ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศสพบผู้แสดงอาการ “ไวรัสโคโรนา” 36 คน หลังอพยพจากจีน
    เผยแพร่: 3 ก.พ. 2563 13:07 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000001137201.jpg
    เอเอฟพี – คน 36 คนบนเที่ยวบินอพยพจากจีนที่ลงจอดในฝรั่งเศสเมื่อวันอาทิตย์ (2) มีอาการของเชื้อไวรัสโคโรนา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 360 คน อั๊กเนส บูซิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผย

    เที่ยวบินนี้ ซึ่งเป็นเที่ยวบินอพยพเที่ยวที่สองจากอู่ฮั่น เมืองที่เชื้อไวรัสโคโรนาถูกพบเป็นครั้งแรก เดินทางมาถึงฝรั่งเศสพร้อมกับผู้โดยสาร 254 คน

    “ประมาณ 20 คนที่แสดงอาการยังคงรออยู่ที่สนามบินอิสทร์ในตอนใต้ของฝรั่งเศสเพื่อรับการตรวจเพิ่มเติม” บูซิน บอกผู้สื่อข่าว พวกเขามีทั้งชาวฝรั่งเศสและที่ไม่ใช่คนยุโรป

    การทดสอบจะพิสูจน์หาว่าพวกเขามีเชื้อไวรัสโคโรนาหรือไม่ และผลลัพธ์จะถูกแจ้งในวันจันทร์ (3) กระทรวงสาธารณสุข บอกเอเอฟพี ชาวต่างชาติอีก 16 คนที่แสดงอาการถูกส่งกลับไปยังประเทศบ้านเกิดของพวกเขาแล้ว

    ผู้อพยพที่ไม่ใช่ชาวฝรั่งเศสทั้งหมด 124 คนเดินทางต่อไปยังประเทศบ้านเกิดของพวกเขาในทันที อ้างจากแหล่งข่าวทางทหารในเมืองอิสทร์

    ชาวเบลเยียม 9 คนและคู่รักของพวกเขา 3 คน รวมทั้งพลเมืองเนเธอร์แลนด์ 15 คนและคู่รักชาวจีนของพวกเขา 2 คนถูกแยกเดี่ยว หลังเดินทางจากเมืองอิสทร์ไปยังสนามบินทหารแห่งหนึ่งใกล้กรุงบรัสเซลส์ อ้างจากสำนักข่าวเบลกา

    563000001137202.jpg
    อย่างไรก็ตาม อีก 60 คนจากเม็กซิโก รวันดา บราซิล และจอร์เจียยังคงอยู่ในฝรั่งเศส บูซิน บอกผู้สื่อข่าว

    ผู้อพยพบางส่วนจะถูกกักเชื้อเป็นเวลา 14 วัน ในขณะที่คนอื่นๆ จะได้รับอนุญาตให้สามารถกลับประเทศบ้านเกิดได้ หากพวกเขาไม่แสดงอาการของเชื้อไวรัสนี้ให้เห็น ฌอง อีฟ เลอ ดริยอง รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ บอกสถานีโทรทัศน์ อาร์ทีแอล ของฝรั่งเศส

    เที่ยวบินผู้อพยพเที่ยวแรกจากจีนเดินทางมาถึงเมื่อวันศุกร์ (31) และกำลังถูกกักเชื้อในรีสอร์ทแห่งหนึ่งบนชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน ผู้โดยสาร 2 คนจากเที่ยวบินดังกล่าวถูกระบุว่าน่าจะติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่การทดสอบพวกเขาผลออกมาเป็นลบ

    เลอ ดริยอง ชื่นชมการให้ความร่วมมืออย่างน่าประทับใจของทางการจีน ซึ่งอนุญาตให้ชาวฝรั่งเศสทั้งหมดที่ต้องการกลับบ้านสามารถเดินทางได้

    รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันว่า การเข้ามาเพิ่มเติมของคนจากอู่ฮั่นไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

    ฝรั่งเศสและประเทศร่วมกลุ่มจี 7 จะหารือถึงการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาร่วมกัน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเยอรมนี ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (2) จนถึงตอนนี้ ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพียง 6 คน

    https://mgronline.com/around/detail...crrHywM2kfNU1JuLzQjVzQ8ouKc7J036CHOzaw1tVVNg4
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรมอนามัยวอนหยุดแชร์ข้อมูลประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย
    3 กุมภาพันธ์ 2563 - 11:19 น.
    h6be7i6g8e86i9dcf97e9.jpg

    กรมอนามัย
    ชี้แจง หลังจากที่มีการแชร์ข้อมูลประสิทธิภาพของหน้ากากอนามัย ที่อ้างว่ามีที่มาจาก "กรมอนามัย" พร้อมวอนให้หยุดแชร์ต่อ เพราะอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้

    โดยทางกรมอนามัย ได้ระบุว่า ตามที่ได้มีเพจหนึ่งผลิตสื่อที่ระบุแหล่งที่มาจากกรมอนามัย กรมอนามัยขอชี้แจงว่า "สื่อดังกล่าวไม่ได้ใช้ข้อมูลที่เป็นทางการของกรมอนามัย และกรมอนามัยไม่ได้รับรองข้อมูลความถูกต้องของสื่อชิ้นนี้"


    dafcebb9kij5797j7kcjj.jpg

    https://www.komchadluek.net/news/re...cB0F-eKI554mmalSoyogi7FA971OmoQ6ne1EZKqYMt7Fw
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ บางครั้งเขาก็อาจจะไม่มีเฟคนิวส์ แต่คนเราควรจะเปิดกว่างรับฟังความเห็นคนอื่นบ้างก็ดีน่ะครับ

    พุทธิพงษ์ ขู่มือผลิตเฟคนิวส์ระวังหลังคุยเฟซบุ๊ก

    3 กุมภาพันธ์ 2563 - 11:42 น.
    8ga75ekgjeb5aeaahhj8g.jpg

    เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2563 - ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ให้สัมภาษณ์ถึงการป้องกันเฟคนิวส์ ว่า ทางกระทรวงฯ มีการดำเนินการป้องกันเฟคนิวส์มาโดยตลอด และเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน (3 ก.พ.) ได้พูดคุยกับผู้บริหารเฟซบุ๊กต่างประเทศ เชื่อว่าภายใน 1-2 วันจะมีข่าวดี จากการร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลไทย กับเฟซบุ๊ก จะมีกระบวนการในการติดตามและทำงานร่วมกัน เพื่อป้องกันข่าวปลอมในสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่กระทบกับความอ่อนไหวของประชาชน รวมถึงเรื่องอื่นๆ ถือเป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้ร่วมมือกัน ตนคิดว่าคนที่ผลิตที่เฟคนิวส์ต่างๆ ต้องระวังแล้ว เพราะเราได้รับความร่วมมืออย่างดีจากเฟซบุ๊กต่างประเทศ

    ผู้สื่อข่าวถามว่า ข่าวดีที่จะออกมาใน 1-2 วัน จะเป็นลักษณะไหน นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ขอให้คอยดู จะเป็นมาตรการในการติดตาม และทำให้เฟคนิวส์เกิดขึ้นน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นครั้งแรกเลย

    https://www.komchadluek.net/news/po...j2dOh70TG9KS46Ip1fnKLzGOXR9HjWHrpQah4PzhNqv0k
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thai PBS News

    สรุป #อัปเดต ! คำแถลงจากกระทรวงสาธารณสุขถึงสถานการณ์ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 วันที่ 3 ก.พ. 63 เวลา 11.00 น.
    tGZl-WlquBt2xnmLb-9kgzwTc-QS0LIyaThGDQNxaUA&_nc_ohc=RFa9Hso6-TEAX_mitB8&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    รู้สู้ภัย #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 กับ ไทยพีบีเอส thaipbs.or.th/Coronavirus2019 #ไวรัสโคโรนา #ไวรัสอู่ฮั่น #coronavirus

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนพบไวรัสติดอยู่ที่ลูกบิดประตูบ้านผู้ติดเชื้อที่กว่างโจว
    วันที่ 03 ก.พ. 2563 เวลา 12:27 น.

    9578418E9F920E9719930558E4D5A247.png
    การระบาดรูปแบบใหม่ ไวรัสปนเปื้อนอยู่ที่ลูกบิดประตูบ้าน เมื่อคนไข้จับลูกบิดจึงติดเชื้อ
    การระบาดรูปแบบใหม่ ไวรัสปนเปื้อนอยู่ที่ลูกบิดประตูบ้าน เมื่อคนไข้จับลูกบิดจึงติดเชื้อ

    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคกว่างโจว (กว่างโจว จี้คง จงซิน) รายงานว่าจากการวินิจฉัยลูกบิดประตูบ้านของผู้ป่วยที่ตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ พบว่าที่ลูกบิดมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนอยู่ นับเป็นครั้งแรกที่กว่างโจวพบไวรัสในสภาพแวดล้อมภายนอก

    จากการค้นพบครั้งนี้ หน่วยงานจึงกระตุ้นให้ประชาชนให้ความสำคัญกับสุขอนามัยของมือมากขึ้น

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ามีของใช้ประจำวันในบ้านหลายชิ้นอาจเป็นสื่อกลางในการส่งไวรัสทางอ้อม เช่น หน้าจอโทรศัพท์มือถือ คีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ ก๊อกน้ำ เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องทำความสะอาดทุกวัน

    ผู้เชี่ยวชาญในจีนได้แนะนำวิธีการทำความสะอาดเอาไว้ว่า ให้ทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์มือถือด้วยแอลกอฮอล์ 75%

    https://www.posttoday.com/world/613...ZbrpwSarANn7wKgYUqPCGXpK7GNAP3vom9mJYytPj5Qhw
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Dawn Yazzie

    #SpaceWeather ความเร็วลมสุริยะที่ความเร็วสูงสุดที่ 1600km ต่อวินาที มีกี่ไมล์ โลกกำลังทิ้งกันชนลมสุริยะไว้ และกิจกรรมด้านหลัง (ด้านมืด)ยังคงดำเนินต่อไปในโมเดล
    #SpaceWeather Solar wind speeds topped out at 1600km per second. How many miles is that? Earth is leaving a solar wind buffering and the backside activity still going in the models.

