ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินโดนีเซีย
    อาสาสมัครช่วยราดน้ำไปที่กระจกหน้าของรถ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการมองเห็น เพื่อกำจัดฝุ่นเถ้าจากการระเบิดของภูเขาซินาบุงช่วงบ่าย ของวันที่ 9 มิถุนายน
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    ฉากของเถ้าภูเขาไฟที่ตกลงมาเหมือนก้อนเมฆหลังจากการระเบิดที่รุนแรงของภูเขาซินาบุงวันนี้ 9 มิถุนายน
    ภูเขาไฟ Sinabung ที่ Karo Regency ทางเหนือของเกาะสุมาตราในวันอาทิตย์ได้ปล่อยเถ้าสูงถึง 7,000 เมตรเหนือยอดเขาในตอนบ่าย

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินโดนีเซีย
    การปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ Mount Sinabungสุมาตราเหนือ
    การปะทุ ในเวลา 16:28 น. โดยมีความสูงของเสาขี้เถ้าสูงกว่ายอดสูงสุดคือ± 7,000 เมตร (± 9,460 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) พบว่าคอลัมน์เถ้าเป็นสีดำที่มีความหนามาก ในวันที่ 9 มิถุนายน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา
    พายุ ลมกระโชกแรง และฝนที่พัดเข้ามาในบ่ายวันนี้ ที่ดัลลัส, เท็กซัส เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    โรมาเนีย
    พายุ เมฆดำเปลี่ยนกลางวันเป็นกลางคืน ใน Snagov, Ilfov, 9 มิถุนายน
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา
    พายุ ฝน และลมแรง ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง จากต้นไม้ล้ม ในดัลลัส เท็กซัส บ่ายวันนี้ 9 มิถุนายน
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    สหรัฐอเมริกา
    พายุรุนแรง เข้าโจมตีบ่ายวันนี้ที่แอดดิสัน, เท็กซัส 9 มิถุนายน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    อินโดนีเซีย
    การระเบิดครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ Sinabung บนเกาะสุมาตรา ได้ประกาศเตือนสีแดง ทันทีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    เมริดา, ยูคาทาน ในเม็กซิโก แคลฟินาดา, บ่ายนี้ลงทะเบียนความร้อนที่ 58 ° C
    c_oc=AQnrClmVnWUwZc7Us66oN2ACDvOrVmamh6FeXonGefLLhy0fdnCXG81zbImt1El0fKc&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    พายุทรงพลังในโอคลาโฮมา สหรัฐอเมริกา เสาไฟหลายร้อยต้นล้ม
    2019/09/06

    c_oc=AQk0QSO3ireUkJRZHUe1QkVLuHxnhoebBw_AHyqu9v1WfDozDtC5B92BPWE1XjXKhqE&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQloUdQ3Yx8SjrpLm2bDzXmLzmGFfE-6dQG7oXrEygkffoSUcrlaXOA_tDy-R8YZXAI&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQkOG3hwv9MeqAC9DOf6gNt_FAYH-Q9YwT9P71JrAMT75MFUTHsJ-8vq3UEXtMF5w24&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQlwlNnVtosGmkrzVXs_OskvCmkQ-C3Hx7FuKYYerWwvnIuC1fqMlNE5f7clBnb6laQ&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQmry8Q-ixE0nDImwaDgOdFAlkTeiB92mf2bRE02PEPP9bq32zecqWJt3FZYcZCIBg0&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQnPEOkQIKE2UWZhcBvZnrPmDDA1RxdeGW617zAjJGN6oU_QGMvMC1T5jjW8hZlfDjc&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQltXKWlv4mP3PVmpOJzyomKQwlpM87dUmEdNpBePnM7Lnz5F3LbTKV9oTSSywCYo2s&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQl8RmhxTBEIYiVf5IqIOab98nmJ5dCaxpH5uZsHTw3RolhW5IQ5XirECSWioecl9ac&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQky_lLh1ocP5D0zaoIu4slOgcMck6o13rtcVeB821gh5Z4PG_uwijFm7XNuT8Qp4HQ&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQkDBv3SvV6Rl2yfoSv2oGEkIV8pRtxVNyYpQbDiWck_7y6d5ZTzYvDBQ6G05eNC1M0&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQkx0dBZC56tL_A8_MrrbVALezMjW6QW_M-8JCyz0vrrx_-tHyNlfNLe3vSy07g4Cbs&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQkf4f8CbfX79Ucs4g8jSw6-2w91_anrHiNZCL2XdI6l7dJROT0LlGYwJLsaJzFGor0&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQmQSxdlSHEQ_87sYpGL8ybx2sKcQVnDbwovYg0pzK9CVmQDhigdV4fmKpP5VfKEWek&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQmqc5xXMyhDQPY2Km8a3DHWRvGM10OKdC5c9EoFAGrUpaRalyzX5LRgCOCBS52VM0E&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    คลื่นความร้อนทำให้เกิดไฟป่าในตูนิเซีย ia
    2019/09/06

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    อุทกภัยในอังการา ประเทศตุรกี
    2019/09/06







    c_oc=AQmY2IoXuVAORwLUvQ8vB0vX2sczFpu4vFOhRai2oniEajbZdA6dL5yK4iRnLt7FT9A&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQnj3odYJzL9A0kY4afC-Tg_TX0K7udFUaZqtpR0vfgQFQNDbRYeTyZ_xaV18V4KQJ8&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQmP5lVoN_8a4MhCQrc2XOn5r5FwwM0jW53-rQjEDMe6SDS1dQvo6kkVJ_cqBXtL048&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQklB2RsBqDHTjW1Kep9DoinRV92nIInWfgjl3Z4AuofgbeQz_9HcVw6WR3FBVwadME&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    La gente huye de la tremenda granizada en el libano , se Reportaron varios carros dañados
    08.06.2019

