ติดตามสถานะการณ์

เป็นข้อมูลเพิ่มเติมนะครับว่า ในอวกาศมีเชื้อโรคและแบคทีเรียมากมายมหาศาล เชื้อโลกเหล่านั้นลงมาพร้อมกับอุกาบาต สกายแล็ป หรือ ยานขนส่งต่างๆที่เดินทางเข้าออก ISS
นักวิทยาศาสตร์อังกฤษเชื่อว่า Novel มาจากอุกาบาตที่ตกในจีน เมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้ว 2019 เพราะมีมาตกหลายลูก ช่วงกันยา-ตุลาคม

 

#น้ำทะเลหนุน
วันนี้ 10 ก.พ.63 เวลาประมาณ13.35น.รับแจ้งจากสภ.ปากพนัง อ.ปากพนัง จ.นครศรีฯแจ้งข่าวน้ำทะเลหนุนสูงและขึ้นเร็วมากเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ณ.ซอยสระแก้ว ถนน.วารีสวัสดิ์ ต.ปากพนังฝั่งตะวันตก อำเภอปากพนัง จ.นครศรีฯ ฝากช่วยประชาสัมพันธ์เพื่อให้ผู้คนที่พักอาศัยในละแวกนั้นเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นไว้ในที่สูงเพื่อไม่ให้ได้รับความเสียหาย และในการใช้เส้นทางสัญจรไปมาในพื้นที่ดังกล่าว
#Crเล่าเรื่องเที่ยวbypiggy
#เที่ยวกันยันแก่

 

โลกกำลังเข้าสู่ภาวะโลกร้อนอีกระดับ
วันนี้ ( 11 ก.พ. 63 )ประชาคมโลกกำลังเข้าสู่ภาวะโลกร้อนอีกระดับแล้วเมื่อ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก หรือ WMO ประกาศว่า ขั้วโลกใต้ มีอุณหภูมิ พุ่งขึ้นสูงสุด นับตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา 60 ปี โดย ทีมนักวิจัยชาวอาร์เจนติน่าที่ประจำอยู่ที่ สถานี วิจัย "Esperanza " วัดอุณหภูมิได้ 18.3 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิทีที่สูงกว่าสถิติที่ 17.5 องศาเซลเซียส เมื่อเดือนมีนาคมปี 2015
ส่วนสัญญาณสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ พื้นที่ธารน้ำแข็งในพื้นที่ฝั่งตะวันตกของคาบสมุทรแอนตาร์คติก ละลายไปแล้วราว 87 เปอร์เซ็นต์ และมีอัตราการละลายเร็วขึ้นเรื่อยๆในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา
https://www.tnnthailand.com/content/28679?utm_source=social

 

คุณยายชาวจีนวัย 87ปี บริจาคเงินเก็บทั้งชีวิต 200,000 หยวน (ราว 900,000บาท) ช่วยเหลือในการป้องกันและแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ โดยคุณยายเผยว่า "ประเทศกำลังลำบาก ไม่อาจดูอยู่เฉยๆได้"
.
คุณยายท่านนี้ เป็นชาวเมืองฉงชิ่ง ปกติแล้วคุณยายจะเป็นคนที่ใช้ชีวิตประหยัดมากๆ อาศัยอยู่บ้านพักเก่าๆที่ใช้เป็นร้านขายของชำเล็กๆ โดยคุณยายใช้เวลา 30กว่าปี ในการเก็บเล็กผสมน้อยจนได้เงิน 200,000หยวน
และเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คุณยายได้นำเงินจำนวนนี้มาบริจาคเพื่อนำไปใช้ในการต่อสู้การแพร่ระบาดโคโรนาชนิดใหม่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามบอกให้คุณยายคิดให้ดีอีกครั้งก่อนบริจาค เพราะเป็นเงินก้อนใหญ่มาก แต่คุณยายก็ยืนยันอย่างหนักแน่นในการบริจาคเงินเก็บก้อนนี้ พร้อมเอ่ยออกมาว่า
"พวกคุณสบายใจได้ ยายมีลูกคอยดูแล และยังมีเงินบำนาญรวมถึงรายได้จากธุรกิจขายของชำเล็กๆอีกด้วย ดังนั้นไม่ลำบากแน่นอน"
ตอนนี้ประเทศชาติกำลังลำบาก ยายไม่อาจดูอยู่เฉยๆได้"
ด้านลูกชายของคุณยายยังเผยอีกว่า "คุณแม่เป็นคนที่จิตใจดี ชอบช่วยเหลือ พวกเราผู้เป็นลูกพอรู้ว่าแม่จะเอาเงินมาบริจาคเพื่อใช้ในการป้องกันและควบคุมไวรัสโคโรนา พวกเราต่างสนับสนุนครับ"
อ้ายจงได้อ่านเรื่องนี้จากข่าวของ 人民日报 (People's Daily) สื่อจีน ที่ตอนนี้ชาวโซเชียลจีนพากันพูดถึง เพราะนับถือในจิตใจผู้ให้ของคุณยายท่านนี้ อ้ายจงก็เช่นกันครับ
"เพราะกำลังใจคือสิ่งสำคัญยามยาก พวกเราคนไทยก็มาก้าวข้ามวิกฤติต่างๆไปด้วยกันนะครับ"
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

เปิดการใช้ยารักษาผู้ป่วยไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019
11 กุมภาพันธ์ 2563 19:00

หมอเปิดวิธีการรักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่พิจารณาตัวยาในการจำกัดไวรัสไม่ให้เพิ่มปริมาณมากขึ้นในเซลล์

วันนี้ ( 11 ก.พ. 63 )ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์ สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สภากาชาดไทย เปิดเผยถึงการใช้ยารักษาไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะนี้ว่า ในส่วนของ กระทรวงสาธารณสุข สถาบันบำราศนราดูร มีการพิจารณาตัวยาในการจำกัดไวรัสไม่ให้เพิ่มปริมาณมากขึ้นในเซลล์ ปัจจุบัน จะประกอบด้วย



1.ยากลุ่มหนึ่ง ควบรวมกับการรักษาเอดส์ ไม่ใช่ตัวเดียวกับโรงพยาบาลราชวิถี 2.ยาต้านการอักเสบ ที่ไม่ใช่สเตียร์รอยด์ เนื่องจาก ไวรัสตัวนี้เมื่อเข้าไปแล้ว จะก่อให้เกิดการอักเสบที่เกินความจำเป็นของร่างกาย 3.ยาที่ออกฤทธิ์ ไประงับการเพิ่มจำนวนของไวรัส ซึ่งเป็นยาตัวเดียวกันที่เคยรักษาโรคพิษสุนัขบ้า และต้องนำเข้ามาจากเมืองนอก