    Gl3xdKQt69kPf0h4xFKjtuQsRYJQEVKlX6FQK7idRnQ&_nc_ohc=VjKHkBqrw1QAX_y5fXG&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    uXyEaBe7MhK4RAvEbjiCY9yDGTUj_5SNaNQQEgs_mDw&_nc_ohc=dIPgj2r178cAX-HFY-q&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    z2CMg5iqYv3JISf-dQaSQPRuA_wxxWQ5eA5iga24yrA&_nc_ohc=vW_4eAAWCvcAX9g895M&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    lz4y919J-jYeKLj3WfSCSIhRMuMnv0uSdppjqTkznPg&_nc_ohc=nZfOMXs9bZcAX8hrGgx&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    kawXRJl0P-UZVe8z4HGgt_dMpA6WGkIDJwtR0-Z-Dog&_nc_ohc=mhgYTo-KazIAX-Vxq_r&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FOA แจ้งเตือนภัยตั๊กแตน ระบาดร้ายแรงสุดในรอบ 25 ปี กำลังเข้าอินเดียและตะวันออกกลาง

    daeJecyMGeIrm7oKtfiQPsOP7Ge-64sroF1hCcaMkzUQ&_nc_ohc=TNA9k3ZTsT8AX_fnXEj&_nc_ht=scontent.fbkk5-3.jpg


    “เอฟเอโอแจ้งเตือนภัยตั๊กแตน ระบาดร้ายแรงสุดในรอบ 25 ปี ในแอฟริกา กำลังแพร่ระบาดเข้าตะวันออกกลางและอินเดีย”

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 FAO แถลงข้อมูลสถานการณ์การระบาดของตั๊กแตนทะเลทราย (Desert Locus)ในแอฟริกา ซึ่งกำลังกำลังแพร่ระบาดเข้ตะวันออกกลางและอินเดีย

    การระบาดของฝูงตั๊กแตนเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการขยายพันธุ์ของตั๊กแตน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและรุนแรงที่สุดในรอบ 25 ปี ซึ่งขณะนี้พบการระบาดของฝูงตั๊กแตนใน 13 ประเทศ ได้แก่ เคนยา เอธิโอเปีย เอริเทรีย โซมาเลีย ซูดานใต้ อูกันดา จิบูตี เยเมน โอมาน ซาอุดิอาระเบีย อิหร่าน อินเดีย และปากีสถาน

    ฝูงตั๊กแตนทะเลทรายนับพันล้านสร้างความเสียหายให้ผลผลิตการเกษตรอย่างรุนแรงและรวดเร็ว อีกทั้งกระทบต่อการดำรงชิวิตของคนในท้องที่ ฝูงตั๊กแตนมีขนาดใหญ่เท่ากับกรุงโรม และภายในวันเดียวสามารถกัดกินอาหารมากเท่ากับการบริโภคอาหารของประชากรทั้งประเทศเคนยาในหนึ่งวัน การแพร่ระบาดของฝูงตั๊กแตนในครั้งนี้ก่อให้เกิดปัญหาด้านความมั่นทางอาหารอย่างร้ายแรง ทางแก้ปัญหาที่ได้ผลมากที่สุดในตอนนี้คือการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงทางอากาศซึ่งต้องใช้เงินทุนในการดำเนินการจำนวนมาก เอฟเอโอกำลังระดมทุนกว่า 70 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่ประสบภัยจากการคุกคามของฝูงตั๊กแตนอย่างร้ายแรง คือ เอธิโอเปีย เคนยา และโซมาเลีย

    ทั้งนี้ สามารถติดตามรายงานสถานการณ์การระบาดของตั๊กแตน (Desert Locust Situation) ได้ที่ FAO Locust Watch: http://www.fao.org/ag/locusts/en/info/info/index.html

    *********
    ข้อมูล: สำนักงานที่ปรึกษาการเกษตรต่างประเทศ ประจำกรุงโรม

    2-J2ghUOgAjdQzQ6qrtlIBpfzgH8GW4fV74RTQq0bb_g&_nc_ohc=UzC-ZwCpj7wAX9FnZCx&_nc_ht=scontent.fbkk5-7.jpg


    https://www.cmprice.com/forum/?cont...N6DQnRScFZiVemi8z0KEV6hfy5-BMKkowI5LvX2737HXo
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลักการสร้างโรงเรือน โคขุนที่ดี
    ตุลาคม 12, 2019 - by admin - Leave a Comment
    %E0%B9%82%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99.jpg


    โรงเรือนโคขุนหรือโรงเรือนเลี้ยงโค ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคสำหรับเป็นที่พักอาศัยของโค โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเลี้ยงโคขุนที่จำเป็นต้องเลี้ยงโคในโรงเรือนเพื่อขุนโคให้มีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

    1. สถานที่

    1.1 ควຣเป็นที่ดอน ຣะบายน้ำได้ดี หรือວาจจะต้องถมพื้นที่ ให้สูงกว่าระดับปกติเพื่อไม่ให้น้ำขังในฤดูฝน

    1.2 ควຣมีทางให้ຣถบรรทุกเข้าออกได้ เพื่ວความสะดวกในการนำโคเข้าขุนและส่งตลาด

    1.3 ควຣให้ความยาวของคວกอยู่ทิศตะวันอວก-ตะวันตก

    1.4 วางแผนให้สามาຣถขยายกิจการได้ในວนาคต

    2. ขนาดของคວก

    2.1 โรงเรืວนວาจะประกວบด้วย คວกขังเดี่ยวหลายๆ คວกตามจำนวนโคที่ต้ວงการขุน แต่ละคວกควຣมีขนาด กว้าง 2 เมตร ยาว 4 เมตร

    2.3 หากต้ວงการขุนแบบຣวมหลายตัวในคอกเดียวกัน พื้นที่คວกไม่ควรน้อยกว่า 8 ตาຣางเมตร/ตัว ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวควຣมีหลังคาอยู่ประมาณ 1 ใน 3 ก็เพียงพอแล้ว ส่วนที่เหลืວให้เป็นที่โล่งหรืວมีร่มไม้ก็ยิ่งดี

    2.3 ถ้าพื้นที่ต่ວตัวน้ວยเกินไป จะมีปั ญ ห าเรื่องพื้นคอกแฉะ แม้กระทั่งฤดูแล้ง แต่ถ้ามากเกินไปก็จะต้องเสียพื้นที่มากและเปลืองค่าใช้จ่ายในการสร้างคอกมากขึ้น

    2.4 ถ้าจะสร้างหลังคาคลุมพื้นที่คວกทั้งหมดก็ได้ มีข้ວดีที่ไม่ทำให้พื้นคอกแฉะในฤดูฟน แต่ก็มีข้ວเสียหลายประการคือ สิ้นเปลืວงโดยใช่เหตุและโคວาจจะขาดวิตามินดี เพราะไม่มีโວกาสได้รับแสงแดดเลย

    3. พื้นคວก

    3.1 พื้นคอกสามารถเทคอนกรีต ทั้งหมดได้ก็เป็นการดี เพราะในฤดูฝนได้จะช่วยได้เยວะมาก แต่ถ้าต้ວงการประหยัดก็ວาจจะเทคอนกรีต เฉพาะพื้นคວกส่วนที่อยู่ใต้หลังคาก็ได้

    3.2 พื้นคอนกรีตหนา 7 ซ.ม. โดยไม่ต้องผูกเหล็ก สามาຣถรับน้ำหนักได้ สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ ถ้าต้องกาຣให้ຣถแทຣกเตอร์ รถไถ เข้าไปในคວกได้ จำเป็นจะต้องเทคວนกรีตให้หนา 10 ซ.ม. และผูกเหล็กหรือไม้ຣวกก็ได้

    3.3 ผิวหน้าของพื้นคວนกรีต ควรทำให้ห ย า บ และพื้นคວกควຣลาดเอียงจากด้านหน้าลงด้านหลังคอก ปຣะมาณ 2-4% หรือทำมุมประมาณ 15 ວงศากับพื้นຣาบ เพื่อให้น้ำสิ่งต่างๆลงท้ายคວกได้ง่ายขึ้น

    3.4 พื้นคอกส่วนใหญ่ ที่เป็นคວนกรีตใต้หลังคา ควรจะปูด้วยวัสดุที่ซับความชื้นได้ดี ได้แก่ แกลบ ฟาง หรือซังข้าวโพด เป็นต้น ไม่จำเป็นต้องทำความสะວาดคວกทุกวัน การเปลี่ยนวัสดุรองพื้นคอกควรทำ 1-2 ครั้งต่อเดือน ในฤดูฝนและประมาณ 3 เดือน ต่อครั้งในฤดูแล้ง แกลบ 1 ลูกบาศก์เมตรสามารถปูพื้นคວกได้ 10-12 ตารางเมตร (หนาประมาณ 7 ซ.ม.) หรือแกลบ 1 กระสอบป่าน ใช้ปูพื้นได้ 2 ตารางเมตร พื้นคວกส่วนที่เป็นพื้นดินหรืວส่วนที่อยู่นວกหลังคาไม่จำเป็นต้ວงมีวัสดุรວงพื้น

