ติดตามสถานะการณ์

แชร์สนั่น! ผู้คนแตกตื่น "ไวรัสโคโรน่า" ทำคนล้มทั้งยืนในอู่ฮั่น

 

#อู่ฮั่น แหล่งกำเนิดเชื้อ #CoronaVirus บังเอิญไหม
พิกัดนั้น มีมลพิษสูง
ค่าความเข้มข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ หนาแน่นเป็นพิเศษ‼️‼️

#อู่ฮั่น เป็น #ชิคาโก ของจีน
เป็น เซนเตอร์ ของการคมนาคมในจีนและต่างประเทศ
และใกล้แหล่งน้ำสำคัญหลายแหล่ง
#อู่ฮั่น เจริญ สะดวก มีตึกสูง ทางด่วน มากมาย
ยิ่งพิมพ์ไปยิ่งนึกถึงเมืองๆหนึ่ง
มีประชากร และ ผู้มาเยือนหนาแน่น
จึงกระจายเชื้อ ได้สะดวกและรวดเร็ว กว้างไกลข้ามน้ำข้ามฟ้า

ต่อไปคนที่ต้องการอยู่รอด ต้องหนีจากเมืองศิวิไลซ์ กระนั้นรึ
เข้าป่าหาอากาศดีๆ เพื่อยังชีวิต

แววมันมา แล้ว
#ยิ่งเจริญยิ่งอันตราย

#กัปตันแอน21:58 24มค63

 

อัปเดตไวรัสโคโรน่าระบาด ..สุดผวา ทีมนักวิจัยต่างชาติชี้จำนวนผู้ติดเชื้อจริง จนถึง 4 ก.พ. คาดว่ามากกว่า 2.5 แสนคน #ไวรัสโคโรนา #โคโรน่าไวรัส

 

เจาะลึกต้นตอ... "งูกินค้างคาว" ผู้ต้องสงสัยเบอร์หนึ่ง แพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

 

'สนามบิน' หยุดตรวจอุณหภูมิผู้โดยสาร ชี้ไม่มีความเสี่ยงเพราะจีนปิด 'อู่ฮั่น' แล้ว
Jan 24, 2020
( Last update Jan 24, 2020 22:20 )
'กรมควบคุมโรค' แจงหยุดใช้เครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่สนามบินแล้วตั้งแต่ ทางการ 'อู่ฮั่น' สั่งปิดเมือง ชี้เที่ยวบินตรงเที่ยวสุดท้ายจากแหล่งโรคระบาดเข้ามาเมื่อตี 1 วันที่ 23 ม.ค. หลังจากนี้ให้ ตม. ใช้สายตาประเมินสภาพนักท่องเที่ยวที่อาจป่วยแล้วค่อยส่งตรวจ
นายแพทย์โรม บัวทอง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำท่าอากาศยาน กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลจีนออกมาประกาศห้ามประชาชนที่อาศัยอยู่ในเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีนออกจากพื้นที่ โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ของวันที่ 23 ม.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเร็วกว่าเวลาในไทยประมาณ 1 ชั่วโมง ทำให้ฝั่งกรมควบคุมโรคไม่ได้ติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิผู้โดยสารที่มาจากมณฑลหูเป่ย ณ สนามบินอีกต่อไป เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินที่มีความเสี่ยงแล้ว แต่อยู่ระหว่างการปรึกษาว่าจะกลับมาติดตั้งในเที่ยวบินที่มีความเสี่ยงหรือไม่ พร้อมชี้ว่า กรมฯ ประเมินข้อมูลสถานการณ์เมืองที่มีความเสี่ยงตามประกาศขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO

• นายแพทย์โรม บัวทอง เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำท่าอากาศยาน