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Juan Hernadez

    ถนนที่พังหลายแห่งในรัฐนอร์ ธ แคโรไลน่าเนื่องจากน้ำท่วมรุนแรง
    2019/09/06

    c_oc=AQkEnWu3jogp9YX74-eYBlv-Qn9a3ooKFPPRvUHrnaZA0OkH04pJayEUrsg7JpU02Vw&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQlaCQZUsLKBaRknvDSHtuPgW22V0Ui9ucZyjJzoEmLQjN1mjbPGFnjnJMiUliePHqc&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQliDtMCyPZ--NcdrVyFaqiLAHuUfyYMMM0mRVmMMl9VSHG-U9qa25dGAkDEkMCVw60&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    c_oc=AQmmNQrVPS-H5B75wPOD6NiQKhRCPEcp3yEqWvUpovJShtX0th5IzBhhbYCxMtNyzKI&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.jpg

    c_oc=AQkITiDSnlfWhycsPXkNFv5DHgAZED3ka8D3rsFUSmZ5dYV08l69B5_FMvk7PPXH9mg&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    มีรายงานด่วน ประเทศสหรัฐ เกิดเครนขนาดใหญ่ในการก่อสร้างพังถล่มทับลานจอดรถอพาสเม้นท์ สูง 4 ชั้นพังลงมา มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 6 ราย / สำนักข่าวต่างประเทศ / ห้อง 62
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    (Jun 10) ส่อง 'ปัญหาคอร์รัปชันไทย' อุปสรรคสำคัญ ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ : นายวชิรวัฒน์ บานชื่น นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส และพงศกร ศรีสกาวกุล นักวิเคราะห์ จากศูนย์ Economic Intelligence Center ธนาคารไทยพาณิชย์ ประเมิน สถานการณ์คอร์รัปชันของไทยในช่วงกว่า 20 ปีที่ผ่านมาปรับแย่ลง ดัชนีมาตรฐานการควบคุมคอร์รัปชัน (Control of corruption index: CCI) ที่จัดทำโดย World Bankบ่งชี้ว่าในปี 2017 ไทยได้คะแนน -0.39 (อยู่อันดับที่ 120 จากทั้งหมด 209 ประเทศ) ปรับตัวแย่ลงจากปี 1996 ที่ไทยได้ -0.36 คะแนน (อยู่อันดับที่ 103 จากทั้งหมด 187 ประเทศ) ซึ่งดัชนี CCI มีค่าอยู่ระหว่าง -2.5 ถึง 2.5 โดยคะแนนที่ติดลบนั้นบ่งชี้ถึงมาตรฐานการควบคุมคอร์รัปชันไทยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยโลก นอกจากนี้ การจัดอันดับโดยองค์กรTransparency International ยังพบว่า ภาพลักษณ์ด้านคอร์รัปชันของไทยก็ปรับแย่ลงเช่นกัน โดยในปี 2018 ไทยได้ 36 คะแนน (อยู่อันดับที่ 99 จากทั้งหมด 180 ประเทศ) ลดลงจากในปี 2012 ที่ไทยได้ 37 คะแนน (อยู่อันดับที่ 90 จากทั้งหมด 175 ประเทศ) ซึ่งคะแนนมีค่าอยู่ระหว่าง 0 ถึง 100 โดยคะแนนยิ่งสูงหมายถึงประเทศนั้นมีคอร์รัปชันต่ำ

    ปัญหาด้านคอร์รัปชันส่งผลเสียต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและความเหลื่อมล้ำในประเทศต่าง ๆ รวมถึงไทย ได้หลายช่องทาง ทั้งรายได้ภาครัฐที่ลดลง การใช้จ่ายภาครัฐที่ด้อยประสิทธิภาพ การดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนที่ทำได้ยากขึ้น และการลดแรงจูงใจของการลงทุนภาคเอกชนโดยเฉพาะในด้านงานวิจัยนวัตกรรม จากงานศึกษาของ IMF เดือนเมษายน 2019 พบว่าประเทศที่มี GDP per capita สูงมักเป็นประเทศที่มีคอร์รัปชันต่ำ สอดคล้องกับงานวิจัยส่วนใหญ่ที่พบว่าคอร์รัปชันส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ดังนั้นการลดปัญหาคอร์รัปชันจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญข้อหนึ่งในการพัฒนาไปสู่ประเทศรายได้สูง ซึ่งอีไอซีมองว่าปัญหาคอร์รัปชันส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจได้ 3 ช่องทาง คือ

    1) คอร์รัปชันทำให้รายได้ของภาครัฐน้อยลง ส่วนหนึ่งมาจากการติดสินบนเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีทำให้ภาครัฐเก็บภาษีได้น้อย และทำให้ประชาชนไม่มีแรงจูงใจในการจ่ายภาษีเต็มตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย โดยการศึกษาของ IMF พบว่า ประเทศที่คอร์รัปชันต่ำจะมีรายได้ภาครัฐสูงกว่าประเทศที่มีคอร์รัปชันสูงเฉลี่ยประมาณ 2.8-4.5% ของ GDP ซึ่งรายได้ภาครัฐที่ลดลงทำให้มีเม็ดเงินลงทุนน้อยลงสำหรับโครงสร้างพื้นฐานและสวัสดิการสังคมที่มีคุณภาพ จึงส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจและเพิ่มความเหลื่อมล้ำในระยะยาว

