ติดตามสถานะการณ์

#อินทรีย์ปีกหักที่อาฟกัน
#งงในงง #ตกลงใครยิงร่วง?
เมื่อวานนี้ 27 มกราคม มีรายงานข่าวว่า เครื่องบินทหารของสหรัฐตกที่ชานเมืองภาคตะวันออกในอาฟกานิสถาน
ตกตั้งแต่เมื่อวาน แต่ทางการสหรัฐไม่ให้ข้อมูลอะไรออกมาเลย เพิ่งมายืนยันเอาวันนี้ว่า ตกจริง
เครื่องบินทหารที่ตกเป็นรุ่น US Bombardier E-11A เป็นเครื่องรุ่นไม่เก่ามาก ใช้มาเมื่อปี 2009 และมีการติดตั้งอุปกรณ์สื่อสารทันสมัย จนได้รับสมญาว่า "Wifi ประจำน่านฟ้า" เป็นเครื่องบินสื่อสารของหน่วย Battlefield Airborne Communicaitons Node (BACN)
โดยจุดตกนั้นอยู่ที่จังหวัดกาห์นี ทางด้านตะวันออกของอาฟกานิสถาน ซึ่งเป็นเขตที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มตาลีบัน
ทันทีที่มีข่าวเครื่องบินทหารสหรัฐตก ทางโฆษกของตาลีบันก็ออกมาแถลงข่าว เคลมผลงานว่าเป็นฝีมือของกองทัพตาลีบันเอง เนื่องจากเครื่องบินกองทัพสหรัฐมาบินโฉบตากอากาศเหนือน่านฟ้าเขตปกครองของกลุ่มตาลีบัน เห็นแล้วมันคันจมูก ก็เลยสอยซะ แถมสอยสำเร็จด้วย ทำให้ทหาร พร้อมกัปตันบนเครื่องเสียชีวิตยกลำ
หากเป็นเช่นนั้นจริง เท่ากับว่ากองทัพสหรัฐจะสูญเสียทหารทั้งหมด 5 นาย พร้อมเครื่องบิน E-11A ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
แถลงขนาดนี้แล้ว สหรัฐก็ยังเงียบๆ นักข่าวก็วิ่งเข้าไปสอบถามหน้ากระทรวงกลาโหม ตกลงตาลีบันสอยเครื่องบินสหรัฐตกจริงหรือไม่
ทางกลาโหมสหรัฐก็ยังไม่ให้ข้อมูลรายละเอียดอะไร นอกจากจะยืนยันว่าตกจริง แต่ไม่ยืนยันจำนวนทหารที่เสียชีวิตใดๆ บอกเพียงว่า เครื่องบินไม่ได้ถูกข้าศึกยิงตก
แต่ตกได้อย่างไร เดี๋ยวขอเวลาสืบสวนก่อน?
ถ้าไม่ได้โดนยิงตก บินอยู่ดีๆ มันจะร่วงลงมาได้ยังไง?? ฟังแล้วก็น่าสงสัย ทำไมมันถึงลึกลับนัก?
จากข้อมูลของสำนักข่าว BBC ระบุว่า เครื่องบินสื่อสารรุ่น E-11A นี้ มีการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณเครือข่ายที่ทันสมัยมาก เพดานบินก็สูง และในกองทัพสหรัฐ มีเครื่องรุ่นนี้ ประจำการเพียง 4 ลำ ที่เขาว่า กองทัพสหรัฐใช้เป็นเครื่องบินสอดแนมเหนือน่านฟ้าอาฟกานิสถาน จะถูกศัตรูเพ่งเล็ง ก็ไม่แปลก
แต่กองทัพตาลีบัน ก็ไม่น่าจะมีขีปนาวุธ ที่สามารถสอยเครื่องบินระดับ E-11A ร่วงได้ หากกำลังบินอยู่บนฟ้า ที่สูงมากๆ