นพ.โรม อธิบายเพิ่มเติมว่า การติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ (Thermal Scan) จะทำกับเที่ยวบินที่มาจากแหล่งโรคระบาด ซึ่งในที่นี้คือ มณฑลหูเป่ย แต่ปัจจุบันเที่ยวบินตรงที่มาไทย มีเพียงจากเมืองอู่ฮั่นเท่านั้น เมืองอื่นๆ ในมลฑลหูเป่ยไม่มีเที่ยวบินตรงมาไทย จึงไม่จำเป็นต้องตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิตรงบริเวณประตูทางผ่านจากเครื่องบินมายังอาคารผู้โดยสาร แต่สามารถขอความร่วมมือจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ที่จะทราบที่มาขอผู้โดยสาร หากมีผู้โดยสารที่มีประวัติการเดินทางมาจากมลฑลหูเป่ยให้ช่วยซักถามและสังเกตอาการทางกายภาพของผู้โดยสารให้แทน หากพบความเสี่ยง ก็สามารถส่งต่อให้กับทีมแพทย์ในสนามบินดำเนินการต่อ


อย่างไรก็ตาม การติดตั้งเครื่องตรวจอุณหภูมิผู้โดยสารได้ถูกนำมาใช้งานตั้งแต่วันที่ 3 - 23 มกราคมที่ผ่านมา โดยเที่ยวบินสุดท้ายจากอู่ฮั่นที่มาไทย ลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิในช่วงเวลา 1.10 น. ของวันที่ 23 ม.ค. ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า กระบวนการตรวจวัดอุณหภูมิคนไข้ทั้งจากเครื่องเทอร์มอร์มิเตอร์และเครื่องวัดอุณหภูมิจากหู ทำให้ทางการไทยตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาตั้งแต่ลงจากเครื่องถึง 3 คน จากจำนวนผู้ที่มีอาการป่วยทั้งหมด 22 คน

ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากอู่ฮั่นมาประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 3-23 ม.ค. (ณ เวลา 1.10 น.) ในทั้งหมด 5 สนามบินทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่ มีทั้งสิ้น 136 ไฟลท์ คิดเป็นจำนวน 21,352 คน


สำหรับมาตรการป้องกันขั้นอื่นๆ นพ.โรม ชี้ว่า เมื่อผู้ที่มีเชื้อที่ยังไม่แสดงอาการมีไข้ซึ่งเครื่องวัดอุณหภูมิไม่สามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว หรือมีอาการไอ จาม และเจ็บคอ ณ ช่วงที่อยู่ในสนามบิน เมื่อกลุ่มคนเหล่านี้ออกไปยังสถานที่ต่างๆ ในประเทศ ต่อไปก็จะเป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลและสาธารณชนที่ต้องช่วยกันระมัดระวัง

https://voicetv.co.th/read/a9JcXr83...L4iN56FyAJ9Z7LVGTpxmXy9kz3WH7cvtvsnbKNSs_LU6A

 

ทัพจีนส่งหมอทหารกู้วิกฤตไวรัส อู่ฮั่นรพ.ล้นคนแน่น-ศพกองรอญาติมารับ
วันที่ 24 มกราคม 2563 - 22:19 น

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. เซาท์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ รายงานความคืบหน้าสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เริ่มพบที่เมืองอู่ฮั่น มณฑล หูเป่ย ทางตะวันออกของจีนว่า ทางการมีคำสั่งส่งแพทย์ทหารจากกองทัพมาช่วย เนื่องจากหลายโรงพยาบาลในอู่ฮั่นมีเตียงไม่เพียงพอรองรับจำนวนผู้ติดเชื้อที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น และต้องต่อคิวยาวมาก

เบื้องต้น แพทย์ทหาร 40 นาย จากกองทัพเมืองอู่ฮั่น เข้าประจจำการที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาล Wuhan Pulmonary Hospital แล้ว จากนั้นกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนในกรุงปักกิ่งจะส่งแพทย์ทหารมาสมทบอีก

ด้าน เดลีเมล์ รายงาน คลิปภาพที่พยาบาลของโรงพยาบาล อู่ฮั่น เรด ครอส โพสต์เผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย โดยผู้ใช้ชื่อว่า เมจิก เกิร์ล เสี่ยวสี (magic girl Xiao Xi) เผยถึงความแออัดแน่นขนัดในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังมีเสียงตะโกนพร้อมภาพซูมไปที่ผ้าคลุมขาวห่อร่าง ว่า “3 ศพที่กองอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เช้าแล้วนะ บางคนเสียชีวิตหลายชั่วโมงมาแล้วนะ ยังไม่มีใครมารับศพเลย”