    2) คอร์รัปชันลดประสิทธิภาพการใช้จ่ายภาครัฐ โดย IMF พบอีกว่าประเทศที่คอร์รัปชันสูงมักมีการใช้จ่ายภาครัฐต่อหนึ่งโครงการสูงกว่าประเทศที่มีคอร์รัปชันต่ำเมื่อเปรียบเทียบกับโครงการที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยโครงการที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างพื้นฐาน การขนส่ง และพลังงาน มีความเสี่ยงที่จะมีการติดสินบนมากที่สุด และยังพบว่าการคอร์รัปชันส่งผลให้การดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจย่ำแย่ลงทั้งในแง่ของผลกำไรและประสิทธิภาพการดำเนินงาน นอกจากนี้ การดำเนินงานภาครัฐที่ไม่มีประสิทธิภาพยังทำให้คุณภาพการศึกษาด้อยลง สะท้อนจากคะแนนผลสอบนานาชาติที่ต่ำ โดยในกรณีของไทย ผลสอบ PISA ในปี 2015 อยู่เพียงอันดับที่ 55 จาก 72 ประเทศ แม้จะมีการจัดสรรงบเพื่อการศึกษาค่อนข้างมากก็ตาม

    3) คอร์รัปชันเป็นอุปสรรคต่อภาคธุรกิจและการลงทุน เพราะมักก่อให้เกิดการผูกขาดผ่านการกีดกันผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาด และทำให้ภาคเอกชนไม่มีแรงจูงใจในการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ เพราะการสร้าง connection ผ่านการคอร์รัปชันทำได้ง่ายกว่า โดยผลสำรวจของ World Economic Forum พบว่า ปัญหาคอร์รัปชันเป็น 1 ใน 5 อุปสรรคสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศ ASEAN รวมถึงไทย ทำให้ต้นทุนในการดำเนินธุรกิจสูงขึ้นและบั่นทอนความเชื่อมั่นในการลงทุน นอกจากนี้ OECD ยังพบอีกว่า คอร์รัปชันทำให้การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญด้วย

    แนวทางการลดปัญหาคอร์รัปชันนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการยกระดับธรรมาภิบาลภาครัฐ การเพิ่มความโปร่งใสด้านข้อมูล ซึ่งช่วยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบมากขึ้น และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ เมื่อพิจารณากรณีศึกษาในต่างประเทศและบริบทของไทยพบว่า การลดปัญหาคอร์รัปชันสามารถทำได้

    1) ยกระดับธรรมาภิบาลของภาครัฐ เพิ่มความชัดเจนและลดความซับซ้อนของกรอบกฎหมาย เพื่อลดการใช้ดุลยพินิจ (Discretion) ตลอดจนบังคับใช้กฎหมายที่ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรมอย่างจริงจัง นอกจากนี้ การบริหารรัฐวิสาหกิจควรเป็นไปอย่างมืออาชีพและไม่ถูกแทรกแซงทางการเมือง ตัวอย่างการยกระดับธรรมาภิบาลของภาครัฐในต่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ เช่น Public Governance, Performance and Accountability Act ของออสเตรเลียที่ออกมาในปี 2013 ได้ให้อำนาจ Accountable authority เป็นผู้ควบคุมการทำงานหน่วยงานรัฐให้มีประสิทธิภาพ และมีระบบประเมินความเสี่ยงการปฏิบัติงานที่ชัดเจน ทำให้ภาครัฐมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

    2) เพิ่มความโปร่งใสด้านข้อมูลและให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ โดยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลรายรับ/รายจ่าย และรายละเอียดโครงการของภาครัฐในทุกระดับ โดยเฉพาะกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง อีกทั้งปรับปรุงกฎหมายที่ลดทอนสิทธิเสรีภาพในการตรวจสอบของประชาชนและสื่อมวลชน โดย IADB (2018) พบว่าการให้ประชาชนติดตามความคืบหน้าโครงการรัฐได้จะช่วยเพิ่มการร้องเรียนการคอร์รัปชัน และทำให้โครงการมีโอกาสสำเร็จมากขึ้น

    3) ใช้เทคโนโลยีร่วมสร้างระบบการตรวจสอบ เช่น สร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ Crowdsourcing เพื่อให้ประชาชนรายงานการคอร์รัปชันได้ง่ายและในต้นทุนที่ต่ำ

    ใช้ฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษี และท้ายสุดอาจประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Blockchain สำหรับบันทึกข้อมูลภาครัฐ เช่น การออกโฉนดที่ดิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบิดเบือนและติดตามข้อมูลได้ง่าย
    c_oc=AQkz7LwDx3sarS3_a2ScZMljOqzqKTGhM99mMp-mB8-semYA7SHXi4a-U8gbY3NMJYc&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.png

    c_oc=AQmGxcCAMx-oAF1ZhU8FMb_xJwCju0dnHPqMjgRw0M2AlJzjXU8q-WbVhr-HbkeBujY&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png

    c_oc=AQlK1Hu9aiUHs_bYQLgnLAB6QcF07VrIGtHSnAu9ruEs9PgQJl_-0uwdWk3iS-4KdTo&_nc_ht=scontent.fbkk7-3.png
    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/837316

    อ่านงานวิจัย ปัญหาคอร์รัปชันไทย อุปสรรคสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ https://www.scbeic.com/th/detail/product/6051
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    c_oc=AQlUj0dSULoj9UwtS0S8GSBQyChDIzxZGAyI4pkoJjjNJZqtyc3Cf0mKKA16fS3sA8E&_nc_ht=scontent.fbkk7-2.jpg

    (Jun 10) หนุนคุม DSR เคาะ 40% มาตรฐานเดียว : เอกชนเห็นพ้องสศช.แนวโน้มหนี้ครัวเรือนน่าห่วง โดยเฉพาะประชาชนระดับล่าง หนุนคุม DSR "ทีเอ็มบี" แจง 3 ขั้น เคาะเพดานสัดส่วนหนี้ต่อรายได้ตั้งเงื่อนไขทุกแบงก์คำนวณเท่ากันเหมือนต่างประเทศ แนะระดับ 40% เหมาะสมรักษาเสถียรภาพการเงิน

    สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2562 พบว่า หนี้สินครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยยอดคงค้างสินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ขยายตัว 10.1% สูงสุดในรอบ 5 ปี นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2557 แม้อัตราขยายตัวที่ 10.1% นั้น จะเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยถึง 4.6% ซึ่งเร่งขึ้นตัวก่อนมาตรการLTV จะมีผลบังคับใช้

    ขณะที่ยอดคงค้างหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ของ สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภคมีมูลค่า 1.26 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.0% จากช่วงเดียวกันปีก่อน คิดเป็นสัดส่วน 2.75% ต่อสินเชื่อรวมและคิดเป็น 27.8% ต่อ NPLรวม สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาสและมีสัดส่วนสูงที่สุดเมื่อเทียบกับ NPL ในธุรกิจประเภทอื่น และกลับมาสูงสุดในรอบ 2 ปีนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี2560 อีกด้วย โดยมูลค่ายอดคงค้าง NPL สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 8 หมื่นล้านบาท เมื่อสิ้นปี 2557 เป็น 1.2 แสนล้านบาท ในสิ้นปี 2561 โดย NPL รถยนต์เร่งตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 24.1% ขณะที่สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเพื่อบุคคลอื่นๆ ชะลอตัวลง 8.0% และ 7.2% ตามลำดับ แต่ยังอยู่ในระดับที่สูง

    อย่างไรก็ตามหนี้ครัวเรือนสิ้นปี 2561 ไทยอยู่ในอันดับ 5 จาก 10 ประเทศในเอเชีย ซึ่งเป็นรองจากฮ่องกง นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และออสเตรเลีย และสูงสุดเป็นอันดับที่ 13 จากการจัดอันดับโลก

    นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัดเปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า หนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนั้น ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงลูกค้าระดับล่าง ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของภาวะเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า แม้ว่าช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา คุณภาพลูกค้าที่เข้ามายังสม่ำเสมอ โดยบริษัทใช้เกณฑ์สัดส่วนหนี้ต่อรายได้(DSR)เป็นหนึ่งในเกณฑ์พิจารณาเครดิตลูกค้าและดูประวัติย้อนหลัง 5 ปีด้วย ซึ่งปัจจุบันเอ็นพีแอลอยู่ในระดับต่ำ 0.9-1% จากพอร์ตสินเชื่อเกือบ 4 หมื่นล้านบาทและมีฐานลูกค้าเกือบ 8 แสนราย

    "DSR ควรนำมาประกอบพิจารณาคุณภาพลูกค้า แต่ไม่สามารถใช้ดูสถานะแท้จริงของลูกค้าได้ เพราะเมืองไทย DSR ด้านภาระหนี้มีความชัดเจน เพราะสามารถตรวจสอบจากฐานข้อมูลเครดิตบูโรได้ แต่ฝั่งรายได้ยังไม่ชัดเจน วิธีคำนวณแตกต่างกัน บางราย รายได้ไม่สม่ำเสมอเช่น คอมมิสชันหรือโอที แม้แต่พนักงานประจำ ก็ไม่ชัดเจนเรื่องโบนัส ขณะที่ลูกค้าระดับกลางขึ้นบน จะมีรายได้อื่นๆ ดังนั้นจะพบว่า บางราย DSR สูง 80-100% ถ้าจะกำหนดว่า ห้ามปล่อยกู้ผู้บริโภคจะกระทบมาก โดยส่วนตัวมอง DSR มาตรฐานเดียวเป็นเรื่องดี แต่ก็จะกระทบผู้บริโภคมาก จากประสบการณ์เกือบ 30ปีเราจะดูข้อมูลรอบด้าน เพื่อไม่ให้เขาเสียโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินในระบบ"

    นายนริศ สถาผลเดชา ผู้บริหาร TMB Analytics ธนาคาร ทหารไทย จำกัด(มหาชน)หรือทีเอ็มบีกล่าวว่า ไทยมีแนวคิดจะใช้ DSR ตั้งแต่ปีก่อน เนื่องจากในต่างประเทศใช้มาตรการกำหนด DSR เป็นหลักอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ก็ใช้DSR ในการพิจารณาสินเชื่ออยู่แล้ว จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ของธนาคารพาณิชย์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ DSR ของแต่ละธนาคารไม่เท่ากัน โดยเฉพาะเรื่องรายได้ ที่เป็นจุดยากในการตีความอะไรคือรายได้ เช่น หากลูกค้ามีรายได้ค่าคอมมิสชันจะคิดอย่างไร ส่วนภาระหนี้ตรวจสอบผ่านเครดิตบูโรได้อยู่แล้ว ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)จึงศึกษาการคำนวณรายได้ให้สอดคล้องกันทั้งระบบ

    สำหรับการทำ DSR มองว่า จะแบ่งเป็น 3 ขั้นคือ 1.กำหนดเงื่อนไขคำนวณรายได้ให้ใกล้เคียงกัน คาดว่า น่าจะทำได้ทันภายในเดือนมิถุนายนนี้ เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ทำเรื่อง DSR อยู่แล้ว เพียงแต่ปรับจูนให้ใกล้เคียงกันเท่านั้น 2.ทุกธนาคารจะต้องประเมินรายได้ลูกค้าเท่ากันทั้งหมด ซึ่งเป็นขั้นที่ยาก เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระ ฟรีแลนซ์ หรือเอสเอ็มอี จึงยากที่จะประเมินเท่ากันและทำได้ในเร็ววัน เพราะมีเรื่องกฎหมายสิทธิส่วนบุคคลด้วย และ 3. กำหนด DSR เลย แม้ว่าธปท.จะทำได้ แต่จะมีความไม่เท่าเทียมกันเกิดขึ้น ทำให้การกำกับดูแลอาจจะมีปัญหาได้

