ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    สุขสันต์วันครบรอบ.
    Happy Anniversary.
    FB_IMG_1569279711291.jpg FB_IMG_1569279715495.jpg FB_IMG_1569279718251.jpg FB_IMG_1569279720990.jpg
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครบรอบ 2 ปี ของสัญญาณที่ 1
    FB_IMG_1569279711291.jpg

    พร้อมการปรากฏของสัญญานที่ 2 "ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งฝาแฝดในวันนั้น ซึ่งคำปรากฏมีเพียงหนึ่งเดียวในไบเบิล หลังจากอ่านส่วนนี้แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้และใครจะได้รับการบันทึกไว้ ฝาแฝดหมายถึงดีและเลว, รักและเกลียด, ชีวิตและความตาย"
    FB_IMG_1569280067724.jpg

    Jenna Hodgson

    เราเป็นพยานของสัญญานที่สองในสวรรค์ในวันที่ 23 กันยายน 2019 จากคัมภีร์ไบเบิล12:3 และหมายสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็ปรากฏในสวรรค์ นี่แน่ะ มีพญานาคสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา และบนหัวทั้งเจ็ดมีมงกุฎเจ็ดอัน 4และหางของพญานาคตวัดดวงดาวหนึ่งส่วนสามในท้องฟ้า แล้วทิ้งลงมาบนแผ่นดินโลก และพญานาคตัวนั้นก็ยืนอยู่ข้างหน้าหญิงที่กำลังจะคลอดบุตร เพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่บุตรนั้นคลอดออกมา 5แล้วนางก็คลอดบุตรชาย ผู้ที่จะครอบครองประชาชาติทั้งหมดด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกนำตัวไปเฝ้าพระเจ้ายังพระที่นั่งของพระองค์ 6และหญิงคนนั้นก็หนีเข้าไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีสถานที่ซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูตลอดหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน
    7ขณะนั้นเกิดสงครามขึ้นในสวรรค์ มีคาเอล กับบรรดาทูตสวรรค์ของท่านต่อสู้กับพญานาค และพญานาคกับบริวารของมันก็ต่อสู้ 8แต่มันพ่ายแพ้และพบว่าไม่มีที่อยู่สำหรับพวกมันในสวรรค์อีกต่อไป 9พญานาคใหญ่ตัวนั้นคืองูดึกดำบรรพ์ ที่เขาเรียกกันว่ามารและซาตานผู้ล่อลวงมนุษย์ทั้งโลก มันถูกโยนลงมาที่แผ่นดินโลก และเหล่าบริวารของมันถูกโยนลงมากับมันด้วย

    ดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งฝาแฝดในวันนั้น ซึ่งคำปรากฏมีเพียงหนึ่งเดียวในไบเบิล หลังจากอ่านส่วนนี้แล้วคุณจะเข้าใจสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในตอนนี้และใครจะได้รับการบันทึกไว้ ฝาแฝดหมายถึงดีและเลว, รักและเกลียด, ชีวิตและความตาย

    โรมัน 9: 6 แต่ไม่ใช่ว่าพระวจนะของพระเจ้าได้ล้มเหลวไป เพราะว่าไม่ใช่ทุกคนที่เกิดมาจากอิสราเอลนั้น เป็นคนอิสราเอลแท้ 7และไม่ใช่ทุกคนที่เป็นลูกของอับราฮัมเป็นเชื้อสายแท้ของท่าน แต่ว่าเขาจะเรียกเชื้อสายของท่านทางสายอิสอัค 8หมายความว่าคนที่เป็นลูกของพระเจ้านั้นไม่ใช่ลูกของเนื้อหนัง แต่เป็นลูกของพระสัญญา จึงจะถือว่าเป็นผู้สืบเชื้อสายได้ 9เพราะพระสัญญามีว่าดังนี้“เราจะมาตามฤดูกาล และนางซาราห์จะมีบุตรชาย” 10และไม่ใช่เท่านั้น แต่ว่านางเรเบคาห์ก็ได้มีบุตรสองคนจากสามีคนเดียวคืออิสอัคบรรพบุรุษของพวกเรา 11แม้ก่อนบุตรนั้นเกิดมา และยังไม่ได้ทำดีหรือชั่ว (เพื่อพระประสงค์ของพระเจ้าในการทรงเลือกนั้นจะตั้งมั่นคงอยู่ 12ไม่ใช่ตามการประพฤติ แต่ตามซึ่งพระองค์ทรงเรียก) พระองค์จึงตรัสแก่นางนั้นว่า “พี่จะปรนนิบัติน้อง” 13ตามที่มีคำเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “ยาโคบนั้นเรารัก แต่เอซาวเราชัง” 14ถ้าอย่างนั้น เราจะว่าอย่างไร? พระเจ้าไม่ทรงยุติธรรมหรือ? เปล่าเลย 15เพราะพระองค์ตรัสกับโมเสสว่า “เราประสงค์จะกรุณาใคร เราก็จะกรุณาคนนั้น และเราจะเมตตาใคร เราก็จะเมตตาคนนั้น” 16เพราะฉะนั้น ทุกสิ่งจึงไม่ขึ้นกับความตั้งใจหรือความมานะของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับพระเมตตาของพระเจ้า 17เพราะมีข้อพระคัมภีร์ที่กล่าวแก่ฟาโรห์ว่า “เพราะเหตุนี้เองเราจึงได้ตั้งเจ้าขึ้น เพื่อเราจะสำแดงฤทธานุภาพของเราให้ปรากฏทางตัวเจ้า และเพื่อให้นามของเราประกาศไปทั่วโลก” 18เพราะฉะนั้นพระองค์จะทรงพระเมตตาใคร ก็จะทรงพระเมตตาคนนั้น และพระองค์จะทรงให้ใครมีใจแข็งกระด้าง ก็จะทรงให้คนนั้นมีใจแข็งกระด้าง พระพิโรธและพระเมตตาของพระเจ้า 19แล้วท่านก็จะพูดกับข้าพเจ้าว่า “ถ้าอย่างนั้น ทำไมพระองค์ยังทรงติเตียน? ใครจะขัดขืนพระประสงค์ของพระองค์ได้?” 20มนุษย์เอ๋ย ท่านเป็นใครที่จะโต้ตอบกับพระเจ้า? สิ่งซึ่งถูกปั้นจะกล่าวแก่ผู้ปั้นได้หรือว่า “ทำไมท่านจึงปั้นข้าพเจ้าอย่างนี้?” 21ส่วนช่างปั้นหม้อ ไม่มีสิทธิเอาดินก้อนเดียวกัน มาปั้นเป็นภาชนะที่ใช้ในโอกาสพิเศษอันหนึ่ง และทั่วๆ ไปอีกอันหนึ่งหรือ? 22เป็นไปได้ไหมที่พระเจ้าทรงประสงค์จะแสดงพระพิโรธ และให้ฤทธิ์เดชของพระองค์ปรากฏ แต่พระองค์ทรงอดทนมากต่อคนเหล่านั้นที่เป็นภาชนะแห่งพระพิโรธ ซึ่งเตรียมไว้สำหรับความพินาศ? 23เพื่อจะได้ทรงให้ศักดิ์ศรีอันอุดมของพระองค์ปรากฏแก่บรรดาผู้ที่เป็นภาชนะแห่งพระเมตตา ซึ่งพระองค์ได้ทรงจัดเตรียมไว้ก่อนให้สมกับศักดิ์ศรีนั้น? 24คือเราที่พระองค์ได้ทรงเรียกมาแล้ว ไม่ใช่จากพวกยิวเท่านั้น แต่จากพวกต่างชาติด้วย 25ดังที่พระองค์ตรัสไว้ในพระคัมภีร์โฮเชยาว่า “เราจะเรียกเขาเหล่านั้นว่าเป็นชนชาติของเรา ซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นชนชาติของเรา และจะเรียกเขาว่าเป็นที่รัก ซึ่งเมื่อก่อนเขาไม่ได้เป็นที่รัก 26 และในสถานที่ซึ่งทรงกล่าวแก่เขาว่า ‘เจ้าทั้งหลายไม่ใช่ชนชาติของเรา’
    ในที่นั้นเองเขาทั้งหลายจะได้ชื่อว่า บุตรของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ ” 27และท่านอิสยาห์ได้ร้องประกาศเรื่องพวกอิสราเอลว่า “แม้พวกอิสราเอลจะทวีมากขึ้นเหมือนเม็ดทรายที่ทะเล แต่ผู้ที่จะรอดนั้นมีน้อย 28เพราะว่าองค์พระผู้เป็นเจ้า จะทรงให้เป็นไปตามพระดำรัสของพระองค์โดยเร็วพลันบนแผ่นดินโลก” 29และตามที่ท่านอิสยาห์ได้กล่าวไว้ก่อนว่า “ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าจอมทัพไม่ได้ทรงเหลือพงศ์พันธุ์ไว้ให้เราบ้าง เราก็จะเป็นเหมือนเมืองโสโดม และเมืองโกโมราห์”

