ติดตามสถานะการณ์

ข่าวฮ่องกง

ฮ่องกงตื่นตะหนกตุนของอีกระลอก! หลังมีข่าวลือว่าจะไม่มีสต๊อกอาหารและของใช้

ผู้คนต่างโกลาหลรับกว้านซื้อของใช้ ไม่ว่าจะเป็นกระดาษชำระ, บะหมี่สำเร็จรูป, ข้าวสาร เป็นต้น

อย่างไรก็ดี ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่อย่าง Wellcome ได้ออกมายืนยันว่ามีการติดต่อผู้ผลิตอยู่เรื่อยๆ เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่ามีสินค้าขายเพียงพอต่อความต้องการ

Source : , ,

ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

คลินิก 15 แห่งในฮ่องกง ต้องปิดทำการชั่วคราวหลังหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ

คลินิกอย่างน้อย 15 แห่งในฮ่องกงต้องปิดทำการชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนดหลังไม่มีหน้ากากอนามัยไว้ใช้งาน ในขณะที่แพทยสมาคมออกเตือนคลินิกอีก 400 แห่งจะไม่มีหน้ากากอนามัยเพียงพอต่อใช้งานในอีก 2 สัปดาห์

ประธานสหภาพแพทย์แห่งฮ่องกง Dr Henry Yeung Chiu-fat กล่าวว่าแพทย์จำนวนมากร้องเรียนเกี่ยวกับการขาดแคลนหน้ากากอนามัยมากขึ้นเรื่อยๆ

Dr Henry กล่าวว่า “คลินิกบางแห่งก็ปิดเพราะไม่มีหน้ากากอนามัยหรือกังวลเกี่ยวกับสต๊อกที่มีจำกัด ในขณะที่บางแห่งก็เปิดแค่ครึ่งวัน หรือปิดหลายวันในหนึ่งสัปดาห์”

เขายังเปิดเผยเพิ่มด้วยว่า แพทย์มากกว่า 100 คนต้องการหน้ากากอนามัยอย่างเร่งด่วน ซึ่งคิดเป็นจำนวนราว 60,000 - 80,000 ชิ้น

ในขณะเดียวกัน หนึ่งในผู้ให้บริการทำความสะอาดรายใหญ่ในฮ่องกงก็ออกมาเผยเช่นกันว่าอาจต้องหยุดให้บริการเนื่องจากไม่มีหน้ากากอนามัยไว้ใช้งาน ซึ่งในขณะนี้ พนักงานบางคนต้องใช้หน้ากากซ้ำอีกด้วย

Source :
https://www.scmp.com/news/hong-kong...zvTRokqO2AjZ3zVudqEE0tz33LLpxnp2X73fsAvtSgDJQ

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

ข่าวฮ่องกง

ชมคลิป! ชาวฮ่องกงตื่นตระหนก กว้านซื้อทิชชู่หลังมีข่าวลือว่าโรงงานผลิตทิชชู่ในจีนจะหยุดการผลิต
ในขณะที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต Wellcome ยืนยันว่าข่าวลือนั้นไม่ใช่เรื่องจริง!
#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

 

แบ่งปันจาก Michael DiFato
24 ชั่วโมงดูการเคลื่อนที่ของสนามแม่เหล็ก
24 hr look at the movement of the magnetosphere

 

เทนเซนต์อาจรั่วข้อมูลจริงเกี่ยวกับการเสียชีวิตของไวรัสหวู่ฮั่น เทนเซนต์แสดงรายการการติดเชื้อ 154,023 ราย และการเสียชีวิตจากหวู่ฮั่น coronavirus 24,892 ราย โดย Keoni Everington, Taiwan News, Writer Staff 2020/02/05 18:59


(ภาพ) จากซ้ายไปขวาคือ "กรณีที่ได้รับการยืนยันในระดับประเทศ" "คดีที่ต้องสงสัย" "หายขาด" และ "เสียชีวิต" (ภาพอินเทอร์เน็ต)

ไทเป (ข่าวไต้หวัน) - ในฐานะผู้เชี่ยวชาญหลายคนตั้งคำถามเกี่ยวกับความจริงของสถิติการแพร่ระบาดของโรคหวู่ฮั่นโคโรนาไวรัส ในหวู่ฮั่น เทนเซนต์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะมีการปล่อยตัว โดยไม่ตั้งใจ

ในช่วงเย็นของวันเสาร์ (1 ก.พ. ) Tencent บนหน้าเว็บชื่อ "Epidemic Situation Tracker" แสดงให้เห็นว่ามีผู้ป่วยยืนยัน coronavirus (2019nCoV) ในประเทศจีนที่ยืนอยู่ที่ 154,023 และ 10 เท่าของตัวเลขอย่างเป็นทางการในเวลานั้น มันระบุจำนวนกรณีที่สงสัยว่าเป็น 79,808, สี่เท่าของตัวเลขอย่างเป็นทางการ

จำนวนผู้ป่วยที่หายขาดมีเพียง 269 คน ซึ่งต่ำกว่าจำนวนเจ้าหน้าที่แจ้งอย่างเป็นทางการในวันนั้นจำนวน 300 คนผู้ที่เสียชีวิตมากที่สุดคือ 24,589 คน ซึ่งสูงกว่า 300 คนที่ระบุไว้อย่างเป็นทางการในวันนั้น

ช่วงเวลาต่อมา Tencent ได้อัพเดทตัวเลขเพื่อสะท้อนตัวเลขของ "ที่เป็นทางการ" ของรัฐบาลในวันนั้น ชาวเน็ตสังเกตว่า Tencent มีอย่างน้อยสามครั้งที่โพสต์ตัวเลขที่สูงมากเพียงเพื่อลดสถิติเหล่านั้นลงในสถิติที่รัฐบาลอนุมัติอย่างรวดเร็ว


(ภาพ) 1 กุมภาพันธ์ แผนภูมิแสดงตัวเลขที่สูงขึ้น (ซ้าย) แผนภูมิแสดงตัวเลข "เป็นทางการ" (ขวา) (ภาพอินเทอร์เน็ต)

ชาวเน็ตก็สังเกตเห็นว่าทุกครั้งที่หน้าจอที่มีตัวเลขขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นจะแสดงการเปรียบเทียบกับข้อมูลของวันก่อนหน้า ซึ่งแสดงการเพิ่มขึ้นที่ "สมเหตุสมผล" เช่นเดียวกับการเปรียบเทียบตัวเลขอย่างเป็นทางการ สิ่งนี้ทำให้ชาวเน็ตบางคนคาดการณ์ว่า Tencent มีข้อมูลสองชุดคือข้อมูลจริงและข้อมูล "ประมวลผล"

บางคนคาดการณ์ว่าปัญหาการเข้ารหัสอาจทำให้ข้อมูล "ภายใน" ของจริงปรากฏขึ้นโดยไม่ตั้งใจ คนอื่นเชื่อว่ามีใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังก็พยายามที่จะรั่วไหลจำนวนจริง

อย่างไรก็ตามข้อมูล "ภายใน" ที่จัดขึ้นโดยปักกิ่งอาจไม่สะท้อนขอบเขตที่แท้จริงของการแพร่ระบาด จากแหล่งข่าวหลายแห่งในหวู่ฮั่น ผู้ป่วย coronavirus หลายคนไม่สามารถรับการรักษาและตายนอกโรงพยาบาล