4.ยาภูมิคุ้มกันเฉพาะเจาะจง หรือ โมโนโครโนล แอนติ บอดี้ อยู่ระหว่างการพัฒนาเป็นตัวยา ในอนาคต

ซึ่ง กระบวนการรักษาเป็นกระบวนการตามธรรมชาติ ปกติเวลาคนป่วยแล้วหายดี แสดงว่าคนเรานั้นเริ่มมีภูมิคุ้มกัน และเริ่มมีภูมิคุ้มกันที่เฉพาะเจาะจง สำหรับที่จะกำจัดเชื้อนั้นๆ


โดย ปกติแล้ว คนเราจะมีภูมิคุ้มกันอยู่2แบบ แบบที่หนึ่ง คือภูมิคุ้มกันเฉพาะเจาะจง สามารถฆ่าไวรัสได้ อีกแบบนึงเป็นภูมิคุ้มกันที่เห็นไวรัส แต่ไม่ได้ไปฆ่าไวรัส จึงต้องมีกระบวนการขั้นต่อมา อย่างในกรณีผู้ติดเชื้ออีโบลา ก็มีการนำภูมิคุ้มกันจากผู้ที่รอดชีวิตจากเชื้ออีโบลามา แล้วก็นำมาแยกหาภูมิคุ้มกัน ที่สามารถทำลายเชื้อไวรัสนั้นได้ จากนั้นก็พัฒนา จนกระทั่งได้ภูมิคุ้มกัน ที่อยู่ในน้ำเหลืองแล้วก็ปรับแต่งจนผลิตได้ในต้นไม้ หรือ ต้นพืช

ซึ่งผลการรักษาได้ผลในอีโบลา ก็เป็นการใช้ ภูมิคุ้มกัน เฉพาะเจาะจงที่ฆ่าไวรัสได้ ซึ่งผลิตในต้นไม้ หรือ เรียกว่า Zmap ของบริษัทเอกชนแห่งนึ่ง จากนั้น มีการใช้ในผู้ป่วยที่แอฟริกา บ้าง แต่ค่อนข้างมีจำกัด ซึ่งช่วยรักษาอีโบลาได้ประมาณ ร้อยละ 70 ก่อนที่จะมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ตามมา

" ในส่วน ไวรัสโคโรนา เริ่มมีรายงานว่ามีผู้คนพบภูมิคุ้มกันระดับเฉพาะเจาะจง คณะทำงาน พยายามที่จะผลิต ภูมิคุ้มกันตรงนี้ ในได้จำนวนเพียงพอ ลงไปในต้นไม้ ซึ่งบ้านเราจะใช้ ต้นยาสูบชนิดเฉพาะ ในการผลิตยาใช้รักษาในการฆ่าเชื้อโรค ต้องเข้าใจว่า โรคนี้ตามปกติจะรุนแรงไม่มากนัก แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องมีกระบวนการในการสกัดที่บริสุทธุ์ และ เหมาะสมกับการใช้ในมนุษย์" ศ.นพ.ธีระวัฒน์ กล่าว

ล่าสุด ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับคณะเภสัชศาสตร์จุฬา อยู่ระหว่าง การวิจัยและทดลอง นำโครงสร้างรหัสของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 มาสังเคราะห์ ในแบคทีเรียและนำไปปรับแต่งจนผลิตได้ในต้นยาสูบ ก่อนส่งให้หน่วยงานต่างประเทศสกัดเป็นสารบริสุทธ์ เพื่อเป็นยารูปแบบฉีดเข้าเส้นเลือดในการรักษา หากทำสำเร็จจะสามารถเป็นอีกหนึ่งวิธีของการรักษาผู้ป่วยได้ในอนาคต

ในประเทศไทย มีการ ให้แท็กซี่ที่หายจากการติดเชื้อ มาบริจาคเลือด จากนั้น จะทำการปั่น แยกส่วนของเลือด โดยนำเม็ดเลือดแดงและเม็ดเลือดขาวทิ้ง และนำน้ำเหลืองเลือดที่อยู่ด้านบน เก็บไว้ เพื่อมาฉีดเข้าเส้นเลือดของผู้ป่วย




รองศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค อธิบาย ว่า เมื่อผู้ป่วยที่หายแล้วจะมีภูมิคุ้มกันขึ้น แต่จะมีภูมิคุ้มกันขึ้นชัดเจนประมาณ 2 สัปดาห์ - 4 สัปดาห์ หลังจากเริ่มป่วย จึงมีการเอาเลือดของผู้ที่หายป่วยแล้วมาแยกเอาน้ำเหลืองเลือดที่มีภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดี เพราะภูมิคุ้มกันจะเข้าไปจับเชื้อไวรัสไม่ให้เข้าไปยังเซลล์ ซึ่งหลักเกณฑ์นี้นำมาจากสมัยโรคซาร์ส ที่ใครป่วยแล้วรอดตายจะขอเลือดมาใช้รักษา

ส่วนเลือดของผู้ป่วยที่หายดีแล้วที่จะนำมาใช้ ต้องดูว่ากรุ๊ปเลือดตรงกันหรือไม่ นั้น นายแพทย์ ทวี ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค ชี้ว่า ไม่สำคัญ เนื่องจากสามารถเอากรุ๊ปเลือดออกได้ ให้เหลือเฉพาะภูมิคุ้มกัน แต่จะต้องพิจารณาว่ามีเชื้อพาหะอื่นอีกหรือไม่

เบื้องต้น อาการผู้ป่วยที่ติดเชื้อ2 ราย ในไทย และได้รับการฉีดแอนติบอดี อาการยังคงทรงตัว ซึ่งทีมแพทย์จะมีการพิจาณาว่าจะให้ต่ออีกหรือไม่ เนื่องจาก

ขณะนี้ประเทศไทยมีรายเดียว คือ แท็กซี่ที่หาย และสามารถให้เลือดได้ รวมถึงต้องพิจารณาจากอาการอื่นๆของผู้ป่วยด้วย

https://www.tnnthailand.com/content/28681?utm_source=social

 

