ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24

รัสเซีย

ฝนตกหนักในครัสโนดาร์ น้ำเพิ่มขึ้น 1.5 เมตรและยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำท่วมรุนแรงในวันที่ 21 กรกฎาคม

 

Clima Extremo 24

MEXICO
Quebradijos และการพังทลายของถนน เนื่องจากฝนตกหนักและน้ำท่วมที่ได้ส่งผลกระทบ ต่อ Bosques de Santa Anita เกิดความเสียหายใน Guadalajara, Jalisco, วันนี้ 21 กรกฎาคม

 

Banmuang-บ้านเมือง


ชาวนา“เลย”รอดตายรีบปักดำเสริมกล้า เผยดีใจสุดๆได้น้ำเข้านาก่อนตาย

 

Clima Extremo 24

เปรู

เถ้าจากภูเขาไฟ Ubinas มาถึงโบลิเวีย ภูเขาไฟ Ubinas ได้ประกาศเขตฉุกเฉิน ถึง 12 เขตของ Moquegua, Arequipa และ Tacna ในกรณีฉุกเฉิน, 21 กรกฎาคม


การระเบิดของภูเขาไฟ Ubinas ทำให้มีผู้ได้รับผลกระทบมากกว่า 1,300 คนในเปรูตอนใต้ และแม้แต่บริเวณชายแดนของโบลิเวีย การกระจายตัวของเถ้าได้มาถึงภูมิภาค Puno ไปยังโบลิเวีย

 

Sismos Mundial

#ด่วน

# เปรูประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟ Ubinas
#URGENTE

#Perú decreta estado de emergencia tras erupción de volcán Ubinas.

 

Sismos Mundial

#ด่วน

# เปรูประกาศใช้สถานการณ์ฉุกเฉินหลังจากการระเบิดของภูเขาไฟ Ubinas
#URGENTE

#Perú decreta estado de emergencia tras erupción de volcán Ubinas.

 

ฝนไม่ตก3เดือน! ชาว อ.ปัว แห่นางแมว อ้อนวอนขอฝนตามความเชื่อล้านนา
ที่บ้านนางิ้ว หมู่ที่ 1 ตำบลไชยวัฒนา อำเภอปัว จังหวัดน่าน ชาวบ้าน รวม 6 หมู่บ้านในพื้นที่ ตำบลไชยวัฒนา ร่วมกันทำพิธี แห่นางแมวขอฝน โดยมีการทำพิธีการแห่แมว และจัดแต่งงานคางคก ทำบายศรีสู่ขวัญควายที่ตายซาก เพื่ออ้อนวอนเทวดา ขอฝนฟ้าตกตามฤดูกาลทำนา ช่วงฝนขาดทิ้งช่วง เกือบ 3 เดือน มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
การแห่นางแมว และแต่งงานคางคก เพราะเชื่อว่าที่ฝนไม่ตกมีเหตุผลหลายประการ เช่น เกิดจากดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลง ประชาชนชาวบ้านหย่อนในศีลธรรม ทำผิดจารีตประเพณี เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ ชาวบ้านในพื้นที่รวม 6 หมู่บ้าน ต้องประกอบพิธีขอฝนและการที่ต้องใช้แมวเป็นตัวประกอบสำคัญในการขอฝน นั้นเพราะเชื่อว่าแมวเป็นสัตว์ที่เกลียดฝน ถ้าฝนตกครั้งใด แมวจะร้องทันที ส่วนคางคกหากไม่มีฝนฟ้าตก ก็จะผสมพันธุ์สืบทอดลูกคางคกไม่ได้ ชาวบ้านเลยถือเอาเคล็ดนี้ เมื่อแมวร้องในเวลาฝนตก จะเป็นเหตุให้ฝนตกจริงๆ ชาวบ้านจึงร่วมมือกันสาดน้ำและทำให้แมวร้องมากที่สุดจึงจะเป็นผลดี หลังจากทำพิธี แห่นางแมวขอฝน แล้วฝนจะตกลงมาตามคำอ้อนวอน และ แห่นางแมวเข้าวัด ให้พระพรมน้ำมนต์โดยมีชาวบ้านรวมทั้งคนแก่คนหนุ่มและเด็กส่วนมากจะเป็นผู้ชาย ปรึกษาหารือกัน คนที่เป็นผู้นำกล่าวขอฝน เพื่อให้ผู้ไปร่วมแห่ทั้งหมดเป็นผู้ว่าตาม ส่วนใหญ่จะเป็นคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน โดยจับเอาแมวตัวเมียสีดำ 1 ตัวใส่ในกรง ใช้เชือกผูกปิดฝา ไม่ให้แมวออกได้ และใช้ไม้สอด ให้คนหาม 2 คน ตั้งคายด้วยขันธ์ห้า เป่าคาถาสักเคเทวดา เพื่อให้เทวดาบันดาลให้ฝนตก
โดยพีธีการแห่นางแมว ชาวบ้านได้รวมตัวกันพอได้เวลาพลบค่ำ ผู้คนกำลังอยู่บ้านก็เริ่มขบวนแห่โดยหามกะทอแมวออกข้างหน้า แล้วตามด้วยคนเป่าสวดมนต์ สักเคเทวดา และผู้แห่ว่าตามเป็นท่อนๆ ไป ในขบวนก็จะมีการตีเกราะเคาะไม้ตีกลองเพื่อให้เกิดจังหวะตามไปด้วย โดยแห่ไปตามถนน ผ่านทุกหลังคาเรือนในหมู่บ้าน เมื่อแห่ไปถึงบ้านใครเจ้าของบ้านก็ต้องเอาน้ำสาดหรือรดที่ตัวแมวให้เปียกและทำให้แมวร้อง และสาดใส่ผู้เข้าร่วมขบวนแห่ ซึ่งการแห่นางแมวขอฝน โดยนำนางแมวสีสวาท ใส่กระบุงหรือตะกร้า หรือเข่งก็ได้ สาเหตุที่ต้องเลือกแมวพันธุ์นี้เพราะเชื่อว่า สีขนแมวเป็นสีเดียวกับเมฆ จะทำให้เกิดฝนตกได้ โดยมีความเชื่อว่า ถ้าแห่นางแมวแล้วฝนจะตก ภายใน 3 วันหรือ 7 วัน นอกจากนี้ พิธีแห่นางแมวขอฝน จะเป็นการช่วยเรียกให้ฝนตกแล้ว ยังถือว่าพิธีนี้เป็นการสร้างความสามัคคีสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในพื้นที่ด้วย พร้อมกันนี้ ได้แห่นางแมวเข้าวัด เพื่อให้พระสงฆ์พรมน้ำมนต์ โดยมีพระ 3 รูป อ้วนท้วนสมบูรณ์ สวดชะยันต์โต เพื่อให้พิธีสำเร็จลุร่วง
Cr.พยอม/น่าน

