ติดตามสถานะการณ์

Bank of Thailand Scholarship Students




(Mar 24) QR code บัตรเครดิต ไม่เปรี้ยง ร้านเกี่ยงต้นทุน :กสิกรไทย-เคทีซี รับยอดใช้ QR Code บัตรเครดิตไม่เปรี้ยง เหตุเกี่ยงแบกต้นทุน MDR ชี้เป็นอุปสรรคใหญ่ร้านค้าปฏิเสธรับชำระ ลั่นควรลดค่าธรรมเนียมลงตามปริมาณธุรกรรม หนุนรายย่อยรับชำระเพิ่ม ด้านไทยพาณิชย์สวน QR Payment เติบโตต่อเนื่อง แม่มณีร้านค้าทะลุ 1 ล้านราย

การชำระเงินผ่าน QR Code สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต ถือเป็นการชำระเงินรูปแบบใหม่ล่าสุด เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถทำการผูกบัตรเครดิตเข้ากับโทรศัพท์มือถือในการสแกนเพื่อจ่ายเงิน เพื่อก้าวสู่โลกของ Cashless Society อย่างเต็มตัวและยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับร้านค้า เมื่อผู้บริโภคเลือกชำระเงินผ่าน QR Code ด้วยมือถือ โดยเฉพาะร้านค้ารายย่อยและร้านค้าออนไลน์

นางพิทยา วรปัญญาสกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจบัตรเครดิต บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า แนวโน้มการชำระเงินผ่าน QR Code บัตรเครดิตยังขยายไม่มากนัก เพราะมีร้านค้าที่รับชำระค่อนข้างน้อย ส่วนหนึ่งเป็นผลจากค่าธรรมเนียมส่วนลดร้านค้า (Merchant Discount Rate : MDR) ที่เป็นต้นทุนอย่างหนึ่ง แต่ยังไม่มีใครเป็นผู้รับผิดชอบ ร้านค้าจึงปฏิเสธการรับชำระผ่าน QR Code บัตรเครดิต ประกอบกับ QR Code เกิดขึ้น เพื่อร้านค้ารายย่อยๆ หรือใช้แบบตัวต่อตัว จึงไม่ได้รับความนิยมสำหรับร้านค้าขนาดใหญ่

อย่างไรก็ดี QR Code บัตรเครดิตของเคทีซีที่ใช้ในต่างประเทศแล้วมีอยู่ 3 ประเทศคือ อินเดีย กัมพูชา เวียดนาม ส่วนญี่ปุ่นกำลังดำเนินการ หากทางการสามารถวางระบบได้ เคทีซีก็พร้อมเชื่อมระบบและใช้งานได้ โดยเคทีซีตั้งใจไปทุกประเทศที่สามารถรองรับการชำระ เพื่อสร้างความสะดวกในการชำระเงินให้กับลูกค้า ปัจจุบันวงเงินการชำระผ่าน QR Code บัตรเครดิตยังไม่เยอะมาก

"ตัวเลขการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต(Spending)ในต่างประเทศมี 8% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมดที่ 1.93 แสนล้านบาทหรือคิดเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นการใช้จ่ายผ่านออนไลน์ต่างประเทศ 25% เช่น อเมซอน และปีนี้คาดว่า ยอดการใช้จ่ายน่าจะเติบโตเป็น 10% เพราะคนไทยยังนิยมท่องเที่ยวอยู่ แม้วงเงินจะน้อยลง ทั้งในส่วนของการซื้อตั๋วเครื่องบินและช็อปปิ้ง”

นายอมร สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวยอมรับว่าตลาดรายย่อยหรือร้านค้ารายเล็กที่ไม่เคยรับบัตรเครดิต เพราะมีเรื่อง MDR ที่ยังเป็นอุปสรรคต่อการเกิด QR Code บัตรเครดิต เพราะค่าธรรมเนียมเฉลี่ยเท่ากับบัตรเครดิตที่คิด 1.5-1.75% นั้น ขณะที่การรับชำระคิวอาร์โค้ดพร้อมเพย์ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ทำให้ร้านค้าย่อยไม่อยากแบกต้นทุน ดังนั้นการจะรับชำระที่มีต้นทุนจึงเป็นเรื่องยาก จำเป็นต้องใช้เวลาและพูดคุยทำความเข้าใจกับร้านค้า รวมถึงอาจจะมีการพูดคุยเรื่องการลดค่าธรรมเนียม MDR ลงหากกรณีที่ปริมาณการชำระน้อย

ในส่วนของธนาคารกสิกรไทยภายในไตรมาส 2 หรือต้นไตรมาส 3 จะออก QR Code บัตรเครดิต หลังจากได้รับอนุญาตออก จากศูนย์ทดสอบนวัตกรรมทางการเงิน (Sandbox) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยช่วงแรกจะขยายไปยังร้านค้าขนาดกลางและรายใหญ่ คาดว่าจะสามารถพัฒนาได้ 3 หมื่นเครื่อง จากเครื่องรับบัตร (EDC) 3 แสนเครื่อง ของทั้งระบบมีอยู่ 6-7 แสนเครื่องและจะทยอยไปสู่ร้านค้ารายย่อยเพิ่มเติมภายในปี 2563

"หลังขยาย QR Code ผ่านบัตรเครดิต จะช่วยให้ยอดใช้จ่ายหรือชำระผ่าน QR Code เพิ่มขึ้น 5% จากที่มียอดชำระผ่าน QR Code Promptpay 2 พันล้านบาทต่อเดือน ถือเป็นอัตราที่ทรงตัว เพราะช่วงก่อนหน้านี้ยอดใช้เติบโตแบบก้าวกระโดด ส่วนหนึ่งจากแคมเปญกระตุ้นการใช้ที่หลายๆ ธนาคารทยอยออกมาหมดลง ส่งผลให้ยอดใช้เริ่มทรงตัว ซึ่งหลังผลักดันการชำระผ่านบัตรเครดิตจะช่วยให้ยอดใช้ผ่าน QR Code เพิ่มขึ้น”

นายสีหนาท ล่ำซำ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Payment Products บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ภาพรวม QR Payment ยังคงเติบโตต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 1 ปี โดยวัดจากยอดสมัคร QR แม่มณีของร้านค้าที่มีมากกว่า 1 ล้านรายและใช้จ่ายผ่าน QR Code ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด รวมถึงการประชาสัมพันธ์แคมเปญใช้ QR Payment ของธนาคารต่างๆ และการผลักดันจากภาครัฐ

ทั้งนี้ปัจจุบันมีร้านค้าที่รับชำระเงินผ่าน QR Card Scheme มากกว่า 1.8 หมื่นร้านค้า และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1 แสนร้านค้าในสิ้นปีนี้ และมีปริมาณธุรกรรมมากกว่า 1 หมื่นรายการ ซึ่ง QR Card Scheme เป็นสิ่งใหม่ที่ธนาคารต้องพัฒนา สร้างความเข้าใจ การใช้งานในกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยไทยพาณิชย์เชื่อว่า QR Card Scheme จะเป็นหนึ่งในวิธีการรับชำระเงินแบบ Digital Payment ที่สะดวกสำหรับทั้งร้านค้าและผู้บริโภคและจะสามารถตอบสนองพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของผู้บริโภคได้ ซึ่งค่าธรรมเนียม QR Card Scheme ปัจจุบันบุคคลธรรมดา MDR 1% จนถึงสิ้นปี และวันที่ 1 มกราคม 2563 คิด 2.5% ขณะที่นิติบุคคลคิด 2.5%

"SCB ยังคงมีเป้าหมายในการเพิ่มยอดของร้านค้าที่รับชำระเงินด้วย QR Code อย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นพัฒนาในรูปแบบร้านรับชำระเงินแบบ Digital Payment เพื่อสร้าง Eco System ให้มีความยั่งยืนทางธุรกิจและสร้างสังคมไร้เงินสดในประเทศไทยให้ขยายวงกว้าง และมีความยั่งยืนต่อไป

Source: ฐานเศรษฐกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 23) [วิเคราะห์] ธนาคารแห่ปล่อยสินเชื่อเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้า-มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า: เทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าเกิดขึ้นทั่วโลก แม้แต่ในประเทศไทยที่ตอนนี้มีค่ายรถยนต์นำเข้ามาขายแล้วแต่ราคายังสูงอยู่คันละ 2-3 ล้านบาท มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็เข้าไทยแล้ว มีธนาคารไหนให้สินเชื่อลีสซิ่งสำหรับรถ Electric Vehicle (EV) บ้าง?
ทำไมธนาคารหันมาปล่อยสินเชื่อในตลาดรถไฟฟ้า ?

อุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ ฯลฯ เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจไทย เพราะการส่งออกรถยนต์มีสัดส่วน 8% ของการส่งออกไทย และปัจจุบันไทยผลิตรถยนต์เป็นอันดับที่ 11 ของโลก (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยธนาคารกสิกรไทย)

นอกจากไทยมีบริษัทขนาดใหญ่ที่ผลิตรถยนต์ ยังมี Supply chain เป็นผู้ประกอบการที่ผลิตชิ้นส่วนประกอบรถยนต์ เช่น แบตเตอรี่ อะไหล่ ฯลฯ ทำให้ธนาคารเข้าไปให้สินเชื่อธุรกิจกับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ Electric Vehicle (EV) อย่างรถยนต์ไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามากขึ้น

ขณะเดียวกันธนาคารยังใช้กลยุทธ์ Win-Win คือพยายามให้บริการการเงินครบวงจรกับลูกค้า เมื่อต้องการลงทุนเพิ่มก็ขอสินเชื่อได้ ส่วนตอนจะขายรถให้ประชาชน ธนาคารก็เข้าไปให้สินเชื่อลีสซิ่งกับลูกค้าที่มาซื้อรถได้ ซึ่งช่วยขยายฐานลูกค้าให้ทั้งบริษัทที่ขายรถ และธนาคารมีลูกค้าใหม่ๆ มากขึ้น

ปัจจุบันเมื่อตระกูล EV เริ่มมากขึ้นในตลาดไทย ก็ทำให้ธนาคารก็หันมาปล่อยสินเชื่อด้านนี้มากขึ้น สังเกตว่าธนาคารไทยเริ่มให้ลีสซิ่งรถไฟฟ้าเฉพาะบางแบรนด์ ส่วนหนึ่งเพราะธนาคารต้องเลือกรถไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานและน่าเชื่อถือ ขณะเดียวกันธนาคารที่เป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์รถอยู่แล้ว

กรุงศรี ออโต้-เกียรตินาคิน ขยายตลาดปล่อยกู้รถยนต์ไฟฟ้า

ล่าสุดกรุงศรี ออโต้ จาก ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ขยายให้สินเชื่อสำหรับซื้อรถใหม่หรือ “กรุงศรี นิว คาร์” ในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ FOMM หรือ บริษัท เอฟโอเอ็มเอ็ม (เอเชีย) (รถขนาดเล็ก Compact EV Car) ที่เปิดขายในงาน Motorshow ราคาอยู่ที่ 599,000 บาท

ทั้งนี้กรุงศรี ออโต้ มีแคมเปญในช่วง Motor Show 2019 สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า FOMM One ราคา 599,000 บาท ในดอกเบี้ยพิเศษ 2.39% (ดาวน์ 25% ผ่อน 48 งวด) หรือเลือกรับดาวน์เริ่มต้น 20% หรือผ่อนสบาย 72 งวด

ด้านธนาคารเกียรตินาคิน ขยายให้สินเชื่อลีสซิ่งกับรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่ปี 2561 เริ่มแรกให้สินเชื่อรถไฟฟ้า 2 รุ่นได้แด่ Tesla Model S และ BYD e6 ซึ่งเปิดตัวในงาน Motorshow 2018 และให้แคมเปญดอกเบี้ย 1.99% ต่อปี สำหรับคนที่ซื้อรถไฟฟ้า

ซีไอเอ็มบีไทย เจาะตลาดเฉพาะขยายมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าทั้งลูกค้า Mass และกลุ่มบน

ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาสูง 2-3 ล้านบาท ทำให้บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด (WL) บริษัทให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ ในกลุ่มธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย หันมาเตรียมปล่อยสินเชื่อให้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 2 แบรนด์ (Edison Motor และ TAILG) โดยมีอัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อเดือน สูงสุดนาน 4 ปี แต่ค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่ลูกค้าผ่อนชำระเพียง 2 ปีเท่านั้น

โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ธนาคารมองไว้คือ คนรุ่นใหม่ที่อายุไม่เกิน 30 ปี มีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือนขึ้นไป ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้นิยมซื้อมอเตอร์ไซค์ที่ราคากลางถึงสูง ดังนั้นทางบริษัทจะทำตลาดควบคู่กับดีลเลอร์ในหมู่บ้านและมหาวิทยาลัยต่างๆ

สรุป

ตระกูลรถไฟฟ้า Electric Vehicle (EV) อย่างรถยนต์ไฟฟ้า จะเติบโตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย คือต้องมีรถยนต์ไฟฟ้า ออกมาใช้จริงในตลาดและต้องทำให้ราคาถูกลงเพื่อให้คนเข้าถึงได้มากขึ้น แต่ก็ต้องมีสถานีชาร์จไฟเกิดขึ้นมาด้วย ธนาคารเลยต้องกระโดดเข้ามาเสริมให้คนเข้าถึงรถไฟฟ้าได้มากขึ้น เมื่ออุตสาหกรรมโตขึ้นธนาคารเจ้าที่เข้าสู่ตลาดก่อน อาจจะมีโอกาสเข้าถึงลูกค้ารายย่อยได้มากขึ้นด้วย

โดย Chutinun Sanguanprasit (Liu)

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/bank-thai-...fKSMohVs_ItWXpahLzjVd5z4hPWg8KuKTrvpgcdxwjbLA

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 24) พบรองประธาน Huawei มี MacBook, iPhone และ iPad ตอนถูกจับกุม : รองประธานของ Huawei, Meng Wanzhou ตอนนี้ถูกจับโดยทางการแคนาดาอยู่ โดยวันที่ที่ถูกจับกุมพบว่าเธอมี MacBook 12 นิ้ว, iPhone 7 Plus และ iPad Pro 10.5 นิ้วรุ่นเก่าติดตัวอยู่ด้วย

จริงๆ อาจจะเป็นเรื่องแปลกหน่อยเพราะ Meng Wanzhou ที่เป็นถึง CFO และรองประธานของ Huawei กลับพกสินค้า Apple ครบทุกไลน์ผลิตภัณฑ์หลัก (iPhone, MacBook และ iPad) แถมก่อนหน้านี้ Huawei ก็เผลอโพสต์ข้อความผ่าน Twitter for iPhone อีกด้วย จึงเป็นไปได้ว่าคนในน่าจะใช้ iPhone อยู่พอสมควร

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน บริษัทอิเล็กทรอนิกส์หลายรายจะไม่ชอบที่พนักงานเลือกใช้สินค้าของบริษัทคู่แข่ง แต่ก็ยากที่จะห้าม อย่างบางครั้งเราก็อาจเห็นพนักงานของ Microsoft หรือ Google ใช้ iPhone เดินไปเดินมาได้เช่นกัน แต่คิดอีกแง่ถ้าเราไม่เคยใช้ของคู่แข่ง จะรู้ได้ยังไงว่าอะไรเหนือกว่าเรานะ

ทั้งนี้เธอก็พก Huawei Mate 20 RS Porsche Edition ซึ่ง The Verge ยกให้เป็นสมาร์ตโฟนดีเยี่ยมที่ชาวอเมริกันไม่สามารถเป็นเจ้าของได้

โดย Watcharakul Pattanaprateep
Source: bear tai
https://www.beartai.com/news/itnews/317266

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 24) อานิสงส์รัฐ-เอกชนแห่ลงทุนรับ'กม.ข้อมูล'ดันไอทีโต - ไซแมนเทคชี้ปี'62 โอกาสโตสูง เหตุรัฐ-เอกชนเร่งลงทุนไซเบอร์ซีเคียวริตี้- คุ้มครองข้อมูล รับ 2 กฎหมายใหม่ เล็งเจาะลูกค้าสถาบันการเงิน-การแพทย์ พร้อมย้ำภัยไซเบอร์โตพุ่งทุกปี ไทยตกเป็นเหยื่ออันดับ 7 ของเอเชียแปซิฟิก แถมยอดขโมยข้อมูลบัตรเครดิตนักช็อปออนไลน์สูงลิ่ว

นายรัฐิติ์พงษ์ พุทธเจริญ หัวหน้าฝ่าย วิศวกรระบบ ประจำประเทศไทย กัมพูชา พม่า และลาว บริษัท ไซแมนเทค จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทเทคโนโลยีด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้และคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล มีโอกาสเติบโตสูง จากการลงทุนของทั้งภาครัฐ-เอกชนเพื่อรองรับ พ.ร.บ.ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

โดยเฉพาะด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่ยังมีลงทุนไม่กี่หน่วยงาน ต่างกับไซเบอร์ซีเคียวริตี้ที่หลายหน่วยงานลงทุนไปแล้ว ซึ่งไซแมนเทคจะโฟกัสลูกค้ากลุ่มสถาบันการเงินและการแพทย์เป็นหลัก เนื่องจากมีการตั้งงบฯลงทุนด้านนี้ไว้ค่อนข้างสูง”

นายเชรีฟ เอล-นาบาวี รองประธานฝ่ายระบบวิศวกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น บริษัท ไซแมนเทค กล่าวเสริมว่า แต่ละปีภาคเอกชนทั่วโลกมีการลงทุนด้านไซเบอร์ซีเคียวริตี้ราว 6-8% ของงบประมาณทั้งหมด ขณะที่ การโจมตีทางไซเบอร์รุนแรงและ ซับซ้อนขึ้น ในปี 2561 เครือข่ายของ ไซแมนเทคต้องสกัดกั้นการโจมตีกว่า 142 ล้านรายการต่อวัน โดยไทยติดอันดับ 7 ของประเทศที่ถูกโจมตีมากที่สุดในทวีปเอเชีย-แปซิฟิก ซึ่งแม้จะเป็นอันดับเดิมเท่ากับปี 2560 แต่จำนวนครั้งมีมากขึ้น

"สถิติทั่วโลกพบว่า ภัยจาก malware เพื่อทำลายและทำให้ธุรกิจชะงัก เพิ่มขึ้น 25% ransomware หรือเรียกค่าไถ่ข้อมูล เพิ่ม 12% มีอุปกรณ์โมบายตกเป็นเหยื่อเพิ่ม 33% มีเว็บที่ถูกโจมตีเพิ่มขึ้น 56%”

