ติดตามสถานะการณ์

เสียชีวิตแล้ว 80
* ติดเชื้อขั้นรุนแรง 430
* จีนติดเชื้อ 3400
กักตัวเฝ้าระวังพิเศษ 6000

 

Workpoint news

นักท่องเที่ยวจีน กว้านซื้อหน้ากากอนามัยในไทยกลับประเทศ ป้องกันไวรัสโคโรนา
.
เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าขณะนี้ในประเทศไทยจะมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ตามแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมในกลุ่มชาวจีน อย่างถนนรัชดาภิเษก ยังมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาอย่างหนาแน่น ซึ่งภาพที่ปรากฏทำให้เห็นอย่างชัดเจนว่า เกือบทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันฝุ่นและไวรัสฯ
.
มัคคุเทศก์ คนหนึ่งให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ มีรายการยกเลิกทัวร์จากชาวจีนจำนวนมาก เพราะไม่สามารถเดินทางมาไทยได้ ส่วนที่เดินทางมาแล้ว หลายคนซื้อหน้ากากอนามัยกลับจีน อาจเพราะราคาถูกกว่าในจีน ขณะเดียวกันในระหว่างท่องเที่ยว ส่วนตัวก็ให้ความสำคัญที่การป้องกัน สวมใส่หน้ากากและมีแจกจ่ายให้นักลูกทัวร์ชาวจีนด้วย
.
สอดคล้องกับข้อมูลจากพนักงานร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในย่านเดียวกัน ระบุว่า ที่ร้านสั่งหน้ากากกันฝุ่นและไวรัสฯ ทุกวัน ประมาณ 400 ชิ้นต่อวัน ซึ่งในระยะนี้ จำหน่ายหมดทุกวัน โดยเฉพาะ 1-2 วันที่ผ่านมานี้ ชาวจีนซื้อเหมาจำนวนมาก 3,000-4,000 บาท ต่อบิลใบเสร็จ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวชาวจีนกลุ่มนี้ ซื้อหน้ากาก 3 M จำนวนมาก ถึง 2 กล่อง ซึ่งคาดว่า เป็นการซื้อกลับประเทศจีน

 

ตั๊กแตนทะเลทรายบุกแอฟริกาตะวันออก สร้างความเสียหายต่อพืชผลจำนวนมาก

 

Too Young to Die

ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศปีนี้คาดว่าจะสูงขึ้นมากเดิม 10% อันเป็นผลมาจากไฟป่าออสเตรเลีย 2%

ปริมาณความเข้มข้นคาร์บอนไดออกไซด์คาดว่าจะสูงเกิน 417 ppm เดือนพฤษภาคมนี้ และค่าเฉลี่ยของปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 414 ppm , มากกว่าปีที่แล้วถึง 3 ppm

ความเข้มของคาร์บอนไดออกไซด์ปีนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 10% และ 2% นั้นมาจากไฟป่าออสเตรเลีย

นักวิทยาศาสตร์คาดว่า หากความเข้มข้นเพิ่มขึ้นมากกว่า 450 ppm อุณหภูมิโลกจะเพิ่มขึ้น 2 C เทียบกับยุคก่อนอุตสาหกรรม 2C เป็นเส้นตาย ชี้ว่าโลกจะร้อนเกินแก้ไข เกิดความเสียหายทางระบบนิเวศน์เป็นทอดๆ ( แต่ปัจจุบันองค์กร IPCC ลดเป้าลงมาที่ 1.5 C เพื่อลดความเสียหายที่คาดว่าจะเกิดขึ้น)

Richard Betts , ศาสตราจารย์จาก Met Office Hadley Center กล่าวว่า ผลจากกิจกรรมของมนุษย์และสภาพอากาศที่ร้อนอยู่แล้ว ทำให้ไฟป่าครั้งนี้รุนแรงและสร้างก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเป็นประวัติการณ์

ไฟป่าครั้งนี้กินพื้นที่ทั้งหมด 12ล้านเฮคเตอร์ โดยกว่า 5 ล้าน เฮคเตอร์อยู่ในNew South Wales

ทุกวันนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นปีต่อปี นับตั้งแต่ปี 1958 อันเป็นผลมาจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล น้ำมัน ถ่านหิน และการตัดไม้ทำลายป่า แต่อัตราการเพิ่มอาจมีแกว่งขึ้นลง ขึ้นอยู่กับการดูดซับของป่าไม้และระบบนิเวศน์ แต่ปีนี้ ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์น่าจะลงลงติดต่อเป็นปีที่สอง เพราะอะไร ? อากาศที่ร้อนขึ้นมีผลต่อการเจริญเติบโตของต้นไม้ ทำให้ความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์น้อยลงซ้ำเติมสถานการณ์ขึ้นไปอีก

