ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    กัวเตมาลา



    กิจกรรมถูกพบในภูเขาไฟ Fuego ในประเทศกัวเตมาลา ทำให้เกิดเถ้าภูเขาไฟตก ในชุมชนใกล้เคียง วันที่ 23 มีนาคม
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    ไซปรัส



    พายุลูกเห็บที่น่าตื่นตาตื่นใจที่ตกลงมาบนไซปรัสในพื้นที่ของ Giolou วันที่ 24 มีนาคม
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    บราซิล



    พื้นที่ของทะเลที่ล้ำเข้ามาในชายฝั่งของ Ponta da Fruta, Vila Velha โดยเกลียวคลื่นของทะเลที่วุ่นวาย
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Clima Extremo 24

    บราซิล



    อีกวิดีโอที่ทะเลล้ำเข้าสู่ชายฝั่งของ Ponta da Fruta, Vila Velha
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้สมัคร ส.ส.พลังประชารัฐ เขต 3 กำแพงเพชร คะแนนมาเป็นอันดับ 1 ขึ้นป้ายหราหน้า กกต.จังหวัด แต่พอรายงานไป กกต.กลาง กลับกลายว่า คนได้ที่ 3 คะแนนนำเป็นที่ 1 โวยแหลก "เอกสารที่ กกต.มอบให้สื่อฯ นั้นมั่ว”

    เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 มี.ค. หลังการเลือกตั้งแล้ว 1 วัน ปรากฏว่าพื้นที่จังหวัดกำแพงเพชรทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง ผู้สมัคร “พรรคพลังประชารัฐ” ได้รับการเลือกตั้งยกทั้งจังหวัด และในวันนี้ปรากฏว่าสื่อออนไลน์มีการรายงานเอกสารจาก กกต.ที่คลาดเคลื่อน โดยใส่ชื่อผิด เป็นชื่อที่ไม่ได้รับการเลือกตั้งที่มาจาก ”พรรคเพื่อไทย”

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Santillana

    พวกเขารายงานพบอุกกาบาตบนชายฝั่งของ santa catarina ประเทศบราซิล

    25.03.2019


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kike Santillana

    #ด่วน

    อิสราเอลกำลังโจมตีกาซาด้วยระเบิดแล้ว ตอนนี้มีการโจมตีฉนวนกาซาของอิสราเอลเป็นอย่างมาก

    ในขณะเดียวกันที่เทลอาวีฟอิสราเอลได้เปิดที่พักพิงชั่วคราวเพื่อต่อต้านเหตุระเบิด

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พระเยซูคริสต์อาจมีผิวคล้ำมากตามหลักฐานใหม่

    IMG_1109.JPG
    แม้ว่าภาพของเขาน่าจะเป็นภาพที่พบบ่อยที่สุดในโลกตะวันตก แต่ภาพทั้งหมดที่คุณเห็นมีความแม่นยำ หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่าผิวของเขาเข้มขึ้นมากและลักษณะของเขาจะน้อยลงสำหรับชาวยุโรปกลาง


    ในทุกประเทศที่ศาสนาคริสต์ได้หยั่งราก รูปภาพของพระเยซูคริสต์ได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหรือไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเพื่อให้เป็นที่สนใจของคนในท้องถิ่นมากขึ้น แต่การมองเพียงครั้งเดียวในงานศิลปะภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ใด ๆ จะทำให้ชัดเจนว่าความคิดที่เรามีต่อรูปร่างหน้าตาของเขาคือชายร่างสูง ผิวขาวผมสีน้ำตาลอ่อน และดวงตา

    แต่ภาพนี้มีความใกล้เคียงกับชายคนหนึ่งจากเยรูซาเล็ม (หรือจูเดีย) เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว? คำตอบอย่างรวดเร็วคือ: ไม่มาก ศิลปินส่วนใหญ่ใช้จินตนาการในการสร้างภาพบุคคลของพระเยซู เนื่องจากไม่มีภาพวาดของเขาเหลืออยู่น้อยกว่าร่างกายเช่นกระดูกที่จะช่วยให้การวิเคราะห์ดีเอ็นเอดำเนินการเพื่อค้นหาลักษณะที่แท้จริงของพระเยซู

    IMG_1110.JPG
    & Leonardo Da Vinci, พระกระยาหารมื้อสุดท้าย, 1495-1498 / Photo: คอมมอนส์ Wikimedia


    แต่เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสหราชอาณาจักรและอิสราเอลได้คิดค้นการใช้เครื่องมือทางมานุษยวิทยา ทางนิติศาสตร์อย่างชาญฉลาด เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของมนุษย์โดยเฉลี่ยในแคว้นยูเดีย

    ในการทำเช่นนั้นพวกเขาใช้กะโหลกสามหัวที่เป็นของผู้ชายที่อาศัยอยู่เมื่อ 2,000 ปีก่อนและทำการสแกน CAT กับพวกเขา อ้างอิงจากบทความที่ตีพิมพ์ใน Popular Mechanics พวกเขาถ่ายภาพชั้นบนชั้นของกะโหลกทั้งสามเพื่อบันทึกทุกรายละเอียด จากนั้นพวกเขาป้อนข้อมูลนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ประมาณปริมาณของเนื้อเยื่อกระดูกที่โครงสร้างรองรับ ด้วยข้อมูลนี้พวกเขาสามารถสร้างใบหน้าใหม่ได้ กระดูกที่พวกเขาใช้ยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจความสูงเฉลี่ยของมนุษย์ในเวลานั้น: พระเยซูน่าจะประมาณ 5 '1 "


    แม้ว่าภาพของเขาน่าจะเป็นภาพที่พบบ่อยที่สุดในโลกตะวันตก แต่ภาพทั้งหมดที่คุณเห็นมีความแม่นยำ หลักฐานใหม่แสดงให้เห็นว่าผิวของเขาเข้มขึ้นมากและคุณสมบัติของเขาน้อยลงในยุโรปกลาง


    ในทุกประเทศที่ศาสนาคริสต์ได้หยั่งรากรูปภาพของพระเยซูคริสต์ได้รับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยหรือไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อยเพื่อให้เป็นที่สนใจของคนในท้องถิ่นมากขึ้น แต่การมองเพียงครั้งเดียวในงานศิลปะภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ใด ๆ จะทำให้ชัดเจนว่าความคิดที่เรามีต่อรูปร่างหน้าตาของเขาคือชายร่างสูงผิวขาวผมสีน้ำตาลอ่อนและดวงตา