ที่สำคัญคือ การโจมตีแบบ formjacking คือ การดักจับข้อมูลรหัสบัตรเครดิตจากเว็บอีคอมเมิร์ซ มีการตรวจพบกว่า 4,800 เว็บไซต์ต่อเดือน เฉพาะช่วงเทศกาล ช็อปปิ้งออนไลน์คือ เดือน พ.ย.และ ธ.ค. มีกว่า 1 ล้านครั้ง ซึ่งคาดว่าอาชญากรไซเบอร์สามารถขายข้อมูลบัตรเครดิตได้ในราคา 45 เหรียญสหรัฐต่อใบ เฉพาะกรณีโจมตีระบบของบริติช แอร์เวย์สครั้งเดียวก็ได้เงินไปกว่า 17 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการโจมตีด้วยการฝังสคริปต์ไว้ในอุปกรณ์ระบบสำคัญที่ต้องใช้ในการประมวลผลระบบ อาทิ PowerShell มีมากขึ้นถึง 1,000% ซึ่งยากจะบล็อกหรือลบออกจากระบบได้ ขณะที่การ พุ่งเป้าโจมตีระบบของซัพพลายเชนหรือคู่ค้าขององค์กรเป้าหมายยังเพิ่มถึง 78% เนื่องจากไม่สามารถบังคับให้ คู่ค้าที่เข้ามาเชื่อมต่อระบบ ลงทุนไอทีให้มีมาตรฐานเดียวกันได้ จึงกลายเป็นช่องโหว่ของภัยไซเบอร์

"ที่ต้องจับตาคือ การโจมตีอุปกรณ์ IOT (อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์) ที่ยังมีเทคโนโลยีป้องกันไม่แข็งแรง ซึ่งพบกว่า 5,200 ครั้งต่อเดือน และมีแนวโน้ม เพิ่มสูงจากการเปิดให้บริการ 5G เชิงพาณิชย์ ที่คาดว่ามูลค่าตลาดจะเพิ่มจาก 528 ล้านเหรียญสหรัฐในปีที่แล้วเป็น 26 พันล้านเหรียญสหรัฐใน ปี 2565 โดยมีกล้องและเราเตอร์เป็นเป้า ซึ่งไซแมนเทคตรวจพบการโจมตี IOT ของหน่วยงานความมั่นคง การสื่อสารทางดาวเทียม และระบบซีเคียวริตี้ของอุตสาหกรรมการผลิตแล้ว”

ส่วนการโจมตีแบบ cryptojacking หรือ cryptominers ที่ลักลอบใช้ทรัพยากรในการประมวลผลและพลังงานของระบบคอมพิวเตอร์หรือคลาวด์ของเหยื่อ "ขุดเงินดิจิทัล" ลดลงถึง 52% เนื่องจากปี 2561 มูลค่าเงินดิจิทัลลดลงอย่างมาก อาทิ เงินดิจิทัล "MONERO" ที่ต้นปีมีมูลค่า 362 เหรียญสหรัฐ แต่ปลายปีเหลือเพียง 48 เหรียญสหรัฐ อาชญากรจึงหันไปโจมตี "ข้อมูล" ที่สร้างมูลค่าได้มากกว่า

"สิ่งสำคัญขององค์กรในยุคนี้คือ ต้องเตรียมพร้อมรับมือกับภัยไซเบอร์ ทั้งในแง่ของระบบและการซักซ้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุ ใช้เทคโนโลยีป้องกันที่ หลากหลาย ฝึกอบรมบุคลากร สร้างความตระหนักในการใช้งานของคนในองค์กร โดยเฉพาะอีเมล์ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นช่องโหว่ รวมถึงต้องมอนิเตอร์ระบบอย่างสม่ำเสมอ”

Source: ประชาชาติธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 24) 'สงครามการค้า' ฉุดส่งออกทรุด กดศก. - คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ประชุมเมื่อ 20 มี.ค. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% พร้อมปรับลดประมาณการ อัตราการเศรษฐกิจปีนี้เหลือโต 3.8% จากเดิมที่ 4% โดยเครื่องยนต์หลักที่อ่วม ก็คือ "การส่งออก" ที่ได้รับผลกระทบหนักขึ้นจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะผลจากมาตรการกีดกันการค้าของสหรัฐ จึงปรับลดคาดการณ์ "การส่งออก" โตเพียง 3.0% จากเดิมที่ 3.8% อย่างไรก็ตาม ในปี'63 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับมาโตขึ้นที่ 3.9% และการส่งออกอยู่ที่ 4.1%

"เชาว์ เก่งชน" กรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ให้มุมมองว่า ไตรมาสแรกปีนี้ มีโอกาสที่การส่งออกจะ "ติดลบ" และโมเมนตัมในระยะต่อไปไม่ดีนัก จากปัจจัย "การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก" สะท้อนจากเศรษฐกิจของสหรัฐ ที่มีทิศทางชะลอตัวลง ซึ่งล่าสุดเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายและส่งสัญญาณไม่ขึ้นดอกเบี้ยตลอดปี นอกจากนี้ ยังมีเศรษฐกิจของจีนที่ชะลอตัว และฐานปีก่อนที่ส่งออกโตสูงด้วย

ขณะที่ "สงครามการค้า" ระหว่างสหรัฐและจีน ที่ดูเหมือนสถานการณ์จะดีขึ้น แต่ก็ยังคงไม่มีข้อยุติ ส่งผลให้จีนที่เจอกำแพงภาษี ต้อง "ลด" การนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตจากไทยลง กดดัน "การส่งออก" ของไทยชะลอตัวลงอีก อย่างไรก็ตาม คงต้องลุ้นให้มีการประชุมของผู้นำทั้งสหรัฐและจีนต่อไป

"ขณะนี้ศูนย์วิจัยฯ กำลังติดตามดูตัวเลขการส่งออกของเดือน ก.พ. 62 และทิศทางหลังผลการเลือกตั้งในวันที่ 24 มี.ค.นี้ว่าเป็นอย่างไร จึงจะพิจารณาว่าจะมีการปรับประมาณการใหม่หรือไม่”

ฟาก "ตรรก บุนนาค" ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านโกลบอล มาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า โมเมนตัมการส่งออกของไทยครึ่งปีแรก น่าจะเห็นตัวเลข "ติดลบ" เนื่องจากปัจจัยหลักอย่าง "สงครามการค้า" ที่กระทบการค้าขายของหลายประเทศที่มีความต้องการนำเข้าสินค้าจากไทย อาทิ สหรัฐ ยุโรป หรือเอเชีย ส่งผลให้การส่งออกของไทยชะลอตัว ประกอบกับช่วงต้นปีที่แล้วส่งออกโตสูงด้วย

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่อง "อัตราแลกเปลี่ยน" ที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า "ค่าเงินบาท" ยังอยู่ระดับ "แข็งค่า" ซึ่งจะกระทบต่อ "มูลค่า" การส่งออกของไทยลดลงด้วย

"มองไประยะข้างหน้า ยังคงไม่มีความแน่นอนเรื่องสงครามการค้า ที่ปัจจุบันยังมีความตึงเครียดกันอยู่ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่อง short-term แต่เป็น long-term ส่วนจะหวังให้การส่งออกกลับมาเป็นบวกนั้น อาจต้องดูเป็นรายของประเภทสินค้าต่อไป”

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันยังเป็นช่วงที่ตลาดกำลังปรับตัวเพื่อจะหาทางทำการค้าขายให้ได้อย่างต่อเนื่อง เช่น การหาคู่ค้าใหม่ที่สงครามการค้ากระทบน้อย เป็นต้น

นับวัน "สงครามการค้า" จะออกฤทธิ์ต่อการส่งออกทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศที่พึ่งพิงภาคส่งออกในการหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ อย่างไทย ซึ่งยัง 3 วันดี 4 วันไข้ เพราะเดือน ม.ค. 62 ส่งออกติดลบ 5.65% มาเดือน ก.พ. โต 5.9% สูงสุดรอบ 4 เดือน แต่เป็นเพราะมี การส่งออกอาวุธ ซึ่งหากไม่รวมปัจจัยพิเศษจะพบว่า ส่งออกไทยติดลบ 3.4%

คงต้องติดตามต่อไปว่าการส่งออกจะ "ฟื้นตัว" กลับมาได้หรือไม่

Source: ประชาชาติธุรกิจ

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 24) โตเกียวขึ้นแท่นเมืองสุดฮิต ที่คนไทยไปเยือนมากสุดช่วงสงกรานต์: คนไทยยุคนี้ไปเที่ยวต่างประเทศกันมากขึ้นในช่วงหยุดยาว และในช่วงสงกรานต์ปีนี้พบว่าโตเกียวเป็นจุดหมายปลายทางที่คนไทยไปเยือนมากที่สุด เป็นข้อมูลจากการจองห้องพักใน Agoda

ในช่วงเทศกาลหยุดยาวของประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นวันปีใหม่ หรือวันสงกรานต์ ถือเป็นช่วงเทศกาลแห่งการท่องเที่ยวของคนไทยเช่นกัน บางคนอาจจะกลับบ้านต่างจังหวัดไปหาญาติ หรือครอบครัว แต่บางคนเลือกที่จะไปเที่ยวพักผ่อน

จากฐานข้อมูลการจองห้องพักของ Agoda ในช่วงสงกรานต์ที่จะถึงนี้ พบว่าเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นเป็นจุดหมายปลายทางที่คนไทยไปเยือนมากที่สุด โดยไต่ขึ้นมาจากอันดับที่ 7 ในปี 2018