การขาดแคลนอย่างรุนแรงของชุดทดสอบยังนำไปสู่การลดจำนวนของกรณีการวินิจฉัยการติดเชื้อและการเสียชีวิต นอกจากนี้ยังมีรายงานของแพทย์หลายคนที่ถูกสั่งให้ลงรายการในรูปแบบอื่น ๆ ของการเสียชีวิตแทนที่จะเป็นโคโรนาไวรัสเพื่อรักษายอดผู้เสียชีวิตให้ต่ำลง


Tencent may have accidentally leaked real data on Wuhan virus deaths Tencent briefly lists 154,023 infections and 24,589 deaths from Wuhan coronavirus
By Keoni Everington, Taiwan News, Staff Writer
2020/02/05 18:59

Left to right are "nationally confirmed cases," "suspected cases," "cured," and "deaths." (Internet photo)

TAIPEI (Taiwan News) — As many experts question the veracity of China's statistics for the Wuhan coronavirus outbreak, Tencent over the weekend seems to have inadvertently released what is potentially the actual number of infections and deaths, which were astronomically higher than official figures.

On late Saturday evening (Feb. 1), Tencent, on its webpage titled "Epidemic Situation Tracker," showed confirmed cases of novel coronavirus (2019nCoV) in China as standing at 154,023, 10 times the official figure at the time. It listed the number of suspected cases as 79,808, four times the official figure.

The number of cured cases was only 269, well below the official number that day of 300. Most ominously, the death toll listed was 24,589, vastly higher than the 300 officially listed that day.

Moments later, Tencent updated the numbers to reflect the government's "official" numbers that day. Netizens noticed that Tencent has on at least three occasions posted extremely high numbers, only to quickly lower them to government-approved statistics.


Feb. 1 chart showing higher numbers (left), chart showing "official" numbers (right). (Internet image)

Netizens also noticed that each time the screen with the large numbers appears, it shows a comparison with the previous day's data which demonstrates a "reasonable" incremental increase, much like comparisons of official numbers. This has led some netizens to speculate that Tencent has two sets of data, the real data and "processed" data.

Some are speculating that a coding problem could be causing the real "internal" data to accidentally appear. Others believe that someone behind the scenes is trying to leak the real numbers.

However, the "internal" data held by Beijing may not reflect the true extent of the epidemic. According to multiple sources in Wuhan, many coronavirus patients are unable to receive treatment and die outside of hospitals.

A severe shortage of test kits also leads to a lower number of diagnosed cases of infection and death. In addition, there have been many reports of doctors being ordered to list other forms of death instead of coronavirus to keep the death toll artificially low.


https://www.taiwannews.com.tw/en/ne...KS94oJXoUxmC6gUF8RCjoN-ZhYgjxMiIRcbU2iT0Jhe8s

 

WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศเมื่อ "มีเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อประเทศอื่น ๆ จากการแพร่ระบาดระหว่างประเทศ"

ก่อนหน้านี้ WHO เคยประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศมาแล้ว 5 ครั้ง ได้แก่

• ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 (ไข้หวัดหมู) ปี 2009 - การระบาดของไวรัส H1N1 เมื่อปี 2009 ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 200,000 คนทั่วโลก
• โรคโปลิโอ ปี 2014 - แม้ว่าหน่วยงานด้านสาธารณสุขเกือบจะสามารถกำจัดโรคโปลิโออย่างถาวรได้แล้วในปี 2012 แต่จำนวนผู้ป่วยโปลิโอกลับเพิ่มขึ้นมาอีกครั้งในปี 2013 ส่งผลให้ WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขเพื่อให้ประเทศต่าง ๆ ใช้มาตรการที่เข้มข้นในการลดจำนวนผู้ป่วยต่อไป
• ไวรัสซิก้า ปี 2016 - การระบาดของไวรัสซิก้าในทวีปอเมริกาเกิดขึ้นเมื่อปี 2016 แม้ผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรง แต่เชื้อไวรัสชนิดเป็นอันตรายมากต่อหญิงตั้งครรภ์
• ไวรัสอีโบลา ปี 2014 และ 2019 - WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินเรื่องการระบาดของไวรัสอีโบลาครั้งแรกในเดือน ส.ค.2014 ซึ่งลากยาวถึงเดือน มี.ค. 2016 มีผู้ติดเชื้ออีโบลาเกือบ 30,000 คนและมีผู้เสียชีวิตกว่า 11,000 คน ในแอฟริกาตะวันตก WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินของอีโบลาอีกเป็นครั้งที่ 2 เมื่อปี 2019 หลังจากมีการระบาดในคองโก

https://www.bbc.com/thai/international-51321481

 

น่าห่วง! ญี่ปุ่นพบคนบน ‘เรือสำราญ’ ติดไวรัสโคโรนาเพิ่มเป็น 20 คน
เผยแพร่: 6 ก.พ. 2563 09:26 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขญี่ปุ่นพบผู้โดยสารบนเรือสำราญซึ่งถูกกักโรคอยู่นอกชายฝั่งติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 10 รายวันนี้ (6 ก.พ.) ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อบนเรือเท่าที่พบแล้วขยับขึ้นไปอยู่ที่ 20 ราย

เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นได้ทำการตรวจสุขภาพผู้โดยสารและลูกเรือรวม 273 คนจากทั้งหมดราว 3,700 คนบนเรือ “ไดมอนด์ ปรินเซส” หลังพบว่ามีชายวัย 80 ปีซึ่งเคยโดยสารเรือลำนี้ที่ฮ่องกงเมื่อเดือน ม.ค. ติดเชื้อไวรัสซึ่งมีต้นตอมาจากมณฑลหูเป่ยของจีน

คัตสึโนบุ คาโตะ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น แถลงต่อรัฐสภาว่า จากผลตรวจชุดแรก 31 คนพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 10 คน และขณะนี้ได้ผลตรวจร่างกายเพิ่มมาอีก 71 คน ซึ่งมีอยู่ 10 คนที่ผลตรวจไวรัสเป็น “บวก”

เจ้าหน้าที่ได้ส่งผู้ป่วย 10 คนแรกลงจากเรือเพื่อเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลแล้ว และในเช้าวันนี้ (6) เรือได้เข้าจอดเทียบท่าที่เมืองโยโกฮามาเพื่อเติมเสบียง

ผู้โดยสารได้รับแจ้งว่าพวกเขาอาจต้องใช้ชีวิตอยู่บนเรือนานถึง 14 วัน แม้ผลตรวจร่างกายจะเป็น “ลบ” ก็ตาม หลายคนออกมาโบกไม้โบกมือทักทายสื่อมวลชนบนฝั่ง และยอมรับว่ารู้สึกสับสนและเบื่อหน่ายที่ต้องขลุกอยู่แต่ในห้องพักบนเรือหลังมีคำสั่งกักโรค

ขณะนี้มีการพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่แล้วใน 20 กว่าประเทศทั่วโลก ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อในจีนเพิ่มขึ้นเป็นราวๆ 28,000 คน และเสียชีวิตแล้วกว่า 560 คน

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก ขณะที่รัฐบาลหลายประเทศใช้มาตรการจำกัดการเดินทางเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด เช่นเดียวกับสายการบินต่างๆ ที่ตัดสินใจระงับเที่ยวบินไป-กลับจีนแผ่นดินใหญ่ในช่วงนี้

ตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันในญี่ปุ่นยังอยู่ที่ 25 ราย (ไม่รวมผู้ติดเชื้อที่พบบนเรือสำราญไดมอนด์ปรินเซส) ซึ่งบางรายเป็นพลเมืองญี่ปุ่นที่เพิ่งเดินทางกลับจากอู่ฮั่น

รัฐบาลโตเกียวอพยพพลเมืองในอู่ฮั่นกลับบ้านแล้วกว่า 500 คน แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องมาตรการกักกันโรคที่ค่อนข้างหละหลวม หลังมีรายงานการติดเชื้อจากคนสู่คนหลายเคสในญี่ปุ่น เช่น กรณีไกด์ทัวร์และคนขับรถบัสชาวญี่ปุ่นที่ติดไวรัสโคโรนาหลังจากรับนักท่องเที่ยวจีนจากเมืองอู่ฮั่น










https://mgronline.com/around/detail...6KqIqJI0S-vsJ3TF9Gvm8LziyZUXn5P3NPgynsi7iOT5k

 

MGR Infographics

อัพเดตตัวเลขผู้ติดเชื้อ-เสียชีวิตล่าสุด
จากการแพร่กระจายของไวรัสอู่ฮั่นในจีน
พุ่งถึง 28,060 ราย เสียชีวิต 564 ราย
ณ วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2563
.
#mgronline #ไวรัสอู่ฮั่น #ตัวเลขผู้ติดเชื้อ_เสียชีวิตล่าสุด #wuhan_virus

 

ทรัมป์รอด!!วุฒิสภาลงมติให้พ้นข้อกล่าวหาถอดถอนจากตำแหน่งประธานาธิบดี เผยแพร่: 6 ก.พ. 2563 05:44 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯพ้นผิดในการพิจารณาถอดถอนพ้นจากตำแหน่งประธานาธิบดีในขั้นวุฒิสภาในวันพุธ(5ก.พ.) หลังได้รับความอนุเคราะห์จากผองเพื่อนรีพับลินที่ปกป้องเขามาตลอด 9 เดือน ก่อนที่เขาจะร้องขอให้ผู้มีสิทธิ์ออกเสียงในอเมริกาที่เต็มไปด้วยความแตกแยก มอบโอกาสให้เขาอยู่ในทำเนียบขาวต่อไปเป็นสมัยที่ 2

ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่ถูกรัฐสภาไต่สวนเพื่อการถอดถอน อย่างไรก็ตามเขาพ้นจากข้อกล่าวหา และตอนนี้ทรัมป์ก็ดิ่งเข้าหาฤดูกาลเลือกตั้งซึ่งคาดหมายว่าจะนำพาประเทศแห่งนี้เข้าสู่การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายหนักกว่าเดิม

สมาชิกวุฒิสภาซึ่งรีพับลิกันครองเสียงข้างมาก ลงมติตตามกรอบของพรรคให้ทรัมป์พ้นจากญัตติถอดถอนทั้ง 2 ข้อกล่าวหา หลังจากสภาผู้แทนราษฎรที่ควบคุมโดยพรรคเดโมแครตโหวตเห็นชอบญัตติถอดถอนเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม อย่างไรก็ตามในชั้นวุฒิสภา ซึ่งมีทั้งหมด 100 เสียง ผลโหวตที่ออกมานั้นห่างไกลพอสมควรจากการได้เสียงสนับสนุน 2 ใน 3 สำหรับถอดถอนเขาพ้นจากตำแหน่งภายใต้ข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ

วุฒิสมาชิกลงมติ 52-48 ให้ทรัมป์พ้นผิดจากข้อกล่าวหาใช้อำนาจโดยมิชอบ ซึ่งมีต้นตอจากกรณีที่เขาร้องขอให้ยูเครนสืบสวน โจ ไบเดน คู่แข่งทางการเมืองและตัวเต็งที่จะก้าวมาเป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงชิงเก้าอี้ประธนาธิบดีกับเขาในศึกเลือกตั้งวันที่ 3 พฤศจิกายน อย่างไรก็ตาม มิตต์ รอมนีย์ วุฒิสมาชิกจากรีพับลิกัน เข้าร่วมกับฝ่ายเดโมแครต โหวตให้ทรัมป์มีความผิด ขณะที่ฝ่ายเดโมแครตไม่มีใครแหกคอกโหวตให้ทรัมป์พ้นผิดแม้แต่รายเดียว

จากนั้นวุฒิสภาก็ลงมติ 53-47 ให้ทรัมป์พ้นผิดจากข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส ด้วยการสกัดพยานและเอกสารที่รัฐสภาต้องการ ทั้งนี้หากลงมติว่ามีความผิดตามข้อหาใดข้อหาหนึ่ง มันจะเพิ่มโอกาสที่ ไมค์ เพนซ์ รองปะธานาธิบดี สมาชิกรีพับลิกันอีกคน จะก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแทนทรัมป์

ในข้อกล่าวหาขัดขวางกระบวนการสอบสวนของสภาคองเกรส รอมนีย์ลงมติให้ทรัมป์พ้นผิดเช่นเดียวกับวุฒิสมาชิกรีพับลิกันคนอื่นๆ ส่วนฝ่ายเดโมแครตนั้นไม่มีใครโหวตให้ทรัมป์พ้นผิดแม้แต่รายเดียว

แต่ละข้อกล่าวหานั้น สมาชิกวุฒิสภาลงคะแนนแบบขานชื่อรายตัว โดยมี จอห์น โรเบิร์ตส์ ประธานศาลสูงสุดสหรัฐฯเป็นประธาน

แนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครต ที่ลงมติให้ดำเนินการถอดถอนทรัมป์เมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมา กล่าวหารีพับลิกันสมรู้ร่วมคิดในการปิดบังความผิดของประธานาธิบดี

เดโมแครตต้องการสอบปากคำโบลตัน หลังมีรายงานที่อ้างอิงต้นฉบับหนังสือที่กำลังจะตีพิมพ์ว่า เขาได้รับการบอกเล่าจากทรัมป์ว่า การให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนอิงกับการที่เคียฟเปิดสอบสวนอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ตัวเก็งผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต

มิตช์ แม็กคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันในสภาสูงและเป็นพันธมิตรของทรัมป์ โต้ว่า คณะอัยการจากสภาผู้แทนราษฎรเสนอหลักฐานมากพอแล้วและไม่จำเป็นต้องเรียกพยานเพิ่ม

ตลอดดราม่าแห่งการถอดถอน ทรัมป์และพันธมิตรรีพับลิกันของเขาโจมตีอย่างไม่ลดละต่อความซื่อสัตย์ของไบเดน และจนถึงตอนนี้ยังคงไม่แน่ชัดว่ามันจะสร้างความเสียหายทางการเมืองแก่แต่ละฝ่ายมากน้อยแค่ไหน