โพสต์ดังกล่าวเขียนด้วยว่า หมอและพยาบาลต้องทำงานอยู่ท่ามกลางสิ่งแวดล้อมแบบนี้ตลอดเวลา ยังไม่มีใครเข้ามาจัดการ แม้แต่ผู้บริหารโรงพยาบาลก็แก้ไขไม่ได้

ส่วน เดอะซัน รายงานประมวลภาพและคลิปที่มีคนโพสต์ทางโซเชียลจีน ยังไม่ยืนยันที่มาที่ไป ว่าอู่ฮั่นกลายเป็นเมืองซอมบี้ มีทั้งภาพคนสลบคาพื้นถนน ภาพที่คนยืนรอคิวแล้วล้มลงสลบคาพื้นโรงพยาบาล ขณะที่หน่วยแพทย์พยาบาลรุดเข้าช่วย

สำหรับมาตรการคุมเข้มการแพร่ระบาดของเชื้อ ทางการจีนปิดเมืองเพิ่มเติมในมณฑลหูเป่ยเพิ่มเป็น 13 เมือง ระงับการใช้ระบบการขนส่งมวลชนทั้งทางบกและทางน้ำทั้งหมด ครอบคลุมประชากรราว 41 ล้านคน

ขณะเดียวกันยังเร่งสร้างโรงพยาบาลที่เมืองอู่ฮั่นให้แล้วเสร็จภายใน 10 วัน กำหนดเปิดบริการในวันที่ 3 ก.พ. เพื่อบรรเทาปัญหาการขาดแคลนทรัพยากรการรักษาพยาบาลและปรับปรุงความสามารถในการดูแลผู้ป่วย


TOPSHOT – โรงพยาบาลใหม่ 1,000 เตียง เริ่มสร้างแล้วที่อู่ฮั่น (Photo by STR / AFP) / China OUT
สำหรับโรงพยาบาลแห่งใหม่ อยู่ใกล้ทะเลสาบจืออินของเขตช่ายเตียน ก่อสร้างโดยอ้างอิงรูปแบบจากโรงพยาบาลปักกิ่ง เสี่ยวทังซาน ที่กรุงปักกิ่ง แบบที่ใช้รักษาผู้ป่วยโรคซาร์ส กลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง เมื่อปี 2546 จะมีขนาดพื้นที่ 25,000 ตารางเมตร และเตียงผู้ป่วย 1,000 เตียง ส่วนการก่อสร้างอ้างอิงตามรูปแบบ โรงพยาบาลเสี่ยวทังซานในกรุงปักกิ่ง

นอกจากนี้ยังมีมาตรการคุมเข้ม ให้ยกงานฉลองตรุษจีนตามเมืองใหญ่ รวมถึงกรุงปักกิ่งและนครเซี่ยงไฮ้ ปิดสถานที่สำคัญ ทั้งพระราชวังต้องห้าม สุสานราชวงศ์หมิง สนามกีฬารังนก บางพื้นที่ของกำแพงเมืองจีนในกรุงปักกิ่ง และสวนสนุกดิสนีย์ในนครเซี่ยงไฮ้


พระราชวังต้องห้ามปิดชั่วคราวแล้ว BEIJING, CHINA (Photo by VCG/VCG via Getty Images)
คณะกรรมาธิการสุขภาพแห่งชาติของจีน (เอ็นเอชซี) แจ้งยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 26 ราย ผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 882 คน ในจำนวนนี้ 177 คน ยังมีอาการสาหัส และกำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้ออีก 1,072 คน ขณะที่บุคลากรแพทย์ในเมืองอู่ฮั่นติดเชื้ออย่างน้อย 15 คน นอกจากนี้ รายงานเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ยืนยันการระบาดใน 29 มณฑล จากทั้งหมด 31 มณฑลทั่วประเทศ


