ติดตามสถานะการณ์

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 18) ห่วงภัยแล้งฉุดศก.กำลังซื้อเกษตรหด - ธปท.ห่วงภัยแล้งกระทบเศรษฐกิจ เร่งรัฐวางมาตรการช่วยเหลือ ด้านนักวิชาการหวั่นเงินเฟ้อปรับเพิ่มตามราคาสินค้าเกษตร

นายดอน นาครทรรพ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดขึ้นอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม และฉุดกำลังซื้อของเกษตรกรที่จะมีรายได้ลดลงบางส่วน แต่ราคาสินค้าเกษตรจะปรับตัวสูงขึ้นเพราะผลผลิตมีน้อย ซึ่ง ธปท.ได้ประเมินสถานการณ์ไว้แล้ว

"รัฐควรเร่งออกมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเพื่อเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้" นายดอน กล่าว

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวว่า ภัยแล้งปีนี้มาเร็ว ยาวนานและขยายวงมากกว่าที่คาด อีกทั้งมีแนวโน้มน่าจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากภาวะโลกร้อน โดยจะส่งผลกระทบทั้งภาคเกษตรกรรม ธุรกิจอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 2-3 หมื่นล้านบาท ปริมาณผลผลิตข้าวนาปรัง อ้อย มันสำปะหลัง ผัก ผลไม้ เข้าสู่ตลาดน้อยลง ทำให้ราคาสินค้าเกษตรบางตัวสูงขึ้นบ้าง อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเล็กน้อย และ รายได้เกษตรกรลดลงในช่วงไตรมาส 2 กำลังซื้อในภาคชนบทอ่อนแอลง

Source: Posttoday

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 18) อสังหาหวั่นพิษ “ภาษีที่ดิน” ปี63 ท้องถิ่นโกย3.9 หมื่นล้าน : คลอด พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ รัฐเข้มท้องถิ่น 7,800 แห่ง เก็บภาษี 3.9 หมื่นล้านต้นปีหน้า อสังหาภูธรโอดเจอสองเด้ง LTV-ภาษีใหม่ ต้นทุนพุ่ง ส.อสังหาฯเมืองชล ขอเว้นภาษีบ้านเหลือขายเกิน 3 ปี เศรษฐีภูเก็ตพลิกแลนด์แบงก์ปลูกปาล์ม-ยาง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า แม้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อ 12 มีนาคม 2562 และมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 13 มีนาคม 2562 จะกำหนดให้เริ่มจัดเก็บภาษีวันที่ 1 มกราคม 2563 แต่กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นในฐานะหน่วยงานปฏิบัติได้เตรียมความพร้อมให้องค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) สามารถจัดเก็บภาษีได้ต้นปีหน้าทันที

ติวเข้มท้องถิ่น 7.8 พันแห่ง

1.ได้เสนอของบกลางไปยังรัฐบาล ตามคำแนะนำของนายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เพื่อนำมาใช้ฝึกอบรมและซักซ้อมข้าราชการและพนักงานท้องถิ่น ทั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เทศบาล กรุงเทพมหานคร (กทม.) และเมืองพัทยา รวมทั้งหมด 7,852 หน่วยงาน หน่วยงานละอย่างน้อย 2 คน ให้มีความรู้ความเข้าใจและดำเนินการได้อย่างถูกต้อง โดยเสนอของบไปกว่า 70 ล้านบาท ซึ่ง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยเห็นชอบและลงนามแล้ว อยู่ระหว่างเสนอและรอการพิจารณาตามขั้นตอน

2.ประสานขอความร่วมมือกับกรมที่ดิน ขอข้อมูลที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งเจ้าของและผู้ถือครอง และแผนที่รูปแปลงที่ดิน เช่น ระวางที่ดิน โฉนด เป็นต้น และขอความร่วมมือกรมธนารักษ์ให้จัดส่งบัญชีราคาประเมินทรัพย์สิน สำหรับใช้เป็นฐานในการคำนวณภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 3.ให้ข้าราชการ พนักงานท้องถิ่น ฯลฯ ที่ผ่านการอบรมเร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบรายละเอียดกฎหมายฉบับนี้ ทั้งนี้ ขอย้ำว่าประชาชนไม่ต้องตกใจ เพราะเมื่อท้องถิ่นมีการประเมินแล้ว หากเห็นว่าต้องเสียภาษีสูงเกินไป สามารถอุทธรณ์หรือแย้งกลับมาได้

รายได้เข้า อปท. 3.9 หมื่น ล.

ในส่วนของรายได้ที่คาดว่าจะได้จากการจัดเก็บภาษี หลัง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯบังคับใช้อยู่ที่ 39,770.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากการจัดเก็บภาษีโรงเรือนและที่ดิน กับภาษีบำรุงท้องที่ แยกเป็นที่ดินเกษตรกรรม 6.85 ล้านแปลง ได้รับการยกเว้น 6.84 ล้านแปลง เสียภาษี 800 แปลง ซึ่งคาดว่าจะจัดเก็บภาษีได้ 0.8 ล้านบาท ที่อยู่อาศัย 24 ล้านหลัง ได้รับการยกเว้น 22.39 ล้านหลัง ที่ต้องจัดเก็บภาษี 1.6 ล้านหลัง คาดว่าจะเก็บภาษีได้ 2,770 ล้านบาท ที่ดินอื่น ๆ และที่ดินรกร้างคาดว่าจะจัดเก็บภาษีได้ 37,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ปี 2560 ที่ผ่านมา อปท.สามารถจัดเก็บรายได้ 32,965.16 ล้านบาท จากภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ ทั้งนี้แยกเป็นเทศบาล 12,625.77 ล้านบาท อบต. 5,997.82 ล้านบาท เมืองพัทยา 433.77 ล้านบาท และ กทม. 13,907.8 ล้านบาท ซึ่งหลังมี พ.ร.บ.จะเพิ่มขึ้นอีก 6,805 ล้านบาท

ขอเว้นบ้านเหลือขาย 3 ปี

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า มองว่าหลัง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯมีผลบังคับใช้ ที่น่าเป็นห่วงคือโครงการอสังหาฯที่เหลือขาย ซึ่งเป็นปัจจัยต้นทุนที่สูง นอกจากนี้ในสภาพปัจจุบันมีโครงการที่ขายไม่ออกหรือคั่งค้างมานาน ภาษีใหม่จะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้โครงการที่ไม่ประสบความสำเร็จก่อนหน้านี้จำเป็นต้องปิดโครงการ จะเกิดความเสียหายรุนแรง โดยสมาคมอสังหาฯ จ.ชลบุรีจะจัดการประชุมเตรียมเสนอให้รัฐพิจารณางดเว้นจัดเก็บภาษีบางส่วนในช่วงแรก โดยเฉพาะโครงการที่เหลือขายเกิน 3 ปีขึ้นไป

ส่วนของแลนแบงก์ก็เป็นประเด็น เพราะการจัดทำโครงการต้องซื้อที่ดินเตรียมไว้ล่วงหน้า และจะนำที่ดินไปทำการเกษตรก็เป็นไปได้ยาก เพราะทำเลบางจุด เช่น ในเมืองหรือถมที่ไปแล้ว แต่นโยบายภาครัฐพยายามจะให้มีการพัฒนาที่ดินในทุกแปลง ทั้งที่บางช่วงเวลายังไม่ถึงเวลาหรือยังไม่เหมาะสมจะนำมาพัฒนา หากทำก่อนอาจจะเกิดปัญหาได้ เพราะปัจจุบันได้รับผลกระทบจากการประกาศใช้เกณฑ์ LTV (สัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่อมูลค่าหลักประกัน) ของแบงก์ชาติ ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคอยู่แล้ว เห็นได้จากยอดขายยอดจองบ้านหายไปอย่างน้อย 30%

นายชาญณรงค์ บุริสตระกูล นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดขอนแก่น เปิดเผยในทำนองเดียวกันว่า ผลกระทบจากภาษีที่ดินจะทำให้ต้นทุนการถือครองที่ดินสูงขึ้น ต้นทุนการขายในอนาคตเพิ่มขึ้น และมีผลต่อกระแสเงินสด เพราะต้องจ่ายภาษีทุกปี การทำธุรกิจจะยากขึ้น จะกระทบลูกค้ากลุ่มหนึ่งที่ซื้อบ้านเก็บเป็นทรัพย์สิน จะซื้อน้อยลง แต่ลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่จริงจะไม่กระทบ

ภูเก็ตนำที่รกร้างปลูกพืชโตเร็ว

ด้านนายบุญ ยงสกุล ประธานกรรมการ บจ.โบ๊ทพัฒนา และ บจ. โบ๊ท แอสเซท แมนเนจเมนท์ ในเครือภูเก็ต โบ๊ท ลากูน ผู้ประกอบการธุรกิจมารีน่า โรงแรม และอสังหาฯรายใหญ่ใน จ.ภูเก็ต เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าของที่ดินในจังหวัดภูเก็ตที่ถือครองที่ดินจำนวนมากได้วางแผนภาษีกันแล้ว จากเดิมปล่อยที่ดินรกร้างก็เข้าไปเคลียร์พื้นที่ ปักแนวเขตลงทุนทำเกษตรกรรม เช่น ปลูกปาล์ม ยางพารา พืชเศรษฐกิจโตเร็ว ส่วนจะมีการเปลี่ยนมือมากน้อยเพียงใดนั้น ยังเห็นภาพไม่ชัด

“คนที่มีแลนด์แบงก์ขนาดใหญ่ในภูเก็ต ส่วนมากธุรกิจดั้งเดิมทำเหมืองแร่มาก่อน แต่ละครอบครัวจึงวางแผนด้านภาษี อย่างในตระกูลยงสกุลปลูกต้นสน โดยมีบริษัทลูกดำเนินการอยู่แล้ว”

ส่วนการเก็บภาษีบ้านราคาหลังละ 50 ล้านบาทขึ้นไป ในภูเก็ตบ้านเฉลี่ยหลังละ 20-50 ล้านบาท รวมถึงพูลวิลล่าระดับ 100 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนใหญ่ผู้ซื้อเป็นคนต่างชาติ เรื่องการจ่ายภาษีจึงไม่กระทบ และลูกค้าบางคนยื่นชำระภาษีที่ต่างประเทศด้วย