    อย่างไรก็ดี หากต้องการกำหนดสัดส่วน DSR จริง สัดส่วนที่อยู่ในระดับเหมาะสมปลอดภัยและสมดุลทางเศรษฐศาสตร์ และรักษาเสถียรภาพทางการเงินจะอยู่ในระดับ 40% เมื่อเทียบกับต่างประเทศที่ใช้มาตรการ DSR จะเห็นว่า สิงคโปร์ไม่เกิน 60% ฮ่องกง 50-60% และเกาหลีใต้ 40-60% และหากดูเบื้องลึก จะเห็นว่า การคุมจะใช้พื้นที่และรายได้เป็นตัวกำหนด เช่น เกาหลีกำหนด DSR ตามพื้นที่เช่น กรุงโซล จะคุมไม่เกิน 40% แม้กรอบจะให้ 40-60% ก็ตาม หรือฮ่องกง จะคุมตามระดับรายได้

    "เรื่อง DSR ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับแบงก์ เพราะแบงก์ทำอยู่ก่อนแล้วและต่างประเทศก็ใช้มานานควบคู่กับมาตรการ LTV และ DSR หากไทยจะทำตามประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้แบบลิมิต DSR โดยไม่ผ่านขั้นที่ 2 คือ ทำให้ทุกธนาคารประเมินรายได้ลูกค้าเท่ากันได้ อาจจะยากและเป็นเรื่องท้าทาย เพราะจะเกิดการเขย่งไม่เท่าเทียมกันในระบบแบงก์ได้ แต่หากจะทำ คิดว่าระดับ 40% เป็นระดับที่ปลอดภัยที่สุด"

    Source: ฐานเศรษฐกิจ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    50604623_2368129069873238_1955819894897377280_n.png

    (Jun 10) จับสัญญาณ'ฟันด์โฟลว์' หนุนบาทแข็ง-ตลาดหุ้นพุ่ง: สัปดาห์ที่ผ่านมา เม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้น และตลาดตราสารหนี้ไทยอย่างต่อเนื่อง รวม 4 วันทำการ (4-7 มิ.ย.) ซื้อสุทธิ 2 ตลาดรวมกันมากกว่า 4 หมื่นล้านบาท โดยมีปัจจัยเรื่องแนวโน้มการปรับลด อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นตัวกระตุ้น บวกกับสถานการณ์ ค่าเงินบาทที่ "แข็งค่า" ยิ่งดึงดูดให้ต่างชาติ เข้ามาลงทุน เพราะได้ "กำไร 2 ต่อ"ทั้งกำไรจากการลงทุน และกำไรจากอัตรา แลกเปลี่ยน

    อย่างไรก็ตามการไหลเข้า ของเงินต่างชาติครั้งนี้ ยังมีคำถามอยู่ว่า เงินทุนเหล่านี้จะยังคงไหลเข้ามาต่อเนื่องหรือไม่ เป็นการเข้ามา "พักเงินชั่วคราว"หรือ "อยู่ยาว"อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการ สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ จำกัด มองว่า ทิศทางเม็ดเงินลงทุนต่างชาติในระยะสั้นจะ "ชะลอ" การซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย เพื่อรอดูโฉมหน้าของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และรอรัฐบาลใหม่แถลงนโยบายในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงติดตามประเด็นสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐกับจีน และมีโอกาส ที่ต่างชาติจะขายหุ้นไทยออกมาบ้าง หลัง ที่ผ่านมามีการซื้อต่อเนื่องหลายวัน แต่เชื่อว่า การขายคงไม่มาก

    ส่วนภาพระยะยาว เชื่อว่าเม็ดเงินต่างชาติจะเข้ามาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย โดยคาดว่าปีนี้มีโอกาสเห็นต่างชาติซื้อสุทธิ 50,000-100,000 ล้านบาท เพราะหากการเมืองไทยนิ่ง ผู้ที่มาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี "เป็นที่ยอมรับ" สร้างความเชื่อมั่นแก่ นักลงทุน มีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ เดินหน้าลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐาน จะเป็นปัจจัยบวกหนุนบรรยากาศการลงทุน ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศมีทิศทางผ่อนคลายจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมถึงอาจจะ นำมาตรการ QE กลับมาใช้ จะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาในตลาดหุ้น เกิดใหม่รวมถึงตลาดหุ้นไทย

    ส่วนปัจจัยสงครามการค้านั้น ยังคาดการณ์ ลำบากเชื่อว่าจะยังไม่มีข้อสรุปในช่วง การประชุม G20 และสหรัฐอาจมีการ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนอีก 3 แสนล้านดอลลาร์ แต่เชื่อว่าปัจจัยสงครามการค้า จะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ เพราะปีหน้าสหรัฐจะมีการเลือกตั้ง ประเด็นนี้จะมีผลกระทบ ต่อคะแนนเสียงของนายโดนัลด์ทรัมป์ จึงมองว่าตลาดหุ้นไทยจากนี้จะผันผวน ตามปัจจัยที่เข้ากระทบ มองเนวรับ ที่ระดับ 1,580-1,600 จุด แต่ยังคงเป้าหมายดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้ 1,750 จุด

    วิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการ ผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ มองว่า ปัจจุบันเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้ามาลงทุนในไทยทั้งตลาดหุ้น อนุพันธ์ และตราสารหนี้ไทย โดยตั้งแต่ ต้นปีถึงวันที่ 6 มิ.ย. ต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 5.6 พันล้านบาท มีสถานะ Long ใน ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) 6 หมื่นสัญญา และซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ (บอนด์) ระยะยาว 2.6 หมื่นล้านบาท และซื้อบอนด์ระยะสั้น 2.1 หมื่นล้านบาท