    เปิดดูไฟล์ 5068895

    We are witnesses of the second sign in the heaven on September 23 2019 from the Bible Revelation 12 : 3 "Then another sign appeared in heaven: an enormous red dragon with seven heads and ten horns and seven crowns on its heads. 4 Its tail swept a third of the stars out of the sky and flung them to the earth. The dragon stood in front of the woman who was about to give birth, so that it might devour her child the moment he was born. 5 She gave birth to a son, a male child, who “will rule all the nations with an iron scepter.” And her child was snatched up to God and to his throne. 6 The woman fled into the wilderness to a place prepared for her by God, where she might be taken care of for 1,260 days. 7 Then war broke out in heaven. Michael and his angels fought against the dragon, and the dragon and his angels fought back. 8 But he was not strong enough, and they lost their place in heaven. 9 The great dragon was hurled down—that ancient serpent called the devil, or Satan, who leads the whole world astray. He was hurled to the earth, and his angels with him".
    The Moon is in TWINS position at that day, which word appears only ones in the Bible. After reading this part you'll understand what is going to happen now and who will be saved. TWINS means GOOD and BAD, LOVE and HATE, LIFE and DEATH.
    Romans 9 : 6 "It is not as though God’s word had failed. For not all who are descended from Israel are Israel. 7 Nor because they are his descendants are they all Abraham’s children. On the contrary, “It is through Isaac that your offspring will be reckoned.” 8 In other words, it is not the children by physical descent who are God’s children, but it is the children of the promise who are regarded as Abraham’s offspring. 9 For this was how the promise was stated: “At the appointed time I will return, and Sarah will have a son.” 10 Not only that, but Rebekah’s children were conceived at the same time by our father Isaac. 11 Yet, before the TWINS were born or had done anything good or bad—in order that God’s purpose in election might stand: 12 not by works but by him who calls—she was told, “The older will serve the younger.” 13 Just as it is written: “Jacob I loved, but Esau I hated.” 14 What then shall we say? Is God unjust? Not at all! 15 For he says to Moses, “I will have mercy on whom I have mercy, and I will have compassion on whom I have compassion.” 16 It does not, therefore, depend on human desire or effort, but on God’s mercy. 17 For Scripture says to Pharaoh: “I raised you up for this very purpose, that I might display my power in you and that my name might be proclaimed in all the earth.” 18 Therefore God has mercy on whom he wants to have mercy, and he hardens whom he wants to harden. 19 One of you will say to me: “Then why does God still blame us? For who is able to resist his will?” 20 But who are you, a human being, to talk back to God? “Shall what is formed say to the one who formed it, ‘Why did you make me like this?’”21 Does not the potter have the right to make out of the same lump of clay some pottery for special purposes and some for common use? 22 What if God, although choosing to show his wrath and make his power known, bore with great patience the objects of his wrath—prepared for destruction? 23 What if he did this to make the riches of his glory known to the objects of his mercy, whom he prepared in advance for glory— 24 even us, whom he also called, not only from the Jews but also from the Gentiles? 25 As he says in Hosea: “I will call them ‘my people’ who are not my people; and I will call her ‘my loved one’ who is not my loved one,” 26 and, “In the very place where it was said to them, ‘You are not my people,’ there they will be called ‘children of the living God.’” 27 Isaiah cries out concerning Israel: “Though the number of the Israelites be like the sand by the sea, only the remnant will be saved. 28 For the Lord will carry out his sentence on earth with speed and finality.” 29 It is just as Isaiah said previously: “Unless the Lord Almighty had left us descendants, we would have become like Sodom, we would have been like Gomorrah.