อสังหารุ่นใหม่ไม่หวั่นภาษี

ขณะที่นายปราชญ์ วงศ์วรรณ กรรมการผู้จัดการ บจ.ไวซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เจ้าของโครงการ “ไวซ์ ซิกเนเจอร์” ย่าน อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ มองว่านักพัฒนาอสังหาฯรุ่นเก่า ๆ ที่ซื้อที่ดินเก็บไว้เป็น 10 ปี เพื่อรอพัฒนาโครงการจะได้รับผลกระทบจากภาษีที่ดิน แต่ปัจจุบันนักพัฒนาอสังหาฯส่วนใหญ่ซื้อที่ดินแล้วจะพัฒนาโครงการทันที จึงได้รับผลกระทบไม่มาก แม้ต้นทุนจะเพิ่มขึ้นแต่จะเพิ่มไม่มากนัก เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ดินที่ซื้อ ซึ่งมีราคาแพงและปรับราคาสูงขึ้นต่อเนื่องทุกปี อย่างไรก็ตาม ในส่วนของตนนั้นส่วนใหญ่นำที่ดินเปล่าเป็นที่ดินเก่าเก็บของครอบครัวมาพัฒนา

Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
https://www.prachachat.net/property/news-302908

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 18) 'กฎหมายลงทุนต่างชาติ'หนุนหรือฉุดขีดแข่งขันจีน :
เมื่อวันศุกร์(15มี.ค.)สภาประชาชนแห่งชาติจีนลงมติเห็นชอบ 2,929 เสียง ไม่เห็นชอบ 8 เสียง ไม่ลงความเห็น 8 เสียง ผ่านกฎหมายการลงทุนต่างชาติหลังจากอภิปรายกันมานานถึง 3 เดือน ถือเป็นการกลับลำกะทันหันของสภาอย่างที่ไม่ค่อยมีให้เห็นบ่อยนัก และ ครั้งนี้ เป็นเก้ไขกฎหมายการลงทุนเกี่ยวกับ การถ่ายโอนเทคโนโลยีในนาทีสุดท้าย เพื่อรับกับข้อเรียกร้องของรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการเจรจาการค้าระหว่างกัน

ในกฎหมายฉบับนี้ได้มีการปรับแก้ภาษาที่มุ่งตรวจสอบด้านกฎระเบียบ การลงทุนที่เรียกว่า การประเมินความสอดคล้องที่บริษัทต่างชาติจะต้องผ่านเกณฑ์พิจารณาจึงจะสามารถตั้งโรงงาน และประกอบธุรกิจในจีนได้ ซึ่งกระบวนการนี้ถูกใช้เพื่อกรองข้อมูลที่เป็นกรรมสิทธิ์และบังคับให้มีการถ่ายโอนเทคโนโลยี ในการเจรจาต่อรองทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนที่ผ่านมา นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าของสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) พยายามกดดันจีน ซึ่งเป็นคู่เจรจาให้แก้ไขในสิ่งที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ เห็นว่าเป็นการเอาเปรียบทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมกับฝ่ายสหรัฐ ซึ่งแหล่งข่าววงใน บอกว่า ข้อความที่เพิ่มเข้ามาในกฎหมายสะท้อนให้เห็นถึงเนื้อหาที่เสนอในข้อตกลงการค้า ซึ่งถูกรวบรวมจากทั้งฝ่ายจีนและสหรัฐ ที่ต้องการขจัดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ในกระบวนการตรวจสอบด้านกฎระเบียบ โดยจะถูกนำไปบังคับใช้พร้อมกับข้อเสนออื่นๆ จากจีน

จนถึงขณะนี้ รัฐบาลปักกิ่งยังคงมุ่งมั่น ที่จะดูแลอุตสาหกรรมหลัก ภายใต้ 'นโยบายเมดอินไชนา 2025' โดยไม่สนใจเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของประธานาธิบดีทรัมป์ว่าจีนปกป้องอุตสาหกรรมภาคการผลิตของประเทศ

ศาสตราจารย์หวาง หยง ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธุรกิจ และเศรษฐศาสตร์ระหว่างประเทศใน กรุงปักกิ่ง ให้ความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไข เพิ่มเติมกฎหมายการลงทุนจากต่างประเทศว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ ทั้งยังมองว่า จีนมีกฎหมายในลักษณะเดียวกันนี้อยู่แล้ว อย่างกฎหมาย ที่ห้ามไม่ให้มีการแบ่งปันความลับ ทางการค้า

อย่างไรก็ตาม กฎหมายการลงทุนของต่างประเทศฉบับใหม่นี้ มีศักยภาพมากพอที่จะยกระดับการแข่งขันระหว่างบริษัทต่างประเทศและในประเทศ หลังจากถูกร้องเรียนจากนักธุรกิจต่างประเทศ มานานกว่าเสียเปรียบด้านการแข่งขัน กับบริษัทจีน และดูเหมือนว่า รัฐบาลปักกิ่งจะละทิ้งความพยายามที่จะผ่านกฎหมายนี้ ไปตั้งแต่เมื่อสามปีก่อน ก่อนจะปัดฝุ่น ขึ้นมาใช้ใหม่ในช่วงปลายปีที่แล้ว และ ถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาตามกระบวนการออกกฎหมายของประเทศอย่างรวดเร็ว

กฎหมายการลงทุนต่างชาติฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2563 และภายใต้กฎหมายนี้ นักลงทุนต่างชาติจะได้สิทธิพิเศษแบบเดียวกับบริษัทจีนในแทบจะทุกภาคส่วน ยกเว้นในธุรกิจที่จัดไว้ในบัญชีต้องห้าม

นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง ของจีน กล่าวว่าจีนได้แก้ไขกฎหมายคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา และใช้การเรียกค่าเสียหาย เชิงลงโทษ เพื่อรับประกันว่าทางการจีนจัดการกับการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง ผู้กระทำความผิดไม่สามารถหลบหนีไปได้ และจีนจะปรับบัญชีต้องห้ามให้สั้นลงใน เร็วๆ นี้ และปรับต่อไปอีกในอนาคต ซึ่งจะเพิ่มโอกาสในการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น

นายหลี่ กล่าวภายหลังเสร็จสิ้น การประชุมสภาประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) ครั้งที่ 13 เมื่อวันศุกร์ (15มี.ค.) ว่า จีนจะออกกฎระเบียบและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายการลงทุนของต่างชาติ เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางกฎหมายของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญที่จีนต้องทำในขั้นต่อไปเพื่อรับประกันว่า การบังคับใช้กฎหมายจะเป็นไปอย่าง ราบรื่น พร้อมทั้งเน้นย้ำถึงความพยายาม ที่จะทำให้กลไกการร้องเรียนเป็นไปอย่างเปิดกว้าง โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ

นายกรัฐมนตรีจีน ยังระบุว่า จีนจะปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจเพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นความคึกคักของตลาด แม้ว่าสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในจีนจะปรับตัวขึ้นมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลังจากที่รัฐบาลได้ดำเนินการปฏิรูป แต่การปรับปรุงดังกล่าวยังคงห่างไกลจากความคาดหวังของตลาด

"รัฐบาลจะยังคงพุ่งเป้าไปที่การปรับปรุงประสิทธิภาพของการอนุมัติโครงการต่างๆ รวมทั้งกระจายอำนาจลงสู่ส่วนล่าง รวมทั้งปรับปรุงในเรื่องการกำกับดูแล" นายหลี่ กล่าว

รายงานของธนาคารโลก ระบุว่า เมื่อปี 2561 จีนขึ้นแท่นอันดับ 46 ของโลกในแง่ของความสะดวกในการทำธุรกิจ ซึ่งเป็นอันดับที่สูงขึ้นจากอันดับ 78 ในปี 2560 ซึ่งในจุดนี้ นายกฯจีน มั่นใจว่าจีนจะสร้างความเชื่อมั่นว่าบริษัททุกๆประเภทไม่ว่า เจ้าของกิจการจะเป็นแบบใดจะยังคงได้รับประโยชน์จากการเพิ่มประสิทธิภาพ ของมาตรการด้านการบริหารจัดการ

นายหลี่ กล่าวด้วยว่า การปรับลดภาษีและค่าธรรมเนียม และการเพิ่มประสิทธิภาพของการบริหารจัดการและการกำกับดูแล ถือเป็นมาตรการที่สำคัญสำหรับการรับมือกับแรงกดดันช่วงขาลงที่มีต่อเศรษฐกิจ และยังกระตุ้นความคึกคักให้กับตลาด โดยเป้าหมายของการดำเนินการดังกล่าว ก็เพื่อสร้างความมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะ ขยายตัวอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ด้าน"ทิม สแตรทฟอร์ด" ประธานหอการค้าอเมริกันในจีน แสดงความยินดี ที่จีนผ่านกฎหมาย นี้แต่ก็ยอมรับว่า การปรับแก้กฎหมาย ช่วยแก้ปัญหาได้เพียงเล็กน้อยจากข้อกังวลทั้งหมดของภาคธุรกิจอเมริกัน เรื่องการแข่งขันที่ ไม่เท่าเทียมกันระหว่างบริษัทต่างชาติกับบริษัทจีน โดยหอการค้าอเมริกัน ยังกังวลเรื่องถ้อยคำกำกวมในข้อกฎหมาย ที่เปิดช่อง ให้รัฐบาลท้องถิ่นเวนคืนการลงทุนที่เป็นอันตรายต่อผลประโยชน์สาธารณะ และไม่ให้อุทธรณ์ผลการทบทวนเรื่อง ความมั่นคงแห่งชาติ

ส่วน"จาค็อบ ปาร์เกอร์" รองประธานสภาธุรกิจสหรัฐ-จีน ซึ่งมีฐานปฏิบัติการ ในกรุงปักกิ่ง ตอบรับกับภาษาในทางบวกของตัวบท แต่กล่าวเสริมว่า การลงทุนจริงในพื้นที่ขึ้นอยู่กับว่าจีนจะตัดบัญชีต้องห้ามได้มากน้อยแค่ไหน

และ"ไคล์ ฟรีแมน" ทนายความ บริษัทเดแซน ชีรา แอนด์ แอสโซซิเอตส์ กล่าวว่า ภาคธุรกิจต้องฝ่าฟันอุปสรรค อีกมากมายกว่าจะเข้าถึงตลาดได้ เพราะต้องเจอ ทั้งกฎหมายเฉพาะอุตสาหกรรม ระเบียบ ข้อบังคับ และต้องให้ทางการท้องถิ่น อนุมัติ ซึ่งอาจบั่นทอนไม่ให้เข้าถึงตลาดได้เต็มที่