พอสอบถามไปที่ฝ่ายตาลีบัน เขาก็ยืนยันว่าสอยจริงๆ ไม่ได้โม้ แต่ถามว่า ใช้อะไรสอย ทางตาลีบันก็ไม่ให้ข้อมูลเหมือนกัน บอกแต่ว่ามีของก็แล้วกัน
ทางสหรัฐบอกเครื่องตกเอง คนเสียชีวิตไม่ยืนยัน ส่วนฝ่ายตาลีบัน บอกว่าเป็นคนยิงตก มีตายชัวร์ๆ ตกลงยังไงแน่?
กองทัพสหรัฐก็ดูจะไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่ กับเครื่องบินที่ตกไป ยืนยันว่าไม่มีใครสอยเครื่องบินสหรัฐตกทั้งนั้นแหล่ะ เดี๋ยวรอสืบหลักฐานก่อน ตอนนี้ไปสนใจข่าวไวรัสอู่ฮั่นที่จีนดีกว่า และถึงแม้ว่า อุบัติเหตุครั้งนี้จะเกี่ยวข้องกับกลุ่มตาลีบันจริง ก็จะไม่มีผลกระทบกับการเจรจาสงบศึกกับตาลีบัน และแผนการถอนทหารออกจากอาฟกานิสถานแต่อย่างใด
มันก็แปลกดี แลดูเหมือนไม่ใช่วิสัยของพญาอินทรีย์ ที่มักจะไม่ยอมอะไรง่ายๆ หวงแม้กระทั่งกระจกสถานฑูต ใครทำแตก ถึงขั้นแลกโดรน
แต่กับกลุ่มตาลีบัน นี่ทางสหรัฐ เหมือนจะไม่ค่อยอยากจะพูดถึงเท่าไหร่ เป้าหมายก็ชัดเจน อยากยุติสงคราม 18 ปี ถอนทุนแล้วกลับบ้าน
ปมสงคราม 18 ปี อาฟกานิสถาน เคยเขียนไว้แล้ว ครบรอบ 1 ปีพอดี ใครจะเชื่อ ย้อนอ่านได้ที่นี่ค่ะ

แล้วกลุ่มตาลีบันก็เปิดหน้าโจมตีกองทัพสหรัฐ และ รัฐบาลอาฟกานิสถานตลอด ก็ไม่เห็นฝ่ายสหรัฐจะแสดงท่าทีเป็นฟืน เป็นไฟอะไร เหมือนเคสอื่นๆ กับประเทศคู่ปรับอื่นๆ
ก็ลองมาตามกันดู สรุปสุดท้ายแล้วจะมีข่าวรายละเอียดการตกของเครื่องบินกองทัพสหรัฐลำนี้หรือเปล่านะค้า

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

กิจกรรมของภูเขาไฟ Shiveluch, Kamchatka, รัสเซีย # 23 ม.ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การปะทุของภูเขาไฟ Shishaldin, Alaska, สหรัฐอเมริกา # 20 มกราคม

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การปะทุของภูเขาไฟ Reventador, เอกวาดอร์ # 26 ม.ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การปะทุของภูเขาไฟ Santiaguito Santa María, กัวเตมาลา # 25 ม.ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

coronavirus นี่คือถนนของกรุงปักกิ่งในวันนี้ ... เมืองที่มีประชากรมากที่สุดในโลก ร้าง

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

การพังทลายของสะพานใน Itapemirim ประเทศบราซิล เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของระดับแม่น้ำ # 26 ม.ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

กรณี Coronavirus ต่อวัน

กราฟิกที่น่ากลัวมาก แบบจำลองนี้ทำงานตรงตามที่นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ไว้ หากดำเนินการต่อจะมีมากกว่า 100,000 ราย ภายใน วันที่ 4 กุมภาพันธ์ พระเจ้าช่วยเราด้วย

Casos de Coronavirus por día

Gráfico muy siniestro. Los modelos funcionan exactamente como los científicos predijeron. Si esto continúa, habrá más de 100,000 casos para el 4 de febrero. Dios nos ayude.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ทางตะวันตกเฉียงเหนือของเซอาราประเทศบราซิลมีลมแรงถึง 47 กม. / ชม. # 26 ม.ค.