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    อ่าวเม็กซิโก # 22 ก.ย.
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ครบรอบกึ่งพุทธการ พร้อมการปรากฏขึ้นของสัญญาณที่ 1 ปี พ.ศ.2560 เหมือนกัน

    FB_IMG_1569279711291.jpg

    พ.ศ.2560 คือกึ่งพุทธกาล! ในปีหน้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!? Publish 2016-09-01 14:39:33
    เรื่องนี้เขียนโดย คุณวีระชัย จากเว็บบอร์ดพลังจิต http://board.palungjit.org (กระทู้ คำทำนายโบราณ เมื่อกึ่งพุทธกาล พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด (พ.ศ. 2560 เป็นต้นไป)) โดยคุณวีระชัย ได้เรียบเรียงชี้แจงไว้ว่า แท้จริงช่วงเวลากึ่งพุทธกาลคือปี 2560 ไม่ใช่ 2500 อย่างที่เข้าใจกัน เพราะเรานับพ.ศ.ผิดกันมาตลอด ! ปี พ.ศ. 2560 คือ กึ่งพุทธกาล ครบ 2,500 ปี หลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน การใช้ พ.ศ. ของประเทศไทยคลาดเคลื่อน เรานับเร็วเกินไปถึง 60ปี ! โดยแบ่งเป็นประเด็น 3 ประเด็นดังนี้
    1). The Cambridge and Oxford histories of India ยอมรับว่า พระพุทธเจ้าทรงปรินิพพาน 483 ปีก่อน คริสตศักราช
    ปีนี้ 2016 + 483 = ปี 2499
    พระพุทธเจ้าได้ปรินิพพานไปแล้ว 2,499 ปี
    พ.ศ. ของไทย ปัจจุบัน คือ พ.ศ. 2559 เท่ากับว่า พ.ศ.ไทยเรา เร็วไปกว่า 60 ปี
    The Cambridge and Oxford histories of India accept 483 B.C as the date of Buddha’s nirvana. He was 80 years old when he died, so this puts his birth year at 563 BCE
    2). ศ.ดร.ประเสริฐ ณ นคร
    บอกว่า การเรียก พ.ศ.ผิดนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตามชินกาลมาลีปกรณ์ ระบุว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์ ระหว่าง พ.ศ.214-255
    ที่ทราบว่าผิดความจริง ก็เพราะพระองค์ส่งสมณะทูตไปตามเมืองต่างๆ (กระทั่งสุวรรณภูมิ) เมืองเหล่านี้มีศักราชจดไว้แน่นอน เทียบศักราชดูแล้ว พบว่า นับ พ.ศ.มากเกินไป 1 รอบ คือ 60 ปี
    จากคอลัมน์ "คัมภีร์จากแผ่นดิน"
    หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ที่ 57 ฉบับที่ 17638 วันอาทิตย์ ที่ 7 พฤษภาคม 2549 ว่าด้วยเรื่อง พ.ศ.ผิด 60 ปี ตามเนื้อความว่าดังนี้
    "การนับพุทธศักราช...เริ่มนับกันตั้งแต่ปีที่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน แต่กระนั้น ตัวเลขพุทธศักราช...ของบางประเทศ ก็ไม่ตรงกัน เหตุเพราะมีคติการนับที่ไม่เหมือนกัน
    ตัวอย่างใกล้ตัว...ประเทศลังกา และพม่า ใช้หลัก เลข 544 บวกกับเลข ค.ศ. เป็นพุทธศักราช แต่ประเทศไทย...ใช้หลัก เลข 543 บวกกับเลข ค.ศ. เป็นพุทธศักราช เพราะฉะนั้น พ.ศ.ของลังกา และพม่า จึงเร็วกว่าของไทยอยู่หนึ่งปี ก็เป็นอันว่า เมื่อไทยนับว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 2499 ปี ลังกา พม่า ก็จะเป็น 2500 ปี เหตุที่เป็นเช่นนี้ ศาสตราจารย์ประเสริฐ ณ นคร อธิบายไว้ในหนังสือ ประวัติศาสตร์ เบ็ดเตล็ด ศิลปวัฒนธรรมฉบับพิเศษ สำนักพิมพ์มติชน...ว่าเพราะพวกหนึ่ง นิยมนับปีย่าง...อีกพวกนับปีเต็ม
    ตัวอย่าง นาย ค. อายุ 29 ปี 3 เดือน พวกที่นับเต็ม ก็จะนับว่า อายุ 29 ปีเต็ม พวกที่นับปีย่าง ก็จะนับว่า อายุ 30 ปีย่างเพราะความนิยมนับต่างกันแบบนี้ อาจารย์ประเสริฐ ท่านพบว่า ตัวเลข พระพุทธศักราช จึงเกินความจริงไป 1 รอบ หรือหกสิบปี
    อาจารย์สันนิษฐานว่า อินเดียไม่ได้ใช้ พ.ศ.ติดต่อกันมาตั้งแต่พระพุทธเจ้าปรินิพพาน ใช้การนับเป็นรอบ รอบละ 60 ปีเรื่อยมา จนมาเริ่มใช้ พ.ศ. ก็จะคำนวณกันว่า พระ พุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้วกี่รอบ และเศษอีกกี่ปี แต่เพราะวิธีนับรอบ ต่างกันเป็นสองพวก พวกหนึ่งนับรอบแบบอดีตล่วงไปแล้ว เช่น พ.ศ.80 ก็เรียกว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว 1 รอบ กับ 20 ปี แต่อีกพวก นับรอบใหม่ที่ย่างเข้า...เช่น พ.ศ.80 ก็ถือว่าเป็นปีที่ 20 ในรอบที่สอง เมื่อพวกหนึ่ง...ได้ยินว่า พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปแล้ว รอบที่สอง ปีที่ 20 ก็เข้าใจว่า ล่วงไปแล้วสองรอบ กับอีก 20 ปี จึงเรียกว่า พ.ศ.140 ผิดความจริงไปรอบหนึ่ง ศาสตราจารย์ประเสริฐ บอกว่า การเรียก พ.ศ.ผิดนี้ เริ่มตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ตามชินกาลมาลีปกรณ์ ระบุว่า พระเจ้าอโศกเสวยราชย์ ระหว่าง พ.ศ.214-255 ที่ทราบว่าผิดความจริง ก็เพราะพระองค์ส่งสมณะทูตไปตามเมืองต่างๆ (กระทั่งสุวรรณภูมิ) เมืองเหล่านี้มีศักราชจดไว้แน่นอน เทียบศักราชดูแล้ว พบว่า นับ พ.ศ.มากเกินไป 1 รอบ คือ 60 ปี แต่จะเปลี่ยนแก้ว่าปีนี้ สมมติ พ.ศ. 2539 ควรจะเปลี่ยนเป็น พ.ศ.2479 ก็ทำไม่ได้ เพราะเหตุการณ์ที่จดไว้เมื่อ 60 ที่แล้ว ก็จดว่า พ.ศ.2479 ไปแล้วครั้งหนึ่ง."
    3). ถ้า พ.ศ. ของไทยคลาดเคลื่อนตามเหตุผลข้างต้น
    ปี พ.ศ. 2559 เท่ากับ 2,499 ปี อีก 1 ปี ก็ครบ 2,500 ปี
    ดังนั้นปี พ.ศ. 2560 ครบ 2, 500 ปี ที่พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน เป็นยุคกึ่งพุทธกาลของ 5,000 ปี
    โดยเมื่อถึงพุทธกาลนั้น พุทธศาสนาได้รับการทำนายดังนี้ ...