    แต่ภาพนี้มีความใกล้เคียงกับชายคนหนึ่งจากเยรูซาเล็ม (หรือจูเดีย) เมื่อ 2,000 ปีที่แล้ว? คำตอบอย่างรวดเร็วคือ: ไม่มาก ศิลปินส่วนใหญ่ใช้จินตนาการในการสร้างภาพบุคคลของพระเยซูเนื่องจากไม่มีภาพวาดของเขาเหลืออยู่น้อยกว่าร่างกายเช่นกระดูกที่จะช่วยให้การวิเคราะห์ดีเอ็นเอดำเนินการเพื่อค้นหาลักษณะที่แท้จริงของพระเยซู


    & Leonardo Da Vinci, พระกระยาหารมื้อสุดท้าย, 1495-1498 / Photo: คอมมอนส์ Wikimedia


    แต่เมื่อไม่นานมานี้กลุ่มนักวิทยาศาสตร์จากสหราชอาณาจักรและอิสราเอลได้คิดค้นการใช้เครื่องมือทางมานุษยวิทยาทางนิติศาสตร์อย่างชาญฉลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของมนุษย์โดยเฉลี่ยในแคว้นยูเดีย

    ในการทำเช่นนั้นพวกเขาใช้กะโหลกสามหัวที่เป็นของผู้ชายที่อาศัยอยู่เมื่อ 2,000 ปีก่อนและทำการสแกน CAT กับพวกเขา อ้างอิงจากบทความที่ตีพิมพ์ใน Popular Mechanics พวกเขาถ่ายภาพชั้นบนชั้นของกะโหลกทั้งสามเพื่อบันทึกทุกรายละเอียด จากนั้นพวกเขาป้อนข้อมูลนี้เป็นซอฟต์แวร์ที่ประมาณปริมาณของเนื้อเยื่อกระดูกที่โครงสร้างรองรับ ด้วยข้อมูลนี้พวกเขาสามารถสร้างใบหน้าใหม่ได้ กระดูกที่พวกเขาใช้ยังช่วยให้พวกเขาเข้าใจความสูงเฉลี่ยของมนุษย์ในเวลานั้น: พระเยซูน่าจะประมาณ 5 '1 "

    IMG_1111.JPG
    & Piero della Francesca, การล้างบาปของพระคริสต์, 1450 c / Photo: คอมมอนส์ Wikimedia


    ถึงกระนั้นก็มีข้อมูลชิ้นหนึ่งที่เป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาด้วยนิติวิทยาศาสตร์ - โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีกระดูกเหลือให้ศึกษา -: ผิวหนัง ผมและสีตา ที่นี่ทีมผู้เชี่ยวชาญได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งประวัติศาสตร์ พวกเขาศึกษาสิ่งที่พวกเขารู้จักของชาวเซมินโบราณและมันง่ายที่จะสรุปว่าผู้ชายเคยมีผมสั้นใบหน้าของพวกเขาไม่ขาวอย่างแน่นอนและตามสไตล์ในเวลานั้นเขาสวมเครา

    แน่นอนว่าภาพนี้อยู่ไกลจากภาพที่ได้มาจากผ้าห่อศพแห่งตูริน ชิ้นส่วนของผ้าที่คาดคะเนถูกนำมาใช้เพื่อปกปิดร่างกายของพระเยซูและเก็บภาพใบหน้าและร่างกายของเขาไว้ ภาพที่ได้จากผ้าห่อศพ - ซึ่งหลายคนใช้เพื่อเป็นตัวแทนที่ซื่อสัตย์ของภาพของพระเยซู - แสดงชายคนหนึ่งที่มีผมยาวและเครา แต่การทดสอบคาร์บอน -14 ดำเนินการในผ้าวันที่รายการไปหลายร้อยปีหลังจากที่พระเยซูยังมีชีวิตอยู่


    IMG_1112.JPG
    & โมเสกด้วยภาพของพระเยซู ชาวนาซาเร็ ธ ในโบสถ์ซานตาโซเฟียอิสตารัมบูล 1280 ค. / Photo: คอมมอนส์ Wikimedia


    การสร้างขึ้นใหม่โดยทีมผู้เชี่ยวชาญไม่ได้หลอกว่าเป็นตัวแทนของพระเยซู แต่เป็นคนธรรมดาในเวลาของเขาและคุณลักษณะบางอย่างนั้นเป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดแม้จะมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ทั้งหมดเช่นขนาดและรูปร่างของริมฝีปาก แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนก็คือการศึกษาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ของชาวเซมินนั้นได้ช่วยหักล้างความคิดที่ว่าพระเยซูดูเหมือนมนุษย์ยุโรปตะวันตกสมัยใหม่


    ภาพหน้าปกเป็นผลงานของ Luis Atilano ติดตามเขาบน Instagram


    Jesus Christ Might Have Had Much Darker Skin, According To New Evidence


    Although his image is probably one of the most common in the Western world, all the images you have seen are far from accurate. New evidence suggests that his skin was much darker and his features less central European.


    In every country where Christianity has taken root, the image of Jesus Christ has been slightly -or not so slightly- altered to make it more appealing to the locals. But one single look at any work of art, movie, or TV series will make it clear that the idea we have of his appearance is that of a tall, white man, with light brown hair and eyes.

    But, how close is this image to that of a man from Jerusalem (or Judea) 2000 years ago? The quick answer is: not very much. Most artists have used their imagination to create portraits of Jesus, since there are no paintings of him, much less physical remains, like bones, that would allow for a DNA analysis to be performed to find out the real appearance of Jesus.


    &Leonardo Da Vinci, The Last Supper, 1495-1498. / Photo: Wikimedia Commons.


    But recently, an interdisciplinary group of scientists from England and Israel devised a clever use of the tools of forensic anthropology to make a reconstruction of the appearance of an average man in ancient Judea.

    To do so, they used three skulls that belonged to men living 2000 years ago and performed CAT scans on them. According to the article published on Popular Mechanics, they imaged layer upon layer of the three skulls to capture every detail. Then, they fed this information into a software that estimates the amount of tissue this bone structure supported. With this data, they were able to reconstruct a face. The bones they used also helped them to figure out the average height of a man of the time: Jesus would be about 5' 1".


    Although his image is probably one of the most common in the Western world, all the images you have seen are far from accurate. New evidence suggests that his skin was much darker and his features less central European.


    In every country where Christianity has taken root, the image of Jesus Christ has been slightly -or not so slightly- altered to make it more appealing to the locals. But one single look at any work of art, movie, or TV series will make it clear that the idea we have of his appearance is that of a tall, white man, with light brown hair and eyes.

    But, how close is this image to that of a man from Jerusalem (or Judea) 2000 years ago? The quick answer is: not very much. Most artists have used their imagination to create portraits of Jesus, since there are no paintings of him, much less physical remains, like bones, that would allow for a DNA analysis to be performed to find out the real appearance of Jesus.