 

Tbrat Brat

สแนป แตก ป๊อป ...
Snap, crackle, Pop...

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

โบลิเวีย

เถ้าถ่านของภูเขาไฟ Ubinas มาถึงบริเวณชายแดนของโบลิเวียแล้ว

ความกังวลในพื้นที่นั้นสูงสุด ชุมชนในชนบทเตือนถึงปัญหาสุขภาพสำหรับเพื่อนบ้านและปศุสัตว์ดังนั้นพวกเขาจึงขอความช่วยเหลือจากทางการ

การปะทุทำให้เกิดเถ้าสูง 5,800 เมตร ชาวเปรูรายงานว่าเถ้าถ่านกระจายไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 250 กิโลเมตรผ่านทะเลสาบติติกากา และมาซาคุซ ในปูโน จนกระทั่งมาถึงโบลิเวีย

ขี้เถ้ามีผลกระทบต่อบ้านและสัตว์ปศุสัตว์เลี้ยงสัตว์ พวกเขาเป็นห่วงประชากรมาก

นายกเทศมนตรีได้เรียกร้องให้หน่วยงานระดับชาติและระดับแผนกช่วยจัดการกับปรากฏการณ์ที่ปะทุขึ้นอย่างไม่คาดคิดในเช้าวันศุกร์ จากนั้นมันจะถูกทำซ้ำในเวลาบ่ายแม้ว่าจะมีความเข้มน้อยกว่า

เราได้เห็นแล้วว่าควันนี้ส่งผลร้ายต่อดวงตาและใครก็ตามที่รู้ว่าเราดูดลมหายใจเข้านั่นก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล "คอนโดริกล่าว

BOLIVIA

Las cenizas del volcán Ubinas han llegado hasta las regiones fronterizas de Bolivia.

La preocupación en la zona es máxima. Las comunidades rurales alertaron de problemas de salud para los vecinos y para el ganado, por lo que han pedido ayuda a las autoridades.