 

CCTV สื่อทางการจีน แจ้งข่าวดี "บุคลากรทางแพทย์รพ.ยูเนี่ยนแห่งม.HUSTเมืองอู่ฮั่น ที่ติดเชื้อโคโรน่าชนิดใหม่15คน และพักรักษาตัวที่รพ. ตอนนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ โดยวันนี้เวลาประมาณ 11.00ตามเวลาจีน กำลังจะได้ออกจากรพ.ชุดแรก 3คน "
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

#อัพเดท ปลัดสาธารณสุขแถลงยืนยัน ไทยพบผู้ติดเชื้อโคโรนาชนิดใหม่เพิ่ม 6ราย เป็นนักท่องเที่ยวจีน โดย5รายเป็นครอบครัวเดียวกัน /รอผลตรวจซ้ำจากแล็บบ่ายนี้ หากผลแล็บยืนยันว่า "ติดเชื้อ" ไทยจะมีผู้ติดเชื้อเป็น 14 ราย
.
ข่าวสด รายงานว่า นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคปอดติดเชื้อไวรัส ขณะนี้ตรวจพบผู้ป่วยที่มีเชื้อเพิ่มอีก 6 ราย เป็นหญิง 2 ราย ชาย 4 ราย อย่างไรก็ตามยังรอการยืนยันผลแล็บในบ่ายวันนี้ ซึ่งผู้ป่วยในจำนวนนี้ 5 ราย เดินทางมาจากอู่ฮั่น อีก 1 ราย มาจากฉงชิ่ง หากมีการยืนยันเชื้อในบ่ายวันนี้ประเทศไทย จะพบผู้ติดเชื้อจำนวน 14 ราย
ข่าวสดยังรายงานอีกว่า ผู้ติดเชื้อเดิม 8ราย ออกจากรพ.แล้ว 5ราย
.
อ้ายจงอ่านในกรุงเทพธุรกิจและBBC Thai มีรายงานเพิ่มเติมว่า 5รายที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นเป็นคนในครอบครัวเดียวกันหมด ซึ่งแพทย์ระบุว่ามีเป็นไปได้ว่ารับเชื้อพร้อมกัน ทุกคนอาการไม่รุนแรง โดยขณะนี้ทั้งหมด6รายที่กล่าวมา รักษาตัวอยู่ที่สถาบันบำราศนราดูร และในช่วงบ่ายวันนี้ทั้งหมดจะได้ผู้เชี่ยวชาญเพื่อยืนยันผลซ้ำ
-----
https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3477504
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/863912
https://www.bbc.com/thai/thailand-51276219

 

Setiawan

การปะทุของ ภูเขาไฟ De Fuego, กัวเตมาลา 27 ม.ค. 2563

 

คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวปรับเบี้ยคนพิการจากเดิม 800 เป็น 1,000 บาท โดยจะเริ่มจ่าย 1 ต.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะค่าครองชีพ สำรวจมีคนพิการที่ทำบัตรกว่า 2 คน ใช้งบเพิ่มขึ้น 4,852 ล้านบาทต่อปี #ThaiPBSnews

 

BREAKING: ด่วน สธ. แถลงพบผู้ป่วยโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่ม 6 ราย รวมจากเดิมเป็น 14 ราย
.
วันนี้ (28 มกราคม) ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลงผลการคัดกรองผู้ป่วยจากโรคไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งพบผู้เข้าข่ายเพิ่ม 6 ราย โดยทั้งหมดเป็นชาวจีน แบ่งเป็นกลุ่มคนที่เดินทางมาเป็นครอบครัว 5 รายจากเมืองหูเป่ย และอีก 1 รายมาจากเมืองฉงชิ่ง เท่ากับว่าตอนนี้พบผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในไทยเพิ่มเป็น 14 ราย
.
อ่านข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ https://thestandard.co/
#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #coronavirus #TheStandardCo