A nurse (C), wearing protective clothing to help stop the spread of a deadly virus which began in the city, looks at a thermometer at the Wuhan Fifth Hospital in Wuhan on January 24, 2020. (Photo by Hector RETAMAL / AFP)
สำหรับผู้เสียชีวิตรายใหม่ มีประเด็นน่าวิตกว่า รายหนึ่งอยู่ในมณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ ติดพรมแดนรัสเซีย อยู่ห่างจากเมืองอู่ฮั่นถึง 2,000 ก.ม. ไม่เคยมาเยือนเมืองอู่ฮั่น และ ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายที่สองจากนอกเมืองอู่ฮั่น

ด้านผู้ติดเชื้อนอกแผ่นดินใหญ่พบเพิ่มอีก 3 ประเทศ ได้แก่ เวียดนาม 2 คน สิงคโปร์ 3 คน และฮ่องกง 1 คน จากเดิม ไทย 5 คน ฮ่องกง 2 คน มาเก๊า 2 คน เกาหลีใต้ 2 คน และไต้หวัน สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ดินแดนละ 1 คน

ที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ของสหประชาชาติ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ นายทีโดรส กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ WHO แถลงข่าว การประชุมฉุกเฉินเมื่อวันพุธว่า การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินในจีน แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นภาวะฉุกเฉินสาธารณสุขโลก พร้อมชื่นชมจีนในมาตรการป้องกัน แต่แสดง ความหวังว่าจะมีประสิทธิภาพและใช้ระยะเวลาอันสั้น

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3455647

 