Las explosiones provocaron una columna de 5.800 metros de altura. La ceniza se esparció unos 250 kilómetros hacia el sudeste, pasando por el lago Titicaca y Mazocruz, en Puno, hasta llegar a Bolivia, informó el IGP peruano.

Las cenizas han afectado a casas y animales, a los pastizales ganaderos. Estan muy preocupados, la población.

El edil ha urgido a las autoridades nacionales y departamentales ayuda para afrontar el fenómeno que irrumpió de forma sorpresiva la mañana de este viernes. Luego se repitió en horas de la tarde, aunque con menor intensidad.

Hemos visto que esta humareda hace mal a los ojos, y quien sabe alguno hemos succionado mediante la respiración, esa es la preocupación”, indicó Condori.

 

The Great Shift

ดังนั้นฉันจึงสังเกตเห็นสิ่งแปลก ๆ บางอย่างที่เกิดขึ้นกับเส้นสนามดาวเคราะห์ในแบบจำลอง iSWA และ * blip * 4 ชั่วโมงของข้อมูลที่หายไป ฉันสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

So I was noticing some odd things going on with the interplanetary field lines on the iSWA models and *blip* 4 hours of missing data. I wonder what happened?

 

Divulgación Total

“ ชาวนิวยอร์ก 10,000 คนสูญเสียไฟฟ้าในวันอาทิตย์ที่ร้อนแรงที่สุด”
https://nypost.com/2019/07/21/10000-new-yorkers-lose-power-at-height-of-sunday-heat/

 

The Great Shift
สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ - สนามแม่เหล็กไม่ปกติ! แต่ไม่มีลมสุริยะเลย! นี้ไม่ถูกต้อง! ความเร็วลมและความหนาแน่นปรากฏขึ้นต่ำมาก แต่เราถูกโจมตีด้วยพลังงานจำนวนมากและสนามแม่เหล็กดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาตอบสนองมากกว่า ... คล้ายกับว่ามันอ่อนแอเกินไปและดิ้นรนหรือไม่ สิ่งนี้ดูไม่ถูกต้อง!

Happening Right now- The magnetic field is not behaving normally! But neither is the solar wind! This is Not Right! Wind speed and density show up as very low, yet we are hit with a huge blast of energy and the magnetic field seems to be over reacting... Like it is too weak and struggling? This does not look right!

 

The Great Shift

มาดูกันว่าพลังงานกำลังตะขอเกี่ยวรอบด้านหลังโล่สนามแม่เหล็กของโลก? มันไม่ควรที่จะทำอย่างนั้น!

See how the energy is hooking around behind the shield? It isn't EVER supposed to do that!

 

The Great Shift

** การแจ้งเตือน BOWSHOCKย้อนกลับ! **

ขออภัย! เกิดขึ้นเร็วเกินไป! มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถทำให้สนามแม่เหล็กสร้างbow shockได้ และนั่นคือดาวดวงหนึ่ง bow shockของเราหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์เสมอ ถ้ามันกลับด้านหมายความว่ามีดาวดวงอื่นอยู่ และ bow shock ของเราจะหันไปหาดาวที่แข็งแกร่ง (หรือยิ่งใกล้)
มันหมายความว่าเรากำลังผ่าน Nemisis ตอนนี้ และมันใกล้กว่าและไกลกว่าที่เราคาดไว้มาก! มันอยู่บนจุดดำน้ำที่จุดสูงสุด(perihelion dive)ซึ่งมันหมุนเร็วรอบดวงอาทิตย์เพื่อสร้างความเร็วเพียงพอที่จะยิงหนังสติ๊กกลับสู่อวกาศ

**BOWSHOCK REVERSAL ALERT!**

Sorry! Happening too quick! There's only one thing that can cause the magnetic field to create a bowshock. And that's a star. Our bow shock always faces the Sun. If it reverses it means there is another star present. And our bow shock will turn to face the stronger star. (Or the closer one)
It means that we are passing Nemisis NOW. And it is much closer and much farther ahead than we thought! It is on its perihelion dive, where it speeds up to spin around the sun, to build up enough speed to slingshot back into space.