    &Leonardo Da Vinci, The Last Supper, 1495-1498. / Photo: Wikimedia Commons.


    But recently, an interdisciplinary group of scientists from England and Israel devised a clever use of the tools of forensic anthropology to make a reconstruction of the appearance of an average man in ancient Judea.

    To do so, they used three skulls that belonged to men living 2000 years ago and performed CAT scans on them. According to the article published on Popular Mechanics, they imaged layer upon layer of the three skulls to capture every detail. Then, they fed this information into a software that estimates the amount of tissue this bone structure supported. With this data, they were able to reconstruct a face. The bones they used also helped them to figure out the average height of a man of the time: Jesus would be about 5' 1".


    &Piero della Francesca, Baptism of Christ, 1450 c. / Photo: Wikimedia Commons.

    Still, there is one piece of information that is impossible to figure out with forensics —specially if there are only bones left to study—: skin, hair, and eye color. Here the team of experts made use of historical sources. They studied what they knew of ancient Semite people, and it was easy to come to the conclusion that men used to have short hair, their faces were most certainly not white and that, according to the style at the time, he wore a beard.

    Of course, this image is far from the one that was obtained from the Shroud of Turin, the piece of cloth that supposedly was used to cover Jesus' body and that retained an image of his face and body. The image obtained from the shroud --which many take to be a faithful representation of Jesus' image-- shows a man with long hair and beard. But Carbon-14 tests performed on the cloth date the item to hundreds of years after Jesus was alive.



    &Mosaic with the image of Jesus of Nazareth in the church of Santa Sofia, Istambul, 1280 c. / Photo: Wikimedia Commons.

    The reconstruction made by the team of experts does not pretend to represent Jesus, but just an average man of his own time, and certain features are impossible to determine even with all these scientific tools, such as the size and shape of the lips. But one thing is for sure, this study about the appearance of the Semite people has helped to debunk the idea that Jesus looked like a modern Western European man.


    The cover image is the work of Luis Atilano, follow him on Instagram.



    https://culturacolectiva.com/history/did-jesus-have-dark-skin
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใช้สื่อนอกถล่มไทยอีก!'ทักษิณ'อ้างผลการเลือกตั้งไม่เป็นที่ยอมรับ เพราะจัดโดยเผด็จการ

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    upload_2019-3-26_9-26-51.png

    แผ่นดินไหว ขนาด 4.4
    ประเทศพม่า/ Myanmar
    เวลา 2019-03-25 04:56:38 ตามเวลามาตรฐาน UTC/ 2019-03-25 11:56:38 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562
    Epicenter 22.16°N , 94.21°E 64px-Google_%22G%22_Logo.svg.png Google Maps
    Direction ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 504 กม.

    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5698
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    upload_2019-3-26_9-30-18.png

    แผ่นดินไหว ขนาด 3.9
    ใกล้ชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศพม่า/Near South Coast of Myanmar
    เวลา 2019-03-25 08:43:23 ตามเวลามาตรฐาน UTC /2019-03-25 15:43:23 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562
    Epicenter 16.13°N , 97.01°E
    Direction ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 179 กม.

    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5699
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    upload_2019-3-26_9-38-31.png

    แผ่นดินไหว ขนาด 4.3
    ประเทศพม่า/ Myanmar
    เวลา 2019-03-25 20:04:59 ตามเวลามาตรฐาน UTC / 2019-03-26 03:04:59 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562
    Epicenter 22.48°N , 98.75°E
    Direction ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ประมาณ 255 กม.

    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5700
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    upload_2019-3-26_9-41-27.png

    แผ่นดินไหว ขนาด 2.9
    ประเทศพม่า/ Myanmar
    เวลา 2019-03-25 23:47:10 ตามเวลามาตรฐาน UTC / 2019-03-26 06:47:10 ตามเวลาประเทศไทย พ.ศ. 2562
    Epicenter 20.41°N , 98.18°E
    Direction ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของ อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน ประมาณ 99 กม.

    http://www.earthquake.tmd.go.th/inside-info.html?earthquake=5701
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหตุไม่คาดฝัน เกิดเหตุฟ้าผ่าลงกลางร่างชาวบ้าน 2 รายวิญญาณแทบหลุดจากร่าง ขณะฝนกำลังตก
    Publish 2019-03-25 18:29:11

    เกิดฝนตกฟ้าคะนองกระจายในหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง และเกิดฟ้าผ่า 2 แห่ง มีชาวบ้าน 2 คน ถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เกิดฝนตกและฟ้าคะนองในหลายพื้นที่ของจังหวัดระยอง โดยชาวบ้ารายแรกที่ถูกฟ้าผ่า เหตุเกิดในสวนยางพารา หมู่ 4 ตำบลห้วยยาง อำเภอแกลง ขณะที่มีฝนตกลงมาเล็กน้อย ได้เกิดฟ้าผ่าลงมาถูกนายตั้ม คนงานกรีดยางพารา ขณะกำลังนั่งลับมีดกรีดยางอยู่หน้าบ้านพัก และสายฟ้าที่ผ่าลงมาถูกร่างนายตั้ม กระเด็นนอนแน่นิ่งอยู่หน้าบ้านกว่า 30 นาที และเมื่อรู้สึกตัว นายตั้ม เกิดมีอาการร่างกายชา ครึ่งตัว จึงโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลแกลง ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบหินลับมีด และมีดกรีดยางตกอยู่ 2 อัน จึงเชื่อว่าสาเหตุที่ฟ้าผ่า เกิดจากหินลับมีดและมีดกรีดยาง ที่เกิดการเสียดสี จนเป็นสื่อล่อฟ้าและเกิดฟ้าผ่าถูกนายตั้ม ดังกล่าว

    Snapshot_1(34).png

    ชาวบ้าน 2 คน ถูกฟ้าผ่ารอดชีวิตปาฏิหารย์ เกิดฝนตกฟ้าคะนอง และฟ้าผ่าถูกบ้าน 2 แห่ง 2 หลัง ชาวบ้าน 2 คน ถูกสายฟ้าผ่าร่างกายบาดเจ็บ

    ส่วนอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศลระยอง บ้านเพ อำเภอเมืองระยอง รับแจ้งมีชาวบ้านถูกฟ้าผ่าได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดหมู่บ้านมาบจันทร์ บ้านเลขที่ 71 ทับ 3 หมู่ 7 ตำบลแกลง ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว อยู่ในสวนยางพารา เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปถึง พบนางสาวน้ำฝน ชัยสิทธิ์ อายุ 52 ปี นอนอยู่กับพื้นบ้าน ส่งเสียงร้องจากอาการปวดศรีษะรุนแรง และหูอือ จากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะนำตัวนางสาวน้ำฝน ส่งโรงพยาบาลระยอง