จีนอาจไม่ปกปิดกรณีไวรัสอู่ฮั่น..แต่โลกก็ไม่อาจไว้ใจจีนได้! Is the China virus count too low?
โดย: โพสต์ทูเดย์ www.posttoday.com
17 ปีก่อนจีนเคยปกปิดการระบาดของโรคซาร์สจนเชื้อแพร่ไปทั่วโลก การระบาดของโคโรนาไวรัสครั้งนี้จึงทำให้ชาวจีนและชาวโลกอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยอีก
การระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่จากเมืองอู่ฮั่นของจีน (2019-nCov) เริ่มแพร่กระจายเป็นวงกว้าง พบผู้ติดเชื้อทั้งในสหรัฐ ไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเก๊า และประเทศไทย ขณะที่ในจีนเองเชื้อเริ่มระบาดในหลายเมือง โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้น
นอกจากจะต้องหาทางควบคุมการแพร่ระบาดให้เร็วที่สุดแล้ว รัฐบาลจีนยังมีความท้าทายใหญ่ไม่แพ้กันรออยู่ นั่นก็คือ เสียงเรียกร้องจากทั้งในและนอกประเทศให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับไวรัสตัวใหม่อย่างโปร่งใส
หากยังจำกันได้เมื่อ 17 ปีที่แล้วที่โรคซาร์ส (SARS) ระบาด รัฐบาลจีนถูกชาวโลกวิจารณ์อย่างหนักว่าทั้งปกปิดข้อมูลและรับมือช้าไปจนเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างจนมีผู้เสียชีวิตกว่า 800 ราย ติดเชื้ออีกว่า 8,000 รายทั่วโลก
การระบาดของโคโรนาไวรัสครั้งนี้จึงทำให้ชาวจีนและชาวโลกอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุการณ์จะซ้ำรอยอีก
ปีเตอร์ คอร์ดิงลีย์ ที่ทำหน้าที่โฆษกองค์การอนามัยโลกระหว่างที่เกิดวิกฤตไวรัสซาร์ส ถึงกับตำหนิการรับมือการแพร่ระบาดของโรคปอดในเมืองอู่ฮั่นของจีนว่า “ปกปิดการแพร่ระบาดมาตั้งแต่แรก” โดยกล่าวเพิ่มเติมว่าในฐานะที่เป็นโฆษกขององค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2003 เขาเห็นความชะล่าใจของทางการเหมือนกับที่เคยเห็นเมื่อ 17 ปีที่แล้ว
ครั้งล่าสุดนี้ หน่วยงานสาธารณสุขของเมืองอู่ฮั่นประกาศว่ามีโรคปอดระบาดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว หลังจากผู้ติดเชื้อรายแรกมีอาการป่วยถึง 3 สัปดาห์
ทางการเมืองอู่ฮั่นพยายามยืนยันมาหลายสัปดาห์ว่าไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ตั้งแต่วันที่ 3 ม.ค. และรับมือเสมือนว่าเชื้อโคโรนาไวรัสถูกจำกัดอยู่ในเฉพาะเมืองอู่ฮั่นเท่านั้น จนกระทั่งสื่อฮ่องกงเริ่มรายงานว่าพบการติดเชื้อในพื้นที่อื่นของจีนด้วย ทางการจีนจึงค่อยยอมรับ
นอกจากนี้ เว็บไซต์ The New York Times ยังรายงานว่า รัฐบาลจีนพยายามควบคุมการรายงานสถานการณ์ไวรัสด้วยการเซ็นเซอร์ข่าวและโพสต์ในโซเชียลมีเดีย และตำรวจในเมืองอู่ฮั่นได้สวบสวนชาวจีน 8 คนในข้อหาเผยแพร่ข่าวลือ
พฤติการณ์เหล่านี้ทำให้ผู้คนอดคิดไม่ได้ว่าทางการท้องถิ่นหรือระดับชาติกำลังปกปิดข้อมูลอะไรอยู่
จีนต้องไม่ลืมว่าความโปร่งใสคืออาวุธชั้นดีในการกำจัดข่าวลือและความตื่นตระหนกของประชาชน
หูซีจิ้น บรรณาธิการหนังสือพิมพ์ Global Times ในเครือหนังสือพิมพ์ People’s Daily ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ถึงกับวิจารณ์ทางการท้องถิ่นเมืองอู่ฮั่นว่ารับมือกับสถานการณ์ด้วยความเอื่อยเฉื่อย และตั้งคำถามว่าหากจงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคทางเดินหายใจของจีนไม่ยืนยันว่าเชื้อโคโรนาไวรัส 2019-nCov สามารถแพร่จากคนสู่คน ทางการเมืองอู่ฮั่นจะกล้าเปิดเผยเรื่องนี้หรือไม่