    ส่วนเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ จะไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยต่อเนื่องหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ 1.เฟดมีการ ลดดอกเบี้ย ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินไหล เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ โดยปัจจุบันตลาดมองว่ามีโอกาสที่เฟดจะลดดอกเบี้ย ถึง 90 % โดยเร็วสุดจะเป็นการประชุม ในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ หรือไม่จะเป็นการประชุม ในเดือนก.ย.และ 2. ทิศทางค่าเงินดอลลาร์ หากดอลลาร์อ่อนค่าเม็ดเงินไหลเข้ามา ลงทุนในตลาดเกิดใหม่ และตลาดหุ้นไทยเพราะให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาดบอนด์ซึ่งปัจจุบันบอนด์ยีลล์ 10 ปี อยู่ที่ 2.12 % ทำให้ไม่มีแรงจูงใจเข้าลงทุน

    "ยังประเมินลำบากว่าต่างชาติจะซื้อสุทธิ ปีนี้เท่าใด ซึ่งในปีที่ต่างชาติซื้อสุทธิสูงสุด อยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อว่าปีนี้คงไม่ถึง ระดับดังกล่าว ส่วนทิศทางตลาดหุ้นไทย จากนี้ไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ มองกรอบดัชนีปีนี้ที่ระดับ 1,600 จุด แนวต้านที่ระดับ 1,700 จุด"

    ทางด้านค่าเงินบาท ที่เปิดสัปดาห์สถิติแข็งค่ามากสุดในรอบ 3 เดือน และแข็งค่ามากกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาคนั้น จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ ตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย มองว่า ในสัปดาห์หน้าค่าเงินจะยังคงเคลื่อนไหว ตามประเด็นเรื่องสงครามการค้า แนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ และค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าเป็นประเด็นหลัก

    ส่วนเงินบาทนั้น เชื่อว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบที่แคบลงตามแนวโน้มสกุลเงินเอเชียแต่เชื่อว่าจะไม่อ่อนค่ามากเนื่องจาก นักลงทุนต่างชาติยังคงมีแนวโน้ม กลับเข้าลงทุนทั้งหุ้นและบอนด์ไทยจากภาพการเมืองที่เดินหน้าได้ มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้ 31.00-31.50 บาท ต่อดอลลาร์

    อย่างไรก็ดี ทั้งปีนี้ยังมองกรอบเงินบาทปีนี้ 30.8-31.8 บาทต่อดอลลาร์ มีทิศทาง แข็งค่าขึ้น จากเดิมมองไว้ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีมุมมองไตรมาส 3 ของปีนี้เป็นช่วงที่ต้องระวัง เพราะสงครามการค้าน่าจะรุนแรงขึ้น สินทรัพย์เสี่ยงมีโอกาสถูกเทขาย และเงินบาทรวมถึงสกุลเงินตลาดเกิดใหม่มีโอกาสอ่อนค่ากลับขึ้นไป

    ส่วนในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ยังเชื่อว่า สหรัฐและจีนจะหาข้อตกลงระยะสั้นกันได้ แต่จะเป็นช่วงที่เศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง สวนทางกับเศรษฐกิจไทยที่จะกลับมา เดินหน้าต่อ เงินบาทจึงน่าจะมีทิศทาง แข็งค่าได้อยู่ ด้านนโยบายการเงิน เชื่อว่า ช่วงที่เหลือของปีทั้งเฟดและธนาคาร แห่งประเทศไทย (ธปท).จะ "คงดอกเบี้ย"เราเชื่อว่าเฟดจะรับมือแรงกดดันของตลาด ด้วยการปรับ Forward Guidance ให้ ส่งสัญญาณว่าดอกเบี้ยขาขึ้นจบลงแล้ว และ อาจพิจารณาเอา QE กลับมาใช้อีกครั้ง

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    tps%3A%2F%2Fwww.hongkongfp.com%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F06%2FPOWERPNT_2019-06-09_22-02-23.jpg

    (Jun 9) กงสุลใหญ่ "ฮ่องกง" เตือนคนไทย ม็อบนับแสนร่วมชุมนุมใหญ่ ต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน : สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง เตือนคนไทยในฮ่องกง หลีกเลี่ยงการเดินทางผ่าน พื้นที่ชุมนุมประท้วงและบริเวณใกล้เคียง ย้ำขอให้นักท่องเที่ยว เผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามบินด้วย

    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ผู้คนนับแสนรวมตัวกันตามท้องถนนบนเกาะฮ่องกง เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ในการชุมนุมต่อต้านกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดน ที่จะเป็นการเปิดทางให้ส่งตัวผู้ต้องสงสัยไปยังประเทศจีนเพื่อดำเนินคดีได้

    โดยผู้บัญชาการตำรวจได้เรียกร้องให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ขณะเดียวกันก็ได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 2,000 นาย เพื่อควบคุมการชุมนุมประท้วง ที่ผู้จัดคาดว่ามีผู้มาร่วมการชุมนุมครั้งนี้มากถึงกว่า 500,000 คน ซึ่งหากมีผู้ร่วมชุมนุมมากขนาดนั้นก็จะกลายเป็นการชุมนุมที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2003 ที่มีผู้ชุมนุมกว่า 500,000 คนเพื่อขับไล่รัฐบาลที่เตรียมออกกฎหมายด้านความมั่นคงที่เข้มงวดขึ้น

    ล่าสุดวันนี้ (9 มิ.ย.) สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง โพสต์ข้อความชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ ผ่านเฟซบุ๊กเพจ "Royal Thai Consulate-General, Hong Kong" ระบุว่า ประกาศแจ้งเตือนคนไทยในฮ่องกง ขณะนี้มีการชุมนุมประท้วงในฮ่องกง โดยมีผู้เข้าร่วมประท้วงประมาณ 500,000 คน (ตัวเลขประเมินโดยผู้จัดการประท้วง) ส่งผลให้การสัญจรทุกประเภท ทั้งทางรถยนต์และรถไฟใต้ดิน (MTR) มีความหนาแน่นสูง จนถึงเป็นอัมพาต โดยเฉพาะในย่าน Admiralty / Central / Wan Chai / Causeway Bay / และจิมซาจุ่ย ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่การชุมนุมประท้วงจะยืดเยื้อต่อไปจนถึงกลางดึก รวมทั้งอาจมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสถานการณ์ความรุนแรงจากการชุมนุมประท้วงในครั้งนี้