    1(131).png

    https://www.tnews.co.th/contents/o1/499713?fbclid=IwAR0MAuw642oclvSyfPZ7hR-tLezEcuysyr4pguNkYOA5KC7O-CPBb55VHQA
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าฯพะเยา ออกคำสั่งด่วน ให้โรงงานหยุดดำเนินกิจการ จนกว่าค่าฝุ่นฯ จะปกติ วันที่ 25 มีนาคม 2562 - 19:14 น.
    0040-728x455.jpg
    เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 25 มีนาคม นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้รายงานการแก้ปัญหาหมอกควันในพื้นที่จังหวัดพะเยา ไปยัง ศูนย์ควบคุมสถานการณ์แก้ปัญหาหมอกควันกองทัพภาคที่ 3ส่วนหน้าว่า ล่าสุดได้ออกหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด แจ้งไปยังกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพะเยามีข้อความว่า เนื่องจากในช่วงนี้จังหวัดพะเยาได้เข้าสู่ภาวะอากาศแห้งแล้งและมีความเสี่ยงในการเกิดไฟป่าและหมอกควัน อีกทั้งในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เกิดจำนวนจุดความร้อนขึ้นในพื้นที่จำนวนมากทำให้เกิดปัญหาคุณภาพอากาศค่าฝุ่นละอองพีเอ็ม 2.5 และพีเอ็ม10 เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่มีกระแสลมที่จะพัดฝุ่นละอองดังกล่าวออกจากพื้นที่ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่จังหวัดพะเยา

    ดังนั้นเพื่อให้ การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดพะเยาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพขอให้ตรวจสอบควบคุมดูแล และขอความร่วมมือโรงงานอุตสาหกรรมที่ดำเนินการกิจการแล้วเกิดฝุ่นละอองให้หยุดดำเนินกิจการ 1-2 วันเพื่อไม่ให้มีฝุ่นละอองเพิ่มมากขึ้นหรือหยุดดำเนินกิจการจนกว่าค่าฝุ่นละออง จะลดลงและกลับเข้าสู่สภาวะปกติจึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ

    %E0%B8%B2%E0%B8%B5%E0%B8%B1%E0%B8%B2%E0%B8%B2.jpg A20DF24E-E02E-4745-8E51-2582A63B5059.jpg

    [​IMG]

    ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ยังได้ออกหนังสือคำสั่ง ด่วนที่สุดอีกฉบับไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพะเยา เน้นย้ำให้มีการเข้มงวดในการดำเนินคดีและรายงานผลการดำเนินคดีให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดพะเยารับทราบ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กในพื้นที่จังหวัดพะเยาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ

    691E4DD1-4FC4-47FC-9048-0594EC759B60.jpg

    นอกจากนี้จังหวัดพะเยา ยังได้ทำการฉีดพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นและลดหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็กในอากาศ ทำความสะอาดถนนในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา และสถานที่สำคัญ ได้แก่ พื้นบริเวณศาลหลักเมืองและถนนรอบเมืองอำเภอเมืองพะเยาจังหวัดพะเยาอีกด้วย โดยแจ้งว่าวันนี้รถน้ำไปแล้วสามรอบเพื่อสุขภาพของพ่อแม่พี่น้องประชาชนชาวพะเยาครับ

    https://www.matichon.co.th/region/news_1424058
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    55443330_2453485271337617_6662137627837202432_n.jpg?_nc_cat=109&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    (Mar 25) รับมือเศรษฐกิจหด :การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการส่งสัญญาณเศรษฐกิจที่สำคัญ โดย กนง.ได้ปรับตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของปี 2562 ใหม่ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ว่าเศรษฐกิจปีนี้จะเติบโต 4.1% ก็จะเติบโตน้อยลงเหลือ 3.8%

    การที่ กนง.ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจลงนี้ เป็นเพราะเห็นว่าการส่งออกชะลอตัวลงมาก โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 3% จากเดิม 3.8% อันเป็นผลกระทบจากมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างจีน และสหรัฐ ทำให้เศรษฐกิจโลกขยายตัวลดลง และการค้าโลกลดลงตามไปด้วย

    นอกจากนี้ กนง.ยังได้คงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% จากเดิมที่ตลาดคาดการณ์ว่า กนง.อาจจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ 1 หรือ 2 ครั้ง เพื่อรักษาสภาพคล่องในประเทศไม่ให้มีเงินไหลออก แต่หากพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ดูเหมือนจะไม่สดใสเหมือนปีที่ผ่านมา ทางสหรัฐเองก็มีปัญหาเศรษฐกิจไม่แตกต่างจากประเทศอื่น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะไม่มีการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้

    นอกจาก กนง.จะลดตัวเลขจีดีพีลงมาแล้ว คาดว่าสำนักพยากรณ์เศรษฐกิจแห่งอื่นๆ ก็จะทยอยปรับลดตัวเลขจีดีพีตามลงไปเช่นกัน ซึ่งตัวเลขจีดีพีนี้เป็นตัวเลขสำคัญที่ภาคเอกชนจะนำไปใช้ในการวางแผนธุรกิจและกำหนดการดำเนินงานในปีนี้ว่าควรจะรับมือภาวะเศรษฐกิจอย่างไร ให้บริษัทได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

    เมื่อตลาดเงินกลับทิศทาง ปัญหาเรื่องดอกเบี้ยจะขึ้นเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจจึงไม่น่ากังวลอีกต่อไป หากเศรษฐกิจชะลอตัวลงบ้าง แต่ต้นทุนของประชาชนไม่ขึ้นก็จะช่วยลดปัญหาของคนมีหนี้ได้มาก แต่ทางด้านคนฝากเงินอาจจะไม่ชอบใจ เพราะผลตอบแทนจากการออมจะไม่เพิ่มขึ้น

    นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากังวลใจคือ ปัญหาการหาผลตอบแทนที่สูงกว่าซึ่งเป็นเรื่องที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นห่วงมาตลอดจะยังคงมีปัญหาต่อไป เพราะคนมีทางเลือกในการออมไม่มาก ซึ่งจำเป็นที่หน่วยงานที่รับผิดชอบจะต้องคอยเตือนประชาชน เพราะการหลอกลวงให้ไปลงทุนในธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงและชูผลตอบแทนสูงจะกลับมา ระบาด หลอกลวงให้ประชาชนไปลงทุนและสุดท้ายกลายเป็นถูกหลอก ซึ่งจำเป็นต้องให้ข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วกับประชาชน

    นอกจากปัญหาการแสวงหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมากเพราะหวังผลตอบแทนจะกลับมาแล้ว ปัญหาที่จะกลับมาอีกก็คือปัญหาหนี้ ครัวเรือน โดยเฉพาะหนี้นอกระบบจะมากับเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง เนื่องจากทำมาหากินไม่คล่อง เมื่อครัวเรือนขาดแคลนเงินสดก็จะหันไปกู้หนี้ยืมสิน และจะกู้ในระบบก็ไม่ง่าย เพราะ ธปท.ได้กำหนดสัดส่วนการกู้กับรายได้ของลูกหนี้เป็นกฎที่ธนาคารพาณิชย์ต้องปฏิบัติตาม ส่วนสถาบันการเงินขนาดเล็กอย่างนาโนไฟแนนซ์ และพิโกไฟแนนซ์นั้น ก็ยังมีประชาชนไปใช้บริการน้อยกว่าที่คิด

    ปัญหาเรื่องหนี้ครัวเรือนนี้เป็นความเปราะบางที่จะเป็นตัวถ่วงเศรษฐกิจ ซึ่ง ธปท.รายงานมาตลอดว่าจำนวนหนี้เริ่มสูงขึ้น แม้ตัวเลขหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีจะยังไม่เกิน 80% แต่หากจีดีพีลดลงก็มีโอกาสที่หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีจะปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้จำนวนมูลค่าหนี้ต่อครัวเรือนก็ไม่ได้ลดลง ซึ่ง ธปท.ได้ทำการสำรวจว่าหนี้ครัวเรือนเกิดจากอะไร ก็พบว่าครัวเรือนที่เป็นหนี้ใช้จ่ายอย่างไม่ระมัดระวัง ใช้จ่ายเพื่อรักษาหน้าตาทางสังคมมากกว่าจำเป็น

    ขนาดภาคธุรกิจยังต้องระมัดระวังเมื่อเศรษฐกิจขยายตัวชะลอลง ทางด้านครัวเรือนก็ควรจะต้องระมัดระวังการใช้จ่ายเช่นกัน ทาง ธปท.ที่ดูแลเสถียรภาพการเงินก็ยืนยันว่าจะดำเนินนโยบายด้วยความระมัดระวังไม่ให้เป็นการซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจ ส่วนกระทรวงการคลังก็เตรียมหามาตรการพยุงเศรษฐกิจไม่ให้ชะลอลง

    อย่างไรก็ดี ประชาชนไม่ควรจะฝากความหวังไว้กับรัฐบาลใหม่ว่าจะมีนโยบายใหม่มาช่วยพยุงเศรษฐกิจและผลักดันให้เติบโตต่อไปหรือไม่หดตัวลงมากกว่าที่เป็นอยู่

    Source: Posttoday
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    55451635_2453486211337523_95171707865661440_n.jpg?_nc_cat=100&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg
    (Mar 25) ธุรกิจบริหารสินทรัพย์'บูม' 'หนี้เสียพุ่ง'หนุนเอกชนแห่แข่งขัน : บริษัทบริหารสินทรัพย์ (บบส.) เกิดขึ้นหลังวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ทำหน้าที่ "รับซื้อ" หรือ "รับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ" จากสถาบันการเงิน เพื่อ ให้สถาบันการเงินมีความคล่องตัวใน การดำเนินธุรกิจหลักของตนเอง ในช่วง เริ่มต้น บบส.จะอยู่ในกลุ่มภาครัฐและ ธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก ก่อนที่จะมี บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่อยู่ในกลุ่ม ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจในระยะหลัง โดยปัจจัยสำเร็จของธุรกิจนี้ คือ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่รองรับการซื้อหนี้ รวมถึงประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจบริหารหนี้

    ณ สิ้นปี 2561 มี บบส. ดำเนินการ ทั้งสิ้น 58 แห่ง สินทรัพย์รวม 224,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2555 ที่มี 22 แห่ง และสินทรัพย์รวม 171,381 ล้านบาท สินทรัพย์ส่วนใหญ่ถือครอง โดย บบส. ภาครัฐ (สัดส่วน 77%) ขณะที่สัดส่วน สินทรัพย์ของ บบส. ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับลดลง เนื่องจากเกณฑ์การกำกับ แบบรวมกลุ่มที่นับรวมหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL) ของบบส. เป็น NPL ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ด้วย ทำให้ บบส. ในกลุ่มส่วนใหญ่ไม่ซื้อหนี้เพิ่ม

    อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามี บบส. เอกชนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ณ ธ.ค.2561 อยู่ที่ 47 แห่ง เพิ่มขึ้นจาก สิ้นปี 2555 ที่มีอยู่ 11 แห่ง ส่งผลให้สัดส่วนสินทรัพย์ บบส. เอกชนเพิ่มขึ้นเป็น 16% ของสินทรัพย์รวมทั้งระบบ การที่บริษัทเอกชนสนใจดำเนินธุรกิจ บบส. ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีธุรกิจเดิมที่เอื้อต่อการประกอบ ธุรกิจ เช่น ประกอบธุรกิจติดตามหนี้ หรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหาร สินเชื่อด้อยคุณภาพ การปรับโครงสร้างหนี้ หรือดำเนินคดีกับลูกหนี้ เป็นต้น อีกทั้ง เห็นโอกาสทางธุรกิจ จึงได้เข้ามาจดทะเบียนธุรกิจ บบส.

    ในช่วง 4 ปีหลัง (ปี 2558-2561) บบส. ซื้อหนี้ NPL (มูลหนี้เงินต้นเดิม) เฉลี่ย 49,350 ล้านบาทต่อปี คิดเป็น 8% ของ NPLระบบธนาคาร สำหรับ บบส. ภาครัฐมีการซื้อหนี้ NPL เพิ่มขึ้นในปี 2561 โดยเป็นการซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน ขณะที่ การซื้อหนี้ของ บบส. เอกชนเพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบที่มีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน โดย บบส. เอกชน 47 แห่ง แบ่งเป็นเน้นซื้อหนี้มีหลักประกัน 21 แห่ง ไม่มีหลักประกัน 11 แห่ง และ ซื้อหนี้ทั้งมีและไม่มีหลักประกัน 5 แห่ง

    หากพิจารณาในมิติแหล่งเงินทุนแล้ว บบส. ขนาดใหญ่ที่มีฐานะการเงินที่ดี สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้หลากหลาย ขณะที่ บบส. ขนาดเล็กที่สินทรัพย์ไม่มากนัก จะใช้แหล่งเงินทุนจากส่วนของผู้ถือหุ้น หรือกู้ยืมจากกรรมการเป็นหลัก ด้าน ความเชื่อมโยงการจัดหาแหล่งเงินทุนโดยตรงของ บบส. กับตลาดเงินและตลาดทุนพบว่าอยู่ในระดับต่ำ โดยมีการกู้ยืมธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการออกหุ้นกู้ ไม่มากนัก โดยระบบ บบส. มีการกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์รวม 31,385 ล้านบาท และออกหุ้นกู้รวม 32,164 ล้านบาท ขณะที่ บางรายมีแหล่งเงินทุนผ่านกลุ่มผู้ถือหุ้น ที่จดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์

