เหยียบ ย่ำ ซ้ำเติม กันและกัน หากมองอีกแง่หนึ่ง เจ้าเชื้อไวรัสนี้ อาจผลักดันให้เกิดพลังสามัคคีของคนทั้งโลก โดยไม่เกี่ยงเรื่อง เชื้อชาติ ศาสนา เพื่อร่วมกันต่อสู้กับมันก็ได้นะค้า
แหล่งข้อมูล
https://www.theguardian.com/world/2020/feb/24/coronavirus-dead-in-iranian-city-of-qom
https://www.cnbc.com/2020/02/21/who...virus-outbreak-in-iran-is-very-worrisome.html
https://www.khaleejtimes.com/coronavirus-outbreak/coronavirus-50-dead-in-iran-from-covid-19
https://www.voanews.com/science-hea...us-case-confirmed-lebanon-linked-iranian-city
https://en.wikipedia.org/wiki/2020_coronavirus_outbreak_in_Iran
https://en.wikipedia.org/wiki/Qom

 

#ข่าวด่วน เมืองนาโกย่าพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 3 ราย ใช้สถานที่เดียวกัน
หญิงวัย 70s 2 ราย: ใช้สถานที่เดียวกับผู้ติดเชื้อวัย 60s ที่ถูกพบเมื่อวันที่ 15 กุมภา
หญิงวัย 40s 1 ราย: ใช้สถานที่เดียวกับผู้ติดเชื้อวัย 50s ที่ถูกพบเมื่อวันที่ 19 กุมภา
ชาวเน็ตไปพบมาแล้วว่า “สถานที่” ที่ว่าคือ ฟิตเนส 4 แห่ง (ทุกแห่งประกาศบนอินเทอร์เน็ตว่ามีผู้ใช้บริการติดไวรัสโคโรน่า)
ใครอยากทราบชื่อดูภาพในคอมเมนท์นะคะ
จ. ไอจิตอนนี้ มีผู้ติดเชื้อ 20 รายแล้ว 
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

ประกาศสถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต
ที่ ๓ / ๒๕๖๓
เรื่อง มาตรการที่เกี่ยวข้องสืบเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
(COVID-19)
สำหรับคนไทยในคูเวต
-----------------------------------
วันนี้ (๒๕ ก.พ. ๒๕๖๓) กระทรวงสาธารณสุขคูเวตได้ออกประกาศพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) เพิ่มอีก ๕ ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวในคูเวตรวมทั้งหมด ๘ ราย
ซึ่งทั้งหมดถูกกักตัวและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่กระทรวงสาธารณสุขคูเวตได้เตรียมไว้เกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าว สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอเรียน ดังนี้
๑. มาตรการเกี่ยวกับการเดินทางระหว่างประเทศ
ขณะนี้ ทางการคูเวตได้ยกเลิกเที่ยวบินระหว่างคูเวตกับประเทศไทย เกาหลีใต้ อิตาลี และอิรัก
รวมทั้งห้ามคนต่างชาติที่เดินทางมาจากประเทศไทย เกาหลีใต้ และอิตาลี เดินทางเข้ามายังคูเวตแม้ว่าจะมีวีซ่าทำงานหรือถิ่นพำนักในคูเวต สำหรับบุคคลสัญชาติคูเวตที่เดินทางมาจากประเทศดังกล่าวจะต้องถูกกักตัว
เป็นเวลา ๑๔ วัน และตรวจร่างกายตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขคูเวต
๒. ข้อแนะนำในการปฏิบัติเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
๒.๑ หมั่นล้างมือด้วยสบู่
๒.๒ ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม
๒.๓ หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีผู้คนพลุกพล่าน
๒.๔ พบแพทย์ทันที่ที่มีอาการป่วย
๒.๕ สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่านหรือสัมผัสกับผู้ป่วยที่เป็นโรคทางเดินหายใจ
สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอให้ชาวไทยในคูเวตปฏิบัติตามข้อแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขคูเวตอย่างเคร่งครัดและติดตามข่าวสารเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อไปที่หมายเลขฉุกเฉินของกระทรวงสาธารณสุขคูเวตตามเขตต่างๆ ดังต่อไปนี้
เขตเมืองหลวง +๙๖๕ ๒๒๕๓ ๑๐๙๒
เขตฮาวาลี +๙๖๕ ๒๕๓๑ ๑๓๔๖
เขตฟาร์วาเนีย +๙๖๕ ๒๔๗๙ ๖๗๒๙
เขตอาห์มาดี +๙๖๕ ๒๓๙๔ ๐๑๙๗
เขตจาห์รา +๙๖๕ ๒๔๕๗ ๒๔๕๖
เขตซาบาห์ +๙๖๕ ๒๔๘๒ ๖๕๙๒
ทั้งนี้ หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทาง
หมายเลขฉุกเฉิน +๙๖๕ ๖๐๗๑ ๙๘๘๘ และ +๙๖๕ ๖๐๗๑ ๘๘๘๙
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน

