ติดตามสถานะการณ์

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อิตาลียืนยันว่ามี coronavirus สองรายและปิดการจราจรทางอากาศกับจีน
ผู้ติดเชื้อทั้งสองเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนสองคนที่เดินทางมาถึงประเทศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล Spallanzani ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ

Italia confirma dos casos de coronavirus y cierra el tráfico aéreo con China
Las dos personas infectadas son dos turistas chinos que llegaron al país hace pocos días. Ambos están ingresados en aislamiento en el hospital de Spallanzani, especializado en enfermedades infecciosas

 

เห็นไหม คนหมดสติของจริง มีเจ้าหน้าที่ด้วย คนที่เล่นข่าวว่าการล้มลง ของผู้คนเป็นข่าวปลอม ต้องพิจารณาตัวเองว่าเป็นคนยังไง มีคุณธรรมหรือไม่ ผู้ที่เจ็บป่วยไม่มีสิทธิล้มหมดสติเลยหรือ ถ้าผู้ป่วยแล้วล้มหมดสติคือเรื่องหลอกลวง แล้วเวลาคุณเจ็บป่วยก็อย่าล้มน่ะ

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อีกคนหนึ่งกำลังล้มลงในครั้งนี้คือในปาไซ ประเทศฟิลิปปินส์
Otra persona se derrumba esta vez fue en Pasay, Filipinas

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

จีนอีกคนทรุดฮวบลง ผู้คน อยู่ ห่าง ๆ

 

Pipob Udomittipong
น่าเศร้ามากที่เมือง #หวงกัง (ซึ่งว่ากันว่ากำลังเป็น #อู่ฮั่น แห่งที่สอง) มณฑล #หูเป่ย นายเฉินเสียภรรยาที่ตั้งครรภ์ไปเพราะ #โคโรนาไวรัส #Coronavirus แถมยังต้องจ่ายเงินค่ารักษาเกือบล้านบาท เพราะในช่วงแรก #รัฐจีนแดง ต้องการรรักษาหน้าตัวเอง ปกปิดข่าว ไม่มีการเตรียมเครื่องมือเพื่อตรวจไวรัส ปล่อยให้ชาวบ้านเล่าลือกัน จับคนที่พยายามปล่อยข่าว คนที่ป่วยก็ช่วยเหลือตัวเองกันไป ภรรยาเขาเริ่มป่วยวันที่ 9 ม.ค. ตาย 21 ม.ค. ทางการจีนสั่งปิดเมืองวันรุ่งขึ้น

ภรรยาเขาไม่ควรตาย ถ้ารักษาถูกวิธี เพราะความจริงทางการจีนพบว่า มีการติดเชื้อเป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นธ.ค. แจ้งต่อ #WHO 31 ธ.ค. หรือ 40+ วันก่อนที่ภรรยานายเฉินจะเสียชีวิตอย่างอนาถ ในใบมรณบัตรระบุแค่ว่าเป็น #ปอดบวม ตอนไปหาหมอ ๆ ก็บอกแค่ว่าเป็น #ปอดบวมชนิดใหม่ ไม่ยอมบอกว่าเป็น #โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ทั้ง ๆ ที่รู้แล้ว เพราะแจ้งกับ #WHO ไปตั้งแต่ก่อนสิ้นปี ไม่มีการสต๊อคปุปกรณ์เพื่อตรวจหาเชื้อ ไม่มีการสต๊อกยา ไม่มีการรณรงค์ให้สวมหน้ากาก เพราะทางการไม่ต้องการยอมรับว่ามีการติดเชื้อ ไม่ต้องการให้เสียภาพลักษณ์ของตนเอง

น่าสนใจว่าตัวเลขผู้เสียชีวิตจาก #ไวรัสอู่ฮั่น ในจีนน่าจะสูงกว่านี้มาก ตัวเลขที่เขาประกาศไม่รวมคนที่ตายก่อนหน้านี้รวมทั้งภรรยาชองนายเฉิน




http://www.sixthtone.com/news/10051...TXtnEal_uEgrVcDFwVwvzlKXb9TYA-CjQeLVvskhcWsJw

https://www.facebook.com/pipob.udom...9SrMsd_0L8d9Xvjt-OeCJZbRKwSJE1XMXgv54&fref=nf

