ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    มีหลุมยุบหลายแห่งบนเกาะเคย์แมนหลังจากเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    รายงานครั้งแรกของหมู่เกาะเคย์แมนระบุว่าปรากฏการณ์ของการทำให้ดินเหลวเกิดขึ้นในบางส่วนของเกาะหลังจากการเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 ในทะเลแคริบเบียน
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    นี่คือจากเกาะ Grand Cayman เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 บนชายฝั่งของคิวบาและจาเมกา
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    วิดีโออื่น ๆ ของ หลุมยุบ ในหมู่เกาะเคย์แมนหลังจากแผ่นดินไหว 7.7
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    สถานีน้ำขึ้นน้ำลงในจอร์จทาวน์ หมู่เกาะเคย์แมนบันทึกระดับน้ำทะเลไม่น้อยกว่า 80 ซม. ในพื้นที่
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ช่วงเวลาที่น่าอัศจรรย์เมื่อถังเก็บน้ำขนาดใหญ่น้ำกระฉอกออกจากถัง บนหมู่เกาะเคย์แมน # 28 ม.ค.

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    การเกิดขึ้นของรอยแตกบนพื้นดินในจาไมกา จากแผ่นดินไหว ขนาด 7.7
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    การอพยพพนักงานออกจากอาคารในไมอามี หลังเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    วิดีโออื่นของการบุกรุก ของอีกาในประเทศจีน
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คำสาปแค้นของอีกา
    ............
    แอดมิน Jesus Apple
    ............
    กาเรเวน(Raven)

    กาเป็นสัตว์ที่ฉลาด สีขนมันดำราวกับรัตติกาลบวกกับแววตาแวววาวดูลึกลับและเจ้าเล่ห์ บางคนเชื่อว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของยมทูต มันเป็นสัญลักษณ์ของความตาย มันมีอำนาจชั่วร้ายแฝงกาย ยิ่งเป็นกาเรเวน(Raven) ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่
    เรื่อง ราวคำสาปของอีกานั้นมีเรื่องเล่าอยู่เกือบทั่วโลก ในกรณีใหญ่และโด่งดังที่สุดคงจะไม่เกินไปกว่าราชวงศ์แฮปสเบิร์กส์ของ ออสเตรียที่รับเคราะห์กรรมเพราะกามาแล้ว

    มัน เริ่มต้นเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 11 ในตอนนั้นเคานต์แห่งอัลเตนเบิร์ก(Count v on Altenbourg)หรือชื่อจริงว่ากอนทราน-เลอ-ริซี่(Gontran-le-Riche) ปกครองดินแดนเล็กๆ ใกล้กับบริเวณแม่น้ำอาร์กับแม่น้ำไรน์บรรจบกัน วันหนึ่งเขาออกไปล่าสัตว์ในป่า แต่ตัวเองกลับถูกฝูงนกแร้งไล่ล่าจนได้รับอันตรายจนเกือบถึงชีวิต หากแต่มีฝูงนกกาเรเวนมาขัดขวางเอาไว้เขาจึงได้รอด ท่านเคานต์เป็นหนี้บุญคุณของกา นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาได้เลี้ยงดูและปกป้องกา และได้สร้างหอคอนสังเกตการณ์ขึ้นบนเนินสูงที่ยื่นออกไปริมแม่น้ำ ตั้งชื่อว่า ฮาบิชต์สเบิร์ก(Habichtsburg) แปลว่าปราสาทนกแร้ง และชื่อนี้ได้กลายเป็นชื่อราชวงศ์ที่ท่านเคานต์สถาปราขึ้น คือราชวงศ์แฮปสเบิร์ก
    ใน ตอนแรกๆ สมาชิกราชวงศ์นี้ดูจะมีเป็นมิตรกับกาดี ปล่อยให้กาเรเวนสร้างรังทุกหนทุกแห่ง แต่ร้อยปีหลังจากนั้นที่กอนทรานสิ้นลม มิตรภาพราชวงศ์กับกาเรเวนก็มีอันสิ้นสุดลงตามไปด้วย อาร์คแอ็บบอต แวร์เนอร์ และรัดบอต อนุชาเป็นผู้ทะเยอทะยานได้เสริมสร้างหอคอนให้กลายเป็นปราสาทใหญ่มีเชิงเทิน หอรบเพียบพร้อมเรียงรายไปตามเนินเขา และตั้งชื่อใหม่ว่า ชลอสส์ แฮปสเบิร์ก(Schloss Hapsburg) ส่วนพวกกาถูกขับไล่ไสส่ง ไม่ได้รับการเลี้ยงดูอีกต่อไป เมื่อการู้สึกว่าพวกตนถูกละเมิดข้อตกลงจึงเริ่มหันมาทำร้ายผู้ที่อยู่ปราสาท และพวกแฮปสเบิร์กก็ตอบโต้ด้วยการเข่นฆ่ากาบ้าง จนกาเป็นฝ่ายแพ้ ชนิดที่เรียกว่าสองศตวรรษต่อมาไม่ปรากฏกาเรเวนเหลืออยู่ที่ชลอสส์ แฮปสเบิร์กอีกเลย เพราะพวกเขาฆ่าพวกมันจนหมดสิ้น

    แม้พวกแฮปสเบิร์กจะฆ่ากาหมดแล้วก็ตาม แต่มันตายแค่ตัว ส่วนวิญญาณนั้นไม่ได้ตายตาม ว่ากันว่าวิญญาณของกายังคงสิงอยู่ที่ปราสาทชลอสส์ แฮปสเบิร์กแห่งนั้น และทุกครั้งที่ออสเตเลียเข้าสงครามอีกาจะปรากฏตัวแทบทุกครั้งและนั้นหมาย ความว่าฝ่ายออสเจเลยต้องประสบความพ่ายแพ้
    นอก จากกาแล้วยังมีสุภาพสตรีในชุดขาว ที่ไม่มีใครทราบว่าเป็นใครมาจากไหน แต่เมื่อนางปรากฏกายจะเกิดเหตุร้ายกับราชวงศ์ เหมือนเธอมาเตือนให้รู้ตัวล่วงหน้า ให้ทราบว่าไม่มีทางหนีซะตากรรมของตนได้