ประเทศออสเตรเลียสร้างก๊าซเรือนกระจกคิดเป็น 1.3% ของทั่วโลก, Bill Hare ผู้อำนวยการ Climate Analytic คาดว่าออสเตรเลียจะไม่นำก๊าซเรือนกระจกจากไฟป่าครั้งนี้มารวมในรายงานของประเทศ ( เป็น trick หลีกเลี่ยงอย่างหนึ่ง) ผลของไฟป่าครั้งนี้ มาจากการละเลยที่จะลงมือแก้ไขปัญหาโลกร้อนอย่างจริงจังและคาดว่าในปีต่อๆไป ไฟป่าจะรุนแรงขึ้นอีก

งานวิจัยMet Office ชี้ว่า หากอุณหภูมิสูงเกิน 2 C ออสเตรเลียจะมีจำนวนวันที่มีความเสี่ยงสูงต่อไฟป่ามากขึ้น 20-30 วัน และพื้นที่เสี่ยงต่อไฟป่าอาจเพิ่มขึ้นถึง 20 ล้านเฮคเตอร์ขนาดเท่ารัฐวิคตอเรีย

ไม่มีใครบอกได้ชัดว่า tipping point จุดที่ระบบนิเวศน์เสียหายไม่สามารถย้อนกลับได้จะมาถึงเมื่อไหร่ แต่เห็นได้ชัดว่าเรากำลังเข้าสู่ช่วงที่ทุกๆอย่างส่งผลกระทบต่อกัน และฉุดให้ปัญหาอีกอย่างแย่ขึ้นเป็นทอดๆ ตัวอย่างเช่น ไฟป่าออสเตรเลียนี้นี่เอง

credit photo Orbital Horizon/Copernicus Sentinel Data/Gallo Images/Getty Images

https://www.reuters.com/article/us-climate-change-australia-idUSKBN1ZN0Y5?utm_campaign=trueAnthem%3A+Trending+Content&utm_medium=trueAnthem&utm_source=facebook

https://www.theguardian.com/australia-news/2020/jan/24/australian-bushfires-to-contribute-to-huge-annual-increase-in-global-carbon-dioxide

 

Setiawan

Santa Luzia, Belo Horizonte, Brazil 25 ม.ค. 2020

เจ้าหน้าที่ของพลเรือนกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 คนและ 17 คน ยังหายไป หลังจากฝนตกหนักสองวัน ทำให้เกิดน้ำท่วม และแผ่นดินถล่มในภาคตะวันออกเฉียงใต้ของบราซิล

ผู้คนมากกว่า 2,500 คนอพยพออกจากบ้านในรัฐมินาส เจอเรส ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดเนื่องจากฝนที่ตกลงมาปกคลุมพื้นที่ในวันศุกร์และวันเสาร์

Santa Luzia, Belo Horizonte, Brazil Jan25 2020

At least 30 people have been killed and 17 are still missing after two days of heavy rain led to widespread floods and landslides in Brazil's southeast, according to civil defence officials.

More than 2,500 people were evacuated from their homes in the hardest-hit Minas Gerais state as the downpours drenched the region over Friday and Saturday.

 

Manuel Barrera ได้แชร์ลิงก์

ชาวเม็กซิกันขอความช่วยเหลือทาง Twitter เพื่อออกจากหวู่ฮั่น (จีน)

เขาให้ความเห็นว่าโรงพยาบาลเต็ม ซูเปอร์มาร์เก็ตว่างเปล่า และอธิบายสถานการณ์ในฐานะ "วันสิ้นโลก" นอกจากนี้เขาชี้แจงว่าในเมืองไม่มีใครสามารถออกไป และเขามีเพียงอาหาร 5 วัน

ข้อมูลทั้งหมด: ⬇️⬇️

https://www.catastrofesmundiales.co...cyIJX5yLEX2hnQlbN0kEp891fnPLy9K3JatlTU64dEbZw

 

Setiawan

มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 36 คนและอีกกว่า 1,607 คนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลในภาคตะวันออกของตุรกี หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวในภูมิภาคเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

แผ่นดินไหวขนาด 6.7 ริกเตอร์เกิดขึ้นใกล้เมือง Sivrice ในจังหวัด Elazig ทางตะวันออกทำให้อาคารอย่างน้อย 10 แห่งพังทลาย
At least 36 people died and more than 1,607 have been hospitalized in eastern Turkey after an earthquake rattled the region on Friday evening.