จนถึงขณะนี้รัฐบาลปักกิ่งยังคงมุ่งมั่นที่จะดูแลอุตสาหกรรมหลัก ภายใต้ "นโยบายเมดอินไชนา 2025" โดยไม่สนใจเสียงวิจารณ์ว่า จีนปกป้องอุตสาหกรรมภาคการผลิตของประเทศ

Source: กรุงเทพธุรกิจ

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 18) รายงาน:'Brexit' จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ ? สมาชิกรัฐสภาอังกฤษได้คว่ำข้อตกลง “เบร็กซิต” ของเมย์สองครั้ง และยังโหวตไม่ให้อังกฤษออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง และล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี ยังโหวตให้เลื่อนเวลาในการออกจากอียู และนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์จะต้องไปขอขยายเวลาที่จะใช้มาตรา 50 จากอียู

หากสมาชิกอียูชาติอื่น ๆ เห็นพ้อง ก็จะเลื่อนเวลาที่อังกฤษจะออกจากอียู แต่นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ กล่าวว่า ไม่ควรจะเลื่อนนานเกินกว่าสามเดือน และได้พูดถึงแนวโน้มที่จะขยายเวลานานกว่านั้นมาก หากสภาไม่สนับสนุนข้อตกลงของเธอ ยังมีผลลัพธ์ที่อาจจะเกิดขึ้นอีกหลายทาง ดังนี้

1.ไม่มีข้อตกลงในเวลาต่อมา
การโหวตให้เลื่อนออกจากอียู ไม่ได้หมายความว่าอังกฤษจะไม่ออกจากอียูโดยไม่มีข้อตกลง หากอียูไม่ให้เลื่อน หรือหากอังกฤษและอียูไม่สามารถตกลงในระหว่างขยายเวลาได้ ก็จะยังคงมีผลว่าอังกฤษผิดสัญญา ดังนั้นแม้ว่า ส.ส.ส่วนใหญ่ได้ระบุซ้ำ ๆ ว่าพวกเขาคัดค้านการออกโดยไม่มีข้อตกลง แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นให้ได้

2.ลงมติเพิ่มต่อข้อตกลงของนายกรัฐมนตรี
บางทีการปฏิบัติที่ง่ายที่สุดคือเมย์ต้องไปทำให้ข้อตกลงของเธอผ่านสภาอีกครั้ง รัฐบาลอังกฤษมีแผนที่จะให้โหวตอีกครั้งในช่วงครึ่งแรกของสัปดาห์นี้เป็นอย่างเร็ว หากประสบความสำเร็จ นายกรัฐมนตรีอาจไปประชุมสุดยอดอียูในวันที่ 21 มีนาคม และขอให้อียูเลื่อนเวลาเป็นช่วงสั้น ๆ ดังที่เธออยากให้เป็น ส.ส.บางคนโต้แย้งว่าไม่ควรจะทำเช่นนี้ เพราะมีกฎว่า ไม่ควรจะขอให้สภาโหวตสองครั้งในเรื่องเดิมในระหว่างสมัยประชุมสภาเดียว แต่ก็จะขึ้นอยู่กับประธานสภาที่จะตัดสินใจว่าจะอนุญาตให้โหวตหรือไม่ หากประธานสภาอนุญาต นายกรัฐมนตรีจะเสนอให้โหวตเป็นทางเลือกระหว่างรับรองข้อตกลงแต่เลื่อนเวลาในการออกจากอียูเป็นช่วงสั้น ๆ หรือจะปฏิเสธข้อตกลงและยืดเวลาในการออกจากอียูนานขึ้น หากสภารับรองข้อตกลงเป็นครั้งที่สาม จะออกกฎหมายเพื่อทำให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้พร้อมกับเวลาใหม่ที่อังกฤษจะออกจากอียู

3.เจรจาใหม่ในเรื่องสำคัญ ๆ

หากมีการขยายเวลานานขึ้น รัฐบาลอังกฤษอาจเสนอให้เจรจาข้อตกลงเบร็กซิตใหม่โดยสิ้นเชิง โดยอาจจะมีขึ้นหลังจากที่สภาได้มีโอกาสแสดงความเห็นเกี่ยวกับข้อตกลงทางเลือกนี้แล้ว พัฒนาการเช่นนี้จะไม่ใช่การถามเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ น้อย ๆ และต้องลงคะแนนเพิ่ม แต่อาจมีการเจรจาใหม่ที่จะใช้เวลาสักระยะ รัฐบาลอาจหันไปใช้โมเดลอื่น ๆ ของข้อตกลงที่ได้มีการแนะนำไว้ โดยบางทีอาจจะเป็นโมเดลที่ใกล้เคียงกับ “โมเดลนอร์เวย์” ซึ่งจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับอียูมากกว่าข้อเสนอที่อยู่ในข้อตกลงปัจจุบัน หากอียูไม่ยอมเข้าสู่การเจรจาใหม่ รัฐบาลจะต้องเลือกหนึ่งในทางเลือกอื่น ๆ แทน

4.ลงประชามติอีกครั้ง
มีความเป็นไปได้มากขึ้นที่จะมีการลงประชามติอีกครั้ง และมันอาจมีสถานภาพแบบการลงประชามติเมื่อปี 2559 ซึ่งไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย เหมือนกับการลงประชามติในอังกฤษที่ผ่านมา แต่สมาชิกรัฐสภาบางคนต้องการให้ลงประชามติที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย ซึ่งผลการลงประชามติจะมีผลบังคับใช้โดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นทางใด การลงประชามติไม่สามารถเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะมีระเบียบในการจัดการลงประชามติไว้ในกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง การเลือกตั้ง และการลงประชามติ ปี ค.ศ. 2000 ซึ่งจะต้องมีกฎหมายใหม่เพื่อทำให้การลงประชามติเกิดขึ้นและเพื่อกำหนดระเบียบต่าง ๆ เช่น ใครจะได้รับอนุญาตให้ลงคะแนนได้ นอกจากนี้ ไม่สามารถเร่งรัดให้ทำประชามติได้ เพราะจะต้องมีเวลาให้คณะกรรมการการเลือกตั้งต้องพิจารณาและแนะนำเกี่ยวกับคำถามในการลงประชามติ จากนั้นก็จะต้องกำหนดคำถามนั้นในกฎหมาย เมื่อกฎหมายผ่านการรับรอง การลงประชามติก็ยังไม่สามารถเกิดขึ้นโดยทันทีเช่นกัน จะต้องมีช่วงเวลาตามกฎหมายก่อนที่จะมีการลงคะแนน ผู้เชี่ยวชาญด้านรัฐธรรมนูญของยูนิเวอร์ซิตี้ คอลเลจ ลอนดอนชี้ว่า ระยะเวลาที่น้อยที่สุดที่จำเป็นจะต้องมีการดำเนินการขั้นต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ 22 สัปดาห์

5.จัดการเลือกตั้งทั่วไป
นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ อาจตัดสินใจว่าทางออกที่ดีที่สุดที่จะพ้นจากภาวะชะงักงันนี้ คือการจัดเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด เพื่อให้เธอได้อาณัติทางการเมืองแก่ข้อตกลงของเธอ เมย์ไม่ได้มีอำนาจแค่จัดเลือกตั้งเท่านั้น แต่เหมือนเมื่อปี 2560 เธอสามารถขอให้สภาลงมติเพื่อให้มีการเลือกตั้งก่อนกำหนดตามเงื่อนไขของ พ.ร.บ.วาระดำรงตำแหน่งในรัฐสภา (Fixed Term Parliaments Act) สองในสามของ ส.ส.จะต้องสนับสนุนให้มีการเคลื่อนไหวเช่นนี้ และวันที่เร็วที่สุดคือ 25 วันทำการต่อมา แต่อาจจะหลังจากนั้นได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเป็นคนเลือกวัน

6.ลงมติไม่ไว้วางใจอีกครั้ง
พรรคแรงงานอาจเคลื่อนไหวให้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อไหร่ก็ได้ โดยตามกฎหมายวาระดำรงตำแหน่งในรัฐสภา ปี ค.ศ. 2011 การเลือกตั้งทั่วไปในอังกฤษเกิดขึ้นได้ทุกห้าปีเท่านั้น ซึ่งครั้งต่อไปจะมีขึ้นปี 2565 อย่างไรก็ดี การลงมติไม่ไว้วางใจ จะให้ ส.ส.โหวตว่าต้องการให้รัฐบาลทำงานต่อไปหรือไม่ หากเสียงส่วนใหญ่ในสภาโหวตให้อภิปราย ก็จะเริ่มนับถอยหลังไป 14 วัน หากในช่วงนั้นรัฐบาลชุดปัจจุบันหรือรัฐบาลทางเลือกอื่น ๆ ไม่สามารถได้รับความไว้วางใจใหม่ จะต้องจัดเลือกตั้งก่อนกำหนด ซึ่งการเลือกตั้งไม่สามารถเกิดขึ้นอีกอย่างน้อย 25 วันทำการ

7.อังกฤษไม่ออกจากอียู

ศาลยุติธรรมยุโรปได้ตัดสินว่าอังกฤษจะเพิกถอนมาตรา 50 แต่เพียงลำพัง เพื่อยกเลิกการตัดสินใจที่จะออกจากอียูได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากสมาชิกอียูอื่น ๆ อีก 27 ประเทศ แต่เนื่องจากรัฐบาลอังกฤษยังคงมุ่งมั่นที่จะออกจากอียู จึงน่าที่จะมีเหตุการณ์สำคัญ ๆ เกิดขึ้นก่อนที่จะมีการเคลื่อนไหวเช่นนั้น เช่น มีการลงประชามติเพิ่มหรือเปลี่ยนรัฐบาล อย่างไรก็ดี การเลื่อนเวลาในการออกจากอียูจะทำให้เกิดความสงสัยอย่างแน่นอนว่า จุดหมายปลายทางในท้ายที่สุดจะสวนทางกับการลงประชามติเมื่อปี 2559 หรือไม่ ยังไม่ชัดเจนโดยสิ้นเชิงว่าจะมีกระบวนการอะไรบ้าง แต่การกระทำของสภาที่ให้เพิกถอนมาตรา 50 น่าจะเพียงพอความเป็นไปได้อื่น ๆ