    คำ สาปเริ่มต้นเมื่อปี 1854 ตอนนั้นจักรวรรดิออสเตเลียอันเก่าแก่ใกล้จะจุดจบ วันหนึ่งรถม้าและกองทหารเกียรติยศได้เดินทางไปตามถนนจากเมืองมิวนิคมุ่งไป ยังเมืองอัชเชิล บนรถม้านั้นมีสุภาพสตรีสามนาง หนึ่งในจำนวนนั้นมี อาร์ชดัชเชล ลูโดวิกา(Archduchess Ludovica) พระชนิษฐาของกศัตริย์ลุดวิกแห่งบาวาเรีย กับพระธาอีกสององค์ องค์โตคือ เจ้าหญิงเฮลีน(Helene)ผู้ซึ่งกำลังเดินทางจะไปเข้า พิธีอภิเษกสมรสกับจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ แห่งออสเตรีย ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของพระองค์ พระธิดาองค์รองคือ เจ้าหญิงเอลิซเบธ หรือซีซี่ อาร์ชดัชเชสได้ที่ทราบว่ากาได้ไปปรากฏตัวที่ป้อมออลมุตซ์ พระนางก็ได้แต่หวังว่ามันจะไม่ปรากฏตัวที่อัชเชิล
    เจ้าหญิงเฮลีนมิได้ทรงปรารถนาจะเป็นจักรพรรดินีแห่งออสเตรีย ดังนั้นพระองค์จึงตรัสพ้อพระมารดาตลอดทาง แต่พระนางลูโดวิกาก็มิได้สนพระทัยว่าพรธธิดาจะปรารถนาหรือไม่ ตราบใดที่ทำตามที่พระนางบอกเป็นใช้ได้ ความจริงเรื่องอภิเษกสมรสครั้งนี้พระนางลูโดวิกามิได้เป็นคนต้นคิด หากเป็นพระประสงค์ของอาร์ชดัชเชสโซเฟีย สมเด็กป้าของฟรานซ์ โจเซฟ ที่จะดึงแคว้นบาวาเรียเข้ามาช่วยพยุงฐานะของออสเตรีย เพราะใครๆ ก็รู้ว่าในตอนนั้น จักรรดิออสโตร-ฮังการีกำลังแย่ สงครามนโปเลียนที่ผ่านมาทำเอาออสเตรียแทบล้มละลาย
    ตรงกันข้ามกับเฮลีนที่กำลังโศกเศร้า ซีซี่ร่าเริงสนุกสนาน ทำให้พระนางลูโดวิกาต้องมองด้วยความสงสัยแล้วพอถึงอัชเชิลความคลางแคลงของ พระนางก็กลายเป็นจริง ในเมื่อจักรพรรดิหนุ่มทรงเลือกซีซี่เป็นคู่อภิเษก ซึ่งเรื่องนี้สร้างความโกรธกริ้วให้กับอาร์ชดัชเชสโซเฟียเป็นอย่างมาก แต่พระนางก็มิอาจทำอะไรได้ งานอภิเษกมีขึ้นที่โบสถ์เซ็นต์ออกัสตินในกรุงเวียนนาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 1854
    และ บัดนี้ซีซีได้กลายเป็นจักรพรรดินีเอลิซเบธแห่งออสเตเรีย จักรพรรดิที่ใหญ่ที่สุดของยุโรปในขณะนั้นไปแล้ว แต่อาร์ชดัชเชสโซเฟียก็จ้องทำลายชีวิตสมรสของจักรพรรดินีลงให้จงได้ พอซีซี่ประสูติพระโอรส พระนางโซเฟียก็แยกพระโอรสออกมาจากซีซี่ โดยอ้างว่าเพื่อจะเลี้ยงดูให้เหมาะสม พระนางจัดหาสาวชาววังที่สวยๆ มาคอยอยู่งานอภิบาลเด็กโดยหวังใช้สาวๆ เหล่านั้นดึงความสนพระทัยจากจักรพรรดิหนุ่มให้มาเสียจากซีซี่ ซึ่งก็ได้ผล ในไม่ช้าซีซี่ต้องรู้สึกทนทุกข์ทรมานถูกโดดเดี่ยว เพื่อคนเดียวที่พระองค์มีคือพระสนองพระโอษฐ์ชื่อ มาร์เกริต คัน ไลฟ์-โอเวน
    ในตอนนั้นก็มีข่าวลื่อในหมู่ชาววังว่าทั้งกาและสตรีในชุดขาวได้ ปรากฏตัวออกมาให้เห็น เพื่อหนีจากเรื่องซุบซิบและว้าเหว่ พระนางซีซี่ก็เลยหาเรื่องเสด็จประพาสประเทศต่างๆ ไปเรื่อยๆ มาร์เกริตเล่าว่าครั้งหนึ่งขณะที่ประพาสแคว้นบริตตาเนีย องค์จักรพรรดินีถูกเรียกให้กลับกรุงเวียนนาด่วน ทิ้งมาณืเกริตให้อยู่บริตตาเนียต่อจนจบกำหนดการ
    บ่ายวันหนึ่งขณะที่มาร์เกริตกำลังขี่ม้าเล่นอยู่แถวแหลมกีเบอรอน เธอได้เหลือบเห็นสตรีในชุดขาวกำลังยืนเซไปมาอยู่บนเงื้อมผา เธอดึงม้าให้หยุดจนมันหงกหลัง พอเธอตั้งหลักได้อีกหน หันกลัยไปดูที่เดิมก็ไม่เห็นสตรีนั้นเสียแล้ว
    คืนนั้น เธอเข้านอนดึกกว่าปกติ เพราะงานเต้นรำคฤหาสน์ เธอนอนได้ไม่นานก็ต้องตื่นขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงแปลก ๆ ตอนแรกคิดว่าเป้นเสียงตีของนาฬิกา แต่แล้วเสียงฝีก้าวเดนอย่างเร็วๆ แสงจันทร์ที่สาดลอดหน้าต่างเข้ามาสว่างพอให้เธอมองเห็นร่างในชุดขาวเหมือน อย่างที่เธอเห็นเมื่อตอนบ่าย เพียงแต่ชัดกว่าสตรีนั้นชี้ให้ดูที่หน้าอก ซึ่งเธอมองเห็นโลหิตหลายหยดไหลออกมาจากบาดแผลรูปสามเหลี่ยมเล็กๆ เธอนึกถึงจักรพรรดินีทันที
    มาร์ เกริตรีบโทรเลขถึงจักรพรรดินีโดยด่วน และก็ได้รับโทรเลขตอบว่าพระนางสบายดี ระหว่างหลายปีมานี้พระนางก็ได้เห็นกาและสตรีในชุดขาวบ่อยๆ
    ก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายต่อจักพรรดินี เหตุร้ายก็เกิดขึ้นกับเจ้าชายรูดอล์ฟมกุฎราชกุมารแห่งออสเตรีย พระราชโอรส ในคืนวันที่ 30 มกราคม 1898 มงกุฏราชกุมารรูดอล์ฟ ได้เสด็จไปพบศาน์เตสมาเรีย เวตเซรา คนรักของพระองค์ที่ตำหนักล่าสัตว์ในป่าเมเยอลิ่ง ทั้งคู่ต่างรู้ดีว่าไม่มีโอกาสอภิเษกกัน เพราะฝ่ายหญิงแม้จะเคาน์เตสแต่ก็เป็นสามัญชน ทั้ง สองเห็นพ้องกันว่าทางออกมีทางเดียวเท่านั้นคือ การฆ่าตัวตาย
    และไม่กี่ชั่วโมงต่อมานานาชาติก็ตกตะลึงเมื่อทราบข่าวว่าพระมกุฎราช กุมารรูดอลฟ์ ใช้พระแสงปืนยิงมาเรียและยิงพระองค์ตายตาม

