ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    โปแลนด์มีหิมะตกจำนวนมาก

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ครอบครัวของเขาไม่สามารถบอกลาเขาได้เพราะเขามีเชื้อไวรัส และพวกเขาพบว่าเขาตายในอพาร์ตเมนต์ของเขาในหวู่ฮั่น

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Laura Wells

    กระแสลมสุริยะชนสนามแม่เหล็กของโลกในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ การมาถึงของกระแสถูกคาดหวัง แต่พลังของมันไม่ได้ ความเร็วลมตอนนี้อยู่ใกล้ 600 กม. / s - เร็วที่สุดของปี อเล็กซานเดอร์ คุซเนทโซได้พบเห็นการระเบิดของแสงออโรร่าเหนือโรวาเนียมิ(Rovaniemi) ประเทศฟินแลนด์
    "ท้องฟ้าระเบิดด้วยสีต่างกันทั้งหมด!" Kuznetsov พูดว่า "ฉันไม่ค่อยเห็นออโรร่าเลย เร็วมากมันเป็นการแสดงที่น่าทึ่ง"

    ในนอร์เวย์ Rob Stammes นักวิทยาศาสตร์แห่งศูนย์แสงโพลาร์ของ Lofoten รู้สึกประหลาดใจเมื่อแมกนีโตมิเตอร์ของเขาบ้าไปแล้ว:

    "เย็นนี้ประมาณ 20.35 UTC คลื่นกระแทกแม่เหล็กที่ลงทะเบียนในเครื่องมือของฉัน" Stammes กล่าว "นอกจากนี้ยังมีกระแสไฟฟ้ากระชากผ่านพื้นดินด้านนอกในพื้นที่เราพบกับพายุ geomagnetic ขนาด K6"

    กระแสลมสุริยะก่อให้เกิดการกระทำนี้ไหลจากหลุมใต้ในชั้นบรรยากาศของดวงอาทิตย์ มันสามารถตะลุมบอนสนามแม่เหล็กของโลกต่อไปอีกเป็นเวลา ~ 24 ชั่วโมงทำให้เกิดแสงออโรร่าในแถบอาร์กติกมากขึ้นในวันที่ 7 และ 8 กุมภาพันธ์
    FB_IMG_1581076744268.jpg FB_IMG_1581076746806.jpg FB_IMG_1581076749322.jpg
    A solar wind stream hit Earth's magnetic field on Feb. 6th. The stream's arrival was expected, but its power was not. Wind speeds are now near 600 km/s--the fastest of the year so far. As the gaseous material swirled around Earth, Alexander Kuznetsov witnessed an outburst of auroras over Rovaniemi, Finland.
    "The sky just exploded with all the different colours!" says Kuznetsov. "I've rarely seen the auroras move so fast. It was an amazing show."
    In Norway, citizen scientist Rob Stammes of Lofoten's Polar Light Center was surprised when his magnetometer suddenly went crazy:
    "This evening around 20.35 UTC, a magnetic shockwave registered on my instruments," says Stammes. "There was also a strong surge of electrical current through the ground outside. Locally, we experienced a geomagnetic storm of magnitude K6."
    The solar wind stream causing this action is flowing from a southern hole in the sun's atmosphere. It could continue to buffet Earth's magnetic field for another ~24 hours, sparking more Arctic auroras on Feb. 7th and 8th.
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน

    อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัยให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีต

    คือ มนุษย์ทั้งหลายย่อมปรากฏมีอายุสั้น มีอายุยืน มีโรคมาก มีโรคน้อย มีผิวพรรณทราม มีผิวพรรณงาม มีศักดาน้อย มีศักดามาก มีโภคะน้อย มีโภคะมาก เกิดในสกุลต่ำ เกิดในสกุลสูง ไร้ปัญญา มีปัญญา ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ

    อะไรหนอแล เป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้พวกมนุษย์ที่เกิดเป็นมนุษย์อยู่ ปรากฏความเลวและความประณีต

    สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กรรมย่อมจำแนกสัตว์ให้เลวและประณีตได้

    บุคคลบางคนในโลกนี้ จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุสั้น...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุสั้นนี้ คือ เป็นผู้มักทำชีวิตสัตว์ให้ตกล่วง เป็นคนเหี้ยมโหด มีมือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการประหัตประหาร ไม่เอ็นดูในเหล่าสัตว์มีชีวิต

    ...ส่วนบุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • ละปาณาติบาตแล้ว เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญา วางศาตราได้ มีความละอาย ถึงความเอ็นดู อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีอายุยืน...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีอายุยืนนี้ คือ ละปาณาติบาตแล้ว เป็นผู้เว้นขาดจากปาณาติบาต วางอาชญาวางศาตราได้ มีความละอาย ถึงความเอ็นดู อนุเคราะห์ด้วยความเกื้อกูลในสรรพสัตว์และภูตอยู่

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นผู้มีปรกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคมาก...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคมากนี้ คือ เป็นผู้มีปรกติเบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นผู้มีปรกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดิน หรือท่อนไม้ หรือศาตรา
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อมสมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโรคน้อย...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโรคน้อยนี้ คือ เป็นผู้มีปรกติไม่เบียดเบียนสัตว์ด้วยฝ่ามือ หรือก้อนดินหรือท่อนไม้ หรือศาตรา

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีผิวพรรณทราม...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีผิวพรรณทรามนี้ คือ เป็นคนมักโกรธ มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่าเล็กน้อยก็ขัดใจ โกรธเคือง พยาบาท มาดร้าย ทำความโกรธ ความร้ายและความขึ้งเคียดให้ปรากฏ

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย ไม่ทำความโกรธ ความร้าย และความขึ้งเคียดให้ปรากฏ
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนน่าเลื่อมใส ...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเป็นผู้น่าเลื่อมใสนี้ คือ เป็นคนไม่มักโกรธ ไม่มากด้วยความแค้นเคือง ถูกเขาว่ามากก็ไม่ขัดใจ ไม่โกรธเคือง ไม่พยาบาท ไม่มาดร้าย ไม่ทำ ความโกรธ ความร้าย ความขึ้งเคียดให้ปรากฏ

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดาน้อย...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดาน้อยนี้ คือ มีใจริษยา ย่อมริษยา มุ่งร้าย ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือการไหว้ และการบูชาของคนอื่น

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นผู้มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือ การไหว้ และการบูชาของคนอื่น
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีศักดามาก...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีศักดามากนี้ คือ มีใจไม่ริษยา ย่อมไม่ริษยา ไม่มุ่งร้าย ไม่ผูกใจอิจฉาในลาภสักการะ ความเคารพ ความนับถือการไหว้ และการบูชาของคนอื่น

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • ย่อมไม่เป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อาศัยเครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไปไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง
    จะเป็นคนมีโภคะน้อย...