    คำทำนายโบราณ
    กึ่งพุทธกาล พุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุด
    ได้คัดลองบางส่วนมากจาก หนังสือ ทิพยอำนาจ โดย พระอริยคุณาธาร (ปุสโส เส็ง , ปธ. 6) วัดป่าเขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น

    ในบทที่ ๑๐ วิธีสร้างทิพยอำนาจ ทิพพจักขุ ตาทิพย์ ได้กล่าวถึง ทิพพจักขุ การเห็นอนาคต เช่น ทิพพจักขุญาณของ พระมหาโมคคัลลีบุตรติสสเถระ และคำทำนายโบราณอนาคตของพุทธศาสนา ได้คัดลอกบางส่วน มาด้านล่าง

    คำทำนายโบราณชิ้นหนึ่งได้เป็นที่ตื่นเต้นสนใจกัน เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมานี้มีว่า เมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง ๕,๐๐๐ ปีนับแต่พุทธปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล
    พระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภิสมภาร มีอิทธาภินิ-หาร เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ จะได้เป็นประธานาธิบดีสงฆ์ ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ เริ่มต้นที่อินเดีย ไปยุโรปและอเมริกา
    ประชาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนามากมาย คนทั้งหลายจะนิยมในการฝึกฝนอบรมจิตใจในทางพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนาดังนี้
    บัดนี้ก็จวนจะถึงสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาแล้ว เงาเจริญแห่งพระพุทธศาสนาเริ่มปรากฏแล้ว ชาวอัศดงคตประเทศกำลังหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น แต่ใครเป็นตัวการตามทำนายนั้น ยังมิได้เป็นที่ปรากฏแก่วงการพระพุทธศาสนา ขอให้คอยดูต่อไปว่าจะจริงเท็จแค่ไหน ถ้าคำทำนายเป็นจริงขึ้นก็แปลว่า ชาวพุทธผู้ให้คำทำนายไว้นั้นมีทิพพจักขุวิเศษที่สุดได้แน่ๆ ทีเดียว และตัวการในคำทำนายนั้น จะเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของโลกสมัยใหม่ด้วย.
    (คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)
    เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) เมื่อไปสร้างวัดเขาพระงาม ที่จังหวัดลพบุรี สร้างพระพุทธรูปไว้บนไหล่เขา ให้นามพระว่ากึ่งยุค คือ ท่านคิดว่าในสมัยกึ่งพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายกับสมัยพุทธกาล
    ท่านพิจารณาดูชีวิตของท่านจะไม่ได้อยู่เห็นสมัยนั้น แต่คิดอยากทำอะไรไว้เป็นที่ระลึกสำหรับกึ่งยุคบ้าง จึงคิดคำนวณนับแต่วันตรัสรู้มาจนถึงเวลาที่ท่านสร้างพระพุทธรูปใหญ่นั้นครบ ๒,๕๐๐ ปีพอดี จึงได้จัดการฉลองและขนานพระนามพระพุทธรูปนั้นว่า พระกึ่งยุค ในคราวมีงานฉลองวัดและพระพุทธรูปใหญ่นั้น มีผู้ต่อว่าท่านว่า มาสร้างวัดไว้ในป่าในดงใหญ่โต ต่อไปจะมีใครมาดูแลรักษา ทำเสียเงินเสียทองไปเปล่าๆ
    ท่านจึงกล่าวตอบเป็นคำทำนายว่า ต่อไปไม่นานสถานที่นี้จะมีบ้านเมืองคนอยู่เต็ม มีไฟฟ้าใช้สว่างไสวทั่วไปแม้กระทั่งในวัดนี้ ดังนี้ บัดนี้เหตุการณ์ก็เป็นจริงดังที่ท่านทำนายไว้ทุกประการ
    (คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)
    มีคำทำนายว่าสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาจะมีขึ้นถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพานถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภินิหารในสุวรรณภูมิจะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก
    โลกจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้
    ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น) ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่า เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป.
    ที่มา หนังสืออำนาจทิพย์
    https://www.tnews.co.th/religion/20...้าพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองถึงขีดสุดตามคำพุทธทำนาย!
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    R. Dominicana คลื่นแทรกทะลุมาเกา (Macao) บีช ทางตอนเหนือของบาวาโร มันเป็นหนึ่งในผลกระทบทางอ้อมของพายุเจอรี่ส ที่ผ่านไปแล้ว # 22 ก.ย.
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปศุศาสตร์ นิวส์ : Magazine Online ด้านปศุสัตว์

    ราชบุรี ประกาศเป็นเขตเฝ้าระวังโรค ASF ในสุกร “ห้ามเคลื่อนย้ายหมู” เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากสัตวแพทย์

    #เขตเฝ้าระวัง #โรคASF #สุกร #ราชบุรี #ปศุศาสตร์นิวส์

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    กองทัพของอิหร่านแสดงการฝึกใกล้สัปดาห์ของการป้องกันอันศักดิ์สิทธิ์ในช่องแคบของ hormuz

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนีได้ออกแถลงการณ์ความผิดสำหรับอิหร่านที่โจมตีไซต์ Aramco ในซาอุดิอาระเบีย
    c_oc=AQmXMC9OWbH3_3lDTD2HfPN5R8HIJooKNzNABDSuCb2YtzO1TvS7mz-fXfaPbTMGc7M&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    คาซัคสถาน ความตึงเครียดและการทะเลาะกันระหว่างคนงานชาวจีนและชาวคาซัคในโรงกลั่นน้ำมันที่สร้าง โดยจีนในคาซัคสถาน จีนกำหนดให้คนงานชาวจีนเป็นเงื่อนไขสำหรับการลงทุนในประเทศต่างๆ

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra


    อินโดนีเซีย ไฟไหม้ปาปัวเกิดจากการจลาจล แลไฟไหม้หน่วยงานของรัฐ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง โฆษกกองทัพบกระบุว่ามีผู้เสียชีวิตบางส่วน ที่เกิดจากไฟไหม้