จากข้อมูลการจองที่พักผ่านเว็บไซต์อโกด้าในช่วงสงกรานต์ของคนไทย พบว่า 4 ใน 10 อันดับเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมช่วงสงกรานต์ของคนไทยอยู่ในต่างประเทศ โดยเมืองท่องเที่ยวยอดนิยมที่มีคนไทยจองที่พักมากที่สุดในช่วงวันหยุดสงกรานต์ ได้แก่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งในปีนี้กระโดดขึ้นมาล้มแชมป์เก่าสองสมัยอย่างกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ยังมีเมืองอย่างโอซาก้าในประเทศญี่ปุ่น กรุงโซลในประเทศเกาหลีใต้ และกรุงไทเป เมืองหลวงของเกาะไต้หวัน ที่ในปีนี้เลื่อนขึ้นมาติดอันดับท็อป 10 เป็นปีแรกแทนที่จังหวัดท่องเที่ยวในประเทศ

โดยที่ในปีก่อนๆ คนไทยยังนิยมเที่ยวในประเทศอยู่ สถานที่สำคัญที่คนไทยไปเยือน ได้แก่ กรุงเทพฯ, พัทยา, หัวหิน, ภูเก็ต, เชียงใหม่, กระบี่, เกาะช้าง, กาญจนบุรี และระยอง

การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยในประเทศญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และไต้หวัน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเลือกเดินทางไปเที่ยวในต่างประเทศมากขึ้น นอกจากนี้ประเทศเหล่านี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นแม่เหล็กดึงดูดคนไทยอย่าง ย่านชิบูยะในกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นย่านอินเทรนด์ของคนรักแฟชั่น พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูคังในเมืองโอซาก้า หนึ่งในพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก พระราชวังคย็องบกกุงในกรุงโซล หรือตึกไทเป 101 ในกรุงไทเป แลนด์มาร์กชื่อดังที่ผู้คนมักขึ้นไปชมทัศนียภาพมุมสูงของเมือง

โดย Ratirita

Source: Brandinside.asia
https://brandinside.asia/tokyo-destination-songkran-2019/

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 25) นายกฯอังกฤษถูกบีบให้ลาออกเพื่อช่วยเบร็กซิต: นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ของอังกฤษกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากในพรรคอนุรักษ์นิยมของตัวเองให้ลาออกหรือไม่ก็กำหนดวันลาออก ทั้งนี้ก็เพื่อหาเสียงสนับสนุนตามแผนการเบร็กซิต

สำนักข่าวเอพีรายงานจากกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเมื่อวันที่ 24 มี.ค.ว่า สื่อมวลชนของอังกฤษรายงานว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษกำลังถูกกดดันอย่างหนักจากแกนนำระดับอาวุโสภายในพรรคอนุรักษ์นิยมของเธอ เพื่อให้ปรับปรุงจุดยืนทางการเมืองของตนเองให้เข้มแข็งขึ้นและลาออกหรือไม่ก็กำหนดวันลาออกจากตำแหน่ง แต่ยังไม่มีสัญญาณบ่งบอกจากทำเนียบนายกรัฐมนตรีอังกฤษเรื่องการลาออกแต่อย่างใดในขณะนี้

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ยอมรับว่าไม่สามารถที่จะหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมเพื่อการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปหรือที่เรียกกันว่า เบร็กซิตโดยไม่มีการทำข้อตกลง ซึ่งสมาชิกสภาสามัญลงมติไม่เห็นชอบถึงสองครั้งแล้ว แต่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ก็ยังมองถึงความเป็นไปได้ที่จะนำแผนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปเข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาอีกเป็นครั้งที่สาม หากได้รับเสียงสนับสนุนอย่างเพียงพอ

อังกฤษมีกำหนดที่จะต้องออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 12 เม.ย.นี้ หากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงหรือดำเนินการในทางอื่นๆให้เป็นผล

Source: เดลินิวส์ออนไลน์
https://www.ft.com/content/784f1f70...EM-5vOmu3_TRE0kke-uXpnLowx6Bz4PwMrTlO_hTq_W6Q

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 25) ลุ้นรัฐบาลใหม่บูมศก. - เอกชนขอรัฐบาลใหม่ลดเหลื่อมล้ำ ดูแลราคาสินค้าเกษตร สร้างความสามารถแข่งขัน ช่วยดึงลงทุน-การค้า

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า สิ่งที่ภาคเอกชนคาดหวังจากการเลือกตั้งในครั้งนี้ อยากให้คนในประเทศออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งมากที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศต้องการการเมืองใน รูปแบบใด และเมื่อออกมาใช้สิทธิแล้วก็อยากให้ทุกคนยอมรับในกติกาที่ได้กำหนดไว้ รวมถึงรัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามาบริหารงาน ก็อยากให้เดินหน้านโยบายตามที่ประกาศไว้

ทั้งนี้ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการขับเคลื่อนคือ ต้องการให้ผลักดันการลดความเหลื่อมล้ำในประเทศ การเพิ่มบริโภคในประเทศ การเพิ่มราคาสินค้าเกษตร พร้อมกับผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ เมกะโปรเจกต์ ตามที่รัฐบาลปัจจุบันได้วางนโยบายและประกาศไว้ รวมถึงการร่วมลดปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศ

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวว่า สิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาขับเคลื่อนประเทศเร่งด่วน ในส่วนของเศรษฐกิจคือเร่งเจรจาเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ยังค้าง เช่น เอฟ

ทีเอไทย-สหภาพยุโรป ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) ระหว่างอาเซียนและ 6 ประเทศคู่เจรจา ความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (ซีพีทีพีพี) เพราะการค้าโลกปัจจุบันกีดกันมากขึ้น โดยเฉพาะสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน (เทรดวอร์) และไทยกำลังถูกตัดสิทธิพิเศษทางภาษี (จีเอสพี) เพิ่ม ส่วนการลงทุนต้องการให้รัฐบาลใหม่สานต่อโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อดึงการลงทุนจากต่างชาติ

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่เข้ามาสานต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจ เช่น การส่งเสริมให้การทำธุรกิจที่ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น อีอีซีและโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง รวมทั้งเจรจาเอฟทีเอในกรอบต่างๆ เพราะนักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ต้องการให้เดินหน้าโครงการเหล่านี้ต่อ

นายนริศ สถาผลเดชา หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า สิ่งที่ภาคธุรกิจคาดหวังจากการเลือกตั้งคือ ความชัดเจนการตั้งรัฐบาล แนวทางดำเนินนโยบาย เพื่อให้เห็นภาพเศรษฐกิจว่าจะเดินไปข้างหน้าอย่างไร ซึ่งเป็นผลดีต่อภาคธุรกิจดำเนินงานต่อไป

Source: Posttoday

 

Gracie Newman

ถังของเกษตรกรใน Hamburg, IA
Farmer’s bins in Hamburg, IA

 

The Momentum

ก่อนจะหยุดแถลงไปดื้อๆ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. แถลงสรุปผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ ณ ขณะที่นับคะแนนไป 90% ผลคือมีผู้ออกมาใช้สิทธิที่ 65.96% มีบัตรเสีย 5.6% และมีผู้โหวตโน 1.5% แต่ตัวเลขที่ออกมาก็ก่อให้เกิดความสงสัยสำหรับชาวเน็ต
.
ส่วนข้อมูลล่าสุดที่นับคะแนนไป 93% (ดูจากไลฟ์ในหน้าเพจเฟสบุ๊กของ กกต.) ผลคือ พรรคเพื่อไทย อันดับ 1 ได้ ทั้งหมด 129 ที่นั่ง ทั้งหมดเป็น ส.ส.เขต ไม่มีปาร์ตี้ลิสต์ / พรรคพลังประชารัฐ 118 ที่นั่ง ส.ส.เขต 100 ปาร์ตี้ลิสต์ 18 / พรรคอนาคตใหม่ 78 ที่นั่ง ส.ส. เขต 27 ปารตี้ลิสต์ 51 / พรรคภูมิใจไทย 52 ที่นั่ง ส.ส.เขต 39 และปาร์ตี้ลิสต์ 13 / ประชาธิปัตย์ 50 ที่นั่ง ส.ส. เขต 30 ปาร์ตี้ลิสต์ 20
.
มีผู้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวเลขที่รายงานออกมาในช่วงค่ำที่ผ่านมา ตอนที่ กกต.ระบุตัวเลขผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งว่ามี 20,611,660 คน แต่เมื่อลองนำคะแนนของแต่ละพรรคที่ออกมาบวกรวมกันเองแล้ว กลับมีคะแนนถึง 24,399,128 คะแนน ขณะที่ในบางเขตเลือกตั้งมีคะแนนล้นเกินถึง 3 แสนคะแนน ทั้งที่ตัวเลขผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลับมีไม่เกิน 2 แสนคน
.
อีกข้อสงสัยคือจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง จากที่มีการคาดคะเนจาก กกต. ว่าจากจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 51,427,890 คน น่าจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิ 40 ล้านคน แต่ผลที่ออกมากลับมีคนออกมาใช้สิทธิที่หลัก 30 ล้านคน คิดเป็น 65.96% ซึ่งน้อยกว่าที่คาดการณ์เอาไว้กว่า 10 ล้านคนทีเดียว
.
ยังมีอีกหลายประเด็นที่เป็นที่จับตา เช่นเรื่องบัตรเลือกตั้งจากต่างประเทศที่มาไม่ทัน จะนับเป็นบัตรเสียหรือไม่ จนมีผู้ตั้งแคมเปญถอดถอน กกต. ในเว็บไซต์ change.org ซึ่ง ณ เวลา 12.22 น. มีผู้ลงชื่อแล้วกว่า 83,959 คนแล้ว และมีการตั้งเป้าหมายไว้ที่ 150,000 คน
.
ในค่ำคืนวันที่ 24 มีนาคม ไม่มีสัญญาณจาก กกต. แล้ว แต่มีการแจ้งว่า กกต. จะแถลงข่าวในวันที่ 25 มีนาคม เวลา 14.00 (จากเดิมที่แจ้งไว้ว่าจะแถลง 10.00)