The 6.7-magnitude quake struck near the town of Sivrice, in eastern Elazig province, causing at least 10 buildings to collapse.

 

Setiawan

การกระจาย CORONAVIRUS ที่เรียบง่าย

วิธีทำนายเหยื่อรายต่อไป:

อันดับของตัวเลขที่มีอัตราส่วนคงที่ระหว่างแต่ละตัวเลขและตัวเลขก่อนหน้านี้ (เช่นแต่ละตัวเลขที่ตามมาจะเพิ่มขึ้นโดย แฟกเตอร์ 3 ในอันดับ 1, 3, 9, 27, 81, ... , .... )

SIMPLIFIED CORONAVIRUS SPREADS

How to predict next victim :

A progression of numbers with a constant ratio between each number and the one before (e.g., each subsequent number is increased by a factor of 3 in the progression 1, 3, 9, 27, 81, ..., .... )

 

Setiawan

มันมักจะสวิงระหว่างอลาสก้า & นิวซีแลนด์

 

นายกเทศมนตรีเมืองอู่ฮั่นแถลงข่าวยอมรับ ก่อนปิดเมืองมีผู้คนออกจากอู่ฮั่นกว่า 5 ล้านคน ทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีน พร้อมคาดว่าเฉพาะที่อู่ฮั่นอาจมีผู้ป่วยเพิ่มเติมอีกมากกว่า 1,000 คน จนต้องสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินเพิ่มแห่งที่สอง

คลิก>>https://mgronline.com/china/detail/9630000008519

#MGROnline #อู่ฮั่น #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนา #โคโรนา

 

สยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ ไอคอนสยาม ร่วมเฝ้าระวังเชื้อไวรัส "โคโรนา" เสริมมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่

คลิก>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000008521

#MGROnline #โคโรนา

 

จีน อัดฉีด 5 แสนล้าน ป้องกันโคโรนาไวรัส
เผยแพร่: 27 ม.ค. 2563 09:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ปักกิ่ง, 26 ม.ค. (ซินหัว) -- รายงานจากกระทรวงการคลังของจีนระบุว่า จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 26 ม.ค. หน่วยงานด้านการเงินและการคลังทุกระดับของประเทศ ได้สนับสนุนเงินอุดหนุนแล้วเป็นจำนวน 1.12 แสนล้านหยวน (ราว 4.93 แสนล้านบาท) สำหรับการจัดหาอุปกรณ์และทรัพยากรต่างๆ เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาด

รายงานระบุเพิ่มเติมว่า หลังมีการระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) หน่วยงานด้านการเงินการคลังทุกระดับ ได้ดำเนินการตามบัญชาการของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเร่งบรรลุข้อกำหนดต่างๆ ของรัฐสภา ในการรับประกันการจัดสรรเงินทุน เพื่อไม่ให้ปัญหาด้านการเงินกระทบต่องานป้องกันและควบคุมโรคระบาด

https://mgronline.com/china/detail/...qIj6i5NaIxdI_-Kzby4vxjBmPR1P9psxrtYT1cU8gY5BQ

 

ความจริง 20 ประการ เกี่ยวกับโรคปอดบวม อู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จาก “ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ” ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา
เผยแพร่: 27 ม.ค. 2563 08:43 โดย: ผู้จัดการออนไลน์



แพทย์ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยาคลินิก แจง ความจริง 20 ประการ เกี่ยวกับโรคปอดบวม อู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

วันนี้ (27 ม.ค) ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิตและหัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาค วิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับ ไวรัสโคโรน่า เมื่อวันที่ 25-26 ม.ค.2563 ระบุความว่า


ความจริง 20 ประการ เกี่ยวกับโรคปอดบวม อู่ฮั่น โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่

1. โคโรน่าไวรัสเป็นไวรัสขนาดใหญ่ และ เป็นกลุ่มใหญ่ ดูด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน คล้ายมงกุฎ จึงเรียกว่าโคโรนาไวรัส พบได้ทั้งใน คน และ สัตว์ จำนวนมาก