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (20 ม.ค.) ถือเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงเอ่ยถึงการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส 2019-nCov โดยแจ้งให้เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดป้องกันการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส พร้อมทั้งย้ำให้ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนเป็นอันดับแรก
ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าช้าไป ชาวจีนหลายคนได้แต่ตั้งคำถามว่าทำไมรัฐบาลกลางจึงต้องปล่อยให้เวลาผ่านไปเกือบเดือน
นอกจากนี้ วันอังคารที่ผ่านมา (21 ม.ค.) คณะกรรมการกลางทางการเมืองและกฎหมายของจีนออกประกาศว่าไม่ให้เจ้าหน้าที่ปกปิดข้อมูล ยิ่งทำให้เกิดความสงสัยว่าก่อนหน้านี้จะต้องมีการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับการระบาดของโรคปอดปริศนาจริงๆ มิเช่นนั้นทางการคงไม่ออกมาปราม
ภาพลักษณ์รัฐบาลจีนยังย่ำแย่หนักในสายตาประชาชนถึงขั้นมีข่าวลือออกมาว่าเจ้าหน้าที่บางรายเริ่มหนีงานไปอยู่ในเซฟเฮ้าส์เพื่อไม่ให้ตัวเองติดเชื้อโรค ข่าวนี้สะท้อนว่าแม้แต่คนจีนเองยังไม่เชื่อมั่นว่าเจ้าหน้าที่จะควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่ คงเป็นการยากที่รัฐบาลจีนจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นนี้กับชาวต่างชาติ
อย่างไรก็ดี ความเห็นจากอีกฝั่งหนึ่งมองว่าความล่าช้าในการประกาศการแพร่ระบาดเกิดจากทั้งเทคโนโลยีและระบบราชการของจีน
จงหนานซาน ผู้เชี่ยวชาญที่รัฐบาลมอบหมายให้ลงพื้นที่รับมือเชื้อไวรัส 2019-nCov เผยว่า บางโรงพยาบาลในท้องถิ่นยังขาดชุดทดสอบการติดเชื้อ อีกทั้งกระบวนการต่างๆ ก็ค่อนข้างช้า เนื่องจากโรงพยาบาลท้องถิ่นต้องเขียนรายงานเคสไปยังคณะกรรมการสาธารณสุขของรัฐบาลกลางเพื่อตรวจสอบก่อนที่จะประกาศให้สาธารณชนทราบ อีกทั้งยังยืนยันว่าทางการจีนยังร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญจากฮ่องกงซึ่งแสดงให้เห็นว่าจีนไม่มีความลับ
ด้าน สตีฟ จาง ประธานสถาบันจีนศึกษาของวิทยาลัยบูรพคดีศึกษาและและแอฟริกันศึกษาของมหาวิทยาลัยลอนดอน มองว่าที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นขยับตัวช้าเพราะไม่กล้าลุกขึ้นมาสั่งการ เนื่องจากกลัวว่าหากไม่ถูกใจสีจิ้นผิงอาจถูกลงโทษ ซึ่งกรณีนี้มักเกิดกับประเทศที่รวมศูนย์อำนาจไว้ที่ผู้นำเพียงคนเดียว อำนาจการตัดสินใจเรื่องสำคัญหรือละเอียดอ่อนอยู่ที่ผู้นำสูงสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น
ส่วนมาตรการป้องกันควบคุมของทางการจีน ล่าสุดทางการสั่งติดตั้งเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารขาออกทั้งในสนามบินเมืองอู่ฮั่นและสนามบินทั่วประเทศ เพื่อเตรียมรับเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนนับร้อยล้านคนจะเดินทางครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของโลก ขณะที่ทางการเมืองอู่ฮั่นยังสั่งห้ามกรุ๊ปทัวร์เดินทางออกจากเมืองและสั่งตรวจเช็กยานพาหนะขนส่งสัตว์มีชีวิตอย่างละเอียด
ทว่าการตรวจเช็กอุณหภูมินักท่องเที่ยวขาเข้าและขาออกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากเคสของผู้ติดเชื้อรายแรกในมาเก๊า ผู้ป่วยไม่แสดงอาการขณะที่เดินผ่านเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ
อีกทั้งนักท่องเที่ยวบางรายที่เคยเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นอาจเดินทางเข้ามาจากประเทศที่สาม หากตรวจเช็กเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มาจากอู่ฮั่นโดยตรงอย่างเดียว กลุ่มคนเหล่านี้อาจหลุดรอดการตรวจสอบ
News and photo by https://www.posttoday.com/world/612523
https://www.posttoday.com/world/612676