สถานเอกอัครราชทูต ณ คูเวต
๒๕ กุมภาพันธุ์ ๒๕๖๓

 

องค์การอนามัยโลกเตือนทุกประเทศเตรียมพร้อมรับมือ “Pandemic” ไวรัสโควิด-19 ระบาดใหญ่ วันที่25 กุมภาพันธ์ 2020


ที่มาภาพ:
องค์การอนามัยโลก (World Health Organization: WHO) เตือนให้โลกเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะการระบาดครั้งใหญ่ (pandemic) ของโรคติดเชื้อโครนาไวรัส 2019 (โควิด-19) แม้ขณะนี้ยังเร็วไปที่จะประกาศให้การแพร่ระบาดของโควิด-19 เป็นภาวะการระบาดใหญ่ของโลก

pandemic หรือการเกิดการระบาดทั่วโลก หมายถึง การที่มีการติดต่อระหว่างคนสู่คนกระจายไปหลายส่วนของโลก

จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีผลให้เป็นโรคปอดอักเสบยังคงเพิ่มขึ้น และกระจายไปยังเกาหลีใต้ อิตาลี และอิหร่าน ทำให้มีความกังวลมากขึ้น แม้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่อยู่ในจีนซึ่งเป็นแหล่งที่มาของการระบาดไวรัส โดยมีผู้ติดเชื้อกว่า 77,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 2,600 ราย

นอกจากนี้ผู้ติดเชื้อกว่า 1,200 รายในอีก 30 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 20 ราย โดยที่อิตาลีมีผู้เสียชีวิต 4 รายเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ส่งผลให้ผู้เสียชีวิตทั้งสิ้นรวม 7 ราย ส่งผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงอย่างหนัก

จีนประกาศจะยกเลิกการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติที่กำหนดไว้ในเดือนหน้า เพื่อที่จะทุ่มเทให้กับการควบคุมการระบาดของโควิด-19

สัดส่วนผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 มีราว 1-2% แม้องค์การอนามัยโลกเตือนว่า อัตราผู้เสียชีวิตที่แท้จริงยังไม่สามารถระบุได้

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ อิรัก อัฟกานิสถาน คูเวต โอมาน และบาห์เรน รายงานการพบผู้ติดเชื้อเป็นครั้งแรก ทั้งหมดได้สัมผัสกับผู้ที่เดินทางกลับมาจากจีน เจ้าหน้าที่ในบาห์เรนเปิดเผยว่า ผู้ป่วยติดเชื้อเป็นคนขับรถโรงเรียน ส่งผลให้มีการสั่งปิดโรงเรียนหลายแห่ง

ดร.เทดรอส อาดานอม เกเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในอิหร่าน อิรัก และเกาหลีใต้ น่าวิตกอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ดร. เทดรอสกล่าวว่า “ขณะนี้เรายังไม่พบการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสนี้ และเรายังไม่พบการแพร่ระบาดในวงกว้างที่รุนแรงหรือเสียชีวิตอย่างมาก”

“ถ้าถามว่าไวรัสนี้มีโอกาสที่ระบาดทั่วโลกหรือไม่ แน่นอน มีโอกาส และตอนนี้เราถึงจุดนั้นแล้วหรือยัง จากการประเมินของเรา ยังไม่ถึงขั้นนั้น” ดร.เทดรอสกล่าว