2.โคโรน่าไวรัส ที่เกิดโรคในคน แต่เดิมมี 6 ชนิด เป็นสายพันธุ์ที่พบดั้งเดิม ทำให้เกิดโรคหวัด และทางเดินหายใจอยู่เป็นประจำถิ่น แล้ว มี 4 ชนิด และอุบัติใหม่ ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ แบบเฉียบพลันคือ SARS และ MERS ซึ่งเป็นโรคที่ค่อนข้างรุนแรง มีอัตราการเสียชีวิต 10 และ 30 % ตามลำดับ

3.โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ หรือโรคปอดบวมอู่ฮั่น อุบัติใหม่ที่เมืองอู่ฮั่น ตั้งแต่กลางเดือน ธันวาคม 2019 เป็นต้นมา และวินิจฉัยได้หลังปีใหม่ ถอดรหัสพันธุกรรมสำเร็จในวันที่ 11 มกราคม 2020

4.จุดกำเนิดของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ผู้ป่วยกลุ่มแรกที่พบ ส่วนใหญ่มีแหล่งสัมผัส จากตลาดสดที่มีการขายอาหารทะเล และสัตว์สิ่งมีชีวิต

5.โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่เช่นเดียวกันกับ ไวรัสที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอักเสบ มีได้ทั้งแบบไม่มีอาการ มีอาการทางเดินหายใจอักเสบแบบเฉียบพลัน จนถึงปอดบวมและโรคแทรกซ้อน

6.ระยะฟักตัวของโรค โดยทั่วไปโคโรน่าไวรัส จะมีระยะฟักตัวประมาณ 2 ถึง 7 วัน ในทางปฏิบัติการเฝ้าสังเกตอาการหลังสัมผัสโรค หรือมาจากแหล่งระบาดของโรค เราจึงใช้ 2 เท่า คือ 14 วัน

7.อาการที่ต้องสงสัย คือ ผู้ที่มาจากแหล่งระบาดของโรค ร่วมกับอาการมี ไข้ และอาการระบบทางเดินหายใจ เช่นมี น้ำมูก ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก ในรายที่รุนแรง จะมีปอดอักเสบหรือปอดบวมเกิดขึ้น และทำให้ระบบหายใจล้มเหลวถึงกับเสียชีวิตได้

8.โรคนี้สามารถติดต่อระหว่างคนสู่คนได้ จึงเกิดการแพร่กระจายได้

9.การยืนยันผลการวินิจฉัย จำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตรวจหาพันธุกรรมของไวรัส

10.ความรุนแรงของโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ จะมีความรุนแรงน้อยกว่า MERS และ SARS อัตราตายของ MERS อยู่ที่ 30 % ของ SARS อยู่ที่ประมาณ 10 % แต่ของโคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่อยู่ที่น้อยกว่า 3%

11.โรครุนแรงน้อยกว่า ดังนั้น ผู้ที่ติดเชื้ออีกจำนวนมาก ที่อาจไม่มีอาการ หรือมีอาการน้อย ไม่ได้เป็นปอดบวมทุกราย ดังนั้นผู้ป่วยจึงสามารถเดินทางไปได้ไกล และสามารถแพร่โรค ทำให้เกิดการระบาดในวงกว้าง และสามารถระบาดได้ทั่วโลก pandemic

12.เช่นโรคระบาดทั่วไป การกระจายของโรค จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค และอำนาจในการกระจายโรค โรคที่มีความรุนแรงน้อย จะกระจายได้มากกว่า การติดเชื้อในอากาศ จะได้มากกว่าการติดเชื้อด้วยการสัมผัสฝอยละออง ปอดบวมอู่ฮั่น เป็นโรคที่ติดโดยการสัมผัสฝอยละออง

13.เมื่อเป็นโรคใหม่ ทุกคนไม่มีภูมิต้านทาน จึงมีสิทธิ์ที่จะติดเชื้อได้ทุกคน ถ้าสัมผัสโรค ส่วนความรุนแรงของโรคจะขึ้นอยู่กับอายุ ในเด็กความรุนแรงของโรคจะน้อยกว่า ในผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ หรือกล่าวได้ว่าความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามอายุนั้นเอง