    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะน้อยนี้ คือ ไม่ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์

    บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • ย่อมเป็นผู้ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย เครื่องตามประทีป แก่สมณะหรือพราหมณ์
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีโภคะมาก...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีโภคะมากนี้ คือ ให้ข้าว น้ำ ผ้า ยาน ดอกไม้ ของหอม เครื่องลูบไล้ ที่นอน ที่อยู่อาศัย แก่สมณะหรือพราหมณ์

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบายทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลต่ำ...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อเกิดในสกุลต่ำนี้ คือ เป็นคนกระด้าง เย่อหยิ่ง ย่อมไม่กราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ไม่ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ไม่ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ไม่ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง ไม่สักการะคนที่ควรสักการะ ไม่เคารพคนที่ควรเคารพ ไม่นับถือคนที่ควรนับถือ ไม่บูชาคนที่ควรบูชา

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่ง ย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเกิดเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนเกิดในสกุลสูง...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อความเป็นผู้มีสกุลสูงนี้ คือ เป็นคนไม่กระด้าง ไม่เย่อหยิ่งย่อมกราบไหว้คนที่ควรกราบไหว้ ลุกรับคนที่ควรลุกรับ ให้อาสนะแก่คนที่สมควรแก่อาสนะ ให้ทางแก่คนที่สมควรแก่ทาง สักการะคนที่ควรสักการะ เคารพคนที่ควรเคารพ นับถือคนที่ควรนับถือ บูชาคนที่ควรบูชา

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • ย่อมไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน
    • เขาตายไป จะเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไป ไม่เข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญาทราม...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญาทรามนี้ คือ ไม่เป็นผู้เข้าไปหาสมณะ หรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่า อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน

    ...บุคคลบางคนในโลกนี้จะเป็นสตรีก็ตาม บุรุษก็ตาม

    • ย่อมเป็นผู้เข้าไปหาสมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่าอะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน
    • เขาตายไป จะเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เพราะกรรมนั้น อันเขาให้พรั่งพร้อม สมาทานไว้อย่างนี้
    • หากตายไปไม่เข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ถ้ามาเป็นมนุษย์ เกิด ณ ที่ใดๆ ในภายหลัง จะเป็นคนมีปัญญามาก ...
    ปฏิปทาเป็นไปเพื่อมีปัญญามากนี้ คือ เป็นผู้เข้าไปหา สมณะหรือพราหมณ์แล้วสอบถามว่า อะไรเป็นกุศล อะไรเป็นอกุศล อะไรมีโทษ อะไรไม่มีโทษ อะไรควรเสพ อะไรไม่ควรเสพ อะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อไม่เกื้อกูล เพื่อทุกข์สิ้นกาลนาน หรือว่าอะไรเมื่อทำ ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุขสิ้นกาลนาน


    อ้างอิงแก้ไข

    เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจนและครบถ้วน กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่

    งานนี้ประกอบด้วยงานย่อยหลายส่วนซึ่งอยู่ในบังคับแห่งลิขสิทธิ์หลายเรื่องต่างกัน เช่น งานอันลิขสิทธิ์หมดอายุ และงานที่ไม่มีลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ดี งานนี้ทุกส่วนล้วนเป็นสาธารณสมบัติแล้ว
    ส่วนบทประพันธ์:
    48px-PD-icon.svg.png
    งานนี้ ปัจจุบันเป็นสาธารณสมบัติแล้ว เพราะลิขสิทธิ์ได้หมดอายุตามมาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๐ แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งบัญญัติว่า

    "มาตรา ๑๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๒๑ และมาตรา ๒๒ ลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ถึงแก่ความตาย
    ในกรณีที่มีผู้สร้างสรรค์ร่วม ลิขสิทธิ์ในงานดังกล่าวให้มีอยู่ตลอดอายุของผู้สร้างสรรค์ร่วม และมีอยู่ต่อไปอีกเป็นเวลาห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ร่วมคนสุดท้ายถึงแก่ความตาย
    ถ้าผู้สร้างสรรค์หรือผู้สร้างสรรค์ร่วมทุกคนถึงแก่ความตายก่อนที่ได้มีการโฆษณางานนั้น ให้ลิขสิทธิ์ดังกล่าวมีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
    ในกรณีที่ผู้สร้างสรรค์เป็นนิติบุคคล ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก

    มาตรา ๒๐ งานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้ที่ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยผู้สร้างสรรค์ใช้นามแฝงหรือไม่ปรากฏชื่อผู้สร้างสรรค์ ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้สร้างสรรค์งานนั้นขึ้น แต่ถ้าได้มีการโฆษณางานนั้นในระหว่างระยะเวลาดังกล่าว ให้ลิขสิทธิ์มีอายุห้าสิบปีนับแต่ได้มีการโฆษณาเป็นครั้งแรก
    ในกรณีที่รู้ตัวผู้สร้างสรรค์ ให้นำมาตรา ๑๙ มาใช้บังคับโดยอนุโลม"

    72px-Flag_of_Thailand.svg.png
    ส่วนอื่น ๆ:
    48px-PD-icon.svg.png
    งานนี้ไม่มีลิขสิทธิ์ เพราะมีลักษณะตามมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งบัญญัติว่า

    "มาตรา ๗ สิ่งต่อไปนี้ไม่ถือว่าเป็นงานอันมีลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตินี้
    (๑) ข่าวประจำวัน และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสารอันมิใช่งานในแผนกวรรณคดี แผนกวิทยาศาสตร์ หรือแผนกศิลปะ
    (๒) รัฐธรรมนูญ และกฎหมาย
    (๓) ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง คำชี้แจง และหนังสือโต้ตอบของกระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่น
    (๔) คำพิพากษา คำสั่ง คำวินิจฉัย และรายงานของทางราชการ
    (๕) คำแปลและการรวบรวมสิ่งต่าง ๆ ตาม (๑) ถึง (๔) ที่กระทรวง ทบวง กรม หรือหน่วยงานอื่นใดของรัฐหรือของท้องถิ่นจัดทำขึ้น"
    100px-Thai_government_Garuda_emblem_%28Version_2%29.svg.png