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra
    อินโดนีเซียมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 คนและบาดเจ็บอีกหลายสิบคน จากการจลาจลในปาปัวเมื่อเร็ว ๆ นี้ตามกองทัพอินโดนีเซียระบุ ในวันที่ 23 กันยายน







    c_oc=AQn4rOsXAkviz01cia_Jve-zpHAX6bSKdG3waM4E8Q02I1oTGjpWrz6hxB1AZMYBskk&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQnqVFNRyv5baOnCcT4TvgjbAaM93nfAqJHioWV5aRgShmrU-MrCjSfcGMkaE6xemrg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQnggOt8kS6bEYrtW30FsE9mUejFQJRWpbCkDncrKR7Kty4R7LmEk6Mk9cA1704luZ8&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    อียิปต์ ไฟมหึมาในสถานี Minya ไม่ทราบจำนวนผู้ประสบภัย ไฟไหม้เกิดจากก้นบุหรี่ ซึ่งทำให้เกิดไฟไหม้ในสวนทั้งสองด้านของคลองอิบราฮิมิยะ (Ibrahimiya)
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Archangel Samuel

    Wasa โกหกเกี่ยวกับเปอร์เซ็นต์น้ำที่แท้จริงสำหรับอ่างเก็บน้ำในตรินิแดดและโตเบโกสิ่งอื่น ๆ ที่พวกเขาโกหกเกี่ยวกับทุกอย่างเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน ...
    เช่นเดียวกันกับหมู่เกาะ carribean อื่น ๆ ที่ตอนนี้กำลังประสบกับความแห้งแล้ง: ความแห้งแล้งที่สมบูรณ์ทั่วโลกจะยังคงดำเนินต่อไปจนถึงเดือนกันยายน 2019 ... อย่าเชื่อฉันโดยเฉลี่ยประมาณ 7 พันล้านแกลลอนน้ำตกลงมาจากตรินิแดดเมื่อวานนี้ ของ Ts-Karen: แต่ไม่มีฝนตกลงมาในอ่างเก็บน้ำ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะน่าสนใจมากที่จะเห็นสิ่งที่จะตีแผ่มันจะเป็นระเบิดสุดท้าย ...

    c_oc=AQmD_nPC0VZVlnDk_gl9DT3zrJWsFx53oE5Sutop_u5K4gpmjKe1thANfzOr7DXBT1w&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    Wasa lies about the true water percentages for the reservoirs in Trinidad an Tobago what else do they lie about everything to distract the public...

    The same with all the other carribean Islands that is right now suffering Droughts: Complete Droughts throughout the earth will continue even till pass September 2019... don't believe me an average of 7 billion Gallons of water fell over Trinidad yesterday with the passing of Ts-Karen: but none fell in the Reservoirs the next few days will be very interesting to see what will be unfolding it will be the Final BLOW...

    Share this whistle...

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra
    ท้องฟ้าสีแดงที่ชั่วร้ายครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของอินโดนีเซียในขณะที่ประเทศถูกครอบงำด้วยหมอกควันและหมอกควันที่เกิดจากไฟป่าขนาดใหญ่







     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Chanwis Winthasiri

    10:00น.วันนี้แดดทั่วประเทศ ร่องความกดอากาศต่ำ(ร่องมรสุม) จะเลื่อนไปทางอินเดีย

    c_oc=AQnZJkBui-AFjIm5QuKT76mdDO1RXcugcoFYjuEitSUlnLmFf8az__CtXim4_TVHQE4&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,706
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความลับของลมหายใจ (Secret)
    เรื่อง ขุนเขา สินธุเสน เขจรบุตร

    ใครเล่าจะรู้ว่า ยาอายุวัฒนะ ยาบรรเทาความเจ็บปวดสุดยอดแห่งเครื่องมือดับทุกข์ และหนึ่งในยารักษาโรคดีที่สุดในจักรวาลนี้ ซ่อนอยู่ที่ปลายจมูกของเรานี่เอง...

    "ลมหายใจ" คือสิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัวมนุษย์ที่ถูกมองข้ามมากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ "การหายใจอย่างถูกต้อง" คือรากฐานสำคัญของศาสตร์แห่งสมาธิทุกรูปแบบ และศาสตร์แห่งโยคะทุกประเภท รวมทั้งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้พระพุทธเจ้าตรัสรู้ความจริงของจักรวาลอีกด้วย แม้แต่ศาสตร์แห่งพลังและการบำบัดโรคทางจีนทุกแขนงก็ให้ความสำคัญกับพลังชีวิตที่เรียกว่า "พลังชี่" เป็นอย่างมาก ซึ่งแท้จิรงแล้วคำว่า "ชี่" (Qi) ก็แปลว่า "ลมหายใจ" นั่นเอง

    ความลับอันมหัศจรรย์ของลมหายใจสามารถแจกแจงออกมาได้เป็นข้อ ๆ ดังต่อไปนี้

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 1. ลมหายใจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่กำหนดอายุข้อของเรา

    หากลองสังเกตสัตว์ที่มีอายุสั้น เช่น หนู ซึ่งมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3-5 ปี จะพบว่า หนูหายใจเข้าและออกถึง 90 ครั้งต่อนาที และมีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 400 ครั้งต่อนาที ในขณะที่เต่าซึ่งมีอายุขัยโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 120 ปี จะหายใจเข้าและออกเพียง 4-6 ครั้งต่อนาที และมีอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 10-20 ครั้งต่อนาทีเท่านั้น และหากเราลองจ้องมองพุงของสุนัขหรือแมวที่บ้าน (ซึ่งเป็นกิจการยามว่างของผม) เราก็จะพบว่า มันมีอัตราการหายใจที่เร็วและถี่กว่าเรามาก ซึ่งแน่นอนว่า พวกมันก็มีอายุขัยสั้นกว่าคนเรามากเช่นกัน

    ลมหายใจมีความสัมพันธ์โดยตรงกับอัตราการเต้นของหัวใจครับ ยิ่งเราหายใจช้า ลึก และยาวมากเท่าไร อัตราการเต้นของหัวใจจะยิ่งมีจังหวะที่ช้าและสม่ำเสมอมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งส่งผลให้เรามีอายุที่ยืนยาวขึ้นและเป็นโรคต่าง ๆ น้อยลง (ดังที่จะนำเสนอต่อไปในข้อที่ 2)