 

#อัพเดท มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ในจีน 901ราย (บางสื่อในจีนบอก 898) เสียชีวิตรวม 26ราย ออกจากรพ.แล้ว40ราย ตามข้อมูลจาก Sina
.
ข้อมูลล่าสุด ณ เวลา 23.00น.ตามเวลาประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อทั่วจีน 900ราย เสียชีวิต26ราย แบ่งเป็น / พบผู้เสียชีวิตนอกเมืองอู่ฮั่นและมณฑลหูเป่ยรายที่เหอเป่ยและ มณฑลเฮยหลงเจียง
(ตัวเลขผู้ติดเชื้อในรูปเขียน 896 แต่บวกเลขจริงๆแล้ว ได้ 900 และเพิ่มไต้หวัน รายล่าสุดอีก1ราย ตามข้อมูลจาก South China Morning Post )
- มณฑลหูเป่ย 549ราย เสียชีวิต 24ราย
- ปักกิ่ง 36 ราย
- กว่างตง 53 ราย (รวมกว่างโจว,เซินเจิ้น,จูไห่)
- เซี่ยงไฮ้ 20ราย
- เจ้อเจียง 43ราย
- หยุนหนาน 5ราย
- ซื่อชวน 15ราย
- ซานตง 15ราย
- กว่างซี 13ราย
- กุ้ยโจว 4ราย
- อันฮุย 15ราย
- ไห่หนาน 5 ราย
- หนิงเซี่ย 3ราย
- ฝูเจี้ยน 10ราย
- เจียงซี 7ราย
- เทียนจิน 8 ราย
- เหอหนาน 9 ราย
- ฉงชิ่ง 27 ราย
- ซานซี 1 ราย
- หูหนาน 24 ราย
- เหลียวหนิง 4 ราย
- เหอเป่ย 2 ราย เสียชีวิต1ราย
- จี๋หลิน 3 ราย
- ซินเจียง 2 ราย
- ส่านซี 5 ราย (รวมซีอาน)
- ไต้หวัน 3ราย
- มาเก๊า 2ราย
- มณฑลเจียงซู 9ราย ( หนานจิง 3ราย เมืองซูโจว 2ราย เหลียนหยุนกั่ง 1 ราย หยางโจว 1ราย,หนานทง 1,อู๋ซี1)
- กานซู่ 2 ราย
- เฮยหลงเจียง 4ราย (รวมเมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลนี้ ) เสียชีวิต1ราย
- เน่ยเหมิงกู่ (เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน) 1 ราย
- ฮ่องกง 2 ราย
มีผู้ที่ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาและออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว 34 ราย และตอนนี้คาดว่าทั่วจีน มีผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นทั้งสิ้น 1,072ราย
.
ต่างประเทศ มีผู้ติดเชื้อในไทย 5 ราย (รักษาหายและกลับประเทศแล้ว2ราย),ญี่ปุ่น 2,เกาหลีใต้2,อเมริกา2, เวียดนาม 2ราย สิงคโปร์3ราย
.
เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (24มกราคม 2563)มีรายงานอีกว่าทางจีน ได้ติดตาม-เฝ้าระวังและตรวจสอบผู้ที่มีประวัติใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อและเสี่ยงว่าจะเป็นทั้งสิ้นอย่างน้อย 9,507ราย ออกจากการเฝ้าระวังแล้ว 1,087ราย และยังคงอยู่ในการเฝ้าระวังและตรวจสอบอีก 8,420ราย
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

.....ข่าวนี้น่ากลัวมาก สถานการณ์ที่อู่ฮั่นตอนนี้ อย่างที่รู้กันว่า รพ คับคั่งไปด้วยผู้คน
มีเคสนึงที่กำลังเป็นประเด็นในโซเชี่ยลของจีน คือมีคนไข้มา รพ แล้ว จนท ของ รพ ก็แจกหน้ากากให้ทุกคนสวมใส่ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดแล้วแนะนำคนไข้ให้สวมหน้ากากจะได้ไม่ติดเชื้อ ทันใดนั้นก็มีคนไข้ที่รอคิวอยู่ คงหวาดกลัวหรือเครียด เสียขวัญ จนขาดสติ เขาตะโกนลั่นว่า กรูไม่ใส่ กรูป่วยไปแล้ว มาแจกหน้ากากให้กรูตอนนี้จะได้ประโยชน์อะไรขึ้นมา แล้วคนไข้คนนั้นก็ดึงหน้ากากของ จนท ออกแล้วถุยน้ำลายใส่เธอ แล้วยังด่าใส่สตาฟอีกว่า ถ้ากรูตาย พวกมึงก็ต้องตายไปพร้อมกับกู
จนท คนที่ถูกถุยน้ำลายใส่หวาดกลัวจนร้องไห้ และต้องถูกนำไปกักกันโรคอีกคน
และไม่ใช่แค่เหตุการณ์เดียวที่เป็นแบบนั้น ตอนนี้กำลังมีไวรัลใน weibo อีกหลายอัน
ที่เป็นหมอถูกญาติคนไข้ตะโกนใส่ด้วยประโยคคล้ายๆกัน คือ มึงใส่หน้ากากทำไม ถ้าพวกกรูตาย พวกมึงก็มาตายไปด้วยกัน
....นี่คืออะไรที่น่ากลัวที่สุดตอนเกิดโรคระบาด คือตอนที่คนหวาดกลัวจนขาดสติ ส่วนพ่อแม่พี่น้องที่ติดตามข่าวนี้อยู่ โปรดติดตามข่าวโดยมีสติ หาข้อมูลให้เยอะ และไม่ตื่นตระหนก ถ้าเรารู้ข้อมูล วิธีป้องกันจากมัน รู้ว่าถ้ามีอาการยังไงถึงควรไปหาหมอ เราก็จะไม่กลัวไม่ตื่นตระหนก

