ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Santillana

    #ULTIMA #HORA
    การปะทุที่รุนแรงของภูเขาไฟ อากุง อินโดนีเซีย เวลาเพียงไม่กี่นาที
    2019/06/13

    IMG_2926.JPG IMG_2927.JPG IMG_2928.JPG IMG_2929.JPG

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Santillana

    เหลือเชื่อ
    ตั๊กแตนยักษ์บุกเข้ามาในประเทศเยเมนในตะวันออกกลาง
    2019/12/06

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    IMG_2930.JPG
    (Jun 12) 'พาวเวล/ทรัมป์' กำลังดิ่งตามรอย 'เบิร์นส/นิกสัน' ? สัปดาห์ที่ผ่านมา มีหลายสำนักวิจัยของฝรั่ง รวมถึงเส้นโค้งอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรสหรัฐต่าง คาดการณ์ว่า เฟดจะลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ และอย่างน้อย 1 ครั้งในปีหน้าส่วนใหญ่จะมองว่าเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ ได้รับการกดดันทั้งทางตรงและทางอ้อมโดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์



    ทำให้นึกถึงสมัยที่ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ อาเธอร์ เบิร์นส ที่ถูกอดีตประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน กดดันให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินก่อนการ เลือกตั้งใหญ่ปลายปี 1972 จนดัชนีหุ้นสหรัฐจมดิ่งเป็นระยะเวลายาวนานเกือบทศวรรษหลังจากนั้น และนั่นนับเป็นการดิ่งลงของดัชนีหุ้นสหรัฐที่รุนแรงและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ โดยทั้งสองเหตุการณ์มีความคล้ายคลึงกันในหลายมิติ ดังนี้



    1.เหตุการณ์ที่ทั้งสองประธานาธิบดีสหรัฐทำการบลัฟประธานธนาคารกลางสหรัฐ ทั้ง 2 ครั้งนี้เริ่มเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนที่ การเลือกตั้งใหญ่ประธานาธิบดีประมาณ 18 เดือน โดยประธานาธิบดีนิกสันโน้มน้าว นายเบิร์นส เป็นระยะๆ ว่าให้ช่วยลดดอกเบี้ยเพื่อการเลือกตั้งใหญ่ ในขณะที่ทรัมป์ก็ทวิตเตอร์กดดันนายพาวเวลให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าขู่ว่าจะปลดออกจากตำแหน่ง กล่าวโจมตีว่าเฟดเดินหมากผิดที่ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเวลาก่อนหน้า รวมถึงเปรียบเทียบสหรัฐกับจีนว่าสหรัฐเสียเปรียบจีน ที่ สี จิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถออกคำสั่งให้ธนาคารกลางจีนขึ้นหรือลดดอกเบี้ยเพื่อให้ได้เปรียบสหรัฐได้ ในขณะที่เฟดมิได้ทำเช่นนั้น ทางด้านนิกสันก็เป่าหูแบบทั้งปลอบและขู่ต่อประธานเฟด เบิร์นสเป็นระยะๆ ว่าเขาเองจะแพ้การเลือกตั้งแน่หากเฟดไม่ทำการผ่อนคลายนโยบายการเงินให้เขาก่อนเลือกตั้ง



    2.ตัวเลขเศรษฐกิจของทั้ง 2 ช่วงเวลา ก่อนที่ทั้งเบิร์นสและพาวเวลจะลดดอกเบี้ยนั้น มีความคล้ายคลึงกันคือยังค่อนข้างดี ไม่ว่า จะเป็นการเติบโตของจีดีพี รวมถึงตัวเลขเงินเฟ้อก็ถือว่าไม่ได้ต่ำแต่อย่างใด โดยหาก พิจารณาจากมุมมองเศรษฐศาสตร์แล้ว การ ลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟดถือว่ายังไม่ใช่สิ่งที่ ธนาคารกลางแบบอนุรักษนิยมจะทำกัน



    โดยในยุคของ "เบิร์นส/นิกสัน" การลด ดอกเบี้ยดังกล่าวส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อในทศวรรษที่ 70 กระชากขึ้นแบบไม่หยุด แม้ว่า นายเบิร์นสจะพยายามขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างรวดเร็ว หลังการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐหลังเดือน พ.ย.1972 ก็ตาม โดยอัตราดอกเบี้ยนโยบายขึ้นจาก 4.49% ในช่วงกลางปี 1972 ไปเป็น 7.5% ในเวลา 1 ปีต่อมา