“สิ่งที่อยากสื่อสารไปยังทุกประเทศทั่วโลก คือ ความหวัง ความกล้า ความเชื่อมั่น จะทำให้การสกัดการแพร่ระบาดได้ผล ซึ่งมีหลายประเทศที่ได้ใช้วิธีการนี้มาแล้ว” ดร.เทดรอสกล่าว

“การใช้คำว่าภาวะระบาดทั่วโลก หรือ pandemic ไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง แต่อาจจะทำให้เกิดความกลัวขึ้นแน่”

แต่นายไมก์ ไรอัน ผู้บริหารฝ่ายภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพ (Health Emergencies Programme) กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องทำทุกอย่างเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับภาวะการระบาดทั่วโลก


ที่มาภาพ:

ทางด้านเทเลกราฟ สื่ออังกฤษ ได้อธิบายความหมายของ pandemic และผลที่จะเกิดขึ้นหากมีการประกาศภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลกในรายงาน Coronavirus outbreak: What is a pandemic and what happens if one is declared?

รายงานตั้งคำถามว่า ขณะนี้การระบาดของโควิด-19 นั้นถือว่าเป็นภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก หรือ pandemic แล้วหรือยัง และถ้าเป็นแล้วหมายความว่าอย่างไร รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจโลกคืออะไร

จากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในยุโรปช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของจำนวนผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้และอิหร่าน ทำให้นักไวรัสวิทยาเตือนว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ถึงขึ้นที่ต้องจัดว่าเป็นภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก หรือ pandemic แล้ว

แต่ภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลกหรือ pandemic และนัยที่เกิดขึ้นคืออะไร

ภาวะระบาดใหญ่ทั่วโลก หรือ pandemic
pandermic มาจากรากศัพท์ภาษากรีก pan หรือภาษาอังกฤษคือ all หมายถึง ทั้งหมด และภาษากรีกคำว่า demos หรือ people ในภาษาอังกฤษ คือคน pandermic เป็นศัพท์ที่ใช้โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อ เมื่อการระบาดหรือ epedimics กระจายวงออกไปในหลายประเทศ หรือหลายทวีปในเวลาพร้อมๆ กัน

แม้คำว่า pandemic จะทำให้เกิดความกลัว แต่ก็หมายถึงการแพร่ระบาดของโรค ไม่ได้หมายความว่าโรคนั้นรุนแรงหรือมีผลต่อชีวิต ภาวะระบาดใหญ่หมายถึงโรคมีการระบาดแพร่กระจายออกไปในหลายประเทศหรือหลายทวีป โดยทั่วไปจะมีผลต่อคนจำนวนมาก อีกทั้งโรคนี้ต้องมีการติดต่อ ตัวอย่างเช่น โรคมะเร็งมีผลต่อคนทั่วโลก แต่ไม่ได้เป็นโรคติดต่อ ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้คำว่าระบาดหรือ pandemic กับโรคมะเร็งได้

ภาวะระบาดใหญ่ หรือ pandemic โดยทั่วไปมักจะเกิดจากการติดเชื้อในระยะยาว ดังนั้นคำถามคือ ใครติดเชื้อ ได้รับเชื้อมาจากใครตั้งแต่ต้น ก่อนที่จะมาสู่คนจำนวนมากหลายประเทศและหลายทวีป ดังนั้น หากจำนวนผู้ติดเชื้อในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น โดยไม่มีความเชื่อมโยงย้อนกลับไปที่จีน ก็จัดว่าตรงตามความหมายของคำว่า การระบาดใหญ่


ที่มาภาพ: https://www.telegraph.co.uk/global-...andemic-coronavirus-outbreak-economic-impact/
ความแตกต่างของการระบาดใหญ่ pandemic กับโรคระบาด หรือ epidemic
โรคระบาดหมายถึงเหตุการณ์ที่โรคแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว โดยทั่วไปเป็นโรคระบาดที่ควบคุมไม่ได้ แต่มักจะเกิดขึ้นในประเทศหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง การระบาดของโรคหมายถึงการเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของจำนวนผู้ที่ป่วยเป็นโรคซึ่งไม่คาดคิดมาก่อน