สาวเซ็ง! ถูกโรงแรมในไทเปห้ามเข้าพัก เหตุ เพราะเป็นคนไทย
สาวเล่าประสบการณ์ ขณะเดินทางจากไต้หวันไปไทเป โดยเล่าว่า ตนได้เดินทางย้ายจากที่เก่าเพื่อไปเข้าพักที่ใหม่ และทางที่พักขอดู พาสปอร์ตจึงทราบว่าเป็นคนไทย โดยทางที่พักไม่ให้คนไทย , จีน , ฮ่องกง และมาเก๊า เข้าพักที่นี่ได้
คลิก>> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000014025
#MGROnline

 

องค์การอนามัยโลกชี้ “ระวังมือสัมผัสหน้ากากอนามัย”/ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
เผยแพร่: 11 ก.พ. 2563 14:51 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
ท่ามกลางไวรัส โคโรนา 2019 ได้สร้างความสับสนและถกเถียงเรื่องหน้ากากอนามัยนั้นใครควรใช้และไม่ควรใช้และใช้อย่างไรในหลายประเทศ แต่ด้วยการที่ไวรัสชนิดนี้มีรายงานการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว จึงส่งผลทำให้ประชาชนในหลายประเทศมีความตื่นตัวและต้องการใช้หน้ากากอนามัยมากขึ้น จึงเกิดภาวะการขาดตลาดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
.
แต่ก็ไม่ได้แปลว่าทุกประเทศมีแนวทางและความคิดเหมือนกัน ทั้งๆที่มาจากโรคเดียวกัน ดังที่บางประเทศได้มีการปิดประเทศไม่รับนักท่องเที่ยวชาวจีน แต่บางประเทศก็ไม่ได้มีมาตรการดังกล่าว
.
รัฐบาลในบางประเทศ เช่น ประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม สิงคโปร์ ฯลฯ ได้พยายามรณรงค์ใ้ห้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และการล้างมือหรือฆ่าเชื้อที่มือ ในขณะที่มีกระแสว่าการรับมือในเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างไม่ถูกต้องอาจส่งผลทำให้การเพิ่มการติดเชื้อมากขึ้นได้ด้วย
.
เพราะในภาวะปกติของหลายประเทศนั้น หน้าที่ของผู้ที่สวมหน้ากากควรจะเป็นของผู้ป่วยหรือไม่ก็เพื่อลดผลกระทบของมลพิษทางอากาศในเมืองเท่านั้น แต่ความรวดเร็วของการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ว่ามีการติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งก็ยังไม่ชัดเจนว่าติดมาในช่องทางไหนและลักษณะใด ได้ทำให้ประชากรหลายประเทศต้องหันมาสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองมากขึ้น
เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตัวเลขที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น ก็เป็นตัวเลขที่ “ตรวจพบ” เท่านั้น แต่ก็น่าจะมีตัวเลขที่ยังตรวจไม่เจอ หรือยังไม่ได้ตรวจนั้นอาจจะมากยิ่งกว่าตัวเลขที่เป็นข่าวเสียอีก
.
แต่ความน่าเป็นห่วงของภาวะการขาดแคลนหน้ากากอนามัย หรือแม้แต่ไม่ขาดแคลนแต่ประชาชนไม่มีเงินมากพอที่จะใช้จ่ายในเรื่องหน้ากากอนามัยอย่างต่อเนื่อง จนเกิดภาพปรากฏที่มีประชาชนในบางประเทศใช้วิธีนำหน้ากากอนามัยที่ใช้และทิ้งมาแล้วมานึ่งแล้วใช้ซ้ำอีกครั้ง
.
เหตุการณ์ขาดแคลนในครั้งนี้ เพราะคนที่มาสวมหน้ากากอนามัยคือคนปกติที่ยังไม่ติดเชื้อซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ ยังไม่นับว่าเกิดความต้องการหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันปัญหาฝุ่นละอองขนาดจิ๋ว PM 2.5 ที่มาพร้อมกันในฤดูกาลนี้ ก็ย่ิงทำให้หน้ากากอนามัยยิ่งขาดแคลนยิ่งกว่าเดิมเข้าไปอีก
.
ทั้งนี้การรับมือกับไวรัส “ใหม่” ในแต่ละประเทศนั้นอาจมีความแตกต่างกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว เรายังไม่รู้จักมันมากพอว่าเมื่อเวลาผ่านไปนานขึ้นผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นอย่างไร หรือมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้สำนักข่าวรอยเตอร์ได้รายงานตัวอย่างว่า บางประเทศ ดังเช่น อินเดียมีการแนะนำให้มีการทำอาหารที่ผสมขิงและโหระพาโดยเชื่อว่าจะป้องกันไวรัสได้ ในประเทศเมียนมา รัฐมนตรีคนหนึ่งได้แนะนำให้กินหัวหอมมากขึ้น [1]
.
ภาพจาก : pixabay.com
ภาพจาก : pixabay.com
.
ความสับสนดังที่ปรากฏเป็นข่าวข้างต้น ได้ทำให้องค์การอนามัยโลกเผยแพร่คำแนะนำต่อสาธารณะผ่านเว็บไซต์ขององค์การอนามัยโลกว่าควรใช้เมื่อไหร่และใช้อย่างไร โดยมีรายละเอียดดังนี้
.
ประการแรก ถ้าคุณเป็นคนสุขภาพแข็งแรง คุณต้องการสวมหน้ากากอนามัยเมื่อคุณเป็นคนที่ต้องดูแลบุคคลซึ่งเป็นผู้ต้องส่งสัยว่าติดเชื่อไวรัส โคโรนา 2019 เท่านั้น
.
ประการที่สอง ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อคุณไอหรือจาม
.
ประการที่สาม การสวมหน้ากากอนามัยที่มีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อทำร่วมกับการทำความสาะอาดล้างมือบ่อยๆเท่านั้น ทั้งการใช้แลกอฮอล สบู่ หรือน้ำ
.
ประการที่สี่ ถ้าคุณสวมหน้ากากอนามัย คุณต้องรู้ว่าใช้อย่างไรและทิ้งอย่างเหมาะสมด้วย [2]
.
ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นองค์การอนามัยโลกจึงได้ชี้แจงรายละเอียดตามมาถึงวิธีการสวม การถอด การทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องด้วย ดังนี้
.
ก่อนจะสวมหน้ากากอนามัย ต้องถูเช็ดมือด้วยแอลกอฮอล หรือ ทำความสะอาดด้วยสบู่และน้ำ
.
สวมหน้ากากให้ครอบคลุมถึงทั้งปากและจมูก แต่ต้องให้แน่ใจว่าไม่มีช่องว่างระหว่างใบหน้ากับหน้ากาก
.
หลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากากในขณะใช้หน้ากาก ถ้ามีการสัมผัสเกิดขึ้นให้ทำการล้างมือด้วยการถูเช็ดมือด้วยแอลกอฮอล์ หรือ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ
.
ในการถอดหน้ากากออก : ให้ถอดออกจากด้านหลังมาด้านหน้า โดยไม่ให้สัมผัสด้านหน้าของหน้ากาก ทิ้งทันที่ในถังที่ปิดสนิท ล้างมืออีกครั้งด้วยการถูเช็ดมือด้วยแอลกอออล หรือ ล้างมือด้วยสบู่และน้ำ [2]
.
ดังนั้นนอกจากประชาชนทั่วไปที่ใช้หน้ากากอนามัยแล้ว ผู้ที่ทำหน้าที่ในการแจกหน้ากากอนามัย หรือจำหน่ายหน้ากากอนามัยจะต้องระมัดระวังในเรื่องสุขอนามัยตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกอย่างเคร่งครัดด้วย
.
ด้วยความปรารถนาดี
ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชสาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต
.
อ้างอิง
[1] John, Geddie, Joseph Sipalan, To mask or not to mask:confusion spreads over coronavirus protection, Reuters, World News, January 31,2020
[2] World Health Organization, Novel Coronavirus(2019-nCoV) advice for the public: When and how to use mask,
https://www.who.int/emergencies/dis...9/advice-for-public/when-and-how-to-use-masks
องค์การอนามัยโลกหน้ากากอนามัยไวรัสโคโรนา2019