    จนกระทั่งช่วงกลางปี 1979 อัตราเงินเฟ้อสหรัฐก็แตะตัวเลขสองหลัก จนพอล โวลค์เกอร์ อดีตประธานเฟดต้องขึ้น ดอกเบี้ยนโยบายชุดใหญ่ จนเศรษฐกิจสหรัฐ สามารถกลับมาสู่ภาวะปกติได้ ทว่าก็สะบักสะบอมไม่น้อยเช่นกัน



    3.ผู้นำสหรัฐและประธานเฟดทั้ง 2 ยุคมีความคล้ายคลึงกัน คือประธานาธิบดีสหรัฐมีความเป็นสายดาร์คในขณะที่ประธานเฟดทั้ง 2 ยุคค่อนข้างจะไม่กล้าที่จะหักดิบกับผู้นำสหรัฐ โดยทั้งนิกสันและทรัมป์มีคดีความและถูกตั้งกรรมการตรวจสอบทั้งคู่ ด้วยความที่ชอบเล่นการเมืองแบบถึงลูกถึงคน โดยนิกสันโดนคดีวอเตอร์เกตส์จนต้องหลุดออกจากตำแหน่ง ส่วนทรัมป์ถูกรายงานว่าด้วยการแทรกแซงจากรัสเซียในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อปี 2018 ของโรเบิร์ต มูลเลอร์ เล่นงานจนแทบจะไม่เป็นอันทำงาน เมื่อนายมูลเลอร์จะให้การต่อสภาผ่านการถ่ายทอดสดออกสู่สาธารณชน ส่วนทางด้านนายเบิร์นสและนายพาวเวล ทั้งคู่มาจากสายวิชาการ โดยเบิร์นสเป็น ศาสตราจารย์ในมหาวิทยาลัยชื่อดัง ส่วนพาวเวลมาจากสายกฎหมาย เพิ่งหันมาทำงานภาครัฐเมื่อกว่า 10 ปีก่อน จะเห็นได้ว่าคู่หูทั้ง 2 ยุคต่างมีเบื้องหลังและนิสัยที่มีความ ซ้ำรอยกันอยู่ไม่น้อย



    4.ตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นไปสู่จุดที่สูงมากๆ ในช่วง 1 ปีเศษๆ ก่อนเลือกตั้งใหญ่ของทั้ง 2 ยุค ในปี 1971 ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ได้ขึ้นไปสู่จุดสูงสุดก่อนที่ตอนหลังเลือกตั้งปลายปี 1972 ที่ดัชนีหุ้นสหรัฐจะดิ่งเป็นระยะเวลายาวนานเกือบทศวรรษหลังจากนั้น และนั่นนับเป็นการดิ่งลงของดัชนีหุ้นสหรัฐที่รุนแรงและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์



    ในขณะที่ปี 2019 ในช่วง 1 ปีเศษๆ ก่อนเลือกตั้งใหญ่ ดัชนีหุ้นสหรัฐทำ All-time high ตามที่ทรัมป์ได้คุยไว้ตลอดเช่นกัน และประธานเฟด พาวเวล ก็กำลังถูกทรัมป์กดดันให้ลดดอกเบี้ยเช่นเดียวกับที่เบิร์นสถูกนิกสันกดดันให้ผ่อนคลายนโยบายการเงิน คงต้องมาคอยลุ้นว่าตลาดหุ้นสหรัฐหลังปี 2020 จะดิ่งลงแบบรุนแรงและยาวนาน ที่สุดในประวัติศาสตร์เช่นเดียวกับปี 1973 หรือไม่



    ท้ายสุด ในด้านภาคต่างประเทศ ทั้ง นิกสันและทรัมป์ต่างก็ทำสงครามกับต่างชาติ ทว่าในสนามที่แตกต่างกัน ในขณะที่นิกสันพาสหรัฐเข้าสู่สงครามเวียดนามและหันมา มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีน ส่วน ทรัมป์ก็พาสหรัฐเข้าสู่สงครามการค้ากับจีน ทว่าหันมามีความสัมพันธ์ที่ดีกับอิสราเอลอีกครั้ง



    ทั้งนี้ หากเฟดลดดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้งในปีนี้ และอย่างน้อย 1 ครั้งในปีหน้าตามที่หลายสำนักวิจัยของฝรั่งคาดการณ์ไว้จริง มีความเป็นไปได้ว่าช่วงต้นปี 2021 เป็นต้นไป ตลาดหุ้นสหรัฐมีโอกาสที่น่าจะ เข้าสู่ขาลงแบบจริงจัง เช่นเดียวกับเมื่อ ปี 1973 ครับ