 

พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์
ทางกระทรวงดิจิทัลฯ ร่วมกับ สนง.ตำรวจแห่งชาติ บก.ปอท. ทำงานอย่างเต็มที่ จัดการข่าวปลอม โดยเฉพาะข่าว #ไวรัสโคโรน่า ที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน เก็บข้อมูลติดตาม สืบสวน สอบสวน ตรวจจับ อาจไม่ได้รวบรวมข้อมูลทั้งหมด เนื่องจากไม่ได้อยู่ในอำนาจหน้าที่โดยตรง จึงประสานและได้รับความร่วมมือจาก ผบ.ตร. (พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา) และรอง ผบ.ตร. (พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข) เพื่อรวบรวมข้อมูลหลักฐานจากที่ประชาชนส่งเข้ามา
.
เมื่อวานนี้มีการขอศาลออกหมายค้น จัดชุดปฏิบัติการพิเศษตรวจค้นตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงเมื่อเช้านี้ 15 จุด พบผู้ที่คิดว่าน่าจะเข้าข่ายมีความผิดในการปล่อยข่าวปลอมแล้ว 6 จุด ที่เหลืออีก 9 จุด ยังอยู่ในระหว่างการติดตามโดยเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษ และจะมีการแถลงข่าวให้พี่น้องประชาชนได้ทราบเป็นระยะๆ ครับ
.
#ourBelief #บีพุทธิพงษ์ #พุทธิพงษ์ปุณณกันต์

 

ราชสีห์ จิตอาสา

เพิ่มเติมครั้งที่ 38 #ประกาศเป็นสภาวะฉุกเฉิน #ระดับนานาชาติ (ขั้นรุนแรง) ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ติดตาม สถานการณ์การโรคปอดอักเสบขั้นรุนแรงระบาด ในประเทศจีน ต่อเนื่อง

/// เสียชีวิตแล้ว 213 ราย
* ติดเชื้อขั้นรุนแรง 5500 ราย
* จีนติดเชื้อ 8000 ราย
/ ใกล้ชิดคนป่วย 96000 ราย
/ เฝ้าระวังพิเศษ (มีไข้) 50000-80000 ราย
//ทางการประกาศให้ ประชาชนที่อยุ่ในพื้นที่เสี่ยงอยุ่ในบ้าน 14 วัน

** ประเทศที่พบการติดเชื้อ 23 ประเทศ รวม 101 ราย (ไม่นับรวมผู้หายป่วยแล้ว) **

ไทย 10 ราย (หาย 6 ราย)
ญี่ปุ่น 10 ราย (หาย 1 ราย)
เกาหลีใต้ 5 ราย สหรัฐ 5 ราย ออสเตรเลีย 9 ราย ไต้หวัน 9 ราย มาเก๊า 5 ราย สิงคโปร์ 10 ราย เวียดนาม 2 ราย ฮ่องกง 12 ราย ฝรั่งเศษ 3 ราย *เนปาล(หาย) มาเลเซีย 7 ราย แคนนาดา 1 ราย รัสเซีย 2 ราย(หาย 5) กัมพูชา 1 ราย เยอรมัน 3 ราย ศรีลังกา 1 ราย
*UAE 1 ราย * ทิเบต 1 ราย *ฟินแลนด์ 1 ราย *ยูเครน 1 ราย * ไอเวอรีโคสต์ 1 ราย * อินเดีย 1 ราย * ฟิลิปินส์ 1 ราย * อิตาลี 2 คน

// แต่ละประเทศมีกักตัวเฝ้าระวังพิเศษรวมประมาน 6800 คน

// จีนสั่งสร้าง รพ.พิเศษสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 เตียง สำหรับ #coronavirus โดยได้อ้างอิงตามรูปการจัดการกับ SARS ในปี 2003 โดยการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 3 กพ.นี้
// สั่งสร้าง รพ.ขนาด 1300 เตียงเพิ่มอีก 1 แห่ง ให้เส็ดภายใน 10 วัน
// มีการร้องขอเตียงสนามเร่งด่วนเพิ่มอีก 10000 เตียง
// จีน สั่งอัพเกรด รพ.20 แห่ง ให้รองรับผู้ป่วยได้ 10000 คน