การระบาดใหญ่จึงเป็นการระบาดของโรคในระดับพื้นที่กว้างและมีผลต่อคนจำนวนมาก

คำถามคือ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นการระบาดใหญ่หรือไม่? การที่ไวรัสแพร่กระจายไป 31 ประเทศในหลายทวีปนั้นน่าจะสอดคล้องกับคำนิยามภาวะระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลก แต่อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกประกาศให้เป็นเพียงภาวะฉุกเฉินของโลกด้านสาธารณสุข และผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า แม้มีโอกาสที่การระบาดจะยกระดับเป็นภาวะระบาดใหญ่ แต่ก็ยังไม่เข้าเกณฑ์

“ในขณะนี้เรายังไม่พบการแพร่ระบาดทั่วโลกของไวรัสนี้ และเรายังไม่พบการแพร่ระบาดในวงกว้างที่รุนแรงหรือเสียชีวิตอย่างมาก” ดร.เทดรอสกล่าวและว่า “ถ้าถามว่าไวรัสนี้มีโอกาสที่จะระบาดทั่วโลกหรือไม่ แน่นอน มีโอกาส และตอนนี้เราถึงจุดนั้นแล้วหรือยัง จากการประเมินของเรา ยังไม่ถึงขั้นนั้น”

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะระบาดใหญ่
หากองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะระบาดใหญ่ ผลที่ตามมาจะมีความร้ายแรง

จากแผนการเตรียมความพร้อมสำหรับการระบาดใหญ่ขององค์การอนามัยโลกนั้น การตอบสนองต่อภาวะระบาดใหญ่จะทำให้รัฐบาลต้องดำเนินการ ระดมระบบสุขภาพ การบริการทางการแพทย์ สิ่งอำนวยความสะดวก กำลังคนอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งในระดับประเทศและระดับพื้นที่ เพื่อส่งมอบแจกจ่ายอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล เพื่อแจกจ่ายยาต้านไวรัสและอุปกรณ์ทางการแพทย์อื่นให้สอดคล้องตามแผนของประเทศ

ด้วยเหตุนี้การประกาศภาวะระบาดใหญ่จึงมีความท้าทายอย่างมากสำหรับบางประเทศ เมื่อองค์การอนามัยโลกประกาศภาวะระบาดใหญ่ของโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 ในปี 2009 บางประเทศซึ่งเห็นว่าทำให้เกิดความวิตกกังวลขึ้นโดยไม่จำเป็นก็ได้วิจารณ์การตัดสินใจขององค์การอนามัยโลก

นอกเหนือจากนี้ การประกาศภาวะระบาดใหญ่ของโรคไว้หวัดใหญ่ H1N1 ทำให้หลายประเทศมีค่าใช้จ่ายจำนวนมากสำหรับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 แต่ปรากฏว่าเป็นสายพันธุ์ของไข้หวัดที่พิสูจน์แล้วว่าไม่รุนแรงและค่อนข้างง่ายต่อการควบคุม

คำที่องค์การอนามัยโลกใช้ในหลายวันก่อนก็ค่อนข้างหดหู่ โดยวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2563 ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกได้กล่าวว่า “โอกาสที่จะควบคุมการแพร่ะระบาดของไวรัสหดแคบลง”

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) ได้เตรียมความพร้อมรับมือกับการระบาดใหญ่ไว้แล้ว

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากการระบาดใหญ่คืออะไร
ธนาคารโลกประเมินว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ในระดับปานกลางไปจนถึงขั้นรุนแรงราว 570 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.7% ของรายได้ของโลกรวมกัน

การระบาดของโรคซาร์สที่เกิดขึ้นในปี 2003-2004 ซึ่งมีผู้ติดเชื้อราว 8,000 ราย กระทบเศรษฐกิจโลก 50 พันล้านดอลลาร์ แม้มีผู้เสียชีวิตน้อยกว่า แต่ผลกระทบจากไวรัสโคโรนาอาจจะรุนแรงกว่ามาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโลกพึ่งพิงจีนมากขึ้นในช่วงกว่า 17 ปีที่ผ่านมา