 

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นมีมติให้ขึ้นบัญชีโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา เป็นโรคติดเชื้อตามกฎหมาย ให้อำนาจบังคับผู้ติดเชื้อเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล สั่งให้ลาหยุดงาน และบังคับตรวจโรคตามสนามบินและท่าเรือ โดยรัฐบาลจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล
คลิก>>https://mgronline.com/japan/detail/9630000009101
#MGROnline #ญี่ปุ่น #ไวรัสโคโรนา #โคโรนา

 

ประวัติศาสตร์ไทยกับการรับมือโรคระบาดข้ามพรมแดนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ 2009 ซาร์ส ไข้หวัดนก เมอร์ส ไม่เคยมีการปิดประเทศมาก่อน
ส่วน #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 สธ.ระบุว่า ขณะนี้อยู่กึ่งกลาง อาจดีขึ้นจนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ หรือไปสู่การแพร่ระบาดแบบไข้หวัดใหญ่ 2009
สิ่งที่ควรทำในตอนนี้ คือ ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ คนป่วยควรพักอยู่บ้านไม่ออกไปแพร่เชื้อ และไม่ว่าโรคแพร่ระบาดระดับใด การปฏิบัติตัวยังเหมือนเดิมหลักการเดิม อย่างการสวมหน้ากากอนามัยไม่ใช่ว่าเจอเคสผู้ป่วยจำนวนมาก ก็จะใส่หน้ากาอนามัยหลายๆ ชั้นเพิ่มตามไป
สำหรับกรณีจีนพบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แต่ไม่มีอาการไข้ ไอ แต่มีอาการที่ระบบอื่น เช่น ระบบทางเดินอาหาร สธ.ระบุว่า การติดเชื้อแล้วไม่มีอาการก็มีโอกาสแพร่เชื้อได้ แต่น้อยมาก หากไม่ได้เข้าไปพูดคุยใกล้ชิดจนสัมผัสละอองน้ำลายขณะพูดคุย ซึ่งแบบนี้ถือเป็นแค่เคสรีพอร์ต ที่น่าห่วงกว่าคือกลุ่มที่มีอาการไข้ไอจาม เพราะเชื้อจะกระจายได้ไกลกว่า
#Qol #MGROnline
https://mgronline.com/qol/detail/9630000009170

 