ภาพโดย Athit Perawongmetha / REUTERS

 

หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางเรืออังกฤษปะทะฮูตีถูกยิงกลิ้ง 5 คน
หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางเรืออังกฤษปะมะฮูตีถูกยิงกลิ้ง 5 คน
ข่าวต่างประเทศ By THITIPHAN On มี.ค. 24, 2019


หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางเรือของกองทัพเรืออังกฤษเกิดปะทะกับนักรบฮูตีกลางทะเลทรายทางตอนเหนือของเยเมนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ 5 คน

หน่วยปฏิบัติการพิเศษทางเรือของกองทัพเรืออังกฤษ(SBS)เกิดปะทะกับนักรบฮูตีบริเวณภูเขาในเขตซาดาทางตอนเหนือของเยเมน แหล่งข่าวไม่เปืดเผยชื่อเปิดเผยกับเดอะเมล์ว่าหน่วยปฏิบัติการพิเศษได้รับบาดเจ็บโดยถูกยิงที่ขาและมือรวม 5 คนและถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่ประเทศอังกฤษ

ก่อนหน้านี้กองกำลังของอังกฤษไม่เคยปะทะโดยตรงกับกลุ่มนักรบฮูตีเลย อังกฤษส่งทหารเข้าไปในเยเมนเพื่อทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาและฝึกอบรมให้กับกองกำลังของซาอุดิอาระเบียที่ตัวเองสนับสนุนและจัดหาอาวุธให้ซาอุดิอาราเบียในการทำสงครามในเยเมน มีการเปิดผยว่ากองกำลังพิเศษของอังกฤษปฏิบัติการอยู่ในเขตซาดาทางตอนเหนือของเยเมนประมาณ 30 คนซึ่งเป็นเขตยึดครองของกลุ่มติดอาวุธฮูตี

https://sawasdeenews.com/2019/03/24...tFowO7LF9ckPkWKxJxrUtpN0BNe__HF4WKsVTupdYrwe4

 

คอลัมน์นอกหน้าต่าง: เมื่อ‘ทรัมป์’รับรอง‘ที่ราบสูงโกลาน’เป็นของอิสราเอล ก็หมดสิทธิคัดค้านรัสเซียเข้าผนวก‘แหลมไครเมีย’
เผยแพร่: 25 มี.ค. 2562 00:52 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทหารอิสราเอลยืนรักษาการณ์อยู่ที่จุดข้ามแดนกูเนตรา (Quneitra) ในที่ราบสูงโกลานซึ่งอิสราเอลยึดครองเอาไว้ เตรียมรับมือกับการเดินขบวนประท้วงที่คาดว่าจะเคลื่อนมาจากชายแดนฝั่งซีเรีย เพื่อคัดค้านเรื่องที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ประกาศจะยอมรับว่าอิสราเอลมีอธิปไตยเหนือโกลาน (ภาพถ่ายเมื่อ 23 มี.ค.)
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำลังทำลายบรรทัดฐานทางการทูตอีกครั้งหนึ่งแล้ว โดยอุ้มชูหนุนหลังการที่อิสราเอลเข้ายึดครองที่ราบสูงโกลานของซีเรีย ขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญพากันเตือนว่า การกระทำเช่นนี้เท่ากับว่าเขากำลังเสี่ยงภัย ที่จะสร้างความชอบธรรมให้แก่การรุกรานขยายดินแดนของประเทศอื่นๆ ไปด้วยในตัว

อิสราเอลมีชัยชนะทางการทหารและยึดครองที่ราบสูงโกลานจากซีเรียในช่วง “สงคราม 6 วัน” เมื่อปี 1967 และประกาศผนวกเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตนในปี 1981 ทว่าจวบจนกระทั่งถึงเวลานี้ ประชาคมระหว่างประเทศไม่เคยยอมรับความเคลื่อนไหวเช่นนั้นของรัฐยิวเลย และมีความวาดหวังกันอยู่ว่าดินแดนส่วนนี้อาจจะได้ทำหน้าที่เป็นหมากตัวหนึ่งสำหรับใช้ในการต่อรองกัน ในการทำความตกลงสันติภาพกันระหว่างประเทศต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอนาคตข้างหน้า

แต่แล้วทรัมป์ได้โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดี (21 มี.ค.) ที่ผ่านมา เรียกร้องให้ดำเนินการแบบหักเลี้ยวทางการทูตอย่างฉับพลัน โดยบอกว่าหลังจากเวลาผ่านมาแล้ว 52 ปี “มันถึงเวลาแล้วสำหรับสหรัฐฯที่จะให้การรับรองอย่างเต็มที่” ว่าที่ราบสูงโกลานเป็นดินแดนในอธิปไตยของอิสราเอล

ความเคลื่อนไหวเช่นนี้ –ซึ่งน่าสังเกตว่าบังเกิดขึ้นขณะที่พันธมิตรในอิสราเอลของทรัมป์ ซึ่งก็คือนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู กำลังต้องต่อสู้ศึกเลือกตั้ง-- ปรากฏว่าได้ก่อให้เกิดความผิดหวังระคนความสะดุ้งหวั่นไหว แม้กระทั่งในหมู่พวกชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ โดยที่อังกฤษกับฝรั่งเศสต่างออกมาแถลงว่า พวกเขายังคงถือว่าที่ราบสูงโกลานเป็นดินแดนที่ถูกอิสราเอล “ยึดครอง”

ริชาร์ด ฮาสส์ (Richard Haass) ประธานของกลุ่ม “สภาว่าด้วยความสัมพันธ์กับต่างประเทศ” (Council on Foreign Relations) กลุ่มคลังความคิดทรงอิทธิพลทางด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ตั้งฐานอยู่ในนิวยอร์ก กล่าวแสดงความหวั่นกลัวผลต่อเนื่องของการละทิ้งไม่กระทำตามมติหมายเลข 242 (Resolution 242) ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งเน้นย้ำถึง “การไม่สามารถที่จะยอมรับได้ถึงการเข้าครอบครองดินแดนที่ได้มาจากสงคราม” มตินี้ผ่านออกมาภายหลังจากสงคราม 6 วัน

“นี่เป็นหลักการข้อรากฐานที่สุดของระเบียบระหว่างประเทศ และก็ถูกใช้เป็นพื้นฐานสำหรับการที่สหรัฐฯคัดค้านซัดดัม ฮุสเซนที่เข้าสู้รบและยึดครองคูเวต และการที่ปูตินยึดครองแหลมไครเมีย” ฮาสส์ กล่าว โดยอ้างอิงถึงสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 1991 ซึ่งกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯประสบความสำเร็จในการปลดปล่อยคูเวตให้เป็นอิสรเสรีจากซัดดัม และการที่รัสเซียเข้ายึดครองแหลมแห่งนี้จากยูเครนเมื่อปี 2014

ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์ผู้ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีอเมริกันผู้นี้ ได้แสดงการเมินเฉยไม่ยี่หระต่อระเบียบข้อตกลงระหว่างประเทศทั้งหลายอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ เมื่อเดือนธันวาคม 2017 ทรัมป์ได้ประกาศรับรองว่านครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งเป็นการเติมเต็มเป้าหมายใหญ่ข้อหนึ่งของรัฐยิวแห่งนี้

ในการให้สัมภาษณ์ทางทีวี ไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯออกมาแก้เนื้อแก้ตัวให้แก่บิ๊กบอสของเขา โดยปฏิเสธไม่ยอมรับความคิดเห็นของฝ่ายต่างๆ ที่ว่า สหรัฐฯกำลังทำตัวมีมาตรฐานสองมาตรฐาน ด้วยการยอมรับอธิปไตยของอิสราเอลในที่ราบสูงโกลาน แต่ขณะเดียวกันก็ประกาศใช้มาตรการลงโทษคว่ำบาตรรัสเซียจากกรณีเข้าผนวกแหลมไครเมีย

“สิ่งที่ท่านประธานาธิบดีทำในกรณีที่ราบสูงโกลาน คือการยอมรับความเป็นจริงในภาคสนาม และสถานการณ์ความมั่นคงปลอดภัยที่จำเป็นสำหรับการพิทักษ์ปกป้องรัฐอิสราเอล มันเป็นเรื่องง่ายๆ แค่นี้เอง” เขาบอกกับทีวีสกายนิวส์

พอมเพโออวดโอ่วาดภาพของสหรัฐฯว่าเป็น “พลังเพื่อคุณงามความดี” ในภูมิภาคตะวันออกกลาง และเป็นชาติซึ่งมีเจตนารมณ์อัน “มีเกียรติสูงส่ง”

“เราต้องการผลลัพธ์ในทางดีงาม ... สำหรับทุกๆ ชาติในตะวันออกกลาง และการตัดสินใจที่ท่านประธานาธิบดีกระทำไปแล้วจะเพิ่มพูนโอกาสสำหรับให้ที่นั่นเกิดเสถียรภาพตลอดทั่วทั้งภูมิภาค” เขากล่าว



ชาวบ้านซึ่งพำนักอาศัยในที่ราบสูงโกลาน โบกธงชาติซีเรียและธงของชาวดรูซ ขณะพวกเขาประท้วงเรื่องที่ทรัมป์จะรับรองว่าโกลานเป็นของอิสราเอล ณ หมู่บ้านมัจดัล ชามส์ ในเขตที่ราบสูงโกลานที่อิสราเอลยึดครองอยู่ (ภาพถ่ายเมื่อ 23 มี.ค.)

