ติดตามสถานะการณ์

กำแพงเพลิงมาถึงเขตชานเมืองของแคนเบอร์รา
Wall of flames arrives on the outskirts of Canberra
https://Sydneynews.sydney

 

สมัยสามก๊ก“เมืองอู่ฮั่น”เกิดโรคระบาด? ที่ทำให้กองทัพโจโฉแพ้

กองทัพเรือโจโฉถูกเผาทำลาย จนโจโฉต้องหนีขึ้นบก จากจิตรกรรมฝาผนังในวิหารเก๋ง วัดบวรนิเวศวิหาร (ภาพจากราชาธิราช สามก๊ก และไซ่ฮั่น โลกทัศน์ชนชั้นนำไทย, มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์)
ผู้เขียน เสมียนนารี
เผยแพร่ วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ.2563
ในวรรณกรรมสามก๊ก มีการทำศึกของทั้ง 3 ก๊ก หลายๆครั้ง แต่ครั้งสำคัญที่มีกล่าวถึงมาก น่าจะต้องยกให้“ศึกผาแดง” หรือ“ศึกเซ็กเพ็ก” หรือที่คนเราไทยคุ้นเคยว่า“ตอนโจโฉแตกทัพเรือ” ศึกใหญ่ที่แสดงความรู้ ความสามารถทางตัวละครอย่าง“ขงเบ้ง” ที่กล่าวขวัญว่า“สามารถเรียกลมเรียกฝน” หากในประวัติศาสตร์ ศึกครั้งนี้ต้องยกเครคิตให้กับมันสมองอัจฉริยะของ“จิวยี่”

แต่สิ่งที่วรรณกรรม“สามก๊ก” ไม่ได้กล่าวถึงในศึกครั้งนี้คือ“โรคระบาด”

โรคระบาดที่ว่านั้นทำให้ กองทัพเรือขนาดใหญ่ของโจโฉอ่อนแอ หมดสิ้นแสนยานุภาพ และนำมาซึ่งความพ่ายแพ้ เรื่องนี้มีการบันทึกในเอกสารทางประวัติศาสตร์ และมีข้อเสนอทางการแพทย์ในยุคปัจจุบัน นี่จึงไม่ใช่เรื่องที่ไม่มูล หนังสือ “101 คำถามสามก๊ก” (สำนักพิมพ์มติชน) เรียงเรียบเรื่องนี้ไว้เป็นคำถามหนึ่งว่า

“โจโฉพ่ายศึกเซ็กเพ็กเพราะถูกโจมตีด้วยไฟหรือ?”

เพราะผู้คนในอดีตพูดตรงกันว่า การโจมตีด้วยไฟเป็นสาเหตุใหญ่ทําให้ทัพโจโฉแตกพ่าย ตัวอย่างเช่น

กวีนิพนธ์บท “อําลาส่งที่เซ็กเพ็ก” มีข้อความว่า “เปลวไฟท่วมฟ้าส่องมหาสมุทร จิวยี่ยุทธ์ตีโจโฉพายที่นี่”

กวีนิพนธ์เพลงฉือทํานองเนียนหนูเจียว (สาวงามนามเนี่ยนหนู) บทหวนรําลึกศึกเซ็กเพ็ก ก็กล่าวว่า “ในชั่วเวลาสนทนารื่นเริง ทัพเรือโจโฉก็กลายเป็นเถ้าธุลี”

พงศาวดารสามก๊กจี่ ภาคจ๊กก๊ก บทประวัติเล่าปี่ก็บันทึกไว้ชัดเจนว่า “ซุนกวนส่งจิวยี่และเทียเภาส่งทัพเรือนับหมื่นร่วมกําลังกับเล่าปี่ รบกับโจโฉที่เซ็กเพ็ก เผาทัพเรือโจโฉจนแตกพ่ายยับเยิน” ข้อความว่า “เผาทัพเรือ” ย่อมหมายถึงโจมตีด้วยไฟ

แต่คำถามใน101 คำถามสามก๊ก เฉลยไว้ว่า “แพ้เพราะโรคระบาด”