    คอลัมน์ มุมคิดมหภาค: ผศ.ดร.บุญธรรม รจิตภิญโญเลิศ

    facebook.com/MacroView


    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/647456
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    52AE81EA-9444-4D91-9FA9-B12EE27C3C6A.jpeg
    (Jun 13) Draghi และ Lagarde กล่าวเตือนมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจของประเทศซึ่งเป็นผู้ผลิตหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรป : นาง Christine Lagarde ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวแสดงความเห็นว่า อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจโลกได้ชะลอตัวลงมานานกว่า 6 ปี ขณะที่ประเทศซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐฯ ได้พยายามผลักดันมาตรการกีดกันทางการค้าซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ มากขึ้นในวงกว้าง โดยเฉพาะกลุ่มประเทศ ยุโรปตะวันออกที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจขึ้นอยู่กับพัฒนาการของปัจจัยภายนอกประเทศเป็นสำคัญ


    นาง Lagarde และ นาย Mario Draghi ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวไปในทิศทางเดียวกันว่า การปรับเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากยุโรปของรัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งผลกระทบต่อประเทศที่เป็นผู้ผลิตหลักในอุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรป อาทิ เช็ก สโลวาเกีย โปแลนด์ และ โรมาเนีย


    นาย Draghi ระบุว่า บางประเทศในกลุ่มยุโรปตะวันออก การส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์คิดเป็นสัดส่วนกว่าร้อยละ 30 ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด ซึ่งทำให้แนวโน้มการเติบโตของกลุ่มประเทศดังกล่าวขึ้นอยู่กับนโยบายทางการค้าของสหรัฐฯ ค่อนข้างมาก ดังนั้นความท้าทายของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออกในระยะยาวคือการหันมาให้ความสำคัญกับการลงทุนและมุ่งเน้นพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ ภายในประเทศให้มากยิ่งขึ้นกว่าที่ผ่านมา


    Source: BOTSS


    - IMF’s Lagarde and ECB’s Draghi warn against troubling developments in trade war : https://www.cnbc.com/2019/06/12/lagarde-and-draghi-warn-about-trade-war.html
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    807064D6-D806-4A71-9035-964823DFF024.jpeg
    (Jun 12) ยูบีเอส-โกลด์แมน แซคส์ประสานเสียงฟันธงเฟดไม่หั่นดอกเบี้ยในปีนี้ : นักวิเคราะห์ของยูบีเอสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งสวนทางมุมมองของตลาดการเงิน


    ทั้งนี้ FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 79% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนก.ค. และมีโอกาส 60% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้


    ยูบีเอสเตือนว่า การคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะไม่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยในระยะนี้ เป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่"ผสมผสาน" แทนที่จะเป็นตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอเพียงอย่างเดียว ซึ่งจะไม่เพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้


    "ในมุมมองของเรา เราเห็นว่าการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยรวม 1.00% ภายในปีหน้า เป็นการคาดการณ์ที่มากเกินจริง โดยในขณะที่เฟดถูกบังคับให้สนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่สร้างความเสียหายต่อการใช้จ่ายด้านทุน และการจ้างงาน แต่เราก็ไม่คาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้" นายมาร์ค แฮเฟเล หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของยูบีเอส กล่าว


    นายแฮเฟเลยังได้ระบุถึงตัวเลขว่างงานที่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี ขณะที่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในระดับสูง


    ความเห็นดังกล่าวของยูบีเอสสอดคล้องกับที่โกลด์แมน แซคส์ระบุในวันจันทร์ว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยคำพูดของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ไม่ได้เป็นการส่งสัญญาณถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่จะเกิดขึ้นในไม่ช้า


    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ


    - Another major Wall Street bank says there will be no rate cut soon, despite what market wants: https://www.cnbc.com/2019/06/12/ubs-says-no-rate-cut-coming-soon-despite-what-the-market-thinks.html
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูฮัมหมัดคาร ฮารุดีน
    ·
    อิหร่านพัฒนาโล่เกราะป้องกันขีปนาวุธแบบใหม่ล่าสุดพร้อมติดตั้งทั่งประเทศ
    upload_2019-6-13_11-18-16.png
    -=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-=-

    ผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันฐานทัพอากาศของกองทัพอิหร่านนายพล Alireza Sabahi Fard ประกาศว่าระบบโล่เกราะป้องกัน่ป้องกันขีปนาวุธที่พัฒนาขึ้นใหม่ของประเทศที่ชื่อว่า 'Khordad 15' มีพลังสูงในการตรวจจับวัตถุบินของศัตรูทุกชนิด

    "เกราะป้องกันขีปนาวุธ Khordad 15 มาพร้อมกับระบบเรดาร์ใหม่ที่ทรงพลังและสามารถตอบโต้เป้าหมายขั้นสูงและทันสมัยได้อย่างดี ด้วยเทคโนโนยีและการผลิตภายในประเทศที่ไม่มีการพึ่งพาต่างประเทศทำให้เราสามารถทำงานได้อย่างอิสระ" นายพล Sabahi Fard กล่าวในวันพุธ

    ระบบโล่เกราะป้องกันขีปนาวุธที่ผลิตขึ้นเองนี้มีชื่อว่า 'Khordad 15' ซึ่งติดตั้งระบบเรดาร์แบบใหม่ล่าสุดตรวจจับระยะไกลแบบพาสซีฟสำหรับตรวจจับเครื่องบินขับไล่ล่องหนและขีปนาวุธร่อนทุกชนิด สามารถติดตามเป้าหมายเครื่องบินรบและเครื่องบินข้าศึก ในรัศมี 150 กม. และสามารถสกัดกั้นพวกมันได้ในระยะ 120 กม.
    มันยังสามารถติดตามเป้าหมายที่ล่องหนหรือซ่อนตัวในรัศมีระยะ 85 กม และทำลายพวกมันในระยะทางไม่เกิน 45 กม
    ระบบโล่เกราะป้องกันขีปนาวุธ หนึ่งระบบนี้สามารถติดตามและทำลายเป้าหมาย 6 เป้าหมายได้พร้อมกัน มีความคล่องตัวสูงและสามารถเตรียมพร้อมสำหรับการปฏิบัติการในเวลาไม่ถึง 5 นาที
    ระบบดังกล่าวติดตั้งระบบเรดาร์แบบเรดาห์แบบใหม่ล่าสุด ที่มีความสามารถในการตรวจจับหลายเป้าหมาย และทำงานร่วมกับแท่นยิงขีปนาวุธ Sayyad 3

    ผู้นำและเจ้าหน้าที่ทหารของอิหร่านหลายคนได้กล่าวหลายต่อหลายครั้งแล้วว่า ความก้าวหน้าของประเทศอิหร่านในการสร้างเครื่องมือทางทหารนี้ มีจุดประสงค์เพื่อปกป้องประเทศจากการรุกรานที่อาจเกิดขึ้นเท่านั้น

    BY>>>>>Giant Khan<<<<<

    http://en.farsnews.com/newstext.aspx?nn=13980322000406
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    อีกหนึ่งวิดีโอที่น่าตื่นตาตื่นใจเกี่ยวกับพวยน้ำ ในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน # 12 มิถุนายน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พวยน้ำในจูไห่ มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน # 12 มิถุนายน

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุฝุ่นในรัฐคุชราต ประเทศอินเดีย เกิดพายุฝนฟ้าคะนองที่เกี่ยวข้องกับพายุหมุนเขตร้อน #Vayu # 12 มิถุนายน

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    การเผชิญหน้าของวาฬที่น่ากลัวนอกชายฝั่งของรัฐควีนส์แลนด์ ออสเตรเลีย

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    หมีอัจฉริยะ!
    มีหมีตัวหนึ่งถูกพบเห็นในบริเวณสกีรีสอร์ต Heavenly ของ California Lodge South Lake Tahoe เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
    นี่คืออีกหนึ่งตัวอย่างเพื่อเตือนอย่างมิตร ควรล็อคประตูของคุณ ..!
    (วิดีโอโดย Tyler Silvestri)

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ทะเลสาบออนตาริโอ แคนาดา
    ระดับน้ำในทะเลสาบออนแทรีโอ ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระตุ้นให้คณะกรรมาธิการร่วมระหว่างประเทศไปชมเกาะโตรอนโตในวันพุธ
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ลมพัดแรงใน gujarat อินเดีย 13 มิถุนายน 2019
    #Cyclone Vayu