อย่างไรก็ตามในการหยั่งเสียงสนามแรกที่ไอโอวา เพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกแย่งชิงเก้าอี้ทำเนียบขาวกับทรัมป์ ปรากฏว่า ไบเดน มีผลงานน่าผิดหวัง โดยมีคะแนนเป็นอันดับ 4 ท่ามกลางความอลวนจนไม่สามารถประกาศผลอย่างเป็นทางการได้ ขณะที่ แบรด ปาร์สเกล ผู้จัดการทีมหาเสียงของทรัมป์ ได้ทีออกมาวิจารณ์เดโมแครตว่า แม้แต่จัดการหยั่งเสียงเบื้องต้นยังล่ม นับประสาอะไรจะไปบริหารประเทศ

https://mgronline.com/around/detail...r06H1QaAjVLep0DJJ1B4H6HfB6UBkcRJrcsJqkc1eg_Rs

 

กระทบทุกวงการ!ไวรัสโคโรนาทำโสเภณีจีนขายไม่ออก ต้องอ้างตัวเป็นน้องหนูญี่ปุ่นหรือสาวเอเชีย เผยแพร่: 6 ก.พ. 2563 04:01 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ - หญิงขายบริการทางเพศชาวจีนในนิวซีแลนด์ ต้องอ้างตัวว่าเป็นสาวเกาหลี, ญี่ปุ่น หรือไม่ก็เป็นชาวเอเชียเฉยๆ บนโฆษณาทางออนไลน์ เพื่อคลายกังวลแก่ลูกค้าทั้งหลาย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

หนังสือพิมพ์เซาต์ไชนามอร์นิงโพสต์ อ้างคำสัมภาษณ์ของโสเภณีจีนคนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม ระบุว่าเธอจำเป็นต้องปั้นแต่งเรื่องสัญชาติของตนเองจากคนจีนเป็นสาวเอเชีย ในการลงโฆษณาขายบริการทางเพศบนสื่อสังคมออนไลน์

เธอเผยว่าแม้จะลดราคาค่าตัวจาก 180 ดอลลาร์นิวซีแลนด์(ราว3,600บาท) ลงกว่าครึ่ง แต่รายได้ของเธอก็ยังลดลงมากกว่า 50% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา "ธุรกิจแย่ลง มันไม่เคยเลวร้ายแบบนี้มาก่อน"

โสเภณีรายนี้บอกต่อว่าเธอเป็นพลเมืองนิวซีแลนด์และไม่ได้เดินทางกลับไปจีนนานกว่า 8 ปีแล้ว แต่พวกลูกค้าทั้งหลายกลับมองเธอไม่ต่างจากคนที่เพิ่งเดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น "ฉันเลิกอ้างตัวว่าเป็นคนจีนมานานแล้ว ฉันลดราคาสะบั้นหั่นแหลก แต่ลูกค้าก็ยังหนีหาย พวกเขาทำกับว่าเรานั้นเป็นไวรัสเลย"

หญิงขายบริการทางเพศรายนี้ระบุว่าที่ผ่านมา ปกติแล้วพวกโสเภณีมักอ้างว่าเพิ่งเข้าเมืองมา เพื่อล่อลวงลูกค้าให้เข้าใจว่าพวกเธอนั้นเป็น "เด็กใหม่" แต่ตอนนี้คำหลอกล่อดังกล่าวอาจส่งผลในทางตรงกันข้าม

แคเทอรรีน ฮีลีย์ ทนายความผู้ว่าความให้หญิงขายบริการและผู้ก่อตั้งแนวร่วมโสเภณีนิวซีแลนด์บอกว่า "ในตอนนี้ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความกังวลอย่างยิ่งสำหรับหญิงขายบริการ เราเป็นห่วงเกี่ยวกับความสามารถของผู้คนทั้งหลีกเลี่ยงไวรัสนี้และการอยู่รอดทางการเงิน"

เธอบอกว่าองค์กรของเธอกำลังให้คำแนะนำอย่างกะะตือรือร้นแก่คนงานในอุตสาหกรรมทางเพศ ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากมาตรการป้องกันไว้ก่อนที่แถลงโดยกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์และองค์การอนามัยโลก

แม้ไม่มีข้อมูลอย่างเป็นทางการ แต่เข้าใจว่าโสเภณีชาวจีนมีจำนวนมากที่สุดในบรรดาหญิงขายบริการทางเพศต่างชาติที่ลอบทำมาหากินอย่างผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมทางเพศของนิวซีแลนด์ โดยภายใต้กฎหมายปฏิรูปโสเภณี 2003 มีเพียงพลเมืองนิวซีแลนด์และผู้มีถิ่นฐานในนิวซีแลนด์เท่านั้น ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในอุตสาหกรรมทางเพศ

ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีแหล่งกำเนิดจากเมืองอู่ฮั่น ทางภาคกลางของจีน แล้วกว่า 20,000 คน ในนั้นเสียชีวิตมากกว่า 400 คน

จนถึงตอนนี้ยังไม่พบผู้ติดเชื้อในนิวซีแลนด์ แต่ในมาตรการป้องกันไว้ก่อน ทางรัฐบาลแถลงเมื่อวันอาทิตย์(2ก.พ.) ห้ามชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางมาจากจีน เข้าประเทศเป็นเวลา 14 วัน

ในขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อมากขึ้นเรื่อยๆ ความรู้สึกเป็นปรปักษ์และเหยียดคนจีนก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดยมีรายงานการพบเห็นการรังเกียจคนจีนในหลายชาติ ในนั้นรวมถึงนิวซีแลนด์

https://mgronline.com/around/detail...U-nzvHkvgJwAEJrWyUPEBffQdTwhjAY9yM-kG697mMd5k

 

เป็นเรื่อง!!พบผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่น3รายเคยร่วมสัมมนานักธุรกิจนานาชาตินับร้อยที่โรงแรมสิงคโปร์ เผยแพร่: 6 ก.พ. 2563 02:31 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - มีนักธุรกิจชาวเอเชียอย่างน้อย 3 คนที่เคยเข้าร่วมประชุมสัมมนากับคณะผู้แทนนานาชาติกว่า 100 คน ณ โรมแรงแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ขณะที่อีกหลายรายมีอาการคล้ายคนติดเชื้อ จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ในวันพุธ(5ก.พ.)

เคสการติดเชื้อล่าสุดคือหลักฐานเพิ่มเติมที่ยืนยันว่าตอนนี้ไวรัสได้แพร่กระจายผ่านการติดต่อจากคนสู่คนนอกประเทศจีนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เมื่อวันอังคาร(4ก.พ.) มาเลเซียยืนยันว่าพบพลเมืองติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นรายแรกของประเทศ โดยเป็นชายวัย 41 ปี ซึ่งเข้าร่วมการสัมมนาที่โรงแรมดังกล่าวในสิงคโปร์ โดยเวทีประชุมมีคณะผู้แทนจากนานาชาติเข้าร่วมกว่า 100 คน ในนั้นรวมถึงตัวแทนจากจีน ประเทศซึ่งเป็นต้นกำเนิดของไวรัส

เกาหลีใต้ในวันพุธ(5ก.พ.) ก็รายงานเช่นกันว่าพบเคสการติดเชื้อในพลเมือง 2 รายที่เคยเดินทางไปร่วมเวทีสัมมนาเดียวกันในสิงคโปร์

กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ระบุว่าทั้ง 3 เคสเกี่ยวข้องกับเวทีประชุมสัมมานาทางธุรกิจของบริษัทหนึ่งซึ่งมีผู้เข้าร่วม 109 คน ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท สิงคโปร์ ระหว่างวันที่ 20 ถึง 22 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งในนั้นประกอบด้วยผู้ร่วมประชุมจากต่างแดน 94 คน