✕
บทความเรื่อง “สืบค้นวิเคราะห์เรื่องโรค พยาธิใบไม้ดูดเลือดกับการพ่ายศึกเซ็กเพ็กของโจโฉ” ของนายแพทย์หลีโหย่วซง ซึ่งพิมพ์เผยแพร่ใน “จงหัวอีสื่อจ๋าจื้อ-วารสารประวัติการแพทย์จีน” ฉบับที่ 2 ค.ศ. 1981 ได้แสดงความกังขาต่อทฤษฎีโจมตีด้วยไฟ เขามีความเห็นว่า โจโฉพ่ายศึกเซ็กเพ็กเพราะโรคระบาด คือโรคพยาธิใบไม้ในเลือด (Snail Fever หรือ Scistosomiasis – ผู้แปล)

พงศาวดารสามก๊กจี้ ภาควุยก๊ก บทประวัติโจโฉ ตอนที่กล่าวถึงศึกเซ็กเพ็กไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องการโจมตีด้วยไฟ กลับยืนยันว่าเกิดโรคระบาด “โจโฉยกทัพถึงเซ็กเพ็ก รบเล่าปี่ ไม่ได้เปรียบเพราะเกิดโรคระบาด ไพร่พลตายมาก จึงยกทัพกลับ” อีกทั้งตัวโจโฉซึ่งเป็นแม่ทัพของคู่สงครามก็ไม่ยอมรับ ว่าแพ้เพราะถูกโจมตีด้วยไฟ

พงศาวดารสามก๊กจี้ ภาคง่อก๊ก บทประวัติจิวยี่ อ้างอิงข้อความจาก “เจียงเปี่ยวจ้วน” มาว่า หลังจากศึกเซ็กเพ็กแล้ว โจโฉเขียนจดหมายถึงซุนกวน มีข้อความตอนหนึ่งว่า “คราวศึกเซ็กเพ็ก เกิดโรคระบาด ข้าจึงเผาเรือถอยทัพกลับเอง ทําให้จิวยี่มีชื่อเสียงกํามะลอขึ้นมา” ดูไปแล้วโรคระบาดเป็นสาเหตุสําคัญประการหนึ่งที่ทําให้โจโฉพ่ายศึกครั้งนี้จริงๆ

ช่วงศึกเซ็กเพ็ก ทัพโจโฉแปรพลเป็นทัพเรือและซ้อมรบในฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับโรคพยาธิใบไม้ในเลือดได้ง่าย ทหารโจโฉส่วนมากเป็นคนภาคเหนือ มีภูมิต้านทานโรคนี้น้อย พวกเขาทิ้งอานม้ามาลงเรือ ได้รับเชื้อ (คือไข่พยาธิ) ก็เกิดโรคทันทีและระบาดไปได้ง่าย

พยาธิฟักตัวอยู่ในร่างกายคน 1 เดือนขึ้นไปก็จะเข้าสู่ช่วงอาการรุนแรงของโรค ฉะนั้นในช่วงซ้อมรบก็จะมีทหารทยอยป่วย ถึงช่วงฤดูหนาวซึ่งรบแตกหักก็เข้าสู่ช่วงโรค กําเริบรุนแรง ทหารโจโฉจึงอ่อนล้าสูงสุด เป็นเหตุให้พ่ายแพ้

โรคพยาธิใบไม้ในเลือดมีในจีนมาแต่โบราณ โรค “ซานเฟิงกู่” ในตําราแพทย์ยุคโบราณและในหนังสือ “จูปิ้งหยวนโฮ่วลุ่น-วิเคราะห์วิจารณ์ สาเหตุของสรรพโรค” ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 7 ล้วนมีบันทึกเรื่องโรคที่คล้ายกับโรคพยาธิใบไม้ในเลือด

ศพผู้หญิงในสุสานหม่าหวางตุยซึ่งขุดพบเมื่อ ค.ศ. 1973 นักวิจัยพบไข่ของพยาธิใบไม้ในเลือดที่ตับและผนังลําไส้ของเธอ เป็นหลักฐานว่าอย่างน้อยในยุคราชวงศ์ฮั่น ในย่านเมืองฉางซามีโรคนี้อยู่

การสอบค้นหลักฐานทางเอกสารแสดงชัดว่าพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับศึกเซ็กเพ็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมณฑลหูเป่ย ที่ปัจจุบันมีเมืองอู่ฮั่นเป็นเมืองเอก กับมณฑลหูหนัน เป็นเขตที่โรคพยาธิใบไม้ในเลือดระบาดรุนแรง