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ลูกเห็บใน vertova อิตาลี 12 มิถุนายน 2019





     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ม.44 สั่ง 20,000 โรงแรมไร้ใบอนุญาต แจ้งเข้าระบบ-ปรับปรุง
    07:44 | 13 มิถุนายน 2562 |

    G0DL5oPyrtt5HBAi4oEK2xLmdEYwpJLa96LB85Am6vdC3mZGhuC5E0.jpg


    หัวหน้า คสช. ใช้มาตรา 44 ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ไม่ได้รับอนุญาตกว่า 20,000 แห่ง แจ้งเข้าสู่ระบบและดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยต้องปรับปรุงตามหลักเกณฑ์ให้แล้วเสร็จภายในปี 2564

    วันที่ 12 มิ.ย.2562 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 6/2562 เรื่อง มาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานการประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท โดยมีรายละเอียดดังนี้

    โดยที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการประกอบอาชีพสุจริตของชุมชน เพื่อให้เศรษฐกิจมีความคล่องตัวเกิดการกระจายรายได้ เกิดการสร้างงาน ขณะเดียวกันลดความขัดแย้งในชุมชนและจัดให้กิจการที่อยู่นอกระบบเข้ามาอยู่ในระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย มีการบริหารจัดการ และการตรวจสอบควบคุมโดยรัฐ ตามหลักการดังกล่าวปรากฏว่ามีผู้นำอาคารมาให้บริการเป็นที่พักแก่ประชาชนบ้าง ใช้บ้านเรือนอยู่อาศัยให้บริการในรูปแบบของโรงแรมตามแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เพื่อหารายได้บ้าง กรณีเหล่านี้มีจำนวนมากกว่า 20,000 แห่ง ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการได้โดยถูกต้องตามกฎหมาย ข้อขัดข้องบางส่วนเนื่องจากไม่เป็นไปตามข้อกำหนดการใช้ที่ดินตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และข้อกำหนดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมจำนวนหลายพันแห่งตามจังหวัดต่าง ๆ มากกว่า 50 จังหวัด และยังมีที่ไม่ได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎกระทรวงตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารอีกหลายพันแห่ง

    ทั้งนี้ ควรให้โอกาสดำเนินการให้ถูกต้องภายในระยะเวลาและตามเงื่อนไขกำหนด เช่นเดียวกับที่เคยมีกฎหมายผ่อนผันในเรื่องอื่นไว้ทำนองเดียวกันแล้ว อันจะทำให้กิจการเหล่าเข้ามาอยู่ในระบบ ลดความขัดแย้งในชุมชน ภาครัฐสามารถตรวจสอบควบคุม ยกระดับมาตรฐานการประกอบการและสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ผู้รับบริการก็ได้รับบริการที่มีคุณภาพและเป็นธรรม ฝ่ายผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของตน ก่อให้เกิดอาชีพและรายได้ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้การลงทุน และดูแลรักษากิจการอย่างเต็มความสามารถทางเศรษฐกิจ โดยยังคงรักษาสิ่งแวดล้อม วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของชุมชนไว้ จึงจำเป็นต้องแก้ไขข้อขัดข้องอยู่ดังกล่าว อันเป็นประโยชน์ในการการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศและส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนลดความขัดแย้งในสังคม

    อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับ มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับชั่วคราวพุทธศักราช 2557 หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้


    1.นับแต่วันที่คำสั่งมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2564 ให้การประกอบธุรกิจโรงแรมซึ่งอาคารลักษณะตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. ยกเว้นการใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน เคลื่อนย้าย และใช้หรือเปลี่ยนการ ใช้อาคารซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 8 (10) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543 และมาตรา 9 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ที่กำหนดให้สิ้นสุดระยะเวลาการใช้บังคับเมื่อมีการประกาศใช้บังคับกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมในท้องที่นั้น ที่มีผลใช้บังคับอยู่ในวันที่มีคำสั่งนี้