หลังจากที่เมย์รอดพ้นจากความท้าทายต่อการเป็นผู้นำของเธอ ตามระเบียบของพรรคอนุรักษนิยม ย่อมหมายถึงว่าเธอจะไม่เจอกับความท้าทายอีกครั้งเป็นเวลา 12 เดือน แต่เธออาจตัดสินใจลาออกหากเธอไม่สามารถทำให้ข้อตกลงผ่านสภาและเธอไม่ได้เตรียมการที่จะเปลี่ยนแปลงแนวทาง ซึ่งจะทำให้มีการหาเสียงเลือกหัวหน้าพรรคอนุรักษนิยมที่จะส่งผลให้มีการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่

เธออาจจจะถูกกดดันให้ลาออกหาก ส.ส.เสนอญัตติไม่ไว้วางใจ และอาจจะเป็นอีกครั้งที่ต้องเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีหรือเปลี่ยนรัฐบาล ใครก็ตามที่มารับตำแหน่งจะต้องเจอกับทางเลือกเกี่ยวกับเรื่องเบร็กซิตในพื้นฐานเดียวกัน

Source: ข่าวหุ้น
- Third time lucky for Theresa May's Brexit vote?
https://edition.cnn.com/2019/03/18/...jAe1VsIEWkUT8OlOnky5io9xTmK7KuCzuDzcSHgcEPuM4

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 19) ปอนด์ดิ่ง หลังปธ.รัฐสภาห้ามนายกฯอังกฤษนำข้อตกลง Brexit เนื้อหาเดิมเข้าโหวต: ปอนด์ดิ่งลงเทียบดอลลาร์และยูโร หลังจากที่นายจอห์น เบอร์คาว ประธานรัฐสภาอังกฤษ ออกโรงเตือนนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มิให้นำข้อตกลงว่าด้วยการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ที่มีเนื้อหาไม่แตกต่างจาก 2 ฉบับแรก เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภา

ณ เวลา 01.23 น.ตามเวลาไทย ปอนด์ร่วงลง 0.47% สู่ระดับ 1.3227 ดอลลาร์ และปรับตัวลง 0.49% สู่ระดับ 0.8561 เทียบยูโร
คำเตือนของประธานรัฐสภาอังกฤษสร้างความประหลาดใจต่อรัฐบาล โดยโฆษกของนางเมย์ระบุว่า รัฐบาลไม่ได้รับการเตือนล่วงหน้าว่าประธานรัฐสภาจะออกแถลงการณ์ดังกล่าว

นักวิเคราะห์ระบุว่า ขณะนี้รัฐบาลจำเป็นต้องแก้ไขข้อตกลง Brexit ครั้งใหม่เพื่อให้สามารถนำกลับเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภาเป็นครั้งที่ 3
แต่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยาก เนื่องจากผู้นำสหภาพยุโรป (EU) ยืนกรานว่าจะไม่มีการแก้ไขข้อตกลง Brexit อีกต่อไป
หากรัฐบาลยังคงไม่สามารถนำข้อตกลง Brexit เข้ารับการพิจารณาในรัฐสภา ก็อาจจะทำให้อังกฤษแยกตัวจาก EU โดยไม่มีการทำข้อตกลง
ทางด้านนายโรเบิร์ต บัคแลนด์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลอังกฤษ กล่าวว่า รัฐบาลกำลังเผชิญกับวิกฤตรัฐธรรมนูญครั้งใหญ่
ทั้งนี้ นายเบอร์คาวออกแถลงการณ์ระบุว่า การที่รัฐสภาทำการพิจารณา และลงมติต่อข้อตกลง Brexit 2 ฉบับก่อนหน้านี้ เนื่องจากข้อตกลงทั้ง 2 ฉบับมีเนื้อหาที่แตกต่างกัน

นายเบอร์คาวยืนยันว่า รัฐบาลจะไม่สามารถส่งข้อตกลง Brexit เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเป็นครั้งที่ 3 ถ้าหากมีเนื้อหาเหมือนกับ 2 ฉบับแรก

ท่าทีของประธานรัฐสภาอังกฤษได้สร้างอุปสรรคต่อนางเมย์ ซึ่งต้องการส่งข้อตกลงดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาเป็นครั้งที่ 3 โดยหวังว่ารัฐสภาจะให้การอนุมัติ แทนที่จะเสี่ยงทำให้การแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU ต้องล่าช้าออกไป ขณะใกล้เส้นตายวันที่ 29 มี.ค.

ก่อนหน้านี้ มีการคาดการณ์กันว่า รัฐบาลอังกฤษจะให้รัฐสภาลงมติต่อข้อตกลง Brexit ในวันพรุ่งนี้ หรือในวันพุธ หลังจากที่รัฐสภาได้ลงมติด้วยคะแนนเสียงถล่มทลาย 432 ต่อ 202 เสียงในเดือนม.ค. คว่ำร่างข้อตกลง Brexit ก่อนที่จะลงมติอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 มี.ค.ด้วยคะแนนเสียง 391-242 เสียงคว่ำข้อตกลง Brexit เป็นครั้งที่ 2 แม้ว่าได้รับการแก้ไขจากนางเมย์ หลังมีการหารือกับผู้นำ EU

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Speaker of UK House of Parliament warns Theresa May on third meaningful vote : https://www.cnbc.com/2019/03/18/spe...1RrmgiasyxBPGZx09I5pAOOzqezKKx5JPuNpbbzG0Kpzg

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

MOREMOVE

#มอร์มูฟเป็นข่าว เดือด!! แฟนเพจเฟซบุ๊กGreenpeace Thailand เปิดผลรายงานจาก Global Alliance for Incinerator Alternatives (GAIA) ซึ่งพบว่า 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างเนสท์เล่และยูนิลิเวอร์ คือผู้สร้างมลพิษพลาสติกมากที่สุดในประเทศฟิลิปปินส์ โดยผลที่ได้มาจากการตรวจสอบขยะ (waste audit) ในประเทศฟิลิปปินส์ ระบุชัด 2 บริษัทนี้และบริษัทระดับโลกอื่นๆ เป็นสาเหตุให้เกิดชุมชนรอบกองขยะ ซึ่งบริษัทเหล่านี้ใช้เป็นพื้นที่ทิ้งขยะ (Dumping ground) ผ่านทางการค้าของเสีย (Waste Trade) ที่มีอยู่ทั่วโลก

"บริษัทเหล่านี้ได้สร้างสัตว์ประหลาดพลาสติกขึ้น (Plastic Monster) และพวกเขาจำเป็นต้องรับผิดชอบ พวกเราต้องการให้บริษัทเหล่านี้ลงมือยุติการใช้พลาสติกที่ใช้ครั้งเดียวทิ้งโดยเร่งด่วนและชัดเจน เพื่อประโยชน์ต่อชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากกองขยะ" Capucine Dayen ผู้เขียนจากกรีนพีซ ระบุ

Source : http://www.greenpeace.org/seasia/th/news/blog1/nestle-unilever/blog/62147/?fbclid=IwAR20MxA0S0M56n_xKlY3ukNkYJtSD0Gs_eUplPz44S33fOyOD_tShtGmQq0

อนึ่ง การผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำหน่ายเร็ว (Fast Moving Consumer Goods) กำลังเพิ่มปริมาณพลาสติกใช้ครั้งเดียวทิ้ง แม้ว่าบริษัททั้งหลายนี้อ้างว่ารู้ข้อมูลเล็กน้อยว่าปลายทางของบรรจุภัณฑ์พลาสติกของตนจบลง ณ ที่ใด ทางแก้ปัญหากลับเป็นเพียงการเน้นไปที่การเพิ่มความสามารถรีไซเคิลเท่านั้น

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่โดนตำหนิจากประชาคมโลกบ่อยครั้งว่าเป็นตัวการก่อมลพิษพลาสติก แต่จากหลักฐานและกองซากขยะพลาสติกต่างๆ ก็ได้พิสูจน์จนประจักษ์แล้วว่า ขยะพลาสติกที่มีจุดจบในภูมิภาคนี้ส่วนใหญ่เป็นบรรจุภัณฑ์พลาสติกจากบริษัทในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ.

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

ข้าวเถื่อน! “กข79” ภัยใหม่คุกคามโรงสี
18 Mar 2019

“เกรียงศักดิ์” นายกฯโรงสีป้องสมาชิกทั่วประเทศ เตือน! ภัยใหม่รับฤดูกาลผลิตนาปี คาดเริ่มปลูกดีเดย์กลาง พ.ค.นี้ หลังจาก 2 หน่วยงาน “กรมการข้าว-สมาคมผู้รวบรวมเมล็ดพันธุ์ฯ” ต่างประสานเสียงแข็งว่า 1 ปีนับจากนี้ยังไม่มีพันธุ์แท้ออกจำหน่าย ติงหน่วยงานรัฐควรมีความพร้อมก่อนโปรโมท ชี้เกษตรกรคาดหวังไม่รู้ขั้นตอน หวั่นตกเป็นเหยื่อ!!