กฎของสัตว์ป่า

อย่างไรก็ตาม คาร์ล บิลด์ต (Carl Bildt) อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของสวีเดนระบุว่า การกระทำของทรัมป์คือการหวนกลับไปใช้กฎแห่ง “สัตว์ป่า”

“นี่คือการผละออกจากสิ่งที่เป็นพื้นฐานจริงๆ ของกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดความวิบัติหายนะขึ้นมา วังเครมลินจะต้องปรบมืออย่างยินดีและใช้หลักการเดียวกันนี้กับแหลมไครเมีย ปักกิ่งก็จะปรบมืออย่างยินดีและใช้กับทะเลจีนใต้” บิลด์ต ทวิตด้วยข้อความเช่นนี้

ทางด้าน ซีเรีย และชาติพันธมิตรของพวกเขาอย่างอิหร่าน ต่างพากันประณามความเคลื่อนไหวเช่นนี้ของทรัมป์ ซึ่งก็เป็นสิ่งที่คาดหมายได้อยู่แล้ว ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจป ตอยยิป แอร์โดอัน ของตุรกี –ซึ่งหวาดเกรงว่าซีเรียที่แตกออกเป็นเสี่ยงจะทำให้ชาวเคิร์ดมีโอกาสที่จะตั้งรัฐเอกราชขึ้น และส่งผลสะเทือนไปถึงชาวเคิร์ดส่วนที่อาศัยอยู่ในตุรกีเอง— แถลงว่า ทรัมป์กำลังสร้าง “วิกฤตการณ์ครั้งใหม่” ขึ้นมา และเรียกร้องให้องค์การความร่วมมืออิสลาม (Organization of the Islamic Cooperation หรือ OIC) เข้าขัดขวางเรื่องนี้

แม้กระทั่งพวกชาติพันธมิตรของสหรัฐฯก็แสดงความวิตกเกี่ยวกับความหมายโดยนัยของเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศฝรั่งเศสกล่าวในคำแถลงฉบับหนึ่งว่า การยอมรับอธิปไตยของอิสราเอลเหนือที่ราบสูงโกลาน “จะเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพันธะผูกพันสำหรับรัฐต่างๆ ที่จะต้องไม่รับรองไม่ยอมรับสถานการณ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย”

สตีเวน คุก (Steven Cook) ผู้เชี่ยวชายด้านตะวันออกกลางของกลุ่ม “สภาว่าด้วยความสัมพันธ์กับต่างประเทศ” แสดงความข้องใจว่าจำเป็นหรือที่จะต้องสั่นคลอนเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมที่ดำรงมายาวนานหลายสิบปีแล้ว โดยระบุว่าการรับรองของสหรัฐฯมีแต่จะจุดชนวนให้เกิดการคัดค้านต่อต้านขึ้นมา ในดินแดนซึ่งจริงๆ แล้วอิสราเอลควบคุมเอาไว้เป็นเวลายาวนาน และได้อพยพโยกย้ายชาวอิสราเอลราว 20,000 คนเข้าไปตั้งถิ่นฐานกันที่นั่นแล้วด้วย

“ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องให้การรับรองอะไรหรอก อิสราเอลเข้าไปอยู่ในที่ราบสูงโกลานเนื่องจากเหตุผลต่างๆ ของพวกเขาเอง และไม่มีการตัดสินใจใดๆ ของคณะบริหารทรัมป์จะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้” เขาเขียนเอาไว้เช่นนี้ในบทความชิ้นหนึ่งในนิตยสาร “ฟอเรนจ์ โพลิซี” (Foreign Policy)

อิลัน โกลเดนเบิร์ก (Ilan Goldenberg) แห่งกลุ่มคลังความคิด “นิว อเมริกัน ซีเคียวริตี” ก็บอกว่า การตัดสินใจของทรัมป์คือ “การแหย่รังแตน ซึ่งไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องไปแหย่เลย”

“นอกจากนั้น มันยังทำให้เป็นเรื่องลำบากจริงๆ สำหรับสหรัฐฯที่จะยังคงต่อสู้คัดค้านการเข้าผนวกไครเมียของรัสเซีย โดยอิงอาศัยหลักการที่ว่าการเข้ายึดดินแดนด้วยกำลังนั้นเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย มาถึงตอนนี้เราไม่มีความชอบธรรมใดๆ ที่จะอ้างอิงหลักการนั้นอีกแล้ว และฝ่ายรัสเซียก็จะฉวยใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้” เขาบอกทางทวิตเตอร์

“ดังนั้น ทำไมต้องทำเรื่องนี้ด้วย? เพราะนี่จะเป็นสิ่งดีเยี่ยมสำหรับการเมืองของบีบี้ (Bibi)”นั่นเอง เขากล่าวต่อ โดยที่ “บีบี้” คือชื่อเล่นของเนทันยาฮู

(เก็บความจากเรื่อง Accepting Golan annexation Trump risks new precedents ของสำนักข่าวเอเอฟพี)

https://mgronline.com/around/detail/9620000029450

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Mar 25) อียูเมินแบนอุปกรณ์'หัวเว่ย'เล็งแชร์ความเสี่ยงไซเบอร์ :คณะกรรมาธิการยุโรปซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป (อียู) จะขอให้ชาติสมาชิกแบ่งปันข้อมูลเพื่อรับมือกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยไซเบอร์ แต่จะไม่ห้ามใช้อุปกรณ์ "หัวเว่ย" ของจีนในการวางเครือข่าย 5จี ตามคำขู่ของสหรัฐ

นายอันดรุส อันซิป กรรมาธิการยุโรปด้าน ตลาดร่วมดิจิทัลจะนำเสนอข้อคิดเห็นในวันอังคารนี้ (26 มี.ค.) แม้ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย แต่จะมีน้ำหนักทางการเมืองที่อาจนำไปสู่การออก กฎหมายระดับประเทศของแต่ละชาติสมาชิก

แหล่งข่าวเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า นายอันซิปจะขอให้ชาติสมาชิกใช้ชุดเครื่องมือที่กำหนดไว้ในคำสั่งอียูว่าด้วยความปลอดภัยเครือข่ายและระบบข่าวสารปี 2559 และกฎหมายความปลอดภัยไซเบอร์ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบเมื่อไม่นานมานี้

ชาติสมาชิกควรแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสานกันเรื่องผลการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการออกใบรับรองอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ 5จี แต่จะไม่ขอให้มีคำสั่งระดับยุโรปห้ามการใช้ อุปกรณ์ของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยีส์ จะปล่อยให้เป็นการตัดสินใจของชาติสมาชิกเอง

คำแนะนำนี้ถือว่าเข้มงวดต่อการลงทุนของ จีนมากขึ้น หลังจากปล่อยให้จีนเข้าถึงตลาดอียู อย่างอิสระมาหลายปี ปัจจุบัน จีนครองตลาด อุปกรณ์ในการผลิตสินค้าไฮเทคมากถึง 70% ของทั้งโลก

ขณะที่สหรัฐพยายามโน้มน้าวให้ยุโรปปิดตลาดไม่ให้หัวเว่ยเข้ามา โดยอ้างว่าอาจถูก ปักกิ่งใช้เป็นช่องทางจารกรรม แต่หัวเว่ยยืนกรานปฏิเสธและยื่นฟ้องสหรัฐไปเมื่อต้นเดือนนี้

Source: กรุงเทพธุรกิจ
https://www.cnbc.com/2019/03/22/eu-...xnASnkpyug1TVmh8o9_OGWUKrPZAcq1d3Z1ReVOQ5D664

 

In Pics&Clips: เครื่องยนต์ 3 ตัวของเรือโดยสารนอร์เวย์ “ไวกิ้ง สกาย” เริ่มติด หลังฮ.กู้ภัยต้องเข้าช่วยผดส.กว่าพันจ้าละหวั่นทั้งคืน เผยแพร่: 24 มี.ค. 2562 15:46 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี/เอพี - เรือครุยซ์โดยสารสัญชาตินอร์เวย์ “ไวกิ้ง สกาย” (Viking Sky) ที่เกิดปัญหาขัดข้องทางเครื่องยนต์ท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายนอกฝั่งทางตะวันตกห่างออกไปราว 2 กิโลเมตรในวันเสาร์(23 มี.ค) ขณะที่มีผู้โดยสารจำนวน 1,300 คนบนลำพร้อมลูกเรือ จนทำให้ต้องส่งฮ.เข้าช่วยเหลือ ล่าสุดวันอาทิตย์(24 มี.ค)เจ้าหน้าที่กู้ภัยนอร์เวย์ชี้ เครื่องยนต์ 3 ตัวจากทั้งหมด 4 ตัวเริ่มต้นทำงานอีกครั้ง

เอเอฟพีรายงานวันนี้(24 มี.ค)ว่า เปอร์ ฟเยลด์ (Per Fjeld) โฆษกสำนักงานฉุกเฉินนอร์เวย์กล่าวว่า “เครื่องยนต์ 3 ตัวจากทั้งหมด 4 ตัวทำงาน ซึ่งหมายความว่าเรือสามารถออกเดินทางได้ด้วยตัวเองแล้ว”