 

#ข่าวด่วน (11 ก.พ. 15:45 น.) พบผู้ติดเชื้อจากกลุ่มผู้อพยพกลับจากอู่ฮั่นเพิ่มอีก 2 ราย รวมผู้ติดเชื้อจากเครื่องเช่าเหมาลำทั้งหมด 12 ราย
ทั้งสองเคยได้รับการตรวจเชื้อแล้วแต่ผลเป็นลบ

ช่วงที่ผ่านมามีใข้มาตลอดช่วงหลัง ทางการเลยให้ตรวจใหม่ ได้ผลเป็นบวก
(1) คนแรกเป็น ชายชาวญี่ปุ่น วัย 50 ปี กลับมาพร้อมกับเครื่องเช่าเหมาลำลำแรก (29 มกรา)
พักที่รร. มิคาสึคิ ที่ทางการจัดให้
7 ก.พ. มีไข้และไอ จึงเข้ารพ.
(2) คนที่สองเป็น  ชายชาวญี่ปุ่น วัย 40 ปี กลับมาพร้อมกับเครื่องเช่าเหมาลำลำที่สอง (30 มกรา) โดยรายที่ 2 นี้เนื่องจากมีเด็กมาด้วย จึงขอกลับไปพักที่บ้านในจ. ไซตามะ
8 ก.พ. มีไข้ 39.5 องศา
10 ก.พ. มีอาการปอดบวม
>> ตรวจใหม่ พบเป็นบวก
รวมจำนวนในประเทศทั้งหมด
▽เรือสำราญ 135 ราย
▽เครื่องเช่าเหมาลำ 12 ราย
▽ในประเทศอื่น ๆ 16 ราย
รวม 163 ราย หายแล้ว 4 ราย
——
✒️ความน่ากลัวของโรคนี้คือ ตรวจไม่เจอ แล้วมาเจอทีหลัง แต่ระหว่างนั้นเป็นพาหะไปแล้ว ป้องกันตัวเองไว้ดีที่สุดนะคะทุกคน
新型ウイルス チャーター機で帰国の男性２人 感染確認 https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200211/k10012281171000.html
#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #เกาะติดไวรัสโคโรนา
#เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #อู่ฮั่น

 

เรือสำราญ westerdam : Real or Fake?
เมื่อวานเพิ่งมีชาวเพจมาคอมเมนท์แอดหยก ๆ นะคะว่า ข่าว 4-5 วันที่แล้วทำไมแอดถึงเรียกว่า “ข่าวเก่า”
ก่อนอื่น ข่าวทุกอย่างเปลี่ยนแปลงค่ะ ขนาดข่าวเรือ official เรือประกาศเอง + CNN ลง ยังกลายเป็นข่าว Fake News ไปในชั่วข้ามคืน เพราะภาครัฐบอกปฏิเสธไม่ให้ขึ้น และบอกว่า “ไม่เคยอนุญาต” ....
แอดจะไม่บอกว่าข่าว westerdam เป็นข่าว Fake หรือ Real // แต่ขอให้ทุกท่านใช้ media literacy (การรู้เท่าทันสื่อ) อ่านที่แอดเขียนต่อไปนี้แล้วประมวลผลเอง —> คิด วิเคราะห์ แยกแยะ นะคะ
————
ข่าวเรือ #westerdam ถ้าทำหลังคุณอนุทินประกาศตอนเที่ยงคืนกว่า ๆ (11 ก.พ.) ข่าวนี้ก็ Fake เพราะท่านประกาศไม่ให้ขึ้นแล้วค่ะ
และยิ่งย้ำความ Fake เข้าไปใหญ่เมื่ออธิบดีกรมเจ้าท่าออกมาบอกว่า ไม่เคยอนุญาต ...
สรุปง่าย ๆ คือ ข่าวนี้จะ Fake สุด ๆ
—-> ในกรณีที่บ. เรือ “กล่าวเท็จ” ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้รับคำตอบจากทางไทย แต่กลับทวีต / เขียนในเว็บ official บอกให้โลกรู้ไปแล้วว่าจะไปลงที่แหลมฉบังค่ะ
———-> จนข่าวตีไปทั่วโลก ประกาศให้คนบนเรือรู้จนเค้าดีใจ ไม่พอยังหันหัวเข้ามาในอ่าวไทยด้วย.....
❓ถ้าเค้ากล่าวเท็จหรือกระทำการโดยพลการขนาดนี้ จริง ๆ รัฐบาลไทยก็ควรจะมีมาตรการฟ้องบ. เรือไหมคะ? อันนี้แอดสงสัยเองค่ะ
ประกอบการอ่าน บ. เรือออก Coronavirus Travel Advisory
เช่นนี้
Seattle, Wash., Feb. 10, 2020 (5:25 p.m. PST) —Westerdam is sailing for Laem Chabang, Bangkok, Thailand, where the current cruise that departed February 1 will end on Thursday, February 13. All guests will be disembarking in Bangkok for their forward flights home. This new schedule has been communicated to guests on board.
ซึ่งรายละเอียดชัดเจนว่าเค้าจะไปลงที่แหลมฉบังเมืองไทย วันที่ 13 ก.พ. และข้อความนี้ได้แจ้งให้กับลูกค้าทุกคนรับทราบหมดแล้ว
https://www.hollandamerica.com/en_U...A-qBoUTc8T5oCTLP7-H47sdHud-CrqykzYFkdEGnEpKj4
——-
แต่ถ้าถามว่าข่าวนี้มีมูลเหตุไหม มาจากไหน จนถึงเวลา เที่ยงคืนเมื่อคืนนะคะ แอดจะไล่ให้ฟัง
1. ทางเรือ (official account Twitter) ประกาศตอนวันที่ 10 ก.พ. เวลาประมาณ 16:00 น. ไทยว่าจะแล่นเรือไปที่แหลมฉบังไทย และทุกคนจะแยกย้ายกันกลับที่กทม.