    ถึงตอนนี้จักรพรรดินีเริ่มเสด็จประพาสถี่ขึ้น และสุภาพสตรีในชุดขาวก็ดูเหมือนจะปรากฏตัวถี่ขึ้นเช่นกัน ในคืนครบรอบ 40 ปีการอภิเษกสมรสของพระนางเมื่อปี 1989 ที่ปราสาทฮอฟเบิร์กที่อยู่ติดกับโบสถ์ที่เคยจัดพิธีอภิเษก ทหารยามผู้หนึ่งด้เห็นสตรีนางหนึ่งแต่งชุดขาวถือไฟสำหรับจุดเทียน เธอหันแบะเดินกลับไปทางเดินเข้าไปในห้องสวดมนต์ ทหารยามผู้นั้นตามเธอไปและบอกยามคนอื่นๆ ให้รู้ตัว พวกทหารยามช่วยกันค้นหาจนทั่วทั้งตึกแต่ก็ไม่มีวี่แววของสตรีผู้นั้น ในคืนเดียวกันก็มีผู้พบเห็นสตรีในชุดขาวที่ปราสาทเชินบรุนน์เช่นกัน เพียงแต่เป็นคนละเวลา
    และ ในเช้าวันศุกร์อีกห้าเดือนต่อมาขณะที่จักรพรรดินีนีเอลิซเบธประทับพักผ่อน พระอิริยาบถอยู่ที่เฉลียงโรงแรมแกรด์โฮเต็ล เมืองโซกซ์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ พระนางทอดพระเนตรลงไปแลเห็นสตรีแต่งขาวจ้องมองอย่างประสงค์ร้าย พระนางจึงร้องให้คนช่วย พวกเจ้าหน้าที่ช่วยกันค้นหาจนทั่วก็ไม่พบตัว ตกค่ำนั้นพระนางออกมาที่เฉลี่ยงก็เห็นสตรีคนเดิมอีกแต่คราวนี้มานั่งอยู่ ใกล้ๆ พระนางตกพระทัยร้องให้คนช่วย และคราวนี้ก็เช่นกันไม่มีผู้ใดพบสตรีผู้นั้น
    วัน ที่ 9 กันยายน ซึ่งก็เพียงไม่กี่วัดถัดมา ตอนนั้นพระนางประทับชมทิวทัศน์อยู่ที่แตรีเตบนเทือกเขาแอลป์กับ มร.เบเกอร์ พนักงานถวายอักษรชาวอังกฤษซึ่งนำตะกร้าผลไม้มาถวาย แล้วขณะที่ มร.เบเกอร์กำลังอ่านคอร์ลีโอเน่ ซึ่งเป็นนวนิยายเกี่ยวกับพวกมาเฟียที่พยายามปลงพระชนม์พวกเจ้านายถวายอยู่ นั้น พระนางก็ตัดผลท้อซีกหนึ่งให้ มร.เบเกอร์ แต่ยังมิทันได้ส่งก็เห็นนกกาเรเวนตัวใหญ่ถลาลงจากต้นสยมาบินวนรอบพระเศียร ปลายปีกของมันปัดท้อพลันหลุดจากพระหัตถ์ มร.เบเกอร์ตกใจมากเพราะเขารู้ว่าหมายถึงถึงอะไร
    บ่ายวันรุ่งขึ้น พระจักรพรรดินีเสด็จออกจากโฮเต็ลที่ประทับในกรุงเจนีวาเพื่อจะประทับเรือ ล่องขึ้นไปตามทะเลสาปเจนีวา มีเคานเตสส์สตาเรย์ นางสนองพระโอษฐ์โดยเสด็จไปด้วย พอไปถึงท่าเรือก็ได้ยินเสียงระฆังเรือเคานเตสส์จึงรีบขึ้นหน้าไปก่อนหมายจะ ไปบอกพวกเจ้าหน้าที่มิให้ยกสะพานออก ทิ้งจักรพรรดินีไว้ลำพัง ทันใดนั้นก็มีชายผู้หนึ่งวิ่งตรงเข้าไปใช้เหล็กหมาดเย็บรองเท้าแทงเข้าที่ พระอุระ และหนีไป ก่อนที่ใครๆ จะรู้ตัวแต่ก็ถูกจับได้ภายหลัง จึงรู้ว่าเป็นชาวอิตาเลียนชื่อลุยจี ลุกเกนี เป็นพวกอนาธิปไตย ส่วนองค์จักรพรรดินีมีผู้ช่วยประคองไว้มิให้ล้ม ตอนแรกคิดว่าพระองค์แค่ถูกล้วงกระเป๋าเท่านั้น พระองค์จึงเสด็จพระราชดำเนินต่อ ลงไปประทับเรือไม่นานก็ทรงเป็นลมแน่นิ่งหมดสติ และเมื่อเรือแล่นกลับเข้าฝั่งก็พบว่าพระองค์ถูกแทงทั้งๆ ที่ไม่มีใครเข้าใกล้พระองค์ตอนอประทับบนเรือ หมอมิอาจช่วยอะไรได้ พระนางสิ้นพระชนม์ด้วยพระโลหิตตกใน(และจนกลายเป็นหนึ่งคดีห้องปิดตายที่ผมลง ไปแล้ว)
    อ่านที่ http://writer.dek-d.com/dek-d/story/viewlongc.php?id=205702&chapter=329
    เหล็กหมาดได้ทำให้เกิดบาดแผลรูปสามเหลี่ยมเล็กและมีโลหิตอูดออกมา เพียงเล็กน้อย ตรงกับที่มาร์เกริต คัน ไลฟ์-โอเวน เห็นที่บริตตานีเมื่อหลายปีก่อนไม่มีผิด