ทั้งนี้พบว่าเรือสัญชาตินอร์เวย์ “ไวกิ้ง สกาย” หมดพลังงานลงและเริ่มวิ่งช้าลงช่วงครึ่งบ่ายของวันเสาร์(23)ห่างออกนอกฝั่ง More og Romsdal ออกไปราว 2 กิโลเมตร โดยอยู่ในเขตน่านน้ำอันตรายและคลื่นสูง ส่งผลให้กับตันเรือครุยซ์โดยสารไวกิ้ง สกายส่งสัญญาณเอสโอโอเอสเพื่อขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน และทำให้เกิดการอพยพทางอากาศครั้งมโหฬาร

ฟเยลด์กล่าวว่า ปฎิบัติการอพยพทางอากาศยังคงดำเนินมาจนถึงช่วงเช้าวันอาทิตย์(24)

ในขณะที่ตำรวจนอร์เวย์กล่าวว่า คนบนเรือจำนวน 338 คนจากทั้งหมด 1,375 คนได้ถูกนำตัวขึ้นฝั่งทางเฮลิคอปเตอร์ และมีผู้บาดเจ็บ 17 คนถูกนำส่งโรงพยาบาล ผู้โดยสารเรือส่วนใหญ่เป็นชาวอังกฤษหรืออเมริกัน

เอพีชี้ว่า ฟเยลด์ซึ่งเป็นโฆษกประจำสำนักงานกู้ภัยร่วมนอร์เวย์ใต้ (Joint Rescue Center Southern Norway) เปิดเผยว่า ไม่มีอันตรายต่อผู้โดยสารที่เหลือ และการอพยพทางอากาศสามารถช่วยเหลือได้ทุกคน และการกู้ภัยจะทำได้เร็วขึ้นเมื่อท้องฟ้าเริ่มสว่าง และสภาพอากาศดีขึ้นกว่านี้

โดยวิดีโอคลิปและภาพถ่ายที่ออกมาแสดงให้เห็นถึงสภาพผู้โดยสารเรือไวกิ้ง สกายถูกยกไปพร้อมกับเก้าอี้ และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆที่เคลื่อนจากด้านหนึ่งไปสู่อีกด้านหนึ่ง โดยผู้โดยสารสวมเสื้อชูชีพสีส้ม โดยเรือครุยส์โดยสารมีสภาพกระจกหน้าต่างแตกเนื่องมาจากความแรงของคลื่น และเท้าผู้โดยสารจมอยู่กับส่วนหนึ่งของน้ำทะเลที่เย็นแข็ง

หนึ่งในผู้โดยสารบนเรือเป็นชาวอเมริกัน จอห์น เคอร์รี (John Curry) เปิดเผยกับ NRK ว่า ระหว่างที่กำลังรับประทานอาหารเที่ยงพบว่าเรือเริ่มสั่น “มันเป็นแค่ความโกลาหล ฮ.ได้ขับจากเรือไปยังบนฝั่ง แต่ผมขอๆไม่คิดถึงมันจะดีกว่า มันไม่ค่อยดี” เคอร์รีกล่าวกับสิ่อกระจายเสียง NRK

ซึ่งทางNRK รายงานว่า ผู้โดยสารชายวัย 90 ปี และภรรยาวัย 70 ปีอยู่ในอาการสาหัส แต่ไม่ได้รายงานถึงการบาดเจ็บว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร

หลังจากนั้นมีรายงานออกมาว่า พบเรือคาร์โกขนส่งสินค้าที่มีลูกเรือจำนวน 9 คนต้องขอความช่วยเหลือจากบริเวณใกล้เคียง ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยท้องถิ่นต้องส่งฮ. 2 ลำจากทั้งหมด 5 ลำที่อยู่ในระหว่างปฎิบัติการกู้ภัยไวกิ้ง สกายให้หันไปช่วยเหลือเรือคาร์โกแทน

โดยเจ้าหน้าที่ได้ให้สัมภาษณ์กับ NRK ว่า เป็นพายุที่มีกำลังแรงและคลื่นสูงส่งผลทำให้เป็นอุปสรรคเจ้าหน้าที่กู้ภัยในการใช้เรือช่วยชีวิตหรือเรือจูงขนาดใหญ่เพื่อนำผู้โดยสารเข้าฝั่ง

ฟเยลด์กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยนอร์เวย์ในเวลานี้ให้ความสำคัญต่อชีวิตของลูกเรือ 9 คนที่อยู่บนเรือคาร์โกกัปตันฮากแลนด์(Hagland Captain) แต่ในภายหลังยืนยันว่า คนทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือ และฮ.ได้ถูกส่งกลับไปทำหน้าที่ในปฎิบัติการกู้ภัยเรือครุยซ์ไวกิ้ง สกาย

เอพีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่นอร์เวย์เปิดเผยในช่วงค่ำวันเสาร์(23)ว่า การอพยพจะทำกันตลอดทั้ง

คืนไปจนถึงวันอาทิตย์(24)

เรือไวกิ้ง สกายมีกำหนดการเดินทาง 12 วันที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 14 มี.คในเบอร์เกน (Bergen) เมืองทางตะวันตกของนอร์เวย์


















https://mgronline.com/around/detail/9620000029222

 

เรือหรูเครื่องพังลอยกลางทะเลคลั่ง นอร์เวย์ส่งฮ.รับคน-ลากเรือเข้าฝั่ง
เผยแพร่: 24 มี.ค. 2562 20:06 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เอเจนซีส์ – เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้เฮลิคอปเตอร์ช่วยอพยพผู้โดยสารอย่างปลอดภัยได้เกือบ 400 คนเมื่อช่วงเช้าวันอาทิตย์ (24 มี.ค.) จากทั้งหมด 1,373 คนบนเรือสำราญ “ไวกิ้ง สกาย” ที่ประสบปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องกลางทะเลนอกชายฝั่งนอร์เวย์ท่ามกลางคลื่นลมแรงจัด

เรือไวกิ้ง สกาย ที่มีผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งสิ้น 1,373 คน ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือเมื่อวันเสาร์ (23 มี.ค.) ระหว่างอยู่ในทะเลนอร์วีเจียน เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายทำให้เครื่องยนต์ของเรือขัดข้องและเรือเริ่มเบี่ยงออกนอกเส้นทาง ในเวลาต่อมา ตำรวจในเมืองมอร์ อ็อก รอมสตาล เปิดเผยว่า ลูกเรือที่กลัวว่าเรืออาจเกยตื้น สามารถทอดสมอนอกชายฝั่งใกล้เมืองโอลีซันด์เพื่อรอปฏิบัติการอพยพผู้โดยสาร

สื่อนอร์เวย์รายงานว่า ทีมกู้ภัยพร้อมเฮลิคอปเตอร์และเรือถูกส่งไปอพยพผู้โดยสารบนเรือไวกิ้ง สกายทันทีท่ามกลางสภาพอากาศเลวร้ายอย่างมาก

การอพยพผู้โดยสารด้วยเฮลิคอปเตอร์เป็นไปอย่างปลอดภัย สามารถนำผู้โดยสารขึ้นฝั่งได้แล้ว 397 คน อย่างไรก็ดี ปฏิบัติการนี้ต้องระงับลงเมื่อเช้าวันอาทิตย์ ขณะที่เรือลากสองลำเริ่มลากเรือไวกิ้ง สกายเข้าสู่ท่าเรือโมลเดอที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของนอร์เวย์ โดยรายงานล่าสุดระบุว่า เรือสำราญลำนี้อยู่ห่างจากท่าเรือดังกล่าวราว 80 กิโลเมตร และถูกลากด้วยความเร็ว 13 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หน่วยกู้ภัยเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ช่วยยกผู้โดยสารขึ้นจากดาดฟ้าเรือทีละคนและขนถ่ายผู้โดยสารได้เที่ยวละ 15-20 คนนั้น ยังคงเตรียมพร้อมทุกขณะในกรณีที่กัปตันตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการอพยพผู้โดยสารอีกครั้ง

รายงานระบุว่า เรือสำราญลำนี้บรรทุกผู้โดยสาร 915 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกันและอังกฤษ ขณะที่เจ้าหน้าที่ประสานงานกู้ภัยท้องถิ่นคนหนึ่งเผยว่า ผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บ 17 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้ว และยังมีผู้โดยสารอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่งที่บาดเจ็บและฟกช้ำเล็กน้อย

สภากาชาดนอร์เวย์ออกแถลงการณ์ว่า ผู้โดยสารจำนวนมากตกใจและได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแลเมื่อนำตัวถึงฝั่ง

ทั้งนี้ ปฏิบัติการอพยพผู้โดยสารด้วยเฮลิคอปเตอร์ดำเนินต่อเนื่องตลอดคืนวันเสาร์ ท่ามกลางคลื่นลูกใหญ่และลมแรง จนกระทั่งถึงเช้าวันอาทิตย์ ซึ่งเครื่องยนต์ 3 จาก 4 ตัวของเรือกลับมาทำงานได้อีกครั้ง

สถาบันอุตุนิยมวิทยานอร์เวย์ระบุว่า สภาพอากาศในช่วงเช้าวันอาทิตย์ดีขึ้น ความเร็วลมลดจาก 24 เมตรต่อวินาที เหลือเพียง 14 เมตรต่อวินาที และคาดว่า จะลดลงต่อเนื่องตลอดวันอาทิตย์

ภาพถ่ายและคลิปที่ผู้โดยสารโพสต์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ กลิ้งไปทั่วขณะที่เรือเผชิญคลื่นสูง 8 เมตร

จอห์น เคอร์รี ผู้โดยสารชาวอเมริกันให้สัมภาษณ์ว่า เรือเริ่มสั่นขณะที่พวกเขากำลังกินมื้อกลางวัน กระจกหน้าต่างบางส่วนแตก น้ำทะลักเข้าตัวเรือ และสถานการณ์เข้าสู่ความชุลมุนวุ่นวาย เขายังบอกว่า การเดินทางบนเฮลิคอปเตอร์เป็นประสบการณ์ที่ไม่สนุกและไม่น่าจดจำแม้แต่น้อย

เรือไวกิ้ง สกาย เจอปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้องในน่านน้ำที่มีชื่อว่า Hustadvika ซึ่งตรงนั้นและบริเวณโดยรอบเป็นที่รู้กันดีว่า มีสภาพอากาศรุนแรง น้ำตื้น และมีแนวหินโสโครกกระจัดกระจาย

จากข้อมูลของเว็บไซต์ไวกิ้ง โอเชียน ครุยส์ ระบุว่า เรือไวกิ้ง สกายสร้างขึ้นในปี 2017 มีความยาว 227 เมตร และกว้าง 29 เมตร ขณะเกิดเหตุอยู่ระหว่างการให้บริการท่องเที่ยว 12 วันที่ออกเดินทางจากเมืองนาร์วิกของนอร์เวย์เมื่อวันที่ 14 ที่ผ่านมาและมีกำหนดถึงท่าเรือทิวเบอรีของอังกฤษในวันอังคาร (26 มี.ค.)