ในบรรดาผู้เข้าร่วมประชุมสัมมนาที่เป็นชาวสิงคโปร์ มีอยู่ 4 คนที่มีอาการป่วยและถูกย้ายไปสังเกตอาการที่ศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยชือบริษัทหรืออุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประชุมดังกล่าว

โฆษกของแกรนด์ ไฮแอท บอกว่าโรงแรมได้ลงมือทำความสะอาดอย่างเข้มข้นหลังได้รับแจ้งข่าวคราวการติดเชื้อมาจากกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์ในวันอังคาร(4ก.พ.) แต่ไม่ทราบว่ามีเคสผู้ติดเชื้อรายอื่นๆในหมู่พนักงานหรือแขกของโรงแรมอีกหรือไม่

สิงคโปร์ หนึ่งในชาตินอกประเทศจีนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคซาร์สหนักหน่วงที่สุดเมื่อปี 2003 รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 28 เคส ในนั้นรวมถึงทารกอายุ 6 เดือน ขณะที่บางเคสเป็นการติดเชิ้อภายในประเทศ

อย่างไรก็ตามทางการสิงคโปร์ระบุไม่พบหลักฐานปรากฏว่ามีแพร่กระจายสู่ชุมนุมในวงกว้าง แต่พวกเขาแถลงใช้มาตรการป้องกันไว้ก่อนชุดใหม่ในวันอังคาร(4ก.พ.) ในนั้นรวมถึงระงับกิจกรรมแบบกลุ่มทั้งหมด อาทิการรวมตัวทำกิจกรรมตามโรงเรียนต่างๆ

หลายบริษัทในสิงคโปร์ระงับการทำธุรกิจและกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ในนั้นรวมถึงงานนิทรรศการด้านการท่องเที่ยว ทว่างานแสดงสิงคโปร์ แอร์โชว์ จะเดินหน้าต่อไปในสัปดาห์หน้า แต่จะมีการลดขนาดให้เล็กลง

https://mgronline.com/around/detail...XwU9aq7lg2xmG_CEPv4Z7xiIfjTkVQX0D06uoVQmlBUgM

 

หิมะถล่มสองรอบในตุรกี เจ้าหน้าที่กู้ภัยตายเกลื่อน
เผยแพร่: 5 ก.พ. 2563 23:03 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ตุรกีระบุในวันพุธ (5 ก.พ.) ว่ามีหิมะถล่มสองครั้งในภาคตะวันออกของตุรกี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 38 ราย ส่วนใหญ่ตายเพราะหิมะถล่มครั้งที่สอง ตอนเจ้าหน้าที่พยายามเก็บกู้ร่างของเหยื่อหิมะถล่มครั้งแรก

หน่วยงานรับมือเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติของตุรกี (AFAD) ระบุว่า มีผู้เสียชีวิต 33 คนจากเหตุการณ์หิมะถล่มครั้งที่สอง ขณะที่พวกเขากำลังค้นหาเหยื่อหิมะถล่มครั้งแรกที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บทั้งหมดมี 53 ราย

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ความพยายามช่วยเหลือยังคงดำเนินต่อไป แต่ไม่ได้บอกว่ามีคนอีกจำนวนเท่าใดที่คาดว่ายังถูกฝังอยู่ใต้หิมะ

สุไลมาน ซอยลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า สภาพในพื้นที่ทำให้ยานพาหนะกู้ภัยดำเนินการได้ยาก พร้อมเสริมว่าสามารถดึงรถคันหนึ่งออกมาจากใต้หิมะที่มีความหนา 4-5 เมตร (16 ฟุต)

เจ้าหน้าที่ของ AFAD หลายคนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หลังจากเจอหิมะถล่มรอบสอง ซึ่งขณะเกิดเหตุนั้นมีผู้ทำงานในปฏิบัติการกู้ชีพประมาณ 200 คน อย่างไรก็ตาม มีจำนวนมากที่ออกจากพื้นที่ในทันทีที่เกิดหิมะถล่มรอบสองในวันพุธ


https://mgronline.com/around/detail...c-4juL6RFnYmhzWVwdaA2fN1hynRpB8l07slwFrUxqnfU

 

TOJO News

“ สนธิรัตน์ประกาศกลางที่ประชุมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนต่อหน้าสื่อมวลชน โครงการนี้ไม่เอาคนกินหัวคิว ถ้าจับได้ว่ามีการแอบอ้างชื่อรัฐมนตรี จะไม่เก็บไว้แม้แต่ตนเดียว"
.
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. พ.ศ.2563 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วยนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และตัวแทนกลุ่มพลังงานจังหวัดภาคอีสานตอนกลาง ได้แก่ ขอนแก่น , มหาสารคาม , ร้อยเอ็ด , กาฬสินธุ์ และผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และตัวแทนจากวิสาหกิจชุมชนที่สนใจ เข้าร่วมประชุมที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยเปิดให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังได้ ในหัวข้อเกี่ยวกับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานราก
.
โดยนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนี้ เป็นโครงการของกระทรวงพลังงานที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์รายละเอียด แต่กลับได้รับรายงานว่า “ มีคนบางกลุ่มซึ่งอ้างว่าเป็นสายตรงจากรัฐมนตรีพลังงาน เดินสายไปเรียกรับหัวคิว กับผู้ที่อยากจะได้โครงการ โดยบอกจะมีโควต้าแบ่งให้ 50- 100 เมกะวัตต์ ผมจึงขอประกาศไว้ต่อหน้าผู้ประกอบการและตัวแทนวิสาหกิจชุมชนว่า หากใครถูกขูดรีด เรียกให้จ่ายเงินเพื่อแลกกับการจะได้โครงการให้มาบอกกับเขา ซึ่งถ้ามีหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นคนของเขาจริง เขาจะสั่งปลดออกจากตำแหน่งทุกคน ไม่เก็บไว้แม้แต่คนเดียว ”�
.
” เราจะทำบุญแล้วต้องให้บาปมาบังทำไม ผมตั้งใจจะให้โครงการนี้เป็นไปด้วยความโปร่งใส เอกชนที่เข้ามาช่วยชาวบ้านจริงควรจะได้ทำโครงการ ให้ประสบความสำเร็จ ถ้าต้องไปแบ่งจ่ายหัวคิวไปแล้ว จะมีปัญญามาดูแลชาวบ้านให้ดีได้อย่างไร เพราะไม่มีกำไร โครงการก็จะเจ๊งตั้งแต่ที่มีการจ่ายค่าหัวคิวแล้ว ใครจ่ายหัวคิวให้มาบอกผม ถ้าโครงการท่านดีจริง ช่วยเหลือชาวบ้านได้จริง ผมจะทำให้ท่านได้โดยไม่ต้องจ่ายแม้แต่บาทเดียว อย่าไปเชื่อใครที่ไปอ้างว่าผ่านเขาแล้วจะได้ เพราะคนพูดยังไม่รู้เลยว่าจะได้ได้อย่างไร ทุกโครงการในรอบสุดท้ายผมจะตรวจเอง หากพบอะไรไม่ดี มีอะไรงุบงิบกัน โครงการนั้นไม่ได้แน่นอน แล้วจะขึ้นแบล็กลิสต์เอาไว้ ไม่ต้องมายื่นขออีก ” นายสนธิรัตน์ ประกาศชัดในที่ประชุม
.�
นอกจากนี้นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวด้วยว่า คนที่รู้เรื่องหลักเกณฑ์ในการอนุมัติโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนขณะนี้ มีเพียงแค่ 3 - 4คนเท่านั้น คือรัฐมนตรีพลังงาน ปลัดกระทรวงพลังงาน อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ( พพ. ) และลูกน้องอธิบดี โดยใช้เวลาจัดทำหลักเกณฑ์กันมาร่วม 2 เดือนแล้ว