 

แล้งซ้ำซาก ภาคเหนือเสี่ยงเป็นทะเลทราย 21 กรกฎาคม 2562



นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมของไทย อ้างข้อมูลการศึกษาสำรวจ ความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ส่งผลให้หลายพื้นที่ของไทยเสี่ยงต่อภาวะ “แล้งซ้ำซาก” ลามหนักจนอาจนำไปสู่การเกิดทะเลทราย โดยสภาพภูมิศาสตร์ของโลก มีทะเลทราย 1 ใน 5 ของพื้นโลกและ 2 ใน 3 เป็นพื้นน้ำ ปกติเขตภูมิอากาศแบบทะเลทรายจะพบเห็นระหว่างละติจูด 15-30 องศาทั้งเหนือ-ใต้ เช่น แถว ๆ ตอนเหนือของแอฟริกา, คาบสมุทรอาหรับ, มณฑลซินเจียงของจีน และมองโกเลีย เป็นต้น ถ้าแบ่งตามเขตภูมิอากาศโดยอาศัยหยาดน้ำฟ้า ที่แวดวงวิชาการภูมิศาสตร์จัดแบ่งจะมี 5 แบบ ถ้ามีปริมาณน้ำฝน 0-250 มิลลิเมตร ต่อปี จะเป็นเขตภูมิอากาศแห้งแล้ง ในไทยอยู่ในระดับ 1,200-1,600 มม. ต่อปี จัดอยู่ในกลุ่มที่ 4 คือ ภูมิอากาศชุ่มชื้น รายงานด้านสิ่งแวดล้อมโลกของ ยูเอ็น ระบุ พื้นที่จะกลายสภาพเป็นทะเลทรายเพิ่มขึ้นทุกปี เกิดขึ้นทั่วโลกราว ๆ 37-38 ล้านไร่
จากการสำรวจของนักวิชาการ ด้านพัฒนาที่ดิน ยืนยันว่า ไทยมีความเสี่ยงที่จะเกิดความแห้งแล้งถาวร ถึงขั้นไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้หลายพื้นที่ แบ่งเป็นที่ราบ 2.39 ล้านไร่และที่สูง 4.54 ล้านไร่ ส่วนใหญ่อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ
มีสาเหตุหลัก ๆ หลายปัจจัย ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากภาวะโลกร้อน การทำเกษตรกรรมแบบเร่งรัด การแผ้วถางเพาะปลูกบนพื้นที่ลาดชัน การใช้สารเคมีมากเกินไป การบุกรุก ตัดไม้ทำลายป่า การใช้ประโยชน์ด้านต่าง ๆ รวมถึงการเผาป่า เมื่อดินขาดความชุ่มชื้น เสื่อมโทรม เป็นเวลา 5-10 ปี ก็จะเริ่มก่อตัว เป็นพื้นที่จะกลายเป็นทะเลทรายได้ และไม่ใช่เพียงการบุกรุกพื้นที่ป่า ขยายการเพาะปลูก ไฟป่า เท่านั้น การพัฒนาเมืองและขยายชุมชน ก็เป็นสาเหตุอีกด้านที่ทำให้เกิดความแห้งแล้งขึ้น ด้วยพื้นผิวดินตามธรรมชาติถูกคลุมทับด้วยคอนกรีต น้ำฝนไม่สามารถซึมลงสู่ใต้ดินได้



ดังนั้นเมืองน่าอยู่ ต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตต้องมีสวนสาธารณะในเมืองอย่างเพียงพอ มีกฎหมาย กำหนดอัตราส่วนของพื้นที่อาคารสูงต่อพื้นที่ราบให้เหมาะสม ต้องทำความเข้าใจด้วยว่ามีหลายปัจจัยทำให้เกิดภัยแล้งทั้งสภาพอากาศ, ลมมรสุม, ตำแหน่งร่องมรสุม
ผลกระทบจากภาวะโลกร้อน, การพัฒนาด้านต่าง ๆ แม้ประเทศไทยจะไม่ได้อยู่ในขั้นที่แห้งแล้งเป็นทะเลทราย แต่ก็การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ทำให้หลาย ๆ จังหวัด เสี่ยงต่อภาวะแล้งนาน ซ้ำ ๆ ซาก ๆ เสี่ยงต่อภาวะการเป็นทะเลทรายในระดับรุนแรง 6.93 ล้านไร่ หรือ ร้อยละ 2.17 ของพื้นที่ทั่วไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
รายงานด้านสิ่งแวดล้อมไทย ระบุภาวะการเกิดภัยแล้งในไทยจะมี 2 ช่วง เป็นปกติ คือ ระหว่างตุลาคม – กุมภาพันธ์ทุกปี เป็นช่วงสิ้นสุดฤดูฝน ถึงปลายหนาว และจะมีความแห้งแล้งสะสม นำไปสู่การเกิดไฟป่า ทำให้โครงสร้างดิน ถูกทำลายเสื่อมโทรมหนักขึ้น ช่วงที่ 2 คือ ระหว่าง พฤษภาคม – ตุลาคม ระยะนี้ภาคเหนือตอนบนมักจะเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงนานระหว่าง มิถุนายน – กรกฎาคม ทำให้ภัยแล้งแล้ง ซ้ำเติมแหล่งเพาะปลูก เป็นปัญหาสั่งสมทุกๆปี