    มีงานวิจัยที่น่าสนใจพบว่า สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมแทบทุกชนิด (รวมทั้งมนุษย์) มีขีดจำกัดของการเต้นของหัวใจอยู่ที่ประมาณ 1,000 ล้านครั้งในชีวิต ฉะนั้นเมื่อหัวใจเต้นเกิน 1,000 ล้านครั้ง สัตว์ชนิดนั้นก็จะใกล้ถึงวันตายตามอายุขัย ซึ่งไม่น่าแปลกใจมากนัก เพราะหัวใจที่เต้นเร็วจากการหายใจตื้นและถี่อยู่ตลอดเวลา ก็ไม่ต่างจากเครื่องจักรที่ต้องทำงานหนักอยู่เสมอ ย่อมส่งผลให้เกิดความเสื่อม และผุพังเร็ว และมีอายุการใช้งานที่สั้นลงกว่าเครื่องจักรที่ได้รับการดูแลอย่างดีและไม่ถูกใช้งานอย่างหักโหม

    ajax-loader.gif สะกิดสมอง

    สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่หายใจเร็วที่สุดในโลกคือ หนูชรูว์ (Shrew) ซึ่งหายถี่ถึง 170 ครั้งต่อนาที นับว่าถี่กว่ามนุษย์ ผู้ใหญ่โดยเฉลี่ยถึง 8 เท่า และหัวใจของหนูชูว์เต้นเร็วถึง 1,200 ครั้งต่อนาที ! ซึ่งแน่นอนว่า หนูชรูว์เป็นสัตว์ที่มีอายุขัยสั้นเพียงไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น

    rel.jpg

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 2. การหายใจอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันและเยียวยารักษาโรคร้ายได้สารพัด อาทิเช่น

    ajax-loader.gif 2.1 โรคไมเกรน ผู้ป่วยโรคไมเกรนจะมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและเฉียบพลัน ซึ่งอาการดังกล่าวอาจได้รับการบรรเทา หรือรักษาให้หายขาดได้ด้วยการฝึกหายใจให้ลึก ยาว และละเอียดขึ้นโดยท่านโกเอ็นก้า (S. N. Goenka) อาจารย์ด้านวิปัสสนากรรมฐานที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งของโลก หายขาดจากโรคไมเกรนด้วยการฝึกอานาปานสติ (ฝึกสติโดยใช้ลมหายใจ) ทั้งที่ก่อนหน้านั้นไม่มีแพทย์ คนไหนหรือยาขนานใดสามารถช่วยท่านได้เลย แม้ว่าท่านจะได้ไปพบแพทย์ที่ได้ชื่อว่ามีชื่อเสียงที่สุดในโลกแล้วก็ตาม

    ajax-loader.gif 2.2 โรคหัวใจและโรคความดัน การหายใจลึกและข้าสามารถลดความดันโลหิตลงได้อย่างเห็นผลทันตา อีกทั้งในยามที่ผู้ป่วยมีอาการโรคหัวใจกำเริบ การหายใจลึก ๆ ก็สามารถนำสติกลับมาจดจ่ออยู่ที่ร่างกายและปัจจุบันขณะ ทำให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมอาการที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

    ajax-loader.gif 2.3 โรคเครียดเรื้อรัง ซึ่งส่งผลให้เกิดโรคร้ายอื่น ๆ ตามมามากมาย สามารถเยียวยารักษาได้ด้วยการฝึกหายใจอย่างถูกวิธี เพราะอันที่จริง 90 เปอร์เซ็นต์ของความเครียดทั้งหมดในชีวิตเกิดจากความห่วงกังวลถึงอนาคตหรือหมกมุ่นอยู่กับอดีต ดังนั้นการนำจิต และความคิดกลับมาอยู่กับลมหายใจที่ลึกและละเอียดในปัจจุบัน จะสามารถช่วยลดความเครียดได้อย่างชะงัด

    นอกจากนั้นจะสังเกตได้ว่า เวลาเราเครียดหรือนอนไม่พอหัวใจของเราจะเต้นไม่เป็นจังหวะ ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่า ร่างกายของเรากำลังทำงานบกพร่อง ภูมิคุ้มกันลดต่ำ และสารความเครียดที่ชื่อ "คอร์ติซอล" (cortisol) กำลังออกอาละวาดในกระแสเลือดของเรา ทั้งนี้การนั่งสงบสติอารมณ์และฝึกหายใจให้ลึกและยาวเพียง 2-3 นาที จะช่วยปรับหัวใจให้กลับมาเต้นในจังหวะที่สม่ำเสมอมากขึ้นได้ทันที

    ทั้งนี้ยังมีอีกหลายโรคที่สามารถบรรเทา เยียวยา หรือแม้แต่รักษาได้ด้วยการฝึกหายใจอย่างถูกวิธี เช่น โรคลมบ้าหมู โรคหอบหืด โรคซึมเศร้า และโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งผมจะลงรายละเอียดในข้อต่อไป....

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 3. ลมหายใจเป็น "แม่นมของสมอง"

    สมองของมนุษย์ทุกคนบริโภคออกซิเจนและน้ำตาลกลูโคสเป็นอาหาร ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่เป็นตัวขับเคลื่อนออกซิเจนและน้ำตาลกลูโคสก็คือ อากาศที่เราหายใจเข้าปอดไปนั่นเอง จะสังเกตได้ว่าหากเราลองกลั้นหายใจนาน ๆ (ซึ่งผมไม่แนะนำให้บ่อย ๆ นะครับ) เราจะเริ่มรู้ปวดหัว นั่นก็เพราะหนึ่งในปัจจัยที่กำหนดประสิทธิภาพการทำงานของสมองเรา ก็คือปริมาณของออกซิเจนที่มันได้รับนั่นเอง

    เซลล์สมองของคนที่ขาดอากาศหายใจนานเกิน 3 นาทีจะเริ่มฝ่อและตาย ส่งผลให้เกิดภาวะสมองเสื่อมหรือความทรงจำสั้น และหากสมองขาดอากาศนานเกิน 6 นาที แม้เจ้าของสมองจะไม่ตาย เขาก็มักจะอยู่ในสภาพโคม่า (คือเป็นผักหรือเป็นเจ้าชาย-เจ้าหญิงนิทรา) ไปตลอดกาล

    ร่างกายต้องใช้ออกซิเจนในการทำทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร กะพริบตา การเคี้ยว การคิด ฯลฯ ดังนั้น นอกจากการหายใจอย่างถูกต้องจะช่วยบำรุงสมอง รักษาความทรงจำ และชะลอหรือป้องกันโรคอัลไซเมอร์แล้ว มันยังทำให้เราสามารถคิดวางแผนและสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น ไอเดียใหม่ ๆ มาขึ้นแก้ปัญหาได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นอีกด้วย

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 4. การหายใจอย่างถูกวิธี ทำให้คนทายอายุเราผิด !