    3.5 ควรทำบ่ากั้นแกลบไม่ให้ไหลจากส่วนใต้หลังคาคอนกรีตไปยังส่วนที่เป็นพื้นดิน

    3.6 การปูวัสดุรองพื้นนี้อาจจะไม่จำเป็นเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ผู้เลี้ยงโคขุนบางรายนิยมการล้างทำความสะວาดพื้นคວกทุกวัน ซึ่งได้ผลดีเช่นเดียวกัน แต่สิ้นเปลืองแรงงานค่ວนข้างมาก จากประสบการณ์สรุปว่าในฤดูแล้งควรใช้วิธีปูวัสดุรວงพื้น ส่วนในฤดูฝนควรใช้วิธีทำความสะວาดคอกทุกวัน

    3.7 มีผู้ทดลວงใช้ซีเมนต์บล็อคเป็นพื้นคວกแทนการเทคວนกรีต ปรากฏว่าไม่สามารถทนน้ำหนักได้

    4. หลังคา

    4.1 สามารถทำด้วยวัสดุต่างๆ กัน เช่น กระเบื้อง สังกะสี จาก หรือ เ เ ฝก

    4.2 ถ้าหลังคามุงด้วยสังกะสี ควรให้ชายล่างหลังคาสูงจากพื้นดินประมาณ 250 ซ.ม. มิฉะนั้นจะทำให้ວากาศภายในคວกในฤดูร้อน

    4.3 ถ้าหลังคามุงจาก หรือแฝก ชายล่างของหลังคาควรให้สูงจากพื้นดิน 250 ซ.ม. เช่นกัน ถ้าต่ำกว่านั้นโคจะกัดกินหลังคาได้

    5. เสาคอก

    5.1 เสาคอกด้านหน้าควຣอยู่ในแนวขอบຣางอาหารด้านหลัง ไม่ควน เลยออกมาจากขอบรางทั้งด้านภายในรางและภายนວกรางด้านหลัง สามารถทำด้วยวัสดุต่างๆ กันเช่น ไม้เนื้อแข็ง ไม้ไผ่ ไม้สน เหล็ก แป๊ปน้ำ หรือคວนกรีต

    5.2 เสาไม้ เสาเหล็ก และแป๊ปน้ำ มักพบว่าเสา ข า ด คอดิน แก้ไขโดยกาຣหล่อคอนกรีตหุ้มโคนเสาสูงจากพื้นดินปຣะมาณ 30 ซ.ม. การหุ้มโคนเสามัก จะเกิดกาຣเ เ ต กร้าวของคວนกรีต ซึ่งสามาຣถแก้ได้โดยใช้ท่ວแอสล่อนเป็นปลอกหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่ง

    5.3 เสาคວนกรีตเสริมเหล็ก มีความคงทนถาวรดีมาก แต่ไม่สามารถตວกตะปูหรือเจาะรูน๊ວตได้

    5.4 เสาไม้สนขนาดเส้น ผ่ า ศูนย์กลาง 4 นิ้ว มีอายุใช้งานเพียงปຣะมาณ 1 ปี หรือผ่านเพียง 1 ฤดูฝนเท่านั้น โคนเสาຣะดับพื้นดินก็จะหักเสาไม้ไผ่ (ไม้ซอ) มีความคงทนกว่าไม้สนเล็กน้อย

    5.5 กาຣใช้เสาคอนกรีตฝังดิน และโผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินเล็กน้อย แต่ต่อด้วยเสาไม้นั้น มักจะเกิด ป ญ หาโคนเสาบริเวณຣอยต่ວหั ก เมื่อถูกเเຣงกระเเทก

    6. รั้วกั้นคວก

    6.1 สามาຣถทำด้วยวัสดุต่างกันเช่น ไม้ เ นื้ อแข็ง ไม้ไผ่ ไม้สน แป๊ปน้ำ เป็นต้น

    6.2 ไม้สน และไม้ไผ่ มีວายุใช้งานได้ประมาณ 1 ปี หรือผ่าน 1 ฤดูฝนเท่านั้น

    6.3 รั้วกั้นคວกຣอบนอก ควรกั้นอย่างน้อย 4 แนว แนวบนสุดสูงจากพื้นดินอย่างน้อย 150 ซ.ม. ส่วนรั้วที่แบ่งคວกย่อยภายใน ควรกั้นอย่างน้อย 3 แนว

    6.4 การกั้นรั้วคວก ควรให้ไม้หรือแป๊ปน้ำที่ใช้กั้นอยู่ด้านในของเสาเพราะเมื่อถูกแຣงกระแทกจากโค เสาจะได้ช่วยรับแຣงไว้

    7. รางอาหาร

    7.1 ควรอยู่ด้านหน้าคວก สูงประมาณ 60 ซ.ม. กว้างประมาณ 80-90 ซ.ม. ก่ออิฐฉาบปุนและขัดมัน ขอบຣางด้านนอกเป็นแนวตรงดิ่งไม่เอียงเฉียงอວกมา ขอบຣางด้านหน้าสูงกว่าด้านหลังปຣะมาณ 10-20 ซ.ม

    7.2 พื้นผิวภายในຣางฉาบเรียบโดยด้านล่างของรางทำเป็นแนวโค้งมนไม่มีมุม เจาะรูที่ก้นรางด้านหนึ่งเพื่อให้น้ำระบายວอกได้ ท้องรางลาดเทเล็กน้อยไปทางด้านที่มีรูระบายน้ำ

    7.3 ຣางอาหาຣที่แคบไป จะมีปญหาเຣื่องວาหารตกหล่นขณะที่โคยืนเคี้ยวอาหาร

    7.4 การทำຣางอาหารเตี้ยไป ทำให้โคต้องก้มมากในขณะกินอาหาຣ แต่ถ้าสูงเกินไปจะมีปญหาสำหรับโคขนาดเล็ก

    7.5 โคขุนຣะยะแຣกต้องการรางວาหาຣยาวประมาณ 50 ซ.ม. ต่อโคขุน 1 ตัว และประมาณ 65 ซ.ม. ในระยะปลาย

    8. อ่างน้ำ

    8.1 อ่างน้ำควຣวางอยู่ในจุดต่ำสุดของคอก หรืออาจจะวางอยู่นอกคວกแล้วทำช่อง ให้โคโผล่หัวออกไปดื่มน้ำได้

    8.2 ขนาดขວงอ่างน้ำสูงประมาณ 60 ซ.ม. กว้าง 80 ซ.ม. ยาว 90 ซ.ม. ก่ออิฐ ฉาบปูนขัดมัน มีรูระบายน้ำด้านล่าง

    9. มุ้ง

    มุ้งที่ใช้เป็นมุ้งไนล่อนสีฟ้าควรเป็นเบอร์ 16 หน้ากว้าง 2.5 เมตร ราคาม้วนละ 350-400 บาท (ยาว 30 เมตร) จะใช้มุ้งตาถี่กว่านี้ (เบอร์ 20) ก็ได้ แต่ราคาแพงขึ้น และทำให้การระบายอากาศในคอกไม่ดีนัก การเย็บมุ้งให้เข้ากับรูปทรงของคວกสามารถเย็บด้วยมืວหรือจ้างร้านเย็บผ้าใบก็เป็นการสะดวกในอัตราค่าแรงคิดเป็นม้วนๆ ละ ประมาณ 40 บาท
    https://me-panya.com/หลักการสร้างโรงเรือน-โค/
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วงจรธุรกิจ “ทัวร์จีน” ป่วน! “ไวรัสอู่ฮั่น” ทุบตายสนิททุกเซ็กเตอร์
    วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 - 16:00 น.

    16-1-728x485.jpg

    เป็นที่ยอมรับว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า จากอู่ฮั่น ประเทศจีน ครั้งนี้ถือว่ารุนแรง และสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยมหาศาล โดยเฉพาะภาคธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งระบบ ทั้งกลุ่มธุรกิจทัวร์อินบาวนด์ (ขาเข้า), ทัวร์เอาต์บาวนด์ และท่องเที่ยวภายในประเทศ ที่มีมูลค่ารวมกว่า 3 ล้านล้านบาท

    จากรายงานของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า ในปี 2562 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมีรายได้จากตลาดนักท่องเที่ยวจีนมูลค่ารวมถึง 5.5 แสนล้านบาท จากจำนวนนักท่องเที่ยว 10.98 ล้านคน

    รุนแรงสุดในประวัติศาสตร์


    ผู้คร่ำหวอดในวงการธุรกิจทัวร์จีนรายหนึ่งให้ข้อมูลกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า หรือไวรัสอู่ฮั่น จากจีนรอบนี้ถือเป็นวิกฤตด้านการท่องเที่ยวครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ และส่งผลกระทบกับระบบเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแท้จริง เนื่องจากทำให้การเดินทางท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงักทันที เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักทันทีเช่นกัน

    เนื่องจากปัจจุบันภาคธุรกิจท่องเที่ยวถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ มีรายได้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 17-18% ของ GDP ประเทศ ด้วยมูลค่ารวมราว 3 ล้านล้านบาท ไม่พียงเท่านี้ ตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวดังกล่าวนี้ ตลาดจีนยังเป็นตลาดหลัก มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวถึงราว 30% ของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมด พร้อมทั้งระบุด้วยว่า บริบทของผลกระทบเชิงเศรษฐกิจของไวรัส โคโรน่ารอบนี้หนักกว่าผลกระทบจากวิกฤติโรคซาร์สเมื่อปี 2546 อย่างมาก เนื่องจากในช่วงปี 2546 นั้น ภาคการท่องเที่ยวของไทยมีรายได้รวม 3.09 แสนล้านบาท (5.2% ของ GDP) จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10 ล้านคน ในจำนวนนี้คิดเป็นนักท่องเที่ยวจีนราว 6.7% หรือประมาณ 6.7 แสนคนเท่านั้น