14.ในการระบาดของโรค โรคจะหยุดเมื่อมีการติดเชื้อไปจำนวนหนึ่ง ขึ้นอยู่กับอำนาจการกระจายของโรค ถ้าอำนาจการกระจายของโรค เท่ากับไข้หวัดใหญ่ หรือ 1 คนกระจายไปได้ 2 คน เมื่อมีผู้ติดเชื้อหรือมีภูมิต้านทานแล้วอย่างน้อย 50% โรคว่าจะสงบ แล้วหลังจากนั้นไวรัสนี้ ก็จะเป็นโรคประจำถิ่น endemic หรือตามฤดูกาลต่อไป (seasonal) และการติดเชื้อจะเกิดการระบาดได้เป็นหย่อมอย่าง เช่นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่ระบาดมา 10 ปีแล้วโรคนี้ก็ยังไม่หยุด ยังมีการระบาดในนักเรียนอยู่เป็นระยะระยะในประเทศไทย

15.ในปัจจุบัน ณ วันนี้ยังไม่มียาต้านไวรัสใช้รักษา และไม่มีวัคซีนในการป้องกัน

16.การป้องกันที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย การล้างมือจะป้องกัน การติดเชื้อได้เป็นอย่างดี “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” จึงยังใช้ได้เสมอในการป้องกันโรค ที่ติดต่อทางไปฝอยละออง

17.การเดินสวนกันไปมา ไม่ทำให้เกิดการติดโรคนี้ แต่การอยู่ในระยะใกล้ ในการพูดคุยหรือมีการในจาม และมีฝอยละอองกระเด็นมาถูกบริเวณใบหน้า จะทำให้เกิดการติดโรคนี้ได้ การสัมผัสจะต้องหมั่นล้างมือ

18.ผู้ที่ไม่สบายเป็นโรคทางเดินหายใจทุกราย ควรใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค สำหรับคนปกติ ถ้าต้องการป้องกันโรค การใช้หน้ากากอนามัยชนิด N95 จะต้องใช้ให้ถูกวิธี ในคนปกติ ถ้าใช้ถูกวิธีค่อนข้างจะอึดอัดมาก บุคลากรทางการแพทย์มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องใช้ รวมทั้งชุดในการป้องกันตัวเองไม่ให้ติดโรค

19.ในภาวะปกติที่โรคยังไม่ระบาด ควรดำเนินชีวิตแบบปกติ รักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ออกกำลังกาย ให้สม่ำเสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ ใครมีโรคประจำตัวก็หมั่นดูแลรักษา

20.ขณะนี้มีข่าวออกมาในสื่อสังคมมากมาย มีทั้งที่ถูกต้องและไม่ถูกต้อง การเสพสื่อ จะต้องวิเคราะห์สังเคราะห์ ก่อนที่จะส่งต่อออกไป การตื่นตระหนก ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้น การรับสถานการณ์ควรรับแบบมีสติ และรอบคอบ ใช้องค์ความรู้ต่างๆที่เกิดขึ้นใหม่อยู่ตลอดเวลา เข้ามาประกอบการ

https://mgronline.com/onlinesection...i65r53ZOs47ohVV7K3P73sw9c0gE25b8L9Jd9GW76Axmk

 

MGROnline Live

"กรมควบคุมโรค" โต้ข่าวจากสำนักหนึ่ง กล่าวหายกเลิกคัดกรองผู้โดยสารด้วยเทอร์โมสแกน ยันยังคงดำเนินการทำถึง 2 ระดับชั้น ตลอด 24 ชม.

https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000008493

#MGRonline #กรมควบคุมโรค #เทอร์โมสแกน #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสโคโรนา

 

สู้ศึกทุกภาคส่วน! คลังจีนอัดฉีดให้ 'ภารกิจป้องกันโรคระบาด' เกือบ 5 หมื่นล้าน
.
ปักกิ่ง, 26 ม.ค. (ซินหัว) -- รายงานจากกระทรวงการคลังของจีนระบุว่า จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 26 ม.ค. หน่วยงานด้านการเงินและการคลังทุกระดับของประเทศ ได้สนับสนุนเงินอุดหนุนแล้วเป็นจำนวน 1.12 หมื่นล้านหยวน (ราว 4.93 หมื่นล้านบาท) สำหรับการจัดหาอุปกรณ์และทรัพยากรต่างๆ เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคระบาด
.
รายงานระบุเพิ่มเติมว่า หลังมีการระบาดของโรคปอดอักเสบที่เกิดจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) หน่วยงานด้านการเงินการคลังทุกระดับ ได้ดำเนินการตามบัญชาการของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เพื่อเร่งบรรลุข้อกำหนดต่างๆ ของรัฐสภา ในการรับประกันการจัดสรรเงินทุน เพื่อไม่ให้ปัญหาด้านการเงินกระทบต่องานป้องกันและควบคุมโรคระบาด
.
(มีการแก้ไขคำแปลตัวเลขเป็นรวมอยู่ที่ประมาณ 5 หมื่นล้านบาท)
.
#โคโรนาไวรัส #อู่ฮั่น #โรคระบาด