2. คนบนเรือก็ดีใจลัลล้า โพสต์แสดงความยินดีว่าจะได้กลับบ้านแล้ว
We are heading to Bangkok Thailand will disembark Thursday. We are having our temperatures checked now as required by port authorities.Trying to figure out flight details We dont know times or transport yet Flights will be $$$$$$ with two days notice. Ready for home #westerdam

(ทวีต 10 ก.พ. 15:25 น่าจะมีการประกาศบนเรือก่อน)
3. แน่นอน CNN และสำนักข่าวหลายแห่งก็ย่อมแสดงความยินดีกับเรือสำราญหาพอร์ตลงไม่ได้ แต่ไทยแลนด์อ้าแขนรับ
After being turned away by three countries, a cruise ship with more than 2,000 people onboard will finally be allowed to dock this Thursday in Thailand
(ข่าว 10 ก.พ. 20:14 น. ไทย)

4. หลังจากนั้น สารพัดเพจก็ลงข่าวกันเต็มไปหมด เพราะทุกอย่างประกาศจากเพจ official เรือ
เช่น เพจ 1412 cardiology 1412 Cardiology

เพจ Poetry of Bitch Poetry of Bitch

ขนาด mthai ที่ติดเว็บข่าวน่าเชื่อถือแห่งปียังยืนยัน
“เคสของเรือ Westerdam ตอนนี้ ปลายทางยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงนะครับ มุ่งหน้าแหลมฉบังครับ (พิกัดตอนนี้ น่านน้ำเวียดนามทางใต้)
เบื้องต้นทราบว่า จะมีการตรวจคัดกรองตามมาตรฐานครับผม”
https://twitter.com/mthai/status/1226812011691921409?s=21
รวมถึงเพจข่าวกระแสหลักต่าง ๆ อย่าง ไทยรัฐ คมชัดลึก และสารพัดเพจ.... รวมถึงทวิต
เพจเล็ก ๆ อย่างแอด ยังแทบระเบิด ตอบไม่ได้หลับได้นอน

แน่นอนคลื่นความกังวลใจก็ถาโถมทั่วเน็ตว่าไทยเราจะ “ไหว” ไหม? จะเกิดเหตุแบบญี่ปุ่นหรือเปล่า
5. และทุกอย่างก็เงียบลง เมื่อเที่ยงคืนกว่าของเมื่อคืน 11 ก.พ. 00:30 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกและรมต. สธ. ของไทย โพสต์ในเฟสตัวเองว่า “สั่งการแล้ว ไม่อนุญาตให้เทียบท่า”
https://www.facebook.com/2091153520919518/posts/3117451938289666/
>> คำถามก็คงมีในใจทุกคน ถ้าไม่เคยมีการอนุญาต ท่านจะสั่งอะไร? ถ้าหากเรือสำราญกล่าวเท็จก็แสดงว่า... ท่านคงจะ “กำชับ” ไม่ให้อนุญาตเด็ดขาด ห้ามใจอ่อนนะ อะไรแบบนี้กระมังคะ แอดก็ไม่ทราบ
6. (11 ก.พ. 12:45 น.) รมช.คมนาคม ให้ กรมเจ้าท่าและการท่าเรือแห่งประเทศไทย ให้การช่วยเหลือเรือสำราญ Westerdam ถ้าเรือร้องขอมา ไม่ว่าจะเป็น เสบียงอาหาร ยารักษาโรค และสิ่งของที่จำเป็น รวมถึงน้ำมันเชื้อเพลิง
7. จากนั้นก็มีโพสต์จากเพจของทางภาครัฐว่าอย่าแชร์ข่าวนี้มันคือ Fake News ตามในภาพ ให้คนหลังไมค์มาถามแอดเพียบจนต้องมาเขียน
———-
ย้ำนะคะ แอดไม่ตัดสินว่ามัน Fake หรือ Real ให้คนอ่านตัดสินกันเองค่ะ อย่าเสพสื่อโดยไม่ตั้งคำถาม ไม่ว่าสื่อไหนก็ตามค่ะ
✒ชาวเพจแต่อ้อนแต่ออกจะทราบว่า เวลาเขียนข่าว แอดแทบไม่เขียนอะไรนอกเหนือจากข้อมูลเลย เพราะอยากให้ชาวเพจได้ย่อยและวิเคราะห์เองค่ะ สุดท้ายมันจะกลายเป็นเกราะกำบังให้กับเราในยุค AI ที่อีกหน่อย AI จะเลือกข่าวมาให้เราแล้วค่ะ
———
บทเรียนสำหรับสื่อกระแสหลัก
นี่คือสาเหตุใหญ่ที่แอดไม่แชร์ข่าวจากสื่อไทยค่ะ และใช้สื่อญี่ปุ่นในเพจตลอด เพราะมันพลิกเร็วมากค่ะ
บอกเลยว่าความเป็น Gatekeeper (ในฐานะผู้เฝ้าประตูข่าวสาร) ของสื่อกระแสหลักไทยแทบจะเท่ากับศูนย์ในปัจจุบัน เพราะเราพึ่งข่าวจากโซเชียล เป็นหลัก
—> จริง ๆ แล้วสื่อกระแสหลักไทยควรทำอย่างไร?
มุมมองแอดจากการเป็น “ไข่” นักวิชาการสื่อ (อย่างน้อยก็ใกล้จบป. เอกแล้ว ขอเป็นไข่ก่อนละกันนะคะ)
ก่อนออกข่าวว่าเรือสำราญจะเข้า สื่อกระแสหลักควรไปสัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องฝั่งไทยตั้งแต่เมื่อคืนเลยค่ะ เช่น สอบถามอธิบดีกรมเจ้าท่า หรือ สอบถามคนคุมตารางเรือก็ได้ว่ามีเรือลำนี้จะเข้ามาไหม ได้รับอนุญาตจริงหรือเปล่า และ “ใคร” อนุญาต
ไม่อย่างนั้น เวลากระแสตีกลับ สื่อกระแสหลักก็จะโดนว่า เอาข่าวไม่จริง / เอาข่าวมาจากในเน็ตอย่างเดียว
—-> เวลาแบบนี้มีแต่สื่อกระแสหลัก หรือ influencer ใหญ่ ๆ แหละค่ะที่จะสามารถติดต่อกับฝ่ายปฏิบัติการได้จริง ๆ เพื่อคอนเฟิร์มความจริงนี้สู่โลกว่า ณ เวลานั้นเป็นยังไง ท่านจะได้ไม่ต้องมาโดนวิจารณ์ว่า “เต้าข่าว” บ้าง เขียนให้คนเข้าใจผิดบ้าง .....
———
โลกตอนนี้มันหมุนเร็วค่ะ ความจริงเมื่อ 1 ชม. ก่อน อาจจะกลายเป็นความเท็จในตอนนี้ ดังนั้นแอดหวังว่าโพสต์นี้จะเป็นแนวทางให้ทุกท่านได้ลองวิเคราะห์สื่อดูนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้ค่ะ ยาวที่สุดที่เคยเขียนในเพจแล้วนะคะเนี่ย
ป.ล. แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ตลอดเลยค่ะ
——- #กิ๊ฟจังนั่งเล่า
ขอบคุณภาพจาก : Anti-Fake News Center Thailand
https://www.facebook.com/106549004058389/posts/191112522268703/