    แก้ไขล่าสุดเมื่อ9 เดือนก่อนโดย Pitpisit
    วิกิซอร์ซ
    เนื้อหาอนุญาตให้เผยแพร่ภายใต้ CC BY-SA 3.0 เว้นแต่ระบุไว้เป็นอื่น
    https://th.m.wikisource.org/wiki/สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจรขโมยหน้ากากอนามัย 25,000 ชิ้น ในฮ่องกง
    ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้คนในฮ่องกงเกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในขณะนี้ และต่างพยายามหาซื้อหน้ากากอนามัยกัน
    หน้ากากอนามัยจำนวน 25 กล่องใหญ่ ที่สั่งจากประเทศไทย ซึ่งบรรจุหน้ากากอนามัยจำนวน 1,000 กล่อง รวม 25,000 ชิ้นได้ถูกขโมยออกไปจากโกดังสินค้า ที่ Wah Fai Industrial Building ย่าน Yau Tong เมื่อวันพุธสัปดาห์ที่แล้ว
    โดยนักธุรกิจหญิงที่เป็นเจ้าของร้านค้าออนไลน์ได้แจ้งความกับตำรวจเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ในอีก 2 วันต่อมา หลังพบว่าสต๊อกหน้ากากของเธอหายไป
    Source : https://www.scmp.com/news/hong-kong...-clamour-surgical-masks-coronavirus-hit-hong?
    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิทยาศาสตร์จีนเปิดเผยผลการวิจัยพบว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจแพร่ระบาดจากค้างคาวไปสู่คนโดยผ่านตัวนิ่ม ซึ่งในเอเชียมักนิยมนำไปทำเป็นอาหารและยา
    องค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากลระบุว่า ตัวนิ่มเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอีกประเภทหนึ่งที่มีการลักลอบค้ามากที่สุดในเอเชีย แม้ได้รับการคุ้มครองจากกฎหมายระหว่างประเทศ เนื่องจากเนื้อของมันถูกจัดว่าเป็นอาหารอันโอชะในหลายประเทศ เช่น จีน ส่วนเกล็ดของมันมักถูกนำไปทำเป็นยาแผนโบราณ
    แถลงการณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรภาคใต้จีน ซึ่งเป็นแกนนำในการค้นคว้าวิจัยระบุว่า การค้นพบล่าสุดนี้จะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันและควบคุมต้นตอของเชื้อไวรัส ทั้งนี้ เชื่อกันว่า การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เริ่มมาจากตลาดในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ซึ่งมีการขายสัตว์ป่ามีชีวิต ผู่ก่อนหน้านี้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสาธารณสุขเชื่อว่า เชื้อไวรัสนี้อาจมีต้นตอมาจากค้างคาวและส่งผ่านเชื้อมาสู่คนโดยมีสัตว์ชนิดอื่นเป็นตัวกลาง
    เกาะติดข่าวไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่2019
    เว็บไซต์ คลิก http://bit.ly/tnacorona
    ชมคลิปยูทูบ คลิก http://bit.ly/tnaytcoronavirus
    • อ่านข่าวเพิ่มเติม : tna.mcot.net
    • เฟซบุ๊ก : fb.com/tnamcot
    • ยูทูบ : youtube.com/tnamcot
    • แอดไลน์ : line.me/R/ti/p/%40tnamcot
    • ทวิตเตอร์ : twitter.com/tnamcot
    • อินสตาแกรม : instagram.com/tnamcot
    • ช่อง 9 MCOT HD กดเลข 30
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    Harlan County, Kentucky สหรัฐอเมริกา 6 ก.พ. 2020
    Harlan County, Kentucky USA Feb6 2020
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    Gatlinburg, เทนเนสซีจากน้ำท่วมอย่างรุนแรงจากระบบพายุที่ส่งผลกระทบต่อ Mississippi 6 ก.พ. 2020

    Gatlinburg, Tennessee of severe flooding from the storm system that impacted Mississippi Feb6 2020
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ที่ Vestavia Hills, Alabama สหรัฐอเมริกา วันที่ 6 ก.พ. 2020

    Vestavia Hills, Alabama USA Feb6 2020
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ขณะนี้สถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นเนื่องจากน้ำท่วมรุนแรงใน Richland รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา 6 ก.พ. 2020

    A state of emergency is now in place due to the extreme flooding in Richland, Virginia. USA Feb6 2020
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุ่ยท้อผ่อสัก (韋馱菩薩) คือพระเวทโพธิสัตว์... - เทพเจ้าจีน ...