// จีนเปิดใช้ระบบ 5 G เต็มรูปแบบให้ทีมแพทย์ เพื่อประสานการช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ
// จีนตั้งทีมรถแท๊กซี่พิเศษ 6000 คัน ในการรับส่งยาไปให้ผู้ป่วยตามบ้าน
// สั่งผลิตชุดป้องกันระดับ 3 ถุงมือแพทย์ และหน้ากาก 20 ล้านชุด
// จีนระดมทีมแพทย์เข้าพื้นที่ 30 ทีม รวมจนท.อีก 7000 นาย
// จีนสั่งระงับการขายทัวร์ไปยังประเทศต่างๆ ชั่วคราว
// จีนประกาศยกระดับพื้นที่ติดเชื้อรวม 7 มณฑล เป็นระดับภัยพิบัติ ควบคุมทุกอย่างขั้นสูงสุด
// จีน บังคับใช้กฏหมายขั้นสูงสุด (ติดอาวุธ) ในการควบคุม ดูแล ประชาชน
// จีนได้ลำเลียง/สั่งผลิตเวชภัณฑ์ ไปพื้นที่ประกาศภัย คือ หน้ากากอนามัย ชุดกั้นเคมี เครื่องมือแพทย์ รวม 10 ล้านชุด
// รพ 1 แห่งในฮู่ฮั่น ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อ อยุ่ระหว่างควบคุม
// จีน สั่งห้ามการซื้อขายสัตว์ป่าทุกชนิดทั้งประเทศจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด

// ประเทศมองโกเลีย ประกาศปิดเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกประเทศ ปิดชายแดนตลอดเขตแนวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ปิดโรงเรียนทุกแห่ง ห้ามจัดกิจกรรมทุกรูปแบบทั่วประเทศ มีผลทันทีถึง 2 มี.ค.
//ฮ่องกง ประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษทั้งเกาะ ควบคุมการแพร่ระบาด
// คาจิกิสถาน ปิดด่านพรมหแดน ติดชายแดนจีนทั้งหมด ไม่มีกำหนด
// รัสเซียและเกาหลีเหนือ ปิดชายแดน ไม่มีกำหนด
*** เรือสำราญ ประเทศอิตาลี ถูกกัก,เฝ้าระวัง (นทท 6500 คน) บนเรือ ห้ามลงจากเรือ ประกาศพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ 2 แห่ง ท่าเรือ สนามบิน

**** การอพยพ ****
/สหรัฐ อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
/ญี่ปุ่น อพยพแล้ว เครื่องบิน 2 ลำ
/ศรีลังกา อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
/ประเทศ ไทยเตรียม อพยพ จนท.นศ.ยังไม่ทราบกำหนด
/เยอรมัน เตรียมอพยพ ภายใน 1 วัน
/ฝรั่งเศษ เตรียมอพยพ
/อืนเดีย เตรียมอพยพ
/เกาหลีใต้ เตรียมอพยพ
/ออสเตรเลีย เตรียมอพยพ
/ รัสเซีย เตรียมอพยพ
/ โมร็อกโก เตรียมอพยพ
/ สเปน เตรียมอพยพ

*** องค์การอนามัยโลก***
ประชุมด่วนวันที่ 31 ม.ค.63 เตรียมประกาศเป็นโรคระบาด

- จีน = ระดับความเสี่ยงสูงมาก
- ภูมิภาค = ระดับความเสี่ยงสูง
- ระดับโลก = ระดับความเสี่ยงสูง
/ cr ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก / cr หน่วยวิจัยสถานการณ์ฉุกเฉินจีน

 

หวั่นปอดอักเสบอู่ฮั่นติดต่อเหมือนไข้หวัดใหญ่หลังพบติดเชื้อใน ปท.