    สำหรับโครงสร้างเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวอยู่เกือบ 20% จากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 40 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวจีนมีจำนวนถึง 10.98 ล้านคน ใกล้เคียงกับจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปีของปี 2546สูญรายได้ตลาดจีนกว่าแสนล้านสอดรับกับแหล่งข่าวจากสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยรายหนึ่งที่วิเคราะห์ว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยในเวลานี้อยู่ในภาวะน็อกทั้งระบบ และทั้งประเทศอย่างแท้จริง

    โดยประเมินตัวเลขคร่าว ๆ ของนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย (เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับวงการทัวร์) พบว่า เฉลี่ยแล้วประเทศไทยจะมีกรุ๊ปทัวร์เข้ามาเฉลี่ยที่ราว 1.2 หมื่นกรุ๊ปต่อเดือน ประเมินรายได้จากนักท่องเที่ยวจีนตลาดเดียวคร่าว ๆ เดือนละไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท (ไม่รวม FIT) และจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ผลกระทบจากกรณีโรคระบาด ไม่ว่าจะเป็นโรคซาร์ส หรือเมอร์ส จะใช้เวลาเคลียร์ถึง 6 เดือน กว่านักท่องเที่ยวจะกลับมา ทำให้คาดการณ์ว่าตัวเลขรายได้จากตลาดจีนตลาดเดียวรอบนี้ ไม่น่าต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท หรือหากรวมตลาดอื่น ๆ ด้วย คาดว่ามูลค่าความเสียหายไม่น่าจะต่ำกว่า 2 แสนล้านบาท

    วงจรธุรกิจตายสนิททุกเซ็กเตอร์

    แหล่งข่าวรายนี้ยังวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วยว่า หากภาคการท่องเที่ยวแก้เกมด้วยการหันมาปลุกตลาดท่องเที่ยวภายในประเทศ หรือเที่ยวเมืองไทย ก็จะเป็นเพียงแต่ทำให้เกิดกระแสเงินหมุนเวียนเท่านั้น ไม่มีเงินรายได้จากต่างประเทศเข้ามาเติมในระบบปัญหาต่อไป คือ เมื่อรายได้จากต่างประเทศไม่เข้า รายได้ของซัพพลายเชนแต่ละเซ็กเตอร์ก็ไม่มีเข้ามาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์, โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านจิวเวลรี่, ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ฯลฯ เนื่องจากระบบการทำธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทัวร์ทั่วไปจะมีเครดิตเทอมเป็นรอบ ๆ 2-3 เดือน เมื่อธุรกิจในประเทศปิดสวิตช์ไปหมดแล้ว เงินเก่าที่ค้างอยู่มีโอกาสเป็นหนี้สูญไม่ต่ำกว่า 80-90% เมื่อผู้ประกอบการฝั่งไทยเก็บเงินไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทั้งหมด ซึ่งคาดว่าผู้ประกอบการที่โฟกัสตลาดจีนเป็นหลัก ชอร์ตหนักแน่นอน และจะส่งผลทำให้มีคนตกงานอีกไม่ต่ำกว่า 1-2 หมื่นคนแน่นอน

    “ตอนนี้ก็เริ่มเห็นปรากฏการณ์ของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับทัวร์จีนถือโอกาส นี้ชัตดาวน์ตัวเองไปเรียบร้อยแล้ว เช่น ร้านช็อปปิ้ง เอเย่นต์ทัวร์ ที่ทำทัวร์จีนอย่างเดียวประกาศปิดร้านแล้ว พนักงานยังไม่รู้ว่าจะได้รับเงินเดือนหรือเปล่าก็ยังไม่รู้เลย”

    รถทัวร์ 4-5 พันคันจอดนิ่ง ๆ

    “ดร.วสุเชษฐ์ โสภณเสถียร” รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) และนายกสมาคมผู้ประกอบการรถขนส่งทั่วไทย (สปข.) กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่าในภาคธุรกิจขนส่งในขณะนี้พบว่ารถบัสที่ทำทัวร์จีน 4,000-5,000 คัน ตกงานแล้ว และจอดนิ่งสนิทอยู่เฉย ๆ ขณะเดียวกันก็ยังต้องลุ้นว่างานที่ทำไปแล้วล่วงหน้า 2-3 เดือน จะได้รับเงินหรือไม่ ซึ่งได้รับผลกระทบแน่นอน

    “รถทัวร์ 4-5 พันคันที่หยุดวิ่งนั้น เราคำนวณคร่าว ๆ จากเดิมที่มีกรุ๊ปทัวร์ 12,000 กรุ๊ป ใช้น้ำมันกรุ๊ปหนึ่งประมาณ 8,000 บาท ฉะนั้นเฉพาะค่าน้ำมันอย่างเดียว เงินก็หายจากระบบไปกว่า 8 หมื่นล้านต่อเดือน”

    ผู้ประกอบการทัวร์จีนเดี้ยง

    “ดร.วสุเชษฐ์” ยังบอกด้วยว่า หากวิกฤตรอบนี้รัฐบาลจีนใช้เวลานานถึง 6 เดือนจริง จะเป็นอะไรที่น่าวิตกมาก เนื่องจากจะทำให้ระบบเศรษฐกิจของจีนเกิดความสูญเสียมหาศาลเช่นกัน ซึ่งแน่นอนหลังทุกอย่างจบ เชื่อว่าจีนจะใช้มาตรการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของตัวด้วยนโยบายฟื้นฟู สร้างชาติ ประหยัด ไม่เอาเงินออกนอกประเทศ เศรษฐกิจประเทศอื่น ๆ ที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวจีนก็คงต้องใช้เวลานานในการฟื้นตัวเช่นกัน

    ดังนั้น ผู้ประกอบการรายใดที่โฟกัสตลาดจีนเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร ร้านจิวเวลรี่ ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก ฯลฯ ตายสนิทแน่นอน เพราะหลักการทำธุรกิจของคนจีนจะมองเรื่องรายได้เป็นหลัก เมื่อไม่มีรายได้ก็ปิดกิจการเป็นเรื่องปกติ และไม่เพียงแต่ตลาดอินบาวนด์เท่านั้นที่จะได้รับผลกระทบ ตลาดเอาต์บาวนด์ก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน คนที่ซื้อแพ็กเกจทัวร์จีนแล้วยังเดินทางไม่ได้จะทำอย่างไร จะรับเงินได้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นเอเย่นต์ใหญ่ที่มีทุนมาก ก็พอที่จะหมุนเงินมาคืนลูกค้าได้ แต่หากเป็นเอเย่นต์รายเล็ก ๆ ที่ต้องหมุนเงินตามระบบ จะมีเงินมาคืนหรือไม่ยังต้องลุ้นกันต่อไป

    เรียกว่าท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังปั่นป่วนนี้ อาจมีผู้ประกอบการที่ถือโอกาส “ชัตดาวน์” ธุรกิจไปจากระบบเลยก็เป็นได้


    https://www.prachachat.net/tourism/news-417047
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รวบลูกจ้างรพ.ชุมพรฯ ปล่อยข่าวปลอมไวรัสโคโรน่าระบาด อ้างรู้เท่าไม่ถึงการณ์
    วันจันทร์ ที่ 03 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2563, 14.12 น.

    179040_th.png
    เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 3 ก.พ.63 ที่ ห้องเกาะลังกาจิว ศูนย์ราชการจังหวัดชุมพร นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภคพล ทวิชศรี รอง ผบก.ตร.ชุมพร พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ตร.ชุมพร พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.เมือง สภ.เมืองชุมพร จนท.สาธารณสุขชุมพร ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมคนร้ายกรณีเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ เหตุการณ์ไวรัสโคโรน่าระบาดใน จ.ชุมพร

    นายสมพร ปัจฉิมเพชร รอง ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.เมืองชุมพร จับกุมตัวนายสุทธิยา หรือปอ พูนไชย อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 หมู่ที่ 2 ตำบลท่าหิน อำเภอสวี จังหวัดชุมพร โดยกล่าวหาว่า แกล้งบอกเล่าความเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่นตกใจ ซึ่งเป็นความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 384 และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1(เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย สามารถจับกุมตัวผู้ถูกจับที่ บ้านเช่าเลขที่ 6/4 หมู่ที่ 1 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 19.00 น.จากการสั่งการของนายวิบูลย์ รัตน์ภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร และ พล.ต.ต.วิมล พิทักษ์บูรพา ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีประชาชนในพื้นที่ จ.ชุมพร ว่าผู้ใช้ชื่อในโพสบุ๊คว่า” กรูส์ ป๋าปอ คนไม่สนโลก”ได้โพสข้อความในเฟซบุ๊คของตนเองมีข้อความ ว่า “โรคไวรัส ...โคโรน่า” มาถึงชุมพรแล้วนะ รู้ยัง ระวังกันด้วยคับ พี่ๆน้องๆ” ซึ่งข้อความดังกล่าว ไม่เป็นความจริง โดยประชาชนผู้ได้รับข่าวสารดังกล่าวมีความตื่นตระหนกตกใจเนื่องจากข่าวการแพร่ระบาดดังกล่าวเป็นข่าวสารระดับโลก โดยสั่งให้ชุดสืบสวนติดตามบุคคลผู้โพสข้อความดังกล่าว จนทราบว่าบุคคลดังกล่าวประกอบอาชีพเป็นลูกจ้างของโรงพยาบาลชุมพรเขตร์อุดมศักดิ์และเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในซอยนาทุ่ง 8 ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดชุมพร

    จากนั้น พ.ต.อ.ธานี นาคหกวิค ผกก.สส. ฯ พร้อมพวกจึงไปตรวจสอบ พบนายสุทธิยา หรือปอ ฯ ยืนอยู่หน้าบ้านที่เกิดเหตุ สอบถามรับว่าตนเองเป็นเจ้าของโปรไฟล์ในระบบเฟซบุ๊คว่า”กรูส์ ป๋าปอ คนไม่สนโลก”โดยใช้โทรศัพท์มือถือหมายเลข 099-4379387 ได้โพสข้อความดังกล่าวจริง นายสุทธิยา รับว่า ได้รับข้อมูลมาจากเพื่อนโดยไม่ได้ตรวจสอบข้อมูลว่าเป็นความจริงหรือไม่ แต่ได้โพสข้อความดังกล่าวในเฟซบุ๊คของตนเองเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เวลาประมาณ 22.07 น.จริง โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ โดยเพิ่งทราบว่าข้อความดังกล่าวไม่เป็นความจริง และทำให้มีผู้อ่านข้อความมีความตื่นตกใจ จึงอยากจะขอโทษประชาชนในพื้นที่จังหวัดชุมพร และประชาชนทั่วไปมาในโอกาสนี้ด้วย นายสุทธิยา หรือปอ ฯ ให้การเพิ่มเติมอีกว่าตนเองเป็นผู้เสพยาบ้าด้วย โดยครั้งสุดท้ายได้แบ่งซื้อยาบ้ามาจากนายบิว ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งเคยทำงานด้วยกัน แต่ปัจจุบันได้ลาออกจากการทำงานไปแล้ว นำมาเสพครั้งละ 1-2 เม็ด ในราคาเม็ดละ 100 บาท พ.ต.อ.ชนินทร์ ณรงน้อย ผกก.สภ.เมืองชุมพร ได้นำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร ในคดีดังกล่าว ส่วนคดีเสพยาเสพติด จะได้ดำเนินการนำตัวให้เข้ารับการบำบัดในระบบบังคับบำบัด และทำการสืบสวนขยายผลผู้ค้า หรือเครือข่ายยาเสพติดดังกล่าวต่อไป

    https://www.banmuang.co.th/news/reg...A2wawIg2jo498E7opd0YVbhiaayloEqnuiSzXhLagEZxc
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    China Report ASEAN - Thailand

    ต้อง ‘ฌาปนกิจ’ เท่านั้น
    .
    1.วันนี้ (3 ก.พ.) คณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนรายงานสถานการณ์เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสอู่ฮั่น) ที่แพร่ระบาดในจีนมาตั้งแต่เดือนธันวาคมปีที่แล้ว จนถึงวันที่ 2 ก.พ.
    .
    2.จำนวนผู้ป่วยอยู่ที่ 17,205 คน คณะแพทย์รักษาผู้ป่วยติดเชื้อจนปลอดโรคและสามารถเดินทางกลับบ้านได้แล้ว 475 คน
    .
    3.จำนวนผู้เสียชีวิต 361 คน / ทางการจีนมี ‘มาตรการเฉพาะ’ อย่างไรบ้าง? ต่อการจัดการกับร่างผู้เสียชีวิตจากไวรัสอู่ฮั่น
    .
    4.กระทรวงกิจการภายในและกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีน ออกเป็นคำสั่ง ระบุข้อกำหนดและแนวทางร่วมกันถึงเรื่องนี้ว่า ร่างของผู้เสียชีวิตจะต้องไม่ถูกขนย้ายข้ามภูมิภาคระดับมณฑล
    .
    5.ร่างของผู้เสียชีวิตจะต้องไม่ถูกเก็บไว้ ไม่ว่าจะด้วยการฝัง หรือวิธีอื่นใดก็ตาม
    .
    6.ทุกร่างผู้เสียชีวิตจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อ บรรจุในถุงซิปห่อศพที่ปิดผนึกมิดชิด กระทำโดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เท่านั้น
    .
    7.หลังจากปิดผนึกถุงซิบห่อศพแล้ว จะไม่อนุญาตให้เปิดอีก ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม
    .
    8.ขั้นตอนต่อไปคือ การฌาปนกิจร่างของผู้เสียชีวิต จะต้องกระทำในบริเวณที่ใกล้เคียงกับกับสถานที่ที่เสียชีวิต ไม่อนุญาตให้จัดพิธีตามธรรมเนียม
    .
    9.การฌาปนกิจจะต้องกระทำในสถานที่ฌาปนกิจเฉพาะ โดยเจ้าหน้าที่พิเศษเฉพาะ ขนส่งร่างผู้เสียชีวิตด้วยยานพาหนะเฉพาะ เดินทางด้วยเส้นทางที่กำหนดเท่านั้น และการเผาจะต้องทำในเตาเผาเฉพาะกิจที่ทางการกำหนดเท่านั้น
    .
    **ภาพข่าวเป็นเพียงภาพประกอบ ไม่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการจัดการกับร่างผู้เสียชีวิตตามที่จีนประกาศ**
    .
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ถกประเด็นก่อการร้ายในลอนดอน
    #สิ่งแวดล้อมvsDNA
    เมื่อวานนี้ อาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ลอนดอนเกิดเหตุก่อการร้าย เอามีดไล่แทงคนอีกแล้ว
    โดยผู้ก่อการร้ายในครั้งนี้ เปิดเผยชื่อและหน้าตาเรียบร้อย ชื่อนาย Sudesh Amman อายุเพียง 20 ปี อยู่ดีๆก็ใช้มีดพกวิ่งไล่แทงผู้คนที่กำลังเดินอยู่ในย่าน Streatham High Road ทางลอนดอนใต้ โดยมีผู้บาดเจ็บ 3 คน
    แต่โชคยังดีที่ไม่มีผู้ใดบาดเจ็บสาหัสถึงขั้นเสียชีวิต และมีตำรวจนอกเครื่องแบบ จัดการวิสามัญคนร้ายได้อย่างทันท่วงที ก่อนที่จะมีผู้บาดเจ็บมากกว่านี้
    ถึงแม้เหตุการณ์จะจบลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็มีคำถามว่า นาย Sudesh Amman คนนี้เป็นใคร แล้วตำรวจนอกเครื่องแบบมาจากไหน ทำไมมาไวจัง
    แล้วในที่สุดก็มีรายละเอียดของเรื่องราวออกมา ว่าแท้จริงแล้วนาย Sudesh Amman เคยเป็นนักโทษ ในคดีวางแผนก่อการร้าย ติดคุกมาแล้วถึง 3 ปี ตั้งแต่ปี 2018 ที่ตอนนั้นเขาอายุเพียง 18 ปี
    แล้วนาย Sudesh ก็เพิ่งพ้นโทษเมื่อไม่กี่วันมานี้เอง ก่อนที่จะมาก่อเหตุเอามีดไล่แทงคน จนต้องจบชีวิตด้วยมือตำรวจในที่เกิดเหตุ
    และสาเหตุที่ตำรวจออกมาไวนั้นเพราะว่า นาย Sudesh ยังอยู่ในรายชื่อผู้ที่ต้องเฝ้าระวังในระบบของกรมตำรวจ และหน่วยสืบราชการลับ MI5 ของอังกฤษ ที่จำเป็นต้องจัดตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามดูพฤติกรรมตลอด เลยสามารถจัดการได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง
    แต่การที่จะจัดตำรวจนอกเครื่องแบบติดตามดูผู้ต้องหาที่พ้นคดีแล้วทุกคน คงเป็นไปไม่ได้ แต่เขาจะเลือกกลุ่มผู้ต้องหาที่มีประวัติเฉพาะที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
    แล้วนาย Sudesh Amman มีความเป็นมาเช่นไร ทำไมถึงถูกจัดอยู่ในลิสต์ "บุคคลเฝ้าระวัง" แล้วทำไมถึงก่อคดีร้ายแรงซ้ำอีก ทั้งๆที่เพิ่งพ้นคุกไม่กี่วัน แล้วก็รู้อยู่แก่ใจว่ามีตำรวจคอยตามอยู่?
    จากประวัติของนาย Sudesh เป็นวัยรุ่นจากเมือง Harrow เรียนวิชาวิทย์ คณิต ที่ North West London College นอกจากตัว Sudesh แล้ว ในครอบครัวยังมีน้องชายอีก 3 คน
    สังคมในโรงเรียนไม่มีปัญหา อาจารย์ให้ความเห็นว่า Sudesh ก็ดูเหมือนวัยรุ่นทั่วไป สนใจเครื่องจักร เครื่องกล และ ศิลปะการป้องกันตัว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเด็กผู้ชาย และไม่ทราบเลยว่า เขาจะมีแนวคิดก่อการร้าย เพราะไม่เห็นนาย Sudesh เล่นโซเชียล
    แต่ถ้ากับคนในครอบครัว จะรู้ว่า Sudesh นั้นคลั่งไคล้หลงใหลในขบวนการใต้ดิน องค์กรก่อการร้ายเอามากๆ ถึงขั้นมีธง ISIS ติดอยู่ที่บ้าน และมักส่งคลิปวิดีโอฆ่า สังหารหมู่ ตัดคอ ที่เผยแพร่ในเว็บใต้ดินของ กลุ่มอัลกออิดะห์ส่งมาให้น้องๆดูเป็นประจำ
    นอกจากนี้ เขายังรับวารสารที่เผยแพร่ข่าวสาร แนวคิดของกลุ่มก่อการร้ายดังกล่าวอยู่เป็นประจำ มีหนังสือว่าด้วยเรื่องเทคนิคการต่อสู้ด้วยมีด สไตล์บราซิล และคู่มือการต่อสู้แบบนาวิกโยธินสหรัฐ ที่บอกรายละเอียดการโจมตีอย่างไรหากหมายจะเอาชีวิต และหนังสือเทคนิคการสร้างระเบิด และกลวิธีก่อการร้ายอีกหลายเล่ม
    แม้แต่แฟนสาว นาย Sudesh ก็ไม่เว้น เขาเคยส่งคลิปฆ่าตัดคอของ ISIS ไปให้แฟน พร้อมกับส่งมีดเล่มหนึ่งไปให้ทางไปรษณีย์ พร้อมข้อความให้เธอใช้มีดสังหารพ่อ-แม่ของเธอเสีย หากเธอไม่สามารถทำระเบิดเองได้เพราะคนที่บ้านเฝ้าดูอยู่ ให้ใช้มีด หรือรถยนต์ในการก่อเหตุแทน โดยระบุเป้าหมายที่มีนักท่องเที่ยวเยอะๆ ที่เขามักเรียกว่าพวกผู้บุกรุก หรือไม่ก็สถานฑูตต่างชาติ
    นอกจากจะกระจายแนวคิดผู้ก่อการร้ายสุดโต่งไปให้คนในครอบครัวแล้ว เขายังเขียนบล็อกส่วนตัว วางแผน และระบุเป้าหมายพร้อมวันก่อเหตุด้วย
    และหลังจากที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงจนถึงขั้นลงมือวางแผนแล้ว ก็ไม่รอด ตำรวจอังกฤษก็เข้ามาจัดการจับกุม แล้วตั้งข้อหาพฤติกรรมก่อการร้าย จากหลักฐานเท่าที่หาได้ โดนโทษจำคุกไป 3 ปี ตั้งแต่ปี 2018
    วันที่ตัดสินโทษ Sudesh Amman หัวเราะร่าอย่างไม่สะทก สะท้าน เขาประกาศเป้าหมายในชีวิตของเขาไว้ว่า "Die as a Shuhada and go to Jannah" หมายความว่า ขอตายอย่างนักบุญ เพื่อไปเกิดในแดนสวรรค์
    ด้วยเหตุนี้ ทั้งกรมตำหน่วย และหน่วยสืบราชการลับ แทงบัญชีแดง หมายหัว Sudesh เอาไว้เลย เพราะดูท่าทางแล้ว ระยะเวลาในคุกตลอด 3 ปี ไม่น่าจะขัดเกลาจิตใจของหมอนี่ได้ แต่ด้วยหลักฐานที่มี กฏหมายลงโทษสูงสุดได้เท่านี้ จึงจัดทีมเฝ้าระวังไว้หลังจากพ้นโทษ
    แล้วก็เป็นดั่งคาด Sudesh Amman ก่อเหตุจริงๆ เลยโดนเช็คบิลปิดบัญชีให้ไปเคลียร์กับพระเจ้าเอาเอง อย่างที่ Sudesh ปรารถนา
    พอได้รู้อย่างนี้แล้ว ชาวอังกฤษยิ่งไม่สบายใจ เพราะเราไม่มีทางทราบเลยว่า จะมีผู้ต้องหาพ้นคดี ที่ติดอยู่ในบัญชีเฝ้าระวังแบบนี้อีกกี่คน ที่กำลังเดินปะปนอยู่กับคนทั่วไป แล้วพวกที่อยู่นอกบัญชีจะให้แน่ใจได้อย่างไรว่า เขาจะไม่คิดจะก่อการร้ายแบบนี้
    ก่อนหน้านี้ได้เคยแชร์ข่าว เกี่ยวกับ #โศกนาฏกรรมที่สะพานลอนดอน ไว้เมื่อปีที่แล้ว ที่ผู้ก่อเหตุ อุซมาน ข่าน เอามีดไล่แทงนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ที่เขาพยายามทำโครงการคืนคนดีสู่สังคมไป หากใครพลาดไป ย้อนอ่านได้ที่นี่ค่ะ