ภัยแล้งในบ้านเรา มักเกิดจากฝนทิ้งช่วง, การบริหารจัดการน้ำ ตามแผน นโยบาย ยังเป็นประเด็นที่ต้องพิจารณา แก้ไขตั้งแต่ อดีต ถ้าย้อนไปราว ๆ พ.ศ. 2495 เชียงใหม่เกิดภัยแล้ง ลามหนัก จนนำไปสู่การสร้างเขื่อนแม่งัดฯ ขึ้นมา ในช่วง ปี 2520 และต่อมาปี 2530 มีการก่อสร้างเขื่อนแม่กวงอุดมธารา
จากนั้นช่วงปี 2558-2564 ก็กำลังดำเนินการ ก่อสร้างอุโมงค์ส่งน้ำ (แม่แตง-แม่งัด-แม่กวง) มูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหา ภัยแล้ง, อุทกภัย การจัดการน้ำอย่างยั่งยืน ในพื้นที่ 3-4 แสนไร่ ปัญหาภัยแล้งในรอบ 50-60 ปี ยังเป็นวิกฤตที่มีผลกระทบโดยตรงต่อภาคเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคการเกษตร
มีการสรุปความเสียหาย เชิงมูลค่าช่วง ปี พ.ศ. 2532-2546 พบว่าสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท วิกฤติภัยแล้ง บางปี มีความเสียหายนับล้านล้านบาท และจากพื้นที่ 75,033 หมู่บ้าน ใน 7,255 ตำบล 878 อำเภอ 77 จังหวัดนั้น กว่าครึ่งจะเป็นพื้นที่เสี่ยงแล้ง และ น้ำท่วมซ้ำซากทุก ๆ ปี มีความพยายามจากหลายภาคส่วนในสังคมไทย นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาว่าไม่ควรยึดโยงอภิมหาโครงการก่อสร้างลงทุนเป็นหลัก



แต่ควรเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการจัดการอย่างเข้าถึง เข้าใจ ตรงเป้าหมาย มีขั้นตอนง่าย ๆ ตั้งแต่ การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวกับปัญหาภัยแล้ง ทั้งโดยตรงและโดยอ้อมมีจำนวนมาก ไม่เป็นหนึ่งเดียว ควรร่วมคิด ร่วมทำ ต้องบูรณาการ เรียนรู้ประสบการณ์เพื่อหลีกเลี่ยงความผิดพลาดล้มเหลวซ้ำซากดังที่เคยเกิดขึ้นและเป็นมาในอดีต ไม่ใช่มุ่งเน้นในการใช้งบด้านเดียว แม้ว่าฤดูแล้งจะเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงหรือควบคุมได้ แต่ธรรมชาติให้เวลาที่จะเตรียมรับมือ ป้องกัน แก้ไข ไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงหรือ ทำลายบางพื้นที่จนจะกลายเป็นทะเลทรายในอนาคต

https://www.chiangmainews.co.th/pag...zq0UtIyofSY4esfn1fHShPTESlv1v78GHJn11K8KL4B2Q

 

โหล่งปงเจ๊งแล้ววอนช่วยด่วน! ผักกาดขาว มะเขือเทศล้มตายแล้วหลังเจอฝนทิ้งช่วง 22 กรกฎาคม 2562



เมื่อเวลา 08:00 น. วันที่ 22 ก.ค. 62 ที่บ้านโหล่งปง หมู่ 4 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ชาวบ้านต่างพากันเดือดร้อนกันถ้วนหน้าหลังจากที่ฝนไม่ตกลงมา ทำให้พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนักในเวลานี้ โดยเฉพาะ หอมแดง มะเขือเทศ ฟักทอง กะหล่ำปลี และผักกาดขาว พืชผลทางการเกษตรในแต่ละอย่าง ล้วนเป็นอาหารหลักส่งออกไปยังตัวเมืองเชียงใหม่และจังหวัดลำพูน หากฝนไม่ตกลงมาภายในอาทิตย์นี้ ผลผลิตทางการเกษตรจะเสียหายแทบทั้งหมด