ขณะนี้ ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ 2019 ภายในประเทศรายแรกแล้ว แพทย์แผนกอายุรศาสตร์โรคติดเชื้อ เผยว่า การแพร่กระจายเชื้อปอดอักเสบอู่ฮั่นมีลักษณะคล้ายคลึงกับเชื้อไข้หวัดใหญ่มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ติดเชื้อมีอาการเพียงเล็กน้อยก็สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้ที่อยู่ข้างเคียงได้ แม้ในระยะฟักตัวยังสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ จึงกังวลว่าอาจป้องกันลำบาก

นายแพทย์หวงลี่หมิน // ผอ. แผนกกุมารเวชกรรม รพ. มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน เผย ลักษณะการแพร่กระจายเชื้อของโรคเริ่มต้นจะคล้ายคลึงกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ก็คือระยะฟักตัวจะสั้นมากหรือจะลากยาวไปเลยก็ได้ ผู้ที่ติดเชื้ออาจไม่แสดงอาการหรือแสดงอาการเพียงเล็กน้อยก็สามารถแพร่เชื้อได้เหมือนกัน

นายแพทย์ หวงลี่หมิน เผยว่า ไต้หวันพบผู้ติดเชื้อภายในประเทศรายแรก แสดงว่าเป็นการติดเชื้อภายในชุมชนระลอกแรกจากการใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อของคนในครอบครัว แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือจะทำอย่างไรไม่ให้ติดเชื้อกันเองภายในชุมชนระลอกสอง ตราบใดที่คนรอบกายรวมถึงข้างบ้านติดเชื้อกันหมด สถานการณ์ของการระบาดก็จะยิ่งรุนแรง วันนี้เป็นวันเปิดทำงานวันแรกหลังจากหยุดยาวตรุษจีน ขอฝากไปถึงรัฐบาลเร่งรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยหากต้องไปยังสถานที่ที่แออัดในระยะนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

https://news.pts.org.tw/article/464...87JVXLz3uY90WySwY_NRbPA5o7eOip81xSQpREGIkcdXQ

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

น้ำท่วมฉับพลันใน bauru, บราซิล #30 ม. ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ของสหรัฐอธิษฐานต่อพระเจ้าก่อนออกเดินทางไปประเทศจีน
Expertos médicos de EEuu oran a Dios antes de partir hacia China

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

Ben Cowling, ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาของโรคติดเชื้อที่มหาวิทยาลัยฮ่องกง: ฉันคิดว่าเป็นไปได้มากว่าเขาจะเห็นการแพร่เชื้อจากคนสู่คนในเมืองของสหรัฐอเมริกา ในอีกสองหรือสามสัปดาห์

Ben Cowling, profesor de epidemiología de enfermedades infecciosas en la Universidad de Hong Kong: Creo que es muy probable que vea transmisión de persona a persona en las ciudades de EE. UU. En las próximas dos o tres semanas

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การสร้างสรรค์ส่วนตัวทางการแพทย์ของจีนแม้เมื่อมีการขาดแคลนอุปกรณ์

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ประเทศจีนเรายังไม่ทราบสาเหตุของการทะเลาะที่เกิดขึ้นระหว่างคนงานที่สร้างโรงพยาบาลขนาด 1,000 เตียงในหวู่ฮั่น

China Todavía no sabemos las razones de la lucha que estalló entre los trabajadores que construyeron el Hospital de 1000 camas de Wuhan

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ขอไว้อาลัยให้กับคนงานทางการแพทย์ในอู่ฮั่น ประเทศจีน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ฝนดาวตก หรือขยะอวกาศ ของสหรัฐอเมริกา พุ่งพรวดไปบนท้องฟ้าของซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย # 30 ม.ค.
EEUU Meteoro o basura espacial surca los cielos de San Diego , California #30ENE

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

สหรัฐอเมริกา หลังจากลมแรงกำแพงของทรัมป์ ตกลงอย่างรวดเร็ว ส่วนหนึ่งของกำแพงชายแดนสหรัฐฯในแคลิฟอร์เนีย หล่นลงมาฝั่งเม็กซิกัน

EEUU Después de los fuertes vientos, el muro de Trump cayó bruscamente. Parte del muro fronterizo estadounidense en California cayó y aterrizó en el lado mexicano.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ศุลกากรของสหรัฐอเมริกาและการป้องกันชายแดนในสหรัฐอเมริกากล่าวว่าพวกเขาค้นพบอุโมงค์ลักลอบที่ยาวที่สุดเท่าที่เคยพบในชายแดนตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งครอบคลุมมากกว่า 1.3 กม. จากคลังสินค้าขนาดเล็กใน Tijuana ในเม็กซิโกไปยังเขตซานดิเอโก
Estados Unidos La aduana y la protección fronteriza de los Estados Unidos dicen que han descubierto el túnel de contrabando más largo que se haya encontrado en la frontera suroeste, que abarca más de 1.3 km desde un pequeño almacén en Tijuana en México al condado de San Diego