“ฐานเศรษฐกิจ”ยังคงเกาะติด "ข้าวพันธุ์ กข79" โดยกรมการข้าวที่เพิ่งรับรองพันธุ์ไปเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ทั้งอธิบดีกรมการข้าวและสมาคมผู้รวบรวมสมาคมผู้รวบรวมและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าว ต่างยืนยันเสียงแข็งว่าข้าวชนิดดังกล่าวยังอยู่ในช่วงขยายพันธุ์ไม่มีพันธ์ุออกมาจำหน่ายให้กับชาวนาอย่างแน่นอนดังนั้นหากมีพันธุ์ข้าวชนิดนี้ให้ถือว่าเป็นของปลอม

นายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ นายกสมาคมโรงสีข้าวไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าจากกรณีที่กรมการข้าวและสมาคมฯออกมาให้ข่าวว่าในช่วงนี้ยังไม่มีพันธุ์ข้าวกข79 ออกมาจำหน่ายให้กับชาวนาคาดสามารถให้ชาวนานำเมล็ดพันธุ์ไปเพาะปลูกขยายได้ประมาณปี 2563 ดังนั้นทางสมาคมจึงขอประกาศเตือนสมาชิกโรงสีทั่วประเทศว่าหากมีชาวนาเกี่ยวข้าวแล้วมาขายว่าแจ้งว่าเป็นพันธุ์ข้าวกข79 นั้นให้ตั้งข้อสังเกตได้ว่าเป็นพันธุ์ปลอมหรือแอบอ้าง ดังนั้นขอให้โรงสีระมัดระวังจะถูกหลอกลวง

สิ่งสำคัญที่สุดอยากจะฝากไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการออกพันธุ์รับรองข้าวต่างๆ ที่มีคุณสมบัติโดดเด่นก่อนที่จะประชาสัมพันธ์อย่างเต็มรูปแบบนั้นส่วนใหญ่เกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้องกับห่วงโซ่ข้าวนั้นมีความคาดหวัง และไม่ได้รู้ขั้นตอน อาจจะกลายเป็นเหยื่อสำหรับคนที่แอบอ้างว่ามีข้าวพันธุ์นั้นๆ หรือ ข้าว กข79 จำหน่าย "หลงเชื่อ หลงซื้อ" หรืออาจจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่ามีพันธุ์ลักลอบออกไปก่อนหน้านี้หรือไม่ (ในช่วงระหว่างทดลองปลูก) นำมาจำหน่าย อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ขอให้ระมัดระวังเพราะอาจจะทำให้เกษตรกรเสียโอกาส

"ข้าวพันธุ์ที่ออกมาไม่ว่าจะประชาสัมพันธ์ในรูปแบบไหนก็แล้วแต่ สิ่งสำคัญก็คือ "ตลาด" จะเป็นตัวบอกอยากให้มีการทดลองขายว่าผู้บริโภคมีความนิยมหรือไม่ เกษตรกรถูกใจในเรื่องผลผลิตหรือไม่ แล้วต้องชี้ให้ชัดว่าพื้นที่ไหนที่เหมาะสมสำหรับการปลูกข้าวชนิดนี้ ระวังอย่าไปกระทบกับพันธุ์พื้นหลักของเดิมที่มีอยู่แล้ว ตรงนี้ต้องให้ชัด! เพราะไม่ทราบหรอกว่ามีพันธุ์ลักลอบออกมาจำหน่ายหรือไม่ ย้ำต้องชัดเจนไม่เช่นนั้นเกษตรกรจะเสียโอกาส"

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า ข้าวชนิดนี้เป็นข้าวพันธุ์ใหม่ ยังไม่เคยมีใครเห็น ยังไม่มีโรงสีไหนเคยทดลองสีแปรในเชิงการค้าพาณิชย์ ทำให้ยังไม่ทราบว่าตลาดจะมีรองรับหรือไม่ ทุกอย่างต้องอาศัยเวลา เปรียบเทียบกับข้าวหอมปทุมธานี กว่าตลาดจะรู้จักและเป็นที่ยอมรับกว่าโรงสีจะเข้าใจในลักษณะของข้าวชนิดนั้นๆต้องใช้เวลา 2-3 ปี แต่ผลจากกระแสข่าวที่ออกมาจึงทำให้โรงสีไม่มีความมั่นใจว่าใช้ข้าวพันธุ์กข79 ที่กรมการข้าวรับรองพันธุ์หรือไม่ เมื่อชาวนานำข้าวมาขายทางโรงสีจะรับซื้อเป็นกลุ่มข้าวขาวทั่วไป ยกเว้นมีผู้ประกอบการบางรายที่ต้องการเฉพาะ จะถูกจัดอยู่ในกลุ่มลักษณะพิเศษแบบ “ข้าวหอมพวง”

http://www.thansettakij.com/content...95zsLqLxAyvt4ACXa0Cys8Y4aXQfeYuQX-IG_WMVy8Zjs

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

คุณภาพอากาศเชียงใหม่
19 มีนาคม 2562

คุณภาพอากาศ จังหวัดเชียงใหม่
วันนี้มีดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 147.75 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

ประชาชนทั่วไป
ควรเฝ้าระวังสุขภาพ ถ้ามีอาการเบื้องต้น เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง หากมีความจำเป็น

ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ
ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ถ้ามีอาการทางสุขภาพ เช่น ไอ หายใจลำบาก ตาอักเสบ แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ หัวใจเต้นไม่เป็นปกติ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ควรปรึกษาแพทย์

ดัชนีคุณภาพอากาศ (Air Quality Index : AQI)
เป็นการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศในรูปแบบที่ง่ายต่อความเข้าใจของประชาชนทั่วไป เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชนได้รับทราบถึงสถานการณ์มลพิษทางอากาศในแต่ละพื้นที่ว่าอยู่ในระดับใด มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยหรือไม่ ดัชนีคุณภาพอากาศ 1 ค่า ใช้เป็นตัวแทนค่าความเข้มข้นของสารมลพิษทางอากาศ 6 ชนิด ได้แก่

1. PM2.5 หรือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน
เป็นฝุ่นที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้ทั้งจากยานพาหนะ การเผาวัสดุการเกษตร ไฟป่า และกระบวนการอุตสาหกรรม
ผลกระทบต่อสุขภาพ
สามารถเข้าไปถึงถุงลมในปอดได้ ทําให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และโรคปอดต่างๆ หากได้รับในปริมาณมากหรือเป็นเวลานานจะสะสมในเนื้อเยื่อปอด ทําให้การทํางานของปอดเสื่อมประสิทธิภาพลง ทําให้หลอดลมอักเสบ มีอาการหอบหืด

PM 2.5 โดยรวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่
วันนี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 66.75 ug/m3 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

PM 2.5 ต.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่
วันนี้วัดได้ 85 ug/m3 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

PM 2.5 ต.ศรีภูมิ จ.เชียงใหม่
วันนี้วัดได้ 73 ug/m3 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

PM 2.5 ต.สุเทพ จ.เชียงใหม่
วันนี้วัดได้ 56 ug/m3 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

PM 2.5 ต.ช่างเคิ้ง จ.เชียงใหม่
วันนี้วัดได้ 53 ug/m3 จัดอยู่ในระดับ “แย่”

2.PM 10 หรือ ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน
เป็นฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 10 ไมครอน เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิง การเผาในที่โล่ง กระบวนการอุตสาหกรรม การบด การโม่ หรือการทําให้เป็นผงจากการก่อสร้าง
ผลกระทบต่อสุขภาพ
เมื่อหายใจเข้าไปสามารถเข้าไปสะสมในระบบทางเดินหายใจ

3. ก๊าซโอโซน (O3)
เป็นก๊าซที่ไม่มีสีหรือมีสีฟ้าอ่อน มีกลิ่นฉุน ละลายน้ำได้เล็กน้อย เกิดขึ้นได้ทั้งในระดับบรรยากาศชั้นที่สูงจากผิวโลก และระดับชั้นบรรยากาศผิวโลกที่ใกล้พื้นดิน ก๊าซโอโซนที่เป็นสารมลพิษทางอากาศคือก๊าซโอโซนในชั้นบรรยากาศผิวโลก เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างก๊าซออกไซด์ของไนโตรเจน และสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย โดยมีแสงแดดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ก่อให้เกิดการระคายเคืองตา และระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจและเยื่อบุต่างๆ ความสามารถในการทำงานของปอดลดลง เหนื่อยเร็ว โดยเฉพาะในเด็ก คนชรา และคนที่เป็นโรคปอดเรื้อรัง

4. ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO)
เป็นก๊าซที่ไม่มีสี กลิ่น และรส เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของเชื้อเพลิงที่มีคาร์บอนเป็นองค์ประกอบ
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ก๊าซนี้สามารถสะสมอยู่ในร่างกายได้โดยจะไปรวมตัวกับฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงได้ดีกว่าออกซิเจนประมาณ 200-250 เท่า เมื่อหายใจเข้าไปทำให้ก๊าซชนิดนี้จะไปแย่งจับกับฮีโมโกลบินในเลือด เกิดเป็นคาร์บอกซีฮีโมโกลบิน (CoHb) ทำให้การลำเลียงออกซิเจนไปสู่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายลดน้อยลง ส่งผลให้ร่างกายเกิดอาการอ่อนเพลีย และหัวใจทำงานหนักขึ้น

5. ก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2)
เป็นก๊าซที่ไม่มีสีและกลิ่น ละลายน้ำได้เล็กน้อย มีอยู่ทั่วไปในธรรมชาติ หรือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ เช่น การเผาไหม้เชื้อเพลิงต่างๆ อุตสาหกรรมบางชนิด เป็นต้น
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ก๊าซนี้มีผลต่อระบบการมองเห็นและผู้ที่มีอาการหอบหืดหรือ โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ

ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2)
เป็นก๊าซที่ไม่มีสี หรืออาจมีสีเหลืองอ่อนๆ มีรสและกลิ่นที่ระดับความเข้มข้นสูง เกิดจากธรรมชาติและการเผาไหม้เชื้อเพลิงที่มีกำมะถัน (ซัลเฟอร์) เป็นส่วนประกอบ สามารถละลายน้ำได้ดี สามารถรวมตัวกับสารมลพิษอื่นแล้วก่อตัวเป็นอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กได้
ผลกระทบต่อสุขภาพ
ก๊าซนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุตา ผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ หากได้รับเป็นเวลานาน ๆ จะทำให้เป็นโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังได้

https://www.chiangmainews.co.th/pag...CeLwkRB9t04cYYOMn0p0SZTlyyk7QV3q3_bPQp94qDn50

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

บีบผู้ผลิตนํ้ามันถั่วเหลือง ลดตํ่ากว่า 55 บาทต่อลิตร!
18 Mar 2019

'พาณิชย์' วิ่งสู้ฟัด! เร่งแก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกตํ่า ทั้งปาล์ม มะพร้าว ไข่ไก่ กุ้ง พร้อมกำหนดราคาเป้าหมายนำใน 7 สินค้า สั่งทบทวนนํ้ามันถั่วเหลืองเอาเปรียบผู้บริโภค หลังราคาวัตถุดิบลดลง แต่ยังขายราคาสูง ขณะคุมค่ายา-หมอยังอืด

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทางกรมได้เร่งแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกตํ่า ไม่ว่าจะเป็น ปาล์มนํ้ามันที่กรมได้มีโครงการรับซื้อผลผลิตปาล์มนํ้ามันให้กับโรงไฟฟ้าที่มีผู้เสนอขาย 31 ราย เพื่อดูดซับนํ้ามันปาล์มดิบปริมาณ 1.6 แสนตัน เพื่อให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นำไปผลิตไฟฟ้าครบแล้ว รวมถึงเพื่อใช้เป็นส่วนผสมของนํ้ามันดีเซลหมุนเร็ว (B10, B20) เพิ่มขึ้น