#โตโจนิวส์
#TOJONEWS

 

‘ฮุนเซน’ โผล่ปักกิ่งพบ ‘สี จิ้นผิง’ หลังจีนปฏิเสธคำขอบินลงอู่ฮั่น
เผยแพร่: 5 ก.พ. 2563 22:24 ปรับปรุง: 6 ก.พ. 2563 09:18 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเอฟพี - จีนปฏิเสธคำร้องจากนายกรัฐมนตรีฮุนเซนของกัมพูชา ที่จะเดินทางไปยังศูนย์กลางการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพื่อให้กำลังใจนักศึกษาชาวเขมรที่ติดค้างอยู่ในพื้นที่ เพราะไม่สามารถจัดการการเดินทางอย่างเหมาะสมไปยังเมืองอู่ฮั่นได้ สื่อทางการของจีนรายงานวันนี้ (5)

เมืองอู่ฮั่น และพื้นที่โดยรอบมณฑลหูเป่ยรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและมีผู้ติดเชื้อกว่าสองหมื่นคน ขณะที่ประชาชนมากกว่า 53 ล้านคน ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้ข้อจำกัด

“เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงที่ว่า เมืองอู่ฮั่นกำลังทำทุกวิถีทางเท่าที่สามารถทำได้เพื่อต่อสู้กับการระบาดและตารางเวลาที่แน่น ทำให้การเยือนดังกล่าวไม่สามารถจัดการได้อย่างเหมาะสมในช่วงเวลานี้” โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าว

ในขณะที่หลายประเทศได้ส่งเครื่องบินอพยพพลเมืองของตนออกจากจีน ฝ่ายผู้นำเขมรถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการยืนยันว่าชาวเขมรควรอยู่ในพื้นที่ต่อ

ฮุนเซนเรียกร้องให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนกต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และเมื่อเดือนที่ผ่านมาได้ขู่ที่จะไล่นักข่าวหรือเจ้าหน้าที่ที่สวมหน้ากากอนามัยออกจากห้องแถลงข่าว

การเยือนเมืองอู่ฮั่นที่ได้เสนอมานั้นเป็นการสร้างความอุ่นใจให้แก่นักศึกษาและเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่หวาดกลัวเชื้อไวรัส สื่อของจีนรายงาน และสถานีโทรทัศน์ CCTV รายงานว่า ฮุนเซนได้พบหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงวันนี้ (5)

กัมพูชารายงานพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพียงรายเดียว เป็นชายชาวจีนที่เดินทางมากัมพูชาจากเมืองอู่ฮั่น.





https://mgronline.com/indochina/det...RtlqQuLNFA3tmcAXwMnHAHExN-JQkpVAYU4ruOBGkRe44

 

จีนเพิ่มกักคนหลายล้านมุ่งคุมไวรัสให้อยู่ 'อนามัยโลก'ยกย่องมาตรการปักกิ่งทำให้มีโอกาสยุติการระบาด เผยแพร่: 5 ก.พ. 2563 23:21 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเจนซีส์ – ประชาชนอีกหลายล้านคนในจีนได้รับคำสั่งให้อยู่แต่ภายในอาคารอย่าได้ออกไปไหน รวมทั้งผู้คนหลายพันคนของเรือสำราญ 2 ลำในน่านน้ำแถบเอเชียก็ถูกสั่งกักกันโรค ขณะที่แดนมังกรทำสงครามอย่างดุเดือดเข้มงวดเพื่อสกัดกั้นการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งทางการระบุวันพุธ (5 ก.พ.) ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปเกือบ 500 คน ด้านองค์การอนามัยโลก (ฮู) ยกย่องมาตรการเข้มข้นของจีน เชื่อมีโอกาสยุติการระบาด ผิดกับประเทศร่ำรวยบางแห่งที่ไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลไวรัส

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานในเช้าวันพุธ (5) ว่า พบผู้เสียชีวิตในจีนเพิ่มขึ้น 65 คนในวันอังคาร (4) รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 490 คน ส่วนใหญ่พบในและรอบๆ เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการระบาด

นอกจากนั้น มีรายงานจากต่างประเทศก่อนหน้านี้ว่า พบผู้เสียชีวิตนอกแผ่นดินใหญ่จีนอีก 2 คน คือในฟิลิปปินส์และฮ่องกงแห่งละ 1 คน ซึ่งทั้งคู่เคยเดินทางไปอู่ฮั่น

สำหรับผู้ติดเชื้อในจีนวันอังคารเพิ่มขึ้น 3,887 คน รวมแล้วเป็น 24,324 คน

นอกเหนือในหูเป่ย มณฑลทางภาคกลางของเทศซึ่งมีเมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก ได้ถูกสั่งกักกันโรคในทางพฤตินัยมาหลายวันแล้ว ปรากฏว่ามีเมืองใหญ่ในจีนเพิ่มมากขึ้น ที่แม้ตั้งอยู่ห่างไกลจากหูเป่ย ก็ประกาศมาตรการจำกัดการเดินทางเคลื่อนที่ของผู้คนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

ในเมืองหางโจว เมืองเอกของมณฑลเจ้อเจียง ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ราว 175 กิโลเมตร มีการตั้งรั้วกั้นถนนหลายสายซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสำนักงานใหญ่ของอาลีบาบา บริษัทเทคยักษ์ใหญ่สัญชาติจีน ขณะที่มีเครื่องบินขับไล่ลำหนึ่งบินวนอยู่ข้างบน

อาคารของบริษัทดูเหมือนถูกปิด ขณะที่พวกพนักงานส่งของเคลื่อนไหวเข้าออกกันคึกคักที่บริเวณใกล้ๆ กับเขตที่พักอาศัยซึ่งมีรั้วกั้นอยู่ คอยส่งข้าวของต่างๆ แล้วยังเห็นผู้คนจำนวนมากกำลังจะออกไปข้างนอก

คลิปวิดีโอซึ่งมุ่งถ่ายให้เห็นสภาพของเขต 3 เขตในหางโจวที่เพิ่งถูกสั่งใช้มาตรการเข้มงวด โดยอนุญาตให้บุคคลคนเดียวในแต่ครัวเรือนสามารถออกไปข้างนอกได้ทุกๆ 2 วันเพื่อซื้อข้าวของจำเป็นต่างๆ

“โปรดอย่าออกไปข้างนอก อย่าออกไปข้างนอก อย่าออกไปข้างนอก” เป็นข้อความดังลั่นจากลำโพงกระจายเสียง ซึ่งมุ่งรบเร้าประชาชนให้สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ และแจ้งให้ผู้รับผิดชอบทราบเมื่อพบเห็นผู้คนที่มาจากหูเป่ย –อันเป็นการสะท้อนความกลัวที่มีอยู่ร่วมกันที่ว่าคนจากมณฑลนี้อาจแพร่เชื้อให้คนอื่นๆ