ข้อมูลจาก

หลี่ฉวนจวินและคณะ (เขียน),ถาวร สิกขโกศล (แปล). 101 คำถามสามก๊ก, สำนักพิมพ์มติชน มีนาคม 2559

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 28 มกราคม 2563


https://www.silpa-mag.com/history/article_44866

 

■ ไวรัสอู่ฮั่นแพร่ระบาด 'คน สู่ คน'
อุปสรรคชิ้นใหญ่ ต่อการควบคุมการแพร่ระบาด
.
1.กระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นแถลงล่าสุดวันนี้ ถึงสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (ไวรัสอู่ฮั่น) ในญี่ปุ่นว่า มีผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 2 คน ทำให้จำนวนผู้ป่วยในประเทศตอนนี้อยู่ที่ 6 คน
.
2.รายล่าสุดที่ติดเชื้อนั้น เป็นชายชาวญี่ปุ่น อายุ 60 ปี ประกอบอาชีพพนักงานขับรถบัสโดยสารอยู่ที่จังหวัดนาระ เข้ารับการรักษาตัวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
.
3.ชายญี่ปุ่นรายนี้ ไม่เคยเดินทางไปประเทศจีน ไม่เคยไปเมืองอู่ฮั่น เมืองเอกของมณฑลหูเป่ย์ ภาคกลางของจีน แหล่งกำเนิดและศูนย์กลางการแพร่ระบาด
.
4.ติดเชื้อได้ยังไง? จากการสืบสวนที่มาที่ไป ชายรายนี้เคยขับรถให้กับกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น 2 ครั้งในเดือนนี้
.
5.ข้อมูลนี้เพิ่มน้ำหนักให้กับสมมติฐานที่ว่า ไวรัสอู่ฮั่นแพร่ระบาดจากมนุษย์สู่มนุษย์ได้ไม่ยาก เป็นอุปสรรคชิ้นโตต่อกระบวนการควบคุมการแพร่ระบาด
.
6.องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ระยะฟักตัวของไวรัสอู่ฮั่น อย่างน้อย 2 วัน สูงสุด 10 วัน และยังไม่มีการยืนยันว่า การติดเชื้อสามารถเกิดขึ้นได้แม้เชื้อโรคยังอยู่ในช่วงฟักตัวหรือไม่
.
7.กระทรวงการต่างประเทศของญี่ปุ่นแถลงถึงการอพยพพลเมืองญี่ปุ่นออกจากอู่ฮั่นด้วยว่า พลเมืองญี่ปุ่นราว 650 คนแสดงความจำนงขอเดินทางกลับประเทศ
.
8.เที่ยวบินเช่าเหมาลำของรัฐบาลญี่ปุ่นเที่ยวแรก จะออกเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นในคืนวันนี้ (อังคารที่ 28 ม.ค.) เพื่อรับชาวญี่ปุ่นกลับประเทศ ซึ่งรับกลับได้เที่ยวละ 200 คน เท่านั้น
.
.........................
.
■ สถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่นในจีน 'ล่าสุด'
.
1.คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนแถลงล่าสุดถึง สถานการณ์โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) ทั่วประเทศจีน เสียชีวิตแล้ว 106 ราย
.
2.จำนวนผู้ป่วย 4,515 ราย ในจำนวนนี้ 976 รายอยู่ในขั้นวิกฤต
.
3.จำนวนผู้ป่วยต้องสงสัยว่าติดเชื้อ อยู่ที่ 6,973 ราย ในจำนวนนี้ 60 รายได้รับการปล่อยตัว หลังได้รับการรักษาจนหายดี
.
4.รัฐบาลจีนบังคับใช้มาตรการการควบคุมและป้องกันไวรัสอู่ฮั่นอย่างเข้มงวดทั่วประเทศ
.
5.มีการตั้งจุดตรวจอุณหภูมิร่างกายตามสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสนามบิน สถานีรถไฟ โรงพยาบาล
.
6.มีการฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามรถขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟ รถประจำทาง รถแท็กซี่
.