นายสุนทร แสนวังทอง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 4 ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ แจ้งว่า ปีนี้แล้งรุนแรงหนัก ฝนไม่ตกเลย ตอนแรกฝนตกลงมาทำท่าว่าจะมีฝนตกหนักตลอดช่วงฤดูฝน เหมือนกับหลอกชาวสวนให้หว่านพืชในแปลง แต่พอต้นกล้ากำลังเติบโต ฝนกลับมีน้อย ตกบ้างไม่ตกบ้าง จนกระทั่งล่าสุด ไม่ตกเลย จากภาวะฝนทิ้งช่วงดังกล่าวทำให้ มีหนอน ชอนไช พืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหายอย่างหนัก ตอนนี้หนักสุดก็คือฝนแล้ง นอกจากพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้านแล้ว ของตน ก็มีทั้งหอมแดง มะเขือเทศ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี และฟักทอง แต่ละต้น ก็เหี่ยวเฉาใกล้ยืนต้นตายกันหมดแล้ว น้ำที่มีอยู่ก็ไม่เพียงพอ จึงอยากจะนำปัญหาทั้งหมดบอกผ่านไปยังผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขโดยด่วนด้วย



ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ส่วนใหญ่จะปลูกข้าวโพดสัตว์ และข้าวโพดหวาน ป้อนตลาด ตอนนี้เจอภาวะฝนแล้ง ทำให้ต้นกล้าที่กำลังงอกเหี่ยวเฉาตายกันหมด คาดว่าภายในอีกไม่ถึงสัปดาห์ไม่มีฝนตกลงมา ต้นข้าวโพดที่กำลังงอกจะต้องเหี่ยวตายพร้อมกับพืชชนิดอื่น ๆ ด้วย



https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1064488

 

อำเภอแม่ออน เริ่มประสบภัยแล้ง!! เร่งตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาภัยแล้งเร่งด่วน 22 กรกฎาคม 2562



เมื่อเวลา 08:30 น.วันที่ 22 ก.ค.62 นายสุเทพ แสนมงคล นายอำเภอแม่ออน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่าให้ทุกหน่วยงาน ใน อ.แม่ออน ซึ่งมี 6 ตำบล 49 หมู่บ้าน ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ประสบภัยแล้ง โดยทางอำเภอได้ตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ทั้งในระดับอำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้หน่วยงาน ตำบล หมู่บ้านดำเนินการดังนี้



ด้านการเตรียมการ ให้ อบต. จัดทำบัญชีหมู่บ้านและชุมชนที่มีความเสี่ยงต่อการประสบปัญหาภัยแล้ง และจัดทำแผนเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งอย่างเป็นระบบให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งในระดับ หมู่บ้าน ตำบลตามสภาพปัญหาเพื่อการกำหนดแนวทางแก้ไขตามลำดับความสำคัญ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว และให้จัดทำแผนการดำเนินงานทั้งระบบอย่างชัดเจน เช่น แผนแจกจ่ายน้ำให้แก่ ราษฎรตามข้อมูลของหมู่บ้าน/ชุมชนที่มีความเสี่ยง การกำหนดจุดแจกจ่ายน้ำให้ชัดเจนและสะดวกกับ ประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน การสำรวจตรวจสอบแหล่งน้ำรวมทั้งสำรวจภาชนะเก็บกักน้ำให้อยู่ในสภาพที่ใช้ การได้อย่างเพียงพอ

การจัดทำแผนบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะด้านการป้องกันปัญหา อาชญากรรมที่เกิดขึ้นบ่อยในฤดูแล้ง เช่น ปัญหาการลักขโมยเครื่องสูบน้ำ และเครื่องมือการเกษตร ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมประชาชนผู้ประสบภัย

การจัดทำแผนดูแลรักษาสุขภาพป้องกันโรคระบาดในช่วงฤดูแล้ง การประสาน การประปาส่วนภูมิภาค ประปาท้องถิ่น ในการจัดหาแหล่งน้ำสะอาดสำหรับบริการประชาชน