    กากับซะตากรรมของราชวงศ์แฮมสเบิร์กไม่จบเพียงแค่นี้ เมื่อตอนเจ้าชายแม็กซิเลียน(Emperador Maximiliano I) พระอนุชาของจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ และชาล็อตต์ พระมเหสี เดินทางออกจากยุโรปเพื่อไปปกครองเม็กซิโกนั้น ก็ได้มีกาเรเวนตัวหนึ่งบินลงมาเกาะบนหลังตู้เบกี้รถไฟที่เจ้าหญิงชาล็อต ประทับ ต่อมาไม่นานแม็กซิมิเลียมก็ถูกฝ่ายปฏิวัติจับสำเร็จโทษ ส่วนพระนางชาล็อตต์ก็เสียพระจริต
    แต่ เรื่องราวทั้งหมดนี้ไม่ร้ายแรงเท่าเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นต่อไปนี้

    ฟรานซ์ เฟอร์ดินานFranz Ferdinand Karl Ludwig Joseph von Habsburg-Lothringen) พระนัดดาจักรพรรดิฟรานซ์ โจเซฟ ทรงรักอยู่กับเคานเตสส์โซฟี โชแตก (
    แล้ว วันหนึ่งในเดือนมิถุนายน 1914 ขณะที่เจ้าหญิงโซฟีประทับรถพระที่นั่งไปตามถนนในกรุงเวียนนาโดยมีฝูงชนออดู กันตลอดสองข้างทางนั้น พระองค์ก็ได้เห็นฝูงกาบินวนอยู่เหนือท้องฟ้า เจ้าหญิงรู้ว่านี้คือลางไม่ดีเลยยกเลิกหมายกำหนดการทั้งหมด รีบเสด็จไปเมืองโกโนปิชต์ในแคว้นโบฮีเมียโดยด่วน พอถึงก็ตรงไปพบพระสวามีที่กำลังประชุมอยู่กับพวกนายทหาร เจ้าหญิงทรงขอร้องให้พระสวามียกเลิกการเสด็จเยือนเมืองซาราเยโวเสีย
    แต่อาร์ชดยุคเฟอร์ดินานมิอาจทำได้ เพราะบอสเนียกำลังก่อกบฏ พระองค์จำเป็นต้องไปปรากฏตัวพระองค์เพื่อปลุกใจฝ่ายที่สนับสนุนนออสเตรี ยก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป อีกทั้งพระองค์ก็ไม่เชื่อเรื่องกา

    เมื่อ ขอร้องไม่สำเร็จ เจ้าหญิงเลยตามเสด็จไปด้วย แล้วในขณะที่ทั้งสองพระองค์ประทับรถที่นั่งสีแดงเปิดประทุนไปตามถนนในเมือง ซาราเยโวนั่นเอง ก็มีพวกปฏิวัติโยนระเบิดเข้าใส่ แต่ทั้งสองพระองค์มิได้รับอันตราย แม้จะตกพระทัยอยู่บ้าง แต่ก็ทรงให้ไปต่อ และเมื่อรถขับเข้าถนนรูดอร์ฟ ทั้งสองก็ถูกนักศึกษาหนุ่มหัวอนาธิปไตยชื่อ เกบริล ปรินซิป ใช้ปืนยิง ทั้งสองสิ้นพระชนม์ทั้งคู่
    เหตุการณ์ครั้งนั้นได้กลายเป็นชนวนของสงครามโลกครั้งที่หนึ่งในเวลา ต่อมา ที่เป็นเหตุทำให้คนต้องล้มตายหลายล้านคน และทำให้จักรวรรดิราชวงศ์แฮปสเบิร์กต้องพบจุดจบ ความแค้นของอีกาได้ชำระสำเร็จลุล่วงแล้ว