 

ไวรัสอู่ฮั่นพ่นพิษ"ไทยแอร์เอเชีย"ผู้โดยสารหาย 3 แสนคน
*วอนขอให้มั่นใจนั่งเครื่องบินปลอดภัยชัวร์
*ติดฟิลเตอร์กรอง-ฉีดฆ่าเชื้อทุกลำทุกวัน!!!
นายสันติสุข คล่องใช้ยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยถึงผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนว่า ขณะนี้ไทยแอร์เอเชียหยุดบินในเส้นทางอู่ฮั่นจากกรุงเทพฯ และภูเก็ต รวม 3 เที่ยวบินต่อวันแล้ว ซึ่งจะหยุดบินถึงวันที่ 29 ก.พ.นี้ เนื่องจากสนามบินอู่ฮั่นปิดให้บริการ
ส่วนการห้ามบริษัทนำเที่ยวทั่วประเทศจีนหยุดขายกรุ๊ปทัวร์นั้น ส่งผลให้ไตรมาสที่ 1 ปี 63 ผู้โดยสารของไทยแอร์เอเชีย หายไปประมาณ 35% ของผู้โดยสารจีนทั้งหมด คิดเป็นประมาณ 3 แสนคน ในจำนวนนี้รวมผู้โดยสารจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาเตอร์ไฟลท์) ประมาณ 8 หมื่นคนด้วย หากเทียบทั้งปีรายได้จะหายไปประมาณ 3%
ทั้งนี้มั่นใจว่าสถานการณ์น่าจะกลับเข้าสู่ปกติในไม่ช้านี้ เพราะทั้งรัฐบาลไทยและจีนมีมาตรการควบคุมที่เข้มข้นมาก ซึ่งเมื่อวิกฤติเรื่องนี้จบหากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นที่ดี เชื่อว่าในไตรมาสที่ 2-4 คงจะสามารถทำจำนวนผู้โดยสารชดเชยกับผู้โดยสารที่หายไปได้
นายสันติสุข กล่าวอีกว่า ขอให้ผู้โดยสารทุกคนมั่นใจได้ว่า การเดินทางทางอากาศ โดยเฉพาะกับสายการบินไทยแอร์เอเชียจะปลอดภัยแน่นอน เพราะเครื่องบินทุกลำมีการติดฟิลเตอร์กรองอากาศฮีป้า (HEPA) ซึ่งทางแอร์บัสยืนยันมาแล้วว่า สามารถกรองฝุ่น และเชื้อโรคต่างๆ ได้มากกว่า 90%
ดังนั้นระบบอากาศภายในเครื่องบินจะสะอาดและปลอดภัยแน่นอน อย่างไรก็ตามสำหรับมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อโรคนั้น จะมีการทำความสะอาดเครื่องบินทุกลำทุกวัน พ่นยาฆ่าเชื้อ และอบเครื่องไว้ประมาณ 15 นาที โดยเครื่องบินที่มีเส้นทางบินจากประเทศจีน,ฮ่องกง และมาเก๊า จะทำความสะอาดทุกครั้งที่เที่ยวบินมาถึงดอนเมือง
นายสันติสุข กล่าวด้วยว่า สำหรับเส้นทางบินเข้า-ออกประเทศจีนของสายการบินไทยแอร์เอเชีย (FD) มีทั้งสิ้น 14 เมือง รวม 20 เส้นทาง, ฮ่องกง และมาเก๊า รวม 2 เมือง 6 เส้นทาง และเชียงใหม่-ไทเป ส่วนไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ (XJ) มีบินตรงเส้นทางเดียว ดอนเมือง-เซี่ยงไฮ้ 1 เมือง 1 เส้นทาง.
❤️❤️ฝากกด Like กด Share เพจ “ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์” ด้วยนะค๊า
#ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์
#ไทยแอร์เอเชีย
#ไวรัสอู่ฮั่น
#สันติสุขคล่องใช้ยา

 

ฟิลิปปินส์ออกคำสั่งด่วนระงับวีซ่านักท่องเที่ยวจีนจากทุกเมือง หวั่นไวรัสลามสู่ประชาชน
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฟิลิปปินส์ประกาศระงับการออกวีซ่าท่องเที่ยว ณ ประเทศปลายทาง (Visa on arrival) ให้แก่ชาวจีนชั่วคราว โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยทางการฟิลิปปินส์ได้ใช้มาตรการดังกล่าวเพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้โอกาสที่เชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่แพร่ระบาดเข้าสู่ฟิลิปปินส์นั้นจะลดลงตามไปด้วย
https://www.tcijthai.com/news/2020/1/asean/9823