ไวกิ้ง ครุยส์ ซึ่งเป็นเจ้าของเรือสำราญลำนี้ แถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ความปลอดภัยของผู้โดยสารมีความสำคัญสูงสุด

https://mgronline.com/around/detail/9620000029347

 

จุดที่คุณธนาธร ทำอยู่ ก็เป็นแบบเดียวกับคุณทักษิณ ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย ที่เข้ามาเป็นทางเลือกให้คนที่เบื่อการเมืองแบบเก่า สมัยนั้น ผมพอจำได้ เขาระดมนักวิชาการ นักธุรกิจเก่งๆ มาเป็นทีมงาน ให้กับพรรคไทยรักไทย และภาพลักษณ์คุณทักษิณ ก็ดูอ่อนน้อม แต่ดูทุกวันนี้ คงไม่ต้องบอกว่าคุณทักษิณ และครอบครัวแสดงออกยังไงบ้างผ่านสื่อ ยังคงอ่อนน้อม ถ่อมตนอยู่ไหม และทรัพย์สินของพวกเขา ก็โดนยึดทรัพย์ ไปเยอะแล้ว แต่ทำไมทรัพย์สินที่เหลือ ยังมีอยู่อีกมากมายมหาศาล เขาไปเอามาจากไหนตั้งมากมายขนาดนั้น

อวสาน "ทักษิณ" ปฐมบท "ธนาธร"


สำหรับการเลือกตั้ง 2562 มีพรรคเกิดใหม่มากมาย แต่ "พรรคอนาคตใหม่" ถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย
ก่อนวันหย่อนบัตรเลือกตั้ง นักวิเคราะห์การเมืองจะให้ความสำคัญกับ “เฟิร์สโหวตเตอร์” หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกประมาณ 7 ล้านคน โดยคาดหมายผลการเลือกตั้ง จะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญและสร้างความเปลี่ยนแปลง จากปลายปากกาของคนรุ่นใหม่

แม้ผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ ยังไม่มีการประกาศ แต่จากผลสำรวจจากสำนักโพลล์ชั้นนำของประเทศ คาดหมายว่า พรรคอนาคตใหม่ จะได้ ส.ส.ประมาณ 40-50 ที่นั่ง หรือเมื่อผลเลือกตั้งจริงออกมา อาจได้มากกว่านี้ และเพียงเท่านี้ ก็พอจะมองเห็นอนาคตการเมืองไทยระดับหนึ่ง

“ธนาธร”กับ“ทักษิณ”

สำหรับการเลือกตั้ง 2562 มีพรรคเกิดใหม่มากมาย แต่ “พรรคอนาคตใหม่” ถือว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยคนหนุ่มสองคนคือ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” กับ “ปิยบุตร แสงกนกกุล”

“ปิยบุตร” มีฐานมาจากคณะนิติราษฎร์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่วน “ธนาธร” มีฐานทุนจากบริษัทของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์





หลังจาก พัฒนา จึงรุ่งเรืองกิจ เสียชีวิต มารดา สมพร มอบให้ “เอก ธนาธร” ลูกชายคนโตเข้ามาบริหารด้านการผลิตทั้งหมด

ห้วงเวลาที่ “ธนาธร” เข้ามาแบกรับธุรกิจของครอบครัว ในยุค “การเมือง 3.0” ซึ่งมี “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นโมเดลการเมืองใหม่

การเติบโตของทักษิณ หมายถึงการเติบใหญ่ของ “ทุนนิยมเสรี” ที่เบียดขับ “ทุนนิยมอุปถัมภ์” ให้ถอยออกไป พร้อมกับเปิดพื้นที่ให้แก่ คนรุ่นใหม่สร้างฐาน “ทุนใหม่”

สมัยเรียนที่ธรรมศาสตร์ ธนาธรเป็นแอ็กติวิสต์หัวก้าวหน้า หลังเรียนจบได้เข้าทำงานในองค์กรพัฒนาเอกชน ในกลุ่มเพื่อนประชาชน(FOP) นี่เป็นความต่างระหว่างธนาธรกับทักษิณ

ผลเลือกตั้งครั้งนี้ ส่งสัญญาณ “อัสดงชินวัตร” และหมายถึงอรุณรุ่งของธนาธร และผองเพื่อน



พรรคทางเลือกสายพันธุ์ไทย

ผู้ที่เป็นคลังสมองของพรรคอนาคตใหม่ก็คือ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” อาจารย์คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เขาเป็นศิษย์รุ่นแรกของวรเจตน์ ภาคีรัตน์ นักนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์





ปิยบุตร แสงกนกกุล



“ปิยบุตร” มีความคิดเรื่องการสร้างพรรคทางเลือกใหม่มานานแล้ว โดยทำการศึกษาจากในยุโรปเมื่อปี 2558 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดวิกฤติการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจในยุโรป ทำให้มีพรรคทางเลือกใหม่เกิดขึ้น และได้รับความนิยมมากขึ้น เช่น พรรคโพเดมอส (Podemos) ในสเปน ซึ่งมาเป็นพรรคอันดับ 3 พรรคซีริซา (Syriza) ของกรีซได้เป็นรัฐบาล La France insoumise ของฝรั่งเศส กลายเป็นอันดับ 1 ของฝ่ายค้าน

พรรคอนาคตใหม่ จึงเป็นพรรคทางเลือกที่ถูกออกแบบมา เพื่อการสานต่อเจตนารมณ์ 2475 ซึ่งย่อมมีความเสี่ยงที่จะถูกต้านจากฝ่ายอนุรักษนิยม

ปิยบุตรยืนยันหนักแน่น พร้อมที่จะเสี่ยง เพราะเสี่ยงแล้วคุ้ม หากเปลี่ยนประเทศไทยได้



“ซ้ายเก่า” ผู้อยู่เบื้องหลัง

ในความสำเร็จของพรรคอนาคตใหม่ ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีทีมงาน “คนเบื้องหลัง” ที่คอยสนับสนุนคือ “คนรุ่น 6 ตุลา” นำโดย “พิชัย พืชมงคล” น้องชายของไพศาล พืชมงคล พร้อมกับพลพรรคอดีตกลุ่มยุวชนสยาม หรือสายศูนย์กลางนักเรียนแห่งประเทศไทย ที่โถมตัวเข้ามาเป็น “งัวงาน” ช่วยพรรคของคนรุ่นใหม่

ย้อนไปปี 2543 ทักษิณ ชินวัตร ก่อร่างสร้างพรรคไทยรักไทย อดีตผู้นำนักศึกษายุค 14 ตุลา และผู้ปฏิบัติงานศูนย์นิสิตนักศึกษาฯ หลั่งไหลเข้าไปช่วยงานกันมากมาย ตามคำชักชวนของ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช และภูมิธรรม เวชยชัย





ปิยบุตร กับขุนพลเสรีไทยภูพาน



คนรุ่นนี้มองว่า “ทักษิณ” เป็นนายทุนหัวก้าวหน้า และจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย เหมือนดังความใฝ่ฝันในวัยเยาว์ของพวกเขา

ผ่านการรัฐประหาร 2 ครั้ง “คนรุ่น 6 ตุลา” รู้สึกผิดหวังในการต่อสู้แบบ “ประนีประนอม” กับชนชั้นนำของทักษิณ จึงสอดส่ายสายตาหาอัศวินคนใหม่

ในที่สุด คนรุ่น 6 ตุลา มองว่า ธนาธรคือคนจุดโคม ปลุกไฟฝันคนรุ่นนี้หรือแดงก้าวหน้า


http://www.komchadluek.net/news/sco...HHX6QXAqAipnNMY-JfByyqRmRJI4Q7am0WWXK6IEizMeg

 

Kike Santillana

โหดร้าย
ลูกเห็บที่น่าทึ่งใน North Texas ใน McKinney, Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา
รายงานความเสียหายมากมาย


























2019/03/24

 

Kike Santillana

#ด่วน
พายุโซนร้อนที่ผิดปกติกำลังจะมาแรงระหว่างวันนี้และวันพรุ่งนี้และสามารถได้รับผลกระทบจากพายุเฮอริเคนในอ่าวบราซิลอย่างรุนแรง ซึ่งจะเป็นครั้งประวัติศาสตร์ ......

 

Kike Santillana

คางคกพิษหลายร้อยบุกบุกฟลอริด้าสหรัฐอเมริกา