 

จากข่าวที่ปรากฏในสื่อบางสื่อ อาจทำให้ประชาชนสับสนได้ครับ ทางกรมขอยืนยันว่า นอกจากจะไม่หยุดทำการคัดกรองแล้ว พรุ่งนี้จะเริ่มการคัดกรองเที่ยวบินที่มาจากเมืองอื่นๆ ที่มีรายงานการระบาดอีกด้วย เช่น Guangzhou เป็นต้น

 

สาวจีนพลเมืองดี เข้าไปไล่พ่อค้าไร้จรรยาบรรณ "นำหน้ากากอนามัยใช้แล้ว มาขายที่ตลาด" ท่ามกลางสถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ที่รุนแรง
.
กลายเป็นคลิปไวรัลบนโซเชียลจีน Weibo เมื่อมีผู้ใช้งาน Weiboคนหนึ่ง เข้าไปต่อว่าพ่อค้าที่เอา "หน้ากากอนามัยใช้แล้วมาขาย" ที่ตลาดแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุย
พอคลิปนี้ถูกเผยแพร่ ชาวโซเชียลจีนก็พากันต่อว่าพ่อค้าคนนี้เช่นกัน เพราะการทำแบบนี้ทันเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ
#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

 

สรุป เคสที่ชิคาโก เป็นหญิงอายุประมาณหกสิบ
เดินทางไปเที่ยวอู่ฮั่นช่วงเดือนธันวา และกลับชิคาโก ตอนวันที่ 13 มกรา และหลังกลับมาได้ไม่กี่วันก็เริ่มมีอาการ และไปหาหมอ และผลตรวจก็ยืนยันในวันนี้ว่าเป็นโคโรน่าไวรัส เคสนี้ทางควบคุมโรคสหรัฐ คาดว่าผู้ป่วยไม่น่าแพร่เชื้อให้กับคนรอบข้าง เพราะไลฟ์สไตล์ของเธอที่ไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนบ้าน และไม่ได้ใช้ขนส่งมวลชน ถือว่าโชคดีไป

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

จีน เมื่อคืนที่ผ่านมามียานพาหนะจากหวู่ฮั่นจำนวนมาก เดินทางมาถึงเซี่ยงไฮ้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีฮิสทีเรียหรือความกลัวร่วมกัน แต่สำหรับหลาย ๆ คนที่ต้องการเฉลิมฉลองปีใหม่ในบริบทที่ตึงเครียดน้อยลง

 

Setiawan

พายุลูกเห็บในมาลากา, สเปน 23 มกราคม 2020

 

Setiawan


การระเบิดครั้งใหญ่ใน NW Houston รู้สึกทั่วทั้งภูมิภาค

เท็กซัส 24 มกราคม 2020


ต้นกำเนิดของการระเบิดอยู่ที่ บริษัท วัตสันคัฟแอนด์แมชชีนนิ่ง จำกัด ซึ่งเป็น บริษัท ด้านเครื่องจักรกลและการผลิตตามเว็บไซต์

Massive explosion in NW Houston felt across region.

Texas Jan24 2020


The origin of the explosion was at Watson Grinding and Manufacturing, a machining and manufacturing company, according to its website.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พายุฝุ่นกระทบซาอุดีอาระเบีย #24 ม. ค.

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

ทีมแพทย์กองทัพจีนออกจากเซี่ยงไฮ้เพื่อหวู่ฮั่น เพื่อช่วยรับมือกับการระบาดของโรคคอโรนาไวรัส

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

นี่เป็นการต้อนรับของหมอ 30 คน ที่มาถึงโรงพยาบาลกวางโจว ทางตอนเหนือของหวู่ฮั่น

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


อินโดนีเซียฝนไม่หยุดตกที่ Banjir ฝนตกถึง 30 ถึง 60 มม