 

Forex Mindset


(Jan 31) คณะกรรมการ Emergency Committee ขององค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงการณ์ประกาศยกระดับสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินระดับโลก แต่ไม่ได้ประกาศเตือนเรื่องการจำกัดการเดินทางและการค้าแต่อย่างใด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐฯ ยืนยันการติดเชื้อไวรัสรายที่ 6 ณ เมือง Chicago และเป็นกรณีแรกที่เกิดการแพร่จากคนสู่คนในสหรัฐฯ ซึ่งเป็นภรรยาของผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสก่อนหน้า

อย่างไรก็ดี นาง Ngozi Ezike, Director of Department of Public Health ของรัฐ Illinois ยืนยันว่าเชื้อไวรัสยังไม่ได้แพร่ระบาดในวงกว้าง โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับคู่สามีภรรยาที่ติดต่อกันใกล้ชิด ขณะเดียวกัน นักวิจัยทางการแพทย์หลายแห่งได้เร่งพัฒนาวิจัยวัคซีนเพื่อต่อต้านเชื้อไวรัสโคโรนา โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มการทดลองทางคลินิกกับมนุษย์ได้ภายใน 16 สัปดาห์

Source: BOTSS

เพิ่มเติม
- WHO declares China coronavirus that’s killed more than 200 a global health emergency : https://www.cnbc.com/…/who-declares-china-coronavirus-a-glo…

**********
WHO ประกาศไวรัสโคโรนาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก หลังเชื้อแพร่ระบาดรวดเร็ว

องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็น "ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก" หลังจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างรวดเร็ว

WHO ได้ออกแถลงการณ์ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุมวาระฉุกเฉินครั้งที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเจนีวาในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่นว่า การประกาศให้เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก (Public Health Emergency of International Concern - PHEIC) นั้น จะช่วยยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศ ในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

ทั้งนี้ WHO ยังคงเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดย WHO จะให้คำแนะนำประเทศต่างๆในการใช้มาตรการที่แข็งแกร่งในการวินิจฉัยอาการผู้ป่วยติดเชื้อ การคัดแยกและการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ การติดตามประวัติการสัมผัสผู้อื่นของผู้ป่วยติดเชื้อ และการสนับสนุนให้ชุมชนตระหนักรู้ถึงความจำเป็นในการแยกตัวออกจากพื้นที่เสี่ยง

ทางด้านนายแพทย์ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า "การประกาศให้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลกในครั้งนี้ ที่ประชุมไม่ได้มีการโหวตว่า WHO ขาดความเชื่อมั่นในรัฐบาลจีน แต่เพราะเราวิตกกังวลอย่างมากว่า ไวรัสสายพันธุ์นี้อาจจะแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆที่มีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ ซึ่งจะทำให้ยากลำบากในการควบคุม นอกจากนี้ การประกาศภาวะฉุกเฉินระดับโลกยังมีเป้าหมายที่จะป้องกันหรือลดการแพร่ระบาดข้ามพรมแดน"

นอกจากนี้ นายแพทย์กีบรีเยซุสกล่าวว่า WHO ไม่ได้แนะนำให้ประเทศทั่วโลกใช้มาตรการจำกัดด้านการค้าต่อจีน หรือจำกัดการเดินทางไปยังประเทศจีน อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

https://www.cnbc.com/2020/01/30/who...znAGKEiyNzfjjqt3R0MTOxny6qg8PkxWJplf5t5jIZETE

 