    images (14).jpeg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่วงค่ำวานนี้ (6 ก.พ.) ศูนย์บัญชาการป้องกันโรคติดต่อไต้หวัน แถลงข่าวด่วน พบผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นเพิ่มอีก 3 ราย เมื่อรวมกับที่พบในช่วงกลางวันของวันเดียวกันอีก 2 ราย จึงรวมเป็น 5 ราย ตอนนี้ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อถึง 16 ราย แล้ว
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ อนุสติ อานิจสงฆ์การเจริญอนุสติ ; สมาธินิมิต
    มหาสถามปราปต์โพธิสัตว์หฤทัยธารณี
    (ประกอบดนตรี ธิเบต)
    Om ba sha pei om ba zha chan cha ma ha luo ka na om pei
    โอม บา จา เพ
    โอม บา จา ชัน ชา มหา ลัว คา นา
    โอม เพ
    การพิจารณามหาสถามปราบต์โพธิสัตว์เป็นนิมิต
    โพธิสัตว์องค์นี้มีประมาณกายดุจเดียว
    กับพระอวโลกิเตศวร ประภามณฑลแผ่ออกไปด้านละหนึ่งร้อยยี่สิบห้าโยชน์ ส่องสว่างไปสองร้อยห้าสิบโยชน์ มีวรรณะม่วงทอง สรรพสัตว์ผู้มีบุญปัจจัยสัมพันธ์ล้วนได้พบเจอ
    แม้ได้ยลยินรัศมีของพระโพธิสัตว์องค์นี้ คือการได้ยลยินรัศมีของพระพุทธเจ้าทั้งมวลในทศทิศ จึงทรงนามอีกอย่างหนึ่ง คือ อนันตประภา
    ด้วยปัญญาญาณที่รุ่งเรือง ฉายส่องสว่างไปในอบายภูมิสาม ได้บรรลุแล้วซึ่งอนุตรพละ จึงทรงนามว่า
    "มหาสถามปราบต์"
    อุษณีย์มีลักษณะดุจดอกปัทมะ บนก้อนมังสะอุษณีย์นั้นเทิดรัตนคนโทอันหนึ่ง รุ่งเรืองด้วยรัศมีประภาสทั้งปวง อันปรากฏพุทธกิจต่างๆ
    เมื่อพระโพธิสัตว์ดำเนินไป โลกธาตุในทศทิศต่างกำธรสั่นไหว มีรัตนมาลีเกิดขึ้น คราพระโพธิสัตว์ประทับนั่งโลกธาตุที่เป็นรัตนะเจ็ดประการก็จะสะเทือนครั้งหนึ่ง
    จากโลกธาตุเบื้องล่างของพระสุวรรณประภาพุทธะถึงโลกธาตุเบื้องบนของพระประภาสราชะพุทธะล้วนมีนิรมาณกายของพระอมิตาพุทธเจ้า พระอวโลกิเตศวร และพระมหาสถามปราบต์ แน่นขนัดในอากาศ ประทับนั่งบนปัทมอาสน์แล้วป่าวประกาศแสดงธรรมอันประเสริฐ
    คัดมาบางตอนจากอมิตยุร ธยานสูตร
    แปลโดย พระวิศวภัทร
    .
    .
    大勢至菩薩念佛圓通章
    บทที่ว่าด้วยพุทธภาวนา อันเป็นธรรมปฏิปทา ของพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ (ไต่ซี่จี่ผ่อสัก) -- บทหนึ่งในศูรางคมธารณีสูตร
    唐天竺沙門般剌密帝譯
    (พระปรมิติ สมัยราชวงศ์ถัง แปลจากสันสกฤตสู่จีน)
    พระมหาสถามปราปต์ธรรมราชกุมาร พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์ผู้มีปฏิปทาเสมอกันจำนวน 52 องค์ ได้ลุกขึ้นจากอาสนะ ถวายศิราภิวาทเบื้องพระพุทธยุคลบาท แล้วทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าพระองค์ยังระลึกย้อนไปในอดีตหลายกัลป์เท่าเม็ดทรายในคงคา ว่ายังมีพระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก พระนามว่า “อมิตาประภาส” มีพระตถาคตจำนวน 12 พระองค์ ทรงอุบัติขึ้นต่อเนื่องกันในกัลป์เดียว พระพุทธเจ้าองค์สุดท้ายในจำนวนนั้น พระนามว่า เชา ยื่อ แยว่ กวง (พระพุทธเจ้าที่มีพระรัศมีรุ่งเรืองกว่าดวงอาทิตย์และดวงจันทร์) พระพุทธเจ้าพระองค์นั้นได้สอน “พุทธานุสสติสมาธิ” ให้ข้าพระองค์ อุปมาว่ามีบุคคลที่คิดถึงด้วยตั้งมั่น (แต่)อีกบุคคลก็หลงลืม ก็บุคคลทั้งสองนี้ แม้พบกันหรือไม่พบกัน หรือเห็นกันหรือไม่เห็นกัน บุคคลทั้งสองนี้ก็คิดถึงกัน ความคิดถึงทั้งสองลึกซึ้ง จนถึงการเกิดแล้วเกิดเล่า ก็จะมีความเหมือนกัน ไม่มีความต่างกัน
    พระตถาคตในทศทิศ ทรงเวทนาสงสารสรรพสัตว์ ประดุจมารดาคิดถึงบุตร หากบุตรหลบหลีก แม้จะคิดถึงแล้วจะเยี่ยงไร? หากบุตรจะคิดถึงมารดา ดุจเวลาที่มารดาคิดถึงแล้วไซร้ มารดาและบุตรย่อมได้พานพบ ไม่ห่างไกลจากกัน หากจิตของสรรพสัตว์ คิดถึงพระพุทธองค์ ระลึกถึงพระพุทธองค์ ในปัจจุบันและอนาคคต ย่อมจะได้ประสบพระพุทธองค์เป็นแม่นมั่น เป็นผู้ไม่ไปไม่ไกลจากพระพุทธองค์ นับเป็นอุปายะที่จริงแท้ ดวงจิตจะเบิกบานเอง ประดุจบุคคลที่ชโลมด้วยเครื่องหอม สรรพางค์มีกลิ่นสุคนธ์ อย่างนี้จึงได้ชื่อว่า “คันธประภาสลังการ” (ผู้อลังการความความหอมและความรุ่งเรือง) ประวัติเมื่อกาลก่อนของข้าพระองค์ ด้วยใช้จิตภาวนาถึงพระพุทธองค์ จึงได้เข้าสู่อนุตปตติก ธรรมขันติ จะสงเคราะห์ให้ผู้ที่ภาวนาถึงพระพุทธองค์ในโลกธาตุแห่งนี้ ได้หวนกลับสู่วิศุทธิเกษตร เมื่อพระพุทธองค์ตรัสถามถึงธรรมที่ได้ยังให้แจ้งมรรค ข้าพระองค์มิได้เลือกธรรมใด (จะมีแต่เพียง)การสำรวมอายตนะทั้งหก ภาวนาด้วยความบริสุทธิ์อย่างต่อเนื่อง บรรลุถึงสมาธิ อันถือเป็นเอก ฉะนี้แล.
    (พระวิศวภัทร เส็กก่วงโต่ว แปล.. 8 มิ.ย 55 ณ วัดเทพพุทธาราม เวลา 21.00 น.)
    大勢至法王子,與其同倫五十二菩薩,即從 座起,頂禮佛足,而白佛言:「我憶往昔,恆河沙劫,有佛出世,名無量光;十二如來,相繼一劫。其最後佛,名超日月光;彼佛教我,念佛三昧。譬如有人,一專 為憶,一人專忘;如是二人,若逢不逢,或見非見。二人相憶,二憶念深;如是乃至從生至生,同於形影,不相乖異。十方如來,憐念眾生,如母憶子;若子逃逝, 雖憶何為?子若憶母,如母憶時,母子歷生,不相違遠。若眾生心,憶佛、念佛,現前當來,必定見佛,去佛不遠;不假方便,自得心開。如染香人,身有香氣;此 則名曰:香光莊嚴。我本因地,以念佛心,入無生忍;今於此界,攝念佛人,歸於淨土。佛問圓通,我無選擇;都攝六根,淨念相繼,得三摩地,斯為第一。」
    มหาพละนามสถามปราบต์
    เชื่อว่าถ้ากล่าวถึงโพธิสัตว์คู่บารมีแห่งพระอมิตาพุทธเจ้า ทุกคนคงทราบดีว่ามีพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วแน่นอน
    หลายคนคงเคยอ่านพระสูตรว่าด้วยการเจริญพุทธานุสติของพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์
    เพราะพุทธานุสติเป็นดั่งสายใยเชื่อมโยงสรรพสัตว์กับพระพุทธเจ้าทั้งมวลไว้ ดั่งความรักของมารดาที่ผูกพันธ์กับบุตรแห่งตน
    แต่เรื่องราวของพระมหาสถามปราต์นั้นกลับได้รับความนิยมในภาคพระวัชรปาณีเสียเป็นส่วนใหญ่
    หลายคนก็เข้าใจว่าท่านเป็นเลิศด้านฤทธิ์ มีฤทธิ์มาก