    บบส. ยังมีแนวโน้มการเติบโตของสินทรัพย์ต่อเนื่อง จาก NPL ในระบบ ที่ยังมีเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ บบส. ยังมีโอกาส ขยายธุรกิจเพิ่มขึ้น จากการแก้ไขกฎหมาย ขยายขอบเขตการประกอบธุรกิจให้ บบส. สามารถรับซื้อรับโอนสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ รวมทั้งรับเป็นที่ปรึกษาในการปรับปรุง โครงสร้างหนี้ของผู้ประกอบธุรกิจทาง การเงินที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน (นอนแบงก์)กฎหมายที่แก้ไข กำหนดหลักเกณฑ์ ด้านธรรมาภิบาลเพิ่มเติมจากกฎหมายฉบับเดิมด้วย

    แม้จะมีโอกาสทางธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่จากจำนวน บบส.ที่เพิ่มขึ้นนั้น ส่งผลให้เกิดการแข่งขันเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ปัจจัยที่สนับสนุนให้ บบส. สามารถแข่งขันได้ อยู่ที่ความได้เปรียบจากต้นทุนการเงินที่ ต่ำประสบการณ์ และความชำนาญใน ธุรกิจเป็นสำคัญ เนื่องจากธุรกิจบริหารหนี้ NPL มีกระบวนการทำงานหลายขั้นตอน ที่อาศัยความชำนาญเฉพาะด้าน หาก บบส. ไม่มีประสบการณ์และความชำนาญ ที่เพียงพอ รวมถึงมีต้นทุนการเงินที่สูง อาจส่งผลให้มีต้นทุนการดำเนินงานสูงกว่า ผลตอบแทนที่ได้รับ

    ด้านข้อจำกัดหรืออุปสรรค มีทั้งปัจจัยภายในและภายนอก สำหรับภายในบริษัท เช่น บบส. ขนาดเล็กจะมีแหล่งเงินทุนจำกัด โดยแหล่งเงินทุนจะมาจากผู้ถือหุ้นและ กรรมการเป็นหลัก รวมถึงโอกาสในการ เข้าถึงแหล่งเงินกู้จากสถาบันการเงินมีน้อย จึงเป็นอุปสรรคในการซื้อหนี้มาบริหาร อย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้ผลการดำเนินงานลดลง จนถึงขั้นขาดทุน รวมถึงอาจจะมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่อง จากกระแสเงินสด ที่ไม่แน่นอน และประมาณการได้ยาก ส่วนปัจจัยภายนอก เช่น ภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่งผลต่อการเรียกเก็บหนี้ได้น้อยลง และโอกาสในการขายทรัพย์ NPA ทำได้ยากขึ้น อีกทั้งจำนวน บบส. ที่เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้ การแข่งขันประมูลซื้อหนี้สูงขึ้น ต้นทุน ในการซื้อหนี้เพิ่มขึ้น

    ในระยะต่อไปบริษัทบริหารสินทรัพย์ จะมีบทบาทต่อระบบการเงินไทยเพิ่มมากขึ้น ในการรองรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ ที่ยังทรงตัวในระดับสูง ทั้งแบงก์และ นอนแบงก์ ในหนี้กลุ่มบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ธปท. นอกจากนี้การทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาแก่ลูกหนี้จะช่วยให้การจัดการหนี้รายย่อย เป็นระบบและครบวงจรมากขึ้น ส่งผลให้ การแก้ไขปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    โดย ภัทรพล โตมานะ ธนาคารแห่งประเทศไทย
    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    url=https%3A%2F%2Fwww.prachachat.net%2Fwp-content%2Fuploads%2F2019%2F03%2Fbeijing-347298_960_720.jpg
    (Mar 25) “โลจิสติกส์จีน” เติบโตต่อเนื่องในปี”61 สอดคล้องการเติบโตทางศก. ที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์: สำนักข่าวซีจีทีเอ็น รายงานว่า ภาคโลจิสติกส์ของจีนมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2561 โดยมูลค่าสินค้าที่ดำเนินการโดยภาคการค้าเพิ่มขึ้น 6.4 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบเป็นรายปีแตะที่ 283.1 ล้านล้านหยวน หรือประมาณ 42.3 ล้านล้านดอลลาร์

    สหพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อของจีน ระบุว่า อัตราการเติบโตลดลงเล็กน้อย 0.2 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2560 โดยค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์เพิ่มขึ้น 9.8 เปอร์เซ็นต์ สู่ระดับ 13.3 ล้านล้านหยวนหรือคิดเป็น 14.8 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพีปีที่แล้ว ส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อน
    สำหรับค่าใช้จ่ายด้านการขนส่งเพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ต้นทุนด้านการจัดเก็บและการจัดการเพิ่มขึ้นมากกว่า 13 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงกระบวนการขนส่งที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านรายรับรวมของภาคขยายตัว 14.5 เปอร์เซ็นต์ ในปีที่แล้วแตะ 10.1 ล้านล้านหยวนเพิ่มขึ้น 3 เปอร์เซ็นต์ จากปี 2560

    อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานที่มั่นคงสอดคล้องกับการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ 6.6 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2561 ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายประจำปีที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    https://www.prachachat.net/world-news/news-306993
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    safe_image.php?d=AQADZLNOJwrfINRg&w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fs4.reutersmedia.jpg

    (Mar 25) ทรัมป์'มั่นใจจะได้ข้อตกลงกับจีน นักวิเคราะห์ชี้ตลาดหุ้นอาจปรับตัวขึ้น 15% - “ทรัมป์” เผยการเจรจาการค้ากับจีนคืบหน้าและน่าจะได้ทำข้อตกลงในขั้นสุดท้าย พร้อมระบุ การเรียกร้องของเขาที่ให้คงเก็บภาษีสินค้าจีนอีกระยะไม่ได้หมายความว่าการเจรจามีปัญหา ขณะเดียวกันทรัมป์คาดว่าจะเก็บภาษีต่อภาครถยนต์ยุโรป 25% นักวิเคราะห์ชี้หากจีนและสหรัฐฯ จะตกลงการค้ากันได้ ตลาดหุ้นอาจปรับตัวขึ้น 15% หรือมากกว่านั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

    ในการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันศุกร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ข้อตกลงของสหรัฐฯ กำลังจะออกมาดีมาก และเราจะได้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้น