 

“ไวรัสอู่ฮั่น” ไม่ได้แพร่มาจากงูกินค้างคาว
เผยแพร่: 26 ม.ค. 2563 21:47 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ยังคงมีความเข้าใจว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” เกิดจากงูที่กินค้างคาวมีเชื้อโรค แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เป็นคลาดเคลื่อนในการแปรผลวิจัย ขณะเดียวกันมีงานวิจัย ที่บ่งชี้ว่า ไวรัสโคโรนาที่พบมีพันธุกรรมใกล้เคียงกับที่พบในค้างคาว

เพจ “Bats of Thailand ค้างคาวเมืองไทย” ได้เผยข้อมูลที่แสดงว่า nCov2019 ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พบในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหู่เป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน หรือที่เรียกกันว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” นั้น เป็นไวรัสโคโรนาจากค้างคาว โดยมีจีโนมคล้ายคลึงค้างคาวมงกุฎเทาแดง (Rhinolophus affinis) ที่พบในจีนถึง 96%

จากงานวิจัยที่เพจค้างคาวเมืองไทยอ้างถึงยังระบุด้วยว่า จีโนมของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์นี้คล้ายคลึงกับซาร์ (SARS) หรือโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรงที่ระบาดเมื่อ 18 ปีก่อน

ส่วนข้อมูลที่แชร์กันว่าเชื้อไวรัสนี้มาจากงูนั้นทางเพจค้างคาวเมืองไทยระบุว่า มาจากงานวิจัยที่มีการแปรผลคลาดเคลื่อน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จำนวนมากได้วิพากษ์วิจารณ์และวิเคราะห์จนมั่นใจได้ว่า งูไม่ใช่แหล่งรังโรคของเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดนี้ พร้อมทั้งเผยแพร่บทวิจารณ์ที่อธิบายว่างูไม่น่าจะเป็นแหล่งรังโรคของไวรัสอู่ฮั่น

คริสเตียน แอนเดอร์สัน (Kristian Andersen) ได้โต้แย้งงานวิจัยที่สรุปว่างูเป็นแหล่งโรคของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยระบุว่าข้อสรุปดังกล่าวน่าจะผิดพลาด เขาคำนวณและไม่พบหลักฐานว่างูคือแหล่งรังโรคของไวรัส nCov2019 แต่ยังไม่ตัดความเป็นไปได้ ผลการคำนวณของเขายังพบด้วยว่า เห็ดราอาจเป็นแหล่งรังโรคได้ ทว่ายังไม่ทราบชัดเจนว่าแหล่งรังโรคที่แท้จริงคือสัตว์ชนิดใด และเชื้อไวรัสแพร่กระจายได้อย่างไร แม้ว่าค้างคาวจะมีความเป็นไปได้สูงแต่ก็ยังสรุปไม่ได้

ขณะที่ทางเพจค้างคาวเมืองไทยยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า เราทราบมานานแล้วว่าค้างคาวมีเชื้อไวรัสโคโรนา และก็ทราบมานานแล้วว่าคนจีนกินค้างคาว แต่เหตุใดจึงเพิ่งเกิดการอุบัติของโรคในช่วงนี้ และตั้งคำถามว่า นอกจากตัวค้างคาวที่เป็นแหล่งรังโรคแล้ว เป็นไปได้หรือไม่ที่เห็บค้างคาวจะเป็นแหล่งแพร่เชื้อ

ติดตามเรื่องราวค้างคาวเมืองไทยที่น่าสนใจได้ที่ Bats of Thailand ค้างคาวเมืองไทย


ติดตามเรื่องราวค้างคาวเมืองไทยที่น่าสนใจได้ที่ Bats of Thailand ค้างคาวเมืองไทย
https://mgronline.com/science/detai...ocdFTqNX4i4IQvg3PDjF3_y9w5JDYxaieEMN3bh22zRiw

 

ฉี่ใส่บีทีเอส! สาวเจอต่างชาติมารยาทแย่ กลัวแพร่เชื้อเหมือนโคโรนา
เผยแพร่: 26 ม.ค. 2563 19:29 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