 

ทวิตเตอร์ของ Global times-วันนี้ นครอู่ฮั่นเริ่มปฏิบัติการตามมาตรการควบคุมและป้องกันตามการแถลงของนครอู่ฮั่นเมื่อวันจันทร์ โดยปิดตายทุกย่านอาศัยเพื่อควบคุมการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือเอ็นซีพี

 

โลกร้อนเกินเหตุ หิมะหายไปจากสกีรีสอร์ตที่ฝรั่งเศส
ฤดูกาล 2018-2019 มีหิมะตกน้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มการวัดปริมาณหิมะเมื่อ 22 ปี
Source : #โพสต์ทูเดย์ #Posttoday #BreakingNews #News #ข่าว #ข่าวเด่น #ข่าวด่วน #ข่าวอัพเดท

 

ผู้เชี่ยวชาญชี้ “ไวรัสอู่ฮั่น” ระบาดพีคสุดเดือนก.พ.นี้ แนะห้ามค้าสัตว์ป่าถาวร

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Feb 11) ไวรัสพลิกค่า'บาท'อ่อนสุดในภูมิภาค ธปท.น่าจะต้องลดดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ - ค่าเงินบาทได้พลิกจากสุกลเงินที่แข็งแกร่งสุดในเอเชียเมื่อปี 2562 มาเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่อ่อนสุดของภูมิภาคในปีนี้ หลังจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาด นักเศรษฐศาสตร์ชี้ เป็นเพราะไทยพึ่งพาดีมานด์จากภายนอกโดยเฉพาะจากจีนมากเกินไป คาดธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกระตุ้นการเติบโต

ค่าเงินบาทได้อ่อนลงประมาณ 4.1% ในปีนี้เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้เปลี่ยยนทิศทางเกือบครึ่งหนึ่งของการแข็งค่า 7.9% ในปีที่ผ่านมา

ธนาคารแห่งประเทศไทยได้ลดดอกเบี้ยนโยบายอย่างไม่คาดคิดในวันพุธที่ผ่านมาเพื่อหนุนเศรษฐกิจ ซึ่งทำให้ดอกเบี้ยอยู่ในอัตราต่ำสุดตลอดกาล โดยธนาคารกลางได้อ้างว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นเหตุผลหนึ่งที่จะฉุดการเติบโตลง

ตรินห์ เหงียน นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ นาติซิส ซึ่งเป็นบริษัทวาณิชธนกิจของฝรั่งเศส กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยได้พึ่งพาดีมานด์จากภายนอกมากเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งดีมานด์จากจีน นอกจากนี้ยังได้กล่าวว่า รายได้การท่องเที่ยวจากจีนมีสัดส่วนประมาณ 2.7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในขณะที่การส่งออกไปยังจีนมีสัดส่วนถึง 6% ของจีดีพี ดังนั้นการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอนและการส่งออกก็น่าจะฉุดเศรษฐกิจไทยอีกครั้ง

ด้วยเหตุนี้เหงียนจึงได้ลดประมาณการจีดีพีไทยเหลือเพียง 2.2% สำหรับปีนี้ ซึ่งหมายความว่าการเติบโตของไทยจะต่ำกว่าเป้าที่ธนาคารโลกคาดไว้ 5% หากต้องการให้มีรายได้สูงในเวลาประมาณ 10 ปี

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เชื่อกันว่ามาจากเมืองอู่ฮั่น ได้ทำให้ทางการจีนต้องกักกันโรคในหลายเมือง ปิดศูนย์กลางธุรกิจเพิ่มหลังหยุดตรุษจีน และห้ามกรุ๊ปทัวร์เดินทางไปต่างประเทศ

จากข้อมูลของสถาบันวิจัยการท่องเที่ยวนอกประเทศจีน จีนเป็นตลาดทัวร์เอาต์บาวด์ที่ใหญ่สุดของโลกและไทยได้รับนักท่องเที่ยวจากจีน 10.5 ล้านคนในปี 2561 ซึ่งยังน้อยกว่าฮ่องกงและมาเก๊า

กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ของไทย ประเมินว่านักท่องเที่ยวที่ลดลงจากจีนอาจทำให้สูญเสียรายได้ 50,000 ล้านบาท

นักเศรษฐศาสตร์ กล่าวว่า แรงฉุดจากภาคท่องเที่ยวเช่นนี้เพิ่มความกังวลให้กับเศรษฐกิจไทยซึ่งเปราะบางอยู่แล้ว และธนาคารแห่งประเทศไทยน่าจะต้องลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งเพื่อกระตุ้นการเติบโต

ประกาศ ศักปาล นักเศรษฐศาสตร์เอเชียของไอเอ็นจี กล่าวว่า การลดดอกเบี้ยหนึ่งครึ่งไม่เพียงพอที่จะป้องกันไม่ให้การเติบโตลดลง ไม่ต้องพูดถึงการกระตุ้นการเติบโต และเชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทยต้องการเป็นรายแรกในการตอบโต้ทางนโยบายต่อสถานการณ์ที่กำลังพัฒนาไป หากเป็นเช่นนั้น การลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนมีนาคมจะมีเหตุผลมากกว่าเนื่องจากจะเป็นเวลาที่เหมาะสมและน่าจะมีประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า