 

update สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่: พม่าสั่งปิดท่าเรือริมฝั่งน้ำโขงตอนบนเพิ่ม สกรีนชาวจีนห้ามขึ้นฝั่ง
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ ผู้จัดการออนไลน์ รายงานเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 ว่าด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ชายแดนไทย-สปป.ลาว ยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนจากมณฑลยูนนาน เดินทางด้วยรถยนต์ผ่านถนนอาร์สามเอ แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 เข้าชายแดนเชียงของ อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเกิดวิกฤตไวรัสโคโรนาในประเทศจีน
โดยเมื่อวันที่ 27 ม.ค. มีผู้เดินทางเข้ามาจำนวน 150 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่าทั้งหมดมีอาการปกติ จึงให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพและสวมใส่หน้ากากก่อนให้เดินทางเข้าไทยได้ตามปกติ ส่วนเมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมามีชาวจีนเดินทางเข้ามาจำนวน 133 คน และเมื่อรวมยอดตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมาเป็นต้นมา มีชาวจีนเข้ามารวมกันจำนวน 863 คน ขณะที่บางส่วนก็ทยอยเดินทางกลับประเทศโดยใช้เส้นทางสายเดียวกันนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม นายทัศนัย สุธาพจน์ นายอำเภอเชียงของ ได้เรียกประชุมทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรับทราบสถานการณ์หลังจากยังคงมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสัญจรผ่านพื้นที่เข้าไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินทางด้านการแพทย์และสาธารณสุข จ.เชียงราย ก็ได้ตั้งจุดคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศทั้งที่ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย, ท่าเรือพาณิชย์แม่น้ำโขง อ.เชียงแสน และด่านพรมแดนชียงของ จนถึงขณะนี้ยังไม่พบความผิดปกติจากชาวจีนที่เดินทางเข้ามาแต่อย่างใด
ขณะที่สถานการณ์การเดินเรือในแม่น้ำโขงก็ได้รับผลกระทบจากโรคไวรัสโคโรนาเช่นเดียวกัน ล่าสุดนอกจากเมียนมาจะปิดด่านเมืองลา เขตปกครองพิเศษที่ 4 ของพม่า ที่เชื่อมต่อกับมณฑลยูนนาน สป.จีน แล้ว ยังคุมเข้มบริเวณท่าเรือสบโหลย เมืองท่าสำคัญริมแม่น้ำโขง ห้ามไม่ให้ชาวจีนที่มาจากมณฑลหูเป่ย โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่นที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรคได้ขึ้นฝั่งพม่าด้วย
ที่มาข้อมูลและภาพ: ศูนย์ข่าวภาคเหนือ ผู้จัดการออนไลน์
#ไวรัสโคโรนา
#โรคระบาด
#พม่า
#TheGlocal
#ท้องถิ่นเคลื่อนโลก

 