สาวรายหนึ่งพบชาวต่างชาติปัสสาวะบนขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส กังวลไม่สบายใจ ยิ่งมีข่าวโคโรนาไวรัสระบาด พบที่ผ่านมาเคยมีผู้สูงอายุถ่ายอุจจาระเพราะเหตุสุดวิสัย แนะฉุกเฉินจริงๆ ขอใช้ห้องน้ำกับพนักงานในสถานีได้

วันนี้ (26 ม.ค.) มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Pommes Apple Nipaporn โพสต์ภาพเหตุการณ์เมื่อวันที่ 24 ม.ค. ขณะโดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส จากสถานีห้าแยกลาดพร้าวเพื่อกลับบ้าน ปรากฎว่ามีน้ำไหลออกมาบนพื้นขบวนรถ เมื่อหันไปพบชายชาวเอเชียรายหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นนักท่องเที่ยวเปิดซิปกางเกงพร้อมที่จะปัสสาวะออกมา ซึ่งในช่วงนี้มีข่าวเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทำให้หญิงคนดังกล่าวไม่สบายใจ โพสต์นี้มีชาวเน็ตออกมาวิจารณ์ถึงมารยาทของชายชาวเอเชียคนดังกล่าวอย่างกว้างขวาง

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

อนึ่ง สำหรับมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ได้จัดแอลกอฮอล์ล้างมือให้ผู้โดยสารบริเวณโต๊ะตรวจการ (ด้านหลังประตูเข้า-ออก), เพิ่มการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคภายในสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี เช่น ห้องจำหน่ายตั๋วโดยสาร ราวจับบันได บันไดเลื่อน ราวกันตกบริเสณชั้นจำหน่ายตั๋ว และบนชานชาลา รวมทั้งเพิ่มการทำความสะอาดและฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในขบวนรถไฟฟ้าที่สถานีต้นทาง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ และเพิ่มการทำความสะอาด และฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคในขบวนรถไฟฟ้าหลังปิดให้บริการและก่อนเปิดให้บริการในอู่จอดรถไฟฟ้าทุกวัน

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ที่ผ่านมาเคยมีกรณีผู้โดยสารถ่ายอุจจาระบนขบวนรถไฟฟ้าบีทีเอส เมื่อปี 2561 ซึ่งภายหลังบีทีเอสชี้แจงว่า ผู้โดยสารรายดังกล่าวเป็นผู้สูงอายุ และเหตุที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัย ขอความเห็นใจชาวเน็ตงดเผยแพร่ภาพดังกล่าว เพราะจะได้รับความเดือดร้อน หากผู้โดยสารประสบปัญหาปวดท้องระหว่างเดินทาง สามารถแจ้งพนักงานในสถานีให้อำนวยความสะดวกขอใช้ห้องน้ำ โดยมีห้องน้ำเปิดให้ใช้ได้ทั่วไป 12 สถานี และห้องน้ำสำหรับพนักงาน 23 สถานีเดิมของบีทีเอส แต่เนื่องจากอยู่ใกล้ทางเข้าห้องไฟฟ้าและเครื่องกล จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลอยู่ด้านนอก เมื่อผู้โดยสารใช้งานห้องน้ำเพื่อความปลอดภัย

https://mgronline.com/onlinesection...9GRqKR8wrOMAKtTBfzP9h9KbKvUuCKiQNOn1faF32maIc

 

ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สสจ.นครปฐม แจงไวรัสอู่ฮั่นยังไม่ติดจากคนสู่คนในไทย เผยแพร่: 26 ม.ค. 2563 21:27 ปรับปรุง: 27 ม.ค. 2563 07:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


นครปฐม - ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน สำนักงานสาธารณสุขนครปฐม วอนประชาชนนครปฐมอย่าตื่นตระหนก ยังไม่พบการติดเชื้อจากคนสู่คน วางเป้าหมาย 3 แหล่ง ประชาชนหนาแน่น ศูนย์การค้า โรงงานอุตสาหกรรม ตลาด แหล่งชุมชนที่มีคนแออัดพลุกพล่าน

สถานการณ์การระบาดของโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนา ในประเทศจีน ได้แพร่ขยายเข้าสู่ประเทศไทย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้ยกระดับศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน เป็นระดับ 3 เพื่อติดตามสถานการณ์โรคทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และบริหารจัดการทรัพยากร เสริมสร้างความเข้มแข็งของระบบการเฝ้าระวังค้นหาผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสโคโรนาที่มาจากต่างประเทศ