ยังมีเมืองอื่นๆ อีกอย่างน้อย 3 เมืองในมณฑลเจ้อเจียง ได้แก่ ไท่โจว, เวินโจว, และบางส่วนของเมืองหนิงปัว ก็ประกาศใช้มาตรการเช่นเดียวกันนี้ ซึ่งส่งผลกระทบประชาชนราว 18 ล้านคน

การจำกัดเข้มงวดคล้ายๆ กันยังถูกนำมาใช้ไกลไปจนถึงมณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งตั้งอยู่ติดพรมแดนรัสเซีย


ความกังวลหวั่นไหวในทั่วโลกก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มมากขึ้นในต่างแดน ถึงแม้แต่ละแห่งไม่ได้มีจำนวนมากมายแบบเดียวกับภายในมณฑลหูเป่ย

เรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” ของบริษัทญี่ปุ่น ซึ่งถูกสั่งให้กลับไปจอดที่ด้านนอกท่าเรือเมืองโยโกฮามา หลังจากมีผู้โดยสารคนหนึ่งซึ่งลงจากเรือไปตอนปลายเดือนมกราคม ได้ล้มป่วยและพบว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้ทางการแดนอาทิตย์อุทัยประกาศกักกันโรคผู้โดยสารและลูกเรือทั้ง 3,700 คน ปรากฏว่าผลการตรวจโรคซึ่งกระทำตั้งแต่วันอังคาร (4) ได้พบผู้ติดเชื้อบนเรือลำนี้อย่างน้อย 10 คนแล้ว จึงมีการสั่งกักเรือลำนี้ต่ออย่างน้อยที่สุด 14 วัน

รวมแล้วเวลานี้ญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อทั้งหมด 33 คน

ส่วนที่ฮ่องกง ผู้โดยสารและลูกเรือกว่า 1,800 คน ก็กำลังถูกกักบริเวณอยู่บนเรือสำราญ “เวิลด์ ดรีม” ระหว่างการตรวจหาเชื้อไวรัส หลังจากก่อนหน้านี้พบ 3 คนติดเชื้อ โดยเจ้าหน้าที่เผยว่า ยังไม่สามารถระบุได้ว่า จะกักตัวคนเหล่านี้ไว้นานเพียงใด

เรือลำนี้เป็นของบริษัทดรีม ครูซ ที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าเทียบท่าเมืองเกาสงทางใต้ของไต้หวันเมื่อวันอังคาร

ฮ่องกงนั้นยืนยันพบผู้ติดเชื้อ 18 คน รวมถึงอย่างน้อย 4 คนที่การติดต่อเกิดขึ้นในประเทศ

ขณะเดียวกัน ฮ่องกงซึ่งรายงานก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายจากเชื้อไวรัสโคโรนาอู่ฮั่น ประกาศมาตรการใหม่ในวันพุธว่า ผู้ใดก็ตามที่เดินทางจากจีนแผ่นดินใหญ่ จะถูกบังคับกักกันโรคเป็นเวลา 2 สัปดาห์นับแต่วันเสาร์ (8) เป็นต้นไป

เวียดนาม ซึ่งตรวจพบผู้ติดเชื้อจำนวน 10 ราย ได้เข้าร่วมกับประเทศจำนวนเพิ่มมากขึ้นนำโดยสหรัฐฯ ที่สั่งห้ามไม่ให้ผู้เดินทางจากจีนเข้าเมือง นอกจากนั้นทางการเวียดนามยังกำลังจัดตั้งโรงพยาบาลสนามขึ้นมาหลายแห่งซึ่งมีเตียงรับคนไข้รวมแล้วหลายพันเตียง เพื่อเป็นมาตรการรองรับการระบาดที่อาจเพิ่มสูงขึ้นในประเทศ

นอกเอเชียออกไป คือที่อิตาลี ได้ประกาศว่าผู้โดยสารจากเที่ยวบินระหว่างประเทศทุกๆ เที่ยวบินจะถูกสแกนว่ามีไข้หรือไม่

ด้านไต้หวันก็เตรียมห้ามผู้ที่เคยไปจีนแผ่นดินใหญ่เข้าดินแดนของตนนับตั้งแต่วันพฤหัสฯ (6)

ส่วนที่อังกฤษ โดมินิก ราบ รัฐมนตรีต่างประเทศแถลงในวันอังคาร แนะนำให้พลเมืองอังกฤษเดินทางออกจากจีน “หากทำได้” เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังสร้างปัญหาในการเดินทางทางอากาศ เนื่องจากเวลานี้มีสายการบินต่างๆ กว่า 20 แห่งตัดสินใจระงับหรือจำกัดเที่ยวบินไปยังจีน ล่าสุด อเมริกัน แอร์ไลนส์ กรุ๊ป และยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ประกาศระงับเที่ยวบินไปยังและจากฮ่องกงภายหลังสัปดาห์นี้ ทำให้ไม่เหลือสายการบินอเมริกันที่ให้บริการเส้นทางบินไปยังและออกจากเกาะแห่งนี้

นอกจากในจีนแล้วยังพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันเกือบ 230 คนใน 27 ประเทศ โดยเมื่อวันอังคารสิงคโปร์ มาเลเซีย และไทย ต่างรายงานว่า พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่ไม่ใช่ผู้ที่เดินทางจากจีน


ขณะเดียวกัน องค์การอนามัยโลก (ฮู) ที่ประกาศว่า วิกฤตไวรัสอู่ฮั่นเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก แถลงเมื่อวันอังคารว่า มาตรการเข้มงวดของจีนทำให้มีโอกาสในการระงับการระบาด

เทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการฮู สำทับว่า ขณะนี้ผู้ติดเชื้อถึง 99% จำกัดวงอยู่ในจีนเท่านั้น

นายใหญ่ฮูยังกล่าวหาประเทศร่ำรวยไม่ยอมแบ่งปันข้อมูลอันเป็นประโยชน์เกี่ยวกับไวรัส โดยแจงว่า ในบรรดาผู้ติดเชื้อ 176 คนที่พบนอกจีน ฮูได้รับแบบฟอร์มการรายงานกรณีผู้ป่วยอย่างสมบูรณ์แค่ 38%

ทางด้านหวัง อี้ มนตรีแห่งรัฐของจีน ยืนยันกับรัฐมนตรีต่างประเทศของไทยระหว่างหารือทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคารว่า จีนมีความสามารถและเชื่อมั่นว่า จะสามารถเอาชนะไวรัสนี้ได้ในที่สุด

หวังสำทับว่า อัตราการเสียชีวิตของไวรัสอู่ฮั่นขณะนี้ไม่ถึง 2.1% ต่ำกว่าโรคระบาดร้ายแรงอื่นๆ