    ในการนี้ สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฮ่องกง ขอให้คนไทยในฮ่องกงพยายามหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านไปในบริเวณที่ชุมนุมประท้วงและบริเวณใกล้เคียงข้างต้น นอกจากนี้ ขอให้นักท่องเที่ยวโปรดเผื่อเวลาในการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงสนามบินด้วย

    Source: ผู้จัดการออนไลน์
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9620000054839

    - Over a million attend Hong Kong demo against controversial extradition law, organisers say : https://www.hongkongfp.com/2019/06/...-Ktz80h9wD8MUx_Vtg1LatK_ukKWTGaT1cUntt5_RshdA

    - Hundreds of thousands march in Hong Kong to protest China extradition bill : https://www.reuters.com/article/us-...N0H--gh9YpL2vp80blEsXrkGFwFw_1qpdHapJihsAtQIc

    *****************
    นานาชาติประกาศเตือน หลังเหตุประท้วงใหญ่ในฮ่องกงลาม

    เหตุประท้วงต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปยังจีนในฮ่องกงเมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา ลุกลามกลายเป็นวิกฤตการเมืองรอบใหม่ หลังจากมีผู้ออกมาชุมนุมประท้วงมากกว่า 500,000 คน ซึ่งนับเป็นการชุมนุมประท้วงทางการเมืองในฮ่องกงที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การชุมนุมเมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา

    การประท้วงได้ลุกลามบานปลายกลายเป็นการใช้ความรุนแรงในช่วงเช้าของวันที่ 10 มิถุนายน หลังกลุ่มผู้ประท้วงหลายร้อยคนเกิดปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ด้านนอกรัฐสภาฮ่องกง เมื่อผู้ประท้วงพยายามบุกเข้าไปภายในอาคาร ทำให้ตำรวจต้องผลักดันผู้ประท้วงด้วยการใช้สเปรย์พริกไทย ก่อนที่กลุ่มผู้ประท้วงจะสลายตัวไปในเวลาต่อมา

    ด้านสหรัฐและสหภาพยุโรปออกคำเตือนอย่างเป็นทางการแสดงความวิตกกังวลว่าการผลักดันกฎหมายดังกล่าวอาจส่งผลกระทบกับหลักนิติธรรมของฮ่องกง

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/world-news/news-336382
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,254
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    &url=https%3A%2F%2Fassets.bwbx.io%2Fimages%2Fusers%2FiqjWHBFdfxIU%2FimPIdJX1Bbk4%2Fv1%2F1200x800.jpg

    (Jun 9) ทรัมป์'ชะลอแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้า'เม็กซิโก-จีน': "โดนัลด์ ทรัมป์" ระงับเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากเม็กซิโก หลังตกลงกันได้เรื่องสกัดผู้อพยพ ขณะที่ยูเอสทีอาร์พร้อมเลื่อนจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ในอัตรา 25% เป็นวันที่ 25 มิ.ย.นี้

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ เปิดเผยเมื่อวันศุกร์ (7 มิ.ย.) ตามเวลาสหรัฐว่า สหรัฐได้บรรลุข้อตกลงกับเม็กซิโกแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บภาษีสินค้านำเข้าทั้งหมดจากเม็กซิโกในวันจันทร์ที่ 10 มิ.ย.นี้ เนื่องจากทั้งสองประเทศสามารถบรรลุ ข้อตกลงกันได้เกี่ยวกับประเด็นผู้อพยพ

    ผู้นำสหรัฐทวีตว่า "สหรัฐได้ระงับแผนการเก็บภาษีสินค้านำเข้าของเม็กซิโกในวันจันทร์นี้ หลังจากที่เม็กซิโกตกลงที่จะดำเนินมาตรการที่แข็งกร้าวเพื่อยับยั้งการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายจากเม็กซิโกเข้าสู่สหรัฐ"

    เมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. และจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ต.ค. ถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐ

    ทั้งนี้ ผู้อพยพจากคิวบาและหลายประเทศในกลุ่มละตินอเมริกาจำนวนมากใช้แพยางข้ามแม่น้ำซูเชียเต เข้ามายังพรมแดนเม็กซิโก และเตรียมมุ่งหน้าไปยังภาคใต้ของประเทศสหรัฐ เพื่อแสวงหาโอกาสและหลบหนีปัญหาความยากจนภายในประเทศ

    ที่ผ่านมา นายแอนเดรส มานูเอล โลเปซ โอบราดอร์ ประธานาธิบดีเม็กซิโก ประกาศชะลอการออกวีซ่า ด้านมนุษยธรรมให้แก่ผู้อพยพให้เดินทางเข้ามาในเม็กซิโกอย่างเสรี หลังจากผู้นำสหรัฐยื่นคำขาดว่าจะปิดพรมแดนทางตอนใต้ หากเม็กซิโกไม่ยอมแก้ปัญหาผู้อพยพ

    เม็กซิโกเข้มแก้ลักลอบเข้าเมือง

    แถลงการณ์ร่วมภายใต้ข้อตกลงผู้อพยพระหว่างสหรัฐและเม็กซิโก ระบุว่า เม็กซิโกจะดำเนินมาตรการที่เข้มงวดอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อนเพื่อสกัดผู้ลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย และสกัดการค้ามนุษย์ พร้อมทั้งประจำการเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยแห่งชาติตามจุดต่างๆทั่วประเทศ รวมทั้งบริเวณพรมแดนติดต่อสหรัฐเม็กซิโก โดยเริ่มตั้งแต่วันจันทร์นี้