ล่าสุด ได้มีการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคานํ้ามันพืชบริโภคร่วมกับผู้แทนคณะอนุกรรมการจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกรมได้จัดทำโครงสร้างการคำนวณราคาประมาณการ ตั้งแต่ผลปาล์มนํ้ามัน นํ้ามันปาล์มดิบ (CPO) และนํ้ามันปาล์มบรรจุขวด 1 ลิตร เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ราคาจำหน่ายที่ควรจะสะท้อนถึงต้นทุนที่แท้จริงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยจะมีการพิจารณาทบทวนเป็นประจำทุกเดือน หรือ ทุกครั้งที่ต้นทุนมีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการหารือพิจารณาทบทวนราคาจำหน่ายปลีกนํ้ามันถั่วเหลือง เพื่อให้เป็นไปตามกลไกตลาดและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน เนื่องจากราคาวัตถุดิบเมล็ดถั่วเหลือง (นำเข้า) ได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ราคาจำหน่ายนํ้ามันถั่วเหลืองบรรจุขวด 1 ลิตร ยังขายที่ 55 บาทเท่าเดิม

"ในสินค้าเกษตรอื่น เช่น มะพร้าว ไข่ไก่ กุ้ง กรมจะผลักดันในการเชื่อมโยงตลาดไปยังโครงการต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ กำหนดให้มะพร้าวและผลิตภัณฑ์เป็นสินค้าควบคุมการขนย้าย เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า ขณะที่ คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) มีมติในการกำหนดราคาเป้าหมายนำสำหรับ 7 สินค้า ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่ สับปะรด กระเทียม หอมหัวใหญ่ หอมแดง ผลปาล์มสด และเนื้อมะพร้าวแห้ง เพื่อใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาให้ความช่วยเหลือเกษตรกรเมื่อเกิดปัญหาราคาตกตํ่า"

ด้าน แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์เผยถึงความคืบหน้าการพิจารณาโครงสร้างต้นทุนค่ารักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งจะครบ 60 วัน ในเดือน มี.ค. นี้นั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งหากได้ข้อสรุปแล้ว กระทรวงจะนำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์รับทราบและเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์เป็นแค่ปลายทางไม่ใช่ต้นเรื่องของเรื่องนี้ แต่เป็นเรื่องที่กระทรวงสาธารณสุขต้องมีบทบาทในการกำกับดูแล เพราะมี พ.ร.บ. เรื่องสถานพยาบาลควบคุมอยู่

หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับ 3,453 วันที่ 17-20 มีนาคม 2562
http://www.thansettakij.com/content...xu0dy1nXyNwbc9-U8tyHaqnYF-5OTveDPMwjfQSYnD00c

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

หมอนักอนุรักษ์ ช็อกอีไอเอ เหมืองแร่สระบุรี สุดห่วย ไม่มีสัตว์ที่อยู่ในนิเวศเขาหินปูนเลย !! วันที่ 15 มีนาคม 2562 - 10:13 น.

หมอนักอนุรักษ์ ช็อกอีไอเอ เหมืองแร่สระบุรี สุดห่วย ไม่มีสัตว์ที่อยู่ในนิเวศเขาหินปูนเลย !!
“หมอหม่อง” นายแพทย์รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หมอนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เขียนแสดงความคิดเห็นเรื่องที่ ครม. มีมติอนุมัติผ่อนผันให้บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) เข้าทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าทับกวาง และป่ามวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรมชนิดหินปูน อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ความว่า

เมื่อวานนี้ผมได้มีโอกาสไปพูดคุยกับทางทีมปูนซีเมนต์ไทย เพื่อรับฟังข้อมูล และให้ข้อเสนอแนะ ในประเด็นผลกระทบเหมืองปูนต่อความหลากหลายชีวภาพเขาหินปูน ในส่วนของพื้นที่ป่าสงวนที่ ครม.อนุมัติ ต่ออายุให้เข้าทำประโยชน์เพิ่ม

ทางบริษัทได้บรรยายชี้แจง แผนฟื้นฟูเหมืองปูนที่ได้ดำเนินการกับเหมืองปัจจุบันที่ทำอยู่ ฟังแล้วก็เห็นได้ถึงความตั้งใจอย่างมากของ SCG ในการฟื้นฟูสภาพเหมืองที่ใช้ประโยชน์ไปแล้ว

แต่เมื่อผมขอดู บางส่วนของ EIA (รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม) ของโครงการที่ได้รับการอนุมัติโดย สผ. ในส่วนที่เป็นรายชื่อพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ที่สำรวจพบในพื้นที่ได้รับประทานบัตรเพิ่ม

บอกได้คำเดียวว่า ช็อก

เพราะ รายชื่อ สัตว์ ที่แสดงในรายการ แทบไม่มีอะไรที่เกี่ยวกับ นิเวศเขาหินปูนเลย ไม่มี เลียงผา ไม่มี นกถิ่นเดียวอย่างจู๋เต้นสระบุรี และ ไม่มี สัตว์ในระบบถ้ำ เข่น ตุ๊กกาย หอยทากเฉพาะถิ่น เลย

ดูแล้วเหมือนกับสำรวจจากแถวๆ บ้านพักคนงาน โดย พวกมือสมัครเล่น

แม้ทางกฏหมาย แผนการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม EIA (เพิ่งรู้ว่า การทำเหมืองปูน ไม่ต้องทำ EHIA ทำแค่ EIA ก็พอ…บ้าไปแล้ว) ผ่านความเห็นชอบไปแล้ว

แต่จะเป็นเรื่องน่าเศร้ามากสำหรับบริษัทที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำในการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืน จะอ้างความชอบธรรม EIA นี้ เพราะคุณภาพมันห่วยสุดๆ และเป็นเพียง minimum requirement ตามกฎหมายเท่านั้น

ที่สำคัญ หากจะมีแผนการจัดการเพื่อลดผลกระทบใดๆ Species list อย่างเดียวไม่เพียงพอ เราต้องรู้ว่าอะไรอยู่ที่ไหน โดยเฉพาะระบบถ้ำที่สำคัญอยู่ตรงไหน มีสัตว์หายากอะไรซุกซ่อนอยู่บ้าง ในพื้นที่ประทานบัตรทั้งหมด

แต่เขาไม่รู้เลยว่าอะไร อยู่ตรงไหน แล้วขีดลากพื้นที่ตามสะดวกในห้องแอร์ วางแผนแบบนี้คงไม่สามารถลดผลกระทบได้ดังอ้าง มาตราฐานการดำเนินธุรกิจของเขา เอาแค่นั้น ก็เสียชื่อ SCG แย่

อ่าน ครม.จัดให้ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทยฯ ทำเหมืองในป่าสงวน 3 พันไร่ ได้ถึงปี 2579

อ่าน เอสซีจี ยืนยันทำตามกฎหมายเคร่งครัดต่ออายุเหมือง ยึดหลักสิ่งแวดล้อม-ชุมชน

สรุปข้อเสนอแนะ 3 ประเด็น ของพวกเราคือ

1.สำรวจความหลากหลายทางชีวภาพเพิ่มเติม และให้ครอบคลุมพื้นที่ที่สามารถเป็นตัวแทนจำนวนพื้นที่ทั้งหมดได้อย่างน่าเชื่อถือ

2.กำหนดพื้นที่ที่พบความหลากหลายทางชีวภาพที่มีนัยสำคัญ เพื่อหลีกเลี่ยงการทำเหมือง

3.จัดทำแนวเชื่อมต่อระบบนิเวศน์ (ecological corridor) ในจุดที่จะช่วยส่งเสริมความอยู่รอดของสัตว์และความหลากหลายทางชีวภาพ

ทั้งนี้ บริษัทปูนซีเมนต์ไทย ต้องทำการสำรวจใหม่โดยใช้คนที่รู้เรื่องนิเวศเขาหินปูนจริง ที่มีอยู่หยิบมือเดียวในประเทศ เราจะช่วยเสนอรายชื่อให้เขา พร้อมกันนี้ ผมเสนอให้ทำ ทางเชื่อมต่อสัตว์ป่า (wildlife corridor ) เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิตดำรงเผ่าพันธุ์สำหรับสัตว์ใหญ่ อย่างเลียงผา

อ่านต้นฉบับ

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_2311279

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

สหรัฐฯประกาศไม่ช่วยฟื้นฟูซีเรียเจอสวนไม่ได้เชิญ!
สหรัฐฯประกาศไม่ช่วยฟื้นฟูซีเรียเจอสวนไม่ได้เชิญ!
ข่าวต่างประเทศ
By THITIPHAN On มี.ค. 19, 2019

สหรัฐฯฝรั่งเศส,อังกฤษ,เยอรมนีแถลงไม่ช่วยฟื้นฟูประเทศซีเรียหลังสงคราม ซีเรียโต้ไม่ได้เชิญแต่จะต้องจ่ายค่าเสียหาย

สหรัฐอเมริกาพร้อมพันธมิตรฝรั่งเศสเยอรมนีอังกฤษแถลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่ากลุ่มพันธมิตรไม่มีแผนการที่จะให้ความช่วยเหลือในการฟื้นฟูบูรณะประเทศซีเรียหลังจากที่สงครามภายในประเทศสิ้นสุดลง จนกว่าประเทศซีเรียจะดำเนินกระบวนการทางการเมืองที่น่าเชื่อถือ

ในขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียแถลงตอบโต้ว่าซีเรียไม่ได้เชิญให้สหรัฐฯและพันธมิตรเช่นฝรั่งเศส,เยอรมนี,อังกฤษมาร่วมฟื้นฟูประเทศซีเรียหลังสงครามภายในประเทศสิ้นสุดลง “ประเทศเหล่านี้กระทำอาชญากรรมต่อชาวซีเรียและทำลายซีเรีย เขาไม่เคยสนใจในการฟื้นฟูประเทศซีเรีย และพวกเขาไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการฟื้นฟูประเทศ แต่ประเทศเหล่านี้ควรจะจ่ายค่าชดเชยสำหรับการก่ออาชญากรรมและการทำลายล้างที่เกิดขึ้นจากการแทรกแซงกิจการภายในอย่างเห็นได้ชัด”

กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียยังตั้งข้อสังเกตว่าวิธีการต่อต้านการก่อการร้ายของกลุ่มพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯเป็นอาชญากรรมสงครามและละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศของซีเรียเรียกว่าคำแถลงนี้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของ “การโกหกการหลอกลวงการหลอกลวงและการปลอมแปลง”

ดูเหมือนว่าความขัดแย้งทางอาวุธในซีเรียจะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้วและดามัสกัสได้กลับเข้าควบคุมดินแดนอันกว้างใหญ่ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกควบคุมโดยกลุ่มก่อการร้ายและกบฏ ซีเรียได้เริ่มกระบวนการฟื้นฟูและเริ่มเปิดรับผู้ลี้ภัยกลับประเทศ

พันธมิตรระหว่างประเทศที่นำโดยสหรัฐฯซึ่งมีสมาชิกมากกว่า 70 ประเทศได้เข้าร่วมปฏิบัติการต่อต้านการก่อการร้ายในซีเรียตั้งแต่ปี 2557 โดยไม่ได้รับอนุญาตจากทางการซีเรียหรือคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสหรัฐอเมริกายังสนับสนุนกองทหารอาสาสมัครชาวเคิร์ดที่ควบคุมดินแดนทางตะวันออกของแม่น้ำยูเฟรติสด้วย

https://sawasdeenews.com/2019/03/19...tM_UtcnLJgjBVgYkf9VkoXMQA2FCxi_IZnnySZdQ5oEY4

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

มหากรุณาโพธิยาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์

. 文殊日菩薩 เหวินซูผู่ซ่า

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตตว์ " .文殊日菩薩."

พระนามนี้มีความหมายว่า “มหามงคลอันประเสริฐ” พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตตว์ ทรงเป็นผู้มีมหาปัญญาสูงสุด ในวิหารของอารามจีนโดยทั่วไป รูปพระปฏิมาของพระองค์จะอยู่ในตำแหน่งด้านซ้ายมือของ พระประธานเสมอ

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตตว์ มีประวัติความเป็นมาหลากหลายตำนาน หลายคำกล่าวอ้าง บ้างก็ว่า เคยเป็นพระอาจารย์ของพระพุทธเจ้ามาก่อน บ้างก็ว่าเป็นเจ้าราชบุตรองค์ที่ ๓ ของ " พระอมิตาภพุทธเจ้า "

ในสมัยพุทธกาล พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ถือกำเนิดในแคว้นแห่งหนึ่งของอินเดีย กำเนิดในวรรณะพราหมณ์ ภายหลังพระพุทธเจ้าตรัสรู้ พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ก็ออกบวชเป็นพระพุทธสาวกในพุทธศาสนา

ฝ่ายหีนยาน (เถรวาท) จะถือว่า "พระสารีบุตรอรหันต์" เป็นผู้มีสติปัญญาสูงสุด แต่ในศาสนาพุทธมหายาน ถือพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ เป็นผู้มีสติปัญญาสูงสุดเช่นกัน

ผู้บูชากราบไหว้พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ มักขอพรให้มีความฉลาด มีสติปัญญาหลักแหลมอยู่เสมอ
ในประเทศจีนเชื่อกันว่าพระองค์สถิตอยู่ ณ. พุทธบรรพตอู่ไถ่ซาน

พระองค์มีนามเรียกมากมาย อาทิ
พระมัญชุโฆษ (ผู้มีเสียงเพราะ)
พระมัญชุนาถ
พระวาคีศวร
ภาษาจีนเรียก "เหวินซูผู่ซ่า"
เป็นพระมหาโพธิสัตว์แห่งมหาปัญญา

ประเทศธิเบต ให้ความเคารพต่อพระมหาโพธิสัตว์องค์นี้มาก ฉายาของพระองค์ เรียกแตกต่างกันไป อาทิ

ต้าตี้ ( มหามติ - มีปัญญาใหญ่ ) ,
ไท่จื้อ ( ราชกุมาร ) ,
เชยปี่ก๊าจู๊ (ธรรมราชผู้มีพระกร ๑,๐๐๐ กร)

ทรงประสูติเมื่อวันที่ ๔ เดือน ๔ ทางจันทรคติจีน พระนามเต็มของพระองค์ คือ
"พระมัญชุศรีกุมารภูติมหาโพธิสัตว์" ทรงประทับบนหลังราชสีห์

อันราชสีห์นั้นเป็นราชาแห่งสัตว์ทั้งหลาย ไม่หวาดหวั่น ครั่นคร้ามต่อสัตว์ใดๆ เปรียบเป็นเช่นกับ พระพุทธเจ้าและพระโพธิสัตว์ ไม่หวาดหวั่น ท้อถอย ต่อการประกาศพระสัทธรรม และเมื่อราชสีห์คำราม บรรดาสรรพสัตว์ใหญ่น้อยต่างก็หลีกไป เฉกเช่นพระพุทธองค์ประกาศธรรม ทำให้คำสอนของเดียรถีย์ทั้งหลาย ด้อยรัศมีไปฉันนั้น.

พระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ที่มักได้รับการเอ่ยถึงในพระสูตร และตั้งองค์พระปฏิมาให้อยู่คู่กับ
"พระสมันตภัทรมหาโพธิสัตว์" ทรงได้รับการยกย่อง ให้เป็นหัวหน้าของบรรดาพระโพธิสัตว์นับร้อยนับพันองค์ ที่มาเฝ้าชุมนุมพระศากยมุนีพุทธเจ้า

ทรงเป็น "พระฌานิโพธิสัตว์" ที่ถือกำเนิดก่อนสมัยพุทธกาล ทรงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความสามารถในการแสดงธรรม ทรงมุ่งมั่นให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ และบรรลุธรรมอย่างไม่ทรงเกรงกลัวต่อความยากลำบาก

พระมัญชุศรีกุมารภูติมหาโพธิสัตว์ ถือเป็นพระมหาปัญญาธิคุณของพระพุทธเจ้าทั้งปวง พระองค์ทรงมีพระวรกายเป็นมานพหนุ่มวัย ๑๖ ปี (ไม่แก่หรืออายุมากไปกว่านี้) พระหัตถ์ขวาทรงวัชรศัสตรา หรือ พระแสงขรรค์ ดาบอันคมกริบ ไว้คอยตัดอวิชชา และนิวรณ์ทั้ง ๕ อันได้แก่

๑. กามฉันทะ (พอใจในกาม)
๒. พยาบาท (คิดร้าย)
๓. ถีนมิทธะ (หดหู่เซื่องซึม)
๔. อุทธัจจะ (ความฟุ้งซ่าน)
๕. กุกกุจจะ (ความกระวนกระวายใจ)

เพื่อให้พระสัทธรรมแห่งพระพุทธองค์มีความแจ่มชัด พระหัตถ์ซ้ายทรงพระคัมภีร์ "มหาปรัชญาปารมิตาสูตร" หรือ พระหัตถ์ซ้ายอยู่ในท่ามุทราก็มี เหนือพระเศียรทรงเทริด "มหาโพธิชญาณมงกุฏ" เป็นรูปบัว ๕ กลีบเรียงกัน โดยมี "พระอักโษภยะพุทธเจ้า" อยู่เหนือมงกุฎนั้น.

ที่ประเทศจีนนั้น พุทธบรรพตอู่ไถ่ซาน (เขา ๕ ยอด ) มณฑลซันซี คือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของ
พระมัญชุศรีฯ.

กำเนิดของพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์นั้น มีตำนานเล่ากันไปต่างๆ นาๆ บ้างว่าถือกำเหนิดจากพระนลาฎของ "พระศากยมุนีพุทธเจ้า" ด้วยลำแสงที่พุ่งออกไปนั้น ตัดต้นไม้ต้นหนึ่งที่ภูเขาอู่ไถ่ แล้วบังเกิดดอกบัวมารองรับพระมัญชุศรี ฯขึ้นมา ดังนั้น พระมหาโพธิสัตว์พระองค์นี้ จึงไม่แปดเปื้อนครรภ์มลทินแต่อย่างไร.

อีกเรื่องหนึ่งเล่าว่า คหบดีจีนท่านหนึ่ง ต้องการเลี้ยงพระทั้งวัดบนภูเขาอู่ไถ่ พระสงฆ์จึงชักชวนคนยากจนมารับทานด้วย เพราะว่าพระมัญชุศรีฯ มักจะสอนเน้นให้คนทั้งหลายมีความเสมอกัน ไม่แบ่งแยกระหว่างคนรวยกับคนจน ไม่แบ่งแยกระหว่างฆราวาสและบรรชิต

ด้วยเหตุนี้พระองค์จึงใคร่อยากรู้ใจมนุษย์ จึงจำแลงร่างเป็นหญิงขอทานที่กำลังตั้งครรภ์ คหบดีรำคาญใจมาก ที่เห็นชาวบ้านพวกนี้ เพราะตั้งใจมาทำบุญเลี้ยงพระเพียงอย่างเดียว !

ครั้นมาถึงคิวหญิงขอทาน นางบอกว่า ต้องการข้าว ๒ จาน จานหนึ่งสำหรับตนเอง อีกจานหนึ่งสำหรับลูกในท้อง เจ้าของงานไม่ยอม นางจึงไม่ยอมกินอาหารนั้นและเดินออกจากวิหารไป กลายเป็นพระมัญชุศรีมหาโพธิสัตว์ ! ปรากฏพระองค์กลางท้องฟ้า พร้อมด้วยเทพบริวาร เป็นเหตุให้เจ้าของงานและทุกคนที่อยู่สถานที่นั้น ก้มกราบขอขมากรรมต่อพระมหาโพธิสัตว์กันถ้วนหน้า !

ตั้งแต่นั้นมา ถือเป็นนโยบายของเขาอู่ไถ่ว่า หากต้องการเลี้ยงพระ ก็ต้องบริจาคทานต่อผู้ยากไร้ด้วย.