#ข่าวทั่วไทย
ชี้ กม.ไม่อนุญาตให้ร้านอาหารใช้อุปกรณ์ปิ้งย่างบนโต๊ะเป็นแก๊ส-ถ่าน ระบุเป็นหน้าที่ 'ท้องถิ่น' เข้าไปควบคุมกำกับ
เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2563 พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้างสรรพสินค้าฟอร์จูน รัชดา กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีต้นเพลิงมาจากร้านอาหารปิ้งย่าง ว่า เรื่องนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัด แต่ปัจจุบันมีกฎหมายกำหนดเรื่องอุปกรณ์ที่ใช้เสิร์ฟบนโต๊ะอาหาร ซึ่งอุปกรณ์ที่ให้ความร้อนนั้นกฎหมายอนุญาตเฉพาะอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าเท่านั้น ส่วนชนิดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นแก๊ส หรือถ่าน กฎหมายไม่อนุญาตให้ทำได้ เพราะเวลาเกิดเหตุแล้วควบคุมกำกับได้ยาก ยกเว้นในห้องครัวซึ่งมีระบบดูแลเฉพาะอยู่ แต่ถ้าเป็นภายในร้าน บนโต๊ะอาหารของผู้บริโภคจะไม่อนุญาตเลย ทั้งนี้เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายที่จะเกิดขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่ามีการเกิดเหตุอันตรายอยู่บ่อยครั้ง การใช้งานของพวกนี้เหมือนว่าต้องมีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์ว่าเป็นรุ่นไหน ใช้อย่างไร ควบคุมอย่างไร ไม่อย่างนั้นจะเป็นอันตรายได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าตอนนี้ร้านปิ้งย่างที่ให้ผู้บริโภคปิ้งย่างกันเองบนโต๊ะอาหาร กรมอนามัยได้สำรวจหรือไม่ว่ามีลักษณะอย่างไร พญ.พรรณพิมล กล่าวว่า กรมอนามัยจะดูตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งออกเป็นแนวทางให้ท้องถิ่นเป็นผู้รับไปดำเนินการสุ่มตรวจ เพราะเวลาเปิดร้านอาหารต้องมาขออนุญาตและระบุประเภทร้านอาหารที่จะเปิด ดังนั้นพอลงไปตรวจก็จะพบว่าปฏิบัติตามที่มาขออนุญาตหรือไม่ แต่ตอนนี้ในส่วนของกรุงเทพฯ นั้นปริมาณร้านอาหารมีเยอะมาก ทั้งนี้ หลังจากกรมอนามัยมอบอำนาจให้ท้องถิ่นดูแลจัดการแล้ว ทางท้องถิ่นไม่จำเป็นต้องรายงานให้กรมอนามัยทราบก็ได้ แต่ที่ผ่านมาก็มีความร่วมมือกันทำงานมาตลอด กรมฯ ก็ลงพื้นที่บ้าง บางเรื่องที่ท้องถิ่นไม่สามารถดำเนินการได้ในทางเทคนิค กรมอนามัยก็จะลงไปช่วยสนับสนุน
“กรณีเกิดเหตุไฟไหม้ หรืออันตรายที่เกิดในร้านอาหารต่าง ๆ โดยหลักการเราจะลงไปสอบสวนสาเหตุเพื่อหาวิธีการป้องกัน แต่ถ้าเป็นเพลิงไหม้ ระบบสอบสวนต้องชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็นแบบไหน อย่างไร ต้นเพลิงมาจากไหน ตามกฎหมายท้องถิ่นจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเอาผิด” พญ.พรรณพิมล กล่าว
ที่มาข้อมูล: Hfocus
ที่มาภาพประกอบ: Wongnai

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

จีน Coronavirus ทำให้เกิดความกังวล ทีมจะมาพร้อมกับหน้าการและเล่นในสนามกีฬาที่ว่างเปล่าไม่มีผู้ชมในเซี่ยงไฮ้

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ใน Harbone สหราชอาณาจักร ผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัส จะถูกถ่ายโอนไปยังรถพยาบาลและกักกัน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

คนขับรถโดยสารในประเทศจีนชี้ปืนของเขาไปที่ผู้โดยสาร ที่ต้องการขึ้นรถบัสโดยไม่มีหน้ากากเนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัส

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ท่ามกลางการขาดแคลนหน้ากากทางการแพทย์ในประเทศจีนเนื่องจากการแพร่กระจายของ coronavirus ผู้คนได้คิดค้นเทคโนโลยีของพวกเขา

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การพบเห็นอีกาเพิ่มเติมในท้องฟ้าของจีน # 28 ม.ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อย่างน้อยมีผู้เสียชีวิต 8 รายในกองไฟในแอละแบมา

ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อกำลังนอนหลับอยู่บนเรือที่พวกเขาใช้เป็นเรือนแพ

ทีมกู้ภัยยังคงมองหาเหยื่อที่เป็นไปได้เนื่องจากจำนวนคนบนเรือในช่วงเวลาของเหตุการณ์ไม่เป็นที่ทราบจำนวนที่แน่นอน

 