รับมือ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 อย่างไร ในวันที่ยังไม่ห้ามคนจีนเดินทาง
หลายคนมีความกังวลว่า การไม่ปิดประเทศ ยังมีคนจีนเดินทางมา และจะมีโอกาสแพร่เชื้อสู่คนไทย เพราะตอนผ่านด่านคัดกรองยังไม่มีไข้ อยู่ในระยะฟักตัวของเชื้อ และอาจมีอาการในภายหลัง ทำให้สามารถแพร่เชื้อสู่คนรอบข้างได้
นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) อธิบายว่า
ภาพรวมนั้นจะแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะฟักตัว ซึ่งเรากำหนดสูงสุด 14 วัน ตามประสบการณ์ที่เคยมี ระยะแพร่เชื้อ ซึ่งตามหลักการและทฤษฎี คือ ช่วงที่มีไข้เท่านั้นถึงแพร่เชื้อ และระยะหาย แต่ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ยังน้อยอาจจะต้องติดตามเพิ่มด้วย
ส่วนการคัดกรองจะมี 3 จุด คือ สนามบิน ซึ่งหากพบว่ามีไข้ก็สามารถแยกตัวมารักษาและดำเนินการตรวจได้เลย แต่หากอยู่ในระยะฟักตัวของโรคแล้วผ่านจากสนามบินมาแล้วและเกิดมีอาการ เราก็มีมาตรการตรวจจับอีก 2 จุด คือ โรงพยาบาล และชุมชน ซึ่งเราประสานไปทางบริษัททัวร์ ไกด์ โรงแรมแล้วว่า หากมีอาการป่วยก็ให้รีบแจ้งโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ ยังมีการให้คำแนะนำการปฏิบัติตัวแก่นักท่องเที่ยวทุกคน ซึ่งผู้ป่วยยืนยันที่เจอหลายราย เมื่อเขามีอาการป่วยเขาก็มาโรงพยาบาลตามคำแนะนำ ซึ่งโรงพยาบาลก็ช่วยเราคัดกรองอีกด่าน
สำหรับผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยที่กังวลกันนั้น ยืนยันว่าเรามีการติดตามคนสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยทุกคน แม้กระทั่งบุคลากรที่ดูแลรักษา ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีใครติดเชื้อ ทั้งที่บางรายเป็นแม่ลูก เป็นภรรยาสามี นั่งติดกันข้างหน้าข้างหลัง ใกล้ชิดกว่าคนทั่วไปอย่างเรา มีโอกาสติดมากกว่าก็ยังไม่ป่วย และตรวจไม่พบเชื้อ แต่ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีโอกาส เพราะรายงานของจีนก็พบว่ามีการติดจากคนสู่คน แต่มาตรการรับมือเรายกระดับเป็นระดับ 3 คือ การติดต่อจากคนสู่คนอยู่แล้ว
ส่วนอาการตื่นตระหนกที่ตอนนี้คนส่วนใหญ่มองและตีขลุมว่า คนจีนทุกคนในไทยมีเชื้อแฝงไว้ก่อน และพยายามหลีกห่างนั้น การเหมาว่าคนจีนมีเชื้อไว้ก่อน ซึ่งบ้านเราคนเชื้อสายจีนเยอะจนแยกไม่ออก สิ่งที่เราควรทำคือ ต้องรู้เท่าทันเวลาเจอคนจีนก็สังเกตได้ว่า มีอาการทางเดินหายใจหรือไม่ บางคนมีน้ำมูกไหลเห็นชัดเจน ก็อย่าไปเข้าใกล้
นอกจากนี้ อาจจะหลีกเลี่ยงการไปในสถานที่ที่มีคนแออัด ก็สามารถลดความเสี่ยงได้ แต่ถ้าเป็นผู้ประกอบการอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีคนจีน หากรู้ว่าเขามาจากเมืองไหน เห็นว่าไม่สบายในพื้นที่ต่างจังหวัดก็แจ้งโรงพยาบาลหรือสาธารณสุขจังหวัด ส่วนใน กทม.ก็โทร.สายด่วน 1422
แต่ขอว่า อย่าแสดงอาการรังเกียจคนจีน เพราะการแสดงท่าทีรังเกียจน่ากลัว จะทำให้ผู้ป่วยยิ่งปกปิดตัวเอง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการคัดกรอง เพราะหากทำให้ผู้ป่วยปกปิดตัวเอง ก็อาจเกิดการแพร่กระจายได้
คนตื่นตระหนกใน 2 มุม คือ ตื่นตระหนกในตัวเอง ซึ่งกลุ่มนี้น้อย เพราะทางจีนปิดเมืองอู่ฮั่นแล้ว แต่ถ้าต้องไปที่นั่นหรือมีลูกหลานอยู่ที่นั่นจะตื่นตระหนกก็เป็นเรื่องปกติ
อีกมุมที่เป็นกันเยอะ คือ ตื่นตระหนกโดยที่ไม่มีความเสี่ยง เห็นประเทศอื่นทำอย่างนั้นอย่างนี้ ทำไมบ้านเราไม่ทำ ซึ่งประเด็นนี้ รมว.สธ.พูดชัดว่า สถานการณ์ไม่เหมือนกัน เรามีแผนที่เตรียมไว้ แม้กระทั่งหากมีการติดต่อในบ้านเรามาตรการวิธีการก็จะปรับไปด้วยตัวของมันเอง
การรับมือและป้องกันโรคนี้ คือ
1.ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นตามคำประกาศของทางการจีน
2.หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ
3.ไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม ผู้ที่มีอาการทางเดินระบบหายใจคล้ายไข้หวัด หากเลี่ยงไม่ได้ให้สวมใส่หน้ากากอนามัย
4.ปิดปากและจมูกเวลาไอจามด้วยกระดาษทิชชูหรือต้นแขนด้านใน
5.หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
6.ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
7.ปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อน
คำแนะนำดังกล่าวในช่วงนี้ถือว่าเพียงพอ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การล้างมือบ่อยๆ เพราะว่ามือเราสามารถจับสิ่งต่างๆ ที่อาจมีเชื้อ พอเอามาลูบหน้าลูบตา เชื้อก็สามารถเข้าผ่านเยื่อบุต่างๆ ได้ เช่น เยื่อบุปาก เยื่อบุจมูก เยื่อบุตา เป็นต้น
ส่วนการสวมหน้ากากอนามัย คนป่วยทางเดินหายใจสวมจะเกิดประโยชน์มากกว่า เพราะเชื้อไวรัสจะออกมากับพวกสารคัดหลั่งเช่น น้ำลาย น้ำมูก การสวมจะช่วยกรองน้ำลาย น้ำมูกได้ ส่วนคนทั่วไปที่ไม่ป่วยไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยก็ได้ แต่หากอยู่ใกล้คนป่วยอาจสวมก็ได้
แต่คงยังไม่ถึงขั้นที่ว่าทุกคนต้องใส่กันอย่างพร้อมเพรียง หากไม่ได้อยู่ในความเสี่ยง เพราะถ้าไม่เสี่ยงแต่ใส่พร้อมเพรียงกัน สิ่งที่ตามมา คือ ความขาดแคลน เหมือนช่วงไข้หวัดใหญ่2009 ที่ต้องการหน้ากากอนามัยมาก จนขาดแคลน ต้องช่วยกันทำหน้ากาก
การตระหนักเป็นเรื่องดี จะได้ระวัง แต่การตระหนกจะเกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้
#Qol #MGROnline
https://mgronline.com/qol/detail/9630000008965