    2.เพื่อประโยชน์ในการควบคุมไม่ให้มีการประกอบธุรกิจโรงแรมผิดไปจากที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยโรงแรม ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมซึ่งมีอาคารที่มีลักษณะตามข้อ 3 แห่งกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2559 ซึ่งใช้อาคารในการประกอบธุรกิจโรงแรมอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับและอาคารนั้นมีลักษณะเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามกฎหมายกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้ แจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบถึงการฝ่าฝืนและดำเนินการปรับปรุงระบบความปลอดภัยด้านอัคคีภัยให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ฉบับที่ 47 (พ.ศ.2540) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และติดตั้งเครื่องดับเพลิงแบบมือถือ 1 เครื่อง ต่อพื้นที่อาคารไม่เกิน 200 ตารางเมตร ทุกระยะไม่เกิน 30 เมตร แต่ไม่น้อยกว่าชั้นละ 2 เครื่อง ภายใน 90 วันนับแต่วันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ พร้อมทั้งยื่นเอกสารหรือหลักฐานเพื่อประกอบการตรวจสอบ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
    ประกาศกำหนด

    (1) ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 15 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ.2547

    (2) ฝ่าฝืนใช้ประโยชน์ที่ดินผิดไปจากที่ได้กำหนดไว้ในผังเมืองรวมหรือปฏิบัติการใด ๆ ซึ่งขัดกับข้อกำหนดของผังเมืองรวมตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ.2518

    (3) ฝ่าฝืนดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 21 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535

    (4) ฝ่าฝืนใช้อาคารประเภทควบคุมการใช้โดยไม่ได้ใบรับรองการดัดแปลงอาคารตามมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร ( ฉบับที่ 3) พ.ศ.2543

    (5) ฝ่าฝืนเปลี่ยนการใช้อาคารโดยไม่ได้รับใบอนุญาตหรือไม่ได้รับใบรับแจ้งจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามมาตรา 33 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535

    ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมที่ได้แจ้งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นทราบถึงการฝ่าฝืนและอยู่ระหว่างดำเนินการปรับปรุงอาคารตามวรรคหนึ่ง ได้รับยกเว้นโทษทางอาญาสำหรับความผิดตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม กฎหมายว่าด้วยการผังเมือง หรือกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร แล้วแต่กรณีที่เกิดขึ้นก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ จนถึงวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

    3.เมื่อได้รับแจ้งตามข้อ 2 และมีเอกสารหรือหลักฐานอันเชื่อได้ว่าเป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมอยู่ในวันก่อนวันที่คำสั่งนี้มีผลใช้บังคับ ให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบการปรับปรุงอาคารให้เป็นตาม
    ที่กำหนดในข้อ 2 วรรคหนึ่ง ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง ในกรณีที่เจ้าพนักงานท้องถิ่นพบเหตุไม่ถูกต้องให้แจ้งผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมดำเนินการแก้ไข และแจ้งผลการดำเนินการ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวให้แล้วเสร็จภายใน 50 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบกิจการโรงแรม

    4.เมื่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นดำเนินการตรวจสอบ ตามข้อ 3 แล้ว ให้แจ้งผลการตรวจสอบต่อผู้ประกอบธุรกิจโรงแรม และนายทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทราบเป็นหนังสือ เพื่อดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมซึ่งผ่านการตรวจสอบสามารถประกอบกิจการโรงแรมต่อไปได้เช่นเดียวกับเจ้าของหรือผู้ครอบครองที่ดินซึ่งได้ใช้ประโยชน์ที่ดินมาก่อนที่ผังเมืองรวมจะใช้บังคับในพื้นที่นั้นตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง และให้ได้รับยกเว้นโทษทางอาญาสำหรับความผิดตามข้อ 2 ที่เกิดขึ้นก่อนวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการตรวจสอบจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น

    5.เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจให้บริการสถานที่พักของชุมชนให้เกิดความเข้มแข็ง อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวของประเทศ และสร้างความเข้มแข็งและรายได้ให้แก่ชุมชน ในกรณีที่การดำเนินการประกอบธุรกิจโรงแรมหรือธุรกิจสถานที่พักที่มีลักษณะตามข้อ 1 แห่งกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 แห่งใดไม่สามารถดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมายได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎหมายอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ในข้อ 2 ให้หน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายรวบรวมข้อเท็จจริงสภาพปัญหา และแนวทางแก้ไข เสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ ข้อเสนอแนะดังกล่าวให้คำนึงถึงนโยบายและแผนการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดินของประเทศเป็นสำคัญด้วย

    6.คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

    สั่ง ณ วันที่ 12 มิถุนายน พุทธศักราช 2562
    พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
    หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

    https://news.thaipbs.or.th/content/...DkPvqxCR9tfWK8kJj0WkcXTQ0jCZhImuilLTBAqD-3UhI
     

แชร์หน้านี้

Loading...