    เคยสังเกตไหมครับว่าคนที่ปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ หรือพระอาจารย์ที่ปฏิบัติปัสสนากรรมฐานเป็นประจำแทบทกรูปจะมีใบหน้าที่ดูสดใส และอ่อนกว่าวัย โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอหรือง้อศัลยกรรมแต่อย่างใดในทางตรงกันข้าม คนที่เครียดบ่อยและหงุดหงิดอยู่เสมอจะมีใบหน้าที่หมองคล้ำ เหี่ยวย่น และมีตีนแร้ง (ร้ายกว่าตีนกา !) ทั่วใบหน้า ส่งผลให้ต้องสรรหาสารพัดวิธีที่จะลบริ้วรอยและดึงหน้าให้เด้งตึงจนแค่ยักคิ้วขาก็แทบจะกระตุกตามอยู่แล้ว

    หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ที่นั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอมีใบหน้าอ่อนกว่าวัย ก็เพราะพวกเขาได้มีโอกาสฝึกหายใจให้ลึก ยาวละเอียดบ่อยครั้งนั่นเอง ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มความสงบสุขในใจ และลดสารความเครียดที่เรียกว่า "คอร์ติซอล" (อันเป็นสาเหตุหลักของความแก่ชราก่อนวัยอันควร) แล้ว การหายใจอย่างเต็มปอดยังช่วยฟอกเลือดที่นำพาออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของใบหน้าอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้าดูมีน้ำมีนวล เต่งตึงสดใส อ่อนกว่าวัย และสุดท้ายเลือดเหล่านั้นก็ยังช่วยขับสารพิษตกค้างต่าง ๆ (detox) ออกจากอวัยวะทุกส่วนของร่างกายและบนใบหน้าได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย

    สรุปแล้วเคล็ดลับอายุยืน หน้าใส สมองไว และใจเป็นสุขโดยที่ไม่ต้องเสียเงินสักสตางค์เดียวก็คือ การฝึกหายใจให้ลึก ยาว และละเอียดมากที่สุดนั่นเอง

    ajax-loader.gif สะกิดสมอง

    ร่างกายของเราขับของเสียจากการเผาผลาญพลังงาน (metabolic waste) ออกทุก ๆ วันจากหลากหลายช่องทาง เช่น 3% ทางอุจจาระ 8% ทางปัสสาวะ 19% ทางเหงื่อ ฯลฯ แต่สิ่งที่หลายคนไม่ทราบก็คือ ร่างกายของเราขับของเสียจากการเผาผลาญพลังงานถึง 70% ทางลมหายใจ ! ดังนั้นหากคุณคิดว่าการขับถ่ายเป็นเร่องสำคัญก็อย่าลืมความสำคัญของการฝึกหายใจให้ลึกและยาวด้วยเช่นกัน

    relk.jpg

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 5. ลมหายใจเป็นหนึ่งในตัวกำหนดระดับความสำเร็จในชีวิตของเรา

    คงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าตัวการหลักสำคัญที่สุดที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จต่างกันคือ เรามีความสามารถในการควบคุมตัวเองที่ต่างกัน โดยคนที่มีความสามารถในการควบคุมตัวเองมากกว่าจะประสบความสำเร็จและมีความสุขในชีวิตมากกว่าเสมอ

    ยกตัวอย่างเช่น นักมวยชื่อดังอย่าง ไมค์ ไทสัน ที่โกรธจัดจนกัดหูคู่ต่อสู้ของเขาคือ อีแวนเตอร์ โฮลฟีลล์ จนแหว่ง ส่งผลให้ไทสันถูกปรับแพ้ และนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตรวมทั้งอาชีพของเขาก็อยู่ในขาลงตลอด ในขณะที่อีแวนเดอร์ โฮลิฟีลล์ ซึ่งอาจจะชกได้ไม่ดุดันเท่า กลับมีการงานที่รุ่งโรจน์และมีชีวิตที่รุ่งเรืองจนถึงทุกวันนี้

    ตั้งแต่นักธุรกิจใหญ่ที่ตัดสินใจผิดอย่างมหันต์เพราะความ “โลภ” ตั้งแต่นักกีฬาที่พลาดท่าเพราะความ “โกรธ” ไปจนถึงพนักงานหรือข้าราชการทั่วไปที่จมปลักอยู่ในวงเวียนแห่งอบายมุข เพราะความ “หลง” ไม่ว่าเราจะทำงานอะไรเพื่อยังชีพ ความสามารถใน “การควบคุมตัวเอง” เป็นกุญแจสำคัญอย่างยิ่งที่จะกำหนดความสำเร็จของชีวิต ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือควบคุมตัวเองที่ทรงพลังที่สุดก็คือลมหายใจของเรานั่นเอง

    47_92644_7b1b0ad41e76904.gif 6. "อากาศ" ส่งผลต่อ "อารมณ์" อย่างน่าอัศจรรย์

    หลายคนคงเคยได้ยินคำแนะนำว่าเวลาตื่นเต้น โกรธ กลัว หรือประหม่าให้ลอง "สูดลมหายใจลึก ๆ" ซึ่งคำแนะนำนี้มีพื้นฐานอยู่บนวิทยาศาสตร์ เพราะการหายใจลึก ๆ จะทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองส่วนหน้ามากขึ้น ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ใช้ในการบริหารและควบคุมอารมณ์ต่าง ๆ กล่าวคือ การหายใจที่ลึกและยาวเพียงพอจะช่วยเพิ่ม "ขันติ" (ความอดทนต่อการกระทบของอารมณ์) และเพิ่มพลัง "สติ" ซึ่งเกิดจากการสับรางระบบของสมองจากส่วนที่คล้าย "สัตว์ป่า" (limbic) มาเป็นส่วนที่คล้าย "เทวดาในร่างมนุษย์" (neo-cortex)

    จะสังเกตได้ว่าเวลาที่เราโกรธ กลัว ตกใจ เครียด หงุดหงิด กังวล หรือทุกข์ ลมหายใจของเราจะสั้นและตื้น แต่เวลาที่เรามีความสุข สงบ มีพลัง นิ่ง สุขุม มั่นใจ สบายใจ ลมหายใจของเราจะยาวและลึก ทั้งนี้สิ่งที่หลายคนไม่รู้ก็คือ หากเราตั้งใจหายใจให้ยาวและลึกสัก 4-5 ครั้ง สมองของเราจะถูกหลอกว่าเรากำลังรู้สึกสบายใจ สุขุม และมีพลังเช่นกัน กระบวนการนี้เรียกว่าการทำ "Biofeedback" (การป้อนกลับทางชีวภาพ) โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือใด ๆ