อ้ายจง
"กระทรวงการต่างประเทศจีนตัดสินใจวางแผนส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนมณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะคนอู่ฮั่น ที่ยังคงอยู่ต่างประเทศ กลับมายังจีน"
.
โดยการตัดสินใจในครั้งนี้ทาง "ฮว๋า ชุนอิ๋ง" โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวว่า เป็นผลมาจากทางจีนเห็นว่าคนหูเป่ยที่ยังอยู่ในต่างประเทศตอนนี้พบกับความลำบาก ทางจีนถึงตัดสินใจที่จะส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำกลับมายังอู่ฮั่นโดยไวที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ตามการรายงานของ 央视新闻 (CCTV) สื่อทางการจีน และยังมีอีกหลายสื่อจีนรายใหญ่ที่รายงานตรงกัน เช่น 人民日报 (People's Daily),新华社 (Xinhua)

ข่าวนี้ ทางกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์ทางการของกระทรวงด้วย ที่ https://www.fmprc.gov.cn/web/fyrbt_673021/t1737802.shtml

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

Ple Wongchana Pinkaew

“ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ที่ WHO เพิ่งประกาศคืออะไร? สำคัญอย่างไร?

ที่มา: www.prachachat.net

องค์การอนามัยโลก (World Health Organization, WHO) เพิ่งประกาศให้การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (novel coronavirus 2019, 2019-nCoV) เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) หลังจากประชุมพิจารณาสถานการณ์ในวันที่ 30 มกราคม 2563 ณ สำนักงานใหญ่องค์การอนามัยโลก กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ก่อนหน้านี้ WHO เคยประกาศ “ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” มาแล้ว 5 ครั้ง ได้แก่ ไข้หวัดใหญ่ H1N1 ในปี ค.ศ. 2009, โปลิโอ ปี 2014, อีโบลา ในแอฟริกาตะวันตก ปี 2014, ซิก้า ปี 2016, อีโบลา ในประเทศคองโก ปี 2019 และ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6

ในสถานการณ์ร้อนนี้ “ดีไลฟ์-ประชาชาติธุรกิจ” ขอพาไปหาคำตอบว่า “ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) คืออะไร สำคัญอย่างไร และการประกาศภาวะฉุกเฉินนี้จะต่างจากสถานการณ์ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ประกาศอย่างไร

“ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ที่ WHO เพิ่งประกาศ คืออะไร สำคัญอย่างไร

ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (Public Health Emergency of International Concern หรือ PHEIC) หมายถึงเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อประเทศอื่น ๆ จากการแพร่ระบาดระหว่างประเทศและต้องอาศัยความร่วมมือจากนานาประเทศในการรับมือกับเหตุการณ์นั้น

การพิจารณาว่าสถานการณ์ใดเป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ต้องเป็นสถานการณ์ที่เข้ากับเงื่อนไขอย่างน้อย 2 ใน 4 ข้อต่อไปนี้

1.เป็นเหตุการณ์ที่มีผลกระทบด้านสาธารณสุขที่รุนแรง

2.เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติหรือไม่คาดคิดมาก่อน

3.มีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่ระบาดข้ามประเทศได้

4.มีความเสี่ยงสูงที่จะต้องจำกัดการเดินทางหรือการค้าระหว่างประเทศ

เพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่ก่อให้เกิดหรืออาจก่อให้เกิด “ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” (PHEIC) อย่างมีประสิทธิภาพ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ออก “กฎอนามัยระหว่างประเทศ” (International Health Regulations หรือ IHR) ซึ่งมีสถานะเป็นกฎหมายระหว่างประเทศ (Treaty) ที่ประเทศสมาชิกขององค์การอนามัยโลกทุกประเทศต้องปฏิบัติตาม เพื่อร่วมมือกันจัดการกับเหตุการณ์ที่มีศักยภาพในการแพร่ระบาดข้ามประเทศไปยังส่วนต่าง ๆ ของโลก โดยจัดการให้มีผลกระทบต่อการเดินทางและการค้าขายระหว่างประเทศน้อยที่สุด

“กฎอนามัยระหว่างประเทศ” (IHR) ฉบับแรกเริ่มใช้ตั้งแต่ พ.ศ. 2512 (ค.ศ.1969) แต่พบปัญหาว่า บางประเทศใช้ปัญหาโรคติดต่อระหว่างประเทศเป็นข้อกีดกันทางการค้าการใช้มาตรการที่รุนแรงเกินจำเป็น เช่น การกักตัวการเลือกปฏิบัติการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล นอกจากนี้สถานการณ์โรคติดต่อระหว่างประเทศเปลี่ยนไป มีโรคติดต่ออันตรายใหม่ ๆ ที่แพร่ระบาดข้ามประเทศเกิดขึ้น เช่น โรคซาร์ส โรคไข้หวัดนก เป็นต้น