ด้านการเพาะปลูกและการดูแลพี่น้องประชาชน ให้ อบต. ประสานชลประทานและเกษตรอำเภอ เพื่อจัดทำแผนและแนวทางการจัดการพืชผลการเกษตรและ ทำความเข้าใจให้คำแนะนำกับเกษตรกรปลูกพืชที่ใช้น้อยหรือพืชฤดูแล้ง ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดูแลรักษาแหล่งน้ำสาธารณะ คู คลอง สถานที่เก็บกักน้ำเพื่อให้สามารถเก็บกักน้ำในหมู่บ้านและตำบลได้มากขึ้น รวมทั้งรณรงค์และส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจัดหาภาชนะเก็บกักน้ำและใช้น้ำอุปโภค บริโภค อย่างประหยัด ถูกวิธี ถูกสุขลักษณะ

ทั้งนี้ ให้เตรียมพร้อมทุกด้านตั้งแต่กำลังคน สำรวจวัสดุ อุปกรณ์ รถยนต์ บรรทุกน้ำ เครื่องสูบน้ำเครื่องมือเครื่องใช้ในการบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยเหลือประชาชนให้พร้อมใช้ การได้ทันทีที่พี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ

ด้านการให้ความช่วยเหลือ เมื่อเกิดสถานการณ์ภัยแล้งให้ อปท.พิจารณาให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยให้ดำนินการอย่างรวดเร็ว ทั่วถึง เป็นธรรมตามสภาพความเป็นจริงและที่สำคัญต้องมีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนเพื่อประโยชน์สูงสุด ต่อประชาชน

กรณีเกิดสถานการณ์ภัยแล้งที่กระทบต่อพื้นที่การเกษตร ให้ อปท. รีบประสานมายังเกษตรอำเภอ นอกจากนี้ในการรายงานสถานการณ์ภัยแล้งให้รายงานข้อมูลอย่างถูกต้องและ เหมาะสมตามข้อเท็จจริง ทั้งด้านการประกาศพื้นที่ภัยแล้ง จำนวนครัวเรือนที่ประสบภัย ข้อมูลพื้นที่เกษตรที่ ได้รับผลกระทบ เพื่อให้การประเมินสถานการณ์เป็นไปอย่างถูกต้องตามข้อเท็จจริง จนกว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะ เข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ให้ติดตามสถานการณ์ข้อมูลข่าวของราชการอย่างใกล้ชิด เพราะมีหลายพื้นที่ ใน อ.แม่ออน แหล่งน้ำแห้งขอด รายงานมาให้ทางอำเภออย่างเร่งด่วน


https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1064636

 

นอภ.เชียงแสน สั่ง จนท. ออกสำรวจภัยแล้งทุกพื้นที่ เพื่อเร่งดำเนินการช่วยเหลือเร่งด่วน 22 กรกฎาคม 2562



เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2562 โดยการสั่งการ นายประสงค์ หล้าอ่อน นายอำเภอเชียงแสน ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอประจำตำบลลงตรวจสอบพื้นที่การเกษตรของราษฎรเพื่อสำรวจความเสียหายจากภาวะฝนทิ้งช่วงและประสบความแห้งแล้ง ซึ่ง น.ส.สุวรรณี มั่งมี ปลัดอำเภอประจำตำบลป่าสัก และ น.ส.เมทนี



โบรสศักดิ์ เจ้าหน้าที่อำเภอเชียงแสน ได้ลงพื้นที่เพื่อไปตรวจสอบร่วมกับผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านตำบลป่าสัก พบว่าพื้นที่การเกษตรของราษฎรได้รับผลกระทบจากภาวะขาดแคลนน้ำเนื่องจากฝนทิ้งช่วงเป็นเวลานานในหลายพื้นที่ แหล่งน้ำตามธรรมชาติ คลองส่งน้ำ รวมทั้งฝายกั้นน้ำต่างแห้งขอด อย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี


เกษตรกรในพื้นที่ส่วนใหญ่จึงพากันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ในพื้นที่การเกษตร แต่ก็ประสบปัญหาในเรื่องค่าใช้จ่ายทั้งในการขุดเจาะบ่อบาดาล ต้องใช้จ่ายในการขุดเจาะบาดาล สูงถึงบ่อละ 2,500 บาท บางพื้นที่เนื่องจากมีขนาดกว้างใหญ่จึงต้องขุดเจาะบ่อบาดาลถึง 3 บ่อ เพื่อให้เพียงพอต่อการใช้น้ำทำการเกษตร นอกจากปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการขุดเจาะบ่อบาดาลแล้วมีพื้นที่ที่ไม่ห่างไกลจากชุมชนมากนักได้ใช้วิธีต่อไฟฟ้าเพื่อสูบน้ำขึ้นมาจากบ่อบาดาล แต่สำหรับพื้นที่ที่ห่างไกลชุมชนเกษตรกรต้องใช้เครื่องสูบน้ำในการสูบขึ้นมาจะมีค่าใช้จ่าย เรื่องค่าน้ำมันในการสูบน้ำแต่ละครั้ง 500 – 700 บาท