ด้านเหงียน กล่าวว่า ไทยจะต้องทำให้เศรษฐกิจแข่งขันได้มากขึ้นในระยะยาว และการระบาดของไวรัสอาจเป็นโอกาสที่จะลดการพึ่งพา “ภาคที่มีความผันผวน” อย่างการท่องเที่ยว โดยคิดว่าไทยจำเป็นต้องลงทุนเพิ่มแต่เป็นปัญหาว่าจะลงทุนที่ไหน ซึ่งได้อธิบายว่า เศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องกระจายแหล่งรายได้เพื่อที่จะสามารถสร้างการเติบโตได้ด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นก็จะติดอยู่ในกับดักที่ถึงแม้ว่าจะทำทุกอย่างแต่ก็ไม่สามารถสร้างดีมานด์ภายในประเทศที่ยั่งยืนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริโภคและการลงทุน

Source: ข่าวหุ้น

- Coronavirus outbreak has turned Asia’s best-performing currency into one of the worst
https://www.cnbc.com/2020/02/06/cor...-as-reduced-chinese-tourism-hit-thailand.html

 

สาธารณรัฐประชาชนจีน ยิงยาแรงออกกฎหมายใหม่เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ “จงใจแพร่ไวรัส กักตุนของ เก็งกำไร ซื้อสัตว์ป่า ทำร้ายเจ้าหน้าที่”
.
จำคุก 3-7 ปี ถ้าโทษไม่หนัก
แต่ถ้าโทษหนัก คือ จำคุกตลอดชีวิต ถึงตัดสินประหารชีวิต
.
1、可能涉及“妨害传染病防治罪”
作为已经感染或疑似“新型冠状病毒”的病人，应该无条件的执行卫生防疫机构依照传染病防治法提出的预防、控制措施，配合隔离治疗，若拒绝配合的，可判处3年—7年有期徒刑。
คนที่มีเชื้อหรืออาจจะไวรัสโคโรน่า ไม่ไปตรวจหรือรักษาตามกำหนด ติดคุก 3-7 ปี
.
2、可能涉及“危害公共安全罪”
若明知自己已被感染“新型冠状病毒”或疑似病人，在公共场所故意向不特定的人打喷嚏并故意传播病毒或者通过其他方式故意投放病毒的，致使多人被感染“新型冠状病毒”的，最高将被判处十年以上有期徒刑、无期徒刑或者死刑；
คนที่รู้ตัวติดเชื้อหรือเคยมีผลรักษาจากโรงพยาบาลว่าสงสัยจะติดเชื้อ ถ้าตั้งใจแพร่เชื้อใส่คนอื่นและทำให้หลายคนติดเชื้อเพิ่ม จะต้องติดคุก 10 ปีขึ้นไป จนถึงตลอดชีวิต หรือหนักสุดถึงตัดสินประหารชีวิต
.
3、可能涉及“妨害公务罪”
已感染 “新型冠状病毒”病人以及密切接触者若在隔离治疗过程中，以暴力、威胁方法抗拒隔离的，处三年以下有期徒刑、拘役、管制或罚金。
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า หรือคนใกล้ตัวผู้ติดเชื้อ ปฎิเสธการรักษาหรือพักรักษาตัวที่ห้องกักเชื้อ จะต้องโทษจำคุกสูงสุด 3 ปี หรือมีค่าปรับ
.
4、可能涉及“故意伤害罪”
已感染 “新型冠状病毒”病人以及密切接触者应当无条件的配合有关组织采取的隔离治疗措施，若在隔离治疗过程中，以暴力抗拒隔离的，而致使相关公务人员的身体受到伤害的，最高可判死刑。
คนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าหรือคนใกล้ตัวผู้ติดเชื้อ ต่อต้านทำร้ายเจ้าหน้าที่, หน่วยแพทย์พยาบาล, ต้องโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
.
CR. https://xw.qq.com/cmsid/20200125A0EDW700

 

#ข่าวภัยพิบัติ #สภาพอากาศ
11/02/20
#บราซิล | San Pablo สั่นสะเทือนจากพายุที่รุนแรงที่สุดในรอบ 37 ปี มี จุดเสียหาย 30 แห่ง และน้ำท่วมรุนแรง
CR: Alerta_Noticias
#Watchers

 

#โรคระบาด #โคโรนาไวรัส
// องค์การอนามัยโลกเตือนไวรัสโคโรนายังเป็นภัยรุนแรงของโลก //
11/02/20
เจนีวา - นายแพทย์ เทโดรส อัดฮานอม กีเบรเยซุส เลขาธิการใหญ่องค์การอนามัยโลก กล่าววันนี้เตือนว่า เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ยังคงเป็นภัยคุกคามที่รุนแรงมากของโลก
นายแพทย์กีเบรเยซุส กล่าวว่า แม้ว่า ร้อยละ 99 จะเป็นผู้ติดเชื้อที่อยู่ในประเทศจีน และเป็นภาวะฉุกเฉินสำหรับประเทศจีน แต่ก็ถือว่าเป็นภัยคุกคามกับประเทศอื่นๆ ในโลกด้วย เลขาธิการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวถ้อยแถลงดังกล่าวในการเปิดประชุมนักวิทยาศาสตร์เพื่อหาทางรับมือกับโรคติดต่อนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ราว 400 คน จากทั่วโลก จะใช้เวลา 2 วันระหว่างการประชุมทบทวนดูว่า เชื้อไวรัสนี้ติดต่อกันได้อย่างไร และหาแนวทางในการรผลิตวัคซีนที่ใช้ในการป้องกันการระบาดของไวรัสดังกล่าว นายแพทย์กีเบรเยซุส กล่าวด้วยว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการหยุดยั้งการระบาดให้ได้และรักษาชีวิตของประชาชนเอาไว้ รายงานระบุว่า ที่ประชุมของนักวิทยาศาสตร์ในครั้งนี้ยังจะหารือเกี่ยวกับแหล่งที่มาของเชื้อไวรัส ซึ่งคิดว่ามีต้นกำเนิดจากค้างคาวและติดต่อมายังมนุษย์ผ่านทางสัตว์อีกประเภทหนึ่ง ที่อาจะเป็นงู หรือ อาจจะเป็นตัวนิ่ม ในขณะเดียวกัน มีรายงานว่า คณะนักวิทยาศาสตร์ของอังกฤษได้เริ่มทำการทดลงวัคซีนป้องกันไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่กับสัตว์ทดลองแล้ว คณะนักวิจัยของมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน กล่าวว่า ได้ฉีดวัคซีนที่สร้างจากแบคทีเรียไปที่หนูทดลองแล้ว และขณะนี้กำลังรอเวลาอีก 2-3 สัปดาห์เพื่อดูผลการทดสอบ ซึ่งมีเป้าหมายสูงสุในการหาหนทางที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในการหยุดยั้งเชื้อไวรัสนี้
CR: mcot
#Watchers