    มาวันนี้ เจออีกแล้ว อาจทำให้สังคมชาวลอนดอนอยู่กันยากขึ้น เราจะหาความไว้วางใจกันได้จากที่ไหนอีก
    ถึงจะไม่ค่อยเชื่อว่า คนเราจะมีพฤติกรรมก่อการร้ายฝังอยู่ใน DNA ได้ แต่ถ้าอยู่ในสภาพแวดล้อมดี บ้านเมืองดี มีการศึกษาพร้อม ครอบครัวก็ไม่ได้แย่ แล้วจะมาฝักใฝ่วิชาว่าด้วยเรื่่องการเอามีดไล่แทงคนทำไม แล้วมันจะมีวิธีอันใดที่จะกล่อมเกลาจิตใจคนพวกนี้ได้ อยากรู้จริงๆนะคะ
    หรือถ้าใช้ไม้นวม ไม่แข็งแล้วก็ยังไม่ไหว อับจนหนทางแล้ว สุดท้ายการขัดเกลาด้วยลูกปืน อาจเป็นหนทางสุดท้ายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆก็เป็นได้
    แหล่งข้อมูล
    https://www.dailymail.co.uk/news/ar...ng-manuals-urged-girlfriend-kill-parents.html
    https://www.theguardian.com/uk-news...ker-was-released-terror-offender-sudesh-amman
    https://www.theguardian.com/uk-news/2020/feb/02/streatham-attacker-police-surveillance-monitored
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    In Clips : สุดยอด! ปักกิ่งใช้ “โดรน” ควบคุมปชช.สวมหน้ากากในที่สาธารณะ ส่วนอังกฤษแตกตื่น เชื่อ “เดทตอล” ฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่า
    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9630000011135
    #MGROnline
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จากเหตุที่มีเชื้อไวรัสระบาดอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ทำให้เกิดกระแสในโลกออนไลน์ ชาวตะวันตกหลายคนออกมาพูดจากแนวรังเกียจคนจีน และคนเอเซีย บางคนพูดในทำนองเป็นมุขตลก แต่บางคนก็พูดเหมือนเป็นเรื่องจริงเรื่องจัง แม้บางคนจะเป็นคนเชื้อสายจีนที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ และแทบไม่ได้กลับบ้านมานานหลายปีแล้ว
    นักแสดงที่กำลังจะรับบทเป็นซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ของ Marvel "ซีมู หลิว" ออกโรงเรียกร้องให้ชาวเน็ต โดยเฉพาะในชาติตะวันตกหยุด "เหยียด" คนเอเชียในช่วงที่ไวรัสโคโรน่ากำลังระบาดได้แล้ว
    เรื่องราวนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร มาหาคำตอบกัน ได้คลิปนี้เลย...
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไม่ได้ลอกจีน
    รพ.ราชวิถี ใช้สูตรยาต้านไวรัสเอชไอวี และยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ร่วมกันในการรักษาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบติดเชื้อ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่มีอาการรุนแรงจนอาการดีขึ้นใน 12 ชั่วโมง และตรวจไม่พบเชื้อใน 48 ชั่วโมง โดยระบุว่า พบการศึกษาของจีนใช้แค่ยาต้านไวรัสเอชไอวี ไม่ได้ใช้ยาต้านไข้หวัดใหญ่
    แต่ภายหลังมีคนเอารายงานการศึกษาของจีน ที่มีการใช้ยาสูตรดังกล่าวออกมาเปิดเผยว่าใช้ยาทั้งสองกลุ่มเช่นกัน
    เรื่องนี้ สธ.ชี้แจงว่า หมอ รพ.ราชวิถีให้ยาตั้งแต่วันที่ 29 ม.ค. ทันทีที่รับผู้ป่วย ขณะที่รายงานดังกล่าวของจีนที่ตีพิมพ์ในวารสารต่างประเทศของอังกฤษก็ออกมาวันที่ 29 ม.ค. ซึ่งเวลาที่ไทยเร็วกว่าอังกฤษถึง 6 ชม. และขณะให้การรักษาก็ยังไม่เคยเห็นรายงานการรักษาฉบับนี้ของจีนเลย
    แต่เมื่อเอารายงานการรักษามาดูจะพบว่า การให้ยาสูตรนี้ของไทย ใช้ขนาดยามากกว่าถึง 2 เท่า
    เนื่องจากการให้ยาพิจารณาตามอาการและขนาดของผู้ป่วย ซึ่งผู้ป่วยรายนี้อาการหนักและตัวใหญ่
    จึงให้ยาต้านไวรัสเอดส์ครั้งละ 2 เม็ด 2 เวลาเช้าเย็น ยาโอเซลทามิเวียร์ครั้งละ 2 เม็ด 2 เวลาเช้าเย็น
    ส่วนจีนให้ยาทั้ง 2 ตัว ครั้ละ 1 เม็ด 2 เวลาเช้าเย็น
    สำหรับกลไกการออกฤทธิ์ของยา พบว่า ยาต้านไวรัสเอดส์ จะช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสไม่ให้ขยายตัวเพิ่มขึ้นในเซลล์ ส่วนยาต้านหวัดใหญ่ จะช่วยยับยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสใหม่เข้าไปสู่เซลล์
    ส่วนยาต้านไวรัสเอดส์เป็นยาอันตราย ต้องสั่งใช้โดยแพทย์ ไม่ควรหามาใช้เอง เมื่อเข้าไปในร่างกายและขับผ่านตับ จะไปลดการขับยาอื่นที่ตับด้วย จึงทำให้มีผลข้างเคียงจากการใช้ยาอื่นร่วมด้วยได้ เช่น ยาลดความดัน ยารักษาโรคหัวใจ ยารักษาไมเกรน ยารักษาไขมันในเลือด ยารักษาสิว ฯลฯ จึงไม่ควรนำมาซื้อรับประทานเพื่อป้องกันหรือรักษาใดๆ ก็ตาม
    #Qol #MGROnline
    https://mgronline.com/qol/detail/9630000011088
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกมีหวัง! นักวิจัยจีนพบยา 3 ชนิดยับยั้งไวรัสโคโรน่าได้
    750x422_864363_1580386489.png
    30 มกราคม 2563