จีนเคยมีสัดส่วนเพียง 5% ของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่เกิดโรคซาร์ส แต่ขณะนี้เศรษฐกิจจีนมีสัดส่วน 1 ใน 5 ของเศรษฐกิจโลกและมีส่วน 1 ใน 3 ของการเติบโตของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้เศรษฐกิจจีนอาจจะเปราะบางมากกว่าเดิม เพราะภาคบริการขยายตัวมากขึ้น

บิลล์ เกตส์ คาดว่า การระบาดของโควิด-19 จะมีผลกระทบอย่างมากต่อระบบสาธารณสุขของโลกและอาจจะคร่าชีวิตชาวแอฟริกาถึง 10 ล้านคน

ความวิตกต่อผลที่อาจจะเกิดต่อเศรษฐกิจ อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่องค์การอนามัยโลกยังไม่ประกาศภาวะระบาดใหญ่ของโควิด-19

ดัวอย่างของการระบาดใหญ่มีอะไรบ้าง
การระบาดใหญ่อาจจะเป็นได้ทั้งในแง่ปริมาณและผลที่จะเกิดขึ้น ซึ่งตัวอย่างนั้นมีทั้ง เอชไอวี โรคอหิวาต์สุกร ไข้หวัดใหญ่สเปนในปี 1918 และโรคไข้หวัดใหญ่ H1N1 โรคระบาดที่น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์คือ กาฬโรค ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 200 ล้านคนในยุคกลางหรือศตวรรษที่ 14 และโรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ ที่มีผู้เสียชีวิต 300 ล้านคนในศตวรรษที่ 20

ศัพท์ที่น่าสนใจ

epidemic การระบาดของโรค หมายถึงการเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันของจำนวนผู้ที่ป่วยเป็นโรค ผิดปกติและไม่คาดมาก่อน

hyperendemic หมายถึงโรคประจำถิ่น มีจำนวนผู้ป่วยที่สูงกว่าที่อื่น เช่น เอชไอวีในพื้นที่ส่วนหนึ่งของแอฟริกา

outbreak หมายถึงการปะทุของโรคในพื้นที่จำกัด

pandemic หมายถึง ภาวะระบาดใหญ่ โดยทั่วไปมักจะเกิดจากการติดเชื้อในระยะยาว มีการแพร่กระจายไปหลายประเทศและมีผลกับคนจำนวนมาก

sporadic หมายถึง โรคที่นานๆ ครั้งจะเกิดขึ้น ไม่เกิดติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือปะทุขึ้นอย่างผิดปรกติในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่ง เช่น อาหารเป็นพิษจากแบคทีเรียสกุลซัลโมเนลลาหรืออีโคไล

https://thaipublica.org/2020/02/who-warns-countries-be-prepared-for-pandemic/

 

#เกาหลี แรงไม่ตก ยอดผู้ป่วย #โควิด19 เพิ่มเป็น 893 รายวันนี้ เสียชีวิตเพิ่มเป็น 8 ราย รัฐบาลประกาศมาตรการรับมือด่วน พร้อมเปิดทางช่วยผีน้อย หากติดเชื่้อ
.
สถานการณ์ไวรัส #โคโรนา ในเกาหลีใต้ มีผู้รักษาหายขาดแล้ว และได้รับการปล่อยตัวกลับบ้าน 22 ราย รอผลการตรวจหาเชื้อ อีก 13,273 ราย
.
รัฐบาลเกาหลีแก้ไขกฎการป้องกันและควบคุมโรค
– ผู้ที่มีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรงดไปโรงเรียนหรือไปทำงาน (แนะนำให้หยุด 3-4 วัน)
– หากผู้ใดที่มีไข้สูง (มากกว่า 38 องศา) หรือมีอาการรุนแรงโปรดติดต่อ 1339 ทันที
– หากจำเป็นต้องไปสถาบันการแพทย์ต้องใช้รถของตนเองแทนการใช้บริการขนส่งสาธารณะ
– หากผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปและมีภาวะไตวายหรือเบาหวานอยู่ ควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งก่อนออกไปข้างนอก
‼️
นอกจากนี้ ท้องถิ่นต่าง ๆ จะหารือรัฐบาลกลาง เพื่อช่วยให้ผู้อยู่อาศัยผิดกฎหมายแจ้ง หากมีอาการที่คล้ายติดเชื้อ
.
กระทรวงยุติธรรมเกาหลี ยังจะอนุญาตให้ชาวต่างชาต ที่วีซ่าใกล้จะหมดอายุในช่วง 24 กุมภาพันธ์ - 29 เมษายน ทางการจะขยายระยะเวลาการพำนักให้โดยอัตโนมัติจนถึง 30 เมษายนนี้ โดยการขยายระยะเวลานั้นจะมีให้เฉพาะผู้ที่มีวีซ่าบางประเภทเท่านั้น
https://thaikuk.com/korea-news/general/893-confirmed-cases-all-round-countermeasures-20200225/