เรื่องเล่าจากอินเดียว่า เมื่อครั้งที่ "พระศากยมุนีพุทธเจ้า" จะเสด็จไปแสดงธรรมนั้น พระมัญชุศรีฯ ได้ประกาศว่า ขอให้คอยสดับพระธรรมจาก "พระพุทธธรรมราชาตถาคตเจ้า" (พระพุทธเจ้า) พระธรรมของพระพุทธธรรมราชาฯ เป็นเช่นนั้นเอง

เมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จมาแล้วประทับ ณ. พุทธอาสน์ ไม่ทรงแสดงธรรมอันใดเลย เพราะพระมัญชุศรีฯ แสดงธรรมไปหมดแล้ว ทั้งสั้น และได้ใจความ
"พระธรรมเป็นเช่นนั้นเอง"

ในประเทศธิเบต ยังมีการสร้างปางพิโรธของพระมัญชุศรีฯ ด้วยปางนั้นคือ "ยมานตกะ" โดยสร้างตำนานขึ้นสนับสนุนว่า พระมัญชุศรีฯ ลงไปยังยมโลก พระยมมีศีรษะเป็นกระบือ พระมัญชุศรีฯ จึงต้องนิรมาณกายเป็นเช่นนั้น เพื่อให้พระยายมเกรงกลัว ทั้งที่พระยมเป็นเจ้าแห่งความตาย แต่ยังเกรงในพระบารมี จนแลเห็นความไม่สิ้นสุดของพระมหาโพธิสัตว์พระองค์นี้ ชาวพุทธธิเบตนิยมเพ่งรูป "ยมานตกะ" เพื่อเอาชนะความตาย.

มหากรุณาพุทธาลัย โรงเจวัดสว่างอารมณ์ แคเเถว นครปฐม 。佛統三王阿隆大佛禪寺。大悲佛殿

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

John Traczyk

แชร์แล้ววันนี้ จากบราซิล

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

รัสเซียประกาศเห็นต่างจากสหรัฐฯ ยำ้ 'มาดูโร' เป็นผู้นำเวเนซูเอลาที่ชอบธรรม มีนาคม 19, 2019

Handout picture released by the Venezuelan presidency showing Venezuelan President Nicolas Maduro speaking during a press conference at the Miraflores Presidential Palace in Caracas, Venezuela, March 11, 2019.
ตัวแทนการทูตรัสเซียเเสดงจุดยืนตรงข้ามสหรัฐฯ โดยกล่าวว่า นายนิโคลาส์ มาดูโร เป็นผู้นำที่มีความชอบธรรมเพียงคนเดียวของประเทศเวเนซูเอลา

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก เรียบค็อฟ (Sergei Ryabkov) กล่าวในรายงานของสำนักข่าว Interfax ว่า "จุดยืนของรัฐบาลมอสโควและวอชิงตันต่างกันคนละขั้ว แต่ก็ไม่มีเหตุผลให้ไม่มีการเจรจากัน"

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองประเทศมีกำหนดพบกับที่กรุงโรมประเทศอิตาลี วันจันทร์และอังคารนี้

ขณะที่รัสเซียสนับสนุนนายมาดูโร สหรัฐฯและประเทศต่างๆประมาณ 50 แห่ง ยอมรับผู้นำฝ่ายค้าน นายฮวน กวัยโดเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซูเอลา

Venezuelan opposition leader Juan Guaido, whom many nations have recognized as the country's rightful interim ruler, takes part in a rally against Venezuelan President Nicolas Maduro's government, in Valencia, Venezuela, March 16, 2019.
รัสเซียและประเทศที่ร่วมจุดยืนเดียวกันกล่าวว่า มาตรการลงโทษเวเนซูเอลาโดยสหรัฐฯ กำลังทำร้ายประชาชนเวเนซูเอลา

การสนับสนุนด้านอาหารและเวชภัณฑ์จากรัสเซียทำให้รัฐบาลของนายมาดูโรเลี่ยงผลกระทบจากมาตรการลงโทษโดยอเมริกาได้ในระดับหนึ่ง

People collect water from a truck that delivers water during rolling blackouts, in Caracas, Venezuela, March 12, 2019.

https://www.voathai.com/a/maduro-ru...6SnWjZScOngdthIlle-w7mBLWdmtzwymiIEdixGdKz5Oo

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

ทรัมป์เดือด! หลัง 'จีเอ็ม' ปิดโรงงานลอยแพพนักงาน 5,400 คน
มีนาคม 19, 2019

FILE - Snow covers the perimeter of the General Motors' Lordstown plant, in Lordstown, Ohio, Nov. 28, 2018.

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีตข้อความโจมตีบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐฯ เจเนรัล มอเตอร์ส (General Motors - GM) ที่ปิดโรงงานผลิตรถยนต์ในรัฐโอไฮโอ ทำให้พนักงานต้องตกงานราว 5,400 คน

โรงงานแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองลอร์ดสทาวน์ ที่ซึ่งจีเอ็มใช้ในการผลิตรถยนต์ขนาดเล็ก เช่น Chevrolet Cruze ซึ่งไม่เป็นที่นิยมในหมู่คนอเมริกัน

ปธน.ทรัมป์ กล่าวทางทวิตเตอร์ว่า ตนได้ตำหนิผู้บริหารระดับสูงของจีเอ็มไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ โดยบอกว่าตนไม่พอใจอย่างยิ่งที่จีเอ็มตัดสินใจปิดโรงงานดังกล่าวเมื่อต้นเดือนนี้ ทั้งที่ภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศกำลังขยายตัว

ผู้นำสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ผู้บริหารของจีเอ็มควรเปิดทำการโรงงานแห่งนี้อีกครั้ง หรือขายให้บริษัทอื่นเข้าไปลงทุนแทน

การปิดโรงงานครั้งนี้ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความไม่เท่าเทียมในการกระจายความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจระหว่างคนร่ำรวยกับชนชั้นแรงงานในสหรัฐฯ

FILE - Final inspector Mary Skinner inspects the rear end of a General Motors Chevrolet Cruze at Jamestown Industries, Nov. 28, 2018, in Youngstown, Ohio.
ยอดขายของ Chevrolet Cruze ในอเมริกาเหนือ ลดลงจากระดับสูงสุดที่ 273,000 คัน เมื่อปี ค.ศ. 2014 ลงมาอยู่ที่ 142,000 คันเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากคนอเมริกันนิยมใช้รถเอสยูวี หรือรถกระบะมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม จีเอ็มยังคงผลิตรถยนต์ Chevrolet Cruze ที่โรงงานในประเทศอื่น คือ เม็กซิโก อาร์เจนติน่า และจีน ซึ่งมีค่าแรงถูกกว่า และมียอดขายรถยนต์รุ่นนี้สูงกว่าในสหรัฐฯ

https://www.voathai.com/a/trump-attacks-general-motors-for-laying-off-auto-workers/4836356.html

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

'อียู' เตรียมกดดันจีนเปิดตลาดเสรีที่การประชุมสุดยอดเดือนหน้า
มีนาคม 19, 2019

FILE - People walk past a mural on a bank showing symbols for American, Chinese and other world currencies in Beijing, July 7, 2018.
สหภาพยุโรปเตรียมหารือจีนเพื่อกำหนดเส้นตายสำหรับการเปิดตลาดภายในประเทศจีนรับสินค้าจากอียู โดยจะมีการเจรจาเรื่องนี้ในการประชุมสุดยอดระหว่างจีนกับอียู ที่กรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม ในวันที่ 9 เมษายน

ร่างคำแถลงของผู้นำสหภาพยุโรป ระบุว่า จีนและอียูน่าจะสามารถตกลงกันได้ภายในฤดูร้อนปีนี้ เกี่ยวกับมาตรการที่จะนำไปสู่การเปิดตลาดเสรีของทั้งสองฝ่าย และคาดว่าจะเริ่มมีการยกเลิกกำแพงการค้าต่างๆ ระหว่างกันได้ในการประชุม EU-China summit รอบหน้าในปี ค.ศ. 2020

นักการทูตของอียู ระบุว่า ท่าทีล่าสุดของผู้นำสหภาพยุโรป สะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจต่อท่าทีลังเลของจีนในการอนุญาตให้บริษัทต่างชาติเข้าไปลงทุนในตลาดจีนอย่างเสรี ในขณะที่จีนฉกฉวยประโยชน์จากตลาดเสรีของยุโรปอย่างเต็มที่ ด้วยการกว้านซื้อกิจการของบริษัทต่างๆ ในยุโรป

โดยประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง มีกำหนดเดินทางเยือนอิตาลีและฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือด้านการค้าและการลงทุน ก่อนที่จะเข้าร่วมในการประชุมสุดยอด จีน-อียู ในวันที่ 9 เมษายน

https://www.voathai.com/a/eu-may-push-china-to-open-economy-at-april-summit/4835972.html

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Bank of Thailand Scholarship Students

(Mar 19) อินโดนีเซียห้ามถาวรมิให้สายการบินนำโบอิ้ง 737 MAX 8 เข้าน่านฟ้าประเทศ: นายบุดี คาร์ยา ซูมาดี รมว.ขนส่งของอินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ประกาศห้ามเป็นการถาวรมิให้สายการบินต่างๆนำเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 บินในน่านฟ้าของอินโดนีเซีย

นายซูมาดีกล่าวว่า คำสั่งห้ามดังกล่าวมีสาเหตุจากการประเมินความปลอดภัยของเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินต่างๆ รวมทั้งจากคำเตือนของสำนักงานการบินพลเรือนสหรัฐ (FAA)

ทั้งนี้ คำสั่งห้ามเป็นการถาวรถือเป็นการใช้คำสั่งที่เข้มงวดขึ้นของรัฐบาลอินโดนีเซีย จากเดิมที่สั่งห้ามเป็นการชั่วคราว
ในช่วงที่มีการออกคำสั่งห้ามบินเป็นการชั่วคราว หน่วยงานควบคุมการบินหลายแห่งได้ทำการตรวจสอบเครื่องบินโบอิ้ง 737 MAX 8 ของสายการบินต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจในความปลอดภัย

Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ

- Indonesia permanently bans Boeing 737 Max 8 from serving flights: official
http://www.xinhuanet.com/english/2019-03/19/c_137905422.htm

ภาพจาก https://wnobserver.com

ภาพจาก http://www.amarintv.com/news-update/oversea-1116/284892/

สุกิจSukit · 19 มีนาคม 2019

Kike Hernandez

ภัยพิบัติ ใน MOZAMBIQUE

ไซโคลน idai ทำลาย 90% ของเมืองที่สำคัญที่สุดอันดับสองของ zomabique
มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน และตำรวจบอกว่าสามารถเกิน 1,000 คนได้ในอีกไม่กี่ชั่วโมงหรือหลายวัน ...