    คำสาปอีกาที่โด่งดังอีกเรื่องคืออีกาที่หอคอยลอนดอน (Tower of London) ป้อมปราสาทนี้ เป็นที่รู้จักกันดี ในฐานะถูกใช้เป็นที่คุมขังและ ประหารบุคคลสําคัญๆ ของอังกฤษมากมาย หลายท่าน ณ ลานปราสาทแห่งนี้จะมีการเลี้ยงดูอีกา จํานวน 6 ตัว เนื่องจากมีคําสาปมานานกว่า 900 ปี ว่า ถ้าหากอีกาลดจํานวนลงเมื่อใด เมื่อนั้นความหายนะจะมาเยือน นครลอนดอน และสิ้นสุดพระราชวงศ์แห่งอังกฤษ!
    เรื่องนี้มีตํานานปรากฏเป็นเอกสาร ในสมัยพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 2 ราวศตวรรษที่ 17 ด้วยนะคะ ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยแต่อย่างใด และทําให้ทุกคนไม่ว่าจะเป็นยาม หรือกษัตริย์ถือเป็นเรื่องจริงจังอย่างเคร่งครัด เช่น ว่า ถ้ามีอีกาตายหนึ่งตัว จะต้องรีบถวายรายงานต่อควีนทันที และต้องจัดหาอีกาตัวใหม่ มาทดแทนโดยด่วน ซึ่งอีกาทุกตัวจะมีชื่อเรียก และถ้าตายก็จะถูกนําไปฝังอย่างมีพิธีการ จะมีการเลี้ยงอีกาไว้สํารองตลอดเวลาถ้าตัวใดล้มป่วย ก็ต้องรีบตรวจสอบ หาไม่ถ้าหากตายโดยโรคติดต่อ (เช่น ไข้หวัดนก) และเช้าขึ้นมาอีกาตายเกลี้ยงละก้อ เชื่อกันว่าทั้งพระราชวงศ์ก็จะอันตรธานไปเช่นกัน

    จากต่วยตูน + +

    http://writer.dek-d.com/
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเชื่อผิดๆของนกที่มีชื่อว่า อีกา
    admin/ December 14, 2015/ สัตว์ปีกที่บินได้

    crow-300x166.jpg ในความเชื่อของคนไทยนั้นเมื่อพูดถึงอีกาเชื่อกันว่าหลายคนคงจะไม่ชอบมันหรือบางคนถึงกับออกแนวรังเกียจมันด้วยซ้ำ เพราะอีกานั้นเชื่อกันว่ามันเป็นสัญลักษณ์แห่งความตายและความอัปมงคลในสายตาของคนทั่วไป มันถูกมองว่าเป็นตัวร้ายมาตลอด และในหลายพื้นที่ในประเทศไทยก็ถือว่ามันมาพร้อมกับความโชคร้ายหรือรางร้ายหรือเหตุร้ายต่างๆ เมื่อไหร่ที่อีกามันปรากฏตัวให้ผู้คนเห็นได้โดยทั่วไป นั่นแปลว่าจะต้องมีเหตุร้ายเกิดขึ้นแน่นอน อาจจะเป็นเพราะว่ามันมีลักษณะที่ตัวของมันมีสีดำไปทั้งตัว และสีดำของมันบ่งบอกถึงความน่ากลัวและไม่ปลอดภัย ลักษณะของอีกานั้นมันมีขนที่ดำสนิทปกคลุมไปทั้งตัว มันยังชอบอยู่ตามที่โล่งหรือใกล้กับชุมชน นิสัยของมันตามปกติแล้วเรามักพบอีกาเกาะหรือบินตามกันเป็นคู่ๆ ชอบบินอยู่สูงๆ อีกามันมีนิสัยค่อนข้างก้าวร้าว และไม่ค่อยอยู่นิ่ง ถ้าไม้จิกคุ้ยอาหารก็จะไล่บินจิกตีกันอยู่ตลอดเวลา และมันยังชอบส่งเสียงร้อง “กา กา กา” อยู่เสมอ อีกาเป็นนกที่มีสายตาดีมาก มันจะออกไข่ครั้งละ 3-5 ฟอง ไข่ของเจ้าอีกานั้นมันจะมีสีเขียวแกมน้ำเงินมันจะมีระยะฟักไข่ 17-19 วันอีกยังจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองของไทยอีกด้วย ในประเทศไทยเรานั้นจะพบอีกาได้บ่อยทั่วประเทศ จากที่ราบสูงไปจนถึงบนภูเขาสูง ทั้งตามทุ่งโล่งพื้นที่การเกษตรกรรม ป่าไม้ ป่าชายเลน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามชุมชนไม่ว่าจะเป็นชนบทหรือในเมืองก็สามารถพบอีกาได้ทั่วไป โดยทั่วไปเราอาจจะมีความเข้าใจผิดว่าอีกาเป็นนกขี้ขโมย แต่ถ้าหากเราวิเคราะห์จากเพลงกล่อมเด็กในสมัยก่อนก็จะทำให้เรารู้ว่าแท้จริงแล้วนกกาเหว่าต่างหากที่เป็นฝ่ายคาบไข่มาทิ้งไว้ในรังอีกา เนื่องจากธรรมชาติของนกกาเหว่าที่เลี้ยงลูกไม่เป็น มันจะเอาไข่ของตัวเองไปให้อีกาเลี้ยง โดยฝ่ายนกกาเหว่าตัวผู้จะเป็นฝ่ายหลอกล่อให้พ่อแม่กาออกมาจากรัง แม่กาเหว่าก็จะอาศัยช่วงทีเผลอคาบเอาไข่ของตัวเองไปวางปนกับไข่ของกา เพราะว่าไข่ของมันคล้ายคลึงกันมาก ซึ่งถือว่าอีกาเป็นนกที่กาเหว่าให้ฟักไข่แทนมากที่สุด อีกาจึงเสียเปรียบมากกว่าจะได้เปรียบด้วยซ้ำ แต่อย่างไรก็ตามอีกาก็เป็นนกที่มีความฉลาดมาก มีสายตาที่ดีมากและมันยังสามารถเลียนเสียงต่างๆได้ดีอีกด้วย