    ท่านก็เป็นอย่างนั้นตามที่เราปรารถนา ตามที่เราเข้าใจแต่ในอีกแง่มุมหนึ่งพละของพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ยังยิ่งใหญ่มากกว่าที่เราคาดการณ์ทรงสมบูรณ์อุดมด้วยทศพลญาณ
    อันเป็นพละสิบประการของมหาบุรุษประกอบด้วย
    พละเหนือชีวิต
    พละเหนือรูป(สสาร)
    พละเหนือกรรม
    พละเหนือการเกิดใหม่
    พละเหนือความปรารถนา
    พละเหนือคำอธิษฐาน
    พละเหนือปาฏิหารย์
    พละเหนือกิเลส
    พละเหนือปัญญา
    พละเหนือธรรม
    พระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์จึงเป็นมากกว่านายช่างแห่งแดนสุขาวดี แต่เป็นนายช่างผู้ปลูกสร้างเรือนจิตแห่งผู้สร้างสมบุญบารมี ให้กล้าแกร่ง เพื่อปรารถนาดำเนินไปในโครตพุทธวงศ์แห่งสุขาวดีพุทธประเทศ
    เมื่อระลึกและปรารถนาจะบำเพ็ญสรรพกุศลเป็นต้นทุนที่จะไปอุบัติยังพุทธประเทศนั้น เพียงแค่จิตกับการสวดมนต์ที่ตั้งไว้ดีแล้วยังมิเพียงพอที่จะไปอุบัติในชาตินี้แน่นอน
    หากแต่ควรเร่งเพียรสร้างสมบารมีที่แท้จริง ช่วยเหลือสรรพชีวิตให้พ้นจากความทุกข์เท่าที่กำลังตนจะทำได้
    ไม่ย่อท้อ อ่อนแอ ลังเล
    ถ้ากำลังใจน้อย กำลังกายน้อย จงพึ่งพาพละของพระมหาสถามปารบต์โพธิสัตว์เป็นตัวช่วย เป็นร่มชูชีพเมื่อตกหลุมอากาศแห่งความเขลา เป็นเสื้อชูชีพเมื่อแหวกว่ายในมหานทีทะเลทุกข์นี้เทอญ
    #เมื่อระลึกถึงพระอมิตาพุทธเจ้าเป็นนิจแล้วไซร้
    เธอทั้งหลายจะมีพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
    และพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์เป็นกัลยาณมิตรที่ดีตลอดจนกว่าเธอจะสำเร็จอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ
    (อมิตายุรธสูตร)
    #อ่อนแรงใจนึกถึงพระอมิตาพุทธเจ้าเป็นนิจ
    #อ่อนแรงวาจาพึงนึกถึงพระกวนอิมเป็นนิจ
    #อ่อนแรงกายพึงนึกถึงพระมหาสถามปราบต์เป็นนิจ
    เมื่อกายวาจาใจสมบูรณ์แล้วพึงสงบระงับไม่ให้ก่อกรรมแต่พึงใช้กายวาจาใจให้เป็นประโยชน์สูงสุด
    สู่พุทธเกษตรด้วยกำลังจากการกรรมทั้งสาม
    #เมื่อกรรมสามสอดคล้องกับพระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ทั้งมวลแล้วไซร้
    #ย่อมลุถึงพุทธเกษตรสู่แดนสุขาวดีที่หมาย
    #ตั้งแต่ในขณะที่ยังมีลมหายใจอยู่อย่างนี้นี้แน่นอน
    .
    .
    พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
    (Mahasthamaprapta) คือ พระโพธิ์สัตว์ในดินแดนสุขาวดีแห่งพุทธเกษตรอัครสาวกของพระอมิตาภะพุทธเจ้า เคียงคู่กับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ เป็นพระอัครสาวกที่ประทับอยู่ ณ ตำแหน่งเบื้องขวาของพระอมิตาภพุทธะ แต่หากมองจากผู้กราบไหว้บูชาจะอยู่ทางด้านซ้ายมือ อีกทั้งพระอวโลกิเตศวร(กวนอิม) เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ ในขณะที่พระสถามปราปต์โพธิสัตว์เป็นสัญลักษณ์ของดวงจันทรา ในพระสูตรสุขาวดีวยูหสูตรกล่าวไว้ว่า พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ยังเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังและปัญญาบารมี แต่มีคนรู้จักน้อยกว่า ถือว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ด้านกำลัง ทั้งสามพระองค์จะตั้งประดิษฐานไว้เรียงกันภายในวิหารแห่งสุขาวดี เรียกกันว่า ไตรเทพแห่งประจิมทิศ หรือ ซีฟางซานเสิ้ง (西方三圣)
    ชาวจีนจะเรียกพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ว่า ต้าซื่อจื้อผูซ่า (大势至菩萨) หรือ เต็กไต่ซี้ (得大勢) ในขณะที่สำเนียงแต้จิ๋วจะอ่านว่า ไต่ซีจู้ผ่อสัก (大勢主菩萨)
    พระนามของ “พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์” (ต้าซื่อจื้อผูซ่า)
    สามารถแยกความหมายของพระนามได้ดังนี้
    มหา (大) ต้า แปลว่า ยิ่งใหญ่,มหาศาล
    สถามะ (勢) ซื่อ แปลว่า เดชานุภาพ,พละกำลัง
    ปราปต์(至) จื้อ แปลว่า เข้าถึงแล้ว,บรรลุแล้ว
    ดังนั้นพระนามคำว่า “พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์”
    จึงมีความหมายว่า พระโพธิสัตว์ผู้ทรงบรรลุแล้ว
    ด้วยพลังบารมีอันยิ่งใหญ่
    พระมหาสถามปราปต์ทรงเป็นพระโพธิสัตว์ที่แสดงถึงพระพลาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง คล้ายกับพระมัญชุศรีที่ทรงเป็นองค์แทนแห่งพระปัญญาธิคุณ
    พระอวโลกิเตศวรทรงเป็นองค์แทนแห่งพระกรุณาธิคุณพระจุณฑิทรงเป็นองค์แทนแห่งพระบริสุทธิคุณเป็นต้น
    พระมหาสถามปราปต์จะทรงถือดอกปัทมาในพระหัตถ์บางครั้งจะทรงประณมหัตถ์ไว้ที่พระอุระ บางครั้งจะทรงถึงวัชระ จึงทำให้พระองค์มีอีกพระนามว่า พระวัชรหัตถ์บางแห่งเรียกพระวัชรปาณี (金剛手) ก็มีในพระสุขาวดีวยูหสูตร (無量壽經) กล่าวว่าเมื่อครั้งสมัยที่พระอมิตาภะพุทธเจ้ายังทรงเสวยพระชาติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิเมื่อกาลก่อนทรงมีพระโอรส ๑,๐๐๐ พระองค์ มีพระอวโลกิเตศวร โพธิสัตว์เป็นพระโอรสองค์โต และมีพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์เป็นพระโอรสองค์รอง ทั้ง ๓ พระองค์ทรงประกาศมหาปณิธานจะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้ถึงที่สุด ณ เบื้องพระพักตร์แห่งพระรัตนครรภ์พุทธเจ้า (寶藏佛) ส่งผลให้ทั้ง ๓ พระองค์ทรงเป็นพระโลกนาถเจ้าแห่งสุขาวดีโลกธาตุ และยังทรงเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณาคุณปกแผ่ไพศาลมา เพื่อโปรดสรรพสัตว์ยังโลกทั้งปวงไม่เว้นแม้แต่โลกแห่งความทุกข์ที่นี้ด้วย
    ในพระศูรางคมธารณีสูตร (楞嚴經) กล่าวว่า พระมหาสถามปราปต์กราบทูลต่อพระพุทธเจ้า ถึงปฏิปทาแนวทางปฎิบัติของพระองค์ว่า ในจิตของพระองค์มีแต่น้อมระลึกและเรียกขานแต่พระนามของพระอมิตาภะพุทธเจ้าอยู่ตลอดลมหายใจ และทรงปฏิบัติเช่นนี้มาตลอดนานนับหลายอสงไขยกัลป์ แม้นในปัจจุบันที่พระองค์ทรงได้บรรลุเป็นพระมหาโพธิสัตว์แล้วก็ยังทรงภาวนาถึงพระอมิตาภะอยู่ทุกวาระจิตเช่นเคย ซึ่งพระมหาสถามปราปต์ทรงให้เหตุผลว่า ประดุจบุตรร้องเรียกหาผู้เป็นมารดาตลอด แล้วผู้เป็นมารดาจะทอดทิ้งบุตรผู้นั้นได้อย่างไร (เปรียบเทียบว่าพระพุทธเจ้าทรงรักและเมตตาสรรพสัตว์ทั้งปวงดุจมารดาอาทรต่อบุตร)
    พุทธลักษณะของพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ มักเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนมักเข้าใจกันผิด ทั้งนี้เพราะว่าพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์มักมีการวาดภาพหรือปั้นเป็นประติมากรรมที่มีลักษณะเป็น “เพศหญิง” จึงทำให้มีความคล้ายคลึงกันกับพุทธลักษณะของพระอวโลกิเตศวร(กวนอิม) นอกจากนี้ ยังมีจุดเด่นที่สังเกตเห็นถึงความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์จะทรงถือดอกบัวพร้อมก้านบัวในพระหัตถ์อยู่เสมอ โดยพระหัตถ์ซ้ายจะยกปลายก้านบัวไว้แนบพระอุระ ในขณะที่พระหัตถ์ขวาจะประคองที่ปลายก้านดอกบัว (แต่ในบางครั้งยังอาจเห็นในลักษณะปางประณมหัตถ์ทั้งสองข้างไว้เหนือพระอุระอีกด้วย)
    ดังนั้น การประดิษฐานรูปเคารพของพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ หรือ ต้าซื่อจื้อผูซ่านั้น
    จึงมีความหมายถึง พลังที่ช่วยเสริมสร้างพระอมิตาภะ ให้ก่อเกิดพลังแห่งปัญญา
    และบรรลุถึงความสุขอย่างสมบูรณ์ในแดนสุขาวดีภายหน้า .........
    .
    .
    #พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
    (大勢至菩薩)
    พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
    (大勢至菩薩)
    #พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์อัครสาวกของพระอมิตาภะ พุทธเจ้า
    เคียงคู่กับ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
    พระองค์มีชื่อเรียกในภาษาจีนว่า
    “ไต่ ซี้ จี(大勢至) หรือ เต็ก ไต่ ซี้(得大勢)
    บางแห่งเรียก ไต่ ซี จู้(大勢主)” ซึ่งมี
    ความหมายเหมือนกัน อันมีความหมาย ของพระนามดังนี้
    (大) ไต่ แปลว่า ยิ่งใหญ่,มหาศาล สถามะ
    (勢) ซี - ซี้ แปลว่า เดชานุภาพ,พละกำลัง
    (至) จี แปลว่า เข้าถึงแล้ว, บรรลุแล้ว
    ดังนั้นพระนามของพระองค์จึงคือ #พระโพธิสัตว์ผู้ทรงบรรลุแล้ว ซึ่งเดชา พละยิ่งใหญ่พระมหาสถามปราปต์ทรง เป็นพระโพธิสัตว์ที่แสดงถึงพระพลาธิคุณ ของพระพุทธเจ้า ทั้งปวง คล้ายกับ พระมัญชุศรี ที่ทรงเป็นองค์แทนแห่ง พระปัญญาธิคุณพระอวโลกิเตศวร ทรงเป็น องค์แทนแห่งพระกรุณาธิคุณพระจุณฑิทรงเป็นองค์แทนแห่งพระบริสุทธิคุณ เป็นต้น
    #พระมหาสถามปราปต์ จะทรงถือ ดอกปัทมาใน พระหัตถ์บางครั้งจะทรง ประณมหัตถ์ไว้ที่พระอุระบางครั้ง จะทรง ถือวัชระ จึงทำให้พระองค์มีอีกพระนามว่า
    พระวัชรหัตถ์บางแห่งเรียก พระวัชรปาณี(金剛手)ก็มีใน พระสุขาวดีวยูหสูตร(無量壽經)
    กล่าวว่าเมื่อครั้งสมัยที่ #พระอมิตาภะพุทธเจ้า ยังทรงเสวย พระชาติ เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเมื่อกาลก่อน ทรงมีพระโอรส ๑,๐๐๐ พระองค์ มี #พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์
    เป็นพระโอรสองค์โตและมี #พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
    เป็นพระโอรสองค์รอง ทั้ง ๓ พระองค์ ทรงประกาศมหาปณิธานจะช่วยเหลือ สรรพสัตว์ให้ถึงที่สุด ณเบื้องพระพักตร์ แห่งพระรัตนครรภ์พุทธเจ้า (寶藏佛) ส่งผล
    ให้ทั้ง ๓ พระองค์ทรงเป็นพระโลกนาถเจ้า แห่งสุขาวดีโลกธาตุ และยังทรงเปี่ยมล้น ด้วยพระเมตตากรุณาคุณปกแผ่ไพศาลมา เพื่อโปรดสรรพสัตว์ยังโลกทั้งปวงไม่เว้นแม้แต่โลกแห่งความทุกข์ที่นี้ด้วย
    ในพระศูรางคมธารณีสูตร (楞嚴經)
    กล่าวว่า พระมหาสถามปราปต์กราบ
    ทูลต่อพระพุทธเจ้าถึงปฏิปทาแนวทาง ปฎิบัติของพระองค์ว่าในจิตของพระองค์ มีแต่น้อมระลึกและเรียกขานแต่พระนาม ของ #พระอมิตาภะพุทธเจ้า อยู่ตลอด ลมหายใจและทรงปฏิบัติเช่นนี้
    มาตลอดนานนับหลายอสงไขยกัลป์
    แม้นในปัจจุบันที่พระองค์ทรงได้บรรลุ
    เป็นพระมหาโพธิสัตว์แล้วก็ยังทรงภาวนา ถึงพระอมิตาภะอยู่ทุกวาระจิตเช่นเคย
    ซึ่งพระมหาสถามปราปต์ทรงให้เหตุผลว่า ประดุจบุตรร้องเรียกหาผู้เป็นมารดา ตลอด แล้วผู้เป็นมารดาจะทอดทิ้งบุตรผู้นั้น ได้อย่างไร ( เปรียบเทียบว่า พระพุทธเจ้า ทรงรักและเมตตาสรรพสัตว์ ทั้งปวงดุจ มารดาอาทรต่อบุตร) ด้วยอานิสงค์ แห่งการระลึกถึงพระคุณแห่ง พระอมิตาภะพุทธเจ้าและพระพุทธเจ้า ทั้งปวงนั้น ยิ่งใหญ่ไพศาลปานฉะนี้ ดังนั้นสาธุชนที่ได้ทราบแล้วสมควรปฏิบัติ ตามแนวทางภาวนาแห่ง
    #พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์เจ้า
    พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ (Mahasthamaprapta) คือ พระโพธิ์สัตว์ ในดินแดนสุขาวดีแห่งพุทธเกษตรอัครสาวกของพระอมิตาภะพุทธเจ้า เคียงคู่กับ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์เป็น พระอัครสาวก ที่ประทับอยู่ ณ ตำแหน่ง เบื้องขวาของ #พระอมิตาภพุทธะ แต่หาก มองจากผู้กราบไหว้บูชาจะอยู่ทางด้านซ้ายมืออีกทั้ง #พระอวโลกิเตศวร (กวนอิม) เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์ ในขณะที่ #พระสถามปราปต์โพธิสัตว์ เป็นสัญลักษณ์ของดวงจันทรา ในพระสูตรสุขาวดี #วยูหสูตร กล่าวไว้ว่า พระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ยังเป็นพระโพธิสัตว์ผู้เป็นสัญลักษณ์แห่ง พลังและปัญญาบารมี แต่มีคนรู้จักน้อยกว่า ถือว่าท่านเป็นพระโพธิสัตว์ด้านกำลัง ทั้งสามพระองค์จะตั้งประดิษฐานไว้เรียงกันภายในวิหารแห่งสุขาวดี เรียกกันว่า ไตรเทพแห่งประจิมทิศ หรือ ซีฟางซานเสิ้ง (西方三圣)
    ชาวจีนจะเรียกพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ว่า ต้าซื่อจื้อผูซ่า (大势至菩萨) หรือ เต็กไต่ซี้ (得大勢) ในขณะที่สำเนียงแต้จิ๋วจะอ่านว่า ไต่ซีจู้ผ่อสัก (大勢主菩萨)
    วันคล้ายวันโพธิสัตวสมภพคือ
    วันที่ ๑๓ เดือน ๗ จีน
    .
    .
    .
    นิรมาณกายแห่งพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์ : วัชระปราณีโพธิสัตว์
    ในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน
    พระวัชรปาณีโพธิสัตว์
    เป็นที่รู้จักและมีผู้ให้ความเคารพอย่างมาก
    แท้จริงแล้วรูปกายอันพิโรธขอลวัชรปาณี
    ก็คือภาควัชระของพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์
    ผู้ทำหน้าที่ รักษาพระสัทธรรม
    นอกจากนี้ยังทรงแสดง พลานุภาพของพระพุทธเจ้าในทศทิศ อันพลานุภาพนี้ ดำรงอยู่ในความเป็นพระวัชรปาณี
    มหากรุณาของพระพุทธเจ้าในทศทิศ
    แสดงในรูปกายเเห่งพระอวโลกิเตศวร
    และปัญญาญาณแห่งพระพุทธเจ้าในทศทิศ
    ได้แสดงในรูปกายเเห่งพระมัญชุศรีโพธิสัตว์
    ทั้ง 3 พระองค์ ถือเป็นตัวแทนแห่ง
    พลานุภาพ ความกรุณา และปัญญา
    หากเราปรารถนาที่จะเข้าใจในความเป็นพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ ในด้านการรักษาพระธรรม และปัญญา เราควรศึกษาจากพระวัชรปาณีโพธิสัตว์
    แท้จริงแล้วพระวัชรปาณี มีความยิ่งใหญ่ในพุทธศาสนา
    เป็นอย่างมาก วัชรปาณีโพธิสัตว์สามารถนิรมาณกาย
    ออกเป็น 9 ภาค ทำหน้าที่แตกต่างกันไป
    ทั้งเก้าภาคถือเป็นมหาธรรมลับ หรือเป็นโยคะชั้นสูง
    ซึ่งจะศึกษาเล่าเรียนกันในหมู่พระภิกษุเท่านั้น
    ประกอบไปด้วย
    1.มหาจักรอภิเษกมหาวัชระปาณี
    2.มรกตรัตนาภรณ์มหาวัชรปาณี
    3.จตุอัคนีตรรกะมหาวัชรปาณี
    4.ยามาราชาวิสุทธิราชันย์วัชรปาณี
    5.อาจาริยธารณีพละมหาวัชรปาณี
    6.กุณฑาลินีคุรฑะมหาวัชรปาณี
    7.ไภษัสชยะเวชมหาวัชรปาณี
    8.ปัทมะสีหนาทมหาวัชรปาณี
    9.พละวิชัยยะมหาวัชรปาณี
    แต่โดยมากก็มักจะเห็นท่านปรากฏโดยทั่วไป
    ในแบบวรกายสีฟ้าคราม ในหัตถ์ถือวัชระ
    สวมมงกุฏประดับรัตนะมณีห้าสี
    แทนปัญญาแห่งพระพุทธเจ้าทั้งห้าทิศ
    การบูชาพระวัชรปาณีนั้น
    ทำให้เกิดความเป็นอจินไตย์ในบุญวาสนา
    ดำเนินไปสู่สัมมามรรคได้โดยง่าย
    หมู่มารหรือภูติผีมิอาจเข้าใกล้
    เหล่าพญานาค แลครุฑทั้งหลายต่างเมตตาปกป้อง
    พ้นจากภัยพิบัติอันเกิดจาก ดิน น้ำ ลม ไฟ
    ปณิธานทั้งหลายสำเร็จโดยง่าย
    และสุดท้ายคือ ไปอุบัติยังสุขาวดีพุทธเกษตร
    #แปลถวายเป็นพุทธบูชา
    ต่อพระมหาสถามปราบต์โพธิสัตว์
    ผู้เป็นธรรมธาตุกายแห่งพระมหาวัชรปาณี
    โดย อี้จู๋หลิน
    .
    ....................................................................
    .เรียบเรียง มณีรุ้ง ณ แดนสรวง
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาธารณสุขเวียดนามสร้างโรงพยาบาลสนามใน 'ฮานอย-โฮจิมินห์' รับมือเชื้อไวรัสโคโรนา
    กระทรวงสาธารณสุขเวียดนามประกาศสร้างโรงพยาบาลภาคสนาม 4 แห่ง ในสองเมืองใหญ่ทั้งฮานอยและโฮจิมินห์ จำนวนกว่าพันเตียง เพื่อรับมือต่อจำนวนของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น โดยทางการกำลังปรับเปลี่ยนสถานที่ 2 แห่งในโฮจิมินห์ให้กลายเป็นโรงพยาบาลสนามที่สามารถรองรับผู้ป่วยรวม 500 เตียง ขณะที่ในกรุงฮานอย กำลังปรับเปลี่ยนพื้นที่ทหาร 2 แห่งให้เป็นศูนย์กักตัวที่สามารถรองรับคนได้มากถึง 1,500 คน เพื่อรองรับชาวเวียดนาม 950 คน ที่กำลังเดินทางกลับจากจีนมาเฝ้าดูอาการที่ศูนย์ดังกล่าว
    https://www.tcijthai.com/news/2020/2/asean/9853
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ที่ Santa Catarina, Brazil วันที่ 6 ก.พ. 2020
    Santa Catarina, Brazil Feb6 2020
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คณะนักวิทยาศาสตร์จีน ระบุ "ตัวนิ่ม" อาจเป็นพาหะนำโรคของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่‼️
    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์หัวหนาน (South China Agricultural University) นครกว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง โดยนายหลิว หย่าหง อธิการบดีมหาวิทยาลัยฯ เปิดเผยว่าคณะนักวิจัยวิเคราะห์ตัวอย่างเมตาจีโนม (metagenome) ของสัตว์ป่าหลายชนิดมากกว่า 1,000 ตัวอย่าง ก่อนพบว่าตัวนิ่มเป็นโฮตส์ตัวกลางที่มีความเป็นไปได้สูงสุด
    การศึกษาแบบเมตาจีโนมิกส์ที่นักวิจัยใช้นั้นเป็นวิธีศึกษาจีโนมของจุลินทรีย์ทั้งหมดที่มีในตัวอย่างธรรมชาติด้วยการสกัดดีเอ็นเอ (DNA) จากตัวอย่างที่ต้องการศึกษาโดยตรงโดยไม่ต้องเพาะเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ การตรวจสอบทางอณูชีววิทยา (Molecular biological detection) หรือการศึกษาระดับโมเลกุลในการวิจัยครั้งนี้ เปิดเผยว่าอัตราบวก (Positive rate) ของไวรัสโคโรนากลุ่มเบตา หรือ เบตาโคโรนาไวรัส (Betacoronavirus) ในตัวนิ่มนั้นอยู่ที่ร้อยละ 70 ต่อจากนั้นนักวิจัยทำการแยกไวรัสออกมา และศึกษาโครงสร้างด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนซึ่งเป็นกล้องกำลังขยายสูง ก่อนพบว่าลำดับจีโนมของไวรัสดังกล่าวคล้ายคลึงกับไวรัสที่ติดในมนุษย์ถึงร้อยละ 99
    ทั้งนี้ เบตาโคโรนาไวรัส คือไวรัสโคโรนากลุ่มที่ก่อโรครุนแรงในมนุษย์ ซึ่งข้ามสายพันธุ์มาจากสัตว์ อาทิ ไวรัสโคโรนาโรคซาร์ส (SARS-CoV) ไวรัสโคโรนาโรคเมอร์ส (MERS-CoV) และไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) โดยนายหลิว หย่าหง ระบุว่าผลการวิจัยจึงชี้ว่าตัวนิ่มเป็นโฮสต์ตัวกลางที่เป็นไปได้ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พร้อมเสริมว่างานวิจัยฉบับนี้จะช่วยสนับสนุนการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสฯ ตลอดจนเป็นแหล่งอ้างอิงเชิงวิทยาศาสตร์สำหรับนโยบายเกี่ยวกับสัตว์ป่าได้ด้วย