 

เบื้องหลังของความสำเร็จในการตรวจคัดกรองผู้ป่วย #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 มาจากคนทำงานในห้องแล็บ ซึ่งต้องบอกว่าเก่งและน่าชื่นชมมาก
นอกจากแล็บของศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ รพ.จุฬาฯ แล้ว
ยังมีห้องแล็บของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ที่พัฒนาการตรวจเชื้อนี้ด้วยวิธีการเรียลไทม์PCR สามารถรู้ผลได้ใน 3 ชม. หากผลการตรวจเป็นบวกจะดำเนินการตรวจยืนยันอีกครั้ง ด้วยการตรวจลำดับนิวคลิโอไทด์ (Nucleotide sequencing ) ใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้การสรุปผลการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ nCoV 2019 มีความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรักษา
#Qol #MGROnline
https://mgronline.com/qol/detail/9630000009114

 

ข่าวด่วน: ไฟป่าเคลื่อนไหวเร็วกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ชานเมืองของเมืองหลวงของออสเตรเลีย
Breaking News: A fast-moving bushfire is heading for suburban areas of Australia's capital

 

เปลวไฟที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วกำลังมุ่งหน้าไปยังพื้นที่รอบนอกของแคนเบอร์รา เมืองหลวงของออสเตรเลียภายใต้การแจ้งเตือนอัคคีภัย
อัปเดต: https://sydneynews.sydney/sydney-news/canberra-bushfire-australian-capital-under-threat/5953/
A fast moving blaze is heading toward populated outer areas of Canberra, Australia's national capital under fire alert.
Updates: https://sydneynews.sydney/sydney-news/canberra-bushfire-australian-capital-under-threat/5953/