    http://www.americanbuff.com/ความเชื่อผิดๆของนกที่ม/
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เนื่องด้วยตอนนี้ ในอู่ฮั่นเกิดปัญหา ประชาชนหาซื้อยาและอุปกรณ์เพื่อป้องกันตนเองได้ยาก เนื่องจากร้านขายยาจำนวนมากปิดบริการในตอนนี้
    ทางเมืองอู่ฮั่นจึงออกประกาศให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เพื่อให้ร้านขายยาในอู่ฮั่นเปิดให้บริการปกติ ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2563 เป็นต้นไป เพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อยาและอุปกรณ์ดูแลป้องกันตนเองในช่วงการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ พร้อมทั้งมีมาตรการควบคุม "ไม่ให้ขึ้นราคายาและอุปกรณ์สำหรับดูแลตนเอง เช่น หน้ากากอนามัย,แอลกอฮอล์, น้ำยาฆ่าเชื้อ" ตามข้อมูลจาก weibo: 人民日报 (People's Daily)
    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #อัพเดท "ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ในจีน พุ่งถึง 5,997 ราย เสียชีวิต 132ราย(นอกอู่ฮั่นและหูเป่ย 7ราย ) และออกจากรพ.แล้ว 103ราย"
    .
    สำหรับผู้เสียชีวิตยังคงอายุเฉลี่ย 60+ ขึ้นไปและส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว และตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อทั่วจีน 9,239ราย โดยจีนได้เฝ้าระวังและสอบสวนโรคผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อและผู้ที่มีความเสี่ยงไปแล้ว 65,537ราย
    .
    ข้อมูลผู้ติดเชื้อในจีน แบ่งตามพื้นที่ ณ 29มกราคม 2563 เวลา 08.20น. ตามเวลาประเทศไทย
    (สำหรับตัวเลขที่แบ่งตามพื้นที่เป็นข้อมูลอัพเดทเท่าที่มีตอนนี้ครับ อาจจะไม่อัพเดทที่สุด )
    - มณฑลหูเป่ย 3,554ราย (รวมอู่ฮั่น ) เสียชีวิต 125ราย ออกจากรพ.125ราย
    - ปักกิ่ง 91ราย เสียชีวิต1ราย ออกจากรพ. 4ราย
    - กว่างตง 207ราย (รวมกว่างโจว,เซินเจิ้น,จูไห่) ออกจากรพ. 5ราย
    - เซี่ยงไฮ้ 80ราย เสียชีวิต 1 ราย ออกจากรพ.4ราย
    - เจ้อเจียง 173ราย ออกจากรพ.3ราย
    - หยุนหนาน 44ราย (รวมคุนหมิง,ต้าหลี่,ลี่เจียง,สิบสองปันนา,เต๋อหง)
    - ซื่อชวน 90ราย
    - ซานตง 121ราย ออกจากรพ. 1ราย
    - กว่างซี 58ราย ออกจากรพ. 2 ราย
    - กุ้ยโจว 9ราย
    - อันฮุย 106ราย
    - ไห่หนาน 40ราย เสียชีวิต1ราย
    - หนิงเซี่ย 11ราย
    - ฝูเจี้ยน 80ราย
    - เจียงซี 109ราย ออกจากรพ.3 ราย
    - เทียนจิน 24 ราย
    - เหอหนาน 206 ราย เสียชีวิต 2 ราย ออกจากรพ.1ราย
    - ฉงชิ่ง 132ราย
    - ซานซี 27ราย
    - หูหนาน 143 ราย
    - เหลียวหนิง 36 ราย
    - เหอเป่ย 33 ราย เสียชีวิต1ราย
    - จี๋หลิน 8 ราย
    - ซินเจียง 13 ราย
    - ส่านซี 46ราย (รวมซีอาน)
    - ไต้หวัน 8 ราย
    - มาเก๊า 7ราย
    - มณฑลเจียงซู 70ราย (รวม เมืองหนานจิง, เมืองซูโจว) ออกจากรพ. 1ราย
    - กานซู่ 19 ราย
    - เฮยหลงเจียง 33ราย (รวมเมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลนี้ ) เสียชีวิต1ราย
    - เน่ยเหมิงกู่ (เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน) 15 ราย
    - ฮ่องกง 8ราย
    - ชิงไห่ 6ราย
    ชิงไห่มีผู้ติดเชื้อแล้ว ทำให้ตอนนี้เหลือแค่ "ทิเบต" เป็นพื้นที่เดียวที่ยังไม่มีผู้ติดเชื้อแต่ตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยแล้ว ก็ต้องรอลุ้นครับ
    นอกจากนี้มีรายงานว่า ในจีน รักษาและออกจากรพ.แล้ว 103 รายเป็นอย่างน้อย รวมคุณยายวัย87ปีที่อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย
    .
    สำหรับนอกจีน มีผู้ติดเชื้อดังนี้
    - ไทย 14 ราย (รักษาและออกจาก รพ. 5 ราย)
    - เกาหลีใต้ 4ราย
    - ญี่ปุ่น 7 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
    - สิงคโปร์ 7 ราย
    -มาเลเซีย 7 ราย
    -เวียดนาม 2 ราย
    -อเมริกา5 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
    -ออสเตรเลีย 5 ราย
    -เนปาล 1 ราย
    -ฝรั่งเศส 4 ราย
    - แคนาดา 2ราย
    -เยอรมัน 1ราย
    -กัมพูชา1 ราย
    - ศรีลังกา 1 ราย
    อ้ายจงรวบรวมข้อมูลจาก
    -
    https://voice.baidu.com/act/newpneumonia/newpneumonia
    - Weibo:央视新闻, 人民日报
    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การระบาดอย่างรวดเร็วของโรคปอดบวมอู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019
    โรคนี้ระบาดได้อย่างรวดเร็วและมีผู้ป่วยจำนวนมาก (รวม 6000 คนแล้ว) รวดเร็วกว่า SARS หลายเท่า โรค SARS เริ่มเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายน กว่าจะไปเริ่มระบาดจริงๆในเดือนกุมภาพันธ์ และระบาดมากในมีนาคม เมษายน 2003 ก็ไม่เร็วเท่าโรคปอดบวมอู่ฮั่น
    สาเหตุที่เชื่อว่าโรคนี้จะระบาด เกิดขึ้นได้ในประเทศไทย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
    1 การระบาดในประเทศจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่รู้ว่า มีผู้ป่วยปอดบวมพร้อมกัน 41 คน ในขณะนั้นการระบาดเป็นการรับช่วง จากผู้ป่วยส่งต่อกันมาถึงระดับที่ 4 หมายถึง ผู้ป่วยคนแรกไม่น่าจะมาจากตลาดขายของสด ในช่วงเวลาขณะนั้น มีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้สัมผัสตลาดนี้เลย
    2 ความรุนแรงของโรคนี้น้อย เมื่อเปรียบเทียบกับ SARS และ MERS อัตราตายของโรคนี้ ถ้าดูจำนวนเปอร์เซ็นต์จะมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ เชื่อว่าน่าจะน้อยกว่า 1% หรืออาจจะอยู่ที่ 1 ในพัน จากผู้ป่วยที่เป็นนอกประเทศจีน กว่า 100 คนไม่มีผู้ใดเสียชีวิตเลย เพราะการวินิจฉัยจะทำได้ดีและรวดเร็วขึ้น และยอดผู้ป่วยที่แท้จริงจะมีมากกว่าผู้ป่วยที่รายงานมาก ตัวเลขอัตราการตาย ก็จะค่อยๆลดลงเหมือนการระบาดของไข้หวัดใหญ่ ในปี 2009
    3 การนับจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต จะเพิ่มขึ้น และเชื่อว่า อีก 1-2 เดือนต่อไป ก็จะไม่มีการนับแล้วเช่นเดียวกับการระบาดไข้หวัดใหญ่เมื่อ 10 ปีก่อน พอไปถึงระยะหนึ่งก็เลิกนับจำนวน
    4 เมื่อโรคมีความรุนแรงน้อย จึงมีผู้ป่วยจำนวนมากที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย และยังแพร่กระจายโรคได้ มีการเดินทาง จึงทำให้เกิดการแพร่กระจายของโรคได้อย่างรวดเร็ว
    5 ขณะนี้ มีผู้ป่วยที่ไม่ได้ไปสัมผัสในประเทศจีน เกิดขึ้นในหลายประเทศเช่น เวียตนาม ญี่ปุ่นและเยอรมัน ดังนั้นก็จะพบได้อีกในหลายประเทศต่อไป
    6 ความรุนแรงเหมือนไข้หวัดใหญ่ การระบาดจึงเหมือนไข้หวัดใหญ่ ที่พร้อมจะกระจายข้ามทวีป และกระจายไปทั่วโลก อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ซึ่งใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือนก็กระจายไปทั่วโลก
    เราต้องยอมรับความจริง โรคนี้ระบาดแน่ในประเทศไทย และทุกประเทศ แต่ก็ควรมีมาตรการให้ระบาดช้าที่สุด เพื่อรอองค์ความรู้ใหม่ และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับโรคนี้ เราไม่อยากเห็นการระบาดอย่างรวดเร็ว การตั้งรับ การทำงานของบุคลากรสาธารณสุข ความสับสน การทำงาน จะเป็นไปด้วยความยากลำบาก เราไม่อยากเห็นการก่อสร้างโรงพยาบาลสนามแบบจีน
    การระบาดเมื่อประชากรเป็นแล้ว มีภูมิถึงระดับหนึ่ง โรคก็จะสงบ
    ไม่ควรตื่นตระหนก เพราะดูความรุนแรงของโรคแล้ว น่าจะอยู่ในระดับของไข้หวัดใหญ่ ไม่มีใครอยากป่วย ทุกคนจะต้องช่วยกันป้องกัน และลดการแพร่กระจายให้ช้าที่สุด เพื่อลดความสูญเสียให้น้อยที่สุด ลดการตื่นตระหนก ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะยังมาซึ่งความลำบากของประชาชนทุกคน หน้าที่ดังกล่าวจึงเป็นของคนทุกคนที่ต้องช่วยกัน
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Yong Poovorawan