    เมื่อถามถึงความเห็นของเขาเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาที่กล่าวว่าจะยังคงเก็บภาษีสินค้าจีนไปอีกระยะหนึ่ง และนั่นหมายถึงว่าการเจรจากำลังมีปัญหาหรือไม่ ทรัมป์ได้ตอบว่า “ไม่ใช่เลย”

    จากนั้นทรัมป์ได้เปลี่ยนไปพูดถึงภาครถยนต์ยุโรปว่า “เราได้เก็บภาษี 25% สำหรับภาคนี้ และนั่นคือภาคที่ดีที่สุดของเราจนถึงขณะนี้ และแน่นอนว่าเราจะสามารถเก็บมันต่อไปได้ โดยไม่เพียงแต่จะเก็บต่อไปเท่านั้น ผมคิดว่าเรามีศักยภาพมาก”

    ทีมเจรจาของทรัมป์ จะเจรจากับทีมของรองนายกรัฐมนตรี หลิว เหอ ของจีน ในกรุงปักกิ่ง

    มีรายงานจากซีเอ็นบีซี ซึ่งได้อ้างแหล่งข่าวที่ได้รับฟังการสรุปเกี่ยวกับการหารือของจีนและสหรัฐฯ ว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่หาทางทำข้อตกลงการค้ากับจีนได้เน้นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจจีนในระยายาว แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวโน้มที่จะลดการขาดดุลการค้าและกำลังผลักดันให้ทีมเจรจาของสหรัฐฯ ทำให้จีนตกลงซื้อสินค้ามากขึ้น

    จีนได้เสนอซื้อสินค้าพลังงาน เกษตร และเครื่องบินสหรัฐฯ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นเวลา 6 ปี เมื่อมีการรายงานเป็นครั้งแรกถึงข้อเสนอนี้ ตลาดหุ้นได้ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณว่านักลงทุนมองว่า ข้อเสนอนี้เป็นตัวต่อรองที่สำคัญที่จะเอาชนะทรัมป์ได้

    แจ็กสัน หว่อง ผู้ช่วยผู้อำนวยการ บริษัท ฮวาหรง อินเตอร์เนชันแนล ซีเคียวริตีส์ กล่าวว่า แม้ว่าจะมีการพูดกลับไปกลับมาระหว่างทีมเจรจาการค้าของทรัมป์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่ในที่สุดแล้ว สหรัฐฯ และจีนจะได้ทำข้อตกลงการค้า และตลาดหุ้นอาจปรับตัวขึ้น 15% หรือมากกว่านั้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

    “มีข่าวลือว่า ภายในเดือนเมษายน ข้อตกลงจะแล้วเสร็จ 90% และภายในเดือนมิถุนายน จะมีการลงนามในข้อตกลง” หว่อง กล่าว

    การคาดการณ์ของหว่องมีขึ้นหลังจากที่มีการดีดตัวของตลาดหุ้น ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ที่เพิ่มมากขึ้นของนักลงทุน ว่าอาจมีการลงนามทำข้อตกลงการค้าของจีนและสหรัฐฯ

    หว่องกล่าวว่า ในขณะนี้นักลงทุนในจีนหรือทั่วโลกกำลังคาดการณ์ว่าจีนและสหรัฐฯ จะทำข้อตกลงได้ และนักลงทุนได้มีการคาดการณ์มาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ดังนั้นเขาจึงคิดว่าตลาดได้ดีดตัวจากจุดนั้น

    ตามความเห็นของหว่อง ตลาดอาจจะปรับตัวขึ้นต่อเล็กน้อย แต่ก็มีโอกาสที่จะมีความมั่นคงที่ระดับปัจจุบันอีกประมาณสองสามสัปดาห์ และจากนั้นไป ตลาดจะเป็นขาขึ้นอีกครั้งเมื่อทรัมป์และสีบรรลุข้อตกลง นอกจากนี้ข้อตกลงดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบในทางบวกต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างแท้จริง

    การวิเคราะห์ของหว่องมีขึ้นในขณะที่สงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่สุดของโลกที่เริ่มขึ้นประมาณหนึ่งปีก่อน ยังคงดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง มีการเก็บภาษีสินค้าตั้งแต่ถั่วเหลืองจนถึงเหล็กกล้า มีความพยายามที่จะปรองดอง และทรัมป์ประกาศทางทวิตเตอร์ถึงประโยชน์ของสงครามการค้า ความตึงเครียดได้ลดลงนับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีทั้งสองชาติได้ตกลงกันในเดือนธันวาคม ที่จะหยุดเก็บภาษีเพิ่มในขณะที่มีการเจรจากันต่อไป

    การเจรจาหลาย ๆ ครั้งเน้นไปที่การลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ กับจีน และการลดอุปสรรคในเชิงระบบบางอย่างเพื่อให้บริษัทต่างชาติประสบความสำเร็จในเศรษฐกิจใหญ่สุดของเอเชีย

    หว่องยอมรับว่า มีความเห็นที่แตกต่างกันมากระหว่างสองฝ่าย แต่เขาก็ยังคงมองในด้านบวกว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถหาฉันทามติได้

    ตามความเห็นหว่อง การเจรจาจะไม่เลวร้าย ความแตกต่างที่สำคัญ ๆ สามารถแก้ไขได้ จีนต้องการให้สหรัฐฯ ยกเลิกภาษี และสหรัฐฯ ต้องการมีอำนาจในนโยบายโอนและขโมยทรัพย์สินทางปัญญาใหม่ หากทั้งสองประเทศยอมเล็กน้อย เช่น อาจจะเก็บภาษีนานขึ้นอีกเล็กน้อยและจากนั้นจีนจะให้สหรัฐฯ ควบคุมนโยบายต่าง ๆ มากขึ้น ก็สามารถได้ข้อตกลงในขั้นสุดท้าย

    อย่างไรก็ดี หว่องกล่าวว่า ความสัมพันธ์ของจีนและสหรัฐฯ ยังค่อนข้างอ่อนแอ ทั้งสองประเทศกำลังยืนบนพื้นที่เปราะบางมาก การเคลื่อนไหวใด ๆ อย่างกะทันหันของอีกฝ่าย จะทำลายความไว้วางใจของอีกฝ่าย นักลงทุนยังคงระวังและวิตก จนกว่าพวกเขาจะตัดสินใจเกี่ยวกับวันที่ทรัมป์และสีจะพบกัน ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดความไม่แน่นอนได้

    Source : ข่าวหุ้น

    https://www.reuters.com/article/us-...uljz_muu6hz2TbeMfBDTg0t6P-dYnACRqv4qLWewV_4o8
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,327
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    55881766_2453595121326632_1234662832558047232_n.jpg?_nc_cat=111&_nc_ht=scontent.fbkk17-1.jpg