ซึ่ง IHR ฉบับเดิมไม่ครอบคลุม องค์การอนามัยโลก และประเทศสมาชิกจึงได้ทบทวนปรับปรุงแก้ไขใหม่โดยได้รับความเห็นชอบจากนานาประเทศสมาชิกในที่ประชุมสมัชชาอนามัยโลกเมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2548 (ค.ศ.2005) และเรียกชื่อย่อว่า IHR (2005) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550 (ค.ศ. 2007) เป็นต้นมา

ความแตกต่างระหว่าง IHR ฉบับเก่ากับฉบับใหม่ (2005) คือ IHR ฉบับเก่าเน้นการควบคุมโรคที่ช่องทางเข้าออกประเทศ (Point of Entry หรือ PoE) โดยกำหนดโรคที่ต้องควบคุมและรายงานเพียง 3 โรค ได้แก่ อหิวาตกโรค ไข้เหลือง และกาฬโรค

แต่ IHR ฉบับใหม่กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องพัฒนาสมรรถนะหลัก (Core Capacity) ให้สามารถตรวจจับการระบาดของโรคหรือภัยคุกคามด้านสาธารณสุขได้ตั้งแต่ระดับชุมชน วางมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่ไมส่งผลกระทบต่อการเดินทาง/ขนส่งระหว่างประเทศโดยไม่จำเป็น และกำหนดโรคที่ต้องแจ้งให้องค์การอนามัยโลกทราบภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งมีทั้งโรคติดต่อที่มีโอกาสแพร่ระบาดข้ามประเทศ รวมทั้งเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดจากโรคติดต่อระหว่างสัตว์และคน อาหารสารเคมีและกัมมันตรังสีและนิวเคลียร์ด้วย

สาระสำคัญของ IHR (2005) ประกอบด้วยตัวบท 66 มาตรา โดยเรียงมาตราตั้งแต่บทนิยาม เจตนารมณ์ และขอบเขต หลักการและอำนาจตามความรับผิดชอบ ข้อมูลข่าวสาร และการดำเนินการด้านสาธารณสุข คำแนะนำ การดำเนินการที่ช่องทางเข้าออก (PointofEntry) การจัดการขององค์การอนามัยโลก

ส่วนแนวทางปฏิบัติของประเทศสมาชิกตาม IHR (2005) ถูกกำหนดไว้ในภาคผนวกซึ่งมีทั้งสิ้น 9 ผนวก (Annex) โดยถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของข้อกำหนดตาม IHR (2005) โดยเฉพาะสมรรถนะหลัก (Core Capacity) ในการเฝ้าระวังการเตรียมความพร้อมและการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ตลอดจนช่องทางเข้าออกของประเทศสมาชิก รวมทั้งเครื่องมือตัดสินใจในการประเมินและแจ้งเหตุการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศต่อองค์การอนามัยโลก

ข้อกำหนดส่วนหนึ่ง “กฎอนามัยระหว่างประเทศ” มีอยู่ว่า

1.แต่ละประเทศต้องจัดให้มีหน่วยงานและผู้แทน (National IHR focal point) ในการประสานงานกับองค์การอนามัยโลก และดำเนินการตามกฎอนามัยระหว่างประเทศ

2.แต่ละประเทศต้องมีการเสริมสร้างศักยภาพการเฝ้าระวัง สอบสวน และควบคุมโรค

-ด้านการเฝ้าระวังปกติ

-ตามช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ

-การตรวจจับและตอบสนองต่อภัยฉุกเฉินข้ามชาติ

สรุปว่า การที่ WHO ประกาศให้สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (novel coronavirus 2019, 2019-nCoV) เป็น “ภาวะฉุกเฉินทางด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” ก็เพื่อจะบังคับใช้กฎระเบียบต่าง ๆ ได้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันการระบาดและป้องกันไม่ให้สถานการณ์รุนแรงไปกว่านี้
—————————————————

อ้างอิง : สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโค กระทรวงสาธารณสุข

News and photos by https://www.prachachat.net/d-life/news-416434