    ด้านศาสตราจารย์เสิ่น หย่งอี้ หนึ่งในสมาชิกทีมนักวิจัย ระบุว่างานวิจัยก่อนหน้านี้ชี้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีต้นกำเนิดจากค้างคาว แต่เนื่องจากการแพร่ระบาดครั้งนี้เกิดขึ้นในฤดูหนาว มนุษย์จึงไม่น่าติดเชื้อจากค้างคาวโดยตรงได้ เพราะค้างคาวยังอยู่ในช่วงจำศีล
    โดยทาง ศ.เสิ่น หย่งอี้ กล่าวว่า “ภารกิจของเราคือการตามหาโฮสต์ตัวกลางที่ ‘เชื่อม’ ระหว่างค้างคาวกับมนุษย์ ซึ่งตามปกติสิ่งมีชีวิตที่เป็นโฮสต์ตัวกลางของปรสิตจะมีหลายตัว และตัวนิ่มอาจเป็นแค่เพียงหนึ่งในนั้น และเราก็หวังว่าผลการวิจัยนี้จะเป็นสิ่งย้ำเตือนให้มนุษย์อยู่ห่างจากสัตว์ป่า และในอีกทางหนึ่งเราก็อาจจะแบ่งปันผลการวิจัยนี้แก่บรรดานักวิจัย จะได้ใช้โอกาสนี้ร่วมกันศึกษาหาโฮสต์ตัวกลางที่เป็นไปได้อื่นๆ เพื่อเสริมแนวทางป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดต่อไป”
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาทำความรู้จัก นพ.หลี่ เหวินเลี่ยง จักษุแพทย์วัย 34 ปี ประจำโรงพยาบาลอู่ฮั่น หนึ่งในบุคลากรผู้ออกมาเตือนเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จนถูกทางการสั่งให้หยุดเผยแพร่ข้อมูล ก่อนจะเสียชีวิตในวันนี้ (7 ก.พ. 63) หลังถูกวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา
    .
    คุณหมอหลี่ มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่เมืองจิ้งโจว มณฑลเหลียวหนิง ก่อนจะเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่นเมื่อปี พ.ศ. 2547 - 2554 และเป็นจักษุแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลอู่ฮั่น
    .
    เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2562 คุณหมอหลี่ได้ทราบถึงกรณีผู้ป่วย 7 คน ที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล โดยวินิจฉัยว่ามีอาการเจ็บป่วยจากเชื้อไวรัสลักษณะคล้ายที่ก่อให้เกิดโรค SARS เมื่อปี 2546 ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ติดเชื้อหลังจากไปเยือนตลาดขายสัตว์ทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น
    .
    คุณหมอหลี่จึงนำข้อมูลดังกล่าวส่งเตือนไปยังกลุ่มแพทย์ในโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 62 เพื่อกำชับให้เพื่อนร่วมวิชาชีพสวมอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งเป็นไปได้ว่ากำลังมีการระบาด ก่อนที่อีก 4 วันถัดมา (3 ม.ค. 63) เจ้าหน้าที่ตำรวจจะบุกเข้าพบและกล่าวหาการกระทำของเขา ว่าถือเป็นการ "รบกวนความสงบของสังคมอย่างร้ายแรง" พร้อมขอให้หมอหลี่เซ็นหนังสือยินยันว่าจะหยุด "พฤติกรรมผิดกฎหมาย" ดังกล่าว มิเช่นนั้นทางการจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย
    .
    จนกระทั่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค. 63 มีรายงายพบผู้ป่วยกว่า 200 คน และเสียชีวิตอีก 3 คน ในจีน รัฐบาลจึงออกมาประกาศให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉิน ในขณะเดียวกับที่หมอหลี่ได้ทำการรักษาอาการต้อหินให้ผู้ป่วยหญิงคนหนึ่ง โดยไม่ทราบว่าเธอติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ก่อนที่คุณหมอจะเริ่มมีอาการไอและตรวจพบเชื้อเมื่อวันที่ 30 ม.ค. 63
    .
    กระทั่งในวันที่ 7 ก.พ. 63 โรงพยาบาลอู่ฮั่นได้ออกมาประกาศผ่านโซเชียลมีเดียว่า นพ.หลี่ เหวินเลี่ยง เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 34 ปี เมื่อช่วงเช้าเวลา 2.58 น. ตามเวลาในท้องถิ่น ก่อนที่ประชาชนหลายคนในโลกออนไลน์จะออกมาชื่นชมถึงการกระทำของคุณหมอและแสดงความเสียใจกับการจากไป #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #RIP #LiWenliang #ThaiPBS
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “อนุทิน” ไล่นักท่องเที่ยวไม่สวมหน้ากากอนามัยกลับประเทศ ล่าสุดเร่งขอโทษและชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก “ขออภัยที่วันนี้มีอาการหลุด” ใส่ชาวต่างชาติ
    .
    เกาะติดสถานการณ์ไวรัสโคโรนาระบาด >> www.thaipbs.or.th/coronavirus2019 #ThaiPBS #จับตาสถานการณ์ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019
    .
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น เปิดเผยว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อีก 41 คนในเรือสำราญที่ขณะนี้ถูกกักกันอยู่ที่ท่าเรือโยโกฮามา ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อในเรือดังกล่าวที่ยืนยันแล้วขณะนี้อยู่ที่ 61 คน
    เรือสำราญที่มีผู้โดยสารและลูกเรือราว 3,700 คนลำนี้ถูกกักกันหลังจากที่ชายคนหนึ่งจากฮ่องกงถูกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งนี้การวินิจฉัยดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากที่เขาลงจากเรือสำราญลำนี้ที่ฮ่องกง
    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เสร็จสิ้นการวิเคราะห์ตัวอย่างจากผู้คน 273 คนที่แสดงอาการเช่นมีไข้ หรือไอ รวมทั้งผู้โดยสารที่สัมผัสโดยตรงกับผู้ที่แสดงอาการด้วย
    ในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันครั้งล่าสุดนี้มีชาวญี่ปุ่น 21 คน ชาวสหรัฐ 8 คน ชาวออสเตรเลีย 5 คน ชาวแคนาดา 5 คน นอกจากนี้ยังมีชาวอาร์เจนตินา 1 คน และชาวอังกฤษ 1 คนรวมอยู่ด้วย
    ขณะที่ผู้โดยสารและลูกเรือคนอื่น ๆ นอกเหนือจากผู้ที่ติดเชื้อ กำลังได้รับคำสั่งห้ามไม่ให้ออกนอกเรือเป็นเวลา 2 สัปดาห์
     

แชร์หน้านี้

Loading...