    (Mar 25) ติง'ทรัมป์'รู้ไม่ทันเศรษฐศาสตร์: ทำเนียบขาวส่ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงไปกรุงปักกิ่งอีกรอบหนึ่งแล้ว เพื่อเจรจาการค้ากับจีน หลังจากสองประเทศทำสงครามการค้า สนั่นลั่นโลก บั่นทอนเศรษฐกิจทุก หัวระแหง แต่ในสายตาของอาจารย์เศรษฐศาสตร์มองว่า สงครามการค้า ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการรู้ไม่เท่าทัน เศรษฐศาสตร์ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์

    ทรัมป์เคยพูดหลายครั้งว่า การค้า ไม่สมดุลระหว่างสหรัฐกับจีน เป็น สัญญาบ่งชี้ว่าอเมริกากำลังถูกเอาเปรียบ ดังนั้นเป้าหมายหนึ่งของการเจรจา การค้าระหว่างรัฐบาลวอชิงตันกับปักกิ่งจึงอยู่ที่การลดความไม่สมดุลทางการค้าระหว่างกัน

    "ปัญหาหนี่งของการเจรจาการค้าคือทุกอย่างอยู่บนสมมุติฐานที่ผิดที่ว่า จีนได้เปรียบดุลการค้าเพราะทำการค้าไม่เป็นธรรม ประธานาธิบดีสหรัฐไม่รู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ สงครามการค้าทั้งหมดมาจากสมมุติฐาน ผิดพลาด 2 ประเด็น 1 มองว่าจีนโกง และ 2 จีนคือตัวอันตราย" เจฟฟรีย์ แซคส์ อาจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย เผยกับซีเอ็นบีซี

    แซคส์ไม่ใช่คนเดียวที่มองเป้าหมายลดการเสียเปรียบดุลการค้าจีนในมุมที่ต่างออกไป นักเศรษฐศาสตร์คนอื่นๆ ก็เคยพูดเช่นกันว่า ความเหลื่อมล้ำทางการค้า ที่วัดจากการนำเข้า-ส่งออกระหว่างสองประเทศ ไม่อาจชี้วัดได้มากพอว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศนั้นใครคือ ผู้แพ้ ใครคือผู้ชนะ

    กระนั้นคนอื่นๆ ก็กล่าวด้วยว่า ทรัมป์ไม่ได้ผิดหรอกที่กล่าวหาจีนทำการค้า เอาเปรียบ สหภาพยุโรป (อียู) ก็กล่าวหาแบบนี้เหมือนกันว่า รัฐบาลปักกิ่งบีบ ให้บริษัทต่างชาติต้องส่งมอบเทคโนโลยี ให้พันธมิตรท้องถิ่น เพื่อแลกกับ การเข้าถึงตลาดแดนมังกรที่กว้างใหญ่ ไพศาล สำหรับความคืบหน้าการเจรจา ที่ตัวแทนทั้งสองฝ่ายผัดกันบินไปบินมา ระหว่างวอชิงตันกับปักกิ่งเป็นว่าเล่น เมื่อวันเสาร์ (23 มี.ค.) ตามเวลาสหรัฐ ซาราห์ แซนเดอร์ส โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ ส่งโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ตัวแทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์)สตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เจฟฟรีย์ เกอริช ผู้ช่วยยูเอสทีอาร์ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากทั้งสองหน่วยงานไปกรุงปักกิ่งตั้งแต่วันพฤหัสบดี (21 มี.ค.)

    ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ส่งสาร ชวนอ่านมาให้ทรัมป์ ขอให้ทั้งสอง ฝ่ายเพิ่มความพยายามอีก 2 เท่า เพื่อพบกันครึ่งทางในการทำข้อตกลง การค้า ที่สัปดาห์นั้นตัวแทนระดับสูง ของจีนและสหรัฐ เจรจากันอย่างเข้มข้น ที่กรุงวอชิงตัน เสร็จจากประชุมที่จีนก็ถึงคราวที่ต้องกลับมาเจรจากันที่สหรัฐอีกครั้งหนึ่ง โฆษกทำเนียบขาวกล่าวด้วยว่า สหรัฐตั้งตาคอยต้อนรับตัวแทนจากจีน นำโดยรองนายกรัฐมนตรีหลิวเหอ มาประชุมที่วอชิงตันในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เรื่องสงครามการค้าก็ต้องว่ากันต่อไป เรื่องนโยบายอื่นๆ ก็ต้องเดินหน้า ระหว่างนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กำลังเดินสายทัวร์ 3 ประเทศยุโรป ซึ่งถือว่าประสบความ สำเร็จ เมื่ออิตาลีกลายเป็นชาติแรก ในกลุ่ม จี7 ที่รับรองโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน

    แน่นอนว่าวอชิงตันไม่พอใจ ที่จีนและอิตาลีแนบแน่นกันมากขึ้น รองนายกรัฐมนตรีลุยจิ ดี ไมโอ ต้องผ่อนคลายความกังวล ชี้แจงว่า รัฐบาลโรมยังเป็นพันธมิตรชาติตะวันตกไม่เสื่อมคลาย แต่เรื่องเศรษฐกิจ "อิตาลีต้องมาก่อน" "นี่เป็นวันที่สำคัญยิ่งสำหรับเรา วันที่เมด อิน อิตาลี คว้าชัยชนะ ทั้งประเทศและบริษัทอิตาลีล้วนชนะ" ดี ไมโอ กล่าวในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างรัฐบาลจีนกับอิตาลีที่เรเนซองส์วิลลา เมื่อวันเสาร์ การมาเยือนของประธานาธิบดีสี รอบนี้ บริษัทอิตาลีได้ประโยชน์ไปเต็มๆ ลงนามกับคู่เจรจาจากจีนไปแล้วมูลค่าเบื้องต้น 2.5 พันล้านยูโร ในอนาคตอาจมีมูลค่าถึง 2 หมื่นล้านยูโร บีอาร์ไอถือเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์นโยบายต่างประเทศจีน สำคัญถึงขนาดที่ต้องบัญญัติไว้ในธรรมนูญพรรคคอมมิวนิสต์เมื่อปี 2560 สะท้อนความปรารถนาของสีที่ต้องการให้จีนมีบทบาทผู้นำโลก

    สหรัฐจึงกังวลว่า บีอาร์ไอกำหนด มาเพื่อขยายอิทธิพลทางทหารของ จีน และอาจใช้ขีดความสามารถ ด้านเทคโนโลยีล้วงผลประโยชน์ ชาติตะวันตกได้

    "ระหว่างนี้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงเดินสายทัวร์ 3 ประเทศยุโรปซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ เมื่ออิตาลีกลายเป็นชาติแรก ในกลุ่ม จี7 ที่รับรองโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน"

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     

แชร์หน้านี้

Loading...