วันนี้ (28 ม.ค.2563) ไทยพีบีเอส รวบรวมประเทศที่เตรียมอพยพพลเมืองออกจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยของจีน เนื่องจาก #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 เบื้องต้น มีรายงานแล้ว 9 ประเทศ
#ญี่ปุ่น ยืนยัน จะส่งเครื่องบินไปรับพลเมืองประมาณ 200 คน ในมณฑลหูเป่ย
.
#ออสเตรเลีย กระทรวงการต่างประเทศกำลังเจรจากับทางการจีน และหารือแผนอพยพร่วมมือสหรัฐฯ และอังกฤษ รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่อาจจะร่วมมือกับนิวซีแลนด์อพยพคนกลับพร้อมกัน
.
#อินเดีย สื่อรายงานว่ารัฐบาลจะขออนุญาตรัฐบาลจีน รับพลเมืองกว่า 250 คนออกจากเมืองอู่ฮั่น พร้อมเตรียมเครื่องบินโบอิ้ง 747 รอไว้แล้ว
.
#ศรีลังกา กำลังเตรียมความพร้อมรับนักเรียน 860 คนออกจากจีน ในจำนวนนี้ 32 คน อยู่ในอู่ฮั่น
.
#เกาหลีใต้ จะส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับภายในสัปดาห์นี้
.
#สหรัฐอเมริกา เตรียมเครื่องบินเช่าเหมาลำ เดินทางออกจากสหรัฐฯ วันที่ 29 ม.ค.นี้ เตรียมรับนักการทูตและครอบครัวรวมถึงพลเรือน ประมาณ 240 คน กลับซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย
.
#ฝรั่งเศส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า จะเริ่มอพยพกลางสัปดาห์นี้
.
#สเปน กำลังเจรจากับจีนและสหภาพยุโรป เรื่องอพยพชาวสเปนออกจากพื้นที่ระบาด
.
#ประเทศไทย รัฐบาลรอทางการจีนอนุญาตให้นำเครื่องเข้าประเทศและรอการร้องขอจากนักศึกษา เตรียมเครื่อง C-130 จำนวน 2 ลำ พร้อมทีมแพทย์เดินทางไปอพยพทันที #ThaiPBSnews

 

สายการบินไทย เพิ่มมาตรการป้องกันไวรัสโคโรนาขั้นสูงสุด พ่นยาเพื่อฆ่าเชื้อทุกเที่ยวบิน ตั้งศูนย์การจัดการและปฎิบัติการกรณีวิกฤต เพื่อติดตามปรับแผนตามสถานการณ์ความรุนแรง

 

การระบาดในครั้งนี้ รัฐบาลจีนไม่ได้ต่อสู้กับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เท่านั้น แต่ยังเผชิญกับวิกฤตศรัทธาของประชาชน ที่ไม่เชื่อมั่นว่ารัฐบาลจะรับมือกับปัญหาได้จริง ยิ่งไปกว่านั้นหลายคนเชื่อว่า รัฐบาลกำลังปกปิดตัวเลขผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอยู่ ทั้ง ๆ ที่หลายประเทศชื่นชมว่า รัฐบาลจีนรับมือกับการระบาดได้ค่อนข้างดี

 

#พิจิตร แม่น้ำยมแห้งต่อเนื่อง ส่งผลให้ สัตว์น้ำ ที่อาศัยบริเวณแหล่งน้ำหน้าวัดเขตอภัยทาน โดยเฉพาะหอย ที่อาศัยในแหล่งน้ำในแม่น้ำยมตายเกลื่อน ส่งผลระบบนิเวศน์ทางน้ำ เสี่ยงสูญพันธุ์
#แม่น้ำ #แล้ง

 

Setiawan

# UF0
การปะทุของ # ภูเขาไฟ Popocatépetlในคืนวันจันทร์ที่ 27 มกราคม 2020 เวลา 23:18 น.
มุมมองจาก San Nicolás de los Ranchos, #Puebla
Traffic สัญญาณไฟเตือนภูเขาไฟอยู่ในสีเหลือง ระยะที่ 2
คุณเห็นอะไร?
#UF0
Explosion of #Popocatépetl on Monday night, Jan27 2020 at 23:18 hrs.
View from San Nicolás de los Ranchos, #Puebla.
The Volcanic Warning Traffic Light is in Yellow Phase2.
What do you see?

 

สิงคโปร์บอก
.
"เราต้องการลดความเสี่ยงและปกป้องประชาชน จึงจำเป็นต้องพัฒนามาตรการเฝ้าระวังเช่นนี้" #ไวรัสโคโรนา #อู่ฮั่น