โดยเน้นการคัดกรองไข้ทุกช่องทางเข้าออกประเทศที่ท่าอากาศยาน 5 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ หากพบเห็นผู้มีอาการน่าสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที และกำชับให้ทุกโรงพยาบาลเฝ้าระวังคัดกรองผู้ป่วยที่มาจากเมืองที่มีการระบาด สนับสนุนการเตรียมความพร้อมสำหรับรับมือโรคติดต่ออุบัติใหม่ โดยครอบคลุมระบบบริการสาธารณสุขทั้งในภาครัฐ ภาคเอกชนและชุมชนแหล่งท่องเที่ยว และยกระดับการแจ้งโรคในผู้เดินทางเป็นระดับ3 โดยให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีการระบาด

สำหรับจังหวัดนครปฐมนั้น นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม ขอให้ชาวนครปฐมอย่าตื่นตระหนก เพราะยังไม่พบการระบาดจากคนสู่คนในประเทศไทย สถานพยาบาลทุกแห่งจะคัดกรองผู้ป่วยที่มีประวัติเสี่ยง กรณีนักท่องเที่ยวหรือผู้ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่เสี่ยงแล้วเกิดอาการเจ็บป่วยภายหลัง มาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จะซักประวัติ ตรวจหาเชื้อทางห้องปฏิบัติการ หากพบเชื้อไวรัสจะรักษาในห้องแยกโรคของโรงพยาบาล ดูแลรักษาจนหาย ซึ่งขณะนี้ประสานให้โรงพยาบาลทั้งรัฐ เอกชน เตรียมความพร้อมของระบบและห้องแยกโรค รวมทั้งมาตรการในชุมชน ติดตามผู้สัมผัสกับผู้ป่วยหรือผู้ป่วยสงสัยทุกคน

พร้อมเพิ่มการเฝ้าระวังป้องกัน 3 พื้นที่เป้าหมาย ได้แก่ โรงแรมที่พัก แหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมของชาวต่างประเทศที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงและนักท่องเที่ยวจากต่างพื้นที่ และศูนย์การค้า โรงงานอุตสาหกรรม ตลาด แหล่งชุมชนที่มีคนแออัดพลุกพล่าน ให้ช่วยกันสังเกต และคัดกรองผู้ที่มีอาการไข้สูง ไอ น้ำมูก หายใจเหนื่อย ร่วมกับมีประวัติเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงหรือสัมผัสกับผู้ป่วยโรคปอดอักเสบจากไวรัสที่โคโรนา ผู้ประกอบการโรงแรมให้ช่วยสังเกตตรวจตรา หากพบผู้ป่วยให้เข้ารับการรักษาหรือแจ้งให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดดำเนินการตามมาตรการอย่างเคร่งครัด

สำหรับประชาชนทั่วไปเชิญชวนให้ป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบติดเชื้อไวรัสโคโรนา ด้วยวิธีการง่ายๆ 6 วิธี คือ ให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อต้องเข้าไปในแหล่งชุมชน หมั่นล้างมือด้วยสบู่บ่อยๆ โดยเฉพาะก่อนสัมผัสใบหน้า ดวงตา รับประทานอาหารที่ปรุงสุกร้อนๆ สะอาด และปิดปาก ปิดจมูกเวลาไอจาม หลีกเลี่ยงไปในแหล่งชุมชนแออัด หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อสัตว์ป่าหรือเนื้อสัตว์ไม่รู้ที่มา ไม่ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

ภายใน 14 วัน หลังเดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยง หากมีไข้ร่วมกับอาการทางเดินหายใจ ได้แก่ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ควรรีบพบแพทย์ทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เสี่ยง หากมีข้อสงสัยสามารถขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.1422








https://mgronline.com/local/detail/...qeceetcMzs3g0UFL4WAjlmkR_Ddg7B0bz1H0JuCdcfRk8

 

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มีหนังสือด่วนทุกโรงเรียนให้เฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรนา พร้อมให้อำนาจ ผู้อำนวยการสั่งปิดสถานศึกษาได้หากพบผู้มีภาวะเสี่ยงต่อโรค

#MGROnline #coronavirus #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ #โคโรนาไวรัส #ไวรัสอู่ฮั่น #ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ #武汉肺炎
https://mgronline.com/onlinesection...88f16ByNxXjWESJynds3pCsiv6X-1r8XJJA#MGROnline