    คนทั่วโลกเริ่มมีความหวังหลังจากเว็บไซต์สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า คณะนักวิจัยจากจีน ค้นพบตัวยา 3 ชนิดที่มีใช้ในปัจจุบัน สามารถออกฤทธิ์ยับยั้งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCrV) ได้ในระดับเซลส์

    สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานโดยอ้างหนังสือพิมพ์หูเป่ย์เดลี ที่ตีพิมพ์ข่าวนี้เมื่อวันพุธ (29 ม.ค.) ว่า นักวิจัยจากประเทศจีน พบตัวยา 3 ชนิดที่มีใช้ในปัจจุบัน สามารถยับยั้งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCrV) ในระดับเซลส์ ได้โดยตัวยาทั้ง 3 ตัวประกอบด้วย เรมเดซิเวียร์ (Remdesivir) คลอโรควิน (Chloroquine) และริโทนาเวียร์ (Ritonavir) ซึ่งปัจจุบันยาทั้ง3 ตัวอยู่ในขั้นตอนรออนุมัติเพื่อนำมาใช้ในการรักษาพยาบาล

    ยาเรมเดซิเวียร์ เป็นยาต้านการรวมตัวของสารพันธุกรรมอาร์เอ็นเอ (RNA) ที่เคยใช้รักษาโรคอีโบลา ส่วนยาคลอโรควิน เป็นยารักษาโรคเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งมักใช้รักษาโรคมาลาเรีย โรคติดเชื้ออะมีบา และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ส่วน ยาริโทนาเวียร์ เป็นยาต้านไวรัสเอชไอวี

    ทั้งนี้ ทีมวิจัยจีนจากสถาบันมาเทเรีย เมดิกาแห่งนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสถาบันบัณฑิตฯ และมหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เทค ได้คัดเลือกยา ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติที่ออกฤทธิ์ทางชีวภาพ และยาตามแพทย์แผนจีน จำนวน 30 รายการ ซึ่งอาจมีฤทธิ์ทางการรักษาโรคจากไวรัสโคโรนา ตัวยาที่ผ่านการคัดเลือกประกอบด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี 12 รายการ อาทิ อินดินาเวียร์ (Indinavir) ซาควินาเวียร์ (Saquinavir) โลพินาเวียร์ (Lopinavir) คาร์ฟิลโซมิบ (Carfizomib)

    ยาต้านไวรัสอาร์เอสวี (Respiratory Syncytial Virus-RSV) หรือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจ จำนวน 2 รายการ ยาต้านโรคจิตเภท (Schizophrenia) ยากดภูมิคุ้มกันต้านทานโรคของร่างกาย (Immunosuppressant) และยาตามแพทย์จีน อาทิ ดอกพิทูเนีย (Polygonum Cuspidatum)

    นับตั้งแต่ไวรัสโคโรน่าเริ่มแพร่ระบาด คณะนักวิจัยหลายกลุ่ม ซึ่งนำโดยสถาบันไวรัสวิทยาฯ ทำการวิจัยด้านต่าง ๆ 5 ด้านได้แก่ ผลิตภัณฑ์ที่ตรวจโรคได้อย่างรวดเร็ว ยาหรือวัคซีนต้านไวรัส การวิจัยสอบทวนแหล่งที่มาจากสัตว์ สมุฏฐานวิทยาหรือการศึกษาสาเหตุและต้นกำเนิดของโรค และการวิจัยด้านระบาดวิทยา

    เมื่อวันที่ 2 ม.ค. คณะวิจัยจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ยืนยันลำดับจีโนมทั้งหมดของไวรัสโคโรนา และสามารถแยกสายของไวรัสได้สำเร็จ เมื่อวันที่ 5 ม.ค. ต่อมาวันที่ 11 ม.ค. สถาบันฯได้มอบข้อมูลลำดับจีโนมของไวรัสโคโรนา ให้แก่องค์การอนามัยโลก (ดับบลิวเอชโอ) เพื่อแบ่งปันข้อมูลดังกล่าวไปทั่วโลก

    นอกจากนี้ คณะวิจัยของสถาบันฯ ยังพัฒนางานวิจัยการทดสอบแอนติบอดี หรือโปรตีนภูมิคุ้มกันสำหรับการวิจัยในอนาคต เพื่อต่อสู้กับไวรัสร้ายแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 170 ราย และส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อถึง 7,711 ราย เมื่อนับถึงสิ้นวันพุธ (29ม.ค.) ที่ผ่านมา

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/864363
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รัสเซียเข้ม สกัดไวรัสโคโรนา สั่งฟ้าผ่า ระงับการเดินรถไฟโดยสารระหว่างจีน-รัสเซีย ส่งเครื่องบินกองทัพไปอพยพพลเมืองจากอู่ฮั่น

    รัสเซียสั่งฟ้าผ่า สกัดไวรัสโคโรนา ระงับรถไฟโดยสารจากจีนแล้ว ผู้โดยสาร 136 คนเจอแจ๊กพ็อตโดนให้ลงจากรถไฟที่ชายแดน สื่อเผยเป็นชาวจีนทั้งหมด ขณะที่กองทัพรัสเซียเริ่มส่งเครื่องบินทหารอพยพพลเมือง

    เมื่อ 3 ก.พ. 63 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหม่ที่กำลังสร้างความหวั่นวิตก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ทางภาคกลางของจีน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยจนถึงช่วง 15.00 น. ของวันที่ 3 ก.พ. 63 ตามเวลาในไทย ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 362 ราย และยืนยันพบผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศจีนและทั่วโลก จำนวนกว่า 17,300 คนแล้ว
    ทางอากาศของรัสเซีย ซึ่งสังกัดกองทัพรัสเซีย จะเริ่มการอพยพพลเมืองรัสเซียออกจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ในวันจันทร์ที่ 3 ก.พ.นี้ ขณะที่ปัจจุบัน มีชาวรัสเซียอยู่ที่มณฑลหูเป่ยกว่า 600 คน

    เจ้าหน้าที่ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายชายจีนในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ขณะกำลังเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา

    รอยเตอร์แจ้งด้วยว่า การรถไฟของรัสเซียยังได้มีคำสั่งยกเลิกรถไฟโดยสารไปยังจีนขณะเกิดการระบาดของไวรัสโคโรนาแล้ว ตั้งแต่เที่ยงคืน เข้าสู่วันที่ 3 ก.พ. 63 โดยขบวนรถไฟโดยสารเที่ยวสุดท้ายจากกรุงปักกิ่งมายังกรุงมอสโก ต้องว่างเปล่า เนื่องจากผู้โดยสารทั้งหมด 136 คน ได้ถูกให้ลงจากขบวนรถไฟที่บริเวณชายแดนระหว่างจีนกับรัสเซีย โดยสำนักข่าว RIA รายงานเพิ่มเติมว่า ผู้โดยสาร 136 คนนั้น เป็นชาวจีนทั้งหมด

    ส่วนทางการสหรัฐฯ เตรียมที่จะจัดส่งเที่ยวบินเพิ่มมากขึ้น เพื่อไปรับชาวอเมริกันออกมาจากมณฑลหูเป่ย กลับประเทศ ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในสหรัฐฯ อยู่ที่ 8 คน ด้านเวียดนาม ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาเพิ่มอีก 3 คน ทำให้ขณะนี้ยืนยันพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในเวียดนามแล้ว 7 คน และที่อินเดีย ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่ 3 โดยซีเอ็นเอ็นรายงานด้วยว่า จนถึง 3 ก.พ.63 พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศต่างๆ มาก 25 ประเทศแล้ว
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Great Shift

    ** AR เตือนแผ่นดินไหว! ⚠️ **
    ** เม็กซิกันผ่านแคริบเบียน! **
    เรามีแผ่นดินไหวที่ลึก 750 กิโลเมตรในอินโดนีเซีย คราวนี้อยู่ในทะเลบันดา ตรวจสอบภาพที่ 4 ด้านล่างของตำแหน่งที่ตรงข้ามจุด (ตรงข้ามกับดาวเคราะห์) และตรวจสอบภาพสุดท้ายด้านล่าง - ในวันที่ 28 มกราคม เพียงไม่กี่วันที่ผ่านมา แผ่นดินไหวที่คล้ายกันทำให้อินโดนีเซียเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 และเกิดขึ้นในอีก 2 ชั่วโมงต่อมา !! หากคุณอยู่ในรอยเลื่อนที่ใดก็ได้ในพื้นที่แจ้งเตือนนี้โปรดเตรียมพร้อม !!
    FB_IMG_1580725300115.jpg FB_IMG_1580725303612.jpg FB_IMG_1580725307375.jpg FB_IMG_1580725310277.jpg
    ** ⚠️ EARTHQUAKE WARNING! ⚠️ **
    **MEXICO through CARIBBEAN! **
    We have another 750 km deep quake in Indonesia, this time in the Banda Sea. (This was already an hour ago at the time of this post!) Check the 4th image below of the antipode location (spot directly opposite on the planet) and check out the last image below- on the 28th, just a few days ago, a similar earthquake struck Indonesia and a 7.7 antipode earthquake occurred just 2 hours later!! If you are on a fault anywhere in this warning area, PLEASE BE PREPARED!!

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Great Shift

    นี่คือการติดตามโพสต์จากแผ่นดินไหวที่ลึกเมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่าแผ่นดินไหวที่ลึกนี้จะเพิ่มขึ้น และลุกลามไปทั่วแผ่นในเวลานี้ มองหาขนาดที่ใหญ่ขึ้นในวันข้างหน้า
    FB_IMG_1580725544384.jpg
    This is a follow up post from the deep quake yesterday. Looks like the deep quake is rising and spreading around the plate this time. Look for bigger magnitudes in the coming days.