    เมื่อเกิดโรคระบาด
    ไม่มีใครอยากให้เกิด
    โคโรนาไวรัสอู่ฮั่น ไม่ได้รุนแรงไปกว่าไข้หวัดใหญ่
    การรังเกียจชาวจีน วิ่งหนี
    การปฏิเสธการขายของให้ชาวจีน
    เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง
    ทุกคนมีส่วนร่วม ต้องช่วยกันให้ผ่านวิกฤตไปด้วยกัน
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    เพิ่มเติมครั้งที่ 30
    เฝ้าระวังระดับ 1 (สูงสุด) ทั้งประเทศ
    ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ติดตาม สถานการณ์การโรคปอดอักเสบขั้นรุนแรงระบาด ในประเทศจีน ต่อเนื่อง

    /// ใช้มาตรการขั้นสูงสุด ปิดเมืองและควบคุมการเข้าออก ได้แก่ กวางตุ้ง, หูหนาน, เจ้อเจียง, หูเป่ย (อู่ฮั่นอยู่ในมณฑลนี้),เทียนจิน, อันเวย, ปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้, ฉงชิ่ง, เจียงซี, เสฉวน, ซานตง, ยูนนาน, กุ้ยโจว, ฝูเจี้ยน, เหอเป่ย, กวางซี, เจียงซู, ไห่หนาน, ซินเจียง, เหอหนาน, เฮยหลงเจียง, กานซูและเหลียวหนิง
    ** ประมาน 1200 ล้านคน**