    เทคนิคการหายใจที่ดีคือ การหายใจอย่าง "ละเอียด" ซึ่งเป็นการหายใจให้ช้า ลึก และเบา โดยสูดลมหายใจเข้าจนสุดปอดให้หน้าท้องและหน้าอกพองตัวจนไม่สามารถพองต่อไปได้อีก แล้วจึงค่อย ๆ ปล่อยลมหายใจออกยาว ๆ อย่างไม่รีบร้อนจนหมดทั้งปอดทำเท่านี้เพียง 3-4 ครั้งก็จะรู้สึกว่าร่างกายเริ่มเบา ใจเริ่มเย็น จิตเริ่มโล่ง และสมองเริ่มปลอดโปร่งขึ้นแล้ว

    ถามว่าต้องทำและต้องฝึกบ่อยแค่ไหน คำตอบคือ "รู้ตัวเมื่อไรก็ทำเมื่อนั้น" หรือทำทุกครั้งที่รู้สึกว่าจิตกำลังเริ่มตก คือเริ่มกลัว โกรธ กังวล เหนื่อย เครียด เบื่อ เซ็ง ท้อ ทุกข์ หรือลองทำก่อนรับโทรศัพท์ก็ได้ เช่น ลองสูดลมหายใจเข้าและออกลึก ๆ สัก 1-2 ครั้งแล้วค่อยรับสายด้วยรอยยิ้มน้อย ๆ หลายครั้งคนที่อยู่ปลายสายจะสัมผัสได้ถึงความเมตตา อ่อนโยน สงบ อบอุ่น และมีพลังของเรา

    yogas.jpg

    การฝึกลมปราณ (Pranayama) ตามศาสตร์ของโยคะแห่งประเทศอินเดียสามารถทำได้หลากหลายวิธี โดยในที่นี้ผมจะนำเสนอ เฉพาะเทคนิคที่ทำได้ง่ายและใช้ได้ผลทันที เทคนิคแรกเรียกว่า “อนุโลมาวิโลมา” (Anuloma viloma) ซึ่งเป็นการหายใจสลับข้างจมูก

    ขั้นแรกคือ ให้เราเอานิ้วโป้งปิดจมูกไว้ข้างหนึ่ง จากนั้นสูดหายใจลึก ๆ ยาว ๆ นับ 1-5 จากนั้นให้เราเปลี่ยนนิ้วมาปิดจมูกอีกข้างหนึ่งแล้วหายใจออกนับ 1-10 ตอนทำควรหลับตาและทำช้า ๆ ไม่ต้องรีบนับแพทย์ทางเลือกหลายท่านแนะนำให้ใช้วิธ๊นี้ในการรักษาโรคเกรน เพราะการหายใจแบบนี้จะช่วยลดอาการปวดหัวได้อย่างดีเยี่ยม

    เทคนิคที่สองเรียกว่า "อคนีปราณ" (Agni Pran) เป็นภาษาฮินดูแปลว่า "ลมหายใจแห่งไฟ" (Breath of Fire) โดยเทคนิคนี้อาศัยการหายใจให้สั้นที่สุด ลึกที่สุด และถี่ที่สุดติดต่อกัน 20 ครั้ง โดยให้หน้าท้องของเราพองและยุบอย่างเต็มที่ทุกครั้งที่หายใจเข้าและออก เมื่อทำเสร็จทั้ง 20 ครั้งจะรู้สึกมีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น ไม่ง่วงซึมไม่เหนื่อยหน่าย จึงไม่แปลกที่ "ลมหายใจแห่งไฟ" สามารถใช้แก้ความขี้เกียจและความเหนื่อยอ่อนได้อย่างดี

    เทคนิคสุดท้ายเรียกว่า "กุมภกะ" (Kumbhaka) เป็นการหายใจเพื่อนำจิตเข้าสู่สมาธิและปีติ เริ่มด้วยการสูดลมหายใจเข้าแล้วนับ 1-4 ช้า ๆ จากนั้นให้กลั้นหายใจพร้อมกับนับ 1-3 และเมื่อหายใจออกก็นับ 1-4 ช้า ๆ อีกครั้ง จากนั้นก็กลั้นหายใจแล้วนับ 1-3 แล้วเริ่มหายใจเข้าอีกครั้ง ทำอย่างนี้สลับกันไป โดยเพิ่มความยาวของการนับลมหายใจครั้งที่สอง จาก 1-4 เป็น 1-5 นับครั้งที่สามเป็น 1-6 นับครั้งที่สี่เป็น 1-7 และนับครั้งที่ห้าเป็น 1-8 ทำอย่างนี้จนสามารถนับได้ครบถึง 8 จะรู้สึกว่าตัวเบา โปร่งโล่ง สบาย

    เมื่อฝึกหายใจด้วยวิธีนี้บางครั้งอาจรู้สึกถึงปีติ (มีความสุขอย่างล้นพ้น) ขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ซึ่งเกิดจากการที่ร่างกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียด และอวัยวะทุกส่วนได้รับการเปลี่ยนถ่ายของเสียด้วยเลือดที่ฟอกแล้วโดยสมบูรณ์

    นักวิจัยพบว่า "กุมภกะ" เป็นเทคนิคการหายใจที่ช่วยลดความดันของเลือดและชะลออัตราการเต้นของหัวใจได้ดีที่สุด

    ชีวิตของคนเราแท้จริงอยู่ได้ด้วยหายใจที่เชื่อมต่อกัน และการหายใจที่ดีก็เป็นเครื่องมือในการสร้างจิตใจที่สงบ สร้างชีวิตที่ประสบความสำเร็จ และสร้างสุขภาพให้ยืนยาวที่ง่ายที่สุด หลายคนเสียเงินทองมากมายไปกับการเข้าคอร์สบริหารจิตหรือปลุกพลังต่าง ๆ ในราคาแสนแพง โดยลืมหันกลับมาหาสิ่งมหัศจรรย์อันล้ำค่าที่อยู่ ตรงปลายจมูกของเรานี่เอง

    อย่างไรก็ตาม การกลับมาหาความลับของลมหายใจไม่มีวันสายเกินไป เพราะตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ ต่อให้ไม่สามารถขยับแขนขาหรือแม้แต่เปิดเปลือกตาได้อีกต่อไปแล้ว ของขวัญอันล้ำค่าชิ้นนี้ก็ยังคงรอให้เราค้นพบอยู่เสมอ....

    https://health.kapook.com/view105238.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...