 

#ข่าวภัยพิบัติ
11/02/20
มีรายงานน้ำท่วมหนักใน Duque de Caxias, ริโอเดอจาเนโร บราซิล
#RiodeJaneiro, #Brazil
วิดีโอ JOÃO SOUZA
#Watchers

 

#ข่าวร้อนในญี่ปุ่น สื่อญี่ปุ่นลงข่าว "ไทยไม่ให้เรือสำราญ Westerdam เทียบท่า" ชาวเนทญี่ปุ่น แห่คอมเมนต์
.
โดยวันนี้ 11 กุมภาพันธ์ 2020 สื่อญี่ปุ่นได้ออกข่าวว่า ไทยไม่ให้ เรือสำราญ Westerdam เทียบท่า ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็ถูกรัฐบาลญี่ปุ่นปฏิเสธ จึงได้เบนเข็มเตรียมจะไปขอจอดที่ประเทศไทย แต่ทางการไทยได้ประกาศว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้มีการเทียบท่าเช่นกัน
.
โดยบนเรือสำราญมีผู้โดยสารประมาณ 2,300 คน มี 4 คนเป็นชาวญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้ขอให้ท่าเรือโอกินาว่า รับผู้โดยสารญี่ปุ่นลง ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่พบว่ามีผู้โดยสารที่สงสัยว่าติดเชื้อ Coronavirus อยู่บนเรือ จึงได้ปฏิเสธการเทียบท่า นอกจากนี้เรือสำราญ Westerdam ยังถูกปฏิเสธ จากประเทศ ฟิลิปปินส์ และไต้หวันอีกด้วย
.
แน่นอนมีชาวเนทญี่ปุ่นมาแสดงความคิดเห็นต่อกรณีนี้กันมากมาย (ขอยกมาบางส่วน)
.
แน่นอน เป็นคำตอบที่ควรจะเป็นนะ
ใครๆ ก็ไม่อยากรับเรือที่บรรทุกไวรัสมาสินะ
มันเหมือนนรกบนเรือเลยนะ แบบนี้
กลับไปที่อเมริกาสิ นี่มันเรือของพวกเค้าไม่ใช่เหรอ
ก็เหลือแต่เกาหลีสินะ ไปที่เกาหลีสิ มาว่าเราไม่ยอมรับ
มันเป็นเรื่องปรกติที่จะปฎิเสธนะ เพราะดูไม่เหมือนเรือของประเทศญี่ปุ่น
ไปที่ฮ่องกงสิ ฉันไม่สนใจหรอก
เป็นคำตอบที่.....ถูกต้องนะคร้าาาบบ
เหมือนว่าตอนนี้ก็ไม่มีใครต้อนรับเรือสำราญซะแล้ว
มีแต่ญี่ปุ่นสินะ ที่ยอมให้คนป่วยลงจากเรือที่โยโกฮามะ
คุณต้องกลับไปประเทศที่คุณออกมาสิ
แล้วเรือสำราญ Westerdam ก็จะกลายเป็นเรือผี
ไปที่เกาะสร้างด้วยคนของจีนดีกว่าไหม
มันเป็นเรือชาวดัทช์ (ฮอลแลนด์) ก็ให้กลับไปที่นั่นสิ
แย่มาก ไม่ต่างจากญี่ปุ่นเลย
ลงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก
ดำน้ำเข้ามาสิ
ถ่ายลงเรือเล็กเข้าไปสิ
ในเมืองไทย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ "ผักชี"
ไม่มีประเทศไหนใจดีเท่าญี่ปุ่นแล้วสินะ
ตอบได้ดีมาก ไทยแลนด์
ฉันอยู่เมืองไทยนะตอนนี้ ท่าเรือก็อยู่ห่างไปแค่ขับรถ 10 นาทีเอง
ถ้ากระจายเข้าไปในไทย การแพทย์ที่นั่นคงจะรับมือไม่ได้ ตายกันเป็นเบือแน่ๆ
ฉันคิดว่าคุณควรกลับไปฮ่องกงนะ
ไม่มีประเทศไหนอยากจับฉลากหลอก กลับฮ่องกงไปเถอะ
ตลกจริงๆ
ตัดภาพกลับมาที่ญี่ปุ่น...
เรือผี
ทำลายเรือทิ้งซะ
จีนน่าจะรับนะ ทำไมไม่ยกมือเสนอตัวละ
ยอมแพ้เถอะ
การล่องเรือสำราญอันแสนยาวนาน ของพวกท่านได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว !!
.
#ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น #เรือสำราญ #diamond #princess #corona #wuhan #ไวรัส #โคโรนา #โคโรน่า #หวู่ฮั่น #virus #เกาะติดสถานการณ์โคโรนาไวรัสในญี่ปุ่น
ขอบคุณที่มาของข่าวจาก ANN News https://bit.ly/2HffGeY

 

อู่ฮั่น, (ทวิตเตอร์ของผู้สื่อข่าว Global Times)-องค์กรท้องถิ่นและชุมชนกวาดต้อนผู้คนเพื่อกักตัวให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ แบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ ผู้ที่ยืนยันแล้วว่าติดเชื้อ ผู้ที่สงสัยว่าติดเชื้อ ผู้ที่มีไข้ และผู้ที่สัมผัสกับผู้ติดเชื้อ
ปฏิบัติการนี้เรียกว่า “ทุกคนที่จำเป็นต้องกวาดต้อนเพื่อกักตัวต้องถูกกวาดต้อน จะชักช้าไม่ได้”

 

คืนที่หัวใจแตกสลาย
ทวิตเตอร์ของผู้สื่อข่าว Global Times ระบุคำสั่งจากข้างบนให้อู่ฮั่นกวาดต้อนผู้คนที่จำเป็นต้องกวาดต้อนไปกักตัวเพื่อตัดการแพร่เชื้อ ในอำเภอ Wuchang ผู้สูงอายุถูกขนย้ายโดยรถบัสไปยังโรงพยาบาล