ทั้งนี้ตามรายงานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) การระบาดของไวรัสโคโรนาซาร์สในภาคใต้ของจีน เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2002 ถึงกรกฎาคม 2003 มีผู้ติดเชื้อทั้งสิ้นรวม 8,098 ราย และเสียชีวิตไป 774 คน อัตราการเสียชีวิตเท่ากับ 9.6% มีประเทศที่รายงานว่าพบผู้ป่วยรวม 17 ประเทศ แต่ส่วนใหญ่พบในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม นานาชาติยังไม่คลายความกังวลและต่างเร่งอพยพพลเมืองออกจากอู่ฮั่น โดยอเมริกาเผยว่า จะส่งเครื่องบินไปรับพลเมือง 350 ที่ยังตกค้างอยู่ในวันพฤหัสฯ และจะนำไปกักกันโรคนาน 14 วัน

แลร์รี คุดโลว์ ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทำเนียบขาว กล่าวถึงวิกฤตไวรัสอู่ฮั่นว่า อาจทำให้การเพิ่มการส่งออกของอเมริกาไปยังจีนที่คาดหมายไว้ภายใต้ข้อตกลงการค้าขั้นที่ 1 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือนนี้ต้องล่าช้าออกไป

ที่โตเกียว มาซาสึมิ วาตานาเบะ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น เผยว่า แบงก์ชาติพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยอ้างอิงความไม่แน่นอนจากผลกระทบของไวรัสโคโรนา

จีนนั้นแสดงปฏิกิริยาโกรธเกรี้ยวกับการใช้มาตรการห้ามการเดินทางของหลายประเทศนำโดยสหรัฐฯ โดยชี้ว่า กระทั่ง ฮู ก็ยังไม่เห็นด้วยกับมาตรการเช่นนี้

ปักกิ่งได้กล่าวหาสหรัฐฯว่ากำลังรับมือกับไวรัสโคโรนาระบาดคราวนี้ ด้วยการแพร่กระจาย “ความแตกตื่นตกใจ” ซึ่งก็รวมถึงการห้ามผู้เดินทางจากจีนเข้าประเทศด้วย

ในวันพุธ (5) หวา ชุนอิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนได้กล่าวย้ำเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งระหว่างการแถลงข่าวประจำวันว่า “ความแตกตื่นตกใจก่อให้เกิดความตายมากกว่าและทำให้การแพร่ระบาดออกไปกว้างขวางกว่าไวรัสใดๆ ทั้งสิ้น”

https://mgronline.com/around/detail...FxOoHOMHzaB6ggdaSLQz3-sHMdDJLX6_Zil67uhQ0WG-Y

 

สื่อจีน,อังกฤษตีข่าวพบแล้วยารักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่WHOรุดปฏิเสธ เผยแพร่: 5 ก.พ. 2563 22:00 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


รอยเตอร์ - องค์การอนามัยโลก(WHO) ในวันพุธ(5ก.พ.) ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่ระบุว่าค้นพบยา "ผ่าทางตัน" สำหรับรักษาผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในขณะที่ไวรัสชนิดนี้ก่อการแพร่ระบาดในจีนและลุกลามสู่ประเทศอื่นๆอีกอย่างน้อย 20 แห่งทั่วโลก

สถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่งของจีนรายงานว่าพวกนักวิจัย ณ มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง ค้นพบยารักษาไวรัสอย่างได้ผล ในขณะที่สกายนิวส์ของอังกฤษ ระบุว่าพวกนักวิจัยมีความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการพัฒนาวัคซีนตัวหนึ่ง รายงานข่าวนี้ช่วยดันให้ราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยานทันที

อย่างไรก็ตามเมื่อถูกถามเกี่ยวกับรายงานข่าวดังกล่าว ทาริค จาซาเรวิค โฆษกขององค์การอนามัยโลกบอกว่า "ยังไม่รู้เกี่ยวกับวิธีการรักษา 2019-nCoV(ไวรัส) ที่ได้ผล และองค์การอนามัยโลกได้แนะนำเปิดลงทะเบียนเข้าร่วมการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม(randomized controlled trial) เพื่อทดสอบประสิทธิผลและความปลอดภัย"

ทั้งนี้กระบวนการพัฒนาและทดสอบยาหรือวัคซีนต่อต้านเชื้อโรคใหม่นั้น ปกติแล้วต้องใช้เวลานานหลายปีและบ่อยครั้งที่เผชิญข้อผิดพลาดและล้มเหลว

แม้ว่าปัจจุบันกระบวนการดังกล่าวสามารถเร่งรัดได้ภายใต้เทคโนโลยีใหม่ๆ แต่อย่างเร็วที่สุดพวกนักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะสามารถเริ่มการทดลองวัคซีนรักษาโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่กับมนุษย์ ได้ในเดือนมิถุนายนปีนี้

คณะแพทย์ที่กำลังมองหาแนวทางต่างๆสำหรับรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ดูเหมือนจะลองพยายามใช้ยาต่อต้านการติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ เพื่อดูว่ามันสามารถช่วยรักษาผู้ป่วยได้หรือไม่

กิลิแอด บริษัทผู้ผลิตยาสัญชาติสหรัฐฯบอกว่าพวกเขาได้เริ่มการวิจัยเชิงทดลองทางคลินิก(clinical trials) คนไข้ในจีนที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยใช้ยาทดลองที่เรียกว่าเรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) แต่ย้ำว่าในตอนนี้ยาดังกล่าวยังอยู่ในขั้นของการเป็น "ยาที่อยู่ระหว่างการศึกษา" เท่านั้น และ "มันยังไม่ผ่านการอนุมัติไม่ว่าจะที่ไหนๆในโลก" กิลิแอดบอกกับรอยเตอร์

ทาง กิลิแอด บอกว่าพวกเขาได้เพิ่มการผลิตยาเรมเดซิเวียร์ที่จัดทำสต๊อกสำหรับใช้ในการแพร่รบาดของเชื้อไวรัสในอนาคต "เรากำลังทำสิ่งนี้มาก่อนแล้ว ก่อนที่จะทราบว่ายาสามารถรักษา 2019-nCoV อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิผลหรือไม่"

https://mgronline.com/around/detail...3JdlG07ikDPy9MOFAeK7JURSxaOt9a93pUTr-li4ryhfE

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ผู้โดยสารถูกจับหลังจากล้อเล่นในเครื่องบินโดยบอกว่าเขาติดเชื้อ coronavirus ในระหว่างเที่ยวบินที่ออกจากสนามบินของแคนาดาไปยังประเทศจาเมกาหลังจากสองชั่วโมงในอากาศเครื่องต้องกลับไปที่พื้น
.
ชายที่ไม่ได้ระบุมีอายุ 29 ปีและได้รับการประเมินโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่ตัดสินว่าเขาแข็งแรง
.
ทันทีที่เครื่องบินลงจอดในแคนาดา เขาก็ถูกตำรวจท้องถิ่นจับ

pasajero fue arrestado luego de bromear dentro de un avión al decir que estaba contagiado de coronavirus durante un vuelo que despegó desde el aeropuerto de Canadá con rumbo a Jamaica, tras dos horas en el aire tuvo que regresar a tierra.
.
El hombre que no fue identificado, tiene 29 años, y fue evaluado por un personal médico que determinó que estaba sano.
.
Tan pronto el avión aterizó en Canadá, fue apresado por la policía local

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

จีน ข้อห้ามไม่ให้ออกจากเมือง ข้อบังคับที่ต้องสวมหน้ากาก สร้างความตึงเครียดและความโกรธเคืองในหมู่ประชาชน