    นายมาร์เซโล เอบราร์ด รัฐมนตรีต่างประเทศเม็กซิโก เปิดเผยว่า รัฐบาลเม็กซิโกจะส่งทหาร 6,000 นายเข้าไปประจำการในพื้นที่ชายแดนตอนใต้ซึ่งอยู่ติดกับกัวเตมาลา เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลของผู้อพยพ

    คาดว่า ความตึงเครียดบริเวณพรมแดนสหรัฐ-เม็กซิโกอาจกระทบต่อการค้าสองประเทศที่มีมูลค่าราว 6.2 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี หรือเฉลี่ยวันละ 1,700 ล้านดอลลาร์

    มนูชินชี้จับตาซัมมิต 'ทรัมป์-สี'

    นายสตีเฟน มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐเผยกับสื่อนอกรอบการประชุมรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางจี20 ที่เมืองฟุกุโอกะของญี่ปุ่น วานนี้ (8 มิ.ย.) ว่า สหรัฐ ยังคงเปิดรับการเจรจากับจีนเพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้า แต่คงไม่สามารถมีข้อตกลงใดๆ ได้จนกว่าผู้นำ ทั้งสองประเทศจะพบกันในการประชุมสุดยอดกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ (จี20) ปลายเดือนนี้

    "สหรัฐกำลังอยู่ระหว่างทางไปสู่ การทำข้อตกลงประวัติศาสตร์ หาก จีนต้องการกลับมาเจรจาและบรรลุ ข้อตกลงตามเงื่อนไขที่สหรัฐต้องการ สานต่อการเจรจาก็จะเป็นเรื่องดีมาก หากไม่ สหรัฐก็จะเดินหน้าเรื่องภาษี ตามที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวไว้"

    นายมนูชินคาดว่า จะมีความคืบหน้าอย่างมากเมื่อผู้นำสองประเทศพบกันในการประชุมสุดยอดจี20 ที่นครโอซาการะหว่างวันที่ 28-29 มิ.ย.นี้ เพราะถึงแม้จะเจรจากับนายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีนนอกรอบการประชุมในขณะนี้ ก็จะยังไม่ใช่การหารือเพื่อเจรจาต่อรอง

    สเลื่อนเก็บภาษีจีน2แสนล.ดอลล์

    สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเลื่อนกำหนดเวลาในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 25% จาก อัตรา 10% จากวันที่ 1 มิ.ย. เป็นวันที่ 15 มิ.ย. ถือเป็นการตัดสินใจที่จะช่วยลดสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้ในระดับหนึ่ง

    สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) แถลงว่า รัฐบาลสหรัฐตัดสินใจเลื่อนกำหนดเวลาในการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 2 แสนล้านดอลลาร์ ในอัตรา 25% จาก อัตรา 10% จากวันที่ 1 มิ.ย. เป็นวันที่ 15 มิ.ย. ถือเป็นการตัดสินใจที่จะช่วยลดสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนได้ในระดับหนึ่ง

    ปูตินสับนโยบายทรัมป์ขัดแย้งไม่จบ

    ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในช่วงหนึ่งบนเวทีปาฐกถาของการประชุมเศรษฐกิจนานาชาติที่เมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อวันศุกร์ว่า รัฐบาลวอชิงตันชุดปัจจุบันพยายามเปลี่ยนแปลงระบบการค้าให้เป็นแบบอัตนิยม เปลี่ยนรูปแบบกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายอย่างชัดเจน

    "โลกยุคปัจจุบันสุ่มเสี่ยงอย่างมากที่จะเข้าสู่การที่กฎเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติอันเป็นสากลมานาน กลับต้องกลายเป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศเดียว ซึ่งเป็นที่สหรัฐกำลังปฏิบัติด้วยการแพร่กระจายความชอบธรรมตามแบบฉบับของตัวเอง พร้อมเสริมแรงกดดันให้ประเทศอื่นต้องปฏิบัติตาม พฤติการณ์ดังกล่าวมีแต่จะนำไปสู่ความขัดแย้งจนอาจไปถึงจุดที่สงครามการค้าเป็นมากกว่าสงครามการค้า เพราะทุกประเทศจะต่อสู้กันโดยไม่มีกฎเกณฑ์ที่ยึดถือร่วมกันอีกต่อไป จนยากที่จะประนีประนอมกันได้"

    แบงก์ชาติจีนยันมี'ไม้เด็ด' รับมือ

    นายอี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารประชาชนจีน ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์บลูมเบิร์ก เมื่อวันศุกร์ว่า จีน มีช่องทาง "อีกมากมาย" ในการต่อกรกับสงครามการค้าที่กำลังถลำลึก

    "เรามีช่องทางอีกมากมาย ไม่ว่า จะเป็นอัตราดอกเบี้ย อัตราสัดส่วนเงินทุนสำรอง หรือชุดเครื่องมือนโยบาย การเงินการคลัง ผมคิดว่าช่องทางสำหรับปรับสถานการณ์รับมือ ยังมีอีกมหาศาล" นายอี้ กล่าว

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    - Mexico holds off Trump's fire, but seen vulnerable to new pressure : https://www.reuters.com/article/us-...MZhqsE_OdzOtD6BHxP34ABRYDd7vU-K6PhOk8OARFosAI

    - Trump Hints at More Details; Mexico Still Baffled by Farm Claim :
    https://www.bloomberg.com/news/arti...USN3kC6pbU8qQPyj1SxsGeDbiBen_JPCItDl1_sUjssDI
     

แชร์หน้านี้

Loading...