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    FB_IMG_1580726021112.jpg
    (Feb 3) World Economic Forum แจงความเสี่ยงโลกปี 2563 เป็นครั้งแรกที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมแซงหน้าทุกความเสี่ยง : เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2563 สภาเศรษฐกิจโลก หรือ World Economic Forum (WEF) เผยแพร่รายงานความเสี่ยงโลกประจำปี 2563 หรือ Global Risks Report 2020 ซึ่งเป็นรายงานที่ออกมาต่อเนื่องเป็นเวลาถึง 15 ปีแล้ว โดยในปีนี้สภาเศรษฐกิจโลกระบุว่าแรงขับเคลื่อนที่ทรงพลังไม่ว่าจะด้านเศรษฐกิจ ประชากรศาสตร์ และเทคโนโลยี กำลังก่อร่างสมดุลของอำนาจในโลกใหม่ และนำไปสู่ความวุ่นวายทางด้านรัฐภูมิศาสตร์ของโลก อะไรที่เคยถูกมองว่าเป็นโครงสร้างของโลกที่ส่งเสริมเกื้อกูลกันหรือเป็นพันธมิตรกันและข้อตกลงในรูปแบบพหุภาคีที่เคยเป็นมา นอกจากไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้ว มันกำลังถูกตั้งคำถามอย่างหนักหน่วงด้วย ผลที่ตามมาคือลัทธิชาตินิยมที่มุ่งเน้นวาระของชาติตนเองและการถอนตัวออกจากการร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ

    “เหนือไปกว่าความเสี่ยงเกี่ยวกับความขัดแย้ง ถ้าหากผู้มีส่วนได้เสียยังมุ่งเน้นที่ความได้เปรียบทางด้านภูมิรัฐศาสตร์เฉพาะหน้า และล้มเหลวที่จะสร้างหรือปรับกลไกด้านความร่วมมือระหว่างประเทศในห้วงเวลาอันวุ่นวายแบบนี้ โอกาสที่จะได้ทำอะไรที่สำคัญอาจจะขาดหายไปด้วย” รายงานระบุ

    ขณะที่ความเสี่ยงของโลกที่ต้องจับตาในปีนี้มีอยู่ 4 ประการ ประการแรก คือ ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความสามัคคีของสังคม รายงานได้เตือนถึงแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลกจากโครงสร้างเศรษฐกิจมหภาคที่เปราะบางและความไม่เท่าเทียมทางการเงิน แรงกดดันนี้จริงๆ ได้รุนแรงมากขึ้นมาตั้งแต่ปี 2562 แล้ว และเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะติดหล่มมาอย่างต่อเนื่อง

    “จากเดิมที่นโยบายอย่างการลดการกีดกันทางการค้า นโยบายทางการคลังที่ระมัดระวัง และการลงทุนระหว่างประเทศถูกมองว่าเป็นพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ปัจจุบันกำลังฉีกขาดไปเมื่อผู้นำสำคัญของโลกมุ่งดำเนินนโยบายแบบชาตินิยมมากขึ้น ช่องว่างสำหรับนโยบายการเงินและการคลังเองก็เหลือน้อยลงมากกว่าช่วงวิกฤติการเงินโลกเมื่อปี 2551 สร้างความไม่แน่นอนว่านโยบายเหล่านี้จะเพียงพอหรือไม่ และที่สำคัญคือความท้าทายเหล่านี้จะยังคงอยู่ต่อไปตลอดปีนี้”

    นอกจากนี้ จากผลสำรวจยังพบว่าการแบ่งขั้วทางการเมืองอย่างรุนแรงเป็นความเสี่ยงสูงสุดในปีนี้ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่มืดมนมากขึ้น ความไม่พอใจของประชาชนกับรัฐบาลที่ไม่สามารถสนับสนุนการเติบโตหรือความก้าวหน้า รวมไปถึงความไม่เชื่อใจรัฐบาลที่จะจัดการปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจและสังคมได้นำไปสู่การประท้วงทั่วโลก และยิ่งลดความสามารถของรัฐบาลที่จะดำนเนินการใดๆ ต่อไป และเมื่อขาดเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ประเทศอาจจะมีความเสี่ยงที่จะขาดทรัพยากรทางการเงิน พื้นที่นโยบายการคลัง และการสนับสนุนของสังคมที่จำเป็นสำหรับการเผชิญหน้าความเสี่ยงอื่นๆ

    ประการที่ 2 คือ ความเสี่ยงทางด้านการคุกคามของภูมิอากาศและความหลากหลายทางชีวภาพที่ลดลง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้โจมตีอย่างรุนแรงและบ่อยครั้งขึ้นกว่าที่หลายคนคาดการณ์ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นช่วงที่โลกร้อนมากขึ้นที่สุด ภัยธรรมชาติเกิดขึ้นบ่อยและรุนแรงกว่าเดิม และในปีที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นสภาพอากาศที่รุนแรงสุดขั้วไปทั่วโลก และล่าสุดมีการประเมินว่าโลกจะร้อนขึ้นถึง 3 องศาเซลเซียสภายในสิ้นศตวรรษนี้ นั่นคือครึ่งหนึ่งของตัวเลขที่ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าต้องหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้โลกต้องเจอกับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่รุนแรง

    “เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่จัดทำรายงานความเสี่ยงโลกที่ผลสำรวจระบุว่าความกังวลทางด้านสิ่งแวดล้อมอยู่สูงกว่าความเสี่ยงด้านอื่นๆ ในระยะยาว โดย 3 จาก 5 อันดับแรกของความเสี่ยงสำคัญในปีนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม โดยมีความล้มเหลวที่จะจัดการการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศถูกจัดอันดับให้เป็นความเสี่ยงอันดับแรก ยิ่งไปกว่านั้นความกังวลนี้ถูกสะท้อนในกลุ่มคนรุ่นใหม่มากกว่าอย่างชัดเจน ซึ่งจัดอันดับให้ความเสี่ยงทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นอันดับต้นๆ ทั้งระยะสั้นและระยะยาว”

    การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพตามมาเป็นความเสี่ยงอันดับที่สองในแง่ของผลกระทบระยะยาว อัตราการสูญพันธุ์ได้เพิ่มขึ้นกว่า 100 เท่าจากค่าเฉลี่ยในระยะเวลากว่า 10 ล้านปีที่ผ่านมา และมันยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพที่หายไปจะส่งผลอย่างรุนแรงต่อมนุษยชาติ ไม่ว่าจะเป็นการล่มสลายของแหล่งอาหารของโลกและระบบสาธารณสุขไปจนถึงความปั่นป่วนในสายการผลิตทั้งโลก

    ประการที่ 3 คือ ผลกระทบของความไม่เท่าเทียมทางด้านดิจิทัล แม้ว่าปัจจุบันมีคนมากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรโลกเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอยู่บนโลกออนไลน์แล้วและประเมินกันว่าคนประมาณ 1 ล้านคนจะเข้าถึงโลกออนไลน์เป็นครั้งแรกในทุกๆ วัน และ 2 ใน 3 ของประชากรโลกมีมือถือ และนำไปสู่ประโยชน์อย่างมหาศาลทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังเข้าไม่ถึง และการขาดหลักธรรมาภิบาลทางด้านเทคโนโลยีของโลกและปัญหาความไม่ปลอดภัยทางไซเบอร์ยังคงเป็นความเสี่ยงที่สำคัญของโลก ปัญหาความไม่แน่นอนทางด้านภูมิรัฐศาสตร์และเศรษฐกิจจะยังคงคุกคามไม่ให้ศักยภาพทางเทคโนโลยีในรุ่นต่อๆ ไปถูกใช้ได้อย่างเต็มที่

    ประการสุดท้าย คือ ระบบสาธารณสุขที่ต้องเผชิญกับแรงกดดันใหม่ๆ ระบบสาธารณสุขทั่วโลกตกอยู่ใต้ความเสี่ยงที่จะไม่สามารถตอบโจทย์โลกสมัยใหม่ได้อีกต่อไป ความเสี่ยงใหม่ๆ อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม สิ่งแวดล้อม ประชากรศาสตร์ และเทคโนโลยี กำลังเอาชนะประโยชน์ของระบบสาธารณสุขที่สนับสนุนสังคมโลกในศตวรรษที่ผ่านมา ขณะที่ความเสี่ยงทางด้านสาธารณสุขเก่าๆ กลับขึ้นมาเป็นปัญหาอีกครั้ง ประกอบกับที่ความเสี่ยงใหม่กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จของมนุษยชาติในการต่อสู้กับโรคร้ายต่างๆ ในอดีตอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคต

    “โรคไม่ติดต่อ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจและโรคทางจิตต่างๆ กำลังเข้ามาทดแทนโรคติดเชื้อต่างๆ ในฐานะสาเหตุการตายหลักของโลก ขณะที่ชีวิตที่ยืดยาวขึ้นและต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากโรคเรื้อรังที่ตามมาสร้างแรงกดดันที่รุนแรงต่อระบบสาธาณสุขทั่วโลก อีกด้านหนึ่งสำหรับโรคติดเชื้อและโรคระบาดเองก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากลัทธิต่อต้านการฉีดวัคซีนที่เพิ่มขึ้นและภาวะดื้อยาที่กำลังรุนแรงขึ้นและทำให้การกำจัดเชื้อโรคที่รุนแรงเหล่านี้อย่างถาวรเป็นไปได้ยากขึ้นอย่างมาก”

    Source: Thaipublica
    https://thaipublica.org/2020/01/world-economic-forum-27-1-2020/

     

แชร์หน้านี้

Loading...