ต่อการสูบน้ำ 1 คืน ซึ่งกว่าจะสูบน้ำจนได้ตามปริมาณความต้องการต้องใช้เวลาอย่างน้อย 4-5 วัน หรือมากกว่านั้น โดยที่ชาวบ้านได้ใช้วิธีสูบน้ำจากบ่อบาดาลติดต่อกันมาเป็นเวลาเกินกว่า 1 เดือนแล้วทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก



จากการสำรวจพบว่าหากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ฝนยังไม่ตกต้องตามฤดูกาลต่อไป เกษตรกรอาจจำเป็นต้องปล่อยให้พืชผลทางการเกษตรยืนต้นตายเนื่องจากแบกรับภาระค่าใช้จ่ายต่อไปไม่ไหว





https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1064307

 

พายุฝนถล่มบ้านแม่ปูนล่าง อ.เวียงป่าเป้า หลังคาปลิวว่อน เสียหายหนัก 5 หลัง 22 กรกฎาคม 2562



เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2562 นายอนันต์ สมุทรารินทร์ นายอำเภอเวียงป่าเป้า รับแจ้งจาก ผู้ใหญ่บ้าน
หมู่ที่ 9 บ้านแม่ปูนล่าง ว่าได้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองทำให้บ้านเรือนของราษฎรบ้านแม่ปูนล่าง หมู่ที่ 9 ต.เวียง อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย ได้รับความเสียหาย จำนวน 5 หลังคาเรือน จึงสั่งการให้ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการสำรวจความเสียหาย และแจ้งอำเภอทราบ โดยในเบื้องต้น อำเภอได้แจ้งให้ อบต.เวียง ให้การช่วยเหลือกระเบื้องประมาณ 100 แผ่น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วนไปแล้ว





https://www.chiangmainews.co.th/page/archives/1064277

 

ล่อมาขย้ำ! พบฉลามพันธฺุ์ใหม่ หลั่งสารเรืองแสงได้ ใช้หลอกล่อเหยื่อก่อนเขมือบ วันที่ 22 กรกฎาคม 2562 - 13:09 น.


ล่อมาขย้ำ! พบฉลามพันธฺุ์ใหม่ หลั่งสารเรืองแสงได้ ใช้หลอกล่อเหยื่อก่อนเขมือบ
ล่อมาขย้ำ! พบฉลามพันธฺุ์ใหม่ – วันที่ 22 ก.ค. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า คณะนักวิิจัยจากมหาวิทยาลัยตูเลน เมืองนิว ออร์ลีนส์ รัฐหลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกา เปิดเผยการค้นพบปลาฉลามพันธุ์ใหม่จากอ่าวเม็กซิโก ซึ่งมีขนาดเล็กและหลั่งสารเรืองแสงได้เพื่อหลอกล่อเหยื่อให้เข้าใกล้ก่อนขย้ำกินเป็นอาหาร

ปลาฉลามสายพันธุ์ อเมริกัน พ็อกเก็ต ชาร์ก ขนาดลำตัวยาวประมาณ 5 นิ้วครึ่ง ตัวดังกล่าวถือเป็นตัวแรกที่พบในอ่าวเม็กซิโก ส่วนครั้งแรกนั้นพบในมหาสมุทรแปซิฟิกเมื่อปี 2522 แต่เป็นคนละสปีชีส์กัน จัดฉลามสายพันธฺุ์ที่หาพบได้ยากมากๆ




รายงานระบุว่า อุปนิสัยของปลาฉลามโดยทั่วไปนั้นมักเคลืิ่อนไหวติดตามเหยื่ออยู่ห่างๆ โดยไม่ให้เหยื่อรู้ตัวก่อนจะเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว ตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของฉลามพันธุ์ใหม่ข้างต้นที่ใช้แสงเพื่อวางกับดักเหยื่อแทน อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการใช้แสงหลอกล่อเหยื่อนั้นพบได้ทั่วไปสำหรับสัตว์ทะเล

https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_2731473