 

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(ยูเออี) งัดไม้แข็งรับมือกับโควิด-19 ห้ามพลเมืองเดินทางไปยังอิหร่านและไทย เพื่อรับประกันความปลอดภัยและสุขภาพของพลเมือง สืบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่
https://mgronline.com/around/detail/9630000018714

 

ยืนยันกรณีของ coronavirus (2019-nCoV) ในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ ปัจจุบัน จาก BNO News อัปเดตข้อมูลผู้ติดเชื้อใหม่ครั้งล่าสุด 25 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 6:51 a.m. ET ตัวเลขในวงเล็บเป็นข้อมูลของวันที่ 24 กุมภาพันธ์ เวลา 10:46 a.m. ET
.
มีผู้ป่วยที่ยืนยันแล้วทั่วโลก 80,339 ราย (79,716 ราย) เฉพาะในจีน 77,658 ราย (77,345 ราย)
.
เสียชีวิตทั่วโลก 2,706 ราย (2,627 ราย) เฉพาะในจีน 2,663 ราย (2,592 ราย)
.
ป่วยหนักทั่วโลก 9,216 ราย (11,566 ราย) เฉพาะในจีน 9,126 ราย (11,477 ราย )
.
หายทั่วโลก 27,476 ราย. (22,632 ราย) เฉพาะในจีน 27,230 ราย (22,401 ราย)

ต้องสงสัยเฉพาะในจีน 2,824 ราย (5,365 ราย)

https://bnonews.com/index.php/2020/02/the-latest-coronavirus-cases/

 

(25 ก.พ. 22:47 น.) จ. โทคุชิมะพบผู้ติดเชื้อรายแรกในจังหวัด เป็นผู้โดยสารที่กลับจากเรือสำราญ Diamond Princess
ถือเป็นผู้ติดเชื้อคนแรกของภูมิภาคชิโกกุ
ครบทุกเกาะแล้วนะคะญี่ปุ่น ฮอกไกโด/ฮอนชู/ชิโกกุ/คิวชู/โอกินาว่า
เพศหญิง ตรวจพบเชื้อวันนี้ (25 ก.พ.)
Source: NHK
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น #COVID-19 #โควิด19

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ผู้ป่วยชาวอิหร่านขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหลังจากฟื้นตัวจาก Coronavirus

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

จำนวนผู้ป่วย coronavirus ในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 893 คนในวันอังคารเนื่องจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่าพวกเขาวางแผนที่จะประเมินสมาชิกโบสถ์กว่า 200,000 คน ณ จุดศูนย์กลางของการระบาด

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

แถวรถพยาบาลจำนวนมากที่โรงพยาบาล ใน ลัมโบเดีย ประเทศอิตาลี

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พายุฝุ่นกระทบระหว่าง Al-Sidawi และ Al-Qaysumah, ประเทศซาอุดิอาระเบีย # 25 กุมภาพันธ์

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ซาอุดิอารเบีย ท้องฟ้าย้อมสีแดงและเปลี่ยนกลางคืนเป็นกลางวันโดยพายุอารีน่า # 25 ก.พ.