    /// เสียชีวิตแล้ว 133 ราย
    * ติดเชื้อขั้นรุนแรง 1650 ราย
    * จีนติดเชื้อ 7000 ราย
    / เฝ้าระวังพิเศษ (มีไข้) 28000-34000 ราย
    //ทางการประกาศให้ ประชาชนที่อยุ่ในพื้นที่เสี่ยงอยุ่ในบ้าน 14 วัน

    ** ประเทศที่พบการติดเชื้อ 18 ประเทศ รวม 62 ราย (ไม่นับรวมผู้หายป่วยแล้ว) **

    ไทย 8 ราย (หาย 6 ราย) ญี่ปุ่น 3 ราย (หาย 1 ราย) เกาหลีใต้ 3 ราย สหรัฐ 5 ราย ออสเตรเลีย 5 ราย ไต้หวัน 2 ราย มาเก๊า 5 ราย สิงคโปร์ 3 ราย เวียดนาม 2 ราย ฮ่องกง 8 ราย ฝรั่งเศษ 3 ราย *เนปาล มาเลเซีย 7 ราย แคนนาดา 1 ราย รัสเซีย 2 ราย(หาย 5) กัมพูชา 1 ราย เยอรมัน 3 ราย ศรีลังกา 1 ราย
    // แต่ละประเทศมีกักตัวเฝ้าระวังพิเศษรวมประมาน 6100 คน

    // ประเทศไทย ได้เปิด ศ.ที่สุวรรณภูมิ เพื่อดูแล นทท.ชาวจีน ที่ตกค้าง ในไทย และคัดกรองผู้ป่วย สามารถรับ นทท.ได้ 25000 คน

    // สั่งสร้าง รพ.พิเศษสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 เตียง สำหรับ #coronavirus โดยได้อ้างอิงตามรูปการจัดการกับ SARS ในปี 2003 โดยการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 3 กพ.นี้
    // สั่งสร้าง รพ.ขนาด 1300 เตียงเพิ่มอีก 1 แห่ง ให้เส็ดภายใน 10 วัน
    // มีการร้องขอเตียงสนามเร่งด่วนเพิ่มอีก 10000 เตียง
    // จีน สั่งอัพเกรด รพ.20 แห่ง ให้รองรับผู้ป่วยได้ 10000 คน

    // จีนเปิดใช้ระบบ 5 G เต็มรูปแบบให้ทีมแพทย์ เพื่อประสานการช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ
    // จีนตั้งทีมรถแท๊กซี่พิเศษ 6000 คัน ในการรับส่งยาไปให้ผู้ป่วยตามบ้าน
    // สั่งผลิตชุดป้องกันระดับ 3 ถุงมือแพทย์ และหน้ากาก 20 ล้านชุด
    // จีนระดมทีมแพทย์เข้าพื้นที่ 30 ทีม รวมจนท.อีก 7000 นาย
    // จีนสั่งระงับการขายทัวร์ไปยังประเทศต่างๆ ชั่วคราว
    // จีนประกาศยกระดับพื้นที่ติดเชื้อรวม 7 มณฑล เป็นระดับภัยพิบัติ ควบคุมทุกอย่างขั้นสูงสุด
    // จีน บังคับใช้กฏหมายขั้นสูงสุด (ติดอาวุธ) ในการควบคุม ดูแล ประชาชน
    // จีนได้ลำเลียง/สั่งผลิตเวชภัณฑ์ ไปพื้นที่ประกาศภัย คือ หน้ากากอนามัย ชุดกั้นเคมี เครื่องมือแพทย์ รวม 10 ล้านชุด
    // รพ 1 แห่งในฮู่ฮั่น ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อ อยุ่ระหว่างควบคุม
    // จีน สั่งห้ามการซื้อขายสัตว์ป่าทุกชนิดทั้งประเทศจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด

    // ประเทศมองโกเลีย ประกาศปิดเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกประเทศ ปิดชายแดนตลอดเขตแนวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ปิดโรงเรียนทุกแห่ง ห้ามจัดกิจกรรมทุกรูปแบบทั่วประเทศ มีผลทันทีถึง 2 มี.ค.
    //ฮ่องกง ประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษทั้งเกาะ ควบคุมการแพร่ระบาด

    **** การอพยพ ****
    /สหรัฐ อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
    /ญี่ปุ่น อพยพแล้ว เครื่องบิน 2 ลำ
    /ศรีลังกา อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
    /ประเทศ ไทยเตรียม อพยพ จนท.นศ.ยังไม่ทราบกำหนด
    /เยอรมัน เตรียมอพยพ ภายใน 1 วัน
    /ฝรั่งเศษ เตรียมอพยพ
    /อืนเดีย เตรียมอพยพ
    /เกาหลีใต้ เตรียมอพยพ
    /ออสเตรเลีย เตรียมอพยพ

    ** องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานสรุป 27 ม.ค 63
    - จีน = ระดับความเสี่ยงสูงมาก
    - ภูมิภาค = ระดับความเสี่ยงสูง
    - ระดับโลก = ระดับความเสี่ยงสูง
    ยังไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน / ห้อง 62 / หน่วยวิจัยสถานการณ์ฉุกเฉินจีน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Smoke Watch

    สถานการณ์จุดความร้อนจากภาพถ่ายดาวเทียมในระบบ VIIRS ประจำวันที่่ 28 มกราคม 2563 พบว่าในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของประเทศไทยพบจุดความร้อนจำนวนทั้งสิ้น 1594 จุด โดยพบว่าพบมากที่สุดที่จังหวัดตาก จังหวัดลำปาง และจังหวัดเชียงใหม่ โดยมีจุดความร้อน 498 จุด 298 จุด และ 268 จุดตามลำดับ

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    สถานการณ์ โคโรนา ในจีน. เสียชีวิตแล้ว 133 ราย
    * ติดเชื้อขั้นรุนแรง 1650 ราย
    จีนติดเชื้อ 7000 ราย
    เฝ้าระวังพิเศษ (มีไข้) 28000-34000

    upload_2020-1-29_10-8-38.png
     

แชร์หน้านี้

Loading...